เราจะสบื สาน รกั ษา และตอ่ ยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพอ่ื ประโยชน์สขุ แหง่ อาณาราษฎรตลอดไป พระปฐมบรมราชโองการ พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชริ าลงกรณ พระวชิรเกลา้ เจา้ อยหู่ วั
พระมหากษตั รยิ ไ์ ทย พระมหากษตั รยิ ไ์ ทยทรงเปน็ จอมทพั ไทยมาทกุ ยคุ ทกุ สมยั สืบทอดกันมาต้ังแต่บรรพบุรุษที่ได้รวบรวมเผ่าไทย ตั้งขึ้นเป็น ราชอาณาจกั รไทย ณ ผนื แผ่นดินไทยแหง่ นี้ คำ� ว่า “พระมหากษตั รยิ ”์ หมายถึง นักรบผยู้ ่งิ ใหญ่ หรอื จอมทัพ เพราะในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ชาติท่ีเข้มแข็ง เทา่ นน้ั จงึ จะดำ� รงคงความเปน็ ชาตอิ ยไู่ ด้ ชาตทิ อ่ี อ่ นแอ กจ็ ะตกไป เปน็ ผทู้ อ่ี ยใู่ นครอบครองของชาตอิ น่ื ความเขม้ แขง็ ทสี่ ำ� คญั ยงิ่ คอื ความเขม้ แขง็ ทางการทหาร ความเขม้ แข็งในดา้ นอน่ื ๆ เปน็ ส่วน ประกอบ ซึง่ กจ็ ะขาดเสียมิได้ เนือ่ งจากการศกึ มิไดท้ ำ� อย่ตู ลอดไป ระยะเวลาว่างศึกมีอยู่มากกว่า ในห้วงเวลาดังกล่าว ก็จะมีการ สร้างเสริมความแข็งแกร่งในด้านต่าง ๆ เพ่ือความเจริญรุ่งเรือง ของประเทศ และความอยดู่ กี นิ ดขี องอาณาประชาราษฎร์ ชาตไิ ทย เปน็ ชาติท่ีมีอารยธรรมสงู มาแต่โบราณกาล ดังนัน้ องค์ประกอบ อนั เปน็ แบบฉบบั แสดงถงึ ความเปน็ จอมทพั ไทยจงึ มอี ยา่ งครบถว้ น สมบูรณ์ มีสัญลักษณ์ท่ีเป็นเอกลักษณ์ของไทย มีความสง่างาม สมพระเกียรตยิ ศแห่งจอมทัพไทย
คมู่ ือ นกั ศกึ ษาวิชาทหารชาย ชั้นปี ท่ี 4 (เหลา่ ทหารช่าง)
คำ� น�ำ การฝกึ นกั ศกึ ษาวชิ าทหาร มวี ตั ถปุ ระสงคท์ างดา้ นยทุ ธการ คอื การผลติ กำ� ลงั พล ส�ำรองระดับผู้บังคับบัญชาให้กับกองทัพ เพื่อเป็นการเตรียมกำ� ลังพลส�ำรองท่ีเข้มแข็ง ไวใ้ หพ้ รอ้ มสำ� หรบั การปอ้ งกนั ประเทศ วตั ถปุ ระสงคท์ างดา้ นยทุ ธศาสตร์ คอื การปลกู ฝงั เยาวชนให้เป็นผู้มีระเบียบวินัย มีอุดมการณ์ความรักชาติ ปกป้องและเทิดทูนสถาบัน พระมหากษัตริย์ มีจิตอาสา เป็นพลเมืองคุณภาพของประเทศ โดยใช้หลักสูตรการฝึก วิชาทหาร สำ� หรบั นกั ศึกษาวิชาทหาร ชัน้ ปีที่ 1 - 5 ของกระทรวงกลาโหม หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ได้จัดท�ำ “คู่มือนักศึกษาวิชาทหาร” ประจ�ำ ปีการศึกษา 2563 เพื่อให้นักศึกษาวิชาทหารได้ค้นคว้าหาความรู้ และท�ำความเข้าใจ เน้ือหาวิชาต่าง ๆ ท่ีก�ำหนดไว้ตามหลักสูตร (ภาคปกติ) 80 ช่ัวโมง โดยประกอบด้วย วิชาทหารที่ส�ำคัญ ท่ีนักศึกษาวิชาทหารแต่ละช้ันปีควรรู้และน�ำไปปฏิบัติได้ เพื่อ ตอบสนองวัตถปุ ระสงคด์ ้านยุทธการ และวชิ าทัว่ ไป มงุ่ เนน้ การตอบสนองวตั ถปุ ระสงค์ ดา้ นยุทธศาสตร์ดว้ ยการปลูกฝังและเสริมสร้างใหน้ กั ศกึ ษาหาความรู้ ก่อน หรอื ภายหลัง จากการรับการฝึก - สอน หวังว่า คู่มือนักศึกษาวิชาทหารเล่มน้ี จะเป็นแหล่งข้อมูล ด้านวิชาการ ในการศึกษาค้นคว้าเพ่ือให้มีความพร้อมส�ำหรับการเป็นก�ำลังพลส�ำรอง ระดับผ้บู งั คบั บัญชา และการเปน็ พลเมอื งคุณภาพของประเทศในอนาคต สบื ไป พลโท (ปราการ ปทะวานชิ ) ผู้บัญชาการหน่วยบญั ชาการรักษาดินแดน
หลักสูตรประกอบเวลา และคะแนนประจำ� วิชา นศท. ชน้ั ปีที่ 4 ชาย (เหล่าทหารชา่ ง) คะแนน ลำ�ดบั เร่ือง ชั่วโมง ประ ำจ� ิวชา ่รวมกิจกรรม งานมอบ 1. ภาคปกติ 80 1.1 การฝกึ ทบทวนบคุ คลทา่ เบือ้ งตน้ (8) 1.2 วิชาระเบียบการนำ�หน่วย (4) 10 1.3 วิชาผูน้ �ำ (8) 20 1.4 วิชาหนว่ ยทหารขนาดเล็ก (8) 20 1.5 วชิ าศาสตร์พระราชา (8) 20 1.6 วิชาอดุ มการณ์ความรักชาติ (4) 10 1.7 วิชาพลเมอื งดีวถิ ปี ระชาธปิ ไตย (4) 10 1.8 วิชากฎหมาย (4) 10 1.9 วชิ าเหลา่ ทหารชา่ ง (24) 50 1.10 การทดสอบสมรรถภาพรา่ งกาย (4) 1.11 การฝึกอบรมหรอื ทำ�กจิ กรรมจติ อาสา (4) 2. ภาคสนาม 45 2.1 การฝกึ ภาคสนาม 7 วนั (4) 30 2.2 ฝกึ ความชำ�นาญเฉพาะต�ำ แหนง่ (4) 50 2.3 ฝึกการยงิ ปนื ตามหลกั สตู ร (2) 30 2.4 ฝกึ ไตห่ น้าผา - ลงทางดงิ่ (2) 30 2.5 ฝึกเลือ่ นชว่ ยชวี ติ - ขา้ มล�ำน�้ำเรง่ ดว่ น (18) 120 2.6 ฝกึ การปฏิบัติหน่วยทหารขนาดเลก็ (20) 140 2.7 ฝึกปัญหาต่อเน่อื ง (2) 2.8 ปลูกฝังอุดมการณค์ วามรกั ชาติ (2) 2.9 สร้างการรับรู้
หลักสตู รประกอบเวลา และคะแนนประจ�ำวชิ า นศท. ชัน้ ปีที่ 4 ชาย (เหลา่ ทหารช่าง) คะแนน ล�ำ ดบั เรอ่ื ง ชั่วโมง ประ ำจ� ิวชา ่รวมกิจกรรม งานมอบ 3. เบ็ดเตล็ด 12 3.1 การปฐมนิเทศ 3.2 การสอบภาคปฏบิ ัติ (4) 3.3 การสอบภาคทฤษฎี (4) 100 รวม (4) 200 150 850 50 100 1,000
สารบัญ หนา้ วชิ าการจัดหนว่ ยทหารช่าง 1-9 บทท่ี 1 ประวตั ิทหารชา่ งของกองทัพบกไทย 10-16 บทท ่ี 2 ภารกจิ มูลฐานของทหารชา่ ง 17-34 บทท่ี 3 กองพนั ทหารช่างสนาม 35-42 บทท่ี 4 กองพันทหารชา่ งกอ่ สร้าง 43-46 บทท่ี 5 กรมทหารชา่ งของกองทัพ 47-48 บทที่ 6 กรมทหารชา่ งสง่ กำ� ลังและซอ่ มบำ� รุง 49-59 บทที่ 7 กองร้อยทหารช่างอิสระ ตอน และกองพันทหารชา่ ง ของกรมทหารชา่ ง 60-70 บทท่ี 8 กองพลทหารชา่ ง 71-83 วชิ าการพราง 84-93 บทท่ ี 9 การคน้ หาที่หมาย 94-105 บทท่ี 10 วัสดุพราง และเทคนิคการใช้ 106-122 บทที่ 11 การพรางบคุ คลและป้อมสนาม 123-136 บทที่ 12 การพรางยานพาหนะ ปนื ใหญ่ และเครอื่ งบิน บทที่ 13 การพรางทีพ่ กั แรม ที่ต้ังกองบญั ชาการ 137-153 และตำ� บลส่งกำ� ลัง 154-174 วิชาวัตถุระเบิดและการทำ� ลาย บทที่ 14 ระบบการจุดระเบดิ บทท ี่ 15 การคำ� นวณและการวางดินระเบดิ ภาคผนวก
บทท่ี เหล่าทหารช่าง 1 ประวตั ิทหารช่างของกองทพั บกไทย 1. กลา่ วน�ำ เมอื่ พ.ศ. 2360 เดมิ เมอื งราชบรุ ตี ง้ั อยู่บนฝั่งขวาของแม่นำ�้ แม่กลอง พระบาท สมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลท่ี 2 ทรงย้ายให้มาตั้งอยู่บนฝั่งซ้ายของ แม่น้ำ� แม่กลอง ในค่ายภาณรุ ังษปี ัจจุบนั วนั ที่ 20 กนั ยายน 2396 พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี 5 เสดจ็ พระราชสมภพ (เกดิ ) วนั ที่ 11 มกราคม 2401 “เจ้าฟ้าภาณรุ ังษีสว่างวงศ์” ทรงมีพระประสตู กิ าล เป็นพระโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 กับพระนางเธอ พระองค์เจ้ารำ� เพยภมราภิรมย์ วันท่ี 1 ตลุ าคม 2411 พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จข้ึนครองราชสมบตั ิ พระองค์ทรงมพี ระราชปณธิ านอันแน่วแน่ในการปรบั ปรุง ปฏิรปู การปกครองแผ่นดินในทุก ๆ ด้านที่ยังไม่เหมาะสมให้ทัดเทียมกับนานาอารยประเทศ โดยเฉพาะทางด้านการทหาร ทรงมีวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ “เพ่ือความมั่นคง แห่งราชอาณาจักร และเพ่ือความเจริญก้าวหน้าทางด้านการทหาร” ผลของการปฏิรูป ทางดา้ นการทหารน้ี สง่ ผลใหส้ ามารถรกั ษาความมนั่ คงปลอดภยั แกป่ ระเทศชาติ ชว่ ยสรา้ ง เสถียรภาพทางการเมืองให้เป็นปึกแผ่นม่ันคง มีประสิทธิภาพเพียงพอแก่การรักษา ความสงบมัน่ คงภายใน ป้องกนั ภยั คุกคามจากนอกประเทศ กบั ทั้งยังพฒั นาประเทศชาติ
2 เหลา่ ทหารชา่ ง ให้เจรญิ รุ่งเรืองย่ิงข้นึ โดยเฉพาะอย่างย่งิ บทบาทของหน่วยทหารช่างอนั เป็นขุมกำ� ลังท่สี �ำคญั มากมาต้งั แต่โบราณจนถึงปัจจบุ นั 2. ประวตั ิ ทหารช่างของกองทัพบกไทยมีมาต้ังแต่ครั้งโบราณแล้ว กล่าวคือ ก่อนสมัย กรงุ สโุ ขทยั กองทพั ไทยไดจ้ ดั กองทหารตามแบบอยา่ งจนี และอนิ เดยี ปรากฏวา่ มกี ารจดั ทหารชา่ ง เอาไว้แล้วรวมกับเหล่าพลเดินเท้าอื่น ๆ มีหน้าท่ีต่อเรือ ขุดคู สร้างประตูหอรบ สร้างค่าย สร้างถนน สร้างสะพาน สร้างพลบั พลาที่ประทบั ของแม่ทพั นายกองผู้เป็นจอมทัพ คร้นั ยามมี ศึกสงครามก็เข้ากองรบท�ำการรบ มีบทบาทร่วมกับทหารเดินเท้าเหล่าอ่ืน ๆ สามารถแบ่ง ออกได้เป็น 2 ยคุ ยุคโบราณและยุครัตนโกสนิ ทร์ ยคุ โบราณมี 3 สมยั คือ สมัยกรุงสุโขทยั สมัยกรุงศรีอยุธยา สมัยก่อนยุครัตนโกสินทร์ ยุครัตนโกสินทร์มี 2 สมัย สมัยรัตนโกสินทร์ ตอนต้น สมยั รชั กาลท่ี 5 จนถงึ ปัจจุบนั 2.1 สมัยกรุงสโุ ขทัย การจัดกองทหารในสมัยกรุงสุโขทัย ไม่ปรากฏว่ามีหลักฐานแน่ชัด แต่ การสืบค้นในต�ำรา “มังรายณ์ศาสตร์” ว่าการจัดกองทหารสุโขทัยแบ่งออกตามความส�ำคัญ ของทหาร ได้แก่ เหล่าพลช้าง เหล่าพลม้า และเหล่าพลราบ มีหลักนิยมในการจัดไพร่พล ช่างไทยยคุ โบราณไว้ว่า “ใครเก่งงานอะไรก็เอามาทำ� งานช่างอย่างนัน้ ” เวลารบกเ็ ข้ากองรบ ร่วมรบผสมเหล่ากับเหล่าเดินเท้าอื่น ๆ เช่นเดิม มีผลงานของไพร่พลช่างไทยสมัยสุโขทัย จะเหน็ ไดจ้ ากเมอื งเกา่ ประวตั ศิ าสตรส์ โุ ขทยั เขอ่ื นสฤษดพ์ิ งษ์ คลองสง่ นำ้� ครู อบเมอื งเกา่ สโุ ขทยั พระสมุทรโคดมสุโขทัย “ถนนพระร่วง” เส้นทางสายยุทธศาสตร์จากกรุงสุโขทัยไปยังเมือง สวรรคโลก ระยะทาง 250 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ไพร่พลช่างไทยก็ยังคงรวมอยู่กับเหล่า พลเท้าอย่างเดมิ มิได้แยกออกมาเป็นเหล่าอสิ ระต่างหาก 2.2 สมัยกรงุ ศรีอยุธยา การจัดกองทหารกรุงศรีอยุธยา ได้มีหลักฐานบันทึกไว้ปรากฏแน่ชัดใน ต�ำราพิชัยสงครามว่า การจัดทหารกองกรุงศรีอยุธยานั้นแบ่งออกได้เป็น 4 เหล่า เรียกว่า “จตรุ งค์เสนา” ประกอบด้วย 2.2.1 พลานกึ เหล่าพลเท้า ได้แก่ ทหาราบ ทหารช่าง 2.2.2 หยั นึก เหล่าพลม้า ได้แก่ ทหารม้า
2.2.3 คชานึก เหล่าพลช้าง ได้แก่ ทหารปืนใหญ่ ผู้รักษาเท้าช้าง เหล่าทหารช่าง 3 2.2.4 รถานกึ เหล่ารถรบ ได้แก่ ผู้รักษารถ จะเห็นได้ว่าไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดเกี่ยวกับไพร่พลช่างในยุคโบราณเพราะ พราหมณ์มไิ ด้จดั ทหารช่างเอาไว้ แต่จดั ทหารเหล่ารถรบแทน ครัน้ ต่อมาในแผ่นดนิ ของสมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช ได้มกี ารปรับปรงุ พฒั นา กจิ การช่างต่าง ๆ มากขน้ึ ถงึ ชน้ั หล่อปืนใหญ่ สร้างป้อมปราการ (ศาลพระกาฬปัจจบุ นั ) สร้าง เขอ่ื นกกั เกบ็ นำ้� (แกง่ ซบั เหลก็ ) สรา้ งทอ่ ประปา (ทอ่ ประปาดนิ เผา) ทดนำ้� จากเขอื่ นแกง่ ซบั เหลก็ มาใช้ในวงั นารายณ์ เป็นต้น ตอ่ มาในแผน่ ดนิ ของสมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถ พระองคท์ รงแยกไพรพ่ ลชา่ งออก จากเหล่าเดนิ เท้าอืน่ ๆ ออกมาต่างหาก ได้ไพร่พลช่างเป็น 2 กอง คือ ไพร่พลช่างฝ่ายกิจการทางทัพบก เรยี กว่า “กองช่างในไทย” ไพร่พลช่างฝ่ายกจิ การทางทพั เรือ เรียกว่า “กองช่างในญวน” อย่างไรก็ตาม เมอ่ื ยามเกดิ ศกึ สงครามขนึ้ มา ไพร่พลช่างท้งั 2 กองดังกล่าวยังคง ต้องเข้ากองรบร่วมรบผสมเหล่ากับเหล่าทหารเดินเท้าอ่ืน ๆ เช่นเดิม มีผลงานทางด้านช่าง ของไพร่พลช่างสมยั อยุธยาคือ เมอื งเก่าอยุธยา สง่ิ ปลูกสร้างศลิ ปะอยธุ ยา วัด ปรางค์ เจดีย์ พระพุทธรูป เป็นต้น 2.3 สมยั ก่อนยุครตั นโกสินทร์ สมัยก่อนยุครัตนโกสนิ ทร์เริ่มต้นตัง้ แต่เม่อื เสียกรงุ คร้ังท่ี 2 แก่พม่า เม่ือวันท่ี 7 เมษายน พ.ศ. 2310 ในแผ่นดินของสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั พระท่ีนัง่ สรุ ยิ าศน์อมรนิ ทร์ หรือ พระเจ้าเอกทศั เดิม นายสินรบั ราชการมาจนมคี วามได้เล่อื นยศเป็น “เจ้าพระยาวชิรปราการ” ผสู้ ำ� เรจ็ ราชการเมอื งกำ� แพงเพชร เมอื่ คราวพมา่ ยกกองทพั มาลอ้ มกรงุ ศรอี ยธุ ยาครง้ั ใหญ่ ภายใน เมอื งหลวงมีความแตกแยกสามัคคี จนถงึ ปี พ.ศ. 2310 เจ้าพระยาวชริ ปราการเลง็ เห็นแล้วว่า คงจะรกั ษาเมอื งหลวงเอาไวไ้ ม่ได้แน่ ๆ จงึ รวบรวมสมคั รพรรคพวกได้ 400 ม้าตฝี า่ วงล้อมพมา่ ออกมาได้ เมอ่ื วนั ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2310 ไปเขา้ ตพี ม่าทคี่ ่ายบ้านโพธสิ์ ามตน้ จ. สงิ ห์บรุ ี และ ปราบปรามพวกโจรก๊กต่าง ๆ จบราบคาบลง ได้กำ� ลังพลเพ่ิมขึ้นเป็น 500 คน แล้วล่องเรือ หลบหนตี ามแมน่ ำ�้ เจา้ พระยา ไปซอ่ งสมุ ปรบั กำ� ลงั พลทเ่ี มอื งจนั ทบรุ ี กรงุ ศรอี ยธุ ยากเ็ สยี แกพ่ มา่ เมอื่ วนั ท่ี 7 เมษายน พ.ศ. 2310 เปน็ การสญู เสยี ครงั้ ยงิ่ ใหญ่ทปี่ ระชาชนเสยี ขวญั ทกุ ข์เขญ็ มาก จากนนั้ จงึ จดั การทพั ใหมเ่ ขา้ กอบกเู้ อกราชจากพมา่ ไดภ้ ายใน 7 เดอื น เมอ่ื วนั ที่ 6 พฤศจกิ ายน
4 เหลา่ ทหารชา่ ง พ.ศ. 2310 แล้วทรงปราบดาภเิ ษกข้ึนเป็นพระมหากษตั ริย์ เมอื่ วนั พธุ แรม 4 คำ�่ เดอื นอ้าย ปีกุน นพศก จลุ ศกั ราช 1129 ตรงกบั วนั ท่ี 28 ธนั วาคม พ.ศ. 2310 ทรงพระนามว่า สมเด็จ พระศรีสรรเพชร์ที่ 8 หรือพระบรมราชาท่ี 4 พระองค์ทรงย้ายจากเมืองหลวงเก่าไปสร้าง เมอื งหลวงใหมท่ กี่ รงุ ธนบรุ ี ทรงสรา้ งวดั สรา้ งเมอื ง สรา้ งพระราชวงั ใหม่ ชอื่ วา่ “พระราชวงั เดมิ ” ในพนื้ ทก่ี รมอทู่ หารเรอื ปจั จบุ นั ซง่ึ เปน็ ผลงานทางดา้ นชา่ งของไพรช่ า่ งยคุ โบราณ พระองคท์ รง ครองราชย์อยู่ได้ถงึ 15 ปี กถ็ ูกส�ำเร็จโทษด้วยท่อนจนั ทน์เมอื่ ปี พ.ศ. 2325 กส็ นิ้ สุดยคุ โบราณ 2.4 ยคุ รัตนโกสนิ ทร์ สมัยรตั นโกสินทรต์ อนต้น สมัยรตั นโกสนิ ทร์ตอนต้นเรม่ิ จากรัชกาลที่ 1 ถงึ รชั กาลท่ี 4 ซงึ่ มเี หตุการณ์ ส�ำคญั เกิดขนึ้ ครั้งใหญ่คอื ไทยรบกบั พม่า เรียกว่า “สงครามเก้าทพั ” ในแผ่นดินของพระบาท สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระองค์ทรงสู้รบจนได้ชัยชนะต่อข้าศึก ทัพหลวง ของพม่าไม่สามารถเคลื่อนทัพมายังพระนครได้ พอสงครามสงบลง พระองค์ทรงสร้างเมือง สรา้ งวดั สรา้ งพระบรมมหาราชวงั สรา้ งพระพทุ ธรปู สรา้ งถนน สรา้ งสะพาน สรา้ งเมอื งหลวงใหม่ ทเ่ี มืองบางกอก ในแผน่ ดนิ ของพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลยั รชั กาลท่ี 2 พระองค์ ทรงสรา้ งเมอื ง สรา้ งวดั สรา้ งคา่ ยทหาร ตอ่ จากรชั กาลท่ี 1 ใหม้ คี วามสะดวก ความเจรญิ ยงิ่ ขนึ้ โดยใช้ไพร่พลช่างท้งั สองกอง ในแผ่นดินของพระบาทสมเด็จพระน่ังเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 3 พระองค์ ทรงท�ำนุบ�ำรุงวัง วัด บ้านเมือง ต่อจากรัชกาลท่ี 4 สร้างศิลปวัฒนธรรมให้เป็นเอกลักษณ์ ประจำ� ชาติ สมยั รตั นโกสินทร์ตอนต้น ได้แก่ โลหะปราสาท เป็นต้น ในแผ่นดินของพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 4 ข้าวยาก หมากแพง อาหารการกินขาดแคลน มีโรคระบาดขึ้นในกรุง มีผู้คนเสียชีวิตมาก บ้านเมือง เจริญมากขึ้นประชาชนก็ยิ่งมากข้ึน แต่ผู้คนไม่มีศีลธรรม คุณธรรม และความดี พระองค์ จงึ สร้าง “คน” ด้วยการสังคยานาพระไตรปิฎก แต่งหนังสอื 7 ต�ำนาน 12 ตำ� นาน หนังสือ นวโกวาท เพ่ือให้ประชาชนได้ศกึ ษาบวชเรียน ทรงสร้างพระสยามเทวาธิราช พระไพรีพนิ าศ ทรงท�ำน้�ำพระพุทธมนต์ประพรมไปท่ัวพระนคร โรคร้ายก็หายไป ทรงปลดปล่อยช้าง ม้า วัว ควาย ไพร่พลท่ีเกณฑ์มาเป็นทหารกลับสู่ภูมิล�ำเนาของตน ในจ�ำนวนนี้มีไพร่พลช่าง ทง้ั 2 กอง ถูกปลอดปล่อยกลับไปด้วย ไพร่พลเหล่านีจ้ งึ ได้ใช้วชิ าชีพท่ตี นเองถนดั ประกอบ สมั มาชพี เลยี้ งตนตอ่ มา จงึ ทำ� ใหเ้ กดิ มี “ศลิ ปะชา่ งสบิ หม”ู่ ขน้ึ มาในหมปู่ ระชาชน ประกอบดว้ ย ช่างเขียน ช่างขดุ ช่างแกะ ช่างปูน ช่างปั้น ช่างบุ ช่างรกั ช่างหลกั ช่างหล่อ ช่างกลงึ เป็นต้น
2.5 สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จนถึง เหล่าทหารช่าง 5 ปจั จุบัน 9 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2414 พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงเสดจ็ ประพาสยโุ รป อเมรกิ า รัสเซีย อนิ เดยี สิงคโปร์ ทรงนำ� แบบอย่างการจดั กองทหารทชี่ าวยุโรป ใช้อยู่มา “ดดั แปลงแก้ไขให้เหมาะสมกับประเทศไทย” ทรงมอบหมายให้ Mr. Henry Albaster หมอสอนศาสนาชาวองั กฤษ ทำ� การสอนวชิ าแผนท่ี ไฟฟา้ โทรเลข ใหก้ บั ทหารมหาดเลก็ รกั ษา พระองค์ในวงั พ.ศ. 2417 Mr. Henry Reed พอ่ คา้ ชาวองั กฤษ ไดข้ อพระราชทานจดั ตง้ั บรษิ ทั รบั สัมปทาน สร้างและบำ� รงุ รกั ษาเส้นทาง สะพาน สายโทรเลข ตามหวั เมืองต่าง ๆ พระองค์ ทรงไม่โปรดอนญุ าต 23 มิถุนายน พ.ศ. 2418 พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ต้ัง “กองทหาร อินจิเนียร์” ข้ึนมาด�ำเนินการปักเสาพาดสายโทรเลขจากวังสราญรมย์ไปยังจังหวัด สมุทรปราการ เป็นระยะทาง 28 กิโลเมตร โดยพระยากลาโหมเป็นผู้ดำ� เนินการ มีหม่อม เทวาธริ าชเป็นผู้อำ� นวยการสร้าง พ.ศ. 2421 จอมพล สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภมิ ขุ ฯ เจ้าฟ้าภาณุรงั ษี สวา่ งวงศ์ กรมพระยาภาณพุ นั ธวุ งศว์ รเดช ทรงไดร้ บั พระราชทานโปรดเกลา้ ฯ ใหด้ ำ� รงตำ� แหนง่ เปน็ “นายทหารพเิ ศษ” ประจ�ำกรมทหารหนา้ ซง่ึ เปน็ ตน้ รากของกรมทหารบกราบท่ี 4 จงั หวดั ราชบรุ ี 23 มกราคม 2424 ทรงมีพระประสูติกาล พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร พระโอรสองค์ที่ 35 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 กับ เจ้าจอมมารดา “วาด” ในสกุล “กัลยาณมิตร” พ.ศ. 2437 พระองค์เจ้าบรุ ฉัตรไชยากรมพี ระชนม์ได้ 13 พรรษา เสดจ็ ไปศกึ ษาต่อ ชนั้ ต้นทป่ี ระเทศองั กฤษ 2 ปี จบการศกึ ษา พ.ศ. 2439 พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากรทรงเข้าศึกษาต่อช้ันสูงในโรงเรียน Harrow School พ.ศ. 2440 พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงยา้ ยเมอื งราชบรุ กี ลบั ไป ตง้ั อยู่บนฝั่งขวาของแม่นำ้� แม่กลองตามเดมิ ที่บริเวณวดั มหาธาตุปัจจบุ นั พ.ศ. 2445 กรมทหารบกราบที่ 4 สวนดุสิต มีพระองค์เจ้ากาญจโนภาสรัศมี เปน็ ผบู้ ญั ชาการ ไดแ้ บง่ กำ� ลงั ในกรมใหม้ าตงั้ อยใู่ นกำ� แพงเมอื งเกา่ ราชบรุ บี นฝง่ั ซา้ ยของแมน่ ำ�้ แม่กลอง โดยมี พ.ท.พระศรณี รงค์ วชิ ยั เป็นผู้บงั คับบญั ชา
6 เหลา่ ทหารชา่ ง พ.ศ. 2446 กรมบญั ชาการกองพลทหารบกท่ี 4 กรมทหารบกราบที่ 4 สวนดุสิต ได้ย้ายมาสมทบกับกองทหารในกำ� แพงเมอื งราชบุรที งั้ หมด ค่ายทหารท่ีจังหวัดราชบุรีเดิมเป็นท่ีต้ัง กองบัญชาการกองพลทหารบกที่ 4 และกรมทหารราบที่ 4 มีนายทหารพิเศษผู้สร้างความเจริญให้แก่ค่ายทหารแห่งน้ีมากท่ีสุด คือ จอมพล สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยา ภาณพุ ันธวุ งศ์วรเดช พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากรทรงจบการศึกษาหลักสูตรวิศวกรรมโยธา (Civil Engineering) ณ มหาวทิ ยาลยั Cambridge แล้วพระองค์ทรงเข้ารับการศึกษาต่อวิชา “การช่าง ทหารบก” (The School of Military Engineering At Chatham) พ.ศ. 2447 “กองทหารอินจเิ นยี ร์” แปรสภาพเป็น “กรมทหารช่าง” ตลุ าคม 2448 พระองคเ์ จา้ บรุ ฉตั รไชยากรทรงจบการศกึ ษาจากโรงเรยี นวศิ วกรรม ทหาร ณ เมือง Chatham ในเวลา 2 ปี แล้วเสดจ็ กลบั กรุงเทพมหานคร เข้ารับราชการเป็น ทหารช่าง ทรงพระยศเป็น “นายพันตร”ี เม่ือพระชนมายไุ ด้ 24 พรรษา พ.ศ. 2449 พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากรทรงได้รับพระราชทานพระยศเป็น “นายพนั เอก” “กรมทหารช่าง” ได้รับการสถาปนาเป็น กรมทหารช่างท่ี 1 รกั ษาพระองค์ 1 เมษายน 2451 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ แตง่ ตง้ั ใหน้ ายพนั เอก พระเจา้ ลกู ยาเธอ กรมหมน่ื กำ� แพงเพชรอคั รโยธนิ เปน็ “จเรทหารชา่ ง” ตลอด ระยะเวลาที่ทรงด�ำรงต�ำแหน่งจเรทหารช่างอยู่น้ัน พระองค์ทรงฝึกอบรมวิชาทหารช่าง สมัยใหม่ให้ทันสมัยเจริญทัดเทียมกับประเทศตะวันตก ตามแบบอย่างกองทหารอังกฤษที่ เรยี กวา่ Royal Engineer ไดส้ รา้ งถนน สะพาน อาคาร ขดุ อโุ มงค์ ทำ� การกอ่ วนิ าศกรรม พระองค์ ทรงรับหน้าท่เี ป็นพระอาจารย์สอนวิชาทหารช่างให้แก่นกั เรียนนายร้อยทหารบกด้วย ทรงแต่ง ตำ� ราทหารชา่ งขน้ึ เปน็ ภาษาไทย เลม่ ที่ 1 วา่ ดว้ ยแบบสรา้ งสะพานทหารและวธิ กี ารใชไ้ มม่ ภี าพ ประกอบดว้ ยอยา่ งสมบรู ณ์ ตำ� ราเลม่ ที่ 2 วา่ ดว้ ยวธิ ขี ดุ บอ่ ระเบดิ และวธิ กี ารใชด้ นิ ระเบดิ ระเบดิ ทางรถไฟ การวางรางรถไฟ จนกระท่ังพระองค์ทรงดำ� รงต�ำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวง คมนาคม และกระทรวงพาณิชย์
กองพลทหารบก ท่ี 4 ราชบรุ ี มีพลตรี พระยาพหลพลพยุหเสนา (นพ พหลโยธิน) เหล่าทหารช่าง 7 เป็นผู้บญั ชาการกองพล มหี น่วยในบงั คบั บญั ชา ได้แก่ กองบญั ชาการกองพล กองพยาบาล ท่ี 4 มณฑลทหารกองพันพเิ ศษ 23 ตุลาคม 2453 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต พระชนมายุได้ 58 พรรษา พ.ศ. 2454 พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยู่หัว รชั กาลที่ 6 ทรงพระกรณุ า โปรดเกลา้ ฯ แตง่ ตงั้ ให้ จอมพล สมเดจ็ พระราชปติ ลุ าบรมพงศาภมิ ขุ เจา้ ฟา้ ภาณรุ งั ษสี วา่ งวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธวุ งศ์วรเดชเป็น “ผู้บงั คบั การพิเศษ” ประจำ� กรมทหารบกราบที่ 4 ตลอด มาจนกระทัง่ ทวิ งคต รัชกาลท่ี 6 พระองค์ทรงจัดตั้ง “แผนกจเรทหารช่าง” ข้ึน การบังคับบัญชา ต่อเสนาบดกี ระทรวงกลาโหม ซงึ่ นบั ได้ว่าเป็นจดุ ก�ำเนดิ “กรมการทหารช่าง” ในปัจจุบนั รชั กาลที่ 6 พระองค์ทรงจดั ต้ัง “โรงเรียนฝึกหดั ทหารช่าง” พ.ศ. 2457 “แผนกจเรทหารช่าง” เปลีย่ นช่อื เป็น “กรมจเรช่างทหารบก” พ.ศ. 2459 “โรงเรียนฝึกหัดทหารช่าง” เปล่ียนช่ือเป็น “โรงเรียนทหารช่าง” ข้ึนกบั กรมจเรช่างทหารบก 22 กรกฎาคม 2460 ไทยประกาศสงครามกบั เยอรมนี กระทรวงกลาโหมประกาศ ยกเลิกกองทหารช่างทง้ั หมด ให้เหลอื เพยี ง 3 กรมเท่าน้นั ได้แก่ กรมทหารช่างที่ 1 รักษา พระองค์ กรมทหารบกช่างที่ 2, 3 พ.ศ. 2465 “กรมจเรช่างทหารบก” เปลยี่ นชอื่ เป็น “กรมจเรทหารช่าง” พ.ศ. 2466 ทหารช่างปรับปรุงหน่วยเป็น “กรมจเรทหารช่าง” ประกอบด้วย กรมทหารชา่ งที่ 1 รกั ษาพระองค์ มี 2 กองพนั คอื กองพนั ทหารชา่ งท่ี 1 รกั ษาพระองค,์ กองพนั ทหารช่างที่ 1 เครอ่ื งสัญญาณ กรมทหารช่างท่ี 2 ช่างสะพาน, กรมทหารช่างที่ 3 ช่างรถไฟ พ.ศ. 2469 “กรมจเรทหารช่าง” ได้โอนมาอยู่ในการบังคับบัญชาของ “กรมเสนาธกิ ารทหารบก” 13 มถิ นุ ายน 2471 จอมพล สมเดจ็ พระราชปิตลุ าบรมพงษาภมิ ขุ เจา้ ฟ้าภาณรุ งั ษี สว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพนั ธวุ งศ์วรเดช องค์อปุ ถัมภก ผู้บังคบั การพเิ ศษ กรมทหารหน้า เสด็จทิวงคต ณ วังบูรพาภิรมย์ รวมเวลาที่ทรงเป็นนายทหารผู้ใหญ่อยู่ในกรมทหารบกราบ ท่ี 4 นานถึง 50 ปี ทรงท�ำนุบ�ำรุงกรมทหารบกราบท่ี 4 ค่ายทหารในจังหวัดราชบุรี
8 เหลา่ ทหารชา่ ง ให้เจริญก้าวหน้าขน้ึ มากมาย ทรงให้ทหารได้มีโรงเรอื นกินอยู่หลับนอนสะดวกสบาย ทันสมยั ทรงมีความอุตสาหะเสด็จมาทรงร่วมฉลองโล่และพระราชทานโอวาทด้วยพระองค์เองทุกปี จึงเป็นการเหมาะสมอย่างยิ่งท่ีได้ขอพระราชทานนามค่ายทหารแห่งนี้ว่า “ค่ายภาณุรังษี” เพื่อเป็นอนุสรณ์ส�ำหรับพระองค์ผู้ทรงเป็น “องค์อุปถัมภก” หน่วยทหารในค่ายแห่งนี้เป็น เวลานาน “คา่ ยภาณรุ งั ษ”ี ต. พงษส์ วาย อ. เมอื ง จ. ราชบรุ ี 70000 เปน็ ทตี่ ง้ั ของกรมทหารชา่ งและ จงั หวดั ทหารบกราบท่ี 4 “คา่ ยบรุ ฉตั ร” ต. เกาะพลบั พลา อ. เมอื ง จ. ราชบรุ ี 70000 เปน็ ทต่ี งั้ ของ กองพลทหารบกราบ กรมทหารช่างท่ี 1 รกั ษาพระองค์ และกรมทหารช่างท่ี 11 24 มถิ ุนายน 2475 บ้ันปลายแห่งพระชนม์ชพี ของพระบดิ าแห่งทหารช่าง มีการ ยึดอ�ำนาจการปกครองแผ่นดินจากคณะราษฎร์ เปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดิน พระองค์ เสดจ็ ออกจากราชการทุกประเภท สงิ หาคม 2475 สมยั เปลยี่ นแปลงการปกครองแผน่ ดนิ ไดม้ กี ารจดั หนว่ ยทหารชา่ ง ใหม่ โดยยุบ “กรมจเรทหารช่าง” เป็น “กองบังคับการทหารช่างและสื่อสาร” ขึ้นตรงต่อ “กองทัพบก” มหี น่วยในบงั คบั บัญชาคือ กองพันทหารช่างท่ี 1, 2 กองพันทหารสื่อสารท่ี 1, 2 พ.ศ. 2476 ได้มีการจัดตั้งมณฑลทหารบกท่ี 5 และจังหวัดทหารบกราชบุรีข้ึน ในค่ายทหารเมืองราชการ แล้วย้ายกองพันทหารช่างที่ 1 จากอยุธยามาต้ังไว้ที่จังหวัด ราชบรุ ี มีเขตการปกครองพนื้ ท่จี งั หวดั ราชบรุ ี จงั หวดั กาญจนบุรี จังหวดั สมุทรสงคราม โดยมี พ.ท. หลวงเสนาณรงค์ เป็นผู้บัญชาการ พ.ศ. 2477 “กองบงั คบั การทหารช่างและสอื่ สาร” ได้แปรสภาพไปเป็น “แผนก 4” กรมจเรทหารบก มี 5 แผนก ไดแ้ ก่ แผนก 1 ทหารราบ, แผนก 2 ทหารมา้ , แผนก 3 ทหารปนื ใหญ,่ แผนก 4 ทหารช่าง, แผนก 5 ทหารสือ่ สาร ในปีเดียวกันน้ี พระบิดาแห่งทหารช่างทรงเสด็จลี้ภัยทางการเมืองไปพ�ำนักอยู่ เมืองสิงคโปร์ ด้วยความห่วงใย ทรงไต่ถามถงึ ความก้าวหน้าของพระคลังออมสนิ 14 กนั ยายน 2479 พระบดิ าแห่งทหารช่าง ทรงประชวรหนักขนึ้ และสิ้นพระชนม์ ณ โรงพยาบาลในเมอื งสงิ คโปร์ ด้วยพระชนม์ชพี เพียง 54 พรรษา 7 เดอื น 22 วัน “พระนามเต็มของพระบดิ าทหารช่าง” นายพลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำ� แพงเพชรอคั รโยธิน ประชาธบิ ดินทร เจษฎาภาดา ปิยมหาราชวงศ์วิศิษฎ์ อเนกยนตรวิจิตรกฤตยโกศล วิมลรัตนมหาโยธาธิบดี ราชธุรันธรีมโหฬาร พานิชยการคมนาคม อุดมรัตนตรัย สรณธาดามัททวเมตตาชวาศรัย ฉตั ร์ชยั ดิลกบพติ ร
พ.ศ. 2484 “แผนก 4 ทหารช่าง” เปล่ยี นช่อื เป็น “แผนกทหารช่าง” ขึน้ ตรงต่อ เหล่าทหารช่าง 9 กรมพลาธิการทหารบก ตามคำ� ส่ังทหารท่ี 231/22265 ลง 5 ม.ิ ย. 84 และได้ย้ายจากจังหวัด พระนคร ไปตงั้ ทจ่ี งั หวดั ราชบุรี พ.ศ. 2488 “แผนกทหารช่าง” แปรสภาพเป็น “กรมจเรทหารช่าง” ขึน้ ตรงต่อกรม จเรทหารบก ตามคำ� สงั่ ทบ. พเิ ศษลบั -ดว่ น ที่ 240 ลง 4 ธ.ค. 88 โดยมี พลตรี หมอ่ มหลวงโอสถ ทนิ กรเป็นจเรทหารช่าง และได้เป็นเจ้ากรมการทหารช่าง (จก.กช.) คนแรกของเหล่าทหารช่าง มีนาคม 2493 มคี ำ� สัง่ กระทรวงกลาโหม พเิ ศษ ที่ 13/4669 ลง 20 มี.ค. 93 ให้จดั ส่วนราชการเป็นกองบังคับการกรมและแผนก 1, 2, 3, 4 พ.ศ. 2495 “กรมจเรทหารช่าง” เปล่ยี นชือ่ เป็น “กรมการทหารช่าง” ข้นึ ตรงต่อ กองทพั บก ตามค�ำสัง่ กระทรวงกลาโหม (พเิ ศษ) ท่ี 59/23640 ลง 19 พ.ย. 59 พ.ศ. 2497 ได้มกี ารปรับปรงุ อตั ราการจดั “กรมการทหารช่าง” ใหม่เป็น 2 ส่วน คอื กรมบังคบั การกรมการทหารช่าง และโรงเรียนทหารช่าง พ.ศ. 2498 กรมทหารช่างท่ี 1 รกั ษาพระองค์ ได้รับการสถาปนาเมื่อปี พ.ศ. 2499 ได้มาขึน้ ตรงต่อกรมการทหารช่าง ราชบุรี 23 เมษายน 2507 กรมการทหารชา่ งและจงั หวดั ทหารบกราชบรุ ไี ดร้ บั พระราชทาน นามค่ายว่า “ค่ายภาณรุ ังษ”ี พ.ศ. 2511 กรมการทหารชา่ งไดเ้ รมิ่ ใช้ “อตั ราการจดั เฉพาะกจิ ” (อฉก.) หมายเลข 3200 ตามคำ� สง่ั ทบ. (เฉพาะ) ที่ 75/11 ลง 29 ก.ค. 11 มาจนถึงปัจจบุ ัน พ.ศ. 2532 กระทรวงกลาโหมก�ำหนดให้จัดตั้ง “กองพลทหารช่าง” ขึน้่ ตามคำ� สั่ง ทบ. (เฉพาะ) ลับ ที่ 169/32 ลง 25 ก.ย. 32 เพื่อการพฒั นาประเทศและการก่อสร้างขนาดใหญ่
10 เหลา่ ทหารชา่ ง บทที่ ภารกจิ มูลฐานของทหารชา่ ง 1. ภารกิจมูลฐาน ภารกจิ หลกั ของหน่วยทหารช่างในยทุ ธบรเิ วณ ก็คอื การเพ่ิมพูนสมรรถภาพ ในการรบให้กับก�ำลังของกองทัพโดยการก่อสร้างหรือการท�ำลาย ซึ่งจะอ�ำนวยความ สะดวกในการเคล่ือนย้ายให้กับก�ำลังฝ่ายเดียวกัน หรือขัดขวางการเคลื่อนย้ายและ การปฏิบัติการของข้าศึก หน่วยทหารช่างให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคแก่ทหารเหล่าอ่ืน ในการก่อสร้างงานป้องกัน งานการพราง และโดยการส่งก�ำลังวัสดุและซ่อมบ�ำรุง เครื่องมอื สายช่าง หน่วยทหารช่างได้รับการฝึกในทางยทุ ธวิธี และเข้าปฏบิ ตั กิ ารรบอย่าง ทหารราบได้ในเมือ่ ได้รบั ค�ำสง่ั 2. ภารกิจเฉพาะ ภารกจิ ของทหารช่าง ประกอบด้วย 2.1 เครื่องกีดขวาง การวางเครื่องกีดขวางเพื่อขัดขวางการเคล่ือนย้ายของ ข้าศึก และการรอื้ ถอนหรอื ท�ำช่องทางผ่านเครื่องกีดขวางทีข่ ้าศึกได้วางเอาไว้ 2.2 เสน้ ทางคมนาคม การกอ่ สรา้ ง การฟน้ื ฟู และการบ�ำรงุ รกั ษาถนน สะพาน และการก่อสร้าง การฟื้นฟู และการบ�ำรุงรักษาอย่างขนาดใหญ่เก่ียวกับทางรถไฟทหาร และการบำ� รงุ รักษาการคมนาคมทางน้าํ ภายในประเทศ 2.3 เครื่องอำ� นวยความสะดวก ณ สถานปี ลายทาง การก่อสร้าง การฟื้นฟู และการบำ� รุงรกั ษาอย่างขนาดใหญ่เกีย่ วกับการท่าเรอื และฐานทัพอากาศ
2.4 การท�ำลายด้วยดินระเบิด การเตรียมการและการปฏิบัติการท�ำลายด้วย เหล่าทหารช่าง 11 วัตถุระเบิด และด้วยวิธีการท�ำลายอย่างอ่ืน ๆ ในการท�ำลายทุกชนิด อันประกอบด้วย ถนน ทางรถไฟ สะพาน โครงสร้างเครอ่ื งกดี ขวาง ป้อมค่าย ยทุ ธภัณฑ์ ฯลฯ 2.5 การก่อสร้าง การกอ่ สร้างทวั่ ๆ ไปทกุ ชนดิ เชน่ โรงทหารชวั่ คราว โรงเกบ็ ของ โรงพยาบาล ฯลฯ รวมทั้งการประปา การระบายส่ิงปฏิกูล และการให้กำ� ลังงาน 2.6 แผนท่ี การเตรยี มการผลติ การผลติ ซาํ้ การเกบ็ รกั ษา และการแจกจา่ ยแผนทแี่ ละ สง่ิ ทใ่ี ชท้ ดแทนแผนที่ (การเตรยี มการผลติ การผลติ ซา้ํ เปน็ ความรบั ผดิ ชอบของกรมแผนทท่ี หาร) 2.7 การดดั แปลงงานต้งั รบั การให้ความช่วยเหลือทางเทคนคิ และการก่อสร้าง พิเศษบางอย่าง รวมทั้งการวางผงั และการเตรียมทมี่ นั่ ต้งั รับและสถานทีต่ ง้ั การพราง 2.8 การประปาสนาม 2.9 การส่งก�ำลังสาย ซ. และการซ่อมบ�ำรุงเครื่องมือช่างบางชนิดตามท่ี กองทพั บกก�ำหนด 2.10 การสนับสนุนการรบ กิจกรรมพิเศษในข้ันต่าง ๆ ของการรบ (การเข้าตี การตัง้ รับ การร่นถอย การยกพลขนึ้ บก สะเทนิ นา้ํ สะเทนิ บก ฯลฯ ทำ� การรบอย่างทหารราบ เมอื่ ได้รับคำ� สง่ั ) 2.11 กจิ กรรมของหน่วย ด�ำเนินงานธรุ การของหน่วย การส่งก�ำลงั การซ่อมบ�ำรุง การระวงั ป้องกัน และการฝึกหน่วยทหารช่าง 3. แบบการจัดหน่วย หน่วยทหารช่างในยทุ ธบริเวณแบ่งการจดั หน่วยได้ ดังต่อไปนี้ 3.1 กองร้อยทหารช่างอิสระ *3.2 กองพันทหารช่าง *3.3 กรมทหารช่าง 3.4 กองพลน้อยทหารช่าง *3.5 กองพลทหารช่าง 3.6 เจ้าหน้าท่เี รอื ขดุ ทหารช่าง 3.7 ชดุ ทหารช่าง *3.8 ตอนทหารช่าง (*แบบของการจดั หน่วยของทหารช่าง ทบ.ไทย)
12 เหลา่ ทหารชา่ ง 4. กองรอ้ ยทหารชา่ งอสิ ระ 4.1 หน่วยทหารช่างแบบนี้ไม่ใช่หน่วยในอัตราของกองพันทหารช่าง กองร้อย ทหารช่างอิสระในหน่วยบัญชาการทหารช่างช้ันเหนือ โดยท่ัว ๆ ไปแล้วอาจบรรจุมอบหรือ จดั ให้ขน้ึ สมทบกบั กรมทหารช่างหรือหน่วยทหารช่างอ่นื ๆ ซึง่ มีการจดั เท่าเทียมกนั 4.2 การจัดกำ� ลงั ของกองร้อยทหารช่างอิสระ คอื บก.ร้อย. และหมวดทหารช่าง ตง้ั แต่ 2 หมวดข้นึ ไป 4.2.1 หมวดทหารช่าง เป็นส่วนก�ำลังปฏิบัติงานหลักของกองร้อย หมวด เหล่าน้ีอาจจะจัดก�ำลังเหมือนกันท้ังหมด เช่น ในกองร้อยทหารช่างสะพานเรือทุ่น หรือ อาจจะจัดก�ำลังแตกต่างกัน เช่น ในกองร้อยทหารช่างซ่อมบ�ำรุงหนัก หรือจัดก�ำลังผสมกัน เช่น ในกองร้อยทหารช่างเครือ่ งมือเบา 4.2.2 บก.ร้อย. ประกอบด้วยเจ้าหน้าทก่ี ำ� กับตรวจตราและเจ้าหน้าท่เี ล้ยี งดู อาจประกอบดว้ ยหนงึ่ ตอนหรอื มากกวา่ หรอื เทยี บเทา่ ทำ� หนา้ ทส่ี นบั สนนุ กำ� ลงั สว่ นปฏบิ ตั กิ าร โดยการให้การบริการพิเศษ ตวั อย่างเช่น การช่อมบำ� รุงเครอื่ งมือ จดั เคร่ืองมอื พิเศษเพ่ิมเติม ให้กบั หมวดทไี่ ด้รับมอบหมาย หรอื ด้วยวธิ ีการอ่นื ๆ ปัจจบุ นั ทหารช่าง ทบ.ไทย จดั อยู่ในประเภทกองร้อยทหารช่างอิสระ กองร้อย ทหารช่างซ่อมบำ� รุงสนาม กองร้อยทหารช่างซ่อมบำ� รุงหนัก กองร้อยทหารช่างเคร่ืองมือเบา กองร้อยทหารช่างรถยนต์บรรทุกเทท้าย กองร้อยทหารช่างสะพานผสม และกองร้อย ทหารช่างสนบั สนุนการก่อสร้าง 5. กองพันทหารช่าง 5.1 กองพนั ซง่ึ จัดก�ำลงั เต็มอัตรา ประกอบด้วย บก.พนั . กองร้อยกองบังคบั การ และบริการกองร้อยปฏิบัติงาน ต้ังแต่ 2 กองร้อยหรือมากกว่า และบางทีอาจจะมีส่วนแยก สมทบของเสนารกั ษ์ด้วย 5.2 บก.พัน. ประกอบด้วย ผู้บังคับกองพัน รองผู้บังคับกองพัน และหมู่ฝ่าย อำ� นวยการ ซ่ึงปฏิบัติหน้าท่ีฝ่ายอ�ำนวยการ ตามปกติในหน้าท่ีของ ฝอ.1 ฝอ.2 ฝอ.3 และ ฝอ.4 อาจจะมหี มู่อืน่ ๆ เพิ่มเตมิ เพ่ือปฏบิ ตั หิ น้าทก่ี ารลาดตระเวนและการตดิ ต่อส่ือสาร
5.3 กองรอ้ ยกองบงั คบั การและบรกิ าร มี บก.รอ้ ย.ของตนเอง และมหี นา้ ทร่ี บั ผดิ ชอบ เหล่าทหารช่าง 13 ในด้านธุรการและเลี้ยงดูนายสิบพลทหารของ บก.พัน.ด้วย นอกจากนี้ อาจมีหมวดตั้งแต่ หน่ึงหมวดหรือมากกว่าที่จะให้การสนับสนุนหรือเพิ่มเติมกองร้อยปฏิบัติงานด้วยการบริการ พิเศษ 5.4 กองร้อยปฏิบัติงาน คงจัดก�ำลังเช่นเดียวกันกับกองร้อยทหารช่างอิสระ ตามที่กล่าวมาแล้ว กองร้อยอาจจัดก�ำลังเหมือนกันหมด เช่น ในกองพันทหารช่างสนาม ของกองพล และของกองทัพ 5.5 กองพันทหารช่างข้างล่างนี้ เป็นกองพนั ซ่ึงจดั ก�ำลังเต็มอัตรา - กองพนั ทหารช่างสนามของกองพล - กองพนั ทหารช่างสนามของกองทัพ - กองพันทหารช่างก่อสร้าง 6. กรมทหารช่าง 6.1 หน่วยทหารช่างแบบน้ี จัดก�ำลังให้มี บก. และ ร้อย.บก. และปฏิบัติงาน ตามการในหน้าที่ โดยได้รับบรรจมุ อบหรอื จดั ขนึ้ สมทบจากหน่วยทหารช่างอน่ื ๆ เพ่ือจดั เป็น ชุดปฏิบัติงาน ดังนั้น จึงจัดอยู่ในจ�ำพวกกองพัน “อ่อนตัว” ตามท่ีกล่าวมาแล้วข้างต้น แต่อย่างไรกต็ าม ณ ระดบั หนว่ ยกรมแล้ว ย่อมขน้ึ อย่กู บั ขนาดและขอบเขตของการปฏบิ ตั กิ าร และอาจมีกองพันทหารช่างหลายกองพัน กองร้อยทหารช่างอิสระหลายกองร้อย และกำ� ลัง ส่วนอื่น ๆ 6.2 บก. และ ร้อย.บก. ของกรมทหารช่างคงจัดกำ� ลังตามหลักการท่ัวไป เช่น ในกรณเี ป็นกองพันจะมสี ่วนบริการเพียงเลก็ น้อย ส่วนต่าง ๆ เหล่าน้มี ีหมู่สื่อสารท้ังส้ิน 6.3 กรมทหารช่าง ได้แก่ - กรมทหารช่างสนาม - กรมทหารช่างส่งก�ำลงั และซ่อมบำ� รุง 7. การใชท้ หารชา่ ง 7.1 การใช้หน่วยทหารช่างนน้ั ต้องยึดถอื หลักว่า งานน้ันต้องการความชำ� นาญ ทางเทคนคิ และเครอื่ งมอื พเิ ศษ หนว่ ยทหารชา่ งควรจะไดร้ บั มอบกจิ เฉพาะใหเ้ ปน็ ไปตามลำ� ดบั
14 เหลา่ ทหารชา่ ง ความเร่งด่วนซึ่งได้รับอนุมัติแล้ว และกิจเฉพาะน้ันมีความส�ำคัญต่อหน่วยบัญชาการเป็น ส่วนรวม และมีความส�ำคัญต่อภารกจิ จะต้องไม่คิดว่าหน่วยทหารช่างเป็นแหล่งรวมกรรมกร และแหล่งรวมช่างกล ซง่ึ จะแบ่งมอบออกไปปฏบิ ตั ิงานต่าง ๆ เป็นรายบุคคล 7.2 หน่วยทหารช่างควรจะเข้าปฏิบัติการรบอย่างทหารราบเฉพาะในกรณี ฉุกเฉินอย่างยิ่งจริง ๆ จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในการตกลงใจท่ีจะให้หน่วยทหารช่าง ปฏบิ ัตกิ ารรบ จะต้องพิจารณาถึงผลได้ในการใช้หน่วยทหารช่างและผลเสียหายท่อี าจจะเกิด การสูญเสยี ทหารช่างทไี่ ด้รับการฝึกไว้แล้วในการปฏบิ ตั ิงานช่างตามการในหน้าท่ีในอนาคต 8. การขึน้ สมทบและการสนับสนุน 8.1 หน่วยข้ึนสมทบ หน่วยข้ึนสมทบหรือส่วนแยกสมทบนั้น คือ การไปขึ้นอยู่ ในบังคบั บญั ชาของหน่วยงานอนื่ ๆ เป็นการช่วั คราว อาจจดั ให้ขึ้นสมทบด้วยความมุ่งหมาย เฉพาะ เช่น เพอ่ื ให้ปฏบิ ัติงานเสบียงอาหาร การส่งกำ� ลัง หรือการธุรการ แต่อาจจะจ�ำกัดใน เร่ืองใดเร่ืองหน่ึงหรือหลายเรื่อง หรืออย่างอ่ืนตามท�ำนองนี้ การข้ึนสมทบ มีความหมายว่า หน่วยบัญชาการท่ีได้รับการขึ้นสมทบจะต้องรับผิดชอบในเรื่องการส่งก�ำลัง การธุรการ การฝึก และการปฏิบัติการของหน่วยท่ีขึ้นสมทบ จะไม่จัดหน่วยทหารช่างให้ขึ้นสมทบ ในเมอ่ื สามารถปฏิบัติภารกิจให้ส�ำเร็จได้โดยการให้การสนบั สนนุ 8.2 การสนับสนุน เม่ือหน่วยทหารช่างปฏิบัติงานช่างให้กับหน่วยอื่น แต่ไม่ข้ึน บงั คบั บัญชา เรียกว่า เป็นการสนบั สนนุ แบ่งออกเป็น 8.2.1 สนับสนุนโดยตรง คือ การท่ีหน่วยทหารช่างปฏิบัติงานช่างให้กับ หน่วยอื่นเฉพาะหน่วย การของานขอกันโดยตรงไม่ต้องผ่านหน่วยเหนือ คำ� ขอน้ันถือเป็น ความเร่งด่วนสูงที่หน่วยทหารช่างจะต้องปฏิบัติ เว้นแต่ค�ำขอนั้นจะขัดต่อค�ำสั่งหรือนโยบาย ของหน่วยเหนอื 8.2.2 สนับสนุนทั่วไป คือ การที่หน่วยทหารช่างปฏิบัติงานให้กับหน่วยอ่ืน หลายหน่วยพร้อมกนั การของานจะต้องขอผ่านผู้บังคบั บัญชาของหน่วยรับการสนบั สนุน 9. วธิ ปี ฏบิ ตั กิ าร 9.1 ประสิทธิภาพของงานช่างจะมีมากที่สุดในเม่ือกองพันทหารช่างปฏิบัติการ เปน็ กองพนั ในการควบคมุ บงั คบั บญั ชาของผบู้ งั คบั กองพนั โดยมากมกั จะจดั กองรอ้ ยทหารชา่ ง
ให้ท�ำการสนับสนุนโดยตรงต่อกรมทหารราบในแนวหน้าแต่ละกรม และก�ำลังท่ีเหลือ เหล่าทหารช่าง 15 ของกองพนั ใช้สำ� หรบั สนับสนนุ ท่วั ไป 9.2 เมื่อมีความจ�ำเป็นต้องจัดหน่วยทหารช่างให้ข้ึนสมทบกับหน่วยรบ แต่ควร จะเลกิ สมทบโดยเรว็ ทสี่ ดุ เทา่ ทจ่ี ะกระท�ำได้ และจะไมจ่ ดั หนว่ ยทหารชา่ งขนึ้ สมทบกบั หนว่ ยรบ ที่เป็นกองหนุน ทั้งน้ี เพ่ืออ�ำนวยให้สามารถใช้ก�ำลังทหารช่างให้เป็นประโยชน์มากที่สุด และยังมีความส�ำคัญย่ิงท่ีจะท�ำให้สิ่งอุปกรณ์สายช่างและเคร่ืองมือช่างได้รับการซ่อมบ�ำรุง อย่างได้ผล ทำ� ให้นายทหารช่างสามารถปฏบิ ตั กิ ารได้ในช่วงระยะเวลานานยิง่ ข้ึน 10. ผู้บงั คบั ทหารช่าง คำ� ว่า “ผู้บงั คับทหารช่าง” (ผบ.ช.) หมายถงึ นายทหารช่างซงึ่ ทำ� หน้าที่นายทหาร ฝ่ายกิจการพเิ ศษสายทหารช่างของหน่วยบญั ชาการ 11. การบงั คบั บัญชา 11.1 ผู้บังคับทหารช่างของแต่ละระดับหน่วยบัญชาการ และกองพลมีงาน ในหน้าท่ีสองประการ คอื เป็นผู้บังคับหน่วย และฝ่ายกิจการพิเศษ 11.2 หน่วยทหารช่างนอกกองพลอาจจะให้ขึ้นสมทบกับกองพลโดยไม่ค�ำนึงถึง ชนั้ ยศ หรอื อาวโุ สของผบู้ งั คบั หนว่ ยทหารชา่ งทมี่ าขน้ึ สมทบ ผบู้ งั คบั กองพนั ทหารชา่ งในอตั รา คงทำ� หน้าทผี่ ู้บงั คบั ทหารช่างของกองพล 11.3 เมื่อกองพลแยกหน่วยออกปฏิบัติการ จะเป็นรูปของกรมทหารราบหรือ กรมผสม หรือก�ำลังรบเฉพาะกิจขนาดกรม กองพันทหารช่างจะจัดกองร้อยทหารช่างให้ ขึ้นสมทบหรือสนับสนุนโดยตรง ผู้บังคับกองร้อยทหารช่างที่ขึ้นสมทบหรือสนับสนุนโดยตรง ท�ำหน้าท่ีเป็นผู้บังคับทหารช่างของกรมทหารราบ หรือกรมผสม หรือก�ำลังรบเฉพาะกิจ ขนาดกรม 11.4 ในการปฏิบัติการท่ีมีความส�ำคัญมาก หรือเม่ือมีกองร้อยทหารช่าง ขน้ึ สมทบกบั กำ� ลงั รบเฉพาะกจิ มากกวา่ หนงึ่ กองรอ้ ยแลว้ ผบู้ งั คบั ทหารชา่ งของกองพลควรจดั นายทหารช่างอาวุโสในบรรดาฝ่ายอำ� นวยการ ให้กระทำ� หน้าทผ่ี ู้บงั คบั ทหารช่างของกำ� ลังรบ เฉพาะกิจ การกระท�ำเช่นนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้บังคับกองร้อยทหารช่างสามารถรวบรวมก�ำลัง ปฏิบัตกิ ารเฉพาะทางการช่างของตน
11.5 ในท�ำนองเดียวกัน หมวดทหารช่างอาจถูกจัดให้ข้ึนสมทบกับกองพัน ทหารราบ หรือก�ำลังรบเฉพาะกิจขนาดกองพัน ผู้บังคับหมวดทหารช่างจะต้องท�ำหน้าท่ี ผู้บงั คับทหารช่างของกองพนั ทหารราบ หรือกำ� ลงั รบเฉพาะกิจขนาดกองพนั นั้นด้วย 16 เหลา่ ทหารชา่ ง
บทท่ี เหล่าทหารช่าง 17 กองพนั ทหารช่างสนาม 1. ภารกิจ 1.1 ภารกจิ ของกองพนั ทหารชา่ งสนามของกองพล คอื การเพมิ่ พนู สมรรถภาพ ในการรบของกองพลทหารราบโดยปฏบิ ัติงานช่างทว่ั ไป 1.2 ภารกจิ ของกองพนั ทหารชา่ งสนามของกองทพั คอื การเพมิ่ พนู สมรรถภาพ ในการรบของกองทพั น้อย หรอื กองทัพโดยปฏิบัติงานช่างทว่ั ไป และเพม่ิ เติมก�ำลังให้กบั ทหารช่างของกองพลเมือ่ ต้องการ 2. ขีดความสามารถ 2.1 วางแผนการอำ� นวยการและกำ� กบั ดแู ลในหนา้ ทฝ่ี า่ ยอำ� นวยการทหารชา่ ง ในเร่อื งการปฏิบตั ิงานช่างทัง้ ปวง 2.2 การลาดตระเวนทางการช่าง 2.3 สรา้ ง ซอ่ มแซม และบำ� รงุ รกั ษาถนน ทลี่ ยุ ขา้ ม ทอ่ นา้ํ สะพานเครอื่ งหนนุ มนั่ สะพานเคร่ืองหนุนลอย แพส่งข้าม ท่พี กั ก�ำบงั ท่บี งั คับการ ทต่ี ง้ั การต้ังรบั เครอื่ งกดี ขวาง และสนามทุ่นระเบดิ 2.4 ทำ� การกอ่ สรา้ งในสนามโดยทวั่ ไป รวมทงั้ กอ่ สรา้ งสนามบนิ และสนาม ฮ. 2.5 การท�ำลาย และรือ้ ถอนเครื่องกดี ขวาง รวมทง้ั สนามทุ่นระเบิด 2.6 จัดเจ้าหน้าท่ีและเคร่ืองข้ามล�ำนํ้าส�ำหรับการข้ามล�ำน้�ำต่อหน้าข้าศึก (กองพันทหารช่างสนามของกองทัพ ไม่มขี ีดความสามารถข้อนี้)
2.7 จัดการส่งก�ำลงั และบรกิ ารสายช่าง รวมทงั้ จดั ตงั้ ตำ� บลจ่ายนา้ํ 4 แห่ง 2.8 จดั การบริการเสนารกั ษ์ให้กับหน่วยต่าง ๆ ในกองพัน 2.9 ท�ำการรบอย่างทหารราบเมอ่ื จำ� เป็น 3. การจัด กองพันทหารช่างสนามของกองพลและของกองทพั จัดกำ� ลังดงั นี้ กองพนั ทหารช่างสนาม บก. และ ร้อย.บก/บร. กองร้อยทหารช่างสนาม ผงั การจดั กองพันทหารช่างสนามของกองพล 18 เหลา่ ทหารชา่ ง กองบงั คบั การกองพนั และกองร้อยกองบังคับการและบรกิ าร 1. ภารกจิ ภารกิจของกองบังคับการกองพัน และกองร้อยกองบังคับการและบริการ ได้แก่ จัดการบงั คับบัญชาการอำ� นวยการ การส่อื สาร การลาดตระเวน การส่งก�ำลัง การซ่อมบำ� รงุ และการจัดเคร่ืองมือหนักเพ่ิมเติมส�ำหรับกองพัน ถ้าจัดให้กับกองพันทหารช่างสนามของ กองพลจะต้องมีเจ้าหน้าท่ฝี ่ายอ�ำนวยการทหารช่างของกองพลด้วย 2. ขีดความสามารถ 2.1 วางแผน ก�ำกับดูแลการปฏิบัติการของหน่วยทหารช่างของกองพลหรือ กองทัพ 2.2 จดั การส่งก�ำลงั และบริการสายช่าง รวมทงั้ จัดตง้ั ตำ� บลจ่ายนำ�้ 4 แห่ง 2.3 จดั เครอ่ื งมอื หนกั เพ่ิมเตมิ ให้กบั กองร้อยทหารช่างสนามในกองพัน 2.4 ท�ำการลาดตระเวนทางการช่างและดำ� เนินการสือ่ สารภายในกองพนั
2.5 จัดเคร่ืองข้ามล�ำนํ้า ได้แก่ สะพานเครื่องหนุนมั่น สะพานเครื่องหนุนลอย และแพ ยุทธวิธีเบาสนับสนุนการข้ามล�ำน้ํา ถ้าเป็นของกองพันทหารช่างสนามของกองทัพ จะไม่มีขดี ความสามารถน้ี 2.6 จดั การบริการเสนารกั ษ์ให้แก่หน่วยต่าง ๆ ภายในกองพัน 2.7 อาจท�ำการรบอย่างทหารราบได้ในกรณีฉุกเฉนิ 2.8 ท�ำการซ่อมบ�ำรุงยานยนต์ล้อขั้นหน่วย (ขั้นที่ 2) และท�ำการซ่อมบ�ำรุง เครอื่ งมอื ช่างในข้นั สนับสนนุ โดยตรง (ขั้นที่ 3) ของกองพนั ได้อย่างจำ� กัด 3. การจดั กองบังคับการกองพัน และกองร้อยกองบังคับการและบริการ ประกอบด้วย ส่วนต่าง ๆ ตามรปู ข้างล่างน้ี กองบงั คับการกองพนั และกองร้อยบงั คับการและบริการ กองบงั คับการกองพัน กองร้อยกองบังคบั การและบรกิ าร เหล่าทหารช่าง 19 บก.ร้อย. หมวดเครอ่ื งมอื หมวดสะพาน* หมวดเสนารักษ์ หมู่ธุรการ หมู่ลาดตระเวนและการข่าว หมู่ยุทธการ หมู่ส่งก�ำลัง หมู่สอ่ื สาร หมู่ซ่อมบ�ำรุงกองพัน หมู่กองบงั คับการทหารช่างกองพล* หมายเหตุ *กองพนั ทหารช่างของกองทพั ไม่จัดหน่วยนี้ ผังการจดั กองบงั คบั การกองพนั และกองร้อยกองบงั คบั การและบริการ
20 เหลา่ ทหารชา่ ง กองรอ้ ยทหารช่างสนาม 1. ภารกิจ กองร้อยทหารช่างสนามเป็นส่วนปฏิบัติงานหลักของกองพันทหารช่างสนาม (ท้ังของกองพลและกองทัพ) ในการปฏิบัติงานช่างท่ัวไป เป็นหน่วยธุรการมูลฐานในกองพัน ทหารชา่ ง จดั ใหม้ เี ครอ่ื งมอื สำ� หรบั ปฏบิ ตั งิ านชา่ งสนาม และเมอื่ ไดร้ บั เครอ่ื งมอื เพมิ่ เตมิ สามารถ ปฏิบัติงานช่างขนาดหนักได้ ท�ำการรบอย่างทหารราบได้เมื่อจ�ำเป็น และให้การสนับสนุน ทางการช่างได้หนง่ึ กรมทหารราบ 2. ขดี ความสามารถ 2.1 ปฏบิ ัติงานช่างสนาม 2.2 โดยปกตสิ นบั สนนุ ทางการช่างแกห่ นง่ึ กรมทหารราบ เมอ่ื เปน็ หนว่ ยในอตั รา ของกองพนั ทหารช่างของกองพล 2.3 อาจท�ำการรบอย่างทหารราบในกรณีฉุกเฉิน 3. การจดั กองร้อยทหารช่างสนามของกองพันทหารช่างสนาม ท้ังของกองพลและกองทัพ จัดกำ� ลงั ประกอบด้วย กองบังคบั การกองร้อย และหมวดทหารช่างสนาม จดั กำ� ลงั เหมอื นกนั 3 หมวด กองร้อยทหารช่างสนาม กองบงั คับการกองร้อย หมวดทหารช่างสนามสนาม กองบงั คบั การหมวด หมู่ทหารช่างสนาม ผังการจัดกองรอ้ ยทหารช่างสนามของกองพล
กองบงั คบั การกองรอ้ ย เหล่าทหารช่าง 21 ภารกิจ ภารกิจของกองร้อยทหารช่างสนาม คือ การบังคับบัญชา การธุรการ การส่งกำ� ลัง และการสนับสนนุ เคร่อื งมอื ช่างให้กับหมวดทหารช่างสนามภายในกองร้อย การจัดก�ำลัง กองบงั คับการกองร้อยทหารช่างสนาม ประกอบด้วย ส่วนบังคบั บัญชา และส่วนธรุ การ ส่วนบังคับบัญชา แบ่งออกเป็น หมู่บังคับการและหมู่ส่ือสาร ส่วนธุรการ แบง่ ออกเปน็ หมธู่ รุ การ หมสู่ ทู กรรม หมสู่ ง่ กำ� ลงั และหมเู่ ครอื่ งมอื และซอ่ มบำ� รงุ รวมกำ� ลงั พล ทง้ั ส้ิน 57 นาย 4. การมอบงาน 4.1 การมอบงานให้กับกองร้อยทหารช่างสนาม แบ่งออกเป็น ประเภทพื้นที่ และประเภทงานตามปกติ การมอบงานเป็นประเภทพื้นท่ี และกองร้อยจะมอบงานประเภท งานให้กับหมวด 4.2 การมอบงานหลาย ๆ อยา่ งใหก้ บั กองรอ้ ยพรอ้ มกนั จะทำ� ใหก้ องรอ้ ยจำ� เป็น ต้องจัดผลัดท�ำงานเป็นช่ัวโมงและต้องท�ำงานอย่างต่อเนื่อง หรืออาจต้องท�ำงานเป็น ระยะเวลานานโดยไม่มีหน่วยอ่ืนมาผลัดเปล่ียน ผู้บังคับกองร้อยจะต้องพิจารณาถึงความ เหนด็ เหนอ่ื ยของทหารและการขาดบรกิ ารแกเ่ ครอื่ งมอื ของตนกบั ความเรง่ ดว่ นของสถานการณ์ วา่ อยา่ งใดจะสำ� คญั กวา่ กนั ทง้ั นถ้ี า้ สถานการณไ์ มฉ่ กุ เฉนิ กค็ วรทจ่ี ะหยดุ งานเพอ่ื ใหท้ หารไดพ้ กั ผ่อนและเคร่อื งมือได้รับการบริการบ้าง หมวดทหารชา่ งสนาม 1. ภารกจิ หมวดทหารช่างสนามเป็นส่วนปฏิบัติงานหลักของกองร้อยทหารช่างสนาม ปฏิบัติตามท่ีกองร้อยมอบหมาย ถ้าหมวดได้รับเคร่ืองมือเพิ่มเติมจะมีประสิทธิภาพ ในการปฏบิ ตั ิงาน
22 เหลา่ ทหารชา่ ง 2. การจดั หมวดทหารชา่ งสนาม (ทงั้ ของกองพนั ทหารชา่ งของกองพล และกองพนั ทหารชา่ ง ของกองทพั ) ประกอบด้วย กองบังคับการหมวด และหมู่ทหารช่างสนามจัดกำ� ลงั เหมอื นกัน 3 หมู่ กองบังคบั การหมวดจัดกำ� ลงั 3. การใช้ 3.1 หมวดทหารช่างอาจได้รับมอบหมายงานเป็นประเภทพื้นที่ ซ่ึงจะต้อง รับผิดชอบงานช่างทุกชนิดภายในพื้นที่นั้น หรืออาจได้รับมอบหมายงานเป็นประเภทงาน ซ่ึงจะรับผิดชอบเฉพาะงานน้ัน ผู้บังคับหมวดเป็นผู้คัดก�ำลังของตนเข้าปฏิบัติงานให้เป็น ผลส�ำเร็จ หมวดอาจปฏิบัติงานที่เกินขีดความสามารถของตนได้ช่ัวระยะเวลาส้ัน ๆ ซ่ึงใน ระหว่างนี้กองร้อยต้องแบ่งมอบเจ้าหน้าท่ีซ่อมบำ� รุง และเจ้าหน้าท่ีอืน่ ๆ ท่ีจ�ำเป็นให้กบั หมวด ด้วย ในการปฏบิ ัตงิ านในรอบ 24 ช่ัวโมง กองร้อยจะต้องวางแผนในการสบั เปลย่ี นหมวดไว้ แต่อย่างไรกต็ าม ผู้บงั คบั หมวดจะต้องก�ำหนดผลดั ในการท�ำงานของหมวดไว้ด้วย 3.2 อาจใชห้ มวดใหส้ นบั สนนุ โดยตรงตอ่ กองพนั ทหารราบ หรอื ใชส้ นบั สนนุ ทวั่ ไป โดยอยใู่ นความควบคมุ ของกองรอ้ ย แตก่ อ็ าจจดั หมวดขน้ึ สมทบกบั หนว่ ยรบไดเ้ มอื่ สถานการณ์ ทางยทุ ธวิธีบังคบั หรอื การติดต่อสื่อสารและการควบคุมกระทำ� ได้ยาก 4. งานช่างโยธา 4.1 การก่อสร้าง หมวดทหารช่างสนามสามารถสร้าง ซ่อมแซมสะพาน ถนน ทางเดิน แพส่งข้าม ท่าลยุ ข้าม ท่อระบายนำ�้ ที่พักก�ำบงั ท�ำการวางสนามทุ่นระเบิด และเครื่องกีดขวางชนิดต่าง ๆ ความรวดเร็ว และประสิทธิภาพในการก่อสร้างจะเพ่ิมข้ึนได้ โดยการเพม่ิ เตมิ เคร่ืองมือช่างให้ 4.2 การท�ำลาย หมวดสามารถเจาะช่องผ่าน หรือท�ำลายเคร่ืองกีดขวาง และ สงิ่ ต่าง ๆ ได้เกอื บทกุ ชนิดด้วยการใช้วัตถุระเบดิ เครอื่ งมือช่างท่ีได้รบั การสมทบ และวิธีการ ทำ� ลายอ่นื ๆ 4.3 การลาดตระเวนทางการช่าง หมวดอาจได้รับมอบหมายให้ท�ำการ ลาดตระเวนทางการช่างท้ังหมด ตามปกติจะใช้หมู่ท�ำการลาดตระเวน ถ้าหมวดไม่ได้
รับภารกิจในการลาดตระเวนโดยเฉพาะแล้ว หมวดจะต้องริเร่ิมท�ำการลาดตระเวนทาง เหล่าทหารช่าง 23 การชา่ งโดยทว่ั ไปอยา่ งตอ่ เนอ่ื งภายในพน้ื ทปี่ ฏบิ ตั กิ ารของหมาดทไ่ี ดร้ บั มอบโดยไมต่ อ้ งรอคำ� สง่ั จากหน่วยเหนือ 5. หน้าท่ีของก�ำ ลงั พลภายในหมวด 5.1 ผู้บังคับหมวด มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับวินัย การฝึก การปฏิบัติงาน การส่งกำ� ลัง และการสวัสดกิ ารภายในหมวดของตน หน้าท่ีของผู้บังคบั หมวด ประกอบด้วย 5.1.1 วิเคราะห์กจิ เฉพาะท่หี มวดได้รับ และมอบภารกจิ ให้กับหมู่ 5.1.2 แบ่งมอบหน้าท่ีและเครื่องมือในกองบังคับการหมวดให้กับหมู่ ตามความจ�ำเป็น 5.1.3 กำ� กบั ตรวจตราปฏบิ ัตงิ านช่าง จดั พวกท�ำงานให้มปี ระสทิ ธภิ าพและ การใช้ การระวังป้องกนั อย่างเหมาะสม 5.1.4 รับเคร่อื งมอื จากกองร้อยเพื่อเพ่มิ เตมิ ให้หมวด 5.1.5 ตรวจตราเคร่ืองมือ อาวุธ ยานพาหนะ เสื้อผ้า ให้มีอย่างเพียงพอ ใช้การได้ และมีการซ่อมบำ� รุงอย่างถกู ต้อง 5.1.6 ท�ำการลาดตระเวนทางการช่างอย่างรวดเร็ว ต่อเน่ือง ถูกต้อง และการกระจายข่าวสารอย่างถกู ต้อง และทนั เวลา 5.1.7 ท�ำหน้าท่ีผู้บังคับทหารช่าง และด�ำรงการติดต่อกับหน่วยที่ตน สนบั สนนุ หรือสมทบ 5.2 รองผบู้ งั คบั หมวด เปน็ ผบู้ งั คบั บญั ชาคนทสี่ องของหมวด และเปน็ นายงาน ก่อสร้าง ซึง่ มีหน้าท่ีดงั ต่อไปน้ี 5.2.1 ช่วยผู้บังคับหมาดในการก�ำกับดูแลการก่อสร้าง ซ่อมแซม และ การทำ� ลาย 5.2.2 ทำ� การลาดตระเวนทางการช่าง 5.2.3 พจิ ารณาแผนทแี่ ละถา่ ยภาพทางอากาศ เพอ่ื หารายละเอยี ดเกยี่ วกบั ถนน สะพาน ทำ� ลยุ ข้าม แหล่งน้�ำ ฯลฯ 5.2.4 ช่วยผู้บงั คับหมาดในการแบ่งงาน และกำ� กบั ดแู ลการปฏบิ ัตงิ านช่าง 5.2.5 จดั ท�ำแผนทส่ี ังเขปของพน้ื ทส่ี �ำคัญ และรายงานข่าวสารทไ่ี ด้รบั
24 เหลา่ ทหารชา่ ง 5.2.6 ตรวจเย่ียมแหล่งงานตามระยะเวลา เพ่ือทราบความก้าวหน้า และ คุณภาพของงาน 5.2.7 ตรวจตราเคร่ืองมอื และวัสดุก่อสร้างให้มีอย่างเพยี งพอ 5.2.8 ฝึกเจ้าหน้าที่ข้นั รองในเร่อื งการทำ� ลาย การก่อสร้าง 5.2.9 แสดงวิธีปฏบิ ัติงานทถ่ี กู ต้อง 5.3 รองผูบ้ งั คบั หมวด ต้องมคี ุณลกั ษณะดังนี้ 5.3.1 มคี วามรู้เกี่ยวกับพลช่างก่อสร้างและพลทำ� ลายเป็นอย่างดี 5.3.2 มีความรู้เกี่ยวกับการก่อสร้างในสนาม การก่อสร้างสะพานเคร่ือง หนนุ ม่ัน และสะพานเครือ่ งหนนุ ลอย และรู้จักการใช้การแสวงเครื่องเก่ยี วกบั งานดงั กล่าว 5.3.3 รู้ถึงขีดความสามารถและขีดจ�ำกัดของเคร่ืองมือการช่าง และ เคร่ืองมือธรรมดา มีความช�ำนาญในการอื่น และตีความแผนที่ ภาพถ่ายทางอากาศ และ พมิ พ์เขยี ว 5.3.4 มีความสามารถใช้อาวธุ ทุกชนดิ ในหมวด และสอนผู้อืน่ ได้ด้าย 5.4 นายสบิ ประจ�ำหมวด เป็นนายงานก่อสร้างและมหี น้าทด่ี ังน้ี 5.4.1 ปฏิบัติงานตามแต่ผู้บงั คบั หมวดและรองผู้บงั คับหมวดจะมอบหมาย 5.4.2 ทำ� หนา้ ทผี่ บู้ งั คบั หมวดเมอื่ ผบู้ งั คบั หมวดและรองผบู้ งั คบั หมวดไม่อยู่ 5.4.3 ทำ� หน้าทผี่ ู้บงั คับหน่วยระวังป้องกนั ของหมวด 5.4.4 ช่วยผู้บังคับหมวดในการจัดหาสงิ่ อปุ กรณ์ในการก่อสร้าง 5.4.5 ท�ำหน้าท่ผี ู้บงั คบั หมู่อาวุธ เมอ่ื หมวดจดั กำ� ลงั ทำ� การรบอยา่ งทหารราบ ในแบบท่ี 1 5.5 นายสบิ คลงั เครื่องมอื มหี น้าทีด่ ังน้ี 5.5.1 บำ� รุงรกั ษาเครอื่ งมอื ในอัตราของหมวด 5.5.2 ลับคมเคร่อื งมอื ของหมวดและหมู่ในหมวดของตน 5.5.3 เม่ือเครื่องมือของหมวดเก็บอยู่ในคลังของกองร้อย นายสิบคลัง เครอื่ งมอื จะปฏบิ ตั งิ านภายใตก้ ารควบคมุ ของนายสบิ สง่ ก�ำลงั ของกองรอ้ ยเกยี่ วกบั การแจกจา่ ย เกบ็ รกั ษาเคร่อื งมือของหมวดและของหมู่ในหมวดของตน 5.5.4 เป็นพลประจำ� ปก.93 ของหมวด
5.5.5 เป็นพลวิทยุของหมวด เมื่อหมวดจัดก�ำลังท�ำการรบอย่างทหารราบ เหล่าทหารช่าง 25 ในแบบที่ 2 5.5.6 ทำ� หน้าที่พลขบั รถบรรทกุ ของหมวดด้าย 5.6 พลขับรถ มีหน้าที่เช่นเดียวกับพลขับรถของหมู่ในข้อ 4.7.4 (รับผิดชอบ ในการพรางรถของตน) และสำ� หรับพลขับรถ 1/4 ตนั มีหน้าท่ีเป็นพลวทิ ยขุ องหมวดด้าย หมทู่ หารช่างสนาม 1. ภารกิจ หมทู่ หารชา่ งเปน็ หนว่ ยหลกั ของหมวด หมรู่ วบรวมกำ� ลงั แตล่ ะบคุ คลภายในหมเู่ ขา้ เป็นหน่วยงานทสี่ ามารถแก้ไขอุปสรรคต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี หมู่สามารถปฏบิ ัติงานช่างสนาม เฉพาะอย่าง การท�ำลายงานช่างโยธา และการท�ำการรบ โดยปกติจะปฏิบัติงานในความ ควบคมุ ของหมวด แตอ่ าจปฏบิ ตั งิ านเปน็ อสิ ระชวั่ ระยะเวลาสนั้ ๆ ได้ หมเู่ ปน็ หนว่ ยสำ� คญั มาก ในการทีจ่ ะฝึกให้พลทหารเป็นทหารชน้ั หนง่ึ ได้ 2. การจดั หมู่ทหารช่าง (ทง้ั ของกองพนั ทหารช่างของกองพล และกองทัพ) ประกอบกำ� ลงั เตม็ อตั รา 12 นาย อตั ราลด 10 นาย 3. การใช้ โดยปกติใช้หมู่ท�ำงานในความควบคมุ ของหมวด แต่บางโอกาสอาจจดั ข้ึนสมทบ กบั กำ� ลงั รบเฉพาะกจิ ขนาดเลก็ ได้ การแยกหมู่ออกปฏิบัติการเป็นอสิ ระบ่อย ๆ ควรหลีกเล่ียง เพราะทำ� ใหห้ มวดไมส่ ามารถวางแผนงาน และอำ� นวยงานเปน็ สว่ นรวมได้ การแบง่ กำ� ลงั ยอ่ ยลง ไปตาํ่ กวา่ หม่นู น้ั ไม่ควรกระท�ำเพราะจะท�ำใหก้ ารบงั คบั บญั ชาและการก�ำกบั ดแู ลไมเ่ หมาะสม 4. หนา้ ทข่ี องก�ำ ลังพลภายในหมู่ 4.1 ผบู้ งั คบั หมู่ เปน็ ผบู้ งั คบั บญั ชาทสี่ งู ทส่ี ดุ และใกลช้ ดิ กบั ทหารทสี่ ดุ ภายในหมู่ มีหน้าที่ดงั ต่อไปน้ี
26 เหลา่ ทหารชา่ ง 4.1.1 รับผิดชอบในเรื่องวินัย การฝึก การควบคุม และสั่งการปฏิบัติงาน ของทหารภายในหมู่ 4.1.2 ดแู ลทหารภายในหมใู่ ห้ได้รบั การเลยี้ งดู การส่งกำ� ลงั และมเี ครอ่ื งมอื ครบถ้วน และใช้ปฏบิ ตั งิ านได้ตลอดเวลา 4.1.3 ดแู ลให้ทหารปฏบิ ตั ติ ามหลกั สุขวิทยา และการสขุ าภิบาล 4.1.4 ตรวจเคร่อื งมอื ยทุ โธปกรณ์ อาวธุ และยานพาหนะ ให้อยู่ในสภาพ ใช้งานได้เสมอ 4.1.5 ต้องทราบยุทธวิธีของทหารราบเพื่อน�ำหมู่ของตนเข้าท�ำการรบได้ เมื่อจำ� เป็น 4.1.6 ต้องทราบหลักการช่างสนามและงานช่างโยธา เพื่อสามารถ ตรวจตราและกำ� กบั ดูแลการปฏบิ ตั ิงานของหมู่ได้ถูกต้อง 4.1.7 ต้องทราบหน้าทข่ี องนายงานก่อสร้างและพลช่างก่อสร้าง 4.1.8 สามารถใช้เครือ่ งมอื สอ่ื สารในหมู่ได้ทุกชนดิ 4.2 รองผ้บู ังคบหมู่ มหี น้าท่ดี งั น้ี 4.2.1 ปฏบิ ัตงิ านร่วมกบั ทหารภายในหมู่ 4.2.2 บังคบั บญั ชาหมู่เมอ่ื ผู้บงั คับหมู่ไม่อยู่ หรอื บงั คับบัญชาส่วนแยกของ หมู่ท่อี อกปฏิบัตงิ าน 4.2.3 บงั คับบญั ชาส่วนระวังป้องกนั ของหมู่ 4.2.4 ทำ� หนา้ ทพ่ี ลชา่ งกอ่ สรา้ ง เพอื่ ปฏบิ ตั งิ านตามทผี่ บู้ งั คบั หมมู่ อบหมายให้ 4.2.5 ก�ำกับดแู ลการซ่อมบ�ำรุงเคร่อื งมอื ของหมู่ 4.2.6 เป็นพลยงิ เครื่องยงิ ระเบดิ 40 มม. (เอ็ม.203) 4.3 พลช่างก่อสรา้ ง มหี น้าที่ดงั นี้ 4.3.1 ก�ำกบั การดูแลการก่อสร้างถนน และสะพาน 4.3.2 สร้าง ทำ� ลาย หรอื ร้ือถอนเคร่ืองกีดขวาง และฉากขัดขวาง 4.3.3 ท�ำการวาง และรอื้ ถอนสนามทุ่นระเบิดและกับระเบิด 4.3.4 สร้างและซ่อมแซมอาคารโครงสร้างชัว่ คราวชนิดต่าง ๆ 4.3.5 กำ� กบั ดแู ลการยกของหนกั โดยใช้ปั้นจน่ั ขาทราย รอกโซ่ สายขนส่ง ตดิ ต้ังไม้คํา้ ยัน การใช้สายหนวดพราหมณ์ การต่อเชือก และเชือกลวด
4.3.6 สร้าง และบำ� รงุ รกั ษาลานบนิ เครอ่ื งบินของกองทพั บก เหล่าทหารช่าง 27 4.3.7 ช่วยในการลาดตระเวนทางการช่าง 4.3.8 ช่วยในการประกอบและใช้เครื่องลำ� นาํ้ 4.3.9 ต้องทราบหน้าทีพ่ ลช่างโยธาเป็นอย่างดี 4.3.10 มีความรู้ในเรื่องเครื่องมอื การช่างทใ่ี ช้ในงานก่อสร้างอย่างเร่งด่วน 4.3.11 ก่อสร้างป้อมสนามได้อย่างละเอยี ด 4.3.12 มคี วามรลู้ กั ษณะของเครอื่ งมอื และเครอื่ งใชใ้ นการท�ำลาย การเขยี น รายงาน และการอ่านรายงานเก่ียวกับการทำ� ลายและฉากขดั ขวางได้ 4.3.13 รู้ยุทธวิธีของหมู่ของหมวดทหารราบ ตลอดจนใช้อาวุธประจ�ำกาย และประจำ� หน่วยได้ 4.3.14 สามารถอ่านเคร่อื งหมายแผนที่ได้ และใช้แผนทีเ่ ป็น 4.3.15 รู้หลักการพรางเบ้อื งต้น 4.3.16 เป็นพลประจำ� ปก.เอ็ม.60 ซึ่งได้รบั มอบจากหมวด 4.4 พลทำ� ลาย มหี น้าทด่ี งั น้ี 4.4.1 ใช้เครือ่ งมอื ท�ำลายประจำ� กาย ประจำ� หมู่ และประจ�ำหมวดได้ 4.4.2 สามารถทำ� การคำ� นวณจ�ำนวนดินระเบิด เตรยี มการวาง และทำ� การ จดุ ระเบดิ ได้ 4.4.3 มีความรู้เกี่ยวกับชนิดของวัตถุระเบิดทางทหาร และเครื่องประกอบ ในการท�ำลาย 4.4.4 มคี วามรเู้ กยี่ วกบั วงจรไฟฟา้ เพอื่ การตอ่ วงจร การคน้ หา การลดั วงจรได้ 4.4.5 เป็นพลยงิ เครอื่ งยิงลกู ระเบิด 40 มม. (เอ็ม.203) 4.5 พลชา่ งโยธา มีหน้าทด่ี งั น้ี 4.5.1 ปฏิบัติงานในหน้าที่พลช่างก่อสร้างและพลท�ำลายได้ (แต่มีความ ชำ� นาญน้อยกว่า) 4.5.2 เมื่อได้รับการฝึกเพ่ิมเติมและผ่านการทดสอบแล้ว สามารถเลื่อนขึ้น เป็นพลช่างก่อสร้างหรอื ท�ำลายได้ 4.5.3 เป็นพลประจ�ำเครอื่ งยิงจรวด ขนาด 73 มม.
28 เหลา่ ทหารชา่ ง 4.5.4 พลช่างโยธาในหมู่ 1 นาย ต้องได้รับการฝึกให้ท�ำหน้าท่ีเป็นผู้ช่วย พลประจำ� เครอ่ื งมอื การชา่ ง เพอื่ ทำ� หนา้ ทพี่ ลประจำ� เครอื่ งมอื การชา่ งทหี่ มอู่ าจไดร้ บั มาแตไ่ มม่ ี พลประจ�ำ และถึงแม้จะได้รับการฝึกให้สามารถได้เคร่ืองมือการช่างโดยท่ัวไปก็ตาม แต่จะ ต้องให้มีความช�ำนาญเป็นอย่างดีในการใช้เครื่องมือการช่างชนิดหน่ึงไว้แน่นอน ผู้บังคับ หมวดจะต้องควบคุมในเรื่องน้ี เพื่อที่จะให้หมวดของตนมีพลประจ�ำท่ีใช้งานได้ส�ำหรับ รถถากถาง รถตกั บรรทุก รถปั้นจั่น และรถเกลีย่ ไว้เพอื่ ใช้งาน ซงึ่ บางโอกาสอาจได้เครือ่ งมอื ของข้าศึกทีย่ ึดได้ 4.6 พลขบรถบรรทกุ มหี น้าที่ด้งนี้ 4.6.1 รบั ผดิ ชอบในการขบั รถ และปรนนบิ ตั บิ ำ� รงุ รถของตน (ทำ� การปรนนบิ ตั ิ และซ่อมบ�ำรุงตามขน้ั การซ่อมบำ� รุง ซ่ึงรวมถงึ รถพ่วงด้วย) 4.6.2 รับผิดชอบในการบรรทกุ อย่างถูกต้อง 4.6.3 เม่ือรถเกิดชำ� รุดเกินขั้นการซ่อมบำ� รุงที่ตนทำ� ได้ ต้องสามารถบันทึก และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบได้อย่างถูกต้อง 4.6.4 รับผิดชอบในการพรางรถของตน 4.6.5 เมอื่ มไิ ดข้ บั รถกจ็ ะตอ้ งชว่ ยเหลอื หมใู่ นการปฏบิ ตั งิ านตามแตจ่ ะไดร้ บั มอบหมาย อัตราก�ำลงพลของ บก.พัน. กองบังคับการกองร้อยและบริการ ช.พัน. สนาม (กองพล) บก.พัน. (15) ผู้บงั คับกองพัน พ.ท.1 รองผู้บงั คบั กองพนั พ.ต.1 รองผู้บังคบั ทหารช่างกองพล พ.ต.1 นายทหารฝ่ายกำ� ลงั พล (ฝอ.1) ร.อ.1 ผู้ช่วยนายทหารฝ่ายกำ� ลังพล ร.ท.1 นายทหารฝ่ายการข่าว (ฝอ.2) ร.อ.1 นายทหารลาดตระเวน ร.ท.1 นายทหารฝ่ายยุทธการและการฝึก (ฝอ.3) พ.ต.1
ผู้ช่วยนายทหารฝ่ายยุทธการและการฝึก ร.อ.1 เหล่าทหารช่าง 29 นายทหารฝ่ายส่งก�ำลัง (ฝอ.4) ร.อ.1 ผู้ช่วยนายทหารฝ่ายส่งก�ำลงั ร.ท.1 นายทหารสื่อสาร ร.ท.1 นายทหารซ่อมบำ� รงุ เคร่อื งมือช่าง ร.ท.1 นายทหารยานยนต์ ร.อ.1 นายทหารฝ่ายการเงิน ร.อ.1 กองบงั คับการกองรอ้ ยและบริการ (48) ผู้บังคับกองร้อย ร.อ.1 รองผู้บงั คบั กองร้อย ร.ท.1 จ่ากองร้อย จ. (พ.2) 1 เสมยี นกองร้อย ส.อ.1 นายสบิ สทู กรรม จ.1 พลสูทกรรม ส.อ.2, ส.ต.2, พลฯ 16 นายสิบส่งกำ� ลัง จ.1 ช่างอาวุธ จ.1 พลขับรถ จ.1, ส.ต.1 ทหารบรกิ าร พลฯ 19 หม่ธู รุ การ (9) จ่ากองพัน จ. (พ.2) 1 นายสบิ ธุรการกำ� ลงั พล จ.1 เสมียนธรุ การกำ� ลังพล ส.อ.2 เสมยี นพมิ พ์ดดี ส.อ.1 เสมยี นการเงิน จ.1, ส.อ.2 พลขบั รถ จ.1 หมู่ลาดตระเวนและการข่าว (11) นายสบิ การข่าว จ. (พ.2) 1 นายสบิ ลาดตระเวน ส.อ.3
30 เหลา่ ทหารชา่ ง พลวทิ ย ุ ส.อ.3 พลขับรถ จ.1, ส.อ.3 หมู่ยทุ ธการ (8) นายสิบยุทธการ จ. (พ.2) 1 นายสิบช่างก่อสร้าง ส.อ.2 นายสบิ สำ� รวจงานก่อสร้าง จ. (พ.2) 1 ช่างเขียนแบบก่อสร้าง จ.1 นายสบิ การท�ำลาย ส.อ.1 เสมยี นพิมพ์ดีด ส.อ.1 พลขบั รถ จ.1 หมูส่ ่งก�ำลัง (34) นายสิบส่งกำ� ลงั สายช่างกองพล จ. (พ.2) 1 นายสบิ ส่งกำ� ลงั กองพนั จ. (พ.2) 1 เสมยี นส่งกำ� ลัง ส.อ.4 นายสบิ ส่งกำ� ลังสายช่าง ส.อ.3 นายสิบส่งกำ� ลงั แผนท่ี ส.อ.1 หวั หน้าการประปา จ.1 นายสบิ การประปาอาวโุ ส จ.4 นายสิบการประปา ส.อ.4 ผู้ช่วยนายสิบการประปา พลฯ 4 พลขับรถ จ.1 ส.อ.5, ส.ต.5 หมูก่ องบงั คบั การทหารชา่ งกองพล (3) นายงานช่างก่อสร้างสนาม จ. (พ.2) 1 ช่างเขียนแบบก่อสร้าง ส.อ.1 พลวทิ ยุ ส.อ.1 หมู่ส่อื สาร (15) ผู้บงั คับตอนส่อื สาร จ. (พ.2) 1 พลวทิ ยโุ ทรเลข ส.อ.2
พลวทิ ย ุ ส.อ.1, ส.ต.1 เหล่าทหารช่าง 31 ช่างวิทยุ จ.1 หัวหน้าเสมียนศนู ย์ข่าว ส.อ.1 เสมียนศูนย์ข่าว ส.อ.1, ส.ต.1 พลสลบั สาย ส.อ.1, ส.ต.1 พลขับรถ ส.อ.1 หมวดซอ่ มบ�ำรุงกองพนั (28) ผู้บงั คับหมวด ร.ท.1 นายสบิ ซ่อมบำ� รุงยานยนต์กองพนั จ. (พ.2) 1 นายสบิ ซ่อมบำ� รุงเคร่อื งมอื ช่างกองพนั จ. (พ.2) 1 นายสบิ ช้นิ ส่วน ส.อ.1 ช่างเคร่อื งจกั ร จ. (พ.2) 2 ช่างเชือ่ ม ส.อ.1 พลประจำ� รถกู้ จ.1, ส.อ.1 หวั หน้าช่างยานยนต์ล้อ จ. (พ.2) 1 ช่างยานยนต์ล้อ ส.อ.9 หวั หน้าช่างเครือ่ งมือกล จ. (พ.2) 1 ช่างเครอื่ งมือกล ส.อ.7 พลขบั รถ จ.1 หมวดเครื่องมอื (71) ผู้บงั คับหมวด ร.ท.1 นายสบิ ช่างก่อสร้าง จ. (พ.2) 1 พลประจำ� รถถากถาง จ.5, ส.อ.5 พลประจำ� รถเกลย่ี จ.3, ส.อ.3 พลประจำ� รถตกั บรรทุก จ.3, ส.อ.3 พลประจำ� รถราดนํ้า จ.2, ส.ต.2 พลประจำ� รถขุด จ.2, ส.อ.2 พลประจำ� รถขดุ ส.อ.2, ส.อ.2
32 เหลา่ ทหารชา่ ง พลประจำ� รถบด ส.อ.2, ส.ต.2 พลประจำ� รถบดล้อยาง จ.1, ส.ต.1 พลประจำ� รถบดตนี แกะ จ.1, ส.ต.1 พลประจำ� รถบดสน่ั สะเทอื น จ.1, ส.อ.1 พลประจำ� รถราดยาง จ.1, ส.อ.1 พลประจำ� เครอ่ื งผสมคอนกรตี จ.1, ส.ต.1 พลประจำ� เครอ่ื งสบู นํ้า ส.อ.1, ส.ต.1 พลประจำ� เคร่ืองอดั ลม จ.1, ส.ต.1 พลประจำ� รถปั้นจ่นั จ.2, ส.อ.1 พลประจำ� เครอ่ื งมือโยธาไฟฟ้าสนาม ส.อ.4 พลประจำ� รถบรรทกุ หนัก จ.4 ส.อ.2 พลขับรถ ส.อ.1, ส.ต.1 หมวดสะพาน (43) ผู้บงั คับหมวด ร.ท.1 รองผู้บังคบั หมวด จ. (พ.2) 1 นายสบิ การสะพาน จ.1 นายสบิ สร้างสะพาน ส.อ.19 พลประจำ� เรอื ยนต์ ส.อ.2 พลขบั รถ จ.4, ส.อ.10, ส.ต.6 หมวดเสนารักษ์ (24) ผู้บงั คบั หมวด ร.อ.1 รองผู้บังคบั หมวด ร.ท.1 นายสบิ ประจำ� หมวด จ. (พ.2) 1 นายสิบพยาบาลอาวโุ ส จ.1 นายสบิ พยาบาลกองร้อย ส.อ.10 นายสบิ พยาบาล ส.อ.2 พลขบั รถพยาบาล ส.อ.1 พลเสนารักษ์ ส.ต.1 ทหารบริการ พลฯ 2
อัตราก�ำลงั พลของกองร้อยทหารชา่ งสนาม พนั .ช.สนาม (กองพล) กองบังคับการกองร้อย (57) ผู้บังคบั กองร้อย ร.อ.1 รองผู้บังคบั กองร้อย ร.ท.1 จ่ากองร้อย จ. (พ.2) 1 เสมยี นกองร้อย ส.อ.2 พลวิทย ุ ส.อ.2 ช่างวทิ ยุ จ.1 พลทางสาย ส.อ.1, พลฯ 1 นายสบิ สูทกรรม จ.1 พลสูทกรรม ส.อ.1, ส.ต.2, พลฯ 11 นายสิบส่งก�ำลัง จ. (พ.2) 1 นายสิบส่งกำ� ลังสายช่าง จ.1 ช่างอาวธุ จ.1 นายสิบยานยนต์ จ. (พ.2) 1 เหล่าทหารช่าง 33 พลประจ�ำรถถากถาง จ.2, ส.อ.2 พลประจำ� เครอ่ื งอดั ลม จ.1, ส.อ.1 พลประจ�ำรถเกลีย่ จ.1, ส.อ.1 พลประจำ� รถราดน้าํ ส.อ.1, ส.ต.1 ช่างเครอ่ื งมือกล จ. (พ.2) 1 ช่างยานยนต์ล้อ ส.อ.2 พลขบั รถบรรทกุ หนกั จ.3, ส.อ.2 พลประจำ� รถตกั บรรทกุ จ.1, ส.อ.1 พลขบั รถ ส.อ.3 ทหารบริการ พลฯ 5 3 กองบังคบั การหมวด (18) ผู้บังคับหมวด ร.ท.3 รองผู้บงั คบั หมวด จ. (พ.2) 3
นายสบิ ประจำ� หมวด ส.อ.3 นายสบิ คลงั เครอ่ื งมือ จ.3 พลขบั รถ จ.3, ส.ต. 3 9 หมูท่ หารช่าง (108) ผู้บังคับหมู่ จ.9 รองผู้บังคบั หมู่ ส.อ.9 พลช่างก่อสร้าง ส.อ.9, พลฯ 18 พลทำ� ลาย ส.อ.9, พลฯ 9 พลขบั รถ จ.9 พลช่างโยธา ส.ต.9, พลฯ 27 34 เหลา่ ทหารชา่ ง
บทที่ กองพนั ทหารชา่ งก่อสรา้ ง 1. ภารกิจ ภารกจิ ของกองพนั ทหารช่างก่อสร้าง ได้แก่ การสร้างและฟื้นฟถู นนสนามบนิ ระบบทางท่อ โครงสร้างและสาธารณปู โภค และช่วยในการปฏบิ ัติการกู้ภยั ฉุกเฉนิ 2. การแบ่งมอบ เหล่าทหารช่าง 35 จดั เป็นหน่วยของกองทพั บก 3. การจัด กองพนั ทหารชา่ งกอ่ สรา้ ง จดั ตาม อจย.5-115 ประกอบดว้ ย กองบงั คบั การ กองพนั และกองร้อยกองบงั คบั การ กองร้อยทหารช่างเคร่อื งมอื และซ่อมบำ� รุง 1 กองร้อย และกองร้อยทหารช่างก่อสร้าง 3 กองร้อย กองพนั ทหารช่างก่อสร้าง อจย.5-115 กองบังคบั การกองพนั และ กองร้อยทหารช่างเคร่อื งมือ กองร้อยทหารช่างก่อสร้าง กองร้อยกองบงั คบั การ และซ่อมบ�ำรงุ อจย.5-116 อจย.5-118 อจย.5-117 ผงั การจัดกองพันทหารชา่ งก่อสร้าง
36 เหลา่ ทหารชา่ ง 4. ขีดความสามารถ 4.1 สร้างหรือพ้ืนฟูเส้นทางคมนาคม สะพาน สนามบิน และที่ขึ้นลงส�ำหรับ เครอื่ งบนิ ปีกหมนุ 4.2 สร้างอาคาร โครงสร้าง และสง่ิ อำ� นวยความสะดวกท่ีเกีย่ วข้อง 4.3 ขยายทางรถไฟ สะพานรถไฟ และท่าเรือ ได้อย่างจ�ำกดั 4.4 ทำ� พ้นื ผิวบทิ เู มนได้อย่างจำ� กดั 4.5 ท�ำการก่อสร้างเพื่อป้องกันขนาดย่อม 5. การใช้ 5.1 กองพันทหารช่างก่อสร้างอาจใช้เป็นหน่วยอิสระ โดยมอบให้กับหน่วยทหาร ขนาดใหญท่ รี่ บั การสนบั สนนุ หรอื ปฏบิ ตั งิ านรว่ มในกรมทหารชา่ งของกองทพั ถงึ แมว้ า่ กองพนั จะจดั ขน้ึ เพอื่ ปฏบิ ตั งิ านเปน็ หนว่ ยในบงั คบั บญั ชาของผบู้ งั คบั กองพนั แตก่ อ็ าจใหก้ องรอ้ ยทหาร ช่างก่อสร้างแยกไปปฏิบัตภิ ารกิจเฉพาะเป็นการชัว่ คราวได้ 5.2 กองพนั อาจไดร้ บั มอบงานเปน็ ประเภทพนื้ ที่ ประเภทงาน หรอื มอบผสมกนั กไ็ ด ้ 5.3 เม่ือได้รับการสนับสนุนอย่างเหมาะสม โดยการให้หน่วยหรือหน่วยแยก จากกรมข้ึนสมทบ กองพันอาจปฏิบัติงานก่อสร้างขนาดหนักเฉพาะอย่างได้ กองพัน อาจปฏบิ ตั กิ ารเชน่ นโ้ี ดยปฏบิ ตั งิ านเปน็ กองพนั หรอื โดยกองรอ้ ยกอ่ สรา้ งปฏบิ ตั งิ านเปน็ อสิ ระ 5.4 กองพันมีขีดความสามารถในการวางแผนและออกแบบอย่างจำ� กัด กองพัน ต้องพึ่งกรมในการวางแผนและออกแบบเฉพาะอย่าง ถ้ากองพันปฏิบัติงานเป็นอิสระ และ ตอ้ งทำ� การวางแผนและออกแบบเฉพาะอยา่ งเอง จะตอ้ งไดร้ บั การเพมิ่ เตมิ กำ� ลงั โดยเจา้ หนา้ ที่ เฉพาะสำ� หรับงานจากกรมขึ้นสมทบ กองบงั คับการ และกองร้อยกองบงั คบั การกองพนั ทหารชา่ งก่อสร้าง 1. ภารกิจ ภารกิจของกองบังคับการ และกองร้อยกองบังคับการกองพันทหารช่างก่อสร้าง ไดแ้ ก่ การบงั คบั บญั ชาวางแผนงานกอ่ สรา้ ง อำ� นวยการ ประสานงาน และควบคมุ กองพนั ทหาร ช่างก่อสร้าง และหน่วยทขี่ นึ้ สมทบ
บก. และ ร้อย.บก. อจย.5-116 บก.พัน ร้อย.บก. บก.ร้อย. ตอนยทุ ธการและการข่าว ตอนส่งก�ำลัง ตอนส่อื สาร ตอนสาธารณูปโภค ตอนธุรการและกำ� ลงั พล ตอนเสนารักษ์ หมายเหตุ บงั คบั บญั ชา กำ� กับดูแล ผงั การจัดกองบังคับการ และกองรอ้ ยกองบังคบั การกองพนั ทหารช่างก่อสร้าง เหล่าทหารช่าง 37 2. ขีดความสามารถ 2.1 บังคบั บญั ชา และปฏิบตั งิ านของฝ่ายอ�ำนวยการให้แก่กองพนั 2.2 ดำ� เนนิ การทางธรุ การส่งกำ� ลงั บรกิ ารเสนารกั ษ์ใหแ้ กห่ น่วยตา่ ง ๆ ในกองพนั 2.3 ปฏิบัติการลาดตระเวนทางพ้ืนดิน และท�ำการส�ำรวจข้ันต้นและข้ันสุดท้าย ส�ำหรบั โครงการของกองพนั 2.4 แผนแบบและวางแผนรายละเอียด วางผังงานก่อสร้าง ปรับแผนให้เข้ากับ พืน้ ท่ีก่อสร้างและทำ� บัญชีวัสดุ 2.5 ให้ค�ำแนะน�ำทางเทคนิค อ�ำนวยการ และก�ำกับดูแลโครงการก่อสร้างเป็น ส่วนรวม 2.6 ทำ� การติดต่อส่ือสาร และวางการสอ่ื สารให้หน่วยของกองพนั 2.7 ดำ� เนินการข่าวกรองทางการช่างให้แก่กองพัน
38 เหลา่ ทหารชา่ ง 2.8 พิจารณาความต้องการเคร่ืองมือของกองร้อยต่าง ๆ และดำ� เนินการแก้ไข เป็นการชว่ั คราวตามความต้องการในการปฏิบตั ิการ 2.9 จัดเจ้าหน้าทกี่ ่อสร้าง และสาธารณูปโภคสนบั สนุนโครงการพเิ ศษและกำ� กับ ดแู ลการก่อสร้างของกองพนั แรงงานจ้างเหมา และบคุ คลในท้องถน่ิ 2.10 จดั ตั้งตำ� บลจ่ายนา้ํ ได้ 2 แห่ง 2.11 ดำ� เนนิ การทางธรุ การสง่ กำ� ลงั และซอ่ มบำ� รงุ ขน้ั หนว่ ย และดำ� เนนิ การเลย้ี งดู ส�ำหรับกองร้อย ตลอดจนด�ำเนินการธุรการกำ� ลงั พลให้แก่หน่วยข้นึ สมทบ 2.12 ก�ำลงั พลของหน่วยน้ีอาจท�ำการป้องกนั พนื้ ท่ขี องหน่วย หรอื ท่ีต้งั ได้ 3. การใช้ กองบังคับการและกองร้อยกองบังคับการใช้ให้สอดคล้องกับการปฏิบัติการ ของกองพัน เพ่ือสนับสนุนงานก่อสร้างขนาดกองพันหรือกองร้อย ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุน งานชนิดใด ภารกิจก็เป็นเช่นเดียวกนั กองรอ้ ยทหารช่างเครื่องมอื และซ่อมบ�ำ รงุ 1. ภารกิจ ภารกิจของกองร้อยทหารช่างเครื่องมือและซ่อมบ�ำรุง ได้แก่ การสนับสนุน กองพันทหารช่างก่อสร้างด้วยการซ่อมบ�ำรุงสนับสนุนโดยตรง และเสริมขีดความสามารถ ในการก่อสร้างของกองพัน โดยจัดเจ้าหน้าท่พี เิ ศษ เครอ่ื งมือ และพลประจำ� เครอื่ งมอื ให้ 2. การแบง่ มอบ เป็นหน่วยในอัตราของกองพันทหารช่างก่อสร้าง
ร้อย.ช.คม. และ ซบร. บก.ร้อย. ตอน ซบร.กองร้อย มว.คม. มว.ซบร. ตอน ซบร. บก.มว. ตอน คม.ก่อสร้าง บก.มว. ตอนแอสฟัลต์ ตอนแหล่งหิน ตอน ซบร.สต. ตอนส่งกำ� ลงั ผงั การจัดกองร้อยทหารชา่ งเคร่อื งมอื และซ่อมบ�ำรุง 3. ขดี ความสามารถ เหล่าทหารช่าง 39 3.1 ท�ำการซ่อมบ�ำรุงเครื่องมือสายช่าง ตามอัตราของกองพันทหารช่างก่อสร้าง ในข้ันหน่วยระดบั กองพนั และขัน้ สนบั สนนุ โดยตรง 3.2 จดั ชุดซ่อมบ�ำรุงเคลอื่ นท่ไี ปท�ำการซ่อมเครอ่ื งมือ ณ แหล่งงาน 3.3 จัดชิ้นส่วนอะไหล่สนบั สนุนการซ่อมบ�ำรุงของกองพนั 3.4 ทำ� การป้องกันฝ่นุ โดยใช้บิทูเมน และทำ� การลาดผวิ ด้วยแอสฟัลต์ 3.5 สนบั สนนุ โครงการกอ่ สรา้ งเฉพาะอยา่ งโดยการใชแ้ ละซอ่ มบำ� รงุ เครอ่ื งมอื หนกั เพอ่ื เสรมิ กองร้อยก่อสร้าง 3.6 ดำ� เนนิ การทางธรุ การ สง่ กำ� ลงั เลยี้ งดู และการซอ่ มบำ� รงุ ขน้ั หนว่ ยของตนเอง 4. การใช้ กองร้อยทหารช่างเคร่ืองมือและซ่อมบ�ำรุงใช้สนับสนุนกองร้อยทหารช่างก่อสร้าง ตามอตั ราของกองพนั ทหารช่างก่อสร้าง กองร้อยเพมิ่ เตมิ ขดี ความสามารถของหน่วยดงั กล่าว โดยจัดเจ้าหน้าท่ีและเครื่องมือพิเศษให้ท�ำการซ่อมบ�ำรุงสนับสนุนโดยตรงแก่ยานพาหนะ และเครื่องมือการช่างของกองพัน และท�ำการซ่อมบ�ำรุงระดับหน่วยสนับสนุนกองพันเป็น ส่วนรวม กองร้อยนี้จดั ท�ำงานเป็นสองผลัด
กองร้อยทหารชา่ งก่อสรา้ ง 1. ภารกิจ ภารกิจของกองร้อยทหารช่างก่อสร้าง ได้แก่ 1.1 ขุด ขน บดทบั ปรับระดบั ดนิ และทำ� ฐานรากด้วยดนิ คงตัว สำ� หรับสนามบิน ถนน ทางรถไฟ เข่ือน พน้ื ที่เกบ็ รักษาอปุ กรณ์ และโครงการทำ� นองเดยี วกัน 1.2 สรา้ ง และพนื้ ฟอู าคาร สง่ิ อำ� นวยความสะดวก ทา่ เรอื สะพาน และโครงสรา้ ง ในการระบายน้าํ ทางท่อและถังเก็บ ตลอดจนสงิ่ อำ� นวยความสะดวกท่ีเกย่ี วข้อง จดั ต้ัง และ ซ่อมแซมสาธารณูปโภค กองร้อยทหารช่างก่อสร้าง อจย.5-117 บก.ร้อย. ตอน ซบร.คม. หมวดงานดนิ หมวดก่อสร้างท่วั ไป 40 เหลา่ ทหารชา่ ง บก.มว. ตอน ตดั ตอนเกลี่ย บก.มว. หมู่ก่อสร้างทั่วไป และถม และบดทบั ผังการจดั กองรอ้ ยทหารช่างก่อสรา้ ง 2. ขีดความสามารถ 2.1 ด�ำเนินงานแหล่งยืมดนิ และขนวัสดุจากแหล่งยืมดิน ทำ� งาน และถมบดทบั วัสดุธรรมชาติ หรือที่ถมขึ้นเพ่ือให้เป็นฐานรากที่มีกำ� ลังแรงกดท่ีกำ� หนด และปรับระดับวัสดุ ธรรมชาติ หรือทีถ่ มข้ึนให้ได้อาการลาดที่ต้องการ 2.2 สร้างหรอื ฟื้นฟอู าคาร ทพ่ี ักกำ� บงั ระบบทางท่อ และส่ิงอำ� นวยความสะดวก ในการปฏิบตั กิ าร และตัง้ โครงสร้างส�ำเรจ็ รปู 2.3 ติดตั้งส่ิงอ�ำนวยความสะดวกในเรื่องไฟฟ้า น้ํา และการระบายส่ิงโสโครก ส�ำหรับทตี่ ้ังต่าง ๆ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195