Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชา เหล่าทหารม้า ปี4 (ชาย)

วิชา เหล่าทหารม้า ปี4 (ชาย)

Published by military2 student, 2022-05-03 02:23:05

Description: วิชา เหล่าทหารม้า ปี4 (ชาย)

Search

Read the Text Version

ช่วยให้ผู้บังคับหน่วยทหารม้า สามารถเลือกใช้รูปขบวนอย่างเหมาะสมและใช้การยิงเพ่ือ เห ่ลาทหาร ้มา 41 เอาชนะข้าศกึ ได้ แบบของการด�ำเนินกลยุทธ์พ้นื ฐานมี 3 แบบ คอื การเข้าตเี จาะ การเข้าตี ตรงหน้า และการเข้าตโี อบ ก. การเขา้ ตเี จาะ หน่วยเข้าตีใช้การตีเจาะเพ่ือเจาะแนวต้ังรับของข้าศึกซึ่งมี กว้างด้านหน้าแคบ และขยายเขตการเจาะให้กว้างขึน้ จดุ มุ่งหมายของการเข้าตีเจาะ คอื เพื่อท�ำลายล้างก�ำลังที่ต้ังทางทหารและท่ีมั่นข้าศึกเพื่อท�ำลายความต่อเน่ืองในการตั้งรับ ของขา้ ศกึ กลยทุ ธน์ จี้ ะแยกกำ� ลงั ขา้ ศกึ ออกจากกนั เปดิ โอกาสใหบ้ ดขยเ้ี อาชนะขา้ ศกึ เปน็ สว่ น ย่อย ๆ ได้ ตามปกตแิ ล้วจะก่อให้เกดิ สถานการณ์ทส่ี ามารถทำ� การขยายผลได้ โดยใช้กำ� ลงั ซึ่งมีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนท่ีของฝ่ายเราบุกลึกเข้าไปในพ้ืนที่ส่วนหลังของข้าศึก ความสำ� เรจ็ ในการเขา้ ตเี จาะจะมกี ารปฏบิ ตั ทิ ส่ี ำ� คญั คอื การเจาะแนวทม่ี น่ั ตง้ั รบั แยกขา้ ศกึ ออกจากกนั ยดึ และขยายเขตการเจาะใหก้ วา้ งขน้ึ ความตอ่ เนอ่ื งในการตงั้ รบั , การขยายผล เข้าบดขยี้หรือยึดจุดที่หมายในพื้นท่ีหลังแนวข้าศึก ตามปกติแล้วทหารราบจะเป็นส่วน เขา้ ตเี จาะ ยดึ และขยายเขตการเจาะใหก้ วา้ งเพยี งพอสำ� หรบั การใชห้ นว่ ยทหารมา้ ขนาดใหญ่ ขยายผลแหง่ การเจาะนนั้ หนว่ ยทหารมา้ จะถกู นำ� มาใชอ้ ยา่ งเปน็ กลมุ่ กอ้ นเพอื่ ใหเ้ กดิ อำ� นาจ การทำ� ลายและข่มขวญั สูงสุด จากอำ� นาจการยงิ และความคล่องแคล่วซง่ึ เป็นคุณลกั ษณะ พิเศษเฉพาะของหน่วยทหารม้า ผู้บังคับหน่วยทหารม้าจะต้องใช้ความสามารถพยายาม ทจ่ี ะควบคมุ สถานการณใ์ นการเขา้ ตเี จาะใหร้ ดุ หนา้ ตอ่ ไป โดยใชก้ ารยงิ สนบั สนนุ จากปนื ใหญ่ ให้เกดิ ประโยชน์สงู สดุ เพ่ือท�ำลายการตีโต้ตอบ และแยกข้าศกึ ให้อยู่โดดเด่ียว ข. การเขา้ ตตี รงหน้า การเข้าตีตรงหน้าเป็นแบบหนึ่งของการดำ� เนินกลยทุ ธ์ ซ่ึงหน่วยใช้เส้นทางท่ีตรงท่ีสุดเข้าตีต่อข้าศึกตลอดกว้างด้านหน้าภายในเขตรับผิดชอบของ หนว่ ยเขา้ ตี ความมงุ่ หมายของการเขา้ ตตี รงหนา้ คอื เพอื่ บดขยที้ ำ� ลาย หรอื จบั ขา้ ศกึ ในทต่ี งั้ การวางกำ� ลังท่อี ่อนแอ หรอื ตรึงข้าศกึ ให้อยู่กับที่ การเข้าตีตรงหน้าเป็นแบบของการดำ� เนนิ กลยทุ ธท์ พ่ี งึ ประสงคน์ อ้ ยทส่ี ดุ สำ� หรบั หนว่ ยทหารมา้ แตส่ ามารถนำ� มาใชเ้ มอื่ ขา้ ศกึ ออ่ นแอ และขาดระเบยี บในการจัดการต้งั รับ ค. การเข้าตีโอบใน การเข้าตีโอบก�ำลังเข้าตีหลักหรือก�ำลังที่ท�ำการโอบ จะหลกี เลย่ี งกำ� ลงั หลกั ของขา้ ศกึ ดว้ ยการออ้ มผา่ นหรอื ทม่ี นั่ ตงั้ รบั หลกั ของขา้ ศกึ เพอื่ เขา้ ยดึ ทห่ี มายซง่ึ จะตดั เสน้ ทางหนขี องขา้ ศกึ ตรงึ ขา้ ศกึ ไวเ้ พอ่ื ท�ำลายขา้ ศกึ ในทม่ี น่ั จากทางปกี หรอื

42 เหลา่ ทหารมา้ ทางหลงั การเข้าตโี อบจะบรรลุผลส�ำเรจ็ ได้ด้วยการโจมตตี ่อปีกเปิด และด้วยการหลกี เลีย่ ง กำ� ลังหลักของข้าศึกท่ีอยู่ระหว่างทางไปสู่ที่หมาย การเข้าตีโอบสามารถกระท�ำได้ด้วยการ เคลอื่ นทท่ี างพนื้ ดนิ และการเคลอื่ นทท่ี างอากาศ หนว่ ยทหารมา้ และหนว่ ยทหารมา้ อากาศ เปน็ หนว่ ยทเ่ี หมาะสมทจี่ ะใชเ้ ปน็ กำ� ลงั เขา้ ตหี ลกั เนอ่ื งจากมคี วามคลอ่ งแคลว่ ในการเคลอื่ นท่ี และอำ� นาจการยงิ ซง่ึ เปน็ สงิ่ จำ� เปน็ สำ� หรบั การดำ� เนนิ กลยทุ ธ์แบบนี้ เมอื่ หน่วยเขา้ ตมี กี ำ� ลงั มากพออาจใช้ในการโอบสองปีก หรอื อาจใช้ในการตีตลบ เพอ่ื ยึดท่ีหมายท่อี ยู่ลกึ เข้าไปใน พ้ืนทส่ี ่วนหลงั ของข้าศกึ การใช้หนว่ ยทหารมา้ ใหเ้ หมาะสมในการยุทธด์ ว้ ยวิธรี ุก หนว่ ยทหารมา้ สามารถปฏบิ ตั กิ ารไดท้ กุ แบบของการยทุ ธด์ ว้ ยวธิ รี กุ และทกุ แบบ ของการดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ด้วยวิธรี ุก แต่ควรพิจารณาใช้ได้อย่างเหมาะสมทสี่ ุด คือ การเข้าตี เจาะ การเขา้ ตโี อบ การขยายผลการไลต่ ดิ ตาม หรอื เปน็ หนว่ ยกำ� บงั ใหก้ บั หนว่ ยใหญใ่ นการ เคล่ือนทเ่ี ข้าปะทะ การสนบั สนนุ ในการรกุ หนว่ ยปนื ใหญต่ อ้ งมคี วามคลอ่ งแคลว่ ในการเคลอื่ นทส่ี งู เพื่อให้สามารถสนบั สนนุ ด้วยการยงิ อย่างใกล้ชดิ แก่หน่วยทหารม้าได้อย่างต่อเนือ่ ง หน่วย ทหารช่างสนาม จะจัดลำ�้ ไปข้างหน้ากับส่วนเคล่ือนที่นำ� เพื่อท�ำลายเครื่องกีดขวาง ทำ� ท่า ข้ามและรื้อถอนสนามทุ่นระเบิดในทุก ๆ การปฏิบัติการ ปืนใหญ่ป้องกันภัยทางอากาศ จะอยู่ในต�ำแหน่งซ่ึงต่อต้านมิให้ข้าศึกใช้ขีดความสามารถทางอากาศ ขัดขวางการ รกุ คบื หนา้ ของฝา่ ยเรา ทหารมา้ อากาศ หนว่ ยบนิ ทหารบก หนว่ ยบนิ ทางยทุ ธวธิ ี เฝา้ ตรวจคน้ หา และรายงาน เพื่อให้แน่ใจในการท�ำลายที่มั่นและขบวนของข้าศึกซึ่งจะขัดขวางการรุก คบื หน้าของฝ่ายเรา ผู้บงั คบั บญั ชาจะต้องใช้การตดิ ต่อสอ่ื สารทก่ี ว้างไกลช่วยในการปฏบิ ตั ิ เพ่ือเป็นหลักประกนั ในความเรว็ ในการรวบรวม วิเคราะห์ และกระจายข่าวกรอง สำ� หรบั การวางแผนทางยุทธวิธี ดังนั้น การใช้หน่วยสนับสนุนอย่างเหมาะสมจะเน้นความส�ำเร็จ ในการใช้หน่วยทหารม้า เพื่อทำ� ลายหรือเอาชนะข้าศึกต้ังแต่โอกาสแรกท่ีเป็นไปได้ให้ดีข้ึน ก่อนที่จะรวมที่ก�ำลังเข้าตี หรือเพ่ือออมก�ำลังในพื้นที่แห่งหน่ึง เพ่ือรวมก�ำลังให้เหนือกว่า ณ พ้ืนทอ่ี ่นื ทต่ี ้องท�ำการรบแตกหกั

3. การใช้หนว่ ยทหารมา้ ในการยทุ ธด์ ้วยวิธรี ับ เห ่ลาทหาร ้มา 43 หน่วยทหารม้าสามารถใช้ให้ปฏิบัติได้ในทุกแบบของการต้ังรับ คือทั้งการ ตั้งรับแบบยึดพื้นที่ และการตั้งรับในแบบคล่องตัว แต่ความมุ่งหมายในการต้ังรับของ ทหารมา้ นน้ั มงุ่ ทจี่ ะทำ� ลายกำ� ลงั ขา้ ศกึ เปน็ หลกั โดยไมค่ ำ� นงึ ถงึ การยดึ และรกั ษาพน้ื ท่ี ดงั นนั้ การใช้ทหารม้าอย่างเหมาะสมคือ ให้ท�ำการต้ังรับแบบคล่องตัว หน่วยทหารม้าจะใช้ ยุทธวธิ ีในการปฏบิ ตั กิ ารรกุ , รบั และรบหน่วงเวลาผสมผสานกนั ซ่งึ ความสำ� เร็จจะข้นึ อยู่ กบั การปฏบิ ตั ิการรกุ การตง้ั รับแบบคล่องตวั จะต้องปฏิบตั ิโดยหน่วย ซ่ึงสามารถทำ� การรบ บนยานรบได้ ธรรมชาติของการต้ังรับแบบคล่องตัวน้ี จะต้องเก็บก�ำลังรบขนาดใหญ่ซึ่งมี รถถังเป็นหลักไว้เป็นส่วนตีโต้ตอบ เพ่ือให้บรรลุภารกิจในการท�ำลายก�ำลังข้าศึก อย่างไร กต็ ามจะตอ้ งคน้ ใหพ้ บขา้ ศกึ เสยี กอ่ นเปน็ ประการแรก แลว้ บงั คบั ใหข้ า้ ศกึ ตอ้ งรวมก�ำลงั เปน็ กลมุ่ ก้อน ตรงึ หรอื บงั คบั ข้าศกึ ให้ไปในทศิ ทางทฝี่ า่ ยเราได้เลอื กไว้ หน่วยทหารม้าจะท�ำการ ตง้ั รับแบบคล่องตวั โดยจัดก�ำลังเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนระวงั ป้องกนั ส่วนตรงึ และกองหนนุ สว่ นระวังป้องกัน ท�ำหน้าที่แจ้งเตือนการเข้ามาของข้าศึกแต่เน่ิน คลี่คลายสถานการณ์ และ ป้องกันมิให้ข้าศึกจู่โจม ส่วนระวังป้องกันจะต้องมีความคล่องตัวสูง สามารถปฏิบัติการ ได้บนกว้างด้านหน้ามากและเครื่องมือติดต่อสื่อสาร ซ่ึงสามารถแจ้งเตือนการเข้ามาของ ข้าศกึ ได้อย่างรวดเรว็ สว่ นตรึง เป็นส่วนท่ีอยู่ในพ้ืนที่ต้ังรับหน้า มีภารกิจแจ้งเตือนการเข้ามาของข้าศึกที่ใกล้ จะเกดิ ข้นึ , รง้ั หน่วง, ท�ำลายรูปขบวน และทำ� ให้ข้าศกึ สูญเสยี มากที่สดุ และป้องกนั ข้าศกึ ให้เข้าไปในพ้ืนที่ที่ได้เลือกไว้ ซึ่งเหมาะที่จะใช้กองหนุนโจมตี ส่วนตรึงจะปฏิบัติภารกิจให้ บรรลุผลส�ำเร็จได้โดยการจัดที่ตรวจการณ์, ท่ีฟังการณ์ ชุดลาดตระเวนเข้ายึดและตั้งรับ ในทมี่ น่ั สกดั กนั้ และจดุ ตา้ นทาน, ปฏบิ ตั กิ ารรกุ อยา่ งจำ� กดั และดว้ ยการปฏบิ ตั กิ ารรงั้ หนว่ ง โดยปกติส่วนตรึงจะประกอบด้วย ทหารม้าบรรทุกยานเกราะ หรือทหารราบยานยนต์ เปน็ หลกั ขนาดของสว่ นตรงึ ไมแ่ นน่ อน อาจมหี นว่ ยทหารมา้ บรรทกุ ยานเกราะ หรอื ทหารราบ ยานยนต์ขนาดเล็ก และรถถังจ�ำนวนไม่กี่คัน ไปจนถึงขนาดกองพันรบเฉพาะกิจ ทั้งนี้

44 เหลา่ ทหารมา้ โดยพจิ ารณาใหม้ กี ำ� ลงั เพยี งพอทจี่ ะปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ใหส้ ำ� เรจ็ ได้ เพอื่ ใหม้ นั่ ใจวา่ กำ� ลงั สว่ นใหญ่ ได้น�ำไปใช้ในกองหนุนเพ่ือการรบแตกหักกับข้าศึก หน่วยท่ีได้รับภารกิจให้ต้ังรับในที่ม่ัน สกดั กน้ั หรอื ในพน้ื ทอ่ี นั มคี วามสำ� คญั ตอ่ ความสำ� เรจ็ ในการยทุ ธ์ ไมจ่ ำ� เปน็ จะตอ้ งรกั ษาทม่ี น่ั ข้ันแรกน้นั ไว้เสมอไป หน่วยมักจะทำ� การต่อสู้รบด้วยการรุกและการรบหน่วงเวลาจากท่มี ่นั แห่งหนง่ึ ไปยังท่ีม่ันอกี แห่งหนงึ่ ได้ กองหนนุ จัดก�ำลังรถถังเป็นหลักเพ่ือท�ำลายข้าศึกด้วยการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรุก ขา้ งหนา้ , ภายในหรอื ดา้ นหลงั ของพน้ื ทต่ี งั้ รบั หนา้ อำ� นาจกำ� ลงั รบสงู สดุ ซงึ่ สอดคลอ้ งกบั ความ ตอ้ งการของสว่ นตรงึ และสว่ นระวงั ปอ้ งกนั จะจดั ใหก้ บั กองหนนุ อำ� นาจกำ� ลงั รบนห้ี มายรวม ถึงการยิงสนับสนุนอย่างสูงสุดด้วยกองหนุนจะเตรียมแผนการตีโต้ตอบ เพื่อท�ำลายข้าศึก ทุกหนทุกแห่งในพื้นท่ีท่ีรับผิดชอบ และจะต้องเตรียมการเข้าตี ณ ท่ีใดก็ตาม เม่ือเกิด ที่หมายข้าศึกข้ึน โดยอุดมคติแล้วจะใช้กองหนุนภายหลังการโจมตีด้วยอาวุธยิงสนับสนุน ต่อข้าศกึ ซงึ่ อยู่ในทบ่ี ังคบั อยู่แล้ว การต้ังรับแบบคลอ่ งตัว เป็นแบบของการต้งั รบั ซ่ึงปกตินยิ มใช้ส�ำหรับหน่วย ทหารมา้ การตง้ั รบั แบบคล่องตวั เปน็ สง่ิ พงึ ประสงค์ เมอ่ื ภารกจิ และพน้ื ทป่ี ฏบิ ตั กิ ารอำ� นวย ให้ท�ำการรบได้โดยมีความลึกเพียงพอ ภูมิประเทศอ�ำนวยความสะดวกในการเคล่ือนท่ี มีความคล่องแคล่วในการเคล่ือนที่สูงกว่า หรือเท่ากับข้าศึก ฝ่ายเราครองความเป็น เจ้าอากาศ มีเวลาน้อยในการจัดการตั้งรับ ภารกิจ มุ่งท�ำลายก�ำลังข้าศึกกว้างด้านหน้า ในการตง้ั รบั มาก หลกั นิยมของทหารมา้ ในการยทุ ธด์ ้วยวธิ รี ับ หลกั นยิ มในการตงั้ รบั ของทหารมา้ เนน้ ความสำ� คญั ในการใชห้ นว่ ยระวงั ปอ้ งกนั เพอ่ื แจ้งเตอื นการเข้ามาของข้าศกึ แต่เน่ิน ค้นหา, ร้ังหน่วง, ลวง และทำ� ลายการเข้าตีของ ข้าศกึ กำ� ลังส่วนตง้ั รับหน้าเตรยี มพ้ืนท่ตี ้ังรับหน้า เพ่อื ผลักดนั การโจมตีของข้าศกึ และเพอื่ คลค่ี ลายสถานการณ์ กำ� ลงั รบผสมที่เข้มแข็งโดยมรี ถถังเป็นหลกั เป็นก�ำลังตีโต้ตอบ และ ปฏิบัติการเชิงรุก เพ่ือท�ำลายการเข้าตีของข้าศึก หลักนิยมน้ีท�ำให้ผู้บังคับหน่วยทหารม้า ต้องมีจิตใจรุกรบตลอดเวลา ใช้ความคล่องแคล่วและอ�ำนาจการยิงให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการตง้ั รับและเพ่ือด�ำรงความรเิ ร่มิ ไว้

4. ทหารมา้ ในการยทุ ธ์ด้วยวธิ ีร่นถอย เห ่ลาทหาร ้มา 45 กลา่ วทว่ั ไป การยุทธ์ด้วยวิธีร่นถอย คือ การเคล่ือนที่ย้ายหน่วยทหารอย่างมีระเบียบไป ขา้ งหลงั หรอื ถอยหา่ งออกจากขา้ ศกึ การยทุ ธด์ ว้ ยวธิ รี น่ ถอยจะกระท�ำไดก้ ต็ อ่ เมอ่ื ไดร้ บั อนมุ ตั ิ จากผบู้ งั คบั บญั ชาชน้ั เหนอื ขน้ึ ไปกอ่ นเทา่ นนั้ แบบของการยทุ ธด์ ว้ ยวธิ รี น่ ถอย มี 3 แบบ คอื การรบหน่วงเวลา, การถอนตวั และการถอย การรบหนว่ งเวลา ความมงุ่ หมายของการรบหนว่ งเวลา เพอื่ ท�ำการรง้ั หนว่ งใหน้ านทสี่ ดุ และทำ� การ สูญเสียแก่ข้าศึกท่ีรุกคืบหน้าเข้ามาโดยไม่ท�ำการรบติดพันแตกหัก หรือถูกโอบปีกในการ ปฏิบัติการรบหน่วงเวลาจะยอมเสียพ้ืนท่ีให้น้อยที่สุด เพื่อแลกกับเวลาให้ได้มากท่ีสุด การร่นถอยของหน่วยทหารม้านนั้ จะเป็นการปฏบิ ตั ดิ ้วยการรบหน่วงเวลามากกว่าแบบอนื่ การถอนตัว คือการปฏิบัติซ่ึงส่วนหนึ่งของก�ำลังรบจะผละออกจากข้าศึกอาจกระท�ำภายใต้ ความกดดนั หรอื นอกความกดดนั ของขา้ ศกึ และอาจเปน็ การปฏบิ ตั เิ พอ่ื เตรยี มการถอย เชน่ เคลอื่ นย้ายหน่วยมาข้างหลงั เพอ่ื ปรบั กำ� ลงั ใหม่ เพอื่ นำ� ไปใช้ในพน้ื ทอี่ นื่ หรอื เป็นการเคลอื่ น ย้ายจากทม่ี ่ันร้ังหน่วงหนง่ึ ไปยงั ทม่ี ่ันร้ังหน่วงต่อไป การถอย เป็นการปฏิบัติซ่ึงก�ำลังท่ีไม่ได้ปะทะกับข้าศึกเคลื่อนท่ีห่างออกจากข้าศึก เพ่อื หลีกเล่ยี งการรบภายใต้สภาวการณ์ท่ีเป็นอยู่ การถอยอาจกระท�ำต่อจากการถอนตัว หรืออาจกระท�ำได้เลยในเม่ือไม่มีการ ปะทะอยู่กับข้าศึก แต่เมื่อการถอนตัวกระท�ำก่อนการถอย การถอยจะเริ่มต้นเม่ือก�ำลัง ส่วนใหญ่ผละจากการปะทะกบั ข้าศกึ และจัดรูปขบวนเดินเรียบร้อยแล้ว ในการถอย การจัดก�ำลังส่วนใหญ่จะกลับกันกับการใช้ก�ำลังในการเคล่ือนที่ เขา้ ปะทะเสน้ ทางเฉพาะหรอื ทหี่ มายการเดนิ หรอื ทม่ี น่ั ขา้ งหลงั จะถกู กำ� หนดใหก้ บั สว่ นบงั คบั บัญชาหลักแต่ละส่วน ซึ่งเคล่ือนที่ไปกับก�ำลังส่วนใหญ่ในระยะเร่ิมแรกของการถอย การ ควบคุมอาจกระท�ำแบบแยกการต่อผู้บังคับหน่วยรอง อย่างไรก็ตาม เม่ือกำ� ลังส่วนใหญ่ ถอยห่างจากข้าศกึ เป็นระยะทางมากขน้ึ ผู้บงั คบั หน่วยจะท�ำการควบคมุ แบบรวมการ

46 เหลา่ ทหารมา้ การระวังป้องกันให้กับก�ำลังส่วนใหญ่อาจกระท�ำได้โดยใช้กองระวังหน้า กองกระหนาบและกองระวังหลัง หรือส่วนก�ำบัง เมื่อการถอยกระท�ำต่อจากการถอนตัว และเพิ่มความสำ� คัญมากยิ่งขึ้นในสงครามท่ีอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์ในปัจจุบัน ไม่มีผู้บังคับ หน่วยทหารคนใดและระดับใดสามารถจะตัดสินตกลงใจในการปฏิบัติทางยุทธวิธีได้อย่าง ถูกต้อง หรือประมาณสถานการณ์ได้ดี โดยปราศจากข่าวสารขั้นต้นของข้าศึกและพ้ืนท่ี ปฏบิ ัตกิ ารข่าวสารน้ี ส่วนใหญ่จะได้มาจากการลาดตระเวน การลาดตระเวนทัง้ ทางพื้นดนิ และทางอากาศในสนาม กอ่ ใหเ้ กดิ ผลโดยตรงตอ่ การรวบรวมขา่ วสารเกย่ี วกบั ขา้ ศกึ และพน้ื ที่ ปฏิบัติการ ผู้บังคับบัญชาพึงระลึกว่า การปฏิบัติทางอากาศไม่ได้หมายถึงหน่วยทหารม้า อากาศ แต่หมายรวมถงึ การสนับสนุนจากหน่วยบินทหารบก และกองทพั อากาศด้วย การระวงั ปอ้ งกนั หมายรวมถงึ มาตรการทง้ั สน้ิ ของผบู้ งั คบั บญั ชา ในการปอ้ งกนั ตนเองให้พ้นจากการจารกรรม การตรวจการณ์ การก่อวินาศกรรม การรบกวน และการ จู่โจม การระวังป้องกันนับว่ามีความสำ� คัญมากในการปฏิบัติการทางทหารจนถึงกับได้จัด ไว้เป็นข้อหนง่ึ ในหลกั การสงคราม ถึงแม้เราจะก�ำหนดความหมายของการลาดตระเวนและการระวังป้องกันไว้ โดยแนช่ ดั แลว้ กต็ าม ถา้ เราไดว้ เิ คราะหอ์ ยา่ งรอบคอบแลว้ จะเหน็ วา่ การปฏบิ ตั กิ ารทง้ั สองเรอ่ื ง นเ้ี กยี่ วพนั กันอย่างไม่สามารถแยกการปฏบิ ตั อิ อกจากกนั ได้ การลาดตระเวนโดยธรรมชาติ แลว้ จะทำ� ใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชามกี ารระวงั ปอ้ งกนั ในระดบั หนง่ึ และในการระวงั ปอ้ งกนั ทกุ ระดบั กระท�ำโดยใช้การลาดตระเวนอย่างต่อเน่ือง โดยเหตุผลแล้วจะเป็นความจริงที่ว่าหาก ผู้บังคับหน่วยต้องท�ำการลาดตระเวนและระวังป้องกันให้กับตนเอง โดยใช้หน่วยกำ� ลังรบ ท่ีมีอยู่ในอัตราแล้ว ผู้บังคับหน่วยจะต้องถูกบังคับให้ใช้ส่วนก�ำลังรบในหน่วยของตนเป็น อัตราส่วนท่ีมากพอสมควรส่วนหนึ่ง ดังน้ันจึงได้หน่วยทหารม้าลาดตระเวนให้ท�ำหน้าที่น้ี โดยให้มีการจดั , การฝึก และมียุทโธปกรณ์เท่ากนั ส�ำหรบั ภารกจิ น้โี ดยเฉพาะ ซึง่ เมื่อคดิ รวมกำ� ลงั ทง้ั หมดแล้วจะเท่ากบั ประมาณร้อยละ 20 ของกำ� ลงั รบในสนาม ตัวเลขน้อี าจจะ รู้สึกว่าค่อนข้างสูง แต่เราควรจัดหน่วยนี้ไว้หลายระดับ ตั้งแต่กองพันดำ� เนินกลยุทธ์ข้ึนไป จนถึงกองพลหรือกองทัพ ซ่ึงในปัจจุบันนับว่าเป็นความจำ� เป็นอย่างย่ิง เม่ือระยะยิงของ อาวุธต่าง ๆ เพ่ิมมากขึ้น อำ� นาจการทำ� ลายสูงข้ึน เม่ือสนามรบมีความหนาแน่นน้อยลง และเม่ือหน่วยมีความจ�ำเป็นต้องกระจายก�ำลังห่างกันมากข้ึน ความจ�ำเป็นที่ต้องมีหน่วย ทหารม้าลาดตระเวนจงึ เป็นสิง่ ทีห่ ลีกเล่ยี งไม่ได้

หนว่ ยทหารมา้ ลาดตระเวนไดพ้ ฒั นาการจดั มาเปน็ ลำ� ดบั ไดใ้ ชย้ านรบหมุ้ เกราะ เห ่ลาทหาร ้มา 47 หรือรถถังเบาเป็นยานรบหลัก และในปัจจุบันมีการขยายขีดความสามารถของหน่วย ทหารม้าลาดตระเวนให้สงู ข้นึ อกี โดยใช้หน่วยทหารม้าอากาศ หน่วยทหารม้าอากาศไม่ใช่ หน่วยบนิ ท่มี ีลักษณะอย่างทก่ี องทพั ได้จดั ขนึ้ แต่โดยแท้จรงิ แล้วเป็นหน่วยกำ� ลงั รบที่มกี าร จดั แบบทหารมา้ ลาดตระเวน มอี าวธุ ทางอากาศทที่ รงอานภุ าพนานาชนดิ และมคี วามคลอ่ ง ตวั สงู ในการยงิ สนบั สนนุ เปา้ หมายทางพน้ื ดนิ เพมิ่ ขดี ความสามารถในการคน้ หาขา้ ศกึ และมี ขดี ความสามารถในการยดึ รกั ษาภมู ปิ ระเทศ ตามปกตแิ ลว้ จะตอ้ งใชห้ นว่ ยระวงั ปอ้ งกนั หลงั ที่แข็งแรงหน่วยระวังป้องกันหลังใช้ยุทธวิธีของการรบหน่วงเวลา เพ่ือหน่วงเหนี่ยวการรุก ของขา้ ศกึ เปน็ การปอ้ งกนั มใิ หข้ า้ ศกึ รบกวนการเคลอ่ื นทขี่ องกำ� ลงั สว่ นใหญ่ ผบู้ งั คบั บญั ชา จะตอ้ งตน่ื ตวั เสมอ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ตอ่ ความพยายามของขา้ ศกึ ทจ่ี ะโอบตอ่ ก�ำลงั ทที่ ำ� การ ถอย หน่วยบินลาดตระเวนยทุ ธวธิ ี และหน่วยบนิ ทหารบก จะใช้เพ่อื ให้ได้ข่าวสารแต่เนิ่น ๆ ถ้าข้าศกึ พยายามทจ่ี ะกระท�ำเช่นน้นั ตามปกตใิ นการร่นถอย หน่วยทหารม้าขนาดเลก็ จะสมทบก�ำลงั ที่ใหญ่กว่า การใช้หนว่ ยทหารมา้ ใหเ้ หมาะสมในการยทุ ธด์ ้วยวิธีรน่ ถอย ทหารม้าสามารถใช้ปฏิบัติการได้ทุกรูปแบบของการยุทธ์ด้วยวิธีร่นถอย คุณลักษณะและขีดความสามารถต่าง ๆ ของทหารม้าถ้าได้พิจารณาและนำ� มาใช้ให้เกิด ประโยชน์สูงสุดแล้ว จะก่อให้เกิดผลส�ำเร็จในอันท่ีจะยังความเสียหายขนาดหนักให้แก่ ข้าศึกได้ ในระหว่างที่ปฏิบัติการยุทธ์ด้วยวิธีร่นถอยและเนื่องจากระดับความสามารถ ของหน่วยทหารม้าในเรื่องความคล่องแคล่วสูง, อ�ำนาจการยิงมหาศาลจากการยิงเล็งตรง ระยะไกล และการติดต่อส่ือสารอย่างกว้างขวาง ทหารม้าจะเป็นหน่วยที่เหมาะสมที่สุด ท่ีจะใช้ในการรบหน่วงเวลา ก�ำลังในการรบหนว่ งเวลา หน่วยในการรบหน่วงเวลา แบ่งกำ� ลังออกเป็น 3 ส่วน คอื ส่วนระวงั ป้องกัน, ส่วนรบหน่วงเวลา และกองหนนุ ก. สว่ นระวงั ปอ้ งกนั สว่ นกำ� บงั หรอื สว่ นระวงั ปอ้ งกนั อน่ื ๆ อาจใชพ้ นื้ ทบ่ี รเิ วณ ดา้ นหนา้ ของทมี่ นั่ รง้ั หนว่ ง เมอ่ื สถานการณอ์ ำ� นวย สว่ นระวงั ปอ้ งกนั นอี้ าจเปน็ หนว่ ยกองพนั ด�ำเนินกลยุทธ์ หรือหน่วยทหารม้าลาดตระเวน การระวังป้องกันขยายไปทางด้านหน้า

48 เหลา่ ทหารมา้ ทางปกี และดา้ นหลงั โดยใชห้ นว่ ยบนิ ทางยทุ ธวธิ ี หนว่ ยบนิ ทหารบก และเครอื่ งมอื เฝา้ ตรวจ ทางพ้ืนดนิ ข. ส่วนรบหน่วงเวลา อ�ำนาจก�ำลังรบส่วนใหญ่จะมอบให้กับส่วนรบหน่วง เวลา อ�ำนาจการยิงสูงสุดจะวางทิศทางไปข้างหน้า โดยมุ่งต่อแนวทางการเคล่ือนที่ของ ข้าศึกท่ีน่าจะเป็นไปได้ ส่วนรบหน่วงเวลาจะต้องเตรียมพร้อมเสมอที่จะเปลี่ยนท่ีตั้ง หรือ เปลย่ี นทศิ ทางยงิ เพ่อื โจมตีต่อข้าศกึ ทีร่ ุกคืบหน้าเข้ามาทางปีกหรอื ด้านหลงั ส่วนรบหน่วง เวลาจะปฏบิ ตั ิการ โดยมีกว้างด้านหน้ามาก และมีความลึกเพียงเลก็ น้อย ค. กองหนุน เม่ือเปรียบเทียบจากการประกอบก�ำลังของส่วนรบหน่วงเวลา แล้ว กองหนนุ จึงต้องมขี นาดเล็ก โดยปกตกิ องหนุนจะจดั ให้มีข้ึนในหน่วยระดับกรมทหาร มา้ เฉพาะกจิ หรอื สงู กวา่ และควรมรี ถถงั เปน็ หลกั ซง่ึ จะท�ำใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชามกี ำ� ลงั ทสี่ ามารถ ตอบสนองได้ทนั ทใี นการตโี ต้ตอบ หรอื ตกี วาดด้วยรถถงั 5. หนว่ ยทหารมา้ ในการลาดตระเวนและระวงั ป้องกัน กล่าวทั่วไป การลาดตระเวนและระวังป้องกันนับว่ามีบทบาทสำ� คัญเป็นส่วน หนึ่งของการปฏิบัติการทางทหารท่ีประสบผลส�ำเร็จ นับต้ังแต่มีการบันทึกประวัติการรบ เร่อื ยมา การใช้หนว่ ยทหารม้าลาดตระเวน หน่วยทหารม้าลาดตระเวน จะใช้ได้อย่างเหมาะสมในภารกิจลาดตระเวน ระวังป้องกนั และออมก�ำลงั ก. การลาดตระเวน รปู ขบวนรบของหนว่ ยทหารมา้ ลาดตระเวน จะใชม้ ากใน ภารกิจการลาดตระเวนเส้นทาง, การลาดตระเวนเขต และการลาดตระเวนพืน้ ที่ หน่วยจะ ตอ้ งลาดตระเวนใหส้ อดคลอ้ งกบั ทหี่ มายขา่ วกรอง รายงานขา่ วสารทกุ ชนดิ ทงั้ เปน็ การยนื ยนั และปฏเิ สธหลกี เล่ยี งการรบแตกหกั ด�ำรงการเกาะข้าศึก และคลคี่ ลายสถานการณ์ ข. การระวังป้องกัน หน่วยทหารม้าลาดตระเวนมีความคล่องแคล่วในการ เคลอื่ นทีท่ ง้ั ทางพ้นื ดนิ และทางอากาศเหนอื กว่า หน่วยรับการกำ� บงั , หน่วยคุ้มกนั , หน่วย ท�ำฉากกำ� บัง และเป็นหน่วยระวงั ป้องกันพืน้ ท่สี ่วนหลงั ในการปฏิบตั ภิ ารกิจเหล่าน้ี หน่วย ทหารม้าลาดตระเวนจะต้องวางตัวให้สอดคล้องกับหน่วยท่ีตนทำ� การระวังป้องกัน ท�ำการ

ลาดตระเวนอย่างต่อเน่อื ง ให้การแจ้งเตอื นท่ที นั เวลาและถูกต้อง ให้มีพื้นทีด่ ำ� เนนิ กลยุทธ์ เห ่ลาทหาร ้มา 49 ส�ำหรับหน่วยรบั การระวงั ป้องกนั และด�ำรงการเกาะข้าศกึ ค. การออมก�ำลัง หน่วยทหารม้าลาดตระเวนอาจถูกใช้ในบทบาทการ ออมก�ำลงั ในการยทุ ธ์ด้วยวธิ ีรุก, รับ, ร่นถอย เพ่อื อุดช่องว่างรักษารอยต่อ หรอื ปฏิบตั ิการ กง่ึ อสิ ระ 6. สรปุ หลักนยิ มของทหารม้า หลักนิยมมูลฐานดังที่ได้กล่าวแล้วทั้งหมด ว่าด้วยการปฏิบัติการยุทธ์ของ ทหารมา้ นน้ั สามารถสรปุ เปน็ หลกั นยิ มวธิ รี บของทหารมา้ เพอื่ เปน็ แนวทางในอนั ทจี่ ะยดึ ถอื ส�ำหรับผู้บังคับหน่วยทหารม้าทุกระดับจะต้องน�ำมาใช้ในทุกโอกาสได้โดยไม่ต้องค�ำนึง ถงึ แบบของการยทุ ธ์ และแบบของการดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ ท่ตี นอาจจะต้องนำ� หน่วยเข้าปฏบิ ตั ิ การ เพยี งแตน่ ำ� เทคนคิ เฉพาะของการยทุ ธแ์ ตล่ ะแบบมาพจิ ารณาเพม่ิ เตมิ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความ เหมาะสมทส่ี ุดในการปฏบิ ตั กิ าร หลกั นยิ มวธิ รี บของทหารม้า สรปุ ท่ีส�ำคญั คือ 1. ท�ำการรบบนยานรบเคล่ือนท่เี รว็ 2. ปฏิบัติการเป็นอิสระ โดยใช้ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ และอ�ำนาจ การยิง 3. ทำ� การรบอย่างแตกหกั หวงั ผลตดั สินการรบ 4. ไม่รบยดื เยอ้ื เป็นเวลานาน 5. ท�ำการรบแบบผสมเหล่าให้สมบรู ณ์ในตัวเอง 6. ทำ� การรบแบบใช้ก�ำลังเป็นปึกแผ่น

50 เหลา่ ทหารมา้ บทท่ี ภารกจิ ขดี ความสามารถ และการจัดของทหารม้าบรรทุกยานเกราะ กองร้อยทหารมา้ (บรรทกุ ยานเกราะ) (อจย. 17-27 พ.) 10 ม.ิ ย. 28 ภารกจิ เข้าประชิดข้าศึกด้วยการยิงและการด�ำเนินกลยุทธ์ เพ่ือท�ำลายหรือจับ เป็นเชลย ทำ� ลายการเข้าตขี องข้าศกึ ด้วยการยิง การรบประชิด และการตโี ต้ตอบ ขีดความสามารถ 1. เข้าประชดิ ข้าศึกด้วยการยงิ และการด�ำเนนิ กลยทุ ธ์ เพอื่ ท�ำลายหรือจับ เป็นเชลย 2. ทำ� ลายการเข้าตีของข้าศกึ โดยการยิง การรบประชดิ และการตโี ต้ตอบ 3. แย่งยึดภมู ปิ ระเทศ 4. ดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ได้ในภมู ปิ ระเทศ ทุกประเภท และทกุ สภาพอากาศ 5. มคี วามคล่องแคล่วในการเคลอ่ื นที่สงู 6. ต่อสู้รถถงั ได้ในขีดจำ� กัด

การจัด บก.ร้อย. ตอน บก. หมู่ ซบร. บก.มว. กองบังคับการกองรอ้ ย ตอนบังคบั การ จะเป็นทบ่ี ังคบั การกองร้อย ซึง่ เป็นศนู ย์รวมของการปฏิบัติการทางทหารต่าง ๆ รวมท้ังการด�ำเนินการทางธุรการให้กับกองร้อย ตอนบังคับการจะท�ำหน้าท่ีรวบรวมและ รายงานข่าวสาร จดั การตดิ ต่อสอ่ื สาร วางแผนร่วมกบั หน่วยเหนือและหน่วยข้างเคยี ง เห ่ลาทหาร ้มา 51 ผู้บงั คบั กองร้อย รยบ. 1/4 ตนั 1 คัน รองผู้บังคบั กองร้อย รยบ. 3/4 ตัน 1 คัน จ่ากองร้อย รยบ. 2 1/2 ตัน 1 คัน เสมยี นกองร้อย รสพ.แบบ 85 1 คัน นายสิบส่งกำ� ลัง พ่วง 1/4 ตนั 1 คนั เสมียนส่งกำ� ลัง พ่วง 1 1/2 ตัน 2 คนั นายสิบส่อื สาร พลวทิ ยุ พลขับรถสายพานท่บี ังคับการ พลขับรถ (2) พลนำ� สาร (2) ทหารบรกิ าร (5)

หมซู่ ่อมบ�ำ รุง มีหน้าท่ีในการซ่อมบ�ำรุงภายในกองร้อยเก่ียวกับยานพาหนะ วิทยุ และอาวุธ ของกองร้อย นอกจากนย้ี งั ท�ำการส่งกลบั ยานพาหนะในขดี ความสามารถ นายสิบยานยนต์ รยบ. 1/4 ตนั 1 คัน ช่างยานยนต์สายพาน (5) รยบ. 3/4 ตัน 1 คนั นายสิบรถกู้ (2) รยบ. 2 1/2 ตัน 1 คัน ช่างอาวธุ รถกู้ 5 ตัน 1 คนั ช่างยานยนต์ล้อ พ่วง 1/4 ตัน 1 คนั ช่างวทิ ยุ พ่วง 1 1/2 ตัน 2 คัน นายสบิ ช้นิ ส่วนสายสรรพาวธุ พลลกู มอื (3) กองบงั คับการหมวด หมวดทหารมา้ 52 เหลา่ ทหารมา้ ผู้บงั คับหมวด รยบ. 1/4 ตนั 1 คัน รองผู้บงั คบั หมวด รสพ.แบบ 85 1 คัน นายสิบประจำ� หมวด พลขบั รถสายพาน พลวิทยุ พลน�ำสาร (2) หมทู่ หารมา้ (3 หมู่) ผู้บังคับหมู่ รสพ.แบบ 85 3 คนั หวั หน้าชดุ (2) พลขับรถสายพาน พลยงิ ปืนกล (2) พลยงิ จรวด พลยิงเคร่อื งยงิ ลกู ระเบดิ (2) พลปืนเล็ก (2) รว ม นพส..ล . 68562 นนนาาายยย

การปฏบิ ตั กิ ารรบของหมวดทหารม้าบรรทกุ ยานเกราะ เห ่ลาทหาร ้มา 53 หมวดทหารม้าบรรทุกยานเกราะในการรบดว้ ยวธิ ีรกุ 1. กลา่ วทัว่ ไป จดุ มงุ่ หมายหลกั ของการรบดว้ ยวธิ รี กุ คอื การทำ� ลายขา้ ศกึ และความพยายาม ในการปฏบิ ตั กิ ารรบของข้าศกึ ปกติหมวดและหมู่ ทหารม้าบรรทกุ ยานเกราะ จะทำ� การรบ ดว้ ยวธิ รี กุ โดยเปน็ สว่ นหนงึ่ ของกองรอ้ ยชดุ รบ โดยทว่ั ไปกองรอ้ ยชดุ รบตอ้ งใชค้ วามพยายาม ที่จะตีผ่านที่มั่นของข้าศึกจนผ่านไปถึงด้านหลัง เพ่ือทำ� ลายก�ำลังทหารและยุทโธปกรณ์ ของข้าศกึ แต่ภารกจิ หลกั ของหมวดและหมู่ คอื ก. การเคล่ือนท่เี ข้าปะทะ 1) ทำ� หน้าทค่ี ุ้มกันเม่ือรถถงั เคล่อื นทนี่ �ำ 2) ทำ� การรบบนยานรบ - ไม่มรี ถถงั - ข้ามเคร่อื งกดี ขวางท่เี ป็นล�ำนำ้� - เคลอื่ นทไี่ ปยงั ต�ำบลลงรถ เพ่อื ตรวจและกวาดล้างเส้นทาง 3) เคลื่อนที่น�ำด้วยการลงรบเดินดิน เพื่อกวาดล้างเส้นทางให้รถถังและ รถลำ� เลียงพล ข. การปฏบิ ตั เิ มือ่ ปะทะ ค. เข้าตีด้วยการรบบนยานพาหนะ 1) เคลือ่ นที่ตามรถถงั 2) ไม่ใช้รถถงั เข้าร่วม ง. เข้าตีด้วยการลงรบเดนิ ดนิ 1) เคลือ่ นทตี่ ามรถถงั 2) ไม่ใช้รถถงั เข้าร่วม แต่ยงิ สนบั สนนุ ด้วยรถถงั และจรวดโทว์ และ รสพ. 3) เจาะช่องหรอื ท�ำลายเครือ่ งกีดขวาง 4) เสริมความมั่นคงและจัดระเบียบใหม่หลังการเข้าตี ถ้าไม่ต้องปฏิบัติ การรบต่อไปในทนั ที

54 เหลา่ ทหารมา้ 2. การปฏบิ ัติเมอื่ ปะทะ การปฏิบัติเมื่อปะทะเกิดขึ้นเมื่อหน่วยก�ำลังเคล่ือนที่ตรวจพบข้าศึกในระยะ เริ่มแรกหรือถูกยิงจากข้าศึก การปฏิบัติดังกล่าวมักจะเป็นเครื่องบ่งบอกถึงผลของการ ปฏิบัติการรบ หน่วยทเ่ี คล่ือนท่นี ำ� จะต้องปฏิบัตกิ ารอย่างรวดเรว็ ต่อสถานการณ์ดงั กล่าวนี้ การปฏิบัตอิ ย่างฉับพลันโดยอตั โนมตั เิ มื่อมีการปะทะ ได้แก่ ก. การปรบั รูปขบวนและรายงาน 1) หน่วยเคลอ่ื นที่ท�ำการยงิ โต้ตอบเข้าทก่ี ำ� บงั และรายงาน 2) หน่วยคุ้มกนั ท�ำการยิงข่มข้าศกึ ไว้ ข. คลค่ี ลายสถานการณ์ 1) ร้องขอการยงิ เลง็ จ�ำลอง 2) เคลอื่ นทไ่ี ปยงั ตำ� บลทท่ี ำ� การยงิ ไดผ้ ลดกี วา่ ตรวจสอบกำ� ลงั และการวาง ก�ำลังของข้าศกึ ค. เลือกหนทางปฏิบัติ เลือกหนทางท่ีดีท่ีสุดจะสามารถเอาชนะต่อข้าศึก (ยงิ ขม่ และออ้ มผา่ น, ทำ� ลายการยงิ , โจมตบี นยานรบ หรอื ดว้ ยการลงรบเดนิ ดนิ หรอื ถอนตวั ) ง. รายงาน 1) รายงานเหตกุ ารณ์เพ่ิมเตมิ 2) เสนอแนะหนทางปฏบิ ตั ิ การกำ� หนดทต่ี งั้ ขา้ ศกึ ใหก้ บั ฝา่ ยเดยี วกนั ทที่ ำ� หนา้ ทคี่ มุ้ กนั ทราบ และการยงิ สนับสนุน มักจะเป็นปัจจยั ทสี่ �ำคญั ในอนั ทจ่ี ะได้รบั ชยั ชนะอย่างรวดเรว็ เม่อื เกิดการปะทะ อาจใช้กระสุนควัน หรือกระสุนส่องวิถีเป็นเครื่องชี้ต�ำแหน่งของข้าศึก หน่วยท่ีท�ำหน้าที่ คุ้มกันท�ำการยิงไปยังข้าศึกตามการช้ีนำ� จากหน่วยท่ีปะทะ ให้ใช้ควันพรางหน่วยที่อยู่ในท่ี โล่งแจ้ง และใช้เพ่อื บดบังการตรวจการณ์ของข้าศึก 3. เทคนิคการเคลอ่ื นที่ ทหารม้าบรรทุกยานเกราะจะใช้การรบบนยานรบ จนกระท่ังจะเป็นที่จะต้อง ลงรบเดินดินเพ่ือปฏิบัติภารกิจให้ส�ำเร็จ เทคนิคการเคล่ือนที่พื้นฐานคือหมู่เคล่ือนท่ีบน

เสน้ ทางหลกั การรกุ ดว้ ยรปู ขบวนแถวตอน (เคลอื่ นทตี่ ามกนั ) เพอื่ ใหห้ มนู่ ำ� เทา่ นนั้ ทจี่ ะปะทะ เมอื่ เผชญิ กบั ขา้ ศกึ และงา่ ยตอ่ การควบคมุ เทคนคิ ดงั กลา่ วชว่ ยให้ ผบ.มว. สามารถจดั ระยะ ต่อระหว่างหมู่ต่าง ๆ เพ่ือให้การสนับสนุนได้ จะมีการปรับเทคนิคพ้ืนฐานอย่างไร ย่อม แล้วแต่สถานการณ์ในการปะทะในขณะท่ีโอกาสปะทะอาจมีมากข้ึนก็ให้หมู่น�ำเคล่ือนที่ ห่างออกไปมากยิ่งขึ้น และให้หมู่ตามจัดเตรียมที่จะท�ำการยิงและ/หรือด�ำเนินกลยุทธ์ เพ่อื สนบั สนุนหมู่น�ำ โอกาสหรอื ความเปน็ ไปไดใ้ นการปะทะ แบง่ ออกเปน็ 3 ลกั ษณะ ตง้ั แตม่ โี อกาส นอ้ ยทส่ี ดุ จนถงึ มากทส่ี ดุ ไดแ้ ก่ ไมน่ า่ จะมกี ารปะทะ, นา่ จะมกี ารปะทะ และคาดวา่ จะมกี าร ปะทะแน่ ต้องปรบั เทคนิคในการเคลอื่ นทข่ี ัน้ พ้ืนฐาน (รปู ขบวนแถวตอน) เพือ่ ให้เหมาะสม กบั โอกาสในการปะทะ เพอื่ สะดวกตอ่ การอา้ งถงึ เทคนคิ ในการเคลอ่ื นทท่ี ใ่ี ชส้ ำ� หรบั ในแตล่ ะ โอกาสในการปะทะ มดี ังน้ี โอกาสในการปะทะ เทคนคิ ในการเคลอ่ื นที่ 1. ไม่น่าจะมกี ารปะทะ - รูปขบวนเดนิ ทาง 2. น่าจะมกี ารปะทะ - รปู ขบวนเดนิ ทางที่มกี ารระวังป้องกนั 3. คาดว่าจะมกี ารปะทะแน่ - การเคลือ่ นทเ่ี ป็นห้วง ๆ ท่ีมกี ารระวังป้องกนั เห ่ลาทหาร ้มา 55 เทคนิคการเคล่ือนท่ีดังกล่าว ไม่เป็นรูปขบวนตายตัว ระยะห่างระหว่างหมู่ ย่อมเปล่ียนแปลงตามลักษณะภูมิประเทศและทัศนวิสัย ในขณะเคล่ือนที่บนภูมิประเทศ ยากล�ำบาก บริเวณป่ารกทึบ หรือทัศนวิสัยเลวลง ระยะต่อระหว่างหมู่จะต้องลดน้อยลง ด้วย ผบ.หมู่ต่าง ๆ ต้องดำ� รงการตดิ ต่อด้วยสายตากบั หมู่ท่ีอยู่ด้านหลงั หมวดย่อมสามารถ เคลอ่ื นท่ไี ด้ตลอดเวลา โดยการควบคมุ ด้วยทศั นสญั ญาณ ก. รูปขบวนเดนิ ทาง ใช้เทคนิครูปขบวนเดินทาง เมื่อความเร็วไม่เป็นส่ิงสำ� คัญ และการปะทะ ไม่น่าจะเกดิ ข้ึน 1) หมวดปฏบิ ัตกิ ารรบบนยานรบ หมวดเคล่ือนท่ีโดยใช้รูปขบวนแถวตอนและเหล่ือมตามล�ำดับ โดยมี ระยะต่อระหว่าง รสพ. 50 - 100 เมตร ขน้ึ อยู่กบั ภูมปิ ระเทศ เมือ่ การปะทะยงั ไม่น่าจะเกดิ ข้ึนและความเร็วเป็นสิ่งส�ำคัญ ผบ.มว.มักจะไปกับรถน�ำ ซ่ึงจะท�ำให้สามารถควบคุมการ

56 เหลา่ ทหารมา้ เคล่ือนที่ได้ดีที่สุด รอง ผบ.มว.จะอยู่กับรถคันที่สาม ซึ่งท�ำให้สามารถมองเห็น ผบ.มว., รสพ. คันสุดท้าย และช่วยควบคมุ หมู่ปิดท้าย 2) หมวดปฏบิ ตั ิการลงรบเดินดิน โดยปกติจะไม่ใช้บ่อยนกั เพราะเมอ่ื การปะทะไม่น่าจะเกิดข้นึ ก�ำลังพล ในหมวดจะคงอยู่บนยานรบ อย่างไรก็ตาม หมวดทหารม้าบรรทุกยานเกราะอาจได้รับ ภารกิจให้ปฏิบัติการแยกจากยานรบ หมวดจะเคลื่อนท่ีด้วยรูปขบวนแถวตอนโดยใช้ระยะ ต่อประมาณ 20 เมตร เมื่อท�ำการลงรบเดินดินการควบคุมจะกระท�ำได้ยากกว่าการรบ บนยานรบ ผบ.มว.จะเคล่อื นทต่ี ามหมู่น�ำ และ รอง ผบ.มว.จะอยู่กบั ยานรบ หมู่ท่ีมีชุดด�ำเนินกลยุทธ์ชุดเดียวจะเคลื่อนท่ีด้วยรูปขบวนแถวตอน เชน่ เดยี วกนั และมรี ะยะตอ่ หา่ งจากกนั 20 เมตร ผบ.หมตู่ า่ ง ๆ ของชดุ ดำ� เนนิ กลยทุ ธท์ เี่ คลอ่ื นที่ ตามจะเคลื่อนที่น�ำหน้าชุดด�ำเนินกลยุทธ์ของตน เพื่อให้สามารถควบคุมหมู่ของตนได้ดี ยง่ิ ขนึ้ และสามารถมองเหน็ ผบ.มว.ของตนได้ ข. ขบวนเดินทางท่มี ีการระวังป้องกนั ในรปู ขบวนเดนิ ทางทมี่ กี ารระวงั ปอ้ งกนั เมอื่ การปะทะนา่ จะเกดิ ขน้ึ แตไ่ มใ่ ช้ เมื่อการปะทะคาดว่าจะเกิดขึ้นแน่นอน จะต้องใช้ความระมัดระวัง แต่ความเร็วเป็นส่ิงท่ี

พึงประสงค์มากกว่า เทคนิคแบบนี้จะช่วยให้มีเวลาและระยะมากข้ึนในการท่ีจะตอบโต้ เห ่ลาทหาร ้มา 57 ถ้าหมู่น�ำเคลอื่ นทต่ี กเข้าไปอยู่ภายใต้การยงิ ของข้าศึกอย่างไม่คาดฝัน ตัวอย่างต่าง ๆ ทจ่ี ะ กลา่ วถงึ การใชร้ ะยะตอ่ จะเปน็ ระยะตอ่ ทน่ี อ้ ยทส่ี ดุ ในภมู ปิ ระเทศทค่ี อ่ นขา้ งโลง่ แจง้ ถา้ ทา่ น สามารถด�ำรงการควบคุมและสนับสนุนหน่วยน�ำได้ ท่านควรจะเพิ่มระยะต่อให้มากข้ึน แต่ถ้าภูมิประเทศมีความยากล�ำบากมากยิ่งข้ึน หรืออาจเป็นป่ารกทึบมากขึ้นแล้วท่าน จะต้องลดระยะต่อลง 1) หมวดปฏบิ ตั ิการรบบนยานรบ เช่นเดียวกันเมื่อใช้เทคนิคการเคลื่อนท่ีด้วยรูปขบวนเดินทาง หมวด เคลื่อนที่ด้วยรูปขบวนเดินทางที่มีการระวังป้องกัน โดยใช้รูปขบวนแถวตอนด้วยการใช้ เทคนคิ ดงั กลา่ ว ผบ.มว. จะเคลอื่ นทไี่ ปเป็นคนั ทส่ี อง และส่ง 1 หมอู่ อกจาก มว. ไปข้างหน้า 100 - 400 เมตร การเคลอ่ื นท่ีทัง้ หมวดจะต้องเป็นไปอย่างต่อเน่อื ง และใช้ประโยชน์สงู สุด จากการกำ� บงั และซอ่ นพรางทม่ี อี ยู่ หมวดทจี่ ะใชห้ มนู่ ำ� เปน็ ตวั หลกั ในการเคลอ่ื นทอ่ี าจเปลย่ี น อตั ราความเรว็ ตามตอ้ งการ เพอ่ื รกั ษาระยะตอ่ ทเี่ หมาะสม จะตอ้ งดำ� รงการตดิ ตอ่ ดว้ ยสายตา ระหวา่ งหมวดและหมนู่ ำ� หมนู่ ำ� อาจลดความเรว็ ลง ถา้ หมตู่ ามมาไมส่ ามารถดำ� รงการตดิ ตอ่ ดว้ ยสายตาได้ กำ� ลงั พลคนใดคนหนงึ่ บนรถนำ� จะตอ้ งไดร้ บั ใหท้ ำ� หนา้ ทตี่ ดิ ตอ่ ดว้ ยสายตากบั ผบ.มว. ไว้ตลอดเวลา และถ่ายทอดสญั ญาณทไ่ี ด้รับจาก ผบ.มว. ไปให้ ผบ.หมู่ 2) หมวดลงรบเดนิ ดนิ หมนู่ ำ� อยขู่ า้ งหนา้ หมวดอยา่ งนอ้ ย 50 เมตร แตท่ ด่ี คี วรจะอยหู่ า่ งในระยะ 100 เมตร หรือมากกว่านน้ั โดยใช้รูปขบวนรูปลิ่มหรือล่มิ ซ้อน การลงรบเดินดนิ ด้วยขบวน เดนิ ทางทม่ี กี ารระวงั ปอ้ งกนั มกั ไมค่ อ่ ยใชต้ ามทกี่ ลา่ วไวแ้ ลว้ เมอื่ หมวดไมป่ ะทะกจ็ �ำเปน็ ตอ้ ง เคลอ่ื นที่เข้าไปในสนามรบ จะใช้การเคลอื่ นท่ีบนยานรบ นอกจากจะถกู บีบบังคบั ให้ลงรบ เดนิ ดนิ และในเกอื บทกุ กรณที ถ่ี กู บงั คบั ใหล้ งรบเดนิ ดนิ นนั้ สถานการณ์จะบงั คบั ให้ฝา่ ยเรา จ�ำต้องเคลื่อนที่ด้วยความรอบคอบ และเพิ่มความระมัดระวังมากย่ิงข้ึน ด้วยเทคนิคที่จะ กล่าวต่อไปน้ี ค. การเคล่ือนท่ที เ่ี ป็นห้วง ๆ ท่มี กี ารระวงั ป้องกัน จะใชก้ ารเคลอื่ นทแี่ บบนเ้ี มอื่ คาดวา่ จะปะทะกบั ขา้ ศกึ อยา่ งแนน่ อน ซง่ึ นบั วา่ เป็นวิธีการเคลื่อนท่ีรอบคอบและระมัดระวังมากที่สุด การระวังป้องกันจะช่วยคุ้มกันการ

58 เหลา่ ทหารมา้ เคล่ือนทไ่ี ปข้างหน้าของหน่วยเคลอ่ื นท่จี ากท่ีม่นั ท่มี ีการก�ำบงั และซ่อนพราง ซ่งึ จะสามารถ ตรวจการณแ์ ละยงิ ไปยงั ขา้ ศกึ ทขี่ ดั ขวางการเคลอ่ื นทข่ี องหนว่ ยเคลอ่ื นทข่ี องฝา่ ยเราไดท้ นั ที ถ้าหน่วยเคล่ือนท่ีน�ำปะทะกับข้าศึกส่วนน�ำเคลื่อนท่ีตรงไปยังท่ีมั่นแห่งหน่ึงขณะท่ีได้รับ การคมุ้ กนั จากหนว่ ยทท่ี ำ� หนา้ ทร่ี ะวงั ปอ้ งกนั เมอ่ื ไปถงึ ทม่ี น่ั แหง่ ใหมแ่ ลว้ กต็ อ้ งยดึ ทมี่ น่ั แหง่ นนั้ ไว้ เพอ่ื ใหส้ ว่ นระวงั ปอ้ งกนั สามารถเคลอื่ นทต่ี อ่ ไปยงั ทม่ี นั่ ถดั ไปได้ ระยะของทมี่ น่ั แตล่ ะแหง่ ย่อมขึ้นอยู่กบั ระยะหวงั ผลของอาวธุ และพน้ื การยิงของส่วนระวังป้องกัน 1) หมวดปฏบิ ัตกิ ารรบบนยานรบ เมอ่ื หมวดปฏบิ ตั กิ ารรบบนยานรบโดยใชก้ ารเคลอื่ นทเ่ี ปน็ หว้ ง ๆ ทมี่ กี าร ระวังป้องกันหนึ่งหมู่จะเป็นส่วนเคล่ือนท่ี และส่วนที่เหลือของหมวดจะทำ� หน้าที่ส่วนระวัง ป้องกนั ทำ� การคุ้มกนั จากทมี่ ั่นแห่งหน่ึง หมู่นำ� เคลื่อนท่ีไปยงั ทมี่ ัน่ แห่งใหม่ และยดึ รักษาไว้ เพื่อให้ส่วนท่ีเหลือของหมวดสามารถเคลื่อนที่ตามมาได้ เม่ือหมู่น�ำถึงท่ีมั่นแห่งใหม่ จะให้ก�ำลังพลลงรบเดินดินเท่าท่ีจ�ำเป็นเพ่ือการคุ้มกันเท่าน้ัน ถ้าที่ตั้งเป็นท่ีค่อนข้างโล่ง กำ� ลงั พลของหมนู่ ำ� อาจตอ้ งลงรบเดนิ ดนิ มากขน้ึ เพอ่ื รกั ษาพนื้ ทนี่ นั้ ไว้ ในขณะสว่ นทเ่ี คลอื่ นท่ี กำ� ลงั เคลอ่ื นทเ่ี ขา้ สทู่ มี่ นั่ แหง่ ใหมน่ น้ั กำ� ลงั พลทกุ นายบนรถจะตอ้ งยนื ประจำ� ตรงฝาปดิ หอ้ ง บรรทกุ และตอ้ งไดร้ บั การมอบเขตการตรวจการณ์ ในทนั ทที ยี่ ดึ ทม่ี นั่ แหง่ ใหมไ่ ด้ สว่ นทเี่ หลอื ของหมวดจะเคล่อื นท่ีตามมา และการปฏบิ ตั ติ ่าง ๆ กค็ งเป็นไปเช่นเดิมเรอ่ื ยไป 2) หมวดปฏบิ ตั กิ ารลงรบเดนิ ดนิ จะใช้การเคล่ือนท่ีแบบนี้เม่ือคาดว่าจะปะทะกับข้าศึกแน่นอน เมื่อภูมิประเทศไม่เอื้ออำ� นวยให้การเคลื่อนท่ีบนยานรบหรือเมื่อต้องปฏิบัติการจากยานรบ การเคลอ่ื นทแี่ บบนเ้ี หมอื นกบั การเคลอื่ นทบ่ี นยานรบเปน็ หว้ ง ๆ ทมี่ กี ารระวงั ปอ้ งกนั แตร่ ะยะ ในแตล่ ะหว้ ง ๆ ลดลงเนอื่ งจากภมู ปิ ระเทศจำ� กดั ขดี ความสามารถของหนว่ ยระวงั ปอ้ งกนั ใน อนั ทจ่ี ะด�ำเนนิ กลยทุ ธ์ เพ่อื สนับสนนุ ให้กับหน่วยท่เี คล่อื นที่น�ำในเมื่อปะทะกับข้าศึก 3) ค�ำสั่งในการเคลื่อนท่ีเป็นห้วง ๆ ที่มีการระวังป้องกันก่อนท่ีจะใช้การ เคลอ่ื นทเี่ ปน็ หว้ ง ๆ ทมี่ กี ารระวงั ปอ้ งกนั จะตอ้ งแนใ่ จวา่ หนว่ ยเคลอ่ื นทแ่ี ละหนว่ ยระวงั ปอ้ งกนั ทราบวา่ กำ� ลงั จะทำ� อะไร ตอ้ งออกคำ� สง่ั ใหช้ ดั เจนสมบรู ณใ์ หก้ บั หนว่ ยเคลอื่ นทนี่ ำ� และหนว่ ย ระวังป้องกัน ณ ที่มั่นที่จะใช้ในการคุ้มกัน จะต้องแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาหน่วยรองทราบ ในเร่ือง

ก) ท่ีม่ันทจ่ี ะใช้ในการระวงั ป้องกันแห่งต่อไป เห ่ลาทหาร ้มา 59 ข) เส้นทางของส่วนทเ่ี คลอ่ื นท่จี ะใช้ในการเคลื่อนท่ไี ปยงั ท่มี น่ั ค) ที่มั่นของส่วนระวงั ป้องกนั ง) หมวดจะท�ำอะไรหลังจากส่วนเคล่ือนท่ีน�ำเคล่ือนที่ไปยังที่มั่น แห่งใหม่แล้วส�ำหรับ มว. และหมู่ท่ีได้รับการฝึกมาอย่างดีแล้ว ผบ.มว.สามารถควบคุม หนว่ ยทใ่ี ชใ้ นการเคลอ่ื นทเี่ ปน็ หว้ ง ๆ ทมี่ กี ารระวงั ปอ้ งกนั ไดโ้ ดยการชแี้ นะและทศั นสญั ญาณ 4. การปฏิบัติในขณะท่ถี กู ยงิ ด้วยอาวธุ ตอ่ สรู้ ถถัง ก. ลกั ษณะของอาวุธต่อสู้รถถังชนดิ ต่าง ๆ 1) จรวดนำ� วิถตี ่อสู้รถถัง ก) ลักษณะดเี ด่น - มีความแม่นยำ� ในระยะไกล - มีอ�ำนาจการทำ� ลายสูง - สะดวกในการเคล่อื นย้าย - เช่อื ถอื ได้แน่นอน - สามารถควบคมุ การยงิ ได้จากระยะไกล - พลยิงสามารถทำ� การยิงได้ในขณะท่ีอยู่ห่างจากตัวเคร่ืองยิงจรวด แซกเกอร์ในระยะ 0 - 15 เมตร และอยู่ห่างจากรถลำ� เลยี งพลที่ตดิ ตั้งจรวด 80 เมตร ข) จดุ อ่อน - พลยงิ ต้องได้รบั การฝึกฝนมาเป็นอย่างดี - ขีดจำ� กัดเก่ียวกบั ระยะยงิ ใกล้สุด (ประมาณ 500 เมตร) - จรวดมีความเรว็ ต�่ำ (30 + วนิ าที ในระยะ 3,000 เมตร) - ต้องสามารถเห็นเป้าหมายได้ตลอดเวลา โดยไม่มีส่ิงกีดขวาง ระหว่างพลยงิ และเป้าหมาย - ไม่สามารถเลง็ เกาะเป้าหมายทีก่ �ำลังเคลอื่ นท่ไี ปมาได้ - จรวดแซกเกอร์มีควันพุ่งจากท้ายจรวด

60 เหลา่ ทหารมา้ - พลยิงนับเป็นจุดอ่อนท่ีส�ำคัญของระบบเคร่ืองยิงจรวดต่อสู้รถถัง แบบน้ี ซ่งึ ถ้าท่านสามารถสงั หารหรอื ยิงข่มพลยิงได้ พลยิงกไ็ ม่สามารถยงิ ท่านถูก 2) ปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลงั และปืนต่อสู้รถถัง ฝ่ายข้าศึกใช้ปืนต่อสู้รถถังและปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลังหลายชนิด ปืนใหญ่เกอื บทุกชนิดสามารถท�ำการยงิ เลง็ ตรงเพ่ือท�ำลาย ถ. ได้ ปืนต่อสู้ ถ. ไม่มคี วันทาง ทา้ ยลกู กระสนุ เหมอื นจรวดนำ� วถิ ตี อ่ สรู้ ถถงั แตว่ า่ จะมสี ง่ิ บอกเหตบุ างประการในขณะทำ� การ ยงิ ไดแ้ ก่ แสงจากเปลวไฟ, ควนั และฝนุ่ สงั เกตเหน็ ไดง้ า่ ยปนื ไรแ้ รงสะทอ้ นถอยหลงั มสี ง่ิ บอก เหตไุ ด้ง่ายกว่า ปตถ. ปืนต่อสู้รถถงั มักอยู่ในท่ตี งั้ ยิงทข่ี ุดหลมุ แต่จะไม่มีทกี่ ำ� บงั เหนอื ศรี ษะ 3) รถถัง รถถังข้าศึกและรถล�ำเลียงพลท่ีติดต้ังปืนต่อสู้รถถังอาจอยู่ในที่ยิงก�ำบัง ล�ำตัวแม้ว่าจะเป็นเกราะป้องกัน แต่ก็อาจถูกยิงข่มได้ง่าย โดยการยิงไปยังบริเวณใกล้ ๆ บริเวณท่ีตั้งยิงของรถเหล่านี้เพราะฝุ่นและควันจะบดบังการมองเห็น ซ่ึงท�ำให้ไม่สามารถ มองเห็นเป้าหมายทจ่ี ะท�ำการยิงได้ ข. เทคนิคบางประการที่จะช่วยให้ท�ำลายเคร่ืองยิงจรวดต่อสู้รถถังและอาวุธ ต่อสู้รถถงั อน่ื ๆ 1) ทำ� การตอบโตแ้ ละยงิ ขม่ ทหารทกุ นายตอ้ งคอยเฝา้ ตรวจเพอื่ คน้ หาอาวธุ ต่อสู้รถถังของข้าศึกตลอดเวลา ถ้าสามารถตรวจพบต้องแจ้งเตือนทันที หลังจากน้ัน ให้ทำ� การยิงไปยงั บริเวณหรอื ต�ำแหน่งทตี่ งั้ ยิง เพอื่ ให้พลยิงข้าศกึ รู้สึกต่นื ตระหนก ยังผลให้ สามารถให้พลขบั รถล�ำเลยี งพลหลบหนที ันที 2) ทำ� การหลบหลกี อย่างรวดเรว็ หรือหลบเข้าทก่ี �ำบัง - เคลื่อนท่เี ข้าหาท่ีกำ� บงั ทันที - เคลื่อนท่ีซิกแซกท�ำมุมกับทิศทางที่ลูกจรวดว่ิง ถ้าอยู่ในท่ีโล่งแจ้งให้ เปล่ยี นความเรว็ จากเรว็ ไปช้า - เล้ียวซ้ายหรือขวาอย่างรวดเร็วในวินาทีสุดท้ายก่อนท่ีลูกจรวดจะเข้า มาถงึ 3) ใช้การยิงสนับสนุนท�ำลายข้าศึก ผบ.มว. ควรร้องขอการยิงเล็งจ�ำลอง เพ่ือระดมยิงไปยังที่ม่ันข้าศึกและสั่งให้หน่วยระวังป้องกันท�ำการยิง ถ้าหน่วยระวังป้องกัน

ไมท่ ราบทตี่ ง้ั ทแ่ี นน่ อนของขา้ ศกึ กค็ วรใชค้ วนั เพอ่ื ใหเ้ กดิ การบดบงั ขน้ึ ระหวา่ งหมวดของตน เห ่ลาทหาร ้มา 61 และท่ีต้ังของข้าศึก แต่ต้องระลึกเสมอว่าเมื่อใช้ควันเพ่ือบดบังมิให้ข้าศึกเห็นเรา ฝ่ายเรา กจ็ ะมองไม่เหน็ ข้าศึกเช่นกนั 5. สิง่ ทต่ี อ้ งปฏิบัตเิ ม่ือมีการปะทะ เมื่อกองร้อยหรอื กองร้อยชุดรบปะทะข้าศกึ การปฏิบตั ติ ่าง ๆ ของหมวดย่อม แตกต่างกันและข้ึนอยู่กับบทบาทของหมวดที่ได้รับขณะเคลื่อนที่เมื่อมีการปะทะ หมวด อาจจะปฏบิ ัตดิ งั ต่อไปน้ี ก. คุ้มกันให้กับรถถังท่ีปะทะ ภารกิจเช่นน้ีจะต้องปฏิบัติบ่อยครั้ง เน่ืองจาก รถถงั จะเคลอ่ื นทนี่ ำ� ในกรณที ใ่ี ชก้ ารเคลอ่ื นทเี่ ปน็ หว้ ง ๆ หรอื ขบวนเดนิ ทางทมี่ กี ารระวงั ปอ้ งกนั 1) เมื่อใช้การเคลอ่ื นที่เป็นห้วง ๆ ทม่ี ีการระวังป้องกนั เมื่อกองร้อยชดุ รบ เคลอื่ นทเ่ี ข้าปะทะจะใช้การเคล่อื นทีแ่ บบนเ้ี มือ่ คาดว่าจะมกี ารปะทะกับข้าศกึ เม่ือปะทะกับข้าศึกหน่วยระวังป้องกันยิงข่มข้าศึกทันทีเพื่อคุ้มกันให้กับ หมวดทก่ี �ำลงั เคลื่อนท่ี อาจต้องเคลอื่ น รสพ.เข้าประจำ� ทีต่ ัง้ แห่งใหม่เพ่อื ให้สามารถท�ำการ ยงิ อย่างได้ผลมากข้นึ เมื่อผู้บังคับหมวดของหน่วยเคลื่อนที่ อาจติดพันอยู่กับการหลบหลีก จากการยงิ ของขา้ ศกึ การจดั รปู ขบวนรบและการยงิ โตต้ อบกบั ขา้ ศกึ ฉะนนั้ ถา้ หากวา่ ผบ.มว. ไม่ร้องขอการยิงสนับสนุนหรือยิงเล็งจ�ำลอง และถ้า ผบ.ร้อย.ชุดรบก็ไม่สามารถจะท�ำได้ เช่นกัน ผบ.มว.ท่ีท�ำหน้าที่ระวังป้องกันหรือตรวจการณ์หน้า จะต้องเป็นผู้ร้องขอการยิง สนับสนุนด้วยการยิงเล็งจ�ำลองแทน และอาจจะต้องท�ำหน้าที่รายงานสถานการณ์ตามที่ ทราบไปยงั ผู้บงั คับกองร้อยชดุ รบ ถ้ารถถังถูกยิงด้วยอาวุธต่อสู้รถถัง รสพ.ท�ำหน้าท่ีระวังป้องกันอยู่น้ัน ต้องยิงตอบโต้ทันที และเคล่ือนที่ไปยังตำ� บลท่ีสามารถท�ำการยิงคุ้มกันได้ดีกว่า เม่ือพล ประจำ� รถลำ� เลยี งพลสามารถตรวจพลปนื ตอ่ สรู้ ถถงั ของขา้ ศกึ จรวดแซกเกอรท์ ที่ �ำการยงิ มา หรือพร้อมท่ีจะท�ำการยิงมายัง ถ.ฝ่ายเรา ให้แจ้งเตือนและท�ำการยิงไปยังบริเวณท่ี ลกู จรวดวง่ิ ออกมา โดยสงั เกตเหน็ ควันจากท้ายจรวดหรอื แสงไฟจากปืนสำ� หรบั รถคนั อน่ื ๆ ให้ยิงไปทางซ้ายหรือขวาระยะประมาณ 100 เมตร จากบริเวณท่ีต้ังปืนใหญ่ต่อสู้รถถัง

62 เหลา่ ทหารมา้ ซง่ึ โดยปกตริ ถทางซา้ ยจะยงิ ไปทางซา้ ย และรถถงั คนั ขวาจะยงิ ไปทางขวาของทห่ี มายการยงิ ดังกล่าวเป็นการกระจายการยิงอย่างรวดเร็ว และเป็นการเพิ่มโอกาสในการข่มพลยิงของ ข้าศกึ ต่อจากน้นั ผบ.มว.จะเป็นผู้ปรบั การกระจายการยิงตามความจ�ำเป็น ถ้าตรวจพบรถถังหรืออาวุธต่อสู้รถถังซึ่งยังไม่เห็นฝ่ายเรา ให้แจ้งเตือน หน่วย โดยใชก้ ารตดิ ต่อสอ่ื สารของหมวด หรอื ของกองรอ้ ยชดุ รบ ถา้ หม่ใู ดหมหู่ นงึ่ ตรวจพบ รถถังข้าศึก ให้หมู่นั้นแจ้งเตือนและยิงด้วยจรวดดรากอนและ ปก. ถ้าอยู่ในระยะท่ี ปก. ไม่อาจสามารถท�ำลายรถถังได้แต่จะเป็นการช้ีให้จรวดดรากอน, จรวดโทว์ และรถถัง ฝา่ ยเดยี วกนั ทราบ และยงิ ทำ� ลายตอ่ ไป การปฏบิ ตั ดิ งั กลา่ วมกั จะเปน็ บทบาทของ ปก. ในการ รบดว้ ยวธิ รี กุ อยเู่ สมอ ๆ เนอื่ งจากมกี ระสนุ สอ่ งวถิ ี แตก่ ระสนุ สอ่ งวถิ เี ปน็ เครอื่ งชท้ี อี่ ยขู่ องตน ให้ข้าศึกทราบเช่นกัน ฉะน้ันในการปฏิบัติหน้าท่ีคุ้มกันจึงควรเลือกที่ม่ันท่ีมีการก�ำบังและ การซ่อนพรางอย่างดี 2) การเคล่อื นทด่ี ้วยรปู ขบวนเดนิ ทางมีการระวงั ป้องกัน เม่อื กองร้อยชดุ รบใช้รปู ขบวนน้ี ทหารม้าบรรทกุ ยานเกราะมกั เป็นฝ่าย ตามหมวดรถถังถ้าข้าศึกยิงมายังหมวดน�ำ หมวดท่ีระวังป้องกันจะต้องกระจายก�ำลัง เขา้ ทต่ี ง้ั ยงิ ทใ่ี หก้ ารกำ� บงั อยา่ งรวดเรว็ และทำ� การยงิ โตต้ อบ จงหลกี เลยี่ งอยา่ เขา้ ไปในพน้ื ทที่ ่ี ขา้ ศกึ สามารถจะทำ� การระดมยงิ มาได้ หมวดทหารมา้ บรรทกุ ยานเกราะอาจตอ้ งลงรบเดนิ ดนิ เพ่ือลดความล่อแหลมและอันตรายจากการถูกยิงด้วยอาวุธต่อสู้รถถัง หรือเพ่ือเพิ่มการ ยิงสนับสนุนให้กับหมวดน�ำ ส�ำหรับหมวดตามให้เคลื่อนท่ีเข้าหาท่ีก�ำบังและคอยฟังค�ำส่ัง จากผู้บงั คบั กองร้อยชุดรบ ซงึ่ อาจได้รับคำ� ส่ังให้ทำ� การยงิ และ/หรอื ดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ต่อข้าศึก ข. ใช้การลงรบเดินดนิ เคล่อื นทน่ี �ำ เม่ือกองร้อยชุดรบเคล่ือนที่เข้าปะทะ อาจใช้ทหารม้าบรรทุกยานเกราะ ลงรบเดนิ ดนิ เคลอื่ นทนี่ ำ� เพอื่ ตรวจคน้ และกวาดลา้ งเครอ่ื งกดี ขวางตา่ ง ๆ ซง่ึ อาจตอ้ งเคลอื่ นท่ี ผ่านพ้ืนท่ีช่องทางบังคับหรือบริเวณที่เป็นอาคาร ในเมื่อคาดว่าอาจจะมีการปะทะ หรือ คาดว่าจะต้องมกี ารปะทะแน่ เมื่อทหารม้าบรรทุกยานเกราะเคลื่อนท่ีด้วยการลงรบเดินดิน ให้ใช้การ เคล่ือนท่ีเป็นห้วง ๆ ที่มีการระวังป้องกัน หรือแบบการเดินทางที่มีการระวังป้องกัน ชดุ ยานรบจะอยู่ ณ ตำ� บลทค่ี มุ้ กนั ชดุ ดำ� เนนิ กลยทุ ธใ์ นขณะทชี่ ดุ ดำ� เนนิ กลยทุ ธร์ กุ ไปขา้ งหนา้

ถ้าเคลื่อนท่ีเป็นไปอย่างถูกต้องเหมาะสมแล้ว เฉพาะชุดด�ำเนินกลยุทธ์ เห ่ลาทหาร ้มา 63 ที่ก�ำลังเคลื่อนที่น�ำเท่านั้นที่อาจถูกยิงในเบ้ืองต้น ชุดด�ำเนินกลยุทธ์อาจเข้าที่ก�ำบังและ ยิงโต้ตอบ ซึ่งถ้าจ�ำเป็นชุดด�ำเนินกลยุทธ์ที่ท�ำหน้าที่คุ้มกันก็อาจเข้าด�ำเนินกลยุทธ์ทาง ด้านหน้า หรอื ด้านปีกท่ีสามารถให้การสนบั สนุนได้ด้วยการยิง แต่ชุดท่ที ำ� หน้าทคี่ ุ้มกันต้อง หลีกเล่ียงท่ีจะไม่เข้าไปในพ้ืนท่ีที่มีข้าศึกสามารถยิงตรึงไว้ได้ในบริเวณท่ีชุดดำ� เนินกลยุทธ์ ซ่ึงเป็นชุดน�ำถูกตรึงอยู่ผู้บังคับหมู่ของชุดด�ำเนินกลยุทธ์ ซ่ึงเป็นชุดน�ำเมื่อปะทะกับข้าศึก ให้เป็นผู้รายงานไปยงั ผบ.มว.ทนั ที การรายงานประกอบด้วย - กำ� ลังและการวางกำ� ลงั ของข้าศึก - การสูญเสยี ของฝ่ายเราและการปฏิบตั ิ ถา้ ชดุ ดำ� เนนิ กลยทุ ธท์ เ่ี ปน็ ชดุ นำ� พบขา้ ศกึ แตข่ า้ ศกึ ยงั ไมร่ ตู้ วั และชดุ ดำ� เนนิ กลยทุ ธค์ าดวา่ ไมส่ ามารถตรงึ ขา้ ศกึ นไ้ี วไ้ ดแ้ ลว้ กใ็ หว้ างก�ำลงั และรายงานโดยไมใ่ หข้ า้ ศกึ รตู้ วั แต่เพือ่ ให้แน่ใจว่าถ้าฝ่ายเราไม่เข้าปฏบิ ัติการโจมตกี ่อนแล้ว ข้าศึกอาจเป็นฝ่ายยิงเราก่อน หรือหลบหนีไปได้ ก็ให้ท�ำการยิงไปยังข้าศึก การปฏิบัติอย่างฉับพลันนับเป็นหัวใจส�ำคัญ ในอันทีจ่ ะได้รบั ชยั ชนะ การรบปะทะแบบนฝ้ี ่ายที่ทำ� การยิงได้ก่อนและดำ� รงความกดดันไว้ กจ็ ะเป็นฝ่ายชนะเสมอ ชดุ ดำ� เนนิ กลยทุ ธท์ เ่ี คลอื่ นทตี่ ามและทำ� หนา้ ทค่ี มุ้ กนั โดยปกตแิ ลว้ จะคมุ้ กนั การ เคล่อื นทีใ่ ห้กบั หมู่น�ำเม่อื มกี ารปะทะก็จะจัดรูปขบวน และทำ� การยงิ โต้ตอบทนั ที ชดุ ยานรบทท่ี �ำหน้าท่ปี ้องกันให้กบั ชุดด�ำเนนิ กลยทุ ธ์ท่ีลงรบเดินดนิ ชดุ ยานรบ จะต้องทราบต�ำแหน่งท่ีอยู่ของชุดด�ำเนินกลยุทธ์ตลอดเวลา เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดและ ยิงกันเอง เมื่อปะทะกับข้าศึก หน้าที่หลักของชุดยานรบคือ ข่มหรือท�ำลายอาวุธยิงของ ข้าศึกท่ีน่าจะเป็นอันตรายต่อชุดด�ำเนินกลยุทธ์มากที่สุดอาวุธรถถังและเคร่ืองยิงจรวดโทว์ ต้องท�ำการยิงรถถัง และยานยนต์หุ้มเกราะของข้าศึก ผู้บังคับหมวดรายงานสถานการณ์ ไปยังผู้บังคับกองร้อยชุดรบ และเคล่ือนที่ตรงไปยังบริเวณที่สามารถเห็นเหตุการณ์รบได้ ซึ่งถ้ากระทำ� ได้ก็จะร้องขอการยงิ เลง็ จ�ำลองไปยังข้าศึก ผบ.มว. สงั่ ให้หมู่ต่าง ๆ ท่ีเคลอ่ื นท่ี ตามให้เคล่ือนท่ีไปยังต�ำบลที่สามารถยิงข้าศึกได้ และเป็นผู้ชี้เป้าให้รถถังหรือรถล�ำเลียง พลและรถติดต้ังจรวดโทว์ท่ีท�ำการยิงระดับการต้านทาน และอ�ำนาจการยิงของข้าศึกจะมี ผลกระทบต่อข้อเสนอแนะของ ผบ.มว. ในเรอ่ื งการปฏบิ ตั ขิ ้ันต่อไป ทเ่ี สนอแนะต่อผู้บังคบั

64 เหลา่ ทหารมา้ กองร้อยชุดรบ ถ้าการต้านทานของข้าศึกเบาบาง ผบ.มว.อาจเสนอแนะให้หมวดของตน เข้าโจมตีท�ำลายการต้านทานนั้น ซึ่งปกติแล้ว ผบ.มว.จะไม่เข้าท�ำลายข้าศึกโดยได้รับ การอนมุ ตั จิ ากผบู้ งั คบั กองรอ้ ยชดุ รบ ถา้ การตา้ นทานของขา้ ศกึ ไมน่ า่ จะกอ่ ใหเ้ กดิ การคกุ คาม มากนัก และมีเส้นทางอ้อมผ่าน ผบ.มว.อาจเสนอแนะให้กองร้อยชุดรบอ้อมผ่านข้าศึก แต่ถ้าข้าศึกมีการต้านทานแข็งแรง ผบ.มว.ต้องรายงานให้ผู้บังคับกองร้อยชุดรบทราบว่า หมวดไม่สามารถท�ำลายการต้านทานนัน้ ๆ ได้ ค. ปฏบิ ตั ิการรบบนยานรบและเคลอ่ื นทน่ี �ำ เม่ือหมู่เคล่ือนท่ีน�ำถูกยิง จะต้องปฏิบัติการหลาย ๆ อย่างพร้อมกันทันที พลปืนกลและผู้ที่อยู่ตรงช่องฝาปิด-เปิดห้องบรรทุก จะต้องท�ำการยิงโต้ตอบทันที พลขับ ต้องนำ� รถเขา้ ทกี่ ำ� บงั และ ผบ.หมรู่ ายงานให้ ผบ.มว.ทราบถา้ รสพ. ถกู ยงิ ด้วยปืนต่อส้รู ถถงั ในขนั้ แรกต้องหลบเข้าทก่ี �ำบงั ก่อน แล้วจึงค่อยหาทต่ี งั้ ยิงภายหลงั ถา้ พบขา้ ศกึ กลมุ่ ยอ่ ย ๆ เชน่ ทตี่ รวจการณข์ า้ ศกึ ผบ.มว. (หลงั จากขออนมุ ตั ิ เข้าโจมตีจากผู้บังคับกองร้อยชุดรบแล้ว) อาจสั่งให้หมู่น�ำเข้าโจมตี ผบ.หมู่ก็จะหาท่ีต้ังยิง เพอ่ื ให้สามารถยงิ ท�ำลายข้าศกึ ถ้าไม่สามารถใช้รถถงั เข้าทำ� ลายข้าศึกได้ กอ็ าจใช้วิธกี ารลงรบเดนิ ดนิ ซึง่ ชุดยานพาหนะต้องท�ำหน้าท่ีระวังป้องกันให้ และต้องเคลื่อนที่จากที่ต้ังยิงแห่งหนึ่งไปยัง อกี แห่งหนง่ึ เพือ่ หลกี เล่ยี งการยงิ จากข้าศกึ ในการยงิ สนับสนุนให้กบั ชุดด�ำเนินกลยุทธ์ ผบู้ งั คบั หมวดในระหวา่ งทปี่ ฏบิ ตั กิ ารลงรบเดนิ ดนิ อยนู่ น้ั ผบ.มว. จะเคลอ่ื นที่ ไป ณ ตำ� บลทส่ี ามารถควบคมุ และรวมอ�ำนาจการยงิ ไปยงั ข้าศกึ ได้สะดวก และพิจารณา ระดับความต้านทานของข้าศึก ต่อจากน้ันก็เสนอแนะหนทางปฏิบัติต่อผู้บังคับกองร้อย ชุดรบ 6. การเข้าประชดิ และทำ�ลายข้าศึก ทันทีที่ปะทะกับข้าศึก หมวดอาจได้รับค�ำส่ังให้เข้าประชิดและท�ำลายข้าศึก หมวดอาจต้องปฏิบัติตามการตกลงใจของผู้บังคับชุดรบ ซึ่งอาจปฏิบัติได้ 3 แบบ คือ เข้าประชดิ ด้วยการรบบนยานรบและลงรบเดนิ ดนิ เมอ่ื ถงึ หรอื เข้าใกล้ทมี่ นั่ ข้าศกึ และลงรบ เดินดิน ตลอดจนกระทง่ั เข้าท�ำลายข้าศกึ ได้

คำ� วา่ “เขา้ ประชดิ ขา้ ศกึ ” หมายถงึ วธิ กี ารปฏบิ ตั ขิ องหมวด หรอื กองรอ้ ยชดุ รบ เห ่ลาทหาร ้มา 65 ตั้งแต่จุดปะทะกับข้าศึกจนถึงบริเวณที่ข้าศึกอยู่ มิได้หมายความว่าเข้าประจัญบานต่อ ท่ีม่ันข้าศกึ โดยตรง ถ้าท�ำได้ หน่วยต่าง ๆ จะเข้าประชดิ ข้าศกึ ด้วยการด�ำเนนิ กลยทุ ธ์ พยายามใช้ การกำ� บงั และซอ่ นพรางทมี่ อี ยใู่ หเ้ กดิ ประโยชนม์ ากทส่ี ดุ สำ� หรบั การปฏบิ ตั บิ นยานรบ ใหใ้ ช้ รถถังน�ำและให้ทหารม้าบรรทุกยานเกราะเคล่ือนที่ตาม และยังคงอยู่บนยานรบในขณะท่ี เข้าประชิดข้าศึก นอกจากมีเหตุจ�ำเป็นอ่ืน ๆ ที่ท�ำให้ต้องลงรบเดินดิน ทหารม้าบรรทุก ยานเกราะอาจถูกบังคับให้ลงรบเดินดินจากเครื่องกีดขวางหรือภูมิประเทศหรือจากการยิง ของข้าศกึ แต่ต้องได้รับค�ำสัง่ จากผู้บงั คับกองร้อยชดุ รบก่อน หรอื ในบางกรณี รสพ.ใช้การ ไม่ได้เท่านน้ั ถ้าข้าศึกสามารถยิงท�ำลายหมวดได้ด้วยอาวุธต่อสู้รถถังแล้ว หมายความว่า ข้าศึกต้องเห็นและสามารถเล็งเกราะ รสพ.ได้ ดังน้ันถ้าจะเข้าประชิดข้าศึกด้วยการรบ บนยานรบแล้ว จะต้องใช้เส้นทางทใ่ี ห้การก�ำบัง ก. การเขา้ ประชดิ ดว้ ยการรบบนยานรบและปฏบิ ตั กิ ารรบบนยานรบจนกระทง่ั ข้ามทห่ี มาย ผบู้ งั คบั กองรอ้ ยชดุ รบอาจใชว้ ธิ นี ี้ เมอื่ หมวดเปน็ สว่ นหนงึ่ ของกองรอ้ ยชดุ รบ รถถังและทหารม้าบรรทกุ ยานเกราะ และเมอ่ื - การต้านทานของข้าศกึ เบาบาง - สามารถทำ� ลาย หรอื ข่มอาวธุ ต่อสู้รถถังข้าศกึ ได้ - ภมู ปิ ระเทศอ�ำนวยให้สามารถเคลอื่ นทไี่ ดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ไปจนถงึ และผา่ น ท่มี ั่นของข้าศกึ ได้ รถถังเคลอ่ื นท่นี �ำจะทำ� การยงิ อย่างรนุ แรงไปยงั ที่มั่นข้าศึก ทหารม้าบรรทุก ยานเกราะทำ� การรบบนยานรบเคล่อื นทต่ี ามรถถงั และทำ� การยงิ ข่มไปยงั บริเวณท่สี งสัยว่า จะเป็นท่ตี ัง้ ของอาวุธต่อสู้รถถงั ผบู้ งั คบั หมวดทหารมา้ บรรทกุ ยานเกราะ รกั ษาระยะห่างจากรถถงั ให้อย่ใู น ระยะที่สามารถท�ำการยิงไปทางปีกและทางด้านหลังของรถถังได้ แต่จะไม่อยู่ในระยะที่ ชดิ กนั จนเกนิ ไป เพอื่ มใิ หไ้ ดร้ บั อนั ตรายจากการยงิ รว่ มกนั กบั รถถงั ภารกจิ หลกั ของหมวด คอื

66 เหลา่ ทหารมา้ ป้องกันให้รถถัง หมวดอาจเคลื่อนท่ีตามรถถังด้วยรูปขบวนแถวตอนหรือ รปู ขบวนหน้ากระดานกไ็ ด้ ทงั้ นี้ขนึ้ อยู่กับลกั ษณะภมู ิประเทศ 1) หมวดทหารม้าบรรทุกยานเกราะเคลื่อนท่ีตามรถถังด้วยรูปขบวน หน้ากระดานจะใช้วิธีนี้เมื่อภมู ิประเทศอ�ำนวยให้ รสพ.สามารถเคล่ือนท่ีตามรถถังได้ และ ผบ.มว.สามารถมองเหน็ รสพ.ภายในหมวดไดท้ ง้ั หมด รสพ. ของ ผบ.มว. ถอื วา่ เปน็ รถหลกั ที่ คันอื่น ๆ ต้องปฏิบัตติ ามขณะเคล่อื นที่ ผบ.มว.เป็นผู้สั่งการให้ รสพ.คันหน่ึงคนั ใดเคลอื่ นที่ ตามรถถังทก่ี �ำหนด รสพ.คนั ท่ีอยู่ทางปีก ต้องระวงั ป้องกนั ปีกให้กับกองร้อยชดุ รบได้ ผบ.หมู่ แตล่ ะนายมหี นา้ ทค่ี วบคมุ การเคลอ่ื นทขี่ องรถตนเองและควบคมุ การยงิ ของหมตู่ น ผบ.หมู่ จะใหร้ ถของตนเคลอื่ นทตี่ ามรอยสายพานของรถถงั คนั ทเี่ คลอ่ื นที่ นำ� หนา้ ตน และคอยดู รสพ.คนั ของ ผบ.มว. เพอื่ ดวู า่ ควรจะอยหู่ า่ งจากรถถงั มากนอ้ ยเพยี งไร ถ้า ผบ.หมู่ มองไม่เหน็ ผบ.มว. กใ็ ห้เคลอ่ื นทีช่ ดิ กบั รถถังคนั ทน่ี ำ� หน้าตนในระยะพอสมควร ท่ีจะสามารถยิงสนับสนุนได้ ถ้ารถถังหยุดเพื่อท�ำการยิงปืนใหญ่ รสพ.ท่ีเคล่ือนที่ตามอยู่ นั้นต้องชะลอความเร็วจนกระท่ังรถถังเริ่มเคลื่อนที่ใหม่ ถ้ารถถังคนน�ำถูกยิงใช้การไม่ได้ กใ็ ห้ รสพ.เคลอ่ื นทต่ี ามรถถงั คนั อน่ื ตอ่ ไป อาวธุ ปนื เลก็ ยงิ จากฝาปดิ หอ้ งบรรทกุ ใหท้ �ำการยงิ ไปยังเป้าหมายในระยะใกล้ ถ้าแนวกระสุนท่ียิงออกไปมีทีท่าว่าจะสูงขึ้นเร่ือย ๆ ผบ.หมู่ จะต้องส่ังให้ยงิ ต�่ำลง ปก.93 ให้ทำ� การยงิ ไปยงั เป้าหมายในระยะไกลออกไป หมู่ต่าง ๆ จะ ต้องเปลี่ยนแปลงเขตการยิงของตนตามต�ำแหน่งท่ีอยู่ ผบ.หมู่ ต้องระวังไม่ให้ก�ำลังพล ของตนยงิ ไปถูกรถถงั หรอื รสพ.คันอนื่ ๆ เพราะทัง้ ปก.93 และเครอ่ื งยิงลกู ระเบดิ ขนาด 40 มม. สามารถยงิ ทะลุด้านข้างของ รสพ. และทำ� ความเสียหายให้กบั รถถังได้ อาวุธยงิ ขนาด เลก็ สามารถสงั หารผบู้ งั คบั รถถงั และกำ� ลงั พลของ รสพ.คนั อนื่ ๆ ได้ และยงั สามารถเจาะทะลุ ด้านทางข้างของ รสพ.ทอ่ี ยู่ในระยะใกล้ได้ นอกจากจะท�ำหน้าท่ียิงข่มอาวุธต่อสู้รถถังป้องกันทางปีก และทาง ด้านหลงั ให้กบั รถถังแล้ว แต่ละหมู่ต้องทำ� หน้าทีป่ ้องกนั ปีกและด้านหลังของตนเองอีกด้วย ตอ้ งแบง่ เขตรบั ผดิ ชอบใหก้ บั กำ� ลงั พลแตล่ ะนายทโ่ี ผลอ่ อกมาจากฝาปดิ หอ้ งบรรทกุ กำ� ลงั พล แต่ละนายท่ีอยู่ทางด้านข้างต้องรับผิดชอบด้านของตน และต้องท�ำการยิงข่มข้าศึกทาง ดา้ นหลงั ของรถถงั และระหวา่ ง รสพ.คนั ทอี่ ยใู่ กลก้ นั กำ� ลงั พลหนงึ่ นายทำ� หนา้ ทร่ี ะวงั ปอ้ งกนั ด้านหลงั ของรถล�ำเลยี งพลคนั ทต่ี นประจ�ำอยู่

2) หมวดทหารม้าบรรทุกยานเกราะเคล่ือนท่ีตามรถถังด้วยรูปขบวน เห ่ลาทหาร ้มา 67 แถวตอนใช้วธิ นี ้เี ม่ือภูมปิ ระเทศเป็นป่ารกทบึ เพราะ - จะเป็นอันตรายเม่ือใช้รูปขบวนหน้ากระดานเน่ืองจากมองไม่เห็น ทางด้านปีก และอาจยงิ กันเองได้ - ภูมิประเทศขรุขระ และหมวดจ�ำเป็นต้องเคลื่อนที่ตามเส้นทาง ด้วยความระมดั ระวงั และรวดเรว็ เพอ่ื ตามรถถงั ให้ทนั รถของ ผบ.มว. และรถอกี หมหู่ นง่ึ เคลอื่ นทต่ี ามรถถงั อยทู่ างปกี ดา้ นหนงึ่ สว่ นรถของ รอง ผบ.มว. และอกี หนง่ึ หมู่ เคลอื่ นทตี่ ามรถถงั อยทู่ างปกี อกี ดา้ นหนง่ึ การปฏบิ ตั ิ ดังกล่าวนี้ช่วยให้สามารถระวังทางปีกได้ในขณะเข้าตะลุมบอนและช่วยให้หมวดเข้าถึง ทหี่ มายพร้อมรถถงั การเคล่ือนท่ี ณ บริเวณท่ีมั่นข้าศึก ข้ันตอนในการเข้าตะลุมบอน ดว้ ยการรบบนยานรบ นบั วา่ เปน็ ขน้ั ตอนทวี่ กิ ฤตอิ กี ขนั้ หนงึ่ ทมี่ นั่ ของขา้ ศกึ โดยทว่ั ไปจะฝงั ตวั อยู่ในดินซง่ึ สามารถป้องกนั จากการยิงของอาวธุ ยงิ เลง็ ตรงได้ ดงั นน้ั ขณะทีเ่ คลอื่ นท่ีอยู่ ณ บริเวณท่ีมั่นข้าศึก ท่านควรจะเคล่ือนท่ีช้าลง เพ่ือให้สามารถยิงหรือขว้างลูกระเบิดไปยัง ท่ีมั่นข้าศึก รสพ. ควรเคลื่อนท่ีชิดกับรถถัง จะต้องมีการแจ้งเตือนทหารฝ่ายเดียวกัน เม่ือทราบว่ามีพลยิงจรวดต่อสู้รถถังซ่อนตัวอยู่ และพร้อมท่ีจะโผล่ออกมาจากที่ซ่อนเพื่อ ท�ำการยิงยานเกราะทางด้านหลงั ข. การเขา้ ประชดิ ดว้ ยการรบบนยานรบและลงรบเดนิ ดนิ เมอ่ื ถงึ หรอื เมอื่ เขา้ ใกล้ ท่ีมน่ั ข้าศกึ ผู้บังคับกองร้อยชุดรบมักจะใช้วิธีนี้เมื่อรถถังและทหารราบปฏิบัติงาน ร่วมกัน และเมอ่ื - ต้องการกวาดล้างทม่ี ่ันข้าศกึ - สามารถข่มอาวุธต่อสู้รถถังข้าศึกได้และภูมิประเทศอ�ำนวยให้สามารถ เคลื่อนท่ีด้วยยานรบ ณ ที่มั่นข้าศึกได้ การปฏิบัติขั้นแรกของวิธีน้ีคล้ายกับการปฏิบัติวิธี ที่ 1 หมวดอาจไดร้ บั คำ� สงั่ ใหล้ งรบเดนิ ดนิ กอ่ นทจ่ี ะเขา้ ถงึ ตวั ขา้ ศกึ ณ หรอื ดา้ นหลงั หรอื ทางปกี ของท่ีมั่นข้าศึกก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตาม ผู้บังคับกองร้อยชุดรบต้องกำ� หนดว่าจะใช้

68 เหลา่ ทหารมา้ หมวดลงรบเดนิ ดนิ เมอื่ ไร และจะต้องทำ� อะไรบ้าง ทนั ทที ล่ี งรบเดนิ ดนิ ทหารม้าบรรทกุ ยาน เกราะทล่ี งรบเดนิ ดนิ ตอ้ งเขา้ กวาดลา้ งทมี่ น่ั ขา้ ศกึ โดยใชช้ ดุ ด�ำเนนิ กลยทุ ธ์ หรอื ใชช้ ดุ ยงิ และ ชดุ ดำ� เนนิ กลยทุ ธร์ ว่ มกนั สว่ นหนงึ่ ตรงึ ขา้ ศกึ ดว้ ยการยงิ อกี สว่ นหนง่ึ ด�ำเนนิ กลยทุ ธเ์ ขา้ ประชดิ ท่ีมั่นข้าศกึ เพ่อื ท�ำลายด้วยลูกระเบดิ มือ วัตถรุ ะเบิด หรอื ด้วยการยงิ เม่ือชุดด�ำเนินกลยุทธ์ลงรบเดินดิน ชุดยานรบอยู่ในความควบคุมของ รอง ผบ.มว. และเริ่มเคลื่อนที่ตามรถถังต่อไปยังที่หมาย ท�ำการยิงไปทางข้างและ ด้านหลังของรถถัง ถ้ารถถังหยุด รสพ.ต้องคอยปฏิบัติตามค�ำสั่ง หรือตามการปฏิบัติของ รอง ผบ.มว. รอง ผบ.มว. จัดวางกำ� ลัง รสพ.ทัง้ หมดไว้ตามทมี่ นั่ ท่ใี ห้การกำ� บัง ซึ่งสามารถ ให้การสนบั สนุนรถถงั และเข้ายดึ ทีห่ มาย ในบางกรณี (ส่วนมากจะเป็นบริเวณที่มีพื้นท่ีการยิงใกล้) รถถังอาจต้อง เคลื่อนท่ีช้าลง รสพ. และทหารม้าบรรทุกยานเกราะที่ลงรบเดินดินจะต้องอยู่ใกล้กับรถถัง เพอื่ คุ้มกนั ให้กบั รถถงั จากอาวธุ ต่อสู้รถถงั ในระยะประชดิ ทหารม้าบรรทกุ ยานเกราะจะเข้า โจมตที ต่ี งั้ ปนื ของขา้ ศกึ ดว้ ยการยงิ และลกู ระเบดิ ขวา้ งในขณะทเ่ี คลอื่ นทข่ี า้ มผา่ นทม่ี น่ั ขา้ ศกึ 1) จะลงรบเดนิ ดินที่ใด ก) กอ่ นถงึ ทม่ี น่ั ขา้ ศกึ เมอื่ การยงิ ของขา้ ศกึ และภมู ปิ ระเทศท�ำใหไ้ มอ่ าจ เคล่อื นทีบ่ นยานรบต่อไปได้ ข) ณ ที่ม่ันข้าศึก เพ่ือป้องกันมิให้ข้าศึกยิง รสพ. และรถถังจากทาง ด้านหลงั ค) หลังที่มั่นข้าศึกเม่ือข้าศึกไม่สามารถยิงทางด้านหลังของ รสพ. จากท่มี น่ั นน้ั ๆ 2) จะลงรบเดนิ ดินอย่างไร กำ� ลงั พลทตี่ รงฝาปดิ หอ้ งบรรทกุ และพลยงิ ปก.93 จะตอ้ งทำ� การยงิ อยา่ ง รนุ แรงรอบ ๆ ตวั อย่างต่อเน่อื ง กำ� ลังพลทไ่ี ม่ได้อยู่ในช่องฝาปิดห้องบรรทกุ ให้ลงจาก รสพ. ก่อน และเข้าทว่ี างตัวให้ท�ำการยงิ ข่มอย่างรุนแรง ในขณะทก่ี �ำลงั พลส่วนทีเ่ หลือลงจากรถ ตามมาถ้าข้าศึกสามารถท�ำการยิงเข้าไปในช่องทางออกได้ขณะที่เปิดลาดบรรทุก ก็ให้ ออกทางชอ่ งประตขู องลาดบรรทกุ ผบ.หมู่ ตอ้ งตดั สนิ ใจวา่ จะใหก้ ำ� ลงั พลของตนลงจากรถทาง

ประตชู อ่ งลาดบรรทกุ โดยการเปดิ ลาดบรรทกุ ซง่ึ จะเปน็ การสญู เสยี การกำ� บงั จากแผน่ เกราะ เห ่ลาทหาร ้มา 69 ในชว่ั ขณะการลงรบเดนิ ดนิ ณ ทมี่ น่ั ขา้ ศกึ เปน็ สง่ิ ทย่ี ากลำ� บาก และตอ้ งกระทำ� อยา่ งรวดเรว็ ในขณะท่ไี ม่สญู เสียอ�ำนาจการยงิ ทีเ่ หนอื กว่าของฝ่ายเรา ค. ใชว้ ธิ กี ารลงรบเดนิ ดนิ จนกระทงั่ เขา้ ประชดิ และทำ� ลายขา้ ศกึ ผบู้ งั คบั กองรอ้ ย ชดุ รบอาจตกลงใจใช้วธิ กี ารน้เี ม่ือ - ข้าศึกมีท่ีม่ันต้ังรับแข็งแรงและฝ่ายเราไม่อาจยิงข่มอาวุธต่อสู้รถถัง ของข้าศกึ ได้ - มีเคร่อื งกดี ขวางที่ไม่สามารถใช้วธิ ีการรบบนยานรบได้ ผบู้ งั คบั หมวดเปน็ ผสู้ ง่ั การวา่ หมวดของตนจะลงรบเดนิ ดนิ เมอ่ื ไร และทไี่ หน โดยยดึ ถอื คำ� สง่ั ของผบู้ งั คบั กองรอ้ ยชดุ รบบรเิ วณทล่ี งรบเดนิ ดนิ ควรจะใกลท้ ห่ี มายมากทสี่ ดุ เท่าที่การก�ำบังและการซ่อนพรางในขณะน้ันจะเอื้ออ�ำนวยให้กระท�ำได้ รสพ.ควรจะอยู่ใน ทกี่ ำ� บงั ในขณะทก่ี ารลงจากรถ เมอ่ื ชดุ ดำ� เนนิ กลยทุ ธเ์ รม่ิ ลงรบเดนิ ดนิ ผบ.มว.จะเปน็ ผคู้ วบคมุ และ รอง ผบ.มว.ทำ� หนา้ ทค่ี วบคมุ ชดุ ยานรบทงั้ หมด รถถงั , จรวดโทว์ และ รสพ.ตอ้ งท�ำการ ยิงสนับสนุนในขณะท่ีชุดด�ำเนินกลยุทธ์เข้าประชิดท่ีหมาย เม่ือจะใช้ รสพ.สนับสนุนการ เขา้ ตดี ว้ ยการยงิ นน้ั ตอ้ งไมเ่ ปดิ เผยทต่ี ง้ั ของตน จนกวา่ ชดุ ดำ� เนนิ กลยทุ ธจ์ ะสามารถออกจาก บริเวณท่ีลงจากรถน้ันเรียบร้อยหมดแล้ว เพราะต�ำบลลงรถน้ันอาจเป็นต�ำบลระดมยิงจาก ข้าศึกซง่ึ ข้าศกึ อาจท�ำการระดมยงิ มายัง รสพ.ได้ ค�ำสั่งของ ผบ.มว.จะระบวุ ่าอาวุธอะไร และใครบ้างทตี่ ้องประกอบเป็นชดุ ดำ� เนนิ กลยทุ ธแ์ ละชดุ ยานรบโดยปกตชิ ดุ ดำ� เนนิ กลยทุ ธแ์ ตล่ ะชดุ จะประกอบดว้ ย ปก.เอม็ .60, 1 กระบอก, เครอ่ื งยงิ จรวดต่อส้รู ถถงั จำ� นวนหนงึ่ และลกู ระเบดิ ขวา้ ง เมอ่ื จะเขา้ โจมตขี ้าศกึ ทม่ี ีการป้องกนั อย่างแขง็ แรงมกั จะต้องเอาสงิ่ ต่าง ๆ ดังต่อไปน้ีติดตวั ไปด้วย ได้แก่ กระเป๋า ระเบดิ , เครอื่ งยงิ จรวดดรากอน จำ� นวนกำ� ลงั พลท่จี ดั ไว้ในชดุ ยานรบน้ัน ขึ้นอยู่กบั ปริมาณการยงิ สนับสนุน ทมี่ อี ยใู่ นขณะนนั้ (ถา้ มกี ารยงิ สนบั สนนุ จากทอ่ี นื่ นอ้ ยลงเทา่ ไร กย็ ง่ิ จำ� เปน็ ตอ้ งใชช้ ดุ ยานรบ มากขนึ้ เทา่ นนั้ ) และพน้ื การยงิ ของชดุ ยานรบในขณะนน้ั โดยปกตแิ ลว้ ถา้ ผบ.มว.เขา้ ประชดิ ข้าศกึ ด้วยการลงรบเดนิ ดนิ พวกรถถงั และปนื ใหญจ่ ะทำ� หน้าทย่ี งิ สนบั สนนุ ทง้ั หมด ผบ.มว.

70 เหลา่ ทหารมา้ จึงควรเพ่งเล็งเร่ืองจัดชุดด�ำเนินกลยุทธ์ให้มีก�ำลังพลมากท่ีสุดเท่าที่จะท�ำได้ โดยจัดชุด ยานรบให้มกี �ำลงั พลน้อยทส่ี ดุ ถ้าภูมิประเทศอำ� นวย ชุดยานรบท�ำการยงิ ปก.93 หรอื จรวดดรากอนกไ็ ด้ ตามความเหมาะสม เพ่ือสนับสนุนหน่วยด�ำเนินกลยุทธ์ ถ้ามีความจ�ำเป็นต้องท�ำการยิง คมุ้ ครองเพมิ่ เตมิ ใหก้ บั หมวด (กรณที ไ่ี มม่ กี ารยงิ สนบั สนนุ จากทอ่ี นื่ ) กอ็ าจจำ� เปน็ จดั กำ� ลงั พล ไว้กบั รถให้มาก หรอื อาจจดั ไว้ใกล้ ๆ กบั รถ เพ่อื ท�ำการยิงปืนกลและจรวดดรากอน ชุดด�ำเนินกลยุทธ์ของแต่ละหมู่จะเคลื่อนท่ีในลักษณะเป็นส่วนด�ำเนิน กลยทุ ธ์ของหมวด และปฏิบัติตามคำ� สงั่ ของ ผบ.มว. เข้าประชิดข้าศึก โดยใช้เทคนิคการ เคล่ือนที่ และเข้าโจมตดี ้วยการโผหรอื การคลานคบื ผบ.มว.ต้องใช้ส่วนด�ำเนินกลยุทธ์ของตนเคลื่อนท่ีรุกไปตามเส้นทางที่มี การก�ำบงั แต่ต้องไม่กดี ขวางการยงิ คุ้มกันจากฝ่ายเดยี วกนั โดยปกติ ผบ.มว.เป็นผู้กำ� หนด เส้นทางโดยทั่วไปให้กับหมู่ต่าง ๆ กฎโดยทั่วไปในการเคลื่อนท่ี คือให้กำ� ลังพลแต่ละนาย เคลอ่ื นที่ตามเส้นทางทใ่ี ห้การก�ำบงั มากทส่ี ดุ ถ้ายังไม่ถูกระดมยิงชุดด�ำเนินกลยุทธ์ใช้การเคลื่อนที่แบบการเดินทาง มกี ารระวงั ปอ้ งกนั หรอื การเคลอื่ นทเ่ี ปน็ หว้ ง ๆ ทมี่ กี ารระวงั ปอ้ งกนั ทนั ทที ชี่ ดุ ด�ำเนนิ กลยทุ ธ์ เริ่มเคล่ือนท่ีไปข้างหน้า ชุดระวังป้องกันจะต้องท�ำการยิงข่มท่ีหมายทันทีซึ่งจะช่วยใช้ ชุดด�ำเนินกลยุทธ์เคล่ือนท่ีเข้าหาที่หมายได้รวดเร็ว และด้วยความกล้าหาญยิ่งขึ้น และ เป็นการบบี บงั คับให้ข้าศกึ คอยหลบอยู่ตลอดเวลา เมือ่ ถึงบริเวณที่ก�ำหนดหรอื ถกู ระดมยิงจากอาวุธวถิ ีตรงของข้าศกึ ผบ.มว. จะส่ังการให้ส่วนด�ำเนินกลยุทธ์ปรับรูปขบวนเพื่อเข้าตะลุมบอนขั้นสุดท้ายท�ำลายล้าง ทหี่ มาย ซง่ึ โดยปกตแิ ล้วบรเิ วณนน้ั กจ็ ะเป็นบรเิ วณสดุ ท้ายทใ่ี ห้การกำ� บงั และการซ่อนพราง ก่อนถึงที่มั่นข้าศึกเมื่อหมวดปรับรูปขบวน ชุดด�ำเนินกลยุทธ์มักจะปรับรูปขบวน หน้ากระดานเคียงกัน เพ่ือสามารถท�ำการยิงได้ทุกคนในขณะที่เข้าตะลุมบอน ผบ.มว. จะอยู่ในทท่ี ่สี ามารถท�ำการควบคมุ ได้ดที ส่ี ุด สามารถประสานการยิงสนับสนนุ ได้ เมอื่ ชดุ ดำ� เนนิ กลยทุ ธแ์ ปรรปู ขบวนเปน็ หนา้ กระดานเพอ่ื ใหส้ ามารถยงิ อาวธุ ได้ทุกชนิด ผบ.มว.จะควบคุมหมวดเคลื่อนท่ีไปข้างหน้าด้วยการยิงและการดำ� เนินกลยุทธ์

การตะลมุ บอนขนั้ สดุ ทา้ ยตอ้ งไมใ่ ชล่ กั ษณะทเ่ี ปน็ การปฏบิ ตั อิ ยกู่ บั ที่ แตต่ อ้ งพงุ่ เขา้ ใสท่ ห่ี มาย เห ่ลาทหาร ้มา 71 อยา่ งรวดเรว็ ดว้ ยรปู ขบวนหนา้ กระดาน และลกั ษณะความเปน็ ผนู้ ำ� ของ ผบ.หมู่ และ ผบ.มว. ย่อมเป็นตวั อย่างที่ดตี ่อผู้ใต้บงั คับบญั ชา ในขณะการปฏบิ ตั ิขน้ั นี้ การออกคำ� สง่ั ด้วยวาจา นบั ว่าเข้าใจได้ยากมาก จงึ สมควรอย่างยง่ิ ทจี่ ะใช้คำ� ว่า “ตามข้าพเจ้าและปฏบิ ตั ิเช่นเดยี ว กับข้าพเจ้า” ผบ.หมู่ และ หน.ชดุ ยิง ต้องเป็นผู้นำ� ตลอดเวลาทเ่ี ข้าหาท่ีม่ันข้าศกึ ใช้วิธี การเคลื่อนท่ีที่ดีที่สุดในสถานการณ์น้ัน ๆ และก�ำลังพลของตนที่จะปฏิบัติตามในการรุก คืบหน้า อาจใช้วิธีคลานคืบ หรือโผจากท่ีกำ� บังแห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่ง จะต้องปฏิบัติ ด้วยความห้าวหาญ เพราะท่านย่อมไม่สามารถปฏิบัติการอย่างเชื่องช้าได้ในทันทีท่ีหมวด เข้าประชิดกับข้าศึกในขณะต่างคนต่างยิงต่อสู้เพ่ือจะเข้ายดึ ท่ีหมายให้ได้นั้น (ยังคงใช้การ ยงิ และการดำ� เนนิ กลยทุ ธ์) หมวดตอ้ งไมเ่ ผยตวั เองจนถกู ยงิ จากข้าศกึ ทางดา้ นหลงั หรอื ทาง ปีก และต้องพยายามไม่ให้กำ� ลังพลของตนรวมกนั เป็นกลุ่ม ๆ ซ่ึงจะกลายเป็นเป้าหมายที่ คุ้มค่าของข้าศกึ โดยปกติ ผบ.มว.จะอธบิ ายกิจเฉพาะต่าง ๆ ให้กับหมู่ของตน กจิ เฉพาะนั้น อาจมงุ่ ไปทกี่ ำ� ลงั พลของขา้ ศกึ ภมู ปิ ระเทศหรอื ทงั้ สองอยา่ งกไ็ ด้ เชน่ “หมสู่ นทิ ไปตรวจคน้ ท่ี พ่มุ ไม้เตย้ี โน้น” หรอื “หมู่บราว ท�ำลายปนื กลกระบอกนั้น” เป็นต้น โดยปกติชุดด�ำเนินกลยุทธ์ท้ังหมดของหมวดจะเคลื่อนที่เข้าโจมตีข้าศึก พร้อมกันโดยทันที โดยมีรถถัง, เครื่องยิงจรวดโทว์ และชุดยานรบ ท�ำหน้าท่ียิงคุ้มกัน แต่ถ้าการยิงคุ้มกันท้ังหมดดังกล่าวยังไม่เพียงพอ ผบ.มว.อาจจัดชุดคุ้มกันที่ลงรบเดินดิน ซึ่งประกอบด้วยอาวุธยิง จรวดดรากอน และ ปก.เอ็ม.60 เพ่ิมเติมขึ้นอีกบริเวณท่ีหมวด ปรบั กำ� ลงั อยู่นน้ั ถา้ มกี ารนำ� อาวธุ ยงิ จรวดดรากอนตดิ ตวั ไปกบั ชดุ รบเดนิ ดนิ กม็ กั จะจดั ใหอ้ ยู่ ในความควบคมุ โดยตรงของ ผบ.มว. และจะใช้ยิงเฉพาะเป้าหมายเป็นจดุ ทีส่ ำ� คญั เท่านน้ั เช่น ยานหุ้มเกราะ และอาวธุ หลกั ของข้าศึก ถ้าไม่มเี ป้าหมายท่เี หมาะสมสำ� หรบั อาวธุ ยงิ ดรากอน พลยงิ จรวดจะใช้อาวธุ ประจำ� กายของตนปฏิบตั ิการรบ ซง่ึ โดยปกติแล้ว ผบ.มว. จะใหค้ ำ� แนะนำ� เกย่ี วกบั เปา้ หมายทค่ี วรจะทำ� การยงิ ดว้ ยอาวธุ จรวดดรากอนไวล้ ว่ งหนา้ เสมอ

72 เหลา่ ทหารมา้ 1) การควบคมุ การยงิ ในระหว่างการเข้าตะลุมบอน การควบคมุ การยงิ ในขณะโจมตผี า่ นทม่ี น่ั ขา้ ศกึ นน้ั นบั วา่ เปน็ การปฏบิ ตั ิ ที่ยากท่ีสุดในการรบซ่ึงถ้าสามารถวางแผนไว้ล่วงหน้าได้แล้วก็ควรต้องกระท�ำอย่างยิ่ง ซง่ึ อาจกระทำ� ได้โดย ก) การฝึก ข) การชี้เป้าหมายให้กบั ส่วนยานรบ ค) การควบคมุ การยิงของอาวธุ ยิงจ�ำลอง 2) การเขา้ ตะลุมบอนดว้ ยการเขา้ หาที่หมายโดยไม่หยุด ในสภาวะการรบบางกรณี ชดุ ดำ� เนนิ กลยทุ ธท์ ง้ั หมดอาจจำ� ตอ้ งเคลอื่ นที่ ห้วงสุดท้าย เพ่ือเข้ายดึ ทีม่ ่นั ข้าศกึ หรือเคล่อื นทผี่ ่านพื้นที่โล่งห้วงสน้ั ๆ โดยการเคลื่อนท่ี อย่างรวดเรว็ จะใช้การเคลอ่ื นทแ่ี บบนี้เมอ่ื - มว.ถกู ระดมยงิ อยา่ งหนกั ดว้ ยการยงิ เลง็ จ�ำลอง ซงึ่ จำ� เป็นต้องท�ำการ เคลอื่ นทแ่ี บบฉบั พลนั ห้าวหาญ เพอ่ื ป้องกนั มิให้ถูกท�ำลายล้างจนหมดสนิ้ - ไม่มที ีก่ ำ� บังและซ่อนพราง - เป็นบริเวณที่ข้าศึกสามารถท�ำการยิงข่มมายังท่านได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ อย่าใช้วิธีการน้ีถ้ามีวิธีอ่ืนให้เลือกแต่ถ้าจำ� เป็นต้องท�ำให้ร้องขอการยิง อย่างรุนแรงท่ีสุด และขอการยิงกระสุนควันจากฐานยิง และใช้ชุดด�ำเนินกลยุทธ์ของท่าน ท�ำการยิงอย่างรุนแรงท่ีสุดเท่าท่ีจะท�ำได้ ท่านจะต้องท�ำการข่มข้าศึกให้ได้ก่อนท่ีท่านจะ เคลอ่ื นที่ไป เพอ่ื ใหก้ ารโจมตเี ปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ตอ้ งใหท้ กุ คนตดิ ดาบปลายปนื ว่ิงเข้าหาข้าศึกร้องตะโกนพร้อมกัน และยิงอย่างรวดเร็วไปยังข้าศึก ก�ำลังพลท่ีเข้าโจมตี จะต้องจบั คู่กัน เมือ่ คนหน่งึ กำ� ลงั ยงิ อีกคนหนงึ่ จะได้มีโอกาสบรรจุกระสนุ การปฏบิ ตั ิการ ดงั กล่าวเป็นการป้องกนั การบรรจกุ ระสนุ พร้อมกัน ซึ่งจะท�ำให้การยงิ ขาดตอนลง 3) การตรวจคน้ และกวาดล้างท่มี ัน่ ข้าศึก ชดุ ด�ำเนินกลยทุ ธ์หรือชดุ ทปี่ ฏิบัติการเป็นคู่ คือ ชดุ ด�ำเนินกลยุทธ์และ ชุดยิงชุดหน่ึง ท�ำการยิงตรึงข้าศึก และอีกชุดหน่ึงเข้าประชิดท่ีมั่นข้าศึก เพื่อท�ำลายด้วย ลกู ระเบดิ , วตั ถุระเบิด หรอื ด้วยการยงิ

4) การใช้อาวธุ เมือ่ เข้าประชิดทม่ี ัน่ ข้าศึก เห ่ลาทหาร ้มา 73 ก) ปืนกลใช้ทำ� ลายหรอื ข่มท่ีมน่ั รบ หรอื ทต่ี ้ังยิงก�ำบังปิด ข) เครอื่ งยงิ ลกู ระเบดิ ยงิ ลกู ระเบดิ ไปยงั คใู นระหวา่ งเขา้ โจมตี ลกู ระเบดิ สามารถตกลงไปในคู และก่อให้เกิดเพลิงในคูที่อยู่ข้างหน้าของชุดน�ำ แต่ต้องค�ำนึงถึง ระยะยิงตำ่� สดุ ไว้ด้วย ค) อาวธุ ต่อสรู้ ถถงั ขนาดเบาใชท้ ำ� ลายทม่ี น่ั รบหรอื ทต่ี งั้ ยงิ กำ� บงั แต่ตอ้ ง ตรวจสอบพ้นื ที่ส�ำหรบั เปลวเพลงิ พ่นทางด้านหลงั ของอาวธุ ก่อนใช้งาน ง) ปืนเล็กใช้ยงิ เข้าไปในทต่ี ง้ั ยิงก�ำบงั ปิดก่อนเข้าไปตรวจค้น (หลังจาก ขว้างลกู ระเบดิ มือน�ำไปก่อนแล้ว) จ) เครื่องพ่นไฟ ใช้ท�ำลายท่ีตั้งยิงก�ำบังและอาวุธหลัก ใช้เพ่ือให้เกิด เพลิงเผาผลาญ (คำ� นงึ ผลจากการเผาไหม้) ฉ) เคร่ืองยิงจรวดดรากอน ใช้ท�ำลายอาวุธหนัก และยานหุ้มเกราะ (จ�ำไว้ว่า ระยะยงิ ต�่ำสุดแค่ 65 เมตร) ช) ลูกระเบิดขว้าง ใช้ขว้างไปในคูก่อนท่ีจะเข้าไปตรวจค้น ใช้ขว้าง บรเิ วณทห่ี ักมุมต่าง ๆ และเพ่อื กวาดล้างท่มี ั่น 7. การเสริมความมน่ั คงและการจดั ระเบยี บใหม่ ความมุ่งหมายของการเสริมความม่ันคงและการจัดระเบียบใหม่คือการ เตรียมการเพ่อื - ผลกั ดนั การตโี ต้ตอบ - เข้าตตี ่อไป ในที่ม่นั ท่ฝี ่ายเข้าตสี ามารถยดึ ไว้ได้น้นั จะต้องรักษาไว้จนกระทงั่ ชุดรบจะออก ค�ำสั่งให้ปฏิบัติอย่างอื่น บ่อยครั้งท่ีหมวดจะต้องทำ� การเข้าตีต่อไปเพ่ือขยายผลแห่งความ สำ� เรจ็ สว่ นมากแลว้ จะเปน็ การปฏบิ ตั กิ ารรบบนยานรบ โดยไมจ่ �ำเปน็ ตอ้ งท�ำการจดั ระเบยี บ ใหม่และก็ไม่จ�ำเป็นต้องมกี ารเสรมิ ความมน่ั คงอีกด้วย ก. การเสริมความมนั่ คง การเสรมิ ความม่ันคงโดยการ

74 เหลา่ ทหารมา้ 1) ส่งส่วนระวังป้องกันและหน่วยลาดตระเวนไปข้างหน้าและทางปีก เพือ่ แจ้งเตอื นแต่เน่ินและเพอ่ื ให้ทราบว่า ข้าศกึ ก�ำลงั จะถอยไปท่ไี หน และท�ำอะไรอยู่ 2) วางกำ� ลงั พลและอาวธุ ตา่ ง ๆ ในขณะการตง้ั รบั เรง่ ดว่ นบนพน้ื ทท่ี ส่ี ามารถ ท�ำการตั้งรบั ได้ และคุ้มครองเส้นทางต่าง ๆ ทข่ี ้าศกึ น่าจะใช้เข้ามามากที่สุด จดั เตรยี มให้ สามารถสนบั สนนุ ซ่งึ กันและกนั ได้ และมอบเขตการยงิ ให้แต่ละส่วนนำ� รสพ. มาได้ ณ ท่ี สามารถทำ� หน้าท่คี ุ้มกันได้ เสรมิ ทต่ี ้ังให้แขง็ แรงย่ิงข้นึ และพร้อมท่ีจะเข้าตีต่อไป 3) รักษาแรงกดดันต่อข้าศึกท่ีก�ำลังถอนตัว โดยการยิงเล็งจ�ำลองอย่าง ต่อเน่ืองไปยังบริเวณที่สงสัยว่าจะเป็นท่ีม่ันและบริเวณที่ทราบว่าเป็นที่ม่ันครั้งล่าสุด หรือ ตำ� บลรวมก�ำลังข้าศึก วางแผนยิงข่มด้วยอาวุธเล็งจ�ำลอง หรือถ้าจ�ำเป็นก็ให้ท�ำการยิงข่ม ด้วยอาวธุ เลง็ จ�ำลอง 4) ขุดหลมุ บคุ คลตามความจำ� เป็นเพอ่ื ใช้เป็นท่ีตงั้ ยงิ จะต้องออกค�ำสัง่ ให้ แต่ละหมู่และอาวุธหลักต่าง ๆ เสริมความมั่นคง ณ บริเวณภูมิประเทศสำ� คัญ หรือวาง ก�ำลงั โดยอาศยั ระบบนาฬิกา ข. การจัดระเบยี บใหม่ การจัดระเบียบใหม่คือการปฏิบัติการท้ังปวงเพื่อเตรียมเข้าตีต่อไป การ จดั ระเบยี บใหมอ่ าจมอี ยใู่ น รปจ.วางแผนลว่ งหนา้ ในการจดั ระเบยี บใหมน่ น้ั ผบ.หมู่ จะตอ้ ง 1) ทดแทน หน.ชดุ ยงิ และพลยงิ อาวธุ หลกั ต่าง ๆ 2) แจกจ่ายกระสุนเพิม่ เตมิ 3) เคลอ่ื นยา้ ยผ้ทู ไ่ี ด้รบั บาดเจบ็ ไปยงั ทท่ี ใี่ ห้การกำ� บงั ให้การปฐมพยาบาล และเตรียมส่งกลบั 4) รายงานสถานการณแ์ ละทตี่ งั้ ของหมตู่ น การสญู เสยี และสถานภาพของ กระสนุ ไปยังผู้บงั คบั หมวด ส�ำหรบั ผู้บงั คบั หมวดจะต้อง 1) แจ้งสถานภาพของหมวดไปยงั ผู้บงั คับกองร้อยชดุ รบ 2) ร้องขอสิ่งอปุ กรณ์ 3) ส่งเชลยศกึ โดยมผี ู้ควบคุมไปยงั ต�ำบลทีผ่ ู้บงั คบั กองร้อยชุดรบก�ำหนด

หมวดทหารม้าบรรทกุ ยานเกราะในการตง้ั รบั เห ่ลาทหาร ้มา 75 1. กลา่ วทวั่ ไป ความมุ่งหมายหลักในการปฏิบัติการรบด้วยวิธีรับของหมวดทหารม้าบรรทุก ยานเกราะคือ เพ่ือทำ� การผลักดันการเข้าตีของข้าศึก และทำ� ลายหน่วยเข้าตี การรบด้วย วธิ รี บั อาจกระทำ� เพอ่ื ยดึ ภมู ปิ ระเทศส�ำคญั เพอ่ื ใหไ้ ดม้ าซง่ึ ปจั จยั เวลา เพอื่ ตดั รอนก�ำลงั ของ ข้าศึก หรอื เพอ่ื เหตผุ ลประการอ่นื ๆ ผบ.มว.ทหารม้าบรรทกุ ยานเกราะทำ� การต้ังรับโดยให้ บรรลคุ วามสำ� เรจ็ ในกจิ เฉพาะ และภารกจิ ทไี่ ด้รบั มอบจากผู้บังคับกองร้อยชุดรบ ในการรบด้วยวธิ ีรบั ทหารม้าบรรทกุ ยานเกราะมกั ปฏิบตั กิ ารรบเป็นหน่วยหนึง่ ของกองร้อยชดุ รบ กองร้อยชดุ รบประกอบด้วยทหารม้าบรรทกุ ยานเกราะ จรวดโทว์ และ หนว่ ยรถถงั โดยไดร้ บั การสนบั สนนุ จากทหารปนื ใหญแ่ ละทหารชา่ ง กองรอ้ ยชดุ รบนป้ี ฏบิ ตั ิ การรบแบบปอ้ งกนั เชงิ รกุ ความมงุ่ หมายของการปอ้ งกนั เชงิ รกุ เพอื่ ท�ำลายขา้ ศกึ ตง้ั แตเ่ ผชญิ หน้ากันคร้ังแรกเท่าท่ีสามารถจะท�ำได้ ถ้าหากข้าศึกยังไม่แตกพ่ายในครั้งแรกก็ต้องพิชิต ให้จงได้ในครั้งต่อไป จากท่ีม่ันตั้งรับในทางลึกจนตลอดพ้ืนท่ีการรบ บรรดาหมวดต่าง ๆ กองร้อยชุดรบ และกองพันเฉพาะกิจในการต้ังรับจะเสริมเพ่ิมพูนประสิทธิภาพของบรรดา อาวุธทุกชนิด และแก้ไขจุดอ่อนต่าง ๆ ให้หมดไปด้วยการเลือกที่มั่นตั้งรับที่ให้การกำ� บัง, การซ่อนพรางและเคร่ืองกีดขวางต่าง ๆ ต้องเลือกที่ตั้งยิงจรวดโทว์ให้สามารถขยายผล การยิงได้ในระยะไกล และทำ� การยิงไปยังจุดที่กำ� หนดได้อย่างแม่นยำ� เลือกท่ีตั้งรถถังให้ สามารถใช้คณุ ลักษณะความคล่องแคล่วในการเคลอ่ื นท่ี และใช้ปืนใหญ่รถถังได้เต็มความ สามารถท่ีอยู่ภายใต้การก�ำบัง ปืนใหญ่ รถถังและจรวดโทว์ใช้เป็นหลักเพื่อทำ� ลายยาน เกราะข้าศกึ ก. ในการต้งั รบั หมวดทหารม้าบรรทกุ ยานเกราะจะเข้าร่วมปฏิบัติการโดย 1) ทำ� ลายขา้ ศกึ ในเขตการยงิ ทไ่ี ดร้ บั มอบ จรวดดรากอน, การยงิ ของอาวธุ กล และเสรมิ การยงิ ด้วยจรวดโทว์และปืนใหญ่รถถงั 2) ผลักดันการเข้าตีบนยานรบ ในเส้นทางการรุกของข้าศึก ซ่ึงจรวดโทว์ และรถถังไม่อาจทำ� การยิงครอบคลมุ ได้ 3) ผลักดันการเข้าตขี องหน่วยลงรบเดนิ ดนิ 4) ให้การป้องกันจรวดโทว์และรถถังจากทหารราบข้าศึก โดยเฉพาะเมื่อ ทัศนวสิ ยั จ�ำกดั

76 เหลา่ ทหารมา้ 5) แจ้งเตือนการเข้ามาของข้าศึก หรือเป็นส่วนท�ำฉากก�ำบัง โดยใช้ ทต่ี รวจการณ์ ท่ฟี ังการณ์ การลาดตระเวนและการซุ่มโจมตี 6) สร้างเคร่ืองกีดขวางเพ่ือหน่วงเหนี่ยวข้าศึกให้ช้าลง หรือชักน�ำข้าศึก เข้าพน้ื ทส่ี ังหารแล้วยงิ ท�ำลาย 7) เตรียมการและท�ำการรบจากจุดต้านทานโดยเป็นส่วนหน่ึงของก�ำลัง ส่วนใหญ่ ข. การตัง้ รบั เชิงรกุ หมายถงึ การปฏบิ ตั กิ ารรบอยา่ งรวดเรว็ และเคลอื่ นทอี่ ยเู่ สมอ จากทมี่ น่ั แหง่ หนง่ึ ไปสทู่ ม่ี น่ั สกดั กน้ั อกี แหง่ หนง่ึ เมอ่ื เคลอื่ นทเี่ ขา้ สทู่ ม่ี นั่ สกดั กนั้ ทหารมา้ บรรทกุ ยานเกราะ จะต้องสามารถท�ำการป้องกันท่ีมั่นสกัดกั้นและท�ำการยิงไปยังพ้ืนที่รับมอบ หรือปฏิบัติ ภารกิจระวังป้องกันรอบ ๆ ท่ีม่ันสกัดก้ันตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้ไปถึง การปฏิบัตินี้ หมวด ทหารม้าบรรทกุ ยานเกราะต้อง 1) ขยายผลจากคุณลักษณะความคล่องแคล่วในการเคลื่อนท่ีและอ�ำนาจ การยงิ ของ รสพ. 2) มีระเบยี บปฏิบัติประจ�ำท่ดี ี เพ่ือในการยึดครองทมี่ นั่ สกดั ก้นั จะสามารถ ช่วยให้ปฏบิ ัตกิ ารได้โดยอตั โนมัติ 2. ยทุ ธวธิ ีและเทคนิคในการต้งั รบั การใช้หมวดทหารม้าบรรทกุ ยานเกราะในการตง้ั รับ แบ่งการใช้เป็น 3 ประการ ก. หมวดท�ำการรบบนยานรบ ข. ส่วนด�ำเนนิ กลยุทธ์และส่วนยานรบอยู่ ณ ท่มี น่ั สกดั กน้ั แห่งเดยี วกนั 1) ผบ.หมู่ ควบคมุ ชุดยานรบ 2) ผบ.มว. ควบคุมส่วนยานรบ ค. ส่วนด�ำเนนิ กลยุทธ์ และส่วนยานรบอยู่ต่างทม่ี น่ั กัน ก. หมวดท�ำการรบบนยานรบ วธิ กี ารนจ้ี ะใชเ้ มอื่ ตอ้ งการยดึ ครองทมี่ น่ั สกดั กนั้ นนั้ เปน็ การชวั่ คราว และตอ้ ง ย้ายทตี่ ง้ั มน่ั ใหมอ่ ยา่ งรวดเรว็ วธิ กี ารนจี้ ะชว่ ยให้ ผบ.มว. สามารถควบคมุ และเพม่ิ ขดี ความ สามารถในการปฏบิ ัตกิ ารตโี ต้ตอบ และการเคลื่อนท่ไี ด้ดขี ึ้น โดยปกตจิ ะใช้เม่ือ

1) มอี �ำนาจการยงิ ท่ีเพียงพอจากการยงิ บนยานรบ เห ่ลาทหาร ้มา 77 2) ไม่จำ� เป็นต้องตรวจการณ์และระวังป้องกันตนเอง 3) หมวดจ�ำเป็นต้องเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเมื่อได้รับค�ำสั่ง ขณะหมู่ลงรบ เดินดนิ ไม่สามารถปฏบิ ตั ไิ ด้ทนั เวลา ผลเสีย คือ หมู่มีอ�ำนาจการยิงที่น้อยกว่าเม่ือให้ก�ำลังพลลงรบเดินดิน เพราะไม่สามารถท่ีจะยิงอาวุธประเภทอ่ืนได้เมื่อท�ำการยิงจรวดต่อสู้รถถัง แต่หากว่าแผน ของหมวด คือใช้เพียงอาวุธต่อสู้ยานเกราะในพื้นที่น้ันในชั่วขณะและต้องเคลื่อนท่ีต่อไป อย่างรวดเรว็ จรวดต่อสู้รถถงั เป็นอาวธุ ประเภทเดียวที่ท�ำการยิงได้ในขณะน้นั ข. สว่ นด�ำเนินกลยุทธ์และสว่ นยานรบอยู่ ณ ทม่ี ่ันสกดั ก้ันแห่งเดียวกนั หมวดจะแบ่งออกเป็นสว่ นด�ำเนนิ กลยทุ ธแ์ ละส่วนยานรบ เมอื่ ใดกต็ ามทมี่ กี ารลงรบเดนิ ดนิ เมอ่ื ส่วนด�ำเนนิ กลยทุ ธ์และส่วนยานรบอยู่ ณ ที่มั่นสกัดก้ันแห่งเดยี วกัน จะมวี ิธีควบคมุ อยู่ 2 วิธี คือ 1) ผบ.หมู่ ควบคมุ ยานรบของตนเอง วธิ นี ้ีก�ำลังบางส่วนหรือทง้ั หมดของ ส่วนด�ำเนนิ กลยทุ ธ์ลงรบเดนิ ดินภายใต้การควบคมุ ของ ผบ.หมู่ของตน และ ผบ.หมู่ยังคง ควบคมุ ชดุ ยานรบของตนเองด้วย หมวดท�ำการรบบนยานรบ

78 เหลา่ ทหารมา้ วิธีการน้ีจะใช้เมื่อหมวดต้องเข้ายึดครองท่ีม่ันสกัดกั้นเป็นการชั่วคราว และเตรียมท่ีจะย้ายที่ตั้งอย่างรวดเร็ว และสภาวการณ์ท�ำให้ไม่สามารถรบบนยานรบได้ ก�ำลังบางส่วนจะลงรบเดินดิน และอยู่ใกล้กันกับ รสพ. เพื่อเพ่ิมพูนอำ� นาจการยิงให้กับ หมู่ตรวจการณ์ และท�ำการระวงั ป้องกนั ผบ.หมู่ จะตกลงใจว่าจะให้กำ� ลงั พลลงรบเดินดนิ ก่ีนายข้นึ อยู่กบั ก) ความตอ้ งการในการเพม่ิ อำ� นาจการยงิ , การตรวจการณเ์ พอื่ ใหบ้ รรลุ ภารกิจของหมู่ และเพ่ือระวังป้องกันให้กับ รสพ. (ก�ำลังพลท่ีลงรบเดินดินมากเท่าใดก็จะ เป็นการเพ่มิ อ�ำนาจการยงิ และการระวังป้องกนั รสพ. มากเท่านน้ั ) ข) ความตอ้ งการรวดเรว็ ในการขนึ้ ประจำ� รถเพอ่ื เคลอื่ นทต่ี อ่ ไป (กำ� ลงั พล ลงรบเดนิ ดนิ มากกจ็ ะใช้เวลามากเช่นกัน ในการกลบั ขนึ้ ประจ�ำรถ) ค) การกำ� บังและการซ่อนพรางท่มี อี ยู่ให้กับ รสพ. 2) ผบ.มว.ควบคมุ ส่วนยานรบ วธิ กี ารนใ้ี ช้เมอ่ื หมวดต้องยดึ ครองทม่ี น่ั สกดั กน้ั ชว่ั คราว และเตรยี มทจ่ี ะ ผลักดันการเข้าตีของข้าศึก ชุดด�ำเนินกลยุทธ์ของแต่ละหมู่จะลงรบเดินดินประกอบกัน เข้าเป็นส่วนดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ของหมวด ซึ่งจะอยู่ห่างจากส่วนยานรบพอสมควร ส่วนยานรบ จะถกู ควบคมุ โดย ผบ.มว. ผา่ นทางนายสบิ ทมี่ อบหมาย (อาจเปน็ รอง ผบ.มว. หรอื นายสบิ ประจำ� หมวด) ในบางสถานการณ์ท่ี ผบ.มว.เหน็ ว่าส่วนยานรบมีภารกิจสำ� คญั กว่ากจ็ ะอยู่ และควบคมุ ส่วนยานรบ วิธีการน้ีจะท�ำให้ส่วนยานรบและส่วนด�ำเนินกลยุทธ์อยู่ในที่ม่ัน ซ่ึงภูมิประเทศที่เหมาะสมกับคุณลักษณะของตนเอง ซ่ึงจะให้ได้ผลดีในการต้ังรับดีกว่า วธิ ีการแรก ผลเสียประการเดยี วก็คือการเคล่อื นทเี่ ข้าประจำ� ท่มี ่ันและการถอนตัวจากท่ีม่ัน

จะกระทำ� ไดช้ า้ และยากกวา่ เมอื่ ผบ.หม่คู วบคมุ ชดุ ยานรบของตนเอง ทม่ี น่ั ของสว่ นดำ� เนนิ เห ่ลาทหาร ้มา 79 กลยุทธ์จะอยู่ในภูมิประเทศจ�ำกัด ซ่ึงจะจ�ำกัดการเคล่ือนที่ของยานพาหนะและไม่มีที่ยิง เพยี งพอแก่ รสพ. ทมี่ น่ั ของสว่ นยานรบจะอยใู่ นภมู ปิ ระเทศทม่ี พี น้ื ทก่ี ารยงิ ไกลและสามารถ เคลอ่ื น รสพ.ไดส้ ะดวก รสพ.อาจจะอยขู่ า้ งหนา้ , ทางปกี , หรอื ดา้ นหลงั ของสว่ นด�ำเนนิ กลยทุ ธ์ การวางก�ำลังของชุดยานรบและชุดด�ำเนินกลยุทธ์จะต้องพิจารณาถึง ความสะดวกรวดเร็วในการกลับข้ึนรถ ผบ.มว.จะก�ำหนดที่รวมพลของหมวดเพื่อให้ส่วน ด�ำเนินกลยุทธ์กลับมาพบและข้ึนรถ รสพ.ของตน และจะก�ำหนดเส้นทางซ่ึงให้การก�ำบัง, ซ่อนพราง และการเคล่อื นทีอ่ ย่างรวดเรว็ แก่กำ� ลังท้ัง 2 ส่วน เพ่ือมายงั ทีร่ วมพลของหมวด ท่ีรวมพลอาจอยู่ใกล้กับท่ีมั่นของส่วนยานรบ หรือส่วนด�ำเนินกลยุทธ์หรืออยู่ระหว่างก�ำลัง ทัง้ สองส่วน เมือ่ เลอื กทรี่ วมพลควรคำ� นงึ ถงึ ก) รสพ. จะเคลอ่ื นท่ีได้เร็วกว่ากำ� ลงั พลลงรบเดินดนิ และมีการป้องกนั จากการยงิ ได้ดกี ว่า พยายามย่นระยะทางในการเคลอ่ื นที่ของกำ� ลังพลทีล่ งรบเดนิ ดินเพอื่ ท่ี จะมายังท่รี วมพล ข) รสพ. มักย้ายทตี่ ั้งยงิ จากที่แห่งหนง่ึ ไปยังอีกแห่งหนงึ่ ดังน้ันเส้นทาง ถอนตัวกอ็ าจต้องเปล่ยี น ค) เปน็ การยากทจ่ี ะหาเสน้ ทางทม่ี กี ารกำ� บงั ใหก้ บั รสพ. เนอ่ื งจากขนาด ของกองพัน ค. สว่ นดำ� เนนิ กลยุทธแ์ ละส่วนยานรบอยู่ ณ ที่มน่ั คนละแห่ง จะใช้เมื่อผู้บังคับกองร้อยชุดรบต้องการให้ก�ำลังที่ลงรบเดินดินอยู่ในที่ตั้ง คนละแห่งกันกับ รสพ.ในเกือบทุกสถานการณ์ ผู้บังคับกองร้อยชุดรบจะด�ำรงการสื่อสาร ระหว่างส่วนด�ำเนินกลยุทธ์ และส่วนยานรบในข่ายผู้บังคับบัญชาของกองร้อยชุดรบ ในขณะท่ที ง้ั สองส่วนปฏบิ ัตกิ ารข้นึ ตรงกบั ผู้บังคบั กองร้อยชดุ รบ แต่ภารกิจที่แตกต่างกนั

80 เหลา่ ทหารมา้ การกลับขึ้นประจ�ำรถเป็นเร่ืองที่ค่อนข้างยาก เน่ืองจากระยะทางระหว่าง สองส่วน ทร่ี วมพลของหมวด โดยปกติจะอยู่ใกล้กบั ส่วนดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ และรอง ผบ.มว. จะอยู่กับส่วนยานรบ นอกเสียจากว่าส่วนยานรบจะมีภารกิจท่ีสำ� คัญกว่า ชุดยานรบและ ชุดด�ำเนินกลยุทธ์จะอยู่ห่างกันมาก ถ้าหมวดได้รับค�ำส่ังให้อยู่ ณ ท่ีมั่นซึ่งเป็นป่าทึบหรือ พื้นท่ีขรุขระซ่ึง รสพ.ไม่สามารถเคล่ือนที่ไปได้ ในกรณีที่ว่านี้จะขาดอ�ำนาจการยิงของ ปก.93 ซงึ่ เปน็ วธิ กี ารทไ่ี มพ่ งึ ประสงค์ แตห่ ากวา่ มคี วามจำ� เปน็ ตอ้ งใช้ โดยปกตแิ ลว้ รอง ผบ.มว. มกั จะไปกบั ผบ.มว. แตส่ ว่ นดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ สว่ นยานรบจะอยใู่ นความควบคมุ ของผทู้ ่ี ผบ.มว. มอบหมายการใช้ในลักษณะน้ี ส่วนด�ำเนินกลยุทธ์จะท�ำการสู้รบโดยขาดการยิงสนับสนุน จาก รสพ. จึงต้องมีก�ำลังพล, อาวุธ (ปืนกล, จรวดต่อสู้รถถัง), ทุ่นระเบิด, ยุทโธปกรณ์ และสัมภาระ มากกว่าวธิ ีการอ่นื ๆ 3. หมู่ในการปฏิบัติการอสิ ระ เมอ่ื หมู่ได้รบั มอบภารกจิ ซง่ึ ต้องดำ� เนนิ การด้วยตนเอง เช่น ปิดกนั้ ถนน, การซุ่ม โจมตียานเกราะหมู่สามารถท�ำการรบบนยานรบเพียงหมู่เดียว หรือเป็นชุดดำ� เนินกลยุทธ์ (ลงรบเดินดิน) และชุดยานรบหมู่ต้องตกลงใจในการใช้หน่วยในทันทีท่ีเข้าไปในพื้นท่ี ซง่ึ จะปฏิบตั ภิ ารกิจ อย่างไรกต็ าม เกอื บทกุ ภารกิจที่ได้รับมอบให้กับหมู่เดยี วมกั จะต้องใช้ ชดุ ดำ� เนินกลยทุ ธ์ทลี่ งรบเดนิ ดนิ ชุดยานรบจะท�ำการรบบนยานรบ หรืออาจจะใช้บางส่วน ลงรบเดินดนิ อยู่ใกล้ ๆ กบั รสพ.

4. ภารกจิ ของหมวดทหารมา้ บรรทกุ ยานเกราะ เห ่ลาทหาร ้มา 81 คือท�ำลายข้าศึกด้วยการยิงจรวดต่อสู้รถถังและปืนกลในการต้ังรับกองร้อย ชุดรบอาจได้รับมอบภารกิจให้เข้ายึดครองที่ม่ันสกัดก้ันและทำ� ลายข้าศึกในเขตรับผิดชอบ หนง่ึ เขตหรอื มากกวา่ เมอ่ื กองรอ้ ยชดุ รบไดร้ บั มอบภารกจิ น้ี ผบู้ งั คบั กองรอ้ ยชดุ รบจะวางแผน ท�ำลายข้าศึกให้มากที่สุดเท่าท่ีจะกระท�ำได้ ตั้งแต่ระยะไกล ระยะปานกลาง แล้วท�ำการ เคลือ่ นที่ไปยงั ทีม่ ่นั สกดั กน้ั แห่งใหม่ต่อไป ก่อนที่ข้าศกึ ที่เหลอื จะทำ� การรบประชดิ กับชดุ รบ เม่ือกองร้อยชุดรบได้รับมอบภารกิจนี้ หมวดทหารม้าบรรทุกยานเกราะจะ ไดร้ บั มอบเขตการยงิ ซงึ่ สามารถยงิ ทำ� ลายขา้ ศกึ ไดด้ ว้ ยจรวดตอ่ สรู้ ถถงั และทำ� การยงิ ปนื กล เพ่อื ให้บรรลภุ ารกจิ การเข้าประจ�ำที่มัน่ สกดั กั้น ผบ.มว.จะต้องทราบ - เขตการยิงของหมวด - จะวางก�ำลังของหมวดไว้ท่ใี ดบ้าง - จะถอนตวั ได้ในสภาวการณ์อย่างไร ก. ผู้บังคบั กองร้อยชดุ รบอาจมอบเขตการยงิ หลกั และรองให้กับหมวด 1) เขตการยงิ หลกั เปน็ พน้ื ทซ่ี งึ่ หมวดตอ้ งสามารถทำ� การยงิ ได้ จดั วางอาวธุ ต่าง ๆ ไว้ให้ท�ำการยิงได้ครอบคลมุ เขตการยิง 2) เขตการยิงรอง เป็นพ้ืนที่ซึ่งต้องท�ำการยิงครอบคลุมเมื่อได้รับค�ำส่ัง หรือเม่ือเขตการยิงหลักไม่มีข้าศึกเข้ามา หมวดอาจท�ำการยิงเข้าไปในเขตการยิงในเวลา อนั สน้ั ๆ แล้วเคล่อื นท่ไี ปเข้าทตี่ ง้ั ใหม่ เพอ่ื ป้องกันข้าศกึ ยงิ ตอบโต้ตามค�ำสั่งของ ผบ.มว. และโดยได้รบั อนมุ ัติจากผู้บังคบั กองร้อยชุดรบ ข. แบบฉบบั ของการยงิ ท�ำลายเป้าหมาย จรวดดรากอนใช้ยงิ รถถงั และยานเกราะอนื่ ๆ ปืนกลใช้ยงิ ทหารราบทลี่ งรบ เดนิ ดนิ เมอ่ื ขา้ ศกึ เคลอ่ื นทเี่ ขา้ สจู่ ดุ ตา้ นทานรถถงั ทแี่ ขง็ แรงซง่ึ ไมส่ ามารถออ้ มผา่ นไดโ้ ดยปกติ ขา้ ศกึ จะใหท้ หารราบยานยนตล์ งรบเดนิ ดนิ ใหอ้ ยขู่ า้ งหลงั ในกรณเี หตกุ ารณด์ งั กลา่ วนใ้ี หใ้ ช้ ปนื กล รวมอำ� นาจการยงิ ไปยงั ทหารราบขา้ ศกึ ในขณะเดยี วกนั ใหห้ นว่ ยรถถงั ท�ำการยงิ และ ใช้จรวดโทว์ และจรวดดรากอนระดมยงิ ท�ำลายหน่วยรถถังข้าศกึ ปืนกลท�ำการยิงข่มอาวธุ ต่อสู้รถถังของข้าศกึ และบังคบั ให้รถถังข้าศกึ ต้องปิดฝาป้อม

82 เหลา่ ทหารมา้ ผู้บังคับหมวดมอบความรับผิดชอบเขตการยิงให้แต่ละหมู่ท�ำนองเดียวกัน กับเขตการยงิ ของหมวด หมู่กม็ เี ขตการยงิ หลกั และเขตการยงิ รอง ค. ทตี่ ้ังยงิ ของหมวดทหารม้าบรรทุกยานเกราะ ผบู้ งั คบั หมวดอาจมอบหมายทตี่ งั้ ยงิ หลกั และทตี่ ง้ั ยงิ รอง ทต่ี งั้ ยงิ เพมิ่ เตมิ ให้ กบั รสพ.แตล่ ะคนั ถา้ ไมไ่ ดม้ อบใหผ้ บู้ งั คบั หมกู่ จ็ ะทำ� การเลอื กทตี่ ง้ั เอง ขณะทห่ี มวดทหารมา้ บรรทุกยานเกราะเข้ายึดครองที่มั่นสกัดกั้นอย่างรวดเร็วตามภารกิจ ผู้บังคับหมวดอาจจะ ไม่มีเวลาเลือกท่ีต้ังยิงให้กับจรวดต่อสู้รถถังและปืนกล ถ้า ผบ.มว.ไม่ได้เลือกให้, ผบ.หมู่ กต็ อ้ งเลอื กทตี่ ง้ั เอง จรวดดรากอนและปนื กลมกั จะใชต้ งั้ ยงิ บนรถ รสพ. หรอื ตงั้ ยงิ ใกล้ ๆ กบั รสพ. เพ่ืออ�ำนวยให้สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างรวดเร็ว เป็นการป้องกันการยิงโต้ตอบ ของขา้ ศกึ ในขณะทำ� การยงิ จรวดดรากอนอยบู่ นรถ รสพ.กไ็ มอ่ าจยงิ อาวธุ ชนดิ อน่ื ไดพ้ รอ้ มกนั หมายเหตุ “ทต่ี ง้ั ยงิ หลกั ” เป็นท่ตี ั้งยงิ ท่ีดที ีส่ ุดที่จะสามารถบรรลภุ ารกิจ “ท่ีต้ังยิงรอง” เป็นท่ีต้ังยิงอีกแห่งหนึ่งซึ่งสามารถท�ำการยิงได้ตลอดเขต การยงิ เช่นเดยี วกับทต่ี งั้ ยงิ หลกั “ที่ตั้งยิงเพ่ิมเติม” เป็นที่ต้ังยิงซึ่งสามารถท�ำการยิงครอบคลุมเขตการยิง ได้หลาย ๆ เขต เพื่อเป็นการมอบเขตการยิงให้โดยรวดเร็ว เม่ือเข้าที่ตั้งยิงในโอกาสแรก ใน รปจ.ของหมวดอาจก�ำหนดเขตรบั ผดิ ชอบด้วยระบบเข็มนาฬิกา ผบ.มว.ปรบั ปรงุ แกไ้ ขเขตการยงิ เหลา่ นตี้ ามภารกจิ และลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ ผบ.มว.อาจจะมอบหมายจุดอ้างที่สังเกตได้ง่ายในเขตของหมวด เพื่อช่วยควบคุมการยิง จรวดดรากอน จดุ อ้างเหล่านส้ี ามารถจะใช้เมื่อให้ค�ำสัง่ ยิงกบั หมู่ ผบ.หมู่แต่ละคนน�ำ รสพ.เข้าที่ตั้งยิงตามก�ำหนด ปก.เอ็ม.60 และอาวุธ อนื่ ๆ อาจจะลงจากรถ เข้าท่ตี ้ังยงิ ใกล้ ๆ รสพ. เพือ่ เพม่ิ อำ� นาจการยงิ และการตรวจการณ์ ของหมู่ เป็นการให้การคุ้มครอง รสพ. ผบ.มว.ใช้เทคนคิ ทีต่ ้ังยิงปกปิด เมอ่ื ไม่มที ีซ่ ่อนพราง ส�ำหรบั รสพ.ทต่ี ้งั ยงิ พึงมลี ักษณะต่อไปนี้ - ให้การกำ� บงั โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำ� บงั ตรงหน้า - ใหก้ ารซอ่ นพรางอาวธุ ซงึ่ ขา้ ศกึ ตรวจพบจะถกู ยงิ ขม่ หรอื ทำ� ลายกอ่ นทจี่ ะ ใช้ท�ำการยิง

- มพี ้นื ท่ียงิ เมื่อสามารถท�ำลายข้าศกึ เห ่ลาทหาร ้มา 83 - มีการกำ� บงั และซ่อนพรางเส้นทางเข้าออกสู่ทต่ี ง้ั เม่ือโอกาสอ�ำนวยพึงเลือกท่ีต้ังอาวุธซึ่งอ�ำนวยให้สามารถยิงไปทางปีกของ ข้าศึก เมื่อข้าศึกระดมยิงมายังที่ต้ังยิงหลักหรือท�ำการยิงข่ม หรือท�ำให้ไม่สามารถป้องกัน ได้ ผบ.หมู่ หรือผู้บงั คับชดุ ยานรบจะท�ำการเคลอ่ื นย้ายท่ตี ง้ั ยงิ หลกั ไปสู่ทีต่ ั้งยงิ รอง ผบ.หมู่/ ผบ.ชดุ ยานรบ จะสง่ั การเคล่ือนย้ายเองแล้วรายงานให้ ผบ.มว.ทราบ ผบ.มว., รอง ผบ.มว., และ ผบ.ชดุ ยานรบ จะเตรยี มแผนทสี่ งั เขป วาดแสดง ทต่ี ง้ั ยงิ หลกั , ทตี่ งั้ ยงิ รอง และทต่ี ง้ั ยงิ เพมิ่ เตมิ ของชดุ ยานรบ เขตการยงิ และจดุ อา้ งเปา้ หมาย ต่าง ๆ ภาพสเกตช์ใช้เป็นเคร่อื งช่วยอำ� นวยให้ ผบ.มว.ออกค�ำสั่งเคลื่อนทแี่ ละออกค�ำสงั่ ยิง ได้อย่างถกู ต้อง รวดเรว็ ง. การผลักดนั การเข้าตขี องข้าศกึ จากที่ม่นั สกดั ก้ัน เม่อื หมวดมหี น้าที่ป้องกนั และยึดครองท่ีมั่นสกัดกั้น โดยปกติแล้วจะปฏิบัติการด้วยการลงรบเดินดินและชุดยานรบ, จรวดดรากอนจะท�ำการสนับสนุนหรือยิงคุ้มครองป้องกันให้ อย่างไรก็ตาม ในบาง สถานการณ์จ�ำเป็นต้องยดึ ท่ีมน่ั โดยล�ำพัง ส่วนยานรบเป็นส่วนส�ำคัญในเรื่องอ�ำนาจการยิงของหมวดและสามารถ ท�ำการย้ายการยิงตามความจ�ำเป็น เพื่อท�ำการรวมอ�ำนาจการยิงต่อข้าศึก ส่วนด�ำเนิน กลยทุ ธว์ างกำ� ลงั รบรอบ ๆ ชดุ ยานรบทปี่ ฏบิ ตั กิ ารเพอ่ื เปน็ การสกดั กน้ั มใิ หส้ ว่ นลงรบเดนิ ดนิ ของข้าศึกท�ำการรุกเข้ามา ท�ำการระวังป้องกันให้ รสพ.รถถัง และจรวดดรากอนสามารถ เคลื่อนทแ่ี ละรวมอำ� นาจการยงิ ต่อข้าศกึ 5. วิธีในการเตรยี มท่ีมน่ั สกดั กั้น (ลงรบเดินดนิ ) ผู้บังคับกองร้อยชุดรบเป็นผู้เลือกที่ต้ังท่ัวไปของท่ีม่ันสกัดก้ันของหมวดลงรบ เดินดิน ซ่ึงเป็นที่สามารถคุ้มครองภูมิประเทศส�ำคัญและสกัดก้ันทหารราบข้าศึก และ ปิดก้ันเส้นทางเคล่ือนท่ีของหน่วยยานเกราะ ซึ่งรถถังและจรวดดรากอนไม่สามารถทำ� การ ยิงครอบคลุม ได้ที่มั่นสกดั ก้นั ของทหารม้าบรรทุกยานเกราะทีล่ งรบเดนิ ดินควรจะต้ังอยู่ ณ ที่ซึ่งข้าศึกไม่สามารถทำ� การยิงท�ำลายได้ต้ังแต่ในระยะไกล ถือเป็นกฎว่าทหารม้าบรรทุก ยานเกราะจะลงรบเดินดินจะต้องไม่วางก�ำลัง ณ ท่ีต้ังซึ่งทหารราบข้าศึกสามารถท�ำการ

84 เหลา่ ทหารมา้ ยงิ ทำ� ลายได้ ทตี่ ง้ั จะตอ้ งอยพู่ น้ ระยะยงิ หวงั ผลของอาวธุ ขนาดเลก็ อาวธุ ตอ่ สรู้ ถถงั ขนาดเบา (ระยะประมาณ 220 เมตร) โดยปกตทิ มี่ นั่ สกัดก้ันจะเป็นสง่ิ ปลูกสร้าง, อยู่ในป่า, หรือตาม สิ่งกีดขวางต่าง ๆ ซึ่งการเข้าตีบนยานรบจะไม่สามารถบดขยี้ทหารม้าบรรทุกยานเกราะ ที่ลงรบเดินดิน เมื่อเคร่ืองกีดขวางตามธรรมชาติไม่เพียงพอก็เสริมด้วยเครื่องกีดขวางท่ี สร้างข้ึนและทุ่นระเบดิ หน่วยทหารทล่ี งรบเดินดนิ ณ ทมี่ ่ันสกัดก้นั มีภารกิจหลักในการผลักดันรถถงั และการโจมตขี องทหารราบข้าศกึ ด้วยการยงิ ในระยะประชดิ หมวดใช้ปืนกลเป็นอาวธุ หลกั ในการหยดุ ยงั้ การเข้าตขี องข้าศกึ ให้วางแผนการ ใช้ปืนใหญ่และเครอ่ื งยงิ ลกู ระเบดิ เพือ่ หยุดการเข้าตีของทหารราบไว้ จรวดดรากอน, อาวธุ ต่อสู้รถถังขนาดเบา และทุ่นระเบิดดักรถถังท่ีใช้เพื่อท�ำลายยานเกราะข้าศึก แม้ว่าจรวด ดรากอนของหมวดจะอยู่กับ รสพ.ท่ีท�ำการคุ้มกัน จรวดดรากอนควรจะใช้อยู่กับก�ำลังพล ลงรบเดนิ ดนิ และเป็นส่วนด�ำเนินกลยทุ ธ์ เมือ่ ปรากฏว่ามีพืน้ การยงิ ดี ทม่ี น่ั ของหมวดท่ีไม่มี จรวดดรากอนอยดู่ ว้ ยจะเปน็ ทตี่ ง้ั ซง่ึ รถถงั ไมอ่ าจสามารถทำ� การยงิ ทำ� ลายได้ จรวดดรากอน มักจะอยู่ไปทางด้านหน้าและถอยกลับมาอยู่ข้างหลัง เมื่อทหารราบเริ่มทำ� การเข้าตี หรือ ถกู รถถงั ท�ำการยงิ ข่ม ภายหลังจากท่ีได้เลือกที่ต้ังปืนกลและมอบเขตการยิงให้แล้ว ผบ.มว.ก�ำหนด ทต่ี ง้ั และเขตการยงิ ให้กบั ชดุ ดำ� เนนิ กลยทุ ธ์ ซงึ่ ให้ความค้มุ ครองตอ่ อาวธุ หลกั และสนบั สนนุ ซง่ึ กนั และกนั จะไมป่ ลอ่ ยใหม้ ชี อ่ งวา่ งในเขตรบั ผดิ ชอบของหมวด ผบ.มว.อาจจะกำ� หนดทตี่ ง้ั ท่วั ไปและทศิ ทางหลักให้กบั อาวุธกลของหมู่ และปืนยงิ ลูกระเบดิ ชุดดำ� เนินกลยุทธ์ท�ำการ ยิงสนับสนุนซึ่งกันและกันภายในหมวด โดยมีการตรวจการณ์และเขตการยิงทาบทับกัน การยิงนี้จะต้องให้มีปริมาณหนาแน่นแน่นอนท่ีจะไม่ให้ข้าศึกเข้าตีเจาะ หรือตัดแยกก�ำลัง บางส่วนของหมวด ก. ทตี่ ้งั ปืนกล โดยปกติ ปก.เอม็ .60 ทั้งหมดของหมวดพร้อมด้วยขาหยงั่ จะน�ำมาเข้าท่ตี ง้ั ณ ที่มั่นตั้งรบั อย่างไรกต็ ามเนื่องจากก�ำลังมีน้อย หรือความจ�ำเป็นทชี่ ุดยานรบจะต้องใช้ ปืนกล ดังนั้นจ�ำนวนปืนกลท่ีจะน�ำเข้าที่ตั้ง ณ ที่ม่ันใหม่ก็ย่อมน้อยลงไป อย่างน้อยที่สุด ก็ควรจะมี ปก.เอ็ม.60 หมู่ละ 1 กระบอก ณ ทมี่ ั่นสกดั กั้น

ในการตั้งรับใช้ปืนกลติดต้ังบนขาหยั่งพร้อมด้วยควงสูงและควงส่ายน�ำเข้า เห ่ลาทหาร ้มา 85 ที่ตั้ง ซ่ึงมีเขตการยิงครอบคลุมด้านหน้าของหมวดและท�ำการยิงประสานกับหน่วยอื่น ๆ ทต่ี งั้ ของปนื กลควรจะมกี ารกำ� บงั ทางดา้ นหนา้ การยงิ ปนื กลไดผ้ ลสงู สดุ เมอ่ื ทำ� การยงิ กราด ทางลึกต่อรปู ขบวนเข้าตีของข้าศึก การยิงทางปีกและการยิงกราดทางลึกควรจะท�ำการยิง จู่โจมต่อข้าศกึ จากทศิ ทางซ่ึงข้าศกึ ไม่ได้คาดคดิ เมื่อมีโอกาสเป็นไปได้ ผบ.มว.จะมอบแนวป้องกันขั้นสุดท้ายให้กับปืนกล ซึ่งเป็นแนวที่ ผบ.มว.ได้วางแผนหยุดย้ังการเข้าตีของข้าศึกด้วยการยิงประสาน โดยท่ัวไป แล้วจะเป็นการยิงตัดผ่านหน้าท่ีส�ำหรับปืนกลให้พยายามท�ำการยิงกราดตามแนวป้องกัน ขั้นสุดท้าย การยิงกราดเป็นการยงิ ท่มี คี วามสงู ไม่เกนิ 1 เมตรจากพื้นดิน (ประมาณระดบั สะโพก) ในบางกรณี หว้ ย, ทางนำ�้ ไหลหรอื คสู นามเพลาะอาจจะเปน็ ทางนำ� มาสทู่ ม่ี น่ั ดังนั้นปืนกลก็จะตั้งให้ท�ำการยิงตรงไปยังเส้นทางการรุกเข้ามาของข้าศึก มากกว่าท่ีจะให้ ท�ำการยิงตัดผ่านหน้าหน่วย และจะได้รับมอบทิศทางยิงหลักไปยังเส้นทางการรุกเข้ามา ของข้าศกึ ปนื กลจะตง้ั ยงิ ใหต้ รงไปยงั แนวป้องกนั ขนั้ สดุ ทา้ ย หรอื ทศิ ทางยงิ หลกั เสมอ เว้นแต่ว่าจะต้องกระทำ� การยิงต่อเป้าหมายอื่น ๆ ปืนกลทกุ กระบอกให้เร่มิ ท�ำการยงิ ไปยงั แนวป้องกันข้ันสุดท้ายพร้อม ๆ กัน และเมื่อได้รับสัญญาณเขตการยิงของปืนกล ได้ถูก เลือกให้อำ� นวยครอบคลุมทิศทางการเข้ามาของทหารราบที่ลงรบเดินดินสู่บริเวณท่ีม่ันของ หมวด ข้อพจิ ารณาอ่นื ๆ ของ ผบ.มว. เมอ่ื เลือกทตี่ ั้งทั่วไปและเขตการยิงให้ปืนกล มีดงั นี้ - เขตการยิงของปืนกลควรจะให้มีการยิงทาบทับกันกับปืนกลกระบอก อนื่ ๆ ของหมวดและของหมวดข้างเคยี ง - แนวยิงปืนกลในแนวป้องกันขั้นสุดท้าย ควรจะให้มีการยิงทาบทับกัน เพอื่ ว่าหากมกี ารสูญเสยี ปืนกลไปกระบอกหนึ่ง กจ็ ะไม่ท�ำให้เกิดช่องว่างขน้ึ ผบ.หมู่ เลือกที่ต้ังซ่ึงอ�ำนวยให้ครอบคลุมอย่างสูงสุดตลอดเขตพ้ืนยิงและ การยิงส�ำหรับแนวยิงป้องกันขั้นสุดท้าย หรือครอบคลุมอย่างดีท่ีสุด เมื่อท�ำการยิงไปยัง ทิศทางหลักส�ำหรับพ้ืนท่ีอับกระสุนตามแนวป้องกันข้ันสุดท้าย พลยิงท�ำการตรวจขณะท่ี ให้ก�ำลังพลเดินตามแนวแล้วท�ำเครื่องหมายไว้ พื้นที่อับกระสุนจะเป็นบริเวณท่ีไม่สามารถ

86 เหลา่ ทหารมา้ ทำ� การยงิ กราดได้ ผบ.หมู่ สามารถทำ� การยงิ ครอบคลมุ พน้ื ทอี่ บั กระสนุ ดว้ ยการยงิ จากอาวธุ ปืนซ่งึ ใช้การยงิ ได้สองระบบ (ใช้กระสุนวถิ ีตรงก็ได้ และใช้ลกู ระเบดิ ยิงกไ็ ด้) ผบ.มว. จะทำ� การตรวจสอบทต่ี ง้ั ตา่ ง ๆ เหลา่ น้ี รวมทง้ั ปรบั ปรงุ หรอื ดดั แปลง แกไ้ ขตามความจำ� เปน็ เมอ่ื ผบ.มว. ไดก้ ำ� หนดทตี่ ง้ั ปนื กลโดยแนน่ อนแลว้ ผบ.หมู่ กจ็ ะทำ� การ ขุดหลุมบุคคลและถากถางพ้ืนยิง ส่วนที่เหลือของหมู่ก็จะต้องอยู่ในที่ซ่ึงสามารถป้องกัน ปืนกล แล้วกจ็ ะท�ำการขดุ หลมุ บุคคล การยิงด้วยปืนกล, ปืนยิงลูกระเบิด และวางทุ่นระเบิดเคลย์โมร์ เป็นการ คุ้มครองปืนกล และให้การครอบคลุมพื้นท่ีซึ่งการยิงดังกล่าวให้การครอบคลุมไม่ได้ วางเครอ่ื งกีดขวางและทุ่นระเบิดไว้ด้วย ที่ต้ังจะต้องมีการตรวจการณ์, มีพ้ืนยิงดี มีการกำ� บังและการซ่อนพรางดี, จัดเตรียมในเรื่องเหล่านี้เพื่อให้มีการช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน อย่างไรก็ตามให้ใช้ประโยชน์ สงู สดุ จากการกำ� บงั และการซ่อนพรางเท่าทีม่ ีอยู่ ข. การตรวจการณ์ ทหารทุกคนมีความสามารถท่ีจะมองเห็น และตรวจพบข้าศึกก่อนท่ีจะเข้า มาในเขตการยงิ พนื้ การตรวจการณข์ องทตี่ ง้ั หมปู่ นื เลก็ โดยปกตมิ กั จะจ�ำกดั ระยะยงิ หวงั ผล ของอาวธุ ในทต่ี ง้ั ยงิ เพอื่ ให้มีการตรวจการณ์ไกลขน้ึ ผู้บงั คบั หน่วยจะต้องตัง้ ทต่ี รวจการณ์ขึ้น ค. พนื้ ยงิ แต่ละที่ม่ันจะต้องมีพ้ืนยิงภายในเขตรับผิดชอบการยิงของตน เม่ือท�ำการ ถากถางพน้ื ยงิ จะกระท�ำได้โดยเลอื กตดั หญ้า พชื พนั ธ,์ุ พ่มุ ไมแ้ ละต้นไม้ อาคารทถี่ กู ท�ำลาย หรือตัดช่องยงิ ผ่านป่าไม้หนาแน่น ช่องยงิ จะต้องอยู่ตำ่� ใกล้พ้ืนดนิ และยากต่อการตรวจจับ ค้นหาการถากถางมากเกนิ ไป จะท�ำให้ข้าศึกรู้จงอย่าทำ� ลายการซ่อนพรางโดยธรรมชาติ ปักเขตการยิง หรือเคร่ืองหมายอื่นใดเพ่ือจ�ำกัดเขตการยิง และป้องกัน การยงิ เข้าไปในท่มี ัน่ ของหน่วยข้างเคียง ง. การกำ� บงั ก�ำหนดแต่ละท่มี ั่นให้มีต้นไม้กำ� บังอยู่ด้านหน้า, โคกเนิน, ตอไม้ ฯลฯ เพ่อื ให้กลมกลนื กบั สภาพแวดล้อมในภมู ปิ ระเทศ อย่างน้อยที่สุดให้มีมูลดินสงู ประมาณ 18 นว้ิ ระหว่างตัวทหารและข้าศึก เคร่ืองก�ำบังด้านหน้าเป็นส่ิงส�ำคัญมาก ป้องกันไม่ให้ทหาร ท่ีทำ� การยงิ เปิดเผยศรี ษะเป็นเป้าหมายให้ข้าศกึ ท�ำการยิง

เม่ือไม่มีสิ่งก�ำบังตามธรรมชาติก็ให้สร้างมูลดินทางด้านหน้าเพื่อให้เป็น เห ่ลาทหาร ้มา 87 สิ่งก�ำบังทางด้านหน้า ส�ำหรับการก�ำบังจากการยิงเล็งจ�ำลองให้สร้างท่ีก�ำบังหรือปิดที่ม่ัน ดัดแปลง จ. การซ่อนพราง ท่ีต้ังจะต้องกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม เพ่ือป้องกันการตรวจค้นพบจาก ข้าศึกทางด้านหน้า จะต้องมีการตรวจสอบจากทางด้านหน้าเพ่ือให้ประกันว่า ได้ท�ำการ ซ่อนพรางอย่างสมบรู ณ์ ฉ. การช่วยเหลอื และการสนบั สนนุ ซ่งึ กนั และกนั ที่ต้ังต่าง ๆ ควรจะต้องให้มีความสัมพันธ์สอดคล้องซ่ึงกันและกัน เพ่ือว่า แต่ละทีต่ งั้ จะสามารถช่วยครอบคลมุ การยิง อย่างน้อยท่สี ดุ จากหน่งึ ท่ีตั้ง ทำ� การยิงตดั ผ่าน ตรงหน้าในระยะไกลเกนิ กว่าการใช้ลกู ระเบิดขว้าง (35 เมตร) วางอาวุธในทีต่ ัง้ ทางปีกเพือ่ ทำ� การยิงประสานกบั หน่วยข้างเคยี งไม่ให้เกิดช่องว่าง ช. พลปนื เลก็ และพลปนื กล ผบ.หมู่ จะตอ้ งแจง้ เสน้ ทางการเคลอื่ นทขี่ องทหารราบ ขา้ ศกึ ทเี่ ขา้ มายงั เขตรบั ผดิ ชอบของหมตู่ น แบบฉบบั ของทศิ ทางการเขา้ มาของทหารราบลง รบเดินดนิ จะเป็นพ้นื ทปี่ ่าไม้พุ่มเต้ยี กำ� แพงและรัว้ ต้นไม้และจมูกเขา, หบุ เขาลกึ ทั้งหมด ที่กล่าวจะเอ้ืออ�ำนวยให้ฝ่ายเข้าตีมีการก�ำบัง พ้ืนล�ำธารและทางคนเดินเป็นเส้นทางการ เข้ามา โดยเฉพาะอย่างยง่ิ ในเวลากลางคนื พน้ื ทเี่ หลา่ นเี้ ปน็ พนื้ ทซี่ งึ่ ควรใหพ้ ลปนื เลก็ และพลปนื กลท�ำการยงิ ครอบคลมุ ถ้าหาก ผบ.มว.ได้ทำ� การครอบคลมุ ด้วยการใช้ฉากการยิงปืนกลเรยี บร้อยแล้ว ให้เสาะหา ช่องว่างด้วยการสอบถามจากพลยิง แล้วท�ำการยิงครอบคลุมช่องว่างน้ันด้วยการยิงจาก อาวธุ ปืนเลก็ ถ้าไม่มชี ่องว่างกม็ อบหมายเขตการยงิ ให้พลปืนเลก็ ซงึ่ จะทำ� การยงิ ให้ทาบทบั กนั กบั เขตการยงิ ของปนื กล เพอื่ ใหก้ ารยงิ ครอบคลมุ ตลอดแนวของหมู่ ในระหวา่ งการตงั้ รบั ให้ใช้พลปืนเลก็ เข้าทดแทนพลยงิ อาวุธหลักทไ่ี ด้รบั บาดเจ็บ ซ. พลยงิ ลกู ระเบิด เลือกที่ต้ังของพลยิงลูกระเบิดเพื่อให้ครอบคลุมตลอดพื้นที่ของหมู่ เพื่อว่า ในที่ซ่ึงพลยิงลูกระเบิดคนหน่ึงไม่สามารถท�ำการยิงลูกระเบิดได้ พลยิงลูกระเบิดคนอื่น กส็ ามารถทำ� การยงิ ได้ ทตี่ งั้ ของพลยงิ ลกู ระเบดิ จะตอ้ งใหส้ ามารถทำ� การยงิ ครอบคลมุ พนื้ ท่ี

88 เหลา่ ทหารมา้ อบั กระสุนของปืนกลในแนวป้องกนั ขัน้ สุดท้าย หลกั เลง็ , ก้อนหิน ฯลฯ จะช่วยให้ทำ� การยงิ โดยไมเ่ ปดิ เผยทตี่ ง้ั ทหารราบขา้ ศกึ ทล่ี งรบเดนิ ดนิ เปน็ เปา้ หมายอยา่ งดขี องพลยงิ ลกู ระเบดิ เนื่องจากกระสนุ ลกู ระเบดิ ขนาด 40 มม. สามารถเจาะทะลทุ ะลวงเหลก็ กล้าหนา 2 นว้ิ ได้ จึงอาจใช้ปืนยงิ ลกู ระเบิดท�ำการยงิ ต่อต้าน รสพ.ของข้าศึก ฌ. อาวุธต่อสู้รถถังขนาดเบา อาวธุ ตอ่ สรู้ ถถงั ขนาดเบาเปน็ อาวธุ หลกั สำ� หรบั ตอ่ สรู้ ถถงั ในระยะประชดิ ของ หมู่ทหารแต่ละคน ควรจะมีอาวุธต่อสู้รถถังขนาดเบาจ�ำนวนมาก ๆ ในท่ีตั้งของตน เขต รับผิดชอบของการยิงอาวุธต่อสู้ ถ. เป็นเช่นเดียวกับเขตรับผิดชอบของอาวุธหลัก การยิง อาวธุ ต่อสู้รถถงั เป็นกลุ่มก้อนในระยะประชิด (100 เมตร หรือน้อยกว่า) ใช้ทำ� การยิงต่อทาง ข้างของยานเกราะข้าศึกที่ท�ำการเข้าตีต่อท่ีต้ังของ หมู่ ผบ.หมู่ จะออกค�ำส่ังยิงเมื่อรถถัง เคลื่อนท่ีเข้ามาในระยะยงิ และพลยงิ อาวุธต่อสู้รถถงั ขนาดเบาท�ำการยิงต่อด้านหลัง ญ. ทุ่นระเบดิ สังหารและทุ่นระเบดิ ดกั รถถัง ให้วางทุ่นระเบิดสังหารและทุ่นระเบิดดักรถถังให้ครอบคลุมทุกเส้นทาง การเคลอื่ นทเี่ ขา้ มาของขา้ ศกึ ทจี่ ะเขา้ มาหาทมี่ นั่ อยา่ งเพยี งพอ เพอื่ ครอบคลมุ พนื้ ทอ่ี บั กระสนุ ซง่ึ ปืนยิงลูกระเบดิ ไม่สามารถท�ำการยงิ อย่างได้ผล และเพิม่ อำ� นาจการยงิ ให้กับพลปืนเลก็ ดว้ ยการใชท้ นุ่ ระเบดิ เคลยโ์ มร์ และทนุ่ ระเบดิ สงั หาร เมอื่ สง่ั ใหจ้ ดุ ระเบดิ กด็ ำ� เนนิ การเหมอื น ทุ่นระเบิดอ่ืน ๆ ทุ่นระเบิดเคลย์โมร์จะต้องท�ำการกดระเบิด โดยผู้ซ่ึงสามารถมองเห็น เขตการยงิ และอาจวางสายคู่ เพอื่ ทจี่ ะทำ� การกดระเบดิ จากอกี ทหี่ นงึ่ ได้ หรอื จากทม่ี นั่ ขา้ งเคยี ง ซ่ึงได้ก�ำหนดเขตการยิงหลักและตรวจการณ์ไว้ท�ำการเล็งทุ่นระเบิดเคลย์โมร์ให้ได้ผลสูงสุด จากประสทิ ธภิ าพของทนุ่ กำ� หนดระเบยี บปฏบิ ตั ปิ ระจำ� สำ� หรบั การยงิ อาทิ “ใหท้ หารทำ� การ ยิงต่อเป้าหมายในเขตรับผิดชอบของตนด้วยอาวุธประจ�ำกาย นอกเสียจากมีเป้าหมาย เป็นจำ� นวนมาก ในกรณเี ชน่ นกี้ ใ็ หใ้ ชท้ ่นุ ระเบดิ เคลยโ์ มร”์ ถา้ หากใชท้ นุ่ ระเบดิ เคลยโ์ มร์มาก เกินกว่าหนง่ึ ทุ่นในเขตการยงิ เดยี วกนั ผบ.หมู่ ต้องลำ� ดบั ข้ันตอนการใช้ทุ่นระเบดิ เคลย์โมร์ เนอื่ งจากวา่ ทนุ่ ระเบดิ เคลยโ์ มรแ์ ตล่ ะทนุ่ ทม่ี สี ายไฟยาวเพยี ง 100 ฟตุ ตอ้ งใหป้ ระกนั วา่ ทหาร ทีอ่ ยู่ในท่มี ่นั ข้างเคยี งจะต้องไม่ได้รบั อันตรายจากทุ่นระเบิดเคลย์โมร์ ให้วางกระสอบทราย หรอื ก้อนหนิ กัน้ ไว้หลงั ทุ่นระเบดิ และค่นั ระหว่างท่ีมัน่ ของหน่วยข้างเคียงเพอื่ บงั คบั ทิศทาง ของแรงระเบดิ สายไฟกดจุดระเบดิ ควรฝังดนิ ให้ลึก 2 นิว้ เพอ่ื ป้องกันการถูกยิงขาด

ให้ใช้ทุ่นระเบิดดักรถถังเพื่อป้องกันการเข้าประชิดจากหน่วยยานเกราะ เห ่ลาทหาร ้มา 89 ข้าศึกวางทุ่นระเบิดดักรถถังในท่ีซึ่งสามารถใช้อาวุธต่อสู้รถถังขนาดเบาท�ำการคุ้มครองได้ ท�ำการยิงต่อเส้นทางการเคลื่อนที่ของรถถัง อย่างน้อยท่ีสุดก็ให้วางทุ่นระเบิดดักรถถังไว้ หนง่ึ ทุ่นต่อหน่งึ ทม่ี นั่ แต่อาจจะวางให้มากกว่านก้ี ็ได้ ข้นึ อยู่กบั จดุ อ่อนของหมู่ทจี่ ะถกู โจมตี จากหน่วยยานเกราะข้าศกึ เม่ือท�ำการวางทุ่นระเบิดโดยวิธีนี้ หมู่จะต้องท�ำการร้ือถอนทุ่นระเบิดท่ีได้ วางไวท้ งั้ หมดกอ่ นทจ่ี ะถอนตวั ออกจากทม่ี นั่ หากไมส่ ามารถกระท�ำได้ เปน็ ตน้ วา่ เมอ่ื ไดร้ บั คำ� สง่ั ใหถ้ อนตวั ภายใตก้ ารกดดนั จะตอ้ งรายงานใหท้ ราบวา่ ไดว้ างทนุ่ ระเบดิ ไว้ ณ ทใ่ี ดบา้ ง ? ฎ. ทม่ี ัน่ ของผู้บงั คบั หมู่ ผู้บังคบั หมวด ผบ.มว. และ ผบ.หมู่ จะต้องมที ี่มัน่ ซงึ่ ตง้ั อยู่ ณ ทซ่ี งึ่ ตนสามารถควบคมุ การยิงของก�ำลังพลของตนได้ ถ้า ผบ.หมู่ มีก�ำลังพลท่ีเพียงพอก็อาจจะวางตัวมาอยู่ ข้างหลงั เลก็ น้อย ณ ทซ่ี ง่ึ สามารถแลเหน็ และตดิ ต่อกบั ก�ำลังพลภายในหมู่ได้ ถ้ากำ� ลงั พลของหมมู่ นี อ้ ยหรอื ภมู ปิ ระเทศเกอื้ กลู ให้ ผบ.หมู่ จดั ทม่ี นั่ ของตน อยู่ทางด้านหลังได้ ผบ.หมู่ จะอยู่ข้างหน้ากไ็ ด้ ผบ.หมู่ ต้องดำ� รงการตดิ ต่อกบั ผบ.มว. และ หน.ชดุ ยงิ ของตนได้ ผบ.มว.กจ็ ะต้องจดั ท่ีมัน่ ของตนทำ� นองเดียวกัน ซงึ่ อำ� นวยให้สามารถ ตรวจการณ์ เขตรบั ผดิ ชอบของ มว. หรอื อย่างน้อยทีส่ ุด ณ ต�ำบลล่อแหลมของ มว. ฏ. ลำ� ดบั ความเร่งด่วนของการปฏบิ ตั ภิ ารกจิ หวั ขอ้ ตอ่ ไปนี้ มกั จะมาจากคำ� สงั่ ของผบู้ งั คบั กองรอ้ ยชดุ รบ โดยปกตจิ ะเปน็ ระเบียบปฏิบัติประจ�ำของหน่วยในเกือบทุกสถานการณ์ ภารกิจที่ควรกระท�ำอันดับแรก 4 ประการ คือ 1) อ�ำนวยการรักษาความปลอดภัย นอกจากว่ากองร้อยชุดรบจะได้ สถาปนาหนว่ ยรกั ษาความปลอดภยั ของตนขนึ้ กำ� ลงั พลบางนายของหมวดจะตอ้ งดำ� รงการ รกั ษาความปลอดภยั เมือ่ ก�ำลงั อื่น ๆ ท�ำการจัดเตรยี มท่ีม่ันสกัดกน้ั โดยปกติแต่ละหมวด จะต้องมที ่ีตรวจการณ์ของตนออกไปอยู่ทางด้านหน้าของท่ีมัน่ อย่างน้อยทีส่ ุดหนงึ่ แห่ง 2) จดั วางกำ� ลงั พลและอาวธุ ใหค้ มุ้ ครองตลอดเขตรบั ผดิ ชอบของหมวด/หมู่ ดว้ ยอำ� นาจการยงิ และใหก้ ารกำ� บงั และซอ่ นพรางตามธรรมชาตใิ หม้ ากทสี่ ดุ เทา่ ทจ่ี ะสามารถ กระทำ� ได้

90 เหลา่ ทหารมา้ 3) ถากถางพ้ืนท่ียิงให้มากเท่าท่ีมีความจ�ำเป็นต้องการครอบคลุม อย่าถากถางให้มากเกนิ ไป 4) เตรียมทม่ี นั่ รบ (ท่มี น่ั ทม่ี กี ารดดั แปลง) การปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ เหล่าน้ีเป็นส่ิงท่ีจะต้องกระท�ำพร้อม ๆ กัน เมอ่ื มเี วลากจ็ ะมกี จิ เฉพาะเพม่ิ เตมิ รวมทง้ั การวางเครอ่ื งกดี ขวาง วางลวดหนาม เตรยี มทม่ี นั่ ส�ำรองและท่ีมั่นเพ่ิมเติมและวางสายการติดต่อสื่อสาร ถ้ามีการเปลี่ยนระเบียบปฏิบัติ ประจ�ำกต็ ้องแจ้งไว้ในค�ำส่งั การต้งั รับของผู้บงั คับกองร้อยชดุ รบ ฐ. จุดต้านทานแขง็ แรง (STRONG POINT) ในบางกรณีกองร้อยชุดรบหรือกองพันรบเฉพาะกิจได้รับค�ำส่ังให้พัฒนา ท่ีม่ันสกัดก้ันเป็นจุดต้านทาน เรื่องน้ีเป็นกรณียกเว้นเหมาะสำ� หรับการรักษาที่ม่ันสกัดก้ัน ท่มี คี วามส�ำคญั ต่อการต้งั รับทั้งหมด เพราะว่าให้คุณประโยชน์อย่างมากมายต่อฝ่ายตั้งรับ จุดต้านทาน จะก�ำหนดพัฒนาเพื่อป้องกันไม่ให้ข้าศึกกระท�ำการอ้อมผ่าน ไม่ให้ข้าศึกได้ มีโอกาสกระท�ำการบดขย้ีด้วยก�ำลังรถถังข้าศึก ไม่สามารถท�ำลายได้ด้วยการยิงอย่าง หนักหน่วง หรือไม่สามารถท�ำลายได้โดยใช้ก�ำลังทหารราบลงรบเดินดินจ�ำนวนมากเข้าตี ต้องใช้เวลา และวัสดุอุปกรณ์กบั หน่วยทจ่ี ะตัง้ จุดต้านทาน กจิ เฉพาะของหมู่เมื่อเตรียมจัด ตงั้ จดุ ตา้ นทานอยภู่ ายใตก้ ารควบคมุ อำ� นวยการของผบู้ งั คบั กองรอ้ ยชดุ รบ ในขณะเดยี วกนั ก็คล้ายคลงึ กับการเตรียมทม่ี ัน่ รบอน่ื ๆ พืน้ ยงิ , ฉากขัดขวาง ฯลฯ และมีบางสง่ิ ที่หมวดจะ ต้องกระทำ� ดังนี้ - เตรยี มท่มี ่ันส�ำรองและทม่ี น่ั เพิม่ เติม - สร้างคสู นามเพลาะตดิ ต่อระหว่างทม่ี ่นั ต่าง ๆ - สร้างท่กี ำ� บังต้งั ยงิ ปิด หรอื ทตี่ ัง้ ท่มี ีการก�ำบังเหนอื ศีรษะ - เตรยี มระบบเครื่องกีดขวางและทุ่นระเบดิ อย่างกว้างขวาง - ท่เี ก็บกระสนุ , อาหาร, และน้ำ� หมวดท�ำการเข้าท่ีมั่นส�ำรองก็ต่อเม่ือถูกข้าศึกท�ำการยิงข่ม ก�ำลังพลที่ อยู่ในท่ีมั่นหลักต้องมีเส้นทางที่ให้การก�ำบังหรือคูสนามเพลาะระหว่างท่ีม่ันหลักและท่ีม่ัน ส�ำรอง การจัดเตรียมการสร้างที่ก�ำบังต้ังยิงปิด จะท�ำให้กับอาวุธหลักก่อนท�ำให้กับ ปล.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook