Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาไทย ชั้น ม.2 ธนากร 004

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาไทย ชั้น ม.2 ธนากร 004

Published by Thanakorn Hekuntod, 2022-01-18 05:25:19

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาไทย ชั้น ม.2 ธนากร 004

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔

คำนำ แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการ จัดการเรียนการสอนทีเ่ น้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบด้วยเนื้อหาสาระดังต่อไปนี้ แผนการจัดการเรียนรู้รายปีซึ่งประกอบด้วย มาตรฐานและตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาภาษาไทย แผนการจัดการเรียนรู้รายเทอม และรายชั่วโมงซึ่งแต่ละ แผนการจัดการเรียนรู้ได้ระบุมาตรฐาน ตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ตาม รปู แบบการจัดการเรียนรู้ ทหี่ ลากหลาย นำมาซ่งึ การบรรลจุ ุดประสงค์การเรียนรู้ นอกจากน้ียังมีใบงานและเกณฑ์ การประเมินผล เพื่อใช้ ในการประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละคนวา่ หลังจากเสร็จส้ินการเรยี น นักเรียนมี ความรู้ ความเข้าใจเนอื้ หาสาระมากนอ้ ยเพยี งใด ผ่านเกณฑ์การประเมนิ หรือไม่ ผู้จัดทำขอขอบพระคุณผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร. พัชรีภรณ์ บางเขียว เป็นอย่างยิ่ง ที่ให้คำปรึกษาและ คำแนะนำตลอดระยะเวลาการจัดทำแผนการจัดการเรยี นรู้ และหวังเปน็ อยา่ งยงิ่ วา่ แผนการจัดการเรียนรเู้ ล่มนี้เป็น ประโยชนก์ ับการจัดการเรียนรใู้ นห้องเรียน ทำใหผ้ เู้ รียนสามารถพัฒนาการเรียนรไู้ ดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพต่อไป นายธนากร เหขนุ ทด ผูจ้ ัดทำ แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔

. แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ๒ นายธนากร เหขุนทด รหสั นักศึกษา ๖๒๘๑๑๖๓๐๐๖ เลขท่ี ๐๔ ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.พัชรภี รณ์ บางเขยี ว แผนการจัดการเรียนร้รู ายวชิ าภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๒ เลม่ นี้ เป็นสว่ นหน่งึ ของรายวิชาวิทยาการจดั การเรียนรู้ รหสั รายวชิ า ๑๑๙๐๓๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔ ตามหลักสตู รครุศาสตร์บณั ฑิต สาขาวชิ านาฏยศลิ ปศ์ ึกษา คณะมนษุ ยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั บา้ นสมเด็จเจ้าพระยา กระทรวงอดุ มศึกษา วทิ ยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔

๑ แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย รหัสรายวิชา ท ๒๒๑๐๑ กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๒ ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ ผ้สู อน นายธนากร เหขนุ ทด ๑. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพ่ือนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหา ในการดำเนนิ ชวี ติ และมีนสิ ยั รกั การอ่าน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียน เขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียน เร่ืองราว ในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงาน การศกึ ษาคน้ คว้าอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรู้สกึ ในโอกาสต่าง ๆ อย่างมีวิจารณญาณ และสรา้ งสรรค์ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทย ไวเ้ ป็นสมบัติของชาติ มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดี และวรรณกรรมไทยอย่าง เห็นคุณค่าและนำมาประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ จริง ตวั ชวี้ ัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพ่ือนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหา ในการดำเนนิ ชีวติ และมีนิสยั รกั การอา่ น ท ๑.๑ ม.๒/๑ อา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแก้ว และบทรอ้ ยกรองได้ถูกตอ้ ง ท ๑.๑ ม.๒/๒ จบั ใจความสำคัญ สรปุ ความ และอธิบายรายละเอียดจากเร่ืองทอ่ี า่ น ท ๑.๑ ม.๒/๓ เขยี นผงั ความคิดเพื่อแสดงความเข้าใจบทเรียนต่าง ๆ ทอี่ า่ น ท ๑.๑ ม.๒/๔ อภปิ รายแสดงความคิดเหน็ และข้อโตแ้ ยง้ เกี่ยวกบั เรือ่ งทอ่ี า่ น ท ๑.๑ ม.๒/๕ วิเคราะห์และจำแนกข้อเท็จจริง ข้อมูลสนันสนุน และข้อคิดเห็นจากบทความ ที่อ่าน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียน เขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียน เร่ืองราว ในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงาน การศึกษาค้นควา้ อย่างมีประสทิ ธิภาพ ท ๒.๑ ม.๒/๑ คดั ลายมอื ตัวบรรจงครึง่ บรรทัด ท ๒.๑ ม.๒/๒ เขียนบรรยายและพรรณนา ท ๒.๑ ม.๒/๓ เขียนเรียงความ ท ๒.๑ ม.๒/๔ เขียนยอ่ ความ แผนการจัดการเรียนรู้ ภาคเรียนท่ี ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔

๒ ท ๒.๑ ม.๒/๕ เขียนรายงานการศกึ ษาคน้ คว้า มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ อย่างมวี ิจารณญาณ และสรา้ งสรรค์ ท ๓.๑ ม.๒/๑ พดู สรุปใจความสำคัญของเรอ่ื งทฟ่ี ังและดู ท ๓.๑ ม.๒/๒ วเิ คราะหข์ อ้ เทจ็ จรงิ ข้อคิดเหน็ และความนา่ เช่อื ถือ ของขา่ วสารจากส่ือตา่ ง ๆ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทย ไว้เปน็ สมบัตขิ องชาติ ท ๔.๑ ม.๒/๑ สร้างคำในภาษาไทย ท ๔.๑ ม.๒/๒ วเิ คราะห์โครงสร้างประโยคสามญั มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดี และวรรณกรรมไทยอย่าง เห็นคุณค่าและนำมาประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตจริง ท ๕.๑ ม.๒/๑ สรปุ เนอื้ หาวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอา่ นในระดบั ทีย่ ากขนึ้ ท ๕.๑ ม.๒/๒ วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถิ่นท่ีอ่าน ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ (K) ๑. วิเคราะหก์ ารอา่ นออกเสยี งบทร้อยร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้อย่างถูกต้อง (K) ๒. จบั ใจความสำคัญ สรุปความ และอธบิ ายรายละเอยี ดจากเรอ่ื งท่อี า่ น (K) ๓. สรุปเขยี นผังความคดิ เพอ่ื แสดงความเข้าใจบทเรยี นต่าง ๆ ท่อี า่ น (K) ๔. วเิ คราะห์อภิปรายแสดงความคดิ เหน็ และข้อโต้แย้งเกีย่ วกบั เรือ่ งท่อี ่าน (K) ๕. วิเคราะหแ์ ละจำแนกข้อเท็จจรงิ ข้อมูลสนนั สนุน และขอ้ คดิ เห็นจากบทความท่ีอ่าน (K) ๖. อธิบายคัดลายมอื ตวั บรรจงครึ่งบรรทดั (K) ๗. ตีความการเขยี นบรรยายและพรรณนา (K) ๘. สงั เคราะหเ์ นอ้ื หาเพื่อนำมาเขยี นเรยี งความ (K) ๙. สังเคราะหเ์ นอื้ หาเพื่อนำมาเขียนยอ่ ความ (K) ๑๐. เขียนรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ (K) ๑๑. เชอ่ื มโยงพูดสรุปใจความสำคญั ของเร่อื งที่ฟงั และดู (K) ๑๒. วเิ คราะห์ข้อเท็จจรงิ ข้อคิดเหน็ และความน่าเช่อื ถือ ของข่าวสารจากสอ่ื ต่าง ๆ (K) ๑๓. อธิบายการสร้างคำในภาษาไทย (K) ๑๔. วเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งประโยคสามัญ (K) ๑๕. สรปุ เนือ้ หาวรรณคดีและวรรณกรรมท่อี ่านในระดับที่ยากขน้ึ (K) ๑๖. วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถิ่นท่ีอ่าน พร้อมยกเหตุผล ประกอบ (K) แผนการจัดการเรียนรู้ ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔

๓ ทกั ษะ (p) ๑. ปฏบิ ตั กิ ารอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองได้ถูกต้อง (P) ๒. มสี ว่ นรว่ มจับใจความสำคญั สรุปความ และอธิบายรายละเอยี ดจากเร่อื งทอ่ี ่าน (P) ๓. นำเสนอเขยี นผงั ความคิดเพือ่ แสดงความเขา้ ใจบทเรยี นต่าง ๆ ทอ่ี ่าน (P) ๔. อภปิ รายแสดงความคิดเห็น และขอ้ โต้แย้งเก่ยี วกับเรอ่ื งท่ีอ่าน (P) ๕. นำเสนอการวิเคราะห์และจำแนกข้อเท็จจริง ข้อมูลสนันสนุน และข้อคิดเห็นจากบทความท่ี อา่ น (P) ๖. นำเสนอคัดลายมือตวั บรรจงคร่ึงบรรทดั (P) ๗. อภิปรายการเขยี นบรรยายและพรรณนา (P) ๘. ตรวจสอบการเขียนเรียงความ (P) ๙. นำเสนอเขียนย่อความ (P) ๑๐. เขียนรายงานการศึกษาคน้ คว้า (P) ๑๑. มีสว่ นร่วมพูดสรุปใจความสำคัญของเร่ืองทฟ่ี งั และดู (P) ๑๒. นำเสนอการวเิ คราะหข์ ้อเทจ็ จริง ข้อคดิ เห็น และความนา่ เชือ่ ถือ ของขา่ วสารจากส่อื ต่าง ๆ (P) ๑๓. ทดลองสรา้ งคำในภาษาไทย (P) ๑๔. มีสว่ นร่วมวิเคราะห์โครงสรา้ งประโยคสามญั (P) ๑๕. อภิปรายสรุปเนอ้ื หาวรรณคดีและวรรณกรรมทอี่ า่ นในระดบั ทีย่ ากข้ึน (P) ๑๖. มีส่วนร่วมวิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถิ่นท่ีอ่าน พร้อมยกเหตุผลประกอบ (P) ทศั นคติ (A) ๑. เห็นคณุ ค่าของการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง ในการใช้ภาษาไทยทด่ี งี าม (A) ๒. ภูมใิ จทีไ่ ดม้ สี ่วนร่วมอ่านจับใจความสำคัญ สรุปความ และอธิบายรายละเอียดจากเรื่องท่ีอา่ น (A) ๓. เหน็ คณุ คา่ การเขยี นผงั ความคดิ เพอ่ื แสดงความเข้าใจบทเรียนตา่ ง ๆ ทีอ่ ่าน (A) ๔. ชนื่ ชมการมีส่วนร่วมอภปิ รายแสดงความคิดเห็น และข้อโต้แย้งเก่ยี วกบั เรือ่ งที่อ่าน (A) ๕. เห็นคุณค่าวิเคราะหแ์ ละจำแนกขอ้ เทจ็ จริง ข้อมูลสนนั สนุน และข้อคิดเห็นจากบทความที่อ่าน (A) ๖. เหน็ คณุ ค่าการคดั ลายมือ เพอื่ การเขยี นท่ีดี (A) ๗. ชน่ื ชมการเขยี นบรรยายและพรรณนา (A) ๘. เหน็ คณุ ค่าการเขียนเรียงความในการเล่าประสบการณ์ (A) ๙. เหน็ คณุ คา่ เขียนย่อความ ส่อื สารแทนคำพดู (A) ๑๐. เห็นคณุ คา่ การเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าในการทำงาน (A) ๑๑. ยอมรับความเหน็ จากการสรปุ ใจความสำคญั (A) ๑๒. ซาบซ้ึงและเหน็ คณุ ค่า (A) ๑๓. สร้างคำถูกต้องตามหลกั ภาษาไทย (A) ๑๔. วเิ คราะห์ตามหลกั ภาษาไทยไดถ้ กู ตอ้ ง (A) แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔

๔ ๑๕. มมี ารยาทในการอ่าน (A) ๑๖. เหน็ คณุ ค่าและซาบซงึ้ (A) สาระสำคัญ การอ่าน การอ่านออกเสียงคำ ประโยค การอ่านบทร้อยแก้ว คำประพันธ์ชนืดต่าง ๆ การอ่านในใจเพื่อ สรา้ งความเข้าใจ และการคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ความรู้จากสง่ิ ท่อี ่าน เพือ่ นำไปปรับใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั การเขียน การเขียนสะกดคำตามอักขรวิธี การเขียนสื่อสารรูปแบบต่าง ๆ การเขียนเรียงความ ย่อความ เขียนรายงานจากการศึกษาค้นนควา้ เขยี นตามจนิ ตนาการ เขยี นวิเคราะห์วิจารณ์ และเขยี นเชงิ สรา้ งสรรค์ การฟัง การดู และการพูด การฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ การพูดแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก พูด ลำดับเรอ่ื งราวต่าง ๆ อยา่ งเปน็ เหตุเป็นผล การพดู ในโอกาสต่าง ๆ ทั้งเป็นทางการและไมเ่ ปน็ ทางการ การพูดเพื่อ โนม้ นา้ วใจ หลักการใช้ภาษาไทย ศึกษาธรรมชาติและกฎเกณฑ์ของภาษาไทย การใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องเหมาะสม กับโอกาสและบคุ คล การแต่งบทประพันธก์ ประเภทตา่ ง ๆ และอทิ ธพิ ลของภาษาต่างประเทศในภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อศึกษาข้อมมูล แนวความคิด คุณค่าของ งานประพันธ์ และเพื่อความเพลิดเพลิน การเรียนรูแ้ ละทำความเข้าใจ บทเห่ บทร้องเล่นของงเด็ก เพลงพื้นบ้านท่ี เป็นภูมิปัญญาที่มีคุณค่าของไทย ซึ่งได้ถ่านทอดความรู้สึกนึกคิด ค่านิยม ขนบธรรมเนียมประเพณี เรื่องราวของ สังคมในอดีต และความงดงามของภาษา เพื่อให้เกิดความซาบซ้ึและภูมิใจในบรรพบุรุษที่ได้สั่งสมสืบทอดมาจนถึง ปจั จบุ นั ข้อมูลสารสนเทศ เรื่องราว ข้อเท็จจริง ข้อมูล หรือสิ่งใดส่ิงหน่ึงทีส่ ามารถส่ือความหมายด้วยการพูดบอก เล่า บันทึกเป็นเอกสาร รายงาน หนังสือ แผนที่ แผนภาพ ภาพถ่าย บันทึกด้วยภาพและเสียง บันทึกด้วยเครื่อง คอมพวิ เตอร์ เป็นการเกบ็ เร่อื งราวต่าง ๆ บันทึกไว้เปน็ หลักฐานด้วยวธิ กี ารต่าง ๆ สาระการเรียนรู้ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว บทร้อยกรอง จับใจความสำคัญจากเร่ืองที่อ่าน ระบุข้อสังเกตของการชวนเชอื่ การโน้มน้าวหรือความสมเหตุสมผลของงานเขียน อ่านหนังสือบทความหรือคำประพันธ์อย่างหลากหลายและ ประเมินคุณค่าหรือแนวคิด ที่ได้จากการอ่านสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิต วิเคราะห์และจำแนกข้อเท็จจริง ข้อมูลสนับสนุน และข้อคิดเหน็ จากบทความที่อา่ น มีมารยาทในการอ่าน หลักการคัดลายมอื ตัวบรรจงครึ่งบรรทดั หลักการเขียนบรรยายและพรรณนา สรุปความรู้ข้อคิดจากการอ่านไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตจริง วิเคราะห์ข้อเท็จจริง ขอ้ คดิ เหน็ และความนา่ เช่อื ถือของข่าวสารจากสื่อตา่ งๆ อธบิ ายคณุ ค่าของวรรณคดแี ละวรรณกรรมท่ีอา่ น วเิ คราะห์ วิจารณ์เร่อื งทฟ่ี งั และดอู ย่างมเี หตผุ ล แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรียนท่ี ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔

๕ คำอธิบายรายวชิ า อ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว บทร้อยกรอง จับใจความสำคัญจากเรื่องที่อ่าน ระบุข้อสังเกตของการชวนเช่ือ การโน้มน้าวหรือความสมเหตุสมผลของงานเขียน อ่านหนังสือบทความหรือคำประพันธ์อย่างหลากหลายและ ประเมินคุณค่าหรือแนวคิด ที่ได้จากการอ่านสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิต วิเคราะห์และจำแนกข้อเท็จจริง ข้อมูลสนับสนุน และข้อคิดเหน็ จากบทความท่ีอ่าน มีมารยาทในการอ่าน หลักการคัดลายมือตัวบรรจงคร่ึงบรรทดั หลกั การเขียนบรรยายและพรรณนา หลักการเขียนรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ การย่อความจากเรือ่ งที่อา่ น หลักการ สร้างคำในภาษาไทย หลักการใช้คำราชศัพท์และคำสุภาพ ท่องจำบทอาขยานและบอกคุณค่าบทอาขยานตามที่ กำหนด และบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจ สรุปความรู้ข้อคิดจากการอ่านไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง วิเคราะห์ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็นและความน่าเชื่อถือของข่าวสารจากสื่อต่างๆ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและ วรรณกรรมทอ่ี า่ น วิเคราะห์วจิ ารณ์เรอ่ื งท่ีฟงั และดอู ย่างมเี หตผุ ล โดยใช้กระบวนการทางภาษา การสืบค้นความรู้ การจดบันทึก ใช้ความสามารถในการคิด การอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในการเรียนรู้ ใช้ความสามารถในการสื่อสารกับผูอ้ ื่นให้เข้าใจตรงกัน เห็นคุณค่าของ ภาษาไทย นำความรู้ไปในการแก้ปัญหาให้เกิดประโยชน์ในชีวิต เป็นผู้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีมารยาทใน การอ่าน การเขียน การฟัง การดูและการพูด เห็นคุณค่าภาษาไทยซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาติ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ภาคภูมิใจในภาษาไทย และรักษาไว้เปน็ สมบตั ิของชาติ เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ กล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้อง มีความกระตือรือร้น มุ่งมั่นใน การทำงาน และมีความรับผิดชอบ มีนิสัยรักการอ่าน รักการเขียน มีจิตสาธารณะ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เห็ น คุณคา่ ของความเปน็ ไทย อนุรกั ษค์ วามเป็นไทยและภาษาไทยซึ่งเปน็ ภาษาประจำชาติ รหัสตวั ชี้วดั ท ๑.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕ ท ๒.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕ ท ๓.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒ ท ๔.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒ ท ๕.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒ รวม ๑๖ ตัวช้วี ดั แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔

๖ แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย รหัสรายวิชา ท ๒๒๑๐๒ กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๒ ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ ผูส้ อน นายธนากร เหขนุ ทด ๑. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชีว้ ดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพ่ือนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหา ในการดำเนินชวี ิตและมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียน เขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียน เร่ืองราว ในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงาน การศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึกในโอกาสตา่ ง ๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และสรา้ งสรรค์ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทย ไวเ้ ป็นสมบตั ขิ องชาติ มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดี และวรรณกรรมไทยอย่าง เห็นคณุ ค่าและนำมาประยุกตใ์ ช้ในชีวิตจรงิ ตวั ชวี้ ดั มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพ่ือนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหา ในการดำเนินชวี ติ และมนี ิสยั รักการอา่ น ท ๑.๑ ม.๒/๖ ระบขุ อ้ สงั เกตการชวนเชอ่ื การโน้มน้าว หรอื ความสมเหตสุ มผลของงานเขียน ท ๑.๑ ม.๒/๗ อ่านหนังสอื บทความ หรอื คำประพันธ์อยา่ งหลากหลาย และประเมินคณุ คา่ หรือ แนวคิดทไี่ ด้จากการอ่าน เพือ่ นำไปใชใ้ นการแก้ปญั หาในชีวติ ท ๑.๑ ม.๒/๘ มีมารยาทในการอ่าน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียน เขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียน เร่ืองราว ในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงาน การศกึ ษาคน้ คว้าอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ท ๒.๑ ม.๒/๖ เขยี นจดหมายกิจธรุ ะ ท ๒.๑ ม.๒/๗ เขียนวิเคราะห์ วจิ ารณ์ และแสดง ความรู้ ความคดิ เหน็ หรอื โต้แย้ง ในเรอื่ งที่อ่าน อย่างมีเหตุผล ท ๒.๑ ม.๒/๘ มีมารยาทในการเขยี น มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรู้สกึ ในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมีวจิ ารณญาณ และสร้างสรรค์ แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔

๗ ท ๓.๑ ม.๒/๓ วิเคราะห์และวิจารณ์เร่ืองท่ีฟัง และดูอย่างมีเหตุผลเพื่อนำข้อคิดมาประยุกต์ใช้ ในการดำเนนิ ชีวติ ท ๓.๑ ม.๒/๔ พูดในโอกาสต่าง ๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ ท ๓.๑ ม.๒/๕ พูดรายงานเรื่องประเด็นทศี่ กึ ษาคน้ คว้า ท ๓.๑ ม.๒/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทย ไว้เปน็ สมบัติของชาติ ท ๔.๑ ม.๒/๓ แต่งบทร้อยกรอง ท ๔.๑ ม.๒/๔ ใชค้ ำราชาศัพท์ ท ๔.๑ ม.๒/๕ รวบรวมและอธบิ ายความหมายของคำภาษาต่างประเทศท่ีใชใ้ นภาษาไทย มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดี และวรรณกรรมไทยอย่าง เห็นคุณค่าและนำมาประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตจริง ท ๕.๑ ม.๒/๓ อธบิ ายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมทอี่ ่าน ท ๕.๑ ม.๒/๔ สรุปความรู้และข้อคดิ จากการอา่ นไปประยุกต์ใช้ในชวี ิตจริง ท ๕.๑ ม.๒/๕ ท่องจำบทอาขยานตามท่ีกำหนดและบทร้อยกรองท่ีมคี ณุ คา่ ตามความสนใจ ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ความรู้ (K) ๑. ระบุขอ้ สังเกตการชวนเชอื่ การโนม้ น้าว หรอื ความสมเหตุสมผลของงานเขยี น (K) ๒. อธิบายการอา่ นหนังสือ บทความ หรอื คำประพนั ธ์อยา่ งหลากหลาย และประเมินคุณค่า หรือ แนวคิดทไ่ี ด้จากการอ่าน เพอ่ื นำไปใช้ในการแกป้ ัญหาในชีวิต (K) ๓. มีมารยาทในการอ่าน (K) ๔. อธิบายการเขยี นจดหมายกจิ ธุระ (K) ๕. เปรียบเทียบการเขียนวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดง ความรู้ ความคดิ เห็น หรอื โต้แยง้ ในเร่อื งท่ี อ่านอยา่ งมเี หตุผล (K) ๖. มมี ารยาทในการเขยี น (K) ๗. อธบิ ายการสร้างคำในภาษาไทย (K) ๘. วิเคราะหโ์ ครงสร้างประโยคสามัญ (K) ๙. อธิบายการแต่งบทร้อยกรอง (K) ๑๐. เปรียบเทยี บใช้คำราชาศัพท์ (K) ๑๑. รวบรวมและอธบิ ายความหมายของคำภาษาต่างประเทศท่ใี ชใ้ นภาษาไทย (K) ๑๒. สรปุ เนอ้ื หาวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอา่ นในระดับท่ียากข้นึ (K) ๑๓. วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถ่ินท่ีอ่าน พรอ้ มยกเหตผุ ลประกอบ (K) ๑๔. อธิบายคณุ ค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน (K) แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔

๘ ๑๕. สรุปความรแู้ ละข้อคดิ จากการอา่ นไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ จริง (K) ๑๖. ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนดและบทร้อยกรองท่มี ีคุณคา่ ตามความสนใจ (K) ทกั ษะ (P) ๑. ตรวจสอบระบขุ อ้ สังเกตการชวนเช่ือ การโน้มน้าว หรอื ความสมเหตุสมผลของงานเขียน (P) ๒. อา่ นหนังสอื บทความ หรือคำประพนั ธ์อยา่ งหลากหลาย และประเมินคุณค่า หรือแนวคดิ ที่ได้ จากการอ่าน เพ่ือนำไปใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิต (P) ๓. แสดงการมมี ารยาทในการอ่านในการใชพ้ ้ืนทสี่ ว่ นรวม (P) ๔. เขียนจดหมายกจิ ธุระ (P) ๕. เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดง ความรู้ ความคิดเห็น หรือโต้แย้ง ในเร่ืองท่ีอ่านอย่างมี เหตผุ ล (P) ๖. มมี ารยาทในการเขียนในเรื่องราวทเ่ี หมาะสม (P) ๗. ทดลองสร้างคำในภาษาไทย (P) ๘. มสี ่วนร่วมวเิ คราะห์โครงสรา้ งประโยคสามัญ (P) ๙. ทดลองแตง่ บทร้อยกรอง (P) ๑๐. รว่ มอภปิ รายการใชค้ ำราชาศพั ท์ (P) ๑๑. นำเสนอบทความที่รวบรวมและอธิบายความหมายของคำภาษาต่างประเทศที่ใช้ใน ภาษาไทย (P) ๑๒. อภปิ รายสรปุ เน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรมทอ่ี า่ นในระดับทีย่ ากขน้ึ (P) ๑๓. มีส่วนร่วมวิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถ่ินท่ีอ่าน พร้อมยกเหตุผลประกอบ (P) ๑๔. สำรวจและอธิบายคณุ คา่ ของวรรณคดแี ละวรรณกรรมทอี่ ่าน (P) ๑๕. สรุปความรแู้ ละข้อคิดจากการอ่านไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ จรงิ (P) ๑๖. ท่องจำบทอาขยานตามท่ีกำหนดและบทร้อยกรองท่มี ีคุณค่าตามความสนใจ (P) ทศั นคติ (A) ๑. เหน็ คุณค่าการตั้งข้อสงั เกต หรือความสมเหตสุ มผลของงานขยี น (A) ๒. ตระหนักถึงการอ่านสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ เพื่อนำแนวคิดที่ได้จากการอ่าน เพื่อนำไปใช้ในการ แกป้ ญั หาในชีวิต (A) ๓. ตระหนกั ถงึ ความเปน็ ส่วนร่วมในที่สาธารณะ (A) ๔. ตระหนกั ถึงความสำคญั ในการสอื่ สารแทนคำพูด (A) ๕. ภมู ิใจในการเขียนทแ่ี สดงความคดิ เห็นผ่านบทความอย่างเหมาะสม (A) ๖. เห็นคุณคา่ การเขียนเพื่อการสื่อสารท่ีเข้าใจงา่ ย (A) ๗. สรา้ งคำถูกต้องตามหลักภาษาไทย (A) ๘. วิเคราะห์ตามหลักภาษาไทยได้ถูกตอ้ ง (A) แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔

๙ ๙. แต่งกลอนสภุ าพไดถ้ ูกต้องตามฉันทลักษณ์ (A) ๑๐. ใช้คำราชาศพั ทไ์ ด้ถกู ตอ้ งเหมาะสม ตามระดบั ของบคุ คล (A) ๑๑. มมี ารยาทในการอภิปรายและแสดงความคิดเห็นขอ้ โต้แย้ง (A) ๑๒. มีมารยาทในการอา่ น (A) ๑๓. เห็นคุณคา่ และซาบซง้ึ (A) ๑๔. เห็นคุณค่าและซาบซ้งึ (A) ๑๕. เหน็ คุณค่าและซาบซ้งึ (A) ๑๖. เหน็ คุณค่าและซาบซ้งึ (A) สาระสำคัญ การอ่าน การอ่านออกเสียงคำ ประโยค การอ่านบทร้อยแก้ว คำประพันธ์ชนืดต่าง ๆ การอ่านในใจเพื่อ สร้างความเขา้ ใจ และการคดิ วิเคราะห์ สังเคราะห์ความร้จู ากสิง่ ที่อา่ น เพ่ือนำไปปรบั ใชใ้ นชีวิตประจำวัน การเขียน การเขียนสะกดคำตามอักขรวิธี การเขียนสื่อสารรูปแบบต่าง ๆ การเขียนเรียงความ ย่อความ เขยี นรายงานจากการศกึ ษาค้นนควา้ เขียนตามจนิ ตนาการ เขียนวิเคราะห์วิจารณ์ และเขียนเชงิ สร้างสรรค์ การฟัง การดู และการพูด การฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ การพูดแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก พูด ลำดับเรื่องราวต่าง ๆ อย่างเปน็ เหตุเป็นผล การพูดในโอกาสต่าง ๆ ทั้งเป็นทางการและไมเ่ ป็นทางการ การพูดเพื่อ โนม้ นา้ วใจ หลักการใช้ภาษาไทย ศึกษาธรรมชาติและกฎเกณฑ์ของภาษาไทย การใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องเหมาะสม กับโอกาสและบคุ คล การแตง่ บทประพันธ์กประเภทตา่ ง ๆ และอิทธิพลของภาษาต่างประเทศในภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อศึกษาขอ้ มมูล แนวความคิด คุณค่าของ งานประพันธ์ และเพื่อความเพลดิ เพลิน การเรียนรูแ้ ละทำความเข้าใจ บทเห่ บทร้องเล่นของงเด็ก เพลงพื้นบ้านที่ เป็นภูมิปัญญาที่มีคุณค่าของไทย ซึ่งได้ถ่านทอดความรู้สึกนึกคิด ค่านิยม ขนบธรรมเนียมประเพณี เรื่องราวของ สังคมในอดีต และความงดงามของภาษา เพื่อให้เกิดความซาบซ้ึและภูมิใจในบรรพบุรุษที่ได้สั่งสมสืบทอดมาจนถงึ ปจั จุบนั ข้อมูลสารสนเทศ เรื่องราว ข้อเท็จจริง ข้อมูล หรือสิ่งใดส่ิงหน่ึงทีส่ ามารถส่ือความหมายด้วยการพูดบอก เล่า บันทึกเป็นเอกสาร รายงาน หนังสือ แผนที่ แผนภาพ ภาพถ่าย บันทึกด้วยภาพและเสียง บันทึกด้วยเครื่อง คอมพวิ เตอร์ เป็นการเกบ็ เรอื่ งราวตา่ ง ๆ บนั ทกึ ไวเ้ ปน็ หลกั ฐานดว้ ยวธิ ีการตา่ ง ๆ สาระการเรียนรู้ หลกั การวเิ คราะห์จำแนกข้อเทจ็ จรงิ และข้อคดิ เห็น ระบุขอ้ สังเกตการชวนเช่ือจากเรอ่ื งที่อ่าน อา่ นหนังสือ และประเมินคุณค่าจากการอ่านเพื่อนำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิต เขียนรายงานจากการศกึ ษาค้นคว้า จดหมายกิจธุระ วเิ คราะห์วจิ ารณแ์ สดงความคิดเห็นเร่ืองท่ีอา่ นอย่างมีเหตุผล พดู ในโอกาสต่าง ๆ พดู รายงานจากการศึกษาค้นคว้า ใช้กระบวนการทางภาษา กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ จัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความคิด เรียนรู้แบบโครงงาน ให้รู้ วิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ รักความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะเพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ภาคภมู ใิ จในภาษาไทย และรกั ษาไว้เปน็ สมบตั ิของชาติ แผนการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔

๑๐ คำอธิบายรายวชิ า ศึกษาหลักการวิเคราะห์จำแนกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น ระบุข้อสังเกตการชวนเชื่อจากเรื่องที่อ่าน อ่าน หนังสือและประเมินคุณคา่ จากการอ่านเพ่ือนำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิต เขยี นรายงานจากการศึกษาค้นคว้า จดหมาย กจิ ธรุ ะ วิเคราะหว์ ิจารณ์แสดงความคิดเห็นเร่ืองท่ีอา่ นอย่างมีเหตุผล พดู ในโอกาสตา่ ง ๆ พูดรายงานจากการศึกษา ค้นคว้า แต่งกลอนสุภาพ รวบรวมและอธิบายความหมายของคำภาษาต่างประเทศทีใ่ ช้ในภาษาไทย อธิบายคุณค่า ของวรรณคดแี ละวรรณกรรมทอ่ี ่าน ท่องจำบทอาขยานและบทรอ้ ยกรองทีม่ ีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการทางภาษา กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ จัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความคิด เรียนรู้แบบ โครงงาน ให้รู้วิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ วางแผน คิดวิเคราะห์ ประเมินผล ฝึกการเป็นผู้นำและผู้ตาม มี ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี สามารถสร้างองคค์ วามรู้ไปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวัน มีคุณธรรม จริยธรรม และมีมารยาทในการใช้ภาษา เป็นผู้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีมารยาทในการ อ่าน การเขียน การฟัง การดูและการพูด เห็นคุณค่าภาษาไทยซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาติ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะเพื่อให้ เกิดการเรียนรู้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ภาคภูมิใจในภาษาไทย และรกั ษาไว้เป็นสมบัตขิ องชาติ รหัสตวั ชี้วดั ท ๑.๑ ม.๒/๖, ม.๒/๗, ม.๒/๘ ท ๒.๑ ม.๒/๖, ม.๒/๗, ม.๒/๘ ท ๓.๑ ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕, ม.๒/๖ ท ๔.๑ ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕ ท ๕.๑ ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕ รวม ๑๖ ตัวชี้วัด แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔

๑๑ โครงสรา้ งรายวิชา รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย รหัสรายวิชา ท ๒๒๑๐๑ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔ เวลา ๖๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต หน่วยที่ ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้/ เวลา ตวั ช้วี ดั (ชั่วโมง) ๑ ร้อยเรยี งเสียงขับขาน ๑.๑ หลักการอา่ นออกเสียง ท ๑.๑ ม.๒/๑ ๒ ๑.๒ การอ่านออกเสยี งบทร้อยแก้ว ท ๑.๑ ม.๒/๑ ๒ ๑.๓ การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง ท ๑.๑ ม.๒/๗ ๓ ๑.๔ การทอ่ งจำบทอาขยาน ท ๕.๑ ม.๒/๕ ๒ ๑.๕ การอา่ นจบั ใจความสำคัญ ท ๑.๑ ม.๒/๒, ๒ ท ๑.๑ ม.๒/๘ ๑.๖ การอา่ นสรุปความ ท ๑.๑ ม.๒/๗ ๑ ๑.๗ การอ่านวิเคราะหแ์ ละประเมินค่าวรรณกรรม ท ๓.๑ ม.๒/๕ ๒ ๑.๘ การอา่ นเพื่อประเมนิ คา่ ท ๑.๑ ม.๒/๕ ๑ ๒ เรยี งถ้อยร้อยความ ๒.๑ การคดั ลายมือจากบทร้อยแก้ว ท ๒.๑ ม.๒/๑ ๒ ๒.๒ การคัดลายมือจากบทร้อยกรอง ท ๒.๑ ม.๒/๑ ๒ ๒.๓ การเขียนบรรยาย ท ๒.๑ ม.๒/๒ ๒ ๒.๔ การเขยี นจดหมายกจิ ธุระ ท ๒.๑ ม.๒/๖ ๒ ๓ พาที พนิ จิ เรียบเรียง ๓.๑ การพดู สรุปใจความสำคัญจากเร่ืองทฟ่ี ังและดู ท ๓.๑ ม.๒/๒, ๓ ท ๓.๑ ม.๒/๓ ๓.๒ พูดวิเคราะหข์ ้อเท็จจริง ข้อคิดเหน็ จากเรือ่ งทฟ่ี งั และดู ท ๓.๑ ม.๒/๓, ๒ ท ๓.๑ ม.๒/๔ ๓.๓ การพูดวเิ คราะห์ วิจารณจ์ ากเรอ่ื งที่ฟงั และดู ท ๓.๑ ม.๒/๓, ๓ ท ๕.๑ ม.๒/๔ ๓.๔ การพดู ในโอกาสตา่ งๆ ท ๓.๑ ม.๒/๑, ๔ ท ๓.๑ ม.๒/๔ ๓.๕ โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ท ๓.๑ ม.๒/๒, ๒ ท ๕.๑ ม.๒/๑ ๓.๖ คณุ คา่ และข้อคิดของโคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพระ ท ๑.๑ ม.๒/๖ ๒ สรุ โิ ยทยั ขาดคอชา้ ง ๔ สร้างคำนำไปใช้ ๔.๑ คำสมาส ท ๔.๑ ม.๒/๑, ๓ โครงสร้างรายวิชา ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔

๑๒ หนว่ ยที่ ช่ือหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู/้ เวลา ตวั ชว้ี ัด (ชั่วโมง) ๔.๒ คำสมาสแบบมสี นธิ ท ๔.๑ ม.๒/๕ ๓ ๔.๓ กลอนสุภาพ ๕ คณุ คา่ วรรณคดีในวรรณกรรม ท ๔.๑ ม.๒/๑, ๔ ๕.๑ บทเสภาสามัคคเี สวก ตอนวิศวกรรมา ท ๔.๑ ม.๒/๕ ท ๑.๑ ม.๒/๑, ท ๔.๑ ม.๒/๓, ท ๕.๑ ม.๒/๕ ๕.๒ บทเสภาสามัคคีเสวก ตอนวศิ วกรรมาและสามัคคีเสวก ท ๑.๑ ม.๒/๑, ๔ ท ๒.๑ ม.๒/๓, ๕.๓ สรปุ เนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรม ท ๔.๑ ม.๒/๔ ๓ สอบกลางภาค ท ๑.๑ ม.๒/๑, ๒ สอบปลายภาค ท ๒.๑ ม.๒/๓, ๑ ท ๔.๑ ม.๒/๔ ๑ รวม ๖๐ ท ๑.๑ ม.๒/๒, ท ๕.๑ ม.๒/๑, ท ๕.๑ ม.๒/๒ โครงสร้างรายวชิ า ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔

๑๓ โครงสร้างรายวิชา รายวิชาพนื้ ฐาน ภาษาไทย รหัสรายวิชา ท ๒๒๑๐๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔ เวลา ๖๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต หน่วยที่ ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนร/ู้ เวลา ตัวชี้วัด (ช่วั โมง) ๑ รอ้ ยเรยี งความคิด ๑.๑ ผงั ความคิดแสดงความเขา้ ใจ ท ๑.๑ ม.๒/๓, ๒ ท ๑.๑ ม.๒/๖ ๑.๒ กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ท ๕.๑ ม.๒/๔ ๒ ๑.๓ คุณค่าและข้อคิดกาพย์หอ่ โคลงประพาสธารทองแดง ท ๕.๑ ม.๒/๓, ๒ ท ๕.๑ ม.๒/๔ ๑.๔ จำแนกแยกข้อมลู ท ๑.๑ ม.๒/๓ ๓ ๑.๕ ระบขุ ้อสงั เกตจากงานเขียน ท ๑.๑ ม.๒/๕, ๒ ท ๑.๑ ม.๒/๖ ๒ พัฒนาการเขยี น ๒.๑ โคลงสภุ าษิต พระราชนิพนธ์ รชั กาลท5่ี ท ๕.๑ ม.๒/๓, ๓ ท ๕.๑ ม.๒/๕ ๒.๒ โคลงสภุ าษิตพระราชนิพนธ์ รชั กาลที่ 5 (โคลงสภุ าษิตโสฬส ท ๓.๑ ม.๒/๓ ๓ ไตรยางค์) ๒.๓ คุณค่าและข้อคิดโคลงสภุ าษิต พระราชนิพนธ์ รัชกาลที่ 5 ท ๕.๑ ม.๒/๓, ๒ (โคลงสุภาษติ โสฬสไตรยางค)์ ท ๕.๑ ม.๒/๔ ๒.๔ โคลงสภุ าษติ พระราชนพิ นธ์ รัชกาลท่ี 5 (โคลงสุภาษติ นฤทุม ท ๕.๑ ม.๒/๓ ๔ นาการ) ๒.๕ คณุ ค่าและข้อคิดโคลงสุภาษติ พระราชนิพนธ์ รชั กาลท่ี 5 ท ๕.๑ ม.๒/๓, ๒ (โคลงสุภาษิตนฤทุมนาการ) ท ๕.๑ ม.๒/๔ ๒.๖ โคลงสุภาษติ พระราชนพิ นธ์ รัชกาลที่ 5 (โคลงสภุ าษติ อิศปป ท ๕.๑ ม.๒/๓ ๔ กรณำ) ๒.๗ คุณค่าและข้อคิดโคลงสภุ าษติ พระราชนิพนธ์ รชั กาลท่ี 5 ท ๒.๑ ม.๒/๗, ๒ (โคลงสุภาษติ อศิ ปปกรณำ) ท ๓.๑ ม.๒/๔ ๒.๘ การเขยี นย่อความ ท ๒.๑ ม.๒/๖, ๒ ท ๕.๑ ม.๒/๔ ๒.๙ การเขียนรายงานการศึกษาค้นควา้ ท ๒.๑ ม.๒/๘, ๓ ท ๕.๑ ม.๒/๕ ๓ แลกเปลยี่ นพิจารณ์ ๓.๑ บทละครเร่ืองรามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทก ท ๓.๑ ม.๒/๕, ๔ โครงสร้างรายวชิ า ภาคเรยี นท่ี ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔

๑๔ หน่วยที่ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ เวลา ตัวช้ีวัด (ชั่วโมง) ๓.๒ คุณค่าและข้อคิดบทละครเรือ่ งรามเกยี รต์ิ ตอน นารายณ์ ปราบนนทก ท ๕.๑ ม.๒/๓, ๑ ท ๕.๑ ม.๒/๕ ๑ ๓.๓ พูดสรุปความจากเร่ืองทฟ่ี ังและดู ๑ ท ๕.๑ ม.๒/๓, ๒ ๓.๔ พดู วิเคราะห์ วจิ ารณ์ จากเรอ่ื งที่ฟงั และดู ท ๕.๑ ม.๒/๔ ๓.๕ พูดรายงานการศึกษาค้นคว้า ท ๓.๑ ม.๒/๓ ท ๓.๑ ม.๒/๓ ท ๒.๑ ม.๒/๕, ท ๓.๑ ม.๒/๕ ๔ พนิ จิ ภาษา ท ๔.๑ ม.๒/๕ ๑ ๔.๑ ลกั ษณะคำไทยแท้ ท ๔.๑ ม.๒/๕ ๑ ๔.๒ ภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ท ๔.๑ ม.๒/๔ ๑ ๔.๓ คำราชาศัพท์ ท ๔.๑ ม.๒/๓ ๒ ๔.๔ รูห้ ลักรอ้ ยกรอง (กลอนดอกสรอ้ ย) ๕ วรรณคดใี นวรรณกรรม ท ๕.๑ ม.๒/๓ ๒ ๕.๑ พินจิ วรรณคดี ๒ ท ๔.๑ ม.๒/๓, ๑ ๕.๒ กลอนดอกสรอ้ ยรำพึงในปา่ ช้า ท ๕.๑ ม.๒/๕ ๑ ๕.๓ ศิลาจารึกหลักที่ 1 ท ๓.๑ ม.๒/๓ ๒ ๑ ๕.๔ คณุ คา่ และข้อคิดศิลาจารึกหลักท่ี 1 ท ๔.๑ ม.๒/๕, ๑ ท ๕.๑ ม.๒/๕ ๖๐ ๕.๕ วรรณกรรมท้องถิน่ ท ๓.๑ ม.๒/๓, สอบกลางภาค ท ๕.๑ ม.๒/๓ สอบปลายภาค รวม โครงสร้างรายวชิ า ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔

๑๕ แผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง การคัดลายมอื จากบทร้อยกรอง

๑๖ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑ ตามสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโคโรน่า ๒๐๑๙ (Covid-19) หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ เรอื่ ง เรียงถ้อยรอ้ ยความ จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๑ เร่ือง การคดั ลายมอื จากบทรอ้ ยกรอง เวลา เรียน ๒ คาบ รหัสวชิ า ท ๒๒๑๐๑ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๒ ภาคเรียนที่ ๑ ผ้สู อนนายธนากร เหขุนทด กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียน เขียนสอ่ื สาร เขียนเรยี งความ ยอ่ ความ และเขยี น เรอ่ื งราว ในรปู แบบตา่ ง ๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงาน การศกึ ษาคน้ คว้าอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ตัวช้ีวัด ท ๒.๑ ม.๒/๑ คดั ลายมือตัวบรรจงคร่ึงบรรทดั ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ๑. บอกวิธีการคดั ลายมือตวั บรรจงครึง่ บรรทัด ๒. อธิบายหลักการคดั ลายมือท่ีถกู ต้องได้ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (P) ๑. ปฏิบัติการคัดลายมอื ตัวบรรจงคร่งึ บรรทดั ได้ถูกต้อง ๒. คดั ลายมือได้ถกู ต้องตามรูปแบบต่างๆ ด้านคุณลักษณะ (A) ๑. มีวนิ ัย ๒. ใฝ่เรยี นรู้ ๓. มุ่งมัน่ ในการทำงาน ๔. เห็นความสำคัญของการคัดลายมอื ๓. สาระสำคญั การคัดลายมือ เป็นการฝึกเขียนเบื้องต้นที่จำเป็นต้องฝึกตั้งแต่เยาว์วัยเพื่อให้มีทักษะการเขียนที่สวยงาม เปน็ ระเบียบเรยี บร้อยเพราะการคัดลายมอื เป็นพ้นื ฐานทจ่ี ะนำไปสูก่ ารเขยี นได้ถกู ต้องคลอ่ งแคล่ว การเขียน การเขียนสะกดคำตามอักขรวิธี การเขียนสื่อสารรูปแบบต่าง ๆ การเขียนเรียงความ ย่อความ เขยี นรายงานจากการศึกษาคน้ นคว้า เขียนตามจนิ ตนาการ เขยี นวิเคราะห์วิจารณ์ และเขยี นเชิงสรา้ งสรรค์ หลักการใช้ภาษาไทย ศึกษาธรรมชาติและกฎเกณฑ์ของภาษาไทย การใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องเหมาะสม กับโอกาสและบุคคล การแต่งบทประพันธ์กประเภทตา่ ง ๆ และอทิ ธิพลของภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย แผนการจดั การเรียนรู้ เรื่อง การคดั ลายมอื จากบทร้อยกรอง

๑๗ ข้อมูลสารสนเทศ เรื่องราว ข้อเท็จจรงิ ข้อมูล หรือสิ่งใดสิ่งหน่ึงที่สามารถสื่อความหมายด้วยการพูดบอก เล่า บันทึกเป็นเอกสาร รายงาน หนังสือ แผนที่ แผนภาพ ภาพถ่าย บันทึกด้วยภาพและเสียง บันทึกด้วยเครื่อง คอมพวิ เตอร์ เป็นการเกบ็ เรื่องราวตา่ ง ๆ บนั ทกึ ไว้เปน็ หลกั ฐานด้วยวธิ กี ารตา่ ง ๆ ๔. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น ✓ ความสามารถในการสื่อสาร ✓ ความสามารถในการคิด ✓ ความสามารถในการแกป้ ญั หา ✓ ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๕. สาระการเรียนรู้ การคัดลายมือ เป็นการฝึกเขียนเบื้องต้นที่จำเป็นต้องฝึกตั้งแต่เยาว์วัยเพื่อให้มีทักษะการเขียนที่สวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อยเพราะการคดั ลายมอื เป็นพื้นฐานท่ีจะนำไปสกู่ ารเขียนได้ถกู ต้องคลอ่ งแคลว่ ๖. กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั ที่ ๑ ขั้นเตรยี มความพร้อมในการเรยี น ๑. ให้อาสาสมัครนักเรียน ๒-๓ คน ออกมาเขียนชื่อและนามสกุลของนักเรียนด้วยลายมือตัวบรรจงคร่ึง บรรทดั บนกระดานหน้าช้นั เรียนและให้เพื่อน ๆ ในชน้ั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นและช่วยกนั พิจารณาลักษณะ ตวั อักษรการวางสระและรปู วรรณยกุ ต์ ๒. นกั เรยี นฟังครอู ธิบายเก่ยี วกบั การเขยี นตวั หนังสือดว้ ยลายมือทีส่ วยงามทำให้งานเขียนมีระเบยี บชัดเจน และน่าอ่านนอกจากนย้ี ังสง่ เสรมิ บุคลิกภาพของผู้เขียนวา่ เป็นผู้มีภมู ริ ูท้ างภาษาและใช้ภาษาไทยได้อยา่ งถกู ต้อง ข้นั ที่ ๒ ข้ันการสำรวจและค้นคว้า ๑. นักเรยี นศกึ ษาใบความรู้ เรือ่ ง หลกั การคัดลายมอื ๒. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับแบบของตัวอักษรไทยที่ถูกต้องซึ่งบ่งบอก ถึงการรักความเป็นไทย และครูอธิบายเพิ่มเติมเรื่องแบบตัวอักษรในการคัดลายมือ มีแบบการคัดตัวอักษรไทย หลายแบบในการสอนคัดลายมือแก่นักเรียนทุกระดับชั้นจะใช้ตัวอักษรแบบกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเรียกตาม โครงสร้างของตัวอักษร หัวกลม ตวั มน ประกอบดว้ ยพยญั ชนะ ไทย สระ วรรณยกุ ตแ์ ละตวั เลขไทย ๑. นักเรยี นทกุ คนฝกึ คัดลายมือจากใบงาน เร่ือง คดั ลายมอื โดย ใชต้ ัวอักษรแบบกระทรวงศึกษาธิการ หัว กลม ตัวมน ขณะที่นักเรียนฝึกคัดลายมอื ๒. นักเรียนจบั คพู่ ิจารณาการคัดลายมอื ของเพื่อน และปรับปรงุ วิธกี ารคดั ลายมือใหส้ วยงามตามแบบ แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การคดั ลายมือจากบทร้อยกรอง

๑๘ ข้ันท่ี ๓ ขัน้ การอธบิ ายและลงขอ้ สรุป ๑. ครอู ธบิ ายการคัดลายมือจากบทรอ้ ยกรองเพ่ิมเตมิ จากการสอนในคาบ เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนไดข้ อ้ มลู ทค่ี วรรู้ไว้ รอบตัว ๒. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปความรู้ ขน้ั ท่ี ๔ ขนั้ การประเมินผล ๑. ครสู ุ่มผลงานนกั เรียน เสนอเป็นตวั อยา่ งและพูดชืน่ ชมใน ผลงานนกั เรยี น ๗. สอื่ และแหล่งการเรียนรู้ ๗.๑ สื่อการเรียนรู้ ๑. องคค์ วามร้กู ารคัดลายมือจากบทรอ้ ยกรอง ๗.๒ แหล่งการเรียนรู้ ๑. มลู นิธกิ ารศกึ ษาทางไกลผ่านดาวเทยี ม ในพระบรมราชปู ถัมภ์ (DLTV) ๒. หนงั สอื เรยี น สาระความรูพน้ื ฐาน รายวชิ า ภาษาไทย ๘. ชิ้นงาน/ภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอยแสดงความร)ู้ ๑. ใบงานเรอ่ื ง การคัดลายมอื โดยใช้ตวั อักษรการคดั ลายมือแบบกระทรวงศึกษาธิการหัวกลม ตวั มน ๒. ใบงานการคดั ลายมอื จากบทร้อยกรอง เรอ่ื ง กลอนดอกสร้อย รำพึงในปา่ ชา้ ๙. การวดั และประเมินผล สิ่งที่วัด วธิ ีการวัดผล เคร่อื งมือวัด เกณฑ์การประเมินผล ด้านความรู้ (K) ถาม-ตอบ ในชน้ั เรียน คำถามจากบทเรยี น ตอบคำถามซักถามได้ ผลจากการสังเกต ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) วธิ กี ารคดั ลายมอื จากบท แบบประเมินการคัด พฤติกรรมการคัดลายมือ รอ้ ยกรอง ลายมอื จากบทรอ้ ยกรอง จากบทร้อยกรองรอ้ ยละ ๘๐ ข้นึ ไปถือว่าผา่ น เกณฑ์ ด้านคณุ ลักษณะ (A) การเข้าเรยี นสม่ำเสมอ แบบสังเกตคุณลักษณะ ผา่ น/ไมผ่ า่ น อนั พงึ ประสงค์ แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง การคัดลายมอื จากบทร้อยกรอง

๑๙ เกณฑก์ ารประเมนิ ๑) ดา้ นความรู้ รายการประเมิน วธิ กี าร เครอ่ื งมือท่ใี ช้ เกณฑ์ ๑. บอกวิธีการคดั ลายมือตัว บรรจงคร่งึ บรรทัด ใช้คำถาม คำถาม ตอบคำถามซักถามได้ ๒. อธิบายหลักการคัด ลายมือที่ถกู ต้องได้ ๓. การทำใบงาน เร่อื ง คัด ตรวจใบงาน เรือ่ ง คดั แบบประเมินใบงาน เร่ือง นักเรียนได้คะแนน ร้อย ลายมอื โดยใชต้ ัวอกั ษรแบบ ลายมือโดย ใช้ตัวอักษร คดั ลายมอื โดยใช้ตัวอักษร ละ ๘๐ ขนึ้ ไป ถือวา่ ผ่าน กระทรวงศึกษาธิการ หวั การคดั ลายมือแบบ การคดั ลายมือแบบ กลม ตวั มน เกณฑ์ กระทรวงศกึ ษาธิการ กระทรวงศกึ ษาธิการ หัวกลม ตัวมน หัวกลม ตัวมน ๒) ดา้ นทักษะและกระบวนการ รายการประเมิน วธิ ีการ เคร่ืองมือทใี่ ช้ เกณฑ์ ๑. ปฏิบตั ิการคดั ลายมอื ตัว สังเกตการคดั ลายมือ แบบประเมนิ การคัด ผลจากการสงั เกต บรรจงครงึ่ บรรทัดได้ถูกตอ้ ง จากบทร้อยกรอง ลายมือจากบทร้อยกรอง พฤติกรรมการคัดลายมือ ๒. คดั ลายมือได้ถกู ต้องตาม จากบทร้อยกรองรอ้ ยละ รูปแบบต่างๆ แบบสังเกตพฤติกรรม ๘๐ ข้ึนไปถือว่าผ่าน การทำงานรายบุคคล เกณฑ์ ๓. สังเกตการทำใบงาน การ สังเกตพฤตกิ รรม ผลจากการสังเกต คดั ลายมือจากบทร้อยกรอง การทำงานรายบคุ คล พฤติกรรมการทำงาน รายบุคคลรอ้ ยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ ๓) ด้านคณุ ลักษณะ รายการประเมิน วิธกี าร เคร่ืองมอื ทีใ่ ช้ สงั เกตคุณลักษณะ รายการประเมิน แบบสังเกตคุณลักษณะอนั ได้ผลจากการสังเกต พงึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะแต่ละขอ้ ไม่ ๑. มีวนิ ยั ตำ่ กวา่ ระดบั ๒.๕ ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ ๓. มงุ่ ม่ันในการทำงาน ๔. เหน็ ความสำคัญของการ คดั ลายมือ แผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง การคัดลายมือจากบทร้อยกรอง

๒๐ รายการประเมนิ รายการประเมิน วิธกี าร เครอ่ื งมอื ที่ใช้ สงั เกตคณุ ลักษณะ ๕. สังเกตคุณลักษณะอันพงึ แบบสงั เกตคุณลกั ษณะ ไดผ้ ลจากการสงั เกต ประสงค์ อนั พึงประสงค์ คุณลกั ษณะแตล่ ะข้อ ไม่ ตำ่ กว่าระดบั ๒.๕ เกณฑ์การประเมนิ พฤติกรรมการเรยี นโดยมีเกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดบั ๓๐ - ๒๒ แปลว่า ดีเยีย่ ม ระดับ ๒๑ - ๑๓ แปลว่า ดี ระดบั ๑๒ - ๔ แปลว่า พอใช้ ระดบั ๓ แปลว่า ควรปรบั ปรุง แผนการจัดการเรยี นรู้ เร่ือง การคัดลายมือจากบทร้อยกรอง

๒๑ บันทึกผลหลงั การสอน ปญั หาและอปุ สรรค ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ........................................................................................................................................................................... ......... .......................................................................................................................... .......................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................................. ....................................... ........................................................................................... ......................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................. .................................................................................................... ................... ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................................................................ ........ ........................................................................................................................... ......................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................................. ....................................... ........................................................................................... ........................................................................ ................. ............................................................................................................................. ....................................................... ลงชื่อ..................................................ครูผู้สอน (นายธนากร เหขนุ ทด) ตำแหน่งครู แผนการจดั การเรยี นรู้ เร่ือง การคัดลายมอื จากบทร้อยกรอง

๒๒ แบบบันทึกการสงั เกตและประเมินผลพฤติกรรมรายบุคคล คำชี้แจง ใหท้ ำเคร่ืองหมาย √ ลงในช่องว่างรายการประเมินตามคุณภาพการปฏิบตั ิงานของนักเรยี น พฤตกิ รรม / ระดับคะแนน ที่ ช่อื -สกุล ความสนใจใน การมสี ว่ น การตอบ การยอมรบั ทำงานตามที่ การทำ ร่วมในการ คำถาม กิจกรรม แสดงความ ฟังความ ไดร้ ับ รวม คดิ เหน็ คิดเห็นผอู้ ่ืน มอบหมาย ๓๒๑๓๒๑๓๒๑๓๒๑๓๒๑ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การประเมนิ คะแนนเต็ม ๑๕ คะแนน ระดบั ๓ หมายถงึ มีพฤติกรรมระดบั ดี คะแนน ๑๓ – ๑๕ หมายถงึ ดี ระดบั ๒ หมายถงึ มีพฤติกรรมระดบั ปานกลาง คะแนน ๙ - ๑๒ หมายถงึ ปานกลาง ระดบั ๑ หมายถึง มพี ฤตกิ รรมระดบั ปรับปรุง คะแนน ๕ - ๘ หมายถงึ ปรับปรุง เกณฑก์ ารผา่ น ๙ คะแนน ลงชื่อ............................................................ผู้ประเมิน (.......................................................) วนั ท่ี...........เดอื น...............................พ.ศ.............. แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การคดั ลายมือจากบทร้อยกรอง

๒๓ นิยาม ตัวชี้วดั พฤตกิ รรมบ่งชี้ และเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ******************* ขอ้ ที่ ๑ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ นิยาม รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ ธำรงไว้ซึ่งความ เป็นชาตไิ ทย ศรัทธา ยึดม่นั ในศาสนา และเคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ผู้ที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ คือ ผู้ที่มีลักษณะซึ่งแสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ มีความสามัคคี ปรองดอง ภูมิใจ เชิดชูความเป็นชาติไทย ปฏิบัติตนตามหลักศาสนาที่ตนนับถือ และแสดงความจงรักภักดีต่อ สถาบันพระมหากษตั รยิ ์ ตวั ช้วี ดั และพฤตกิ รรมบ่งชี้ พฤติกรรมบ่งช้ี ตัวชี้วดั ๑.๑.๑ ยืนตรงเคารพธงชาติ รอ้ งเพลงชาติ และอธิบายความหมายของเพลง ๑.๑ เป็นพลเมอื งดีของชาติ ชาตไิ ด้ถูกตอ้ ง ๑.๑.๒ ปฏบิ ตั ิตนตามสทิ ธิและหน้าท่ีพลเมืองดขี องชาติ ๑.๒ ธำรงไวซ้ ่ึงความเป็นชาติไทย ๑.๑.๓ มคี วามสามัคคี ปรองดอง ๑.๒.๑ เขา้ ร่วม สง่ เสริม สนบั สนนุ กจิ กรรมทส่ี ร้างความสามัคคี ปรองดอง ท่ี เป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชุมชน และสังคม ๑.๒.๒ หวงแหน ปกป้อง ยกย่องความเป็นชาติไทย ตัวชีว้ ดั และพฤตกิ รรมบ่งชี้ พฤติกรรมบ่งช้ี ตวั ช้ีวัด ๑.๓.๑ เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือ ๑.๓ ศรัทธา ยดึ มน่ั และปฏบิ ตั ติ น ๑.๓.๒ ปฏบิ ัติตนตามหลกั ของศาสนาท่ีตนนับถอื ตามหลักของศาสนา ๑.๓.๓ เป็นแบบอย่างทด่ี ขี องศาสนกิ ชน ๑.๔ เคารพเทิดทูนสถาบนั ๑.๔.๑ เข้ารว่ มและมสี ่วนรว่ มในการจดั กจิ กรรมที่เกย่ี วกับสถาบนั พระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์ ๑.๔.๒ แสดงความสำนกึ ในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ ๑.๔.๓ แสดงออกซงึ่ ความจงรักภักดตี ่อสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ เกณฑก์ ารให้คะแนน (ใชข้ อ้ มูลการเขา้ รว่ มกิจกรรมหนา้ เสาธงของนักเรียนเปน็ เกณฑ์พิจารณา) พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไมผ่ ่าน (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเยยี่ ม (๓) ตาม ขอ้ ๑.๑ – ๑.๔ ไมเ่ ขา้ รว่ มกิจกรรม เข้าร่วมกจิ กรรม เข้าร่วมกจิ กรรม เข้ารว่ มกจิ กรรม หน้า เสาธง หรือ หน้าเสาธงร้อยละ หน้าเสาธงร้อยละ หนา้ เสาธงรอ้ ยละ ๘๐ ๕๐ - ๕๙ ๖๐ - ๗๙ ข้นึ ไป แผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง การคัดลายมอื จากบทร้อยกรอง

๒๔ พฤติกรรมบ่งช้ี ไมผ่ ่าน (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดเี ยย่ี ม (๓) เขา้ ร่วมกิจกรรม ต่ำกว่าร้อยละ ๕๐ หมายเหตุ ข้อมลู นี้ได้รับจากงานระบบการดแู ลชว่ ยเหลือนักเรยี น (งานบคุ คล,งานกิจการนกั เรียน) ข้อที่ ๒ ซอ่ื สัตยส์ จุ ริต นยิ าม ซื่อสัตย์สุจรติ หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการยึดมั่นในความถูกตอ้ ง ประพฤติตรงตามความเป็น จรงิ ตอ่ ตนเองและผอู้ ่ืน ทง้ั ทางกาย วาจา ใจ ผู้ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต คือ ผู้ที่ประพฤติตรงตามความเป็นจริงทั้งทางกาย วาจา ใจ และยึดหลักความ จรงิ ความถกู ตอ้ งในการดำเนนิ ชวี ติ มคี วามละอายและเกรงกลัวตอ่ การกระทำผิด ตัวชี้วดั และพฤติกรรมบง่ ชี้ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ตัวชวี้ ดั ๒.๑.๑ ใหข้ อ้ มลู ทีถ่ ูกต้องและเปน็ จริง ๒.๑ ประพฤติตรงตามความเป็น ๒.๑.๒ ปฏบิ ัตติ นโดยคำนงึ ถงึ ความถูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ต่อการกระทำ จรงิ ต่อตนเองทง้ั ทางกาย ผิด วาจา ใจ ๒.๑.๓ ปฏิบัตติ ามคำม่ันสญั ญา ๒.๒ ประพฤตติ รงตามความเปน็ ๒.๒.๑ ไม่ถือเอาสง่ิ ของหรือผลงานของผู้อนื่ มาเป็นของตนเอง จรงิ ต่อผอู้ ่นื ท้ังทางกาย วาจา ใจ ๒.๒.๒ ปฏบิ ตั ติ นตอ่ ผอู้ น่ื ดว้ ยความซ่ือตรง ๒.๒.๓ ไม่หาประโยชนใ์ นทางทไ่ี ม่ถกู ต้อง เกณฑ์การใหค้ ะแนน (ใชข้ อ้ มูลจากการสงั เกตตามสภาพจริงของครูผสู้ อน) พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเยี่ยม (๓) ตามข้อ ๒.๑ – ๒.๒ ไม่ให้ข้อมูลทีถ่ ูกตอ้ ง ใหข้ อ้ มูลทถ่ี ูกตอ้ ง ให้ข้อมูลทีถ่ ูกตอ้ ง ให้ขอ้ มูลท่ถี ูกตอ้ งและ เปน็ จรงิ และเป็นจริง และเปน็ จริง และเป็นจรงิ ไม่นำสิ่งของและผลงาน ของผู้อื่นมาเป็นของ มพี ฤติกรรมนำ ไมน่ ำสงิ่ ของและ ไมน่ ำสงิ่ ของและ ตนเอง ปฏิบัตติ นต่อผอู้ ่นื ด้วยความซื่อตรง เปน็ สงิ่ ของและผลงาน ผลงานของผู้อื่นมา ผลงานของผู้อ่นื มา แบบอย่างท่ดี ีดา้ นความ ซ่อื สตั ย์ ของผู้อนื่ มาเป็นของ เป็นของตนเอง เปน็ ของตนเอง ตนเอง ปฏบิ ตั ติ นต่อผอู้ ื่น ด้วยความซื่อตรง แผนการจัดการเรยี นรู้ เร่ือง การคัดลายมอื จากบทร้อยกรอง

๒๕ หมายเหตุ ข้อมลู นีไ้ ด้รบั จากงานกิจการนักเรียน (สมุดบันทึกการทำความดีของนกั เรยี น,สมุดบนั ทกึ ความดีของ โรงเรยี น) ขอ้ ท่ี ๓ มีวนิ ัย นิยาม มีวินัย หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการยึดมั่นในข้อตกลง กฎเกณฑ์ และระเบียบ ข้อบังคับของ ครอบครวั โรงเรยี น และสงั คม ผู้มีวินัย คือ ผู้ที่ปฏิบัติตนตามข้อตกลงกฎเกณฑ์ และระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน และ สงั คมเปน็ ปกติวสิ ยั ไมล่ ะเมดิ สิทธขิ องผูอ้ น่ื ตวั ชี้วดั และพฤตกิ รรมบง่ ชี้ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ตัวชี้วัด ๓.๑.๑ ปฏบิ ัติตามข้อตกลง ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของครอบครัว ๓.๑ ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง โรงเรยี น และสังคม ไม่ละเมิดสทิ ธิของผูอ้ ่นื กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของ ๓.๑.๒ ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวติ ประจำวัน และ ครอบครวั โรงเรยี น และสังคม รับผดิ ชอบในการทำงาน เกณฑก์ ารให้คะแนน (ใช้ข้อมูลจากการสังเกตตามสภาพจริงของครผู ู้สอน) พฤตกิ รรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดเี ยี่ยม (๓) ตามข้อ ๓.๑ ไม่ปฏบิ ัตติ นตาม ปฏิบตั ติ นตาม ปฏิบตั ิตนตาม - ปฏิบตั ิตนตามขอ้ ตกลง ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ระเบียบ ข้อบังคับ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ระเบยี บ ข้อบังคับ ขอ้ บังคับของโรงเรียน ของโรงเรยี น และ ของโรงเรยี น ตรง ของ ตรงต่อเวลา และ ไม่ละเมดิ สทิ ธิของ ตอ่ เวลาในการ ในการปฏบิ ัติ ผู้อืน่ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม กิจกรรมและ - ตรงตอ่ เวลาในการ รบั ผดิ ชอบในการ ปฏิบัติกจิ กรรมและ ทำงาน รับผดิ ชอบในการทำงาน หมายเหตุ ข้อมลู น้ีไดร้ บั จากงานกิจการนักเรยี น (กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คับของโรงเรยี น,แบบบันทกึ การสอน, แบบบนั ทึกกจิ กรรมโฮมรูม, แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง การคัดลายมอื จากบทร้อยกรอง

๒๖ ขอ้ ท่ี ๔ ใฝ่เรยี นรู้ นยิ าม ใฝเ่ รียนรู้ หมายถึง คุณลกั ษณะท่แี สดงออกถงึ ความตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี น แสวงหาความรู้จาก แหลง่ เรยี นรทู้ ง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียน ผู้ที่ใฝ่เรียนรู้ คือ ผู้ที่มีลักษณะแสดงออกถึงความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรม การเรียนรู้ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการเลือกใช้สื่อ อยา่ งเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วิเคราะห์ สรปุ เป็นองคค์ วามรู้ แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ ถา่ ยทอด เผยแพร่ และนำไปใช้ใน ชวี ติ ประจำวันได้ ตัวชว้ี ัดและพฤตกิ รรมบง่ ชี้ ตัวชวี้ ดั พฤตกิ รรมบ่งช้ี ๔.๑ ตั้งใจ เพยี รพยายามในการ ๔.๑.๑ ตั้งใจเรียน เรียน และเขา้ ร่วมกจิ กรรมการ ๔.๑.๒ เอาใจใสแ่ ละมีความเพียรพยายามในการเรียนรู้ เรยี นรู้ ๔.๑.๓ สนใจเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนร้ตู า่ งๆ ๔.๒ แสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ ๔.๒.๑ ศึกษาคน้ ควา้ หาความรูจ้ ากหนังสอื เอกสาร สงิ่ พิมพ์ สอื่ เทคโนโลยี เรียนรู้ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอก ตา่ งๆ แหลง่ เรยี นรู้ทัง้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น และเลือกใช้สื่อได้อยา่ ง โรงเรียน ด้วยการเลือกใชส้ ่ืออย่าง เหมาะสม เหมาะสม บนั ทึกความรู้ วิเคราะห์ ๔.๒.๒ บนั ทึกความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบจากส่งิ ที่เรียนรู้ สรุปเปน็ องค์ความรู้ สรุปเปน็ องค์ความรู้ แลกเปลี่ยน ๔.๒.๓ แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ด้วยวิธีการต่างๆ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั เรยี นรู้ และนำไปใชใ้ น ชีวติ ประจำวันได้ เกณฑก์ ารให้คะแนน (ใชข้ อ้ มูลจากการสังเกตตามสภาพจริงของครผู ู้สอน) พฤติกรรมบ่งช้ี ไม่ผ่าน (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเย่ียม (๓) ตามข้อ ๔.๑ – ๔.๒ ไม่ต้งั ใจเรียน เข้าเรยี นตรงเวลา เขา้ เรยี นตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจ ไม่ศึกษาค้นคว้าหา ตั้งใจเรยี น เอาใจ ต้ังใจเรยี น เอาใจ เรียน เอาใจใส่ในการ ความรู้ ใส่ในการเรียน ใส่ในการเรียน เรยี น และมสี ่วนรว่ มใน และมสี ่วนร่วมใน และมีส่วนรว่ มใน การเรยี นรู้ และเข้าร่วม การเรียนรู้ และเข้า การเรียนรู้ และเข้า กิจกรรมการเรยี นรูต้ ่างๆ ร่วมกจิ กรรมการ ร่วมกจิ กรรมการ ท้งั ภายในและภายนอก เรยี นรตู้ า่ งๆ เป็น เรยี นรู้ตา่ งๆ โรงเรียนเปน็ ประจำ บางคร้ัง บ่อยครง้ั หมายเหตุ ข้อมลู น้ีได้รบั จากแผนการจดั การเรยี นร้,ู บนั ทึกหลังสอน,แบบสงั เกตพฤติกรรม แผนการจดั การเรยี นรู้ เร่ือง การคดั ลายมือจากบทร้อยกรอง

๒๗ ขอ้ ท่ี ๕ อยู่อยา่ งพอเพียง นยิ าม อยู่อย่างพอเพียง หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการดำเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคณุ ธรรม มีภูมคิ ุ้มกนั ในตวั ทีด่ ี และปรับตัวเพ่ืออยู่ในสังคมได้อยา่ งมีความสขุ ผู้ที่อยู่อย่างพอเพียง คือ ผู้ที่ดำเนินชีวิตอย่างประมาณตน มีเหตุผล รอบคอบ ระมัดระวัง อยู่ร่วมกับ ผู้อนื่ ด้วยความรบั ผิดชอบ ไม่เบียดเบียนผอู้ ่ืน เห็นคณุ คา่ ของทรัพยากรตา่ งๆ มกี ารวางแผนป้องกนั ความเส่ียง และ พรอ้ มรับการเปล่ยี นแปลง ตวั ช้วี ดั และพฤตกิ รรมบ่งช้ี พฤตกิ รรมบ่งชี้ ตวั ช้วี ัด ๕.๑.๑ ใชท้ รัพย์สินของตนเอง เช่น เงิน สิง่ ของ เคร่ืองใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยัด ๕.๑ ดำเนินชีวิตอยา่ งพอประมาณ คุ้มค่า และเกบ็ รักษาดูแลอยา่ งดี รวมทงั้ การใช้เวลาอย่างเหมาะสม มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม ๕.๑.๒ ใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด คุ้มค่า และเกบ็ รักษาดแู ล อย่างดี ๕.๒ มีภมู คิ มุ้ กันในตัวท่ดี ี ปรับตวั ๕.๑.๓ ปฏิบัติตนและตดั สินใจด้วยความรอบคอบ มเี หตผุ ล เพอ่ื อย่ใู นสังคมไดอ้ ย่างมคี วามสุข ๕.๑.๔ ไมเ่ อาเปรยี บผู้อน่ื และไม่ทำให้ผู้อ่นื เดือดรอ้ น พร้อมให้อภยั เมื่อผู้อื่น กระทำผดิ พลาด ๕.๒.๑ วางแผนการเรยี น การทำงาน และการใช้ชวี ติ ประจำวันบนพน้ื ฐานของ ความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร ๕.๒.๒ รู้เท่าทันการเปล่ียนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม ยอมรับและ ปรับตัวเพื่ออย่รู ่วมกับผู้อ่นื ได้อย่างมีความสุข เกณฑ์การใหค้ ะแนน (ใช้ข้อมูลจากการสงั เกตตามสภาพจรงิ ของครูผสู้ อน) พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดเี ย่ยี ม (๓) ตามข้อ ๕.๑ – ๕.๒ ใช้เงินและของใช้ ใช้ทรัพยส์ ินของ ใช้ทรพั ยส์ ินของ ใชท้ รัพยส์ ินของตนเอง สว่ นตัวและ ตนเองและ ตนเองและ และทรัพยากรของ ส่วนรวมอย่างไม่ ทรพั ยากรของ ทรัพยากรของ ส่วนรวมอยา่ งประหยดั ประหยัด สว่ นรวมอยา่ ง สว่ นรวมอย่าง ค้มุ คา่ เกบ็ รกั ษาดูแล ไม่มีการวาง ประหยดั คุ้มคา่ ประหยัด ค้มุ ค่า อยา่ งดี ไม่เอาเปรียบ แผนการเรียนและ เกบ็ รักษาดแู ล เกบ็ รักษาดูแล ผอู้ ่นื และไม่ทำให้ผู้อ่ืน การใช้ อย่างดี อย่างดี ไมเ่ อา เดอื ดรอ้ น ชวี ิตประจำวนั เปรยี บผู้อ่นื ใชค้ วามร้ขู อ้ มลู ข่าวสาร ใชค้ วามรู้ขอ้ มูล ในการ วางแผนการเรยี น ข่าวสารในการ วาง การทำงาน และใช้ใน ชีวิตประจำวนั แผนการจดั การเรยี นรู้ เร่ือง การคัดลายมอื จากบทร้อยกรอง

๒๘ พฤติกรรมบ่งช้ี ไมผ่ ่าน (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดีเย่ยี ม (๓) แผนการเรยี น และ การทำงาน หมายเหตุ ข้อมูลน้ีไดร้ ับจากงานกิจการนักเรียน แบบเยยี่ มบา้ น,แบบบนั ทกึ การออม,แผนการจัดการเรียนรู้,ชุมนมุ รักการออม ขอ้ ที่ ๖ มุง่ มัน่ ในการทำงาน นิยาม มุ่งมั่นในการทำงาน หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงความตั้งใจ และรับผิดชอบในการทำหน้าที่ การงานดว้ ยความเพยี รพยายาม อดทน เพอื่ ให้งานสำเร็จตามเป้าหมาย ผู้ที่มุ่งม่ันในการทำงาน คือ ผ้ทู ี่มีลักษณะซง่ึ แสดงออกถงึ ความตง้ั ใจปฏิบัติหน้าท่ีท่ีได้รับมอบหมายด้วย ความเพียรพยายาม ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ ในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายที่กำหนด ด้วยความรบั ผดิ ชอบ และมคี วามภาคภูมใิ จในผลงาน ตวั ชี้วดั และพฤตกิ รรมบ่งชี้ ตัวชวี้ ดั พฤตกิ รรมบ่งช้ี ๖.๑ ตัง้ ใจและรบั ผดิ ชอบในการ ๖.๑.๑ เอาใจใส่ต่อการปฏิบตั ิหน้าท่ที ่ีไดร้ บั มอบหมาย ปฏิบัตหิ น้าที่การงาน ๖.๑.๒ ตั้งใจและรับผดิ ชอบในการทำงานใหแ้ ล้วเสรจ็ ๖.๑.๓ ปรบั ปรุงและพฒั นาการทำงานดว้ ยตนเอง ๖.๒ ทำงานด้วยความเพียรพยายาม ๖.๒.๑ ทุ่มเททำงาน อดทน ไม่ยอ่ ท้อต่อปัญหาและอปุ สรรคในการทำงาน และอดทนเพ่ือใหง้ านสำเร็จตาม ๖.๒.๒ พยายามแกป้ ญั หาและอุปสรรคในการทำงานให้แล้วเสร็จ เปา้ หมาย ๖.๒.๓ ชื่นชมผลงานดว้ ยความภาคภูมใิ จ เกณฑ์การใหค้ ะแนน (ใชข้ ้อมูลจากการสังเกตตามสภาพจริงของครูผสู้ อน) พฤติกรรมบ่งช้ี ไมผ่ า่ น (๐) ผา่ น (๑) ดี (๒) ดีเยีย่ ม (๓) ตามข้อ ๖.๑ – ๖.๒ ไมต่ ง้ั ใจปฏิบัติ ตง้ั ใจและ ต้ังใจและ ต้งั ใจและรับผดิ ชอบใน หน้าท่กี ารงาน รบั ผดิ ชอบในการ รับผดิ ชอบในการ การปฏบิ ตั ิหน้าท่ที ่ีได้รบั ปฏบิ ตั ิหน้าทท่ี ี่ ปฏบิ ัติหนา้ ที่ท่ี มอบหมายให้สำเรจ็ มี ได้รบั มอบหมายให้ ไดร้ ับมอบหมายให้ การปรับปรุงและ สำเร็จ สำเร็จ มีการ พฒั นาการทำงานใหด้ ีข้นึ ปรบั ปรงุ และ ภายในเวลาท่กี ำหนด พัฒนาการทำงาน ใหด้ ขี นึ้ หมายเหตุ ข้อมูลนี้ไดร้ บั จากแผนการจัดการเรยี นรู้,แบบสังเกตพฤติกรรม,สอบถาม แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การคดั ลายมือจากบทร้อยกรอง

๒๙ ข้อท่ี ๗ รกั ความเปน็ ไทย นยิ าม รักความเป็นไทย หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงความภาคภูมิใจ เห็นคุณค่า ร่วมอนุรักษ์สืบทอด ภูมิปัญญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรม ใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่างถูกต้องและ เหมาะสม ผู้ที่รักความเป็นไทย คือ ผู้ที่มีความภาคภูมิใจ เห็นคุณค่า ชื่นชม มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ สืบทอด เผยแพร่ภูมิปัญญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรมไทย มีความกตัญญูกตเวที ใช้ภาษาไทยใน การสือ่ สารอย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม ตัวชีว้ ดั และพฤติกรรมบง่ ช้ี ตัวชวี้ ดั พฤติกรรมบ่งช้ี ๗.๑ ภาคภูมใิ จในขนบธรรมเนียม ๗.๑.๑ แตง่ กายและมมี ารยาทงดงามแบบไทย มีสมั มาคารวะ กตัญญูกตเวที ประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทย ต่อผมู้ พี ระคุณ และมีความกตัญญูกตเวที ๗.๑.๒ รว่ มกจิ กรรมทเี่ ก่ียวข้องกับประเพณี ศลิ ปะ และวัฒนธรรมไทย ๗.๑.๓ ชกั ชวน แนะนำใหผ้ อู้ ื่นปฏิบัตติ ามขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปะและ วฒั นธรรมไทย ๗.๒ เห็นคุณคา่ และใชภ้ าษาไทยใน ๗.๒.๑ ใชภ้ าษาไทยและเลขไทยในการส่ือสารได้อย่างถูกต้องเหมาะสม การสือ่ สารได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ๗.๒.๒ ชกั ชวน แนะนำให้ผอู้ ื่นเห็นคุณค่าของการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง ๗.๓ อนรุ ักษ์และสบื ทอดภมู ปิ ัญญา ๗.๓.๑ นำภูมปิ ญั ญาไทยมาใช้ใหเ้ หมาะสมในวิถีชีวติ ไทย ๗.๓.๒ รว่ มกิจกรรมทเ่ี กี่ยวข้องกบั ภูมิปัญญาไทย ๗.๓.๓ แนะนำ มีส่วนรว่ มในการสบื ทอดภูมิปัญญาไทย เกณฑ์การให้คะแนน (ใช้ข้อมูลจากการสังเกตตามสภาพจริงของครผู ู้สอน) พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓) ตามข้อ ๗.๑ – ๗.๓ ไมม่ สี ัมมาคารวะต่อ มสี ัมมาคารวะตอ่ มีสัมมาคารวะตอ่ มสี ัมมาคารวะ ตอ่ ครู อาจารย์ ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ครูอาจารย์ ครูอาจารย์ ครอู าจารย์ ผู้มมี ารยาทแบบไทย ใช้ภาษาไทย เลขไทยใน ใช้ภาษาไทย เลข ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผมู้ ี การส่อื สารได้ถูกต้อง เขา้ รว่ มกิจกรรมที่ ไทยในการสอ่ื สาร มารยาทแบบไทย เกี่ยวขอ้ งกบั ภมู ปิ ญั ญาไทย ได้ถูกต้อง ใชภ้ าษาไทย เลข และมีสว่ นรว่ มในการสืบ ทอดภมู ิปัญญาไทย ไทยในการสือ่ สาร ได้ถูกต้อง เข้าร่วมกิจกรรมท่ี เก่ียวขอ้ งกบั ภมู ปิ ัญญาไทย แผนการจดั การเรยี นรู้ เร่ือง การคดั ลายมือจากบทร้อยกรอง

๓๐ หมายเหตุ ข้อมูลนไ้ี ดร้ ับจากงานกิจกรรมที่เกย่ี วกับประเพณี ศลิ ปะ และวฒั นธรรมไทย,แหลง่ เรียนรูภ้ ูมิปญั ญา ไทย,แบบสังเกตพฤติกรรม ขอ้ ท่ี ๘ มีจติ สาธารณะ นิยาม มีจิตสาธารณะ หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือสถานการณ์ที่ กอ่ ใหเ้ กิดประโยชน์แกผ่ ้อู ่นื ชุมชน และสังคม ดว้ ยความเตม็ ใจ กระตือรอื รน้ โดยไม่หวังผลตอบแทน ผู้ที่มีจิตสาธารณะ คือ ผู้ที่มีลักษณะเป็นผู้ให้และช่วยเหลือผู้อื่น แบ่งปันความสุขส่วนตนเพื่อทำ ประโยชน์แก่ส่วนรวม เข้าใจ เห็นใจผู้ที่มีความเดือดร้อน อาสาช่วยเหลือสังคม อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยแรงกาย สตปิ ัญญา ลงมอื ปฏบิ ัตเิ พ่อื แก้ปญั หา หรอื รว่ มสร้างสรรคส์ ิง่ ท่ดี ีงามให้เกดิ ในชุมชน โดยไม่หวงั ส่ิงตอบแทน ตัวชวี้ ัดและพฤติกรรมบ่งช้ี ตวั ชีว้ ดั พฤติกรรมบ่งช้ี ๘.๑ ชว่ ยเหลือผู้อนื่ ด้วยความเตม็ ใจ ๘.๑.๑ ช่วยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง ครทู ำงานด้วยความเต็มใจ และพงึ พอใจโดยไมห่ วังผลตอบแทน ๘.๑.๒ อาสาทำงานใหผ้ ้อู ื่นดว้ ยกำลงั กาย กำลังใจ และกำลังสติปัญญาโดยไม่ หวังผลตอบแทน ๘.๑.๓ แบ่งปนั สิ่งของ ทรพั ย์สนิ และอ่ืนๆ และช่วยแกป้ ญั หาหรอื สร้าง ความสุขใหก้ ับผู้อน่ื ๘.๒ เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี ป็น ๘.๒.๑ ดูแล รักษาสาธารณสมบัติและสงิ่ แวดล้อมด้วยความเต็มใจ ประโยชนต์ ่อโรงเรียน ชมุ ชน และ ๘.๒.๒ เข้าร่วมกิจกรรมท่ีเป็นประโยชนต์ ่อโรงเรียน ชุมชน และสังคม สังคม ๘.๒.๓ เข้ารว่ มกิจกรรมเพื่อแกป้ ญั หาหรือร่วมสร้างส่งิ ที่ดงี ามของส่วนรวม ตามสถานการณท์ เ่ี กิดขึน้ ดว้ ยความกระตอื รือรน้ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (ใช้ขอ้ มลู การเขา้ ร่วมกจิ กรรมการดูแลเขตพน้ื ทขี่ องนกั เรียนเปน็ เกณฑ์พจิ ารณา) พฤติกรรมบ่งชี้ ไมผ่ า่ น (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดเี ย่ยี ม (๓) ตามข้อ ๘.๑ – ๘.๒ เข้ารว่ มกิจกรรม เข้ารว่ มกจิ กรรม เข้าร่วมกิจกรรม เขา้ ร่วมกิจกรรมการดูแล การดแู ลรักษา การดแู ลรกั ษา การดแู ลรกั ษา รักษาเขตพ้ืนที่ที่ตน เขตพนื้ ที่ ทตี่ น เขตพนื้ ท่ีท่ตี น เขตพ้ืนที่ท่ตี น รับผดิ ชอบ ร้อยละ ๘๐ รับผดิ ชอบ ต่ำกวา่ รบั ผิดชอบ ร้อยละ รบั ผิดชอบ ร้อยละ ข้นึ ไป ร้อยละ ๕๐ ๕๐ - ๕๙ ๖๐ - ๗๙ หมายเหตุ ข้อมลู นี้ได้รบั จากงานดแู ลเขตพ้นื ท่ีของโรงเรียน (กลมุ่ บริหารท่วั ไป) ,แบบบันทึกการทำจิตสารธารณะ แผนการจัดการเรยี นรู้ เรื่อง การคดั ลายมือจากบทร้อยกรอง

สรุปผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๓๑ หมายเหตุ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นท่ี ........... ปีการศกึ ษา .............. จำนวนนักเรียน ผลการประเมนิ คุณลักษะอันพงึ ประสงค์ (คน) ดีเย่ยี ม ดี ผา่ น ไม่ผ่าน (๓) (๒) (๑) (๐) ลงชอื่ .................................................................. ผู้รายงาน (................................................................) ครูท่ีปรึกษา .................../ .................../ ................... ลงช่ือ.................................................................. ผูร้ ายงาน (................................................................) ครทู ่ีปรึกษา .................../ .................../ ................... แผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง การคัดลายมือจากบทร้อยกรอง

๓๒ แบบสรปุ ผลการประเมินคุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ นกั เรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๒ ภาคเรยี นท่ี ......... ปีการศกึ ษา .............. ที่ ช่ือ - สกลุ ผลการประเมินรายขอ้ (ระดับคุณภาพ) คะแนนรวม สรปุ ผลการ ๑ ๒๓๔๕๖๗๘ ประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรู้ เร่ือง การคดั ลายมอื จากบทร้อยกรอง

๓๓ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ช่ือ – สกุล ............................................................................................................................. .. เลขที่ ................... ภาคเรียนท.่ี ....... ภาคเรยี นที.่ ....... คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์และตวั ช้ีวดั ดีเยี่ยม ดี ่ผาน ไ ่มผ่าน ีดเย่ียม ดี ผ่าน ไ ่มผ่าน ๓๒๑๐๓๒๑๐ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๑.๑ ชอบเขา้ รว่ มกจิ กรรมแสดงความรักชาติ เชน่ เชญิ ธง ยนื ตรงเคารพ ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ธงชาติ รอ้ งเพลงชาติ รกั ษาช่อื เสยี งและหวงแหนสมบตั ขิ องชาติ ๑.๒ ชอบเข้าร่วมกจิ กรรมทางศาสนา และปฏบิ ตั ิตามหลกั ธรรมของ ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ศาสนา เชน่ รกั ษาศลี ปฏบิ ตั ิธรรม ๑.๓ ชอบเขา้ ร่วมกิจกรรมเพ่ือแสดงความจงรกั ภกั ดตี ่อพระมหากษตั รยิ ์ ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... สรปุ การรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ๒. ซ่ือสัตย์สุจริต ๒.๑ ให้ข้อมลู ทถี่ ูกต้องและเป็นจริง ไมโ่ กหก ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๒.๒ ไมถ่ อื เอาสง่ิ ของหรือผลงานของผอู้ น่ื มาเปน็ ของตนเองไมล่ ักขโมย ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๒.๓ ไมห่ าผลประโยชน์ในทางทไ่ี ม่ถกู ต้อง ไมค่ ดโกง ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... สรุป ความซื่อสัตย์สจุ รติ ๓. มีวินยั ๓.๑ ปฏิบตั ติ นตามข้อตกลง กฎระเบยี บของครอบครวั โรงเรียนและสังคม ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๓.๒ ตรงตอ่ เวลาและรบั ผดิ ชอบในการเรียน การปฏิบตั งิ าน ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๓.๓ ปฏบิ ตั ิตนในกิจวตั รประจำวันโดยไมล่ ะเมิดสทิ ธผิ ูอ้ ่ืน ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... สรุป ความมีวนิ ัย ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๔.๑ ตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นสนใจเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ตา่ ง ๆ ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๔.๒ แสวงหา ศกึ ษา คน้ ควา้ ความร้จู ากแหลง่ การเรียนรตู้ า่ ง ๆ ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๔.๓ บันทกึ ความรวู้ เิ คราะหต์ รวจสอบ แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... สรปุ การใฝเ่ รยี นรู้ ๕. อยู่อยา่ งพอเพียง ๕.๑ ใช้ทรัพย์สินของตนเองและของส่วนรวมอย่างประหยัด คุ้มค่า ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... รวมท้งั ใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม ๕.๒ ปฏิบัติตนและตัดสนิ ใจดว้ ยความรอบคอบมเี หตุผล ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... 5.3 วางแผนการเรยี นการทำงานบนพน้ื ฐานของความรู้ ขอ้ มลู ข่าวสาร ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... มภี ูมคิ ุม้ กนั ในตัวท่ีดี สรปุ การอยู่อย่างพอเพียง แผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง การคัดลายมือจากบทร้อยกรอง

๓๔ แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ นักเรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ ช่ือ – สกุล ............................................................................................................................. .. เลขท่ี ................... ภาคเรยี นท่ี........ ภาคเรียนที.่ ....... คุณลักษณะอันพึงประสงคแ์ ละตัวชวี้ ัด ดีเ ่ียยม ดี ผ่าน ไม่ผ่าน ดีเ ่ียยม ดี ผ่าน ไ ่มผ่าน ๓๒๑๐๓๒๑๐ ๖. มุง่ ม่นั ในการทำงาน ๖.๑ ตั้งใจและรบั ผดิ ชอบในการทำงานใหส้ ำเรจ็ ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๖.๒ ทมุ่ เททำงาน อดทนไม่ย่อทอ้ ตอ่ ปญั หาและอปุ สรรค ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ๖.๓ ปรบั ปรุงพัฒนาการทำงานและผลงานดว้ ยตนเอง ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... ...... สรปุ ความมุ่งมั่นในการทำงาน ๗. รกั ความเป็นไทย ๗.๑ ปฏิบตั ติ ามขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศลิ ปะ วัฒนธรรมไทย ...... ...... ...... ...... ๗.๒ ใชภ้ าษาไทย เลขไทยในการส่อื สารไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ...... ...... ...... ...... ๗.๓ ร่วมกิจกรรมท่ีเกี่ยวข้องกบั ภมู ปิ ญั ญาไทย นำมาใชใ้ หเ้ หมาะสมใน ...... ...... ...... ...... วิถชี วี ติ สรุป รักความเปน็ ไทย ๘. มีจติ สาธารณะ ๘.๑ ช่วยเหลอื ผอู้ ่นื แบง่ ปนั สง่ิ ของ อาสาทำงานให้ดว้ ยความเตม็ ใจ ไม่ ...... ...... ...... ...... หวังผลตอบแทน ๘.๒ เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่เี ป็นประโยชนต์ ่อโรงเรยี น ชุมชนและสังคม ...... ...... ...... ...... ๘.๓ ดแู ลรกั ษาสาธารณสมบตั แิ ละส่งิ แวดล้อมดว้ ย ความเต็มใจ ...... ...... ...... ...... สรุป การมจี ิตสาธารณะ สรุปคะแนนรวม ระดับคณุ ภาพ ลงชอื่ .................................................. ผ้ปู ระเมิน แผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง การคดั ลายมอื จากบทร้อยกรอง

๓๕ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน - การให้ และกรอกคะแนนคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของแต่ละข้อตามตวั ชี้วัด ให้กรอกเป็นตวั เลข ระดบั ๐, ๑, ๒ และ ๒ ซึ่ง ตวั เลขมคี วามหมาย ดงั น้ี ระดบั คณุ ภาพ ๓ หมายถึง ระดบั ดีเยย่ี ม ระดับคณุ ภาพ ๒ หมายถึง ระดบั ดี ระดับคณุ ภาพ ๑ หมายถงึ ระดบั ผา่ น ระดบั คณุ ภาพ ๐ หมายถงึ ระดบั ไม่ผา่ น คะแนนสรุปแตล่ ะข้อคุณลกั ษณะฯ ๘ – ๙ คะแนน อยู่ในเกณฑ์ ระดบั ๓ ๖ – ๗ คะแนน อย่ใู นเกณฑ์ ระดับ ๒ ต่ำกว่า ๕ คะแนน อยู่ในเกณฑ์ ระดับ ๑ เกณฑ์การให้คะแนน (ระดบั คุณภาพ) คะแนน ๒๐ - ๒๔ หมายถงึ ระดบั คุณภาพ ดเี ยย่ี ม (๓) ระดับคณุ ภาพ ดี (๒) คะแนน ๑๒ - ๑๙ หมายถงึ ระดับคุณภาพ ผา่ น (๑) ระดบั คณุ ภาพ ไมผ่ า่ น (๐) คะแนน ๘ - ๑๑ หมายถงึ คะแนน ๐ - ๗ หมายถงึ แผนการจดั การเรียนรู้ เรื่อง การคดั ลายมอื จากบทร้อยกรอง

๓๖ แบบประเมนิ เขียนคัดลายมือจากบทร้อยกรอง ประกอบแผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ ๒ เรื่อง การคดั ลายมือจากบทร้อยกรอง รายการประเมิน ที่ ชื่อ-สกุล ความ ูถก ้ตองตามห ัลกการเ ีขยนคัด รวม สรุปการประเมิน ลายมือ จับ ิดนสอห ืรอปากกาในการเ ีขยนคัด ลายมือไ ้ด ูถก ้ตอง เ ีขยน ัตว ัอกษรไ ้ดถูก ้ตองตามแบบห ัลก กระทรวงศึกษาธิการ เ ้วนช่องไฟและวรรคตอนในการเขียน ไ ้ดสวยงาม วางพยัญชนะ สระวรรณยุก ์ตให้ ูถก ้ตองตามตำแหน่ง ๕ ๕ ๕ ๕ ๕ ๒๕ ผา่ น ไมผ่ ่าน เกณฑก์ ารประเมนิ ผูเ้ รียนต้องได้ ๒๐ คะแนน ขน้ึ ไป ผ่าน รอ้ ยละ ๘๐ ถอื วา่ ผา่ นตามเกณฑ์ ลงช่ือ..................................................ผปู้ ระเมิน (นายธนากร เหขุนทด) แผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง การคัดลายมอื จากบทร้อยกรอง

๓๗ รายละเอียดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน การคดั ลายมอื จากบทร้อยกรอง กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ รายการประเมนิ เกณฑ์การให้คะแนน ๑. ความถกู ตอ้ งตาม หลกั การเขยี น ๕๔๓๒ ๑ ไมม่ ีความถูกต้อง ๒. จบั ดินสอหรอื มคี วามถูกตอ้ ง มีความถูกต้อง มีความถูกต้อง มคี วามถูกตอ้ ง ตามหลักการ ปากกาได้ถูก เขยี นที่ดี ตามหลกั การ ตามหลักการ ตามหลกั การ ตามหลกั การ ๓. เขียนตัวอักษรให้ จบั ดินสอหรอื ถูกสว่ น เขียนดมี าก เขียนดี เขียนพอใช้ เขียนมเี พียง ปากกาไม่ถกู ต้อง เลย ๔. เว้นชอ่ งไฟและ เล็กนอ้ ย เขียนคำสอ่ื สารได้ วรรคตอนใหพ้ องาม ไม่ชัดเจนอ่านยาก จบั ดนิ สอหรือ จบั ดนิ สอหรือ จบั ดินสอหรอื จับดินสอหรือ ๕. วางพยญั ชนะสระ เวน้ ชอ่ งไฟและ วรรณยกุ ตใ์ ห้ถูกตอ้ ง ปากกาไดถ้ ูกต้อง ปากกาไดถ้ ูกต้อง ปากกาได้ถูกต้อง ปากกาได้ถูกต้อง วรรคตอนไมด่ ไี ม่ ตามตำแหน่ง สวยงาม ดีมาก ดี พอใช้ บา้ งเล็กน้อย วางพยัญชนะสระ วรรณยุกต์ไม่ เขียนคำส่อื สารได้ เขยี นคำสื่อสารได้ เขียนคำสื่อสารได้ เขียนคำสือ่ สารได้ ถูกต้องไม่สวยงาม ตามตำแหนง่ ชัดเจน อา่ นง่าย ชดั เจน อ่านงา่ ย ชดั เจนพออา่ นได้ ไมค่ ่อยชัดเจน ทกุ คำ เกือบทกุ คำ อา่ นค่อนขา้ งยาก เวน้ ชอ่ งไฟและ เว้นช่องไฟและ เวน้ ชอ่ งไฟและ เว้นชอ่ งไฟและ วรรคตอนให้พอ วรรคตอนให้พอ วรรคตอนให้ วรรคตอนได้พอ งามทุกคำ งามเกือบทุกคำ พอใช้ งาม บา้ งเล็กน้อย วางพยัญชนะสระ วางพยัญชนะสระ วางพยญั ชนะสระ วางพยัญชนะสระ วรรณยกุ ตใ์ ห้ วรรณยกุ ต์ให้ วรรณยุกตใ์ ห้ วรรณยุกตใ์ ห้ ถกู ต้องสวยงาม ถูกต้องสวยงาม ถูกต้องสวยงาม ถูกต้องสวยงาม ตามตำแหน่งดี ตามตำแหน่งดี ตามตำแหนง่ ตามตำแหนง่ แต่ มาก พอใช้ ไมค่ ่อยสวยงาม แผนการจัดการเรยี นรู้ เร่ือง การคัดลายมือจากบทร้อยกรอง

๓๘ แบบประเมนิ แผนการจดั การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย จัดทำโดย นายธนากร เหขุนทด ขอ้ รายการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ ๕๔๓๒๑ ๑ หนว่ ยการเรยี นร้มู ีความสมบูรณ์ เหมาะสมและมีรายละเอยี ดทีส่ อดคล้องสัมพันธก์ ัน ๒ แผนการจัดการเรียนรู้สอดคล้องสมั พันธก์ บั หนว่ ยการเรยี นรู้ทกี่ ำหนดไว้ ๓ แผนการจดั การเรียนรู้มีองคป์ ระกอบสำคญั ครบถ้วนร้อยรัดสัมพนั ธก์ ัน ๔ การเขียนสาระสำคญั ในแผนถูกตอ้ ง ๕ จุดประสงค์การเรียนรูส้ ู่ตวั ช้วี ดั มีความชดั เจนครอบคลมุ เนื้อหาสาระ ๖ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้พัฒนานักเรยี นด้านความรู้ ทักษะกระบวนการและเจตคติ ๗ จดุ ประสงค์การเรียนรูเ้ รียงลำดบั พฤติกรรมจากงา่ ยไปยาก ๘ กำหนดเนอ้ื หาสาระเหมาะสมกบั คาบและเวลา ๙ กจิ กรรมการเรยี นรูส้ อดคลอ้ งกบั จุดประสงคแ์ ละเนื้อหาสาระ ๑๐ กิจกรรมการเรียนรู้สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์และระดบั ชั้นของนกั เรียน ๑๑ กจิ กรรมการเรยี นรมู้ คี วามหลากหลายและสามารถปฏบิ ตั ิได้จรงิ ๑๒ กิจกรรมการเรยี นรูเ้ ปน็ กิจกรรมทสี่ ง่ เสริมกระบวนการคิดของนกั เรยี น ๑๓ กจิ กรรมเนน้ ใหน้ ักเรียนเรียนรู้จากการปฏิบตั จิ รงิ ๑๔ กิจกรรมการเรยี นรสู้ อดคล้องแทรกคุณธรรมและคา่ นิยมท่ดี ีงาม ๑๕ วสั ดอุ ปุ กรณ์ สือ่ และแหล่งเรียนรู้มีความหลากหลาย ๑๖ วัสดอุ ุปกรณ์ สอื่ และแหลง่ เรยี นรู้เหมาะสมกับเนือ้ หาสาระ ๑๗ นกั เรียนไดใ้ ชส้ ่อื และแหล่งเรยี นรูด้ ้วยตนเอง ๑๘ นกั เรยี นทำชนิ้ งานที่ไดใ้ ชค้ วามรู้ ความคิดมากกวา่ การทำตามทีค่ รกู ำหนดหรอื การทำแบบฝกึ หดั ทวั่ ไป ๑๙ มีการวัดและประเมนิ ผลทสี่ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๒๐ นักเรียนไดม้ สี ว่ นรว่ มในการวดั และประเมนิ ผล ระดับคุณภาพของผลงาน ๕ หมายถงึ คุณภาพในระดบั ดีมาก ๔ หมายถึง คุณภาพในระดับดี ๓ หมายถึง คณุ ภาพในระดบั พอใช้ ๒ หมายถึง คณุ ภาพในระดบั ดีควรปรบั ปรุง ๑ หมายถึง คณุ ภาพในระดบั ทไ่ี ม่ผ่านเกณฑ์การประเมนิ สรุปการจัดทำแผนการจัดการเรียนรนู้ ี้ (สรุปจากระดบั คุณภาพจาก MODE) อยใู่ นระดับคณุ ภาพ.................... ลงชือ่ .........................................รองผ้อู ำนวยการฝ่ายบรหิ ารงานวิชาการ (..................................) ............./...................../……… แผนการจดั การเรียนรู้ เรื่อง การคัดลายมือจากบทร้อยกรอง

๓๙ การคดั ลายมอื โดยใชต้ วั อกั ษรการคดั ลายมอื แบบกระทรวงศกึ ษาธิการหวั กลม ตวั มน . แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การคัดลายมือจากบทร้อยกรอง

๔๐ ใบงานการคัดลายมอื โดยใชต้ วั อกั ษรการคดั ลายมอื แบบกระทรวงศกึ ษาธิการหวั กลม ตวั มน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง การคัดลายมอื จากบทร้อยกรอง

๔๑ ใบงาน เร่ือง การคัดลายมือจากบทรอ้ ยกรอง หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๒ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑ เร่อื ง เรยี งถอ้ ยรอ้ ยความ รายวชิ าภาษาไทย ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๒ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. คัดลายมอื ตัวบรรจงครงึ่ บรรทัดจากบทรอ้ ยกรองได้ถกู ต้องตามรปู แบบกระทรวงศึกษาธิการ คำช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นคัดลายมือด้วยตวั บรรจงครึ่งบรรทัด จากบทร้อยกรองในบทเรยี น เรื่อง กลอนดอกสร้อยรำพึง ในปา่ ชา้ จำนวน ๒ บท โดยใช้ตวั อกั ษรการคัดลายมือแบบกระทรวงศึกษาธกิ าร หวั กลม ตวั มน กลอนดอกสร้อย รำพึงในป่าช้า นกเอย๋ นกแสก จับจ้องร้องแจก๊ เพียงแถกขวญั อยู่บนยอดหอระฆังบังแสงจนั ทร์ มีเถาวลั ย์รุงรังถงึ หลงั คา เหมอื นมนั ฟอ้ งดวงจนั ทร์ใหผ้ ันดู คนมาสูซ่ ่องพักมนั รักษา ถือเปน็ ทร่ี โหฐานนมนานมา ให้เส่อื มผาสุกสันต์ของมันเอย สูงใหญ่รากย้อยหอ้ ยระยา้ ต้นเอย๋ ตน้ ไทร มีเนนิ หญ้าใต้ต้นเกล่ือนกลน่ ไป และตน้ โพธิ์พุ่มแจ้แผฉ่ ายา ดษุ ณีนอนราย ณ ภายใต้ ล้วนรา่ งคนในเขตประเทศน้ี เราย่ิงใกลห้ ลุมนน้ั ทุกวนั เอย แหง่ หลมุ ลกึ ลานสลดระทดใจ ทีม่ า : หนงั สือเรยี นวิชาพนื้ ฐานภาษาไทย วรรณคดวี จิ กั ษ์ ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน “อา่ นดแู ลว้ ลองเขยี น” แผนการจัดการเรยี นรู้ เร่ือง การคดั ลายมือจากบทร้อยกรอง

๔๒ ช่อื -นามสกลุ ....................................................................................... ชน้ั .................. เลขท่ี ............ ใบงานการคดั ลายมอื จากบทร้อยกรอง เร่อื ง กลอนดอกสรอ้ ย รำพงึ ในปา่ ช้า .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................. ....... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................ .................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................. .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................... ............................................. .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................... .......... แผนการจัดการเรยี นรู้ เรื่อง การคดั ลายมอื จากบทร้อยกรอง

๔๓ แผนการจดั การเรยี นรู้ เร่ือง การพูดในโอกาสตา่ ง ๆ (การพูดอวยพร)

๔๔ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๒ ตามสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของเชื้อไวรสั โคโรนา่ ๒๐๑๙ (Covid-19) หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ เร่ือง พาที พนิ ิจ เรียบเรียง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๒ เร่อื ง การพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ (การพูดอวยพร) เวลา เรียน ๔ คาบ รหสั วิชา ท ๒๒๑๐๑ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ ผสู้ อนนายธนากร เหขุนทด กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ๑. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชวี้ ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรสู้ กึ ในโอกาสตา่ ง ๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และสรา้ งสรรค์ ตวั ชวี้ ดั ท ๓.๑ ม.๒/๔ พูดในโอกาสต่าง ๆ ไดต้ รงตามวตั ถปุ ระสงค์ ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (K) ๑. บอกวิธกี ารพูดในโอกาสต่าง ๆ ได้ตรงตามวตั ถุประสงค์ ๒. อธบิ ายหลกั การพดู อวยพรได้ ๓. อธบิ ายข้อควรปฏิบตั ใิ นการพูดอวยพรได้ ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P) ๑. แสดงการพูดในโอกาสตา่ ง ๆ ไดต้ รงตามวตั ถปุ ระสงค์ ๒. พดู ในโอกาสตา่ ง ๆ (พูดอวยพร) ตามหวั ข้อที่กำหนดให้ไดถ้ กู ต้องและสร้างสรรค์ ด้านคุณลักษณะ (A) ๑. มวี นิ ยั ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งมัน่ ในการทำงาน ๔. ตระหนกั ถึงการพดู ท่ีตรงตามวัตถปุ ระสงค์ ๓. สาระสำคญั การฟัง การดู และการพูด การฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ การพูดแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก พูด ลำดับเร่ืองราวตา่ ง ๆ อยา่ งเป็นเหตุเป็นผล การพูดในโอกาสต่าง ๆ ท้งั เปน็ ทางการและไมเ่ ป็นทางการ การพูดเพ่ือ โนม้ นา้ วใจ หลักการใช้ภาษาไทย ศึกษาธรรมชาติและกฎเกณฑ์ของภาษาไทย การใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องเหมาะสม กบั โอกาสและบคุ คล การแตง่ บทประพนั ธ์กประเภทต่าง ๆ และอทิ ธพิ ลของภาษาต่างประเทศในภาษาไทย แผนการจดั การเรยี นรู้ เร่ือง การพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ (การพูดอวยพร)

๔๕ ๔. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ✓ ความสามารถในการสื่อสาร ✓ ความสามารถในการคดิ ✓ ความสามารถในการแก้ปญั หา ✓ ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๕. สาระการเรยี นรู้ การพูดในโอกาสต่างๆ จะต้องอาศัยการฝึกตามหลักการพูดให้เกิดทักษะและความชำนาญ และพูดอย่าง สร้างสรรค์และมีศิลปะ จึงจะสามารถสื่อถึงผู้ฟังได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพูดอวยพรเป็นการพูดที่แสดงความ ยินดแี สดงความปรารถนา ในการพดู อวยพรเราต้องรู้วัยวฒุ ิและคุณวุฒิของผ้ทู ่ีได้รับการอวยพรนั้นด้วย ต้องรู้ถึง หลกั การอวยพร ภาษาทใ่ี ชใ้ นการอวยพร ซง่ึ เป็นสงิ่ ทผี่ พู้ ดู ต้องให้ความสำคัญ ๖. กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ ท่ี ๑ ข้นั เตรียมความพร้อมในการเรียน ๑. ครูทกั ทายนักเรียนและชักชวนเข้าสู่เรอ่ื งการพดู อวยพรท่คี รูจะสอนในวันนี้ ๒. ครนู ำนักเรียนอา่ นแถบข้อความทเ่ี ตรยี มไว้ข้างตน้ แลว้ สนทนากันวา่ เป็นข้อความเป็นลกั ษณะใด “คิดดี พดู ดี ทำดี เปน็ ศรี เป็นพร สูงสุด ไม่มี พรเทพ พรมนษุ ย์ เปรยี บประดจุ ความดี ทท่ี ำเอง สมเด็จพระญาณสงั วร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสงั ฆปรินายก ขัน้ ที่ ๒ ขน้ั การสำรวจและค้นควา้ ๑. ครูจำลองเหตกุ ารณส์ มมติในการเรยี นวันน้ี วา่ วนั น้ีเปน็ วันคลา้ ยวนั เกดิ เพ่อื นร่วมชั้นของนักเรยี น ครูสุ่ม นักเรียนมา ๑-๒ คน มากล่าวคำอวยพร วนั คลา้ ยวันเกดิ ของ และร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นถึงขอ้ ความขา้ งตน้ ๒. นกั เรียนและครูร่วมอภปิ รายเรื่อง การพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ (การพูดอวยพร) ในประเดน็ ต่อไปนี้ - ความหมาย - โอกาสในการพดู อวยพร - หลักการพูดอวยพร - การตอบรบั -กลบั คำอวยพร - ข้อควรปฏบิ ัตใิ นการพดู อวยพร ๓. นักเรียนศึกษาตัวอยางบทพูดการกลาวอวยพรในโอกาสตางๆ เชน วันคลายวันเกิด งานมงคลสมรส งานขึ้นบานใหม งานอุปสมบท งานเลี้ยงสง แลวรวมกนั แสดงความเหน็ ๔. นักเรียนแบงกลุม ๒ กลุม ศึกษาใบความรูเรื่องการพูดโอกาสตาง ๆ (การ พูดอวยพร) สงตัวเล่นเกม “วาจาประจกั ษ์” สถานการณในการกลาวคาํ อวยพร โดยครูสมมตเิ หตุการณใหนกั เรียนแตละกลุมวาหากนักเรียนมี แผนการจัดการเรยี นรู้ เรื่อง การพดู ในโอกาสต่าง ๆ (การพูดอวยพร)

๔๖ โอกาสรวมงานแลวตองเปนผูกลาวคําอวยพร นักเรียนจะมขี ้ันตอนการพูดและการใชคําพูดอยางไร ใหเหมาะสมกับ โอกาสนัน้ ข้ันท่ี ๓ ขัน้ การอธิบายและลงข้อสรุป ๑. ครูอธิบายการพูดอวยพรเพมิ่ เตมิ จากการสอนในคาบ เพื่อให้ผ้เู รยี นไดข้ อ้ มูลทคี่ วรร้ไู วร้ อบตัว ๒. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรุปความรู้ ขนั้ ท่ี ๔ ขั้นการประเมินผล ๑. ครูสังเกตพฤติกรรมการเรียนของผู้เรียนที่ให้ความสนใจกับการเรียนขณะครูสอน ครูพูด หรือตอบโต้ คำถาม ส่งคำตอบ กลับมายังครูผ้สู อน ๒. ครทู วนสอบผเู้ รียนโดยการส่มุ นการพูดอวยพรในหัวข้อทคี่ รกู ำหนดขน้ี ๗. สือ่ และแหลง่ การเรยี นรู้ ๗.๑ สอ่ื การเรยี นรู้ ๑. องค์ความรูก้ ารพูดในโอกาสต่าง ๆ (การพดู อวยพร) ๒. ใบความรู้ เรอื่ งการพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ ๓. ใบความรู้ เร่อื งการพูดอวยพร ๔. ใบความรู้แถบข้อความ ๗.๒ แหลง่ การเรียนรู้ ๑. มูลนิธิการศกึ ษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ (DLTV) ๒. หนังสอื เรียน สาระความรูพ้นื ฐาน รายวิชา ภาษาไทย ๘. ช้นิ งาน/ภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอยแสดงความร้)ู ๑. ใบงานตอบคำถาม ๒. แบบทดสอบก่อนเรยี น-หลังเรียน ๙. การวดั และประเมนิ ผล สิ่งที่วดั วธิ กี ารวัดผล เครอ่ื งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ ผล ด้านความรู้ (K) ถาม-ตอบ ในชัน้ เรยี น คำถามจากบทเรียน ตอบคำถามซักถามได้ ผลจากการสงั เกต ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) วิธีการใช้คำกลา่ วการพูด แบบประเมินการพดู อวย พฤติกรรมการพูดร้อยละ อวยพร พร ๘๐ ขึ้นไปถือวา่ ผา่ น เกณฑ์ ด้านคุณลกั ษณะ (A) การเขา้ เรียนสมำ่ เสมอ แบบสงั เกตคุณลักษณะ ผ่าน/ไม่ผ่าน อนั พงึ ประสงค์ แผนการจัดการเรยี นรู้ เรื่อง การพูดในโอกาสตา่ ง ๆ (การพูดอวยพร)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook