ค่มู ือสง่ เสรมิ และพัฒนากจิ กรรมลูกเสอื ทักษะชีวิตในสถานศึกษา ประเภทลกู สามญั หลกั สตู รลูกเสอื ตรี ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สำ� นักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ คู่มือสง่ เสริมและพฒั นากิจกรรมลกู เสอื ทกั ษะชวี ิตในสถานศึกษา ลกู เสือโท ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 1
ค่มู อื ส่งเสริมและพฒั นากิจกรรมลกู เสือทกั ษะชีวิตในสถานศึกษา ประเภทลกู เสือสามญั หลกั สตู รลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4 ปีท่ีพมิ พ ์ พ.ศ. 2562 จ�ำ นวนพิมพ์ 200 เลม่ จดั ทำ�โดย สำ�นักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ พิมพ์ที่ โรงพมิ พ์ชุมนุมสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จำ�กดั 79 ถนนงามวงศว์ าน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 โทร. 0-2561-4567 โทรสาร 0-2579-5101 นายโชคดี ออสุวรรณ ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา
คำนิ ยม นับว่าเป็นโอกาสและประโยชน์ที่สาคัญ อีกเร่ืองหน่ึงที่สานักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการ นักเรียน ซึ่งเป็นหน่วยงานหน่ึงในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ผลิตตารา ในลักษณะคู่มือส่งเสรมิ และพัฒนากจิ กรรมลูกเสือทักษะชวี ิตในสถานศกึ ษาชุดน้ีข้ึน ซ่ึงมีเนอื้ หาท่ีสอดคลอ้ ง กับปัญหาตามวัยและพัฒนาการของผู้เรียน และมีการบูรณาการกิจกรรมการเรียนการสอน เข้ากับวิธีการ ลูกเสอื ครู อาจารย์ ผู้กากับลูกเสือ และบุคลากรทางการลูกเสอื จะได้นาไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ประเทศไทยกาลังกา้ วสู่ “ไทยแลนด์ 4.0” ดังนัน้ ความถกู ต้องและชัดเจนในเรื่องการจัด กจิ กรรมลูกเสอื จึงเป็นตาราและคู่มือทางการวิชาการ สาหรับกิจกรรมลูกเสือเพื่อจะใชเ้ ป็นเครื่องมอื ในการ พัฒนาเยาวชนใหเ้ ป็นพลเมอื งดี มีความรอบรู้ สามารถช่วยตนเองได้ อันจะเป็นแรงผลักดันให้การศึกษาของ ประเทศไทยมคี วามเจรญิ เท่าเทียมกับประเทศสมาชิกอาเซยี น และอารยประเทศอน่ื ๆ ท่ัวโลก ขอขอบคุณ และให้กาลงั ใจตอ่ ผู้ทรงคุณวุฒิทางการลกู เสือ และผ้มู ีสว่ นรว่ มในการจัดทาคมู่ อื ส่งเสริมและพัฒนากิจกรรม ลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษาเล่มนี้ทุกท่าน ที่ได้เสียสละ กาลังความคิด จนทาให้เสร็จส้ินโดยสมบูรณ์ อันจะเป็นประโยชน์ต่อกจิ การลกู เสืออย่างมาก ทั้งในปจั จุบนั และอนาคต (นายการณุ สกุลประดษิ ฐ)์ ปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร นายการุณ สกุลประดษิ ฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
คำนิ ยม คู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิตในสถานศึกษา เป็นเครื่องมือสาคัญสาหรับ ครูผู้สอน ลูกเสือ เนตรนารี ท่ีจะใช้สาหรับวางแผนการสอน การวัดและการประเมินผู้เรียน จัดทาข้นึ โดยมี เป้าหมายสาคัญ คือ เสนอแนวทางท่ีเหมาะสมในการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาต่าง ๆ สาหรับ ครูผู้สอนนาไปใช้เป็นหลักการในการจัดการเรียนการสอน โดยสามารถพัฒนาและปรับปรุงให้ดีข้ึนตาม ความรู้ ความสามารถของครผู ู้สอน ตามบรบิ ทแตล่ ะภูมภิ าค หลักสาคัญของเอกสารชุดนี้ นอกเหนือจากเสนอแนวทางด้านเนื้อหาสาระสาคัญ วิธีสอน ท่ีเหมาะสม การวัดและประเมินผล ตัวอย่างแบบทดสอบ วิธีทดสอบ แล้วยังสามารถต่อยอดทางความคิด ของครูผู้สอนได้ เน่ืองจากเป้าหมายท่ีต้องการคือ การนาเอากระบวนการลูกเสือมาจัดการเรียนรู้ให้แก่ ผู้เรียนลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ในการทากิจกรรมอย่างครบวงจร เพื่อให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม ตามกระบวนการของลกู เสือ จงึ เชอื่ ได้ว่า หากผู้เรยี นเข้าใจและปฏิบตั ิได้แล้ว จะเป็นคนดีในสังคมตอ่ ไป ขอขอบคุณ ผู้ร่วมดาเนินการในการจัดทาคู่มือส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวิต ในสถานศึกษาทุกภาคส่วน ท่ีเล็งเห็นประโยชน์ในการทาเอกสารชุดนี้จนสาเร็จเรียบร้อย สามารถเผยแพร่ได้ ซ่งึ นา่ จะเปน็ ประโยชน์ตอ่ เด็กและเยาวชนในทส่ี ดุ (นายประเสรฐิ บุญเรอื ง) รองนปาลยดัเปลกรขรระะาอเธทสงกิรรปวาิฐลงรบศดัสึกญุกำ� ษนรเระากั อืทธงงิกราาวนรงลศกู กึ เสษอืาแธหกิ าง่ รชาติ เลขาธกิ ารสานักงานลูกเสือแหง่ ชาติ
ค�ำ นำ� ส�ำนักการลูกเสอื ยุวกาชาดและกิจการนักเรยี น ส�ำนักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการร่วมกบั สมาคมวางแผนครอบครวั แห่งประเทศไทย ในพระราชูปถมั ภ์สมเด็จพระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี พฒั นาโครงการสง่ เสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลกู เสอื ทกั ษะชวี ติ ในสถานศกึ ษา มวี ตั ถุประสงคเ์ พอ่ื เสรมิ สรา้ ง ทกั ษะชวี ติ ใหเ้ ดก็ และเยาวชนในสถานศกึ ษาดว้ ยกระบวนการลกู เสอื โดยใหเ้ ดก็ และเยาวชนลงมอื ปฏบิ ตั ิ ดว้ ยตนเอง ในการทำ� กจิ กรรมอยา่ งครบวงจร ตงั้ แตก่ ารศกึ ษา วเิ คราะห์ วางแผน ปฏบิ ตั ติ ามแผน ประเมนิ และปรบั ปรงุ การจดั กจิ กรรม รวมถงึ การทำ� งานเป็นระบบหมตู่ ามกระบวนการลกู เสอื ซง่ึ กจิ กรรมดงั กลา่ ว เป็นการพฒั นาความเป็นมนุษยแ์ บบองคร์ วม ทงั้ ดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ สงั คม และสตปิ ัญญา ทำ� ใหเ้ ดก็ และ เยาวชนมรี ะเบยี บวนิ ยั มจี ติ สำ� นึกในการทำ� ความดเี พอ่ื ทำ� ประโยชน์ใหก้ บั ครอบครวั ชุมชน สงั คม และ ประเทศชาติ ต่อไป เรม่ิ จากการศกึ ษาความเป็นไปได้ ศกึ ษาเอกสารและงานวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ งทงั้ ในและต่างประเทศ จดั ประชมุ ผเู้ ชย่ี วชาญทงั้ ดา้ นลกู เสอื ดา้ นทกั ษะชวี ติ รวมทงั้ ดา้ นการพฒั นาเดก็ และเยาวชน เพอ่ื กำ� หนด กรอบโครงสรา้ งหลกั สตู รลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ทส่ี อดคลอ้ งกบั ปัญหาตามวยั และพฒั นาการดา้ นตา่ ง ๆ ของลกู เสอื แตล่ ะประเภท คู่มือการจดั กิจกรรมลูกเสือเสริมสร้างทกั ษะชีวิต ฉบับทดลอง สมาคมวางแผนครอบครวั แหง่ ประเทศไทยฯ ไดเ้ รม่ิ ใชใ้ นปี พ.ศ. 2553 มโี รงเรยี นจากทกุ ภมู ภิ าคของประเทศเขา้ รว่ มโครงการ จำ� นวน 26 โรงเรยี น โดยไดด้ ำ� เนินการควบคไู่ ปกบั การวจิ ยั และประเมนิ ผลการใชค้ มู่ อื และท�ำการปรบั ปรุงคมู่ อื ครงั้ แรกเมอ่ื เมษายน พ.ศ. 2554 โดยไดเ้ พมิ่ เตมิ เพลง เกม นิทาน เรอ่ื งสนั้ และเน้ือหาใหค้ รบถว้ นยง่ิ ขน้ึ การปรบั ปรงุ ครงั้ ทส่ี อง มถิ ุนายน พ.ศ. 2559 เกดิ ขน้ึ ตามขอ้ เสนอแนะจากการประชมุ ปฏบิ ตั กิ าร “การขบั เคล่อื นกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี นดว้ ยกระบวนการลูกเสอื ” ซ่งึ จดั โดยสำ� นักการลูกเสอื ยุวกาชาด และกจิ การนักเรยี น ส�ำนักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร โดยยดึ ขอ้ บงั คบั คณะลูกเสอื แห่งชาตวิ ่าดว้ ย การปกครอง หลกั สูตรและวชิ าพเิ ศษลูกเสอื และเพม่ิ จ�ำนวนแผนการจดั กจิ กรรมให้ครบ 40 ชวั่ โมง เพอ่ื ครอบคลมุ สาระทจ่ี ำ� เป็นอยา่ งครบถว้ น เป็นการเตรยี มการขยายผลในโรงเรยี นสงั กดั สำ� นกั งานคณะกรรมการ การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน (สพฐ.) ทวั่ ประเทศ และไดแ้ บ่งคู่มอื ออกเป็น 11 เล่ม ส�ำหรบั ลูกเสอื แต่ละชนั้ ปี เพอ่ื ความสะดวกของผสู้ อน รวมทงั้ ทางสำ� นกั การลกู เสอื ยวุ กาชาดและกจิ การนกั เรยี นไดด้ ำ� เนินการวจิ ยั และประเมนิ ผลการใชค้ มู่ อื การจดั กจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ จำ� นวน 53 โรงเรยี น คขู่ นานกบั สมาคมวางแผนครอบครวั แหง่ ประเทศไทยฯ ดว้ ย สำ� นกั การลกู เสอื ยวุ กาชาดและกจิ การนกั เรยี น และสมาคมวางแผนครอบครวั แหง่ ประเทศไทยฯ ขอขอบพระคณุ หน่วยงานและบุคลากรทุกทา่ นทม่ี สี ว่ นรว่ มในโครงการใหส้ �ำเรจ็ ลุล่วง ณ โอกาสน้ี ตงั้ แต่ การริเริ่มโครงการการจดั ท�ำหลกั สูตรและคู่มือ การทดลองวิจยั และประเมินผลการใช้คู่มือ รวมทงั้ การปรบั ปรงุ คมู่ อื ทงั้ 2 ครงั้ หวงั เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ คมู่ อื ชดุ น้ีจะชว่ ยสง่ เสรมิ ใหก้ จิ การลกู เสอื ของประเทศไทย ซง่ึ ดำ� เนินมาครบวาระ 108 ปี ในปี พ.ศ. 2562 น้ี ไดเ้ ป็นเครอ่ื งมอื สำ� คญั และก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์สงู สดุ ตอ่ การพฒั นาเดก็ และเยาวชนของชาตติ ่อไป สำ� นักการลกู เสือ ยวุ กาชาดและกิจการนักเรียน สำ� นักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ
สารบัญ หน้า คาํ นิยม 1 คํานาํ 4 คําชีแ้ จงการใชค้ ู่มือ แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั ลูกเสือตรี ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 7 หน่วยที่ 1 ปฐมนิเทศ 11 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 1 ปฐมนิเทศ 21 หนว่ ยที่ 2 ระเบียบแถว 32 แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 2 ระเบียบแถวเบอื้ งตน้ 38 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 3 สัญญาณมือและสัญญาณนกหวดี 46 55 หนว่ ยท่ี 3 ความรู้เกีย่ วกบั ขบวนการลูกเสือ แผนการจัดกจิ กรรมที่ 4 ประวตั ิ ลอร์ด เบเดน เพาเวลล์ )บี.พ.ี ( 60 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 5 พระบดิ าแห่งการลกู เสือไทย 66 แผนการจดั กจิ กรรมที่ 6 ววิ ฒั นากาารรขลอกู งเขสบอื วไทนยกแารลละกูลเูกสเอืสไือทโยลแกละลกู เสอื โลก 70 แผนการจัดกจิ กรรมที่ 7 การทาํ ความเคารพ การแสดงรหสั และการจับมือซ้าย และคตพิ จนข์ องลกู เสอื สามญั 73 แผนการจัดกจิ กรรมที่ 8 เวลาในขวดแกว้ 78 แผนการจดั กจิ กรรมที่ 9 นาทีวกิ ฤติ 82 แผนการจัดกจิ กรรมที่ 10 สง่ิ ดๆี ของฉนั 85 90 หนว่ ยท่ี 4 คาํ ปฏิญาณและกฎของลูกเสอื สามญั 94 แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 11 คิดเชิงบวก 98 แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 12 ความซอ่ื สตั ย์ แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 13 สทิ ธสิ ว่ นบุคคล 101 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 14 ตน้ ตระกลู ไทย 109 แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 15 ความเป็นสภุ าพบุรษุ สุภาพสตรี 117 แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 16 การส่อื สารเพอื่ บอกความตอ้ งการ แผนการจัดกจิ กรรมที่ 17 สิง่ ประดษิ ฐจ์ ากขยะ หนว่ ยท่ี 5 กิจกรรมกลางแจง้ แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 18 การใช้ประโยชนจ์ ากเงอ่ื นเชอื ก แผนการจดั กจิ กรรมที่ 19 ทักษะการใช้เขม็ ทิศ แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 20 การบนั เทงิ 6 ค่มู ือส่งเสริมและพฒั นากิจกรรมลูกเสือทักษะชวี ติ ในสถานศึกษา ลกู เสอื โท ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 5
สารบญั (ตอ่ ) หนา้ 125 แผนการจดั กจิ กรรมที่ 21 การเตรียมสงิ่ ของ อาหารและการแสดง 130 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 22 การปฏบิ ัตติ ามกฎและเครื่องหมายจราจร 136 แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 23 เด็กไทยไม่กนิ หวาน 142 แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 24 เสรมิ สร้างสมรรถนะทางกาย 145 แผนการจดั กจิ กรรมที่ 25 นาํ้ ด่มื สะอาดปและอปดลภอัยดภยั หน่วยท่ี 6 ประเมนิ ผล 152 แผนการจัดกิจกรรมที่ 26 การประเมนิ ผล หน่วยท่ี 7 พธิ กี าร 162 แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 27 พิธีเข้าประจํากอง และประดบั เคร่อื งหมายลูกเสอื ตรี 167 ภาคผนวก 178 181 ภาคผนวก ก แนวคิดเรอ่ื งทกั ษะชวี ิต 201 ภาคผนวก ข กจิ กรรมลูกเสอื เสรมิ สร้างทกั ษะชวี ิต ภาคผนวก ค กจิ กรรมลกู เสือ บรรณานกุ รม ค่มู อื ส่งเสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลกู เสอื ทักษะชวี ิตในสถานศึกษา ลกู เสือโท ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 7
