2. พจิ ารณาและตรวจสอบวา่ รูปแบบของประพจน์ท่ีกาหนดให้ตอ่ ไปนี้ เป็นนิเสธหรือไม่ 1) p q และ p q pq pq pq p q TT T FF F TF F FT T FT F TF T FF F TT T ดังนั้น จากตาราง พบวา่ และ คา่ ความจรงิ ตรงข้ามกนั ทกุ กรณี นัน่ คือ และ เป็นนิเสธกัน 2) p q และ q p pq pq q p pq T FF T F FT F TT T TF T TF T TT T FT FF และ คา่ ความจรงิ เหมือนกนั ทุกกรณี ไม่เปน็ นเิ สธกนั ดงั นั้น จากตาราง พบว่า นัน่ คือ และ
9. ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ที่ได้รับมอบหมาย -อนุญาตให้ใช้สอนได้ ลงชื่อ......................................... (นายจงรกั ษ์ บารงุ วงศ์) หัวหน้ากล่มุ บริหารงานวิชาการ 10. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ด้านความรู้ -นักเรยี นส่วนใหญ่เขา้ ใจรปู แบบประพจนท์ ส่ี มมลู กัน -นักเรียนสว่ นใหญแ่ สดงประพจน์ทีส่ มมูลกันได้ ด้านสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น -นกั เรียนสามารถเขยี นสื่อสารและแก้ปัญหาได้ดี ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ -นกั เรียนส่วนใหญ่มวี ินัย ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ ม่ันในการทางาน ด้านความสามารถทางคณิตศาสตร์ -นักเรยี นสามารถคิดแกป้ ญั หาทางคณติ ศาสตรไ์ ด้ ด้านอนื่ ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทม่ี ีปญั หาของนกั เรียนเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี ) -นกั เรยี นบางส่วนทางานไม่เรยี บร้อย ปญั หา/อปุ สรรค - แนวทางการแกไ้ ข - ลงช่ือ............................................ (นายจงรกั ษ์ บารุงวงศ์) ตาแหน่ง ครู คศ.2
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 6 กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ รายวิชาคณิตศาสตร์ รหสั ค31101 เวลา 20 ช่ัวโมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่อื งตรรกศาสตร์ เวลา 6 ชั่วโมง เรอื่ ง สัจนิรนั ดร์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ครูผูส้ อน นายจงรกั ษ์ บารุงวงศ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชวี้ ัด ค 1.1 ม.4/1 เข้าใจและใช้ความรู้เก่ียวกับเซตและตรรกศาสตร์เบ้ืองต้น ในการส่ือสารและส่ือความหมายทาง คณิตศาสตร์ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) บอกได้ว่ารูปแบบของประพจน์ทีก่ าหนดให้เปน็ สัจนริ ันดร์หรอื ไม่ได้ (K) 2) ตรวจสอบไดว้ า่ รปู แบบของประพจนท์ ่ีกาหนดใหเ้ ป็นสจั นริ ันดรห์ รือไม่ โดยการสร้างตารางคา่ ความจรงิ (P) 3) ตรวจสอบไดว้ ่ารูปแบบของประพจน์ท่ีกาหนดให้เป็นสัจนริ ันดรห์ รือไม่ โดยวธิ ีการหาข้อขัดแย้ง (P) 4) ตรวจสอบได้ว่ารปู แบบของประพจน์ที่กาหนดให้เปน็ สัจนริ ันดรห์ รือไม่ โดยใชร้ ปู แบบของประพจน์ทส่ี มมูลกนั (P) 5) รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ที่ทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย (A) 3. สาระการเรยี นรู้ ประพจน์และตวั เช่ือม (นิเสธ และ หรือ ถา้ ...แลว้ ... ก็ต่อเมื่อ) 4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด สจั นริ นั ดร์ คอื รปู แบบของประพจน์ทม่ี ีค่าความจริงเป็นจริงทุกกรณี 5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี นและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มวี นิ ัย 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้ 1) ทกั ษะการให้เหตผุ ล 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน 2) ทกั ษะการประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
6. กิจกรรมการเรียนรู้ แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนิค : Concept Based Teaching ช่วั โมงที่ 1 ข้นั นา ขน้ั การใช้ความรเู้ ดมิ เชื่อมโยงความรูใ้ หม่ (Prior Knowledge) 1. ครูกระตนุ้ ให้นักเรยี นสนใจโดยการถามปัญหาเชาว์ทเ่ี กีย่ วข้องกับตรรกศาสตร์ ดังนี้ ดวงวิญญาณของนางสาวสุดสวย มาถงึ ทางแยกท่ีจะผ่านประตูไปสู่สวรรค์หรอื นรก เทวดาซึง่ มหี นา้ ทีเ่ ฝ้า ประตสู วรรคพ์ ูดจรงิ เสมอ ส่วนปศี าจซง่ึ มหี น้าที่เฝ้าประตูสู่นรกพูดเทจ็ เสมอ เทวดาและปศี าจคนู่ ้บี างคร้ังก็ สลบั หน้าทก่ี นั เฝ้าประตู และมรี ปู รา่ งหนา้ ตาคล้ายคลงึ กัน ดวงวิญญาณของนางสาวสดุ สวยจะตอ้ งถาม ผ้เู ฝา้ ประตเู พียงผเู้ ดียว และคาถามเดยี วเท่านั้น ดวงวิญญาณของนางสาวสดุ สวยจะตอ้ งถามอย่างไร จงึ จะ ทราบวา่ ประตูไหนไปสู่สวรรค์ ประตูไหนไปสู่นรก (ข้อสอบสมาคมคณิตศาสตร์ฯ/2527) 2. เม่อื ครูถามคาถามจบ ครูให้นักเรียนไดล้ องคิดเป็นเวลา 10 นาที แล้วใหน้ กั เรยี นลองเสนอคาตอบที่ตวั เองคิด พร้อมบอกวธิ ีคิดอยา่ งละเอยี ด ครแู ละนกั เรียนคนอื่น ๆ ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง (แนวตอบ ถามวา่ ทา่ นเฝ้าประตูนี้ใชห่ รือไม่ ให้เข้าประตทู ต่ี อบว่าใช่ ถา้ ตอบว่าไม่ใชก่ ็เขา้ อกี ประตู เพราะถ้า เปน็ ประตสู วรรค์ เทวดาจะบอกว่าใช่ ปีศาจก็จะตอบว่าใชเ่ พราะเขาโกหก (จริง ๆ แลว้ เขาคุมประตูนรกต้อง ตอบว่าไม่ใช)่ เพราะฉะนน้ั ไม่วา่ ใครมาคุมประตูไหนกต็ อบว่าใชท่ ่ปี ระตสู วรรค์ทั้งน้นั ส่วนประตูนรกเทวดาและ ปีศาจกจ็ ะตอบไม่ใชท่ ้งั สองคน) 3. ครใู ห้นกั เรียนตอบคาถามจากกิจกรรม Investigation จากหนังสือเรยี นหน้า 73 ดังนี้ ใหน้ ักเรยี นเติมค่าความจรงิ ของรปู แบบของประพจนใ์ นตาราง แลว้ ตอบคาถามท่ีกาหนด - เม่อื กาหนดให้ p และ q เป็นประพจน์ p q pq p (p q) [p (p q)] q T T pq p (p q) [p (p q)] q T F F T T T T F F F F T (แนวตอบ T F T q T F T p T T F T T F F F )
- จากตารางค่าความจรงิ ในแตล่ ะบรรทดั ของรปู แบบของประพจน์ p q , p (p q) และ [p (p q)] q เป็นอย่างไร ให้อธิบาย (แนวตอบ ค่าความจริงในแต่ละบรรทัดตามเฉลยในตารางด้านบน ซ่ึงจะเห็นวา่ รปู แบบของประพจน์ [p (p q)] q มีค่าความจรงิ เป็นจริงทุกกรณี) ขั้นสอน ข้นั รู้ (Knowing) 1. ครูอธิบายว่าค่าความจริงของรูปแบบของประพจน์ [p (p q)] q มีค่าความจริงเป็นจริงทุกรณี โดย ลักษณะเช่นน้ี เรากลา่ ววา่ รูปแบบของประพจน์ [p (p q)] q เป็นสจั นิรันดร์ 2. ครูใหน้ กั เรียนจับคู่ศกึ ษาเกย่ี วกับการตรวจสอบว่ารปู แบบของประพจน์ใดเป็นสัจนิรันดร์ โดยการสร้างตาราง คา่ ความจริง จากตวั อยา่ งท่ี 20-21 ในหนงั สือเรยี นหน้า 74 3. ครสู ุ่มนักเรียน 2 คู่ ออกมานาเสนอคาตอบหน้าชนั้ เรยี น โดยครูตรวจสอบความถูกต้อง ขั้นเข้าใจ (Understanding) 1. ครูให้นักเรียนทา “ลองทาดู” ในหนังสือเรยี นหน้า 74 เมื่อนักเรยี นทาเสร็จใหร้ ว่ มกันเฉลยคาตอบ โดยครู ตรวจสอบความถูกต้อง 2. ครใู ห้นกั เรยี นทาแบบฝึกทกั ษะ 2.6 ข้อ 1 ในหนงั สือเรยี นหน้า 79 และ Exercise 2.6 ข้อ 1 ในหนงั สือ แบบฝกึ หัด เปน็ การบา้ น ชัว่ โมงที่ 2 ขั้นรู้ (Knowing) 1. นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยคาตอบในแบบฝึกทักษะ 2.6 ข้อ 1 ในหนังสอื เรียนหน้า 79 และ Exercise 2.6 ข้อ 1 ในหนังสือแบบฝึกหดั 2. ครอู ธิบายเกย่ี วกับการตรวจสอบว่า รูปแบบของประพจน์ใดเป็นสัจนิรันดร์ โดยวิธีการหาข้อขัดแย้ง จาก ตัวอยา่ งท่ี 22-25 ในหนงั สือเรยี นหนา้ 75-77 3. ครเู น้นย้าข้อมูลทส่ี าคัญทน่ี ักเรียนควรรู้เพมิ่ เติมในกรอบ ATTENTION จากหนังสือเรยี นหน้า 77 ขน้ั เข้าใจ (Understanding) 1. ครูให้นักเรยี นทา “ลองทาดู” ในหนังสอื เรยี นหนา้ 75-77 จากนนั้ สุม่ นกั เรียน 4 คน ออกมานาเสนอคาตอบ หน้าชั้นเรยี น โดยครตู รวจสอบความถกู ต้อง 2. ครใู ห้นกั เรยี นทา Exercise 2.6 ข้อ 2 ในหนงั สอื แบบฝกึ หัด เปน็ การบา้ น ชวั่ โมงท่ี 3 ขั้นรู้ (Knowing) 1. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั เฉลยคาตอบใน Exercise 2.6 ขอ้ 2 ในหนงั สือแบบฝึกหัด 2. ครูทบทวนความรู้เก่ียวกบั รูปแบบของประพจนท์ ่ีสมมลู กัน ในหนังสอื เรียนหน้า 67
3. ครอู ธิบายเก่ียวกับการตรวจสอบวา่ รปู แบบของประพจน์ใดเปน็ สจั นิรนั ดร์ ซงึ่ พิจารณารูปแบบของประพจน์ p q โดยการตรวจสอบการสมมลู กันของรูปแบบของประพจน์ จากตัวอยา่ งที่ 26-27 ในหนงั สอื เรยี น หน้า 78 ขั้นเขา้ ใจ (Understanding) 1. ครูให้นกั เรยี นทา “ลองทาดู” ในหนงั สอื เรียนหนา้ 78 เมอ่ื นักเรยี นทาเสรจ็ ให้ร่วมกนั เฉลยคาตอบ โดยครู ตรวจสอบความถูกต้อง 2. ครูให้นกั เรยี นจับคชู่ ่วยกันทาแบบฝกึ ทักษะ 2.6 ข้อ 2 ในหนังสอื เรียนหน้า 79 จากนั้นสุ่มนกั เรียน 4 คน ออกมานาเสนอคาตอบหน้าช้ันเรยี น โดยครตู รวจสอบความถูกต้อง 3. ครใู ห้นกั เรียนทา Exercise 2.6 ข้อ 3 ในหนังสือแบบฝกึ หัด เปน็ การบ้าน ชว่ั โมงที่ 4 ขั้นเข้าใจ (Understanding) 4. นกั เรยี นและครูรว่ มกันเฉลยคาตอบใน Exercise 2.6 ขอ้ 3 ในหนังสอื แบบฝึกหัด 5. ครใู ห้นักเรียนแบ่งกลุม่ กลุ่มละ 2-3 คน จากนน้ั ใหน้ กั เรียนร่วมกันทาแบบฝึกทักษะประจาหน่วยการเรียนร้ทู ่ี 2 ขอ้ 7 ในหนังสือเรยี น หนา้ 75 แล้วส่งตวั แทนกลุ่มละ 1 คน ออกมานาเสนอหน้าช้ันเรยี น โดยมีครคู อย ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ข้ันลงมือทา (Doing) 1. ครใู หน้ กั เรียนจับคู่แล้วชว่ ยกันหาคาตอบของแบบฝึกทกั ษะ 2.6 ข้อ 3 จากน้นั สุ่มนักเรยี น 1 คู่ ออกมานาเสนอ คาตอบหนา้ ชั้นเรยี น โดยครูตรวจสอบความถกู ต้อง 2. ครูแจกกระดาษ A4 ใหน้ กั เรยี นคนละหนง่ึ แผ่น จากนน้ั ให้นักเรียนพจิ ารณาและวิเคราะห์คาตอบของกิจกรรม Journal Writing จากหนงั สอื เรียนหน้า 79 และเขยี นวธิ ีคดิ ลงในกระดาษ A4 3. ครูให้นกั เรยี นทาแบบฝกึ ทักษะประจาหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ขอ้ 1-6 ในหนังสือเรียนหนา้ 82-83 เปน็ การบา้ น ช่ัวโมงที่ 5 ข้ันเขา้ ใจ (Understanding) นักเรยี นและครรู ่วมกนั เฉลยคาตอบในแบบฝึกทักษะประจาหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ข้อ 1-6 ในหนงั สือเรยี น หนา้ 82-83 ขน้ั ลงมือทา (Doing) ครใู ห้นกั เรยี นทารายงานเร่ือง นักเรยี นสามารถนาความรู้เกี่ยวกบั ตรรกศาสตร์เบื้องต้นมาใช้ในชีวิตประจาวนั อยา่ งไรไดบ้ ้าง ข้ันสรปุ
1. ครใู ห้นักเรียนเขยี นผงั ความร้รู วบยอดเร่อื งสัจนริ ันดร์ลงในสมุด 2. ครสู รปุ โดยใชก้ ารถาม-ตอบ ดังน้ี สจั นริ นั ดร์ คอื อะไร (แนวตอบ สัจนิรนั ดร์ คือ รปู แบบของประพจนท์ ีม่ ีคา่ ความจรงิ เป็นจรงิ ทุกกรณี) วิธีการตรวจสอบวา่ รปู แบบของประพจนใ์ ดเป็นสจั นริ ันดรม์ กี วี่ ิธี อะไรบ้าง (แนวตอบ 3 วิธี คอื วธิ ที ่ี 1 การสรา้ งตารางค่าความจริง วิธีที่ 2 วิธีการหาข้อขัดแย้ง และวิธีท่ี 3 พิจารณา รปู แบบของประพจน์ p q โดยการตรวจสอบการสมมูลกนั ของรปู แบบของประพจน์) 3. นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรือ่ ง ตรรกศาสตรเ์ บ้ืองต้น 7. การวัดและประเมินผล รายการวัด วธิ วี ดั เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมนิ - ระดับคณุ ภาพ 2 7.1 การประเมนิ ชิ้นงาน/ - ตรวจรายงานเรอ่ื ง - แบบประเมนิ ช้นิ งาน/ ผ่านเกณฑ์ ภาระงาน (รวบยอด) นกั เรียนสามารถนา ภาระงาน (รวบยอด) - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ความรเู้ กี่ยวกับ - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรรกศาสตร์เบื้องตน้ มา - ระดับคณุ ภาพ 2 ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ผ่านเกณฑ์ อย่างไรได้บ้าง - ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 7.2 การประเมนิ ระหว่าง - ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ - ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 1) สจั นริ นั ดร์ - ตรวจแบบฝกึ ทกั ษะ 2.6 - แบบฝกึ ทกั ษะ 2.6 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ตรวจ Exercise 2.6 - Exercise 2.6 - ตรวจแบบฝึกทกั ษะ - ตรวจแบบฝึกทักษะ ประจาหนว่ ยการ ประจาหนว่ ยการ เรียนรู้ท่ี 2 เรียนร้ทู ี่ 2 2) การนาเสนอผลงาน - ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมินการ ผลงาน นาเสนอผลงาน 3) พฤติกรรมการทางาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม รายบคุ คล การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล 4) พฤติกรรมการทางาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม กลุ่ม การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม 5) คุณลักษณะอันพึง - สงั เกตความมีวินัย - แบบประเมนิ ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มั่น คณุ ลักษณะอันพงึ ในการทางาน ประสงค์ 7.3 การประเมินหลงั เรียน - แบบทดสอบหลัง - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลงั เรยี น เรยี นหน่วยการ หลังเรยี น เรียนรู้ท่ี 2
8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 8.1 ส่อื การเรยี นรู้ 1) หนังสอื เรียนรายวิชาพนื้ ฐาน คณติ ศาสตร์ ม.4 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 ตรรกศาสตรเ์ บื้องต้น 2) แบบฝกึ หัดรายวชิ าพื้นฐาน ม.4 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ตรรกศาสตรเ์ บื้องต้น 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) ห้องเรียน 3) อินเตอรเ์ น็ต
9. ความเหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย -อนญุ าตให้ใช้สอนได้ ลงชอ่ื ......................................... (นายจงรักษ์ บารุงวงศ์) หวั หน้ากลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ 10. บันทกึ ผลหลงั การสอน ด้านความรู้ -นักเรียนส่วนใหญ่เขา้ ใจความหมายของสจั นริ ันดร์ -นกั เรยี นสว่ นหาประพจนท์ ี่สจั นริ ันดร์ได้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน -นักเรยี นสามารถเขียนส่อื สารและแก้ปัญหาได้ดี ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ -นักเรยี นส่วนใหญม่ วี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ ม่ันในการทางาน ด้านความสามารถทางคณิตศาสตร์ -นักเรียนสามารถคิดแก้ปญั หาทางคณิตศาสตร์ได้ ด้านอนื่ ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมที่มปี ัญหาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถา้ ม)ี ) -นักเรยี นบางส่วนทางานไม่เรียบร้อย ปญั หา/อปุ สรรค - แนวทางการแก้ไข - ลงชื่อ............................................ (นายจงรักษ์ บารงุ วงศ์) ตาแหน่ง ครู คศ.2
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159