179 เรื่องที่ 2 การอยูคายพักแรม 2.1 ความหมายของการอยคู ายพกั แรม การอยูคายพักแรมลูกเสือ คือ องครวมของการเรียนรูท้ังภาคทฤษฎีและ ภาคปฏบิ ตั ิ โดยมีนวัตกรรมและขบวนการถา ยทอด การทดสอบ การเสรมิ สรา งพฒั นาการใหแก ลูกเสือในทุกระดับ โดยการนําลูกเสือออกจากที่ตั้งปกติไปพักแรมคืนตามคายลูกเสือตาง ๆ รวมทง้ั สถานที่ท่ีมอี งคป ระกอบทีเ่ หมาะสมกบั การจัดกจิ กรรมลูกเสือ เชน วนอุทยาน ชายทะเล เปนตน โดยมีแผนการอยูคายพักแรมในแตละครั้งสอดคลองกับการเรียนการสอนกิจกรรม ลูกเสือในเวลาปกติ 2.2 วัตถปุ ระสงคของการอยคู า ยพักแรม มดี ังนี้ 1) เพ่อื ใหลกู เสอื ทบทวนส่งิ ท่ไี ดเรียนรูจากทฤษฎี และการฝก ปฏบิ ตั ิ 2) เพ่อื เปน การฝกทกั ษะทางลกู เสอื ใหม ีระเบียบวนิ ัย มีเจตคติ มีคานยิ มทดี่ งี าม 3) เพื่อใหล ูกเสอื ปฏบิ ตั ติ ามคําปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื 2.3 หลกั การของการอยคู า ยพกั แรม มดี งั นี้ 1) ยดึ หลักการมีสวนรว ม โดยใหผ บู งั คบั บัญชาลูกเสือ ลกู เสือ และชุมชน มีสวนรวม ในการจดั กิจกรรม 2) ใชก ระบวนการเรยี นรูท่ีเนน ลูกเสือเปนสําคัญ มีทักษะในการแสวงหาความรู จากแหลงเรียนรใู นชมุ ชน 3) ใชกระบวนการกลุมในการจัดประสบการณการเรียนรู ฝกใหคิดวิเคราะห สรางสรรค ที่เปน ประโยชนและสัมพนั ธกบั วถิ ีชวี ิต 4) มีกิจกรรมวิชาการและกิจกรรมนันทนาการท่ีใหลูกเสือไดรับความรู และ ความสนุกสนาน ทาํ งานรว มกนั เปนกลุม เพอ่ื เสรมิ สราง ความสามัคคี มนษุ ยสมั พันธ ความเปนผนู าํ 5) ตอ งคาํ นงึ ถึงความปลอดภัยในดานตาง ๆ ระหวางการทํากจิ กรรม กิจกรรมทายเร่อื งท่ี 2 การอยคู ายพกั แรม (ใหผ เู รยี นไปทํากจิ กรรมทา ยเรื่องที่ 2 ท่ีสมดุ บนั ทกึ กจิ กรรมการเรยี นรปู ระกอบชดุ วิชา)
180 เรือ่ งที่ 3 ชีวติ ชาวคา ย ชีวติ ชาวคาย เปนกิจกรรมสรา งนิสัย การบําเพ็ญประโยชน รูจักการปรับตัวเขา หากนั และการอยูรวมกันอยางมีความสุข โดยการฝกปฏิบัติตนดวยการทํางานรวมกันเปนหมู รูจักยอมรับในบทบาทหนาท่ีซ่ึงกันและกัน ฝกการเปนผูนํา ผูตาม ฝกใหรูจักชวยเหลือตนเอง เมอื่ มีเหตุการณคับขัน รูจักการดํารงชีพกลางแจงโดยไมน่ิงเฉย เชื่อฟงกฎกติกาอยูในระเบียบ อยา งเครง ครดั สรางเสรมิ คณุ ธรรม สรางความมีวนิ ัย ชวี ติ ชาวคาย ประกอบดวย 1. เคร่ืองมือ เครือ่ งใช ทจี่ ําเปน สาํ หรบั ชีวิตชาวคาย 2. การสรางครวั ชาวคาย 3. การสรางเตาประเภทตาง ๆ 4. การประกอบอาหารแบบชาวคาย 5. การกางเต็นท และการเกบ็ เต็นทช นิดตา ง ๆ 3.1 เครอื่ งมือ เครื่องใช ทจี่ าํ เปนสําหรบั ชีวติ ชาวคาย เคร่ืองมือ เคร่ืองใช สําหรับการอยูคายพักแรม มีหลากหลายประเภทแยกตาม ลักษณะของการใชงาน แบงออกเปน ของมีคม ไดแก มีด ขวาน เล่ือย เคร่ืองมือที่ใชสําหรับขุด ไดแก จอบ เสียม พลั่ว พล่ัวสนาม และเครื่องมือท่ีใชสําหรับตอก ไดแก คอน โดยแยกเก็บ ตามประเภท และลักษณะการใชงาน เพื่อความสะดวกในการหยิบใชงาน และความเปนระเบียบ เรียบรอ ย มีด คือ เคร่ืองมือชนิดแรก ๆ ท่ีมนุษยประดิษฐขึ้นเพื่อใชในชีวิตประจําวัน มาอยางยาวนานเก่ียวของสัมพันธกับแทบทุกกิจกรรมในการดําเนินชีวิตมีดเปนเครื่องมือ ตัดเฉือนชนิดมีคม สําหรับใชสับหั่นเฉือนปาดบางชนิดอาจมีปลายแหลมสําหรับกรีดหรือแทง มักมขี นาดเหมาะสมสาํ หรบั จับถอื ดว ยมือเดยี ว ขวาน เปนเครื่องมือท่ีทําดวยเหล็กมีสันหนาใหญใชในการตัดไม ฟนไม ผาไม ตอกไม รวมไปถงึ การใชเ ปน อาวุธ โดยทั่วไปขวานจะประกอบดวยสองสวนหลัก คือ สวนหัว และสวนดามจับ โดยขวานจะมีทั้งแบบทีด่ า มยาว และแบบดา มสัน้ ข้นึ อยกู บั งานท่ใี ช การดแู ลรกั ษามดี และขวาน 1) ไมควรวางมดี หรือขวานไวกับพ้นื เพราะจะเปนอันตรายตอ ผูอ่นื ถา เผลอไปเหยียบ รวมทัง้ จะทําใหคมมีดและขวานเปน สนมิ ได 2) อยาใชมีดหรือขวานห่ันถากวัตถุที่แข็งเกินไป เพราะอาจทําใหหมดคมหรือ อาจบ่นิ เสียหายได 3) ไมค วรเอามีดหรอื ขวานลนไฟหรือหั่นสบั สิง่ ทก่ี าํ ลงั รอ นเพราะจะทําใหท อ่ื งา ย
181 4) หลงั จากใชมดี หรอื ขวานเสร็จแลวตองลางใหสะอาดเช็ดใหแหงทาน้ํามันแลว เก็บเขาท่ีใหเ รยี บรอย ถา เปนมดี หรอื ขวานทม่ี ีปลอกมหี นา กากควรสวมปลอกหรือหนากากกอน แลว นําไปเก็บ 5) เม่ือคมมีดหรอื คมขวานทอ่ื ควรลับกบั หนิ ลบั มีดหรือหินกากเพชร 6) ถาดามมีดหรือดามขวานแตกราวตองรีบซอมแซมใหอยูในสภาพดีกอนนําไปเก็บ หรือนําไปใชง าน วิธถี อื มดี และขวานใหป ลอดภยั 1) ตองหันดานคมของมดี หรือขวานออกนอกตวั 2) เวลาแบกขวานตองระวงั อยาใหคมขวานหอ ยลงหรือหนั เขา หาตวั 3) ถา เปนขวานขนาดเล็กเวลาถือใหจบั ทีต่ ัวขวานปลอยดามขวานช้ีลงพ้ืนหันคม ขวานไปทางดา นหลัง วิธีสงมีดและขวานใหป ลอดภยั 1) การสงมีดผูสงจับสันมีดหันคมมีดออกนอกตัวหรือหันดานคมลงพื้นสงดามมีด ใหผจู บั 2) การสง ขวานผูสงจับปลายดามขวานหอยตัวขวานลงใหคมขวานหันไปดานขาง ผูร ับตอ งจับดามขวานใตม อื ผสู ง เล่ือย เปนเล่ือยสําหรับงานไมโดยท่ัวไป ทําดวยโลหะแผนบาง มีฟนเปนซ่ี ๆ โดยฟนของซเ่ี ล่ือยมคี วามแตกตางกนั ตามความเหมาะสมกบั การใชงาน การดแู ลรกั ษา 1) หลงั จากการใชงานใหคลายใบเล่ือยออกเล็กนอย เพอ่ื ยดื อายใุ บเลอื่ ยใหใชง าน ไดย าวนานขน้ึ 2) ใชแปรงปดทําความสะอาดทุกสวน ทาดวยนํ้ามัน แลวเก็บไวในที่เก็บหลัง การใชงาน จอบ เปน เคร่อื งมือขุดเดิน ที่มีน้ําหนักปานกลางและมีความทนทานสูง จอบใช ในการขดุ ดินแขง็ ๆ และขดุ หลุมใหมีขนาดกวา งและลึกได ลกั ษณะเดนของจอบ คือ มีใบที่แบน กวางและคม สามารถเจาะผานพื้นดินหรือกอนดินทแี่ ขง็ ๆ ใหแ ยกขาดออกจากกันไดโ ดยงาย การดแู ลรกั ษา หลงั จากการใชท ุกครั้งควรลา งทาํ ความสะอาดดวยน้ํา เพ่ือกําจัดดินที่ติดตามใบ จอบ และคมจอบใหห มดเสยี กอ น จากนน้ั ใหใชผ าเชด็ ใหแหง แลวทานํ้ามันกันสนิมและเก็บเขา ท่ใี หเรยี บรอย เสียม เปนเครื่องมือขุดดิน ท่ีมีน้ําหนักเบาที่สุดในบรรดาเครื่องมือขุดดิน ทุกชนิดดวยรูปทรงที่เล็กมีนํ้าหนักเบา จึงไมกินแรงผูใช เสียมจึงมีบทบาทสําคัญในงาน ดา นการเกษตรทุกชนดิ จึงพดู ไดวาเสยี มเปนเครอื่ งมือการเกษตรท่มี าคูกับจอบ เพราะสิ่งท่ีจอบ
182 ทําไดเสียมก็สามารถทําได เชน การขุดดิน ขุดลอก เปนตน แตสิ่งท่ีเสียมทําไดน้ันจอบ ไมสามารถทําไดก็คือการขุดหลุมที่ลึกและแคบ และการขุดดินในที่แคบ ๆ ท่ีตองใช ความระมดั ระวงั สูง เชน การขดุ ลอมตนไมขนาดเลก็ และการขุดหนอกลวย เปนตน การดูแลรักษา หลังจากการใชง านทุกครงั้ ควรลางทําความสะอาดดว ยน้ํา เพอ่ื กาํ จัดดินท่ีติดปลาย เสยี มใหห มดเสยี กอน จากนน้ั กใ็ ชผา เช็ดใหแหง ทาน้ํามันกันสนมิ แลว หาทีเ่ ก็บเขาท่ีใหเรียบรอ ย พลั่ว เปนเครื่องมือใชในการตักดิน หรือตักทรายที่ความละเอียดมาก หรือเปน กอนที่ไมใหญนัก พล่ัวมีน้ําหนักพอ ๆ กับเสียม แตมีใบที่กวางและบางกวาเสียมและจอบ เลก็ นอ ย คมของพลั่วไมไดมีไวใชในการขุดหรือเจาะ แตมีไวในการตักหรือโกย เศษทราย เศษดิน หรือเศษวัชพชื ที่ไดท าํ การกวาดรวม ๆ กันไวเปน กอง ๆ เรียบรอยแลว เพื่อตักไปใสถุงปุย หรือ บุง กีห๋ รือถงั ขยะ เพื่อเพม่ิ ความรวดเร็วในการจัดเกบ็ และทาํ ความสะอาด การดแู ลรกั ษา หลงั จากการใชท ุกครัง้ ควรลา งทาํ ความสะอาดดวยนํ้า เพ่ือกําจัดเศษดินเศษทราย ท่ีติดตามปลายพลั่วใหหมดเสียกอน จากนั้นก็ใชผาเช็ดใหแหง ทาน้ํามันกันสนิมแลวเก็บเขาที่ ใหเ รยี บรอย คอน คือเคร่ืองมือสําหรับตอกหรือทุบบนวัตถุอ่ืน สําหรับการใชงานเชน การตอกตะปู การจัดช้ินสวนใหเขา รปู และการทบุ ทลายวตั ถุ คอนอาจไดรับการออกแบบมาให ใชง านเฉพาะทาง และมีรูปรางกับโครงสรางที่หลากหลาย แตมีโครงสรางพื้นฐานที่เหมือนกัน คือ ดามจบั และหัวคอน ซ่ึงน้าํ หนักจะคอ นไปทางหวั คอนมากกวา แรงท่ีกระทบเปาหมายจะมาก เทาใด ข้ึนอยูกับมวลของคอนและความเรงของการตอก ดังนั้นเมื่อคอนยิ่งหนักมากและหวด ดวยความเรง มาก แรงท่ีไดจากคอ นย่ิงมากตามไปดวย การดแู ลรกั ษา 1) เลอื กชนิดของคอนใหเ หมาะกบั งาน 2) เม่ือใชง านเสรจ็ ควรเช็ดทาํ ความสะอาด แลว ทาน้าํ มนั ท่หี วั คอนเพื่อปอ งกันสนมิ 3.2 การสรา งครัวชาวคาย การสรางครัว เปนการกําหนดพนื้ ท่ีสําหรับใชในการประกอบอาหารตลอดระยะเวลา ในการอยูคา ยพักแรม มอี งคป ระกอบในการสรา งครวั ดังนี้ ที่ทําครัว ควรมีเขตทําครัวโดยเฉพาะ โดยเลือกพื้นที่ท่ีจะเปนเหตุใหเสียหายแก พ้ืนที่นอยท่ีสุด ถามีหญาข้ึนอยูตองแซะหญาออก (ใหติดดินประมาณ 10 ซม.) แลวจึงคอย ตั้งเตาไฟ สวนหญาท่ีแซะออกน้ันจะตองหมั่นรดน้ําไว เม่ือการอยูคายพักแรมไดส้ินสุดลงแลว ก็ใหปลูกหญาไวที่เดิม แลวรดน้ําเพอื่ ใหค ืนสูสภาพเดิม