คําชีแ้ จงการใช้คมู่ ือ คู่มือส่งเสริมและะพพัฒัฒนนาากกิจิจกกรรรรมมลลูกูกเสเสือือททักักษษะชะชีวิตีวิตในในสถสาถนาศนึกศษึกาษชาุดชนุดี้ นจ้ี ัดจทัดําทข�ำึ้นขส้ึนําสห�ำรหับรผับู้ ผกกูาํ้ กำ� กบั บัลลกู กูเสเสอื อืใชใชเ้ ปเ้ ป็น็นแแนนววททาางงใในนกกาารรจจดั ดั กกจิ จิ กกรรรรมมลลกู กู เเสสอื อื มมจี จีาํ �ำนนววนน111เลเม่ ล่มแยแกยตกาตมาชม้นั ชปนั้ ี ปสีาํ หสำ�รหับรลบัูกลเสกู อื เส4อื 4ปรปะรเภะเทภทคอื คอืลูกลเกูสเอื สสอื ําสรำ� อรงองลูกลเกู สเอื สสอื าสมาัญมญั ลกูลเกู สเอืสสอื าสมาัญมญัรุ่นรนุ่ใหใหญญ่ แ่ ลแะลละูกลกูเสเือสอวื สิวสาิ มามญั ญั หลักสตู รลกู เสือเสริมสร้างทักษะชีวิต มีเนื้อหาที่สอดคล้องกับปัญหาตามวัยและพัฒนาการ ด้านต่าง ๆ ของลูกเสือแต่ละประเภท นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาครบถ้วน เป็นไปตามข้อบังคับคณะ ลูกเสือแหง่ ชาติ วา่ ดว้ ยการปกครองหลกั สตู รและวิชาพิเศษลูกเสือสาํ รอง ลูกเสอื สามญั ลูกเสือสามัญ รุน่ ใหญ่ และลกู เสือวิสามญั อกี ด้วย แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือเสริมสร้างทักษะชีวิตในคู่มือชุดน้ี ได้ออกแบบโดยบูรณาการ กิจกรรมที่เสริมสร้างทักษะชีวิตเข้ากับวิธีการลูกเสือ คือการใช้ระบบหมู่หรือกลุ่มย่อย โดยให้เด็กเป็น ศูนย์กลาง และมผี ้ใู หญท่ ําหน้าท่ชี ่วยเหลือและส่งเสรมิ ให้เกิดกระบวนการเรยี นรู้ในกลุ่ม แนะนํา สั่งสอน และฝึกอบรมให้สามารถพง่ึ ตนเองได้ มีจิตอาสา รับผิดชอบต่อส่วนรวม ยึดม่ันในคําปฏิญาณและกฎของ ลกู เสือ เสริมสรา้ งคุณคา่ ในตนเอง รวมทงั้ ใช้ระบบเคร่ืองหมายหรือสัญลักษณ์ทางลูกเสือและเคร่ืองหมาย วชิ าพิเศษ เป็นแรงกระตนุ้ ไปสูเ่ ปาฺ หมายในการพัฒนาตนเอง การเรยี งลําดับแผนการจัดกิจกรรม จดั เรียงลาํ ดบั เน้อื หาสาระตามหลักสูตรในข้อบังคับคณะ ลกู เสอื แหง่ ชาติ ว่าด้วยการปกครองหลกั สตู รและวชิ าพิเศษลกู เสือสาํ รอง ลกู เสือสามญั ลกู เสือสามัญ รุ่นใหญ่ และลกู เสือวิสามัญ การนําไปใชข้ น้ึ กับดลุ ยพินิจของสถานศึกษาในการเลือกว่าแผนการจัด กิจกรรมใดควรใช้เม่อื ใด องค์ประกอบในการประชุมกอง เน้นการใช้ชีวิตกลางแจ้ง นอกห้องเรียน ใกล้ชิดธรรมชาติ เรียนรจู้ ากการลงมอื ปฏิบตั ิดว้ ยตนเอง เกม และการบริการผู้อื่น ซ่ึงถือเป็นหัวใจของกิจกรรมลูกเสือ ทกุ ประเภท โดยกจิ กรรมที่ใช้ แบ่งออกเป็น 5 ประเภท คอื การแสดงออก การสํารวจและการรายงาน การวิเคราะห์และการประเมิน เกมและการแข่งขัน การบําเพ็ญประโยชน์ มีการออกแบบกิจกรรม เพ่ือใหล้ กู เสือได้ใชก้ ระบวนการกลุ่มในการแลกเปล่ียนประสบการณ์ แลกเปลี่ยนความคิดความเชื่อ สร้างองค์ความรแู้ ละสรุปความคดิ รวบยอด รวมทั้งเปิดโอกาสให้ลูกเสือได้ประยุกต์ใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้ ในชีวิตจรงิ อีกด้วย เนือ้ หาสาระในแผนการจัดกิจกรรมประกอบดว้ ย 1. กิจกรรมตามข้อบังคับของคณะลูกเสือแห่งชาติ )ไม่รวมกิจกรรมทดสอบเพื่อรับ เคร่ืองหมายหรือสัญลกั ษณ์ทางลูกเสือและเครอ่ื งหมายวชิ าพเิ ศษ( 2. กิจกรรมตามข้อบังคับของคณะลูกเสือแห่งชาติที่ช่วยเสริมสร้างทักษะชีวิตด้านคุณธรรม จริยธรรม ความภาคภมู ิใจในตนเอง ความรับผดิ ชอบต่อส่วนรวม 3. กจิ กรรมเสริมสร้างทกั ษะชวี ติ เพอื่ สรา้ งภมู ิคุม้ กันทางสงั คมต่อเหตกุ ารณแ์ ละสภาพปญั หา ของเดก็ แตล่ ะวยั 8 คค่มู ่มู ืออื สส่งง่ เเสสรริมมิ แแลละะพัฒนากจิ กรรมลูกเสือทกั ษะชชีวิตตใในนสสถถาานนศศึกึกษษาาปลรกู ะเสภอืทโลทกู เชส้นัอื สปารมะัญถมหศลกึ กั ษสาตูปรที ล่ี กู5เสอื ตรี 1 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4
คมู่ อื แตล่ ะเล่ม ไดจ้ ัดทําตารางหนว่ ยกิจกรรม และแผนการจัดกิจกรรม 40 ชัว่ โมง เพอ่ื ให้เห็น ภาพรวมของการจัดกจิ กรรมลกู เสือเสรมิ สร้างทักษะชีวติ ของลกู เสอื ในแตล่ ะระดบั ช้ัน และมหี มายเหตุ บอกไว้ในตารางช่องขวาสดุ ว่าเป็นแผนการจัดกจิ กรรมเสรมิ สร้างทักษะชีวิต แผนการจัดกิจกรรมประกอบดว้ ย จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนอื้ หา สือ่ การเรยี นรู้ กิจกรรม การ ประเมินผล องค์ประกอบทักษะชีวิตสําคัญที่เกิดจากกิจกรรม และภาคผนวกประกอบแผนการจัด กิจกรรม )เพลง เกม ใบงาน ใบความรู้ เรื่องทเี่ ปน็ ประโยชน์( จุดประสงค์การเรยี นรู้ ผู้สอนควรทําความเข้าใจให้ชัดเจนว่าเป็นจุดประสงค์การเรียนรู้ด้านความรู้ เจตคติ หรือ ทกั ษะ เพ่ือจดั กิจกรรมได้ตรงตามจดุ ประสงค์การเรยี นร้แู ตล่ ะด้าน จุดประสงค์การเรียนรู้ด้านความรู้ มีจุดเน้นท่ีการต้ังประเด็นให้วิเคราะห์ สังเคราะห์เน้ือหา ความรู้ ให้เข้าใจอยา่ งถอ่ งแท้ และสามารถนําไปใชไ้ ดใ้ นชวี ิตจริง จดุ ประสงค์การเรียนร้ดู า้ นเจตคติ มจี ดุ เนน้ ที่อารมณ์ความรู้สึก และการตั้งประเด็นให้ผู้เรียน ไดแ้ ลกเปลย่ี นและตรวจสอบความคดิ ความเชอ่ื ของตนเองกับสมาชิกกลุ่มคนอื่น ๆ จุดประสงค์การเรยี นรู้ด้านทกั ษะ เน้นทีก่ ารทาํ ความเข้าใจในขัน้ ตอนการลงมือทาํ ทกั ษะ และ ได้ทดลองและฝกึ ฝนจนชํานาญ บางแผนการจัดกิจกรรมมีจุดประสงค์การเรียนรู้ซ้อนกันมากกว่า 1 ด้าน ให้เน้นด้านท่ีเป็น จดุ ประสงค์หลักของแผนการจดั กจิ กรรม เนื้อหา เป็นผลการเรียนรู้ท่ีเกิดขึ้นหลังการสอน ผู้สอนควรตรวจสอบว่าผู้เรียนได้เนื้อหาครบถ้วน หรือไม่ สือ่ การเรียนรู้ เปน็ สอ่ื อปุ กรณ์ ท่ีใช้ในการจดั กิจกรรม เชน่ แผนภมู เิ พลง เกม ใบงาน ใบความรู้ และเรื่องที่ เปน็ ประโยชน์ ซึง่ มรี ายละเอยี ดอยใู่ นภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรม กจิ กรรม กิจกรรมลูกเสือยังคงแบบแผนของลูกเสือไว้ คือ การเปิดประชุมกอง/ปิดประชุมกอง และ เพลง เกม นทิ าน เรอื่ งทเี่ ป็นประโยชน์ ซงึ่ ใส่ไวใ้ นทกุ แผนการจดั กจิ กรรม โดยผกู้ าํ กบั ลกู เสือสามารถ ปรบั เปลีย่ นไดต้ ามความเหมาะสม ผ้สู อนควรจัดกิจกรรมตามทีไ่ ด้ออกแบบไวเ้ รยี งตามลาํ ดับข้ันตอน การจดั กจิ กรรม นอกจากน้กี ่อนการจดั กจิ กรรมควรศึกษาแผนการจัดกิจกรรมให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ ทกุ ขัน้ ตอน ศึกษาใบความรู้สาํ หรบั ผสู้ อน และใบงานสาํ หรับผู้เรียน เพอ่ื ท่ผี ้สู อนจะไดจ้ ัดกจิ กรรมการ เรยี นการสอนใหไ้ ดเ้ น้ือหาตรงตามจดุ ประสงค์การเรยี นร้มู ากทสี่ ุด ทงั้ น้ีผูก้ าํ กับควรทําความเขา้ ใจแนวคดิ เร่ืองทกั ษะชวี ิต และกิจกรรมลกู เสือเสริมสรา้ งทักษะชวี ติ ใหถ้ อ่ งแท้ด้วย โดยศกึ ษาได้จากภาคผนวก ก และภาคผนวก ข 2 คู่มือส่งคเ่มูสอืรมิสแง่ เลสะรพมิ ฒั แลนะาพกิจฒั กนรรากมจิลกู รเสรือมทลักกู ษเสะือชทวี กัติ ษในะสชถีวาติ นในศกึสษถานปศรึกะษเภาทลกู เสอื โสทามชญั ้นั ปหรละักถสมตู ศรลกึ ูกษเาสปือีทตี่ร5ี 9 ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4
การประเมนิ ผล สามารถประเมินได้ทั้งระหว่างการจัดกิจกรรม และหลังการสอนจบแล้ว ตามแนวทางท่ีได้ให้ไว้ ในแตล่ ะแผนการจดั กจิ กรรม องคป์ ระกอบทกั ษะชีวติ สําคัญท่ีเกดิ จากกิจกรรม ทักษะชีวิตเกิดขึ้นได้หลายองค์ประกอบในการจัดกิจกรรมแต่ละคร้ัง ในที่นี้ได้ระบุเพียง องคป์ ระกอบทกั ษะชีวติ สาํ คญั ท่เี กิดขนึ้ เทา่ นั้น ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกิจกรรม เป็นสือ่ อปุ กรณ์ ตามรายการที่ระบุไว้ในส่ือการเรียนรู้ เช่น เพลง เกม บัตรคํา ใบงาน ใบความรู้ และเร•ือ่ งสทสำ� มเี่นปากั น็คกปมารวระลาโงกูยแเชสผนอืน์ ฯคยลรวุ ฯอกบาหชคาารกดวั มแีขลหอ้ะง่ กเปสจิ รนกะอาเทแรนนศกัะไทเเรพยี ื่อนฯการปรับปรงุ คู่มือชุดนี้ กรณุ าติดตอ่ ที่ สเำ�ลนขกั ทงี่ า8นวปิภลาดั วกดรรีะังทสริตวง4ศ4กึ ษแาขธวกิ งาลรากดรยะาทวรวเงขศตกึ จษตาุจธักกิ รารกรุงเทพฯ 10900 ถโนทนรรศาพั ชทด์ำ� เ0น-2ิน9น4อ1ก-2เ3ข2ต0ดสุ ตติ อ่ ก1ร5งุ 1เทพโทฯร1ส0า3ร000-2561-5130 โทรศพั ท์ 02-628-6365 โทรสาร 02-628-6402 10 คคู่มมู่ ือือสสง่ ่งเเสสรริมิมแแลละะพัฒนากจิ กรรมลูกเสอื ทักษะชชีวติตใในนสสถถาานนศศึกึกษษาาปลรกู ะเสภอืทโลทูกเชส้ันอื สปารมะัญถมหศลึกักษสาตูปรที ลี่ กู5เสือตรี 3 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4
แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือสามญั ลูกเสอื ตรี ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 11 4 คมู่ ือส่งคเู่มสอื รสิม่งแเสลระิมพแฒัละนพาฒั กนจิ ากกริจรกมรรลมูกลเกูสเอืสทอื ทักักษษะะชชวี วี ติ ติ ใในนสสถถาานนศศึกษึกาษปารละเกูภเทสลือกู ตเสรือี สชาน้ั มปญั รหะถลกัมสศูตกึ รษลูกาเปสีทอื ตี่ 4รี ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 4
แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสอื หลักสตู รลกู เสือสามญั (ลกู เสอื ตรี) ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 ชือ่ หนว่ ยกจิ กรรม ชอื่ แผนการจัดกจิ กรรม จํานวน หมายเหตุ ตามหลกั สูตร ชั่วโมง ขอ้ บังคบั คณะ 1. ปฐมนเิ ทศ ทกั ษะชวี ิต ลูกเสือแห่งชาติ 2. ระเบยี บแถวเบื้องตน้ 1 ทกั ษะชีวติ 3. สญั ญาณมือและสัญญาณนกหวดี 2 ทกั ษะชวี ิต 1. ปฐมนิเทศ 4. ประวัติ ลอรด์ เบเดน เพาเวลล์ )บี.-พ.ี ( 1 ทักษะชวี ติ 2. ระเบยี บแถว 5. พระบดิ าแห่งการลกู เสือไทย 1 ทกั ษะชีวติ 3. ความร้เู กยี่ วกบั 6. ววิ ฒั นาการของขบวนการลูกเสอื ไทยและลูกเสอื 2 ทกั ษะชีวติ 1 ทักษะชีวติ ขบวนการลูกเสอื โลก ทกั ษะชีวติ 7. การทาํ ความเคารพ การแสดงรหสั การจับมอื ซา้ ย 1 ทักษะชวี ิต 4. คาํ ปฏิญาณและกฎ ของลูกเสือสามญั และคติพจนข์ องลกู เสอื สามัญ 2 8. เวลาในขวดแก้ว 1 5. กจิ กรรมกลางแจ้ง 9. นาทีวกิ ฤต 1 10. สิ่งดี ๆ ของฉนั 1 11. คิดเชิงบวก 1 12. ความซื่อสตั ย์ 1 13. สิทธสิ ว่ นบุคคล 2 14. ตน้ ตระกูลไทย 1 15. ความเปน็ สภุ าพบุรุษ กลุ สตรี 1 16. การส่อื สารเพ่ือบอกความต้องการ 2 17. สิง่ ประดิษฐ์จากขยะ 2 18. การใชป้ ระโยชนจ์ ากเงอ่ื นเชือก 2 19. ทกั ษะในการใชเ้ ข็มทศิ 2 20. การบนั เทิง 1 21. การเตรียมสง่ิ ของ อาหาร และการแสดง 1 22. การปฏบิ ตั ิตามกฎและเคร่อื งหมายจราจร 3 23. เด็กไทยไมก่ ินหวาน 1 24. เสรมิ สร้างสมรรถนะทางกาย 2 25. นาํ้ ด่ืมสะอาดปลอดภยั 12 คมู่ อื สง่คเมู่ สอื รสิม่งแเสลระมิ พแฒัละนพาัฒกนิจากกริจรกมรรลมูกลเูกสเือสือททกั กั ษษะะชชีววี ติิตใในนสสถถาานนศศึกษึกาษปาระลเกูภเทสลอื ูกตเสรือี สชาั้นมปญั รหะถลกัมสศูตึกรษลกูาเปสีทือตี่ 4รี 5 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4
ช่ือหน่วยกจิ กรรม ชือ่ แผนการจัดกิจกรรม จาํ นวน หมายเหตุ ตามหลักสตู ร ช่ัวโมง ขอ้ บงั คบั คณะ 26. การประเมนิ ผล ลูกเสอื แห่งชาติ 27. พธิ เี ข้าประจาํ กอง และประดับเคร่ืองหมาย 2 1 6. ประเมินผล ลูกเสือตรี 7. พธิ กี าร รวม 27 แผนการจดั กิจกรรม 40 รวม 7 หน่วย กิจกรรม 6 คู่มคู่มอื ือสส่งง่ เเสสริมแแลละะพพฒั ฒั นนากาจิกกิจรกรรมรลมกู เลสูกอื เทสกั ือษทะกัชวีษติ ะใชนวี สิตถาในศสึกถษาานปศรึกะษเภาทลลกู กู เสเสอื อืสตามรัญี ชหัน้ ลปกั รสะตู ถรมลกูศเึกสอืษตารปี ที ี่ 4 13 ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4
แผนการจดั กิจกรรมลูกเสอื หลักสูตรลูกเสือสามัญ (ลูกเสือตร)ี ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 หน่วยที่ 1 การปฐมนิเทศ เวลา 1 ชัว่ โมง แผนการจดั กจิ กรรมที่ 1 การปฐมนเิ ทศ 1. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.1 ลกู เสอื ร้จู กั ผู้บังคบั บัญชาลกู เสอื สามญั ในกองลกู เสือของตน 1.2 สรา้ งขอ้ ตกลงในการเรียนรแู้ ละการปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามตารางเรียน 1.3 ลูกเสอื แตง่ เครอื่ งแบบลูกเสอื สามญั และประดบั เคร่อื งหมายลกู เสอื ไดถ้ กู ต้องและเรียบรอ้ ย 2. เนือ้ หา 2.1 รายชื่อผ้บู ังคบั บัญชาลกู เสอื ในกองลกู เสอื 2.2 การแตง่ เครือ่ งแบบลูกเสอื สามญั และการประดบั เครื่องหมายลกู เสอื ตามกฎกระทรวง 2.3 ข้อตกลงเรอ่ื งกจิ กรรมตามตารางเรยี น การตรงต่อเวลาและความรับผดิ ชอบ 3. สอื่ การเรียนรู้ 3.1 แผนภูมเิ พลง 3.2 ชดุ ลูกเสือ )ของจรงิ ( หรอื แผนภาพเครอ่ื งแบบและเคร่ืองหมายประกอบเครอื่ งแบบลกู เสอื สามัญ และลกู เสือสาํ รอง และสายสะพายเคร่อื งหมายวชิ าพิเศษ 3.3 เรื่องส้นั ที่เป็นประโยชน์ 4. กจิ กรรม 4.1 ลูกเสือรวมกองในห้องประชุมหรอื ใตร้ ่มไม้ สถานทใ่ี ด สถานทห่ี นง่ึ 4.2 ลกู เสอื ขบั รอ้ งเพลง ลกู เสอื ธรี ราช 4.3 ผกู้ ํากับลูกเสือ แนะนําผ้บู งั คับบญั ชาลูกเสือและลูกเสอื รุน่ พ่ี ที่จะมาช่วยนํากิจกรรมให้กับ กองลูกเสอื สามญั 4.4 ผ้กู ํากับลกู เสอื ช้แี จงตารางเวลาเรียน และกําหนดข้อตกลงร่วมกนั ในเรอื่ งของเวลาในการ เปดิ ประชมุ กองการเรียนรู้ ระบบหมู่ การตรงต่อเวลาและความรับผิดชอบ 4.5 ลกู เสอื เลน่ เกม “แต่งกายดี มชี ยั ไปกว่าครงึ่ ” 1) ลูกเสือ ศกึ ษาเครอ่ื งแบบลกู เสือสามญั ท่ีถกู ตอ้ งตามประกาศ กระทรวงศึกษาธิการจากแผนภาพ 2) ผกู้ ํากับลูกเสอื นําเคร่ืองแบบและเครือ่ งหมายประกอบเครื่องแบบ ได้แก่ หมวก ผ้าผูก คอและห่วง แถบสี เครื่องหมายหมู่ เคร่ืองหมายลูกเสือตรี เข็มขัด ถุงเท้าสีกากี รองเทา้ สนี ํา้ ตาล )ตามกฎกระทรวงว่าด้วยเครอ่ื งแบบ( เครื่องหมายนายหมู่ มาวางไว้ ตรงหน้าหมูล่ กู เสือหมู่ละ 1 ชดุ ลูกเสอื แตล่ ะหมู่ สง่ ตวั แทนเพอื่ เป็นนายแบบ หมู่ละ 1 คน 14 คมู่ ือสง่คเมู่ สือรสมิ ่งแเสลระมิ พแัฒละนพาฒั กนจิ ากกรจิ รกมรรลมูกลเกู สเอืสอืททกั กั ษษะะชชีวีวิตติ ใในนสสถถาานนศศกึ ษกึ าษปาระลเกูภเทสลือกู ตเสรือี สชา้นั มปญั รหะถลักมสศูตกึ รษลูกาเปสีทอื ตี่ 4รี 7 ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 4
3) ผูก้ าํ กับลูกเสอื ใหส้ ัญญาณการแขง่ ขัน สมาชิกในหมู่ชว่ ยกนั เอาเครอ่ื งแบบและ 3) ผเค้กู ราํ อ่ื กงับหลมกู าเยสปอื รใะหกส้ อัญบญเคารณอ่ื กงแาบรแบขไง่ปขปนั ระสดมับาบชนิกเใคนรหอื่ มง่ชูแว่บยบกขนั อเงอลากู เคเสรอื่ ทงแี่เปบ็นบนแาลยะแบบ ใเคหร้ถอ่ื ูกงตห้อมงาตยาปมรแะผกนอภบาเคพรเอื่คงรแ่ือบงแบบไปบปลูกระเสดอืับสบานมเญัครภื่องาแยบในบเขวอลงาลทกู่กี เาํ สหือนทดี่เปน็ นายแบบ 4) ใเมหอ่ืถ้ หกู มตดอ้ เงวตลาามหแผมนู่ใดภตาดิพเเคครรอ่ื ือ่ งงหแมบาบยลคกู รเบสแอื ลสะาถมกูญั ตอ้ภงาตยาในมตเวําลแาหทน่กี ่งาํ หนมดนู่ น้ั เปน็ ผ้ชู นะ 4.6 4ต)รวเจมส่ืออหบมคดวเวามลาถูกหตมอ้ ูใ่ ดงขตอิดงเกคารรอ่ื ปงหระมดาับยเคครรบอื่ แงลหะมถากู ยตต้อรงวตจาแมลตะาํ เแปหรียนบง่ เหทมีย่นูบนั้กเบั ปแน็ ผผน้ชู ภนาะพ 4.6 ตเครรว่อืจงสแอบบบคลวกูามเสถอื ูกสตาอ้มงญั ของการประดับเครอื่ งหมาย ตรวจและเปรยี บเทยี บกบั แผนภาพ 4.7 ผเคู้กราํ ื่อกงับแลบูกบเลสูกอื เสปอืรสยี าบมเทญั ียบการแตง่ กายแบบลูกเสอื สํารอง และการแต่งกายแบบลกู เสอื 4.7 ผส้กูามํากญั ับตลลกู อเสดอื จเนปนรยีําเบคเรทือ่ ียงบหกมาารยแวติชง่ ากพาเิยศแษบบและกู สเสายอื ยสงํายรอศง(ตแลามะกขาอ้ รบแังตค่งบั กคาณยแะบลบกู ลเกูสอืเสอื แสหามง่ ญัชาติลวอา่ ดจ้วนยนกําเรคปรก่อื คงรหอมงาหยลวกั ชิ สาตูพรเิ แศลษะวแิชลาะพสาเิ ศยษยลงยกู ศเส(ือตสาามมขัญอ้ บฉังบคบั บั ทคี่ ณ13ะพล.ูกศเ.ส2อื525 แขหอ้ ่ง5ช4าหตินวา้่ ด7้ว0ย) การปกครองหลกั สตู รและวิชาพิเศษลกู เสือสามญั ฉบับท่ี 13 พ.ศ.2525 ขมอ้าจ5ดั 4แหหสนดน้าง้าน770ทิ 0)ร)มราศจกดั าแรสใหดล้งนกู ิทเสรอื รไศดก้ศากึรใษหาล้ กูพเรส้ออื มไทดศ้งั วกึ าษงาแผพนรอ้กมาทรพงั้ วฒั านงแาผตนกเอางรเพพฒั ือ่ นทาดตสนอเบอง เตมพาอ่ืมจทัดเดแกสณอดฑบงนตก์ าทิ มรรเกบัศณเกคฑารรกื่อ์ ใหางหรล้ รมกู บั าเเสยคอืลรไกูอ่ื ดงเส้ศหือกึมตษารยาี ลพกู รเส้ออืมตทรั้งี วางแผนการพฒั นาตนเองเพ่อื ทดสอบ 8.4 ลตูกาเมสือเกจณับคฑตู่ ก์ ราวรจรสบั อเคบรกือ่ างรหแมตาง่ ยเคลรูกื่อเงสแือบตบรแี ละการประดับเครอ่ื งหมายใหถ้ กู ตอ้ งตาม ระเบียบ8.4 ลกู เสอื จบั คูต่ รวจสอบการแต่งเครอื่ งแบบและการประดบั เครื่องหมายใหถ้ กู ตอ้ งตาม ระเบยี บ4.9 ผู้กาํ กับลูกเสอื เลา่ เร่อื งสน้ั ท่เี ป็นประโยชน์ 4.9 ผกู้ าํ กบั ลกู เสอื เลา่ เร่ืองส้นั ท่เี ปน็ ประโยชน์ 5. การประเมนิ ผล 5. การปสรงั ะเกเมตินควผาลมสนใจ การมีสว่ นร่วมทํากจิ กรรม และการประดบั เครือ่ งหมายประกอบเครือ่ งแบบ สังเกตความสนใจ การมีสว่ นรว่ มทํากจิ กรรม และการประดับเครื่องหมายประกอบเคร่อื งแบบ คมู่ ือสง่ เสรมิ และพัฒนากิจกรรมลูกเสือทักษะชีวติ ในสถานศกึ ษา ลกู เสือตรี ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4 15 คู่มคมู่ืออื สสง่ ง่ เเสสริมแแลละะพพัฒัฒนนากาจิกกิจรกรรมรลมกู เลสกู อื เทสกั อื ษทะักชวีษติ ะใชนีวสิตถาในศสกึ ถษาานปศรกึ ะษเภาทลลกู กู เสเสอื อืสตามรญั ี ชหน้ั ลปกั รสะตู ถรมลูกศเึกสือษตารปี ที ่ี 4 15 8 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4
ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรมที่ 1 เพลง ลกู เสอื ธรี ราช เหล่าลกู เสอื ของธีรราช ทะนงองอาจ สืบชาติเช้ือพงศ์พนั ธ์ุ สมัครสมานโดยมีสามคั คมี นั่ พวกเราจะรักร่วมกัน จะผกู สัมพนั ธ์ตลอดกาล มจี รรยา รกั ษาชอ่ื สร้างเกียรติระบอื เล่อื งลือตอ่ ไปชา้ นาน ร่าเรงิ แจม่ ใสใฝใู จรกั ใหย้ นื นาน พวกเราลว้ นชนื่ บาน เพราะกจิ การลกู เสอื ไทย เรอ่ื งส้นั ท่เี ปน็ ประโยชน์ ลูกหมูกับฝูงแกะ กาลครง้ั หนง่ึ นานมาแล้วมลี กู หมตู ัวหน่ึงหลงเข้าไปอยู่ในฝูงแกะและหลบซ่อนอยู่ท่ีน่ันเร่ือยมา วันหน่ึงเมอ่ื คนเลีย้ งแกะมาพบเขา้ ก็พยายามไล่จับลกู หมรู ้องเสยี งหลงวิ่งหนีไปรอบๆ คอก แกะตวั หนงึ่ กล่าวตําหนิวา่ “เจา้ จะวิ่งให้เหนอ่ื ยและส่งเสียงรอ้ งใหห้ นวกหูทําไม ทุกครั้งพวกข้า กย็ นื ใหม้ นุษย์จับแตโ่ ดยดี” “มนั ตา่ งสถานการณ์กันน่ีเพอ่ื นมนุษยจ์ บั พวกเจ้าไปตัดขน ส่วนข้าถูกจับไปเชือด” ลูกหมูตอบ พรอ้ มกับสง่ เสยี งร้องและพยายามวง่ิ หนสี ดุ ฝเี ทา้ เรอื่ งนีส้ อนใหร้ วู้ า่ เราไมค่ วรใช้ความคิดเหน็ ของตนเองเป็นเครอื่ งตัดสินหรอื ประเมินผอู้ ืน่ ประเด็นการวิเคราะห์คณุ ธรรมทไ่ี ด้ 1. ความซอื่ สัตย์ สุจรติ 2. ความรับผดิ ชอบ 16 คมู่ อื ส่งคเู่มสอื รสิม่งแเสลระมิ พแัฒละนพาฒั กนจิ ากกริจรกมรรลมกู ลเกู สเือสือททกั กั ษษะะชชวี ีวิตติ ใในนสสถถาานนศศึกษกึ าษปาระลเกูภเทสลือกู ตเสรือี สชานั้ มปญั รหะถลกัมสศูตึกรษลกูาเปสีทอื ต่ี 4รี 9 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4
แผนภาพเครือ่ งแบบลูกเสอื สามัญ 10 ค่มู อื สค่งมู เือสสรง่ ิมเสแรลมิ ะแพลัฒะพนฒั านกาิจกกจิ รกรมรมลลกู กู เเสสือทกักษษะะชชวี ีวติ ติในใสนถสาถนาศนึกศษากึ ษปาระเลภกูทเลสกู ือเสตอื รสี าชม้ันญั ปหรละถักสมตู ศรกึ ลษกู เาสปือีทตรี่ 4ี 17 ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4
แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือ หลักสตู รลกู เสือสามญั (ลูกเสอื ตร)ี ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 หน่วยท่ี 2 ระเบยี บแถว เวลา 2 ช่ัวโมง แผนการจดั กิจกรรมที่ 2 ระเบียบแถวเบื้องตน้ 1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.1 ลูกเสอื บอกความหมายและแสดงรหัสลกู เสอื ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 1.2 ลูกเสือปฏบิ ัตติ ามระเบียบแถวเบือ้ งตน้ ได้ 2. เน้อื หา 2.1 การแสดงรหัสลกู เสอื และความหมายของการแสดงรหสั 2.2 การฝึกระเบียบแถวบุคคลท่ามือเปล่า )ท่าตรง ท่าพัก ท่าหันอยู่กับที่ ท่าเดิน ท่าหยุด วนั ทยหัตถ(์ และระเบียบแถวบุคคลท่ามีอาวธุ )ท่าตรง ทา่ พกั ทา่ วันทยาวุธ – เรียบอาวุธ ท่าแบกอาวุธ – เรยี บอาวธุ ( 3. ส่อื การเรยี นรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลงเกม 3.2 เกม 3.2 ใบความรู้ 3.3 เร่อื งสน้ั ทีเ่ ปน็ ประโยชน์ 4. กจิ กรรม 4.1 กจิ กรรมครง้ั ที่ 1 1( พธิ ีเปดิ ประชมุ กอง )ชกั ธงข้นึ สวดมนต์ สงบนงิ่ ตรวจ แยก( 2( เพลง หรอื เกม 3( กิจกรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ )1( ผ้กู าํ กบั ลกู เสอื ทบทวนและฝึกซอ้ มนายหมลู่ กู เสอื เพอื่ เปน็ ผูช้ ว่ ยฝกึ ระเบยี บแถว )ผกู้ าํ กับลูกเสอื เตรยี มการนายหมู่ลูกเสอื กอ่ นคาบเรียน( )2( ผู้กาํ กับลูกเสอื เรียกกอง อธบิ ายความหมายและสาธิตการแสดงรหสั ท่ีถูกตอ้ ง )3( ผู้กํากับลูกเสอื สาธิตวธิ กี ารรายงานตวั เขา้ เรยี นตามฐานและการเปลีย่ นฐาน )4( กจิ กรรมฝึกปฏิบตั ิตามฐาน ระเบยี บแถวบุคคลทา่ มือเปล่า โดยนายหมอู่ ธิบาย สาธติ พร้อมสง่ั ใหป้ ฏิบัติในแตล่ ะฐาน ฐานที่ 1 ท่าตรง ท่าเคารพ ท่าพกั ฐานท่ี 2 ทา่ หนั อยู่กบั ที่ ท่าเดนิ ทา่ หยดุ ฐานท่ี 3 ฝกึ ปฏบิ ัติระเบียบแถวบุคคลท่ามอื เปล่าที่ได้เรียนมาแลว้ 18 คู่มอื สง่คเู่มสือรสิมง่ แเสลระิมพแัฒละนพาัฒกนจิ ากกรจิ รกมรรลมูกลเกู สเือสอืททักกั ษษะะชชีวีวติิตใในนสสถถาานนศศกึ ษกึ าษปาระลเกูภเทสลอื กู ตเสรอื ี สชาน้ั มปญั รหะถลักมสศูตึกรษลกูาเปสทีอื ตี่ 4รี 11 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4
4( ผู้กํากบั ลกู เสอื เลา่ เรือ่ งส้นั ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5( พธิ ปี ดิ ประชมุ กอง )นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชักธงลง เลกิ ( 4.2 กิจกรรมครง้ั ที่ 2 1( พิธีเปิดประชุมกอง )ชักธงขนึ้ สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก( 2( เพลงหรอื เกม 3( กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - กจิ กรรมฝกึ ปฏิบตั ติ ามฐาน ระเบียบแถวบุคคลท่าประกอบอาวุธ โดยนายหม่อู ธบิ าย สาธติ พรอ้ มสั่งใหป้ ฏิบัตใิ นแตล่ ะฐาน ฐานท่ี 1 ทา่ ตรง ทา่ พกั ฐานท่ี 2 ท่าวนั ทยาวุธ – เรยี บอาวธุ ฐานท่ี 3 ท่าแบกอาวุธ – เรยี บอาวุธ ฐานที่ 4 ผูก้ ํากบั ลกู เสอื และลกู เสอื สนทนาซกั ถามเกยี่ วกบั ปัญหาระหว่างฝึกระเบียบ แถวบคุ คลท่าประกอบอาวุธ พรอ้ มเสนอแนะแนวทางแก้ไข 4( ผู้กํากับลกู เสอื เล่าเรอ่ื งส้ันท่ีเปน็ ประโยชน์ 5( พิธีปิดประชมุ กอง )นัดหมาย ตรวจเคร่ืองแบบ ชกั ธงลง เลกิ ( 5. การประเมนิ ผล 5.1 สงั เกตการปฏบิ ตั ิตามคําสง่ั 5.2 ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของการปฏิบตั ิระเบยี บแถวเบือ้ งต้น ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมท่ี 2 เพลง ลูกเสือ ไม่จบั มือขวา ลูกเสือเขาไม่จบั มอื ขวา ย่ืนซ้ายมาจบั มือกนั มน่ั มอื ขวาใชเ้ คารพกนั มอื ขวาใช้เคารพกนั ยน่ื ซา้ ยออกมาพลนั จบั มือ จบั มือ จับมอื นน้ั หมายถงึ มติ ร เหมือนญาติสนทิ ควรคดิ ยึดถอื ยิม้ ด้วยเม่ือยามจับมอื ย้ิมดว้ ยเม่ือยามจบั มือ เพราะพวกเราคอื ลกู เสอื ด้วยกนั เพราะพวกเราคอื ลกู เสือดว้ ยกนั 12 คู่มคู่มอื อื สสง่ ่งเเสสริมแแลละะพพัฒฒั นนากาจิกกจิ รกรรมรลมกู เลสูกือเทสกั ือษทะกัชวีษิตะใชนีวสิตถาในศสึกถษาานปศรึกะษเภาทลลูกกู เสเสืออืสตามรญั ี ชหนั้ ลปักรสะูตถรมลกูศเกึสอืษตารปี ที ี่ 4 19 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4
เกม แขง่ เรอื บก อปุ กรณ์ ปนู ขาวโรยเส้น หรือใชไ้ ม้พลองวางในเสน้ ทก่ี ําหนด วิธีเล่น 1. ใหล้ ูกเสือเขา้ แถวตอนเปน็ หมู่ แตล่ ะหมู่เข้าแถวห่างกนั 1 ชว่ งแขน 2. ลูกเสอื แต่ละหมหู่ รือแถวเอามือจบั เอวคนข้างหนา้ 3. ใหแ้ ตล่ ะแถวเคลื่อนทีไ่ ปถงึ เสน้ ท่กี าํ หนดดว้ ยการกระโดดพรอ้ มๆ กัน โดยไมใ่ หม้ อื หลุด จากเอวหรอื ขาดจากกนั แถวใดถึงเสน้ ท่ีกาํ หนดกอ่ นเปน็ ผ้ชู นะ เรอ่ื งส้ันท่ีเป็นประโยชน์ ช่างทาํ โลหะกับสนุ ขั กาลครัง้ หน่ึง นานมาแล้ว มชี ่างทาํ โลหะคนหนง่ึ ตที องเหลอื งเสยี งดงั โปกเปกอยใู่ นห้องทาํ งาน ของตน โดยมสี นุ ขั ทเ่ี ลย้ี งไวน้ อนหลับปยุ๋ ในบรเิ วณใกล้ๆกันนนั้ ครั้นถงึ เวลาเท่ยี งช่างทาํ โลหะหยุดงานเพอื่ รับประทานอาหารสุนขั ของเขากต็ นื่ ขน้ึ มายืนเคลา้ เคลยี และกระดกิ หางอย่างประจบ ช่างทาํ โลหะโยนเศษกระดูกใหพ้ รอ้ มกับกลา่ ววา่ “เสยี งเค้ียวอาหาร ของขา้ คงดังกว่าเสยี งตีทองเหลอื งซนิ ะ เจ้าจงึ ตอ้ งต่นื ขนึ้ มาในเวลาน้ี เร่อื งนส้ี อนให้รู้วา่ แมค้ นเกยี จคร้านทีส่ ดุ ในโลก กย็ งั ขยนั เกบ็ เกยี่ วผลประโยชนข์ องตน การจับมอื ซ้าย การจับมือกนั เป็นการทักทายกันวิธีหน่ึงของคนทั่วไป ถือเป็นแบบสากลท่ีคนท่ัวโลกเข้าใจ ตรงกันโดยจะยื่นมือขวาให้อีกฝูายหนึ่งจับเพ่ือแสดงความเป็นมิตรต่อกัน แต่ในวงการลูกเสือจะใช้การ จับมือซา้ ยแทน โดยมีประวตั คิ วามเปน็ มาดังน้ี ในสมัยทีท่ หารองั กฤษกับชนเผา่ ซูลทู าํ สงครามกัน ดินสิ ซูลู นักรบผู้กล้าได้ร่วมต่อสู้เต็มกําลัง ทําให้ทหารอังกฤษไม่สามารถเอาชนะได้ ต่อมา บี.-พี. ได้เป็นตัวแทนเข้าเจรจาสงบศึกกับชนเผ่าซูลู ได้สําเร็จ บ.ี -พ.ี จงึ ยน่ื มือขวาออกมาเพื่อจบั มือแสดงความเป็นมิตรต่อกัน แต่หัวหน้าเผ่า ดินิส ซูลู ไม่ ยอมจับมอื ขวา กลบั ย่ืนมอื ซ้ายมาจับแทน พร้อมกบั อธบิ ายว่า \"มือขวาเป็นมือท่ีสกปรก ใช้จับอาวุธฆ่ากัน ถ้าเราเป็นมิตรต่อกันควรท่ีจะใช้มือซ้ายจับ ดีกว่า เพราะมอื ซา้ ยเปน็ มอื สะอาด และอย่ใู กล้หวั ใจ\" 20 คู่มือคส่มู่งือเสสร่งิมเสแรลมิ แะพละัฒพนฒั านกาจิกจิกกรรรรมมลลกูกู เเสสืออื ททักักษษะชะชีวติวี ใติ นใสนถสานถศาึกนษศาึกปษราะเภลทกู ลเสูกเือสตือรสีาชมัญัน้ ปหรละกั ถสมตู ศรลึกูกษเสาอืปตีทร่ี ี 4 13 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4
บี.-พี. เห็นด้วยกับคําพูดของหัวหน้าเผา่ ดินสิ ซูลู จึงยนื่ มอื ซ้ายออกไปสมั ผัสกนั หลังจากนั้น บี.- พ.ี ก็ไดน้ ําการจับมือซา้ ยมาใช้ในวงการลูกเสือ เพ่ือแสดงความเป็นมิตรต่อกัน และเป็นพวกเดียวกัน เรื่องนส้ี อนให้รวู้ ่า การสมั ผสั มือซา้ ยเปน็ วธิ ีจบั มือของลูกเสอื ประเดน็ การวเิ คราะห์คุณธรรมท่ไี ด้ 1. ซอื่ สตั ย์ สจุ ริต 2. ความรับผดิ ชอบ 3. อุดมการณ์ คณุ ธรรม 14 คู่มคมู่ืออื สสง่ ง่ เเสสรมิ แแลละะพพฒั ัฒนนากาิจกกจิ รกรรมรลมูกเลสกู ือเทสักือษทะกัชวีษติ ะใชนวี สิตถาในศสกึ ถษาานปศรกึ ะษเภาทลลูกกู เสเสือือสตามรญั ี ชหน้ั ลปกั รสะูตถรมลูกศเกึสือษตารปี ีท่ี 4 21 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4
ใบความรู้ ระเบยี บแถวเบอื้ งตน้ การแสดงรหัส รหัสลูกเสอื เป็นเคร่ืองหมายทแ่ี สดงใหร้ ้กู ันเฉพาะในวงการลูกเสอื เทา่ นนั้ ลูกเสือทุกคนเม่ือเห็น รหสั น้ี จะรับรู้และเข้าใจความหมายซึง่ กันและกนั ทนั ทีว่า “เราเป็นพวกเดียวกัน\" โอกาสทีใ่ ชใ้ นการแสดงรหสั 1. เม่ือลูกเสือกล่าวคําปฏิญาณในพิธีปฏิญาณตนเข้าประจํากอง และพิธีอ่ืน ๆ ท่ีมีการทบทวนคํา ปฏิญาณ 2. เมื่อพบกบั ลกู เสอื ชาตเิ ดยี วกันหรอื ต่างชาตเิ ปน็ การรบั รู้ว่าเป็นพวกเดียวกัน วิธแี สดงรหัส ของลูกเสอื 1. ยืนอยู่ในท่าตรงมือซา้ ยแนบลาํ ตวั 2. ยกมือขวาเสมอไหล่ งอศอกชิดลาํ ตวั 3. หันฝูามือไปข้างหน้า นิ้วหัวแม่มืองอกดปลายนิ้วก้อยไว้ นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนาง เหยียดตรงชิดติดกัน ความหมาย หัวแมม่ ือกดปลายนวิ้ กอ้ ยไวท้ ําเปน็ รปู วงกลม นิว้ ทั้งสามเหยยี ดขน้ึ ไป หมายถึง หัวลูกเสอื ของรูปเฟลอร์เดอลสี ์ในเครอ่ื งหมายลูกเสือ นว้ิ ท้ังสาม หมายถึง คาํ ปฏิญาณของลกู เสอื 3 ขอ้ นิ้วหัวแมม่ อื กดรดั น้วิ กอ้ ย บ่งบอกถงึ ความรักใคร่เหมือนญาติพน่ี อ้ งท่วั โลก ระเบียบแถวบคุ คลท่ามือเปลา่ ท่าตรง เปน็ ท่าเบอื้ งตน้ ท่ีเป็นรากฐานการปฏบิ ตั ิทา่ อืน่ ๆ และใหเ้ ป็นท่าแสดงการเคารพท่าหนึ่งเมื่อได้ ยนิ คําสงั่ ว่า “ตรง” ให้ลูกเสือปฏิบตั ิ ดังนี้ 1. ส้นเท้าชิดกัน และอยู่ในแนวเดียวกัน ปลายเท้าแยกห่างจากกันประมาณ 1 คืบเข่า เหยียดตงึ และบบี ขาเข้าหากัน 22 คูม่ ือสง่คเู่มสอื รสมิ ่งแเสลระิมพแัฒละนพาฒั กนจิ ากกรจิ รกมรรลมกู ลเูกสเอืสอืททกั กั ษษะะชชวี ีวิตติ ใในนสสถถาานนศศกึ ษกึ าษปาระลเกูภเทสลือูกตเสรือี สชาั้นมปญั รหะถลักมสศูตกึ รษลกูาเปสีทือตี่ 4รี 15 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4
2. ลาํ ตัวยดื ตรง อกผาย ไหล่ผ่ึงเสมอกัน 3. แขนทั้งสองข้างห้อยและเหยียดตรงแนบลําตัว พลิกข้อศอกไปข้างหน้าเล็กน้อย นิ้วมือ เหยียดชิดกนั น้ิวกลางของทงั้ สองมอื แตะขาท่กี ง่ี กลางตามแนวตะเข็บกางเกง เปิดฝาู มือเลก็ น้อย 4. ลําคอยดื ตรง ไม่ย่ืนคาง ตามองตรงข้างหน้าได้ระดับ นา้ํ หนกั อยบู่ นเท้าทั้งสองเท่ากัน ยืน น่ิง ไม่เคลื่อนไหวร่างกาย ทา่ เคารพ การแสดงความเคารพทา่ มือเปลา่ คาํ บอก “วนั ทยหัตถ์” และ “มือลง” เมือ่ ได้ยินคําส่ังวา่ “วันทยหัตถ์” ใหล้ กู เสอื ปฏิบัติ ดังนี้ 1. ยืนในทา่ ตรง 2. ยกมือขวาขนึ้ โดยเร็วและแข็งแรง แขนขวาท่อนบนยื่นไปข้างหน้าประมาณแนวไหล่ เม่ืออยู่ ในที่แคบให้ลดข้อศอกลงได้ตามความเหมาะสม งอศอก ข้อมือไม่หัก เปิดฝูามือขึ้นประมาณ 30 องศา นิ้วหัวแม่มืองอกดปลายนิ้วก้อยทําเป็นรูปวงกลม น้ิวช้ีแตะขอบล่างของหมวกค่อนไปด้านหน้าแนวตา ขา้ งขวา )กรณไี ม่สวมหมวก ให้ทาํ วันทยหัตถโ์ ดยใช้ปลายน้ิวชี้แตะที่หางคิ้วขวา( นิ้วชี้ น้ิวกลาง นิ้วนาง เหยียดตรงเรยี งชิดกนั 3. เมอื่ ไดย้ ินคําสั่งวา่ “มอื ลง”ให้ลดมอื ลงอยู่ในท่าตรงโดยเร็วและแข็งแรง ท่าพกั เป็นท่าเปลี่ยนอิรยิ าบถจากท่าตรง เพื่อผ่อนคลายความเครียดในโอกาสตา่ งๆ คือ พักตามปกติ ใชใ้ นโอกาสฟงั คาํ อธบิ าย ดกู ารแสดงตัวอยา่ ง พักตามระเบยี บ ใช้ในโอกาสรอพิธกี ารต่าง ๆ อยู่ในแถวกองเกยี รตยิ ศ พักตามสบาย ใชใ้ นโอกาสรอคําสัง่ เพอื่ รอการปฏบิ ัตติ อ่ ไป พกั นอกแถว ใช้ในโอกาสรอคําสง่ั ระยะเวลานานกวา่ ปกติ ท่าพกั ตามปกติ เม่ือไดย้ ินคําส่งั วา่ “พัก” ใหล้ กู เสอื ปฏบิ ัติ ดงั นี้ 1. หยอ่ นเขา่ ขวาลงกอ่ น เทา้ ทงั้ สองอยกู่ บั ท่ี หลังจากนีอ้ าจเปล่ียนเป็นหยอ่ นเขา่ ซา้ ยก็ได้ 2. หา้ มพดู คยุ แต่เคลอ่ื นไหวส่วนตา่ งๆ ของรา่ งกายได้ 16 คู่มคมู่อื ือสสง่ ง่ เเสสรมิ แแลละะพพัฒัฒนนากาจิกกจิ รกรรมรลมกู เลสกู ือเทสักอื ษทะกัชวีษิตะใชนวี สติ ถาในศสกึ ถษาานปศรึกะษเภาทลลกู กู เสเสอื ือสตามรญั ี ชหนั้ ลปักรสะูตถรมลกูศเกึสอืษตารปี ที ่ี 4 23 ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4
3. เม่อื ได้ยนิ คําสั่งวา่ “แถว” ให้ยดื ตวั ข้ึนจัดทกุ ส่วนของร่างกายให้อยูใ่ นทา่ ตรง แต่ให้หยอ่ นเขา่ ขวาไวเ้ หมอื นตอนเริ่มพกั และเมอ่ื ไดย้ ินคาํ สั่งว่า “ตรง” ใหก้ ระตุกเข่าขวากลบั ไปอยใู่ นท่าตรงโดยเร็ว ทา่ พกั ตามระเบียบ เมื่อไดย้ ินคาํ ส่ังวา่ “ตามระเบียบ-พัก” ใหล้ กู เสอื ปฏิบตั ิ ดังน้ี 1. แยกเทา้ ซา้ ยออกไปทางซา้ ยประมาณ 1 ฟตุ หรือเกอื บคร่งึ กา้ วปกติอย่างแข็งแรงและรวดเร็ว 2. ยกมอื ไขว้หลังไวใ้ ต้เขม็ ขัดเลก็ น้อยในแนวก่งึ กลางหลัง หลังมือซ้ายแนบลําตัว มือขวาทับมือ ซ้าย น้ิวหวั แม่มอื ขวาทบั นวิ้ หวั แม่มือซา้ ย 3. ขาสองข้างตงึ น้ําหนักตัวอยูบ่ นเท้าทัง้ สอง ตามองตรงขนานกบั พน้ื นิ่งไม่เคลื่อนไหวรา่ งกาย 4. เมือ่ ไดย้ นิ คําสั่งวา่ “แถว-ตรง” ให้ชกั เท้าซา้ ยมาชดิ เท้าขวาโดยเรว็ พรอ้ มกับมือทงั้ สอง กลับมาอยู่ในทา่ ตรงตามเดมิ ท่าพักตามสบาย เมอื่ ไดย้ ินคาํ สงั่ วา่ “ตามสบาย..พัก” ให้ลูกเสือปฏิบัติ ดงั น้ี 1. ใหห้ ยอ่ นเขา่ ขวากอ่ นเหมอื นกบั การพักท่าปกตใิ ห้พูดคุยกนั ได้ เคลอ่ื นไหวรา่ งกายได้ตาม สบาย แต่ต้องใหเ้ ท้าขา้ งหน่งึ อย่กู ับท่ี 2. ห้ามนง่ั หากผกู้ ํากับลกู เสือไมอ่ นญุ าต 3. เมอื่ ได้ยินคําสง่ั วา่ “แถว-ตรง” ใหป้ ฏบิ ัติเหมอื นกับท่าพกั ตามปกติ ทา่ พกั นอกแถว เม่ือไดย้ นิ คําส่ังวา่ “พักนอกแถว” ให้ลกู เสอื ปฏบิ ัติดังน้ี 1. ใหแ้ ยกออกจากแถวทนั ที 2. ใหท้ ุกคนอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับที่เข้าแถว เพื่อจะได้กลับมาเข้าแถวโดยรวดเร็ว เม่ือได้ ยนิ เสียงเรียกให้กลบั มาเข้าแถวอีก เมอื่ แยกแถวแลว้ ไมท่ าํ เสยี งดงั ให้รบกวนผ้อู ื่น 3. เม่ือได้ยนิ คําสง่ั วา่ “แถว” ให้ทกุ คนกลบั มาเขา้ แถวท่ีเดิมโดยจัดแถวให้เรียบร้อยเหมือนเดิมและ อยู่ในท่าตรง ท่าหนั อยกู่ ับที่ ท่าขวาหัน เมอ่ื ได้ยนิ คาํ สั่งวา่ “ขวาุหนั ” ใหล้ กู เสอื ปฏบิ ัติ ดงั น้ี 1. ให้เปิดปลายเท้าขวา ยกส้นเท้าซ้าย และหมุนตัวไปทางขวา 90 องศา ให้ส้นเท้าขวา และปลายเท้าซ้ายอยู่ติดกับพื้น ขณะที่หมุนตัวให้นํ้าหนักตัวอยู่ท่ีเท้าขวาเมื่อหมุนตัวแล้วให้ขาซ้าย เหยียดตรง บิดสนั เท้าออกข้างนอกพอตึง 2. ชกั เทา้ ซ้ายมาชดิ เทา้ ขวาใหอ้ ยู่ในท่าตรงโดยเรว็ ทา่ ซา้ ยหัน เมอ่ื ไดย้ ินคาํ ส่ังวา่ “ซ้ายุหัน” ให้ลูกเสือปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 24 คู่มือสง่คเ่มู สอื รสิม่งแเสลระมิ พแฒัละนพาัฒกนจิ ากกรจิ รกมรรลมูกลเูกสเือสอืททกั กั ษษะะชชวี วี ิติตใในนสสถถาานนศศึกษกึ าษปาระลเกูภเทสลอื กู ตเสรอื ี สชา้นั มปญั รหะถลักมสศูตกึ รษลกูาเปสทีอื ต่ี 4รี 17 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4
1. ให้เปิดปลายเท้าซ้าย ยกสันเท้าขวา และหมุนตัวไปทางซ้าย 90 องศา ให้สันเท้าซ้าย และปลายเท้าขวาอยู่ตดิ กบั พืน้ ขณะท่หี มนุ ตัวใหน้ ํา้ หนกั ตัวอยู่ท่เี ทา้ ซา้ ยเมอ่ื หมุนแล้วให้ขาขวาเหยยี ด ตรง บดิ ส้นเท้าออกข้างนอกพอตงึ 2. ชกั เท้าขวามาชิดเทา้ ซา้ ยให้อยูใ่ นทา่ ตรงโดยเร็ว ทา่ กลบั หลังหนั เมื่อได้ยนิ คาํ สั่งว่า “กลับหลงั ุหัน” ให้ลกู เสอื ปฏบิ ัติ ดงั น้ี 1. ให้เปดิ ปลายเท้าขวา ยกสนั เทา้ ซ้าย และหมนุ ตัวไปทางขวา 180 องศา ให้สนั เทา้ ขวา และปลายเทา้ ซา้ ยอยู่ตดิ กับพ้ืน ขณะที่หมนุ ตัวให้น้ําหนักตัวอยู่ท่ีเทา้ ขวา เมอื่ หมนุ ตัวแลว้ ใหข้ าซ้าย เหยยี ดตรง บิดสนั เท้าซา้ ยออกข้างนอกให้ตงึ 2. ชักเทา้ ซา้ ยมาชดิ เทา้ ขวาใหอ้ ย่ใู นทา่ ตรงโดยเรว็ ท่าเดิน ทา่ หยุด คาํ บอก “ หนา้ – เดิน” และ “แถว – หยดุ ” เมอ่ื ได้ยินคาํ สั่งวา่ “ หนา้ – เดนิ ” ใหล้ กู เสือปฏิบัติ ดังน้ี โน้มนํ้าหนักตวั ไปขา้ งหนา้ พรอ้ มกบั ก้าวเทา้ ซ้ายออกเดนิ ขาเหยียดตงึ ปลายเท้างุม้ สน้ เทา้ สูง จากพื้นประมาณ 1 คืบ เม่ือจะวางเท้าและก้าวเท้าต่อไปให้โน้มน้ําหนักตัวไปข้างหน้า ตบเท้าเต็มฝูา เท้าอยา่ งแขง็ แรง ตัวและศรี ษะอย่ใู นท่าตรง เมอื่ แกว่งแขนไปข้างหน้าให้งอศอกเลก็ น้อย เม่ือแกวง่ แขน ไปข้างหลังให้เหยียดแขนตรงตามธรรมชาติ หันหลังมือออกนอกตวั แบมือน้วิ เรยี งชดิ ตดิ กันความยาวกา้ ว จากส้นเทา้ ถึงสน้ เทา้ 40 – 60 เซนตเิ มตร เมื่อไดย้ นิ คาํ สัง่ วา่ “แถว – หยุด” ใหป้ ฏบิ ตั เิ ปน็ 2 จงั หวะตดิ ตอ่ กนั คือ กา้ วตอ่ ไปอกี 1 กา้ ว และชกั เทา้ หลงั ไปชิดเทา้ หนา้ ในลกั ษณะทา่ ตรงอยา่ งแขง็ แรง ระเบยี บแถวบคุ คลทา่ ประกอบอาวธุ ทา่ ตรง ท่าพัก คาํ บอก “กอง )หม(ู่ – ตรง” การปฏบิ ตั ิ ทา่ ตรงและทา่ พกั ในเวลาถอื ไมพ้ ลอง เหมอื นกบั ท่ามอื เปล่า ไมพ้ ลองอยใู่ นทา่ เรยี บอาวุธ ไม้พลองในท่าเรียบอาวุธ คือลูกเสืออยู่ในท่าตรง ถือไม้พลองด้วยมือขวาโดยไม้พลองอยู่ ประมาณโคนน้วิ กอ้ ยเท้าขวาและชิดกับเท้าขวาไม้พลองอยู่ระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ น้ิวหัวแม่มือจับ ไม้พลองชิดขา นิว้ อ่ืนอีก 4 นิว้ ชดิ ตดิ กันจบั ไมพ้ ลองเฉียงลงไปเบ้ืองล่างปลายไม้พลองอยู่ในร่องไหล่ ขวา ลาํ ไมพ้ ลองตงั้ ตรงแนบตัว สําหรบั พักตามระเบยี บเหมือนกบั ท่ามอื เปล่า มอื ขวาที่ถือไมพ้ ลองใหเ้ ล่อื นขนึ้ มาเสมอเอว แล้ว ยื่นไม้พลองไปข้างหน้าเฉียงขวาประมาณ 45 องศา มือซ้ายไพล่หลังใต้เข็มขัดเล็กน้อยมือแบตาม ธรรมชาตแิ ละน้ิวเรยี งชดิ ตดิ กัน ทา่ วันทยาวธุ – เรยี บอาวธุ เป็นทา่ แสดงการเคารพ เม่ือถือไม้พลอง คาํ บอก “วนั ทยา – วธุ ” 18 คู่มคูม่ืออื สสง่ ่งเเสสรมิ แแลละะพพฒั ัฒนนากาจิกกิจรกรรมรลมูกเลสกู อื เทสักือษทะักชวีษิตะใชนีวสติ ถาในศสึกถษาานปศรกึ ะษเภาทลลูกกู เสเสอื อืสตามรญั ี ชห้นั ลปกั รสะูตถรมลูกศเึกสอืษตารปี ที ่ี 4 25 ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4
การปฏิบัติ ลกู เสือปฏิบัติเป็นจังหวะเดียว โดยยกแขนซ้ายข้ึนมาเสมอแนวไหล่ ศอกงอไปข้างหน้าให้ตั้ง ฉากกับลาํ ตัว ฝูามือแบคว่าํ รวบน้วิ หัวแม่มือกบั นิว้ กอ้ ยจดกันคงเหลือนิ้วช้ี น้วิ กลางและนิ้วนาง เหยียด ตรงชิดตดิ กนั ให้ขา้ งปลายน้วิ ชแ้ี ตะไมพ้ ลองในรอ่ งไหลข่ วา คาํ บอก “เรียบ – อาวุธ” การปฏบิ ตั ิ เม่อื เลิกทําความเคารพ ใหล้ กู เสอื ลดแขนซ้ายลงมาอยู่ที่เดิมโดยเรว็ ถา้ ผู้รับการเคารพเคลอ่ื นท่ีมาทางขวาซ้าย หรอื ตรงหนา้ ผู้ควบคมุ แถวจะบอกทิศทางเสียก่อน “ขวา )ซ้ายหรือตรงหน้า( ระวัง – วันทยา – วุธ” ใหล้ กู เสอื ทําวนั ทยาวุธ พรอ้ มกบั หันหน้าไปยงั ผ้รู ับการ เคารพตาอย่ทู ่ีผรู้ ับการเคารพ หนั หน้าตามจนผู้รับการเคารพผ่านหน้าตนไปแล้วประมาณ 2 กา้ ว จงึ หัน มาอยู่ในทา่ ตรง เมื่อผู้รบั การเคารพผา่ นพน้ แถวใหผ้ ้คู วบคมุ แถวบอกเลกิ ทาํ ความเคารพ การแสดงความเคารพ ใช้ในโอกาสตอ่ ไปน้ี 1. แสดงความเคารพต่อธงสําคัญๆเช่นธงชาติธงคณะลูกเสือแห่งชาติธงประจําจังหวัดฯลฯใน ขณะท่เี ชิญธงขึน้ หรอื ลงหรือมผี เู้ ชญิ ธงผา่ นไป 2. แสดงความเคารพ เม่ือมีการบรรเลงเพลงชาติ และเพลงสรรเสริญพระบารมีเพลงมหาฤกษ์ มหาชยั 3. ถวายความเคารพแด่องคพ์ ระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ ัว สมเด็จพระบรมราชินีนารถ และพระ บรมวงศานวุ งศ์ ผู้บงั คับบัญชาลกู เสอื และบุคคลท่ีควรเคารพ 4. แสดงความเคารพตอ่ ลกู เสือด้วยกนั ในขณะทพ่ี บกนั เป็นครั้งแรกในวนั หนึง่ ๆ ทา่ แบกอาวธุ – เรยี บอาวุธ คําบอก “แบก – อาวธุ ” การปฏบิ ัติ ลูกเสือปฏิบตั ิเป็น 2 จงั หวะ จงั หวะท่ี 1 ยกไมพ้ ลองด้วยมอื ขวาผ่านหน้าเฉียดลาํ ตัวไปข้างซา้ ยให้โคนไม้พลองอยู่ในอุ้งมือ ซา้ ยลาํ ไมพ้ ลองหรือไม้พลองต้งั อยตู่ รงรอ่ งไหล่ซา้ ยมือขวาจบั ไม้พลองอยทู่ ่ีเดิม ศอกงอไปข้างหนา้ แนว เดยี วกบั ไหล่ จังหวะที่ 2 ดันไม้พลองด้วยมือซ้ายพร้อมกับส่งไม้พลองด้วยมือขวาไห้ไม้พลองพาดข้ึนไปบน ไหลซ่ า้ ย แขนซ้ายทอ่ นบนชิดลําตวั ศอกซ้ายงอแขนทํามมุ 100 องศากบั ลาํ ตวั ขณะเดียวกันลดมือขวาลง ในท่าตรงโดยเรว็ ข้อควรระวัง ขณะลูกเสือทําท่าแบกอาวุธจังหวะ 2 ระวังอย่าให้ศีรษะเคลื่อนหลบไม้พลองทรง ศีรษะให้คงท่ีเหมือนอยู่ในท่าตรงเสมอ แขนซ้ายอยู่ในลักษณะที่ถูกต้องและน่ิง ปลายไม้พลองจึงจะได้ ระดบั ไม่เฉไปมา คาํ บอก “เรยี บ – อาวธุ ” การปฏบิ ตั ิ ลูกเสอื ปฏิบัติเป็น 3 จงั หวะ 26 ค่มู ือส่งคเู่มสือรสมิ ่งแเสลระมิ พแฒัละนพาัฒกนิจากกรจิ รกมรรลมูกลเกู สเือสอืททักักษษะะชชวี ีวิติตใในนสสถถาานนศศึกษกึ าษปาระลเกูภเทสลือูกตเสรือี สชา้ันมปญั รหะถลักมสศตู กึ รษลกูาเปสีทือต่ี 4รี 19 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4
จังหวะท่ี 1 ยกมือขวาขนึ้ จับไมพ้ ลอง ศอกงอไปข้างหนา้ ในแนวเดยี วกับไหล่ พร้อมกบั เหยยี ด แขนซา้ ย โดยลดไมพ้ ลองลงชิดกับลาํ ตัว จังหวะที่ 2 จบั ไม้พลองด้วยมอื ขวานาํ มาไวข้ ้างลําตัวในรอ่ งไหล่ขวา )แขนขวาเหยียดเกือบสุด ระยะท่มี อื จบั ไมพ้ ลองในทา่ เรยี บอาวธุ (ขณะเดยี วกันยกมือซา้ ยข้นึ กันไม้พลองท่ีร่องไหล่ขวาศอกงอไป ขา้ งหน้าในแนวเดยี วกบั ไหล่ จังหวะที่ 3ลดแขนซา้ ยอยู่ในทา่ เรยี บอาวธุ ตามเดิม )ในจงั หวะนเี้ หยียดแขนขวาลงสดุ ระยะที่ มอื ขวาจบั ไมพ้ ลองอยู่ในทา่ เรียบอาวธุ โดยไมพ้ ลองจดพน้ื ( ข้อสงั เกต ตอนเหยยี ดแขนขวาจากจังหวะ 2 ลงสดุ ระยะทม่ี อื ขวาจับไมพ้ ลองในท่าเรียบอาวธุ ใน จังหวะท่ี 3 จะรสู้ กึ วา่ ตน้ ไม้พลองจดพื้น 20 ค่มูค่มูอื ือสสง่ ง่ เเสสรมิ แแลละะพพัฒฒั นนากาจิกกิจรกรรมรลมูกเลสูกอื เทสกั อื ษทะกัชีวษติ ะใชนีวสิตถาในศสึกถษาานปศรึกะษเภาทลลกู กู เสเสือือสตามรัญี ชหัน้ ลปกั รสะตู ถรมลกูศเึกสอืษตารปี ที ี่ 4 27 ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 4
แผนการจดั กจิ กรรมลูกเสอื หลกั สตู รลกู เสือสามัญ (ลูกเสือตรี) ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 หนว่ ยที่ 2 ระเบียบแถว เวลา 1 ช่วั โมง แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 3 สญั ญาณมือและสัญญาณนกหวดี 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ลูกเสือปฏิบตั ติ ามสัญญาณมอื และสญั ญาณนกหวดี ได้ถกู ต้อง 2. เนอ้ื หา 2.1 ความหมายของสญั ญาณมือและการปฏิบัตติ ามคําสั่งสัญญาณมอื 2.2 ความหมายของสัญญาณนกหวดี และการปฏิบตั ติ ามสัญญาณนกหวีด 3. สอื่ การเรยี นรู้ 3.1 แผนภูมิเพลง 3.2 เกม 3.2 ใบความรู้ 3.3 นกหวีด 3.4 เร่อื งส้ันท่เี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปดิ ประชุมกอง )ชักธงข้ึน สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก( 4.2 ให้ลกู เสือรว่ มรอ้ งเพลง หรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1( ผู้กํากับลูกเสืออธิบายและสาธิตการใช้สัญญาณมือ และสัญญาณนกหวีด แล้วให้ ลูกเสือปฏิบัติตาม 2( ผ้กู าํ กบั ลกู เสอื ให้นายหมลู่ ูกเสือนําฝึกปฏิบัติ โดยการแสดงสัญญาณมือ และสัญญาณ นกหวดี แลว้ ใหส้ มาชกิ ในหมูต่ นเองปฏบิ ตั ิตาม 3( ผู้กาํ กบั และลูกเสอื รว่ มสรุปอภปิ รายถงึ การปฏบิ ัติ 4.4 ผู้กํากับเลา่ เรอ่ื งสั้นท่เี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชุมกอง )นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชักธงลง เลกิ ( 5. การประเมนิ ผล 5.1 สงั เกตการปฏิบตั ติ ามสัญญาณมอื และสญั ญาณนกหวีด 5.2 สงั เกตความพรอ้ มเพรียง ความเปน็ ระเบยี บ 28 คมู่ อื สง่คเ่มู สอื รสิมง่ แเสลระมิ พแัฒละนพาัฒกนิจากกรจิ รกมรรลมูกลเูกสเือสอืททกั ักษษะะชชีวีวติติ ใในนสสถถาานนศศึกษึกาษปาระลเกูภเทสลือกู ตเสรอื ี สชา้นั มปญั รหะถลกัมสศูตกึ รษลูกาเปสีทือต่ี 4รี 21 ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกิจกรรมท่ี 3 เพลง สญั ญาณนกหวดี เปูายาวหนึ่งครัง้ ฟงั ไดค้ วามวา่ “หยุด” เปาู ยาวเป็นชุด ให้รบี รดุ ทาํ ตอ่ ไป ส้นั ตดิ ต่อกนั เรว็ พลัน เขา้ แถวทันใด สั้นยาวนนั้ ไซร้ จาํ ใส่ใจเพราะเกดิ เหตกุ ารณ์ นายหมู่มานี่ ฟงั ซิ ส้นั สามยาวหนึง่ ลูกเสอื เราพงึ จดจําคํานึง นีค่ อื สัญญาณ เกม ไฟฟ้าช๊อต วิธีเล่น แบ่งลูกเสือออกเป็น 2 ทีม เท่าๆ กัน ลูกเสือท้ังสองทีมเข้าแถวตอนเรียงหน่ึง ห่างกัน เลก็ นอ้ ย เมื่อได้รบั สัญญาณเรมิ่ ใหค้ นหัวแถวหันตัว เอามือไปแตะหัวไหล่คนที่ 2 คนท่ี 2 ก็หันตวั เอามอื ไปแตะไหลค่ นที่ 3 ต่อไปเร่อื ยๆ จนถึงคนสดุ ท้าย ใหร้ ้องว่า “โอย๊ ” การตัดสนิ ทีมที่รอ้ ง “โอย๊ ” ก่อน เป็นผู้ชนะ 22 คู่มคมู่อื ือสส่งง่ เเสสริมแแลละะพพฒั ัฒนนากาิจกกิจรกรรมรลมูกเลสูกือเทสักอื ษทะกัชวีษติ ะใชนีวสติ ถาในศสกึ ถษาานปศรึกะษเภาทลลูกกู เสเสืออืสตามรัญี ชหั้นลปักรสะูตถรมลกูศเึกสือษตารปี ที ี่ 4 29 ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4
ใบความรู้ การใชส้ ัญญาณนกหวีด ใชใ้ นการออกคาํ สั่งแก่ลกู เสือในการฝกึ ประจาํ วนั หรือในโอกาสท่ีผู้บงั คบั บญั ชาลูกเสอื อยู่หา่ งไกลจากลกู เสือ สญั ญาณท่ีควรรูม้ ดี ังน้ี 1. หวีดยาว 1 คร้งั )( ความหมาย - ถา้ เคลอื่ นทอ่ี ยู่ใหห้ ยดุ - ถา้ หยดุ อยู่ให้ถอื ว่าเป็นสญั ญาณเตอื น, เตรยี มตวั หรอื คอยฟังคาํ สงั่ 2. หวดี ยาว 2 ครง้ั ) (,) ( ความหมาย - เดนิ ต่อไป, เคลือ่ นทต่ี อ่ ไป, ทํางานตอ่ ไป ผู้ปฏิบตั ิ - ปฏบิ ตั ิกิจกรรมท่กี าํ ลังปฏบิ ัติอยนู่ ัน้ ต่อไป หรอื ให้ปฏบิ ตั ิ กิจกรรมทส่ี ั่งนน้ั ตอ่ ไป 3. หวีดส้ัน 1 คร้งั หวีดยาว 1 คร้งั สลับกันไป หลายๆ ครง้ั ) (,) ( ความหมาย - เกดิ เหตุ ผู้ปฏบิ ัติ - ตรวจดูเหตกุ ารณ์กอ่ นว่ามอี ะไรเกดิ ขน้ึ ควรรวมกนั ทีผ่ ้กู ํากบั ลกู เสอื ผบู้ งั คบั บัญชา( ( ก่อน เพอื่ การสงั่ การตอ่ ไป แล้วแต่กรณี 4. หวดี ส้ัน 3 ครงั้ หวีดยาว 1 ครั้ง ติดต่อกันไปหลายๆ ชดุ ) (,) ( ความหมาย - เรยี กนายหมู่ลูกเสอื ใหม้ ารับคาํ สง่ั ผปู้ ฏบิ ัติ - นายหม่รู บี มาพบผ้ใู ห้สญั ญาณ ถ้านายหมู่ไมอ่ ยู่ หรอื ไปพบไมไ่ ด้ใหส้ ง่ ตัวแทนไป 5. หวีดส้ันติดต่อกนั หลายๆ คร้ัง ( ) (,) ความหมาย - รวม, ประชมุ หรือ รวมกอง ผู้ปฏบิ ตั ิ - ทกุ คนไปรวมกนั ที่ผ้ใู หส้ ัญญาณ หมายเหตุ เมอ่ื จะใช้สญั ญาณ 2 3 4 5 ให้ใช้สญั ญาณ 1 กอ่ นทกุ ครงั้ เพอื่ เป็นการเตือนใหร้ ู้วา่ จะใช้สัญญาณอะไร )เพม่ิ เตมิ ( 30 ค่มู ือส่งคเ่มู สือรสิม่งแเสลระมิ พแัฒละนพาฒั กนิจากกริจรกมรรลมูกลเูกสเือสอืททักกั ษษะะชชีววี ติติ ใในนสสถถาานนศศึกษึกาษปาระลเกูภเทสลอื ูกตเสรอื ี สชานั้ มปัญรหะถลกัมสศูตึกรษลกูาเปสีทอื ตี่ 4รี 23 ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 4
การใชส้ ัญญาณมอื ใชแ้ ทนคาํ บอกคําสัง่ ขณะท่ีผ้บู ังคับบญั ชาอยู่หา่ งไกลจากลกู เสอื หรอื ไม่สามารถทจ่ี ะใช้คาํ บอก ใหล้ ูกเสอื ไดย้ ินทว่ั ถงึ หรือในกรณีที่ตอ้ งการความสงบเงียบ ไดแ้ ก่ 1) เตรียม คอยฟังคําสั่ง หรอื หยุด การใหส้ ญั ญาณ เหยยี ดแขนขวาขนึ้ ตรงเหนอื ศีรษะ มอื แบ นิว้ ทง้ั ห้า เรียงชิดตดิ กนั หนั ฝาู มือไปข้างหนา้ เมอื่ เห็นสญั ญาณน้ี ให้ลูกเสอื หยดุ การ เคลื่อนไหวหรือการกระทําใด ๆ ทัง้ สิ้น พรอ้ มกบั น่งิ คอยฟงั คาํ สง่ั โดยหนั หนา้ ไปยงั ผูบ้ งั คบั บัญชาเพอื่ คอยฟังคําสง่ั แต่ถา้ อยู่ในแถวใหย้ นื ในทา่ ตรง 2) รวม หรอื กลบั มา การใหส้ ัญญาณ เหยยี ดแขนขวาขน้ึ ตรงเหนอื ศรี ษะ แบมอื ไปขา้ งหน้า นิว้ มือทง้ั ห้าชิดตดิ กันและหมนุ มอื เปน็ วงกลมจากซา้ ยไปขวา เมอื่ เหน็ สญั ญาณน้ี ให้ลูกเสอื รวมกองรีบมาเขา้ แถวรวมกัน 3) จัดแถวหนา้ กระดาน การใหส้ ัญญาณ เหยยี ดแขนท้งั สองออกไปดา้ นขา้ งเสมอแนว ไหล่ ฝาู มอื แบไปขา้ งหนา้ นิ้วเรยี งชิดตดิ กัน เมือ่ เห็นสญั ญาณน้ี ให้ลูกเสอื จดั แถวหนา้ กระดาน หันหน้าไปหา ผู้ให้สญั ญาณ 4) จัดแถวตอน การใหส้ ัญญาณ เหยยี ดแขนทัง้ สองขา้ งไปขา้ งหน้า แนวเดียวกบั ไหล่ โดยให้แขนขนานกนั และฝูามือแบเข้าหากนั เมอ่ื เหน็ สัญญาณนี้ ใหล้ ูกเสอื เข้าแถวตอน หนั หนา้ ไปหาผู้ใหส้ ญั ญาณ 5) เคลือ่ นท่ไี ปยงั ทศิ ทางทตี่ ้องการ )ดา้ นหนา้ ขวา/ซ้าย ก่ึงขวา/กึง่ ซา้ ย และดา้ นหลัง( การให้สญั ญาณ ผ้ใู ห้สญั ญาณหันหน้าไปยงั ทิศทางที่ต้องการ โดยชู แขนขวา ขึ้นเหนอื ศีรษะสุดแขน ฝาู มอื แบไปขา้ งหน้า นวิ้ ชดิ กัน แล้วลดแขน ลงขา้ งหน้าให้เสมอแนวไหล่ เมื่อเหน็ สัญญาณนี้ ใหล้ ูกเสือวง่ิ ไปยงั ทศิ ทางทม่ี อื ผใู้ ห้สญั ญาณชไ้ี ป 24 ค่มูคู่มืออื สสง่ ่งเเสสรมิ แแลละะพพัฒฒั นนากาจิกกิจรกรรมรลมูกเลสูกือเทสกั อื ษทะักชวีษิตะใชนวี สติ ถาในศสกึ ถษาานปศรกึ ะษเภาทลลูกกู เสเสอื ือสตามรัญี ชหั้นลปกั รสะตู ถรมลูกศเกึสอืษตารปี ที ี่ 4 31 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4
6) เร่งจงั หวะหรอื ทาํ ให้เรว็ ขนึ้ การใหส้ ัญญาณ ผ้ใู หส้ ญั ญาณงอแขนขวามือ กาํ เสมอบา่ ชขู ้นึ ตรงเหนอื ศีรษะแลว้ ลดลงหลายๆ คร้ังติดตอ่ กนั เมอื่ เหน็ สัญญาณน้ี ให้ลกู เสอื รีบว่ิงหรอื เร่งจงั หวะสงิ่ ท่ีทําอยใู่ ห้เรว็ ขน้ึ 7) นอนลงหรือเข้าทกี่ าํ บัง การใหส้ ญั ญาณ ผใู้ หส้ ญั ญาณเหยียดแขนขวาตรงไปข้างหน้าใหเ้ สมอแนวไหล่ ฝาู มือแบควํา่ ลงนวิ้ ชดิ กัน พร้อมกบั ลดแขนลงขา้ งหนา้ แลว้ ยกขน้ึ ทเ่ี ดมิ หลายๆ คร้ัง เม่อื ลกู เสือเห็นสญั ญาณนี้ใหร้ บี นอนหรอื เขา้ ทก่ี าํ บงั ทนั ที หมายเหตุ กอ่ นการใหส้ ญั ญาณแตล่ ะทา่ ให้ทาํ สัญญาณ ข้อ 1( กอ่ นทกุ ครัง้ ไป เพอ่ื เปน็ การเตอื นใหร้ ้วู า่ จะให้สัญญาณอะไร การใช้สัญญาณมือในการเรยี กแถวของลูกเสอื สากล การฝึกอบรมลูกเสือตามแบบสากลของลูกเสือทุกประเภท ผู้บังคับบัญชาท่ีจะเรียกแถวต้อง เลือกสถานท่ีโล่งและกว้างพอเหมาะกบั จํานวนของลูกเสอื ผูใ้ หส้ ัญญาณยนื ตรงแลว้ จึงให้สัญญาณเรียก แถว คําเรยี กแถวของลูกเสือสํารองใชค้ ําว่า “แพค” สว่ นลกู เสือสามญั สามญั รุน่ ใหญ่ และวิสามัญ ใช้คํา วา่ “กอง” 1) ทา่ พักตามระเบยี บ ขณะทล่ี ูกเสอื อยใู่ นแถว ผู้เรยี กแถวจะทําสญั ญาณมือเป็น 2 จงั หวะดังนี้ จังหวะที่ 1 กํามอื ขวา งอขอ้ ศอกให้มอื ทกี่ าํ อยปู่ ระมาณหวั เข็มขดั หนั ฝูามือทกี่ าํ เขา้ หาหวั เขม็ ขัด จังหวะที่ 2 สลดั มอื ท่กี าํ และหน้าแขนออกไปทางขวา เป็นมมุ 180 องศาประมาณแนวเดียวกับเขม็ ขดั เป็นสัญญาณใหล้ กู เสอื “พัก”ตามระเบยี บ 32 คูม่ ือสง่คเ่มู สอื รสิม่งแเสลระิมพแัฒละนพาัฒกนจิ ากกรจิ รกมรรลมูกลเกู สเือสอืททักกั ษษะะชชีววี ติติ ใในนสสถถาานนศศึกษึกาษปาระลเกูภเทสลอื ูกตเสรอื ี สชานั้ มปัญรหะถลักมสศตู ึกรษลูกาเปสทีือต่ี 4รี 25 ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 4
2) ทา่ ตรง ขณะลูกเสือกาํ ลงั พักตามระเบียบ ผเู้ รียกแถวจะทําสัญญาณมอื เป็น 2 จังหวะดังนี้ จงั หวะท่ี 1 กํามอื ขวา แขนเหยยี ดตรงไปทางขวา ใหม้ อื กาํ อยใู่ นระดับ เดยี วกับเขม็ ขัด )เหมอื นกบั การสลดั แขนสง่ั “พัก” ในจังหวะท่ี 2( จังหวะท่ี 2 กระตุกหน้าแขนเขา้ หาตวั ให้มอื ทกี่ ํากลับมาอย่ตู รงหัวเข็มขัด )เหมอื นจงั หวะท่ี 1 ของสญั ญาณสงั่ พกั ”( เมอื่ เหน็ สญั ญาณน้ี ให้ ลกู เสอื ชกั เทา้ ซ้ายมาชดิ เท้าขวา ลดแขนทีไ่ ขวห้ ลังมาอยใู่ นทา่ ตรง 3) แถวหนา้ กระดานแถวเดยี่ ว การใหส้ ญั ญาณ ผูเ้ รยี กแถวอยู่ในทา่ ตรงเหยยี ดแขนทัง้ สองไปดา้ นขา้ งเสมอแนวไหล่ มอื แบ หันฝูามอื ไปขา้ งหนา้ นว้ิ มอื เรียงชดิ ตดิ กนั ลูกเสือเข้าแถวหน้ากระดานแถวเด่ียว หันหน้าเข้าหาผู้เรียก โดยนายหมู่ยืนทางซ้ายมือของ ผู้เรียก กะให้ผู้เรียกอยู่ก่ึงกลางแถวและห่างจากแถวประมาณ 6 ก้าว ลูกหมู่ยืนต่อกันไปทางซ้ายมือ ของนายหมจู่ นถึงคนสดุ ทา้ ยคอื รองนายหมู่ การจดั ระยะเคียง ถ้าเป็น “ปดิ ระยะ” ระยะเคยี งจะเปน็ 1 ช่วงศอก คือ ให้ลูกเสือยกมือซ้ายข้ึน เท้าสะโพก นว้ิ เหยยี ดชดิ ตดิ กันอยปู่ ระมาณแนวตะเขบ็ กางเกง แขนขวาแนบกับลําตัวและจดปลายศอก ซา้ ยของคนที่อยูด่ ้านขวา จดั แถวให้ตรงโดยสะบัดหน้าแลขวา ใหเ้ หน็ หน้าอกคนท่ี 4 นับจากตัวลูกเสือ เองเมื่อผเู้ รียกตรวจแถวสง่ั ว่า “นิ่ง” ใหล้ ดมือลงพร้อมกบั สะบัดหน้ามาอยใู่ นท่าตรงและนง่ิ ถา้ “เปิดระยะ” ระยะเคียงจะเปน็ สุดช่วงแขนซ้ายของลูกเสือ โดยให้ทุกคน )ยกเว้นคนท้ายแถว( ยกแขนซา้ ยขนึ้ เสมอไหล่ เหยียดแขนตรงออกไปทางข้าง คว่ําฝูามือลง นิ้วชิดติดกัน ให้ปลายนิ้วซ้าย จดไหลข่ วาของคนต่อไป จัดแถวใหต้ รงโดยนายหมู่ยนื แลตรงเป็นหลัก ลูกหมู่สะบัดหน้าแลขวาให้เห็น หน้าอกคนท่ี 4 เม่ือได้ยนิ คําสงั่ ว่า “นิง่ ” จึงลดมือลง สะบดั หน้ากลับมาอยใู่ นท่าตรงและนงิ่ 26 คู่มคูม่อื อื สส่ง่งเเสสริมแแลละะพพฒั ฒั นนากาิจกกจิ รกรรมรลมกู เลสกู ือเทสักือษทะกัชีวษติ ะใชนีวสติ ถาในศสึกถษาานปศรกึ ะษเภาทลลูกกู เสเสอื ือสตามรญั ี ชหั้นลปกั รสะูตถรมลกูศเกึสือษตารปี ที ี่ 4 33 ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4
4) แถวตอนเรียงหน่ึง )กรณมี หี ลายหมจู่ ะเรียกวา่ “แถวตอนหมู่”( การใหส้ ญั ญาณ ผ้เู รียกแถวอย่ใู นทา่ ตรงเหยยี ดแขนท้ังสองไปข้างหนา้ เสมอแนวไหล่ มอื แบหัน ฝาู มือเข้าหากนั นว้ิ เรยี งชิดติดกนั ลูกเสือเข้าแถวตอนเรียงหนึ่งโดยนายหมู่ยืนตรงเป็นหลักข้างหน้าผู้เรียก กะให้ห่างจาก ผู้เรียกประมาณ 6 ก้าว ลูกหมู่เข้าแถวต่อหลังนายหมู่ต่อ ๆ กันไปจัดแถวให้ตรงคอคนหน้า ระยะต่อ ระหวา่ งบคุ คล 1 ชว่ งแขน และปดิ ทา้ ยดว้ ยรองนายหมู่ 5) แถวตอนหมู่ แถวตอนเรยี งหนง่ึ หลายหมูเ่ รียกว่า “แถวตอนหมู่” สมมติวา่ มี 5 หมู่ ให้หมทู่ ี่อยู่ตรงกลางคอื หมู่ ที่ 3 ยนื เปน็ หลกั ตรงหนา้ ผเู้ รียก หา่ งจากผูเ้ รยี กประมาณ 6 ก้าว หมทู่ ี่ 2 และหมทู่ ่ี 1 เข้าแถวอยูใ่ นแนว เดียวกันไปทางซ้ายมือของผู้เรียก ส่วนหมู่ท่ี 4 และหมู่ที่ 5 ก็เข้าแถวอยู่ในแนวเดียวกัน แต่ไปทาง ขวามือของผู้เรียก ระยะเคียงระหว่างหมูป่ ระมาณ 1 ชว่ งศอก ส่วนระยะต่อระหว่างบคุ คล 1 ชว่ งแขน 6) แถวหน้ากระดานหมู่ ปดิ ระยะ 34 คมู่ ือส่งคเูม่ สือรสมิ ่งแเสลระมิ พแฒัละนพาัฒกนิจากกริจรกมรรลมูกลเกู สเอืสอืททักักษษะะชชวี ีวติิตใในนสสถถาานนศศกึ ษึกาษปาระลเกูภเทสลือกู ตเสรอื ี สชาั้นมปญั รหะถลกัมสศตู กึ รษลูกาเปสีทือต่ี 4รี 27 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4
การใหส้ ัญญาณ ผเู้ รียกแถวยนื ในท่าตรง กาํ มอื ท้งั 2 ขา้ ง เหยยี ดแขนตรงไปข้างหนา้ ขนานกับ พนื้ งอข้อศอกขึน้ เป็นมุมฉาก หนั หนา้ มือเขา้ หากัน ลูกเสอื หมู่แรกเข้าแถวตรงหน้าผู้เรยี ก อย่หู า่ งจากผ้เู รยี กประมาณ 6 ก้าว นายหมู่อยู่ทางซ้ายมือ ของผเู้ รยี ก กะใหก้ ่ึงกลางของหมู่อยู่ตรงหน้าผู้เรียก ลูกหมู่ยนื ตอ่ ๆ ไปทางซา้ ยของนายหมู่ เวน้ ระยะเคียง 1 ชว่ งศอก หมอู่ นื่ ๆ เข้าแถวหน้ากระดานขา้ งหลงั หมู่แรก ซ้อนกันไปตามลําดับ เว้นระยะต่อระหว่างหมู่ ประมาณ 1 ช่วงแขน การจดั แถว เม่ือผสู้ ัง่ ว่า “จัดแถว” ให้ทุกคน )ยกเว้นคนสุดท้าย( ยกมือซ้ายขึ้นเท้าสะโพก น้ิว เหยยี ดชิดกัน นิ้วกลางอยู่ในแนวตะเข็บกางเกง แขนขวาแนบลําตัว จัดแถวให้ตรงโดยนายหมู่ยืนแล ตรงเป็นหลัก ลกู หมูส่ ะบัดหน้าแลขวาใหเ้ ห็นหน้าอกคนที่ 4 การตรวจแถว ผเู้ รยี กแถวตรวจการจดั แถวแล้ว จงึ สั่ง “นิ่ง” ลกู เสือทุกคนลดแขนลงพรอ้ มสะบดั หน้ากลบั มาอยูใ่ นทา่ ตรงและน่ิง 7) แถวหน้ากระดานหมู่ เปดิ ระยะ ผู้เรยี กยนื ในทา่ ตรง กํามือทงั้ 2 ขา้ ง งอข้อศอกเปน็ มมุ ฉาก แขนท่อนบนแบะออกจนเป็นแนวเดียวกับ ไหล่ หันหนา้ มอื ไปขา้ งหนา้ ให้ลกู เสอื เข้าแถวเชน่ เดยี วกับแถวหนา้ กระดานหมปู่ ดิ ระยะ แต่เว้นระยะต่อ ระหวา่ งหมขู่ ยายออกไปทางด้านหลงั ห่างกันหมู่ละประมาณ 3 ช่วงแขน หรือ 3 กา้ ว การจดั แถว และตรวจแถว ให้ปฏิบตั ิเช่นเดยี วกบั แถวหนา้ กระดานหมปู่ ดิ ระยะ 28 คู่มค่มูอื ือสสง่ ่งเเสสริมแแลละะพพฒั ฒั นนากาจิกกจิ รกรรมรลมกู เลสกู ือเทสกั อื ษทะกัชีวษติ ะใชนีวสิตถาในศสกึ ถษาานปศรึกะษเภาทลลกู กู เสเสือือสตามรัญี ชหัน้ ลปกั รสะตู ถรมลกูศเึกสอืษตารปี ที ่ี 4 35 ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 4
8) แถวรูปครง่ึ วงกลม การให้สัญญาณ ผู้เรียกแถวยืนในท่าตรง แบมือท้ัง 2 ข้าง แขนเหยียดตรงด้านหน้าและลง ขา้ งลา่ ง ควา่ํ ฝูามอื เขาหาตวั ข้อมอื ขวาไขว้ทับข้อมือซ้าย แล้วโบกผ่านลําตัวช้า ๆ เป็นรูปคร่ึงวงกลม 3 ครงั้ นายหมู่ลกู เสือหมู่แรกยนื อยู่ในแนวเดียวกบั ผ้เู รียกทางด้านซ้าย ห่างจากผู้เรียกพอสมควรลูก หม่ยู นื ต่อ ๆ กนั ไปทางซา้ ยมอื ของนายหมู่ เวน้ ระยะเคียง 1 ชว่ งศอก )มอื เท้าสะโพก( สะบัดหน้าไปทางขวา รอคําสงั่ “น่ิง” หมทู่ ี่ 2 และหมู่อื่น ๆ เข้าแถวต่อจากด้านซ้ายของหมู่แรก ตามลําดับ เว้นระยะระหว่างหมู่ 1 ช่วงศอก รองนายหมู่สดุ ทา้ ย จะยนื ตรงด้านขวาของผ้เู รียก ในแนวเดียวกันกบั นายหมู่ หม่แู รก การจัดแถว ยกมอื ซา้ ยขนึ้ ทาบสะโพก สะบดั หนา้ ไปทางขวา )ยกเว้นนายหมู่ หมู่แรก( จดั แถว ใหเ้ ป็นรปู ครงึ่ วงกลม การตรวจแถว ผู้เรียกแถวตรวจการจัดแถวแล้ว จึงส่ัง “น่ิง” ลูกเสือทุกคนลดแขนลงพร้อมกับ สะบดั หนา้ กลบั มาอย่ใู นท่าตรง 9) แถวรปู วงกลม มี 2 แบบ 36 ค่มู อื ส่งคเู่มสือรสมิ ่งแเสลระิมพแฒัละนพาฒั กนจิ ากกริจรกมรรลมกู ลเูกสเอืสือททักกั ษษะะชชีวีวิตติ ใในนสสถถาานนศศึกษึกาษปาระลเกูภเทสลอื ูกตเสรือี สชาน้ั มปัญรหะถลกัมสศตู กึ รษลูกาเปสีทือต่ี 4รี 29 ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 4
การเรียกแถวแบบผูเ้ รียกยนื อย่ทู ่ีจดุ ศนู ย์กลาง การให้สัญญาณ ผเู้ รยี กแถวยนื ในทา่ ตรง แบมือท้ัง 2 ข้าง แขนเหยียดตรงลงข้างล่าง คว่ําฝูามือ เขา้ หาตัว ข้อมอื ขวาไขวท้ ับขอ้ มือซ้าย แล้วโบกผ่านลาํ ตวั ประสานกันจากดา้ นหน้าจดดา้ นหลัง )โบกผ่าน ลําตวั 3 คร้งั ( ลกู เสอื หม่แู รกยนื ดา้ นซา้ ยมอื ของผู้เรยี ก เขา้ แถวเชน่ เดียวกับแถวคร่ึงวงกลม ส่วนหมู่ 2 และ หมู่ตอ่ ๆ ไปอย่ทู างดา้ นซ้ายของหมู่ทอ่ี ยูก่ อ่ นตามลาํ ดบั จนคนสุดทา้ ย)รองนายหม่(ู ของหมสู่ ดุ ทา้ ยไป จดกับนายหมู่ของหมแู่ รก ถือผูเ้ รียกเปน็ ศูนย์กลาง การจัดแถว ลกู เสอื ยกมือซา้ ยข้นึ เท้าสะโพก สะบัดหน้าไปทางขวา )ยกเว้นนายหมู่ หมูแ่ รก(จัด แถวใหเ้ ปน็ รปู วงกลม การตรวจแถว ผู้เรียกแถวตรวจการจัดแถวแล้ว จึงสั่ง “นิ่ง” ลูกเสือทุกคนลดแขนลงพร้อมกับ สะบดั หน้ากลับมาอยู่ในทา่ ตรง และนิง่ การเรียกแถวแบบผ้เู รยี กอยูท่ ีเ่ สน้ รอบวง การใหส้ ญั ญาณ ผเู้ รยี กแถวยนื ในท่าตรง กํามอื ขวา เหยียดแขนขวาตรงไปข้างหน้า ยกข้ึนบน และเลยไปขา้ งหลงั หมนุ กลบั มาดา้ นหน้า ทาํ 3 ครัง้ ลูกเสอื หมแู่ รกยืนชิดดา้ นซา้ ยมือของผู้เรยี ก หมทู่ ี่ 2และหมู่ต่อ ๆ ไปอย่ทู างซา้ ยมอื ของหมทู่ อ่ี ยู่ ก่อนตามลาํ ดบั จนรองนายหมู่ของหม่สู ุดทา้ ยไปจดขวามอื ของผู้เรียกให้ผเู้ รียกอยใู่ นเส้นรอบวง การจดั แถวและการตรวจแถว กระทําเช่นเดยี วกับแบบแรก 30 ค่มูคู่มือือสสง่ ่งเเสสริมแแลละะพพฒั ฒั นนากาจิกกิจรกรรมรลมกู เลสกู ือเทสกั อื ษทะักชวีษติ ะใชนีวสิตถาในศสึกถษาานปศรกึ ะษเภาทลลกู กู เสเสืออืสตามรญั ี ชห้นั ลปกั รสะตู ถรมลกูศเึกสือษตารปี ีที่ 4 37 ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4
เรอ่ื งส้นั ท่เี ปน็ ประโยชน์ ขมุ ทรพั ย์ในไร่องุ่น ทไี่ รอ่ งนุ่ แหง่ หนึง่ มีพอ่ ผสู้ ูงอายุกบั ลกู ชายจอมข้ีเกียจ 3 คนอาศัยอยู่ ต่อมาพ่อล้มปูวยลงและ ก่อนที่จะสน้ิ ลมหายใจ ได้เรียกลูกชายทั้ง 3 มาส่ังเสียว่าอย่าขายท่ีดิน เพราะพ่อได้ซ่อนขุมทรัพย์อัน มหาศาลเอาไว้ให้ จงขดุ ดนิ พรวนดิน ขดุ หาใหท้ ั่วทกุ ตารางน้ิวของไร่ หลังจัดงานศพพ่อเรียบร้อย ลูกชายท้ัง 3 ก็ลงมือต้ังหน้าตั้งตาขุดดิน ไถคราด พร วนดินจน ทั่วไร่ แต่พวกเขาไม่พบขุมทรัพย์อย่างท่ีพ่อบอกไว้ แม้แต่เศษเงินก็ยังไม่มี หนง่ึ ปีผ่านไปไร่องุ่นท่ีพวกเค้าต้ังหน้าตั้งตาขุดพรวนดินเพ่ือหาขุมทรัพย์ กลับเกิดผลอย่างที่ ไม่ได้คาดคิด อง่นุ ในไรไ่ ด้ออกดอกออกผลมากมายเตม็ ไปหมด เมือ่ เปน็ เช่นน้ันลูกชายทัง้ 3 จึงชว่ ยกัน นาํ ผลองุ่นออกขายไดเ้ งนิ จํานวนมาก พวกเขาเพงิ่ จะได้รู้ตอนนี้เองวา่ ขมุ ทรัพย์ที่พ่อพูดถึงนั้นหมายถึง อะไร เขาควรจะทํางานหนกั ขยันขนั แขง็ ในทีด่ นิ ของพอ่ เพ่ือสร้างผลผลิตในไร่นัน่ เอง เรื่องนีส้ อนใหร้ ูว้ ่า ความขยนั และสูง้ านหนกั เป็นบอ่ เกิดของขมุ ทรัพย์ ประเด็นการวเิ คราะห์คณุ ธรรมที่ได้ 1. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต 2. ความรับผดิ ชอบ 3. อดุ มการณ์ คุณธรรม 38 คู่มอื สง่คเมู่ สอื รสมิ ง่ แเสลระิมพแฒัละนพาัฒกนจิ ากกริจรกมรรลมกู ลเกู สเือสือททกั กั ษษะะชชวี ีวิติตใในนสสถถาานนศศึกษกึ าษปาระลเกูภเทสลือูกตเสรอื ี สชานั้ มปัญรหะถลกัมสศตู ึกรษลูกาเปสีทือต่ี 4รี 31 ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4
แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือ หลักสตู รลกู เสือสามัญ (ลูกเสอื ตร)ี ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4 หน่วยท่ี 3 ความรเู้ กี่ยวกับขบวนการลกู เสอื เวลา 1 ชัว่ โมง แผนการจดั กจิ กรรมที่ 4 ประวตั ิ ลอรด์ เบเดน เพาเวลล์ (บี.-พ.ี ) 1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ลกู เสอื สามารถเล่าประวัตขิ อง ลอรด์ เบเดน เพาเวลล์ )บ.ี -พี.( และการกาํ เนิดลกู เสือโลกพอ พสังอเสขงั ปเขไดป้ได้ 2. เนอ้ื หา 2.1 ประวตั ิของ ลอรด์ เบเดน เพาเวลล์ )บ.ี -พี.( 2.2 การกาํ เนดิ ลกู เสอื โลก 3. ส่ือการเรยี นรู้ 3.1 แผนภูมเิ พลง 3.2 เกม 3.2 รูปภาพ ลอร์ด เบเดน เพาเวลล์ )บ.ี -พี.( 3.3 ใบความรู้ 3.4 เรอื่ งสน้ั ทีเ่ ปน็ ประโยชน์ 4. กจิ กรรม 4.1 พธิ ีเปิดประชมุ กอง )ชักธงข้นึ สวดมนต์ สงบนงิ่ ตรวจ แยก( 4.2 เพลง หรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1( ผู้กํากบั ลูกเสอื ให้ลกู เสอื ดูภาพ ลอรด์ เบเดน เพาเวลล์ )บ.ี -พี.( แล้วสนทนาซกั ถาม เกย่ี วกบั บุคคลในภาพ 2( แจกใบความรเู้ รอ่ื ง ประวตั ขิ อง ลอร์ด เบเดน เพาเวลล์ )บ.ี -พี.( และให้หมูล่ กู เสือเล่น เกมตามลา่ หาคาํ ตอบ โดยกาํ หนดเวลาใหห้ าคาํ ตอบใหไ้ ดภ้ ายใน 10 นาที ถา้ คาํ ตอบ ถูกตอ้ งจะได้แตม้ ขอ้ ละ 5 คะแนน ดงั นี้ 1. บุคคลในภาพช่ืออะไร 2. มีอาชีพอะไร 3. เปน็ คนเมอื งไหน 4. วัยเดก็ เขาชอบใชช้ ีวติ อย่างไร 5. ลกั ษณะนิสยั ของเขาเป็นอยา่ งไร 6. ชวี ิตวัยทํางานของเขาเปน็ อย่างไร 32 ค่มูค่มูืออื สสง่ ่งเเสสรมิ แแลละะพพฒั ฒั นนากาจิกกจิ รกรรมรลมูกเลสกู อื เทสกั ือษทะกัชีวษิตะใชนวี สิตถาในศสกึ ถษาานปศรึกะษเภาทลลูกกู เสเสอื ือสตามรญั ี ชหน้ั ลปกั รสะูตถรมลกูศเกึสือษตารปี ีท่ี 4 39 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 4
7. ซลู ู คือใคร 8. ประสบการณข์ องเขาท่ลี กู เสอื นํามาเป็นวชิ าเรียน มอี ะไรบา้ ง 9. เขาเกีย่ วขอ้ งกบั กิจกรรมลูกเสอื อยา่ งไรบ้าง 10. เขาเสียชีวติ ท่ปี ระเทศใด 3( รวมกอง ผกู้ าํ กับลูกเสอื อา่ นคําถามทีละขอ้ หมูล่ กู เสอื แข่งขนั กนั ตอบคาํ ถาม หมทู่ ต่ี อบ คําถามได้ถกู ตอ้ งจะไดค้ ะแนนขอ้ ละ 5 คะแนน 4( ผู้กํากับลูกเสอื เฉลยคาํ ตอบ พร้อมกบั อธิบายรายละเอยี ดประวตั ิของบ.ี พี.เพมิ่ เตมิ และเล่าถึงการกาํ เนิดลูกเสอื โลก 4.4 ผกู้ ํากบั ลูกเสอื เลา่ เรอ่ื งสนั้ ท่เี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ดิ ประชมุ กอง )นดั หมาย ตรวจเครื่องแบบ ชกั ธงลง เลิก( 5. การประเมนิ ผล 5.1 ตรวจสอบความร้เู รอื่ งประวัตลิ อรด์ เบเดน เพาเวลล์ )บี.-พ.ี ( จากเกมตามลา่ หาคําตอบ 5.2 สอบถามความเขา้ ใจการกาํ เนิดลูกเสอื โลก ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมที่ 4 (ผู้กํากับลูกเสอื สามารถเลอื กใช้เพลงหรือเกมก็ไดต้ ามความเหมาะสม) เพลง วชริ าวุธรําลกึ วชริ าวธุ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ ประชา กอ่ กาํ เนดิ ลกู เสอื มา ข้าเลอื่ มใส พวกเราลูกเสอื เชอ้ื ชาตไิ ทย เทิดเกยี รตพิ ระองคไ์ ว้ ดว้ ยภกั ดี ลูกเสือราํ ลกึ นกึ พระคณุ เทดิ บชู า ปฏญิ าณรักกษตั รยิ ์ ชาติ ศาสน์ศรี มาเถิดลูกเสือ สรา้ งความดี เพื่อศกั ดิศ์ รลี ูกเสอื ไทย ดงั่ ใจปอง เกม เกมการแข่งเรอื บก 1. ให้ลกู เสอื เขา้ แถวตอนเปน็ หมู่ ๆ แตล่ ะหมเู่ ข้าแถวหา่ งกนั 1 ช่วงแขน 2. ให้ลูกเสอื แตล่ ะหมู่หรือแถวนัง่ เอามอื จับเอวคนขา้ งหนา้ 3. ใหแ้ ต่ละแถวเคลอื่ นท่ไี ปถงึ เสน้ ท่ีกําหนดด้วยการกระโดดพรอ้ ม ๆ กันโดยไมใ่ หม้ อื หลุดจาก เอว หรือขาด แถวใดถึงเสน้ ทกี่ าํ หนดกอ่ นเปน็ ผ้ชู นะ อปุ กรณ์ ปนู ขาวโรยเสน้ หรอื ใชไ้ มพ้ ลองวางในเสน้ ทก่ี าํ หนด 40 คูม่ ือสง่คเูม่ สือรสิม่งแเสลระิมพแัฒละนพาัฒกนิจากกริจรกมรรลมกู ลเูกสเือสือททักักษษะะชชีวีวิตติ ใในนสสถถาานนศศึกษกึ าษปาระลเกูภเทสลือกู ตเสรือี สชาั้นมปญั รหะถลักมสศตู ึกรษลกูาเปสทีอื ตี่ 4รี 33 ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4
เรือ่ งส้ันทีเ่ ปน็ ประโยชน์ ที่มาของ คาํ วา่ SCOUT คําว่าลูกเสอื ในภาษาอังกฤษใช้คาํ ว่า SCOUT ซึ่งมีที่มาจากอักษรตัวแรกของคาํ ใน ภาษาอังกฤษ 5 คาํ คอื S เป็นอกั ษรตัวแรกของคาํ ว่า SINCERITY แปลวา่ ความจริงใจ C เป็นอักษรตัวแรกของคาํ วา่ COURTESY แปลวา่ ความสภุ าพอ่อนโยน O เป็นอกั ษรตัวแรกของคาํ ว่า OBEDIENCE แปลวา่ การเชอื่ ฟงั U เป็นอกั ษรตวั แรกของคําว่า UNITY แปลวา่ ความสามคั คี T เป็นอกั ษรตวั แรกของคาํ ว่า THRIFTY แปลวา่ ความมธั ยสั ถ์ ดังน้ันลูกเสือทกุ คน จึงควรประกอบด้วยคณุ สมบัติทส่ี าํ คัญเหลา่ นีด้ ้วย ประเดน็ การวเิ คราะหค์ ณุ ธรรมที่ได้ 1. ความพอเพยี ง 2. ความกตัญํู 3. ซ่ือสตั ย์ สุจรติ 4. ความรบั ผิดชอบ 5. อดุ มการณ์ คุณธรรม 34 คมู่ค่มูอื ือสส่ง่งเเสสรมิ แแลละะพพฒั ฒั นนากาิจกกิจรกรรมรลมกู เลสูกอื เทสกั ือษทะกัชีวษติ ะใชนีวสิตถาในศสกึ ถษาานปศรึกะษเภาทลลกู กู เสเสือือสตามรญั ี ชห้นั ลปักรสะตู ถรมลกูศเกึสอืษตารปี ีที่ 4 41 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4
ใบความรู้ ประวัตขิ อง ลอรด์ เบเดน เพาเวลล์ ( บี.-พี. ) ลอร์ด เบเดน เพาเวลล์ เป็นผู้ให้กําเนิดลูกเสือโลก มีชื่อเต็มว่า โรเบิร์ต สติเฟสัน สไมธ์ เบเดน เพาเวลล์ เรียกย่อๆ ว่า บี.-พี.เกิดวันท่ี 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2400 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มี บิดาเป็นศาสตราจารยส์ อนวิชาเรขาคณิตและธรรมชาติศึกษา ณ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด มารดาของ เขาเป็นธิดาของพลเรอื เอก ดับบวิ .ท.ี สไมธ์ แห่งราชนาวีอังกฤษ บี.พี.ได้สมรสกับนางสาวโมลาฟ เซ็นต์ แคลร์ เม่ืออายุได้ 55 ปี ชีวิตในวยั เดก็ บี.-พี.เข้าศึกษาในระดับประถมศึกษาและมธั ยมศึกษาในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต่อมา โรงเรียนมัธยมช่อื ชาเตอรเ์ ฮาส์ ที่เขาศึกษาอยไู่ ด้ย้ายไปอยใู่ นชนบท ณ เมืองโกคาลมิง ในแคว้นเซอร์ เรย์ ซ่ึงอยู่ใกล้กบั ปูาใหญม่ ีธรรมชาตสิ วยงาม มีลําธารน้ําไหลผ่าน เขาจึงมักใช้เวลาว่างหลบเข้าไปใช้ ชีวิตศึกษาธรรมชาติ ชีวิตสัตว์และต้นไม้ เขาชอบวาดภาพ ร้องเพลง แสดงละคร นอกจากนี้บี.พี.ยัง ได้รับความรู้พิเศษจากพลเรือเอก สไมธ์ ผู้เป็นตา เกีย่ วกับการว่ายน้าํ เลน่ สเกต ขี่มา้ การวดั แดดและ ดูดาวตลอดจนความรูเ้ ชงิ พราน ในช่วงปิดภาคเขาจงึ มกั จะทอ่ งเท่ียวพักแรมไปกบั พ่ีชายอีก 3 คน เมือ่ จบช้นั มัธยมศึกษา บี.พี.สอบเข้าเรียนที่โรงเรียนนายร้อยแซนด์เฮิสต์ หลังจบการศึกษาเขา ได้รับการแต่งต้ังเป็นนายร้อยตรีแห่งกองทัพบกของอังกฤษ และถูกส่งไปประจําการท่ีประเทศอินเดีย เมอ่ื อายุ 19 ปี ชวี ิตในการรับราชการทหาร บี.-พี. รับราชการทหารในประเทศอนิ เดีย ประจาํ กองทหารม้าอุสซาร์ท่ี 13 เป็นเวลา 8 ปี โดย ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง ขณะที่มียศเป็นร้อยตรีเขาได้รับเงินเดือนน้อยมาก จึงดําเนินชีวิต อย่างประหยัด คือไม่สูบบุหร่ี ดื่มสุราแต่นอ้ ย และยังหารายได้พิเศษโดยการเขียนเรื่องและเขียนภาพ ลงหนังสือพิมพ์ ชีวิตราชการทหารของเขาส่วนใหญ่อยู่ในประเทศอินเดียและอาฟริกาได้รับยศร้อย เอกตั้งแต่อายุ 26 ปี ในระหว่างนี้มีเหตุการณ์ที่แสดงถึงลักษณะพิเศษของเขาหลายอย่าง เช่นได้รับ รางวัลชนะเลิศในการแข่งขันกีฬาแทงหมูปูา ขณะอยู่บนหลังม้าโดยใช้หอกส้ันเม่ือ พ.ศ. 2426 และมี เรื่องราวประทับใจท่ีเกี่ยวข้องกับกิจการลูกเสือหลายครั้งดังนี้ ครั้งท่ี 1 พ.ศ. 2431 ไปปราบชนเผ่าซูลูซ่ึงมีหัวหน้าเผ่าช่ือ ดินีส ซูลู ในอาฟริกาใต้ได้สําเร็จ เขานาํ ประสบการณบ์ างอย่างในครง้ั นมี้ าใช้ในกิจการลูกเสอื ดว้ ย ได้แก่บทเพลงอนิ กอน ยามา )หัวหน้า( อนิ กอน -ยา-มา กอน-ยา-มา )ลกู คู่( อิน-วู-ยู ยาโบห์ ยาโบห์ อนิ -วู-ยู สร้อยคอของดินิส ซูลู ทําด้วยไม้ แกะเป็นท่อนเล็กๆ ซึ่งต่อมา บี.พี.ได้นํามาเป็นบีด เครอื่ งหมาย วูดแบดจ์ สาํ หรับผู้ท่ีผา่ นการอบรมผูบ้ ังคับบญั ชาลกู เสอื ขน้ั ความรู้ชัน้ สูง ครั้งท่ี 2 พ.ศ. 2432 ที่เกาะมอลต้า บี.พี.ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยทูตทหาร ทําหน้าท่ีเป็นทหาร สบื ราชการลับ 42 ค่มู อื ส่งคเู่มสือรสมิ ่งแเสลระิมพแัฒละนพาัฒกนิจากกรจิ รกมรรลมกู ลเูกสเอืสือททกั กั ษษะะชชีวีวติติ ใในนสสถถาานนศศึกษกึ าษปาระลเกูภเทสลอื ูกตเสรือี สชาัน้ มปญั รหะถลกัมสศตู ึกรษลกูาเปสทีือตี่ 4รี 35 ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 4
คร้ังที่ 3 พ.ศ. 2438 ทําการรบกับเผา่ อาซันติ ซ่ึงมีกษัตริย์ช่ือว่า คิงเปรมเปห์ และได้รับชัย ชนะ เหตุการณ์ครงั้ นี้ บี.พี.ไดป้ ระสบการณ์ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. การบกุ เบกิ เชน่ การโค่นตน้ ไม้ การทาํ สะพาน การสรา้ งค่ายพกั 2. ทดลองการแตง่ กายของตนเอง ใชห้ มวกปกี แบบโคบาล จนไดร้ ับฉายาจากพวกพน้ื เมอื งวา่ คมั ตะไค แปลว่าคนสวมหมวกปีกกวา้ ง 3. ประเพณีการจับมอื ซา้ ย จากการแสดงความเปน็ มติ รของคนพืน้ เมือง คร้ังที่ 4 พ.ศ. 2439 พวกมาตาบิลี ซึ่งเป็นเผ่าหน่ึงของซูลู เดิมอยู่ในทรานสวาล และถูกพวก บวั ร์ขับไล่ จงึ อพยพไปอยใู่ นมาตบิ ลิ ี )ปัจจุบนั เรยี กโรดเิ ซยี ( พวกมาตาบิลีก่อการกบฏรัฐบาลอังกฤษจึง สั่งทหารไปปราบ บี.พี.ได้ปฏิบัติหน้าท่ีด้วยความเข้มแข็ง คร้ังน้ีเขาได้รับประสบการณ์เร่ืองการสอดแนม โดยเฉพาะการปฏบิ ัตงิ านตอนกลางคนื เลยไดร้ บั ฉายาวา่ \"อิมปซี ่า\" แปลวา่ หมาปูาผไู้ ม่เคยนอนหลบั ครง้ั ท่ี 5 พ.ศ. 2442 หลังจากที่ บี.พ.ี กลับจากการปฏิบัติงานที่ อินเดีย 2 ปี ก็ได้รับคําสั่งด่วนให้ เดนิ ทางไปอาฟริกาเพ่ือหาทางปฺองกันการรุกรานท่ีเมืองมาฟีคิง จากพวกบัวร์ )ชาวดัทซ์ที่อพยพไปอยู่ ในแอฟริกาใต(้ ในทรานสวาลและออเร้นจท์ รสี เตท ซงึ่ จะตั้งตนเป็นเอกราช บี.พี.ได้นํากองทหารไปรักษา เมืองมาฟีคิง ซ่ึงถูกล้อมโดยกองทหารบัวร์เป็นเวลานานถึง 217 วัน จนกระท่ังกองทัพใหญ่ไปถึงทําให้ พวกบวั ร์ต้องล่าถอยไป ในการปอฺ งกันเมืองมาฟีคิง บี.-พี.ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง อดทนร่าเริงไม่ย่อท้อใช้ สติปัญญาหาวิธีแก้ปัญหา ทํากลอุบายลวงข้าศึกให้เข้าใจผิด คิดว่ามีกําลังทหารมากมายและมีการ ปฺองกันรักษาเมืองอย่างเข้มแข็ง ตลอดจนใช้เด็กอาสาสมัครที่ได้รับการอบรมทําหน้าที่ส่งข่าว ปรากฏว่าทํางานได้ผลดี ทาํ ให้ บี.พี. มีความประทับใจในตัวเด็กและเห็นว่า ถ้าฝึกอบรมเด็กให้ถูก ทางแล้วจะเกดิ ประโยชนแ์ ก่ประเทศชาติอย่างมาก จึงไดร้ ิเริ่มการลูกเสอื ในเวลาต่อมา จากเหตุการณ์ ที่เมืองมาฟีคิง ทาํ ให้ บี.พี.ได้รับฉายาว่า \"ผู้ปฺองกันมาฟีคิง\" การกาํ เนิดลกู เสอื บ.ี -พ.ี เดนิ ทางกลับอังกฤษในฐานะวีรบรุ ษุ และได้นําประสบการณ์จากเมืองมาฟีคิงมาใช้เขาจัดให้ เด็กๆ เข้ามาช่วยเหลือในการรักษาเมือง โดยทําหน้าที่เป็นผู้ส่ือข่าวและสอดแนมของกองทัพ รักษา ความสงบภายใน ปฏิบัติงานต่างๆ ที่อยู่ในความสามารถ เช่น อยู่ยามบนหอคอย ให้สัญญาณแก่ ประชาชนเม่ือพวกบัวร์โจมตี เด็ก ๆ เหล่านี้สามารถทําหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเข้มแข็ง ว่องไว ไดผ้ ลดีไมแ่ พผ้ ูใ้ หญ่ ดังน้ัน บี.พี. จึงคิดตั้งขบวนการลูกเสือขึ้น โดยนําความคิดและประสบการณ์ต่างๆ มาพัฒนาอยา่ งรอบคอบ จัดตั้งขบวนการลูกเสือข้ึนในปี พ.ศ. 2450 โดยบี.พี.ได้รวบรวมเด็กชาย 20 คน ไปอย่ทู เี่ กาะบราวนซ์ ี ในช่องแคบอังกฤษ นบั เปน็ การพกั แรมของลกู เสือคร้งั แรกของโลก ปีต่อมากองลูกเสือได้เร่ิมกอ่ ต้ังขึ้นอย่างจริงจังเป็นคร้ังแรกในอังกฤษ และขยายตัวแพร่หลาย อย่างรวดเร็ว ขบวนการลูกเสือได้เจริญข้ึนตามลําดับ ทําให้ บี.พี.มองเห็นการณ์ไกลว่าลูกเสือจะเป็น งานสาํ คญั ในชีวิต ชว่ ยฝึกอบรมเด็ก ๆ ให้เป็นพลเมืองดีของชาติ เป็นประโยชน์แก่บ้านเมืองอย่างมาก ตอ่ ไป บ.ี พี.จงึ ลาออกจากราชการทหาร มาใช้\"ชีวิตทีส่ อง\" ซงึ่ เปน็ ชีวิตที่ให้บรกิ ารแก่ลกู เสือทัว่ โลก 36 คู่มค่มูือือสส่งง่ เเสสรมิ แแลละะพพัฒฒั นนากาจิกกิจรกรรมรลมูกเลสูกอื เทสกั ือษทะักชวีษิตะใชนวี สิตถาในศสกึ ถษาานปศรึกะษเภาทลลูกกู เสเสือือสตามรัญี ชหน้ั ลปกั รสะตู ถรมลกูศเกึสือษตารปี ที ่ี 4 43 ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4
พ.ศ. 2454 บ.ี พี.เดินทางรอบโลก เพอ่ื พบลกู เสือประเทศต่างๆ เปน็ การเร่มิ ตน้ ส่งเสรมิ ความ เป็นพีน่ ้องกันของลูกเสือทวั่ โลก พ.ศ. 2463 มีงานชมุ นุมลกู เสือโลกครงั้ แรก ในการชมุ นมุ ครั้งนี้ลกู เสอื ทั่วโลกท่มี ารว่ มประชมุ ได้ พรอ้ มใจกันประกาศให้ บ.ี พี.อยู่ในตําแหน่งประมขุ คณะลูกเสอื โลก เม่อื การลูกเสือมอี ายคุ รบ 21 ปี ซึ่งเปรียบเหมอื นการบรรลุ \"นติ ิภาวะ\" ตามกฎหมายอังกฤษ มี ลูกเสือท่ัวโลกถึงกว่า 2 ล้านคน พระเจ้ายอร์ชท่ี 5 ได้พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้ บี.พี.เป็นบารอน จากนัน้ มากจิ การลูกเสอื ก็เจริญกา้ วหน้าไมห่ ยุดยัง้ และมกี ารชุมนุมลกู เสอื โลกอกี หลายครั้ง เมอ่ื บี.พี.มีอายุ 80 ปี เขาไดก้ ลบั ไปพักผอ่ นในชว่ งสดุ ทา้ ยของชีวติ อย่ทู ี่ประเทศเคนยา ในทวีป อาฟรกิ าอกี ครั้งหนึ่ง และถึงแก่กรรมที่น่ันเม่อื วันท่ี 8 มกราคม พ.ศ.2484 44 คูม่ อื ส่งคเู่มสอื รสิมง่ แเสลระมิ พแฒัละนพาัฒกนิจากกริจรกมรรลมูกลเกู สเือสือททักักษษะะชชีวีวิติตใในนสสถถาานนศศึกษึกาษปาระลเกูภเทสลือูกตเสรอื ี สชาัน้ มปญั รหะถลักมสศูตกึ รษลกูาเปสีทือตี่ 4รี 37 ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4
แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสอื หลักสตู รลูกเสือสามญั (ลกู เสือตรี) ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4 หน่วยที่ 3 ความรูเ้ กี่ยวกับขบวนการลูกเสือ แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 5 พระบิดาแห่งการลกู เสอื ไทย เวลา 2 ชั่วโมง 1. จุดประสงค์การเรียนรู้ ลกู เสือสามารถเลา่ พระราชประวตั ิของพระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจ้าอยู่หัวและการกําเนิด ลูกเสอื ไทยพอสังเขปได้ 2. เนอ้ื หา 2.1 พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และบทพระราชนิพนธ์ที่เกี่ยวข้องกับลูกเสือของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว 2.2 การกําเนดิ ลูกเสอื ไทย 3. สื่อการเรียนรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 เกม 3.2 ใบความรู้ 3.3 เรื่องส้นั ที่เปน็ ประโยชน์ 4. กจิ กรรม 4.1 กจิ กรรมครั้งที่ 1 1( พธิ เี ปดิ ประชุมกอง )ชกั ธงข้นึ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก( 2( เพลง หรอื เกม 3( กิจกรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ )1( ใหล้ กู เสือแต่ละหมู่ร่วมกันวิเคราะห์บทพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎ เกล้าเจ้าอยู่หัวตอ่ ไปน้วี า่ ทรงมเี จตนาตอ้ งการใหล้ กู เสือเปน็ คนอย่างไร? ลกู เสอื บใ่ ช่เสอื สตั วไ์ พร เรายืมชอื่ มาใช้ ดว้ ยใจกล้าหาญปานกนั ใจกลา้ ใช่กล้าอาธรรม์ เช่นเสืออรัญ สัญชาติชนคนพาล ใจกลา้ ตอ้ งกลา้ อย่างทหาร กลา้ กอรป์ กจิ การแก่ชาติประเทศเขตตน )2( สุ่มตัวแทนหมลู่ ูกเสอื รายงาน 1 หมู่ ผู้กํากับลูกเสือนําอภิปรายให้หมอู่ น่ื ช่วยเพม่ิ เติมและ สรปุ 38 คูม่ค่มูอื อื สส่งง่ เเสสรมิ แแลละะพพัฒัฒนนากาจิกกจิ รกรรมรลมกู เลสกู ือเทสกั อื ษทะักชีวษิตะใชนวี สติ ถาในศสกึ ถษาานปศรกึ ะษเภาทลลกู กู เสเสือือสตามรญั ี ชห้นั ลปกั รสะตู ถรมลูกศเกึสือษตารปี ีท่ี 4 45 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4
)3( แบง่ งานให้หม่ลู กู เสือศกึ ษาคน้ ควา้ หม่ลู ะ 1 เรื่อง โดยใหน้ ําเสนอในลกั ษณะของ ผูส้ ื่อข่าวสารคดใี นครั้งต่อไป ดังน้ี - พระราชประวตั ขิ องพระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยู่หวั - พระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ วั - การกาํ เนิดลกู เสอื ไทย - พระราชนิพนธข์ องพระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจ้าอย่หู วั ทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั ลกู เสือ 4( ผกู้ ํากบั ลกู เสอื เลา่ เร่ืองสน้ั ทเี่ ป็นประโยชน์ 5( พธิ ีปดิ ประชมุ กอง )นดั หมาย ตรวจเครอื่ งแบบ ชักธงลง เลกิ ( 4.2 กิจกรรมครงั้ ท่ี 2 1( พิธีเปิดประชุมกอง )ชักธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก( 2( เพลง หรอื เกม 3( กิจกรรมตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ )1( ลูกเสอื แต่ละหมู่นาํ เสนอ เรื่องท่ีไปศึกษาคน้ ควา้ ตามรปู แบบผู้ส่อื ข่าวสารคดที หี่ มู่ ถนัด )2( ผกู้ าํ กับลกู เสอื และลกู เสือหมอู่ ื่นร่วมกนั ซักถามเพือ่ ความเข้าใจ )3( ผกู้ าํ กบั ลกู เสอื สรปุ สาระสําคญั ของเรอื่ งทีแ่ ต่ละหมู่นําเสนอ 4( ผูก้ ํากบั ลูกเสอื เลา่ เรอื่ งส้ันที่เปน็ ประโยชน์ 5( พิธปี ิดประชมุ กอง )นัดหมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชักธงลง เลกิ ( 5. การประเมินผล 5.1 สังเกตความร่วมมอื ในการปฏิบตั ิกิจกรรม 5.2 ตรวจสอบเนือ้ หา จากการนําเสนอในบทบาทผูส้ ่ือขา่ วสารคดี 46 คูม่ อื ส่งคเู่มสอื รสิมง่ แเสลระิมพแัฒละนพาฒั กนจิ ากกรจิ รกมรรลมกู ลเกู สเือสือททักักษษะะชชวี วี ิติตใในนสสถถาานนศศึกษกึ าษปาระลเกูภเทสลือูกตเสรือี สชาัน้ มปัญรหะถลกัมสศูตกึ รษลกูาเปสีทอื ต่ี 4รี 39 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4
ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมท่ี 5 เพลง วชริ าวุธรําลกึ วชริ าวธุ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ ประชา ก่อกําเนิดลกู เสือมา ขา้ เลอ่ื มใส พวกเราลกู เสอื เชอ้ื ชาติไทย เทิดเกียรตพิ ระองค์ไว้ ดว้ ยภกั ดี ลกู เสือรําลกึ นึกพระคณุ เทดิ บูชา ปฏญิ าณรกั กษตั รยิ ์ ชาติ ศาสนศ์ รี มาเถดิ ลกู เสอื สร้างความดี เพือ่ ศกั ด์ิศรลี กู เสอื ไทย ดง่ั ใจปอง ลูกเสือธรี ราช เหลา่ ลูกเสอื ของธีรราช ทะนงองอาจ สบื ชาติเชอ้ื พงศพ์ ันธุ์ สมัครสมานโดยมสี ามคั คีมน่ั พวกเราจะรกั ร่วมกนั จะผูกสัมพนั ธต์ ลอดกาล มีจรรยา รักษาชอื่ สรา้ งเกยี รตริ ะบือ เลอื่ งลือต่อไปช้านาน รา่ เริงแจม่ ใสใฝูใจรกั ใหย้ ืนนาน พวกเราลว้ นชืน่ บาน เพราะกจิ การลูกเสอื ไทย เกม เกมวบิ าก ผู้เล่นเขา้ แถวหน้า้ากกรระะดดาานน 22แถแวถวหนัหหันนห้านไ้าปไทปาทงาเดงเยี ดวียกวนั กันยนื อยยืนทู่ อเ่ี สยนู้่ทซ่ีเสง่ึ ้นหซา่ ง่ึงเหส่าน้ งชเสยั ้น1ช0ัยเม1ต0ร เผมเู้ ตลร่นแผถูเ้ ลว่นหแลถงั วยหกลขงั ายขกวขาาขวน้ึ ขใวหาผ้ ขเู้ ้ึนลใ่นหทผ้ อ่ี ู้เลย่นขู าท้ งอ่ี หยนู่ข้า้าจงบัหขนวา้ าจไับวข้ ามไอืวท้ งัม้ สืออทง้งั ขสอองงผขเู้ อลง่นผแเู้ ถลน่วหแถลงวั จหบั ลบังจ่าับขอบง่าผขเู้อลง่น ผคเู้นลห่นนค้านไหวน้ เมา้ ไอ่ื วไ้ดร้ เบมั สือ่ ญไั ดญ้รบัาณสญัเรญมิ่ เาลณน่ เใรหมิ่ ผ้ เลเู้ ลน่ น่ ใทหกุ้ผคู้เลวู่ น่งิ่ ไทปกุ ขคา้ ่วู งง่ิหไนป้าขตา้ รงงหไนป้ายตงั รเสงไน้ ปชยยั งั เสน้ ชยั การตัดสิน ผผูเู้เลล่นน่ ทุกคู่ต้องไม่แยกจากกนั และตอ้ งวง่ิ ในลักษณะสามขา คคู่ใู่ใดดลลม้ ม้ ใใหหเ้ เ้รรมิ่ ่ิมววงิ่ ิ่งใใหหมม่ตต่ รรงงจจุดุดททล่ี ี่ ม้ ลม้คทู่ ถ่คี งทึู่ เ่ีถสึงน้ เชสยัน้ กช่อยั นกเ่อปน็นเผปชู้ น็ นผะู้ชนะ เกมวิง่ อลวน ลูกเสอื ทกุ คนนงั่ เปน็ วงกลมมือกอดอก แต่ละคนห่างกัน 1 ช่วงแขน เลือกลูกเสือออกมาสอง คน คนหนง่ึ เป็นคนไล่ อีกคนหนึ่งเป็นคนหนี เร่ิมการเล่น คนไล่ต้องวิ่งไล่จับคนหนีให้ได้ การหนีจะอยู่ ภายในวงกลมหรอื วิง่ หลบหลีกในระหว่างผู้ท่ีนั่งอยู่ เมื่อไม่ต้องการหนีให้ว่ิงไปน่ังข้างหน้าผู้ท่ีนั่งอยู่รอบ วงกลมคนใดคนหนง่ึ ผทู้ ถี่ ูกคนหนนี ั่งข้างหน้าจะกลายเปน็ ผ้ไู ลท่ ันที คนไล่เดิมจะกลายเป็นคนหนตี อ่ ไป การตดั สิน ลกู เสอื ท่ีเปน็ คนหนคี นใด ถกู จบั ไดต้ อ้ งออกจากการแข่งขนั เลือกลูกเสอื คนใหมข่ ึน้ มา แทนคนหนีต่อไป 40 คมู่คูม่ือือสสง่ ่งเเสสรมิ แแลละะพพัฒัฒนนากาิจกกจิ รกรรมรลมูกเลสกู อื เทสกั ือษทะกัชวีษิตะใชนีวสติ ถาในศสกึ ถษาานปศรกึ ะษเภาทลลูกกู เสเสือือสตามรัญี ชหั้นลปกั รสะตู ถรมลูกศเึกสือษตารปี ีท่ี 4 47 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4
เรือ่ งสน้ั ที่เป็นประโยชน์ ทมี่ าของชอ่ื “บางกอก” ทมี่ าของคําวา่ “บางกอก” สนั นิษฐานว่ามาจากการที่แมน่ ้าํ เจ้าพระยาคดเค้ียวไปมา บางแห่งมี สภาพเปน็ เกาะเปน็ โคก จึงเรยี กกนั ว่า \"บางเกาะ\"หรอื \"บางโคก\"แล้วเพยี้ นเป็นบางกอก บ้างก็ว่าเน่ืองเพราะบริเวณนี้มีต้นมะกอกอยู่มาก จึงเรียกว่า \"บางมะกอก \"ข้อสันนิษฐานนี้ อา้ งองิ มาจากช่ือเดิมของวัดอรุณราชวราราม คอื วัดมะกอก )กอ่ นจะเปลี่ยนเป็นวัดมะกอกนอก และวัด แจง้ ตามลําดับ( ตอ่ มาคาํ วา่ “บางมะกอก” ได้กร่อนคาํ ไปเหลอื แค่ “บางกอก” คนต่างชาติส่วนใหญ่เรียกเมืองนี้ว่า “ Bangkok ”เพราะเดิมเป็นที่ตั้งของเมืองธนบุรีศรี มหาสมุทร ทช่ี าวต่างชาติเรียกกันว่า \"บางกอก\"แตจ่ ะออกเสยี งเปน็ \"แบงก์คอ็ ก\"มาต้งั แต่สมัยกรุงศรี อยธุ ยามคี วามสําคญั ในฐานะเส้นทางออกสทู่ ะเลและตดิ ต่อค้าขายกับอาณาจักรตา่ งๆ ท้งั เปน็ เมืองหน้า ด่านขนอน คอยดแู ลเก็บภาษจี ากเรอื สินค้าทกุ ลําทีผ่ า่ นเข้าออก การกอบกู้อิสรภาพจากพม่าหลังเสียกรุงเม่ือคร้ังที่ 2 สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงสถาปนา เมอื งธนบรุ ีศรีมหาสมทุ รใหเ้ ป็นราชธานแี หง่ ใหม่ คอื กรุงธนบุรี เมอ่ื วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ.2313 เรอ่ื งนี้สอนให้รวู้ ่า ท่ีมาของบางเรอ่ื งต้องจดจาํ ท่ีมาของชื่อ “กรุงเทพมหานคร” พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟาฺ จุฬาโลก มพี ระราชดาํ รวิ า่ กรงุ ธนบรุ มี ีสภาพเป็นเมืองอกแตก ตรงกลางมีแม่น้าํ เจา้ พระยาไหลผ่าน จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างราชธานีแห่งใหม่ทางฟากตะวันออกของ แม่นํ้าเจ้าพระยาซึ่งมีชัยภูมิดีกว่า ต่อสู้ปฺองกันข้าศึกได้ง่ายกว่า โดยสืบทอดศิลปกรรมและ สถาปัตยกรรมจากพระราชวังหลวงของกรุงศรีอยุธยา พระราชทานนามว่า \"กรุงเทพมหานคร บวร รัตนโกสินทร์ มหินทรายุธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบูรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมร พิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณกุ รรมประสทิ ธิ์\"มีความหมายว่า \"เมืองของเทวดา มหานครอันเป็น อมตะ สงา่ งามด้วยแก้ว 9 ประการ และเป็นท่ีประทับของพระเจ้าแผ่นดิน เมืองท่ีมีพระราชวังหลายแห่ง ดุจเป็นวิมานของเทวดา ซึ่งพระวิษณุกรรมสร้างข้ึนตามบัญชาของพระอินทร์\" ต่อมารัชกาลที่ 4 โปรด เกลา้ ฯ ใหเ้ ปลีย่ น “บวรรัตนโกสินทร์” เปน็ “อมรรตั นโกสนิ ทร์” และเรยี กกนั วา่ “กรงุ รัตนโกสินทร์” ใน พ.ศ.2514 รัฐบาลได้รวมจังหวัดพระนครและจังหวดั ธนบรุ ีเขา้ ดว้ ยกนั เปน็ นครหลวง กรงุ เทพธนบรุ ี หลงั การปรับปรงุ การปกครองใหม่เมื่อ พ.ศ.2515 จงึ เปลย่ี นเรยี กช่อื ในภาษาราชการวา่ กรุงเทพมหานคร และเรียกอยา่ งย่อวา่ กรงุ เทพฯ เร่ืองนส้ี อนให้รูว้ า่ พระมหากษตั ริยไ์ ทยทรงมคี ุณูปการต่อชาติบา้ นเมืองมาช้านานแล้ว ทม่ี าขอ้ มูล ขา่ วสด http://dek-d.com 48 คมู่ อื สง่คเู่มสอื รสมิ ง่ แเสลระิมพแฒัละนพาฒั กนจิ ากกรจิ รกมรรลมกู ลเูกสเือสือททักกั ษษะะชชีวีวติติ ใในนสสถถาานนศศกึ ษึกาษปาระลเกูภเทสลือูกตเสรือี สชา้นั มปัญรหะถลักมสศูตึกรษลูกาเปสทีือต่ี 4รี 41 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214