รายงานการประเมินตนเอง ปี ๒๕๖๒ กศน.อำเภอขุนยวม

๕.๒ สร้างความตระหนักถึงความสาคัญของการสร้างสังคมสีเขียว ส่งเสริมความรู้ให้กับประชาชน เก่ียวกับ การคิดแยก การแปรรูป และการกาจัดขยะ รวมท้งั การจดการมลพษิ ในชมชน ๕.๓ สงเสริมใหห้ นว่ ยงานและสถานศึกษาใชพ้ ลังงานที่เปน็ มิตรกับสิง่ แวดลอม รวมท้ังลดการใช้ ทรัพยากรท่ี ส่งผลกระทบตอ่ ส่ิงแวดล้อม เชน่ รณรงคเ์ รอ่ื งการลดการใชถ้ งุ พลาสตกิ การประหยดั ไฟฟา้ เป็นต้น ผลการดาเนินงานข้างต้น จะเห็นได้ว่า สถานศึกษาอธิบายการดาเนินงานที่สอดคล้องกับนโยบายและ จุดเน้นของ สานักงาน กศน. /นโยบาย จุดเนน้ ของกระทรวงศึกษาธิการ /ยุทธศาสตร์และเป้าหมายของแผนการ ศึกษาแห่งชาติ 20 ปี ได้อยา่ งชดั เจน ดงั นั้น ในตวั บง่ ช้ีท่ี 2.6 ประเด็นที่ 4 จงึ ได้คะแนน เทา่ กับ 1 คะแนน ประเด็นท่ี 5 สถานศึกษามีการจดั หา/จดั ทา/พัฒนาหลักสตู รและส่อื การศึกษาต่อเน่อื ง ท่ีเป็นต้นแบบ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนยวม มีวิธีการปฏิบัติท่ีดีในการพัฒนา หลักสูตรและสื่อการศึกษาต่อเน่ือง ดังนี้ แต่งตั้งคณะดาเนินการพัฒนาหลักสูตรและจัดหาส่ือ คณะกรรมการ ดาเนินการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่อง ศึกษาข้อมูลพื้นฐานสภาพแวดล้อมท้องถิ่น เศรษฐกิจและทิศทางการ พัฒนาท้องถ่ิน ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความจาเป็น ความต้องการของชุมชน ยุทธศาสตร์ และจุดเน้นนโยบายและแผนงานของหน่วยงาน โดยใช้ข้อมูลจากการดาเนินการในปีที่ผ่านมาเป็นฐานในการ วเิ คราะห์เพื่อกาหนดจุดมุ่งหมายในการพัฒนา/ปรับปรุง โครงสร้างหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่อง และแนวทางการนา หลักสูตรไปใช้ คณะกรรมการดาเนินการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่องนาข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ ข้อมูล พ้ืนฐานมาจัดทาหลักสูตร กาหนดแนวทางในการประเมินผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน คณะกรรมการดาเนินการพัฒนา หลกั สตู รการศึกษาตอ่ เนือ่ ง ตรวจสอบคุณภาพของหลักสูตรโดยคณะกรรมการวิเคราะห์หลักสูตรการศึกษาต.อเนื่อง ซ่ึงเป็นผู้เช่ียวชาญการพัฒนาหลักสูตรตรวจสอบคุณภาพของหลักสูตร จัดทาแบบประเมินหลักสูตรและทาการ ประเมินคุณภาพของหลักสูตรโดยประเมินจากแบบประเมินคุณภาพของหลักสูตร แบบสารวจความพึงพอใจของ ผู้เรียน/วิทยากร คณะกรรมการดาเนินการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาต่อเน่ือง นาผลการประเมินคุณภาพของ หลักสูตรมาวิเคราะห์ เพื่อใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรการจัดการศึกษาต่อเน่ืองต่อไป จากผลการ ดาเนินงานข้างต้น จะเห็นได้ว่า สถานศึกษามีกระบวนการจัดหา/จัดทา/พัฒนาหลักสูตรและ ส่ือการศึกษาต่อเนื่อง แตม่ กี ระบวนการได้มาของหลักสูตรหรือสอื่ อย่างใดอยา่ งหน่ึง ทเ่ี ปน็ วธิ ีปฏบิ ตั ิทดี่ ี ดังนั้น ในตัวบ่งชี้ 2.6 ประเด็นที่ 5 จงึ ได้คะแนน เท่ากับ 1 คะแนน สถานศกึ ษามผี ลการประเมนิ ตนเองในภาพรวม ตัวบ่งช้ีท่ี 2.6 คุณภาพหลักสูตร และสือ่ การศึกษา ตอ่ เนอื่ ง มคี ะแนนรวมเทา่ กับ 4 คะแนน ซึ่งมคี ณุ ภาพอยูใ่ นระดบั ดี ตวั บง่ ช้ที ี่ 2.7 คุณภาพการจัดกระบวนการเรียนรูก้ ารศึกษาต่อเนือ่ ง (คะแนนท่ีได้ ๔.๐๐ คะแนน) ผลการดาเนินงาน จากการประเมินของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนยวม ในตัวบ่งชี้ที่ 2.7 พบว่า สถานศึกษาบรรลุตามเป้าหมายความสาเร็จ ของตัวบ่งช้ีที่ 2.7 ที่กาหนดไว้ ซึ่งได้ 4.00 คะแนน ระดับ คณุ ภาพ ดี จากคะแนน เตม็ 5 คะแนน ดว้ ยการดาเนินงานดังน้ี ประเด็นท่ี 1. วิทยากรมีกระบวนการในการออกแบบและจัดกระบวนการเรียนรู้การศึกษาตอ่ เนื่องอย่างไร ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนยวม ได้มีการประชุมช้ีแจง แนวทางการ จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้การศึกษาต่อเนื่องให้กับวิทยากร และให้วิทยากรได้จัดทาแผนการเรียนรู้ โดยมี ครู กศน.ตาบลเปน็ พเ่ี ลี้ยง กอ่ นจะดาเนนิ การจัดการเรยี นการสอน วิทยากรต้องจัดตั้งกลุ่ม เขียนแผนการสอน หลักสูตร ท้ังภาคทฤษฏี และปฏิบัติ ผ่านการตรวจสอบว่าเป็นไปตามหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่องหรือไม่จากหัวหน้างาน และ เสนอขออนุญาตจัดการเรียนการสอนต่อไป จะเห็นได้ว่า สถานศึกษาสามารถอธิบายว่าวิทยากรมีกระบวนการใน รายงานการประเมนิ ตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขนุ ยวม หน้า ๑๒๙

การออกแบบและจัดกระบวนการเรียนรู้การศึกษาต่อเน่ืองเป็นขั้นตอนได้อย่างชัดเจน ดังนั้น ในตัวบ่งชี้ท่ี 2.7 ประเดน็ ที่ 1 จงึ ไดค้ ะแนน เทา่ กับ 1 คะแนน ประเดน็ ที่ 2. วิทยากรการศึกษาต่อเน่ืองทราบได้อยา่ งไรว่า ผูเ้ รยี นหรอื ผ้เู ข้ารบั การอบรมมีความรู้ ความสามารถ บรรลุตามวตั ถุประสงคข์ องการจัดการศึกษาต่อเนื่อง วิทยากรได้มีการประเมินผลตามแบบประเมินผลการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ (แบบ กน.10) เพื่อให้ ทราบวา่ ผเู้ ขา้ รับการอบรมมีความรู้ ความสามารถและบรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ของโครงการ จะเห็นไดว้ า่ วิทยากรวิทยากร การศกึ ษาตอ่ เนือ่ งสามารถอธบิ ายวธิ กี ารวดั และประเมนิ ผลผู้เรียนหรือผูเ้ ขา้ รบั การอบรมที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ของการจดั การศึกษาต่อเน่ือง ดังนั้น ในตัวบง่ ชี้ที่ 2.7 ประเดน็ ท่ี 2 จงึ ไดค้ ะแนน เทา่ กบั 1 คะแนน ประเดน็ ที่ 3. วทิ ยากรการศกึ ษาตอ่ เนื่องมีการทบทวน หรือตดิ ตาม หรอื ประเมินกระบวนการออกแบบ และจัดกระบวนการเรียนรกู้ ารศกึ ษาต่อเนื่อง เพ่ือนาไปปรับปรุงกระบวนการอย่างไร สถานศึกษา ดาเนินการจัดทาแผนการนิเทศ นิเทศติดตาม ให้คาแนะนาการจัดกระบวนการเรียนรู้ของ วิทยากร และวิทยากรได้นาข้อแนะนาจากคณะนิเทศไปปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนคร้ังต่อไป จะเห็นได้ว่า สถานศึกษาสามารถอธิบายได้ว่า วิทยากรการศึกษาต่อเน่ือง มีวิธีการทบทวน หรือติดตาม หรือประเมิน กระบวนการออกแบบและจัดกระบวนการเรียนรู้การศึกษาต่อเน่ือง ได้อย่างเป็นข้ันตอน แต่ไม่ชัดเจน ดังนั้น ในตัว บง่ ชีท้ ่ี 2.7 ประเดน็ ท่ี 3 จงึ ไดค้ ะแนน เทา่ กบั 0.5 คะแนน ประเดน็ ที่ 4. สถานศึกษามกี ารดาเนนิ งานทสี่ อดคล้องกับ นโยบายและจดุ เนน้ ของสานกั งาน กศน. / นโยบายจดุ เนน้ กระทรวงศกึ ษาธิการ /ยทุ ธศาสตร์และเป้าหมายของแผนการศกึ ษาแห่งชาติ 20 ปี อย่างไร สถานศึกษา มีการดาเนินการทส่ี อดคล้องกับ นโยบายและจดุ เน้นสานกั งานกศน. ปงี บประมาณ 2562ดังนี้ ข้อ 2.ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน 2.1 เร่งรัดดาเนินการจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือ ยกระดับทักษะอาชีพของประชาชนสู่ฝีมือแรงงาน 1)จัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทาที่สอดคล้องกับศักยภาพ ของชุมชนและความต้องการของตลาดให้ประชาชนสามารถนาไปประกอบอาชีพได้จริง โดยเน้นหลักสูตรการศึกษา ช่างพ้ืนฐานโดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอนด้านอาชีพผ่าน Youetube , Facebook Live , คอมพิวตอร์ช่วยสอน เป็นต้น รวมถึงสนับสนุนให้เกิดระบบการผลิตที่ครบวงจร และเปิดพ้ืนท่ีส่วนราชการเป็นท่ี แสดงสินค้าของชมุ ชนเพื่อเปน็ การสรา้ งรายไดใ้ หก้ ับชมุ ชน ภารกิจต่อเนื่อง ข้อท่ี 1.3 การศึกษาต่อเนื่อง 1)จัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาอย่างย่ังยืนโดยให้ความสาคัญ กับการจดั การศกึ ษาอาชีพเพื่อการมีงานทาในกลุ่มอาชีพเกษตรกรรมอุตสาหกรรมพาณิชยกรรม คหกรรมและอาชีพ เฉพาะทางหรือการบริการรวมถึงการเน้นอาชีพช่างพ้ืนฐานที่สอดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียนความต้องการและ ศักยภาพของแตล่ ะพ้ืนท่ตี ลอดจนสรา้ งความเขม้ แข็งให้กับศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนโดยจัดให้มีหน่ึงอาชีพเด่นต่อหนึ่งศูนย์ ฝึกอาชีพรวมทั้งให้มีการกากับติดตามและรายงานผลการจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานอย่างเป็นระบบและ ต่อเน่ือง ความสมั พนั ธ์กบั มาตรฐาน/ตัวบง่ ชขี้ อง กศน. มาตรฐานที่ 1 คณุ ภาพของผู้เรียน/ผูร้ บั บรกิ ารการศกึ ษาต่อเน่อื ง ตวั บ่งชี้ที่ 1.4ผูเ้ รียนหรอื ผู้รับบริการมีความรู้ ความสามารถ และทกั ษะการประกอบอาชพี มาตรฐานที่ 2 คณุ ภาพของการจดั การศกึ ษา/การใหบ้ ริการการศึกษาตอ่ เนอื่ ง ตัวบ่งชท้ี ่ี 2.5 คณุ ภาพวิทยากรการศกึ ษาตอ่ เนอื่ ง ตวั บง่ ชี้ที่ 2.6 คณุ ภาพของหลักสูตรและส่อื การศึกษาต่อเนื่อง ตัวบ่งช้ีที่ 2.7 คุณภาพการจัดกระบวนการเรียนรู้การศึกษาต่อเนือ่ ง รายงานการประเมนิ ตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขุนยวม หนา้ ๑๓๐

มาตรฐานท่ี 3 ประสทิ ธิภาพการบรหิ ารจัดการการศึกษา ตวั บ่งชี้ที่ 3.2 การส่งเสริมสนับสนนุ การจดั การศึกษาของภาคเี ครือขา่ ย ตวั บ่งชท้ี ี่ 3.3 การมสี ว่ นร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษา ตัวบง่ ชี้ที่ 3.4 การประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา 3. ยุทธศาสตรด์ ้านการพัฒนาและเสริมสรา้ งศักยภาพทรัพยากรมนษุ ย์ 3.1 ส่งเสริมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ปลูกฝังคุณธรรม สร้างวินัย จิตสาธารณะ ความรับผิดชอบ ต่อ ส่วนรวม และการมีจิตอาสาผ่านกิจกรรมรูปแบบต่างๆ เช่น กิจกรรมลูกเสือ กศน. กิจกรรมจิตอาสา ตลอดจน สนบั สนนุ ให้มกี ารจัดกิจกรรมเพอ่ื ปลกู ฝง๎ คณุ ธรรม จริยธรรมใหก้ บั บคุ ลากรในองคก์ ร 3.2 ส่งเสริมการจดกระบวนการเรียนรทตอบสนองกบการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 รวมทั้ง ความ ต้องการของประชาชนและชมชน ในรปู แบบท่ีหลากหลาย ใหป้ ระชาชนคิดเปน็ วิเคราะห์ได้ ตัดสนใจ ภายใต้ข้อมูลท่ี ถกู ตอ้ ง 3.3 พัฒนาศกั ยภาพคนด้านทักษะและความเข้าใจในการใชเ้ ทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy) 1) พฒั นาความรู้และทักษะเทคโนโลยดี จิ ีทัลของครูและบุคลากรทางการศึกษา เพอ่ื ให้สามารถ ใช้Social Media และ Application ต่างๆ ในการพฒั นารูปแบบการจัดการเรยี นการสอน 2) ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ดานเทคโนโลยดี ีจิทัล เพื่อใหป้ ระชาชนมีทักษะความเข้าใจและใช้ เทคโนโลยดี ี จทิ ลั สามารถนาไปใช้ประโยชนในชีวติ ประจาวัน รวมทง้ั สร้างรายได้ให้กบั ตนเองได้ 3.5 ส่งเสริมการพัฒนาสุขภาวะของประชาชนทุกวัยโดยการสร้างความรู้ความเข้าใจ การสนับสนุน กิจกรรมสุขภาวะ และสร้างเครือข่ายภาคประชาชน ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค ให้กับประชาชนทุก ชว่ งวัย โดยเฉพาะในพ้ืนที่ห่างไกล พ้นื ทช่ี ายแดน และชายแดนภาคใต้ โดยประสานงาน รวมกับโรงพยาบาลส่งเสริม สุขภาพตาบล และเจ้าหน้าท่ี อสม. ในการให้ความรู้เก่ียวกับการดูแลสุขภาวะอนามัย ให้กับประชาชน รวมทั้งผลิต ชุดความรเู้ กี่ยวกับสุขภาวะ สุขอนามยั เพอ่ื ใชป้ ระกอบการเรยี นร้ใู นหลักสูตร การศกึ ษาของ กศน. ยทุ ธศาสตร์ท่ี 4. ยุทธศาสตรด์ านการสรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 4.1 เพิ่มโอกาสทางการศึกษาใหก้ ับประชากรวัยเรียนทอี่ ยนู่ อกระบบการศึกษา ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 5. ยุทธศาสตร์ดา้ นการสร้างการเตบิ โตบนคณุ ภาพชวี ิตทเ่ี ปน็ มิตรต่อส่ิงแวดล้อม 5.1 สง่ เสรมิ ให้มีการให้ความรู้กับประชาชนเกีย่ วกับการปอ้ งกนั ผลกระทบและปรับตัวต่อการ เปล่ียนแปลง สภาพภมู ิอากาศและภัยพบิ ตั ธิ รรมชาติ 5.2 สร้างความตระหนักถึงความสาคัญของการสร้างสังคมสีเขียว ส่งเสริมความรู้ให้กับประชาชน เกี่ยวกับ การคดิ แยก การแปรรปู และการจดั ขยะ รวมท้ังการจัดการมลพิษในชุมชน 5.3 ส่งเสรมิ ใหห้ น่วยงานและสถานศึกษาใช้พลังงานท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งลดการใช้ ทรัพยากร ทสี่ ง่ ผลกระทบต่อสิง่ แวดลอ้ ม เช่น รณรงคเ์ รอื่ งการลดการใชถ้ ุงพลาสตกิ การประหยัดไฟฟา้ เปน็ ต้น ผลการดาเนินงานข้างต้น จะเห็นได้ว่า สถานศึกษาอธิบายการดาเนินงานท่ีสอดคล้องกับนโยบายและจุดเน้นของ สานกั งาน กศน. /นโยบาย จุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ /ยุทธศาสตร์และเป้าหมายของแผนการศึกษาแห่งชาติ 20 ปี ไดอ้ ย่างชัดเจน ดังนั้น ในตวั บ่งชี้ท่ี 2.7 ประเดน็ ที่ 4 จึงได้คะแนน เท่ากับ 1 คะแนน ประเด็นที่ 5. วิทยากรมกี ารออกแบบและจัดกระบวนการเรียนรู้การศกึ ษาตอ่ เน่ืองอย่างไร ท่ีเป็นต้นแบบ วิทยากรมีการออกแบบและจัดกระบวนการเรียนรู้ตามแผนการสอน หลักสูตร ท้ังภาคทฤษฏี และปฏิบัติ ผ่านการตรวจสอบวา่ เป็นไปตามหลกั สูตรการศกึ ษาตอ่ เนอ่ื งหรือไม่จากหัวหน้างาน และเสนอขออนุญาตจัดการเรียน การสอนท่ีเป็นต้นแบบ จะเห็นได้ว่าวิทยากรมีการออกแบบและจัดกระบวนการเรียนรู้การศึกษาต่อเน่ือง ที่เป็นวิธี รายงานการประเมนิ ตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขุนยวม หนา้ ๑๓๑

ปฏิบัติท่ีดี (Bets Practice) หรือนวัตกรรม (Innovation) ดังนั้น ในตัวบ่งช้ีที่ 2.7 ประเด็นท่ี 5 จึงได้คะแนน เท่ากบั 0.5 คะแนน การศกึ ษาตามอธั ยาศัย ตวั บ่งชี้ที่ 2.8 คุณภาพผู้จดั กิจกรรมการศกึ ษาตามอัธยาศัย (คะแนนท่ีได้ ๔.๐๐ คะแนน) ผลการดาเนนิ งาน ประเดน็ ท่ี 1. สถานศึกษามกี ารดาเนนิ งานที่เปน็ กระบวนการในการพัฒนาผูจ้ ดั กจิ กรรมการศกึ ษาตาม อัธยาศยั ให้ มีคณุ ภาพ สถานศึกษา ไดด้ าเนินการจัดกจิ กรรม และโครงการการจัดการศึกษาตามอัธยาศัยให้แก่กลุ่มเป้าหมาย โดย มีการดาเนินงานท่ีเป็นไปตามกระบวนการพัฒนาอย่างมีระบบแบบแผน ซึ่งในการดาเนินการแต่ละกิจกรรมแล ะ โครงการจะมีการประชุมบุคลากร วางแผนในการจัดทาแผนปฏิบัติการประถ้าปี ให้สอดคล้องตามนโยบาย กระทรวงศึกษาธิการ นโยบายและจุดเน้นของสานักงาน กศน. และสานักงาน กศน.จังหวัดแม่ฮ่องสอน และ ขับเคล่ือน กิจกรรมต่าง ๆ ตามแผนงานท่ีกาหนดไว้ โดยผู้จัดกิจกรรมให้แก่ บรรณารักษ์ ครู กศน.ตาบล และ อาสาสมัครฯ จะ เป็นผู้ขับเคลื่อนกิจกรรมไปด้วยกัน อีกทั้งภาคีเครือข่ายท้ังในและนอกหน่วยงาน อย่างเช่น การ ดาเนินงานห้องสมุดประชาชนอาเภอขุนยวม โครงการพัฒนาผู้เรียน วันรักการอ่าน โครงการ แข่งขันทักษะวิชาการ และงานสัปดาห์หนังสือและการเรียนรู้ รวมถึง โครงการพัฒนาแหล่ง เรียนรู้ : บ้านหนังสือขุมชน เป็นต้น เม่ือ ดาเนินการจัดกิจกรรม และโครงการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ทาการสรุปรายงานผลการจัดกิจกรรมโครงการดังกล่าว และประเมินความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการ เพ่ือนาผลการประเมินมาพัฒนาและปรับปรุงในการ ดาเนนิ กิจกรรมและโครงการในครง้ั ต่อไป ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนยวม มีการประชุมชี้แจงการจัดกิจกรรม การศึกษาตามอัธยาศัยและสารวจความต้องการในการพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ เช่น ด้านจัดกระบวนการเรียนรู้ การใช้เทคโนโลยี และสถานศึกษาได้จัดทาแผนพัฒนาบุคลากรให้มีการส่งบุคลากรเข้ารับการอบรมซ่ึงจัดโดย หน่วยงานตน้ สังกดั และหน่วยงานอื่น เช่น ประชุมเพื่อหารือแผนการดาเนินงานบรรณารักษ์เจ้าหน้าท่ีห้องสมุด การ ประชุมเพ่ือร่วมกันวางแผนการปฏิบัติงาน อบรมเน็ตประชารัฐ โครงการอบรมครู ข และครู ค และทาการรายงาน ผลการเรียนรู้หลังเข้ารับการอบรมได้มีการนาแนวทางท่ีเข้ารับการอบรมมาเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรม ส่งเสริม การอ่าน เช่น กจิ กรรมหมุนเวียนสอ่ื กจิ กรรมสง่ เสรมิ การอา่ นสาหรับชาวตลาด กจิ กรรมนงั่ ที่ไหนอา่ นทีน่ ัน้ เปน็ ต้น ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนยวม จัดให้เจ้าหน้าท่ีบรรณารักษ์ เข้ารับการ อบรมโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการสัมมนาอบรมพัฒนาศักยภาพบรรณารักษ์และเจ้าหน้าท่ีห้องสมุดประชาชน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ปีงบประมาณ 2562 และได้เข้าร่วมการแข่งขันการประกวดนวัตกรรมส่งเสริมการอ่านตาม แนวพระราชดาริ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี 2 เมษายน 2562 จากผลการดาเนินงานข้างต้น จะเห็นได้ว่า สถานศึกษาสามารถอธิบายกระบวนการในการพัฒนาผู้จัด กจิ กรรมการศกึ ษาตามอัธยาศัยได้อย่างเป็นข้ันตอน และชัดเจน ดังน้ัน ในตัวบ่งช้ีท่ี 28 ข้อ 1 จึงได้คะแนน เท่ากับ 1 คะแนน ประเด็นท่ี 2 สถานศึกษาทราบไดว้ ่า ผู้จัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศยั มคี ุณภาพ สถานศึกษา ได้ส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้จัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย ซึ่งประกอบด้วย บรรณารักษ์ ครู กศน.ตาบล อาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน และเครือข่ายต่าง ๆ ได้รับการพัฒนาตนเองจากช่อง ทางการเรียนรู้ท่ี หลากหลาย และต่อเน่ือง เช่น การเข้าร่วมกิจกรรมการประชุมสัมมนาตามโครงการอมรมพัฒนา คุณภาพผู้เรียน รายงานการประเมนิ ตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขนุ ยวม หนา้ ๑๓๒

“น่ังท่ีไหน อ่านที่น้ัน\" สู่ Thailand 4.0 โครงการสัมนาส่งเสริมการอ่าน อีกทั้งการศึกษาดูงานหน่วยงานภาคี เครอื ขา่ ยอื่น ๆ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการ มีการพัฒนา ศักยภาพ มีความรู้ และทักษะในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการ อ่านในชุมชน โดยพิจารณาจากเกียรติบัตร หนังสือเชิญเป็นวิทยากรและหนังสือขอบคุณ จากภาคีเครือข่าย รวมทั้งแบบ ประเมินความพึงพอใจของผู้รับบริการของผู้จัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย จากการนิเทศการจัด กิจกรรม การศึกษาตามอัธยาศัยโดยใช้การสังเกต การสัมภาษณ์ แบบสอบถามกับผู้รับบริการ เก่ียวกับ โครงการส่งเสริมการ อ่านเคลื่อนที่โครงการส่งเสริมการ อ่าน กศน.ตาบล ท้ัง 6 ตาบล และโครงการบ้านหนังสือชุมชน และจากการ รายงานผลการดาเนินงานการจัด กิจกรรมของผู้จัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย ซึ่งพบว่าผู้รับบริการมีความรู้ มี ทักษะและความมีความพงึ พอใจ อย่ใู นระดับมาก และผู้รับบริการมกี ารนาความร้ทู ี่ได้รับไปพัฒนาตนเองได้ เช่น การ ค้นคว้าของนักศึกษาทาโครงงาน การค้นคว้าหาความรู้ท่ีตนต้องการทางการเกษตร กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน วาด ภาพระบายสี เกมสบ์ งิ โกอาเซยี น พยญั ชนะชนะไทย - อังกฤษ เป็นต้น จากผลการดาเนินงานข้างต้นจะเห็นได้ว่า สถานศึกษาสามารถอธิบายวิธีการที่ทาให้ทราบว่าผู้จัดกิจกรรม การศกึ ษาตามอธั ยาศัยมคี วามรู้ตามท่ีได้รับการส่งเสริมหรือพัฒนาได้อย่างชัดเจน มีความเป็นเหตุ เป็นผล เช่ือถือได้ ดงั นนั้ ในตัวบ่งช้ที ี่ 2.8 ประเดน็ ท่ี 2 จงึ ได้คะแนน เทา่ กบั 1 คะแนน ประเด็นท่ี 3 สถานศึกษามีการทบทวน หรือติดตาม หรือประเมินกระบวนการดาเนินงานส่งเสริมหรือ พฒั นาผจู้ ัดกจิ กรรมการศึกษาตามอธั ยาศัย และนาผลไปใช้ในการปรับปรงุ กระบวนการ สถานศึกษา ได้ส่งเสริมให้ผู้จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ซึ่งประกอบด้วย บรรณารักษ์ ครู กศน.ตาบล อาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน ได้ศึกษาความต้องการการเรียนรู้ของผู้รับบริการโดยตอบแบบสอบถามการสารวจ ความต้องการด้านการศึกษาตามอัธยาศัย เช่น ความต้องการอ่าน ส่ือ/หนังสือ ตามโครงการห้องสมุดเคลื่อนที่ สาหรับชาวตลาด ตามพระราชดาริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โครงการบ้านหนังสือ ชุมชน แลว้ นาข้อมูลทไี่ ดจ้ ากการสารวจมาสรุปรายงานผล พร้อมออกแบบ และวางแผน การดาเนินการจัดกิจกรรม ให้ตรงตามความต้องการของผรู้ ับบริการในแตล่ ะพ้ืนท่ี โดยกจิ กรรมทไ่ี ด้ดาเนนิ การ เช่น ส่งเสริมรกการอ่านห้องสมุด ชาวตลาด บ้านหนังสือชุมชน บริการอ่านตามอธั ยาศัย 24 ชั่วโมง สถานีรถโดยสารเปรมประชา เปน็ ตน้ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนยวม ได้มีการทบทวนติดตามหรือประเมินผู้ จดั กิจกรรมและผลการจัดการศึกษาตามอธั ยาศัยเพื่อพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพผู้จัดและการจัดกิจกรรมการศึกษา ตามอัธยาศัยให้สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของผู้รับบริการโดยการนิเทศการจัดกิจกรรม แบบสังเกต แบบสัมภาษณ์ และสรุปการรายงานผลการปฏิบัติงานประจาเดือน ในท่ีประชุม ประจาเดือน ที่ กศน.อาเภอขุนยวม พบว่าผู้จัด กิจกรรมการศึกษาตาม อัธยาศยั นาความรทู้ ่ีได้รับจากการอบรมไปออกแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย ใหเ้ หมาะสมกับ ผรู้ บั บรกิ าร มกี ารสรุปรายงานผลการจัดกิจกรรมและรายงานการติดตาม สามารถนาความรู้ท่ีได้รับ จากการอบรม มาพฒั นารูปแบบในการจัดกิจกรรมให้เหมาะสมและตรงต่อความต้องการของผ้รู บั บริการ จากผลการดาเนินงานข้างต้น จะเห็นได้ว่า สถานศึกษาสามารถอธิบายวิธีการทบทวน หรือติดตาม หรือ ประเมินกระบวนการในการส่งเสริม หรือพัฒนาผู้จัดก็มีกรรมการศึกษาตามอัธยาศัยได้อย่างเป็นข้ันตอน และ ชดั เจน ดังนน้ั ในตวั บ่งช้ที ี่ 2.8 ประเดน็ ที่ 3 จงึ ได้คะแนน เท่ากบั 0.50 คะแนน รายงานการประเมินตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขุนยวม หนา้ ๑๓๓

ประเด็นที่ 4 สถานศึกษามีการดาเนนิ งานทีส่ อดคลอ้ งกับนโยบายและจุดเน้นของสานักงาน กศน. / นโยบาย จุดเน้นของกระทรวงศกึ ษาธิการ /ยทุ ธศาสตร์และเป้าหมายของแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ 20 ปี ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนยวม ได้ดาเนินการพัฒนาเพื่อจัดกิจกรรมการศึกษา ตามอัธยาศัยในด้านต่างๆ เช่น การทา web page การใช้ Social media และ Application การจัดทาคิวอาร์โค้ด เป็นต้น แผนการศึกษาแห่งชาติ 20 ปี ยุทธศาสตร์ท่ี 3 . ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพ ทรัพยากรมนุษย์ ข้อ ๓.๒ ส่งเสริมการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองกับการเปล่ียนแปลงในศตวรรษท่ี ๒๑ รวมทงั้ ความต้องการของประชาชนและชุมชน ในรูปแบบท่ีหลากหลาย ให้ประชาชนคดิ เป็น วิเคราะห์ได้ ตดั สินใจ ภายใต้ข้อมูลท่ีถูกต้อง ข้อ ๓.๖ เพิ่มอัตราการอ่านของประชาชน โดยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในรูปแบบ ต่างๆเช่น อาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน ห้องสมุดประชาชน บ้านหนังสือชุมชน ห้องสมุดเคล่ือนที่ ผลักดันให้เกิด หอ้ งสมดุ สกู่ ารเป็นหอ้ งสมุดเสมือนจรงิ ต้นแบบ เพ่อื พฒั นาให้ประชาชนมคี วามสามารถในระดบั อา่ นคล่อง เขา้ ใจ ความ คิดวเิ คราะห์พ้นื ฐาน และสามารถรับรูข้ อ้ มูลขา่ วสารทีถ่ ูกต้องและทนั เหตกุ ารณ์ รวมท้ังนาความร้ทู ไ่ี ดร้ บั ไปใช้ ปฏิบัติจริงในชีวิตประจาวัน ภาระกิจต่อเนื่อง ๑. ด้านการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ ข้อ ๑.๔ การศึกษาตาม อัธยาศัย ๑) สง่ เสริมใหม้ ีการพัฒนาแหล่งการเรียนร้ใู นระดบั ตาบล เพือ่ การถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ และจัดกจิ กรรม เพ่ือเผยแพรอ่ งค์ความรใู้ นชมุ ชนได้อย่างท่ัวถงึ ๒) จัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพ่ือปลูกฝ๎งนิสัยรักการอ่าน และพัฒนาความสามารถในการอ่านและ ศักยภาพการเรียนรู้ของประชาชนทกุ กลุม่ เป้าหมาย ๓) ส่งเสริมให้มีการสร้างบรรยากาศ และสิ่งแวดล้อมที่เอ้ือต่อการอ่านให้เกิดขึ้นในสังคมไทยโดยสนับสนุน การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางและท่ัวถึง เช่น พัฒนาห้องสมุดประชาชนทุกแห่งให้เป็นแหล่ง เรียนรู้ตลอดชีวิตของชุมชน ส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน การสร้างเครือข่ายส่งเสริมการอ่าน จัดหน่วยบริการเคล่ือนที่พร้อมอุปกรณ์เพ่ือจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ท่ีหลากหลายให้บริการกับ ประชาชนในพ้ืนที่ตา่ งๆ อย่างทวั่ ถึง สมา่ เสมอ รวมท้ังเสริมสร้างความพรอ้ มในด้านสื่ออุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการอ่าน และการจัดกจิ กรรมเพอ่ื ส่งเสริมการอ่านอย่างหลากหลาย ๑.๕ พฒั นา กศน. ตาบล สู่ “กศน.ตาบล 4 G” ๑) พฒั นาครู กศน. และบคุ ลากรทเี่ กยี่ วข้องกบั การจดั กจิ กรรมการศกึ ษาและการเรียนรู้ : Good Teacher ให้เป็นตัวกลางในการเช่ือมโยงความรู้กับผู้รับบริการ มีความเป็น “ครูมืออาชีพ” มีจิตบริการ มีความรอบรู้และทัน ตอ่ การเปล่ยี นแปลงของสังคม เป็นผ้จู ดั กิจกรรมการเรยี นรแู้ ละบริหารจดั การความร้ทู ดี่ ี รวมทง้ั เปน็ ผู้ปฏบิ ัติงานอย่าง มีความสขุ ๒) พัฒนา กศน.ตาบล ให้มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมเอื้อต่อการเรียนรู้อย่างต่อเน่ือง : Good Place Best Check-In มีความพรอ้ มในการใหบ้ รกิ ารกิจกรรมการศึกษาและการเรียนรู้ เป็นแหล่งข้อมูลสาธารณะท่ีง่ายต่อ การเข้าถึง และสะดวกต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างสร้างสรรค์ มีส่ิงอานวยความสะดวก ดึงดูดความสนใจและมี ความปลอดภยั สาหรบั ผรู้ บั บรกิ าร ๓) สง่ เสรมิ การจดั กจิ กรรมการเรียนรภู้ ายใน กศน.ตาบล : Good Activities ให้มีความหลากหลายน่าสนใจ ตอบสนองความต้องการของชุมชน เพ่ือพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของประชาชน รวมท้ังเปิดโอกาสให้ชุมชนเข้ามา จัดกิจกรรมเพือ่ เชื่อมโยงความสมั พันธข์ องคนในชุมชน รายงานการประเมินตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขนุ ยวม หน้า ๑๓๔

๔) เสริมสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย : Good Partnership ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น รวมท้ังส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชน เพ่ือสร้างความเข้าใจ และให้เกิดความ ร่วมมอื ในการส่งเสริม สนับสนุน และจัดการศึกษาและการเรียนร้ใู ห้กับประชาชนอย่างมีคุณภาพ ๑.๖ ประสานความร่วมมอื หนว่ ยงาน องคก์ ร หรือภาคสว่ นตา่ งๆ ท่ีมีแหลง่ เรยี นร้อู น่ื ๆ เชน่ พพิ ธิ ภณั ฑ์ ศูนย์เรียนรู้ แหล่งโบราณคดี ห้องสมุด เพ่ือส่งเสริมการจัดการศึกษาตามอัธยาศัยให้มีรูปแบบที่หลากหลายและ ตอบสนองความต้องการของประชาชน จากผลการดาเนินงานข้างต้น จะเห็นได้ว่า สถานศึกษาอธิบายการดาเนินงานท่ีสอดคล้องกับนโยบายและ จุดเน้นของสานักงาน กศน. /นโยบาย จุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ยุทธศาสตร์และเป้าหมายของแผนการ ศกึ ษาแห่งชาติ 20 ปี ดังน้นั ในตัวบง่ ชที้ ี่ 2.8 ประเด็นท่ี 4 จงึ ได้คะแนน เทา่ กับ 1 คะแนน ประเดน็ ท่ี 5 สถานศกึ ษามีการพัฒนาผูจ้ ัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย ที่เปน็ ต้นแบบ สถานศึกษา ได้จัดทาทาเนียบข้อมูลผู้จัดกิจกรรม และผู้สนับสนุนการจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ได้รับ เกียรติ บัตรรางวัลเชิดชูเกียรติ ทั้งจากหน่วยงานต้นสังกัดและหน่วยงานอื่น อีกทั้งให้เป็นแหล่ง เรียนรู้สาหรับการศึกษาดู งานจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น บ้านหนังสือชุมชน ซึ่งได้สนับสนุนให้พ้ืนที่ในการดาเนินการจัดกิจกรรมส่งเสริมการ อ่าน ห้องสมุดเคล่ือนท่ีสาหรับชาวตลาด ตามพระราชดาริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ ตลาดวันเสาร์ เทศบาลอาเภอขุนยวม และได้จัดทาข้อมูลอาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน (นักศึกษา กศน.) นักเรียน โรงเรยี นขุนยวมวิทยา ทีเ่ ป็นผู้จดั กิจกรรมสง่ เสริมการอ่าน และได้รับการยอมรับจากชุมชนให้เป็นผู้นาในด้านการจัด กิจกรรม ส่งเสริมการอานในแต่ละชุมชนไว้ ในสถานศึกษาอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ เพ่ือไว้บริการสาหรับผู้มาศึกษาดู งานต่อไป จากผลการดาเนินงานขา้ งต้น จะเหน็ ไดว้ ่า สถานศึกษามีกระบวนการพฒั นาผจู้ ัดกจิ กรรมการศกึ ษาตาม อัธยาศยั ทท่ี ่ีเป็นวิธีปฏบิ ัตทิ ่ีดี ดงั น้นั ในตวั บง่ ชี้ที่ 2.8 ประเด็นที่ 5 จงึ ไดค้ ะแนน เทา่ กับ 0.5 คะแนน สถานศกึ ษามีผลการประเมินตนเองในภาพรวม ตัวบ่งชี้ท่ี 28 คณุ ภาพผู้จดั กิจกรรมการศึกษาตาม อธั ยาศัย มคี ะแนนรวมเท่ากับ 4 คะแนน ซ่ึงมคี ุณภาพอยใู่ นระดบั ดี ตวั บง่ ชท้ี ่ี 2.9 คุณภาพกระบวนการจดั กิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย (คะแนนทไี่ ด้ ๔.๕๐ คะแนน) ผลการดาเนนิ งาน ประเด็นที่ 1 ผู้จัดกิจกรรมการศึกษาตามอธั ยาศยั มีกระบวนการในการออกแบบและจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ สถานศกึ ษา ไดด้ าเนินการจัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัยโดยมีกระบวนการในการออกแบบและ การ จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ดงั น้ี ด้านครผู ู้จดั กิจกรรมการศกึ ษาตามอธั ยาศัย 1) ไดม้ ีการสารวจความต้องการส่อื และการเรยี นร้ขู องผเู้ รยี นและผรู้ ับบรกิ าร 2) ได้มีการประชุมวางแผน จดั ทาแผนการปฏบิ ตั ิงานและแผนการจดั การเรียนรู้ 3) มีการจัดกิจกรรมตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น การใช้ แหลง่ เรยี นรู้ ผู้รู้ และภูมิปญ๎ ญาทอ้ งถ่ิน การใหบ้ รกิ ารสือ่ ใน กศน.ตาบล ศูนย์การเรียนชุมชน การจัดกิจกรรมในบ้าน หนงั สือชุมชน รายงานการประเมินตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขนุ ยวม หนา้ ๑๓๕

4) มีการจัดประชุมอบรมสัมมนาให้ความรู้ท้ังผู้จัดกิจกรรมและผู้รับบริการอาทิ การจัดกิจกรรม ตามโครงการอบรมอาสาสมัครส่งเสริมการอ่านบ้านหนังสือชุมชน โครงการอบรมอาสาสมัครส่งเสริมการอ่านบ้าน หนงั สือชมุ ชน เปน็ ต้น 5) มกี ารจดั กจิ กรรมตามความสนใจ ความถนัด ความต้องการของผเู้ รียนและผ้รู ับบริการ ด้านบรรณารักษ์ห้องสมุด 1. ไดม้ ีการสารวจความต้องการส่อื สารสนเทศและกจิ กรรมการเรยี นรู้ของผู้รับบริการ 2. ไดม้ กี ารประชมุ วางแผน และจัดทาแผนการปฏิบัติการหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอขนุ ยวม 3. มีการจัดกิจกรรมตามแผนการปฏิบัติการและดาเนินการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การ ให้บริการต่าง ๆ ภายในห้องสมุด การจัดกรรมส่งเสริมการอ่านเคลื่อนที่การจัดกิจกรรมโครงการพัฒนาผู้เรียน “วัน รกั การอ่าน ” เทดิ พระเกียรติ สมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า โครงการ พัฒนาแหล่งเรียนรู้ : บ้านหนังสือชุมชนประจา ตาบล เป็นตน้ 4. มกี ารจดั กจิ กรรมตามความสนใจ ความถนดั ความต้องการของผรู้ ับบรกิ าร 5. มีการวัดและประเมนิ ผลการจดั กจิ กรรมทุกครั้ง โดยการใช้แบบสอบถามความคิดเห็นและ แบบ ประเมินความพงึ พอใจ 6. มีการสรุปผลการดาเนินงานตามโครงการ / กิจกรรม เพื่อนาผลท่ีได้มาปรับปรุง และพัฒนา ตอ่ ไป ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนยวม ได้ดาเนินการจัดทาแผนการจัด กิจกรรม ส่งเสริมการอ่าน โดยผ่านความเห็นชอบและได้รับการอนุมัติโครงการ/กิจกรรม จากผู้บริหารสถานศึกษา และ ประชุมชี้แจงถึงกระบวนการจัดกิจกรรมดังกล่าว เพื่อแต่งต้ังคณะดาเนินการจัดกิจกรรม ระหว่างผู้บริหาร และ บุคลากรทางการศึกษา เพ่ือให้ได้มาซ่ึงกระบวนการจัดโครงการ/กิจกรรม รูปแบบการจัดกิจกรรมและแผนการจัด กิจกรรมที่ครอบคลุมและชัดเจนทันต่อเหตุการณ์ป๎จจุบันและตรงต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เพ่ือเป็นการ ส่งเสริมการอ่าน ให้แก่ ผู้รับบริการ ให้เข้าถึงเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยให้ผู้รับบริการของ กศน.ตาบลทั้ง 6 ตาบล และ ศศช. ๑๑ ศศช. ท่ีหมนุ เวียนเข้ามาค้นคว้าหาความรูท้ ีห่ ้องสมดุ ประชาชนอาเภอขุนยวมโดยมีการกาหนด กิจกรรมหัวข้อใบงาน ให้ค้นคว้าหาความรู้จากหนังสือท่ีมีอยู่ในห้องสมุดประชาชนอาเภอขุนยวม อีกทั้งมีการให้ ผู้รับบริการ นาเสนอ แลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกันและให้ผู้รับบริการที่มีความสนใจในการส่งเสริมการอ่าน สมัครเป็น อาสาสมัครส่งเสริม การอ่าน ในการดาเนินการจัดกิจกรรมห้องสมุดเคล่ือนท่ีสาหรับชาวตลาด เพ่ือเป็นการบริการ เชงิ รกุ ใหก้ ับชุมชน และชาวตลาดได้เลง็ เหน็ ถึงประโยชน์และความสาคัญของการอ่าน จากผลการดาเนินงานข้างต้น จะเห็นได้ว่า ผู้จัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัยสามารถอธิบายว่ามี กระบวนการในการออกแบบและจัดกจิ กรรมการเรยี นรูไ้ ดอ้ ย่างเป็นข้นั ตอน ชดั เจน ดังนั้น ในตัวบ่งช้ีที่ 2.9 ประเด็น ที่ 1 ได้คะแนน เทา่ กบั 1 คะแนน ประเด็นท่ี 2 ผู้จัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัยมีวิธีการประเมินผู้รับบริการว่ามีความรู้ ความสามารถ บรรลุ ตามวัตถุประสงคข์ องการจดั การศึกษาตามอธั ยาศยั การจัดกิจกรรมและบริการ ได้มีการสุ่มกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้แบบสอบถามความพึงพอใจ จากผู้รับบริการ ช่วงอายุ 15-60 ปี ให้ทาแบบสอบถามความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรม และสรุปรายงานผลความพึงพอใจ จาก รายงานการประเมินตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขนุ ยวม หน้า ๑๓๖

การดาเนินการจัดกิจกรรมโดยการนา “นวัตกรรมส่งเสริมการอ่านตามแนวพระราชดาริ สมเด็จพระเทพ รตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี 2 เมษายน 2561” โดย ให้ผเู้ ขา้ ร่วมกจิ กรรม เดนิ ชม นทิ รรศการ เพ่ือศึกษาหา ความรู้จากนิทรรศการที่จัด มีประชาชน ให้ความสนใจ เป็น จานวนมากและ ณ ห้องสมุดประชาชนอาเภอขุนยวม โดย ใช้ร่วมกับการค้นหายืมหนังสือไปอ่านที่บ้าน สรุปได้จากการเก็บข้อมูลสถิติของผู้เข้ารับบริการ (บัญชีรายช่ือผู้ เข้ารับ บริการ) ทาให้ทราบว่าได้รับการประชาสัมพันธ์จากนวัตกรรมส่งเสริมการอ่านตามแนวพระราชดาริ สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2 เมษายน 2561” และทาให้มีจานวนผู้รับบริการเพ่ิมขึ้นอย่าง ตอ่ เนอ่ื ง จากผลการดาเนินงานข้างต้น จะเห็นได้ว่า จัดกิจกรรมการจัดการศึกษาตามอัธยาศัยได้ใช้รูปแบบการตอบ แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรม และสรุปรายงานผลความพึงพอใจ ทาให้ทราบการจัดกิจกรรมจาก การสรุปแบบสอบถาม แต่ยังไมไ่ ดน้ านวตั กรรมด้านการใช้สมาร์ทโฟน ในการตอบแบบสอบถามโดยการแสกนคิวอาร์ โค้ด ทาให้ทราบผลการสรุปประเมินความพึงพอใจ ช้า และทาให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดการศึกษาตาม อัธยาศัย ยงั ไม่เปน็ ตามข้นั ตอน ดังนนั้ ในตวั บ่งชี้ท่ี 2.9 ประเด็นที่ 2 ได้คะแนน เท่ากับ ๐.๕ คะแนน ประเด็นท่ี 3 ผู้จัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัยมีการทบทวน หรือติดตาม หรือประเมินกระบวนการ ออกแบบ และจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ สถานศึกษา ได้ดาเนินการประชุมบุคลากรเพ่ือวางแผนการดาเนินงาน การจัดกิจกรรมการศึกษาตาม อัธยาศัย มีการประชุมเพื่อนาเสนอผลการดาเนินงาน การแลกเปล่ียนความคิด การทบทวน การติดตาม และการ สรุปประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างต่อเน่ืองทุกกิจกรรม โครงการ ท้ังในขณะดาเนินการและหลังจากมี การดาเนนิ การจัดกจิ กรรมเสร็จเรยี บรอ้ ย พร้อมทง้ั มกี ารแต่งต้ังคณะกรรมการนิเทศและติดตามการประเมินผล การ จัดกิจกรรมทุกโครงการโดยมีหลักฐาน ร่องรอย คือ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ คาส่ังคณะกรรมการนิเทศ การ จัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สรุปผลการดาเนินงานโครงการ สรุปรายงานการ ประชมุ บคุ ลากร กศน.อาเภอขุนยวม รายงานผลการนเิ ทศ จากผลการดาเนินงานข้างต้น จะเห็นได้ว่า ผู้จัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัยสามารถอธิบายวิธีการ ทบทวน หรือติดตาม หรือประเมินกระบวนการออกแบบ และจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างเป็นข้ันตอน ชัดเจน ดังนน้ั ในตัวบง่ ช้ีท่ี 2.9 ประเด็นที่ 3 ได้คะแนน เทา่ กบั 1 คะแนน ประเดน็ ที่ 4 สถานศึกษามกี ารดาเนินงานทสี่ อดคลอ้ งกับ นโยบายและจุดเน้นของสานักงาน กศน. /นโยบายจุดเน้น ข อ ง ก ร ะ ท ร ว ง ศึ ก ษ า ธิ ก า ร / ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ แ ล ะ เ ป้ า ห ม า ย ข อ ง แ ผ น ก า ร ศึ ก ษ า แ ห่ ง ช า ติ 20 ปี สถานศึกษา ได้จดั โครงการ/กิจกรรมการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ทห่ี ลากหลาย สง่ เสริมการอ่านและการ เรียนรู้ สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้เรียนและผู้รับบริการ ทาให้สามารถเลือกที่จะเรียนรู้ได้ตลอดชีวิตตามความสนใจ ความ ต้องการ โอกาส ความพร้อม และศักยภาพในการเรียนรู้ของแต่ละบุคคล ซ่ึงมีโครงการพัฒนาผู้เรียน ส่งเสริม การ เรียนรู้ สู่ศตวรรษท่ี 21 โครงการพัฒนาผู้เรียน “วันรักการอ่าน” เทิดพระเกียรติสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ , การพัฒนาแหล่งเรียนรู้ : บ้านหนังสือชุมชนประจาตาบล ฯลฯ การจัดโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ น้ีสอดคล้องกับ แผนการศึกษาแห่งชาติ 20 ปี ยุทธศาสตร์ท่ี 3 . ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากร มนุษย์ ข้อ ๓.๒ ส่งเสริมการจัดกระบวนการเรียนรู้ท่ีตอบสนองกับการเปล่ียนแปลงในศตวรรษท่ี ๒๑ รวมท้ังความ ตอ้ งการของประชาชนและชุมชน ในรูปแบบท่ีหลากหลาย ให้ประชาชนคดิ เป็น วิเคราะหไ์ ด้ ตดั สนิ ใจ รายงานการประเมนิ ตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขุนยวม หน้า ๑๓๗

ภายใต้ข้อมูลที่ถูกต้อง ข้อ ๓.๖ เพิ่มอัตราการอ่านของประชาชน โดยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในรูปแบบ ต่างๆเช่น อาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน ห้องสมุดประชาชน บ้านหนังสือชุมชน ห้องสมุดเคลื่อนท่ี ผลักดันให้เกิด ห้องสมดุ สู่การเปน็ ห้องสมดุ เสมอื นจรงิ ต้นแบบ เพ่ือพฒั นาให้ประชาชนมคี วามสามารถในระดบั อ่านคลอ่ ง เขา้ ใจ ความ คดิ วิเคราะห์พน้ื ฐาน และสามารถรับรู้ขอ้ มลู ข่าวสารทถ่ี กู ตอ้ งและทันเหตุการณ์ รวมทง้ั นาความรทู้ ไ่ี ดร้ บั ไปใช้ ปฏิบัติจริงในชีวิตประจาวัน ภาระกิจต่อเนื่อง ๑. ด้านการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ ข้อ ๑.๔ การศึกษาตาม อธั ยาศัย ๑) ส่งเสริมใหม้ ีการพฒั นาแหล่งการเรียนรู้ในระดบั ตาบล เพ่ือการถ่ายทอดองคค์ วามรู้ และจัดกจิ กรรม เพือ่ เผยแพร่องคค์ วามรใู้ นชมุ ชนไดอ้ ย่างทัว่ ถึง ๒) จัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้เพ่ือปลูกฝ๎งนิสัยรักการอ่าน และพัฒนาความสามารถในการอ่านและ ศกั ยภาพการเรียนรูข้ องประชาชนทกุ กลมุ่ เปา้ หมาย ๓) ส่งเสริมให้มีการสร้างบรรยากาศ และสิ่งแวดล้อมท่ีเอ้ือต่อการอ่านให้เกิดข้ึนในสังคมไทยโดยสนับสนุน การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางและทั่วถึง เช่น พัฒนาห้องสมุดประชาชนทุกแห่งให้เป็นแหล่ง เรียนรู้ตลอดชีวิตของชุมชน ส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน การสร้างเครือข่ายส่งเสริมการอ่าน จัดหน่วยบริการเคล่ือนที่พร้อมอุปกรณ์เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ที่หลากหลายให้บริการกับ ประชาชนในพนื้ ท่ีต่างๆ อย่างท่วั ถึง สมา่ เสมอ รวมทงั้ เสริมสรา้ งความพรอ้ มในด้านส่ืออุปกรณ์เพ่ือสนับสนุนการอ่าน และการจดั กิจกรรมเพอื่ ส่งเสริมการอา่ นอยา่ งหลากหลาย ๑.๕ พัฒนา กศน. ตาบล สู่ “กศน.ตาบล 4 G” ๑) พฒั นาครู กศน. และบคุ ลากรทเ่ี ก่ียวขอ้ งกับการจัดกิจกรรมการศึกษาและการเรียนรู้ : Good Teacher ให้เป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงความรู้กับผู้รับบริการ มีความเป็น “ครูมืออาชีพ” มีจิตบริการ มีความรอบรู้และทัน ตอ่ การเปล่ยี นแปลงของสงั คม เปน็ ผู้จดั กจิ กรรมการเรยี นรูแ้ ละบริหารจดั การความรู้ท่ดี ี รวมทง้ั เปน็ ผู้ปฏบิ ัติงานอย่าง มีความสขุ ๒) พัฒนา กศน.ตาบล ให้มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมเอ้ือต่อการเรียนรู้อย่างต่อเน่ือง : Good Place Best Check-In มคี วามพรอ้ มในการใหบ้ รกิ ารกิจกรรมการศึกษาและการเรียนรู้ เป็นแหล่งข้อมูลสาธารณะที่ง่ายต่อ การเข้าถึง และสะดวกต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างสร้างสรรค์ มีส่ิงอานวยความสะดวก ดึงดูดความสนใจและมี ความปลอดภัยสาหรบั ผรู้ ับบริการ ๓) ส่งเสรมิ การจัดกิจกรรมการเรียนร้ภู ายใน กศน.ตาบล : Good Activities ให้มีความหลากหลายน่าสนใจ ตอบสนองความต้องการของชุมชน เพ่ือพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของประชาชน รวมทั้งเปิดโอกาสให้ชุมชนเข้ามา จดั กิจกรรมเพื่อเช่ือมโยงความสมั พนั ธข์ องคนในชุมชน ๔) เสริมสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย : Good Partnership ท้ังภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อสร้างความเข้าใจ และให้เกิดความ ร่วมมอื ในการส่งเสริม สนับสนนุ และจัดการศกึ ษาและการเรียนรู้ให้กบั ประชาชนอย่างมคี ุณภาพ ๑.๖ ประสานความรว่ มมือหน่วยงาน องคก์ ร หรือภาคส่วนต่างๆ ทมี่ ีแหลง่ เรียนรอู้ ่นื ๆ เช่น พิพิธภณั ฑ์ ศูนย์เรียนรู้ แหล่งโบราณคดี ห้องสมุด เพ่ือส่งเสริมการจัดการศึกษาตามอัธยาศัยให้มีรูปแบบท่ีหลากหลายและ ตอบสนองความต้องการของประชาชน ๖. ด้านบคุ ลากร ระบบการบริหารจัดการ และการมีส่วนร่วมของทุกภาคสว่ น ๖.๓ การพัฒนาระบบบริหารจัดการ ข้อ ๔) ส่งเสริมให้มีการจัดการความรู้ในหน่วยงานและสถานศึกษาทุก ระดับ รวมท้ังการศึกษาวิจัย เพื่อสามารถนามาใช้ในการพัฒนาประสิทธิภาพการดาเนินงานที่สอดคล้องกับความ ต้องการของประชาชนและชุมชนพร้อมทง้ั พัฒนาขีดความสามารถเชงิ การแข่งขนั ของหนว่ ยงานและสถานศกึ ษา รายงานการประเมนิ ตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขุนยวม หน้า ๑๓๘

๕) สร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในการพัฒนาและส่งเสริม การจัดการ ศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิต จากผลการดาเนินงานข้างต้น จะเห็นได้ว่า การดาเนินงานการศึกษาตามอัธยาศัยของสถานศึกษา สอดคล้องกบั นโยบายและจุดเน้นของสานักงาน กศน. /นโยบาย จุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ /ยุทธศาสตร์และ เป้าหมายของแผนการศึกษาแห่งชาติ 20 ปี ดงั นน้ั ในตัวบ่งชี้ท่ี 2.9 ประเด็นท่ี 4 จึงไดค้ ะแนน เทา่ กับ 1 คะแนน ประเดน็ ที่ 5 สถานศึกษามีการออกแบบและจัดกระบวนการเรียนรู้การศึกษาตามอธั ยาศัย ทีเ่ ป็นต้นแบบ มีกระบวนการในการออกแบบและจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ การจดั การศกึ ษาตามอธั ยาศัยที่หลากหลาย โดยมี การนานโยบายและจุดเน้นของของสานักงาน กศน./นโยบายจุดเน้น ของกระทรวงศึกษาธิการ/ยุทธศาสตร์และ เป้าหมายของแผนการศึกษาแห่งชาติ 20 ปี มากาหนดเป็นแผนงาน /โครงการในการจัดกิจกรรมการศึกษาตาม อัธยาศัย เพอ่ื บรรลตุ ามเป้าหมาย มีความเชื่อมโยง สอดคล้องกับ พันธกิจ เป้าประสงค์ ประเด็นยุทธศาสตร์ ตัวช้ีวัด ที่กาหนดการศึกษาตามอัธยาศัยเป็นการศึกษาที่เกิดข้ึนตามวิถีชีวิตที่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์ จากการ ทางาน จากบุคคล จากครอบครัว จากชุมชน จากแหล่งความรู้ต่าง ๆ เพ่ือเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ ความบันเทิง และ การพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยมีลักษณะที่สาคัญคือ ไม่มีหลักสูตร ไม่มีเวลาเรียนที่แน่นอน ไม่จากัดอายุ ไม่มีการ ลงทะเบียน และไม่มีการสอน ไม่มีการรับประกาศนียบัตร มีหรือไม่มีสถานที่แน่นอน เรียนท่ีไหนก็ได้ ลักษณะการ เรยี นส่วนใหญเ่ ป็นการเรียนเพ่ือความรู้และนันทนาการ อีกทั้งยังไม่จากัดเวลาเรียน สามารถเรียนได้ตลอดเวลาและ เกดิ ข้ึนในทกุ ช่วงวัยตลอดชีวิต โดยศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนยวม ได้ดาเนินงาน จัดกิจกรรมการศึกษาตามอธั ยาศัย ที่หลากหลายเพ่ือเพิ่มโอกาสทางการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน/ผู้รับบริการโดยส่งเสริม ให้ผเู้ รยี น/ผ้รู ับบริการไดร้ ับความรแู้ ละทักษะพื้นฐานในการแสวงหาความรู้ท่ีจะเอ้ือต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตได้เรียนรู้ สาระท่ีสอดคล้องกับความสนใจความจาเป็นในการยกระดับคุณภาพชีวิต ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและ วัฒนธรรมและสามารถนาความรู้ท่ีได้รับไปใช้ประโยชน์ตามความต้องการของตนเอง ซ่ึงได้ดาเนินการจัดโครงการ/ กิจกรรมท่ีส่งเสริมการศึกษาตามอัธยาศัย เช่น โครงการส่งเสริมการอ่านห้องสมุดประชาชน โครงการส่งเสริมการ อ่านบ้านหนังสือชุมชน โครงการห้องสมุดเคล่ือนท่ีโครงการส่งเสริมการอ่านอาสาสมัคร โครงการส่งเสริมการอ่าน หน่วยบริการเคล่ือนที่ (รถโมบาย) โครงการบ้านหลังเรียน โครงการ 2 เมษายน “วันรักการอ่าน” ” โดยในการ ดาเนินงานโครงการต่างๆ เน้นการมสี ว่ นร่วมของคนในชุมชนเพ่อื ให้เกิดกระบวนการอ่าน คิด วิเคราะห์ และได้มีการ จัดกิจกรรมเคล่ือนท่ีไปตามตาบลต่างๆ เพ่ือให้เข้าถึงผู้เข้ารับบริการ เม่ือเสร็จส้ินโครงการจะมีการรายงานผลการ ดาเนินงานทุกกิจกรรม จากผลการดาเนินงานข้างต้น จะเห็นได้ว่า สถานศึกษามีกระบวนการในการออกแบบและจัดกระบวนการ เรียนรู้การศึกษาตามอัธยาศัย เป็นวิธีปฏิบัติท่ีดี ดังนั้น ในตัวบ่งชี้ท่ี 2.9 ประเด็นท่ี 5 จึงได้คะแนน เท่ากับ ๑ คะแนน สถานศึกษามีผลการประเมินตนเองในภาพรวม ตัวบ่งช้ีที่ 2.9 คุณภาพกระบวนการจัดกิจกรรม การศกึ ษาตามอธั ยาศัย มีคะแนนรวมเทา่ กบั 4.50 คะแนน ซงึ่ มคี ณุ ภาพอย่ใู นระดบั ดีมาก รายงานการประเมินตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขุนยวม หนา้ ๑๓๙

จากผลการดาเนินงานของสถานศึกษา ที่สอดคล้องกับมาตรฐานท่ี 2 คุณภาพการจัดการศึกษา/การให้บริการ ดงั รายละเอยี ดข้างต้น สามารถสรุปคะแนนที่ได้ และระดับคุณภาพจากผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา ได้ดัง รายละเอียดในตารางต่อไปนี้ มาตรฐาน นา้ หนัก ผลการประเมนิ ตนเอง มาตรฐานที่ 2 คุณภาพการจดั การศึกษา/การให้บรกิ าร (คะแนน) คะแนนที่ได้ ระดับคณุ ภาพ การศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน ตวั บ่งชท้ี ่ี 2.1 คุณภาพครูการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน 5 ๔.๕๐ ดมี าก ตัวบ่งชท้ี ่ี 2.2 คุณภาพของหลักสตู รสถานศึกษา ตวั บง่ ชท้ี ี่ 2.3 คุณภาพส่ือตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา 5 ๔.๕๐ ดีมาก ตัวบ่งชที้ ี่ 2.4 คุณภาพการจดั กระบวนการเรียนรูต้ ามหลกั สตู ร 5 ๔.๐๐ ดี สถานศกึ ษา การศกึ ษาตอ่ เน่ือง 5 ๔.๕๐ ดีมาก ตัวบ่งชที้ ี่ 2.5 คณุ ภาพวทิ ยากรการศกึ ษาตอ่ เนื่อง 5 ๔.๕๐ ดีมาก ตวั บง่ ชที้ ่ี 2.6 คณุ ภาพหลกั สูตรและสอ่ื การศึกษาต่อเนือ่ ง 5 ๔.๐๐ ดี ตวั บง่ ชที้ ี่ 2.7 คุณภาพการจัดกระบวนการเรียนรู้การศึกษาตอ่ เน่ือง 5 ๔.๐๐ ดี การศึกษาตามอัธยาศยั ตวั บ่งชท้ี ่ี 2.8 คุณภาพผจู้ ัดกจิ กรรมการศึกษาตามอัธยาศยั 5 ๔.๐๐ ดี ตวั บง่ ชที้ ี่ 2.9 คุณภาพกระบวนการจดั กิจกรรมการศกึ ษาตามอัธยาศัย 5 ๔.๕๐ ดีมาก 45 ๓๘.๕๐ ดีมาก รวม สถานศึกษามีผลการประเมนิ ตนเองในภาพรวม มาตรฐานที่ 2 คุณภาพการจัดการศึกษา/การใหบ้ ริการ มีคะแนนรวม เท่ากับ ๓๘.๕๐ คะแนน ซึ่งมีคุณภาพอยู่ในระดับ ดีมาก โดยมีจุดเด่น จุดท่ีควรพัฒนา วิธีปฏิบัติท่ีดี หรอื นวัตกรรม หรือต้นแบบ และข้อเสนอแนะในการพฒั นา ดงั น้ี จดุ เดน่ ๑. ส่งเสริมสนับสนุนให้ครูพัฒนาศักยภาพงานจัดการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่องจากหน่วยงานต้นสังกัด เช่น อบรมการจัดทาหลักสูตรรายวิชาเลือก อบรมการใช้ส่ือเทคโนโลยี อบรมครูเพ่ือพัฒนาการศึกษาประชาชนใน เขตภูเขา และผูบ้ ริหารศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอขุนยวม ๒. สถานศกึ ษามกี ารจดั การศึกษาตามอธั ยาศัยเปน็ ไปตามเปา้ หมาย จดุ ทค่ี วรพัฒนา .๑. สถานศกึ ษาควรจดั ทาหลักสูตรรายวิชาเลือกของสถานศึกษาเอง โดยการจัดอบรมให้ความรู้กับครู และ บุคลากรทุกระดับไดม้ สี ่วนรว่ มในการจัดทาหลกั สตู รรายวชิ าเลอื ก ๒. สถานศึกษาควรส่งเสริมสนับสนุนจัดทาแผนการเรียนรู้ที่สามารถนาไปใช้ได้จริง มีการตรวจบันทึกหลัง การสอนของครูอย่างต่อเน่ือง มีการนิเทศติดตามการจัดการเรียนรู้ของครู และให้ครูทาวิจัยเพื่อแก้ไขป๎ญห าของ ผ้เู รียนจากการบนั ทึกหลังการสอน รายงานการประเมินตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขุนยวม หนา้ ๑๔๐

๓. สถานศึกษาควรมีการจัดกิจกรรมเพ่ือส่งเสริมให้วิทยากรการศึกษาต่อเนื่องได้พัฒนาตนเอง เช่น การ ประชุมช้ีแจงทาความเข้าใจบทบาทหน้าที่ของวิทยากร การนาไปศึกษาดูงาน การนิเทศติดตามการจัดการเรียนรู้ การประเมินการจัดการเรียนรู้ของวทิ ยากร เป็นต้น วิธีปฏบิ ัติทด่ี ี หรือ นวัตกรรม ๑. การสร้างเพจสอื่ ออนไลน์ เพื่อสง่ เสรมิ อาชีพ แหล่งทอ่ งเทีย่ ว และภมู ิปญ๎ ญา ๒. ได้รับโอกาสอบรมพัฒนาอย่างต่อเน่ือง ครูนาความรู้จากการอบรมไปจัดกระบวนการเรียนรู้ให้กับ ผูเ้ รยี นจรงิ ครมู กี ารทบทวนกระบวนการทางานโดยการแลกเปลี่ยนเรยี นรรู้ ะหว่างกนั ตน้ แบบ ครูของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนยวมมีคุณภาพสามารถจัด กระบวนการเรยี นร้โู ครงการสร้างป่าสร้างรายได้ตามพระราชดาริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ของศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”บ้านห้วยบง ตาบลแม่อูคอ โดยโครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อ อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ เพิ่มพื้นท่ีป่าและให้คนอยู่กับป่าได้อย่างยั่งยืน ครูได้จัดกระบวนการเรียนรู้โดยผู้เรียนมีส่วน ร่วมประชุมแลกเปล่ียนความคิดเห็น นาผู้เรียนไปศึกษาดูงานและลงมือปฏิบัติจริงในพ้ืนท่ีของผู้เรียน โดยการวาง แผนการใช้ท่ีดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีการปลูกพืชตามหลักวิชาการ ได้แก่ การปลูกไม้ป่า ไม้เกษตรผสมผสานใน พืน้ ทเี่ ดยี วกัน ไมเ้ กษตรท่ีสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้เรียนคือ ปลูกเสาวรส และไม้ผล หลายชนิด สิ่งท่ีได้จากโครงน้ี ก็คือผู้เรียนมีจิตสานึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสามารถอยู่กับป่า สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวโดยไม่ ทาลายป่าไม้ ข้อเสนอแนะในการพฒั นา . ๑. สถานศึกษาควรมีการนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของผู้จัดกิจกรรม เพ่ือให้ มเี ทคนิควธิ ีการจดั และประเมินผลการจดั กิจกรรมการเรยี นร/ู้ ประสบการณ์ไดอ้ ย่างเหมาะสม ๒. สถานศึกษาควรจัดทาข้อมูลสารสนเทศเก่ียวกับกระบวนการออกแบบการจัดกิจกรรมการศึกษาตาม อัธยาศัย วิธีการประเมินผลการเรียนรู้ และการนิเทศติดตาม เช่น รายงานความพึงพอใจที่มีต่อการจัดกิจกรรม รายงานผลการดาเนินงานกจิ กรรมหรอื โครงการ รายงานการประชุม แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เคร่ืองมือวัดผล การเรยี นรู้ รายงานผลการนเิ ทศ เปน็ ต้น รายงานการประเมินตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขุนยวม หน้า ๑๔๑

มาตรฐานท่ี 3 ประสิทธิภาพการบริหารจดั การการศกึ ษา ตัวบ่งชท้ี ่ี 3.1 การบริหารสถานศึกษาตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและหลักธรรมาภบิ าล (คะแนนท่ี ได้ ๕.๐๐ คะแนน ) ผลการดาเนินงาน จากการประเมินของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนยวม ในตัวบ่งชี้ท่ี 3.1 พบว่า สถานศึกษาบรรลุตามเป้าหมายความสาเร็จ ของตัวบ่งช้ีที่ 3.1 ท่ีกาหนดไว้ ซึ่งได้ ๕.๐0 คะแนน ระดับ คุณภาพ ดีมาก จากคะแนนเตม็ 5 คะแนน ดว้ ยการดาเนนิ งานดังนี้ ผ้บู ริหารศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอขนุ ยวม มีการบริหารงาน ด้านวิชาการ โดยเปิดโอกาสใหบ้ ุคลากรทกุ ระดับมสี ว่ นรว่ มในการตดั สินใจ รับฟ๎งความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากใต้บังคับบัญชา มี การจัดทาแผนพัฒนาการศึกษา แผนปฏิบัติงานประจาปี การจัดทาหลักสูตร งานประกันคุณภาพการศึกษา งาน นิเทศติดตาม งานรายงานผลการปฏิบัติงานประจาปี เพ่ือให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหารงานวิชาการ ด้าน งบประมาณ มีการประชุมจัดสรรเงินงบประมาณตามกลุ่มเป้าหมายแต่ละตาบล ให้ครู และบุคลากรทุกคนเข้ามามี ส่วนรวมในการจัดทาแผนการใช้จา่ ยเงนิ งบประมาณ มีการดาเนนิ งานตามแผนทุกกิจกรรมอย่างต่อเน่ืองทุกโครงการ ต้องผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่แผนงานและโครงการว่าการใช้จ่ายเงินในโครงการคุ้มค่าหรือไม่ มีการนิเทศ ติดตามการใช้จ่ายเงินงบปะมาณ โดยให้สรุปงาน รายงานผลการจัดกิจกรรมแนบมาพร้อมชุดเบิกเงินทุกคร้ัง ด้าน งานบุคลากร ผู้บริหารมอบหมายงานให้ตรงตามศักยภาพของบุคลากร มีการส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากรทุก ระดับได้พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตามศักยภาพ บุคลากรมีการรายงานผลการพัฒนาตนเองให้ผู้บริหารทราบทุก ครั้งหลังกลับจากอบรม จากการนิเทศครูได้นาความรู้ท่ีได้รับจากการอบรมมาขยายผลให้กับเพ่ือนครู และผู้เรียน ส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากรในองค์การมีการออมทุกเดือน ๆ ละ ๒00 บาท ป๎จจุบันมีเงินออมของบุคลากร และมดี อกเบยี้ จากการปล่อยให้สมาชิกู้ รอ้ ยละ 1 บาท / เดือน ด้านการบริหารงานทั่วไป ผู้บริหารให้ความสาคัญ ในทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น กศน.อาเภอ ห้องสมุดประชาชนอาเภอขุนยวม กศน.ตาบล หรือ ศูนย์การเรียนชุมชน ต้องมีศักศ์ิศรีเท่าเทียมกัน เช่น งานอานวยการ งานอาคารสถานท่ี งานภาคีเครือข่าย การจัดการศึกษา ต้องเสมอ ภาคและเท่าเทียมกนั ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนยวม มี การดาเนินงานท่ีสอดคล้องดังน้ี สอดคล้องกับแผนการศึกษาแห่งชาติ 20 ปี ยุทธศาสตร์ท่ี ๖. ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนา ระบบการบริหารจัดการภาครัฐ ข้อ ๖.๑ พัฒนาและปรับระบบวิธีการปฏิบัติราชการให้ทันสมัย มีความโปร่งใส ปลอดการทุจริตและประพฤติมิชอบ บริหารจัดการบนข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ มุ่งผลสัมฤทธ์ิมีความโปร่งใส นานวตั กรรมและเทคโนโลยรี ะบบการทางานท่ีเป็นดิจิทัลมาใช้ในการบริหารและการตัดสินใจ ข้อ ๖.๒ พัฒนาระบบ ฐานข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาเพื่อการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ และเช่ือมโยงกับระบบฐานข้อมูลกลาง ของกระทรวงศึกษาธกิ าร เพอื่ การบริหารจดั การและบูรณาการข้อมลู ของประชาชนอย่างเปน็ ระบบ ข้อ ๖.๓ ส่งเสริม การพัฒนาบุคลากรทุกระดับอย่างต่อเน่ือง ให้มีความรู้และทักษะตามมาตรฐานตาแหน่ง ให้ตรงกับสายงาน ความ ชานาญ และความต้องการของบุคลากร ภาระกิจต่อเนื่อง ๖. ด้านบุคลากร ระบบการบริหารจัดการ และการมีส่วน ร่วมของทุกภาคส่วน ๖.๒ การพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานและอัตรากาลัง ข้อ ๑) จัดทาแผนการพัฒนาโครงสร้าง พนื้ ฐานและดาเนนิ การปรับปรงุ สถานที่ และวสั ดอุ ุปกรณใ์ หม้ คี วามพรอ้ มในการจดั การศกึ ษาและการเรียนรู้ ๒) บริหารอัตรากาลังที่มีอยู่ ท้ังในส่วนที่เป็นข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดใน การปฏบิ ัตงิ าน ๖.๓ การพฒั นาระบบบริหารจัดการ ๑) พัฒนาระบบฐานข้อมูลให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัย และเชื่อมโยงกันทั่วประเทศอย่างเป็นระบบเพื่อให้หน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดสามารถนาไปใช้ เป็นเครื่องมือ รายงานการประเมินตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขุนยวม หน้า ๑๔๒

สาคัญในการบริหารการวางแผน การปฏิบัติงาน การติดตามประเมินผล รวมทั้งจัดบริการการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยอย่างมีประสิทธิภาพ ๒) เพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารจัดการงบประมาณ โดยพัฒนาระบบ การกากับ ควบคุม และเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นตามเป้าหมายที่กาหนดไว้ ๓) พัฒนาระบบฐานข้อมูล รวมของนักศึกษา กศน. ให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัยและเช่ือมโยงกันทั่วประเทศ สามารถสืบค้นและสอบ ทานไดท้ นั ความต้องการเพ่อื ประโยชนใ์ นการจัดการศึกษาให้กบั ผู้เรียนและการบริหารจัดการอย่างมปี ระสิทธิภาพ ๔) ส่งเสริมให้มีการจัดการความรู้ในหน่วยงานและสถานศึกษาทุกระดับ รวมทั้งการศึกษาวิจัยเพ่ือสามารถนามาใช้ ในการพัฒนาประสิทธิภาพการดาเนินงานท่ีสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนและชุมชนพร้อมทั้งพัฒนาขีด ความสามารถเชิงการแขง่ ขันของหน่วยงานและสถานศึกษา ตวั บ่งช้ีที่ 3.2 การสง่ เสริม สนับสนนุ การจัดการศึกษาของภาคเี ครือขา่ ย (คะแนนทีไ่ ด้ ๕.๐๐ คะแนน) ผลการดาเนินงาน ประเด็นที่ 1 สถานศึกษามีกระบวนการในการสง่ เสรมิ สนับสนนุ การจัด หรอื ร่วมจดั การศกึ ษาของภาคี เครือข่าย สถานศึกษา ได้ประสานขอรับการสนบั สนุน ส่งเสริมการดาเนินกิจกรรม และร่วมจัตการจัดการศึกษา นอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จากภาคีเครือข่าย โดยมีกระบวนการในการดาเนินงาน ในรูปแบบการทา บันทึก ข้อตกลงร่วมมือ (MOU) และไม่ได้ทาบันทึกข้อตกลง MOU ร่วมกับภาคีเครือข่ายหน่วยงานภาครัฐ องค์กรเอกชน วดั ชุมชน ประกอบการ องค์การบรหิ ารสว่ นทอ้ งถิน่ โรงเรยี น ผ้รู ู้ ภมู ปิ ญ๎ ญานน้ั มีท้ังในระดับ ระดับสานักงาน กศน. ระดับสานักงาน กศน.จังหวัด และ กศน.อาเภอขุนยวมได้จัดทา MOU กับภาคีเครือข่ายในพื้นท่ีเอง ซ่ึงไม่ว่าจะเป็น การทา MOU โนระดับใด ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยอาเภอขุนยวม จะทาตามบทบาท ภารกจิ ท่ีได้รับมอบหมายจากหน่วยงานตน้ สงั กัด และทาตาม MOU นอกจากน้ียังมีภาคีเครือข่ายที่ไม่ได้ทาบันทึกข้อ ตกถึง MOU กศน.อาเภอขุนยวม จะทาการประสานความร่วมมือ จัดการเรียนรู้กับภาคีเครือมาอย่างต่อเนื่อง การ สรา้ งภาคเี ครือขา่ ยใหม่ ๆ สร้างความสัมพันธ์กับเครือข่ายอยู่เสมอ ประสานงานภาคีเครือข่ายเป็นประจา สม่าเสมอ รวมทง้ั เข้าร่วมกจิ กรรมต่าง ๆ ทภี่ าคเี ครือขา่ ยเปน็ หนว่ ยจดั และ ส่งเสรมิ ใหภ้ าคเี ครอื ข่ายเขา้ มามีบทบาท มีส่วนร่วม ในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย มีการ ส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย ร่วมกับหน่วยงานราชการในเขตพ้ืนที่ อาเภอขุนยวม สานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอขุนยวม สานักงานเกษตรอาเภอขนุ ยวม สาธารณสุขอาเภอขนุ ยวม ทว่ี ่าการอาเภอขุนยวม และสานักงานคณะกรรมการ การ เลือกต้ังจังหวัดม่ฮ่องสอน พร้อมกันนี้ยังมีการจัดโครงการสอนเสริมเติมเต็มความรู้ ในรายวิชาที่ยากตามสาระการ เรียนรู้และโครงการติวเข้มเติมเต็มความรู้ โดยได้เชิญวิทยากร ศูนย์วิทยาศาสตร์จังหวัดลาปาง เชิญครูจากโรงเรียน ขุนยวมวิทยา ท่ีมีความรู้ความสามารถ มาเป็นวิทยากรสอนเสริมในรายวิชาที่ยาก เช่น วิชา ภาษาอังกฤษ วิชา คณิตศาสตร์ และวิชาวิทยาศาสตร์ เพ่ือเพ่ิมผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นให้กับผู้เรยี น เป็นตน้ จากผลการดาเนินงานข้างต้น จะเห็นได้ว่า สถานศึกษาสามารถอธิบายกระบวนการในการส่งเสริม สนับสนนุ การจัด หรอื รว่ มจดั การศึกษาของภาคีเครือข่ายได้ชัดเจน ดังน้ัน ในตัวบ่งช้ีท่ี 3.2 ประเด็นท่ี 1 ได้คะแนน เท่ากบั 1.00 คะแนน รายงานการประเมนิ ตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขุนยวม หน้า ๑๔๓

ประเดน็ ที่ 2 ภาคเี ครือขา่ ยจัด หรือร่วมจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั สถานศึกษาได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายดาเนินงาน 4 ศูนย์ ได้แก่ 1) ศูนย์ส่งเสริมประชาธิปไตยตาบล (ศส.ปชต.) ในการดาเนนิ การขับเคล่อื น ร่วมกบั สานกั งานคณะกรรมการการเลยี้ กต้งั จงั หวัดแมฮ่ ่องสอน เช่น การจัด กิจกรรมโครงการให้ความรู้คณะกรรมการ ศส.ปชต. โดยการเชิญวิทยากรจาก สานักงานคณะกรรมการการเลือกต้ัง จังหวัดแม่ฮ่องสอน และกิจกรรมท่ีให้คณะกรรมการ ศส.ปชต.ลงพื้นที่ขับเคลื่อนการให้ความรู้กับประชาชนในเร่ือง เก่ียวกับประชาธิปไตยและการเลือกต้ัง 2) ศูนย์ดิจิทัลชุมชน ได้ส่งเสริมสนับสนุนการดาเนินงานร่วมกับ กระทรวง ดิจทิ ลั เพ่ือเศรษฐกจิ และสังคม เข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคล่ือนการดาเนินงาน เช่น การ อบรมประชาชนโครงการ พฒั นาเครือขา่ ยเศรษฐกิจดจิ ิทัลชุมชน หลักสูตร Digital Literacy และหลักสูตร การค้า ขายออนไลน์ การอบรมการ ใช้เน็ตประชารัฐ รวมท้ังการสารวจข้อมูลในการใช้เน็ตประชารัฐ 3) ศูนย์เรียนรู้ เศรษฐกิจพอเพียง ได้ดาเนินงาน ขับเคล่ือน จัดต้ังศูนย์เรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎี ใหม่ประจาตาบล ทุกตาบล ร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งผู้นาท้องถิ่น สานักงานเกษตรอาเภอขุนยวม ภูมิป๎ญญา ท้องถิ่น และภาคีเครือข่ายส่วนอื่น ๆ ในทุกตาบล 4) ศนู ย์การเรียนรตู้ ลอดชีวิต ได้ขับเคล่ือนร่วมกับภาคีเครือข่าย ส่วนอื่นจัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย เช่น องค์กรปกครองท้องถิ่นท้ัง 6 ตาบล หน่วยงานใน พื้นที่ได้ประสานความร่วมมือกันจัด กิจกรรมร่วมกันอย่างสม่าเสมอ และได้ดาเนินงานตามนโยบายอื่น ๆ ของ กระทรวงศึกษาธิการ เช่น การขับเคลื่อน Smart ONIE ในการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ท่ีเสริมสร้าง ศักยภาพของประชาชน ให้สอดคล้องกับการพัฒนา ประเทศ ไดม้ กี ารสง่ เสริมการจัดการเรียนรู้ด้าน เกษตรกรรม Smart Farmer เกษตรปราดเปร่ือง โดยเชิญวิทยากรท่ี มีความรู้ความสามารถจากหน่วยงาน ต่าง ๆ มาร่วมเป็นวิทยากรให้ความรู้ภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ และการศึกษาดู งานจากแหล่งเรียนรู้ สานักงาน สาธารณสุขอาเภอขุนยวม โรงพยาบาลอาเภอขุนยวม ได้สนับสนุนบุคลากรและ สถานท่ีในการฝึกอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ หลักสูตร 70 ช่ัวโมง และท้ังนี้ได้ดาเนินกิจกรรมร่วมกับภาคี เครือขา่ ยในการจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพ โดย สถานศึกษา ได้ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตาบล เกษตรอาเภอ ขุนยวม พัฒนาชุมชนอาเภอขุนยวม องค์การบริหารส่วนตาบลทั้ง 6 ตาบล และกานัน/ผู้ใหญ่บ้าน ในการสารวจ กลุ่มเป้าหมายที่ต้องฝึกอบรมทักษะอาชีพ ตามโครงการศูนย์ฝึก อาชีพชุมชน ประจาภาคเรียนที่ 2/2561 และ 1/2562 เพ่ือฝึกอบรมอาชีพ หลักสูตรกลุ่มสนใจ ไม่เกิน 30 ช่ัวโมง และ หลักสูตร 30 ชั่วโมงขึ้นไป โดยมีการ ฝึกอบรมอาชีพทห่ี ลากสายตามความตอ้ งการของกลุ่มเปา้ หมาย อาทิ เช่น วิชาการทาขนมไทย ผ้าทอกะเหร่ียง การ เลยี้ งปลาดุก และวิชาช่างพื้นฐาน เช่น ช่างปูน ช่างปูกระเบื้อง โดยในการฝึกอบรมอาชีพเหล่าน้ีได้นาไปสู่การอบรม โครงการพัฒนาเครือข่าย เศรษฐกิจดิจิทัลสู่ขุมขน และหลักสูตรการค้าขายออนไลน์ ทาให้ผู้เข้ารับการอบรม ได้รับ การพัฒนาทักษะด้านการใชเ้ ทคโนโลยีเพ่ือเพ่ิมช่องทางการขยายตลาดการขายสินค้า ซึ่งเป็นการดาเนินงาน ร่วมจัด ระหวา่ งภาคีเครือขา่ ย กบั กศน.ตาบล ภายใตส้ ังกดั กศน.อาเภอขนุ ยวมให้บรรลเุ ป้าหมายของการดาเนิน โครงการ จากผลการดาเนินงานข้างต้น จะเห็นได้ว่า สถานศึกษาสามารถอธิบายกระบวนการจัด หรือร่วมจัด การศึกษาของภาคีเครอื ขา่ ยไดช้ ดั เจน ดงั นัน้ ในตัวบ่งชีท้ ี่ 3.2 ประเด็นที่ 2 ไดค้ ะแนน เท่ากับ 1 คะแนน รายงานการประเมินตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขนุ ยวม หน้า ๑๔๔

ประเด็นท่ี 3 สถานศึกษามีการติดตามการจัด หรือ ร่วมจัดการศึกษาของภาคีเครือข่าย และนาผลการ ตดิ ตามไปใช้ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนยวม มีการติดตามการจัดหรือร่วมจัด การศึกษาของภาคีเครือข่าย โดยมีการดาเนินการนี้เทศการจัดกิจกรรมในทุกกิจกรรมโดยยึดคาส่ังแต่งตั้ง คณะกรรมการนิเทศภายใน ของ กศน.อาเภอ เป็นการนิเทศภายในโดยคณะศึกษานิเทศก์ จากหัวหน้ากลุ่มงาน ผู้บริหาร และผู้นเิ ทศภายในของสถานศึกษา มีการนิเทศบ้านหนังสือชุมชน นิเทศปราชญ์ชาวบ้านภูมิป๎ญญาท้องถิ่น นิเทศกลุ่มอาชีพ แหล่งเรียนรู้ เป็นต้น โดยใช้แบบ นิเทศติดตาม และมีการใช้แบบความพึงพอใจของผู้ร่วมกิจกรรม เป็นสว่ นหน่งึ ในการสรปุ ผลการดาเนนิ งานของ กจิ กรรม สถานศึกษา มีการติดตามการจัด หรือร่วมจัดการศึกษาของภาคีเครือข่าย ศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนยวม ได้ดาเนินการติดตามการดาเนินงานโดยใช้รูปแบบวิธีการท่ีหลากหลาย มีการ นเิ ทศติดตามการดาเนนิ การจดั กิจกรรม มีการแต่งตั้งคณะกรรมการนิเทศติดตามผลการดาเนินงาน ไม่ว่าจะเป็น การ จัดการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน การศึกษาต่อเนื่อง การศึกษาตามอัธยาศัย นอกจากนี้ได้มอบหมายให้ครู กศน.ตาบล รายงานผลการปฏิบตั ิงานรายเดือน รายงานผลการจัดกิจกรรมโครงการทุกกิจกรรม รายงานเป็นเอกสารรูปเพิ่มเพ่ือ เก็บไว้เป็นหลักฐานและเพ่ือเป็นแนวทางในการพัฒนา แผนการดาเนินงานในปีต่อไป ในส่วนงานการศึกษานอก ระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ได้กาหนดให้ครู อาสาสมัคร ครู กศน.ตาบล และครูศูนย์การเรียนชุมชน ดาเนินการรายงานผลการเข้าสอบ ขาดสอบ ท้ังการสอบ ปลายภาคเรียนและการสอบ N-net ในทุกภาคเรียนของ แตล่ ะปีการศกึ ษา จากผลการดาเนนิ งานข้างตน้ เหน็ ไดว้ า่ สถานศึกษาสามารถอธบิ ายวธิ กี ารติดตามการจัด หรอื รว่ มจัด การศึกษาของภาคีเครือขา่ ย และอธบิ ายผลการนาผลการติดตามไปใชไ้ ดแ้ ต่ไม่ชดั จน ดังนัน้ ในตวั บง่ ชี้ที่ 3.2 ประเดน็ ที่ 3 ได้คะแนน เทา่ กับ 1 คะแนน ประเดน็ ที่ 4 สถานศกึ ษามกี ารทบทวน หรือตดิ ตามกระบวนการในการสง่ เสริม สนับสนนุ การจดั หรอื ร่วม จัดการศึกษาของภาคีเครือข่าย เพื่อนาไปปรับปรุงกระบวนการ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนยวม มีการดาเนินงาน กิจกรรม โครงการ สอดคล้องกบั นโยบายและจตุ ิเป็นสานักงาน กศน. ปีงบประมาณ 2562 และแผนการศึกษาชาติ 20 ปี ดงั น้ี สอดคล้องกับนโยบายและจุดเน้นสานักงาน กศน. ปีงบประมาณ 2562 ยุทธศาสตร์ท่ี 4 ด้านการสร้าง โอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา ข้อ 45 พลิกโฉม กศน.ตาบล สู่ กศน.ตาบล 4G\" (4 เสริมสร้างความ ร่วมมือกับภาคีเครือข่าย : Good Partnerships ท้ังภาครัฐภาคเอกชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวมท้ัง ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชน เพ่ือสร้างความเข้าใจ และให้เกิดความร่วมมือในการส่งเสริม สนับสนุน และจดั การศกึ ษา และการเรยี นรู้ให้กบั ประชาชนอยา่ งมคี ุณภาพ ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนยวม มีการทบทวนหรือติดตามสอบถามเมื่อ ดาเนินการจัดกิจกรรมเสร็จส้ินแล้ว กระบวนการในการส่งเสริมสนับสนุนการจัดหรือร่วมจัดการศึกษาของภาคี เครือข่ายเพื่อนาไปปรับปรุงกระบวนการในการจัดกิจกรรม โดยนาข้อมูลจากการรายงานผลการจัดกิจกรรม ข้อมูล การนเิ ทศของ ผบู้ ริหาร หัวหน้ากลุ่มงาน ครูนิเทศก์ โดยนาข้อมูลมานาเสนอในการประชุมบุคลากรของสถานศึกษา รายงานการประเมนิ ตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขนุ ยวม หนา้ ๑๔๕

และประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา จัดทาเอกสารสรุปผลการดาเนินงาน เพ่ือร่วมกันหาแนว ทางการพัฒนา ปรบั ปรุงในการจัดกิจกรรมครัง้ ต่อไป จากผลการดาเนินงานข้างตน้ จะเหน็ ไดว้ า่ สถานศึกษามกี ารทบทวนหรอื ติดตามกระบวนการในการ ส่งเสริม สนับสนนุ การจัดหรือรว่ มจดั การศกึ ษาของภาคเี ครือขา่ ย เพ่อื นาไปปรับปรงุ กระบวนการได้อยา่ งชดั เจน ดังนั้น ในตวั บง่ ชท้ี ่ี 3.2 ประเดน็ ที่ 4 ได้คะแนน เทา่ กบั 1 คะแนน ประเด็นท่ี 5 สถานศกึ ษามกี ระบวนการในการส่งเสรมิ สนบั สนนุ ให้ภาคีเครอื ขา่ ยจดั หรอื รว่ มจัดการ ศึกษา ที่เปน็ ตน้ แบบ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอขุนยวม มีกระบวนการในการส่งเสริม สนับสนุน ให้ภาคีเครอื ข่ายร่วมจดั กจิ กรรม รับเกียรติบัตรและสรา้ งขวัญและกาลังใจโดยการมอบ เกยี รติบตั รบตั ร นอกจากน้ีได้ เชญิ ภาคเี ครอื ขา่ ย ปราชญ์ชาวบา้ น มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประสบการณ์ เพ่ือสร้างแรงบันดาล ใจให้กับนักศึกษาและ ประชาชนท่ัวไป การจดั กิจกรรมมี 3 แบบ ดงั นี้ 1. สถานศึกษาจัดกิจกรรมเอง เช่น การศึกษาขั้นพื้นฐาน อบรมพัฒนาครู กศน.ต้นแบบ การสอน ภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร การศึกษาต่อเนื่อง (กลุ่มอาชีพ) โครงการภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารต้านอาชีพ การศึกษาตามอัธยาศัย มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านเคล่ือนที่ ส่งเสริมรักการอ่านห้องสมุดชาวตลาด บ้าน หนงั สือขุมขน อาเภอเคลอ่ื นท่ี จงั หวดั เคลอ่ื นที่ กจิ กรรมวนั เดก็ แห่งชาติ และกิจกรรมวนั สาคญั ต่างๆ 2. สถานศึกษาร่วมจัด เช่น การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน โครงการลูกเสือจิตอาสาเราทาความดีด้วยหัวใจเทิดไท้ องค์ราชัน เราทาความดีดว้ ยหัวใจปลกู ตน้ ไม้ 3. การศึกษาตามอัธยาศัย โครงการอาเภอย้ิมเคลื่อนท่ี ส่งเสริมประชาธิปไตยประจาตาบล วิทยากรแกน นา โครงการไทยนยิ ม ยงั่ ยืน เนต็ ประชารัฐ โครงการบา้ นหนังสือชุมชน จากผลการดาเนินงานข้างต้น จะเห็นได้ว่า สถานศึกษามีกระบวนการในการส่งเสริมสนับสนุนให้ภาคี เครือข่ายจดั หรือร่วมจัดการศึกษาทีเ่ ป็นตน้ แบบ ดงั นนั้ ในตวั บง่ ช้ีที่ 3.2 ประเดน็ ที่ 5 ได้คะแนน เทา่ กับ 1 คะแนน สถานศึกษามีผลการประเมินตนเองในภาพรวม ตวั บ่งชี้ที่ 3.2 การส่งเสริม สนับสนุน การจัดการศึกษา ของภาคเี ครอื ข่าย มคี ะแนนรวมเท่ากบั 5 คะแนน ซึง่ มีคณุ ภาพอยูใ่ นระดับ ดมี าก ตวั บง่ ช้ที ี่ 3.3 การมีสว่ นร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษา (คะแนนที่ได้ ๕.๐๐ คะแนน) ผลการดาเนินงาน จากการประเมินของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสีค้ิว ในตัวบ่งช้ีท่ี 3.3 พบว่า สถานศึกษาบรรลุตามเป้าหมายความสาเร็จ ของตัวบ่งช้ีท่ี 3.3 ท่ีกาหนดไว้ ซึ่งได้ ๕ คะแนน ระดับ คุณภาพดมี าก จากคะแนนเต็ม 5 คะแนน ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอขุนยวม มีการประกาศรับสมัครการสรรหาและ การคัดเลือกคณะกรรมการสถานศึกษา ซ่ึงเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้าน การศึกษา ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม พัฒนา สังคม ชุมชนและส่ิงแวดล้อม การเมืองการปกครอง ความม่ันคง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสารสนเทศ ภูมิป๎ญญาท้องถ่ิน สาธารณสุข เลือกประธานกรรมการสถานศึกษา แต่งต้ังคณะกรรมการสถานศึกษา โดยให้ ผู้อานวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยซึ่งเป็นเลขานุการโดยตาแหน่ง เสนอต่อ รายงานการประเมินตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขุนยวม หน้า ๑๔๖

ผู้อานวยการสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดลงนามในคาสั่งแต่งต้ัง คณะกรรมการสถานศึกษา ประชุมช้ีแจงบทบาทหน้าท่ีของคณะกรรมสถานศึกษาให้ได้รับทราบ คณะกรรมการ สถานศึกษา มีส่วนร่วมตามบทบาทหน้าท่ี ให้ความเห็นชอบแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา แผนปฏิบัติงานประจาปี หลักสูตรรสถานศึกษา ให้คาปรึกษาการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ตลอดจนร่วม นิเทศ ติดตาม ประเมินผล การดาเนินงานของการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยศูนย์การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนยวม มีการดาเนินงานที่สอดคล้องดังนี้ สอดคล้องกับแผนการศึกษาแห่งชาติ 20 ปี ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 6 การพฒั นาประสทิ ธิภาพของระบบบริหารจัดการศึกษา ข้อ 2.5 ระบบบริหารงานบุคคลของ ครู อาจารย์ และบุคลากรทางศึกษา มีความเป็นธรรม สร้างขวัญกาลังใจ และส่งเสริมให้ปฏิบัติงานได้อย่างเต็มตาม ศักยภาพ (1) มีระบบการสรรหาและแต่งต้ังผู้บริหารสถานศึกษาตามหลักเกณฑ์ความรู้ ความสามารถประสบการณ์ การจัดการเรียนการสอน การบริหารการศึกษาและความสาเรจ็ ในวชิ าชีพ สอดคลอ้ งกบั นโยบายและจุดเน้นกระทรวงศึกษาธกิ าร ปงี บประมาณ 2562 1.ยกระดับคุณภาพการศึกษา 2.ลดความเหลือ่ มล้าทางสงั คม 3.มุ่งความเป็นเลิศและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 4.ปรับปรุง ระบบการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ และการขับเคล่ือนนโยบายสู่การปฏิบัติตามวัตถุประสงค์วัตถุประสงค์ ข้อที่ 2. สอดแทรกเรือ่ งความโปรง่ ใส ยุตธิ รรมและป้องกนั การทจุ รติ ในทุกมิติทง้ั การเรยี นการสอน สถานศึกษามีผลการประเมินตนเองในภาพรวม ตัวบ่งชี้ที่ 3.๓ การมีส่วนร่วมของคณะกรรมการ สถานศึกษา มีคะแนนรวมเท่ากับ 5 คะแนน ซ่ึงมีคณุ ภาพอยใู่ นระดบั ดีมาก ตัวบ่งช้ที ี่ 3.4 การประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศึกษา (คะแนนทไ่ี ด้ ๕.๐๐ คะแนน) ผลการดาเนินงาน ประเด็นที่ 1 สถานศึกษามีการจัดระบบการประกันคุณภาพภายในท่ีส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียนและ ผู้รับบรกิ าร ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนยวม ได้ดาเนินการจัดทาแผนพัฒนาคุณภาพ การศกึ ษาปี 2560 - 2564 แผนปฏบิ ัตกิ ารประจาปี 256๒ แผนปฏิบัติการฉบับปรับปรุง 256๒ แผนปฏิบัติการ ประจาปีของ กศน.ตาบล โดยสถานศึกษาได้ดาเนินงานตามแผนปฏิบัติงาน ปี 256๒ และแต่งต้ังคณะกรรมการ ประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษา นิเทศติดตาม ผลการดาเนินงาน และตรวจสอบผลการดาเนินงาน เพื่อให้ สถานศึกษานาผลการประเมินมาปรับปรุงพัฒนา ทั้งน้ีได้ดาเนินการเป็นไปตามค่าเป้าหมายท่ีกาหนดในแผนพัฒนา คุณภาพการศึกษา ส่งผลให้ผเู้ รียนและผ้รู บั บรกิ ารมีคุณภาพตามวัตถุประสงค์ของโครงการโดยมีผลการประเมินตาม ตัวชวี้ ัด 1.1 – 1.7 ได้คะแนน 30 คะแนน จากผลการดาเนินงานข้างต้น จะเห็นได้ว่าสถานศึกษามีการดาเนินงานครอบคลุมตามกฏกระทรวง ศึกษาธิการกาหนด และมีคะแนนผลการประเมินในมาตรฐานผู้เรียน/ผู้รับบริการอย่างน้อย 0.5 คะแนน ในทุก ประเดน็ การพจิ ารณาของตัวบ่งชี้ 1.1 -1.7 ดงั นัน้ ในตวั บ่งชีท้ ี่ 3.4 ประเดน็ ที่ 1 ได้คะแนน เท่ากับ 1 คะแนน ประเด็นที่ 2 สถานศึกษามีการสร้างความรู้ ความเขา้ ใจให้แก่บุคลากรในการดาเนนิ งานตามระบบการ ประกัน คุณภาพภายในของสถานศกึ ษาท่ีกาหนด ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนยวม มีการพัฒนาบุคลากร ทุกระดับ ต้ังแต่ ผ้อู านวยการ กศน.อาเภอ เขา้ รบั ทราบแนวทางการประกันคุณภาพที่ สานักงานกศน.จงั หวัดแม่ฮ่องสอน ส่งบุคลากร รายงานการประเมนิ ตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขุนยวม หน้า ๑๔๗

แกนนาอาเภอเขา้ ร่วมในโครงการอบรมแนวทางการดาเนินงานการประกันคุณภาพภายในของ กศน. และมีการสร้าง ความรู้ ความเข้าใจ แกบ่ ุคลากรในสถานศึกษา โดยจดั ให้มีการประชุมช้ีแจงแนวทางการดาเนินการ ประกันคุณภาพ ภายในเป็นผลให้บุคลากรมีความรู้ความเข้าใจในการดาเนินงานตามระบบประกันคุณภาพภายใน ของสถานศึกษา เชิญ ศึกษานิเทศก์ของสานักงาน กศน.จังหวัดแม่ฮ่องสอน มาให้ความรู้ และลงมือปฏิบัติจริงในการ เขียนสรุปผล การประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศึกษา ปีงบประมาณ 256๒ สถานศึกษาสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับบุคลากร โดยส่งเสริมให้บุคลากรทุกคนมีส่วนร่วมในการ วเิ คราะห์ผลการประเมินตนเอง การประกันคุณภาพสถานศึกษาโดยต้นสังกัด และผลการประเมินคุณภาพภายนอก สถานศึกษามากขึ้น เพื่อวิเคราะห์หาจุดเด่น จุดท่ีควรพัฒนา และกาหนดแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการจัด การศึกษาร่วมกัน ร่วมกันคิด ร่วมกันทา ร่วมกันกาหนดโครงการ/กิจกรรมและเป้าหมายในการปรับปรุงและพัฒนา คณุ ภาพการศกึ ษาใหช้ ัดเจน สง่ ผลใหม้ กี ารพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาเป็นไปอย่างต่อเนอ่ื ง จากผลการดาเนินงานข้างต้น จะเห็นได้ว่า บุคลากรทุกคนสามารถอธิบายวิธีการสร้างความรู้ ความเข้าใจ ของสถานศึกษาให้แก่บุคลากรในการดาเนินงานตามระบบการประกันคุณภาพภายในข องสถานศึกษาท่ีกาหนดได้ อยา่ งชัดเจน ดงั น้นั ในตัวบง่ ชท้ี ี่ 3.4 ประเดน็ ท่ี 2 ไดค้ ะแนน เทา่ กบั 1 คะแนน ประเด็นท่ี 3 สถานศึกษามีการทบทวนหรือประเมินระบบการประกันคุณภาพภายในท่ีส่งผลต่อคุณภาพ ผเู้ รยี น และผูร้ ับบรกิ าร ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนยวม จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ทบทวน ติดตามผลการปฏิบัติงานในแต่ละกิจกรรม โดยมอบหมายให้บุคลากรทุกคนเป็นผู้สรุปผลงานในส่วนท่ีรับผิดชอบ แยกเป็นรายตาบล ทั้งท่ีเป็นข้อมูลเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ จัดรวบรวมข้อมูลสารสนเทศ ทั้งนี้มีการตรวจสอบ ผลงานให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่กาหนดไว้ในคารับรองการปฏิบัติงาน DMIS และผลการปฏิบัติงานท่ีกรอกไว้ใน ระบบ ตรวจสอบผลการดาเนินงานเชิงคุณภาพโดยดูจากการดาเนินงานที่บรรลุวัตถุประสงค์และตัวช้ีวัดท่ีกาหนดไว้ ส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียนและผู้รับบริการ นอกจากน้ียังได้ นาผลมาดาเนินการพัฒนาคุณภาพและปรับปรุงให้ สอดคล้องกับมาตรฐานตัวบง่ ชี้ท่กี าหนด และตรงตามความต้องการของผู้เรียนและผูร้ บั บริการ สถานศึกษา ได้มีการตรวจสอบและทบทวนคุณภาพการศึกษา มีกระบวนการติดตามตรวจสอบ ความก้าวหน้าของการปฏิบัติงานตามแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา แผนปฏิบัติการประจาปีของสถานศึกษา และ จัดทารายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษาพร้อมทั้งเสนอแนะเร่งรัดการพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดย บุคลากรทุกคนมีส่วนร่วมในการติดตามและจัดทารายงานข้อมูลสารสนเทศท่ีแสดงให้เห็นถึงข้อมูลผลการเรียนของ ผู้เรียนได้เป็นรายบุคคล หรือโครงการกิจกรรมท่ีดาเนินการจัดข้ึน และนาข้อมูลสรุปรานงานให้คณะกรรม สถานศึกษาทราบเพื่อร่วมกนั หาแนวทางพฒั นาต่อไป จากผลการดาเนินงานข้างต้น จะเห็นไดว้ ่า สถานศึกษาสามารถอธบิ ายวธิ กี ารทบทวน หรือประเมนิ ระบบ การประกันคณุ ภาพในท่สี ่งผลตอ่ คุณภาพผเู้ รียนและผรู้ ับบริการไดแ้ ตไ่ ม่ชัดเจน ดังนัน้ ในตวั บ่งช้ที ี่ 3.4 ประเดน็ ท่ี 3 ได้คะแนน เท่ากบั 1 คะแนน ประเด็นท่ี 4 สถานศึกษามีการจัดทาแนวทางการดาเนนิ งานตามระบบประกันคุณภาพภายในเพอ่ื ให้ บคุ ลากร ของสถานศกึ ษาใชเ้ ป็นแนวทางในการดาเนนิ งาน รายงานการประเมินตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขนุ ยวม หนา้ ๑๔๘

ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนยวม ได้จัดทาแนวทางการประกันคุณ ภายใน โดยเชิญวิทยากรมาให้ความเข้าใจทบทวนรายละเอียดมาตรฐานตัวบ่งช้ี ประเด็นการพิจารณาและการ เกณฑ์การให้คะแนนเพ่ือให้เกิดความเข้าใจก่อนการประเมินตนเองของสถานศึกษา ดาเนินการรวบรวมข้อมูล สารสนเทศท่ีเก่ียวข้องกับการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ไว้อย่างเป็นระบบ สามารถตรวจสอบข้อมูลได้จาก เอกสารหลักฐานร่องรายการจัดกิจกรรม โดยใช้วิธีการท่ีหลากหลาย เช่น ศึกษาเอกสาร สัมภาษณ์ สังเกต เพื่อ จัดทารายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา (SAR) ของสถานศกึ ษา สถานศึกษา ได้มีการจัดประชุมบุคลากร เพ่ือสร้างความรู้ และความเข้าใจในระบบประกันคุณภาพภายใน ของสถานศึกษา และได้จัดทาโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ “การเขียนรายงานการประเมินตนเอง” โดย ดาเนินการสาเนาเอกสารแนวทางการดาเนินงานตามระบบประกันคุณภาพภายใน และแนวทางการเขียนรายงาน การประเมินตนเองของสถานศึกษา เพื่อให้บุคลากรใช้เป็นแนวทางการทางาน การดาเนินงานตามแผนพัฒนา คุณภาพการศึกษา โดยการกากับ ติดตามการดาเนินงานอย่างต่อเน่ืองให้บรรลุเป้าหมายตามแผนพัฒนาคุณภาพ สถานศึกษาท่ีกาหนดไวโ้ ดยจดั ทาแผนปฏิบตั กิ ารประจาปที ่ีชดั เจนครอบคลมุ ทุกกิจกรรม/โครงการของสถานศึกษา จากผลการดาเนินงานขา้ งตน้ จะเห็นไดว้ า่ สถานศึกษาสามารถอธิบายวิธีการ และข้นั ตอนการจัดทาแนว ทางการดาเนนิ งานตามระบบประกันคุณภาพภายในเพ่ือให้บุคลากรของสถานศกึ ษาใชเ้ ป็นแนวทางในการ ดาเนินงานไดช้ ดั เจน ดังนัน้ ในตวั บง่ ชท้ี ่ี 3.4 ประเดน็ ที่ 4 ไดค้ ะแนน เท่ากับ 1 คะแนน ประเด็นท่ี 5 สถานศึกษาพัฒนาระบบการประกนั คุณภาพการศึกษาภายในสถานศกึ ษา ทีเ่ ปน็ ตน้ แบบ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนยวม ดาเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการกัน คุณภาพภายใน ประกอบด้วยผู้บริหาร และบุคลากรทุกคน จัดทาคู่มือแนวทางการประกันคุณภ าพ แจกให้กับ บุคลากรศึกษาหาความรู้ ทาความเข้าใจ จัดประชุมปฏิบัติการเพ่ือฝึกปฏิบัติในการเก็บข้อมูล ส่งเสริม กระตุ้นให้ บุคลากรในสถานศึกษาได้ตระหนัก เห็นความสาคัญของการจัดกิจกรรมให้บรรลุตามมาตรฐาน วิสัยทัศน์ พันธกิจ ของสถานศึกษา และนาผลการประเมิน มาใช้ในการวางแผนพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษาภายใน สถานศกึ ษา จดั ระบบสารสนเทศท่ีถูกต้องนามาใช้เป็นข้อมูลสาหรับสรุปผลการปฏิบัติงานประจาปี นากระบวนการ วงจรคุณภาพ PDCA มาใช้ในการปฏิบัติงานทุกกิจกรรม มีการนิเทศติดตามผลการจัดกิจกรรมต่างๆ ในพ้ืนที่โดย ผ้อู านวยการสถานศึกษา เพื่อให้งาน/โครงการต่างๆ บรรลุตามวัตถุประสงค์และตัวชี้วัด สอดคล้องกับมาตรฐาน ตัว บ่งชขี้ องการประกนั คณุ ภาพภายใน จากผลการดาเนินงานข้างต้น จะเห็นได้ว่า สถานศึกษามีการดาเนินงานพัฒนาระบบการประกันคุณภาพ การศึกษาภายในสถานศึกษาทีเ่ ปน็ วิธีปฏบิ ัติทด่ี ี ดังน้ัน ในตวั บง่ ช้ีท่ี 3.4 ประเดน็ ท่ี 5 ไดค้ ะแนน เทา่ กับ 1 คะแนน สถานศึกษามีผลการประเมินตนเองในภาพรวม ตัวบ่งช้ีท่ี 3.4 การประกันคุณภาพภายในของ สถานศึกษามีคะแนนรวมเทา่ กบั 5.00 คะแนน ซง่ึ มีคณุ ภาพอยู่ในระดบั ดีมาก รายงานการประเมนิ ตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขนุ ยวม หน้า ๑๔๙

จากผลการดาเนินงานของสถานศึกษา ท่ีสอดคล้องกับมาตรฐานท่ี 3 ประสิทธิภาพการบริหารจัดการ การศึกษา ดังรายละเอียดข้างต้น สามารถสรุปคะแนนที่ได้ และระดับคุณภาพจากผลการประเมินตนเองของ สถานศึกษา ไดด้ งั รายละเอยี ดในตารางต่อไปนี้ มาตรฐาน น้าหนัก ผลการประเมินตนเอง (คะแนน) คะแนนทีไ่ ด้ ระดบั คุณภาพ มาตรฐานที่ 3 ประสิทธิภาพการบริหารจัดการการศกึ ษา ตวั บ่งชท้ี ี่ 3.1 การบรหิ ารสถานศกึ ษาตามหลกั ปรัชญาของ 5 5.00 ดีมาก เศรษฐกจิ ตัวบ่งชท้ี ่ี 3.2 การส่งเสรมิ สนับสนุนการจัดการศึกษาของภาคี 5 5.00 ดมี าก เครอื ข่าย ตัวบง่ ชท้ี ่ี 3.3 การมีสว่ นร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษา 5 5.00 ดมี าก ตัวบง่ ชท้ี ี่ 3.4 การประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษา 5 5.00 ดมี าก รวม 20 20.00 ดีมาก สถานศึกษามีผลการประเมนิ ตนเองในภาพรวม มาตรฐานที่ 3 ประสิทธิภาพการบริหารจัดการการศึกษา มี คะแนนรวม เท่ากับ ๒๐.00 คะแนน ซึ่งมีคุณภาพอยู่ในระดับ ดีมาก โดยมีจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนา วิธีปฏิบัติท่ีดี หรอื นวัตกรรม หรือตน้ แบบ และข้อเสนอแนะในการพฒั นา ดังนี้ จุดเด่น 1. ผ้บู ริหารสถานศึกษาได้นอ้ มนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และนาหลกั ธรรมาภบิ าลมาใชใ้ นการ บรหิ ารงานของสถานศึกษา 4 ดา้ น จดุ ทีค่ วรพัฒนา 1. สถานศึกษาควรมีการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา ระดับอาเภอ ระดับตาบล เพ่ือสร้างความรู้ ความเข้าใจในบทบาทหน้าทต่ี ามที่ระเบียบกาหนด 2. สถานศึกษามีการประชุม ติดตาม ทบทวน ระบบงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความรู้ ความเขา้ ใจใหก้ ับครูและบคุ ลากรทกุ คนเหน็ ความสาคัญของการประกันคณุ ภาพภายในสถานศึกษา วิธีปฏิบตั ทิ ่ดี ี หรอื นวัตกรรม การทางานอย่างมีส่วนร่วมภายใต้ข้อจากัดด้านทรัพยากรสถานศึกษาได้ประสานความร่วมมือกับเครือข่าย เพือ่ จัดการศกึ ษา เชน่ ด้านบุคลากร ด้านสื่อการเรียนการสอน สื่อเทคโนโลยี ในขณะเดียวกันสถานศึกษาก็ให้ความ ร่วมมือเครือข่ายในการจดั กจิ กรรมเพ่ือพฒั นาประชาชน เช่น โครงการไทยนยิ มย่งั ยืน โครงการเนต็ ประชารัฐ ตน้ แบบ สถานศกึ ษามีการดาเนินการจัดพ้ืนที่ในศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเป็นแบบอย่าง ในการดาเนนิ การปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมีการปลูกผัก เล้ียงปลา ในพื้นท่ี เพ่ือมาเป็นอาหารกลางวันและเป็น แบบอยา่ งใหก้ ับชมุ ชน ไดศ้ กึ ษา รายงานการประเมินตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขุนยวม หน้า ๑๕๐

ขอ้ เสนอแนะในการพฒั นา 1. สถานศกึ ษาควรส่งเสริมการมีสว่ นรว่ มของคณะกรรมการสถานศกึ ษาในการจดั การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอธั ยาศยั 2. สถานศกึ ษาควรมีการประชมุ ติดตาม ทบทวน ระบบงานประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาสาหรับบุคลากร และคณะกรรมการสถานศึกษา รายงานการประเมินตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขุนยวม หนา้ ๑๕๑

บทที่ 4 สรปุ ผลการประเมินตนเอง และแนวทางการพัฒนาสถานศกึ ษา การประเมินตนเองของสถานศึกษา ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง มาตรฐานการศึกษา นอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย (ฉบบั ที่ 2 ) พ.ศ. 2560 เพื่อการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยของสถานศกึ ษา สามารถสรุปผลการประเมินตนเอง และแนวทางการพัฒนาสถานศึกษา ได้ดังน้ี  การสรปุ ผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา การสรุปผลการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา สามารถสรุปผลไดเ้ ปน็ 2 สว่ น คือ 1) สรุปผลการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา 2) สรปุ ผลการวเิ คราะหผ์ ลการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษาเพื่อการพัฒนา 1. สรุปผลการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา มาตรฐาน /ตัวบ่งช้ี (คะแนน) ผลการประเมินตนเอง / ๓๕ คะแนนที่ ระดบั ได้ คณุ ภาพ ๓๐.๐๐ ดมี าก ตวั บง่ ชีท้ ่ี 1.1 ผู้เรียนการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐานมีคุณธรรม ๕ ๔.๕๐ ดีมาก ๕ ๔.๕๐ ดีมาก ตัวบง่ ชท้ี ี่ 1.2 ผู้เรียนการศึกษาขัน้ พื้นฐานมีทักษะ กระบวนการคดิ ทกั ษะการ ๕ ๓.๕๐ ดี แสวงหาความรู้ เรยี นรู้อย่างต่อเน่อื ง และ สามารถนาไปประยกุ ต์ใช้ในการ ดารงชวี ติ ๕ ๔.๕๐ ดีมาก ตวั บ่งชี้ท่ี 1.3 ผ้เู รยี นการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐานมคี วามรู้พน้ื ฐาน ๕ ๔.๕๐ ดมี าก ๕ ๔.๕๐ ดมี าก การศึกษาตอ่ เนื่อง ๕ ๔.๐๐ ดีมาก ตัวบง่ ช้ที ี่ 1.4 ผเู้ รียนหรือผเู้ ข้ารับการอบรมมีความรู้ ความสามารถ และทกั ษะใน การประกอบอาชีพ ตัวบ่งช้ีท่ี 1.5 ผู้เรยี นหรอื ผเู้ ข้ารับการอบรมปฏบิ ัติตนตามหลักปรัชญา ของ เศรษฐกิจพอเพยี ง ตัวบง่ ชี้ท่ี 1.6 ผู้เรยี นหรอื ผเู้ ข้ารบั การอบรมสามารถใชเ้ ทคโนโลยีได้ อย่างเหมาะสม การศกึ ษาตามอธั ยาศัย ตัวบง่ ชี้ที่ 1.7 ผูร้ บั บริการได้รบั ความร้แู ละ/หรือประสบการณ์จากการเข้ารว่ ม กิจกรรม/โครงการการศึกษาตามอธั ยาศยั รายงานการประเมนิ ตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขุนยวม หน้า ๑๕๒

มาตรฐาน /ตัวบง่ ช้ี (คะแนน) ผลการประเมินตนเอง ๔๕ มาตรฐานท่ี 2 คุณภาพการจดั การศกึ ษา/การใหบ้ รกิ าร คะแนนที่ ระดับ การศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน ได้ คุณภาพ ตัวบง่ ชี้ที่ 2.1 คุณภาพครูการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน ตวั บ่งชท้ี ่ี 2.2 คุณภาพของหลกั สูตรสถานศกึ ษา ๓๘.๕๐ ดมี าก ตัวบง่ ชี้ท่ี 2.3 คณุ ภาพส่อื ตามหลกั สตู รสถานศึกษา ตัวบง่ ชท้ี ี่ 2.4 คุณภาพการจัดกระบวนการเรียนรูต้ ามหลักสูตร ๕ ๔.๕๐ ดมี าก สถานศึกษา ๕ ๔.๕๐ ดมี าก การศึกษาต่อเนอ่ื ง ๕ ๔.๐๐ ดี ตัวบง่ ชี้ท่ี 2.5 คุณภาพวทิ ยากรการศึกษาต่อเนื่อง ตัวบ่งชี้ที่ 2.6 คุณภาพหลักสูตรและสอื่ การศึกษาต่อเนื่อง ๕ ๔.๕๐ ดีมาก ตัวบ่งชี้ที่ 2.7 คณุ ภาพการจัดกระบวนการเรียนรู้การศึกษา ต่อเนื่อง ๕ ๔.๕๐ ดมี าก การศกึ ษาตามอัธยาศัย ๕ ๔.๐๐ ดี ตัวบ่งชท้ี ี่ 2.8 คุณภาพผู้จดั กิจกรรมการศกึ ษาตามอัธยาศยั ๕ ๔.๐๐ ดี ตวั บง่ ชท้ี ี่ 2.9 คณุ ภาพกระบวนการจัดกิจกรรมการศึกษาตาม อัธยาศยั ๔.๐๐ ดี มาตรฐานท่ี 3 ประสทิ ธภิ าพการบริหารจัดการการศึกษา ๕ ๔.๐๐ ดี ตวั บง่ ช้ที ่ี 3.1 การบรหิ ารสถานศกึ ษาตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและหลักธรรมาภิบาล ๕ ๔.๕๐ ดีมาก ตวั บง่ ชี้ที่ 3.2 การส่งเสริม สนับสนุนการจดั การศึกษาของภาคี เครือข่าย ๒๐ ๒๐.๐๐ ดมี าก ตัวบ่งช้ีที่ 3.3 การมีสว่ นรว่ มของคณะกรรมการสถานศึกษา ๕ ๕.๐๐ ดีมาก ตวั บง่ ช้ที ่ี 3.4 การประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษา ๕ ๕.๐๐ ดมี าก รวม ๕ ๕.๐๐ ดีมาก ๕ ๕.๐๐ ดีดีมาก ๑๐๐ ๘๘.๕๐ ดมี าก สถานศกึ ษามีผลการประเมนิ ตนเองในภาพรวม โดยมคี ะแนนรวม เท่ากับ ๘๘.๕๐ คะแนน ซ่ึงอยู่ในระดับคุณภาพ ดี มาก รายงานการประเมนิ ตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขนุ ยวม หนา้ ๑๕๓

เกณฑ์ระดบั คณุ ภาพตามมาตรฐานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ตารางท่ี 1 เกณฑ์ระดบั คณุ ภาพ ค่านา้ หนกั 5 คะแนน ระดับคุณภาพ ต้องปรบั ปรงุ เรง่ ดว่ น ต้องปรบั ปรุง พอใช้ ดี ดีมาก คะแนน 0.00 0.50 1.00 1.50 2.00 2.50 3.00 3.50 4.00 4.50 5.00 ตารางท่ี 2 เกณฑร์ ะดับคณุ ภาพ ค่านา้ หนกั 20 คะแนน ระดบั คุณภาพ ตอ้ งปรบั ปรุงเร่งด่วน ต้องปรับปรุง พอใช้ ดี ดีมาก ชว่ งคะแนน 0.00-4.00 4.01-8.00 8.01-12.00 12.01-16.00 16.01-20.00 ตารางที่ 3 เกณฑร์ ะดบั คณุ ภาพ คา่ น้าหนัก 35 คะแนน ระดบั คุณภาพ ต้องปรบั ปรุงเรง่ ด่วน ตอ้ งปรับปรุง พอใช้ ดี ดีมาก ช่วงคะแนน 0.00-7.00 7.01-14.00 14.01-21.00 21.01-28.00 28.01-35.00 ตารางที่ 4 เกณฑ์ระดับคุณภาพ คา่ นา้ หนัก 45 คะแนน ระดบั คุณภาพ ต้องปรบั ปรงุ เร่งด่วน ต้องปรบั ปรงุ พอใช้ ดี ดีมาก ชว่ งคะแนน 0.00-9.00 9.01-18.00 18.01-27.00 27.01-36.00 36.01-45.00 ตารางท่ี 5 เกณฑ์ระดบั คณุ ภาพ ค่านา้ หนกั 100 คะแนน ระดับคุณภาพ ตอ้ งปรับปรงุ เร่งด่วน ต้องปรับปรงุ พอใช้ ดี ดีมาก ช่วงคะแนน 0.00-20.00 20.01-40.00 40.01-60.00 60.01-80.00 80.01- 100.00 รายงานการประเมนิ ตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขนุ ยวม หนา้ ๑๕๔

2. สรุปผลการวเิ คราะหผ์ ลการประเมินตนเองของสถานศึกษาเพ่อื การพฒั นา สรุปผลการวิเคราะหผ์ ลการประเมินตนเองของสถานศกึ ษาเพื่อการพฒั นา จุดเดน่ 1. สถานศึกษา มีผลการดาเนินงานในการพัฒนาผู้เรียนหรือผู้รับบริการ การศึกษาข้ันพ้ืนฐานด้าน คุณธรรม มีทักษะกระบวนการคิด ทักษะการแสวงหาความรู้ เรียนรู้อย่างต่อเน่ือง และสามารถนา ความรู้พ้ืนฐานไปใช้ในการดารงชีวิต การทางานหรือในการประกอบอาชีพ และยังสามารถนาหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และกระบวนการเรียนรู้การศึกษาตามอัธยาศัยในระดับ ดีมาก โดย สถานศึกษาได้เล็งเห็นความสาคัญในกิจกรรมดังกล่าว และได้ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนผู้รับบริการ หรือผู้เข้ารับการอบรม มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้ ท้ังน้ี อันเนื่องมาจากสถานศึกษาได้ดาเนินกิจกรรมเป็นไปตามแผนปฏิบัติการภายใต้แผนการพัฒนา คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา จงึ ทาใหผ้ ู้เรียนหรอื ผู้รับบริการไดร้ บั การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 2. สถานศึกษา ได้ส่งเสริมและสนบั สนนุ ในการพัฒนาครูการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน โดยส่งเสริมให้บุคลากร ทุกคนเขา้ รบั การพฒั นาในดา้ นตา่ ง ๆ อยา่ งตอ่ เน่ือง ท้งั สานกั งาน กศน.จงั หวดั จัดข้ึน และสถานศึกษา ศึกษาจัดเอง รวมไปถึง ภาคีเครือข่ายได้ดาเนินการจัดโครงการพัฒนาบุคลากร เช่น โครงการอบรม หลักสูตรวิทยากรประวัติศาสตร์ชาติไทย, โครงการประวัติศาสตร์ชาติไทยและบุญคุณของ พระมหากษัตริย์ไทย ,โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการพัฒนาครู กศน. นักวิทยาศาสตร์ผลิตส่ือ วิทยาศาสตร์ , โครงการพฒั นาบุคลากร เชิงปฏิบัติการจัดทาข้อมูลในระบบฐานข้อมูลเพื่อการบริหาร จัดการประจาปีงบประมาณ 256๒ (DMIS6๒) ทง้ั นสี้ ถานศกึ ษา ไดจ้ ดั ทาทาเนยี บข้อมูลผู้จัดกิจกรรม และผู้สนับสนุนการจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ได้รับเกียรติบัตรรางวัลเชิดชูเกียรติ ได้รับรางวัล ทั้งจาก หน่วยงานต้นสังกัดและหน่วยงานอ่ืน อีกทั้งให้เป็นแหล่งเรียนรู้สาหรับการศึกษาดูงานจากหน่วยงาน ตา่ ง ๆ เช่น ชมุ ชนต้นแบบ จากกระทรวงศกึ ษาธิการ ดาเนินการจดั กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ห้องสมุด เคล่ือนที่ทุกวันเสาร์จะนาหนังสือไปไว้ที่หน้า า อาเภอ ขุนยวม เพ่ือให้ประชาชนท่ีมาเดินตลาดนัดกาดเสาร์ มาใช้บริการ และเป็นผู้จัดกิจกรรมส่งเสริมการ อา่ น และได้รบั การยอมรับจากชมุ ชนให้เป็นผู้นาในด้านการจัดกจิ กรรมส่งเสรมิ การอา่ นในแต่ละชุมชน ไว้ ในสถานศกึ ษาอย่างครบถว้ น ๓. ำ ำ าร ริหาร ๔. ผบู้ ริหารสถานศึกษาส่งเสรมิ ใหบ้ คุ ลากรทกุ คนมีความรัก ความสามัคคี มีการทางานร่วมกันเป็นทีม ยอมรับฟ๎งความคิดเห็นซ่ึงกันและกัน มีความรับผิดชอบ ความซื่อสัตย์สุจริตมุ่งการปฏิบัติงานเพื่อ นาไปสู่ความสาเร็จร่วมกันอยา่ งถูกตอ้ งโปรง่ ใส ตรวจสอบได้ ๕. มภี าคีเครอื ขา่ ยทเ่ี พ่มิ ข้ึนในการเขา้ มามีสว่ นร่วมดาเนินการจดั การศึกษาตลอดชวี ิต ๖. า อาเภอขุนยวม ไ ดา ง ำ นา ำ รายงานการประเมนิ ตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขุนยวม หน้า ๑๕๕

สรปุ ผลการวเิ คราะห์ผลการประเมินตนเองของสถานศกึ ษาเพอื่ การพฒั นา จดุ ท่คี วรพัฒนา 1. ผเู้ รยี นมผี ลสัมฤทธท์ิ างการเรียนการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขั้นพืน้ ฐาน มคี า่ สงู กวา่ คา่ เป้าหมายทกี่ าหนด แตไ่ มค่ รบทุกรายวิชา 2. สถานศกึ ษาควรสง่ เสริมสนับสนนุ ให้ครูจัดทาส่อื โดยการจัดอบรมให้ความร้กู บั ครู มีการประกวด สอื่ มกี ารมอบรางวัลเพอื่ ยกย่องเชดิ ชูผลงานของครูอย่างต่อเน่อื ง 3. สถานศกึ ษาควรส่งเสริมสนับสนนุ จดั ทาแผนการเรยี นรู้ท่ีลดภาระงานครู มีการตรวจบนั ทกึ หลังการ สอนของครูอย่างต่อเนือ่ ง มีการนเิ ทศติดตามการจดั การเรียนรูข้ องครู และให้ครูทาวิจยั เพอื่ แก้ไข ป๎ญหาของผู้เรียนจากการบนั ทกึ หลังการสอน 4. สถานศกึ ษาควรมีการจดั อบรมวิทยากรเพอื่ สง่ เสริมให้วิทยากรการศกึ ษาต่อเนื่องได้พัฒนาตนเอง เชน่ การประชุมชีแ้ จงทาความเขา้ ใจบทบาทหน้าท่ขี องวทิ ยากร การนาไปศึกษาดงู าน การนิเทศ ติดตามการจัดการเรียนรู้ การประเมินการจดั การเรียนรู้ของวิทยากร เป็นตน้ 5. สถานศกึ ษาควรพัฒนาหลักสูตรการศึกษาต่อเน่ือง โดยเชิญวทิ ยากร หรอื ผูเ้ รียน ภมู ิป๎ญญา เข้ามา มีสว่ นร่วมในการพฒั นาหลกั สูตร และผา่ นความเห็นชอบจากคณะกรรรมการสถานศึกษา มกี ารนเิ ทศ ติดตาม ประเมินการใชห้ ลกั สตู รการศกึ ษาต่อเนือ่ ง เพื่อนาผลการประเมนิ มาพัฒนาและปรับปรงุ หลกั สตู รให้ตรงตามความตอ้ งการของผเู้ รียน 6. สถานศึกษาควรมีการจัดประชมุ คณะกรรมการสถานศกึ ษา ระดับอาเภอ ระดบั ตาบล เพื่อสรา้ ง ความรู้ความเข้าใจในบทบาทหนา้ ที่ตามท่ีระเบยี บกาหนด 7. สถานศึกษาควรมกี ารประชมุ ติดตาม ทบทวน ระบบงานประกันคณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาอย่าง ต่อเนอื่ ง เพ่อื สรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจใหก้ บั ครูและบุคลากรทุกคนเห็นความสาคญั ของการประกนั คณุ ภาพ ภายในสถานศึกษา วธิ ปี ฏิบัติทด่ี ี หรอื 1. ประชุมช้ีแจงสร้างความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติงานให้กับครู และบุคลากรที่เก่ียวข้อง นวตั กรรม หรือ 2. สถานศึกษาจัดทาแผน โครงการ กิจกรรม กาหนดวัตถุประสงค์ กาหนดเป้าหมาย การปฏิบัติงาน ตัวอย่างทด่ี ี หรือ ๓. สถานศึกษาได้ดาเนนิ การจัดการเรยี นรู้ สง่ เสรมิ ให้ผู้เรียนมคี วามรู้ ความสามารถ และทักษะในการ ตน้ แบบ ประกอบอาชีพของผู้เรียนหรือผู้เข้ารับการอบรม นาความรู้ไปใช้ในการลดรายจ่าย หรือเพ่ิมรายได้ หรือประกอบอาชพี หรอื พัฒนาตอ่ ยอดอาชพี หรอื เพิม่ มูลค่าของสินค้าหรือบริการ และมีผู้เรียนที่เป็น ตัวอย่างท่ีดี หรอื เปน็ ตน้ แบบ เป็นไปตามค่าเป้าหมายทกี่ าหนดไว้ ๔. สถานศึกษา มีผู้เรียนหรือผู้เข้ารับการอบรมสามารถนาความรู้ ความเข้าใจตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงไปใชใ้ นการดารงชวี ิต ที่เป็นตัวอยา่ งทด่ี ี สูงกวา่ ค่าเป้าหมายทก่ี าหนดไว้ ๕. สถานศึกษา มกี ารตดิ ตามผลการปฏิบตั งิ านของบคุ ลากรในระบบฐานข้อมูลเพ่ือการบริหารจดั การ สานักงาน กศน. (DMIS6๒) โดยทาการจัดสรรงบประมาณให้กบั บคุ ลากรในระบบ DMIS6๒ และ บุคลากรดาเนนิ การจัดทาแผนในระบบ เพอ่ื ปฏิบัติงานตามแผนทีไ่ ด้รบั มอบหมายและเจ้าหน้าทผ่ี ู้ดแู ล ระบบในระดับอาเภอ สามารถตรวจสอบผลการดาเนนิ งานของบุคลากรเป็นไปตามแผนทวี่ างไว้ หรือไม่ ทาให้การดาเนินงานเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ๖. สถานศึกษาเป็นสถานศึกษาต้นแบบสาหรบั ฝกึ ประสบการณ์ ของข้าราชการครู และบุคลากร ทางการศึกษาก่อนแต่งตั้งใหด้ ารงตาแหนง่ ผู้อานวยการสถานศึกษา โดยเรียนรูเ้ กย่ี วกบั การบริหาร สถานศกึ ษาในเร่ือง การบรหิ ารวิชาการ การบรหิ ารงานบคุ คล การบรหิ ารงานทวั่ ไป การบรหิ ารงาน แผนงานและวิชาการ การบรหิ ารงานงบประมาณ และเรอ่ื งอืน่ ๆท่ีเกยี่ วข้องกับการเปน็ ผู้บริหาร รายงานการประเมินตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขุนยวม หนา้ ๑๕๖

สรปุ ผลการวเิ คราะห์ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษาเพอื่ การพฒั นา สถานศึกษา ๗. ประชุมทบทวนการปฏบิ ัติงาน และนาผลการประเมินการจดั กจิ กรรมมาแก้ไขป๎ญหา พฒั นางานให้ บรรลุตามเป้าเหมายที่กาหนดไวท้ ุกกิจกรรม ๘. สถานศกึ ษามีโครงสรา้ งการปฏบิ ตั งิ านทีช่ ัดเจน มีความเปน็ เอกภาพในการปฏิบตั งิ าน ทาให้ กระบวนการทางานมีประสิทธิภาพ เนื่องจากบุคลากรทุกคนของสถานศึกษารบั ทราบและปฏิบัติงาน ตามบทบาทหนา้ ทข่ี องตนเอง แนวทางการพัฒนาคุณภาพการศกึ ษา จากผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา เห็นควรให้สถานศึกษาจดั โครงการ/กิจกรรม เพอื่ การปรบั ปรุง หรือพัฒนาคุณภาพการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ตามลาดบั ความสาคัญ ดงั น้ี ๑. สถานศกึ ษาควรจดั กจิ กรรมในดา้ นวชิ าการ เพ่ือพฒั นาให้ผเู้ รียนมพี ้ืนฐานความรูเ้ พยี งพอกบั การศึกษาใน แตล่ ะระดับ และพัฒนาผู้เรยี นให้มีความรู้ ความสามารถทางดา้ นวิชาการเพิ่มมากข้นึ ในรายวชิ าตามหลกั สตู ร การศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 อยา่ งตอ่ เน่ือง เพอ่ื ยกระดับผลสมั ฤทธ์ิทางการ เรียนของผเู้ รยี น 2. สถานศกึ ษาควรหมอบหมายใหบ้ ุคลากรไดม้ ีการตดิ ตามผเู้ รียน/ผรู้ ับบริการ หลังจบหลกั สตู รการศึกษา ตอ่ เน่อื งและให้ติดตามผูเ้ รียนหรือผู้รบั บรกิ ารอย่างต่อเนื่องและครบทุกกลุ่มเปา้ หมาย ๓. โครงการอบรมเชงิ ปฏิบตั กิ ารให้ความรู้เร่อื งการพัฒนาหลกั สูตรสถานศึกษา ๔. โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการใหค้ วามรู้เรอื่ งการจัดทาสอ่ื การเรียนการสอนการศึกษานอกระบบระดับ การศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน ๕. โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัติการให้ความรู้เรอ่ื งการเขยี นแผนการจดั การเรยี นรู้การศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาข้ันพื้นฐาน ๖. สถานศกึ ษา ควรดาเนนิ การพฒั นาคณุ ภาพวิทยากรการศกึ ษาตอ่ เน่ือง ซ่งึ วิทยากรบางคนยังขาดทักษะ การออกแบบกระบวนการจัดการเรียนรู้ให้กบั ผู้เรยี นหรือผู้เข้ารับการอบรม ๗. โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรกู้ ารทาหลกั สูตรการศกึ ษาต่อเนื่อง ๘. โครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษาในการจดั การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอธั ยาศยั ๙. โครงการประชมุ ตดิ ตาม ทบทวน ระบบงานประกนั คุณภาพภายในสถานศกึ ษาสาหรับบุคลากร และ คณะกรรมการสถานศึกษา รายงานการประเมินตนเอง ประจาปี ๒๕๖๒ ของ กศน.อาเภอขุนยวม หน้า ๑๕๗