183 ในการจัดทาํ เคร่ืองใชน้ัน อะไรควรจัดทํากอน อะไรควรจัดทําภายหลังถือหลักวา อันไหนสําคัญที่สุดก็ใหจัดทํากอน แลวจึงคอย ๆ จัดทําส่ิงท่ีมีความสําคัญรองลงมาตามลําดับ ตอ ไปน้ี คอื คาํ แนะนาํ ในการสรา งเครือ่ งใชต า ง ๆ เตาไฟ มหี ลายแบบ เชน แบบขดุ เปน ราง แบบใชอิฐ หรือกอนหินวางเปนสามเสา แบบเตายืนเปนแบบสะดวกในการทาํ ครวั กอ นต้ังเตาไฟควรทําความสะอาดบริเวณนั้น อยาให มเี ช้อื ไฟหรอื สง่ิ ที่ติดไฟงายอยใู กล ๆ กองฟน ลักษณะของฟน ที่นํามาใชควรเปนไมแหง เพ่ืองายตอการกอไฟ ควรกอง ใหเปน ระเบยี บ อยูไมห างจากเตาไฟ ถา ฝนตกจะตอ งมหี ลังคาคลุมดิน สําหรบั เตายนื อาจเอาฟน ไวใตเตากไ็ ด เคร่อื งใชตาง ๆ หมอ กระทะ แกวนํ้า มีด เขียง ฯลฯ ทเ่ี ก็บมีด ทเี่ กบ็ กระบอกน้ํา เก็บจาน ท่ีเก็บถังนํ้า ที่เก็บอาหาร จะตอ งจัดทาํ ข้ึน ที่หุงตมและรับประทานอาหาร ควรมี หลังคามุงกันแดดกันฝน อาจใชโตะอาหารและมาน่ัง ควรจดั ทาํ ขึน้ ตามแบบงา ย ๆ หลุมเปยก ขุดหลุมขนาดใหญใหลึก พอสมควร ท่ีปากหลุมใชกิ่งไม ใบไมสานเปนแผงปด แลวเอาหญาโรยขางบน หลุมน้ําสําหรับเทนํ้าตาง ๆ ที่ไมใชแลว เชน นํ้าปนไขมัน ซึ่งส่ิงเหลาน้ีเม่ือเทลงไป ไขมนั และส่งิ ตา ง ๆ จะติดอยูท ีห่ ญา มีแตน ํ้าแท ๆ ไหลลงไป ในหลมุ แผงท่ีปากหลมุ จะตอ งนาํ ไปเผา และเปลยี่ นใหมวนั ละคร้งั เปนอยา งนอ ย หลมุ แหง ขุดเปนอกี หลุมหนง่ึ เม่อื ท้ิงเศษอาหารแลว จะตองเอาดินกลบ ถาเปน กระปอง กอนทิง้ ตองทุบใหแ บนและเผาไฟ ในกรณีท่ีคา ยน้ันมถี ังสาํ หรบั เผาขยะหรือเศษอาหาร โดยเฉพาะอยแู ลว ก็ใหน าํ ขยะและเศษอาหารไปเผา ณ ทกี่ ําหนดไว 3.3 การสรา งเตาประเภทตา ง ๆ เตาสําหรับหุงอาหาร เตาไฟที่ใชใ นการหุงอาหารในการอยูคายพักแรมมีอยูหลายแบบ ซึ่งจะ จดั การสรางไดขณะอยคู ายพกั แรมตามสภาพของพื้นท่ี เตาไฟแบบตาง ๆ ไดแก เตาราง เตาใชอิฐ และหิน เตายืน เตาแขวน ในการกอสรางเตาแตละคร้ังลูกเสือจะตองทําความสะอาดรอบ ๆ บริเวณที่กอ สรา งเตาใหเตียนและอยา ใหม เี ชอื้ ไฟหรือวัสดทุ ต่ี ิดไฟไดงา ย ๆ อยูใกลบริเวณน้นั
184 เตาสามเสา เปน การนํากอนหินสามกอนมาวางบนพ้ืน จัดระยะหางใหพอดีกับ กนหมอ เปน สามมุมดูใหอากาศถา ยเทไดสะดวก เตาหลุม ขุดหลุมใหมีขนาดกวางพอเทากับหมอ ลึกพอประมาณ แลวเจาะรู เพ่ือใสฟ นดา นหนา แลวมีรูระบายอากาศ ดา นขา งเพ่อื ใหค วนั ออก เตาลอย ใหขดุ หลุมสี่มมุ แลวนําทอนไมแข็งแรงส่ีตนทําเปนเสาส่ีมุม นําไมมาวาง พาดผูกเปนสี่เหลี่ยมและวางคานใหเต็มพื้นที่ ใชใบไมปูใหราบ เอาดินปูพ้ืนใหหนาพอสมควร อีกช้ัน แลวใชกอนหินทําเปนเตาสามเสา หรือเตารางแลวแตสะดวก (หากเปนหนาฤดูฝน สามารถสรา งหลงั คาตอ เตมิ ได)
185 เตารางไม นําไมท่ีมีงามสองทอนมาปกลงดินตรงขามกัน แลวนําไมทอนตรง วางพาดเปนคานไวแขวนภาชนะ (ไมท ่คี วรใชพ าดควรเปนไมด ิบ ซ่งึ จะไมทําใหไหมไ ดง า ย) เตาแขวน หรอื เตาราว ใชไมทมี่ ีงามมาปก ลงดินเปน ระยะหางใหพ อดี แลวหาไม ยาวเปน คานมาพาดงา มไวส าํ หรบั แขวนภาชนะ เตากระปอ ง นํากระปอ งหรือถงั ขนาดเล็ก ทีพ่ อดีกับหมอหรือภาชนะ มาผาขาง ออกเปน ประตูลมแลวเจาะรูสว นบนส่รี ูเพ่ือใหอากาศถายเท 3.4 การประกอบอาหารแบบชาวคาย การปรงุ อาหารในขณะอยูค ายพักแรมหรอื เดินปา เปน การปรงุ อาหารเเบบชาวคาย ไมส ามารถเตรยี มเครือ่ งมอื เคร่ืองใชใ นการหุงตมไดครบถว น เชน ใชเ ตาหลมุ เตาสามเสาเตาราง ใชม ะพรา วออ นแทนหมอ กระบอกไมไ ผ ใชด นิ พอกเผาแทนการตม การปง เปนตน
186 การปฏิบัตหิ รอื ประกอบอาหารบางอยา งที่จําเปนในขณะท่ีอยูคายพักแรม ควรเลือก ประกอบอาหารอยา งงาย รวดเร็ว คงคุณคา ทางอาหาร ดว ยวธิ ีการตาง ๆ ดังน้ี การหงุ ขาวดว ยวิธีตาง ๆ 1. การหงุ ขาวดว ยหมอ หู สามารถหุงขาวได 2 แบบ คอื แบบไมเช็ดนํา้ และเช็ดนา้ํ 1) การหงุ ขาวไมเชด็ นํ้า ขาว 1 สวน ตอ น้ํา 2- 2.5 สว น วธิ หี ุง (1) ซาวขาวใหหมดสงิ่ สกปรก รินน้ําทง้ิ (2) ตวงน้ําใสน า้ํ หมอ ปดฝาใหสนิท ต้งั บนเตา ใสไฟแรงจัด (3) เมอื่ นาํ้ เดอื ดใชพายกวน 1 คร้ัง พอน้ําจวนแหงปดฝาหมอใหสนิท เอาถา นหรือฟนออกเหลือเกลี่ยไวใ หไฟนอยทีส่ ุด (การกวนคนขา วนี้เพื่อใหไดร ับความรอนทัว่ ถึงกนั ) (4) เอียงขาง ๆ หมอใหรอบ ๆ ตั้งตอไปจนน้ําแหงใหขาวสุกและ ระอุดีใชเวลาประมาณ 20-25 นาที 2) การหงุ ขา วเช็ดนาํ้ ขา ว 1 สวน ตอ นํา้ 3 สว น วธิ หี งุ (1) ซาวขา วพอหมดสงิ่ สกปรก รินน้าํ ทงิ้ (2) ตวงน้ําใสหมอ ปดฝาใหสนิท ตั้งบนไฟใชไฟแรงจนกระทั่งขาว เดอื ด (3) เมื่อนํ้าเดือดใชพายกวนขาว 1 ครั้ง หรือมากกวา เพื่อใหไดรับ ความรอ นท่วั ถึง (4) สงั เกตดพู อเม็ดขาวบาน รินนํา้ ขา วทง้ิ เอาข้นึ ดงบนเตา ใชไฟออน ๆ ตะแคงหมอ หมนุ ใหไดความรอ นทัว่ จนนาํ้ แหง จากนนั้ ใหยกลงจากเตา 2. วิธกี ารแกข า ว 1) วธิ กี ารแกขาวแฉะ ขา วแฉะเกิดจากปลอยทิ้งไวจนเม็ดขา วบานมาก หรือใสน้ํานอยจนน้ําขาว ขน มากกอ นจะเชด็ นา้ํ ขาวใหใ สนา้ํ เปลา ลงไปใหนํ้าไมขน คนใหท ัว่ หมอ แลวเช็ดนํ้าใหแหงปดฝาหมอ ใหส นทิ แลวหมนุ หมอไปมา และนาํ หมอขา วไปตั้งท่เี ตาไฟ โดยใชไฟออ น ๆ 2) วธิ ีแกข าวดบิ ใหใชน้ําพรมขาวพอประมาณ คุยพรมใหท่ัวหมอแลวจึงนําหมอขาวขึ้น ดงใหมห มุนใหท่วั ดงใหนานกวาดงขาวธรรมดาเม่ือยกลงหามเปดฝาดู ควรปดใหสนิท เพ่ือขาว จะไดส ุกระอุดี
187 3) วิธีแกข า วไหม หากไดกลิ่นขาวไหม รีบเปดฝาหมอเพื่อใหไอนํ้าออก และความรอนใน หมอ จะไดล ดลงเรว็ ขณะเดยี วกนั กล่ินไหมจ ะไดออกไปดวย คุยขาวตอนบนท่ีไมไหมใหสุก แลว เปดฝาท้ิงไว การประกอบอาหารดว ยวิธตี า ง ๆ การตม ทาํ ได 2 วธิ ี คอื 1) โดยการใสข องทจ่ี ะทําใหส ุกลงไปพรอมกบั น้ํา แลว นําไปตั้งไฟ เชน การตมไข ถาใสใ นน้าํ เดอื ดแลวไขจ ะแตกเสียกอ น 2) โดยการใสของที่จะทาํ ใหสกุ เม่อื น้ํานัน้ เดือดแลว เชน การตม ปลากนั เหม็นคาว การผดั หมายถงึ การทําวัตถสุ งิ่ เดยี วหรือหลายสิ่ง ซ่ึงตองการใหสุกสําเร็จเปนอาหาร ส่งิ เดียว วิธกี ารผัด โดยการใชน้ํามันหรือกะทิ ใสในภาชนะท่ีจะใชผัด แลวนําของที่จะผัดรวมลงไป คนใหส ุกทั่วกนั และปรุงรสตามชอบ การทอด ใสน้ํามนั ลงในภาชนะท่จี ะใชใ นการทอดโดยประมาณใหท ว มของทจี่ ะทอดต้ัง ไฟใหน้ํามันรอนจัด จึงใสของลงไปทอด การสังเกตของท่ีทอดวาสุกหรือยังใหสังเกตตามขอบ ของสิ่งที่ทอด การถนอมอาหาร การตากแหง เปนวิธีท่ีงายและประหยัด มากท่ีสุด ใชไดกับอาหารประเภทเนื้อสัตว ผักและ ผลไม เปนวิธีท่ีทําใหอาหารหมดความช้ืนหรือ มีความชื้นอยูเพียงเล็กนอย เพื่อไมใหจุลินทรีย สามารถเกาะอาศัยและเจริญเติบโตไดทําใหอาหาร ไมเกิดการบูดเนา โดยการนํานํ้าหรือความช้ืนออก จากอาหารใหม ากท่สี ุด เชน เนื้อเค็ม ปลาเคม็ กลว ยตาก เปนตน การรวน เปนวิธีการที่คลายกับการคั่ว แตตองใสน้ํามัน นิยมใชประกอบอาหารประเภท เนือ้ สัตว และปรงุ รสใหเ ค็มมากขึ้น เพื่อใหสามารถ เก็บไวรับประทานไดนาน เชน ไกรวน เปดรวน และปลาหมกึ รวน เปนตน
188 3.5 การกางและการเก็บเตน็ ทชนดิ ตา ง ๆ การไปอยูคายพกั แรมของลกู เสอื แตกอนนัน้ ลกู เสอื ไปหาทีพ่ ักขางหนาตามแตจะ ดัดแปลงไดในภูมิประเทศ ซึ่งเปนการแกปญหาเฉพาะหนา ถาลูกเสือไมพักในอาคาร ลูกเสือ จะตอ งนอนกลางแจง ซึ่งจะตอ งหาวิธีสรางเพิงทพี่ ักงาย ๆ ท่สี ามารถกันแดด กนั ฝน กันลม และ ปอ งกนั สตั วเ ล้ือยคลานไดโดยใชอุปกรณตาง ๆ เทาท่ีจะหาได ตอมาเร่ิมมีการเตรียมอุปกรณไปดวย เชน เชือกหลาย ๆ เสน พลาสติกผืนใหญ เปน ตน ทาํ ใหงา ยตอการสรา งเพงิ ทพ่ี กั มากข้ึน ปจ จุบนั ลกู เสือสวนมากจะเตรียมเต็นทส าํ เร็จรูปไปดวย เพราะเต็นทมีขายอยาง แพรหลาย และมีใหเลือกหลายแบบ หลายสี หลายขนาด มีน้ําหนักเบา มีขนาดกะทัดรัด สามารถนําพาไปไดส ะดวก การกางเตน็ ทก ระแบะ หรอื เตน็ ท 5 ชาย อปุ กรณแ ละสว นประกอบ ในการใชเต็นทสําหรับอยูคายพักแรม จะใชเต็นท 5 ชาย ซ่ึงเหมาะสําหรับ ลูกเสือจํานวน 2 คน ซ่ึงจะใชพื้นที่ในการกางเต็นทไมมากนักและวิธีกางก็ไมยุงยาก สว นประกอบของเต็นท 5 ชาย มดี งั นี้ 1) ผา เตน็ ท 2 ผืน 2) เสาเต็นท 2 ชุด (2 เสา) ชดุ ละ 3 ทอ น (3 ทอ นตอกันเปน 1 ชดุ ) 3) สมอบก 10 ตวั (หัวทาย 2 ตัว ชายดานลางดานละ 3 ตวั ประตูหนา 1 ตัว และหลัง1 ตวั ) 4) เชอื กยดึ สมอบก 10 เสน (เชือกยาวใชร้ังหัวทายเต็นท 2 เสน เชือกส้ันใชยึด ชายเตน็ ท 6 เสน และประตูหนา - หลงั 2 เสน ) การกางเต็นท การกางเต็นท 5 ชายนั้น มวี ธิ กี ารดงั ตอ ไปนี้ 1) ติดกระดุมทงั้ 2 ผืนเขาดวยกัน 2) ตงั้ เสาเต็นทท ้ัง 2 เสา 3) ผูกเชอื กร้งั หัวทายกบั สมอบก 4) ตอกสมอบกยึดชายเตน็ ท
189 การรอื้ เตน็ ทท พ่ี กั แรม 1) แกเชอื กท่ีรัง้ หวั ทายกับสมอบกออก 2) ลม เสาเต็นททง้ั 2 เสาลง 3) ถอนสมอบกท่ยี ึดชายเต็นทและทใี่ ชร ้งั หัวทายเตน็ ท 4) แกะกระดมุ เพ่ือแยกใหเ ต็นทเปน 2 ผืน 5) ทําความสะอาด เก็บพบั ใหเรียบรอ ย 6) นาํ ผาเต็นทและอุปกรณเ ก็บรวมไวเ ปนทีเ่ ดียวกัน เตน็ ทส ําเร็จรปู เตน็ ทส าํ เรจ็ รปู จะมลี ักษณะและ รูปแบบท่ีหลากหลาย ซ่งึ มวี างจําหนายโดยท่ัวไป งายตอการประกอบและการเก็บ แตละแบบ จะมีรูปแบบการประกอบไมเหมือนกัน จึงให ผใู ชพ ิจารณาตามวธิ ีการของเต็นท เต็นทส าํ เร็จรูปใชเ ปนท่พี กั สําหรบั ลกู เสอื ท้ังหมู (1 หม)ู เปนเต็นททม่ี ขี นาดใหญกวา เตน็ ทก ระแบะ มนี ํา้ หนักมากกวาเต็นทกระแบะสามารถพกพาไปไดสะดวก พื้นที่ท่ีใชกางเต็นท จะมีบริเวณกวางพอสมควร สวนวิธีกางเต็นทไมยุงยากมีลูกเสือชวยกันเพียง 2 คน ก็สามารถ กางเต็นทไ ด สวนประกอบของเตน็ ทสําเร็จรปู มีดงั นี้ 1) ผา เตน็ ท 1 ชดุ 2) เสาเต็นท 2 ชุด (2 เสา) ชุดละ 3 ทอ น (3 ทอ นตอ กันเปน 1 ชุด หรอื 1 เสา) 3) สมอบก 12 ตัว (ยดึ มุมพนื้ 4 ตวั ยึดชายหลงั คา 6 ตวั หัว 1 ตวั ทา ย 1 ตวั ) 4) เชือกยดึ สมอบก 8 เสน ทุกเสนมัดติดกับแผนเหล็กสําหรับปรับความตึงหยอน ของเชือก (เชอื กสนั้ 6 เสนใชยึดชายหลังคา เชือกยาว 2 เสน ใชรั้งหัวทา ยเตน็ ท) วธิ ีกางเตน็ ทส าํ เรจ็ รูป ปฏบิ ตั ิดงั นี้ 1) ยึดพืน้ ของเต็นทท ้งั 4 มุมดวยสมอบก 4 ตัว 2) นาํ เสาชดุ ที่ 1 (ตอ 3 ทอ นเขาดว ยกัน) มาเสยี บทรี่ ูหลังคาเตน็ ท ใหค นที่ 1 จบั ไว 3) ใหคนที่ 2 ใชเชือกยาว 1 เสน ยึดจากหัวเสา (หรือหวง) ไปยังสมอบก ดานหนา (โดยผกู ดว ยเง่อื นตะกรดุ เบด็ หรอื ผกู เงือ่ นกระหวัดไม ไมต อ งใชเงื่อนผูกรั้ง เพราะเปน แผนปรับความตึงอยูแลว) แลวใชเชือกส้ัน 2 เสน ยึดชายเต็นทเขากับสมอบกใหเต็นทกาง ออกเปนรูปหนาจัว่
190 4) ใหค นที่ 2 เดนิ ออ มไปอีกดานหน่งึ ตอ เสาที่ 2 เสียบเขารูหลังคา เต็นทอีกดาน หน่งึ แลว จบั เสาไวใ หคนท่ี 1 ปลอยมือจากเสาท่ี 1 แลวนําเชือกยาวเสนที่ 2 ยึดจากหัวเสาท่ี 2 ไปยังสมอบกดานหลัง 5) ใหคนท่ี 2 ปลอยมอื จากเสาท่ี 2 ได เตน็ ทจะไมลม ท้ังสองคนชวยกันใชเชือก ยึดชายหลังคาเต็นท (จุดที่เหลือ) ใหเขากับสมอบกแลวปรับความตึงหยอนของเต็นทให เรยี บรอย หมายเหตุ เต็นท สําเร็จรูปมีหลายแบบ มีรูปทรงไมเหมือนกัน บางแบบคลาย เต็นทกระแบะ เปน ตน ใชสะดวกและเบามากแตบอบบาง เตน็ ทอ ยา งงาย วิธีน้ีปจ จบุ นั สะดวกมาก ทง้ั ยงั ราคาถกู หาซอื้ งายใชประโยชนไ ดดีสามารถใชวัสดุ อุปกรณท่ีหาไดในทองถ่ิน โดยใชถุงปุยหรือเสื่อเย็บตอกันใหไดเปนผืนใหญ ๆ สามารถใชแทน ผา เต็นทได จะใหม ีขนาดใหญเ ทาใดกไ็ ดตามท่ีตองการ แตสวนใหญมักจะทําเปนผืนใหญใชเปน ท่พี กั ของลกู เสอื ไดท ั้งหมู วิธีทํา หาไมส องทอนมาทําเสา ปกลงในดนิ ใหแ นน แลวเอาไมอ กี อันหนึง่ พาดทําเปนข่ือ เสรจ็ แลวใชถุงทีเ่ ยบ็ หรอื ผา ใบพาดกับขือ่ นัน้ ทป่ี ลายทงั้ สองขา งร้ังเชอื กกบั สมอบก การนาํ วสั ดุตา ง ๆ ท่ีหาไดใ นทอ งถิ่นจะงา ย สะดวกและประหยดั เพื่อเปน การสงเสริม และปฏิบัติตามแนวพระราชดําริเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา- ภูมพิ ลอดลุ ยเดช
191 รูปแบบเตน็ ทแ บบตา ง ๆ เตน็ ทแบบโดม เตน็ ทแ บบโครง เตน็ ทแ บบสามเหลี่ยม เตน็ ทแบบกระโจม
192 เตน็ ทแ บบก่ึงถุงนอน เตน็ ทแ บบอุโมงค ขอ ควรระวงั ในการกางเตน็ ท เมื่อตองการกางเต็นทหลายหลังเปนแนวเดียวกัน ข้ันแรกเล็งใหสมอบกและ เสาตนแรกของทกุ เต็นทอ ยใู นแนวเดียวกนั การกางเตน็ ทแ ตล ะหลงั ใหเล็งสมอบกตัวแรกเสาแรก เสาหลัง และสมอบกตัวหลังท้ัง 4 จุดอยูในแนวเดียวกันเสาทุกตนที่ยึดเต็นทจะตองต้ังฉากกับ พื้นเสมอหลังคาเต็นทจะตองไมมีรอยยน สมอบกดานขางของเต็นทแตละหลังจะตองเรียงกัน อยางเปนระเบียบ ถา เตน็ ทตึงไปอาจจะขาดได หรือถาหยอนเกินไปก็จะกันฝนไมได ซึ่งจะเปน สาเหตทุ ําใหนํ้าซมึ ไดง ายและถาหากลมพัดแรง อาจทาํ ใหเ ตน็ ทขาดได การผูกเต็นทควรใชเงื่อน ผูกรั้งเพราะสามารถปรบั ใหตงึ หยอนไดตามตอ งการ การดแู ลรกั ษาเตน็ ท การดูแลรักษาเต็นทใหมีอายุการใชงานที่ยาวนาน หลายคนอาจจะคิดวาเปน เรอ่ื งยาก ลองอานวิธกี ารเหลานด้ี ูแลวคณุ จะรูวา เต็นทด ูแลงา ยนิดเดยี ว 1. ฝกกางเต็นทใหถูกวิธี การที่คุณเรียนรูวิธีการกางเต็นทอยางถูกวิธี จะทําให เตน็ ทของคณุ ไมเกิดความเสียหาย เพราะบางคร้งั การกางเต็นทไมถูกวิธี อาจทําใหอุปกรณบางชิ้น เกิดความเสียหายได เชน อาจจะใสเสาเต็นทผิดอันทําใหเกิดความเสียหายเวลางอเสาเขากับ เต็นท เปนตน
193 2. อยาเกบ็ เต็นทข องคณุ ขณะทเ่ี ปย กถาไมจําเปน เพราะอาจจะทําใหเกิดกลิ่นอับได เราควรจะนําเต็นทมาผึ่งลมใหแหงกอนและนําเศษสิ่งสกปรกออกจากเต็นท แลวจึงปดซิปให เรยี บรอย 3. ไมควรใชสารเคมใี นการทําความสะอาดเต็นท เพราะสารเคมีเหลา นี้จะทาํ ลาย สารท่ีเคลือบเต็นทไว ควรใชแคผาชุบน้ําเช็ดก็พอ หามใชแปรงขัดเพราะแปรงจะทําใหสาร เคลือบหลดุ ออกเชน กนั 4. ใชผาพลาสติกปูรองพื้น ผารองพ้ืนจะใชปูรองพื้นกอนกางเต็นท ประโยชน คอื ชว ยปกปองตัวเตน็ ท จากหินและก่ิงไมอันแหลมคม ซ่ึงสิ่งเหลานี้อาจจะทําใหพ้ืนเต็นทเกิด ความเสียหายได และนอกจากน้ียังชวยลดเวลาในการทําความสะอาด เพราะเราเพียงแตทํา ความสะอาดที่ผาปเู ทาน้นั 5. ใชส มอบกปกเต็นท บางคนอาจคิดวาสมอบกไมจําเปน เพราะเต็นทสามารถ ทรงตวั ไดอยูแลว แตบางคร้ังเม่ือลมแรง เต็นทอาจจะมีการพลิกซ่ึงอาจจะทําใหเต็นทเสียหาย ถาชวงท่ีคุณกางเต็นทมีลมแรงควรจะนําสัมภาระเขาไปไวในเต็นท แลวปกสมอบกยึดไว ซ่ึง จะชว ยปอ งกันเตน็ ทพลิกจากแรงลมได 6. ใชอปุ กรณซอ มแซมเตน็ ทถาจําเปน หากเต็นทคุณเกิดการเสียหาย เชน ผนัง เต็นทมรี อยฉีกขาด ควรใชพวกผาเทปปดรอยขาดน้ันไว มิฉะน้ันรอยขาดน้ันจะใหญข้ึนเรื่อย ๆ (ลองคิดถึงเส้อื ผาที่ขาดดู ถาเรายงิ่ ดึงก็จะยิ่งขาดมากข้นึ ) อุปกรณซ อมแซมเต็นทสามารถหาซ้ือได ตามรานอปุ กรณท ว่ั ไป กิจกรรมทา ยเรื่องที่ 3 ชีวิตชาวคา ย (ใหผเู รยี นไปทํากจิ กรรมทายเรื่องที่ 3 ทสี่ มุดบันทึกกิจกรรมการเรียนรูประกอบชุดวิชา) เรือ่ งที่ 4 วิธีการจดั การคายพักแรม การจดั การคายพักแรม เปน การจัดวางผังการอยูค ายพกั แรม ลูกเสือจะตองสํารวจ คาดคะเนความเหมาะสมของพื้นท่ี แหลง น้ํา เสน ทางคมนาคม เพื่อไมใหเกิดความผิดพลาดในการ เลอื กสถานท่ีตง้ั คายและกางเต็นท กอนท่ีจะไปตั้งคายพักแรมนั้น ควรจะไดมีการศึกษาลักษณะพื้นที่ภูมิประเทศ ใหด ีเสยี กอ น โดยพจิ ารณาความเหมาะสมจากส่ิงตอไปนี้ 1. อยูบนทสี่ งู หรือเชิงเขา เวลาฝนตกมที างระบายนํา้ ออกอยา งรวดเร็ว ทาํ ใหไมมี น้ําขังในบริเวณคา ย หรอื มิฉะน้ันควรต้งั คายบริเวณท่เี น้อื ดนิ เปนดินปนทราย เพอื่ ใหน้ําดูดซึมได โดยรวดเร็ว 2. ไมค วรอยใู กลส ถานทีท่ ม่ี คี นพลุกพลา น เชน สถานทต่ี ากอากาศ 3. ไมควรอยูใกลถนนหรอื ทางรถไฟ เพราะอาจเกิดอบุ ัตเิ หตุกับลูกเสือได
194 4. ไมค วรอยูใกลต น ไมใ หญ เพราะเม่อื เกดิ ลมพายุอาจหกั โคน ลงมาทําใหเ กิด อันตรายได 5. สถานที่ตง้ั คา ย ควรมีนา้ํ ด่มื นา้ํ ใชเพียงพอ แตไ มควรอยูใกลแ มนํา้ ลาํ คลอง หนองหรือบงึ เพราะอาจเกิดอบุ ตั เิ หตกุ บั ลกู เสอื ได 6. สถานท่ตี ง้ั คาย ไมค วรอยูไ กลจากตลาดมากนกั ท้งั นี้ เพอ่ื สะดวกแกการไป ซอื้ กับขาว และไมค วรอยูไกลจากสถานีอนามยั มากนัก เพ่อื วาเกดิ การเจ็บปว ยหรอื เกิดอบุ ัติเหตุ รา ยแรง จะไดช ว ยเหลอื ไดท ันทวงที 7. ควรอยูในสถานที่ที่ปลอดภัยจากผูกอ การรา ย การวางผงั คา ยพกั แรม การวางผงั คา ยพักแรม คือการกาํ หนดตําแหนงทจ่ี ะสรา งเต็นท สุขาภบิ าล ครวั ราวตากผา ขน้ึ อยูก บั ความตอ งการ และความเหมาะสมของสถานท่ีนั้น ๆ รูปแบบการจดั คา ยหมลู ูกเสือ กิจกรรมทายเรอื่ งท่ี 4 วธิ กี ารจัดการคา ยพักแรม (ใหผ ูเรียนไปทํากิจกรรมทา ยเรอ่ื งที่ 4 ท่สี มุดบันทกึ กิจกรรมการเรียนรูประกอบชุดวิชา)
195 หนวยการเรียนรทู ่ี 13 การฝกปฏิบัตกิ ารเดินทางไกล อยูคา ยพักแรม และชีวิตชาวคา ย สาระสาํ คญั การฝกปฏิบัติการเดินทางไกล อยูคายพักแรม และชีวิตชาวคาย เปนการนํา ความรูจากการไดศึกษาบทเรียนภาคทฤษฎีไปสูการปฏิบัติ โดยมุงใหลูกเสือ สามารถวางแผน และปฏบิ ตั ิกิจกรรมการเดินทางไกล อยูคายพักแรมและชีวิตชาวคายทุกกิจกรรม คือ กิจกรรม เสริมสรางคุณธรรมและอุดมการณลูกเสือ กิจกรรมสรางคายพักแรม กิจกรรมชีวิตชาวคาย กิจกรรมทักษะลูกเสือ กิจกรรมกลางแจง กิจกรรมนันทนาการและชุมนุมรอบกองไฟ กิจกรรม นําเสนอผลงานตามโครงการท่ีไดดําเนินการมากอนการเขาคาย และสามารถใชชีวิตชาวคาย รวมกับผูอ่ืนในคา ยพกั แรมไดอ ยางสนกุ สนานและมีความสขุ ตวั ชว้ี ดั 1. วางแผนและปฏิบัตกิ จิ กรรมการเดินทางไกล อยคู า ยพักแรม และชีวิตชาวคา ย ทุกกิจกรรม 2. ใชชีวติ ชาวคายรว มกบั ผอู ื่นในคายพกั แรมไดอ ยา งสนกุ สนานและมีความสุข ขอบขายเนอ้ื หา เรอ่ื งท่ี 1 กจิ กรรมเสริมสรา งคณุ ธรรม และอดุ มการณลูกเสือ เร่ืองที่ 2 กจิ กรรมสรา งคา ยพกั แรม เร่อื งท่ี 3 กิจกรรมชีวิตชาวคาย เรือ่ งที่ 4 กจิ กรรมฝก ทักษะลูกเสอื เรื่องท่ี 5 กจิ กรรมกลางแจง เรอ่ื งท่ี 6 กิจกรรมนันทนาการ และชมุ นุมรอบกองไฟ เรอ่ื งท่ี 7 กจิ กรรมนาํ เสนอผลการดาํ เนินงาน ตามโครงการทไ่ี ดดาํ เนินการ มากอนการเขาคาย เวลาท่ใี ชในการศึกษา 40 ช่วั โมง สอ่ื การเรยี นรู 1. ชดุ วิชาลูกเสอื กศน. รหสั รายวิชา สค32035 2. สมุดบันทึกกิจกรรมการเรียนรูป ระกอบชุดวชิ า 3. ส่ือเสริมการเรยี นรูอ ื่น ๆ
196 เร่ืองท่ี 1 การวางแผนและปฏบิ ัตกิ จิ กรรมการเดนิ ทางไกลการอยคู า ยพักแรม และชีวติ ชาวคาย การเดินทางไกล ลูกเสือตองเตรียมความพรอมทุกดาน ท้ังทางรางกาย จิตใจ ความรู ความสามารถทักษะท่ีจําเปนในการให รวมท้ังการบรรจุเครื่องหลัง ซึ่งประกอบดวย เครื่องแตงกาย เครื่องใชป ระจําตัว ยาประจําตัว อุปกรณการเรียนรูและการจดบันทึกกิจกรรม อปุ กรณทีจ่ ําเปน ตามฤดกู าล อุปกรณเครอ่ื งนอนสว นตัว และอปุ กรณประจํากายลกู เสอื ลกู เสือและผบู ังคบั บญั ชาลกู เสือ รว มกนั วางแผนการการเดนิ ทางไกล โดยการสํารวจ เสนทางการเดินทาง ความปลอดภัยในการเขารวมกิจกรรม และกําหนดวัน เวลา สถานท่ี ใหเหมาะสม กําหนดบทบาทใหแตละคนในฐานะผูนํา ผูตาม ผูประสานงาน ผูควบคุม ผูรับผิดชอบรวมกัน ประชุมซักซอมความเขาใจที่ตรงกัน กําหนดนัดหมายที่ชัดเจน รัดกุม และปฏิบัตติ ามแผน การอยคู า ยพักแรม ตองมกี จิ กรรมการแสดงรอบกองไฟ เพื่อปลุกใจ และสงเสริม ความสามัคคีของหมูคณะ เปดโอกาสใหลูกเสือไดแสดงออก และรูจักกันมากยิ่งขึ้นซ่ึง บี.พี. ไดร ิเร่มิ ในการนําเด็กไปอยูคายพักแรมท่ีเกาะบราวนซี ประเทศอังกฤษ การชุมนุมรอบกองไฟ ภาษาอังกฤษ เรียกวา Camp Fire ในภาษาไทยเดิมมักเรียกกันวา การเลนหรือการแสดง รอบกองไฟ ซ่ึงความจรงิ การเลน หรอื การแสดง เปนเพียงสวนหนึง่ ของการชมุ นมุ รอบกองไฟ การชมุ นมุ รอบกองไฟ มคี วามมงุ หมาย ดงั นี้ 1. เพื่อเปน การฝกอบรมในตอนกลางคนื ดงั ที่ บี.พี. ไดใชเปนหลักในการฝกอบรม ผทู ่ไี ปอยคู า ยพกั แรม 2. เพือ่ ใหล ูกเสือไดรอ งเพลงรว มกัน หรือแสดงกิริยาอาการอยา งเดียวกัน 3. เพอื่ ใหล กู เสอื แตละหมไู ดม ีโอกาสออกมาแสดงรอบกองไฟ 4. ในบางกรณี อาจใชเ ปนโอกาสสําหรบั ประกอบพธิ ีสาํ คัญ 5. ในบางกรณีอาจเชิญบุคคลสําคัญในทองถ่ิน ตลอดจนชาวบานใหมารวมการ ชมุ นมุ รอบกองไฟ เพื่อเปนการประชาสมั พนั ธแ ละสง เสรมิ กิจการลูกเสอื การแสดงรอบกองไฟมขี อกาํ หนดบางประการ เพ่ือใหเกิดความเหมาะสม ไดแก 1) เรื่องที่จะแสดงควรเปนเร่ืองสนุกสนานขนบธรรมเนียมประเพณี ประวตั ิศาสตรเรอื่ งทเ่ี ปนคติเตือนใจ 2) เร่ืองที่ไมควรนํามาแสดง เชน เรื่องไรสาระ เรื่องผีสาง เร่ืองลามก เร่ืองอนาจาร เรื่องเสียดสีสังคม เร่ืองลอเลียนการเมือง เร่ืองหม่ินสถาบัน ชาติ ศาสนา และ พระมหากษตั ริย 3) การใชคาํ พดู และวาจาท่ีเหมาะสม คาํ สภุ าพคาํ ท่ีไมห ยาบคายคาํ ดาทอ 4) ชดุ การแสดง ควรเปน ชุดที่มคี วามเหมาะสมกับเร่ืองที่จะแสดงมีความ สุภาพสอดคลอ งกบั เน้ือเร่อื งทีแ่ สดง
197 แผนการปฏิบัตกิ ิจกรรมการเดนิ ทางไกล อยคู ายพกั แรม และชีวิตชาวคาย วนั – เวลา กจิ กรรม เวลา ขอบขา ยเนือ้ หา วนั ที่ 1 (นาท)ี 07.00 – 08.00 น. รายงานตวั /ลงทะเบียน 08.00 – 09.00 น. ปฐมนเิ ทศ ชี้แจงวัตถปุ ระสงคการเขา คา ย 60 กิจกรรมเสริมสรางคุณธรรม 09.00 – 10.00 น. พธิ ีเปดทางราชการ (ในหอประชมุ ) 60 กจิ กรรมเสริมสรา งอุดมการณ - กลา วรายงาน 60 กิจกรรมเสรมิ สรา งคณุ ธรรม 10.00 – 10.30 น. - ประธานกลา วเปด ใหโ อวาทและ ถวายราชสดุดี และอุดมการณลูกเสือ 10.30 – 11.15 น. พธิ ีเปด ทางการลูกเสือ (รอบเสาธง) 11.15 – 12.00 น. - ผอู าํ นวยการฝก อบรมกลาวตอ นรับ 30 กจิ กรรมเสริมสรา งอุดมการณ 12.00 – 13.00 น. - แนะนาํ คณะวิทยากร ลูกเสือ 13.00 – 13.30 น. วชิ าประวตั ิลูกเสอื ไทย 13.30 – 14.30 น. 45 กจิ กรรมเสริมสรางอุดมการณ 14.30 – 17.00 น. วชิ าประวตั ลิ ูกเสือโลก ลูกเสอื 17.00 – 18.00 น. 18.00 – 19.00 น. พกั รบั ประทานอาหารกลางวนั 45 กจิ กรรมเสริมสรางอุดมการณ นนั ทนาการ ลกู เสือ 19.00 – 19.30 น. วชิ าวินัย ความเปนระเบียบเรียบรอ ย 19.30 – 21.30 น. สัญญาณนกหวดี และระเบยี บแถว 60 กจิ กรรมชวี ติ ชาวคาย 21.30 น. วิชาชาวคาย 30 กจิ กรรมนันทนาการ ฐานท่ี 1 อปุ กรณ เคร่ืองมือ เคร่อื งใช 60 กจิ กรรมทักษะลูกเสือ ฐานท่ี 2 สขุ าภิบาล ฐานที่ 3 อุปกรณค รัว 150 กจิ กรรมสรางคา ยพกั แรม ฐานที่ 4 เต็นท 60 กจิ กรรมชีวติ ชาวคา ย ประกอบอาหารแบบชาวคาย 60 กิจกรรมชวี ิตชาวคาย ชกั ธงลง/รบั ประทานอาหาร ภารกิจสวนตัว 30 กจิ กรรมนันทนาการ นันทนาการ 120 กิจกรรมฝก ทกั ษะลกู เสอื พิธปี ระจํากองลูกเสือวิสามญั 30 กจิ กรรมเสริมสรา งคณุ ธรรม นัดหมาย สวดมนต เขา นอน
198 วัน – เวลา กิจกรรม เวลา ขอบขา ยเนือ้ หา (นาที) วันท่ี 2 ต่นื นอน ภารกิจสวนตวั 60 กจิ กรรมชีวติ ชาวคา ย 05.00 – 05.30 น. กายบริหาร/ระเบียบแถว/ประกอบ 60 กิจกรรมกลางแจง/ทกั ษะ 05.30 – 06.30 น. อาหาร 06.30 – 07.30 น. รบั ประทานอาหาร/ภารกิจสวนตวั ลูกเสือ 07.30 – 08.00 น. ตรวจเย่ียม 60 กจิ กรรมชวี ติ ชาวคา ย สายที่ 1 เคร่อื งแบบ ท่ีพกั สขุ าภบิ าล 30 กิจกรรมเสรมิ สรา งคุณธรรม 08.00 – 08.30 น. สายท่ี 2 เคร่ืองแบบ ที่พกั สุขาภิบาล สายบริการ (พเิ ศษ) ความสะอาด 30 กจิ กรรมเสริมสรา งอุดมการณ ความเรียบรอยรอบบริเวณ ลกู เสอื ประชมุ กองรอบเสาธง 30 กิจกรรมนันทนาการ 08.30 – 09.00 น. นันทนาการ 180 กิจกรรมเสรมิ สรา งอดุ มการณ 08.30 – 09.00 น. สาํ รวจชุมชน ลกู เสอื 12.00 – 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน 60 กจิ กรรมชวี ติ ชาวคา ย 13.00 – 13.30 น. นนั ทนาการ 30 กิจกรรมนันทนาการ 13.30 – 14.30 น. 60 กจิ กรรมฝกทกั ษะลกู เสอื 14.30 – 16.00 น. วชิ าแผนที่ – เขม็ ทิศ 90 กิจกรรมฝก ทักษะลกู เสือ กิจกรรมบุกเบกิ 16.00 – 17.00 น. - ผกู ประกบ 60 กจิ กรรมนันทนาการ 17.00 – 18.00 น. - ผกู กากบาท 60 และชุมนมุ รอบกองไฟ 18.00 – 19.00 น. - ผกู ทแยง 60 กจิ กรรมชวี ิตชาวคา ย การชุมนุมรอบกองไฟ (ทฤษฎ)ี ประกอบอาหารแบบชาวคาย กิจกรรมชีวิตชาวคาย ชกั ธงลง/รับประทานอาหาร/ภารกจิ กิจกรรมนันทนาการ สวนตัว 120 และชมุ นุมรอบกองไฟ 30 กจิ กรรมเสรมิ สราง 19.00 – 21.00 น. ชุมนมุ รอบกองไฟ (ปฏิบตั )ิ คุณธรรม 21.00 – 21.30 น. นัดหมาย สวดมนต เขา นอน
199 วัน – เวลา กิจกรรม เวลา ขอบขา ยเนือ้ หา (นาที) วนั ท่ี 3 ตื่นนอน ภารกิจสวนตัว 60 กิจกรรมชวี ติ ชาวคา ย 05.00 – 05.30 น. กายบริหาร/ระเบียบแถว/ประกอบ 60 กจิ กรรมกลางแจง/ทักษะ 05.30 – 06.30 น. อาหาร รับประทานอาหาร/ภารกิจสว นตัว ลูกเสอื 06.30 – 07.30 น. ตรวจเย่ียม 60 กจิ กรรมชวี ติ ชาวคาย 07.30 – 08.00 น. สายท่ี 1 เครือ่ งแบบ ท่ีพัก สขุ าภิบาล 30 กจิ กรรมเสริมสรา งคณุ ธรรม สายที่ 2 เครอ่ื งแบบ ท่ีพัก สขุ าภิบาล สายบริการ ความสะอาดบรเิ วณ 08.00 – 08.30 น. ประชุมกองรอบเสาธง 30 กิจกรรมเสรมิ สรางอุดมการณ ลูกเสอื 08.30 – 09.00 น. นันทนาการ 09.00 – 12.00 น. วิชาปฐมพยาบาล 30 กิจกรรมนันทนาการ 12.00 – 13.00 น. รบั ประทานอาหารกลางวนั 180 กจิ กรรมทกั ษะลกู เสือ 13.00 – 13.30 น. นันทนาการ 60 กิจกรรมชีวิตชาวคา ย 13.30 – 14.30 น. จติ อาสากับการสรางปณธิ านความดี 30 กจิ กรรมนันทนาการ ของลูกเสือ กศน. 60 กิจกรรมเสริมสรา งอุดมการณ 14.30 – 15.30 น. สรุปบทเรียนสะทอนความคดิ เห็น ประเมนิ ผล ลกู เสือ 15.30 – 16.30 น. พธิ ีปด การอบรม 60 กจิ กรรมนาํ เสนอผลการ - ในหอ งประชุม 16.30 น. - รอบเสาธง ดําเนินงานตามโครงการ เดนิ ทางกลบั 60 กจิ กรรมเสรมิ สรา งอดุ มการณ ลูกเสอื กจิ กรรมเสริมสรางอุดมการณ ลูกเสือ กิจกรรมทายเรื่องท่ี 1 การวางแผนและปฏบิ ัตกิ จิ กรรมการเดนิ ทางไกล การอยคู ายพกั แรม และชวี ติ ชาวคาย (ใหผ ูเ รียนไปทํากจิ กรรมทายเร่อื งท่ี 1 ท่ีสมดุ บันทกึ กิจกรรมการเรยี นรปู ระกอบชดุ วชิ า)
200 เร่อื งท่ี 2 การใชชีวิตชาวคา ยรวมกบั ผอู นื่ ในคายพกั แรม กจิ กรรมในคา ยพกั แรมมีหลากหลายมากมาย ไดแ ก กิจกรรมเสริมสรางคณุ ธรรม และอดุ มการณล ูกเสอื กจิ กรรมสรางคายพักแรม กิจกรรมชีวิตชาวคาย กิจกรรมทักษะลูกเสือ กิจกรรมกลางแจง กิจกรรมนันทนาการ และชุมนุมรอบกองไฟ ตลอดจนกิจกรรมนําเสนอ ผลการดําเนนิ งานตามโครงการพฒั นาชุมชนและสงั คม ซงึ่ ไดดาํ เนินการไวกอนการเขาคายพักแรม ซึ่งกจิ กรรมทง้ั หลายเหลานีไ้ ดกําหนดใหล กู เสือทกุ คน ทกุ หมู รวมกันคดิ แกปญหา รวมกันวางแผน ลองผิดลองถูกรวมกัน ตัดสินใจปฏิบัติรวมกันอยางมีความสุข และมีความภาคภูมิใจรวมกัน ซง่ึ กิจกรรมทกุ กจิ กรรมจะทําใหลูกเสอื ไดสัมผสั ประสบการณข องการผจญภัย การไดเพื่อน การได สมั ผัสกับธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ ม การไดห วั เราะอยางมคี วามสขุ และมคี วามสาํ เร็จสุขสมรว มกนั การใชชีวติ ชาวคา ย และการปฏิบตั ิกิจกรรมรว มกบั ผูอื่นในคายพกั แรม เปน การฝก ทกั ษะชีวติ ฝก ใหร ูจ ักความเอ้อื อาทร ความเขา ใจ รจู กั การใหอภัย รจู ักรูร ัก รูสามัคคี รูจักหนาที่ มีวินัย รูจักการปรับตัวเขาหากัน เพื่อการอยูรวมกันอยางมีความสุขในสถานการณที่คับขัน และมีขอจํากัดมากมาย ทําใหมีโอกาสพัฒนากระบวนความคิดจากการแลกเปล่ียนเรียนรู การทํางานเปนหมู ยอมรับบทบาท หนาที่ของกันและกัน พัฒนาความเปนผูนํา ผูตาม เสริมสรา งคณุ ธรรม จริยธรรม ความมีวินยั เพอื่ การเปน พลเมอื งดขี องสังคม กจิ กรรมทายเร่อื งท่ี 2 การใชช วี ติ ชาวคายรวมกบั ผูอื่นในคายพักแรม (ใหผ ูเ รยี นไปทาํ กจิ กรรมทา ยเรื่องท่ี 2 ท่ีสมุดบันทึกกจิ กรรมการเรียนรปู ระกอบชุดวชิ า)
201 บรรณานกุ รม กรมการแพทยก ระทรวงสาธารณสุข. คมู ือปฐมพยาบาลสาํ หรบั ประชาชน ฉบบั จติ อาสา เฉพาะกจิ ดา นการแพทย. พิมพครั้งที่ 1. กรุงเพทฯ : บริษทั โอ – วทิ ย (ประเทศไทย) จํากัด, 2560. กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (4 มีนาคม 2551). “พระราชบญั ญัติลูกเสอื พ.ศ.2551.” ราชกจิ จา นุเบกษา. 92(93). กวี พนั ธุมีเชาว. เงอ่ื นเชอื ก. พิมพค รงั้ ที่ 7. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ สกสค., 2555. คณะอนุกรรมการลูกเสอื ฝายฝกอบรม สาํ นกั งานคณะกรรมการบรหิ ารลูกเสอื แหงชาติ. คูมือ ฝก อบรมวชิ าผกู าํ กบั ลกู เสือวสิ ามญั ขนั้ ความรเู บือ้ งตน (B.T.C.). พมิ พครัง้ ที่ 3. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ สกสค.ลาดพราว, 2550. “จรยิ ธรรม”. [ออนไลน] . เขา ถึงไดจ าก : https://th.wikipedia.org/wiki/จรยิ ธรรม. (วนั ท่ีคน ขอมูล : 16 กุมภาพนั ธ 2561). ชนิ วรณ บุญยเกียรต.ิ ในสารานกุ รมลกู เสอื (เลม1, หนา ข). กรุงเทพฯ : ชมุ นมุ สหกรณ การเกษตรแหงประเทศไทย, 2554. เทวนิ ทร วารีศร.ี “วชิ าอุบัตเิ หตุและการปอ งกันอบุ ตั ิเหตุ”. [ออนไลน] . เขาถึงไดจาก : http://www.tawin.org. (วนั ท่ีคน ขอมูล : 6 กมุ ภาพันธ 2561). นุชจรยี ปดสวน. ประเภทเข็มทศิ ซิลวา. [ออนไลน]. เขา ถงึ ไดจาก : https://noppadonnie2222. wordpress.com (สวนประกอบของเขม็ ทิศซลิ วา). (วนั ที่คน ขอ มูล : 6 กมุ ภาพันธ 2561). บญุ ไสย มาตยนอก L.T..คมู ือลกู เสอื วิสามัญ 1 หลกั สูตรเครื่องหมายลกู เสือโลก. พิมพคร้งั ที่ 4.กรงุ เทพมหานคร : บี.พ.ี ที. บคุ แอนดป ร้ิน, 2554. พลเอก ดาวพ งษ รตั นสุวรรณ. องคมนตรี. แนวทางการพฒั นาเดก็ และเยาวชนโดยใช กระบวนการลูกเสอื . http://www.nidtep.go.th/webnidtep2015/files/nps7/ lecturer_whelp_43.pdf 22 มี.ค. 2560 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา เจา อยหู วั .[ออนไลน]. เขาถงึ ไดจาก : https://th.wikipedia.org/wiki/พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลาเจาอยูหวั . (วนั ที่คนขอมลู : 7 กมุ ภาพนั ธ 2561). เรืองชัย ทรพั ยนิรนั ดร “ลกู เสอื ” วิชาทท่ี รงโปรด. มติชนสุดสปั ดาห ฉบับวันที่ 9 - 15 ธันวาคม 2559 https://www.matichonweekly.com/column/article_17373 เผยแพรวันเสารท่ี 10 ธันวาคม พ.ศ.2559
202 วธิ กี ารผายปอด และการชวยหายใจ”. [ออนไลน] . เขาถึงไดจาก : https://www.honestdocs.co/ artificial-respiration-methods. (วันท่ีคน ขอ มูล : 8 กมุ ภาพนั ธ 2561). วิภาพร วรหาญ. การปฐมพยาบาลและการพยาบาลฉุกเฉนิ . พมิ พค รัง้ ที่ 13. ขอนแกน : ขอนแกน การพิมพ, 2552. ศูนยฝก อบรมปฐมพยาบาลและสุขภาพอนามัย สภากาชาดไทย. คูมอื ปฐมพยาบาลเบอ้ื งตน (Basic First Aid Manual). พิมพครง้ั ท่ี 6. นนทบรุ ี : บรษิ ทั เนช่นั ไฮย 1954 จาํ กดั , 2559. _______. คมู ือปฐมพยาบาลเบอื้ งตน (Basic First Aid Manual). พมิ พคร้งั ที่ 10. กรุงเทพฯ :บริษัท เซเวนพริ้นติ้ง กรปุ จาํ กดั .2552. _______. “โรคลมแดด”. [ออนไลน]. เขาถงึ ไดจาก : www.bangkokhealth.com/health/article/โรคลมแดด-638.(วนั ที่คนขอ มลู : 8 กมุ ภาพนั ธ 2561). สถาบันการพลศึกษา วทิ ยาเขตสพุ รรณบุรี. “อบุ ตั ิเหตจุ ากการจมนํ้าและการปอ งกนั ”. [ออนไลน]. เขาถึงไดจ าก : http://www.ipesp.ac.th/learning/supitcha/html/D3-3-7.html. (วนั ที่คน ขอ มลู : 8 กุมภาพนั ธ 2561). สภาลูกเสอื แหงชาติ. 90 ป ลูกเสอื ไทย. กรุงเทพ : โรงพิมพคุรุสภา. ลาดพราว, 2544. สมเด็จพระเจาอยูหวั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู ราโชบาย แนวทางปฏบิ ัติ 9 ขอ . [ออนไลน] . เขาถึงไดจาก : http//www.thairath. (วนั ที่คนขอ มูล : 8 กุมภาพนั ธ 2561). สมบตั ิ เดชบาํ รุง และประเสริฐ อนิ ทรรักษ. “ยุทธศาสตรก ารฟน ฟกู ิจการลกู เสอื ไทย”. วารสารวิชาการ Veridian E-Journal ปท ่ี 7 ฉบบั ที่ 2 เดอื น พฤษภาคม - สิงหาคม 2557. สมาคมวางแผนครอบครวั แหง ประเทศไทย. คูมือการจัดกิจกรรมลกู เสอื วิสามัญเสริมสรา ง ทกั ษะชวี ิต ช้ันมัธยมศึกษาปท ี่ 5 - 6 และ ปวช. 2 - 3. กรุงเทพฯ : สมาคม วางแผนครอบครัวแหง ประเทศไทย. 2559. สโมสรเสอื ปาแลลกู เสอื สยาม. ประวัติลกู เสอื โลก. [ออนไลน]. เขาถึงไดจ าก : http://k- rc.net/imageupload/22136/prawat.pdf. (วนั ทค่ี นขอ มลู : 4 มิถนุ ายน 2561) สํานักการลูกเสอื ยวุ กาชาด และกจิ กรรมนกั เรียน. กจิ กรรมลกู เสอื เพอื่ พฒั นา. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพช ุมนุมสหกรณก ารเกษตรแหง ประเทศไทย, 2554.
203 สํานกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. สํานักการลูกเสอื ยวุ กาชาด และกิจการนกั เรียน. เกณฑ การประเมนิ คณุ ภาพงานลกู เสอื ในสถานศกึ ษา. กรงุ เทพฯ : สกสค.ลาดพรา ว, 2551. _______. คมู ือการฝก อบรมหลักสตู รลกู เสอื ตา นภยั ยาเสพตดิ . [ออนไลน]. เขา ถึงไดจาก : http://202.29.215.172/sec6/gis/57000001/files/tbl_datagovform/20150 813161642KSoz8dh..pdf. (วันท่คี นขอ มูล : 4 มิถุนายน 2561) สาํ นกั งานกองทนุ สนบั สนุนการสรา งเสริมสุขภาพ (สสส.). คมู อื การจัดกิจกรรมลูกเสือ เสริมสรา งทกั ษะชวี ิต ประเภทลกู เสอื สามัญ หลกั สตู รลกู เสอื โท ชัน้ ประถมศกึ ษา ปท่ี 5 (ฉบบั ปรบั ปรุง 2559). [ออนไลน]. เขา ถงึ ไดจาก : http://resource.thaihealth.or.th/library/ musthave/15683. (วันท่ีคนขอ มูล : 8 กมุ ภาพนั ธ 2561). สํานกั งานคณะกรรมการบริหารลกู เสือแหงชาติ. คมู ือการฝก อบรมวชิ าผกู ํากบั ลกู เสอื สามญั รนุ ใหญ ข้นั ความรูเบื้องตน . กรงุ เทพฯ : โรงพิมพค รุ สุ ภาลาดพราว. 2525. _______. คมู อื การฝก อบรมวชิ าผกู ํากบั ลกู เสือสํารอง ข้นั ความรเู บ้อื งตน. กรงุ เทพฯ : โรง พิมพคุรสุ ภาลาดพรา ว. 2529. _______. คมู ือการฝก อบรมวิชาผกู าํ กับลกู เสือสามัญ ขน้ั ความรูเบอื้ งตน . กรุงเทพฯ : โรงพิมพค รุ ุสภาลาดพรา ว. 2532. _______. คมู ือการฝก อบรมผบู งั คับบญั ชาลกู เสือขนั้ ผูช ว ยผใู หการฝก อบรมวชิ าผกู าํ กบั ลกู เสอื . กรงุ เทพฯ : โรงพิมพครุ ุสภาลาดพรา ว. 2537. _______. ขอ บงั คับคณะลกู เสอื แหง ชาติ วา ดว ยการปกครอง หลักสตู รและวิชาพเิ ศษ ลูกเสอื สามญั รนุ ใหญ (ฉบบั ท่ี 14) พ.ศ.2528. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พคุรสุ ภา ลาดพราว. 2542. สาํ นกั งานคณะกรรมการบรหิ ารลูกเสอื แหงชาต.ิ (2542). สาํ นักงานคณะกรรมการบริหารลูกเสอื แหง ชาติ รว มกับ ฝา ยวชิ าการ กองการลูกเสือ กรมพลศกึ ษา . “คมู อื การจดั การฝก อบรมลกู เสอื วสิ ามัญ” สํานกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร สารานุกรมลูกเสือไทย 100 ปการลกู เสือไทย. กรุงเทพ. : โรงพมิ พชมุ นุมสหกรณก ารเกษตรแหงประเทศไทย จํากดั , 2554. เสถยี ร หมดุ ปน. การใชเขม็ ทศิ ซลิ วา Silva. [ออนไลน]. เขาถงึ ไดจาก : http://scout.bmk.in.th/map_asimut/silva.htm (รปู เขม็ ทิศแบบซิลวา). (วนั ที่ คนขอ มูล : 5 กมุ ภาพนั ธ 2561). สุภาพร จตรุ ภัทร และคณะ. “แนวทางการพัฒนาการลกู เสอื ไทยเพอ่ื สง เสรมิ ความเปน พลเมอื งด”ี . วารสารครุศาสตร ปที่ 82 ฉบับที่ 2 (เมษายน - มิถุนายน 2557) หนา 63 - 66.
204 สรุ เดช รอดจินดา. แนวทางการพฒั นากจิ กรรมลกู เสือในสถานศกึ ษา สังกดั สํานกั งานเขต พน้ื ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษานาน เขต 1. กรงุ เทพฯ : สาํ นักงานคณะกรรมการ การศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน. สเุ วศ กลบั ศรี. การพฒั นากิจกรรมลูกเสอื เพอ่ื สรา งภาวะผนู ําของเยาวชนไทย. ดษุ ฎีนพิ นธ ศึกษาศาสตรดุษฎบี ณั ฑิต (การบรหิ ารการศกึ ษา). นครราชสมี า : บณั ฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั วงษชวลติ กุล. 2556. องคการลูกเสอื โลก. หลกั การลูกเสือ.[ออนไลน]. เขา ถงึ ไดจาก : http://www.Scout.org/wso/ scout.html. (วนั ที่คน ขอมลู : 5 กุมภาพันธ 2561). อนุรัตน พันธศ ลิ ป. คมู ือการบรหิ ารกจิ การลกู เสอื . ปตตานี : สาํ นกั งานลกู เสือโรงเรยี นมา ยอ (สถิต ภูผา). มปป.
205 รายช่ือผเู ขา รว มประชมุ ปฏบิ ตั กิ ารจดั ทําตน ฉบบั ชดุ วชิ า รายวชิ าเลือกบังคบั และสมุดบนั ทกึ กจิ กรรมการเรยี นรู รายวชิ าลกู เสอื กศน. ทง้ั 3 ระดบั การศกึ ษา ระหวา งวนั ท่ี 5 – 9 กมุ ภาพนั ธ 2561 ณ โรงแรมนนทบรุ พี าเลซ จังหวดั นนทบรุ ี 1. นายกฤตชยั อรณุ รัตน เลขาธกิ าร กศน. 2. นางสาววิเลขา ลสี วุ รรณ รองเลขาธิการ กศน. 3. นางสรุ ีวลั ย ลมิ้ พิพฒั นกุล ผเู ชี่ยวชาญเฉพาะดา นมาตรฐานการศกึ ษา 4. นางรุงอรณุ ไสยโสภณ ผูอํานวยการกลมุ พัฒนาการศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั 5. นางสาววราภรณ ศริ ิวรรณ ขา ราชการบาํ นาญ 6. นางสาวเนาวเรศ นอ ยพานชิ ย ขาราชการบาํ นาญ 7. นายไพฑูรย ลศิ นันท ขา ราชการบํานาญ 8. นายเจริญศักด์ิ ดีแสน ผูอํานวยการศูนยวิทยาศาสตรเพ่ือการศึกษาลาํ ปาง 9. นายอนันต คงชุม รองผอู าํ นวยการ สํานกั งาน กศน. จังหวัดสุโขทยั 10. นายวรวุฒิ หุนมาตรา ผูอาํ นวยการ กศน.เขตคลองสาน กทม. 11. นางสาววมิ ลรัตน ภรู ิคุปต ผอู ํานวยการ กศน.เขตบางเขน กทม. 12. นางอบุ ลรัตน ชุณหพนั ธ ผอู ํานวยการ กศน.อาํ เภอเมืองจนั ทบุรี จงั หวดั จนั ทบุรี 13. นายไพโรจน กันทพงศ ผูอํานวยการโรงเรียนลาํ มหาเมฆ (ประชาราตรีอนสุ รณ) จังหวดั ปทุมธานี 14. วาท่รี อ ยตรี สุเมธ สุจริยวงศ รองผอู ํานวยการโรงเรียนงามมานะ (แผน - ทับอทุ ศิ ) 15. นายบวรวิทย เลศิ ไกร รองผอู ํานวยการโรงเรยี นศุภกรณว ทิ ยา 16. นายบันเทิง จนั ทรน ิเวศน โรงเรยี นบางมดวทิ ยา“สสี กุ หวาดจวนอปุ ถัมภ” 17. นางสาวสโรชา บรุ ศี รี เลขานกุ ารฯ สํานกั งาน ก.ค.ศ. 18. นายกฤตพัฒน นิชยั วรุตมะ สํานกั การลูกเสือ ยุวกาชาด และกิจการนักเรียน 19. นางกนกวรรณ น่มิ เจริญ สาํ นกั การลกู เสือ ยวุ กาชาด และกิจการนักเรียน 20. นายเอกสิทธ์ิ สวัสดวิ์ งค สาํ นักงานลกู เสอื แหง ชาติ 21. นายเอกชัย ลาํ เหลือ สํานกั งานลกู เสือแหงชาติ 22. นายศรัณยพงศ ขตั ิยะนนท กศน.อําเภอเมืองจันทบรุ ี จังหวัดจนั ทบรุ ี 23. นายขวญั ชยั เนยี มหอม กศน.อําเภอบา นนา จังหวัดนครนายก 24. นางสาววรรณพร ปทมานนท กลุมพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย
25. นางสาวเบญ็ จวรรณ อาํ ไพศรี 206 26. นางเยาวรัตน ปนมณีวงศ 27. นางสาวฐิติมา วงศบัณฑวรรณ กลมุ พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษา 28. นางกมลทพิ ย ชวยแกว ตามอธั ยาศัย 29. นางสาวสุจรยิ า พุมไสล กลมุ พัฒนาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา 30. นายจตรุ งค ทองดารา ตามอธั ยาศัย 31. นางสุกญั ญา กลุ เลิศพทิ ยา กลมุ พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษา 32. นายชัยวิชิต สารญั ตามอธั ยาศัย กลุมพฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอธั ยาศัย กลมุ พฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอัธยาศัย กลมุ พัฒนาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอธั ยาศัย กลุมพฒั นาการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศัย กลมุ พัฒนาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอัธยาศัย
207 รายชอ่ื ผเู ขา รว มประชุมปฏบิ ตั กิ ารบรรณาธกิ ารตน ฉบับชุดวิชา รายวิชาเลอื กบงั คบั และสมดุ บนั ทกึ กิจกรรมการเรยี นรู รายวิชาลกู เสอื กศน. ทัง้ 3 ระดับการศกึ ษา ครงั้ ท่ี 1 วนั ที่ 12 – 16 มนี าคม 2561 ณ หอั งประชุมอารีย กุลตณั ฑ อาคาร กศน.ช้นั 6 นางรงุ อรณุ ไสยโสภณ ผอู ํานวยการกลุมพัฒนาการศกึ ษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศยั นางสาววราภรณ ศริ ิวรรณ ขา ราชการบาํ นาญ นางสาวเนาวเรศ นอยพานชิ ขา ราชการบํานาญ นายเจรญิ ศกั ดิ์ ดีแสน ผูอาํ นวยการศนู ยว ทิ ยาศาสตรเพ่ือการศกึ ษาลาํ ปาง นายบันเทิง จันทรนิเวศน โรงเรยี นบางมดวทิ ยา “สีสุกหวาดอปุ ถมั ภ” นายขวญั ชัย เนียมหอม กศน.อาํ เภอบานนา จังหวดั นครนายก นายชัยวิชิต สารญั กลุมพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอัธยาศัย
208 รายชื่อผเู ขา รวมประชุมปฏบิ ตั กิ ารบรรณาธกิ ารตน ฉบบั ชดุ วชิ า รายวชิ าเลือกบงั คบั และสมุดบนั ทกึ กิจกรรมการเรยี นรู รายวชิ าลกู เสอื กศน. ทง้ั 3 ระดับการศกึ ษา ครัง้ ที่ 2 วนั ท่ี 26 – 30 มนี าคม 2561 ณ โรงแรมชลพฤกษ รีสอรท จงั หวดั นครนายก นางรุงอรณุ ไสยโสภณ ผูอ ํานวยการกลุมพฒั นาการศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศัย นางสาววราภรณ ศิริวรรณ ขา ราชการบํานาญ นางสาวเนาวเรศ นอยพานิช ขา ราชการบาํ นาญ นายเจรญิ ศักดิ์ ดแี สน ผูอาํ นวยการศนู ยวทิ ยาศาสตรเพอื่ การศึกษาลําปาง นายบันเทงิ จันทรนิเวศน โรงเรียนบางมดวทิ ยา “สสี ุกหวาดอุปถัมภ” นายขวญั ชัย เนียมหอม กศน.อาํ เภอบา นนา จงั หวดั นครนายก นายชยั วิชติ สารัญ กลมุ พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย
209 รายชื่อผเู ขา รวมประชมุ ปฏบิ ตั กิ ารบรรณาธกิ ารตน ฉบบั ชดุ วชิ า รายวชิ าเลอื กบงั คบั และสมดุ บนั ทึกกิจกรรมการเรยี นรู รายวชิ าลกู เสอื กศน. ท้ัง 3 ระดับการศกึ ษา ครั้งที่ 3 วันท่ี 7 – 9 พฤษภาคม 2561 ณ โรงแรมนนทบุรี พาเลซ นนทบรุ ี นางรงุ อรณุ ไสยโสภณ ผูอาํ นวยการกลุมพฒั นาการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย นางสาววราภรณ ศิรวิ รรณ ขา ราชการบาํ นาญ นางสาวเนาวเรศ นอ ยพานิช ขาราชการบํานาญ นางนพรัตน เวโรจนเสรวี งศ ขา ราชการบาํ นาญ
210 คณะผูจดั ทํา ที่ปรึกษา เลขาธิการ กศน. นายกฤตชัย อรณุ รัตน รองเลขาธิการ กศน. นางสาววเิ ลขา ลีสวุ รรณ ขา ราชการบํานาญ นางสาววราภรณ ศริ วิ รรณ ผูอ ํานวยการกลุมพฒั นาการศกึ ษานอกระบบ นางรงุ อรณุ ไสยโสภณ และการศึกษาตามอธั ยาศัย คณะทํางาน หัวหนา กลุมงานพัฒนาสื่อการเรยี นรู นายศภุ โชค ศรรี ตั นศิลป กลมุ พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กลมุ พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย นางสาวทพิ วรรณ วงคเ รือน กลุมพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั นางสาวชมพูนท สังขพ ชิ ัย กลุมพฒั นาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ผพู ิมพต นฉบบั กลุม พัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั นางสาวทิพวรรณ วงคเรอื น กลุมพฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย นางสาววยิ ะดา ทองดี กลมุ พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั นางสาวนภาพร อมรเดชาวฒั น กลุมพัฒนาการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั นางวรรณี ศรศี ริ วิ รรณกลุ กลมุ พัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย นางสาวชาลินี ธรรมธิษา กลมุ พัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั นางสาวชมพูนท สงั ขพ ชิ ยั นางสาวขวัญฤดี ลวิ รรโณ กลมุ พฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ผูออกแบบปก นายศภุ โชค ศรรี ัตนศิลป
1
2 สมุดบนั ทึกกิจกรรมการเรยี นรู้ ประกอบชุดวิชาลกู เสอื กศน. รหสั รายวชิ า สค32035 รายวิชาเลือกบงั คบั ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย ตามหลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 สานกั งานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศกึ ษาธิการ
3 คานา สมุดบันทึกกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบชุดวิชาลูกเสือ กศน. รหัสรายวิชา สค32035 รายวิชาเลือกบังคับ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลายน้ี เป็นสมดุ บันทึกสาหรับทากิจกรรม ที่กาหนดไว้ในชุดวิชา เพื่อให้ผู้เรียนได้ทดสอบ ความรู้ความเข้าใจ และฝึกทักษะประสบการณ์ ท่จี าเปน็ ในวิชาลกู เสือ กศน. กิจกรรมที่กาหนดจะช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียน มีประสิทธิภาพในการเรียนรู้เพ่ิมขึ้น ในแตล่ ะเร่อื ง โดยกิจกรรมจะประกอบด้วย 1. แบบทดสอบก่อนเรียน และแบบทดสอบหลงั เรยี น พร้อมเฉลยคาตอบ 2. กิจกรรมประเมินผลการเรียนรู้ จากหน่วยการเรียนรู้แต่ละหน่วยท่ีผู้เรียนได้ ศึกษามา ซึ่งกิจกรรมน้ีจะมีเฉลย แนวคาตอบกิจกรรมท้ายเรื่องให้ผู้เรียนได้ตรวจสอบได้ด้วย ตนเองทา้ ยเลม่ 2. กิจกรรมการนาความรไู้ ปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจาวัน 3. กจิ กรรมปฏิบัตแิ ละเก็บขอ้ มลู สถติ ิด้วยตนเอง 4. กจิ กรรมการค้นคว้าและแสดงความคิดเหน็ 5. กจิ กรรมทดลองปฏบิ ัตจิ ากวัสดุอุปกรณ์ที่หาไดจ้ ากทอ้ งถน่ิ สานักงาน กศน. หวังว่า เม่ือผู้เรียนได้ศึกษาจากชุดวิชา ลูกเสือ กศน. พร้อมได้ ทดสอบ ปฏิบัติกิจกรรม ตามคาแนะนาอย่างสมบูรณ์ครบถ้วนแล้ว ผู้เรียนจะประสบความสาเร็จ ในการศึกษาได้ สานักงาน กศน. มิถุนายน 2561
4 คาชี้แจงการใช้สมุดบันทึกกิจกรรมการเรยี นรู้ สมุดบันทึกกิจกรรมการเรียนรู้นี้ ใช้ควบคู่กับชุดวิชาลูกเสือ กศน. รหัสรายวิชา สค32035 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ให้ผู้เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนของชุดวิชาตามที่ กาหนด เพ่ือใหผ้ เู้ รยี นทราบความรพู้ ื้นฐาน และตรวจคาตอบจากเฉลยแบบทดสอบท้ายเล่มของ สมุดบันทึกกิจกรรมการเรียนรู้ หลังจากนั้นผู้เรียนศึกษาเนื้อหาในชุดวิชาลูกเสือ กศน. ท่ีมี จานวน 33 หน่วยการเรียนรู้ และให้ทากิจกรรมท้ายเรื่องของแต่ละหน่วยการเรียนรู้ลงใน สมดุ บนั ทึกกิจกรรมการเรยี นรู้นี้ ผู้เรียนสามารถตรวจคาตอบจากเฉลยท้ายเล่มของสมุดบันทึก กิจกรรมการเรียนรู้ หากผู้เรียนทากิจกรรมไม่ถูกต้องให้กลับไปทบทวนเนื้อหาสาระในเรื่องนั้น ให้เขา้ ใจ แล้วทากิจกรรมเรียนรซู้ ้าอีกครง้ั จนถกู ต้อง สาหรับหน่วยการเรียนรู้ที่ 33 เร่ืองการฝึกปฏิบัติการเดินทางไกล อยู่ค่ายพักแรม และชีวิตชาวค่าย เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมเข้าค่าย เพื่อฝึกทักษะ ประสบการณ์เกี่ยวกับลูกเสือ กศน. ฉะนั้น การประเมินกิจกรรมของหน่วยการเรียนรู้ที่ 33 ผ้เู รียนจะตอ้ งเขา้ รับการประเมินระหวา่ งการเขา้ ร่วมทุกกิจกรรม และเมื่อทากิจกรรมการเรียนรู้ ครบทุกหน่วยการเรียนรู้แล้ว ให้ทาแบบทดสอบหลังเรียน และตรวจคาตอบจากเฉลยท้ายเล่ม ของสมุดบนั ทึกกิจกรรมการเรยี นรู้ ในการทากิจกรรมการเรียนรู้นี้ ผู้เรียนต้องทากิจกรรมด้วยตนเองให้ครบถ้วน ทุกกิจกรรม เพ่ือให้การเรียนรู้ของผู้เรียนมีประสิทธิภาพประสิทธิผลบรรลุผลการเรียนรู้ ทค่ี าดหวงั ของชุดวิชาน้ี
5 สารบัญ หน้า คานา 1 คาชแ้ี จงการใช้สมดุ บันทกึ กจิ กรรมการเรยี นรู้ 7 สารบัญ 7 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 8 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลูกเสอื กบั การพฒั นา 9 11 กิจกรรมท้ายเรอื่ งท่ี 3 สาระสาคัญของการลกู เสือ กจิ กรรมทา้ ยเรอ่ื งท่ี 2 ความสาคญั ของการลูกเสอื กับการพัฒนา 14 กจิ กรรมทา้ ยเรอ่ื งท่ี 3 ลูกเสอื กับการพฒั นาความเป็นพลเมืองดี 14 กจิ กรรมท้ายเรื่องท่ี 4 การสารวจตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน และสงั คม 17 21 เพือ่ การพฒั นา 23 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 การลกู เสอื ไทย 22 22 กิจกรรมท้ายเรื่องที่ 3 ประวตั ิการลกู เสือไทย 24 กิจกรรมทา้ ยเรื่องที่ 2 ความรู้ท่ัวไปเกีย่ วกบั คณะลูกเสอื แห่งชาติ 24 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 การลกู เสอื โลก 26 กิจกรรมทา้ ยเรอ่ื งท่ี 3 ประวัตผิ ูใ้ ห้กาเนิดการลูกเสือโลก กจิ กรรมท้ายเรอ่ื งที่ 2 องค์การลกู เสือโลก 27 กิจกรรมท้ายเรือ่ งท่ี 3 ความสมั พนั ธร์ ะหว่างลูกเสือไทยกบั ลกู เสือโลก หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 คุณธรรม จรยิ ธรรมของลกู เสือ 29 กิจกรรมท้ายเรอื่ งท่ี 3 คาปฏิญาณ และกฎของลูกเสือ กจิ กรรมทา้ ยเรอ่ื งท่ี 2 คุณธรรม จรยิ ธรรม จากคาปฏญิ าณ และกฎของลกู เสือ กิจกรรมท้ายเรอ่ื งท่ี 3 การนาคาปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื ที่ใช้ ในชวี ติ ประจาวัน กิจกรรมท้ายเรื่องที่ 4 ความสัมพันธ์ระหวา่ งคุณธรรม จริยธรรมในคาปฏิญาณ และกฎของลกู เสือกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
6 สารบญั (ตอ่ ) หน้า หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 วนิ ัย และความเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย 32 กจิ กรรมท้ายเร่ืองท่ี 3 วินัย และความเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย 32 กิจกรรมทา้ ยเรื่องที่ 2 ผลกระทบจากการขาดวินัย 33 และขาดความเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย กิจกรรมทา้ ยเรอ่ื งท่ี 3 แนวทางการเสรมิ สร้างวินัย 34 และความเปน็ ระเบยี บเรียบร้อย กจิ กรรมท้ายเร่อื งท่ี 4 ระบบหมลู่ กู เสือ 35 กจิ กรรมท้ายเรือ่ งที่ 5 การพฒั นาภาวะผนู้ า – ผตู้ าม 38 40 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 6 ลกู เสือ กศน. กบั การพัฒนา 40 กจิ กรรมท้ายเรอ่ื งท่ี 3 ลูกเสือ กศน. 43 กิจกรรมทา้ ยเรอ่ื งที่ 2 ลกู เสอื กศน. กับการพัฒนา 42 กิจกรรมทา้ ยเรอ่ื งที่ 3 บทบาทหน้าที่ของลูกเสือ กศน. ท่ีมตี อ่ ตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน และสงั คม 43 กิจกรรมท้ายเรอ่ื งที่ 4 บทบาทหน้าทข่ี องลกู เสือ กศน. ทีม่ ีตอ่ สถาบนั หลักของชาติ 44 44 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 7 ลกู เสอื กศน. กับจิตอาสา และการบรกิ าร 45 กจิ กรรมท้ายเรื่องท่ี 1 จติ อาสา และการบรกิ าร 46 กิจกรรมท้ายเรื่องท่ี 2 หลักการของจติ อาสา และการบรกิ าร 47 กิจกรรมท้ายเรื่องท่ี 3 กจิ กรรมจิตอาสา และการให้บริการของลกู เสือ กศน. กจิ กรรมท้ายเรื่องที่ 4 การปฏิบัติตนในฐานะลูกเสือ กศน. เพือ่ เป็นจิตอาสา และการบรกิ าร
สารบญั (ตอ่ ) 7 หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 การเขยี นโครงการเพื่อพฒั นาชุมชนและสงั คม หน้า กจิ กรรมท้ายเรอ่ื งที่ 3 โครงการเพื่อพฒั นาชุมชนและสังคม กจิ กรรมท้ายเรื่องท่ี 2 ลักษณะของโครงการ 48 กิจกรรมทา้ ยเรอ่ื งท่ี 3 องคป์ ระกอบของโครงการ 48 กิจกรรมท้ายเรื่องท่ี 4 ข้นั ตอนการเขยี นโครงการ 49 กิจกรรมท้ายเรอ่ื งที่ 5 การดาเนนิ งานตามโครงการ 49 กจิ กรรมทา้ ยเรื่องท่ี 6 การสรุปรายงานผลการดาเนินงานโครงการ 50 เพื่อเสนอตอ่ ทป่ี ระชุม 53 52 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 9 ทกั ษะลกู เสือ กจิ กรรมท้ายเรื่องที่ 3 แผนที่ – เข็มทศิ 53 กิจกรรมทา้ ยเรื่องท่ี 2 วธิ ีการใชแ้ ผนท่ี – เข็มทศิ 53 กจิ กรรมท้ายเรื่องที่ 3 การใช้ Google Map และ Google Earth 54 กิจกรรมทา้ ยเรอ่ื งที่ 4 เง่ือนเชอื กและการผูกแน่น 55 57 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 10 ความปลอดภยั ในการเขา้ รว่ มกจิ กรรมลกู เสอื 59 กจิ กรรมทา้ ยเรอ่ื งท่ี 3 ความปลอดภัยในการเข้าร่วมกิจกรรมลูกเสอื 59 กิจกรรมทา้ ยเร่ืองที่ 2 หลักการ วิธกี ารในการเฝ้าระวังเบ้อื งต้น 59 ในการเขา้ รว่ มกิจกรรมลูกเสือ กจิ กรรมทา้ ยเรื่องที่ 3 การชว่ ยเหลือเมอ่ื เกิดเหตุความไมป่ ลอดภยั 60 ในการเข้าร่วมกจิ กรรมลกู เสอื กจิ กรรมท้ายเรื่องท่ี 4 การปฏิบตั ติ นตามหลักความปลอดภยั 62 63 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 11 การปฐมพยาบาล 63 กิจกรรมท้ายเรื่องที่ 3 การปฐมพยาบาล 64 กจิ กรรมท้ายเรอ่ื งที่ 2 วธิ ีการปฐมพยาบาลกรณตี า่ ง ๆ 66 กิจกรรมท้ายเรื่องที่ 3 การวัดสัญญาณชพี และการประเมินเบอื้ งตน้ 67 กจิ กรรมท้ายเรื่องที่ 4 วธิ ีการช่วยชวี ติ ขน้ั พืน้ ฐาน
8 สารบญั (ตอ่ ) หน้า หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 12 การเดนิ ทางไกล อย่คู ่ายพกั แรม และชีวิตชาวค่าย 69 กิจกรรมท้ายเรอ่ื งท่ี 3 การเดินทางไกล 69 กิจกรรมทา้ ยเรอ่ื งที่ 2 การอยคู่ า่ ยพกั แรม 73 กิจกรรมท้ายเรื่องท่ี 3 ชวี ิตชาวคา่ ย 73 กจิ กรรมทา้ ยเรื่องที่ 4 วธิ ีการจดั การค่ายพกั แรม 76 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 13 การฝึกปฏิบัติการเดินทางไกล อย่คู า่ ยพักแรม 78 และชวี ติ ชาวคา่ ย กจิ กรรมท้ายเรื่องท่ี 3 การวางแผนปฏิบตั กิ ิจกรรมการเดนิ ทางไกล 78 อยคู่ า่ ยพกั แรม และชวี ติ ชาวค่าย 1) กิจกรรมเสรมิ สรา้ งคณุ ธรรม และอดุ มการณล์ ูกเสือ 2) กจิ กรรมสร้างคา่ ยพักแรม 3) กิจกรรมชวี ติ ชาวค่าย 4) กิจกรรมฝึกทกั ษะลูกเสือ 5) กิจกรรมกลางแจง้ 6) กจิ กรรมนนั ทนาการ และชุมนุมรอบกองไฟ 7) กจิ กรรมนาเสนอผลการดาเนนิ งาน ตามโครงการทไ่ี ด้ ดาเนินการมากอ่ นการเข้าค่าย กิจกรรมทา้ ยเร่อื งท่ี 2 การใช้ชวี ิตชาวค่ายรว่ มกับผอู้ ่ืนในคา่ ยพกั แรม 78 แบบทดสอบหลังเรยี น 79 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 85 เฉลย/แนวคาตอบกจิ กรรมท้ายเร่ือง 86 เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น 134 คณะผ้จู ัดทา 140
1 แบบทดสอบก่อนเรียน คาชีแ้ จง จงทาเครื่องหมาย หนา้ ขอ้ ท่ถี กู ตอ้ งทส่ี ุด 3. อดุ มการณ์ของการลูกเสอื ทวั่ โลก หมายถงึ ข้อใด ก. การพฒั นาศกั ยภาพชมุ ชน ข. การพฒั นาศกั ยภาพสงั คม ค. การพัฒนาศักยภาพครอบครวั ง. การพฒั นาศกั ยภาพบุคคลใหเ้ ป็นพลเมืองดี 2. แนวทางการพฒั นาลกู เสือ หมายถงึ ข้อใด ก. ฝกึ ใหม้ คี วามซ่ือสัตย์สุจรติ ข. ฝึกให้รจู้ กั การบาเพญ็ ประโยชน์ ค. ฝึกให้มคี วามรอบคอบ ช่างสังเกต ง. ถกู ทุกข้อ 3. การพัฒนาสัมพนั ธภาพระหว่างบุคคล หมายถึงขอ้ ใด ก. การพัฒนาความผกู พนั ระหวา่ งชมุ ชน ข. การเริม่ ตน้ ทาความรู้จักกับบคุ คลในชมุ ชน ค. การเสริมสร้างความสมั พันธ์ระหว่างชมุ ชนและสังคม ง. การทาความรู้จกั ความผูกพันกบั คนต้งั แต่ 2 คนข้ึนไป 4. วนั สถาปนาลูกเสือไทย หมายถึงขอ้ ใด ก. 3 เมษายน 2454 ข. 3 พฤษภาคม 2454 ค. 3 มถิ นุ ายน 2454 ง. 3 กรกฎาคม 2454 5. กิจการลกู เสอื ในยคุ ปจั จุบัน หมายถึงข้อใด ก. รชั สมัยของรชั กาลท่ี 30 ข. รัชสมยั ของรัชกาลที่ 9 ค. รัชสมยั ของรัชกาลท่ี 6 ง. รชั สมัยของทุกรัชกาล
2 6. บรรดาลกู เสอื ทัง้ ปวง หมายถงึ ขอ้ ใด ก. ลกู เสือชาวบ้าน/ลูกเสอื ไซเบอร์ ข. ลูกเสอื ในโรงเรยี น/ลูกเสือสารอง/ลูกเสือจราจร ค. ลูกเสอื หลกั สูตรพิเศษ/ลูกเสอื ปา่ ไม/้ ลูกเสือสามัญ ง. ลกู เสือในโรงเรยี น/ลกู เสอื หลกั สตู รพิเศษ/ลกู เสอื ชาวบา้ น/ลกู เสอื นอกโรงเรยี น 7. ประมขุ ของคณะลกู เสือแห่งชาติ หมายถึงข้อใด ก. พระมหากษตั รยิ ์ ข. นายกรฐั มนตรี ค. ผวู้ า่ ราชการจังหวัด ง. รฐั มนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 8. กองลูกเสือกองแรกของโลกต้ังขนึ้ ทปี่ ระเทศใด ก. ประเทศองั กฤษ ข. ประเทศรสั เซยี ค. ประเทศฝร่ังเศส ง. ประเทศฮอลันดา 9. ค่ายพกั แรมแหง่ แรกของโลก หมายถงึ ขอ้ ใด ก. เกาะองั กฤษ ข. เกาะบราวน์ซี ค. เกาะกรีนแลนด์ ง. เกาะไอซแ์ ลนด์ 30. ความสาคัญขององคก์ ารลูกเสือโลก หมายถงึ ขอ้ ใด ก. มีหน้าทจี่ ัดประชุมสมาชิกสภาลกู เสือโลก ข. มีหนา้ ท่ตี ิดตามดูแลกจิ การลูกเสอื ของทกุ ประเทศ ค. มีหน้าทจ่ี ดั งานชุมนมุ ลกู เสือภาคพน้ื เอเชยี - แปซฟิ กิ ง. มีหน้าทีร่ กั ษา ดารง และส่งเสรมิ กิจการลูกเสือท่ัวโลก
3 33. ข้อใดไม่ใช่คาปฏญิ าณของลกู เสือ ก. ข้าจะช่วยเหลอื ผอู้ น่ื ทกุ เม่ือ ข. ข้าจะปฏบิ ตั ิตามกฎของลกู เสอื ค. ข้าจะประพฤติชอบดว้ ยกาย วาจา ใจ ง. ข้าจะจงรกั ภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษตั รยิ ์ 32. ข้อใดคอื กฎของลกู เสือ ก. ลกู เสอื บรกิ าร ข. ลูกเสือมีจิตอาสา ค. ลกู เสอื มเี กยี รตเิ ชอ่ื ถอื ได้ ง. ลกู เสอื ชว่ ยเหลอื ผูอ้ ่ืนทกุ เม่อื 33. “พอประมาณ” ในปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งตรงกบั กฎของลกู เสือ หมายถงึ ขอ้ ใด ก. ลูกเสือเปน็ ผู้มัธยัสถ์ ข. ลูกเสือเป็นผู้มีใจร่าเรงิ ค. ลูกเสอื เปน็ ผมู้ ีความเรยี บร้อย ง. ลกู เสือเป็นผูม้ เี กยี รติเชอ่ื ถือได้ 34. สมชายเปน็ ลกู เสือท่ีแต่งกายสุภาพ มจี ติ ใจงดงาม และพดู จาไพเราะอยู่เสมอ พฤติกรรมของ สมชายตรงกับกฎของลูกเสอื ขอ้ ใด ก. ลกู เสอื มีเกยี รติ ข. ลกู เสอื มีจติ ใจรา่ เริง ค. ลกู เสอื เป็นผู้สภุ าพเรยี บร้อย ง. ลูกเสือประพฤติชอบดว้ ยกาย วาจา ใจ 35. คุณธรรมทกี่ ่อให้เกิดความเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อยของสังคม หมายถึงข้อใด ก. ความมวี นิ ัย ข. ความซื่อสตั ย์ ค. ความเอือ้ อาทร ง. ความรบั ผิดชอบ
4 36. ผู้ปฏบิ ตั ิตนตรงตอ่ เวลา มคี วามเก่ียวขอ้ งกับข้อใด ก. เป็นผู้มวี นิ ยั ข. เป็นผู้มีความรับผดิ ชอบ ค. เป็นผมู้ คี วามเสียสละ ง. เปน็ ผู้มคี วามอดทน 37. ผู้ที่เข้าแถวตอ่ ควิ ผูอ้ น่ื หมายถงึ ข้อใด ก. ผมู้ วี นิ ยั ข. ผู้มีความอดทน ค. ผู้มคี วามประพฤตดิ ี ง. ผ้มู คี วามเป็นระเบียบเรยี บร้อย 38. ส่ิงใดที่จาเปน็ ท่ีสุดเมื่อเราหลงป่าอยู่กลางป่า คือขอ้ ใด ก. แผนท่ี ข. เข็มทิศ ค. อาหาร ง. นา้ ดืม่ 39. ในแผนทสี่ ญั ลกั ษณ์ หมายถึงอะไร ก. เส้นชยั ข. คา่ ยทหาร ค. ค่ายลูกเสือ ง. สถานศกึ ษา 20. ขอ้ ใดไม่ใช่ปั๊มทใ่ี กล้ท่ีสดุ ในการหาข้อมลู จาก GPS ก. ป๊มั แก๊ส NGV, LPG ข. ปม๊ั นา้ มนั E20, E80 ค. ปม๊ั น้ามันปิโตรเลยี ม ง. ปม๊ั เตมิ พลงั งานไฟฟ้า
5 23. มุมมอง 2D บนโปรแกรม Google Earth ได้ภาพทีเ่ หมือนมมุ มองใด บน Google Map ก. Google Map hybrid ข. Google Map satellite ค. Google Map terrain ง. Google Map 22. ทักษะทส่ี าคัญของผใู้ ช้เขม็ ทศิ คือข้อใด ก. การใชเ้ ขม็ ทิศ กาหนดเป้าหมาย ข. การคน้ หาทศิ เหนอื โดยไม่ใชเ้ ขม็ ทิศ ค. การจบั เขม็ ทศิ และการเคล่ือนท่ีพรอ้ มเขม็ ทศิ ง. การอ่านมุมจากเข็มทศิ และการปรบั มุมที่ถกู ต้อง 23. เม่ือกาหนดเป้าหมายปลายทางจากมมุ ท่เี ราตงั้ ไว้กับเขม็ ทศิ แลว้ เราจะเดินโดยอาศัย เครื่องหมายอะไรบนเขม็ ทิศ ก. ลูกศรช้ที าง ข. เขม็ ทศิ เหนอื ค. เขม็ ก้างปลาทชี่ ไ้ี ป ง. ทิศทีเ่ ขม็ ก้างปลาซ้อนกับเข็มทิศ 24. สาหรับลูกเสือ “เชือก” มีประโยชนอ์ ยา่ งไร ก. เอาไว้ล่าสตั ว์ ข. เอาไวใ้ ช้ปฐมพยาบาล ค. เอาไวส้ ร้างฐานผจญภยั ง. เอาไว้ทากจิ กรรมเงือ่ นเชือก 25. หากเราจะผกู ปากถงุ ขยะ ควรใชเ้ งือ่ นใด ก. เงอ่ื นพริ อด ข. เงื่อนขดั สมาธิ ค. เง่อื นตะกรดุ เบ็ด ง. เงอื่ นบ่วงสายธนู
6 26. เงื่อนเชอื กท่ีเปน็ สญั ลักษณใ์ นเคร่ืองหมายลูกเสือโลก คือข้อใด ก. เงอ่ื นพริ อด ข. เง่อื นขดั สมาธิ ค. เงื่อนตะกรดุ เบ็ด ง. เง่อื นบว่ งสายธนู 27. การปฐมพยาบาล หมายถึงข้อใด ก. การช่วยใหค้ นเจบ็ มีกาลังใจดีข้นึ ข. การช่วยให้ผูบ้ าดเจ็บมีสุขภาพแขง็ แรง ค. การเตรยี มอุปกรณช์ ่วยเหลือผูบ้ าดเจบ็ ง. การช่วยบรรเทาเบอื้ งตน้ แก่ผ้ไู ด้รับบาดเจบ็ 28. ผู้ป่วยเป็นลมแดด ควรไดร้ บั การปฐมพยาบาลท่ีถกู ตอ้ งท่สี ุด คือขอ้ ใด ก. จดั ให้นอนหงาย ข. ให้ดมแอมโมเนยี ค. ขยายเครื่องแตง่ กาย ง. เชด็ ตวั ดว้ ยผ้าชบุ นา้ เยน็ 29. ขอ้ ควรคานึงในการสร้างมาตรการป้องกันความปลอดภยั ให้ผู้อยู่คา่ ยพักแรม คือข้อใด ก. อบุ ัติเหตุจากการเดนิ ทางบนพ้ืนทล่ี าดเอียง ข. ความปลอดภยั เมอื่ อยู่ใกล้ต้นไมใ้ หญ่ ค. ระยะเวลาและฤดกู าลในการทจ่ี ะเขา้ ค่ายพกั แรม ง. ควรคานงึ ถงึ ขอ้ มลู ทุกข้อท้ัง ก ข และ ค 30. ในการอยคู่ ่ายพกั แรมของลกู เสือ กศน. จะทาให้ลกู เสือสว่ นใหญ่ร้สู กึ ปลอดภัย ในการอยู่ร่วมกัน คอื ข้อใด ก. มาตรการท่ีเปน็ มาตรฐาน ข. ให้มเี วรยามรกั ษาความปลอดภยั ค. ควรมกี ารเปดิ ประชมุ กองทุกวนั ง. ต้องมเี กมใบแ้ ละรอบกองไฟ
7 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 ลกู เสอื กบั การพัฒนา กิจกรรมท้ายเรอื่ งที่ 1 สาระสาคัญของการลกู เสอื คาชีแ้ จง ใหผ้ ู้เรยี นอธบิ ายสาระสาคัญของการลกู เสือ ดงั ต่อไปน้ี 3. วตั ถุประสงค์ของการพัฒนาลูกเสือ 2. หลกั การสาคัญของการลูกเสือ 1. วัตถปุ ระสงค์ของการพัฒนาลูกเสือ ......................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. หลกั การสาคญั ของการลูกเสอื ......................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................
8 กจิ กรรมทา้ ยเรอื่ งที่ 2 ความสาคัญของการลกู เสอื กบั การพัฒนา คาช้ีแจง ใหผ้ เู้ รียนอธิบายความสาคัญของการลกู เสือกับการพฒั นา ในประเดน็ ต่อไปน้ี 3. ลูกเสือกับการพฒั นาตนเอง 2. ลูกเสือกับการพฒั นาสมั พนั ธภาพระหว่างบุคคล 3. ลูกเสือกบั การพฒั นาสัมพันธภาพภายในชมุ ชนและสังคม 3. ลูกเสือกับการพฒั นาตนเอง ......................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. ลกู เสือกับการพฒั นาสมั พันธภาพระหวา่ งบุคคล ......................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................
9 3. ลกู เสือกบั การพฒั นาสมั พนั ธภาพภายในชุมชนและสงั คม ......................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... กิจกรรมทา้ ยเรอ่ื งที่ 3 ลกู เสอื กบั การพัฒนาความเปน็ พลเมอื งดี คาชี้แจง 3.3 ให้ผเู้ รยี นยกตวั อย่างความเป็นพลเมืองดใี นทัศนะของการลูกเสือ ในประเดน็ ต่อไปน้ี ท่ี ประเดน็ ยกตัวอยา่ งของความเปน็ พลเมอื งดี 3. มคี วามจงรักภกั ดีต่อชาติ ศาสนา …………………………………………………………………………. พระมหากษัตริย์ …………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… 2. มเี กียรตเิ ช่ือถอื ได้ …………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382