Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตร รร ม ปลาย.2563

หลักสูตร รร ม ปลาย.2563

Published by วรัญญา แก้วล่องลอย, 2022-01-25 07:18:56

Description: หลักสูตร รร ม ปลาย.2563

Search

Read the Text Version

หน้า 147 รายวิชาพื้นฐาน ว33184 วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ช่วั โมง จํานวน 1.5 หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา วิเคราะห์ การกําเนิดเอกภพตามทฤษฎีบิกแบงวิวัฒนาการของเอกภพหลักฐานสนับสนุน ทฤษฎีบิกแบงองค์ประกอบ และโครงสร้างของกาแล็กซีทางช้างเผือก กระบวนการเกิดดาวฤกษ์สมบัติของดาว ฤกษ์ วิวัฒนาการของดาวฤกษ์ การเกิดระบบสุริยะ การแบ่งเขตบริวารของดวงอาทิตย์ ลักษณะดาวเคราะห์ท่ี เอ้ือต่อการดํารงชีวิตและดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ โครงสร้างของดวงอาทิตย์การเกิดลมสุริยะพายุสุริยะ และผลท่ีมีต่อโลกเทคโนโลยีอวกาศ และประโยชน์ของเทคโนโลยีอวกาศ การแบ่งชั้นและสมบัติของโครงสร้าง โลกตามองค์ประกอบทางเคมีและตามสมบัติเชิงกล หลักฐานทางธรณีวิทยาที่สนับสนุน การเคลื่อนที่ของแผ่น ธรณีการเคล่ือนท่ีของแผ่นธรณีตามทฤษฎีธรณีแปรสัณฐานและผลท่ีเกิดข้ึน สาเหตุกระบวนการเกิดและผลจาก การเกิดภูเขาไฟระเบิดแผน่ ดินไหวและสึนามิ แนวทางการเฝ้าระวังและปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหวและสึนามิ ปัจจัยสําคัญที่ส่งผลต่อการรับพลังงานจากดวงอาทิตย์ ที่แตกต่างกันในแต่ละบริเวณของ โลก การหมุนเวียนของอากาศท่ีเป็นผลจากความแตกต่างของความกดอากาศทิศทาง การเคลื่อนที่ของอากาศ ที่เป็นผลมาจากการหมุนรอบตัวเองของโลก การหมุนเวียนของอากาศตามเขตละติจูด และผลท่ีมีต่อ ภูมิอากาศปัจจัยท่ีทําให้เกิดการหมุนเวียนของนําผิวหน้าในมหาสมุทรและรูปแบบการหมุนเวียนของน้ําผิวหน้า ในมหาสมุทร ผลของการหมุนเวียนของอากาศและน้ําผิวหน้าในมหาสมุทรท่ีมีต่อลักษณะภูมิอากาศ ลม ฟ้า อากาศ สิ่งมีชีวิตและส่ิงแวดล้อม ปัจจัยท่ีมีผลต่อการเปล่ียน แปลงภูมิอากาศโลก แนวปฏิบัติในการลด กิจกรรมของมนุษย์ท่ีส่งผลต่อการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศโลกสัญลักษณ์ลมฟ้าอากาศท่ีสําคัญ และการแปล ความหมายการแปลความหมายสภาพลมฟ้าอากาศจากแผนท่ีอากาศผิวพื้น โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นขอ้ มลู การสังเกต การวิเคราะห์ เป รียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมทั้งทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยี สานสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสารสามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ใน ชีวติ ของตน มีจติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและค่านิยมท่ีเหมาะสม ตัวช้วี ดั ว 3.1 ม.1/1-10, ว 3.2 ม.1/1-14 รวมท้งั หมด 24 ตวั ชี้วัด

หน้า 148 ว31185 การออกแบบและเทคโนโลยี 1 รายวิชาพ้นื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 20 ชัว่ โมง จํานวน 0.5 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาแนวคิดหลักของเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยีท่ีเกิดข้ึนและความ สัมพันธ์ของเทคโนโลยีกับศาสตร์อ่ืน ออกแบบ สร้างหรือพัฒนาผลงานสําหรับแก้ปัญหาที่คํานึงถึงผลกระทบ ต่อสังคมในประเด็นที่เก่ียวข้องกับสุขภาพและการบริการโดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมซ่ึงใช้ ความรู้ ทักษะและเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภัย คาํ นึงถึงทรัพย์สนิ ทางปญั ญาใช้ซอฟตแ์ วรช์ ่วยในการออกแบบและนาํ เสนอผลงาน ตัวช้วี ดั ว4.1 ม.4/1-5 รวมท้ังหมด 5 ตัวช้ีวดั

หนา้ 149 ว31188 เทคโนโลยี (วิทยาการคํานวณ) 1 รายวิชาพื้นฐาน กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จํานวน 1.0 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาหลักการของแนวคิดเชิงคํานวณ การแยกส่วนประกอบและการย่อยปัญหา การหารูปแบบ การคิดเชิงนามธรรม ตัวอย่างและประโยชน์ของแนวคิดเชิงคํานวณเพ่ือแก้ปัญหาในชีวิตประจําวัน ประยุกต์ ใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการออกแบบข้ันตอนวิธีสําหรับแก้ปัญหา การแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์ การระบุข้อมูล เข้า ข้อมูลออกและเง่ือนไขของปัญหา การออกแบบขั้นตอนวิธีการทําซํ้า การจัดเรียงและค้นหาข้อมูล ตัวอย่าง การออกแบบข้ันตอนวิธีเพ่ือแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์ การศึกษาตัวอย่างโครงงานทางเทคโนโลยีสารสนเทศ การกําหนดปัญหา ศึกษา วางแผน ดําเนินงาน สรุปผลและเผยแพร่ ในการพัฒนาโครงงานที่มีการบูรณาการ ร่วมกบั วชิ าอืน่ และเชอื่ มโยงกับชวี ิตจริง ตวั ชว้ี ัด ว. 4.2 ม.4/1 รวมทง้ั หมด 1 ตวั ชว้ี ดั

หนา้ 150 รายวิชาเพ่มิ เตมิ รายวิชาเพ่ิมเตมิ ว31201 ฟสิ ิกส์ 1 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 80 ชั่วโมง จาํ นวน 2.0 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาการค้นหาความรู้ทางฟิสิกส์ ประวัติความเป็นมา รวมท้ังพัฒนาการของหลักการและแนวคิด ทางฟิสิกส์ท่ีมีผลต่อการแสวงหาความรู้ใหม่และการพัฒนาเทคโนโลยีการวัดและการรายงานผลการวัดปริมาณ ทางฟสิ ิกส์ หลกั การของกลศาสตร์ในเร่ืองการเคลื่อนท่ีของวัตถุในแนวตรง แรง การหาแรงลัพธ์ของแรงสองแรง ท่ีทํามุมต่อกัน การเขียนแผนภาพวัตถุอิสระ กฎการเคลื่อนท่ีของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทาน ระหวา่ งผวิ สัมผสั ของวตั ถุคูห่ นึ่ง ๆ ในกรณีท่วี ัตถหุ ยุดนงิ่ และวตั ถุเคลือ่ นที่ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะป ฏบิ ัติการทางวิทยาศาสตร์ รวมทง้ั ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและ การแก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรมและคา่ นิยมทเี่ หมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. สบื ค้นและอธิบายการค้นหาความร้ทู างฟิสิกส์ ประวตั คิ วามเปน็ มา รวมทัง้ พฒั นาการของหลกั การ แนวคิดทางฟิสกิ ส์ทม่ี ีผลตอ่ การแสวงหาความรู้ใหมแ่ ละการพัฒนาเทคโนโลยี 2. วัดและรายงานผลการวัดปริมาณทางฟสิ ิกส์ได้ถูกตอ้ งเหมาะสม โดยนําความคลาดเคลื่อนใน การวัดมาพจิ ารณาในการนําเสนอผล รวมทงั้ แสดงผลการทดลองในรปู กราฟ วเิ คราะหแ์ ละ แปลความหมายจากกราฟเสน้ ตรง 3. ทดลองและอธิบายความสัมพันธร์ ะหวา่ งตําแหนง่ การกระจัด ความเร็ว และความเร่งของการ เคล่อื นของวัตถใุ นแนวตรงที่มคี วามเร่งคงตวั จากกราฟและสมการ รวมทงั้ ทดลองหาค่า ความเรง่ โนม้ ถ่วงของโลกและคาํ นวณปริมาณตา่ ง ๆ ทเ่ี กีย่ วข้อง 4. อธิบายแรง รวมท้ัง ทดลองและอธิบายการหาแรงลัพธ์ของแรงสองแรงท่ที าํ มุมต่อกัน 5. เขยี นแผนภาพวัตถอุ สิ ระทดลองและอธบิ ายกฎการเคลื่อนทข่ี องนวิ ตันและการใชก้ ฎการ เคลอื่ นท่ีของนิวตนั กบั สภาพการเคลอ่ื นท่อี งวตั ถุ รวมทงั้ คํานวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่เี กยี่ วขอ้ ง 6. อธบิ ายกฎความโนม้ ถ่วงสากลและผลของสนามโน้มถ่วงทท่ี าํ ให้วัตถมุ นี าํ้ หนัก รวมทั้งคํานวณ ปริมาณต่าง ๆ ท่เี กี่ยวข้อง 7. วิเคราะห์ อธบิ ายคาํ นวณแรงเสียดทานระหว่างผิวสัมผสั ของวัตถคุ ู่หน่ึง ๆ ในกรณที ว่ี ัตถหุ ยดุ นงิ่ และวัตถุเคล่ือนท่ี รวมท้ังทดลองหาสัมประสิทธคิ์ วามเสยี ดทานระหว่างผิวสัมผสั องวตั ถุคู่ หน่ึง ๆ และนําความรเู้ ร่อื งแรงเสียดทานไปใชใ้ นชวี ติ ประจําวัน รวมท้ังหมด 7 ผลการเรยี นรู้

หน้า 151 รายวชิ าเพ่ิมเติม ว31202 ฟสิ กิ ส์ 2 กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 80 ชว่ั โมง จาํ นวน 20 หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาหลักการของกลศาสตร์ในเรื่องสมดุลกล และเง่ือนไขท่ีทําให้วัตถุหรือระบบอยู่ในสมดุลกลศูนย์ กลางมวลของวัตถุและผลของศูนย์ถ่วงท่ีมีต่อเสถียรภาพของวัตถุ งาน พลังงาน ความสัมพันธ์ระหว่างงานและ พลังงานจลน์ ความสัมพันธ์ระหว่างงานกับพลังงานศักย์โน้มถ่วง และความสัมพันธ์ระหว่างนาดของแรงที่ใช้ดึง สปริงกับระยะท่ีสปริงยืดออก แรงอนุรักษ์ กฎการอนุรักษ์พลังงาน กําลัง เคร่ืองกลอย่างง่าย ประสิทธิภาพและ การได้เปรียบเชิงกลของเครื่องกลอย่างง่ายบางชนิด โมเมนตัม การชนกันของวัตถุในหนึ่งมิติ การดล แรงดล และกฎการอนรุ ักษโ์ มเมนตัม การเคลอ่ื นทแ่ี บบโพรเจกไทล์ และการเคลอ่ื นทแ่ี บบวงกลมในระนาบระดับ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคดิ และ การแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มที่เหมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. อธบิ ายสมดลุ กลของวตั ถโุ มเมนตแ์ ละผลรวมของโมเมนต์ทมี่ ตี ่อการหมนุ แรงคูค่ วบและผลของ แรงคคู่ วบทม่ี ีต่อสมดลุ ของวตั ถุ เขยี นแผนภาพวัตถุอิสระเมื่อวตั ถอุ ยใู่ นสมดุลกลและคาํ นวณ ปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่เี กีย่ วขอ้ ง รวมทงั้ ทดลองและอธิบายสมดขุ องแรงสามแรง 2. สงั เกตและอธิบายสภาพการเคลอื่ นท่ขี องวัตถุ เม่ือแรงทีก่ ระทาํ ต่อวัตถุผ่านศนู ยก์ ลางมวลของ วตั ถุและของศนู ยถ์ ว่ งทมี่ ีต่อเสถียรภาพของวตั ถุ 3. วเิ คราะห์ และคํานวณงานของแรงคงตวั จากสมการและพื้นท่ีใตก้ ราฟความสมั พนั ธร์ ะหว่าง แรงกับตําแหนง่ รวมทงั้ อธบิ ายและคํานวณกาํ ลงั เฉล่ยี 4. อธบิ ายและคาํ นวณพลงั งานจลน์ พลังงานศกั ย์ พลังงานกล ทดลองหาความสมั พนั ธร์ ะหว่าง งานกบั พลงั งานจลน์ ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งงานกบั พลงั งานศักย์โน้มถว่ ง ความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง ขนาดของแรงท่ใี ช้ดึงสปรงิ กบั ระยะท่สี ปริงยดื ออกและความสัมพนั ธร์ ะหว่างงานกับพลงั งาน ศกั ยย์ ดื หยุ่น รวมท้ังอธิบายความสัมพันธร์ ะหว่างงานของแรงลัพธแ์ ละพลงั งานจลน์ คํานวณ งานทีเ่ กิดขึ้นจากแรงลัพธ์ 5. อธิบายกฎการอนรุ ักษ์พลังงานกลรวมทั้งวเิ คราะห์ และคาํ นวณปริมาณต่างๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การเคลื่อนทีข่ องวตั ถุในสถานการณต์ า่ งๆ โดยใชก้ ฎการอนุรกั ษ์พลงั งานกล 6. อธบิ ายการทํางาน ประสิทธิภาพและการได้เปรียบเชิงกลอยา่ งง่ายบางชนิด โดยใช้ความรู้เรื่อง งานและสมดลุ กล รวมทัง้ คาํ นวณประสทิ ธภิ าพและการไดเ้ ปรยี บเชงิ กล 7. อธบิ ายและคํานวณโมเมนตัมของวัตถุ และการดลจากสมการและพ้ืนท่ใี ตก้ ราฟความสมั พันธ์ ระหวา่ งแรงลพั ธก์ ับเวลา รวมทง้ั อธบิ ายความสัมพนั ธ์ระหวา่ งแรงดลกับโมเมนตมั 8. ทดลอง อธิบายและคํานวณปริมาณตา่ งๆ เกี่ยวกบั การชนของวัตถุในหนงึ่ มติ ทิ งั้ แบบยืดหยนุ่ ไมย่ ดื หยุน่ การดดี ตัวแยกจากกนั ในหนงึ่ มิติซงึ่ เปน็ ไปตามกฏการอนรุ ักษ์โมเมนตัม 9. ทดลอง อธบิ ายคํานวณปริมาณต่าง ๆ เกยี่ วขอ้ งกับการเคล่ือนทีแ่ บบโพรเจกไทลแ์ ละทดลอง การเคล่ือนทแ่ี บบโพรเจกไทล์

หน้า 152 10. ทดลอง และอธิบายความสมั พนั ธ์ระหวา่ งแรงสูศ่ นู ยก์ ลาง รัศมีของการเคลือ่ นท่ี อตั ราเร็วเชิง เส้นอตั ราเรว็ เชิงมุม และมวลของวัตถุในการเคล่อื นทแี่ บบวงกลมในระนาบระดบั รวมทั้ง คํานวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ทเ่ี กีย่ วข้อง และประยกุ ตใ์ ช้ความร้กู ารเคลอื่ นทแ่ี บบวงกลมใน การอธิบายการโคจรดาวเทยี ม รวมทง้ั หมด 10 ผลการเรียนรู้

หน้า 153 รายวิชาเพิม่ เติม ว32203 ฟสิ กิ ส์ 3 กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 80 ช่วั โมง จาํ นวน 20 หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา อธิบาย คํานวณการเคล่ือนท่ีแบบฮาร์มอนิกอย่างง่ายของวัตถุติดปลายสปริงลูกตุ้มอย่างง่าย รวมท้ังคํานวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องความถี่ธรรมชาติของวัตถุการเกิดการส่ันพ้องปรากฏการณ์คล่ืน ชนิด ของคล่ืน ส่วนประกอบของคลื่น การแผ่ของหน้าคล่ืนด้วยหลักการของฮอยเกนส์การรวมกันของคล่ืนตาม หลักการซ้อนทับ คํานวณอัตราเร็ว ความถ่ี ความยาวคล่ืนการสะท้อน การหักเห การแทรกสอด และการ เล้ียวเบนของคล่ืนผิวนํ้าการเกิดเสียง การเคล่ือนท่ีของเสียง ความสัมพันธ์ระหว่างคล่ืนการกระจัดของอนุภาค กับคล่ืนความดัน ความสัมพันธ์ระหว่างอัตราเร็วของเสียงในอากาศที่ข้ึนกับอุณหภูมิในหน่วยองศาเซลเซียส สมบัติของคล่ืนเสียงความเข้มเสียง ระดับเสียง องค์ประกอบของการได้ยิน คุณภาพเสียง และมลพิษทางเสียง การเกิดการสั่นพ้องของอากาศในท่อปลายเปิดหน่ึงด้าน การเกิดบีต คล่ืนน่ิง ปรากฏการณ์ ดอปเพลอร์ คล่ืน กระแทกของเสียง สมบัติการแทรกสอดของแสงผ่านสลิตคู่และเกรตติง สมบตั ิการเลย้ี วเบนและการแทรกสอด ของแสงผ่านสลิตเดี่ยวการสะท้อนของแสงที่ผิววัตถุตามกฎการสะท้อน เขียนรังสี ของแสง ตําแหน่งและขนาด ภาพของวัตถุเมื่อแสงตกกระทบกระจกเงาราบ และกระจกเงาทรงกลม ความสัมพันธ์ระหว่างดรรชนีหักเห มุม ตกกระทบและมุมหักเห รวมทั้งอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างความลึกจริงและความลึกปรากฏ มุมวิกฤตและ การสะท้อนกลับหมดของแสง เขียนรังสีของแสงเพื่อแสดงภาพท่ีเกิดจากเลนส์บาง หาตําแหน่ง ขนาด ชนิดของ ภาพ และความสัมพันธ์ระหว่างระยะวัตถุ ระยะภาพและความยาวโฟกัส ปรากฏการณ์ธรรมชาติท่ีเกี่ยวกับ แสง การมองเหน็ แสงสี สขี องวัตถุ การผสมสารสี และการผสมแสงสี โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจมี ทักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมท้ังทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสารสามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิต ของตน มีจติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มท่เี หมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. ทดลองและอธิบายการเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่ายของวัตถุตดิ ปลายสปรงิ และลกู ตุ้ม อยา่ งง่าย รวมทัง้ คํานวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกย่ี วขอ้ ง 2. อธิบายความถธ่ี รรมชาตขิ องวัตถุ และการเกดิ การสัน่ พ้อง 3. อธิบายปรากฏการณ์คลน่ื ชนิดของคล่ืน ส่วนประกอบของคล่ืน การแผ่ของหน้าคลื่นด้วย หลกั การของฮอยเกนสแ์ ละการรวมกนั ของคลนื่ ตามหลักการซ้อนทบั พรอ้ มท้ังคํานวณอตั ราเรว็ ความถี่ และความยาวคล่นื 4. สังเกตและอธิบายการสะทอ้ น การหักเห การแทรกสอด และการเลี้ยวเบนของคล่นื ผิวนํ้า รวมทั้งคํานวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ทีเ่ กย่ี วข้อง 5. อธบิ ายการเกดิ เสียง การเคลอ่ื นทขี่ องเสียง ความสัมพนั ธ์ระหว่างคลื่นการกระจัดของอนุภาค กบั คลื่นความดัน ความสัมพนั ธ์ระหว่างอัตราเร็วของเสยี งในอากาศที่ข้นึ กบั อุณหภูมใิ นหนว่ ย องศาเซลเซยี ส สมบตั ขิ องคล่ืนเสียง ได้แก่ การสะท้อน การหักเห การแทรกสอด การเลีย้ วเบน รวมทงั้ คํานวณปริมาณตา่ งๆ ท่ีเกย่ี วข้อง

หน้า 154 6. อธิบายความเขม้ เสยี ง ระดับเสียง องคป์ ระกอบของการไดย้ นิ คุณภาพเสียง และมลพษิ ทาง เสยี งรวมท้งั คํานวณปริมาณต่างๆ ท่เี ก่ียวขอ้ ง 7. ทดลองและอธบิ ายการเกดิ การสัน่ พอ้ งของอากาศในทอ่ ปลายเปดิ หน่ึงดา้ น รวมทั้งสงั เกตและ อธิบายการเกิดบีต คลน่ื น่งิ ปรากฏการณด์ อปเพลอร์ คลื่นกระแทกของเสียง คาํ นวณปริมาณ ต่าง ๆท่ีเกยี่ วข้อง และนําความรู้เรือ่ งเสยี งไปใชใ้ นชีวติ ประจําวนั 8. ทดลองและอธิบายสมบตั ิการแทรกสอดของแสงผา่ นสลิตค่แู ละเกรตติง สมบตั ิการเลย้ี วเบน และการแทรกสอดของแสงผา่ นสลติ เด่ยี วรวมทั้งคาํ นวณปริมาณตา่ งๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง 9. ทดลองและอธบิ ายการสะทอ้ นของแสงทีผ่ ิววัตถตุ ามกฎการสะท้อน เขียนรงั สีของแสงและ คาํ นวณตําแหนง่ และขนาดภาพของวตั ถุเม่อื แสงตกกระทบกระจกเงาราบและกระจกเงาทรง กลม รวมทั้งอธบิ ายการนําความรู้เร่ืองการสะท้อนของแสงจากกระจกเงาราบและกระจกเงา ทรงกลมไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจาํ วัน 10. ทดลองและอธบิ ายความสัมพันธร์ ะหว่างดรรชนีหักเห มมุ ตกกระทบ และมมุ หกั เห รวมท้งั อธิบายความสัมพนั ธร์ ะหว่างความลกึ จรงิ และความลึกปรากฏ มุมวิกฤตและการสะท้อนกลับ หมดของแสง และคาํ นวณปรมิ าณตา่ งๆ ท่ีเกย่ี วขอ้ ง 11. ทดลองและเขยี นรงั สขี องแสงเพื่อแสดงภาพทีเ่ กิดจากเลนสบ์ าง หาตําแหนง่ ขนาด ชนิดของ ภาพ และความสัมพันธ์ระหวา่ งระยะวตั ถุ ระยะภาพและความยาวโฟกสั รวมทง้ั คาํ นวณ ปรมิ าณต่าง ๆ ท่ีเกยี่ วขอ้ ง และอธิบายการนาํ ความรู้เร่ืองการหกั เหของแสงผ่านเลนส์บางไปใช้ ประโยชน์ ในชวี ิต ประจําวัน 12. อธบิ ายปรากฏการณ์ธรรมชาติท่ีเก่ยี วกับแสง เชน่ รุ้ง การทรงกลด มริ าจ และการเหน็ ท้องฟ้า เป็นสตี า่ ง ๆ ในชว่ งเวลาตา่ งกัน 13. สงั เกตและอธบิ ายการมองเหน็ แสงสี สขี องวัตถุ การผสมสารสี และการผสมแสงสี รวมทัง้ อธิบายสาเหตขุ องการบอด รวมท้งั หมด 13 ผลการเรียนรู้

หน้า 155 รายวชิ าเพิม่ เตมิ ว32204 ฟสิ ิกส์ 4 กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 80 ชว่ั โมง จํานวน 2.0 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา วิเคราะห์ อธิบาย และคํานวณ การทําวัตถุท่ีเป็นกลางทางไฟฟ้าให้มีประจุไฟฟ้าโดยการขัดสี กันและการเหน่ียวนําไฟฟ้าสถิตแรงไฟฟ้าตามกฎของคูลอมบ์ สนามไฟฟ้าแรงไฟฟ้าท่ีกระทํากับอนุภาคที่มี ประจุไฟฟ้าท่ีอยู่ในสนามไฟฟ้ารวม ท้ังหาสนามไฟฟ้าลัพธ์เน่ืองจากระบบจุดประจุโดยรวมกันแบบเวกเตอร์ พลังงานศักย์ไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้า และความต่างศักย์ระหว่างสองตําแหน่งใด ๆส่วน ประกอบของตัวเก็บประจุ ความสัมพันธ์ระหว่างประจุไฟฟ้า ความต่างศักย์ ความจุของตัวเก็บประจุ พลังงานสะสมในตัวเก็บประจุ ความ จุสมมูล ไฟฟ้าสถิตการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนอิสระและกระแสไฟฟ้าในลวดตัวนําความสัมพันธ์ระหว่างกระแส ไฟฟ้าในลวดตัวนํากับความเร็วลอยของอิเล็กตรอนอิสระ ความหนาแน่นของอิเล็กตรอนในลวดตัวนําและพ้ืนท่ี หน้าตัดของลวดตัวนํากฎของโอห์ม ความสัมพันธ์ระหว่างความต้านทานกับความยาว พื้นท่ีหน้าตัด และสภาพ ต้านทานของตัวนําโลหะท่ีอุณหภูมิคงตัวและคํานวณปริมาณต่างๆที่เกี่ยวข้องรวมทั้ง อธิบายและคํานวณความ ต้านทานสมมูลเมื่อนําตัวต้านทานมาต่อกันแบบอนุกรมและแบบขนานทดลอง อธิบายและคํานวณอีเอ็มเอฟ ของแหล่งกําเนิดไฟฟ้ากระแสตรง รวมท้ังอธิบายและคํานวณพลังงาน ไฟฟ้า และกําลังไฟฟ้าอีเอ็มเอฟสมมูล จากการต่อแบตเตอร่ีแบบอนุกรมและแบบขนาน วงจรไฟฟ้ากระแส ตรงแบตเตอรี่และตัวต้านทาน การเปลี่ยน พลังงานทดแทนเป็นพลังงานไฟฟ้า เทคโนโลยีอื่นๆท่ีนํามาแก้ ปัญหาหรือตอบสนองความต้องการทางด้าน พลังงาน โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เ ปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมท้ังทักษะกระบวนการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตน มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและคา่ นิยมท่ีเหมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. ทดลองและอธบิ ายการทาํ าวัตถทุ ่เี ป็นกลางทางไฟฟา้ ให้มปี ระจไุ ฟฟา้ โดยการขดั สกี ันและ การเหน่ยี วนําไฟฟ้าสถติ 2. อธิบายและคาํ นวณแรงไฟฟา้ ตามกฎของคลู อมบ์ 3. อธบิ ายและคําานวณสนามไฟฟา้ และแรงไฟฟา้ ทีก่ ระทาํ กับอนุภาคทีม่ ีประจุไฟฟ้าท่อี ยูใ่ น สนามไฟฟ้ารวมทั้งหาสนามไฟฟ้าลัพธ์เนอ่ื งจากระบบจุดประจุโดยรวมกนั แบบเวกเตอร์ 4. อธบิ ายและคาํ นวณพลังงานศกั ยไ์ ฟฟา้ ศกั ย์ไฟฟา้ และความต่างศกั ย์ระหวา่ งสองตาํ แหน่งใด ๆ 5. อธิบายสว่ นประกอบของตัวเกบ็ ประจุ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างประจไุ ฟฟา้ ความต่างศักย์ และ ความจขุ องตัวเก็บประจุ และอธิบายพลังงานสะสมในตัวเก็บประจุ และความจสุ มมลู รวมท้ัง คาํ นวณปริมาณตา่ ง ๆ ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง 6. นําความรเู้ ร่อื งไฟฟา้ สถติ ไปอธบิ ายหลักการทาํ งานของเคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ บางชนดิ และปรากฏการณ์ ในชีวติ ประจาํ วนั

หน้า 156 7. อธิบายการเคล่ือนท่ขี องอเิ ล็กตรอนอสิ ระและกระแสไฟฟา้ ในลวดตัวนําความสมั พันธร์ ะหวา่ ง กระแสไฟฟ้าในลวดตัวนํากับความเร็วลอยของอเิ ล็กตรอนอิสระ ความหนาแน่นของอเิ ลก็ ตรอน ในลวดตวั นาํ และพ้นื ทีห่ นา้ ตัดของลวดตวั นําและคํานวณปรมิ าณตา่ งๆ ทเ่ี ก่ยี วข้อง 8. อธบิ ายกฎของโอห์ม ความสมั พนั ธร์ ะหว่างความตา้ นทานกับความยาว พนื้ ทหี่ นา้ ตดั และสภาพ ต้านทานของตัวนําโลหะท่อี ุณหภมู คิ งตัวและคาํ นวณปรมิ าณต่างๆที่เกย่ี วข้อง รวมท้งั อธบิ าย และคํานวณความตา้ นทานสมมูลเมือ่ นําตวั ตา้ นทานมาตอ่ กนั แบบอนกุ รมและแบบขนาน 9. ทดลอง อธบิ ายและคาํ นวณอเี อ็มเอฟของแหล่งกําเนิดไฟฟ้ากระแสตรง รวมทงั้ อธิบายและ คาํ นวณพลังงานไฟฟา้ และกาํ ลังไฟฟา้ 10. ทดลองและคาํ นวณอเี อ็มเอฟสมมลู จากการต่อแบตเตอรแี่ บบอนกุ รมและแบบขนาน รวมท้ัง คํานวณปริมาณต่าง ๆทเ่ี กี่ยวข้องในวงจรไฟฟ้ากระแสตรงซ่งึ ประกอบดว้ ยแบตเตอรี่และตวั ต้านทาน 11. อธบิ ายการเปลีย่ นพลงั งานทดแทนเป็นพลงั งานไฟฟา้ รวมท้ังสืบคน้ และอภิปรายเกย่ี วกับ เทคโนโลยอี นื่ ๆ ท่ีนาํ มาแกป้ ญั หาหรอื ตอบสนองความตอ้ งการทางด้านพลงั งาน รวมทงั้ หมด 11 ผลการเรยี นรู้

หน้า 157 รายวิชาเพ่มิ เติม ว33205 ฟสิ ิกส์ 5 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 80 ชว่ั โมง จาํ นวน 2.0 หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาอธิบายคํานวณเส้นสนามแม่เหล็ก ฟลักซ์แม่เหล็กในบริเวณที่กําาหนด สนามแม่เหล็กที่เกิดจาก กระแสไฟฟ้าในลวดตัวนําเส้นตรงและโซเลนอยด แรงแม่เหล็กที่กระทําต่ออนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าเคล่ือนท่ีใน สนามแม่เหล็ก แรงแม่เหล็กท่ีกระทําต่อเส้นลวดที่มีกระแสไฟฟ้าผ่านและวางในสนามแม่เหล็ก รัศมีความโค้ง ของการเคลื่อนท่ีเมื่อประจุเคล่ือนที่ต้ังฉากกับสนามแม่เหล็กแรงระหว่างเส้นลวดตัวนําคู่ขนานท่ีมีกระแสไฟฟ้า ผ่านหลักการทํางานของแกลแวนอมิเตอร์ และมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงการเกิดอีเอ็มเอฟเหนี่ยวนํากฎการ เหนี่ยวนําของฟาราเดย์ ความต่างศักย์อาร์เอ็มเอสและกระแสไฟฟ้าอาร์เอ็มเอส หลกั การทํางานและประโยชน์ ของเครื่องกําเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส การแปลงอีเอ็มเอฟของหม้อแปลงและคํานวณปริมาณต่าง ๆทเ่ี ก่ียวข้อง การเกิดและลักษณะเฉพาะของคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า แสงไมโพลาไรส์ แสงโพลาไรส์เชิงเส้นแผ่นโพลารอยด์รวม ท้ังการนําคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าในช่วงความถ่ีต่างๆ ไปประยุกต์ใช้และหลักการทํางานของอุปกรณ์ที่เก่ียวข้อง การส่ือสาร โดยอาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการส่งผ่านสารสนเทศและเปรียบเทียบการสื่อสารด้วยสัญญาณ แอนะล็อกกบั สัญญาณดิจทิ ลั โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจมีทักษะ ปฏิบตั ิการทางวิทยาศาสตร์รวมทั้งทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสานสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตน มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและคา่ นยิ มทเี่ หมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. สงั เกตและอธบิ ายเส้นสนามแม่เหล็ก อธบิ ายและคําานวณฟลกั ซ์แมเ่ หล็กในบรเิ วณท่กี าํ หนดรวม ทั้งสงั เกตและอธบิ ายสนามแมเ่ หล็กท่เี กิดจากกระแสไฟฟา้ ในลวดตัวนาํ เสน้ ตรงและโซเลนอยด์ 2. อธิบายและคําานวณแรงแม่เหลก็ ท่ีกระทําาต่ออนภุ าคท่ีมีประจุไฟฟา้ เคลอ่ื นทใ่ี นสนาม แม่เหลก็ แรงแม่เหลก็ ทีก่ ระทําาต่อเสน้ ลวดท่ีมีกระแสไฟฟา้ ผา่ นและวางในสนามแมเ่ หลก็ รัศมีความโค้ง ของการเคล่ือนท่เี มื่อประจุเคลอื่ นทต่ี ้ังฉากกับสนามแม่เหลก็ รวมทง้ั อธบิ ายแรงระหวา่ งเสน้ ลวด ตัวนาํ ค่ขู นานทม่ี ีกระแสไฟฟ้าผ่าน 3. อธบิ ายหลกั การทําางานของแกลแวนอมเิ ตอรแ์ ละมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงและคํานวณ ปรมิ าณต่างๆ ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง 4. สงั เกตและอธบิ ายการเกดิ อีเอม็ เอฟเหนย่ี วนาํ ากฎการเหนี่ยวนําาของฟาราเดย์และคาํ านวณ ปรมิ าณต่างๆ ทเี่ กี่ยวข้อง รวมท้ังนาํ าความร้เู ร่อื งอีเอ็มเอฟเหนีย่ วนําาไปอธบิ ายการทาํ างาน ของเคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ 5. อธบิ ายและคําานวณความตา่ งศักย์อาร์เอม็ เอสและกระแสไฟฟา้ อารเ์ อม็ เอส 6. อธิบายหลกั การทาํ งานและประโยชน์ของเครอ่ื งกําาเนิดไฟฟา้ กระแสสลับ 3 เฟส การแปลง อีเอม็ เอฟของหม้อแปลงและคํานวณปริมาณตา่ งๆทเ่ี กยี่ วข้อง

หนา้ 158 7. อธิบายการเกิดและลักษณะเฉพาะของคลื่นแมเ่ หล็กไฟฟา้ แสงไม่โพลาไรส์ แสงโพลาไรสเ์ ชิงเสน้ และแผน่ โพลารอยด์รวมทั้งอธบิ ายการนาํ คลืน่ แม่เหลก็ ไฟฟา้ ในชว่ งความถต่ี า่ งๆไปประยุกตใ์ ช้ และหลกั การทํางานของอุปกรณ์ท่เี ก่ยี วข้อง 8. สืบคน้ และอธิบายการสอ่ื สารโดยอาศยั คลนื่ แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ในการส่งผา่ นสารสนเทศและ เปรยี บเทยี บการสือ่ สารด้วยสัญญาณแอนะล็อกกับสัญญาณดจิ ิทลั รวมทัง้ หมด 8 ผลการเรยี นรู้

หนา้ 159 รายวชิ าเพ่มิ เตมิ ว33206 ฟิสกิ ส์ 6 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 80 ชวั่ โมง จํานวน 20 หน่วยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาการเกิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สเปตรัมของคล่ืนแม่เหล็กฟ้า โพลาไรเซชันของคล่ืนแม่เหล็ก ไฟฟ้า การสื่อสารโดยอาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สมมติฐานของพลังค์ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการณ์ โฟโต อิเล็กทริก ทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค เสถียรภาพของนิวเคลียส กัมมันตภาพรังสี ปฏิกิริยานิวเคลียร์ พลังงาน นวิ เคลยี รแ์ ละฟิสกิ สอ์ นุภาค โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบายอภิปรายและสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งทกั ษะในทศวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศด้านการคิดและ การแก้ปัญหา สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตประจําวันของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและค่านิยมทีเ่ หมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. อธิบายการเกดิ และลักษณะเฉพาะของคลน่ื แม่เหล็กไฟฟา้ แสงไม่โพลาไรส์และแสงโพลาไรส เชงิ เส้นและแผน่ โพลารอยดร์ วมท้งั การนาํ คลน่ื แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ในชว่ งความถี่ตา่ งๆ ไปประยกุ ตใ์ ช้ และหลกั การทํางานของอุปกรณ์ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง 2. สืบค้นและอธิบายการสื่อสารโดยอาศัยคลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟา้ ในการส่งผ่านสารสนเทศและ เปรียบเทยี บการสื่อสารดว้ ยสัญญาณอะนาลอกกับสัญญาณดิจิทลั 3. อธิบายสมมตฐิ านของพลังค์ ทฤษฎอี ะตอมของโบร์ และการเกดิ เสน้ สเปกตรัมของอะตอม ไอโดรเจนรวมท้ังคํานวณปรมิ าณต่างๆ ท่เี ก่ียวข้อง 4. อธิบายปรากฏการโฟโตอเิ ล็กทริกและคํานวณพลงั งานโฟตอน พลงั งานจลน์ของโฟโต อเิ ลก็ ตรอนและฟังกช์ นั งานของโลหะ 5. อธบิ ายทวภิ าวะของคล่นื และอนภุ าค รวมทั้งอธบิ ายและคํานวณความยาวคล่นื ของเดอบรอยล์ 6. อธิบายกัมมนั ตภาพรงั สแี ละความแตกต่างของรังสีอัลฟา บตี าและแกมมา 7. อธิบายและคาํ นวณกมั มนั ตภาพของนิวเคลยี สกมั นั ตรังสรี วมทัง้ ทดลอง อธบิ ายและคํานวณ จํานวนนวิ เคลียสกัมมันตรังสที เ่ี หลอื จากการสลายและครึง่ ชวี ิต 8. อธิบายแรงนิวเคลียร์ เสถยี รภาพของของนิวเคลยี สและพลังงานยึดเหนีย่ ว รวมทัง้ คาํ นวณ ปรมิ าณต่างๆ ที่เกยี่ วข้อง 9. อธิบายปฏกิ ิรยิ านิวเคลยี ร์ ฟิชชันและฟวิ ชัน รวมทงั้ คาํ นวณพลงั งานนิวเคลยี ร์ 10. อธบิ ายประโยชน์ของพลงั งานนิวเคลยี ร์และรงั สี รวมทั้งอันตรายและการป้องกันรงั สีในด้านต่างๆ 11. อธิบายการค้นความวจิ ัยดา้ นฟสิ ิกสอ์ นภุ าค แบบจําลองมาตรฐานและการใช้ประโยชนจ์ าก การคน้ คว้าวจิ ยั ด้านฟิสกิ สอ์ นภุ าคในด้านตา่ งๆ รวมท้งั หมด 11 ผลการเรียนรู้

หนา้ 160 รายวิชาเพ่มิ เติม ว31221 เคมี 1 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 60 ชว่ั โมง จาํ นวน 15 หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา วิเคราะห์ ข้อปฏิบัติเบื้องต้นในการทําปฏิยาเคมี การป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในห้องปฏิบัติ การเคมี การแกไ้ ขผลท่ีเกดิ ข้ึนกลางอบุ ัติเหตุในหอ้ งปฏิบัติการเคมี หลักการที่คํานงึ ถึงความเป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม การกําจัดสารเคมีต่างๆ เทคนิคการใช้อุปกรณ์และเครื่องมือสําหรับช่ัง ตัว วัด ถ่ายเทสาร และให้ความร้อน หน่วยวัดปริมาตรต่างๆสารเคมีในระบบไอเอส การเปลี่ยนหน่วยโดยใช้เวกเตอร์เปลี่ยนหน่วยวิวัฒนาการของ แบบจําลองอะตอม การทดลองของนักวิทยาศาสตร์เก่ียวข้องกับแบบจําลองอะตอม สมบัติบางประการของ โปรตอน นิวตรอนและอิเล็กตรอน สัญลักษณน์ ิวเคลียสเลขอะตอม เลขมวล ความหมายของไอโซโทป การจัดเรียง อิเล็กตรอนในระดับพลงั งานหลักและระดับพลังงานย่อย ออร์บิทัลเวเลนซ์อิเลก็ ตรอนวิวัฒนาการทองตารางธาตุ การระบุหมู่และคาบของธาตุในตารางธาตุ การจัดกลุ่มในตารางธาตุตามสมบัติบางประการ แนวโน้มขนาดอะตอม พลังงานไอออไนเซชัน อิเล็กโทรเนกาติวิตีและสัมพรรคภาพอิเล็กตรอน ของธาตุเรนเททีฟหรือธาตุหมู่หลักตาม หมู่และตามคาบ ขนาดของอะตอม จุดเดือด จุดหลอมเหลว ความหนาแน่นของ ธาตุ สีของธาตุโลหะในกลุ่ม ธาตุเรพรีเซนเททีฟและธาตุทรานซิชัน ความไวในการเกิดปฏิกิรยิ ากับนํ้าของโลหะในกลุ่มธาตแุ ทรนซิชันและกลุ่ม ธาตุธาตุเรพรีเซนเททฟี หรอื ธาตุหมู่หลักธาตุกมั มนั ตรังสี ไอโซโทปกัมมันตรังสี รังสีแอลฟา รังสีเบต้าและรังสีแกมมา สมการนิวเคลียส ครึ่งชีวิตของไอโซโทปกัมมันตภาพรังสี อันตรายและประโยชน์ของไอโซโทปกัมมันตภาพรังสี การนําธาตุมาใช้ประโยชน์ตามสมบัติของธาตุ ผลกระทบต่อส่ิงมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมจากการนําธาตุมาใช้ ประโยชน์ พันธะเคมีสัญลักษณ์แบบจุดของลิวอิส กฎออกเตตการเกิดพันธะไอออนิก การเขียนสูตรสารประกอบ ไอออนิก การเรียกชื่อสาร ประกอบไอออนิก พลังงานรวมของปฏิกิริยาการเกิดสารประกอบไอออนิก วัฏจักร บอร์น-ฮาเบอร์ สมบัติของธาตุไอออนิกและสมการไอออนิกสุทธิ การเกิดพันธะโคเวเลนต์ พันธะเด่ียว พันธะคู่ และพันธะสาม โครงสร้าง ลิวอิสการเขียนสูตรสูตรสารประกอบโคเวเลนต์ การเรียกชื่อสารประกอบโคเวเลนต์ ความยาวพันธะและพลังงานพันธะ รูปรา่ งโมเลกุลโคเวเลนตต์ ามทฤษฎีการค้าระหว่างคู่อิเล็กตรอนในวงเวเลนซ์ สภาพ ข้ัวของพันธะโคเวเลนต์ สภาพข้ัวโมเลกุลโคเวเลนต์ ชนิดของแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลโคเวเลนต์ ความสัมพันธ์ระหว่างชนิดของแรงยึดเหน่ียวระหว่างโมเลกุลโคเวเลนต์กับจุดหลอมเหลวจุดเดือดและการละลาย นํ้าการเกิดพันธะโลหะ สมบัติของโลหะสมบัติบางประการและประโยชน์ของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจมีทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมท้ังทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรมและคา่ นิยมท่เี หมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. อธิบายโครงสรา้ งต้นและปฏิบตั ติ นที่แสดงถงึ ความสามารถในการทําปฏบิ ัตกิ ารเคมเี พื่อให้มี ความปลอดภยั ทัง้ ตอ่ ตนเองผอู้ ่นื และสง่ิ แวดล้อมและเสนอแนวทางแก้ไขเมอ่ื เกิดอบุ ตั เิ หตุ 2. เลอื กและใช้อปุ กรณห์ รือเครอ่ื งมือในการทาํ ปฏิบตั ิ และวัดปรมิ าณต่างๆไดอ้ ย่างเหมาะสม 3. นาํ เสนอแผนการทดลอง ทดลอง ไดเ้ ขยี นรายงานการทดลอง

หนา้ 161 4. ระบหุ นว่ ยวัดปริมาตรต่างๆของสาร และเปลี่ยนหน่วยวัดใหเ้ ปน็ หน่วยในระบบ SI ดว้ ยการใช้ เปล่ยี นหนว่ ย 5. สมมติฐานการทดลอง การทดลองหรอื ผลการทดลองทีเ่ ปน็ ประจกั ษพ์ ยานในการเสนอแบบ จําลองอะตอมของนกั วิทยาศาสตร์และอธบิ ายววิ ัฒนาการของแบบจาํ ลองอะตอม 6. เขยี นสญั ลกั ษณน์ วิ เคลียสของธาตแุ ละระบุจํานวนโปรตอนนิวตรอนและอเิ ลก็ ตรอนของ อะตอมจากสญั ลักษณน์ วิ เคลยี สรวมท้งั บอกความหมายของไอโซโทป 7. อธบิ ายและเขยี นการจดั เรียงอิเลก็ ตรอนในระดบั พลงั งานหลักและระดบั พลังงานยอ่ ยเมื่อทราบ เลขอะตอมของธาตุ 8. ระบุหมู่ ภาพความเปน็ โลหะอโลหะและกงึ่ โลหะของธาตุเรพรีเซนเททฟี ธาตแุ ทรนซิชนั ใน ตารางธาตุ 9. วิเคราะห์และออกแนวโน้มสมบัตขิ องธาตุ เรพรีเซนเททฟี ตามหม่แู ละตามคาบ 10. บอกสมบตั ิของโลหะทรานซชิ ัน และเปรียบเทียบสมบตั ิซับโลหะในกลุม่ ธาตุ เรพรเี ซนเททฟี 11. อธบิ ายสมบัตแิ ละจาํ นวนครงึ่ ชีวิตของไอโซโทปกัมมนั ตภาพรงั สี 12. สืบค้นข้อมลู และยกตวั อยา่ งการสมั ภาษณม์ าใช้ประโยชน์ รวมท้งั ผลกระทบต่อสิ่งมีชวี ติ และ สง่ิ แวดล้อม 13. อธิบายการเกดิ ไอออนกิ รายการเกิดพันธะไอออนกิ โดยใชแ้ ผนภาพหรือสญั ลกั ษณ์แบบจุด ของลวิ อิส 14. เขียนสูตรสารประกอบไอออนิก 15. คํานวณพลังงานทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ปฏกิ ริ ิยาการเกดิ สารประกอบไอออนิกจากวัฏจักรบอร์นฮาเบอร์ 16. อธิบายสมบัติของสารประกอบไอออนิก 17. เขียนสมการไอออนกิ และสมบัตไิ อออนิกสทุ ธิของปฏิกริ ิยาของสารประกอบไอออนกิ 18. อธบิ ายการเกิดพันธะโคเวเลนตแ์ บบพนั ธะเดย่ี ว พันธะคู่ พนั ธะสามดว้ ยโครงสร้างลิวอิส 19. ยงั โสดและเรียกช่อื สารประกอบโคเวเลนต์ 20. วิเคราะห์และเปรยี บเทียบความยาวพันธและพลงั งานพันธะในสารโคเวเลนต์ รวมท้งั คาํ นวณ พลังงานที่เก่ียวเกี่ยวขอ้ งกบั ปฏิกริ ยิ าของสารโคเวเลนต์จากพลังงานพนั ธะ 21. คาดคะเนรูปร่างโมเลกุลโคเวเลนต์โดยใชท้ ฤษฎกี ารผลักระหว่างคอู่ เิ ล็กตรอนในวงวาเลนและ ระบสุ ภาพขว้ั โมเลกลุ โคเวเลนต์ 22. ระบุชนดิ แรงยดึ เหน่ยี วระหว่างโมเลกลุ โคเวเลนต์ และเปรียบเทียบจุดหลอมเหลว จุดเดอื ด และสารละลายน้าํ ของสารโคเวเลนต์ 23. สบื ค้นขอ้ มูล และอธบิ ายสมบตั ขิ องสารโคเวเลนต์โครงร่างตาขา่ ยชนดิ ตา่ งๆ 24. อธิบายการเกิดพนั ธะโลหะและสารประกอบโคเวเลนต์ 25. เปรียบเทียบสมบัติบางประการของสารประกอบไอออนกิ สารโคเวเลนต์ และโลหะ สบื คน้ ขอ้ มูลและนาํ เสนอตัวอยา่ งการใช้ประโยชนข์ องสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนตแ์ ละโลหะ ได้อยา่ งเหมาะสม รวมทั้งหมด 25 ผลการเรยี นรู้

หนา้ 162 รายวิชาเพิ่มเติม ว31222 เคมี 2 กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 60 ชว่ั โมง จํานวน 15 หน่วยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาวิเคราะห์เก่ียวกับมวลอะตอมของธาตุ มวลอะตอมเฉล่ียของธาตุ มวลโมเลกุล และมวลสูตร ความหมายของโมล ความสัมพันธ์ระหว่างโมลจํานวนอนุภาคมวล และปริมาตรของแก๊สที่ STP กฎสัดส่วน คงที่สูตรอย่างง่ายและสูตรโมเลกุลความเข้มข้นของสารละลายในหน่วยร้อยละส่วนในล้านส่วนส่วนในพันล้าน ส่วนโมลาริตี โมแลลิตีและเศษส่วนโมล วิธีการเตรียมสารละลายสมบัติเก่ียวกับจุดเดือดและจุดเยือกแข็งของ สารละลายกับสารบริสุทธิ์ สมการเคมีการดลุ สมการเคมีการคํานวณปรมิ าณของสารในปฏิกิริยาเคมีท่ีเก่ียวข้อง กับมวลสารความเข้มข้นของสารละลายปริมาตรแก๊สและปฏิกิริยาเคมีหลายข้ันตอนสารกําหนดปริมาณ การ คาํ นวณปริมาณสารต่างๆ เมื่อมีสารกําหนดปรมิ าณ ผลได้ร้อยละ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจมีทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมทั้งทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตน มีจิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มท่เี หมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. บอกความหมายของมวลอะตอมของธาตุและคํานวณมวลอะตอมเฉลีย่ ของธาตุ มวลโมเลกุล และมวลสูตร 2. อธิบายและคํานวณปริมาณใดปรมิ าณหนงึ่ จากความสัมพันธ์ของโมล จํานวนอนุภาค มวล และปรมิ าตรของแก๊สที่ STP 3. คํานวณอัตราสว่ นโดยมวลของธาตอุ งค์ประกอบของสารประกอบตามกฎสัดสว่ นคงที 4. คาํ นวณสูตรอยา่ งงา่ ยและสตู รโมเลกุลของสาร 5. คํานวณความเขม้ ข้นของสารละลายในหนว่ ยต่าง ๆ 6. อธบิ ายวิธกี ารและเตรียมสารละลายให้มคี วามเข้มข้นในหนว่ ยโมลาริตี และปริมาตรของ สารละลายตามที่กําหนด 7. เปรียบเทยี บจดุ เดือดและจุดเยอื กแข็งของสารละลายกับสารบรสิ ทุ ธ์ิ รวมทัง้ คํานวณจุดเดือด และจุดเยอื กแข็งของสารละลาย 8. แปลความหมายสญั ลักษณ์ในสมการเคมี เขยี นและดลุ สมการเคมีของปฏิกิรยิ าเคมีบางชนดิ 9. คาํ นวณปริมาณของสารในปฏกิ ิริยาเคมที เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั มวลสาร 10. คํานวณปริมาณของสารในปฏกิ ริ ยิ าเคมที เ่ี ก่ียวข้องกับความเข้มข้นของสารละลาย 11. คาํ นวณปริมาณของสารในปฏกิ ิรยิ าเคมีทีเ่ กยี่ วข้องกบั ปรมิ าตรแกส๊ 12. คํานวณปริมาณของสารในปฏิกิรยิ าเคมหี ลายข้ันตอน 13. ระบสุ ารกาํ หนดปรมิ าณและคํานวณปรมิ าณสารต่าง ๆ ในปฏิกิรยิ าเคมี 14. คํานวณผลได้ร้อยละของผลิตภัณฑ์ในปฏิกิรยิ าเคมี รวมทง้ั หมด 14 ผลการเรียนรู้

หน้า 163 รายวิชาเพมิ่ เตมิ ว32223 เคมี 3 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 60 ชัว่ โมง จาํ นวน 1.5 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาเกี่ยวกับทฤษฎีจลน์ของแก๊ส กฎของบอยล์กฎของชาร์ลและกฎของเกย์–ลูสแซกกฎรวมแก๊สกฎ ของอาโวกาโดรและกฎแก๊สอุดมคติ กฎความดันย่อยของดอลตันการแพร่ของแก๊สกฎการแพร่ผ่านของเกรแฮม ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแก๊สการประยุกต์ใช้ความรู้เก่ียวกับแก๊สในชีวิตประจําวันและอุตสาหกรรมการ เปล่ียนแปลงของสารเม่ือเกิดปฏิกิริยาเคมี การคํานวณอัตราการเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมีแนวคิดเกี่ยวกบั การเกิด ปฏิกิริยา เคมีทฤษฎีการชน พลังงานก่อกัมมันต์ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏกิ ิริยาเคมี ปฏกิ ิริยาผันกลับได้ภาวะสมดุล และสมดุลพลวัตการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของสารและอัตราการเกิดปฏิกิริยาของระบบเมื่อเข้าสู่ภาวะสมดุล ค่าคงที่สมดุล และความเข้มข้นของสารท่ีภาวะสมดุลปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมดุลและค่าคงท่ีสมดุลหลักของ เลอชาเตอลิเอ สมดุลเคมีของกระบวนการท่ีเกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิตปรากฏการณ์ในธรรมชาติและกระบวนการใน อุตสาหกรรมกระบวนการฮาเบอร์ ทฤษฎีกรด-เบสของอาร์เรเนีย เบรินสเตด–ลาวรีและลิวอิส คู่กรด-เบสของ สารตามทฤษฎีกรด-เบสของเบรินสเตด-ลาวรีสารแอมโฟเทอริก การคําานวณความเขม้ ข้นของไฮโดรเนียมไอออน หรือไฮดรอกไซด์ไอออนในสารละลายกรด และเบสร้อยละการแตกตัวของกรดอ่อนหรือเบสอ่อนค่าคงที่การแตกตัว ของกรดอ่อนหรือเบสอ่อน คา่ คงท่ีการแตกตวั ของน้ําการคํานวณ ค่า pH ของสารละลายกรด และเบสการคํานวณ ความเข้มข้นของไฮโดรเนยี มไอออน หรือไฮดรอกไซด์ไอออนของสารละลายกรด และเบสการเกิดปฏิกิริยาระหว่าง กรดกับเบส ปฏิกิริยาสะเทินและปฏิกิริยาไฮโดรลิซิส การเขียนสมการเคมีแสดงปฏิกิริยาระหว่างกรดกับเบส ปฏิกิริยาสะเทินและปฏิกิริยาไฮโดรลิซิส ความเป็นกรด-เบสของสารละลายเกลือ สารละลายมาตรฐานจุด สมมูลจุดยุติและหลักการการไทเทรตการเลือกใช้อินดิเคเตอร์ที่เหมาะสมสําหรับการไทเทรตการคํานวณ ปริมาณสาร หรือความเข้มข้นของสารละลายกรดหรือเบสจากการไทเทรต สมบัติองค์ประกอบและประโยชน์ ของสารละลายบัฟเฟอรก์ ารใช้ประโยชน์และการแกป้ ัญหาโดยใช้ความรเู้ รื่องกรด-เบส โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจมีทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมท้ังทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตน มจี ิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มท่ีเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. อธิบายความสมั พนั ธแ์ ละคํานวณปรมิ าตร ความดัน หรอื อุณหภูมขิ องแกส๊ ทภี่ าวะต่างๆ ตาม กฎของบอยล์ กฎของชาร์ล กฎของเกย์–ลูสแซก 2. คาํ นวณปรมิ าตร ความดนั หรืออณุ หภูมขิ องแก๊สทภ่ี าวะตา่ ง ๆ ตามกฎรวมแกส๊ 3. คํานวณปรมิ าตร ความดนั อุณหภูมิ จํานวนโมล หรือมวลของแก๊ส จากความสัมพันธ์ตามกฎ ของอาโวกาโดร และกฎแกส๊ อดุ มคต 4. คํานวณความดนั ยอ่ ยหรอื จาํ นวนโมลของแก๊สในแกส๊ ผสม โดยใช้กฎความดนั ย่อยของดอลตนั 5. อธบิ ายการแพรข่ องแกส๊ โดยใช้ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส คํานวณและเปรียบเทียบอตั ราการแพรข่ อง แกส๊ โดยใชก้ ฎการแพรผ่ ่านของเกรแฮม

หน้า 164 6. สบื คน้ ขอ้ มูล นําเสนอตัวอยา่ ง และอธบิ ายการประยุกตใ์ ช้ความรูเ้ กย่ี วกับสมบตั แิ ละกฎตา่ งๆ ของแกส๊ ในการอธิบายปรากฏการณ์ หรอื แกป้ ัญหาในชีวติ ประจําวนั และในอุตสาหกรรม 7. ทดลอง และเขียนกราฟการเพิม่ ขึน้ หรือลดลงของสารที่ทําการวดั ในปฏิกิรยิ า 8. คํานวณอัตราการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี และเขยี นกราฟการลดลงหรือเพ่มิ ขึ้นของสารท่ไี มไ่ ด้วัดใน ปฏิกริ ิยา 9. เขยี นแผนภาพและอธบิ ายทิศทางการชนกนั ของอนุภาคและพลงั งานท่ีส่งผลตอ่ อัตราการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี 10. ทดลองและอธิบายผลของความเขม้ ขน้ พน้ื ท่ผี วิ ของสารตง้ั ต้น อุณหภูมิ และตัวเร่งปฏิกริ ยิ าท่ี มตี ่ออัตราการเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี 11. เปรยี บเทยี บอตั ราการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเม่ือมกี ารเปล่ยี นแปลงความเขม้ ขน้ พืน้ ที่ผิวของสารตงั้ ต้น อุณหภูมิ และตัวเร่งปฏิกริ ิยา 12. ยกตวั อยา่ งและอธิบายปัจจัยที่มผี ลต่ออัตราการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมีในชวี ิตประจําวันหรือุตสาหกรรม 13. ทดสอบและอธิบายความหมายของปฏกิ ิริยาผนั กลับได้และภาวะสมดลุ 14. อธบิ ายการเปลี่ยนแปลงความเขม้ ขน้ ของสาร อตั ราการเกดิ ปฏกิ ิรยิ าไปขา้ งหนา้ และอัตรา การเกดิ ปฏิกริ ยิ าย้อนกลบั เมอื่ เรม่ิ ปฏกิ ิริยาจนกระทง่ั ระบบอยู่ในภาวะสมดุล 15. คาํ นวณค่าคงท่สี มดลุ ของปฏิกิรยิ า 16. คํานวณความเข้มขน้ ของสารท่ภี าวะสมดลุ 17. คํานวณค่าคงท่สี มดลุ หรือความเข้มขน้ ของปฏิกิรยิ าหลายข้ันตอน 18. ระบปุ ัจจัยทมี่ ีผลตอ่ ภาวะสมดุลและค่าคงทส่ี มดลุ ของระบบรวมทั้งคาดคะเนการเปลย่ี นแปลง ท่เี กิดขึน้ เม่ือภาวะสมดุลของระบบถกู รบกวนโดยใช้หลักของเลอชาเตอลิเอ 19. ยกตัวอยา่ งและอธบิ ายสมดุลเคมขี องกระบวนการทเี่ กิดข้ึนในส่งิ มีชีวิต ปรากฏการณ์ใน ธรรมชาติและกระบวนการในอตุ สาหกรรม 20. ระบุและอธิบายว่าสารเปน็ กรดหรือเบส โดยใชท้ ฤษฎีกรด-เบสของอาร์เรเนยี ส เบรินสเตด- ลาวรี และลวิ อิส 21. ระบคุ กู่ รด-เบสของสารตามทฤษฎกี รด-เบสของเบรินสเตด-ลาวร 22. คาํ นวณและเปรียบเทียบความสามารถในการแตกตัวของกรดและเบส 23. คํานวณคา่ pH ความเขม้ ข้นของไฮโดรเนียมไอออนหรอื ไฮดรอกไซดไ์ อออนของสารละลาย กรดและเบส 24. เขียนสมการเคมีแสดงปฏิกิรยิ าสะเทินและระบุความเป็นกรด-เบสของสารละลายหลังการสะเทิน 25. เขยี นปฏกิ ริ ิยาไฮโดรลซิ ิสของเกลอื และระบคุ วามเป็นกรด-เบสของสารละลายเกลือ 26. ทดลองและอธิบายหลักการการไทเทรตและเลือกใช้อนิ ดิเคเตอรท์ ่ีเหมาะสมสาํ หรับการไทเทรต กรด-เบส 27. คาํ นวณปรมิ าณสารหรอื ความเขม้ ขน้ ของสารละลายกรดหรือเบสจากการไทเทรต 28. อธิบายสมบตั ิ องคป์ ระกอบ และประโยชน์ของสารละลายบัฟเฟอร์ 29. สืบคน้ ข้อมลู และนําเสนอตัวอย่างการใชป้ ระโยชนแ์ ละการแกป้ ญั หา โดยใชค้ วามรเู้ กย่ี วกบั กรด–เบส รวมทั้งหมด 29 ผลการเรียนรู้

หนา้ 165 รายวิชาเพ่ิมเติม ว32224 เคมี 4 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 60 ชั่วโมง จาํ นวน 15 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา วิเคราะห์และอธิบายเลขออกซิเดชัน ปฏิกิริยารีดอกซ์ ตัวรีดิวซ์ และตัวออกซิไดส์คร่ึงปฏิกิริยา ออกซิเดชันและคร่ึงปฏิกริ ิยารีดักชัน ความสามารถในการเป็นตัวรีดิวซ์หรือตัวออกซิไดส ความสามารถใน การเป็น ตัวรีดิวซ์หรือตัวออกซิไดส์ การดุลสมการรีดอกซ์ด้วยการใช้เลขออกซิเดชันและวิธีคร่ึงปฏิกิริยา องค์ประกอบ ของเซลล์เคมีไฟฟ้า สมการเคมีของปฏิกิริยาท่ีแอโนดและแคโทด และปฏิกิริยารวม แผนภาพเซลล์ ความหมาย และการคํานวณค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของคร่ึงเซลล์และค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์ประเภท และหลักการ เบ้ืองต้นของเซลล์กัลป์วานิกและเซลล์อิเล็กโทรลิติก หลักการทํางานของเซลล์ปฐมภูมิและเซลล์ ทุติยภูมิ สมกา รแสดงปฏิกิริยาของเซลล์ปฐมภูมิและเซลล์ทุติยภูมิ การแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้า การชุบโลหะ การทํา โลหะให้บริสุทธ์ิ การป้องกัน การกัดกร่อนของโลหะปฏิกิริยารีดอกซ์ในชีวิตประจําวันหรืออุตสาหกรรม ความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยที ่ีเกย่ี วข้องกับเซลลเ์ คมีไฟฟา้ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจมีทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมทั้งทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตน มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและคา่ นยิ มที่เหมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. คาํ นวณเลขออกซิเดชัน และระบุปฏกิ ริ ิยาทเ่ี ปน็ ปฏิกริ ิยารีดอกซ์ 2. วเิ คราะห์การเปลีย่ นแปลงเลขออกซเิ ดชันและระบุตัวรดี วิ ซแ์ ละตวั ออกซไิ ดส์ รวมทัง้ เขยี นครงึ่ ปฏิกริ ิยาออกซิเดชันและคร่งึ ปฏิกริ ิยารีดกั ชนั ของปฏิกริ ิยารดี อกซ์ 3. ทดลองและเปรียบเทยี บความสามารถในการเป็นตวั รดี ิวซ์หรือตวั ออกซไิ ดส์ และเขยี นแสดง ปฏกิ ริ ยิ ารีดอกซ์ 4. ดลุ สมการรดี อกซ์ด้วยการใชเ้ ลขออกซิเดชันและวธิ ีคร่ึงปฏิกริ ิยา 5. ระบอุ งค์ประกอบของเซลล์เคมีไฟฟา้ และเขยี นสมการเคมีของปฏกิ ริ ิยาทีแ่ อโนดและแคโทด ปฏกิ ริ ยิ ารวม และแผนภาพเซลล์ 6. คํานวณคา่ ศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์ และระบุประเภทของเซลลเ์ คมีไฟฟ้า ขว้ั ไฟฟ้าและ ปฏกิ ริ ิยาเคมีทเี่ กดิ ขน้ึ 7. อธิบายหลกั การทํางานและเขยี นสมการแสดงปฏกิ ิริยาของเซลล์ปฐมภมู แิ ละเซลล์ทุตยิ ภมู 8. ทดลองชุบโลหะและแยกสารเคมีดว้ ยกระแสไฟฟ้า และอธิบายหลกั การทางเคมีไฟฟา้ ที่ใช้ใน การชบุ โลหะ การแยกสารเคมดี ว้ ยกระแสไฟฟา้ การทําโลหะใหบ้ ริสุทธ์ิ และการป้องกนั การกดั กรอ่ นของโลหะ 9. สบื คน้ ข้อมลู และนําเสนอตวั อยา่ งความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยีท่ีเกี่ยวขอ้ งกับเซลลเ์ คมไี ฟฟา้ ใน ชวี ิตประจําวนั รวมท้ังหมด 9 ผลการเรยี นรู้

หน้า 166 รายวิชาเพมิ่ เติม ว33225 เคมี 5 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 60 ช่วั โมง จาํ นวน 1.5 หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา วิเคราะห์และอธิบายความหมายของสารประกอบอินทรีย์ ธาตุองค์ประกอบและพันธะเคมีใน สารประกอบอินทรีย์ ความหลากหลายของสารประกอบอินทรีย์ การเขียนสูตรโครงสร้างลิวอิส สูตรโครงสร้าง แบบย่อ และสูตรโครงสร้างแบบเส้นของสารประกอบอินทรีย์ ประเภทและหมู่ฟังก์ชันของสารประกอบอินทรีย์ การเรียกชื่อสารประกอบอนิ ทรีย์ ไอโซเมอริซึม ไอโซเมอร์โครงสร้างของสารประกอบอนิ ทรีย์ สภาพขว้ั ของโมเลกุล ของสารประกอบอินทรีย์ แรงยึดเหน่ียวระหวา่ งโมเลกุลของสารประกอบอินทรีย์ จุดเดือดของสารประกอบอินทรีย์ การละลายของสารประกอบอินทรีย์ในตัวทําละลาย สารประกอบไฮโดรคาร์บอน ปฏิกิริยาการเผาไหม้ของสาร ประกอบไฮโดรคาร์บอน ปฏิกิริยากับสารละลายโบรมีนของสารประกอบไฮโดรคาร์บอน ปฏิกิริยากับสารละลาย โพแทสเซียม-เปอร์แมงกาเนตของสารประกอบไฮโดรคาร์บอน ปฏิกิริยาเอสเทอริฟิเคชันปฏิกิริยาการสังเคราะห์ เอไมด์ ปฏิกิริยาไฮโดรลิซิส ปฏิกิริยาสะปอนนิฟิเคชัน การนําสารประกอบอินทรีย์ไปใช้ประโยชน์ ความหมาย ของพอลิเมอร์และมอนอเมอร์ ปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์แบบเติมและแบบควบแน่น โครงสร้างของพอลิเมอร์ ความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างกับสมบัติของพอลิเมอร์และการนําไปใช้ประโยชน์ พอลิเมอร์เทอร์มอพลาสติก พอลิเมอร์เทอร์มอเซต ประโยชน์ของพลาสติกและผลิตภัณฑ์ยาง การปรับเปลี่ยนโครงสร้างและการสังเคราะห์ พอลิเมอร์ ผลกระทบจากการใชแ้ ละการกําจดั ผลติ ภณั ฑพ์ อลเิ มอรแ์ ละแนวทางแกไ้ ข โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจมีทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมท้ังทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตน มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มท่ีเหมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. สบื ค้นข้อมลู และนําเสนอตวั อย่างสารประกอบอนิ ทรยี ท์ ีม่ พี นั ธะเดีย่ ว พนั ธะคูห่ รือพันธะสาม ทพ่ี บในชวี ิตประจําวนั 2. เขยี นสตู รโครงสรา้ งลิวอสิ สูตรโครงสรา้ งแบบย่อ และสตู รโครงสร้างแบบเสน้ ของสารประกอบ อนิ ทรีย์ 3. วิเคราะหโ์ ครงสร้าง และระบปุ ระเภทของสารประกอบอินทรยี จ์ ากหมฟู่ ังก์ชัน 4. เขยี นสูตรโครงสรา้ งและเรยี กช่ือสารประกอบอินทรียป์ ระเภทตา่ งๆ ท่มี หี มู่ฟังก์ชนั ไม่เกนิ 1 หม่ตู ามระบบ IUPAC 5. เขียนไอโซเมอร์โครงสร้างของสารประกอบอินทรีย์ประเภทตา่ งๆ 6. วเิ คราะห์ และเปรยี บเทยี บจดุ เดือดและการละลายในน้าํ ของสารประกอบอนิ ทรีย์ท่ีมีหมู่ฟงั กช์ ัน ขนาดโมเลกลุ หรือโครงสร้างตา่ งกนั 7. ระบุประเภทของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนและเขยี นผลิตภัณฑ์จากปฏิกิรยิ าการเผาไหม้ปฏกิ ริ ยิ า กับโบรมีนหรือปฏิกริ ยิ ากับโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต 8. เขยี นสมการเคมีและอธิบายการเกิดปฏกิ ิรยิ าเอสเทอริฟิเคชนั ปฏกิ ิรยิ าการสงั เคราะหเ์ อไมด์ ปฏิกริ ยิ าไฮโดรลซิ ิส และปฏกิ ิริยาสะปอนนิฟิเคชัน

หน้า 167 9. ทดสอบปฏกิ ิรยิ าเอสเทอรฟิ เิ คชัน ปฏิกิรยิ าไฮโดรลิซิส และปฏิกิรยิ าสะปอนนฟิ ิเคชัน 10. สบื ค้นขอ้ มูลและนาํ เสนอตวั อยา่ งการนําสารประกอบอินทรยี ไ์ ปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจาํ วนั และอตุ สาหกรรม 11. ระบปุ ระเภทของปฏกิ ริ ยิ าการเกิดพอลิเมอร์จากโครงสรา้ งของมอนอเมอร์หรือพอลเิ มอ 12. วิเคราะหแ์ ละอธบิ ายความสมั พนั ธร์ ะหว่างโครงสรา้ งกบั สมบตั ขิ องพอลเิ มอร์ รวมทัง้ การนํา ไปใช้ประโยชน์ 13. ทดสอบและระบุประเภทของพลาสติกและผลติ ภณั ฑ์ยาง รวมทั้งการนาํ ไปใชป้ ระโยชน์ 14. อธิบายผลของการปรับเปลยี่ นโครงสร้างและการสังเคราะห์พอลิเมอร์ท่ีมีต่อสมบัติของพอลเิ มอร์ 15. สืบค้นข้อมลู และนําเสนอตวั อยา่ งผลกระทบจากการใช้และการกําจัดผลิตภัณฑพ์ อลิเมอร์ และแนวทางแกไ้ ข รวมท้งั หมด 15 ผลการเรยี นรู้

หนา้ 168 รายวิชาเพ่มิ เติม ว33226 เคมี 6 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 60 ช่วั โมง จาํ นวน 15 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา วิเคราะห์เกี่ยวกับการแก้ปัญหาจากสถานการณ์ที่เกิดข้ึนในชีวิตประจําวัน การประกอบอาชีพ หรืออุตสาหกรรม โดยใช้ความรู้ทางเคมีและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือกระบวนการออกแบบ เชิงวิศวกรรม การบูรณาการความรู้ทางเคมีร่วมกับสาขาวิชาอื่น โดยใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เพ่ือแก้ปัญหาในสถานการณ์หรือประเด็นที่สนใจ วิธีการและรูปแบบการนํา เสนอผลงานหรือชิ้นงานโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รูปแบบของงานวิชาการประเภทต่างๆ (งานนิทรรศการ การสมั มนาการประชมุ วชิ าการ) วิธกี ารที่เหมาะสมในการแลกเปลีย่ นและแสดงความคดิ เหน็ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจมีทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมท้ังทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตน มจี ิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและคา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. กาํ หนดปัญหา และนาํ เสนอแนวทางการแกป้ ญั หาโดยใชค้ วามรู้ทางเคมีจากสถานการณท์ ี่เกิด ขึ้นในชีวติ ประจําวนั การประกอบอาชีพหรอื อตุ สาหกรรม 2. แสดงหลักฐานถงึ การบรู ณาการความรทู้ างเคมีร่วมกับสาขาวชิ าอ่นื รวมท้งั ทักษะกระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตร์หรอื กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม โดยเน้นการคิดวเิ คราะห์ การแกป้ ัญหา และความคดิ สร้างสรรค์ เพอ่ื แก้ปญั หาในสถานการณ์หรอื ประเดน็ ที่สนใจ 3. นาํ เสนอผลงานหรอื ชน้ิ งานท่ไี ด้จากการแก้ปัญหาในสถานการณห์ รอื ประเดน็ ที่สนใจโดยใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศ 4. แสดงหลกั ฐานการเขา้ รว่ มการสมั มนา การเขา้ ร่วมประชุมวิชาการ หรือการแสดงผลงาน ส่ิงประดษิ ฐใ์ นงานนทิ รรศการ รวมทง้ั หมด 4 ผลการเรียนรู้

หน้า 169 รายวิชาเพ่มิ เตมิ ว31241 ชวี วิทยา 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 60 ชั่วโมง จํานวน 15 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา วิเคราะห์สมบัติที่สําคัญของสิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ของการจัดระบบในสิ่งมีชีวิต การบอก ความสําคัญของการระบุปัญหา ความสัมพันธ์ระหว่างปัญหา สมมติฐานและวิธีการตรวจสอบสมมติฐาน การออกแบบการทดลอง เพื่อตรวจสอบสมมติฐานสมบัติของนํ้าและความสําคัญของน้ําท่ีมีต่อสิ่งมีชีวิตตัวอย่าง ธาตุท่ีมีความสําคัญในการเป็นองค์ประกอบ และการทํางานของเซลล์สิ่งมีชีวิต และระบบต่าง ๆ ของส่ิงมีชีวิต โครงสร้างของคาร์โบไฮเดรต ตัวอย่างมอโนแซ็กคาไรด์ ไดแซ็กคาไรด์ และพอลิแซ็กคาไรด์ความสําคัญของ คาร์โบไฮเดรตในการเป็นแหล่งพลังงาน และเป็นโครงสร้างของเซลล์โครงสร้างของโปรตีนความสําคัญของโปรตีน ในการเป็นโครงสร้างและควบคุมการทํางานของเซลล์ ตัวอย่างลิพิดกลุ่มสําคัญที่พบในสิ่งมีชีวิตเช่น กรดไขมัน ไตรกลีเซอไรด์ ฟอสโฟลิพิดสเตอรอยด์ เป็นต้น ความสําคัญของลิพิดในการเป็นแหล่งพลังงานรักษาดุลยภาพ ของน้ําและอุณหภูมิ ป้องกันอวัยวะในร่างกายโครงสร้างของกรดนิวคลิอิกและนิวคลีโอไทด์ ความสําคัญของ กรดนิวคลิอิกในการเก็บ และถ่ายทอดข้อมูลทางพันธุกรรมปฏิกิริยาคายพลังงาน และปฏิกิริยาดูดพลังงานใน สิ่งมีชีวิต การทํางานของเอนไซม์ปจั จยั ท่ีมีผลต่อการทํางานของเอนไซม์ การเตรียมตัวอย่างท่ีถูกต้องและเหมาะสม กับชนิดของสิ่งมีชีวิตในการศึกษาสิ่งมีชีวิตภายใต้กล้องจุลทรรศน์ใช้แสง การใช้ การเก็บรักษา และการดูแล กล้องจุลทรรศน์ใช้แสงให้ใช้งานได้นาน โครงสร้างและหน้าที่ของเย่ือหุ้มเซลล์ โครงสร้างและหน้าที่ของผนัง เซลล์ ชนดิ โครงสร้าง และหน้าที่ของออร์แกเนลล์โครงสร้างและ หน้าที่ของนิวเคลียส การแพร่ ออสโมซิสและ การแพร่แบบฟาซิลิเทตแอกทีฟทรานสปอร์ต กระบวนการเอกโซไซโทซิส กระบวนการเอนโดไซโทซิส วัฏจักร เซลล์ การแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิสและการแบ่งนิวเคลียส แบบไมโอซิส การหายใจระดับเซลล์ในภาวะที่มี ออกซิเจนเพียงพอ และภาวะที่มีออกซิเจนไม่เพียงพอข้ันตอน ไกลโคลิซิส วัฏจักรเครบส์ และกระบวนการ ถา่ ยทอดอเิ ล็กตรอนกระบวนการหมักแอลกอฮอล์และกระบวนการ หมกั กรดแลกติก โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจมีทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมทั้งทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตน มีจติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและค่านยิ มท่เี หมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. อธบิ ายและสรุปสมบตั ทิ ่สี าํ คัญของสิง่ มีชวี ิต และความสัมพนั ธข์ องการจดั ระบบในสง่ิ มีชีวิตที่ ทําให้ส่ิงมชี ีวิตดํารงชีวติ อยไู่ ด้ 2. อภิปรายและบอกความสําคญั ของการระบปุ ัญหา ความสมั พันธร์ ะหว่างปัญหา สมมตฐิ านและ วธิ กี ารตรวจสอบสมมติฐานรวมทง้ั ออกแบบการทดลองเพอ่ื ตรวจสอบสมมตฐิ าน 3. สบื คน้ ข้อมลู อธบิ ายเกี่ยวกบั สมบัติของน้ํา และบอกความสําคัญของนํา้ ทมี่ ีต่อส่งิ มชี ีวติ และ ยกตวั อยา่ งธาตุต่างๆ ท่ีมีความสาํ คญั ต่อรา่ งกายสิ่งมชี วี ติ 4. สบื ค้นข้อมูล อธบิ ายโครงสร้างของคาร์โบไฮเดรต ระบุกลุ่มของคาร์โบไฮเดรต รวมทั้งความสาํ คญั ของคาร์โบไฮเดรตทมี่ ีต่อสิง่ มชี ีวติ 5. สบื ค้นขอ้ มูล อธบิ ายโครงสร้างของโปรตีน และความสาํ คัญของโปรตีนที่มตี ่อสงิ่ มีชีวิต

หนา้ 170 6. สืบค้นขอ้ มูล อธิบายโครงสรา้ งของลิพิด และความสาํ คญั ของลิพดิ ท่มี ีต่อสงิ่ มีชวี ติ 7. อธิบายโครงสร้างของกรดนิวคลิอิก ระบุชนดิ ของกรดนิวคลอิ ิกและความสาํ คญั ของกรด นวิ คลิอกิ ทม่ี ีตอ่ ส่ิงมีชวี ิต 8. สบื คน้ ขอ้ มลู และอธิบายปฏกิ ิริยาเคมที ีเ่ กดิ ข้นึ ในสง่ิ มชี วี ิต 9. อธบิ ายการทํางานของเอนไซมใ์ นการเร่งปฏกิ ริ ิยาเคมใี นสง่ิ มีชีวิตและระบุปจั จัยทม่ี ีผลต่อ การทาํ งานของเอนไซม์ 10. บอกวธิ ีการและเตรียมตัวอย่างส่ิงมีชีวติ เพ่ือศกึ ษาภายใตก้ ลอ้ งจลุ ทรรศนใ์ ชแ้ สง วดั ขนาด โดยประมาณและวาดภาพทป่ี รากฏภายใตก้ ลอ้ งบอกวิธกี ารใชแ้ ละการดูแลรักษากลอ้ ง จลุ ทรรศนใ์ ช้แสงท่ถี กู ต้อง 11. อธบิ ายโครงสร้างและหน้าท่ีของส่วนทหี่ อ่ หุม้ เซลล์ของเซลลพ์ ืชและเซลลส์ ัตว์ 12. สบื ค้นข้อมูล อธิบาย และระบชุ นิด และหน้าทข่ี องออรแ์ กเนลล์ 13. อธิบายโครงสรา้ งและหนา้ ทีข่ องนวิ เคลียส 14. อธิบายและเปรียบเทียบการแพร่ ออสโมซสิ การแพร่แบบฟาซิลเิ ทตและแอกทีฟทรานสปอร์ต 15. สืบคน้ ข้อมูล อธบิ าย และเขียนแผนภาพการลาํ เลยี งสารโมเลกุลใหญ่ออกจากเซลล์ดว้ ย กระบวนการเอกโซไซโทซิสและการลาํ เลียงสารโมเลกลุ ใหญเ่ ข้าสู่เซลลด์ ้วยระบวนการ เอนโดโซโทซสิ 16. สังเกตการแบ่งนวิ เคลียสแบบไมโทซสิ และแบบไมโอซิสจากตวั อยา่ งภายใตก้ ลอ้ งจุลทรรศน์ พร้อมทั้งอธิบายและเปรียบเทยี บการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิสและแบบไมโอซิส 17. อธิบาย เปรียบเทียบ และสรปุ ขัน้ ตอนการหายใจระดบั เซลล์ในภาวะที่มีออกซิเจนเพยี งพอ และภาวะท่มี ีออกซเิ จนไม่เพยี งพอ รวมทง้ั หมด 17 ผลการเรยี นรู้

หนา้ 171 รายวิชาเพ่มิ เตมิ ว31242 ชีววิทยา 2 กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 60 ชั่วโมง จํานวน 15 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา วิเคราะห์หลักการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของเมนเดล กฎการแยกและกฎการรวม กลุ่มอย่างอิสระ การนํากฎของเมนเดลไปอธิบายการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การคํานวณโอกาสใน การเกิดฟีโนไทป์และจีโนไทป์แบบต่างๆ ของรุ่น F1 และ F2 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็นส่วน ขยายของพันธศุ าสตร์ของเมนเดล การคาํ นวณโอกาสการเกิดฟโี นไทปแ์ ละจีโนไทปข์ องร่นุ F1 และ F2ลักษณะ ทางพันธุกรรมที่มีการแปรผันไม่ต่อเน่ืองและลักษณะทางพันธุกรรมท่ีมีการแปรผันต่อเนื่อง การถ่าย ทอดยีนบน โครโมโซม ลักษณะทางพันธุกรรมท่ีถูกควบคุมด้วยยีนบนโตโซม และยีนบนโครโมโซมเพศสมบัติและหน้าท่ี ของสารพนั ธุกรรมโครงสร้างและองค์ประกอบทางเคมีของ DNA การจําลอง DNA ขั้นตอนในกระบวนการสงั เคราะห์ โปรตีนหน้าท่ีของ DNA และ RNA แต่ละชนิดในกระบวนการสังเคราะห์โปรตีนความสัมพันธ์ระหว่างสาร พันธุกรรม แอลลีลโปรตีน ลักษณะทางพันธุกรรม และความเชื่อมโยงกับความรู้เรื่องพันธุศาสตร์เมนเดล การเกิดมิวเทชันระดับยีนและมิวเทชันระดับโครโมโซม สาเหตุการเกิดมิวเทชันโรคและกลุ่มอาการท่ีเป็นผล ของการเกิดมิวเทชัน หลักการสร้างส่ิงมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมโดยใช้ดีเอ็นเอรีคอมบิแนนท์การนําเทคโนโลยี ทางดีเอ็นเอไปประยุกต์ในด้านสิ่งแวดล้อม นิติวิทยาศาสตร์ การแพทย์การเกษตร และอุตสาหกรรม ข้อควร คํานึงถึงด้านชีวจริยธรรมในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐานที่สนับสนุนและข้อมูลที่ใช้อธิบาย การเกิดวิวัฒนาการของส่ิงมีชีวิต แนวคิดเก่ียวกบั วิวัฒนาการของส่ิงมีชีวิต ซองลามาร์กทฤษฎีเก่ียวกับวิวัฒนาการ ของส่ิงมีชีวิตของชาลส์ดาร์วิน หลักการของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก และเงื่อนไขของภาวะสมดุลของฮารด์ ี-ไวน์เบิร์ก ปัจจัย ที่ทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความถ่ีของแอลลีลในประชากร การหาความถ่ีของแอลลีลและจีโนไทป์ของประชากร โดยใชห้ ลักการของฮารด์ ี-ไวนเ์ บริ ก์ กระบวนการเกิดสปีชสี ์ใหมข่ องส่ิงมชี วี ิต โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจมีทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมท้ังทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตน มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรมและคา่ นิยมทีเ่ หมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. สบื ค้นข้อมลู อธบิ ายและสรุปผลการทดลองของเมนเดล 2. อธิบายและสรปุ กฎแห่งการแยกและกฎแห่งการรวมกลมุ่ อย่างอสิ ระ และนํากฎของเมนเดลไป อธบิ ายการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมและใช้ในการคาํ นวณโอกาสในการเกดิ ฟโี นไทปแ์ ละ จีโนไทป์แบบต่าง ๆ ของรุ่น F1 และ F2 3. สืบค้นขอ้ มูล วเิ คราะห์ อธิบาย และสรุปเก่ยี วกบั การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรมทเ่ี ปน็ ส่วน ขยายของพันธุศาสตรเ์ มนเดล 4. สืบคน้ ข้อมูล วเิ คราะห์ และเปรียบเทียบลกั ษณะทางพันธกุ รรมท่ีมกี ารแปรผันไม่ตอ่ เนอ่ื งและ ลักษณะทางพันธุกรรมทม่ี กี ารแปรผันต่อเนอ่ื ง 5. อธบิ ายการถา่ ยทอดยนี บนโครโมโซม พร้อมทง้ั ยกตัวอย่างลักษณะทางพันธุกรรมทีถ่ ูกควบคุม ดว้ ยยนี บนออโตโซมและยนี บนโครโมโซมเพศ

หน้า 172 6. สืบค้นขอ้ มูล อธิบายสมบัติและหนา้ ทีข่ องสารพันธกุ รรม โครงสรา้ งและองคป์ ระกอบทางเคมี ของ DNA และสรปุ การจาํ ลอง DNA 7. อธบิ ายและระบุขัน้ ตอนในกระบวนการสังเคราะหโ์ ปรตนี และหน้าทขี่ อง DNA และ RNA แต่ ละชนดิ ในกระบวนการสังเคราะหโ์ ปรตนี 8. สรุปความสัมพันธ์ระหวา่ งสารพนั ธุกรรม แอลลลี โปรตีน ลักษณะทางพันธกุ รรม และเช่อื มโยง กับความรู้เรอ่ื งพันธศุ าสตร์เมนเดล 9. สืบคน้ ขอ้ มูล อธบิ ายการเกิดมวิ เทชนั ระดบั ยนี และระดับโครโมโซม สาเหตุการเกิดมิวเทชัน รวมทงั้ ยกตวั อย่างโรคและกลุ่มอาการทเี่ ป็นผลของการเกดิ มิวเทชัน 10. อธิบายหลกั การสร้างส่ิงมีชีวติ ดดั แปรพันธกุ รรมโดยใชด้ ีเอน็ เอรคี อมบแิ นนท์ 11. สืบค้นขอ้ มูล ยกตวั อย่าง และอภปิ รายการนําเทคโนโลยที างดีเอน็ เอไปประยุกต์ ทงั้ ในด้าน สงิ่ แวดลอ้ มนติ วิ ทิ ยาศาสตร์ การแพทย์ การเกษตรและอตุ สาหกรรม และข้อควรคาํ นงึ ถึงดา้ น ชวี จรยิ ธรรม 12. สบื ค้นข้อมูล และอธบิ ายเกี่ยวกับหลักฐานท่ีสนับสนุนและข้อมูลท่ีใช้อธบิ ายการเกดิ ววิ ฒั นาการ ของส่ิงมชี วี ติ 13. อธบิ ายและเปรยี บเทียบแนวคดิ เกยี่ วกับววิ ฒั นาการของสิง่ มีชีวิตของซอง ลามาร์กและทฤษฎี เก่ยี วกับวิวฒั นาการของส่ิงมีชีวติ ของชาลสด์ ารว์ ิน 14. ระบสุ าระสําคญั และอธบิ ายเงือ่ นไขของภาวะสมดลุ ของฮาร์ดี-ไวนเ์ บิร์ก ปจั จยั ท่ที ําให้เกิดการ เปล่ียนแปลงความถ่ีของแอลลีลในประชากรพร้อมท้ัง คํานวณหาความถี่ของแอลลลี และจโี นไทป์ ของประชากรโดยใชห้ ลกั การของฮารด์ ี-ไวนเ์ บิร์ก 15. สืบคน้ ข้อมลู อภิปราย และอธิบายกระบวนการเกดิ สปชี ีส์ใหมข่ องสิ่งมชี วี ิต รวมท้ังหมด 15 ผลการเรยี นรู้

หนา้ 173 รายวชิ าเพิม่ เตมิ ว32243 ชีววทิ ยา 3 กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 60 ชัว่ โมง จํานวน 15 หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา วิเคราะห์ ชนิดและลักษณะของเนื้อเยื่อพืช โครงสร้างภายในของรากพืชใบเล้ียงเด่ียวและราก พืชใบเล้ียงคู่ จากการตัดตามขวางโครงสร้างภายในของลําต้นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวและลําต้นพืชใบเลี้ยงคู่จากการ ตัดตามขวางโครงสร้างภายในของใบพืช จากการตัดตามขวางชนิดและหน้าที่ของใบที่เปล่ียนแปลงไปทําหน้าท่ี พิเศษ กลไกการเปิดปิดปากใบ การแลกเปล่ียนแก๊สและการคายนํ้ากลไกการลําเลียงน้ําและธาตุ อาหารของพืช ความสําคัญของธาตุอาหารท่ีมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช ตัวอย่างธาตุอาหารที่สําคัญที่มีผลต่อการเจริญเติบโต ของพืช กลไกการลําเลียงอาหารในพืชการศึกษาที่ได้จากการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ ในอดีตเกี่ยวกับ กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ข้ันตอนที่เกิดข้ึนในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช C3 กลไกการตรึง คารบ์ อนไดออกไซด์ในพืช C4 และพืช CAM ปัจจัยที่มีผลต่อการสงั เคราะห์ด้วยแสงของพืช วัฏจักรชีวิตแบบสลบั ของพืชดอก กระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ และเซลล์สืบพันธุ์เพศเมียของพืชดอก การปฏิสนธิในพืชดอก การเกิดเมล็ดและการเกิดผลโครงสร้างของเมล็ดและผลการเกิดผลเดี่ยว ผลกลุ่ม และผลรวมประโยชน์จาก โครงสร้างต่างๆ ของเมล็ด และผลปัจจัยที่มีผลต่อการงอกของเมล็ดสภาพพักตัวของเมล็ด และแนวทางใน การแก้ไขบทบาทและหน้าที่ของออกซิน ไซโทไคนินจิบเบอเรลลิน เอทิลีนและกรดแอบไซซิก การนําข้อมูล เก่ียวกับสารเคมีสังเคราะห์ที่มีสมบัติเหมือนกับสารควบคุมการเจริญเติบโตที่พืชสร้างข้ึนมาใช้ประโยชน์ทาง การเกษตร สิ่งเรา้ ภายนอกทีม่ ผี ลต่อการเจริญเตบิ โตของพืช โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจมีทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมทั้งทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถสื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตน มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและค่านิยมทเ่ี หมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. อธิบายเกีย่ วกบั ชนดิ และลักษณะของเนอ้ื เย่ือพืช และเขยี นแผนผงั เพ่อื สรุปชนิดของเน้ือเยื่อพชื 2. สงั เกต อธบิ าย และเปรยี บเทียบโครงสร้างภายในของรากพืชใบเลี้ยงเดี่ยวและรากพืชใบเลีย้ งคู่ จากการตดั ตามขวาง 3. สังเกต อธบิ าย และเปรียบเทียบโครงสร้างภายในของลาํ ต้นพืชใบเล้ยี งเด่ียวและลาํ ต้นพืชใบ เล้ยี งคู่จากการตัดตามขวาง 4. สงั เกต และอธิบาย โครงสร้างภายในของใบพืชจากการตดั ตามขวาง 5. สบื ค้นข้อมูล สังเกต และอธิบายการแลกเปล่ยี นแกส๊ และการคายนํ้าของพืช 6. สืบค้นข้อมูลและอธิบายกลไกการลาํ เลียงนา้ํ และธาตุอาหารของพชื 7. สืบค้นขอ้ มูล อธบิ ายความสาํ คัญของธาตอุ าหาร และยกตวั อยา่ งธาตุอาหารทส่ี ําคญั ทม่ี ีผลตอ่ การเจริญเติบโตของพชื 8. อธบิ ายกลไกการลาํ เลียงอาหารในพชื 9. สืบค้นขอ้ มลู และสรุปการศึกษาท่ไี ดจ้ ากการทดลองของนักวทิ ยาศาสตร์ในอดตี เก่ยี วกับ กระบวนการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง

หนา้ 174 10. อธบิ ายขั้นตอนทเี่ กิดข้ึนในกระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพชื C3 11. เปรียบเทียบกลไกการตรงึ คารบ์ อนไดออกไซด์ในพชื C3 พืช C4 และพืช CAM 12. สืบคน้ ข้อมลู อภิปรายและสรุปปจั จยั ความเข้มของแสง ความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ และอุณหภมู ิ ที่มีผลต่อการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพืช 13. อธิบายวัฏจักรชีวิตแบบสลับของพชื ดอก 14. อธิบายและเปรียบเทียบกระบวนการสรา้ งเซลล์สืบพนั ธุเ์ พศผูแ้ ละเพศเมียของพชื ดอกและ อธบิ ายการปฏิสนธิของพชื ดอก 15. อธบิ ายการเกดิ เมล็ดและการเกดิ ผลของพชื ดอก โครงสรา้ งของเมลด็ และผล และยกตัวอยา่ ง การใช้ประโยชนจ์ ากโครงสรา้ งตา่ งๆ ของเมล็ดและผล 16. ทดลอง อธิบาย และอภปิ รายเก่ยี วกบั ปจั จยั ต่าง ๆ ท่ีมีผลต่อการงอกของเมลด็ สภาพพักตวั ของเมลด็ และบอกแนวทางในการแกส้ ภาพพกั ตวั ของเมลด็ 17. สืบค้นขอ้ มูล อธิบายบทบาทและหนา้ ท่ีของออกซิน ไซโทไคนนิ จิบเบอเรลลนิ เอทลิ นี และ กรดแอบไซซกิ และอภิปรายเก่ยี วกบั การนาํ ไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตร 18. สืบคน้ ข้อมลู ทดลอง และอภปิ รายเกย่ี วกบั สงิ่ เรา้ ภายนอกทม่ี ผี ลตอ่ การเจริญเตบิ โตของพืช รวมทั้งหมด 18 ผลการเรยี นรู้

หน้า 175 รายวิชาเพ่มิ เตมิ ว32244 ชวี วทิ ยา 4 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 60 ชัว่ โมง จาํ นวน 15 หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา วิเคราะห์โครงสร้างและกระบวนการย่อยอาหารของสัตว์ท่ีไม่มีทางเดินอาหาร สัตว์ที่มีทางเดิน อาหารแบบไม่สมบูรณ์ และสัตว์ที่มีทางเดินอาหารแบบสมบูรณ์การกินอาหารของไฮดรา และพลานาเรีย โครงสร้างและหน้าท่ีของอวัยวะในระบบย่อยอาหารของมนุษย์ กระบวนการย่อยอาหารและการดูดซึมสาร อาหารภายในระบบย่อยอาหารของมนุษย์ โครงสร้างท่ีทําหน้าท่ีแลกเปลี่ยนแก๊สของฟองน้ําไฮดรา พลานาเรีย ไส้เดือนดิน แมลงปลา กบ และนกโครงสร้างของปอดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ํานม โครงสร้าง ที่ใช้ในการแลกเปล่ียน แก๊ส และกระบวนการแลกเปลี่ยนแก๊สของมนุษย์การทํางานของปอด และการวัดปริมาตรของอากาศในการ หายใจออกของมนุษย์ ระบบหมุนเวียนเลือดแบบเปิด และระบบหมุนเวียนเลือดแบบปิด ทิศทางการไหลของ เลือดและการเคล่ือนท่ีของเซลล์เม็ดเลือดในหลอดเลือด ขนาดตา่ งๆของหางปลา ความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของ หลอดเลือดกับความเร็วในการไหลของเลือด โครงสร้างและการทํางานของหัวใจและหลอดเลือดในมนุษย์ โครงสร้างหัวใจของสตั วเ์ ลี้ยงลูกด้วยนํ้านม ทิศทางการไหลของเลือดผ่านบริเวณหวั ใจของมนุษยแ์ ละการหมุนเวยี น เลือดในร่างกายมนุษย์ ความแตกต่างของเซลล์เม็ดเลือดแดงเซลล์เม็ดเลือดขาว เพลตเลตและพลาสมา หมู่เลือด ระบบ ABO และระบบ Rh หลักการให้และรับเลือดในระบบ ABO และระบบ Rh ส่วนประกอบและหน้าที่ ของนํ้าเหลืองโครงสร้างและหน้าท่ีของหลอดนํ้าเหลืองและต่อมนํ้าเหลือง กลไกการต่อต้านหรือทําลาย ส่ิงแปลกปลอมแบบไม่จําเพาะ และแบบจําเพาะภูมิคุ้มกันก่อเองและภูมิคุ้มกันรับมาวัคซีน ทอกซอยด์และซี รัมสําหรับโรคหรืออาการต่างๆ ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่ทําให้เกิดเอดส์ ภูมิแพ้ และการสร้าง ภูมิ ต้านทานต่อเน้ือเย่ือตนเอง โครงสร้างและหน้าท่ีใน การกําจัดของเสียออกจากร่างกาย ในฟองนํ้าไฮดรา พลา นาเรียไส้เดือนดิน แมลง และสัตว์มีกระดูกสันหลังโครงสร้างและหน้าท่ีของไต โครงสร้างที่ใช้ลําเลียงปัสสาวะออก จากร่างกาย กลไกการทํางานของหน่วยไตในการกําจัดของเสียออกจากร่างกาย ขั้นตอนการกําจดั ของเสียออก จากร่างกาย โดยหน่วยไตความผดิ ปกตขิ องไตอันเนือ่ งมาจากโรคต่าง ๆ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจมีทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมทั้งทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและคา่ นยิ มท่ีเหมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. สบื คน้ ข้อมลู อธบิ าย และเปรยี บเทยี บเกยี่ วกบั โครงสร้างและกระบวนการย่อยอาหารของสัตว์ ทไี่ ม่มีทางเดินอาหาร สตั วท์ ีม่ ีทางเดินอาหารแบบไม่สมบูรณแ์ ละสตั ว์ท่ีมีทางเดนิ อาหารแบบ สมบรู ณ์ 2. สงั เกต อธบิ าย การกินอาหารของไฮดราและพลานาเรยี 3. อธบิ ายเกยี่ วกับโครงสรา้ ง หน้าที่ และกระบวนการย่อยอาหาร และการดดู ซมึ สารอาหาร ภายในระบบยอ่ ยอาหารของมนษุ ย์ 4. สืบค้นขอ้ มูล อธบิ าย และเปรยี บเทียบโครงสร้างที่ทาํ หนา้ ทแี่ ลกเปล่ียนแกส๊ ของฟองน้ําไฮดรา พลานาเรีย ไส้เดอื นดิน แมลง ปลา กบ และนก

หน้า 176 5. สังเกต และอธบิ ายโครงสร้างของปอดในสตั ว์เลีย้ งลูกดว้ ยน้าํ นม 6. อธิบายโครงสร้างทีใ่ ช้ในการแลกเปลี่ยนแก๊สและกระบวนการแลกเปล่ยี นแกส๊ ของมนุษย์ 7. อธบิ ายการทาํ งานของปอด และทดลองวดั ปรมิ าตรของอากาศในการหายใจออกของมนุษย์ 8. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรยี บเทยี บระบบหมุนเวยี นเลอื ดแบบเปิดและระบบหมนุ เวียนเลอื ด แบบปิด 9. สังเกตและอธิบายทิศทางการไหลของเลอื ดและการเคลือ่ นทข่ี องเซลล์เม็ดเลือดในหางปลา และสรุปความสมั พันธร์ ะหวา่ งขนาดของหลอดเลือดกับความเร็วการไหลของเลอื ด 10. อธิบายโครงสร้างและการทํางานของหัวใจและหลอดเลือดในมนุษย์ 11. สังเกตและอธบิ ายโครงสร้างหัวใจของสัตว์เลย้ี งลกู ดว้ ยนา้ํ นม ทิศทางการไหลของเลือดผา่ น หัวใจของมนุษยแ์ ละเขยี นแผนผังสรปุ การหมุนเวียนเลือดของมนุษย์ 12. สบื ค้นข้อมูล ระบุความแตกต่างของเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เมด็ เลือดขาว เพลตเลตและ พลาสมา 13. อธิบายหมู่เลอื ด และหลักการให้และรับเลือดในระบบ ABO และระบบ Rh 14. อธิบาย และสรุปเกย่ี วกบั ส่วนประกอบและหน้าทข่ี องนํ้าเหลอื ง รวมทั้งโครงสรา้ งและหน้าที่ ของหลอดนํ้าเหลือง และตอ่ มน้าํ เหลือง 15. สืบค้นขอ้ มลู อธิบาย และเปรยี บเทียบกลไกการตอ่ ตา้ นหรอื ทาํ ลายสิง่ แปลกปลอมแบบไม่ จําเพาะและแบบจาํ เพาะ 16. สืบคน้ ขอ้ มลู อธบิ าย และเปรียบเทยี บการสร้างภูมคิ ้มุ กันก่อเองและภมู ิคมุ้ กนั รบั มา 17. สบื คน้ ข้อมลู และอธิบายเก่ยี วกับความผดิ ปกตขิ องระบบภูมคิ ้มุ กันที่ทาํ ให้เกิดเอดส์ ภมู ิแพ้ การสร้างภมู ติ ้านทานตอ่ เน้ือเยอ่ื ตนเอง 18. สืบค้นข้อมลู อธิบาย และเปรียบเทยี บโครงสร้างและหนา้ ที่ในการกาํ จดั ของเสยี ออกจาก ร่างกายของฟองน้าํ ไฮดรา พลานาเรยี ไส้เดอื นดิน แมลงและสตั ว์มกี ระดูกสันหลงั 19. อธบิ ายโครงสรา้ งและหน้าทีข่ องไต และโครงสร้างทีใ่ ช้ลาํ เลยี งปสั สาวะออกจากรา่ งกาย 20. อธบิ ายกลไกการทํางานของหน่วยไตในการกําจดั ของเสียออกจากร่างกาย และเขียนแผนผัง สรปุ ขนั้ ตอนการกําจดั ของเสยี ออกจากร่างกายโดยหนว่ ยไต 21. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบาย และยกตวั อยา่ งเกยี่ วกับความผดิ ปกติของไตอนั เนอื่ งมาจากโรคต่างๆ รวมทั้งหมด 21 ผลการเรียนรู้

หนา้ 177 รายวิชาเพม่ิ เตมิ ว33245 ชีววิทยา 5 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 60 ช่วั โมง จํานวน 1.5 หน่วยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษา อธิบายและวิเคราะห์โครงสร้างและหน้าท่ีของระบบประสาทขอไฮดรา พลานาเรยี ไส้เดือนดิน กุ้ง หอย แมลง และสัตว์มีกระดูกสันหลัง โครงสร้างและหน้าท่ีของเซลล์ประสาทการเปลี่ยนแปลงของศักย์ไฟฟ้าท่ี เยื่อหุ้มเซลล์ของเซลล์ประสาท และกลไกการถ่ายทอดกระแสประสาท โครงสร้างของระบบประสาทส่วนกลาง และระบบประสาทรอบนอก โครงสร้างและหน้าท่ีของส่วนต่างๆ ในสมองส่วนหน้า สมอง ส่วนกลาง สมองส่วน หลังและไขสันหลัง การทํางานของระบบประสาทโซมาติกและระบบประสาทอัตโนวัติ โครงสร้างและหน้าที่ของ ตา หู จมูก ลนิ้ และผิวหนังของมนุษย์ โครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะท่ีเก่ียวข้องกับการเคลื่อนท่ีของแมงกะพรนุ หมึก ดาวทะเล ไส้เดือนดิน แมลง ปลาและนก โครงสร้างและหน้าที่ของกระดูกและกล้ามเน้ือท่ีเกี่ยวข้องกับ การเคล่ือนไหวและการเคล่ือนท่ีของมนุษย์ การทํางานของข้อต่อชนิดตา่ ง ๆ และการทํางานของกล้ามเนื้อโครง ร่างที่เก่ียวข้องกับการเคล่ือนไหวและการเคล่ือนท่ีของมนุษย์ หน้าที่ ของฮอร์โมนจากต่อมไร้ท่อและเนื้อเยื่อที่ สร้างฮอร์โมน การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศและการสืบพันธ์ุแบบอาศัยเพศในสัตว์ โครงสร้างและหน้าท่ีของ อวัยวะในระบบสืบพันธ์ุเพศชายและระบบสืบพันธ์ุเพศหญิง กระบวนการสร้างสเปิร์ม กระบวนการสร้างเซลล์ไข่ และการปฏิสนธิในมนุษย์ การเจริญเติบโตระยะเอ็มบริโอและระยะหลังเอ็มบริโอของกบ ไกแ่ ละมนุษย์ พฤติกรรม ท่ีเป็นมาแต่กําเนิดและพฤติกรรมที่เกิดจากการเรียนรู้ของสัตว์ ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมกับวิวัฒนาการ ของระบบประสาท การสอ่ื สารระหวา่ งสัตวท์ ท่ี าํ ใหส้ ัตว์แสดงพฤติกรรม โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจมีทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมท้ังทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรมและคา่ นิยมทเี่ หมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. สืบค้นขอ้ มลู อธบิ าย และเปรยี บเทียบโครงสรา้ งและหน้าท่ขี องระบบประสาทขอไฮดรา พลานาเรยี ไส้เดือนดิน กงุ้ หอย แมลง และสตั วม์ ีกระดกู สนั หลัง 2. อธิบายเกี่ยวกบั โครงสรา้ งและหนา้ ทีข่ องเซลลป์ ระสาท 3. อธิบายเกยี่ วกบั การเปลีย่ นแปลงของศกั ย์ไฟฟ้าทเ่ี ย่ือหมุ้ เซลลข์ องเซลลป์ ระสาทและกลไก การถา่ ยทอดกระแสประสาท 4. อธิบายและสรปุ เกีย่ วกับโครงสรา้ งของระบบประสาทส่วนกลางและระบบประสาทรอบนอก 5. สบื ค้นข้อมลู อธบิ ายโครงสร้างและหนา้ ที่ของส่วนตา่ งๆ ในสมองส่วนหน้า สมองสว่ นกลาง สมองส่วนหลงั และไขสันหลงั 6. สบื ค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และยกตวั อยา่ งการทํางานของระบบประสาทโซมาติกและ ระบบประสาทอัตโนวัติ 7. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างและหนา้ ที่ของ ตา หู จมูก ล้ินและผิวหนงั ของมนุษย์ ยกตัวอย่าง โรคต่างๆ ที่เกี่ยวขอ้ ง และบอกแนวทางในการดูแลปอ้ งกนั และรักษา

หน้า 178 8. สังเกตและอธิบายการหาตาํ แหน่งของจดุ บอดและโฟเวยี ของตา และความไวในการรับสมั ผสั ของผวิ หนัง 9. สบื คน้ ขอ้ มูล อธิบาย และเปรยี บเทยี บโครงสรา้ งและหนา้ ท่ขี องอวัยวะท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั การ 10. อธบิ ายโครงสรา้ งและหนา้ ทีข่ องกระดกู และกลา้ มเนื้อทเี่ กี่ยวขอ้ งกับการเคลื่อนไหวและการ เคลอ่ื นท่ขี องมนษุ ย์ 11. สังเกตและอธบิ ายการทาํ งานของขอ้ ต่อชนิดต่าง ๆ และการทํางานของกลา้ มเนือ้ โครงรา่ งที่ เกย่ี วข้องกบั การเคลื่อนไหวและการเคล่อื นที่ของมนุษย์ 12. สบื คน้ ข้อมูล อธบิ าย และยกตวั อย่างการสบื พันธ์แุ บบไม่อาศยั เพศและการสืบพันธแุ์ บบอาศัย เพศในสตั ว์ 13. สบื คน้ ขอ้ มูล อธบิ ายโครงสรา้ งและหน้าท่ขี องอวัยวะในระบบสบื พันธ์ุเพศชายและระบบ สืบพนั ธุ์เพศหญิง 14. อธิบายกระบวนการสรา้ งสเปิร์ม กระบวนการสร้างเซลล์ไข่ และการปฏสิ นธิในมนษุ ย์ 15. อธิบายการเจรญิ เตบิ โตระยะเอ็มบรโิ อและระยะหลังเอม็ บรโิ อของกบ ไก่ และมนษุ ย์ 16. สบื คน้ ข้อมลู และอธิบายหนา้ ท่ขี องฮอรโ์ มนจากตอ่ มไร้ท่อและเน้ือเยอ่ื ที่สรา้ งฮอรโ์ มน 17. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบาย เปรียบเทียบ และยกตวั อยา่ งพฤติกรรมท่เี ปน็ มาแต่กาํ เนิดและ พฤติกรรมทีเ่ กิดจากการเรยี นรขู้ องสตั ว์ 18. สืบค้นข้อมูล อธบิ ายและยกตวั อย่างความสัมพนั ธร์ ะหว่างพฤตกิ รรมกบั วิวฒั นาการของระบบ ประสาท 19. สบื ค้นข้อมลู อธิบายและยกตัวอยา่ งการสือ่ สารระหว่างสัตว์ที่ทําใหส้ ตั วแ์ สดงพฤติกรรม รวมทั้งหมด 19 ผลการเรียนรู้

หน้า 179 รายวชิ าเพมิ่ เตมิ ว33246 ชวี วิทยา 6 กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 60 ชว่ั โมง จํานวน 1.5 หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา อธิบายและวิเคราะห์ความสําคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ และความเช่ือมโยงระหว่าง ความหลากหลายทางพันธุกรรม ความหลากหลายของสปีชีส์ และความหลากหลายของระบบนิเวศ การเกิด เซลล์เร่ิมแรกของส่ิงมีชีวิต และวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว ส่ิงมีชีวิตกลุ่มแบคทีเรีย กลุ่มโพรทิสต์ กลุ่ม พืช สิ่งมีชีวิต วิธีการเขียนช่ือวิทยาศาสตร์ในลําดับขั้นสปีชีส์ การถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศ การเกิดไบโอ แมกนิฟิเคชันวัฏจักรไนโตรเจน วัฏจักรกํามะถัน และวัฏจักรของไบโอมท่ีกระจายอยู่ตามเขตภูมิศาสตร์ต่างๆ บนโลกการเพ่มิ ของประชากรแบบเอ็กโพเนนเชยี ล และการเพ่ิมของประชากรแบบลอจสิ ติก มลพษิ ทางอากาศ และผลกระทบที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ผลกระทบที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ผลกระทบที่เกิดจาก การทําลายปา่ ไม้ผลกระทบท่ที ําให้สัตว์ปา่ มจี าํ นวนลดลง โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจมีทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมทั้งทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและคา่ นยิ มท่เี หมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. อภิปรายความสาํ คัญของความหลากหลายทางชวี ภาพ และความเชือ่ มโยงระหวา่ งความ หลากหลายทางพันธุกรรม ความหลากหลายของสปชี ีสแ์ ละความหลากหลายของระบบนเิ วศ 2. อธิบายการเกิดเซลลเ์ ร่ิมแรกของสง่ิ มีชีวิตและวิวฒั นาการของสงิ่ มชี วี ติ เซลลเ์ ดยี ว 3. อธบิ ายลกั ษณะสําคัญและยกตัวอยา่ งส่งิ มีชีวิตกลุ่มแบคทีเรีย สิ่งมชี ีวติ กลุ่มโพรทสิ ต์ สง่ิ มีชวี ติ กลมุ่ พชื สงิ่ มชี วี ิตกล่มุ ฟังไจและสงิ่ มชี วี ิตกลุ่มสัตว์ 4. อธบิ ายและยกตัวอย่างการจาํ แนกสิง่ มชี วี ติ จากหมวดหม่ใู หญจ่ นถึงหมวดหมยู่ อ่ ย และวธิ ีการ เขียนชอื่ วิทยาศาสตร์ในลําดบั ข้นั สปีชีส์ 5. สร้างไดโคโทมัสคียใ์ นการระบสุ ่ิงมชี วี ติ หรอื ตัวอยา่ งท่ีกําหนดออกเป็นหมวดหมู่ 6. วิเคราะห์ อธิบาย และยกตัวอยา่ งกระบวนการถา่ ยทอดพลังงานในระบบนิเวศ 7. อธิบาย ยกตวั อย่างการเกดิ ไบโอแมกนิฟเิ คชัน และบอกแนวทางในการลดการเกดิ ไบโอแมก นฟิ เิ คชัน 8. สบื ค้นข้อมูล และเขยี นแผนภาพเพอื่ อธบิ ายวฏั จักรไนโตรเจน วฏั จักรกําามะถัน และวัฏจักร ฟอสฟอรัส 9. สืบค้นข้อมลู ยกตวั อย่าง และอธบิ ายลกั ษณะของไบโอมท่กี ระจายอยู่ตามเขตภมู ศิ าสตร์ตา่ งๆ บนโลก 10. สบื คน้ ข้อมลู ยกตัวอยา่ ง อธิบาย และเปรียบเทยี บการเปลีย่ นแปลงแทนที่แบบปฐมภูมแิ ละ การเปลยี่ นแปลงแทนท่แี บบทุตยิ ภูมิ 11. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบาย ยกตวั อย่างและสรุปเก่ียวกับลกั ษณะเฉพาะของประชากรของสิ่งมีชวี ิต บางชนิด

หน้า 180 12. สืบค้นข้อมลู อธบิ าย เปรียบเทียบ และยกตัวอยา่ งการเพิ่มของประชากรแบบเอ็กโพเนน เชยี ลและการเพม่ิ ของประชากรแบบลอจิสติก 13. อธิบายและยกตัวอย่างปจั จยั ท่คี วบคุมการเติบโตของประชากร 14. วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหาการขาดแคลนนํา้ การเกิดมลพษิ ทางนาํ้ และผลกระทบ 15. วเิ คราะห์ อภิปราย และสรปุ ปญั หามลพษิ ทางอากาศ และผลกระทบที่มีตอ่ มนษุ ย์และ สง่ิ แวดลอ้ ม รวมทง้ั เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา 16. วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปญั หาทเ่ี กดิ กบั ทรพั ยากรดิน และผลกระทบท่มี ตี อ่ มนษุ ย์และ สิ่งแวดล้อม รวมทง้ั เสนอแนวทางการแกไ้ ขปัญหา 17. วเิ คราะห์ อภปิ ราย และสรุปปญั หา ผลกระทบทีเ่ กิดจากการทําลายป่าไม้ รวมทั้งเสนอ แนวทางในการป้องกันการทําลายป่าไม้และการอนรุ กั ษ์ปา่ ไม 18. วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหาผลกระทบที่ทําให้สตั ว์ปา่ มจี าํ นวนลดลง และแนวทางใน การอนรุ ักษส์ ัตวป์ า่ รวมทัง้ หมด 18 ผลการเรียนรู้

หนา้ 181 ว31216 โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 รายวชิ าเพ่ิมเตมิ กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ช่วั โมง จาํ นวน 10 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาการแบง่ ช้ันและสมบตั ิของโครงสร้างโลก รอยต่อระหว่างชั้นโครงสร้างโลกพร้อมหลักฐานสนับสนนุ ศึกษาการเคล่ือนที่ของแผ่นธรณีตามทฤษฎีธรณีแปรสัณฐานพร้อมหลักฐานสนับสนุน ศกึ ษาสาเหตุและรูปแบบ แนวรอยต่อของแผ่นธรณีท่ีสัมพันธ์กับการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี และหลักฐานที่เป็นผลจากการเคล่ือนที่ของ แผ่นธรณี ศึกษาสาเหตุ กระวนการเกิดและผลจากการเกิดภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว และสึนามิ พร้อมแนวทาง การเฝ้าระวังและปฏบิ ัติตนให้ปลอดภัย รวมทั้งอธิบายลําดับเหตุการณท์ างธรณี วิทยาในอดีตจากการใช้หลักฐาน ท่ีพบในปัจจุบนั โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจมีทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมท้ังทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตน มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรมและค่านยิ มที่เหมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. อธิบายการแบง่ ช้นั และสมบัตขิ องโครงสร้างโลก พรอ้ มยกตวั อยา่ งข้อมูลท่ีสนับสนนุ 2. อธิบายหลกั ฐานทางธรณีวทิ ยาท่สี นบั สนนุ การเคลอ่ื นทอี่ งแผ่นธรณี 3. ระบสุ าเหตุ และอธบิ ายแนวรอยต่อของแผน่ ธรณีที่สัมพันธ์การเคลอ่ื นท่ีของแผ่นธรณีพร้อม ยกตัวอย่างหลกั ฐานทางธรณวี ทิ ยาที่พบ 4. วิเคราะห์หลกั ฐานทางธรณีวิทยาที่พบในปัจจุบันและอธบิ ายลําดับเหตุการณท์ างธรณีวิทยาในอดีต 5. อธบิ ายสาเหตุ กระบวนการเกิดภเู ขาไฟระเบดิ และปจั จยั ทที่ ําใหค้ วามรุนแรงของการปะทุและ รูปรา่ ง ของภเู ขาไฟแตกตา่ งกนั รวมทงั้ สืบคน้ ขอ้ มูลพนื้ ทีเ่ สยี่ งภัย ออกแบบและนําเสนอแนว ทางการเฝ้าระวงั และการปฏบิ ตั ติ นใหป้ ลอดภยั 6. อธบิ ายสาเหตุ กระบวนการเกิด ขนาดและความรนุ แรงและผลจากแผน่ ดนิ ไหว รวมท้ังสืบค้น ข้อมูลพน้ื ทเี่ สี่ยงภยั ออกแบบและนาํ เสนอแนวทางการเฝา้ ระวังและปฏิบัตติ นใหป้ ลอดภัย 7. อธบิ ายสาเหตุ กระบวนการเกดิ และผลจากสนึ ามิ รวมท้งั สบื คน้ ข้อมลู พ้นื ทเ่ี สี่ยงภัย ออกแบบ และนาํ เสนอแนวทางการเฝ้าระวังและการปฏิบัตติ นให้ปลอดภัย รวมทงั้ หมด 7 ผลการเรียนรู้

หน้า 182 ว31262 โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 2 รายวชิ าเพม่ิ เติม กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชัว่ โมง จํานวน 10 หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาการชนิดแร่และหิน สมบัติของแร่และหิน การจําแนกแร่ตามสมบัติของแร่ การจําแนกหินตามลั กษณะการเกิดและเน้ือหนิ และการใช้ประโยชนจ์ ากทรัพยากรแรแ่ ละหินที่เหมาะสม ศึกษากระบวนการเกิด และ การสํารวจแหล่งปิโตรเลียม และถ่านหินโดยใช้ความรู้พ้ืนฐานธรณีวิทยาด้านต่าง ๆ รวมท้ังวิธีการและเทคนิ คที่เหมาะสม เพ่ือนําทรัพยากรมาใช้ได้อย่างคุ้มค่าและย่ังยืน ศึกษาองค์ประกอบและการแปลความหมาย ของ แผนท่ีภูมิประเทศและแผนท่ีธรณีวิทยา พร้อมท้ังนําเสนอการนําข้อมูลจากแผนท่ีภูมิประเทศและแผนท่ี ธรณวี ทิ ยาไปใชป้ ระโยชน์ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจมีความสามารถในการตัดสินใจมีทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมทั้งทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและค่านยิ มท่ีเหมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. ตรวจสอบและระบชุ นดิ แร่ รวมทงั้ วเิ คราะหส์ มบตั แิ ละนาํ เสนอการใชป้ ระโยชน์จากทรัพยากร แรท่ ี่เหมาะสม 2. ตรวจสอบ จาํ แนกประเภทและระบชุ ือ่ หิน รวมทั้งวเิ คราะหส์ มบัติและนําเสนอการใช้ประโยชน์ ของทรัพยากรหนิ ที่เหมาะสม 3. อธิบายกระบวนการเกดิ และการสาํ รวจแหล่งปิโตรเลยี มและถ่านหินโดยใชข้ ้อมลู ทางธรณวี ทิ ยา 4. อธบิ ายสมบตั ขิ องผลิตภณั ฑท์ ีไ่ ดจ้ ากปโิ ตรเลียมและถ่านหนิ โดยใช้ข้อมูลทางธรณีวิทยา 5. อา่ นและแปลความหมายจากแผนที่ภูมปิ ระเทศ และแผนทีธ่ รณวี ทิ ยาของพืน้ ทที่ กี่ ําหนด พรอ้ ม ทงั้ อธิบายและยกตวั อย่างการนําไปใช้ประโยชน์ รวมทง้ั หมด 5 ผลการเรยี นรู้

หน้า 183 ว32263 โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 3 รายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ชัว่ โมง จํานวน 1.0 หน่วยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษากระบวนการที่ทําให้เกิดสมดุลพลังงานของโลก ปัจจัยที่ส่งผลต่อการรับรังสีดวงอาทิตย์ของ พ้ืนผิวโลก ปัจจัยท่ีส่งผลต่อการเคล่ือนท่ีและการหมุนเวียนของอากาศ การหมุนเวียนของอากาศตามเขต ละติจูดและผลท่ีมีต่อภูมิอากาศ ปัจจัยท่ีทําให้เกิดการแบ่งชั้นน้ําในมหาสมุทร ปัจจัยที่ทําให้เกิดการหมุนเวียน ของน้ําในมหาสมุทร และรูปแบบการหมุนเวียนองน้ําในมหาสมุทร ผลของการหมุนเวียนนํ้าในมหาสมุทรที่มี ตอ่ ลักษณะลมฟ้าอากาศ สิ่งมชี ีวิตและสง่ิ แวดล้อม โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจมีทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมท้ังทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตน มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและคา่ นิยมทเี่ หมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. อธบิ ายปจั จัยสาํ คญั ทมี่ ีผลตอ่ การรับและคายพลงั งานจากดวงอาทิตย์แตกตา่ งกนั และผลทม่ี ี ต่ออณุ หภูมอิ ากาศในแตล่ ะบริเวณของโลก 2. อธิบายกระบวนการที่ทําใหเ้ กดิ สมดลุ พลังงานของโลก 3. อธิบายผลของแรงเน่ืองจากความแตกต่างของความกดอากาศ แรงคอรอิ อลิส แรงส่ศู นู ยก์ ลาง และแรงเสยี ดทานทม่ี ตี ่อการหมุนเวียนองอากาศ 4. อธิบายการหมุนเวยี นของอากาศตามเขตละติจดู และผลที่มีตอ่ ภูมิอากาศ 5. อธิบายปจั จยั ทีท่ ําให้เกิดการแบง่ ชน้ั นํ้าในมหาสมทุ ร 6. อธบิ ายปัจจยั ทท่ี ําใหเ้ กิดการหมนุ เวียนของน้าํ ในมหาสมุทรและรปู แบบการหมุนเวียนของนา้ํ ใน มหาสมทุ ร 7. อธิบายผลของการหมุนเวยี นของนํา้ ในมหาสมทุ รที่มตี ่อลักษณะลมฟา้ อากาศ สิ่งมีชวี ิต สง่ิ แวดล้อม รวมท้ังหมด 7 ผลการเรียนรู้

หน้า 184 ว32264 โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 4 รายวิชาเพ่มิ เตมิ กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จํานวน 10 หน่วยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาเสถียรภาพอากาศและการเกิดเมฆ กลไกการยกตัวของอากาศกับการเกิดเมฆ การเกิดแนวปะทะ อากาศแบบต่าง ๆ และลักษณะลมฟ้าอากาศที่เกี่ยวข้อง ปัจจัยท่ีมีผลต่อการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศของโลกและ ข้อมูลสนับสนุน ผลจากการเปลย่ี นแปลงภูมิอากาศและแนวปฏิบัติของมนุษยท์ ่ีมสี ่วนช่วยชะลอ การเปล่ียนแปลง ภูมิอากาศโลก การแปลความหมายสัญลักษณ์ลมฟ้าอากาศบนแผนที่อากาศ ภาพถ่ายดาวเทียมและข้อมูล เรดาร์ตรวจอากาศ การคาดการณ์ลักษณะลมฟ้าอากาศเบ้ืองต้นจากข้อมูลสารสนเทศทางอุตุนิยมวิทยาเพ่ือ วางแผนในการประกอบอาชีพ และการดําเนินชีวติ ให้สอดคล้องกับสภาพลมฟ้าอากาศ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจมีทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมท้ังทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตน มจี ิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรมและค่านิยมที่เหมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความสัมพนั ธ์ระหว่างสเถยี รภาพอากาศและการเกดิ เมฆ 2. อธิบายการเกดิ แนวปะทะอากาศแบบต่าง ๆ และลักษณะมฟ้าอากาศทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง 3. อธบิ ายปัจจัยตา่ งๆ ท่ีมีผลต่อการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศองโลก พรอ้ มยกตวั อยา่ งข้อมูลสนับสนนุ 4. วเิ คราะห์ และอภิปรายเหตุการณท์ ีเ่ ปน็ ผลจากการเปลยี่ นแปลงภูมอิ ากาศ และนําเสนอแนว ปฏบิ ตั ิของมนษุ ย์ทีม่ สี ่วนช่วยชะลอการเปลีย่ นแปลงภูมิอากาศโลก 5. แปลความหมายสญั ลักษณ์ลมฟ้าอากาศบนแผนท่อี ากาศ 6. วิเคราะห์ และคาดการณล์ กั ษณะลมฟา้ อากาศเบื้องตน้ จากแผนท่ีอากาศและขอ้ มลู สารสนเทศ เพื่อวางแผนในการประกอบอาชีพและการดาํ เนินชวี ิตให้สอดคล้องกับสภาพลมฟ้าอากาศ รวมท้งั หมด 6 ผลการเรยี นรู้

หน้า 185 ว33265 โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 5 รายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ชว่ั โมง จํานวน 10 หน่วยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาสัมพันธ์ของส่ิงต่าง ๆ ที่อยู่ในเอกภพ โดยทําความเข้าใจเกี่ยวกับกําเนิดวิวัฒนาการของเอกภพ และหลักฐานท่ีสนับสนุนทฤษฎีบิกแบง โครงสร้าง องค์ประกอบของกาแล็กซีทางช้างเผือก ตําแหน่งของระบบ สุริยะและการสังเกตเห็นทางช้างเผือก กระบวนการเกิดวิวัฒนาการ การสร้างพลังงานและสมบัติของดาวฤกษ์ กระบวนการเกิดระบบสุริยะ การแบ่งเขตบริวารของดวงอาทิตย์ ลักษณะของดาวเคราะห์ที่เอื้อต่อการดํารง ชีวิตและการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์โครงสร้างของดวงอาทิตย์ การเกิดลมสุริยะ พายุสุริยะและ ปรากฏการณ์หรือเหตุการณ์ที่เก่ียวข้องกับผลของลมสุริยะและพายุสุริยะ และเทคโนโลยีอวกาศกับการพัฒนา คุณภาพชีวติ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจมีทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมท้ังทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตน มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและคา่ นิยมที่เหมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. อธบิ ายการกําเนิดและการเปลีย่ นแปลงพลงั งาน สสาร ขนาด อุณหภูมิของเอกภพหลังเกดิ บกิ แบง ในช่วงเวลาตา่ ง ๆ ตามววิ ฒั นาการของเอกภพ 2. อธิบายหลกั ฐานทสี่ นับสนุนทฤษฎีบิกแบง จากความสัมพันธร์ ะหวา่ งความเร็วกบั ระยะทางของ กาแล็กซี รวมทัง้ ข้อมลู การคน้ พบไมโครเวฟพืน้ หลงั จากอวกาศ 3. อธบิ ายโครงสร้างและองค์ประกอบของกาแลก็ ซที่ างชา้ งเผอื ก และระบุตําแหนง่ ของระบบ สุรยิ ะพรอ้ มอธบิ ายเชื่อมโยงกบั การสงั เกตเหน็ ทางช้างเผือกของคนบนโลก 4. อธบิ ายกระบวนการเกิดดาวกฤษ์ โดยแสดงการเปล่ียนแปลงความดัน อุณหภูมิ ขนาด จาก ดาวฤกษก์ ่อนเกิดจนเปน็ ดาวฤกษ์ 5. อธบิ ายกระบวนการสร้างพลังงานของดาวฤกษแ์ ละผลทเ่ี กดิ ขนึ้ โดยวิเคราะหป์ ฏิกิริยาลกู โซ่ โปรตอน-โปรตอน และวฏั จกั รคาร์บอน ไนโตรเจน ออกซิเจน 6. ระบุปัจจัยทสี่ ง่ ผลตอ่ ความส่องสวา่ งของดาวฤกษ์ และอธบิ ายความสัมพันธร์ ะหวา่ งความส่อง สว่างกับโชตมิ าตรของดาวฤกษ์ 7. อธิบายความสมั พันธ์ระหว่างสี อุณหภมู ิผิว และสเปกตรัมองดาวฤกษ์ 8. อธิบายวิธีการหาระยะทางของดาวฤกษด์ ้วยหลกั การแพรลั แลกซ์ พรอ้ มคาํ นวณหาระยะทาง ของดาวฤกษ์ 9. อธิบายลําดบั วิวฒั นาการทีส่ มั พันธก์ ับมวลต้ังต้น และวิเคราะหก์ ารเปล่ยี นแปลงสมบตั บิ าง ประการของดาวฤกษ์ในลําดับววิ ฒั นาการ จากแผนภาพเฮริ ์ซปรงุ - รสั เซลล์ 10. อธบิ ายกระบวนการเกดิ ระบบสุรยิ ะ การแบง่ เขตบรวิ ารของดวงอาทติ ย์ และลกั ษณะของ ดาวเคราะหท์ ่เี อื้อตอ่ การดํารงชวี ิต

หนา้ 186 11. อธบิ ายการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทติ ยด์ ว้ ยกฏเคพเลอร์ และกฎความโนม้ ถว่ งของ นวิ ตันพรอ้ มคาํ นวณคาบการโคจรของดาวเคราะห์ 12. อธิบายโครงสรา้ งของดวงอาทติ ย์ การเกดิ ลมสุริยะ พายุสุริยะ และวิเคราะห์ นําเสนอ ปรากฏการณ์หรอื เหตกุ ารณท์ ี่เกีย่ วข้องกับผลของลมสุรยิ ะ พายสุ ุริยะท่มี ีผลตอ่ โลกรวมทง้ั ประเทศไทย 13. สบื คน้ ขอ้ มูล อธบิ ายการสาํ รวจอวกาศโดยใชก้ ลอ้ งโทรทัศน์ในชว่ งความยาวคลืน่ ต่าง ๆ ดาวเทียมยานอวกาศ สถานีอวกาศ และนําเสนอแนวคดิ การนาํ ความรทู้ างดา้ นเทคโนโลยี อวกาศมาประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาํ วันหรือในอนาคต รวมท้งั หมด 13 ผลการเรียนรู้

หนา้ 187 รายวิชาเพมิ่ เตมิ ว33266 โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 6 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชว่ั โมง จาํ นวน 1.0 หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความสมั พนั ธข์ องดาราศาสตร์กับมนษุ ย์ โดยทําความเข้าใจเกี่ยวกับองค์ประกอบของทรงกลม ฟา้ การระบุพกิ ัดของดาวในระบบขอบฟ้าและระบบศนู ยส์ ตู ร เส้นทางการขึ้นการตกของดวงอาทิตย์และดาวฤกษ์ การกาํ หนดเวลาสรุ ิยคติ และตําแหนง่ ปรากฏของดาวเคราะหซ์ ึง่ สังเกตได้จากโลก โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจมีทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมท้ังทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตน มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและค่านยิ มท่ีเหมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. สร้างแบบจาํ ลองทรงกลมฟ้า สงั เกต และเชื่อมโยงจุดและเส้นสาํ คัญของแบบจาํ ลองทรงกลม ฟ้ากับทอ้ งฟ้าจริง และอธบิ ายการระบุพิกดั ของดาวในระบบขอบฟ้า และระบบศนู ยส์ ูตร 2. สงั เกตท้องฟ้า และอธิบายเส้นทางการข้ึนตกของดวงอาทิตยแ์ ละดาวฤกษ์ 3. อธิบายเวลาสุรยิ คตปิ รากฏ โดยรวบรวมข้อมลู และเปรยี บเทียบเวลาขณะท่ดี วงอาทติ ยผ์ ่าน เมริเดียนของผสู้ ังเกตในแต่ละวัน 4. อธบิ ายเวลาสรุ ยิ คตปิ านกลาง และการเปรียบเทยี บเวลาของแต่ละเขตเวลาบนโลก 5. อธบิ ายมุมห่างทสี่ มั พนั ธก์ ับตําแหนง่ ในวงโคจร และอธิบายเชือ่ มโยงกับตาํ แหนง่ ปรากฏของ ดาวเคราะหท์ ี่สังเกตไดจ้ ากโลก 6. สืบคน้ ขอ้ มูล ออกแบบและนําเสนอกจิ กรรมการสงั เกตดาวบนท้องฟ้าด้วยตาเปล่าและ/หรือ กลอ้ งโทรทรรศน์ รวมท้งั หมด 6 ผลการเรยี นรู้

หน้า 188 ว32281 โครงงานวิจัยวิทยาศาสตร์ 1 รายวชิ าเพ่มิ เตมิ กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชัว่ โมง จาํ นวน 1.0 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา สืบค้น วิเคราะห์ อภิปรายและทดลองเก่ียวกับเร่ืองท่ีสนใจจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆหรือ ภูมิปัญญาท้องถิ่นนํามาจัดทําโครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทสํารวจ ประเภททดลอง ประเภททฤษฎีและ ประเภทประดิษฐ์ หรือทั้งส่ีประเภท การเขียนเค้าโครงของโครงงาน การวางแผนการทดลอง และดําเนินการตาม ตามเค้าโครงการนําเสนอผลงานได้อย่างเหมาะสม และสามารถวิเคราะห์โครงงานวิทยาศาสตร์อย่างง่ายตาม รปู แบบได้ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะ/กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เจตคติทางวิทยาศาสตร์ สามารถนําไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวัน ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การทดลอง การปฏิบัติจริง การใช้กระบวนการกลุ่มในการเรียนรู้ การใช้แหล่ง การเรียนรู้และเทคโนโลยี การวัดและประเมินผลใช้วิธีการที่หลากหลายตามสภาพจริงให้สอดคล้องกับสาระ ทักษะ/กระบวนการ คุณลักษณะที่พึงประสงค์และความสามารถด้านการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนที่ต้อง การวดั ผลการเรยี นรู้ 1. ใช้ทกั ษะทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการแสวงหาความรูเ้ บอื้ งตน้ ได้ 2. อธิบาย นาํ เสนอวธิ กี ารแก้ปัญหาจากสถานการณท์ กี่ าํ หนดให้ดว้ ยวธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร์ 3. ใชเ้ ครอื่ งมอื พ้นื ฐานทางวิทยาศาสตร์และวิธกี ารทางวิทยาศาสตร์แก้ปัญหาทีก่ าํ หนดใหไ้ ด้ ถูกต้องเหมาะสมตามขัน้ ตอนและปลอดภัย 4. คิดและเลอื กเรือ่ งโครงงานไดอ้ ย่างเหมาะสม 5. ศึกษาปญั หาทางวิทยาศาสตร์ท่ีตนเองสนใจโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตรท์ ี่เหมาะสม 6. ทําโครงงานโดยอาศัยทักษะทางวิทยาศาสตรไ์ ด้เหมาะสม รวมทั้งหมด 6 ผลการเรยี นรู้

หน้า 189 ว32282 โครงงานวจิ ยั วทิ ยาศาสตร์ 2 รายวชิ าเพ่มิ เติม กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชั่วโมง จาํ นวน 10 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา สืบค้น วิเคราะห์ อภิปรายและทดลองเกี่ยวกับเรื่องที่สนใจจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆหรือภูมิปัญญา ท้องถ่ินนํามาจัดทําโครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทต่าง ๆ ศึกษาบทบาทหน้าที่ของสมาชิกกลุ่มโครงงาน วทิ ยาศาสตร์ เรียนรู้การปฏิบัติงานร่วมกันเป็นกลุ่ม การวางแผนเพื่อศึกษาตามขั้นตอนกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การออกแบบการทดลองที่เหมาะสมกับโครงงาน การเก็บข้อมูลเพ่ือนํามาวิเคราะห์ข้อมูล สรุปและการเขียน รายงานผลการปฏบิ ตั ิในรูปแบบรายงาน 5 บท นาํ เสนอผลรายงานกล่มุ เพ่อื เผยแพร่แก่ผ้ทู ส่ี นใจ เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะ/กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเจตคติทางวิทยาศาสตร์ เห็นคุณค่าของวิทยาศาสตร์ สามารถนําไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวัน ผา่ นกิจกรรมการเรียนรู้ ท่ีเน้นกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การทดลอง การปฏิบัติจริง การใช้กระบวนการกลุ่มใน การเรียนรู้ การใช้แหล่งการเรียนรู้และเทคโนโลยี การวัดและประเมินผลใช้วิธีการที่หลากหลายตามสภาพจริง ให้สอดคล้องกับสาระทักษะ/กระบวนการ คุณลักษณะที่พึงประสงค์และความสามารถด้านการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี นทตี่ ้องการวดั ผลการเรียนรู้ 1. ดําเนนิ การทาํ โครงงานวิทยาศาสตร์ตามแผนการปฏบิ ัตงิ าน 2. เขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ 3. เสนอผลงานโครงงานวทิ ยาศาสตรใ์ นโรงเรยี น หรือชุมชน รวมทง้ั หมด 3 ผลการเรียนรู้

หนา้ 190 รายวชิ าเพิ่มเติม ว31281 วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ 1 (สายวทิ ย์ - คณติ ) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จาํ นวน 1.0 หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความหมายของคอมพิวเตอร์กราฟิก หลักการวิธีการออกแบบกราฟิก ซอฟต์แวร์ด้านกราฟิก ระบบคอมพิวเตอร์สําหรบั งานคอมพิวเตอร์กราฟิก การใช้งานซอฟต์แวร์ด้านกราฟิก ใช้เครอื่ งมือและอุปกรณ์ต่าง ๆรวมถึงคําสั่งที่สําคัญในการออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟิกในโปรแกรมกราฟิกได้อย่างชํานาญ โดยการนําภาพจาก แหล่งภาพต่างๆ มาสร้างสรรค์งานกราฟิกให้มีจินตนาการตามความคิดริเร่ิมท้ังยังศึกษาหลักการออกแบบเทคนิค การใช้โปรแกรมการออกแบบคอมพิวเตอรก์ ราฟิกได้จากเว็บไซต์ต่างๆเพ่ือนํามาประยกุ ต์ ใช้ในการสรา้ งสรรค์งาน ปฏิบตั ิ การออกแบบคอมพิวเตอรก์ ราฟกิ ด้วยโปรแกรมกราฟกิ เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถใช้ซอฟต์แวร์ด้านกราฟิกออกแบบและสร้างสรรค์ผลงานด้านกราฟิก เผยแพร่สู่ สาธารณะชนได้อย่างมีคุณธรรม และจริยธรรมมีความรับผิดชอบ มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีได้อย่าง เหมาะสม มเี จตคติท่ดี ีตอ่ การทาํ งาน ผลการเรียนรู้ 1. นักเรยี นสามารถอธิบายพื้นฐานของคอมพิวเตอรก์ ราฟิกได้ 2. นกั เรียนสามารถใชเ้ ครอ่ื งมือและกลุ่มคาํ สง่ั ตา่ งๆ ในโปรแกรมประยุกตไ์ ด้ 3. นักเรยี นสามารถสรา้ งสรรคง์ านกราฟกิ ด้วยโปรแกรมประยกุ ต์ไดอ้ ย่างมีจินตนาการ 4. สร้างสรรคง์ านกราฟกิ อยา่ งมจี ิตนาการและยึดหลักคุณธรรมและความรับผดิ ชอบเปน็ สําคญั 5. นักเรียนสามารถสรา้ งสรรค์งานงานกราฟกิ ให้สวยงามและมีจนิ ตนาการอย่างมอื อาชีพได้ รวมทงั้ หมด 5 ผลการเรียนรู้

หน้า 191 รายวชิ าเพม่ิ เตมิ ว31282 วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ 2 (สายวิทย์ - คณติ ) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชัว่ โมง จาํ นวน 1.0 หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ค้นคว้า หาข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆตลอดจนทําการสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต อันจะนําไปสู่ การระบุเรื่อง หัวขอ้ หรือปญั หา สําหรับการจัดทําโครงงานคอมพิวเตอร์ ค้นคว้าเอกสารทางด้านทฤษฎีและเทคนิค การปฏิบตั กิ ารเกย่ี วกบั การทาํ โครงงานท่จี ะรวบรวมข้อมลู เบ้ืองต้น ศึกษาความหมาย วิธีการ ประเภท ข้ันตอนการทํา การออกแบบ การวางแผน เขียนและนําเสนอเค้าโครง เทคนิคการนําเสนอโครงงาน การเผยแพร่ผลงาน จัดทําโครงงานตามขั้นตอนการเขียนรายงานและนําเสนอ โครงงานได้โดยใชเ้ ทคโนโลยไี ปใช้ในการทาํ โครงงาน เพ่ือใหม้ ีความรคู้ วามเขา้ ใจและทักษะในการจัดทําโครงงานคอมพิวเตอร์ตลอดจนการนําเสนอและเผยแพร่ ผลงาน และสามารถนําความรแู้ ละผลงานโครงการไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจาํ วันได้ ผลการเรียนรู้ 1. สามารถแกป้ ัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างมปี ระสิทธิภาพ 2. พฒั นาโครงงานคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 3. มคี วามรู้ในการติดตอ่ สอ่ื สาร คน้ หาข้อมูลผ่านอนิ เทอร์เน็ต 4. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศนําเสนองานในรปู แบบทเ่ี หมาะสม ตรงตามวัตถปุ ระสงคข์ องงาน 5. ใช้คอมพวิ เตอรช์ ่วยสร้างช้นิ งานหรือโครงงานอย่างมจี ติ สํานึกและความรบั ผดิ ชอบ รวมท้งั หมด 5 ผลการเรียนรู้

หนา้ 192 ว32287 การออกแบบและเทคโนโลยี 2 รายวชิ าเพิม่ เติม กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 20 ช่ัวโมง จํานวน 0.5 หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาและวิเคราะห์สถานการณ์ หรือความต้องการที่คํานึงถึงผู้ใช้ด้วยการคิดเชิงออกแบบและความรู้ ทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และศาสตร์อ่ืน ๆ เพ่ือทําความเขา้ ใจปัญหาอย่างลึกซ้ึงและรอบด้านเพอื่ พัฒนาวิธี การแก้ปัญหาที่ตรงความต้องการ พัฒนาโครงงานเพ่ือแก้ปัญหาจากสถานการณ์ท่ีตนเอง สนใจโดยใช้กระบวนการ ออกแบบเชิงวิศวกรรม ศึกษาการพัฒนาผลงาน การสร้างประโยชน์จากผลงาน และการคุ้มครองทรัพย์สินทาง ปัญญา เพื่อนําความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาหรือสร้างประโยชน์จากผลงานของตนเอง และเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ผลงานของตนเองให้เปน็ ทร่ี ู้จักและก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์ ผลการเรียนรู้ 1. สามารถวเิ คราะหส์ ถานการณห์ รือความต้องการท่ีคาํ นงึ ถึงผู้ใช้ด้วยการคดิ เชงิ ออกแบบได้ 2. สามารถพฒั นาวธิ กี ารแก้ปญั หาที่ตรงความตอ้ งการได้ 3. สามารถพัฒนาโครงงานเพือ่ แก้ปญั หาจากสถานการณท์ ี่ตนเองสนใจโดยใช้กระบวนการ ออกแบบเชิงวศิ วกรรม 4. สามารถศกึ ษาการพัฒนาผลงาน การสร้างประโยชนจ์ ากผลงาน และการคุม้ ครองทรพั ยส์ ินทาง ปัญญาเพอ่ื นําความร้ไู ปประยกุ ตใ์ ช้ 5. เผยแพรป่ ระชาสัมพนั ธ์ผลงานของตนเองให้เปน็ ที่รจู้ กั และก่อให้เกิดประโยชน์ รวมทงั้ หมด 5 ผลการเรียนรู้

หนา้ 193 รายวิชาเพ่มิ เติม ว32289 เทคโนโลยี (วทิ ยาการคํานวณ) 2 กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชว่ั โมง จํานวน 1.0 หน่วยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาหลักการของวิทยาการข้อมูลและหลักการคิดเชิงออกแบบ เพ่ือเพิ่มมูลค่าให้บริการหรือผลิตภัณฑ์ วิธีการเก็บข้อมูลและเตรียมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล การประมวลผลข้อมูล เคร่ืองมือทางเทคโนโลยี สารสนเทศที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูล การจัดเก็บข้อมูล การนําเสนอข้อมูล การแปลงข้อมูลให้เป็นภาพ การเลอื กใช้ขอ้ มลู จากฐานขอ้ มูลขนาดใหญ่ การใช้ประโยชน์จากข้อมลู และตัวอย่างกรณศี กึ ษา ผลการเรียนรู้ 1. สามารถวเิ คราะห์หลกั การของวทิ ยาการข้อมลู และหลักการคดิ เชิงออกแบบเพ่ือเพม่ิ มลู คา่ ใหบ้ ริการหรอื ผลติ ภัณฑไ์ ด้ 2. สามารถทาํ การเก็บขอ้ มูลและเตรียมขอ้ มลู การวิเคราะหข์ ้อมลู การประมวลผลขอ้ มูลได้ 3. สามารถนาํ เสนอขอ้ มลู การแปลงข้อมลู ใหเ้ ป็นภาพการเลอื กใชข้ อ้ มลู จากฐานขอ้ มลู ขนาดใหญ่ รวมทงั้ หมด 3 ผลการเรียนรู้

หนา้ 194 รายวชิ าเพม่ิ เตมิ ว33290 เทคโนโลยี (วทิ ยาการคาํ นวณ) 3 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จาํ นวน 1.0 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาการใช้เทคโนโลยีในการนําเสนอและแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัยและมีจริยธรรม การสร้างชิ้นงาน และเผยแพร่ผ่านส่ือต่างๆ ที่คํานึงถึงจริยธรรม ลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญาและกฎหมาย หลักการของปัญญา ประดิษฐ์ และเทคโนโลยีในอนาคต กรณีศึกษาเกี่ยวกับนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจําวัน อาชพี ท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั งานทางด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศ ตวั อยา่ งผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ ผลการเรยี นรู้ 1. สามารถใชเ้ ทคโนโลยใี นการนาํ เสนอและแบ่งปนั ข้อมูลอยา่ งปลอดภัยและมจี ริยธรรมได้ 2. สามารถสร้างชิ้นงานและ เผยแพรผ่ า่ นสือ่ ต่างๆ ทีค่ าํ นึงถึงจรยิ ธรรม ลิขสทิ ธ์ิทรัพยส์ ินทาง ปญั ญาและกฎหมายได้ 3. สามารถอธบิ ายหลกั การของปัญญาประดษิ ฐ์ และเทคโนโลยีในอนาคต กรณศี ึกษาเกี่ยวกับ นวตั กรรมหรือเทคโนโลยที ีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั ชวี ิตประจําวัน อาชีพที่เกีย่ วข้องกบั งานทางดา้ น เทคโนโลยสี ารสนเทศได้ 4. สามารถยกตวั อย่างตัวอย่างผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศได้ รวมทัง้ หมด 4 ผลการเรียนรู้

หนา้ 195 ว31247 ชีววิทยาเสรมิ ทกั ษะความรู้ (สายศิลป์-ทัว่ ไป) รายวิชาเพม่ิ เตมิ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จํานวน 1.0 หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาการค้นหาความรู้ทางด้านชีววิทยาของเซลล์ ลักษณะทางสรีรวิทยาของเซลล์ องค์ประกอบของ เซลล์ ปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม การแบ่งเซลล์และการตายของเซลล์ จุลินทรีย์สิ่งมีชีวิตท่ีมีขนาดเล็กได้แก่ แบคทีเรีย อาร์เคีย ไวรัส เช้ือราและยีสต์ เซลล์พืช โครงสร้าง การเจริญเติบโต การสืบพันธ์ุ ความหลากหลาย ของพืช ฮอรโ์ มนพืชและการเคลื่อนไหวของพืช ระบบในรา่ งกายมนุษย์ หน้าท่ีและความสัมพันธ์ของระบบอวัยวะ ระบบประสาท ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบต่อมไรท้ ่อ ระบบหายใจ ระบบไหลเวียนโลหิต ระบบขับถ่ายและระบบยอ่ ย อาหาร ยีน พันธุกรรมและการผันแปรของสิ่งมีชีวิตในการศึกษาวิจัยสมัยใหม่ มีเคร่ืองมือที่สําคัญในการศึกษา หน้าท่ีของยีน ความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมในสิ่งมีชีวิต ข้อมูลทางพันธุกรรม ความหลากหลายและการจัดจําแนก สิ่งมีชีวิต วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ความแปรผัน การสืบพันธุ์และการคัดเลือกระบบนิเวศ การกระจายและ ความหนาแน่นของสิ่งมีชีวิตรวมท้ังความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม แนวทางในการป้องกันและ แก้ไขปญั หา วางแผนและดําเนินการเฝา้ ระวัง อนุรักษ์และพฒั นา สง่ิ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจมีทักษะ ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมทั้งทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ในชีวิตของตน มจี ติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรมและคา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. ศึกษา ค้นควา้ และอภปิ รายเกี่ยวกับชีววทิ ยาของเซลล์ ลักษณะทางสรีรวิทยาของเซลลอ์ งค์ประกอบ ของเซลล์ ปฏสิ ัมพันธก์ บั สงิ่ แวดล้อม การแบง่ เซลลแ์ ละการตายของเซลล์ 2. ศกึ ษา ค้นควา้ อธบิ าย พรอ้ มทั้งบอกประโยชนแ์ ละโทษของจุลินทรียส์ ่ิงมชี วี ิตที่มีขนาดเลก็ ได้แก่ แบคทเี รยี อารเ์ คยี ไวรสั เชื้อรา และยสี ต์ 3. ศึกษา ค้นควา้ อธิบายและสรปุ เกีย่ วกับเซลลพ์ ืช โครงสรา้ ง การเจรญิ เตบิ โต การสืบพันธุ์ ความหลากหลายของพชื ฮอร์โมนพชื และการเคล่ือนไหวของพืช 4. ศึกษา คน้ คว้า อธิบายและสรปุ เก่ียวกับระบบในรา่ งกายมนษุ ย์ หน้าท่แี ละความสมั พนั ธข์ อง ระบบอวัยวะ ระบบประสาท ระบบภูมคิ ุ้มกัน ระบบต่อมไร้ทอ่ ระบบหายใจ ระบบขับถ่าย ระบบไหลเวียนโลหิต และระบบย่อยอาหาร 5. ศกึ ษา ค้นควา้ อภปิ รายและสรปุ เกี่ยวกบั ยนี พันธุกรรมและการผนั แปรของสิง่ มชี ีวิตใน การศึกษาวิจยั สมัยใหม่ มเี ครอ่ื งมือท่ีสาํ คัญในการศกึ ษาหน้าทข่ี องยีน ความสัมพนั ธท์ าง พนั ธุกรรมในส่ิงมชี ีวิต ข้อมูลทางพันธกุ รรม 6. สาํ รวจ ตรวจสอบความหลากหลายในบริเวณโรงเรยี นและการจดั จําแนกส่ิงมชี วี ิต 7. ศึกษา คน้ คว้า อภิปรายและสรปุ เก่ียวกบั ววิ ฒั นาการของส่ิงมีชีวติ ความแปรผัน การสืบพันธ์ุ และการคัดเลือก

หนา้ 196 8. สํารวจ ตรวจสอบ อภิปรายและสรปุ ระบบนเิ วศ การกระจายและความหนาแน่นของ ส่ิงมีชีวติ รวมทงั้ ความสัมพนั ธร์ ะหว่างสงิ่ มชี ีวิตกับสิ่งแวดลอ้ ม แนวทางในการป้องกนั และแกไ้ ข ปญั หาวางแผนและดาํ เนินการเฝ้าระวงั อนุรักษ์และพฒั นาส่งิ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ รวมท้งั หมด 8 ผลการเรียนรู้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook