110 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 ลูกเสือ กศน. กบั จิตอาสา และการบรกิ าร กจิ กรรมทา้ ยเรอ่ื งที่ 1 จติ อาสา และการบริการ คาชแ้ี จง ใหผ้ ้เู รียนอธิบายความหมาย ความสาคญั ของจิตอาสา และการบรกิ าร ดังตอ่ ไปน้ี 1. ความหมายและความสาคัญของจิตอาสา 2. ความหมายและความสาคัญของการบริการ 1. ความหมายและความสาคญั ของจิตอาสา ตอบ จิตอาสา หมายถึง จิตสานึกเพ่ือส่วนรวมของตนท่ีรู้จักความเสียสละ เอาใจใส่ เป็นธุระ ให้ความร่วมมือร่วมใจ การกระทาประโยชน์เพ่ือส่วนรวม เพื่อช่วยกันพัฒนาคุณภาพ ชวี ติ และปรารถนาที่จะช่วยลดปัญหาทเ่ี กิดขนึ้ ในสังคม จิตอาสามีความสาคัญ เพราะเป็นการทาประโยชนเ์ พื่อสังคม โดยใช้คุณธรรมเป็นหลัก เร่ิมจากตนเอง ครอบครัวและสังคม 2. ความหมายและความสาคัญของการบริการ ตอบ การบริการ หมายถงึ การใหค้ วามชว่ ยเหลอื หรือการบาเพ็ญประโยชนต์ อ่ ตนเอง ตอ่ ผู้อ่นื และต่อชุมชน มีการลงมอื ปฏิบัตอิ ยา่ งจริงจงั การบริการมีความสาคัญ เพราะ เป็นการพัฒนาจิตใจให้อยู่ในศีลธรรม ไม่เอารัด เอาเปรยี บผู้อื่น รูจ้ กั การเสียสละ เพอื่ บาเพญ็ ประโยชนแ์ ก่ผอู้ ่ืน โดยมุ่งหมายใหส้ งั คมสามารถ ดารงอยู่ไดโ้ ดยปกติ
111 กจิ กรรมทา้ ยเร่อื งท่ี 2 หลกั การของจิตอาสา และการบริการ คาชแ้ี จง ใหผ้ ูเ้ รยี นอธิบายหลักการของจิตอาสา และการบริการ ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. หลกั การของจิตอาสา 2. หลกั การของการบรกิ าร 1. หลกั การของจิตอาสา ตอบ หลกั การของจิตอาสา ประกอบดว้ ย 3. การกระทาของตนเองที่มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ในการป้องกันไม่ให้เกิด ผลกระทบและความเสียหายต่อส่วนรวม ได้แก่ การมีวินัยในตนเอง การควบคุมอารมณ์และ พฤติกรรม การเช่อื ฟงั คาสง่ั 2. การกระทาของตนเองที่มีต่อสังคม ในการรักษาประโยชน์ของส่วนรวม เพ่ือแก้ปัญหา สร้างสรรค์สังคม ถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม ได้แก่ การเคารพสิทธิผู้อ่ืน การรับฟังความคิดเหน็ ของผูอ้ ่นื การชว่ ยเหลอื ผู้อืน่ 2. หลกั การของการบรกิ าร ตอบ หลักการของการบริการ ประกอบดว้ ย 3. ใหบ้ ริการอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ หรอื มที กั ษะในการบรกิ าร เชน่ การปฐมพยาบาล 2. ให้บริการด้วยความสมัครใจ เต็มใจ 3. ใหบ้ รกิ ารแกผ่ ูท้ ต่ี ้องการรบั บรกิ าร ผถู้ ูกทอดทง้ิ คนปว่ ย คนชรา 4. ให้บริการดว้ ยความองอาจ ตง้ั ใจ มน่ั ใจ มีความรับผิดชอบ กิจกรรมท้ายเร่อื งท่ี 3 กิจกรรมจติ อาสา และการบริการของลูกเสือ กศน. คาชแี้ จง ให้ผูเ้ รียนไปสารวจสภาพความเป็นอยูข่ องชมุ ชน พรอ้ มทงั้ วิเคราะห์ว่ามสี ภาพ ความเป็นอยใู่ ดบา้ งท่ีลกู เสอื กศน. สามารถลงมือทากจิ กรรมจติ อาสาและการบรกิ าร ในชมุ ชนน้นั พร้อมยกตวั อยา่ งกจิ กรรมจิตอาสา และการบริการ สภาพความเปน็ อยทู่ ส่ี ารวจได้ ตัวอยา่ งกิจกรรมจติ อาสาและการบริการ บริเวณลานวดั มีใบไม้แหง้ และมูลสัตว์ กวาดลานวัด ทาความสะอาดลานวดั อยมู่ ากมาย หอ้ งนา้ โรงเรียนไมส่ ะอาดและผพุ งั ทาความสะอาดและซ่อมบารงุ
112 สภาพความเป็นอยู่ทสี่ ารวจได้ ตัวอย่างกิจกรรมจิตอาสาและการบรกิ าร มีผสู้ ูงอายุเฝา้ บ้านตามลาพัง จัดทากจิ กรรมนนั ทนาการใหผ้ ู้สงู อายุให้มี ความสขุ เชน่ การออกกาลงั กาย รอ้ งเพลง มงี านประเพณีในหมู่บ้าน บรกิ ารน้าดืม่ บรกิ ารจราจร บริการยกของหนัก กจิ กรรมท้ายเรือ่ งที่ 4 การปฏบิ ัตติ นในฐานะลกู เสอื กศน. เพอื่ เป็นจิตอาสา และการบริการ คาชแ้ี จง ใหผ้ เู้ รียนอธิบายการปฏิบตั ติ นในฐานะลกู เสือ กศน. เพื่อเป็นจติ อาสา และการบริการ ในประเด็นตอ่ ไปน้ี ประเด็น การปฏบิ ตั ติ นในฐานะลกู เสือ กศน. 3. การเป็นจิตอาสา การปฏิบัติตนเพอื่ เปน็ จติ อาสา มีดังนี้ 2. การบรกิ าร 3. มีความรับผิดชอบตอ่ ตนเอง เชน่ ตั้งใจ ใฝห่ าความรู้ ออกกาลังกาย เพื่อสุขภาพแข็งแรง ประพฤติตัวให้เหมาะสม ทางานท่ีรบั มอบหมาย ให้สาเร็จ มีความรบั ผิดชอบ ตรงเวลา 2. มีความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม เชน่ 2.1 เช่ือฟงั พ่อแม่ ไมท่ าใหพ้ ่อแม่เสียใจ ชว่ ยเหลืองานบา้ น 2.2 หากเป็นผู้เรียนจะตอ้ งตัง้ ใจเลา่ เรียน เช่ือฟงั คาสัง่ สอนของครบู าอาจารย์ ปฏบิ ัติ ตามกฎ ระเบยี บวินัยของสถานศกึ ษา 2.3 ชว่ ยเหลอื ใหค้ าแนะนา ไม่เอาเปรียบ ผอู้ ่ืน เคารพสทิ ธซิ ง่ึ กนั และกัน 2.4 ปฏบิ ัตติ ามกฎ ระเบียบของสงั คม ตามกฎหมาย การปฏิบตั ติ นเพื่อการบริการ มีดงั นี้ 3. เตรียมตนเองให้พรอ้ มท่ีจะให้บริการแก่ผู้อื่น 2. ให้บริการแก่หมู่คณะ 3. ให้บริการแก่ชุมชน สังคม
113 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 8 การเขียนโครงการเพ่อื พฒั นาชุมชนและสงั คม กิจกรรมทา้ ยเร่ืองที่ 1 โครงการเพ่อื พัฒนาชุมชนและสังคม คาชแ้ี จง ให้ผ้เู รียนตอบคาถามต่อไปนี้ 3. โครงการ คืออะไร 2. โครงการมีความสาคญั อย่างไร 3. โครงการ คืออะไร ตอบ โครงการ คอื การดาเนินงานหรอื กิจกรรมท่ีไม่เป็นงานประจา มกี ารดาเนนิ งานใน เวลาใดเวลาหน่ึง มีการกาหนดระยะเวลา งบประมาณ ทรัพยากร การบริหารงาน มีการ ออกแบบแนวทางการดาเนนิ งานทเ่ี ฉพาะเจาะจง มุ่งตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มบุคคล ชมุ ชน และสังคม 2. โครงการมีความสาคญั อยา่ งไร ตอบ โครงการมคี วามสาคญั ดังนี้ 1. ช่วยให้การดาเนินงานสอดคล้องกับงานท่ีจะทา 2. ช่วยให้การดาเนินงานมีทิศทางทชี่ ัดเจน มปี ระสิทธิภาพ 3. ชว่ ยชี้ให้เหน็ ถงึ สภาพปญั หาการทางานทีผ่ ่านมา 4. เสรมิ สรา้ งความเข้าใจอันดแี ละรบั ผิดชอบรว่ มกนั 5. ชว่ ยใหง้ านดาเนินไปสู่เป้าหมายไดส้ มบูรณ์ กจิ กรรมท้ายเรื่องท่ี 2 ลักษณะของโครงการ คาชแ้ี จง ให้ผู้เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี โครงการท่ีดีควรมีลกั ษณะอยา่ งไร ตอบ โครงการท่ีดีควรมลี กั ษณะ ดังนี้ 1. ตอบโจทยห์ รอื ปัญหาได้ถกู ต้องชดั เจน 2. ครอบคลมุ งานทจ่ี ะดาเนนิ การ 3. มีผรู้ บั ผิดชอบชัดเจน 4. มีวตั ถปุ ระสงค์ชัดเจน
114 5. มีระยะเวลา เรมิ่ โครงการและสน้ิ สดุ โครงการแน่นอน 6. สรปุ ผลไดต้ ามประเด็นปญั หา 7. นาไปใชเ้ ป็นแนวทางในการดาเนนิ การทค่ี ล้ายกนั กจิ กรรมท้ายเร่ืองที่ 3 องคป์ ระกอบของโครงการ คาชี้แจง ให้ผ้เู รียนตอบคาถามตอ่ ไปนี้ องค์ประกอบของโครงการมอี ะไรบ้าง ตอบ องคป์ ระกอบของโครงการ มดี ังนี้ 1. ชือ่ โครงการ 2. หลักการและเหตผุ ล 3. วัตถุประสงค์ 4. เป้าหมาย 5. วิธีดาเนินการ 6. ระยะเวลาดาเนินการ 7. สถานทดี่ าเนินงาน 8. งบประมาณ 9. ผู้รับผดิ ชอบโครงการ 30. หน่วยงานทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง 33. การประเมินผลโครงการ 32. ผลทีค่ าดว่าจะได้รบั 33. ผู้ประสานงานโครงการ
115 กจิ กรรมท้ายเรอื่ งที่ 4 ขน้ั ตอนการเขยี นโครงการ คาชแ้ี จง ใหผ้ เู้ รยี นดาเนินการ ดังน้ี 1. ใหผ้ ู้เรียนโยงเส้นข้นั ตอนการเขยี นโครงการกับความหมายของขั้นตอนทีก่ าหนด 1.ชื่อโครงการ ก. แสดงยอดรวมคา่ ใช้จ่าย 2. หลักการและเหตุผล ข. ผู้ที่ทาโครงการ 3. วัตถุประสงค์ ค. เหมาะสม ชัดเจน ดงึ ดูดความสนใจ 4. วิธดี าเนินการ เฉพาะเจาะจง ง. ปญั หา ความจาเปน็ 5. ระยะเวลาและสถานที่ จ. การตดิ ตามดแู ล หลงั จากดาเนนิ โครงการแลว้ ดาเนนิ การ ฉ. ความต้องการทจี่ ะกระทาส่ิงใดสงิ่ หน่ึง 6. งบประมาณ 7. ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ ช. แสดงข้นั ตอนของงานท่จี ะตอ้ งทา 8. ผลที่คาดวา่ จะได้รับ ซ. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากความสาเร็จ 9. การประเมินผลโครงการ เมอ่ื ส้ินสดุ โครงการ ฌ. การระบุเวลาทีเ่ รม่ิ ต้นและสน้ิ สุดโครงการ กจิ กรรมทา้ ยเรอื่ งท่ี 5 การดาเนินงานตามโครงการ คาช้ีแจง ให้ผเู้ รยี นฝึกปฏิบตั เิ ขยี นโครงการ เพือ่ พฒั นาชมุ ชน และสังคม และนาสู่การปฏบิ ัติ ตามโครงการ (ใหผ้ ูเ้ รียนเขยี นโครงการพร้อมตรวจสอบเนื้อหากับชุดวิชาลูกเสอื กศน.) กจิ กรรมทา้ ยเรอื่ งที่ 6 การสรุปรายงานผลการดาเนนิ งานตามโครงการเพ่ือเสนอตอ่ ทป่ี ระชมุ คาชี้แจง ให้ผู้เรยี นสรุปรายงานผลการดาเนินงานตามโครงการ (ใหผ้ เู้ รียนสรุปรายงานผลการดาเนินงานตามโครงการ พร้อมตรวจสอบเนอื้ หากับ ชดุ วชิ าลกู เสอื กศน.)
116 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 9 ทกั ษะลูกเสอื กิจกรรมท้ายเรอื่ งท่ี 1 แผนที่ - เขม็ ทิศ คาชี้แจง ใหผ้ ู้เรยี นตอบคาถาม ดงั ตอ่ ไปน้ี 3. ความหมาย และความสาคัญของแผนท่ี 2. ความหมาย และความสาคญั ของเข็มทศิ 3. ความหมาย และความสาคัญของแผนที่ ตอบ แผนที่ หมายถึง เครื่องมือที่แสดงให้เห็นถึงรายละเอียดต่าง ๆ ของภูมิประเทศที่ อยู่บนผิวโลก โดยการจาลองย่อส่วนลงบนแผ่นวัตถุพ้ืนราบ รายละเอียดอาจแสดงด้วยลายเส้น สี หรือสญั ลักษณต์ ่าง ๆ ความสาคญั ของแผนท่ี มีดังน้ี 3. ใชเ้ ปน็ เครือ่ งมือประกอบกิจกรรมการเดินทางไกลของลูกเสอื 2. ช่วยใหเ้ ข้าใจถึงข้อมูลพนื้ ฐานของสภาพลกั ษณะภูมปิ ระเทศเบื้องต้น 3. เนอื่ งจากแผนที่มหี ลายชนิด ทาใหส้ ามารถเลือกใชป้ ระโยชนจ์ ากแผนท่ีได้ อยา่ งถูกตอ้ ง 2. ความหมาย และความสาคัญของเข็มทศิ ตอบ เข็มทิศ หมายถึง เคร่ืองมือสาหรับใช้หาทิศทางหรือบอกทิศทางในแผนท่ี มีเข็ม แม่เหล็กที่แกว่งไกวได้อิสระในแนวนอนทอดตัวในแนวเหนือ - ใต้ ตามแรงดึงดูดของแม่เหล็ก โลก และท่ีหน้าปดั มสี ่วนแบ่งสาหรบั หาทศิ ทางโดยรอบ เขม็ ทิศจงึ มปี ลายชี้ไปทางทิศเหนอื เสมอ ความสาคัญของเขม็ ทิศ ใชป้ ระกอบแผนที่และหาทิศทางที่ถูกตอ้ ง
117 กิจกรรมท้ายเรอื่ งท่ี 2 วธิ กี ารใช้แผนท่ี – เขม็ ทิศ คาชี้แจง ให้ผ้เู รยี นตอบคาถาม ดงั ตอ่ ไปนี้ 3. วิธีการใชแ้ ผนท่ี 2. วิธีการใช้เขม็ ทิศ 3. วิธีการใช้แผนท่ี ตอบ การใช้แผนที่ มวี ธิ กี ารดงั นี้ วางแผนที่ในแนวระนาบบนพนื้ ให้ได้ระดับ ทศิ เหนอื ของแผนที่ชไ้ี ปทางทศิ เหนือ จดั ใหแ้ นวตา่ ง ๆ ในแผนที่ขนานกับแนวทเี่ ป็นจรงิ ในภมู ิประเทศ ทกุ แนว 2. วิธีการใช้เข็มทิศ ตอบ การใชเ้ ข็มทิศ มีวธิ ีการดงั นี้ 3. ยกเขม็ ทิศใหไ้ ดร้ ะดบั 2. ปรับมมุ อะซิมุทใหเ้ ท่ากับมุมทกี่ าหนดในแผนที่ 3. เลง็ ตามแนวลูกศรชที้ ศิ ทาง เป็นเสน้ ทางที่จะเดนิ ไป 4. เดนิ ไปเท่ากับระยะทางท่กี าหนดในแผนท่ี กจิ กรรมทา้ ยเรื่องท่ี 3 การใช้ Google Map และ Google Earth คาช้แี จง ใหผ้ ู้เรียนฝกึ ทกั ษะการคน้ หาเปา้ หมายทก่ี าหนดจากโปรแกรม Google Map หรอื Google Earth ในจอสมาร์ทโฟน หรือโทรศัพท์มือถือ โดยการพิมพ์ชื่อสถานที่สาคัญ แหล่งท่องเท่ียว ร้านอาหาร วัด มัสยิด โบสถ์คริสต์ ในจังหวัดของผู้เรียน และให้บันทึก ผลการค้นหา ลงในสมุดบนั ทกึ กจิ กรรมการเรียนรู้ (ให้ผู้เรียนค้นหาเป้าหมายท่ีกาหนดจากโปรแกรม Google Map หรือ Google Earth โดยบันทึก ผลการคน้ หาลงในสมดุ บนั ทึกกิจกรรมการเรียนร)ู้
118 กจิ กรรมทา้ ยเรื่องที่ 4 เงือ่ นเชอื กและการผกู แน่น คาชีแ้ จง ใหผ้ เู้ รยี นตอบคาถามดงั ตอ่ ไปน้ี 3. ความหมายและความสาคัญของเงอ่ื นเชือก 2. ให้ผู้เรียนฝึกผูกเง่ือนเชือกแลว้ บอกประโยชน์ของเง่อื นเชือกทก่ี าหนด ลงในตารางต่อไปนี้ 2.3 เงื่อนพิรอด 2.2 เงอื่ นขัดสมาธิ 2.3 เงอ่ื นตะกรดุ เบด็ 3. ความหมายและความสาคญั ของเง่ือนเชือก ตอบ เง่อื นเชอื ก หมายถึง การนาปลายเชือกเสน้ หน่ึง ผูกกับปลายเชือกอีกเส้นหนึ่ง เพื่อเป็นการต่อเชือก หรือนาเชือกไปผูกกับวัตถุ หรือผูกเป็นบ่วงคล้องวัตถุ การผูกเงื่อนแต่ละ ชนดิ มีความยากง่ายแตกตา่ งกันออกไป ความสาคัญของเง่ือนเชือก ใช้เพื่อการต่อเชือก หรือผูกวัตถุตามแต่ละชนิดของ เชือก และเม่ือลากจงู ส่ิงของและใชช้ ว่ ยชีวิต 2. ใหผ้ เู้ รียนฝึกผูกเงอ่ื นเชือกแล้วบอกประโยชน์ของเง่อื นเชอื กที่กาหนด ลงในตารางต่อไปนี้ 2.3 เงอ่ื นพิรอด 2.2 เงื่อนขัดสมาธิ 2.3 เงือ่ นตะกรดุ เบด็ เง่อื นเชือกและประโยชนข์ องเง่ือนเชือก เงอื่ นเชือก ประโยชน์ของเงอ่ื นเชอื ก 1. เง่อื นพริ อด 3. ใช้ต่อเชือก 2 เสน้ ที่มีขนาดเทา่ กนั 2. ใช้ผกู ปลายเชอื กเสน้ เดียวกนั เพ่ือผกู มัดสง่ิ ของ และวัตถุตา่ ง ๆ 3. ใช้ผกู เชอื กรองเทา้ (ผูกเงอ่ื นพิรอดกระตุกปลาย 2 ขา้ ง) 4 ใช้ผกู โบ ผูกชายผ้าพนั แผล ผกู ชายผ้าทาสลงิ คล้องคอ
เง่อื นเชือก 119 2. เงอื่ นขดั สมาธิ ประโยชน์ของเงื่อนเชอื ก 3. เง่อื นตะกรดุ เบ็ด 3. ใชต้ อ่ เชอื กทมี่ ีขนาดเดยี วกัน หรอื ตา่ งกัน 2. ใชต้ อ่ เชือกออ่ นกบั เชือกแขง็ 3. ใชผ้ กู กบั ขอ หรือบว่ ง 3. ใชผ้ กู เชอื กกับเสาหรอื สง่ิ อน่ื ๆ ปมเชือกจะไม่คลาย 2. ใชท้ าบันไดเชือก บันไดลิง 3. ใช้ในการผูกเง่ือนแน่น ประกบ กากบาท 4. ใชผ้ ูกปากถุงขยะ
120 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 10 ความปลอดภยั ในการเข้ารว่ มกิจกรรมลูกเสือ กจิ กรรมท้ายเรื่องท่ี 1 ความความปลอดภัยในการเขา้ ร่วมกิจกรรมลกู เสอื คาชแ้ี จง ใหผ้ เู้ รียนตอบคาถาม ดังตอ่ ไปนี้ ความหมายและความสาคัญของความปลอดภยั ในการเข้าร่วมกจิ กรรมลกู เสอื ความหมายและความสาคัญของความปลอดภยั ในการเข้ารว่ มกิจกรรมลูกเสือ ตอบ ความปลอดภัย หมายถึง การที่ร่างกายปราศจากอุบัติภัย อยู่ในสภาวะที่ปราศจาก อันตราย หรือสภาวะที่ปราศจากการบาดเจ็บ เจ็บปวด เจ็บป่วย จะมากหรือน้อยข้ึนอยู่กับ การปฏบิ ัติหรอื การกระทาของตนเอง ความสาคัญของความปลอดภัยในการเข้าร่วมกิจกรรมลูกเสือ เป็นความจาเป็น พ้ืนฐานสาหรับการป้องกันหรือช่วยเหลืออย่างทันท่วงที หรือการสร้างความปลอดภัยในกิจกรรม ต่าง ๆ กอ่ นท่ีจะมภี ัยเกิดขึน้ บางประการหรือเตรียมการรองรับในเบ้ืองตน้ เพอ่ื ปอ้ งกันการสญู เสยี กจิ กรรมท้ายเรอ่ื งที่ 2 หลักการ วธิ กี ารในการเฝ้าระวังเบื้องต้นในการเข้ารว่ มกจิ กรรมลูกเสอื คาช้ีแจง ให้ผู้เรียนยกตวั อยา่ งการเฝา้ ระวงั เบ้อื งต้นในการเข้าร่วมกิจกรรมลกู เสือ กจิ กรรมลกู เสอื ตัวอย่างการเฝา้ ระวงั เบ้ืองต้น กจิ กรรมบกุ เบกิ ตรวจสอบอุปกรณ์ เครอ่ื งมือ เคร่อื งใช้ สาหรับการ แผว้ ถางทาง บกุ เบิกเสน้ ทาง เพอื่ อานวยความสะดวก กิจกรรมผจญภัย และความปลอดภยั ใหแ้ กผ่ ้เู ดนิ ตามมาภายหลัง ตรวจสอบ คุณลักษณะและคุณภาพของวสั ดุ ไม้ เชอื ก หรือลวดท่นี าไปใช้ในการสรา้ งฐานผจญภยั
121 กจิ กรรมท้ายเร่อื งท่ี 3 การช่วยเหลือเมอ่ื เกิดเหตคุ วามไม่ปลอดภยั ในการเขา้ ร่วมกิจกรรม คาช้ีแจง ให้ผเู้ รียนอธิบายวิธกี ารช่วยเหลือ เมื่อเกดิ เหตคุ วามไมป่ ลอดภยั ในการเขา้ รว่ ม กิจกรรมลกู เสือ กรณตี ่อไปน้ี กรณอี บุ ัติเหตุ การช่วยเหลอื อบุ ัตเิ หตทุ างนา้ 1. จัดใหน้ อนตะแคงกงึ่ ควา่ 2. ตรวจสอบการหายใจ ถา้ ไม่มกี ารหายใจให้ช่วยกู้ชพี อุบตั เิ หตุทางรถยนตห์ รอื ทางถนน ทันที 3. ให้ความอบอนุ่ กบั รา่ งกายผู้จมน้า โดยถอดเสือ้ ผ้า อบุ ัติเหตทุ ่วั ไป เปยี กออกและใชผ้ ้าแหง้ คลุมตัว 3. ตกจากที่สงู 3. การใช้เครื่องหมายบอกสัญญาณ เพอ่ื ส่งสญั ญาณ 2. หกล้ม เตอื นในการเพิม่ ความระมดั ระวงั โดยสญั ญาณฉุกเฉิน 3. ไฟไหม้ 2. ประเมนิ สถานการณจ์ ากสภาพแวดล้อมและสภาพ 4. น้าร้อนลวก จราจร 3. โทรศัพทแ์ จง้ หน่วยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เช่น หนว่ ยแพทยฉ์ กุ เฉนิ มลู นธิ ิ โรงพยาบาล ควรเคลอื่ นย้ายดว้ ยความระมดั ระวงั
122 กจิ กรรมทา้ ยเรอื่ งที่ 4 การปฏิบัติตนตามหลกั ความปลอดภัย คาช้แี จง ให้ผเู้ รียนยกตวั อย่างการปฏบิ ตั ิตนตามหลักความปลอดภยั หลกั ความปลอดภัย ตวั อย่างการปฏบิ ัติตนตามหลัก 1. ด้านรา่ งกาย ความปลอดภัย 2. ด้านจติ ใจ 3. เตรียมร่างกาย การออกกาลังกาย รักษาร่างกาย ไมใ่ ห้เจบ็ ป่วย 2. หาความรู้ในกิจกรรมลูกเสอื กศน. เป็นการ เตรยี มพร้อมในการปฏบิ ัติตนเอง และใหค้ วาม ช่วยเหลอื ผู้อน่ื ตามความเหมาะสม
123 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 11 การปฐมพยาบาล กิจกรรมทา้ ยเรือ่ งที่ 1 การปฐมพยาบาล คาช้แี จง ให้ผู้เรียนตอบคาถาม ดงั ตอ่ ไปนี้ 3. ความหมายของการปฐมพยาบาล 2. ความสาคญั ของการปฐมพยาบาล 3. หลกั การของการปฐมพยาบาล 3. ความหมายของการปฐมพยาบาล ตอบ การปฐมพยาบาล หมายถึง การให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเบ้ืองต้น โดยใช้ เคร่ืองมือหรืออุปกรณ์ที่หาได้ในบริเวณนั้น ๆ เพื่อช่วยบรรเทาอาการและช่วยให้ผู้บาดเจ็บ ได้รบั อนั ตรายนอ้ ยลงกอ่ นที่จะสง่ โรงพยาบาล เพื่อใหแ้ พทย์ทาการรกั ษา 2. ความสาคญั ของการปฐมพยาบาล ตอบ การปฐมพยาบาล มีความสาคัญ ดังน้ี 3. เพ่อื ชว่ ยเหลือผบู้ าดเจ็บ 2. เพ่ือปอ้ งกันและลดความพิการที่อาจเกดิ ขึ้น 3. เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดและปอ้ งกันอนั ตราย 3. หลกั การของการปฐมพยาบาล ตอบ หลกั การของการปฐมพยาบาล มีดังน้ี 1. การมอง สารวจความปลอดภยั รวมท้ังสารวจระบบสาคญั ของร่างกาย อย่างรวดเร็ว และวางแผนใหก้ ารช่วยเหลอื อยา่ งมสี ติ ไม่ตน่ื เตน้ ตกใจ 2.-ห้ามเคลื่อนย้าย หรือไม่ควรเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บจนกว่าจะแน่ใจว่าเคลื่อนย้าย ได้อย่างรวดเร็ว ยกเว้นกรณีท่ีเกิดการบาดเจ็บในสถานท่ีท่ีไม่สะดวกต่อการปฐมพยาบาลหรือ อาจเกิดอันตรายมากขึ้นทัง้ ผู้บาดเจบ็ และผู้ช่วยเหลอื จาเปน็ ตอ้ งเคล่ือนย้ายไปที่ทป่ี ลอดภัยกอ่ น
124 3.-ช่วยเหลือด้วยความนุ่มนวลและระมัดระวัง ให้การช่วยเหลือตามลาดับ ความสาคญั ของการมีชวี ติ หรือตามความรนุ แรงท่ผี ู้บาดเจบ็ ได้รบั ดงั นี้ 3.1 กลุ่มอาการช่วยเหลือด่วน ได้แก่ หยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้น หมดสติ และเสียเลอื ด 3.2-กลุ่มอาการช่วยเหลือรอง ได้แก่ ความเจ็บปวด การบาดเจ็บของกระดูก และข้ออมั พาต กิจกรรมท้ายเร่อื งที่ 2 วธิ กี ารปฐมพยาบาลกรณีตา่ ง ๆ คาชแี้ จง ใหผ้ เู้ รียนอธิบายวธิ กี ารปฐมพยาบาล กรณีตอ่ ไปนี้ กรณีผ้ปู ่วย วธิ กี ารปฐมพยาบาล เป็นลมวิงเวียนศรี ษะ 3. พาเข้าที่ร่มอากาศถา่ ยเทสะดวก 2. นอนราบไม่หนนุ หมอน หรือยกปลายเทา้ ใหส้ ูงเลก็ น้อย เป็นลมแดด 3. คลายเสื้อผ้าให้หลวม 4. พดั หรอื ใช้ผา้ ชุบน้าเชด็ เหงื่อตามหน้า มอื และเท้า เลือดกาเดาไหล 5. ใหด้ มแอมโมเนยี 6. ถ้ารู้สกึ ตัวดีใหด้ ่มื นา้ 7. ถา้ อาการดีข้นึ นาส่งแพทย์ต่อไป 3. นาผ้ทู ี่มีอาการเขา้ ในทีร่ ่ม 2. นอนราบ ยกเท้าสงู 3. คลายเส้อื ผ้าให้หลวม 4. ใชผ้ ้าชุบนา้ ประคบบริเวณใบหนา้ ข้อพับ ขาหนีบ เชด็ ตวั เพ่ือระบายความร้อน 5. ถา้ รู้สึกตัวหรอื มอี าการดขี ึ้น ให้จบิ นา้ เย็น 6. ถ้าอาการดขี น้ึ นาส่งแพทย์ 1. ใหผ้ ปู้ ่วยนง่ั นิง่ ๆ เอนตวั ไปขา้ งหน้าเลก็ นอ้ ย 2. ใช้มือบีบปลายจมูก ร่วมกับกาสรประคบเย็น 3. ถา้ มีเลือดออกมาก ใหผ้ ู้ป่วยบว้ นเลือดหรอื นา้ ลาย ลงในอา่ ง
125 กรณีผู้ปว่ ย วิธีการปฐมพยาบาล 4. เมื่อเลอื ดหยดุ แลว้ ใช้ผ้าสะอาดเช็ดบริเวณจมกู และปาก 5. หา้ มสั่งน้ามกู หรือล้วงแคะ ขยจ้ี มูก กจิ กรรมท้ายเรอ่ื งท่ี 3 การวัดสัญญาณชีพและการประเมนิ เบ้อื งตน้ คาชแ้ี จง ให้ผูเ้ รียนอธิบายวธิ กี ารวดั สัญญาณชีพ และการประเมินเบ้ืองต้น การวดั สัญญาณชพี วธิ กี ารวดั การประเมินเบ้ืองต้น 3. การวดั สญั ญาณชพี ใช้นิว้ มือ 3 นิ้ว (นวิ้ ชี้ นว้ิ กลาง คนปกติ การบบี หัวใจ ประมาณ นวิ้ นาง) ด้านขวา แตะท่ขี อ้ มือ 60 -300 คร้งั ตอ่ นาที ผปู้ ว่ ยและสังเกตการเต้นของชีพจร 2. การวัดอตั รา สังเกตจากาการหายใจนาเอา การขยายตัวของชอ่ งอก คนปกติ การหายใจ ออกซเิ จนเข้าสรู่ ่างกาย โดยดจู าก 32 – 20 ครง้ั ตอ่ นาที การขยายตัวของชอ่ งอก 3. การวดั อุณหภูมิ เปน็ การวดั ความร้อนของร่างกาย คนปกติ อุณหภมู ิ 37 องศา รา่ งกาย โดยใช้ปรอท เซลเซยี ส +/- 0.5 องศาเซลเซยี ส 4. การวดั ความดัน ใชเ้ ครือ่ งวดั ความดนั วัดที่ตน้ แขน คนปกติมีความดันโลหิต โลหติ แลว้ บีบ ประมาณ 90/60 320/80 มลิ ลิเมตรปรอท กจิ กรรมทา้ ยเร่อื งที่ 4 วธิ กี ารช่วยชีวติ ขัน้ พ้ืนฐาน คาชี้แจง ให้ผ้เู รยี นไปฝึกทักษะกับผ้รู เู้ รื่องวธิ กี ารชว่ ยชวี ติ ขั้นพ้ืนฐาน กรณีผ้ปู ว่ ยหมดสติ หยดุ หายใจ หรือมกี ารหายใจผดิ ปกติ และฝกึ ทกั ษะวิธกี ารชว่ ยชีวติ ข้นั พนื้ ฐาน (CPR) จนมีความชานาญ พรอ้ มทจ่ี ะใหค้ วามช่วยเหลอื ผ้ปู ่วยได้อยา่ งถูกวิธี โดยใหผ้ ูร้ ทู้ ่เี ปน็ ผสู้ อนลงลายมือช่ือรบั รองผลการฝึกทกั ษะ และให้ขอ้ เสนอแนะผลการปฏบิ ัติดังตอ่ ไปนี้ (ให้ผู้เรียนฝกึ ทกั ษะวธิ กี ารชว่ ยชีวติ ขน้ั พืน้ ฐาน (CPR) พร้อมใหผ้ สู้ อนลงลายมือชอื่ รับรอง ผลการฝึกทกั ษะและขอ้ เสนอแนะ)
126 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 12 การเดินทางไกล อยูค่ ่ายพกั แรม และชีวติ ชาวคา่ ย กิจกรรมท้ายเรื่องท่ี 1 การเดนิ ทางไกล คาช้แี จง 3.3 ให้ผเู้ รียนอธิบายเกย่ี วกับการเดินทางไกล ดังตอ่ ไปน้ี 1. ความหมายของการเดินทางไกล 2. วตั ถปุ ระสงค์ของการเดินทางไกล 3. หลักการของการเดินทางไกล 3. ความหมายของการเดินทางไกล ตอบ การเดินทางไกล หมายถึง การเดินทางของลูกเสือจากกอง หรือกลุ่มลูกเสือ เพื่อไปทา กิจกรรมที่ใดท่ีหนึ่ง โดยมีผู้กากับและนายหมู่ลูกเสือเป็นผู้กาหนดร่วมกัน เพื่อนาลูกเสือไปฝึก ทักษะวิชาการลูกเสือเพิ่มเติม ให้รู้จักการใช้ชีวิตกลางแจ้งและสัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด โดยลูกเสือได้ใช้ความสามารถของตนเอง การเดินทางไกล การเดินทางด้วยเท้า เรือ หรือจักรยาน และรถยนต์ 2. วตั ถุประสงค์ของการเดนิ ทางไกล ตอบ 3. เพือ่ ฝึกความอดทน ความมรี ะเบยี บวินยั และเสรมิ สรา้ งสุขภาพอนามยั ให้แกล่ ูกเสือ 2. เพ่อื ให้ลกู เสอื มีเจตนารมณ์ และเจตคติทดี่ ี ร้จู กั ช่วยตนเอง และรูจ้ ักทางานร่วมกบั ผอู้ ืน่ 3. เพื่อใหม้ โี อกาสปฏิบัตติ ามคตพิ จนข์ องลกู เสอื และมโี อกาสบรกิ ารต่อชุมชนท่ไี ปอยู่ คา่ ยพักแรม 4. เพื่อเป็นการฝึกและปฏบิ ัตติ ามกฎของลูกเสือ 3. หลักการของการเดินทางไกล ตอบ การเดินทางไกล ใช้ระบบหมู่ เพ่ือฝึกความอดทน ความสามัคคี ความมีระเบียบวินัย การช่วยเหลือซึ่งกันและกันรู้จักการระมัดระวังตัวจากอุบัติเหตุขณะเดินทาง และการเตรียมตัว ในการเดินทางให้ได้ใช้ชีวิตกลางแจ้งโดยมีการเตรียมอุปกรณ์เฉพาะบุคคลลงในเครื่องหลังสาหรับ เดินทางไกล และเตรียมอุปกรณ์สาหรับหมู่หรือกอง สาหรับสร้างค่ายพักแรมและการใช้ชีวิต ชาวคา่ ย
127 การบรรจุเคร่อื งหลัง สาหรบั การเดนิ ทางไกล คาชแี้ จง 1.2 ใหผ้ เู้ รียนระบกุ ารเตรยี มอุปกรณ์ส่วนตัว สาหรับการบรรจุเครื่องหลังในการเดิน ทางไกล ลงในตารางตอ่ ไปนี้ ประเดน็ อุปกรณ์ที่ตอ้ งเตรยี ม การเตรียมอุปกรณ์ส่วนตัว 1. เคร่ืองแตง่ กาย ไดแ้ ก่ เครื่องแบบลูกเสอื และ สาหรับการบรรจุเคร่ืองหลัง เครอ่ื งหมายประกอบเคร่อื งแบบ คือ หมวก ผา้ ผกู คอ ในการเดินทางไกล เสอ้ื กางเกงหรอื กระโปรง เข็มขดั ถุงเท้า รองเทา้ หรือ ชุดลาลองหรอื ชุดสภุ าพ ชุดกีฬา ชดุ นอน 2. เครื่องใชป้ ระจาตัว ไดแ้ ก่ สบู่ แปรงสฟี ัน ยาสีฟัน ผา้ เชด็ ตวั ผ้าขาวม้า ผา้ ถงุ ไฟฉาย ขนั นา้ รองเท้าแตะ จาน ชาม ช้อน ยากนั ยงุ ยาขดั โลหะ เชือก หรือยาง สาหรับผูกหรือรดั อุปกรณ์เลก็ ๆ น้อย ๆ ถุงพลาสติก สาหรับใสเ่ สอื้ ผ้าท่ีใชแ้ ลว้ หรอื เปียกช้ืน 3. ยาประจาตัว หรอื อุปกรณ์ปฐมพยาบาล 4. อุปกรณ์ประกอบการเรียนรู้ และการจดบันทึก กิจกรรม เช่น สมดุ ปากกา ดินสอ แผนที่ เข็มทิศ 5. อปุ กรณท์ จี่ าเปน็ ตามฤดูกาล เช่น เสอ้ื กนั ฝน เสอ้ื กนั หนาว 6. อุปกรณ์เครอ่ื งนอน เช่น ผ้าห่ม ถงุ นอน 7. อปุ กรณ์ที่ประจากายลูกเสือ เช่น ไมง้ ่าม กระติกน้า เชือกลกู เสอื
128 กจิ กรรมทา้ ยเรือ่ งท่ี 2 การอยูค่ า่ ยพักแรม คาชี้แจง ให้ผู้เรียนอธบิ ายความหมาย วัตถุประสงค์ และหลักการของการอยู่คา่ ยพักแรม ขอ้ ประเด็นคาถาม คาอธิบาย 3. ความหมายของการอยูค่ ่ายพักแรม องคร์ วมของการเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎแี ละภาคปฏิบัติ โดยมีนวตั กรรมและขบวนการถา่ ยทอด การทดสอบ การเสริมสร้างพัฒนาการให้แกล่ ูกเสอื โดยการนา ลูกเสอื ออกจากท่ตี ง้ั ปกตไิ ปพักแรมคืนในสภาพที่ เหมาะสม โดยจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับการเรียน 2. วตั ถปุ ระสงค์ของการอย่คู ่ายพกั แรม 3. เพ่อื ให้ลูกเสือทบทวนสิ่งที่ไดเ้ รยี นรู้จากทฤษฎี และการฝกึ ปฏบิ ัติ 2. เพอื่ เปน็ การฝกึ ทักษะทางลกู เสอื ให้มีระเบียบวินัย มีเจตคติ มีค่านยิ มทด่ี ีงาม 3. เพอ่ื ให้ลูกเสือปฏบิ ตั ิตามคาปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื 3. หลักการของการอยคู่ ่ายพักแรม 3. ยดึ หลักการมีสว่ นร่วม โดยใหผ้ ู้บงั คบั บญั ชาลูกเสือ และชุมชน มีส่วนรว่ ม ในการจัดกจิ กรรม 2. ใช้กระบวนการเรียนรู้ท่ีเนน้ ใหล้ ูกเสือมีทกั ษะในการ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรยี นร้ใู นชมุ ชน 3. ใชก้ ระบวนการกลมุ่ ในการจดั ประสบการณ์การ เรยี นรู้ ฝึกให้คดิ วเิ คราะห์ สร้างสรรค์ ท่เี ปน็ ประโยชน์ และสัมพนั ธก์ บั วิถชี ีวติ 4. มกี ิจกรรมวิชาการและกิจกรรมนนั ทนาการทีใ่ ห้ ลูกเสอื ได้รบั ความรู้ และความสนกุ สนาน ทางาน ร่วมกันเปน็ กล่มุ เพื่อเสรมิ สรา้ ง ความสามัคคี มนษุ ยสัมพนั ธ์ ความเปน็ ผู้นา 5. ตอ้ งคานงึ ถึงความปลอดภัยในดา้ นตา่ ง ๆ ระหวา่ ง การทากจิ กรรม
129 กจิ กรรมทา้ ยเร่ืองที่ 3 ชวี ิตชาวคา่ ย คาชแ้ี จง 3.3 ใหผ้ เู้ รยี นอธิบายความหมายของคาวา่ ชวี ิตชาวคา่ ย ตอบ ชวี ิตชาวคา่ ย หมายถึง การทีบ่ ุคคลหลาย ๆ คน มาอยรู่ วมกนั ทากิจกรรมต่าง ๆ ด้วยกนั นอน กนิ เรยี นรู้ ฝกึ ทกั ษะ เดนิ ทางไกล ผจญภัย โดยพักคา้ งในค่ายด้วยกัน คาชแี้ จง 3.2 ใหผ้ ้เู รียนระบเุ หตผุ ลของการเตรยี มอุปกรณ์ส่วนรวมของหมู่หรือของกองลูกเสอื ในการอย่คู ่ายพักแรม ที่ระบุในตารางตอ่ ไปนี้ พรอ้ มทั้งให้เหตุผลประกอบ อุปกรณส์ ่วนรวมทต่ี ้องเตรียม เหตุผลของการเตรียมอปุ กรณส์ ว่ นรวม 3. มดี พร้า พลว่ั สนาม จอบ เสียม ไมก้ วาดทางมะพร้าว เพื่อเตรียมความพร้อมในการอยคู่ ่ายพกั แรม เพื่อใช้เปน็ อุปกรณก์ ารจดั การคา่ ยและฐาน 2. มดี ทาครวั หม้อ ทพั พี กระทะ เขยี ง กจิ กรรมบกุ เบกิ จาน ชาม กะละมงั ถงั นา้ นา้ ยาล้างจาน 3. เครอื่ งปรุงสาหรับการประกอบอาหาร เพอ่ื เตรียมความพรอ้ มสาหรับการอยคู่ ่ายพักแรม น้ามัน นา้ ปลา น้าตาล ฯลฯ ในกจิ กรรมการทาครัว ชวี ิตชาวคา่ ย 4. เต็นท์ เชือก ลวด ยาง ถงุ ดา ตะเกียง ไฟฉาย แผนที่ เข็มทิศ เพ่ือเตรยี มสาหรับการปรุงอาหาร ในการอยู่ 5. อุปกรณป์ ระกอบจงั หวะชดุ การแสดง ค่ายพกั แรม 6. กระเป๋ายา และอปุ กรณก์ ารปฐม เพื่อเตรยี มความพรอ้ มสาหรับการอยู่ค่ายพักแรม พยาบาลเบ้ืองต้น และใชใ้ นกิจกรรมชวี ิตชาวคา่ ย เพ่อื ใชป้ ระกอบการจดั กิจกรรมประกอบการแสดง ในการอยูค่ ่ายพักแรม เพอ่ื เตรยี มความพรอ้ มและสาหรบั ป้องกนั ในยาม ฉกุ เฉิน การอยู่คา่ ยพักแรม และเดนิ ทางไกล
130 คาชแ้ี จง 3.3 ใหผ้ ู้เรียนยกตัวอย่างตามประเด็นชีวติ ชาวคา่ ยมาพอสงั เขป กจิ กรรมชีวติ ชาวคา่ ย ตวั อยา่ งอุปกรณท์ ใ่ี ช้ในชีวิตชาวค่าย การสรา้ งค่ายพกั แรม 1. มีด ไว้ตัด เฉอื น สับ ห่ัน ปาด 2. ขวาน ใชต้ ัดไม้ ฟันไม้ ผา่ ไม้ ตอกไม้ การสร้างครัวชาวค่าย 3. เลื่อย ใชส้ าหรับงานทว่ั ไป การสรา้ งเตาประเภทตา่ ง ๆ 4. จอบ ใช้สาหรบั ขดุ ดนิ ทาหลมุ ถากหญา้ 5. เสียม ใชข้ ุดดนิ ขุดลอก การประกอบอาหารแบบชาวค่าย 6. พลวั่ ใช้ตกั ดิน ตักทราย 7. คอ้ น ใช้ตอก ทบุ ทาลาย 1. ทีท่ าครวั มีเขตทาครัวโดยเฉพาะ มคี วามเหมาะสม 2. เตาไฟ เลือกแบบท่เี หมาะกับพ้นื ที่ทาครัว 3. กองฟืน กองเป็นระเบยี บ อยูไ่ ม่หา่ งจากเตาไฟ 4. เครื่องใช้ต่าง ๆ หม้อ กระทะ มดี เขียง พร้อมที่เก็บ 5. หลุมเปยี ก หลุมแห้ง 1. เตาสามเสา้ นาก้อนหินสามกอ้ นมาวางบนพื้น จัดระยะหา่ งใหพ้ อดีกับก้นหม้อเปน็ สามมมุ ใหอ้ ากาศ ถ่ายเทสะดวก 2. เตาหลมุ ขดุ หลมุ ให้มีขนาดกว้างพอเท่ากับ หมอ้ ลกึ พอประมาณ แลว้ เจาะรู เพอ่ื ใส่ฟนื ด้านหน้า แลว้ รูระบายอากาศ ดา้ นข้างเพอื่ ใหค้ วันออก 3. เตาลอย ขดุ หลมุ สีม่ มุ แลว้ นาท่อนไมแ้ ข็งแรงสตี่ น้ ทาเป็นเสาสม่ี มุ นามาวางพาดผกู เป็นสีเ่ หลีย่ มและวาง คานใหเ้ ตม็ พืน้ ท่ี ใช้ใบไมป้ ใู หร้ าบ เอาดินปพู ื้นใหห้ น พอสมควร ใชก้ ้อนหินทาเปน็ เตาสามเส้า 1. การหุงข้าวดว้ ยหมอ้ หู แบบเชด็ น้า และไมเ่ ช็ดนา้ 2. การตม้ โดยใส่ของลงไปพร้อมน้าแล้วตม้ และใส่ขอ หลงั จากต้มน้าเดอื ดแลว้
131 กิจกรรมชวี ิตชาวคา่ ย ตัวอย่างอุปกรณท์ ใ่ี ชใ้ นชีวิตชาวคา่ ย การกางเต็นท์ และการเก็บเต็นท์ 3. การผดั ใชน้ ้ามนั หรือกะทิ ใสข่ องที่จะผัดลงไป ทาให้ สกุ และปรุงรส 4. การทอด ใสน่ า้ มันในภาชนะใหท้ ่วมของท่ีทอด โดยให้น้ามันร้อนจัดก่อน 1. เต็นทส์ าเรจ็ รูป ประกอบเสาเตน็ ทแ์ ลว้ สอดเข้าตัว เต็นทต์ ามรูปโคง้ ใหท้ ะลถุ ึงกนั เปน็ สะพานไขว้ เสาเต็นท์จะโผลท่ มี่ มุ ทัง้ 4 ดา้ น ให้นาขอยดึ หว่ ง ทง้ั 4 ดา้ น ตอกกับพืน้ เพ่ือยึดใหแ้ น่น 2. การเกบ็ เตน็ ท์ กอ่ นพับเกบ็ เต็นท์ ควรผึ่งแดดใหแ้ ห้ง และถอดขอทีย่ ึดทัง้ 4 มมุ ถอดเสาเต็นท์และพบั เกบ็ ตามเดมิ พบั ผ้าเต็นท์ โดยไลล่ มออก กจิ กรรมท้ายเรอ่ื งที่ 4 วิธกี ารจัดการค่ายพกั แรม คาชแ้ี จง ใหผ้ ูเ้ รียนตอบคาถาม ดงั ต่อไปนี้ 3. ค่ายพักแรม หมายความวา่ อยา่ งไร 2. อธิบายการสุขาภิบาล (การทาหลุมเปียก) ในค่ายพกั แรมมาพอเขา้ ใจ 3. คา่ ยพักแรม หมายความว่าอย่างไร ตอบ ค่ายพกั แรม หมายถึง การท่ีกลุ่มบุคคลไปใช้ชีวิตร่วมกันในบริเวณแห่งใดแห่งหนึ่ง อาจเป็นทีโ่ ลง่ แจง้ หรือนอกเมือง หรือสถานท่ีท่ีเหมาะสมอ่ืน ๆ ในระยะเวลาหน่ึง เพ่ือกิจกรรม อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ หรือพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ ภายใตค้ าแนะนาของผู้นาค่ายทีด่ รี บั การฝึกมาแลว้ 2. อธิบายการสขุ าภบิ าล (การทาหลุมเปียก) ในค่ายพักแรมมาพอเข้าใจ ตอบ การทาหลุมเปียกในค่ายพักแรม มีดังนี้ ขุดหลุมขนาดใหญ่ และลึกพอสมควร ทป่ี ากหลุมใชก้ งิ่ ไม้ ใบไม้ สานเปน็ แผงปิดไว้ แลว้ หาหญ้าโรยข้างบนแผงกิ่งไม้อกี ช้นั หลมุ เปียกน้ี มไี ว้สาหรบั เทนา้ ท่ไี ม่ใชแ้ ลว้ ลงไปในหลุม เช่น นา้ ปนไขมนั นา้ ปนเศษอาหาร ซึ่งเมื่อเทลงไปแล้ว
132 ไขมันและเศษอาหารต่าง ๆ จะติดอยู่ท่ีหญ้า มีแต่น้าเท่าน้ันที่ไหลลงไปในหลุม ต้องเปล่ียนแผง กง่ิ ไม้ ใบไม้ทีป่ ากหลมุ ทกุ วัน และนาแผงท่ใี ชแ้ ลว้ ไปเผาทกุ วันเช่นกนั 3. ให้ผู้เรียนอธิบายสภาพความเหมาะสมของการเลือกพ้ืนท่ตี ัง้ ค่ายพกั แรม ตอบ การเลอื กพนื้ ที่ทเ่ี หมาะสมสาหรับต้ังคา่ ยพักแรม ดงั นี้ 3. อยูบ่ นที่สูง หรือเชิงเขา เวลาฝนตกมที างระบายน้าออกอย่างรวดเร็ว ทาให้ไม่มีน้าขัง ในบริเวณค่าย หรือมิฉะน้ันควรต้ังค่ายบริเวณท่ีเน้ือดินเป็นดินปนทราย เพ่ือให้น้าดูดซึมได้โดย รวดเรว็ 2. ไม่ควรอย่ใู กล้สถานท่ที ี่มีคนพลกุ พล่าน เชน่ สถานที่ตากอากาศ 3. ไมค่ วรอยใู่ กล้ถนนหรือทางรถไฟ เพราะอาจเกิดอบุ ตั เิ หตกุ บั ลูกเสือได้ 4. ไม่ควรอยู่ใกลต้ ้นไมใ่ หญ่ เพราะเม่ือเกดิ ลมพายุอาจหักโค่นลงมาทาให้เกิดอันตรายได้ 5. สถานที่ตั้งค่าย ควรมีน้าด่ืมน้าใช้เพียงพอ แต่ไม่ควรอยู่ใกล้แม่น้า ลาคลอง หนอง หรือบึง เพราะอาจเกิดอบุ ัติเหตุกบั ลกู เสือได้ 6. สถานที่ต้ังค่าย ไม่ควรอยู่ไกลจากตลาดมากนัก ทั้งน้ี เพ่ือสะดวกแก่การไปซ้ือ กับข้าว และไม่ควรอยู่ไกลจากสถานีอนามัยมากนัก เพ่ือว่าเกิดการเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ รา้ ยแรง จะได้ช่วยเหลอื ไดท้ นั ท่วงที 7. ควรอยใู่ นสถานทที่ ป่ี ลอดภัยจากผู้กอ่ การรา้ ย
133 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 13 การฝึกปฏบิ ัตกิ ารเดินทางไกล อยคู่ า่ ยพกั แรม และชวี ติ ชาวค่าย กจิ กรรมท้ายเร่อื งที่ 1 การวางแผนและปฏิบตั ิกิจกรรมการเดินทางไกล อยคู่ ่ายพกั แรม และชีวิตชาวค่าย คาช้ีแจง ใหผ้ ู้เรียนวางแผนการแสดงในกจิ กรรมนันทนาการและชมุ นมุ รอบกองไฟ ในประเดน็ ตอ่ ไปนี้ (ใหผ้ ู้เรียนวางแผนการแสดงในกิจกรรมนันทนาการและชุมนุมรอบกองไฟตามประเดน็ ท่กี าหนด) กิจกรรมท้ายเรอ่ื งท่ี 2 การใช้ชวี ิตชาวคา่ ยรว่ มกบั ผู้อน่ื ในค่ายพกั แรม คาชแ้ี จง ให้ผู้เรียนเข้ารว่ มกจิ กรรมทุกกจิ กรรมที่กาหนด พรอ้ มทง้ั แสดงความคิดเหน็ และ สะท้อนความรสู้ ึกของการใชช้ ีวิตชาวค่ายร่วมกบั ผู้อ่ืนในคา่ ยพกั แรม ในช่ัวโมงสุดทา้ ย ก่อนปดิ การฝึกปฏบิ ัติ (ให้ผ้เู รียนเข้าร่วมกิจกรรมและแสดงความคิดเห็น และสะท้อนความรู้สึกของการใช้ชีวิตชาวค่าย ร่วมกับผอู้ นื่ ในค่ายพักแรม ก่อนปดิ การฝึกปฏิบัติ)
134 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน 3. ก 33. ค 21. ง 2. ง 12. ค 22. ข 3. ง 13. ง 23. ง 4. ง 14. ก 24. ก 5. ก 15. ก 25. ก 6. ง 16. ก 26. ค 7. ก 17. ก 27. ง 8. ข 18. ง 28. ง 9. ง 19. ง 29. ก 30. ง 20. ข 30. ง
135 รายชอ่ื ผเู้ ขา้ รว่ มประชุมปฏบิ ตั กิ ารจัดทาตน้ ฉบบั ชดุ วิชา รายวิชาเลือกบังคับ และสมุดบันทกึ กิจกรรมการเรยี นรู้ รายวชิ าลกู เสือ กศน. ท้ัง 3 ระดบั การศึกษา ระหวา่ งวนั ท่ี 5 – 9 กุมภาพันธ์ 2561 ณ โรงแรมนนทบรุ พี าเลซ จงั หวัดนนทบรุ ี 3. นายกฤตชัย อรุณรัตน์ เลขาธกิ าร กศน. 2. นางสาววิเลขา ลสี ุวรรณ์ รองเลขาธิการ กศน. 3. นางสุรวี ัลย์ ลม้ิ พิพัฒนกลุ ผู้เช่ยี วชาญเฉพาะดา้ นมาตรฐานการศกึ ษา 4. นางรงุ่ อรุณ ไสยโสภณ ผอู้ านวยการกล่มุ พฒั นาการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย 5. นางสาววราภรณ์ ศริ ิวรรณ ข้าราชการบานาญ 6. นางสาวเนาวเรศ นอ้ ยพานิชย์ ขา้ ราชการบานาญ 7. นายไพฑูรย์ ลิศนนั ท์ ขา้ ราชการบานาญ 8. นายเจริญศักดิ์ ดีแสน ผอู้ านวยการศูนยว์ ิทยาศาสตร์เพือ่ การศกึ ษาลาปาง 9. นายอนันต์ คงชมุ รองผู้อานวยการสานักงาน กศน. จงั หวัดสโุ ขทยั 30. นายวรวุฒิ หุนมาตรา ผอู้ านวยการ กศน.เขตคลองสาน กทม. 33. นางสาววมิ ลรตั น์ ภูริคุปต์ ผู้อานวยการ กศน.เขตบางเขน กทม. 12. นางอบุ ลรตั น์ ชนุ หพันธ์ ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอเมอื ง จังหวดั จนั ทบุรี 33. นายไพโรจน์ กนั ทพงศ์ ผอู้ านวยการโรงเรียนลามหาเมฆ (ประชาราตรีอนุสรณ)์ จังหวดั ปทุมธานี 34. ว่าที่ร้อยตรี สเุ มธ สจุ ริยวงศ์ รองผู้อานวยการโรงเรียนงามมานะ (แผน – ทบั อุทศิ ) 35. นายบวรวทิ ย์ เลศิ ไกร รองผูอ้ านวยการโรงเรยี นศุภกรณ์วทิ ยา 36. นายบนั เทิง จนั ทร์นเิ วศน์ โรงเรียนบางมดวิทยา“สีสุกหวาดจวนอุปถมั ภ์” 37. นางสาวสโรชา บรุ ีศรี เลขานกุ ารฯ สานักงาน ก.ค.ศ. 38. นายกฤตพัฒน์ นิชยั วรตุ มะ สานักการลกู เสือ ยุวกาชาด และกจิ การนักเรยี น 39. นางกนกวรรณ น่ิมเจรญิ สานกั การลกู เสือ ยุวกาชาด และกจิ การนักเรียน 20. นายเอกสิทธิ์ สวัสดิ์วงค์ สานักงานลกู เสือแห่งชาติ 23. นายเอกชัย ลาเหลอื สานักงานลกู เสอื แหง่ ชาติ 22. นายศรัณยพงศ์ ขตั ิยะนนท์ กศน.อาเภอเมอื ง จังหวัดจันทบุรี
23. นายขวัญชยั เนียมหอม 136 24. นางสาววรรณพร ปัทมานนท์ 25. นางสาวเบญ็ จวรรณ อาไพศรี กศน.อาเภอบา้ นนา จังหวัดนครนายก 26. นางเยาวรัตน์ ปนิ่ มณีวงศ์ กลุ่มพฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศึกษา 27. นางสาวฐิติมา วงศ์บัณฑวรรณ ตามอัธยาศัย 28. นางกมลทิพย์ ช่วยแก้ว กลมุ่ พัฒนาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษา 29. นางสาวสุจรยิ า พุ่มไสล ตามอัธยาศัย 30. นายจตุรงค์ ทองดารา กลมุ่ พัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษา 33. นางสกุ ญั ญา กุลเลิศพิทยา ตามอัธยาศัย 32. นายชัยวชิ ติ สารัญ กลุ่มพฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอัธยาศัย กลมุ่ พัฒนาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอัธยาศัย กลมุ่ พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย กลุม่ พัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย กลมุ่ พัฒนาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอัธยาศัย กลมุ่ พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอัธยาศัย
137 รายชื่อผเู้ ข้าร่วมประชมุ ปฏบิ ตั กิ ารบรรณาธิการตน้ ฉบับชดุ วิชา รายวชิ าเลือกบงั คับ และสมุดบนั ทกึ กิจกรรมการเรยี นรู้ รายวชิ าลกู เสอื กศน. ท้ัง 3 ระดบั การศึกษา ครง้ั ท่ี 1 วนั ที่ 12 – 16 มนี าคม 2561 ณ หอั งประชมุ อารยี ์ กุลตัณฑ์ อาคาร กศน.ชน้ั 6 นางรุง่ อรุณ ไสยโสภณ ผอู้ านวยการกลุม่ พัฒนาการศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศัย นางสาววราภรณ์ ศริ ิวรรณ ขา้ ราชการบานาญ นางสาวเนาวเรศ น้อยพานชิ ข้าราชการบานาญ นายเจรญิ ศักดิ์ ดีแสน ผู้อานวยการศูนย์วิทยาศาสตรเ์ พอ่ื การศึกษาลาปาง นายบันเทงิ จันทร์นเิ วศน์ โรงเรยี นบางมดวทิ ยา “สีสกุ หวาดอปุ ถัมภ์” นายขวญั ชยั เนยี มหอม กศน.อาเภอบา้ นนา จงั หวัดนครนายก นายชยั วชิ ิต สารัญ กลุ่มพฒั นาการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศยั
138 รายชอ่ื ผูเ้ ขา้ ร่วมประชมุ ปฏบิ ตั ิการบรรณาธกิ ารตน้ ฉบบั ชุดวชิ า รายวิชาเลอื กบงั คับ และสมดุ บนั ทกึ กจิ กรรมการเรยี นรู้ รายวิชาลูกเสอื กศน. ท้งั 3 ระดบั การศึกษา ครัง้ ที่ 2 วนั ที่ 26 – 30 มนี าคม 2561 ณ โรงแรมชลพฤกษ์ รีสอรท์ จงั หวัดนครนายก นางรงุ่ อรุณ ไสยโสภณ ผ้อู านวยการกลุม่ พฒั นาการศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศัย นางสาววราภรณ์ ศริ ิวรรณ ขา้ ราชการบานาญ นางสาวเนาวเรศ น้อยพานิช ขา้ ราชการบานาญ นายเจรญิ ศกั ดิ์ ดีแสน ผู้อานวยการศนู ยว์ ทิ ยาศาสตรเ์ พอื่ การศกึ ษาลาปาง นายบันเทิง จันทร์นเิ วศน์ โรงเรียนบางมดวทิ ยา “สสี ุกหวาดอุปถมั ภ์” นายขวญั ชัย เนียมหอม กศน.อาเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก นายชัยวชิ ิต สารญั กลุ่มพฒั นาการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย
139 รายชอ่ื ผู้เข้าร่วมประชมุ ปฏิบัตกิ ารบรรณาธิการต้นฉบบั ชดุ วชิ า รายวิชาเลือกบังคับ และสมุดบนั ทกึ กจิ กรรมการเรียนรู้ รายวชิ าลกู เสอื กศน. ท้งั 3 ระดับการศึกษา คร้งั ท่ี 3 วันที่ 7 – 9 พฤษภาคม 2561 ณ โรงแรมนนทบรุ ี พาเลซ นนทบุรี นางรงุ่ อรุณ ไสยโสภณ ผ้อู านวยการกลุ่มพัฒนาการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอธั ยาศัย นางสาววราภรณ์ ศริ ิวรรณ ขา้ ราชการบานาญ นางสาวเนาวเรศ นอ้ ยพานชิ ขา้ ราชการบานาญ นางนพรตั น์ เวโรจน์เสรีวงศ์ ข้าราชการบานาญ
140 คณะผ้จู ดั ทา ท่ีปรกึ ษา เลขาธิการ กศน. นายกฤตชัย อรุณรตั น์ รองเลขาธิการ กศน. นางสาววเิ ลขา ลสี ุวรรณ์ ข้าราชการบานาญ นางสาววราภรณ์ ศริ ิวรรณ ผู้อานวยการกลมุ่ พัฒนาการศกึ ษานอกระบบ นางรงุ่ อรณุ ไสยโสภณ และการศกึ ษาตามอัธยาศัย คณะทางาน หวั หน้ากลุ่มงานพัฒนาสื่อการเรยี นรู้ นายศภุ โชค ศรรี ตั นศลิ ป์ กลุ่มพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั กลมุ่ พฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั นางสาวทิพวรรณ วงคเ์ รอื น กลุ่มพฒั นาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั นางสาวชมพูนท สังขพ์ ชิ ัย กลุ่มพฒั นาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ผู้พิมพต์ ้นฉบับ กลมุ่ พัฒนาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั นางสาวทิพวรรณ วงค์เรอื น กลมุ่ พฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั นางสาววิยะดา ทองดี กลมุ่ พัฒนาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั นางสาวนภาพร อมรเดชาวัฒน์ กลุ่มพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั นางวรรณี ศรีศริ วิ รรณกุล กลุม่ พฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั นางสาวชาลนิ ี ธรรมธิษา กลมุ่ พัฒนาการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย นางสาวชมพนู ท สังขพ์ ิชัย นางสาวขวัญฤดี ลิวรรโณ กลุ่มพฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ผอู้ อกแบบปก นายศภุ โชค ศรีรตั นศิลป์
141
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382