Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แนวทางการอ่านได้-คล่อง และเขียนได้-คล่อง

แนวทางการอ่านได้-คล่อง และเขียนได้-คล่อง

Published by Plaifa Amornrattakun, 2019-06-24 11:20:58

Description: 01 ด้านการอ่านได้ อ่านคล่อง เขียนได้ เขียนคล่อง

Search

Read the Text Version

เทคนคิ วิธกี ารจัดกจิ กรรมการเรยี นรู เพื่อขับเคล่ือนจดุ เนน การพฒั นาคุณภาพผเู รยี น ดานอานออก อานคลอง เขียนได เขยี นคลอง สํานกั วชิ าการและมาตรฐานการศึกษา สาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ

เทคนิค วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู ้ เพอื่ ขบั เคลอื่ นจดุ เนน้ การพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น ดา้ นอา่ นออก อา่ นคลอ่ ง เขยี นได้ เขยี นคลอ่ ง เอกสารสง่ เสริมสนับสนนุ การดำเนินงาน ตามนโยบาย สพฐ. จุดเน้นด้านผเู้ รียน สำนักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน 2559

เทคนิค วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพ่ือขับเคลื่อนจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ด้านอ่านออก อ่านคล่อง เขยี นได้ เขียนคลอ่ ง ปีทีพ่ มิ พ ์ พ.ศ. 2559 จำนวนพิมพ ์ 35,000 เล่ม ลิขสิทธ์ ิ สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ พิมพ์ที ่ โรงพิมพช์ มุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จำกัด 79 ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตจุ กั ร กรุงเทพมหานคร 10900 โทร. 0-2561-4567 โทรสาร 0-2579-5101 นายโชคดี ออสุวรรณ ผู้พมิ พผ์ ้โู ฆษณา

คำนำ ด้วยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีนโยบายท่ีมุ่งให้ การศึกษาข้ันพื้นฐานของประเทศไทยได้พัฒนาไปในทิศทางท่ีสอดคล้องกับ การเปล่ียนแปลงของสังคมไทยและสังคมโลก บนพื้นฐานของความเป็นไทย อีกทั้งให้ความสำคัญกับการสร้างมาตรฐานเด็กไทย และได้กำหนดจุดเน้น การพัฒนาคุณภาพด้านผู้เรียนท่ีครอบคลุมทั้งในด้านความรู้ ความสามารถ และคุณลักษณะ ดังน้ันการแสวงหา เทคนิค วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สำหรับให้ครูผู้สอนนำไปใช้ในการพัฒนาผู้เรียนตามจุดเน้นได้อย่างเป็นรูปธรรม สนองตามแนวนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นับเป็น เครื่องมือท่ีสำคัญ อันจะส่งผลให้การดำเนินงานตามนโยบายบรรลุตามเป้าหมาย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงได้จัดทำเอกสารชุดเทคนิค วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพ่ือขับเคล่ือนจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน จำนวน 12 รายการข้ึน ซึ่งประกอบด้วย 1. ด้านอ่านออก อา่ นคล่อง เขียนได้ เขยี นคลอ่ ง 2. ด้านคดิ เลขเปน็ คดิ เลขคล่อง 3. ดา้ นการคิดขัน้ พนื้ ฐาน 4. ดา้ นการคดิ ขัน้ สูง 5. ดา้ นการสื่อสารอย่างสรา้ งสรรคต์ ามชว่ งวยั 6. ดา้ นการใชภ้ าษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) 7. ด้านการใช้เทคโนโลยเี พื่อการเรยี นรู้ 8. ด้านการแสวงหาความรูด้ ว้ ยตนเอง

9. ด้านใฝเ่ รยี นร้ ู 10. ด้านใฝด่ ี 11. ด้านทกั ษะชีวิต 12. ดา้ นอยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มงุ่ มัน่ ในการศึกษาและการทำงาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารชุดเทคนิค วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพ่ือขับเคลื่อนจุดเน้นการพัฒนา คุณภาพผู้เรียน จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้บรรลุตาม นโยบายของสำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน และสนองตามแนวทาง การปฏริ ปู การเรยี นรูข้ องกระทรวงศกึ ษาธิการไดต้ อ่ ไป อีกทั้งขอขอบคณุ ทุกทา่ น ทม่ี ีสว่ นรว่ มในการจัดทำเอกสารชุดน้ีใหส้ ำเรจ็ ลุลว่ งด้วยดี (นายกมล รอดคล้าย) เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน

คำชแี้ จง เอกสารชุดเทคนิค วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพ่ือขับเคล่ือนจุดเน้น การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน มีจำนวน 12 ด้าน จัดทำเป็นเอกสาร จำนวน 12 เล่ม ดังนี้ 1. ดา้ นอา่ นออก อา่ นคลอ่ ง เขยี นได้ เขยี นคล่อง 2. ดา้ นคดิ เลขเป็น คดิ เลขคล่อง 3. ด้านการคิดขนั้ พื้นฐาน 4. ด้านการคดิ ขัน้ สงู 5. ด้านการส่ือสารอย่างสร้างสรรค์ตามช่วงวยั 6. ดา้ นการใชภ้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) 7. ดา้ นการใช้เทคโนโลยเี พื่อการเรียนร้ ู 8. ดา้ นการแสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเอง 9. ดา้ นใฝเ่ รียนร ู้ 10. ดา้ นใฝด่ ี 11. ดา้ นทักษะชวี ิต 12. ดา้ นอย่อู ยา่ งพอเพียง มงุ่ มั่นในการศกึ ษาและการทำงาน ในแต่ละด้านได้จากการถอดประสบการณ์ผลงานของครูผู้สอนท่ีม ี ความโดดเดน่ ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน โดยเขตพื้นทกี่ ารศึกษาแต่ละเขต ทั่วประเทศ ได้คัดเลือกและบันทึกการสาธิตเทคนิค วิธีการจัดกิจกรรมการเรียน การสอนลงใน DVD ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ถอดเทคนคิ วธิ กี ารดงั กลา่ วจดั ทำเปน็ เอกสารเผยแพรส่ ำหรบั เปน็ แนวทางใหค้ รผู สู้ อน ทั่วไปได้นำไปปฏิบัติ เพ่ือร่วมขับเคล่ือนนโยบายจุดเน้นด้านผู้เรียนให้เกิดผล อยา่ งเปน็ รปู ธรรมต่อไป



สารบญั เรื่อง หนา้ คำนำ คำชแ้ี จง สารบญั เทคนคิ วธิ ีการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ท่ีสอดคล้องกับ พัฒนาการทางสมอง (Brain-Based Learning) 1 เทคนคิ วธิ ีการจดั กจิ กรรมการเรยี นรใู้ หอ้ ่านออก เขียนได้ โดยใชก้ ารสอนแบบโมเดลซปิ ปา (CIPPA MODEL) 15 เทคนคิ วธิ กี ารจดั กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พอ่ื พฒั นาการอา่ นและการเขยี นสอ่ื สาร โดยใช้การสอนแบบโมเดลซปิ ปา (CIPPA MODEL) 31 เทคนิค วิธีการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้แบบ K - W - L (Know - Want - Learned) 59 เทคนคิ วธิ ีการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้แบบบนั ได 5 ข้ัน 81 เทคนคิ วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยการศึกษาดว้ ยตนเอง (Self - study Method) 101 เทคนคิ วธิ กี ารจดั กจิ กรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Instructional Models of Cooperative Learning) 141 คณะทำงาน 157



เทคนิค วิธกี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู ้ ทีส่ อดคล้องกบั พัฒนาการทางสมอง (Brain - Based Learning) 1. แนวคดิ /ทฤษฎ ี การจัดการเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับพัฒนาการทางสมอง เป็นแนวทาง การจัดการเรียนรู้กับวิธีการทำงานของสมองและธรรมชาติสมองของเด็ก แต่ละคน โดยเช่ือว่ามนุษย์ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ เราสามารถพัฒนาสมอง ไดด้ ว้ ยการกระตนุ้ ทเี่ หมาะสมเพอ่ื เพม่ิ ศกั ยภาพการเรยี นรู้ โดยผ่านประสาทสัมผัส ทั้ง การดู การฟัง การได้ยิน การเคลื่อนไหว การรับรส และการดมกล่ิน นอกจากน้ีในการจัดการเรียนรู้ต้องให้ความสำคัญในด้านอารมณ์ของผู้เรียน เพราะจะส่งผลต่อความสนใจ ความต้ังใจ การคิด ความจำ และการเรียนรู้ที่ดี และปัจจัยท่ีมีผลต่อการเรยี นรู้ ได้แก่ ยีนส์ อาหาร การออกกำลังกาย ดนตรี ศลิ ปะ ความรัก ความรู้สกึ ท้าทาย และการให้ข้อมลู ยอ้ นกลับ ซ่ึงการจัดกิจกรรม การเรยี นรเู้ พ่ือพฒั นาการอา่ นในระดับประถมศึกษา ครูสามารถใชข้ ้นั ตอนดงั น้ ี ❖ ครูอ่านให้ฟงั ❖ จากนั้นใหน้ กั เรยี นอา่ นเปน็ กลุม่ เพอื่ ชว่ ยเหลือกนั ❖ จากนั้นฝึกความคล่อง โดยอ่านเป็นคู่และอ่านเดี่ยว และพัฒนา การเขียนควบคู่กัน โดยการเขียนเป็นคำ ประโยค ข้อความ และเร่ืองราว ให้ถกู ตอ้ ง รวดเรว็ ในเวลาทเี่ หมาะสมตามระดับชนั้ ของผู้เรยี น เทคนิค วิธีการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้เพื่อขับเคล่ือนจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผูเ้ รยี น ดา้ นอา่ นออก อา่ นคล่อง เขยี นได้ เขียนคลอ่ ง

2. วัตถุประสงค์/เป้าหมายทมี่ ุ่งให้เกดิ กับผเู้ รียน 2.1 เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถอ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง และ ข้อความสั้นๆ บอกความหมายของคำ ข้อความท่ีอ่าน และเขียนคำท่ีกำหนดให ้ ไดอ้ ย่างคลอ่ งแคลว่ 2.2 เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นสามารถเลา่ เร่อื งยอ่ จากเร่ืองทอ่ี า่ น 2.3 เพื่อให้ผู้เรียนสามารถคาดคะเนเหตุการณ์จากเร่ืองที่อ่านและ เกดิ การเรยี นรูท้ ี่ย่ังยนื 3. ความสอดคลอ้ ง/ความเช่ือมโยง 3.1 กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 3.2 สาระที่ 1 การอ่าน มาตรฐานการเรียนรู้ ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้ และความคิด เพ่ือนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตและมีนิสัย รักการอา่ น ตัวชี้วัด ท 1.1 ป.1/1 อา่ นออกเสยี งคำ คำคลอ้ งจอง และขอ้ ความสนั้ ๆ 3.3 สาระที่ 2 การเขยี น มาตรฐานการเรียนรู้ ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียน เขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบต่างๆ เขียนรายงาน ข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตัวช้ีวดั ท 2.1 ป.1/1 คัดลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทัด ท 2.1 ป.1/2 เขยี นส่อื สารดว้ ยคำและประโยคงา่ ยๆ เทคนคิ วิธีการจดั กิจกรรมการเรียนรูเ้ พ่ือขบั เคล่อื นจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรยี น  ด้านอา่ นออก อ่านคลอ่ ง เขียนได้ เขยี นคลอ่ ง

3.4 สาระท่ี 4 หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐานการเรียนรู้ ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและ หลกั ภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ขิ องชาต ิ ตัวชว้ี ัด ท 4.1 ป.1/2 เขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำ 4. กระบวนการทใ่ี ช้ในการพัฒนาผู้เรียน 4.1 กจิ กรรมการเรียนร ู้ 1) ครูและนักเรียนสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับทะเล และให้ดู รปู ภาพแหล่งท่องเท่ยี วทางทะเล 2) ครูอา่ นคำกลอน “เทยี่ วอา่ ว” ใหน้ กั เรยี นฟงั 2 ครั้ง 3) นักเรียนอ่านคำกลอน “เทีย่ วอ่าว” ตามครู 2 ครั้ง 4) นักเรียนอ่านคำกลอน “เท่ยี วอ่าว” พร้อมกนั 3 ครั้ง 5) นกั เรยี นทอ่ งคำกลอน “เทยี่ วอา่ ว” พรอ้ มทำทา่ ประกอบ 2 ครง้ั 6) นกั เรยี นทอ่ งคำกลอน “เทยี่ วอา่ ว” และทำทา่ ประกอบพรอ้ มกนั 3 ครง้ั 7) นักเรียนท่องคำกลอน “เที่ยวอ่าว” และทำท่าประกอบจน คลอ่ งแคลว่ เทคนคิ วิธกี ารจัดกิจกรรมการเรียนรเู้ พ่ือขับเคลื่อนจดุ เนน้ การพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี น ดา้ นอ่านออก อา่ นคล่อง เขียนได้ เขียนคล่อง

8) ครูนำแผ่นคำกลอนสอนอ่าน “เท่ียวอ่าว” มาติดบนกระดาน เคลื่อนท่ี นักเรียนน่ังเป็นรูปคร่ึงวงกลม ครูช้ีทีละคำตามท่ีเว้นวรรคไว้ แล้วให้นักเรียนอา่ นพรอ้ มกนั อยา่ งนอ้ ย 4 เทย่ี ว หรอื จนคลอ่ ง และใหอ้ าสาสมคั ร ออกมาอา่ นคำกลอนสอนอา่ นหนา้ หอ้ ง จนมนั่ ใจไดว้ า่ นกั เรยี นสามารถอา่ นไดถ้ กู ตอ้ ง เทยี่ วอ่าว พี่แกว้ กบั พีด่ าว ไปเท่ียวอา่ วกับพอ่ แม่ นอ้ งอ้อยดื่มนมรอ แมก่ บั พ่ออมุ้ พาไป ปา้ ตอ้ ยกับลุงตอ๋ ย อาหารพร้อมตะกร้าใหญ่ ทกุ คนลว้ นสุขใจ ที่จะไดไ้ ปเทีย่ วกัน 9) ปิดคำบางคำในคำกลอนสอนอ่าน “เท่ียวอ่าว” เช่น คำว่า ดาว อา่ ว อ้อย อมุ้ ปา้ ตอ้ ย ลุงต๋อย 10) นกั เรยี นรบั บตั รคำคนละ 1 ใบ โดยทำกจิ กรรมอา่ นคำทห่ี ายไป ถา้ คำที่หายไปอยู่กับใคร ใหย้ นื ขนึ้ และอา่ นใหเ้ พือ่ นฟัง โดยปิดทลี ะคำ เทคนิค วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรเู้ พอ่ื ขบั เคลอ่ื นจดุ เน้นการพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น  ดา้ นอ่านออก อ่านคล่อง เขยี นได้ เขยี นคล่อง

ดาว อา่ ว อ้อย อุม้ ปา้ ตอ้ ย ลุงตอ๋ ย 11) นกั เรยี นอา่ นคำกลอนสอนอา่ น “เทย่ี วอา่ ว” พรอ้ มกนั ทงั้ หอ้ ง 12) นกั เรยี นอา่ นคำกลอนสอนอา่ นชา้ ๆ พรอ้ มกบั ใหจ้ งั หวะประกอบ ทลี ะคำ โดยตอ้ งรกั ษาจงั หวะให้ได้เพือ่ ใหเ้ กดิ ความสนุกสนาน 13) ครูนำข้อความท่ีตรงกับคำในบรรทัดที่ปิดไว้ ติดทับให้ตรงกับ บรรทดั ทหี่ ายไป 14) ครูแสดงบัตรคำว่า ดาว อ่าว อ้อย อุ้ม ป้าต้อย ลุงต๋อย โดยอ่านจากบตั รคำ 15) ครสู ลบั บตั รคำในมอื ไปมาเพอ่ื ใหอ้ า่ น เรง่ ความเรว็ ในการเปลย่ี นคำ เป็นการกระตุ้นให้อ่านจนคล่อง 16) นกั เรยี นจบั เปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ 6 คน แจกบทอ่าน “เทย่ี วอา่ ว” คนละ 1 แผ่น ใหอ้ ่านพรอ้ มกันเป็นกลมุ่ ออกเสียงดังๆ ประมาณ 10 นาที แลว้ แบ่งเปน็ กลมุ่ 3 คน อ่านเป็นคู่ แล้วอ่านเด่ยี ว เทคนิค วิธีการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้เพอ่ื ขบั เคล่ือนจดุ เน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ด้านอ่านออก อ่านคลอ่ ง เขียนได้ เขยี นคล่อง

17) นำบัตรคำใส่กระเป๋าผนังแล้วไปแขวนไว้หลังห้อง เพ่ือให ้ ฝึกอ่านอย่างนอ้ ย 1 สัปดาห์ 18) ครูตั้งคำถาม ให้ฝึกจับใจความของเร่ืองจากคำกลอน สอนอา่ น “เที่ยวอ่าว” 19) นักเรียนเล่าเร่ืองราวย้อนกลับเก่ียวกับคำกลอนสอนอ่าน “เทีย่ วอ่าว” 20) ตัดบตั รคำทก่ี ำหนดมาติดคำทีห่ ายไปในใบกจิ กรรม บตั รคำสำหรบั ตัด ดาว อา่ ว อ้อย อ้มุ ป้าตอ้ ย ลุงต๋อย ใบกิจ กรรม พี่ .......... กับพ่ี .......... ไปเทยี่ ว .......... กบั พ่อแม ่ น้อง .......... ดืม่ นมรอ แม่กับพ่อ .......... พาไป .......... กบั .......... อาหารพรอ้ มตะกรา้ ใหญ ่ ทุกคนล้วนสขุ ใจ ท่ีจะได้ไปเทีย่ วกนั เทคนิค วธิ กี ารจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้เพ่ือขบั เคล่ือนจุดเน้นการพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี น  ด้านอ่านออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขยี นคลอ่ ง

21) นักเรียนคัดลายมือคำกลอนสอนอ่าน “เท่ียวอ่าว” โดย ครูแนะนำการคัดลายมือทีถ่ ูกต้องสวยงาม 22) ครูทดสอบการอ่านคำกลอนสอนอ่าน “เที่ยวอ่าน” ทีละคน และบันทกึ ผล 23) นกั เรยี นเขยี นตามคำบอกหลายๆ ครงั้ จนเกดิ ความคลอ่ งแคลว่ และถกู ตอ้ ง 24) นักเรียนนำคำว่า ดาว อ่าว อ้อย อุ้ม ป้าต้อย ลุงต๋อย ไปแต่งประโยค 4.2 สอ่ื ประกอบการเรียนร ู้ 1) ภาพประกอบคำกลอนสอนอ่าน “เที่ยวอ่าว” 2) รูปภาพแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล 3) คำกลอนสอนอา่ น “เท่ียวอ่าว” 4) ใบกิจกรรม 5) เคร่ืองเคาะจังหวะ 6) บัตรคำ 4.3 การวดั และประเมนิ ผล 1) ตรวจแบบฝกึ หัด 2) ตรวจการคดั ลายมือ 3) ประเมนิ การอา่ นคำ เขียนคำ เทคนคิ วธิ ีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อขบั เคล่อื นจดุ เนน้ การพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียน ดา้ นอา่ นออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขยี นคลอ่ ง

5. จุดเดน่ (จดุ เด่นของเทคนคิ /วิธที ่นี ำมาใช้) 5.1 ผู้เรียนมีสื่อประกอบเป็นเคร่ืองมือช่วยในการเรียนรู้ และช่วยให้ อา่ นไดเ้ รว็ ขน้ึ 5.2 กิจกรรมการเรียนรู้มีการใช้ประสาทสัมผัสหลายส่วน เช่น ตา หู การสัมผัส การเคล่อื นไหวรา่ งกาย 6. ผลทเี่ กิดกับผู้เรยี น (ความรู้ สมรรถนะ คุณลกั ษณะ) 6.1 ความรู้ : ผ้เู รียนมคี วามรเู้ กย่ี วกับการอ่านคำกลอน การเขยี นเพอื่ การส่อื สาร 6.2 สมรรถนะ : ผูเ้ รยี นสามารถอา่ นคล่อง เขียนคลอ่ ง และสือ่ สารได้ 6.3 คณุ ลกั ษณะ : ผเู้ รยี นมนี สิ ยั รกั การอา่ น และเรยี นรอู้ ยา่ งมคี วามสขุ เทคนิค วิธกี ารจัดกิจกรรมการเรียนรเู้ พื่อขบั เคลอ่ื นจุดเนน้ การพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียน  ด้านอา่ นออก อ่านคลอ่ ง เขยี นได้ เขยี นคล่อง

ภาคผนวก ❖ ภาพประกอบคำกลอนสอนอ่าน “เท่ียวอ่าว” ❖ การวัดและประเมนิ ผลการอา่ นคำกลอน “เทย่ี วอา่ ว” ❖ การวัดและประเมินผลการคัดลายมอื เทคนิค วิธกี ารจดั กิจกรรมการเรยี นรู้เพอื่ ขับเคลื่อนจุดเน้นการพฒั นาคุณภาพผ้เู รียน ดา้ นอ่านออก อ่านคลอ่ ง เขยี นได้ เขยี นคล่อง



ภาพประกอบคำกลอนสอนอา่ น “เท่ยี วอ่าว” พี่แก้ว กับ พ่ดี าว ไป เที่ยวอ่าว กับ พ่อแม่ นอ้ งอ้อย ด่มื นม รอ แม ่ กบั พอ่ อมุ้ พาไป ป้าต้อย กับ ลงุ ต๋อย อาหาร พร้อม ตะกรา้ ใหญ ่ ทกุ คน ล้วน สขุ ใจ ท่ ี จะได ้ ไป เที่ยวกนั เทคนิค วธิ กี ารจดั กจิ กรรมการเรยี นรูเ้ พอ่ื ขบั เคลอื่ นจดุ เนน้ การพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น ดา้ นอ่านออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขียนคลอ่ ง 11

การวดั และประเมนิ ผลการอ่านคำกลอน “เทย่ี วอา่ ว” ประเดน็ 3 ระดบั คะแนน 1 การประเมนิ (ด)ี 2 (ปรบั ปรุง) 1. อ่านเป็นจงั หวะ อ่านเปน็ จงั หวะ (พอใช)้ อ่านเปน็ จังหวะ อ่านเป็นจงั หวะ เนน้ การสมั ผสั ตอ่ เนอ่ื ง เนน้ การสมั ผสั ได้บ้าง ส่วนใหญ่ แตม่ บี างตอนสะดุด สะดดุ ตะกุกตะกกั 2. อา่ นคำถกู ต้อง อ่านคำถูกต้องทกุ คำ อ่านผิด 1 - 2 คำ อ่านผดิ 3 คำขน้ึ ไป 3. น้ำเสียงชัดเจน อ่านออกเสียงดงั อา่ นออกเสียงดัง อ่านออกเสยี งได้ และอ่านไดค้ ลอ่ ง ชัดเจนและอ่าน ไมช่ ดั เจน อา่ นไมค่ ลอ่ ง ไมช่ ดั เจน อา่ นไมค่ ลอ่ ง ได้คลอ่ ง เกณฑก์ ารตดั สนิ คะแนน 7-9 หมายถึง ด ี คะแนน 4-6 หมายถึง พอใช้ คะแนน 1-3 หมายถึง ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารผา่ น ไดต้ ้งั แต่ระดับพอใชข้ ึ้นไป เทคนิค วิธกี ารจดั กิจกรรมการเรยี นร้เู พอ่ื ขับเคลือ่ นจุดเน้นการพฒั นาคณุ ภาพผูเ้ รยี น 12 ดา้ นอา่ นออก อ่านคลอ่ ง เขียนได้ เขยี นคลอ่ ง

การวัดและประเมนิ ผลการคดั ลายมอื ประเด็น 3 ระดับคะแนน 1 การประเมนิ (ด)ี 2 1. ความถกู ตอ้ ง เขยี นถูกตอ้ งทุกคำ 2. การเวน้ ชอ่ งไฟ (พอใช้) (ปรบั ปรงุ ) เขียนตัวตรง เขียนอักษรผดิ เขียนอักษรผดิ 3. ความสะอาด เวน้ ช่องไฟถูกตอ้ ง ตามรปู แบบ 1 - 2 คำ ตงั้ แต่ 3 คำข้ึนไป เขียนตัวตรง เขยี นตัวไม่ตรง สะอาด ไม่มีรอยลบ ทุกคำ เว้นชอ่ งไฟไมถ่ ูกตอ้ ง เวน้ ชอ่ งไฟไม่ถูกตอ้ ง ตามรปู แบบ 1 - 4 แหง่ ตามรปู แบบ 5 แหง่ ขึ้นไป สกปรก มรี อยลบ สกปรก มรี อยลบ หรอื รอยขดี ฆ่า หรอื รอยขีดฆ่า 1 - 2 แห่ง ต้ังแต่ 3 แห่งข้ึนไป เกณฑ์การตดั สิน คะแนน 7-9 หมายถึง ดี คะแนน 4-6 หมายถึง พอใช ้ คะแนน 1-3 หมายถงึ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผ่าน ได้ต้ังแตร่ ะดับพอใชข้ น้ึ ไป เทคนคิ วิธีการจดั กิจกรรมการเรยี นร้เู พื่อขับเคล่อื นจดุ เน้นการพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียน ดา้ นอ่านออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขียนคล่อง 13



เทคนคิ วธิ ีการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู ้ ให้อา่ นออก เขียนได้ โดยใชก้ ารสอนแบบโมเดลซปิ ปา (CIPPA MODEL) 1. แนวคิด/ทฤษฎี การจัดการเรียนการสอนโดยใช้โมเดลซิปปา (CIPPA MODEL) เปน็ วธิ ีหน่ึงในการจัดการเรียนการสอนท่ีเน้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญ ม่งุ เน้นให้นกั เรียน ศึกษาค้นคว้า รวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง มีส่วนร่วมในการสร้างความรู้ มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อ่ืนและการแลกเปล่ียนความรู้ การได้เคลื่อนไหวทางกาย และการนำความรไู้ ปประยุกต์ใช้ การจัดการเรยี นการสอนแบบ CIPPA MODEL มาจากแนวคดิ หลกั 5 แนวคดิ ซ่งึ เปน็ แนวคิดพ้นื ฐานในการจดั การศึกษา ได้แก ่ 1. แนวคิดการสรา้ งสรรค์ความรู้ 2. แนวคดิ เรอ่ื งกระบวนการกลมุ่ และการเรยี นรูแ้ บบร่วมมือ 3. แนวคิดเกย่ี วกบั ความพร้อมในการเรยี นรู ้ 4. แนวคดิ เกี่ยวกับการเรียนรกู้ ระบวนการ 5. แนวคิดเก่ียวกับการถา่ ยโอนการเรยี นร ู้ ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบโมเดลซิปปา (CIPPA MODEL) มีข้ันตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ดังนี้ ข้ันที่ 1 การทบทวนความร้เู ดมิ ขั้นนี้เป็นการดึงความรู้เดิมของผู้เรียนในเร่ืองที่จะเรียน เพ่ือช่วยให ้ ผู้เรยี นมีความพร้อมในการเชือ่ มโยงความรูใ้ หม่กับความรูเ้ ดมิ ของตน เทคนคิ วิธีการจดั กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พ่ือขับเคลอื่ นจุดเน้นการพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น ด้านอา่ นออก อ่านคลอ่ ง เขยี นได้ เขยี นคลอ่ ง 15

ขนั้ ท่ี 2 การแสวงหาความรใู้ หม ่ ข้ันน้ีเป็นการแสวงหาข้อมูลความรู้ใหม่ของผู้เรียนจากแหล่งข้อมูล หรอื แหลง่ ความรตู้ ่างๆ ขั้นที่ 3 การศึกษาทำความเข้าใจข้อมูล/ความรู้ใหม่ และเช่ือมโยง ความรใู้ หมก่ ับความรูเ้ ดิม ขั้นน้ีเป็นข้ันท่ีผู้เรียนศึกษาและทำความเข้าใจกับข้อมูล/ความรู้ท่ีหา มาได้ ผเู้ รยี นสรา้ งความหมายของขอ้ มลู /ประสบการณใ์ หมๆ่ โดยใชก้ ระบวนการ ตา่ งๆ ดว้ ยตนเอง เช่น ใช้กระบวนการคดิ และกระบวนการกลุม่ ในการอภปิ ราย และสรุปความเข้าใจเก่ียวกับข้อมูลนั้นๆ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยการเช่ือมโยงกับ ความรู้เดมิ ข้นั ท่ี 4 การแลกเปลี่ยนความร้คู วามเขา้ ใจกับกลมุ่ ข้ันนี้เป็นขั้นท่ีผู้เรียนอาศัยกลุ่มเป็นเคร่ืองมือในการตรวจสอบความรู้ ความเข้าใจของตนเอง รวมท้ังขยายความรู้ความเข้าใจของตนให้กว้างขึ้น ซึ่งจะ ช่วยให้ผู้เรียนได้แบ่งปันความรู้ความเข้าใจของตนเองแก่ผู้อื่น และได้รับ ประโยชน์จากความรคู้ วามเข้าใจของผ้อู ่ืนไปพร้อมๆ กนั ขน้ั ท่ี 5 การสรปุ และจัดระเบยี บความร ู้ ข้ันน้ีเป็นข้ันของการสรุปความรู้ที่ได้รับทั้งหมด ทั้งความรู้เดิม และความรู้ใหม่ และจัดส่ิงที่เรียนให้เป็นระบบระเบียบ เพื่อช่วยให้ผู้เรียนจดจำ สิ่งที่เรียนรู้ได้ง่าย ควรให้ผู้เรียนสรุปประเด็นสำคัญ ประกอบด้วยมโนทัศน์หลัก และมโนทศั น์ยอ่ ยความรู้ท้งั หมด แล้วนำมาเรียบเรยี งให้ได้สาระสำคัญครบถ้วน เทคนิค วธิ กี ารจดั กจิ กรรมการเรียนรูเ้ พอ่ื ขบั เคล่อื นจดุ เนน้ การพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี น 16 ดา้ นอ่านออก อา่ นคล่อง เขียนได้ เขยี นคลอ่ ง

ขั้นที่ 6 การปฏบิ ัติและ/หรอื การแสดงผลงาน ขั้นน้ีจะช่วยให้ผู้เรียนมีโอกาสแสดงผลงานการสร้างความรู้ของตน ให้ผู้อื่นรับรู้ เป็นการช่วยให้ผู้เรียนได้ตอกย้ำหรือตรวจสอบความเข้าใจของตน และช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนใช้ความคิดสร้างสรรค์ แต่หากต้องมีการปฏิบัติตาม ข้อมูลทไ่ี ด้ ขน้ั น้จี ะเปน็ ขั้นปฏิบตั ิ และมีการแสดงผลงานท่ไี ด้ปฏบิ ัติด้วย ในข้ันน้ี ผู้เรียนสามารถแสดงผลงานด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การจัดนิทรรศการ การอภิปราย การแสดงบทบาทสมมติ เรียงความ วาดภาพ ฯลฯ และอาจจัดให้ มีการประเมินผลงานโดยมีเกณฑ์ทีเ่ หมาะสม ขน้ั ที่ 7 การประยกุ ตใ์ ช้ความร ู้ ขั้นนี้เป็นขั้นของการส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนการนำความรู ้ ความเข้าใจของตนไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ท่ีหลากหลาย เพ่ิมความชำนาญ ความเข้าใจ ความสามารถในการแก้ปัญหา และความจำในเรื่องนั้นๆ เป็นการ ใหโ้ อกาสผเู้ รยี นใชค้ วามรู้ให้เป็นประโยชน์ เปน็ การส่งเสรมิ ความคิดสร้างสรรค ์ หลังจากประยุกต์ใช้ความรู้ อาจมีการนำเสนอผลงานจากการ ประยุกต์อีกคร้ังก็ได้ หรืออาจไม่มีการนำเสนอผลงานในขั้นที่ 6 แต่นำมารวม แสดงในตอนท้ายหลงั ข้นั การประยกุ ตใ์ ชค้ วามร้กู ไ็ ด้เชน่ กนั ขน้ั ที่ 1 - 6 เปน็ กระบวนการของการสร้างความรู้ ขั้นท่ี 7 เป็นขั้นตอนท่ีช่วยให้ผู้เรียนนำความรู้ไปใช้ จึงทำให้รูปแบบนี้ มคี ุณสมบตั ิครบตามหลัก CIPPA เทคนคิ วิธีการจัดกิจกรรมการเรยี นร้เู พอื่ ขับเคลอ่ื นจดุ เน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ดา้ นอา่ นออก อ่านคลอ่ ง เขียนได้ เขียนคล่อง 17

2. วตั ถุประสงค/์ เปา้ หมายที่มุ่งให้เกิดกับผู้เรยี น 2.1 เพอื่ ให้ผเู้ รยี นมคี วามรู้ ความเข้าใจ และสามารถอา่ นและเขียนคำ ท่ีมตี ัวสะกดตามมาตราตา่ งๆ ได้ถกู ตอ้ ง 2.2 เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถนำคำต่างๆ มาเขียนประโยค ข้อความ และเขยี นเรือ่ งราวได้ 3. ความสอดคล้อง/ความเช่อื มโยง 3.1 กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 3.2 สาระท่ี 1 การอา่ น มาตรฐานการเรียนรู้ ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความร ู้ และความคิด เพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตและมีนิสัย รักการอา่ น ตวั ช้ีวัด ท 1.1 ป.3/1 อ่านออกเสียงคำ ข้อความ เรื่องสั้นๆ และ บทร้อยกรองง่ายๆ ได้ถูกตอ้ งคล่องแคล่ว ท 1.1 ป.3/6 อ่านหนังสือตามความสนใจอย่างสม่ำเสมอ และนำเสนอเรือ่ งท่ีอา่ น 3.3 สาระที่ 2 การเขยี น มาตรฐานการเรียนรู้ ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียน เขียนสื่อสาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความ และเขยี นเร่ืองราวในรูปแบบต่างๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ตัวช้วี ัด ท 2.1 ป.3/5 เขยี นเรื่องตามจินตนาการ เทคนิค วธิ กี ารจดั กจิ กรรมการเรียนรูเ้ พอ่ื ขับเคลื่อนจุดเนน้ การพฒั นาคุณภาพผู้เรยี น 18 ดา้ นอ่านออก อา่ นคลอ่ ง เขียนได้ เขยี นคล่อง

4. กระบวนการท่ีใชใ้ นการพฒั นาผเู้ รียน 4.1 กิจกรรมการเรยี นร ู้ ขัน้ ที่ 1 การทบทวนความร้เู ดิม 1) อ่านออกเสียงพยญั ชนะ สระ และวรรณยุกต์ 2) ยกตวั อยา่ งคำทเี่ ขยี นดว้ ยอกั ษรกลางทป่ี ระสมดว้ ยสระเสยี งยาว แลว้ ให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงตาม เชน่ จอแจ ดูกา กา่ ก้า บ่อปู ตาโต ฯลฯ 3) ยกตัวอย่างคำที่เขียนด้วยอักษรสูงท่ีประสมด้วยสระเสียงยาว แลว้ ใหน้ กั เรยี นอา่ นออกเสยี งตาม เชน่ ฉฉู่ ี่ ภเู ขา เผาผี โหเ่ ห่ เสาร์ เศรา้ ใฝห่ า ฯลฯ 4) ยกตัวอย่างคำท่ีเขียนด้วยอักษรต่ำที่ประสมด้วยสระเสียงยาว แลว้ ใหน้ กั เรยี นอา่ นออกเสยี งตาม เชน่ เชอ่ื งชา้ ฆา่ แมค่ า้ เลยี้ งนอ้ ง ทอ้ งฟา้ ฯลฯ 5) ยกตัวอย่างคำท่ีเขียนด้วยอักษรกลาง สูง และต่ำที่ประสม ดว้ ยสระเสยี งสัน้ ให้นกั เรยี นอ่านออกเสยี งพรอ้ มกนั เชน่ นะคะ เละเทะ ฐานะ เปะปะ เอะวะ เปาะแปะ ทะลุ ฯลฯ ขั้นท่ี 2 การแสวงหาความร้ใู หม ่ 1) แจกแถบประโยค ซึ่งเป็นข้อความส้ันๆ เช่ือมโยงกับวิถีชีวิต ประจำวัน ให้อ่านพร้อมกัน หลังจากนนั้ ใหว้ งกลมคำท่ีมตี ัวสะกด 2) ยกตัวอย่างคำที่มีตัวสะกดในมาตราตัวสะกดต่างๆ แล้วให้ นักเรยี นอา่ นพรอ้ มกัน 3) กำหนดคำต่างๆ ขึ้น โดยเป็นคำที่ประสมคำด้วยพยัญชนะ และสระ แล้วให้นักเรียนพิจารณาว่าจะใส่ตัวสะกดมาตราใด ซึ่งเป็นคำท่ีมี ความหมาย เชน่ ลา.... (ภ, บ, ก) โช.... (ค, ก) ญา.... (ติ, ต) ปอ.... (ด, ก, บ) เทคนคิ วิธีการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้เพอ่ื ขับเคล่อื นจดุ เน้นการพัฒนาคุณภาพผูเ้ รียน ด้านอา่ นออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขียนคลอ่ ง 19

ขน้ั ท่ี 3 การศกึ ษาทำความเขา้ ใจขอ้ มลู /ความรใู้ หม่ และเชอื่ มโยง ความรู้ใหมก่ บั ความร้เู ดมิ 1) อ่านขอ้ ความสั้นๆ แลว้ เลือกคำท่สี ะกดดว้ ยมาตราเดียวกัน 2) นำชือ่ ของเพ่ือนในชั้นเรียนมาใสไ่ วใ้ นมาตราต่างๆ 3) อ่านบัตรข้อความโฆษณาพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ หรือ นิตยสาร วารสาร แล้วพิจารณาว่าคำเหล่านั้นอยู่ในมาตราใด และนำมาจัดไว ้ ในกลมุ่ เดยี วกนั เชน่ ชนยบั บนทางดว่ น ขนยาขา้ มชาตนิ บั พนั เมด็ (จดั กลมุ่ ไดด้ งั น้ี 1. ชน ดว่ น ขน พนั บน 2. ยบั นับ 3. ชาติ เม็ด 4. ข้าม 5. ทาง 6. ยา) 4) เลอื กคำที่ชอบมาแต่งประโยค 3 - 5 ประโยค ข้ันที่ 4 การแลกเปลีย่ นความรู้ความเข้าใจกบั กลมุ่ 1) จดั กลมุ่ ตามมาตราตวั สะกด แล้วเขียนชือ่ ผลไม้ ขนม อาหาร เครื่องใช้ ชื่อดารา ช่ือนักร้อง ชือ่ เพลง และนำมาบนั ทกึ ลงในใบกิจกรรม 2) แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอ และนำเพื่อนอ่านคำ อีกคร้ัง 3) เลอื กคำมาเขยี นเปน็ ขอ้ ความสน้ั ๆ ใหเ้ ปน็ เรอื่ งราว 5 - 8 บรรทดั ขั้นที่ 5 การสรปุ และจัดระเบียบความรู้ 1) นำบตั รคำ 20 - 30 คำ ทใี่ ชม้ าตราตวั สะกดตา่ งๆ นำมาชว่ ยกนั จัดกลุ่มตามมาตราตัวสะกด 2) สรุปความรู้ร่วมกันอีกครั้ง เก่ียวกับมาตราตัวสะกดต่างๆ โดยทำเป็นแผนผังความคิด เทคนิค วธิ ีการจัดกจิ กรรมการเรยี นรเู้ พ่ือขบั เคล่อื นจุดเน้นการพฒั นาคุณภาพผู้เรียน 20 ดา้ นอา่ นออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขยี นคล่อง

ข้ันที่ 6 การปฏิบัตแิ ละ/หรือการแสดงผลงาน ให้แต่ละคนนำผลงานแผนผังความคิดมาแสดงหน้าชั้นเรียน พรอ้ มอธิบายให้เพอื่ นฟงั และนำไปตดิ ไวท้ ีป่ า้ ยนิเทศของห้องเรยี น ขั้นที่ 7 การประยกุ ต์ใช้ความร ู้ นำแผนผังความคิดมาเรียบเรียงจัดทำเป็นหนังสือเล่มเล็ก พร้อมทงั้ วาดภาพประกอบ 4.2 สอื่ ประกอบการเรียนร ู้ 1) แถบประโยค 2) บตั รข้อความโฆษณา 3) พาดหวั ข่าวหนงั สอื พมิ พ์ 4) นติ ยสาร วารสาร 5) บัตรคำ 4.3 การวดั และประเมินผล 1) ประเมนิ การอา่ นออกเสียง 2) ประเมนิ การเขียน 3) ประเมนิ ผลงาน 5. จุดเด่น (จุดเด่นของเทคนคิ /วิธที ีน่ ำมาใช)้ 5.1 ผู้เรียนไดฝ้ กึ ทักษะการคิดอย่างเป็นระบบและหลากหลาย 5.2 ผู้เรียนรู้จักการแสวงหาข้อมูล ข้อเท็จจริงจากแหล่งการเรียนรู้ ต่างๆ เพ่ือนำมาใชใ้ นการเรยี นรู้ เทคนิค วธิ ีการจดั กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พ่อื ขับเคลอ่ื นจดุ เนน้ การพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี น ดา้ นอ่านออก อา่ นคล่อง เขยี นได้ เขียนคล่อง 21

6. ผลท่เี กดิ กบั ผเู้ รยี น (ความรู้ สมรรถนะ คณุ ลักษณะ) 6.1 ความรู้ : ผู้เรยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจในเรื่องการอ่านและเขียนคำ ตามมาตราตวั สะกดตา่ งๆ 6.2 สมรรถนะ : ผู้เรียนมีความสามารถในการจัดกลุ่มการส่ือสาร และการถา่ ยทอดความคดิ 6.3 คุณลักษณะ : ผู้เรียนมีนิสัยรักการอ่าน การแสวงหาความรู้ และสามารถนำความรมู้ าประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจำวันได้ แหลง่ ทมี่ าของขอ้ มูล 1. โรงเรยี นสวนกุหลาบ สำนักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษา ประถมศกึ ษากรงุ เทพมหานคร 2. โรงเรยี นชมุ ชนวดั ครี นี าครตั นาราม สำนกั งานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษา ประถมศกึ ษาลพบรุ ี เขต 2 3. โรงเรยี นโนนศลิ า ไกรฤกษร์ าษฎร์อำนวย สำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษา ประถมศึกษากาฬสนิ ธ์ุ เขต 1 4. โรงเรยี นทีปังกรวทิ ยาพฒั น ์ สำนักงานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษา ประถมศกึ ษากรงุ เทพมหานคร 5. โรงเรียนบา้ นเชียงดาว สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษา ประถมศกึ ษาเชยี งใหม่ เขต 3 6. โรงเรียนบ้านห้วยใหญ ่ สำนักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษา ประถมศกึ ษาลพบรุ ี เขต 2 เทคนคิ วธิ กี ารจัดกจิ กรรมการเรียนรู้เพื่อขบั เคล่ือนจุดเนน้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน 22 ดา้ นอา่ นออก อ่านคลอ่ ง เขยี นได้ เขยี นคลอ่ ง

7. โรงเรียนบา้ นหนองบัวทุ่ง สำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษา ประถมศึกษานครราชสมี า เขต 6 8. โรงเรยี นวดั หนองกบ สำนักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา (ขุนทองประชานุเคราะห์) ประถมศกึ ษาราชบุรี เขต 2 9. โรงเรียนวัดอมรินทราราม สำนักงานเขตพืน้ ที่การศึกษา ประถมศกึ ษากรงุ เทพมหานคร 10. โรงเรยี นบ้านทา่ ชุม สำนักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษา (ประชาอทุ ศิ วทิ ยาคาร) ประถมศกึ ษาสโุ ขทัย เขต 1 11. โรงเรยี นวดั ทงุ่ สวา่ ง สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษา ประถมศึกษานครราชสมี า เขต 1 12. โรงเรยี นวดั อทุ ัยธาราม สำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษา ประถมศึกษากรุงเทพมหานคร 13. โรงเรยี นบา้ นดวนบากนอ้ ย สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษา ประถมศกึ ษายโสธร เขต 1 14. โรงเรยี นอนบุ าลพนสั ศึกษาลัย สำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษา ประถมศึกษาชลบุรี เขต 2 15. โรงเรยี นหนองผือวิทยาคม สำนกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษา ประถมศกึ ษาหนองคาย เขต 2 16. โรงเรียนบา้ นเขาดินไพรวนั สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา ประถมศกึ ษาสโุ ขทัย เขต 2 17. โรงเรียนบา้ นเขากวาง สำนกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษา ประถมศกึ ษาลพบุรี เขต 2 เทคนคิ วธิ กี ารจัดกจิ กรรมการเรียนรเู้ พ่อื ขับเคลื่อนจุดเนน้ การพฒั นาคุณภาพผู้เรียน ด้านอา่ นออก อา่ นคลอ่ ง เขยี นได้ เขียนคลอ่ ง 23



ภาคผนวก ❖ การประเมินการอ่านออกเสียง ❖ การประเมนิ การเขยี น ❖ การประเมนิ ผลงาน เทคนคิ วธิ กี ารจัดกิจกรรมการเรียนรเู้ พ่ือขบั เคลือ่ นจดุ เน้นการพัฒนาคุณภาพผเู้ รียน ด้านอ่านออก อา่ นคล่อง เขียนได้ เขียนคลอ่ ง 25



การประเมินการอ่านออกเสยี ง เกณฑ์การตัดสนิ ระดบั คณุ ภาพ คำอธิบาย 4 (ดมี าก) สามารถอ่านไดถ้ ูกต้องทง้ั หมด เสียงดงั ชัดเจน เว้นวรรคตอน ส่ือเรือ่ งราวไดด้ ี มีมารยาทในการอ่าน 3 (ดี) สามารถอา่ นไดเ้ กอื บถูกต้องทัง้ หมด เสยี งดงั ชัดเจน เว้นวรรคตอน ส่อื เรอ่ื งราวไดพ้ อใช้ มมี ารยาทในการอ่าน 2 (พอใช)้ สามารถอา่ นได้ ผิดไมเ่ กิน 5 คำ เสยี งดังชัดเจน แต่ค่อนขา้ งชา้ เว้นวรรคตอนส่อื เรอ่ื งราวไมช่ ดั เจน มมี ารยาทในการอา่ น 1 (ปรับปรงุ ) พยายามอา่ น ผดิ มากกวา่ 5 คำ เสยี งเบา ไมช่ ดั เจน เวน้ วรรคตอน ส่ือเรือ่ งราวไม่ชดั เจน เล่นหยอกลอ้ ระหวา่ งอา่ น เกณฑก์ ารผา่ น ต้งั แตร่ ะดับ 2 ขึ้นไป เทคนิค วิธกี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรเู้ พ่ือขบั เคล่ือนจดุ เนน้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ด้านอา่ นออก อา่ นคล่อง เขียนได้ เขียนคลอ่ ง 27

การประเมินการเขยี น เกณฑก์ ารตัดสิน ระดับคุณภาพ คำอธิบาย 4 (ดีมาก) เขยี นได้ถูกต้องท้งั หมด สะอาด เวน้ วรรคตอนถกู ตอ้ ง เขยี นอา่ นงา่ ย ไม่ขีดฆา่ 3 (ด)ี เขียนได้ถูกตอ้ งเกอื บท้ังหมด สะอาด เวน้ วรรคตอนถูกต้อง เขียนอา่ นง่ายไม่ขีดฆา่ 2 (พอใช)้ เขียนได้ผดิ ไมเ่ กิน 5 คำ สะอาด มเี ว้นวรรคตอนไม่ถกู ต้องบ้าง เขียนอ่านง่าย มีรอยขดี ฆ่า 1 (ปรับปรุง) เขียนผดิ เกนิ 5 คำ ไมส่ ะอาด มีเวน้ วรรคตอนไมถ่ ูกตอ้ ง มีรอยขีดฆ่า เกณฑ์การผ่าน ตัง้ แต่ระดับ 2 ขนึ้ ไป เทคนิค วธิ ีการจัดกจิ กรรมการเรยี นรูเ้ พ่อื ขับเคล่อื นจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผูเ้ รยี น 28 ดา้ นอ่านออก อา่ นคล่อง เขยี นได้ เขียนคล่อง

การประเมินผลงาน การประเมนิ การจดั ทำหนังสือเลม่ เลก็ ประเดน็ 4 ระดบั คะแนน 1 น้ำหนัก คะแนน การประเมนิ 3 2 รวม 1. การนำ น่าสนใจ เนื้อหา น่าสนใจ เนื้อหา เนือ้ หาของเรอื่ ง เรื่องไมน่ ่าสนใจ 5 20 เสนอเนอื้ หา สอดคล้องกบั สอดคลอ้ งกับ เปน็ เรอ่ื งเล่า แต่อา่ นแลว้ 3 12 2 ชอ่ื เรอ่ื ง สะทอ้ น ช่อื เร่ือง แตข่ าด ธรรมดาไม่แสดง พอเป็นเร่ืองราว 8 ให้เห็นแนวคิด การสะทอ้ น แนวคดิ ใดๆ 40 เชงิ สร้างสรรค์ ให้ได้ขอ้ คดิ 2. การใช้ ใชภ้ าษาสอดคลอ้ ง ใชภ้ าษาสอดคลอ้ ง ใชภ้ าษาบางตอน ใชภ้ าษา ภาษา กับเร่ือง มบี ท กบั เร่อื ง มีบท ไมส่ อดคล้องกบั ไม่สอดคล้อง บรรยาย หรือบท บรรยาย หรอื บท เรอื่ ง มีบท ขาดความ สนทนาท่แี สดง สนทนา เปน็ ภาษา บรรยาย หรือบท สามารถในการ ถงึ ความสามารถ ท่ไี มโ่ ดดเดน่ สนทนา เปน็ ภาษา บรรยายใหเ้ กดิ ในการใชภ้ าษา แต่ให้จินตนาการ ที่ไมโ่ ดดเด่น และ จนิ ตนาการ เกิดจนิ ตนาการ อยู่บา้ ง ขาดจนิ ตนาการ 3. ภาพ ภาพสอดคลอ้ ง ภาพสอดคล้อง ภาพบางตอน ภาษายงั ไมถ่ กู ตอ้ ง ประกอบ กับเรอ่ื ง และให้ กับเร่ือง ขาด ยังขาดความ ขาดการเช่อื มโยง รายละเอียดทดี่ ี รายละเอียด สอดคลอ้ งกบั เรอ่ื ง และสอ่ื ความหมาย ไม่มรี ายละเอยี ด ไมช่ ัดเจน ไปบา้ ง คะแนนรวม เกณฑ์การตดั สนิ 33-40 หมายถึง ดมี าก คะแนน 25-32 หมายถึง ดี คะแนน 17-24 หมายถึง พอใช้ คะแนน 10-16 หมายถึง ปรบั ปรงุ คะแนน เกณฑก์ ารผา่ น 29 ต้งั แตร่ ะดบั ดีขึน้ ไป เทคนิค วธิ ีการจัดกิจกรรมการเรียนรเู้ พื่อขับเคลอื่ นจุดเน้นการพฒั นาคุณภาพผู้เรียน ด้านอ่านออก อา่ นคล่อง เขียนได้ เขียนคล่อง



เทคนิค วิธีการจดั กิจกรรมการเรยี นรู ้ เพอื่ พัฒนาการอา่ นและการเขียนสอ่ื สาร โดยใชก้ ารสอนแบบโมเดลซปิ ปา (CIPPA MODEL) 1. แนวคดิ /ทฤษฎี การจัดการเรียนการสอนโดยใช้โมเดลซิปปา (CIPPA MODEL) เปน็ วิธหี นึง่ ในการจดั การเรียนการสอนทีเ่ น้นผเู้ รียนเปน็ สำคญั ม่งุ เน้นให้นักเรียน ศึกษาค้นคว้า รวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง การมีส่วนร่วมในการสร้างความรู้ มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อ่ืนและการแลกเปลี่ยนความรู้ การได้เคล่ือนไหวทางกาย และการนำความรไู้ ปประยุกตใ์ ช้ การจัดการเรยี นการสอนแบบ CIPPA MODEL มาจากแนวคิดหลัก 5 แนวคดิ ซึ่งเป็นแนวคิดพ้นื ฐานในการจัดการศกึ ษา ได้แก่ 1. แนวคิดการสรา้ งสรรคค์ วามร้ ู 2. แนวคดิ เรื่องกระบวนการกลุ่มและการเรียนรแู้ บบรว่ มมือ 3. แนวคิดเก่ียวกับความพร้อมในการเรียนร ู้ 4. แนวคดิ เก่ียวกบั การเรยี นรกู้ ระบวนการ 5. แนวคิดเกย่ี วกบั การถ่ายโอนการเรยี นรู ้ ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบโมเดลซิปปา (CIPPA MODEL) มีข้ันตอนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ดงั น้ี ขนั้ ที่ 1 การทบทวนความรู้เดิม ข้ันน้ีเป็นการดึงความรู้เดิมของผู้เรียนในเร่ืองที่จะเรียน เพ่ือช่วยให ้ ผ้เู รียนมีความพรอ้ มในการเชื่อมโยงความรใู้ หม่กบั ความรเู้ ดิมของตน เทคนิค วิธกี ารจดั กจิ กรรมการเรียนรู้เพ่ือขบั เคล่ือนจดุ เนน้ การพฒั นาคณุ ภาพผูเ้ รยี น ดา้ นอ่านออก อ่านคลอ่ ง เขียนได้ เขียนคลอ่ ง 31

ขน้ั ที่ 2 การแสวงหาความรูใ้ หม ่ ข้ันน้ีเป็นการแสวงหาข้อมูลความรู้ใหม่ของผู้เรียนจากแหล่งข้อมูล หรือแหลง่ ความร้ตู า่ งๆ ขั้นที่ 3 การศึกษาทำความเข้าใจข้อมูล/ความรู้ใหม่ และเช่ือมโยง ความรูใ้ หม่กับความรู้เดมิ ขั้นน้ีเป็นข้ันท่ีผู้เรียนศึกษาและทำความเข้าใจกับข้อมูล/ความร ู้ ท่ีหามาได้ ผู้เรียนสร้างความหมายของข้อมูล/ประสบการณ์ใหม่ๆ โดยใช้ กระบวนการต่างๆ ด้วยตนเอง เช่น ใช้กระบวนการคิด และกระบวนการกลุ่ม ในการอภิปราย และสรุปความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลน้ันๆ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัย การเชอ่ื มโยงกับความร้เู ดิม ข้ันที่ 4 การแลกเปลยี่ นความรู้ความเขา้ ใจกับกลุม่ ขั้นนี้เป็นข้ันท่ีผู้เรียนอาศัยกลุ่มเป็นเคร่ืองมือในการตรวจสอบความร้ ู ความเข้าใจของตนเอง รวมทั้งขยายความรู้ความเข้าใจของตนให้กว้างขึ้น ซึ่งจะ ช่วยให้ผู้เรียนได้แบ่งปันความรู้ความเข้าใจของตนเองแก่ผู้อ่ืน และได้รับ ประโยชนจ์ ากความร้คู วามเข้าใจของผอู้ ่นื ไปพรอ้ มๆ กัน ขน้ั ที่ 5 การสรปุ และจดั ระเบียบความร ู้ ขั้นนี้เป็นข้ันของการสรุปความรู้ที่ได้รับทั้งหมด ท้ังความรู้เดิม และความรู้ใหม่ และจัดส่ิงท่ีเรียนให้เป็นระบบระเบียบ เพ่ือช่วยให้ผู้เรียนจดจำ ส่ิงท่ีเรียนรู้ได้ง่าย ควรให้ผู้เรียนสรุปประเด็นสำคัญ ประกอบด้วยมโนทัศน์หลัก และมโนทศั นย์ อ่ ยของความรทู้ ง้ั หมด แลว้ นำมาเรยี บเรยี งใหไ้ ดส้ าระสำคญั ครบถว้ น เทคนคิ วธิ ีการจดั กิจกรรมการเรียนรู้เพอ่ื ขับเคลอื่ นจุดเนน้ การพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียน 32 ดา้ นอ่านออก อา่ นคล่อง เขยี นได้ เขยี นคลอ่ ง

ขั้นที่ 6 การปฏบิ ัติและ/หรอื การแสดงผลงาน ขั้นน้ีจะช่วยให้ผู้เรียนมีโอกาสแสดงผลงานการสร้างความรู้ของตน ให้ผู้อื่นรับรู้ เป็นการช่วยให้ผู้เรียนได้ตอกย้ำหรือตรวจสอบความเข้าใจของตน และช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนใช้ความคิดสร้างสรรค์ แต่หากต้องมีการปฏิบัติตาม ข้อมูลทไ่ี ด้ ขน้ั น้จี ะเปน็ ขั้นปฏิบตั ิ และมีการแสดงผลงานที่ได้ปฏบิ ัติด้วย ในข้ันน้ี ผู้เรียนสามารถแสดงผลงานด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การจัดนิทรรศการ การอภิปราย การแสดงบทบาทสมมติ เรียงความ วาดภาพ ฯลฯ และอาจจัดให้ มีการประเมินผลงานโดยมีเกณฑ์ทีเ่ หมาะสม ขน้ั ที่ 7 การประยกุ ตใ์ ช้ความร ู้ ขั้นนี้เป็นขั้นของการส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนการนำความรู ้ ความเข้าใจของตนไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ท่ีหลากหลาย เพ่ิมความชำนาญ ความเข้าใจ ความสามารถในการแก้ปัญหา และความจำในเรื่องนั้นๆ เป็นการ ใหโ้ อกาสผเู้ รยี นใชค้ วามรู้ให้เป็นประโยชน์ เปน็ การส่งเสรมิ ความคิดสร้างสรรค ์ หลังจากประยุกต์ใช้ความรู้ อาจมีการนำเสนอผลงานจากการ ประยุกต์อีกคร้ังก็ได้ หรืออาจไม่มีการนำเสนอผลงานในข้ันที่ 6 แต่นำมารวม แสดงในตอนท้ายหลงั ข้นั การประยกุ ตใ์ ชค้ วามร้กู ไ็ ด้ เช่นกนั ขน้ั ที่ 1 - 6 เปน็ กระบวนการของการสร้างความรู้ ขั้นท่ี 7 เป็นขั้นตอนท่ีช่วยให้ผู้เรียนนำความรู้ไปใช้ จึงทำให้รูปแบบนี้ มคี ุณสมบตั ิครบตามหลัก CIPPA เทคนคิ วิธีการจัดกิจกรรมการเรยี นร้เู พอื่ ขับเคลอ่ื นจุดเนน้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ดา้ นอา่ นออก อา่ นคลอ่ ง เขยี นได้ เขียนคล่อง 33

2. วัตถุประสงค/์ เป้าหมายท่ีม่งุ ให้เกิดกับผ้เู รยี น 2.1 เพ่อื สง่ เสริมและพัฒนาทกั ษะการเขียนและการส่ือสาร 2.2 เพอื่ ให้ผู้เรียนสามารถเขยี นแผนภาพโครงเรือ่ งได ้ 3. ความสอดคลอ้ ง/ความเช่อื มโยง 3.1 กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 - 6 3.2 สาระท่ี 1 การอ่าน มาตรฐานการเรียนรู้ ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความร้ ู และความคดิ เพอ่ื นำไปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดำเนนิ ชวี ติ และมนี สิ ยั รกั การอา่ น ตัวช้ีวัด ท 1.1 ป.4/1 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง ได้ถกู ต้อง 3.3 สาระท่ี 2 การเขียน มาตรฐานการเรียนรู้ ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียน เขียนสื่อสาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความ และเขยี นเรอื่ งราวในรปู แบบตา่ งๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นควา้ อยา่ งมีประสิทธภิ าพ ตัวช้ีวดั ท 2.1 ป.4/2 เขียนสื่อสารโดยใช้คำได้ถูกต้อง ชัดเจน และ เหมาะสม ท 2.1 ป.4/3 เขียนแผนภาพโครงเรื่อง และแผนภาพความคิด เพอื่ ใช้พฒั นางานเขียน เทคนคิ วธิ ีการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้เพอ่ื ขับเคลื่อนจุดเน้นการพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รียน 34 ด้านอ่านออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขียนคลอ่ ง

4. กระบวนการท่ใี ชใ้ นการพฒั นาผู้เรยี น 4.1 กจิ กรรมการเรียนร ู้ ขัน้ ที่ 1 การทบทวนความรู้เดมิ 1) ให้นักเรียน 1 คน อาสาสมัครออกมาอ่านออกเสียง เรื่อง ปลอ่ ยแมว ใหเ้ พอื่ นๆ ฟงั 2) ให้นักเรียนท้ังห้องช่วยกันตอบคำถามใครทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร โดยใช้คำถามทา้ ยเรอ่ื งเป็นแนวทางการถาม - ตอบ 3) ให้นักเรียน 1 คน อาสาสมัครออกมาเล่าสรุปเน้ือหาและเล่า ทส่ี รุปความได้ ให้เพอ่ื นๆ ฟัง 4) ให้นักเรียนแต่ละคนเขียนเรียบเรียงเล่าเร่ืองที่ได้ฟังลงในสมุด บันทึก ขนั้ ท่ี 2 การแสวงหาความรู้ใหม ่ 1) ให้นักเรียนจับกลุ่ม กลุ่มละ 3 - 5 คน อ่านพาดหัวข่าวและ รายละเอียดของข่าว แล้วให้ขีดเส้นใต้ข้อความที่มีความสัมพันธ์กับข้อความ ท่ีพาดหัวขา่ ว (หลายๆ ประเดน็ ) 2) นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปใจความสำคัญจากเร่ืองที่อ่าน โดยครอู ธิบายลักษณะสำคัญพร้อมยกตวั อยา่ งประกอบ ขน้ั ท่ี 3 การศกึ ษาทำความเขา้ ใจขอ้ มลู /ความรใู้ หม่ และเชอ่ื มโยง ความรู้ใหมก่ ับความรู้เดิม 1) ให้นักเรียนสลับกลุ่มใหม่ จับเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 - 5 คน อ่านบทความ เร่ือง ก้าวท่ีมั่นคงสู่ความสำเร็จ และขีดเส้นใต้ใจความสำคัญ แต่ละย่อหนา้ เทคนิค วธิ กี ารจัดกิจกรรมการเรียนร้เู พอ่ื ขับเคลอื่ นจุดเน้นการพฒั นาคุณภาพผู้เรียน ด้านอา่ นออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขยี นคลอ่ ง 35

2) นักเรียนร่วมกันเขียนสรุปเน้ือหาของบทความโดยใช้แผนภาพ ความคิด 3) พูดสรุปใจความสำคัญจากแผนภาพความคิดให้เพ่ือนๆ กล่มุ อืน่ ฟัง ขนั้ ท่ี 4 การแลกเปล่ียนความรคู้ วามเข้าใจกับกลุ่ม 1) นักเรียนแต่ละคนเลือกอ่านเรื่องสั้นจากห้องสมุดตาม ความสนใจ แลว้ เขียนสรปุ ความเรอ่ื งท่ีอ่าน 2) พูดเล่าลักษณะพฤติกรรมของตัวละครท่ีประทับใจพร้อมบอก เหตุผล 3) นกั เรยี นจบั เปน็ กลมุ่ เลอื กเรอื่ งสน้ั จากสมาชกิ ในกลมุ่ แลว้ รว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ ต่อพฤติกรรมของตัวละครนนั้ ๆ 4) เขียนสรุปลักษณะพฤติกรรมของตัวละครและข้อคิดที่ได้จาก การอา่ นเร่ืองสน้ั ขัน้ ท่ี 5 การสรุปและจัดระเบยี บความร ู้ 1) ให้นักเรียนแต่ละคนเขียนแผนภาพองค์ประกอบของการ สรปุ ใจความสำคญั 2) คัดเลือกผลงาน 4 - 5 ช้ิน แล้วให้เจ้าของผลงานอธิบาย ให้เพ่อื นๆ ฟงั ข้ันท่ี 6 การปฏิบัตแิ ละ/หรอื การแสดงผลงาน 1) นักเรียนดูคลิปโฆษณาที่แสดงถึงคุณธรรม แล้วเขียนสรุป เน้ือหาของคลิปพร้อมตง้ั ชอื่ เรอ่ื ง 2) เขยี นสรปุ เรอื่ งราวแล้วนำไปจัดแสดงที่ป้ายนิเทศในหอ้ ง เทคนิค วธิ กี ารจดั กิจกรรมการเรยี นรเู้ พอื่ ขบั เคลื่อนจุดเน้นการพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน 36 ด้านอ่านออก อา่ นคล่อง เขยี นได้ เขียนคล่อง

ขน้ั ท่ี 7 การประยกุ ต์ใช้ความรู้ 1) นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรอง เรอื่ ง วฒั นธรรม พรอ้ มกนั 2) นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ เนอ้ื เรอื่ งของบทรอ้ ยกรอง เรอื่ ง วฒั นธรรม 3) ให้นักเรียนจับคู่เขียนแผนภาพโครงเรื่องเก่ียวกับความสำคัญ ของวัฒนธรรมที่มีต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคม วัฒนธรรมที่นำมา ปฏิบัตแิ ล้วกอ่ ใหเ้ กิดผลดตี อ่ ตนเอง ครอบครวั และชุมชน 4) นำผลงานจัดปา้ ยนเิ ทศเพอ่ื แลกเปลีย่ นเรยี นร ู้ 4.2 สือ่ ประกอบการเรยี นร ู้ 1) บทรอ้ ยกรอง “วฒั นธรรม” “เด็กกางรม่ ” 2) ข่าว บทความ เรอื่ งสั้น 3) เรอ่ื งสัน้ จรรโลงใจ เร่ืองส้ัน ปลอ่ ยแมว 4) คลิปโฆษณาด้านคุณธรรม 4.3 การวัดและประเมนิ ผล 1) ประเมินการเขยี นสรุปความ 2) ประเมินผลงานแผนภาพโครงเรอ่ื ง 5. จุดเด่น (จดุ เดน่ ของเทคนิค/วธิ ีทนี่ ำมาใช)้ ผู้เรียนได้รับการพัฒนาด้านการอ่านและการเขียนให้เกิดความ คล่องแคล่วและเข้าใจ สามารถสรุปความ ส่ือสารได้ ซ่ึงเป็นพ้ืนฐานสำคัญ ท่ีจะนำไปใชใ้ นการดำเนินชีวิต เทคนคิ วิธีการจดั กิจกรรมการเรยี นร้เู พอื่ ขบั เคลอ่ื นจดุ เนน้ การพัฒนาคุณภาพผูเ้ รยี น ด้านอา่ นออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขียนคลอ่ ง 37

6. ผลที่เกิดกบั ผ้เู รียน (ความรู้ สมรรถนะ คณุ ลกั ษณะ) 6.1 ความรู้ : ผเู้ รยี นรหู้ ลกั การเขยี นสรปุ ความจากเรอื่ งทอี่ า่ นอยา่ งเขา้ ใจ 6.2 สมรรถนะ : ผู้เรียนมีความสามารถในการส่ือสาร และการนำ ความร้ทู ีไ่ ดจ้ ากการอา่ นมาประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจำวนั ได ้ 6.3 คณุ ลักษณะ : ผู้เรยี นมคี วามใฝร่ ู้ใฝเ่ รียน แหลง่ ที่มาของข้อมลู 1. โรงเรียนชมุ ชนวัดครี นี าครตั นาราม สำนักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษา ประถมศกึ ษาลพบุรี เขต 2 2. โรงเรยี นโนนศลิ า สำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษา ไกรฤกษ์ราษฎร์อำนวย ประถมศึกษากาฬสนิ ธุ์ เขต 1 3. โรงเรยี นทปี งั กรวทิ ยาพฒั น ์ สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา ประถมศกึ ษากรุงเทพมหานคร 4. โรงเรยี นบา้ นเชียงดาว สำนกั งานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษา ประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 5. โรงเรยี นบา้ นหว้ ยใหญ่ สำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษา ประถมศกึ ษาลพบุรี เขต 2 6. โรงเรียนบ้านหนองบัวทงุ่ สำนักงานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษา ประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 6 เทคนคิ วิธีการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้เพอ่ื ขับเคล่อื นจุดเนน้ การพฒั นาคุณภาพผ้เู รียน 38 ด้านอ่านออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขียนคล่อง

7. โรงเรยี นวัดหนองกบ สำนกั งานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษา (ขนุ ทองประชานุเคราะห์) ประถมศึกษาราชบรุ ี เขต 2 8. โรงเรยี นวดั อมรนิ ทราราม สำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา ประถมศกึ ษากรงุ เทพมหานคร 9. โรงเรียนบ้านท่าชุม สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษา (ประชาอทุ ิศวทิ ยาคาร) ประถมศึกษาสโุ ขทยั เขต 1 10. โรงเรียนวัดทงุ่ สว่าง สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษา ประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต 1 11. โรงเรยี นวดั อทุ ยั ธาราม สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษา ประถมศกึ ษากรุงเทพมหานคร 12. โรงเรยี นบ้านดวนบากนอ้ ย สำนกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษา ประถมศึกษายโสธร เขต 1 13. โรงเรียนอนบุ าลพนัสศกึ ษาลัย สำนักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษา ประถมศึกษาชลบรุ ี เขต 2 14. โรงเรียนหนองผอื วิทยาคม สำนกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษา ประถมศกึ ษาหนองคาย เขต 2 15. โรงเรยี นบ้านเขาดนิ ไพรวัน สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษา ประถมศึกษาสโุ ขทัย เขต 2 16. โรงเรียนบา้ นเขากวาง สำนกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษา ประถมศกึ ษาลพบุรี เขต 2 เทคนิค วิธกี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู้เพ่อื ขับเคล่อื นจดุ เนน้ การพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รียน ดา้ นอา่ นออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขียนคลอ่ ง 39



ภาคผนวก ❖ ตวั อย่างบทรอ้ ยกรอง ❖ ตัวอย่างบทความ ❖ ตวั อยา่ งเรอ่ื งสนั้ จรรโลงใจ ❖ คำถามทา้ ยบท เรอ่ื ง ปลอ่ ยแมว ❖ การประเมนิ ผลการเขยี นสรปุ ใจความ ❖ การประเมินผลการเขียนแผนภาพโครงเรือ่ ง เทคนคิ วิธีการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้เพื่อขบั เคล่ือนจุดเน้นการพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รยี น ด้านอา่ นออก อา่ นคลอ่ ง เขียนได้ เขยี นคล่อง 41


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook