รายงานวิจัยฉบับสมบรู ณ์ โครงการเพาะพันธปุ์ ัญญา(พฒั นายุววิจัย) โรงเรยี นสมเดจ็ พระญาณสังวร ในพระสงั ฆราชูปถมั ภ์ ชุดโครงงาน บวั โดย นายเดชมณี เนาวโรจน์ และคณะ มนี าคม 2559
สารบัญ หน้า 2 บทคัดย่อ 4 บทนำ 5 กำรออกแบบกระบวนกำรเรียนรู้แบบ RBL ของโรงเรียน 6 กำรคดั เลือกประเด็นหลกั 11 สรปุ ผลกำรดำเนนิ กิจกรรมโครงกำรเพำะพันธ์ปุ ัญญำของโรงเรียน 20 เสยี งสะทอ้ นของครู นักเรยี น และผบู้ รหิ ำร 26 สรุปผลกำรดำเนนิ งำนโครงงำนย่อย 10 โครงงำน สรปุ งานประจาปี (พฤษภาคม 2558 – มีนาคม 2559)
บทคดั ยอ่ โรงเรียนสมเด็จพระญำณสังวร ในพระสังฆรำชปู ถัมภ์ ได้สมัครเข้ำร่วมโครงกำรเพำะพันธุ์ปัญญำ ศูนย์ พเี่ ลยี้ งมหำวิทำลยั อบุ ลรำชธำนี เป็นปที ี่ 2 ปีกำรศึกษำ 2558 มผี ้บู ริหำรโรงเรยี น จำนวน 2 คน ครูที่ปรึกษำ โครงงำน จำนวน 8 คน มีนักเรียน ม.4/1 จำนวน 4 คน ม.4/2 จำนวน 39 คน ม.5/1 จำนวน 20 คน ม.5/2 จำนวน 1 คน รว่ มกิจกรรมโครงกำรในคร้ังนี้ โดยได้เลือกประเด็นหลัก เรื่อง บัว โดยให้นักเรียนเสนอประเด็น และลงมติประชำธิปไตยเสียงข้ำงมำก มีกำรนำเสนอโครงงำนย่อยเกี่ยวกับ ข่ำ และได้รับกำรอนุมัติจำกศูนย์พี่ เลีย้ ง จำนวน 10 โครงงำน และสนับสนุนงบโครงงำนละ 72800 บำท ดงั น้ี โครงงำน ชอื่ โครงงำน บูรณำกำรกบั คร*ู สอนกลุ่มวชิ ำ ที่ โครงงำนที่ 1 กำรทดลองรักษำควำมสดของดอกบัวในแจกัน ทกุ โครงงำน นำยเดชมณี เนำวโรจน์ วทิ ยำศำสตร์ 2 ทุกโครงงำน นำยณฐั อปุ นสิ ัยพล วทิ ยำศำสตร์ 3 กำรปลูกและขยำยพนั ธุ์บวั ทกุ โครงงำน นำงนุชนำฎ โชตสิ วุ รรณ วิทยำศำสตร์ 4 กำรศึกษำควำมเหนยี วของเส้นใยบัว ทุกโครงงำน นำงสำวแสงเดอื น บกน้อย เศรษศำสตร์ ชำดอกบวั ทกุ โครงงำน นำงสำคร ทองเทพ วิทยำศำสตร์ 5 ใบบวั กบั กำรไลย่ ุง นำงสำวยำใจ เจรญิ พงษ์ ทุกโครงงำน นำยกติ ตพิ งษ์ บญุ สำร เศรษศำสตร์ 6 กำรทำเทียนหอมจำกกลิ่นบัว ทกุ โครงงำน นำงสำวยำใจ เจรญิ พงษ์ วิทยำศำสตร์ 7 เวลำกำรตำกแดดมผี ลตอ่ กำรย้อมตดิ สีของใบบัว ทุกโครงงำน นำยเดชมณี เนำวโรจน์ วิทยำศำสตร์ หลวง ทกุ โครงงำน เศรษศำสตร์ 8 นำงวไลพร แก่นคณู ศกึ ษำกำรแยกเส้นใยจำกใบบัวหลวง ทกุ โครงงำน นำงสำวกิตติมำ สำระรกั ษ์ สงั คมศำสตร์ 9 นำงสำวกติ ตมิ ำ สำระรกั ษ์ ขนมสำยบัว 10 กำรอนุรกั ษส์ ำยพันธุบ์ วั พ้นื บ้ำน งบประมาณรวม (ทุกโครงการยอ่ ย) 72,800 บาท
สรุปผลกำรทำโครงงำน ท้ัง 10 โครงงำน พบว่ำ โครงงำนสำมำรถสรุปผลได้ตำมสมมติฐำนท่ีต้ังไว้ จำกกำรเข้ำรวมโครงกำรเพำะพันธุ์ปัญญำในครั้งน้ี ทำให้ท้ังครูและนักเรียนเกิดกำรเปล่ียนแปลงตนเองอย่ำง มำกมำย ใชก้ บั กำรดำเนินชีวิตประจำวันไดเ้ ป็นอย่ำงดี เป็นกจิ กรรมโครงกำรที่เกิดกำรเรียนรอู้ ย่ำงมำกมำยมีทั้ง ทุกข์ สุข ในกระบวนกำรทำงำน กำรเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดขึ้นมำกท่ีสุดของนักเรียนโครงกำรเพำะพันธุ์ปัญญำ โรงเรียนสมเด็จพระญำณสังวร ในพรสังฆรำชูปถัมภ์ เรียงจำกมำกไปหำน้อย 1. ควำมสำมำรถแก้ปัญหำ 2. มนุษย์สมั พนั ธ์ ทักษะทำงสังคม 3. กำรรบั ฟังผูอ้ ่นื และ 4. ควำมกลำ้ แสดงออก บทนา
โรงเรียนสมเด็จพระญำณสังวร ในพระสังฆรำชูปถัมภ์ สมัครเข้ำร่วมโครงกำรเพำะพันธ์ุ ปญั ญำ กับศูนย์พ่เี ลีย้ งมหำวิทยำลัยอุบลรำชธำนี ตั้งแต่ปีกำรศึกษำ 2557 จนถึงปีกำรศึกษำ 2558 ปีที่ 2 ของ กำรเข้ำรว่ มโครงกำรฯ จำกที่ครูไม่มีควำมรู้อะไรเลยเกี่ยวกับทักษะเพำะพันธุ์ปัญญำจนถึงกระท่ังปีนี้คิดว่ำครูมี กำรเปลี่ยนแปลงและไดเ้ รยี นรูอ้ ย่ำงมำกมำยจำกครูด้วยกนั เองและทีส่ ำคัญจำกนักเรยี น บำงคร้ังกำรเรียนรู้ของ ครูก็รู้ก่อนนักเรียนแค่ไม่ก่ีนำทีเพรำะต้องเตรียมและสืบค้นข้อมูลเพ่ือไปสร้ำงควำมตระหนักและควำมสนใจ ให้กับนักเรียน บำงคร้ังกำรเรียนรู้ก็เกิดพร้อมๆกับนักเรียน.....ครูได้เรียนรู้คน เรียนรู้นักเรียน เรียนรู้ชี วิต ได้ ออกไปศึกษำนอกสถำนที่ ได้เรียนรู้จำกปรำชญ์และภูมิปัญญำ ที่สำคัญได้ออกไปเยี่ยมบ้ำนนักเรียน เย่ียม ผปู้ กครองนกั เรียนเพื่อสรำ้ งควำมเข้ำใจในกำรเรยี นรู้ของนักเรียนนอกห้องเรียน เพำะพันธุ์ปัญญำได้ให้พวกเรำ เรียนรู้อะไรต่ำงๆ อย่ำงมำกมำยโดยผลกำรเรียนรู้ได้สื่อผ่ำนไดอำรี เฟรสบุ๊คของนักเรียนและครู ปีนี้ครูและ นักเรียนของโรงเรียนท่ีร่วมโครงกำรได้เรียนรู้กระบวนกำร RBL ซ่ึงเป็นกระบวนกำรเรียนรู้ของนักเรียนนอก ห้องเรียนมีควำมเข้ำใจและทำงำนเป็นระบบมำกข้ึน มีกำรวำงแผนกำรทำงำนทำให้งำนที่ได้ไม่ค่อยมีปัญญำ และอปุ สรรคเหมือนปที ่แี ลว้ กระบวนกำรทำงำนแบบ RBL เป็นกำรเรยี นรู้ สู่กระบวนกำรทำงำน ลงมือปฏบิ ัติ ทำซำ้ วิเครำะหเ์ หตุ วเิ ครำะหผ์ ล จนเกดิ เปน็ ทักษะท่ีจะตดิ ตัวนักเรยี นไปตลอดชีวิต การออกแบบกระบวนการเรยี นรู้แบบ RBL ของโรงเรียน(ญสส.) ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนดำเนนิ กำร ศนู ยพ์ ี่เลยี้ งดำเนนิ กำร
เริ่มต้น ศกึ ษาดงู าน สมคั รร่วมโครงการ ศนู ย์พเี่ ลยี ้ ง ม.อบุ ลฯ เลอื กห้อง / เลอื กประเด็นหลกั จิตปัญญา แบง่ กลมุ่ ค้นคว้า / เรียนรู้ / โครงงานยอ่ ย RBL อบรม ศกึ ษาข้อมลู /สอบถาม/สมั ภาษณ์ ผ้มู คี วามรู้และประสบการณ์ อนิ เทอร์เนต็ เอกสารตีพมิ พ์ ครูกลมุ่ สาระวิทยาศาสตร์/สงั คม อพั เดรต facebook ลงมอื ทาโครงงาน RBL / เรียนรู้ RBL นาเสนอเค้าโครงฯHub อพั เดรต Line วิเคราะห์ข้อมลู หลกั การ สรุปผลวิจยั อบรมการเขยี นรายงาน ครู/นกั เรียนเขยี นไดอาร่ี นกั เรียนสรุปผล RBL แตล่ ะกลมุ่ นาเสนอปิ ดโครงการทศี่ นู ย์ ม.อบุ ล อบรมการคดิ วเิ คราะห์ แสดงละครเวทนี าเสนอRBL นาเสนอปิ ดโครงการทีศ่ นู ย์ ม.อบุ ล สงั เคราะห์ การคัดสเลนิ้ สือดุ กประเด็นหลัก(Theme) ศนู ย์พ่เี ลยี ้ งนเิ ทศ RBL 1 ครัง้ ร่วมปิ ดโครงการทเ่ี มืองทอง กทม. แสดงละครเวทีนาเสนอRBL
โรงเรยี นสมเดจ็ พระญำณสังวร ในพระสังฆรำชูปถมั ภ์ ได้สมัครเข้ำร่วมโครงกำรเพำะพันธุ์ปัญญำ ศูนย์ พ่ีเลยี้ งมหำวทิ ำลยั อุบลรำชธำนี เป็นปีท่ี 2 ปีกำรศึกษำ 2558 มีผบู้ ริหำรโรงเรียน จำนวน 2 คน ครูที่ปรึกษำ โครงงำน จำนวน 8 คน มีนักเรียน ม.4/1 จำนวน 4 คน ม.4/2 จำนวน 39 คน ม.5/1 จำนวน 20 คน ม.5/2 จำนวน 1 คน ในกำรเลือกประเด็นหลักของโรงเรียน ครูให้นักเรียนคิดหำประเด็นหลักโดยกำรวิพำกวิจำรณ์ ค้นคว้ำ สืบค้นข้อมูล โดยนักเรียนได้เสนอไว้หลำยเรื่อง แต่สุดท้ำยก็ตกลงกันที่ เรื่อง บัว โดยใช้ประชำมติ ประชำธิปไตย พื้นฐำนควำมรู้เดิมท่ีโรงเรียนหรือชุมชนมีอยู่ เพรำะบัว เป็นพืชท่ีคนไทยคุ้นเคยรู้จักดีในทำง ควำมเชื่อศำสนำเพรำะใช้ในพิธีกรรมต่ำง ๆ นอกจำกนี้บัวยังมีประโยชน์มำกมำยหลำกหลำยอย่ำง แต่คนไทย ยังไม่ได้นำมำใช้ประโยชน์อะไรมำกมำย คนจำนวนมำกจึงมองข้ำมหรือรู้สึกว่ำบัวเป็นพืชธรรมดำๆ ไม่มีอะไร พิเศษ แต่ถำ้ ลองทบทวนหวนคิดถึงภูมิปัญญำของบรรพบุรุษเรำ ก็จะพบควำมแปลกใจท่ีคนรุ่นก่อนช่ำงสรรหำ พืชชนิดนี้มำเป็นสมุนไพรประจำครัวไทย นอกจำกน้ีในชุมชนรอบๆ ซ่ึงเป็นท่ีตั้งของโรงเรียนสมเด็จพระญำณ สังวร ในพระสงั ฆรำชปู ถัมภ์ มีบวั ชนิดต่ำง ๆ เกดิ ข้นึ มำกมำยตำมแหลง่ น้ำธรรมชำติ มกี ำรเกบ็ ฝกั บัวมำขำย แต่ ยงั ไม่ได้ทำเปน็ อำชพี หลกั มูลเหตจุ งู ใจใหส้ นใจประเดน็ นี้ โรงเรยี นสมเดจ็ พระญำณสังวร ในพระสงั ฆรำชูปถัมภ์ เป็นโรงเรียนวิถี พุทธ มีองคส์ มเด็จพระญำณสังวร สมเด็จพระสงั ฆรำช สกลมหำสงั ฆปรนิ ำยกทรงเป็นองค์อปุ ถมั ภ์ กิจกรรม สว่ นใหญม่ ีกำรนำบอกบัวหลวงมำใชง้ ำน และในชมุ ชนกม็ ีบัวจำนวนมำกหลำกหลำยสำยพันธุ์ กำรออกแบบกระบวนกำรเรียนรู้ RBL ของโรงเรียน หลังจำกได้ประเด็นบัวแล้ว ก็ให้นักเรียนค้นคว้ำ สบิ คน้ ประเด็นทีจ่ ะทำโครงงำน RBL ยอ่ ยเก่ยี วกับ บวั จำนวน 10 โครงงำน เขียนผงั เหตผุ ลแต่ละโครงงำนย่อย และเสนอโครงงำน RBL ย่อยทั้ง 10 โครงงำนเพื่อขออนุมัติ ปรำกฏว่ำ ได้รับกำรอนุมัติโครงกำร RBL จำนวน 10 โครงงำนและเงินสนบั สนนุ 72,800 บำท
ตำมแผนผงั โครงงำน ดังน้ี
บวั เปน็ พืชไมป้ ระดับชนดิ หนงึ่ ท่ีสำมำรถพบเหน็ ไดง้ ำ่ ยในชมุ ชนตำบลดงแคนใหญ่ ลักษณะลำต้น มที ง้ั ท่ี เปน็ เหง้ำ ไหล หรือหวั ใบเปน็ ใบเด่ยี วเจรญิ ขน้ึ จำกลำตน้ โดยมีกำ้ นใบสง่ ขึ้นมำเจริญท่ีใต้นำ้ ผวิ น้ำ หรือเหนือนำ้ รปู ร่ำงของใบส่วนใหญ่กลมมีหลำยแบบ บำงชนิดมีกำ้ นใบบัว บัวเป็นรำชนิ แี ห่งไม้นำ้ จัดเปน็ พนั ธ์ไุ ม้นำ้ ที่ถือ เปน็ สัญลักษณ์ของคุณงำมควำมดี บวั มีหลำยสำยพนั ธ์ุชอบข้ึนในน้ำจดื ออกดอกตลอดปี ชอบนำ้ สะอำดอยูใ่ น นำ้ ลึกพอสมควร จะเร่มิ บำนต้ังแตต่ อนเชำ้ ก้ำนดอกยำวมีหนำมเหมือนก้ำนใบชูดอกเหนือนำ้ และชูสงู กวำ่ ใบ เลก็ น้อย กลีบเลี้ยง 4-5 กลีบ สีขำวอมเขยี ว หรือเทำชมพู ร่วงงำ่ ย กลีบดอกจำนวนมำกเรียงซ้อนหลำยชัน้ เกสรตัวผู้มีจำนวนหลำยสี ยงั เปน็ พืชไม้ประดบั ทนี่ ำมำใช้ในกำรประกอบอำหำร และส่วนประกอบของบวั เปน็ พชื ท่นี ำมำใช้ประโยชน์ทำงดำ้ นอำหำรมำกมำย ใชไ้ ด้ท้ังสดและแห้ง มบี ทบำทท่ีสำคัญ คอื เปน็ พชื ที่มโี ปรตนี ประมำณ 23% ซ่งึ สงู กวำ่ ขำ้ วถงึ 3 เทำ่ และเป็นแหล่งรวมธำตุ นอกจำกนัน้ สว่ นประกอบของบวั ยังมีฤทธ์ทิ ำง ยำ เหงำ้ ชว่ ยลดอำกำรปวดและชว่ ยต้ำนอำกำรอกั เสบ สำรอัลคำลอยด์ ท่ี พบในบวั มีฤทธทิ์ ำให้นอนหลับ รำกบวั สำมำรถชว่ ยลดกำรดูดซึมของกลโู คส จงึ สำมำรถชว่ ยลดระดบั นำ้ ตำลในเลอื ดได้ท้งั คนปกติและใน ผปู้ ว่ ยเบำหวำน เกสรและดอกบวั หลวงมฤี ทธ์ติ ้ำนอนุมูลอิสระ ดอกบวั สดสีขำวใชต้ ้มกับน้ำดืม่ ติดต่อกนั จะมี สรรพคณุ เปน็ ยำบรรเทำอำกำรอ่อนเพลีย ทำให้สดชนื่ ขน้ึ และช่วยลดอำกำรใจสัน่ ใบสดหรือแหง้ ชว่ ยลด ควำมดนั โลหิตสูงและลดไขมันในเสน้ เลอื ด สำรสกัดที่ได้จำกเมล็ดและใบบวั มีฤทธยิ์ บั ยัง้ กำรเจรญิ เติบโต ของ เชื้อแบคทเี รียทกุ ชนดิ รำกช่วยลดไข้ ใบช่วยระงับอำกำรหวดั คดั จมกู เม็ดบัวและเกสรตัวผูช้ ว่ ยแก้อำกำรตก ขำวของสตรี แกอ้ ำกำรประจำเดือน มำมำกกวำ่ ปกติและเม็ดบัวยังมีสำรต่อต้ำนอนมุ ูลอสิ ระสูงซ่งึ มีคุณสมบัตชิ ว่ ย ป้องกนั มะเร็ง โดยเฉพำะอยำ่ งย่งิ มะเร็งตบั ( http://frynn.com ) จำกวธิ ีชีวิตของคนในชมุ ชนตำบลดงแคนใหญ่ที่กล่ำวมำข้ำงต้น ทำให้ “บัว” ซงึ่ เป็นพืชในพนื้ ถน่ิ ที่ ประกอบไปด้วยคุณสมบัติทเี่ ป็นประโยชน์ในกำรดำรงชวี ติ ถกู ละเลยและลดควำมสำคัญลง และบัวบำงสำย พันธทุ์ ่มี ีอยูใ่ นท้องถิน่ ได้สูญหำยไป ทำให้คนรุ่นหลังๆไม่ทรำบควำมสำคัญและไมร่ ูจ้ ักสำยพนั ธ์บุ ัวอีกหลำยๆสำย พันธ์ุ หรือเพยี งแค่ใชป้ ระโยชน์จำกบวั เพียงแคก่ ำรนำดอกไปบูชำพระ และบริโภคเมลด็ สดทง้ั ๆทีบ่ วั น้นั สำมำรถ ใชป้ ระโยชน์ไดใ้ นทุกส่วนและมคี วำมเก่ยี วข้องกบั วิถชี ุมชนของไทยมำช้ำนำน ดังนน้ั คณะผ้จู ดั ศกึ ษำจงึ มีแนวคิด ท่จี ะส่งเสรมิ ให้คนในชมุ ชนเห็นควำมสำคญั และให้ควำมรู้เกี่ยวกบั สำยพนั ธบุ์ วั เพ่ือให้คนในชุมชนใช้ประโยชน์ จำกบวั มำกข้นึ เพื่ออนรุ ักษบ์ ัวใหอ้ ยคู่ ู่กบั วิถีชวี ติ ของคนในชมุ ชนตอ่ ไป ความรเู้ กีย่ วกบั บัวและสายพนั ธบ์ุ วั บัวเป็นพืชล้มลุก ลักษณะลำต้นมีทั้งที่เป็นเหง้ำ ไหล หรือหัว ใบเป็นใบเดี่ยวเจริญขึ้นจำกลำต้น โดยมี ก้ำนใบส่งขึ้นมำเจรญิ ท่ใี ต้นำ้ ผวิ นำ้ หรือเหนือน้ำ รูปร่ำงของใบส่วนใหญ่กลมมีหลำยแบบ บำงชนิดมีก้ำนใบบวั บวั เปน็ รำชินีแห่งไม้น้ำ จัดเป็นพันธ์ุไม้น้ำที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของคุณ งำมควำมดี บัวหลวงชอบข้ึนในน้ำจืด ออกดอกตลอดปี ชอบน้ำสะอำด อยู่ในน้ำลึก พอสมควร จะเริ่มบำนต้ังแต่ตอนเช้ำ ก้ำนดอกยำวมีหนำมเหมือนก้ำนใบ ชูดอกเหนือน้ำ และชูสูงกว่ำใบเล็กน้อย กลีบเล้ียง 4-5 กลีบ สีขำวอมเขียว หรือเทำชมพู ร่วงง่ำย กลีบดอกจำนวนมำกเรียง ซ้อนหลำยชั้น เกสรตวั ผมู้ จี ำนวนหลำยสี
นกั พฤกษศาสตร์ แบง่ บัวออกเปน็ 3 สกุลใหญค่ ือ สกลุ เนลมุ โบ (Nelumbo) หรอื ปทุมชาติ สกลุ นิมเฟยี ร์ (Nymphaea) หรอื อุบลชาติ สกลุ วคิ ตอเรยี (Victoria) หรือ บวั วกิ ตอเรีย ในแตล่ ะสกุลสำมำรถจำแนกไดห้ ลำยชนดิ สำหรับในประเทศไทยชนดิ ของบัวท่ีปลูกเป็นกำรค้ำมี 6 ชนิด ในแตล่ ะสกลุ สำมำรถจำแนกไดห้ ลำยชนิด สำหรบั ในประเทศไทยชนดิ ของบัวท่ปี ลกู เปน็ กำรคำ้ มี 6 ชนิด ปทุมชาติ หรือบัวหลวง บัวสกุลน้ีคนไทยนิยมนำไปไหว้พระ และนำรำกทำอำหำร (Lotus) บวั หลวง อยู่ในสกลุ ปทุมชำติ ลักษณะใบชเู หนอื น้ำ เจริญเตบิ โตโดยมี ไหลอยูใ่ ตด้ นิ ชอนไชไปใตพ้ ื้นดิน ใบมีขนำด ใหญ่ ดอกมที งั้ ดอกซอ้ นและไม่ซ้อน ใบและดอกชูเหนือข้ึนน้ำ ในประเทศไทยมีอยู่ 4 พันธุ์ แต่พันธ์ุของบัวหลวงท่ีนิยมปลูกในปัจจุบัน ได้แก่ พันธ์ุ ฉตั รขำว ฉัตรแก้ว และฉัตรแดง บัวฝร่ัง (Hardy Water-Lilly) บัวฝร่ัง อยู่ในสกุลอุบลชำติยืนต้น มีถ่ิน กำเนิดในเขตอบอุน่ และเขตหนำว ลักษณะคล้ำยบัวหลวง ต้นอ่อน เจริญเติบโตโดยสร้ำง ลำต้น หรือเหง้ำ เจริญตำมแนวนอนใต้ผิวดิน ลักษณะใบมีท้ังขอบเรียบ และขอบใบจัก ดอกลอยแตะผิวน้ำ หรือชูเหนือน้ำเล็กน้อย ดอกมีหลำยสี กลีบดอกซ้อนสวยงำม มีช่ือ เรียกต่ำงกนั ตำมลักษณะสีและดอก สี ตำมผู้พัฒนำพันธขุ์ นึ้ บัวผัน- ฉลองขวัญ มีกลิ่นหอม (Tropical Water-Lilly) บัวผัน บัวเผื่อน อยู่ในสกุล อุบลชำติล้มลุก ตน้ ทงี่ อกจำกเมล็ดจะเจรญิ ตำมแนวดิง่ ข้ึนสู่ผิวดนิ แลว้ แตกกำ้ นใบบนผิวดิน ดอกชูพ้นน้ำ บำนในเวลำเช้ำหรือกลำงวัน และหุบตอนเย็น ดอกมีกล่ินหอมมำก เป็นบัว ชนิดที่ขยำยพันธุ์ไดช้ ำ้ ผสมพนั ธ์ขุ ำ้ มระหวำ่ งสีตำ่ งๆ ไดง้ ่ำย โดยแมลงในธรรมชำติ และฝีมือ มนษุ ย์ บัวชนดิ นีจ้ งึ เกิดสีสันต่ำงๆ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ ขยำยพันธ์ุง่ำย ดูแลง่ำย หำซ้ือได้ตำมร้ำนขำยท่ัวไป กระถำงละ 25 - 50 บำท บัวสาย มีกล่ินหอม บำนกลำงคืน บัวสำย อยู่ในสกุลอุบลชำติ เป็นบัวที่ชำวบ้ำนนิยมเก็บ สำยบัวมำทำอำหำร บวั ชนดิ นีม้ กี ้ำนใบ และกำ้ นดอกยำว สำมำรถขนึ้ อยใู่ นระดบั นำ้ ลึกๆ ได้ พบได้ท่ัวไปตำมหนองบึง และแหล่งธรรมชำติตำมชนบท มีหัวกลมๆ สำยขนำดปลำย น้วิ กอ้ ย มีขนเล็กน้อย ใบมน ขอบใบจัก ดอกบำนกลำงคืน และหบุ เวลำเช้ำ บวั จงกลนี อย่ใู นสกุลอุบลชำติ เปน็ บวั ที่พบใหม่ในธรรมชำติคำดว่ำเกิดจำกกำรแปลงพันธ์ุในธรรมชำติ ใบเหมือนบัวตระกูลบัวผัน บัวเผื่อน แต่ดอกซ้อนเหมือนบัวฝรั่ง มีเหง้ำใต้ดินเจริญเติบโต ในแนวดงิ่ ต้นออ่ นจะเกิดจำกเหงำ้ ใต้ดินเจริญเติบโตขึ้นมำจำกต้นแม่ ใบลอยอยู่แตะผิวน้ำ ดอกลอยแตะผิวนำ้ เลก็ นอ้ ย
บัวกระด้ง อยูใ่ นสกุลวกิ ตอเรีย จดั เปน็ บัวขนำดใหญ่ทสี่ ุด มลี ำตน้ ใต้ดินเป็นหัวใหญ่ ใบเป็นใบเดี่ยวมีขนำดใหญ่ ประมำณ 6 ฟุต ลอยบนผิวน้ำ ใบ ก้ำนใบ ก้ำนดอก มีหนำมแหลมอยู่ทั่ว มีดอกสีขำว และสีชมพู ดอกมีกลิ่นหอมแรง บำนตอนกลำงคืน และหุบในตอนเช้ำ เป็นบัวท่ีต้องใช้ พื้นท่ีปลูกมำก และมีปัญหำกอบัวหลุดลอยข้ึนสู่ผิวน้ำหำกระดับน้ำท่ปลูกมีกำรเปล่ียน ขน้ึ อยำ่ งกะทันหัน ในจำนวนบัวทง้ั 6 ชนิดน้ี บัวหลวงนับเป็นบัวท่ีมีควำมสำคัญทำงเศรษฐกิจมำก ที่สุด และเกษตรกรปลุกมำกท่ีสุด โดยมีวัตถุประสงค์ของกำรปลุก 2 ประกำร คือ ปลูกเพื่อตัดดอกตูม ซ่ึง นำไปใช้บชู ำพระ และปลกู เพือ่ เก็บเมล็ด ซึ่งสำมำรถใช้ประกอบอำหำรทั้งคำวหวำน นอกจำกนี้ส่วนอื่นของบัว หลวงก็สำมำรถจำหน่ำยและใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้ เช่น ใบแห้งใช้ทำยำกันยุง มวนบุหรี่ ต้มเป็นยำไทยบำรุง หัวใจ แก้ไข และรักษำโรคตับ , ใบสด ใช้ห่ออำหำร และไหลหรือรำก สำมำรถนำมำเช่ือมเป็นอำหำรหวำน มี สรรพคณุ แก้ร้อนใน และระงบั อำกำรทอ้ งร่วงได้อีกดว้ ย ขอบคุณข้อมลู จำก : http://home.sanook.com/313/
สรุปผลการจัดกิจกรรมโครงการเพาะพนั ธป์ุ ญั ญา ของโรงเรยี น โรงเรียนสมเด็จพระญำณสังวร ในพระสังฆรำชูปถัมภ์ ได้จัดกิจกรรมโครงกำรเพำพันธุ์ปัญญำ ตลอด ระยะเวลำ 1 ปีกำรศึกษำ ตง้ั แตเ่ ข้ำรว่ มโครงกำรฯ กับศูนย์มหำวิทยำลัยอุบลรำชธำนี ทำให้ท้ังครูและนักเรียน เกิดกำรเปลี่ยนแปลงต่ำง ๆ อย่ำงมำกมำย ทั้งด้ำนจิตใจ และพฤติกรรมกำรเรียนรู้ครูและนักเรียนมี ควำมสัมพันธ์กันอย่ำงใกล้ชิด โดยนำกระบนกำร RBL มำใช้ในกระบวนกำรเรียนรู้ของนักเรียนจนทำให้ นักเรยี นมคี วำมเขำ้ ใจและสำมำรถนำไปปรับใชก้ บั ชีวติ ประจำวัน ผลจำกกำรทำกิจกรรมที่มุ่งมั่นและทุ่มเท ทำให้เพำะพันธุ์ปัญญำ โรงเรียนสมเด็จพระญำณสังวร ในพระสงั ฆรำชูปถมั ภ์ ไดร้ บั รำงวลั จำกศูนยพ์ ่เี ลี้ยงมหำวิทยำลยั อบุ ล ดังนี้ 1. โรงเรียนสมเด็จพระญำณสังวร ในพระสังฆรำชูปถัมภ์ ได้รับรำงวัลชนะเลิศกำรจัด นิทรรศกำร 2. นำงสำวศศธิ ร ปะสำวะโถ ไดร้ บั รำงวลั นักเรยี นเพำะพันธปุ์ ัญญำแหง่ ปี 3. นำงสำวโสภิดำ บญุ จรสั ไดร้ บั รำงวัล กำรเขยี นเรยี งควำมดเี ดน่
ภาพกิจกรรมของโรงเรยี น
ผลงานโรงเรยี นเพาะพนั ธ์ปุ ญั ญา ปี 2558
เสียงสะท้อน (Reflections) ของครู นกั เรยี น และผบู้ รหิ าร เสียงสะทอ้ นของครู ข้ำพเจำ้ มคี วำมรู้สึกภำคภูมิใจเป็นอย่ำงมำกกับโครงกำรเพำะพันธุ์ปัญญำ โครงกำรดีๆที่เปิดโอกำสให้ เด็กได้แสดงควำมสำมำรถควำมรับผิดชอบ ขอบคุณผู้สนับสนุนทุกท่ำนผู้ใหญ่ใจดีทุกคนและเพื่อนๆครูที่ร่วม โครงกำร ดิฉันได้ทำหนำ้ ที่เป็นครูท่ีปรึกษำโครงงำน RBL ในเร่ือง ชำดอกบัว ได้ไปผลักดันและสนับสนุน สร้ำง แรงกระตนุ้ ให้กบั นกั เรยี นในกำรจดั กำรบริหำรตนเอง ในเรอื่ งกำรทำงำนและควำมรับผิดชอบ กำรวำงแผนตำม ทกั ษะกระบวนกำรวิทยำศำสตร์ นอกจำกกลุ่มที่ดิฉันรับผิดชอบแล้ว ดิฉันได้เข้ำไปมีบทบำทแทบจะทุกกลุ่มไม่ เร่ืองสร้ำงจิตสำนักของนักเรียนในรำยท่ีนักเรียนไม่รับผิดชอบ นำกระบวนกำรไปอบรมมำในเรื่องของกำรคิด วิเครำะห์มำถ่ำยทอดให้นักเรียนเพำะพันธ์ุปัญญำในโรงเรียน นอกจำกน้ียังอำสำพำนักเรียนท้ังกลุ่มชำดอกบัว กลุ่มเทียนหอมกลิ่นบัว กลุ่มปลูกบัว กลุ่มใบบัวบำง ไปซ้ือจัดหำอุปกรณ์ในกำรทำโครงงำน พำนักเรียนไปเปิด โลกทัศน์เรียนรู้จำกแหล่งเรียนรู้โดยสละเวลำ และค่ำใช้จ่ำยส่วนตัว ทุกครั้งท่ีนำนักเรียนไปเห็นนักเรียนมี ควำมสขุ และสำมำรถทำงำนโครงงำนได้สำเรจ็ ตำมเปำ้ หมำย ดิฉันในฐำนะที่เป็นครูเกิดควำมภำคภูมิใจทุกคร้ัง นำสขุ มำใหถ้ ึงบำงคร้ังจะลำบำกท้งั ด้ำนควำมคดิ และกำรเดินทำง สำหรับกำรเปลี่ยนแปลงของตัวดิฉันหลังจำก รว่ มโครงกำรนี้ พบวำ่ ตวั เองเปลี่ยนแปลงไปมำก เช่น เปล่ียนวิธีกำรเรียนเปลี่ยนวิธีกำรสอน ใช้คำถำมมำกข้ึน ในกำรกระตุ้นให้นักเรียนได้แสดงควำมคิดเห็นรู้จักคิดวิเครำะห์ ต้องขอบคุณหนังสือของครูสุธีระ ประเสริฐ สรรพ์ เร่ือง “ถำมคือสอน” ท่ีทำให้ดิฉันเกิดกำรเปลี่ยนแปลงในเร่ืองนี้ อีกอย่ำงหลังจำกท่ีได้คลุกคลีกับ นักเรียนเพำะพนั ธ์ุปญั ญำพบวำ่ ตวั เองใจเย็นมำกขึ้น ไม่เร่งรีบ หรือใจร้อนที่จะสรุปหรือบอกคำตอบนักเรียนใน สิ่งที่ให้นักเรียนทำ หรือส่ิงท่ีครูถำม ในกำรทำงำนของครูเพำะพันธ์ุปัญญำด้วยในโรงเรียน ดิฉันก็จะให้กำร สนับสนุนและให้ควำมร่วมมืออย่ำงเต็มที่และเต็มกำลังควำมสำมำรถทุกคร้ัง เมื่อหัวหน้ำโครงกำรขอควำม ร่วมมือ จะสอบถำมควำมคืบหน้ำและให้กำลังใจเพื่อนครูในโครงกำรทุกคร้ังที่มีโอกำสได้เจอกัน ในกำรเรียน กำรสอนในช่ัวโมงปกติดิฉันได้นำหลักกำรวิธีคิดที่ได้จำกโครงกำรเพำะพันธุ์ปัญญำมำปรับไว้สอนกับรำยวิชำ สอนที่รับผิดชอบ เช่น กิจกรรมจิตปัญญำ กิจกรรมกำรออกแบบกำรต้มมำม่ำ กิจกรรมกำรนำเสนอหน้ำช้ัน เรียน พยำมฝึกให้นักเรียนได้พูดได้กล้ำแสดงควำมคิดเห็น และนำควำมรู้ที่ได้จำกกำรอบรมในโครงกำร เพำะพันธ์ุปัญญำมำใช้ในห้องเรียนด้วย ได้ยินข่ำวว่ำโครงกำรนี้จะดำเนินกำรอีก 1 ปี ได้ยินแล้วรู้สึกใจหำย ที่ โครงกำรดๆี แบบน้จี ะไมม่ ีแลว้ แต่ดิฉนั ก็จะนำกิจกรรม สง่ิ ทีไ่ ด้ กระบวนกำร ของโครงกำรนีไ้ ปปรับใช้ต่อไป เขยี นโดย : นำงสำวแสงเดอื น บกน้อย เสียงสะทอ้ นของนักเรียน ต้นกล้ำ คือ กำรท่ีเรำเจริญงอกงำมกับส่ิงเล็ก จนเจริญเติบโตใหญ่ขึ้นแล้วมีเมล็ดที่งอกงำมดูสวยงำม เป็นเมล็ดพันธตุ์ น้ กลำ้ ท่มี คี วำมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลำมีกำรรวมยอดดอกพันธุ์กล้ำให้เป็นประเภทเดียวกันหำก วนั หน่งึ ตน้ กลำ้ ของเรำไม่เจริญงอกงำมกเ็ พรำะว่ำเรำขำดกนั ดูแล พันธุ์ต้นกล้ำแห่งกำรเปล่ียนแปลง คือ เปรียบเสมือนคนทำงำนหรือไม่มีงำนทำท่ีคอยเปล่ียนแปลง ตัวเองตลอดเวลำเรำทุกคนต้องมีควำมสำมัคคี มีน้ำใจต่อกัน แล้วเรำก็จะเป็นพันธุ์ต้นกล้ำที่แสดงออกแล้วถูก แสงแดดก็จะดูสวยงำมมำกย่ิงขึ้นต้นกล้ำน้ีจะคอยเป็นผู้อำศัยให้ทุกคนมีควำมเจริญเติบโ ตเป็นกำรรวมตัวกลุ่ม ใหญใ่ หม้ ีควำมสำมคั คกี ันเพ่ือร่วมคนเป็นกลุ่มใหญ่ให้มีกำรพัฒนำต่อชุมชนของเรำสืบต่อกันไป เหมือนกับกลุ่ม ’’ พพปญ’’ มีกำรทำงำนเป็นกลุ่มแต่อีกบำงคนก็ไม่ทำงำนช่วยกันแล้วพวกเรำก็ท้อไม่มีใครทำงำนช่วยเพรำะ
อยำกให้กลุ่มของเรำสำมัคคีกันเพ่ือรวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ที่จะคอยช่วยเหลือกัน แต่พอนำนๆไปกลุ่มเรำก็มีกำร พัฒนำไปเรื่อยๆ จนเกิดกำรระดมควำมคิดในกลุ่มต้องมีควำมอดทน เพื่อท่ีจะสู้ต่อไปเพ่ือท่ีจะเอำชนะส่ิงต่ำงๆ ให้ได้เพือ่ ใหม้ ีกำรเปล่ียนแปลงอยู่ตลอดเวลำเพือ่ ที่จะรวมกลุ่มกันเป็นเมล็ดต้นกล้ำพันธุ์เดียวกันให้งอกงำมและ สวยงำมตำเป็นกำรเปล่ียนแปลงตลอดเวลำกำรบรมเปลี่ยนพฤติกรรมของคนเรำให้มีวิวัฒนำกำรใหม่เพื่อ แสวงหำควำมรู้ควำมต้องกำรในยุคนั้นๆให้มีกำรงอกงำมให้มีกำรเจริญเติบโตเป็นที่สุดตำของทุกๆคนให้ เจรญิ ก้ำวหน้ำทนั เทคโนโลยีแล้วจงึ จะมีกำรเปล่ยี นแปลงมำใหมใ่ นวงๆนีแ้ ตใ่ นกำรทำ “พพปญ” ครั้งน้ีเรำก็เป็น กำรพิมพ์ท่ีไม่ถนัดเรำก็ไม่เก่งมำกเท่ำไรแต่เรำก็ทำหน้ำท่ีของกลุ่มเรำให้ดีที่สุดเรำได้กระบวนกำรทำงำนต่ำงๆ จนจะหมดกำรทำงำนของกลมุ่ ของพวกเรำยังแกะสลักไม่เสร็จแต่เรำก็จะทำหน้ำท่ีเพ่ือที่จะให้งำนของเรำมีกำร เปล่ียนแปลงเพ่ือฝึกทักษะกำรเรียนรู้ของตนเองเพื่อสอดคล้องกับวิถีชีวิตของเรำเพื่อที่จะทำกำรวิจัยพื้นฐำนน้ี แล้วจะทำงำนเสร็จสมบูรณ์เพ่ือที่จะประสบควำมสำเร็จในชีวิตแล้วแก้ปัญหำต่ำงๆได้แล้วเกิดกระบวนกำรคิด แลว้ เกดิ ทกั ษะตำ่ งๆใหเ้ กิดควำมคิดในกลุ่มเพื่อระดมควำมคิดจำกกลุ่มต่ำงๆให้มีควำมสมบูรณ์แบบให้กลุ่มของ เรำเพอ่ื ท่จี ะเรยี นรนู้ ิสยั เพอื่ นในกลุ่มวำ่ มกี ำรเปล่ยี นแปลงหรอื มีควำมรบั ผดิ ชอบมำกน้อยเพียงใด ในกำรทำโครงกำรเพำะพนั ธุป์ ัญญำครั้งนม้ี ีควำมสขุ มำกท่ีไดท้ ำกจิ กรรมรว่ มกบั เพื่อน ทำให้อุปนิสยั ของ หนู มีกำรเปลีย่ นแปลง สำมำรถทำงำนได้ประสบควำมสำเรจ็ นอกจำกนยี้ งั นำส่งิ ที่ไดม้ ำปรบั ใช้กบั ชีวติ ประจำวันไม่ว่ำจะเปน็ กระบวนกำรคดิ จนทำให้เกดิ ทักษะชีวติ ในตัวของหนูเอง เขยี นโดย : นำงสำวโสภิดำ บญุ จรสั เสยี งสะทอ้ นของนักเรยี น เพำะพันธุ์ปัญญำเป็นงำนวิจัยหนึ่งท่ีฝึกฝนให้นักเรียนได้เรียนรู้ทักษะด้ำนต่ำงๆและทำให้รู้สึกถึงควำม รบั ผิดชอบตอ่ หนำ้ ที่ทีไ่ ดร้ บั มอบหมำยนี้ แต่ถ้ำขำดควำมรับผิดชอบวิจัยน้ีก็ไม่สำมำรถทำสำเร็จได้และในวิจัยนี้ ต้องร่วมด้วยชว่ ยกนั ภำยในกล่มุ ในกำรทำงำนวิจัยเพำะพันธุ์ปัญญำเร่ืองชำดอกบัวน้ีทำให้ดิฉันเกิดทักษะหลำยๆอย่ำงจริงๆจำกที่เป็น คนท่ีไม่ชอบพิมพ์ก็ได้มำนั่งพิมพ์งำนและทำให้เกิดกำรเรียนรู้ที่อยู่ในส่วนรวมควรท่ีจะต้องทำยังไงถ้ำทำเป็น กลุ่มต้องแบ่งงำนให้แก่กันไม่ใช่ให้ใครคนใดคนหนึ่งทำเพียงคนเดียว แต่ทุกคนในกลุ่มต้องมีควำมรับผิดชอบใน บทบำทท่ีได้รับมอบหมำยและอีกอย่ำงหนึ่งขำดไม่ได้คือ นิสัยของเพ่ือนแต่ละคนน้ันแตกต่ำงกันกำรท่ีเรำจะ ทำงำนวิจัยนี้ได้เรำต้องก้ำวไปพร้อมๆกันถึงจะบรรลุเป้ำหมำยนี้ได้สำเร็จและภำคภูมิใจในสิ่งท่ีทำและเรำนั้น แหละที่จะได้ทักษะจำกงำนวิจัยชิ้นนี้และกว่ำที่จะทำงำนวิจัยน้ีสำเร็จมันมีอุปสรรค์นี้ได้หรือไม่น้ันอยู่ที่ตัวเรำ เองย่ิงเรำทำมำกเรำยิ่งมีอุปสรรค์มำกแต่สิ่งที่ได้น้ันก็มำกด้วยเช่นกันงำนวิจัยนี้สอนอะไรๆเรำหลำยอย่ำงอยู่ที่ เรำน้ันจะสำมำรถมองเห็นมันไหมถ้ำเรำมีพ้ืนฐำนกำรทำงำนวิจัยตั้งแต่มั ธยมต่อไปเรำข้ึนมหำลัยก็สำมำรถ ทำงำนวจิ ยั ได้และสำมำรถนำมำปรับใช้ได้ด้วย กำรเรียนรู้ไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องเสมอแค่เรำเปิดใจที่จะเรียนรู้สิ่งต่ำงๆในรอบตัวเรำก็จะได้อะไร หลำยๆอย่ำงและอยำกขอบคุณคุณครูหลำยๆท่ำนท่ีให้คำแนะนำที่ให้กำลังใจและช่วยเหลือในกำร ทำวิจัย เพำะพนั ธุป์ ญั ญำนี้ เขยี นโดย : นำงสำวฮสั วำนี หลักคำ
เสียงสะท้อนของนักเรียน โครงงำนฐำนวิจัย : กระบวนกำรเรียนรู้ใหม่ของกำรศึกษำที่เกี่ยวกับเพำะพันธ์ุปัญญำภำยใต้กำรสนับสนุนของ สำนักงำนสนับสนุนกำรวิจัย โครงกำรเพำะพันธุ์ปัญญำเป็นกำรตกผลึกกระบวนกำรเรียนรู้ด้วยกำรทำงำน รวมกลุ่มเกยี่ วกบั กำรวจิ ยั ทีส่ ำมำรถเปลี่ยนแปลงพฤตกิ รรมท้ังครูและนักเรียนได้ เป็นกำรเรียนรู้นอกห้องเรียน ทที่ ำใหเ้ ด็กเกิดกำรเรียนรูไ้ ด้อยำ่ งเตม็ ตำมศกั ยภำพ กำรวิจัยในเร่อื งบวั กำรปลกู บวั เปน็ บ่อๆ ได้รู้จักกำรร่วมกลุ่มได้ช่วยเพื่อนในกลุ่ม สังเกตว่ำมันเป็นมำ ยังไง ปลกู บัวแลว้ บวั เกดิ หรอื บัวตำยและได้เรียนรู้เกี่ยวกับกำรปลูกดำวเรือง ปลูกดำวเรืองแล้วตำยหมดเลยได้ พำกันช่วยหำมำปลูกใหม่ด้วยวิธีกำรที่ให้นักเรียนคิดช่วยกันแก้ไขปัญหำที่เกิดขึ้น ตอนน้ีดำวเรืองเริ่มเกิดแล้ว พวกเรำไดว้ ิเครำะห์ ไดค้ ดิ อะไรต่ำงๆมำกมำยจำกกำรปลกู ดำวเรอื ง จำกผลสำเร็จคือกำรทปี่ ลกู บัวหลวงแล้วบัว ไมเ่ กิดตำมท่ตี ้ังสมมตุ ฐิ ำนไว้ ทำใหค้ ณะครูและนกั เรียนภูมิใจกับกำรทำงำนเพำะพันธ์ุปัญญำ ผลจำกกำรสำเร็จ ท่ีได้จึงเป็นควำมพยำยำมท่ีจะสร้ำงควำมเปลี่ยนแปลงรูปแบบและปรับเปล่ียนกำรทำงำนร่วมกลุ่ม แบบกำร จัดกำรเรียนกำรสอนในห้องเรียนร่วมกับเพื่อนได้ควำมรู้เกี่ยวกับกำรสังเกตต้นดอกบัว ทั่วไปจำกภำพลักษณ์ กำรเรียนกำรสอนแบบเดิมๆให้กลำยเปน็ กำรเรียนรู้ ใชค้ วำมคิด วเิ ครำะห์ตำมควำมหมำยเกี่ยวกับดอกบัว ผ่ำน กำรเรียนรู้ด้วยด้วยกำรทำโครงงำนฐำนวิจัยเกี่ยวกับเพำะพันธุ์ปัญญำ พวกเรำได้ศึกษำเกี่ยวกับดอกบัว ใบบัว ใบบัวทำได้หลำยอย่ำงทำเป็นกระดำษห่อของขวัญท่ีสวยงำมก็ได้ กลีบบัวทำเป็นชำดอกบัว กลิ่นบัวทำเป็น เทียนหอมกลิ่นบัว ถ้ำเรำทำควำมเข้ำใจ เปิดใจกว้ำงและใคร่ครวญ จะนำไปสู่กำรตระหนักรู้ถึงคุณค่ำของส่ิง ต่ำง ๆ โดยปรำศจำกอคติ แล้วในท่สี ุดจะเกิดกำรเปลี่ยนแปลง “ มุมมอง ” และกำรเปลี่ยนแปลงตนเองให้เข้ำ กับเพ่ือนในกลุ่มเพรำะพันธ์ุปัญญำ มีควำมสุขที่ได้ทำเพำะพันธุ์ปัญญำร่วมกับเพื่อนต่ำงห้อง ได้ควำมรู้จำกครู ได้เห็นควำมรักและกำรสนับสนุนกำรทำงำนของครู และกำรเป็นกำลังใจให้ของครู ได้ข้อคิดอะไรต่ำงๆ มำกมำย ควำมคืบหน้ำขณะนี้อยู่ระหว่ำงกำรถ่ำยทอดแนวควำมคิดไปสู่กำรปฏิบัติ โครงกำรเพำะพันธ์ุปัญญำ ซึ่งแม้จะทำไปได้เพียงไมถ่ งึ ปีแต่กำรเปล่ียนแปลงก็เกิดขึ้นมำกมำย ภำพบรรยำกำศกำรเรียนรู้ในห้องเรียนและ นอกห้องเรียนในแบบท่ีพวกเรำเป็น สัมผัสได้ เป็นกำรแสดงออกถึงควำมคิดผ่ำนกำรกระตุ้น อย่ำงมีระบบโดย คุณครู ได้เกิดข้ึนแล้วจริง ๆ ในระว่ำงลงพื้นที่ติดตำมหำพันธ์ุของดอกบัวทุกชนิด กว่ำที่จะได้มันมำยำกมำก หนองบัวอยู่ไกล บำงหนองมีบัวน้อย น้ำแห้ง บำงหนองสมบูรณ์ จิตปัญญำศึกษำครูให้ไปศึกษำดูงำนเกี่ยวกับ โครงงำนวิทยำศำสตร์ที่มหำวิทยำลัยรำชภัฏอุบลรำชธำนี ในสัปดำห์วันวิทยำศำสตร์ หนูเกิดควำมรู้และ แรงผลักดันอย่ำงมำกมำยทำให้สนุก ถ้ำไม่มีโครงกำรน้ีก็คงไม่ได้ไป เพรำะว่ำมีแต่พวกหนูท่ีได้ไปดูงำน อยำก บอกว่ำมันเย่ียมมำก ครูพี่เล้ียงได้มำเยี่ยมกำรทำงำนของพวกหนู ท่ำนให้แง่คิดและให้พวกเรำคิดลึก คิด วิเครำะห์ให้มำกกว่ำนี้อย่ำทำงำนแบบผิวเผิน กำรทำโครงงำนซึ่งเป็นเรื่องใหม่ๆที่นักเรียนทุกคนค้นพบ คิดว่ำ ยำกทำไม่ได้แต่เมื่อพยำยำมและคิดอย่ำงเป็นระบบว่ำส่ิงที่ทำจะเห็นผลกับเรำเองก็ทำให้ควำมพยำยำมและ สำมำรถยอมรับในอุปสรรคหรือข้อบกพร่องของตนเองเพื่อเริ่มกำรเปล่ียนแปลงได้ หลังเข้ำร่วมโครงกำร เพำะพันธ์ุปัญญำทำให้เกิดกำรเปล่ียนแปลงของตัวเองจำกเดิมท่ีไม่ค่อยต้ังคำถำมก็จะได้เริ่มซักถำมข้ึน และใจ เย็นลง เร่ิมฟังคนอ่ืนมำกข้ึนนอกจำกน้ีมีสิ่งท่ีค้นพบ แล้วดีมำกๆ กำรทำช้ินงำนของนักเรียนจำกเดิมไม่มีระบบแต่ เมื่อใช้วิธีท่ีครูให้แล้วเกิดกำรเรียนรู้ตำมแบบโครงงำนวิจัยเพำะพันธ์ุปัญญำทำให้คิดหัวข้อได้ทรำบเหตุผล หลำยๆเหตผุ ลในกำรสืบเสำะสืบค้นควำมรู้อย่ำงรอบด้ำน ได้ควำมรู้จำกครู ทำได้ง่ำย บำงครั้งสงสำรเพ่ือนใน กำรที่ทำงำนเหน่ือยร่วมกัน เหนื่อยกับกำรทำงำน ข้ำพเจ้ำอำจจะไม่ค่อยได้ช่วยอะไรเพื่อนมำกมำยนัก แต่ก็
เป็นกำลังใจให้เพื่อนร่วมงำนเสมอ ได้มีส่วนช่วยเพื่อนทั้งในกลุ่มตัวเองและกลุ่มอื่นท่ีพอช่วยได้ เช่น กำรตอบ แบบสอบถำม กำรช่วยชิมรสผลผลิตของโครงงำนที่เพื่อนๆ ทำได้กินขนมจำกบัว และได้ดื่มน้ำชำบัว น้ำชำบัว หอมถึงจะไม่หวำน แต่ที่หวำนกว่ำชำบัว ขนมบัวก็คือได้รับรู้จำกควำมตั้งใจเพ่ือนทุกคน ท่ีร่วมกันทำงำน ออกมำดีที่สุด ควำมหวำนของมันยังติดตำตรึงใจหนูจนถึงทุกวันน้ี พวกเรำคอยเป็นกำลังใจให้กันและกัน เพื่อ เพอ่ื นๆ จะไดไ้ ม่เหน่อื ย ทุกคนต่ำงทำงำนช่วยกนั ในงำนกลุม่ งำนทุกกลุ่มกำลังจะออกมำดี บำงกลุ่มก็เงินไม่พอ จำ่ ยแต่กท็ อ้ กันไปและกม็ ีควำมสขุ ทไี่ ดร้ ่วมกันมำ นีก่ เ็ ป็นทกั ทักษะของกำรบริหำรกำรจัดกำรที่พวกหนูได้สัมผัส มนั ในโครงกำรเพำะพันธ์ปุ ญั ญำ สำหรับหนูถ้ำถำมว่ำได้อะไรจำกโครงกำรเพำะพันธ์ุปัญญำ หนูอยำกบอกว่ำได้มำกกว่ำที่คิดจริงๆ ได้ ควำมรู้และควำมเข้ำใจในเร่ืองกำรเรียนรู้ต่ำง ๆ ได้เพื่อน ได้ค้นหำในกลุ่มกำรทำงำน ค้นคน ค้นควำมคิด ค้น ทักษะชีวิต ถำมว่ำเหนื่อยไหม คำตอบท่ีได้ บำงทีก็เหนื่อยใจ แต่คณะครู และเพื่อนๆด้วยกัน ก็พยำยำมช่วย กระตุ้น และให้กำลังใจ ทุกอย่ำงกำลังเสร็จไปได้ด้วยควำมร่วมมือของนักเรียน ประสบกำรณ์ของบัวมันมีค่ำ มำกสำหรับพวกหนู ขอบคุณโครงกำรดีๆ ขอบคุณคุณครูท่ีเลือกพวกหนู เข้ำร่วมโครงกำร ...ทุกคร้ังท่ีนึกถึง กิจกรรมท่ผี ำ่ นมำ ก็อดทีจ่ ะน่ิงยิม้ คนเดียวไมไ่ ด้ เขียนโดย : นำงสำวทิวำพร แก้ววันนำ เสยี งสะทอ้ นของนกั เรียน โครงกำรเพำะพันธ์ุปัญญำ เป็นโครงกำรวิจัยเกี่ยวกับพืชต่ำงๆ ฝึกให้เด็กๆได้รู้จักกำรสังเกตกำรทดลองอย่ำง เปน็ กระบวนกำรเพื่ออยำกให้เป็นนักวจิ ัยนอ้ ยและโครงกำรเพำะพันธ์ุปัญญำ:พันธ์ุต้นกล้ำแห่งกำรเปล่ียนแปลง ได้ฝึกให้นักเรียนและบุคลำกรมีควำมอดทนมุ่งมำนะและมีควำมรับผิดชอบในกำรทำงำนและได้เปลี่ยนแปลง ตนเองไปในทำงทีด่ ไี ด้ ข้ำพเจ้ำ นำงสำว ธัญญลักษณ์ ไทยสีลำ เป็นสมำชิก 4/2 ที่เข้ำร่วมโครงกำรเพำะปัญญำ : พันธ์ต้น กล้ำแห่งกำรเปลี่ยนแปลง ในตอนแรกข้ำพเจ้ำไม่อยำกจะทำกลัวเหน่ือยกลัวไม่มีเวลำว่ำงเหมือนกับเพ่ือนห้อง อื่น กลัวเรียนไม่ทันเพ่ือนและกลัวอะไรอีกมำกมำยตำมมำ ทำให้ถอดใจและไม่อยำกทำ แต่ในวันหน่ึงคุณครู ได้มำเล่ำถึงควำมสำคัญของโครงกำร เพำะพันธ์ุปัญญำนี้ จึงทำให้ข้ำพเจ้ำมีกำลังใจที่จะทำโครงำรเพำะพันธ์ุ ปญั ญำน้ี และข้ันแรกแงกำรเร่ิมต้นโครงกำรพันธุ์ปัญญำนน้ีน้ัน ได้จัดสมำชิก ม.4/2 ทุกๆคน เพ่ือวำงแผนและ เลอื กส่งื ท่จี ะทำตั้งเปน็ โจทย์หัวขอ้ ใหญน่ ้ัน และสมำชิกเพำะพนั ธุ์ปญั ญำและบุคลำกรนั้นได้ตกลงกันว่ำจะนำทำ เป็นหัวข้อใหญ่ของโครงกำร และหลัวจำกนั้นก็ได้แยกเป็นหัวข้อย่อยออกมำ 10 โครงงำน ข้ำพเจ้ำและสมำชิก ของขำ้ พเจ้ำนั้นไดโ้ ครงกำรเยวกับฟิกส์ ซ่ึงแน่นอนว่ำมันยำกสำหรับข้ำพเจ้ำมำก และควำมกังวลต่ำงๆก็เข้ำมำ อีกคร้งั จงึ ทำให้ท้อในกำรทำงำน แต่ในทันใดน้ัน สมำชิกทุกคนของข้ำพเจ้ำก็ได้ให้กำลังใจข้ำพเจ้ำและร่วมมือ กันทำโครงงำน และกลุ่มของข้ำพเจ้ำน้ันได้ชือโครงงำนว่ำ “กำรศึกษำวิธีเพ่ิมควำมเหน่ียวของเส้นใยบัว” และ แน่นอนว่ำกำรทดสอบน้ันจะต้องมีวิธีกำรหลำยข้ันตอนในกำรทดลอง กลุ่มข้ำพเจ้ำได้แบ่งหน้ำท่ีกันในกำร ทำงำน ชว่ งเดอื รแรกๆงำนไมค่ อ่ ยยำกนกั แค่เขยี นเคำ้ โครง ขำ้ พเจ้ำกย็ ้มิ ออกทนั ที ในหัวคิดตอนน้ันคิดได้แค่ว่ำ งำนงำ่ ยๆใครกท็ ำได้ และสมำชิกของข้ำพเจ็ช่วยกันทำงำนอย่ำงแข็งขันกันเลยทีเดียว จึงทำให้กำรทำโครงงำน เพำะพันธปุ์ ัญญำผ่ำนลลุ ่วงสำเรจ็ พอเวลำผ่ำนไประยะเวลำ 2 เดือนต่อมำ งำนเริ่มยำกข้ึนข้ำพเจ้ำและสมำชิก ในกลุ่มเริ่มขี้เกียดท่ีจะทำ กลุ่มโครงงำนหัวข้อที่ข้ำพเจ้ำได้รับได้แก้ไขเค้ำโครงใหม่จึงทำให้สมำชิกในกลุ่มเร่ิม หำยไปจำกกำรทำงำนทีละคน จำกท่ีกลุ่มข้ำพเจ้ำมมีสมำชิกอยู่ 7 คน ร่วมถึงตัวของข้ำพเจ้ำด้วยน้ัน ซึ่งเป็น
กลุ่มขนำดใหญ่ ถูกใครๆมองว่ำกลุ่มน้คี นเยอะคงจะช่วยกันทำงำนได้ดี และงำนคงสำเร็จผ่ำนลุล่วงไปด้วยดีนั้น แตพ่ อเร่อื งจริงกบั ไม่ใช่ สมำชิกของข้ำพเจำ้ มี ผหู้ ญิง 3 คน ชำย 7 คน แต่ในกำรทำงำน ผู้ชำยในกลุ่มจะไม่ทำ โครงงำนช่วย และหลบหน้าข้าพเจ้าจึงทาให้ข้าพเจ้าท้อถอยและผดิ หวงั ในกลมุ่ ข้าพเจ้าอยา่ งมาก เพราะในโครงงานอ่ืนๆ นนั้ ในกลมุ่ พวกเขามีสมาชิกทีเ่ ป็ นผ้ชู ายอยแู่ ค่ 2 คน แตส่ ามารถชว่ ยเหลอื สมาชิกผ้หู ญิงในกลมุ่ ได้อยา่ งไมป่ ่ นแม้แต่สักคำ ซึ่งตรงขำ้ มกบั กลมุ่ ขำ้ พเจ้ำทป่ี ล่อยใหผ้ หู้ ญิงทำงำน ไม่ว่ำจะเก็บบัวจำกสระน้ำนั้น สมำชิกผู้หญิงต้องลงพื้นท่ีไป เก็บเองซึ่งถูกทุกคนมองว่ำ มีสมำชิกผู้ชำยเยอะ ทำไมไม่ให้เขำช่วย และกลุ่มของข้ำพเจ้ำก็โดนบ่นจำกครูที่ ปรึกษำ เนื่องจำกไม่แบ่งหน้ำที่ในกำรทำงำน คร้ังต่อมำข้ำพเจ้ำก็พยำยำมขอควำมช่วยเหลือจำกผู้ชำยในกลุ่ม ของข้ำพเจ้ำ แต่พวกเขำกลับทำเฉยรับปำกข้ำพเจ้ำแต่ไม่มำทำงำนช่วย สมำชิกท่ำนอ่ืน ข้ำพเจ้ำและสมำชิก ผู้หญิงอีก 2 ทำ่ น จงึ ไปรบั ปำกกับครทู ป่ี รึกษำโครงงำน และคำพดู ของครทู ่ีปรกึ ษำน้ันทำให้ข้ำพเจ้ำและสมำชิก อีกสองคน ตง้ั ใจทำงำนมำกข้นึ โดยไมต่ ้องไปขอวำมช่วยเหลือจำกสมำชิกผู้ชำยในกลุ่มนั้น ครูที่ปรึกษำกล่ำวว่ำ “คนไหนทำคนน้ันก็ได้ควำมรู้ ได้ฝึกควำมมุ่งมำนะ พยำยำม และควำมรับผิดชอบ ในกำรทำงำนนั้นไม่ว่ำจะ งำนอะไรกต้ ำมได้ฝึกควำมเป็นคนให้แกเ่ รำ และเรำไดเ้ ปรยี บคนอ่ืนจำกกำรทำโครงเพำะพันธ์ุปัญญำ โอกำสดีๆ มำถึง เรำควรรีบคว้ำเอำไว้” คิวๆนี้จึงทำให้ข้ำพเจ้ำท้ัง 3 คนน้ันช่วยมือกันในกำรทำงำน และพยำยำมให้มำก กวำ่ เดมิ อและขำ้ พเจ้ำก็ทำงำนแบบนม้ี ำเรอื่ ยๆ และโครงงำนข้ำพเจำ้ ก็ไดเ้ ปลย่ี นเป็นชื่อโครงงำนว่ำ “กำรศึกษำ วิธีเพ่ิมควำมเหนียวให้กับเปลือกบัวแดง” เนื่องจำกว่ำในกำรทดลองเส้นใยบัวน้ัน ทำกำรทดลองได้ยำกฉะน้ัน จึงเปี่ยนโครงงำน กำรทำโครงงำนเพำะพันธ์ุปัญญำทำให้ข้ำพเจ้ำท้อและถอยมำหลำยครั้งหลำยหน และ สมำชิกในกลุ่มก้ท้อถอยจนกระท่ังม่ีคนทำโครงงำน ท้ังข้ีเกียด ท้ังเหน่ือย ข้ออ้ำงต่ำงๆ เร่ิมเข้ำมำเรื่อย แต่ อย่ำงไรก็ตำมในเมื่อข้ำพเจ้ำถูกเลอื กใหม้ ำทำโครงงำนเพำะปญั ญำในครั้งนนี้ นั้ เพรำะท่ำนคระคุณครูได้มองเห็น ศกั ยภำพในกำรทำงำน ของ 4/2 น้ัน ขำ้ พเจำ้ กจ็ ะขอทำใหอ้ ย่ำงเตม็ ที่และจะทำใหส้ ำเรจ็ ลลุ ่วงไปด้วยดี ในกำรทำงำนนั้นไม่ว่ำจะงำนเล็กหรืองำนใหญ่ต้องก็มีอุปสรร๕ทั้งนั้นอุปสรรคมีไว้ทดสอบควำม อดทนของเรำและกำรแกป้ ัญญำ รุกคนต้องฝันฝำ่ มนั ไปใหไ้ ด้ และเพอ่ื ศกั ยภำพที่ดีของตัวเอง เขียนโดย : นำงสำวธญั ลักษณ์ ไทยสีลำ เสยี งสะท้อนของนกั เรยี น จำกกำรท่ีได้เริ่มทำงำนโครงกำรเพำะพันธ์ุปัญญำเรำคิดว่ำเป็นส่ิงที่ทำให้เรำมีควำมรู้ ประกอบไปด้วย กำรวัดควำมสำมำรถของแต่ละคน กระบวนกำรทำงำนของแต่ละคน แต่ละกลุ่ม โดยมีกำรมุ่งเน้นกำรทำงำน วัดควำมสำมัคคีของกลุ่มจนไปสู่ควำมสำเร็จ โดยมีคุณครูช่วยปรึกษำในกำรทำงำน และควำมร่วมมือของ สมำชกิ เริ่มจำกวนั แรกทไ่ี ด้เข้ำร่วมโครงกำรนะคะ ก็รู้สึกยินดี คิดว่ำเป็นเรื่องง่ำยๆ ปกติ พอจำกนั้นเร่ิมทำมำ เรื่อยๆ ซงึ่ กลุม่ ของดฉิ ันเป็นกล่มุ ปลูกบวั ตอนแรกกค็ ดิ วำ่ ปลกู ง่ำยๆ แค่เอำบัวจำกบ่อน้ำ หรือตำมคลองมำปลูก ลงก็เสร็จ แต่พอมำทำจริงๆมันไม่ง่ำยเหมือนที่คิดไว้ เพรำะกำรปลูกบัวต้องมีหลำยข้ันตอน ซึ่งกำรทำแต่ละ ขน้ั ตอนตอ้ งมีรำยละเอียดในกำรทำ เริ่มจำกกำรสงั่ ทอ่ นะคะ แล้วเรำกไ็ ปหำดนิ มำลงท่อตอนแรกเรำเอำดินร่วน มำลองปลูกดู เรมิ่ จำกตอนแรกที่เริม่ ปลูกเรำเอำดินร่วนมำปลูก เรำเอำดินร่วนมำปลูกแล้วใช้น้ำประปำ ในกำร ควบคุมน้ำพอมำหนึ่งอำทิตย์น้ำเร่ิมเน่ำเหม็น บัวเร่ิมตำย เพรำะขำดสภำพดินดินไม่ดี เน่ำ น้ำเค็มจึงทำให้บัว ตำยและไม่ประสบผลสำเร็จจำกกำรปลูกคร้ังแรก พอมำปลูกคร้ังท่ี 2 เรำก็ใช้ดินเหนียวปนดินร่วนในกำรปลูก โดยใช้น้ำจำกใต้ดิน ตอนปลูกรอบสองเรำต้องหำบัวมำ กว่ำจะหำได้กว่ำจะขุดดินใส่ในท่อ ฮู้ ฮู้!!! ลำบำกมำกค่ะ แตก่ ็ดีทีก่ ล่มุ เรำสำมัคคีกันจึงทำให้ทำเสร็จในที่สุด พอ 1 สัปดำห์ผ่ำนไป บัวเร่ิมเจริญเติบโตข้ึน
โดยกำรปรับสภำพและทำให้รู้สึกมีควำมหวังในกำรปลูกบัวเชื่อไหมค่ะ !!!! ว่ำบัวเกิดขึ้นมำทำให้เรำมีควำมหวัง มีแรงบนั ดำลใจในกำรทำเพำะพนั ธป์ุ ญั ญำตอ่ จำกทีเ่ คยส้ินหวัง ท้อแท้ในกำรทำงำนจนไม่อยำกทำต่อก็กลับมำมี ควำมหวัง น้ีแหละค่ะ หนูคิดว่ำมีกำรพัฒนำข้ึนมำจำกท่ีไม่คิดจะทำอะไร ก็หันกลับมำทำกับเพ่ือนๆเพรำะเป็น งำนกลุม่ ต้องทำเปน็ หม่คู ณะ เพรำะงำนทท่ี ำมำน้ันตอ้ งทำหลำยๆคน จงึ จะประสบผลสำเร็จในกำรทำ และเกิด ทักษะต่ำง ๆ ถงึ แมบ้ ำงคนจะไมช่ ่วยหรอื ทำกนั อยู่ 2-3 คนแต่กไ็ มเ่ คยคิดทอ้ จนถึงวันน้ี เรำก็ดูแลบัวของเรำเป็น อย่ำงดี และรักษำระดบั น้ำต่ำง ๆช่วยกนั และทำให้พวกหนูคดิ ว่ำ งำนท่ีออกมำนน้ั ใกล้จะประสบผลสำเร็จแล้ว และทำให้มีควำมสุขกับงำนที่ทำ แต่ก่อนเรำจะปลูกบัวข้ึนมำได้ เรำก็ต้องมีแหล่งท่ีมำของบัว โดยใช้หนังสือ เกี่ยวกับกำรปลูกบัว มำศึกษำกำรใช้ปุ๋ย ใช้ดิน ใช้น้ำ ในกำรปลูกเพื่อให้เจริญเติบโต ต้องขอบคุณโครงกำร เพำะพันธ์ุปัญญำ ท่ีช่วยดิฉันได้พัฒนำตนเองข้ึนมำกค่ะ จำกท่ีเป็นคนที่ไม่มีควำมรับผิดชอบก็หันกลับมำ รับผิดชอบงำนต่ำงๆ เพรำะกลัวว่ำจะไม่เสร็จเหมือนเพ่ือนคนอื่นๆ ถึงแม้จะออกมำได้ดีหรือไม่ดีก็ตำม ถ้ำเป็น งำนที่ตนเองทำจะรู้สึกภูมิใจมำกที่ทำสำเร็จ แต่ก่อนจะทำอะไรเรำก็ต้องรอบคอบ และต้องปรึกษำเพื่อน ปรึกษำคุณครูและปรึกษำคณุ ครูได้ทุกคน โดยไม่ต้องรอครูที่ปรึกษำประจำกลุ่ม เพรำะกำรรอน่ีแหละทำให้งำน เรำไม่เดินหน้ำไปไหน และอีกอย่ำงจะทำให้เรำทำงำนช้ำลง ทำไม่ทันเพื่อนจึงเกิดควำมท้อ กำรเหน่ือย ไม่มี แรงดนั ดำลใจเลยไมร่ ู้จะทำงำนยงั ไงตอ่ ไป และต้องมำเร่ิมนับหน่ึงใหม่กว่ำจะทำเสร็จก็ไม่ใช่เรื่องง่ำย ดังนั้นเรำ ควรต้งั ใจในกำรทำงำนและปรึกษำผูร้ ูใ้ นกำรปลูกบัวแต่กลุ่มของดิฉันเคยปลูกบัวบัวไม่เกิดนะคะเพรำะคร้ังแรก ควบคุมนำ้ ดนิ ไม่เหมำะสม ไม่เท่ำกัน จึงทำให้บัวเกิดมำแล้วตำย จำกนั้นก็ไม่ได้ดูแลบัวเท่ำไหร่ พอมำถึงวันท่ี ครใู ห้นำเสนองำน เรำกห็ ำทำงแก้ไขให้เกิดภำวกำรณท์ ำงำน และเรำก็ใช้กำรพูดแบบสมมุติว่ำ ถ้ำบัวที่ปลูกคร้ัง แรกไมป่ ระสบผลสำเรจ็ หลงั จำกที่ทำงศนู ยพ์ เ่ี ล้ยี งมำสอบถำมผ่ำนไป ทำ่ นดร.สุมำลีก็ได้จัดดอกดำวเรือง มำให้ ปลูกกลุ่มละกระถำงกระถำงละ 3 เม็ด ดิฉันก็ไม่รู้จะช่วยเพื่อนยังไง แต่ก็ปลูกข้ึนแต่ขำดกำรดูแลไปหน่อยและ ทำใหม้ นั เห่ียว เฉำ และอีกไม่นำนเรำก็เริ่มทำกำรปลูกบัวใหม่อีกคร้ัง โดยคร้ังน้ีเรำทำท้ังวันเพ่ือให้เสร็จสมบูรณ์ กว่ำจะ เสรจ็ กเ็ หนือยพอควรเริ่มจำกขน้ั แรกเลยนะคะ หำแหล่งดินท่ีจะนำมำปลูกบัว พอไปหำก็เจอดินที่เหมำะสม ซ่ึง อยใู่ นโรงเรียนอยใู่ นแปลงนำ เรำกน็ ำดนิ มำใส่ในปริมำณดินท่ีเท่ำกัน พอเอำดินมำใส่แล้วก็เรำก็ไปขุดบัวตำมทุ่ง นำ ซง่ึ เปน็ บัวหลวงโดยเอำเหงำ่ บวั มำปลูกไดบ้ ัวมำแล้วก็นำมำปลูกในท่อซีเมนต์ จำนวน 9 บ่อท่ีเตรียมไว้ แล้ว เติมน้ำในปริมำณที่เท่ำกัน หลังจำกน้ัน เรำก็นำปุ๋ย 3 ชนิดใส่ ชนิดละ 3 บ่อ มีปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมี และเคมีร่ม กับป๋ยุ อินทรีย์ อย่ำงละ 3 บ่อจำกน้ันสังเกตผลและบันทึกผลในตำรำงที่พวกหนูออกแบบไว้ แต่คร้ังนี้สิ่งที่พวก หนูจะขำดไม่ไดน้ อกจำกปุ๋ย น้ำ และแล้วพวกหนยู งั ใสใ่ จ บัวจงึ จะเจรญิ เติบโตตำมที่พวกหนูได้ตั้งสมมติฐำนไว้ หรอื ไม่ ต้องขอบคุณโครงกำรเพำะพันธุป์ ัญญำมำกคะ่ ท่ชี ่วยใหห้ นูมีศักยภำพในกำรทำงำนเพ่มิ ขึน้ ทำใหม้ ี ควำมรบั ผิดชอบในกำรทำงำนเพำะพันธ์ุปญั ญำ รู้จักควำมสำมคั คีในกลุม่ ขอบคุณค่ะ ....จ๊บุ ๆ เขยี นโดย : นำงสำวมนิ ตรำ เยยี่ งอยำ่ ง
เสยี งสะทอ้ นของผู้บรหิ าร “ ในนำมของฝ่ำยบริหำร ขอขอบคุณครูพี่เล้ียง นักเรียนในโครงกำรเพำะพันธุ์ปัญญำท่ีได้ดูแลให้ข้อคิดในกำรจัดกำร เรยี นรู้ โดยใช้กำรวิจัยเป็นฐำน ลกู ๆนกั เรยี นในโครงกำรทกุ คน ได้แลกเปลยี่ นเรียนรู้ มีทักษะกระบวนกำรในกำรเรียนรู้อย่ำงมี วจิ ำรณญำณ สำมำรถเช่ือมต่อกำรเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ หวงั เปน็ อย่ำงยิง่ วำ่ โครงกำรเพำะพันธ์ุปัญญำจะสร้ำงกระบวนกำรในกำร คิดวเิ ครำะหแ์ ละเปน็ พน้ื ฐำนของนกั วจิ ยั ในระดบั ชำติต่อไป ” นำยชำติชำย สิงห์พรหมสำร ผู้อำนวยกำรโรงเรยี นสมเดจ็ พระญำณสังวร ในพระสังฆรำชูปถมั ภ์ สรปุ ผลการดาเนินโครงงานยอ่ 10 โครงงาน 1. โครงงานRBL-การทดลองความสดของดอกบวั ในแจกัน จำกำรทดลองกำรรักษำควำมสดของดอกบัวหลวงโดยใชส้ ำรละลำย 6 ชนดิ ซงึ่ ไดแ้ ก่ น้ำมะนำว นำ้ อณุ หภูมิห้อง น้ำอัดลม นำ้ ยำสเปรยฉ์ ดี ผม เคร่อื งดม่ื ลโิ พ น้ำยำรกั ษำควำมสดตำมท้องตลำด ผลปรำกฏว่ำ สำรละลำยท่ีมีฤทธิ์รักษำควำมสดของดอกบวั หลวงได้ดที ่ีสุดคือ นำ้ มะนำว อยู่ไดถ้ ึง 6 วัน รองลงมำ คือ น้ำอดั ลม อยู่ได้ 5 วนั และสำรละลำยทีม่ ีฤทธ์ใิ นกำรรักษำควำมสดได้นอ้ ยท่ีสุดคือ นำ้ ยำสเปรยฉ์ ีดผม 2. โครงงานRBL- การปลกู และขยายพนั ธ์บัว ป๋ยุ ท่เี หมำะสมในกำรปลูกบัวท่ีดที ่สี ุดต่อกำรเจริญเติบโตของบวั หลวง คือ ปยุ๋ เคมี เพรำะจำกกำรสังเกตผล เห็นได้ว่ำปุ๋ยเคมี มีผลต่อกำรออกดอกและกำรแตกใบบัวได้เป็นอย่ำงดีและมีกำรเจริญเติบโตของบัวหลวงได้ อยำ่ งรวดเรว็ กวำ่ ป๋ยุ อนิ ทรีย์ ปุ๋ยเคมรี ว่ มกบั ป๋ยุ อนิ ทรีย์ จำกำรทดลองทกี่ ลุ่มผู้ทำโครงงำนทดลองปลูกบัวในบ่อซีเมนต์จำนวน 9 บ่อโดยบัวที่นำมำปลูกมีอำยุและ ขนำดต้นใกลเ้ คยี งกนั นำมำปลกู ในสภำพแวดล้อมเดยี วกัน บรเิ วณเดยี วกัน ทุกบ่อใช้ดินชนิดเดียวกันให้น้ำเวลำ เดยี วกนั ปรมิ ำณเทำ่ กนั แต่ปุ๋ยแตกตำ่ งกัน คือ ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 16-16-16 จำนวน 3 บ่อ ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ จำนวน 3 บอ่ และใสป่ ๋ยุ เคมี สตู ร 16-16-16 ร่วมกับปุ๋ยอินทรยี ์ จำกกำรทดลองปรำกฏว่ำปุ๋ยทที่ ำให้บัวเจริญเติบโตได้ ดีทีส่ ุด และออกดอกได้มำกที่สุด คือ เคมี โดยบ่อท่ี 1 ได้ก้ำนจำนวน 8 ก้ำน ออกดอก จำนวน 4 ดอก บ่อท่ี 2 บอ่ ท่ี 2 ใหป้ ุ๋ยเคมี สตู ร 16-16-16 มีจำนวนต้น จำกระยะผลกำรทดลองกำรปลูกบัว 2 เดือนคร่ึง ปุ๋ยเคมี บ่อที่ 3 มีจำนวนกำ้ น 8 กำ้ น จำนวนดอก 2 ดอก ป๋ยุ อินทรีย์ บอ่ ท่ี 1 มีจำนวนก้ำน 4 ก้ำน มีจำนวนดอก 1 ดอก ปยุ๋ อินทรีย์ บ่อที่ 2 มีจำนวนก้ำน 3 ก้ำน ไม่ออกดอก ปุ๋ยอินทรีย์ บ่อท่ี 3 มีจำนวนก้ำน 5 ก้ำน มีจำนวน ดอก 1 ดอก ปยุ๋ เคมรี ว่ มกับปยุ๋ อนิ ทรีย์ บอ่ ท่ี 1 มีจำนวนกำ้ น 6 ก้ำน มีจำนวนดอก 3 ดอก ปุ๋ยเคมีร่วมกับ ปุ๋ยอนิ ทรีย์ บอ่ ท่ี 2 มจี ำนวนกำ้ น 4 ก้ำน มจี ำนวนดอก 2 ดอกปุ๋ยเคมรี ว่ มกับปุ๋ยอนิ ทรีย์ บ่อท่ี 3 มีจำนวนก้ำน 5 ก้ำน มีจำนวนดอก 2 ดอก 3. โครงงาน RBL-การศึกษาวิธีเพ่มิ ความเหนยี วของเปลือกบวั กำรทดลองครัง้ ท่ี 1 กลมุ่ โครงงำน กำรศึกษำวิธีเพมิ่ ควำมเหนยี วให้กับเปลอื กบวั แดง เรำจึงมคี วำมคดิ ว่ำ จะใชเ้ ปลือกบัวแดง เพรำะมีมำกและไม่ได้ใช้ประโยชน์ กลมุ่ โครงงำน กำรศึกษำวธิ ีเพิ่มควำมเหนียวใหก้ ับ เปลอื กบวั แดงได้เลง็ เห็นถงึ ควำมสำคญั นน้ั จึงนำเปลือกบัวมำทดลอง ผลปรำกฏว่ำ สำมำรถทดลองได้ เพรำะ เปลอื กบัวสำมำรถรบั นำ้ หนักได้ 5 นิวตนั และกลมุ่ โครงงำน กำรศึกษำวิธีเพิม่ ควำมเหนียวให้กบั เปลอื กบัวแดง ได้คิดว่ำจะศึกษำเกี่ยวกบั กำรทำให้เปลอื กบวั ที่เคยมคี วำมเหนยี วอยใู่ ห้มคี วำมเหนียวมำกกวำ่ เดมิ กลมุ่
โครงงำน กำรศึกษำวิธีเพ่ิมควำมเหนยี วให้กับเปลือกบัวแดง มคี วำมสนใจอยำกให้เปลือกบวั มคี วำมเหนีย่ วมำก กวำ่ เดิมจงึ คิดหำวธิ ีที่จะทำให้เปลอื กบัวมคี วำมเหนียวโดยท่ชี ่วยเพมิ่ ควำมเหนยี ว และให้เส้นใยเหนยี วขึน้ กวำ่ เดมิ กำรทดลองครงั้ ที่ 2 กล่มุ โครงงำน วิธีเพิม่ ควำมเหนียวใหก้ ับเปลอื กบวั แดง เลอื กใช้แปง้ มนั เพรำะแปง้ มนั ช่วยเพิ่มประสิทธภิ ำพควำมเหนยี วของเปลอื กบัว และผลกำรทดลองปรำกฏวำ่ แป้งมนั สำมำรถเพิ่มควำม เหนยี วให้กับเปลอื กบัวได้จริงๆ เพรำะหลงั จำกชุบแป้งแล้วเปลือกบวั รับนำ้ หนักได้ 12 นิวตัน แต่เปลอื กบวั ท่ี เรำไดม้ นั แข็ง กลุ่มโครงงำน กำรศกึ ษำวิธีเพ่ิมควำมเหนียวให้กบั เปลือกบวั แดง จงึ มีควำมคดิ ว่ำถำ้ เพิ่มน้ำ เปลือกบวั จะไม่แข็ง ทำใหแ้ ป้งเจอื จำง แต่ประสิทธภิ ำพในกำรรับนำ้ หนกั ของเปลือกบวั ไม่เปลีย่ นแปลง 4. โครงงานRBL-ชาดอกบัว ในกำรทำโครงงำนวจิ ัยเร่อื ง ชำดอกบัว พวกเรำได้ทำชำจำกบัว 3 ชนดิ ทพ่ี บในท้องถิน่ คือ บวั หลวง บวั ผัน บัวแดง เม่ือไดผ้ ลติ ภัณฑ์ชำดอกบวั ทั้ง 3 ชนิดแล้ว ไดท้ ำไปให้กลุ่มทดลองจำนวน 70 คน ทง้ั เพศ หญงิ และเพศชำย พบว่ำ ผู้ตอบแบบประเมนิ เปน็ เพศหญิงมำกกว่ำเพศชำย อำยุไม่เกนิ 15 ปีมำกที่สดุ และเปน็ นกั เรยี น ผูบ้ ริโภคมำกกวำ่ 70% เป็นผเู้ คยดื่มชำ และจำกผลทำแบบประเมินควำมพึงพอใจในด้ำน ตำ่ งๆ คือ กลิ่นหอมของชำ ควำมหวำนของชำ ควำมเข้มข้นของชำ และ สขี องชำ พบว่ำ ชำจำกดอกบวั หลวงมีระดบั ควำมพงึ พอใจสูงสุดคอื ร้อยละ 42.18 รองลงมำคือชำจำกบัวแดงร้อยละ 29.93 และสดุ ท้ำย คือชำจำกดอกบวั ผันรอ้ ยละ 27.89 5. โครงงานRBL- ใบบัวกับการไลย่ งุ จำกกำรสงั เกตกำรเปรยี บเทยี บประสิทธิภำพในกำรไล่ยุงของบวั หลวง บัวสำย และบัวผัน พบว่ำ บวั หลวง สำมำรถไล่ยงุ ดีทีส่ ุด บัวทั้ง3ชนิดท่ีนำมำทดลองจะสำมำรถไล่ยุงได้จรงิ แต่จะไล่ได้สงู สุด ในช่วงประมำณ 60 นำที ยำกนั ยงุ จะเรยี กยุงเข้ำมำในกล่อง 6. โครงงานRBL- เทียนหอมจากกล่นิ บัว ในกำรทำโครงงำน เรือ่ ง เทยี นหอมจำกกล่นิ บัวได้สร้ำงรำยได้ เป็นโครงงำนประเภทเศรษฐศำสตร์ ได้มีกำร ทำเทียนหอมจำกกล่ินบัว เพ่ือเพิ่มรำยได้ และสำมำรถทำเป็นอำชีพได้ จำกนั้นพวกเรำได้ออกแบบสอบถำม โดยยึดหลักกำรตลำด 7 ps โดยออกแบบครั้งท่ี หนงึ่ เกย่ี วกับควำมต้องกำรเทยี นหอม ทำให้ทรำบว่ำ ส่วนมำก เปน็ เพศหญิงทีน่ ยิ มซือ้ เทียนหอม ซง่ึ มอี ำยรุ ะหวำ่ ง 15-21 ปี มีสถำนภำพ เป็น นักเรียน พฤติกรรมกำรบริโภคเทียนหอมซ่ึงส่วนใหญ่ชอบกลิ่นของเทียนหอมลองลงมำคือ สีสันของเทียนหอม ดงั นน้ั กล่มุ ของพวกเรำจึงไดจ้ กั ทำเทยี นหอมจำกกล่ินบัว ใส่บรรจุในถุงพลำสติกแข็ง และขำยในรำคำถุงละ 15 บำท และหลังจำกท่ีผู้บริโภคได้ลองใช้เทียนหอมแล้วพบว่ำมีควำมช่ืนชอบและเทียนหอมเป็นประโยชน์ต่อ ผู้บริโภค ทำให้ประหยัดพลังงำนมำกขึ้น จำกกำรหำกำไร – ขำดทุน สรุปผล ถ้ำขำยในรำคำ 10 บำท จะ ขำดทนุ เพรำะมีต้นทุนผลผลิตอยู่ที่ 9 บำท แตถ่ ้ำขำยในรำคำ 15 บำทจะได้กำไร 6 บำท ด้ังนั้นจึงกำหนด รำคำขำย ในรำคำ 15 บำท
7. โครงงานRBL-เวลาการตากแดดมีผลต่อการยอ้ มตดิ สีใบบัว กำรศึกษำวจิ ัยเรื่องแสงแดดมีผลตอ่ กำรย้อมติดสีของใบบวั หลวง มีวตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อศึกษำวิธีท่เี หมำะสมในกำรตำกแดดเพ่ือให้ใบบวั ย้อมตดิ สี จำกผลกำรทดลอง พบวำ่ เวลำใน กำรตำกแดด 40 นำที แลว้ นำมำย้อมสเี หมำะสมที่สดุ เพรำะใบบวั ยอ้ มติดสีดที ส่ี ุด มีสสี วยงำมไมเ่ ขม้ หรืออ่อน เกินไป เหมำะในกำรนำไปทำผลติ ภัณฑ์ เพรำะทำใหม้ สี ีสนั สวย สำมำรถดึงดดู ควำมสนใจได้ 2. เพื่อสง่ เสรมิ แนวคิดในกำรพัฒนำเปน็ ผลติ ภัณฑ์ 3. เพ่ือนำพชื ในธรรมชำติมำใชป้ ระโยชน์ใหค้ มุ้ คำ่ มำกทสี่ ุด ดงั น้นั เวลำในกำรตำกแดด 40 นำที จงึ เปน็ เปน็ เวลำดที ี่สุดในกำรย้อม เพรำะสอดคล้องกบั วัตถุประสงค์ทง้ั 3 ขอ้ 8. โครงงาน RBL-ศึกษาการแยกเส้นใยจากใบบวั หลวง จำกผลกำรทดลอง สรปุ ได้ว่ำ ใบบัวท่ีแช่สำรละลำย HCl 0.03mol/������������3 ในระยะเวลำ 12 วัน ทำให้ใบ บัวกลำยเป็นใบบำงท่ีตรงตำมควำมต้องกำรมำกที่สุดและใบบัวท่ีนำมำแช่จะต้องไม่ใช้ใบบัวแก่เพรำะจะทำให้ ไมส่ ำมำรถขดู เอำใบบำงใด้ 9. โครงงานRBL-ขนมสายบวั ในกำรทำโครงงำนเรื่อง ขนมสำยบัวสร้ำงรำยได้ เป็นโครงงำนประเภทเศรษฐศำสตร์ ได้มีกำรทำขนมจำก สำยบวั เพอ่ื เพม่ิ รำยได้ และสำมำรถทำเป็นอำชีพเสริมได้ จำกน้ันพวกเรำได้ออกแบบสอบถำมโดยยึดหลักกำร ตลำด 7 Ps โดยออกแบบคร้ังท่ีหนึ่ง เก่ียวกับกำรสำรวจพฤติกรรมควำมต้องกำรของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์ ขนมสำยบวั ทำให้ทรำบว่ำส่วนมำกเป็นเพศหญิงจำนวน 174 คน และเพศชำยจำนวน 126 คน มีช่วงอำยุท่ี 10-18 ปีเป็นจำนวนมำกท่ีชอบบริโภคขนมและมีอำยุช่วงท่ี 36-41 ปีเป็นจำนวนน้อย ซึ่งมีอำชีพเป็นนักเรียน ส่วนใหญ่ และอำชีพเป็นข้ำรำชกำรส่วนน้อย และส่วนมำกมีรำยได้เฉล่ียต่อเดือนน้อยกว่ำ 3000 บำท ส่วน น้อยมีรำยได้เฉลี่ยต่อเดือนท่ี 7001-9000 บำท ซึ่งเหตุผลที่ชอบบริโภคขนมส่วนมำกเพื่อควำมอร่อย และ รูปแบบผลิตภัณฑ์ขนมส่วนมำกที่นิยมบริโภคเป็นแบบบรรจุในกล่อง รองลงมำนิยมบริโภคเป็นแบบบรรจุห่อ ด้วยพลำสติก ซ่ึงกลิ่นขนมท่ีชอบบริโภคส่วนมำกกลิ่นสมุนไพร และส่วนน้อยกลิ่นขนมที่ชอบบริโภคคือกลิ่น ดอกไม้ ซึง่ ในควำมคิดเห็นเก่ียวกับขนมสำยบัวส่วนมำกคิดว่ำเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ท่ีน่ำบริโภค ถ้ำหำกมีกำรวำง จำหน่ำยขนมสำยบัวจำนวน 243 คนสนใจซื้อ จำนวนเงินท่ีจะซื้อขนมสำยบัวในแต่ละคร้ังส่วนมำกอยู่ท่ี 10 บำท และคณุ สมบตั ทิ ่ีใชพ้ ิจำรณำในกำรตัดสินใจซื้อส่วนมำกเป็นคุณภำพ ซึ่งปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อกำรเลือกซ้ือ ขนมจำนวนมำกเกิดจำกตัวเรำเอง ขณะในกำรทำขนมสำยบัวก็มีอุปสรรคปัญหำก็คือ ผู้บริโภคมีควำมชอบท่ี ตำ่ งกนั บำงคนก็ชอบหวำน ชอบมีสีสัน ชอบควำมเหนียว บำงคนก็ไม่ชอบหวำน พวกเรำได้ลองทำขนมสำยบัว เรื่อยๆจนสำมำรถแก้ไขปัญหำได้ก็คือ ได้คิดทำขนมสำยบัวข้ึนมำสองสูตรคือ สูตรหวำน และสูตรธรรมดำ ถ้ำ หำกชอบมสี ีสนั กเ็ พียงแคโ่ รยดว้ ยมะพร้ำว แหว้ หรือเมล็ดบัวอบกรอบ ส่วนวัตถุกำรทำก็เหมือนเดิม จำกนั้นได้ มีกำรออกแบบครั้งท่ีสองกำรสำรวจพฤติกรรมควำมต้องกำรของผู้บริโภค เพ่ือต้องกำรทรำบข้อมูลท่ีผู้บริโภค กลุ่มเป้ำหมำยพอใจหรือไม่อย่ำงไรในกำรเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์ขนมสำยบัว โดยกำรแจกแบบสอบถำมกำร สำรวจควำมพึงพอใจผลิตภัณฑ์หลังจำกได้บริโภคขนมสำยบัว เพื่อพัฒนำผลิตภัณฑ์ขนมสำยบัวตำมควำม
ต้องกำรของผ้บู ริโภคเพ่ือนำขอ้ มูลท่ีได้หรอื ข้อมูลควำมต้องกำรเกี่ยวกับกำรพัฒนำผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคต้องกำร นำกลบั มำแกไ้ ขและพัฒนำผลิตภณั ฑใ์ ห้ดขี ้นึ พรอ้ มกับกำรแจกผลิตภัณฑ์ขนมสำยบัวสูตรต่ำงๆเพื่อให้ผู้บริโภค ได้ทดลองบริโภคก่อนเพื่อสำรวจควำมแน่ใจก่อนมีกำรขำยผลิตภัณฑ์ขนมสำยบัวเพ่ือรำยได้เสริม จำกผลของ แบบสอบถำมกำรสำรวจพฤติกรรมควำมต้องกำรของผู้บริโภค หลังจำกได้บริโภคขนมสำยบัว เพื่อพัฒนำ ผลติ ภัณฑ์ขนมสำยบวั ตำมควำมตอ้ งกำรของผ้บู ริโภคโดยเนน้ กล่มุ เปำ้ หมำยผูบ้ ริโภคในชว่ งอำยุ 10-18 ปีพบว่ำ ส่วนมำกมีควำมสนใจผลิตภัณฑ์ขนมสำยบัวท่ีโรยหน้ำด้วยมะพร้ำว รองลงมำเป็นขนมสำยบัวท่ีใส่ด้วยแห้ว และส่วนน้อยชอบขนมสำยบัวที่ใส่ด้วยบัวอบแห้ง ซึ่งผู้บริโภคเห็นด้วยอย่ำงยิ่งในเร่ืองกำรห่อบรรจุภัณฑ์ใน กล่อง ส่วนมำกผู้บริโภคมีควำมพึงพอใจอย่ำงมำกกับผลิตภัณฑ์ขนมสำยบัวเพรำะเป็นผลิตภัณฑ์ท่ีใหม่น่ำ บรโิ ภค ถ้ำหำกมีกำรวำงจำหน่ำยผลิตภัณฑ์ขนมสำยบัวส่วนมำกสนใจที่จะซื้อ และได้รับควำมร่วมมือจำกกำร ทำแบบสอบถำมท้ังสองคร้ัง โดยผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ได้มีขอเสนอแนะหรือข้อคิดดีๆมำให้กลุ่มพวกเรำได้นำมำ พัฒนำผลิตภัณฑ์ขนมสำยบัว เช่น พยำยำมสู้ต่อไป รสชำติพอดีใช้ได้ อร่อยมำก ถ้ำมีกำรทำขนมสำยบัวให้มี บริโภคฟรีก่อน ยินดีสนับสนุนในผลิตภัณฑ์ เป็นกำรทำขนมจำกวัตถุดิบธรรมชำติมีควำมปลอดภัย ผลิตภัณฑ์ น่ำบริโภคสะอำดปลอดภัย และบริโภคแล้วไม่มีผลข้ำงเคียง ซ่ึงจำกข้อเสนอแนะท้ังหมดนี้ เป็นกำรพูดให้ กำลังใจ รวมทั้งของท่ีควรปฏิบัติ ต้องขอขอบพระคุณทุกๆท่ำนที่ให้ควำมร่วมมือในกำรตอบแบบสอบถำมทั้ง สองครงั้ จำกกำรทำขนมสำยบัวมีกำรลงทุนซื้ออุปกรณ์ท้ังหมด 500 บำท ไดม้ ีกำรทำขนมสำยบัวได้ท้งั หมด 510 กอ้ น กลอ่ งหนง่ึ มี 6 กอ้ น ซงึ่ กล่องหนงึ่ รำคำ 10 บำท ไดท้ ง้ั หมด 850 บำท เหน็ ได้ว่ำ ลงทนุ 500 บำท ได้ กำไร 350 บำท 10. โครงงานRBL-อนรุ ักษส์ ายพันธุบ์ วั จำกกำรทำโครงงำนทำให้ประชำกรของชุมชนบ้ำนกลำงใหญ่เห็นควำมสำคัญของบัวว่ำมีมำยำวนำนอยู่คู่ กับวิถีชีวิตกับคนในชุมชนมำนำนแค่ไหน เห็นประโยชน์และสรรพคุณทำงยำว่ำช่วยใช้บำรุงกำลัง ใช้แก้ไข้ แก้ ร้อนในกระหำยน้ำ และคุณค่ำของบัวมำกข้ึนสื่อภำพยนตร์สั้นที่ได้เผยแพร่ให้ผู้คนดูน้ันได้สร้ำงประโยชน์ให้ ผู้ชม เพรำะทำให้ผู้ชมได้รู้จักกับบัวมำกข้ึนได้รูจักประโยชน์และได้รู้ว่ำบัวสำมำรถทำอะไรได้หลำยอย่ำงจำกท่ี เคยรู้ เช่น ขนมสำยบัว อกี ทั้งยงั ทำให้ผชู้ มไม่เบื่อกบั กำรรับข้อมูลแบบเดมิ ๆ
ภำคผนวก
รายชอื่ คณะครู นกั เรียนเพาะพนั ธป์ุ ญั ญา ปีการศกึ ษา 2558 โรงเรยี นสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชปู ถัมภ์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ผ้บู ริหาร 1. นำยชำติชำย สงิ หพ์ รหมสำร ผู้อำนวยกำรโรงเรียน 2. นำยเชิดชัย สิงหค์ ิบตุ ร ครทู ี่ปรกึ ษารว่ มโครงการ ครูกลุ่มวชิ ำ วิทยำศำสตร์ มือถือ 0981049766 1 นำยเดชมณี เนำวโรจน์ ครูกลุม่ วิชำ วทิ ยำศำสตร์ มือถือ 0854106857 2 นำงสำคร ทองเทพ ครกู ลุม่ วิชำ วิทยำศำสตร์ มอื ถือ 0862506414 3 นำงสำวยำใจ เจรญิ พงษ์ ครกู ลมุ่ วชิ ำ วิทยำศำสตร์ มอื ถือ 0872463509 4 นำงสำวแสงเดือน บกน้อย ครกู ลมุ่ วชิ ำ วิทยำศำสตร์ มอื ถือ 0883758721 5 นำยกิตติพงษ์ บุญสำร ครูกลุ่มวชิ ำ กำรงำนอำชพี มอื ถือ 0959561985 6 นำยณัฐ อุปนสิ ยั พล ครูกลุ่มวิชำ สังคมศึกษำ มอื ถือ 0801705406 7 นำงสำวกิตตมิ ำ สำระรักษ์ ครกู ลุ่มวชิ ำ วิทยำศำสตร์ มือถือ 0847524758 8 นำงนชุ นำฏ โชตสิ วุ รรณ วิทยำกรท้องถ่ิน 1. นำงพรรณี สิงหค์ ิบุตร 2. นำยมำ วงเวยี น
รายช่ือนกั เรยี นเพาะพนั ธุ์ปัญญา ปีการศกึ ษา 2558 เลขที่ เลขประจาตัว ชื่อ - สกุล ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีที่ 4/2 นำยอภริ กั ษ์ หลักคำ 1 5497 นำยทวิ ำ จำรึกธรรม 2 5572 นำยธนำคำร รวมธรรม 3 5576 นำยมงคลธรรม สำยโสดำ 4 5579 นำยมนสั ศักด์ิ รวมธรรม 5 5580 นำงสำวกชมน สงั ขท์ อง 6 5583 นำงสำวธญั ญลกั ษณ์ ไทยสลี ำ 7 5590 นำงสำวสุภำพนั ธ์ เพียแกน่ แกว้ 8 5597 นำงสำวเสำวลกั ษณ์ ทนิ บตุ ร 9 5598 นำงสำวอมิทตรำ ศิริดล 10 5599 นำงสำวฮสั วำนี หลักคำ 11 5601 นำยคริ ำกร สีงำม 12 5603 นำยณัฐเดช จนั ทร์ดง 13 5604 นำงสำวดวงดี ยนื สุข 14 5621 นำงสำวเบญวลี บุ้งทอง 15 5624 นำงสำวเสำวนี เอนกบุญ 16 5631 นำยกฤษฏำ อำจไทยสงค์ 17 5636 นำยเจนณรงค์ สุตะคำน 18 5638 นำงสำวเจนจริ ำ นำหลู่ 19 5654 นำงสำวทิวำพร แก้ววนั นำ 20 5656 นำงสำวธัญญำพร ทะเสนฮด 21 5657 นำงสำวธญั รดำ แสงใส 22 5658 นำงสำวเพ็ญนภำ ไกยเวช 23 5661 นำงสำวโสภดิ ำ บญุ จรัส 24 5665 นำงสำวอันธิยำ ทองเจยี ว 25 5666 นำงสำวสุพรรณิกำ สมจิตร นำงสำวอรวรำ สรำญรมย์ 26 5698 นำงสำวดวงลดำ มุง่ งำม 27 5935 นำงสำวผกำวดี ก่องดวง 28 6032 29 6033 นำงสำวมนิ ตรำ เยี่ยงอย่ำง นำงสำววรำลี ฝงู ดี 30 6034 นำยจิรำยุทธ อนิ เอ่ยี ม 31 6035 นำยปฏิภำณ เผอื กไธสง 32 6036 นำยวรี ะวุฒิ เมฆมล 33 6037 นำงสำวอโนทยั ภำคะ 34 6038 นำยธรำธร กลมเกลยี ว 35 6049 นำยปริญญำ นครไชย 36 5609 37 6028
เลข เลขที่ ประจาตัว ช่อื - สกลุ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 5/1 1 นำงสำวพจมำลย์ ทองปำน 2 นำงสำรจนำ เนื่องโคกแปะ 3 นำงสำวปยิ ะวรรณ วงษ์ศิริ 4 นำงสำวปัฐทชิ ำ พูลทวี 5 นำงสำวศศิวิมล พงษเ์ ฉลียว 6 นำงสำวศศิธร ปะสำวะโถ 7 นำงสำวอรอุมำ บญุ ไชย 8 นำงสำวพยิ ดำ บุญแท้ 9 นำงสำวกัญญำรตั น์ แสนสุด 10 นำงสำวจรยิ ำ สตุ คำน 11 นำงสำวจุทำมำศ ทองประสำน 12 นำงสำวสิริธร วงเวียน 13 นำยมงคล ทองเจียว 14 นำยธนกร สขุ เกษม 15 นำยนรำธร ทำทอง 16 นำยสรุ เกยี รติ กล่ินดี 17 นำยเชษฐทวี ทองจนั ทร์ 18 นำยนนทวัฒน์ หลักคำ 19 นำงสำวอิศรำภรณ์ บกน้อย ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4/1 1 นำงสำวสภุ ำรตั น์ นกั ผกู 2 นำงสำวเขม็ ศิริ สุตะคำน 3 นำงสำวธติ มิ ำ จันทอก 4 นำยนญั พงษ์ แกว้ จันทร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5/2 1 นำงสำวธำรวำรี ผุดผอ่ ง
Poster / เอกสารการนาเสนองานตา่ ง ๆ
รายงานการประชาสัมพนั ธ์ : www.facebook.com/เพาะพันธ์ุปญั ญา โรงเรียนสมเด็จพระ ญาณสงั วร ในพระสังฆราชปุ ถัมภ์
สัญญำท่ี RDG5740040/58-09 โรงเรยี นสมเด็จพระญาณสงั วร ในพระสงั ฆราชปู ถัมภ์ ชดุ โครงงาน บวั รายงานสรุปการเงนิ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ชือ่ ผู้ดแู ลโครงงาน นำยเดชมณี เนำวโรจน์ รายงานในช่วงต้ังแต่วนั ท่ี 2 ธันวำคม 2557 ถึงวันท่ี 31 มีนำคม 2558 หมายเหตุ เปน็ รำยงำนสรปุ กำรเงินรวมของทุกโครงงำนย่อย โดยยึดถืองบประมำณรวมตำมเอกสำรแนบ หมำยเลข 1/1 รำยจำ่ ย หมวดตาม รายจ่ายสะสม ค่าใชจ้ า่ ยงวด รวมรายจ่าย งบประมาณ คงเหลือ ท่ีต้งั ไว้ตาม (หรอื เกนิ ) สญั ญา จากรายงาน ปจั จุบนั B สะสมจนถึง E=D-C สญั ญา ครั้งกอ่ น A ปัจจบุ ัน D* 0 C= A+B 0 1. ค่ำตอบแทน 10000 0 0 หรือคำ่ ประกัน คุณภำพ 2. ค่ำวสั ดุ 37490 อุปกรณ์ 3. ค่ำใชส้ อย 25310 รวมทัง้ สนิ้ 72800 * นำมำจำกเอกสำรแนบหมำยเลข 1/1 จำนวนเงนิ ที่ไดร้ บั และจำนวนเงนิ คงเหลอื จานวนเงินทไี่ ดร้ ับ จานวนเงนิ วนั ที่ได้รับ คา่ ใชจ้ ่าย จานวน งวดที่ 1 58240 งวดที่ 2 58240 งวดที่ 1 14560 ดอกเบี้ย ครั้งที่ 1 ดอกเบ้ยี คร้งั ที่ 2 14560 งวดท่ี 2 72800 รวมรำยรบั 72800 รวมรำยจ่ำย
สัญญำท่ี RDG5740040/58-09 รำยงำนวจิ ยั ฉบบั สมบรู ณ์ โครงงำนยอ่ ยที่ 1 เร่อื ง กำรทดลองรกั ษำควำมสดของดอกบวั ในแจกนั อำจำรย์ทป่ี รกึ ษำโครงงำน นำยเดชมณี เนำวโรจน์ คณะผู้วจิ ยั (นักเรยี น) นำงสำวอโนทยั ภำคะ นำงสำววรำลี ฝงู ดี นำงสำวธญั รดำ แสงใส นำงสำวดวงดี ยืนสขุ นำยจริ ำยทุ ธ อินเอย่ี ม นำงสำวทวิ ำพร แกว้ วนั นำ สนบั สนนุ โดยสำนักงำนกองทนุ สนบั สนนุ กำรวิจยั (สกว) และ บมจ.ธนำคำรกสิกรไทย ชุดโครงกำร “เพำะพันธ์ุปญั ญำ (พฒั นำยุววิจยั )”
กิตติกรรมประกำศ ในกำรจดั ทำโครงงำน RBL เรอ่ื งกำรทดลองรักษำควำมสดของดอกบัวในแจกัน ในคร้งั นส้ี ำเรจ็ ลลุ ว่ งไป ด้วยดีต้องกรำบขอบพระคุณ นำยชำติชำย สิงห์พรหมสำร ผอู้ ำนวยกำรโรงเรียนสมเด็จพระญำณสงั วร ใน พระสังฆรำชูปถมั ภ์ นำยเชิดชยั สงิ ห์คบิ ุตร รองผอู้ ำนวยกำรโรงเรียนสมเดจ็ พระญำณสังวร ในพระสังฆรำชูป ถัมภ์ คณะพ่เี ลยี้ ง จำกมหำวิทยำลัยรำชอบุ ลรำชธำนี ท่ใี ห้คำช้ีแนะและอำนวยควำมสะดวกในกำรทำโครงงำน ในครง้ั นี้ กรำบขอบพระคุณ คณุ ครู เดชมณี เนำวโรจน์ ที่ใหค้ ำปรกึ ษำคอยชี้แนะและแก้ไขข้อบกพร่องในกำรทำ โครงงำนทุกดำน กรำบขอบพระคณุ คณะคุณครู และบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำและเพื่อนนักเรียนทกุ คนทค่ี อยให้ กำลงั ใจ จนกระทั่งโครงงำนหรอื งำนวิจัยเร่อื งกำรทดลองรกั ษำควำมสดของดอกบวั ในแจกนั สำเร็จลลุ ่วงไป ดว้ ยดี อันคุณงำมควำมดีของพวกเรำทุกคนท่ีไดร้ ว่ มกันทำมำจะก่อให้เกิดประโยชน์แกโ่ รงเรียนและส่วนรวมจำก รำยงำนฉบบั น้ี คณะผจู้ ดั ทำขอมอบให้บดิ ำมำรดำ บรู พำจำรย์และผมู้ ีพระคุณทุกท่ำน
บทคัดย่อ ช่อื โครงงาน กำรทดลองรักษำควำมสดของดอกบัวในแจกัน ผู้จดั ทาโครงงาน นำงสำวอโนทยั ภำคะ นำงสำววรำลี ฝูงดี นำงสำวธญั รดำ แสงใส นำงสำวดวงดี ยนื สขุ นำยจริ ำยทุ ธ อนิ เอ่ยี ม นำงสำวทวิ ำพร แกว้ วันนำ ครทู ีป่ รึกษา คนท่ี ชือ่ -สกลุ สอนกล่มุ วิชำ โทรศพั ท์ Email [email protected] 1 นำยเดชมณี เนำวโรจน์ วทิ ยำศำสตร์ 0981049766 กำรวิจยั เร่ือง กำรทดลองรกั ษำควำมสดของดอกบัวในแจกัน มีวัตถปุ ระสงคเ์ พ่อื ศกึ ษำกำรรกั ษำควำมสด ของดอกบวั เพอ่ื ทจี่ ะทำให้เรำวสำมำรถยืดอำยุของดอกบวั ใหใ้ ชง้ ำนไดน้ ำนมำกข้นึ กำรทดลองรกั ษำควำมสดของดอกบัวมวี ธิ กี ำรดงั นี้ 1. เลอื กดอกบวั หลวงท่ีมีขนำดเท่ำๆกันตัดก้ำนยำวประมำณ 10 นว้ิ 2. เตรียมเจกันหรือภำชนะใส่ดอกบวั ขนำดเท่ำกนั 3. ใสน่ ้ำในแจกันและนำดอกบวั ทเ่ี ตรียมไว้ในข้อ 1 มำปักแจกนั 4. นำสำรที่จะมำทดลองทำให้ดอกบัวสดและอยู่ได้นำน ตำมตำรำงที่ 1 มำใส่ผสมลงในแจกันขอ้ 3 5. สงั เกตและบันทึกผลกำรทดลอง จนกระทงั่ ดอกบวั ไมส่ ด(ไม่สวยงำม) 6. ทำกำรทดลองซ้ำตัง้ แต่ข้อ 1-5 ซ้ำ 5 รอบ เพ่ือให้ได้ผลกำรทดลองท่ีชัดเจนถกู ต้อง ผลกำรทดลองสรปุ ไดว้ ่ำ สำรละลำยทส่ี ำมำรถยดื อำยุกำรใชง้ ำนของดอกบวั ไดด้ ีท่ีสุดน้ำมะนำว อยู่ไดถ้ ึง 6 วัน รองลงมำ คอื น้ำอดั ลม อยไู่ ด้ 5 วนั และสำรละลำยท่ีมีฤทธใ์ิ นกำรรักษำควำมสดไดน้ ้อยที่สดุ คือ น้ำยำ สเปรยฉ์ ดี ผม
บทนา ความเปน็ มาและความสาคัญของโครงงาน บัว เป็นพืชน้ำลม้ ลกุ ลกั ษณะลำต้นมีท้ังท่ีเป็นเหง้ำ ไหล หรือหวั ใบเปน็ ใบเดี่ยวเจริญข้ึนจำกลำตน้ โดยมี กำ้ นใบสง่ ขน้ึ มำเจริญท่ีใต้น้ำ ผวิ น้ำหรอื เหนอื นำ้ รปู รำ่ งของใบสว่ นใหญก่ ลมมีหลำยแบบ บำงชนดิ มกี ้ำนใบบวั บัวเป็นรำชนิ ีแหง่ ไม้นำ้ จดั เป็นพนั ธุไ์ มน้ ำ้ ที่ถือเป็นสัญลกั ษณข์ องคณุ งำมควำมดี บวั หลวงชอบข้นึ ในน้ำจืดออก ดอกตลอดปี ชอบน้ำสะอำด อยูใ่ นนำ้ ลึกพอสมควร ถนิ่ กำเนิดของบัวอย่ใู นเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ จะเร่ิมบำน ตั้งแตต่ อนเชำ้ กำ้ นดอกยำวมีหนำมเหมือนกำ้ นใบ ชูดอกเหนือน้ำ และชสู ูงกว่ำใบเลก็ นอ้ ย กลบี เล้ียง 4-5 กลีบ สขี ำวอมเขียวหรือสีเทำชมพู ร่วงง่ำย กลีบดอกจำนวนมำกเรียงซ้อนหลำยชนั้ เกสรตัวผู้มีจำนวนหลำยสี กำรจดั โตะ๊ หมู่บูชำตำมงำนต่ำงๆกำรประกอบในประเพณี ตลอดจนกำรประกอบพิธีกรรมทำงศำสนำกม็ ีกำร นำดอกบัวมำใช้จดั ตกแตง่ ในแจกนั ที่มีแตน่ ้ำเปลำ่ พบว่ำดอกบวั จะมคี วำมเห่ยี วเฉำ กลบี ดอกจะคล้ำในเวลำอัน สั้น ซ่งึ ปญั หำในกำรเห่ียวเฉำในระยะเวลำอันส้นั ทำให้ตอ้ งมกี ำรเปลย่ี นดอกบวั บ่อยๆ ทำใหส้ ้ินเปลืองคำ่ ใชจ้ ่ำย และใชท้ รัพยำกรธรรมชำตอิ ย่ำงสิน้ เปลืองและไม่รู้คุณค่ำ ดังนัน้ กลุ่มของขำ้ พเจำ้ จงึ มีควำมสนใจที่จะศึกษำกำรทดลองรักษำควำมสดของดอกบัว ให้สำมำรถยดื อำยุ กำรใชง้ ำนไดน้ ำนมำกขึน้ วัตถปุ ระสงค์ ศึกษำกำรรกั ษำควำมสดของดอกบัว
แนวคิดและทฤษฎีท่เี กี่ยวข้อง บวั เป็นพืชไมป้ ระดับชนดิ หนึ่งที่สำมำรถพบเหน็ ไดง้ ำ่ ยในชมุ ชนตำบลดงแคนใหญ่ ลกั ษณะลำต้น มที ้ังท่ี เป็นเหง้ำ ไหล หรือหัว ใบเปน็ ใบเด่ียวเจรญิ ข้นึ จำกลำตน้ โดยมกี ำ้ นใบส่งข้ึนมำเจรญิ ทีใ่ ตน้ ้ำ ผวิ นำ้ หรือเหนือนำ้ รูปรำ่ งของใบส่วนใหญก่ ลมมีหลำยแบบ บำงชนดิ มกี ้ำนใบบวั บัวเป็นรำชินแี ห่งไม้น้ำ จดั เป็นพันธไ์ุ มน้ ้ำท่ีถือ เปน็ สญั ลกั ษณ์ของคุณงำมควำมดี บัวมหี ลำยสำยพนั ธช์ุ อบขึ้นในนำ้ จดื ออกดอกตลอดปี ชอบน้ำสะอำดอยใู่ น นำ้ ลึกพอสมควร จะเร่มิ บำนต้ังแตต่ อนเช้ำ ก้ำนดอกยำวมีหนำมเหมือนกำ้ นใบชดู อกเหนือนำ้ และชสู งู กว่ำใบ เลก็ น้อย กลบี เลี้ยง 4-5 กลีบ สีขำวอมเขยี ว หรือเทำชมพู รว่ งงำ่ ย กลบี ดอกจำนวนมำกเรียงซ้อนหลำยชั้น เกสรตัวผมู้ จี ำนวนหลำยสี ยังเป็นพชื ไมป้ ระดบั ท่ีนำมำใชใ้ นกำรประกอบอำหำร และส่วนประกอบของบัวเป็น พืชทนี่ ำมำใช้ประโยชนท์ ำงดำ้ นอำหำรมำกมำย ใช้ได้ท้งั สดและแหง้ มบี ทบำทท่สี ำคัญ คือ เป็นพชื ที่มีโปรตีน ประมำณ 23% ซึ่งสงู กวำ่ ขำ้ วถงึ 3 เทำ่ และเปน็ แหลง่ รวมธำตุ นอกจำกนนั้ สว่ นประกอบของบวั ยงั มีฤทธ์ทิ ำง ยำ เหง้ำชว่ ยลดอำกำรปวดและช่วยต้ำนอำกำรอกั เสบ สำรอลั คำลอยด์ ที่ พบในบวั มฤี ทธิ์ทำใหน้ อนหลบั รำกบัวสำมำรถช่วยลดกำรดูดซึมของกลโู คส จงึ สำมำรถช่วยลดระดบั นำ้ ตำลในเลือดไดท้ ั้งคนปกติและใน ผปู้ ่วยเบำหวำน เกสรและดอกบัวหลวงมฤี ทธิ์ต้ำนอนมุ ูลอิสระ ดอกบัวสดสขี ำวใช้ตม้ กับน้ำดมื่ ตดิ ต่อกัน จะมี สรรพคุณเป็นยำบรรเทำอำกำรอ่อนเพลีย ทำให้สดชืน่ ขึ้น และช่วยลดอำกำรใจส่ัน ใบสดหรือแห้งชว่ ยลด ควำมดันโลหติ สงู และลดไขมันในเสน้ เลอื ด สำรสกัดทไ่ี ด้จำกเมล็ดและใบบัว มฤี ทธ์ิยบั ยง้ั กำรเจรญิ เตบิ โต ของ เชือ้ แบคทเี รียทกุ ชนิด รำกช่วยลดไข้ ใบชว่ ยระงับอำกำรหวดั คัดจมกู เมด็ บัวและเกสรตัวผูช้ ว่ ยแกอ้ ำกำรตก ขำวของสตรี แกอ้ ำกำรประจำเดอื น มำมำกกว่ำปกติและเม็ดบัวยงั มสี ำรต่อต้ำนอนมุ ลู อสิ ระสูงซ่ึงมีคุณสมบัตชิ ว่ ย ปอ้ งกันมะเร็ง โดยเฉพำะอย่ำงย่ิงมะเร็งตบั ( http://frynn.com ) จำกวิธีชวี ติ ของคนในชมุ ชนตำบลดงแคนใหญ่ทีก่ ล่ำวมำข้ำงตน้ ทำให้ “บัว” ซ่งึ เปน็ พชื ในพ้ืนถิน่ ท่ี ประกอบไปด้วยคุณสมบตั ิที่เป็นประโยชน์ในกำรดำรงชีวิต ถูกละเลยและลดควำมสำคัญลง และบัวบำงสำย พันธท์ุ ่มี ีอยู่ในท้องถ่นิ ได้สูญหำยไป ทำให้คนรุ่นหลงั ๆไม่ทรำบควำมสำคัญและไมร่ ูจ้ ักสำยพันธบ์ุ วั อีกหลำยๆสำย พนั ธ์ุ หรือเพยี งแค่ใช้ประโยชน์จำกบวั เพียงแคก่ ำรนำดอกไปบชู ำพระ และบรโิ ภคเมลด็ สดท้งั ๆท่บี ัวนัน้ สำมำรถ ใช้ประโยชน์ได้ในทุกสว่ นและมีควำมเก่ยี วข้องกับวถิ ชี มุ ชนของไทยมำชำ้ นำน ดงั น้ันคณะผู้จดั ศกึ ษำจึงมีแนวคิด ท่ีจะส่งเสรมิ ให้คนในชมุ ชนเห็นควำมสำคัญ และใหค้ วำมรู้เกยี่ วกับสำยพันธุ์บัวเพื่อให้คนในชุมชนใชป้ ระโยชน์ จำกบัวมำกขึน้ เพื่ออนุรักษ์บัวให้อยู่คู่กับวถิ ชี ีวติ ของคนในชมุ ชนตอ่ ไป ความรู้เกยี่ วกบั บัวและสายพนั ธ์ุบวั บัวเป็นพืชล้มลุก ลักษณะลำต้นมีทั้งที่เป็นเหง้ำ ไหล หรือหัว ใบเป็นใบเดี่ยวเจริญขึ้นจำกลำต้น โดยมี ก้ำนใบส่งขน้ึ มำเจรญิ ท่ใี ต้น้ำ ผิวน้ำ หรือเหนือน้ำ รูปร่ำงของใบส่วนใหญ่กลมมีหลำยแบบ บำงชนดิ มกี ้ำนใบบัว บวั เปน็ รำชินีแห่งไม้น้ำ จัดเป็นพันธ์ุไม้น้ำที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของคุณ งำมควำมดี บัวหลวงชอบขึ้นในน้ำจืด ออกดอกตลอดปี ชอบน้ำสะอำด อยู่ในน้ำลึก พอสมควร จะเริ่มบำนต้ังแต่ตอนเช้ำ ก้ำนดอกยำวมีหนำมเหมือนก้ำนใบ ชูดอกเหนือน้ำ และชูสูงกว่ำใบเล็กน้อย กลีบเลี้ยง 4-5 กลีบ สีขำวอมเขียว หรือเทำชมพู ร่วงง่ำย กลีบดอกจำนวนมำกเรียง ซอ้ นหลำยชนั้ เกสรตัวผู้มจี ำนวนหลำยสี
นักพฤกษศาสตร์ แบง่ บัวออกเป็น 3 สกลุ ใหญ่คอื สกลุ เนลมุ โบ (Nelumbo) หรือ ปทมุ ชาติ สกุลนมิ เฟยี ร์ (Nymphaea) หรือ อบุ ลชาติ สกุลวคิ ตอเรีย (Victoria) หรอื บวั วิกตอเรีย ในแตล่ ะสกุลสำมำรถจำแนกไดห้ ลำยชนดิ สำหรบั ในประเทศไทยชนดิ ของบัวที่ปลูกเป็นกำรค้ำมี 6 ชนิด ในแตล่ ะสกลุ สำมำรถจำแนกได้หลำยชนดิ สำหรบั ในประเทศไทยชนิดของบัวที่ปลูกเป็นกำรคำ้ มี 6 ชนิด ปทุมชาติ หรือบัวหลวง บัวสกุลน้ีคนไทยนิยมนำไปไหว้พระ และนำรำกทำอำหำร (Lotus) บวั หลวง อยูใ่ นสกุลปทุมชำติ ลกั ษณะใบชเู หนือนำ้ เจริญเตบิ โตโดยมี ไหลอยู่ใต้ดิน ชอนไชไปใต้พ้ืนดิน ใบมีขนำด ใหญ่ ดอกมีทัง้ ดอกซ้อนและไม่ซ้อน ใบและดอกชูเหนือข้ึนน้ำ ในประเทศไทยมีอยู่ 4 พันธุ์ แต่พันธุ์ของบัวหลวงท่ีนิยมปลูกในปัจจุบัน ได้แก่ พันธุ์ ฉัตรขำว ฉตั รแกว้ และฉัตรแดง บัวฝรั่ง (Hardy Water-Lilly) บัวฝร่ัง อยู่ในสกุลอุบลชำติยืนต้น มีถ่ิน กำเนดิ ในเขตอบอุ่น และเขตหนำว ลักษณะคล้ำยบัวหลวง ต้นอ่อน เจริญเติบโตโดยสร้ำง ลำต้น หรือเหง้ำ เจริญตำมแนวนอนใต้ผิวดิน ลักษณะใบมีท้ังขอบเรียบ และขอบใบจัก ดอกลอยแตะผิวน้ำ หรือชูเหนือน้ำเล็กน้อย ดอกมีหลำยสี กลีบดอกซ้อนสวยงำม มีช่ือ เรยี กตำ่ งกันตำมลกั ษณะสแี ละดอก สี ตำมผ้พู ฒั นำพันธุข์ ้ึน บัวผัน- ฉลองขวัญ มีกลิ่นหอม (Tropical Water-Lilly) บัวผัน บัวเผื่อน อยู่ในสกุล อบุ ลชำติลม้ ลุก ตน้ ทง่ี อกจำกเมลด็ จะเจรญิ ตำมแนวดิง่ ข้ึนสู่ผวิ ดิน แล้วแตกก้ำนใบบนผิวดนิ ดอกชูพ้นน้ำ บำนในเวลำเช้ำหรือกลำงวัน และหุบตอนเย็น ดอกมีกลิ่นหอมมำก เป็นบัว ชนดิ ท่ขี ยำยพนั ธ์ุไดช้ ้ำ ผสมพันธขุ์ ้ำมระหวำ่ งสีตำ่ งๆ ได้ง่ำย โดยแมลงในธรรมชำติ และฝีมือ มนษุ ย์ บวั ชนิดนจ้ี งึ เกิดสีสันต่ำงๆ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ ขยำยพันธ์ุง่ำย ดูแลง่ำย หำซื้อได้ตำมร้ำนขำยท่ัวไป กระถำงละ 25 - 50 บำท บัวสาย มีกล่ินหอม บำนกลำงคืน บัวสำย อยู่ในสกุลอุบลชำติ เป็นบัวท่ีชำวบ้ำนนิยมเก็บ สำยบัวมำทำอำหำร บัวชนดิ น้ีมีกำ้ นใบ และก้ำนดอกยำว สำมำรถขน้ึ อยใู่ นระดบั นำ้ ลกึ ๆ ได้ พบได้ท่ัวไปตำมหนองบึง และแหล่งธรรมชำติตำมชนบท มีหัวกลมๆ สำยขนำดปลำย น้ิวกอ้ ย มขี นเล็กน้อย ใบมน ขอบใบจัก ดอกบำนกลำงคนื และหบุ เวลำเช้ำ บวั จงกลนี อยใู่ นสกุลอุบลชำติ เป็นบวั ทพี่ บใหม่ในธรรมชำติคำดว่ำเกิดจำกกำรแปลงพันธ์ุในธรรมชำติ ใบเหมือนบัวตระกูลบัวผัน บัวเผ่ือน แต่ดอกซ้อนเหมือนบัวฝร่ัง มีเหง้ำใต้ดินเจริญเติบโต ในแนวดง่ิ ต้นอ่อนจะเกดิ จำกเหงำ้ ใต้ดนิ เจรญิ เตบิ โตข้ึนมำจำกต้นแม่ ใบลอยอยู่แตะผิวน้ำ ดอกลอยแตะผิวน้ำเลก็ นอ้ ย
บัวกระด้ง อยู่ในสกุลวกิ ตอเรีย จัดเปน็ บวั ขนำดใหญ่ทส่ี ุด มีลำตน้ ใตด้ นิ เป็นหัวใหญ่ ใบเป็นใบเดี่ยวมีขนำดใหญ่ ประมำณ 6 ฟุต ลอยบนผิวน้ำ ใบ ก้ำนใบ ก้ำนดอก มีหนำมแหลมอยู่ทั่ว มีดอกสีขำว และสีชมพู ดอกมีกล่ินหอมแรง บำนตอนกลำงคืน และหุบในตอนเช้ำ เป็นบัวที่ต้องใช้ พ้ืนที่ปลูกมำก และมีปัญหำกอบัวหลุดลอยขึ้นสู่ผิวน้ำหำกระดับน้ำท่ปลูกมีกำรเปล่ียน ขน้ึ อยำ่ งกะทันหนั ในจำนวนบวั ทัง้ 6 ชนิดน้ี บัวหลวงนบั เป็นบัวที่มีควำมสำคัญทำงเศรษฐกิจมำก ท่ีสุด และเกษตรกรปลุกมำกที่สุด โดยมีวัตถุประสงค์ของกำรปลุก 2 ประกำร คือ ปลูกเพ่ือตัดดอกตูม ซึ่ง นำไปใช้บูชำพระ และปลกู เพ่อื เก็บเมล็ด ซึ่งสำมำรถใช้ประกอบอำหำรทั้งคำวหวำน นอกจำกนี้ส่วนอ่ืนของบัว หลวงก็สำมำรถจำหน่ำยและใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้ เช่น ใบแห้งใช้ทำยำกันยุง มวนบุหรี่ ต้มเป็นยำไทยบำรุง หัวใจ แก้ไข และรักษำโรคตับ , ใบสด ใช้ห่ออำหำร และไหลหรือรำก สำมำรถนำมำเช่ือมเป็นอำหำรหวำน มี สรรพคุณแก้รอ้ นใน และระงับอำกำรทอ้ งรว่ งไดอ้ ีกดว้ ย ขอบคุณข้อมลู จำก : http://home.sanook.com/313/ สารละลาย 1.น้า น้ำ เป็นสำรประกอบเคมีชนิดหน่ึง มีสูตรเคมีคือ H2O โมเลกลุ ของน้ำประกอบด้วยออกซิเจน 1 อะตอมและ ไฮโดรเจน 2 อะตอมเชอ่ื มติดกันด้วยพันธะโควำเลนต์ นำ้ เป็นของเหลวท่ีอณุ หภมู แิ ละควำมดนั มำตรฐำน แต่ พบบนโลกทีส่ ถำนะของแข็ง (นำ้ แข็ง) และสถำนะแก๊ส (ไอนำ้ ) นำ้ ยงั มีในสถำนะของผลกึ ของเหลวท่บี รเิ วณ พนื้ ผิวทข่ี อบน้ำ[1][2] 2.นา้ อัดลม นำ้ อัดลม เป็นเคร่ืองด่ืมชนิดหนึ่งท่ีไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ มีสสี ันแตกตำ่ งกนั ไป มคี น นิยมดม่ื มำกและสำมำรถหำซอื้ ไดท้ ว่ั ไปในรำ้ นที่ขำยเคร่ืองด่ืม นยิ มบรรจใุ นรูปแบบกระป๋อง ขวด แก้ว ขวดพลำสตกิ เป็นต้น สว่ นประกอบ นำ้ อดั ลมมสี ว่ นประกอบท่ีสำคัญ 3 สว่ น คอื น้ำ (น้ำน้จี ะต้องเปน็ นำ้ สะอำด สำมำรถใช้นำ้ ประปำ แต่สว่ นใหญ่ แล้วจะมำจำกน้ำบำดำลท่ีผำ่ นกำรกรองและฆำ่ เชอื้ โรคด้วยคลอรนี ), น้ำตำล, สำรปรุงแต่งท่เี รียกวำ่ หัวนำ้ เชอื้ ซงึ่ เป็นสว่ นผสมของสำรท่ีให้กลนิ่ และสี, และกรดคำร์บอนิกซ่ึงถูกอัดเข้ำในภำชนะบรรจุ บำงคร้งั มีส่วนผสม ของนำ้ ผลไม้เลก็ น้อย น้ำอัดลมแต่ละย่หี ้อก็มีส่วนผสมลบั เฉพำะของตนเอง
กรดคำรบ์ อนิกในภำชนะบรรจุเมื่อสัมผัสอำกำศ จะแยกตวั เปน็ ก๊ำซคำรบ์ อนไดออกไซด์กับนำ้ เปน็ ฟองท่ี เกิดขึ้นเวลำเปิดขวดหรือกระป๋อง กำรเขยำ่ กเ็ ป็นกำรกระตุ้นปฏกิ ริ ยิ ำของกรดคำรบ์ อนิกให้เกดิ เรว็ ข้ึนและมำก ขนึ้ ฟองกำ๊ ซคำร์บอนไดออกไซด์กเ็ กิดมำกขน้ึ จนล้นภำชนะได้ 3.นา้ ยาสเปรยฉ์ ดี ผม สเปรย์ฉดี ผมจดั เปน็ เคร่อื งสำอำงสำหรบั เสริมแต่งควำมงำมชนิดหนึ่ง, ทฉี่ ีดหรือพน่ ออกมำเป็นละอองน้ำ, เปน็ ฝอยละออง 4.เคร่อื งด่ืมลโิ พ เครอื่ งดื่มชนิดหน่งึ ทม่ี ีส่วนผสมของสำรคำเฟอนี ในปรมิ ำณไม่เกิน 50 มิลลิกรัม ตอ่ 1 ขวด (100 - 150 มิลลลิ ติ ร) เคร่ืองด่ืมชนดิ น้ีสว่ นใหญ่เน้นไปทำงดำ้ นพลงั งำน[1] นักวทิ ยำศำสตร์ ได้ใหพ้ ้ืนฐำนกบั เครื่องดื่มชนิดนี้วำ่ เครือ่ งดื่มชนิดน้มี ีควำมใกล้เคยี งกันกบั เครื่องดื่มที่ไมม่ ี ส่วนผสมของคำเฟอีน[2]โดยสว่ นใหญ่แล้วเคร่ืองด่ืมชนดิ นี้จะนิยมดื่มในหมผู่ ูใ้ ชแ้ รงงำน และ คนทท่ี ำงำนหนักเนื่องจำกเม่ือทำงำนเสรจ็ รำ่ งกำยจะออ่ นเพลีย จึงต้องกำรพลังงำนชดเชยกลบั มำ ส่วนประกอบ สว่ นใหญใ่ นเครือ่ งด่มื ชูกำลงั จะมีส่วนผสมท่ีสำคญั คือ Xanthine , วติ ำมินบี และสมนุ ไพร บำงยี่ห้อก็ ใสส่ ว่ นผสมเพิ่มเตมิ เช่น Guarana แปะก๊วย โสม บำงยหี่ ้อก็จะใส่นำ้ ตำลในปริมำณทส่ี งู บำงยห่ี อ้ ก็ถูกออกแบบ ให้มพี ลังงำนต่ำ แต่สว่ นผสมหลักของเครอ่ื งด่ืมชกู ำลังก็คือคำเฟอีน ซ่ึงเป็นส่วนผสมชนิดเดียวกนั กบั กำแฟหรือ ชำ เครอ่ื งด่ืมชูกำลังส่วนใหญจ่ ะมปี ริมำตร 237 มิลลิลติ รตอ่ ขวด (ประมำณ 8 ออนซ์) มีสำรคำเฟอีนประมำณ 80 มิลลิกรัมต่อ 480 มิลลิลิตร โดยในกำรทดสอบสูตรของเคร่อื งด่ืมชูกำลงั นัน้ กลูโคสมกั เปน็ ส่วนผสมพนื้ ฐำน ของเครื่องดื่มชูกำลงั เสมอ (ซ่ึงผสมอยใู่ นคำเฟอีน , ทอรีน และสำรกลูโคโลแล็คโทน) 5.ยาทัมใจละลายนา้ ทัมใจ เป็นยีห่ ้อของยำแอสไพรนิ ชนดิ ผงของประเทศไทย ปจั จุบันผลิตโดย บริษทั โอสถสภำ จำกดั ทมั ใจเปน็ ยำท่ีเป็นทีร่ จู้ กั ของคนไทยมำกกวำ่ 60 ปี มียอดขำย กว่ำ 400 ลำ้ นซอง[1] ซงึ่ ในสมัยก่อนใชช้ อ่ื วำ่ \"ทันใจ\" ต่อมำภำยหลงั เปลีย่ นเป็น \"ทัมใจ\"[2] ทมั ใจเคยมีส่วนผสมของคำเฟอนี มำก่อน สำนักงำนคณะกรรมกำร อำหำรและยำจงึ เข้ำมำควบคุมมใิ หม้ ีคำเฟอีนอยใู่ นสตู รยำ[1]
อปุ กรณ์และวธิ ีการทดลอง อุปกรณ์ 1. บัวหลวง 15 ดอก 2. แจกนั 5 ใบ 3. สำรละลำยชนิดตำ่ งๆ 4. -นำ้ อณุ หภูมิห้อง 100 มลิ ลิลิตร 5. -น้ำอดั ลม 100 มลิ ลิลิตร 6. -นำ้ ยำสเปรย์ฉดี ผม 100 มลิ ลลิ ิตร 7. -เครื่องดื่มลโิ พ 100 มลิ ลิลิตร 8. -ยำทมั ใจละลำยนำ้ 100 มลิ ลิลติ ร วธิ ีการทดลอง 1. เลอื กดอกบัวหลวงที่มีขนำดเท่ำๆกนั ตัดกำ้ นยำวประมำณ 10 น้วิ 2. เตรียมเจกนั หรอื ภำชนะใส่ดอกบวั ขนำดเท่ำกนั 3. ใสน่ ้ำในแจกันและนำดอกบัวที่เตรยี มไว้ในข้อ 1 มำปักแจกนั 4. นำสำรทจี่ ะมำทดลองทำให้ดอกบัวสดและอยู่ไดน้ ำน ตำมตำรำงที่ 1 มำใสผ่ สมลงในแจกนั ขอ้ 3 5. สงั เกตและบนั ทึกผลกำรทดลอง จนกระทง่ั ดอกบัวไมส่ ด(ไม่สวยงำม) 6. ทำกำรทดลองซำ้ ตงั้ แตข่ ้อ 1-5 ซำ้ 5 รอบ เพื่อให้ได้ผลกำรทดลองทช่ี ดั เจนถกู ต้อง ผลการวจิ ัย ชนิดของสารท่ใี ส่ ผลการทดลอง วนั ท่ี 1 วนั ที่ 2 วนั ที่ 3 วนั ที่ 4 วันที่ 5 วันที่ 6 กำ้ นเริ่ม ดอกรว่ ง นำ้ มะนำว สด สด กลบี ดอกเร่มิ คลำ้ เรมิ่ เหยี่ ว โน้มลง ดอกรว่ ง นา้ อณุ หภมู ิหอ้ ง สด เร่มิ คลำ้ กลบี ดอกฃำ้ ดอกร่วง ก้ำนเริ่มโน้มลง กำ้ นโนม้ ลง ดอกร่วง นา้ อัดลม สด สด กลีบดอกโนม้ ลง ดอกรว่ ง เห่ยี ว ก้ำนโน้มลง เห่ียว นา้ ยาสเปรย์ฉดี ผม เหยี่ ว กลบี ดอก ดอกร่วง ก้ำนดำ คล้ำ ก้ำนดำ เครื่องดมื่ ลิโพ สด เรม่ิ คล้ำ กำ้ นโนม้ ลง ยาทัมใจผสมน้า สด สด กลบี ดอกคลำ้
อภปิ รายผล จากผลการทดลอง การรักษาความสดของดอกบัวในแจกนั ผลการทดลองพบวา่ น้ามะนาว มีฤทธ์ริ ักษำควำมสดของดอกบัวหลวงได้ 6 วัน น้าอณุ หภูมหิ อ้ ง มฤี ทธร์ิ กั ษำควำมสดของดอกบัวหลวงได้ 5 วนั น้าอดั ลม มีฤทธริ์ ักษำควำมสดของดอกบัวหลวงได้ 4 วัน นา้ ยาสเปรยฉ์ ดี ผม มฤี ทธ์ิรกั ษำควำมสดของดอกบวั หลวงได้ 2 วัน เครอื่ งดืม่ ลิโพ มฤี ทธร์ิ ักษำควำมสดของดอกบวั หลวงได้ 4 วัน ยาทัมใจผสมนา้ มฤี ทธิ์รกั ษำควำมสดของดอกบัวหลวงได้ 3วนั สรุป จำกำรทดลองกำรรกั ษำควำมสดของดอกบวั หลวงโดยใชส้ ำรละลำย 6 ชนดิ ซ่งึ ได้แก่ น้ำมะนำว นำ้ อุณหภูมิห้อง นำ้ อัดลม น้ำยำสเปรยฉ์ ดี ผม เครอ่ื งด่มื ลิโพ นำ้ ยำรกั ษำควำมสดตำมท้องตลำด ผลปรำกฏวำ่ สำรละลำยทม่ี ีฤทธริ์ ักษำควำมสดของดอกบวั หลวงได้ดที ีส่ ุดคอื นำ้ มะนำว อยู่ไดถ้ ึง 6 วัน รองลงมำ คือ นำ้ อัดลม อยู่ได้ 5 วนั และสำรละลำยทม่ี ฤี ทธิใ์ นกำรรักษำควำมสดได้นอ้ ยทส่ี ดุ คือ นำ้ ยำสเปรยฉ์ ีดผม เอกสารอา้ งอิง 1. http://www.chiangmainews.co.th/page/?p=336813 2. http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9520000146792 3. http://aiwzdiz.blogspot.com/ 4. https://thipsuda.wordpress.com 5. https://suksusee.wordpress.com 6. http://www.thaider.com
ภาคผนวก
สญั ญำที่ RDG5740040/58-09 รำยงำนวิจัยฉบบั สมบูรณ์ โครงงำนยอ่ ยที่ 2 เร่อื ง กำรปลูกและขยำยพนั ธ์บุ วั อำจำรย์ทีป่ รกึ ษำโครงงำน นำยณัฐ อุปนสิ ัยพล คณะผวู้ จิ ัย(นักเรียน) นำงสำวเบญวลี บ้งุ ทอง นำงสำวดวงลดำ มงุ่ งำม นำงสำวมินตรำ เยย่ี งอย่ำง นำงสำวธำรวำรี ผดุ ผอ่ ง นำยกฤษฎำ อำจไทยสงค์ นำยปริญญำ นครไชย นำยทิวำ จำรกึ ธรรม สนบั สนนุ โดยสำนกั งำนกองทุนสนบั สนนุ กำรวจิ ัย(สกว) และ บมจ.ธนำคำรกสิกรไทย ชุดโครงกำร “เพำะพันธป์ุ ัญญำ (พัฒนำยุววจิ ัย)”
กิตติกรรมประกาศ กำรทำโครงงำนเรื่องกำรปลูกและขยำยพันธ์ุบัว สำเร็จลุล่วงด้วยกำรได้รับควำมช่วยเหลือให้คำปรึกษำ จำก คณุ ครณู ัฐ อปุ นสิ ัยพล ครูท่ปี รึกษำโครงงำน ครผู ู้สอนกลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้กำรงำนอำชีพ คุณครูเดชมณี เนำวโรจน์ หัวหนำ้ โครงกำรพำะพันธุป์ ัญญำ รองผู้อำนวยกำร นำย เชิดชัย สิงห์คิบุตร และขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆ น้องๆรวมถึงพ่อแม่ผู้ปกครอง ชำวบ้ำน ผู้รู้ ที่ได้ให้ควำมกรุณำชี้แนะแนวทำงและกำรตรวจสอบกำรแก้ไข ขอ้ บกพร่องของโครงงำนจนสำเร็จด้วยดี ผ้ศู กึ ษำจงึ ขอกรำบพระคุณท่ำน ขอขอบคุณนำยชำติชำย สิงพรหมสำร ผู้อำนวยกำรโรงเรียนสมเด็จพระญำณสังวร ในพระสังฆรำชูป ถมั ภ์ ดำ้ นสถำนที่ ตลอดจนกำรสนับสนนุ ด้ำนกำรทำโครงงำนดว้ ยดีและเสมอมำ
บทคดั ย่อ จำกกำรศกึ ษำกำรปลูกบัวหลวงเพื่อ ต้องกำรปลูกและขยำยพันธบ์ุ ัว เพือ่ หำปุ๋ยทีเ่ หมำะต่อกำร เจริญเติบโตของบัว และกำรออกดอกของบวั จำกกำรใชป้ ยุ๋ 3 ชนิด คอื ป๋ยเคมี ปุย๋ อนิ ทรีย์ และป๋ยุ เคมี ร่วมกับปยุ่ อินทรีย์ เพ่ือเปรยี บเทยี บ ปยุ๋ ทง้ 3 ชนิดนี้ ว่ำปุ๋ยชนดิ ใด เหมำะสมในกำรเจริญเติบโตของบวั หลวง และกำรออกดอกของบัวหลวง เพื่อทำกำรปลูกบัวหลวงให้เจริญเติบโต และนำมำใชป้ ระโยชน์ในดำ้ นต่ำงๆ และนำผลมำรบั ประทำนได้ ท้ังดอกบัว ยงั สำมำรถนำมำไหวพ้ ระ บูชำพระ และนำมำประกอบพิธที ำงศำสนำ และยงั นำมำทำพธิ ีมงคลตำ่ งๆ เชน่ พธิ ีอุปสมบรถ ใช้ตกแต่งพำนไหวค้ รู ใบบัวหลวงนำมำใช่สำหรับหอ่ ขำ้ ว หอ่ อำหำร หอ่ ขนม ซ่ึงจะชว่ ยทำเพม่ิ ควำมหอมน่ำรบั ประทำนย่ิงขึน้ จำกกำรทเี่ รำสำรวจเร่อื งกำรปลกู บัวแล้วน้นั จงึ นำมำทำกำรทดลองปลกู โดยใช้บอ่ ในกำรปลูก และใชป้ ุย่ ทดสอบกำรเจรญิ เตบิ โต รวมทัง้ วสั ดอุ ุปกรณ์ทีใ่ ชใ้ น กำรปลูกบัว มวี ธิ กี ำรทดลอง ปลกู บัวลงในบอ่ ซีเมนต์ท้งั 9 ทอ่ ใช้ปุ่ย 3 ชนดิ คอื ป๋ยุ เคมี สตู ร 16-16-16 ปุ๋ย อนิ ทรยี ์ และปยุ๋ เคมสี ูตร 16-16-16 รว่ มกบั อนิ ทรยี ์ โดยแบ่งปุ๋ยท้ัง 3 ชนิดน้ี เปน็ ชนดิ ละ 3 บ่อ เพอื่ หำ ค่ำเฉลยี่ กำรเจรญิ เตบิ โต ของของบัวหลวง ว่ำป๋ยุ ชนดิ ใดจะสง่ ผลตอ่ กำเจรญิ เติบโตของบัวทด่ี ีที่สดุ ใสป่ ยุ๋ ตรง โคลนต้น หำ่ งจำกโคลนต้น 5 ซม. โดยหอ่ หนงั สือพิมพ์ 2 – 3 ชนั้ ใส่ป๋ยุ เคมี 10 กรมั ป๋ยุ อินทรีย์ 10 กรัม ป๋ยุ เคมีร่วมกบั อนิ ทรีย์ 10 กรัม โดยแบง่ เปน็ ชนิดละ 5 กรัม และควบคุมนำ้ เหนือดินประมำณ 6 – 7 ซม. จำก ผลกำรทดลองเรำจึงพบว่ำ ปุ๋ยท่ที ำให้บวั เจรญิ เติบโตมำกท่ีสุด และออกดอกมำกทีส่ ดุ คือ ปุ๋ยเคมี
บทนา ความเปน็ และความสาคญั ของโครงงาน บัว มีชำติกำเนิดในโคลนตม แตด่ อกใบมคี วำมสะอำดสวยงำม กลิ่นหอมหลุดพ้นจำกกล่ินปฏิกูล ชุดอก ใบอยำ่ งสูงศักด์ิ อวดควำมสวยงำม จนได้ชื่อว่ำ บงกช อันแปลว่ำ เกิดจำกตม กล่ำวได้ว่ำทุกส่วนของบัวกินเป็น อำหำรได้ และทุกส่วนของบวั กใ็ ชป้ ระโยชน์เป็นยำได้ บัวจัดเป็นพชื ใบเล้ียงเดี่ยวและเป็นพืชล้มลุก บัวป็นพืชที่มีควำมสัมพันธ์กับวิถีชีวิตของคนไทยเป็นอย่ำง มำก คนโบรำณเชื่อว่ำ ครอบครัวใดปลูกบัวเอำไว้ประจำบ้ำน ก็จะช่วยให้คนในครอบครัวมีจิตใจท่ีบริสุทธิ์และ เชอ่ื อีกวำ่ สำยใยของบัวท่ียดื ยำวน้นั คือ สำยสัมพนั ธอ์ ันดีของครอบครวั ในด้ำนควำมเช่ือทำงพุทธศำสนำ ดอกบัวยังเป็นสัญลักษณ์แห่งกำรสักกำรบูชำ นอกจำกนี้บัวหลวงยังมี ควำมสำคัญในกำรประกอบพิธีกรรมทำงศำสนำ โรงเรียนของข้ำพเจ้ำเป็นโรงเรียนวิถีพุทธ และมีองค์อุปถัมภ์ โรงเรียน คือ องค์สมเด็จพระญำณสังวร สมเด็จพระสังฆรำช สกลมหำสังฆปรินำยก เป็นองค์อุปถัมภ์โรงเรียน จงึ มีกำรจดั กจิ กรรมทำงศำสนำอยู่บ่อยๆ บัวจึงมีควำมสำคัญเป็นอย่ำงมำกต่อกำรประกอบพิธีกรรมต่ำงๆ เช่น ทำบุญวนั สถำปนำโรงเรียน ทำบุญวนั แม่ ทำบุญวันพ่อ และอนื่ ๆ ประโยชน์ของใบบัวหลวงนำมำใช่สำหรับห่อข้ำว ห่ออำหำร ห่อขนม ซึ่งจะช่วยทำเพ่ิมควำมหอมน่ำ รบั ประทำนย่งิ ขน้ึ ใบบวั แกเ่ มอื่ นำมำตำกแหง้ ใชเ้ ป็นสว่ นผสมของยำกันยุง และเม็ดบัวทั้งอ่อนและแก่ สำมำรถ นำมำรับประทำนหรือใช้ประกอบอำหำรได้หลำกหลำย ที่รู้จักกันดีก็คือ น้ำอำร์ซี ข้ำวอบใบบัว เม็ดบัวต้ม น้ำตำลทรำยแดงผสมในเต้ำฮวยหรือเตำ้ ท้งึ สังขยำเม็ดบวั เม็ดบัวเช่ือม สำคูเม็ดบัว ขนมหม้อแกงเม็ดบัว แกง ส้มสำยบัว เม็ดขนนุ ไส้เมด็ บวั แห้ง บัว..พรรณไม้น้ำมหัศจรรย์ ที่ผูกพันกับชีวิตของคนไทยมำอย่ำงยำวนำน ไม่ ว่ำจะเป็นมิติของกำรเป็นอำหำร ซ่ึงคนไทยได้นำส่วนต่ำงๆ ของบัวมำประกอบอำหำรท้ังคำวและหวำน กำร เป็นยำรักษำโรค และด้ำนพิธีกรรมทำงศำสนำ ไม่ว่ำจะเป็นพิธีโกนจุก บวชนำค หรือท่ีคุ้นเคยกันเป็นอย่ำงดี คอื ใชใ้ นกำรบูชำพระ จึงสำมำรถกล่ำวได้ว่ำ บัว ถือเปน็ ไมท้ อี่ ยู่คกู่ บั วิถีชวี ติ ของคนไทยต้งั แตเ่ กิดจนตำย และด้วยเสนห่ ค์ วำมสวยงำมของบวั ท่ีได้รบั ขนำนนำมวำ่ เทพธดิ ำแห่งไม้นำ้ บัวจีงได้ยกระดับสู่พรรณ ไม้งำม เศรษฐกจิ ท่ตี ลำดทั้งในประเทศและต่ำงประเทศใหค้ วำมนยิ มกันอย่ำงต่อเน่ือง ควำมน่ำสนใจของบัวยัง ไม่จบเพียงแค่นี้ เม่ือมีกำรศึกษำประโยชน์ของบัวอย่ำงจริงจังแล้ว พบว่ำ บัวยังสำมำรถนำไปสกัดทำน้ำหอม หรือบัวหลวงซึ่งประเทสจีนไดม้ กี ำรศึกษำ มำหลำยพันปใี นกำรนำสว่ นต่ำงๆ มำสกัดเป็นยำรักษำโรค ประโยชน์ของบัวมีหลำยประกำร แต่ที่กำลังทวีควำมแรงขึ้นเป็นลำดับ ก็คือ กำรก้ำว ข้ึนสทู่ ำเนียบไมต้ ัดดอกเศรษฐกจิ ดังน้ันกลุ่มของข้ำพเจ้ำจึงมีควำมสนใจที่จะศึกษำว่ำปุ๋ยชนิดใดมีควำมเหมำะสมกับกำรเจริญเติบโต ของบัวมำกท่ีสุด โดยศกึ ษำจำกปยุ๋ 3 ชนิด คือ ปุ๋ยเคมี สตู ร 16-16-16 ปุ๋ยอินทรีย์ และปุ๋ยเคมี สูตร 16-16-16 ร่วมกับปุ๋ยอินทรยี ์ เพ่อื ศึกษำว่ำปุ๋ยชนิดใดมผี ลตอ่ กำรเจรญิ เตบิ โตของบวั ไดด้ ีท่ีสุด เพื่อให้ได้บัวที่สวยงำม และ สำมำรถนำบัวที่ปลูกไปใช้ในกำรดำเนินกิจกรรม เม่ือทำงโรงเรียนจัดกิจกรรมทำงศำสนำขึ้น โดยไม่เสีย ค่ำใช้จำ่ ยในกำรซื้อดอกบัว ลดรำยจ่ำยในกำรซื้อดอกบัวได้ และฝักบัวสำมำรถนำมำบริโภคได้ และพวกเรำจะ นำผลจำกกำรศึกษำไปใช้ในกำรเพำะขยำยพันธุ์บัวให้ได้ผลดสี งู สดุ ต่อไป
วัตถปุ ระสงค์ 1.เพ่ือศึกษำกำรเจริญเติบโตของบัวหลวงโดยใช้ปุ๋ยสำมชนิด คือปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมี-ปุ๋ย อนิ ทรีย์ วำ่ ปุ๋ยชนิดใดท่ีทำให้บวั เจริญเตบิ โตไดด้ ีทีส่ ดุ 2.เพื่อศกึ ษำกำรปลูกบัวโดยใช้ปยุ๋ อินทรีย์ 3.เพอื่ ศึกษำกำรปลกู บัวโดยใชป้ ๋ยุ เคมี สตู ร 16-16-16 4.เพื่อศกึ ษำกำรปลกู บัวโดยใชป้ ๋ยุ อินทรยี ร์ ่วมกับปยุ๋ เคมี 16-16-16 5.เพอ่ื ศึกษำระยะเวลำในกำรเกดิ ดอก 6.เพื่อศึกษำกำรปลกู บัวและกำรใหป้ ุย๋ บวั ในแบบท่ีถูกต้อง 7.เพอื่ นำผลประโยชนท์ ไี่ ดไ้ ปขยำยผลตอ่ ไป แนวคิดและทฤษฎเี กย่ี วขอ้ ง ชื่อวิทยาศาสตร์: Nelumbo nucifera. ชื่อวงศ:์ NYMPHACACEAE ช่อื สามัญ: Lotus, Sacred lotus, Egyptian ชอื่ พื้นเมือง: บุณฑริก ปณุ ฑริก ปทมุ ปทั มำ โกกระณต สตั ตบุษย์ บวั ฉัตรขำว สตั ตบงกช บัวฉัตร ชมพู โชค้ บวั อบุ ล ลกั ษณะท่ัวไปของบัวหลวง : ตน้ ของบวั ไมโ้ ผล่เหนือน้ำ อำยหุ ลำยปี ลำตน้ ของบวั มีทงั้ ทเี่ ปน็ เหงำ้ ใต้ดิน และเปน็ ไหลเหนอื ดนิ ใต้น้ำ ใบ ใบเดยี่ ว อยู่ในรูปแบบกำรเรียงสลบั ใบรปู ไข่ค่อนช้ำงกลม ขนำด 15-40 เซนตเิ มตร ขอบใบมนั จะมี ลกั ษณะ แผน่ ใบเรยี บ สีเขียวและมนี วลเคลอื บ ก้ำนใบกลมเรยี วแข็งส่งใบใหเ้ จริญท่ผี ิวนำ้ หรอื เหนอื นำ้ มหี นำม เป็นตุ่มเล็กๆ ภำยในก้ำนใบมีน้ำยำงใสเมื่อถูกอำกำศเป็นสีคลำ้ ดอกของบัว มีสชี มพู ขำว มีกลิน่ หอม ก้ำนดอกสีเชยี ว อวบกลมสง่ ดอกชขู ึ้นเหนือนำ้ กลีบเลย้ี งมี ประมำณ 4-5 กลีบ มที ้ังกลีบดอกชั้นเดยี วและกลีบดอกซ้อนกนั อยใุ่ นแต่ละดอก มีเกสรตัวผ้จู ำนวนมำกตดิ อยู่ รอบฐำนรองดอกท่บี วมขยำยใหญ่ หุ้มรังไข่ไวภ้ ำยในเรียกว่ำ \"ฝกั บวั \" ดอกบำนเต็มท่ีกวำ้ ง 20-25 เซนตเิ มตร บวั หลวงมีหลำยพันธุม์ ชี อื่ เรยี กต่ำงกนั ไปตำมขนำดและลักษณะของดอกคือ - ดอกเลก็ สีขำว เรยี ก บวั ปกั กงิ่ ขำว บวั หลวงจนี ขำว บัวเข็มขำว - ดอกเลก็ สชี มพู เรยี ก บวั ปักกง่ิ ชมพู บัวหลวงจีนชมพู บวั เข็มชมพู - ดอกสขี ำว เรยี ก บุณฑริก ปุณฑริก - ดอกสีชมพู เรยี ก ปทุม ปัทมำ โกกระณต - ดอกสั้นป้อมสีขำวกลบี ซ้อน เรียก บัวสัตตบุษย์ บวั ฉัตรขำว - ดอกสน้ั ป้อมสชี มพูกลบี ซ้อน เรียก บัวสตั ตบงกช บัวฉัตรสีชมพู ฤดกู าลออกดอกของบวั หลวง : ตลอดปี การปลกู : ปลกู ประดบั สระน้ำหรอื ปลกู ในกระถำงทรงสูง การขยายพันธุ:์ ไหล หรือโดยกำรแยกกอ เรำสำมำรถใช้ลำต้นบัวทม่ี ขี นำดใกลเ้ คียงกนั มำปลกู ได้ สว่ นทม่ี ีกล่ินหอม: ดอกของบวั หลวง
การใช้ประโยชน์: - ไมป้ ระดับ - ก้ำนใบและก้ำนดอก ทำกระดำษ และเสน้ ใยใช้ทำไส้ตะเกยี ง - บชู ำพระ - เปลอื กเมล็ดบวั แห้ง และฝกั แก่ทำปุ๋ย - เครือ่ งสำอำง - สมนุ ไพร - บริโภค แหลง่ ที่พบ: พบท่ัวไปทกุ ภำค ส่วนทใ่ี ช้บริโภค: เม็ดบัว รำกบัว ไหลบวั สำยบวั ใบออ่ น การปรุงอาหาร: - เม็ดบวั สำมำรถนำมำกนิ ได้ท้ังสดและแหง้ เมด็ บวั มีปริมำณสำรอำหำรทส่ี ำคัญ คือ โปรตีน ประมำณ 23 % ซึ่งสูงกวำ่ ขำ้ วถึง 3 เทำ่ และเป็นแหลง่ รวมธำตุ อำหำรหลำยชนิดด้วยกัน เมด็ บัวนำมำประกอบอำหำร ไดท้ งั้ คำวหวำน เช่น สังขยำ เม็ดบัว ขนมหม้อแกงเม็ดบัว เม็ดบัวเชอื่ ม สำคเู ม็ดบัว เปน็ ตน้ - รำกบัว นิยมนำมำเชื่อมแห้งกินเปน็ ของหวำน - ไหลบวั สำมำรถนำมำประกอบอำหำรได้ทง้ั สด ท้ังแห้ง โดยมำกจะนำมำแกงสม้ แกงเลยี งผดั เผ็ดตำ่ ง ๆ - สำยบวั สำมำรถปรงุ อำหำรแทนผักไดห้ ลำยชนิด ทัง้ แกงสม้ สำยบัว แกงสำยบัวกับปลำทู ฯลฯ - ใบอ่อน สำมำรถนำมำกนิ เปน็ ผกั สดแกล้มนำ้ พริก สรรพคุณทางยาของบัวหลวง: - รำกบวั หลวง นำไปตม้ กบั นำ้ ตำลกรวด ใชแ้ ก้ร้อนใน ชำวอินเดยี จะนยิ มใหเ้ ด็กดม่ื น้ำรำกบวั เพื่อระงบั อำกำรทอ้ งรว่ ง - สำยบัวหลวง กนิ เพือ่ แกอ้ ำกำรท้องร่วงได้ - ใบบวั หลวง นำมำห่นั ฝอย ๆ ชงดม่ื แทนนำ้ ชำ ชว่ ยแก้ร้อนในกระหำยน้ำได้เปน็ อย่ำงดี - เกสรบวั หลวง สว่ นของเกสรสเี หลอื ง สำมำรถใช้เข้ำเครอ่ื งยำท้งั ไทยและจนี โดยเฉพำะยำลม ยำหอม ยำบำรงุ หัวใจ และยำขบั ปสั สำวะ - ดีบัว เปน็ ส่วนของตน้ ออ่ นที่อย่ภู ำยในเม็ดบัว มรี สขมจัด สำมำรถนำมำเป็นสว่ นผสมของยำโบรำณ มี ฤทธิข์ ยำยหลอดเลอื ดที่ไปเลย้ี งกลำ้ มเน้ือหัวใจได้ ความมงคลของบัวหลวง: บัวหลวง นับว่ำเป็นสญั ลกั ษณ์แหง่ ควำมดีงำมในทำงพระพทุ ธศำสนำ ซึ่งนบั ตั้งแต่อดตี จนถงึ ปัจจบุ ันคน ไทยกย็ ังนิยมนำดอกบวั หลวงมำใช้บูชำพระ ยำกท่จี ะหำไม้ดอกชนิดอืน่ มำทดแทนได้ ซง่ึ บวั ทน่ี ยิ มนำมำไหว้ พระก็ได้แก่ บัวหลวง บวั หลวง นอกจำกดอกที่มคี ณุ คำ่ แลว้ สว่ นอน่ื ๆของบวั หลวงกม็ ีคุณค่ำไม่แพด้ อก ซึ่งแต่ ละส่วนก็ล้วนแล้วแต่มปี ระโยชนท์ ง้ั สน้ิ ปุย๋ เคมี และปุ๋ยอนิ ทรยี ์ หำกเอ่ยคำว่ำ ปุ๋ย ทุกคนย่อมเข้ำใจว่ำ \"ปุ๋ย เป็นสำรอำหำรท่ีมีควำมสำคัญเพื่อกำรเติบโตของพืชทุก ชนิด ช่วยปรับปรุงดินให้เหมำะสมกับกำรเพำะปลูก ทำให้ดินโปร่ง ร่วนซุย ระบำยน้ำ และถ่ำยเทอำกำศได้ดี รำกพืชจึงชอนไชไปหำธำตุอำหำรได้ง่ำยขึ้น ปุ๋ยเป็นสำร หรือสิ่งซึ่งเรำใส่ลงไปในดินเพ่ือเพ่ิมธำตุอำหำรให้พืช
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193