190 อนุชยั ณ วัชรเจริญ ๑๔. สาหรับการกาหนดสทิ ธใิ นการเข้าถึงช้ันความลับในข้อมูลประวัติส่วนบุคคลและสถานภาพ กาลังพลของข้าราชการตารวจในฐานข้อมูลกาลังพลระบบอิเล็กทรอนิกส์กลาง สานักงานตารวจแห่งชาติ ใหเ้ ป็นไปตามทีส่ านกั งานตารวจแหง่ ชาตกิ าหนด ๑๕. เพือ่ ให้ขอ้ มูลเอกสารหลักฐานทางทะเบียนประวัติสถานภาพกาลังพลของหน่วยงานต่างๆ กบั ข้อมลู และฐานขอ้ มูลกาลังพลระบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์กลางของสานักงานตารวจแห่งชาติ มีความถูกต้อง ตรงกัน ให้สานักงานกาลังพลกาหนดให้มีการตรวจสอบข้อมูลประวัติบุคคล และสถานภาพกาลังพล ของข้าราชการตารวจอยา่ งนอ้ ยปีละ ๑ ครง้ั ๑๖. การลงช่อื รบั รองความถกู ตอ้ งของขอ้ มลู ที่ไดบ้ นั ทึกลงใน ก.พ.๗ แยกไดด้ งั นี้ ๑๖.๑ ขอ้ มลู ตาม ๗.๑ ซ่ึงเปน็ ขอ้ มลู เก่ียวกับประวัติส่วนตัวท่ีเจ้าของประวัติเป็นผู้บันทึก ด้วยตนเอง เจา้ ของประวตั ิต้องลงช่อื รบั รองความถกู ต้องพร้อมกับลงวนั เดือน ปี ทบ่ี ันทึกไว้ ๑๖.๒ การบนั ทกึ ข้อมูลทางทะเบียนประวัติใน ก.พ.๗ ตาม ๗.๒ และการบันทึกข้อมูล ทป่ี กแพ้มประวตั ติ าม ๘.๑ ซึ่งเป็นข้อมูลที่เจ้าหน้าท่ีผู้รับมอบหมายเป็นผู้บันทึก และการรับรองเอกสาร แบบพิมพ์ แบบประมวลผลต่างๆ จากระบบฐานข้อมูลกาลังพลระบบอิเล็กทรอนิกส์กลางสานักงาน ตารวจแหง่ ขาติ ผูม้ อี านาจรับรองความถูกต้องต้องมีตาแหน่งตั้งแต่สารวัตรหรือตาแหน่งเทียบเท่าข้ึนไป ทมี่ หี นา้ ท่รี ับผดิ ชอบในการจดั ทา หรือควบคุม ดแู ลระบบฐานขอ้ มลู กาลงั พลดังกลา่ วแลว้ แตก่ รณี ๑๖.๓ การรบั รองขอ้ มลู ท่เี จา้ หน้าที่เปน็ ผูบ้ ันทึกการเปลี่ยนแปลง เพ่ิมเติม ข้อมูลสถานภาพ ประวตั ิต่างๆ ตามรายการที่ ๑๓ ใน ก.พ.๗ หรือการรับรองสาเนาเอกสารประวตั สิ ว่ นตัวและเอกสารประวัติ การรบั ราชการตาม ๘.๒ ท่ีหน่วยงานต้นสังกัดจัดเก็บหรือจัดส่งให้หน่วยงานท่ีกาหนดไว้ตามแบบ ปว.๑๖ จัดเก็บในแฟูมประวัติข้าราชการตารวจผู้มีอานาจรับรองความถูกต้องหรือรับรองสาเนาเอกสาร ต้องมี ตาแหน่งต้ังแตร่ องสารวัตรหรือเทียบเท่าที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการเก็บรักษาเอกสารทางทะเบียนประวัติ ดังกลา่ ว ๑๗. การลงชื่อรับรองความถกู ตอ้ งของข้อมูลใน ก.พ.๗ ที่จัดทาข้ึนท้ังฉบับและรับรองลายมือช่ือ ของเจา้ ของประวัติเป็นอานาจของผู้ดารงตาแหนง่ ดังต่อไปนี้ ๑๗.๑ ผูบ้ ัญชาการสานกั งานกาลงั พลสาหรับผู้ดารงตาแหนง่ ดังน้ี ๑๗.๑.๑ ผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ จเรตารวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการ ตารวจแหง่ ชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ ผูบ้ ญั ชาการหรอื ตาแหน่งเทยี บเท่าของทุกตาแหน่ง ๑๗.๑.๒ ผูบ้ ังคับการหรือตาแหนง่ เทียบเท่าทไ่ี มส่ ังกัดกองบัญชาการใด ๑๗.๑.๓ นายเวร ผู้ช่วยนายเวรของข้าราชการตารวจตาม ๑๗.๑.๑ เว้นแต่ นายเวร ผูช้ ่วยนายเวร ของผ้บู ญั ชาการตาม ๑๗.๒ ๑๗.๑.๔ ข้าราชการตารวจทีป่ ระจาหรือสารองราชการ สานักงานผู้บัญชาการ ตารวจแหง่ ชาติ หรอื สานกั งานตารวจแหง่ ชาติ ๑๗.๒ ผู้บญั ชาการ หรอื ตาแหนง่ เทยี บเทา่ สาหรบั ขา้ ราชการตารวจในสังกัด ๑๗.๓ ผู้บังคับการ หรือตาแหน่งเทียบเท่าที่ไม่สังกัดกองบัญชาการใดสาหรับข้าราชการ ตารวจในสังกดั
คาอธบิ ายการบรหิ ารงานกาลังพล สานักงานตารวจแห่งชาติ 191 ๑๘. เพื่อให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบในการบันทึกเก็บรักษาข้อมูล ก.พ.๗ สมุดประวัติประจาตัว ข้าราชการ และแฟูมประวัติข้าราชการตารวจของหน่วยงานต้นสังกัดและสานักงานตารวจแห่งชาติ มกี ารบนั ทกึ และจัดเก็บเอกสารหลักฐานทางทะเบียนประวัติให้ครบถัวน ถูกต้อง ตรงกันและเป็นปัจจุบัน อยเู่ สมอ ในกรณที ่ีมขี ้าราชการตารวจเปลี่ยนแปลงเพ่ิมเตมิ ข้อมลู สถานภาพ ประวัติส่วนตัวหรือสถานภาพ กาลังพล ให้หน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานเจ้าของเร่ืองท่ีออกคาส่ังรายงานจัดส่งเอกสารให้หน่วยงาน ท่ีเกี่ยวขอ้ งและตามเวลาที่กาหนดตามตาราง แบบ ปว.๑๖ หรอื โดยจะส่งข้อมูลวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail : profile [email protected]) กไ็ ด้ ๑๙. การบันทึกข้อมูลในเอกสารหลักฐานทางทะเบียนประวัติห้ามขูดลบ แก้ไขเปลี่ยนแปลง ข้อมลู ใดๆ หากจาเป็นต้องแก้ไข เปลี่ยนแปลงข้อมูลให้ขีดฆ่า ตกเติมแล้วให้เจ้าหน้าที่ตาม ๗.๒ ซ่ึงมีตาแหน่ง ต้ังแต่รองสารวัตรข้ึนไปลงช่ือกากับไว้ทุกที่แต่การขูดลบขีดฆ่าแก้ไขเปลี่ยนแปลง ตกเติมข้อมูลรายการ วัน เดือน ปีเกิดใน ก.พ.๗ ท่ีมีการจัดทาคร้ังแรกหรือจัดทาขึ้นท้ังฉบับ ตาม ๗.๑.๒ จะกระทามไิ ด้ ๒๐. เพื่อให้ฐานข้อมูลกาลังพลระบบอิเล็กทรอนิกส์กลางของสานักงานตารวจแห่งชาติ มีข้อมูลสถานภาพประวัติบุคคล สถานภาพกาลังพลมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดสาหรับ ใช้ข้อมูลบริหารงานบุคคลแก่ทุกหน่วยงาน จึงให้ทุกหน่วยงานร่วมกันดาเนินการบันทึก แก้ไข เพิ่มเติม ปรบั ปรงุ ตรวจสอบใหข้ ้อมลู มีความถูกต้อง ครบถว้ นและเป็นปจั จุบัน สาหรับความรับผิดชอบในการ บนั ทึก แก้ไข เปลี่ยนแปลงขอ้ มูลแต่ละประเภทเป็นหน้าท่ีรับผิดชอบของหน่วยงานใดและระยะเวลา ดาเนนิ การเทา่ ใดนัน้ ปรากฏตามรายละเอยี ดตามแบบ ปว.๑๗ ทีก่ าหนดท้ายบทนี้ ๒๑. ให้กองบัญชาการและกองบังคับการที่ขึ้นตรงต่อสานักงานผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ รายงานการสูญเสียกาลังพลทุกกรณีของข้าราชการตารวจในสังกัดทุกสิ้นเดือน ตามแบบ ปว.๑๘ ท่ีกาหนดท้ายบทนี้และจัดส่งเอกสารให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแบบ ปว.๑๖ หรือส่งด้วยวิธี ทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail : profile [email protected]) กรณีข้าราชการตารวจ ถงึ แก่กรรมให้หน่วยงานต้นสงั กดั แจ้งหรอื รายงานไปยงั กองทะเบยี นพล สานักงานกาลังพลทันทีท่ีสามารถ ทาไดโ้ ดยเฉพาะขา้ ราชการตารวจตาแหนง่ ผู้บังคับการหรือตาแหน่งเทียบเทา่ ขึ้นไปให้รายงานโดยด่วน เพ่อื กองทะเบยี นพล สานักงานกาลังพล จะได้รายงานให้สานักงานตารวจแห่งชาตินาความกราบบังคมทูล ต่อไป ๒๒. ภายในเดอื นพฤศจกิ ายนของทกุ ปใี ห้หนว่ ยงานตันสังกัดบันทึกและจัดทาบัญชีแสดงวันลา ในรอบปีงบประมาณตามแบบ ปว.๑๙ ท่ีกาหนดท้ายบทน้ี และจัดส่งเอกสารให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตาม แบบ ปว.๑๖หรอื ส่งดว้ ยวิธีทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (E-mail : profile [email protected]) ๒๓. หากหน่วยงานผู้รับผดิ ชอบหรือผู้ที่มหี นา้ ท่เี กีย่ วข้องในการดาเนินการบันทึก ปรับปรุง แก้ไข เพิ่มเติมข้อมลู สถานภาพประวตั ิบคุ คลใน ก.พ.๗ หรือในฐานข้อมลู กาลังพลระบบอิเล็กทรอนิกส์กลาง ของสานักงานตารวจแห่งชาติบันทึกข้อมูลอันเป็นก็จบันทึกข้อมูลไม่ถูกต้องครบถ้วน ไม่เป็นตาม เวลาท่ีกาหนดหรือไม่ดาเนินการจัดส่งเอกสารให้หน่วยงานที่เก่ียวของที่กาหนดตามแบบ ปว.๑๖ ให้ผู้บงั คับบัญชาพจิ ารณาข้อบกพรอ่ งตามระเบยี บต่อไป ๒๔. ในกรณวี นั เดอื นปเี กดิ ใน ก.พ.๗ ของข้าราชการตารวจฉบับที่ ๑, ๒ และ ๓ ไม่ตรงกัน ให้ถือว่าวัน เดือน ปีเกิด ใน ก.พ.๗ ฉบับที่ ๑ ถูกต้อง วัน เดือน ปีเกิด ใน ก.พ.๗ ฉบับที่ ๒ และ ๓ จะแกไ้ ขไดเ้ ฉพาะ แกไ้ ขใหต้ รงกับวัน เดอื น ปีเกดิ ใน ก.พ.๗ ฉบับท่ี ๑ เทา่ นั้น
192 อนชุ ยั ณ วชั รเจรญิ ๒๕. หากเจา้ ของประวัติเห็นว่า ก.พ.๗ ฉบับท่ี ๑ ที่เก็บรักษาไว้ท่ีสานักงานคณะกรรมการ ข้าราชการตารวจไม่ถูกต้อง การแก้ไขวัน เดือน ปีเกิดใน ก.พ.๗ ฉบับที่ ๑ ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบ สานกั นายกรฐั มนตรีว่าด้วยการแกไ้ ขวนั เดือน ปเี กดิ ในทะเบียนประวตั ขิ า้ ราชการ ๒๖. ภายในเดือนมกราคมของทุกปี ให้ผู้มีหน้าท่ีเก็บรักษา ก.พ.๗ สมุดประวัติประจาตัว ขา้ ราชการ และแฟมู ประวัติข้าราชการตารวจตามระเบียบน้ี สารวจรายชื่อข้าราชการตารวจในสังกัด ท่ีจะมอี ายคุ รบ ๖๐ ปบี รบิ รู ณ์ ในปีงบประมาณ ถ้าไปจดั ทาบัญชีรายช่ือและวัน เดือน ปีเกิด ส่งไปยัง กองทะเบียนพล สานักงานกาลังพล เพื่อตรวจสอบผู้ที่ครบเกษียณอายุตามกฎหมายว่าด้วย บาเหน็จบานาญข้าราชการ เช่น ผู้ท่ีจะเกษียณอายุวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๑ ต้องส่งบัญชีรายช่ือ ภายในเดือนมกราคม ๒๕๕๐ เป็นต้น ๒๗. ให้สานักงานตารวจแห่งชาติรวบรวมรายชื่อข้าราชการตารวจที่ครบเกษียณอายุ ในปีงบประมาณถัดไปโดยระบุชั้นยศและตาแหน่งปัจจุบันพร้อมท้ังวัน เดือน ปีเกิด เสนอต่อสานักงาน คณะกรรมการข้าราชการตารวจ ภายในเดือนพฤษภาคมของทุกปี เม่ือสานักงานคณะกรรมการ ขา้ ราชการตารวจตรวจสอบแล้วให้ดาเนินการตามกฎหมายว่าด้วยบาเหน็จบานาญข้าราชการ ๒๘. ให้สานักงานตารวจแห่งชาติประกาศรายชื่อข้าราชการตารวจที่สานักงานคณะกรรมการ ข้าราชการตารวจตรวจสอบแล้วตามข้อ ๒๗ และจะต้องพันจากราชการเม่ือสิ้นปีงบประมาณน้ัน ภายในเดือนมีนาคมของทุกปี ๒๙. ให้หน่วยงานต้นสังกัดของข้าราชการตารวจที่เกษียณอายุราชการ หรือออกจากราชการ ด้วยเหตุอ่ืนๆ และได้รับเงินบานาญ ดาเนนิ การสาเนา ก.พ.๗ สมุดประวัติ แบบ ปว.๗/๑ แบบ ปว.๘ แบบ ปว.๑4 มอบให้ขา้ ราชการตารวจดังกล่าว ให้หน่วยงานผู้เบิกบานาญดาเนินการบันทึกข้อมูลประวัติของข้าราชการตารวจ นอกราชการทีร่ บั บานาญและคา่ รกั ษาพยาบาลในหน่วยงานผเู้ บิกนัน้ ลงในทาเนียบควบคุมข้าราชการตารวจ นอกราชการ (บานาญในฐานข้อมูลกาลังพลระบบอิเล็กทรอนิกส์กลางของสานักงานตารวจแห่งชาติ ตามเง่ือนไขทก่ี าหนดไวใ้ นแบบ ปว.๒๐ ทีก่ าหนดท้ายบทน้ี ๓๐. เม่ือมีข้าราชการตารวจโอนไปรับราชการส่วนราชการอื่น สานักงานคณะกรรมการ ขา้ ราชการตารวจจะจดั ทาหนังสอื สง่ มอบ ก.พ.๗ ฉบับที่ ๑ ให้ส่วนราชการท่ีรับโอนใช้ในการควบคุม เกษียณอายุ ๓๑. กรณีที่มีการแต่งตั้งข้าราชการตารวจไปดารงตาแหน่งในสังกัดใหม่หรือโอนไป ส่วนราชการอ่นื ใหเ้ จ้าหนา้ ท่ผี ู้มหี น้าท่ขี องหน่วยงานต้นสังกัดเดิม บนั ทึกรายละเอียดข้อมูลคาส่ังใหม่ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง วนั ลาและข้อมลู ประวตั ิตา่ งๆ ลงใน ก.พ.๗ สมุดประวัติประจาตัวข้าราชการ แฟูมประวัติ ขา้ ราชการตารวจ และในฐานข้อมูลกาลังพลระบบอิเล็กทรอนิกส์กลางของสานักงานตารวจแห่งชาติ ใหถ้ กู ต้องครบถ้วน แล้วทาหนงั สือจัดสง่ เอกสารหลกั ฐานทางทะเบียนประวัติดังกล่าวไปยังสังกัดใหม่ หรือสว่ นราชการผู้รบั โอนโดยใหด้ าเนินการใหเ้ สร็จสิ้นภายใน ๗ วนั นับแตว่ นั ทีค่ าส่ังมีผลบังคบั ๓๒. กรณีข้าราชการตารวจออกจากราชการก่อนครบเกษียณอายุ หรือครบเกษียณอายุ ให้หน่วยงานต้นสังกัดบันทึกข้อมูลคาสั่งที่เก่ียวข้องลงใน ก.พ.๗ สมุดประวัติประจาตัวข้าราชการ แฟูมประวัติข้าราชการตารวจ รวมท้ังฐานข้อมูลกาลังพลระบบอิเล็กทรอนิกส์กลางของสานักงาน ตารวจแห่งชาติให้ครบถ้วนกับให้ตรวจสอบเอกสารต่างๆ ตาม ๘.๒ โดยเฉพาะเอกสารหรือหนังสือ
คาอธิบายการบรหิ ารงานกาลงั พล สานักงานตารวจแห่งชาติ 193 เก่ยี วกบั สทิ ธปิ ระโยชน์ต่างๆ เช่น หนังสือแสดงเจตนาระบุตัวผู้รับเงินช่วยพิเศษตาม ๘.๒.๕ หนังสือ แสดงเจตนาระบุตัวผู้รับบาเหน็จตกทอดตาม ๘.๒.๖ เอกสารเปลี่ยนแปลงทายาทผู้มีสิทธิรับเงิน สงเคราะห์ฌาปนกิจสงเคราะห์สานักงานตารวจแห่งชาติตาม ๘.๒.๑๒ ต้องมีข้อมูลครบถ้วนและ เป็นปจั จบุ นั หากเอกสารไม่ถกู ตอ้ งครบถว้ นให้แจง้ เจ้าของประวัติหรือผู้มีหนา้ ที่เกี่ยวข้องดาเนินการ ก่อนท่หี นว่ ยงานตันสงั กัดจะดาเนนิ การขอรับบาเหน็จบานาญใหจ้ ัดสง่ ก.พ.๗ สมุดประวัติ ประจาตัวข้าราชการ และแฟูมประวัติข้าราชการตารวจไปยังกองทะเบียนพล สานักงานกาลังพล เพื่อตรวจสอบขอ้ มลู ใหถ้ ูกต้องตรงกนั กรณีข้าราชการตารวจออกจากราชการก่อนครบเกษียณอายุ หรือครบเกษียณอายุ ไม่ต้องการรับบานาญและค่ารักษาพยาบาลที่หน่วยงานต้นสังกัดสุดท้าย แต่ต้องการไปรับบานาญ และค่ารักษาพยาบาลท่ีหน่วยงานผู้เบิกบานาญอ่ืน ก็ให้หน่วยงานตันสังกัดสุดท้ายดาเนินการจัดส่ง ทะเบยี นประวัติไปยงั หนว่ ยงานผเู้ บกิ บานาญท่ีผู้เบิกบานาญต้องการรับบานาญและค่ารกั ษาพยาบาล ๓๓. การจัดเก็บเอกสารหลักฐานทางทะเบียนประวัติฉบับหน่วยงานต้นสังกัดของ ข้าราชการตารวจนอกประจาการที่ออกจากราชการทุกกรณี จัดเก็บไว้เพ่ือประกอบการดาเนินการ ในเรื่องสิทธิประโยชน์ของเจ้าของประวัติและทายาทให้จัดเก็บไว้ที่หน่วยงานต้นสังกัดคร้ังสุดท้าย ของเจ้าของประวัติหรือหน่วยงานผู้เบิกบานาญและค่ารักษาพยาบาลให้แยกการจัดเก็บเอกสาร ทางทะเบียนประวัติดังกล่าวออกจากเอกสารหลักฐานทางทะเบียนประวัติข้าราชการตารวจในราชการ พรอ้ มจัดทาสมุดทาเนียบควบคมุ ขอ้ มูลแยกแต่ละปีปฏิทนิ ตามแบบ ปว.๒๐ ในกรณีท่ีเจ้าของประวัติทายาทเจ้าของประวัติ (กรณีเจ้าของประวัติถึงแก่กรรม) หรือหนว่ ยงานผู้เบิกได้ใช้เอกสารทางทะเบียนประวัติฉบับหน่วยงานต้นสังกัดประกอบการขอรับเงิน บาเหนจ็ บานาญ บาเหนจ็ ตกทอด เงินช่วยพิเศษสามเดอื น เงินฌาปนกจิ สงเคราะห์ หรือเงินสิทธิประโยชน์ ทางราชการอ่ืนๆ แล้วแต่กรณีเรียบร้อยแล้วและการรับเงินดังกล่าวไม่มีทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสีย รอ้ งคัดค้านให้หน่วยงานผ้จู ัดเก็บแจง้ เจ้าของประวัติหรือทายาทรับคืนไปเก็บรักษาต่อไปหากไม่มีผู้ใด มารับคืน การกาหนดอายุการจัดเก็บและการทาลายให้ถือปฏิบัติตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยงานสารบรรณ ๓๔. การจัดเก็บเอกสารหลักฐานทางทะเบียนประวัติ ฉบับสานักงานตารวจแห่งชาติของ ขา้ ราชการตารวจนอกประจาการที่ออกจากราชการทุกกรณี เพื่อเป็นหลักฐานสาหรับการตรวจสอบ ข้อมูลตา่ งๆ ใหจ้ ัดเก็บไวท้ ีก่ องทะเบียนพล สานักงานกาลงั พลโดยให้แยกการจัดเก็บเอกสารหลักฐาน ดังกล่าวออกจากเอกสารหลักฐานทางทะเบียนประวัติข้าราชการตารวจในราชการ พร้อมจัดทา สมดุ ทาเนียบควบคมุ ข้อมูลแยกแตล่ ะปีปฏทิ ินตามแบบ ปว.๒๐ เอกสารหลักฐานทางทะเบียนประวัติตามวรรคหนึ่ง การกาหนดอายุในการจัดเก็บ และทาลายเอกสารให้ถอื ปฏิบัติตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ และก่อนจะมี การทาลายให้คณะกรรมการทาลายหนังสือ พิจารณาคัดเลือกเอกสารหลักฐานทางทะเบียนประวัติ ของบุคคลท่ีมีผลงาน มีคุณงามความดีเป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนทั่วไปทรงคุณค่าแก่การเก็บรักษาไว้ เพือ่ เป็นเกียรติแกเ่ จ้าของประวตั ิและทายาท เพ่อื ราลกึ ศึกษาคน้ คว้าเป็นประวัติศาสตร์ของสานักงาน ตารวจแห่งชาติต่อไป แล้วเก็บไว้ท่ีพิพิธภัณฑ์สานักตารวจแห่งชาติ กองสารนิเทศ ในกรณีมีการจัดเก็บ เอกสารดังกล่าวข้างต้น ด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ไว้เรียบร้อยแล้ว จะดาเนินการจัดส่งหรือแจ้งเจ้าของ ประวัตหิ รอื ทายาทมารับไปเก็บรักษาไว้ก็ได้
194 อนุชยั ณ วัชรเจรญิ ๓๕. การเก็บรักษา การขอตรวจสอบ ขอสาเนา การแก้ไขหรือเพิ่มเติมรายการการควบคุม เกษียณอายุ การทาลาย แนวทางการปฏิบัติอ่ืนๆ ของ ก.พ.๗ ฉบับที่ ๑ ที่สานักงานคณะกรรมการ ขา้ ราชการตารวจ เกบ็ รักษาไวใ้ ห้ถือปฏบิ ัตติ ามระเบยี บ ก.ตร.ว่าดว้ ยทะเบียนประวัติและการควบคุม เกษยี ณอายุขา้ ราชการตารวจ ๓๖. การบันทึก การจัดเก็บการรับ - ส่ง การใช้ หรือแจ้งผลการตรวจสอบ ในเร่ืองที่เก่ียวกับ ขอ้ มลู เอกสารหลกั ฐานทางทะเบยี นประวัติหรือข้อมูลสถานภาพกาลังพลต่างๆ ของสานักงานตารวจ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองทะเบียนพล สานักงานกาลังพลให้ใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์แทน หรือประกอบกบั เอกสาร ก.พ.๗ แฟมู บระวัตขิ องขา้ ราชการตารวจ ฉบบั ที่เก็บรักษาไว้ได้ การบันทึกความดคี วามชอบและราชการพิเศษ ๑. ข้าราชการตารวจท่ีจะได้รับการบันทึกความดีความชอบและราชการพิเศษ จะต้องเป็น ผู้ที่มีผลการปฏิบัติราชการดีเด่น จนได้รับการยกย่อง ชมเชย หรือรางวัลในการทาคุณงามความดี ประพฤติปฏิบัตติ นดีจากหน่วยงานที่เกย่ี วข้องเปน็ หนังสอื ประการใดประการหน่ึงดังต่อไปนี้ ๑.๑ ได้รบั การประกาศชมเชยจากหน่วยงานระดับกองบัญชาการ หรือหน่วยงานภาครัฐ ที่มฐี านะเทียบเท่ากรมข้นึ ไป ๑.๒ ไดร้ ับการประกาศเชดิ ชเู กยี รติ ตามประมวลจริยธรรม และจรรยาบรรณของตารวจ ๑.๓ ได้รับการพิจารณาผลการปฏิบัติงานดีเด่นในด้านต่างๆ ในระดับกองบัญชาการ หรอื หนว่ ยงานภาครัฐทมี่ ีฐานะเทียบเท่ากรมขึ้นไป เช่น พนักงานสอบสวนดีเด่น ช้าราชการพลเรือนดีเด่น เปน็ ต้น ๒. ข้าราชการตารวจผูใ้ ดจะขอบันทึกความดีความชอบและราชการพิเศษตามข้อ ๑ ให้รายงาน ไปยังหน่วยงานต้นสังกัดที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดเก็บแฟูมประวัติข้าราชการตารวจ และ กองทะเบียนพล สานักงานกาลังพล เพื่อบันทึกข้อมูลลงใน ก.พ.๗ และเม่ือเจ้าหน้าท่ีผู้รับผิดชอบ ได้รับรายงานดังกล่าวแล้วให้บันทึกความดีความชอบและราชการพิเศษของข้าราชการตารวจผู้น้ัน พร้อมท้ังจัดเก็บเอกสารท่ีเกี่ยวข้องในแฟูมประวัติเพ่ือเป็นหลักฐานในการนาไปใช้ประกอบการ พจิ ารณาการบรหิ ารงานบคุ คลในด้านต่างๆ
คาอธบิ ายการบริหารงานกาลงั พล สานักงานตารวจแหง่ ชาติ 195 บทท่ี ๙ การแบง่ สว่ นราชการ สานกั งานตารวจแห่งชาติ การแบง่ สว่ นราชการสานกั งานตารวจแห่งชาติ พระราชบัญญัติตารวจแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๗ มาตรา ๑๐ กาหนดว่า สานักงานตารวจแห่งชาติ แบ่งส่วนราชการออกเป็น (๑) สานักงานผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ และ (๒) กองบัญชาการ ซ่ึงการแบ่ง สว่ นราชการตาม (๑) เป็นกองบญั ชาการหรอื การจดั ตั้งกองบญั ชาการตาม (๒) ใหต้ ราเปน็ พระราชกฤษฎีกา และการแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่น ให้ออกเป็นกฎกระทรวง และให้กาหนดอานาจหนา้ ท่ีไว้ในพระราชกฤษฎีกาหรือกฎกระทรวงน้ัน แล้วแต่กรณี ซึ่งพระราชกฤษฎีกา ดังกลา่ ว ไดแ้ ก่ พระราชกฤษฎกี าแบง่ สว่ นราชการสานกั งานตารวจแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๕๒ (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖ ตอนท่ี ๖๕ ก วันที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๒) พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสานักงาน ตารวจแห่งชาติ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๑๐ ก วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘) พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสานักงานตารวจแห่งชาติ (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ.๒๕๖๐ (ราชกิจจานุเบกษา เลม่ ๑๓๔ ตอนที่ ๘๙ ก วนั ท่ี ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๐) พระราชกฤษฎีกาแบง่ สว่ นราชการ สานักงานตารวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๖๑ (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๕ ตอนที่ ๕๓ ก วันท่ี ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๑) กาหนดให้แบง่ ส่วนราชการสานกั งานตารวจแหง่ ชาติ ออกเป็น ก. สานักงานผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ แบ่งเป็นส่วนราชการที่มีฐานะเทียบเท่า กองบัญชาการดงั ต่อไปน้ี (๑) สานกั งานยทุ ธศาสตร์ตารวจ (๒) สานักงานสง่ กาลังบารงุ (๓) สานกั งานกาลังพล (๔) สานักงานงบประมาณและการเงนิ (๕) สานกั งานกฎหมายและคดี (๖) สานกั งานคณะกรรมการข้าราชการตารวจ (๗) สานักงานจเรตารวจ (๘) สานักงานตรวจสอบภายใน
196 อนชุ ัย ณ วัชรเจริญ ข. ใหจ้ ัดตง้ั กองบญั ชาการหรอื สว่ นราชการท่มี ีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการดังต่อไปน้ี (๑) กองบญั ชาการตารวจนครบาล (๒) - (๑๐) ตารวจภธู รภาค ๑ - ๙ (๑๑) ยกเลกิ โดยพระราชกฤษฎกี าแบ่งส่วนราชการสานกั งานตารวจแหง่ ชาติ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐ (๑๒) กองบัญชาการตารวจสอบสวนกลาง (๑๒/๑) กองบัญชาการตารวจท่องเที่ยว แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกา แบง่ สว่ นราชการสานักงานตารวจแหง่ ชาติ (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐ (๑๓) กองบัญชาการตารวจปราบปรามยาเสพติด (๑๔) กองบัญชาการตารวจสนั ตบิ าล (๑๕) สานกั งานตรวจคนเขา้ เมือง (๑๖) กองบญั ชาการตารวจตระเวนชายแดน (๑๗) สานกั งานนายตารวจราชสานักประจา (๑๘) สานกั งานพิสูจนห์ ลกั ฐานตารวจ (๑๙) สานักงานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร (๒๐) กองบญั ชาการศกึ ษา (๒๑) โรงเรียนนายรอ้ ยตารวจ (๒๒) โรงพยาบาลตารวจ สว่ นราชการสานกั งานตารวจแห่งชาติ มีอานาจหนา้ ที่ดังตอ่ ไปน้ี ก. สานักงานผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ มีอานาจหน้าที่กาหนดยุทธศาสตร์ วางแผน พัฒนาองค์กรและทรัพยากรทางการบริหาร อานวยการ สั่งการ ควบคุม กากับดูแล เร่งรัด ตรวจสอบ ติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติงานท้ังปวงของทุกหน่วยงานภายในอานาจหน้าท่ีของสานักงาน ตารวจแห่งชาติ ตลอดจนปฏบิ ตั ิงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอ่ืนท่ีเก่ียวข้อง หรอื ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย ข. กองบญั ชาการหรือส่วนราชการที่มีฐานะเทยี บเท่ากองบัญชาการ มีอานาจหนา้ ทด่ี งั ต่อไปนี้ (๑) สานักงานยทุ ธศาสตร์ตารวจ มอี านาจหนา้ ท่ีดงั ตอ่ ไปน้ี (ก) เปน็ ฝาุ ยอานวยการดา้ นยทุ ธศาสตร์ใหส้ านักงานตารวจแห่งชาติในการวางแผน ควบคุม ให้คาแนะนา และเสนอแนะการปฏิบัติงานตามอานาจหน้าที่ของสานักงานยุทธศาสตร์ตารวจ และหน่วยงานในสังกัด (ข) เสนอความเหน็ เพื่อประกอบการพจิ ารณาในการจดั ทาคารับรองการปฏิบัติราชการ แผนปฏิบัติราชการประจาปีและแผนปฏิบัติราชการ ๔ ปี ให้สอดคล้องกับแผนบริหารราชการแผ่นดิน แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และนโยบายของรัฐบาลและคณะกรรมการนโยบายตารวจ แหง่ ชาติ (ค) ประสานและจัดทาแผน แผนงาน โครงการ ตลอดจนกากับ เร่งรัด ติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติราชการของหน่วยงานในสานักงานผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติและสานักงาน ตารวจแหง่ ชาติ
คาอธบิ ายการบรหิ ารงานกาลังพล สานักงานตารวจแห่งชาติ 197 (ง) ดาเนินการและประสานงานกับหน่วยงานอ่ืน เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการวิจัย ของสานักงานตารวจแห่งชาติ (จ) ปฏบิ ัติงานรว่ มกบั หรือสนับสนนุ การปฏิบตั งิ านของหน่วยงานอ่ืนที่เก่ียวข้อง หรือทไี่ ด้รับมอบหมาย (๒) สานกั งานส่งกาลงั บารุง มอี านาจหน้าทด่ี ังตอ่ ไปน้ี (ก) เป็นฝุายอานวยการด้านยทุ ธศาสตร์ให้สานักงานตารวจแห่งชาติในการวางแผน ควบคุม ตรวจสอบ ให้คาแนะนา และเสนอแนะการปฏิบัติงานตามอานาจหน้าที่ของสานักงาน ส่งกาลังบารุงและหนว่ ยงานในสังกดั (ข) ศึกษา พัฒนา และสร้างมาตรฐานคุณลักษณะเฉพาะพัสดุแบบรูปรายการ และราคากลางสง่ิ ปลูกสร้าง (ค) บรหิ ารงานและดาเนนิ การเกี่ยวกับงานสง่ กาลังบารุงของหน่วยงานในสังกัด สานกั งานผู้บญั ชาการตารวจแหง่ ชาตแิ ละสานกั งานตารวจแห่งชาติ (ง) ปฏบิ ัติงานร่วมกบั หรอื สนับสนนุ การปฏิบตั งิ านของหนว่ ยงานอื่นท่ีเกี่ยวข้อง หรอื ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย (๓) สานกั งานกาลงั พล มีอานาจหน้าทด่ี งั ต่อไปน้ี (ก) เป็นฝาุ ยอานวยการดา้ นยุทธศาสตร์ใหส้ านักงานตารวจแห่งชาติในการวางแผน ควบคมุ ตรวจสอบ ให้คาแนะนา และเสนอแนะการปฏิบัติงานตามอานาจหน้าท่ีของสานักงานกาลังพล และหนว่ ยงานในสงั กัด (ข) จดั ระบบงานและบรหิ ารงานบุคคลของสานักงานตารวจแห่งชาติ (ค) ดาเนินการเก่ียวกับการพัฒนาโครงสร้างส่วนราชการ ระบบตาแหน่ง และ ระบบการบรหิ ารงานบคุ คลของสานักงานตารวจแหง่ ชาติ (ง) ดาเนินการเก่ียวกับสวัสดิการและพัฒนาการจัดสวัสดิการประเภทต่างๆ ของสานักงานตารวจแหง่ ชาติ (จ) ปฏิบัตงิ านร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏบิ ตั งิ านของหนว่ ยงานอ่ืนท่ีเก่ียวข้อง หรือท่ีไดร้ ับมอบหมาย (๔) สานกั งานงบประมาณและการเงิน มอี านาจหนา้ ที่ดงั ตอ่ ไปน้ี (ก) เป็นฝาุ ยอานวยการดา้ นยทุ ธศาสตร์ใหส้ านักงานตารวจแห่งชาติในการวางแผน ควบคมุ ตรวจสอบ ให้คาแนะนา และเสนอแนะการปฏบิ ัติงานตามอานาจหนา้ ทข่ี องสานักงานงบประมาณ และการเงินและหน่วยงานในสังกัด (ข) ดาเนินการเก่ียวกับงบประมาณ การเงิน การบัญชี ของหน่วยงานในสังกัด สานักงานผูบ้ ัญชาการตารวจแห่งชาติและสานกั งานตารวจแห่งชาติ (ค) เสนอความเห็นเพื่อประกอบการจัดทาแผนงาน โครงการในส่วนที่เกี่ยวกับ งบประมาณ ดาเนนิ การเก่ยี วกับการต้งั คาขอ การจดั สรร การบริหาร การควบคมุ และการกากับดูแล ตลอดจนติดตามและประเมินผลการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจาปีของหน่วยงานในสังกัด สานกั งานผูบ้ ญั ชาการตารวจแห่งชาตแิ ละสานกั งานตารวจแหง่ ชาติ
198 อนชุ ัย ณ วชั รเจรญิ (ง) ให้คาปรึกษาแนะนาแก่หนว่ ยงานในสังกัดสานกั งานผู้บญั ชาการตารวจแห่งชาติ และสานักงานตารวจแห่งชาติ ในการดาเนินงานและงานวิชาการด้านงบประมาณ การเงิน และการบัญชี รวมท้ังดาเนินการเก่ียวกับงานข้อมูลข้อสนเทศ และงานฝึกอบรมด้านงบประมาณ การเงิน และการบัญชี แก่หน่วยงานในสังกดั สานักงานผบู้ ัญชาการตารวจแห่งชาตแิ ละสานักงานตารวจแหง่ ชาติ (จ) ปฏบิ ตั ิงานรว่ มกับหรือสนบั สนุนการปฏบิ ัติงานของหน่วยงานอื่นท่ีเก่ียวข้อง หรือท่ไี ดร้ บั มอบหมาย (๕) สานกั งานกฎหมายและคดี มีอานาจหนา้ ท่ีดงั ตอ่ ไปน้ี (ก) เปน็ ฝุายอานวยการดา้ นยทุ ธศาสตรใ์ หส้ านักงานตารวจแห่งชาติในการวางแผน ควบคุม ตรวจสอบ ให้คาแนะนา และเสนอแนะการปฏิบัติงานตามอานาจหน้าที่ของสานักงานกฎหมาย และคดีและหน่วยงานในสังกัด (ข) ให้คาปรึกษา และใหค้ วามเห็นทางกฎหมายเก่ียวกับกฎหมาย กฎ ระเบียบ ขอ้ บังคบั ประกาศ และคาสัง่ ของสานักงานตารวจแห่งชาติ (ค) ศกึ ษา วเิ คราะห์ และดาเนนิ การปรบั ปรงุ แก้ไขกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ และคาสงั่ ของสานกั งานตารวจแห่งชาติ (ง) ดาเนนิ การเก่ียวกับงานนิติกรรมและสัญญา งานเกี่ยวกับความรับผิดทางแพ่ง และทางอาญา งานคดปี กครอง และงานคดอี ่นื ทอี่ ย่ใู นอานาจหน้าทข่ี องสานักงานตารวจแห่งชาติ (จ) ดาเนินการเก่ียวกับการพัฒนาและส่งเสริมงานสอบสวนของสานักงาน ตารวจแห่งชาติ (ฉ) ปฏบิ ัติงานรว่ มกบั หรือสนบั สนนุ การปฏบิ ตั งิ านของหนว่ ยงานอื่นท่ีเก่ียวข้อง หรอื ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย (๖) สานักงานคณะกรรมการข้าราชการตารวจ มอี านาจหน้าทดี่ งั ต่อไปนี้ (ก) เปน็ ฝาุ ยอานวยการด้านยทุ ธศาสตรใ์ ห้สานักงานตารวจแห่งชาติในการวางแผน ควบคมุ ตรวจสอบ ให้คาแนะนา และเสนอแนะการปฏิบัติงานตามอานาจหน้าที่ของสานักงานคณะกรรมการ ขา้ ราชการตารวจและหนว่ ยงานในสงั กดั (ข) ดาเนินการเกี่ยวกับงานเลขานุการของคณะกรรมการข้าราชการตารวจและ ตามท่ีคณะกรรมการข้าราชการตารวจมอบหมาย (ค) พิจารณาเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการข้าราชการตารวจหรืออนุกรรมการ คณะกรรมการข้าราชการตารวจเก่ียวกับการรายงานการดาเนินการทางวินัยและการออกจากราชการ ของขา้ ราชการตารวจ (ง) พิจารณาเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการข้าราชการตารวจหรืออนุกรรมการ คณะกรรมการข้าราชการตารวจเก่ียวกับการแก้ไขวันเดือนปีเกิดในทะเบียนประวัติและการควบคุม เกษยี ณอายุของขา้ ราชการตารวจ (จ) พิจารณาเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการข้าราชการตารวจหรืออนุกรรมการ คณะกรรมการขา้ ราชการตารวจเก่ียวกับการอุทธรณ์หรือร้องทุกข์ของข้าราชการตารวจ พนักงานราชการ และลูกจา้ งในสานักงานตารวจแหง่ ชาติ
คาอธบิ ายการบรหิ ารงานกาลังพล สานกั งานตารวจแหง่ ชาติ 199 (ฉ) พิจารณาเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการข้าราชการตารวจหรืออนุกรรมการ คณะกรรมการข้าราชการตารวจเก่ียวกับการให้คาปรึกษา วินิจฉัยปัญหา การออกกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกาหนด ประกาศ มติของคณะกรรมการข้าราชการตารวจเก่ียวกับการบริหารงานบุคคลและ ประมวลจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณของข้าราชการตารวจ (ช) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏบิ ตั ิงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง หรอื ท่ีได้รบั มอบหมาย (๗) สานกั งานจเรตารวจ มอี านาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ (ก) เปน็ ฝาุ ยอานวยการดา้ นยุทธศาสตร์ให้สานักงานตารวจแห่งชาติในการวางแผน ควบคุม ตรวจสอบ ให้คาแนะนา และเสนอแนะการปฏิบัติงานตามอานาจหน้าท่ีของสานักงานจเรตารวจ และหน่วยงานในสงั กดั (ข) ดาเนินการเกี่ยวกับการตรวจราชการด้านการปูองกันและปราบปรามการ สืบสวน การสอบสวน การจราจร การบริการสังคม และด้านอ่ืนๆ ของสานักงานตารวจแห่งชาติ ตามทไี่ ดร้ บั มอบหมาย (ค) ดาเนินการเกี่ยวกับการรับเร่ืองร้องเรียนหรือร้องทุกข์ข้าราชการตารวจ พนกั งานราชการ และลูกจา้ งในสานกั งานตารวจแห่งชาติ และดาเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ตามอานาจหนา้ ที่ (ง) ให้คาปรึกษา แนะนาเก่ียวกับการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมและ จรรยาบรรณของข้าราชการตารวจ จัดทาคู่มือและคาอธิบายแนวทางการปฏิบัติ และสอดส่องดูแล การรักษาการปฏบิ ัติตามประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณในสานักงานตารวจแหง่ ชาติ (จ) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนบั สนนุ การปฏิบัติงานของหนว่ ยงานอ่ืนที่เก่ียวข้อง หรอื ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย (๘) สานักงานตรวจสอบภายใน มีอานาจหน้าที่ดงั ต่อไปน้ี (ก) เป็นฝาุ ยอานวยการด้านยทุ ธศาสตร์ให้สานักงานตารวจแห่งชาติในการวางแผน ควบคุม ตรวจสอบ ให้คาแนะนา และเสนอแนะการปฏิบัติงานตามอานาจหน้าที่ของสานักงานตรวจสอบ ภายในและหน่วยงานในสงั กดั (ข) ดาเนินการเกี่ยวกับการตรวจสอบภายในหน่วยงานต่างๆ ของสานักงาน ตารวจแหง่ ชาติตามกฎหมาย มตคิ ณะรัฐมนตรี กฎ ระเบียบ ขอ้ บงั คับ หรือคาส่ังใดที่กาหนดให้เป็นหน้าท่ี ของผู้ตรวจสอบภายใน รวมทั้งมีสิทธิและอานาจในการเข้าถึงข้อมูล เอกสาร และหลักฐานต่างๆ ตลอดจนบคุ ลากรและทรพั ย์สนิ ทีเ่ ก่ยี วข้องกับการปฏบิ ตั ิงาน (ค) ให้คาปรกึ ษาตอ่ ผู้บริหารและผู้ที่เก่ียวข้อง เพื่อให้สานักงานตารวจแห่งชาติ มีการบริหารจัดการที่ดี มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล รายงานผลการตรวจสอบและให้ข้อมูลเชิง วเิ คราะหป์ ระเมนิ ผล ให้ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และแนวทางแก้ไข (ง) ปฏบิ ตั งิ านร่วมกบั หรือสนบั สนุนการปฏบิ ตั ิงานของหนว่ ยงานอ่ืนที่เกี่ยวข้อง หรอื ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
200 อนชุ ยั ณ วชั รเจริญ (๙) กองบัญชาการตารวจนครบาล มีอานาจหน้าที่ในเขตอานาจการรับผิดชอบ หรอื เขตพืน้ ทีก่ ารปกครองดงั ต่อไปน้ี (ก) กาหนดยุทธศาสตร์ วางแผน ควบคุม ตรวจสอบ ให้คาแนะนาและเสนอแนะ การปฏิบตั งิ านตามอานาจหนา้ ทขี่ องกองบัญชาการตารวจนครบาลและหน่วยงานในสังกัด (ข) ถวายความปลอดภัยสาหรบั องคพ์ ระมหากษตั ริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผ้สู าเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผ้แู ทนพระองค์ และพระราชอาคนั ตุกะ (ค) บูรณาการร่วมกบั หน่วยงานตารวจหรือหน่วยงานอื่นทีม่ คี วามสัมพันธ์เก่ียวข้อง ในเขตพืน้ ท่รี ับผดิ ชอบ (ง) ดาเนินการเก่ียวกับการปูองกันและปราบปรามอาชญากรรม การรักษา ความสงบเรียบร้อย และการให้ความปลอดภัยแก่บุคคลสาคัญ ประชาชน ตลอดจนการให้บริการ ชว่ ยเหลอื ประชาชน (จ) ปฏิบัติงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และกฎหมายอ่ืน อนั เก่ยี วกบั ความผดิ ทางอาญา (ฉ) ดาเนนิ การเกย่ี วกับการรกั ษาความมั่นคงภายในราชอาณาจกั ร (ช) ส่งเสรมิ และสนับสนนุ เกีย่ วกบั การบรรเทาสาธารณภยั (ซ) ดาเนนิ การเก่ียวกับการจราจร (ฌ) ส่งเสริมและสนับสนุนให้ท้องถิ่นหรือชุมชนมีส่วนร่วมในกิจการตารวจ เพ่ือปูองกันและปราบปรามการกระทาความผิดทางอาญา การรักษาความสงบเรียบร้อยและรักษา ความปลอดภัยของประชาชนตามความเหมาะสมและความตอ้ งการของแต่ละพนื้ ท่ี (ญ) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอ่ืนท่ีเกี่ยวข้อง หรอื ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย (๑๐) - (๑๘) ตารวจภูธรภาค ๑ - ๙ มอี านาจหนา้ ทีใ่ นเขตอานาจการรับผิดชอบหรือ เขตพนื้ ท่กี ารปกครองดังตอ่ ไปน้ี (ก) กาหนดยุทธศาสตร์ วางแผน ควบคุม ตรวจสอบ ให้คาแนะนาและเสนอแนะ การปฏบิ ัติงานตามอานาจหน้าทขี่ องตารวจภธู รภาคและหนว่ ยงานในสงั กัด (ข) ถวายความปลอดภัยสาหรับองคพ์ ระมหากษตั ริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สาเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานวุ งศ์ ผู้แทนพระองค์ และพระราชอาคนั ตกุ ะ (ค) บรู ณาการร่วมกบั หน่วยงานตารวจหรือหน่วยงานอน่ื ท่ีมคี วามสัมพันธ์เก่ียวข้อง ในเขตพื้นท่ีรบั ผดิ ชอบ (ง) ควบคุม ตรวจสอบ และแนะนาข้าราชการตารวจท่ีสังกัดหน่วยงานอื่นท่ีอยู่ ในพ้ืนทใี่ หเ้ ปน็ ไปตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบายตารวจแหง่ ชาตแิ ละสานักงานตารวจแห่งชาติ ตลอดจนให้มีอานาจยับย้ังการกระทาใดๆ ของข้าราชการตารวจที่สังกัดหน่วยงานอ่ืนในเขตอานาจ การรับผิดชอบหรือเขตพื้นท่ีการปกครองท่ีขัดต่อกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคาส่ังของสานักงาน ตารวจแห่งชาติไว้ชั่วคราว แล้วรายงานสานักงานตารวจแห่งชาติ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ทผ่ี ้บู ัญชาการตารวจแห่งชาติกาหนด
คาอธบิ ายการบริหารงานกาลงั พล สานักงานตารวจแห่งชาติ 201 (จ) ดาเนินการเกี่ยวกับการปูองกันและปราบปรามอาชญากรรม การรักษา ความสงบเรียบร้อย และการให้ความปลอดภัยแก่บุคคลสาคัญ ประชาชน ตลอดจนการให้บริการ ช่วยเหลือประชาชน (ฉ) ปฏิบัติงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และกฎหมายอ่ืน อันเกยี่ วกับความผดิ ทางอาญาตามทไี่ ดร้ บั มอบหมาย (ช) ดาเนินการเกี่ยวกบั การรกั ษาความม่นั คงภายในราชอาณาจักร (ซ) ส่งเสริมและสนับสนนุ เก่ียวกับการบรรเทาสาธารณภยั (ฌ) ดาเนินการเกีย่ วกับการจราจร (ญ) ดาเนนิ การเกยี่ วกับการสรรหาบคุ คลเพ่ือเขา้ รบั ราชการตารวจ (ฎ) ดาเนินการวิเคราะห์ค้นหาความจาเป็นในการฝึกอบรม การสร้างและ พัฒนาหลักสูตร ระบบการเรียนการสอน จัดฝึกอบรมก่อนเข้ารับราชการตารวจ และจัดฝึกอบรม เพอื่ เพิม่ พูนประสิทธภิ าพของข้าราชการตารวจ พนักงานราชการ และลกู จ้างในสงั กัด (ฏ) ดาเนินการเกี่ยวกับการฝึกอบรมให้กับเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐและ ภาคเอกชนเพอ่ื สนบั สนุนการปอู งกันและปราบปรามอาชญากรรม การรักษาความสงบเรียบร้อยและ รักษาความปลอดภัยในกิจการของตารวจ (ฐ) ส่งเสริมและสนับสนุนให้ท้องถิ่นหรือชุมชนมีส่วนร่วมในกิจการของตารวจ เพ่ือปูองกันและปราบปรามการกระทาความผิดทางอาญา การรักษาความสงบเรียบร้อยและรักษา ความปลอดภยั ของประชาชนตามความเหมาะสมและความตอ้ งการของแต่ละพื้นที่ (ฑ) ปฏบิ ัติงานร่วมกบั หรือสนบั สนนุ การปฏบิ ัติงานของหน่วยงานอื่นท่ีเก่ียวข้อง หรอื ที่ได้รบั มอบหมาย (๑๙) ยกเลกิ โดยพระราชกฤษฎีกาแบง่ ส่วนราชการสานกั งานตารวจแหง่ ชาติ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐ (๒๐) กองบัญชาการตารวจสอบสวนกลาง มอี านาจหน้าท่ีดงั ตอ่ ไปนี้ (ก) เป็นฝาุ ยอานวยการด้านยุทธศาสตร์ให้สานักงานตารวจแห่งชาตใิ นการวางแผน ควบคุม ตรวจสอบ ให้คาแนะนา และเสนอแนะการปฏิบัติงานตามอานาจหน้าท่ีของกองบัญชาการ ตารวจสอบสวนกลางและหน่วยงานในสงั กัด (ข) ถวายความปลอดภัยสาหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผ้สู าเรจ็ ราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานวุ งศ์ ผแู้ ทนพระองค์ และพระราชอาคันตุกะ (ค) ปฏิบัติงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และกฎหมายอื่น อันเกี่ยวกับความผิดทางอาญาทั่วราชอาณาจักรหรือตามที่ได้รับมอบหมาย รวมท้ังปฏิบัติงานทะเบียน ตามอานาจหนา้ ทท่ี ีก่ ฎหมายกาหนด (ง) ดาเนินการเกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อย การให้ความปลอดภัย แก่บุคคลสาคัญและประชาชน การปูองกันและปราบปรามอาชญากรรม และการกระทาความผิด ทเ่ี ปน็ ภัยกบั ความมั่นคงของประเทศ (จ) ยกเลิกโดยพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสานักงานตารวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐
202 อนชุ ยั ณ วัชรเจรญิ (ฉ) ควบคุม จัดการจราจร ช่วยเหลืออานวยความสะดวก และให้บริการ บนทางหลวงและทางพิเศษต่างๆ (ช) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นท่ีเก่ียวข้อง หรือทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย (๒๐/๑) กองบญั ชาการตารวจท่องเทย่ี ว มีอานาจหน้าทดี่ งั ต่อไปนี้ (เพ่ิมโดยพระราชกฤษฎีกา แบง่ ส่วนราชการสานกั งานตารวจแหง่ ชาติ (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐) (ก) กาหนดยุทธศาสตร์ วางแผน ควบคุม ตรวจสอบ ให้คาแนะนา และเสนอแนะ การปฏิบัตงิ านตามอานาจหน้าทีข่ องกองบัญชาการตารวจท่องเทยี่ วและหนว่ ยงานในสงั กัด (ข) ถวายความปลอดภัยสาหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สาเรจ็ ราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผ้แู ทนพระองค์ และพระราชอาคนั ตกุ ะ (ค) ปฏบิ ัติงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและกฎหมายอ่ืน อันเกี่ยวกับความผิดทางอาญาท่ัวราชอาณาจักร ทั้งในกรณีท่ีผู้เสียหายหรือผู้ต้องหาเป็นคนต่างด้าว ซ่ึงเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพ่ือการท่องเที่ยวหรือเพื่อการอื่นตามกฎหมายว่าด้วย คนเขา้ เมือง ในกรณที ม่ี ีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการทอ่ งเที่ยว และในกรณคี วามผิดอื่นทเ่ี กย่ี วเน่อื ง (ง) ดาเนนิ การเกีย่ วกบั การรกั ษาความสงบเรียบร้อย การปูองกันและปราบปราม อาชญากรรมท่ัวราชอาณาจักร การให้ความปลอดภัยแก่บุคคลสาคัญและประชาชน และการให้บริการ ชว่ ยเหลอื ประชาชน (จ) ช่วยเหลือ อานวยความสะดวก และให้ความปลอดภัยแกน่ กั ท่องเท่ียว (ฉ) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอ่ืนท่ีเกี่ยวข้อง หรือทไ่ี ด้รับมอบหมาย (๒๑) กองบญั ชาการตารวจปราบปรามยาเสพตดิ มีอานาจหนา้ ทดี่ ังตอ่ ไปนี้ (ก) เป็นฝุายอานวยการด้านยุทธศาสตร์ให้สานักงานตารวจแห่งชาติในการ วางแผน ควบคุม ตรวจสอบ ให้คาแนะนา และเสนอแนะการปฏิบัติงานตามอานาจหน้าที่ของ กองบัญชาการตารวจปราบปรามยาเสพตดิ และหน่วยงานในสงั กัด (ข) ปฏิบตั ิงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา กฎหมายอ่ืนอัน เป็นความผดิ เก่ียวกับยาเสพติด และกฎหมายอ่นื อนั เก่ยี วกับความผดิ ทางอาญาทั่วราชอาณาจักร (ค) ดาเนินการเพอ่ื ใหม้ ีการยึดหรืออายดั ทรพั ย์สินตามกฎหมายท่ีเก่ียวกับการ ยดึ หรืออายดั ทรัพย์สินท่ไี ด้มาเนื่องจากการกระทาความผิดเก่ยี วกับยาเสพติด (ง) ปอู งกนั และปราบปรามยาเสพติดท่วั ราชอาณาจักร (จ) ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรอ่ืนที่เกี่ยวข้องกับ งานปอู งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ ท้ังในประเทศและต่างประเทศ (ฉ) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอ่ืนที่เกี่ยวข้อง หรอื ทไี่ ด้รับมอบหมาย (๒๒) กองบญั ชาการตารวจสันตบิ าล มีอานาจหน้าท่ีดงั ตอ่ ไปนี้ (ก) เปน็ ฝาุ ยอานวยการดา้ นยุทธศาสตรใ์ หส้ านักงานตารวจแหง่ ชาตใิ นการวางแผน ควบคุม ตรวจสอบ ให้คาแนะนา และเสนอแนะการปฏิบัติงานตามอานาจหน้าท่ีของกองบัญชาการ ตารวจสันตบิ าลและหนว่ ยงานในสงั กัด
คาอธบิ ายการบริหารงานกาลังพล สานักงานตารวจแห่งชาติ 203 (ข) ถวายความปลอดภัยสาหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผูส้ าเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานวุ งศ์ ผู้แทนพระองค์ และพระราชอาคันตุกะ (ค) ดาเนินการเก่ียวกับการข่าวกรองบุคคลหรือกลุ่มบุคคลท่ีมีพฤติการณ์เป็นภัย ต่อความมั่นคงของประเทศ (ง) ดาเนินการเก่ียวกับงานดาเนินกรรมวิธีข่าวกรองให้สานักงานตารวจแห่งชาติ และเป็นศูนย์กลางในการบูรณาการการปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ความม่ันคงแห่งชาติของสานักงาน ตารวจแหง่ ชาติ (จ) ดาเนินการเกี่ยวกับงานด้านการรักษาความปลอดภัยของบุคคลสาคัญและ สถานทที่ ีเ่ กย่ี วข้องกับความม่นั คงของประเทศ (ฉ) ปฏิบัติงานตามประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา กฎหมายว่าด้วย สัญชาติ และกฎหมายอ่ืนทเี่ ก่ยี วขอ้ งกบั ความมัน่ คงของประเทศตามอานาจหน้าท่ี (แก้ไขเพ่ิมเติมโดย พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสานักงานตารวจแหง่ ชาติ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ.๒๕๕๘) (ช) ดาเนนิ การเก่ยี วกับงานวิชาการ งานมาตรฐานการข่าว และงานฝึกอบรม เพอื่ พฒั นาบคุ ลากรในด้านการข่าวของสานักงานตารวจแห่งชาติ (ซ) ดาเนินการเก่ียวกับงานสถานีวิทยุกระจายเสียงของกองบัญชาการตารวจ สนั ติบาล (ฌ) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอ่ืนที่เกี่ยวข้อง หรอื ทไี่ ด้รบั มอบหมาย (๒๓) สานกั งานตรวจคนเขา้ เมอื ง มอี านาจหนา้ ท่ีดังต่อไปนี้ (ก) เป็นฝุายอานวยการด้านยุทธศาสตร์ให้สานักงานตารวจแห่งชาติในการวางแผน ควบคุม ตรวจสอบ ให้คาแนะนา และเสนอแนะการปฏิบัติงานตามอานาจหน้าที่ของสานักงาน ตรวจคนเข้าเมืองและหนว่ ยงานในสงั กัด (ข) ปฏบิ ตั งิ านตามประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา กฎหมายว่าด้วย คนเข้าเมือง กฎหมายว่าด้วยการทะเบียนคนต่างด้าว กฎหมายว่าด้วยการปูองกันและปราบปราม การค้ามนษุ ย์และกฎหมายอืน่ อันเกีย่ วกับความผดิ ทางอาญาทวั่ ราชอาณาจกั ร (ค) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอ่ืนที่เกี่ยวข้อง หรือทไ่ี ด้รับมอบหมาย (๒๔) กองบัญชาการตารวจตระเวนชายแดน มอี านาจหนา้ ทดี่ งั ต่อไปน้ี (ก) เปน็ ฝุายอานวยการด้านยุทธศาสตรใ์ ห้สานักงานตารวจแหง่ ชาตใิ นการวางแผน ควบคุม ตรวจสอบ ให้คาแนะนา และเสนอแนะการปฏิบัติงานตามอานาจหน้าท่ีของกองบัญชาการ ตารวจตระเวนชายแดนและหนว่ ยงานในสงั กดั (ข) ถวายความปลอดภัยสาหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผสู้ าเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานวุ งศ์ ผู้แทนพระองค์ และพระราชอาคันตุกะ (ค) ปฏิบตั ิงานถวายความปลอดภัยด้านอัคคภี ัยในเขตพระราชฐานและที่ประทบั (ง) รกั ษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยของบุคคลสาคัญ ประชาชนและ ความม่ันคงปลอดภัยตามแนวชายแดน
204 อนชุ ัย ณ วัชรเจริญ (จ) พฒั นาและช่วยเหลือประชาชนเพอ่ื ความม่นั คงของชาติ และงานโครงการ อนั เนอื่ งมาจากพระราชดาริ (ฉ) ปฏิบัติงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และกฎหมายอื่น ตามที่ไดร้ บั มอบหมาย (ช) ดาเนนิ การเกยี่ วกับการสรรหาบุคคลเพ่ือเขา้ รบั ราชการตารวจ (ซ) ดาเนินการวิเคราะห์ค้นหาความจาเป็นในการฝึกอบรม การสร้างและ พัฒนาหลักสูตร ระบบการเรียนการสอน จัดฝึกอบรมก่อนเข้ารับราชการตารวจ และจัดฝึกอบรม เพือ่ เพ่มิ พนู ประสิทธิภาพของขา้ ราชการตารวจ พนกั งานราชการ และลูกจ้างในสังกัด (ฌ) ดาเนินการเกี่ยวกับการฝึกอบรมให้กับเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐและ ภาคเอกชนเพื่อสนบั สนุนการปูองกนั และปราบปรามอาชญากรรม การรักษาความสงบเรียบร้อยและ รกั ษาความปลอดภยั ในกจิ การของตารวจ (ญ) ส่งเสริมและสนับสนุนให้ท้องถ่นิ หรอื ชุมชนมสี ่วนร่วมในกจิ การของตารวจ เพ่ือปูองกันและปราบปรามการกระทาความผิดทางอาญา การรักษาความสงบเรียบร้อยและรักษา ความปลอดภยั ของประชาชนตามความเหมาะสมและความต้องการของแตล่ ะพ้นื ท่ี (ฎ) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือทไ่ี ด้รบั มอบหมาย (๒๕) สานกั งานนายตารวจราชสานกั ประจา มอี านาจหน้าทดี่ ังตอ่ ไปน้ี (ก) เปน็ ฝุายอานวยการดา้ นยทุ ธศาสตรใ์ หส้ านกั งานตารวจแหง่ ชาติในการวางแผน ควบคมุ ตรวจสอบ ให้คาแนะนา และเสนอแนะการปฏิบัติงานตามอานาจหน้าท่ีของสานักงานนายตารวจ ราชสานกั ประจาและหนว่ ยงานในสังกดั (ข) ถวายความปลอดภัยสาหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผูส้ าเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์ และพระราชอาคนั ตกุ ะ (ค) ปฏิบัตงิ านตามพระราชประสงค์ (ง) ดาเนินการเกี่ยวกบั การพิทกั ษ์รักษาความปลอดภยั ในราชสานกั (จ) ปฏิบัติงานในภารกิจถวายความปลอดภัยตามที่ได้รับมอบหมายจาก สมหุ ราชองครักษ์ (ฉ) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง หรอื ท่ีไดร้ บั มอบหมาย (๒๖) สานักงานพิสูจน์หลกั ฐานตารวจ มีอานาจหนา้ ท่ีดงั ตอ่ ไปนี้ (ก) เปน็ ฝาุ ยอานวยการด้านยุทธศาสตรใ์ ห้สานกั งานตารวจแหง่ ชาติในการวางแผน ควบคุม ตรวจสอบ ให้คาแนะนา และเสนอแนะการปฏิบัติงานตามอานาจหน้าที่ของสานักงานพิสูจน์ หลักฐานตารวจและหน่วยงานในสงั กดั (ข) ดาเนินการเก่ียวกับการพิสูจน์หลักฐาน วิทยาการตารวจ การตรวจสถานท่ี เกดิ เหตุ การถ่ายรปู การทะเบียนประวัติอาชญากร การจัดเก็บสารบบลายพิมพ์น้ิวมือ และการตรวจสอบ ประวัติการกระทาความผิดของผู้ต้องหาและบุคคลทั่วราชอาณาจักรเพ่ือสนับสนุนการปฏิบัติงาน สืบสวนสอบสวนของหน่วยงานอน่ื ๆ
คาอธบิ ายการบริหารงานกาลงั พล สานักงานตารวจแหง่ ชาติ 205 (ค) ดาเนนิ การเกีย่ วกับงานตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล และการส่งกลับในกรณี เหตุวนิ าศภัยหรือเหตพุ ิเศษอน่ื (ง) ดาเนินการเกี่ยวกับงานฐานข้อมูลวัตถุระเบิด รวมทั้งสนับสนุนด้านวิชาการ การตรวจพสิ จู น์ วิเคราะห์ เกบ็ กู้ และทาลายวัตถุระเบิด เฉพาะกรณที ่ีมีลักษณะพิเศษ (จ) ดาเนินการเกยี่ วกบั การฝึกอบรมงานดา้ นพิสจู น์หลักฐาน และงานด้านวิทยาการ ตารวจของสานักงานตารวจแห่งชาติ (ฉ) ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรอ่ืนที่เก่ียวข้องกับ งานพิสจู นห์ ลักฐาน และงานวิทยาการตารวจท้งั ในประเทศและตา่ งประเทศ (ช) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอ่ืนท่ีเกี่ยวข้อง หรอื ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย (๒๗) สานักงานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร มอี านาจหน้าทด่ี ังตอ่ ไปน้ี (ก) เป็นฝาุ ยอานวยการดา้ นยุทธศาสตร์ให้สานักงานตารวจแห่งชาตใิ นการวางแผน ควบคมุ ตรวจสอบ ให้คาแนะนา และเสนอแนะการปฏิบัติงานตามอานาจหน้าท่ีของสานักงานเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารและหน่วยงานในสังกัด (ข) ดาเนนิ การเก่ยี วกับการบริหารจดั การและพัฒนาระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศ และการส่อื สารของสานกั งานตารวจแห่งชาติ (ค) ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย และพัฒนาระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศและ การส่อื สาร สร้างมาตรฐานดา้ นคอมพวิ เตอร์และเครื่องมือสื่อสาร ตลอดจนฝึกอบรมเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารใหแ้ กข่ ้าราชการตารวจ พนักงานราชการ และลูกจา้ งในสานักงานตารวจแห่งชาติ (ง) ดาเนินการเกยี่ วกบั การตรวจสอบการกระทาผิดกฎหมายโดยใช้เครื่องมือ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร (จ) ปฏิบัตงิ านรว่ มกบั หรอื สนับสนุนการปฏิบตั งิ านของหน่วยงานอ่ืนที่เก่ียวข้อง หรอื ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย (๒๘) กองบญั ชาการศกึ ษา มอี านาจหน้าท่ีดังต่อไปน้ี (ก) เปน็ ฝุายอานวยการดา้ นยทุ ธศาสตรใ์ หส้ านกั งานตารวจแห่งชาติในการวางแผน ควบคมุ ตรวจสอบ ให้คาแนะนา และเสนอแนะการปฏิบัติงานตามอานาจหน้าท่ีของกองบัญชาการศึกษา และหนว่ ยงานในสังกัด (ข) วางระบบและมาตรฐานการสรรหาบุคคลเข้ารับราชการตารวจให้กับ หนว่ ยงานตา่ งๆ ตลอดจนกากบั ดูแลใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐาน (ค) ดาเนินการเก่ียวกบั การสรรหาบคุ คลเพอื่ เขา้ รับราชการตารวจ (ง) ศึกษาและเสนอแนะนโยบาย แผนงาน และงบประมาณในการพัฒนา ข้าราชการตารวจเพ่อื กาหนดทิศทางและมาตรฐานเป็นเกณฑ์ใหห้ น่วยงานตา่ งๆ ยึดถอื ปฏบิ ตั ิ (จ) ดาเนินการวิเคราะห์ค้นหาความจาเป็นในการฝึกอบรม การสร้างและ พัฒนาหลักสูตรมาตรฐาน และการประกันคุณภาพการศึกษา ระบบการเรียนการสอน จัดฝึกอบรม กอ่ นเขา้ รับราชการตารวจ และจดั ฝกึ อบรมเพอ่ื เพม่ิ พูนประสทิ ธภิ าพของข้าราชการตารวจ พนักงานราชการ และลกู จ้างในสานกั งานตารวจแหง่ ชาติ
206 อนุชยั ณ วชั รเจรญิ (ฉ) ศึกษา วิเคราะห์ และส่งเสริมมาตรฐานทางวิชาการเก่ียวกับเน้ือหาของ หลักสูตร ระบบ รูปแบบ เทคนิค วิธีการเรียนการสอน และฝึกอบรมบุคลากรท่ีทาหน้าที่สอนฝึกอบรม และผู้เข้ารับการศึกษาอบรม เพ่ือพัฒนามาตรฐานทางด้านวิชาการของสานักงานตารวจแห่งชาติ รวมท้ังการตดิ ตามประเมนิ ผลการศึกษาอบรมของหน่วยงานอ่ืนในสานักงานตารวจแห่งชาติ (ช) ดาเนนิ การส่งเสริมจริยธรรมและพัฒนาคุณธรรมของข้าราชการตารวจ (ซ) ดาเนินการเก่ียวกับการฝึกอบรมให้กับภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อสนับสนุน การปูองกันและปราบปรามอาชญากรรม การรักษาความสงบเรียบร้อย และรักษาความปลอดภัย ในกิจการของตารวจ (ฌ) ประสานความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาหรือองค์กรอ่ืนท้ังในประเทศ และต่างประเทศ เพอ่ื สง่ เสริมสนับสนุนในการจัดการศึกษาและฝึกอบรมข้าราชการตารวจ พนักงานราชการ และลกู จ้างในสานกั งานตารวจแหง่ ชาติ (ญ) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นท่ีเกี่ยวข้อง หรือท่ีไดร้ ับมอบหมาย (๒๙) โรงเรียนนายร้อยตารวจ มอี านาจหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนนายร้อย ตารวจ (๓๐) โรงพยาบาลตารวจ มอี านาจหนา้ ที่ดงั ตอ่ ไปน้ี (แกไ้ ขเพ่ิมเติมโดยพระราชกฤษฎีกา แบ่งส่วนราชการสานกั งานตารวจแห่งชาติ (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๖๑) (ก) เป็นฝาุ ยอานวยการด้านยุทธศาสตรใ์ หส้ านักงานตารวจแห่งชาตใิ นการวางแผน ควบคุม ตรวจสอบ ให้คาแนะนา และเสนอแนะการปฏิบัติงานตามอานาจหน้าที่ของโรงพยาบาลตารวจ และหน่วยงานในสังกัด (ข) ดาเนินการเกี่ยวกบั งานดา้ นการแพทย์ของสานักงานตารวจแห่งชาติ (ค) ดาเนินการเก่ียวกับงานวิเคราะห์วิจยั ทางการแพทย์ (ง) ดาเนินการเก่ียวกับงานนิติเวช การชันสูตรพลิกศพ การตรวจพิสูจน์และ ค้นคว้าหาหลักฐานซึ่งเกี่ยวกับหลักวิชาแพทย์ และนิติเวชศาสตร์ในบุคคลที่มีชีวิต ศพ เศษหรือ สว่ นของศพ (จ) ผลติ และพัฒนาบุคลากรทางการพยาบาลตามความจาเป็นของสานักงาน ตารวจแห่งชาติ (ฉ) ดาเนินการเก่ียวกับการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรทางการสาธารณสุข ของสานกั งานตารวจแห่งชาติ ตลอดจนปรบั ปรงุ และพัฒนาหลักสูตรและระบบการเรยี นการสอน (ช) สนับสนุนการศึกษาเพื่อผลิตแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ และบุคลากร ทางการสาธารณสุขของหน่วยงานอืน่ (ซ) ให้การรักษาพยาบาลข้าราชการตารวจ พนักงานราชการ และลูกจ้าง ในสานักงานตารวจแห่งชาติ รวมท้งั บคุ คลในครอบครวั และประชาชน (ฌ) ปฏิบตั งิ านรว่ มกบั หรอื สนับสนุนการปฏบิ ัติงานของหน่วยงานอ่ืนที่เก่ียวข้อง หรอื ท่ไี ด้รบั มอบหมาย
คาอธบิ ายการบรหิ ารงานกาลังพล สานักงานตารวจแหง่ ชาติ 207 การแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอ่ืนในสานักงาน ตารวจแห่งชาติ ตามมาตรา ๑๐ วรรคสอง แหง่ พระราชบญั ญตั ติ ารวจแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ กาหนด ไว้ว่าการแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่น ให้ออกเป็นกฎกระทรวงและ ใหก้ าหนดอานาจหนา้ ท่ีไวใ้ นกฎกระทรวงนั้น ซง่ึ กฎกระทรวง ดังกลา่ ว ได้แก่ กฎกระทรวงแบ่งสว่ นราชการ เป็นกองบงั คบั การหรอื ส่วนราชการอยา่ งอน่ื ในสานักงานตารวจแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๕๒ และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๖ ตอนที่ ๖๖ ก วนั ที่ ๗ กันยายน ๒๕๕๒) ประกอบด้วย (๑) สานกั งานผบู้ ัญชาการตารวจแหง่ ชาติ แบ่งเป็นดงั ต่อไปน้ี ๑.๑ ส่วนราชการท่ีมีฐานะเทียบกองบัญชาการ (ก) สานักงานยุทธศาสตร์ตารวจ แบ่งเป็นดงั น้ี (๑) ฝุายอานวยการ (๒) กองยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย ๑) ฝุายอานวยการ ๒) กลุ่มงานวิเคราะหแ์ ละกาหนดยทุ ธศาสตร์ ๓) กลุ่มงานแผนทางการบรหิ าร ๔) กลุ่มงานขับเคลอ่ื นยทุ ธศาสตร์ ๕) กลุ่มงานประเมนิ ผลยทุ ธศาสตร์ ๖) กลมุ่ งานบริหารความเสย่ี ง (๓) กองแผนงานอาชญากรรม ประกอบดว้ ย ๑) ฝุายอานวยการ ๒) กลุ่มงานปูองกนั และปราบปรามอาชญากรรม ๓) กลุ่มงานปอู งกนั อาชญากรรมพิเศษ ๔) กลมุ่ งานการมีส่วนร่วมของประชาชน ๕) กลมุ่ งานวเิ คราะหแ์ ละประเมนิ ผล (๔) กองแผนงานกิจการพเิ ศษ ประกอบด้วย ๑) ฝุายอานวยการ ๒) กลุ่มงานแผนถวายความปลอดภัยและกจิ การพเิ ศษ ๓) กลุ่มงานจติ อาสาพฒั นา ๔) กลุ่มงานจิตอาสาภยั พบิ ัตแิ ละจติ อาสาเฉพาะกิจ ๕) กลุ่มงานขบั เคลอื่ นการถวายความปลอดภัยในพน้ื ท่ี ๖) กลมุ่ งานวิเคราะหแ์ ละประเมินผล (๔/๑) กองแผนงานความมั่นคง ประกอบดว้ ย ๑) ฝาุ ยอานวยการ ๒) กลุ่มงานการรักษาความปลอดภยั ๓) กลมุ่ งานความมน่ั คง ๔) กลมุ่ งานจราจร ๕) กลมุ่ งานการปอู งกนั และบรรเทาสาธารณภยั และส่งิ แวดล้อม ๖) กลุ่มงานวเิ คราะหแ์ ละประเมนิ ผล
208 อนชุ ยั ณ วัชรเจรญิ (๕) กองวจิ ัย ประกอบด้วย ๑) ฝาุ ยอานวยการ ๒) กลมุ่ งานสง่ เสรมิ และประสานงานวจิ ยั ๓) - ๕) กล่มุ งานวจิ ัยและประเมินผล ๑ - ๓ (ข) สานักงานส่งกาลงั บารงุ แบง่ เปน็ ดังน้ี (๑) กองบังคบั การอานวยการ ประกอบดว้ ย ๑) ฝาุ ยธุรการและกาลังพล ๒) ฝาุ ยยทุ ธศาสตร์ ๓) ฝุายวเิ คราะห์ ควบคมุ งบประมาณ และมาตรฐานพสั ดุ ๔) ฝุายนติ กิ าร ๕) ฝาุ ยพัฒนาและเทคโนโลยีสารสนเทศ ๖) ฝาุ ยวิชาการและฝกึ อบรมดา้ นส่งกาลังบารุง (๒) กองพลาธิการ ประกอบด้วย ๑) ฝุายอานวยการ ๒) - ๔) ฝุายพลาธกิ าร ๑ - ๓ (๓) กองโยธาธิการ ประกอบดว้ ย ๑) ฝาุ ยอานวยการ ๒) - ๔) ฝุายโยธาธกิ าร ๑ - ๓ ๕) กลมุ่ งานวิชาชีพและเช่ียวชาญ (๔) กองสรรพาวุธ ประกอบดว้ ย ๑) ฝาุ ยอานวยการ ๒) - ๔) ฝุายสรรพาวธุ ๑ - ๓ (ค) สานักงานกาลงั พล แบ่งเปน็ ดงั น้ี (๑) ฝุายอานวยการ (๒) กล่มุ งานพัฒนาทรพั ยากรบคุ คล (๓) กองอตั รากาลงั ประกอบดว้ ย ๑) ฝาุ ยอานวยการ ๒) - ๓) ฝุายวิเคราะหต์ าแหน่ง ๑ - ๒ ๔) ฝุายมาตรฐานตาแหนง่ ๕) ฝาุ ยเงินเพมิ่ และเงินประจาตาแหนง่ ๖) ฝาุ ยควบคุมอัตรากาลงั ๗) กล่มุ งานวิเคราะห์และพฒั นาระบบงาน (๔) กองทะเบยี นพล ประกอบด้วย ๑) ฝุายอานวยการ ๒) ฝาุ ยประวัตบิ คุ คล ๓) ฝุายแตง่ ตง้ั
คาอธบิ ายการบริหารงานกาลังพล สานักงานตารวจแหง่ ชาติ 209 ๔) ฝุายบรรจุ ๕) ฝุายความชอบ ๖) ฝุายประเมนิ บุคคล (๕) กองสวัสดิการ ประกอบดว้ ย ๑) ฝุายอานวยการ ๒) ฝาุ ยการจดั สวสั ดิการ ๓) ฝาุ ยสวสั ดกิ ารการเงนิ ๔) ฝุายสวัสดิการบ้านพัก ๕) ฝุายการฌาปนกิจสงเคราะห์ ๖) ฝาุ ยสโมสรและสันทนาการ ๗) ฝาุ ยดนตรี ๘) ฝาุ ยกฬี า ๙) กลมุ่ งานอนศุ าสนาจารย์ (ง) สานกั งานงบประมาณและการเงนิ แบ่งเป็นดังนี้ (๑) ฝุายอานวยการ (๒) ฝุายเทคโนโลยีสารสนเทศด้านงบประมาณและการเงิน (๓) กองงบประมาณ ประกอบด้วย ๑) ฝาุ ยอานวยการ ๒) ฝาุ ยยุทธศาสตร์และแผนงบประมาณภาพรวม ๓) - ๘) ฝาุ ยงบประมาณ ๑ - ๖ ๙) ฝาุ ยวิชาการ (๔) กองการเงนิ ประกอบดว้ ย ๑) ฝุายอานวยการ ๒) - ๗) ฝุายการเงนิ ๑ - ๖ (๕) กองบัญชี ประกอบด้วย ๑) ฝาุ ยอานวยการ ๒) - ๔) ฝาุ ยบญั ชี ๑ - ๓ (จ) สานกั งานกฎหมายและคดี แบ่งเป็นดังนี้ (๑) ฝุายอานวยการ (๒) กองกฎหมาย ประกอบด้วย ๑) ฝาุ ยอานวยการ ๒) กลมุ่ งานวชิ าการ ๓) กลมุ่ งานระเบียบการตารวจ ๔) กลมุ่ งานกฎหมาย ๕) กลมุ่ งานสัญญา ๖) กลุ่มงานพัฒนากฎหมาย
210 อนชุ ัย ณ วชั รเจริญ ๗) กลมุ่ งานประสานงานรัฐสภา ๘) ฝาุ ยหอ้ งสมุด (๓) กองคดอี าญา ประกอบดว้ ย ๑) ฝาุ ยอานวยการ ๒) - ๕) กลุ่มงานตรวจสอบสานวน ๑ - ๔ ๖) กลุ่มงานผ้เู ชย่ี วชาญคดีอาญา (๔) กองคดีปกครองและคดแี พง่ ประกอบดว้ ย ๑) ฝุายอานวยการ ๒) กลมุ่ งานคดีปกครอง ๓) กลมุ่ งานคดแี พง่ ๔) กลมุ่ งานทีป่ รกึ ษา (๕) สถาบนั ส่งเสริมงานสอบสวน ประกอบด้วย ๑) ฝุายอานวยการ ๒) - ๓) กลมุ่ งานสง่ เสริมงานสอบสวน ๑ - ๒ ๔) - ๕) กลุ่มงานวชิ าการ ๑ - ๒ (๖) สว่ นตรวจสอบสานวนคดีอทุ ธรณแ์ ละฎกี า ประกอบด้วย ๑) ฝุายอานวยการ ๒) ฝุายตรวจสอบสานวนคดีอุทธรณ์ ๓) ฝาุ ยตรวจสอบสานวนคดีฎกี า (ฉ) สานกั งานคณะกรรมการขา้ ราชการตารวจ แบง่ เป็นดังน้ี (๑) ฝุายอานวยการ (๒) กองตรวจสอบและทะเบียนประวตั ิ ประกอบด้วย ๑) ฝุายอานวยการ ๒) - ๓) ฝาุ ยการประชุม ๑ - ๒ ๔) - ๕) ฝาุ ยตรวจสอบงานบคุ คล ๑ - ๒ ๖) ฝาุ ยทะเบียนประวัติ ๗) ฝุายนิติการ (๓) กองมาตรฐานวนิ ยั ประกอบดว้ ย ๑) ฝุายอานวยการ ๒) - ๓) กลมุ่ งานพจิ ารณา ๑ - ๒ (๔) กองอทุ ธรณ์ ประกอบด้วย ๑) ฝุายอานวยการ ๒) - ๓) กล่มุ งานพจิ ารณา ๑ - ๒ (๕) กองร้องทกุ ข์ ประกอบด้วย ๑) ฝุายอานวยการ ๒) - ๓) กล่มุ งานพจิ ารณา ๑ - ๒
คาอธบิ ายการบรหิ ารงานกาลังพล สานกั งานตารวจแหง่ ชาติ 211 (ช) สานักงานจเรตารวจ แบง่ เป็นดังน้ี (๑) กองบังคับการอานวยการ ประกอบดว้ ย ๑) ฝาุ ยธรุ การและกาลงั พล ๒) ฝุายยุทธศาสตร์ ๓) ฝาุ ยส่งกาลังบารงุ ๔) ฝาุ ยติดตามประเมนิ ผล ๕) ฝาุ ยรับเรอ่ื งราวร้องทุกข์ ๖) ศนู ยจ์ ริยธรรมและจรรยาบรรณ (๒) - (๑๑) กองตรวจราชการ ๑ - ๑๐ แต่ละหนว่ ยงาน ประกอบดว้ ย ๑) ฝาุ ยอานวยการ ๒) - ๓) ฝาุ ยสืบสวนและตรวจราชการ ๑ - ๒ (ซ) สานกั งานตรวจสอบภายใน แบง่ เป็นดังนี้ (๑) ฝุายอานวยการ (๒) กลุ่มงานพฒั นาการตรวจสอบภายใน (๓) กองตรวจสอบภายใน ๑ ประกอบด้วย ๑) ฝาุ ยอานวยการ ๒) - ๕) ฝุายตรวจสอบภายใน ๑ - ๔ ๖) ฝุายตรวจสอบพิเศษ (๔) - (๕) กองตรวจสอบภายใน ๒ - ๓ แต่ละหนว่ ยงาน ประกอบดว้ ย ๑) ฝุายอานวยการ ๒) - ๔) ฝุายตรวจสอบภายใน ๑ - ๓ ๕) ฝุายตรวจสอบพเิ ศษ ๑.๒ สว่ นราชการทีม่ ฐี านะเทียบกองบังคับการ (ฌ) สานกั งานเลขานกุ ารตารวจแหง่ ชาติ ประกอบด้วย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) - (๓) ฝาุ ยสารบรรณ ๑ - ๒ (๔) ฝุายบริการการประชมุ และพิธกี าร (๕) กลมุ่ งานวชิ าการและงานสารบรรณ (ญ) กองการต่างประเทศ ประกอบด้วย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) - (๔) ฝาุ ยตารวจสากลและประสานงานภูมภิ าค ๑ - ๓ (๕) ฝุายความร่วมมอื และกิจการระหว่างประเทศ (๖) ฝาุ ยสนธิสญั ญาและกฎหมาย (๗) ฝาุ ยพิธีการและการรับรอง (๘) กลุม่ งานแปลและลา่ ม
212 อนชุ ัย ณ วชั รเจริญ (ฎ) กองสารนิเทศ ประกอบด้วย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) ฝาุ ยเฝาู ฟัง วิเคราะห์ ตดิ ตาม และรายงาน (๓) ฝุายสอ่ื วิทยุกระจายเสียง (๔) ฝาุ ยสอ่ื วทิ ยุโทรทศั น์และสอื่ สารสนเทศ (๕) ฝุายสอ่ื สงิ่ พมิ พ์ (๖) ฝาุ ยพพิ ิธภัณฑ์ (ฏ) สานกั งานคณะกรรมการนโยบายตารวจแห่งชาติ ประกอบดว้ ย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) ฝุายการประชมุ (๓) ฝาุ ยนติ กิ าร (๔) ฝาุ ยนโยบายพัฒนาองค์กรและการบรหิ าร (๕) ฝุายนโยบายสง่ เสริมการมีสว่ นร่วม (ฐ) กองบนิ ตารวจ ประกอบดว้ ย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) ฝุายสนบั สนนุ (๓) กลมุ่ งานการบนิ (๔) กลมุ่ งานช่างอากาศยาน (๕) กลุ่มงานผเู้ ชีย่ วชาญช่างอากาศยาน (๖) กลมุ่ งานวิศวกรรมอากาศยาน (ฑ) กองวนิ ัย ประกอบดว้ ย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) กลุม่ งานนติ กิ รดา้ นสอบสวนและพิจารณาโทษ (๓) กลมุ่ งานนิตกิ รดา้ นการเสริมสร้างและพฒั นาวินยั (ฒ) สถาบนั ฝึกอบรมระหวา่ งประเทศวา่ ดว้ ยการดาเนินการใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมาย ประกอบดว้ ย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) ฝาุ ยวชิ าการ (๓) ฝาุ ยกิจการนกั ศึกษา (๒) กองบญั ชาการตารวจนครบาล แบง่ เปน็ ดังต่อไปนี้ (ก) กองบงั คบั การอานวยการ ประกอบด้วย (๑) - (๗) ฝาุ ยอานวยการ ๑ - ๗ (ข) กองบังคับการตารวจจราจร ประกอบดว้ ย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) - (๗) กองกากบั การ ๑ - ๖ (๘) กลุ่มงานสอบสวน
คาอธิบายการบรหิ ารงานกาลงั พล สานกั งานตารวจแหง่ ชาติ 213 (ค) - (ฎ) กองบงั คบั การตารวจนครบาล ๑ - ๙ แตล่ ะหนว่ ยงาน ประกอบดว้ ย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) กองกากับการสืบสวนสอบสวน (๓) กลุ่มงานสอบสวน (๔) สถานีตารวจนครบาล (ฏ) กองบงั คับการสืบสวนสอบสวน ประกอบด้วย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) - (๖) กองกากับการสืบสวน ๑ - ๕ (๗) กองกากบั การวเิ คราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ (๘) กลุ่มงานสอบสวน (ฐ) กองบงั คบั การสายตรวจและปฏิบตั ิการพเิ ศษ ประกอบดว้ ย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) กองกากับการสุนขั ตารวจ (๓) กองกากบั การมา้ ตารวจ (๔) กองกากับการศนู ย์รวมขา่ ว (๕) กองกากบั การสายตรวจ (๖) กองกากบั การต่อต้านการก่อการร้าย (๗) กลุ่มงานเกบ็ ก้วู ตั ถรุ ะเบิด (๘) กลมุ่ งานสตั วแพทยแ์ ละสตั วบาล (ฑ) กองบงั คับการอารักขาและควบคุมฝงู ชน ประกอบด้วย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) - (๓) กองกากบั การอารกั ขา ๑ - ๒ (๔) - (๕) กองกากับการควบคมุ ฝูงชน ๑ - ๒ (ฒ) กองกากบั การสวัสดิภาพเด็กและสตรี (ณ) ศนู ยฝ์ กึ อบรม (๓) - (๑๑) ตารวจภูธรภาค ๑ - ๙ แตล่ ะหนว่ ยงานแบง่ เปน็ ดงั ตอ่ ไปนี้ (ก) กองบังคบั การอานวยการ ประกอบดว้ ย (๑) - (๖) ฝุายอานวยการ ๑ – ๖ (ข) กองบงั คับการสืบสวนสอบสวน ประกอบดว้ ย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) - (๕) กองกากบั การสบื สวน ๑ - ๔ (๖) กองกากบั การวิเคราะหข์ ่าวและเคร่ืองมือพิเศษ (๗) กองกากับการปฏบิ ตั ิการพเิ ศษ (๘) กองกากับการถวายอารักขาและรักษาความปลอดภัย ให้มีเฉพาะตารวจภูธร ภาค ๗ (๙) กลุ่มงานสอบสวน
214 อนุชยั ณ วชั รเจริญ (ค) กองบังคับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มีเฉพาะตารวจภูธร ภาค ๙ ประกอบด้วย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) - (๔) กองกากบั การสบื สวน ๑ - ๓ (๕) - (๖) กองกากับการซักถาม ๑ - ๒ (๗) กองกากบั การเก็บกูแ้ ละตรวจสอบวตั ถุระเบิด (๘) กลมุ่ งานสอบสวน (ง) ตารวจภูธรจังหวดั แตล่ ะหน่วยงาน ประกอบดว้ ย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) กองกากับการสบื สวน (๓) กลมุ่ งานสอบสวน (๔) กลุ่มงานจราจร (๕) กองกากับการปฏิบัติการพิเศษ ให้มีเฉพาะตารวจภูธรจังหวัดสงขลา ตารวจภธู รจังหวดั ยะลา ตารวจภธู รจังหวดั ปตั ตานี และตารวจภูธรจงั หวดั นราธิวาส (๖) สถานีตารวจภูธร (จ) ศูนย์ฝกึ อบรม ประกอบดว้ ย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) ฝุายบริการการศึกษา (๓) ฝุายปกครองและการฝึก (๔) กลมุ่ งานอาจารย์ (ฉ) กองกากบั การปฏบิ ัติการพิเศษ ใหม้ เี ฉพาะตารวจภูธรภาค ๙ (๑๒) ยกเลกิ โดยกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่น ในสานักงานตารวจแห่งชาติ (ฉบับท่ี ๘) พ.ศ. ๒๕๖๐ (๑๓) กองบัญชาการตารวจสอบสวนกลาง แบ่งเปน็ ดังต่อไปน้ี (ก) กองบงั คับการอานวยการ ประกอบดว้ ย (๑) - (๑๐) ฝุายอานวยการ ๑ – ๑๐ (ข) กองบงั คบั การปราบปราม ประกอบดว้ ย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) - (๗) กองกากบั การ ๑ - ๖ (๘) กองกากับการสนับสนนุ (๙) กลมุ่ งานสอบสวน (ค) กองบงั คับการตารวจทางหลวง ประกอบดว้ ย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) - (๙) กองกากับการ ๑ - ๘ (๑๐) กลมุ่ งานถวายความปลอดภยั (๑๑) กลมุ่ งานสอบสวน
คาอธิบายการบริหารงานกาลงั พล สานกั งานตารวจแห่งชาติ 215 (ง) กองบังคับการตารวจรถไฟ ประกอบดว้ ย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) - (๖) กองกากับการ ๑ - ๕ (จ) ยกเลกิ โดยกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการ อย่างอน่ื ในสานักงานตารวจแหง่ ชาติ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๖๐ (ฉ) กองบงั คบั การตารวจนา้ ประกอบด้วย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) - (๔) กองกากับการ ๑ - ๓ (๕) - (๑๓) กองกากับการ ๔ - ๑๒ (๑๔) กลมุ่ งานเรือตรวจการณข์ นาด ๑๑๐ - ๑๘๐ ฟุต (ช) กองบังคับการปราบปรามการกระทาความผิดเก่ียวกับทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม ประกอบดว้ ย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) - (๗) กองกากบั การ ๑ - ๖ (๘) กลมุ่ งานสอบสวน (ซ) กองบงั คบั การปราบปรามการค้ามนุษย์ ประกอบดว้ ย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) - (๗) กองกากับการ ๑ - ๖ (๘) กลุ่มงานสอบสวน (ฌ) กองบังคบั การปราบปรามการกระทาความผิดเกีย่ วกบั อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ประกอบดว้ ย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) - (๖) กองกากับการ ๑ - ๕ (๗) กลมุ่ งานสอบสวน (ญ) กองบงั คบั การปูองกันปราบปรามการทจุ รติ และประพฤติมิชอบ ประกอบดว้ ย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) - (๗) กองกากบั การ ๑ - ๖ (๘) กลมุ่ งานสอบสวน (ฎ) กองบังคับการปราบปรามการกระทาความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ประกอบดว้ ย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) - (๕) กองกากบั การ ๑ - ๔ (๖) กลมุ่ งานสอบสวน
216 อนชุ ยั ณ วชั รเจริญ (ฏ) กองบงั คับการปราบปรามการกระทาความผิดเก่ียวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ประกอบด้วย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) - (๔) กองกากับการ ๑ - ๓ (๕) กล่มุ งานสนับสนุนคดเี ทคโนโลยี (๖) กลมุ่ งานสอบสวน (ฐ) กองบงั คับการตารวจมหาดเล็กราชวลั ลภรักษาพระองค์ ๙๐๔ ประกอบดว้ ย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) - (๗) กองกากบั การ ๑ - ๖ (๘) กองกากบั การวเิ คราะหข์ ่าวและเครื่องมือพิเศษ (๙) กองกากบั การปฏิบตั กิ ารพเิ ศษ (๑๐) กองกากับการสายตรวจ (๑๓/๑) กองบญั ชาการตารวจทอ่ งเท่ียว แบง่ เป็นดังต่อไปนี้ (ก) กองบังคบั การอานวยการ ประกอบดว้ ย (๑) - (๖) ฝุายอานวยการ ๑ - ๖ (ข) - (ง) กองบงั คบั การตารวจท่องเทย่ี ว ๑ - ๓ แตล่ ะกองบงั คบั การ ประกอบดว้ ย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) - (๔) กองกากับการ ๑ - ๓ (๕) ศูนย์รับแจ้งเหตุและปฏิบัติการควบคุมส่ังการ ให้มีเฉพาะกองบังคับการ ตารวจท่องเที่ยว ๑ (จ) กองกากับการควบคุมธรุ กจิ นาเทย่ี วและมัคคเุ ทศก์ (๑๔) กองบัญชาการตารวจปราบปรามยาเสพติด แบง่ เป็นดังต่อไปน้ี (ก) กองบงั คับการอานวยการ ประกอบดว้ ย (๑) ฝาุ ยธุรการและกาลงั พล (๒) ฝุายยทุ ธศาสตร์ (๓) ฝุายส่งกาลังบารงุ (๔) ฝาุ ยปูองกนั อาชญากรรม (๕) ฝุายงบประมาณและการเงิน (๖) ฝาุ ยกฎหมายและวินยั (๗) ฝาุ ยกจิ การตา่ งประเทศ (๘) ฝาุ ยฝกึ อบรม (ข) - (จ) กองบังคับการตารวจปราบปรามยาเสพติด ๑ - ๔ แต่ละกองบังคับการ ประกอบดว้ ย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) กล่มุ งานสอบสวนและตรวจสอบทรพั ย์สนิ (๓) - (๕) กองกากบั การ ๑ - ๓
คาอธิบายการบรหิ ารงานกาลงั พล สานักงานตารวจแห่งชาติ 217 (ฉ) กองบงั คบั การขา่ วกรองยาเสพตดิ ประกอบดว้ ย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) กลมุ่ งานการข่าว (๓) กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ (ช) กองบงั คับการสกัดกนั้ การลาเลียงยาเสพติด ประกอบดว้ ย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) - (๕) กองกากบั การ ๑ - ๔ (ซ) กองกากบั การปฏบิ ัตกิ ารพิเศษ (๑๕) กองบัญชาการตารวจสันติบาล แบง่ เป็นดงั ต่อไปน้ี (ก) กองบังคับการอานวยการ ประกอบด้วย (๑) ฝุายธรุ การและกาลังพล (๒) ฝาุ ยยทุ ธศาสตร์ (๓) ฝุายสง่ กาลงั บารงุ (๔) ฝาุ ยงบประมาณและการเงิน (๕) ฝาุ ยกฎหมายและวนิ ยั (๖) ฝุายกจิ การต่างประเทศ (๗) ฝาุ ยเทคโนโลยีสารสนเทศ (๘) ฝาุ ยตรวจสอบพฤตกิ ารณบ์ ุคคล (ข) กองบังคบั การตารวจสนั ติบาล ๑ ประกอบดว้ ย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) - (๗) กองกากบั การ ๑ - ๖ (ค) กองบงั คบั การตารวจสันติบาล ๒ ประกอบด้วย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) - (๖) กองกากบั การ ๑ - ๕ (ง) กองบังคับการตารวจสนั ตบิ าล ๓ ประกอบดว้ ย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) - (๗) กองกากับการ ๑ - ๖ (จ) กองบังคบั การตารวจสันติบาล ๔ ประกอบด้วย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) กลุ่มงานวิเคราะห์ข่าวความม่ันคงของสถาบัน (๓) กลมุ่ งานวิเคราะห์ขา่ วทางเศรษฐกจิ และสังคม (๔) กลมุ่ งานวิเคราะหข์ ่าวทางการเมอื ง (๕) กลมุ่ งานวเิ คราะหข์ ่าวการก่อการรา้ ยสากล (๖) กลมุ่ งานวิเคราะห์ขา่ วอาชญากรรมขา้ มชาติ (๗) กลุม่ งานประสานงานขา่ วตา่ งประเทศ
218 อนชุ ัย ณ วชั รเจริญ (ฉ) ศนู ย์พัฒนาดา้ นการข่าว ประกอบดว้ ย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) ฝาุ ยจัดการฝกึ อบรม (๓) ฝุายปกครองและกจิ กรรม (๔) ฝาุ ยวิจยั และพัฒนา (ช) กลุ่มงานผู้เชยี่ วชาญดา้ นการขา่ ว (๑๖) สานักงานตรวจคนเข้าเมือง แบง่ เปน็ ดงั ต่อไปน้ี (ก) กองบงั คับการอานวยการ ประกอบดว้ ย (๑) - (๖) ฝุายอานวยการ ๑ - ๖ (ข) กองบังคบั การตรวจคนเขา้ เมอื ง ๑ ประกอบดว้ ย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) - (๔) กองกากบั การ ๑ - ๓ (๕) กองกากับการสืบสวน (ค) กองบงั คับการตรวจคนเขา้ เมือง ๒ ประกอบด้วย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) ฝาุ ยตรวจคนเข้าเมืองขาเข้า ดา่ นตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสวุ รรณภมู ิ (๓) ฝาุ ยตรวจคนเข้าเมอื งขาออก ดา่ นตรวจคนเขา้ เมอื งทา่ อากาศยานสวุ รรณภมู ิ (๔) ฝาุ ยตรวจลงตรา ดา่ นตรวจคนเขา้ เมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (๕) ฝุายพธิ ีการเข้าเมอื ง ดา่ นตรวจคนเข้าเมืองทา่ อากาศยานสุวรรณภูมิ (๖) กองกากบั การสบื สวนปราบปราม (๗) ดา่ นตรวจคนเข้าเมืองทา่ อากาศยานกรงุ เทพมหานคร (๘) ด่านตรวจคนเขา้ เมอื งท่าอากาศยานเชียงใหม่ (๙) ดา่ นตรวจคนเขา้ เมอื งท่าอากาศยานภูเก็ต (๑๐) ด่านตรวจคนเข้าเมอื งทา่ อากาศยานหาดใหญ่ (ง) - (ช) กองบงั คับการตรวจคนเข้าเมือง ๓ - ๖ แตล่ ะกองบังคับการ ประกอบด้วย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) ฝาุ ยเทคโนโลยตี รวจคนเข้าเมือง (๓) กองกากบั การบรกิ ารคนตา่ งดา้ ว (๔) กองกากับการสืบสวนสอบสวน (๕) ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดและดา่ นตรวจคนเข้าเมือง (ซ) กองบงั คบั การสืบสวนสอบสวน ประกอบดว้ ย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) - (๕) กองกากบั การ ๑ - ๔ (๖) กองกากบั การปฏบิ ัตกิ ารอาชญากรรมพเิ ศษ (๗) กล่มุ งานสอบสวน
คาอธบิ ายการบริหารงานกาลังพล สานักงานตารวจแห่งชาติ 219 (ฌ) ศนู ยเ์ ทคโนโลยีตรวจคนเข้าเมือง ประกอบด้วย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) ฝุายประมวลผล (๓) ฝุายจดั การระบบและฐานข้อมลู (๔) กล่มุ งานวิชาการระบบคอมพวิ เตอร์ (ญ) ศูนยฝ์ ึกอบรมตรวจคนเข้าเมือง ประกอบดว้ ย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) ฝาุ ยบริการการศึกษา (๓) ฝุายฝึกอบรม (๔) ฝุายวชิ าการ (๑๗) กองบัญชาการตารวจตระเวนชายแดน แบ่งเป็นดงั ตอ่ ไปนี้ (ก) กองบังคบั การอานวยการ ประกอบด้วย (๑) - (๘) ฝาุ ยอานวยการ ๑ – ๘ (ข) กองบงั คับการตารวจตระเวนชายแดนภาค ๑ ประกอบด้วย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) - (๕) กองกากับการตารวจตระเวนชายแดนท่ี ๑๑ - ๑๔ (ค) กองบงั คับการตารวจตระเวนชายแดนภาค ๒ ประกอบด้วย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) - (๕) กองกากับการตารวจตระเวนชายแดนที่ ๒๑ - ๒๔ (ง) กองบังคับการตารวจตระเวนชายแดนภาค ๓ ประกอบดว้ ย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) - (๕) กองกากบั การตารวจตระเวนชายแดนที่ ๓๑ - ๓๔ (จ) กองบงั คบั การตารวจตระเวนชายแดนภาค ๔ ประกอบด้วย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) - (๕) กองกากบั การตารวจตระเวนชายแดนที่ ๔๑ - ๔๔ (ฉ) กองบงั คับการฝกึ พเิ ศษ ประกอบดว้ ย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) - (๑๐) กองกากับการ ๑ - ๙ (๑๑) ศูนย์ฝกึ สนุ ขั ตารวจ (ช) กองบงั คับการสนบั สนนุ ประกอบด้วย (๑) - (๕) ฝุายสนบั สนุน ๑ - ๕ (ซ) กองบังคับการสนบั สนนุ ทางอากาศ ประกอบดว้ ย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) - (๖) กองกากบั การ ๑ - ๕ (ฌ) ศูนย์อานวยการโครงการพฒั นาตามแนวพระราชดาริ
220 อนุชยั ณ วชั รเจรญิ (๑๘) สานกั งานนายตารวจราชสานกั ประจา แบง่ เปน็ ดงั ต่อไปน้ี (ก) กองบังคับการอานวยการ ประกอบด้วย (๑) - (๔) ฝุายอานวยการ ๑ - ๔ (ข) กองบังคบั การถวายความปลอดภยั ประกอบดว้ ย (๑) - (๓) ฝุายปฏบิ ัตกิ ารถวายความปลอดภัย ๑ - ๓ (ค) ส่วนปฏบิ ัตกิ ารนายตารวจราชสานักประจา ประกอบดว้ ย (๑) - (๕) ชุดปฏบิ ตั กิ าร ๑ - ๕ (๑๙) สานกั งานพสิ จู นห์ ลกั ฐานตารวจ แบง่ เป็นดังต่อไปนี้ (ก) กองบังคับการอานวยการ ประกอบด้วย (๑) ฝาุ ยธุรการและกาลังพล (๒) ฝาุ ยยทุ ธศาสตร์ (๓) ฝุายสง่ กาลังบารุง (๔) ฝุายงบประมาณและการเงิน (๕) ฝุายกฎหมายและวินัย (๖) ฝุายเทคโนโลยีสารสนเทศ (ข) กองพสิ จู นห์ ลกั ฐานกลาง ประกอบด้วย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) กลมุ่ งานตรวจสถานที่เกดิ เหตุ (๓) กลุ่มงานตรวจเอกสาร (๔) กลุ่มงานตรวจอาวุธปนื และเคร่ืองกระสุน (๕) กลุ่มงานตรวจทางเคมี ฟิสกิ ส์ (๖) กลมุ่ งานตรวจยาเสพตดิ (๗) กลมุ่ งานตรวจลายนิ้วมอื แฝง (๘) กลุม่ งานตรวจชวี วทิ ยาและดีเอน็ เอ (๙) กลุ่มงานตรวจพสิ ูจนอ์ าชญากรรมคอมพิวเตอร์ (๑๐) กลุ่มงานผู้เชย่ี วชาญ (ค) กองทะเบยี นประวัติอาชญากร ประกอบด้วย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) - (๘) ฝุายทะเบยี นประวัตอิ าชญากร ๑ - ๗ (๙) กลมุ่ งานผ้เู ชย่ี วชาญ (ง) - (ฐ) ศนู ย์พิสูจนห์ ลักฐาน ๑ - ๑๐ แตล่ ะหน่วยงาน ประกอบดว้ ย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) กลุ่มงานตรวจสถานทเ่ี กิดเหตุ (๓) กลมุ่ งานตรวจเอกสาร (๔) กลุ่มงานตรวจอาวุธปนื และเครือ่ งกระสุน (๕) กลุ่มงานตรวจทางเคมี ฟสิ กิ ส์
คาอธิบายการบรหิ ารงานกาลงั พล สานักงานตารวจแหง่ ชาติ 221 (๖) กลุ่มงานตรวจยาเสพตดิ (๗) กลมุ่ งานตรวจลายน้ิวมือแฝง (๘) กลุม่ งานตรวจชวี วิทยาและดีเอน็ เอ (๙) กลมุ่ งานตรวจพิสจู น์อาชญากรรมคอมพวิ เตอร์ (๑๐) กลุม่ งานผ้เู ชี่ยวชาญ (๑๑) พสิ จู น์หลักฐานจงั หวัด (ฑ) สถาบนั ฝึกอบรมและวจิ ยั การพิสจู น์หลักฐานตารวจ ประกอบด้วย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) ฝุายฝกึ อบรม (๓) ฝุายพัฒนา (๔) ฝุายปกครอง (๕) กลุ่มงานมาตรฐาน (๖) กลมุ่ งานผู้เชยี่ วชาญ (ฒ) กลุม่ งานพสิ ูจน์เอกลักษณ์บุคคล (ณ) ศูนยข์ ้อมูลวตั ถุระเบิด (๒๐) สานักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร แบ่งเป็นดังต่อไปน้ี (ก) กองบังคบั การอานวยการ ประกอบดว้ ย (๑) - (๔) ฝุายอานวยการ ๑ - ๔ (ข) กองตารวจส่อื สาร ประกอบดว้ ย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) - (๘) ฝาุ ยการสือ่ สาร ๑ - ๗ (๙) กลมุ่ งานพฒั นาเทคโนโลยแี ละบรหิ ารความถี่ (๑๐) กลุม่ งานระบบวิทยุกระจายเสยี งและวิทยุโทรทัศน์ (ค) กองบังคบั การสนบั สนนุ ทางเทคโนโลยี ประกอบดว้ ย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) กลุ่มงานวิจัยพัฒนาและฝึกอบรมทางเทคโนโลยี (๓) กลุ่มงานอินเตอร์เนต็ (๔) กลมุ่ งานตรวจสอบและควบคมุ มาตรฐานการรกั ษาความปลอดภัย (๕) กลุม่ งานตรวจสอบและวเิ คราะห์การกระทาความผดิ ทางเทคโนโลยี (ง) ศูนยเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศกลาง ประกอบดว้ ย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) กลมุ่ งานบรหิ ารจดั การระบบเคร่ืองคอมพิวเตอร์ (๓) กลมุ่ งานบรหิ ารจัดการระบบฐานขอ้ มลู (๔) กลมุ่ งานบริหารจดั การระบบเครอื ขา่ ยสารสนเทศ (๕) กลมุ่ งานสารสนเทศภูมศิ าสตร์และส่อื ประสมเพอื่ การบรหิ าร
222 อนุชัย ณ วชั รเจรญิ (๒๑) กองบญั ชาการศึกษา แบ่งเป็นดงั ตอ่ ไปน้ี (ก) กองบงั คับการอานวยการ ประกอบดว้ ย (๑) - (๖) ฝาุ ยอานวยการ ๑ - ๖ (๗) ศนู ยส์ ง่ เสรมิ จริยธรรมและพฒั นาคุณธรรม (ข) สานกั การศกึ ษาและประกันคุณภาพ ประกอบดว้ ย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) ฝาุ ยยทุ ธศาสตรก์ ารศกึ ษา (๓) - (๔) ฝุายพัฒนาหลกั สูตร ๑ - ๒ (๕) - (๖) ฝุายมาตรฐานและการประกนั คณุ ภาพ ๑ - ๒ (๗) ฝาุ ยวิชาการประกนั คณุ ภาพ (ค) วิทยาลยั การตารวจ ประกอบด้วย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) ฝาุ ยบรหิ ารการฝึกอบรม (๓) ฝุายกจิ การการฝึกอบรม (๔) ฝุายวทิ ยบรกิ าร (๕) ฝาุ ยวิจยั และพฒั นา (ง) กองบงั คับการฝกึ อบรมตารวจกลาง ประกอบด้วย (๑) ฝุายอานวยการ (๒) ฝาุ ยบริการการฝึกอบรม (๓) ฝุายปกครองและกิจการการฝกึ อบรม (๔) ศนู ย์ฝกึ ยุทธวธิ ีตารวจ (จ) กองการสอบ ประกอบด้วย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) ฝุายแผนการสอบ (๓) ฝาุ ยจัดการสอบ (๔) ฝาุ ยวชิ าการสรรหา (ฉ) ยกเลิกโดยกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการ อยา่ งอ่ืนในสานักงานตารวจแหง่ ชาติ (ฉบบั ที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๕๘ (ช) กลุม่ งานอาจารย์ (๒๒) โรงเรียนนายร้อยตารวจ การแบ่งส่วนราชการภายในให้เป็นไปตามกฎหมายว่า ด้วยโรงเรยี นนายร้อยตารวจ (๒๓) โรงพยาบาลตารวจ แบง่ เป็นดงั ต่อไปน้ี (ก) กองบงั คับการอานวยการ ประกอบด้วย (๑) ฝาุ ยธุรการกาลังพล (๒) ฝาุ ยเวชระเบียน
คาอธิบายการบรหิ ารงานกาลังพล สานกั งานตารวจแห่งชาติ 223 (๓) ฝุายยทุ ธศาสตร์ (๔) ฝาุ ยส่งกาลงั บารงุ (๕) ฝุายซอ่ มบารุง (๖) ฝุายกฎหมายและวนิ ัย (๗) ฝุายงบประมาณ (๘) ฝาุ ยการเงนิ (๙) ฝาุ ยฝึกอบรม (๑๐) ฝาุ ยบัญชี (ข) วิทยาลัยพยาบาลตารวจ ประกอบด้วย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) - (๓) ฝุายพัฒนา ๑ - ๒ (๔) กลุ่มงานอาจารย์ (ค) สถาบันนติ ิเวชวทิ ยา ประกอบดว้ ย (๑) ฝาุ ยอานวยการ (๒) กลมุ่ งานตรวจพสิ ูจน์หลกั ฐานเกีย่ วกบั บคุ คล (๓) กลมุ่ งานตรวจเลอื ด ชวี เคมี และเขม่าดนิ ปนื (๔) กลุ่มงานนติ ิพยาธิ (๕) กลุ่มงานพิเศษ (๖) กลมุ่ งานพิษวิทยา (ง) กลุ่มงานกุมารเวชกรรม (จ) กลุ่มงานจิตเวชและยาเสพตดิ (ฉ) กลุ่มงานชีวเคมี (ช) กลุม่ งานตา (ซ) กล่มุ งานทันตกรรม (ฌ) กลุม่ งานผปู้ วุ ยนอก (ญ) กลุ่มงานพยาธวิ ิทยา (ฎ) กล่มุ งานพยาบาล (ฏ) กล่มุ งานเภสชั กรรม (ฐ) กลมุ่ งานโภชนาการ (ฑ) กลุม่ งานรงั สีวิทยา (ฒ) กลมุ่ งานวิสญั ญีวทิ ยา (ณ) กล่มุ งานเวชศาสตรค์ รอบครัว (ด) กลมุ่ งานเวชศาสตร์ฟืน้ ฟู (ต) กลุ่มงานศลั ยกรรม (ถ) กล่มุ งานศูนยส์ ่งกลับและรถพยาบาล
224 อนุชยั ณ วัชรเจริญ (ท) กลมุ่ งานสังคมสงเคราะห์ (ธ) กล่มุ งานสตู ินรีเวชกรรม (น) กลุ่มงานหู คอ จมูก (บ) กล่มุ งานออร์โธปิดกิ ส์ (ป) กล่มุ งานอายุรกรรม (ผ) โรงพยาบาลดารารศั มี (ฝ) โรงพยาบาลนวุติสมเด็จย่า (พ) โรงพยาบาลยะลาสิริรัตนรกั ษ์
คาอธบิ ายการบรหิ ารงานกาลังพล สานักงานตารวจแห่งชาติ 225 บรรณานกุ รม กฎ ก.ตร. ว่าด้วยกรณที ีเ่ ป็นความผิดท่ีปรากฏชัดแจง้ พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๑๓ กันยายน). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๒๑ ตอนที่ ๕๙ ก หนา้ ๑๘ - ๑๙. กฎ ก.ตร. วา่ ด้วยการแก้ไขเพิ่มเตมิ คณะกรรมการพจิ ารณากลั่นกรองการพิจารณาส่งั ลงโทษ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๐๓ ธันวาคม). ราชกจิ จานุเบกษา. เลม่ ๑๒๑ ตอนพเิ ศษ ๘๕ ก หนา้ ๔๓ - ๔๔. กฎ ก.ตร. วา่ ด้วยการกาหนดชื่อตาแหนง่ ขา้ ราชการตารวจทีเ่ รยี กชอื่ อยา่ งอื่นและการเทียบตาแหน่ง ขา้ ราชการตารวจท่เี รียกช่ืออยา่ งอื่นกับตาแหนง่ ขา้ ราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๔๘. (๒๕๔๘, ๒๖ สิงหาคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม ๑๒๒ ตอนที่ ๗๓ ก หน้า ๔. กฎ ก.ตร. วา่ ด้วยการกาหนดชอ่ื ตาแหน่งขา้ ราชการตารวจท่เี รียกชื่ออย่างอ่ืนและการเทียบตาแหน่ง ขา้ ราชการตารวจทีเ่ รยี กช่ืออย่างอน่ื กับตาแหน่งขา้ ราชการตารวจ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐. (๒๕๕๐, ๒๘ สิงหาคม). ราชกจิ จานุเบกษา. เลม่ ๑๒๔ ตอนท่ี ๔๘ ก หน้า ๑๙. กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยการกาหนดชื่อตาแหน่งข้าราชการตารวจที่เรยี กชอื่ อย่างอืน่ และการเทียบตาแหนง่ ขา้ ราชการตารวจทเ่ี รยี กช่ืออย่างอน่ื กบั ตาแหน่งข้าราชการตารวจ (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๓. (๒๕๕๓, ๓ มนี าคม). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๒๗ ตอนท่ี ๑๕ ก หนา้ ๔ - ๕. กฎ ก.ตร. วา่ ดว้ ยการกาหนดชื่อตาแหน่งขา้ ราชการตารวจท่เี รยี กชือ่ อย่างอื่นและการเทียบตาแหน่ง ข้าราชการตารวจทีเ่ รียกช่ืออยา่ งอ่ืนกบั ตาแหน่งข้าราชการตารวจ (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๕. (๒๕๕๕, ๓ ธนั วาคม). ราชกจิ จานเุ บกษา. เลม่ ๑๒๙ ตอนที่ ๑๑๓ ก หน้า ๑ - ๒. กฎ ก.ตร. วา่ ด้วยการกาหนดช่ือตาแหน่งขา้ ราชการตารวจที่เรยี กช่อื อยา่ งอ่ืนและการเทียบตาแหน่ง ขา้ ราชการตารวจทเ่ี รยี กช่ืออย่างอืน่ กบั ตาแหนง่ ขา้ ราชการตารวจ (ฉบบั ท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๕๖. (๒๕๕๖, ๑๒ กนั ยายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๓๐ ตอนท่ี ๘๐ ก หนา้ ๑๘ - ๑๙. กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการกาหนดชื่อตาแหน่งขา้ ราชการตารวจท่เี รยี กชอ่ื อย่างอนื่ และการเทียบตาแหนง่ ข้าราชการตารวจทีเ่ รียกชื่ออย่างอ่นื กบั ตาแหนง่ ขา้ ราชการตารวจ (ฉบับท่ี ๖) พ.ศ. ๒๕๕๖. (๒๕๕๖, ๙ ธันวาคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๐ ตอนท่ี ๑๑๕ ก หน้า ๓ - ๔. กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการกาหนดชื่อตาแหน่งขา้ ราชการตารวจทีเ่ รียกช่ืออยา่ งอนื่ และการเทียบตาแหนง่ ขา้ ราชการตารวจท่ีเรียกช่ืออยา่ งอน่ื กับตาแหน่งข้าราชการตารวจ (ฉบับท่ี ๗) พ.ศ. ๒๕๕๘. (๒๕๕๘, ๖ กมุ ภาพนั ธ์). ราชกจิ จานุเบกษา. เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๗ ก หนา้ ๑๑ - ๑๒.
226 อนุชัย ณ วชั รเจริญ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการกาหนดชอ่ื ตาแหน่งข้าราชการตารวจทเี่ รียกช่อื อยา่ งอื่นและการเทียบตาแหนง่ ขา้ ราชการตารวจทเ่ี รียกชื่ออย่างอน่ื กบั ตาแหน่งข้าราชการตารวจ (ฉบับท่ี ๘) พ.ศ. ๒๕๕๙. (๒๕๕๙, ๒๕ พฤศจกิ ายน). ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๓ ตอนที่ ๙๘ ก หน้า ๑๓ - ๑๔. กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการกาหนดชอ่ื ตาแหน่งขา้ ราชการตารวจที่เรยี กช่อื อยา่ งอื่นและการเทียบตาแหน่ง ข้าราชการตารวจท่เี รียกช่ืออยา่ งอ่นื กับตาแหน่งข้าราชการตารวจ (ฉบับท่ี ๙) พ.ศ. ๒๕๖๐. (๒๕๖๐, ๗ กรกฎาคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๔ ตอนท่ี ๗๑ ก หนา้ ๑๑ - ๑๒. กฎ ก.ตร. วา่ ดว้ ยการกาหนดชื่อตาแหนง่ ข้าราชการตารวจทีเ่ รียกชอ่ื อยา่ งอืน่ และการเทียบตาแหนง่ ข้าราชการตารวจทีเ่ รยี กชื่ออยา่ งอืน่ กบั ตาแหนง่ ขา้ ราชการตารวจ (ฉบบั ที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๖๐. (๒๕๖๐, ๑๔ ธนั วาคม). ราชกจิ จานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๔ ตอนท่ี ๑๒๔ ก หนา้ ๑ - ๓. กฎ ก.ตร. วา่ ดว้ ยการกาหนดชื่อตาแหนง่ ขา้ ราชการตารวจท่ีเรยี กชอ่ื อย่างอ่ืนและการเทียบตาแหน่ง ข้าราชการตารวจทเี่ รียกช่ืออย่างอืน่ กับตาแหน่งข้าราชการตารวจ (ฉบบั ที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๖๒. (๒๕๖๒, ๒๑ กุมภาพันธ)์ . ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๓๖ ตอนที่ ๒๒ ก หน้า ๖ - ๗. กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการคัดเลือกและแตง่ ต้ังขา้ ราชการตารวจช้นั พลตารวจเป็นข้าราชการตารวจชน้ั ประทวนและการคัดเลือกและแตง่ ต้ังข้าราชการตารวจช้ันประทวนหรือชน้ั พลตารวจเป็น ข้าราชการตารวจช้นั สัญญาบัตร พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๒๑ มิถุนายน). ราชกิจจา นุเบกษา. เลม่ ๑๒๑ ตอนพิเศษ ๒๕ ก หน้า ๗ - ๙. กฎ ก.ตร. วา่ ดว้ ยการคดั เลอื กและแตง่ ตั้งข้าราชการตารวจชัน้ พลตารวจเป็นข้าราชการตารวจช้นั ประทวนและการคดั เลือกและแตง่ ตั้งข้าราชการตารวจชั้นประทวนหรือชนั้ พลตารวจเป็น ข้าราชการตารวจชัน้ สญั ญาบัตร (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๕. (๒๕๕๕, ๑๖ มีนาคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ ๑๒๙ ตอนที่ ๒๖ ก หนา้ ๒๙ - ๓๐. กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยการแตง่ ตั้งข้าราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๖๑. (๒๕๕๙, ๑๕ กรกฎาคม). ราชกจิ จานุเบกษา. เลม่ ๑๓๓ ตอนท่ี ๖๐ ก หน้า ๑ - ๑๐. กฎ ก.ตร. วา่ ด้วยการไดร้ ับเงนิ เดอื นสูงกวา่ ขั้นตา่ ของข้าราชการตารวจชั้นพลตารวจ ชนั้ ประทวน และ ชัน้ สญั ญาบัตร พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๒๑ มถิ ุนายน). ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ ๑๒๑ ตอนท่ี ๒๕ ก หน้า ๑๐ - ๑๒. กฎ ก.ตร. วา่ ดว้ ยการได้รับเงินเดอื นสูงกว่าข้ันต่าของข้าราชการตารวจชั้นพลตารวจ ชั้นประทวน และช้ันสัญญาบัตร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๕. (๒๕๕๕, ๑๖ มนี าคม). ราชกจิ จานุเบกษา. เล่ม ๑๒๙ ตอนท่ี ๒๖ ก หนา้ ๓๑ - ๓๒. กฎ ก.ตร. วา่ ด้วยการไดร้ ับเงินเดอื นสงู กว่าขั้นต่าของข้าราชการตารวจช้ันพลตารวจ ชน้ั ประทวน และชน้ั สัญญาบัตร (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๙. (๒๕๕๙, ๒๘ กรกฎาคม). ราชกจิ จานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๓ ตอนท่ี ๖๓ ก หน้า ๓ - ๔.
คาอธิบายการบรหิ ารงานกาลงั พล สานกั งานตารวจแหง่ ชาติ 227 กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการโอนขา้ ราชการซ่งึ ไมใ่ ชข่ า้ ราชการตารวจหรอื การโอนพนักงานขององคก์ าร ปกครองส่วนท้องถ่นิ มาบรรจุและแตง่ ต้ังเป็นข้าราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๔ พฤษภาคม). ราชกจิ จานเุ บกษา. เล่ม ๑๒๑ ตอนพิเศษ ๑๙ ก หน้า ๑๖ - ๑๗. กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการโอนขา้ ราชการซึง่ ไม่ใชข่ า้ ราชการตารวจหรอื การโอนพนักงานขององค์การ ปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ มาบรรจุและแต่งตั้งเปน็ ข้าราชการตารวจ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ.๒๕๖๑. (๒๕๖๑, ๗ มกราคม). ราชกจิ จานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๖ ตอนท่ี ๔ ก หนา้ ๑ - ๒. กฎ ก.ตร. ว่าด้วยหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการแต่งตง้ั ยศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑. (๒๕๖๑, ๗ มกราคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๔ ก หน้า ๕ - ๗. กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการกาหนดหลักเกณฑแ์ ละวิธีการพิจารณาเลื่อนเงนิ เดือนข้าราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๕๖. (๒๕๕๖, ๒๑ สงิ หาคม). ราชกจิ จานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๐ ตอนท่ี ๗๒ ก หนา้ ๑๐ - ๑๗. กฎ ก.ตร. วา่ ดว้ ยการกาหนดหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารพิจารณาเลื่อนเงนิ เดือนข้าราชการตารวจ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘. (๒๕๕๘, ๒๔ มิถนุ ายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๕๔ ก หนา้ ๘ - ๑๐. กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยการทดลองปฏบิ ตั ิหนา้ ทีร่ าชการ พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๒๒ พฤศจิกายน). ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ ๑๒๑ ตอนที่ ๗๒ ก หน้า ๑๕ - ๑๗. กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการบรรจุและแตง่ ต้ังข้าราชการซง่ึ มใิ ชข่ ้าราชการตารวจหรอื การบรรจแุ ละแตง่ ตัง้ พนักงานขององค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ ซึง่ ออกจากราชการหรือออกจากงานไปแลว้ กลับเข้ารบั ราชการเป็นข้าราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๒๘ กันยายน). ราชกจิ จานเุ บกษา. เลม่ ๑๒๑ ตอนท่ี ๖๒ ก หนา้ ๑๓ - ๑๕. กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการบรรจุและแตง่ ต้ังข้าราชการซ่งึ มิใช่ข้าราชการตารวจหรือการบรรจแุ ละแตง่ ตัง้ พนกั งานขององคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ ซ่ึงออกจากราชการหรอื ออกจากงานไปแล้วกลับ เข้ารับราชการเป็นข้าราชการตารวจ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑. (๒๕๖๑, ๗ มกราคม). ราช กิจจานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๖ ตอนที่ ๔ ก หน้า ๓ - ๔. กฎ ก.ตร. วา่ ดว้ ยการบรรจแุ ละแตง่ ตั้งข้าราชการตารวจผ้ไู ด้รบั อนุมตั ิจากคณะรัฐมนตรี ให้ออกจากราชการ ไปปฏบิ ตั ิงานใดๆ กลบั เข้ารับราชการเปน็ ขา้ ราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๒๘ กนั ยายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๒๑ ตอนท่ี ๖๒ ก หนา้ ๘ - ๑๐. กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการบรรจแุ ละแต่งตั้งข้าราชการตารวจผอู้ อกจากราชการไปแล้วกลับเข้ารับราชการ เปน็ ขา้ ราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๒๘ กนั ยายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๒๑ ตอนท่ี ๖๒ ก หนา้ ๑๑ - ๑๒. กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการรอ้ งทุกข์ พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๒๙ ตลุ าคม). ราชกจิ จานุเบกษา. เลม่ ๑๒๑ ตอนที่ ๖๘ ก หน้า ๙ - ๑๘. กฎ ก.ตร. วา่ ด้วยการสอบสวนพจิ ารณา พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๑๔ ธนั วาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๒๑ ตอนที่ ๗๕ ก หนา้ ๓๗ - ๕๒.
228 อนุชยั ณ วัชรเจริญ กฎ ก.ตร. วา่ ดว้ ยการสั่งพกั ราชการและการสง่ั ให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๑๔ ธันวาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๒๑ ตอนท่ี ๗๕ ก หนา้ ๓๒ - ๓๖. กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยการส่ังใหข้ ้าราชการตารวจประจาสานักงานตารวจแหง่ ชาติหรอื สว่ นราชการใด หรอื สารองราชการในสว่ นราชการใด พ.ศ. ๒๕๔๘. (๒๕๔๘, ๒๘ พฤษภาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๒๒ ตอนที่ ๔๒ ก หนา้ ๑ - ๔. กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยการสัง่ ให้ข้าราชการตารวจออกจากราชการกรณไี มส่ ามารถปฏิบตั ิราชการให้มี ประสิทธภิ าพและเกิดประสทิ ธิผล พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๑๓ กนั ยายน ) ราชกจิ จานเุ บกษา. เล่ม ๑๒๑ ตอนที่ ๕๙ ก หนา้ ๒๐ - ๒๑. กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสืบสวนขอ้ เท็จจริง พ.ศ. ๒๕๕๖. (๒๕๕๖, ๕ มถิ ุนายน). ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๐ ตอนท่ี ๔๘ ก หนา้ ๑ - ๒๔. กฎ ก.ตร. วา่ ด้วยการอทุ ธรณ์และการพิจารณาอทุ ธรณ์ พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๑๓ กันยายน). ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม ๑๒๑ ตอนท่ี ๕๙ ก หนา้ ๒๒ - ๓๒. กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยคณะกรรมการพิจารณากล่นั กรองการพจิ ารณาสงั่ ลงโทษ พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๙ มนี าคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ ๑๒๑ ตอนท่ี ๙ ก หนา้ ๕ - ๖. กฎ ก.ตร. ว่าด้วยคณะกรรมการพจิ ารณากลั่นกรองการพจิ ารณาสัง่ ลงโทษ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๑. (๒๕๕๑, ๑๖ กันยายน). ราชกจิ จานุเบกษา. เล่ม ๑๒๕ ตอนที่ ๙๙ ก หนา้ ๒๒ - ๒๓. กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยคุณสมบตั แิ ละลักษณะตอ้ งหา้ มของการเป็นข้าราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๒๘ กนั ยายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๒๑ ตอนท่ี ๖๒ ก หนา้ ๑๖ - ๑๘. กฎ ก.ตร. วา่ ดว้ ยคุณสมบัตแิ ละลักษณะตอ้ งหา้ มของการเป็นข้าราชการตารวจ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙. (๒๕๔๙, ๒๗ พฤศจิกายน). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๒๓ ตอนท่ี ๑๑๘ ก หนา้ ๓๖ - ๓๘. กฎ ก.ตร. วา่ ด้วยวธี กี ารออกคาสั่งเกี่ยวกับการลงโทษ พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๑๔ ธันวาคม). ราชกจิ จานเุ บกษา. เลม่ ๑๒๑ ตอนที่ ๗๕ ก หน้า ๑๓ - ๑๔. กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยหลกั เกณฑ์และวธิ กี ารคัดเลือกหรือการสอบแข่งขันบคุ คลเพื่อบรรจเุ ข้ารบั ราชการ เป็นขา้ ราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๒๑ มถิ นุ ายน). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๒๑ ตอนพิเศษ ๒๕ ก หนา้ ๑ - ๖. กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยหลกั เกณฑ์และวิธกี ารคดั เลอื กหรือการสอบแขง่ ขนั บุคคลเพื่อบรรจุเขา้ รับราชการ เป็นข้าราชการตารวจ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๕. (๒๕๕๕, ๕ กนั ยายน). ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ ๑๒๙ ตอนที่ ๘๔ ก หนา้ ๑๐ - ๑๑. กฎ ก.ตร. วา่ ดว้ ยหลกั เกณฑ์และวิธีการคัดเลอื กหรือการสอบแขง่ ขนั บคุ คลเพื่อบรรจเุ ขา้ รับราชการ เป็นขา้ ราชการตารวจ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๙. (๒๕๕๙, ๒๘ กรกฎาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๓๓ ตอนท่ี ๖๓ ก หนา้ ๑ - ๒. กฎ ก.ตร. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวธิ ีการดาเนินการใหผ้ ู้ถูกลงโทษตามคาสัง่ เดิมรับโทษท่ีเพ่ิมข้ึน หรอื กลับคนื สูฐ่ านะเดมิ พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๑๓ ตุลาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๒๑ ตอนท่ี ๖๖ ก หนา้ ๑๐ - ๑๑.
คาอธิบายการบรหิ ารงานกาลังพล สานักงานตารวจแหง่ ชาติ 229 กฎ ก.ตร. ว่าด้วยหลกั เกณฑ์และวิธกี ารแตง่ ตง้ั ยศ พ.ศ. ๒๕๕๔. (๒๕๕๔, ๓๑ พฤษภาคม). ราชกจิ จานุเบกษา. เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๔๓ ก หน้า ๘ - ๑๓. กฎ ก.ตร. วา่ ด้วยหลักเกณฑ์และวธิ ีการแต่งตัง้ ยศตารวจช้นั ประทวนเป็นกรณพี ิเศษ พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๒ กนั ยายน). ราชกจิ จานุเบกษา. เล่ม ๑๒๑ ตอนท่ี ๕๖ ก หน้า ๒๕ - ๒๖. กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยหลักเกณฑ์ วิธกี ารและระยะเวลาการประเมินผลการปฏบิ ัตริ าชการของขา้ ราชการ ตารวจ พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๑๖ กรกฎาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๒๑ ตอนที่ ๓๓ ก หน้า ๑ - ๓. กฎ ก.ตร. ว่าด้วยอานาจการลงโทษ อตั ราโทษ และการลงโทษภาคทัณฑ์ ทัณฑกรรม กกั ยาม กักขัง หรอื ตดั เงนิ เดือน พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๑๔ ธันวาคม). ราชกจิ จานุเบกษา. เลม่ ๑๒๑ ตอนที่ ๗๕ ก หนา้ ๓๐ - ๓๑. กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเปน็ กองบังคับการ หรือสว่ นราชการอยา่ งอ่นื ในสานักงานตารวจแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ (๒๕๕๒, ๗ กันยายน). ราชกจิ จานุเบกษา. เล่ม ๑๒๖ ตอนท่ี ๖๖ ก หนา้ ๑ - ๗๘. กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือสว่ นราชการอย่างอ่นื ในสานักงานตารวจแหง่ ชาติ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๖. (๒๕๕๖, ๒๒ มีนาคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๐ ตอนท่ี ๒๘ ก หนา้ ๑๐ - ๑๔. กฎกระทรวงแบ่งสว่ นราชการเปน็ กองบังคับการหรือสว่ นราชการอย่างอน่ื ในสานักงานตารวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๖. (๒๕๕๖, ๑๓ มิถนุ ายน). ราชกจิ จานุเบกษา. เลม่ ๑๓๐ ตอนที่ ๕๑ ก หน้า ๑ - ๓. กฎกระทรวงแบ่งสว่ นราชการเปน็ กองบงั คับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสานกั งานตารวจแห่งชาติ (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๖. (๒๕๕๗, ๗ มกราคม). ราชกจิ จานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๑ ตอนท่ี ๔ ก หน้า ๓ - ๖. กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเปน็ กองบังคบั การหรอื ส่วนราชการอยา่ งอ่ืนในสานกั งานตารวจแหง่ ชาติ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๕๘. (๒๕๕๘, ๒๖ กมุ ภาพนั ธ)์ . ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๑๓ ก หน้า ๕ - ๗. กฎกระทรวงแบ่งสว่ นราชการเป็นกองบงั คบั การหรือสว่ นราชการอย่างอืน่ ในสานกั งานตารวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๕๘. (๒๕๕๘, ๙ เมษายน). ราชกจิ จานุเบกษา. เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๒๙ ก หน้า ๑๒ - ๑๔. กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเปน็ กองบังคบั การหรอื สว่ นราชการอยา่ งอ่ืนในสานกั งานตารวจแหง่ ชาติ (ฉบบั ที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๐. (๒๕๖๐, ๔ สงิ หาคม). ราชกจิ จานุเบกษา. เล่ม ๑๓๔ ตอนท่ี ๘๐ ก หน้า ๑ - ๓. กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเปน็ กองบังคับการหรือสว่ นราชการอยา่ งอน่ื ในสานกั งานตารวจแห่งชาติ (ฉบบั ท่ี ๘) พ.ศ. ๒๕๖๐. (๒๕๖๐, ๑ กันยายน). ราชกจิ จานุเบกษา. เลม่ ๑๓๔ ตอนท่ี ๙๑ ก หน้า ๑ - ๑๐. กฎกระทรวงแบ่งสว่ นราชการเป็นกองบงั คบั การหรอื ส่วนราชการอยา่ งอืน่ ในสานักงานตารวจแหง่ ชาติ (ฉบบั ที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๖๑. (๒๕๖๑, ๑ ตุลาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ๑๓๕ ตอนที่ ๗๗ ก หนา้ ๑ - ๓.
230 อนชุ ัย ณ วัชรเจรญิ กฎกระทรวงแบ่งสว่ นราชการเป็นกองบงั คบั การหรือส่วนราชการอยา่ งอนื่ ในสานักงานตารวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๖๒. (๒๕๖๒, ๒๗ มกราคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๖ ตอนท่ี ๑๒ ก หนา้ ๑ - ๕. กฎกระทรวงแบ่งสว่ นราชการเป็นกองบังคับการหรอื สว่ นราชการอยา่ งอ่นื ในสานักงานตารวจแหง่ ชาติ (ฉบับท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๖๒. (๒๕๖๒, ๒๗ มกราคม). ราชกจิ จานุเบกษา. เลม่ ๑๓๖ ตอนที่ ๑๒ ก หนา้ ๖ - ๘. กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบงั คบั การหรอื ส่วนราชการอยา่ งอนื่ ในสานกั งานตารวจแหง่ ชาติ (ฉบับท่ี ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒. (๒๕๖๒, ๕ กุมภาพนั ธ์). ราชกจิ จานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๑๕ ก หนา้ ๑ - ๖. พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสานกั งานตารวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒. (๒๕๖๒, ๒๑ กมุ ภาพันธ)์ . ราชกจิ จานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๒๒ ก หน้า ๖ - ๗. พระราชกฤษฎีกาแบ่งสว่ นราชการสานกั งานตารวจแหง่ ชาติ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘. (๒๕๖๒, ๒๑ กุมภาพันธ)์ . ราชกจิ จานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๖ ตอนท่ี ๒๒ ก หน้า ๖ - ๗. พระราชกฤษฎีกาแบง่ ส่วนราชการสานกั งานตารวจแหง่ ชาติ (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐. (๒๕๖๒, ๒๑ กมุ ภาพันธ)์ . ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๒๒ ก หนา้ ๖ - ๗. พระราชกฤษฎกี าแบง่ ส่วนราชการสานกั งานตารวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๑. (๒๕๖๒, ๒๑ กุมภาพนั ธ)์ . ราชกจิ จานุเบกษา. เล่ม ๑๓๖ ตอนท่ี ๒๒ ก หน้า ๖ - ๗. พระราชบัญญตั ิตารวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๑๔ กมุ ภาพนั ธ)์ . ราชกิจจานเุ บกษา. เลม่ ๑๒๑ ตอนท่ี ๑๘ ก หน้า ๑ - ๔๖. พระราชบญั ญัติตารวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔. (๒๕๕๔, ๒๑ มีนาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๑๗ ก หน้า ๑ - ๓. พระราชบัญญัติตารวจแห่งชาติ (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๘. (๒๕๕๘, ๒๑ พฤษภาคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๒ ตอนท่ี ๔๓ ก หน้า ๑๐ - ๑๒. พระราชบญั ญตั ิตารวจแหง่ ชาติ (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒. (๒๕๖๒, ๕ เมษายน). ราชกจิ จานเุ บกษา. เลม่ ๑๓๖ ตอนที่ ๔๓ ก หนา้ ๑๗ - ๒๐. ระเบยี บ ก.ตร. ว่าดว้ ยการกาหนดลาดับอาวุโสของขา้ ราชการตารวจในการรกั ษาราชการแทน พ.ศ. ๒๕๕๗. (๒๕๕๗, ๒๔ กนั ยายน). ระเบยี บ ก.ตร. ว่าด้วยการรายงานการดาเนินการทางวนิ ัยและการออกจากราชการของข้าราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๒๘ ตลุ าคม). ระเบียบ ก.ตร. ว่าดว้ ยการลาออกจากราชการของขา้ ราชการตารวจ พ.ศ. 2550. (๒๕๕๐, ๖ สิงหาคม). ระเบยี บ ก.ตร. วา่ ดว้ ยเงนิ เพิ่มสาหรับตาแหนง่ ทป่ี ระจาอยู่ในตา่ งประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๗. (๒๕๕๗, ๒๔ กันยายน). ระเบยี บ ก.ตร. ว่าดว้ ยเงินเพิ่มสาหรับตาแหน่งที่มีเหตพุ ิเศษตาแหน่งผปู้ ฏบิ ัติงานดา้ นการสาธารณสขุ พ.ศ. ๒๕๔๘. (๒๕๔๘, ๒๓ ธนั วาคม).
คาอธิบายการบริหารงานกาลังพล สานักงานตารวจแห่งชาติ 231 ระเบยี บ ก.ตร. วา่ ด้วยเงนิ เพ่ิมสาหรับตาแหนง่ ที่มีเหตพุ เิ ศษตาแหนง่ นักโดดรม่ พ.ศ. ๒๕๔๙. (๒๕๔๙, ๒๐ ตลุ าคม). ระเบยี บ ก.ตร. วา่ ดว้ ยเงนิ เพิ่มสาหรบั ตาแหน่งท่ีมเี หตุพเิ ศษตาแหน่งนักประดาน้า พ.ศ. ๒๕๔๙. (๒๕๔๙, ๒๐ ตลุ าคม). ระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยเงนิ เพ่ิมสาหรับตาแหน่งท่ีมเี หตพุ เิ ศษตาแหนง่ ผู้ปฏบิ ัติงานกู้ภัย พ.ศ. ๒๕๕๓. (๒๕๕๓, ๓๐ เมษายน). ระเบยี บ ก.ตร. ว่าดว้ ยเงนิ เพ่ิมสาหรบั ตาแหนง่ ที่มีเหตุพิเศษตาแหน่งผู้ปฏิบัตงิ านทาลายวัตถุระเบิด พ.ศ. ๒๕๔๙. (๒๕๔๙, ๒๐ ตลุ าคม). ระเบยี บ ก.ตร. ว่าด้วยเงินเพิ่มสาหรับตาแหน่งที่มเี หตุพิเศษตาแหน่งผู้ปฏิบัติงานดา้ นนิติวทิ ยาศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๐. (๒๕๕๐, ๒๗ สงิ หาคม). ระเบียบ ก.ตร. วา่ ดว้ ยเงินเพมิ่ สาหรับตาแหน่งทีม่ เี หตพุ ิเศษตาแหน่งผปู้ ฏบิ ัตงิ านด้านอารกั ขาบคุ คลสาคัญ พ.ศ. ๒๕๕๕. (๒๕๕๕, ๒๓ พฤศจกิ ายน). ระเบยี บ ก.ตร. ว่าดว้ ยเงนิ เพ่มิ สาหรบั ตาแหน่งที่มีเหตุพิเศษตาแหน่งผู้ปฏิบตั ิหน้าท่ีทางเรือ พ.ศ. ๒๕๔๙. (๒๕๔๙, ๒๐ ตลุ าคม). ระเบยี บ ก.ตร. ว่าด้วยเงินเพ่ิมเป็นกรณีพิเศษสาหรบั ตาแหน่งผูป้ ฏิบตั ิหนา้ ทด่ี า้ นสอบสวน พ.ศ. ๒๕๕๙. (๒๕๕๙, ๔ สงิ หาคม). ราชกิจจานเุ บกษา. เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๑๗๒ ง หนา้ ๑ - ๔. ระเบยี บ ก.ตร. ว่าด้วยเงินเพิ่มสาหรับตาแหน่งท่ีมีเหตพุ ิเศษตาแหน่งผ้ทู าการในอากาศ พ.ศ. ๒๕๔๙. (๒๕๔๙, ๒๐ ตุลาคม). ระเบยี บ ก.ตร. วา่ ด้วยเงนิ เพ่ิมสาหรบั ตาแหน่งทีม่ ีเหตพุ ิเศษตาแหน่งผู้ทาหนา้ ทตี่ อ่ ต้านการก่อการร้าย พ.ศ. ๒๕๕๗. (๒๕๕๗, ๒๓ ธนั วาคม). ระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยเงินเพิ่มสาหรับตาแหน่งท่ีมีเหตุพิเศษตาแหน่งผูท้ าหนา้ ทต่ี รวจสอบสานวนอัยการ และใหค้ วามเหน็ ทางกฎหมาย พ.ศ. ๒๕๕๗. (๒๕๕๗, ๓๐ พฤศจิกายน). ระเบยี บ ก.ตร. วา่ ด้วยเงนิ เพิ่มสาหรับตาแหนง่ ทีมเี หตพุ เิ ศษตาแหนง่ ผทู้ าหนา้ ท่ีนิตกิ ร พ.ศ. ๒๕๕๘. (๒๕๕๘, ๒๘ พฤษภาคม). ระเบยี บ ก.ตร. ว่าดว้ ยเงินเพิ่มสาหรบั ตาแหน่งท่ีมีเหตพุ เิ ศษตาแหนง่ ผทู้ าหนา้ ทีป่ กครองโรงเรยี น พ.ศ. ๒๕๕๔. (๒๕๕๔, ๑๒ ตลุ าคม). ระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยเงินเพ่ิมสาหรับตาแหนง่ ท่ีมเี หตุพเิ ศษตาแหน่งผูท้ าหนา้ ท่ีสอบสวนคดี พ.ศ. ๒๕๕๙. (๒๕๕๙, ๔ สงิ หาคม). ราชกจิ จานุเบกษา. เลม่ ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๑๗๒ ง หน้า ๕ - ๘. ระเบยี บ ก.ตร. ว่าดว้ ยเงินเพ่ิมสาหรับตาแหน่งที่มีเหตพุ เิ ศษตาแหน่งผปู้ ฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีด้านปูองกนั ปราบปราม ด้านสบื สวน และดา้ นจราจร พ.ศ. ๒๕๔๘. (๒๕๔๘, ๒๓ ธนั วาคม). ระเบียบ ก.ตร. วา่ ดว้ ยทะเบียนประวตั แิ ละการควบคุมเกษียณอายุของข้าราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๘ ธนั วาคม). ระเบยี บ ก.ตร. วา่ ด้วยทะเบยี นประวัตแิ ละการควบคุมเกษียณอายุของข้าราชการตารวจ (ฉบับ ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓. (๒๕๕๓, ๒๘ มีนาคม).
232 อนุชัย ณ วชั รเจรญิ ระเบยี บ ก.ตร. ว่าด้วยผู้มีอานาจสงั่ บรรจุและแต่งต้ังบคุ คลเข้ารับราชการเปน็ ข้าราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๒๖ เมษายน). ระเบยี บ ก.ตร. ว่าดว้ ยผู้มีอานาจสัง่ เลื่อนเงนิ เดือนข้าราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๕๘. (๒๕๕๘, ๑๗ มิถนุ ายน). ระเบียบ ก.ตร. ว่าดว้ ยวนั ออกจากราชการของข้าราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๒๒ กรกฎาคม). ระเบยี บ ก.ตร. วา่ ดว้ ยวิธกี ารเสริมสร้างและพัฒนาให้ขา้ ราชการตารวจมีวินยั และปูองกนั มใิ ห้ ขา้ ราชการตารวจกระทาผิดวินัย พ.ศ. ๒๕๔๙. (๒๕๔๙, ๓๐ มกราคม). ระเบยี บ ก.ตร.วา่ ด้วยเหตุจาเปน็ ในการขยายระยะเวลาการพจิ ารณาสงั่ การทางวินยั พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๒๒ กรกฎาคม). ระเบยี บ ก.ตร. วา่ ด้วยเหตุจาเป็นในการขยายระยะเวลาการพจิ ารณาอุทธรณ์ พ.ศ.๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๓ สงิ หาคม). ระเบยี บกระทรวงการคลังวา่ ด้วยเงินเพม่ิ พิเศษผูบ้ ังคับอากาศยาน สานักงานตารวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๙. (๒๕๔๙, ๒๙ กนั ยายน). ระเบยี บสานกั งานตารวจแห่งชาตวิ ่าดว้ ยการถอดยศตารวจ พ.ศ. ๒๕๔๗. (๒๕๔๗, ๔ มนี าคม). ระเบียบสานักงานตารวจแหง่ ชาติ ว่าดว้ ยประมวลระเบยี บการตารวจไมเ่ กยี่ วกบั คดี ลกั ษณะที่ ๑ ความประพฤติและระเบยี บวินยั พ.ศ. ๒๕๕๕. (๒๕๕๕, ๕ เมษายน). ระเบยี บสานักงานตารวจแห่งชาติวา่ ดว้ ยประมวลระเบียบการตารวจไม่เกย่ี วกับคดี ลกั ษณะท่ี ๔ การบรรจุ พ.ศ. ๒๕๕๖. (๒๕๕๖, ๑ กมุ ภาพันธ์). ระเบยี บสานกั งานตารวจแห่งชาตวิ ่าด้วยประมวลระเบยี บการตารวจไมเ่ กยี่ วกับคดี ลกั ษณะที่ ๘ การโอน พ.ศ. ๒๕๕๖. (๒๕๕๖, ๑ กุมภาพนั ธ)์ . ระเบยี บสานกั งานตารวจแหง่ ชาติ วา่ ด้วยประมวลระเบียบการตารวจไม่เกีย่ วกบั คดี ลกั ษณะที่ ๑๓ ประวัติ พ.ศ. ๒๕๕๖. (๒๕๕๖, ๑ กมุ ภาพนั ธ)์ .
คาอธบิ ายการบริหารงานกาลงั พล สานักงานตารวจแหง่ ชาติ 233 ภาคผนวก แหลง่ สบื คน้ สารสนเทศ ผู้อ่านสามารถสืบค้น ข้อมูล กฎ ระเบียบ ขอ้ กฎหมาย เพ่ิมเตมิ ได้ดงั นี้ ๑. ราชกิจจานเุ บกษา http://www.ratchakitcha.soc.go.th ๒. สานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า http://www.krisdika.go.th ๓. กองกฎหมาย สานกั กฎหมายและคดี สานกั งานตารวจแหง่ ชาติ http://www.tsd.police.go.th ๔. กองทะเบียนพล สานกั งานกาลงั พล สานักงานตารวจแหง่ ชาติ http://www.personnelpolice.com ๕. กองอตั รากาลงั สานักงานกาลังพล สานกั งานตารวจแหง่ ชาติ http://www.pdd.police.go.th ๖. กองวินัย สานกั งานตารวจแหง่ ชาติ http://www.discipline.police.go.th ๗. สานกั งานคณะกรรมการข้าราชการตารวจ สานักงานตารวจแหง่ ชาติ http://opc.police.go.th ๘. รัฐสภาไทย https://www.parliament.go.th
234 อนชุ ยั ณ วชั รเจรญิ
คาอธิบายการบรหิ ารงานกาลังพล สานักงานตารวจแหง่ ชาติ 235 ดัชนี ก 1๓3 1๕0 กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยกรณีท่เี ป็นความผดิ ท่ีปรากฏชดั แจง้ พ.ศ. ๒๕๔๗ 11 กฎ ก.ตร. วา่ ดว้ ยการแก้ไขเพ่ิมเตมิ คณะกรรมการพจิ ารณากลั่นกรองการพิจารณาส่ังลงโทษ 19 1๙ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๗ 20 กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการกาหนดชื่อตาแหน่งขา้ ราชการตารวจท่เี รยี กชอ่ื อย่างอนื่ และ 20 ๒๐ การเทียบตาแหน่งขา้ ราชการตารวจที่เรียกช่ืออย่างอนื่ กับตาแหน่งขา้ ราชการตารวจ ๒1 พ.ศ. ๒๕๔๘ ๒1 กฎ ก.ตร. วา่ ดว้ ยการกาหนดชอ่ื ตาแหนง่ ข้าราชการตารวจที่เรยี กช่ืออยา่ งอนื่ และ ๒1 การเทยี บตาแหน่งข้าราชการตารวจท่ีเรียกชื่ออย่างอนื่ กับตาแหน่งขา้ ราชการตารวจ ๒2 (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยการกาหนดช่ือตาแหนง่ ขา้ ราชการตารวจที่เรยี กช่ืออย่างอื่นและ การเทยี บตาแหนง่ ข้าราชการตารวจทเ่ี รียกช่อื อย่างอน่ื กบั ตาแหนง่ ขา้ ราชการตารวจ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๓ กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยการกาหนดชื่อตาแหน่งขา้ ราชการตารวจทเ่ี รียกชื่ออยา่ งอน่ื และ การเทียบตาแหน่งขา้ ราชการตารวจทเ่ี รยี กชื่ออยา่ งอื่นกับตาแหนง่ ขา้ ราชการตารวจ (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๕ กฎ ก.ตร. วา่ ด้วยการกาหนดช่ือตาแหน่งข้าราชการตารวจที่เรยี กชื่ออยา่ งอน่ื และ การเทียบตาแหนง่ ข้าราชการตารวจทเ่ี รยี กชอ่ื อย่างอื่นกับตาแหนง่ ข้าราชการตารวจ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๕๖ กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยการกาหนดชอ่ื ตาแหนง่ ข้าราชการตารวจทเ่ี รียกชอื่ อยา่ งอนื่ และ การเทียบตาแหน่งขา้ ราชการตารวจท่ีเรียกช่ืออย่างอน่ื กบั ตาแหนง่ ข้าราชการตารวจ (ฉบับท่ี ๖) พ.ศ. ๒๕๕๖ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการกาหนดชอ่ื ตาแหน่งขา้ ราชการตารวจท่เี รยี กชอื่ อยา่ งอื่นและ การเทยี บตาแหน่งข้าราชการตารวจทีเ่ รียกชอ่ื อย่างอน่ื กบั ตาแหน่งข้าราชการตารวจ (ฉบบั ท่ี ๗) พ.ศ. ๒๕๕๘ กฎ ก.ตร. วา่ ดว้ ยการกาหนดชื่อตาแหน่งขา้ ราชการตารวจท่เี รยี กชอ่ื อยา่ งอื่นและ การเทยี บตาแหนง่ ขา้ ราชการตารวจท่ีเรียกชื่ออย่างอืน่ กบั ตาแหนง่ ขา้ ราชการตารวจ (ฉบบั ที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๕๙ กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยการกาหนดชอ่ื ตาแหน่งขา้ ราชการตารวจทเ่ี รียกชื่ออยา่ งอื่นและ การเทียบตาแหนง่ ขา้ ราชการตารวจทเี่ รียกชื่ออย่างอน่ื กบั ตาแหน่งขา้ ราชการตารวจ (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๖๐ กฎ ก.ตร. วา่ ด้วยการกาหนดชอ่ื ตาแหน่งขา้ ราชการตารวจท่ีเรียกชอ่ื อย่างอน่ื และ การเทียบตาแหนง่ ขา้ ราชการตารวจที่เรียกชือ่ อย่างอน่ื กบั ตาแหน่งขา้ ราชการตารวจ (ฉบบั ที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๖๐
236 อนชุ ัย ณ วัชรเจรญิ กฎ ก.ตร. วา่ ดว้ ยการกาหนดชือ่ ตาแหน่งขา้ ราชการตารวจที่เรยี กชอื่ อย่างอืน่ และ ๒๒ การเทียบตาแหน่งข้าราชการตารวจทเ่ี รียกช่อื อย่างอน่ื กับตาแหนง่ ข้าราชการตารวจ (ฉบับท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๖๒ 39 กฎ ก.ตร. วา่ ดว้ ยการคดั เลือกและแตง่ ตั้งข้าราชการตารวจช้นั พลตารวจเป็นข้าราชการตารวจ 39 ชน้ั ประทวนและการคัดเลือกและแต่งตั้งข้าราชการตารวจชน้ั ประทวนหรือชัน้ พลตารวจ เปน็ ข้าราชการตารวจชั้นสญั ญาบัตร พ.ศ. ๒๕๔๗ ๔0 ๒๙ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการคัดเลอื กและแต่งตั้งข้าราชการตารวจชน้ั พลตารวจเปน็ ขา้ ราชการตารวจ ๒๙ ช้นั ประทวนและการคดั เลือกและแตง่ ต้ังขา้ ราชการตารวจชั้นประทวนหรอื ชั้นพลตารวจ ๒๙ เปน็ ข้าราชการตารวจชน้ั สญั ญาบัตร (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๕ ๔8 กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการแต่งตัง้ ข้าราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๖๑ ๔8 กฎ ก.ตร. วา่ ด้วยการได้รบั เงินเดอื นสงู กวา่ ข้ันต่าของข้าราชการตารวจช้นั พลตารวจ ๒ ชน้ั ประทวน และชั้นสญั ญาบัตร พ.ศ. ๒๕๔๗ 59 กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยการได้รับเงินเดือนสงู กว่าขั้นต่าของข้าราชการตารวจชั้นพลตารวจ 59 49 ชน้ั ประทวนและชัน้ สญั ญาบัตร (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๕ ๓๗ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการได้รับเงินเดือนสงู กว่าขั้นตา่ ของข้าราชการตารวจชน้ั พลตารวจ ๓๗ ชั้นประทวนและชน้ั สัญญาบัตร (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๙ กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยการโอนข้าราชการซ่ึงไม่ใช่ขา้ ราชการตารวจหรือการโอนพนักงาน ๓4 ขององค์การปกครองส่วนทอ้ งถ่ินมาบรรจุและแตง่ ตั้งเปน็ ขา้ ราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๔๗ กฎ ก.ตร. วา่ ด้วยการโอนข้าราชการซง่ึ ไมใ่ ช่ขา้ ราชการตารวจหรอื การโอนพนักงาน ขององค์การปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินมาบรรจุและแต่งต้ังเปน็ ข้าราชการตารวจ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ กฎ ก.ตร. วา่ ด้วยหลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารแต่งต้ังยศ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยการกาหนดหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารพิจารณาเลือ่ นเงนิ เดือนขา้ ราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๕๖ กฎ ก.ตร. วา่ ดว้ ยการกาหนดหลกั เกณฑ์และวธิ กี ารพิจารณาเลือ่ นเงินเดือนข้าราชการตารวจ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยการทดลองปฏิบัตหิ นา้ ที่ราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ กฎ ก.ตร. วา่ ด้วยการบรรจแุ ละแตง่ ตั้งขา้ ราชการซง่ึ มิใช่ข้าราชการตารวจหรอื การบรรจุและ แตง่ ต้ังพนักงานขององค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน ซึง่ ออกจากราชการหรือออกจากงานไปแล้ว กลบั เข้ารบั ราชการเปน็ ขา้ ราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๔๗ กฎ ก.ตร. วา่ ด้วยการบรรจแุ ละแต่งต้ังขา้ ราชการซง่ึ มใิ ชข่ ้าราชการตารวจหรือการบรรจุและ แตง่ ต้ังพนักงานขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ ซึง่ ออกจากราชการหรือออกจากงานไปแล้ว กลับเข้ารบั ราชการเปน็ ข้าราชการตารวจ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยการบรรจแุ ละแตง่ ต้ังขา้ ราชการตารวจผไู้ ด้รบั อนุมตั จิ ากคณะรฐั มนตรี ใหอ้ อกจากราชการ ไปปฏิบตั ิงานใดๆ กลบั เขา้ รับราชการเปน็ ขา้ ราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๔๗
คาอธิบายการบริหารงานกาลงั พล สานกั งานตารวจแหง่ ชาติ 237 กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการบรรจแุ ละแตง่ ตั้งข้าราชการตารวจผูอ้ อกจากราชการไปแล้วกลบั เข้า ๓๖ รับราชการเปน็ ข้าราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๔๗ กฎ ก.ตร. วา่ ด้วยการร้องทุกข์ พ.ศ. ๒๕๔๗ 1๗3 กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยการสอบสวนพิจารณา พ.ศ. ๒๕๔๗ 1๓4 กฎ ก.ตร. วา่ ด้วยการสง่ั พกั ราชการและการสง่ั ใหอ้ อกจากราชการไวก้ ่อน พ.ศ. ๒๕๔๗ 146 กฎ ก.ตร. วา่ ดว้ ยการสั่งใหข้ ้าราชการตารวจประจาสานักงานตารวจแห่งชาติหรือส่วนราชการใด ๕3 หรอื สารองราชการในสว่ นราชการใด พ.ศ. ๒๕๔๘ กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยการสง่ั ใหข้ ้าราชการตารวจออกจากราชการกรณไี มส่ ามารถปฏิบัติราชการ ๕7 ใหม้ ปี ระสิทธิภาพและเกิดประสทิ ธผิ ล พ.ศ. ๒๕๔๗ กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยการสืบสวนขอ้ เทจ็ จรงิ พ.ศ. ๒๕๕๖ ๑๒3 กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการอทุ ธรณ์และการพจิ ารณาอทุ ธรณ์ พ.ศ. ๒๕๔๗ 1๖3 กฎ ก.ตร. ว่าด้วยคณะกรรมการพจิ ารณากลั่นกรองการพจิ ารณาสั่งลงโทษ พ.ศ. ๒๕๔๗ 1๕0 กฎ ก.ตร. วา่ ดว้ ยคณะกรรมการพิจารณากล่นั กรองการพจิ ารณาส่ังลงโทษ (ฉบับที่ ๔) 1๕0 พ.ศ. ๒๕๕๑ กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยคณุ สมบตั ิและลักษณะต้องหา้ มของการเป็นข้าราชการตารวจ ๒๗ พ.ศ. ๒๕๔๗ กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยคณุ สมบตั ิและลักษณะต้องหา้ มของการเปน็ ข้าราชการตารวจ (ฉบับที่ ๒) ๒๗ พ.ศ. ๒๕๔๙. กฎ ก.ตร. ว่าด้วยวธี กี ารออกคาสั่งเก่ียวกบั การลงโทษ พ.ศ. ๒๕๔๗ 1๕3 กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยหลกั เกณฑ์และวธิ ีการคดั เลือกหรือการสอบแขง่ ขนั บุคคลเพือ่ บรรจุ ๓๐ เข้ารบั ราชการเป็นข้าราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๔๗ กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยหลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารคัดเลอื กหรอื การสอบแขง่ ขนั บุคคลเพ่ือบรรจุ ๓๐ เข้ารับราชการเป็นข้าราชการตารวจ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๕ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารคัดเลอื กหรอื การสอบแขง่ ขนั บุคคลเพ่อื บรรจุ ๓๐ เขา้ รับราชการเปน็ ข้าราชการตารวจ (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๙ กฎ ก.ตร. วา่ ด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการดาเนนิ การใหผ้ ู้ถูกลงโทษตามคาสัง่ เดมิ รบั โทษ 149 ที่เพม่ิ ข้นึ หรอื กลบั คืนส่ฐู านะเดมิ พ.ศ. ๒๕๔๗ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการแต่งตั้งยศ พ.ศ. ๒๕๕๔ ๒ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตัง้ ยศตารวจชนั้ ประทวนเปน็ กรณีพิเศษ ๕ พ.ศ. ๒๕๔๗ กฎ ก.ตร. วา่ ด้วยหลักเกณฑ์ วธิ กี ารและระยะเวลาการประเมินผลการปฏิบตั ริ าชการ ๕0 ของข้าราชการ ตารวจ พ.ศ. ๒๕๔๗ กฎ ก.ตร. วา่ ด้วยอานาจการลงโทษ อัตราโทษ และการลงโทษภาคทัณฑ์ ทัณฑกรรม 1๕2 กกั ยาม กกั ขัง หรอื ตัดเงินเดอื น พ.ศ. ๒๕๔๗ กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคบั การหรอื ส่วนราชการอยา่ งอนื่ ๒07 ในสานักงานตารวจแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒
238 อนชุ ัย ณ วชั รเจรญิ กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเปน็ กองบังคบั การหรือส่วนราชการอย่างอื่น ๒07 ในสานักงานตารวจแหง่ ชาติ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๖ ๒07 ๒07 กฎกระทรวงแบง่ ส่วนราชการเป็นกองบังคบั การหรอื สว่ นราชการอยา่ งอน่ื ๒07 ในสานกั งานตารวจแหง่ ชาติ (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๖ ๒07 ๒07 กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคบั การหรอื ส่วนราชการอย่างอื่น ๒07 ในสานักงานตารวจแห่งชาติ (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๖ ๒07 ๒07 กฎกระทรวงแบง่ ส่วนราชการเปน็ กองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่น ๒07 ในสานักงานตารวจแหง่ ชาติ (ฉบับท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๕๘ ๒07 กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรอื ส่วนราชการอยา่ งอ่นื ในสานักงานตารวจ แห่งชาติ (ฉบับท่ี ๖) พ.ศ. ๒๕๕๘ กฎกระทรวงแบ่งสว่ นราชการเป็นกองบังคบั การหรอื ส่วนราชการอยา่ งอ่นื ในสานกั งานตารวจแหง่ ชาติ (ฉบบั ท่ี ๗) พ.ศ. ๒๕๖๐ กฎกระทรวงแบง่ ส่วนราชการเปน็ กองบังคบั การหรอื ส่วนราชการอยา่ งอน่ื ในสานักงานตารวจแหง่ ชาติ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๖๐ กฎกระทรวงแบง่ ส่วนราชการเปน็ กองบังคบั การหรือสว่ นราชการอยา่ งอน่ื ในสานักงานตารวจแห่งชาติ (ฉบบั ท่ี ๙) พ.ศ. ๒๕๖๑ กฎกระทรวงแบง่ สว่ นราชการเปน็ กองบังคบั การหรือส่วนราชการอย่างอื่น ในสานักงานตารวจแห่งชาติ (ฉบับท่ี ๑๐) พ.ศ. ๒๕๖๒ กฎกระทรวงแบง่ ส่วนราชการเป็นกองบังคบั การหรอื สว่ นราชการอยา่ งอน่ื ในสานักงานตารวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๖๒ กฎกระทรวงแบง่ สว่ นราชการเป็นกองบังคับการหรอื ส่วนราชการอยา่ งอน่ื ในสานักงานตารวจแห่งชาติ (ฉบบั ท่ี ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ พ 195 195 พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสานกั งานตารวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ 195 พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสานักงานตารวจแห่งชาติ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ 195 พระราชกฤษฎกี าแบ่งสว่ นราชการสานักงานตารวจแหง่ ชาติ (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐ พระราชกฤษฎกี าแบง่ สว่ นราชการสานักงานตารวจแหง่ ชาติ (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๑ ร ๔6 ระเบยี บ ก.ตร. ว่าด้วยการกาหนดลาดับอาวโุ สของข้าราชการตารวจในการรักษาราชการแทน 156 พ.ศ. ๒๕๕๗ ๕5 ระเบียบ ก.ตร. ว่าดว้ ยการรายงานการดาเนินการทางวนิ ยั และการออกจากราชการ 1๐5 ของข้าราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๔๗ ระเบยี บ ก.ตร. ว่าด้วยการลาออกจากราชการของขา้ ราชการตารวจ พ.ศ. 2550 ระเบียบ ก.ตร. ว่าดว้ ยเงนิ เพ่ิมสาหรบั ตาแหนง่ ที่ประจาอยู่ในต่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๗
คาอธบิ ายการบริหารงานกาลงั พล สานกั งานตารวจแหง่ ชาติ 239 ระเบียบ ก.ตร. ว่าดว้ ยเงินเพ่ิมสาหรบั ตาแหน่งที่มเี หตุพิเศษตาแหนง่ ผู้ปฏบิ ตั ิงาน ๘5 ดา้ นการสาธารณสขุ พ.ศ. ๒๕๔๘ ๙5 89 ระเบยี บ ก.ตร. ว่าดว้ ยเงนิ เพิ่มสาหรับตาแหนง่ ที่มีเหตพุ ิเศษตาแหน่งนักโดดร่ม 99 พ.ศ. ๒๕๔๙ ๘6 97 ระเบยี บ ก.ตร. ว่าด้วยเงินเพ่ิมสาหรบั ตาแหน่งที่มเี หตพุ เิ ศษตาแหน่งนักประดาน้า 1๐3 พ.ศ. ๒๕๔๙ 88 116 ระเบยี บ ก.ตร. ว่าดว้ ยเงนิ เพิ่มสาหรบั ตาแหนง่ ที่มีเหตพุ เิ ศษตาแหน่งผปู้ ฏิบตั งิ านกู้ภัย ๙1 พ.ศ. ๒๕๕๓ 110 108 ระเบยี บ ก.ตร. ว่าดว้ ยเงินเพิ่มสาหรับตาแหนง่ ท่ีมีเหตุพิเศษตาแหน่งผปู้ ฏบิ ตั งิ านทาลาย 113 วตั ถรุ ะเบดิ พ.ศ. ๒๕๔๙ 1๐1 118 ระเบียบ ก.ตร. ว่าดว้ ยเงนิ เพ่ิมสาหรับตาแหนง่ ท่ีมเี หตุพิเศษตาแหน่งผปู้ ฏิบัติงาน ๘2 ด้านนติ วิ ทิ ยาศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ 1๘1 1๘1 ระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยเงนิ เพิ่มสาหรบั ตาแหนง่ ที่มีเหตพุ เิ ศษตาแหนง่ ผู้ปฏิบัตงิ าน ดา้ นอารกั ขาบคุ คลสาคญั พ.ศ. ๒๕๕๕ ระเบยี บ ก.ตร. ว่าดว้ ยเงินเพ่ิมสาหรบั ตาแหนง่ ที่มเี หตพุ เิ ศษตาแหนง่ ผปู้ ฏบิ ตั หิ น้าที่ทางเรอื พ.ศ. ๒๕๔๙ ระเบยี บ ก.ตร. ว่าด้วยเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษสาหรับตาแหนง่ ผู้ปฏิบตั ิหน้าที่ดา้ นสอบสวน พ.ศ. ๒๕๕๙ ระเบยี บ ก.ตร. ว่าด้วยเงนิ เพ่ิมสาหรบั ตาแหนง่ ที่มเี หตพุ เิ ศษตาแหน่งผู้ทาการในอากาศ พ.ศ. ๒๕๔๙ ระเบียบ ก.ตร. วา่ ดว้ ยเงินเพ่ิมสาหรบั ตาแหนง่ ที่มีเหตุพเิ ศษตาแหนง่ ผู้ทาหนา้ ที่ต่อต้าน การก่อการรา้ ย พ.ศ. ๒๕๕๗ ระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยเงินเพ่ิมสาหรบั ตาแหน่งที่มีเหตุพิเศษตาแหน่งผทู้ าหนา้ ท่ีตรวจสอบ สานวนอยั การและให้ความเห็นทางกฎหมาย พ.ศ. ๒๕๕๗ ระเบยี บ ก.ตร. วา่ ดว้ ยเงนิ เพ่ิมสาหรบั ตาแหนง่ ทีมีเหตุพเิ ศษตาแหน่งผู้ทาหน้าท่ีนติ ิกร พ.ศ. ๒๕๕๘ ระเบยี บ ก.ตร. ว่าด้วยเงนิ เพิ่มสาหรับตาแหนง่ ท่ีมีเหตพุ ิเศษตาแหน่งผ้ทู าหน้าที่ปกครอง โรงเรยี น พ.ศ. ๒๕๕๔ ระเบียบ ก.ตร. ว่าดว้ ยเงินเพิ่มสาหรบั ตาแหน่งท่ีมีเหตพุ เิ ศษตาแหนง่ ผ้ทู าหนา้ ที่สอบสวนคดี พ.ศ. ๒๕๕๙ ระเบยี บ ก.ตร. วา่ ด้วยเงนิ เพ่ิมสาหรับตาแหน่งท่ีมีเหตพุ เิ ศษตาแหนง่ ผู้ปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ด้านปูองกันปราบปราม ด้านสบื สวน และดา้ นจราจร พ.ศ. ๒๕๔๘ ระเบยี บ ก.ตร. วา่ ดว้ ยทะเบียนประวตั แิ ละการควบคุมเกษียณอายุของข้าราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๔๗ ระเบียบ ก.ตร. ว่าดว้ ยทะเบยี นประวัตแิ ละการควบคุมเกษียณอายุของข้าราชการตารวจ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252