Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชา เหล่าทหารม้า ปี4 (ชาย)

วิชา เหล่าทหารม้า ปี4 (ชาย)

Published by military2 student, 2022-05-03 02:23:05

Description: วิชา เหล่าทหารม้า ปี4 (ชาย)

Search

Read the Text Version

ต้องให้ก�ำลังพลในหมู่ช่วยพลปืนเล็ก ในภารกิจน้ีพยายามให้ธรรมชาติท�ำการก�ำบังและ เห ่ลาทหาร ้มา 91 ซ่อนพรางทางด้านหน้าท่กี �ำบงั ปิด เพ่อื ป้องกนั การยงิ เลง็ ตรงจากข้าศกึ การโจมตขี องขา้ ศกึ อาจจะเปน็ การลงรบเดนิ ดนิ หรอื บนยานรบ หรอื ผสมกนั ทง้ั สองแบบและใชก้ ารยงิ เลง็ จำ� ลอง และการยงิ เลง็ ตรงอยา่ งหนกั มายงั ทม่ี นั่ ฝา่ ยเรา ในทนั ที ทข่ี า้ ศกึ ยา้ ยการเลง็ จำ� ลองจากทม่ี น่ั ฝา่ ยเราออกไปกำ� ลงั พลทกุ นายตอ้ งเตรยี มพรอ้ มทำ� การ ยิงเพราะข้าศกึ จะเคล่ือนทเ่ี ข้ามาหลงั การยงิ เตรยี มของปืนใหญ่ 6. การปฏิบตั กิ ารตงั้ รบั ต่อการโจมตีการลงรบเดินดนิ ของขา้ ศึก เมอ่ื ทหารราบขา้ ศกึ ทำ� การเขา้ ตี ใหท้ ำ� การยงิ เลง็ จำ� ลองตอ่ ขา้ ศกึ ทนั ทที สี่ ามารถ กระทำ� ได้ และทำ� การยงิ ด้วยอาวธุ ขนาดเลก็ เมอ่ื ข้าศกึ เข้ามาใกล้ระยะยงิ หวงั ผล เมอ่ื เผชญิ กับการเข้าตีหย่ังของข้าศึก (ณ ที่ซึ่งข้าศึกท�ำการยิงเข้ามายังท่ีม่ันหรือท�ำการเข้าตีด้วย กำ� ลงั พลจำ� นวนนอ้ ย) อยา่ ทำ� การยงิ ดว้ ยปนื กล ใหจ้ ดุ ระเบดิ ทนุ่ เคลยโ์ มรแ์ ละลกู ระเบดิ ขวา้ ง ความม่งุ หมายของการโจมตเี ชน่ นน้ั เพอ่ื ค้นหาทตี่ งั้ ของฝ่ายเรา จงอย่ายอมให้ขา้ ศกึ กระทำ� เช่นนัน้ ได้ส�ำเร็จ เมื่อเผชิญกับการเข้าตีหลักของข้าศึก ให้ท�ำการยิงโดยทันทีที่ข้าศึกเข้ามาใน เขตการยงิ เมอื่ ไมป่ รากฏขา้ ศกึ เขา้ มาในเขตการยงิ หลกั ให้ทำ� การยงิ ขา้ ศกึ ในเขตการยงิ รอง โดยถือว่าข้าศึกท่ีเข้ามาในเขตการยิงหลักเป็นความเร่งด่วนอันดับแรก แต่ปืนกลอาจท�ำ การย้ายการยิงเข้าไปในเขตการยิงรอง ในระหว่างการรบผู้ช่วยพลยิงจะต้องตรวจการณ์ เขตการยิงหลกั เพื่อป้องกนั มใิ ห้ข้าศกึ เลด็ ลอดเข้ามาได้ พลยงิ ลกู ระเบิดจะย้ายทต่ี งั้ ยงิ เม่อื ท�ำการยงิ ลูกระเบิดไปยงั ที่ซึ่งมคี วามจ�ำเป็น มากท่ีสุดขณะที่ข้าศึกเริ่มท�ำการโจมตี เม่ือ ผบ.มว.ส่ังให้ยิงป้องกันข้ันสุดท้ายให้ปืนกล ท�ำการยิงไปยังแนวป้องกันขั้นสุดท้าย พลยิงลูกระเบิดท�ำการยิงไปยังพ้ืนที่อับกระสุนและ ผตน.ร้องขอการยงิ เล็งจ�ำลองซงึ่ ให้การสนบั สนนุ หมวดทถี่ กู โจมตี ถ้าหากมสี ถานการณ์คบั ขัน ผบ.มว.อาจจะร้องขอปืนใหญ่ท�ำการยงิ เลง็ จ�ำลอง เข้ามาในที่ตั้งของหมวด เมื่อข้าศึกถอนตัวให้ท�ำการยิงอย่างฉกาจฉกรรจ์จนกว่าจะได้รับ คำ� สงั่ ให้ท�ำการยิง

92 เหลา่ ทหารมา้ 7. การปฏิบัตกิ ารตัง้ รบั ต่อการโจมตีของข้าศกึ ท่รี บบนยานรบ โดยปกติทหารม้าบรรทุกยานเกราะมักจะท�ำการรบด้วยวิธีรับในพื้นท่ีซ่ึงจ�ำกัด การเคลอ่ื นท่ี และอำ� นาจการยงิ ของรถถงั อยา่ งไรกต็ ามหากขา้ ศกึ ใชย้ านเกราะท�ำการเขา้ ตี ทหารม้าบรรทุกยานเกราะผู้มีความชำ�่ ชอง มีจิตใจรุกรบก็จะใช้อาวุธต่อสู้รถถังทุกชนิดที่มี ท�ำการต่อสู้จากท่ีซ่ึงมีการก�ำบังและซ่อนพราง เพ่ือให้เกิดความได้เปรียบต่อพลประจ�ำรถ ของข้าศกึ ซงึ่ จ�ำกดั การตรวจการณ์อยู่ในยานรบ พลปืนเล็กท�ำการยิงต่อพลประจ�ำรถซึ่งเปิดเผยตนเองเป็นการบังคับให้ต้อง ปดิ ฝาปอ้ ม อยา่ งไรกต็ ามขนาดอาวธุ ขนาดเลก็ ทง้ั หมดใหท้ ำ� การยงิ ตอ่ ทหารราบ ซง่ึ เคลอ่ื นท่ี มากับรถถัง ถ้าหากทหารม้าบรรทุกยานเกราะสามารถหยุดทหารราบข้าศึกได้ รถถังของ ข้าศึกก็จะง่ายต่อการท�ำลายของฝ่ายเรา ให้ท�ำการยิงจรวดดรากอนต่อรถถังข้าศึกในขณะเคล่ือนที่เข้ามาในเขต การยิงหลัก และเมื่อไม่มีรถถังเข้ามาในเขตการยิงหลักก็ให้ท�ำการยิงต่อรถถังที่เข้ามา ในเขตการยิงรอง ขณะท่ีการยิงต่อเป้าหมาย พลยิงจรวดดรากอนต้องใช้ประโยชน์สูงสุด ในการป้องกันด้านหน้าของที่มั่นของตนเอง อาวุธต่อสู้รถถังขนาดเบาท�ำการยิงต่อยานรบ ขา้ ศกึ ทเี่ คลอื่ นทใ่ี กลเ้ ขา้ มายงั ทม่ี นั่ ของหมู่ และ ผบ.หมู่ จะยงั คงไมใ่ ชอ้ าวธุ ตอ่ สรู้ ถถงั จนกระทงั่ รถถังข้าศึกเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ดงระเบิดป้องกัน และใกล้พอที่จะประกันว่าท�ำการยิงถูก ต่อด้านหน้าของรถถัง โดยปกติ ผบ.หมู่ จะพยายามให้ท้ังหมู่ท�ำการยิงอย่างจู่โจมไปยัง รถถังข้าศึกด้วยการระดมการยิงปืนยิงลูกระเบิดท�ำการยิงต่อด้านหน้าของ รสพ.ข้าศึก และด้านข้างกับด้านหลังของรถถัง ท�ำนองเดียวกันกับพลยิงอาวุธต่อสู้รถถังขนาดเบา ควรจะรอจน รสพ.ข้าศกึ เข้ามาใกล้จนแน่ใจว่าจะท�ำการยงิ ถูก อย่าปล่อยให้รถถังข้าศึกวิ่งโถมเข้ามาอย่างรวดเร็วยังที่ม่ันของฝ่ายเรา จน ก่อให้เกิดความตระหนกตกใจ จริงอยู่รถถังเป็นส่ิงที่น่ากลัว แต่พลประจ�ำรถก็จ�ำกัดการ ตรวจการณ์เช่นกัน รถถังไม่สามารถท�ำลายข้าศึกซ่ึงก�ำบังอยู่ในหลุมบุคคล แต่ทหารราบ เดินเท้าสามารถท�ำได้ อย่าวง่ิ หนี เพราะ ถ. จะสามารถสงั หารฝ่ายเราได้ หนทางปฏิบัติให้ อยู่และทำ� การต่อสู้ ถ. ณ ทีม่ ่นั รบ ถ้ารถถงั แล่นผ่านที่มน่ั ไปได้ก็ให้ทำ� การยิงด้านหลังของ รถถงั ซึ่งเป็นส่งิ ทีด่ ีทส่ี ดุ ส�ำหรับอาวธุ ต่อสู้รถถงั ขนาดเบา และอยู่ในที่เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ กบั รสพ.ของข้าศกึ ซงึ่ จะเคล่อื นท่ตี ามมา

8. การปฏิบัติของทหารม้าบรรทุกยานเกราะหลังการเข้าตีของ ข้าศกึ เม่อื การเข้าตขี องข้าศกึ ไมเ่ ปน็ ผลสำ�เรจ็ ผู้บังคับหน่วยต้องเตรียมก�ำลังพลไว้โดยทันทีเพ่ือเผชิญกับการเข้าตีคร้ังใหม่ ถา้ การเขา้ ตคี รงั้ แรกเปน็ การเขา้ ตบี นยานรบ การเขา้ ตคี รงั้ ตอ่ ไปอาจจะเปน็ การลงรบเดนิ ดนิ ทำ� การสนบั สนนุ ด้วยรถถงั และ รสพ. ก. สถาปนาการระวังป้องกนั ถา้ ไดถ้ อนทตี่ รวจการณเ์ ขา้ มาอยใู่ นทม่ี น่ั ใหม่ ใหส้ ง่ กำ� ลงั พลออกไปจดั ทตี่ งั้ ทีต่ รวจการณ์ใหม่ ถ้าทีต่ รวจการณ์ถอนตวั มายงั ไม่ถงึ ทีม่ ่ันของหมวด ให้ทำ� การตรวจสอบ สถานภาพ ถ้าที่ตรวจการณ์มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ให้ส่งก�ำลังพลไปทดแทนและวางแผนการ จดั เวรนอน/เวรเตรยี มพร้อม ข. การแจกจ่าย/การส่งกำ� ลังกระสนุ เพ่ิมเติม ผบ.หมู่ แบ่งเฉล่ยี กระสนุ ทเ่ี หลอื ใหเ้ ทา่ ๆ กนั นำ� กระสนุ จากผทู้ ไ่ี ดร้ บั บาดเจบ็ มาแบง่ ใหก้ บั ผทู้ ป่ี ฏบิ ตั หิ นา้ ทไ่ี ด้ ทำ� การสำ� รวจ ตรวจสอบโดยเร็ว และถ้ามีความจำ� เป็นก็ให้ร้องขอการส่งกำ� ลังกระสุนเพิ่มเติม รายงาน สถานภาพของกระสนุ ให้ ผบ.มว. และ รอง ผบ.มว.จะรอ้ งขอการสง่ กำ� ลงั กระสนุ จากผบู้ งั คบั กองร้อยชดุ รบ ถ้ามคี วามจ�ำเป็นกใ็ ห้ส่งเจ้าหน้าทไ่ี ปรบั กระสุนเอง เห ่ลาทหาร ้มา 93 ค. การส่งกลับผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ให้ม่ันใจว่าเขตการยิงคงได้รับ การครอบคลุม และผู้ท่ีได้รับบาดเจ็บไม่เป็นสาเหตุให้เกิดช่องว่างในการต้ังรับ ท้ังที่ยังคง สนบั สนนุ ซง่ึ กันและกันได้ ง. ปรบั ปรุงเรอ่ื งการพราง ถ้าเป็นไปได้ให้เปลีย่ นวสั ดุที่น�ำมาพรางท่เี ห่ียวเฉา (ก่งิ ไม้, ใบไม้) ออกและ นำ� ของใหมม่ าทดแทน อยา่ ทำ� การพรางมากเกนิ ไป ถา้ ขา้ ศกึ ตรวจไมพ่ บในการเขา้ ตคี รงั้ แรก โอกาสต่อไปคงจะตรวจพบได้ยาก จ. เปลี่ยนทดแทนเครอื่ งกดี ขวาง ถา้ หนว่ ยขา้ ศกึ อยหู่ า่ งออกไปมาก ใหเ้ ปลยี่ นทดแทนเครอื่ งกดี ขวาง, ทนุ่ ระเบดิ และเคร่ืองแจ้งเตอื นภยั ต่าง ๆ การปฏิบตั เิ ช่นน้เี ป็นการเสย่ี งอันตรายอย่างย่ิง ถ้าหากฝ่าย ขา้ ศกึ มพี ลซมุ่ ยงิ หนว่ ยตอ้ งปฏบิ ตั ดิ ว้ ยความระมดั ระวงั รอ้ งขอฉากควนั เพอ่ื กำ� บงั การปฏบิ ตั ิ อาจต้องท�ำการวางเครอ่ื งกีดขวางในขณะเม่ือทศั นวสิ ัยจ�ำกัด

94 เหลา่ ทหารมา้ หมวดทหารมา้ บรรทกุ ยานเกราะรบดว้ ยวธิ รี น่ ถอย การถอนตวั การถอนตัวจากการรบเป็นการปฏิบัติให้พ้นจากการปะทะกับข้าศึก (การผละ ออกจากข้าศึก) แล้วเคล่ือนที่ไปเข้าที่ม่ันใหม่ ถ้าข้าศึกกำ� ลังท�ำการเข้าตีหรือคาดว่าจะ ทำ� การเขา้ ตขี ณะถอนตวั ใหป้ ฏบิ ตั กิ ารถอนตวั ภายใตก้ ารกดดนั อยา่ งไรกต็ าม หากผบู้ งั คบั หน่วยคิดว่าจะใช้การถอนตัว ก็อาจถอนตัวออกมาได้ ก่อนท่ีข้าศึกจะปฏิบัติการตอบโต้ ผบู้ งั คบั หนว่ ยกท็ ำ� การถอนตวั ออกจากขา้ ศกึ แบบการกดดนั หมวดทหารมา้ บรรทกุ ยานเกราะ จะท�ำการถอนตวั ก็ต่อเมือ่ ได้รบั ค�ำสง่ั จากผู้บังคับกองร้อยชดุ รบเท่านั้น 1. การถอนตวั ภายใตก้ ารกดดันจากข้าศกึ การยิงและการด�ำเนินกลยุทธ์ เป็นวิธีหลักส�ำหรับการถอนตัวภายใต้ การกดดนั จากข้าศกึ ในการถอนตวั ให้ใช้อำ� นาจการยิงทงั้ หมดทมี่ อี ยู่เพอ่ื ยบั ย้งั ข้าศกึ เปิด โอกาสให้กองร้อยชุดรบท�ำการยิงและด�ำเนินกลยุทธ์ผละออกจากข้าศึก ผู้บังคับกองร้อย ชุดรบใช้หมวดเข้าดำ� เนินกลยุทธ์ และท�ำการรวมอ�ำนาจการยิงเพ่ือหยุดหรือหน่วงเหน่ียว การรุกเข้ามาของข้าศึกก่อนที่จะท�ำการผละออกจากข้าศึก การยิงอาวุธต่อสู้ยานเกราะ อย่างหนักจะเป็นการบังคับให้ข้าศึกต้องลงรบเดินดิน และหน่วงเหน่ียวการใช้การรบ บนยานรบเข้าท�ำการรุก การยิงด้วยกระสุนระเบิดและกระสุนควันจะหน่วงเหน่ียวน�้ำหนัก การเข้าตีของหน่วยยานเกราะที่รบบนยานรบ และสามารถซ่อนเร้นการถอนตัวของหน่วย การต่อต้านหน่วยทหารลงรบเดินดินของข้าศึกให้เพิ่มการยิงปืนกล และการยิงเล็งจ�ำลอง ให้หนาแน่นเพ่อื หยดุ ยง้ั ทหารราบข้าศกึ หนว่ ยระวงั ปอ้ งกนั ใชเ้ พอ่ื ชว่ ยใหห้ นว่ ยอน่ื ทำ� การดำ� เนนิ กลยทุ ธผ์ ละออกจาก ข้าศกึ หน่วยหน่งึ ปฏบิ ัติหน้าทีค่ ุ้มกนั การถอนตัวและตรึงข้าศึกไว้ด้วยอ�ำนาจการยงิ หรอื ยึด ภมู ิประเทศซ่งึ สกดั ก้ันการรกุ ในขณะทีห่ น่วยอ่นื ๆ ถอนตัวไปยงั ท่ตี ั้งใหม่เพ่ือทำ� การคุ้มกนั ตอ่ ไป เมอื่ หนว่ ยเคลอ่ื นทถ่ี งึ ทมี่ น่ั คมุ้ กนั แหง่ ใหม่ ตอ่ ไปกจ็ ะทำ� หนา้ ทคี่ มุ้ กนั ใหก้ บั หนว่ ยทอ่ี ยู่ ข้างหน้า การเคล่อื นท่เี ป็นห้วง ๆ ทม่ี ีการระวงั ป้องกนั ของหน่วยเหนือ

