ก แผนการจัดการเรียนรู้ หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 สาระความรู้พื้นฐาน รายวชิ า ภาษาองั กฤษเพือ่ ชวี ิตและสังคม (พต 31001) 5 หน่วยกิต จานวน 200 ชว่ั โมง ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย โดย นางสาวสมฤดี สงั ขาว ครู กศน.ตาบล ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอบางระจัน สานักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จังหวัดสงิ ห์บรุ ี สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั สานกั งานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ
ก บันทึกข้อความ ส่วนราชการศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอบางระจัน ทศ่ี ธ.0210.3615/...........................................................วนั ที่ 22 ธันวาคม 2563 เร่อื ง การตรวจคุณภาพแผนการจดั การเรยี นรู้ เรยี นผู้อานวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอบางระจัน ด้วย งานการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอบางระจนั ไดจ้ ัดทาแผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าภาษาองั กฤษเพ่ือชีวิตและสังคม รหสั วชิ า พต31001 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เพ่ือใช้ในการจัดการเรยี นรู้ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 เรียบร้อยแล้ว จึงขอเสนอแผนการจัดการเรียนรูม้ าเพื่อตรวจสอบคุณภาพก่อนนาไปจดั การเรยี นรู้ รายละเอียดดังแนบมา พรอ้ มนี้ จึงเรียนมาเพ่ือโปรดพิจารณา (นางสาววิจิตรา กองแก้ว) หวั หน้างานการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน ผลการตรวจสอบ องค์ประกอบของแผนครบถว้ น การจดั การเรยี นรเู้ ปน็ ไปตามเปา้ หมายของสถานศึกษา เน้ือหาสาระตรงตามโครงสร้าง ใช้กระบวนการจัดการเรยี นรทู้ ี่เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคญั สอื่ ทใี่ ชเ้ รียนรู้เหมาะสม อนุมตั ใิ หด้ าเนินการได้ ไม่อนุมัติ ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. .................................................................................. (นางสาวปรารถนา ชโี พธิ์) ผอู้ านวยการ กศน. อาเภอบางระจนั คานา แผนการจดั การเรียนรู้ เปน็ เครื่องมือสาคัญสาหรบั ครทู ี่จะทาใหก้ ารจัดการเรียนรูบ้ รรลุเป้าหมายตาม ตัวชว้ี ัด แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ า ภาษาองั กฤษเพื่อชวี ิตและสังคม รหสั พต31001 ระดับมัธยมศึกษา ตอนปลายเลม่ น้ี จดั ทาข้ึนเพื่อเป็นแนวทางในการเรยี นการสอน สาหรับครผู สู้ อน และบุคคลท่ีเกย่ี วข้อง สามารถนาไปใชไ้ ด้อย่างมีประสทิ ธิภาพ โดยมเี น้อื หา จานวน 17 บท ประกอบด้วย
ข บทท่ี 1 Everyday English บทที่ 2 What should you do? บทที่ 3 Hello could you tell me……? บทท่ี 4 Cultural Difference บทที่ 5 News & News Headline บทที่ 6 Self – Sufficiency Economy บทที่ 7 Have you exercised today? บทที่ 8 Shall we save the energy? บทท่ี 9 What have I done? บทที่ 10 What is your e – mail address? บทที่ 11 Natural Disaster บทที่ 12 Let’s Travel บทที่ 13 Will it rain tomorrow? บทที่ 14 Global Warming บทที่ 15 Urgently Wanted บทท่ี 16 ภาษาอังกฤษสาหรับพนกั งานนวดแผนไทย บทท่ี 17 ภาษาอังกฤษสาหรบั พนักงานขาย ผู้จัดทาขอขอบคุณ ผู้ที่เก่ียวข้องทุกคนที่มีส่วนในการจัดทาแผนการเรียนรู้เล่มน้ี หากมี ข้อพกพร่องประการใดขอความกรุณาให้ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะ เพื่อจะนาไปสู่การปรับปรงุ ในการจัดทา แผนการเรียนรู้ รายวิชา ภาษาอังกฤษเพ่ือชีวิตและสังคมรหัส พต31001 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายให้ดี ยิ่งขึ้นต่อไป และหวังเป็นอย่างย่ิงว่าแผนการจัดการเรียนรู้เล่มน้ีจะเป็นประโยชน์ต่อครูผู้สอน นักศึกษา ตลอดจนบคุ คลท่เี กยี่ วขอ้ งต่อไป (นางสาวสมฤดี สงั ขาว) ครู กศน.ตาบล วันท่ี เดอื น ธนั วาคม พ.ศ. 2563 สารบัญ คานา หน้า คาอธบิ ายรายวิชา 1 รายละเอยี ดคาอธิบายรายวิชา 2 ตารางวเิ คราะห์หลักสตู รรายวชิ า 24 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 52 การปฐมนเิ ทศนักศึกษา 54 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2
EverydayEnglish ค แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 59 Whatshouldyoudo? 65 แผนการจดั การเรียนรู้คร้ังที่ 4 71 76 Hellocouldyoutellme……? 82 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 89 96 Cultural Difference 104 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6 109 Cultural Difference 118 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 7 124 133 News & News Headline 139 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 8 144 Self – Sufficiency Economy แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 Have you exercised today? แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 10 Shall we save the energy? แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 11 What have I done? สารบัญ (ตอ่ ) แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 12 What is your e – mail address? แผนการจัดการเรียนรู้ครั้งท่ี 13 Natural Disaster แผนการจัดการเรียนรู้ครงั้ ที่ 14 Let’s Travel แผนการจัดการเรียนรู้ครง้ั ท่ี 15 The Weather แผนการจัดการเรียนรู้คร้งั ท่ี 16 Global Warming
แผนการจดั การเรียนรู้ครงั้ ท่ี 17 ง Urgently Wanted 149 แผนการจัดการเรยี นรู้คร้งั ที่ 18 153 ภาษาองั กฤษสาหรับพนกั งานนวดแผนไทย 158 163 แผนการจดั การเรยี นรู้ครง้ั ท่ี 19 ภาษาองั กฤษสาหรบั พนักงานขาย แผนการจัดการเรยี นรู้คร้งั ที่ 20 การปจั ฉมิ นเิ ทศ คณะผจู้ ัดทา
๑ คาอธบิ ายรายวิชา พต31001 ภาษาอังกฤษเพื่อชีวติ และสงั คม จานวน 5 หนว่ ยกิต ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคตเิ กยี่ วกบั ภาษาท่าทาง การฟัง พดู อ่าน เขียน ภาษาต่างประเทศ ดว้ ยประโยคท่ีซับซ้อนมากข้นึ ในชีวิตประจาวนั และงานอาชีพของตน ถูกต้องตามหลักภาษา วฒั นธรรม และกาลเทศะของเจา้ ของภาษา ศึกษาและฝกึ ทกั ษะเก่ยี วกับเร่อื งดังต่อไปนี้ 1. การตีความหมายจากน้าเสียงของผู้อนื่ วา่ มีความรสู้ ึกดีใจ เสยี ใจ พงึ พอใจ ไมพ่ งึ พอใจซาบซ้งึ ผิดหวงั ปรารถนาดี ชืน่ ชมหรือเหน็ ใจ และการใช้น้าเสยี งแสดงความรสู้ ึกของตัวเองในโอกาสต่าง ๆการอ่าน ทา ความเขา้ ใจและปฏิบตั ติ ามข้อมูลท่ีปรากฏอยู่ในสลากสินค้า การพดู ทางโทรศัพท์ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทีถ่ ูกต้อง การเปรยี บเทยี บความแตกต่างระหว่างวฒั นธรรมองั กฤษและวฒั นธรรมไทย รวมท้งั สามารถปฏิบตั ติ นได้ถูกต้อง ตามวัฒนธรรมและประเพณีต่าง ๆ 2.การอา่ นและวเิ คราะห์ขอ้ มูลจากสื่อต่าง ๆ เช่น หนงั สอื พมิ พ์ วิทยุ โทรทศั น์ ภาพยนตร์ ในด้านต่าง ๆ ท่ีหลากหลาย การสบื คน้ ข้อมูลจาก Internet เพอื่ นามาใช้ประโยชนใ์ นการดารงชวี ิตในสังคม การรับและ ตอบ e-mail ทง้ั ในเรื่องสว่ นตัว ในการศึกษาและในการประกอบอาชีพ วิธกี ารแลกเปลี่ยนขอ้ มลู ข่าวสารและ ความรู้ ต่าง ๆ กับผ้อู ่ืน ท้งั อยา่ งเปน็ ทางการและไมเ่ ป็นทางการ โดยเข้าใจโครงสร้างของประโยคทซี่ ับซอ้ น (Complex Sentence) และใช้ Tense ต่าง ๆ ในการแสวงหาขา่ วสาร ข้อมูล ความรแู้ ละในการสื่อสารได้อย่าง ถูกต้องและเหมาะสมกบั สถานการณ์ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เนน้ การฟัง พูด อ่าน เขียน จากสถานการณจ์ ริงหรือสถานการณจ์ าลอง โดยใช้สื่อที่เหมาะสมและ สอดคลอ้ งกับเนื้อหาในการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล พจิ ารณาจากความสามารถในการนาความรู้และทักษะไปใช้ในสถานการณต์ า่ ง ๆ ได้อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม รายละเอยี ดคาอธบิ ายรายวิชา พต31001 ภาษาองั กฤษเพ่ือชวี ติ และสังคม จานวน 5 หนว่ ยกติ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
๒ มาตรฐานการเรยี นรูร้ ะดับ มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติเก่ียวกับ ภ าษาท่าทาง การฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาต่างประเทศ ดว้ ยประโยคทซ่ี ับซอ้ นมากข้ึนในชวี ิตประจาวัน และงานอาชพี ของตน ถูกตอ้ งตามหลักภาษา วฒั นธรรม และกาลเทศะของเจา้ ของภาษา ท่ี หัวเร่ือง ตวั ช้ีวดั เนือ้ หา จานวน (ช่ัวโมง) 1 Everyday English ตคี วามหมายจาก 1. การออกเสียงพยญั ชนะตน้ คา -ทา้ ยคา 12 น้าเสียงของผู้อืน่ และ 1.1ทบทวนการออกเสยี ง พยัญชนะต้นคาที่ ร้จู ักใช้นา้ เสียงในการ ยาก เชน่ เสียง s z ch sh แสดงความร้สู ึก - sit, see, soon ระหวา่ งการสนทนา - zebra, zero, zoo ไดแ้ ก่ ดีใจ เสียใจ - cheap, chat, choose พงึ พอใจ ไม่พงึ พอใจ - ship, shoe, shut ซาบซง้ึ ผิดหวัง etc. ปรารถนาดี 1.2 การอ่านออกเสียงท้ายคาทถี่ กู ต้อง ช่นื ชมและ เช่น เสียง [d] , [t] , หรือ [id] เม่ือเป็น เห็นใจ กรยิ าช่อง 2 และ past participle เช่น - moved, turned, loved - walked, talked, knocked - wanted, rented, waited etc. 2. การออกเสยี งหนัก-เบา (Stress) วธิ กี าร ออกเสียง หนกั -เบา ของคาในลักษณะตา่ ง ๆ เชน่ คาเด่ยี ว คาประสมในลกั ษณะต่าง ๆ เป็นตน้ วา่ คาประเภทใดจะตอ้ งออกเสยี งเนน้ ท่ี พยางคแ์ รก พยางค์กลางหรอื พยางค์หลงั 3. การออกเสียงตามระดับเสยี งสงู -ต่า (Intonation) วิธกี ารออกเสียงของประโยค ลกั ษณะตา่ ง ๆ ซึ่งจะต้องออกเสียงสูง-ต่า ให้ ถกู ต้องเพื่อใหส้ ่ือความหมายทผี่ พู้ ูดต้องการ ประโยคประเภทเดียวกนั ถ้าออกเสยี งสูง-ตา่ ตา่ งกันจะให้ความรสู้ กึ ทต่ี า่ งกัน 4. การออกเสยี งเช่ือมโยง (Linking Sound) วธิ ีการอา่ นออกเสยี งเช่ือมโยงระหวา่ งคาใน ภาษาอังกฤษท่ีถูกต้องตามกฎเกณฑ์ของ ภาษาอังกฤษเช่น - Ten years ago. - Far away etc. ๕. การแสดงความดีใจ/เสียใจ
๓ ที่ หัวเร่ือง ตวั ชี้วดั เนือ้ หา จานวน (ชว่ั โมง) การใช้คา วลแี ละรูปประโยคทจี่ ะนามาใช้ใน การแสดงความดใี จและเสยี ใจในโอกาสต่าง ๆ ไดถ้ ูกต้อง เชน่ แสดงความดใี จทีไ่ ด้พบกนั อีก ครง้ั หรือแสดงความเสยี ใจที่ทาผิด เป็นตน้ ตัวอยา่ ง คาวลี และรปู ประโยค เชน่ - Congratulations! - Sorry. Glad is hear about that. - Sorry about that. - I’m glad to................................................ - I’m pleased to........................................... - I love to.................................................... - I’m sorry to.............................................. - It’s my fault that....................................... 5. การแสดงความพอใจ/ไมพ่ อใจ ให้รูจ้ กั คา วลี และรูปประโยคทจ่ี ะทีจ่ ะนามาใช้ในการแสดง ความพอใจ/ไมพ่ อใจในโอกาสตา่ ง ๆ ได้ ถกู ต้อง เชน่ แสดงความพอใจ/ไมพ่ อใจในการ รบั บริการ เปน็ ต้น ตวั อยา่ งคา วลี และ รูปประโยค เชน่ - Great! - Awful! - Good news! - How nice! - How terrible! - That’s fantastic! - I can’t stand it! - I’m very disappointed with..................... - It’s ashamed that..................................... 6. การแสดงความปรารถนา/ เห็นใจและการ ตอบรบั การใช้คา วลี และรปู ประโยคท่จี ะ นามาใช้ใน การแสดงความปรารถนาดี/เห็น
๔ ที่ หวั เรอื่ ง ตัวชว้ี ดั เนอื้ หา จานวน (ชว่ั โมง) ใจในโอกาสตา่ ง ๆ ได้ถูกต้อง เช่น การแสดง ความระลกึ ถงึ การแสดงความเห็นใจเมื่อผอู้ ื่น ประสบปญั หา เปน็ ตน้ ตวั อย่างคา วลี และรูป ประโยค เช่น - Best wishes. - Take care. - Get well soon. - Good luck. - With sympathy. - We hope everything go well through this suffering period. - I understand how difficultit is. - It must be for you. - I feel sympathy for you. - Thank you for your hospitality. - Thanks a million for............................ - I’m very grateful to your.................... - It’s very appreciative that.................. - I’m very appreciated for.................... 7. การแสดงความต้องการการเสนอ/ให้ความ ชว่ ยเหลือ/บรกิ าร รวมท้งั การตอบรับ/ ปฏิเสธ การ ให้ความชว่ ยเหลือ/บริการ การใช้คา วลี และรปู ประโยคเพื่อ แสดงความต้องการ การเสนอ/ให้ความ ชว่ ยเหลอื /บรกิ าร รวมทง้ั การตอบรบั /ปฏิเสธ ในการใหค้ วามช่วยเหลือ/บรกิ ารในโอกาสและ สถานท่ตี า่ ง ๆ ได้อย่างถูกต้อง ได้แก่ การซอื้ สินค้า/บรกิ ารในร้าน การส่ังจองตั๋วเคร่ืองบนิ / รถไฟ/ภาพยนตร์/การบริการในบรษิ ัททัวร์ การจองโรงแรม/ ท่ีพัก การใช้บรกิ ารในที่ทา การไปรษณีย์/ธนาคาร/ร้านอินเตอร์เน็ต ตัวอยา่ ง คา วลี และรปู ประโยค เช่น - May I help you? - What can I do for you? - Let me.............................. - Shall I ...............................? - Is there anything I can do for you?
๕ ท่ี หวั เรือ่ ง ตวั ชว้ี ดั เนอื้ หา จานวน (ช่วั โมง) 2 What should you do? - I would like......................... - I prefer................................. - I’d rather.............................. - How much..............................? - How about..............................? - I’m afraid................................? - We recommend........................ - Would you please....................? - Please let me know.................. - It’s occupied. etc. อา่ นและทาตาม 1. การใช้พจนานกุ รม (Dictionary) 12 คาแนะนาในการใชค้ มู่ ือ 1.1 ทบทวนการค้าหาความหมายของคาศพั ท์ ปา้ ย คาแนะนา วิธีการ โดยเรียงตามตวั อักษรของคาศัพท์ทค่ี ้นหาจาก a ปรงุ ขอ้ ควรระวงั และ ถึง z ปา้ ยประกาศ 1.2 ให้อ่านวิธกี ารใชพ้ จนานุกรมและข้อมลู ต่าง ๆ ทอ่ี ยู่ในสว่ นหน้า (คาชี้แจงในการใช้) ของ Dictionary ใหเ้ ข้าใจ 1.3เมอ่ื ค้นหาคาศัพท์พบแล้ว ให้ศึกษาวธิ ีการ อ่านออกเสยี งหน้าทขี่ องคา ความหมายและ ตวั อย่างในการใช้ (ซง่ึ คาบางคาอาจจะทาหนา้ ที่ ได้หลายอย่าง) และคาท่ีมีความหมายใกล้เคียงกนั เชน่ drug (ดรกั ) n. ยา ผลติ ภัณฑย์ า ยาเสพตดิ สินค้าท่ีเกีย่ วกบั สุขภาพที่ขายในรา้ นขายยา vt. drugged, drugging ผสมกบั ยา ทาใหต้ ดิ ยา ทา ให้ได้รบั พิษจากยา drug on the market สนิ คา้ ที่มี มากเกนิ ความต้องการในตลาด 2. การวเิ คราะห์ศัพทแ์ ละรูปประโยคที่ใช้ใน สญั ลักษณ์ ปา้ ยประกาศ/คาแนะนาในการใช้/ คาแนะนา/คาเตือนตา่ ง ๆ 2.1 การวิเคราะห์ศัพท์โดยการรูจ้ กั สว่ นท่ีเปน็ รากศัพท์(Root) อุปสรรค หรือท่คี าเติมไป ข้างหน้า (Prefix) และปจั จยั หรอื คาทีเ่ ตมิ ข้างหลัง (Suffix) โดยทราบความหมายของส่วนประกอบ ของคาศัพทต์ า่ ง ๆ เหลา่ นั้นก็จะทราบความหมาย ของศัพทไ์ ด้ เชน่ Prefix :re = again anti = against
๖ ที่ หัวเรอื่ ง ตัวชวี้ ดั เนอื้ หา จานวน (ชว่ั โมง) tele = far etc. Suffix : ant = person er = person who dom = condition ern = direction etc. 2.2 รปู ประโยคทใ่ี ชใ้ นสญั ลักษณ/์ ป้ายประกาศ/ คาแนะนาในการใช/้ คาแนะนา/คาเตือนต่าง ๆ ซึ่งจะใชร้ ูปประโยคคาสง่ั (Imperative Sentence) ทั้งในลักษณะบอกเล่าและปฏเิ สธ เชน่ - Don’t smoke. - No smoking. - No entry. - Put some oil in the pan, then put the garlic and stir until it become yellow. etc. 1 สัญลักษณ์และปา้ ยประกาศตา่ ง ๆ (Signs & Notices) ร้จู กั ความหมายของสัญลกั ษณ์ และ ปา้ ยประกาศทพี่ บในชวี ติ ประจาวนั และการประกอบอาชีพ เช่น การปฏิบัติตน ในแหลง่ ท่องเทยี่ ว โรงแรมพิพิธภัณฑ์ โรงงาน สานักงาน ยานพาหนะ เป็น ตัวอยา่ ง เช่น 2 = Don’t take durian =indsoidneo. t disturb = danger
๗ ที่ หัวเรอื่ ง ตัวชวี้ ดั เน้ือหา จานวน (ชว่ั โมง) = safety first = no parking = Disabled Symbol etc. 3 สลากยาและคมู่ ือในการใชอ้ ุปกรณ์ตา่ ง ๆ (Instructions) การอา่ น ทาความเขา้ ใจและ ปฏบิ ตั ิตามคาแนะนาในการใช้ยาและอปุ กรณ์ ตา่ ง ๆ ทีใ่ ช้ในชวี ติ ประจาวนั เชน่ หม้อหงุ ขา้ ว ไฟฟา้ เคร่ืองซักผ้า คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ เปน็ ต้น โดยให้เขา้ ใจสานวน หรือโครงสรา้ งของประโยคท่ีมกั ใช้ เชน่ - Keep out of reach of children. - Take one tablet after each meal. - Shake well before use. การใช้ Active Voice และ PassiveVoice Modal verb Direct Speech, Indirect speech, Conjunction และ Connective words ท่ี สาคญั เช่น - You should have it directly after meal. - The doses must not be divided. - Don’t use if the package is open. - First open the can with the opener. Pull
๘ ท่ี หัวเรอ่ื ง ตวั ชวี้ ัด เน้ือหา จานวน (ชัว่ โมง) it in a bowl. Then put some chopped chili, lemon juice and fish sauce. After that mix them together. 4 คาแนะนาและคาเตอื นต่าง ๆ (Tips and 4 Warning) รจู้ กั วิธีการอา่ นและตคี วาม คาแนะนา คาชแ้ี จง และคาอธบิ ายตา่ ง ๆ เชน่ พยากรณอ์ ากาศประกาศ เตือนภยั คาแนะนาในการเขา้ ไปในสถานท่ีต่าง ๆ คาอธิบายสนิ ค้าและส่วนประกอบหรือ เคร่ืองปรุง วธิ ีการปรุงอาหาร เป็นต้น 3 Hello, could you ตดิ ต่อสือ่ สารทาง 1. การติดต่อทางโทรศพั ท์กับผู้ท่ีคนุ้ เคย tell me.............? โทรศัพท์ไดค้ ล่องแคลว่ รู้จกั วธิ กี ารพดู โตต้ อบทางโทรศพั ท์กบั เพอ่ื น ญาติ พน่ี อ้ งและผู้ที่ค้นุ เคยในเรอ่ื งต่าง ๆ โดย ใชส้ านวนและภาษาท่ีเหมาะสม เช่น - Is ……………. at home? - Could I speak to………., please? - May I speak to ……..…., please? - She/he is out. - Sorry, she’s not here now. - Would you like to wait? - Will you leave a message? - May I take a message for her/him? - Wait a minute, please. - Will you hole on? - Just a moment, please. - Please tell ............... to call me at....................... 2. การติดตอ่ ทางโทรศัพทเ์ พื่อสอบถามขอ้ มลู ตา่ ง ๆ การใชส้ านวนภาษาท่ใี ช้พูดทางโทรศัพท์เพ่ือ สอบถามขอ้ มูลต่าง ๆ ที่ต้องการทราบโดยใช้ รปู ประโยคขอรอ้ ง /ขอร้องอย่างสุภาพ (request, polite, request) ประโยค direct/ indirect speech ประโยคคาถาม ลกั ษณะตา่ ง ๆประโยคแสดงความคิดเห็นและ
๙ ที่ หัวเรอื่ ง ตัวชี้วัด เนอื้ หา จานวน (ชว่ั โมง) การขอบคณุ เช่น การสอบถามเส้นทางการ เดินทางไปท่ตี า่ ง ๆ สอบถามตารางรถไฟ เคร่อื งบิน สอบถามข้อมูลดา้ นการคุ้มครอง ผบู้ รโิ ภค/ สุขภาพอนามยั /พยากรณ์อากาศ เปน็ ต้น ตัวอย่างประโยคท่ีใช้ - Hello, I’d like to ask about......................... - Could you tell me......................, please? - Would you mind giving me the information about.................................? - Can/Could you...............................? - May/Can/Could I.................................? - Don’t............................, please? - At what time..............................? - How many.................................? - How far......................................? - How much.................................? - I need your help.........................? - Pradon. - I think............................................ - Well, I must................................... - In my opinion, .............................. - Thanks. /Thank you. - Sorry. /I’m sorry. - You’re welcome. 3. การติดต่อทางโทรศัพท์เพ่ือการประกอบ อาชีพ วธิ ีการพูดโต้ตอบทางโทรศัพท์ เพื่อถาม-ให้ ข้อมูลเกีย่ วกบั การประกอบอาชีพ โดยใช้ สานวนและภาษาท่ีเหมาะสมในการสอบถาม ขอ้ มูลเก่ียวการสมคั รงาน การซ้อื -ขายสินคา้ การใหข้ ้อมูลเก่ียวกบั คุณภาพและราคาของ สินค้า การสง่ เสริมการขาย การต่อรองราคา การรบั และสง่ ของ ตัวอย่างประโยคที่ใช้ - Hello. I’d like to ask/know
๑๐ ท่ี หวั เร่อื ง ตัวชว้ี ดั เนื้อหา จานวน (ชว่ั โมง) about...................... - Can/could you tell me about...........................? - May/Could I speak to..........................,please? - Can/Could you inform me about.................? - What is the position required? - What is the qualification? - How can I apply for this position? - When is the dateline of the application? - Do I have to send the application form? - Should I also send the resume/reference? - When/Where will the interview take place? - What kind of goods are available? - How much does it cost? - How can I send the order? - Is there any discount? - How about the present promotion? - How about the quality? - Where/When can I buy this product? - What is the product’s significance? - Please let me know if............................ - I’m interested in........................... - That’s very interesting. - I’m very appreciated......................... - When will I receive the product? - How should I pay for the product? - By cash/check /credit. - Thanks for your interest /kindness/information. - It’s my pleasure.
๑๑ ที่ หวั เรื่อง ตัวชี้วดั เนือ้ หา จานวน (ชวั่ โมง) 4 Cultural 1. ปฏิบัตติ นตาม Difference มารยาท วัฒนธรรม - You’re welcome. และประเพณตี ่าง ๆ ได้ อยา่ งถูกต้อง - Sorry. /I’m sorry. 2. เปรียบเทียบความ แตกตา่ งระหวา่ ง 1. การใช้ภาษาในการสอ่ื สารไดเ้ หมาะสมตาม 12 วัฒนธรรมองั กฤษกบั วัฒนธรรมไทย มารยาททางสงั คมและวัฒนธรรมของ เจา้ ของภาษา การใช้ภาษา นา้ เสียงและภาษาทา่ ทางได้อย่าง เหมาะสมกบั บุคคล เวลา สถานท่ีและโอกาส เช่น การสัมผสั มอื การโบกมือ การใช้สีหนา้ ทา่ ทาง และนา้ เสยี งประกอบการพูด การ แนะนาตัวเอง การแสดงความรสู้ ึกใน โอกาสต่าง ๆ การแตง่ กาย การรบั ประทาน อาหาร ร่วมงานงานเล้ยี ง งานสังสรรค์ และกจิ กรรมทางสังคมตา่ ง ๆ ตัวอย่าง เชน่ - Blow a kiss. (สง่ จบู ) - I love you. (ภาษาใบ)้ - Be quiet. (เงียบ) - That’s bad. (ยกหวั แมม่ ือช้ีลงไปท่ีพื้น) - How’s everything? - How have you been?
ท่ี หวั เร่อื ง ตัวชว้ี ดั เนอ้ื หา ๑๒ - What’s going on with your life? จานวน - How’s life? (ชว่ั โมง) - What’s up? - May I introduce myself? - Let me introduce myself, ............................. - Allow me to introduce...............to................ - Have you met......................? - Congratulations on....................................... - Happy Birthday. - Merry Christmas. - Happy New Year. - I’m sorry for................................................. - May god bless you. - May god be with you. - I feel sorry................................................... - Please pass my warm regards to.................. - Toast! - I wish you.................................................... - Would you mind.......................................... - Please let me know...................................... - Would you please........................................ - May I have................................................. - Can you help me........................................ - You look smart. - How nice....................................................
๑๓ ท่ี หวั เร่อื ง ตัวช้ีวดั เนอ้ื หา จานวน (ชว่ั โมง) - I wonder if................................................. - How to cook.............................................. etc. 2. ความเชอื่ และขนบธรรมเนียม ประเพณขี อง เจา้ ของภาษา ความเปน็ มาของความเชอ่ื ขนบธรรมเนยี ม และประเพณตี า่ ง ๆ ในสังคมของเจา้ ของภาษา การทากิจกรรมตามความเชื่อ ขนบธรรมเนยี ม และประเพณีตา่ ง ๆ ในดา้ นบทเพลง การแต่งกาย อาหาร เครอ่ื งดมื่ และการประกอบพธิ ีกรรมที่ เกี่ยวขอ้ ง ไดแ้ ก่ วันครสิ ตม์ าส วันขอบคณุ พระ เจา้ วันวาเลนไทน์ และวนั พ่อ 3. การเปรียบเทียบโครงสร้างภาษาไทยกับ ภาษาองั กฤษ เปรยี บเทียบลกั ษณะคาที่มาของคา ความหมายและการประยกุ ต์คาใน ภาษาองั กฤษใช้ในภาษาไทยและคาใน ภาษาไทย ที่นาไปในภาษาอังกฤษ ตัวอย่าง เช่น - ศพั ท์ของภาษาไทยสว่ นใหญ่มาจากภาษา บาล/ี สันสกฤตในขณะทศี่ ัพท์ของภาษาอังกฤษ ส่วนใหญจ่ ากภาษากรีกและโรมัน - คาในภาษาองั กฤษท่นี ามาใช้ในภาษาไทย เช่น กโิ ลกรัม กิโลเมตร เซนตเิ มตร คาในภาษาไทย ท่นี าไปใชใ้ นภาษาอังกฤษ เชน่ Tom Yam Kung, Muai Thai เป็นต้น โครงสรา้ งของประโยคตา่ งๆ - ประโยคความเดียว (Simple Sentence) - ประโยคความรวม (Compound Sentence) - ประโยคความซ้อน (Complex Sentence) - ประโยคความผสม (Compound- Complex Sentence) - การใช้ Transitive / intransitive/
๑๔ ที่ หวั เร่อื ง ตวั ชว้ี ดั เนื้อหา จานวน (ช่วั โมง) 5 News & 1. เข้าใจและใช้ News ประโยคทีซ่ บั ซ้อนใน auxiliary verbs Headline สถานการณ์ต่าง ๆ 2. ใช้ Tenses ที่ - Tense ตา่ งๆ - ลกั ษณะของประโยคคาถาม - ประโยคเงื่อนไข - การใช้สนั ธาน (Conjunction) และบุพบท (Preposition) etc. 4. เปรยี บเทียบ สานวน คาพงั เพย สภุ าษิต บท กลอนภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 4.1 คาและสานวนที่ได้รบั อิทธิพลจากศาสนา เช่น - Oh, god! = คณุ พระช่วย - Oh, my god! = พทุ โธ ธัมโม สงั โฆ etc. 4.2คาพังเพย สภุ าษติ ที่มกั จะใชใ้ นชีวติ ประจาวัน เชน่ - It’s a piece of cake. = ปลอกกลว้ ยเขา้ ปาก - Silence is gold. = น่ิงเสียตาลงึ ทอง - Time and tide wait for no one. = เวลาและวารีไม่เคยคอยใคร ลักษณะของบทกลอนภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ ที่เหมอื นและแตกตา่ งกัน แรงบันดาลใจของกวี ในการแต่งคาประพันธพ์ ร้อมตวั อย่างทมี่ ักได้ ยนิ เสมอ ๆ เช่น Roses are red, violets are blue, sugar is sweet, but not as sweet as you. แม้เนือ้ เย็นเป็นหว้ งมหรรณพจะขอพบศรีสวสั ด์ิ เปน็ มจั ฉาแมเ้ ป็นบัวตัวพเ่ี ป็นภมุ รา เชยผกา โกสุมภป์ ระทุมทองแมเ้ ปน็ ถ้าอาไพใครเ่ ปน็ หงส์ จะรอ่ นลงสิงสูเ่ ปน็ คูส่ อง จะติดตามทรามสงวนนวลละออง เปน็ คู่ครอง พิสวาส ทุกชาติไป etc. 1. เสยี ง คาศพั ท์ วลี สานวน ที่ มักใช้บอ่ ย ๆ 12 ในข่าว 2. องค์ประกอบของขา่ วประกอบดว้ ย Headline, Sub headline, Lead และ
๑๕ ที่ หวั เรอื่ ง ตัวชี้วดั เน้อื หา จานวน (ชวั่ โมง) ย่งุ ยากและซบั ซ้อน Detail 3. ศึกษาคน้ ควา้ 3. ประเภทของขา่ วเชน่ ขา่ วการเมอื ง ความรู้และขอ้ มลู จาก ข่าวการศึกษา ขา่ วกฬี า ข่าวสังคม ส่อื หนงั สอื พมิ พ์ ขา่ วเศรษฐกจิ เปน็ ต้น 4. แลกเปลี่ยนข้อมูล 4. โครงสรา้ งของการเขียนพาดหวั ข่าว (News ขา่ วสารความรอู้ ย่าง Headline) ไดแ้ ก่ เป็นทางการ 4.1 ขา่ วและพาดหัวข่าว 5. สบื คน้ ข้อมูลในดา้ น 4.2 การถามและตอบคาถามจากขา่ วด้วย ต่าง ๆ จาก Internet คาถามท่ี เปน็ Wh-Question และ Yes/No Question 4.3 การถามและแสดงความคดิ เหน็ วา่ เห็นดว้ ย หรือไมเ่ หน็ ด้วย เช่น - Do you agree with this....................? - What do you think about.................. 4.4 Website ของหนงั สอื พมิ พ์ TheNation หรือ Bangkok Post เพอื่ ศึกษาขา่ วประเภท ต่างๆ ทส่ี นใจแล้ววิเคราะห์โครงสร้างของพาด หัวขา่ วนนั้ ๆ หรือบอกประเภทของขา่ วนน้ั ๆ - Subj. + V1 - Subj. + V3 - Subj. + to + V1 - Subj. + V. ing Noun phrase 6 Self -Sufficiency 1. ศึกษาค้นคว้าความรู้ 1. บทความเกยี่ วกับเศรษฐกิจพอเพียงจาก ๑2 Economy และข้อมลู จากสื่อ หนังสือ หนังสือพมิ พ์ หรือ Websiteท่ี ต่าง ๆ เก่ียวข้อง 2. สบื ค้นขอ้ มูลในด้าน 2. คาศัพท์ วลี สานวน ทีเ่ กยี่ วขอ้ งกับ ต่าง ๆ จาก Internet เศรษฐกจิ พอเพียง เช่น moral , 3. เข้าใจและใช้ moderation, reasonable, knowledge, ประโยคซบั ซ้อนใน savingเปน็ ต้น สถานการณต์ ่าง ๆ 3. โครงสรา้ ง Conditional sentence (If - 4. การแลกเปล่ียน clause) ขอ้ มลู ขา่ วสารความรู้ 4. โครงสรา้ ง Imperative 5. การนาเสนอการนาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้ใน รูปแบบตา่ ง ๆ เช่น การตดิ คาขวญั การสัมภาษณ์ การทา Poster เป็นตน้
๑๖ ท่ี หัวเร่อื ง ตวั ช้วี ัด เนื้อหา จานวน 7 Have you (ชั่วโมง) 1. ศกึ ษาค้นควา้ ความรู้ 6. การเลน่ เกม Cross word exercised และข้อมลู จากส่ือ 1. แบบสอบถาม (Questionnaire) เกี่ยวกับ 12 today? ตา่ งๆ 2. สืบคน้ ข้อมูลในด้าน การดูแลสุขภาพจากหนังสือหรอื Website 12 8 Shall we save ตา่ ง ๆ จาก Internet เกีย่ วขอ้ ง the energy? 3. เข้าใจและใช้ 2. การอ่านออกเสียง คาศพั ท์ สานวน วลี 12 ประโยคซับซ้อนใน ทเ่ี ก่ยี วข้องกบั สุขภาพ เช่น aerobics, 9 What have I สถานการณต์ ่าง ๆ once, relaxed, health, healthy, firm, done? 4. ใช้ Tense ท่ียุ่งยาก have a headache เปน็ ต้น และซบั ซ้อน 3. ประโยคทเี่ ขียนด้วย Modal Verb เชน่ 5. แลกเปล่ียนข้อมลู should, must, ought to, had better, ข่าวสารความรู้ will เปน็ ตน้ ท้งั อย่างเปน็ ทางการ 4. Present PerfectTense และไมเ่ ป็นทางการ 5. การสารวจแบบสอบถามเก่ียวกับสุขภาพ 1. ศึกษาค้นคว้าความรู้ บุคคลใกล้ชิด แล้วนาเสนอข้อมูลเปน็ และข้อมลู จากส่ือ รปู กราฟหรือแผนภูมิ ตา่ งๆ 1. บทความเกี่ยวกับการประหยัดพลังงาน 2. สบื คน้ ขอ้ มูลในด้าน (Energy Saving) จากหนงั สอื ต่าง ๆ จาก Internet หนังสือพมิ พ์ หรอื Website ท่ีเก่ียวข้อง 3. เข้าใจและใชป้ ระโยค 2. เสียง คาศัพท์ วลี สานวนท่ีเก่ยี วข้องกบั ซบั ซอ้ นในสถานการณ์ การประหยดั พลังงาน เชน่ reuse, ต่าง ๆ ไดอ้ ย่างถูกต้อง recycle, plug in, unplug, turn on, 4. ใช้ Tense ทย่ี ุ่งยาก turn off, reduce เปน็ ตน้ และซับซ้อนได้อยา่ ง 3. โครงสรา้ ง เรือ่ ง Imperative + ถกู ตอ้ ง V1_________. 5. แลกเปลยี่ นขอ้ มูล ข่าวสารความรทู้ ้ังอยา่ ง Don’t + V1 + เปน็ ทางการและไม่เป็น ทางการ ........................ 1. ศกึ ษาคน้ คว้าความรู้ และขอ้ มูลจากสื่อตา่ งๆ ... 2. อ่านออกเสยี งคาศพั ท์ วลี สานวน ได้อย่าง 1. บทสนทนาเกย่ี วกบั การไปตัดเสือ้ ถกู ต้อง 2. การอ่านออกเสียง คาศัพท์ วลี สานวน ที่ 3. เขา้ ใจและใช้ประโยค ซับซอ้ นในสถานการณ์ เก่ยี วข้องกบั การไปตดั เส้ือเชน่ measure, ตา่ ง ๆ sleeves, seam, shorten เป็นตน้ 3. โครงสรา้ ง have something done 4. โครงสร้าง Reported Speech 5. การเลา่ เรอื่ ง (สถานการณ)์
๑๗ ท่ี หัวเรือ่ ง ตวั ชวี้ ัด เน้ือหา จานวน 10 What is youre- (ชว่ั โมง) 4. ใช้ Tense ท่ยี ุง่ ยาก mail address? 10 และซบั ซอ้ น 11 Natural Disaster 10 5. แลกเปลี่ยนขอ้ มูล 12 Let’s Travel 6 ข่าวสารความรู้ 1. การสืบคน้ ขอ้ มลู 1. การขอมี e-mail ดา้ นตา่ ง ๆ จาก 2. การเปิด/ปดิ e-mail Internet และรับส่ง 3. ภาษา e-mail e-mail 4. บทอ่านแนะนาตนเองท่ีพิมพ์มาจาก e-mail 2. ศึกษาคน้ ควา้ ความรู้ 5. การสรา้ งประโยคคาถามจากคาตอบที่ใหม้ า และข้อมลู จาก 6. การถามและการตอบข้อมูลการเปรยี บเทียบ สอ่ื ต่าง ๆ 7. การเขียนแนะนาตนเองถึง Pen pal โดยสง่ 3. เขา้ ใจและใช้ ทาง e-mail ประโยคซับซ้อนใน สถานการณ์ต่าง ๆ 4. แลกเปล่ียนข้อมูล ขา่ วสารความรู้ ท้งั อยา่ งเปน็ ทางการ และไม่เปน็ ทางการ 1. ศกึ ษา ค้นคว้า 1. บทอา่ นเกยี่ ว Earthquake, Tornado ความรู้ และข้อมลู จาก หรอื Flood จากหนังสือพิมพ์ หรือ ส่อื ต่างๆ Website ของหนงั สือพิมพ์ The Nation 2. สบื คน้ ข้อมลู ในด้าน หรอื Bangkok Post ตา่ ง ๆ จาก Internet 2. คาศัพท์ วลี สานวนทเ่ี กี่ยวข้องเชน่ kill, 3. เขา้ ใจและใช้ injured, die, homeless, help, ประโยคทซ่ี ับซ้อนใน shelter, landslide เปน็ ตน้ สถานการณ์ต่าง ๆ ได้ 3. Past Simple Tense, PastContinuous อยา่ งถูกต้อง Tenseและ Past Perfect Tense. 4. การใช้ Tense ท่ี 4. Compound Sentence และ Complex ยงุ่ ยากและซบั ซ้อน Sentence 5. แลกเปล่ียนขอ้ มูล 5. การถามและการตอบคาถามจากบทอา่ น ขา่ วสารความรู้ ทัง้ เป็น 6. การแสดงบทบาทสมมุติ (Role Play)เปน็ ทางการและ ผูส้ ่อื ข่าว นาเสนอขา่ วทเี่ กีย่ วกับ Natural ไม่เปน็ ทางการ Disaster 1. ศึกษาค้นคว้าความรู้ 1. ตารางเวลาของ Bus, Train, Airplane, และข้อมลู จาก Boat หรอื Subway จากสอื่ ต่าง ๆ เช่น ส่ือต่างๆ แผ่นพับ หนงั สอื พิมพ์ หรือ Website ที่ 2. สบื คน้ ขอ้ มลู ในด้าน เก่ียวขอ้ ง ตา่ ง ๆ จาก Internet 2. Asking & giving Information เชน่
๑๘ ท่ี หัวเรอ่ื ง ตัวชวี้ ัด เนือ้ หา จานวน 13 The Weather (ชัว่ โมง) 14 Global Warming และรับส่ง E-mail - Could you please tell 3. เข้าใจและใช้ me....................? 6 ประโยคทซี่ บั ซ้อนใน - Please tell me.............................. สถานการณ์ต่าง ๆ - Excuse me. Do you 12 4. ใช้ Tense ที่ยงุ่ ยาก know.......................? และซับซ้อนได้ 3. การบอกทศิ ทาง (Direction)เช่น 5. แลกเปลีย่ นข้อมลู - Go straight. ข่าวสารความรู้ - Keep walking to.......................... - Walk past.................................. 1. ศึกษาค้นคว้าความรู้ - It’s at the opposite และข้อมูลจากสื่อต่างๆ of.......................... เช่น หนงั สอื พิมพ์ - Next to.................................... ภาษาองั กฤษและ 4. Past Simple Tense และ Past Simple Website Tense 2. แลกเปลยี่ นข้อมลู 5. การเขียนเล่าเร่อื งหรอื ประสบการณใ์ นการ ข่าวสารความรทู้ ้ังอย่าง ทอ่ งเท่ยี ว เปน็ ทางการและไม่เป็น 6. การวางแผนการเดนิ ทางทอ่ งเทีย่ ว ทางการ 3. เข้าใจและใช้ 1. บทอ่าน การพยากรณ์อากาศ (Weather ประโยคที่ซบั ซ้อนใน Forecast) ทง้ั ในประเทศและต่างประเทศ สถานการณต์ ่าง ๆ ได้ อยา่ งถูกต้อง 2. การถาม-ตอบ คาถามจากบทอา่ น 4. สืบคน้ ขอ้ มลู ในด้าน การพยากรณ์อากาศ (Weather Forecast) ต่าง ๆ จาก Internet 3. การถามและการขอข้อมลู (Asking & 1. ศึกษาคน้ ควา้ ความรู้ Giving Information) และข้อมลู จาก เสียง คาศพั ท์ วลี สานวนที่มักใชบ้ อ่ ยๆ ใน สอ่ื ต่างๆ ขา่ วพยากรณ์อากาศ เช่น shower, 2. สืบค้นขอ้ มูลในด้าน windy, heavy,scatter, stormy, ต่างๆ จาก Internet sunrise, sunset, maximum, minimum,Northeast 4. Parts of Speech การทาคานาม Noun ใหเ้ ป็น Adjective 5. Website ทเ่ี กี่ยวกบั การพยากรณ์อากาศ Role play เปน็ ผู้ประกาศข่าวการ พยากรณ์อากาศ 1. บทความเก่ยี วกบั ภาวะโลกรอ้ น (Global Warming) สาเหตุของภาวะโลกร้อนหรอื ผลกระทบของภาวะโลกร้อนจากหนงั สอื หรือหนงั สือพมิ พ์หรอื Website ทเ่ี ก่ยี วข้อง 2. การอ่านออกเสยี งคาศัพท์ วลี สานวน ที่
๑๙ ที่ หัวเรอื่ ง ตัวชีว้ ดั เนื้อหา จานวน (ชั่วโมง) 3. เขา้ ใจและใช้ เกยี่ วขอ้ ง เช่น temperature, increase, ประโยคซับซ้อนใน melt, burn, earth, hot เป็นตน้ สถานการณ์ต่าง ๆ 3. โครงสรา้ ง Passive Voice 4. ใช้ Tense ทย่ี ุง่ ยาก Subj + V to be + V3 และซบั ซ้อน 5. แลกเปล่ยี นขอ้ มลู 4. บทสนทนาท่ีเกีย่ วกบั การป้องกันหรือลด ขา่ วสารความรทู้ ้งั อย่าง ภาวะโลกรอ้ น เป็นทางการและไมเ่ ป็น 5. Mind map แสดงเหตุผลและผลกระทบ ทางการ ของภาวะโลกร้อน 15 Urgently Wanted 1. ศึกษาค้นคว้าความรู้ 1. โฆษณาตาแหน่งงาน (Job 12 และข้อมลู จาก Advertisement)จากหนงั สือ หนงั สอื พิมพ์ ส่อื ตา่ ง ๆ หรือ Website เกย่ี วขอ้ ง 2. สืบค้นข้อมลู ในด้าน 2. คาศัพท์ สานวน วลี โครงสรา้ งทเี่ ก่ียวข้อง ต่าง ๆ จาก Internet เชน่ qualification, salary, graduation, และ รับสง่ age, photo, apple เปน็ ต้น e-mail 3. การเขียนประวตั ิ (Resume) เพอ่ื สมัครงาน 3. เขา้ ใจและใช้ การสง่ e-mail สมัครงาน ประโยคซับซ้อนใน สถานการณต์ ่าง ๆ 4. การแลกเปลี่ยน ข้อมลู ขา่ วสารความรู้ ทัง้ อยา่ งเป็นทางการ และไม่เปน็ ทางการ ท่ี หัวเร่ือง ตวั ชี้วัด เนอื้ หา จานวน ชวั่ โมง 16 ภาษาองั กฤษ 1. ใชค้ าศัพทเ์ กยี่ วกับ 1. คาศัพท์เก่ยี วกับการใหบ้ ริการนวดแผนไทย 12 สาหรับพนักงาน การให้บรกิ ารนวดแผน เช่น massage, relax etc. นวดแผนไทย ไทยได้ถกู ต้อง 2. สานวนภาษาการกลา่ วเชิญชวนลูกคา้ การ 2. ใช้สานวนภาษาใน นัดหมายลกู ค้า การใหข้ ้อมลู เก่ียวกบั การบริการ การเชิญชวน นดั หมาย นวดแผนไทย เชน่ ลกู ค้า และการใหข้ ้อมูล Come this way to the massage เกีย่ วกบั การนวดแผน room. Please straight out your foot. ไทย Please check your belongings before you leave. Would you like to return for another massage later?
๒๐ ท่ี หัวเรือ่ ง ตวั ชี้วดั เน้อื หา จานวน ช่ัวโมง 17 ภาษาองั กฤษ 1. ผเู้ รยี นสามารถใช้ 1. การโตต้ อบและชกั ชวนลกู คา้ เขา้ ชมรา้ นขาย สาหรบั พนักงาน 12 ขาย ถ้อยคา สานวน และ ของท่ีระลึก ประโยคตอบโตใ้ นการ 2. การฝกึ สนทนาในสถานการณ์ทีก่ าหนดและ บอกขอ้ มูล ความ การฝึกเรียงลาดบั ประโยค ประสงคใ์ นการซื้อ 3. การตอ่ รองราคาสินค้าในรา้ นค้า สนิ คา้ ได้ ใน 4. การฝกึ เรียงลาดับบทสนทนา สถานการณ์ดังนี้ 5. การจองต๋วั รถโดยสาร รถไฟ เครอ่ื งบิน 1.1 การทักทาย เชิญ 6. การฝกึ เรียงลาดบั บทสนทนา ชวนลูกคา้ 7. แบบทดสอบทา้ ยบท 1.2 เจรจาซื้อขายและ ตอ่ รองราคาสินค้าได้ 1.3 โต้ตอบในการซ้อื ขายตว๋ั โดยสาร บอก จดุ หมายปลายทาง สาหรับ รถโดยสาร รถไฟ และเครื่องบนิ ได้ 1.4 มีความรู้ความ เขา้ ใจและ สามารถนาความรู้ เกีย่ วกับการเจรจาซ้ือ ขายไปใช้ไดท้ ุก สถานการณ์
การวิเคราะหต์ ารางการจัดการเรียนรู้ วชิ า ภาษาอังกฤษเ ระดบั มัธยมศกึ มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคตเิ กย่ี วกับ ภาษาท่าทาง การฟัง พูด อ ของตน ถกู ต้องตามหลักภาษาวฒั นธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา หัวเรอ่ื ง ตัวชว้ี ัด เนือ้ หา Everyday English ตคี วามหมายจาก 1. การออกเสยี งพยัญชนะต้นคา น้าเสียงของผู้อ่นื และ ทา้ ยคา รู้จักใชน้ า้ เสียงในการ 1.1ทบทวนการออกเสียง พยญั ชนะต้นคา แสดงความรูส้ กึ ระหวา่ ง การสนทนา ได้แก่ ดีใจ ทยี่ าก เช่น เสียง s z ch sh เสียใจ พึงพอใจ ไมพ่ ึง - sit, see, soon พอใจ ซาบซึ้ง ผดิ หวงั ปรารถนาดี ชนื่ ชมและ etc. เหน็ ใจ 1.2 การอ่านออกเสยี งทา้ ยคาท่ีถกู ต้อง เชน่ เสยี ง [d] , [t] , หรอื [id] เม่ือเป็น กริยาชอ่ ง 2 และpast participle เช่น - moved, turned, loved etc. การวเิ คราะหต์ ารางการจดั การเรยี นรู้วชิ าภาษาองั กฤษเพ ระดับมัธยมศึก มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ
๒๑ เพื่อชีวติ และสังคม รหสั พต31001 จานวน ๕ หน่วยกิต กษาตอนปลาย อ่าน เขียน ภาษาต่างประเทศ ดว้ ยประโยคท่ซี ับซอ้ นมากขึ้นในชีวติ ประจาวัน และงานอาชีพ วเิ คราะหเ์ นอ้ื หา จานวน รูปผลการจดั การเรยี นรู้ ง่าย ปาน ยาก ช่วั โมง ตนเอง พบ เข้า อบรม โครงงาน กลาง กลมุ่ ค่าย า 2 2 พ่ือชีวติ และสงั คมรหัส พต31001 จานวน ๕ หน่วยกิต กษาตอนปลาย
มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคติเกี่ยวกับ ภาษาทา่ ทาง การฟงั พูด อ ของตน ถกู ต้องตามหลักภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา วเิ ค หัวเรอื่ ง ตัวชวี้ ัด เนื้อหา งา่ ย Everyday ตคี วามหมายจาก 1. การออกเสยี งหนกั -เบา English นา้ เสียงของผู้อ่ืนและ (Stress) วธิ ีการออกเสียง หนกั - รู้จกั ใช้น้าเสียงในการ เบา ของคาในลกั ษณะตา่ ง ๆ แสดงความรู้สกึ เช่น คาเดี่ยว คาประสมในลกั ษณะ ระหว่างการสนทนา ต่าง ๆ เป็นตน้ ว่าคาประเภทใด ไดแ้ ก่ ดีใจ เสยี ใจ จะตอ้ งออกเสียงเน้นทพ่ี ยางค์แรก พยางคก์ ลางหรือ พยางคห์ ลงั 2. การออกเสยี งตามระดับเสียงสูง- ตา่ (Intonation) วิธกี ารออกเสียง ของประโยคลกั ษณะตา่ ง ๆ ซ่งึ จะต้องออกเสียงสงู -ตา่ ให้ถกู ต้องเพ่อื ใหส้ ื่อความหมายท่ีผู้ พดู ตอ้ งการ ประโยคประเภท เดียวกัน ถา้ ออกเสยี งสงู -ตา่ ต่างกัน จะใหค้ วามรสู้ ึกทีต่ ่างกนั การวเิ คราะหต์ ารางการจัดการเรยี นรู้ วชิ า ภาษาองั กฤษเพ ระดับมธั ยมศกึ มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติเก่ียวกับ ภาษาท่าทาง การฟัง พดู อ ของตน ถูกต้องตามหลักภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจา้ ของภาษา หัวเรอ่ื ง ตัวชีว้ ัด เนื้อหา
๒๒ อ่าน เขียน ภาษาตา่ งประเทศ ดว้ ยประโยคทซ่ี บั ซ้อนมากข้ึนในชีวติ ประจาวัน และงานอาชีพ คราะห์เนอื้ หา จานวน รูปผลการจดั การเรยี นรู้ ช่วั โมง ตนเอง พบ เข้า อบรม โครงงาน ปาน ยาก กลมุ่ ค่าย กลาง 2 1 พอ่ื ชีวิตและสงั คม รหัส พต 31001 จานวน ๕ หนว่ ยกิต กษาตอนปลาย อ่าน เขยี น ภาษาตา่ งประเทศ ด้วยประโยคทซี่ บั ซ้อนมากข้นึ ในชวี ิตประจาวัน และงานอาชีพ วเิ คราะห์เน้ือหา จานวน รปู ผลการจดั การเรยี นรู้ ง่าย ปาน ยาก ชวั่ โมง ตนเอง พบ เข้า อบรม โครงงาน
Everyday English ตคี วามหมายจากน้าเสียง 3. การออกเสยี งเชือ่ มโยง(Linking Soun ของผู้อนื่ และรู้จักใช้ วิธกี ารอา่ นออกเสยี งเชื่อมโยงระหวา่ งคา นา้ เสียงในการแสดง ภาษาอังกฤษทถี่ ูกต้องตามกฎเกณฑ์ของ ความรู้สกึ ระหวา่ งการ ภาษาอังกฤษ เชน่ สนทนา ได้แก่ ดีใจ เสยี ใจ - Ten years ago. etc. 4. การแสดงความดีใจ/เสยี ใจ การใชค้ และรูปประโยคทีจ่ ะนามาใช้ในการแสดง ดีใจและเสยี ใจในโอกาสต่าง ๆ ได้ถูกต้อ แสดงความดีใจท่ีได้พบกนั อีกครั้งหรือแส ความเสียใจทท่ี าผิด เป็นต้น ตัวอยา่ ง คาวลี และรูปประโยค เช่น - Congratulations! etc. การวิเคราะหต์ ารางการจัดการเรยี นรู้ วิชาภาษาอังกฤษเ ระดบั มธั ยมศึก มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดับ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคตเิ ก่ยี วกบั ภาษาทา่ ทาง การฟัง พูด อ ของตน ถูกต้องตามหลักภาษาวฒั นธรรม และกาลเทศะของเจา้ ของภาษา หัวเรอ่ื ง ตวั ช้วี ดั เน้ือหา Everyday ตีความหมายจากนา้ เสยี ง ๕. การแสดงความพอใจ/ไม่ English ของผู้อืน่ และรูจ้ ักใช้น้าเสยี ง พอใจ ใหร้ จู้ กั คา วลี และรปู ในการแสดงความรู้สึกระหว่าง ประโยคทจ่ี ะนามาใชใ้ นการ การสนทนา ไดแ้ ก่ ดใี จเสยี ใจ แสดงความพอใจ/ไม่พอใจใน
๒๓ กลาง กลมุ่ คา่ ย nd) 1 าใน ง 1 คา วลี งความ อง เชน่ สดง เพื่อชีวติ และสงั คม รหสั พต31001 จานวน ๕ หน่วยกิต กษาตอนปลาย อ่าน เขียน ภาษาตา่ งประเทศ ดว้ ยประโยคทซี่ บั ซอ้ นมากข้นึ ในชีวิตประจาวนั และงานอาชีพ วเิ คราะหเ์ น้อื หา จานวน รูปผลการจดั การเรยี นรู้ ช่วั โมง ตนเอง พบ เข้า อบรม โครงงาน ง่าย ปาน ยาก กลมุ่ ค่าย กลาง 2
โอกาสตา่ ง ๆ ได้ถกู ตอ้ ง เช่น แสดงความพอใจ/ไม่พอใจใน การรับบรกิ าร เปน็ ต้น ตวั อย่าง คา วลี และรูปประโยค เชน่ - Great! - Awful! - Good news! การวิเคราะหต์ ารางการจัดการเรียนรู้ วชิ า ภาษาอังกฤษเพ ระดบั มัธยมศึก มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดับ มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคตเิ กีย่ วกับ ภาษาท่าทาง การฟัง พดู อ่าน เขียน ถกู ต้องตามหลักภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจา้ ของภาษา หวั เร่ือง ตวั ช้วี ดั เน้อื หา Everyday English ตีความหมายจากน้าเสียง 6. การแสดงความปรารถนา/ เห็นใจ ของผู้อนื่ และรจู้ ักใช้ และการตอบรบั การใช้ คา วลี และ น้าเสยี งในการแสดง รูปประโยคท่จี ะนามาใชใ้ น การแสดง ความรู้สึกระหว่างการ ความปรารถนาดี/เหน็ ใจในโอกาสตา่ ง สนทนา ไดแ้ ก่ ดีใจ เสียใจ ๆ ได้ถูกต้อง เชน่ การแสดงความ ระลึกถงึ การแสดงความเห็นใจเม่อื ผอู้ ื่นประสบปญั หา เป็นต้น ตัวอย่าง
๒๔ ง พอ่ื ชีวิตและสงั คม รหัส พต 31001 จานวน ๕ หน่วยกติ กษาตอนปลาย น ภาษาต่างประเทศ ดว้ ยประโยคทซี่ บั ซ้อนมากข้ึนในชีวติ ประจาวัน และงานอาชีพของตน วเิ คราะหเ์ นอื้ หา จานวน รปู ผลการจดั การเรยี นรู้ ชว่ั โมง ตนเอง ง่าย ปาน ยาก พบ เข้า อบรม โครงงาน กลาง กลมุ่ คา่ ย 1
คา วลี และรูปประโยค เช่น - Best wishes. - Take care. - Get well soon. etc. การวิเคราะหต์ ารางการจัดการเรยี นรู้ วิชา ภาษาอังกฤษเพ ระดับมัธยมศึก มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดับ มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติเก่ยี วกบั ภาษาทา่ ทาง การฟัง พดู อ่าน เขียน ถกู ต้องตามหลักภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจา้ ของภาษา หัวเร่อื ง ตวั ช้ีวดั เน้อื หา Everyday English ตีความหมายจาก 7. การแสดงความต้องการการเสนอ/ให้ นา้ เสียงของผู้อืน่ และ ความชว่ ยเหลือ/บริการ รวมทั้งการตอบ ร้จู ักใช้นา้ เสยี งในการ รบั /ปฏเิ สธ การ ให้ความชว่ ยเหลือ/บรกิ าร แสดงความรู้สึก การใช้คา วลี และรูปประโยคเพื่อแสดง ระหว่างการสนทนา ความต้องการ การเสนอ/ให้ความ ไดแ้ ก่ ดีใจ เสยี ใจ ช่วยเหลอื /บริการ รวมท้งั การตอบรบั / ปฏเิ สธในการใหค้ วามชว่ ยเหลอื /บรกิ ารใน โอกาสและสถานทตี่ า่ ง ๆ ได้อย่างถูกต้อง ได้แก่ การซื้อสนิ คา้ /บริการในรา้ น การส่งั จองต๋ัวเครื่องบนิ /รถไฟ/ภาพยนตร์/การ บริการในบรษิ ัททวั ร์ การจองโรงแรม/ ท่ีพัก
๒๕ พอ่ื ชวี ิตและสงั คม รหัส พต 31001 จานวน ๕ หนว่ ยกิต กษาตอนปลาย น ภาษาตา่ งประเทศ ดว้ ยประโยคทซี่ บั ซอ้ นมากข้นึ ในชีวติ ประจาวัน และงานอาชีพของตน วเิ คราะหเ์ น้ือหา จานวน รูปผลการจัดการเรียนรู้ ช่ัวโมง ตนเอง งา่ ย ปาน ยาก พบ เขา้ อบรม โครงงาน กลาง กลมุ่ ค่าย 1
การใช้บริการในทที่ าการไปรษณยี /์ ธนาคาร/รา้ นอนิ เตอร์เน็ต ตวั อย่าง คา วลี และรูปประโยค การวเิ คราะห์ตารางการจดั การเรยี นรู้วิชาภาษาองั กฤษเพ ระดบั มัธยมศึก มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคติเกยี่ วกบั ภาษาทา่ ทาง การฟงั พูด อ ของตน ถูกต้องตามหลักภาษาวฒั นธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา หวั เรื่อง ตัวชีว้ ัด เนอ้ื หา What should อ่านและทาตามคาแนะนาใน 2. การใช้พจนานุกรม (Dictionary) you do? การใช้คมู่ ือ ป้าย คาแนะนา 1.1 ทบทวนการค้าหาความหมายของคาศ วิธีการปรุง ขอ้ ควรระวงั และ โดยเรียงตามตวั อกั ษรของคาศพั ท์ที่คน้ หาจ ป้ายประกาศ a ถึง z 1.2 ใหอ้ ่านวธิ กี ารใช้พจนานุกรมและข้อม ต่าง ๆ ที่อยูใ่ นสว่ นหน้า (คาช้ีแจงในการใช ของ Dictionary ใหเ้ ข้าใจ 1.3 เม่ือคน้ หาคาศพั ทพ์ บแล้ว ใหศ้ กึ ษาวิธ อ่านออกเสยี งหน้าที่ของคา ความหมายแล ตัวอย่างในการใช้ (ซง่ึ คาบางคาอาจจะทาห ได้หลายอยา่ ง) และคาท่ีมคี วามหมายใกล้เ กัน เชน่ drug (ดรัก) n. ยา ผลติ ภณั ฑ์ยา เสพตดิ สินค้าที่เกีย่ วกบั สุขภาพทข่ี ายในร้า ขายยา
๒๖ พือ่ ชีวติ และสังคม รหัส พต 31001 จานวน ๕ หน่วยกิต กษาตอนปลาย อ่าน เขยี น ภาษาตา่ งประเทศ ดว้ ยประโยคทซ่ี ับซอ้ นมากขนึ้ ในชวี ติ ประจาวัน และงานอาชีพ วิเคราะห์เนอ้ื หา จานวน รปู ผลการจัดการเรยี นรู้ งา่ ย ปาน ยาก ช่วั โมง ตนเอง พบ เข้า อบรม โครงงาน กลาง กลมุ่ ค่าย ศพั ท์ 2 จาก มูล 2 ช้) 2 ธกี าร ละ หน้าที่ เคียง ยา าน
การวิเคราะห์ตารางการจัดการเรียนรู้ วิชา ภาษาอังกฤษเพ ระดับมธั ยมศึก มาตรฐานการเรียนร้รู ะดบั มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคตเิ กย่ี วกับ ภาษาท่าทาง การฟัง พูด อ ของตน ถกู ต้องตามหลกั ภาษาวฒั นธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา หัวเรื่อง ตัวชวี้ ดั เนอื้ หา What should อ่านและทาตามคาแนะนาใน 2. การวิเคราะห์ศัพท์และรูปประโยคที่ you do? การใชค้ ู่มือ ป้าย คาแนะนา ใชใ้ นสญั ลกั ษณ์ ปา้ ยประกาศ/คาแนะนา วิธกี ารปรุง ข้อควรระวงั และ ในการใช/้ คาแนะนา/คาเตือนตา่ ง ๆ ป้ายประกาศ 2.1 การวเิ คราะห์ศัพท์โดยการรูจ้ กั สว่ น ท่เี ปน็ รากศัพท์ (Root) อปุ สรรค หรือท่ี คาเติมไปขา้ งหน้า (Prefix) และปัจจัย หรอื คาทเ่ี ติม ขา้ งหลงั (Suffix) โดย ทราบความหมายของสว่ นประกอบของ คาศัพท์ต่าง ๆ เหล่านนั้ กจ็ ะทราบ ความหมายของศัพทไ์ ด้ เช่น Prefix : re = again etc. Suffix : ant = person etc. การวเิ คราะหต์ ารางการจดั การเรียนรู้ วชิ า ภาษาองั กฤษเพ ระดับมธั ยมศึก มาตรฐานการเรยี นรู้ระดบั มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคตเิ กี่ยวกบั ภาษาทา่ ทาง การฟงั พูด อ่าน เขียน ถกู ต้องตามหลักภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจา้ ของภาษา
๒๗ พ่อื ชวี ติ และสังคม รหัส พต 31001 จานวน ๕ หน่วยกิต กษาตอนปลาย อ่าน เขียน ภาษาตา่ งประเทศ ดว้ ยประโยคทซี่ บั ซอ้ นมากข้นึ ในชวี ิตประจาวนั และงานอาชีพ วิเคราะห์เนือ้ หา จานวน รปู ผลการจดั การเรียนรู้ ง่าย ปาน ยาก ชวั่ โมง ตนเอง พบ เขา้ อบรม โครงงาน กลาง กลมุ่ คา่ ย 2 พ่ือชีวติ และสังคม รหสั พต 31001 จานวน ๕ หนว่ ยกติ กษาตอนปลาย น ภาษาต่างประเทศ ด้วยประโยคท่ซี ับซ้อนมากขน้ึ ในชีวิตประจาวนั และงานอาชีพของตน
หวั เรอ่ื ง ตัวชี้วดั วเิ ค เนือ้ หา งา่ ย What should อ่านและทาตาม 2.2 รูปประโยคท่ีใชใ้ นสัญลักษณ์/ you do? คาแนะนาในการใช้ ป้ายประกาศ/คาแนะนาในการใช/้ คู่มอื ป้าย คาแนะนา คาแนะนา/คาเตือนตา่ ง ๆ ซึ่งจะใช้ วธิ ีการปรงุ ขอ้ ควร รปู ประโยคคาส่ัง (Imperative ระวงั และ ปา้ ย Sentence) ท้งั ในลกั ษณะบอกเลา่ ประกาศ และปฏเิ สธ เช่น - Don’t smoke. - No smoking. - No entry. etc. 2.3 สญั ลักษณ์และปา้ ยประกาศ ตา่ ง ๆ (Signs & Notices) รู้จัก ความหมายของสัญลักษณ์และปา้ ย ประกาศที่พบในชวี ติ ประจาวันและ การประกอบอาชพี การวิเคราะห์ตารางการจดั การเรียนรู้ วชิ า ภาษาองั กฤษเพ ระดบั มัธยมศกึ มาตรฐานการเรียนรูร้ ะดบั มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคตเิ กี่ยวกบั ภาษาทา่ ทาง การฟงั พูด อ ของตน ถกู ต้องตามหลักภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา
๒๘ คราะหเ์ นอ้ื หา จานวน รปู ผลการจดั การเรยี นรู้ ชวั่ โมง ตนเอง ปาน ยาก พบ เข้า อบรม โครงงาน กลาง กลมุ่ ค่าย 1 1 พอื่ ชีวติ และสงั คม รหสั พต 31001 จานวน ๕ หน่วยกิต กษาตอนปลาย อ่าน เขยี น ภาษาต่างประเทศ ด้วยประโยคท่ีซับซ้อนมากขึน้ ในชีวิตประจาวนั และงานอาชีพ
การวิเคราะหต์ ารางการจดั การเรียนรู้ วิชาภาษาอังกฤษเพ ระดบั มัธยมศกึ มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคติเกีย่ วกับ ภาษาทา่ ทาง การฟัง พดู อ หวั ตัวช้วี ัด เนื้อหา เรอื่ ง What อา่ นและ 4. สลากยาและคู่มือในการใช้อุปกรณ์ตา่ ง ๆ (Instructions) การอา่ น should ทาตาม ปฏบิ ัตติ ามคาแนะนาในการใช้ยาและอุปกรณต์ า่ ง ๆ ที่ใช้ในชีวติ ประจ you คาแนะนา ขา้ วไฟฟา้ โทรศัพทม์ ือถือ เป็นตน้ โดยใหเ้ ข้าใจสานวนหรือโครงสรา้ ง do? ในการใช้ ใช้ คมู่ ือ ป้าย 5. คาแนะนาและคาเตือนตา่ ง ๆ คาแนะนา (Tips and Warning) รจู้ ักวธิ ีการอา่ นและตีความคาแนะนา คาช้ีแจง วธิ กี าร ๆ เชน่ พยากรณ์อากาศ ประกาศ เตือนภัย คาแนะนาในการเขา้ ไป ปรุง ข้อ คาอธิบายสนิ คา้ และส่วนประกอบหรือเคร่ืองปรุง วธิ ีการปรุงอาหาร เป ควรระวงั และ ป้าย ประกาศ ของตน ถูกต้องตามหลกั ภาษาวฒั นธรรม และกาลเทศะของเจา้ ของภาษา หัวเรอื่ ง ตวั ช้ีวัด เน้อื หา
๒๙ พื่อชีวิตและสงั คม รหัส พต 31001 จานวน ๕ หนว่ ยกิต กษาตอนปลาย อ่าน เขียน ภาษาตา่ งประเทศ ดว้ ยประโยคที่ซับซอ้ นมากขน้ึ ในชวี ิตประจาวัน และงานอาชีพ วเิ คราะห์เนือ้ หา จานวน รูปผลการจัดการเรียนรู้ งา่ ย ปาน ยาก ช่ัวโมง ตนเอง พบ เข้า อบรม โครงงาน กลาง กลมุ่ ค่าย น ทาความเข้าใจและ 1 จาวัน เช่น หมอ้ หงุ งของประโยคที่มกั และคาอธิบายตา่ ง ปในสถานท่ตี ่าง ๆ ปน็ ต้น 1 วเิ คราะหเ์ นอื้ หา จานวน รูปผลการจดั การเรยี นรู้ งา่ ย ปาน ยาก ช่วั โมง ตนเอง พบ เข้า อบรม โครงงาน กลาง กลมุ่ ค่าย
Hello, could ติดตอ่ สื่อสาร 1. การติดต่อทางโทรศัพทก์ ับผู้ทค่ี นุ้ เคย you tell ทางโทรศัพท์ได้ ร้จู กั วิธีการพูดโตต้ อบทางโทรศัพท์กบั me.............? คลอ่ งแคลว่ เพื่อน ญาติ พีน่ ้องและผู้ทคี่ ุ้นเคยในเรือ่ ง ตา่ ง ๆ โดยใช้สานวนและภาษาท่ีเหมาะสม 2. การตดิ ต่อทางโทรศัพทเ์ พ่ือสอบถาม ข้อมลู ต่าง ๆ การใชส้ านวนภาษาท่ีใช้พูดทาง โทรศพั ทเ์ พือ่ สอบถามข้อมูลต่าง ๆ ท่ี ต้องการทราบโดยใช้รูปประโยคขอร้อง / ขอร้องอย่างสภุ าพ (request, polite, request) ประโยค direct/ indirect speech ประโยคคาถามลักษณะต่าง ๆ ประโยคแสดงความคิดเหน็ และการ ขอบคุณ เชน่ การสอบถามเส้นทางการ เดนิ ทางไปทตี่ า่ ง ๆ การวิเคราะหต์ ารางการจัดการเรยี นรู้ วชิ า ภาษาองั กฤษเพ ระดับมัธยมศกึ มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติเกย่ี วกับ ภาษาทา่ ทาง การฟงั พดู อ่าน เขียน ถูกต้องตามหลักภาษาวฒั นธรรม และกาลเทศะของเจา้ ของภาษา หัวเรือ่ ง ตวั ชี้วัด เนื้อหา
๓๐ 4 4 พื่อชวี ติ และสงั คม รหสั พต 31001 จานวน ๕ หน่วยกิต กษาตอนปลาย น ภาษาตา่ งประเทศ ด้วยประโยคท่ีซับซอ้ นมากขึ้นในชวี ิตประจาวนั และงานอาชีพของตน วิเคราะหเ์ นือ้ หา จานวน รูปผลการจดั การเรยี นรู้ งา่ ย ปาน ยาก ชว่ั โมง ตนเอง พบกลุ่ม เข้า อบรม โครงงาน กลาง ค่าย
Hello, ติดต่อสอ่ื สารทางโทรศัพท์ไดค้ ล่องแคลว่ 3. การติดต่อทางโทรศัพทเ์ พื่อการ could you ประกอบอาชีพ tell วธิ กี ารพูดโต้ตอบทางโทรศัพท์ เพ่อื me.............? ถาม-ให้ข้อมลู เกีย่ วกบั การประกอบ อาชีพ โดยใชส้ านวนและภาษาท่ี เหมาะสมในการสอบถามข้อมูล เกยี่ วการสมคั รงาน การซ้ือ-ขาย สนิ ค้า การส่งเสรมิ การขาย การ ตอ่ รองราคา การรบั และส่งของ Cultural 1. ปฏิบตั ติ นตามมารยาท วัฒนธรรม 5. 1. การใช้ภาษาในการสอื่ สารได้ Difference และประเพณตี ่าง ๆ ได้อยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสมตามมารยาททางสงั คม 2. เปรียบเทยี บความแตกต่างระหวา่ ง และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา วัฒนธรรมองั กฤษกับวฒั นธรรมไทย การใชภ้ าษา นา้ เสยี งและภาษา ท่าทางได้อย่างเหมาะสมกับบุคคล เวลา สถานท่แี ละโอกาส การวิเคราะห์ตารางการจัดการเรยี นรู้ วิชา ภาษาองั กฤษเพ ระดับมธั ยมศึก มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดับ มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติเกีย่ วกับ ภาษาทา่ ทาง การฟัง พูด อ่าน เขยี น ถูกต้องตามหลักภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา หัวเร่ือง ตัวช้วี ดั เน้ือหา Cultural Difference 1. ปฏบิ ตั ิตนตาม 2. ความเชอ่ื และขนบธรรมเนียม ประเพณี มารยาท ของ เจา้ ของภาษา ความเป็นมาของความ วัฒนธรรมและ เชื่อ ขนบธรรมเนียมและประเพณตี า่ ง ๆ ใน ประเพณตี า่ ง ๆ สงั คมของเจ้าของภาษา การทากิจกรรมตาม
ร ๓๑ 4 อ บ 3 ล พือ่ ชีวิตและสังคม รหัส พต 31001 จานวน ๕ หน่วยกิต กษาตอนปลาย น ภาษาตา่ งประเทศ ดว้ ยประโยคทีซ่ ับซ้อนมากขนึ้ ในชีวติ ประจาวัน และงานอาชีพของตน วเิ คราะหเ์ นอ้ื หา จานวน รูปผลการจัดการเรยี นรู้ ช่ัวโมง ตนเอง งา่ ย ปาน ยาก พบ เขา้ อบรม โครงงาน กลาง 3 กลมุ่ ค่าย
ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ความเชือ่ ขนบธรรมเนียมและประเพณีต่าง ๆ 2. เปรยี บเทยี บ ในด้านบทเพลง การแต่งกาย อาหาร ความแตกต่าง เครอื่ งด่ืมและการประกอบพธิ ีกรรมท่ี ระหว่าง เก่ยี วข้อง ไดแ้ ก่ วนั คริสต์มาส วัฒนธรรมอังกฤษ 3. การเปรยี บเทียบโครงสรา้ งภาษาไทยกบั กบั วฒั นธรรมไทย ภาษาองั กฤษเปรียบเทยี บลักษณะคาท่ีมาของ คาความหมายและการประยุกต์คาใน ภาษาอังกฤษใชใ้ นภาษาไทยและคาใน ภาษาไทย ทีน่ าไปในภาษาอังกฤษ การวเิ คราะห์ตารางการจัดการเรยี นรู้ วชิ า ภาษาอังกฤษเพ ระดบั มธั ยมศกึ มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคตเิ กยี่ วกับ ภาษาท่าทาง การฟัง พดู อ่าน เขียน ถกู ต้องตามหลักภาษาวฒั นธรรม และกาลเทศะของเจา้ ของภาษา หวั เรอ่ื ง ตวั ชี้วัด เน้ือหา Cultural Difference 1. ปฏบิ ตั ติ นตาม 3. เปรยี บเทยี บ สานวน คาพังเพย มารยาท วฒั นธรรมและ สภุ าษิต บทกลอนภาษาไทยและ ประเพณตี ่าง ๆ ได้อย่าง ภาษาองั กฤษ ถูกต้อง 3.1 คาและสานวนท่ีไดร้ บั อิทธพิ ลจาก 2. เปรยี บเทยี บความ แตกต่างระหว่าง ศาสนา เช่น วัฒนธรรมอังกฤษกับ - Oh, god! = คุณพระชว่ ย วัฒนธรรมไทย 3.2 คาพงั เพย สุภาษิตท่ีมกั จะใช้ใน ชีวิตประจาวนั เช่น - It’s a piece of cake.
๓๒ 2 พื่อชีวติ และสงั คม รหัส พต 31001 จานวน ๕ หนว่ ยกติ กษาตอนปลาย น ภาษาตา่ งประเทศ ดว้ ยประโยคที่ซับซอ้ นมากขึน้ ในชีวิตประจาวนั และงานอาชีพของตน วเิ คราะหเ์ นอื้ หา จานวน รปู ผลการจัดการเรยี นรู้ งา่ ย ปาน ยาก ชั่วโมง ตนเอง พบ เขา้ อบรม โครงงาน กลาง กลมุ่ คา่ ย 2 2
= ปลอกกลว้ ยเขา้ ปาก การวิเคราะห์ตารางการจัดการเรียนรู้ วชิ า ภาษาอังกฤษเพ ระดับมธั ยมศกึ มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติเก่ยี วกับ ภาษาท่าทาง การฟัง พดู อ่าน เขยี น ถกู ต้องตามหลักภาษาวฒั นธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา หวั เรื่อง ตวั ชี้วัด เนอ้ื หา News & 1. เขา้ ใจและใช้ประโยคท่ี 1. เสียง คาศัพท์ วลี สานวน ท่ี มกั ใช้ News Headline ซับซ้อนใน สถานการณ์ บ่อย ๆ ในข่าว ต่าง ๆ 2. องค์ประกอบของขา่ วประกอบดว้ ย 2. ใช้ Tenses ท่ียุ่งยาก Headline, Sub headline, Lead และซบั ซ้อน และ Detail 3. ศกึ ษาคน้ คว้าความรู้ 3. ประเภทของข่าวเชน่ ข่าวการเมือง และข้อมูลจากสื่อ ข่าวการศึกษา ข่าวกีฬา ข่าวสังคม หนงั สอื พมิ พ์ ข่าวเศรษฐกจิ เป็นต้น 4. แลกเปลีย่ นข้อมูล 4. โครงสรา้ งของการเขยี นพาดหัวขา่ ว ขา่ วสารความรอู้ ย่างเป็น (News Headline) ได้แก่ ทางการ 4.1 ขา่ วและพาดหวั ขา่ ว 5. สืบคน้ ขอ้ มลู ในดา้ น 4.2 การถามและตอบคาถามจากขา่ ว
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179