เหล่าทหารมา้ 191
ผลการตรวจ “เป้าหมาย” ผลท่ีได้ตรวจเห็น ผกค.บาดเจ็บล้มตายประมาณ 10 คน ทเ่ี หลือหนกี ระจดั กระจาย การแก้ (ไม่แก้ เพราะถกู เป้าหมาย และไม่ยิงซำ้� เพราะข้าศกึ หนไี ปแล้ว) 192 เหล่าทหารมา้
บทที่ เห ่ลาทหาร ้มา 193 ชดุ วิทยุ AN/PRC-77 (RADIO SET AN/PRC-77) 1. กลา่ วทว่ั ไป ชุดวิทยุ AN/PRC-77 เป็นชุดวิทยุที่ใช้การสื่อสารแบบสองทาง (Duplex Communication) ตดิ ตอ่ ในระยะใกล้ ใชร้ ะบบการปรงุ คลน่ื แบบ FM รบั -สง่ ดว้ ยสญั ญาณ แบบคำ� พดู หรอื วทิ ยุ โทรศพั ท์ ชดุ วทิ ยทุ จี่ ดั อยใู่ นประเภทเดยี วกนั กบั ชดุ วทิ ยุ AN/PRC-77 ได้แก่ ชดุ วิทยุ AN/VRC-64 และชดุ วทิ ยุ AN/GRC-160 ซงึ่ แต่ละชุดจะมคี วามแตกต่างกนั ทร่ี ายการสว่ นประกอบชดุ ตดิ ตง้ั จงึ ทำ� ใหก้ ารเรยี กชอื่ ชดุ วทิ ยเุ ปลย่ี นตามไป อยา่ งไรกต็ าม รายการส่วนประกอบหลกั คือ เคร่ืองรบั -ส่ง กย็ งั คงใช้ RT-841 เหมือนกัน นอกจากนัน้ ชุดวิทยุเหล่าน้ียังสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เพ่ิมเติมเพื่อวัตถุประสงค์อ่ืน ๆ เช่น การใชง้ านชดุ วทิ ยจุ ากทไ่ี กล (Remote Control), การสนธวิ ทิ ยรุ ว่ มทางสาย และการใชง้ าน ร่วมกับเคร่อื งตดิ ต่อภายในรถ AN/VIC-1 เป็นต้น 2. ค�ำ เตือนและขอ้ ควรระวงั 1) ระวังอย่าให้เสาอากาศของวิทยุไปสัมผัสสายไฟแรงสูง หรือแหล่งจ่าย ก�ำลังงานไฟฟ้าใด ๆ เพราะอาจท�ำให้ได้รบั บาดเจ็บหรือเสยี ชวี ิตได้
2) ถอดแบตเตอรี่ออกจากกล่องบรรจุ CY-2562 เมื่อเคร่ืองรับ-ส่งติดต้ังใช้งาน บนยานยนต์ 3) ชุดวิทยุท่ีอยู่ห่างกันในรัศมีไม่เกิน 25 ฟุต ไม่ควรใช้ความถี่ใกล้กัน ต้ังแต่ 3 MHz ลงมา เพราะอาจเกดิ การรบกวนกนั ได้ 4) เมอื่ ตดิ ตง้ั ใชง้ านบนยานยนต์ อยา่ ตอ่ สายไฟฟา้ กลบั ขวั้ เพราะจะทำ� ใหเ้ ครอ่ื ง ขยาย AM-2060 ชำ� รุดได้ 5) อย่ากดสวิตช์ปากพูดในขณะเปลี่ยนความถี่และ/หรือเปล่ียนย่านความถี่ (Band) เพราะอาจท�ำให้ส่วนประกอบภายในเครื่องชำ� รดุ หรืออาจทำ� ให้ความถ่คี ลาดเคล่อื นได้ 6) ให้ปิดไฟเข้าเครอ่ื งขยาย AM-2060 และ AM-1780 (ถ้าม)ี ก่อนท่ีจะตดิ หรือ ดับเครอื่ งยนต์ 3. คุณลักษณะทางเทคนิคของเครื่องรบั -ส่ง 194 เหล่าทหารมา้ 1) ย่านความถ่ี (Frequency Range) 30.00 - 75.95 MHz ย่านความถ่ตี ่�ำ (BAND A) 30.00 - 52.95 MHz ย่านความถ่สี ูง (BAND B) 53.00 - 75.95 MHz 2) สญั ญาณการรบั -ส่ง คำ� พดู /วทิ ยุโทรศพั ท์ 3) จ�ำนวนช่องความถ่ี (Channel Number) 920 ช่อง 4) ระยะห่างระหว่างช่องความถ่ี (Channel Spacing) 50 KHz 5) ตั้งความถใ่ี ช้งานล่วงหน้า (Preset) ได้ 2 ความถี่ 6) ระบบการปรงุ คล่นื FM 7) การตดั เสยี งซู่ (Squelch) ท�ำงานโดยใช้ความถี่ TONE 150 Hz 8) กำ� ลงั ส่งออกอากาศ 1.5 ถึง 4 วตั ต์ 9) ระยะการตดิ ต่อ (ขึน้ อยู่กบั ภูมปิ ระเทศ) 5 ไมล์ (8 กม.) 10) สญั ญาณความถเ่ี สยี งทท่ี �ำการส่งเม่อื กดสวติ ช์ปากพดู ความถเี่ สยี ง (15000 - 20000 Hz) และ 150 Hz ของวงจร SQUELCH
11) สัญญานความถ่เี สียงทร่ี บั ฟังเม่ือปล่อยสวิตช์ปากพูด ความถเี่ สียง (15000 - 20000 Hz) ทง้ั มีและไม่มี 150 Hz ของวงจร SQUELCH 12) กำ� ลงั งานไฟฟ้าท่ใี ช้ภายในเคร่อื งรับ-ส่ง การส่งออกอากาศ 12.5 - 15 VDC (ประมาณ 0.06 AMP) ใช้ AS-1729 ติดตั้ง บนยานยนต์ 13) สายอากาศ ใช้ AT-271 (10 ฟตุ ) หรอื AT-892 (3 ฟตุ ) ติดต้ัง ประจำ� กายใช้ 14) แบตเตอรท่ี ใ่ี ช้กบั ชุดวทิ ยุประจ�ำกาย แบตเตอร่แี ห้ง BA-386, BA-4386 หรือ BA-398 (ใช้ในแถบขั้วโลก) 15) อายกุ ารใช้งานของแบตเตอร่ี BA-386 30 ชม. ในอัตราการ เห ่ลาทหาร ้มา 195 รับ-ส่ง 9 ต่อ 1 16) อายกุ ารใช้งานของแบตเตอร่ี BA-4386 60 ชม. ในอัตราการ รับ-ส่ง 9 ต่อ 1 4. คุณลักษณะทางเทคนิคของเครื่องขยาย-แหล่งจ่ายกำ�ลังงาน ไฟฟ้า OA-3633 1) แรงไฟเข้า (Input Voltage) 22 - 28 VDC 2) แรงไฟออก (Output Voltage) 13.3 และ 2.6 VDC 3) ย่านความถ่เี สยี งออกล�ำโพง (Frequency Response) 300 - 3000 Hz 5. สว่ นประกอบชดุ ก. ชุดวิทยุ AN/PRC-77
196 เหล่าทหารมา้ รูปท่ี 1 สว่ นประกอบชดุ ชดุ วทิ ยุ AN/PRC-77 1) เครอื่ งรับ-ส่ง RT-841 รวมท้งั กล่องแบตเตอร่ี CY-2562 2) เสาอากาศส้นั AT-892 (3 ฟุต) 3) เสาอากาศยาว AT-271 (10 ฟตุ ) 4) ฐานเสาอากาศยาว AB-591 5) ปากพดู หฟู ัง H-189 หรอื H-138 หรอื H-250 6) เครอื่ งสะพายหลงั ST-138 7) ถงุ ใส่อุปกรณ์ CW-503
ข. ชดุ วิทยุ AN/VRC-64 เห ่ลาทหาร ้มา 197 รปู ท่ี 2 ส่วนประกอบชดุ ชดุ วทิ ยุ AN/VRC-64 1) เคร่อื งรบั -ส่ง RT-841 รวมท้งั กล่องแบตเตอรี่ CY-2562 2) เครอื่ งขยาย-แหล่งจ่ายกำ� ลังงานไฟฟ้า OA-3633 ซึ่งประกอบด้วย AM- 2060 และ CX-4655 3) ชดุ สายอากาศ AS-1729 ซ่งึ ประกอบด้วย - เสาอากาศท่อนบน AT-1095 พร้อมครอบปลายเสา - เสาประกอบท่อนล่าง AS-1730 - เครือ่ งปรับวงจรเสาอากาศ MX-6707 - เชือกร้ังเสาอากาศ ค. ชดุ วิทยุ AN/GRC-160 1) ส่วนประกอบของชดุ วทิ ยุ AN/PRC-77 2) เคร่อื งขยาย-แหล่งจ่ายกำ� ลังงานไฟฟ้า OA-3633 3) ชดุ สายอากาศ AS-1729 6. การติดตงั้ ใช้งาน 1. การตดิ ตงั้ บนยานยนต์ จะมที งั้ การตดิ ตง้ั บนยานยนตล์ อ้ และการตดิ ตง้ั บน ยานยนต์สายพาน ซง่ึ เป็นหน้าท่ขี องช่างวทิ ยปุ ระจำ� หน่วย เป็นผู้ดำ� เนินการตดิ ตง้ั อปุ กรณ์ ตา่ ง ๆ ซงึ่ จะตอ้ งเบกิ รายการสว่ นประกอบชดุ ของชดุ ตดิ ตง้ั ชดุ วทิ ยแุ ยกตา่ งหากจากรายการ ส่วนประกอบชดุ ของชดุ วิทยตุ ามชนิดของยานยนต์ที่ใช้ตดิ ตั้ง
198 เหล่าทหารมา้ 2. การตดิ ตง้ั แบบประจำ� กาย (Manpack) เปน็ หนา้ ทขี่ องพนกั งานวทิ ยหุ รอื ผู้ใช้ชุดวทิ ยุ (Operator Or User) โดยปฏบิ ตั ดิ งั นี้ ก. การตดิ ตั้งแบตเตอร่ี 1) วางเคร่อื งรับ-ส่ง โดยคว�่ำหน้าเคร่อื งลงกบั พืน้ 2) ปลดขอยดึ 2 ตวั แล้วถอดกล่องแบตเตอรี่ออกจากเคร่อื งรบั -ส่ง 3) ตรวจดูเครื่องว่าไม่ช�ำรุดหรือหลุดหลวม ขันควงช่องระบายลิ้นลด แรงดนั ให้แน่น 4) ใสแ่ บตเตอรโ่ี ดยใหข้ ว้ั ตอ่ ของแบตเตอรตี่ รงกบั ขว้ั ตอ่ ของเครอื่ งรบั -สง่ 5) ประกอบกล่องแบตเตอรีเ่ ข้ากับเคร่อื งรบั -ส่ง แล้วยึดขอยึด 2 ตัว รปู ท่ี 3 การประกอบแบตเตอร่ี
ข. การประกอบเครื่องรบั -ส่งเข้ากบั เคร่ืองสะพายหลัง เห ่ลาทหาร ้มา 199 1) วางเครอ่ื งสะพายหลงั ST-138 ลงกบั พน้ื ราบโดยใหด้ า้ นทมี่ แี ผน่ กรอบ เหล็กอยู่ด้านบน 2) วางเครื่องรับ-ส่งลงบนเคร่ืองสะพาย ST-138 ให้ด้านหน้าเคร่ือง รบั -ส่งอยู่ด้านบน และกล่องแบตเตอร่ีวางพกั อยู่บนกระบงั ของแผ่นเหลก็ ทั้งสองข้าง 3) ยดึ เครอ่ื งรบั -ส่งเข้ากบั เครื่องสะพายหลัง ST-138 ด้วยเข็มขดั 2 เส้น 4) เหนบ็ ขอยดึ ของถงุ ใสอ่ ปุ กรณ์ CW-503 เขา้ กบั ทเี่ กย่ี วขอยดึ ของเครอื่ ง สะพายหลงั ST-138 รปู ท่ี 4 การประกอบเคร่อื งสะพายหลงั
200 เหล่าทหารมา้ ค. การประกอบเครื่องสะพายหลงั ST-138 เข้ากับล�ำตัว 1) ต่อขัว้ ต่อของปากพูดหฟู ัง เข้ากบั ข้วั ต่อ AUDIO ท่ีเคร่ืองรบั -ส่ง 2) ตดิ ตง้ั เสาอากาศสน้ั AT-892 หรอื เสาอากาศยาว AT-271 ตามตอ้ งการ 3) ประกอบเคร่ืองสะพายหลัง ST-138 ท่ีมีเคร่ืองรับ-ส่งติดต้ังอยู่แล้ว เข้ากับแผ่นหลังของพนักงานวิทยุ และคล้องสายรัดสะพายไหล่เข้ากับไหล่ท้ังสองข้างของ พนกั งานวทิ ยุ 4) สอดสายรัดเส้นล่างด้านขวาเข้าในห่วงเหล็ก แล้วสอดเข้าในตัว เข็มขดั ท่สี ายคล้องไหล่ขวา 5) สอดปลายสายรดั เส้นล่างด้านซ้ายเข้าในห่วงเหล็ก แล้วสอดเข้าใน หวั เขม็ ขดั ท่สี ายคล้องไหล่ซ้าย 6) เกย่ี วขอเกยี่ วเขม็ ขดั กบั รบู นของเขม็ ขดั สนามดา้ นหนา้ ของพนกั งาน วทิ ยุ รูปที่ 5 การประกอบเครื่องสะพายหลงั เขา้ กบั ลำ� ตวั
7. หน้าท่ขี องป่มุ ควบคมุ สวติ ช์และขวั้ ต่อต่าง ๆ ก. เครือ่ งรับ-สง่ RT-841 รูปที่ 6 เครอื่ งรบั -ส่ง RT-841 1) สวิตช์เลอื กการท�ำงาน มี 5 ตำ� แหน่ง ดงั น้ี เห ่ลาทหาร ้มา 201 OFF ปิดไฟเข้าเครอ่ื ง ON เปิดไฟเข้าเครอ่ื ง SQUELCH เปิดไฟเข้าเครอ่ื งและตัดเสยี งซู่เม่อื มี สัญญาณเข้ามา RETRANS ใช้ในการส่งต่อ LITE (มีสปริงดีดกลบั ) เมอื่ บดิ คา้ งในตำ� แหนง่ น้ีหลอดไฟสอ่ งหนา้ ปดั บอกความถจ่ี ะตดิ 2) สวติ ช์ BAND เป็นสวิตช์เลอื กย่านความถใี่ ช้งาน มี 2 ต�ำแหน่ง A 30 - 52 เลอื กใชย้ า่ นความถตี่ ำ่� (30.00 - 52.95 MHz) B 53 - 75 เลอื กใชย้ า่ นความถสี่ งู (53.00 - 75.95 MHz)
3) หน้าปัดบอกความถี่ REC-TRANS Frequency เป็นหน้าปัดแสดงตัวเลข ของความถ่ใี ช้งาน 4) ปมุ่ ปรบั ตง้ั ความถ่ี MC (ปมุ่ ซา้ ย) ใชป้ รบั ตงั้ ความถโ่ี ดยเปลย่ี นไดต้ ำ� แหนง่ ละ 1 MHz แสดงความถ่ดี ้วยตวั เลข 2 ตวั ทางซ้ายมอื ของหน้าปัดบอกความถี่ 5) ปมุ่ ปรบั ตงั้ ความถ่ี KC (ปมุ่ ขวา) ใชป้ รบั ตงั้ ความถโ่ี ดยเปลยี่ นไดต้ ำ� แหนง่ ละ 50 KHz แสดงความถ่ดี ้วยตวั เลข 2 ตวั ทางขวามือของหน้าปัดบอกความถ่ี 6) ปุ่ม PRESET ใช้ในการปรบั ต้งั ความถใี่ ช้งานล่วงหน้า 7) ปุ่ม VOLUME ใช้ปรับระดบั ความดงั ของเสียงในการรบั ฟัง 8) ข้ัวต่อ AUDIO ใช้สำ� หรับต่อปากพดู หฟู ัง 9) ขั้วต่อ ANT ใชต้ อ่ สายอากาศแบบตดิ ตงั้ ประจำ� ท่ี เชน่ RC-292 และสายอากาศตดิ ตงั้ บนยานยนต์ 10) ฐานเสาอากาศ ANT ใชต้ ดิ ตงั้ เสาอากาศสน้ั AT-892 และเสาอากาศยาว AT-271 11) ข้ัวต่อ POWER ใช้ต่อสาย CX-4655 เมอ่ื ใช้ร่วมกบั เครื่องขยาย-แหล่ง 202 เหล่าทหารมา้ จ่ายกำ� ลงั งานไฟฟ้า OA-3633 ข. เครอ่ื งขยาย-แหล่งจา่ ยกำ� ลงั งานไฟฟ้า AM-2060 (สว่ นประกอบของ OA-3633) รูปที่ 7 เครือ่ งขยาย-แหลง่ จา่ ยก�ำลงั งานไฟฟา้ AM-2060
1) สวิตช์ PWR เมอื่ มกี ระแสไฟไหลผา่ นเกนิ 4 แอมป์ จะดดี กลบั เอง มี 2 ตำ� แหน่ง คอื OFF ปิดไฟเข้าเคร่อื ง ON เปิดไฟเข้าเครื่อง 2) สวิตช์ SPKR ใช้ตดั และต่อวงจรลำ� โพง OFF ปิดเสยี งออกล�ำโพง ON เปิดเสยี งออกลำ� โพง 3) สวติ ช์ ANT FREQ Control ใช้ควบคุมการปรับวงจรสายอากาศโดย อัตโนมัติตามความถท่ี ่ใี ช้งาน มี 10 ต�ำแหน่ง 30 - 33 เมื่อใช้ความถ่ี 30 - 33 MHz 33 - 37 เมอื่ ใช้ความถ่ี 30 - 37 MHz 37 - 42 เม่อื ใช้ความถ่ี 37 - 42 MHz 42 - 47 เมือ่ ใช้ความถ่ี 42 - 47 MHz 47.5 - 53 เมอ่ื ใช้ความถ่ี 47.5 - 53 MHz 53 - 56 เมื่อใช้ความถ่ี 53 - 56 MHz 57 - 60 เม่ือใช้ความถ่ี 57 - 60 MHz เห ่ลาทหาร ้มา 203 60 - 65 เมื่อใช้ความถ่ี 60 - 65 MHz 65 - 70.5 เมื่อใช้ความถ่ี 65 - 70.5 MHz 70.5 - 76 เมอ่ื ใช้ความถี่ 70.5 - 76 MHz 4) ขว้ั ต่อ ANT Control (อยู่ด้านหลังของตวั เครอื่ ง) ใช้ต่อสาย CX-4722 5) ขว้ั ตอ่ SET POWER ใชต้ อ่ สาย CX-4655 ไปเขา้ ขว้ั ตอ่ POWER ของเครอ่ื ง รบั -ส่ง RT-841 6) ข้ัวต่อ POWER INPUT (อยู่ด้านหลังของตัวเครื่อง) ใช้ต่อวงจรต่าง ๆ เข้ากบั ฐาน MT-1029 ค. เคร่ืองปรบั วงจรสายอากาศ MX-6707 (สว่ นประกอบของ AS-1729) 1) สวติ ช์ S1 ปรับวงจรสายอากาศ ท�ำงานด้วยตัวตัดต่อ (Relay) โดย อัตโนมตั ิ แต่อาจปรบั ตงั้ ด้วยมอื เมื่อมขี ้อขดั ข้อง สวติ ช์นมี้ ี 10 ตำ� แหน่งเช่นเดียวกบั สวติ ช์ ANT FREQ Control ท่ี AM-2060 2) ข้ัวต่อ J1 ต่อสาย CG-1773 ไปเข้าขวั้ ต่อ ANT ทหี่ น้าเครื่องรบั -ส่ง 3) ขว้ั ต่อ J2 ต่อสาย CX-4722 ไปเข้าข้ัวต่อ ANT Control ท่ีหลังเคร่ือง AM-2060
204 เหล่าทหารมา้ 8. การใช้งานชดุ วิทยุ ก. การใชง้ านชุดวิทยแุ บบประจ�ำกาย 1) ตดิ ตงั้ เสาอากาศเข้ากบั เคร่อื งรับ-ส่ง 2) ต่อปากพูดหูฟังเข้าทขี่ ้วั ต่อ AUDIO หน้าเคร่อื งรับ-ส่ง 3) บดิ สวิตช์เลอื กการใช้งานไปต�ำแหน่ง ON 4) บดิ สวติ ช์ BAND ไปทีย่ ่านความถท่ี ี่ต้องการใช้งาน 5) หมนุ ปุ่มปรบั ตั้งความถี่ MC และ KC ให้ตัวเลขความถี่ใช้งานปรากฏท่ี หน้าปัดบอกความถ่ี 6) หมุนปุ่ม VOLUME ไปท่ีต�ำแหน่ง 4 และ/หรือปรับให้ได้ระดับเสียงตาม ต้องการ 7) ถ้าต้องการตดั เสยี งซู่ ให้บดิ สวติ ช์เลอื กการท�ำงานไปตำ� แหน่ง Squelch 8) กดสวติ ช์ปากพดู เมื่อทำ� การส่งข่าว และปล่อยสวติ ช์ปากพูดเมือ่ รับฟัง 9) การปิดเคร่อื ง ให้บิดสวติ ช์เลือกการใช้งานไปต�ำแหน่ง OFF ข. การใช้งานชุดวิทยทุ ่ใี ช้ร่วมกับ OA-3633 เมอ่ื ตดิ ตั้งบนยานยนต์ 1) ตรวจสายต่อระบบสายอากาศว่าได้ต่อไว้เรยี บร้อย 2) ต่อขว้ั ต่อปากพูด-หูฟังที่ข้ัวต่อ AUDIO หน้าเครื่องรับ-ส่ง 3) บิดสวติ ช์เลอื กการใช้งานของเครื่องรับ-ส่งไปต�ำแหน่ง ON 4) ผลกั สวติ ช์ PWR ของ AM-2060 ไปต�ำแหน่ง ON 5) หมนุ ปุ่ม VOLUME ทีเ่ ครื่องรบั -ส่งให้ได้ระดับเสยี งตามต้องการ 6) ถา้ ตอ้ งการใชว้ งจรตดั เสยี งซู่ ใหบ้ ดิ สวติ ชเ์ ลอื กการใชง้ านของเครอ่ื งรบั -สง่ ไปตำ� แหน่ง Squelch 7) ถ้าต้องการให้เสียงออกล�ำโพง ให้ผลักสวิตช์ SPKR ที่ AM-2060 ไป ตำ� แหน่ง ON แล้วปรบั ปุ่ม VOLUME ท่ีเคร่ืองรบั -ส่งให้ได้ระดบั เสยี งตามต้องการ 8) บดิ สวิตช์ BAND ของเคร่อื งรับ-ส่งไปยังย่านความถี่ท่ีต้องการใช้งาน 9) หมนุ ปุ่มปรบั ความต้ังความถ่ี MC และ KC ของเครอื่ งรับ-ส่งให้ตวั เลข ความถที่ ่ใี ช้งานปรากฏท่หี น้าปัดบอกความถี่ 10) บดิ สวติ ช์ ANT FREQ Control ของ AM-2060 ไปต�ำแหนง่ ทมี่ ยี า่ นความถี่ คลุมความถ่ใี ช้งาน
11) การรบั -สง่ ใหก้ ดสวติ ชป์ ากพดู และพดู ทป่ี ากพดู เมอ่ื ทำ� การสง่ ขา่ ว และ เห ่ลาทหาร ้มา 205 ปล่อยสวติ ช์ปากพดู ฟังท่หี ูฟังเม่อื รับข่าว 12) การปิดเครอ่ื ง ผลกั สวิตช์ PWR ของ AM-2060 ไปตำ� แหน่ง OFF และ บิดสวิตช์เลอื กการท�ำงานของเคร่อื งรบั -ส่งไปต�ำแหน่ง OFF 9. การปรับตง้ั ความถีล่ ่วงหนา้ สามารถปรบั ต้ังความถี่ล่วงหน้าได้ 2 ความถ่ี 1) ผลกั กระเดอ่ื งให้พ้นจากปุ่มปรบั ต้ังความถ่ี KC 2) หมนุ ปรบั ตงั้ ความถี่ KC ใหค้ วามถ่ี KC ทตี่ ำ่� กวา่ ปรากฏทหี่ นา้ ปดั บอกความถ่ี 3) ผลกั กระเดอ่ื งให้พลกิ เข้าหาปุ่มปรบั ต้ังความถ่ี KC และคลายควงผเี สอื้ ทป่ี ุ่ม ปรบั ต้ังความถ่ี KC ให้หลวม 4) ดึงปุ่มปรับตั้ง KC ส่วนล่างขน้ึ แล้วหมนุ ทวนเขม็ นาฬิกาจนกว่าจะงอยชน กระเด่ืองแล้วขนั ควงผเี สอ้ื ให้แน่น 5) ผลักกระเดื่องออกจากปุ่มปรับต้งั ความถ่ี KC 6) หมนุ ปุ่มปรบั ต้ังความถ่ี KC ให้ความถ่ี KC ท่ีสูงกว่าปรากฏทห่ี น้าปัดบอก ความถี่ 7) คลายควงผเี ส้ือให้หลวมและผลกั กระเดื่องเข้าหาปุ่มปรบั ตงั้ ความถี่ KC 8) ดงึ ปมุ่ ปรบั ตงั้ ความถี่ KC สว่ นบนขนึ้ ใหท้ บั สว่ นลา่ ง แลว้ หมนุ ตามเขม็ นาฬกิ า จนจะงอยชนกระเดอ่ื ง 9) ขนั ควงผเี สือ้ ทีป่ ุ่มปรับตงั้ ความถ่ี KC ให้แน่น 10) เมอ่ื ความถจ่ี ำ� นวนเตม็ MHz อยใู่ น BAND เดยี วกนั ใหท้ ำ� การปรบั ตง้ั ความถี่ ล่วงหน้าท่ปี ุ่มปรบั ต้ังความถ่ี MC เช่นเดยี วกับปุ่มปรับตัง้ ความถ่ี KC 11) ถ้าความถ่จี �ำนวนเตม็ MHz อยู่ต่าง BAND กัน ให้นำ� ความถ่เี ป็น MHz ไป ลบกัน ถ้าผลต่างมากกว่า 23 ให้ถือว่าความถ่ีใน BAND ตำ�่ นนั้ ต�่ำกว่าความถี่ใน BAND สงู (ใหต้ ง้ั ความถต่ี ำ�่ กอ่ น) ถา้ ผลตา่ งนอ้ ยกวา่ 23 ใหถ้ อื วา่ ความถใี่ น BAND สงู นนั้ ต�่ำกวา่ ความถ่ี ใน BAND ต�ำ่ (ให้ต้งั ความถีส่ ูงก่อน) แล้วท�ำการปรบั ต้งั เช่นเดียวกบั ปุ่มปรบั ต้งั ความถี่ KC หลักฐานอ้างองิ : 1. TM 11-5820-667-12 Radio Set AN/PRC-77, June 1967 2. TM 11-5820-498-12 Radio Set AN/VRC-53, AN/VRC-64, AN/GRC-125, AN/GRC-160, 31 May 1967
206 เหล่าทหารมา้ กลุ่มชุดวิทยุ AN/VRC-12 (RADIO SET AN/VRC-12 SERIES) 1. กล่าวทวั่ ไป กลุ่มชุดวทิ ยุ AN/VRC-12 เป็นกลุ่มชุดวิทยุทก่ี องทัพบกไทยน�ำเข้ามาประจ�ำการ เม่ือปี 2512 ประกอบด้วยชดุ วิทยุ จ�ำนวน 8 ชดุ ได้แก่ : ชดุ วทิ ยุ AN/VRC-12, ชุดวทิ ยุ AN/ VRC-43, ชดุ วทิ ยุ AN/VRC-44, ชดุ วทิ ยุ AN/VRC-45, ชดุ วทิ ยุ AN/VRC-46, ชดุ วทิ ยุ AN/VRC-47, ชดุ วทิ ยุ AN/VRC-48 และชดุ วทิ ยุ AN/VRC-49 มลี กั ษณะการตดิ ตง้ั ใชง้ านบนยานยนตเ์ ปน็ หลกั แต่อาจใช้งานเป็นสถานวี ทิ ยปุ ระจำ� ทกี่ ไ็ ด้ หน่วยทหารม้าใช้ชดุ วทิ ยใุ นกล่มุ นใ้ี นหน่วยตงั้ แต่ ระดับหมวด (เฉพาะ มว.ถ. และ มว.ลว.) ขน้ึ ไป จนถงึ ระดับกองพล กลุ่มชุดวทิ ยเุ หล่านี้ อาจตดิ ตง้ั ใชง้ านตามลำ� พงั บนยานยนตล์ อ้ ทว่ั ไปหรอื ตดิ ตงั้ ใชง้ านรว่ มกบั เครอ่ื งตดิ ตอ่ ภายใน รถ AN/VIC-1 บนยานยนต์สายพานหรือรถเกราะก็ได้ และเมื่อมีอุปกรณ์เพิ่มเติมสามารถ ตดิ ต้ังใช้งานร่วมกนั เพ่อื อำ� นวยความสะดวกในการควบคุมการใช้งานจากทไี่ กล (Remote Control) การสนธวิ ทิ ยุร่วมทางสาย (Radio/Wire Integration) และการส่งต่อ (Retransmission) 2. ค�ำ เตือน (Warning) ก. เก่ียวกับเครอ่ื งรบั -ส่ง • อย่ายกหรือห้ิวเคร่ืองรับ-ส่ง RT-246/VRC, RT-524/VRC เพียงล�ำพัง คนเดยี วเพราะอาจทำ� ให้ได้รบั การบาดเจ็บได้ • ไม่ควรใช้งานเครื่องรับ-ส่งในขณะท่ีถอดฝาปิดเคร่ืองด้านบน และ/หรือ ด้านล่างออก เพราะเครื่องรับ-ส่งใช้กระแสไฟฟ้าแรงสูง อาจท�ำให้เกิดอันตรายได้ถ้าไป สมั ผัสถกู • อย่าเข้าใจผิดกับค�ำว่า “แรงไฟต�่ำ” (Low Voltage) เพราะแรงไฟต�่ำ ของเคร่ืองรับ-ส่งจะมีค่าเท่ากับ 50 โวลต์ ดังน้ัน สามารถเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ถ้าไป สมั ผสั ถกู ข. เกีย่ วกับเสาอากาศ • เม่ือใช้เสาอากาศประจ�ำยานยนต์รับ-ส่งวิทยุ อย่าจอดยานยนต์ใต้หรือ ใกล้สายไฟแรงสูง
• อย่าสัมผสั เสาอากาศขณะใช้เครื่องรับ-ส่งทำ� การส่งออกอากาศ เห ่ลาทหาร ้มา 207 • อยา่ ยนื ใกลเ้ สาอากาศเครอื่ งรบั -สง่ ในระยะใกลก้ วา่ 20 นวิ้ ในขณะท�ำการ ส่งวทิ ยุ เพราะจะเกดิ การแพร่กระจายคลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟ้าก�ำลงั สงู ในบรเิ วณน้ี • ต้องแน่ใจว่าปลายเสาอากาศท่อนบนท้ังของเครื่องรับ-ส่งและเคร่ืองรับ ช่วยมีทค่ี รอบเสาอากาศครบและพนั ยึดแน่นในสภาพเรยี บร้อย • การตดิ ตอ่ สอื่ สารในขณะเคลอ่ื นที่ ถา้ เปน็ ไปไดค้ วรใชเ้ ชอื กรง้ั เสาอากาศ ไว้ แต่ควรระมัดระวังในกรณีที่เสาอากาศไปปะทะกับส่ิงกีดขวาง เพราะเสาอากาศอาจ แตกหกั และเป็นสาเหตทุ �ำให้กำ� ลังพลได้รบั บาดเจ็บจากช้นิ ส่วนทป่ี ลวิ มาในอากาศ • ในขณะยานยนตว์ ง่ิ ปฏบิ ตั กิ ารในภมู ปิ ระเทศหรอื บนถนนกต็ าม เมอื่ ตอ้ ง ผ่านสายไฟแรงสงู ต้องระมดั ระวงั เป็นพเิ ศษ ค. อยา่ ใชส้ ว่ นประกอบชดุ ใด ๆ ของเครอื่ งรบั -สง่ , เครอ่ื งรบั , เครอ่ื งตดิ ตอ่ ภายในรถ เป็นบันไดในการข้ึนหรือลงภายในรถและ/หรือภายในป้อมปืน และอย่าใช้สายเคเบ้ิลท่ีวาง เดินสายไว้ภายในรถและ/หรอื ภายในป้อมปืน เป็นราวโหนเพ่อื ออกจากรถ ง. การทำ� ความสะอาด การใช้น้�ำยา Trichlorotrifluoroethane ทำ� ความสะอาดต้องให้มีการระบาย อากาศทเี่ พยี งพอ หา้ มใช้น�้ำยาชนดิ นใี้ กลก้ บั ความรอ้ นหรอื เปลวไฟ แม้วา่ น�้ำยาจะไมม่ กี าร เผาไหม้ก็ตาม แต่ความร้อนจะเป็นตัวทำ� ปฏิกิริยาเปลี่ยนแก๊สให้เป็นควันพิษ ดังน้ัน ต้อง ระวงั อยา่ สดู หายใจเอาควนั หรอื ละอองแกส๊ เขา้ ไป นอกจากนี้ นำ้� ยาชนดิ นย้ี งั เปน็ ตวั ทำ� ลาย ผวิ หนงั เวลาใช้จงึ ควรสวมถงุ มือป้องกันไม่ให้นำ้� ยาสัมผสั กบั ผิวหนงั ถ้าได้รบั อนั ตรายจาก นำ้� ยาต้องรบี ไปพบและปรกึ ษาแพทย์ทนั ที 3. รายละเอียดส่วนประกอบชุด (Description of Components) ก. กลุ่มชดุ วทิ ยุ AN/VRC-12 ประกอบด้วยส่วนประกอบทส่ี �ำคัญ ได้แก่ 1) เคร่ืองรับ-ส่ง RT-246/VRC 2) เครอื่ งรับ-ส่ง RT-524/VRC 3) เครอ่ื งรับ R-442/VRC 4) ชดุ เสาอากาศ AS-1729/VRC 5) ชุดเสาอากาศเครอ่ื งรบั
รปู ที่ 1 ส่วนประกอบกลุ่มชุดวทิ ยุ AN/VRC-12 208 เหล่าทหารมา้ ข. การประกอบชดุ วทิ ยุ 1) ชดุ วิทยุ AN/VRC-43 2) ชุดวทิ ยุ AN/VRC-46 RT-246 RT-524 รูปที่ 2 ชุดวทิ ยุ AN/VRC-43 รูปท่ี 3 ชุดวทิ ยุ AN/VRC-46 3) ชุดวิทยุ AN/VRC-12 4) ชดุ วิทยุ AN/VRC-47 RT-246 R-442 RT-524 R-442 รปู ที่ 4 ชดุ วทิ ยุ AN/VRC-12 รูปที่ 5 ชุดวิทยุ AN/VRC-47
5) ชุดวิทยุ AN/VRC-44 6) ชุดวทิ ยุ AN/VRC-48 RT-246 R-442 R-442 RT-524 R-442 R-442 รปู ที่ 6 ชดุ วทิ ยุ AN/VRC-44 รปู ที่ 7 ชดุ วิทยุ AN/VRC-48 7) ชุดวทิ ยุ AN/VRC-45 RT-246 RT-246 8) ชดุ วทิ ยุ AN/VRC-49 RT-524 RT-524 รูปท่ี 8 ชดุ วทิ ยุ AN/VRC-45 รูปที่ 9 ชดุ วทิ ยุ AN/VRC-49 4. คุณลกั ษณะเฉพาะทางเทคนิค (Technical Characteristics) เห ่ลาทหาร ้มา 209 ก. เคร่ืองรบั -สง่ RT-246/VRC และ RT-524/VRC 1) ระบบการปรุงคล่นื ............................ FM 2) สัญญาณการรบั -ส่ง.......................... คำ� พูด 3) ย่านความถ่.ี ...................................... 30.00 - 75.95 MHz 4) จำ� นวนช่องความถ.่ี .......................... 920 ช่อง 5) ระยะห่างระหว่างช่องความถ่ี ......... 50 KHz (เม่อื ใช้งานปกติ) 25 KHz (เม่ือใช้งานร่วมกบั เคร่ืองเข้าและถอดรหสั ) 6) การตั้งความถ่ใี ช้งาน......................... ด้วยมือ หรือถ้าเป็นเคร่ืองรับ-ส่ง RT-246/VRC สามารถเลือกใช้ความถ่ีได้ โดยการกดปุ่มความถี่ล่วงหน้าท่ีต้ังไว้แล้วที่หน้า เครอ่ื งรับ-ส่ง และ/หรอื จากกล่องควบคมุ การเลอื กใช้ความถ่ี C-2742/VRC 7) การตัง้ ความถ่ใี ช้งานล่วงหน้า .......... 10 ความถี่ (เฉพาะ RT-246/VRC) 8) การทำ� งานเคร่อื งปรับวงจรสายอากาศอัตโนมตั ิ 9) พลงั งานไฟฟ้าทีใ่ ช้............................ 22 - 30 VDC 10) ความสิ้นเปลอื งพลงั งานไฟฟ้า ....... ขณะรับฟัง 0.75 Amps. (เม่ือ แรงไฟ 25 VDC) ขณะส่งทาง LOW 3 Amps. ขณะส่งทาง HIGH 10 Amps.
210 เหล่าทหารมา้ 11) กำ� ลงั ส่งออกอากาศ...................... กำ� ลังส่งต่�ำ (Low Power) 0.5 - 10 วตั ต์ (เมื่อใช้สายอากาศ 50 โอห์ม) กำ� ลงั ส่งสงู (High Power) ต�ำ่ สดุ 30 วตั ต์ สูงสดุ 65 วตั ต์ 12) ระยะตดิ ต่อของเครอื่ งส่ง............... ก�ำลังส่งต่�ำ ประมาณ 5 ไมล์ (8 กม.) กำ� ลังส่งสูง ประมาณ 25 ไมล์ (40 กม.) เมื่อใช้สายอากาศแบบแส้ (Whip) 13) ระยะเวลาการส่งต่อเนอื่ ง.............. ส่งได้โดยตลอดเม่ือใช้แรงไฟ 22 VDC เมอ่ื ใช้กำ� ลังส่งสูงส่งได้ 1 ชว่ั โมง เมือ่ ใช้แรงไฟ 30 VDC 14) วงจรตัดเสยี งซู่ (Squelch)................ แบบเกา่ (OLD) ใช้เสยี งซใู่ นเครอื่ งรบั ควบคุมการท�ำงาน แบบใหม่ (NEW) ใช้ TONE 150 Hz จากเครอ่ื งส่งควบคุมการท�ำงาน ข. เคร่ืองรบั R-442/VRC 1) เป็นเครอ่ื งรับแบบ........................... FM 2) รบั สัญญาณแบบ............................ ค�ำพูด 3) ย่านความถ.่ี .................................... 30.00 - 75.95 MHz 4) จ�ำนวนช่องความถ.่ี ......................... 920 ช่อง 5) ระยะห่างระหว่างช่องความถ.่ี ........ 50 KHz (เมื่อใช้งานปกติ) 25 KHz (เม่อื ใช้งานร่วมกบั เคร่อื งเข้าและถอดรหัส) 6) การต้ังความถ่ใี ช้งาน....................... ด้วยมอื 7) พลงั งานไฟฟ้าที่ใช้.......................... 22 - 30 VDC 8) ความสิ้นเปลอื งพลงั งานไฟฟ้า....... 0.75 Amps. 9) วงจรตดั เสยี งซู่ (Squelch)................ แบบเกา่ (OLD) ใชเ้ สยี งซ่ใู นเครอื่ งรบั ควบคมุ การท�ำงาน แบบใหม่ (NEW) ใช้ TONE 150 Hz จากเครอื่ งส่งควบคุมการท�ำงาน ค. ชุดเสาอากาศ AS-1729/VRC 1) แบบของเสาอากาศ........................ แบบแส้หรือท่อน (WHIP) 2 ส่วน ประกอบด้วย : ส่วนท่ี 1 ฐานเสาอากาศ MX-6707/VRC และส่วนที่ 2 ส่วนประกอบ เสาอากาศ AS-1730/VRC (ท่อนล่าง) และเสาอากาศ AT-1095/VRC (ท่อนบน) 2) ย่านความถ.่ี .................................... 30 - 76 MHz 3) ตัวน�ำกำ� ลังส่งออกอากาศ.............. สูงสดุ 70 วตั ต์
ง. ชดุ เสาอากาศเครอื่ งรับ เห ่ลาทหาร ้มา 211 1) แบบของเสาอากาศ........................ แบบแส้หรือท่อน (WHIP) 2 ส่วน ประกอบด้วย : ส่วนท่ี 1 ฐานเสาอากาศ AB-15 ส่วนท่ี 2 เสาอากาศ 3 ท่อน MS-116 A (ท่อนล่าง), MS-177 A (ท่อนกลาง) และ MS-118 A (ท่อนบน) 2) ย่านความถ่.ี ...................................... 30 - 76 MHz จ. กลอ่ งควบคมุ แรงไฟช่วั ขณะ (Transient Suppressor) MX-7777/GR หรือ MX-7778/GR 1) แหล่งจ่ายพลงั งานไฟฟ้า.................. จากยานยนต์ 22 - 28 VDC 2) แรงไฟเข้าสงู สุด................................ ประมาณ 40 VDC 3) แรงไฟออก........................................ ประมาณ 36 - 40 VDC 4) กระแสไฟออก................................... ประมาณ 50 Amps. ท่ีแรงไฟ 28 VDC 5) การปอ้ งกนั การลดั วงจรและกระแสไฟเกนิ .... มตี วั ตดั วงจรเมอ่ื กระแสไฟ เกิน 50 Amps. 6) การป้องกนั ความร้อนสงู .................. ใช้สวิตช์ควบคุมอุณหภูมิและ ตัวตัดวงจร 50 Amps. เม่ือต้องการกดสวติ ช์ใช้งานใหม่ต้องรอ 2 นาที เพ่ือให้ความร้อน ลดลงก่อน 5. หน้าทปี่ ุ่มควบคมุ และขัว้ ต่อต่าง ๆ (Switches and Connectors Function) ก. เครอ่ื งรบั -ส่ง RT-246/VRC และ RT-524/VRC รปู ท่ี 10 เครือ่ งรบั -สง่ RT-246/VRC
212 เหล่าทหารมา้ รูปที่ 11 เครื่องรบั -สง่ RT-524/VRC 1) CALL : เป็นหลอดไฟเตือน เม่ือมีสัญญาณส่งเข้ามาหลอดไฟจะส่องสว่างโดย ต้องตั้งสวิตช์ LIGHT ไว้ที่ต�ำแหน่ง ON และสวิตช์ Squelch ไว้ท่ี ต�ำแหน่ง OLD ON และ/หรอื NEW ON 2) LAMP : เป็นหลอดไฟส่องช่องหน้าปัดมีฝาครอบปิด และยังใช้ในการตรวจสอบ ว่าเคร่ืองรับ-ส่งมีพลังงานไฟฟ้าหรือไม่ หลอดไฟจะส่องสว่างเม่ือตั้ง สวติ ช์ LIGHT ไว้ทต่ี �ำแหน่ง ON 3) LIGHT : เป็นสวิตช์ควบคมุ การปิด-เปิด (OFF-ON) หลอดไฟ LAMP และหลอดไฟ CALL 4) BAND : เป็นสวติ ช์เลอื กย่านความถ่ใี ช้งาน มีต�ำแหน่งดังน้ี A : ควบคุมความถี่ 30.00 -52.95 MHz และ B : ควบคมุ ความถี่ 53.00 - 75.95 MHz 5) SPEAKER : เปน็ สวติ ชค์ วบคมุ การปดิ -เปดิ (OFF-ON) เสยี งออกลำ� โพงของเครอ่ื งรบั -สง่ (เฉพาะ RT-524/VRC) 6) MC-TUNE-KC: ใช้ปรับตัง้ ความถด่ี ้วยมอื ดงั นี้ MC : ตั้งความถ่ี MHz ดูตัวเลข 2 ตัวแรกทช่ี ่องหน้าปัด KC : ตั้งความถ่ี KHz ดูตวั เลข 2 ตวั หลงั ท่ีช่องหน้าปัด 7) POWER : เปน็ สวติ ชค์ วบคมุ พลงั งานไฟฟา้ และเลอื กกำ� ลงั สง่ ออกอากาศ มตี ำ� แหนง่ ดงั น้ี
OFF BREAKER-RESET : ปิดวงจรไฟฟ้าเข้าเครอ่ื งรบั -ส่ง และใช้เปิดวงจร เห ่ลาทหาร ้มา 213 ไฟฟ้าใหม่ในกรณีที่ตัวตัดวงจรไฟฟ้า (Breaker) ตกโดยอัตโนมัติเมื่อ กระแสไฟเกนิ LOW : เปิดวงจรไฟฟ้าเข้าเคร่อื งรับ-ส่ง และใช้กำ� ลังส่งต่�ำออกอากาศ HIGH : เปิดวงจรไฟฟ้าเข้าเครอ่ื งรบั -ส่ง และใช้กำ� ลงั ส่งสูงออกอากาศ REMOTE : เปล่ียนการควบคุมพลังงานไฟฟ้า, ก�ำลังส่งออกอากาศ และการเลอื กใช้ความถ่ไี ปที่กล่องควบคุมการเลอื กความถี่ C-2742/VRC (เฉพาะ RT-246/VRC) 8) SQUELCH : เป็นสวติ ช์เลอื กใช้งานวงจรตดั เสยี งซู่ มีต�ำแหน่งดงั ต่อไปน้ี NEW ON : ตดั เสยี งซเู่ มอ่ื ไมม่ สี ญั ญาณเขา้ มา เมอื่ สง่ จะมี TONE 150 Hz ออกไปด้วย NEW OFF : มเี สยี งซู่ไม่มีสัญญาณเข้ามา เม่ือส่งจะไม่มี TONE 150 Hz ออกไปด้วย OLD OFF : มเี สยี งซู่เมอื่ ไม่มีสัญญาณเข้ามา เมือ่ ส่งจะมี TONE 150 Hz ออกไปด้วย OLD OFF : มเี สยี งซู่เม่ือไม่มสี ัญญาณเข้ามา เมอื่ ส่งจะมี TONE 150 Hz ออกไปด้วย 9) VOLUME : เป็นปุ่มควบคมุ ความดงั ของเสียงท่อี อกล�ำโพงหรอื หฟู ัง ยกเว้น 1. เมอ่ื ใชง้ านรว่ มกบั กลอ่ งควบคมุ C-2298/VRC และ C-2297/VRC ของระบบตดิ ต่อภายในรถ ในตำ� แหน่ง ALL ของสวติ ช์ MONITOR ต้อง ควบคุมความดงั ท่ปี ุ่ม VOLUME ของกล่องควบคมุ นน้ั ๆ 2. เมอ่ื ใช้งานในการส่งต่อต้องควบคมุ ความดังทปี่ ุ่ม VOLUME ของกล่องควบคมุ C-2299/VRC 10) RETRANSMIT R/W : เป็นขว้ั ต่อสำ� หรับต่อปากพดู และ/หรือปากพูด-หฟู ัง, ต่ออุปกรณ์ เพิ่มเตมิ เพื่อใช้งานวิทยจุ ากทีไ่ กล, ใช้งานวทิ ยุร่วมทางสาย และใช้งาน แบบการส่งต่อ 11) SPKR : เป็นข้ัวต่อสำ� หรับต่อลำ� โพง และ/หรือปากพูด-หฟู ัง
214 เหล่าทหารมา้ 12) ANT CONT : เป็นข้ัวต่อสาย CX-4722 ระหว่างเคร่ืองรับ-ส่ง และฐานเสาอากาศ MX-6707/VRC เพ่อื ควบคุมวงจรสายอากาศให้ท�ำงานโดยอตั โนมัติ 13) REMOTE : เป็นขั้วต่อสาย CX-7059 ระหว่างเคร่ืองรับ-ส่ง RT-246/VRC และกล่อง ควบคุมการเลือกความถ่ี C-2742/VRC เพ่ือใช้ควบคุมพลังงานไฟฟ้า, ก�ำลงั ออกอากาศและการเลอื กใช้ความถี่ 14) X-MODE : เป็นขั้วต่อไปเข้าอปุ กรณ์ใช้งานพิเศษ เช่น เครือ่ งเข้าและถอดรหัส และ/ หรืออุปกรณ์รบั -ส่งข้อมูลตัวเลข เป็นต้น 15) ANT : เป็นขั้วต่อสายส่ง/สายน�ำสัญญาณท่ีใช้เป็นทางเดินของพลังงาน ความถี่วทิ ยุระหว่างเคร่อื งรับ-ส่ง และเสาอากาศ 16) ปุ่มกด 1 - 10 : (เฉพาะ RT-246/VRC) ใช้ส�ำหรับกดเพ่ือเลอื กความถ่ีใช้งานตามท่ไี ด้ปรับ ตั้งล่วงหน้าไว้ ปุ่มกด 1 - 10 นีจ้ ะท�ำงานต่อเมือ่ สวิตช์ BAND อยู่ใน ต�ำแหน่ง AUTO และสวติ ช์ POWER อยู่ในต�ำแหน่ง LOW หรอื HIGH 17) P401 : เปน็ ขวั้ ตอ่ พลงั งานไฟฟา้ และสญั ญาณเสยี งอยดู่ า้ นหลงั ของเครอ่ื งรบั -สง่ ข. เคร่อื งรับ R-442/VRC รูปที่ 12 เครื่องรับ R-442/VRC
1) CALL : เปน็ หลอดไฟเตอื น เมอ่ื มสี ญั ญาณสง่ เขา้ มาหลอดไฟจะสอ่ งสวา่ งโดยตอ้ ง เห ่ลาทหาร ้มา 215 ตัง้ สวติ ช์ LIGHT ไว้ทต่ี ำ� แหน่ง ON และสวติ ช์ SQUELCH ไว้ทีต่ �ำแหน่ง OLD ON และ/หรอื NEW ON 2) LAMP : เป็นหลอดไฟส่องช่องหน้าปัดมีฝาครอบปิด และยังใช้ในการตรวจสอบ ว่าเคร่ืองรับมีพลังงานไฟฟ้าหรือไม่ หลอดไฟจะส่องสว่างเมื่อตั้งสวิตช์ LIGHT ไว้ท่ตี �ำแหน่ง ON 3) LIGHT : เป็นสวิตช์ควบคมุ การปิด-เปิด (OFF-ON) หลอดไฟ LAMP และหลอดไฟ CALL 4) BAND : เป็นสวติ ช์เลอื กย่านความถี่ใช้งาน มตี �ำแหน่งดังน้ี A : ควบคมุ ความถี่ 30.00 - 52.95 MHz B : ควบคมุ ความถี่ 53.00 - 75.95 MHz 5) MC-TUNE-KC : ใช้ปรับต้งั ความถ่ีด้วยมอื ดงั น้ี MC : ตั้งความถ่ี MHz ดตู วั เลข 2 ตวั แรกทีช่ ่องหน้าปัด KC : ต้ังความถ่ี KHz ดูตัวเลข 2 ตัวหลงั ทีช่ ่องหน้าปัด 6) POWER : เป็นสวติ ช์ควบคมุ พลงั งานไฟฟ้า มีต�ำแหน่งดงั นี้ ON-RESET : เปิดวงจรไฟฟ้าเข้าเครอ่ื งรบั และตง้ั ตัวตัดวงจรใหม่ OFF : ปิดวงจรไฟฟ้าเข้าเครอื่ งรับ 7) SQUELCH : เป็นสวติ ช์เลอื กใช้งานวงจรตดั เสยี งซู่ มตี �ำแหน่งดงั ต่อไปนี้ NEW ON : ตดั เสยี งซู่เมือ่ ไม่มสี ญั ญาณเข้ามา ทำ� งานโดยใช้ TONE 150 Hz จากเครอ่ื ง NEW OFF : มเี สียงซู่เมือ่ ไม่มสี ัญญาณเข้ามา OLD ON : ตดั เสยี งซู่เม่อื ไม่มสี ัญญาณเข้ามา ทำ� งานโดยใช้สัญญาณ จากเครื่องส่งมากดเสยี งซู่ OLD OFF : มเี สียงซู่เม่อื ไม่มสี ญั ญาณเข้ามา 8) VOLUME : เป็นปุ่มควบคมุ ความดังของเสยี งท่ีออกล�ำโพงหรือหฟู ัง ยกเว้น เมอ่ื ใช้งานร่วมกับกล่องควบคุม C-2298/VRC และ C-2297/VRC ของระบบติดต่อภายในรถ ในต�ำแหน่ง ALL ของสวิตช์ MONITOR ต้องควบคมุ ความดงั ท่ีปุ่ม VOLUME ของกลุ่มควบคมุ นั้น ๆ
216 เหล่าทหารมา้ 9) AUDIO : เป็นขั้วต่อลำ� โพง และ/หรือหูฟัง 10) ANT : เปน็ ขว้ั ตอ่ สายสง่ /สายนำ� สญั ญาณทใ่ี ชเ้ ป็นทางเดนิ ของพลงั งานความถี่ วทิ ยรุ ะหว่างเคร่อื งรบั และเสาอากาศ มีจ�ำนวน 2 ขัว้ 11) P 201 : เป็นขัว้ ต่อพลงั งานไฟฟ้าและสัญญาณเสียง อยู่ด้านหลงั ของเครื่องรับ ค. กล่องควบคมุ แรงไฟฟ้าชว่ั ขณะ MX-7777/GRC หรือ MX-7778/GRC รูปท่ี 13 MX-7777/GRC หรือ MX-7778/GRC 1) ON-OFF : เป็นสวติ ช์ควบคมุ พลังงานไฟฟ้า มี 2 ต�ำแหน่ง ดงั น้ี OFF : ปิดวงจรไฟฟ้า และมตี วั ตดั วงจร (Circuit Breaker) เป็นตวั ป้องกนั ไฟฟ้า ON : เปิดวงจรไฟฟ้า และจะจำ� กดั พลงั งานไฟฟ้าทีจ่ ่ายออกได้สูงสดุ 36 VDC ท่ี 50 Amps. ถ้าแรงไฟเกนิ ตัวตดั วงจรจะท�ำงานโดยอตั โนมตั โิ ดย กลับไปท่ี OFF ถ้าต้องการเปิดใหม่ต้องรอ 2 นาที 2) BATTLE OVERIDE : เป็นสวติ ช์ควบคมุ วงจรไฟฟ้าฉุกเฉิน มีฝาครอบสแี ดงปิดไว้ และ มี 2 ต�ำแหน่งดงั น้ี OFF : เป็นต�ำแหน่งท่ีใช้งานตามปกติ จะมวี งจรป้องกนั ไฟฟ้าผ่าน ON : เป็นตำ� แหน่งใช้งานฉกุ เฉิน ไม่มีวงจรป้องกัน 3) J1 และ J2 : เป็นขว้ั ต่อสำ� หรบั ต่อสาย CX-4720 ไปยงั ชดุ วทิ ยุ 4) J3 : เป็นขว้ั ต่อสำ� หรบั ต่อสาย CX-10613 ไปยงั แบตเตอรย่ี านยนต์
หมายเหตุ : ยานยนต์บางชนดิ ตดิ ตง้ั กล่อง MX-7778/GRC หรอื กล่อง เห ่ลาทหาร ้มา 217 ควบคุมแรงไฟช่ัวขณะขนาดเล็ก (Minisuppressor) ไม่ว่าจะติดตั้งรุ่นใด จดุ ประสงค์จะเหมอื นกนั คอื เป็นเครอื่ งป้องกนั วงจรไฟฟ้าของชุดวิทยุ และระบบการติดต่อภายในรถที่ติดตั้งบนยานยนต์น้ันมิให้เกิดความ เสียหายจากการลดั วงจร ขณะมีการเปล่ียนแปลงของแรงไฟ เช่น การ หมุนป้อมปืน, การขบั มอเตอร์เพอื่ วางตำ� แหน่งปืนใหญ่, การต่อสายไฟ กลบั ขั้ว เป็นต้น ง. กลอ่ งควบคมุ การส่งตอ่ C-2299/VRC 1) RAD TRANS : เป็นสวิตช์ควบคุมการใช้วิทยุ ในกรณีที่ C-2299/VRC ต่อเข้ากับเครื่อง รูปท่ี 14 C-2299/VRC รบั -ส่ง และสวติ ช์ RETRAN อยู่ในต�ำแหน่ง OFF สวิตช์ RAD TRANS สามารถควบคมุ เครื่องรบั -ส่งได้ 2 เครือ่ งตามตำ� แหน่ง 1 หรือ 2 แต่ถ้า C-2299/VRC ต่อเข้ากบั AM-1780/VRC สวติ ช์ RAD TRANS จะควบคุม เครื่องรับ-ส่งไม่ได้ 2) RETRAN : เป็นสวติ ช์ควบคมุ การส่งต่อ มี 2 ต�ำแหน่งดงั นี้ OFF : ปิดวงจรการส่งต่อและทำ� ให้สวติ ช์ RAD TRANS สามารถควบคมุ การใช้เคร่อื งรบั -ส่งได้ ทั้งจาก C-2299/VRC และจากกล่องควบคมุ ของ พลประจ�ำรถแต่ละคน
218 เหล่าทหารมา้ ON : เปิดวงจรการส่งต่อให้ทำ� งานแบบอตั โนมตั แิ ละสวติ ช์ RAD TRANS จะควบคมุ การใช้เคร่อื งรับ-ส่งไม่ได้ ทั้งจาก C-2299/VRC และจากกล่อง ควบคมุ ของพลประจำ� รถแตล่ ะคน แตส่ ามารถใชร้ ะบบการตดิ ตอ่ ภายใน รถได้ 3) VOLUME : เปน็ ปมุ่ ควบคมุ ระดบั เสยี งของอปุ กรณท์ างเสยี งทตี่ อ่ เขา้ กบั J 703, J 704 แต่ถ้าต่อ C-2299/VRC ร่วมกับ AM-1780/VRC การควบคุมระดับเสียง จะทำ� หน้าท่ี VOLUME ของกล่องควบคุมแต่ละกล่อง 4) J 701 และ J 702 : เป็นขัว้ ต่อสาย CX-4723 ไปยงั AM-1780/VRC และ/หรือไปยังฐาน เครอ่ื งรบั -ส่ง MT-1029 5) J 703 และ J 704 : เป็นขัว้ ต่ออปุ กรณ์ทางเสยี ง เช่น ปากพดู M-80 และ/หรือปากพดู หูฟัง H-250 แต่ถ้าต่อใช้งานร่วมกับ AM 1780/VRC ไม่ต้องต่อ อุปกรณ์ทางเสยี ง 6. การใชง้ าน (Operations) ก. ค�ำแนะนำ� ในการใชง้ านกล่มุ ชุดวทิ ยุ AN/VRC-12 1) ไม่ควรใช้ความถต่ี ่อไปน้ี : 33.90 MHz, 45.20 MHz, 56.50 MHz และ 67.80 MHz เพราะจะท�ำให้เกิดการรบกวนกันภายในวงจร SQUELCH ของเคร่ืองรับ-ส่ง และเคร่ืองรับ โดยเม่ือไม่มีสัญญาณรับเข้ามาความถ่ีเหล่าน้ีจะเป็นเหตุให้หลอดไฟ CALL ส่องสว่างในต�ำแหน่ง OLD ON และไม่มเี สยี งซู่ในตำ� แหน่ง OLD OFF หรือ NEW OFF 2) ยานยนต์บางชนดิ จะมไี ฟใหญ่ (MASTER SWITCH) ควบคมุ ก�ำลังไฟฟ้า ของยานยนต์นน้ั ๆ การเปิดชุดวทิ ยใุ ช้งานจะต้องเปิด MASTER SWITCH ก่อนจงึ จะมีไฟฟ้า จ่ายให้แก่ชดุ วิทยุ 3) ห้ามตดิ เคร่อื งยนต์ในขณะใช้งานชุดวทิ ยุ ถ้าต้องการตดิ เครื่องยนต์ควร ปิดไฟของชดุ วทิ ยุก่อน 4) การใช้งานชุดวิทยุในขณะรถจอดอยู่กับที่อาจดับเคร่ืองยนต์ได้ แต่ควร ตดิ เครอ่ื งยนต์เพอ่ื บรรจแุ บตเตอร่เี ป็นครง้ั คราว
5) การใชเ้ ชอื กรงั้ เสาอากาศสามารถกระทำ� ได้ เพอ่ื ปอ้ งกนั การชำ� รดุ เสยี หาย เห ่ลาทหาร ้มา 219 และยังคงสามารถตดิ ต่อกบั คู่สถานีได้ แต่ระยะการตดิ ต่อจะลดลง เพราะทศิ ทางการแพร่ กระจายคลน่ื เปลย่ี นไป 6) เมื่อเคร่ืองปรับวงจรสายอากาศท�ำงานผิดปกติ สามารถแก้ปัญหา เฉพาะหน้าได้โดยการถอดสาย CX-4722 ออกแล้วปรบั ตงั้ ด้วยมอื 7) ควรเลือกใช้ก�ำลังส่งออกอากาศต�่ำถ้าสามารถติดต่อกันได้ เพ่ือรักษา ความปลอดภยั ทางการส่อื สาร 8) การเลือกใช้แบบของ SQUELCH จะต้องเลอื กใช้ให้ถกู ต้อง มิฉะนั้นจะ ท�ำให้ติดต่อกนั ไม่ได้ 9) ในการตดิ ต่อระยะไกลหรอื เม่อื สญั ญาณเบามาก ถ้าใช้ SQUELCH ใน ต�ำแหน่ง NEW ON หรอื OLD ON อาจรับสัญญาณไม่ได้หรือขาดหาย ควรใช้ SQUELCH ในตำ� แหน่ง NEW OFF หรอื OLD OFF จะท�ำให้สญั ญาณท่รี บั ได้ดขี น้ึ 10) อย่าน�ำวัสดุใด ๆ เช่น เศษผ้า วางไว้ด้านหลังทางขวาของตัวเครื่อง รบั -ส่ง เพราะอาจปิดทางเดนิ ช่องลมระบายความร้อน 11) ก่อนท�ำการส่งออกอากาศ จะต้องเปิดและอุ่นเคร่ืองรับ-ส่งอย่างน้อย 1 นาที ข. การใช้งานเครอื่ งรับ-ส่ง RT-246/VRC และ RT-524/VRC 1) การเปดิ เครอื่ งรบั -สง่ ใหต้ ง้ั สวติ ช์ POWER ไวท้ ต่ี ำ� แหนง่ LOW หรอื HIGH ตามท่ีต้องการใช้งาน 2) ตงั้ สวติ ช์ LIGHT ไวท้ ตี่ ำ� แหนง่ ON ถา้ ตอ้ งการพรางไฟใหไ้ วท้ ต่ี ำ� แหนง่ OFF 3) ตงั้ สวติ ช์ SQUELCH ไว้ท่ตี ำ� แหน่งท่ีต้องการใช้งาน โดยปกติใช้ NEW ON 4) การตง้ั ความถใ่ี ช้งาน • ตงั้ ดว้ ยมอื : โดยตงั้ สวติ ช์ BAND ไวใ้ นยา่ นความถท่ี คี่ รอบคลมุ ความถ่ี ใช้งานแล้วหมนุ ปุ่ม MC และ KC ให้ตัวเลขความถที่ ตี่ ้องการปรากฏทช่ี ่องหน้าปัด • ตงั้ อตั โนมตั ิ : (เฉพาะ RT-246/VRC) โดยตงั้ สวติ ช์ BAND ไว้ทตี่ ำ� แหน่ง AUTO แล้วกดปุ่มเลอื กความถ่ที ีจ่ ะใช้งานตามต้องการ 5) ต้งั สวติ ช์ SPEAKER (เฉพาะ RT-524/VRC) ไว้ทีต่ �ำแหน่ง ON ถ้าต้องการ ให้เสยี งออกลำ� โพง ถ้าไม่ต้องการให้เสียงออกลำ� โพง ให้ต้ังไว้ที่ตำ� แหน่ง OFF
220 เหล่าทหารมา้ 6) ปรับ VOLUME ให้เสยี งดงั ตามต้องการ 7) การสง่ ขา่ วใหก้ ดสวติ ชป์ ากพดู และพดู ทปี่ ากพดู การรบั ฟงั ใหป้ ลอ่ ยสวติ ช์ ปากพดู และรบั ฟังเสียงทห่ี ูฟังหรอื ล�ำโพง 8) การปิดเคร่อื งรับ-ส่งให้ปิดสวติ ช์ POWER ไว้ทตี่ �ำแหน่ง OFF ค. การใช้งานเครอ่ื งรบั R-442/VRC 1) การเปิดเครอ่ื งรับให้ต้ังสวติ ช์ POWER ไว้ทีต่ �ำแหน่ง ON 2) ตงั้ สวติ ช์ LIGHT ไวท้ ต่ี �ำแหนง่ ON ถา้ ตอ้ งการพรางไฟใหต้ ง้ั ไวท้ ตี่ �ำแหนง่ OFF 3) ตั้งสวิตช์ SQUELCH ไว้ทตี่ �ำแหน่งต้องการใช้งาน โดยปกติใช้ NEW ON 4) การต้ังความถี่ใช้งานกระท�ำด้วยมือเท่านั้น โดยตั้งสวิตช์ BAND ไว้ใน ยา่ นความถท่ี คี่ รอบคลมุ ความถใ่ี ชง้ าน แลว้ หมนุ ปมุ่ MC และ KC ใหต้ วั เลขความถที่ ต่ี อ้ งการ ใช้งานปรากฏทช่ี ่องหน้าปัด 5) ปรบั VOLUME ให้เสยี งดงั ตามต้องการ 6) การปิดเคร่อื งรับให้บิดสวิตช์ POWER ไว้ทีต่ �ำแหน่ง OFF ง. การใช้งานเคร่ืองรับ-ส่ง RT-246/VRC ร่วมกับกล่องควบคุมเลือก ความถ่ี C-2742/VRC รปู ที่ 15 การติดตง้ั C-2742/VRC
1) ปฏิบตั ิเช่นเดยี วกับการใช้งาน RT-246/VRC ในข้อ 6. ข. ยกเว้นสวิตช์ เห ่ลาทหาร ้มา 221 POWER ให้ตง้ั ไว้ต�ำแหน่ง REMOTE 2) การเปิดเครอ่ื งรับ-ส่งให้ต้ังสวติ ช์ POWER ที่ C-2742/VRC ไว้ท่ตี �ำแหน่ง LO หรือ HI แล้วแต่กำ� ลังส่งท่ตี ้องการ 3) การเปลี่ยนความถี่ให้บดิ สวติ ช์ CHAN SEL ที่ C-2742/VRC ไปยังช่อง ความถี่ที่ต้องการใช้งาน ต�ำแหน่งทวนเข็มนาฬิกาสุดจะตรงกับปุ่มกดเลือกความถ่ีปุ่มท่ี 1 และเมือ่ หมนุ ตามเขม็ นาฬิกาจะตรงกบั ปุ่มท่ี 2, 3,....ตามล�ำดบั 4) การปิดเคร่อื งรบั -ส่งให้บิดสวิตช์ POWER ที่ C-2742/VRC ไว้ท่ีต�ำแหน่ง OFF 5) ถ้าใช้ C-2742/VRC จำ� นวน 2 กล่อง ต่อใช้งานร่วมกนั กล่องทตี่ ่อตรง เข้ากับเคร่ืองรับ-ส่งเท่าน้ันท่ีสามารถใช้ควบคุมพลังงานไฟฟ้าในการปิด-เปิดเครื่องรับ-ส่ง สว่ นการควบคมุ กำ� ลงั สง่ และการเลอื กเปลยี่ นความถส่ี ามารถสบั เปลยี่ นการควบคมุ ได้ โดย การโยกสวติ ช์ SW ท่ี C-2742/VRC ของแตล่ ะกลอ่ ง ซงึ่ จะท�ำใหห้ ลอดไฟ CONTROL สอ่ งสวา่ ง แสดงว่า C-2742/VRC กล่องนั้นควบคุมได้และหลอดไฟ CONTROL ของอีกกล่องหน่ึงจะดบั จ. การต้งั ความถีล่ ่วงหนา้ (Preset) ทเ่ี ครอ่ื งรับ-ส่ง RT-246/VRC รูปที่ 16 ปุม่ กดเลือกความถ่ใี ช้งานอัตโนมตั ิ
222 เหล่าทหารมา้ 1) ตัง้ สวิตช์ POWER ไว้ตำ� แหน่ง LOW 2) ตงั้ สวิตช์ BAND ไว้ต�ำแหน่ง AUTO 3) เปิดฝาครอบปมุ่ เลอื กความถ่ี โดยคลายสลกั เกลยี ว 2 ตวั ดา้ นข้างซา้ ย-ขวา 4) กดปุ่มเลอื กความถท่ี ต่ี ้องการจะตงั้ ล่วงหน้า 5) ใช้ไขควงบิด BAND SELECTOR ที่ตรงกับปุ่มเลือกความถ่ีน้ันไปยัง A หรอื B แล้วแต่ความถท่ี ่จี ะต้งั น้นั อยู่ใน BAND ใด 6) ใช้น้วิ กดปุ่ม TUNE จะได้ยินเสียงวงจร TUNE ทำ� งาน แล้วจงึ ใช้ไขควง ปรบั ปุ่ม PRESET ทีต่ รงกับปุ่มเลือกความถ่นี ั้น จนกระทงั่ ตวั เลขความถที่ ่ตี ้องการปรากฏที่ ช่องหน้าปัด 7) ตรวจสอบ โดยการกดปมุ่ เลอื กความถป่ี มุ่ อน่ื รอจนเครอื่ งเปลย่ี นความถ่ี ไปจนเสรจ็ เรยี บรอ้ ยแลว้ จงึ กลบั มากดปมุ่ ทไ่ี ดต้ ง้ั ไวอ้ กี ครงั้ ถา้ ตวั เลขความถไ่ี มต่ รงตามทตี่ ง้ั ไว้ ให้ปฏบิ ัตซิ ้�ำในข้อ 6) ใหม่ 8) ปฏบิ ัติตามข้อ 4) ถึง 7) จนครบจำ� นวนปุ่มเลือกความถ่ีท่ตี ้องการจะต้งั ความถล่ี ่วงหน้า 9) ปดิ ฝาครอบปมุ่ เลอื กความถี่ โดยการขนั สลกั เกลยี ว 2 ตวั ดา้ นขา้ งซา้ ย-ขวา 10) บันทึกความถี่ที่ได้ต้ังไว้แต่ละปุ่มบนแผ่นสีขาวของฝาครอบปุ่ม เลือก ความถีแ่ ละทแ่ี ผ่นสีขาวของ C-2742/VRC (ถ้าใช้งานร่วมกนั ) หมายเหตุ : ในกรณีที่แผ่นสีแดงปรากฏท่ีช่องหน้าปัดบอกความถ่ีในขณะต้ัง ความถ่ีล่วงหน้า ซึง่ เกิดจากการปรบั ปุ่ม PRESET เรว็ เกินไปจนทำ� ให้ตัวเลขความถี่เกินย่าน ความถท่ี คี่ รอบคลมุ อยู่ จะตอ้ งแกไ้ ขใหแ้ ผน่ สแี ดงหายจากชอ่ งหนา้ ปดั เสยี กอ่ น มฉิ ะนนั้ แลว้ วงจร TUNE จะไม่ท�ำงานและต้งั ความถล่ี ่วงหน้าของปุ่มเลือกความถี่นัน้ ๆ ไม่ได้ วิธีแกไ้ ข : ใช้ไขควงลองหมุนปุ่ม PRESET ไปทางซ้ายและขวา ถ้าไม่สามารถ หมนุ ไปด้านใดด้านหนง่ึ เช่น หมนุ ไปทางซ้ายได้แต่หมุนไปทางขวาไม่ได้ ให้หมุนย้อนกลบั มาทางซ้ายประมาณ 1 หรอื 2 รอบ แล้วบิดปุ่ม MC ด้วยมอื ให้แผ่นสีแดงเลื่อนไป แล้ว ทดลองกดปุ่มเลอื กความถี่ปุ่มนน้ั อีกครง้ั แผ่นสีแดงกจ็ ะหายไป
ฉ. การส่งต่อ (Retransmission) โดยใช้ชุดวิทยุ AN/VRC-45 และ เห ่ลาทหาร ้มา 223 AN/VRC-49 เปน็ สถานสี ง่ ต่อ รูปท่ี 17 การสง่ ต่อ 1) ปฏบิ ัติตามข้อ 6. ข. การใช้งานเครอ่ื งรบั -ส่ง RT-246/VRC และ RT-524/VRC 2) ตงั้ สวิตช์ RETRANS ที่ C-2299/VRC ไว้ทต่ี ำ� แหน่ง OFF 3) ต่อปากพดู หฟู ัง และ/หรอื ปากพดู ที่ C-2299/VRC เพอื่ ควบคมุ การใช้งาน ชุดวทิ ยุทส่ี ถานสี ่งต่อ และตง้ั สวติ ช์ RAD TRANS ไปท่ีตำ� แหน่ง 1 เมือ่ ต้องการใช้งานเคร่อื ง รับ-ส่ง A หรอื ไปทีต่ �ำแหน่ง 2 เมอ่ื ต้องการใช้เครื่องรบั -ส่ง B 4) ตั้งความถ่วี ทิ ยทุ ต่ี ้องการใช้งานให้ถูกต้อง ความถี่ทใ่ี ช้ในการส่งต่อต้อง ให้ห่างกนั ไม่น้อยกว่า 10 MHz และต้องตรวจสอบความถ่ที ้งั สองจากตารางความถ่ีในคู่มอื ทางเทคนคิ และสวติ ช์ SQUELCH ควรต้งั ให้ตรงกันด้วย 5) เม่ือพร้อมใช้งานการส่งต่อ ให้แจ้งคู่สถานีปลายทางทั้งสองทราบและ ตัง้ สวิตช์ RETRANS ไว้ท่ตี �ำแหน่ง ON คู่สถานจี ะตดิ ต่อส่อื สารกันโดยอตั โนมัติผ่านสถานี ส่งต่อ พนกั งานที่สถานสี ่งต่อไม่สามารถส่งข้อความใด ๆ สอดแทรกได้ 6) ปุ่ม VOLUME ท้งั ทเี่ ครอ่ื งรบั -ส่ง และ C-2299/VRC ไม่สามารถควบคมุ ระดับเสียงในขณะใช้งานส่งต่อโดยอัตโนมัติ แต่จะมีผลควบคุมได้เมื่อสวิตช์ RETRANS อยู่ในตำ� แหน่ง OFF
7) เม่ือต้องการเลกิ การใช้งานส่งต่ออตั โนมตั ใิ ห้บดิ สวติ ช์ RETRANS มาไว้ ทต่ี �ำแหน่ง OFF 7. การปรนนิบตั บิ ำ�รงุ การตรวจและการบริการ (Preventive Main- Tenance Checks and Services : PMCS) 224 เหล่าทหารมา้ วัตถุประสงค์หลกั ของการปรนนบิ ัติบ�ำรุง การตรวจและการบรกิ าร กระท�ำเพ่ือ ยดื ระยะเวลาการใช้งาน พร้อมกบั เป็นการเพิ่มสมรรถนะความพร้อมใช้งานของหน่วยและ เพ่ือเป็นการ 1) ชจี้ ดุ ปญั หาเลก็ ๆ ของระบบการตดิ ตอ่ สอ่ื สาร และแกไ้ ขปญั หานน้ั ใหถ้ กู ตอ้ ง ก่อนที่จะกลายเป็นสาเหตใุ ห้เกิดความเสยี หายทั้งระบบ 2) รกั ษาอปุ กรณ์เครอ่ื งมอื ส่ือสารให้อยู่ในสภาพทดี่ ี และ 3) ประกันว่าส่วนประกอบชุดของแต่ละชุดวิทยุ และเคร่ืองติดต่อภายในรถ ท�ำงานตามหน้าทอ่ี ย่างถกู ต้อง เมอื่ แต่ละหน่วยมกี ารท�ำ PMCS ตามตารางการปรนนิบตั ิบ�ำรุงอย่างสม่ำ� เสมอ ย่อมท�ำให้เกิดความม่ันใจในเครื่องมือสื่อสารของหน่วยตนท่ีจะใช้ในภารกิจต่าง ๆ หรือ เรยี กวา่ อยใู่ นสภาพพรอ้ มรบ การปรนนบิ ตั บิ ำ� รงุ ในเครอื่ งมอื สอ่ื สารของหนว่ ยตนทจี่ ะใชใ้ น ภารกจิ ต่าง ๆ หรอื เรียกว่า อยู่ในสภาพพร้อมรบ การปรนนิบตั ิบำ� รุง (PMCS) นี้ สามารถ กระทำ� เป็นล�ำดับข้นั ตอนและตามวงรอบได้ดังน้ี • ก่อนการใช้งาน : เพ่ือมน่ั ใจว่าเครอ่ื งมอื ส่อื สารพร้อมใช้งาน • ระหว่างการใช้งาน : เพือ่ ช่วยป้องกนั ไม่ได้เกดิ ปัญหาเล็กกลายเป็นปัญหาใหญ่ • หลงั การใช้งาน : เพ่อื ช่วยรักษาให้เครื่องมือสื่อสารอยู่ในสภาพดีท่ีสุด • ประจ�ำสัปดาห์ : เป็นการตรวจท่ีส�ำคัญ เพื่อเก็บข้อมูลและปัญหาอาการ ผิดปกติที่เกดิ ข้นึ เฉพาะรายการเครอ่ื งมอื สือ่ สาร • ประจำ� เดอื น : เช่นเดยี วกับประจำ� สปั ดาห์ • ประจ�ำสามเดือน : เป็นการตรวจเฉพาะรายการของเครื่องมือส่ือสาร ซ่ึง จ�ำเป็นต้องกระท�ำในรอบ 3 เดอื น เช่น แผ่นระบายความร้อนและสายดนิ เป็นต้น
ส�ำหรบั การตรวจประจำ� (Routine Checks) นั้นจะไม่มอี ยู่ในรายการตารางการ เห ่ลาทหาร ้มา 225 ปรนนิบัติบ�ำรุง แต่เป็นส่ิงท่ีผู้ใช้เครื่องมือสื่อสารทุกคนไม่ควรปล่อยปละละเลย เม่ือตรวจ พบเวลาใดก็ตาม ควรท่ีจะต้องกระท�ำในเวลานั้น ได้แก่ การท�ำความสะอาดฝุ่นละออง การล้าง การตรวจสายเคเบ้ิลที่เปื่อยช�ำรุด, การเก็บชิ้นส่วนท่ีไม่ได้ใช้งาน, ฝาครอบข้ัวต่อ ทางไฟฟ้าและความหลวมคลอนของขวั้ ต่อต่าง ๆ หมายเหตุ : ในขณะทีก่ ระท�ำการปรนนบิ ตั ิบำ� รงุ (PMCS) หรือการตรวจประจำ� พึงระลึกเสมอเกย่ี วกบั ค�ำเตอื นและข้อควรระวัง 8. การแก้ไขขอ้ ขดั ข้อง (Trouble Shooting) ในขณะการใช้งานชุดวิทยุกับระบบติดต่อภายในรถอาจประสบปัญหา บางประการในการใช้งานได้ ผู้ใช้สามารถแก้ไขข้อขัดข้องได้โดยท�ำการตรวจและทดสอบ การทำ� งานตามตารางการแก้ไขข้อขดั ข้อง และต้องปฏิบัตติ ามล�ำดับรายการ หมายเหตุ ตารางการแก้ไขข้อขดั ข้องนไ้ี ม่สามารถครอบคลุมอาการข้อขดั ข้อง ทง้ั หมด ถา้ อาการขอ้ ขดั ขอ้ งใดไมม่ อี ยใู่ นตารางใหแ้ จง้ ตอ่ ผบู้ งั คบั บญั ชาตามลำ� ดบั ชน้ั ตอ่ ไป 9. การใช้งานพิเศษ 9.1 การสนธขิ ่ายวทิ ยุ (Net Radio Interface : NRI) อุปกรณ์ทีใ่ ช้ส�ำหรบั การสนธิ ข่ายวทิ ยุ ประกอบด้วย : 1) ชดุ ควบคมุ ชุดวิทยุ AN/GRA-39 2) ตู้สลับสาย SB-22/PT2 3) กลุ่มชุดวิทยุ AN/VRC-12 หรือชุดวิทยุ AN/PRC-77, AN/VRC-64, AN/GRC-160 และ/หรอื ชดุ วิทยุ PRC-624, VRC-745, VRC-750, A, GRC-1600 4) แบตเตอร่ี BA-30/U 16 ก้อน 5) ข้ัวต่อ U-182/U หรือ U-229/U พร้อมสายน�ำสัญญาณยาว 1 เมตร จ�ำนวน 2 เส้น (แต่ละเส้นต่อเข้าท่ี PIN A และ PIN C ของขวั้ ต่อ U-182/U หรือ U-229/U)
226 เหล่าทหารมา้ รูปที่ 18 การสนธิขา่ ยวทิ ยุโดยใช้ AN/GRA-39 9.2 ขน้ั ตอนการสนธขิ ่ายวทิ ยุปฏบิ ตั ิดังน้ี : (ดูรปู ท่ี 18 ประกอบ) 1) ต่อปลายสายโทรศัพท์สนาม WD-1/TT จากเครื่องโทรศัพท์สนามหรือ ตู้สลับสายท่ีต้องการสนธิข่ายวิทยุมาเข้าที่คู่หมุดรับปลายสายด้านหลังของตู้สลับสาย SB-22/PT ทใ่ี ช้ในการสนธขิ ่ายวทิ ยุคู่ใดคู่หน่งึ ก็ได้ 2) ต่อข้ัวต่อ U-182/U หรือ U-229/U เข้ากบั ขัว้ ต่อ AUDIO ของ C-2328 (Remote Control) 3) ต่อสายนำ� สัญญาณเส้นใดเส้นหน่ึงของขั้วต่อ U-182/U หรอื U-229/U เข้ากับหมดุ รบั ปลายสาย LINE ที่ C-2328 (Remote Control) ขวั้ ล่างต่อสายนำ� สญั ญาณอกี เส้นหนง่ึ ของขั้วต่อ U-182/U หรือ U-229/U เข้ากับหมดุ รบั แผงทางสายด้านหลังทเี่ ลอื กไว้ท่ี ตู้สลบั สาย SB-22/PT 4) น�ำสายสัญญาณมาต่อระหว่างคู่หมุดรับปลายสายที่เลือกไว้ (จาก หมายเลข 4) ของตู้สลบั สาย SB-22/PT และหมุดรบั ปลายสาย LINE ขัว้ บนของ C-2328 (Remote Control)
5) ตอ่ สายตอ่ RADIO ของ C-2329 (Local Control) เขา้ กบั ขว้ั ตอ่ RETRANSMIT เห ่ลาทหาร ้มา 227 R/W ทเี่ ครอื่ งรบั -สง่ RT-524/VRC เครอื่ งท่ี 1 (ถา้ ไมใ่ ชก้ ลมุ่ ชดุ วทิ ยุ AN/VRC-12 ใหต้ อ่ เขา้ ทขี่ วั้ ตอ่ AUDIO) 6) ต่อปากพดู (MIKE) เข้ากบั ขัว้ ต่อ AUDIO ขั้วใดข้วั หนง่ึ ที่ C-2299/VRC 7) ต่อสายนำ� สัญญาณ CG-1773 (Transmission Line) ระหว่างขั้วต่อ ANT ที่ RT-524/VRC ท้งั 2 เครอื่ ง และทข่ี ้ัวต่อ J1 ท่ี MX-6707/VRC 8) ต่อสาย CX-4722 ระหวา่ งขวั้ ตอ่ ANT CONT ที่ RT-524/VRC ทงั้ 2 เครอื่ ง และท่ขี ั้วต่อ J2 ท่ี MX-6707/VRC 9) ต้ังสวติ ช์ SQUELCH ของ RT-524/VRC ทั้ง 2 เครอ่ื ง ไว้ท่ีต�ำแหน่งที่ สามารถตดิ ต่อกบั ชดุ วทิ ยคุ ู่สถานไี ด้ 10) ตั้งสวิตช์ BAND ท่ี RT-524/VRC เคร่ืองที่ 1 และตง้ั ความถ่ใี ช้งานของ การสนธขิ ่ายวทิ ยุทไ่ี ด้ก�ำหนดไว้ 11) บดิ สวติ ช์ SPEAKER ท่ี RT-524/VRC ทัง้ 2 เครอ่ื งไว้ท่ีต�ำแหน่ง ON 12) ปรับปุ่ม VOLUME ท่ี RT-524/VRC ระหว่างการใช้งาน 13) ตอ่ ปากพดู -หฟู งั ชนดิ สวมศรี ษะ (Handset-Headset) เขา้ ทขี่ ว้ั ตอ่ HEAD- SET ของตู้สลบั สาย SB-22/PT 14) ตั้งสวติ ช์ AUD-VIS ทต่ี ู้สลบั สาย SB-22/PT ไว้ทต่ี �ำแหน่ง AUD 15) ตง้ั สวติ ช์ POWER ท่ี C-2329 (LOCAL CONTROL) ไว้ที่ต�ำแหน่ง ON 16) บิดสวติ ช์ VOLUME ที่ C-2328 (REMOTE CONTROL) ไว้ทตี่ �ำแหน่ง ON และปรับระดบั เสียงของล�ำโพงขณะใช้งาน 17) ตั้งสวติ ช์ POWER ท่ี RT-524/VRC ทั้ง 2 เคร่อื งไว้ที่ต�ำแหน่ง LOW 18) ต่อสายโทรศพั ท์สนาม WD-1/TT ท่ีคู่หมดุ รับปลายสาย LINE ระหว่าง C-2328 (Remote Control) และ C-2329 (Local Control) หมายเหตุ : ถ้าเครอื่ งส่งทำ� งานส่งออกอากาศตลอดเวลาให้สลบั การต่อปลาย สายนำ� สญั ญาณทห่ี มายเลข 4 และ 5 ของแผงทางสายทต่ี ู้สลับสาย SB-22/PT ด้านหลัง
228 เหล่าทหารมา้ 10. การเลือกทตี่ ้งั และความถี่ (Siting and Frequency Selection) 10.1 การเลือกที่ตงั้ (Siting Selection) 1) ท่ตี ัง้ ทคี่ วรหลกี เลี่ยง • บรเิ วณต้นไม้หนาทึบ • บรเิ วณเนนิ เขา • บริเวณสายไฟแรงสูง • บริเวณสะพาน • บริเวณตกึ และอาคารสูง 2) ทต่ี งั้ และตำ� แหน่งทค่ี วรเลอื ก • บรเิ วณพน้ื ทที่ ส่ี งู กวา่ ปกติ เพอื่ เพม่ิ ระยะการตดิ ตอ่ สอื่ สารใหไ้ กลขน้ึ โดยคำ� นึงถึงการซ่อนพราง • ต�ำแหน่งของยานยนต์หรือเสาอากาศท่ีมีผลต่อระยะการติดต่อ สือ่ สาร พยายามวางตำ� แหน่งของยานยนต์ให้ทแยงมมุ เข้าหาคู่สถานี ท้งั น้ี อาจช่วยให้การ ติดต่อสือ่ สารดขี ้นึ รูปท่ี 19 ต�ำแหนง่ เสาอากาศบนยานยนต์
คำ� เตือน : พึงระวงั ในเรือ่ งความล่อแหลมต่อการตรวจการณ์พบจากข้าศึก ใน เห ่ลาทหาร ้มา 229 ขณะเคลอ่ื นทย่ี านยนต์เพ่ือหาต�ำแหน่งการใช้เสาอากาศบริเวณพน้ื ที่ทส่ี งู ขึน้ 10.2 การเลือกความถี่งาน (Frequency Selection) ความถี่และนามเรียกขานซึ่งได้รับอนุมัติแล้ว สามารถค้นหาได้จาก คำ� แนะนำ� ปฏบิ ตั กิ ารสอ่ื สารและอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (นปสอ.) ของหนว่ ย กอ่ นนำ� ความถเี่ หลา่ นน้ั มาใช้งานควรตรวจสอบอย่างรอบคอบอีกครั้งเพื่อให้ม่ันใจความถี่เหล่าน้ันได้เป็นไปตาม ข้อควรระวงั ต่อไปนี้ 1) หา้ มใชค้ วามถต่ี อ่ ไปน้ี เพราะอาจเปน็ สาเหตใุ หว้ ทิ ยทุ ำ� งานไมถ่ กู ตอ้ ง : 39.90, 45.20, 56.50 และ 67.30 MHz 2) ห้ามใช้ความถี่ ซ่ึงมีผลต่างเท่ากบั 5.75 MHz หรอื 23.00 MHz มาใช้ งานใกล้กนั 3) หา้ มใชง้ านชดุ วทิ ยใุ นการตดิ ตอ่ สอ่ื สารโดยตง้ั สถานวี ทิ ยอุ ยใู่ กลช้ ดิ กนั มากเกินไป ระยะห่างอย่างตำ่� ของเสาอากาศชุดวทิ ยทุ ี่ใช้งาน ให้ปฏิบัตติ ามตารางข้างล่าง สำ� หรบั บนยานยนตใ์ หต้ ดิ ตงั้ ชดิ กนั เกนิ กวา่ 5 ฟตุ ได้ (ทค่ี วามตา่ งของความถ่ี 10 MHz/5 MHz) ระยะหา่ งอย่างตำ่� ของเสาอากาศแบบ WHIP และ/หรอื RC-292 ความต่างความถ่ี ระหวา่ งกลุ่มชดุ วิทยุ AN/VRC-12 ระหว่างกลมุ่ ชุดวทิ ยุ AN/VRC-12 10 MHz ก�ำลังส่งสงู ก�ำลังสง่ ตำ่� 7 MHz 4 MHz 5 ฟุต/1.5 ม. 5 ฟุต/1.5 ม. 2 MHz 60 ฟตุ /18.3 ม. 10 ฟตุ /3.0 ม. 1 MHz 150 ฟุต/45.7 ม. 50 ฟตุ /15.2 ม. 400 ฟตุ /121.9 ม. 200 ฟตุ /61.0 ม. 800 ฟุต/243.8 ม. 350 ฟุต/106.7 ม.
230 เหล่าทหารมา้ 11. การเตรียมการเคล่ือนยา้ ย (Preparation for Movement) รูปท่ี 20 การใชเ้ ชือกรงั้ เสาอากาศ ตามปกติ รปจ. การเคลื่อนย้ายจะกำ� หนดในเร่ืองการใช้เชือกร้ังเสาอากาศไว้ ทั้งน้ี เพ่ือให้เกิดความสะดวกและปลอดภัยในการเคลื่อนย้าย แต่ก็ควรปฏิบัติตามข้อควร ระวังดังต่อไปน้ี 1) ต้องมั่นใจว่าท่อนเสาอากาศถูกยึดแน่นด้วยขอร้ังเสาอากาศ เพื่อป้องกัน การกระเดน็ หลดุ ออกมาในขณะยานยนต์เคลอ่ื นท่ี 2) เสาอากาศแต่ละต้นต้องไม่ไขว้คร่อมซง่ึ กันและกัน และต้องมที คี่ รอบปลาย เสาอากาศครบถ้วน 3) เสาอากาศต้องไม่ย่นื ออกมาทางข้างของยานยนต์ 4) เมื่อเสาอากาศถูกร้ังไว้อย่างมั่นคงเม่ือรถเคลื่อนที่ไปปะทะกับส่ิงกีดขวาง ที่แข็งแรง เช่น สะพานหรอื ต้นไม้ เป็นต้น ท่อนเสาอากาศอาจแตก, หัก และกระเด็นมาถูก พลประจำ� รถทอ่ี ยู่ภายนอกรถ ทำ� ให้ได้รับบาดเจบ็ รนุ แรงหรอื อาจจะถึงแก่ชีวิตได้ 5) ก่อนติดเคร่ืองยนต์ต้องปิดวงจรไฟเข้าชุดวิทยุ และระบบติดต่อภายในรถ ทุกครั้ง
12. การใชง้ านในพ้นื ท่ีแห้งแล้งและฝุน่ มาก (Operation in Desert and Dusty Areas) ควรปฏิบัติดงั นี้ 1) น�ำผ้าหรอื วสั ดอุ น่ื ๆ ออกห่างชดุ วิทยุ 2) ถา้ ชดุ วทิ ยตุ อ้ งตดิ ตงั้ อยบู่ รเิ วณทถ่ี กู แสงแดดสอ่ งตลอดเวลา ควรทาสสี ะทอ้ น ความร้อนป้องกนั 3) หม่ันตรวจระดับนำ�้ กล่ันของแบตเตอร่ียานยนต์บ่อย ๆ และต้องเติมให้อยู่ ในระดบั ทถ่ี กู ต้องเสมอ 4) บริเวณพัดลมและช่องระบายความร้อนด้านหลังเคร่ืองรับ-ส่งต้องไม่มีเศษ วสั ดุใด ๆ มาปิดทางเดนิ ของลมระบายความร้อน เห ่ลาทหาร ้มา 231 รปู ที่ 21 แสดงพดั ลมและช่องระบายความร้อน 13. วิธีการแก้ปญั หาในกรณีฉุกเฉิน (Emergeney Procedures) 1) เคร่ืองรับช่วยใช้งานไม่ได้ : ถ้าใช้เครื่องรับ-ส่ง RT-246/VRC ให้ใช้ปุ่มกด ความถ่อี ตั โนมัติเพอ่ื ตง้ั ความถ่ใี ช้งานทดแทนเครื่องรบั ช่วย 2) เสาอากาศเคร่อื งรับ-ส่งหัก : ถ้ายานยนต์จอดอยู่กบั ท่ใี ห้ใช้เสาอากาศแบบ LONG WIRE หรอื ใช้สายโทรศพั ท์สนามหรอื สายไฟท่ีมฉี นวนหุ้ม สร้างสายอากาศชว่ั คราว ก็ได้ หรอื อาจใช้เสาอากาศเครอ่ื งรับช่วยแทนได้ แต่ระยะการติดต่ออาจลดลง
3) กล่องควบคมุ C-2298/VRC หรอื C-2297/VRC ไม่ทำ� งาน : การติดต่อส่ือสาร ทางวทิ ยุยังคงด�ำรงต่อไปได้โดยการต่ออปุ กรณ์ทางเสียงท่ขี ัว้ ต่อ MIKE หน้าเครอ่ื งรับ-ส่ง 4) โทรศพั ทส์ นามทต่ี อ่ ใชง้ านจากกลอ่ งควบคมุ C-2296/VRC ภายนอกรถใชง้ าน ไม่ได้ ให้เปล่ยี นจุดต่อใหม่มาท่หี มดุ รับปลายสาย LINE ที่ AM-1780/VRC 5) การใช้งานแบบส่งต่อไม่ท�ำงาน (ในกรณที ี่ต่อเข้ากับ AM-1780/VRC) แจ้งให้ ช่างประจำ� หน่วยมาดำ� เนินการแก้ไข โดยใช้การต่อที่ฐาน MT-1029/VRC 6) เครอื่ งรบั -ส่งมปี ัญหาเกย่ี วกบั ความร้อนสงู จนทำ� ให้พดั ลมระบายความร้อน ท�ำงานทง้ั ๆ ทไ่ี ม่ได้ส่งวทิ ยอุ อกอากาศ : วิธกี ารหนึง่ ท่จี ะช่วยลดความร้อนของเคร่อื งรบั -ส่ง คือ การจำ� กัดแรงไฟทจ่ี ่ายให้กบั เครือ่ งรับ-ส่งให้มีขนาดใกล้เคียงกบั 24 VDC 14. การรบกวนและการต่อตา้ นการรบกวน (Jamming and Antijam- ming Procedures) 232 เหล่าทหารมา้ โดยทั่วไป การรบกวน คือ กระบวนการการส่งสัญญาณท่ีมีความแรงเข้า แทรกแซงตอ่ ความถท่ี ก่ี ำ� ลงั ใชง้ าน ทำ� ใหเ้ กดิ ความยากลำ� บากตอ่ การดำ� รงการตดิ ตอ่ สอื่ สาร ในขณะนั้น สัญญาณการรบกวนน้ีบางคร้ังอาจมาจากสถานีวิทยุฝ่ายเดียวกันก็ได้ และ/ หรืออาจมาจากการท�ำงานที่ผิดปกติของภาคเคร่ืองรับของชุดวิทยุที่ก�ำลังใช้งานอยู่ก็เป็น ไปได้ ดังนน้ั จงึ มวี ธิ กี ารง่าย ๆ ท่จี ะใช้ในการพสิ จู น์ทราบแหล่งทม่ี าของสญั ญาณรบกวน น้ัน โดยการทดสอบเครื่องรับท่ีก�ำลังใช้งานว่าเป็นแหล่งท่ีมาของสัญญาณรบกวนหรือไม่ โดยปฏบิ ัตดิ งั น้ี • ถอดสายนำ� สัญญาณออกจากขั้วต่อสายอากาศ • ใช้สายไฟหรอื เสน้ ลวดต่อลดั วงจร ระหว่างแกนกลางขว้ั สายอากาศกบั ตวั รถ หรอื ตวั เครอ่ื งรบั -ส่งของชดุ วทิ ยุ • เมอื่ ทดสอบการตอ่ ลดั วงจรแลว้ สงั เกตฟงั เสยี งดวู า่ มกี ารเปลย่ี นแปลงหรอื ไม่ ถา้ เสยี งสญั ญาณรบกวนนน้ั ยงั คงอยอู่ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง แสดงวา่ การรบกวนนนั้ เกดิ จากเครอื่ งรบั ของชุดวทิ ยเุ อง แต่ถ้าเสยี งสัญญาณรบกวนนัน้ หมดไป แสดงว่าก�ำลังถกู รบกวนจากที่อน่ื คำ� เตือน : เมือ่ ทราบว่ากำ� ลงั ถูกรบกวนให้รายงานต่อผู้บงั คบั บญั ชาทราบโดยด่วน
รปู ที่ 22 แสดงการตรวจสอบเคร่อื งรับ เห ่ลาทหาร ้มา 233 การต่อตา้ นการรบกวน กระบวนการต่อต้านการรบกวนสามารถกระท�ำได้ดงั น้ี 1) พยายามหาต�ำแหน่งของยานยนต์ใหม่ เพื่อขจัดผลกระทบของสัญญาณ การรบกวนให้หมดไป 2) พยายามใชส้ งิ่ กดี ขวางทอี่ ยใู่ กล้ ๆ เปน็ ฉากก�ำบงั ระหวา่ งชดุ วทิ ยทุ ใ่ี ชง้ านกบั แหล่งท่มี าของเครอ่ื งส่งสญั ญาณรบกวน 3) พยายามวางตำ� แหน่งของยานยนต์ โดยให้ด้านหน้ารถชตี้ รงไปยังคู่สถานี 4) พยายามปรับเปลี่ยนระดับเสียง โดยใช้ปุ่ม VOLUME วิธีน้ีอาจช่วยท�ำให้ ได้ยินเสยี งสัญญาณท่ีต้องการรบั ฟังดงั ชดั เจนข้ึน 5) แจ้งให้คู่สถานีที่ก�ำลังติดต่อสื่อสารด้วยเปล่ียนไปใช้ก�ำลังส่งสูงแทนก�ำลัง ส่งตำ่� ถ้ายังไม่สามารถดำ� รงการติดต่อสื่อสารได้ หลงั จากท่ไี ด้พยายามกระทำ� ตามกระบวนการ ข้างต้นแล้ว ข้นั ตอนต่อไป คอื รายงานผู้บังคบั บัญชาเพ่อื ขออนมุ ัตเิ ปลย่ี นไปใช้ความถ่ีอื่น ค�ำเตอื น : พงึ ระมัดระวังในเร่อื งการปฏิบัตกิ ารต่อต้านการรบกวนทุกข้นั ตอน และต้องมน่ั ใจว่าจะไม่ถูกข้าศกึ ค้นหาที่อยู่ของฝ่ายเราได้อย่างง่ายดาย หลักฐานอ้างองิ : 1. TM11-5820-401-12, SEPTEMBER 1972 2. TM-11-5820-401-10-2 C 1, 1 SEPTEMBER 1990 3. TM11-5820-401-20-2 C 1, 3 JANUARY 1984 4. FM24-18, 13 DECEMBER 1984
ภาคผนวก
เพลงชาติไทย ประเทศไทยรวมเลอื ดเนื้อชาตเิ ชือ้ ไทย เป็นประชารฐั ไผทของไทยทกุ ส่วน อยู่ดำ� รงคงไว้ได้ทง้ั มวล ด้วยไทยล้วนหมายรกั สามคั คี ไทยนร้ี ักสงบแต่ถงึ รบไม่ขลาด เอกราชจะไม่ให้ใครข่มข่ี สละเลอื ดทกุ หยาดเป็นชาตพิ ลี เถลงิ ประเทศชาตไิ ทยทวมี ชี ยั ชโย เพลงสดุดจี อมราชา ถวายบงั คมจอมราชา พระบุญญาเกรกิ ฟ้าไกล ธ ทรงเป็นร่มโพธร์ิ ่มไทร ศูนย์รวมใจชาวไทยสมคั รสมาน ถวายพระพรองค์ราชนิ ี คู่บารมีองค์ราชนั ขอพระองค์ทรงเกษมส�ำราญ งามตระการเคยี งขัตติยะไทย อุ่นไอจากฟ้าเรอื งรอง แสงทองส่องมา ไพร่ฟ้าต่างสดใส มหาราชา ราชนิ ี ม่ิงขวญั ปวงชนชาวไทย เทดิ ไท้พระภวู ไนย ถวายใจสดดุ ี
เพลงสรรเสรญิ พระบารมี ข้าวรพทุ ธเจ้า เอามโนและศริ ะกราน นบพระภมู บิ าล บญุ ดิเรก เอกบรมจักรนิ พระสยามินทร์ พระยศยงิ่ ยง เย็นศิระเพราะพระบรบิ าล ผลพระคณุ ธ รกั ษา ปวงประชาเป็นสขุ ศานต์ ขอบันดาล ธ ประสงค์ใด จงสฤษดิด์ งั หวังวรหฤทยั ดจุ ถวายชยั ชโย เพลงสยามานสุ ติ หากสยามยงั อยู่ยัง้ ยนื ยง เราก็เหมอื นอยู่คง ชพี ด้วย หากสยามพนิ าศลง ไทยอยู่ได้ เราก็เหมอื นมอดม้วย หมดส้นิ สกุลไทย ใครรานใครรกุ ด้าวแดนไทย ไทยรบจนสดุ ใจขาดดิ้น เสียเนื้อเลือดหลง่ั ไหลยอมสละ ส้นิ แล เสยี ชีพไป่เสยี สิ้น ช่อื ก้องเกยี รติงาม
เพลงรกั ชาติยิง่ ชพี เกิดเป็นไทยเป็นไทยดงั นาม เพยี บด้วยความรกั ชาตยิ ่งิ ทั้งใจทงั้ กายทกุ สิ่ง อกี วาจาจรงิ ทกุ สง่ิ ไป ชาตทิ ่ีรกั ของไทย เราควรเทดิ ไว้บชู า มีคุณล้นเหลอื ล้นค่า สดุ จะพรรณนานับได้ เราเป็นไทย ต้องใจมคี วามภกั ดชิ์ าติ เราต้องพลชี ีวาตม์ สละให้ชาตดิ ้วยความหวงั ดี มาเถดิ พงษ์วงศ์วานของไทย เรารวมใจดำ� รงคงชาตดิ ้วยดี รักชาติเราน้ยี งิ่ ชพี เพลงมารช์ นศท. เราเหล่านกั ศึกษาวชิ าทหาร กรมการรกั ษาดนิ แดน ฝึกฝนทกุ คนรู้จกั ให้รักแผ่นดนิ ถนิ่ แคว้นเป็นปึกแผ่นแดนไทย ยามศึกเราร่วมรบพร้อมพลชี วี ัน เคียงกนั ทุกคนร่วมใจ ต้องเตรียมพร้อมความเกรยี งไกร เลอื ดไทยยอมพลีทุกคน เราพร้อมผจญผู้รกุ ราน ไทยมชี าตศิ าสนามหากษัตริย์ เกยี รติประวตั เิ ลอื ดไทยห้าวหาญ ชอ่ื ไทยอยู่คู่ฟ้าท่วั กาล เรานกั ศึกษาวชิ าทหารจะรกั ษาสถาบนั เราเหล่านกั ศึกษาวิชาทหาร รวมใจสามคั คกี นั เลือดไทยมใิ ห้ไหวหว่นั รวมกันรกั ษาดนิ แดน เราหวงแหนแผ่นดนิ ไทย
เพลงรกั ชาตยิ ่งิ ชีพ หากแผ่นดนิ ต้องการพวกเรา เจ้าป่าเขาจงเป็นพยาน ข้ายอมตายด้วยความกล้าหาญเพ่อื บ้านเมืองเรา เป็นก�ำลงั ส�ำรอง ฝึกซ้อมในทกุ เร่อื งราว ไม่ย่อท้อแม้จะเหนบ็ หนาวสกั เพียงใด หากเอกราชกำ� ลังลกุ เป็นไฟ จงจบั มอื รวมใจ สู้ต่อไปด้วยความรกั ชาติ *จะไม่ยอมให้ใครย่ำ� ยีแผ่นดนิ นข้ี องเราไปได้ ยอมเสียเลอื ดเสยี เนื้อเสยี กายหากต้องเสียแผ่นดิน จะรกั ษาแผ่นดนิ ของพ่อ ตอบแทนคณุ ท่านท�ำให้เรามกี ิน ประเทศสยามจะจำ� เรญิ ไม่ส้ินแผ่นดนิ ขวานทอง (ประเทศสยามจะจำ� เรญิ ไม่สิ้น...แผ่นดนิ ขวานทอง) (แรป็ 1) รด. รกั ษาดินแดนไม่เคยขาดแคลนเร่ืองกองก�ำลงั เกดิ มาเป็นลกู ผู้ชายต้องยอมพลกี ายไม่พลาดพล้งั เป็นกองกำ� ลงั สำ� รองพวกเราคัดกรองคนขงึ ขงั รกั ษาเสยี งเกยี รตยิ ศไม่มีวนั หมดให้คนรุ่นหลงั (ญ) อาจเป็นหญงิ แค่เพยี งร่างกาย ไม่แพ้ชายยอมตายเพ่ือชาติ ส�ำรองหญงิ ไม่เคยคิดว่าหวาด เพือ่ ชาตผิ องไทย (ซ้�ำ * (ญ)) (แรป็ 2) จงรกั ชาติยิ่งชพี แม้ว่ากายจะวายชวี ัน ไม่ว่าจะเป็นยงั ไง กข็ อให้ใจนน้ั สู้ฟัน อยู่ใต้ร่มพระบารมพี ระเจ้าอยู่หวั จอมราชันย์ ท�ำดเี ถดิ อย่าขเ้ี กยี จ เพือ่ เทดิ พระเกียรติพระองค์ท่าน (ซ้�ำ * (ช)) (แรป็ 3) เราจะร่วมสบื ทอดพระปณธิ านของพ่อ ตามรอยศาสตร์พระราชาดงั ทีพ่ ระองค์ได้สานต่อ พัฒนาชาตไิ ทยให้ก้าวไกลโดยไม่ท้อ สืบสานงานจติ อาสาช่วยชาวประชาไม่รีรอ (ซ�้ำ* (ช + ญ))
เพลงรกั ชาติ ความรักอนั ใด แม้รักเท่าไหน กไ็ ม่ยง่ั ยนื เช่นรักคู่รกั รกั แทบจะกลืน กลบั กลายขมขืน่ ลมื ได้ภายหลงั แต่ความรกั ชาติ รักแสนพศิ วาส รักจนสุดก�ำลัง ก่อเกิดมานะ ยอมสละชวี ัง รกั จนกระท่ัง หมดเลือดเน้ือเรา ชวี ติ ร่างกาย เราไม่เสยี ดาย ตายแล้วก็เผา ทกุ สงิ่ ย่อมคลาด เว้นแต่ชาตขิ องเรา อย่าให้ใครเข้า เหยยี บย่�ำทำ� ลาย เพลง รด. รนุ่ ใหม่หัวใจ New Gen. ข้าคอื นกั ศกึ ษา เสาะหาต�ำรานอกห้องเรยี น ไม่ได้ขดี เขยี น ไม่ได้เรยี นในอาคารห้องแอร์ *ฉนั เรยี นกลางแดด ฉนั ร้อน ฉนั เหน่ือย ฉันเพลยี เหลือเกนิ ฉันเดินยำ่� ลง ยำ่� ฝน ยำ�่ บนพนื้ ดนิ ไทย ฉันคือกองหนนุ สนับสนนุ การรบของกองทัพไทย ศกึ ษาต�ำราวชิ าทหาร ข้าคอื นศท. ข้าคอื รด. รกั ษาดินแดน ไม่ต้องตดั หวั เกรียน แม้ยงั เรียนอยู่ ม.ปลาย มีทง้ั หญงิ ท้ังชาย มาศกึ ษาเล่าเรียน ท้งั ผู้สาวสวยอกี ถึกทน ยงั พากเพียร เรียนวิชาทหาร ได้ความสามคั คี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255