เมื่อเผชิญกับการเข้าตีของข้าศึกท่ีท�ำการรบบนยานรบอาวุธต่อสู้รถถังเป็น เห ่ลาทหาร ้มา 95 อาวธุ หลกั ทใี่ ชค้ มุ้ กนั การถอนตวั ของหนว่ ยทจี่ ะทำ� การผละออกจากขา้ ศกึ โดยปกตจิ รวดโทว์ จะท�ำการถอยมาข้างหลังเป็นหน่วยแรก และตามด้วยทหารม้าบรรทุกยานเกราะ จากน้ัน รถถังจะท�ำการถอนตัวตามมา อย่างไรก็ตามภูมิประเทศท่ีเป็นป่ารกทึบ, ทหารราบข้าศึก ท�ำการเข้าตีหรือทัศนวิสัยจ�ำกัด รถถัง และจรวดโทว์จะต้องท�ำการถอนตัวก่อน โดยให้ ทหารม้าบรรทกุ ยานเกราะท�ำการคุ้มกนั 1) ยทุ ธวิธที ี่หมวดทหารม้าบรรทกุ ยานเกราะใช้ในการผละออกจาก ขา้ ศกึ ยุทธวิธีอาจจะแตกต่างกันออกไปตามวิธีการของการใช้หมู่ทำ� การรบ, กลยุทธ์การถอนตวั ของกองร้อยชดุ รบ และปัจจัยอ่ืน ๆ ให้น�ำมาประยกุ ต์ในทุกข้นั ตอน - ใชป้ ระโยชนส์ งู สดุ จากอ�ำนาจการยงิ ของชดุ รบ ทำ� การคมุ้ กนั การถอนตวั - ก�ำลังพลอาจท�ำการข้ึนรถทางประตูลาดบรรทุก (เฉพาะเมื่อข้าศึก ท�ำการยิงกระสุนมาตกในพื้นตน) เพ่ือหลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับกำ� ลังพลและ ยุทโธปกรณ์ภายในรถ - รสพ.ที่ถอนตัวออกจากท่ีมั่น ให้ใช้ภูมิประเทศเป็นเคร่ืองก�ำบังข้าศึก อาจใช้ รสพ.ถอยหลงั เข้าประจ�ำ ณ ทีต่ ง้ั เพื่อความสะดวกรวดเรว็ ในการเคล่อื นทอี่ อกจาก ท่ีต้งั (ต้องปิดฝาห้องบรรทกุ ถ้า ปก.93 หนั ไปทางด้านหลงั ) - ให้ ปก.93 และอาวุธทุกชนิดของ รสพ.ชี้เล็งไปยังข้าศึก (อย่าเล็งช้ี ปก.93 บนหลงั คารถท่ไี ม่ได้ปิดฝาห้องบรรทกุ ) - การเคล่ือนที่อย่างรวดเร็วเป็นกุญแจแห่งความส�ำเร็จในการผละ ออกจากข้าศกึ ผู้บงั คบั หน่วยจะต้องให้ก�ำลังพลทำ� การเคล่อื นทีอ่ ยู่เสมอ - เม่ือท่ีต้ังของส่วนด�ำเนินกลยุทธ์ถูกข้าศึกท�ำการยิงเล็งจ�ำลอง อย่างหนกั หรอื จากการยงิ ของอาวธุ ขนาดหนกั แต่ไม่มอี าวธุ ต่อสู้รถถังมาตกบนทีม่ ั่น รสพ. ควรเคล่อื นท่เี ข้าไปใกล้ท่มี น่ั ของชดุ ด�ำเนินกลยุทธ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพอ่ื จะไปรับ พวกลงรบเดินดนิ และเพอ่ื เป็นการลดการสูญเสยี

96 เหลา่ ทหารมา้ 2) การเตรียมการผละจากข้าศึก การเตรยี มผละจากขา้ ศกึ เปน็ สว่ นหนงึ่ ของการยดึ ทมี่ นั่ สกดั กนั้ ทงั้ ทหาร ที่ลงรบเดินดนิ และ รสพ.ต้องอยู่ในต�ำบลที่จะให้ทหารกลับขน้ึ รถได้สะดวกรวดเร็ว ถ้าหาก ยึดครองที่ม่ันเพียงช่ัวคราวมักจะใช้หมู่ปฏิบัติการรบบนยานรบ เพื่อให้ทำ� การเคล่ือนท่ีได้ รวดเร็ว เมอื่ หมวดใชส้ ว่ นระวงั ปอ้ งกนั และสว่ นดำ� เนนิ กลยทุ ธจ์ ะตอ้ งทำ� การเลอื ก ทรี่ วมพลและเส้นทางเข้ามาทร่ี วมพล ทรี่ วมพลของหมวดเป็นทซี่ ง่ึ ส่วนลงรบเดนิ ดนิ จะกลบั มาขนึ้ รถทร่ี วมพลอาจจะอยู่ในบรเิ วณ ก) ใกล้กบั ส่วนดำ� เนินกลยทุ ธ์ ข) ใกล้กับส่วนยานรบ ค) อยู่ระหว่างกลางระหว่างส่วนยานรบ และส่วนดำ� เนินกลยทุ ธ์ 3) ข้อพจิ ารณาการเลอื กเส้นทางการถอนตัวและท่ีรวมพลของ ผบ.มว. ก) ให้กำ� บังการขนึ้ รถ ข) มีเส้นทางที่ก�ำบังทั้งส่วนด�ำเนินกลยุทธ์และส่วนยานรบ (โดยทั่วไป กำ� ลงั พลที่ลงรบเดนิ ดินมคี วามต้องการก�ำบงั น้อยกว่า รสพ.ในการเคล่อื นท)ี่ ค) เคลอื่ นทไ่ี ดร้ วดเรว็ (โดยปกติ รสพ.ในการเคลอ่ื นทเี่ รว็ กวา่ พลเดนิ เทา้ ) ง) ใหม้ สี ว่ นหนงึ่ สามารถใหก้ ารคมุ้ กนั สว่ นอน่ื โดยเฉพาะเมอ่ื ไมม่ กี ำ� ลงั ส่วนใดอยู่ในต�ำบลที่จะคุ้มกันได้ (โดยทั่วไปชุดยานรบจะมีอ�ำนาจการยิงท่ีเหมาะสมที่สุด ในการคุ้มกันให้ส่วนด�ำเนินกลยทุ ธ์) ภายในท่รี วมพล จะเลือกทว่ี างตวั รสพ. ซึ่งจะอ�ำนวยความสะดวกใน การขึ้นรถทม่ี ีการก�ำบงั แม้ว่าในทศั นวสิ ัยทจี่ �ำกัด ผบ.หมู่ ต้องมน่ั ใจว่าผู้ใต้บังคบั บญั ชารู้ว่า ท่ีรวมพลของหมวดอยู่ทใ่ี ด และเส้นทางใดทจ่ี ะใช้ไปท่ีรวมพล 4) สว่ นดำ� เนนิ กลยทุ ธท์ ท่ี ำ� การลงรบเดนิ ดนิ จะผละจากขา้ ศกึ อยา่ งไร ส่วนด�ำเนินกลยุทธ์ท�ำการผละจากข้าศึกโดยไม่ต้องจัดหน่วยคุ้มกัน การถอนตัวของตนเอง ด้วยการผละออกพร้อมกันทั้งหมด หรืออาจคุ้มครองการถอนตัว ด้วยตนเอง เมอื่ หน่วยดำ� เนินกลยทุ ธ์ต้องคุ้มกันการถอนตวั ของตวั เอง ก็จะทำ� การผละเป็น หมู่ หรอื โดยการกระจายหลายเส้นทาง

ก) การผละออกพร้อมกนั ทง้ั หมด เห ่ลาทหาร ้มา 97 เมอ่ื สว่ นดำ� เนนิ กลยทุ ธท์ ำ� การผละจากข้าศกึ พรอ้ มกนั จะรวมตวั กนั เข้าเป็นหน่วยเดียวแล้วเคลื่อนท่ีอย่างรวดเร็วท่ีสุดเท่าท่ีจะกระท�ำได้ มาเข้าที่รวมพลของ หมวด ใช้เทคนคิ การเคลอ่ื นที่แบบมาตรฐานเพอื่ ไปสมทบกบั ส่วนยานรบ ข) การผละเป็นหมู่ โดยปกติก�ำลังหนึ่งหมู่พร้อมด้วยปืนกลหนึ่งกระบอกจัดวางไว้ ณ ท่ีมัน่ เพอ่ื ท�ำการคุ้มกนั ส่วนเหลอื ของหมวดซ่ึงจะท�ำการเคลอ่ื นทีไ่ ปข้างหลงั ก่อน เมื่อใช้ในการผละแบบน้ี หมู่ที่เหลืออยู่ในที่มั่นต้องให้การคุ้มครอง เขตการยงิ ทง้ั หมดของหมวด เพอ่ื คมุ้ กนั การเคลอ่ื นทขี่ องสว่ นทเี่ หลอื ของหมวด ทมี่ นั่ รบและ เขตการยิงเปล่ยี นแปลงไปตามความจ�ำเป็น เพ่ือให้ได้รบั การคุ้มครองตลอดเขตของหมวด หมู่ท่ีคงเหลืออยู่ในที่ม่ันท�ำการผละจากข้าศึก เม่ือส่วนที่เหลือของ หมวดได้เข้าทม่ี ่ันใหม่ เพื่อให้การคุ้มกนั การผละจากข้าศกึ การถอนตัวเป็นห้วง ๆ โดยสลบั เป็นชุด ๆ จะกระทำ� เร่ือย ๆ ไป จนกระท่งั พ้นจากการปะทะกบั ข้าศกึ เมื่อพ้นจากการปะทะ กับข้าศึก กถ็ ือว่าเป็นการผละท่สี มบูรณ์ และส่วนดำ� เนินกลยทุ ธ์กใ็ ช้เทคนคิ ต่าง ๆ ในการ เคล่อื นท่ีต่อไป ค) การผละจากข้าศึกโดยการกระจายหลายเส้นทาง วธิ นี ค้ี ดั เลอื กกำ� ลงั พลมาจากชดุ ดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ (โดยมากจะคดั เลอื ก เอามาจากทม่ี น่ั รบละหน่งึ คน) ทำ� การผละและถอนตวั ไปข้างหลงั ยงั ท่ีมัน่ คุ้มกันเพ่อื ท�ำการ คุ้มกันให้ที่ม่ันในแนวหน้าเม่ือก�ำลังพลท่ีถอนตัวมาก่อนเข้าไปอยู่ในท่ีม่ันใหม่ ส่วนท่ีเหลือ ของหมวดกู้จะท�ำการถอนตวั โดยส่วนทถ่ี อนตวั มาก่อนจะท�ำการคุ้มกันให้ ปืนกลจะท�ำการเคลื่อนที่ก่อนหรือหลังสุดก็ได้ สุดแต่ว่าจะให้การ สนับสนุนการเคล่ือนที่ของส่วนที่เหลือของหมวดเป็นผลดีที่สุด และข้ึนอยู่กับการคุกคาม ของหนว่ ยยานเกราะขา้ ศกึ , จรวดดรากอนจะเคลอื่ นทไี่ ปเมอื่ ใดกไ็ ด้ พงึ ระลกึ วา่ จรวดดรากอน มีระยะท�ำงานอย่างน้อยที่สุด 65 ม. ผู้บังคับหมวดและผู้บังคับหมู่จะถอนตัวไปกับหน่วย สดุ ทา้ ย นายสบิ ประจำ� หมวดและหวั หนา้ ชดุ ยงิ จะเคลอ่ื นทไ่ี ปกอ่ นเพอ่ื จดั ตงั้ การระวงั ปอ้ งกนั หากข้าศึกท�ำการเข้าตี หน่วยที่ท�ำการผละ ก�ำลังพลก็คงให้อยู่ในที่ม่ันเพิ่มอ�ำนาจการยิง

98 เหลา่ ทหารมา้ ใหม้ ากขน้ึ เพอ่ื ปอ้ งกนั มใิ หข้ า้ ศกึ บดขยที้ ม่ี นั่ ขณะทที่ ำ� การผละดว้ ยวธิ กี ารตา่ ง ๆ กระบวนการ นย้ี ังคงปฏบิ ตั ิต่อไปจนกระท่งั พ้นจากการปะทะกับข้าศกึ 5) ข้อพจิ ารณาการใชว้ ธิ ีการผละจากข้าศึก ก) การผละจากข้าศึกโดยไม่ต้องคุ้มกันการผละของตนเอง จะใช้การผละจากข้าศึกพร้อม ๆ กัน เม่ือต้องการเคลื่อนท่ีอย่าง รวดเร็วและตั้งใจ ข้อพิจารณาเหล่าน้ีจะใช้การผละจากข้าศึกพร้อม ๆ กัน โดยไม่ต้อง คุ้มกันการผละของตนเอง - เมื่อข้าศึกยังไม่ได้ทำ� การรบประชิด หรือข้าศึกไม่สามารถทำ� การ ยงิ ประชดิ หมวด สามารถทำ� การเคลอ่ื นทกี่ อ่ นทข่ี า้ ศกึ จะกระทำ� ดงั กลา่ วได้ (ผลอนั เนอ่ื งจาก เครอื่ งกีดขวางหรอื ระยะทางระหว่างหมวดกับข้าศึก) - หน่วยอ่นื ของกองร้อยชดุ รบหรอื กองพนั เฉพาะกิจ สามารถให้การ คุ้มกนั การผละได้อย่างเพยี งพอ ข) หมวดคุ้มกนั การผละของตนเอง จะใช้เม่ือ - การใช้ส่วนคุ้มกนั ของหมวดเป็นสิง่ จ�ำเป็น เพอ่ื ให้มีอำ� นาจการยงิ อย่างพอเพยี งส�ำหรับการเคลอ่ื นทีข่ องหมวดในการผละ - เมื่อเผชิญการรบประชดิ ของหน่วยลงรบเดินดนิ ของข้าศกึ (1) การผละจากข้าศกึ เป็นหมู่ สะดวกต่อการจัดก�ำลังภายในหมวด และคงไว้ซึ่งสายการ บังคับบัญชา จะใช้เมื่อหมู่หนึ่ง ๆ สามารถให้ความคุ้มครองเขตรับผิดชอบของหมวด ทหารม้าบรรทกุ ยานเกราะได้ (2) การผละจากข้าศึกโดยการกระจายหลายเส้นทาง อ�ำนวยให้กระจายการยิงอย่างสม่�ำเสมอครอบคลุมเขต รบั ผดิ ชอบของหมวดในระหวา่ งการผละจากขา้ ศกึ ยากในการควบคมุ กวา่ การถอนตวั เปน็ หมู่ ใช้เม่ือหมวดลงรบเดนิ ดินไม่อาจจะถอนตัวโดยชดุ ด�ำเนินกลยุทธ์ ไม่มีชุดด�ำเนนิ กลยทุ ธ์ใด ที่จะสามารถคุ้มครองเขตรับผิดชอบของหมวดที่ลงรบเดินดิน (เพราะว่าภูมิประเทศรกทึบ หรอื ทัศนวสิ ัยจ�ำกดั )

6) การผละจากขา้ ศกึ ของหมู่ต่าง ๆ ที่ปฏิบัตกิ ารร่วมกับยานรบ เห ่ลาทหาร ้มา 99 สำ� หรบั วธิ กี ารนี้ เมอ่ื ชดุ ยานรบและชดุ ดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ (สว่ นลงรบเดนิ ดนิ ) วางกำ� ลงั อยใู่ กลก้ นั กำ� ลงั พลทล่ี งรบเดนิ ดนิ จะวงิ่ ไปยงั รสพ. และขน้ึ รถ ชดุ ยานรบจะคมุ้ กนั ด้วยการยงิ ให้เม่ือจ�ำเป็น ชดุ ดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ต่าง ๆ อาจเคล่อื นที่ไปยงั ยานรบโดยรวมเป็นชดุ เดยี ว หรือโดยการกระจายหลายเส้นทาง การกระจายหลายเส้นทางใช้เมื่อการกดดันของข้าศึก ประชิดเข้ามาและกดดันอย่างหนัก หรือเมื่อส่วนยานรบไม่สามารถคุ้มกันการผละได้ การ เคลื่อนท่ีเป็นชุดเดียวง่ายในการควบคุมและรวดเร็วกว่าจะใช้ เมื่อส่วนยานรบอยู่ที่ม่ัน ท่ใี ห้การคุ้มกนั ส่วนด�ำเนินกลยทุ ธ์ได้และเมื่อข้าศกึ อยู่ห่างไกล วธิ ี ผบ.หมู่ ตอ้ งเลอื กเสน้ ทางถอนตวั และทรี่ วมพล (ทซี่ ง่ึ ชดุ ดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ จะกลับมาข้ึนรถ) ต้องพิจารณาในการเลือกท่ีรวมเช่นเดียวกับข้อพิจารณาในการเลือก ท่รี วมพล และเส้นทางถอนตวั ของ ผบ.มว. 7) การผละจากขา้ ศึกของหมวดเมอื่ ส่วนด�ำเนินกลยทุ ธก์ ลบั ขนึ้ รถ การเคลื่อนท่ีเป็นหมวดเป็นหน่วยเดียวกัน มักจะได้รับการคุ้มกันจาก ส่วนอ่นื ๆ ของกองร้อยชดุ รบ หมวดจะใช้เส้นทางทีใ่ ห้การก�ำบงั ในการผละ ผบ.มว.จะร้องขอการยิงของอาวุธเลง็ จำ� ลอง/ควนั โดยผ่าน ผตน. และ ผบ.ร้อยชุดรบ เพ่ือก�ำบังการถอนตัวของหมวด ใช้กระสุนระเบิดท�ำลายข้าศึกท่ีเข้าตีและ ควันปกปิดเส้นทางท่ีหมวดจะใช้ถ้าการยิงคุ้มกันจากหน่วยอ่ืนไม่เพียงพอให้หมวดในการ ถอนตัว หมวดก็จะใช้การยิงโดยการรบบนยานรบ และการด�ำเนินกลยุทธ์เป็นหมู่ เพ่ือให้ พ้นจากการปะทะกบั ข้าศกึ ในระหว่างการถอนตัว ผู้บังคับกองร้อยชุดรบอาจส่ังให้หมวดทหารม้า บรรทุกยานเกราะท�ำการคุ้มกันการถอนตัวของหมวดอื่น ๆ โดยการยึดครองท่ีม่ันสกัดกั้น เพื่อทำ� การยงิ ไปยงั เขตทกี่ �ำหนด หรอื ท�ำการยึดภมู ปิ ระเทศไว้ ในบางกรณหี มวดทหารมา้ บรรทกุ ยานเกราะอาจไดร้ บั คำ� สง่ั ใหเ้ คลอ่ื นท่ี ไปข้างหลัง และช่วยจัดเตรียมที่มั่นสกัดก้ันใหม่ของกองร้อยชุดรบ หมวดทหารม้าบรรทุก ยานเกราะจะช่วยรองผู้บังคับกองร้อยชุดรบเลือกและท�ำเครื่องหมายที่ตั้งของชุดยานรบ, ชดุ ด�ำเนินกลยทุ ธ์, จรวดโทว์ และรถถัง และยังสามารถสร้างเครอื่ งกดี ขวาง, จ่ายอุปกรณ์,

100 เหล่าทหารมา้ จัดคนช้ีทางให้ก�ำลังที่เหลือของกองร้อยชุดรบเคล่ือนที่อย่างรวดเร็วเข้ายังจุดวางก�ำลัง เมื่อมาถงึ 2. การถอนตวั ออกจากการกดดันจากข้าศึก ผลส�ำเร็จของการถอนตวั แบบนอ้ี ยู่กับการรกั ษาความลบั และการลวง หรือ ความเร็วในการปฏิบัติการ พยายามถอนตัวก่อนที่ข้าศึกจะรู้ตัวและก่อนท่ีจะมีการตอบโต้ โดยปกติจะกระท�ำในเวลากลางคืน หรือเม่ือทัศนวิสัยจ�ำกัด การผละจากการรบนอกการ กดดัน สามารถปฏิบัติได้โดยใช้ส่วนแยกท้ิงไว้ปะทะ หรือให้ทุกหน่วยเคลื่อนที่พร้อมกัน (ไม่ต้องมหี น่วยงานแยกท้งิ ไว้ปะทะ) 1) การผละจากข้าศกึ โดยใชห้ น่วยแยกท้งิ ไว้ปะทะ กำ� ลังพลทุกนายจะถอนตวั และไปรวมกันอย่างเงยี บ ๆ ในขณะทห่ี น่วย แยกทิ้งไว้ปะทะให้การคุ้มกันการประกอบก�ำลังของหน่วยแยกท้ิงไว้ปะทะจะเป็นไปตาม คำ� สง่ั ของผบู้ งั คบั กองรอ้ ยชดุ รบ อาจจะประกอบดว้ ยหมหู่ นงึ่ หมู่ จากแตล่ ะหมวดหรอื หมวด จากกองรอ้ ยชดุ รบ หรอื การผสมหนว่ ยอยา่ งอน่ื ของกำ� ลงั สว่ นหนา้ กำ� ลงั สว่ นแยกทงิ้ ไวป้ ะทะ จะแสร้งลวงท�ำกิจกรรมปกติของหน่วยด้วยการยิง, การลาดตระเวน, การติดต่อทางวิทยุ, เสยี ง และมาตรการอ่นื ๆ เพ่อื ปกปิดการถอนตวั ของฝ่ายเราไม่ให้ข้าศกึ รู้ เม่อื ใช้หมู่ปฏบิ ัติการรบบนยานรบชดุ ด�ำเนินกลยทุ ธ์ขน้ึ รถค�ำส่งั ผบ.หมู่ รับผิดชอบการตรวจยอดก�ำลังของตน และหมู่ท�ำการเคลื่อนท่ีไปยังท่ีรวมพลของหมวด จากนนั้ หมวดกเ็ คลอื่ นทไ่ี ปยงั ทรี่ วมพลของกองรอ้ ยชดุ รบหรอื ทม่ี น่ั ซง่ึ ผ้บู งั คบั กองรอ้ ยชดุ รบ กำ� หนด เม่ือใช้หมู่ปฏิบัติการรบห่างจาก รสพ.ก็ท�ำการเคล่ือนที่ไปยังจุดนัดพบ แล้วต่อไปยังท่ีรวมพลของส่วนด�ำเนินกลยุทธ์ของหมวด ซ่ึงชุดด�ำเนินกลยุทธ์รวมกันอยู่ แล้วไปยงั ท่ีรวมพลของหมวดอาจจะอยู่ในพนื้ ท่เี ดยี วกนั หมวดอาจเคล่ือนท่ีย้ายชุดยานรบไปสู่ที่บริเวณพลของหมวดช่ัวระยะ เวลาหนึ่ง แล้วถอนชุดด�ำเนินกลยุทธ์ซึ่งเคล่ือนท่ีเดินเท้าไปยังที่รวมพล การเคล่ือนย้าย ชุดรบด�ำเนินกลยุทธ์กลับไปยังที่รวมพลของหมวด เพื่อสมทบกับชุดยานรบประเภทแรก ผบ.หมู่ ต้องทำ� การรวบรวมชดุ ด�ำเนนิ กลยทุ ธ์ในที่รวมพลของหมู่ ณ ทางด้านหลงั ของทม่ี น่ั ของหมู่ แล้วปฏบิ ัตกิ ารดงั ต่อไปนี้

- น�ำหน่วยของตนจัดรวมเป็นชุดรบภายใต้การควบคุมไปยังท่ีรวมพล เห ่ลาทหาร ้มา 101 ของหมวด - ส่งกำ� ลังพลไปยงั ทร่ี วมพล ให้แยกไปเป็นบคุ คล เมือ่ ระยะทางไกลและภูมปิ ระเทศรกทบึ ให้ทำ� การเคล่อื นทเี่ ป็นชุด เมอ่ื ระยะทางใกล้และเป็นเส้นทางที่ง่ายในการเคลื่อนที่ก็ให้แยกไปเป็นบุคคลตามลำ� พังไม่ว่า ในกรณใี ด ผบ.หมู่ จะต้องชแ้ี จงเหตุผลให้ทกุ คนทราบก่อนจะเคลือ่ นท่ี ก) หมวดจะทำ� การผละอย่างไรเมอ่ื พ้นจากการปะทะกับขา้ ศกึ เม่ือหมวดได้รวบรวมก�ำลังพลแล้ว ก็เคล่ือนที่ไปยังต�ำบลซึ่งผู้บังคับ กองร้อยชุดรบได้ก�ำหนดให้ (โดยปกติก็จะเป็นท่ีรวมพลของกองร้อยชุดรบ) ทั้งชุดท่ีรบบน ยานรบ และชุดท่ีทำ� การลงรบเดินดินจะใช้รูปขบวนเดิน ซ่ึงง่ายต่อการควบคุมและทำ� การ เคล่อื นที่เงยี บ ๆ และรวดเรว็ ต้องนำ� วนิ ัยในเรือ่ งเสยี งและแสงมาใช้บังคบั เพ่ือไม่ให้ข้าศึก มีโอกาสรู้ถึงการถอนตัว อนุมัติให้ใช้วิทยุได้เฉพาะหน่วยแยกท้ิงไว้ปะทะลาดตระเวนของ กองร้อยชุดรบ ชุดลาดตระเวนประกอบด้วยก�ำลังพลซ่ึงส่งมาข้างหลังเพื่อจัดเตรียมท่ีมั่น แหง่ ใหมท่ จี่ ะยดึ ครองดว้ ยการทำ� เครอ่ื งหมายทต่ี ง้ั ไวใ้ หช้ ดุ ยานรบและชดุ ดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ และ เปน็ ผชู้ ที้ างเขา้ สทู่ ตี่ งั้ ผบู้ งั คบั กองรอ้ ยชดุ รบเปน็ ผกู้ ำ� หนดของสว่ นลาดตระเวน อาจประกอบ ด้วยนายสบิ ประจ�ำหมวดและกำ� ลังพลอกี หมู่ละ 1 นาย ข) หมวดหรอื หมู่ เป็นส่วนหนง่ึ ของกองกำ� ลงั ส่วนทแ่ี ยกทงิ้ ไว้ปะทะ ก�ำลงั ส่วนแยกทงิ้ ไว้ปะทะทอี่ ยู่นอกการกดดนั จากข้าศกึ และอยู่ภายใต้ การควบคุมของผู้บังคับบัญชาแต่เพียงคนเดียว คุ้มกันให้กำ� ลังส่วนใหญ่ด้วยการลวงและ ทำ� การต้านทานเมอ่ื จ�ำเป็น ก่อนท่กี ำ� ลงั ส่วนใหญ่ทำ� การถอนตัว กำ� ลังส่วนแยกทง้ิ ไว้ปะทะ อาจจะย้ายที่ตั้งไป เพ่ือให้การครอบครองพ้ืนท่ีรับผิดชอบของหน่วยท่ีถอนตัวตามความ จ�ำเป็นโยกย้ายคนตามความจำ� เป็น การโยกย้ายก�ำลังพลมากเกินไปอาจท�ำให้ข้าศึกรู้ตัว ถ้าส่วนแยกท้งิ ไว้ปะทะขยายกว้างออกไปมาก การควบคุมกก็ ระท�ำได้ยาก เมื่อหมู่ทำ� การคุ้มกันการถอนตัวส่วนที่เหลือของหมวด อย่างน้อยที่สุด ให้มเี คร่อื งยงิ จรวดดรากอนหนง่ึ เครอื่ งอยู่กบั หมู่ เพ่ือใช้ป้องกนั ต่อสู้รถถงั และวางเคร่ืองยิง จรวดใหอ้ ยใู่ นทท่ี ด่ี ที สี่ ดุ ทส่ี ามารถหยดุ ยานเกราะขา้ ศกึ ได้ และใหเ้ หลอื ปนื กลไว้ 1 กระบอก

102 เหล่าทหารมา้ กับก�ำลังส่วนแยกทิ้งไว้ปะทะ ควรจะเป็นปืนกลกระบอกท่ีให้การคุ้มครองเส้นทางการ เคลื่อนทที่ อ่ี ันตรายมากท่สี ดุ ก�ำลังส่วนแยกทิ้งไว้ปะทะจะท�ำการถอนตัวก็ต่อเมื่อได้รับค�ำสั่งจาก ผู้บังคับบัญชา เมอ่ื ก�ำลังส่วนใหญ่พ้นจากการปะทะกับข้าศกึ 2) การถอนตวั พร้อมกันหมดทกุ หนว่ ย (ไมม่ ีส่วนแยกท้ิงไว้ปะทะ) หมวดอาจท�ำการถอนตัวจากข้าศึกด้วยการเคลื่อนย้ายก�ำลังท้ังหมด ออกมาพรอ้ ม ๆ กนั โดยไมใ่ ชส้ ว่ นแยกทง้ิ ไวป้ ะทะ อาจจะกระทำ� เชน่ นไ้ี ดเ้ มอ่ื เผชญิ กบั ขา้ ศกึ เพยี งเบาบาง หรอื มเี ครอ่ื งกดี ขวางคน่ั อยรู่ ะหวา่ งขา้ ศกึ กบั หนว่ ยเรา เมอื่ กำ� ลงั หนว่ ยทหารมา้ บรรทุกยานเกราะเผชิญกับทหารราบข้าศึก หรือเมื่อมีปัจจัยที่ลดความคล่องแคล่วในการ เคลอ่ื นที่ของข้าศกึ หรอื มีปัจจยั หน่วงเหนย่ี วเวลาในการปฏิบัตยิ งิ่ กว่าใช้การลวง ส่วนการ ถอนตัวข้ึนรถและถอนตัวไปยังที่รวมพลของหมวดและของกองร้อยชุดรบโดยรวดเร็ว ตามเวลาทก่ี �ำหนด แล้วเคล่อื นทีอ่ อกจากพ้นื ที่ไป ผบ.มว. และ ผบ.หมู่ จะต้องใช้กำ� ลังพล ของตนเตรียมการเคล่ือนย้ายตามเวลาท่ีก�ำหนด แต่การเตรียมการต้องกระท�ำโดยไม่ให้ ข้าศกึ ทราบถงึ การถอนตวั 3) การรบหนว่ งเวลา การรบหนว่ งเวลาเปน็ การปฏบิ ตั กิ ารรบเพอื่ หนว่ งเหนย่ี วการรกุ ของขา้ ศกึ ให้ช้าลง และก่อให้เกิดความเสียหายแก่ข้าศึกให้มากที่สุดเท่าท่ีสามารถจะกระท�ำได้ การ รบหน่วงเวลาต้องสู้กับการรบคืบหน้าของข้าศึกด้วยกำ� ลังท่ีมากพอ เพ่ือให้ข้าศึกต้องปรับ รูปขบวน และเม่ือข้าศึกก�ำลังปรับรูปขบวนอยู่น้ัน ในช่วงโอกาสสุดท้ายท่ีท�ำได้ ก�ำลังรบ หน่วงเวลาก็จะถอนตัวไปสู่ท่ีมั่นใหม่ และข้าศึกก็จะเร่ิมใช้เวลาท�ำการปรับรูปขบวนใหม่ เพ่อื ทำ� การรุกเข้ามาอกี หมวดทหารม้าบรรทุกยานเกราะ ไม่ท�ำการรบหน่วงเวลาด้วยตนเอง หากเปน็ สว่ นหนงึ่ ในกองรอ้ ยชดุ รบ หรอื กองพนั รบเฉพาะกจิ ปฏบิ ตั กิ ารรบหนว่ งเวลาตามท่ี ผู้บังคับกองร้อยชดุ มอบหมายให้ ภารกิจส่วนใหญ่ คอื ภารกิจตงั้ รับแบบมาตรฐาน ทำ� การ ยงิ ตอ่ พนื้ ทรี่ บั มอบ, ดำ� เนนิ การซมุ่ โจมต,ี ทำ� การปดิ กน้ั ถนน, ยดึ รกั ษาภมู ปิ ระเทศหรอื ทำ� ฉาก กำ� บงั พน้ื ที่ ในการรบหนว่ งเวลา รถถงั และเครอ่ื งยงิ จรวดโทวอ์ าจใชเ้ ปน็ อาวธุ หลกั สนบั สนนุ

หมวดทหารมา้ บรรทกุ ยานเกราะ หมวดทหารมา้ บรรทกุ ยานเกราะควรจะวางเครอ่ื งกดี ขวาง เห ่ลาทหาร ้มา 103 เพอ่ื ใหก้ ารระวงั ปอ้ งกนั กบั รถถงั และเครอ่ื งยงิ จรวดโทว์ และจดั เตรยี มทม่ี น่ั สกดั กนั้ ในทางลกึ ในการเป็นส่วนหนึ่งของกองร้อยชุดรบท�ำการรบหน่วงเวลา หมวด ทหารมา้ บรรทกุ ยานเกราะอาจไดร้ บั มอบภารกจิ ทำ� ฉากกำ� บงั ผบู้ งั คบั กองรอ้ ยกำ� หนดขอบเขต ของพน้ื ทท่ี ำ� ฉากกำ� บงั ภารกจิ ของหมวดคอื แจง้ เตอื นการรกุ เขา้ มาของขา้ ศกึ และใหเ้ วลาแก่ ผู้บังคับบัญชาในการเคล่ือนย้ายรถถังเคร่ืองยิงจรวดโทว์ และทหารม้าบรรทุกยานเกราะ เข้าท่ีต้งั ซ่งึ สามารถท�ำการรวมอำ� นาจการยิงไปยงั ข้าศกึ ถ้าหากท�ำการตรวจพบการรุกเข้ามาของข้าศึกก็ต้องรีบรายงานให้ ผู้บังคับกองร้อยชุดรบทราบโดยทันทีในรายละเอียดของขนาด, ก�ำลัง และทิศทาง แล้ว หมวดทำ� การยงิ หนว่ งขา้ ศกึ เพอ่ื เปดิ โอกาสใหห้ นว่ ยตา่ ง ๆ ของก�ำลงั รบเฉพาะกจิ ไดเ้ คลอื่ นที่ เข้าสู่ทม่ี ั่น ผู้บังคับหมวดจะต้องรายงานให้ผู้บังคับกองร้อยชุดรบได้ทราบถึง สถานการณ์ของหมวด และให้ข้อเสนอแนะในเร่ืองเวลาที่จะถอนหมวดมาข้างหลัง หมวด ควรทำ� การถอนตวั เขา้ ทม่ี น่ั ขนั้ รบตอ่ ไป กอ่ นทขี่ า้ ศกึ จะเคลอ่ื นทเ่ี ขา้ มาใกลจ้ นท�ำใหผ้ ละออก จากข้าศกึ ไม่ได้ อย่างไรกต็ าม ผู้บังคับกองร้อยชดุ รบต้องอนุมตั ิให้ ผบ.มว.สามารถถอนตวั มายงั พ้นื ทต่ี ่อไปท่จี ะท�ำฉากกำ� บัง การถอนตัวโดยรวดเร็ว หมวดจะใช้การเคลื่อนที่เป็นห้วง ๆ ท่ีมีการ ระมัดระวงั ถอยมาข้างหลงั เพ่ือท�ำฉากกำ� บังต่อไป ด�ำรงการเกาะข้าศกึ ด้วยสายตา โดยใช้ ส่วนท้ายสดุ ของหมวดให้ได้ระยะกว้างไกลมากท่สี ดุ เท่าที่จะสามารถกระทำ� ได้ นอกจากการทำ� ฉากก�ำบัง หมู่หรือหมวดทหารม้าบรรทุกยานเกราะยัง สามารถท�ำฉากป้องกันเครื่องปิดก้ันถนนและท่ีมั่นสกัดก้ัน และอาจวางก�ำลังซุ่มโจมตี ยานเกราะบนเส้นทางการเข้ามาของข้าศึก ในภูมิประเทศท่ีเป็นป่ารกทึบและบนเส้นทาง รองที่ยานเกราะจะใช้ผ่านเส้นทางเข้ามา กองร้อยชุดรบที่มีทหารม้าบรรทุกยานเกราะเป็น หลัก จะใช้เพอ่ื ท�ำการรบหน่วงเวลา

104 เหล่าทหารมา้ บทที่ กองร้อยทหารมา้ (ลาดตระเวน) (อจย. 17-57 พ.) ภารกจิ ภารกิจขีดความสามารถ และการจดั ทหารม้าลาดตระเวน 1. ภารกจิ ทำ� การระวงั ปอ้ งกนั และทำ� การลาดตระเวนใหก้ บั หนว่ ยเหนอื หรอื หนว่ ยทไ่ี ป ข้นึ สบทบและเข้าปะทะข้าศกึ ในการรบด้วยวธิ ีรุก รบั หรอื ทำ� การรบหน่วงเวลา 2. ขีดความสามารถ 1. ลาดตระเวนและระวงั ปอ้ งกนั ใหแ้ กห่ นว่ ยเหนอื หรอื หนว่ ยทไี่ ปขน้ึ สมทบ 2. ทำ� การรบด้วยวธิ ีรกุ รับ หรือรบหน่วงเวลา ได้อย่างจำ� กดั 3. ปฏิบตั ิการเป็นอิสระ เม่ือได้รบั การสนับสนนุ อย่างเหมาะสม 4. ท�ำการปราบจราจล เม่อื ได้รบั การสนับสนนุ เครอ่ื งมือใช้ทีเ่ หมาะสม 5. ท�ำการรบอย่างทหารราบเมื่อจ�ำเป็น และสามารถป้องกันตนเองจาก การโจมตที างพื้นดนิ 6. มีความคล่องแคล่วในการเคล่อื นที่ 100% คุณลกั ษณะของหนว่ ยลาดตระเวน ก. มีอ�ำนาจการยิงและมีเกราะป้องกัน หน่วยลาดตระเวนเป็นหน่วย ที่จัดการยิงได้ส่วนสามารถยิงเล็งตรงและยิงเล็งจ�ำลองได้ดีท้ังอาวุธอัตโนมัติ ค. และ

ถ. (รถเกราะ) นอกจากนี้ ถ. และ รสพ. ยังมีเกราะป้องกนั ท�ำให้สามารถเคล่ือนทีไ่ ปบนรถ เห ่ลาทหาร ้มา 105 ท�ำการเข้าตีได้ และประกันได้ว่า สามารถป้องกันการยิงจากอาวุธเบา และสะเก็ดระเบิด ของ ป. ได้ ข. มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่สูง หน่วยลาดตระเวนมีเกราะบาง และส่วนใหญ่เป็นรถสายพานและรถเกราะ จึงสามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็วท้ังบนถนนและ เส้นทางในภมู ปิ ระเทศได้ดี ค. มอี ำ� นาจทำ� ลายและขม่ ขวญั เมอ่ื รวมอำ� นาจการยงิ และความคลอ่ งแคลว่ ในการเคล่ือนทเ่ี ข้าด้วยกนั จะทำ� ให้หน่วยลาดตระเวนมอี ำ� นาจทำ� ลายและข่มขวญั สูงสุด ง. มีการตดิ ต่อสอ่ื สารหลายวธิ ี มว.ลว. และ ร้อย.ม.ลว. มเี ครอ่ื งมือสอ่ื สาร หลายชนดิ เช่นเดียวกบั หน่วยยานเกราะอ่นื ๆ คอื มีทั้งวทิ ยุ เอเอ็ม และเอฟเอ็ม โทรศพั ท์ แผ่นผ้าสญั ญาณ, ธงสญั ญาณ, พลน�ำสาร หรือนายทหารตดิ ต่อ จ. มีการจัดที่อ่อนตัว เนื่องจากความเร็วในการเคลื่อนท่ีสูงมีอ�ำนาจการยิง จัดได้สัดส่วน มเี กราะขนาดบางป้องกันตวั มกี ารตดิ ต่อสอ่ื สารหลายวธิ ี จึงทำ� ให้ มว. และ ร้อย.ม.ลว. พร้อมอยู่เสมอที่จะรับมอบภารกิจและเข้าปฏิบัติการรบด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง โดย สามารถผสมกำ� ลังภายในหน่วยของตนได้เหมาะสมกบั สถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกดิ ขน้ึ หลักการใชห้ นว่ ยลาดตระเวน ก. การด�ำรงความเป็นหน่วย ในการใช้หน่วยลาดตระเวน ควรได้พิจารณาถึง เอกภาพในการบังคับบัญชา และเอกภาพในการจัดก�ำลังทางยุทธวิธี ร้อย.ม.ลว. ควรใช้ ร่วมกันเป็นหน่วยเพื่อให้ ผบ.หน่วยมีอิสระในการควบคุมส่วนต่าง ๆ ในการบังคับบัญชา ของตนได้ ส่วนต่าง ๆ ทเี่ หมอื นกนั ของหมวดต่าง ๆ อาจเอามารวมใช้ในความควบคุมของ กองรอ้ ย ในการปฏบิ ตั เิ ฉพาะครง้ั คราวหนง่ึ ๆ กไ็ ด้ เพอ่ื สว่ นตา่ ง ๆ ทเี่ หมอื นกนั ของหมวดตา่ ง ๆ มารวมอยใู่ นความควบคมุ ของกองรอ้ ย แลว้ แตล่ ะหนว่ ยรกั ษาสภาพของตนไว้ และสามารถ กลับคืนไปอยู่ในความควบคุมของหมวดได้โดยเร็วไม่ชักช้า หมู่ ค. มักถูกใช้ในลักษณะนี้ โดยจะทำ� การยงิ เป็นพื้นท่ี ข. กวา้ งดา้ นหนา้ กวา้ งดา้ นหนา้ ในการปฏบิ ตั ไิ ดผ้ ลของ มว. และกองรอ้ ยขน้ึ อยู่ กบั ภารกจิ ขา่ ยเสน้ ทาง ภมู ปิ ระเทศ การปฏบิ ตั ขิ องขา้ ศกึ แผนการปฏบิ ตั ิ และความใกลไ้ กล ฝ่ายเดยี วกนั กบั รศั มปี ฏบิ ัติการท่ไี ด้ผลของวทิ ยุ

106 เหล่าทหารมา้ โดยทั่วไป มว.ลว. สามารถระวังป้องกัน หรือลาดตระเวนได้ผลในพื้นที่ซงึ่ มี เส้นทางหน่งึ เส้นทาง (ซึ่งมเี ส้นทางเลก็ ๆ ตดั แยกขวางออกไป) ดังน้นั ร้อย.ม.ลว. จะปฏบิ ัติ การได้ผลทส่ี ุดเม่อื ได้รบั มอบเส้นทางหลกั ในการปฏบิ ัติเพยี งเส้นทางเดยี ว ค. ระยะทางจากหน่วยท่ไี ด้รับการสนับสนนุ ระยะทห่ี น่วยลาดตระเวนออกไป ปฏิบัติการห่างจากหน่วยท่ีตนไปสนับสนุน ย่อมข้ึนอยู่กับภารกิจ ภูมิประเทศ การปฏิบัติ ของข้าศกึ ซ่งึ อปุ กรณ์ท่มี อี ยู่และรศั มีปฏบิ ัตกิ ารได้ผลของวทิ ยุ หน่วยลาดตระเวนอาจต้องปฏิบัติการพ้นระยะยิงสนับสนุนของ ป. หรือ ไกลออกไปจากการเพิม่ เตมิ กำ� ลงั จากหน่วยทต่ี ้นสงั กดั หรอื ขึ้นสมทบ ไม่สามารถทำ� การได้ หรอื ท�ำได้ด้วยความยากลำ� บาก มว. หรือ ร้อย.ม.ลว. ที่ไม่ได้รบั การสนบั สนุนน้ี จะสามารถ ต้านทานข้าศกึ ท่มี กี �ำลังมากกว่าได้ดกี ็แต่เพียงในระยะเวลาจ�ำกดั ง. การปฏิบัติเป็นอิสระ มว. และ ร้อย.ม.ลว. ต้องเตรียมพร้อมเพื่อสามารถ ปฏิบัตกิ ารตามเป็นอสิ ระได้ ทง้ั น้ขี ้นึ อยู่กบั .- 1) ทหารตอ้ งไดร้ บั การฝกึ อยา่ งดใี นการปฏบิ ตั กิ ารรบและงานชา่ งโยธาเกยี่ วกบั ก) การลาดตระเวนส�ำรวจดงระเบิด (เว้นดงระเบดิ สงั หาร) ข) การตรวจค้นทุ่นระเบดิ และการทำ� ลาย โดยไม่ใช้เครอ่ื งมอื ทหารช่าง ค) การลาดตระเวนส�ำรวจเส้นทางและสะพาน ง) การค�ำนวณดินระเบิด และการรื้อถอนวตั ถุระเบิด 2) ผบ. ส่วนต่าง ๆ ใน มว. และ ร้อย.ม.ลว. จะต้องได้รับการฝึกให้สามารถ แก้การยิงของ ป. ได้ ในเมอ่ื ไม่มี ผตน. ของ ป. ประจ�ำอยู่ 3) จดั ใหม้ กี ารปฐมพยาบาลฉกุ เฉนิ และสง่ กลบั ทหารบาดเจบ็ ไปยงั ทสี่ ถาน พยาบาลท่ใี กล้ทส่ี ดุ จ. ความเรว็ ในการเคลอ่ื นที่ หนว่ ยลาดตระเวนสามารถเคลอ่ื นทไ่ี ดร้ วดเรว็ ดว้ ย ความเรว็ 25 กม./ชม. เป็นระยะทางไกล ๆ และไปได้เร็วกว่านใี้ นระยะทางใกล้ ๆ ความเรว็ ในการเคลอ่ื นทข่ี องหนว่ ยลาดตระเวน ยอ่ มขน้ึ อยกู่ บั ภารกจิ การปฏบิ ตั ขิ องขา้ ศกึ ภมู ปิ ระเทศ และข่ายเส้นทาง 3. การจัด การจัด รอ้ ย.ม.ลว.พล. ก. ภารกจิ รอ้ ย.ม.ลว.พล. ทำ� การระวงั ปอ้ งกนั และลาดตระเวนใหก้ บั หนว่ ยเหนอื หรอื หน่วยท่ไี ปขน้ึ สมทบ และเข้าปะทะข้าศกึ ในการรบด้วยวิธี วธิ รี ับรุก หรอื รบหน่วงเวลา

ข. ขีดความสามารถ 1) ท�ำการลาดตระเวน และระวงั ป้องกันให้กบั หน่วยเหนอื หรอื หน่วยทขี่ ้ึน ไปสมทบมกั ปฏบิ ัติการ เป็นอสิ ระ โดยไม่มีการเพิม่ เตมิ ก�ำลงั 2) ทำ� การรบไดใ้ นขอบเขตจำ� กดั อนั เหมาะสมแกห่ นว่ ยยานเกราะขนาดเบา 3) แต่ละบคุ คลในหน่วยท�ำการรบได้เช่นทหารราบ 4) หนว่ ยนส้ี ามารถปอ้ งกนั ตนเอง และทต่ี งั้ ไดจ้ ากการโจมตที างพนื้ ดนิ ของ ข้าศึก ค. คุณลกั ษณะ ร้อย.ม.ลว.พล. 1) มอี �ำนาจการยงิ และมีเกราะป้องกนั ร้อย.ม.ลว.พล. เป็นหน่วยทจ่ี ดั การ ยิงได้ส่วนสามารถเลง็ ตรง และยิงจำ� ลองได้ดีท้ังอาวธุ ค. และ ถ. นอกจากน้ัน ถ. และ รสพ. ยงั มเี กราะปอ้ งกนั ทำ� ใหส้ ามารถเคลอื่ นทไ่ี ปบนรถทำ� การเขา้ ตไี ด้ และประกนั ไดว้ า่ สามารถ ป้องกันการยงิ จากอาวธุ เบา และสะเกด็ ระเบดิ ของ ป. ได้ 2) มีความคล่องแคล่วในการเคล่อื นท่สี ูง ร้อย.ม.ลว.พล. มเี กราะบาง และ ส่วนใหญ่เป็นสายพาน จงึ สามารถเคลอ่ื นทีไ่ ด้เร็วบนถนนและเส้นทางในภมู ิประเทศได้ดี การจดั ร้อย.ม.ลว.พล. (อจย.17-57 พ) เห ่ลาทหาร ้มา 107 ร้อย.ม.ลว.พล. น. 7 สพ.ล9ฯ572 บก.ร้อย. สน.. 342 มว.ลว. พลฯ 23 มว.ลว. หมู่ บก. หมู่ซ่อมบำ� รงุ หมู่สมั ภาระ บก.มว. ตอนคอยเหตุ ตอน ถ. หมู่ ปล. หมู่ ค.

ยานพาหนะ วทิ ยุ เอเอน็ /วอี าร์ซ-ี 46 รยบ. 1/4 ตนั 19 เอเอน็ /พอี าร์ซ-ี 25 8 รยบ. 2 2/2 ตนั 13 เอเอ็น/จอี าร์ซี-125 9 รยบ. 3/4 ตนั 1 เอเอน็ /จอี าร์ซี-106 13 รยบ. 1 ตัน 1 ยูเค/วอี าร์ควิ -301 2 (เอเอม็ ) รสพ.เอม็ 133 3 ทีอาร์เอ/931 เอก็ ซ์ 9 รสพ.เอม็ 106 3 โทรศัพท์ 7 (เอเอ็ม) ถ. 6 ทเี อ-312/พีที 2 รถกู้ 5 ตนั (เอม็ 543) 1 ทพี ีเอ-1 พที ี 7 รถทบ่ี ังคับการสายพาน 1 เอสบ-ี 993/จที ี 1 อาวุธ ปก.เอ็ม 60 18 ปก.เอ็ม 93 6 108 เหล่าทหารมา้ คจตอ. 3.5” 4 ค. 4.2” พร้อมฐาน 3 ปพ. 86 21 เอม็ 16 131 เอม็ 16 ชนดิ ส้นั 7 เอม็ 79 15

รอ้ ย.ม.ลว. จัดก�ำ ลังเพอื่ ทำ�การรบได้ 5 รูปแบบ แบบที่ 1 ผบ.ร้อย.  ผบ.ร้อย. รอง ผบ.ร้อย. เห ่ลาทหาร ้มา 109 (-) ค. (-) ค. (-) ค.

ก. ผบ.ร้อย. (-) (-) (+) หมู่ ค. ๔ ผบ.ร้อย. 110 เหล่าทหารมา้ คห. ถ. บล. ค. คห. ถ. ปล. ค. ๕ ผบ.ร้อย. ผบ.ร้อย. ผบ.มว. ผบ.มว. ผบ.มว. ก. ข. ปล. ถ. ค. ส่วนฐานยงิ

หลกั การใช้ ร้อย.ม.ลว.พล. เห ่ลาทหาร ้มา 111 1) ด�ำรงความเป็นหน่วย ในการใช้ ร้อย.ม.ลว.พล. ควรพิจารณาถึงเอกภาพ ในการบังคับบัญชาและเอกภาพในการจัดก�ำลัง ร้อย.ม.ลว. ควรใช้ร่วมกันเป็นหน่วย เพอ่ื ให้ ผบ. หนว่ ยอสิ ระในการควบคมุ ส่วนต่าง ๆ ในการบงั คบั บญั ชาของตนได้ ส่วนต่าง ๆ ท่ีเหมอื นกนั ของหมวดต่าง ๆ อาจเอามารวมใช้ในความควบคมุ ของกองร้อย ในการปฏบิ ตั ิ เฉพาะครง้ั คราวหนง่ึ ๆ กไ็ ด้ เพอ่ื ส่วนต่าง ๆ ทีเ่ หมอื นของส่วนต่าง ๆ มารวมอยู่ในความ ควบคุมของกองร้อยแล้วแต่ละหน่วยจะต้องรักษาสภาพของตนไว้ และสามารถกลับคืน ไปอยู่ในความควบคุมของหมวดได้โดยเร็วไม่ชักช้า หมู่ ค. มักถูกใช้ในลักษณะน้ีโดยจะ ทำ� การยงิ เป็นพ้นื ท่ี 2) กว้างด้านหน้า กว้างด้านหน้าในการปฏิบัติได้ผลของหมวด และกองร้อย ข้ึนอยู่กบั ภารกจิ ข่ายเส้นทาง ภูมปิ ระเทศ การปฏิบตั ิ แผนการปฏบิ ตั ิ และความใกล้ไกล ของฝ่ายเดยี วกันกบั รัศมีปฏบิ ตั ิการทีไ่ ด้ผลของวทิ ยุ โดยทวั่ ไป มว.ลว. สามารถระวงั ปอ้ งกนั หรอื ลาดตระเวนไดผ้ ลในพนื้ ทซ่ี งึ่ มเี สน้ ทาง หนึง่ เส้นทาง (ซง่ึ มเี ส้นทางเลก็ ๆ ตัดแยกขวางออก) ดงั นนั้ ร้อย.มว.ลว. จะปฏบิ ัตกิ ารอย่าง ได้ผลดีทส่ี ดุ เมอ่ื ได้รบั มอบเส้นทางหลักในการปฏบิ ตั ิเพียงเส้นทางเดียว 3) ระยะทางจากหน่วยทไ่ี ด้รบั การสนบั สนนุ ระยะทางทก่ี องร้อยออกไปปฏบิ ตั ิ การห่างจากหน่วยท่ีตนไปสนับสนุน ย่อมขึ้นอยู่กับภูมิประเทศ การปฏิบัติการของข้าศึก อุปกรณ์ท่มี อี ยู่ และรศั มีปฏบิ ัติการท่ีได้ผลทางวทิ ยุ ร้อย.ม.ลว.พล. อาจต้องปฏิบัติการระยะยิงสนับสนุนของ ป. หรือไกลออกไป จากการเพมิ่ เตมิ กำ� ลงั จากหนว่ ยทตี่ นสงั กดั หรอื ขนึ้ สมทบสามารถกระทำ� ได้ หรอื ทำ� ไดด้ ว้ ย ความยากลำ� บาก มว. หรือ ร้อย.ม.ลว. ท่ไี ด้รับการสนับสนนุ น้ี จะสามารถต้านทานข้าศึก ท่ีมีก�ำลงั ในระยะเวลาจ�ำกดั 4) การปฏบิ ตั เิ ป็นอสิ ระ มว.ลว. และ ร้อย.ม.ลว. ต้องเตรยี มพร้อมเพอ่ื สามารถ ปฏบิ ตั กิ ารเป็นอสิ ระได้ ท้ังน้ขี นึ้ อยู่กบั .- ก) ทหารต้องได้รับการฝึกอย่างดี ในการปฏิบัติการรบ และงานช่างโยธา เก่ียวกบั

112 เหล่าทหารมา้ 1) การลาดตระเวนสำ� รวจดงระเบิด และการวางระเบิด (เว้นดงระเบดิ สังหาร) 2) การตรวจคน้ ทนุ่ ระเบดิ และการทำ� ลาย โดยไมใ่ ชเ้ ครอื่ งมอื ทหารชา่ ง 3) การลาดตระเวนสำ� รวจเส้นทาง และสะพาน 4) การคำ� นวณดนิ ระเบดิ และการรื้อถอนวัตถรุ ะเบิด ข) ผบ. ส่วนต่าง ๆ ใน มว.ร้อย.ม.ลว. จะต้องได้รับการฝึกให้สามารถ แก้การยงิ ป. ได้ในเม่อื ไม่มี ผตน. ของ ป. ประจำ� อยู่ ค) จัดให้มีการปฐมพยาบาล และส่งกลับทหารบาดเจ็บไปยังที่พยาบาล ทีใ่ กล้ทสี่ ดุ 5) ความเรว็ ในการเคลื่อนท่ี หน่วยลาดตระเวนสามารถเคลอ่ื นท่ไี ด้เร็ว ท่สี ุด ด้วยความเรว็ 25 กม./ชม. เป็นระยะทางไกล ๆ และไปได้เร็วกว่านใ้ี นระยะทางใกล้ ๆ ความเร็วในการเคล่ือนที่ของหน่วยลาดตระเวนย่อมข้ึนอยู่กับภารกิจ การปฏิบัติของข้าศึก ภมู ปิ ระเทศและข่ายเส้นทาง การปฏบิ ตั ิการรบของหมวดทหารม้าลาดตระเวน หมวดลาดตระเวนในการปฏบิ ัติภารกิจลาดตระเวน 1. กลา่ วทวั่ ไป ก. โดยทว่ั ไปการปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ลาดตระเวนจะตอ้ งปฏบิ ตั กิ ารรบอยา่ งหา้ วหาญ และเป็นฝ่ายรุกโดยใช้ความคล่องแคล่วรวดเร็วในการเคลื่อนที่ และอ�ำนาจการยิงอย่าง รุนแรงของหมวด ให้เป็นประโยชน์อย่างสูงสดุ อย่างไรกด็ ี ตอนคอยเหตุ (ตอน ลว.) ควรใช้ ให้เป็นประโยชน์อย่างสูงสุด เพราะเป็นหน่วยที่มีความคล่องแคล่วรวดเร็วในการเคล่ือนที่ ด้วยความเงียบสงบ เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจเป็นผลส�ำเร็จ โดยพยายามเคลื่อนที่ไม่ให้ เปิดเผยตนเองมากที่สุดเท่าที่จะท�ำได้ ตอนคอยเหตุ (ตอน ลว.) จะท�ำการลาดตระเวน โดยมีกำ� ลังส่วนทเ่ี หลอื ของหมวดเตรยี มให้การสนบั สนนุ อย่างใกล้ชดิ ตลอดเวลา

ข. หมวดลาดตระเวนจะทำ� การเขา้ ตเี มอ่ื จำ� เปน็ ในขณะปฏบิ ตั กิ ารลาดตระเวน เห ่ลาทหาร ้มา 113 กอ่ นทจี่ ะตกลงใจใชห้ มวดเขา้ ตี ผบู้ งั คบั หมวดจะตอ้ งมน่ั ใจในความสำ� เรจ็ และจะตอ้ งระวงั มิให้เกิดการสูญเสยี จนไม่สามารถปฏิบตั ภิ ารกิจลาดตระเวนได้ 2. รปู ขบวนของหมวดตระเวน ก. หมวดลาดตระเวน ปกติท�ำการลาดตระเวนโดยใช้ขบวนรุกเข้าหาข้าศึก ซึง่ มตี อนคอยเหตุ (ตอน ลว.) เคล่อื นทน่ี ำ� ข. อาจใช้ตอนรถถงั (ตอนรถเกราะ) เคลอื่ นทีน่ ำ� ในเม่อื 1) หมวดกำ� ลงั เคล่ือนทีเ่ ข้าหาทต่ี ัง้ ข้าศกึ ทีท่ ราบล่วงหน้า 2) เพื่อมิให้หมวดถูกขัดขวางจากการรั้งหน่วงข้าศึกซึ่งใช้อาวุธขนาดเล็ก และปืนใหญ่ยงิ รบกวน ค. รปู ขบวนของหมวด 1) รูปขบวนแถวตอน ก) ตอนคอยเหตุ (ตอน ลว.) นำ� ข) ตอนรถถงั (ตอนรถเกราะ) นำ� ค) (หมู่คอยเหต)ุ (หมู่ ลว.) นำ� และตาม 2) รปู ขบวนแถวตอนดัดแปลง ก) รูปขบวนตวั รปู ตวั ที ข) รปู ขบวนตวั รปู ตวั วาย ค) รปู ขบวนตวั รูปตวั วายใช้ลาดตระเวน 2 เส้นทาง 3) รปู ขบวนเม่อื หยดุ ระวังป้องกนั โดยรอบตัว 4) รูปขบวนเข้าตขี องหมวด, ตอนรถถัง (ตอนรถเกราะ) และหมู่ปืนเล็กเข้าตี ก) บนยานรบ ข) ลงรบเดินดนิ 5) รปู ขบวนหมวดเข้าตีตรงหน้า ก) หมู่ปืนเลก็ อยู่ข้างหน้า ข) ตอนรถถัง (ตอนรถเกราะ) อยู่ข้างหน้า ค) ตอนรถถงั (ตอนรถเกราะ) และหมู่ปืนเลก็ เคยี งกนั 6) รปู ขบวนการตอบโต้การซุ่มโจมตี

114 เหล่าทหารมา้

เห ่ลาทหาร ้มา 115 รปู ขบวนแถวตอน (หม่คู อยเหต)ุ และตอนรถถังนำ� ของหมวดลาดตระเวน

116 เหล่าทหารมา้ หมวดลาดตระเวนแถวตอน หม่คู อยเหตุ (ตอนลาดตระเวน) นำ� และตาม

เห ่ลาทหาร ้มา 117 หมวดลาดตระเวน รปู ขบวนแถวตอน ใช้ลาดตระเวน 2 เส้นทาง

118 เหล่าทหารมา้ หมวดลาดตระเวน ดัดแปลงเปน็ รปู ตัวที หมวดลาดตระเวน รปู ขบวนตัวรปู ตัววาย

เห ่ลาทหาร ้มา 119 หมวดลาดตระเวนในที่รวมพล (แบบหน่งึ )

120 เหล่าทหารมา้ หมวดลาดตระเวนตั้งรบั แบบรอบตวั

เห ่ลาทหาร ้มา 121 การปดิ ล้อมท่หี มาย

122 เหล่าทหารมา้ หมวดลาดตระเวนปฏบิ ตั กิ ารเขา้ ตี

3. การปฏบิ ัตกิ ารเคลอ่ื นทข่ี องหมวดลาดตระเวน เห ่ลาทหาร ้มา 123 ก. หมวดลาดตระเวนมีคุณลักษณะอันส�ำคัญย่ิงอยู่ข้อหนึ่งในเร่ืองความ คลอ่ งแคลว่ รวดเรว็ ในการเคลอ่ื นที่ หมวดจงึ ใชค้ ณุ ลกั ษณะขอ้ นป้ี ฏบิ ตั ใิ หบ้ งั เกดิ ผลดที ส่ี งู สดุ ข. เม่ือสถานการณ์ไม่กระจ่างชดั หรือในขณะเหตุการณ์คบั ขัน หมวดย่อมรุก คืบหน้าไปด้วยความรวดเร็วสูงสุดตลอดเวลาท่ีปฏิบัติภารกิจน้ัน หน่วยต่าง ๆ ของตอน คอยเหตุ (ตอน ลว.) เคลือ่ นท่ไี ปข้างหน้าเป็นขัน้ ๆ ระยะต่อระหว่างยานรบย่อมแตกต่างกัน ออกไปตามลกั ษณะภูมิประเทศ ตอนรถถงั (ตอนรถเกราะ) คงตรวจการณ์ในพื้นที่ซงึ่ ตอน คอยเหตุ (ตอน ลว.) ก�ำลังปฏิบัติการอยู่นั้น วัตถุประสงค์ของการขยายรูปขบวนออกไป จนกระทั่งถึงขั้นท่ีจะอ�ำนวยให้หมวดเคลื่อนท่ีไปด้วยความเร็วสูงสุดได้ ในขณะเดียวกัน พยายามทำ� ให้การถูกซุ่มโจมตีเปิดเผยหน่วยต่าง ๆ ของหมวดให้น้อยท่สี ดุ ค. เมอื่ ใกล้ปะทะกับข้าศึก หรือปะทะกบั ข้าศกึ ปกติหน่วยต่าง ๆ ของหมวด จะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเป็นข้ัน ๆ พร้อมกับหน่วยที่จะให้การคุ้มครองการเคลื่อนท่ีของอีก หน่วยหนง่ึ โดยใช้เทคนคิ การยงิ ประกอบการเคลื่อนท่ี ง. ระหวา่ งปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ลาดตระเวนอยนู่ น้ั ปกตหิ มวดจะเคลอ่ื นทไี่ ปตามเสน้ หลักการเคลอ่ื นท่หี รือตามเส้นทางในรปู ขบวนแถวตอน จ. ปกตติ อนคอยเหตุ (ตอน ลว.) เป็นหน่วยน�ำในการเคลอื่ นท่ี การตกลงใจจะ ใหห้ นว่ ยใดเปน็ หนว่ ยนำ� ถอื หลกั การพจิ ารณาปจั จยั สี่ เมอ่ื ตอนคอยเหตุ (ตอน ลว.) เคลอ่ื นท่ี น�ำจะปฏบิ ตั ิการเป็นหมู่ และเคลอ่ื นท่เี ป็นข้นั ๆ ฉ. เทคนิคการเคล่อื นที่ของหมวดลาดตระเวน 1) การเคล่ือนท่ีของตอนคอยเหตุ (ตอน ลว.) ก) ก่อนเคลอื่ นที่ ผู้บงั คับตอนตกลงใจถงึ ท่มี ่นั ข้นั ต่อไป และเส้นทางที่ จะไปยังท่ีมั่นแห่งใหม่ว่า มีการก�ำบังซ่อนพรางมากที่สุด ขณะที่สถานการณ์อ�ำนวยให้ใช้ การเคล่ือนท่อี ย่างรวดเรว็ พร้อมที่จะเผชญิ กบั การปฏบิ ัติของข้าศกึ ได้ทุกเม่ือ ข) เข้าใกล้ท่ีมั่นซ่ึงมีพื้นท่ีตรวจการณ์แห่งใหม่ ผู้บังคับรถคันน�ำหยุด รถของตนและลงจากรถอยู่ในท่ีก�ำบัง เพื่อป้องกันข้าศึกให้พ้นจากการค้นหาที่อยู่ของตน ถ้าผ้บู งั คบั ตอนและผตู้ รวจการณ์เคลอื่ นทไ่ี ปข้างหนา้ โดยลงจากรถแล้ว พลขบั เป็นผ้ทู ำ� การ

124 เหล่าทหารมา้ ยิงปืนกลและคุ้มครองการรุกคืบหน้าของหน่วยตนและท�ำการระวังป้องกันให้กับตอน คอยเหตุทเ่ี หลือและเฝ้าตรวจอยู่ตลอดเวลา ค) ตอนคอยเหตุ (ตอน ลว.) จะต้องระวังมใิ ห้ยานรบกีดขวางเมอ่ื หยดุ อยู่กับท่ีปกตแิ ล้วทงั้ หมด ควรลงจากรถท�ำการตรวจการณ์และทำ� การระวังป้องกนั ทันที ง) ระยะห่างแต่ละขั้นมักตกลงใจด้วยอาศัยธรรมชาติของภูมิประเทศ และระยะทางซึ่งหน่วยจะให้การคุ้มครองได้ สามารถสนับสนุนหน่วยที่จะเคลื่อนท่ีอย่างมี ประสิทธิภาพ ตามปกตไิ ม่ควรอยู่ในระยะไกลเกนิ กว่าระยะยงิ หวังผลของอาวธุ ท่ีมอี ยู่ จ) การเคลือ่ นทใี่ นแต่ละขั้นจะต้องรวดเร็ว อย่างไรกต็ าม การเคลื่อนท่ี ท่ีปฏิบัติไปโดยรวดเร็วน้ัน จะไม่ท�ำให้ประสิทธิภาพของการปฏิบัติ และการประสานงาน ระหว่างหน่วยต่าง ๆ เสยี ไป ฉ) เมื่อส่งสัญญาณให้หน่วยที่จะท�ำการคุ้มครองเคลื่อนท่ีไปข้างหน้า หน่วยที่เหลือการใช้ระยะทางที่ส้ันท่ีสุดและด้วยความรวดเร็วท่ีสุด เคล่ือนท่ีไปข้างหน้า (ให้ได้รบั การคุ้มครอง) ถ้าทำ� ได้เพื่อหลกี เลีย่ งมใิ ห้การเคลือ่ นท่ีต้องเกิดการล่าช้าตลอดไป ช) เม่ือจะท�ำการคุ้มครองการเคลื่อนท่ีของยานรบท่ีก�ำลังรุกคืบหน้าไป การตรวจการณ์ต้องมุ่งตรงไปท่ภี ูมปิ ระเทศซ่งึ คาดว่าข้าศกึ จะยงิ มา ซ) ยานรบภายในหม่คู อยเหตุ หรอื ตอนคอยเหตุ ทำ� การรกุ คบื หน้าด้วย การใชก้ ารเคลอ่ื นทตี่ ามลำ� ดบั ขน้ั หรอื ไมก่ ป็ ฏบิ ตั กิ ารเคลอื่ นทแี่ บบสลบั ขน้ั อยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ (1) การเคลอ่ื นทต่ี ามลำ� ดบั ขน้ั หนว่ ยนำ� ไดร้ บั การคมุ้ ครองจากหนว่ ย ที่อยู่ข้างหลังรุกไปข้างหน้าและเข้าไปอยู่ที่มั่น เพื่อสนับสนุนการเคล่ือนท่ีของหน่วยท่ีอยู่ ข้างหลงั ต่อไป หน่วยทอ่ี ยู่ข้างหลงั เมือ่ เข้าไปถงึ ทมี่ ่ันทีอ่ ยู่ข้างเคียงกับหน่วยนำ� แล้ว จะหยุด และสนบั สนนุ การรกุ ของหนว่ ยนำ� ไดท้ นั ที ในการเคลอ่ื นทตี่ ามลำ� ดบั ขน้ั นใ้ี ชเ้ พยี งหนว่ ยเดยี ว เท่าน้นั ทส่ี ามารถเคล่อื นท่ี ณ โอกาสใด ๆ กไ็ ด้ ปกติมักใช้วธิ กี ารนเ้ี ม่ือไม่มกี ารปะทะ (2) การเคลอื่ นทส่ี ลบั ขน้ั ในการเคลอ่ื นทสี่ ลบั ขนั้ น้ี หนว่ ยนำ� หยดุ และ เขา้ วางกำ� ลงั ยงั ทมี่ นั่ เพอื่ สนบั สนนุ การเคลอื่ นทข่ี องหนว่ ยทอ่ี ยขู่ า้ งหลงั และทอี่ ยขู่ า้ งหลงั จะ เคล่ือนที่รุกผ่านหน่วยน�ำไปข้างหน้าและเข้าวางก�ำลังยังท่ีมั่น ครั้นต่อมาเมื่อหน่วยน�ำใน ตอนแรกผ่านหน่วยที่อยู่ข้างหลังในตอนแรกแบบกบกระโดด แล้วเคล่ือนท่ีไปข้างหน้าเข้า วางก�ำลงั ยังท่มี ่นั แห่งใหม่ มเี พยี งหน่วยเดียวเท่านนั้ เคล่ือนท่แี ต่ละครงั้

2) ตอนรถถัง (ตอนรถเกราะ) เคลอื่ นทีเ่ ป็นข้นั ๆ สลับการเฝ้าตรวจและ เห ่ลาทหาร ้มา 125 เตรยี มสนบั สนนุ ตอนคอยเหตุ และผบู้ งั คบั หมวดดว้ ยการยงิ หรอื การยงิ ประกอบการเคลอื่ นท่ี 3) หมู่ปนื เลก็ จะตดิ ตามตอนรถถงั (ตอนรถเกราะ) ไปพร้อมทจ่ี ะปฏบิ ัติ ในรูปของชดุ รบ หากต้องการจะปฏบิ ัตกิ ารรบด้วยวิธรี กุ ระหว่างเคลอ่ื นที่ไปนน้ั หมู่ปืนเลก็ จะระวงั ปอ้ งกนั ให้กบั หมวดด้วยการตรวจการณ์ทางปกี เมอ่ื ตอนรถถงั (ตอนรถเกราะ) หยดุ พลปืนเลก็ จะระวงั ป้องกันภายในหน่วยให้ด้วยการลงรบเดนิ ดนิ 4) หมเู่ ครอ่ื งยงิ ลกู ระเบดิ (หมสู่ นบั สนนุ ) มกั วางกำ� ลงั ไวข้ า้ งหลงั หา่ งจาก ท่ีต้ังยิงไปยังท่ีตั้งยิงอีกแห่งหนึ่งด้วยการปฏิบัติเป็นขั้น ๆ จะอยู่ห่างไกลจากรูปขบวน สว่ นหลงั ของหมวดพอทจี่ ะใชเ้ ครอื่ งยงิ ลกู ระเบดิ ในระยะไกลของอาวธุ ได้ ผบู้ งั คบั หมจู่ ะตอ้ ง พร้อมที่จะปฏิบัติอยู่อย่างใกล้ชิดทุกสถานการณ์ และเป็นผู้แนะน�ำผู้บังคับหมวดเก่ียวกับ สภาพทตี่ ้งั และโอกาสทจ่ี ะวางกำ� ลงั อยู่เสมอ 5) ผบู้ ังคับหมวด อยู่ ณ ท่ซี ึ่งตนสามารถควบคมุ หมวดของตนได้ดีทส่ี ดุ พร้อมกับได้รับการระวังป้องกันจากตอนคอยเหตุ ผู้บังคับหมวดให้รองผู้บังคับควบคุม การเคลื่อนท่ขี องตน ตอนรถถงั (ตอนรถเกราะ) และหมู่ปืนเล็ก 4. การปฏิบัตกิ ารลาดตระเวนดว้ ยการยงิ ก. การลาดตระเวนดว้ ยการยงิ เปน็ การปฏบิ ตั กิ ารยงิ เขา้ ไปยงั พนื้ ทซี่ ง่ึ คาดวา่ น่าจะมขี ้าศกึ เพอื่ พยายามให้ข้าศกึ เปิดเผยท่ตี ง้ั ด้วยการเคลื่อนไหวหรอื ด้วยการยิงโต้ตอบ ในขณะทำ� การลาดตระเวนดว้ ยการยงิ พลประจำ� รถทกุ นายใหท้ ำ� การตรวจการณด์ ว้ ยกลอ้ ง สองตากล้องตรวจการณ์ หรือด้วยสายตาไปยังต�ำบลที่ท�ำการยิง เพ่ือค้นหาที่ต้ังข้าศึก การเคลื่อนไหวและการยงิ โต้ตอบของข้าศึก ข. การลาดตระเวนด้วยการยิง เป็นวธิ กี ารปฏบิ ตั กิ ารลาดตระเวนอย่างหนงึ่ ซงึ่ นา่ จะใชเ้ มอื่ เวลาไมอ่ ำ� นวยหรอื ภมู ปิ ระเทศไมเ่ หมาะสมตอ่ การใชห้ มตู่ รวจ เปน็ การปฏบิ ตั ิ การซง่ึ ขาดการกำ� บงั ท�ำให้ข้าศกึ ทราบทต่ี ั้ง และเตรียมพร้อมท่ีจะเผชิญกับการปฏบิ ตั ขิ อง หมวดได้ ค. เมอื่ ขา้ ศึกยงิ โต้ตอบ หมวดลาดตระเวนท�ำการคลคี่ ลายสถานการณ์ทนั ที ถ้าไม่มีการยิงโต้ตอบ ให้ตรวจตราบริเวณนั้นอีกครั้ง ก่อนที่จะเคล่ือนที่เพ่ือปฏิบัติภารกิจ

126 เหล่าทหารมา้ ต่อไป แต่อย่างไรกต็ าม ให้พงึ ระลึกอยู่เสมอว่า การลาดตระเวนด้วยการยงิ นั้น ไม่อาจใช้ กบั หน่วยทหารข้าศกึ ซ่งึ มคี วามเจนจดั ในการรบ ง. การลาดตระเวนดว้ ยการยงิ สามารถทจี่ ะปฏบิ ตั ใิ หบ้ งั เกดิ ผลไดด้ ว้ ยการยงิ จากอาวธุ เลง็ ตรง หรอื ยงิ เลง็ จำ� ลอง จงึ ใหพ้ จิ ารณาขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี กอ่ น เพอื่ นำ� ไปพจิ ารณา ใช้ให้เกิดผลดสี งู สุด 1) การยงิ เล็งตรง ก) ข้อดี (1) ท�ำการยงิ โต้ตอบข้าศึกได้อย่างรวดเรว็ (2) แม่นยำ� (3) สงั่ การได้รวดเร็ว (4) ทำ� การยงิ ได้ทกุ ทิศทาง ข) ข้อเสีย (1) เปิดเผยทต่ี ั้ง (2) การยิงอย่างเบาบาง ข้าศกึ จบั ทิศทางได้ง่าย (3) การตรวจการณ์กระท�ำได้น้อย (4) จ�ำกดั ด้วยระยะยิงหวงั ผล 2) การยิงเล็งจ�ำลอง ก) ขอ้ ดี (1) ระวังป้องกันให้กับตอนคอยเหตุ (ตอน ลว.) ด้วยวิธีเล็งตรง และ ตรวจการณ์เพอ่ื ทราบการเคลอ่ื นไหวของข้าศึกได้ดี (2) ตอนคอยเหตุ (ตอน ลว.) ทำ� การตรวจการณ์ผลการยิงได้ (3) ไม่จำ� กดั ด้วยการมหี น่วยเข้าไปกดี ขวางการปฏิบตั ิ ข) ขอ้ เสีย (1) ท�ำการยงิ ด้วยกระสนุ นดั แรกช้า (2) ต้องมกี ารปรบั การยิงเพ่อื ความแม่นย�ำ (3) ใช้เวลาในการส่งั การมาก (4) ยุ่งยากเร่อื งการส่งก�ำลงั ในเรือ่ งการเพ่ิมเตมิ กระสนุ

5. การปฏบิ ัติเมื่อเกดิ การปะทะ เห ่ลาทหาร ้มา 127 เมอ่ื เกิดการปะทะ ผู้บงั คบั หมวดจะปฏิบตั ิตาม 4 ขั้นตอน ดงั นี้ ก. จัดขบวนรบและรายงานการปะทะ ข. คลค่ี ลายสถานการณ์ ค. เลือกหนทางปฏบิ ตั ิ ง. รายงานสถานการณ์ข้าศึก และหนทางปฏิบตั ิให้ผู้บังคบั กองร้อยทราบ 1) จัดขบวนรบและรายงานการปะทะ ก) หมวดจัดขบวนรบเพื่อใช้เป็นที่ม่ัน จากที่ซึ่งสามารถท�ำการยิงหรือ ตรวจการณข์ า้ ศกึ ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ทส่ี ดุ (ปกตจิ ะกำ� หนดไวใ้ นระเบยี บปฏบิ ตั ปิ ระจำ� ของหมวด) ข) รายงานการปะทะให้ผู้บังคบั กองร้อยทราบทนั ที 2) คลค่ี ลายสถานการณ์ ผู้บังคับหมวดใช้วิธีการคล่ีคลายสถานการณ์โดยการลาดตระเวนด้วยการ ยิงหรือใช้หมู่ตรวจ เพือ่ พจิ ารณาถงึ ท่ตี ้งั กำ� ลัง การประกอบกำ� ลัง และการวางกำ� ลงั ของ ข้าศึกถ้าทราบปีกของท่มี ่ันได้จะดที สี่ ดุ 3) เลอื กหนทางปฏิบตั ิ ผู้บังคับหมวดจะตกลงใจท�ำการเข้าตีหรืออ้อมผ่านไป ต้องท�ำด้วยความ รวดเรว็ และยดึ ถือภารกิจเป็นหลกั 4) รายงานสถานการณข์ า้ ศึกและหนทางปฏิบตั ิ ผู้บังคับหมวดจะรายงานสถานการณ์ข้าศึกตามที่ตนได้คลี่คลาย สถานการณ์, หนทางปฏบิ ัติ และการตกลงใจ ขออนมุ ัตจิ ากผู้บังคบั กองร้อยก่อนปฏิบัติ 6. การปฏิบัตเิ ม่ือพบเครอื่ งกดี ขวาง ก. เมอ่ื พบเคร่ืองกีดขวางในขณะปฏบิ ตั กิ ารลาดตระเวน จะต้องรบี รายงานให้ ผู้บังคับกองร้อยทราบทันทีถึงท่ีตั้ง ลักษณะของเคร่ืองกีดขวาง ถ้าอยู่ในขีดความสามารถ ของหมวดให้ทำ� การรอื้ ถอนได้ก่อนจะปฏบิ ตั ใิ ห้เตรยี มการยงิ ไปยงั ตำ� บลและทศิ ทางซง่ึ คาด ว่าน่าจะเป็นท่ตี ้งั ของอาวธุ ซงึ่ ทำ� การคุ้มครองเครื่องกดี ขวางนนั้ ก่อนปฏบิ ัตขิ ออนุมัตบิ ังคบั กองร้อยก่อน

ข. เมอ่ื ไมส่ ามารถรอ้ื ถอนเครอ่ื งกดี ขวางได้ ผบู้ งั คบั หมวดพจิ ารณาเสน้ ทางออ้ ม ผา่ นโดยรายงานพรอ้ มเสนอแนะวธิ ที ำ� ลาย ใหผ้ บู้ งั คบั กองรอ้ ยทราบแลว้ ปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ตอ่ ไป 7. การปฏิบตั กิ ารลาดตระเวนสะพานหรอื ช่องแคบ ผู้บังคับหมวด ส่ังหมวดหยุดการเคล่ือนที่ ตรวจการณ์ไปยังบริเวณที่สงสัยว่า จะเป็นทต่ี งั้ ของขา้ ศกึ เมอื่ คาดวา่ บรเิ วณดงั กล่าวจะมหี น่วยซมุ่ ยงิ , ดงระเบดิ หรอื กบั ระเบดิ ใหต้ อนคอยเหตุ (ตอน ลว.) จดั กำ� ลงั ทำ� การตรวจเสน้ ทาง, ฝง่ั , สะพาน ทงั้ ขา้ งบนและขา้ งลา่ ง สะพาน (เพอ่ื ตรวจดดู งระเบิด, กบั ระเบดิ , การวางระเบิด เพ่อื ทำ� ลาย หรือความไม่แน่นอน ม่นั คงของสะพาน) ถ้าสงสยั จะมดี งระเบดิ , กับระเบดิ พจิ ารณาให้หมู่ปืนเล็กไปช่วยเหลือ ในการตรวจตอนรถถงั (ตอนรถเกราะ) และหมเู่ ครอ่ื งยงิ ลกู ระเบดิ (หมสู่ นบั สนนุ ) ใหก้ ารคมุ้ กนั กับหน่วยที่ก�ำลังปฏิบัติ ถ้าเป็นช่องแคบ การตรวจตราทั้งสองไหล่ของช่องแคบพร้อม ๆ กนั ถา้ มคี วามจำ� เปน็ อาจทำ� การลาดตระเวนดว้ ยการยงิ ดว้ ยเครอ่ื งยงิ ลกู ระเบดิ (เมอ่ื ขา่ วสาร บ่งว่าเป็นพน้ื ทซี่ งึ่ มกี ารเคลอ่ื นไหวของข้าศึก) 128 เหล่าทหารมา้ 8. การปฏิบัติการลาดตระเวนบ้านเมือง เครื่องกดี ขวาง หรือท่มี ่ัน ของข้าศกึ ตระเวนบ้านเมอื ง เครื่องกีดขวาง ก. เม่ือหมวดลาดตระเวนได้รับมอบภารกิจให้ท�ำการลาดตระเวนบ้านเมือง เครอื่ งกดี ขวางหรอื ทมี่ นั่ ของขา้ ศกึ การเคลอื่ นทเี่ ขา้ ไป ควรพยายามเขา้ ทางปกี หรอื ทางหลงั ถ้ามีเวลามากพอ การลาดตระเวนควรท�ำด้วยการลงรบเดินดิน อย่างไรก็ดี มักปรากฏ อยู่เสมอว่าต้องท�ำการลาดตระเวนบนรถ เพราะมีเวลาไม่พอ ไม่ว่ากรณีใดจะต้องท�ำการ ตรวจการณ์ด้วยกล้องส่องสองตาก่อนเสมอ ข. เม่ือมเี วลามากพอ หมู่ ลว. ลงรบเดินดินจากตอนคอยเหตุ (ตอน ลว.) หมู่ ปืนเล็กจะเคลื่อนท่ีไปข้างหน้าโดยมีก�ำลังส่วนที่เหลือของหมวดคอยคุ้มกัน ก�ำลังของหมู่ ตรวจจะมเี ท่าใด ย่อมแล้วแต่ขนาดของที่หมายและเส้นทางทีม่ ีอยู่ ตลอดจนการกำ� บังและ ซอ่ นพราง เมอื่ หมตู่ รวจพบวา่ บรเิ วณชานเมอื งปลอดภยั กำ� ลงั สว่ นใหญก่ เ็ คลอื่ นทไี่ ปขา้ งหนา้ หมู่ตรวจซ่งึ ลงรบเดนิ ดนิ ทำ� การลาดตระเวนต่อไป โดยมกี ำ� ลงั ส่วนที่เหลือให้ความคุ้มครอง และตดิ ตามไปอย่างใกล้ชดิ

ค. ถ้าต้องการความรวดเรว็ และไม่มีเวลามากพอท่ีจะปฏบิ ัติการลาดตระเวน เห ่ลาทหาร ้มา 129 ดว้ ยการลงรบเดนิ ดนิ หรอื เขา้ ตรวจในบา้ นเมอื งจากทางปกี ตอนคอยเหตุ (ตอน ลว.) กจ็ ะทำ� การลาดตระเวนดว้ ยการเคลอ่ื นทบี่ นรถ ดว้ ยวธิ นี ้ี ตอนคอยเหตุ (ตอน ลว.) ทำ� การลาดตระเวน ด้วยกล้องส่องสองตา และด้วยการยงิ แล้วก็เคลือ่ นทไ่ี ปข้างหน้าอย่างรวดเรว็ โดยมกี ำ� ลัง ส่วนท่ีเหลอื ของหมวดคอยคุ้มครอง เม่อื บริเวณชานเมืองปลอดภัย ส่วนทใี่ ห้ความคุ้มครอง อยู่ก็เคล่ือนที่ไปข้างหน้า และหมู่ ลว. ก็ท�ำการลาดตระเวนบนยานยนต์ ด้วยการแยก รปู ขบวนเคลอ่ื นท่ีผ่านเป็นห้วง ๆ การเคลอ่ื นทช่ี ิดกับตัวตกึ แล้วท�ำการคุ้มครองฝั่งตรงข้าม ของถนนด้วยการตรวจการณ์และการยงิ 9. การปฏิบัติการในเวลากลางคืนหรอื ในขณะทัศนวสิ ัยจำ�กัด ก. หมวดลาดตระเวน อาจต้องปฏิบัติในเวลากลางคืนอยู่เสมอ ทั้งน้ีเพ่ือใช้ ประโยชน์จากความมืดเป็นเคร่ืองปกปิดก�ำบัง หรือต่อการกดดันท่ีได้รับในตอนกลางวัน การปฏิบัติจะเป็นไปอย่างเช่ืองช้าและได้ผลน้อย โดยใช้หมู่ตรวจลงรบเดินดินท�ำการตรวจ เส้นทางน้ันน�ำหน้าไปก่อน จัดต้ังที่ฟังการณ์ตามจุดที่ส�ำคัญไว้ตามเส้นทางซึ่งก�ำลังส่วน ที่เหลือจะเคลื่อนท่ีผ่านไปจะท�ำการลาดตระเวนบนยานรบ โดยไม่มีหมู่ตรวจเคลื่อนท่ีน�ำ กต็ อ่ เมอ่ื ขา้ ศกึ มกี ารตา้ นทานเพยี งเลก็ นอ้ ย ภมู ปิ ระเทศอำ� นวย และมเี สน้ ทางเหมาะแกก่ าร ใช้ยานรบเท่านน้ั หรือเม่อื ระยะทางในการเคลื่อนทน่ี ัน้ ถ้าทำ� ได้อาจต้องใช้เคร่อื งส่องสว่าง ในเวลากลางคืนเข้าช่วยจุดอ่อนในการปฏิบัติการลาดตระเวนในเวลากลางคืน เน่ืองจาก พลประจำ� รถตรวจการณเ์ หน็ ไดย้ าก เสยี งของเครอ่ื งยนตห์ รอื สายพานไดย้ งิ ไกล การเคลอื่ นที่ ในภมู ปิ ระเทศกระทำ� ได้ด้วยความยากลำ� บาก ถูกซุ่มโจมตีได้ง่าย ข. เม่อื ต้องการปฏบิ ัตกิ ารลาดตระเวนในเวลากลางคนื ผู้บังคับหมวดจะต้อง 1) ท�ำการฝึกการปฏิบัติการลาดตระเวนในเวลากลางคืนเสมอ (เพ่ือขจัด ความหวาดกลวั ) 2) ท�ำการลาดตระเวนบนแผนท่ี โดยก�ำหนดภูมิประเทศส�ำคัญไว้โดย ละเอยี ดเสน้ ทางเคลอ่ื นท,ี่ ทห่ี มายในภมู ปิ ระเทศ ซงึ่ สามารถมองเหน็ ไดง้ า่ ยในเวลากลางคนื , ท่ตี ง้ั ของหน่วยต่าง ๆ ภายในหมวดเมื่อจ�ำเป็นต้องหยุดการเคลือ่ นท่แี ละน�ำกำ� ลงั เข้าทต่ี ั้ง

130 เหล่าทหารมา้ 3) วางแผนให้ง่ายต่อการปฏิบัติ 4) กำ� หนดท่ตี ้งั ของทฟี่ ังการณ์ไว้โดยแน่นอน 5) เคร่ืองมือช่วยในการตรวจการณ์กับเวลาที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์อย่าง เตม็ ท่ี 6) วางแผนการยิงสนบั สนุนจากอาวุธของหน่วยเหนือ 7) วางแผนในการใช้เคร่ืองช่วยในการน�ำทาง เช่น อากาศยาน และ เครอ่ื งมือนำ� ทางทางพ้นื ดนิ (ให้สญั ญาณ, สีสะท้อนแสง, เรดาร์ทางพืน้ ดิน) หมวดลาดตระเวนในการปฏิบัติภารกจิ ระวงั ป้องกัน 1. กลา่ วทั่วไป ก. หมวดลาดตระเวนเป็นหน่วยท่ีเหมาะส�ำหรับใช้ให้ปฏิบัติภารกิจเป็นส่วน ระวังป้องกันเป็นอย่างดีตามคุณลักษณะของหน่วย อ�ำนาจการยิงอย่างรุนแรง ความ คล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ อ�ำนาจการท�ำลายและข่มขวัญ การติดต่อส่ือสารหลายวิธี และการจดั ทอ่ี อ่ นตวั จงึ ทำ� ใหห้ มวดลาดตระเวนสามารถปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ตามทไี่ ดร้ บั มอบสำ� เรจ็ ลลุ ว่ งไปไดท้ กุ ประการโดยยดึ ถอื หลกั มลู ฐานในการปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ระวงั ปอ้ งกนั และหลกั การ เบ้ืองต้นเก่ยี วกบั หลกั การใช้นำ� มาเป็นหลกั ในการปฏบิ ตั ิ ข. ภารกจิ ระวงั ป้องกนั หมวดลาดตระเวนจะได้รบั ได้แก่ ส่วนระวงั เหตุ (โดย ปฏิบัติเป็นกองระวังหน้า, กองกระหนาบ และกองระวังหลัง) กองรักษาด่านทั่วไป, ส่วน กำ� ลงั , หน่วยทำ� ฉากกำ� บัง และส่วนระวังป้องกันพนื้ ที่ส่วนหลงั การเฝ้าตรวจก็เป็นพันธกจิ เฉพาะอย่างหนง่ึ ซ่ึงส่วนท่ที �ำให้ภารกจิ ที่กล่าวมาแล้วข้างต้นสำ� เร็จลุล่วงไปได้ 2. หมวดลาดตระเวนปฏิบัติภารกจิ กองระวังหนา้ ก. หมวดลาดตระเวนปฏบิ ตั ภิ ารกจิ กองระวงั หนา้ ใหก้ บั กองรอ้ ยของตนทส่ี งั กดั อยู่น้นั ข. รูปขบวนท่ีใช้กับหมวดลาดตระเวนเม่ือปฏิบัติภารกิจกองระวังหน้า หมวด จะใช้รปู ขบวนเหมอื นกบั รูปขบวนทใ่ี ช้ในการลาดตระเวนเส้นทาง

ค. หมวดลาดตระเวนจะเคลอื่ นทอ่ี ยา่ งรวดเรว็ แลว้ แตส่ ถานการณ์ แตต่ อ้ งคำ� นงึ เห ่ลาทหาร ้มา 131 ถึงระยะที่หน่วยเหนือจะช่วยเหลือและให้การสนับสนุนได้ หมวดปฏิบัติการลาดตระเวน อย่างต่อเน่ืองทางด้านหน้าและทางปีกท้ังสองด้าน และท�ำการผลักดันหรือท�ำลายข้าศึก ส่วนย่อยก่อนท่ีจะขัดขวางการรุกของหน่วยใหญ่ เมื่อหมวดเผชิญกับข้าศึกหรือข้าศึก ซงึ่ อยใู่ นทมี่ นั่ ตง้ั รบั แขง็ แรง ผบู้ งั คบั หมวดปฏบิ ตั ทิ นั ทเี หมอื นกบั การปฏบิ ตั เิ มอื่ เกดิ การปะทะ หมวดลาดตระเวนอาจจะตอ้ งรว่ มในการปฏบิ ตั เิ ขา้ ตกี บั กองรอ้ ย โดยเปน็ สว่ นดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ หรือเป็นส่วนฐานยิง หมวดลาดตระเวนจะเคล่ือนท่ีห่างจากกองร้อยพอที่จะให้ผู้บังคับ กองร้อยมีเสรีในการปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม จะต้องไม่อยู่ไกลออกไปจนข้าศึกท�ำลายก่อน ทกี่ องรอ้ ยจะชว่ ยเหลอื ไดท้ นั ที ระยะหา่ งจะลดลงเมอื่ เปน็ เวลากลางคนื ในภมู ปิ ระเทศรกทบึ หรอื ในสภาพท่ที ัศนวสิ ัยจำ� กัด ง. หมวดลาดตระเวน ปกตจิ ะเคล่อื นทีด่ ้วยรูปขบวนแถวตอน จนกว่าจะเกาะ ข้าศกึ ได้อาจใช้การเคลอ่ื นที่อย่างรวดเร็วอย่างต่อเนอ่ื ง หรอื การใช้การเคลอ่ื นท่เี ป็นห้วง ๆ จะใช้การเคล่อื นเป็นห้วง ๆ เม่อื การปะทะใกล้จะเกดิ ข้นึ และภมู ิประเทศเกอ้ื กูล 3. หมวดลาดตระเวนปฏิบัตภิ ารกิจกองกระหนาบ ก. หมวดลาดตระเวนปฏบิ ตั ภิ ารกจิ กองกระหนาบ โดยเปน็ สว่ นหนงึ่ ของกองรอ้ ย ทั้งน้ีอาจปฏิบัติเป็นกองระวังหลังหรือกองระวังหน้าให้กับกองร้อย หมวดลาดตระเวนอาจ เขา้ ยดึ ทม่ี นั่ สกดั กน้ั หรอื ทำ� ฉากกำ� บงั เพอ่ื ขยายพน้ื ทก่ี ารปฏบิ ตั ขิ องกองรอ้ ยใหไ้ กลออกไปอกี ข. ผู้บังคับหมวดลาดตระเวนวางแผนทจ่ี ะปฏบิ ัติภารกิจ 1) ผู้บงั คับหมวดลาดตระเวน ท�ำการลาดตระเวนพ้ืนท่ปี ฏบิ ตั ิการในแผนที่ และพจิ ารณาเสน้ ทางซงึ่ ขา้ ศกึ จะใชเ้ คลอ่ื นทเ่ี ขา้ มา ทมี่ น่ั สกดั กนั้ แตล่ ะแหง่ ทผ่ี บู้ งั คบั กองรอ้ ย ก�ำหนดให้เม่ือได้รับค�ำส่ังให้เข้าท�ำการยึด (จะให้ส่วนไหนของหมวดอยู่ตรงไหน ส่วนไหน เคลื่อนทก่ี ่อน, หลัง เคลื่อนทวี่ ธิ ีไหน) การวางแผนการเคลอ่ื นท่ตี ามเส้นทางในการเคลือ่ นท่ี ของหมวด การปฏบิ ตั ิ ณ จดุ นดั พบ, จดุ ตรวจ, แนวทมี่ น่ั รงั้ หนว่ งแตล่ ะแห่งทจี่ ะวางกำ� ลงั รบ หน่วงเวลาเข้าหากองร้อย, การประสานการปฏบิ ตั ิกบั หน่วยต่าง ๆ ของกองร้อยและหน่วย อนื่ ๆ การเคล่อื นทขี่ องหมวดตามวิธีการเคลอื่ นท่ที งั้ สามวิธี เพือ่ ให้สอดคล้องกับกองร้อย (แบบสลับ, ตามลำ� ดับขั้น, รปู ขบวนเดินอย่างต่อเนื่อง)

132 เหล่าทหารมา้ 2) เมื่อหมวดลาดตระเวนเป็นกองกระหนาบให้กับกองร้อยในการต้ังรับ หมวดลาดตระเวนจะเข้ายึดท่ีม่ันสกัดก้ันเป็นข้ัน ๆ ทางปีก ท่ีมั่นสกัดก้ันมักต้ังอยู่ ตาม ภมู ิประเทศสำ� คัญซ่งึ อยู่สูงข่มแนวทางเคลอ่ื นท่ซี ่ึงข้าศกึ น่าจะใช้เข้ามาทางปีก การท่หี มวด จะปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ใหส้ ำ� เรจ็ ลลุ ว่ งไปไดน้ น้ั จะใชย้ ทุ ธวธิ ใี นการตง้ั รบั นน้ั เอง เมอื่ ถกู ขา้ ศกึ กดดนั กจ็ ะใช้การปฏบิ ัติการรบหน่วงเวลา 4. หมวดลาดตระเวนปฏบิ ัตภิ ารกจิ กองระวังหลงั ก. หมวดลาดตระเวน เป็นกองระวังหลังให้กับกองร้อย หมวดลาดตระเวน จะเคลื่อนที่ตามกองร้อยในระยะที่กองร้อยก�ำหนดให้ ตามธรรมดาจะเคล่ือนท่ีบนเส้นทาง เดียวกนั กบั กองร้อย หรอื จะใช้หลายเส้นทาง หมวดเตรียมพร้อมเสมอทจี่ ะเผชิญกับข้าศกึ ซง่ึ ทำ� การเขา้ ตที างหลงั ถา้ ขา้ ศกึ เขา้ ตดี ว้ ยกำ� ลงั ทเี่ หนอื กวา่ หมวดลาดตระเวนจะปฏบิ ตั กิ าร รบหน่วงเวลาเข้าหากองร้อย ข. หมวดลาดตระเวนเคลอื่ นทต่ี ามกองรอ้ ย แลว้ เขา้ ยดึ ทมี่ น่ั รง้ั หนว่ งตามลำ� ดบั ตามหว้ งเวลาหรอื ระยะทางทก่ี องรอ้ ยกำ� หนดให้ หรอื ตามแผนทไ่ี ดเ้ ตรยี มไวล้ ว่ งหนา้ (ผบู้ งั คบั หมวดเลือกท่ีมั่นร้ังหน่วงเพิ่มเติมขึ้นตามความเหมาะสม) เมื่อเกาะข้าศึกได้ จะต้องรักษา การเกาะน้ันไว้ตลอดเวลา หมวดจะยึดที่ม่ันร้ังหน่วงแต่ละแห่งไว้จนกว่ากองร้อยจะเข้ายึด ท่มี น่ั รั้งหน่วงข้ึนถดั ไป แต่ถ้าไม่มกี ารปฏิบตั อิ ย่างใดของข้าศึก เมอื่ กองร้อยเคล่ือนทอ่ี ย่าง รวดเรว็ หมวดกจ็ ะเคล่อื นท่ดี ้วยความรวดเรว็ ตามทก่ี �ำหนดไว้ข้างหลงั กองร้อย ค. หมวดลาดตระเวน ตอ้ งเตรยี มพร้อมทจี่ ะได้รบั มอบภารกจิ ให้ปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ลาดตระเวนทางหน้าหรือทางปีกของท่ีม่ัน ผู้บังคับหมวดจะใช้ตอนคอยเหตุ (ตอน ลว.) ออกปฏิบัติ โดยวางแผนให้ความช่วยเหลืออย่างดี วางแผนการติดต่อกับ บ.ทบ. เพ่ือมา ช่วยหมวด และเพิ่มเติมการตรวจการณ์ไปข้างหน้าและทางปีก อาจใช้ชุดเรดาร์เฝ้าตรวจ ทางพ้ืนดนิ เข้าช่วย 5. หมวดลาดตระเวนปฏบิ ตั ิภารกิจส่วนก�ำ บงั ก. หมวดลาดตระเวนปฏิบัติภารกิจส่วนก�ำบัง โดยเป็นส่วนหนึ่งของกองร้อย การปฏบิ ตั ทิ ่ัวไปใช้หลักการปฏบิ ตั กิ ารลาดตระเวนเส้นทาง หรอื ลาดตระเวนเขต

ข. หมวดลาดตระเวนทำ� การคลคี่ ลายสถานการณท์ นั ที เพอ่ื ประกนั วา่ ขา้ ศกึ จะ เห ่ลาทหาร ้มา 133 ไม่สามารถคกุ คามหรอื เข้าจู่โจมกองร้อยได้ ในระหว่างการรกุ เข้าหาข้าศกึ หมวดอาจอ้อม ผ่านข้าศึกซ่ึงมีก�ำลังน้อยกว่าได้ แต่ต้องแจ้งให้ผู้บังคับกองร้อยทราบ โดยท้ิงหมู่คอยเหตุ (หมู่ ลว.) ไว้เกาะข้าศกึ ค. เมอ่ื หมวดลาดตระเวนไม่สามารถรกุ คบื หนา้ ตอ่ ไปไดอ้ กี หรอื เมอ่ื หมวดเปน็ ส่วนก�ำลังให้กองร้อยในการตั้งรับ หมวดมีหน้าที่เกาะข้าศึกส่วนน้ันไว้ ลวงข้าศึกให้พ้นไป จากทต่ี งั้ อนั แท้จรงิ ของกองรอ้ ย หนว่ งเหนยี่ วการรกุ ของขา้ ศกึ ไว้ เมอื่ ขา้ ศกึ กดดนั อย่างหนกั ปฏิบตั ิการรบหน่วงเวลา 6. หมวดลาดตระเวนปฏบิ ัติภารกิจหนว่ ยท�ำ ฉากก�ำ บัง ก. หมวดลาดตระเวนปฏิบัติภารกิจเป็นหน่วยท�ำฉากก�ำบัง จะใช้หลักการ ปฏบิ ตั กิ ารเฝา้ ตรวจ และการระวงั ปอ้ งกนั มาปฏบิ ตั ิ กวา้ งดา้ นหนา้ ทหี่ มวดไดร้ บั จะกวา้ งมาก จนไม่สามารถระวงั ป้องกนั ไว้ได้ ผู้บังคบั กองร้อยเป็นผู้กำ� หนดแนวโดยทวั่ ไปของฉากก�ำบัง ความรับผิดชอบต่อพื้นท่ีระหว่างหน่วยท�ำฉากก�ำบังกับหน่วยใหญ่ พิจารณาจากปัจจัยสี่ เมื่อหมวดได้รับมอบภารกิจ ผู้บังคับหมวดจัดต้ังที่ตรวจการณ์ เพ่ือแจ้งเตือนการเคลื่อนที่ เขา้ มาของขา้ ศกึ เกาะขา้ ศกึ ไวต้ ลอดเวลา และรายงานการเคลอ่ื นไหวทำ� ลายหมตู่ รวจขา้ ศกึ ซง่ึ ออกมาลาดตระเวน หนว่ งเหนย่ี วการรกุ ของขา้ ศกึ ดว้ ยการยงิ ระยะไกลของอาวธุ ในอตั รา ของหมวดหรอื ทม่ี าสนบั สนุน ข. ผบู้ งั คบั หมวดวางแผนเกย่ี วกบั เรอื่ งการตดิ ตอ่ สอ่ื สาร การจดั ตง้ั แนวทำ� ฉาก กำ� บังและการนำ� กำ� ลังเข้าไปวาง ณ แนวทำ� ฉากก�ำบงั (แนวทต่ี รวจการณ์) ค. ท่ีตรวจการณ์ของหมวดลาดตระเวน มกั ต้งั อยู่บนลาดหน้าท่มี นั่ ซ่งึ จะต้อง อยใู่ นลกั ษณะมนั่ คง เมอ่ื ตรวจการณไ์ ดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและมกี ารซอ่ นพราง หรอื อยบู่ น ลาดด้านหลงั เนิน เพ่ือสะดวกในการเข้ายดึ และมเี สรใี นการเคล่อื นที่ ระหว่างทต่ี รวจการณ์ จะก�ำหนดจุดพบข้างหน้าที่ตั้งท่ีตรวจการณ์ และจะจัดหมู่ตรวจขึ้นเพื่อท�ำการตรวจ ช่องว่างระหว่างทต่ี รวจการณ์ โดยจดั หมู่ตรวจบนยานรบหรอื หมู่ตรวจลงรบเดินดิน หมวด ลาดตระเวนจะปฏบิ ตั เิ ปน็ หนว่ ยทำ� ฉากกำ� บงั อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพมากทสี่ ดุ เมอ่ื ไดร้ บั มอบให้ ต้งั ท่ีตรวจการณ์ขน้ึ ไม่เกนิ 3 แห่ง แต่เมอ่ื มีความจ�ำเป็นหมวดกส็ ามารถจัดตง้ั ท่ตี รวจการณ์

134 เหล่าทหารมา้ ข้ึนได้ถึง 6 แห่ง ผู้บังคบั หมวดจะต้องพิจารณาในเรอ่ื งการติดต่อส่ือสารเป็นอย่างดี กำ� ลัง พลที่จะอยู่ประจ�ำที่ตรวจการณ์และปฏิบัติหน้าที่หมู่ตรวจ พิจารณาก�ำลังส่วนที่เหลือใช้ สนบั สนุนให้เกดิ ประโยชน์มากท่สี ุด ง. การจดั กำ� ลงั ของหมวดลาดตระเวน ผบู้ งั คบั หมวดลาดตระเวนจดั กำ� ลงั เพอ่ื ปฏบิ ตั ิเป็นหน่วยทำ� ฉากกำ� บงั ดังน้ี 1) ตอนคอยเหตุ (ตอน ลว.) จัดตั้งท่ีตรวจการณ์ได้ 2 แห่ง (เม่ือหมวด ลาดตระเวนจดั ตง้ั ทต่ี รวจการณไ์ ดไ้ มเ่ กนิ 3 แหง่ ) โดยแบง่ กำ� ลงั เปน็ 2 หมู่ จดั ตง้ั ทตี่ รวจการณ์ ได้ 4 แหง่ (เมอื่ หมวดลาดตระเวนจดั ตง้ั ทตี่ รวจการณข์ น้ึ 6 แหง่ ) โดยแบง่ กำ� บงั ออกเปน็ คนั รถ 2) หมู่ปืนเล็กจัดต้ังท่ีตรวจการณ์ได้1แห่ง (เมื่อหมวดลาดตระเวน จดั ตั้งที่ตรวจการณ์ไม่เกนิ 3 แห่ง) จัดต้งั ท่ตี รวจการณ์ 2 แห่ง (เมือ่ หมวดลาดตระเวนจดั ตง้ั ที่ตรวจการณ์ขึ้น 6 แห่ง) โดยแบ่งก�ำลังออกเป็นสองชุด ชุดหน่ึงปฏิบัติบนยานพาหนะ อีกชุดหนง่ึ ลงรบเดินดิน 3) ตอนรถถัง (ตอนรถเกราะ) และหมู่เคร่ืองยิงลูกระเบิด (หมู่สนับสนุน) จดั วางกำ� ลังไว้ย่านกลางของหมวด เตรยี มสนบั สนุนท่ตี รวจการณ์ทุกแห่ง 7. หมวดลาดตระเวนปฏิบตั ภิ ารกจิ ระวงั ป้องกันพนื้ ทสี่ ว่ นหลงั ก. กล่าวทั่วไป หมวดลาดตระเวนปฏิบัติภารกิจเป็นส่วนระวังป้องกันพื้นที่ ส่วนหลัง โดยจะปฏิบัติเป็นส่วนหนึ่งของกองร้อยทหารม้าลาดตระเวน หมวดจะปฏิบัติ ภารกจิ ให้สำ� เรจ็ ลลุ ่วงไปได้ด้วยการปฏบิ ตั กิ ารลาดตระเวน หรอื การปฏบิ ตั กิ ารระวงั ป้องกนั หมวดใช้การรบด้วยวิธีรุก, รับ หรือรบหน่วงเวลา เพ่ือให้ส�ำเร็จภารกิจ ภารกิจของหมวด ทจ่ี ะได้รบั ได้แก่ การระวงั ป้องกนั เส้นทางคมนาคม การระวงั ป้องกันหน่วยและสถานท่ีตั้ง และการตงั้ ต้านหน่วยส่งทางอากาศ หน่วยเคล่อื นทีท่ างอากาศและกองโจร ข. เส้นทางคมนาคม กองร้อยอาจมอบภารกิจระวังป้องกันเส้นทางส่งก�ำลัง หรือคุ้มกันขบวนลำ� เลียงของหน่วยเหนอื ตามเส้นทางทไ่ี ด้รบั มอบ เม่อื ได้รบั มอบให้ปฏิบัติ ภารกจิ ลกั ษณะน้ี หมวดอาจจะต้องปฏิบัติ 1) ลาดตระเวนเส้นทางท่ไี ด้รบั มอบ 2) ทำ� ฉากกำ� บงั เขต เส้นทาง ด้วยการจดั ต้ังทต่ี รวจการณ์เป็นข้นั ๆ

3) ปฏบิ ัติการเป็นกองหนนุ หรอื เป็นส่วนหนงึ่ ของกองหนุน เห ่ลาทหาร ้มา 135 4) คุ้มกนั ขบวนลำ� เลยี งตามเส้นทางที่ได้รับมอบ 5) เป็นกำ� ลังคุ้มกันอยู่ในขบวนลำ� เลยี ง 6) จดั ตัง้ จดุ ต้านทานไว้เป็นข้นั ๆ 7) ปฏิบัติการกวาดล้างบนถนน (ทุ่นระเบิด) ค. หน่วยและสถานท่ีต้ังในพ้ืนท่ีเขตหลัง เม่ือกองร้อยมอบภารกิจให้หมวด หมวดจะปฏิบัติโดยท�ำฉากก�ำบัง ระวังป้องกันเขตของพื้นที่ หรือระวังป้องกันเป็นวงรอบ หรอื ปฏิบัตกิ ารเป็นส่วนหน่งึ ของกองหนนุ ง. การต่อต้านหน่วยส่งทางอากาศ หน่วยเคล่ือนที่ทางอากาศและหน่วย กองโจร กองร้อยอาจมอบภารกิจให้ป้องกันพ้ืนท่ีในเขตหลัง โดยให้ต่อต้านหน่วยส่ง ทางอากาศ หน่วยเคลอ่ื นทท่ี างอากาศ หรอื ขดั ขวางการปฏบิ ตั ขิ องกองโจร หมวดจะปฏบิ ตั ิ ภารกิจน้ี โดยจดั ต้งั ทีต่ รวจการณ์หรอื ทฟี่ ังการณ์ (เฝ้าตรวจ) และทำ� การลาดตระเวนเขตท่ี ข้าศึกน่าจะใช้เป็นเขตส่งลง หรือพ้ืนท่ีร่อนลง หรือหมวดอาจได้รับมอบภารกิจให้เป็น ส่วนหนง่ึ ของกองหนนุ หมวดลาดตระเวนในการปฏบิ ัติการเข้าตี 1. กล่าวทัว่ ไป หมวดลาดตระเวนจะท�ำการเข้าตี โดยเป็นส่วนหนึ่งของกองร้อยทหารม้า ลาดตระเวน หรือเข้าตีตามล�ำพัง หมวดจะปฏิบัติการเข้าตีต่อจากการปฏิบัติภารกิจ ลาดตระเวน หรอื ระวงั ป้องกนั หลงั จากคล่คี ลายสถานการณ์แล้ว หมวดจะปฏิบตั กิ ารเข้าตี จากรปู ขบวนเดมิ หรอื หมวดจะปฏบิ ตั ิการเข้าตปี ระสาน 2. การเตรยี มการเข้าตปี ระสาน ก. ก่อนที่ผู้บังคับหมวดจะตกลงใจเข้าตี หรือก�ำหนดแผนเข้าตีขึ้น จะต้อง คล่ีคลายสถานการณ์ท่ีเกิดขึ้นในขณะน้ันก่อน ให้มีรายละเอียดเพียงพอที่จะประมาณ สถานการณ์ได้ ผบู้ งั คบั หนว่ ยจะตอ้ งประเมนิ คา่ ปจั จยั ส่ี (ภารกจิ , ขา้ ศกึ , ภมู ปิ ระเทศ ลมฟา้

136 เหล่าทหารมา้ อากาศ, กำ� ลงั ท่ีมอี ยู่) และเปรยี บเทยี บขั้นตอนต่าง ๆ ทีจ่ ะเปิดฉากการเข้าตขี ้ึน ถ้าปฏิบตั ิ แล้วจะประสบผลสำ� เรจ็ ได้หรอื ไม่ ข. ผู้บังคับหมวดลาดตระเวน จะต้องท�ำการลาดตระเวนบนแผนที่และใน ภูมิประเทศที่จะปฏิบัติการเสียก่อน เพื่อช่วยในการประมาณสถานการณ์ได้สมบูรณ์ข้ึน ไม่ว่าหมวดจะทำ� การเข้าตตี ามลำ� พงั หรอื เป็นส่วนหนง่ึ ของกองร้อย 3. การสนบั สนนุ การรบของหมวดลาดตระเวนในการเข้าตี ก. ในการปฏบิ ตั กิ ารรบดว้ ยวธิ รี กุ นน้ั หมวดลาดตระเวนอาจไดร้ บั การสนบั สนนุ จากปืนใหญ่, ทหารช่าง บ.ทบ., ม.อากาศ และหน่วยบนิ ทางยุทธวิธีของ ทอ. ข. หมวดลาดตระเวน เม่ือได้รับการสนับสนุนจากปืนใหญ่ หมวดจะได้รับ ผตู้ รวจการณห์ นา้ ของปนื ใหญม่ าประจำ� และจะชว่ ยเหลอื ผบู้ งั คบั หมวดในเรอ่ื งการวางแผน, การรอ้ งขอ และการปรบั การยงิ ใหผ้ บู้ งั คบั หมวดจะรอ้ งขอการยงิ โดยผา่ นผตู้ รวจการณห์ นา้ หรือผู้บังคบั กองร้อย ค. หมวดลาดตระเวนอาจได้รับการสนับสนุนจากทหารช่าง หมวดจะร้องขอ การสนับสนนุ โดยส่งค�ำขอผ่านผู้บงั คับกองร้อย ง. หมวดลาดตระเวนจะขอรอ้ งผา่ นผบู้ งั คบั กองรอ้ ย เมอ่ื ตอ้ งการสนบั สนนุ จาก บ.ทบ. หรือ ม.อากาศ เพ่อื ให้ช่วยเหลือหมวดในเรือ่ งการค้นหาทีต่ ง้ั ข้าศกึ , เกราะข้าศกึ จ. หมวดลาดตระเวน เม่ือมีความจ�ำเป็นจะร้องขอผ่านผู้บังคับกองร้อย หรือ ชดุ ควบคมุ อากาศยานหน้า ในการขอรับการสนับสนุนจากหน่วยบินทางยทุ ธวิธี ทอ. 4. มาตรการควบคุม ผู้บังคับหมวดลาดตระเวน จะกำ� หนดมาตรการควบคมุ ของตนขน้ึ เท่าท่ีจำ� เป็น หมวดจะใช้มาตรการควบคุมที่แน่นอน ลักษณะของมาตรการควบคุม และจ�ำนวนของ มาตรการ ซึ่งน�ำไปใช้หรือก�ำหนดขึ้นอยู่กับภารกิจ ที่หมายของหมวด ผู้บังคับกองร้อย เป็นผู้ก�ำหนดให้แนวประสานการปฏิบัติข้ันสุดท้าย, แนวออกตี, ฐานออกตี, ท่ีรวมพล, เขตปฏบิ ตั ิการ, เส้นแบ่งเขต และมาตรการควบคมุ อ่นื ๆ เพอื่ ช่วยให้การปฏิบัตภิ ารกิจของ หมวดให้เป็นผลสำ� เร็จ

5. การวางแผนการเขา้ ตที ี่มีการประสาน เห ่ลาทหาร ้มา 137 แผนการเข้าตีของหมวดลาดตระเวน จะประกอบไปด้วย แผนด�ำเนินกลยุทธ์ และแผนการยิงสนับสนุน แผนเขา้ ตีของผู้บังคับหมวดจะสมบูรณ์ด้วยการท่ีผู้บังคับหมวด ออกปฏิบัติการลาดตระเวน, การประมาณสถานการณ์ของตนไว้ให้เรียบร้อยเสียก่อน แผนเข้าตขี องผู้บงั คบั หมวดจะต้องง่ายและประกอบด้วยเร่ืองต่อไปนี้ ก. การประกอบกำ� ลงั และทีต่ ้งั ฐานยิง เป้าหมายท่ใี ห้ท�ำการยงิ การเลอ่ื นฉาก การยงิ การย้ายทต่ี ้ังยงิ เวลาเริม่ ทำ� การยิง ข. การประกอบกำ� ลงั ของส่วนดำ� เนินกลยทุ ธ์ เส้นทางทส่ี ่วนดำ� เนนิ กลยทุ ธ์จะ เคล่อื นทไ่ี ปยงั ท่ีหมาย ค. การระวงั ป้องกนั ในระหว่างการเข้าตี ง. การปฏิบัติ ณ ท่หี มาย และการรกุ คบื หน้าต่อไป จ. คำ� ส่งั เข้าตขี องหมวด เป็นค�ำสัง่ ด้วยวาจา การส่งั การจะต้องสงั่ ในทีซ่ งึ่ ผบ. หนว่ ยรองมองเหน็ ทห่ี มายและภมู ปิ ระเทศทจ่ี ะเคลอื่ นทเ่ี ขา้ ตไี ด้ คำ� สง่ั เขา้ ตจี ะตอ้ ง สนั้ ชดั เจน และสมบรู ณ์ ซง่ึ ประกอบด้วย 1) สถานการณฝ์ า่ ยขา้ ศกึ และฝา่ ยเรา ทตี่ ง้ั ของเครอื่ งกดี ขวาง ปนื ตอ่ สรู้ ถถงั อาวุธอัตโนมัติ พวกปืนเล็ก หรือหน่วยอ่ืน ๆ ส่ิงต่าง ๆ เหล่าน้ีควรชี้ให้ ผบ.หน่วยรอง ทกุ คนเหน็ และจะต้องรู้ด้วยว่ากำ� ลังฝ่ายเดียวกนั ปฏบิ ตั ิการรบอยู่ทไี่ หน ท้ังเพ่ือป้องกันการ ยงิ กันเอง 2) ภารกจิ ชแ้ี จงสนั้ ๆ ถงึ หน้าทห่ี มวดจะต้องปฏบิ ตั ิ 3) หน้าที่ของหน่วยรอง ให้ค�ำแนะน�ำส้ัน ๆ เป็นขั้น ๆ ว่าหน่วยต่าง ๆ จะต้องปฏบิ ัติอย่างไร ควรตอบคำ� ถาม ใคร, อะไร, เม่ือใด, อย่างไร, ทไ่ี หน 4) การช่วยรบ ให้ช้ีแจงท่ีจ�ำเป็นเก่ียวกับน้�ำมันเช้ือเพลิง กระสุน อาหาร น้�ำ หรอื สง่ิ อุปกรณ์อน่ื ๆ การรกั ษาพยาบาล การส่งกลบั เท่าทตี่ ้องการตามสถานการณ์ 5) การบงั คบั บญั ชาและการสอ่ื สาร การสอื่ สารและการตดิ ตอ่ ทจ่ี ำ� เปน็ ตอ้ ง ใช้ตลอดจนทอ่ี ยู่ของผู้บังคบั หมวด

ฉ) เมือ่ ผู้บงั คับหมวดลาดตระเวนได้สง่ั การเข้าตแี ละตอบข้อสงสยั ต่าง ๆ แล้ว ฐานยงิ จะเคลอ่ื นทเี่ ขา้ ทต่ี งั้ ยงิ เพอ่ื ทำ� การยงิ ตามแผนการเขา้ ตี ถา้ มเี วลาพอหรอื สถานการณ์ อ�ำนวยผู้บังคับหน่วยทุกนายท่ีส�ำคัญในส่วนด�ำเนินกลยุทธ์ควรจะได้ลาดตระเวนเส้นทาง ซงึ่ จะใช้เคล่อื นทีเ่ ข้าตี 6. การประกอบกำ�ลังของส่วนดำ�เนินกุลยุทธ์ในการเข้าตีของหมวด ลาดตระเวน 138 เหล่าทหารมา้ ก. สว่ นดำ� เนนิ กลยทุ ธจ์ ะตอ้ งมอี ำ� นาจกำ� ลงั รบสงู มาก สว่ นดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ เป็นผู้ค้นหาและเข้าตีข้าศึกปกติ หมวดลาดตระเวนจะใช้ตอนรถถัง (ตอนรถเกราะ) และ หมปู่ นื เลก็ เปน็ สว่ นดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ บางครงั้ ภมู ปิ ระเทศเปน็ ขดี จำ� กดั ในการเคลอ่ื นทขี่ องรถถงั (รถเกราะ) หมวดลาดตระเวนจะท�ำการเข้าตีโดยการลงรบเดินดิน ซ่ึงใช้ตอนคอยเหตุ (ตอน ลว.) และหมู่ปืนเลก็ เป็นส่วนด�ำเนนิ กลยุทธ์ ข. ผู้บังคับหมวด ตามปกติแล้วจะอยู่บนรถถัง (รถเกราะ) โดยอ�ำนวยการ และควบคุมการปฏิบัติของส่วนด�ำเนินกลยุทธ์ตลอดเวลาที่ท�ำการเข้าตี รองผู้บังคับหมวด จะอยู่ควบคุมฐานยิง วิทยุเป็นเคร่ืองมือส่ือสารหลัก แต่ต้องมีแผนการใช้เคร่ืองมือส่ือสาร อืน่ ๆ ประกอบด้วย เช่น สญั ญาณมือ สัญญาณธง พลสุ ญั ญาณ 7. การประกอบกำ�ลงั ของฐานยงิ ในการเขา้ ตีของหมวดลาดตระเวน ก. ฐานยิง จะประกอบได้ด้วยก�ำลังส่วนน้อยซึ่งประกอบด้วย หมู่เครื่องยิง ลูกระเบิด (หมู่สนับสนุน) และตอนคอยเหตุ (ตอน ลว.) หรือตอนรถถัง (ตอนรถเกราะ) เม่ือไม่สามารถปฏบิ ตั ิเป็นส่วนดำ� เนนิ กลยุทธ์ได้ ข. รองผูบ้ งั คับหมวดเปน็ ผูค้ วบคุมส่วนต่าง ๆ ของหมวด ซ่งึ อยู่ในฐานยิง 8. การสนับสนุนหมวดในการเข้าตีประสานของหมวดลาดตระเวน ผบู้ งั คบั หมวดเปน็ ผวู้ างแผนการยงิ สนบั สนนุ ดว้ ยการใชอ้ าวธุ ในอตั ราหรอื อาวธุ ท่ีมาสนับสนุนหมวด เม่ือหมู่เครื่องยิงลูกระเบิด (หมู่สนับสนุน) อยู่ในความควบคุมของ กองรอ้ ยผบู้ งั คบั หมวดจะขอการยงิ จากเครอื่ งยงิ ลกู ระเบดิ ผา่ นผบู้ งั คบั กองรอ้ ย เมอื่ มปี นื ใหญ่

ใหก้ ารสนบั สนนุ จะรอ้ งขอการยงิ จากผบู้ งั คบั กองรอ้ ยหรอื ผตู้ รวจการณห์ นา้ ปนื ใหญท่ อี่ ยกู่ บั เห ่ลาทหาร ้มา 139 กองร้อย (เม่อื ไม่ได้จดั มาประจำ� อยู่ทีห่ มวด) 9. การปฏบิ ตั ขิ องส่วนด�ำ เนนิ กลยุทธ์ ก. ส่วนด�ำเนินกลยุทธ์ จะเข้าท�ำการรบประชิดด้วยการรุกไปข้างหน้าอย่าง รวดเร็วเท่าท่ีจะท�ำได้ โดยใช้การก�ำบังและซ่อนพรางในระหว่างการเคล่ือนท่ีให้มากท่ีสุด ส่วนดำ� เนนิ กลยทุ ธ์เคลือ่ นท่เี ข้าไปให้ใกล้ที่หมายโดยใช้การยิงประกอบการเคล่อื นท่ี ข. ส่วนดำ� เนนิ กลยุทธ์ จะทำ� การยงิ ไปยังข้าศกึ อย่างหนาแน่น เมือ่ อยู่ในระยะ ยงิ หวังผล ค. ส่วนด�ำเนินกลยุทธ์ จะเคล่ือนท่ีเข้าไปใกล้ท่ีหมายที่สุด เมื่อเกิดความ จ�ำเป็นท่จี ะให้หมู่ปืนเลก็ ลงรบเดนิ ดิน เพอื่ ระวงั ป้องกนั ทห่ี มาย และระวงั ป้องกนั ตอนรถถัง (ตอนรถเกราะ) แล้ว ผู้บังคับหมวดเป็นผู้ตกลงใจว่าจะให้หมู่ปืนเล็กลงรบเดินดินเม่ือใด และทีไ่ หน 10. การปฏบิ ัติของฐานยงิ ก. ภารกิจของฐานยิง คือ ตรงึ ข้าศึกให้ติดอยู่กับพื้นดินและตัดรอนอาวุธยงิ ของข้าศึกเพ่ือให้ส่วนด�ำเนินกลยุทธ์มีเสรีในการปฏิบัติ ปกติฐานการยิงจะไม่อยู่ประชิดท่ี หมาย ฐานการยงิ ประกอบดว้ ย เครอ่ื งยงิ ลกู ระเบดิ , ปนื ใหญท่ สี่ นบั สนนุ , หนว่ ยบนิ ทางยทุ ธวธิ ี ฐานยิงควรได้รับมอบที่หมายเฉพาะและพื้นท่ีเป้าหมายที่จะท�ำการยิงในขณะส่วนด�ำเนิน กลยทุ ธท์ ำ� การรกุ , ขณะตะลมุ บอน, ขณะเขา้ ตตี ่อไป หรอื ขณะเสรมิ ความมน่ั คง ณ ทหี่ มาย สญั ญาณเลอ่ื นฉากการยงิ หรอื ยา้ ยทตี่ งั้ ยงิ หรอื พนื้ ทกี่ ารยงิ จะตอ้ งมกี ารตกลงใจไวล้ ว่ งหนา้ และควรก�ำหนดทศั นสัญญาณไว้ด้วย ฐานยิงต้องพร้อมทจ่ี ะยงิ เป้าหมายตามเหตุการณ์ได้ ทุกขณะ ข. ตอนคอยเหตุ (ตอน ลว.) ท่ีอยู่กับฐานยิง จะย้ายไปข้างหน้าตามค�ำสั่ง หรือตามแผนที่เตรียมไว้ล่วงหน้า หมู่เคร่ืองยิงลูกระเบิด (หมู่สนับสนุน) จะอยู่ที่ตั้งเดิม จนกระทั่งการยิงของตนถูกขัดขวางหรือท่ีหมายได้รับการป้องกันแล้ว ก็ย้ายที่ตั้งยิงไปเข้า ทตี่ ้งั ยงิ ใหม่เพ่อื สนับสนนุ หมวดต่อไป

11. การปฏบิ ตั ขิ องผู้บงั คบั หมวด, รองผ้บู งั คับหมวด, ผู้บงั คับตอน, ผบู้ งั คับหมู่ 140 เหล่าทหารมา้ ก. ผู้บังคับหมวดจะอยู่กับส่วนด�ำเนินกลยุทธ์ ท�ำการควบคุมการปฏิบัติ การเขา้ ตแี ละการเปลยี่ นรปู ขบวนทจี่ ะเผชญิ กบั ความเปลยี่ นแปลงของสถานการณอ์ ยตู่ ลอด เวลา ผบู้ งั คบั หมวดจะแจง้ ขา่ วสารเกยี่ วกบั ภมู ปิ ระเทศและการตา้ นทาน หรอื ถกู ขา้ ศกึ ตอบโต้ ใหผ้ บู้ งั คบั กองรอ้ ยทราบ การรายงานการเปลยี่ นแปลงของสถานการณร์ ะหวา่ งเผชญิ กบั การ ต้านทานของข้าศกึ อย่างแข็งแรง ซึ่งหมวดไม่สามารถจะตัดรอนหรอื ประมาณสถานการณ์ ไว้ว่าจะไม่มีการต้านทานเกิดข้ึนมาก่อน ผู้บังคับหมวดจะขอร้องขอการยิงสนับสนุนผ่าน ผู้บังคับกองร้อย และแจ้งให้ผู้บงั คับกองร้อยทราบสถานการณ์ตลอดเวลา ข. รองผู้บังคับหมวด เป็นผู้ช่วยผู้บังคับหมวดด้วยการปฏิบัติตามค�ำสั่ง ของผู้บังคับหมวดระหว่างการเข้าตี รองผู้บังคับหมวดจะก�ำกับดูแลและควบคุมฐานยิง รองผู้บังคับหมวดท�ำการตรวจการณ์เตรียมท่ีจะท�ำการเลื่อนฉากการยิง, ย้ายพ้ืนท่ีการยิง และเตรียมย้ายที่ต้ังยิงระหว่างการเสริมความม่ันคง ณ ที่หมายและการจัดระเบียบใหม่ รองผู้บังคับหมวดจะช่วยเหลือผู้บังคับหมวด ในการจัดวางก�ำลังในที่ม่ันต้ังรับเป็นอย่างดี และก�ำกับดูแลการแจกจ่ายยทุ โธปกรณ์และกระสุนที่ใช้เม่ือจ�ำเป็น ค. ผบู้ งั คบั ตอนและผบู้ งั คบั หมู่ จะชว่ ยเหลอื ผบู้ งั คบั หมวด ดว้ ยการปฏบิ ตั ใิ ห้ เปน็ ไปตามคำ� สงั่ การรกุ ระหวา่ งการเขา้ ตี จะกำ� กบั ดแู ล และควบคมุ การปฏบิ ตั ขิ องหนว่ ยตน ตรวจการณพ์ น้ื ทใ่ี นการปฏบิ ตั ขิ องตนตลอดเวลา และรายงานสถานการณใ์ หผ้ บู้ งั คบั หมวด ทราบตลอดเวลา 12. การปฏิบตั ิการเข้าตี ก. อาวธุ ทกุ ชนดิ ทอ่ี ยใู่ นฐานยงิ เรมิ่ ทำ� การยงิ ตามคำ� สงั่ การยงิ จะตอ้ งทำ� การยงิ คลุมทห่ี มายท้งั หมด เม่ือส่วนดำ� เนนิ กลยุทธ์เคล่ือนทไี่ ปถึงทีห่ มาย ฐานยงิ เลอื่ นฉากการยิง และย้ายพน้ื ทก่ี ารยงิ ไปขา้ งหลงั หรอื ทางปีกของทห่ี มาย การเลอ่ื นฉากการยงิ หรอื ยา้ ยพน้ื ที่ การยงิ กระทำ� ไดโ้ ดยการใชว้ ทิ ยคุ วบคมุ , โดยการตรวจการณห์ รอื โดยสญั ญาณซงึ่ ตกลงกนั ไว้ล่วงหน้า หมู่เครือ่ งยงิ ลูกระเบดิ (หมู่สนับสนนุ ) ตอนคอยเหตุ (ตอน ลว.) หรอื ตอนรถถัง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook