Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือ 100 การลูกเสือไทย

หนังสือ 100 การลูกเสือไทย

Published by ปริญญา, 2021-11-15 11:40:05

Description: หนังสือ 100 การลูกเสือไทย

Keywords: ลูกเสือ

Search

Read the Text Version

ทางไหนกด็ ี แตค่ ำ�สั่งนายกเสอื ป่าที่ส่งั แล้วนน้ั ตอ้ งถือวา่ เปน็ เดด็ ขาด กองลูกเสือกรุงเทพที่ ๔ (โรงเรียนเทพศิรินทร์) เป็นกองลูกเสือ ได้โดยไมต่ ้องรออะไรอกี ” กรงุ เทพท่ี ๒ เป็นลำ�ดบั ไป กองลูกเสือกรุงเทพที่ ๑ (ลูกเสือหลวง) และกองลูกเสือ จงึ คงเหลอื เพยี ง กองลกู เสอื มณฑลนครไชยศรที ่ี ๑ (โรงเรยี น กรงุ เทพท่ี ๒ (ลกู เสอื หลวง) อนั ไดแ้ ก่ กองลกู เสอื โรงเรยี นมหาดเลก็ ตวั อยา่ งมณฑลนครไชยศรี พระปฐมวทิ ยาลยั ) หรอื กองลกู เสอื น.ฐ. ๑ หลวง และกองลกู เสอื โรงเรยี นราชวทิ ยาลัยเป็นอนั ขาดจากการเป็น (พระปฐมวิทยาลยั ) ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจา้ อยหู่ วั ลกู เสอื ไปตง้ั แตว่ นั ท่ี ๒๖ มกราคม พทุ ธศกั ราช ๒๔๕๗ กองลกู เสอื อนั เปน็ นามทไ่ี ดร้ บั พระราชทานเปน็ เกยี รตยิ ศพเิ ศษ จากพระบาท ลำ�ดบั ถดั มาจงึ ไดเ้ ลอ่ื นขน้ึ มาแทนทต่ี ามลำ�ดบั คอื กองลกู เสอื กรงุ เทพ สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภมู พิ ลอดลุ ยเดช องคพ์ ระประมขุ คณะลกู เสอื ไทย ที่ ๓ (โรงเรียนสวนกุหลาบวทิ ยาลยั ) เป็นกองลกู เสือกรุงเทพท่ี ๑ ทยี่ งั คงเป็น “กองลูกเสอื หลวง”เพียงกองเดยี วในปัจจบุ นั . 5502006L-9.indd 77 77 6/25/12 11:21 AM

5502006L-10.indd 78 6/25/12 11:20 AM

การเปล่งเสียง ไชโย เป็นครงั้ แรก พะนอม แก้วก�ำ เนิด พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนากองเสือป่าข้ึน เพ่อื ฝกึ ข้าราชการพลเรือน และประชาชนในรปู แบบ วิธีการของทหาร เพ่อื เป็นกำ�ลังสำ�คัญในการช่วยประเทศชาติในยามสงครามและดูแลความสงบ เรยี บรอ้ ยในยามสงบ การเดนิ ทางไกลไปยงั สถานทส่ี �ำ คญั ทใ่ี ดทห่ี นง่ึ และพกั แรม เปน็ วธิ กี ารฝกึ และเปน็ กจิ กรรมทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ คณุ คา่ ยง่ิ ของเหลา่ เสอื ปา่ กองเสอื ปา่ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจ้าอยู่หวั มีการเดินทางไกลหลายคร้งั เม่ือทรงตั้งกิจการลูกเสือทรงให้โอกาสกองลูกเสือได้ร่วมเดินทางไกลพักแรม ไปกบั กองเสอื ป่าและมกี ารประลองยุทธหรอื ซ้อมรบดว้ ย Z ทรงเสดจ็ น�ำ เสอื ป่าถวายบงั คม สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทีต่ �ำ บลดอนเจดยี ์ จังหวัดสุพรรณบุรี 79 5502006L-10.indd 79 6/25/12 11:20 AM

ปี พทุ ธศกั ราช ๒๔๕๖ ทรงโปรดให้ บัญชาเข้าสมทบกับกองเสือป่าในการเดิน วนั ท่ี ๒๐ มกราคม พทุ ธศกั ราช กองเสอื ปา่ เสนาหลวงรกั ษาพระองค์ ฝกึ ซอ้ ม ทางไกลอยคู่ า่ ยพกั แรมครง้ั นน้ั เดนิ ทางจาก ๒๔๕๖ ออกเดนิ ทางจากพระราชวงั สนามจนั ทร์ เดนิ ทางไกลและอยคู่ า่ ยพกั แรม และทรงโปรดให้ พระราชวงั สนามจนั ทร์ นครปฐมไปยงั ดอนเจดยี ์ นครปฐม ถึงก�ำ แพงแสน ประทบั แรม ๒ คืน กองลกู เสอื บางกอง จดั สง่ ผแู้ ทนพรอ้ มทง้ั ผบู้ งั คบั เนอ่ื งในพธิ สี มโภชพระเจดียย์ ุทธหตั ถี วันท่ี ๒๒ มกราคม พทุ ธศกั ราช ๒๔๕๖ ออกจากก�ำ แพงแสน รอนแรมไป ๓ วัน ถงึ เมอื งอทู่ อง วนั ที่ ๒๖ มกราคม พทุ ธศกั ราช ๒๔๕๖ ออกจากเมอื งอทู่ อง รอนแรมตอ่ ไปอกี ๒ วนั ถงึ ดอนเจดีย์ แขวงเมอื งสุพรรณบุรี ในพธิ กี ารบรรดาทหาร ต�ำ รวจ เสอื ปา่ ลกู เสอื ตง้ั แถวทห่ี นา้ พระเจดยี ์ พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอย่หู ัวทรงบวงสรวงสังเวย สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช เหลา่ ทหาร ต�ำ รวจ เสือป่า ลูกเสือ โดยเสดจ็ ดว้ ยการจดุ ธปู เทียนสักการะ จากน้นั ไดก้ ระทำ�ประทกั ษิณ องค์พระเจดยี ์ ครบ ๓ รอบ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หวั มีพระราชดำ�รสั ว่า “ในวนั อนั เปน็ มหาอดุ มฤกษท์ พ่ี วกเรา เหล่านกั รบทั้งหลาย ผู้สืบเช้ือสายมาจาก บรรพบุรุษเผ่าไทยของเรา ได้มีโอกาสมาสู่ สถานอนั ศกั ดส์ิ ทิ ธอ์ิ นั มเี กยี รตปิ ระวตั นิ ้ี เราจงึ ขอถอื วา่ วาระนเ้ี สมอื นหนง่ึ เราทง้ั หลายไดม้ า ชมุ นมุ กนั เฝา้ อยเู่ ฉพาะพระพกั ตรข์ องสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช ผูท้ รงเปน็ กษตั ริยผ์ มู้ ี พระคณุ แกช่ าติไทยแล้ว ฉะนัน้ เราจึงขอนำ� ค�ำ ว่า มีชัย นีม้ าใช้เปน็ ปฐมฤกษ์ บัดนี้ ขอจง ทุกคนทมี่ าชุมนมุ ณ ทีน่ ้ี เปล่งเสียง ไชโย 80 5502006L-10.indd 80 6/25/12 11:20 AM

ตามเรา เปน็ การถวายราชสดดุ ี จนพรอ้ มเพรยี ง พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงรเิ รม่ิ ใหม้ กี ารเปลง่ เสยี งไชโย เปน็ ครง้ั แรก กันเถดิ ทรงนำ�เปลง่ เสยี งไชโย ทุกคน ณ ในคร้ังท่ีทรงนำ�กองเสือป่าและลูกเสือเดินทางไกลพักแรมและกระทำ�พิธีสมโภชพระเจดีย์ ท่นี ้ันเปล่งเสียง ไชโย ตาม ๓ ครง้ั เปน็ การ ยุทธหัตถี ของสมเด็จพระนเรศวมหาราช เช้าวนั ที่ ๒๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๕๖ เปล่งเสยี ง ไชโย เป็นครงั้ แรก” การเปล่งเสียง ไชโย เร่ิมมีมาแตค่ รั้งน้ันสืบต่อมาทุกวนั น้ี ควรสังเกตดว้ ยว่า การ ในสมัยโบราณ คนไทยเปล่งเสียง เปล่งเสยี ง ไชโย ทุกคนจะเปล่งเสยี ง ไชโย ตอ่ กัน ผนู้ ำ�ก็น�ำ เปล่งเสียง ไชโย มใิ ช่ ไช แล้วมี แสดงความร่วมมอื ร่วมใจกันในโอกาสมงคล ผ้รู ับวา่ โย ทหารจะเปล่งเสียง ไชโย ต่อกัน ๓ คร้ัง ควรจะให้ขอ้ คิดเพ่ือให้การเปลง่ เสยี ง ต่างๆ ดว้ ยการเปลง่ เสยี ง โห่ ฮ้วิ มีคน ไชโย เปน็ ไปในทางทที่ รงรเิ ร่ิมไว้ เปลง่ เสยี ง โหย่ าวเร้าใจทกุ คน ณ ทีน่ นั้ เปลง่ เสยี ง ฮิ้ว รับ ๓ ครั้ง เป็นประเพณมี า แตโ่ บราณ แมแ้ ต่ในกิจการลูกเสอื ในพธิ กี าร ต่างๆ ของลูกเสอื เพ่อื ถวายความเคารพ พระมหากษตั รยิ ์ ผูก้ �ำ กบั ลกู เสือจะใหก้ อง ลกู เสอื ตง้ั แถวหันหน้าไปทางพระบรมมหา- ราชวงั หรอื ทางกรงุ เทพฯ หรอื ทางสถานท่ี ทท่ี รงประทบั อยู่ ผ้กู �ำ กบั ลกู เสอื จะส่ังว่า ลูกเสือถวายคำ�นับพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยหู่ วั วนั ทยะหตั ถ์ เมอ่ื ทกุ คนท�ำ วนั ทยะหตั ถ์ พรอ้ มกนั แลว้ ผ้กู ำ�กบั ลกู เสอื เปล่งเสยี งวา่ ขอให้ทรงพระเจรญิ ให้กองลกู เสอื รับ โห่ ฮิว้ พร้อมกัน ครบ ๓ ครั้งแล้ว ผู้กำ�กับลูกเสือ จงึ ส่งั กระท�ำ กจิ กรรมอนื่ ต่อไป 5502006L-10.indd 81 81 6/25/12 11:20 AM

5502006L-11.indd 82 6/25/12 11:19 AM

พิธเี ข้าประจำ�กองของลกู เสอื ธัญญารตั น์ กลมเกลียว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจา้ อยหู่ วั ทรงสถาปนาการลกู เสอื สยามขน้ึ โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใหป้ ระกาศ ใช้ข้อบังคับลักษณปกครองลูกเสือ รัตน- โกสินทร ศก ๑๓๐ เมื่อวันเสาร์ท่ี ๑ กรกฎาคม พุทธศกั ราช ๒๔๕๔ ทรงรับ เป็นพระราชธุระในกิจการลูกเสือท้ังปวง ทรงรา่ งขอ้ บงั คบั ฉบบั แรกนด้ี ว้ ยพระองคเ์ อง ความในหมวดที่ ๖ เรอ่ื งการรบั ลกู เสอื และ เลอื่ นชนั้ ของขอ้ บงั คบั ลกั ษณปกครองลกู เสอื รตั นโกสนิ ทร ศก ๑๓๐ “ขอ้ ๓๗ ลกู เสอื ส�ำรองท่ีสอบไล่ความรู้และความสามารถ ได้ พอจะใหเ้ ปนลกู เสอื โทไดแ้ ลว้ ใหผ้ กู้ ำ� กบั จดั การทำ� พธิ รี บั ตวั เขา้ ประจำ� กองดงั ต่อไปน้ี 5502006L-11.indd 83 83 6/25/12 11:19 AM

กรงุ เทพฯ ไดเ้ ขา้ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาทอยใู่ น ทน่ี นั้ ดว้ ย เพอ่ื ศกึ ษาเรยี นรพู้ ธิ เี ขา้ ประจำ� กอง เม่ือพิธีเข้าประจ�ำกองครั้งแรกได้เสร็จส้ินลง ไดท้ รงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทาน พระบรมราโชวาทแก่ลูกเสือและเจ้าหน้าที่ ลูกเสือซ่ึงได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอยู่ใน ทน่ี ั้น การกระท�ำพิธีเข้าประจ�ำกองของ ลูกเสอื ไดข้ ยายออกไปยังมณฑลตา่ งๆ โดย มขี า้ ราชการฝา่ ยปกครองชน้ั ผใู้ หญ่ ไดใ้ หค้ วาม ร่วมมือมาเป็นประธานในพิธีและกล่าวให้ โอวาทปลุกใจลูกเสือตามแนวทางที่พระบาท สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงวาง แนวทางเป็นตวั อย่างไว้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า และทรงรับเป็นพระราชธุระด�ำเนินการจัด พระมหามนตรีศรีองครักษ์สมุหะ เจา้ อยู่หวั ทรงจัดให้มกี ารสอบไลว่ ิชาลูกเสอื พิธีเข้าประชุมกองของลูกเสือหลวงด้วย (ฉตั ร โชตกิ เสถยี ร) อดตี นกั เรยี นมหาดเลก็ ห ลวง โดยทรงเริม่ จากลกู เสอื หลวง กองลูกเสือ พระองคเ์ อง เพอ่ื เป็นตน้ แบบและแบบอย่าง รนุ่ แรกไดเ้ ล่าไวใ้ น “เรอื่ งของอดีตลูกเสือโท” กรงุ เทพฯ ที่ ๑ กอ่ น ดว้ ยทรงเหน็ วา่ ลกู เสอื หลวง อันดีส�ำหรับกองลกู เสอื อ่ืนๆ ในการกระทำ� วา่ ในฐานะทเ่ี ปน็ ลกู เสอื สงั กดั กองลกู เสอื หลวง ได้รับการฝึกหัดมีความรู้ขั้นต้นเพียงพอแล้ว พธิ เี ข้าประจำ� กองของลกู เสอื ก.ท. ๑ กองแรกของชาติ และได้เข้าพิธี จึงทรงจัดใหม้ ีการสอบไล่วิชาลูกเสือ เปน็ สาบานตนถวายหนา้ พระทน่ี ง่ั องคพ์ ระประมขุ ลกู เสอื โท จากน้นั กข็ ยายการสอบไล่วชิ า วนั ที่ ๓ สิงหาคม พุทธศักราช สภานายกลกู เสอื แหง่ ชาติ ผทู้ รงพระราชทาน ลูกเสอื ใหล้ ูกเสอื เล่ือนช้ันเป็นลกู เสอื โทไปยัง ๒๔๕๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ การกอ่ กำ� เนิด เม่ือปีพทุ ธศกั ราช ๒๔๕๔ มณฑลตา่ งๆ มลี กู เสอื ไดส้ อบผา่ นเปน็ ลกู เสอื โท ลกู เสอื หลวงทส่ี อบไลไ่ ด้แล้วนั้นเข้ากระท�ำพิธี ได้เล่าเร่ืองการถวายสัตย์ปฏิญาณตนของ จำ� นวนมาก ทรงเหน็ วา่ ลกู เสอื มคี วามรคู้ วาม เขา้ ประชมุ กองตอ่ หนา้ พระทน่ี งั่ ณ พระทน่ี ง่ั ลูกเสือหน้าพระทนี่ ่งั เพือ่ เขา้ ประจ�ำกอง สามารถทางการลกู เสอื สูงข้นึ แล้ว จึงทรง อภเิ ษกดสุ ติ ในโอกาสนัน้ ทรงพระกรุณา พระราชทานกำ� เนดิ เป็นลูกเสอื (กองแรก) ก�ำหนดให้ลูกเสือเหล่าน้ันเข้าประจ�ำกอง โปรดเกล้าฯ ให้ กองลูกเสือต่างๆ ทีม่ อี ย่ใู น ของชาติสบื มา นบั เป็นขอ้ มูลอันส�ำคัญที่ ท�ำให้เราได้เห็นภาพงานพิธีเข้าประจ�ำกอง ลูกเสือครั้งแรก แมว้ า่ จะไม่มีหลกั ภาพถ่าย ตกทอดมาถงึ ปจั จบุ นั กต็ าม “....อาจารยใ์ หญ่ ผู้บังคับกองโรงเรียนได้น�ำกองลูกเสือของเรา 84 5502006L-11.indd 84 6/25/12 11:19 AM

ไปตั้งแถวรับเสด็จอยู่ท่ีกลางสนามหญ้า เมื่อเสร็จส้ินทงั้ ๘ หมู่ ๔ หมวดตาม หน้าพระทีน่ ่ังอภิเษกดุสติ ในพระราชวงั ดสุ ติ ลำ� ดบั แลว้ กไ็ ดร้ บั พระราชทานพระราชดำ� รสั พร้อมกันนัน้ กไ็ ด้มีสมาชิกเสือปา่ ตง้ั แถว และพระบรมราโชวาท มขี ้อความโดยย่อ ด้านสกัดขนาบเราอยู่ท้ังสองข้างอย่างใกล้ชิด พอสรปุ ได้ดงั น้ี “ณ บัดนี้ ข้าขอรบั เจ้าไว้เปน็ เวลาหา่ งประมาณ ๑๗.๐๐ น. องคส์ ภานายก รากฐานลกู เสือของชาติแล้ว จงรกั ษาคำ� มน่ั เสอื ปา่ แลลกู เสือ เสด็จออกทางพระท่นี ง่ั สัญญาท่ไี ดใ้ หไ้ ว้ แลคตธิ รรมประจำ� ใจของ อภิเษกฯ เสือป่าลูกเสอื ถวายการเคารพ แลว้ คณะเสอื ปา่ แลลกู เสือของเรา ฯลฯ” แลว้ เสด็จลงมากลางสนามท่ามกลางเสือป่า พระราชทานพรให้กองลูกเสือแห่งชาติจง แลลูกเสือ ในขณะนนั้ นายเสือปา่ เชิญธง สถิตย์สถาพรเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ มหาศาระธรู ธวชั (ธงไชยเฉลมิ พลประจำ� กอง สบื ตอ่ ไปชว่ั กาลนาน เสร็จแล้วผู้บงั คับกอง เสอื ป่าทว่ั ไป มีรูปเสือเต็มหัว* แลมีอักษร ได้ว่ิงน�ำกองลูกเสือของเราเข้าแถวต่อท้าย “เสียชีพอยา่ เสยี สัตย์” ธงประจ�ำกรมเสือปา่ กองเสอื ป่า แสดงสัญลกั ษณร์ ่วมจติ ใจใน ต่างๆ มเี พียงหน้าเสอื ธงประจำ� กองต่างๆ หลักการเดียวกนั แลว้ ตอ่ จากนม้ี กี ารเดนิ เหล่าน้ปี ักรปู เสือด้วยไหมทัง้ สิน้ ) ลงมาจาก สวนสนามผา่ นหนา้ พระทน่ี งั่ ถวายการเคารพ พระทีน่ ัง่ อภิเศกดสุ ิตทป่ี ระดิษฐาน ทรงบอก ด้วยการนำ� ธงประจ�ำพระองค์ มหาไพชยนต์ แถวเสือป่าลูกเสือรวมกอง เคารพธงใหญ่ ธวชั แทนพระองคใ์ นต�ำแหน่งผู้บงั คบั บญั ชา ประจำ� กองของเรา เสร็จเสด็จขึน้ ประทับเกย ขบวนสวนสนามนี้ ตอ่ จากนีเ้ สดจ็ ลงมา ยกพื้นโถงสงู ไมเ่ กิน ๕๐ เซนต์ (ไม่ใช่ บัญชาการแถวเสือป่าแลลูกเสืออีกคร้ังหน่ึง พระทนี่ ัง่ ชมุ สาย) เบือ้ งหน้าธงใหญ่ประจ�ำ เพอื่ ท�ำการเคารพธงใหญ่ เพอื่ เชญิ กลับสทู่ ี่ กองเสือป่า การพธิ ีปฏิญาณตนถวายของ ประดษิ ฐานแล้วเสด็จข้ึน เป็นการเสร็จพิธ”ี ลกู เสอื ไดเ้ รมิ่ ขน้ึ ดว้ ยลกู เสอื ไดว้ งิ่ เขา้ มาตง้ั แถว พร้อมกนั เป็นหม่ๆู เฉพาะพระพักตร์หนา้ ซง่ึ จะเห็นได้วา่ พธิ ีเขา้ ประจำ� กอง พระทนี่ ่งั ห่างไมเ่ กิน ๔ เมตร คำ� ปฏญิ าณ ลูกเสือคร้ังแรกในประวัติศาสตร์การลูกเสือ ถวายมี ๓ ขอ้ คอื - แห่งสยาม มีรายละเอยี ดแตกต่างไปจาก ๑. ข้าจะมีใจจงรักภักดีต่อพระบาท ข้อบังคบั ลกั ษณปกครองลกู เสือ ร.ศ. ๑๓๐ สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ไปบ้าง ดว้ ยกองลูกเสือกรงุ เทพท่ี ๑ (กอง ๒. ขา้ จะตงั้ ใจประพฤตติ นใหส้ มควร ลกู เสอื หลวง) นเ้ี ปน็ กองลกู เสอื กองแรกของชาติ เปน็ ลกู เสอื ผ้ชู าย จึงได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณ ๓. ข้าจะประพฤติตามข้อบังคับแล ปรากฏเปน็ เกยี รตยิ ศสบื มาจนกระทง่ั ทกุ วนั นี้ แบบแผนของลูกเสอื _________________________________________ * “ธงมหาศารทลู ธวัช ธงไชยเฉลมิ พลประจ�ำกองเสือปา่ ทั่วไป มีรปู เสือเตม็ ตวั และมอี กั ษร “เสยี ชพี อย่าเสียสตั ย”์ 5502006L-11.indd 85 85 6/25/12 11:19 AM

ส�ำหรับพิธีรับลูกเสือโทเข้าประจ�ำ 6/25/12 11:19 AM กองนี้ ถอื เป็นธรรมเนียมพระราชปฏิบตั ิท่ี องค์สภานายกจะทรงเสด็จพระราชด�ำเนิน ไปเปน็ ประธานในพิธี หรอื อาจจะทรงมี พระมหากรณุ าธคิ ณุ โปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ ระบรม- ราชวงศ์เสดจ็ แทนพระองค์ หรือขา้ ราชการ ฝ่ายปกครองช้ันผู้ใหญ่เป็นประธานในพิธี ในกรณีที่กองลูกเสือที่ได้ตั้งข้ึนนั้นอยู่ใน หัวเมืองทห่ี ่างไกล และยงั ไม่ทรงมหี มาย ก�ำหนดการที่จะเสด็จพระราชด�ำเนินไปใน เวลาอันสมควรนัน้ ถา้ เปน็ กองลกู เสือทีต่ ัง้ ขน้ึ ใหม่ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้กอง เสือป่าตั้งแถวรบั และอาจจดั พิธรี ับลกู เสือ โทเข้าประจ�ำกองพร้อมกับพิธีถือน�้ำพิเศษ เสือป่ากไ็ ด้ ครั้นเม่ือส้ินสมเด็จพระมหาธีรราช เจ้าสมัยแล้ว ถงึ ปีพทุ ธศกั ราช ๒๔๗๘ สภา กรรมการกลางจัดการลูกเสือแห่งสยาม ได้ด�ำริร้ือฟื้นให้มีพิธีประจ�ำกองลูกเสือขึ้น อกี ครั้งหน่งึ ดงั ความตอนหนึ่งวา่ “...ด้วยการ ท�ำพิธีรับลูกเสือที่สอบไล่วิชาลูกเสือโท ได้แล้วเข้าประจ�ำกองจ�ำเดิมแต่พระบาท สมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั องค์พระ ผูพ้ ระราชทานกำ� เนิดคณะลกู เสือสยาม ได้ ทรงเป็นพระราชธุระฝึกผู้ก�ำกับและลูกเสือ ในการจะทำ� พธิ เี ขา้ ประจำ� กองดว้ ยพระองคเ์ อง และได้โปรดเกล้าฯ ใหท้ ำ� พิธเี มื่อวนั ท่ี ๓ สงิ หาคม พทุ ธศกั ราช ๒๔๕๕ ทหี่ นา้ พระทน่ี งั่ อภเิ ศกดสุ ิต นับเปน็ พธิ ีเข้าประจำ� กองลกู เสือ ครงั้ แรก ดว้ ยพระบรมราชประสงคท์ จี่ ะใหเ้ ปน็ 86 5502006L-11.indd 86

แบบอยา่ งสำ� หรับการนตี้ อ่ ไป จากแตน่ น้ั มา ถงึ บัดนีซ้ ่ึงเป็นเวลาลว่ งมา ๒๓ ปีเศษแล้ว กล่าวโดยท่วั ๆ ไป ปรากฏวา่ การท�ำพธิ เี ข้า ประจ�ำกองของลูกเสือตามท่ีได้จัดท�ำกัน ออกจะเร้อื ๆ เลอื นๆ ไป จงึ คิดใครท่ ี่จะ ปรับปรุงเสียให้เป็นไปโดยระเบียบเรียบร้อย อนั งดงามและเหมาะสมแกก่ าลสมัย...” สภากรรมการกลางจัดการลูกเสือ เพ่ือรกั ษาไว้ และผะดงุ ใหเ้ จรญิ ย่งิ ๆ ขน้ึ ซง่ึ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และรัฐธรรมนูญ แห่งสยาม จึงไดร้ ่างระเบยี บการทำ� พิธีรบั แหง่ สยาม จนตลอดชีพ ลกู เสอื โทเขา้ ประจำ� กองขนึ้ แลว้ ประกาศเปน็ ขอ้ ๓ ข้าพเจา้ จกั บำ� เพญ็ ตน อยูใ่ นมรรยาทอันดงี าม ตามบัญญตั ขิ องลูกเสือ ด้วย “ประกาศข้อบังคับลักษณปกครองลูกเสือ ความภักดแี ละความเคารพอนั จรงิ ใจทุกเม่อื พ.ศ. ๒๔๖๑ แก้ไขเพิม่ เติม พทุ ธศักราช ๒๔๗๘” ในพระปรมาภไิ ธยสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั “..และโดยเฉพาะคำ� มนั่ สัญญาของลกู เสือซงึ่ จะใช้ในพิธี กย็ ืนหลกั ตามข้อบังคับเดมิ อานนั ทมหิดล ไดเ้ ร่ิมใชใ้ นพธิ รี บั ลกู เสอื โท นน้ั เอง แตไ่ ดป้ รับปรงุ ใหก้ ะทดั รดั และใหเ้ ป็นแบบแผนอนั เหมาะแกก่ าลสมัยขึน้ เท่าน้ัน...” เขา้ ประจำ� กองของลกู เสอื จงั หวดั พระนครและ ธนบรุ ี ประจำ� ปพี ทุ ธศกั ราช ๒๔๗๘ ซง่ึ จดั ขน้ึ เนื่องดว้ ยสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั อานันทมหดิ ล นายกสภากรรมการกลางจดั การลูกเสือ ณ ลานเชงิ สะพานพระพทุ ธยอดฟา้ ฝง่ั พระนคร แหง่ สยาม ยุวกษตั รยิ เ์ สด็จประทับศกึ ษาวิชาการในประเทศสวติ เซอรแ์ ลนด์ คณะผสู้ ำ� เรจ็ ณ วันท่ี ๑๕ กุมภาพนั ธ์ ศกนน้ั ราชการแทนพระองค์ได้เสด็จพระราชด�ำเนินมาทรงเป็นประธานในพิธีท่ีได้จัดต่อเนื่องมา ตงั้ แต่พทุ ธศกั ราช ๒๔๗๘ ทกุ คราวไป และเพอ่ื ใหเ้ ปน็ เกียรติแกง่ านนายกกรรมการจดั การ ถงึ ศกนี้ ได้มกี ารเปลีย่ นแปลงค�ำ ลูกเสอื จังหวดั พระนคร และธนบุรจี งึ ไดอ้ อกหนังสอื เชิญนายกรฐั มนตรี รฐั มนตรี มาร่วม ปฏญิ าณลกู เสอื ในพธิ เี ขา้ ประจำ� กอง ทแ่ี ตเ่ ดมิ มา เปน็ เกียรตใิ นงานด้วย ลูกเสือจะกล่าวค�ำปฏิญาณต่อหน้าพระพักตร์ หรอื ผแู้ ทนพระองค์ มาเปน็ การกลา่ วคำ� ปฏญิ าณ การทำ� พิธรี บั ลกู เสอื โทเขา้ ประจำ� กองนี้ คณะผูส้ ำ� เรจ็ ราชการแทนพระองคไ์ ดเ้ สด็จ ต่อหน้าธงชาตสิ ยามแทน มาในทกุ ปี และมีบญั ชาให้สำ� นักพระราชวงั ชว่ ยเหลือในเรอ่ื งที่เกย่ี วกับการพธิ ีดว้ ยตาม สมควร ข้อ ๑ ข้าพเจา้ จักมีความสตั ยซ์ ื่อตรง จงรกั ภักดี ตอ่ ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ และรัฐธรรมนญู แห่งสยาม ดว้ ยความเคารพ นบั ถอื อย่างสงู สดุ จนตลอดชพี ขอ้ ๒ ข้าพเจา้ จกั พยายาม โดยยอม เสียสละทุกอย่างแม้ที่สุดจนชีวิตของข้าพเจ้า 87 5502006L-11.indd 87 6/25/12 11:19 AM

88 อนึง่ ปีพุทธศกั ราช ๒๔๘๒ คณะกรรมการจดั การลกู เสือจงั หวดั พระนครและธนบุรี ไดเ้ ปลี่ยนมาท�ำพิธีรับลูกเสือโทเขา้ ประจ�ำกอง ขน้ึ ที่ 5502006L-11.indd 88 ลานพระบรมรปู ทรงมา้ หนา้ พระท่นี ง่ั อนนั ตสมาคม ในวนั เสารท์ ่ี ๒๔ กุมภาพันธ์ พทุ ธศกั ราช ๒๔๘๒ เสยี คราวหนึง่ 6/25/12 11:19 AM

ถงึ รชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เปล่ียนแปลงให้เหมาะสมเข้ากับกิจการ การเข้าประจ�ำกองลูกเสือจึงได้ถูกก�ำหนด ภูมิพลอดลุ ยเดช รชั กาลปจั จุบนั กจิ การ ลกู เสอื ของไทย ข้นึ ใหม่แยกไปตามประเภทของลูกเสอื ซึง่ ลกู เสอื ได้รบั การฟนื้ ฟูขน้ึ อีกครงั้ หลงั จาก แตกตา่ งจากเดมิ ทแี่ บง่ ตามพระราชนยิ มเปน็ ท่ีได้ซบเซาลงไปในช่วงมหาสงครามโลก วา่ กันโดยทางสากลแล้ว ในขณะน้ัน สำ� รองลกู เสอื ลกู เสอื สำ� รอง ลกู เสอื โทและ ครงั้ ท่ี ๒ และรฐั บาลสยามในขณะนน้ั หัน กจิ การลกู เสอื สยามนบั วา่ มแี บบอยา่ งเปน็ ของ ลกู เสอื เอก มาเปน็ การแบง่ ออกตามชว่ งวยั ไปให้ความส�ำคัญแก่องค์การยุวชนทหาร ตนเอง ตา่ งจากกจิ การลกู เสอื สากลอยา่ งมาก ของเด็กคือ ลูกเสือส�ำรอง ลูกเสือสามัญ มากกว่า เช่นเคร่ืองแบบลูกเสือตามแบบพระราชนิยม ลกู เสอื สามญั รุ่นใหญ่ และลกู เสอื วิสามญั ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว คงมีเพียงลูกเสือสามัญเท่าน้ันท่ีได้รักษา พระราชบญั ญัตลิ กู เสอื พ.ศ. ๒๔๙๐ ก่อนท่ีจะได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นเคร่ืองแบบ ระเบียบพิธีการเข้าประจ�ำกองลูกเสือไว้ได้ กำ� หนดใหพ้ ระมหากษตั รยิ ์ ทรงดำ� รงตำ� แหนง่ ลูกเสือท่ีเป็นสากลมากข้ึนอย่างในปัจุบันน้ี คงเดมิ มากทสี่ ดุ จากเมอ่ื ๑๐๐ ปที แี่ ลว้ เปน็ บรมราชูปถัมภ์คณะลูกเสือแห่งชาติเป็น เดิมมีรูปแบบคล้ายกับเครื่องแบบลูกเสือ แตไ่ ดป้ รบั ปรงุ ใหเ้ หมาะสมแกป่ จั จบุ นั เทา่ นน้ั . ฉบบั แรก งานพธิ ีรับลกู เสอื โทเขา้ ประจำ� กอง โลกเมื่อแรกตงั้ ขึน้ ในโลก คือคลา้ ยกับคณะ จึงพน้ จากพระราชภาระมานบั แตน่ ้นั ลูกเสอื อังกฤษมากท่สี ุด ถึงแมว้ ่าในทกุ วนั น้ี จะไดเ้ ปลีย่ นแปลงจากเดิมไปมาก แตค่ ณะ เม่ือสถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงไป ลูกเสือไทยก็ยังได้รักษาภาพอดีตของลูกเสือ หลงั จากมา่ นหมอกควนั ไฟแหง่ ภยั สงครามโลก โลกไว้ไดม้ ากกว่าเมืองต้นกำ� เนดิ ที่ทกุ วันน้ี สงบลง ความสมั พนั ธท์ างการทตู ระหวา่ งสยาม ไม่เหลอื เค้าโครงเดมิ เสยี แล้ว กบั นานาชาตไิ ดพ้ ฒั นาขึ้นมาก คณะลกู เสือ แห่งชาติได้มีโอกาสกระชับความสัมพันธ์กับ และเม่ือได้มกี ารประกาศใชพ้ ระราช คณะลกู เสอื นานาชาตมิ ากขนึ้ ตามลำ� ดบั คณะ บัญญตั ลิ ูกเสอื พ.ศ.๒๕๐๗ แล้ว กจิ การ ลกู เสอื ไทยไดส้ ง่ ผกู้ ำ� กบั ลกู เสอื ไปฝกึ หดั อบรม ลูกเสือไทยได้พัฒนาข้ึนเป็นอันมากทั้งยัง วิชาผู้ก�ำกับท่ีกิลเวลล์ปาร์ค คณะผู้ก�ำกับ เกิดการเปล่ียนแปลงคร้ังย่ิงใหญ่ในเรื่อง ลกู เสอื เหลา่ นน้ั จงึ ไดร้ บั เอารปู แบบระบบการ การปกครอง เครื่องแบบ และพิธีการ และ ฝกึ หดั สง่ั สอน ระเบยี บการปกครองตลอดจน เม่ือได้ประกาศใช้ข้อบังคับคณะลูกเสือ แบบอย่างธรรมเนียมพิธีการจากลูกเสือ แห่งชาติ วา่ ดว้ ยการปกครอง หลักสูตร และ นานาชาติกลบั เขา้ มาดว้ ย แตก่ ็ไดป้ รับปรุง วิชาพเิ ศษลกู เสือ พ.ศ.๒๕๐๙ ระเบียบพิธี 5502006L-11.indd 89 89 6/25/12 11:19 AM

5502006L-12.indd 90 6/25/12 11:17 AM

ธงเสือป่าและธงลูกเสือ ภูวนารถ กังสดาลมณชี ัย “เวลา บา่ ย ๓ โมง ๔๕ นาที ซึ่งเป็นธงประจ�ำกรมเสือป่าราบหลวงรักษา พระคาถาบทชัยมงคลคาถานี้ เรียก วนั เสารท์ ่ี ๖ พฤษภาคม พุทธศักราช พระองค์ “ซ่ึงเปนเสอื ปา่ กองแรกเรมิ่ เหมอื น อีกอยา่ งว่า บทสวดถวายพรพระ เดมิ เป็น ๒๔๕๔ พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้า เปนบอ่ เกิดแหง่ คณะเสือปา่ ทเี ดียว..” พระคาถาแปดบท สำ� หรบั สวดสรรเสรญิ ชยั ชนะ เจา้ อยหู่ วั ทรงเครอ่ื งสนามกองเสือปา่ แปดประการ ขององค์สมเด็จพระสัมมา- เสดจ็ พระราชดำ� เนนิ เขา้ สภู่ ายในพระอโุ บสถ สัมพุทธเจ้าท่ีมีต่อมนุษย์และอมนุษย์ท่ีได้มา วัดพระศรรี ตั นศาสดาราม ...ทรงบรรจเุ สน้ ดว้ ยพระพทุ ธธรรม มไิ ดม้ าดว้ ยอทิ ธปิ าฏหิ ารยิ ์ พระเจ้าท่ียอดธงประจ�ำกองเสือป่า...ทรง แตอ่ ยา่ งใด โดยพระสงฆ์มักจะสวดมนตน์ ี้ หล่ังน้�ำพระมหาสังข์แลทรงเจิมธง...แล้ว ตอ่ ทา้ ยการทำ� วตั รเชา้ -เยน็ เรม่ิ ดว้ ยบทพาหงุ โปรดให้เชิญธงน้ันไปผูกไวห้ ลงั ธรรมมาสน์ ตามดว้ ยบทมหาการณุ โิ ก รวมเรยี กวา่ คาถา ศลิ าหนา้ พระมหามณรี ัตนปฏมิ ากร.... พาหุงมหากา หรือ พาหุงมหาการณุ โิ ก พระราญรอนอริราชเชิญธงลงมา มหาศารทลู ธวชั เสอื ป่า ตามต�ำนานว่าเป็นบทสวดท่ีสมเด็จ จ า ก พ ร ะ อุ โ บ ส ถ . . . พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พระพนรัตน์ วดั ปา่ แก้ว เปน็ ผรู้ จนาขน้ึ ถวาย พระเจ้าอยหู่ วั เสด็จพระราชด�ำเนินลงจาก ธงเสือปา่ ใหญน่ ี้ มรี ปู เป็นธงสี่เหลย่ี ม สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สำ� หรับสวดเป็น พระอุโบสถทรงรับธงจากพระราญรอน จตั รุ สั พน้ื สดี ำ� มรี ปู เสอื ลายพาดกลอนปกั ดว้ ย พระคาถาประจำ� พระองค์ เพอื่ ให้มชี ัยเหนือ อริราช ประทบั ยืนอยู่หนา้ แถว.... สมเด็จ ไหมเตม็ ตัวยนื หนั หนา้ ไปทางเสา ใต้รปู เสือ พระมหาอปุ ราชแหง่ พม่า และกอบกเู้ อกราช พระบรมวงษ์เธอ กรมพระยาวชิรญาณ มีค�ำขวัญพระราชทานเป็นคติพจน์แห่งคณะ จากกรุงหงสาวดไี ด้สำ� เรจ็ วโรรส...ทรงเสกท่ีธงแลทรงประน�้ำมนต์ เสือป่าว่า “เสียชีพอย่าเสียสัตย์” ปักด้วย ประทาน...เปน็ เสรจ็ การพิธ”ี ไหมแดง รอบธงท้ังสี่ด้านปกั อักษรขอมดว้ ย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า ไหมเหลอื ง เปน็ บทชยั มงคลคาถา “พระคาถา เจ้าอยูห่ ัว ๖ ทรงน�ำพระคาถาพาหงุ บทแรก เมื่อ ๑๐๐ ปีทแ่ี ล้ว พระบาทสมเด็จ พาหุง” บทแรก เมอื่ แรกนน้ั ธงเสือป่าใหญ่ มาดดั แปลงตอนทา้ ยจากเดิม ‘ตันเตชะสา พระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยหู่ วั ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ มยี อดเป็นครุฑ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระ ภะวะตุ เต ชะยะมงั คะลานิ’ เปน็ ‘ตันเตชะ ตั้งการพระราชพิธีถือน�้ำพระพิพัฒน์สัตตยา มงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ สา ภะวะตุ เต ชะยะสิทธิ นิจจัง’ นอกจากน้ี เสอื ปา่ ขน้ึ เปน็ ครงั้ แรก ในวนั เสารท์ ่ี ๖ พฤษภาคม ใหเ้ ปลย่ี นเปน็ ยอดวชั ราวธุ กบั ประดบั เหรยี ญ ยงั ไดท้ รงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้จารกึ พทุ ธศกั ราช ๒๔๕๔ จงึ ถือเป็นวนั สถาปนา และแพรแถบเครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณร์ ตั นาภรณ์ พระคาถาบทน้ี เปน็ อกั ษรไทยลงในธงชัย กองพลสมคั รเสอื ปา่ ขนึ้ ในสยามประเทศนบั แต่ รชั กาลที่ ๖ เพม่ิ ในภายหลงั เฉลิมพลส�ำหรับกองทหารอาสาในมหาสงคราม วนั นน้ั ธงท่ีกลา่ วถึงคือ “ธงเสอื ปา่ ใหญ”่ โลกครงั้ ที่ ๑ ทงั้ ดา้ นหนา้ และดา้ นหลงั อกี ดว้ ย 91 5502006L-12.indd 91 6/25/12 11:17 AM

เมอื่ กจิ การเสอื ปา่ ไดข้ ยายเพม่ิ จำ� นวน เหนือเกล้าฯ ส่งั ว่า ธงเสอื ป่าใหญแ่ ลธง ซงึ่ พมิ พ์รปู ธงต่างๆ ของไทย บรษิ ทั ยาสบู สมาชิกมากขึ้นจนพอจ�ำนวนท่ีตั้งกองข้ึนใหม่ ประจำ� กรมแลกองเสอื ปา่ มณฑลตา่ งๆ นน้ั บรติ ชิ -อเมรกิ นั จำ� กดั พมิ พเ์ มอ่ื ปพี ทุ ธศกั ราช ก็ทรงโปรดให้ต้ังการพระราชพิธีถือน้�ำพระ ควรจะมนี ามตา่ งพวก จงึ ทรงพระกรณุ า ๒๔๖๓ เพื่อเป็นของแจกใส่ลงในซองบุหร่ี พัฒน์สัตตยาคร้ังใหม่ และโปรดให้อัญเชิญ โปรดเกลา้ ฯ ขนานนามธงเสอื ปา่ ใหญ่วา่ ที่ออกจ�ำหน่ายให้แก่ลูกค้า กระดาษแข็ง ธงเสอื ปา่ ใหญไ่ ปตงั้ และไดถ้ อื เปน็ ธรรมเนยี ม “มหาศารทลู ธวชั ” แลธงประจำ� กรมกองเสอื ปา่ แผ่นเลก็ พมิ พ์รูปธงสี่เหลย่ี มจตั ุรัส มีค�ำ ท่ีจะต้องอัญเชิญธงเสือป่าใหญ่ไปต้ังในการ มณฑลต่างๆ ให้เรียกว่า “ศารทูลธวัช” บรรยายใตภ้ าพสน้ั ๆ เพยี งวา่ ธงไชยเฉลมิ พล พระราชพธิ ถี ือน�ำ้ ทกุ คราวไป ประจำ� กรมมณฑลนน้ั ๆ เชน่ มณฑลกรงุ เทพฯ เสอื ปา่ เป็นรปู หน้าเสอื ตรงกนั กบั คำ� บอกเลา่ (รักษาพระองค)์ ใหเ้ รยี ก “ศารทลู ธวชั ” ของพระมหามนตรีศรีองครักษ์สมุหพอดี ครั้นเม่ือได้มีการขยายกิจการเสือป่า ประจำ� กรมเสือปา่ มณฑลกรงุ เทพฯ (รกั ษา ไปยงั หวั เมอื ง มมี ณฑลนครไชยศรเี ปน็ แหง่ แรก พระองค)์ ใหเ้ รยี กนามนต้ี ง้ั แตบ่ ดั นเี้ ปน็ ตน้ ไป” ซกิ าแรตการด์ ก็โปรดให้มีการถือน�้ำพระพิพัฒน์สัตยาขึ้น เมอื่ วนั ที่ ๗ กันยายน รัตนโกสินทรศก ๑๓๐ ศารทูล แปลว่า เสือโครง่ , สิงโต, ผู้เขียนจึงได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า (พทุ ธศักราช ๒๔๕๔) ด้วย นับเป็นคร้งั แรก คนเกง่ , คนดยี อดเยี่ยม, คนมีชือ่ เสียง ส่วน น่ีอาจเป็นหลักฐานช้ินส�ำคัญที่จะไขปริศนา ที่ได้มีการพระราชทานธงเสือป่าประจ�ำกอง ค�ำว่า ธวัช มีความหมายวา่ ธง ดังนั้น ทีว่ ่า บรรดาธงศารทูลธวัชประจ�ำกรมเสือป่า เสือปา่ ในหัวเมอื ง “มหาศารทูลธวัช” จงึ แปลความหมายไดว้ ่า มรี ปู แบบอย่างไร “ธงเสือปา่ ใหญ”่ น่นั เอง ผูเ้ ขยี นสนั นิษฐานว่า เมอื่ ได้เรมิ่ มีการ ดว้ ยต่อมาในวันท่ี ๑ มกราคม พระราชทานธงประจ�ำกรมเสือป่ามากข้ึน ธงศารทูลธวัชที่ได้ทรงพระราชทาน พทุ ธศักราช ๒๔๕๙ พระบาทสมเด็จ นเ่ี อง จงึ ไดพ้ ากนั เรยี ก ธงประจำ� กรมเสอื ปา่ ส�ำหรับประจ�ำกองเสือป่ามณฑลนครไชยศรี พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณา ทป่ี กั รูปเสอื ลายพาดกลอนนน้ั วา่ “ธงเสือป่า ในครง้ั นน้ั จะมรี ปู แบบอยา่ งไรนน้ั ไมส่ ามารถ โปรดเกลา้ ฯ ให้เปลี่ยนรปู แบบธงประจำ� กรม ใหญ่” และธงท่ีทรงพระราชทานต่อๆ มา สบื คน้ หลักฐานได้ แตจ่ ากค�ำบอกเล่าของ เสอื ปา่ ใหม่ รปู สเี่ หลย่ี มผนื ผา้ เปน็ พนื้ ธงสามสี นา่ จะมรี ูปเป็นอยา่ งอ่ืน พระมหามนตรศี รีองครักษ์สมุห (ฉัตร โชตกิ แบง่ เป็นหา้ รว้ิ หกสว่ น โดยมีสองส่วนริมนอก เสถียร) ท่ีว่า “ธงไชยเฉลิมพลประจ�ำกอง เปน็ สแี ดง อกี สองสว่ นเปน็ สขี าว ตรงสว่ นกลาง เพื่อไม่ให้เป็นการสับสนในการเรียก เสือป่าท่วั ไป มีรูปเสือเตม็ ตวั แลมอี ักษร เปน็ สีขาบมีความกว้างเปน็ สองสว่ น ซงึ่ เปน็ ชอื่ ธงตา่ งๆ ทีเ่ ริ่มพระราชทานมากขึน้ จงึ ทรง “เสียชพี อย่าเสยี สัตย”์ ธงประจำ� กรมเสอื ป่า พระราชทานนามธงเสือป่าให้เหมาะสม ต่างๆ มีเพยี งหน้าเสือ ธงประจำ� กองต่างๆ ดังมีประกาศ แจง้ ความเรื่องทรงพระกรณุ า เหล่านป้ี ักรูปเสอื ดว้ ยไหมท้งั สน้ิ ” โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามธงเสอื ป่าเม่อื วนั ที่ ๒๙ ธนั วาคม พระพุทธศักราช ๒๔๕๖ ประกอบกับผู้เขียนไปพบซิกาแรต ความว่า “ดว้ ยมีพระบรมราชโองการด�ำรสั การ์ดใบหน่ึง จัดอยู่ในชุดธงราชการไทย 92 5502006L-12.indd 92 6/25/12 11:17 AM

ต้นเค้าของธงไตรรงค์ในเวลาต่อมาน่ันเอง ขออญั เชญิ พระบรมราโชวาท ซ่ึง ของตนเอง ต้งั ใจใหก้ รมนนั้ เปนท่ีนบั ถือแก่ ตรงกลางมพี ระปรมาภไิ ธยยอ่ “รร๖” ภายใต้ ทรงพระราชทานไว้ในวันพระราชทานธง สาธารณชน ให้เปนที่ย�ำเกรงแก่คนเหลา่ ร้าย รูปพระมหามงกุฎ ที่มมุ ธงดา้ นบนตรงทช่ี ิด เสือปา่ ใหม่ เม่อื วันที่ ๑ มกราคม พทุ ธศักราช ท่ีมุ่งหมายท�ำอันตรายตอ่ ชาติ สาสนา ยอดคนั ธง เปน็ แถบแพรสเี ป็นรูปสีเ่ หลย่ี ม ๒๔๕๙ มาลงไวเ้ พอื่ ใหเ้ หน็ ถงึ ความสำ� คญั ของ พระมหากษตั รยิ ์ ขอทา่ นทง้ั หลายบรรดาท่ี จัตุรสั ตรงกลางมรี ปู หนา้ เสอื ล้อมรอบด้วย ศารทูลธวัชเสือป่า ดังน้ี ไดม้ าเปนผแู้ ทนเสอื ปา่ ในวนั นี้ จงรบั พรไปแทน ขอ้ ความชอ่ื กรมกองเสอื ปา่ นนั้ ๆ และคตพิ จน์ เพอ่ื นเสอื ป่า ทีว่ า่ “เสียชพี อยา่ เสียสตั ย”์ “ขอใหเ้ สือปา่ ทัง้ ปวง ทีไ่ ดร้ บั ธง ศารทลู ธวชั ไปใหมใ่ นวนั น้ี ต้ังใจรักษาธงนี้ ขอใหจ้ งมคี วามเจรญิ อายุ วรรณะ ศารทลู ธวัชอยา่ งใหม่ ด้วยนำ้� ใจอนั เปน็ นกั รบแท้ ตง้ั ม่ันอยู่ในความ สขุ ะ พละ แลเมอื่ จำ� เปนตอ้ งทำ� การตามหนา้ ท่ี จงรกั ภักดใี นพระมหากษตั ริย์ มคี วามรกั นกั รบ ขอจงมีความสำ� เรจ็ และมไี ชยชนะต่อ ศารทูลธวชั ประจำ� กรมเสือป่ารักษาพระองค์ ชาตบิ ้านเมอื งซงึ่ เปนทเ่ี กิดของตน และตง้ั ใจ สัตรหู มู่พาลอริร้าย ขอใหน้ กึ ถงึ ดว้ ยอำ� นาจ ปอ้ งกันรักษาศาสนาอันเปนท่เี คารพ ความเลอื่ มใสในพระศรรี ตั นไตร แลความ แถบแพรสีรูปสีเหลี่ยมจัตุรัสบนธง จงรักภักดีของท่านท้ังหลายจงบันดาลให้มี เสอื ปา่ อยา่ งใหม่นี้ อาจมที ีม่ าจากรปู ธงบน อีกประการหน่ึง ตอ้ งตัง้ ใจรักษาค�ำ ความเจรญิ จะประสงคส์ ิง่ ใดจงได้ส�ำเรจ็ ตาม ซกิ าแรตการ์ด ทไ่ี ดส้ นั นษิ ฐานเอาไวว้ ่าอาจ สัตย์สาบาลท่ีให้ไว้แล้วต่อหน้าคณะเสือป่า ความปรารถนาทั่วกัน.” จะเป็นรูป ธงศารทูลธวัชประจำ� กรมเสือป่า อีกโคลงสุภาษิตท่มี อี ยใู่ นธง คือต้องรกั ษา แบบเดมิ ก็อาจเป็นได้ ความสัตย์ แมด้ ้วยชวี ติ เมื่อถึงเวลาจ�ำเปน พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั พระราชทาน เมือ่ ใด ธงน้จี ะต้องเข้าสสู่ นาม ตอ้ งนบั วา่ เปน พระบรมราโชวาท ในการประชมุ พลเสอื ปา่ เวลาส�ำคัญที่สดุ ของเสอื ป่า ในเวลาน้นั ตอ้ ง ถือว่าเปนเวลาที่จะต้องยอมสละหมดทุกสิ่ง ได้เล่าเรอื่ งธงมหาศารทลู ธวชั และ แม้ชีวิตเลือดเนื้อร่างกายแลของซ่ึงเปนท่ีรัก ศารทลู ธวชั อนั เปน็ ธงไชยเฉลมิ พลเสอื ปา่ แลว้ ใคร่นิยมนับถือในส่วนนี้ต้องยอมสละเพื่อ ขอเล่าเรื่องยอดธงไชยเฉลิมพลเสือป่า รกั ษาธงนี้ไว้ เพราะว่าเม่ือธงน้ไี ด้ตกไปอยู่ แทรกลงไวเ้ พอื่ ใหไ้ ดค้ วามสมบรู ณย์ งิ่ ขน้ึ เรอื่ ง ในมอื ขา้ ศกึ เหมือนเกียรตยิ ศของกรมนน้ั ยอดธงไชยเฉลมิ พล มปี รากฏในพระราชบนั ทกึ ได้ละลายเสอ่ื มสญู ไป ขอให้ท่านทั้งหลายจง จดหมายเหตุรายวัน ความวา่ ต้ังใจรกั ษาธงนีไ้ ว้ ซงึ่ เราใหไ้ วเ้ ปนของแทน ตัวเรา จงนกึ วา่ เหมือนตวั เรามาอยูใ่ นกองนนั้ เสมอ เรามคี วามตง้ั ใจผกู พนั ธเ์ ปนหว่ งอยเู่ สมอ ขอให้ท่านท้ังหลายจงท�ำตัวให้เปนผู้สมควร ทจี่ ะรกั ษาธงนี้ ทเ่ี รามอบไวใ้ นมอื ทา่ นทงั้ หลาย ขอใหช้ ว่ ยกนั ตง้ั ใจบำ� รงุ ความเจรญิ ในกองกรม 93 5502006L-12.indd 93 6/25/12 11:17 AM

“...ได้วชั ราวธุ ยอดธงไชย อน่งึ วนั นี้ เก็บความเพ่ิมจากงานเขียนของ เฉลิมพลของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้ของสำ� คัญอนั ๑ ซ่งึ ควรจะนบั ถอื วา่ เป็น จมนื่ อมรดรณุ ารกั ษ์ (แจม่ สนุ ทรเวช) เลา่ ไว้ แล้วไมน่ าน สิ่งสวัสดิมงคลอย่างยิง่ คอื พระยาสุนทร เม่อื ครงั้ ท่เี รยี บเรียงหนงั สอื ชดุ เสือปา่ และ สงครามไดน้ ำ� ยอดธงไชย ทำ� ดว้ ยทองสมั ฤทธิ์ ลกู เสอื ในประวตั ศิ าสตร์ รชั สมยั ของ พระบาท ครัน้ ถึงวันท่ี ๑ มกราคม พุทธศกั ราช เปนรปู วชั ราวธุ มาใหท้ นี่ า่ พลบั พลาเมอ่ื มาถงึ สมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจ้าอยหู่ วั เมอื่ พ.ศ. ๒๔๕๙ อนั เป็นวันมหามงคลเฉลมิ พระชนม วตั ถนุ ้ีเปนยอดธงแน่ เพราะมชี ่องสำ� หรับ ๒๕๑๔ เรอ่ื งยอดธงไชยเฉลิมพลเสอื ปา่ พรรษาครบ ๓ รอบ ได้ทรงพระกรณุ า สรวมกบั ยอดไม้ธง และท่ีทำ� ให้ขลังข้นึ อกี ความว่า “ยอดธงเปน็ รูปวชิระนับวา่ เป็น โปรดเกลา้ ฯ ใหเ้ สอื ปา่ และลกู เสือกองเสนา คอื มเี ปนรอยลกู กระสนุ ปนื แหวง่ อยูข่ า้ ง ๑ ปรากฏการณ์ ทนี่ ่าอัศจรรย์ยงิ่ บังเอญิ มา รกั ษาดนิ แดนมณฑลต่างๆ ทุกกองเสนา ซ่ึงเปนพยานปรากฏว่าได้เข้าในงานสงคราม ตรงกับ พระบรมนามาภิไธยของพระบาท เขา้ ประชมุ พลสวนสนามถวายไชยมงคล และ เปนแนน่ อน ยอดธงน้นี ายอำ� เภอศรปี ระจัน สมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยู่หวั เพราะฉนนั้ เข้ารับพระราชทานธงศารทูลธวัชประจ�ำกรม ผู้มาท�ำพลับพลาขุดได้ท่ีริมพระเจดีย์ บรรดายอดธงศารทูลธวัชซึ่งแต่เดิมที่ทรงใช้ เสือป่าใหม่ ซ่ึงได้ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ พระนเรศวร เพราะฉะน้นั ควรเชือ่ ได้วา่ เปน ยอดธงเปน็ ครฑุ กไ็ ดท้ รงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้เปลี่ยนยอดธงศารทูลธวัชประจ�ำกรมกอง ยอดธงไชยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ให้ท�ำเป็นยอดมียอดวชริ ะ ๔ แฉกต้ังแต่ เสือปา่ ต่างๆ ทง้ั หมดทไ่ี ด้พระราชทานใหมน่ ้ี และคิดๆ ไปกน็ ่าอศั จรรย์ทมี่ าตกฝงั อยู่ในดนิ ครงั้ น้ันเป็นตน้ มา” และได้เลา่ ไวอ้ ีกแหง่ หนึ่ง เป็นยอดวัชราวุธ ตามอย่างมหาศารทลู ธวัช ถงึ ๓๒๑ ปีเตม็ (การชนชา้ งนน้ั เป็นเดอื นยี่ ว่า “....ยอดธงนี้ ของจรงิ เกบ็ รักษาไวใ้ น ประดับเหรียญและแพรแถบเครื่องราช พ.ศ. ๒๑๓๕) พึ่งจะมาพบ และพะเอนิ รูป พพิ ธิ ภณั ฑ์สถานแหง่ ชาติ น่าเสยี ดายทีบ่ ดั นี้ อิสริยาภรณร์ ัตนาภรณร์ ชั กาลท่ี ๖ รวม กเ็ ปนวชั ระตรงกับชื่อของเราดว้ ย จึ่งท�ำให้ เลยเปน็ ลับไป เพราะมิไดน้ �ำออกมาเข้าพธิ ี ๒๗ กรม ทง้ั นี้กเ็ พอ่ื ...ให้เปนเกียรติยศแด่ เปนทน่ี ่าปลื้มยงิ่ ขึ้น คดิ ๆ ไปกด็ ูประหนงึ่ วา่ อยเู่ สมอดงั แตก่ อ่ น ดงั ทไี่ ดต้ งั้ พระราชหฤทยั ไว”้ เสือป่าที่ได้อุสาหมาด้วยกันจนถึงที่มหาไชย สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงพระเมตตา สถานนฯี้ นัน่ เอง แกเ่ รา ผทู้ ไ่ี ดอ้ สุ าหมาจนถงึ ทมี่ หาพไิ ชยสถาน จงึ ทำ� ใหเ้ ชื่อไดว้ ่า บรรดาศารทูลธวัช อันเปนที่พระองค์ท่านได้ทรงกระท�ำสงคราม เสือป่า ยอ่ มตอ้ งมียอดธงเปน็ รูปครฑุ มาก่อน ธงประจ�ำกองลูกเสือ กู้ชาตไิ ทยเราให้พ้นจากเง้อื มมอื พมา่ บรรดา ทงั้ สนิ้ และธง “มหาศารทูลธวัช” ไดเ้ ปลย่ี น ภายหลังจากท่ีได้ทรงพระกรุณา พระเจ้าแผ่นดินสยามก็มิได้มีข้อความ จากยอดครฑุ เปน็ ยอดวชั ราวธุ คือ รูปวชริ ะ โปรดเกลา้ ฯ สถาปนากจิ การเสอื ปา่ อาสาสมคั ร ปรากฏเลยว่าได้เคยเสด็จมาถึงสนามรบ ๔ คม ก่อนศารทูลธวัชประจำ� กรมเสอื ปา่ อนั น้ี เราเหน็ ว่าวตั ถุอนั ส�ำคญั เช่นยอดธงนี้ อ่นื ๆ ดว้ ยเปน็ ธงประจ�ำคณะเสือป่าของชาติ ไมค่ วรจะเอาไปเกบ็ ลบั ไปเสีย จึ่งได้ตกลงให้ ภายหลังจากที่ทรงเสด็จพระราชด�ำเนินกลับ ติดบนยอดธงมหาศารทูลของคณเสือป่า จาก “การเดนิ ทางไกลนมสั การอนสุ รณด์ อนเจดยี ์ เพอ่ื จะไดม้ ีโอกาสได้เขา้ พธิ ีอยเู่ สมอ และให้ พุทธศกั ราช ๒๔๕๖” อนั เป็นเหตุใหพ้ บยอด เปนเกียรติยศแด่เสือป่าท่ีได้อุสาหมาด้วยกัน วัชราวธุ ซ่งึ พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ จนถงึ ท่มี หาไชยสถานนฯี้ .” เจ้าอยู่หัวทรงสันนิษฐานว่าเป็นยอดธงไชย 94 5502006L-12.indd 94 6/25/12 11:17 AM

ไดเ้ พยี งสองเดอื นพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ นนั้ แลว้ พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ให้แกก่ องลกู เสือหลวงด้วย ดังปรากฏ เจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระอนุสรณ์ค�ำนึงถึง ทรงพอพระราชหฤทัยในความสามารถของ ความตอนหน่งึ ในจดหมายเหตเุ สอื ปา่ วา่ กลุ บตุ รในชนั้ ปฐมวยั ซงึ่ สมควรทจี่ ะไดร้ บั การ กองลูกเสือกรุงเทพฯ ที่ ๑ มาก ได้ทรง “....พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ ประทบั ฝกึ ฝนใหม้ คี วามรใู้ นทางเสอื ปา่ เพอ่ื ประโยชน์ พระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานนามกอง ทต่ี รงบนั ไดโรงโขนพระราชทานธงประจำ� กอง แกช่ าตบิ า้ นเมอื ง ทรงมพี ระราชดำ� รวิ า่ “เมอ่ื ลกู เสอื กรงุ เทพฯ ที่ ๑ (โรงเรยี นมหาดเลก็ หลวง) ลกู เสอื หลวงนายหมโู่ ท หลวงอภริ กั ษร์ าชฤทธ์ิ ไดเ้ พาะผใู้ หญเ่ ปนนกั รบขนึ้ ในทางเสอื ปา่ แลว้ ซึ่งเป็นกองลูกเสือกองแรกที่ทรงพระกรุณา อาจารยโ์ รงเรยี นมหาดเลก็ หลวง รบั พระราชทาน กใ็ ครจ่ ะไดเ้ หน็ เดก็ สบื พนั ธเ์ุ ปน็ ผชู้ ว่ ยรบในการ โปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ง้ั ขน้ึ น้ี ใหป้ รากฎเปน็ เกยี รตยิ ศ อญั เชญิ ไป...” ลูกเสอื ต่อไป” จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ สืบไปว่า “กองลูกเสอื หลวง” ให้ตราข้อบังคับลักษณปกครองลูกเสือ รัตนโกสนิ ทรศก ๑๓๐ ขึ้น ประกาศใชเ้ มือ่ วนั ที่ ๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๕๔ ยังผลให้เกิดการลูกเสือสยามขึ้นใน คร้ันล่วงมาถงึ วนั ท่ี ๑๖ กนั ยายน ธงพระมนูแถลงสาร ทางนิตนิ ัย โรงเรียนมหาดเลก็ หลวง ซ่งึ อยู่ พทุ ธศกั ราช ๒๔๕๔ ในคราวทกี่ องลกู เสอื หลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ และได้มกี ารฝึกหดั ได้รว่ มเสดจ็ เดินทางไกลประทับแรม มณฑล ธงประจำ� กองลกู เสอื หลวง มลี กั ษณะ เตรียมความพร้อมมาตั้งแต่เร่ิมเปิดท�ำการ นครไชยศรี ทรงโปรดใหม้ กี ารพระราชพธิ ถี อื นำ้� เปน็ ธงสเ่ี หลีย่ มจตั ุรสั พน้ื สดี ำ� กลางธงเปน็ รปู เมื่อวนั ท่ี ๒๙ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๕๓ พระพพิ ฒั น์สัตยาเสือป่า และพระราชทาน พระมนูแถลงสาร ยอดปลายหอก ประดบั แลว้ เมอ่ื ไดม้ ปี ระกาศขอ้ บงั คบั ลกั ษณปกครอง ธงประจ�ำกองเสือป่ามณฑลนครไชยศรีข้ึน เหรียญและแพรแถบเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ ลูกเสอื ออกมา ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ณ โรงโขนหลวง (ช่ัวคราว) พระราชวงั วชริ มาลา (แพรร้ิวสีเหลอื งกบั ดำ� ขนาดกวา้ ง ให้ตั้งกองลูกเสือแห่งชาติข้ึนที่โรงเรียน สนามจนั ทร์ ในการนไี้ ด้ทรงพระกรณุ า ๓ เซนตเิ มตร) สันนษิ ฐานวา่ ทรงพระกรุณา มหาดเลก็ หลวงเปน็ ปฐม ทรงพระราชทาน โปรดเกลา้ ฯ พระราชทานธงประจำ� กองลกู เสอื โปรดเกลา้ ฯ ให้จางวางตรี พระยาอนศุ าสน์ นามว่า “กองลูกเสอื กรงุ เทพฯ ท่ี ๑” จิตรกร (จันทร์ จติ กร) เจ้ากรมชา่ งมหาดเลก็ ในวันที่ ๑๐ กรกฎาคม พทุ ธศกั ราช ๒๔๕๔ นกั เรยี นมหาดเลก็ หลวง ชพั น์ บนุ นาค ได้เข้าถวายตัวเพื่อให้ทรงทอดพระเนตร เครือ่ งแบบลกู เสือ ดงั ท่ีทรงมพี ระราชดำ� รไิ ว้ ในข้อบังคับลักษณการปกครองลูกเสือฉบับ แรกนี้ ตอ่ เมอื่ ไดม้ กี ารฝกึ หดั สอบซอ้ มตอ่ หนา้ พระพักตร์ ตามพระราชนิพนธแ์ บบส่ังสอน เสอื ป่าและลกู เสือในวันที่ ๒ กันยายน ศก 95 5502006L-12.indd 95 6/25/12 11:17 AM

เป็นผู้ผูกเขียนลายจัดสร้างธงประจ�ำกอง ไปแกร่ าชศตั รไู ด้ แมจ้ ะตอ้ งเสยี สละชวี ิตเพอ่ื พระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหก้ ระทรวงวงั เปน็ ลกู เสือหลวงนี้ขึน้ รกั ษาธงนี้ไว้ กต็ อ้ งยอมสละเปนราชพลี เมือ่ ผู้ด�ำเนินการจัดสร้างขึ้นด้วยพระราชทรัพย์ มณฑลใดได้รับพระราชทานธงประจ�ำกอง ส่วนพระองค์ โดยพระยาอนุศาสตรจ์ ิตรกร ตอ่ จากนน้ั กไ็ ดพ้ ระราชทานธงประจำ� แลว้ ใหจ้ ดหมายวนั เดอื นปที ไ่ี ดร้ บั พระราชทาน (จนั ทร์ จิตรกร) เปน็ นายชา่ งร่างแบบธง กองลกู เสอื เพอื่ เปน็ เครอ่ื งแทนพระองค์ ใหแ้ ก่ ไวเ้ ปนหลกั ฐาน และถ้าได้พระราชทาน โดยถือแบบอย่างพระราชนิยมในพระบาท กองลูกเสอื มณฑลต่างๆ ตามล�ำดับในโอกาส พระบรมราโชวาทดว้ ย ใหจ้ ัดพิมพ์พระบรม สมเด็จพระมงกฎุ เกล้าเจา้ อยู่หวั อนั สมควร เช่น การสวนสนามถวายพระพร ราโชวาทนน้ั แจกใหแ้ กล่ กู เสอื ในมณฑลนนั้ ๆ ชัยมงคลเน่ืองในพระราชพิธีเฉลิมพระชนม ไปรกั ษาไวโ้ ดยท่ัวถึงกนั และหม่ันระลกึ ถึง ธงประจำ� กองลกู เสอื มณฑลตา่ งๆ มลี กั ษณะ พรรษาหรือในการทรงเสด็จประพาสหัวเมือง พระบรมราโชวาทนน้ั จงเสมอ สว่ นทกี่ อง ดงั นี้ ตามลำ� ดับมาจนสน้ิ รัชสมยั มีหลักฐานว่า ลูกเสอื กใ็ ห้มีไว้ในทเี่ ปดิ เผยด้วยทุกกอง ธงประจ�ำกองลูกเสือท่ีได้รับพระราชทานใน ๑. ธงประจ�ำกองลูกเสือมณฑล รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า ธงประจ�ำกองลูกเสือตา่ งๆ ของไทย ปตั ตานี พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจ้าอยหู่ วั นี้ จะมียอดปลายหอก ประดับ สมัยแรกมีลกั ษณะและสีสันตา่ งกัน ไม่ไดม้ ี เจา้ อยหู่ วั ไดพ้ ระราชทานเมอื่ วนั ที่ ๑๓ มถิ นุ ายน เหรียญและแพรแถบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ลักษณะเหมอื นกันดังเช่นปัจจุบนั นี้ รูปที่ พทุ ธศกั ราช ๒๔๕๘ ในคราวเสดจ็ พระราช วชริ มาลา ซงึ่ ทกุ คราวท่ไี ด้พระราชทานธงก็ ปรากฏอยกู่ ลางผนื ธงลว้ นมคี วามหมายทงั้ สน้ิ ดำ� เนินประพาสปักษใ์ ต้ พืน้ ธงสีเขียวใบไม้ จะทรงมีพระบรมราโชวาทพระราชทานแก่ สุดแตจ่ ะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ขอบสีเหลือง กลางธงมีรูปปืนนางพญาตานี ลูกเสอื ด้วยทุกครัง้ หากแต่เป็นทีน่ ่าเสียดาย ออกแบบ สมัยนัน้ นายชา่ งผ้รู ่างแบบธงเพ่ือ ซึ่งเป็นปืนที่พระยาตานีน�ำมาถวายโดยความ ทไ่ี มม่ กี ารบนั ทกึ พระบรมราโชวาทไวค้ รบถว้ น ทลู เกล้าฯ ถวายตามพระราชประสงค์ คือ จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรี ทุกองค์ พระยาอนุศาสตร์จติ รกร (จันทร์ จิตรกร) ทั้งนี้เพื่อให้ลูกเสือในมณฑลน้ันได้ระลึกถึง ความจงรกั ภกั ดตี อ่ พระยาตานไี วเ้ ปน็ ตวั อยา่ ง ขอคัดข้อความในข้อบังคับลักษณ ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ อยู่เสมอ คันธงยอดปลายหอก ประดับ ปกครองลกู เสอื พระพุทธศักราช ๒๔๖๑ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานธง เหรยี ญ และแพรแถบเครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณ์ แทรกเร่อื งธงประจ�ำกองลูกเสือ เพอ่ื ใหเ้ ห็น ประจำ� กองลูกเสือเพม่ิ เติม ในคราวเสด็จไป วชิรมาลา ถึงความส�ำคัญของธงประจ�ำกองลูกเสือ ทรงประกอบพธิ ีสงั เวยอดีตมหาราช เมือง ดังความว่า เมื่อมโี อกาสจะได้ทรงพระกรณุ า กรงุ เกา่ ๑ธงกบั ในคราวเสดจ็ พระราชดำ� เนนิ โปรดเกลา้ ฯ พระราชทานธงประจ�ำกองไว้ เลยี บหวั เมอื งมณฑลฝา่ ยเหนอื ในปพี ทุ ธศกั ราช ตา่ งพระองค์ ส�ำหรบั เปนที่เคารพแห่งลกู เสือ ๒๔๖๙ รวม ๒ ธง และในงานชุมนมุ ลกู เสือ ทงั้ หลาย มณฑลละธง เหมอื นหนง่ึ ไดอ้ ยใู่ กลช้ ดิ แหง่ ชาติคร้งั แรก ในปีพุทธศกั ราช ๒๔๗๐ พระองคพ์ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทกุ เมอ่ื อกี ๖ ธง ธงประจำ� กองลูกเสอื มณฑลน้ี ลูกเสอื ตอ้ งรักษาธงนีไ้ วเ้ ปนอยา่ งดี มิให้ตก พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรง 96 5502006L-12.indd 96 6/25/12 11:17 AM

5502006L-12.indd 97 ๒. ธงประจำ� กองลกู เสอื มณฑลนครศรธี รรมราช พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจ้าอยู่หัวได้พระราชทานเม่ือวันที่ ๑๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๕๘ ในคราวเสด็จ พระราชดำ� เนนิ ประพาสปกั ษใ์ ต้ พน้ื ธงสเี ขยี วใบไม้ ขอบสมี ว่ ง กลางธงมรี ปู สงั ขท์ กั ษณิ าวตั ร วางบนพานทอง เป็นเครื่องน�ำให้ระลึกถึงจังหวัดสงขลาอันเป็นจังหวัดส�ำคัญของมณฑลน้ี คนั ธงยอดปลายหอก ประดบั เหรยี ญและแพรแถบเคร่ืองราชอสิ ริยาภรณ์วชิรมาลา ๓. ธงประจ�ำกองลกู เสอื มณฑลภเู ก็ต พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ได้ พระราชทานเมอ่ื วนั ที่ ๖ กรกฎาคม พทุ ธศกั ราช ๒๔๕๘ ในคราวเสดจ็ พระราชด�ำเนินถึง สถานรี ถไฟเมอื งตรงั (ทบั เทยี่ ง) เพอื่ ทรงเสดจ็ ไปยงั เมอื งนครศรธี รรมราช พน้ื ธงสเี ขยี วใบไม้ ขอบสีฟ้า กลางธงมีรูปภเู ขา มเี พชรฉายรัศมีอยทู่ ่ยี อดเขา เปน็ เครือ่ งนำ� ใหร้ ะลึกถงึ ท้องที่ อันอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติของมณฑลนี้ เช่น แร่ดีบุก และเพชรฉายนั้น เนื่องในพระบรมนามาภิไธยด้วย คันธงยอดปลายหอก ประดับเหรียญและแพรแถบ เครอื่ งราชอิสรยิ าภรณว์ ชิรมาลา ๔. ธงประจำ� กองลกู เสอื มณฑลกรงุ เทพฯ พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ไดพ้ ระราชทานเมือ่ วันท่ี ๒๙ ธันวาคมพุทธศักราช ๒๔๕๘ พ้ืนธงสเี หลือง มีพระพุทธรปู พระมหามณรี ตั นปฏมิ ากร (พระแกว้ มรกต) บนพน้ื ธง เปน็ เครอื่ งเตอื นใจใหล้ กู เสอื มณฑลนี้ ระลกึ วา่ พระพทุ ธรปู น้ีเปน็ หลกั ชัยแห่งกรงุ รัตนโกสินทร์ นับว่าเปน็ พระพทุ ธรูปท่ีศักด์ิสทิ ธ์ิ และเปน็ ที่เคารพของปวงชนทั่วไป ตลอดจนพระมหากษัตรยิ ์และพระบรมวงศานวุ งศท์ ั้งปวง คนั ธงยอดปลายหอก ประดบั เหรียญและแพรแถบเคร่อื งราชอิสริยาภรณว์ ชิรมาลา ๕. ธงประจำ� กองลกู เสอื มณฑลนครชยั ศรี พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ไดพ้ ระราชทานเมอื่ วนั ที่ ๑๓ มกราคม พทุ ธศกั ราช ๒๔๕๙ เนอ่ื งในการเสดจ็ ทอดพระเนตร การประลองยทุ ธเสอื ป่าและลกู เสือ พืน้ ธงสีน�ำ้ เงินแก่ กลางธงมีรปู พระปฐมเจดยี ์สเี หลือง อันเป็นพระมหาเจดีย์ส�ำคัญยิ่งของมณฑลน้ีทั้งเป็นโบราณสถานนับเน่ืองในปูชนียสถานแห่ง พระพุทธศาสนา คันธงยอดปลายหอก ประดับเหรียญและแพรแถบเคร่ืองราชอิสรยิ าภรณ์ วชิรมาลา 97 6/25/12 11:17 AM

98 ๖. ธงประจำ� กองลกู เสอื มณฑลราชบรุ ี พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ไดพ้ ระราชทานเมอื่ วนั ท่ี ๒๒ กมุ ภาพนั ธ์ พทุ ธศกั ราช ๒๔๖๗ เนอ่ื งในการเสดจ็ ทอดพระเนตร 5502006L-12.indd 98 การประลองยทุ ธเสอื ปา่ และลกู เสอื พน้ื ธงสนี ำ้� เงนิ แก่ กลางธงมรี ปู รองพระบาทวางบนพานทอง เพอื่ ใหล้ กู เสอื ทกุ คนระลกึ วา่ มณฑลนเ้ี ปน็ มณฑลสำ� คญั ทางทศิ ตะวนั ตกของกรงุ เทพฯ เชน่ เดยี ว กบั มณฑลปราจนี ซง่ึ อยทู่ างทศิ ตะวนั ออก และลกู เสอื ทกุ คนกม็ คี วามจงรกั ภกั ดเี พอื่ ทำ� การฉลอง พระเดชพระคุณ จึงพระราชทานเคร่ืองหมายนเ้ี พอ่ื เปน็ เครอ่ื งระลกึ ถึงพระองค์อยู่เสมอ คนั ธงยอดปลายหอก ประดบั เหรยี ญและแพรแถบเคร่อื งราชอสิ ริยาภรณ์วชิรมาลา ๗. ธงประจำ� กองลูกเสอื มณฑลอยธุ ยา พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจ้าอยหู่ ัว ได้ พระราชทานเมอื่ วนั ที่ ๑๕ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๔๖๙ ในคราวเสดจ็ ไปทรงประกอบพธิ ี สงั เวยอดตี มหาราช พนื้ ธงสเี ลอื ดนก กลางธงมรี ปู ปราสาทอยใู่ ตต้ น้ หมนั เพอ่ื เปน็ เครอื่ งหมาย แหง่ การสถาปนากรุงศรอี ยุธยา ซ่ึงเคยเปน็ เมอื งหลวงของประเทศไทยมาแตโ่ บราณ เพอื่ เตอื นใหล้ กู เสอื ทกุ คนในมณฑลนร้ี ะลกึ เสมอวา่ ตนลว้ นแตเ่ ปน็ เชอื้ สายของนกั รบทเี่ คยประกอบ วรี กรรมอนั ดมี าในอดตี คนั ธงยอดปลายหอก ผกู แพรแถบและเหรยี ญทร่ี ะลกึ งานพระราชพธิ ี บรมราชาภเิ ษก รชั กาลที่ ๗ ๘. ธงประจ�ำกองลูกเสอื มณฑลพษิ ณโุ ลก พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อย่หู ัว ไดพ้ ระราชทานเมอ่ื วันที่ ๘ มกราคมพทุ ธศกั ราช ๒๔๖๙ ในคราวเสดจ็ พระราชด�ำเนิน เลยี บหวั เมอื งมณฑลฝา่ ยเหนอื พน้ื ธงสมี ว่ ง กลางธงมรี ปู สงั ขอ์ ย่ใู นวงจักรสแี ดง ขอบนอก สขี าว เป็นเครอ่ื งหมายของนามจังหวดั พษิ ณโุ ลก ซงึ่ เคยเปน็ เมอื งสำ� คญั มาในสมยั โบราณ ประดบั เหรยี ญและแพรแถบเครื่องราชอิสรยิ าภรณ์รัตนาภรณร์ ัชกาลที่ ๗ ๙. ธงประจำ� กองลูกเสือมณฑลพายพั พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจา้ อยหู่ วั ได้พระราชทานเม่ือวันที่ ๒๓ มกราคม พุทธศักราช๒๔๖๙ ในคราวเสด็จพระราชดำ� เนิน เลียบหัวเมืองมณฑลฝ่ายเหนือ พื้นธงสีบานเย็น กลางธงมีรูปช้างเผือกยืนในขวง เป็น เครื่องหมายให้ระลึกถึงจังหวัดเชียงใหม่ อันเคยเป็นราชธานีของไทยมาแต่สมัยโบราณ ประดับเหรยี ญและแพรแถบเคร่อื งราชอสิ รยิ าภรณ์รตั นาภรณร์ ชั กาลท่ี ๗ 6/25/12 11:17 AM

5502006L-12.indd 99 ๑๐. ธงประจ�ำกองลูกเสือมณฑลจันทบุรี พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ไดพ้ ระราชทานเม่อื วันท่ี ๒๖ กุมภาพันธ์ พุทธศกั ราช ๒๔๗๐ ในคราวเสด็จมาทรงเปิด คา่ ยชมุ นมุ ลกู เสอื แหง่ ชาตคิ รง้ั แรกพนื้ ธงสไี พล กลางธงเปน็ รปู สเ่ี หลย่ี มสมี ว่ ง มรี ปู กระตา่ ยใน ดวงจนั ทรส์ ไี พลอยกู่ ลาง เปน็ เครอื่ งหมายถงึ จงั หวดั จนั ทบรุ อี นั เปน็ จงั หวดั สำ� คญั ของมณฑลนี้ ๑๑. ธงประจำ� กองลกู เสอื มณฑลนครราชสมี า พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ไดพ้ ระราชทาน เมอื่ วนั ท่ี ๒๖ กมุ ภาพนั ธ์ พทุ ธศกั ราช ๒๔๗๐ ในคราวเสดจ็ มาทรงเปดิ คา่ ย ชมุ นมุ ลกู เสอื ครงั้ แรกพนื้ ธงสแี สด กลางธงมรี ปู พทั ธสมี าสาวอยู่ ภายในรปู แปดเหลยี่ มสเี ขยี ว เปน็ เครอ่ื งหมายถึงจงั หวัดนครราชสีมาอนั เปน็ จังหวดั ส�ำคญั ของมณฑลนี้ ๑๒. ธงประจำ� กองลกู เสอื มณฑลนครสวรรค์ พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ไดพ้ ระราชทานเมอื่ วนั ท่ี ๒๖ กมุ ภาพนั ธ์ พทุ ธศกั ราช ๒๔๗๐ ในคราวเสดจ็ มาทรงเปดิ คา่ ยชุมนมุ ลกู เสือแห่งชาติครง้ั แรกพน้ื ธงสีมว่ ง กลางธงมรี ูปปราสาทลอยอยบู่ นเมฆ เป็น เครอื่ งหมายถงึ จังหวัดนครสวรรคอ์ นั เปน็ จงั หวดั สำ� คญั ของมณฑลน้ี ๑๓. ธงประจ�ำกองลูกเสือมณฑลปราจิน พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ไดพ้ ระราชทานเมอื่ วนั ท่ี ๒๖ กมุ ภาพนั ธพ์ ทุ ธศกั ราช ๒๔๗๐ ในคราวเสดจ็ มาทรงเปดิ คา่ ย ชมุ นมุ ลกู เสอื แหง่ ชาตคิ รงั้ แรก พน้ื ธงสไี พล กลางธงมรี ปู สเี หลยี่ มสนี ำ�้ เงนิ แก่ และมรี ปู นกยงู รำ� แพนอยู่ในวงกลมสีแดงอยูต่ รงกลาง มณฑลนจ้ี ังหวัดฉะเชงิ เทรา เป็นจงั หวดั ส�ำคัญ และ อยตู่ ดิ ตอ่ กบั มณฑลกรงุ เทพฯทางทิศตะวนั ออก นบั วา่ เป็นมณฑลที่สำ� คัญมาก 99 6/25/12 11:17 AM

๑๔. ธงประจำ� กองลูกเสือมณฑลอดุ ร พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อย่หู วั ได้ พระราชทานเม่อื วันที่ ๒๖ กมุ ภาพนั ธ์ พทุ ธศักราช ๒๔๗๐ ในคราวเสดจ็ มาทรงเปดิ คา่ ย ชมุ นมุ ลกู เสือแหง่ ชาตคิ รงั้ แรก พืน้ ธงสแี สด กลางธงมรี ปู ทา้ วกเุ วรหรือท้าวเวสสุวัณยืน ถอื ตะบองอยใู่ นรปู สเ่ี หลยี่ มสขี าว เปน็ สญั ลกั ษณว์ า่ เปน็ ผพู้ ทิ กั ษร์ กั ษาทศิ อดุ ร เพอื่ ใหล้ กู เสอื มณฑลนรี้ ะลกึ ถงึ เครอื่ งหมายอันน้วี ่าตนมหี นา้ ทปี่ อ้ งกนั ประเทศแถบส�ำคัญทางทศิ อดุ ร • หมายเหตุ - มณฑลมหาราษฎร์ มณฑลรอ้ ยเอด็ มณฑลอุบล และมณฑลสรุ าษฎร์ ยงั ไมไ่ ดร้ ับพระราชทานธงประจำ� กอง ลูกเสือเลย จนกระทัง่ ยกเลกิ การปกครองแบบเทศาภบิ าล มณฑลไปเป็นจังหวัด ในปพี ทุ ธศักราช ๒๔๗๖ ธงประจ�ำคณะลูกเสอื แหง่ สยาม แต่เดิมมาคณะลูกเสือแห่งชาติได้ เฉลมิ พระเกยี รตพิ ระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ ยึดถือเอามหาศารทูลธวัชเสือป่าเป็นธง เจา้ อยหู่ วั ผพู้ ระราชทานกำ� เนดิ กจิ การเสอื ปา่ ธงประจ�ำคณะลูกเสอื แหง่ สยาม ไชยเฉลิมพลด้วย ครนั้ เมอ่ื คณะเสอื ปา่ ได้ และลกู เสอื สยามขน้ึ จงึ ไดอ้ ญั เชญิ พระวชั ราวธุ เมื่อสิ้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จ ปลาสนาการไปแล้ว พระบาทสมเด็จพระ- ข้ึนประดิษฐานบนยอดธงประจ�ำกองลูกเสือ พระมงกุฎเกลา้ เจ้าอยู่หัวน้นั กิจการเสือป่า ปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ และมีเหรียญกับแพรแถบรัตนาภรณ์ผูกห้อย ไดพ้ ลนั สลายตวั สน้ิ สภาพตามพระองคไ์ ปดว้ ย พระราชทานธงประจ�ำคณะลูกเสือแห่งชาติ อยูก่ บั คนั ธง ส่ือความหมายว่า เหล่าลกู เสอื แต่คณะลูกเสือแห่งสยามซึ่งเป็นสาขาหนึ่ง แก่คณะลูกเสอื สยาม เมือ่ วนั ที่ ๑ มกราคม ทงั้ ปวงตา่ งขนึ้ ตรงตอ่ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ ของคณะเสอื ปา่ นน้ั ไดร้ บั พระมหากรณุ าธคิ ณุ พทุ ธศกั ราช ๒๔๗๓ ในคราวเสด็จพระราช อยหู่ วั จากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ดำ� เนนิ ทางเปดิ คา่ ยงานชมุ นมุ ลกู เสอื แหง่ ชาติ ทรงรบั เปน็ พระราชธรุ ะในต�ำแหนง่ สภานายก ครงั้ ที่ ๒ ณ พระราชอทุ ยานสราญรมย์ ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการ กรรมการกลางจัดการลูกเสือแห่งสยาม “ธงประจ�ำคณะลูกเสือแห่งสยาม ปกครองประเทศ จากระบอบสมบรู ณาญา- สบื แทนตอ่ จากพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ มรี ปู พนื้ เปน็ ธงชาตมิ ขี นาดกวา้ ง ๕๐ เซนตเิ มตร สิทธิราชย์เป็นระบอบประชาธิปไตยแล้ว เจา้ อยู่หัว และทรงรับคณะลกู เสือแห่งชาติ ยาว ๕๒ เซนติเมตร ที่ตรงกึ่งกลางมตี รา รัฐบาลในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จ เขา้ ไวใ้ นพระบรมราชปู ถมั ภ์ ทำ� ใหค้ ณะลกู เสอื ธรรมจกั รสเี หลอื ง ขนาดโตตามเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง พระเจ้าอย่หู วั อานันทมหดิ ล ไดป้ ระกาศใช้ แห่งชาติมิตอ้ งสูญส้ินสภาพไปด้วย ๓๒ เซนตเิ มตร คนั ธงยาว ๒.๖๐ เมตร ทย่ี อด พระราชบญั ญัติธง พ.ศ. ๒๔๗๙ โดยลกั ษณะ คนั ธงทำ� ดว้ ยเงนิ เปน็ รปู วชริ ” และยงั คงใชเ้ ปน็ ธงประจำ� คณะลกู เสอื แหง่ ชาตไิ มเ่ ปลยี่ นแปลง รูปธงคณะลกู เสอื แห่งชาติจนถงึ ปจั จบุ ัน ต่อมาได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติธง ถือเป็นการปฏิวัติรูปแบบครั้งส�ำคัญ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๔๘๑ แกม้ าตรา ๓ ใน เม่อื ธงประจำ� คณะลกู เสอื แห่งชาติ มีพน้ื ธง พระราชบัญญัติเดมิ แต่ขนาดและลักษณะ เป็นธงไตรรงค์ อนั หมายถึงชาติ กลางธงมี ของธงประจำ� คณะลกู เสอื แห่งชาตยิ ังคงเดมิ เครอ่ื งหมายธรรมจกั รประดิษฐานอยู่ อัน หมายถงึ พระพุทธศาสนา และเพื่อเป็นการ ขอย้อนกลับไปในตอนปลายรัชสมัย พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยูห่ วั ได้มี ประกาศพระบรมราชโองการให้ยกเลิกการ 100 5502006L-12.indd 100 6/25/12 11:17 AM

ปกครองแบบเทศาภบิ าลมณฑล ตามพระราชบญั ญตั วิ า่ ดว้ ย ระเบียบราชการบริหารแผ่นดินแห่งราชอาณาจักรสยาม พทุ ธศกั ราช ๒๔๗๖ คอื เปลย่ี นการบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ จากระบบมณฑลเทศาภบิ าลมาเปน็ การแบง่ เขตการปกครอง ออกเปน็ จงั หวดั ดงั ในปจั จบุ นั น้ี รฐั บาลในพระปรมาภไิ ธย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั อานนั ทมหดิ ล ได้พจิ ารณา เห็นว่าควรเปลี่ยนแปลงรูปร่างลักษณะธงประจ�ำกอง ลูกเสือใหม่ให้มีแบบเป็นอันหน่ึงอันเดียวกันท่ัวประเทศ เพ่ือความเหมาะสมกบั กาลสมัย จึงไดก้ ำ� หนดลกั ษณะ ธงประจำ� กองลกู เสอื ขน้ึ ใหม่ ดงั มลี กั ษณะตามทป่ี รากฏใน มาตรา ๑๓ ของพระราชบัญญัติธง พ.ศ. ๒๔๗๙ คือ ธงประจ�ำกองลูกเสอื จงั หวัด “พนื้ เป็นธงไตรรงค์ มขี นาดกว้าง ๔๐ เซนตเิ มตร ธงประจำ� กองลกู เสอื ใหมน่ ี้ นำ� รปู แบบมาจากธงประจำ� คณะลกู เสอื แหง่ สยาม ยาว ๖๐ เซนตเิ มตร ทีต่ รงก่งึ กลางมรี ปู วงกลม พ้นื สี ท่ีพระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจ้าอยู่หวั ไดพ้ ระราชทานให้แก่คณะลกู เสือนัน่ เอง เหลือง ขนาดโตตามเสน้ ผ่าศนู ย์กลาง ๒๗ เซ็นติเมตร มีขอบเปน็ สีด�ำ ๒ ขอบซ้อนกนั ขอบนอกกว้าง ๒ พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอานนั ทมหดิ ลฯ พระอฐั มรามาธบิ ดนิ ทร มิลลเิ มตร ขอบในกวา้ ง ๑ มลิ เิ มตร ระยะขอบนอกและ ไดพ้ ระราชทานธงประจ�ำกองลูกเสือแกค่ ณะลกู เสือจงั หวดั พระนคร ธนบุรี ขอบในห า่ งกนั ๒ มลิ เิ มตร ตรงกึ่งกลางวงกลมมตี รา ฉะเชิงเทรา ชลบรุ ี นครปฐม นนทบุรี พระนครศรีอยธุ ยา และราชบรุ ี เมื่อคราว คณะลกู เสอื แหง่ สยาม และนามจงั หวดั ทไ่ี ดร้ บั พระราชทาน เปน็ อกั ษรสีดำ� อยเู่ บื้องใต้ คนั ธงยาว ๒.๖๐ เมตร ท่ยี อด คันธงท�ำด้วยเงนิ เปน็ รปู วชิร” 101 5502006L-12.indd 101 6/25/12 11:17 AM

เสด็จพระราชด�ำเนินเปิดงานแข่งขันกรีฑา หลอมรวมไปกบั องคก์ ารยุวชนทหาร ตาม ในวนั นน้ั พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ประจำ� ปีของกระทรวงธรรมการ ประจำ� ปี พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ยุ ว ช น ท ห า ร แ ห ่ ง ช า ติ ภูมิพลอดุลยเดชได้ทรงมีพระราชด�ำรัสเปิด พุทธศักราช ๒๔๘๑ ณ กรีฑาสถานแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๔๘๖ ครน้ั เมอื่ ไดม้ กี ารตรา คา่ ยงานชุมนุมลูกเสือแหง่ ชาติ ดงั น้ี เมอ่ื วนั ที่ ๒๙ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๔๘๑ พระราชบัญญตั ลิ ูกเสือ พุทธศักราช ๒๔๙๐ ถือได้ว่าเป็นการพระราชทานธงลูกเสือ พระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติ “ลกู เสอื ทงั้ หลาย ประจำ� จังหวดั เปน็ ครงั้ แรก ยุวชนทหารแห่งชาติ พุทธศกั ราช ๒๔๘๖ ข้าพเจ้ามีความยินดีที่ได้มาท�ำพิธี พทุ ธศกั ราช ๒๔๙๐ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ มอบธงประจำ� คณะลกู เสอื แห่งชาติ และ จากนั้นได้ทรงพระราชทานพระบรม ประกาศพระบรมราชโองการ ตง้ั นายกสภา ธงประจ�ำกองแก่ลูกเสือประจ�ำจังหวัดบาง ราโชวาทแกน่ ักกฬี าและลกู เสอื ความว่า กรรมการกลางจัดการลกู เสือแหง่ ชาติ ตงั้ จังหวดั และเปิดค่ายลกู เสอื ในงานชุมนุม คณะกรรมการกลางจัดการลูกเสือแห่งชาติ ลูกเสือทว่ั พระราชอาณาจกั รคร้งั นี้ “นกั กฬี า และลกู เสอื ทงั้ หลาย ตลอดจนข้อบังคับการปกครองลูกเสือและ ขา้ พเจา้ มคี วามยินดีมาก ทไี่ ดม้ าใน กฎขอ้ บงั คบั อนื่ ๆ กจิ การลกู เสอื จงึ เจรญิ รงุ่ เรอื ง อนั ธงประจำ� กองของแตล่ ะหนว่ ย เปน็ งานของทา่ น กฬี าเปน็ สงิ่ ดี ขา้ พเจา้ ชอบมาก ขนึ้ เป็นล�ำดับมา เครอ่ื งหมายแทนชาติ ศาสนา พระมหา- ขอใหท้ ่านทงั้ หลายเอาใจใสอ่ ย่เู สมอ และ กษตั รยิ ์ อนั เปน็ สง่ิ ทลี่ กู เสอื พงึ เคารพ เทดิ ทนู ขอใหม้ ีความสุขสบายท่ัวกัน” ได้มีการร้ือฟื้นจัดงานชุมนุมลูกเสือ ทั้งยังเตือนใจให้ระลึกถึงบ้านเกิดเมืองนอน แห่งชาตคิ ร้ังแรกในรัชกาลน้ี เรียกว่า การ นับต้ังแต่จังหวัดอันเป็นที่ต้ังของแต่ละ พทุ ธศักราช ๒๔๘๒ มีการจัดการ ชุมนมุ ลกู เสอื แห่งชาติ ครงั้ ท่ี ๓ ระหว่างวนั ท่ี หนว่ ยนนั้ ตลอดจนประเทศชาติ อนั เปน็ ทร่ี กั ชุมนุมลูกเสอื จงั หวดั สกลนคร มีการเชิญ ๒๐-๒๖ พฤศจกิ ายน พุทธศกั ราช ๒๔๙๗ สว่ นรวมของเราทงั้ หลาย ฉะนัน้ จงรักษาธง ธงประจ�ำกองลูกเสือจังหวัดสกลนครไป ณ กรีฑาสถานแห่งชาติ ที่ไดร้ ับมอบนีไ้ ว้ใหด้ ี เพ่ือเปน้ หลักชยั ส�ำหรบั พระราชทาน ความพร้อมเพรียงที่จะบ�ำเพ็ญประโยชน์แก่ วนั ท่ี ๒๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ประเทศชาติสืบไป พทุ ธศกั ราช ๒๔๘๓ มีการจัดการ ๒๔๙๗ บรเิ วณลานพระบรมรปู ทรงมา้ พระบาท ชุมนมุ ลกู เสอื จังหวัดอุบลราชธานี มกี ารเชิญ สมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั ได้เสด็จพระราชด�ำเนิน ข้าพเจ้าตระหนักในความส�ำคัญ ธงประจ�ำกองลูกเสือจังหวัดอุบลราชธานี ไปทรงเป็นประธานในพิธีสวนสนามและ และประโยชน์ของการลูกเสือเป็นอย่างมาก ไปพระราชทาน พระราชทานธงประจ�ำคณะลูกเสือแห่งชาติ ท้ังมีความช่ืนชมยินดีที่ได้ฟังค�ำกล่าวขวัญถึง และธงประจ�ำกองลูกเสือแก่กองลูกเสือ กรณยี กิจ และความเสียสละทล่ี ูกเสอื ต่างได้ ถึงในรัชกาลปจั จบุ นั กจิ การลูกเสอื จงั หวดั กระบี่ กองลูกเสือจงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ บำ� เพญ็ ในการชว่ ยเหลอื เพอ่ื นมนษุ ยอ์ นั ยง่ิ ใหญ่ ได้รับการฟื้นฟูขึน้ อกี ครง้ั หนึง่ ภายหลังจาก และกองลกู เสือจงั หวัดสุราษฎรธ์ านี เปน็ ของการลูกเสือน้นั ยอ่ มได้แกต่ วั ยวุ ชนผ้เู ปน็ ประสบสภาวะชะงักงันอันเป็นผลกระทบ ครั้งแรกในรชั กาล ธงทพี่ ระราชทานครัง้ นี้มี ลกู เสือเอง ที่ได้รบั การฝกึ ฝนอบรมให้เปน็ มาจากภาวะการสงคราม และลูกเสือไดถ้ กู ลกั ษณะเหมอื นเดมิ ผู้เล้ยี งตัวเองพง่ึ ตนเอง ทำ� อะไรเองได้ มี 102 5502006L-12.indd 102 6/25/12 11:17 AM

5502006L-12.indd 103 ความแขง็ แกรง่ สามารถเผชญิ ชวี ติ ในอนาคต ทุกวิถีทาง รวมความว่าเปน็ พลเมอื งดี เปน็ ประโยชน์แก่ตนเองและเพื่อนมนุษย์น่ันเอง ที่รัฐบาลเอาใจใส่ในการน้ีและจัดให้มีการ ชุมนมุ ใหญต่ ามประเพณที ี่เคยมีมา เป็นข้อ ทีน่ ่าอนุโมทนาเป็นอยา่ งยง่ิ ดงั ทอ่ี ุปนายก ไดก้ ลา่ วแลว้ การชมุ นมุ ดง่ั วา่ นย้ี อ่ มเปน็ โอกาส ให้คณะลูกเสือทุกภาคทั่วพระราชอาณาจักร ได้มาอยู่ร่วมท�ำความวิสาสะแลกเปลี่ยน ความรู้ซงึ่ กนั และกันอยา่ งใกล้ชดิ เป็นทาง ส่งเสริมความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน การแขง่ ขันหรือประกวดการแสดงต่างๆ นน้ั เลา่ กเ็ ปน็ การแขง่ ขนั ฉันมิตรสหาย เพ่อื ต่าง คณะน�ำไปปรับปรุงความรู้ความสามารถ ของแต่ละคณะท่ียังขาดตกบกพร่องอีกด้วย ข้าพเจ้าเองมีความยินดีนักท่ีได้พบปะท่าน ทงั้ หลายโดยพร้อมเพรียงกนั บดั นไี้ ดเ้ วลาแลว้ ขา้ พเจา้ จะไดเ้ ปดิ คา่ ย ขอให้การชุมนุมใหญ่ของลูกเสือแห่งชาติ คร้งั นี้ จงดำ� เนินไปดว้ ยดี เปน็ ผลส่งเสรมิ ความเข้มแข็งและสามารถในหน้าที่ของ แต่ละหน่วย ตลอดจนความร่วมจติ รว่ มใจ เป็นอนั หน่งึ อันเดียวกนั ของบรรดาลูกเสือ และเจ้าหนา้ ทีท่ ้งั หลาย เพ่ือบำ� เพญ็ กรณยี กจิ อันเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป และขอให้ทกุ ท่านมีความสขุ สวัสดที ว่ั กัน” ในวนั ที่ ๑ กรกฎาคม พุทธศกั ราช ๒๕๕๔ คณะลกู เสอื ไทยได้เฉลิมฉลองวาระ ครบรอบ ๑๐๐ ปีแห่งการสถาปนากจิ การ 103 6/25/12 11:18 AM

“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในพิธีปฏิญาณตนและสวนสนามเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะ ลูกเสือแห่งชาติในวันนี้ ขอแสดงความยินดีด้วยอย่างยิ่งที่กิจการ ลูกเสือได้ด�ำเนินการมาครบ ๑๐๐ ปีด้วยความมั่งคงและยั่งยืน ความม่ันคงเป็นปึกแผ่นของกิจการลูกเสือที่ปรากฏอยู่ในบัดน้ีเป็น สง่ิ แสดงใหเ้ หน็ วา่ กจิ การลกู เสอื นนั้ มคี ณุ คา่ และประโยชนจ์ รงิ ในการ เสริมสร้างความเจริญใหแ้ กบ่ ุคคลและสรา้ งความเจรญิ รุ่งเรอื งผาสุก ใหแ้ กช่ าตบิ า้ นเมอื ง เยาวชนทเ่ี ขา้ มารว่ มในคณะลกู เสอื นอกจากจะ ได้รับการฝึกฝนและอบรมให้มีความรู้ความสามารถท่ีจะพึ่งพา ตนเองได้แล้ว ยังได้รับการปลูกฝังให้มีความรัก ความสามัคคีใน หม่คู ณะรวมทงั้ รจู้ กั สรา้ งสรรค์ประโยชนใ์ หแ้ ก่สงั คมส่วนรวมด้วย ลกู เสอื แหง่ ชาตขิ นึ้ ในวนั นพ้ี ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภมู พิ ลอดลุ ยเดช แม้ทุกวันนี้สภาพสังคมจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตามแต่ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้สมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ สยาม วิธีการฝึกหัดอบรมตามแบบของลูกเสือก็ยังคงเป็นที่ยอมรับว่า บรมราชกมุ ารี ปฏบิ ตั พิ ระราชกรณยี กจิ แทนพระองค์ ในพธิ ปี ฏญิ าณตน มคี วามเหมาะสมไมล่ า้ สมยั เปน็ วธิ ที ไ่ี ดผ้ ลในการปลกู ฝงั อบรมเยาวชน และสวนสนามเนอื่ งในวนั คลา้ ยวนั สถาปนาคณะลกู เสอื แหง่ ชาติ วนั ท่ี ใหเ้ ป็นพลเมืองดที ี่มคี า่ ของสังคม ดงั นัน้ ลกู เสือ เนตรนารี และ ๑ กรกฎาคม พุทธศกั ราช ๒๕๕๔ ในการน้ีได้ทรงพระราชทาน สมาชิกผู้บ�ำเพ็ญประโยชน์ทุกคน จึงควรต้ังใจพยายามประพฤติ ธงประจำ� คณะลูกเสือแหง่ ชาติ และธงประจำ� กองลูกเสือประจ�ำ ปฏิบัติตามระเบียบวินัยและแบบแผนของลูกเสืออย่างเคร่งครัด จังหวดั แก่ผ้อู �ำนวยการลูกเสอื จังหวัดหรือผู้แทนรวม ๗๗ จังหวดั เพอื่ ใหก้ จิ การลกู เสอื มคี วามมงั่ คงและกา้ วหนา้ และอำ� นวยผลประโยชน์ ทง้ั แกเ่ ยาวชนและประเทศชาตบิ า้ นเมืองสืบไป ในพระปรมาภิไธย ขออัญเชิญพระราโชวาทในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขออวยพรให้งานของคณะลูกเสือ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงพระราชทานแก่คณะลูกเสือในพิธี แห่งชาติด�ำเนินไปด้วยความราบรื่น บรรลุผลตามความมุ่งหมาย ปฏญิ าณตนและสวนสนามเนอื่ งในวนั คลา้ ยวนั สถาปนาคณะลกู เสอื ทุกประการ ทง้ั ขอให้ทุกทา่ นทม่ี าชุมนุมอยู่ ณ ทนี่ ้ี ประสบแต่ แห่งชาติ วันที่ ๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ มารวมไว้ ความสุขสวัสดโี ดยท่วั กนั ”. เน่อื งจากนานวนั ไปจะค้นได้ยาก 104 5502006L-12.indd 104 6/25/12 11:18 AM

ธงประจ�ำกองลกู เสือ ยังมธี งลกู เสอื อกี อยา่ งหนง่ึ คอื ธงประจ�ำกลมุ่ หรือธงประจำ� กองลกู เสอื มีดังตอ่ ไปนี้ (๑) ธงประจำ� กองลกู เสอื ประเภทสำ� รอง ทำ� ดว้ ยผา้ สเี หลอื งขนาด ๙๐ 5 ๖๐ ซม. มคี รยุ สเี ขยี วยาว ๘ ซม. สามดา้ น ตรงกลางมตี ราคณะลกู เสอื แหง่ ชาตสิ เี ขยี วขนาด ๔๐ 5 ๒๕ ซม. ใต้ตราบอกชื่อกลุ่มหรือกองลูกเสือตัวอักษรพิมพ์ธรรมดาสีเขียวขนาดพองาม ยอดคันธง ทำ� ด้วยโลหะเป็นรปู วชริ สีเงิน ธงลูกเสือส�ำรอง (๒) ธงประจำ� กองลกู เสอื ประเภทสามญั ทำ� ดว้ ยผา้ สเี ขยี วขนาด ๑๒๐ 5 ๘๐ ซม. มีครุยสีเหลืองยาว ๘ ซม. สามด้าน ตรงกลางมีตราคณะลูกเสือแห่งชาติสีเขียวขนาด ๔๐ 5 ๒๕ ซม. ใต้ตราบอกช่ือกลุ่มหรอื กองลูกเสอื ตัวอกั ษรพิมพ์ธรรมดาสเี หลอื งขนาด พองาม ยอดคนั ธงท�ำด้วยโลหะเปน็ รปู วชริ สเี งนิ ธงลูกเสือสามญั (๓) ธงประจ�ำกองลูกเสือประเภทสามัญรุ่นใหญ่ ท�ำด้วยผ้าสีเลือดหมูขนาด ๑๒๐ 5 ๘๐ ซม. มคี รยุ สเี หลอื งยาว ๘ ซม. สามดา้ น ตรงกลางมตี ราคณะลกู เสอื แหง่ ชาติ สีเหลืองขนาด ๔๐ 5 ๒๕ ซม. ใต้ตราบอกช่ือกลุ่มหรอื กองลูกเสือ ตวั อักษรพมิ พธ์ รรมดา สีเหลอื ง ขนาดพองาม ยอดคนั ธงท�ำด้วยโลหะเปน็ รูปวชริ สีเงนิ ธงลูกเสอื สามญั รุ่นใหญ่ (๔) ธงประจำ� กองลกู เสอื ประเภทวสิ ามญั ทำ� ดว้ ยผา้ สขี าบขนาด ๑๒๐ 5 ๘๐ ซม. มีครุยสีเหลืองยาว ๗ ซม. สามด้าน ตรงกลางมีตราคณะลูกเสือแห่งชาติสีเขียวขนาด ๔๐ 5 ๒๕ ซม. ใต้ตราบอกชอ่ื กลมุ่ หรือกองลูกเสอื ตวั อักษรพมิ พธ์ รรมดาสีเหลอื งขนาด พองาม ยอดคันธงทำ� ด้วยโลหะเปน็ รูปวชิรสีเงนิ ธงลกู เสือวิสามัญ 105 5502006L-12.indd 105 6/25/12 11:18 AM

5502006L-13.indd 106 6/25/12 11:16 AM

เหรยี ญราชนิยมและเครอื่ งหมายตอบแทน ณภัทรกันต์ กงั สดาลมณชี ยั “ตามค�ำท่ีท่านแต่ก่อนได้มีกล่าว ไวว้ า่ ความดแี ละความเสยี ของมนษุ ยม์ เี ทวดา เปนเจ้านา่ ท่จี ดไว้ ถา้ เปนสว่ นความดจี ดไว้ ในแผน่ ทอง ถา้ เปนความเสียจดไว้ในหนัง สวุ าน แตน่ ต้ี อ่ ไปเรา “จดหมายเหตเุ สอื ปา่ ” จะตงั้ ตวั เรา เปนเทวดาจดความดคี วามเสยี ของสมาชกิ กองเสอื ปา่ ไวบ้ ้างและเราจะได้ แสดงข้อความที่เราจดไว้นั้นให้ปรากฏใน “จดหมายเหตเุ สอื ปา่ ” เปนครงั้ คราวไป เพอื่ จะไดเ้ ปนเยย่ี งอยา่ งแกส่ มาชกิ ทง้ั หลาย” พระราชปรารภของพระบาทสมเด็จ ครั้นเม่อื การลกู เสอื แห่งกรงุ สยามไดถ้ อื ก�ำเนิดขนึ้ พร้อมแล้ว ก็ไดใ้ ช้แบบแผนของ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซ่ึงปรากฏใน เสือปา่ นี้ ส�ำหรับลูกเสอื ทไ่ี ดป้ ระกอบคณุ งามความดใี นหน้าทีล่ กู เสือ ไดท้ รงพระกรุณา จดหมายเหตเุ สอื ปา่ เลม่ ๑ ฉบบั ท่ี ๒ ประจำ� โปรดเกล้าฯ ให้สภากรรมการมณฑลน�ำความขึ้นกราบบังคมทูล เพือ่ ทราบใตฝ้ ่าละอองธุลี เดือนมิถุนายน ร.ศ. ๑๓๐ ทหี่ ากจะได้ พระบาท เมอ่ื ได้ทรงมพี ระกระแสอยา่ งไร ก็จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใหน้ ำ� ขน้ึ ประกาศ พิจารณาใหถ้ ่องแท้แล้วจะเห็นว่า พระองค์ บนแผน่ ทองลูกเสือ ซึง่ ได้ติดไว้ในที่เปดิ เผยตามท่ีตั้งกองลกู เสอื และใหน้ �ำลงประกาศใน ทรงมุ่งหวังให้ผู้ที่สมัครเป็นสมาชิกเสือป่า “จดหมายเหตุเสอื ป่า” และ “วิทยาจารย”์ เพอ่ื ประกาศความดคี วามชอบของลูกเสือน้นั ได้แสดงถึงคุณประโยชน์ของเสอื ป่า ท่เี ม่อื ได้รับการฝึกอบรมให้มีความรู้ในเรื่องการ ทหารแล้ว จะเปน็ พลเมอื งผมู้ รี ะเบียบวินยั มีอนามัยดีขึ้น มีความประพฤตเิ รียบร้อย ไมเ่ อาแต่ใจตนเอง และยงั จะไดท้ �ำหนา้ ท่ี พลเมืองดี ช่วยพลกองตระเวนคือตำ� รวจใน การจบั ผูป้ ระพฤติช่ัวตา่ งๆ การท่ีเสอื ปา่ ตัง้ ใจ ทำ� ประโยชนแ์ กต่ นเองและผู้อ่นื และแก่ ประเทศชาตบิ ้านเมืองน้ี บา้ นเมอื งยอ่ มจะ เจรญิ รุ่งเรอื งขน้ึ 107 5502006L-13.indd 107 6/25/12 11:16 AM

ถงึ ปีพุทธศกั ราช ๒๔๕๕ พระบาท ๑๓๑ แลว้ โปรดให้ตรา “พระราชบัญญตั ิ ลกู เสอื มณฑลสรุ าษฎรท์ ่ี ๑ ซง่ึ เปน็ กองลกู เสอื สมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงพระกรณุ า เหรียญราชนิยม พุทธศกั ราช ๒๔๘๔” ข้ึน ตวั อย่างของมณฑล วรี กรรมที่ลกู เสอื ผนู้ ไี้ ด้ โปรดเกลา้ ฯ ให้ตราพระราชบญั ญัติเหรียญ ใช้แทน มีการเปลย่ี นแปลงรายละเอียดบน ประกอบไว้โดยสงั เขปคอื ราชนยิ ม รตั นโกสนิ ทรศก ๑๓๑ ประกาศใช้ ตราหนา้ เหรียญเลก็ นอ้ ย คอื คงพระบรมรูป ณ วนั ที่ ๒๙ กนั ยายน พทุ ธศกั ราช ๒๔๕๕ ขนึ้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมอ่ื ตน้ เดอื นพฤษภาคม พทุ ธศกั ราช ส�ำหรับพระราชทานแก่ผู้ท�ำหน้าที่พลเมืองดี ไวค้ งเดิมแต่ไมม่ ีอกั ษรข้อความใดๆ ดา้ นหลัง ๒๔๕๖ ลกู เสอื โทฝา้ ยผนู้ ซ้ี งึ่ ขณะนนั้ มอี ายไุ ด้ แสดงความกลา้ หาญชว่ ยเหลอื เจา้ หนา้ ที่ โดย จารกึ อกั ษรวา่ “ทรงพระราชนยิ ม พระราชทาน” ๑๔ ปี ไดเ้ ขา้ มาดว้ ยกจิ ธรุ ะบางอยา่ งกบั ยาย ฝา่ อนั ตรายหรอื ชว่ ยเหลอื ผอู้ น่ื ใหพ้ น้ อนั ตราย ขา้ งบนมหี ว่ งหอ้ ยแพรแถบกวา้ ง ๓ เซนตเิ มตร ทใี่ นกรงุ เทพฯ แลว้ ไดโ้ ดยสารเรอื เดนิ ทะเลชอ่ื ตา่ งๆ โดยไม่เกรงภยั จะเกิดแก่ชีวิตของตน สีดำ� และสีเหลือง ประดบั ที่อกเสือ้ เบอื้ งขวา “บางเบดิ ” อนั เปน็ เรอื รบั สง่ คนโดยสารไปมา ทงั้ นต้ี อ้ งเปน็ การกระทำ� ไปโดยมใิ ชเ่ พอ่ื ความ กับเพ่ิมเติมเร่ืองการพระราชทานและการ อยู่ทางแถบฝั่งทะเลตะวันตกของอ่าวไทย จำ� เปน็ ตามต�ำแหน่งหนา้ ท่ขี องผ้กู ระทำ� นั้น เรยี กคนื กลบั สุราษฎร์ธานี ในเรอื นี้มผี โู้ ดยสารทั้งสน้ิ ๔๗ คน เป็นชาย ๔๒ คน หญิง ๔ คน กับ เหรียญพระราชนิยมนี้ มีช้นั เดียว ลกู เสอื โทฝา้ ย บญุ เลยี้ ง กองมณฑลสรุ าษฎรท์ ี่ ๑ เดก็ หญิงอายุ ๑๓ ปี อีกคนหนึ่งชื่อ “ผ่อง” สณั ฐานเปน็ รปู กลม ดา้ นหนา้ มีพระบรมรปู (ประจ�ำมณฑล) ในคืนหน่ึงขณะท่ีเรือล�ำน้ีก�ำลังบ่ายโฉมหน้า พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ ัว มี ออกสูท่ ้องทะเลลกึ ได้เกิดอัปปางลงในทซ่ี ่งึ อกั ษรจารกึ พระบรมนามาภไิ ธยวา่ “มหาราชา วรี กรรมของลกู เสือโทฝา้ ย ไมส่ จู้ ะหา่ งจากเกาะสีชังเท่าใดนัก ขณะน้นั ปรเมนทรมหาวชริ าวธุ สย์ ามรชั ก์ าล พทุ ธ์ สาสนุ ลูกเสือคนแรกที่ได้มีโอกาสรับ เป็นเวลาราว ๒๒ นาฬกิ า ผโู้ ดยสารทกุ คน ปัต์ถัม์ภโก” ด้านหลงั มีอักษรจารกึ วา่ “ทรง พระราชทานเกียรติยศอย่างสูง โดยไดร้ บั ลว้ นกำ� ลังหลับสนทิ รวมทงั้ ลูกเสอื โทฝา้ ย พระราชนยิ มพระราชทาน” มขี นาดเส้นผ่า พระราชทานเหรยี ญราชนยิ มจากพระราชหตั ถ์ ทกุ คนไดต้ ื่นตระหนกอกสัน่ สะดงุ้ จากภวงั ค์ ศูนย์กลาง ๓๐ มิลลิเมตร ห้อยกับแพรแถบ เปน็ รายแรกก็คอื ลูกเสอื โทฝา้ ย แห่งกอง ขึ้นในขณะที่เรือได้เกิดเอียงฮวบลงไปทาง สีด�ำและสเี หลอื ง ส�ำหรับประดบั ทีอ่ กเส้ือ ขวาโดยแรง แลว้ จากนัน้ เรือกค็ ่อยๆ จมลงไป เบอ้ื งขวา (ซงึ่ ตรงขา้ มกบั เครอื่ งราชอสิ รยิ าภรณ์ ทลี ะน้อยๆ อีกสองช่ัวโมงต่อมาก็จมจนมิด และเหรยี ญอยา่ งอ่ืน) ใชอ้ กั ษรย่อวา่ ร.น. ดาดฟา้ ผโู้ ดยสารตา่ งกต็ ะเกยี กตะกายวา่ ยนำ้� ผู้ได้รับพระราชทานไม่มีประกาศนียบัตร เขา้ เกาะสายระโยง และเสากระโดงเรอื เพื่อ ด้วยมีประกาศคุณความดีความชอบของ เอาตวั รอดกนั ชลุ มนุ วนุ่ วาย ผทู้ ว่ี า่ ยนำ้� ไมเ่ ปน็ ผู้นั้นในราชกจิ จานุเบกษาเป็นส�ำคัญ หรอื วา่ เปน็ แตไ่ มแ่ ขง็ พอกม็ กั จะถกู ลกู คลน่ื ซดั พอหลดุ จากท่เี กาะ กจ็ มดิ่งลงสกู่ ้นทะเลลกึ ถึงปีพทุ ธศักราช ๒๔๘๔ พระบาท แล้วก็พบกบั จดุ จบอย่างน่าอนาถในทันที สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลทรง พระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ยกเลิกพระราช ฝ่ายลูกเสือโทฝ้ายกับยายของเขา บัญญัติเหรียญราชนิยม รัตนโกสินทรศก ในขณะนนั้ ในทนั ทที เ่ี รอื ไดจ้ มลง สองยาย 108 5502006L-13.indd 108 6/25/12 11:16 AM

หลานก็ตะลีตะลานเข้าเกาะเสากระโดงเรือ ตายไปแน่ เพราะในท่สี ุดเรือกจ็ ะจมมิดเสา ในขณะนั้นที่เสากระโดงมีคนอาศัย เพ่ือรักษาชีวิตรอดเยี่ยงคนทั้งหลายเช่นกัน หาอะไรเป็นท่ียึดเหนย่ี วต่อไปไมไ่ ด้ ถ้า เกาะอยู่ประมาณ ๔-๕ คน และในจำ� นวนนี้ แตพ่ ออาศยั เกาะไดส้ กั ครหู่ นง่ึ กโ็ ดนคลนื่ ใหญ่ พยายามวา่ ยออกไป เผื่อจะยังไม่ถึงคราว ชายชราผู้หนึง่ กับเดก็ หญิงผ่องอีกผหู้ นึ่ง ซงึ่ ซดั โครมมา ทำ� ใหม้ นษุ ยผ์ นู้ ่าสงสารทั้งหลาย อับจน บางทจี ะพบเรอื หาปลาทพี่ อจะช่วย ท้ังสองนี้พอเห็นทุ่นชูชีพของลูกเสือโทฝ้าย ที่ก�ำลังตะเกียกตะกายเกาะเสากระโดงเรือ ชีวิตเขาไวไ้ ด้บ้าง กอ็ อกปากรอ้ งขออาศัยบา้ ง ลูกเสือโทฝ้าย กันอยนู่ ั้น ตอ้ งพากันหลุดกระเดน็ ออกจาก เหน็ ว่าคนท้งั สองนั้นเป็นผ้อู ่อนแอ กย็ นิ ยอม เสากระโดง จมน�ำ้ ลงไปในบัดดลตามๆ กัน ครั้นว่ายออกไปกลางทะเลไกลจาก ให้เขา้ มาเกาะอยดู่ ้วยความเต็มใจ มไิ ด้ค�ำนึง เรือมากแล้ว กบ็ ังเอญิ เกดิ ผา้ กางเกงท่ที ำ� ถงึ อนั ตรายของชีวิตตน เพราะหากท่นุ นนั้ สำ� หรับลูกเสอื โทฝา้ ยนน้ั พอทะลึง่ โปง่ อาศัยพยงุ ตัวไวน้ น้ั ขาดลง จะอาศยั ต้องจมลงดว้ ยทนน�ำ้ หนักไม่ไหวแล้ว ก็เป็น โผล่จากน�้ำขนึ้ มาได้ ก็ปรากฏวา่ ยายของเขา พึ่งพาต่อไปไม่ได้อกี แลว้ เขาจึงทิ้งเสยี แลว้ อันว่าเขาจะต้องพบอวสานแห่งชีวิตติดตาม ไดอ้ ันตธานหายไปเสียแล้ว เขาได้วา่ ยตรง พยายามว่ายกลับไปที่เสากระโดงเรือน้ันอีก ลงไปด้วย เข้าไปเกาะเสากระโดงนั้นอีก แต่เกาะอยไู่ ด้ แตเ่ นื่องจากคนื น้ันมดื มาก เขาจึงไมท่ ราบว่า ชัว่ เวลาไมเ่ ท่าใด กถ็ ูกคล่ืนใหญซ่ ัดเขา้ มาอีก เสากระโดงอยทู่ างไหน ตอ้ งวา่ ยเวยี นวนไปมา ลูกเสือโทฝ้ายได้ท�ำหน้าท่ีช่วยชีวิต จนหลดุ กระเดน็ ออกไปเปน็ คำ� รบสอง พอ อยู่ในท้องทะเลอย่างเหนื่อยหน่าย จน ของบุคคลท้ังสองนี้ไว้อย่างน่าสรรเสริญยิ่ง โผลน่ ้�ำขนึ้ มาไดใ้ หม่ กว็ ่ายตรงไปหมายใจวา่ แทบจะหมดสนิ้ ความหวงั ใดๆ สงิ่ เดยี วทเี่ ขา โดยพยายามหลีกทางให้ชายชราผู้นั้นกับ จะขอยึดเสากระโดงนั้นเปน็ ท่ีพึง่ อีก แต่ก็ พยายามชว่ ยตัวเองไวอ้ ยา่ งทีส่ ุด ก็คือคอย เด็กหญิงผ่องได้รับการพักผ่อนโดยอาศัย ปรากฏว่ามีคนเกาะกันอยู่แน่นเต็มไปหมด พยุงตัวไว้ให้ดีอยู่เสมอ และไม่ให้เผลอสติ เกาะทนุ่ อยู่อยา่ งมากทสี่ ดุ ส่วนตัวเขาเอง เสียแล้ว เขาจึงตอ้ งหนั เขา้ เกาะสายระโยงท่ี อยตู่ ลอดเวลา ตอ้ งแหวกวา่ ยไปมา เพอ่ื กวาดสายตาหาเรือ ปลายเสาไว้ พอประทังมใิ หจ้ มน้�ำไปก่อน มาช่วยบ้าง เพอ่ื ให้ทุ่นเบาแลว้ คนทงั้ สองจะ โชคยังเปน็ ของเขาอยู่ จงึ ในท่ีสดุ ก็ได้ ได้เกาะสบายๆ บา้ ง เป็นดังนจ้ี นตลอดราตรี พอดใี นขณะนน้ั เอง เทา้ ของเขาเผอญิ พบท่นุ ชชู ีพสองทนุ่ ลอยน�ำ้ อยู่หา่ งกัน เขาจงึ กาลอันหฤโหดน้ัน เหยยี บไปถกู กางเกงตวั หน่งึ ซ่ึงพันติดอย่กู ับ พยายามว่ายไปเก็บมาจนได้หมดท้ังสองทุ่น สายระโยง จึงดำ� ลงไปแก้เอาขน้ึ มาท�ำเป็น แล้วก็เอาซ้อนกันเข้าใช้เป็นท่ีเกาะบ้างข่ีบ้าง บุคคลทั้งสามนี้ต้องทนทุกขเวทนา โป่งส�ำหรับช่วยพะยุงให้ตัวลอยอยู่ในน้�ำได้ จึงค่อยได้ผ่อนคลายความเหน็ดเหน่ือย อย่างแสนสาหัสอยู่ในน�้ำเป็นเวลานานถึง ตามวิธีของลกู เสือ โดยผกู ปลายขากางเกง เมอื่ ยล้าลง เขาพยายามกระเสอื กกระสน แปดชั่วโมง จนกระทั่งร่งุ เช้าขน้ึ จงึ มีเรือกลไฟ ทงั้ สองข้างให้แนน่ เข้า แล้วคว่�ำกางเกงลง แหวกว่ายอย่ตู ่อไป จนมารู้สึกตัววา่ ไดว้ า่ ย ชอ่ื “ฮอลวาด” ได้แลน่ ไปพบเขา้ น่ันเอง ใหม้ ลี มอัดแน่นอยูภ่ ายใน กางเกงนั้นกจ็ ะ เข้ามาใกลเ้ รืออีกครง้ั หนง่ึ โดยได้ยินเสยี ง ท้ังสามชีวิตจึงรอดพ้นจากมฤตยูได้อย่าง แปรสภาพมาเป็นถุงโป่งพออาศัยเกาะพยุง เจ๊กคนหนง่ึ รอ้ งเอด็ ตะโรลน่ั ให้ชว่ ยด้วย เขา หวดุ หวิด และถูกนำ� ตัวมาส่งยงั เกาะสีชงั จงึ ใหล้ อยอย่ใู นนำ�้ ได้ จากนั้นเขากผ็ ละจากสาย จงึ วา่ ยกลบั เขา้ ไปทเ่ี รอื นน้ั โดยคดิ วา่ หากยาย นบั ไดว้ า่ ลกู เสอื โทฝา้ ยแหง่ กองมณฑลสรุ าษฎร์ ระโยงว่ายออกไปกลางทะเล ดว้ ยเชอื่ แนว่ า่ ยงั มีชวี ติ อยู่ ก็จะไดช้ ว่ ยพามาใหเ้ กาะทุน่ ท่ี ๑ ไดป้ ระกอบวรี กรรมอนั นา่ สรรเสรญิ และ หากขืนเกาะอยู่ทนี่ ัน่ ต่อไป ก็เหน็ จะไม่พ้นท่ี ชชู ีพประทงั ไว้ เป็นทปี่ ระทบั ใจยิ่ง กลา่ วคือสามารถรักษา 109 5502006L-13.indd 109 6/25/12 11:16 AM

ชวี ิตตน และชว่ ยชวี ติ ผอู้ ่นื ไว้ไดถ้ งึ สองชีวิต พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำ� รงราชา- ครนั้ ลว่ งมาในรชั สมยั พระบาทสมเดจ็ ในขณะเดยี วกนั ดว้ ย ควรนบั วา่ เปน็ เยยี่ งอยา่ ง นภุ าพ ทรงอ่านรายงานการปฏิบัตวิ ีรกรรม พระปกเกล้าเจ้าอยหู่ ัว ก็ได้ทรงพระราชทาน ที่ดียิ่งของลูกเสือไทยและลูกเสือท้ังหลาย ของลกู เสอื โทฝา้ ย ในการชว่ ยชวี ิตมนุษย์ เหรียญราชนิยมแกล่ ูกเสอื ต่อมา โดยเหรยี ญ ตลอดไปชัว่ กลั ปาวสาน. ครงั้ นน้ั พรอ้ มด้วยรายงานการสอบสวนและ ราชนิยมคงใช้อย่างรัชกาลก่อนไม่มีการ หลกั ฐานโดยพรอ้ มมลู ไดท้ รงมพี ระราชดำ� รสั เปล่ยี นแปลง พิธีพระราชทานเหรยี ญราชนยิ มครัง้ แรก และพระราชทานพระบรมราโชวาท แล้ว ในการพระราชทานเหรยี ญราชนยิ ม ลูกเสือโทฝ้ายก็เข้าไปหมอบเฝ้ารับพระราชทาน เมอื่ ไดม้ กี ารตราพระราชบญั ญตั ลิ กู เสอื ครั้งน้ัน ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ ทรงประดับเหรียญราชนิยมพระราชทานให้ พ.ศ. ๒๔๘๒ ประกาศในพระปรมาภไิ ธย ประกอบพระราชพธิ อี ยา่ งมโหฬารยิง่ ใน ลูกเสือกองเกียรติยศต่างก็พร้อมกันเปล่ง สมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั อานันทมหดิ ล ณ วันที่ วนั ที่ ๑๐ พฤศจกิ ายน พุทธศกั ราช ๒๔๕๗ เสียง “ชโย!” แตรวงบรรเลงเพลงมหาชยั ๒๗ ตลุ าคม พทุ ธศักราช ๒๔๘๒ น้ัน ได้ อันเป็นศุภวาระดิถีงานพระราชพิธีฉัตรมงคล จบแลว้ เสดจ็ พระราชด�ำเนนิ กลับ กำ� หนดใหม้ เี หรียญลกู เสือสรรเสรญิ ไวส้ �ำหรบั โปรดให้ต้ังพระที่นั่งชุมสายขึ้นท่ีชานชาลา พระราชทานแก่ลูกเสือผู้ได้ท�ำความดีความ หนา้ พระท่นี ่ังอาภรณ์ภโิ มกขปราสาท ใน ตอ่ มาลกู เสอื โทฝา้ ย กไ็ ดร้ บั พระมหา- ชอบตามเกณฑ์ แบง่ เปน็ ๓ ชัน้ คือ ชนั้ ท่ี ๑ พระบรมมหาราชวงั กรณุ าธคิ ณุ โปรดเกลา้ ฯ พระราชทานนามสกลุ เหรยี ญทองคำ� ชน้ั ท่ี ๒ เหรยี ญเงนิ ช้ันท่ี ๓ ใหว้ า่ “บญุ เลี้ยง” ภายหลังเมอื่ สำ� เรจ็ การ เหรยี ญทองแดง เหรยี ญลกู เสอื สรรเสรญิ นัน้ พอใกล้เวลากองลูกเสือกรุงเทพฯ ศกึ ษาแลว้ ไดเ้ ขา้ รบั ราชการเปน็ ครแู ละไดร้ บั มีสณั ฐานเปน็ รูปกลมรี กวา้ ง ๒๓ มลิ ลิเมตร ที่ ๑ (ลูกเสอื หลวง) พร้อมด้วยแตรวง ธง พระราชทานบรรดาศักดิเ์ ปน็ ขุนวรศาสน์ สงู ๓๒ มลิ ลิเมตร ดา้ นหน้ามีตราหน้าเสอื ประจำ� กองไดเ้ ดนิ แถวมาตงั้ เปน็ กองเกยี รตยิ ศ ดรณุ กจิ ประกอบวชิระ และริมขอบแห่งเหรยี ญมี พรอ้ มดว้ ยเจ้าหนา้ ท่ีสภากรรมการกลางจัดการ อักษรตราส่วนบนว่า “ลกู เสือ” ตราส่วน ลูกเสอื แหง่ กรุงสยาม พระยาศรสี ุนทรโวหาร ขนุ วรศาสนด์ รุณกจิ (ฝ้าย บุญเลีย้ ง) ดา้ นลา่ งว่า “เสียชีพอยา่ เสยี สัตย์” ตรา อัญเชิญพานเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์เหรียญ หน้าเสือประกอบวชริ ะ และตัวอักษรท่วี ่าน้ี ราชนยิ มคอยอยู่ ท�ำเป็นลายดุน ด้านหลงั พ้ืนเกลี้ยงสำ� หรบั จารกึ นามอกั ษรย่อนามจังหวดั หมายเลข เวลา ๑๖.๓๐ น. พระบาทสมเดจ็ ประจ�ำกอง และเลขประจ�ำตวั ของลูกเสือ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ในฉลองพระองค์ วันเดือนปี ท่ไี ดร้ บั พระราชทาน หอ้ ยแถบ เครอ่ื งแบบเตม็ ยศนายพลเสอื ปา่ รกั ษาดนิ แดน แพรขนาดเล็ก แบ่งโดยกว้างเปน็ สี่สว่ น สอง สุราษฎรธ์ านี เสดจ็ จากพระราชวงั ดสุ ติ สว่ นกลางเป็นสดี �ำ สองส่วนขา้ ง ข้างละ โดยรถยนตพ์ ระทนี่ ง่ั มาประทบั เหนอื พระทน่ี งั่ หนงึ่ สว่ นเปน็ สเี หลอื ง สำ� หรบั ประดบั แนบกบั ชมุ สาย แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสรญิ พระ- อกเส้ือเบ้ืองซา้ ย บารมี แล้วองค์อุปนายกสภากรรมการกลาง จดั การลูกเสือสยามในเวลานัน้ คอื สมเด็จ 110 5502006L-13.indd 110 6/25/12 11:16 AM

๓. ปอ้ งกันการทรมานสตั ว์ หรือ ชว่ ยเหลอื ให้พ้นทุกขเวทนา ๔. ท�ำประถมพยาบาล ๕. ชว่ ยเหลอื เจา้ หนา้ ทใ่ี นทางปกครอง ๖. ช่วยเหลือเจ้าหน้าท่ีในทาง สาธารณสขุ ๗. ช่วยเหลือผู้ปกครองในการบ้าน ต่างๆ หรือชว่ ยเหลือเพอื่ นบ้าน ๘. ชว่ ยเหลอื กจิ การตา่ งๆ ทางโรงเรยี น หรอื ทางท่ที ำ� งาน ซึ่งไมใ่ ช่หน้าทต่ี ามปกติ ของตน เหรยี ญลูกเสือสรรเสรญิ แบบแรก ทอง เงิน ทองแดง สำ� หรบั เหรยี ญชน้ั ที่ ๓ ไมน่ อ้ ยกวา่ ๑๐๐ ครงั้ ผู้ที่ได้รับพระราชทานเหรียญท่ีระลึก และในขอ้ หนึ่งๆ ไมน่ อ้ ยกว่า ๑๐ คร้งั หรือ สำ� หรบั ลกู เสอื อยแู่ ลว้ กอ่ นใชพ้ ระราชบญั ญตั นิ ี้ โดยจะทรงพระราชทานเหรียญ ผูท้ ่ีไดท้ ำ� การดังนีแ้ ต่เพยี งคร้ังเดียว คอื ช่วย จะคงใช้เหรยี ญน้ันอยูต่ ่อไปกไ็ ด้ หรือจะ ลูกเสือสรรเสริญแก่ลูกเสือผู้ได้ท�ำความดี ชีวิตผู้ตกอยู่ในท่ีอันตรายถึงต้องเสียชีวิต เปล่ียนใช้เหรียญใหม่ตามพระราชบัญญัติน้ี ความชอบตามเกณฑ์ คอื อยา่ งแนน่ อนในเมอ่ื ไมม่ ผี ชู้ ว่ ย และการกระทำ� กไ็ ด้ ท้งั นต้ี ัวผูช้ ว่ ยเองต้องประสบหรือฝา่ อันตราย เหรียญชน้ั ที่ ๑ จะพระราชทานแก่ ถึงปพี ทุ ธศักราช ๒๔๙๐ รชั สมยั ลูกเสือผู้ที่ได้ท�ำการโดยหวังรักษาความ เหรยี ญช้ัน ๓ จะพระราชทานแก่ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภมู พิ ลอดลุ ยเดช ปลอดภยั หรือศานติสุขเพอื่ ชาติ ศาสนา ลูกเสือผู้ที่ได้ท�ำความดีความชอบตามเกณฑ์ มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ ใหป้ ระกาศ พระมหากษัตรยิ ์ รัฐธรรมนญู หรอื เพื่อ ต่อไปนี้ไมน่ อ้ ยกว่า ๕๐ คร้ัง และในขอ้ หน่งึ พระราชบญั ญัตลิ กู เสือ พ.ศ. ๒๔๙๐ ประกาศ ประชาชน ซ่ึงสภากรรมการกลางจดั การ ไม่นอ้ ยกว่า ๕ ครงั้ คอื ณ วันท่ี ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๐ ใหม้ ี ลูกเสือแหง่ ชาตไิ ดพ้ จิ ารณาแลว้ เห็นว่าการ ๑. ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากที่ควร เหรยี ญลกู เสอื สรรเสรญิ ไวส้ ำ� หรบั พระราชทาน กระท�ำนั้นเป็นการประสบอันตรายถึง ช่วย ซง่ึ ตนเองไมต่ ้องฝ่าอนั ตราย แก่ลูกเสือผู้ได้ท�ำความดีความชอบตามเกณฑ์ ทุพพลภาพหรือถึงเสียชีวิตหรือฝ่าอันตราย ๒. ป้องกันผู้อื่นให้พ้นอันตรายหรือ แบ่งเปน็ ๓ ช้นั คอื ช้ันท่ี ๑ มี เช่นวา่ น้นั ความเดอื ดร้อนร�ำคาญ เฟลอร์เดอลีส์ ทำ� ด้วยโลหะเงนิ ประดับที่ แพรแถบตามแนวนอน ๒ ดอก ช้ันที่ ๒ เหรียญชั้นท่ี ๒ จะพระราชทานแก่ มเี ฟลอรเ์ ดอลสี ์ ท�ำด้วยโลหะเงินประดับท่ี ลูกเสือผู้ที่ได้ท�ำความดีความชอบตามเกณฑ์ แพรแถบตามแนวนอน ๑ ดอก ชน้ั ท่ี ๓ ไมม่ ี เฟลอรเ์ ดอลสี ์ ประดบั ทแ่ี พรแถบ 111 5502006L-13.indd 111 6/25/12 11:16 AM

เหรยี ญลกู เสอื สรรเสริญ แบบปัจจุบนั ในพระราชบัญญัตินี้ได้ขยายความ ต่อมาในปีพุทธศักราช ๒๕๐๗ ในส่วนของเหรียญที่ระลึกลูกเสือกับเหรียญ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภมู พิ ลอดลุ ยเดช เหรยี ญลกู เสอื สรรเสรญิ นน้ั มสี ณั ฐาน ลกู เสอื สรรเสรญิ ใหช้ ดั เจนยง่ิ ขนึ้ โดยไดม้ กี าร มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ ใหป้ ระกาศ เปน็ เหรยี ญเงนิ รปู กลมรี กวา้ ง ๒๕ มลิ ลเิ มตร กำ� หนดเทียบช้นั ดังน้ี คอื พระราชบญั ญตั ลิ กู เสอื พ.ศ. ๒๕๐๗ ประกาศ สงู ๓๒ มิลลเิ มตร ด้านหนา้ มีตราหนา้ เสอื ๑. เหรยี ญทองคำ� หรอื เหรยี ญลกู เสอื ณ วนั ท่ี ๑๖ มกราคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๐๗ ประกอบวชริ ะ และรมิ ขอบแหง่ เหรยี ญมอี กั ษร สรรเสริญชัน้ ที่ ๑ เทียบเท่ากับเหรียญลกู เสือ ให้มเี หรียญลกู เสือสรรเสริญ โดยสัณฐาน ตราส่วนบนว่า “ลกู เสอื ” ตราสว่ นด้านลา่ ง สรรเสรญิ ชั้นท่ี ๑ ตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ คงเหมอื นเดมิ ดา้ นหลงั เหรยี ญนนั้ เปน็ พน้ื ว่า “เสียชีพอย่าเสียสตั ย”์ ตราหนา้ เสอื ๒. เหรียญเงินหรือเหรียญลูกเสือ เกลี้ยงจารึกนามเลขหมายประจ�ำตัวของ ประกอบวชิระ และตวั อกั ษรท่วี ่านีท้ �ำเป็น สรรเสรญิ ช้ันท่ี ๒ เทยี บเทา่ กับเหรยี ญลูกเสือ ผู้ซ่ึงได้รับพระราชทานนามหน่วยลูกเสือท่ี ลายดุน ด้านหลังพ้ืนเกลยี้ งส�ำหรับจารึกนาม สรรเสริญช้ันท่ี ๒ ตามพระราชบัญญัตนิ ้ี สงั กัด และวนั ทีพ่ ระราชทานทข่ี อบสว่ นบน เลขประจำ� ตวั นามหนว่ ยลกู เสอื ทสี่ งั กดั และ ๓. เหรยี ญทองแดงหรอื เหรยี ญลกู เสอื ของเหรียญมีห่วงห้อยแพรแถบขนาดกว้าง วนั เดอื นปที ไ่ี ดร้ บั พระราชทาน ทข่ี อบสว่ นบน สรรเสรญิ ช้ันที่ ๓ เทยี บเท่ากับเหรียญลกู เสือ ๒.๔ เซนตเิ มตร มรี วิ้ สดี ำ� กวา้ ง ๑.๒ เซนตเิ มตร มีหว่ งหอ้ ยแถบแพรขนาดเลก็ แบ่งโดยกว้าง สรรเสริญช้ันที่ ๓ ตามพระราชบัญญัติน้ี อยกู่ ลาง ริมทัง้ สองขา้ งมรี ้ิวสเี หลืองกวา้ ง เป็นสีส่ ว่ น สองสว่ นกลางเปน็ สดี ำ� สองสว่ น ๖ มิลลเิ มตร ประดบั ที่อกเหนือปกกระเป๋า ข้างๆ ละหนึง่ ส่วนเป็นสเี หลือง ประดบั ทอ่ี ก เบอ้ื งซา้ ย เบ้อื งซ้าย พระราชบัญญัติน้ีได้ก�ำหนดไว้เป็น คร้งั แรก ใหเ้ หรียญลกู เสอื สรรเสริญนี้ มไี ว้ ส�ำหรบั พระราชทานแกล่ ูกเสอื และผู้บงั คับ บัญชาลูกเสือ ผตู้ รวจการลกู เสอื กรรมการ ลกู เสอื และเจ้าหน้าท่ลี กู เสือ ผู้มีความดี ความชอบ ซงึ่ แตเ่ ดมิ มาเหรยี ญลกู เสอื สรรเสรญิ จะพระราชทานแตเ่ พยี งลูกเสอื เท่าน้ัน เมอ่ื ไดม้ พี ระบรมราชโองการประกาศ ใชพ้ ระราชบัญญัติลูกเสือ พ.ศ. ๒๕๕๑ ได้ บัญญัติเหรียญลูกเสือสรรเสริญไว้ในมาตรา ๕๕ ๕๖ และ ๕๗ โดยคงข้อความโดยไว้ ตามพระราชบญั ญัตลิ ูกเสอื พ.ศ. ๒๕๐๗ โดยเปลยี่ นแปลงข้อความเล็กนอ้ ย 112 5502006L-13.indd 112 6/25/12 11:16 AM

เหรยี ญลกู เสอื สรรเสรญิ นี้ พระราชทาน สเู่ หรยี ญลกู เสอื สรรเสรญิ ชน้ั ท่ี ๑ เมอ่ื ชศู รี ไดร้ บั พระราชทานเหรยี ญลกู เสอื สรรเสรญิ ให้เปน็ กรรมสิทธ์ิ เมอื่ ผู้ได้รับวายชนม์ ให้ วนั ทลี่ กู เสอื สามญั จกั รกฤษ ชศู รี ยวุ ชนคนกลา้ ชน้ั ท่ี ๑ ในวนั ทกี่ ารลูกเสือไทยเฉลิมฉลอง ทายาทโดยธรรมรกั ษาไว้เป็นท่รี ะลึก แหง่ เขาพนมเบญจา นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษา ครบรอบศตวรรษแหง่ การสถาปนา เขาเปน็ ปีที่ ๕ สงั กัดกองลกู เสอื สามัญโรงเรยี น ลู ก เ สื อ ไ ท ย เ พี ย ง ไ ม ่ กี่ ค น ท่ี เ ดิ น เ ข ้ า รั บ เกอื บ ๑๐๐ ปีแล้ว จากเหรียญราชนิยม บา้ นถำ�้ โกบ อำ� เภอพนมเบญจา จงั หวดั กระบ่ี พระราชทานอิสริยาภรณ์เกียรติยศสูงสุด ส่เู หรียญลูกเสือสรรเสรญิ ไดแ้ สดงความกลา้ หาญ โดยฝา่ อันตราย บ�ำเหนจ็ แห่งความกลา้ หาญ ในวนั ทีเ่ ขายังมี จากวีรกรรมของลูกเสือโทฝ้าย ช่วยเหลือชีวิตน้องชายของเขาจากเหตุ ลมหายใจอยู่ บญุ เลย้ี ง แหง่ กองลกู เสอื มณฑลสรุ าษฎรท์ ่ี ๑ ดินโคลนถล่มและน้�ำป่าหลากเข้าท่วมบ้าน ลูกเสือสยามคนแรกท่ีได้รับพระราชทาน พังเสียหายท้งั หมด เมอื่ วันท่ี ๒๔ มีนาคม “ลกู เสอื บใ่ ชเ่ สอื สตั วไ์ พร เหรียญราชนิยม เพ่ือเปน็ บ�ำเหน็จแหง่ ความ พุทธศักราช ๒๕๕๔ เวลา ๙.๐๐ น. เรายมื ชอ่ื มาใช้ ด้วยใจกล้าหาญปานกัน กล้าหาญโดยฝ่าอันตรายหรือช่วยเหลือผู้อ่ืน ณ หม่บู ้านต้นหาน ต�ำบลหน้าเขา อำ� เภอ ใหพ้ ้นอันตรายต่างๆ โดยไมเ่ กรงภัยจะเกดิ เขาพนมเบญจา จังหวัดกระบี่ แมเ้ ขาท้งั สอง ใจกลา้ มใิ ช่กลา้ อาธรรม์ แก่ชวี ิตของตน เม่ือวันท่ี ๑๐ พฤศจกิ ายน จะปลอดภยั แตก่ ต็ อ้ งสญู เสยี บดิ ามารดาและ เชน่ เสอื อรญั สญั ชาตชิ นคนพาล พุทธศกั ราช ๒๔๕๗ นอ้ งอกี คนไปในวนั นนั้ ลกู เสอื สามญั จกั รกฤษ ใจกลา้ ตอ้ งกลา้ อยา่ งทหาร กลา้ กอปรกจิ การ แหง่ ชาตปิ ระเทศเขตตน” 5502006L-13.indd 113 113 6/25/12 11:16 AM

เหรยี ญลกู เสอื สดดุ ี รมิ สองขา้ งเปน็ รว้ิ สดี ำ� กวา้ งรมิ ละ ๖ มลิ ลเิ มตร ชนั้ ๑ ใหม้ เี ขม็ วชริ ะ ทำ� ดว้ ยโลหะเงนิ เคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ส�ำหรับ กับมีเขม็ รปู วชิระ ท�ำดว้ ยโลหะเงนิ ประดบั ประดับที่แพรแถบตรงท่ีกึ่งกลางในแนวดิ่ง พระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ทีแ่ พรแถบตรงก่ึงกลางในแนวดงิ่ ใช้ประดับ ๑ เขม็ พนกั งานเจา้ หนา้ ทลี่ กู เสอื และบคุ คลอนื่ ๆ ทมี่ ี ท่อี กเสอื้ เหนือปกกระเปา๋ เบอื้ งซา้ ย ชน้ั ๒ ให้มีเข็มหน้าเสือ ทำ� ดว้ ย อุปการคุณถึงขนาดหรือได้อุทิศก�ำลังกาย ตอ่ มา พระราชบญั ญตั ิลูกเสือ (ฉบับ โลหะเงินประดับที่แพรแถบตรงที่กึ่งกลาง ก�ำลังความคิดในการประกอบกิจให้บังเกิด ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๘ ที่ประกาศใช้ ณ วนั ท่ี ในแนวดิง่ ๑ เขม็ คณุ ประโยชน์แกก่ ารลูกเสอื ก�ำหนดข้ึนเป็น ๑๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๒๘ ได้เพ่ิม ชัน้ ๓ ไม่มีเข็มวชิระและหน้าเสือ ครง้ั แรกในพระราชบญั ญตั ลิ กู เสอื พทุ ธศกั ราช ช้ันเหรียญลูกเสือสดุดีขึ้นเป็น ๓ ชั้น เพ่ือ ประดับทีแ่ พรแถบ ๒๔๙๐ ซงึ่ ไดป้ ระกาศใชเ้ มอื่ วนั ท่ี ๑๓ มกราคม เป็นการส่งเสริมก�ำลังใจให้แก่ผู้ท่ีได้อุทิศ พุทธศกั ราช ๒๔๙๐ เปน็ ต้นมา ก�ำลังกายก�ำลังความคิดในการประกอบ เหรยี ญลกู เสือสดุดนี ี้ มสี ัณฐานเป็น กจิ กรรมใหบ้ งั เกดิ คณุ ประโยชนแ์ กก่ ารลกู เสอื รูปกลมรี อย่างเดียวกับเหรียญลูกเสือ อยา่ งย่งิ ทงั้ น้เี พื่อเป็นการทำ� นุบำ� รงุ ส่งเสริม สรรเสรญิ แตด่ า้ นหลงั จารกึ เพยี งแตน่ ามและ ให้กิจการลูกเสือมีความเจริญก้าวหน้ายิ่งข้ึน วนั ทไี่ ดร้ บั พระราชทาน เดมิ มชี นั้ เดยี ว ประดบั ตามหลกั เกณฑท์ ค่ี ณะกรรมการบรหิ ารลกู เสอื หอ้ ยกบั แพรแถบขนาดกวา้ ง ๒.๔ เซนตเิ มตร แห่งชาติกำ� หนด โดย มรี ิ้วสีเหลอื งกว้าง ๑.๒ เซนตเิ มตรอยกู่ ลาง เข็มลูกเสือบ�ำเพญ็ ประโยชน์ ตรงกลางเขม็ มแี ถบอกั ษรค�ำว่า ลกู เสอื ทองจารึกคำ� วา่ “ลูกเสือบำ� เพญ็ ประโยชน”์ บ�ำเพ็ญประโยชน์ โค้งอยูใ่ ตเ้ ฟลอรเ์ ดอลสี ์ โคง้ อยู่ใตเ้ ฟลอรเ์ ดอลีส์ เขม็ นมี้ สี ามชน้ั คอื เป็นเคร่ืองหมายตอบแทนส�ำหรับ ลงยาสพี ื้นสแี ดง บนพนื้ สตี ามชนั้ คอื ช้นั ที่ ๑ ชน้ั ท่ี ๑ พน้ื ลงยาสีแดง ชั้นท่ี ๒ พน้ื ลงยา ลูกเสอื -เนตรนารโี ดยเฉพาะ ก�ำหนดขึ้นเปน็ สที อง ชนั้ ที่ ๒ สเี งนิ และช้นั ที่ ๓ สที องแดง สขี าว และช้นั ที่ ๓ พน้ื ลงยาสนี �ำ้ เงนิ คร้ังแรกโดยข้อบังคับคณะลูกเสือแห่งชาติ กลัดไวบ้ นโบวส์ ีน�ำ้ เงนิ ประดับทอ่ี กเส้อื ดา้ น วา่ ดว้ ยเขม็ ลกู เสอื บำ� เพญ็ ประโยชน์ (ฉบบั ที่ ๔) ขวาเหนอื กระเป๋า พ.ศ. ๒๕๑๕ เดิมเป็นเข็มรูปสี่เหล่ียมจัตุรัส ต่อมาได้เปล่ียนรูปตามก�ำหนดใน ขนาด ๑.๗ เซนติเมตร มีรูปเฟลอร์เดอลีส์ ข้อบงั คบั คณะลูกเสอื แหง่ ชาติ วา่ ดว้ ยเข็ม ลูกเสือบ�ำเพ็ญประโยชน์ พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็น รูปกลมรขี นาดกวา้ ง ๒.๕ เซนตเิ มตร สงู ๓.๒ เซนตเิ มตร พนื้ ลงยาสตี ามชั้นของเข็ม ริมขอบนอกเปน็ สที อง ตรงกลางทำ� รปู เฟลอร์เดอลสี ท์ �ำด้วยโลหะสีทอง มีอกั ษรสี 114 5502006L-13.indd 114 6/25/12 11:16 AM

เครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณอ์ นั เปน็ สริ ยิ ง่ิ รามกรี ติ แหง่ ชาติ จึงกราบบังคมทูลขอพระราชทาน อยู่กลาง รมิ ท้ังสองข้างมรี วิ้ สขี าวกวา้ ง ๓ ลกู เสอื สดุดชี ้ันพเิ ศษ (The boy scout พระบรมราชานญุ าตสรา้ ง “เครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณ์ มลิ ลเิ มตร และรวิ้ สดี ำ� กวา้ ง ๖ มิลลิเมตร citation medal (Special class)) อนั เปน็ สริ ยิ ง่ิ รามกรี ติ ลกู เสอื สดดุ ชี น้ั พเิ ศษ” เคร่ืองราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริย่ิง ขน้ึ เพอื่ สง่ เสรมิ กำ� ลงั ใจแกผ่ อู้ ทุ ศิ ตนใหก้ จิ การ รามกีรติ ลูกเสอื สดุดชี ้ันพเิ ศษ เปน็ เครอื่ ง เปน็ เครอื่ งราชอสิ รยิ าภรณท์ พ่ี ระบาท ลูกเสืออย่างแท้จริงโดยมีล�ำดับเกียรติของ ราชอิสริยาภรณ์ส�ำหรับพระราชทานแก่ผู้ที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรง เครอื่ งราชอสิ รยิ าภรณเ์ ปน็ ลำ� ดบั ท่ี ๒๖ ได้รับพระราชทานเหรยี ญลูกเสอื สดุดชี ้ันท่ี ๑ พระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานพระบรม เคร่ืองราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริย่ิง และได้มีอุปการคุณช่วยเหลือกิจการลูกเสือ ราชานุญาตใหจ้ ดั สร้างข้นึ เมื่อปีพุทธศักราช รามกรี ติ ลกู เสอื สดดุ ชี น้ั พเิ ศษ มลี กั ษณะเปน็ อยา่ งตอ่ เนอ่ื งมาแลว้ ไมน่ อ้ ยกวา่ ๕ ปี นบั แต่ ๒๕๓๐ เนอ่ื งในวาระครบรอบ ๗๕ ปี ท่ี ดวงตราคล้องคอ ดา้ นหน้ามลี ักษณะรปู ไข่ วันที่ได้รับพระราชทานเหรียญลูกเสือสดุดี พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พนื้ ลงยาสนี ำ้� เงนิ ขนาดกวา้ ง ๒.๕ เซนตเิ มตร ชัน้ ท่ี ๑ โดยคณะกรรมการบริหารลูกเสือ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ พระราชทาน ยาว ๓.๓ เซนติเมตร กลางดวงตรามตี รา แห่งชาติจะพิจารณาผู้เหมาะสมส�ำหรับรับ ก�ำเนิดกิจการลูกเสือไทยในปีพุทธศักราช หน้าเสือประกอบวชิระเงินล้อมด้วยเม็ด พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นนี้ ๒๕๒๙ และเพ่ือเป็นการเฉลิมพระเกียรติ ไข่ปลาสีทองและมีรัศมีเงินโดยรอบแปดแฉก แลว้ นำ� ความกราบทลู เพอ่ื ขอรบั พระราชทาน ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คน่ั ดว้ ยกระจงั สที อง เบอ้ื งบนมพี ระมหามงกฏุ เครอ่ื งราชอิสริยาภรณต์ อ่ ไป ภูมิพลอดุลยเดชทรงเจริญพระชนมพรรษา รัศมีโปรง่ และเลข “๙” สีทอง ผู้ได้รับพระราชทานเคร่ืองราช ครบ ๕ รอบ คณะกรรมการบรหิ ารลกู เสอื ดา้ นหลงั บรเิ วณกลางดวงตราเปน็ ดมุ อิสริยาภรณ์จะได้รับเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ พื้นลงยาสมี ่วง มรี ูปตราของคณะลกู เสอื โลก เปน็ กรรมสทิ ธ์ิ เมอื่ ผไู้ ดร้ บั พระราชทานเครอ่ื ง เบ้อื งล่างมีอักษรสีเงินวา่ “เราจะทำ� นบุ ำ� รงุ ราชอิสริยาภรณ์ชั้นนี้เสียชีวิตลงสามารถ กิจการลกู เสือสืบไป” มอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ทายาทไว้ ท่ีขอบด้านบนของดวงตรามีห่วง เพอ่ื เปน็ ทร่ี ะลกึ ได้ โดยไมต่ อ้ งสง่ คนื ในภายหลงั ห้อยแพรแถบส�ำหรบั คล้องคอ ขนาดกว้าง ๔ เซนตเิ มตร มรี ว้ิ สเี หลอื งกวา้ ง ๒.๒ เซนตเิ มตร เขม็ ลูกเสอื สมนาคณุ ในพระราชบัญญัติลูกเสือ พ.ศ. “ลูกเสือสมนาคณุ ” ประดับบนแถบโบวพ์ น้ื ๒๕๐๗ ไดก้ ำ� หนดใหม้ เี ขม็ ลกู เสอื สมนาคณุ ขน้ึ สเี หลืองขอบสดี �ำ ประดบั ท่อี กเสอ้ื ด้านขวา ไว้ส�ำหรับตอบแทนผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงิน เหนอื กระเปา๋ ในการบรจิ าคเงนิ หรอื ทรพั ยส์ นิ หรือทรัพย์สินอย่างอื่นเพ่ือบ�ำรุงการลูกเสือ ช่วยเหลือกิจการลูกเสือรวมกันเป็นคณะ เขม็ สมนาคุณนี้มี ๔ ชน้ั ลกั ษณะของเขม็ ใหจ้ ัดท�ำโลช่ นิดตั้ง และมหี นังสอื สำ� คัญคกู่ ับ ลูกเสือสมนาคุณมีลักษณะเป็นรูปหน้าเสือ เข็มลูกเสือสมนาคุณแต่ละช้ันด้วยเงื่อนไข ดนุ นูน ท�ำด้วยโลหะตามช้นั ประกอบวชิระ ในการใหเ้ ขม็ ลกู เสือสมนาคุณ ใหเ้ ป็นไปตาม และชอ่ ชยั พฤกษส์ เี งนิ ทำ� ดว้ ยโลหะ ใตห้ นา้ เสอื ขอ้ บงั คับคณะลูกเสอื แหง่ ชาติ มีโบว์พ้ืนสีด�ำมีอักษรสีทองจารึกค�ำว่า 115 5502006L-13.indd 115 6/25/12 11:16 AM

5502006L-14.indd 116 6/25/12 11:14 AM

จากโรงเรยี นผู้กำ�กบั ลกู เสือในพระบรมราชูปถมั ภ.์ ..สูก่ ิลเวลลป์ ารค์ สโมสรเสอื ป่าแลลกู เสอื สยาม เม่ือพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า ทั้งนี้ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ไดท้ รงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ เจ้าอยหู่ วั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้ต้ัง ให้บรรจนุ ายดาบ จ้อย พลทา (ตอ่ มาได้รับ โรงเรยี นมหาดเล็กหลวง จัดนักเรยี นทดลอง โรงเรยี นมหาดเลก็ หลวงขนึ้ เมอื่ วนั พฤหสั บดี พระราชทานบรรดาศักด์ิที่หลวงหัดดรุณพล) แต่งเคร่ืองแบบลูกเสือตามข้อบังคับข้ึน ที่ ๒๙ ธันวาคม พุทธศกั ราช ๒๔๕๓ เขา้ ท�ำหนา้ ทเ่ี ปน็ ครฝู ึกหัดระเบียบแถวอยา่ ง ถวายเพอ่ื ทรงทอดพระเนตร โรงเรียน อนั เปน็ ตอนตน้ รชั สมัยนั้น ได้ทรงรบั เปน็ ทหารแก่นักเรียนโรงเรียนมหาดเล็กหลวง มหาดเลก็ หลวงจงึ ไดส้ งั่ ให้ น.ร.ม.ชพั น์ บนุ นาค พระราชธรุ ะในการจดั การศกึ ษาของโรงเรยี น โดยให้นักเรียนมีเครื่องแบบสีเทาแบบชุตต้ิง ซึ่งเป็นมหาดเล็กข้าหลวงเดิมไปวัดตัวตัด กบั ทรงรบั ไวใ้ นพระบรมราชปู ถัมภ์ ทรงตง้ั ใช้ในการฝึกหัดท่าระเบยี บแถว คร้นั ถงึ วนั ที่ เครอ่ื งแบบขนึ้ ทลู เกลา้ ฯ ถวายทอดพระเนตร พระราชหฤทยั ใหโ้ รงเรียนมหาดเลก็ หลวงนี้ ๑ กรกฎาคม พทุ ธศักราช ๒๔๕๔ พระบาท ในวันท่ี ๑๐ กรกฎาคม ศกน้ัน กองลกู เสือ เป็นโรงเรียนต้นแบบในการจัดการศึกษา สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระ กองแรกในสยามจึงได้เกิดขึ้นที่โรงเรียน ของชาติตามแนวพระราชด�ำริแก่โรงเรียน กรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้ประกาศใช้ขอ้ บงั คบั มหาดเล็กหลวงนี้เป็นปฐม ทรงพระกรุณา อ่ืนที่จะไดก้ ่อตงั้ ขึ้นตามมาภายหลงั ลักษณปกครองลูกเสือ รตั นโกสินทร ศก โปรดเกลา้ ฯ พระราชทานนามวา่ “กองลกู เสอื ๑๓๐ แล้ว กรุงเทพฯ ที่ ๑” 117 5502006L-14.indd 117 6/25/12 11:14 AM

สโมสรเสอื ปา่ มณฑลนครไชยศรี สโมสรเสอื ปา่ ลานพระราชวงั ดสุ ติ กรงุ เทพ เมอื่ ได้มีการสรา้ งสโมสรสถานเสือปา่ ในส่วนของหัวเมืองน้ันได้ปรากฏว่า คร้ันเมื่อได้ประกาศใช้ข้อบังคับ ในพระนครแลว้ เสรจ็ ทางโรงเรยี นไดพ้ าลกู เสอื ที่มณฑลนครไชยศรี ได้ขอใหน้ ายร้อยเอก ลกั ษณการปกครองลูกเสือแลว้ ทางมณฑล เดินแถวไปฝึกหัดท่าสนามท่ีสนามหน้า สไตเนอร์ ครูโรงเรยี นนายร้อยตำ� รวจภูธร ปราจิณบุรีได้จัดการต้ังต้นการลูกเสือขึ้นที่ สโมสรเสอื ป่าในทกุ วนั เวลาเยน็ ครนั้ ถึงวนั ที่ มาท�ำการฝึกหัดครูและนักเรียนของโรงเรียน โรงเรียนวดั ปิตลุ าธริ าชสฤษ เมอื งฉะเชงิ เทรา ๒ กนั ยายน ศกเดยี วกนั พระบาทสมเดจ็ ตวั อยา่ งมณฑลนครไชยศรี พระปฐมวทิ ยาลยั เปน็ แหง่ แรก ในช้นั ต้นมจี �ำนวนได้ ๓๑ คน พระมงกฎุ เกลา้ เจ้าอยู่หัว เสดจ็ ออก ณ เพ่ือเตรียมความพรักพร้อมล่วงหน้ามาแล้ว และได้ทดลองฝึกหัดลูกเสือข้ึนในเมืองอื่น พลบั พลาสโมสรเสือปา่ ขา้ งลานพระราชวัง กวา่ ๑ เดอื น ตง้ั แตก่ อ่ นการประกาศใช้ขอ้ ของมณฑลๆ ละแห่ง คือ ท่โี รงเรยี นวดั หลวง ดสุ ติ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผูบ้ งั คบั บังคับลักษณการปกครองลูกเสือแล้วเช่นกัน เมอื งปราจิณบรุ ี โรงเรียนวดั ทา่ พาณิช เมอื ง การลกู เสอื กองรอ้ ยท่ี ๑ โรงเรยี นมหาดเลก็ หลวง การฝึกหัดลูกเสือนี้ปรากฏว่าเด็กนักเรียน กระบนิ ทร์ โรงเรียนวดั ตน้ สน เมอื งชลบรุ ี น�ำกองลูกเสือเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พากนั นยิ มเปน็ อยา่ งมาก ขดั ขอ้ งอยแู่ ตย่ งั ไมม่ ี โรงเรียนวดั โพธ์ิ เมืองนครนายก สว่ นการ แล้วผู้ก�ำกับลูกเสือได้ท�ำการฝึกหัดแถวถวาย ครพู อท�ำการฝึกหัดไดท้ ่วั ถึง พระนิกรมมุนี ขยายการฝึกหัดลูกเสือไปตามอ�ำเภอสาขา หนา้ พระทน่ี งั่ จากนน้ั ไดม้ กี ารแสดงวชิ าลกู เสอื เจ้าคณะเมืองนครไชยศรีได้รับท่ีจะฝึกหัด ได้เริ่มต้ังท่ีโรงเรียนที่ใกล้ท่ีว่าการอ�ำเภอ ตามแบบท่ีทรงพระราชทานไวใ้ นพระราช เดก็ นักเรียนท่ีวัดพระปฐมเจดยี ์เอง ดว้ ยมี ก่อนส่วนโรงเรียนที่ห่างไกลออกไปใช้วิธี นพิ นธแ์ บบสงั่ สอนเสอื ปา่ และลกู เสอื เปน็ ที่ พระภิกษุที่เคยรับราชการทหารแล้วอยู่ ช้ีแจงแนะนำ� ครูไปฝกึ หดั กันเอง เพราะไมม่ ี พอพระราชหฤทัยเป็นอย่างมาก หลายรปู ครผู ฝู้ กึ หดั มากพอ ตอ้ งอาศัยต�ำรวจภธู รไป ฝกึ หดั ใหเ้ พยี งวนั ละ ๒ ชวั่ โมงหลงั เวลาราชการ ซ่ึงไมเ่ พียงพอแกก่ าร 118 5502006L-14.indd 118 6/25/12 11:14 AM

การฝึกหัดลูกเสอื ในระยะแรกน้ี ได้ และด่าน การพิจารณาสังเกตและจ�ำ การ การประชมุ สภานายกกรรมการกลางจดั การ ใช้แบบส่งั สอนเสอื ปา่ และลกู เสอื พระราช สะกดรอย การสันนิษฐาน การแฝงกาย ลกู เสอื ทว่ั พระราชอาณาจกั ร เมอ่ื พทุ ธศกั ราช นิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า และการเกลอื่ นรอย รายงานและการแจง้ เหตุ ๒๔๕๘ เจา้ อยู่หัวเป็นหลักในการฝกึ หัด ทรงแสดง กำ� บังต้ังรบั ปอ้ งกนั ตัว จับผรู้ า้ ย ชว่ ยชีวติ ด้วยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า พระราชปรารภว่า “...ได้คดิ ไว้จะกำ� หนดต้งั และกันภัย ปจั จุบนั พยาบาล ในส่วนการ เจ้าอยูห่ ัว ทรงมพี ระราชปรารภว่า ได้มกี อง แบบฝึกหัดสั่งสอนเสือป่าข้ึนใหม่ตามใจ ปลูกฝังจรรยาและความรักชาติบ้านเมือง ลูกเสือต้ังข้ึนเป็นหลักฐานแล้วทั่วทุกมณฑล ขา้ พเจา้ อาไศรยใชแ้ บบฝกึ หดั และระเบยี บการ น้ัน ผู้ก�ำกับลูกเสือจ�ำเป็นต้องมีความรู้ และกิจการลูกเสือน้ีก็ได้ด�ำเนินไปพอจะ ของกองทัพบกกรุงสยามบ้างตามสมควร ในหนงั สอื “ปลกุ ใจเสอื ปา่ ” กบั “เทศนา เป็นที่หวังได้ว่าจะเป็นผลดีสมดังพระราช นอกนั้นพยายามเก็บแลค้นหาความรู้ เสือปา่ ” ด้วย พระราชนิพนธท์ งั้ ๓ เล่มน้ี ประสงค์แล้วจึงทรงพระราชด�ำริว่าถึงเวลา เบด็ เตลด็ ตา่ งๆ จากทท่ี งั้ ปวง เลอื กสรรเอาที่ ถือเป็นต�ำราส�ำคัญของการลูกเสือสยาม อนั ควรแล้ว ท่จี ะไดจ้ ัดใหม้ กี ารประชุมสภา เข้าใจว่าเปนคุณประโยชน์แก่ผู้ท่ีกระท�ำใน มาแต่แรก นายกกรรมการจัดการลูกเสือทั่วพระราช หน้าที่เสือป่ามารวบรวมไว้ส�ำหรับใช้ส่ังสอน อาณาจักรข้นึ ทกี่ รุงเทพฯ เพื่อปรึกษาหารอื สบื ไป” แบบสง่ั สอนเสือปา่ และลกู เสือ มี พทุ ธศกั ราช ๒๔๕๗ ไดม้ กี ารเปดิ สอบ ในเรอ่ื งเกย่ี วกบั กจิ การของลกู เสอื โดยทว่ั ๆ ไป ความยาว ๑๘ บท รวม ๑๗ เร่อื ง คือ การ สำ� หรบั ผ้กู �ำกบั ลูกเสอื ขึน้ ๒ แผนกคอื จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหส้ ภากรรมการ สืบข่าวและการเดนิ ทาง อาณัติสญั ญา การ พะแนกปลกุ ใจเสอื ปา่ ในวนั ท่ี ๓ สงิ หาคม มณฑลตา่ งๆ สง่ ขอ้ คดิ เหน็ มายงั สภากรรมการ ชา่ งและความร้เู บ็ดเตล็ด การต้งั คา่ ยและ พทุ ธศักราช ๒๔๕๗ กับพะแนกข้อบงั คับ กลาง เพอ่ื พจิ ารณาและเสนอในทปี่ ระชมุ ตอ่ ไป ทพ่ี ักแรม การอยู่คา่ ยและทีพ่ ักแรม ยาม ลกั ษณปกครองลกู เสือ ในวันท่ี ๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๕๗ ไดม้ ผี ้กู ำ� กับลูกเสอื สมคั ร ครนั้ ถงึ วนั ท่ี ๖ พฤษภาคม พทุ ธศกั ราช เขา้ สอบในแผนกปลุกใจเสือปา่ ๑๔ คน ๒๔๕๘ กโ็ ปรดใหม้ ีการประชุมสภานายก สอบผ่าน ๔ คน ตก ๑๐ คน สว่ นแผนก กรรมการจัดการลูกเสือของมณฑลต่างๆ ข้อบงั คบั ลกั ษณปกครองลกู เสือ มีผู้ก�ำกับ พรอ้ มดว้ ยกรรมการสภากลาง ขน้ึ เปน็ ครง้ั แรก ลกู เสอื สมัครเข้าสอบ ๙ คน สอบผา่ น ๕ คน ทส่ี โมสรเสอื ปา่ สวนดสุ ติ และในโอกาสนนั้ ได้ ตก ๔ คน ทรงพระกรุณาเสด็จมาประทับเป็นประธาน แห่งท่ปี ระชมุ แลว้ ไดท้ รงมีพระราชดำ� รสั เปดิ การประชมุ ข้ึน ซง่ึ มีใจความส�ำคญั ว่า การที่เชิญบรรดาสภานายกกรรมการ จดั การลกู เสอื มณฑลตา่ งๆ เชา้ มาประชมุ ครงั้ นี้ ก็ด้วยความมุ่งหมายที่จะปรึกษาหารือกัน ในกจิ การแหง่ คณะลกู เสอื ซ่ึงพระองคท์ า่ น ทรงเปน็ องค์อปุ ถมั ภกและสภานายก ความ 119 5502006L-14.indd 119 6/25/12 11:14 AM

ประสงค์และความมุ่งหมายในการต้ังคณะ สมควร ทำ� ใหค้ นทมี่ คี วามคดิ แคบนกึ ไปเสยี วา่ เป็นครโู รงเรยี นซง่ึ กองลกู เสอื ประจำ� อยู่ หรอื ลกู เสอื ขนึ้ นน้ั ยอ่ มมปี รากฏอยใู่ นขอ้ บงั คบั นนั้ ไม่ปรองดองกันควรจะหาวิธีอย่างดีที่สุด ซ่งึ คดิ จะตั้งกองลูกเสอื ข้ึน ผูท้ ี่สมัครเชน่ น้ี แล้วแตธ่ รรมดา ขอ้ บังคับทจ่ี ะร่างทเี ดยี ว ทจ่ี ะดำ� เนนิ ไปใหค้ ลา้ ยกนั ทส่ี ดุ เทา่ ทจี่ ะเปน็ ได้ ตอ้ งมหี นงั สอื แนะนำ� จากสภากรรมการลกู เสอื ให้สำ� เรจ็ และเหมาะสมกับภาวะภูมิประเทศ คนภายนอกจะได้รู้สึกว่าเราเป็นผู้ที่ทรงไว้ ของตนเป็นหลักฐาน กำ� หนดการเรยี น ๒ อันตา่ งกันอยู่ ย่อมเป็นไปไม่ไดอ้ ยเู่ อง ซง่ึ ซง่ึ ความสามคั คี อนั จะนำ� มาซ่ึงเกยี รตคิ ุณแก่ เดอื นเต็ม คอื ต้ังแต่วันที่ ๑ พฤศจกิ ายน ถึง เปน็ ทเ่ี ขา้ ใจกนั อยแู่ ตต่ น้ แลว้ วา่ เมอื่ กจิ การแหง่ ชาตไิ ทยและคณะลกู เสอื จึงไดข้ อความเหน็ วันที่ ๓๑ ธันวาคม หรือถ้าเตม็ ใจจะโดย คณะลกู เสอื ไดด้ ำ� เนนิ เจรญิ ขน้ึ ไปพอควรแลว้ มาเปน็ รายๆ เพอื่ ฟงั ความเหน็ นน้ั และวนิ จิ ฉยั เสด็จพระราชด�ำเนินในการฝึกหัดประลอง ก็จะต้องด�ำริดัดแปลงแก้ไขข้อบังคับใหม่ให้ ในทป่ี ระชุมวา่ ฝ่ายใดสมควรจะได้รับความ ยุทธเสือปา่ ในกองเสนาหลวงดว้ ยก็ได้ แต่ เหมาะสมแกก่ าลสมยั ตกลงเดด็ ขาด เพอื่ ใหก้ ารลงระเบยี บและเปน็ ต้องอยู่จนตลอดเวลาฝึกหัดประลองยุทธ ประโยชนช์ ั่วกาลนาน ผู้ที่มาอยู่ประจ�ำโรงเรียนเช่นนี้พระราชทาน อาศัยเหตุที่กิจการแห่งคณะลูกเสือ พระราชทรัพยเ์ ล้ยี งดจู นตลอดเวลา ผทู้ ีเ่ รียน ในขณะเมื่อแรกตั้งกบั ทเี่ ป็นอยู่ ณ บัดนี้ได้ ข้อบกพร่องส�ำคัญมีอยู่อีกอย่างหน่ึง สอบไลไ่ ดต้ ามหลักสตู ร ทรงพระกรณุ า เจริญผิดแผกแปลกไปจากรปู เดิม ทงั้ การ คอื หลกั สูตรวิชาของลกู เสือ ท้ังนี้ก็โดยท่ี โปรดเกลา้ ฯ พระราชทานประกาศนียบัตร ปกครองก็ได้ขยายไปทั่วพระราชอาณาจักร ผู้ก�ำกับและรองผู้ก�ำกับมีวิชายังบกพร่องอยู่ ประกาศนียบตั รน้ันแบง่ ออกเป็น ๒ ประเภท สภากรรมการยอ่ มจะมคี วามเหน็ แตกตา่ งกนั ไม่เพียงพอแก่การท่ีจะสง่ั สอนลกู เสือ ตาม คอื ประกาศนยี บัตรพิเศษ และประกาศ- ตามแตจ่ ะเหมาะแกภ่ มู ปิ ระเทศของตน เมอื่ ท่ไี ด้ทรงสงั เกตมาแล้วในมณฑลใกลๆ้ หลาย นียบัตรสามญั ประกาศนยี บตั รพเิ ศษน้ัน มีผู้ใดขออนุญาตเข้ามาเป็นคร้ังคราว ถ้า มณฑลความรู้ในหน้าที่ของผู้ก�ำกับยังอ่อน พระราชทานแก่ผู้ที่สอบไล่ได้ตามหลักสูตร เป็นการสมควรก็ได้อนุญาตไปตามความ เต็มที พวกลูกเสอื ตั้งใจดแี ตค่ วามรขู้ องครูยงั และได้โดยเสด็จพระราชด�ำเนินในการ ปรารถนา ครั้นการด�ำเนนิ การตอ่ มาต่างคน บกพร่องอยู่ จงึ ทรงพระราชดำ� ริเหน็ สมควร ประลองยุทธดว้ ย ประกาศนียบตั รสามัญนน้ั ตา่ งขอ การจงึ กระจดั กระจายแปลกไปจาก ทจี่ ะตง้ั โรงเรยี นพเิ ศษขนึ้ โรงเรยี นหนง่ึ เรยี กวา่ พระราชทานแตผ่ ้ทู ่ีสอบไล่ได้ตามหลักสตู ร หลกั เดมิ ซงึ่ แทจ้ รงิ กม็ คี วามมงุ่ หมายอนั เดยี วกนั “กองฝกึ หดั ผกู้ ำ� กับลูกเสือ”เพอ่ื เปดิ โอกาส แปลกอยู่แต่วิธีหรือวิถีท่ีปฏิบัติการให้บรรลุ ให้ผู้ก�ำกับและรองผู้ก�ำกับลูกเสือได้มีวิชาให้ นอกจากน้ีที่ประชุมได้ปรึกษาหารือ ซงึ่ ความมงุ่ หมายอนั เปน็ อยา่ งเดยี วกนั นนั้ เอง สมแก่หนา้ ท่ี มรี ะเบยี บการโดยย่อดงั ต่อไปนี้ กันถึงกจิ การตา่ งๆ ของลกู เสือ มีข้อตกลง กล่าวคือการฝึกหัดกุลบุตรให้มีความจงรัก โดยสงั เขปดงั ตอ่ ไปน้ี ตามขอ้ บงั คบั ลกั ษณ ภกั ดี รจู้ กั หนา้ ทซี่ งึ่ จะตอ้ งกระทำ� เพอื่ รบั ใช้ กองฝึกหัดผูก้ ำ� กับลกู เสือน้ี ทรง ปกครองลกู เสอื นนั้ ลกู เสอื ทอี่ อกจากโรงเรยี น พระมหากษัตริย์ในการป้องกันชาติศาสนา พระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหข้ นานนามวา่ “กอง โดยเสร็จการเลา่ เรียนแลว้ ให้คงนามไวใ้ น ของตน ฝกึ หดั ผกู้ ำ� กบั ลกู เสอื ในพระบรมราชปู ถมั ภ”์ ทะเบียน แตย่ กไปอยู่ในแผนกกองหนุน ผู้ที่จะเข้าเป็นนักเรียนฝึกหัดในกองลูกเสือน้ี ต่อไปให้ถือว่าเมื่อออกจากโรงเรียนแล้ว การทต่ี า่ งคนตา่ งเดนิ ตามวถิ ที ต่ี า่ งกนั ต้องเป็นรองผู้ก�ำกับลูกเสือหรือลูกเสือเอก เป็นขาดจากกองลูกเสือนอกจากจะแสดง อยเู่ ช่นนี้ ทรงพระราชด�ำรวิ ่ายังไม่เปน็ การ ในกองลกู เสือกองใดกองหน่ึงอยู่แล้ว หรือ ความประสงค์ว่าจะสมัครเป็นกองหนุน 120 5502006L-14.indd 120 6/25/12 11:14 AM

สังกดั กองใดกองหนึ่ง เมอ่ื เช่นนั้นต้องท�ำพิธี อนึ่งเพื่อจะให้กองลูกเสือต่างๆ สถานที่ซ่ึงใช้เป็นที่ศึกษาวิชาผู้ก�ำกับ รบั ใหม่ หรอื จะคงสมคั รเปน็ ลกู เสอื ประจำ� การ แข่งขันกนั ในการฝึกหัด จะพระราชทานโล่ ครง้ั น้ี ก็คอื บรเิ วณสโมสรเสอื ป่าสวนดสุ ิต ตอ่ ไปก็ได้ ลูกเสือกองหนนุ ทรงพระกรณุ า ส�ำหรับกองทเ่ี ปน็ ยอดในการซ้อมรบ หรอื ก�ำหนดเวลาเรียนรุ่นละ ๒ เดอื นเต็ม คือ โปรดเกลา้ ฯ ให้แตง่ เครอื่ งแบบอย่างลูกเสอื เปน็ ยอดในความสามารถในเหลา่ เดียวกนั ตั้งแตว่ ันท่ี ๑ พฤศจกิ ายน ไปจนถึงวันที่ ประจำ� การไดท้ กุ อยา่ ง ยกเสยี แตเ่ ครอื่ งหมาย ๓๑ ธนั วาคม ค่าใชจ้ ่ายของผู้ทีเ่ ขา้ ศึกษาอยู่ ประจำ� การใชไ้ มไ่ ด้ สว่ นเหรยี ญท่ีระลึกที่ เงนิ ทจี่ ะบำ� รงุ กองลูกเสือน้นั สภา ประจำ� ในโรงเรยี นน้ี พระราชทานพระราช พระราชทานแก่ลูกเสือท่ีออกเป็นกองหนุน กรรมการกลางตกลงกนั วา่ จะคดิ เรี่ยไร การ ทรัพยเ์ ลย้ี งดโู ดยตลอด เมอื่ เรียนจนสอบไล่ ต่อไปจะพระราชทานเฉพาะแต่ผู้ที่ได้เป็น ตง้ั กองลูกเสอื ตามมณฑลต่างๆ ซง่ึ แตเ่ ดมิ มา ไดแ้ ลว้ พระราชทานประกาศนยี บตั รใหด้ ว้ ย ลกู เสอื เอกและเขา้ เปน็ เสือป่าแลว้ กบั แสดง ต้องรายงานขอพระบรมราชานุญาต แล้วจึง ประกาศนยี บัตรนีแ้ บง่ ออกเป็น ๒ ประเภท ใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชาทางเสอื ปา่ เหน็ วา่ ยงั มลี กั ษณะ จะตงั้ ไดน้ น้ั ตอ่ ไปใหส้ ภากรรมการมณฑลตงั้ คอื ประกาศนยี บตั รสามญั และประกาศนีย- ของลกู เสอื อยู่ เพอื่ ปอ้ งกนั ไมใ่ หล้ กู เสอื กองหนนุ ข้ึนได้ แลว้ รายงานมายังสภากรรมการกลาง บัตรพเิ ศษ ส�ำหรบั ประกาศนยี บตั รพิเศษนน้ั ละเลยทางลูกเสอื ลกู เสือกองหนนุ นั้นให้ เพื่อขอพระบรมราชานุมตั ิเทา่ น้ัน พระราชทานเฉพาะแก่ผู้ที่สอบไล่ได้ตาม ทำ� การตดิ ต่อกบั ลกู เสอื ประจ�ำการอยู่ มใี ช้ หลักสูตร และได้โดยเสดจ็ พระราชด�ำเนนิ ใน สโมสรลกู เสือในเวลาอันสมควร เข้าสมทบ กองฝึกหัดผู้ก�ำกับลูกเสือในพระบรม การประลองยทุ ธดว้ ย ลูกเสือประจ�ำการในเวลาท่ีเรียกระดมส่ง ราชูปถมั ภ์ ข่าวคราวทีเ่ ปน็ ประโยชน์แก่คณะลูกเสอื เนื่องจากทรงพระราชด�ำริว่าบรรดา ในการนไ้ี ดท้ รงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ผู้ก�ำกับและรองผูก้ ำ� กบั ซ่ึงท�ำหน้าทบี่ งั คบั ให้ออกประกาศช้ีแจงถึงการต้ังกองฝึกหัด การฝึกหัดลูกเสือนอกจากการฝึกหัด บญั ชาอบรมสง่ั สอนลกู เสอื อยนู่ นั้ ยงั มคี วามรู้ ผกู้ �ำกับลูกเสอื ข้นึ มีความวา่ ตามลกั ษณปกครองลกู เสอื เหน็ ควรวา่ ใหห้ ดั ในหน้าที่วิชาการของลูกเสือบกพร่องกัน เป็นพเิ ศษด้วย เชน่ จัดเปน็ เหล่าตา่ งๆ ได้แก่ อยู่มาก ไมส่ ามารถเข้าอยูใ่ นข้นั มาตรฐานได้ เหล่าดบั เพลิง เหล่าพยาบาล เหลา่ ชา่ ง ฯลฯ อันเป็นเหตุให้กิจการของลูกเสือไม่เจริญ กบั ฝกึ หดั วชิ าพเิ ศษ ซงึ่ เปน็ วชิ าทป่ี ระกอบการ กา้ วหนา้ ออกไปไดเ้ ทา่ ทค่ี วร จงึ ทรงพระราชดำ� ริ ทำ� มาหาเลย้ี งชพี เปน็ การบำ� รงุ ศลิ ปหตั ถกรรม เหน็ สมควรท่จี ะจดั ตั้งโรงเรียนพิเศษข้ึน เพื่อ ของบา้ นเมอื งด้วย ผู้ทสี่ อบไล่ไดว้ ิชาพเิ ศษ ท�ำการอบรมในวิชาการแขนงน้ีโดยเฉพาะ หรอื แสดงความชำ� นาญพเิ ศษในทางใดทางหนงึ่ ขนานนามวา่ “กองฝึกหดั ผู้ก�ำกับลกู เสอื จะขอพระราชทานเหรียญหรือเข็มท่ีระลึก ในพระบรมราชูปถัมภ์” โดยเปิดโอกาส เปน็ บำ� เหนจ็ สงิ่ ทล่ี กู เสอื จะใชใ้ นเวลาฝกึ หดั นนั้ ให้ผู้ก�ำกับลูกเสือและรองผู้ก�ำกับลูกเสือได้ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหใ้ ชม้ ดี เสือปา่ เขา้ มาศกึ ษาอบรมในโรงเรียนพเิ ศษน้ี ได้ในเวลาอนั ควร และถา้ ลูกเสือมีก�ำลังพอ กใ็ ห้ถือปนื ได้ 121 5502006L-14.indd 121 6/25/12 11:14 AM

โรงเรียนฝึกหัดวิชาผู้ก�ำกับลูกเสือ อย่างไรก็ตามโรงเรียนฝึกหัดผู้ก�ำกับ เปดิ ศนู ยฝ์ กึ อบรมลกู เสอื ขน้ึ ท ่ี กลิ เวลล์ ปารค์ ไดเ้ รมิ่ เปดิ ด�ำเนินการครัง้ แรก เมอื่ วันที่ ๑ ลกู เสอื ในพระบรมราชปู ถมั ภน์ ้ี เปดิ ดำ� เนนิ การ (Gilwell Park) ขึน้ ในปีเดยี วกนั น้ี พฤศจกิ ายน พทุ ธศักราช ๒๔๕๘ พระบาท อยู่ได้ ๔ ปี ก็เลิกล้มไปในปีพทุ ธศกั ราช สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จ ๒๔๖๒ ในขณะท่ปี ระเทศองั กฤษซ่งึ ถือเป็น ขอแทรกเรื่องการก่อตั้งโรงเรียน พระราชดำ� เนนิ ไปพระราชทานพระบรมราโชวาท ประเทศตน้ แบบการลกู เสอื สากลนนั้ ไดม้ กี าร ผกู้ ำ� กบั ลกู เสอื (หมวกแดง) ของพระนราธริ าช เนื่องในพิธีเปิดการฝึกหัดอบรมในวันน้ันด้วย สำ� หรบั ผทู้ ส่ี อบไลไ่ ดป้ ระกาศนยี บตั รพเิ ศษนนั้ ไดพ้ ระราชทานเขม็ ศลิ ปวทิ ยาเปน็ เครอ่ื งหมาย วุฒใิ ห้ด้วยทุกคน และพระราชทานพระบรม ราชานุญาตให้ใช้หมวกหนีบอย่างกรมราบ หลวงเสือป่ารักษาพระองค์ได้ทั้งในเวลา ลำ� ลอง และในเวลาคมุ แถวลูกเสือ เวน้ ไวแ้ ต่ ถา้ เป็นเสือป่าดว้ ย ให้งดหา้ มมิใหใ้ ช้ประกอบ กับเครอ่ื งแต่งตัวเสอื ป่า ดังความในประกาศ ให้นักเรียนฝึกหัดผู้ก�ำกับลูกเสือผู้สอบวิชา ไดใ้ ช้หมวกหนบี สังกดั กรมราบหลวง ร.อ. 122 5502006L-14.indd 122 6/25/12 11:14 AM

พระนราธริ าชภักดี (ฉตั ร วีระโยธิน) เสนาธกิ าร กรมเสือป่าเสนาหลวงรักษาพระองค์ ภกั ดี (ฉัตร วรี ะโยธิน) รวมไวด้ ้วยกนั เพอ่ื ให้ ใชอ้ าวธุ และยทุ ธวธิ ีทีท่ นั สมัย ใหเ้ หมาะสม สบื แทนพระบรมเชษฐาธริ าช ทรงเอาพระทยั ใส่ เรอ่ื งสมบูรณย์ งิ่ ขึน้ “เมือ่ ปี ๒๔๕๘ ได้มี ทันกบั เหตกุ ารณ์ของโลกปัจจุบัน ผู้ใดเรียน ท�ำนบุ �ำรงุ ในกิจการลกู เสอื เป็นอนั ดี จึงสง่ ผล พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ใหข้ ้าพเจ้า ส�ำเร็จทรงโปรดฯ ใหใ้ ชห้ มวกแดง ท่เี รยี กกนั ใหก้ ารลกู เสอื มไิ ดโ้ รยราไปเหมอื นเสอื ปา่ ทเ่ี มอ่ื เปน็ ผรู้ เิ รม่ิ และกอ่ ตงั้ โรงเรยี นผกู้ ำ� กบั ลกู เสอื ขนึ้ วา่ “ผู้ก�ำกับหมวกแดง” พ้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า ทส่ี นามเสอื ปา่ (หน้าเขาดินวนา) และไดท้ รง เจา้ อยูห่ ัวแล้วกไ็ ดป้ ลาสนาการไปส้ิน พระมหากรณุ าธคิ ุณโปรดเกลา้ ฯ ใหข้ า้ พเจา้ โรงเรยี นนเี้ ทา่ กบั เปน็ ศนู ยก์ ลางฝกึ หดั ด�ำรงต�ำแหน่งเป็นเสนาธิการกองเสนาหลวง ผกู้ ำ� กบั ลกู เสอื ทว่ั ไป กไ็ ดร้ บั ความสำ� เรจ็ ดว้ ยดี เม่ือคร้ังที่พระบาทสมเด็จพระ- นด้ี ว้ ย สว่ นองคพ์ ระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ สมพระราชหฤทัยทกุ ประการ แตเ่ ปน็ ท่ีนา่ มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็นสภานายก เจา้ อยหู่ วั ทรงเป็นผ้บู ญั ชาการกองเสือป่า เสยี ดายอยา่ งยิ่ง ท่โี รงเรยี นนีต้ ้ังไดไ้ ม่นานนกั กรรมการกลางจัดการลูกเสือท่ัวพระราช เสนาหลวงด้วยพระองคเ์ อง ต่อมากเ็ ลกิ ไป บัดน้ที ราบวา่ จะได้ริเริ่มกนั อาณาจกั ร ไดท้ รงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้ ขึน้ อกี ขา้ พเจา้ ขออนโุ มทนาสาธุการในการนี้ สมเด็จพระเจา้ บรมวงศ์เธอกรมพระยาด�ำรง การต้ังโรงเรยี นนข้ี ึ้น โดยมพี ระราช อยา่ งย่งิ ”. ราชานภุ าพ เสนาบดกี ระทรวงมหาดไทยเปน็ ประสงค์ เพอ่ื ทจี่ ะใหผ้ กู้ ำ� กบั ลกู เสอื ทวั่ พระราช ผตู้ รวจการใหญแ่ ละอุปนายก เจา้ พระยา อาณาจักร ไดเ้ ข้ามาศึกษาฝึกหัดและอบรม ล่วงมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระเสดจ็ สุเรนทราธบิ ดี (หมอ่ มราชวงศเ์ ปยี วชิ าผกู้ ำ� กับลูกเสอื ใหม้ คี วามร้คู วามช�ำนาญ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั พระองคท์ รงรบั ตำ� แหนง่ มาลากุล) เสนาบดกี ระทรวงธรรมการ เปน็ และเป็นผู้ก�ำกบั ท่ีดีมสี มรรถภาพ นอกจากนี้ สภานายกสภากรรมการกลางจัดการลูกเสือ ผชู้ ่วยผตู้ รวจการและกรรมการ และพระยา ยงั ไดฝ้ กึ หดั และสงั่ สอนผกู้ ำ� กบั เหลา่ น้ี ใหร้ จู้ กั แหง่ สยาม ทง้ั ยงั ทรงรบั ไวใ้ นพระบรมราชปู ถมั ภ์ บุรีนวราษฐ์ เป็นเลขานกุ าร 123 5502006L-14.indd 123 6/25/12 11:14 AM

สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยา เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธบิ ดี พระยาบรุ นี วราษฐ์ เลขานุการสภากรรมการกลาง ดำ� รงราชานุภาพ เสนาบดกี ระทรวงมหาดไทย (หม่อมราชวงศเ์ ปยี มาลากลุ ) เสนาบดี จัดการลูกเสือแห่งกรุงสยาม ผตู้ รวจการใหญแ่ ละอปุ นายกสภากรรมการกลาง กระทรวงธรรมการ ผูช้ ่วยผตู้ รวจการและกรรมการ จัดการลูกเสอื แห่งกรุงสยาม พระองคแ์ รก สภากรรมการกลางจดั การลกู เสอื แหง่ กรุงสยาม ต่อมาไดเ้ ปน็ อปุ นายกสภากรรมการกลาง จดั การลกู เสอื แหง่ กรงุ สยาม คนที่ ๒ ตอ่ มาในปพี ทุ ธศกั ราช ๒๔๕๗ สมเดจ็ ถงึ ปลายปพี ทุ ธศกั ราช ๒๔๗๑ พระยา พทุ ธศกั ราช ๒๔๗๒ และทรงดำ� รงตำ� แหน่ง พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำ� รงราชา ไพศาลศิลปสาตร (รืน่ ศยามานนท)์ ปลัด นั้นอยู่จนถึงวันที่เปลี่ยนแปลงการปกครอง นุภาพ ทรงพระชราภาพมากได้กราบบงั คม ทลู ฉลองกระทรวงธรรมการ ยา้ ยไปรบั ราชการ เม่อื วนั ท่ี ๒๔ มถิ นุ ายน พุทธศกั ราช ๒๔๗๕ ทลู ลาพกั ราชการ จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ในต�ำแหน่งปลัดทูลฉลองกระทรวงมหาดไทย ให้เจา้ พระยาพระเสด็จสุเรนทราธบิ ดี ท�ำการ นายกองเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจา้ ธานนี วิ ัต แทนต่อมา จนเม่อื อาการป่วยมากขึน้ ไมอ่ าจ ธานนี วิ ตั (ตอ่ มาคอื พระวรวงศเ์ ธอ กรมหมน่ื อุปนายกสภากรรมการกลางจัดการลูกเสือ จะสนองพระเดชพระคุณได้จึงได้กราบบังคม พทิ ยลาภพฤฒิยากร) ได้ทรง “ทูลอาสาตอ่ แห่งชาติ ทรงเปน็ นักการศกึ ษา จึงให้ความ ทลู ออกรบั เบ้ียบำ� นาญ จึงทรงพระกรุณา พระเจ้าอยู่หัวว่าจะขอสนองพระเดชพระคุณ สำ� คญั ของผกู้ ำ� กบั ลกู เสอื ซงึ่ เปน็ ครขู องลกู เสอื โปรดเกลา้ ฯ ให้พระยาไพศาลศิลปสาตร (รน่ื ในหนา้ ทน่ี เี้ อง” พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ ท่ีย่อมมีความส�ำคัญเช่นครูของนักเรียน ศยามานนท์ ตอ่ มาได้รบั บรรดาศักดิ์เป็น เจา้ อยหู่ ัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ “...การศึกษาของเด็กทางวุฒิศึกษาได้ลงรอย พระยาราชนุกลู วิบูลภกั ดี พริ ิยพาหะ) อธิบดี พระวรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ ธานนี วิ ตั ทรงเปน็ เป็นรูปร่างพอจะพอใจแล้วเป็นส่วนใหญ่ กรมศกึ ษาธกิ าร รบั ตำ� แหนง่ ตอ่ มาตง้ั แตว่ นั ท่ี อุปนายกสภากรรมการกลางจัดการลูกเสือ แต่ท�ำไฉนจึงจะให้จริยศึกษาแพร่หลายฝัง ๒๗ พฤษภาคม พทุ ธศกั ราช ๒๔๕๙ แห่งกรงุ สยาม ต้งั แตว่ ันที่ ๑๔ พฤษภาคม ลงไปในนสิ ัยของเดก็ ได้ การสอนจริยาในชน้ั 124 6/25/12 11:15 AM 5502006L-14.indd 124

นายพลเสอื ป่า พระยาไพศาลศลิ ปสาตร นายกองเอก พระวรวงศ์เธอ กรมหมนื่ พทิ ยลาภ ปฏบิ ัตกิ ันในเวลาท่ีอยคู่ า่ ยที่ จลิ เวลล์ปารก (ร่นื ศยามานนท)์ อุปนายกสภากรรมการกลาง พฤฒิยากร (พระองคเ์ จา้ ธานนี วิ ตั ) เปน็ ต้น มาเป็นผูช้ ่วยบรรยายและช้ีแจง หลักการตา่ งๆ วิชาทอี่ บรมมี จดั การลูกเสือแหง่ กรุงสยาม คนที่ ๓ อุปนายกสภากรรมการกลางจัดการลูกเสอื ก. ความสำ� คญั ในคำ� มน่ั สญั ญาลกู เสอื แห่งกรุงสยาม คนที่ ๔ ข. ธงและการเคารพ ไมไ่ ด้ผลเพยี งพอ จงึ ได้ลองใช้วิชาลกู เสอื เปน็ ค. การลกู เสอื กบั จรรยาและการเลน่ คลา้ ยๆ ภาคปฏิบัติของจรยิ ศกึ ษานั่นเอง” “เนอื่ งดว้ ยไดส้ งั เกตเหน็ ความบกพรอ่ ง ง. ประวัตกิ ารลกู เสือทวั่ ๆ ไป จึงได้ทดลองให้มีการจัดการอบรมผู้ก�ำกับ บางอยา่ งในการลกู เสอื ทง้ั ในสว่ นวชิ าความรู้ จ. การลกู เสอื ในสยาม ลกู เสอื เป็นส่วนยอ่ ยข้ึน ณ สามคั ยาจารย์ และในสว่ นจติ ตใ์ จ และหลกั การทจ่ี ะปฏบิ ตั กิ าร ฉ. การฝกึ ฝนกองลกู เสือ สโมสรสถาน (ภายในบรเิ วณโรงเรยี นสวน ในหน้าที่ จงึ ไดใ้ ห้มกี ารอบรมวิชาผ้กู ำ� กับ ช. ระเบียบแถว กหุ ลาบวทิ ยาลัย บดั นีร้ ื้อลงแลว้ ) ขึ้นอกี และลกู เสือขึ้นทีส่ ามคั ยาจารย์สมาคม ต้งั แต่ ซ. หลักประถมพยาบาล คร้ังหนงึ่ ระหว่างวนั ที่ ๒๙ สงิ หาคม ถึง วันท่ี ๒๙ สงิ หาคม ถงึ วนั ท่ี ๔ กนั ยายน ฌ. วิชชาลกู เสือเอก วันท่ี ๔ กนั ยายน พุทธศกั ราช ๒๔๗๒ เพ่ือ ศกนี้ กระทรวงธรรมการได้เลือกสรรครผู ทู้ ม่ี ี ญ. เทศนาเสือป่า ปรับปรุงกิจการลูกเสือทั้งในส่วนวิชาความรู้ คณุ วฒุ ทิ ส่ี มควรจะไดร้ บั ความอบรมในจงั หวดั ฎ. การอยคู่ ่ายและพกั แรม และในสว่ นจติ ใจและหลกั การทจี่ ะปฏบิ ตั กิ าร พระนครและธนบรุ มี าเขา้ อบรม ๘๐ คน ฏ. การอบรมธรรมขึ้นเป็นลักษณะ ในหนา้ ท่ี ในความอ�ำนวยการของอำ� มาตยเ์ อก พระ- ของลกู เสือ ราชธรรมนิเทศ ข้าหลวงตรวจการ ไดเ้ ลอื ก ปรากฏความในรายงานการลูกเสือ ผู้ท่ชี �ำนาญการลกู เสือในประเทศสยาม และ การอบรมท้ังนี้นับว่าได้ผลเป็นเคร่ือง แห่งสยาม ฉบบั ท่ี ๑๔ ประจำ� ปีพทุ ธศกั ราช ผู้ที่เคยผ่านการอบรมลูกเสือตามลัทธิของ ปลุกใจให้ครูบาอาจารย์เห็นความส�ำคัญใน ๒๔๗๒ ความวา่ ลอร์ดโรเบอร์ต เบเดน-โปเวลล์ ดังเชน่ ท่ี การลูกเสืออันเป็นเคร่ืองช่วยส่วนใหญ่แห่ง การศกึ ษา และเอาใจใสใ่ นหนา้ ทดี่ ยี งิ่ ขนึ้ เมอื่ มโี อกาสในเวลาขา้ งหนา้ จะไดค้ ดิ ตงั้ คา่ ยอบรม ประจ�ำขึ้นแหง่ หนง่ึ ให้ผกู้ �ำกับและลกู เสอื ตามโรงเรียนตา่ งๆ ในกรุงเทพฯ ไดผ้ ลดั เปล่ียนกันมารับการอบรมเป็นครั้งคราว สภากรรมการกลางหวงั จะไดจ้ ดั ใหม้ กี ารอบรม เชน่ นี้แพรห่ ลายไปตามมณฑลต่างๆ ตาม กำ� ลังและความสามารถท่จี ะท�ำไดต้ อ่ ไป” 125 5502006L-14.indd 125 6/25/12 11:15 AM

การอบรมทสี่ ามัคยาจารย์สมาคม ค่ายฝึกอบรมตามแผนการท่ีจัดการฝึกอบรม พระเจา้ อยหู่ ัว ผ้ทู รงด�ำรงต�ำแหนง่ สภานายก ผู้กำ� กบั ลูกเสือทวั่ พระราชอาณาจกั ร แต่ติด สภากรรมการกลางจัดการลูกเสือแห่งสยาม หลังงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ด้วยขัดสนเร่ืองทุนรอนการเลยไปไม่ตลอด ทรงพระราชดำ� รวิ า่ การลูกเสอื ได้เจรญิ ครั้งที่ ๒ ในปีพุทธศักราช ๒๔๗๓ ปรากฎ แพร่หลายทว่ั พระราชอาณาจักร และมีการ ว่าได้ผลดีเป็นท่ีพึงพอพระราชหฤทัย อีกทั้งสวนดุสิตน้นั มีผคู้ นพลุกพลา่ น อาจ ตอ่ เนอื่ งกบั สมาคมนานาชาตเิ ปน็ หลกั ฐานแลว้ ในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว จะเป็นการไม่สะดวกในการฝึกอบรมเท่าท่ี สมควรจะผดงุ การแผนกนใี้ หเ้ จรญิ เปน็ ปกึ แผน่ สภานายกสภากรรมการกลางจัดการลูกเสือ ควร จงึ ได้เริดรา้ งร้ังรอมาจนถงึ งานชุมนุม ไมแ่ ตใ่ นทางจำ� นวนอยา่ งเดยี วเทา่ นน้ั ตอ้ งทงั้ แหง่ ชาตเิ ปน็ อนั มาก ทรงตงั้ พระทยั ทจ่ี ะบำ� รงุ ลกู เสอื แห่งชาติครัง้ ที่ ๒ แลว้ จึงได้เร่ิม ในทางการฝกึ ฝนกลุ บตุ ร ใหส้ ามารถในหนา้ ท่ี การลูกเสือใหเ้ จริญมนั่ คงรุ่งเรืองย่ิงๆ ขนึ้ ไป ดำ� เนินงานอย่างจรงิ จงั อกี ครง้ั และยังคุณประโยชน์แก่ชาติบ้านเมืองได้ จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหร้ อื้ ฟน้ื กจิ การ แทจ้ รงิ ดว้ ย ฉะนนั้ จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ โรงเรียนฝึกหัดผู้ก�ำกับลูกเสือในพระบรม ในคร้ังหลังน้ีได้ทรงพระกรุณาโปรด ให้ต้ังการอบรมเจ้าหน้าที่ลูกเสือขึ้นเป็นงาน ราชปู ถมั ภ์ ซง่ึ ไดเ้ คยเปดิ ทำ� การมาแลว้ ครงั้ หนง่ึ เกล้าฯ พระราชทานสถานทใี่ นบริเวณพระ- ประจ�ำปี พระราชทานสถานทีใ่ นบริเวณ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า รามราชนเิ วศน์ เมืองเพชรบรุ ี หรือ “พระ- พระรามราชนิเวศน์ จงั หวดั เพช็ รบ์ รุ ี เปน็ เจ้าอย่หู วั ใหก้ ลับมาท�ำการใหมอ่ กี คร้งั หนงึ่ ราชวงั บา้ นปนื ” เปน็ สถานทจ่ี ดั การฝกึ หดั อบรม ส�ำนกั อบรม โดยนามเรยี กวา่ “โรงเรียน ดงั ความในประกาศสภากรรมการกลางจัดการ ผกู้ ำ� กับลูกเสอื ในพระบรมราชปู ถมั ภ”์ กบั เดิมทีหลังจากการฝึกอบรมผู้ก�ำกับ ลกู เสอื แหง่ สยาม ลงพระนาม มหาอำ� มาตยเ์ อก โปรดเกลา้ ฯ ใหอ้ ปุ นายกสภากรรมการกลางฯ ลูกเสอื ท่ีสามคั ยาจารย์ เมอ่ื คราวทีโ่ รงเรยี น พระวรวงศ์เธอ พระองคเ์ จา้ ธานีนวิ ัต เมื่อ วางระเบียบการอบบรมและหลักเกณฑ์ที่ ปิดภาคปลาย พุทธศักราช ๒๔๗๒ น้ัน วนั ท่ี ๓๐ มกราคม พทุ ธศักราช ๒๔๗๓ สภามณฑลตา่ งๆ จะพึงสง่ ผแู้ ทนเขา้ มารบั พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรง เร่ืองตั้งโรงเรียนผู้ก�ำกับลูกเสือในพระบรม การอบรมไดเ้ ป็นรายปี เร่ิมตั้งแต่ศก ๒๔๗๔ พระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานพระบรม- ราชูปถมั ภ์ ความวา่ “พระบาทสมเดจ็ ราชานุญาตให้ใช้สวนดุสิตเป็นสถานท่ีตั้ง เปน็ ตน้ ไป” 126 5502006L-14.indd 126 6/25/12 11:15 AM


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook