รายงานวิจัยฉบบั สมบรู ณ์ โครงการเพาะพันธป์ุ ญั ญา(พฒั นายุววิจัย) โรงเรยี นสมเดจ็ พระญาณสังวร ในพระสงั ฆราชูปถมั ภ์ ชุดโครงงาน ขา่ โดย นายเดชมณี เนาวโรจน์ และคณะ มนี าคม 2558
สรุปงานประจาปี (พฤษภาคม 2557 – มีนาคม 2558) บทคดั ยอ่ โรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ได้สมัครเข้าร่วมโครงการเพาะพันธ์ุปัญญา ศูนย์พ่ี เลี้ยงมหาวิทาลัยอุบลราชธานี รนุ่ ที่ 2 ปกี ารศึกษา 2557 มีผู้บริหารโรงเรียน จานวน 2 คน ครูท่ีปรึกษาโครงงาน จานวน 9 คน มีนักเรียน ม.4/1 จานวน 31 คน ร่วมกิจกรรมโครงการในครั้งนี้ โดยได้เลือกประเด็นหลัก เรื่อง ข่า โดยให้นักเรียนเสนอประเด็น และลงมติประชาธิปไตยเสียงข้างมาก มีการนาเสนอโครงงานย่อยเก่ียวกับ ข่า และ ได้รบั การอนมุ ตั ิจากศูนยพ์ ี่เลี้ยง จานวน 10 โครงงาน และสนับสนนุ งบโครงงานละ 6400 บาท ดงั น้ี โครงงาน ช่อื โครงงาน บูรณาการกบั คร*ู สอนกลุม่ วชิ า ท่ี โครงงานที่ 1 กระดาษจากข่า ทุกโครงงาน นายวรุทธ์ วรรณสขุ คณติ ศาสตร์ 2 (Galangal Paper) ทุกโครงงาน นางสาคร ทองเทพ วทิ ยาศาสตร์ 3 ขา่ ผง ทกุ โครงงาน นายชานน นนทกุลพงษ์ การงานอาชีพ (Galangal Powder) ทกุ โครงงาน นายกิตติพงษ์ บุญสาร วิทยาศาสตร์ 4 การปลกู ขา่ นายเดชมณี เนาวโรจน์ วทิ ยาศาสตร์ (Galangal Planting) ทกุ โครงงาน นางสาคร ทองเทพ วทิ ยาศาสตร์ 5 น้าสมนุ ไพรข่ารกั ษ์วถิ ชี มุ ชน ทกุ โครงงาน นางสาวกิตติมา สาระรกั ษ์ วทิ ยาศาสตร์ 6 (Herbal Galangal Guard the way of ทุกโครงงาน นางอาภาพร วรรณสขุ สังคมศึกษา 7 Community) ทุกโครงงาน ข่ากบั การไล่แมลงวนั นายเดชมณี เนาวโรจน์ วทิ ยาศาสตร์ 8 ( Galangal with Puching Flies) ทกุ โครงงาน นางสาวยาใจ เจรญิ พงษ์ วิทยาศาสตร์ สบู่สมนุ ไพรขา่ สร้างรายได้ นางสาวกิตติมา สาระรักษ์ สังคมศึกษา 9 (Galangal Herb Soap to make Money) ทกุ โครงงาน นางอาภาพร วรรณสขุ สังคมศกึ ษา นา้ พรกิ สมนุ ไพรข่าสร้างรายได้ นางสาวกติ ติมา สาระรกั ษ์ สังคมศกึ ษา 10 (Galangal Herb Sauce to Make Money) นางอาภาพร วรรณสขุ สังคมศกึ ษา การสกัดนา้ มันหอมระเหยจากขา่ ตา่ งชนดิ กนั นางสาวแสงเดอื น บกน้อย วทิ ยาศาสตร์ (The Extraction of Essential Oils from นางสาวยาใจ เจรญิ พงษ์ วทิ ยาศาสตร์ different Galangal) การยบั ย้ังเชอ้ื ราดว้ ยสารสกดั จากข่า นายเดชมณี เนาวโรจน์ วิทยาศาสตร์ ( Inhibition fungus with Galangal นางสาวยาใจ เจรญิ พงษ์ วทิ ยาศาสตร์ Extraction) ศึกษาปจั จยั ที่มผี ลต่อการแตกหนอ่ ของข่า นายกติ ตพิ งษ์ บญุ สาร วทิ ยาศาสตร์ ( Factor Affecting the Sprouting of the นางสาวแสงเดอื น บกน้อย วทิ ยาศาสตร์ Galangal)
สรปุ ผลการทาโครงงาน ท้งั 10 โครงงาน พบวา่ โครงงานสามารถสรปุ ผลได้ตามสมมติฐานท่ีตั้งไว้ แต่การ ทาโครงงานบางโครงงาน ยังมีการทดลองเพียงรอบเดียว เพราะระยะเวลาการทาโครงงานมีระยะเวลานาน ได้ แนะนาให้นักเรียน ศึกษาและทาโครงงานต่อไปอีก แต่ซ่ึงที่ทางนักเรียน ได้รับจากการเข้ารวมโครงการเพาะพันธ์ุ ปัญญาในครั้งน้ี ทาให้นักเรียนเกิดการเปล่ียนแปลงตนเอง เกิดการเรียนรู้อย่างมากมายมีทั้งทุกข์ สุข ใน กระบวนการทางาน การเปลย่ี นแปลงทเี่ กิดข้นึ มากท่สี ดุ ของนักเรยี นโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา โรงเรียนสมเด็จพระ ญาณสังวร ในพรสังฆราชูปถัมภ์ เรียงจากมากไปหาน้อย 1. ความสามารถแก้ปัญหา 2. ความกล้าแสดงออก 3. ทนษุ ยส์ ัมพนั ธ์ ทกั ษะทางสงั คม และ 4. การรับฟังผอู้ นื่
บทนา โรงเรยี นสมเดจ็ พระญาณสงั วร ในพระสงั ฆราชูปถมั ภ์ สมคั รเขา้ ร่วมโครงการเพาะพันธ์ุปัญญา รุ่น ท่ี 2 กับศูนย์พี่เล้ียงมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยยังไม่ทราบถึงเป้าหมายของโครงการว่าจะดาเนินการอย่างไร และต้องการให้ครูและนักเรียนได้อะไรจากทาโครงการน้ี ซึ่งทางฝ่ายวิชาการ ได้รับผิดชอบเขียนใบสมัครผ่านรอง ผู้อานวยการโรงเรียน เสนอไปยังผู้อานวยการโรงเรียน มีครูยาใจ เจริญพงษ์ ครูมินตรา งามทรัพย์ และครูสุทธิ นันท์ บุญศักด์ิ เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ ช่วงแรกครูกลุ่มดังกล่าว รวมทั้งรองผู้อานวยการโรงเรียน ได้เข้าร่วม ประชุมกับศูนย์พี่เลี้ยงมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เกี่ยวกับจิตปัญญา ผ่านไปสักระยะทาศูนย์พ่ีเลี้ยงก็เชิญทาง โรงเรียน ประชมเป็นคร้ังท่ี 2 ทางคณะครูกลุ่มดังกล่าวติดภารกิจเกี่ยวกับการทาวิจัยเกี่ยวกับโรงเรียนในฝัน จึงขอ อนุญาตทางโรงเรียนเปลี่ยนหัวหน้าโครงการเพาะพันธ์ุปัญญา ครูเดชมณี เนาวโรจน์ จึงเป็นความหวังหน่ึงท่ีทาง โรงเรียนได้มาเชิญให้เป็นหัวหน้าโครงการรับผิดชอบต่อเพ่ือให้การเข้าร่วมโครงการไม่ขาดช่วง หลังจากเข้าร่วม ประชุมกับศูนย์พ่ีเล้ียงมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จึงมีความเข้าใจดีข้ึนเล็กน้อยเก่ียวกับโครงการ ในการทางาน เพาะพันธ์ุปัญญาแต่ก็ไม่กระจ่าง หลังจากกลับประชุม จึงได้มีการนานักเรียนไปศึกษาดูงาน รุ่นท่ี 1 ท่ีโรงเรียนกู่ จานวิทยาคม จงั หวดั ยโสธร และอีกหลายท่กี อ่ นที่ไดท้ าให้นักเรยี นทรี่ ่วมโครงการ และครใู นโรงเรียนท่ีร่วมเป็นครูที่ ปรกึ ษาโครงงาน ได้เรยี นรกู้ ระบวนการ RBL เปน็ กระบวนการเรยี นร้ขู องนกั เรยี นนอกหอ้ งเรียน เรม่ิ จากไมร่ ู้ เรียนรู้ สู่กระบวนการทางาน ลงมือปฏบิ ตั ิ ทาซา วิเคราะหเ์ หตุวเิ คราะห์ผล จนเกดิ เป็น กระบวนการทางานแบบ RBL
การออกแบบกระบวนการเรยี นรแู้ บบ RBL ของโรงเรยี น เริ่มต้น สมคั รร่วมโครงการ จิตปัญญา รับนโยบาย /เอกสารโครงการ เพาะพนั ธ์ปัญญามาดาเนนิ การ เลอื กห้อง / เลอื กประเด็นหลกั แบง่ กลมุ่ ค้นคว้า / เรียนรู้ / โครงงานยอ่ ย RBL ศกึ ษาข้อมลู /สอบถาม/สมั ภาษณ์ ผ้มู คี วามรู้และประสบการณ์ อนิ เทอร์เนต็ เอกสารสพ่ี ิมพ์ ครูกลมุ่ สาระวิทยาศาสตร์/สงั คม ลงมอื ทาโครงงาน RBL วเิ คราะห์ข้อมลู หลกั การ สรุปผลวิจยั สนิ ้ สดุ
การคดั เลือกประเด็นหลกั (Theme) โรงเรยี นสมเด็จพระญาณสงั วร ในพระสงั ฆราชปู ถัมภ์ ได้เลอื กนกั เรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4/1 ปีการศึกษา 2557 จานวน 31 คนเป็นกลุ่มที่เข้าร่วมโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา แล้วให้นักเรียนคิดหาประเด็นหลักโดยการ วิพากวิจารณ์ ค้นคว้า สืบค้นข้อมูล โดยนักเรียนได้เสนอไว้หลายเรื่อง แต่สุดท้ายก็ตกลงกันท่ี เร่ือง ข่า โดยใช้ ประชามติประชาธิปไตย พื้นฐานความรู้เดิมที่โรงเรียนหรือชุมชนมีอยู่ เก่ียวกับเพราะข่าเป็นสมุนไพรที่คนไทย คุ้นเคยอย่างดี คนจานวนมากจึงมองข้ามหรือรู้สึกว่าข่าเป็นพืชธรรมดาๆ ไม่มีอะไรพิเศษ แต่ถ้าลองทบทวนหวน คิดถึงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษเรา ก็จะพบความแปลกใจที่คนรุ่นก่อนช่างสรรหาพืชชนิดนี้มาเป็นสมุนไพรประจา ครัวไทย เพราะเหตุผลง่ายๆ แต่มีความสาคัญต่ออาหารไทยที่โดดเด่นระดับโลก นั่นคือ ข่าเป็นพืชท่ีจัดเป็น เคร่ืองเทศท่ีมีความสามารถในการดับกลิ่นคาวได้ดีเยี่ยม และยังเพ่ิมรสชาติให้อร่อยอีกด้วย นอกจากนี้ในชุมชน รอบๆ ซ่ึงเปน็ ท่ตี ้ังของโรงเรยี นสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ชาวบา้ นทกุ หลังคาเรือนก็ยังมีการปลูก ข่าไว้ในบ้าน หรือสวนของตนเอง ส่วนมูลเหตุจูงใจให้สนใจประเด็นน้ี ก็เพราะว่าโรงเรียนมีสวนข่าที่ปลูกรอบสระ น้า และทางโรงเรียนมีความประสงคจ์ ะนาข่าเป็นพชื ศกึ ษาของโรงเรียนตามโครงการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน แต่ ยังไม่ดาเนินการ การออกแบบกระบวนการเรียนรู้ RBL ของโรงเรียน หลังจากได้ประเด็นข่าแล้ว ก็ให้นักเรียน ค้นคว้า สบิ คน้ ประเดน็ ทจ่ี ะทาโครงงาน RBL ยอ่ ยเกยี่ วกับ ข่า จานวน 10 โครงงาน เขียนผังเหตุผลแต่ละโครงงาน ย่อย และเสนอโครงงาน RBL ยอ่ ยทง้ั 10 โครงงานเพ่ือขออนุมัติ ปรากฏว่า ได้รับการอนุมัติโครงการ RBL จานวน 10 โครงงานและเงินสนบั สนุน 74,000 บาท
ตามแผนผงั โครงงาน ดังน้ี
ขา่ ช่ือวิทยาศาสตร์ : Alpiniagalanga (L.) Willd. ชื่อสามัญ : Galanga วงศ์ : Zingiberaceae ช่อื อืน่ : ขา่ หยวก ข่าหลวง (ภาคเหนือ) , กฏุกกโรหนิ ี (ภาคกลาง) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุก สูง 1.5-2 เมตร เหง้ามีข้อและปล้องชัดเจน ใบ เดี่ยว เรียงสลับ รูปใบหอก รูปวงรีหรือเกือบขอบขนาน กว้าง 7-9 ซม. ยาว 20-40 ซม. ดอก ช่อ ออกที่ยอด ดอกย่อยขนาดเล็ก กลีบดอกสี ขาว โคนติดกันเป็นหลอดส้ันๆ ปลายแยกเป็น 3 กลีบ กลีบใหญ่ท่ีสุดมีริ้วสีแดง ใบประดับรูปไข่ ผล เป็นผลแห้ง แตกได้ รปู กลม สรรพคุณ: ข่าเป็นพืชท่ีนามาใช้ประโยชน์ทางด้านอาหารมากมาย ใช้ใส่ในต้มข่า ต้มยา น้าพริกแกงทุกชนิดใส่ข่า เป็นส่วนประกอบ ยกเว้น แกงเหลืองและแกงกอและทางภาคใต้ที่ไม่นิยมใส่ข่า มีบทบาทในการดับกล่ินคาวของ เน้ือและปลา นอกจากน้ัน ขา่ ยังมฤี ทธ์ิทางยา เหงา้ แก่แก้ปวดท้อง จุกเสยี ด แนน่ ดอกใชท้ าแกก้ ลากเกลื้อน ผลช่วย ย่อยอาหาร แก้คลนื่ เหยี น อาเจียน ต้นแกน่ าไปเคี่ยวกับน้ามันมะพร้าว ทาแก้ปวดเม่อื ย เป็นตะคริว ใบมีรสเผ็ดร้อน แก้พยาธิ สารสกัดจากข่ามีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย น้ามันหอมระเหยจากข่ามีฤทธิ์ทาให้ไข่แมลงฝ่อ กาจัดเช้ือราบาง ชนดิ ได้ ใชผ้ สมกบั สะเดาเพอ่ื เพมิ่ ประสิทธิภาพในการกาจัดแมลงข่า ลดการบีบตัวของลาไส้ ขับน้าดี ขับลม ลดการ อกั เสบ ยับยั้งแผลในกระเพาะอาหาร ฆ่าเช้อื แบคทีเรยี ฆา่ เชอ้ื ราใช้รักษากลากเกลือ้ น
สรุปผลการจัดกจิ กรรมโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ของโรงเรียน โรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ได้จัดกิจกรรมโครงการเพาพันธ์ุปัญญา ตลอด ระยะเวลา 6 เดือน ต้ังแต่เข้าร่วมโครงการฯ กับศูนย์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ทาให้ทั้งครูและนักเรียนเกิดการ เปลี่ยนแปลงต่าง ๆ อย่างมากมาย ท้ังด้านจิตใจ และพฤติกรรมการเรียนรู้ครูและนักเรียนมีความสัมพันธ์กันอย่าง ใกลช้ ดิ ดังบทเพลงที่ขอเสนอตอ่ ไปนี้ “ สิบน้ิววันทาคุณตาคุณยาย คุณครูทั้งหลายผูมีเกียรติทุกคน บุฯคงนาพาบันดาลดลให้ทุกคนมาพบกัน จะขอบรรยายเป็นบทกลอนอย่าพ่ึงจากจรไปแห่งไหน โปรดฟังสักนิดก่อนคิดจากไกลฟังความเป็นไปของโครงการ เพาะพันธ์ุปัญญาหรือเพาะพันธุ์ปัญหามันมีที่มาน่าสนใจทั้งศกท้ังเศ้าขัดแย้งภายใน ไม่เข้าใจการทางานจนมีฉายา ขุนดันขุนเดชมีนางเอกเหญิงเจ้าน้าตา อยู่ร่วมโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา สร้างศรัทธาคิดเองทาเป็น ทาสิ่งใหม่ ๆ ไฉไบกว่าเกา่ จึงเลือกเอามาศกึ ษาสมุนไพรไทยก้องไกลกาจึงนา ข่า มาศึกษากันมาศึกมาษาหาส่ิงใหม่ๆ มีประโยชน์ อย่างไรร่วมกันทาโดยครูเดชเป็นผลักดันที่ปรึกษาโครงงานการคอยช้ีทาง ยามโศกศัลย์ไม่ห่างกาย จนมีฉายาตั้ง คุณครปู ระกาศให้รูโ้ ดยทั่วกนั วา่ ครูคนนัน้ นาวา่ ขุนดัน ดันได้ ดันดี ดนั จนมวี ันนเี้ พาะพันธป์ุ ัญญา จบการบรรยายไว้ แค่น้ีก่อนอย่าเพิ่งใจร้อนโมหาโกรธาพวกเรา ม.4 เพาะพันธ์ปัญญาเลือดชมพูฟ้ารวมใจสามัคคี จะทาดีให้ได้มุ่งไฝ่ ศกึ ษาเพาะพันธ์ปุ ญั ญาพฒั นาเด็กไทย ลกู ญสส. สกั กลางทรวงในของกาลงั ใจจากทกุ ๆ คน ” ผลจากการทากิจกรรมทม่ี ุ่งม่ันและทมุ่ เท ทาให้เพาะพนั ธ์ปุ ัญญา โรงเรยี นสมเด็จพระญาณสังวร ในพระ สังฆราชปู ถมั ภ์ ไดร้ บั รางวลั จากศูนย์พี่เลยี้ งมหาวทิ ยาลยั อุบล ดังน้ี 1. นายเดชมณี เนาวโรจน์ ไดร้ บั รางวลั ครเู พราะพนั ธ์ปุ ญั ญาแหง่ ปี 2. รางวลั เวบไซตเ์ พาะพันธ์ปุ ญั ญายอดเยี่ยม 3. รองชนะเลิศ อันดัน 1 การนาเสนอนทิ รรศการโครงการของโรงเรยี น 4. นางสาวศศิวมิ ล พงษ์เฉลียว ไดร้ บั รางวัล นักเรียนเพาะพนั ธุป์ ัญญาแหง่ ปี 5. นางสาวศศิวิมล พงษเ์ ฉลียว ได้รับรางวัล ชนะเลิศ การเขียนสะทอ้ นไดอารี และได้นาบทความ ลงตีพมิ พ์สรุปเพาะพนั ธุป์ ญั ญา ปี 2557 6. นางสาวศศวิ มิ ล พงษ์เฉียว นางสาวสิริธร วงเวยี น นางสาวปฐั ทิชา พลู ทวี ได้รบั คดั เลือกเปน็ ตวั แทนเสวนาในกจิ กรรมปดิ โครงการของศนู ย์ฯ
ภาพกิจกรรมของโรงเรยี น
เสยี งสะทอ้ น (Reflections) ของครู นักเรยี น และผบู้ ริหาร เสยี งสะท้อนของครู โครงการเพาะพันธ์ุปัญญา น่ีคืออะไรเหรอ หลังจากรองผู้อานวยการมาเรียนเชิญ เป็นหัวหน้าโครงการ แทนคนเดิมท่ีขอออกเนื่องจากติดภารกิจ...มันคืออะไร ทายังไง ทาไมเขาไม่ทาต่อ ทาไปเพ่ืออะไร ใครได้ เราได้ อะไร ทาเวลาไหน จะมีเวลาเหรอ แล้วคนอื่นทาไมไม่ทา...เป็นคาถามมากมายที่เกิดข้ึนในใจของเราหลังได้รับการ ติดต่อให้สานต่อโครงการ จนวันหน่ึงได้ไปประชุมที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ทราบมาว่าเป็นการประชุมคร้ังท่ี 2 แล้วของโครงการ ก่อนหนนา้ นั้นเป็นการใหค้ วามรูจ้ ิตปัญญา แล้วจิตปัญญาคืออะไร แล้วทาไมเราไม่รู้ ก็เพิ่งถึงบาง ออ้ วันนีเ้ อง...วันนี้เรามาจะได้อะไรไหม (คิดในใจ) มาทราบทีหลังว่า โรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆรา ชูปถัมภ์เข้าร่วมโครงการเป็นรุ่นท่ี 2 กับน้องใหม่อีกหลายโรงเรียน การอบรมครั้งนี้เราเรียนรู้หลายอย่างรู้จัก เพาะพนั ธ์ปุ ัญญา รู้จักกระบวนการเพาะพันธุ์ปญั ญาถงึ จะไม่มากและก็พอจะรู้ว่าเป็นอย่างไง แต่ในใจก็ยังต่อต้านว่า โครงการน้ีมันจะดีเหรอ มันจะไม่เสียเวลาเหรอ มันก็คือการทาโครงงานธรรมดา มันจะวิเศษตรงไหนกัน ....หลัง อบรมวันน้ีทางศูนย์ให้การบ้านไปคัดเลือกห้องหนึ่งห้อง เลือกประเด็น และหาทีมงานครูที่ปรึกษาท่ีจะเข้าร่วม โครงการคร้ังนี้...ในใจก็ยังเป็นกังวลว่าจะเอาห้องไหนเนี้ย จะไหวเหรอ เป็นงานใหญ่มาก ทาไงดี(คิดในใจนอนไม่ หลับหลายวัน)....วันหน่ึงหลังจากว่างคาบสอนก็เลยลองเข้าไปศึกษาดูโครงการเพาะพันธ์ุปัญญา...จนถึงบางอ้อ น่ี มันเป็นโครงการท่วี เิ ศษจริงๆ น่ี มันเป็นกิจกรรมท่ีปลูกฝังนักเรียนให้เป็นคนในยุคศตวรรษท่ี 21 เลยนะนี่ แล้วเด็ก เราจะทาได้เหรอ...เอาห้องไหนนี่ ....ศึกษาหลายวันหลายคร้ังเข้าจิตใจก็เร่ิมจะเอนเอียงไปในทางท่ีดี ตายเป็นตาย วะ ....สกู้ ันซักตง้ั ให้มนั รูไ้ ปว่าจะทาไม่ได้เด็กของเราก็เป็นคนเหมือนกันน่ี คนอื่นทาได้พวกเราต้องทาได้...ในท่ีสุดก็ เลยไปหาคุยกับทีมงานที่จะมาเป็นครูท่ีปรึกษาจนได้ครูที่ปรึกษา 9 ท่านท่ีพร้อมจะเสียสละนอกห้องเรียน แล้ว ปรึกษากนั วา่ จะเอาห้องไหนเปน็ ห้องเพาะพันธุ์ปัญญาของโรงเรียน จนมาลงที่นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 การ อบรมครั้งท่ี 2 กับแต่เป็นครั้งแรกกับวิทยากร ดร.สุธีระ ประเสริฐสรรพ์ ท่านได้จุดประกายเกี่ยวกับเพาะพันธุ์ ปัญญา....ว้าวมันวิเศษมาก นี่แหละคาตอบแรกท่ีเป็นคาถามท่ีค้างคาใจว่าเราจะได้อะไร...ถามคือสอน มันคือส่ิงท่ี เราจะเอาไปหากินในการทาอาชีพของเราให้ดีท่ีสุดเลยนะน่ี....คิดได้ไง...ถามคือสอน ...หลังจากน้ันกระบวน การ RBL ก็เกิดขึ้นกับนักเรียน ญสส. โดยทาหน้าท่ีประสาน ผลักดัน ให้คาชี้แนะ ให้กาลังใจ หลายคร้ังเบื่อเหนื่อย แต่ ทกุ คร้ังทเี่ หน็ กระบวนการทางานของเด็ก การทุ่มเทของเด็ก มันทาให้เราคอยมีกาลังใจมากข้ึน รู้สึกภูมิใจในตนเอง ที่ทุกครั้งเด็กได้มาเล่าประสบการณ์การทางาน และปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ทุกครั้งเด็กก็สามารถแก้ปัญหานั้นด้วย ตนเอง...เห็นการพูดคยุ แลกเปลีย่ นระหวา่ งครทู ปี่ รึกษาและนกั เรียนแล้วก็รูส้ ึกภูมใิ จกบั นักเรยี น RBL ตลอดระยะเวลาการร่วมโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา เกือบ 6 เดือน ....กระบวนการ RBL มันทาให้เรา เปล่ียนความคิด เป็นพฤติกรรม มองโลกกว้างขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากข้ึน รับฟังเหตุผลของเด็กมากขึ้น ได้เห็น กระบวนการเปลย่ี นแปลงพฤตกิ รรมของนกั เรียนหลายคนท้งั ด้านความประพฤติ การพูดจา การแสดงความคิดเห็น แลว้ รู้สกึ ภูมใิ จท่ไี ด้มโี อกาสเขา้ รว่ มโครงการเพาะพนั ธุป์ ัญญาในครัง้ นี.้ ...ขอบคุณโครงการดี ๆ ท่ที าให้มีตน้ กล้าดี ๆ เดชมณี เนาวโรจน์
เสียงสะท้อนของนักเรยี น เป็นตัวอย่างห่ึงเสยี งสะทอ้ นจากไดอาร่ขี องฉนั นางสาวศศวิ ิมล พงษ์เฉลียว โรงเรียนสมเด็จพระญาณสงั วร ในพระสังฆราชปู ถัมภ์…….สปั ดาห์ท่ี 2 วนั จันทร์ ถงึ วนั พุธ ก็ไม่มีอะไร พอถงึ วันพฤหสั บดี ณ ตอนเช้าทเ่ี ขต รบั ผิดชอบห้องเรา ครกู ็ได้เดินมาบอกวา่ 4/1 ครู : เขา้ แถวเสรจ็ ไมต่ ้องเข้าหอประชมุ ไปสวดมนตน์ ะ ให้ไปหอ้ งประชุม ญสส. แทน คยุ เร่ืองเพาะพันธป์ ัญญา เรา และเพื่อน : อยุ้ ! ดแี ท้ ไมไ่ ดส้ วดมนต์ พาข่อยเฮ็ดหยงั อีก เราเข้าแถวเสร็จ ท้ังหอ้ งพากันไปทีห่ ้องประชุม พอครู มาถึง หัวหน้า : นักเรียนทั้งหมดทาความเคารพ นกั เรยี น : สวัสดีค่ะ สวัสดคี รับ ครู : ครับสวัสดีครับ ต่อไปสองคาบ นี้จากที่พวกเราเคยสวดมนตเ์ คยเรียนชุมนมุ ตามใจทตี่ นเลือก เราจะรวมเป็นคาบเดียวสองชว่ั โมงเรยี นชุมนมุ เพาะ พนั ธป์ ัญญาทาเร่ือง และครจู ะทาเร่ืองเสนอทางโรงเรียนว่าเลือกหอ้ งนี้ เลอื กสองคาบน้เี ป็นคาบเรยี นเพาะพนั ธ์ุ ปญั ญา นกั เรยี น : วันน้ีครจู ะพาทาอะไร ครู : ครูจะพาหาประเด็นหลกั นกั เรยี น : มนั คอื อะไร อะไรคือประเด็น หลกั ครกู ็ได้เอาหนังสือตวั อย่างของรุ่นที่ 1 ท่ีไดม้ าจากตอนท่ีครไู ปประชมุ เรากบั เพื่อนๆกด็ ไู ปเร่ือยๆ ครู : ดูแล้วก็ คดิ ไปดว้ ย บ่แมน่ ดสู ่ือๆ เด้อ จากนัน่ พวกเรากม็ าถกเถยี งกันว่าจะเอาอะไรเปน็ ประเดน็ หลกั นักเรียน - เฮ้ย! เร่อื งเอาเรื่องไกย่ ่างไหม - บ่อยา่ ทดลองกบั คนเอาบักนัดบ่ - ภาคเหนอื บกั นดั เขาหลายเฮาเฮ็ดบ่ดสี เู้ ค้าดอก - เอาเกย่ี วกบั ป่าได้ไหมครู ครู : เอาทโี่ รงเรียนชมุ ชนพวกเรามีเนน้ พชื เราจะไดโ้ ยงเข้าสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน นักเรยี น - โรงเรยี นเรามอี ะไร - โอย๊ ครูคดิ ไม่ออก - เฮย้ ๆ เอาปา่ ทามสิชมุ ชนเรา - มนั กวา้ งไปป่ะ เอาตะไคร้ดีไหม ครู : กม็ าลองคิดประเดน็ หลักสองเรอ่ื งแบ่งให้ครบสิบเรอ่ื งสิ นักเรยี น : ใช่ๆ จากน่ันก็โหวตว่าเรอื่ งไหนมีคะแนน มากกกว่ากนั แตม่ นั กห็ มดเวลากอ่ น เราก็ยังค้างประเด็นหลักระหวา่ งเรื่องปา่ ทามกบั ตะไคร้ สปั ดาห์ทีส่ าม มาพบกันวนั พฤหัสบดีอีกเชน่ เคย จากท่ีอาทิตย์กอ่ นยังคา้ งทีป่ ระเด็นหลัก วันนตี้ ้องแตกให้ได้สบิ เร่ือง เราก็พากนั น่งั คิด ถกเถียงกนั เปิดเล่นอนิ เทอรเ์ น็ตในมือถอื หางาน พอแตกเรื่องครบสิบ เราก็โหวตกันว่าเร่อื งไหน จะชนะ ปา่ ทามได้ 14 คะแนน ตะไคร้ได้ 12 คะแนน อกี 6 คนไม่ออกเสยี ง แล้วกไ็ ดข้ ้อสรปุ วา่ ประเด็นหลกั คือป่า
ทาม ใชเ้ วลาชั่วโมงครง่ึ เหลอื อีกสบิ นาทีกห็ มดคาบเรยี น เพราะ 1 คาบเรียน เรยี นแค่ 50 นาที และครูก็บอกกบั พวกเราวา่ ครู : คาบหนา้ ครูจะพาไปดงู านท่โี รงเรียนกู่จานวิทยาคมนะ นักเรยี น : ไปดทู าไร ไปทาไม เฮย้ แบบดใี จ รอ้ งเย้ๆดังล่ัน ครู : ทแี บบนลี้ ่ะ เย้ๆ ม่วนดีใจหลาย ครกู จ็ ะพาไปดูงานจากพ่ีพ่ีเขา ปที แ่ี ลว้ พ่ีเขาเคยทาปนี ้ีพี่เขาก็ทา อกี เอามาเป็นแนวทางในการทเ่ี ราจะทาโครงงาน สปั ดาห์ท่ี 4 วนั จนั ทรก์ ็ไม่มีอะไรเกิดขึน้ วันอังคารเปน็ วนั ท่ีไดเ้ รยี นวิชาวิทยาศาสตร์เยอะสุด ได้เข้าไปถามครูเรื่องโครงงาน เรา : ครคู ะ่ เราจะเอาโครงงานเรื่องป่าทามจรงิ หรอหรอื ยงั ไงค่ะ ครู : ครูจะต้องไปประชมุ อีกเสาร์ อาทิตย์ ถา้ พเ่ี ลี้ยงก็จะ บอกวา่ มนั ผา่ นไหม เรา : ถ้าไมผ่ ่านก็มาทาใหมห่ รอครู ครู : ใชแ่ ลว้ เรา : โอ้ ครู : โอ้ไรบี เรา : ไม่มไี รหรอกค่ะ วนั พุธ เจอครทู หี่ น้าเสาธง ครู : บีๆ เรา : อะไรอกี ครู ครู : บีอย่าลมื บอกเพอื่ นนะว่าเจ็ดโมงคร่งึ ต้องถึงโรงเรยี น ใคร ทีม่ าสายบอกใหม้ าเช้าไม่ทนั ไมต่ ้องไป เรา : ค่ะครู หนูวา่ พากันมาเช้าทุกคนเช่ือหนูสิ ผลปรากฏว่าพอถึงเชา้ วันพฤหสั เจ็ดโมงครง่ึ ทกุ คนมาคบใครทีเ่ คยมาสายมาเชา้ ตรงต่อเวลามาก เรากพ็ ากันเดนิ ทาง ดว้ ยรถสองแถวและรถของคุณครอู ีกคนั ไปที่โรงเรียนกูจ่ านวิทยาคม ไปถึงโรงเรียนกจู่ านวทิ ยาคมพๆ่ี ก็ไดก้ ารตอ้ นรับอย่างดี ฟังพๆี่ บรรยาย สนกุ สนาน ไดด้ ูสวนกลว้ ย ได้ดู รอบ โรงเรยี น ตอนแรก ไม่กล้าท่จี ะพดู ไม่กลา้ ท่ีจะถาม พอรูจ้ ักกัน ขอได้ Facebook ได้ไลน์ ได้เบอรต์ ิดต่อ วันน้ีมาได้ อะไรจรงิ ๆ ขาๆ กันยายน สัปดาห์แรก โครงงานเรื่องปา่ ทามที่เราคิดไวไ้ ม่ผา่ น พวกเรามาคดิ หาวิธี ว่าจะเอาเรื่องใหม่ เลยเอาเร่ืองตะไครต้ ามหัวข้อรองท่ี เราเลอื กไว้ สักพกั หาข้อมูลไปเจอ พพปญ. ท่ีเขาทาเร่อื งตะไคร้ เรากเ็ ลยตอ้ งเปลย่ี น หาโครงงานที่เขา้ กบั สวน พฤกษศาสตร์ และในชุมชนเราโรงเรยี นเรา มเี ยอะ เรากส็ ารวจเสนอม่วั เยอะแยะมากมาย รอ้ งเปน็ เพลง มะนาวโฮ้ ฮิว้ จนสุดทา้ ยมาจบที่ข่า เราเลอื กทจ่ี ะเอาขา่ มาศึกษา และเรากแ็ ตกออกเปน็ สิบเร่ือง เราเสนอเรอ่ื ง ข่ารกั ษากลาก เกล้ือนเชื้อรา ครู : มันทาไมได้จะทาไง แลว้ มเี พอื่ นอีกคนเสนอเหมือนกนั ได้ เรา : ครทู าไมหนูเสนอล่ะไม่ได้ เพ่ือน เสนอทาไมมนั ทาไดล้ ่ะครู ในใจอยากพูดมากกวา่ นัน่ โกรธครูมากๆเครียดสุดๆ จบคาบ มีเพ่อื นคนหนึง่ ว่าเฮาเปน็ คน มีขา่ พวกบม่ ขี ่าถอย พดู กับเพ่ือนอีกหอ้ ง (ภาษาอีสาน มคี ่า มีข่า) พากนั ฮาทัง้ สองห้อง ครเู ลยว่าทอี ยา่ งน้ีพากนั คดิ ไดอ้ ย่างดนี ะ ทกุ คนพดู เปน็ เสียงเดียวกนั ก็คนมันเรดิ สัปดาห์ท่ีสอง เรากด็ าเนินเรอื่ งข่ากล่มุ ของเราได้เร่ืองสารสกัดจากขา่ ต่อการแขง็ ตัวของเลอื ด เรอ่ื งก็ศึกษาเร่ือง เลอื ด เรอ่ื งปัจจัยในการแข็งตัว ศกึ ษาเร่ืองขา่ กลุ่มเรามี 4 คน ก็แบง่ กันหาข้อมลู เราก็ไม่รวู้ ่าจะทายังไง มนั ยาก มาก วันพฤหัสบดคี าบเพาะพันธก์ ข็ อครูมาค้นหางาน หากไ็ มร่ วู้ า่ มันจะห้ามเลือดยงั ไง สารมนั ก็ไม่ตรงกนั ตอนน้ีมี ความคิดทว่ี า่ อยากเกง่ เว้ย ! เรากห็ าทุกคนมองหน้ากนั สๆู้ นะ ใหก้ าลังใจกันในกลุม่ ไดอาร่ีของฉัน นางสาวศศิวิมล พงษ์เฉลียว โรงเรียนสมเดจ็ พระญาณสังวร ในพระสงั ฆราชูปถัมภ์
สัปดาหท์ ่สี าม วนั จนั ทร์ ครแู จ้งวา่ พ่เี ลยี้ งจาก ม.อบุ ล จะมา เรานกึ ในตัวเอง ต่นื เต้น เฮย้ ! ยงั ไม่มีอะไรเลย จะทาไง กลุ้มใจสดุ ๆเลย เราก็มาหาที่ปรึกษา คุยเลา่ ให้ฟงั ครูใหค้ าแนะนา หนกู ข็ อหนงั สือทีค่ รูได้มาจากอบรม เอามานั่ง อา่ น กเ็ กดิ ความรเู้ ขา้ ใจอะไรหลายอยา่ งเพิ่มมากขน้ึ เวลาผา่ นไปจนถึงวนั พฤหัสบดี วันที่ 18 กันยายน พ่ีเลี้ยงมา จากท่ีคิดไปกลัวไป พอเจอจริงๆกส็ นุกดีโดยเฉพาะคาถามทาไม กลุ่มของเราเรื่องสารสกดั จากข่าต่อการแข็งตัวของ เลือด เราก็ได้หดั ทาผงั ความคิด พเี่ ลยี้ งมาให้คาแนะนาอยากใหเ้ ราเปลยี่ นโครงงานเพราะมันไม่สามารถทาได้ เราจะ ทายงั ไง ยากมากปวดหัว บ่นๆกนั ในกลุ่ม แต่แลว้ มันกห็ มดเวลา ไม่รู้ว่าไดอ้ ะไรบ้าง ทร่ี คู้ ือได้ ทาไม และเรื่อง โครงงานว่าพ่เี ล้ียงแนะนาใหเ้ ปลี่ยนเทา่ น้ีเเหละ สัปดาห์ท่สี ่ี จะสอบปลายภาค ท้งั กลมุ่ พากนั หยุดงาน พพปญ. พากนั ไปจดั การงานทีค่ า้ ง อา่ นหนังสอื สอบ ถาม แนวทางข้อสอบในการทางาน ตลุ าคม สปั ดาหแ์ รก แขง่ ขันกีฬาห้อง และเตรยี มงาน จัดงานโรงเรยี นวนั คล้ายประสูติองค์สมเดจ็ พระญาณสังวร เรากไ็ ม่ได้ สนใจเพาะพนั ธ์ุปญั ญาเลย กฬี าหอ้ งกส็ นุกสนานได้ชนะเลิศหลายรายการ งานโรงเรียนก็ว่นุ วายคนเยอะแยะน่นั นี่ก็ วุ่น สปั ดาหท์ ี่สอง ครูแจง้ วา่ ครู : วันพฤหสั บดีน้ีเราจะต้องทางานให้เสรจ็ เป็นเอกสารเพราะสัปดาห์หน้า เราจะสง่ ยืนยันครงั้ แรก ว่า โครงงานจะผา่ นไหม แคเ่ อาไปตรวจสอบเฉยนะว่าจะปรบั แก้ตรงไหน ทกุ คน ทราบ เราและเพ่ือน: ทราบครับคะ่ สัปดาหท์ ่สี าม จากท่ีครแู จ้งวา่ สง่ โครงงานยืนยัน เรากม็ าท างานกับเพ่อื นในกล่มุ ศึกษาในใจกม็ องหาหนทางไม่เจอ เราเลยพดู ว่า เรา : ถา้ โครงงานเราไม่ผา่ นละ่ เราก็ต้องทาเร่ืองใหมน่ ะ เพือ่ น : ทาใหม่กท็ าใหม่ เรื่องนี้มันกย็ ากนะ เรา : ชงั่ มันเถอะมาทาเร่ือนสี้ ่งให้มนั เสร็จดกี ว่าพูดไปก็เหนื่อยเฉยๆ เรากพ็ ากันน่งั ทาโครงงาน ถงึ วนั พฤหัสบดคี าบ เรียนทกุ กลมุ่ ตา่ งทางานของใครของมัน เราก็ทางานวนั ศุกร์ทุกกลุ่มต้องส่ง กล่มุ เราเรากส็ ง่ วนั ศุกร์ตอนเทย่ี ง สปั ดาห์ท่ีส่ี เราได้เรียนแคส่ องวนั เพราะจากน้ันจะปิดเทอมไปเปิดเรยี นอกี คร้งั ก็คือวันท่สี ามเดือนหนา้ แต่วัน ปิยะมหาราชเราทุกคนต้องมาโรงเรยี นเพ่ือมาจัดกิจกรรม เรากต็ ามหาครู เพ่ือทีจ่ ะถามว่าโครงงานใครผา่ นใครต้อง เปลยี่ นปรับยังไง เรา : ครโู ครงงานใครผา่ นบา้ ง ใครปรับยงั ไง ครู : กล่มุ บไี มผ่ ่าน ตอ้ งหาเรอื่ งใหม่ คนอนื่ ครูจะบอก กบั หวั หน้าทีม และวันท่ี 2 พฤศจกิ ายน เราไปอบรมที่ ม.อุบล นะ นักเรียน 10 คน ครู 4 คน เรา : ตอบดว้ ย น้าเสียงเศรา้ ๆ คะ่
เสยี ใจไหมทีโ่ ครงงานไม่ผา่ นเป็นใครก็เสียงใจกลับมาบ้านก็มาน่ังเลา่ กบั เพื่อน เพราะเพื่อนในกลมุ่ อยู่บา้ งเดยี วกัน สองคนและเพ่ือนกลุ่มอ่ืน เรา : กพ็ ดู ว่าไมเ่ สียใจเนา๊ ะท่โี ครงงานไมผ่ า่ น เพอื่ น : ค าพูดน้เี คา้ ต้องพดู กบั บมี ากกวา่ นะ เรา : (เรากย็ ิ้ม) เรามาคดิ เร่ืองใหมน่ ะเอาเร่ืองไรดีอะไรที่เราคดิ ครูก็ไม่ใหเ้ ราเหมือนเช้อื รา กลมุ่ อ่นื ได้ทากลุ่มเรา มนั ทาไมได้ เพือ่ น : นึกไม่ออก ค่อยๆคิดวนั ท่ี 2 บีก็จะไป ม.อุบลกล็ องถามพี่เล้ยี งสิ เรา : ใช่ แต่เราก็ต้องมีขอ้ มูลท่ี เราจะทาไป สัปดาห์ท่หี ้า ในช่วงที่ปิดเทอม 22 ตลุ าคม ถงึ 1 พฤศจิกายน เรากค็ ุยกนั ติดต่อในไลน์ นดั หัวหนา้ กลุ่มมาทางานใน วนั ท่ี 26 เพ่อื นบางคนก็อยู่กรุงเทพโยนงานให้เพ่ือนเราก็แบบโกรธเลยเอาแตส่ ่วนตวั ไม่สนใจส่วนรวม และวันท่ี 2 กอ่ นเปิดเรยี นเราต้องไปอบรมเพอ่ื นคนที่ไปอยู่กรงุ เทพ ต่างโทรหาเพ่ือนในหอ้ งวนุ่ ไปหมดใครวา่ ใครไปได้ และ เพือ่ นในกลมุ่ เราคนหนึง่ ไดไ้ ปเปน็ ตัวแทนกลุ่มอนื่ เพราะหาเพื่อนในกลมุ่ ท่ีเขาไม่ได้ไปไม่ได้ กแ็ บบโมโหสุดๆ แต่ก็ดี ใจทเี่ พ่ือนในกลุม่ เราไดไ้ ปกลุม่ อืน่ ได้ไปคนเดียว บางกลมุ่ ไม่ได้ไปแต่กลมุ่ เราไดไ้ ปสองคนจากทโ่ี กรธเพ่ือนท่เี ขาไม่ไป ไมร่ บั ผดิ ชอบ แต่อยากขอบคุณเขามากเลยท่ีทาใหเ้ พ่อื นในกลุ่มเราได้ไปอกี คน เดอื นพฤศจิกายน สปั ดาหแ์ รก วันที่ 2 เราไปอบรมท่ี มหาวิทยาลยั อบุ ลราชธานี กเ็ ดินไปอาคารที่จะอบรม ครูชวนข้นึ ลิฟต์ ไม่ขึ้นเพราะกลวั เดินบันไดเ้ ล่นคยุ กบั เพื่อนไปจนถงึ ลงชอ่ื หาโตะ๊ โรงเรียนตัวเอง ภาคเชา้ ก็คือแต่ล่ะโรงเรยี นเลือกโครงงานทีจ่ ะนาเสนอ ตามลาดบั โครงงานก็แบ่งออกเปน็ สองประเภท 8 กลุ่มเป็นวิทยาศาสตรอ์ ีก 2 กล่มุ เปน็ สงั คม เราก็อยู่ประเภทวิทยาศาสตร์ มันกแ็ ยกห้องวิทยาศาสตร์กบั สงั คม ก็เรม่ิ กลุ่มแรกทงั้ สองห้อง 10 นาทผี ่านไปครูที่อยสู่ ังคมมาเรยี กใหเ้ ราไปช่วยเพ่อื นเราไม่มโี ครงงานไม่ได้เป็นตัวแทนนาเสนอเพราะโครงงานไม่ ผ่านตอ้ งปรบั แก้หาเรื่องใหม่เรากเ็ ดินออกจากห้องวทิ ยาศาสตร์ ตามครมู าจะเข้าห้องสังคมครูเขา้ ประตูหลังครูบอกให้เข้าประตหู นา้ ณ ตอนน้ัน เราสนั่ ไปหมด พอเปิดประตู แอร์ยิ่งเยน็ คนก็มอง เดินไปบนเวที ไปชว่ ยเพอ่ื นตอบโครงงาน หนไู มร่ ้เู ลยว่าเพ่ือนทาอะไร ยังไง ไม่รวู้ ่าจะตอบคาถามของกรรมการยังไง กลวั อยากลงจากเวที ขาดความพร้อม ท่านพี่เล้ียงเลยฝากคาถามไวแ้ ล้วตอนบ่ายจะกลับมาถาม พอลงมาคาแรกทถี่ ามครู เรา : ครหู นูกลัว หนไู มร่ วู้ า่ เพ่ือนทาอะไร ยงั ไง จะใหต้ อบไรค่ะครู เหมือนไม่มีความร้ใู นหัวเลย ครู : ใจเยน็ ๆบี ครเู ช่อื ม่นั ในตัวหนู ตอนนี้หนแู ค่ยังไมร่ ู้ ครจู ะเลา่ เพื่อนจะเล่าให้หนเู ขา้ ใจ ครแู ละเพอ่ื นกลมุ่ สงั คมก็เลา่ ใหฟ้ งั ว่าเขาจะทาไร ยังไง เราก็เร่ิมพอเขา้ ใจ ทาใหเ้ รารวู้ า่ เราจะทาแคต่ ัวเองกลุม่ ตวั เอง ไมไ่ ดต้ ้องรู้ทุกกลุม่ เพราะจะไม่ให้สถานการณ์แบบน้ี เกิดขึน้ อกี มนั นา่ กลวั มาก ตกใจที่สดุ เลย เทย่ี งเราก็พากนั ทาน ขา้ วเลา่ เรอื่ งตา่ งๆนาๆ ทแ่ี นๆ่ แชร์ความฉลาดนอ้ ยของตวั เอง บ่ายเราไปหอ้ งวิทยาศาสตร์เดนิ เขา้ ไปหาพ่ีเล้ยี ง ประจาโรงเรยี นเพื่อถามเรอ่ื งโครงงานท่ีจะทาใหม่เพราะโครงงานท่เี คยเสนอไปมันไมส่ ามารถทาได้
เราก็คดิ เสนอทกุ ๆเรอื่ งให้พีเ่ ลี้ยงฟัง สุดทา้ ยกไ็ ด้คาตอบวา่ จะทาเรื่องศึกษาปจั จยั การแตกหน่อของข่า ไดแ้ ตช่ ่ือเรือ่ ง เทา่ นนั่ จากนน้ั เราก็มาช่วยเพ่ือนท่สี งั คม ทาแผนผงั วาดรูปเขยี นอย่างเฮฮา ยิง่ อยู่หลังสุด เราก็รอ้ งเพลงมีความสุข แตกตา่ งจากเมื่อเช้ามาก พอเราไปนาเสนอ อยา่ งมั่นใจมากเลย ท่านพ่เี ลย้ี งวา่ ไปเอาตัว “ เจ๋ง ” ของโรงเรียนมาแต่ ไหนคณุ ครู มาสามคนพูดคนเดียว ครเู ราย้ิม เราก็ย้ิม น าเสนอเสร็จไดน้ ิว้ โปง้ จากครู ได้ช่ือใหมว่ ่าบีไหล ไหลไปตาม น้าแก้สถานการณเ์ ก่ง เยย่ี มๆ และเพ่ือนอกี คนช่ือบเี หมือนกันได้ชือ่ ว่าบลี ่วง พูดไปมั่วไม่เข้าหางานตัวเองเลย พอถึง ช่วงสุดทา้ ย มารว่ มกัน ไดร้ างวัลนาเสนอเยย่ี ม รองชนะเลิศอันดบั 1 สังคม รางวัลจากการโหวต รองชนะเลิศอันดบั 2 วิทยาศาสตร์ เราก็พากันกลับบา้ นแบบเหนอื่ ย นอนกลบั บ้านเลย เพลยี สดุ ๆ และวันนีเ้ ปน็ วันท่รี ูว้ า่ ทุกคนต้อง เขียนไดอารี่ วันที่ 10 ต้องส่งโครงงานทัง้ 10 จากทีใ่ หแ้ ก้ไข เราโครงงานทพ่ี ึ่งได้ช่ือเรอ่ื งกลับมาเดนิ เร่ิมต้นใหม่ มี เวลาแค่สปั ดาหเ์ ดียว ในช่วงวันท่ี 3 -10 พฤศจิกายน วนั ที่ 3 เล่าให้เพ่ือนฟงั วา่ โครงงานเราเรอื่ งไร เราจะไปหาขอ้ มลู อะไรบ้าง วันท่ี 4 หาข้อมูลการปลูกข่าทุกอยา่ ง เอาท่ีศกึ ษามาเล่า วนั ท่ี 5 เราได้เสนอแนวคิดในการท่ีจะปลูกข่า ให้เพ่ือนในกลมุ่ และ เพ่อื นในกลุ่มเห็นดว้ ย วนั ท่ี 6 เราออกแบบการปลูกข่าและใหเ้ พอ่ื นในกลมุ่ ทาเปน็ รปู ภาพสวนข่า วนั ท่ี 7 8 9 ตดิ เข้าคา่ ย AWC เราให้เพื่อนๆ ทางานได้แตใ่ หแ้ นวคิดเพ่ือนๆไว้ ในวนั ที่ 7 ชว่ งเท่ียงช่วงพักแอบแวะไปหาเพื่อนชว่ ย เพ่ือนและถูกครวู ่าทาไมทาโครงงานแบบน้ี เราน้าตาไหลออกอย่างบอกไม่ถูก ครู : ศกึ ษาอะไรมากมาย เอาหลาย แท้ แบบนโี้ ตตอ้ งเฮด็ การทดลองซา้ 3 ครง้ั รดนา้ จะเอาเป็นสปริงเกอร์มันจะควบคุมยงั ไง โตก็คิดแน่บี เราเดินลง จากอาคารวิทยาศาสตร์ไปทบ่ี ้านพกั ครทู ่ปี รึกษาโครงงานเล่าใหฟ้ ังทุกอย่าง ครูที่ปรกึ ษาก็บอกวา่ เราใจเย็นๆเราก็ ตดั สนิ ใจโทรหาพเ่ี ลี้ยงท่ี ม.อบุ ล เลา่ ใหฟ้ งั ว่าทาแบบน้ี คณุ ครไู มใ่ ห้ทาแบบนี้ พเี่ ลยี้ งกบ็ อกเราอยากใหเ้ พ่ิมตรงนีแ้ ค่ จดุ เดียวเราก็ค่ะอย่างเดียว วนั ท่ี 9 ออกคา่ ยกลบั บ้านมานั่งทางานจากท่เี พอื่ นทาไวใ้ ห้เสร็จ สัปดาห์ทสี่ อง วนั ที่ 10 เราได้แก้งาน ครูอนั น้ีก็ไมผ่ า่ นอนั น้ีก็ตอ้ งแกแ้ บบนี้ เราก็เลยถามเพ่ือนวา่ เรา : มั่นใจในตัว เคา้ ไหม เคา้ จะไมแ่ ก้งาน เรายึดมน่ั ในตวั เรา วา่ เราจะทาแบบนี้ ไม่ให้เราทา กช็ ั่งเราก็จะทาแบบน้ี เพ่ือน : พวกเค้า ม่ันใจในตวั บีมากเลยล่ะ บมี ีไรใหช้ ว่ ยบอกพวกเค้านะ เรารู้สกึ ซึง้ มกี าลงั ใจมากๆ ความรกั ในกลมุ่ ท่ีมีให้กัน สุดท้าย เราเอาชนะทุกอยา่ ง ทะเลาะกับครจู นเราไดส้ ่งอย่างทกี่ ลุ่มเราต้งั ใจ วันนเ้ี ป็นวนั ทไี่ ม่ได้เรียนทุกคาบ ให้ครูทสี่ อน เช็คเวลาเรียนให้ ก็ผา่ นไปถึงวันศุกร์ที่ 14 เปน็ วันที่ประกาศวา่ โครงงานจะผ่านกีโ่ ครงงาน วันน้นั เปน็ วนั ทเี่ รยี น ฟิสกิ ส์ ทุกคนเงียบ เปน็ ไก่คอตก และเป็นวันทีป่ ระเมนิ การสอนอกี เราเรียนทง้ั ยาก ทัง้ กลัว พอเรยี นจบคาบ ท่าน รองผูอ้ านวยการพดู ว่า โครงงานเพาะพันธ์ุปัญญาของเราผ่านทั้ง 10 โครงงาน ทกุ คนร้องดีใจล้ันเสียงดังเตะโต๊ะ กระโดด กอดกนั น้าตาไหล เราคนหนงึ่ ท่รี ้องดีใจทั้งนา้ ตา หอ้ งอ่ืนออกมาดวู า่ หอ้ งเราเปน็ ไร มันมีความสขุ อย่างบอก ไมถ่ ูกเลยมันภูมิใจมาก สปั ดาห์ทสี่ าม เราก็มานงั่ เขียนว่าเราจะซื้ออะไรเอาอุปกรณ์อะไรบ้าง คยุ กับเพอื่ นในกล่มุ ถามเหนื่อยไหม อะไรยังไงตา่ งๆ และ ดาเนนิ การหาสถานทที่ ีจ่ ะปลกู ข่า ไปปรึกษาสอบถามภารโรง ครูเกษตร วา่ จะให้ใช้พน้ื ที่ตรงไหน พ้นื ท่ีเทา่ นป้ี ลกู แบบนี้ เราก็เล่าให้ฟัง ครูท่านกบ็ อกกับเราวา่ เด๋ียวครูหาให้มนั จะต้องเอารถมาไถ่
สัปดาหท์ ีส่ ี่ ครูแจกใบรายการท่ีจะซ้ืออุปกรณ์รายรับรายจ่ายเราก็ไปเอามาจากครู มาอ่านดู จากนั้นก็พูดว่า เรา : ครูอันที่หนู เขียนมันไม่ใช่แบบนี้นะค่ะ ครู : ครูปรับให้ เรา : ครูมาปรับของหนูทาไม ท่อน่ีมันคืออะไร ครู : ก็จะเอามาให้ปลูก เรา : หนูไม่ทาแบบนี้หนูก็บอกครูหลายครั้งครูเคยฟังหนูไหม โครงงานแบบหนูที่เสนอไปมันก็ผ่านครูโครงงานเด็ก นะครู ครู : งั้นไปเขียนมาใหม่ ครูจะแก้ เรา : แล้วครูเอามาให้เขียนทาไหมแต่แรกในเม่ือไม่เอาตาม เราก็เดินหนี เลยรู้สึกน้อยใจมาก เพอ่ื นในกลุ่มเขาไมก่ ล้าพดู ต่อหน้าครู เขาเกรงใจ แตเ่ ราน่ี ตรงๆอย่างเดียว ธันวาคม สัปดาห์แรก พวกเราเลือกประธาน รองประธาน เลขานุการ แต่งต้ังตาแหน่งต่างๆฝ่ายต่างขึ้นมา เราถูก เสนอช่อื ให้เป็นประธานและเราก็ได้เป็นประธาน มนั เป็นเกียรติอย่างย่ิงทเ่ี พื่อนๆคณุ ครูเลือกให้เราเป็นประธาน เรา ก็ยินดี และทาหน้าที่ที่ได้รับให้ดีที่สุด ได้ประธาน รองประธาน และอื่นๆครบทุกตาแหน่งเราก็พากันไปถ่ายรูปทีม ถา่ ยรูปหอ้ ง ครูก็ถามทุกกลุ่มเริ่มทาโครงงานยัง รออะไร เวลาไม่รอใคร ก็ไม่มีใครตอบ เราก็คนหน่ึงที่ไม่ตอบได้แต่ ตอบในใจ โครงงานยังไม่เรมิ่ รอรวู้ ่าจะได้ใช้ท่ตี รงไหนปลูก ใจนะอยากปลูกแต่ครูเกษตรไม่บอกหนูว่าจะให้เราปลูก ไหน สปั ดาห์ทีส่ อง วันจนั ทร์ครูกม็ าบอกเราวา่ ครู : ประธานไปคยุ กับเพื่อนว่าจะให้ใครไปอบรมท่ีสิรินธร ดร.สุธีระ เป็น ผบู้ รรยาย แบง่ นะสังคม 1 วทิ ยาศาสตร์ 3 เรา : ค่ะ ครู :เอาค าตอบวันพรุ่งน้ีนะครูจะต้องส่งข้อมูล เรา : ค่ะ วันน้ี เป็นวันท่ีมีคาบว่างเลยเอาเรื่องน้ีมาประชุม เพ่ือน : สังคมเอาจ๋า เรา : วิทยาศาสตร์ล่ะ เพื่อน : ก็เอาประธาน รอง ประธาน เลขานกุ าร Ok ตามนีเ้ ด้อ เราและเพอื่ นท่ถี กู เสนอให้ไป : ให้เราไปจริงๆหรอ เพอื่ น : ใช่ วันพฤหัสบดีคาบเรียนเพาะพันธุ์ เราก็ต่างแยกย้ายทาโครงงานใครมัน กลุ่มเราก็ไปสวนข่าไปดูว่าจะเอาข่าจาก ตรงไหน ให้เพ่ือนในกลุ่มลองขุดดู ขุดยากมากๆ เราเลยรู้ว่าเราจะต้องเอาน้ารดก่อนขุด เราก็คุยกัน ตกลงว่าตอน เย็นจะหาสายยางมาตอ่ ไปรดขา่ เรากพ็ ากันเดินมาท่ีห้องเกษตร ก็มาถามครูว่า เรา : ครูจะให้พวกหนูปลูกตรงไหน ครู : ปลูกท่ีแปลงเกษตรพอเพียง ข้างสวนกล้วย เรา : อ๋อค่ะ ครู : เย็นนี้ครูจะเอารถมาไถ่ให้ เรา : ค่ะครู เราก็พา กันเดินกลับมาที่ห้องเพาะพันธุ์ เราก็ไปคุยกับเพ่ือน สามคนท่ีจะไปอบรบ นัดกันประชุมว่าจะใส่ชุดไรเอาไรไปบ้าง อะไรยังไงไปกับใคร ก็ไปถาม เราไม่ถามให้เพ่ือนถาม ก็ได้คาตอบว่ามีครูคนไหนไป ไปกับใคร เย็นถึงบ้านก็มาเก็บ ของ จดั กระเป๋า วนั ศกุ ร์ เรากเ็ รียนตามปกติแตเ่ ราใสช่ ดุ หอ้ ง ท้งั โรงเรยี นใสช่ ดุ นักเรียน ทุกคนก็จะถามว่า -จะพากันไปไหน ทาไมได้ ใส่ชุดนี้ เราก็ตอบเต็มปาก ไปอบรมเพาะพันธ์ปัญญาที่สิรินธร เลิกเรียน เราก็ขนของขึ้นรถ อะไรเยอะแยะไปหมด เหมือนย้ายบ้านเลย ของเยอะแต่เราพร้อมออกเดินทางเราเดินทางเราคุยตลอดทางถ่ายรูปเฮฮามาก หัวเราะ เม่ือ ถึงทพ่ี ัก เรากข็ นของไปเกบ็ และมาทานขา้ ว ขอเมนจู ากรา้ น นั่งหวั เราะจนเจ็บท้อง เมนูอาหารใหญ่มายาวเท่าแขน ขา้ งหนึง่ ถ่ายรูปกับเพ่ือนสง่ ในไลน์ให้เพ่อื นดูก็ขาๆ ทานข้าวเสรจ็ กเ็ ข้าท่ีพัก เราได้นอนกับเพื่อนในกลุ่มเราได้คุยกัน จนดึกไม่เคยได้เล่าอะไรแบบน้ี ทุกวันเจอกันแต่ก็ไม่เคยเล่าเรื่องราวต่างๆนาๆให้กันฟังแบบน้ี เล่าไปเล่ามาก็หลับ อย่างไม่รู้ตัว
13 – 14 ธันวาคม อบรมที่สิรินธร วันแรกต่ืนเต้นสุดๆ เร่ิมต้นฟังบรรยายได้แง่คิดต่างๆ ทาให้รู้เรื่องและเข้าใจกับ การท าโครงงานมากขึ้น ต้องมเี หตผุ ล คดิ รอบๆดา้ น และเรากพ็ ดู กบั เพื่อนท่ีไป รู้สึกว่าโง่มาก ๆ เลยอ่ะ เพ่ือนเราก็ เหมือนกนั ตลอดเวลาทีไ่ ปเราตื่นเชา้ ไปหลังท่พี ักมีริมน้าสวยงามสดช่ืนมากเลยได้ไปเท่ียวเขื่อนสิรินธร ชมสิ่งรอบๆ อย่างอบอนุ่ แต่ความท่ไี ดก้ ไ็ มร่ ูน้ ะว่าเราไดอ้ ะไรบา้ งแต่ท่ีรู้คือเราได้ไปสิ่งใหม่ได้เห็นโรงเรียนอื่นๆความคิดของคนอ่ืน ทาให้เราได้ประสบการณ์เพิ่มข้ึน ในขากลับเรานอนกลับบ้านคิดถึงบ้านมากๆ กลับมาก็เหน่ือยต้องมาเตรียมตัวไป เรยี น ซกั เสื้อผา้ ภาระงานท่ไี ด้กต็ ้องทา มันเหนอ่ื ยมากๆเลย สัปดาหท์ สี่ าม วันจันทร์เราก็ได้ไปนาเล่าความรู้ท่ีได้จากการอบรมหน้าเสาธงให้พี่น้องชาวฟ้าชมพู รู้สึกต่ืนเต้นมาก มือเย็นพูดช้า มือเย็นเฉียบ พูดเสร็จพอกลับเข้าแถวจากที่พูดหน้าเสาธง มีแต่คนว่าเราพูดเหมือนคนจะร้องไห้ ก็จริงๆแหละเรา สัน่ ตน่ื แต่พดู ไมถ่ กู เย็นวนั จนั ทร์เรากไ็ ปหาครูเกษตรว่า เรา : ครคู ะ่ ไหนครูวา่ จะเอารถมาไถ่ให้ หนูอยากเร่ิมปลูกแล้ว ครู : เด๋ียวเย็นน้ีนะบีครูจะหารถมาไถ่ให้ เรา : ค่ะครู เราไปรดน้าข่าไว้เพ่ือให้ข่าขุดง่าย ท่านผู้อานวยการก็เลยถามเรื่องโครงงาน เราก็เล่าตามสิ่งที่เราทา ว่าเราทายังไง ทา่ นผู้อานวยการได้ฝากคาพูดหนึ่งไว้ ส่ิงหน่ึงที่เราไม่ควรเช่ือคือครู เราก็มานั่งคิด กลับบ้านก็มาคิดอย่างท่ีท่านพูด หนไู มเ่ คยฟงั ครูคนหนึ่งเพราะครคู นนัน้ ขดั กับเราตลอด วันอังคาร มาโรงเรยี นไปแปลงเราก็ไมเ่ หน็ ว่ามีรถมาไถ่ พอดี วันอังคารมีคาบเรียนที่ว่างสองคาบ เราจึงขอครูที่สอนแทนติดต่อหารถ รถไถ่บ้านบกไม่ว่างซักคันเราจึงถามเพื่อน ในห้องวา่ พ่อใคร มรี ถไถ่ มีเพ่อื นคนหนง่ึ ทพี่ ่อมีรถไถ่ ทา่ นอยู่บ้านไกลจากโรงเรียน หนูลงมือท่ีจะไถ่ด้วยตัวเอง และ โทรหาครูอุตสาหกรรมว่าขอขุดต้นไม้ห้าต้นออกเพราะจะไถ่ท้ังหมด เราก็ถ่ายรูปส่งไลน์ ครู ผู้อานวยการก็มาดูกับ พวกเรา เย็นวนั อังคาร เราขุดหลุมถึงค่า วันพุธก็แบ่งกันว่าใครจะขุดข่า เราก็ตัดข่าขุดข่า วัดหลุมข่าต้นข่า ไม่เรียน ได้เรียนท้ังวัน วันพฤหัสทั้งวันเราก็ขุดหลุมตัดต้นข่าตาม วิธีการทดลองที่เราได้ทาไว้แต่ก็มีส่ิงท่ีเราปรับเปล่ียน ลด การปลูกลงจาก 72 หลุม เหลอื 48 หลมุ หลังจากวันพฤหัสบดีท่ี 18 ธันวาคม เราก็ไม่ได้พิมพ์บันทึกตลอดระยะเวลาถึงปีใหม่ เพราะเป็นวันท่ีครูทาให้เรา ร้องไห้ และทาให้โกรธไม่อยากท่ีจะคุยกับครูอีกเลย จากเราปลูก เราก็รดน้าจากส่ีโมงถึงเย็นทุกวันๆ ทะเลาะ กระทบกระท่ังกนั บา้ ง เรอ่ื งการรดน้าเราว่าจะใชส่ ปงิ เกอร์กไ็ มไ่ ดใ้ ช้ ต้องรดด้วยบัว เราโกรธครู ท่ีครูก็ชอบอ้าง ว่าดู เพ่ือนคนนี้ เค้าล่ะดีแบบนั้นนี่ หนูน้อยใจมากไม่ใช่เเค่หนูเพื่อนคนอ่ืนก็ไม่ต่างกัน จนบางครั้งพากันพูดกัน เฮ้ย ! โรงเรยี นเราสอนล่า(ร า)เอียงด้วยหรอ มีสอนท่ีไหนฉันสิไปสมัคร และต้ังแต่วันน้ันหนูก็ไม่พูดกับครูคนน้ัน ไม่อยาก เขา้ เรยี น คาบ พพปญ. ไม่อยากเจอครู อยากไปสวนข่าทางานที่สวนข่าของตัวเองที่ปลูกมันมีความสุขอุ่นใจทุกคร้ัง ทไ่ี ป จากท่เี คยเรียกวา่ เพาะพันธป์ ญั ญามนั ก็กลายเปน็ เพาะพันธ์ปญั หา มันเหนอื่ ยกายแต่พอไหวนะ เด๋ียวน้ีชีวิตเรา เปลีย่ นไปเพราะโครงการน้มี ันทาใหเ้ ราอดทนอะไรทไ่ี ม่พอใจเเต่ก่อนเรากจ็ ะดา่ เเต่ตอนนี้หนไู ด้ เเตเ่ ฉยยนื ฟงั นั่ง ฟงั ไมก่ ลา้ ทจ่ี ะพูด เเต่ครงั้ ไหนท่จี ะพูดกเ็ พราะอดทนไม่ไหว พดู ทงั้ น้าตา
เร่ิมต้นของปี 58 สัปดาห์แรกก็ผ่านไปดีนะแต่สัปดาห์ถัดมา ครูแจ้งว่าโรงเรียนต้องเตรียมประเมิน สมศ. พพปญ. ต้องได้ผลิตภัณฑ์น้ันน้ี ทั้งงานอ่ืนๆ อีกเรารู้สึกเหน่ือย และเพ่ือนๆทะเลาะกัน รวมถึงเราท่ีทะเลาะกับ เพ่ือน เราได้รับเป็นประธาน เราต้องประชุมเพ่ือน ประชุมถามความคืบหน้าบางคร้ังคาพูดท่ีเพื่อนพูดกลับให้ เราฟังมันเจ็บปวดมาก นา้ ตาตกใน พดู ไม่ถกู เลย ความสามคั คมี นั ทาใหเ้ หน็ อะไรหลายอย่างจากที่ทะเลาะแต่ได้ อะไรดีๆกลับมา บางครั้งเราคิดเราอยากหยุดเเต่มันก็ทาไม่ได้ อยากเห็นงานแต่ก็มองไม่เห็นงานเลย ครูแจ้งว่า จะเอาใครเป็นอบรมเว็บไซต์ เราไม่ว่างเราติดสอบ และท้ังเดือนเตรียมงานประเมินวุ่นวายกลับบ้านค่า ได้ เตรยี มต้อนรบั เตรยี มปฏคิ ม เตรียมนาเสนอ โรงงานแข่งขนั โครงงานเพาะพันธ์ปัญญา และหน้าท่ีอ่ืน ท้ังเดือน ครูไม่ได้สอนนักเรียนไม่ได้เรียน หนูนั่งคิดในใจอยากเรียนอยากให้ครูสอน รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความรู้เลย มา เดือนกุมภาพันธ์ เรานัดกันเรื่องการทาเว็บไซต์ และพี่เล้ียง ม.อุบลจะเข้ามาในโรงเรียน เราก็เตรียมปัญหา คาถามที่อยากถาม ตลอดระยะเวลาท่ีปลูกข่าทุกเลิกเรียนเราจะไปรดข่าด้วยกัน กับเพื่อนๆ บางวันมีรุ่นพ่ีไป ชว่ ยรด หนมู นี ้าทเ่ี ฝ้าน้ารดขา่ ไดส้ ่หี า้ ต้นเพราะหนยู กของหนักไม่ได้ เพราะผ่าตัดเรามีความสุขในการที่เราไปอยู่ สวนข่ามีการบา้ นนั่งเขยี นงานอะไรต่างๆเรานง่ั ทาเสรจ็ เราไปนัง่ คยุ กนั บนระเบียงทางเดินตรงสวนข่า เราน่ังคุย น่ังเลน่ นงั่ กินขนม มันมีความสุขผูกพันกันในกลุ่มมากๆ มีบางวันที่เพ่ือนในกลุ่มเศร้าเราไม่สบายใจท่ีสุดถามไร ก็ไม่พูด เราแทบจะร้องไห้ เพ่ือนเป็นอะไร เพราะทุกวันเรายิ้มเราหัวเราะ แต่วันที่เพ่ือนเศร้า มันสัมผัสได้ ท้ัง ท่าทางกริยา เราก็ถามว่าเป็นไรโกรธเราเหน่ือยหรอระบายกับเราด่าเราได้นะ ยิ่งเราเห็นเพื่อนนอนลงกับพื้น หญ้าข้างสวนเราย่ิงเศร้ามันไม่สบายใจเลย เช้าวันที่พ่ีเลี้ยงมาเราวุ่นวายกับเรื่องการสมัครทีมสภานักเรียนไม่มี ใครฟังใครทุกคนต่างทางานเพาะพนั ธุ์ทั้งน้ันครูคนน้ีบอกเราดุเราเรื่องเพาะพันธุ์คนอีกคนบอกดุเราเรื่องสภาใน วนั เดียวแทบวุน่ ไปหมดอยากแยกร่างเลย พอบา่ ยเราก็นาเสนอตามท่ีเป็นเราเล่าปัญหาทุกอย่าง ผลการทดลอง ของเราข่าไม่เกิด เราน้าตาไหลกับคาพดู ของพีเ่ ล้ยี งท่ีว่า “เรายังไม่รู้หรอกว่าเราได้อะไรแต่น่ีไงท่ีเรากล้าขอท่ีจะ ขุดข่า เพื่อได้คาตอบ มันคือกระบวนการคิดเราได้ เราแก้ปัญหา หาคาตอบ น่ีแหละส่ิงที่เราได้” และพ่ีเลี้ยงได้ ฝากคาถามกับเราไว้ว่าปัญหาท่ีเราพูดมาเราทายังไง ไม่ให้ตอบวันนี้ แต่จะให้ตอบวันท่ี 10 มีนาคม วันท่ีเราไป นาเสนอโครงงาน เรายมิ้ เราน้าตาไหล ภมู ใิ จ พ่เี ลีย้ งก็บอกกบั เราว่าสู้ๆอยา่ ทอ้ มีไรปรึกษาพี่ ปรึกษาครูได้ เราก็ ตอบไปว่าหนูเหน่ือยมันท้ังงานโรงเรียนงานเรียนของตัวเอง สอบอีกค่ะ หนูไม่ได้ท้อ วันนี้หนูย่ิงดีใจว่าส่ิงท่ีหนู ทามามนั มีความหมายหนูอย่างทาโครงงานต่ออีกปีหน้าจากท่ีแต่ก่อนเคยคิด ว่าไม่อยากทา มันไม่มีอะไรท่ียาก เกินความสามารถเราเลยเพราะทุกคร้ังที่ผ่านมางานแย่ ตัวเราเจ็บผิดหวังแค่ไหนจุดจบเราก็ผ่านมาได้ตลอด ถึงแม้โครงงานของเราจะไม่ได้นาเสนอก็ตามสิ่งท่ีเราได้ ส่ิงท่ีเราผิดหวังเสียใจ อะไรต่างๆมากมายมันทาให้เรา ได้ยืนอยู่ ณ จุดน้ีได้ อย่างเป็นตัวเรา เป็นตัวเราที่มีคุณค่าที่สุด อยากขอโทษคุณครูท่ีเราโกรธเราไม่ได้ต้ังใจ อยากขอบคุณเพื่อนทเี่ ขาฟงั เราให้เกยี รติเรา ขอบคณุ ครอบครัวที่ให้กาลงั ใจปลอบเราเวลาเราเหน่อื ย นส.ศศิวมิ ล พงษเ์ ฉลยี ว
เสียงสะท้อนของผู้บริหาร “ โครงการเพาะพันธุ์ปัญญา เป็นโครงการที่ท้าทายนักเรียนในศตวรรษท่ี 21 ผมเห็นในโบชัวร์สมัคร เข้าร่วมโครงการ แล้วผมก็ตัดสินใจให้ฝ่ายวิชาการของโรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ดาเนนิ การสมัครเข้าร่วมโครงการทันที หลังจากเข้าร่วมโครงการนักเรียนของเรามีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม มากมาย หลายอย่าง เปน็ ต้นวา่ การกลา้ แสดงออก เป็นคนมีเหตุผล กล้าคิดกล้าทาในทางสร้างสรรค์ เป็นผู้นา ในการทากิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน ในกิจกรรมการเรียนการสอนบางช่ัวโมงผมได้มีโอกาสไปสังเกตการ ทางานของนักเรียน เห็นแล้วก็รู้สึกอบอุ่นใจ ปล้ืมใจในการเรียนรู้ของนักเรียน นักเรียนพยายามศึกษาค้นคว้า เรียนรู้ ทดลอง ลองผิดลองถูก เห็นบรรยากาศการสนทนาระหว่างครูท่ีปรึกษา และนักเรียนนอกเวลาเรียน วันหยุด วันเสาร์อาทิตย์ มีบางกลุ่มมาทางานท่ีโรงเรียน พอทดลองไปสักระยะแต่ละช่วงของเพาะพันธุ์ปัญญา นางสาวศศิวิล พงษ์เฉลียว หัวหน้าเพาะพนั ธป์ุ ัญญาก็ได้มาเชิญข้าพเจ้าไปเป็นประธาน และมอบรางวัลในการ นาเสนอโครงงาน เชน่ การออกแบบการทดลอง การนาเสนอหลงั การทดลอง และครัง้ ลา่ สุดจาไดว้ ่าเป็นช่วงปิด โครงการ ผมได้สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนมาโดยตลอด เฝ้าและติดตามกลุ่ม Line ญสส._นักวิจัยน้อย เห็น การพูดคยุ แลกเปลย่ี นกันระหว่างครนู กั เรยี น นกั เรยี นกบั นักเรียน เปน็ ภาพทน่ี ่าประทับใจ คอยสังเกตนักเรียน บางคนจากที่ไม่เคยพูดหรือไม่กล้าแสดงออกเลย จนสามารถนาเสนองานได้ ถึงจะไม่ถึงกับดีมากแต่ก็ยังมีการ ได้นาเสนอ อาจจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจ..หลายคร้ังเห็นนักเรียนมีปัญหา เห็นบางกลุ่มมีปัญหาการทางานจน ถึงกบั มีการเสยี นา้ ตา...บางคร้ังให้กาลัง และคอยให้กาลังทั้งครูและนักเรียน เห็นความมุ่งมั่นของครูที่ปรึกษาที่ เสียสละ นอกห้องเรียนนอกเวลาเรียน….ท้ายสุดของโครงการก็มาถึงได้ทราบข่าว และยินดีกับนักเรียน เพาะพันธ์ุปัญญาที่สามารถคว้ารางวัลแห่งความมุ่งม่ัน และความสาเร็จจากศูนย์พ่ีเล้ียงมหา วิทยาลัย อุบลราชธานี มาหลายรางวัล....ผลของความมุ่งม่ัน และทุ่มเทตลอดการร่วมโครงการเพาะพันธุ์ปัญญา โครงการแหง่ การเพาะเมล็ดพันธุ์ที่ดี กล้าแกร่งที่จะเป็นเมล็ดที่แข็งแกร่ง แข็งแรง ที่จะขยายไปสู่สังคมต่อไป... ขอปรบมือดงั ๆ ให้กับนักเรียน ครู และผ้นู าโครงการดี ๆ นี้สสู่ ังคมแหง่ การเรียนรู้ ศตวรรษที่ 21….” นายชาตชิ าย สิงหพ์ รหมสาร ผู้อานวยการโรงเรียนสมเด็จพระญาณสงั วร ในพระสงั ฆราชูปถมั ภ์
ภาคผนวก
รายชื่อผเู้ ข้ารว่ มโครงการเพาะพนั ธป์ุ ญั ญา โรงเรียนสมเดจ็ พระญาณสังวร ในพระสงั ฆราชูปถมั ภ์ ---------------------------------------------------------------------------------------- ผบู้ ริหาร นายชาติชาย สิงห์พรหมสาร ผู้อานวยการโรงเรยี น นายเชิดชยั สงิ หค์ บิ ตุ ร รองผูอ้ านวยการฝา่ ยวชิ าการ ครู ครกู ลุม่ วชิ า วิทยาศาสตร์ ครูกลมุ่ วชิ า วทิ ยาศาสตร์ นายเดชมณี เนาวโรจน์ ครกู ลมุ่ วิชา วทิ ยาศาสตร์ นางสาคร ทองเทพ ครกู ลมุ่ วชิ า วทิ ยาศาสตร์ นางสาวยาใจ เจรญิ พงษ์ ครูกล่มุ วชิ า วิทยาศาสตร์ นางสาวแสงเดอื น บกน้อย ครูกลุ่มวชิ า คณิตศาสตร์ นายกติ ติพงษ์ บญุ สาร ครูกลุ่มวชิ า การงานอาชีพ นายวรทุ ธ์ วรรณสุข ครกู ลุ่มวชิ า สังคมศึกษา นายชานน นนทกลุ พงษ์ ครูกล่มุ วชิ า สังคมศึกษา นางสาวกิตติมา สาระรักษ์ นาอาภาพร วรรณสุข
รายชื่อนกั เรียนขา้ ร่วมโครงการเพาะพันธ์ุปัญญา โรงเรียนสมเดจ็ พระญาณสังวร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ นายเชษฐทวี ทองจนั ทร์ นายอดิศกั ด์ิ กอแกว้ นางสาวกัญญารตั น์ แสนสดุ นางสาวปิยะวรรณ วงษศ์ ริ ิ นางสาวรจนา เนอ่ื งโคกแปะ นายชยั วัฒน์ หมน่ื สขุ นางสาวจรยิ า สตุ ะคาน นางสาวจินตนา วงษณ์ ะรตั น์ นางสาวยุภาวดี เมฆมล นางสาววจิ ิตรา วงเวียน นางสาววมิ ลวรรณ กองธรรม นายกมลรตั น์ แกว้ วรรณา นายธนกร สขุ เกษม นายนราธร ทาทอง นายมงคล ทองเจยี ว นายสรุ เกียรติ กลิ่นดี นางสาวจฑุ ามาศ ทองประสาน นางสาวปฐั ทิชา พูลทวี นางสาวพจมาลย์ ทองปาน นางสาวศศิวิมล พงษ์เฉลยี ว นางสาวสริ ิธร วงเวยี น นางสาวอรอมุ า บยุ ไชย นางสาวอิศราภรณ์ บกน้อย นางสาวศศธิ ร ปะสาวะโถ นางสาวสุพรรณษา พลภฎั นางสาวพยิ ดา บญุ แท้ นางสาวปรารถนา แสวงศรี นายณัฐพนธ์ พลพวก นายอภวิ ฒั น์ คาแพงทอง นายนนทวัฒน์ หลกั คา นางสาวลลิตา อ่อนชงั่ นายเสฏฐวุฒิ นุตะไว
Poster / เอกสารการนาเสนองานตา่ ง ๆ
Poster / เอกสารการนาเสนองานตา่ ง ๆ
รายงานการประชาสมั พนั ธ์ : somdejpppy.wix.com/index
รายงานการประชาสมั พนั ธ์ : www.facebook.com/เพาะพันธุป์ ัญญา โรงเรยี นสมเดจ็ พระญาณสงั วร ในพระสงั ฆราชปุ ถัมภ์
สัญญาเลขที่ RDG5740040/11 โรงเรียนสมเดจ็ พระญาณสังวร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ชดุ โครงงาน ข่า รายงานสรุปการเงิน -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ช่อื ผ้ดู แู ลโครงงาน นายเดชมณี เนาวโรจน์ รายงานในชว่ งตงั แต่วนั ท่ี 2 ธันวาคม 2557 ถงึ วันท่ี 31 มีนาคม 2558 หมายเหตุ เปน็ รายงานสรปุ การเงนิ รวมของทุกโครงงานย่อย โดยยดึ ถืองบประมาณรวมตามเอกสารแนบ หมายเลข 1/1 รายจา่ ย หมวดตาม รายจา่ ยสะสม คา่ ใช้จา่ ยงวด รวมรายจา่ ย งบประมาณ คงเหลอื ท่ีตังไว้ตาม (หรอื เกนิ ) สญั ญา จากรายงาน ปัจจบุ นั B สะสมจนถึง E=D-C สญั ญา ครังก่อน A ปจั จบุ นั D* 0 C= A+B 0 1. ค่าตอบแทน 10000 0 0 หรือค่าประกัน คุณภาพ 2. คา่ วัสดุ 34000 อุปกรณ์ 3. คา่ ใช้สอย 30000 รวมท้งั สิ้น 74000 * นามาจากเอกสารแนบหมายเลข 1/1 จานวนเงนิ ทไ่ี ด้รบั และจานวนเงนิ คงเหลือ จานวนเงนิ ทีไ่ ดร้ บั จานวนเงิน วนั ท่ไี ด้รบั ค่าใช้จา่ ย จานวน งวดที่ 1 64000 งวดท่ี 2 64000 งวดท่ี 1 10000 ดอกเบยี้ คร้ังท่ี 1 ดอกเบ้ีย ครัง้ ที่ 2 10000 งวดท่ี 2 74000 รวมรายรบั 74000 รวมรายจา่ ย
สญั ญาท่ี RDG5740040211 รายงานวจิ ยั ฉบบั สมบรู ณ์ โครงงานยอ่ ยที่ 1 เรอื่ ง กระดาษจากขา่ (Galangal Paper) อาจารย์ที่ปรกึ ษาโครงงาน นายวรทุ ธ์ วรรณสุข นางสาคร ทองเทพ คณะผู้วิจัย(นักเรียน) นางสาวจรยิ า สุตะคาน นางสาวจฑุ ามาศ ทองประสาน นายอภวิ ัฒน์ คาแพงทอง สนบั สนุนโดยสานกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การวจิ ยั (สกว) และ บมจ.ธนาคารกสกิ รไทย ชุดโครงการ “เพาะพันธุ์ปัญญา (พฒั นายุววิจยั )”
กติ ติกรรมประกาศ การจัดทาโครงงานRBL เรื่อง กระดาษจากข่า(Galangal Paper) ในคร้ังนี้สาเร็จลุล่วงได้ต้องขอกราบ ขอบพระคุณ นายชาติชาย สิงห์พรหมสาร ผู้อานวยการโรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ นายเชิดชัย สิงห์คิบุตร รองผู้อานวยการโรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ท่ีให้คาชี้แนะ อานวยความสะดวกในการทาโครงงานครง้ั น้ี กราบขอบพระคุณ คุณครูวรุทธ์ วรรณสุข คุณครูสาคร ทองเทพ คุณครูเดชมณี เนาวโรจน์ ที่ให้ คาปรกึ ษา ดูแลแนะนา และแก้ไขข้อบกพร่องในการทาโครงงานทุกด้าน กราบขอบพระคุณ คณะครู บุคลากร ทางการศึกษา และเพื่อนนักเรียนท่ีคอยให้กาลังใจ จนกระท่ังโครงงาน เร่ือง กระดาษจากข่าสาเร็จลุล่วงไป ด้วยดี คณะผู้จัดทา
บทคัดย่อ ชอื่ โครงงาน กระดาษจากขา่ ชื่อผู้จัดทาโครงงาน นางสาวจรยิ า สุตะคาน นางสาวจฑุ ามาศ ทองประสาน นายอภวิ ัฒน์ คาแพงทอง ครูท่ีปรึกษา นายวรุทธ์ วรรณสขุ นางสาคร ทองเทพ โรงเรยี น สมเดจ็ พระญาณสังวร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ปีท่ที า พ.ศ. 2557 ข่าเป็นพืชที่มีประโยชน์ท้ังเป็นอาหารและเป็นสมุนไพร นอกจากน้ีข่ายังมีเส้นใยมาก ถ้าเรานาเส้นใย ของข่าในส่วนท่ีไม่ใช้ประโยชน์มาใช้งานร่วมกับกระดาษท่ีผ่านการใช้งานแล้ว ก็จะเป็นการเพ่ิมมูลค่าของ กระดาษใช้แล้วและข่าได้อย่างมากมาย จึงมีการทดลองการทากระดาษจากข่าเกิดข้ึนเพื่อ 1. อัตราส่วนท่ี เหมาะสมระหว่างกระดาษใช้แล้วกับข่า 2. เปรียบเทียบส่วนต่าง ๆ ของข่าที่นามาทากระดาษ ส่วนใดที่ เหมาะสมต่อการทากระดาษ ผลการทดลอง พบว่า อัตราส่วนที่เหมาะสมในการทากระดาษคือ อัตราส่วนท่ี ประกอบด้วยข่า 1 ส่วน : กระดาษ 2 ส่วน ในการทดสอบการดูดซับน้าโดยการหยดหมึก ปรากฏว่ากระดาษ จากเหง้าข่าดูดซับนาหมึกดีท่ีสุด รองลงมาก็เป็นกระดาษจากใบข่า และกระดาษจากลาต้นข่า ในการทดสอบ ความเหนียวโดยการทดสอบแรงดึงขาด ปรากฏว่ากระดาษจากเหง้าข่ามีแรงดึงขาดมากที่สุด รองลงมาก็เป็น กระดาษจากใบขา่ และกระดาษจากลาต้นข่า
บทนา ความเปน็ มาและความสาคัญของโครงงาน เน่ืองจากในปจั จบุ นั มกี ารผลติ กระดาษออกมาสู่ทอ้ งตลาดอยา่ งแพร่หลาย เพื่อตอบสนองความต้องการที่ จะใช้งานมากขึน้ ทกุ วัน ในกระบวนการผลติ กระดาษน้ันต้องใช้เส้นใยของไม้เป็นส่วนประกอบสาคัญ และต้อง ตัดไม้เพ่ือนาเส้นใยมาทากระดาษ ซึ่งการตัดต้นไม้นั้นทาให้เกิดภาวะโลกร้อน ทาลายแหล่งท่ีอยู่อาศัยของ สัตว์ และต้องใช้ระยะเวลาหลายปีกว่าต้นไม้จะสามารถนามาทากระดาษได้ ซ่ึงก็มีพืชหลายชนิดที่สามารถ นามาทาเป็นกระดาษได้ เช่น ใบเตย สปั ปะรด ข่า “ข่า” (Galangal) เป็นพืชพื้นเมืองของเอเชีย มีปลูกมากในแถบประเทศเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ข่ามี อยหู่ ลายพนั ธ์ แต่ท่ีใช้บริโภคกันมากคือ ขา่ หยวกหรอื ข่าหลวง และขา่ ใหญ่ ท้ังนี้ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ยังได้ศึกษาสมุนไพร ข่าลิง ข่าสามารถปลูกได้ตลอดปีโดยไม่จากัดฤดูกาล ถือเป็น สมนุ ไพรท่ีคนไทยคนุ้ เคยอย่างดี คนจานวนมากมองข้ามหรือรู้สึกว่าข่าเป็นพืชธรรมดาๆ ท่ัวไป ไม่มีอะไรพิเศษ นอกจากนามาใช้ประกอบอาหารเท่านั้น ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีการนามาใช้ในสปาซ่ึงมีน้ามันหอมระเหยหรือ อะโรมา่ ที่ให้กล่ินเพ่ือการบาบัด ทั้งยังมีสรรพคุณในการช่วยย่อยและช่วยทาลายสารพิษท่ีตกค้างอยู่ในลาไส้ มี ฤทธ์ิในการฆ่าเช้ือราและแบคทีเรียได้ดี แก้กลากเกล้ือน และยังมีสารท่ีสาคัญคือ Acetoxychavicol acetate (ACA) ซึ่งมีฤทธิ์ยับย้ังการเกิดมะเร็งจากการเหนี่ยวนาของสารเคมี เส้นใยข่า ลักษณะของเส้นใยข่าท่ีพัฒนา จากลาต้นข่าจากรปู ทรงตามภาคตัดขวาง (cross–section) พบว่ามีลักษณะเป็นเส้นใยเดี่ยวท่ียึดเกาะกันอยู่ใน ลักษณะ bundle ของเส้นใย และรูปทรงตามความยาวของเส้นใยข่า (long–section) ก็จะเห็นว่ามีเส้นใยอยู่ ภายในกลมุ่ ก้อนของ bundle นอกจากน้ยี ังมสี ่วนที่เป็นไขมัน กาว หรือ pectin ที่เป็นตัวยึดเกาะกลุ่มของเส้น ใยเข้าไวด้ ้วยกนั เม่ือนาเสน้ ใยข่ามาทดสอบคณุ สมบตั ทิ างกายภาพ พบว่ามีคา่ ความแข็งแรงเท่ากับ 0.96 นิวตัน หรือ ร้อยละ 4.27 ค่าขนาดของเส้นใย 39.30 Denier, 4.40 Tex หรือ 135.10 Ne และค่า Moisture content เท่ากับ 5.45 ( http://www.ttistextiledigest.com/articles/new-products/item/3214-เส้นใย ข่า-วัตถุดิบใหม่ของสิ่งทอ.html ) จากการค้นคว้าจากอินเทอร์เน็ตพบว่ามีการทากระดาษจากลาต้นข่า เพ่ือ ทาผลิตภัณฑ์ดอกไม้จันทน์ พวงหรีด ภาพนูนต่า ทาให้ชุมชนได้มีการริเริ่มคิดจะดามเนินการต่อยอดพัฒนา ผลิตภณั ฑ์เพ่ิมเติม คอื แฟม้ ใส่เอกสาร ดอมไมป้ ระดิษฐ์ กลอ่ งใส่ผลติ ภัณฑต์ าบลน้าหมัน เช่นกล้วยม้วน น้าพริก ฯลฯ และเกดิ การสรา้ งเครอื ขา่ ยระดับชุมชนคือหมู่บ้านทรายงามหมู่ 10 หมู่สมุนไพรอินทรีย์ผลิตกระดาษแล้ว นามาจาหน่ายให้กับหมู่ 3 ซ่ึงเป็นกลุ่มผู้สูงอายุในการผลิตดอกไม้จันทน์ พวงหรีด ในตาบลน้าหมัน และเป็น การกระจายรายได้และการใช้ประโยชน์จากลาต้นของข่า ซึ่งเหลือจากขายข่าสดและข่าตากแห้ง ( http://sci- center.uru.ac.th/service/2554-0019.pdf )
ดงั นน้ั คณะผู้จดั ทากจระงึ ดมาษแี จนากวข่าคขิดองทโค่จี รงะกนาราอบพรมชื กทารี่มทามี การะกดาใษนจาทกล้อางตน้ถข่ินา่ แและลผะลิตรภะณั ยฑะจ์ าเกวกลระาดาใษนขกา่ ารเจริญเติบโตเร็วมาทา เปน็ กระดาษเพ่อื ลดการตัดตน้ ไม้ โดยเราคิดว่าน่าจะนาข่ามาทาเป็นกระดาษ เพราะมีการเจริญเติบโตเร็วกว่า ต้นไม้ เราทราบกันดีว่า ข่าเป็นพืชที่ใช้ในการประกอบอาหารและมีสรรพคุณมากมาย มีมากในท้องถ่ินและ โรงเรียนของเรา ใช้เวลาในการเจริญเติบโตเร็ว เก็บเกี่ยวได้เร็วและมีอายุส้ันซ่ึงในการทดลองขณะผู้จัดทาได้มี การเปรียบเทียบ กระดาษจากส่วนประกอบต่างๆของข่า ซึ่งส่วนท่ีเรานามาศึกษาคือ ใบ ลาต้น และเหง้า โดย ในการทากระดาษข่าน้ันเราจะนาเอากระดาษรีไซค์เคิลมาเป็นตัวเช่ือมเพ่ือให้เส้นใยยึดติดกัน หลังจากที่ได้ กระดาษจากส่วนประกอบตา่ งๆของขา่ มาเราจะทดสอบคุณภาพของกระดาษจากความเหนียว การดูดซับน้า สี และลวดลาย และผวิ สัมผัส ท้ังนี้เราสามารถนากระดาษจากข่ามาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น กระดาษห่อ ของขวญั การด์ อวยพร วตั ถุประสงค์ เพือ่ ศึกษาคุณภาพกระดาษจากส่วนประกอบต่างๆของข่า
สมมตุ ิฐาน : กระดาษทผ่ี ลติ ขนึ้ จากเสน้ ใยสว่ นประกอบตา่ งๆของขา่ มีคณุ ภาพตา่ งกัน ตวั แปร โครงงานนมี้ ีตวั แปรต่อไปน้ี และแสดงผงั เหตุ-ผลในรปู ตอ่ ไปนี้ ตัวแปรอิสระ คือ กระดาษจากสว่ นประกอบตา่ งๆของขา่ ได้แก่ ใบ ลาต้น เหง้า ตัวแปรตาม คือ คณุ ภาพของกระดาษที่ได้จากสว่ นประกอบต่างๆของข่า ตัวแปรควบคมุ คือ ปริมาณข่า ปรมิ าณโซเดียมไฮดรอกไซค์ อณุ หภูมขิ องนา้ ระยะเวลาในการตม้ ใบ ความเหนียว ลาต้น กระดาษ ทดสอบคณุ ภาพ การดดู ซบั น้า กระดาษ สงั เกตสีและ เหงา้ ลวดลาย ผิวสัมผัส ผังเหตุ-ผล หรอื ตวั แปรต้น (เหต)ุ ตวั แปรตาม (ผล) ของโครงงานฐานวิจยั นี้
แนวคดิ และทฤษฎีที่เกี่ยวขอ้ ง ขา่ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ : Alpiniagalanga (L.) Willd. ช่ือสามญั : Galanga วงศ์ : Zingiberaceae ชือ่ อนื่ : ขา่ หยวก ข่าหลวง (ภาคเหนอื ) , กฏกุ กโรหนิ ี (ภาคกลาง) ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไมล้ ้มลุก สูง 1.5-2 เมตร เหง้ามีข้อและปล้องชัดเจน ใบ เดี่ยว เรียงสลับ รูปใบหอก รูปวงรีหรือเกือบขอบขนาน กว้าง 7-9 ซม. ยาว 20-40 ซม. ดอก ช่อ ออกที่ยอด ดอกย่อยขนาด เลก็ กลบี ดอกสขี าว โคนตดิ กันเป็นหลอดส้นั ๆ ปลายแยกเป็น 3 กลีบ กลีบใหญ่ท่ีสุดมีริ้วสีแดง ใบประดับรูปไข่ ผล เปน็ ผลแห้งแตกได้ รูปกลม สรรพคณุ : ขา่ เปน็ พชื ทีน่ ามาใชป้ ระโยชน์ทางดา้ นอาหารมากมาย ใช้ใส่ในต้มข่า ต้มยา น้าพริกแกงทุก ชนิดใส่ข่าเป็นส่วนประกอบ ยกเว้น แกงเหลืองและแกงกอและทางภาคใต้ท่ีไม่นิยมใส่ข่า มีบทบาทในการดับ กล่ินคาวของเนื้อและปลา นอกจากน้ัน ข่ายังมีฤทธ์ิทางยา เหง้าแก่แก้ปวดท้อง จุกเสียด แน่น ดอกใช้ทาแก้ กลากเกล้ือน ผลช่วยย่อยอาหาร แก้คลื่นเหียน อาเจียน ต้นแก่นาไปเคี่ยวกับน้ามันมะพร้าว ทาแก้ปวดเม่ือย เปน็ ตะคริว ใบมีรสเผด็ รอ้ น แก้พยาธิ สารสกัดจากขา่ มีฤทธิฆ์ ่าเช้ือแบคทีเรีย น้ามันหอมระเหยจากข่ามีฤทธิ์ทา ให้ไขแ่ มลงฝ่อ กาจดั เช้ือราบางชนิดได้ ใช้ผสมกับสะเดาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกาจัดแมลงข่า ลดการบีบ ตัวของลาไส้ ขับน้าดี ขับลม ลดการอักเสบ ยับยั้งแผลในกระเพาะอาหาร ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ฆ่าเช้ือราใช้รักษา กลากเกล้ือน ประโยชนข์ องขา่ 1.ชว่ ยให้เจรญิ อาหาร (ขา่ หลวง) 2.ช่วยบารงุ รา่ งกาย (เหง้า) 3.ชว่ ยบารงุ ธาตุไฟ (หนอ่ ) 4.ข่ามีสาร 1-acetoxychavicol acetate (ACA) ซึ่งมีฤทธ์ิยับย้ังการเกิดโรคมะเร็งจากการ เหนียวนาของ สารกอ่ มะเรง็ จงึ ชว่ ยป้องกันการเกิดโรคมะเรง็ ไปด้วยในตัว (เหง้า) 5.มฤี ทธิ์ช่วยยบั ยง้ั การเจรญิ เติบโตของเซลลม์ ะเรง็ (สารสกดั จากเหงา้ ) 6.สารสกดั จากเหง้ามฤี ทธช์ิ ่วยชว่ ยลดระดับน้าตาลในเลือด (สารสกดั จากเหง้า) 7.ช่วยรักษาโรคหลอดลมอักเสบ (เหง้าแก่,สารสกดั จากเหงา้ )
8.ช่วยขับเลือดลมให้เดินสะดวก ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและเพิ่มการเผาผลาญของร่างกายให้ดีข้ึน (ราก) 9.น้ามันหอมระเหยจากข่ามีประโยชน์อย่างมากต่อระบบทางเดินหายใจ จึงมีส่วนช่วยแก้อาการหวัด ไอ และ เจบ็ คอไดเ้ ปน็ อย่างดี (สารสกัดจากเหง้า) ( http://health.kapook.com/view65106.html ) กระดาษสาจากลาต้นขา่ อบรมการทากระดาษจากลาต้นข่าและผลิตภัณฑ์จากกระดาษข่า วันท่ี 7 – 8 กันยายน 2554 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเร่ือง การท ากระดาษจากลาต้นข่า เพื่อทาผลิตภัณฑ์ดอกไม้จันทน์ พวงหรีด ภาพนูนตา่ ทาให้ชมุ ชนไดม้ กี ารรเิ รม่ิ คิดจะดาเนนิ การต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม คือแฟ้มใส่เอกสาร ดอม ไม้ประดิษฐ์ กล่องใส่ผลิตภัณฑ์ตาบลน้าหมัน เช่นกล้วยม้วน น้าพริก ฯลฯ และเกิดการสร้างเครือข่ายระดับ ชุมชนคือหม่บู า้ นทรายงามหมู่ 10 หมู่สมุนไพรอินทรีย์ผลิตกระดาษแล้วน้ามาจาหน่ายให้กับหมู่ 3 ซ่ึงเป็นกลุ่ม ผู้สูงอายุในการผลิตดอกไม้จันทน์ พวงหรีด ในตาบลน้าหมัน และเป็นการกระจายรายได้และการใช้ประโยชน์ จากลาต้นของข่า ซ่งึ เหลือจากขายข่าสดและขา่ ตากแห้ง ( http://sci-center.uru.ac.th/service/2554-0019.pd ) กระดาษสา เป็นกระดาษพืน้ เมอื งทางภาคเหนอื ที่ผลิตดว้ ยมือวธิ กี ารทากระดาษสาถกู เผยแพร่เข้ามา พร้อมกับ พทุ ธศาสนา จากประเทศจนี เพ่ือใช้ทาบันทึกคาส่งั สอนดงั น้ันการใช้กระดาษสาของชาวพ้ืนเมืองทางภาคเหนือ จึงเกี่ยวข้องกับศิลปวัฒนธรรมประเพณีและพิธีกรรมทางพุทธศาสนาอย่างมากกล่าวคือ การตกแต่งถวายทาน แทบทุกประเภท จะตกแต่งด้วยกระดาษสาทาสีต่าง ๆให้สวยงาม เพ่ือใช้ในงานเทศกาลต่างๆ ของวัด และ พิธีกรรมต่าง ๆ กระดาษสาท่ีทากันโดยท่ัวไปในภาคเหนือของประเทศไทยเป็นอุตสาหกรรมในครอบครัวที่นับได้ ว่าเป็นการสืบทอดศิลปวัฒนธรรมมาจากบรรพบุรุษ ส่วนใหญ่ทาข้ึนเพื่อใช้เป็นกระดาษทาร่ม ทาว่าว ทา กระดาษห่อของขวญั ตลอดจน โคมไฟกระดาษสาซึง่ นบั วา่ เปน็ ทีน่ ยิ มอยา่ งมาก ในกล่มุ คนท่ีรักและช่ืนชอบงาน กระดาษสา ลักษณะการใช้งาน ใช้ตกแต่งบ้านเรือน เป็นโคมไฟหัวนอนใช้ถวายบูชา อีกท้ังยังมีราคาถูกเป็นท่ี ทกุ คนสามารถซอ้ื ได้ และการบารุงรักษาง่าย สะดวกต่อการใช้งาน การผลิตกระดาษสามีลักษณะการผลิตเพื่อ ใชใ้ นครัวเรอื นเมื่อมีความตอ้ งการและเห็นประโยชน์จากกระดาษสามากขึ้นจึงมีการปรับเปลี่ยนเป็นหัตถกรรม ขนาดย่อมนอกจากจะประดิษฐ์เป็นของใช้แล้ว เช่น ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพ่ือเป็นของท่ีระลึกมากขึ้นใน ปจั จบุ ันมกี ารนาเส้นใยตา่ ง ๆ เช่น ปอแก้ว หญา้ คา และกก มาแปรรูเปน็ ผลิตภณั ฑก์ ระดาษดว้ ย ( http://www.lannaway.com/home/post/ประวัติกระดาษสา ) การเปรยี บเทียบคุณภาพกระดาษผลติ ด้วยมือ การศึกษาน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือ เปรียบเทียบคุณภาพของกระดาษที่ผลิตด้วยมือจากวัสดุเหลือใช้ และ วัชพชื ได้แก่ กระดาษผักตบชวา กระดาษกาบกล้วย กระดาษธูปฤาษีผลการศึกษาพบว่า กระดาษผลิตด้วยมือ จากวัตถุดิบท่ีต่างกัน จะทาให้คุณภาพของกระดาษแตกต่างกัน ซึ่งใช้วิธีการทดสอบและเปรียบเทียบคุณภาพ
ของกระดาษผลิตด้วยมือด้วยวิธีการ 3 วิธีคือ 1) การทดสอบความเหนียว โดยการฉีก 2) การทดสอบการดูด ซบั นา้ โดยการหยดนา้ หมกึ 3) การสังเกตลักษณะของสี ลวดลาย และผวิ สมั ผสั โดยมตี ัวแปรควบคุมคือ กระดาษลัง( http://www.kruarare.com/Scripts/c2.pdf ) กระดาษรไี ซเคลิ ปัญหาใหญข่ องขยะประเภทหนึ่งคือ ผลิตภัณฑ์ในรูปกระดาษที่ผลิต ออกมาเป็นจานวนมาก และในจานวน ที่ผลิตออกมาอย่างมหาศาลนี้มีเพียง ไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ท่ีได้มีการนากระดาษท่ีใช้แล้วไป ทา ผลิตภณั ฑใ์ หมอ่ ีกครั้ง จานวนท่เี หลอื จึงกลายเปน็ ขยะอย่ใู นแหล่ง ท้ิงขยะ ในปีหน่ึง ๆ ปรากฏว่าด้วยจานวน นับล้าน ๆ ของใบปลิวโฆษณาทางไปรษณีย์ คูปอง ใบขอบริจาค แคตตาล็อกต่าง ๆ และหน้าโฆษณาในหน้า หนงั สือพิมพ์ จะมีเพียงประมาณนบั พนั แผ่นเท่านัน้ ทีไ่ ดผ้ า่ นการอา่ นและที่เหลือนอกจากน้ันได้กลายเป็นขยะใน ถงั ขยะโดยไมผ่ า่ นการอา่ นเลย จึงเป็นการใช้ทรพั ยากรท่สี ้นิ เปลืองทส่ี ุด ( https://web.ku.ac.th/schoolnet/snet6/envi4/recycle/paper.htm )
อปุ กรณ์และวธิ ีการทดลอง อุปกรณ์ 1. ข่า 2. กระดาษรีไซค์เคิล 3. เครือ่ งป่นั 4. หม้อ 5. มีด 6. กรรไกร 7. กะละมัง 8. เตาแก๊ส 9. ตะแกรง 10. หมกึ 11. ไม้บรรทดั 12. นาฬกิ าจับเวลา 13. เครื่องชง่ั สปริง วธิ กี ารทดลอง ขนั ตอนการทากระดาษ 1. นากระดาษรไี ชเคลิ มาฉกี ใหเ้ ปน็ ช้นิ เล็กๆ จากนนั้ นามาแช่นา้ 3 – 4 ช่ัวโมงเพอื่ ใหก้ ระดาษอ่อนตัว 2. นากระดาษท่ีแชน่ ้าแล้วมาปนั่ ใหล้ ะเอยี ด 3. นาขา่ ที่ขดุ ขึ้นมาลา้ งใหส้ ะอาดแล้วนามาแบ่งเป็นส่วนประกอบตา่ งๆ คือ ใบ ลาตน้ เหง้า 4. นาใบ ลาตน้ เหงา้ มาหนั่ แลว้ ปัน่ ให้ละเอยี ด 5. นาใบ ลาตน้ เหงา้ ท่ปี ัน่ แล้วมาตม้ โดยแยกหม้อตม้ โดยผสมกระดาษในอัตราส่วน กระดาษ 2 ส่วน ต่อ ข่า 1 ส่วน เราจะใชเ้ วลาในการตม้ 1 ชว่ั โมง 6. นาเส้นใยท่ีผสมกระดาษมาร่อนในตะแกรงแล้วนาไปผงึ่ ใหแ้ หง้ 7. นากระดาษทไ่ี ด้ออกจากตะแกรง
ขันตอนการทดสอบกระดาษ ทดสอบการดดู ซับนา นากระดาษทไี่ ดจ้ ากสว่ นต่างๆของขา่ มาตัดด้วยความยาว 10 เซนตเิ มตร ความกว้าง 10 เซนติเมตร นากระดาษทตี่ ดั มาหยดหมกึ ลง 1 หยดทุกแผน่ วดั ระยะการแพรข่ องน้าหมกึ ทหี่ ยดทุกๆ 15 30 45 60 วนิ าที่ บนั ทึกในตารางบันทึกผล ทดสอบความเหนียว นากระดาษทไ่ี ดจ้ ากสว่ นต่างๆของขา่ มาตดั ดว้ ยความยาว 5 และ 10 เชนติเมตร ความกวา้ ง 1.5 เชนติเมตร นากระดาษท่ีตัดได้มาทดสอบความเหนียวกันเครื่องชั่งสปริง โดยนากระดาษมาคล้องกับปลายเครื่องชั่งสปริง ใช้มอื ขา้ งหนงึ่ จับเคร่อื งช่งั สปรงิ ไวแ้ ละใช้อกี ขา้ งหนึง่ ดึงกระดาษทคี่ ล้องกับปลายเครือ่ งชง่ั สปรงิ จนกระดาษขาด อ่านค่าและบนั ทึกผลในตารางบันทึกผล
ผลการวจิ ัย จากการทาการทดลอง เราจะหาอัตราส่วนระหว่างกระดาษและข่าท่ีเหมาะสมในการทากระดาษและ ทดสอบคณุ ภาพกระดาษที่ได้จากกส่วนประกอบตา่ งๆของข่า ตารางท่ี 1 หาอตั ราส่วนท่เี หมาะสมในการทากระดาษ อัตราสว่ นของ ขา่ : กระดาษ กระดาจากส่วนตา่ งๆ 1:1 1:2 ของขา่ 2 : 1 กระดาษจากใบขา่ กระดาษจากลาต้นข่า กระดาษจากเหง้าขา่
ตารางท่ี 2 แสดงใหเ้ ห็นการดูดซบั หมกึ ของกระดาษจากขา่ โดยการหยดหมกึ เวลาท่ใี ช้ในการทดลอง ระยะการแพร่ของนา้ หมึก ( เชนติเมตร ) ( วินาที ) กระดาษจากใบขา่ กระดาษจากลาตน้ ขา่ กระดาษจากเหง้าข่า 15 1.1 0.8 1.3 30 1.2 0.9 1.3 45 1.2 1 1.4 60 1.2 1 1.4 ตารางท่ี 3 ผลการทดสอบความเหนยี ว โดยการทดสอบแรงดงึ ขาด ความกวา้ ง และความ กระดาษจากใบขา่ แรงดึง ( นวิ ตนั ) กระดาษจากเหง้าข่า ยาวของกระดาษ 4 กระดาษจากลาตน้ ขา่ 5.4 ( เชนตเิ มตร ) 5.8 1.8 5 10 4.5 2.9
กราฟแสดงผลการทดลองการดดู ซับหมึกของกระดาษจากส่วนต่างๆของขา่ 1.6 กรดาษจากใบขา่ 1.4 กระดาษจากลาต้นขา่ 1.2 กระดาษจากเหง้าขา่ 1 30 วินาที 45 วินาที 60 วินาที 0.8 0.6 0.4 0.2 0 15 วนิ าที กราฟแสดงผลการทดลองแรงดงึ ขาดของกระดาษจากส่วนต่างๆของขา่ 7 กระดาษจากใบขา่ 6 กระดาษจากลาต้นขา่ 5 กระดาษจากเหง้าขา่ 4 3 10 cm 2 1 0 5 cm
อภิปรายผล จากการทดลองเราจะทาการทดลอง 2 ขั้นตอนคือ ทดลองหาอัตราส่วนท่ีเหมาะสมและทดสอบกระดาษ ในการทดลองหาอัตราส่วนที่เหมะสมในการทากระดาษ ในตารางที่ 1 แสดงให้เห็นว่าอัตราส่วน 2 : 1 เส้น ใยไม่ค่อยเชื่อมต่อกัน ผิวสัมผัสไม่เรียบขาดง่าย อัตราส่วน 1 : 1 เส้นใยเช่ือมต่อกันบ้างแต่ผิวสัมผัสไม่เรียบ อัตราส่วน 1 : 2 เส้นใยเชื่อมต่อกัน ผิวสัมผัสเรียบ ดูสวยงามเราจึงใช้อัตราส่วนน้ีในการทดสอบกระดาษ เมื่อ ได้อัตราส่วนท่ีเหมาะสมแล้วก็นามาทากระดาษตามขั้นตอนการทากระดาษเมื่อได้กระดาษจากส่วนประกอบ ตา่ งๆของข่าแล้ว ก็นามาทดสอบกระดาษโดยเราทดสอบการดูดซับน้าและความเหนียว ในการทดสอบการดูด ซับน้าเราจะทดสอบโดยการหยดหมึก ซ่ึงในการทดลองนี้เราจะวัดระยะการแพร่ของน้าหมึกที่หยดลงไปทุกๆ 15, 30, 45, 60 วนิ าที ผลการทดลองในตารางที่ 2 แสดงให้เห็นวา่ การแพร่ของน้าหมึกจะมมี ากในช่วงวินาทีท่ี 0-30 และจะเร่ิมคงตัวที่วินาทีที่ 30-60 ในการทดสอบความเหนียวเราจะวัดจากแรงดึงขาด ดังที่แสดงใน ตารางท่ี 3 จะเห็นว่าความยาวเป็นปัจจัยท่ีส่งผลต่อความเหนียว ซ่ึงในการทดลองเราใช้ความยาว 5 และ 10 เชนติเมตร ทคี่ วามยาว 10 เชนติเมตรจะมแี รงดงึ ขาดมากกว่าความยาวที่ 5 เชนตเิ มตร สรุปผล จากการทดลองสรปุ ผลไดว้ า่ อตั ราสว่ นท่เี หมาะสมในการทากระดาษคือ อัตราส่วนที่ประกอบด้วยข่า 1 ส่วน : กระดาษ 2 ส่วน การทดสอบการดูดซับน้าโดยการหยดหมึก ปรากฏว่ากระดาษจากเหง้าข่าดูดซับน้า หมึกดีที่สุด รองลงมาก็เป็นกระดาษจากใบข่า และกระดาษจากลาต้นข่า ในการทดสอบความเหนียวโดยการ ทดสอบแรงดึงขาด ปรากฏว่ากระดาษจากเหง้าข่ามีแรงดึงขาดมากท่ีสุด รองลงมาก็เป็นกระดาษจากใบข่า และกระดาษจากลาตน้ ข่า เอกสารอ้างองิ http://frynn.com/ข่า/ http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_02_1.htm http://www.clinictech.most.go.th/online/pages/techlist_display.asp?tid=489 http://sci-center.uru.ac.th/service/2554-0019.pdf http://www.ttistextiledigest.com/articles/new-products/item/3214-เส้นใยขา่ -วตั ถดุ ิบใหม่ของสง่ิ ทอ.html http://www.kruarare.com/Scripts/c2.pdf
สญั ญาท่ี RDG5740040211 รายงานวิจัยฉบบั สมบูรณ์ โครงงานยอ่ ยที่ 2 เรื่อง ขา่ ผง (Galangal Powder) อาจารย์ทป่ี รึกษาโครงงาน นางสาวยาใจ เจรญิ พงษ์ นายเดชมณี เนาวโรจน์ นายกิตตพิ งษ์ บญุ สาร คณะผู้วจิ ัย(นักเรียน) นางสาวปรารถนา แสวงศรี นาย นนทวฒั น์ หลกั คา นางสาวยุภาวดี เมฆมล สนับสนนุ โดยสานกั งานกองทุนสนับสนนุ การวจิ ยั (สกว) และ บมจ.ธนาคารกสกิ รไทย ชดุ โครงการ “เพาะพันธ์ปุ ญั ญา (พัฒนายุววจิ ยั )”
กิตติกรรมประกาศ ในการจัดทาโครงงานเรื่อง ข่าผง ในครั้งนี้โครงงานวิจัยนี้ได้รับการสนับสนุนการจากวิจัย โครงการวิจัยสานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ( ส ก ว ) ขอกราบขอบพระคุณ นายชาติชาย สิงห์พรมสาร ผู้อานวยการโรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ นายเชิดชัย สิงห์คิบุตร รองผู้อานวยการ โรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ที่ให้การสนับสนุน และส่งเสริมให้นักเรียนได้พัฒนา ทักษะการคิด การทาโครงงาน ให้คาชี้แนะและอานวยความสะดวกในการทาโครงงานครัง้ นี้ กราบขอบพระคณุ คณุ ครูเดชมณี เนาวโรจน์ คณุ ครูยาใจ เจริญพงษ์ และคุณครูกิตตพิ งษ์ บญุ สาร ทใ่ี ห้คาปรึกษา ดแู ล แนะนาและแก้ไขข้อบกพร่อง ในการทาโครงงานทกุ ด้าน กราบขอบพระคณุ คณะครูและ บุคคลากรทางการศกึ ษา และสมาชิกในครอบครวั ทคี่ อยช่วยเหลอื ในการทาโครงงาน อกี ทงั้ เพ่ือนนกั เรยี นท่ี คอยให้กาลงั ใจ จนกระทง่ั โครงงาน เร่ือง ข่าผง สาเร็จลลุ ว่ ง ขอขอบคุณทุกท่านทมี่ ีส่วนเก่ยี วข้องให้งานบรรลุ ตามวัตถปุ ระสงค์
บทคัดย่อ โครงงานเรอื่ งขา่ ผง การหาผงแป้งในข่าผง โดยการนาหัวข่า มาชัง่ นา้ หนกั ให้ได้ 1800 g หน่ั เป็นช้นิ เล็กๆ แลว้ นามาปั่นใหล้ ะเอยี ด โดยใช้น้า 1000 ml เปน็ สว่ นผสม กรองเอาเฉพาะน้าขา่ แลว้ ทิง้ ไว้ใหต้ กตะกอน เทนา้ ใสอย่ดู ้านบนทิ้ง เอาเฉพาะเนื้อข่า ไปเทลงบนถาดสแตนเลส เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 60 cm โดยเทใสใ่ นถาด 5 ใบ นา้ หนักขา่ ถาดละ 360 g เทา่ กัน ใบที่ 1 ระยะเวลาการทดลอง 5 นาที น้าหนักผงข่า 6.4 g ใบท่ี 2 ระยะเวลาการทดลอง 15 นาที นา้ หนกั ผงขา่ 6.3 g ใบท่ี 3 ระยะเวลาการทดลอง 25 นาที น้าหนักผงข่า 6.4 g ใบที่ 4 ระยะเวลาการทดลอง 32 นาที นา้ หนักผงข่า 6.4 g และใบที่ 5 ระยะเวลาการทดลอง 42 นาที น้าหนักผงข่า 6.5 g น้าหนักรวมขาผงท้งั หมดได้ 32 g การตากเน้ือขา่ ที่ตกตะตอน โดยหวั ขา่ 1800 g ตอ่ นา้ 1000 ml ระยะเวลาในการตากแดด 14.00 – 14.42 น. ศึกษาดูว่า นา้ หนกั ของผงขา่ ทไ่ี ด้ มีนา้ หนักเท่าใด ผงข่าทไ่ี ด้มสี มบัตเิ ป็นแปง้ หรือไม่ โดยใชห้ ลอดทดลองขาดเล็ก ใสส่ ารละลายน้ากลนั่ 5 ml ใส่ผงขา่ ½ ชอ้ นชา เขย่าให้เขา้ กนั พบวา่ เปน็ สีขาวข่นุ เม่อื ทดสอบหยดสารละลายไอโอดนี (สีเหลอื ง) จานวน 2 หยด ลงไป พบว่า เปลยี่ นจากสเี หลอื งเป็นสนี า้ เงินอมมว่ งแสดงว่ามแี ป้งในผง และเมื่อทดสอบการละลายน้า ระหว่างน้า อณุ หภมู ิห้อง น้ารอ้ น และน้าเยน็ นา้ ชนิดไหนจะเป็นตวั ทาละลายไดด้ ีกว่ากัน พบวา่ น้าร้อนมคี ุณสมบตั เิ ป็น ตวั ทาละลายไดด้ ีกว่าน้าเย็นและนา้ อุณหภูมหิ อ้ ง
บทนา ขา่ เปน็ พืชที่มีความสาคัญทางเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ สร้างอาชีพให้คน ไทย ผู้ศึกษาได้เรียนรู้วัฒนธรรมเส้นทางความเป็นมาของข่าที่เกี่ยวข้องกับวิถีการดาเนินชีวิตของคนไทย และ ยังสร้างรายได้ท่ีย่ังยืนให้กับเกษตรกรอีกหลายชีวิต ดังนั้นจึงมีแนวคิดท่ีจะนาข่าสดมาแปรรูปเป็นข่าผงเพ่ือ อานวยความสะดวกในการนาใช้ประโยชน์ และเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบ ทั้งยังเป็นการหานวัตกรรมใหม่ๆมาใช้ ให้เหมาะกับยุคสมยั อีกทางหนึ่ง ดงั เชน่ ผลติ ภัณฑจ์ ากการเกษตรหลายชนดิ ทีม่ จี าหน่ายในท้องตลาด ความเปน็ มาและความสาคญั ของโครงงาน ขา่ เป็นสมนุ ไพรท่ีคนไทยนิยมใชม้ ากเพราะข่าปลูกข้นึ ง่ายทนทานไมต่ ้องการการดแู ลอะไรมากนกั มีอายุ ยืนยาว ไม่มกี ารลงหัวเปน็ สมุนไพรท่ีคนไทยคุ้นเคยอยา่ งดี คนจานวนมากจงึ มองข้ามหรือร้สู กึ ว่าขา่ เป็นพชื ธรรมดาๆ ไมม่ ีอะไรพิเศษแต่ถา้ ลองทบทวนคดิ ถึงปัญหาของบรรพบรุ ุษเรากจ็ ะพบความแปลกใจท่ีคนรุ่นก่อน ชา่ งสรรหาพืชชนิดนมี้ าเปน็ สมนุ ไพรประจาครัวไทยเพราะเหตุผลงา่ ยๆ พืชชนดิ นส้ี ามารถนามาใช้ประโยชน์ ทางอาหารและสขุ ภาพรา่ งกายมาใชใ้ นการปรงุ อาหารและใช้เปน็ สมนุ ไพร นอกจากนี้ข่ายังเป็นประเด็นหลักในโครงการเพาะพันธ์ปัญญาของโรงเรียนแล ะเป็นพืชศึกษางานสวน พฤกษศาสตรข์ องโรงเรียน ด้วยเหตุผลและความมหศั จรรยข์ องขา่ ทก่ี ล่าวมาข้างต้นนี้ ทาให้เราตระหนักและเห็นคณุ ค่าของพืชชนิดนี้ มากขึน้ จึงเปน็ จดุ สนใจในการทาโครงงานเรอื่ งข่าผงเพ่ือมาใชป้ ระโยชน์เปน็ ยาชงสมุนไพรจากข่า สมมุติฐานโครงงาน : ข่าผงที่ได้มีแป้งเป็นส่วนประกอบ และมีสมบัติในการละลายน้าในอุณหภูมิที่ แตกตา่ งกัน ตัวแปรต้น ขา่ ใหญ่ ตัวแปรตาม ผงขา่ 32 กรมั มแี ปง้ เป็นองค์ประกอบ ละลายในน้าร้อนได้ดีกว่านา้ เยน็ ตวั แปรควบคุม น้าหนักของข่า ปริมาณของน้าเปล่า ส่วนของขา่ แหลง่ ความร้อน ภาชนะที่ใช้ตาก
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196