Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ติดเกาะกับตึกเก่า: หนังสือคู่มือท่องเที่ยวเกาะรัตนโกสินทร์

ติดเกาะกับตึกเก่า: หนังสือคู่มือท่องเที่ยวเกาะรัตนโกสินทร์

Published by Thalanglibrary, 2021-10-27 03:00:37

Description: หนังสือ "ติดเก่ากับตึกเก่า" เป็นคู่มือท่องเที่ยวแหล่งเรียนรู้ทางด้านสถาปัตยกรรมในเขตเกาะรัตนโกสินทร์ ทั้งสถาปัตยกรรมแนวไทยประเพณี (วัดและวัง) สถาปัตยกรรมแบบฝรั่งมากมายที่เป็นทั้งโรงเรียน กระทรวงต่างๆ ไปรษณีย์ สุสาน ฯลฯ สถาปัตยกรรมแนวโมเดิร์น สถาปัตยกรรมยุคสงครามเย็น และสถาปัตยกรรมยุคร่วมสมัย มากกว่า 150 อาคารที่มีประวัติความเป็นมาและเรื่องราวที่แสดงถึงความเปลี่ยนแปลงในสังคมไทย

Search

Read the Text Version

ตกึ แถวกนั สาด ค.ส.ล. ในช่วงปลายรชั กาลที่ ๖ ถงึ รัชกาลที่ ๗ ตึกแถวเริ่มมกี ารเปล่ียนแปลงเลก็ นอ้ ย ด้วยเร่มิ มี คอนกรีตเสริมเหล็กเป็นวสั ดอุ ยา่ งใหม่เข้ามา ท�ำ ใหท้ �ำ กันสาดยืน่ ออกมาได้ท้งั ช้ันบน และชน้ั ล่าง บางชดุ ชอ่ งลมเหนอื ประตูและหนา้ ต่าง ก็เป็น ค.ส.ล. แทนการใช้ไมฉ้ ลอุ ย่างทีท่ ำ�กันมา Shophouses with reinforced concrete awnings: In the 1910s-20s in King Rama VI’s and King Rama VII’s eras, reinforced concrete was introduced and became a popular material in construction. Awnings, railings, and ventilating grills were made of reinforced concrete at that time. ตึกแถวถนนพระสุเมรุ หน้าวดั บวร F22 โดดเด่นทีล่ วดลายปูนป้นั ใต้หน้าต่าง ชอ่ งลมเหนอื ประตูหน้าตา่ ง เปน็ ค.ส.ล. Shophouses on Sumen Road in front of Wat Bowon Niwet: The unique feature is the stucco works under the windows. The ventilating grills are made of reinforced concrete. ตึกแถวถนนพระสุเมรุ ยา่ นผ่านฟ้า F23 รปู แบบเหมอื นกับที่หน้าวัดบวรทุกประการ กนั สาด ค.ส.ล. ทั้งสอง ช้ัน มีลวดลายใตห้ นา้ ต่างเหมอื นกนั Shophouses on Sumen Road in Phan Fa area: They share the same style as the ones in front of Wat Bowon Niwet. There are reinforced concrete awnings on both stories, with stucco works under the windows as well. ตกึ แถวถนนตะนาว F24 ฝง่ั ใตถ้ นนราชดำ�เนนิ ท่ีแยกคอกวัว ขนาบสองขา้ งถนน แวะชิมกิม เลง้ ได้ เลขที่ ๑๕๘-๑๖๐ หม่ีกรอบข้นึ หงิ้ Shophouses on Tanao Road: south of Ratchadamnoen ตกึ แถวโค้งถนนพระอาทิตย์ F25 Shophouses on the bend on Phra Athit Road F22 Shophouses with reinforced D F23 concrete awnings A T Phra Sumen Rd. A Phra Sumen Rd. F24 Tanao Rd. F25 Phra Athit Rd. 149

ตึกแถวหลังคาดาดฟา้ ในชว่ งปลายรัชกาลที่ ๖ ถึงรัชกาลที่ ๗ ตึกแถวที่มหี ลังคาแบนเรมิ่ ปรากฏใหเ้ ห็น แทนหลังคาจ่ัวหรือ หลังคาป้ันหยาท่ีนิยมท�ำ มาในยุคกอ่ น ดาดฟ้าเหลา่ นี้สร้างขึ้นมาได้ก็เมอื่ มคี อนกรีตเสรมิ เหล็กแล้ว ราวระเบยี งกเ็ ป็นลกู กรง ค.ส.ล. กนั สาดก็เปน็ ค.ส.ล. คอนกรตี เสริมเหลก็ ยังชว่ ยใหส้ ร้างตึกไดส้ งู ขึ้น เป็น ๓ ชนั้ อีกดว้ ย Shophouses with Rooftops: In the 1910s-20s in King Rama VI’s and King Rama VII’s eras, shophouses were built with a flat top. Using reinforced concrete meant the buildings could be built higher than before. ตกึ กมลสโุ กศล F26 ตึกวรพรต F27 Kyoto University Library ตกึ คัคณางค์ F28 สุ ิรนทร์ ับญ ัญ ิตปิยพจ ์น ถนนมหาไชย หลงั คาเป็น ตรงวงเวียนสิบสามหา้ ง บาง หัวมุมแยกสามยอด เมื่อแรก ดาดฟ้า มีชายคายืน่ ยาวท้งั ช้ันบน ลำ�พู สร้าง เป็นตึกแถวที่ยาวไปตาม และช้นั ลา่ ง ถนนมหาไชย แตค่ หู าอ่นื ๆ รอื้ ลง สรา้ งในปี ๒๔๗๕ มดี าดฟ้า หมดส้ินแลว้ เหลือแตห่ อ้ งตรงหัว ทง้ั หมดนี้เกิดขึน้ ได้เพราะมี ชายคายืน่ ยาว มลี กู กรงระเบียง มมุ นี้ ค.ส.ล. ค.ส.ล. สร้างขึน้ ในปลายรชั กาลที่ ๖ Kamol Sukosol Building: 3-unit shophouse: near the สูง ๓ ชนั้ มดี าดฟ้า เคยเปน็ โรง Located on Maha Chai Road, it has Bang Lamphu Roundabout, built พยาบาลทาเคดะ และห้างขายยา a rooftop, and cantilevered eaves in 1932 with reinforced concrete หมอเหล็ง ศรีจนั ทร์ มาก่อน ทกุ on both upper and ground floors. balcony railings. วนั นเี้ ปน็ คชาเบด โฮสเตล็ ฮิป D Shophouses with Rooftops Gagananga Building: Located A F26 665 Maha Chai Rd. at the corner of the Sam Yot T F27 Tani Rd. Intersection, it was built in the A F28 156 Maha Chai Rd. 1920s in King Rama VI’s era. It used to house a Japanese hospital 150 and a well-known clinic/pharmacy. Today, it is home to a hip hotel called Cacha Bed Heritage Hotel.

ตึกฟาซาล ตกึ แถวโคง้ เสาชิงช้า F30 ตกึ แถวถนนจกั รเพชร (ห้าง อี. แอม. กาตบ๊ิ ) F29 ปากทางเข้าสะพานหัน F31 สูง ๓ ช้ัน มดี าดฟ้า ชายคา หัวมุมถนนบ�ำรงุ เมอื ง เชิง ค.ส.ล. ลูกกรงระเบียง ค.ส.ล. Shophouses on Chak Phet Road สะพานชา้ งโรงสี near the entrance of Sampheng Shophouses on the bend Market สรา้ งเมอื่ ปี ๒๔๗๔ เป็นห้าง near the Giant Swing: They are แขกมสุ ลิมจากอินเดีย ขายเครอ่ื ง three stories high with rooftop, แก้วเจียระไนจากยุโรป reinforced concrete awnings, and balcony railings. ตอ่ มาเปน็ ร้านขายอปุ กรณ์ เครื่องแบบต�ำรวจ ก่อนจะปิด ปรับปรงุ Fazal Building (E. M. Katib Store): Located on the corner of Bamrung Mueang Road near the foot of the bridge. It was built in 1931. F29 Shophouses with Rooftops D F30 Bamrung Mueang Rd. A F31 Bamrung Mueang Rd. T Chak Phet Rd. A 151

ไทยใหม่ รัฐทันสมัยสุดโมเดิร์น “New Thai,” a modern nation กรุงรัตนโกสนิ ทรต์ อ้ งเผชญิ กับการเปลยี่ นแปลงครง้ั ใหญอ่ ีกครงั้ เมอ่ื ลุถงึ แผน่ ดินท่ี ๗ ท้ังวกิ ฤตเศรษฐกิจทแ่ี พร่กระจายไปท่ัวโลก และสถานการณท์ างการเมืองที่มกี ารเรียกร้อง รัฐธรรมนูญ อันน�ำ มาสวู่ กิ ฤตศรทั ธาตอ่ ระบอบสมบรู ณาญาสิทธิราชย์ จนในทส่ี ดุ จึงเกดิ การ เปลยี่ นแปลงการปกครองมาเปน็ ระบอบประชาธิปไตย ในช่วงหัวเลีย้ วหัวตอ่ นเ้ี อง เป็นจุดเปล่ียนทีส่ ำ�คญั ยิ่งในแวดวงสถาปัตยกรรมของไทย ดว้ ยเชน่ กัน เนอ่ื งจากมีการลดจำ�นวนสถาปนกิ ฝร่งั ในหน่วยงานราชการลงจนแทบไมเ่ หลอื แถมยงั มีการสง่ นกั เรยี นไทยไปศกึ ษาวิชาชพี สถาปัตยกรรมในตา่ งประเทศอีกดว้ ย สถาปนกิ ชาวไทยท่ีจบกลับมาจากยโุ รปเหล่าน้ี จงึ กลายเปน็ กำ�ลังสำ�คัญในการปรบั ภูมิ ทัศนข์ องพระนคร แทนทีส่ ถาปนิกฝรงั่ ดังเช่นยุคสมยั ก่อนหน้า อาคารหลายหลงั ในเกาะ รตั นโกสินทรจ์ งึ ลว้ นเปน็ ผลงานทเี่ ดก็ หวั นอกเหล่าน้ี ได้ฝากฝีมอื เอาไวใ้ ห้เราไดเ้ ห็นกนั มา จนถงึ ปจั จุบัน สถาปตั ยกรรมแบบ “โมเดิรน์ ” ได้ถือก�ำ เนิดข้ึนในยุโรป สะท้อนถึงสังคมสมยั ใหม่หลังยุค ปฏิวตั ิอุตสาหกรรม ซึง่ การออกแบบจะเนน้ ทปี่ ระโยชน์ใช้สอยเปน็ หลกั ...เบาไดเ้ บา ความอู้ฟู่ หรูหราและลวดลายประดับตกแตง่ ต่างๆ จงึ ถูกลดทอนลงหรอื ตดั ออกไปสิน้ คอนกรีตเสริมเหล็กไดน้ ำ�มาใช้เป็นวัสดุพน้ื ฐานที่ชว่ ยใหส้ ร้างอาคารไดส้ ูงขน้ึ รวมถงึ มี กนั สาดยนื่ ยาวตอบรบั กับการใช้ชวี ิตของคนกรงุ ในสังคมเมืองท่เี ปลี่ยนไปอกี ดว้ ย อาคารหลายหลงั ในยุค “ไทยใหม”่ น้ี จึงได้กลายเป็นสญั ลักษณ์ของยุคประชาธิปไตย อนั เบง่ บานในช่วงเปลย่ี นผ่านนีเ่ อง Bangkok witnessed a major change in the reign of King Rama VII due to a global economic crisis and its transition into democracy. In terms of architecture, Thai students were sent to study architecture overseas, and they became important changemakers of the cityscape, replacing foreign architects in the former era. These foreign-educated Thais have created many remarkable buildings that we see today, and these are “Modern” architectures that portray our society in the post-industrial era. The design focuses more on functionality, and such design has become a symbol of democratic society in Thailand. 152

ตำ� หนกั ใหมก่ รมพระสวสั ดวิ ดั นวศิ ษิ ฏ์ New Mansion of Prince Svasti Sobhana: หรอื ท�ำเนยี บทา่ ช้าง G01 Built in 1930 in the reign of King Rama VII as a new residence for Prince Svasti ตกึ หลังใหญร่ มิ ถนนพระอาทิตย์ เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า Sobhana (King Rama VII’s father-in-law), หลังนี้ สรา้ งขึ้นในสมยั รชั กาลท่ี ๗ เพ่ือเปน็ ตำ�หนกั ท่ีประทับ the mansion was later occupied by Regent องคใ์ หมข่ องสมเด็จพระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระสวัสดิวัดน- to Thailand Pridi Banomyong after the วิศิษฏ์ แทนตำ�หนักเดมิ ที่อย่เู คียงกนั ซ่งึ สรา้ งมาตั้งแต่ปลาย political reform. The building is made of รชั กาลที่ ๕ (เดิมคือต�ำ หนักของหม่อมเจา้ จรูญศักด์ิ กฤดากร) reinforced concrete and is 3 stories high, with a simple design. It is one of the most D05 modern architecture of its time. ตอ่ มาเมื่อมีการเปล่ียนแปลงการปกครอง ในสมัยรฐั บาล G 01 The Chang Mansion D จอมพล ป. พิบลู สงคราม เปน็ นายกฯ ได้ใชเ้ รอื นหลงั น้เี ปน็ 19 Phra Athit Rd. A ทีพ่ กั ของนายปรีดี พนมยงค์ ขณะดำ�รงต�ำ แหน่งประธานคณะ Not Open to the Public T ผสู้ �ำ เร็จราชการแทนพระองค์ จึงเรียกเรือนหลังน้ีว่า “ทำ�เนยี บ A ท่าชา้ ง” (ทา่ ช้างในทนี่ ี้ เปน็ ทา่ ชา้ งวงั หน้า คนละแหง่ กับท่าช้าง วงั หลวงตรงมหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร) ปัจจุบันใชเ้ ปน็ อาคาร 153 รบั รองของสำ�นักงานทรพั ย์สนิ พระมหากษตั รยิ ์ ตัวอาคารเป็นโครงสรา้ งคอนกรีตเสริมเหล็กสูงสามชนั้ รูป ทรงเรยี บงา่ ยทนั สมยั ดว้ ยเป็นชว่ งท่ีกำ�ลังก้าวเขา้ สู่ยุคโมเดริ ์น จงึ คลายการประดบั ประดาแบบสถาปตั ยกรรมคลาสสิกลง จะเหน็ ไดว้ า่ ประตหู นา้ ต่างก็เปน็ เพยี งสีเ่ หล่ยี มเรยี บๆ บางห้อง เปน็ หน้าตา่ งกระจกสูงจากพน้ื จรดเพดานเลยทเี ดียว

สุขมุ าลอนามยั G02 รูปแบบสถาปัตยกรรมจดั วา่ อยู่ในช่วงหวั เลี้ยว หัวตอ่ จากอาคารแบบคลาสสิก อนั เปน็ ที่นิยมใน หากใครคุ้นเคยกบั ยา่ นแพรง่ ภธู ร คงคุ้นตากบั สมยั รชั กาลที่ ๕-๖ เข้าสู่ยุคโมเดิรน์ จากเดิมทีเ่ ป็น อาคารขนาดย่อมหลงั หนง่ึ ทมี่ ีหน้าตาคลา้ ยบ้าน โครงสร้างผนังรบั นำ้�หนกั แปรเปล่ียนเป็นคอนกรตี พักอาศัย ดอู บอ่นุ เปน็ มิตรดว้ ยมคี วามเรียบง่าย เสริมเหล็กท่เี รียบง่ายขนึ้ และมีการลดทอนราย สมถะ ไม่หวอื หวา อาคารทีว่ า่ คือ สถานีกาชาดท่ี ละเอียดการประดบั ประดาลง ๒ กรุงเทพฯ หรอื ท่เี รยี กอยา่ งสละสลวยว่า “สขุ มุ าล อนามยั ” ซ่ึงปัจจุบนั กย็ ังคงเปิดให้บริการทางการ ส่วนผลงานการออกแบบอาคารอีกหลงั ของชารล์ แพทย์อยู่ ภายใตส้ งั กดั สภากาชาดไทย เบเกอแลง็ กค็ ือ ตกึ บกี รมิ หนา้ วังบูรพา L07 ซ่ึง สร้างขึ้นในยุคเดียวกัน ปจั จบุ นั ไดถ้ ูกรื้อลงหมดแลว้ ย้อนกลับไปเม่อื ปี ๒๔๗๑ ในสมยั รชั กาลท่ี ๗ เม่ือสิ้นงานพระเมรขุ องสมเดจ็ พระนางเจ้าสขุ มุ าล Sukhumala Health Center (Bangkok’s 2nd Red มารศรี พระบรมราชเทวใี นรัชกาลท่ี ๕ แล้ว สมเด็จฯ Cross Center): Built in 1928 in King Rama VII’s era กรมพระนครสวรรค์วรพินติ พระโอรส ไดป้ ระทาน from the funds raised in the royal funeral of Queen เงนิ ทำ�บุญจากงานพระเมรุเพอ่ื สรา้ งอาคารสถานี Consort Sukhumala of King Rama V, it is located at a กาชาดแห่งใหม่ขึน้ ตรงบริเวณที่เปน็ สนามเดก็ เลน่ square in the middle of Phraeng Phuthon, a business กลางแพร่งภธู ร complex. It is a two-story reinforced concrete build- ing. The first floor had examination rooms, and the ตกึ ใหม่แห่งนจี้ งึ ได้ช่ือว่า “สุขุมาลอนามัย” สถานี second floor housed nurses’ dorms. It was designed อนามยั ของสุขมุ าล ตามพระนามของผบู้ ริจาคทุน by Charles Béguelin, a French-Swiss architect who ในการสรา้ ง worked in Thailand. ตวั อาคารเป็นตึกสองชัน้ มโี ครงสรา้ งเป็น เร่ืองเล่าชาวเกาะ คอนกรตี เสริมเหลก็ ช้ันลา่ งเปน็ หอ้ งตรวจ ช้ันบน เป็นทีพ่ กั ของนางพยาบาล หลงั คาเปน็ ทรงปน้ั หยา คาวหวาน ในย่านแพร่งภูธร มุงหลงั คาดว้ ยกระเบ้ืองซีเมนต์ หากมาเยือนถิน่ แพรง่ ภธู ร อย่าลมื แวะชมิ ขา้ วหมูแดงหมู กรอบ สตวู ์เน้อื และกะหรหี่ มู ทีร่ ้านอดุ มโภชนาด้วยนะ ออกแบบโดยนายชาร์ล เบเกอแลง็ (Charles สตวู ์ และแกงกะหร่ี ทเี่ ราคุ้นเคยตามร้านเกา่ แก่ของชาวจนี Béguelin) สถาปนิกชาวฝรง่ั เศส-สวสิ นายช่างจาก แบบน้ี ถอื เปน็ อาหารฟิวชัน่ คอื เปน็ ส�ำ รับฝร่ังทท่ี �ำ ขน้ึ ในสไตล์ กรมสาธารณสขุ จนี แลว้ กไ็ มใ่ ชจ่ ีนแผ่นดนิ ใหญ่เสียดว้ ยนะ แต่เปน็ จนี โพ้นทะเล ทมี่ าตงั้ รกรากในแถบเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ของเรานเ้ี อง จงึ D G 02 Sukhumala Health Center เป็นสตู รเฉพาะ แบบฝร่ังปนจีนปนมาเลย์ หากินไม่ได้ทงั้ ทเ่ี มือง A (Bangkok’s 2nd Red Cross Center) ฝร่ัง และเมอื งจนี T 80 Atsadang Rd. ติดกนั ยังมีรา้ นข้าวเหนียวปิง้ ไส้กล้วยกับไส้เผือก รา้ นโปรด A 8.00am-4.00pm Mon-Fri ของนันทิดา แก้วบัวสาย นกั ร้องดีวาดาวค้างฟา้ ที่นางกนิ มา 02 221 5778 ต้ังแต่ครง้ั ยังเรยี นอยทู่ ีส่ ตรีวิทย์ 154 แลว้ อย่าลมื ไปดับร้อนตอนบ่ายๆ กนั ดว้ ยทรี่ ้านถดั ไป...รา้ น ไอตมิ นฐั พร ไอตมิ กะทใิ นต�ำ นานของดคี ูแ่ พรง่ ภูธรอกี อยา่ ง เปน็ ยงั ไงล่ะ! อ่ิมอร่อยครบ จบในยา่ นเดียวท้ังคาวหวานเลย นะฮ้า

สะพานพระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลก G03 สะพานเหลก็ กล้า ยาว ๒๓๐ เมตร มนี ้ำ�หนักมากถึง ๑,๑๐๐ ตนั สร้างข้ึนเพื่อเปน็ อนสุ รณ์ในคราวฉลองกรงุ รตั นโกสินทร์ครบ ตอม่อเปน็ คอนกรตี เสริมเหลก็ รอบ ๑๕๐ ปี ในปี ๒๔๗๕ สมัยรชั กาลที่ ๗ โดยแต่แรกนั้นทรง มพี ระราชดำ�ริจะสร้างเพยี งพระบรมราชานสุ าวรียร์ ชั กาลที่ ๑ ทตี่ รงกลางสะพานสามารถยกเปิดขนึ้ เพือ่ ระลึกถึงปฐมกษัตรยิ ์ผสู้ ถาปนาพระนครแห่งน้ีขน้ึ เพ่ือใหเ้ รอื ผา่ นได้ แตก่ รมพระกำ�แพงเพชรอคั รโยธนิ ทรงเสนอว่าควรสรา้ ง โครงสรา้ งสะพานมคี วามมัน่ คงแข็งแรงมาก สะพานขา้ มแมน่ ้ำ�เจา้ พระยาจะเปน็ ประโยชน์กว่า ด้วยเชื่อม ด้วยเป็นโครงเหลก็ ยดึ โยงตามแนวทะแยง ฝ่ังธนบุรกี บั ฝ่ังพระนครเข้าดว้ ยกัน เพอื่ ให้ความเจริญขยาย ทง้ั ดา้ นข้างสะพาน ด้านบน และด้านล่าง ตัวออกไปทางฝัง่ ตะวนั ตกของแม่น้ำ�บ้าง และใหป้ ระดษิ ฐาน ลกั ษณะคลา้ ยกบั กลอ่ งหรอื อุโมงคเ์ หลก็ โปรง่ พระบรมราชานุสาวรยี ์อยู่ทเี่ ชงิ สะพานแทน หากสร้างเพียง เรยี กกันว่าโครงสร้างแบบ Through Truss อนุสาวรยี ์เฉยๆ จะไม่เปน็ สาธารณประโยชนใ์ ดๆ ทง้ั ทางดา้ น เศรษฐกิจและชาตบิ า้ นเมือง G 03 Memorial Bridge D Tri Phet Rd. A พิธเี ปิดสะพานและอนุสาวรยี ์จงึ ได้จัดขึ้นในวันที่ ๖ เมษายน T ๒๔๗๕ (วนั จกั ร)ี และอีก ๓ เดือนตอ่ มา คือในวนั ท่ี ๒๔ A มถิ นุ ายน ก็เกดิ การปฏวิ ตั ิเปลย่ี นแปลงการปกครองสรู่ ะบอบ ประชาธิปไตย 155 Memorial Bridge: Built in 1932 to mark the 150th anniversary of Bangkok, the government at the time commissioned Dorman Long & Co, a world-famous company from England, to design this bridge. Their most famous work is the Sydney Harbour Bridge in Australia which was being constructed at the same time. The layout of the bridge, roads, and gardens form the shape of an arrow, which was King Rama VII’s emblem. The bridge is the bow, and the tip of the arrow points towards the Thonburi side. The U-shaped end points towards the Bangkok side, and King Rama I’s statue is located on this side. This bridge is very strong and durable as it is a through-truss bridge.

National Museum of Australia สะพานขา้ มอ่าวซดิ นีย์ State Library of New South Wales เมือ่ แล้วเสรจ็ เปิดใชใ้ นปี ๒๕๗๕ ปีเดียว สะพานข้ามอา่ วซดิ นยี ์ กบั สะพานพระพุทธยอดฟ้า ประเทศออสเตรเลีย ขณะก่อสรา้ ง จะเหน็ ว่ามีโครงสรา้ งเหลก็ ที่ คล้ายคลึงกัน ด้วยออกแบบ รัฐบาลในขณะน้นั ได้ว่าจา้ งบริษัทที่ ก่อสรา้ งโดยบรษิ ัทเดยี วกัน มีชือ่ เสียงระดับโลกขององั กฤษให้เป็น ผูอ้ อกแบบก่อสร้างสะพานแหง่ นี้ น่ันคอื บริษัท ดอรแ์ มน ลอง (Dorman Long & Co) ซง่ึ ขณะนน้ั กำ�ลังดำ�เนินการก่อสร้าง สะพานข้ามอ่าวซิดนยี ์อยดู่ ้วยอีกแห่ง โดยสะพานทง้ั สองได้สร้างแลว้ เสรจ็ และ เปิดใชใ้ นปเี ดยี วกันคือปี ๒๔๗๕ ผงั ของสะพานพระพุทธยอดฟ้าเป็นรปู ลกู ศร อันเป็นพระลญั จกรของรชั กาลที่ ๗ (พระนามประชาธิปกศกั ดเิ ดชน์ คำ�วา่ “เดชน”์ แปลว่า ลกู ศร) ตวั สะพาน คอื กา้ นธนู หัวธนชู ี้ไปด้านฝงั่ ธน สว่ นหางธนูเปน็ รูปตัวยู (U) อยู่ฝ่งั พระนคร และประดษิ ฐานพระบรมราชา นุสาวรีย์ไวท้ ฝ่ี ่ังนี้ ตวั อนสุ าวรียอ์ อกแบบ โดยกรมพระยานรศิ รานวุ ัดตวิ งศ์ และศิลป์ พีระศรี เปน็ ผู้ปน้ั พระบรมรูป อนุสาวรยี ์หันพระพักตร์มายงั ฝ่งั พระนคร โดยมลี านโลง่ อยูบ่ ริเวณด้านหน้า ซึ่ง เป็นแนวคิดการใช้พื้นท่ีสาธารณะภายในเมืองเพื่อสร้างอนุสาวรีย์ อนั เปน็ อทิ ธิพลทไี่ ด้ รบั มาจากตะวันตก และใชถ้ นนตรเี พชรเปน็ แนวแกนพงุ่ ตรงมายังอนสุ าวรีย์ ซ่ึงถนน ตรีเพชรนเ้ี องจะเช่ือมตอ่ ไปยงั ศาลาเฉลมิ กรุง G04 โรงภาพยนตร์ชนั้ หนึ่ง ท่สี ร้างข้นึ ใน โอกาส ๑๕๐ ปี กรุงเทพฯ ดว้ ยเชน่ กนั 156

โรงมหรสพหลวง ศาลาเฉลมิ กรงุ G04 Chalerm Krung Theatre: King Rama VII had Chalerm Krung Theatre built on the เป็นโรงภาพยนตร์ท่รี ัชกาลที่ ๗ ทรงโปรดเกลา้ ฯ ให้สร้างข้นึ occasion of Bangkok’s 150th anniversary เนอ่ื งในโอกาสฉลองกรงุ เทพฯ ครบ ๑๕๐ ปี ในปี ๒๔๗๕ ด้วย celebration in 1932, at the same time the ทรงโปรดปรานภาพยนตร์เปน็ อย่างมาก และเห็นว่ากรงุ เทพฯ Memorial Bridge was built. It is located on ขณะนน้ั ยงั ไม่มีโรงภาพยนตรอ์ ยา่ งดสี มเปน็ ศรสี งา่ แก่พระนคร a road extended from the Memorial Bridge. เลย The building is box-shaped with clean-cut edges and a cut-off corner used as the โรงภาพยนตรศ์ าลาเฉลิมกรงุ ตัง้ อยูบ่ นหัวมุมถนนเจรญิ กรุง entrance hall. This reinforced concrete ตัดกบั ถนนตรีเพชร ตรงสแี่ ยกสะพานถ่าน ซ่งึ ถือวา่ เปน็ ใจกลาง building was designed by a Thai nobleman พระนครในขณะน้นั ผู้ชมสามารถเดนิ ทางจากฝ่ังธนมายงั ฝง่ั with a degree in architecture from France. พระนครได้ โดยใชส้ ะพานพทุ ธทไี่ ด้เริ่มก่อสรา้ งขน้ึ แล้วในชว่ ง It was the best cinema in the city at the เวลาเดียวกนั time and the first air-conditioned movie theater in Asia. หม่อมเจา้ สมัยเฉลมิ กฤดากร เป็นผู้ออกแบบศาลาเฉลมิ กรุง และนบั วา่ เปน็ ผลงานชน้ิ แรกๆ ของสถาปนิกหนุม่ หัวก้าว G 04 Chalerm Krung Theatre D หนา้ ท่านนี้ หลงั จากจบการศกึ ษามาจากฝรั่งเศส และกลบั มา 66 Charoen Krung Rd. A รับราชการทีเ่ มืองสยาม โดยมี นารถ โพธปิ ระสาท เปน็ สถาปนิก 9.00am-6.00pm T ผู้ชว่ ยออกแบบและคำ�นวณโครงสร้าง 02 224 4499, 02 225 8757-8, A 02 623 8148-9 การกอ่ สร้างเรมิ่ ขน้ึ ในปี ๒๔๗๓ แต่เสร็จไมท่ นั พิธฉี ลอง www.salachalermkrung.com 157 ๑๕๐ ปีกรงุ เทพฯ ในปี ๒๔๗๕ ได้ เน่ืองจากเคร่อื งปรับอากาศ ศาลาเฉลิมกรงุ ระบบระบายความรอ้ นน้ำ� (Chilled Water System) ที่สง่ั มา จากตา่ งประเทศ เกิดความล่าชา้ ถึงกระนัน้ กย็ งั สรา้ งแลว้ เสร็จ และเปิดฉายภาพยนตร์ได้ในปถี ดั ไป คอื ปี ๒๔๗๖ นน่ั เอง

บรรยากาศหนา้ โรงเมือ่ ฉายหนังเรอ่ื ง “ทารซ์ านกับมนษุ ยว์ านร” เม่อื แรกเปดิ ศาลาเฉลมิ กรงุ นบั เป็น เปน็ สถาปัตยกรรมแบบโมเดริ น์ ตามกระแสของโลกในขณะนัน้ โรงภาพยนตรช์ น้ั หนงึ่ เพยี งแหง่ เดียวใน มรี ูปทรงอาคารเป็นกล่องสี่เหลี่ยม เรยี บเกล้ยี ง พระนคร ทีม่ ขี นาดใหญแ่ ละทันสมัยทส่ี ุด โครงสร้างเปน็ คอนกรีตเสริมเหล็ก ภายในไมม่ เี สากลางโรงมาบดบังสายตา ความน่าสนใจของศาลาเฉลิมกรงุ กค็ ือ ตรงหวั มุมถนนได้ และทส่ี �ำ คัญมกี ารติดต้งั ระบบปรับอากาศ ออกแบบให้เปน็ ทางเข้าด้านหนา้ โดยใชก้ ารปาดมุม เปน็ แหง่ แรกในภูมภิ าคเอเชยี อีกดว้ ย! เพ่ือเนน้ โถงทางเขา้ ใหม้ ีความโดดเด่นยงิ่ ข้นึ วา่ กันว่าเป็นโรงภาพยนตรท์ ี่เกไ๋ ก๋ เสมือนหน่ึงอยใู่ นปารสี นอกจากนีย้ ังเปน็ โรงหนงั ท่อี อกแบบ มาเพอื่ ให้ฉายหนงั เสียงโดยเฉพาะเปน็ แห่งแรกในสยาม เนือ่ งจากเปน็ ยุคหัว เลี้ยวหัวตอ่ จากหนังใบม้ าเปน็ หนังพูด หนงั ทฉ่ี ายส่วนใหญจ่ ะเปน็ หนังฮอลลีวูด้ แบบมเี สียงในฟิลม์ แต่ยังไม่มีซบั ไตเต้ิล ภาษาไทยอยา่ งทุกวนั น้ี 158

โรงหนัง ข่าวพระราชส�ำนัก ท่เี รยี กวา่ โรงหนงั ... มนั เปน็ หนงั อะไรกันนะ? สมยั ก่อนนน้ั การเผยแพรข่ า่ วพระราชกรณยี กิจ จะเป็นหนงั สตั วห์ รอื ตวั อะไรกนั แน?่ งงใน กระทำ�โดยการฉายภาพยนตร์ส่วนพระองคต์ าม งงเสยี จรงิ โรงหนงั โดยเริ่มฉายครั้งแรกเม่ือปี ๒๔๙๓ ท่ีศาลา นน่ั เพราะ เมอ่ื แรกฉายภาพยนตร์ในสยาม เฉลมิ กรุง จนกลายเปน็ ธรรมเนยี มปฏิบัตไิ ปทุก น้ัน ถือเป็นของใหมน่ า่ ตื่นเตน้ ขนาดทว่ี า่ ยงั ไมม่ ี ปี เฉลย่ี ปลี ะหน จนได้ยุติไปเมอ่ื ปี ๒๕๑๐ เม่ือ การบัญญัตศิ พั ท์ไว้เรียกกนั เลยแมแ้ ต่น้อย แต่ โทรทัศนเ์ ร่ิมเป็นทแ่ี พร่หลายกันแลว้ และได้กลาย ด้วยความทภี่ าพยนตรจ์ ะฉายลงบนจอผา้ ทข่ี งึ มาเป็น “ขา่ วพระราชส�ำ นัก” ท่อี อกอากาศทาง ใหต้ ึง ซึง่ มรี ูปแบบเดยี วกับมหรสพพ้ืนบ้านชนิด โทรทศั นท์ ุกคนื อย่างเชน่ ทุกวันน้ี หนึง่ ที่ชาวสยามเราคนุ้ เคยกันดี น่ันกค็ ือ หนงั หม่อมเจ้าสมัยเฉลิม กฤดากร ใหญ่ หรอื หนงั ตะลงุ เพราะตา่ งกเ็ ป็นการเลน่ เป็นโอรสของพระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระ แสงเงาใหป้ รากฏเปน็ ภาพเคล่ือนไหวบนจอ นเรศวรฤทธิ์ แหง่ วังมะลวิ ลั ย์ D06 และอนุชาของ เช่นเดียวกัน หม่อมเจา้ จรญู ศักด์ิ กฤดากร (ต�ำ หนกั หมอ่ มเจา้ ชาวสยามจึงเรยี กสถานทฉ่ี ายภาพยนตร์ตาม จรญู ศกั ด์ิ D05 ทรงศึกษาทสี่ ถาบันประณีตศิลป์ อยา่ งค�ำ เรียกสถานท่ีส�ำ หรบั การละเล่นดั้งเดิม แหง่ กรุงปารีส (École Nationale Superieme ที่มีมากอ่ นวา่ “โรงหนงั ” ตวั ภาพยนตรเ์ องเลย des Beaux-Arts Paris) หรอื ทีเ่ รียกกันว่า “โบซาร์” แลว้ กลับมารบั พาลเรยี กกนั ว่า “หนัง” ไปดว้ ย ทงั้ ๆ ทไี่ มม่ ีสว่ น ราชการทีก่ รมศิลปากรในปี ๒๔๗๑ อนั เป็นช่วงเปลยี่ นผา่ นจากรูปแบบ ไหนของฟิลม์ ภาพยนตร์ ทท่ี �ำ จากหนังสตั ว์เลย สถาปัตยกรรมฝรัง่ ยุคโคโลเนยี ล สู่สถาปตั ยกรรมแบบโมเดริ น์ ท่ีก�ำ ลังเปน็ ด้วยเหตุน้ี ท่ดี า้ นบนของผนังดา้ นหน้าศาลา ทนี่ ยิ มในยโุ รปขณะน้ัน เฉลมิ กรุง จึงประดบั โลหะรปู วงกลมฉลลุ าย ศาลาเฉลิมกรุงเปน็ ผลงานออกแบบของหมอ่ มเจ้าสมัยเฉลมิ ในชว่ ง ลักษณะคล้ายหนงั ใหญ่ เปน็ รปู หวั ลงิ หัวยักษ์ แรกๆ ทเี่ พงิ่ กลับมาจากฝรง่ั เศส และหวั ฤาษี เพอ่ื เป็นการล้อค�ำ วา่ “โรงหนงั ” สว่ นศาลาว่าการกรุงเทพ G13 และโรงละครแห่งชาติ G12 เปน็ ผลงาน กบั “หนังใหญ”่ นนั่ เอง ในชว่ งท้ายๆ ซึ่งมกี ารน�ำ องค์ประกอบของสถาปตั ยกรรมไทยประเพณี เขา้ มาประยุกต์ใช้ในสถาปัตยกรรมแบบโมเดริ น์ ดว้ ย หอภาพยนตร์ (องคก์ ารมหาชน) แม่นาคเฉลิมกรุง แมน่ าคพระโขนง เรื่องราวต�ำ นานรกั ท่ีถกู หยิบยกมาท�ำ เป็นภาพยนตร์ ตว๋ั ใบนเี้ ป็นต๋วั ชนั้ ลา่ ง แถวหลัง ราคา แล้วไม่รกู้ ค่ี รง้ั ต่อก่คี ร้งั แตเ่ ดิมเป็นละครเวที ท่แี สดงข้นึ เปน็ ครัง้ แรก ณ ๒๕ สตางค์ โรงละครปรดี าลยั ยา่ นแพรง่ นรา L05 แตท่ ว่าครั้งทเ่ี ป็นทอลค์ ออฟเดอะ ทาวน์และสร้างภาพจ�ำ ใหก้ บั ผชู้ มไดม้ ากทีส่ ดุ คงหนไี มพ่ น้ แมน่ าคฉบับ ใช้เมอื่ แรกเปิดให้บริการในปี ๒๔๗๖ ปรียา รุ่งเรือง “นางเอกอกเขาพระวิหาร” ในปี ๒๕๐๒ เล่ากันว่า เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรบั ชมเม่ือครง้ั ฉายท่ีศาลาเฉลมิ กรุง นัน้ ได้มีการพรมนำ้�อบในโรงอกี ดว้ ย 159

โรงเรียนช่างพิมพ์วดั สงั เวช G05 ตวั อาคารเป็นตึกคอนกรตี สงู ๒ ช้ัน ผังอาคารเป็นรูปตวั แอล (L) รูปแบบ โรงเรยี น? โรงพิมพ์? หรือวดั ? อาคารมคี วามเรียบงา่ ย ตรงไปตรงมา ดจู ากชือ่ ทด่ี า้ นหน้าอาคารแล้วเปน็ งง ว่าตกลงตึกหลงั นี้เปน็ ลดการประดับประดาลง ตามสไตล์ อะไรกนั แน?่ สถาปัตยกรรมโมเดริ น์ มาลองศึกษาประวัติกันด.ู .. แล้วจะรูว้ ่าเปน็ อะไร อาคารทรงเหลย่ี มๆ ทอ่ื ๆ ที่ทอดยาวไปตามถนน ขา้ งปอ้ ม อาคารหลังน้ีออกแบบโดยพระสาโรช พระสุเมรุ หลงั นี้ สร้างขึน้ ในยุคเปล่ียนแปลงการปกครองปี รัตนนมิ มานก์ (สาโรช สุขยางค)์ ๒๔๗๕ เพื่อใชเ้ ป็น “โรงเรยี น” สำ�หรับสอน “การพิมพ”์ แห่ง สถาปนิกไทยที่เรียนจบจากองั กฤษ และ แรกของประเทศไทย นบั เปน็ อาคารหลังแรกๆ ท่ีพระสาโรชฯ ในภาคเช้า จะเป็น “โรงเรียน” ทน่ี ักเรยี นจะมาเรยี นภาค ปรับเปล่ยี นสไตลก์ ารออกแบบมาเปน็ ทฤษฎีกนั แนวโมเดิรน์ ส่วนในภาคบ่าย จะกลายเป็น “โรงพมิ พ”์ ทนี่ ักเรยี นจะไดฝ้ ึก ปฏบิ ัติงานจรงิ รับงานพมิ พ์กนั จรงิ ๆ และไดร้ บั คา่ จา้ งตอบแทน ด้วยตัง้ อยใู่ นชุมชนบางล�ำ พูทีม่ คี วาม จริงๆ อกี ด้วย เขม้ แขง็ ประชาคมบางลำ�พจู งึ ผลกั ดันให้ ตอ่ มาหลังสงครามโลกครง้ั ท่ี ๒ ได้เปลี่ยนมาเป็นโรงพิมพ์ มีการ Save อาคารโรงเรียนโรงพิมพแ์ ห่ง อย่างเดยี ว และพิมพ์แบบเรียนต่างๆ ใหก้ บั องค์การค้าครุ สุ ภา นไ้ี ว้ จนได้ขึน้ ทะเบียนเป็นโบราณสถาน เรยี กกันว่า โรงพมิ พค์ รุ ุสภา จนโรงพิมพค์ รุ สุ ภาย้ายไปในปี ๒๕๐๑ จึงใช้ตึกนเ้ี ป็นคลังสนิ คา้ และปิดตัวลงในปี ๒๕๓๘ ปัจจบุ ันกรมธนารักษไ์ ดเ้ ปดิ เป็น เมอ่ื หมดสัญญาเชา่ กบั กรมธนารกั ษ์ พพิ ธิ ภัณฑน์ า่ รกั ๆ ภายใตช้ ื่อวา่ “พพิ ิธ สว่ นที่มีช่ือวดั สงั เวชน้ัน กเ็ พราะด้านหลงั ตึกน้ี คอื คลอง บางล�ำ พู” บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมา บางล�ำ พู หากข้ามคลองไปยังอีกฝั่งก็เปน็ วดั สงั เวชแล้ว ของชมุ ชนแห่งนี้ D G 05 Banglamphu Museum Printing School: Constructed in 1932 A Phra Sumen Rd. as Thailand’s first printing school, it was T 8.30am-6.00pm Tue-Sun later used as the Ministry of Education’s A 02 281 0345-51 printing house. It is a two-story concrete www.banglamphumuseum.treasury.go.th building with an L-shaped floor plan. Its 160 pipitbanglamphu style is simple and modern, and today it is home to Banglamphu Museum which illus- trates the stories of its local community.

ตกึ โดม มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตรแ์ ละการเมอื ง G06 ตึกทม่ี ีหลังคาเป็นยอดสงู ตั้งตระหง่านอยรู่ ิมแม่นำ้�เจ้าพระยา Dome Building, Thammasat University: แหง่ นี้ เป็นอาคารหลังแรกของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปดิ The first building of Thammasat University, ใช้เป็นตึกบัญชาการเมื่อปี ๒๔๗๙ ภายหลงั เปลี่ยนแปลงการ the Dome housed the command center in ปกครองเพยี งไม่ก่ปี ี 1936. It was remodeled from four existing buildings which formed a single line, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตรแ์ ละการเมอื งไดก้ ่อต้งั ขึน้ มาใน connected into one building with a conical สมยั นี้ ดว้ ยจดุ ประสงคท์ ีจ่ ะใหป้ ระชาชนทว่ั ไปได้มโี อกาสเขา้ ถึง spire at the top. The building has become การศกึ ษาได้อยา่ งท่วั ถึง อันเป็นปณธิ านหนง่ึ ของคณะราษฎร the icon of Thammasat University and is known as “the Dome” despite the fact that ในการออกแบบมีโจทย์ คอื ตอ้ งการให้เช่อื มต่อตึกเกา่ ทั้งสี่ the top is a conical spire, not a dome. เขา้ เป็นอาคารเดยี ว ซึง่ การตอบโจทย์นี้ ทำ�ได้ด้วยการร้อื หลงั คาอาคารเดมิ ลง แล้วสรา้ งหลังคาขึน้ มาใหม่คลมุ อาคารทง้ั สีห่ ลังเข้าด้วยกนั ท�ำ ให้ตกึ มคี วามยาวมากถงึ ๒๓๕ เมตร ทงั้ น้ี ที่ช่องวา่ งระหวา่ งตกึ ค่กู ลางซึง่ เป็นจดุ กึง่ กลางของตึก ท้ังแนวนนั้ ได้สร้างตึก ๓ ชนั้ ใส่เขา้ มาเพื่อใช้เปน็ ทางเข้าหลกั มหี ลังคาขนาดใหญ่ปลายยอดแหลมสูง มุงดว้ ยกระเบือ้ งไมส้ กั ชว่ ยเน้นให้เป็นจุดเด่น หากสงั เกตดๆี ท่หี ลงั คายอดแหลมนีเ้ องจะมหี น้าตา่ งเล็กๆ โผลอ่ อกมาโดยรอบหลังคาถงึ ๖ ช่อง เพ่ือส่ือถึงหลัก ๖ ประการ ของคณะราษฎรนัน่ เอง G 06 Dome Building, D Thammasat University A T 2 Phra Chan Rd. A 10.00am-3.30pm Mon-Fri 161 02 613 3880, 02 613 3840-1 www.tu.ac.th

ตกึ โดม สัญลกั ษณข์ องมหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ จะเห็นไดว้ า่ ลกั ษณะทางสถาปัตยกรรมของตึก ในรูปคอื การประทว้ งของนักศึกษาในช่วง ๑๔ ตุลา ๒๕๑๖ ใหมน่ ี้มคี วามเป็นโมเดิร์น ดว้ ยการใช้รูปทรงท่เี รียบ ง่ายอยา่ งเรขาคณติ และลดทอนรายละเอียดการ ประดับประดาลง ในสมยั ตอ่ มา ไดร้ อื้ ถอนอาคารปกี ขวาสดุ และ ซา้ ยสุดลง คงเหลอื แตอ่ าคารคกู่ ลางและตกึ หลงั คา ยอดแหลม ซง่ึ ภายหลงั ไดก้ ลายเปน็ สญั ลกั ษณค์ ู่ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์มาจวบจนทุกวนั นี้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และวังหน้า หมิว อภัยวงศ์ ทต่ี ั้งของมหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตรใ์ นปัจจบุ นั น้ี เดมิ ผู้ทไ่ี ดร้ ับมอบหมายให้ออกแบบ คอื พน้ื ท่ฝี า่ ยในของวงั หน้า ซึง่ มีต�ำ หนักต่างๆ ปลูกอยู่ ปรบั ปรงุ ตกึ โดมแห่งน้ี กค็ ือ นายหมิว เตม็ พนื้ ที่ อภยั วงศ์ บตุ รเจา้ พระยาอภยั ภูเบศร์ จนเมื่อวงั หน้าโดนตัดตอนไปในสมยั รชั กาลท่ี ๕ จงึ ใช้ (ชุ่ม อภัยวงศ)์ และเป็นพนี่ ้องตา่ ง พ้นื ท่เี ปน็ ค่ายทหาร และมกี ารสร้างอาคารท่ที �ำ การทหาร มารดากับนายควง อภยั วงศ์ โดย ปืนใหญ่ รวมทง้ั มโี รงทหารใชส้ �ำ หรับพกั อาศัย ก่อนจะ นายหมวิ อภยั วงศ์ เปน็ สถาปนกิ หนมุ่ เปลย่ี นมาเป็นมหาวทิ ยาลัย เม่อื หลงั เปล่ยี นแปลงการ ผู้สำ�เร็จการศกึ ษาจากสถาบันประณีต ปกครอง ศลิ ป์ แห่งกรงุ ปารสี (École Nationale ตึกโดมที่ไม่ใช่โดม Superieme des Beaux-Arts Paris) หรือท่เี รียกกนั วา่ ไม่เห็นมฝี รง่ั ท่ไี หนเรยี กหลังคาตกึ โดมธรรมศาสตรน์ ้วี า่ “โบซาร์” ส�ำ นักเดียวกับหม่อมเจา้ สมยั เฉลมิ กฤดากร “โดม” เลยสักคน! ตกึ โดม ถือเป็นผลงานเดย่ี วชนิ้ แรกของนายหมวิ เลยกว็ า่ ได้ เพราะหลังคาโดมจรงิ ๆ นนั้ จะมีรปู ทรงกลมแบบหลงั คา เพราะกอ่ นหนา้ น้ี เขาเป็นเพยี งสถาปนกิ ผู้ช่วยให้กบั พระสาโรช พระทน่ี ัง่ อนันตสมาคม หรอื รูปทรงคลา้ ยหัวหอมใหญ่ ทรง รตั นนมิ มานก์ (สาโรช สุขยางค)์ หัวหนา้ กองสถาปัตย์ กรม กลมปอ้ ม มียอดแหลม ตวั อย่างเช่นโดมของตาจญ์ มะฮาล ศิลปากร ในการออกแบบตึกไปรษณยี ก์ ลาง บางรกั (ทัชมาฮาล) ที่เราคุ้นเคยนัน่ เอง ผลงานของนายหมิวโดดเดน่ ในชว่ งหลังเปล่ียนแปลง แทจ้ รงิ แลว้ ทรงหลังคาของตกึ โดมน้ี คือ ทรงกรวยยอด การปกครอง ถึงชว่ งสงครามโลก คอื ในช่วงระหวา่ งปี แหลม (Spire) ซึง่ มักสร้างเปน็ หลงั คาหอคอยของโบสถใ์ น ๒๔๗๕-๒๔๙๐ โดยกลมุ่ อาคารตึกแถวทั้ง ๑๐ หลงั รมิ ถนน ศาสนาครสิ ตม์ ากกว่า แตท่ รงยอดแหลมของตึกโดมของเรา ราชด�ำ เนนิ กลาง ทส่ี รา้ งข้นึ ในราวปี ๒๔๘๔ ก็เปน็ ผลงานของ มีการซอ้ น ๒ ช้ัน ซ่ึงไม่มีปรากฏในงานต้นแบบของยโุ รปเลย นายหมวิ ด้วยเช่นกัน แต่หลังจากสงครามโลกสงบลงแล้ว เขากลบั ไมม่ ผี ลงานปรากฏให้เหน็ อีกเลย 162

ซงึ่ อาคารศาลยุติธรรมทีเ่ ห็นอย่นู ี้ ได้ สร้างขึ้นเป็นตึกแรก จนแล้วเสร็จพรอ้ ม เปิดอยา่ งเปน็ ทางการในปี ๒๔๘๔ ตัวอาคารมรี ูปแบบสถาปตั ยกรรม แบบโมเดริ น์ ท่มี กี ารลดทอนรายละเอียด และการตกแตง่ ประดับประดาต่างๆ ลง เหลอื แต่เพยี งรูปทรงสเ่ี หลีย่ ม โดยไม่มี การทาสอี าคารเพื่อแสดงให้เหน็ ถงึ สัจจะ ของวัสดุทใ่ี ช้ น่ันคอื คอนกรีตและหินล้าง ทำ�ใหอ้ าคารเป็นสเี ทาดขู รมึ ขลังเปน็ อยา่ ง อาคารศาลยุติธรรม G07 ยิ่ง นบั เปน็ รปู แบบทีส่ อดคล้องกบั กระแส หากเรายืนอยูร่ ิมรว้ั ดา้ นสนามหลวงแลว้ มองออกไปทางทศิ สถาปัตยกรรมหลกั ของโลกในขณะนน้ั ตะวันออก จะเห็นอาคารคอนกรีตสีเทารปู ทรงเหมือนกล่อง (1930s-40s หรือกอ่ นสงครามโลกครั้ง สเ่ี หล่ยี มขนาดใหญต่ ั้งตระหงา่ นอยู่ ชา่ งดยู ่ิงใหญ่ สงา่ งาม และ ที่ ๒) ภูมฐิ าน หากเปรียบเป็นคนก็คงเขา้ ทำ�นองเรยี บโก้ ดนู ิ่ง และมี ความม่นั คงขงึ ขงั อยู่ในที Court of Justice Building: Located by Sanam Luang on the eastern side, it was นนั่ คอื อาคารศาลยตุ ิธรรม ตึกเกา่ เพยี งหนึ่งเดยี วในกลมุ่ built in 1941. The design is Modern archi- อาคารกระทรวงยุติธรรม ทร่ี อดพ้นจากการทุบทงิ้ เมื่อปี ๒๕๕๖ tecture as common in the post political เหลอื เป็นประจักษพ์ ยานใหค้ นรุ่นหลงั ไดเ้ ห็นถึงสถาปัตยกรรม reform era. It is a large concrete box ชิ้นเดน่ ในยคุ หลังเปลย่ี นแปลงการปกครอง ท่ีตงั้ อย่ภู ายในเกาะ which looks clean, calm, and strong. รัตนโกสนิ ทรแ์ หง่ น้ี It is one of the courts complex buildings which have survived the mass demolition ย้อนไปในสมยั รัชกาลที่ ๕ พืน้ ที่รมิ สนามหลวงฝัง่ ตะวันออก in 2013. บรเิ วณนี้ เคยเป็นท่ีตงั้ ของอาคารกระทรวงยตุ ธิ รรมหลงั เก่า บรเิ วณดา้ นหน้าตดิ ถนนราชดำ�เนนิ ใน ส่วนพน้ื ทีด่ า้ นหลังเปน็ แผนท่ี พ.ศ.๒๔๕๐ แผนที่ พ.ศ.๒๔๖๘ ส่วนของตะรางหรือกองลหุโทษ ในรชั สมัยตอ่ มา ไดร้ ือ้ ตะรางด้านหลงั ลงเพือ่ ใช้พนื้ ทีส่ ร้าง เปน็ อาคารของกระทรวงยุติธรรมอกี หลงั จวบจนกระทั่งในปี ๒๔๘๑ หลังจากเปลี่ยนแปลงการ ปกครองแลว้ ประเทศไทยไดเ้ อกราชทางการศาลกลับคนื มา อีกคร้ัง (หลงั จากท่ีตอ้ งสญู เสยี ไปตัง้ แตท่ �ำ สนธสิ ญั ญาเบารงิ่ ในสมัยรัชกาลท่ี ๔) เมือ่ จอมพล ป. พบิ ลู สงคราม ขนึ้ เป็น นายกรัฐมนตรีในปตี อ่ มา จึงมดี �ำ รทิ ีจ่ ะร้อื ถอนกล่มุ อาคารเกา่ อนั ทรุดโทรมเหลา่ น้ี เพอื่ สร้างกลุม่ อาคารทีท่ ำ�การกระทรวง ยตุ ธิ รรมหลังใหม่ขึน้ มาทดแทน แลว้ มอบหมายให้ พระสาโรช รัตนนมิ มานก์ (สาโรช สุขยางค)์ สถาปนิกกรมศิลปากรเปน็ ผู้ G 07 Court of Justice Building D ออกแบบ Ratchadamnoen Nai Ave. A Not Open to the Public T 02 541 2258, 02 541 2309 A www.coj.go.th 163

อาคารออกแบบใหส้ มมาตรซา้ ย-ขวา มีทางเขา้ หลกั อยู่ ตรงกลางและมีบนั ไดขนาดใหญ่ทอดขนึ้ ไปส่โู ถงทางเข้าดา้ น หนา้ ซง่ึ รองรับด้วยเสา ๖ ตน้ อนั หมายถงึ หลกั ๖ ประการของ คณะราษฎร ตอ่ มาอาคารในยคุ น้ีไดก้ ลายเปน็ สญั ลกั ษณข์ องยุคประชา ธิปไตยหลงั เปล่ยี นแปลงการปกครอง ท่ีนกั วชิ าการบางท่าน เรียกวา่ “สถาปัตยกรรมคณะราษฎร์” กลุ่มอาคารกระทรวงยุติธรรม พระสาโรชรัตน- กลมุ่ อาคารกระทรวงยุตธิ รรมแตเ่ ดิมทส่ี ร้างข้นึ ใหม่หลังเปล่ยี นแปลง นิมมานก์ การปกครองนั้น ประกอบไปด้วยอาคารหลกั ๓ หลงั สร้างเรียงกันเปน็ รปู (สาโรช สุขยางค์) ตัววี (V) คือ ๑. อาคารศาลยุตธิ รรมหลงั ทเี่ ราเห็นอยู่น้ี สรา้ งขึ้นเปน็ ตึกแรกในปี เนือ่ งจากเกดิ ในครอบครวั ๒๔๘๔ ตรงบรเิ วณดา้ นเหนอื ของพืน้ ท่ี ปจั จุบนั ยังคงอยู่ ไม่ได้ถกู รือ้ ถอน ขนุ นาง จงึ มโี อกาสไดร้ ับ ออกไป ทุนเลา่ เรยี นจากรัฐบาลให้ ไปศกึ ษาวชิ าสถาปตั ยกรรม ๒. อาคารศาลอาญา/ศาลอทุ ธรณ์ ทม่ี หาวทิ ยาลัยลเิ วอร์พลู สรา้ งขึ้นเป็นล�ำ ดับถัดไปในปี ๒๔๘๖ ประเทศอังกฤษ ในช่วงตน้ รชั กาลท่ี ๖ จนเม่ือ ตั้งอยู่ด้านฝ่งั ริมคลองคูเมอื ง ปลายรชั กาลจงึ เดนิ ทางกลบั มารบั ราชการทก่ี อง สถาปัตย์ กระทรวงธรรมการ อาคารทงั้ ค่เู ปน็ สถาปัตยกรรมแบบ พระสาโรชรัตนนมิ มานก์ (สาโรช สุขยางค์) โมเดริ ์น ออกแบบโดยพระสาโรชรัตน ถอื ว่าเป็นสถาปนกิ ชาวไทยรุ่นบกุ เบิกเลยกว็ ่าได้ นมิ มานก์ (สาโรช สุขยางค)์ ด้วยกอ่ นหนา้ นมี้ แี ตส่ ถาปนิกฝร่ังเท่านัน้ ท่ีทำ�งาน ในสยาม ๓. อาคารศาลฎกี า/ศาลแพง่ L11 อาคารท่ีสร้างหลงั สุดรมิ สนามหลวง ผลงานยุคแรกๆ ของท่านยงั เป็นตึกฝร่ังแบบ เปน็ ตกึ ที่คนรุ่นเกา่ คุ้นตากนั ดี สรา้ งแลว้ เสร็จในปี ๒๕๐๖ ท้ิงชว่ งจาก คลาสสิกอยู่ อย่างเชน่ อาคารมนษุ ยนาควทิ ยา อาคารท่ีสร้างมาแล้วกอ่ นหน้าถงึ ๒๐ ปี โดยร้ือถอนอาคารศาลสถติ ย์ ทาน ทว่ี ัดบวรนเิ วศ กระทง่ั หลงั เปล่ยี นแปลง ยุติธรรมหลังเกา่ L10 ทีส่ รา้ งมาต้ังแตส่ มัยรัชกาลท่ี ๕ ลง (เปน็ อาคารรว่ ม การปกครอง ไดเ้ ลือ่ นต�ำ แหนง่ เป็นหัวหนา้ กอง รนุ่ กบั อาคารกระทรวงกลาโหม C06 ท่อี ยใู่ กล้ๆ กนั ) เพอื่ สรา้ งอาคารศาล สถาปตั ยกรรม กรมศิลปากร ซึ่งในช่วงนี้เองท่ี ฎกี าหลงั นแ้ี ทน แนวทางการออกแบบของพระสาโรชฯ ไดเ้ ปลีย่ น ไปตามกระแสโลก เนือ่ งจากอาคารศาลฏกี านี้ สร้างข้นึ ในยคุ ปลายของสถาปัตยกรรม อาคารศาลยตุ ธิ รรมนเี้ ป็นตัวอยา่ งทช่ี ัดเจนของ แบบโมเดิรน์ จึงมกี ารใส่รายละเอียดความเปน็ ไทยประยกุ ต์เขา้ ไปด้วย สถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์น ทยี่ งั คงมโี ครงของ เช่น หวั เสาแบบไทยทโี่ ถงทางเขา้ และซ้มุ จระน�ำ ทำ�ให้มรี ูปแบบทาง สถาปัตยกรรมแบบคลาสสกิ อยู่ กลา่ วคือ รูปทรง สถาปัตยกรรมทีต่ า่ งไปจากตึกโมเดิรน์ รุน่ พ่ีทั้งสองท่สี ร้างมาแลว้ กอ่ นหนา้ อาคารเป็นกล่องเกลีย้ ง สมมาตรซ้าย-ขวา มโี ถง ทางเขา้ ใหญท่ ี่ดา้ นหน้า และมีเสาลอยตวั ขนาด อาคารศาลอาญา ด้านฝั่งคลองคเู มือง (๒) และอาคารศาลฎีกา ฝัง่ ถนน ใหญเ่ รยี งเป็นแถวทด่ี า้ นหนา้ โถง ราชดำ�เนนิ (๓) ถกู ทบุ ทงิ้ ไปในปี ๒๕๕๖ เพ่ือสร้างอาคารศาลฎกี าแหง่ ส่วนอาคารอื่นๆ ท่พี ระสาโรชฯ ออกแบบในช่วง ใหมห่ ลังปัจจุบนั ขนึ้ มาแทน ท่ามกลางเสียงคัดคา้ นจากทัง้ กรมศิลปากร เดียวกันน้กี ็มี ศาลากลางอยธุ ยา, ตึกเคมี คณะ และนกั วิชาการ ดว้ ยเปน็ อาคารโบราณสถานอนั ทรงคณุ ค่า ตัวอย่างของ วิทยาศาสตร์ จฬุ าฯ และโรงแรมรัตนโกสนิ ทร์ สถาปตั ยกรรมหลังเปลยี่ นแปลงการปกครองทีค่ วรค่าแก่การอนุรกั ษ์ไว้ ถนนราชดำ�เนิน G09 ซึง่ ทง้ั หมดล้วนมรี ปู ทรง เช่นทว่ี ่ามาทุกหลัง หากใครอยากรวู้ า่ อาคารยคุ โมเดิรน์ ผสมไทยประยกุ ตท์ วี่ ่าหนา้ ตาเปน็ อย่างไร? ให้ดูไดจ้ ากอาคารรว่ มสมัยกับอาคารศาลฎกี าหลังทร่ี ือ้ ไปแลว้ น้ี ซ่ึงกค็ ือ ศาลาว่าการกรงุ เทพฯ G13 ท่เี สาชงิ ช้า ทัง้ สองแห่งสรา้ งข้นึ ใน เวลาไล่เลย่ี กัน 164

อนุสาวรียป์ ระชาธปิ ไตย G08 หากพดู ถงึ ภาพจ�ำ ของถนนราชดำ�เนิน ยอ่ มนึกถงึ อนุสาวรยี ์ ประชาธปิ ไตยอยา่ งแน่นอน ดว้ ยเป็นสญั ลกั ษณ์แทนการชมุ นมุ เรียกร้องทางการเมืองมานบั คร้ังไม่ถ้วน เรม่ิ ต้งั แต่การเรียกร้อง ดินแดนฝัง่ ซา้ ยของแมน่ �ำ้ โขงคืนจากฝร่งั เศสในปี ๒๔๘๓ เม่ือ ครง้ั อนสุ าวรยี ส์ ร้างเสรจ็ ใหม่ๆ เลยทเี ดียว อนสุ าวรยี ์ประชาธปิ ไตยสรา้ งข้นึ ในสมัยรฐั บาลจอมพล ป. พบิ ูลสงคราม เมอ่ื วันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๘๒ (วันชาตใิ นขณะ นน้ั ) เพอื่ เปน็ ท่รี ะลึกในการเปลยี่ นแปลงการปกครองเมือ่ วันที่ ๒๔ มถิ ุนายน ๒๔๗๕ และทำ�พธิ เี ปิดในอีก ๑ ปีตอ่ มา คอื วันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๘๓ ผลงานการออกแบบของ มล. ปมุ่ มาลากลุ โดยเป็นแบบท่ี ชนะการประกวด ซง่ึ เต็มไปดว้ ยสญั ลักษณอ์ ันเกย่ี วเน่ืองกบั วันที่ มีการเปลย่ี นแปลงการปกครอง Democracy Monument: Constructed in 1939 in Field Marshal Phibun’s era to commemorate the Siamese Revolution on June 24th, 1932, the Democracy Monument has been with Ratchadam- noen Avenue for so long that it has become the image of this area. It is also used as the National Highway’s Kilometer Zero. G 08 Democracy Monument D Ratchadamnoen Klang Ave. A T A 165

นอกจากนีแ้ ลว้ อนสุ าวรยี ป์ ระชาธปิ ไตยยงั ใช้ สมุดไทย คือ รฐั ธรรมนูญประดิษฐานบนพานแวน่ ฟ้า เป็นหลักกโิ ลเมตรที่ศูนย์ของประเทศไทยอีกดว้ ย ท�ำ จากทองเหลอื ง สงู ถงึ ๓ เมตร อนั หมายถงึ เดอื น ๓ คอื เดือนมิถนุ ายน (หากนับแบบไทย เดอื น ๑ คือ เดอื นเมษายน) ลองมองหาปา้ ยแผนท่ีผืนใหญต่ รงหัวมมุ เดือนท่ีเปล่ียนแปลงการปกครอง ถนนดา้ นหน่ึงดู...เจอกันมยั้ จ๊ะ? อีกนยั หน่งึ ยังหมายถึงอำ�นาจอธิปไตยท้ังสาม คือ นิติบัญญัติ บริหาร และตลุ าการ ด้วย ประติมากรรมทฐ่ี านปกี ท้ังสี่ ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี 24 เป็นผู้ปน้ั และสทิ ธเิ ดช แสงหริ ัญ เปน็ ผู้ชว่ ย เมตร เนื้อหาบอกเล่าเรื่องราว การดำ�เนนิ งานของ คณะราษฎร 3เมตร 24 เมตร 75 ปูนปน้ั รูปงูใหญพ่ น่ นำ้� พระขรรค์ ๖ เล่ม ปีกสูง ๔ ทศิ รอบอนสุ าวรีย์ ตรงฐานปีกทั้งส่ี ทบ่ี านประตูโดยรอบ มคี วามสูงจากพืน้ ๒๔ เมตร กระบอก สื่อถึงปีมะโรง หมายถึงหลัก ๖ ประการ และมรี ัศมจี ากแกนกลางเทา่ กนั ของคณะราษฎร คอื ๒๔ เมตร หมายถงึ วนั ที่ ซ่ึงก็คอื ปี ๒๔๗๕ น่ันเอง ๒๔ มิถุนายน บรเิ วณรอบฐานอนุสาวรยี ์ หลัก ประการของคณะราษฎร มีปนื ใหญ่โบราณ ๗๕ กระบอก หลักท้งั หกของคณะราษฎร ทน่ี �ำ มาใช้เปน็ นโยบายในการบริหารงานของ ฝงั เรยี งรายลงบนดิน รัฐบาลหลงั เปลย่ี นแปลงการปกครอง ประกอบไปดว้ ย โผลท่ า้ ยกระบอกขนึ้ มา “เอกราช ปลอดภัย เศรษฐกจิ เสมอภาค เสรีภาพ และการศึกษา” เปน็ เสาส�ำ หรับคลอ้ งโซ่เชอ่ื ม ซง่ึ ปรากฏเป็นสญั ลักษณ์ในงานสถาปัตยกรรมท่สี รา้ งข้ึนในยุคไทยใหม่ ดังเช่น น่ันส่ือถงึ ปี ๒๔๗๕ เช่นกนั • หลังคาโดมของธรรมศาสตร์ มชี อ่ งหน้าต่างท้งั หมด ๖ ชอ่ ง • ศาลสถิตยตุ ิธรรม โถงทางเขา้ ด้านหน้ามีเสาท้ังสิ้น ๖ ตน้ • ปอ้ มกลางอนสุ าวรียป์ ระชาธิปไตย มีประตู ๖ ชอ่ ง และมพี ระขรรค์ ๖ เล่ม

อาคารพาณิชยร์ มิ ถนนราชด�ำเนนิ กลาง G09 ถนนราชดำ�เนนิ กลาง ถนนสายสน้ั ๆ ระหวา่ งสะพานผา่ น กลมุ่ อาคารริมถนนราชดำ�เนนิ กลาง ภายหลงั พภิ พลลี า ตรงหนา้ โรงแรมรตั นโกสนิ ทร์ ถงึ สะพานผา่ นฟา้ ลลี าศ สงครามโลกครั้งที่ ๒ เม่อื คร้งั เพ่งิ สรา้ งเสร็จใหม่ๆ ตรงป้อมมหากาฬ ได้กลายเป็นถนนสายประวตั ศิ าสตร์ของ การเมอื งไทยไปเสียแล้ว ดว้ ยเปน็ ภาพจำ�ของการชุมนมุ เรียก ร้องประชาธปิ ไตยไม่รกู้ ่คี รงั้ ตอ่ ก่ีคราว จนอาคารพาณชิ ยท์ ่ีขนาบ ทงั้ สองข้างของถนนเส้นน้ีตลอดทงั้ สาย ได้เป็นประจักษพ์ ยาน ส�ำ คญั ถงึ การตอ่ สเู้ พอ่ื ประชาธิปไตยตลอด ๘๐ ปที ผี่ ่านมา ถนนราชด�ำ เนินสร้างขึน้ มาต้งั แตป่ ี ๒๔๔๒ ราวปลายสมัย รัชกาลที่ ๕ โดยเอาแบบอยา่ งมาจากถนนสายสวยๆ ของเมอื ง ฝรง่ั เดิมทเี ปน็ ถนนทกี่ ว้างใหญ่ ตัดจากพระบรมมหาราชวังตรง ไปยังพระราชวงั ดสุ ติ ซ่งึ ต้ังอยู่ชานพระนคร (บริเวณพระบรม รปู ทรงมา้ ) แรกเร่ิมนนั้ ตลอดสองขา้ งทางปลกู ตน้ มะฮอกกานีไว้ ไม่ ต่างจากถนนราชดำ�เนินนอกในปัจจุบนั จนเม่ือจอมพล ป. พิบูลสงครามขน้ึ เปน็ นายกรัฐมนตรี ในปี ๒๔๘๒ จงึ เกิดความ เปล่ียนแปลงครง้ั ใหญข่ น้ึ กบั ถนนเส้นท่ีสวยงามและเงียบสงบ แหง่ นี้ G 09 Commercial Buildings D Ratchadamnoen Avenue A T Ratchadamnoen Klang Ave. A 167

ดว้ ยเกิดอภิมหาโปรเจกสใ์ นการ อาคารริมถนนราชด�ำ เนนิ เป็นโครงสรา้ งคอนกรีตเสริมเหล็ก กอ่ สรา้ งตลอดแนวสองข้างทางของ สูง ๓-๕ ช้ัน ออกแบบโดย หมิว อภัยวงศ์ สถาปนิกท่จี บจาก ถนนราชด�ำ เนินกลาง เร่มิ จากการ สถาบนั ประณตี ศลิ ปแ์ ห่งปารสี (École des Beaux-Arts) ตดั ต้นมะฮอกกานลี งเพือ่ ขยายผวิ ถนนใหก้ วา้ งขนึ้ และมกี ารกอ่ สรา้ ง มาดูสิว่า...ตกึ หลงั ไหนใครเคยเห็นผ่านตากนั มาแลว้ บา้ ง... อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย G08 ที่ ก่งึ กลางของถนน ตลอดจนมกี าร 1 หJ0อ7สมดุ เมอื ง 2 สรา้ งอาคารพาณชิ ยร์ ปู ทรงทนั สมยั ข้ึน เรยี งต่อกันไปเป็นแถวเป็นแนว กรงุ เทพมหานคร ไปตลอดสองขา้ งทาง โดยมีรปู แบบ ทางสถาปัตยกรรมท่ีคลา้ ยคลึงกับ 1 โลลิต้าไนท์คลับ 2 วิทยาศรมและศึกษาภัณฑ์ แบบอารต์ เดโก (Art Deco) เพ่ือ อาหารดี...ดนตรไี พเราะ...มแี บนด์ดังๆ กลุ่มอาคารพาณิชยด์ า้ นฝง่ั เหนอื ใกล้ ให้เปน็ ย่านธุรกจิ อันประกอบด้วย โรงแรมหรู และโรงภาพยนตร์ทีด่ ู มาเลน่ สด ทั้งนกั ร้องแมเ่ หล็กอย่าง อนุสาวรีย์ประชาธปิ ไตย (ด้านหลังเปน็ โกเ้ ก๋ สร้างภาพลกั ษณข์ องรัฐไทย สเุ ทพ วงศ์กำ�แหง และสวลี ผกาพนั ธุ์ โรงเรยี นสตรีวิทยา) เคยเป็นท่ีต้งั ของ ใหม่ให้ทนั สมยั ยง่ิ ขึน้ เด็ดกว่าน้นั ยงั มพี ารท์ เนอรส์ าวสวย “วทิ ยาศรม” ร้านคา้ ระดบั ต�ำนานท่ีขาย ใหบ้ รกิ ารเป็นคเู่ ต้นรำ�และเพ่อื นคยุ อปุ กรณ์การทดลองทางวิทยาศาสตรต์ ่างๆ Commercial Buildings on อยา่ งเปน็ กันเองอกี ดว้ ย และ “ศกึ ษาภณั ฑ์พานชิ ” แหล่งขาย Ratchadamnoen Avenue: Ratcha- อุปกรณ์การเรียนการสอน ทั้งสองเปน็ ร้าน damnoen Avenue was built in 1899 ท้งั หมดนพ้ี บไดท้ ี่ “โลลิตา้ ไนท์คลับ” ทอี่ ยคู่ ่กู ับอาคารน้ีมานานต้ังแต่ครัง้ แรก in King Rama V’s era, inspired by ไนท์คลับในต�ำ นานทเ่ี ปิดตวั บนถนน สรา้ งตกึ แล้ว จนเมอ่ื ไมน่ านมานี้ European avenues. The buildings ราชด�ำ เนินในชว่ งปี ๒๕๐๔ ซึง่ ขณะน้ันถอื ศึกษาภณั ฑไ์ ด้ยบุ สาขานี้ไปกอ่ น on both sides of the avenue were เป็นสถานบนั เทงิ ยามราตรีสุดหรู ทบ่ี รรดา ส่วนวิทยาศรมเองก็เพง่ิ เลกิ กจิ การตามไป built in 1939 during Field Marshal นักดมื่ นักเทยี่ วต่างกพ็ ูดถึงและรูจ้ ักกัน เชน่ กนั Phibun’s government, designed by a เป็นอย่างดี Thai architect who graduated from ส่วนฝ่ังตรงขา้ มอาคารศึกษาภณั ฑ์ ก็ École des Beaux-Arts in Paris. They เดก็ รุ่นใหมค่ งไม่รู้วา่ โลลติ า้ น้อี ยู่ตรง คอื โชว์รมู เบนซธ์ นบุรี ทขี่ ายรถหรอู ยทู่ นี่ ่ี are Modern buildings with a style ไหน? มานานต้ังแต่ราวปี ๒๕๐๐ แล้ว similar to Art Deco. These buildings were built after the political reform ปัจจบุ นั คอื ตึกรมิ ถนนราชด�ำ เนิน ในรปู คอื ศึกษาภณั ฑ์คราวมหาอุทกภัย to make this area a commercial dis- ฝง่ั เหนือที่ล้อมร้วั ไว้ อยูฝ่ ั่งตรงข้ามกับ ในปี ๒๔๘๕ เมือ่ แรกเปดิ ท�ำ การทีต่ กึ นี้ trict. There were various shops, two หนังสือพมิ พ์สยามรฐั และรา้ นขา้ วต้ม ใหมๆ่ luxury hotels, one of which is Royal สกายไฮ ตกึ ที่อยู่เคยี งกบั หอ้ งสมดุ เมอื งใน Hotel, and the recently demolished ปัจจบุ ัน กอ่ นถงึ ส่ีแยกคอกววั นัน่ เอง Chalerm Thai Theatre. 168

1 2 34 34 J05 รา้ นแมคโดนัลด์ UHMinalirvwrieasruoskinteyeFooLfirbmrWaiasnr,cyonsin- โรงแรมสรุ ิยานนท์ ในปี ๒๕๐๓ ตึกข้างๆ คอื สำ�นักงานเทเวศน์ ประกันภยั ในปัจจบุ ัน 4 ตึกไทยนิยม 3 โรงแรมสุริยานนท์ ตึกแถวล็อกแรกของถนนราชด�ำ เนิน ตกึ ธนาคารธอส. ในปัจจุบนั (รมิ ถนนราชด�ำ เนินฝัง่ เหนอื ตรงขา้ มนทิ รรศ กลางฝงั่ เหนอื ตั้งอยูต่ รงหวั มุม เชิงสะพาน รตั นโกสินทร)์ หากย้อนไปเม่อื ไม่กี่ปีมา ผา่ นฟ้าลีลาศ นี้ยังเปน็ ทต่ี ้งั ของโรงแรมมาเจสติกอยู่ เลย แต่ทวา่ เม่อื แรกสรา้ งอาคารหลังน้ี แรกเปิดเป็นที่ตงั้ ของหา้ งไทยนิยม นั้น คอื ทตี่ ัง้ ของโรงแรมหรอู ีกแห่งบน ห้างสรรพสนิ คา้ ทใ่ี หญ่ทีส่ ุดในสมัยนั้น ทีม่ ี ถนนราชดำ�เนิน ซ่ึงเปิดให้บริการพร้อม การจดั จ�ำ หนา่ ยสินคา้ แบบซุเปอรม์ าร์เกต็ กบั โรงแรมรตั นโกสินทร์ ในวันท่ี ๒๔ เป็นแห่งแรก ซ่งึ ดำ�เนนิ งานโดยรฐั บาล มถิ ุนายน ๒๔๘๖ (วันชาติในสมัยน้นั ) น่นั ก็คอื โรงแรมสรุ ยิ านนท์ นั่นเอง ปัจจบุ นั คือ ที่ตงั้ ของเทเวศประกันภยั ลกั ษณะทางสถาปัตยกรรมทีโ่ ดด เดน่ ของตึกนี้ จนถือเปน็ แลนด์มาร์คของ ถนนราชด�ำ เนนิ ส่วนนี้เลยก็วา่ ได้ นน่ั คอื หอคอยทรงกระบอกสงู ๕ ช้ัน ตรงหวั มุม เปิดใหเ้ ปน็ ทางเขา้ ภายในหอคอยเป็นโถงบันไดเวียนขน้ึ ไปจนถงึ ชัน้ บนสดุ ส่วนด้านบนท่เี หน็ เป็นครีบซ้อนๆ กนั น้ัน คอื ปล่องระบายความรอ้ นจากภายใน อาคาร Deves Insurance D 97-99 Ratchadamnoen Klang Ave. 02 080 1599, 02 670 4444 A www.deves.co.th T 1A69 169

56 5 หอศิลป์ร่วมสมัย J06 6 อาคารรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อาคารช้ันเดยี วรอบอนุสาวรียป์ ระชาธิปไตยทั้ง ๔ หลัง D Rattanakosin Hotel A 2 Ratchadamnoen Klang Ave. ประจำ� ๔ มมุ แตล่ ะหลังเปน็ โครงสรา้ งคอนกรีตเสริมเหลก็ T 02 222 9111 ออกแบบโดย มล. ป่มุ มาลากลุ ผเู้ ดียวกบั ที่ออกแบบ A www.rattanakosinhotel.com อนสุ าวรียป์ ระชาธปิ ไตยทอ่ี ยูต่ รงกลางถนน royalrattanakosin อาคารเหลา่ นี้สร้างขน้ึ ในปี ๒๔๘๖ (ภายหลังอนสุ าวรยี ์ ประมาณ ๓ ปี) เพ่อื ใช้เปน็ ปะร�ำ ในการตรวจพลสวนสนาม ซงึ่ ต่อมาเมือ่ ยา้ ยไปจัดพิธีสวนสนามทลี่ านพระบรมรูปทรงมา้ แล้ว จึงเปดิ ใหเ้ ชา่ ท�ำ การค้าแทน ตัวอาคารทง้ั สีม่ ลี ักษณะเดน่ คอื มีการใช้องคป์ ระกอบ สถาปัตยกรรมไทยประเพณี อย่างบวั หวั เสา และปูนป้ันลาย ไทยทชี่ ายคา มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นสถาปตั ยกรรมแบบโมเดิรน์ ปจั จบุ นั อาคารหลงั หนึ่งในนน้ั เปิดเปน็ ห้องอาหารศรแดง รา้ นอาหารไทยสุดคลาสสิค ทห่ี วั มุมถดั ไปเป็นรา้ นหนังสือริมขอบฟา้ ของส�ำ นกั พิมพ์เมืองโบราณ เน้นสงิ่ พมิ พ์ดา้ นประวัตศิ าสตรแ์ ละศิลป วฒั นธรรมเป็นหลัก ส่วนอกี มมุ เปน็ ร้านกินดม่ื และหลังสดุ ทา้ ยที่หนา้ โรงเรียน สตรวี ิทยา เปน็ ร้านแมคโดนลั ด์ สาขาราชด�ำ เนิน J05 ท่เี ปิดให้ บริการ ๒๔ ช่ัวโมง 170

7 65 8 8 7 7 กลุ่มอาคารริมถนนราชด�ำเนิน 8 โรงแรมรัตนโกสินทร์ เม่ือแรกสร้างเป็นโรงแรมหรหู รา ท่ีตงั้ อยเู่ ชิงสะพานผ่าน ตรงส่ีแยกคอกวัว อาคารพาณชิ ย์ ๔ หลัง ที่สรา้ งขน้ึ ทั้ง ๔ มุมของสแี่ ยกคอก พภิ พลีลา ตรงหัวมมุ สนามหลวง ววั นั้น ดเู ผนิ ๆ อาจเหมือนกบั อาคารอ่นื ๆ ทเี่ รยี งรายกันไปตาม เกิดจากพระราชด�ำ ริของรชั กาลที่ ๗ ทอี่ ยากใหม้ โี รงแรม ถนนเส้นน้ี แต่หากพจิ ารณาในรายละเอยี ดแลว้ จะเหน็ ได้ถึง ความแตกต่างในการออกแบบ กลา่ วคอื มีการท�ำ มุมอาคารให้ อยา่ งดีส�ำ หรบั รบั รองแขกบา้ นแขกเมือง โคง้ รับกบั สี่แยก และทช่ี ้นั ๒ และชน้ั ๓ ท�ำ เฉลียงโคง้ ยาวไป แตม่ าก่อสร้างจรงิ ในสมัยจอมพล ป. ราวปี ๒๔๘๔-๘๕ ตลอดด้วย หน่งึ ในตกึ ทง้ั สห่ี ลังนน้ั ปจั จบุ นั ไดป้ รบั ปรงุ ใหเ้ ป็นหอสมุด และไดเ้ ปดิ ใหบ้ ริการในวนั ท่ี ๒๔ มถิ นุ ายน ๒๔๘๖ วันชาตขิ อง เมอื งกรงุ เทพมหานคร J07 สว่ นดา้ นตรงขา้ มทีเ่ คยเปน็ ตึกใน ไทยในสมัยนนั้ (วันท่ีมีการปฏิวตั ิเปลี่ยนแปลงการปกครอง) ชดุ เดยี วกนั ปัจจุบันไดก้ ลายเป็นอนสุ รณส์ ถาน ๑๔ ตุลาคม พร้อมกับโรงแรมอีกแหง่ บนถนนเสน้ นี้ (โรงแรมสุรยิ านนท์) ๒๕๑๖ ไปแลว้ ในปี ๒๔๙๖ คราวสมเด็จพระนโรดม สหี นุ กษตั รยิ ์แหง่ กัมพูชา ไดเ้ สดจ็ ฯ เยอื นไทยเพ่อื ลภ้ี ยั ทางการเมือง กไ็ ด้มา ประทับท่ีโรงแรมรัตนโกสนิ ทรแ์ หง่ นี้ดว้ ย ปจั จบุ นั โรงแรมรัตนโกสินทรย์ งั คงเปิดด�ำ เนินการ ภายใต้ ชอื่ โรงแรมรอแยล ท่ีนักท่องเทีย่ วชาวจีนรูจ้ กั กันเปน็ อย่างดี กลางวันมีบฟุ เฟต์ติ่มซ�ำ เล่ืองชอื่ ตวั อาคารเปน็ คอนกรตี สูง ๔ ชน้ั โค้งไปตามแนวถนน ด้าน หน้ามมี ุขทางเข้าและโถงบันได ส่วนหอ้ งพกั แตล่ ะห้องจะมี เฉลยี งเป็นคอนกรีตเสรมิ เหลก็ ยื่นออกมา ออกแบบโดยพระสาโรชรตั นนมิ มานก์ ผ้อู อกแบบกลมุ่ อาคารกระทรวงยตุ ธิ รรม G07 ทก่ี ่อสรา้ งในเวลาไลเ่ ลยี่ กัน บริเวณข้างสนามหลวงใกลๆ้ กันน้ันเอง 171

อาคารสโมสรราษฎรส์ ราญรมย์ G10 นอกจากน้ี เพ่ือสะท้อนแนวคิด เสรนี ิยม ใหผ้ ้หู ญงิ ไดแ้ สดงออกผา่ นพ้ืนท่ี ภายหลังเปล่ยี นแปลงการปกครองในปี ๒๔๗๕ แล้ว สาธาณะ รฐั บาลยังจดั ให้มีการประกวด กล่มุ คณะราษฎรผู้ดำ�เนนิ การปฏิวัติไดป้ รบั เปลีย่ นมาเปน็ เทพีรัฐธรรมนูญ หรอื นางสาวสยาม องค์กรการเมอื งทชี่ ่อื สโมสรคณะราษฎร์ มที ี่ท�ำ การอยทู่ ี่ ภายในงานฉลองรัฐธรรมนญู นด้ี ้วย สวนสราญรมย์ เรยี กกันโดยย่อวา่ “สโมสรราษฎรส์ ราญรมย”์ โดยต้ังเวทกี ันกลางแจง้ เลยทีเดียว อาคารท่ที �ำ การเป็นตกึ คอนกรตี ชน้ั เดียว รปู แบบเปน็ ปจั จุบันอาคารแหง่ นใ้ี ช้เป็นสำ�นกั งาน กล่อง เรยี บงา่ ยตามความนยิ มในสมัยน้นั โถงทางเขา้ ด้านหนา้ ของสวนสาธารณะสราญรมย์ มปี ระติมากรรมรูปพานรฐั ธรรมนญู ตง้ั อยู่ เชน่ เดยี วกบั ทป่ี รากฏ ท่ีอนุสาวรียป์ ระชาธิปไตย และในงานสถาปัตยกรรมหลายที่ใน People’s Party Society Building at ช่วงเวลาน้นั Saranrom Park: After the political reform in 1932, the People’s Party, which led ในชว่ งหลังเปล่ียนแปลงการปกครองนีเ่ อง ทส่ี วนสราญรมย์ the revolution, changed into a political มีบทบาทในฐานะสถานทส่ี ำ�หรบั จัดงานรื่นเริงตามแบบ organization named People’s Party Society. ตะวนั ตก โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งงานฉลองรัฐธรรมนูญ ซง่ึ จัด Its office was located at Saranrom Park in เป็นประจำ�ในวันที่ ๑๐ ธันวาคมของทกุ ปี ในชว่ งแรกจัดกันที่ a one-story, simple and modern concrete สวนสราญรมยแ์ ห่งนี้ ซ่ึงเป็นสถานที่ท�ำ การของสโมสรคณะ building. At the entrance hall stood a ราษฎรด์ ว้ ย sculpture of an offering bowl, decorated with mirror, holding the Thai Constitution D G 10 Saranrom Park (similar to the one at the Democracy A Charoen Krung Rd. Monument). At the time, Saranrom Park T 4.30am-9.00pm นางสาวสยามคนแรก was used as the venue for the annual มงลงท่ี กันยา เทียนสวา่ ง Constitution Celebration, a winter cele- A bration which took place on December 10 ในปี ๒๔๗๗ every year. 172

ตึกกลาง โรงเรียนเพาะชา่ ง G11 รูปทรงอาคารมีลกั ษณะสมมาตร มุขกลางทำ�เปน็ โถงทางเข้า และมเี สา โรงเรยี นเพาะชา่ ง ตั้งอยู่บนถนนตรีเพชร (ติดกับโรงเรยี น กลมขนาดใหญ่ ๖ ต้น ประดับบวั หัวเสา สวนกุหลาบ) ก่อตั้งขึ้นเม่ือปี ๒๔๕๖ สมัยต้นรัชกาลท่ี ๖ แบบสถาปตั ยกรรมไทยประเพณีท่ลี ดรูป ให้ดเู รียบง่าย เดมิ ทมี ีชอ่ งประตทู างเข้าเปน็ หลังคาจวั่ เหมือนกับประตู ทางเข้าของตกึ ยาว โรงเรยี นสวนกุหลาบ C09 ด้วยเปน็ ตกึ ที่ หลังคาเป็นทรงจวั่ ซ้อนชน้ั มงุ กระเบื้อง สร้างขน้ึ ในชุดเดยี วกัน เคลือบ แบบหลงั คาของสถาปตั ยกรรมวดั และวงั เม่อื คราวสงครามมหาเอเชียบรู พา ประตทู างเขา้ พร้อมกบั อาคารเรยี นภายในของโรงเรยี นเพาะชา่ งได้โดนทง้ิ ระเบิด เสยี ที่ปลายอาคารทงั้ สองข้าง มีมุขซ้าย- หายอย่างหนักเกนิ จะซอ่ มแซม ท�ำ ใหต้ อ้ งกอ่ สร้างอาคารเรยี น ขวายน่ื ออกมาเล็กน้อย และเป็นหลงั คา หลงั ใหมข่ ึน้ มาทดแทน หนา้ จวั่ ซ้อนชัน้ เชน่ กนั ในปี ๒๔๘๙ หลังจากสงครามสงบลง นายจิตร บัวบุศย์ ปจั จบุ ันตึกกลางนีย้ ังคงใช้งานอยู่ อาจารย์โรงเรียนเพาะชา่ ง ได้รับมอบหมายให้ออกแบบตกึ หลัง แตโ่ รงเรยี นเพาะช่างไดเ้ ปลี่ยนสถานะ ใหม่ และได้เริม่ ก่อสรา้ งในปีถดั ไป มาเป็นมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล รตั นโกสินทร์แล้ว ตกึ ใหม่เป็นอาคารคอนกรตี แบบโมเดริ น์ ผสมผสานทรงไทย ประยกุ ต์ เรยี กอาคารศลิ ปกรรม (ตึกอำ�นวยการหรอื ตึกกลาง G 11 Poh-Chang Academy of Arts, D ในปจั จบุ ัน) Rajamangala University of Technology Rattanakosin A T Central Building, Poh-Chang Academy of Arts: This building 86 Tri Phet Rd. A was built in 1946 after World War II. It is a Modern concrete 8.30am-4.30pm Mon-Fri building with Thai elements such as gable roofs. At the entrance 02 623 8790-99 173 hall, there are large cylindrical pillars with Thai-style decora- www.pohchang.rmutr.ac.th tions. Currently, the building still remains in use. prpohchang

โรงละครแห่งชาติ G12 เครือ่ งล�ำ ยองประดับหน้าจ่วั อยา่ ง ใบระกา หางหงส์ ทำ�เป็นคอนกรตี ลด เป็นอาคารสมัยใหม่ใหญย่ กั ษอ์ ีกหลงั ในเกาะรัตนโกสินทร์ ทอนรายละเอยี ด ที่จผุ ชู้ มได้ถงึ ๓,๖๐๐ คน สร้างขึน้ ท่ีบริเวณดา้ นเหนอื ของพพิ ิธ ภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ซ่งึ เดมิ พื้นทต่ี รงนัน้ เปน็ ทีต่ ั้งของ สว่ นหน้าบนั ดา้ นหนา้ เป็นปูนป้ันนนู อาคารทที่ ำ�การกระทรวงคมนาคม ทีส่ รา้ งมาต้ังแต่รชั กาลที่ ๕ แลว้ สงู รูปพระพฆิ เนศ เทพแหง่ ศลิ ปะ โรงละครใหม่แห่งนีส้ รา้ งขน้ึ ในสมยั รัฐบาลจอมพล สฤษด์ิ สว่ นปกี สองขา้ งของโรงละคร เป็นตกึ ธนะรัชต์ เปน็ นายกรัฐมนตรี แตม่ าแลว้ เสรจ็ ในปี ๒๕๐๘ สมยั สูง ๕ ช้ัน หลังคาทรงจว่ั แบบไทยซอ้ นชน้ั จอมพล ถนอม กิตตขิ จร เป็นนายกฯ ขณะน้นั ด้านหนา้ โรง ๒ ชน้ั เช่นกัน ละครยงั เป็นคลองคเู มืองเดิมอยู่ และยงั ไม่มกี ารกอ่ สรา้ งสะพาน พระป่นิ เกล้า สถาปนกิ ผอู้ อกแบบคอื นายอสิ สระ วิวฒั นานนท์ แต่มาปรบั แก้เพม่ิ เตมิ อีก ดว้ ยเปน็ ยุคปลายของสถาปัตยกรรมแบบโมเดริ ์น จึงมกี าร ในภายหลัง โดยสถาปนิกรนุ่ ใหญ่อย่าง น�ำ องค์ประกอบของสถาปตั ยกรรมไทยแบบจารตี มาลดทอน หมอ่ มเจา้ สมัยเฉลมิ กฤดากร และประยกุ ต์ใช้กับอาคารแบบตะวนั ตก นอกจากนี้แลว้ ยงั มอี าคารท่ีมีรปู แบบ ผงั อาคารเป็นรปู ตัวที (T) มปี กี ๒ ข้าง ตัวโรงละคร คอื ใกล้เคียงกับโรงละครแห่งชาตินี้ คอื ตึก พน้ื ทใ่ี ช้สอยหลักอยตู่ รงสว่ นกลาง มีหลงั คาเป็นทรงจว่ั ซ้อนช้ัน กลางของโรงเรียนเพาะชา่ ง ตรงถนน ๒ ช้ัน แบบหลังคาทรงไทยประเพณี มงุ กระเบื้องเคลือบสี ตรีเพชร G11 ที่เปน็ อาคารยคุ โมเดิร์น มี การน�ำ หนา้ จั่วแบบไทยมาประยุกต์ใช้ลด National Theater: A large building in the Old Town, the รปู และประดับอาคารเช่นเดยี วกัน National Theater was constructed in 1965 in a Modern design with applied Thai elements. The layout is a T shape with two wings. The theater, which is the main area, is at the center. It is topped with traditional Thai gable roofs. D G 12 National Theater A 2 Rachini Rd. T 8.30am-4.30pm Mon-Fri A 02 224 1342, 02 221 0171 www.ntt.finearts.go.th 174 โรงละครแห่งชาติ กรงุ เทพ Nationaltheatre

ศาลาวา่ การกรุงเทพมหานคร G13 Bangkok City Hall: Built in 1955, the design inspiration came from the Stockholm อาคารศาลาวา่ การ กทม. ที่เสาชงิ ชา้ แห่งนี้ สรา้ งขน้ึ มา City Hall in Sweden, with a large bell tower ตั้งแต่ปี ๒๔๙๘ สมยั ท่ยี ังเป็นเทศบาลนครกรงุ เทพฯ ออกแบบ as its landmark. โดยสถาปนิกรนุ่ ใหญ่จากกรมศลิ ปากร นน่ั กค็ ือ หม่อมเจา้ สมยั เฉลมิ กฤดากร Originally, the Bangkok City Hall was also designed to have a clock tower, but ในการออกแบบได้รับแรงบนั ดาลใจมาจากศาลาว่าการเมือง it was later removed from the plan. The สต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ซ่ึงมีหอระฆังใหญ่อยทู่ ี่มุมอาคาร design followed a Western-style modern เปน็ แลนด์มารค์ ทีเ่ ห็นไดแ้ ตไ่ กล นอกจากนีแ้ ล้วยังนบั วา่ เปน็ architecture concept which focused on อาคารที่โดดเด่นในเรอื่ งการใช้พน้ื ที่สำ�หรับกิจกรรมสาธารณะ simplicity without too much decoration, ของเมือง แถมยังใช้เป็นสถานทีจ่ ดั เลี้ยงในคืนรับรางวัลโนเบล with a touch of classic design which focused ทุกปีอีกดว้ ย on symmetry. There are also elements of traditional Thai architecture. The building แตเ่ ดมิ ตึกศาลาวา่ การกรุงเทพฯ ของเราก็ออกแบบใหม้ หี อ embraces the inner courtyard. คอย อยู่ทดี่ ้านขา้ งอาคารฝ่ังตะวนั ออกรมิ ถนนศริ พิ งษ์ เช่นกนั แตเ่ ม่อื กอ่ สร้างจริง ได้ตัดออกไป เหลอื เพียงปลอ่ งลฟิ ตแ์ ละโถง เอิงเอย บนั ไดแทน ศาลาว่าการเมืองสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ผังอาคารเป็นสเ่ี หล่ยี ม มีคอรท์ ขนาดใหญ่ตรงกลางแบบ สถาปตั ยกรรมคลาสสกิ ของตะวันตก (เช่นท่อี าคารกระทรวง เรื่องเล่าชาวเกาะ กลาโหม และอาคารโรงกษาปณ์) โดยรูปแบบสถาปัตยกรรม แบบคลาสสกิ ยังคงปรากฏชดั อกี ในรูปด้านของอาคารทีเ่ นน้ เร่ือง กทม. คอมเพล็กซ์ ความสมมาตรซา้ ย-ขวา เป็นสำ�คญั แต่ลกั ษณะทางสถาปัตย- แบบทห่ี ม่อมเจ้าสมัยเฉลมิ ไดอ้ อกแบบไว้ กรรมโดยรวมกลับเปน็ อาคารสมัยใหมแ่ บบตะวนั ตก ท่ีเนน้ แตแ่ รกน้นั เป็นอาคารขนาดใหญ่ กนิ พืน้ ที่สว่ น ความเรียบงา่ ย ไมน่ ิยมการตกแต่งประดับประดา มีการนำ�ราย ทีเ่ ป็นลานคนเมืองในปจั จุบนั ทางด้านหน้า ละเอยี ดขององค์ประกอบสถาปตั ยกรรมไทยประเพณีเข้าไปสอด เข้าไปด้วย และมีสว่ นส�ำ นักงานอยู่ทต่ี กึ ด้าน แทรกดว้ ย อาทิ การท�ำ ซ้มุ จ่วั รบั แนวเสา ส่วนผนงั ดา้ นนอก หลัง สว่ นตึกดา้ นหน้าจะเป็นพพิ ิธภัณฑเ์ มือง ของอาคารทำ�จากหนิ ล้าง จึงมสี เี ทาทมึ ๆ แข็งแรงทนทาน ท่ี ระหว่างกลางเจาะเปน็ ชอ่ งใหถ้ นนลอดผ่าน ส�ำ คัญคือไมจ่ ำ�เปน็ ตอ้ งทาสนี ัน่ เอง ได้ แต่ภายหลังอาคารสว่ นพพิ ธิ ภณั ฑไ์ ดร้ ะงับ ไป คงเหลอื แตส่ ่วนส�ำ นักงานดังทเ่ี ราเหน็ กัน อาคารโมเดิรน์ ทมี่ ีลักษณะไทยประยุกต์เช่นนี้ จะพบได้ใน อยใู่ นปัจจุบนั อาคารศาลฎกี า ริมสนามหลวง (L11 ทร่ี อ้ื ลงไปแล้ว) ซึง่ สร้างขน้ึ ในเวลาไลเ่ ลีย่ กนั G 13 Bangkok City Hall D 173 Dinso Rd. A 8.30am-4.30pm Mon-Fri T 02 221 2141-69 A www.bangkok.go.th/main prbangkok 175

เมืองเก่ากับตึกใหม่ ในยุคอเมริกันจ๋า Old Town and Modern Architectures in the Age of Americanization ในชว่ งหลงั ปี ๒๕๐๐ เป็นต้นมา มกี ารพัฒนาเมอื งอย่างก้าวกระโดด กอ่ ให้เกดิ การ เปล่ยี นแปลงครัง้ ใหญ่ในพ้นื ทเี่ กาะรัตนโกสินทร์ จากท่ีคร้งั หน่ึงเคยเป็นศูนย์กลางของ พระนคร กลับค่อยๆ หมดความส�ำ คัญลงจนกลายเป็นเพยี งยา่ นเมืองเกา่ เนือ่ งจากมีการ ขยายย่านธรุ กิจออกไปยงั พนื้ ท่อี นื่ ๆ นอกตัวเมอื ง เช่น สขุ ุมวทิ สีลม ราชประสงค์ และ สยามสแควร์ เกาะรตั นโกสนิ ทร์จึงส้นิ ความสดใหมแ่ ละไม่ทนั สมัยอีกต่อไป แต่ในช่วงขาลงนีเ้ อง กย็ ังพอมีอาคารทกี่ อ่ สรา้ งใหม่ภายในเกาะเมอื งเก่าอยูบ่ า้ ง โดย รูปแบบทางสถาปตั ยกรรมในชว่ งเวลานี้ ได้สะทอ้ นให้เหน็ ถงึ อทิ ธพิ ลของมหาอำ�นาจใหม่ อยา่ งอเมริกา ท่มี ตี ่อประเทศไทยหลังสงครามโลกอยา่ งเห็นได้ชดั อาคารทก่ี อ่ สรา้ งด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก มีแผงกนั แดดโดยรอบ ตอบรับกับสภาพ ภมู ิอากาศของเมอื งไทย หรอื คอนกรตี หลอ่ เป็นโครงสรา้ งโค้ง ตลอดจนอาคารคอนกรตี เปลอื ย รูปทรงทอื่ ๆ ทวา่ บกึ บนึ แข็งแรง เหลา่ นี้ล้วนเปน็ แบบอย่างทน่ี ิยมในอเมรกิ าทงั้ สิ้น รูปร่างหน้าตาของตึกในสมยั นี้ จงึ สะทอ้ นใหเ้ ห็นถงึ อทิ ธพิ ลของอเมริกาในฐานะลกู พ่ี ใหญ่ของเราในยคุ สงครามเยน็ ได้เป็นอย่างดี In the 1960s, Bangkok changed at a rapid pace, and the Old Town part gradually grew less significant, becoming a thing of the past. New buildings were erected, and they displayed evident influences of the new power - the US - during the Cold War. อาคารกรมประชาสมั พันธ์หลังที่สอง H01 ชยั ภูมติ รงหัวโค้งถนนราชด�ำ เนินกลางตรงน้ี นับเป็นทำ�เลทองมาต้ังแตค่ ร้งั แรก ตัดถนนราชดำ�เนนิ แลว้ แตเ่ ดมิ ตรงนีเ้ คยเปน็ ท่ตี ัง้ ของตกึ ฝร่ังหา้ งแบดแมน L03 ทีส่ ร้างมาต้งั แตส่ มยั รัชกาล ที่ ๕ ก่อนจะเปลีย่ นมาเป็นส�ำ นกั งานของกรมโคสนาการ (กรมประชาสัมพนั ธ์) และรอ้ื ลง เม่อื ปี ๒๕๐๔ ด้วยวา่ เกา่ และทรดุ โทรม จนรัฐบาลไดอ้ นุมัติให้มกี ารสรา้ งอาคารหลงั ใหม่ ขึ้นมาทดแทน 176

ตึกใหม่ของอาคารกรมประชาสัมพันธ์หลังน้ี AFP PHOTO / STF สรา้ งข้นึ ในปี ๒๕๐๖ ถอื วา่ นำ�สมัยมากในยุคนั้น ด้วยไมส่ มมาตรแบบอาคารราชการท่ัวไป แตก่ ลับ เหตุการณ์ประท้วงในชว่ ง ๑๔ ตลุ า ๑๖ หนา้ อาคารกรม เลือ้ ยไปตามความคดโคง้ ของแนวถนน ตามรูปแบบ ประชาสัมพันธ์ แต่ก็รอดพน้ มาได้ สถาปตั ยกรรมอันเป็นที่นิยมในยคุ 1960s คอื มี แผงกนั แดดคอนกรตี อย่รู อบอาคาร (เชน่ เดียวกับ The 2nd Public Relations Department Office: อาคารหา้ งไนตงิ เกล H02 ซง่ึ สรา้ งขน้ึ ในเวลาไลเ่ ลย่ี กนั ) Located on Ratchadamnoen Avenue, the former building had been built since 1907 to house Badman & Co แถมที่นา่ แปลกใจสำ�หรบั ใครหลายๆ คน ก็คือ store. It later became the office of the Public Relations อาคารกรมประชาสัมพันธ์หลังทส่ี องน้ี ออกแบบโดย Department. The original building was torn down and a พิชัย วาศนาสง่ !!! กรู ูผ้วู ิเคราะห์ข่าวตา่ งประเทศ ที่ new one was built in its place in 1963 using a folded คนรนุ่ เก่ามกั รู้จักและคุน้ ชอื่ คนุ้ เสยี งกันเป็นอย่างดี plate structure, made with cast panels of reinforced แตน่ อ้ ยคนนกั จะรูว้ า่ เขาผนู้ ้ีก็เรยี นจบมาทางด้าน concrete. It was considered an advanced technique of สถาปตั ย์จากจฬุ าด้วยเช่นกัน that time. ส�ำ หรบั ตกึ นี้ คณุ พชิ ยั ได้รับโจทย์ให้ออกแบบเป็น อาคารสำ�นักงาน และให้มีหอประชุมขนาดใหญท่ ี่ สามารถจุผูช้ มได้เปน็ จ�ำ นวนมากอกี ด้วย สถาปนิกและวิศวกรจงึ เลอื กใชโ้ ครงสรา้ งอาคาร อยา่ งใหม่ ทเ่ี รยี กว่า Folded Plate ซง่ึ เป็นการใช้ คอนกรตี เสริมเหล็ก หลอ่ เปน็ แผง วางยักเยอื้ งสลับ กันไปมาเหมือนการพบั กระดาษ ทำ�ใหไ้ มจ่ �ำ เปน็ ตอ้ ง ใชค้ านมาเป็นโครงสรา้ งรับน้ำ�หนกั เลย โดยเป็น ผลงานการออกแบบโครงสร้างของ ดร.รชฏ กาญจนะวณิชย์ วศิ วกรโยธาชื่อดงั ในสมยั นั้น และด้วยเปน็ ท่ีท�ำ การกรมประชาสัมพันธ์ เม่ือ เกดิ เหตกุ ารณ์รฐั ประหารขึ้นทไี ร ตึกน้กี ็จะเป็นสถาน ท่ีแรกๆ ท่ีถูกกำ�ลังทหารเขา้ ยึด แตก่ ็รอดพ้นมาได้ หลายครง้ั หลายคราว จนทา้ ยท่ีสุดมาโดนเผาใน เหตุการณ์พฤษภาทมฬิ ปี ๒๕๓๕ อาคารเกิดความ เสียหายอย่างหนักจนต้องร้ือทง้ิ ไปในท่สี ุด 177

ห้างไนตงิ เกล H02 ลักษณะอาคารเป็นตกึ สงู ๗ ชั้น มีแผงกนั แดดคอนกรีตเสริมเหลก็ ช่อื เต็มๆ ของตึกน้ี คอื “ไนติงเกล-โอลมิ ปกิ ” เป็น ด้านหนา้ อาคารตามสมัยนยิ มในขณะนั้น ห้างสรรพสินคา้ เกา่ แกท่ ่เี ปดิ ให้บรกิ ารมายาวนานท่ีสดุ สันนิษฐานว่าออกแบบโดย ในประเทศไทย นบั แล้วกเ็ ปน็ เวลายาวนานร่วม ๙๐ ปี พ.อ. อดุ มศุข ศขุ โชติ ศษิ ย์เกา่ รุน่ บกุ เบิก ของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จฬุ าฯ จรงิ ๆ แล้วห้างไนตงิ เกลเริม่ เปดิ กิจการขน้ึ ในปี ซง่ึ เป็นสหายเกา่ แกข่ องครอบครวั น้ี ๒๔๗๓ โดยมีนายอะลี ราชีพ รายาบาลี พอ่ ค้าชาว ชนั้ ล่างและชน้ั สองเปน็ หา้ ง อนิ เดยี เปน็ ผกู้ ่อตง้ั และมลี กู ชายคือนายแน็ต ฮเู ซ็น ชั้นสามเปน็ สถานบรกิ ารดา้ นความงาม รายาบาลี หรอื นายหา้ งนตั ิ นิยมวานิช เป็นหวั เรยี่ ว ชน้ั บนเป็นโกดงั เก็บสนิ ค้า และทีพ่ ักอาศยั หวั แรงในการปลุกป้นั ห้างใหป้ ระสบความส�ำ เรจ็ การตกแตง่ รา้ นภายในสะทอ้ นถึงเทรนด์การ แรกเร่ิมเปน็ เพียงห้องแถวคูหาเดยี ว ตงั้ อยู่ทห่ี ลงั ออกแบบในยุคปี 60s ได้ดี มีทั้งโถงใหญ่ บนั ไดเวยี น วงั บูรพา ตอ่ มาได้ย้ายไปอกี หลายท่กี ว่าจะมาปักหมดุ บรรยากาศทกุ อยา่ งคงเดมิ เสมอื นกบั หยดุ เวลาเอาไว้ ตรงตกึ ย้อนยคุ บนถนนตรเี พชร ทแ่ี ยกพาหรุ ดั แห่งน้ี บางคนเหน็ แล้วอาจจะรสู้ กึ ค้นุ ๆ ก็ด้วยหา้ งไนติงเกล น้ีใช้เป็นโลเคชั่นส�ำ หรบั ถ่ายทำ�มิวสิควดิ โี อเพลง ตกึ ใหมห่ า้ งไนติงเกลเปิดให้บริการในปี ๒๕๐๙ “คิดมาก” ของปาล์มมี่ เมือ่ เกือบ ๑๐ ปที แ่ี ลว้ นั่นเอง ด้วยสโลแกนเฟีย้ วๆ “คลังแห่งเครือ่ งกฬี า ราชาแห่ง เครือ่ งดนตรี ราชนิ ีแหง่ เคร่อื งส�ำ อาง” อา่ นจบก็ร้ไู ด้ ปจั จบุ นั คุณยายอรุณ นยิ มวาณชิ น้องสาวของ ทันทีว่าห้างนี้ขายอะไรบา้ ง ถือได้วา่ เป็นหา้ งท่ีเก๋ไก๋ นายหา้ งนตั ิ ยงั คงทำ�หนา้ ทีเ่ ป็นผู้จัดการห้าง แม้จะ ไฮโซของพระนครแหง่ หนง่ึ เลยทเี ดยี วเชยี ว อยู่ในวยั เฉียด ๑๐๐ ปแี ลว้ ก็ตาม!!! ไหนๆ ก็ไหนๆ แลว้ ลองเปลยี่ นบรรยากาศไปชอ้ ปแบบยอ้ นยคุ ที่ D H 02 Nightingale-Olympic Mall ห้างไนตงิ เกลกันดู A 70 Tri Phet Rd. T 9.00am-5.30pm Mon-Fri Nightingale-Olympic Mall: This mall is more than A 9.00am-6.00pm Sat 90 years old, opened in 1930. It was moved to the 081 844 6248 current building in 1966. Nightingale-Olympic Mall sells sport equipment, musical instruments, and beauty products. The 7-story building has reinforced concrete fins at the front facade, which was a trend at the time. Inside, it still retains the 1960s style. www.nightingaleolympic.com 178 NightingaleOlympic

อาคารคณะพาณิชยศ์ าสตร์และการบญั ชี มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ H03 หรอื ท่ชี าว มธ. เรยี กกนั อย่างลำ�ลองว่า “ตกึ ตปู้ ลา” สร้างขน้ึ ใน Faculty of Commerce and ปี ๒๕๑๒ เปน็ ตกึ สูง ๕ ชน้ั รูปทรงเป็นกลอ่ งสเี่ หลีย่ มยาวๆ ขนานไป Accountancy, Thammasat University, กับกำ�แพงวงั หน้าด้านถนนท่าพระจันทร์ ออกแบบโดยสถาปนกิ หัว Tha Phrachan Campus: Built in 1969 กา้ วหนา้ อมร ศรวี งศ์ และมี อรณุ ชัยเสรี เปน็ วศิ วกรโครงสรา้ ง using a new structure without the usual column and beam system, it was ความพเิ ศษของตกึ หลังนอี้ ยู่ทโี่ ครงสรา้ งอาคารแบบใหม่ ท่ไี มใ่ ช้ constructed with diagonal reinforced ระบบเสา-คาน ตามปกติ แต่เป็นโครงสรา้ งคอนกรีตเสริมเหล็กถักยดึ concrete structure, as seen in the อาคารไวต้ ามแนวทแยง อนั จะเหน็ ไดจ้ ากรปู ทรงของหน้าต่างทต่ี ดั เฉยี ง diagonal window frames. The building ไปตามทศิ ทางการถ่ายแรงของโครงสรา้ ง ซำ้�โครงสร้างคอนกรีตถกั ดัง sits on only 26 ground columns. กลา่ วน้ยี ังเปน็ ตวั ถา่ ยนำ้�หนักทง้ั หมดของอาคารลงมายังพ้ืนชั้นสอง แลว้ รวบกนั เป็นรปู พีระมดิ หัวคว�่ำ ทมิ่ ลงไปยงั เสาตอม่อดว้ ย ตึกใหญ่ ขนาดนี้จึงตัง้ อย่บู นเสาตอม่อเพียง ๒๖ ต้นเทา่ นัน้ ! อมร และอรุณ ยังเป็นผอู้ อกแบบหอสูงเก็บน้ำ�ที่ต้งั อยูป่ ลายตกึ ตู้ ปลานีท้ างดา้ นทศิ ตะวนั ตกอกี ดว้ ย และหากใครสงสยั วา่ สถาปนิกผ้นู ี้ คอื ใคร อมร ศรีวงศ์ กค็ ือพช่ี ายของ ศ. ดร. นิธิ เอยี วศรีวงศ์ นักคิด นักเขียน นักประวัตศิ าสตร์ชอ่ื ดงั น่นั เอง H 03 Thammasat Business School, D Thammasat University, Tha Phrachan Campus A T 2 Phra Chan Rd. A 02 613 2200 www.tu.ac.th 179 ThammasatUniversity

อาคาร Northwestern National ธนาคารกสกิ รไทย สาขาถนนมหาไชย H04 Life ทีเ่ มือง Minneapolis ออกแบบ โดย Minoru Yamasaki สถาปนิก หากผ่านไปแถบยา่ นประตผู ี (ละแวก สน.ส�ำ ราญราษฎร์) ลอง อเมรกิ ันเชอ้ื สายญ่ีปุ่น สังเกตใหด้ ี จะเหน็ อาคารสีขาวปลอด รูปทรงแปลกตา ตัง้ เด่นเป็นสง่า อยู่รมิ ถนนมหาไชย เมอ่ื ราว ๒ ปีที่แล้ว ทนี่ ยี่ ังคงเปน็ ส�ำ นักงานสาขาของธนาคารกสิกร ไทยอย่เู ลย กอ่ นทีจ่ ะปิดตวั ลงไป เดิมทีตึกหลงั น้ีเปิดท�ำ การมาตงั้ แตป่ ี ๒๕๑๔ แลว้ โดยเป็นผลงาน การออกแบบในช่วงแรกๆ ของสถาปนกิ และนกั พฒั นาอสังหาริมทรัพย์ ชาวไทย ผศ. รงั สรรค์ ต่อสุวรรณ ซง่ึ ในขณะน้นั เพ่ิงเรยี นจบจาก อเมรกิ าและเขา้ มาท�ำ งานเปน็ อาจารย์ทีค่ ณะสถาปตั ยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ รวมถงึ ได้ออกแบบตกึ ธนาคารกสกิ รไทยมามากกว่ารอ้ ยสาขา เบอื้ งตน้ ทางธนาคารได้ให้โจทยม์ าวา่ อาคารของสำ�นักงาน สาขาแตล่ ะแหง่ น้นั ไมจ่ �ำ เปน็ ตอ้ งออกแบบใหเ้ หมอื นกัน แตข่ อให้มี เอกลักษณ์ทผ่ี ู้คนทั่วไปสามารถจดจ�ำ ได้ อาจารยร์ งั สรรค์จึงน�ำ เทคนคิ การหลอ่ แผงคอนกรตี ซึ่งก�ำ ลังเป็นท่ี นยิ มไปทั่วโลกในขณะนน้ั มาใช้ โดยออกแบบใหโ้ ถงทางเข้ามีเสาสูงชะลูด ปลายยอดบานออกเพื่อขึ้นไปรบั เพดาน รูปทรงดงั กล่าวเปน็ การเลยี น แบบรูปทรงของรวงขา้ วอันเปน็ โลโก้ของธนาคาร จนสร้างอัตลักษณ์ ให้กับธนาคารกสิกรไทย และกลายเป็นภาพจ�ำ สำ�หรับลกู ค้าในเวลานน้ั เลยทีเดียว แตเ่ นอ่ื งจากความนยิ มในการทำ�ธรุ กรรมออนไลนใ์ นปัจจุบนั มมี าก ขน้ึ ทำ�ให้ธนาคารกสกิ รไทยมนี โยบายลดจ�ำ นวนสาขาลง รวมทงั้ ท่ีถนน มหาไชยแหง่ นีด้ ้วย ท�ำ ให้ตกึ ยอ้ นยุคหลงั นห้ี มดวาระลง รวมระยะเวลา ท่ีเปดิ ทำ�การมายาวนานร่วม ๔๘ ปี Kasikorn Bank on Maha Chai Road: This building was constructed in 1971, designed as an ear of rice, which is Kasikorn Bank’s icon. The architect molded concrete panels in an arched shape, which was a popular trend at the time. Other Kasikorn Banks in that era all featured this style, but their arches all looked different. D H 04 Kasikorn Bank, Maha Chai branch H 05 Mazda Office building and warehouse A 198 Maha Chai Rd. Kamol Sukosol Electric, 663-665 Maha Chai Rd. T Not Open to the Public Not Open to the Public A 02 222 3677 02 222 2700-9 www.kasikornbank.com www.sukosol.com/pro-audio 180 KBankLive

Office building and warehouse อาคารส�ำนกั งานและคลังสินคา้ มาสด้า of Mazda on Maha Chai Road: ถนนมหาไชย H05 Located behind the office of Kamol Sukosol Limited, a dealer of Mazda เมือ่ รถยนตม์ าสด้าเปิดตวั ในประเทศไทยครงั้ แรก มี บรษิ ัท กมลสุ at the time, the building was built โกศล จำ�กัด เปน็ ผ้แู ทนจำ�หน่ายแต่เพียงผเู้ ดียวเท่านน้ั ต่อมาเม่อื เป็นท่ี in the 1970s as Brutalist architec- รู้จักกว้างขวางข้นึ จึงสร้างโรงงานประกอบรถยนตใ์ นประเทศด้วย ture, with raw concrete similar to the design of the Boston City Hall. ตึกคอนกรตี เปลือยหลังน้ี ซอ่ นตวั อยา่ งเงยี บขรมึ อยู่ทางดา้ นหลงั It was designed by the same ออฟฟศิ ของ บรษิ ทั กมลสโุ กศล ท่ีถนนมหาไชย ตรงขา้ มกับสวน architect who designed the รมณีนาถ (เรอื นจำ�เดิม) เปน็ ผลงานการออกแบบในยุคเรม่ิ แรกของ Kasikorn Bank on the same road. สถาปนิกชอ่ื ดังอยา่ ง อาจารยร์ ังสรรค์ ต่อสวุ รรณ เชน่ เดยี วกบั อาคาร ธนาคารกสกิ รไทย สาขามหาไชย H04 ซึง่ ตั้งอย่ไู มไ่ กลจากกนั นักบน ถนนเสน้ เดยี วกันนี้ ถึงแมท้ ้งั สองตึกจะออกแบบโดยสถาปนกิ คนเดียวกัน แต่กลับมี สไตลท์ ่ตี า่ งกันออกไป อาคารมาสด้าหลังนี้เป็นคอนกรตี เปลอื ย น่นั คือ การหลอ่ คอนกรตี โดยท่ยี งั คงเผยให้เหน็ รอ่ งรอยของไมแ้ บบอยู่ โดยไมม่ ีการฉาบปูนแตง่ ผวิ ทบั หน้าใหเ้ นียนเรยี บ และไม่มกี ารทาสีด้วย ทงั้ นเ้ี พ่ือเผยให้เหน็ สัจจะของวัสดุ ท�ำ ให้อาคารท่อี อกมาจึงดดู ิบ ดุดนั หนกั แนน่ และแข็ง แรง ซ่ึงศัพทท์ างสถาปตั ยกรรม เรยี กกนั วา่ Brutalism ปจั จบุ นั อาคารหลังนยี้ งั คงใชเ้ ป็นโกดังเกบ็ สินค้าในเครอื กมลสุโกศล foto-momo.com อาคารส�ำ นักงานและโรงงานมาสด้า อาคารคณะสัตวแพทยศ์ าสตร์ จุฬาฯ อาคารศาลาว่าการเมืองบอสตัน (๒๕๑๑) ถนนวภิ าวดรี งั สติ (๒๕๑๕) (๒๕๑๕) กล่องคอนกรีตเปลือย ออกแบบโดย Michael McKinnell (ปัจจุบนั คือสำ�นกั งานใหญ่นครชัยแอร์) แนว Brutalism เปน็ ผลงานในชว่ งแรก แหง่ Kallman, McKinnell & Wood ผลงานแนว Brutalism ของ รงั สรรค์ ตอ่ สวุ รรณ เชน่ กนั Architects เป็นตน้ แบบของอาคาร ในช่วงแรกของรังสรรค์ ต่อสวุ รรณ แนว Brutalism ทีส่ ่งอทิ ธิพลไปท่วั โลก 181

ตึกร่วมสมัย ไทยแบบไหน Contemporary Architectures - are they Thai? อาคารรว่ มสมัยทส่ี ร้างขน้ึ ภายในเกาะรตั นโกสินทร์ ในชว่ ง ๕๐ ปที ี่ผา่ นมานี้ มีจำ�นวน ไมค่ อ่ ยมากนัก ด้วยมขี ้อจำ�กดั ในการกอ่ สร้างอาคารขึน้ ใหมใ่ นยา่ นเมืองเกา่ แตท่ ่โี ดดเด่น ควรคา่ แกก่ ารกลา่ วถึงนน้ั อาจแบง่ แนวความคิดในการออกแบบได้เปน็ ๓ ทาง นำ� สถาปตั ยกรรมไทยประเพณมี าต่อยอดเป็นทางหนึ่ง น�ำ ตกึ ฝรง่ั ในยคุ โคโลเนียลสมัยรัชกาล ที่ ๕-๖ มาดัดแปลงกเ็ ป็นอกี ทางหนงึ่ สว่ นทางสุดทา้ ยเน้นทค่ี วามรว่ มสมยั เป็นไปตาม กระแสสถาปัตยกรรมทเ่ี ปน็ ทีน่ ยิ มในขณะนัน้ There are not many contemporary buildings in the Old Town. There are three main design concepts. The first is based on traditional Thai architecture. The second is inspired by colonial architectures from the turn of the 20th century. The last one is modern buildings following popular architectural trends at the time. D I 01 Wat Maha That หอไตร วดั มหาธาตุ I 01 A 3 Phra Chan Rd. T 7.30am-6.00pm หอไตรหลังนอ้ ยแห่งน้ีเปน็ ตวั อย่างของอาคาร A 02 221 5999 ร่วมสมัยในเกาะรัตนโกสนิ ทรท์ ม่ี รี ปู แบบคลี่คลาย www.watmahathat.com ตอ่ ยอดมาจากสถาปตั ยกรรมไทยประเพณี มีหลงั คา จัว่ อยา่ งวัดไทย ตงั้ อยู่ภายในวดั มหาธาตุ ทางทศิ ตะวนั ตกเฉียง เหนือนอกพระระเบียง สร้างมาตงั้ แต่ปี ๒๕๑๕ แลว้ เปน็ ผลงานในชว่ งแรกๆ ของสถาปนกิ หวั กา้ วหน้า อย่าง ดร. สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา สมัยทเี่ พง่ิ สำ�เรจ็ การศึกษาจากตา่ งประเทศมาใหม่ๆ ท่จี ะไดม้ า ลองฝมี ือกับโจทยแ์ ปลกๆ เช่นนี้ Scriptures Hall at Wat Maha That: This compact Scriptures Hall was based on traditional Thai archi- tecture, with a gable roof as seen in Thai temples. It was built in 1972 and was one of the earliest works of Sumet Jumsai, a renowned progressive architect. 182 Watmahadhatu

ทาวนเ์ ฮา้ สเ์ ชิงสะพานป่ ินเกลา้ I 02 ดิโอลด์สยามพลาซ่า I 03 ทาวนเ์ ฮา้ สโ์ ก้บนท�ำ เลทองเชิงสะพานปิน่ เกลา้ เป็นศูนยก์ ารคา้ สมยั ใหม่ เอาใจคนร่นุ เกา่ ที่ต้ัง แหง่ น้ี มกั สรา้ งความประหลาดใจใหก้ ับผเู้ ดินทาง อยใู่ นยา่ นธุรกิจเก่าแกข่ องพระนครอยา่ งพาหุรดั ผา่ นไปมา ด้วยเปน็ สถาปตั ยกรรมที่ไดร้ บั อทิ ธพิ ล ดิโอลด์สยามเปิดให้บรกิ ารมาตงั้ แตป่ ี ๒๕๓๖ แลว้ จากตึกโบราณของฝรั่ง มรี าวระเบียงเหล็กดดั โดยสรา้ งขนึ้ บนท่ีทเี่ คยเปน็ “ตลาดม่ิงเมือง” และ สวยงามแปลกตา แต่กไ็ ม่ดแู ปลกแยกจากยา่ นเมือง หอ้ งแถวท่ีอยลู่ ้อมรอบ สถาปนกิ เลือกใชร้ ูปแบบ เกา่ แห่งน้สี กั เท่าไหร่ สถาปตั ยกรรมโคโลเนียล ซง่ึ เปน็ ทน่ี ิยมในสมยั รชั กาลท่ี ๕-๖ มาเปน็ แนวคดิ หลักในการออกแบบ สรา้ งขน้ึ ในราวปี ๒๕๓๐ อันเป็นยคุ ทก่ี ารอนุรักษ์ และฟ้นื ฟเู มอื งเก่าเรมิ่ เปน็ ที่สนใจในหมนู่ กั ออกแบบ ลานมง่ิ เมอื ง ซ่ึงต้ังอยูท่ างทศิ ใต้ คอ่ นไปทางถนน ออกแบบโดยบริษัท ดาวนิ จิ ของ สมพงษ์ พานชิ พาหุรัด ทเ่ี ปน็ โถงใหญส่ ำ�หรบั ขายเส้อื ผา้ สำ�เร็จรูป สถาปนิกรนุ่ ใหญ่ในปัจจุบนั แต่เปน็ รุ่นใหมไ่ ฟแรงใน น้ัน กค็ ือที่ตงั้ ของตลาดมิ่งเมือง L06 ในอดีตนนั่ เอง สมยั นั้น สร้างชือ่ จากผลงานออกแบบตกแตง่ ภายใน ท่ีล�้ำ สมัย ส่วนซุม้ ประตโู คง้ สสี ม้ ทตี่ ง้ั อยูด่ า้ นหนา้ อาคาร ฝ่ังทิศใต้ ริมถนนพาหุรัดนั้น ออกแบบใหเ้ ลยี น ปจั จบุ นั อาคารนเ้ี ป็นท่ีตั้งของสำ�นักงาน รปู ดา้ นของตลาดมงิ่ เมืองเดิมซ่ึงเปน็ ซุม้ โค้ง ทนายความ เกสตเ์ ฮ้าสเ์ ก๋ และรา้ นอาหารเกาหลี ชัน้ ล่างเป็นรา้ นขายเพชรจากบ้านหม้อ ชน้ั สอง Townhouses at the Foot of Pinklao Bridge: These เปน็ รา้ นขายผ้าไหม ชั้นสามขายอปุ กรณอ์ ิเลคโทร townhouses were built in the 1980s after the Bangkok นคิ ส์จากบ้านหมอ้ ส่วนด้านทิศตะวันออกตดิ ถนน Bicentennial Celebration. At the time, old town conser- บรู พาเปน็ พนื้ ทส่ี �ำ หรับร้านปืนยา่ นอณุ ากรรณ ช้ัน vation and gentrification projects were in trend. The บนสดุ เปน็ คอนโดส�ำ หรับอยู่อาศัย design is inspired by Western architecture in the late 19th century, with wrought iron balconies. The town- ออกแบบโดย บรษิ ทั ดีไซน์ ๑๐๓ จำ�กดั houses were designed by Sompong Panich and are now used as a home, an attorney office, two guesthouses, The Old Siam Plaza: The Old Siam Plaza is located and a restaurant. in a longstanding commercial district, Phahurat. Formerly, it used to be home to Ming Mueang Market, I 02 Townhouses at the Foot of I 03 The Old Siam Plaza before it was demolished and replaced by a new Pinklao Bridge 12 Tri Phet Rd. shopping complex in 1993. The new building has a 10.00am-7.00pm colonial design as popular in the late 19th century. Chao Fa Rd. 02 226 0156-8 The lower floors are used as a shopping mall, and the www.theoldsiam.co.th top floor is a penthouse. The project was designed by Theoldsiamshoppingplaza Design 103. 183

หอสมดุ ปรีดี พนมยงค์ I 04 และเนอ่ื งจากหอสมดุ น้ี สร้างครอ่ มไปบนแนวกำ�แพงเมอื ง หรือสำ�นักหอสมุด มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ทา่ พระจันทร์ เป็น และก�ำ แพงวงั หนา้ ทบี่ ริเวณลาน หอ้ งสมดุ ริมน�้ำ ทีเ่ ปิดใช้มาตง้ั แตป่ ี ๒๕๔๐ แล้ว สรา้ งขน้ึ ในโอกาสครบ ดา้ นหนา้ หอสมดุ จึงได้ออกแบบ ๖๐ ปีการกอ่ ตั้งมหาวิทยาลยั ในปี ๒๕๓๗ ออกแบบโดยบรษิ ัท เอสเจ ให้มีส่ิงกอ่ สรา้ งก่ึงประตมิ ากรรม เอ ทรีดี ของสถาปนิกรุ่นใหญ่ และศิลปินแหง่ ชาติ ดร. สุเมธ ชุมสาย มีใบเสมาเลยี นแบบกำ�แพงเมือง ณ อยุธยา วางยักเย้อื งไปมา เชือ่ มตอ่ ไป ยังอาคาร ๖๐ ปี ธรรมศาสตร์ เนอ่ื งจากข้อก�ำ หนดของการก่อสรา้ งอาคารในเกาะรตั นโกสนิ ทร์ ที่ (อาคารอเนกประสงค์ ๒) ท่ีต้ัง ไมอ่ นุญาตใหส้ ร้างอาคารท่มี ีความสูงเกิน ๑๖ เมตรได้ ทำ�ให้สถาปนกิ อยู่ถัดออกไป โดยตกึ ทง้ั สอง ต้องออกแบบใหอ้ าคารอยู่ลกึ ลงไปใต้ดนิ ถึง ๓ ชน้ั มีส่วนทโ่ี ผล่พน้ ดนิ ต่างมรี ูปรา่ งหนา้ ตาคล้ายคลงึ กนั เพียง ๔ ชั้น รวมมพี นื้ ท่ใี ชส้ อยทงั้ สิ้น ๗ ชัน้ เพราะออกแบบโดยบรษิ ัท เอสเจ เอ ทรีดี เช่นเดยี วกนั ในส่วนของอาคารใตด้ นิ นัน้ เพื่อลดความรสู้ ึกอับทบึ ไม่มีหนา้ ต่าง จงึ ออกแบบใหพ้ ืน้ ที่สว่ นอา่ นหนงั สอื โอบลอ้ มช่องเปิดโลง่ ตรงกลาง ปลกู ไม้นอ้ ยใหญ่ไวเ้ ปน็ สวนสวยใตด้ นิ สรา้ งพ้นื ท่สี เี ขียวและความร้สู ึก ผ่อนคลายใหก้ บั นักศึกษาท่ีมาใช้บริการ เสมือนนั่งอยู่บนระดบั พืน้ ดนิ ธรรมดา คอร์ตกลางอาคารน้ยี ังใชเ้ ป็นช่องระบายอากาศของระบบปรบั อากาศอีกดว้ ย D I 04 Pridi Banomyong Library A Thammasat University, T Tha Phrachan Campus, Phra Chan Rd. A 9.00am-9.30pm Mon-Fri 9.00am-8.00pm Sat-Sun except public holidays 02 613 3544 www.library.tu.ac.th 184 ThammasatULibrary

เร่ืองเล่าชาวเกาะ ดราม่าของห้องสมุดใต้ดินริมน�้ำ เนอ่ื งจากเปน็ อาคารท่ีมุดอย่ใู ตด้ นิ แถมยงั อยู่ ริมแมน่ ้�ำ เจ้าพระยาด้วย ในชว่ งแรกท่ีเปิดบรกิ าร นน้ั ถงึ แมผ้ นังใตด้ นิ จะออกแบบให้เป็น ๒ ชนั้ เพื่อ กันความช้นื แลว้ กต็ าม แตห่ นงั สอื ในหอ้ งสมุดก็ ประสบชะตากรรมเดยี วกนั คอื ขนึ้ รากันอย่างถ้วน หน้า ท�ำ ใหต้ อ้ งมีการจัดท�ำ ระบบควบคมุ อุณหภมู ิ และความชืน้ อยา่ งรดั กมุ ตดิ ตัง้ เครอ่ื งดดู ความชืน้ และเปิดเครอื่ งปรับอากาศตลอด ๒๔ ชวั่ โมง เพราะ อณุ หภมู ทิ ผ่ี นั แปรจะน�ำ มาซ่ึงความชนื้ และกอ่ ใหเ้ กิด เชือ้ ราได้ อีกครั้งหนง่ึ กค็ ราวน�้ำ ท่วมใหญ่เมื่อปี ๒๕๕๔ น้ัน ถงึ แมจ้ ะมรี ะบบปอ้ งกนั น�ำ้ รว่ั ซึมเข้ามาภายในอาคาร โดยการตดิ ตง้ั เคร่อื งสบู น�ำ้ อตั โนมัตอิ ยูแ่ ล้ว แตห่ อ สมดุ ก็ไม่นง่ิ นอนใจ เตรียมความพรอ้ มโดยการขน ย้ายหนังสือท้ังหมดออกจากอาคาร เพ่อื ปอ้ งกนั ความเสียหายหากน�ำ้ ล้นตลิ่งเขา้ มาทว่ มชนั้ ใตด้ ิน แต่ นับวา่ โชคยังเขา้ ข้าง ดว้ ยไม่เกิดเหตุการณ์ท่กี ังวลไว้ แตอ่ ย่างใด หอสมดุ ปรดี ี พนมยงค์ นี้ เป็นผลงานในช่วงท้าย Alain Delavie ของ ดร. สเุ มธ ซง่ึ เน้นอาคารที่ประดับด้วยเส้นโค้ง รูปทรงอิสระ อย่างภาพแนวนามธรรม ตัวอยา่ งที่ หอสมดุ แหง่ ชาติฟรองซัวส์มิตแตรองด์ เหน็ เด่นชัดก็เช่นตึกเนชน่ั หลังแรกทีบ่ างนา (๒๕๓๓) ประเทศฝร่ังเศส ตง้ั อยรู่ มิ แมน่ �้ำ แซนในกรุงปารสี และดว้ ยตั้งอยู่ภายในเกาะรัตนโกสนิ ทร์ จงึ นำ�รูปทรง ออกแบบกอ่ สร้างระหว่างปี ๒๕๓๒-๓๘ ซุ้มหน้าต่างโค้งของตกึ ฝรั่งในสมัยรชั กาลท่ี ๕ มา ออกแบบโดย โดมนิ กิ แปรโ์ รลท์ เป็นส่วนประกอบของอาคารด้วย มสี วนปา่ ตรงกลางเช่นกนั Pridi Banomyong Library: Located inside Thammasat 185 University, Tha Phrachan Campus, it was built by the river in 1997 as an underground library with an inner courtyard to bring in natural light. It was designed by Sumet Jumsai’s company SJA+3D. Since it is located by the river, humidity must be well controlled.

ตึกเก่าในวันใหม่ Old Buildings, New Era ช่วงปี ๒๕๒๐ พระนครเสือ่ มโทรม นำ�มาซ่งึ แนวคิดในการฟน้ื ฟูเมอื งเก่าแห่งน้ี เพื่อ ตอ้ นรับการเฉลิมฉลองกรุงเทพฯ ครบ ๒๐๐ ปี ในปี ๒๕๒๕ ถอื เปน็ จุดเปลยี่ นสำ�คัญท่ี ทำ�ให้กรงุ เทพฯ กลายมาเป็นพน้ื ทีเ่ พอ่ื การทอ่ งเทยี่ ว เป็นหมดุ หมายของนกั ท่องเท่ียว ทั้งไทยและเทศทจ่ี ะเดินทางมาเทย่ี วชมกนั ตึกเก่าหลายแห่งไดร้ ับการอนุรกั ษแ์ ละปรับ เปลี่ยนหนา้ ทใ่ี ชส้ อยใหม่ ตกึ แถวเกา่ ยุคโคโลเนยี ลเปลีย่ นมาเป็นบูติคโฮเตล็ ตกึ แถวเกา่ ที่ ราชดำ�เนินปรับมาเปน็ หอสมุดและพพิ ิธภัณฑ์ และก็ยงั มที ่ีซ่อมแซมตึกแถวยุคใหมโ่ ทรมๆ ให้กลายเป็นโรงแรมใหมใ่ สกิ๊ง ล่อตาล่อใจให้ทุกทา่ นเข้ามารว่ มติดเกาะกนั In the 1980s, the Old Town grew old and shabby, leading to an idea for gentrification to prepare for the Bangkok 200 years celebration in 1982. This marked a significant milestone that turned Bangkok into a tourist spot, and many old buildings were restored and repurposed. Bangkok is now one of the most popular tourist destinations in the world today. เดอะภูธร I ๑๙๐๕ เฮอริเทจ คอร์เนอร์ I เดอะเนเบอรภ์ ธู ร บูติคโฮเตล็ ๓ แหง่ ทีแ่ พร่งภูธร แพรง่ ภธู รถือเป็นโครงการพฒั นาอสงั หาริมทรัพยข์ องกรมพระคลัง Phraeng Phuthon was a real ข้างท่ีในชว่ งปลายของรัชกาลท่ี ๕ (ราวปี ๒๔๔๙) เพ่ือให้เปน็ ยา่ น estate development project which การคา้ ประกอบด้วยตกึ แถวใหเ้ ชา่ จำ�นวนร่วม ๑๒๐ ห้อง ลอ้ มรอบ took place late in King Rama V’s ลานโลง่ ตรงกลาง เพอ่ื ใช้เปน็ พ้ืนทส่ี าธารณะส�ำ หรบั ชุมชนตามรูปแบบ era to create a commercial district การพัฒนาเมอื งในยโุ รปในสมยั น้ัน มถี นนเขา้ ออกไดห้ ลายทาง สร้างขึน้ comprising of around 120 shop บนพ้ืนท่ีวงั เดิมของกรมหมน่ื ภูธเรศธำ�รงศักด์ิ (พระเจา้ น้องยาเธอของ units, surrounding an open area รัชกาลท่ี ๕) จงึ เรยี กกันวา่ “แพร่งภธู ร” ตามพระนามภูธเรศฯ ของ at the center which was used as พระองค์ ตกึ แถวท่ีก่อสรา้ งนั้นมี ๒ ชั้น ตามแบบสิงคโปร์ปนี งั และเป็น a public space following the urban รปู แบบมาตรฐานท่ใี ช้ส�ำ หรับกอ่ สร้างตกึ แถวท่วั พระนคร development concept of other European cities at the time. Some of the units have been preserved until today and converted into boutique hotels. D J 01 The Bhuthorn J 02 1905 Heritage Corner J 03 The Neighbor Phuthon A 96-98 Phraeng Phuthon Rd. 66-68 Phraeng Phuthon Rd. 104 Phraeng Phuthon Rd. 02 622 2270 02 041 0102 081 345 7767 T www.thebhuthorn.com www.1905heritagecorner.com neighbourphuthon A The-Bhuthorn-coffee-and-History 1905HeritageCorner 186

ตกึ แถวบางหอ้ งในย่านแพร่งภธู รน้ี ไดร้ บั การ อนรุ กั ษแ์ ละปรบั เปล่ยี นให้เปน็ บตู คิ โฮเตล็ หรือ โรงแรมเก๋ไก๋ขนาดเล็ก คือ เดอะภูธร J01 เป็นผูบ้ ุกเบิกตลาดของยา่ นนี้ ตัง้ อยทู่ ี่ ๒ คูหา ตรงหวั มุม (ตดิ กบั ร้านไอตมิ นัฐพรอนั ลอื ชอื่ ) เดิม เปน็ รา้ นขายขา้ วหมแู ดง ไดร้ บั การอนุรกั ษอ์ ย่างถูก ต้องตามข้ันตอนดว้ ยเจา้ ของเปน็ สถาปนิก มหี ้องพัก เพยี ง ๓ หอ้ งเทา่ นน้ั ตกแตง่ อย่างดีเย่ียมด้วย เฟอร์นิเจอรแ์ อนทคี สไตล์โคโลเนยี ลเหมือนย้อนเวลา กลบั ไปเมื่อรอ้ ยกวา่ ปที ีแ่ ลว้ The Bhuthorn was a pioneer in this area. The cor- ner units have been well-preserved as the owners are architects. This boutique hotel has only three rooms, decorated in Colonial style which takes its guests back to the previous century. ๑๙๐๕ เฮอริเทจ คอร์เนอร์ J02 เดอะเนเบอรภ์ ูธร J03 โรงแรม ๒ คหู า ตัง้ อยูท่ ี่หัวมมุ เชน่ กนั เดิมเปน็ ตง้ั อยใู่ นตกึ แถว ๕ คหู าตรงหวั มุมเช่นกัน (ตรง โรงนำ้� ชาและโรงงานผลิตฟันปลอม มหี อ้ งพกั เพยี ง ขา้ มกบั เดอะภธู ร) มหี ้องพกั ราว ๘ ห้อง ตกแต่ง ๓ ห้องเช่นกนั ตกแต่งอยา่ งเนยี้ บสะท้อนบรรยากาศ รว่ มสมัย เรยี บงา่ ย มกี ารรื้ออาคารสว่ นตอ่ เติมด้าน ในยุคโคโลเนียลได้ดี หลงั ของห้องแถวแตล่ ะคูหาออก เพือ่ ท�ำเป็นสวน เล็กๆ หลงั บา้ น 1905 Heritage Corner is a corner building which also has only three rooms. It is meticulously decorated The Neighbor Phuthon, also the corner units, has to reflect a Colonial vibe. about eight rooms. It features a contemporary and simple design. The back of the hotel has been renovated and converted into a small courtyard. 187

รา้ นฟารม์ ทเู ทเบ้ลิ ไฮดเ์ อา๊ ท์ J04 ร้านแมคโดนัลด์ สาขาราชดำ� เนิน J05 ร้านอาหารกึ่งคาเฟ่กงึ่ รา้ นไอตมิ แห่งน้ี เปน็ ร้าน ลับ ที่ไม่ลบั ด้วยถึงแมจ้ ะอยู่ในท�ำ เลทีล่ กึ ลบั สักปาน รา้ นแมคโดนลั ด์ ทห่ี น้าโรงเรยี นสตรีวิทยาแหง่ นี้ ใด แตก่ ็มีสาวกดั้งดน้ มาชอ้ ปชมิ แชะลงโซเชียลมเี ดยี ถือว่าสรา้ งความฮือฮาเปน็ อย่างมาก เม่อื แรกเปดิ สาขา กันไมข่ าดสาย ท่ีน่เี ม่อื ปี ๒๕๔๑ (หรอื ประมาณ ๒๐ กวา่ ปีทีแ่ ล้ว) ห้องแถวทเี่ ป็นที่ต้งั ร้านฟาร์มทูเทเบ้ลิ ไฮด์เอา๊ ท์ ดว้ ยภาพลักษณข์ องอาหารฟาสตฟ์ ูด้ สไตล์ น้ัน สร้างข้นึ มาภายหลงั ในรัชกาลที่ ๖ ตรงทว่ี ่าง อเมริกนั จา๋ เอาใจคนรนุ่ ใหม่ แตก่ ลบั มาเปิดในอาคาร ดา้ นในอันโอบล้อมดว้ ยตกึ แถวตดิ ถนนโดยรอบที่ เกา่ ๆ เชยๆ กึ่งไทยประเพณี แถมยังตง้ั เผชิญหน้า สร้างมาก่อนในสมยั ปลายรชั กาลท่ี ๕ ท้าทายกับอนสุ าวรีย์ประชาธปิ ไตยอนั เป็นไอคอน ของถนนประวตั ิศาสตร์สายนอี้ กี ดว้ ย จรงิ ๆ แลว้ มีลักษณะเป็นทาวน์เฮา้ สเ์ สยี มากกวา่ ตกึ แถว คือมีร้ัวหน้าบ้าน เวน้ พน้ื ทด่ี า้ นหนา้ เป็นท่ี บริษทั ดีไซน์ เนท็ เวริ ค์ เปน็ ผูอ้ อกแบบปรบั ปรงุ โลง่ ซ่ึงผู้อาศยั ในยุคต่อๆ มาได้ตอ่ เติมโรงเรอื นเข้า โดยยงั คงเคารพในรูปแบบสถาปตั ยกรรมด้งั เดมิ อยู่ มาจนเต็มพืน้ ท่ี ไมเ่ หลือที่วา่ งด้านหน้าให้เหน็ สภาพ (ซ่งึ ออกแบบโดย มล. ปุม่ มาลากุล ในปี ๒๔๘๖ ดู ปัจจุบันทรดุ โทรมมาก ท่ี G09) ส่วนองคป์ ระกอบสมัยใหมท่ ใี่ สเ่ ขา้ ไปก็ทำ�ให้ ดูกลมกลนื ต้องขอขอบคุณร้านสวยแหง่ น้ีที่ได้ชว่ ยฟ้ืน ทาวน์เฮา้ ส์หอ้ งน้ีให้กลบั ไปส่สู ภาพด้งั เดมิ ดงั ที่เคย รา้ นแมคโดนัลดแ์ หง่ นี้ไดร้ บั ค�ำ ช่นื ชมเป็นอยา่ ง เปน็ เปิดพ้นื ทใ่ี ห้กับสวนสวยหนา้ บ้าน สว่ นภายใน มากในด้านการอนุรักษ์ เพราะสามารถนำ�การใช้สอย ซอ่ มแซมอยา่ งปราณีต ชัน้ ล่างเปน็ ร้านอาหาร ชั้น สมัยใหมเ่ ข้าไปปรับใช้กับอาคารเกา่ ได้อยา่ งสวยงาม บนเป็นออฟฟิศออกแบบ และกลมกลืน ปัจจุบนั ยังเปดิ ใหบ้ รกิ าร ๒๔ ช่ัวโมง อยยู่ ่ิงดกึ คนยงิ่ เยอะ ย่ิงมมี ็อบ คนย่ิงเยอะเช่นกนั Farm to Table, Hideout: The location of Farm to Table Hideout was originally a townhouse with a small ลองสงั เกตท่ีโลโก้แมคโดนัลด์ ทีต่ ดิ อย่บู นผนัง open space at the front. The building was constructed หนา้ รา้ นดา้ นซา้ ย-ขวา ไดม้ กี ารเปลย่ี นมาใช้สีแดง in the 1910s in King Rama VI’s era. The building เลือดหมู แทนสแี ดงสด เพ่อื ให้ดไู ม่โดดเดน่ สะดดุ ตา is surrounded by roadside shophouses built in the จนเกินไป 1900s, towards the end of King Rama V’s era. It was restored into an original townhouse, repurposed into McDonald’s on Ratchadamnoen: Opened in 1998, it a restaurant on the first floor and an office space on generated a big buzz as it was a fast food restaurant the top floor. housed inside an old building across the Democracy Monument. It maintained the original building’s D J 04 Farm to Table, Hideout J 05 McDonald’s on Ratchadamnoen architecture, and the McDonald’s logo at the front is A 15 Tha Klang Lane 77/1 Ratchadamnoen Klang Ave. crimson instead of red in order not to be too loud. T 9.00am-8.00pm Thu-Tue 24 hours It is open 24 hours a day. A 02 004 8771 085 488 0544 farmtotablehideout www.mcdonalds.co.th 188 McThai

หอศลิ ป์รว่ มสมยั ราชดำ� เนนิ J06 Ratchadamnoen Contemporary Art Center (RCAC): This building ตึกหลังนคี้ อื หน่ึงในอาคารพาณชิ ย์ทข่ี นาบสองข้างทางถนน is one of the commercial buildings ราชดำ�เนนิ กลาง G09 สร้างข้ึนในสมัยจอมพล ป. พิบลู สงคราม เป็น on both sides of Ratchadamnoen นายกรฐั มนตรี และออกแบบโดยหมิว อภยั วงศ์ สถาปนิกหัวกา้ วหนา้ Avenue, built in the 1940s in Field ในยคุ ประชาธิปไตย อาคารหลงั นตี้ ั้งอยู่ทหี่ ัวมุมถนนดา้ นตะวนั ออก Marshal Phibun’s government. It ฝ่งั ใต้ของอนสุ าวรียป์ ระชาธปิ ไตย was designed by a progressive Thai architect who had been ในช่วงปี ๒๕๕๓ สำ�นักงานศลิ ปวฒั นธรรมร่วมสมัย กระทรวง educated in France. In 2010, วฒั นธรรม มีความตอ้ งการพน้ื ท่สี �ำ หรับแสดงงานศลิ ปะร่วมสมัย และ the Office of Contemporary Art ด้วยอาคารหลงั นี้วา่ งลง จึงได้ขอใชพ้ ้ืนท่เี พื่อปรบั ปรงุ เป็นหอศลิ ป์ and Culture, Ministry of Culture, ลงมือกอ่ สรา้ งในปี ๒๕๕๕ จนแล้วเสร็จเมื่อ ๒๕๕๖ requested to use this building to create an art center, which was การอนรุ ักษแ์ ละพฒั นาอาคารประวตั ิศาสตร์บนถนนราชดำ�เนินแหง่ completed in 2013. น้ใี ห้เป็นหอศลิ ปร์ ว่ มสมยั ถอื ไดว้ า่ เป็นงานทท่ี า้ ทายมาก ท่สี ถาปนิกรนุ่ ใหม่อยากจะมาฝากฝีมือกัน ดว้ ยตอ้ งรกั ษารูปด้านภายนอกของอาคาร While the exterior had to be เอาไว้ ใหเ้ ขา้ ชดุ กันตกึ อ่นื ๆ ตลอดถนนช่วงนี้ แต่โจทย์ยากคอื การ maintained as original, the interior ปรับปรงุ พื้นท่ีภายในขนานใหญ่ เพื่อรองรับการใช้พื้นทกี่ ว้างๆ สำ�หรบั was restored and walls were จัดแสดงงานศลิ ปะ โดยทุบผนังท่กี ้ันระหวา่ งคูหาทิ้งใหก้ ลายเปน็ หอ้ ง removed to create a large open ใหญ่ บางจดุ เลือกท่จี ะทะลวงพื้นชน้ั บนออก เพ่อื ให้เป็นหอ้ งโถงเพดาน area, while the upper floor was สงู เกดิ การลนื่ ไหลของพ้ืนทท่ี ่นี ่าสนใจ opened up to add more ceiling height. The venue is therefore ผนงั ภายใน กะเทาะปูนท่ฉี าบออก เพ่อื โชวแ์ นวกอ่ อฐิ บ้างเปน็ ผนงั perfect for showcasing art pieces. ปนู เปลือย โดยรวมเปน็ ภาษาการออกแบบทีร่ ่วมสมัยสไตล์มนิ มิ อลท่ี เผยให้เหน็ เน้อื แทข้ องวัสดทุ ใี่ ชก้ ่อสรา้ ง J 06 Ratchadamnoen Contemporary Art Center D (RCAC) A ฝีมอื การออกแบบปรบั ปรงุ ของสถาปนิกกระทรวงวฒั นธรรม สำ�นัก T ศิลปวัฒนธรรมรว่ มสมัย กระทรวงวฒั นธรรม 84 Ratchadamnoen Klang Ave. A 10.00am-7.00pm Tue-Sun 02 224 8030 189 www.rcac84.com rcac84

หอสมดุ เมอื ง โรงแรมเชิญ J08 กรุงเทพมหานคร J07 พนื้ ท่ีฝงั่ ใตข้ องถนนบ�ำ รงุ เมืองยา่ นประตูผีน้ี แต่ นอกจากหอศิลป์ร่วมสมัยราชดำ�เนินที่ได้ปรับ เดมิ เป็นกลุม่ วงั เกา่ ถงึ ๘ วงั ดว้ ยกัน ใชเ้ ปน็ ทอ่ี ย่ขู อง ปรุงอาคารริมถนนราชดำ�เนินกลางเพื่อการใช้งาน พระเจา้ นอ้ งยาเธอของรชั กาลท่ี ๕ ดว้ ยกนั ท้ังสนิ้ ใหม่ๆ แล้ว ยังมีหน่วยงานอีกแห่งที่ได้มาใช้พื้นที่ แต่บรเิ วณทเ่ี ป็นท่ตี ั้งของโรงแรมแหง่ นก้ี ็คือวังของ ของอาคารชุดนี้ด้วยเช่นกัน นั่นคือหอสมุดเมือง กรมหม่นื ราชศกั ด์สิ โมสร (ต้นราชสกลุ กมลาศน)์ มี กรุงเทพมหานคร ตำ�หนักแบบฝรั่งยุคบุกเบกิ ซึง่ ปลกู มาต้งั แต่ปี ๒๔๒๓ แล้ว ในสมัยต้นรชั กาลที่ ๕ ตั้งอยู่ที่หัวมุมสี่แยกคอกวัวฝั่งเหนือ เกิดขึ้น เนื่องจาก UNESCO ได้คัดเลือกให้กรุงเทพฯ เป็น นางพ่ึง จงเจรญิ สุข ตงั้ รา้ นขายสังฆภณั ฑ์อยูข่ ้าง เมืองหนังสือโลกเมื่อปี ๒๕๕๖ กรุงเทพมหานครจึง ประตวู งั ได้ซือ้ วังดังกลา่ วมาในราวปี ๒๔๗๙ แลว้ มีโครงการสร้างห้องสมุดสาธารณะของเมือง โดย แบง่ บางสว่ นให้โรงเรียนจีนเชา่ และบางส่วนเปน็ การปรับปรุงอาคารเก่าหลังนี้ให้ตอบรับกับหน้าที่ใช้ ทีพ่ กั อาศยั อยรู่ ะยะหนึ่ง ตอ่ มาตำ�หนักเดมิ ไดท้ รดุ งานใหม่ โดยที่ยังคงรักษารูปแบบสถาปัตยกรรมยุค โทรมลงตามอายุขยั ยากเกนิ จะซ่อมแซมดังเดมิ โมเดิร์นที่ด้านนอกของอาคารไว้ดังเดิม ได้ จึงรอื้ ลง สรา้ งเป็นกลมุ่ หอ้ งแถวขึน้ มาใหม่ เพ่อื ปล่อยให้เช่าระยะยาวตามแนวนิยมการพัฒนาท่ดี นิ Bangkok City Library: Bangkok has been designat- ในสมัยนัน้ ed a World Book Capital 2013 by UNESCO. Therefore, the Bangkok Metropolitan Administrator built a public library by converting one in a group of old buildings on Ratchadamnoen Avenue, giving it a new life while still maintaining the original Modern architecture on the outside. D J 07 Bangkok City Library A 39 Ratchadamnoen Klang Rd. T 8.00am-9.00pm Tue-Sat A 9.00am-8.00pm Sun 02 282 0680 www.bangkokcitylibrary.com 190 bangkokcitylibrary

จนเมือ่ สญั ญาเชา่ สน้ิ สดุ ลง ประกอบกับอาคาร ตำ�แหนง่ ของสระวา่ ยน�ำ้ เดมิ มีสภาพทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ทายาท เดมิ คอื ถนนภายในโครงการ ร้านสงั ฆภณั ฑ์แมพ่ ง่ึ จงึ คิดดดั แปลงอาคารให้เปน็ ท่ีขนาบไปด้วยตกึ แถวทัง้ สองขา้ ง โรงแรม โดยปรบั พนื้ ท่ใี ช้สอยภายในใหม่ ทะลวงพนื้ ออก ทลายผนงั ทแี่ บง่ คูหาลง กลายเป็นห้องโถง J 08 Chern Hostel D ใหญ่ เพอ่ื ชว่ ยลดภาระการรับน้ำ�หนักของโครงสรา้ ง 17 Soi Ratchasak, Bamrung Mueang Rd. A เดมิ สง่ ผลให้มีจ�ำ นวนห้องพักไมม่ ากนกั อกี ทัง้ 02 621 1133 / 089 168 0212 T การออกแบบภายในตอ้ งเป็นไปตามขอ้ ก�ำ หนดของ www.chernbangkok.com A เทศบญั ญตั ิและมาตรฐานโรงแรมด้วย chernbangkok 191 โรงแรมใหมใ่ นรา่ งเกา่ จงึ เปิดประตูต้อนรบั นัก ทอ่ งเทีย่ วมาตง้ั แต่ปี ๒๕๕๖ แลว้ “เชญิ ” ทุกท่าน แวะมาตดิ เกาะกันได้ ออกแบบอาคารโดย บริษทั เกรย์สเปซ จำ�กัด ตกแตง่ ภายในโดย บรษิ ทั อานุภาพ ดีไซน์ แพรคทซิ จำ�กัด บรหิ ารงานโดย ทายาทรนุ่ เหลนของยายทวดพง่ึ จงเจรญิ สขุ Chern Hotel: This area was formerly a mansion of a royal family member, built in the reign of King Rama V. In 1936, the palace was sold to a monk supply business located near the mansion. In the 1970s, since the building was in a poor condition, it was torn down, and a series of shophouses was built in its place. When the lease was up, these shophouses were renovated into a modern hotel. The walls between the units were torn down to connect the space. This hotel has been in business since 2013.

วิลล่าเดอพระนคร J09 พ.ท. น.พ. กอ่ เกียรติ กิตติสุวรรณ ทายาทร่นุ ที่ ๓ จงึ มีโครงการทจี่ ะพฒั นาหอ้ งแถวทัง้ ๑๔ หอ้ งดัง บนถนนมหาไชย ชายขอบด้านตะวนั ออกของ กลา่ ว ซ่งึ มอี ายรุ ่วม ๕๐ ปีแล้ว ให้เป็นโรงแรมหรู ใช้ เกาะเมอื งเก่าแหง่ นี้ ยงั มีโรงแรมหรูอีกแหง่ ทเี่ พงิ่ เวลาปรบั ปรุงท้งั ส้นิ ๑ ปี และเปิดให้บรกิ ารในช่วง เปิดตวั ขนึ้ มาใหม่ วลิ ล่าเดอพระนครต้งั อยตู่ รงข้าม เดือนกมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๓ ท่ผี ่านมานีเ้ อง กอ่ นจะเกดิ ร้านขายเคร่ืองหวายนายเหมือน ทหี่ นา้ คกุ (สวน วกิ ฤตการณโ์ ควิด ๑๙ เพียงเลก็ นอ้ ย มหี ้องพกั ทั้ง รมณยี นาถ) ดแู ปลกตาไปส�ำ หรบั ยา่ นทีค่ ่อนขา้ งจะ สน้ิ ๔๗ หอ้ ง เงียบเหงาห่างไกลนกั ท่องเท่ียวแหง่ นี้ การปรับปรงุ หอ้ งแถวเก่าจากยคุ ทศวรรษ แตเ่ ดิมนัน้ ทต่ี รงน้มี คี ฤหาสนโ์ บราณหลงั ใหญท่ ่ี ๒๕๑๐-๒๐ อันมีหน้าตาไม่นา่ พิสมัยนกั ให้เปน็ ครอบครัวกิตติสุวรรณอาศยั อยกู่ นั ตอ่ มาขยบั ขยาย โรงแรมเก๋ไกไ๋ ฉไลได้นัน้ เจ้าของโครงการและสถาปนกิ ย้ายไปอยทู่ ่ีอ่ืน จงึ ใช้พน้ื ทเ่ี ป็นที่ตงั้ โรงเรียน สอนเป็น เลือกทจี่ ะรกั ษาโครงสร้างอาคารคอนกรตี เสรมิ เหลก็ ภาษาจนี ชือ่ โรงเรียน ประสาทปัญญา จนถงึ ราวปี เดิมไว้ แต่แต่งตัวให้ใหม่ ใส่หนา้ กากให้สวย สถาปตั ย- ๒๕๑๕-๒๐ เมอื่ โรงเรยี นย้ายออกไป ครอบครวั กิตติ กรรมสไตลโ์ คโลเนียลจงึ ถกู หยบิ มาใชเ้ พอื่ ช่วยสรา้ ง สุวรรณจงึ ตัดสินใจรื้อบา้ นเก่าลง แลว้ สรา้ งเปน็ หอ้ ง ความรู้สกึ ที่โออา่ อลงั การ เฉกเช่นเดียวกับอาคาร แถวชดุ ขึน้ มาแทนท่ี ตามความนยิ มในการพัฒนา โบราณหลายหลงั ในยา่ นเมอื งเกา่ นี้ วิลลา่ เดอ อสังหารมิ ทรัพยใ์ นสมยั นัน้ (เหมือนในสมยั นี้ทนี่ ิยม พระนครจึงมรี ูปลกั ษณ์ภายนอกท่ีเป็นตึกฝรงั่ สร้างคอนโดกัน) มซี ุ้มโค้ง แต่ลดทอนรายละเอยี ดลงใหด้ ูร่วมสมยั มากยิ่งข้ึน ห้องแถวท่สี ร้างใหมม่ ีจำ�นวนทง้ั สน้ิ ๑๔ หอ้ ง แบง่ เป็นห้องดา้ นหน้ารมิ ถนนมหาไชย ๖ หอ้ ง ยังมีโรงแรมอีกแห่งในยา่ นประตผู -ี ส�ำ ราญราษฎร์ และด้านในอกี ๘ หอ้ ง (หน้าตาเหมือนหอ้ งแถว น้ี ท่ีปรับปรุงมาจากตกึ แถวเกา่ ยุค ๒๕๑๐-๒๐ ด้วย ทแ่ี วดลอ้ มโรงแรมอยใู่ นปัจจบุ นั นี้ คอื เปน็ อาคาร เชน่ กัน นั่นคอื โรงแรมเชิญ J08 ลองแวะไปดูไปชมไป คอนกรีตเสริมเหลก็ สงู ๔ ช้ัน มีชั้นลอย หลงั คาเปน็ พกั กนั ได้ ดาดฟ้า) เจา้ ของปลอ่ ยใหเ้ ช่าระยะยาวเพือ่ เปดิ เป็น ร้านคา้ จนกระทัง่ สญั ญาเชา่ ได้ทยอยหมดลงในชว่ ง Villa de Pranakorn: Formerly a large mansion, ปี ๒๕๖๑ ที่ผ่านมา the original building was torn down in the 1970s and a new 14-unit shophouse was erected in its place, D J 09 Villa de Pranakorn because of the real estate trends at the time. When the lease was up, the third generation of the family renovated the shabby building into a luxury hotel while still maintaining the old reinforced concrete structure. It was given a facelift with a colonial design which gives the building a sense of grandeur, with cleaner details to make it contemporary. A 543 Maha Chai Rd. T 02 221 1122 A www.villadepranakorn.com villadepranakorn 192

สวนลอยฟา้ เจา้ พระยา J10 กลบั ด้วยอกี เส้นทางหนงึ่ ได้ ไม่จำ�เจ สว่ นอัฒจรรย์ ชมววิ พระอาทิตยต์ กดิน วิวดา้ นตะวันตกมองไปยงั เป็นโครงการพฒั นาพน้ื ท่ีสเี ขยี วภายในเมอื ง สะพานพุทธ วดั อรณุ ด้านตะวันออกมองเห็นดาวน์ เก่าชิน้ ลา่ สุดทเี่ ป็นทก่ี ล่าวถงึ อยา่ งมาก ดว้ ยปรับ ทาวนก์ รุงเทพฯ ไดอ้ ยา่ งเตม็ ตาน่าประทบั ใจ เปลี่ยนการใชส้ อยซากสะพานเกา่ ให้กลายเปน็ พืน้ ที่ สาธารณะสำ�หรบั คนเมืองได้มคี ุณภาพชีวิตทีด่ ขี น้ึ และเนอ่ื งดว้ ยโครงสร้างสะพานเดิมไม่ได้ มเี จา้ ภาพร่วมคอื สำ�นักการวางผงั และพัฒนาเมือง ออกแบบให้รับน�ำ้ หนักได้มาก ผอู้ อกแบบจึงหลีก การทางพิเศษแหง่ ประเทศไทย และศนู ยอ์ อกแบบ เลีย่ งการนำ�ตน้ ไม้ใหญ่ข้นึ มาปลกู บนสะพาน จึงมี และพฒั นาเมอื ง เพียงกระบะปลกู ไมป้ ระดับขนาดย่อมเทา่ นนั้ อาจไม่ ร่มครมึ้ จึงควรมาเดนิ ในตอนเย็นๆ สวนสาธารณะเล็กๆ ลอยฟา้ แหง่ น้ี เกดิ ขึน้ จาก การปรบั ปรงุ โครงสรา้ งสะพานข้ามแมน่ ้ำ�เจ้าพระยา ออกแบบโดยบรษิ ัท แลนด์โปรเซส โดย กชกร ส�ำ หรบั รถไฟฟา้ ลาวาลิน (โครงการรถไฟฟ้ายก วรอาคม ภมู สิ ถาปนิกหญงิ ที่มชี ือ่ ในดา้ นการ ระดับโครงการแรกของไทยท่สี รา้ งไม่เสร็จและล้ม ออกแบบภูมสิ ถาปัตย์เมอื ง ผลงานสร้างช่อื กค็ อื เลิกไป) ที่ปล่อยท้ิงร้างไว้มาตั้งแตป่ ี ๒๕๓๕ แล้ว อทุ ยาน ๑๐๐ ปี จุฬาฯ ซากสะพานคอนกรีตดังกล่าวตง้ั อยตู่ รงกลางขนาบ ขา้ งด้วยสะพานพระปกเกล้าขาเขา้ และขาออก (ซ่งึ Chao Phraya Sky Park: Located around Phra ขนานไปกับสะพานพทุ ธ) สวนลอยฟา้ ที่สร้างใหม่ Pokklao Bridge, it used to be a deserted Skytrain นย้ี ังชว่ ยเช่ือมสวนทดี่ า้ นใต้สะพานพระปกเกลา้ ฝ่งั bridge across the Chao Phraya River, abandoned since พระนคร กับสวนทธ่ี นบุรีใหต้ อ่ เนอื่ งกันดว้ ย 1992. Recently, it was converted into a public park, which was officially opened in 2020. This sky park was ถึงแม้สะพานจะมีความยาวเพยี ง ๒๘๐ เมตร designed by Landprocess by a famous urban landscape แตส่ ถาปนกิ ได้หาทางออกส�ำ หรบั ข้อจ�ำ กัดนี้ ดว้ ย architect Kotchakorn Voraakhom. การแบง่ ทางเดินออกเปน็ สองสายซอ้ นทับกนั เสน้ ทางหนึง่ เล่นระดับไตข่ น้ึ เปน็ อฒั จรรยส์ ำ�หรับนง่ั ชม J 10 Chao Phraya Sky Park D วิว กับอีกเสน้ ทางทใ่ี ต้อัฒจรรย์ ขึน้ ลงไปเช่นน้ี ๓ Phra Pokklao Rd. A อฒั จรรย์ เราจงึ เลอื กเดนิ ไปดว้ ยเส้นทางหน่ึง และ 5.00am-8.00pm T A 193

ก.ท.ม. เมืองสหประชาชาติ Bangkok, a United Nations city ด้วยกรงุ เทพฯ เป็นแหลง่ รวมผ้คู นจากหลากเชือ้ ชาตหิ ลายเผ่าพนั ธมุ์ าต้ังแต่ตั้งกรงุ แล้ว บ้างโดนบงั คับเทครวั มา บ้างมาค้าขายแสวงโชค บา้ งหนีทพุ ภิกขภัย หรือแม้แตห่ นี สงครามมา จึงไมน่ ่าแปลกใจเลยทีใ่ นเกาะเมอื งเกา่ แห่งนจ้ี ะมสี ง่ิ ก่อสรา้ งทางศาสนาทม่ี าจากหลาก หลายความเชื่อ ไม่ว่าจะมัสญิดในชุมชนจกั รพงษ์ วัดสิกข์ของแขกพาหรุ ัด วดั ฮินดู ศาล- เจา้ จีน และแมก้ ระทงั่ สสุ านญป่ี ุ่น! รวมไปถงึ สถาปัตยกรรมทไ่ี ด้รับอทิ ธพิ ลจากอาณาจกั รเพอ่ื นบ้านอย่าง ขอม สโุ ขทัย หรือชวา ความหลากหลายเหลา่ นี้ชว่ ยหลอมใหก้ รงุ เทพฯ เป็นมหานครทเ่ี ราเห็นและเปน็ อยู่ในปจั จุบนั Bangkok has long been home to people from different races and backgrounds, so not surprisingly, it has many religious sites from different beliefs – Islamic mosques, a Sikh temple, a Hindu temple, Chinese shrines, and even a Japanese mausoleum! Architectural influences from neighboring lands like Khmer, Sukhothai, and Java also add diversity to Bangkok, making it a vibrant city as we know it today. มสั ญิดจกั รพงษ์ K01 เป็นมัสญิดสำ�คญั ของชุมชนมสุ ลิมซึง่ อาศัยใน ตรอกสุเหรา่ ย่านบางล�ำ พู เป็นชมุ ชนเก่าแก่ ดว้ ย โดนเทครัวมาจากเมืองปัตตานี ต้ังแตส่ มัยรชั กาล ที่ ๑ แล้ว และเพราะเป็นชุมชนของแขกตานี จึงมี ถนนสายหนงึ่ ในละแวกนีท้ ่ชี อ่ื ว่า ถนนบา้ นแขก หรอื ถนนตานี ในปจั จบุ ันนั่นเอง แรกเร่มิ เดมิ ที มี บาแล (บาลาเซาะฮ)ฺ เพอื่ ใช้ ประกอบศาสนกิจ เปน็ เรอื นไม้ช้นั เดยี ว ตอ่ มาสรา้ งขึ้นเป็นมสั ญดิ ในสมัยรัชกาลท่ี ๖ เปน็ เรอื นไม้เช่นกนั หลงั คามงุ กระเบอ้ื งดนิ เผา ดว้ ยในสมัยกอ่ น สเุ หรา่ ในแถบชวามลายูและ สยาม ตา่ งปลูกสร้างเป็นเชน่ เรอื นพ้ืนถ่ิน หลงั คา จั่วหรอื ปั้นหยา ทงั้ สนิ้ ซึง่ สอดรับกบั ลกั ษณะภูมิ 194

ชอ่ งแสงประดบั ด้วยกระจกสี ทำ�เป็นรปู โดม มกี นั สาดคอนกรตี เสรมิ เหลก็ ย่ืนยาว เร่ืองเล่าชาวเกาะ ซึง่ เปน็ เทคโนโลยีใหม่ นยิ มท�ำ กันในสมยั ปลายรัชกาลที่ ๖ เป็นต้นมา สุเหร่า VS มัสญิด อากาศรอ้ นชื้น ฝนตกชกุ โดยไม่จ�ำ เป็นจะต้องสรา้ งเปน็ หลังคาโดมแบบ “สุเหร่า” เป็นค�ำ มลายู ทเ่ี ราใชเ้ รยี ก สถาปตั ยกรรมแขกจากแดนอาหรับแต่อย่างใด ศาสนสถานของชาวมุสลมิ มาแตไ่ หน แต่ไร แตอ่ าคารใหม่ท่เี ราเห็นในปจั จบุ นั น้ี สร้างข้ึนในสมยั จอมพล ป. “มสั ญดิ ” เปน็ ค�ำ อาหรับ เพิ่งมาใช้กนั พิบูลสงครามเป็นนายก ด้วยในสมยั นน้ั มนี โยบายชาตนิ ิยม ทีใ่ หช้ าว ในยุคหลัง เม่อื โลกมุสลมิ ได้มีการยึดโยง มสุ ลมิ ละอัตลกั ษณ์ทางชาตพิ นั ธุ์ของตน เพอ่ื สลายความแตกต่างทาง กลับไปหาต้นก�ำ เนิดของศาสนาท่ดี นิ วฒั นธรรมใหก้ ลายมาเป็นไทยเพยี งหนึ่งเดียว อาคารมสั ญิดแห่งใหม่ แดนตะวันออกกลาง จงึ เปน็ คอนกรีตเสรมิ เหลก็ ๒ ชัน้ ลักษณะเหมือนอาคารราชการ มีรูป แบบสอดคลอ้ งกับความนยิ มในสมยั น้ัน คือเปน็ สถาปัตยกรรมยุค วัด VS มัสญิด โมเดิร์น ท่เี รียบง่าย ตรงไปตรงมา เป็นกลอ่ งสเ่ี หลยี่ ม ไมม่ ีการประดับ วัดชนะสงคราม เรยี กไดห้ ลายอย่าง ประดา และไมม่ หี ลงั คาโดมเพื่อบอกชาติพนั ธุ์ จนอาจสับสนกนั ได้ เรมิ่ แรกช่อื “วัดกลางนา” สร้างมา ตอ่ มาภายหลังสงครามจงึ ได้มกี ารตอ่ เตมิ สรา้ งหออะซานข้นึ มา ตั้งแต่สมัยอยุธยาแล้ว และทำ�หลังคาเปน็ ยอดโดม ชว่ งเวลาน้เี องทีเ่ ปน็ ยคุ ท่ีชมุ ชนมสุ ลิมจาก พอเข้าสู่ยุครัตนโกสนิ ทร์ จึงเปลย่ี น ท่วั ทั้งโลก เร่มิ ยึดโยงกลบั ไปหาต้นกำ�เนดิ ของศาสนาทีต่ ะวนั ออกกลาง เปน็ วัดมอญ เรยี กกนั ว่า “วดั ตองป”ุ กัน สถาปตั ยกรรมแบบอาหรับจึงถูกหยิบยกมาใชเ้ พือ่ บอกอตั ลกั ษณ์ กอ่ นจะเปล่ียนเป็น “วดั ชนะสงคราม” ของชมุ ชนมสุ ลิม แทนท่ีสถาปัตยกรรมแบบพ้นื ถนิ่ ในทสี่ ดุ ชื่อเรียกมสั ญิดจักรพงษ์ ก็มหี ลายชื่อ Chakrabongse Mosque: Located in Bang Lamphu, this mosque is an ชวนฉงนเชน่ กนั important religious site for this long-standing Muslim community. They had โดยเรยี กใหอ้ งิ กบั วัดชนะสงครามที่อยู่ been moved to this community from Pattani (Islamic kingdom on the Malay ใกล้กนั ดังนี้ Peninsula) since King Rama I’s era. The mosque that we see today was แรกเรียก “บาแลกลางนา” built in the 1940s in a Modern and simple design. Later, the Arab-style ต่อมาเรียก “สเุ หรา่ ตองปุ” dome was added to add a touch of Islamic identity. แต่ไม่มี “มสั ญิดชนะสงคราม” นะ เราเรยี กกันวา่ “มสั ญดิ จกั รพงษ์” แทน ตามชื่อถนนทีม่ สั ญดิ ต้ังอยู่ K 01 Chakrabongse Mosque D 70 Chakrabongse Mosque Alley. A musjidchakraphong T A 195

Ban Tukdin Mosque: This มสั ญิดบา้ นตึกดิน K02 mosque is located behind Wat Bowon Niwet in a Muslim commu- หรอื มสั ญิดดารสิ ซุนนะห์ ตง้ั อยใู่ นบา้ นตึกดิน ชมุ ชนมุสลิมเลก็ ๆ อนั nity which had been around since เกา่ แก่ ซึ่งกระจุกตวั อยู่ท่ามกลางวดั บวรนเิ วศ โรงเรยี นสตรีวทิ ยา และ Bangkok was first established, ทีท่ ำ�การไปรษณยี ส์ าขาราชด�ำ เนิน along with Chakrabongse Mosque community. The original mosque เดมิ ทีด่ ินบรเิ วณนเ้ี ปน็ ท่ีต้ังของคนมสุ ลิมท่โี ดนเทครวั มาจากปัตตานี was a wooden house, and was ต้ังแต่สมัยตน้ กรุงรตั นโกสินทร์แลว้ โดยตง้ั บา้ นอยดู่ ้านเหนอื ของ burned down in 1982. A new one “ตกึ ดนิ ” (อาคารส�ำ หรบั เก็บดนิ ปืน ซงึ่ เดมิ ตง้ั อยบู่ ริเวณอนุสาวรีย์ has been built in its place, in a ประชาธิปไตยในในปัจจุบัน) เวลานนั้ ชาวชมุ ชนตกึ ดนิ จะเดนิ ไปประกอบ style popular in the 1970s-80s. พธิ ที างศาสนาท่ีสเุ หรา่ จักรพงษ์ แถวบางล�ำ พกู ัน It has a minaret topped with a dome cap at the front, designed ต่อมาเมื่อมีการตัดถนนต่างๆ จึงแยกชมุ ชนมุสลิมทงั้ สองออกจาก by a seasoned Muslim architect กนั บ้านตกึ ดนิ จงึ สรา้ งบาแล (บาลาเซาะฮฺ) ข้นึ มาเป็นเรอื นไมส้ �ำ หรบั who grew up in the Chakrabongse ประกอบพิธกี รรมในชุมชน แต่มาโดนเผาวอดไปเม่อื คราวไฟไหม้ครง้ั Mosque community. ใหญป่ ี ๒๕๒๕ ชุมชนจงึ สร้างเป็นมัสญิดข้นึ มาทดแทน มัสญิดหลังใหมส่ รา้ งแล้วเสร็จในปี ๒๕๒๗ หนา้ ตาแปลกใหม่ เปน็ อาคารคอนกรตี สีขาว ตามแนวสถาปัตยกรรมยคุ 70s มหี ออะซานสูง ยอดเปน็ หลงั คาโดมตามแบบสถาปัตยกรรมในประเทศมุสลมิ ออกแบบ โดย ไพจติ ร พงษ์พรรฤก สถาปนิกมุสลิมรุ่นเดอะผู้เกิดและเตบิ โตใน ชมุ ชนมัสญดิ จกั รพงษ์ และมีผลงานออกแบบมัสญดิ มากมาย ทีโ่ ดดเด่น กเ็ ช่นอาคารมูลนธิ ิเพอ่ื ศนู ย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย ทแี่ ถว รามค�ำ แหง เป็นตน้ อาคารมัสญิดหันหนา้ ออกทางทศิ ตะวนั ออก ด้านทา้ ยอาคารท�ำ เปน็ ผนังกลมเว้าย่นื ออกไปเพอื่ เปน็ “มิหร์ อบ” ช่วยบอกทศิ ทางสำ�หรับหนั หนา้ ไปยงั เมืองมกั กะฮฺ ยามละหมาด (ส�ำ หรับเมอื งไทยคือหนั ไปทศิ ตะวนั ตก) พรอ้ มกบั ท�ำ เป็นแท่น “มิมบัร” หรอื ธรรมมาสน์ สำ�หรับอหิ ม่ามขน้ึ ไปยนื น�ำ ละหมาดหรือเทศน์ดว้ ย D K 02 Ban Tukdin Mosque เรื่องเล่าชาวเกาะ A 139 Soi Damnoen Klang Nuea T มสั ยิดบา้ นตึกดิน-ดาริสซุนนะห์ “บ้านตึกดิน” กับ “ตรอกตึกดิน” คือชุมชนเดียวกันหรือเปล่า? ตึกดินคืออาคารส�ำ หรับเก็บดินปนื ตัง้ อยอู่ ยา่ งโดดเด่ียว มสี วนลอ้ มรอบเพอื่ เปน็ ฉนวนกนั ไฟ A หมูบ่ า้ นมุสลมิ ทตี่ ัง้ อยดู่ า้ นเหนอื เรยี กกันวา่ “บา้ นตึกดิน” ส่วนชุมชนขุนนางตั้งบา้ นอยูใ่ น “ตรอกตกึ ดนิ ” ที่อยู่ดา้ นใต้ เม่อื มีการตดั ถนนราชด�ำ เนนิ ผ่าสวนตกึ ดิน ในปลายรชั กาลท่ี ๕ จึงแยกชมุ ชนทงั้ สองออกเป็น บ้านตึกดินทางเหนอื กบั ตรอกตกึ ดินทางใต้ ต้งั อย่คู นละฝ่ังของถนน หา่ งไกลไม่รู้จกั กนั 196

คุรดุ วาราศรีครุ สุ งิ หส์ ภา K03 Gurdwara Siri Guru Singh Sabha: The first Sikh temple in ค�ำ วา่ “คุรดุ วารา” กค็ ือ วดั สกิ ข์ Thailand, it is located in Phahurat, สว่ น “ศรีคุรสุ ิงห์สภา” กค็ ือชื่อวัด which was the first Sikh commu- ถอื เป็นวัดสิกขแ์ หง่ แรกของประเทศไทย และเป็นศนู ยร์ วมจิตใจของ nity where immigrants from India ชนชาวสิกขใ์ นสยาม settled down after World War II. ตั้งอยใู่ นดงแขกสกิ ขท์ ถี่ นนพาหรุ ัด-จักรเพชร This new building was construct- แต่แรก ในสมัยรัชกาลท่ี ๖ พ่อค้าสกิ ข์ทีม่ าค้าขายในสยามยงั ไม่มี ed in 1979 and has become the จ�ำ นวนมาก ได้เชา่ บา้ นหลังใหญท่ ห่ี ัวมุมถนนแหง่ นี้ เพอ่ื ใช้ประกอบ landmark of this neighborhood. It ศาสนกิจ features a golden dome just like คร้ันปี ๒๔๗๕ เม่ือชุมชนสกิ ข์ขยายตัว ได้เรีย่ ไรเงินซือ้ ท่ีและก่อสรา้ ง the Golden Temple of Amritsar in คุรดุ วาราขึ้น เปน็ ตึกสามช้ันครงึ่ รูปทรงเช่นไรไมป่ รากฏ Punjab, India. Inside, there is a แต่อาคารยอดโดมทองท่เี ราเห็นเป็นแลนด์มาร์คของยา่ นพาหุรดั large hall for religious activities ในปัจจบุ ันน้ี สรา้ งขนึ้ ใหมใ่ นปี ๒๕๒๒ ตามแบบวหิ ารทองค�ำ ทเ่ี มอื ง and ceremonies. At the top, อมฤตสระ รฐั ปัญจาบ ประเทศอินเดีย อันเป็นเมืองศูนย์กลางทีช่ าว religious scriptures are kept. สกิ ขท์ ้งั หลายต้องไปแสวงบญุ กนั อาคารสงู ๕ ชั้น ประกอบดว้ ย โถงขนาดใหญ่สำ�หรับประกอบพธิ ีท่ี K 03 Gurdwara Siri Guru Singh Sabha D สาธุชนจะมาสวดมนต์กนั ทกุ วนั หรือมาฟงั ธรรมในวันอาทติ ย์ 571 Chak Phet Rd. A มโี รงทาน มีหอ้ งเรยี นภาษาปัญจาบี และเปน็ ท่ตี ัง้ สมาคมศรีครุ สุ ิงห์ 6.00am-10pm T สภา 094 324 9258 A ชั้นบนสุดเปน็ หอ้ งประดิษฐานพระมหาคัมภีร์ ซ่ึงชาวสิกข์ให้ความ SikhTempleBangkokThailand เคารพสูงสุด ดว้ ยถอื เป็นตวั แทนของพระศาสดา 197

เป็นอาคาร ๓ ช้นั ชนั้ ล่างเปน็ ส�ำ นกั งานโรงเรยี นภารตวิทยาลยั เทวมนั ทิร (วดั เทพมณเฑียร) K04 ชัน้ สองเป็นส�ำ นกั งานสมาคมฮินดสู มาช มีหอ้ งประชุม และโรงครวั โรงสวดชุมนุมของแขกฮินดู ก่อตงั้ มาตง้ั แต่ ช้ันสามเป็นเทวสถาน ส�ำ หรับสาธุชนร่วมฟังธรรม อา่ นคมั ภีร์ ปี ๒๔๖๘ แลว้ ชว่ งแรกเชา่ ห้องแถว ๑ คูหา รอบ และสวดเพลงสรรเสรญิ ท้งั ยังใช้เป็นทีจ่ ัดงานแตง่ งานรื่นเรงิ ตลาดมงิ่ เมอื ง ด้านหลังวงั บรู พา เปน็ ทต่ี ั้ง (ตรง ต่างๆ ของชาวไทยเชอื้ สายอนิ เดียอกี ด้วย บรเิ วณทเ่ี ป็นศูนย์การค้าดโิ อลด์สยามพลาซ่าใน ปัจจบุ นั ) โดยจัดตง้ั ขน้ึ เป็นสมาคมในนาม ฮนิ ดูสภา ตอ่ มาขยายเป็น ๓ คูหา พรอ้ มจดั ใหม้ โี รงเรียน อยดู่ ้วย หลงั สงครามโลกครง้ั ทส่ี อง ชาวฮนิ ดจู ากรฐั ปญั จาบ ทางตอนเหนอื ของอนิ เดยี ไดอ้ พยพเขา้ มา ใหม่ ท�ำ ใหส้ ถานทเ่ี ดมิ คบั แคบ จงึ ยา้ ยทง้ั วดั และ โรงเรยี นมายงั สถานทป่ี จั จบุ นั ทข่ี า้ งวดั สทุ ศั น์ แตแ่ รก เปน็ อาคารเชน่ ไรไมป่ รากฏ แตอ่ าคารวดั เทพมณเฑยี ร ทเ่ี หน็ ในปจั จบุ นั นส้ี รา้ งขน้ึ มาภายหลงั ในปี ๒๕๑๒ ตามรปู แบบสถาปตั ยกรรมวดั แขกในอนิ เดยี เหนอื Dev Mandir: A Hindu temple behind Wat Suthat, it was formerly in Phahurat area, and was relocated to its current spot. The new building was built in 1969 following the style of Hindu temples (Mandir) in North India. It is used for religious ceremonies and festivities, as well as for Hindu Samaj’s offices. เรื่องเล่าชาวเกาะ ในภาษาอนิ เดยี เรียกวัดแขกว่า “มนั ทิร” (Mandir) ศาลเจา้ แมต่ ะเคียนทอง K05 อ่านออกเสียงคล้ายๆ “มนั เดิร” ภายในสวนสราญรมย์ “มันทริ ” นี่เอง ทกี่ ลายมาเป็นค�ำ ไทยวา่ “มณเฑียร” “เทวมันทิร” จึงเป็น “เทพมณเฑียร” ตามส�ำ เนียง เปน็ ศาลเกา่ แกม่ าแตเ่ ดมิ แลว้ ไทยๆ พอถงึ รชั กาลท่ี ๖ ไดเ้ ปลย่ี น อะไรคือ “ถะ” เปน็ เกง๋ จนี หกเหลย่ี ม สงู ๓ ชน้ั ถะ (塔) คอื เจดยี ข์ องจนี ประดบั ดว้ ยภาพวาดฝมี อื ชา่ งจนี นน่ั เอง สร้างเป็นหอสงู รูป ยอดหลงั คาประดบั ดว้ ยปนู ปน้ั แปดเหลยี่ ม ซ้อนข้นึ ไปเป็น ปลายหลงั คาของแตล่ ะชน้ั ไมเ่ ชดิ ชั้นๆ โดยมากมกั ท�ำ เปน็ ๗ ขน้ึ ซง่ึ ตา่ งจากถะของจนี หรือ ๙ ชั้น หลังคาช้ันบนสดุ เป็นยอดแหลม Chinese Holy Shrine: Housed inside Saranrom Park, this holy shrine is ancient but was rebuilt in the 1910s in King Rama VI’s era. It D K 04 Dev Mandir K 05 Chinese Holy Shrine is a tall hexagonal Chinese pagoda, A Hindu Samaj, 136/1-2 Siri Phong Rd. Saranrom Park, 3 stories high, with Chinese murals T 8.00am-1.00pm Mon-Sat Charoen Krung Rd. drawn by Chinese artisans. A 8.30am-11.30am Sun 4.30am-9.00pm 02 223 8494 devmandirbangkok.com 198 devmandirtemple