Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คำอธิบายการบริหารงานกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

คำอธิบายการบริหารงานกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

Published by mrnok, 2019-09-07 05:22:51

Description: คำอธิบายการบริหารงานกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

Search

Read the Text Version

40  อนุชัย ณ วัชรเจรญิ (๕) ขา้ ราชการตารวจผูส้ าเร็จหลกั สตู รการศึกษาหรือฝึกอบรมเพื่อแต่งตั้งเป็นข้าราชการตารวจ ชั้นสญั ญาบตั ร ตามหลกั สูตรท่สี านักงานตารวจแหง่ ชาตกิ าหนดโดยความเหน็ ชอบของ ก.ตร. ในระยะเริ่มแรก ใหถ้ อื วา่ หลกั สตู รการศกึ ษาและหลักสูตรการฝึกอบรมท่ีสานักงาน ตารวจแหง่ ชาตไิ ดก้ าหนดไว้ตามท่ีมีอยเู่ ดมิ เป็นหลักสตู รการศกึ ษาและหลกั สูตรการฝกึ อบรมท่ี ก.ตร. ใหค้ วามเห็นชอบไปพลางก่อน (๖) จ่าสิบตารวจหรือดาบตารวจ ซึง่ รบั เงินเดอื นไมต่ า่ กวา่ ประดบั ป. ๑ ขั้น ๗ และขณะมียศ เป็นจ่าสิบตารวจหรือดาบตารวจ ได้ปฏิบัติหน้าที่ผู้นาหน่วยเข้าทาการสู้รบเพื่อปูองกันอธิปไตย หรือรักษาความสงบเรียบรอ้ ยของประเทศทงั้ ภายในและภายนอกประเทศ และจากการปฏิบัติหน้าที่ ดงั กล่าวก่อใหเ้ กดิ ผลดแี กก่ ารปราบปรามจนได้รับพระราชทานเหรียญกล้าหาญ หรือเหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้น ๑ (๗) ข้าราชการตารวจผู้มีความรู้ความสามารถ และได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ จนเป็นท่ีประจักษ์ โดยให้ผู้บัญชาการตารวจแห่งชาตินาเสนอ ก.ตร. ให้ความเห็นชอบก่อนและมติ ก.ตร. ในการประชมุ ให้ความเหน็ ชอบตอ้ งเป็นเอกฉันท์ (๘) กรณมี ีเหตพุ ิเศษตามท่ี ก.ตร. กาหนด ข้าราชการตารวจที่อยู่ในระหว่างถูกสอบสวนพิจารณาทางวินัย หรือต้องหา หรือถูกฟูอง คดีอาญา เว้นแต่ความผิดลหุโทษหรือความผิดอันกระทาโดยประมาท หรือความผิดซึ่งถูกฟูอง อันเนือ่ งมาจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ให้รอการแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งและมียศไว้จนกว่าจะทราบ ผลการสอบสวนพจิ ารณา เมอ่ื ผลการสอบสวนหรือการพิจารณาถึงที่สดุ แลว้ ให้ดาเนนิ การดังน้ี (๑) กรณีที่ปรากฏว่าผู้นั้นมิได้กระทาผิดวินัย หรือได้กระทาผิดวินัยแต่ถูกลงโทษ ไมส่ งู กวา่ โทษภาคทัณฑ์ หรอื มิได้รบั โทษจาคกุ โดยคาพิพากษาถึงทีส่ ุดใหจ้ าคกุ หรือไม่มีกรณีท่ีจะต้อง ออกจากราชการตามมาตรา ๙๗ หรือมาตรา ๙๘ แห่งพระราชบัญญัติตารวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ ให้ดาเนินการแตง่ ตั้งใหด้ ารงตาแหนง่ และมียศได้ (๒) ในกรณีทีป่ รากฏว่ามคี วามผิดถกู ลงโทษสงู กวา่ ภาคทณั ฑ์ แตไ่ มถ่ ึงขั้นเป็นการกระทาผิด วินัยอย่างร้ายแรง ท่ีถูกลงโทษปลดออก หรือไล่ออก และไม่มีกรณีต้องออกจากราชการด้วยเหตุอ่ืน ตามมาตรา ๙๗ แห่งพระราชบัญญัติตารวจแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๗ ให้ดาเนินการแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง และมยี ศเมอ่ื ผนู้ น้ั ไดร้ บั โทษเรียบรอ้ ยแล้ว (๓) กรณีที่ปรากฏว่าผู้น้ันได้กระทาผิดวินัยอย่างร้ายแรง และต้องรับโทษปลดออก หรือไล่ออกจากราชการ หรือต้องรับโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุก หรือมีกรณีที่ต้อง ออกจากราชการตามมาตรา ๙๗ หรือมาตรา ๙๘ แห่งพระราชบัญญัติตารวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ ให้ระงบั การแตง่ ต้ังให้ดารงตาแหน่งและมียศ การแตง่ ต้งั ขา้ ราชการตารวจ กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยการแต่งต้งั ข้าราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๖๑ (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๕ ตอน ๓ ก วันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๑) สรุปสาระสาคัญตามกฎ ก.ตร. นี้ ให้ใช้บังคับในการคัดเลือก การทาความตกลงกัน การให้ความเห็นชอบและการแต่งตั้งข้าราชการตารวจให้ดารงตาแหน่งต้ังแต่ ระดบั จเรตารวจแห่งชาติและรองผ้บู ัญชาการตารวจแห่งชาตลิ งมาถงึ ผู้บังคับหมู่

คาอธิบายการบริหารงานกาลังพล สานักงานตารวจแหง่ ชาติ  41 “หน่วย” หมายความว่า สานักงานผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติและกองบัญชาการ หรือเทียบเทา่ ทีม่ ิไดส้ ังกัดสานักงานผู้บญั ชาการตารวจแห่งชาติ “หน่วยงาน” หมายความว่า กองบัญชาการหรือเทียบเท่าในสังกัดสานักงานผู้บัญชาการ ตารวจแห่งชาติ หรือกองบังคับการหรือเทียบเท่าหรือส่วนราชการท่ีเรียกชื่ออย่างอ่ืนท่ีอยู่ในสังกัด ของหน่วยที่มีหัวหน้าไม่ต่ากว่าระดับรองผู้บังคับการ ทั้งนี้ ไม่หมายความรวมถึงกองบังคับการ ในกองบัญชาการหรอื เทยี บเทา่ ในสงั กดั สานักงานผบู้ ญั ชาการตารวจแหง่ ชาติ “ภูมิภาค” หมายความว่า อาณาบริเวณท่ีอยู่ในพื้นท่ีรับผิดชอบของกองบัญชาการ ตารวจนครบาล หรือแตล่ ะตารวจภูธรภาค “ตาแหน่งเฉพาะทาง” หมายความว่า ตาแหน่งที่มีคุณสมบัติเฉพาะสาหรับตาแหน่ง ในกลุ่มงานเทคนิค ตาแหน่งควบปรับระดับเพิ่ม - ลดได้ในตัวเอง รวมถึงตาแหน่งอ่ืนตามท่ีสานักงาน ตารวจแหง่ ชาตกิ าหนด “ผู้มีอานาจ” หมายความว่า ผู้มีอานาจคัดเลือกหรือแต่งตั้งตามมาตรา ๕๓ แห่ง พระราชบญั ญัติตารวจแหง่ ชาติ พ.ศ.๒๕๔๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคาสง่ั หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔๔/๒๕๕๘ ลงวันท่ี ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ และมาตรา ๕๔ แห่งพระราชบัญญัติตารวจแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๗ ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเติมโดยคาสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ท่ี ๗/๒๕๖๐ ลงวันท่ี ๒๐ กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๐ “ตาแหน่งตั้งแต่ระดับจเรตารวจแห่งชาติและรองผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติลงมาถึง ผูบ้ งั คับหม”ู่ ให้หมายความรวมถึง ตาแหน่งเทียบเท่าที่เรียกช่ืออยา่ งอ่ืนตามท่ีกาหนดไว้ในกฎ ก.ตร. “ลาดับอาวุโส” หมายความว่า การจัดลาดับอาวุโสซ่ึงเป็นไปตามประกาศคณะรักษา ความสงบแห่งชาติ ฉบับท่ี ๘๙/๒๕๕๗ ลงวันท่ี ๑๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๗ การคัดเลือกหรือแต่งตั้งข้าราชการตารวจให้ดารงตาแหน่งต่างๆ ให้คานึงถึงหน้าที่ ความรับผิดชอบในการดูแลทุกข์สุขของราษฎรเป็นสาคัญ โดยยึดในหลักการที่ว่า ทุกพื้นที่ ในราชอาณาจักรไทยจาเป็นที่ข้าราชการตารวจมีภารกิจที่จะต้องปฏิบัติราชการทั้งสิ้น จึงให้ผู้มีอานาจ สามารถดาเนินการคดั เลือกหรือแตง่ ตั้งข้าราชการตารวจไปดารงตาแหน่งในลักษณะงานหรือพื้นที่อื่น ทต่ี า่ งจากเดมิ ได้ เพอื่ ให้ขา้ ราชการตารวจเกิดการเรยี นรู้ การทางานรอบด้าน หรือพื้นท่ีท่ีหลากหลาย อนั จะเกิดประโยชน์ต่อทางราชการ ใหม้ ีการคัดเลือกหรอื แต่งตัง้ ข้าราชการตารวจเปน็ สองวาระดังนี้ (๑) วาระท่ี ๑ เรยี กว่า “วาระประจาป”ี ใหด้ าเนนิ การคดั เลือกหรอื แต่งตง้ั ข้าราชการตารวจ ดงั น้ี (ก) ตาแหน่งระดบั ผู้บังคบั การถึงจเรตารวจแหง่ ชาตแิ ละรองผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ ให้แล้วเสรจ็ ภายในวันที่ ๓๑ สิงหาคมของทกุ ปี (ข) ตาแหนง่ ระดับสารวตั รถงึ รองผบู้ ังคับการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ของทุกปี (ค) ตาแหนง่ ระดับรองสารวัตรลงมา ใหแ้ ล้วเสร็จภายในวนั ที่ ๓๑ มกราคมของทกุ ปี

42  อนุชัย ณ วชั รเจรญิ (๒) วาระที่ ๒ เรยี กว่า “วาระเดือนเมษายน” ให้ดาเนินการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตารวจ ภายหลังจากการคัดเลือกแต่งต้ังตามข้อ ๗ (๑) (ก) โดยให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๐ เมษายนของทุกปี ดังน้ี (ก) ตาแหน่งท่ีปรึกษาพิเศษสานักงานตารวจแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สานักงาน ตารวจแห่งชาติ ผ้ทู รงคุณวุฒิสานกั งานตารวจแหง่ ชาตหิ รอื ทดแทนกนั (ข) ตาแหนง่ ระดบั ผบู้ ังคบั การข้นึ ไปท่วี ่างอยูห่ รือทดแทนกนั รวมถึงการคัดเลอื ก แต่งต้ัง สบั เปล่ียนหมุนเวียนในระดับตาแหน่งเทา่ เดิม การแต่งตั้งข้าราชการตารวจตามข้อ (๑) (ข) และ (ค) นอกวาระประจาปีจะกระทามิได้ เว้นแต่ เปน็ กรณีที่มีเหตุผลความจาเป็นต้องดาเนนิ การแต่งต้งั ซึ่งไมอ่ าจรอวาระประจาปีได้ โดยได้รับความเห็นชอบ จากผู้บัญชาการตารวจแห่งชาตกิ ่อน การคดั เลอื กหรอื การแตง่ ตงั้ ที่ไดเ้ ริ่มดาเนินการแต่ไม่แล้วเสร็จภายในเวลาตาม (๑) และ (๒) ใหผ้ บู้ ญั ชาการตารวจแห่งชาติเสนอ ก.ตร. เพอื่ ขอรับความเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการดาเนินการ และไมถ่ อื วา่ การดาเนนิ การทท่ี ามาแลว้ ตอ้ งเสียไป ให้ข้าราชการตารวจซ่ึงดารงตาแหน่งระดับรองผู้บงั คับการลงมา แจ้งภูมิลาเนาและจังหวัด ที่ครอบครัวพักอาศัยตามรูปแบบท่ีสานักงานตารวจแห่งชาติกาหนดไปยังหัวหน้าหน่วยต้นสังกัด ภายในวันท่ี ๓๑ กรกฎาคมของทุกปี ในกรณีที่ผู้ใดไม่ได้แจ้งภูมิลาเนาและจังหวัดที่ครอบครัวพักอาศัย หรือไม่ได้แจ้งเปล่ียนแปลง สถานที่ไปจากท่ีได้แจ้งไว้เดิมภายในระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าผู้น้ันมีภูมิลาเนาและจังหวัด ที่ครอบครัวพักอาศัย ณ ท่ีอยู่ ซ่ึงปรากฏตามหลักฐานของทางราชการหรือตามที่อยู่ท่ีได้แจ้งไว้เดิม แล้วแตก่ รณี โดยไมป่ ระสงค์ท่ีจะโต้แยง้ หรือเรียกร้องสิทธิจากผู้บังคับบัญชา ให้สานักงานตารวจแห่งชาติและหน่วยจัดทาลาดับอาวุโสของข้าราชการตารวจประกาศ ให้ข้าราชการตารวจในสังกัดทราบโดยทั่วกันล่วงหน้าก่อนที่จะดาเนินการคัดเลือกหรือแต่งตั้ง ทั้งน้ี ให้ขา้ ราชการตารวจท่ีเห็นว่าลาดับอาวุโสไม่ถูกต้องสามารถยื่นเร่ืองต่อผู้มีอานาจให้พิจารณาทบทวนได้ ภายในเจ็ดวันนับแต่วันประกาศอาวุโส หากพ้นกาหนดให้ถือว่าข้าราชการตารวจผู้นั้นไม่ประสงค์ ที่จะโต้แย้งหรือเรียกร้องสิทธจิ ากผู้บงั คับบัญชา การนบั ระยะเวลาการดารงตาแหน่ง ให้นบั ดังนี้ (๑) ข้าราชการตารวจที่ได้รับการแต่งตั้งในวาระประจาปีให้นับวาระการแต่งต้ังในปีถัดไป เปน็ หนง่ึ ปี ไมว่ า่ การแต่งตัง้ จะมผี ลเม่ือใด (๒) ข้าราชการตารวจที่ได้รับการแต่งตั้งในวาระเดือนเมษายนให้นับวาระการแต่งต้ัง เดอื นเมษายนในปถี ัดไปเป็นหน่ึงปี ไม่ว่าการแต่งตงั้ จะมผี ลเมื่อใด (๓) ขา้ ราชการตารวจทไี่ ด้รับการแต่งต้ังนอกเหนือจาก (๑) และ (๒) ใหน้ บั แบบวนั ชนวัน (๔) ข้าราชการตารวจที่ได้รับการบรรจุแต่งตั้งหรือแต่งตั้งเล่ือนชั้นเป็นช้ันสัญญาบัตร ครั้งแรก หากนับระยะเวลาตั้งแต่วันท่ีเริ่มเป็นข้าราชการตารวจชั้นสัญญาบัตรถึงวันท่ี ๓๐ กันยายน มีระยะเวลารวมแลว้ ไมน่ อ้ ยกวา่ แปดเดือน ใหน้ บั เปน็ หนึง่ ปี

คาอธบิ ายการบริหารงานกาลงั พล สานักงานตารวจแห่งชาติ  43 (๕) ข้าราชการตารวจที่สานกั งานตารวจแหง่ ชาติรบั โอนมาหรือบรรจุข้าราชการประเภทอ่ืน กลับเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตารวจในระดับรองสารวัตร ให้นับระยะเวลาการดารงตาแหน่งระดับ รองสารวัตร ต้ังแต่วันท่ีผู้นั้นเป็นข้าราชการชั้นตรีหรือระดับสามหรือประเภทวิชาการระดับปฏิบัติการ หรือข้าราชการทหารช้ันสัญญาบัตร สาหรับการรับโอนมาหรือบรรจุข้าราชการประเภทอ่ืนกลับเข้า รับราชการเป็นข้าราชการตารวจในระดับอื่น ให้นับระยะเวลาการดารงตาแหน่งในระดับน้ันต้ังแต่วันที่ รบั โอนหรือบรรจกุ ลบั แล้วแต่กรณี การนับจานวนตาแหน่งว่างในแต่ละระดับตาแหน่งเพ่ือนามาคานวณสัดส่วนจานวนตาแหน่ง ในการพิจารณาเล่ือนตาแหน่งสูงขึ้นเรียงตามลาดับอาวุโส ให้คานวณจากจานวนตาแหน่งว่างอันเกิดจาก การเกษียณอายุราชการ ลาออก เสียชีวิต ไล่ออก ปลดออก การกาหนดตาแหน่งใหม่ เป็นต้น ซ่ึงเป็นตาแหน่งว่างท่ีมีอยู่จริง ณ วันท่ีผู้มีอานาจจัดทาบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตาแหน่งสูงขึ้น ตามหมวด ๓ ส่วนท่ี ๑ ท้ังนี้ ในวันที่มีการประชุม ก.ตร. พิจารณาให้ความเห็นชอบหรือวันท่ีผู้มีอานาจ แต่งต้ังส่ังแต่งต้ัง แล้วแต่กรณี หากมีตาแหน่งว่างเพ่ิมขึ้นก็ให้นามาคานวณสัดส่วนจานวนตาแหน่ง ในการพจิ ารณาเลอื่ นตาแหนง่ สงู ขึ้นด้วย โดยหมายความรวมถึงจานวนตาแหน่งว่างท่ีเกิดข้ึนจากการ เลื่อนตาแหน่งทดแทนกนั ดว้ ย ท้ังนี้ ไม่ใหห้ มายความรวมถงึ ตาแหนง่ เฉพาะทาง ตาแหน่งทป่ี รึกษาพิเศษสานกั งานตารวจแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสานักงานตารวจแห่งชาติ และผู้ทรงคุณวุฒิสานักงานตารวจแห่งชาติ รวมถึงตาแหน่งที่จะคัดเลือกแต่งตั้งทดแทนตาแหน่ง ตามขอ้ ๒๘ (๕) มิให้นามานบั เป็นตาแหน่งวา่ งเพอื่ นามาคานวณสัดส่วนจานวนตาแหน่งในการพิจารณา เลอ่ื นตาแหนง่ สงู ข้นึ ตามวรรคหนึ่ง ขา้ ราชการตารวจระดับรองผูบ้ ังคบั การลงมาทีจ่ ะร้องขอรบั การแต่งตั้งสับเปล่ียนหมุนเวียน ในระดบั ตาแหนง่ เทา่ เดมิ ต้องมีคณุ สมบัติดังต่อไปน้ี (๑) มีระยะเวลาการดารงตาแหน่งคร้งั สุดทา้ ยไมน่ อ้ ยกวา่ สองปี (๒) ดารงตาแหนง่ ทไ่ี ด้รับการบรรจแุ ตง่ ตัง้ เป็นข้าราชการตารวจครั้งแรกหรือแต่งตั้งเล่ือนช้ัน เป็นข้าราชการตารวจช้ันประทวนหรอื ชน้ั สัญญาบัตรคร้งั แรกไมน่ ้อยกว่าสองปี (๓) ไม่อยูภ่ ายใตเ้ งอื่ นไขท้ายคาสัง่ บรรจแุ ตง่ ตั้งขา้ ราชการตารวจคร้ังแรก (๔) ไมอ่ ยรู่ ะหวา่ งการพจิ ารณาปรบั ใหไ้ ด้รับอตั ราเงนิ เดอื นตามคุณวฒุ ิ ผู้ดารงตาแหน่งหัวหน้าสถานีตารวจระดับผู้กากับการ เมื่อดารงตาแหน่งเดียวติดต่อกัน ครบส่ีปี ใหแ้ ต่งต้งั สับเปลย่ี นหมุนเวียนไปดารงตาแหน่งอน่ื ทกุ ราย การคัดเลือกหรือแต่งต้ังข้าราชการตารวจที่หมดความจาเป็นในการประจาหรือหมดเหตุ ในการสารองราชการ ใหอ้ อกจากราชการไวก้ ่อน หรอื ปลดออกจากราชการ หรือไล่ออกท่ีไม่ต้องตาม มาตรา ๘๗ แหง่ พระราชบัญญตั ิตารวจแหง่ ชาติ พ.ศ.๒๕๔๗ ใหด้ าเนนิ การดังนี้ (๑) ให้หน่วยต้นสังกัดเดิมของข้าราชการตารวจผู้น้ันเป็นผู้รับผิดชอบดาเนินการ เว้นแต่ ในกรณีที่ผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วยอื่นประสงค์รับตัวผู้นั้นไปดารงตาแหน่งในหน่วยของตน กใ็ ห้ทาความตกลงกัน (๒) ให้ดาเนินการในโอกาสแรกที่มีตาแหน่งในระดับเดียวกันกับตาแหน่งเดิมว่าง หากตาแหน่งท่ีว่างอยู่ไม่ตรงกับคุณสมบัติเฉพาะสาหรับตาแหน่งที่จะแต่งต้ังหรือไม่มีความเหมาะสม ให้แต่งตั้งผู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสาหรับตาแหน่งและหรือมีความเหมาะสม ไปดารงตาแหน่งท่วี ่างแลว้ จึงแตง่ ตงั้ ผ้ทู ร่ี อการแต่งตั้งไปดารงตาแหนง่ แทน

44  อนชุ ัย ณ วัชรเจรญิ (๓) หากหน่วยต้นสังกัดเดิมของข้าราชการตารวจผู้นั้นไม่มีตาแหน่งว่างรองรับ และไม่มีหน่วยอ่ืนประสงค์จะรับตัวผู้น้ันไปดารงตาแหน่งในสังกัด ให้ผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ พิจารณาตาแหนง่ ว่างในหนว่ ยอ่ืนเพื่อใช้รองรับการแตง่ ต้งั ไดต้ ามความเหมาะสมและให้หัวหน้าหน่วย ท่เี กย่ี วขอ้ งดาเนนิ การใหเ้ ป็นไปตามนน้ั การแต่งต้ังข้าราชการตารวจที่ได้รับอนุมัติหรืออนุญาตให้ลาศึกษาตามโครงการ หากไม่มีกรณี ท่ีต้องดาเนินการตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการส่ังให้ข้าราชการตารวจประจาสานักงานตารวจแห่งชาติ หรอื สว่ นราชการใดหรือสารองราชการในส่วนราชการใด ให้ดาเนินการแต่งตั้งข้าราชการตารวจผู้น้ัน ไปดารงตาแหน่งตามโครงการที่ได้รับอนุมั ติหรืออนุญาตให้ลาศึกษาทันทีที่สามารถดาเนินการ ได้ และผ้นู ั้นจะตอ้ งดารงตาแหนง่ ตามโครงการไม่น้อยกวา่ สองปี จงึ จะแต่งตั้งไปดารงตาแหน่งอื่นได้ ทงั้ นี้ หากตาแหน่งตามโครงการมีผู้ครองอยู่ ให้แต่งตั้งหรือเสนอขอแต่งต้ังผู้ครองตาแหน่ง ไปดารงตาแหน่งอ่นื เพอ่ื จะได้แต่งตงั้ ผทู้ ไี่ ดร้ บั อนมุ ัตหิ รืออนุญาตให้ลาศึกษาไปดารงตาแหน่งแทน การจัดทาบัญชขี ้อมลู ผเู้ หมาะสมเลอ่ื นตาแหน่งสงู ขนึ้ ให้ดาเนินการดงั น้ี (๑) ระดับผู้บังคับการถึงผู้บัญชาการ ให้หัวหน้าหน่วยในกองบัญชาการท่ีมิได้สังกัด สานักงานผู้บัญชาการตารวจแหง่ ชาติ หรือหวั หน้าหนว่ ยงานในสงั กัดสานักงานผบู้ ญั ชาการตารวจแหง่ ชาติ เปน็ ผู้จดั ทาบัญชีขอ้ มูลผเู้ หมาะสมเสนอไปยงั ผู้มอี านาจคดั เลือก (๒) ระดับสารวัตรถึงรองผู้บังคับการในสังกัดสานักงานผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ และท่ีมิได้สังกัดสานักงานผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ ให้หัวหน้าหน่วยงานเป็นผู้จัดทาบัญชีข้อมูล ผู้เหมาะสมเสนอไปยังผู้มอี านาจแตง่ ต้งั (๓) ส่วนราชการอย่างอ่นื นอกจาก (๑) และ (๒) ท่ีมรี ะดบั ต่ากว่ากองบังคับการหรือเทียบเท่า ลงมาและข้าราชการตารวจที่ขึ้นตรงต่อหัวหน้าหน่วย ให้หัวหน้าหน่วยนั้นจัดทาบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสม เสนอไปยังผู้มอี านาจแตง่ ต้งั การพิจารณาผู้เหมาะสมที่จะได้รับการเล่ือนตาแหน่งสูงขึ้นต้ังแต่ระดับสารวัตรถึงผู้บัญชาการ ให้พิจารณาโดยคานึงถึงอาวุโส ประวัติการรับราชการ ผลการปฏิบัติงานความประพฤติ และความรู้ ความสามารถประกอบกัน ท้งั น้ี ใหเ้ ปน็ ไปตามแนวทางที่สานกั งานตารวจแห่งชาติกาหนด ขา้ ราชการตารวจที่ประสงค์จะร้องขอรับการแต่งต้ังสับเปลี่ยนหมุนเวียนในระดับตาแหน่ง เท่าเดิม ให้ย่ืนคาร้องขอรับการแต่งต้ังพร้อมเอกสารประกอบการพิจารณา (ถ้ามี) เสนอต่อผู้บังคับบัญชา ตามลาดับช้ัน และให้หัวหน้าหน่วยนั้นพิจารณามีความเห็น แล้วให้ผู้มีอานาจแต่งต้ังที่ประสงค์จะแต่งต้ัง เปน็ ผู้ส่ังแตง่ ต้ัง ในกรณีท่ีมีข้าราชการตารวจร้องขอรับการแต่งตั้งสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปดารงตาแหน่ง ในหน่วยอ่ืนระหว่างกัน หากผู้มีอานาจประสงค์จะแต่งตั้งให้ทาความตกลงกัน แล้วให้ผู้มีอานาจแต่งตั้ง พจิ ารณาแตง่ ตัง้ ไปดารงตาแหนง่ ที่เหมาะสมภายในหน่วยท่ีร้องขอ การคดั เลอื กหรือแตง่ ต้งั ข้าราชการตารวจเลื่อนตาแหนง่ สูงข้ึนใหพ้ จิ ารณาดงั น้ี (๑) ข้าราชการตารวจที่จะคัดเลือกแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งต้ังแต่ระดับจเรตารวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติลงมาถึงระดับผู้บังคับการ ให้พิจารณาเรียงตามลาดับอาวุโส จานวนร้อยละสามสิบสามของจานวนตาแหน่งว่างในแต่ละระดับตาแหน่งในภาพรวมของสานักงาน ตารวจแหง่ ชาติ

คาอธิบายการบริหารงานกาลังพล สานกั งานตารวจแห่งชาติ  45 (๒) ข้าราชการตารวจที่จะแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งตั้งแต่ระดับรองผู้บังคับการลงมาถึง ระดับสารวัตร ให้พิจารณาเรียงตามลาดับอาวุโสจานวนร้อยละสามสิบสามของจานวนตาแหน่งว่าง ในแต่ละระดับตาแหน่งของหน่วยนั้น ทั้งนี้ ในการแต่งตั้งข้าราชการตารวจดังกล่าว ให้ใช้บังคับกับ การแต่งต้งั ขา้ ราชการตารวจซึ่งดารงตาแหน่งท่วั ไปที่มิใช่ตาแหน่งเฉพาะทาง เว้นแต่ผู้น้ันได้ดารงตาแหน่ง ระดบั สงู สุดของตาแหน่งเฉพาะทางในหนว่ ยน้ันแลว้ สาหรับการแต่งต้ังข้าราชการตารวจตาม (๒) ให้ดารงตาแหน่งเฉพาะทาง ให้พิจารณา เรียงตามลาดับอาวุโสจานวนร้อยละสามสิบสามของจานวนตาแหน่งว่างหรือกรอบตาแหน่งว่าง ในแต่ละระดับตาแหน่งตามลักษณะหน้าที่หรือลักษณะงานของตาแหน่งนั้นๆ เว้นแต่เป็นการแต่งตั้ง เลื่อนตาแหน่งสูงขึ้นตามกรอบตาแหน่งว่างที่มีการกาหนดไว้ในหลักเกณฑ์และวิธีการประเมิน เป็นการเฉพาะ ให้เปน็ ไปตามนน้ั (๓) ตาแหน่งว่างท่ีเหลือจากการพิจารณาตาม (๑) และ (๒) ให้ถือว่าผู้เหมาะสมท่ีจะได้รับ การพจิ ารณาเล่ือนตาแหนง่ สูงขนึ้ ทกุ ราย เป็นผ้มู ีสทิ ธิได้รับการพิจารณาโดยเท่าเทียมกัน การพิจารณา เล่ือนตาแหน่งสูงขึ้นตาม (๑) (๒) และ (๓) ให้พิจารณาคัดเลือกหรือแต่งตั้งได้เฉพาะผู้ท่ีมีรายชื่อ ตามท่ีปรากฏอยู่ในบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเท่าน้ัน ยกเว้นการคัดเลือกหรือแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง ระดับผู้ช่วยผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติข้ึนไป นายเวร ผู้ช่วยนายเวร หรือนายตารวจราชสานักประจา หรือเป็นการคัดเลือกหรือแต่งตั้งนายเวร ผู้ช่วยนายเวร หรือนายตารวจราชสานักประจาเล่ือนตาแหน่ง สงู ขึ้น การคานวณจานวนตาแหน่งตาม (๑) และ (๒ ) ให้ถือจานวนเต็มท่ีคานวณได้เป็น สดั สว่ นจานวนตาแหนง่ การพจิ ารณาเรียงตามลาดับอาวุโสของผู้เหมาะสม ทั้งนี้ มิให้ปัดเศษทศนิยม เป็นจานวนเตม็ ในกรณที ี่เป็นการแต่งตั้งเล่ือนตาแหน่งสูงขึ้นระดับรองผู้บังคับการลงมาข้ามหน่วย ให้พิจารณาแต่งตั้งได้ไม่เกินร้อยละห้าสิบของจานวนตาแหน่งว่างตามข้อ ๑๑ ในแต่ละระดับของหน่วย ผู้มีอานาจสัง่ แต่งตั้ง (๔) ข้าราชการตารวจท่ีจะคัดเลือกแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่ง ที่ปรึกษาพิเศษสานักงาน ตารวจแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสานักงานตารวจแห่งชาติ และผู้ทรงคุณวุฒิสานักงานตารวจแห่งชาติ ให้พิจารณาเรียงตามลาดับอาวุโสและมีคุณสมบัติเป็นไปตามข้อ ๑๖ วรรคสองจนครบกรอบจานวน ตาแหน่ง (๕) ตาแหนง่ วา่ งทีเ่ หลือจากการพจิ ารณาตาม (๔) ผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติสามารถ คัดเลือกรายชื่อข้าราชการตารวจท่ีมีคุณสมบัติครบถ้วนและมีความเหมาะสมท่ีจะได้รับการเลื่อน ตาแหน่งสูงข้ึน ให้ดารงตาแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสานักงานตารวจแห่งชาติและผู้ทรงคุณวุฒิ สานักงานตารวจแห่งชาติท่ีว่างและทดแทนกันได้ แต่ท้ังน้ีต้องไม่เกินกรอบจานวนร้อยละห้าสิบของ จานวนตาแหนง่ วา่ งในแต่ละระดับตาแหน่ง โดยมใิ หป้ ัดเศษทศนยิ มเป็นจานวนเตม็ ข้าราชการตารวจ ผใู้ ดท่ไี ดร้ ับการคัดเลือกแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งดังกล่าว เมื่อถึงวาระตามข้อ ๗ (๑) (ก) ให้ผู้มีอานาจ ดาเนินการคัดเลือกแต่งตั้งผู้นั้นไปดารงตาแหน่งอ่ืนทุกราย โดยห้ามมิให้คัดเลือกแต่งตั้งไปดารงตาแหน่ง ที่ปรึกษาพิเศษสานักงานตารวจแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสานักงานตารวจแห่งชาติ และผู้ทรงคุณวุฒิ สานักงานตารวจแห่งชาติ เพือ่ ให้รองรบั การคัดเลอื กแตง่ ตั้งผู้มคี ุณสมบัติ

46  อนชุ ยั ณ วัชรเจรญิ การแต่งตั้งนายเวรและหรือผู้ช่วยนายเวรของผู้บังคับบัญชาระดับผู้ช่วยผู้บัญชาการ ตารวจแห่งชาติข้ึนไปและผู้บัญชาการประจาสานักงานผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติหรือจเรตารวจ ไปดารงตาแหน่งอ่ืน ให้ผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติมีอานาจพิจารณาจัดสรรตาแหน่งในหน่วยต่างๆ เพื่อใช้รองรับการแต่งตั้ง แล้วให้หน่วยที่เก่ียวข้องแต่งต้ังไปดารงตาแหน่งในสังกัดตามขั้นตอนของ กฎหมายตอ่ ไปโดยให้พจิ ารณาดงั นี้ (๑) กรณีผู้บังคับบัญชาเล่ือนตาแหน่งสูงขึ้น ให้แต่งต้ังผู้น้ันไปดารงตาแหน่งในหน่วยเดิม เปน็ ลาดับแรก หากมีตาแหน่งไม่เพียงพอรองรับการแต่งตั้งหรือกระทบกับการบริหารงานบุคคลของ หนว่ ยเดมิ ให้ผ้บู ัญชาการตารวจแหง่ ชาติพิจารณาจดั สรรตาแหนง่ ในหนว่ ยอ่ืนไดต้ ามความเหมาะสม (๒) กรณีผู้บังคับบัญชาพ้นจากราชการไม่ว่ากรณีใดให้ผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ พจิ ารณาจัดสรรตาแหน่งในหน่วยตา่ งๆ ได้ตามความเหมาะสม การกาหนดลาดบั อาวุโสของข้าราชการตารวจในการรักษาราชการแทน ระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยการกาหนดลาดับอาวุโสของข้าราชการตารวจในการรักษาราชการแทน พ.ศ.๒๕๕๗ กรณีท่ีมีผู้ดารงตาแหน่งรอง หรือผู้ช่วยหลายคน ให้ถือลาดับอาวุโสของผู้ดารงตาแหน่งรอง หรอื ผู้ชว่ ยที่จะรักษาราชการแทนตามลาดับดงั น้ี 1. ผู้มียศสูงกว่า (ไม่รวมถึงยศท่ีได้รับจากการแต่งตั้งเป็นกรณีพิเศษ) เป็นผู้มีลาดับ อาวุโสสงู กว่า 2. ถ้ามียศเทา่ กัน ใหผ้ ู้ท่ดี ารงตาแหนง่ ระดับนั้นในกรมตารวจและสานักงานตารวจแห่งชาติ นานกวา่ เปน็ ผูม้ ีลาดบั อาวโุ สสูงกว่า ๓. ถ้าดารงตาแหน่งตาม (2) นานเท่ากัน ให้ผู้ที่ดารงตาแหน่งระดับถัดลงไปนานกว่า ตามลาดับจนถึงตาแหน่งระดับรองสารวัตร เป็นผู้มีลาดับอาวุโสสูงกว่า ตาแหน่งถัดลงไปให้หมายความ รวมถึงตาแหน่งระดับผู้ช่วยผู้บัญชาการและสารวัตรใหญ่ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการตารวจ พ.ศ. 2521 ด้วย ๔. ถา้ ดารงตาแหน่งระดับถดั ลงไปตาม (3) นานเท่ากัน ให้ผู้ท่มี รี ะยะเวลาการดารงตาแหน่ง ชั้นสัญญาบตั รนานกวา่ เป็นผ้มู ลี าดับอาวุโสสูงกวา่ ๕. ถ้ามีระยะเวลาการดารงตาแหน่งช้ันสัญญาบัตรนานเท่ากัน ให้ผู้ท่ีมีอายุมากกว่า เปน็ ผมู้ ีลาดบั อาวุโสสงู กว่า สาหรับข้าราชการตารวจทถี่ กู ประจาหรือสารองราชการในระดับตาแหน่งใด ให้ถือว่ายังคง ดารงตาแหน่งระดับน้นั ตลอดระยะเวลาทป่ี ระจาหรือสารองราชการ ระยะเวลาการดารงตาแหน่งให้หมายความรวมถึงระยะเวลาการปฏิบัติงานเป็นทวีคูณของ ข้าราชการตารวจผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการ ตามหลักเกณฑ์การนับระยะเวลาการปฏิบัติงานเป็นทวีคูณของข้าราชการตา รวจผู้ปฏิบัติงาน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามมติ ก.ตร. ในการประขุมครั้งท่ี 4/2553 เม่ือวันท่ี 14 มิถุนายน 2553 ในระดบั ตาแหน่งน้นั ๆ ด้วย

คาอธบิ ายการบริหารงานกาลังพล สานกั งานตารวจแหง่ ชาติ  47 กรณีทไี่ มม่ ผี ูด้ ารงตาแหนง่ รองหรือผ้ชู ่วย หรือมแี ต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้ข้าราชการตารวจ ชนั้ สัญญาบัตรทดี่ ารงตาแหน่งในส่วนราชการหรือหน่วยงานน้ัน เป็นผู้รักษาราชการแทนตามลาดับอาวุโส ดังนี้ (1) ผูท้ ่ีมีระดบั ตาแหนง่ สงู สดุ ในขณะนัน้ (2) ถา้ มผี ้ดู ารงตาแหนง่ ตาม (๑) หลายคน ให้ถือลาดับอาวโุ ส ตามข้อ ๑ - ๕ ตามลาดบั การโอน ระเบียบสานักงานตารวจแห่งชาติว่าด้วยประมวลระเบียบการตารวจไม่เก่ียวกับคดี ลักษณะท่ี ๘ การโอน พ.ศ. ๒๕๕๖ ลงวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖ กาหนดการโอนข้าราชการซึ่ง ไม่ใช่ข้าราชการตารวจหรือการโอนพนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินมาบรรจุและแต่งตั้งเป็น ข้าราชการตารวจ ให้ดาเนินการตามกฎหมายว่าด้วยตารวจแห่งชาติ และกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการโอน ข้าราชการซึ่งไม่ใช่ข้าราชการตารวจหรือการโอนพนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาบรรจุ และแต่งต้ังเปน็ ขา้ ราชการตารวจ หลักฐานเพื่อประกอบการพิจารณาการโอน มีดังนี้ ๑. รูปถา่ ย ครึ่งตัว หนา้ ตรงไมส่ วมหมวกและแว่นตาสีเข้ม ขนาด ๑.๕ x ๒ น้ิว จานวน ๓ รูป ซง่ึ ถา่ ยมาแลว้ ไม่เกนิ ๖ เดอื น ๒. สาเนาทะเบียนบ้าน สาเนาบัตรประจาตัวเจ้าหน้าท่ีของรัฐ และสาเนาบัตรประจาตัว ประชาชน ๓. ผลการตรวจร่างกายจากโรงพยาบาลตารวจ ซง่ึ ตรวจมาแล้วไม่เกิน ๖ เดือน ๔. ผลการตรวจสอบประวัติและลายพิมพ์นิ้วมือจากสถานีตารวจที่ผู้สมัครมีภูมิลาเนาอยู่ ซง่ึ ตรวจมาแลว้ ไมเ่ กนิ ๖ เดือน ๕. แบบบันทึกขอ้ มลู บุคคลตามท่สี านักงานตารวจแห่งชาติกาหนด ๖. ประวัติการรับราชการ จานวน ๒ ชุด โดยมีเจ้าหน้าท่ีผู้รับผิดชอบเก่ียวกับประวัติของ ส่วนราชการนัน้ ๆ เปน็ ผู้รบั รอง การโอนข้าราชการตารวจไปรับราชการในส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่น ให้ผู้บัญชาการ ตารวจแห่งชาติเป็นผู้มีอานาจพิจารณาและให้ความยินยอมการโอนข้าราชการตารวจไปรับราชการ ในส่วนราชการหรือหนว่ ยงานอืน่ เม่ือมีส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่นขอรับโอนข้าราชการตารวจผ่านสานักงานตารวจแห่งชาติ หรือหน่วยงานตันสังกัดได้โดยตรง ให้ผู้บังคับบัญชาหน่วยงานตันสังกัดพิจารณามีความเห็นเสนอ ตามลาดับช้ันถึงสานักงานตารวจแห่งชาติ (ผ่านสานักงานกาลังพล) ภายใน ๓๐ วัน โดยหากเห็นว่า ไม่เกิดความเสียหายต่อทางราชการและไม่ขัดข้องท่ีจะให้โอน ให้ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ พร้อมแนบ สาเนาประวตั กิ ารรับราชการและเอกสารหลกั ฐานทเี่ กยี่ วขอ้ งของขา้ ราชการตารวจผ้ขู อโอนดังนี้ ๑. ยศ ชื่อตัว ชอื่ สกลุ ตาแหน่ง เลขที่ตาแหน่งและสงั กัดที่ถกู ต้อง ๒. อตั ราเงนิ เดอื นระดบั ใด ขัน้ ใด มีเงนิ เพ่มิ พิเศษอน่ื ๆ หรอื ไม่ อยา่ งไร ๓. คุณวฒุ ิและสถาบันการศึกษา

48  อนชุ ยั ณ วชั รเจรญิ ๔. มีเงื่อนไขจะต้องอยู่ปฏิบัติราชการในสานักงานตารวจแห่งชาติหรือมีข้อผูกพันอื่นๆ กบั ทางราชการหรือไม่ อยา่ งไร ๕. เหตุผลและความจาเป็นในการขอโอน ๖. ความประพฤติ ความร้แู ละความสามารถในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทร่ี าชการ ๗. เคยหรืออยู่ระหว่างต้องโทษ หรือต้องหาคดีอาญา หรือถูกฟูองในคดีอาญา คดีแพ่ง หรือคดลี ้มละลายหรอื ไม่อย่างไร ๘. เป็นสมาชกิ กองทนุ บาเหนจ็ บานาญข้าราชการหรือไม่ อยา่ งไร ในระหวา่ งดาเนนิ การโอนให้หนว่ ยงานตนั สังกดั ของข้าราชการตารวจผขู้ อโอนปฏิบตั ิดังนี้ ๑. ให้ใช้ดุลยพินจิ ในการมอบหมายงานให้กับข้าราชการตารวจผู้ขอโอนปฏิบตั ิ ๒. การส่ังเลอ่ื นยศ เล่อื นข้นั เงนิ เดือน และอน่ื ๆ ก่อนทีจ่ ะออกคาส่งั ให้ประสานตรวจสอบกับ สานักงานกาลังพลและส่วนราชการหรือหน่วยงานท่ีขอรับโอนให้ได้ช้อยุติก่อนว่า ส่วนราชการหรือ หนว่ ยงานท่ขี อรับโอนจะดาเนินการออกคาสั่งรับโอนเม่ือใด ทั้งนี้เพื่อปูองกันมิให้เกิดปัญหาต้องแก้ไข หรือถอนชอื่ ข้าราชการตารวจผนู้ น้ั ออกจากคาสงั่ ซงึ่ อาจสง่ ผลกระทบต่องานด้านบรหิ ารงานบุคคลได้ ๓. ในกรณีทขี่ า้ ราชการตารวจผ้ขู อโอนมกี ารเปลี่ยนแปลงสถานภาพ เชน่ ยศ ชอ่ื ตวั ช่ือสกลุ ตาแหนง่ สงั กัด อตั ราเงนิ เดอื นฯลฯ ใหแ้ จง้ ให้สานักงานกาลงั พลทราบโดยดว่ นพร้อมด้วยเอกสารหลักฐาน ท่ีเก่ียวขอ้ ง การโอนขา้ ราชการซึ่งไมใ่ ช่ข้าราชการตารวจหรือการโอนพนักงานของ องค์การปกครองส่วนทอ้ งถิน่ มาบรรจุและแตง่ ตง้ั เปน็ ข้าราชการตารวจ กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยการโอนขา้ ราชการซ่ึงไมใ่ ชข่ า้ ราชการตารวจหรือการโอนพนักงานขององค์การ ปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินมาบรรจแุ ละแต่งตั้งเป็นข้าราชการตารวจ พ.ศ.๒๕๔๗ (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๑ ตอนพิเศษ ๑๙ ก วันท่ี ๔ พฤษภาคม ๒๕๔๗) และกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการโอนข้าราชการซ่ึงไม่ใช่ ข้าราชการตารวจหรือการโอนพนักงานขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นมาบรรจุและแต่งต้ังเป็น ขา้ ราชการตารวจ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๖๑ (ราชกจิ จานุเบกษา เลม่ ๑๓๖ ตอน ๔ ก วนั ท่ี ๗ มกราคม ๒๕๖๒) ผู้ที่จะโอนมารับราชการตารวจ ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๔๘ และต้องมี คณุ สมบตั เิ ฉพาะสาหรับตาแหน่งตามที่ ก.ตร. กาหนดไว้ตามมาตรา ๔๕ หรือได้รับอนุมัติจาก ก.ตร. ตามมาตรา ๕๙ ให้ผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วยงานท่ีมีผู้ย่ืนคาขอโอน พิจารณารับโอนโดยคานึงถึงอายุตัว อายุราชการ ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ ความชานาญงานของผู้ขอโอนเปรียบเทียบกับ ขา้ ราชการตารวจผู้รับราชการในหนว่ ยงาน และประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รบั เป็นสาคัญ เม่ือพจิ ารณาแล้ว เห็นว่าการรับโอนผู้นนั้ มารบั ราชการทางสงั กัดแล้วจะเกิดประโยชน์ต่อทางราชการ ให้เสนอตาแหน่ง ช้นั ยศ และอตั ราเงนิ เดือนทจี่ ะใชร้ องรับการโอน พร้อมทั้งรวบรวมรายละเอียดข้อมูล หลักฐานต่างๆ เก่ียวกับประวัติการรับราชการ และประวัติส่วนตัว หน้าที่การงานของตาแหน่งท่ีจะรับโอน เหตุผล ความจาเปน็ ทต่ี ้องรบั โอน ไปให้สานกั งานตารวจแหง่ ชาตพิ ิจารณา

คาอธบิ ายการบรหิ ารงานกาลงั พล สานกั งานตารวจแห่งชาติ  49 การพิจารณาเก่ียวกับ ตาแหน่ง ชั้นยศ และอัตราเงินเดือนที่จะรับโอนมาบรรจุแต่งตั้งเป็น ขา้ ราชการตารวจ ให้พจิ ารณาดังนี้ (๑) ตาแหน่ง ใหพ้ จิ ารณาตาแหน่งท่จี ะรับโอนมาบรรจุและแต่งตั้ง ตามเหตุผลความจาเป็น ของการรบั โอน (๒) ช้ันยศ ให้พิจารณาว่าหากผู้ขอโอนเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตารวจมาต้ังแต่ เริ่มแรกจนถึงวันที่จะรับโอนมาเป็นข้าราชการตารวจ จะได้รับยศช้ันใดตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีการแตง่ ต้งั ยศ ก็ให้รับยศนน้ั ทง้ั น้ตี ้องสอดคลอ้ งกบั ตาแหนง่ ทจ่ี ะรบั โอนดว้ ย (๓) เงินเดือน ให้ได้รับอัตราเงินเดือนไม่สูงกว่าอัตราเงินเดือนที่ได้รับขณะรับราชการ ทางสงั กัดเดิมก่อนโอน เพอื่ ประโยชนใ์ นการนับเวลาราชการ ใหถ้ ือเวลาราชการหรือเวลาทางานของผู้ท่ีจะขอโอน ในขณะท่ีเป็นข้าราชการประเภทอื่นหรือพนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นเวลาราชการ ของขา้ ราชการตารวจตามพระราชบัญญัตนิ ดี้ ว้ ย การทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการทดลองปฏิบัติหน้าท่ีราชการ พ.ศ.๒๕๔๗ (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๑ ตอน ๗๒ ก วันท่ี ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๗) ให้ผู้ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตารวจ ตามมาตรา ๕๐ ทดลองปฏิบัติหน้าท่ีราชการในตาแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเวลาหกเดือนนับแต่ วันเข้าปฏิบัติหน้าที่ราชการเป็นต้นไป ยกเว้นผู้ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการเพ่ือเข้ารับการศึกษา หรือเข้ารับการฝึกอบรมในสถานศึกษาของสานักงานตารวจแห่งชาติ เพื่อคัดเลือกและแต่งตั้งให้ ดารงตาแหนง่ และมียศตามมาตรา ๕๒ ไมต่ ้องทดลองปฏบิ ัตหิ นา้ ทร่ี าชการ ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาดาเนินการในเรื่องการทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการอย่างจริงจัง มีความเที่ยงธรรมและได้มาตรฐานในอันท่ีจะให้การทดลองปฏิบัติหน้าท่ีราชการเป็นกระบวนการ เลือกสรรบุคคลเข้ารับราชการอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ให้ผู้บังคับบัญชาชั้นต้น เป็นผู้มีหน้าที่ควบคุมดูแลการทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ และประเมินผลการทดลองปฏิบัติหน้าท่ีราชการของผู้ทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ จานวน ๑ ครั้ง เมื่อครบกาหนดหกเดือนตามที่กาหนด ตามแบบการประเมินผลการทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการที่ สานกั งานตารวจแหง่ ชาติกาหนด ให้ผู้มีหน้าที่ดูแลการทดลองปฏิบัติหน้าท่ีราชการ มอบหมายงานให้ผู้ทดลองปฏิบัติหน้าที่ ราชการปฏิบัติ และแจ้งให้ผู้ทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการทราบอย่างชัดเจนเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติงาน การประพฤติตน รายการประเมิน วิธีการประเมิน และมาตรฐานหรือเกณฑ์การประเมินผลการทดลอง ปฏิบัติหน้าทร่ี าชการ ใหผ้ ูท้ ดลองปฏิบตั หิ นา้ ทรี่ าชการทารายงานการปฏิบตั ิหนา้ ทร่ี าชการของตนเสนอผู้มีหน้าที่ ดแู ลการทดลองปฏบิ ตั หิ นา้ ทร่ี าชการ ตามแบบและวธิ ีการทสี่ านกั งานตารวจแห่งชาติกาหนด

50  อนุชัย ณ วัชรเจรญิ การรายงานผลการทดลองปฏบิ ตั ิหนา้ ท่รี าชการ มี ๒ กรณี คอื (๑) การรายงานว่าควรให้ผู้ทดลองปฏิบัติหน้าท่ีราชการรับราชการต่อไป เพราะผู้นั้น ผ่านการประเมินผลการทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการตามเกณฑ์ท่ีกาหนดโดยมีคะแนนรวมสรุปแล้ว ไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ ๖๐ (๒) การรายงานว่าควรให้ผู้ทดลองปฏิบัติหน้าท่ีราชการออกจากราชการ เพราะผู้น้ัน ไม่ผ่านการประเมินผลการทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการตามเกณฑ์ที่กาหนด โดยมีคะแนนรวมสรุปแล้ว ไมถ่ งึ ร้อยละ ๖๐ การรายงานว่าควรให้ผู้ทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการรับราชการต่อไปหรือควรให้ผู้ทดลอง ปฏบิ ัติหน้าท่ีราชการออกจากราชการ ให้รายงานเมื่อผู้น้ันทดลองปฏิบัติหน้าท่ีราชการครบหกเดือน ตามที่กาหนด โดยให้ผู้บังคับบัญชาชั้นต้นรายงานผลการทดลองปฏิบัติหน้าท่ีราชการของผู้นั้น ต่อผู้บังคับบัญชาชั้นเหนือขึ้นไปตามลาดับจนถึงผู้มีอานาจส่ังบรรจุ ตามแบบรายงานผลการทดลอง ปฏิบตั ิหนา้ ท่รี าชการท่ีสานักงานตารวจแหง่ ชาติกาหนด ภายในเจ็ดวันนับแต่วันได้รับรายงาน ให้ผู้บังคับบัญชาชั้นเหนือข้ึนไปแต่ละระดับรายงาน ตามลาดบั ชั้นจนถึงผู้มีอานาจส่งั บรรจุ ถ้ามีขอ้ สังเกตให้รายงานข้ึนไปประกอบการพิจารณาส่ังการของ ผู้มีอานาจสั่งบรรจดุ ว้ ย เม่ือผู้มอี านาจสงั่ บรรจไุ ดร้ ับรายงานผลการทดลองปฏิบตั หิ น้าทร่ี าชการแล้วให้ดาเนนิ การดังน้ี (๑) ในกรณีท่ีเห็นว่าควรให้ผ้นู ั้นรบั ราชการต่อไปได้ ให้สง่ั ให้ผู้น้ันรับราชการต่อไป แล้วแจ้ง ใหผ้ ู้ทดลองปฏบิ ัติหน้าทีร่ าชการทราบ (๒) ในกรณีท่ีเห็นว่าไม่ควรให้ผู้น้ันรับราชการต่อไป ให้มีคาส่ังให้ผู้นั้นออกจากราชการ ภายในเจด็ วนั ทาการนบั แตว่ ันทไี่ ดร้ ับรายงาน การนับเวลาทดลองปฏิบัติหน้าท่ีราชการเป็นเดือนตาม กฎ ก.ตร. น้ี ให้นับวันท่ีผู้ทดลอง ปฏบิ ัติหน้าที่ราชการไม่ได้มาปฏิบัติงานรวมเป็นเวลาทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วย และให้นับวัน เข้าปฏิบัติหน้าท่ีราชการวันแรกเป็นวันเร่ิมต้น และนับวันก่อนหน้าที่จะถึงวันท่ีตรงกับวันเร่ิมต้นนั้น ของเดือนสุดท้ายแห่งระยะเวลาเป็นวันส้ินสุดระยะเวลา ถ้าไม่มีวันตรงกันในเดือนสุดท้าย ให้ถือเอา วันสุดทา้ ยของเดอื นนั้นเป็นวันส้ินสุดระยะเวลา การประเมินผลการปฏิบัติราชการ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและระยะเวลาการประเมินผลการปฏิบัติราชการของ ข้าราชการตารวจ พ.ศ.๒๕๔๗ (ราชกิจจานเุ บกษา เล่ม ๑๒๑ ตอนพิเศษ ๓๓ ก วนั ที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๔๗) กฎ ก.ตร. นี้ มีหลกั การทีจ่ ะประเมนิ ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธิผลการปฏบิ ัตริ าชการของขา้ ราชการตารวจ บนพืน้ ฐานของผลสาเร็จและผลสัมฤทธข์ิ องงานเป็นหลัก การประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการตารวจ มีวัตถุประสงค์เพ่ือให้ผู้บังคับบัญชา ใช้เป็นเคร่ืองมือในการปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติราชการและนาผลการประเมิน ไปใชเ้ ปน็ ข้อมลู ประกอบการพิจารณาแต่งตัง้ และเล่ือนเงนิ เดอื น

คาอธบิ ายการบรหิ ารงานกาลังพล สานักงานตารวจแหง่ ชาติ  51 การประเมินผลการปฏบิ ตั ิราชการของขา้ ราชการตารวจ ให้ประเมินจากผลงานและคุณลักษณะ ผูป้ ฏบิ ัติราชการดงั น้ี (๑) การประเมินผลงานให้พจิ ารณาจากองคป์ ระกอบดงั ต่อไปน้ี (ก) ปรมิ าณงาน (ข) คุณภาพของผลงาน (ค) ความทันเวลา (ง) ผลลพั ธ์ ประโยชน์ในการนาไปใช้และประสิทธิผลของงาน (จ) การประหยัดทรัพยากรหรอื ความคุม้ คา่ ของผลงาน (๒) การประเมนิ คณุ ลกั ษณะผ้ปู ฏิบัตริ าชการ ใหพ้ จิ ารณาจากองคป์ ระกอบดงั ต่อไปนี้ (ก) ความสามารถและความอตุ สาหะในการปฏิบัตริ าชการ (ข) การรักษาวินัย (ค) การปฏบิ ตั ติ นเหมาะสมกบั การเป็นข้าราชการตารวจ (ง) ความคดิ รเิ ริ่ม การสรา้ งสรรค์ และงานเชิงรกุ สานกั งานตารวจแห่งชาติ อาจกาหนดให้มีองค์ประกอบการประเมินอ่ืนๆ เพ่ิมเติม ได้ตาม ความเหมาะสมของลักษณะภารกิจและสภาพการปฏิบัติราชการของข้าราชการตารวจในตาแหน่งต่างๆ โดยให้กาหนดตัวชี้วัดขององค์ประกอบการประเมิน รวมท้ังแบบประเมินผลการปฏิบัติราชการของ ขา้ ราชการตารวจ ให้ชัดเจน เป็นรปู ธรรม ให้มีการกาหนดข้อตกลงเก่ียวกับผลการปฏิบัติราชการร่วมกันระหว่างผู้ประเมินและผู้รับ การประเมิน เช่น แผนงาน โครงการ กิจกรรม หรือผลงานที่กาหนดในการมอบหมายงาน เป็นต้น ท้ังน้ี ให้คานึงถึงข้อตกลงผลการบริหารงานของสานักงานตารวจแห่งชาติหรือภารกิจหลักที่ได้มีการ กาหนดไว้ดว้ ย ใหป้ ระเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการตารวจ ปีละ ๒ ครงั้ ตามรอบปีงบประมาณ คือ คร้ังที่ ๑ ระหว่างวนั ที่ ๑ ตลุ าคม ถึง ๓๑ มนี าคม ของปีถดั ไป คร้งั ท่ี ๒ ระหวา่ งวันท่ี ๑ เมษายน ถึง ๓๐ กันยายน ของปีเดียวกัน การประเมนิ ผลการปฏิบัติราชการ ให้มีสัดส่วนคะแนนการประเมินจากผลงานไม่น้อยกว่า ร้อยละ ๗๐ และแบ่งกลุ่มผลการประเมินไม่น้อยกว่า ๓ กลุ่ม เช่น กลุ่มสูงกว่ามาตรฐานกลาง กลุ่มอยู่ใน มาตรฐานกลาง และกลุม่ ตา่ กวา่ มาตรฐานกลาง เป็นตน้ โดยใหผ้ บู้ ังคับบัญชา จัดทาบัญชีรายช่ือผู้ที่มี ผลการประเมินไวใ้ ห้ชัดเจนทุกครงั้ ทีม่ กี ารประเมิน ให้มกี ารแจ้งการประเมนิ และผลการประเมิน การเปิดโอกาสให้เข้าพบเพื่อปรึกษาหารือแนะนา เกี่ยวกับการประเมินและผลการประเมิน การประกาศรายชื่อผู้ที่มีผลการประเมินอยู่ในกลุ่มสูงกว่า มาตรฐานกลางในท่ีเปิดเผย ให้มีคณะกรรมการพิจารณาผลการประเมิน เพ่ือทาหน้าที่พิจารณาคาร้องทุกข์ของผู้รับ การประเมนิ ทเี่ หน็ วา่ ผลการประเมินของตนไมเ่ ป็นไปตามข้อเท็จจริง เม่ือเสร็จส้ินการประเมินผลการปฏิบัติราชการแต่ละครั้งแล้ว ให้ผู้บังคับบัญชา หรือผู้ประเมิน นาผลการประเมินไปใช้ประกอบการให้คาปรึกษาแนะนาแก่ผู้รับการประเมินเพ่ือให้มีการแก้ไข ปรับปรุง พัฒนาการปฏิบัติราชการใหม้ ีสมรรถนะและผลสมั ฤทธข์ิ องงานดยี ่ิงข้นึ

52  อนชุ ยั ณ วัชรเจรญิ ให้มีระบบการจัดเก็บผลการประเมิน เพ่ือนาไปใช้ตามวัตถุประสงค์ท่ีกาหนด โดยให้ สานักงานตารวจแห่งชาติ ดาเนินการกาหนดรายละเอียด วิธีการ เพื่อถือปฏิบัติตามกฎ ก.ตร. นี้ รวมท้ัง การปรบั ปรงุ และพฒั นาการประเมินผลการปฏิบัติราชการให้สอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคบั คาสง่ั มติคณะรฐั มนตรี ภารกจิ และลักษณะงานท่ีเก่ียวข้อง และมีอานาจในการวินิจฉัยปัญหา ท่ีเกิดขน้ึ เกี่ยวกับการประเมินผลการปฏบิ ตั ิราชการเพอื่ ใหเ้ กดิ ความเป็นธรรมกบั ข้าราชการตารวจ

คาอธบิ ายการบรหิ ารงานกาลังพล สานักงานตารวจแหง่ ชาติ  53 บทท่ี ๓ การสงั่ ประจาหรอื สารองราชการ การลาออกจากราชการและการส่งั ใหอ้ อก การส่งั ประจาหรือสารองราชการ กฎ ก.ตร. วา่ ดว้ ยการส่งั ใหข้ ้าราชการตารวจประจาสานกั งานตารวจแหง่ ชาติหรอื สว่ นราชการใด หรือสารองราชการในส่วนราชการใด พ.ศ.๒๕๔๘ (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๒ ตอน ๔๒ ก วันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๔๘) การส่ังให้ข้าราชการตารวจประจาสานักงานตารวจแห่งชาติ หรือส่วนราชการใด โดยให้พ้นจากตาแหน่งหน้าที่เดิม เนื่องจากผู้บังคับบัญชาเห็นว่ามีความจาเป็น และเพื่อประโยชน์ แกท่ างราชการ ให้สงั่ ไดใ้ นกรณหี นึง่ กรณใี ดดงั ต่อไปน้ี (๑) มเี วลารับราชการกอ่ นครบเกษยี ณอายไุ มเ่ กินหกเดอื น และได้รับอนุมัตจิ าก ก.ตร. (๒) ไปปฏิบัติราชการนอกสังกัดสานักงานตารวจแห่งชาติ หรือไปราชการต่างประเทศ มีกาหนดระยะเวลาเกนิ หนึ่งปี (๓) ไปศกึ ษาหรือฝึกอบรมมกี าหนดระยะเวลาเกนิ หนงึ่ ปี (๔) ไปปฏิบัติงานในส่วนราชการ หรือหน่วยงานที่จัดตั้งข้ึนใหม่ หรือในส่วนราชการ หรือหน่วยงานที่มปี ริมาณงานเพม่ิ ข้นึ เปน็ การช่วั คราวตามคาส่งั ของผู้บงั คบั บัญชา (๕) ได้รับอนุญาตให้ลาติดตามคู่สมรสที่ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการ หรือไปปฏิบัติงาน ในต่างประเทศตามระเบยี บว่าด้วยการลา (๖) ได้รบั อนุญาตให้ลาไปปฏิบัติงานในองค์การระหว่างประเทศ ตามระเบยี บวา่ ด้วยการลา (๗) มีการยบุ เลิกสว่ นราชการหรือยบุ เลิกตาแหน่ง และยังแตง่ ต้ังใหด้ ารงตาแหน่งอื่นมิได้ (๘) มีเหตุความจาเป็นอน่ื และได้รบั อนุมตั ิจาก ก.ตร.น้ี การส่ังให้ข้าราชการตารวจสารองราชการในส่วนราชการใด โดยให้พ้นจากตาแหน่งหน้าท่ีเดิม ให้สั่งได้เม่อื มเี หตใุ นกรณีหน่งึ กรณใี ดดงั ต่อไปน้ี (๑) ถูกกล่าวหาวา่ กระทาผิดวนิ ยั อยา่ งรา้ ยแรงจนถูกต้ังกรรมการสอบสวน หรือต้องหา ว่ากระทาผิดอาญาหรือถูกฟูองคดีอาญา เว้นแต่ความผิดซึ่งถูกฟูองหรือต้องหาเป็นความผิดท่ีได้กระทา โดยประมาท หรอื ความผดิ ลหโุ ทษ หรือสืบเนอ่ื งมาจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ แต่ยังไม่ถึงข้ันถูกส่ัง พักราชการ หรือสงั่ ให้ออกจากราชการไวก้ อ่ นตามมาตรา ๙๕

54  อนุชยั ณ วัชรเจรญิ (๒) อยูใ่ นระหว่างถกู ต้ังกรรมการสอบสวนตามมาตรา ๑๐๑ (๓) ประพฤติตนไม่สมควร โดยไม่เคร่งครัดในการปฏิบัติราชการตามระเบียบ คาสั่ง ข้อบังคับ หรือนโยบายสาคัญที่สานักงานตารวจแห่งชาติกาหนดอันส่งผลให้การบังคับใช้กฎหมาย ในหน้าท่ีของตารวจไม่มปี ระสิทธิภาพเท่าทคี่ วร ข้าราชการตารวจที่มีพฤติการณ์ประพฤติตนไม่สมควร โดยไม่เคร่งครัดในการปฏิบัติราชการ ตามระเบียบ คาสงั่ ข้อบงั คับ หรือนโยบายสาคัญทีส่ านกั งานตารวจแหง่ ชาติกาหนดอันส่งผลให้การบังคับใช้ กฎหมายในหน้าท่ีของตารวจไม่มีประสิทธิภาพเท่าท่ีควร ให้ผู้มีอานาจตามมาตรา ๖๑ ดาเนินการ ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นให้เสร็จสิ้นภายใน ๑๕ วัน โดยหากผลการตรวจสอบรับฟังได้ว่า มีพฤติการณ์ดังกลา่ วจรงิ ให้ดาเนนิ การสงั่ สารองราชการทกุ ราย เม่ือมีคาสั่งให้ข้าราชการตารวจสารองราชการแล้ว ให้กันตาแหน่งเดิมหรือตาแหน่ง ในระดับเดียวกันกับตาแหน่งเดิมของผู้ท่ีถูกส่ังให้สารองราชการไว้มีกาหนด ๓ เดือน นับตั้งแต่วันท่ี คาสั่งสารองราชการมีผลใช้บังคับ หากผู้ที่ถูกสั่งให้สารองราชการยังไม่หมดเหตุสารองราชการ ภายในระยะเวลาทก่ี าหนดให้พจิ ารณาแต่งตัง้ ผู้อ่ืนไปดารงตาแหนง่ ที่กันไว้ได้ วิธีการดาเนินการในระหวา่ งข้าราชการตารวจสารองราชการ และเง่ือนไขการพิจารณาแต่งตั้ง ภายหลังหมดเหตุสารองราชการ ใหเ้ ป็นไปตามทีส่ านกั งานตารวจแห่งชาติกาหนดโดยได้รับความเห็นชอบ จาก ก.ตร. การสั่งให้ข้าราชการตารวจประจาหรือสารองราชการ โดยให้ขาดจากอัตราเงินเดือน ในตาแหนง่ เดิม ใหส้ ่งั ประจาหรอื สารองราชการไดใ้ นส่วนราชการที่มีอัตราประจาหรือสารองราชการ ตามที่ ก.ตร. กาหนด ท้ังน้ี ในระหว่างที่ยังมิได้มีการกาหนดอัตราประจา ให้นาอัตราสารองราชการ ที่ ก.ตร. กาหนดไวเ้ ดมิ มาใช้เปน็ อตั ราประจาหรืออัตราสารองราชการ แล้วแตก่ รณี ให้สานักงานตารวจแห่งชาติมีอานาจตัดโอนอัตราประจา หรืออัตราสารองราชการตามท่ี ก.ตร. กาหนด จากส่วนราชการหน่ึงไปเพิ่มให้อีกส่วนราชการหน่ึงตั้งแต่ระดับกองบังคับการหรอื เทยี บเท่าข้ึนไปได้ การสั่งให้ข้าราชการตารวจตาแหน่งตั้งแต่ระดับผู้บังคับการ และพนักงานสอบสวน ผู้เช่ียวชาญพิเศษหรือตาแหน่งเทียบเท่าขึ้นไป ประจาหรือสารองราชการในส่วนราชการใด ให้นาความ กราบบังคมทูลเพอ่ื ทรงทราบ การสั่งให้ข้าราชการตารวจตาแหน่งผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ จเรตารวจแห่งชาติ และรองผบู้ ญั ชาการตารวจแห่งชาติหรือตาแหน่งเทียบเท่า ประจาหรือสารองราชการในส่วนราชการใด ให้นาความกราบบังคมทูลเพื่อทรงมีพระบรมราชโองการให้พ้นจากตาแหน่ง นับตั้งแต่วันประจา หรอื สารองราชการตามมาตรา ๑๐๔ เพ่ือประโยชน์ในการเลื่อนขั้นและอัตราเงินเดือน การรักษาวินัย การออกจากราชการ และสิทธิประโยชน์อื่นๆ ของข้าราชการตารวจที่ถูกสั่งให้ประจาสานักงานตารวจแห่งชาติ หรือ ส่วนราชการใด หรือสารองราชการในส่วนราชการใดตามกฎ ก.ตร. นี้ ให้ถือเสมือนว่าข้าราชการตารวจ ดังกลา่ วดารงตาแหน่งระดบั เดิม

คาอธบิ ายการบรหิ ารงานกาลงั พล สานักงานตารวจแหง่ ชาติ  55 ในกรณีท่ีหมดความจาเป็นในการให้ข้าราชการตารวจประจา หรือหมดเหตุในการให้ ข้าราชการตารวจสารองราชการ และได้ดาเนินการตามเง่ือนไขท่ีสานักงานตารวจแห่งชาติกาหนดไว้ ให้ผู้มีอานาจตามมาตรา ๕๓ มาตรา ๕๔ และมาตรา ๕๕ ดาเนินการแต่งตั้งในโอกาสแรกท่ีมี ตาแหน่งวา่ งและเหมาะสมดังนี้ (๑) กรณีถกู ส่ังประจา ใหแ้ ตง่ ต้ังไปดารงตาแหน่งเดมิ หรอื ตาแหนง่ ท่ีไม่ตา่ กวา่ ตาแหนง่ เดิม (๒) กรณีถูกสารองราชการ ให้แต่งตั้งไปดารงตาแหน่งเดิมหรือเทียบเท่าตาแหน่งเดิม แต่ถ้าจะแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งต่ากว่าหรือสูงกว่าตาแหน่งเดิมให้เสนอ ก.ตร. เพื่อพิจารณาอนุมัติ เป็นรายๆ ไป การลาออกจากราชการ ระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยการลาออกจากราชการของข้าราชการตารวจ พ.ศ. 2550 ลงวันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. 2550 กาหนดว่าข้าราชการตารวจผู้ใดประสงค์จะลาออกจากราชการ ให้ย่ืนหนังสือ ขอลาออกตอ่ ผบู้ ังคบั บัญชาเหนือขึ้นไปชน้ั หนงึ่ ตามแบบหนังสือขอลาออกจากราชการท้ายระเบียบน้ี ก่อนวันขอลาออกไม่น้อยกว่า 30 วัน หนังสือขอลาออกท่ีมิได้ระบุวันขอลาออกไว้ ให้ถือวันถัดจาก วันครบกาหนด 30 วัน นบั แตว่ ันยนื่ เป็นวันขอลาออก เมือ่ ผู้บังคบั บญั ชาเหนอื ขึ้นไปชน้ั หน่งึ ของผูข้ อลาออกไดร้ บั หนงั สอื ขอลาออกแล้ว ให้บันทึก วันยื่นหนังสือขอลาออกนั้นเป็นหลักฐานและให้ตรวจสอบด้วยว่าหนังสือขอลาออกดังกล่าว ได้ยื่นล่วงหน้าก่อนวันขอลาออกไม่น้อยกว่า 30 วันหรือไม่ พร้อมทั้งพิจารณาเสนอความเห็นต่อ ผู้บังคับบัญชาช้ันเหนือข้ึนไปภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือขอลาออกและให้ผู้บังคับบัญชา ช้ันเหนือขึ้นไปแต่ละระดับเสนอความเห็นตามลาดับจนถึงผู้มีอานาจอนุญาตการลาออก ภายใน 7 วัน นับแตว่ นั ได้รบั รายงาน กรณีผู้ขอลาออกย่ืนหนังสือขอลาออกล่วงหน้าก่อนวันขอลาออกน้อยกว่า 30 วัน โดยมี เหตุผลความจาเป็นเป็นพิเศษ ให้รีบพิจารณาเสนอความเห็นไปยังผู้มีอานาจอนุญาตการลาออก กอ่ นวนั ขอลาออกโดยเร็วใหผ้ ู้บังคบั บญั ชาผู้มีอานาจอนุญาตการลาออกพิจารณาดาเนนิ การต่อไป เมื่อผู้มีอานาจอนุญาตการลาออกได้รับหนังสือขอลาออกของข้าราชการตารวจผู้ใดแล้ว ใหผ้ ู้มอี านาจอนุญาตการลาออกพิจารณาว่าจะสั่งอนุญาตให้ผู้นั้นลาออกจากราชการหรือจะสั่งยับย้ัง การลาออก โดยใหด้ าเนินการดงั น้ี (๑) เมื่อผมู้ อี านาจอนุญาตการลาออกพิจารณาเห็นว่าควรอนุญาตให้ลาออกจากราชการได้ ให้ผู้มีอานาจอนุญาตการลาออกมีคาสั่งอนุญาตให้ลาออกเป็นลายลักษณ์อักษรให้เสร็จสิ้นก่อนวัน ขอลาออก แล้วแจง้ คาสั่งดังกล่าวใหผ้ ขู้ อลาออกทราบกอ่ นวันขอลาออกและแจ้งให้หน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ทราบ ในกรณีหนังสือขอลาออกที่ยื่นล่วงหน้าก่อนวันขอลาออกน้อยกว่า 30 วัน ผู้มีอานาจ อนญุ าตการลาออกจะอนุญาตให้ลาออกในวันท่ีระบุในหนังสือขอลาออกหรือภายในกาหนด 30 วัน นบั แต่วันยืน่ หนังสือขอลาออกก็ได้ และให้การลาออกมีผลในวันทไ่ี ดร้ บั อนุญาตใหล้ าออก

56  อนุชยั ณ วชั รเจรญิ (๒) เมื่อผู้มีอานาจอนุญาตการลาออกพิจารณาเห็นว่าควรยับยั้งการลาออก ให้เรียก ผู้ขอลาออกมาพบเพื่อสอบถามถึงเหตุผล และความจาเป็นในประโยชน์ส่วนตนและทางราชการ หากผมู้ อี านาจอนุญาตการลาออกเห็นว่ามคี วามจาเปน็ เพ่ือประโยชน์แก่ทางราชการให้มีคาสั่งยับยั้ง การลาออกเป็นลายลักษณ์อักษรให้เสร็จสิ้นก่อนวันขอลาออกหรือภายในกาหนด 30 วัน นับแต่ วันย่ืนหนังสือขอลาออก แล้วแจ้งคาสั่งดังกล่าวพร้อมท้ังเหตุผล ระยะเวลาท่ียับยั้งและวันที่การลาออก จะมีผล ให้ผู้ขอลาออกทราบก่อนวันขอลาออกด้วย ท้ังน้ี การยับย้ังการลาออกให้ส่ังยับยั้งได้เพียง ครง้ั เดยี วเป็นเวลาไม่เกิน 3 เดอื น นับแตว่ นั ขอลาออกและจะขยายอีกไม่ได้ ถ้าผู้ขอลาออกมิได้แจ้งขอระงับ หรือยกเลิกการลาออกก่อนการลาออกมีผลให้ การลาออกนนั้ มผี ลนบั แต่วันถดั จากวนั ครบกาหนดเวลาทยี่ ับยงั้ การลาออก ในกรณีท่ีผู้ขอลาออกอยู่ระหว่างถูกต้ังกรรมการสอบสวนทางวินัยหรือต้องหา คดอี าญาหรือมีหนี้สินติดคา้ งกบั ทางราชการ ไม่ถือเปน็ เหตุจาเปน็ เพ่อื ประโยชน์แก่ราชการที่จะยับย้ัง การลาออก แต่หากปรากฏว่าผู้ขอลาออกมีกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีอานาจอนุญาตการลาออกแจ้งหน่วยงาน ทเี่ ก่ยี วขอ้ งกบั กรณีดังกล่าวทราบก่อนลาออกมีผล เม่ือผู้มีอานาจอนุญาตการลาออกไม่ได้มีคาส่ังอนุญาตให้ลาออกก่อนวันขอลาออก และไมไ่ ดม้ ีคาสัง่ ยบั ย้งั การลาออก ให้ถอื ว่าผูข้ อลาออกไดอ้ อกจากราชการไปนบั แตว่ ันขอลาออก ในกรณีท่ีหนังสือขอลาออกได้ยื่นล่วงหน้าก่อนวันขอลาออกน้อยกว่า 30 วัน ให้ถือว่า ผู้ขอลาออกได้ออกจากราชการในวัดถัดจากวันครบกาหนด 30 วัน นับแต่วันย่ืนหนังสือขอลาออก ภายหลังที่ผู้ขอลาออกได้ออกจากราชการโดยเป็นไป ให้ผู้มีอานาจอนุญาตการลาออก มีหนังสือแจ้งวันออกจากราชการให้ผู้ขอลาออกทราบภายใน 15 วัน นับแต่วันท่ีผู้นั้นออกจากราชการ และแจ้งใหห้ นว่ ยงานที่เกยี่ วข้องทราบดว้ ย การขอลาออกเพ่ือดารงตาแหน่งท่ีกาหนดโดยรัฐธรรมนูญ ตาแหน่งทางการเมือง หรือเพื่อสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกรัฐสภา สมาชิกสภาท้องถ่ินหรือผู้บริหารท้องถ่ิน ให้ยื่นหนังสือ ขอลาออก พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องต่อผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปช้ันหน่ึง และให้ผู้บังคับบัญชาดังกล่าว เสนอหนังสือขอลาออกพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องนั้นต่อผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปตามลาดับจนถึง ผมู้ ีอานาจอนุญาตการลาออกโดยเรว็ เมื่อผู้มีอานาจอนุญาตการลาออกได้รับหนังสือขอลาออกและตรวจพิจารณาเอกสาร ท่เี กย่ี วขอ้ งแล้ว ให้มีคาส่ังอนุญาตให้การลาออกมผี ลนับตั้งแต่วันท่ีผู้นั้นขอลาออก แล้วแจ้งให้ผู้ขอลาออก และหน่วยงานท่เี ก่ียวข้องทราบ ถ้าผู้ขอลาออกมกี รณถี กู กลา่ วหาวา่ กระทาผิดวินัยให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบพิจารณา ด้วยว่า เป็นกรณีมีมูลที่ควรกล่าวหาว่าข้าราชการตารวจผู้น้ันกระทาผิดวินัยอย่างร้ายแรงหรือไม่ หากมีมูลกรณีที่จะต้องดาเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงให้แต่งต้ังคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย แก่ข้าราชการตารวจผู้นั้นก่อนการลาออกมีผล ทั้งนี้เพื่อให้ดาเนินการทางวินัยต่อไปได้แม้ผู้นั้น ไดอ้ อกจากราชการไปแล้ว

คาอธบิ ายการบรหิ ารงานกาลงั พล สานักงานตารวจแห่งชาติ  57 นอกจากผู้มีอานาจตามมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติตารวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ซึ่งเป็น ผู้มีอานาจพิจารณาอนุญาตการลาออกแล้ว ให้ผู้บังคับบัญชาดังต่อไปนี้ เป็นผู้มีอานาจพิจารณา การอนุญาตหรือยับย้ังข้าราชการตารวจในส่วนราชการหรือหน่วยงานในสังกัดซ่ึงประสงค์จะลาออก จากราชการ (1) รองผู้บังคับการ หรือผู้ดารงตาแหน่งเทียบเท่า ที่ทาหน้าที่หัวหน้าส่วนราชการ หรือหัวหน้าหน่วยงาน สาหรับตาแหน่งต้ังแต่ รองผู้กากับการ พนักงานสอบสวนผู้ชานาญการพิเศษ หรือตาแหนง่ เทยี บเทา่ ลงมา (2) ผู้กากับการ หรือผู้ดารงตาแหน่งเทียบเท่า ท่ีทาหน้าที่หัวหน้าส่วนราชการหรือ หวั หน้าหนว่ ยงาน สาหรับตาแหนง่ ตั้งแต่ สารวตั ร พนักงานสอบสวนผู้ชานาญการ หรือตาแหน่งเทียบเท่า ลงมา (๓) รองผู้กากับการ หรือผู้ดารงตาแหน่งเทียบเท่า ที่ทาหน้าที่หัวหน้าส่วนราชการ หรอื หัวหน้าหนว่ ยงาน สาหรับตาแหน่งตั้งแต่ รองสารวัตร พนักงานสอบสวน หรือตาแหน่งเทียบเท่า ลงมา การสั่งใหอ้ อก กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการส่ังให้ข้าราชการตารวจออกจากราชการกรณีไม่สามารถปฏิบัติราชการ ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล พ.ศ.๒๕๔๗ (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๑ ตอน ๕๙ ก วันท่ี ๑๓ กันยายน ๒๕๔๗) การส่ังให้ข้าราชการตารวจผู้ใดออกจากราชการเพ่ือรับบาเหน็จบานาญเหตุทดแทน กรณีไมส่ ามารถปฏบิ ตั ิราชการใหม้ ปี ระสิทธภิ าพและเกดิ ประสิทธิผลนนั้ ให้พิจารณาจากผลการปฏิบัติงาน ของข้าราชการตารวจผู้น้ันเป็นหลัก และให้ส่วนราชการดาเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีกาหนด ในกฎ ก.ตร. นี้ การพิจารณาผลการปฏบิ ตั ิงานของขา้ ราชการตารวจ ให้ผู้บังคับบัญชาประเมินจากผลงาน และคุณลักษณะผู้ปฏิบัติราชการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กาหนดในกฎ ก.ตร.ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วธิ ีการ และระยะเวลาการประเมนิ ผลการปฏิบตั ิราชการของข้าราชการตารวจ โดยอนุโลม ข้าราชการตารวจผู้ใดซึง่ ผู้บังคบั บัญชาได้ประเมินผลการปฏิบัติงานแล้วเห็นว่ามีผลการปฏิบัติงาน ต่ากว่ามาตรฐานท่ีกาหนดและไม่ได้รับการพิจารณาเลื่อนข้ันและอัตราเงินเดือนประจาปีเป็นเวลา ติดต่อกันสองคร้ังในรอบปีงบประมาณ ให้ผู้บังคับบัญชาแจ้งผลการประเมินหรือผลการพิจารณา พร้อมเหตุผล และกาหนดให้ผู้นั้นพัฒนาหรือปรับปรุงตนเองภายในระยะเวลาสามเดือนแต่ไม่เกิน หกเดือนหรือตามจานวนคร้ังท่ีจะกาหนดภายในระยะเวลาดังกล่าวนับแต่วันท่ีแจ้งผลการประเมิน หรือผลการพจิ ารณาให้ทราบโดยใหล้ งลายมือชอ่ื รับทราบไว้เปน็ หลักฐาน ในกรณีท่ีเห็นสมควร ผู้บังคับบัญชาผู้มีอานาจพิจารณาแต่งต้ังให้ไปดารงตาแหน่งอื่น ซ่งึ อาจคาดหมายไดว้ า่ จะทาให้ผูน้ ้นั ปฏิบัตงิ านไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพและเกิดประสิทธผิ ล

58  อนุชยั ณ วชั รเจรญิ เมอ่ื ไดด้ าเนินการตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสองแล้ว ให้ผู้บังคับบัญชาประเมินผลการปฏิบัติงาน ภายหลังการปรับปรุงตนเองของผู้นั้นอย่างน้อยสองครั้งภายในระยะเวลาห่างเท่าๆ กัน ในการประเมิน ผลการปฏิบัติงานภายหลังการปรับปรุงตนเองแต่ละคร้ังผู้บังคับบัญชาอาจแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้น เพ่อื ดาเนนิ การและเสนอความคดิ เหน็ ก็ได้ ในกรณีที่ผู้บังคับบัญชาได้ประเมินผลการปฏิบัติงานตามกฎ ก.ตร. น้ีแล้ว เห็นว่า ข้าราชการตารวจผู้ใดมีผลการปฏิบัติงานต่ากว่ามาตรฐานที่กาหนดแต่ไม่เข้ากรณีตาม ท่ีกาหนด ถ้าผู้บังคับบัญชาเห็นสมควรให้ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงตนเองเพื่อให้การปฏิบัติราชการ เป็นไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและเกิดประสิทธผิ ลแล้ว ผูบ้ ังคับบญั ชาอาจพจิ ารณาดาเนนิ การได้ ข้าราชการตารวจผู้ใดซึ่งผู้บังคับบัญชาได้ให้โอกาสพัฒนาและปรับปรุงตนเองตามหลักเกณฑ์ ท่ีกาหนดแล้ว แต่ผลการประเมินยังต่ากว่ามาตรฐานที่กาหนดให้ผู้บังคับบัญชาทาความเห็นเสนอ ผมู้ อี านาจตามมาตรา ๗๒ เพ่ือพจิ ารณาส่ังให้ผนู้ ั้นออกจากราชการตอ่ ไป

คาอธบิ ายการบรหิ ารงานกาลงั พล สานกั งานตารวจแห่งชาติ  59 บทท่ี ๔ เงินเดือน เงนิ เพม่ิ เงนิ เดอื น การกาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนข้าราชการ ตารวจ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการกาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนข้าราชการตารวจ พ.ศ.๒๕๕๖ (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๐ ตอน ๗๒ ก วนั ท่ี ๒๑ สงิ หาคม ๒๕๕๖) และ กฎ ก.ตร. ว่าด้วย การกาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาเล่ือนเงินเดือนข้าราชการตารวจ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๒ ตอน ๕๔ ก วันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๘) ให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้ท่ีได้รับ มอบหมายประเมนิ ประสิทธภิ าพและประสทิ ธิผลการปฏบิ ตั งิ านของข้าราชการตารวจตามหลักเกณฑ์ วิธีการและระยะเวลาท่กี าหนดในกฎ ก.ตร. การเลือ่ นเงินเดือนข้าราชการตารวจให้เลอ่ื นปีละสองคร้งั ดงั นี้ (๑) ครั้งทหี่ น่ึงคร่ึงปแี รก ให้เล่ือนตงั้ แตว่ นั ท่ี ๑ เมษายนของปีทีไ่ ดเ้ ล่อื น (๒) คร้งั ที่สองครงึ่ ปหี ลงั ใหเ้ ลือ่ นตงั้ แต่วนั ท่ี ๑ ตุลาคมของปีถดั ไป ข้าราชการตารวจซ่ึงจะไดร้ ับการพิจารณาเล่อื นเงนิ เดือนครงึ่ ขัน้ ในแต่ละครั้งต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ ดังต่อไปน้ี (๑) ในครึ่งปีท่แี ลว้ มาไดร้ ับบรรจเุ ข้ารบั ราชการมาแลว้ เป็นเวลาไม่นอ้ ยกว่าส่ีเดือน (๒) ในครึ่งปีที่แล้วมาได้ปฏิบัติงานตามหน้าท่ีของตนด้วยความสามารถและด้วยความ อุตสาหะจนเกิดผลดีหรือความก้าวหน้าแก่ราชการ ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้พิจารณาประเมินแล้วเห็นว่า อยู่ในเกณฑ์ทส่ี มควรจะไดเ้ ลื่อนเงนิ เดือนคร่ึงขั้น (๓) ในครง่ึ ปีทแ่ี ลว้ มาต้องไมถ่ กู ส่งั พักราชการ ถูกส่ังให้ออกจากราชการไว้ก่อน ถูกปลดออก ถูกไล่ออก หรือออกจากราชการด้วยเหตุใดๆ เปน็ ระยะเวลารวมกนั เกนิ สองเดอื น (๔) ในครึ่งปีทีแ่ ล้วมา ต้องไม่ถูกส่ังลงโทษทางวินัยถึงที่สุดสูงกว่าโทษภาคทัณฑ์ หรือไม่ถูก ศาลพิพากษาในคดีอาญาถึงที่สุด ให้ลงโทษในความผิดที่เก่ียวกับการปฏิบัติหน้าท่ีราชการ หรือความผิด ท่ีทาให้เส่ือมเสียเกียรติศักดิ์ของตาแหน่งหน้าท่ีราชการของตน ซ่ึงมิใช่ความผิดท่ีได้กระทาโดยประมาท หรอื ความผดิ ลหโุ ทษ (๕) ในครง่ึ ปีท่แี ลว้ มาตอ้ งไม่ลา หรือมาทางานสายเกินจานวนคร้ังที่ผู้บัญชาการตารวจ แห่งชาติหรือผู้บังคับบัญชาซ่ึงได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติกาหนดเป็นหนังสือ ไวก้ ่อนแลว้ โดยคานงึ ถึงลักษณะงานและสภาพท้องทอี่ ันเป็นท่ีต้ังของแตล่ ะสว่ นราชการหรือหน่วยงาน

60  อนชุ ยั ณ วัชรเจรญิ (๖) ในคร่งึ ปีที่แลว้ มาต้องมีเวลาปฏิบัติราชการหกเดือน โดยมีวันลาไม่เกินยี่สิบสามวัน แต่ไมร่ วมถึงวันลาดงั ตอ่ ไปนี้ (ก) ลาอุปสมบท หรือลาไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย เฉพาะวันลาทม่ี สี ทิ ธิได้รับเงนิ เดือนระหว่างลาตามกฎหมายว่าดว้ ยการจา่ ยเงินเดอื น (ข) ลาคลอดบตุ รไมเ่ กนิ เกา้ สบิ วนั (ค) ลาปุวยซ่ึงจาเป็นต้องรักษาตัวเป็นเวลานานไม่ว่าคราวเดียวหรือหลายคราว รวมกันไม่เกินหกสิบวนั ทาการ (ง) ลาปุวยเพราะประสพอันตรายในขณะปฏิบัติราชการตามหน้าท่ี หรือในขณะเดินทาง ไปหรือกลับจากปฏิบตั ิราชการตามหน้าที่ (จ) ลาพกั ผ่อน (ฉ) ลาไปปฏิบตั งิ านในองค์การระหวา่ งประเทศ (ช) ลาไปชว่ ยเหลือภรยิ าท่คี ลอดบุตรครั้งหนึ่งตดิ ต่อกนั ไมเ่ กินสบิ หา้ วนั ทาการ (ซ) ลาไปพ้ืนฟูสมรรถภาพด้านอาชีพ กรณีได้รับอันตรายหรือปุวยเจ็บเพราะเหตุ ปฏิบัติราชการในหน้าท่ีหรือถูกประทุษร้ายเพราะเหตุกระทาการตามหน้าท่ีจนทาให้ตกเป็นผู้ทุพพล ภาพหรือพกิ าร การนับจานวนวันลาไม่เกินยี่สิบสามวันสาหรับวันลากิจส่วนตัวและวันลาปุวยท่ีไม่ใช่ วันลาปวุ ยตาม (ง) ให้นับเฉพาะวนั ทาการ (๗) ในครึ่งปีที่แล้วมา ถ้าเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ไปศึกษาในประเทศ หรือไปศึกษา ฝึกอบรม หรือดูงาน ณ ต่างประเทศ ตามระเบียบว่าด้วยการให้ข้าราชการไปศึกษา ฝึกอบรม และดูงาน ณ ตา่ งประเทศ ตอ้ งไดป้ ฏิบัติหนา้ ทีร่ าชการในคร่งึ ปีทแี่ ล้วมาเปน็ เวลาไมน่ ้อยกว่าส่เี ดือน สาหรับผู้ที่ศึกษา ในสถานศึกษาของสานักงานตารวจแห่งชาติ ต้องได้ปฏิบัติหน้าท่ีราชการคร้ังแรกในครึ่งปีท่ีแล้ว มาเป็นเวลาไมน่ อ้ ยกว่าสองเดอื น (๘) ในครง่ึ ปที แ่ี ลว้ มาตอ้ งไมข่ าดราชการโดยไมม่ ีเหตผุ ลอนั สมควร ข้าราชการตารวจซ่ึงจะได้รับการพิจารณาเล่ือนเงินเดือนหน่ึงขั้นในแต่ละครั้งต้องเป็นผู้อยู่ใน หลกั เกณฑ์ และอย่ใู นหลักเกณฑ์ประการใดประการหนึ่งหรือหลายประการดังต่อไปนี้ด้วย (๑) ปฏิบตั งิ านตามหน้าท่ีไดผ้ ลดเี ดน่ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอันก่อให้เกิดประโยชน์ และผลดีย่ิงตอ่ ทางราชการและสังคมจนถือเป็นตวั อยา่ งท่ดี ไี ด้ (๒) ปฏิบัติงานโดยมีความคิดริเริ่มในเร่ืองใดเรื่องหน่ึง หรือได้ค้นคว้า หรือประดิษฐ์ส่ิงใด ส่ิงหน่ึงซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทางราชการเป็นพิเศษ และทางราชการได้ดาเนินการตามความคิดริเริ่ม หรอื ได้รบั รองให้ใช้การค้นควา้ หรือส่ิงประดิษฐ์นน้ั (๓) ปฏิบตั ิงานตามหนา้ ทท่ี ่มี สี ถานการณต์ รากตราเสี่ยงอันตรายมาก หรือมีการต่อสู้ท่ีเสี่ยง ต่อความปลอดภัยของชวี ติ เปน็ กรณพี ิเศษ (๔) ปฏิบัติงานที่มีภาระหน้าที่หนักเกินกว่าตาแหน่งจนเกิดประโยชน์ต่อทางราชการ เป็นพเิ ศษ และปฏบิ ัตงิ านในตาแหนง่ หนา้ ท่ขี องตนเปน็ ผลดดี ว้ ย (๕) ปฏิบัติงานตามตาแหน่งหน้าท่ีด้วยความตรากตราเหน็ดเหนื่อย ยากลาบากเป็นพิเศษ และงานนั้นได้ผลดียิ่งเปน็ ประโยชนต์ ่อทางราชการและสงั คม

คาอธบิ ายการบริหารงานกาลังพล สานกั งานตารวจแห่งชาติ  61 (๖) ปฏิบัติงานท่ีได้รับมอบหมายให้กระทากิจการอย่างใดอย่างหน่ึงจนสาเร็จเป็นผลดียิ่ง แกป่ ระเทศชาติ การพิจารณาเล่ือนเงินเดือนของข้าราชการตารวจตามท่ีได้กาหนดไว้ ให้ผู้บังคับบัญชาช้ันต้น หรือผู้ท่ีได้รับมอบหมายนาผลการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผล การปฏิบัติงานท่ีได้ดาเนินการ ตามข้อ ๔ และพฤติกรรมการปฏิบัติตาม กฎ ก.ตร.ว่าด้วยประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของตารวจ มาเป็นหลกั ในการพิจารณาเล่อื นเงนิ เดอื น โดยพจิ ารณาประกอบกับข้อมูลการลา พฤติกรรมการมาทางาน การรกั ษาวินัย และข้อควรพิจารณาอื่นๆ ของผู้นั้น แล้วรายงานผลการพิจารณานั้นพร้อมด้วยข้อมูล ดงั กล่าวตอ่ ผ้บู ังคับบัญชาชัน้ เหนอื ขึน้ ไปตามลาดับจนถงึ ผมู้ ีอานาจสัง่ เลื่อนเงนิ เดือน ในการพิจารณารายงานตามวรรคหน่ึง ให้ผู้บังคับบัญชาช้ันเหนือแต่ละระดับท่ีได้รับรายงาน เสนอความเห็นเพ่ือประกอบการพจิ ารณาของผูม้ ีอานาจสัง่ เลอ่ื นเงินเดือนดว้ ย ในการพจิ ารณาเลื่อนเงินเดอื นแตล่ ะครั้งใหผ้ มู้ อี านาจสั่งเลอ่ื นเงินเดือนพิจารณารายงานผล จากผูบ้ งั คบั บัญชา ถ้าเหน็ ว่าข้าราชการตารวจผู้ใดอยู่ในหลกั เกณฑ์ ใหเ้ ล่อื นเงนิ เดือนให้แก่ผู้นั้นคร่ึงข้ัน ถา้ เห็นว่าข้าราชการตารวจผ้นู ั้นมีผลการปฏิบตั งิ านอยู่ในหลักเกณฑ์ ให้เลอ่ื นเงนิ เดอื นใหแ้ ก่ผ้นู ั้นหนง่ึ ขั้น ในกรณีทขี่ า้ ราชการตารวจผูใ้ ดไดร้ ับการเลือ่ นเงนิ เดอื นครึง่ ปแี รกไม่ถงึ หนึง่ ขั้น ถ้าในการพจิ ารณา เลอ่ื นเงินเดือนครงึ่ ปหี ลงั ผู้มีอานาจสง่ั เลื่อนเงนิ เดือนไดพ้ ิจารณาผลการปฏบิ ัติงานครึ่งปีแรกกับคร่ึงปีหลัง รวมกันแล้วเห็นว่ามีมาตรฐานสูงกว่าการท่ีจะได้รับการเลื่อนเงินเดือนหน่ึงขั้นสาหรับปีน้ัน ผู้มีอานาจ สงั่ เลือ่ นเงนิ เดือนอาจมคี าส่ังให้เล่อื นเงนิ เดอื นรวมท้ังปีของข้าราชการตารวจผู้น้ันเป็นจานวนหน่ึงข้ันคร่ึงได้ แต่ผลการปฏิบัติงานทั้งปีของข้าราชการตารวจผู้นั้นจะต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ประการใดประการหนึ่ง หรอื หลายประการดงั ตอ่ ไปนี้ด้วย (๑) ปฏิบัติงานตามหน้าที่ได้ผลดี มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอันก่อให้เกิดประโยชน์ และผลดตี ่อทางราชการและสงั คม (๒) ปฏิบัติงานโดยมีความคิดริเร่ิมในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือได้ค้นคว้า หรือประดิษฐ์ สง่ิ ใดสงิ่ หนง่ึ ซง่ึ เป็นประโยชนต์ อ่ ทางราชการ (๓) ปฏบิ ัติงานตามหน้าที่ทม่ี สี ถานการณ์ตรากตราเสี่ยงอันตราย หรือมีการต่อสู้ท่ีเสี่ยง ตอ่ ความปลอดภยั ของชีวิต (๔) ปฏิบัติงานที่มีภาระหน้าที่หนักเกินกว่าตาแหน่งจนเกิดประโยชน์ต่อทางราชการ และปฏิบตั งิ านในตาแหนง่ หน้าท่ขี องตนเปน็ ผลดีดว้ ย (๕) ปฏบิ ตั ิงานตามตาแหนง่ หน้าทีด่ ้วยความตรากตราเหน็ดเหนื่อย ยากลาบากและงานนั้น ไดผ้ ลดเี ปน็ ประโยชน์ตอ่ ทางราชการและสังคม (๖) ปฏิบัติงานท่ีได้รับมอบหมายให้กระทากิจการอย่างใดอย่างหน่ึงจนสาเร็จเป็นผลดี แก่ประเทศชาติ ในกรณที ่ขี ้าราชการตารวจผูใ้ ดมีผลการปฏบิ ตั งิ านอยูใ่ นเกณฑ์ทคี่ วรจะได้รับการเลื่อนเงินเดือน ครึ่งปีแรกหน่ึงข้ัน แต่ไม่อาจส่ังเล่ือนเงินเดือนหนึ่งขั้นให้ได้ เพราะมีข้อจากัดเกี่ยวกับจานวนเงินที่จะใช้ เล่ือนเงินเดือน ถ้าในการเล่ือนเงินเดือนคร่ึงปีหลัง ข้าราชการตารวจผู้น้ันมีผลการปฏิบัติงานอยู่ในเกณฑ์ ไดร้ บั การเลื่อนเงินเดอื นหนงึ่ ขนั้ อีก และไม่มขี ้อจากดั เก่ียวกับจานวนเงินที่จะใช้เลื่อนเงินเดือนในคราวน้ัน ผู้มีอานาจส่ังเล่ือนเงินเดือนอาจมีคาสั่งให้เล่ือนเงินเดือนรวมท้ังปีของข้าราชการตารวจผู้นั้นเป็นจานวน สองขั้นได้

62  อนชุ ยั ณ วชั รเจรญิ ในกรณีที่ไม่เล่ือนเงินเดือนให้แก่ข้าราชการตารวจผู้ใด ให้ผู้บังคับบัญชาแจ้งให้ผู้นั้นทราบ พร้อมท้ังเหตผุ ลทไ่ี มเ่ ลอื่ นเงนิ เดอื น การพิจารณาเล่ือนเงินเดือนครึ่งปีให้แก่ข้าราชการตารวจ ซ่ึงในครึ่งปีท่ีแล้วมาได้รับอนุญาต ให้ลาไปปฏบิ ตั ิงานในองคก์ ารระหว่างประเทศ ให้ผู้มีอานาจสั่งเล่ือนเงินเดือนพิจารณาส่ังเลื่อนได้คร้ังละ ไมเ่ กนิ ครึ่งขน้ั เมื่อผนู้ ั้นกลบั มาปฏิบตั ิราชการ โดยใหส้ งั่ เล่อื นย้อนหลงั ไปในแต่ละครั้งท่ีควรจะได้เลื่อน ทั้งนใี้ ห้มีการประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ผู้บัญชาการตารวจแหง่ ชาติกาหนด การเลื่อนเงนิ เดือนข้าราชการตารวจผู้ดารงตาแหนง่ ตา่ งๆ ใหเ้ ล่ือนไดด้ ังตอ่ ไปนี้ (๑) รองผบู้ ังคับหมู่ หรอื ตาแหน่งเทียบเท่า ใหเ้ ลอื่ นไดไ้ ม่เกนิ เงินเดอื นระดบั พ.๑ (๒) ผู้บังคับหมู่ หรือตาแหน่งเทียบเท่า ยศสิบตารวจตรี สิบตารวจโท สิบตารวจเอก จา่ สบิ ตารวจ ใหเ้ ลื่อนได้ไม่เกินเงินเดือนระดบั ป.๑ (๓) ผบู้ ังคับหมู่ หรอื ตาแหนง่ เทียบเทา่ ยศจ่าสบิ ตารวจ อัตราเงนิ เดือน จา่ สบิ ตารวจ (พิเศษ) ใหเ้ ล่ือนไดไ้ ม่เกนิ เงนิ เดือนระดับ ป.๒ (๔) ผูบ้ งั คับหมู่ หรือตาแหนง่ เทียบเท่า ยศดาบตารวจ ใหเ้ ลือ่ นได้ไม่เกนิ เงินเดือนระดับ ป.๓ (๕) รองสารวัตร และพนกั งานสอบสวน หรือตาแหน่งเทียบเท่า ให้เลื่อนได้ไม่เกินเงินเดือน ระดับ ส.๑ (๖) สารวัตร พนักงานสอบสวนผู้ชานาญการ รองผู้กากับการ และพนักงานสอบสวน ผ้ชู านาญการพิเศษ หรือตาแหน่งเทยี บเทา่ ใหเ้ ลอ่ื นได้ไม่เกินเงนิ เดอื นระดบั ส.๓ (๗) ผ้กู ากับการ และพนกั งานสอบสวนผทู้ รงคุณวุฒิ หรอื ตาแหน่งเทียบเท่า ให้เล่ือนได้ ไม่เกินเงนิ เดอื นระดับ ส.๔ (๘) รองผู้บังคับการ และพนักงานสอบสวนผู้เช่ียวชาญ หรือตาแหน่งเทียบเท่า ให้เล่ือนได้ ไมเ่ กนิ เงนิ เดือนระดบั ส.๕ (๙) ผู้บังคับการ พนักงานสอบสวนผู้เช่ียวชาญพิเศษ และรองผู้บัญชาการ หรือตาแหน่ง เทียบเทา่ ใหเ้ ล่ือนได้ไมเ่ กินเงนิ เดอื นระดับ ส.๖ (๑๐) ผบู้ ัญชาการ และผชู้ ่วยผบู้ ัญชาการตารวจแห่งชาติ หรอื ตาแหนง่ เทียบเท่า ให้เลื่อนได้ ไมเ่ กนิ เงนิ เดอื นระดับ ส.๗ (๑๑) จเรตารวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ หรือตาแหน่งเทียบเท่า ให้เลือ่ นไดไ้ มเ่ กินเงินเดอื นระดับ ส.๘ ข้าราชการตารวจซึ่งถูกส่ังให้ประจาหรือสารองราชการ ตามกฎ ก.ตร. ท่ีว่าด้วยการส่ังให้ ข้าราชการตารวจประจาสานักงานตารวจแห่งชาติ หรือส่วนราชการใดหรือสารองราชการส่วนราชการใด ใหเ้ ล่อื นเงินเดอื นได้เสมอื นดารงตาแหนง่ สุดท้ายก่อนถูกส่ังใหป้ ระจาหรือสารองราชการ ขา้ ราชการตารวจผูใ้ ดไม่ไดร้ บั การเล่ือนเงนิ เดือนเน่อื งจากได้รับเงนิ เดอื นถึงขั้นสูงของระดับ เงินเดือนสาหรับตาแหน่งท่ีดารงอยู่แล้ว หรือมีขั้นเงินเดือนใกล้ถึงข้ันสูงของระดับเงินเดือนสาหรับ ตาแหน่งท่ดี ารงอยู่และได้รับการประเมินให้เล่ือนเงินเดือนเกินกว่าขั้นเงินเดือนท่ีเหลืออยู่ในตาแหน่งน้ัน

คาอธบิ ายการบริหารงานกาลังพล สานกั งานตารวจแหง่ ชาติ  63 ท้ังน้ี ในวนั ที่ ๑ เมษายน หรอื วันที่ ๑ ตลุ าคมที่ผ่านมา หากภายหลังมีระดับเงินเดือนที่จะเลื่อนให้ได้ หรือได้รับการแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งในระดับที่สูงขึ้น และหรือได้รับยศสูงข้ึนและเงินเดือนที่ได้รับ ยังไม่ถึงขั้นสูงของระดับเงินเดือนสาหรับตาแหน่งที่ได้เลื่อนขึ้นนั้น ให้ผู้มีอานาจสั่งเลื่อนเงินเดือน มีคาส่ังเลื่อนเงินเดือนให้แก่ข้าราชการตารวจผู้นั้น ตามท่ีได้รับเงินตอบแทนพิเศษคร่ึงขั้น หนึ่งข้ัน หรอื หน่งึ ข้นั คร่งึ ในครง้ั หลงั สุดแลว้ แตก่ รณี ตัง้ แต่วันท่มี ีระดบั เงินเดอื นทจ่ี ะเลอ่ื นให้ได้ หรอื ได้รบั การแต่งตั้ง ให้ดารงตาแหนง่ ในระดับท่ีสูงขึ้น และหรอื ไดร้ ับยศสงู ขนึ้ น้ัน แลว้ แตก่ รณี ขา้ ราชการตารวจผูใ้ ดไดร้ บั การแตง่ ตั้งให้ดารงตาแหนง่ ในระดับท่สี ูงขึ้น และหรือได้รับยศสูงขึ้น ในวนั ท่ี ๑ เมษายนหรอื วนั ท่ี ๑ ตุลาคม ซงึ่ เปน็ วนั เดยี วกนั กบั วันเลื่อนเงินเดอื น ให้ผู้มีอานาจสั่งเล่ือน เงินเดือนมีคาสั่งเล่ือนเงินเดือนให้แก่ข้าราชการตารวจผู้นั้นก่อนได้รับการแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่ง ในระดับทส่ี งู ขึน้ และหรือไดร้ ับยศสูงข้นึ กรณขี ้าราชการตารวจผู้ใดได้รบั เงินเดือนถึงข้ันสูงของระดับเงินเดอื นสาหรับตาแหน่งท่ีดารงอยู่ หรือใกล้ถึงข้ันสูงของระดับเงินเดือนสาหรับตาแหน่งท่ีดารงอยู่และได้รับการประเมินให้เล่ือนเงินเดือน เกินกว่าขั้นเงินเดือนท่ีเหลืออยู่ในตาแหน่งนั้น ให้ผู้มีอานาจส่ังเลื่อนเงินเดือนมีคาส่ังเลื่อนเงินเดือน ให้แก่ข้าราชการตารวจผ้นู ้ันหลงั จากได้รบั การแต่งตัง้ ให้ดารงตาแหน่งทีส่ ูงข้ึน และหรอื ได้รบั ยศสูงข้ึนแล้ว ในกรณีท่ีผู้มีอานาจส่ังเลื่อนเงินเดือนพิจารณาเห็นสมควรเลื่อนเงินเดือนให้ข้าราชการตารวจ ผูใ้ ดแต่ผ้นู นั้ จะต้องพ้นจากราชการไปเพราะเหตุเกษียณอายุตามกฎหมายว่าด้วยบาเหน็จบานาญข้าราชการ ให้ผู้มีอานาจสง่ั เลือ่ นเงนิ เดือน ส่ังเลื่อนเงินเดอื นเพ่ือประโยชน์ในการคานวณบาเหน็จบานาญให้ผู้น้ัน ในวันที่ ๓๐ กันยายนของครง่ึ ปีสุดท้ายก่อนท่ีจะพ้นจากราชการ ในกรณีที่ผู้มีอานาจส่ังเลื่อนเงินเดือนพิจารณาเห็นสมควรเลื่อนเงินเดือนให้ข้าราชการตารวจ ผู้ใดแต่ผูน้ น้ั ได้ตายใน หรอื หลังวันท่ี ๑ เมษายน หรือวนั ท่ี ๑ ตลุ าคม หรือออกจากราชการไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ หลังวันท่ี ๑ เมษายน หรอื วนั ที่ ๑ ตลุ าคม กอ่ นทจ่ี ะมคี าสั่งเลอื่ นเงินเดือนในแต่ละครั้ง ผู้มีอานาจสั่งเล่ือน เงินเดือนจะสั่งเลื่อนเงินเดือนให้ผู้น้ันย้อนหลังไปถึงวันท่ี ๑ เมษายน หรือวันท่ี ๑ ตุลาคมของครึ่งปี ที่จะไดเ้ ล่อื นน้นั กไ็ ด้ สาหรับกรณีข้าราชการตารวจผู้ใดออกจากราชการไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ในวันที่ ๑ เมษายน หรือวันท่ี ๑ ตุลาคม ก่อนที่จะมีคาส่ังเล่ือนเงินเดือนในแต่ละครั้ง ผู้มีอานาจสั่งเล่ือนเงินเดือนจะส่ังเลื่อน เงนิ เดือนให้ผู้น้ันย้อนหลังไปถึงวันท่ี ๓๑ มีนาคม หรือวันท่ี ๓๐ กันยายนของคร่ึงปีท่ีจะได้เลื่อนน้ันก็ได้ แต่ถ้าผู้น้ันได้พ้นจากราชการเพราะเหตุเกษียณอายุตามกฎหมายว่าด้วยบาเหน็จบานาญข้าราชการไปก่อน ท่จี ะมีคาสั่งเลื่อนเงินเดือนเพ่ือประโยชน์ในการคานวณบาเหน็จบานาญ ผู้มีอานาจส่ังเล่ือนเงินเดือน จะส่งั เลื่อนเงินเดือนให้ผู้นัน้ ย้อนหลังไปถงึ วนั ที่ ๓๐ กันยายนของครง่ึ ปีสุดท้ายทีจ่ ะได้เลื่อนนน้ั กไ็ ด้ การ เลื่อนเ งินเ ดือน ข้าราช การ ตาร วจ ที่ไม่เ ป็นไป ต ามหลักเกณฑ์แล ะวิธีการ ที่กาห น ด ในกฎ ก.ตร. นี้ แตผ่ มู้ อี านาจสง่ั เล่ือนเงนิ เดือนพจิ ารณาเหน็ สมควรเลอื่ นเงนิ เดือนให้โดยมีเหตุผลเป็นพิเศษ ให้ผู้มอี านาจสงั่ เลอ่ื นเงินเดือนดังกลา่ วดาเนินการเพ่ือเสนอ ก.ตร. พจิ ารณาอนมุ ัตเิ ปน็ กรณๆี ไป

64  อนชุ ยั ณ วัชรเจรญิ แนวทางปฏิบัติในการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการตารวจ และเล่ือนข้ัน ค่าจา้ งลูกจ้างประจา แนวทางปฏิบัติในการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการตารวจ และเล่ือนขั้นค่าจ้างลูกจ้างประจา ตามหนังสือ ตร. ท่ี ๐๐๐๙.๒๕๑/ว 36 ลง 26 ม.ิ ย. 57 สรุปสาระสาคญั ไดด้ ังน้ี ๑. ในแนวทางนี้ ๑.๑ การพิจารณาถ้อยคาที่ปรากฏในกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการกาหนดหลักเกณฑ์ และวธิ กี ารพจิ ารณาเลื่อนเงนิ เดือนข้าราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๕๖ ให้ถือตามแนวทางการพจิ ารณาดังน้ี 1.1.1 ความในข้อ 6 (4) คาว่า “ส่ังลงโทษทางวินัยถึงที่สุด” ให้พิจารณา ตามกฎหมายว่าดว้ ยการดาเนินการทางวนิ ัยสาหรบั ขา้ ราชการตารวจ 1.1.2 ความในข้อ 6 (4) คาว่า “เส่ือมเสียเกียรติศักดิ์ของตาแหน่งหน้าที่ ราชการของตน” ให้ผู้บังคับบัญชาผู้มีอานาจสั่งเล่ือนเงินเดือนพิจารณาด้วยความละเอียดรอบคอบ โดยคานึงถึงผลกระทบอื่นอันอาจจะเกิดขึ้นต่อสังคม ความยุติธรรม และพึงสังวรในการใช้ดุลยพินิจด้วย ความระมัดระวังเพือ่ ไม่ให้เกิดปญั หาขน้ึ ๑.๑.3 ความในข้อ 6 (๘) คาว่า “เหตุผลอันสมควร” ให้พิจารณาด้วยความ ละเอียดรอบคอบ โดยคานึงถึงเหตุผลความจาเป็นท่ีแท้จริงของข้าราชการตารวจผู้น้ันว่ามีความ สมเหตุสมผล ตามสภาพความเป็นจริงเกี่ยวกับระยะเวลา ระยะทาง สภาพภูมิประเทศ สภาพภูมิอากาศ สภาพแวดลอ้ มตา่ งๆ และอืน่ ๆ ประกอบกนั ๑.๒ “การเล่ือนเงินเดือน” หมายความว่า การส่ังให้ข้าราชการตารวจได้รับเงินเดือน ในข้ันท่ีสูงข้ึนหรือได้รับเงินตอบแทนพิเศษแทนการเล่ือนเงินเดือน เพื่อตอบแทนความดี ความชอบ ท่ผี ู้นน้ั ไดป้ ฏิบตั ิในครึ่งปที ่ีแล้วมา ๑.๓ “หนว่ ยจดั ทาบญั ชี” หมายถงึ หน่วยงานที่มีหน้าท่ีในการคานวณและใช้วงเงิน งบประมาณ และโควตาเล่ือน ๑ ข้ัน หรือโควตาเลื่อน ๒ ข้ัน และพิจารณาจัดทาบัญชีแสดงการเลื่อน เงนิ เดือนให้แก่ข้าราชการตารวจ รวมท้งั เอกสารรายละเอยี ดประกอบตามทกี่ าหนดไวใ้ นแนวทางน้ี ๑.๔ “วงเงินงบประมาณ” หมายถึง กรอบจานวนเงินงบประมาณท่ีนาไปใช้เล่ือน เงินเดอื นและให้ได้รบั เงนิ ตอบแทนพเิ ศษแก่ขา้ ราชการตารวจ ๑.๕ “โควตาเล่ือน ๑ ข้ัน” หมายถึง กรอบจานวนข้าราชการตารวจตามสัดส่วน ทกี่ าหนดไว้ให้เลื่อนเงินเดือน ๑ ข้นั ได้ ๑.๖ “โควตาเลื่อน ๒ ขั้น” หมายถึง กรอบจานวนข้าราชการตารวจตามสัดส่วน ทก่ี าหนดไว้ใหเ้ ลื่อนเงนิ เดอื นรวมทงั้ ปี ๒ ขัน้ ได้ ๑.๗ “เงินตอบแทนพิเศษ” หมายถึง เงินซ่ึงจ่ายเป็นรายเดือนให้แก่ข้าราชการตารวจ ผู้ท่ีได้รับเงินเดือนถึงข้ันสูงของระดับอยู่แล้ว (เต็มขั้น) และข้าราชการตารวจผู้นั้นได้รับการพิจารณา ใหเ้ ลือ่ นเงนิ เดอื น โดยใหไ้ ด้รับเงนิ ตอบแทนพิเศษแทนการเล่ือนเงินเดือน ในอัตราร้อยละ ๒ (กรณี ๐.๕ ข้ัน) ร้อยละ ๔ (กรณี ๑ ข้ัน) และร้อยละ ๖ (กรณี ๑.๕ ขั้น) ของเงินเดือน ตามท่ีระเบียบกระทรวงการคลัง กาหนด ๑.๘ ตาแหน่งข้าราชการตารวจตาแหน่งใดในแนวทางน้ีให้หมายความรวมถึงตาแหน่ง ทเี่ ทียบเท่าตาแหน่งนัน้ ด้วย

คาอธิบายการบรหิ ารงานกาลังพล สานกั งานตารวจแหง่ ชาติ  65 ๑.๙ หน่วยงานระดับใดในแนวทางน้ีให้หมายความรวมถึงหน่วยงานที่เทียบเท่า หนว่ ยงานน้นั ด้วย ๒. ระยะเวลาดาเนินการ ใหห้ นว่ ยต่างๆ พจิ ารณาดาเนนิ การและมีคาสั่งเล่ือนเงินเดือน ข้าราชการตารวจ ตามห้วงระยะเวลาดงั นี้ ๒.๑ การเลื่อนเงินเดือนประจาปี ครั้งที่ ๑ ครึ่งปีแรก (๑ เม.ย.) ให้หน่วยต่างๆ เร่ิมพิจารณาดาเนินการตั้งแต่วันที่ ๑ มี.ค. และมีคาสั่งเลื่อนเงินเดือนข้าราชการตารวจ ให้เสร็จส้ิน ภายในวนั ท่ี ๓๑ ม.ี ค. ๒.๒ การเลื่อนเงินเดือนประจาปี ครั้งที่ ๒ ครึ่งปีหลัง (๑ ต.ค.) ให้หน่วยต่างๆ เร่ิมพิจารณาดาเนินการต้ังแต่วันที่ ๑ ก.ย. และมีคาสั่งเลื่อนเงินเดือนข้าราชการตารวจ ให้เสร็จสิ้น ภายในวันท่ี ๓๐ ก.ย. ๓. หนว่ ยจัดทาบญั ชี ๓.๑ โดยท่วั ไปใหก้ าหนดหนว่ ยจดั ทาบญั ชีไว้ดงั นี้ ๓.๑.๑ บช. สาหรบั กลมุ่ รอง ผบช., ผบก. และ รอง ผบก. ๓.๑.๒ บก., ภ.จว. หรือหน่วยงานท่ีมี รอง ผบก. เป็นหัวหน้า ที่ไม่ได้อยู่ในสังกัด บก. ใด เช่น ศูนยฯ์ หรือกล่มุ งานต่างๆ สาหรับกลุม่ ผกก., รอง ผกก., สว. และ รอง สว. ๓.๑.๓ กก., สน., สภ., ด่าน ตม. หรือหน่วยงานท่ีมี ผกก., รอง ผกก., สวญ., สว. หรือ รอง สว. เป็นหัวหน้า ที่ไม่ได้อยู่ในสังกัด กก.ใด เช่น ศูนย์ฯ หรือกลุ่มงานต่างๆ สาหรับ กลุ่ม ผบ.หมู่ ลงมา ๓.๑.๔ สาหรับ บก. ในสังกัด สง.ผบ.ตร. (สลก.ตร., ตท., สท., สง.ก.ต.ช., บ.ตร. และ วน.) ให้กาหนดหน่วยจัดทาบัญชีตามข้อ ๓.๑.๒ และ ๓.๑.๓ และให้จัดทาบัญชีแสดง การเล่ือนเงนิ เดือนขา้ ราชการตารวจกลมุ่ รอง ผบก. ด้วย ๓.๒ นอกเหนอื จากข้อ ๓.๑ ใหก้ าหนดหนว่ ยจัดทาบัญชีดงั นี้ ๓.๒.๑ สาหรับข้าราชการตารวจที่ขึ้นตรงต่อ บช. และข้าราชการตารวจ ในหน่วยงานที่ต่ากว่า บก. ใน บช. ให้ ผบช. นาไปรวมพิจารณากับหน่วยจัดทาบัญชีใดหน่วยจัดทา บญั ชีหนง่ึ หรือจะให้ บช. เป็นหนว่ ยจัดทาบญั ชีกไ็ ด้ตามที่เหน็ สมควร ๓.๒.๒ สาหรบั ขา้ ราชการตารวจท่ีข้ึนตรงต่อ บก. ให้ ผบก.พิจารณานาไปรวม พิจารณากับหน่วยจัดทาบัญชีใดหน่วยจัดทาบัญชีหน่ึง หรือจะให้ บก. เป็นหน่วยจัดทาบัญชีก็ได้ ตามทเ่ี หน็ สมควร ๓.๓ ให้ ทพ. รบั ผิดชอบดาเนนิ การเพ่ิมเตมิ นอกจากการดาเนนิ การ ตามข้อ ๓.๑.๒ ดงั น้ี ๓.๓.๑ จัดทาบัญชีแสดงข้อมูลการเลื่อนเงินเดือน ตามแบบบัญชีแสดงการเลื่อน เงินเดือนโดยอนุโลม สาหรับข้าราชการตารวจที่ดารงตาแหน่งตั้งแต่ ผบก. ขึ้นไป นอกเหนือจาก ในสว่ นที่มี บช. เป็นหนว่ ยจดั ทาบญั ชใี นข้อ ๓.๑.๑ ๓.๓.๒ จัดทาบัญชีแสดงข้อมูลการเลื่อนเงินเดือน ตามแบบบัญชีแสดงการเลื่อน เงินเดือนโดยอนุโลม สาหรับข้าราชการตารวจท่ีดารงตาแหน่ง นว. และ ผู้ช่วย นว.ผบ.ตร., จตช., รอง ผบ.ตร., ผู้ช่วย ผบ.ตร., จตร., ผบช.ประจา สง.ผบ.ตร., ผบก.ประจา สง.ผบ.ตร. รวมตลอดถึง ข้าราชการตารวจที่ได้รับคาสั่งให้ปฏิบัติราชการในสานักงานผู้บังคับบัญชาดังกล่าวและหน่วยต้นสังกัด ตดั ยอดตวั คนใหส้ านักงานเป็นผู้พิจารณาเลอ่ื นเงนิ เดือน

66  อนชุ ัย ณ วชั รเจรญิ ทัง้ น้ี ให้ ทพ. ดาเนินการดงั น้ี ๓.๓.๒.๑ แจ้งผู้บังคับบัญชาผู้มีอานาจส่ังเลื่อนเงินเดือน มีคาส่ังเล่ือน เงินเดือนให้แก่ข้าราชการตารวจท่ีดารงตาแหน่ง นว. และ ผู้ช่วย นว.ผบ.ตร., จตช., รอง ผบ.ตร. และผู้ช่วย ผบ.ตร. ผู้ท่ีอยู่ในหลักเกณฑ์การเลื่อนเงินเดือน ให้เล่ือนเงินเดือนตามความเห็นชอบจาก ผู้บังคับบัญชา ซึ่งหากเป็นการใช้โควตาเลื่อนเงินเดือน ให้หักออกจากโควตาเลื่อนเงินเดือนท่ี ผู้บังคับบัญชาได้รับการจัดสรรจาก ผบ.ตร. สาหรับกรณีท่ีผู้บังคับบัญชาสานักงานใดไม่ได้รับการจัดสรร โควตาเลื่อนเงินเดือน เนื่องจากเหตุเกษียณอายุราชการ หรือกรณีใดๆ ให้ถือว่าเป็นการใช้โควตา ในภาพรวมของ ตร. ๓.๓.๒.๒ แจ้งผู้บังคับบัญชาผู้มีอานาจสั่งเลื่อนเงินเดือน มีคาส่ังเล่ือน เงนิ เดอื นใหแ้ กข่ ้าราชการตารวจท่ีดารงตาแหน่ง นว. และ ผู้ชว่ ย นว.จตร., ผบช.ประจา สง. ผบ.ตร., ผบก.ประจา สง.ผบ.ตร. และข้าราชการตารวจที่ได้รับคาส่ังให้ปฏิบัติราชการในสานักงานผู้บังคับบัญชา ข้างต้น และหน่วยต้นสังกัดตัดยอดตัวคนให้สานักงานเป็นผู้พิจารณาเลื่อนเงินเดือน ผู้ที่อยู่ในหลักเกณฑ์ การเลอื่ นเงนิ เดอื น ให้เลอ่ื นเงนิ เดือนทั้งปี 1.5 ข้ัน โดยให้เลอ่ื นเงนิ เดือนประจาปี ครั้งที่ 1 คร่ึงปีแรก (1 เม.ย.) จานวน 0.5 ข้ัน และประจาปี ครั้งที่ 2 คร่ึงปีหลัง (1 ต.ค.) จานวน 1 ขั้น หรือหาก ขา้ ราชการตารวจดังกล่าวได้รบั การเลอื่ นเงินเดือนประจาปี ครั้งท่ี 1 คร่ึงปีแรก (1 เม.ย.) จานวน 1 ข้ัน มาก่อนแลว้ ให้เล่อื นเงินเดอื นประจาปี คร้ังที่ 2 คร่ึงปีหลงั (1 ต.ค.) จานวน 0.5 ข้นั แล้วแต่กรณี ๓.๓.๓ จัดทาบัญชีแสดงการเล่ือนเงินเดือนสาหรับข้าราชการตารวจท่ีประจา หรือสารองราชการ ตร. และนาเสนอผู้บังคับบัญชาผู้มีอานาจส่ังเล่ือนเงินเดือน พิจารณาเลื่อนเงินเดือน ผู้ท่ีอยู่ในหลักเกณฑ์การเลื่อนเงินเดือนรายละไม่เกิน ๐.๕ ขั้น ไปก่อนที่ ผบ.ตร. จะพิจารณาสั่งการ เป็นอย่างอื่น ๓.๔ ให้ ศปก.ตร.สน. (ศูนย์ปฏิบัติการสานักงานตารวจแห่งชาติส่วนหน้า) เป็นหน่วย จดั ทาบัญชีสาหรับขา้ ราชการตารวจกลมุ่ รอง ผบก.ลงมา ที่ปฏิบัตหิ นา้ ทีใ่ น ศปก.ตร.สน. และ ศปก.ตร.สน. มคี วามประสงคท์ ี่จะเป็นผ้พู ิจารณาเลื่อนเงินเดือนให้แก่ข้าราชการตารวจผู้นั้น ให้หน่วยงานต้นสังกัด ของข้าราชการตารวจผูน้ นั้ ตดั ยอดให้ ศปก.ตร.สน. เป็นผู้พิจารณาเลอ่ื นเงินเดือนให้ หากหน่วยจัดทาบัญชีต้นสังกัดของข้าราชการตารวจที่ปฏิบัติหน้าที่ใน ศปก.ตร.สน. ดังกล่าว ประสงค์จะเป็นผู้พิจารณาเล่ือนเงินเดือนให้ก็ให้ประสานทาความตกลงกับ ศปก.ตร.สน. โดยชี้แจงเหตุผลความจาเป็น ให้ ศปก.ตร.สน. ทราบ หากไม่สามารถตกลงกันได้ให้ถือ ความเหน็ ศปก.ตร.สน. เป็นทีส่ ดุ ๓.๕ ในกรณที ่ีคณะกรรมการ คณะทางาน หรือสานักงาน ที่จัดตั้งขึ้นโดยไม่มีฐานะเป็น ส่วนราชการตามกฎหมาย หรือไม่สังกัดหน่วยงาน ตามข้อ ๓.๑ - ๓.๒ หากมีจานวนข้าราชการตารวจ ทีป่ ฏบิ ตั ริ าชการเพียงพอท่ีจะคานวณโควตาเลื่อน ๑ ข้ัน หรือโควตาเลื่อน ๒ ข้ัน และมีวงเงินงบประมาณ สามารถนาไปใชเ้ ล่อื นเงินเดือนในกรณีดังกลา่ วได้ ถ้าประสงค์จะเป็นผู้พิจารณาจัดทาบัญชีแสดงการเล่ือน เงนิ เดอื นใหแ้ ก่ขา้ ราชการตารวจในคณะกรรมการ คณะทางาน หรือสานักงานเสมือนเป็นหน่วยจัดทาบัญชี กใ็ ห้ผ้บู งั คับบัญชาซึ่งเป็นหวั หน้าของคณะกรรมการ คณะทางาน หรอื สานักงาน เสนอ ผบ.ตร. เพ่ือพิจารณา อนุมตั เิ ป็นกรณีพิเศษ โดยต้องช้ีแจงภารกิจ ระยะเวลาที่ปฏิบัติภารกิจ จานวนคน แยกตามตาแหน่ง และสังกัด พร้อมด้วยหลักฐานการจัดตั้งคณะกรรมการ คณะทางาน หรือสานักงาน แล้วแต่กรณี และการส่งั ให้ข้าราชการตารวจดงั กล่าวไปปฏิบตั ิราชการ ฯลฯ

คาอธิบายการบริหารงานกาลงั พล สานักงานตารวจแหง่ ชาติ  67 ๓.๖ กรณีตามข้อ ๓.๑.๒ และข้อ ๓.๑.๓ หากหน่วยจัดทาบัญชีใดมีจานวน ข้าราชการตารวจคานวณโควตาได้ไม่ถึง ๑ ผู้บังคับบัญชาผู้มีอานาจส่ังเลื่อนเงินเดือนจะพิจารณา ดาเนนิ การเชน่ เดียวกับกรณีตามข้อ ๓.๒ กไ็ ด้ ตามทีเ่ หน็ สมควร ๔. การนับจานวนข้าราชการตารวจเพื่อนามาคานวณโควตาเล่ือน ๑ ข้ัน หรือโควตา เล่ือน ๒ ขัน้ และคานวณวงเงินงบประมาณ การคานวณโควตาเลื่อน ๑ ขั้น หรือโควตาเลื่อน ๒ ขั้น และวงเงินงบประมาณ ให้ดาเนนิ การดังน้ี ๔.๑ ให้หน่วยจัดทาบัญชีนาจานวนข้าราชการตารวจที่ดารงตาแหน่งในสังกัด ตามคาส่ังแต่งตั้ง ณ วันที่ ๑ มี.ค. มาคานวณโควตาเลื่อน ๑ ขั้น ณ วันที่ ๑ เม.ย. สาหรับการคานวณ โควตาเลื่อน ๒ ขั้น ณ วันที่ ๑ ต.ค. ให้นาจานวนข้าราชการตารวจที่ดารงตาแหน่งในสังกัด ตามคาส่ังแตง่ ต้งั ณ วันท่ี ๑ ก.ย. มาคานวณ และนาฐานเงินเดือน ณ วันที่ ๑ ก.ย. มาคานวณวงเงิน งบประมาณ เพอื่ นามาพจิ ารณาเลือ่ นเงนิ เดอื น เว้นแต่ ๔.๑.๑ ข้าราชการตารวจผู้ใดอยู่ระหว่างถูกสั่งพักราชการ ขาดราชการ หนรี าชการ หรอื ถกู สงั่ ให้ออกจากราชการไว้ก่อน ในวันที่ ๑ มี.ค. หรือวันที่ ๑ ก.ย. ไม่สามารถนามา คานวณโควตาเล่ือน ๑ ข้ัน หรือโควตาเล่ือน ๒ ข้ัน และคานวณวงเงินงบประมาณ แล้วแต่กรณีได้ และสาหรับผู้ท่ีกลับเข้ารับราชการหลังวันท่ี 1 มี.ค. หรือผู้ที่ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการคร้ังแรก หลังวันที่ ๑ มี.ค. เช่น นักเรียนนายสิบตารวจ หรือนักเรียนนายร้อยตารวจชั้นปีท่ี ๑ ซ่ึงได้รับการบรรจุ เข้ารับราชการเป็น พลตารวจสารอง ในวันท่ี ๑ เม.ย. ไม่สามารถนามาคานวณโควตาเล่ือนเงินเดือน ๒ ขัน้ ในปนี นั้ ได้ ๔.๑.๒ ในครึ่งปีที่แล้วมา ข้าราชการตารวจผู้ใดได้รับการแต่งตั้งให้ไปดารง ตาแหน่งอื่นนอกสังกัดหน่วยจัดทาบัญชีเดิมก่อนวันที่ ๑ มี.ค. หรือก่อนวันที่ ๑ ก.ย. ของครึ่งปี ท่ีจะได้เลื่อนเงินเดือนแล้วแต่กรณี ผู้บังคับบัญชาของหน่วยจัดทาบัญชีเดิมจะเป็นผู้พิจารณาเลื่อน เงนิ เดือนให้แกข่ ้าราชการตารวจผู้นั้น โดยใช้วงเงินงบประมาณและโควตาเลื่อน ๑ ขั้น หรือโควตาเลื่อน ๒ ขั้น ของหน่วยจัดทาบัญชีเดิมก็ได้ ท้ังน้ีข้าราชการตารวจผู้นั้นจะต้องมีระยะเวลาปฏิบัติราชการ ในหนว่ ย จัดทาบัญชีเดมิ มากกวา่ และต้องได้รับความยินยอมจากผู้บังคับบัญชาของหน่วยจัดทาบัญชีใหม่ ของขา้ ราชการตารวจผู้นั้นก่อน ๔.๑.๓ ในวันท่ี ๑ มี.ค. หรือ ๑ ก.ย. ของคร่ึงปีท่ีจะได้เล่ือนเงินเดือน แล้วแต่กรณี ข้าราชการตารวจผู้ใดได้รับคาสั่งให้ไปปฏิบัติราชการภายใน ตร. เป็นระยะเวลาเกินกว่า ๙๐ วัน ใหผ้ ้บู งั คบั บญั ชาของหนว่ ยจัดทาบญั ชที ่ีข้าราชการตารวจผู้นั้นอยู่ปฏิบัติราชการเป็นผู้พิจารณาเลื่อน เงินเดอื นใหแ้ ก่ข้าราชการตารวจผู้นนั้ ในกรณีผู้บังคับบัญชาของหน่วยจัดทาบัญชีที่ข้าราชการตารวจผู้น้ัน สังกัดอยู่ (ตามคาส่ังบรรจุและแต่งตั้ง) หรือผู้บังคับบัญชาของหน่วยจัดทาบัญชีที่ข้าราชการตารวจผู้นั้น ได้อยู่ปฏิบัติราชการ ประสงค์จะเป็นผู้พิจารณาเลื่อนเงินเดือนให้แก่ข้าราชการตารวจผู้นั้นก็ให้ ประสานงานทาความตกลงกัน หากไม่สามารถตกลงกันได้ ให้ผู้บังคับบัญชาของหน่วยจัดทาบัญชี ท่ขี า้ ราชการตารวจผนู้ นั้ ได้อยปู่ ฏิบตั ิหนา้ ทีร่ าชการในครงึ่ ปีท่แี ล้วมามากกว่าเป็นผู้พจิ ารณา

68  อนชุ ัย ณ วชั รเจรญิ ๔.๒ ข้าราชการตารวจท่ีไปช่วยราชการในหน่วยงานพิเศษ เช่น กองอานวยการ รกั ษาความม่ันคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) ศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพเรือ (ศปก.ทร.) ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพอากาศ (ศปก.ทอ.) หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) ศูนยอ์ านวยการร่วมกองบญั ชาการทหารสูงสุด (ศอร.บก.ทหารสูงสุด) หรือกองอานวยการเสริมสร้าง สันติสขุ จงั หวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) เป็นตน้ ให้แยกดาเนนิ การเปน็ ๒ กลุ่มดงั น้ี ๔.๒.๑ กลุ่มที่ปฏิบัติงานให้หน่วยงานพิเศษดังกล่าวเป็นประจาและเต็มเวลา โดยไม่ได้ปฏิบัติงานให้กับต้นสังกัด ให้หน่วยต้นสังกัดตัดยอดจานวนคนและเงินเดือนข้าราชการตารวจ กลมุ่ ดงั กลา่ วออกจากฐานคานวณโควตาเลื่อนเงินเดือนของตน ๔.๒.๒ กลุ่มท่ีปฏิบัติงานให้หน่วยงานพิเศษดังกล่าวและขณะเดียวกันก็ปฏิบัติ ราชการให้กับต้นสังกัดด้วย ให้หน่วยต้นสังกัดเป็นผู้พิจารณาเล่ือนเงินเดือนให้แก่ข้าราชการตารวจ กลุ่มดงั กลา่ ว เพื่อให้เกิดความถูกต้องในการตัดยอดตามข้อ ๔.๒.๑ และข้อ ๔.๒.๒ ให้หน่วยต้นสังกัดประสานงานกับหน่วยงานพิเศษเหล่าน้ัน ให้ปรากฏหลักฐานแยกให้ชัดเจนว่า ข้าราชการตารวจท่ไี ปชว่ ยราชการเปน็ ประเภทใด เพอื่ มใิ ห้เกิดปัญหาการนับตัวคน และการคิดเงินเดือน ซ่ึงจะสง่ ผลให้การคานวณวงเงินงบประมาณและโควตาซา้ ซอ้ นกนั ๔.๓ นอกจากข้อ ๔.๒ หากหน่วยใดมีข้าราชการตารวจที่ได้รับคาส่ังให้ไปช่วยราชการ นอกสังกัด ตร. เช่น ข้าราชการตารวจผู้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยข้าราชการการเมือง หรือบุคคลสาคัญ หรือไปช่วยราชการในงานของคณะรัฐมนตรี หรือไปปฏิบัติงาน ณ ต่างประเทศ ให้หน่วยจดั ทาบัญชี ซึ่งข้าราชการตารวจผู้น้ันสังกัดอยู่นับตัวและนามาเป็นฐานในการคานวณวงเงิน งบประมาณ และโควตาเล่ือน ๑ ข้ัน หรือโควตาเล่ือน ๒ ขั้น และพิจารณาเลื่อนเงินเดือนด้วย โดยหน่วย จะต้องแจ้งรายช่อื ให้ บช. หรอื ฝาุ ยความชอบ ทพ. แล้วแต่กรณี ทราบภายในวันที่ ๗ มี.ค. หรือวันที่ ๗ ก.ย. ของคร่ึงปีท่ีจะได้เลื่อนเงินเดือนแล้วแต่กรณี พร้อมด้วยเอกสารที่เกี่ยวข้องและให้ลงหมายเหตุไว้ ในบัญชีดว้ ย ๔.๔ ข้าราชการตารวจดารงตาแหน่งอยู่ในกลุ่มใดตามที่กาหนดไว้ในข้อ ๖.๑ ในวันท่ี ๑ มี.ค. หรอื ๑ ก.ย. ของครึ่งปีท่ีจะได้เลื่อนเงินเดือน แล้วแต่กรณี ให้คานวณวงเงินงบประมาณ และโควตาเล่ือน ๑ ข้ัน และโควตาเล่ือน ๒ ขั้น ในกลุ่มนั้น ข้าราชการตารวจที่ถูกส่ังให้สารองราชการ สว่ นราชการใด ประจา ตร. หรือประจาส่วนราชการใด ให้ถือตาแหน่งเดิมคร้ังสุดท้ายก่อนถูกส่ังให้ประจา หรอื สารองราชการ ข้าราชการตารวจที่ได้รับพระราชทานยศ หรือได้รับการแต่งต้ังยศเป็นพิเศษ สงู กว่าชนั้ ยศของตาแหน่ง และข้าราชการตารวจซึ่งผ่านการประเมินสมรรถภาพ ความประพฤติ ความรู้ ความสามารถ และผลการปฏิบัติหน้าท่ีของข้าราชการตารวจ ตามนัยมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติ ตารวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๕๔ ใหค้ านวณวงเงินงบประมาณและโควตาในกลมุ่ ท่ดี ารงตาแหนง่ อยู่ 4.5 ข้าราชการตารวจทไ่ี ด้รบั คาส่งั ให้รักษาราชการแทนในตาแหน่งในสงั กดั หน่วยงานใด ให้ถือเสมอื นไดร้ ับการแตง่ ตัง้ ให้ดารงตาแหนง่ ในสงั กัดหน่วยงานนนั้

คาอธิบายการบริหารงานกาลงั พล สานักงานตารวจแหง่ ชาติ  69 ๕. โควตาเลอ่ื น ๑ ขนั้ หรอื โควตาเลื่อน ๒ ขั้น และวงเงินงบประมาณ ๕.๑ การเล่ือนเงินเดือนประจาปี ครั้งที่ ๑ ครึ่งปีแรก (๑ เม.ย.) ในวันที่ ๑ เม.ย. ของทุกปี ให้หน่วยจัดทาบัญชีตามข้อ ๓ คานวณโควตาเลื่อน ๑ ข้ัน ในอัตราร้อยละของจานวน ข้าราชการตารวจในหน่วยจัดทาบัญชี ณ วันท่ี ๑ มี.ค. โดยให้ถือจานวนเต็มที่คานวณได้เป็นโควตา เล่อื น ๑ ขน้ั ท้งั น้มี ใิ หป้ ัดเศษทศนยิ มเปน็ จานวนเต็มดังน้ี ๕.๑.๑ กลมุ่ ผบก. ขน้ึ ไป ใหเ้ ล่อื นได้ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๒๕ ๕.๑.๒ กลมุ่ รอง ผบก.ลงมา ใหเ้ ลื่อนได้ไมเ่ กินร้อยละ ๒๙ ๕.๒ การเล่ือนเงนิ เดอื นประจาปี คร้ังท่ี ๒ ครงึ่ ปหี ลงั (๑ ต.ค.) ๕.๒.๑ ในวันท่ี ๑ ต.ค. ของทุกปี ให้หน่วยจัดทาบัญชีตามข้อ ๓ คานวณโควตา เลื่อน ๒ ขั้น ในอัตราร้อยละของจานวนข้าราชการตารวจในหน่วยจัดทาบัญชี ณ วันที่ ๑ ก.ย. โดยให้ถือจานวนเต็มท่ีคานวณได้เป็นโควตาเลื่อน ๒ ขั้น ท้ังน้ีมิให้ปัดเศษทศนิยมเป็นจานวนเต็ม และการคิดคานวณวงเงินงบประมาณที่ใช้ในการเล่ือนเงินเดือน ให้คิดเป็นร้อยละจากฐานเงินเดือนรวม ของข้าราชการตารวจ ณ วันที่ ๑ ก.ย. ในแต่ละกลุ่มตาแหน่งของหน่วยจัดทาบัญชี โดยให้นายอดเงิน ที่ใช้ในการเล่ือนเงินเดือนครั้งท่ี ๑ ครึ่งปีแรก (๑ เม.ย.) มาหักออกเพ่ือใช้ในการเล่ือนเงินเดือนครั้งที่ ๒ ครงึ่ ปหี ลัง (๑ ต.ค.)ดังน้ี (๑) กลุ่ม ผบก. ขึ้นไป ให้เลื่อนได้ไม่เกินร้อยละ ๒๕ โดยให้ใช้วงเงิน งบประมาณในการเลอื่ นเงนิ เดอื นได้ไมเ่ กนิ ร้อยละ ๕.๕ (๒) กลุ่ม รอง ผบก.ลงมา ให้เล่ือนได้ไม่เกินร้อยละ ๒๙ โดยให้ใช้วงเงิน งบประมาณในการเลื่อนเงนิ เดอื นไดไ้ ม่เกินร้อยละ ๕.๙ ๕.๒.๒ สาหรับข้าราชการตารวจที่ได้รับเงินเดือนถึงข้ันสูงของระดับ (เต็มขั้น) และได้รับการพิจารณาเลื่อนเงินเดือน ๐.๕ ขั้น, ๑ ขั้น หรือ ๑.๕ ขั้น แล้วแต่กรณี ซึ่งได้รับเงิน ตอบแทนพิเศษตามข้อ ๑.๗ เงินตอบแทนพิเศษดังกล่าวจะคานวณอยู่ในวงเงินงบประมาณที่ใช้ในการ เลอ่ื นเงนิ เดอื น ทง้ั นี้ ให้รวมถงึ เงินตอบแทนพิเศษท่ใี ช้ไปแลว้ ในการเลื่อนเงินเดือนคร้ังท่ี ๑ ครึ่งปีแรก (๑ เม.ย.) ด้วย ตามขอ้ ๕.๒.๑ ๕.๓ การรวมเศษโควตา และวงเงินงบประมาณ ๕.๓.๑ สาหรับหน่วยจัดทาบัญชีระดับ บก. เมื่อพิจารณาเลื่อนเงินเดือนตาม กรอบโควตาและวงเงนิ งบประมาณ ท่ี ตร. กาหนด ตามขอ้ ๕.๑ หรือ ๕.๒ ใหแ้ ก่ข้าราชการตารวจใน สังกัดเสร็จส้ินแล้ว ให้รวมเศษโควตาและวงเงินงบประมาณของข้าราชการตารวจกลุ่ม ผกก. ลงมา ในหน่วยจัดทาบัญชี แล้วให้พิจารณาจัดสรรเพ่ิมเตมิ แก่ข้าราชการตารวจกลุ่ม ผกก. ลงมา ของหน่วย ใน สังกดั ไปในคราวเดียวกนั กับการพิจารณาประจาปีในแตล่ ะครง้ั ของคณะกรรมการระดบั บก. ๕.๓.๒ สาหรบั หนว่ ยจดั ทาบัญชรี ะดบั บช. เมอ่ื พิจารณาเล่ือนเงินเดือนตามกรอบ โควตาและวงเงินงบประมาณท่ี ตร.กาหนด ตามข้อ ๕.๑ หรือ ๕.๒ ให้แก่ข้าราชการตารวจในสังกัด เสร็จสิ้นแล้ว ให้รวมเศษโควตาและวงเงินงบประมาณของข้าราชการตารวจกลุ่ม รอง ผบก. ลงมา ในหนว่ ยจัดทาบัญชี และเศษโควตาและวงเงินงบประมาณท่เี หลือจากการจัดสรรตามข้อ ๕.๓.๑ แล้ว และนาไปพิจารณาจัดสรรเพิ่มเติมให้แก่ข้าราชการตารวจกลุ่ม รอง ผบก.ลงมา ของหน่วยในสังกัด ไปในคราวเดียวกนั กับการพิจารณาประจาปี ในแตล่ ะครง้ั ของคณะกรรมการระดับ บช.

70  อนุชยั ณ วชั รเจรญิ ๕.๓.๓ สาหรับหน่วยจัดทาบัญชีระดับ บก. ในสังกัด สง.ผบ.ตร. เมื่อพิจารณา เลื่อนเงินเดอื นตามกรอบโควตาและวงเงินงบประมาณ ท่ี ตร. กาหนด ตามข้อ ๕.๑ หรือ ๕.๒ ให้แก่ ข้าราชการตารวจในสงั กดั เสร็จส้นิ แล้ว ให้รวมเศษโควตาและวงเงนิ งบประมาณของข้าราชการตารวจ กลุ่ม รอง ผบก.ลงมา ในหน่วยจัดทาบัญชี แล้วให้พิจารณาจัดสรรเพิ่มเติมแก่ข้าราชการตารวจ กลุ่ม รอง ผบก.ลงมา ของหน่วยในสังกัดไปในคราวเดียวกันกับการพิจารณาประจาปีในแต่ละครั้ง ของคณะกรรมการระดับ บก. ๕.๔ ในการพจิ ารณาเลือ่ นเงินเดือนตามกรอบโควตาและวงเงินงบประมาณตามข้อ ๕.๑ หรือ ๕.๒ และการรวมเศษโควตาและวงเงินงบประมาณตามข้อ ๕.๓ ให้คานึงถึงสัดส่วนของจานวน ข้าราชการตารวจที่ปฏิบัติงานในแต่ละลักษณะงาน ซ่ึงมีความแตกต่างกันภายในหน่วยงานเดียวกัน จานวนข้าราชการตารวจท่ีมีอยู่ในหน่วยงาน รวมถึงหน้าท่ีพิเศษนอกเหนือจากหน้าที่ปกติที่ได้รับ มอบหมาย หรอื ความแตกตา่ งในเรอื่ งวงเงนิ งบประมาณทใ่ี ชใ้ นการเลื่อนเงินเดือน เช่น กลุ่ม รอง สว. เป็นกลุ่มท่ีมีฐานอัตราเงินเดือนใกล้เคียงกับกลุ่ม ผบ.หมู่ แต่วงเงินงบประมาณท่ีใช้ในการเลื่อนเงินเดือน มากกว่า กลุ่ม ผบ.หมู่ ส่งผลให้การพิจารณาเลื่อนเงินเดือนรวมท้ังปี ๑.๕ ขั้น ได้น้อยกว่ากลุ่มอ่ืน หรอื ในบางกลมุ่ ตาแหนง่ ของหนว่ ยจัดทาบัญชี มีจานวนคนไม่เพียงพอต่อการคิดคานวณโควตาเล่ือน เงินเดือนรวมทั้งปี ๒ ขั้น เป็นต้น โดยให้ชี้แจงเหตุผลโดยระบุไว้ในรายงานการประชุมให้ชัดเจน และเป็นผรู้ บั ผิดชอบกรณเี กดิ การร้องเรียนขอความเปน็ ธรรมในการพจิ ารณาเลอ่ื นเงนิ เดือน ๕.๕ กรณขี า้ ราชการตารวจที่ได้รับเงินเดือนถึงข้ันสูงของระดับ (เต็มข้ัน) และได้รับ เงินตอบแทนพิเศษ ในอัตราร้อยละ ๒, ร้อยละ ๔ หรือ ร้อยละ ๖ แทนการเลื่อนเงินเดือน ๐.๕ ข้ัน, ๑ ขั้น หรือ ๑.๕ ขั้น แล้วแต่กรณี ให้รวมอยู่ในโควตาเลื่อนเงินเดือน ๑ ขั้น ณ วันที่ ๑ เม.ย. หรือเลอื่ นเงนิ เดือนท้งั ปี ๒ ข้นั ณ วันที่ ๑ ต.ค. แล้วแตก่ รณีดว้ ย ๕.๖ เน่ืองจากมติคณะรฐั มนตรี ในการประชุมเม่ือวันที่ ๘ มี.ค. ๒๕๕๔ เห็นชอบให้ ขยายกรอบโควตาเล่ือนเงินเดือนเพ่ิมข้ึน ซึ่งเป็นจานวนเพียงพอท่ีจะสามารถนาไปพิจารณาเลื่อน เงินเดือนในแต่ละกลุ่มตาแหน่งได้เพ่ิมขึ้น ดังน้ัน ผู้บังคับบัญชาจะสั่งให้หน่วยจัดทาบัญชีตาม ข้อ ๓ คิดคานวณโควตาและวงเงนิ งบประมาณน้อยกวา่ ท่ี ตร. กาหนดไมไ่ ด้ ๖. หลักเกณฑ์การพจิ ารณา ๖.๑ ในการพิจารณาเล่ือนเงินเดือนข้าราชการตารวจ ให้จาแนกข้าราชการตารวจ ตามตาแหนง่ ออกเปน็ ๗ กลุ่ม คือ ๖.๑.๑ กลมุ่ ผบก. ขึ้นไป ๖.๑.๒ กลุ่ม รอง ผบก. ๖.๑.๓ กลุ่ม ผกก. ๖.๑.๔ กลุม่ รอง ผกก. ๖.๑.๕ กลุ่ม สว. ๖.๑.๖ กลมุ่ รอง สว. ๖.๑.๗ กลุ่ม ผบ.หมู่ ลงมา

คาอธิบายการบรหิ ารงานกาลังพล สานกั งานตารวจแห่งชาติ  71 ๖.๒ การเลื่อนเงินเดือนข้าราชการตารวจ ให้ผู้บังคับบัญชานาผลการประเมิน การปฏิบัติราชการของข้าราชการตารวจมาเป็นหลักในการพิจารณา โดยพิจารณาประกอบกับ ข้อมูลการลา พฤติกรรมการมาทางาน การรักษาวินัย ความสามารถ ความอุตสาหะในการปฏิบัติหน้าท่ี พฤติกรรมการปฏิบัติตาม กฎ ก.ตร. ว่าด้วยประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของตารวจ การปฏิบัติตน ที่เหมาะสมกับการเป็นข้าราชการตารวจท่ีดี และข้อควรพิจารณาอื่นๆ มาใช้ประกอบการพิจารณา เลื่อนเงินเดือน ทั้งน้ีตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กาหนดใน กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการกาหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการพิจารณาเลือ่ นเงินเดือนขา้ ราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๕๖ ๖.๓ ข้าราชการตารวจที่จะได้รับการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนในแต่ละครั้งจะต้อง เป็นผมู้ ผี ลการประเมินการปฏิบัตริ าชการอยใู่ นระดับมาตรฐานกลางขึน้ ไป ตามหลกั เกณฑ์และวิธีการ ท่ี ก.ตร. กาหนด ๖.๔ การกาหนดจานวนครง้ั ของการลาหรือมาทางานสาย อันเป็นเหตุให้ข้าราชการตารวจ ซึ่งได้ลาหรือมาทางานสาย ไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ท่ีจะได้รับการพิจารณาเล่ือนเงินเดือนตามนัยข้อ ๖ (๕) ของกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการกาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาเล่ือนเงินเดือนข้าราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๕๖ ใหก้ าหนดไวด้ ังน้ี ๖.๔.๑ การลานอกเหนือจากการลาตามที่กาหนดไว้ใน กฎ ก.ตร. ฉบับดังกล่าว ขอ้ ๖ (๖) (ก) - (ซ) อนั ไดแ้ ก่ การลากิจ ลาปวุ ย เกนิ กวา่ ๑๕ ครั้ง ๖.๔.๒ การมาทางานสายเกินกว่า ๑๘ คร้งั ๖.๕ เน่ืองจากมติคณะรัฐมนตรีในการประชุมเม่ือวันที่ ๘ มี.ค. ๒๕๕๔ เห็นชอบให้ ขยายกรอบโควตาเลื่อนเงินเดือนแต่ยังคงใช้วงเงินงบประมาณในการเล่ือนเงินเดือนในอัตราเท่าเดิม ดังนั้น การพิจารณาเล่ือนเงินเดือนโดยใช้โควตาเล่ือนเงินเดือน ๑ ขั้น ณ วันท่ี ๑ เม.ย. และการใช้โควตา เล่ือนเงินเดือน ๒ ข้ัน ณ วันท่ี ๑ ต.ค. จะต้องพิจารณาโดยคานึงถึงวงเงินงบประมาณที่ใช้ในการ เลื่อนเงินเดือนด้วย กล่าวคือ หากหน่วยงานพิจารณาเลื่อนเงินเดือนโดยใช้โควตาเลื่อน ๑ ขั้น ณ วันท่ี ๑ เม.ย. และใช้โควตาเล่ือนเงินเดือน ๒ ข้ัน ณ วันที่ ๑ ต.ค. เต็มตามจานวนที่ ตร. กาหนด อาจส่งผลให้เหลือเงินงบประมาณในการเล่ือนเงินเดือนไม่เพียงพอต่อการเลื่อนเงินเดือนท้ังปี ๑.๕ ข้ัน แกข่ า้ ราชการตารวจผมู้ ีผลการปฏิบัติงานในอันดบั รองลงมาจากกลมุ่ ที่ใชโ้ ควตาเล่ือนเงินเดือนข้างต้น และจะมีผู้ได้รับการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนทั้งปี ๑ ขั้น เพิ่มมากขึ้น กรณีดังกล่าวผู้บังคับบัญชา ผู้มีอานาจสั่งเลื่อนเงินเดือนนอกจากจะต้องพิจารณาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กาหนดไว้ ใน กฎ ก.ตร. ว่าดว้ ยการกาหนด หลกั เกณฑ์และวิธีการพิจารณาเลอื่ นเงนิ เดือนขา้ ราชการตารวจแล้ว ใหพ้ ิจารณาโดยคานงึ ถงึ วงเงินงบประมาณท่ีใช้ในการเล่ือนเงินเดือน สัดส่วนของจานวนข้าราชการตารวจ ที่ปฏิบัติงานในแต่ละลักษณะงาน ซึ่งมีความแตกต่างกันภายในหน่วยงานเดียวกัน ผลการประเมิน การปฏิบัติราชการของข้าราชการตารวจภายในหน่วยงานเดียวกัน จานวนข้าราชการตารวจที่มีอยู่ ในหน่วยงาน รวมถึงหน้าที่พิเศษ นอกเหนือจากหน้าท่ีปกติที่ได้รับมอบหมาย ประกอบกับหลักการ สร้างแรงจูงใจและการบารุงขวัญกาลังใจให้แก่ข้าราชการตารวจในสังกัด ซึ่งหากมีขวัญและกาลังใจ ที่ต่าหรือไม่ดี ข้าราชการตารวจอาจมีพฤติกรรมที่แสดงออกมาในลักษณะกระด้างกระเดื่อง ต่อการปกครองบังคับบัญชา ขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ การมาทางานสาย ละทิ้งหน้าท่ี เลิกงานก่อนเวลา ขาดงาน ลากิจ ลาปุวยอยู่เป็นประจา ซึ่งสิ่งเหล่าน้ีย่อมจะนามาซ่ึงความเสื่อมและหย่อนสมรรถภาพ

72  อนุชยั ณ วัชรเจรญิ ในการปฏิบัติหน้าที่ ท้ังนี้ส่ิงท่ีผู้บังคับบัญชาผู้มีอานาจส่ังเลื่อนเงินเดือนต้องตระหนักอยู่เสมอคือ จะพิจารณาเล่ือนเงินเดือนอย่างไรเพื่อจูงใจและส่งเสริมให้บุคลากรมีขวัญกาลังใจในการปฏิบัติงาน และพร้อมทุ่มเทพลังความสามารถในการปฏิบัติงาน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของหน่วยงาน แต่หากไม่สามารถพิจารณาไปตามสัดส่วนตัวคนในแต่ละกลุ่ม ตาแหน่ง หรือสายงานได้ให้ชี้แจงเหตุผล โดยระบไุ วใ้ นรายงานการประชุมใหช้ ดั เจน ทง้ั นี้ การพจิ ารณาเลอื่ นเงินเดอื นโดยคานงึ ถึงสัดส่วนของจานวนข้าราชการตารวจ ข้างต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม รอง สว. ซ่ึงมีกลุ่มข้าราชการตารวจช้ันประทวนยศ ด.ต. ที่มีอายุ 53 ปีขึ้นไป ที่ได้เล่ือนตาแหน่งและเลื่อนยศแบบเล่ือนไหลเป็นช้ันสัญญาบัตรถึงยศ ร.ต.อ. รวมอยู่ด้วย จงึ มคี วามแตกต่างกันในลักษณะงาน หน้าท่ีความรับผิดชอบ และปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ผู้บังคับบัญชา ควรกาหนดสัดส่วนการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนให้เกิดความเป็นธรรมกับข้าราชการตารวจในสังกัด ทุกลักษณะงาน อนึ่ง สาหรับข้าราชการตารวจที่ได้รับคัดเลือกเป็นข้าราชการตารวจดีเด่น ประเภทต่างๆ หน่วยต้องพิจารณาเลื่อนเงินเดือนแต่ละครั้งเกินกว่า 0.5 ขั้น หรือหากเป็นผู้มี ผลการปฏิบัติงานดีเด่นตามนัย ข้อ 9 ของกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการกาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณา เลื่อนเงินเดือนข้าราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๕๖ หน่วยต้องพิจารณาเลื่อนเงินเดือนทั้งปี 2 ขั้น ให้ในอันดับแรกก่อน เพ่ือให้เกิดขวัญและกาลังใจกับข้าราชการตารวจท่ีมีความตั้งใจปฏิบัติหน้าท่ี ดังกล่าว และในขณะเดียวกันก็เพื่อให้เกิดแรงจูงใจ กระตุ้นให้ข้าราชการตารวจอื่นๆ ได้ตระหนัก ในการท่ีจะพัฒนาการปฏิบัติหน้าท่ีให้ดีย่ิงข้ึน และสิ่งท่ีสาคัญคือ เป็นการสอดคล้องกับแนวคิดของ การเล่ือนเงินเดือนในระบบใหม่ท่ีมุ่งตอบแทนทันทีท่ีทราบผลการปฏิบัติงานหากไม่สามารถพิจารณาได้ ใหช้ ี้แจงเหตุผลโดยระบไุ วใ้ น รายงานการประชมุ ใหช้ ดั เจน ๖.๖ การเล่ือนเงินเดือนให้แก่ข้าราชการตารวจจานวน ๒ ขั้นติดต่อกันเป็นปีที่สอง ใหพ้ ิจารณาจากผทู้ ีป่ ฏบิ ตั หิ นา้ ท่เี ขา้ หลกั เกณฑ์ตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการกาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการ พจิ ารณาเล่อื นเงนิ เดือนข้าราชการตารวจ พ.ศ. ๒๕๕๖ ขอ้ ๖ และขอ้ ๗ เป็นพิเศษอยา่ งแท้จริง ทัง้ น้ี ห้ามมิให้เล่ือนเงินเดือนให้แก่ข้าราชการตารวจท้ังปีจานวน ๒ ขั้น ติดต่อกัน เป็นปีท่ีสาม ตามท่ี ก.ตร. ในการประชุมคร้ังท่ี ๖/๒๕๒๒ เมื่อวันที่ ๑๓ มิ.ย. ๒๒ ได้ให้นโยบายไว้ และ ตร. ได้ถือปฏบิ ตั มิ าจนถึงปจั จบุ นั ทั้งในโควตาปกติและโควตากรณีพิเศษ (ทุกกรณี) ประกอบกับ นายกรฐั มนตรไี ด้มบี นั ทกึ ลงวนั ที่ ๒๗ เม.ย. ๒๕๔๖ อนุมตั ใิ นหลักการดงั กล่าว 6.7 การเลื่อนเงินเดือนให้แก่ข้าราชการตารวจที่ได้รับอนุญาตให้ไปศึกษา ต่อ ณ ต่างประเทศ โดยไดร้ บั ทุนรัฐบาลประเภท 1 (ก) ให้ดาเนินการตามมติ ก.ตร. ในการประชุมคร้ังที่ 13/2546 เมือ่ วนั ที่ 17 ก.ย. ๒๕46 ซง่ึ มหี ลกั เกณฑ์และเงอ่ื นไขดงั น้ี 6.7.1 ให้พิจารณาเล่ือนเงินเดือนได้ไม่เกินคร้ังละคร่ึงข้ัน โดยให้นาผลการศึกษา มาประกอบการพจิ ารณาดว้ ย เว้นแต่ผู้ทศี่ กึ ษาในหลักสูตรหลัก หากสอบตกหรือไม่ได้ผล หรือไม่ผ่าน หรือถอนตัวจากการศึกษาก่อนจบหลักสูตรโดยมิใช่ความจาเป็นของทางราชการให้พิจารณาไม่เลื่อนข้ัน และอตั ราเงนิ เดือนในครงึ่ ปที ่แี ล้วมา

คาอธิบายการบริหารงานกาลังพล สานกั งานตารวจแหง่ ชาติ  73 6.7.2 ผู้ที่ถอนตัวจากการศึกษาก่อนจบหลักสูตร หากเนื่องมาจากการเจ็บปุวย โดยตนเองมไิ ด้กอ่ ข้นึ ใหพ้ จิ ารณาเลื่อนเงนิ เดือนได้ไม่เกินคร่ึงขัน้ แต่ต้องให้แพทย์ตรวจและรับรองว่า ปวุ ยจนไม่สามารถศกึ ษาได้ และให้ผมู้ หี น้าท่ีดแู ลนกั เรียนในต่างประเทศท่ีผู้ไปเข้ารับการศึกษาอยู่น้ัน เปน็ ผูร้ ับรองว่าปวุ ยจนไม่สามารถศึกษาตอ่ ได้ 6.7.3 หลักสูตรการศึกษาใดจะถือว่าเป็นหลักสูตรหลัก ให้ ตร. เป็นผู้พิจารณา กาหนด 6.7.4 ถ้าการศึกษาไมส่ าเรจ็ ตามระยะเวลาท่ีได้อนุมัติไว้เดิม ให้พิจารณาไม่เล่ือน เงินเดือนในคร่ึงปีที่แล้วมาของปีการศึกษาสุดท้าย เว้นแต่ได้รับอนุมัติขยายเวลาการศึกษาให้พิจารณา เลอ่ื นเงินเดอื นจากผลการศึกษาในแตล่ ะคร่ึงปีทีไ่ ด้รับอนมุ ัติขยายระยะเวลาการศึกษา 6.7.5 หากผู้ได้รับทุนดังกล่าวมีคุณสมบัติที่จะได้รับการพิจารณาบรรจุให้ได้รับ เงินเดือนตามคุณวุฒิด้วย ให้ผู้ที่ได้รับทุนดังกล่าวเลือกขอรับการพิจารณาบรรจุให้ได้รับเงินเดือน ตามคณุ วุฒิ หรอื เลอื กขอรบั การพจิ ารณาเล่อื นเงนิ เดือนระหว่างไปศึกษาต่อตามหลักเกณฑ์น้ีอย่างใด อยา่ งหนงึ่ ๗. ข้ันตอนและวธิ ีการ การพิจารณาเลื่อนเงินเดือนให้แก่ข้าราชการตารวจ ให้ดาเนินการตามขั้นตอน และวธิ กี ารดงั นี้ ๗.๑ ให้ผู้บังคับบัญชาช้ันต้น หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเสนอความเห็นพร้อมด้วยข้อมูล ไปตามลาดับจนถึงผู้บังคับบัญชาผู้มีอานาจสั่งเลื่อนเงินเดือน เพ่ือพิจารณาส่ังเลื่อนเงินเดือนให้แก่ ข้าราชการตารวจ โดยให้พิจารณาเป็นคณะกรรมการซึ่งแต่งต้ังจากข้าราชการตารวจท่ีดารงตาแหน่ง ที่ทาหน้าที่ในฝุายบริหารหรือหัวหน้าสายงาน ทาหน้าท่ีปกครองบังคับบัญชาข้าราชการตารวจในสังกัด โดยกาหนดไว้แต่ละระดับ คอื ๗.๑.๑ กก., สน., สภ., ด่าน ตม. หรือหน่วยงานที่มี รอง ผกก., สวญ., สว. หรอื รอง สว. เปน็ หัวหนา้ ท่ีไมไ่ ด้อยู่ในสังกัดของ กก.ใด ใหป้ ระกอบดว้ ย (๑) ผกก. หรือผู้ดารงตาแหน่งซ่ึงเป็นหัวหน้า แล้วแต่กรณีเป็นประธาน กรรมการ (๒) รอง ผกก. และ สว.ทุกนายเป็นกรรมการ ยกเว้นกรณีท่ีดารงตาแหน่ง สว. หรอื รอง สว. เป็นหวั หนา้ ให้ รอง สว. ทกุ นายเป็นกรรมการดว้ ย ๗.๑.๒ บก. หรือหน่วยงานที่มี รอง ผบก. เป็นหัวหน้า ที่ไม่ได้อยู่ในสังกัด บก. ใดให้ประกอบด้วย (๑) ผบก. หรือผู้ดารงตาแหน่งซ่ึงเป็นหัวหน้าแล้วแต่กรณีเป็นประธาน กรรมการ (๒) รอง ผบก. ทุกนายเป็นกรรมการ ยกเว้นกรณีท่ีมีผู้ดารงตาแหน่ง รอง ผบก. เป็นหวั หนา้ ให้ ผกก. ทกุ นายเป็นกรรมการด้วย ๗.๑.๓ บช. ใหป้ ระกอบดว้ ย (๑) ผบช. เปน็ ประธานกรรมการ (๒) รอง ผบช. ทุกนายเป็นกรรมการ สาหรับ จต. ให้ จตร.(หน.จต.) เป็นประธานกรรมการ จตร. และ รอง จตร. ทุกนายเป็นกรรมการ

74  อนุชัย ณ วัชรเจรญิ ๗.๑.๔ นอกเหนือจากขอ้ ๗.๑.๑, ๗.๑.๒ และ ๗.๑.๓ ให้เป็นไปตามท่ีผู้บังคับบัญชา ผูม้ ีอานาจส่งั เล่อื นเงนิ เดอื นพจิ ารณาตามความเหมาะสม ๗.๒ การพิจารณาของคณะกรรมการตามข้อ ๗.๑ ให้กระทาโดยการประชุมพิจารณา ร่วมกัน หากเป็นวาระการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนให้แก่คณะกรรมการผู้ใดหรือกรรมการผู้ใด เปน็ ผู้มสี ่วนไดเ้ สียในการพจิ ารณา กรรมการผู้นั้นไมม่ ีสิทธิเข้าร่วมประชุมและให้จัดทารายงานการประชุม โดยมีรายละเอียดชัดเจนเพยี งพอเพือ่ ประกอบการพิจารณา ๗.๓ เน่ืองจากมีการขยายกรอบโควตาเลื่อนเงินเดือนแต่ยังคงใช้วงเงินงบประมาณ ในการเล่ือนเงินเดือนในอัตราเท่าเดิม ดังนั้นเพ่ือไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการพิจารณาเล่ือนเงินเดือน ท้ังปี ๑.๕ ขั้น ผู้บังคับบัญชาผู้มีอานาจสั่งเลื่อนเงินเดือนควรพิจารณาเล่ือนเงินเดือนไปตามสัดส่วน ตัวคนในแต่ละกลุ่มตาแหน่งหรือสายงาน โดยคานึงถึงวงเงินงบประมาณที่ใช้ในการเล่ือนเงินเดือน ตามหลกั เกณฑก์ ารพจิ ารณาข้อ ๖.๕ ดว้ ย ๗.๔ การเลื่อนเงินเดือนข้าราชการตารวจที่จะพ้นจากราชการเพราะเหตุเกษียณ อายุราชการตามกฎหมายว่าด้วยบาเหน็จบานาญข้าราชการ ลาออกตามโครงการปรับเปลี่ยนกาลังพล ของ ตร. หรือเสียชีวิตในหรือหลังวันที่ ๑ เม.ย. หรือวันท่ี ๑ ต.ค. หรือออกจากราชการด้วยเหตุใดๆ ในวันท่ี ๑ เม.ย. หรือในวันท่ี ๑ ต.ค. ให้พิจารณาดาเนินการเช่นเดียวกับข้าราชการตารวจท่ียัง รับราชการอยู่ต่อไปตามปกติทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการกาหนดหน่วยจัดทาบัญชี การคานวณวงเงินงบประมาณและโควตาเลื่อน ๑ ข้ัน หรือโควตาเล่ือน ๒ ขั้น การใช้วงเงินงบประมาณ ในการเลือ่ นเงนิ เดือน และในประการอ่นื ๆ สาหรับข้าราชการตารวจซ่ึงเป็นผู้มีขั้นเงินเดือนถึงข้ันสูงของระดับ (เต็มขั้น) หรือใกล้ถึงข้ันสูงของระดับเงินเดือนสาหรับตาแหน่งท่ีดารงอยู่และจะพ้นจากราชการเพราะเหตุ เกษียณอายุราชการตามกฎหมายว่าด้วยบาเหน็จบานาญข้าราชการ ไม่มีสิทธิได้รับเงินตอบแทนพิเศษ ท้ังนเ้ี ป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลงั ๗.๕ ขา้ ราชการตารวจท่ีไดร้ บั การพจิ ารณาเล่อื นเงนิ เดอื น ๐.๕ ขน้ั , ๑ ข้ัน หรอื ๑.๕ ข้ัน และเป็นผู้ได้รับเงินเดือนถึงข้ันสูงของระดับ (เต็มข้ัน) จะได้รับเงินตอบแทนพิเศษในอัตราร้อยละ ๒ (กรณี ๐.๕ ข้ัน), ร้อยละ ๔ (กรณี ๑ ข้ัน) และร้อยละ ๖ (กรณี ๑.๕ ข้ัน) ของเงินเดือน แทนการเลื่อน เงินเดือน ๐.๕ ขั้น, ๑ ขั้น หรือ ๑.๕ ขั้น ตามที่ระเบียบกระทรวงการคลังกาหนด ให้พิจารณาดาเนินการ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการเดียวกับการเล่ือนเงินเดือนของข้าราชการตารวจ โดยรวมพิจารณาไป ในคราวเดียวกัน ท้ังน้ีในการจัดอันดับเล่ือนเงินเดือนและการให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษ หน่วยต้อง เรียงลาดับการพิจารณาไว้ในกลุ่มการพิจารณาเดียวกัน เช่น บัญชีแสดงการเลื่อนเงินเดือน ๐.๕ ข้ัน และบัญชีแสดงการได้รับเงินตอบแทนพิเศษในอัตราร้อยละ ๒ ของเงินเดือน ต้องเรียงลาดับ การพิจารณาไว้ในกลุ่มการพิจารณาเดียวกัน หรือบัญชีแสดงการเล่ือนเงินเดือน ๑ ข้ัน และบัญชี แสดงการได้รับเงินตอบแทนพิเศษในอัตราร้อยละ ๔ ของเงินเดือน ต้องเรียงลาดับการพิจารณาไว้ ในกลุ่มการพิจารณาเดียวกัน หรือบัญชีแสดงการเล่ือนเงินเดือน ๑.๕ ขั้น และบัญชีแสดงการได้รับ เงินตอบแทนพิเศษในอัตราร้อยละ ๖ ของเงินเดือน ต้องเรียงลาดับการพิจารณาไว้ในกลุ่มการพิจารณา เดยี วกัน เป็นต้น

คาอธบิ ายการบริหารงานกาลงั พล สานักงานตารวจแห่งชาติ  75 ๘. บญั ชแี ละคาสัง่ การจดั ทาบญั ชีแสดงการเลื่อนเงินเดือน และการส่ังเลื่อนเงินเดือนให้แก่ข้าราชการ ตารวจให้ดาเนินการตามรูปแบบที่ ตร. กาหนด แนบท้ายแนวทางนดี้ ังนี้ ๘.๑ ให้หน่วยจัดทาบัญชี จัดทาบัญชีแสดงการเล่ือนเงินเดือนข้าราชการตารวจ แยกตามกลุ่มตาแหน่งในข้อ ๖.๑ บัญชีสรุปผลการพิจารณาเลื่อนเงินเดือน และบัญชีสรุปการใช้ เศษโควตาและวงเงินงบประมาณในการเล่ือนเงินเดือนเก็บไว้ท่ีหน่วยจัดทาบัญชี ๑ ชุด และให้เจ้าหน้าท่ี ผู้รับผิดชอบนาส่งไปยงั ตร. (ฝาุ ยความชอบ ทพ.) โดยตรง ๑ ชดุ ๘.๒ ให้หน่วยจัดทาบัญชี จัดทาบัญชีแสดงการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการตารวจ ที่ดารงตาแหน่งในสังกัดทุกราย รวมถึงผู้ที่อยู่ระหว่างถูกส่ังพักราชการ ขาดราชการ หนีราชการ ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ผู้ที่ได้รับคาสั่งให้ไปปฏิบัติราชการนอกหน่วยต้นสังกัด ผู้ท่ีกลับเข้า รับราชการหลังวันที่ 1 มี.ค. ผู้ที่ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการครั้งแรกหลังวันที่ ๑ มี.ค. หรือ ผู้ที่หน่วยจัดทาบัญชีนับตัวเพื่อคานวณโควตาเลื่อนเงินเดือน โดยให้ปรากฏผลการพิจารณาว่า ปฏิบตั ิหน้าท่ีราชการอยู่ในหลักเกณฑ์ท่ีสมควรจะได้รับการเลื่อนเงินเดือนจานวนเท่าใด ซึ่งเม่ือได้รับ การพิจารณาไว้แล้วจะได้รับการเลื่อนเงินเดือน ไม่เล่ือนเงินเดือน หรือจะให้งดการเล่ือนเงินเดือน ประการใดประการหนง่ึ ตามกฎหมายและระเบยี บทีเ่ ก่ยี วข้องก็ใหล้ งหมายเหตุไวใ้ ห้ชัดเจน ๘.๓ ในแต่ละกลุ่มตาแหน่งตามข้อ ๖.๑ ให้จัดทาบัญชีแสดงการเลื่อนเงินเดือน ตามผลการพจิ ารณาดังนี้ ๘.๓.๑ บญั ชแี สดงการเล่อื นเงินเดือน ๑.๕ ข้นั และบัญชีดงั ต่อไปน้ี (หากม)ี - บัญชีแสดงการเลื่อนเงินเดือน ๑ ขั้น และให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษ ในอตั รารอ้ ยละ ๒ - บัญชีแสดงการเลื่อนเงินเดือน ๐.๕ ขั้น และให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษ ในอตั ราร้อยละ ๔ - บัญชีแสดงการได้รับเงินตอบแทนพิเศษในอัตราร้อยละ ๖ (ทั้งน้ี กลุ่มการพิจารณาเดียวกันให้จัดทารวมในบัญชีเดียว และจัดลาดับ การพิจารณารวมกัน) ๘.๓.๒ บญั ชแี สดงการเลือ่ นเงินเดอื น ๑ ข้ัน และบัญชีดังตอ่ ไปนี้ (หากมี) - บัญชีแสดงการเล่ือนเงินเดือน ๐.๕ ข้ัน และให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษ ในอตั รารอ้ ยละ ๒ - บัญชีแสดงการได้รับเงินตอบแทนพิเศษในอัตราร้อยละ ๔ (ทั้งนี้ กลุ่มการพิจารณาเดียวกันให้จัดทารวมในบัญชีเดียว และจัดลาดับ การพจิ ารณารวมกัน) ๘.๓.๓ บัญชีแสดงการเล่ือนเงินเดือน ๐.๕ ขั้น และบัญชีแสดงการได้รับเงิน ตอบแทนพิเศษในอัตราร้อยละ ๒ (หากมี) (ท้ังนี้กลุ่มการพิจารณาเดียวกันให้จัดทารวมในบัญชีเดียว และจดั ลาดบั การพจิ ารณารวมกนั ) ๘.๓.๔ บญั ชีไมเ่ ลือ่ นเงินเดือน (0 ขั้น) และ/หรอื บัญชงี ดเลื่อนเงนิ เดอื น

76  อนชุ ัย ณ วชั รเจรญิ ๘.๓.๕ บัญชีเสนอขอความเห็นชอบการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการตารวจ กลุ่ม รอง ผบก. ที่ผ่านการประเมินสมรรถภาพ ความประพฤติ ความรู้ความสามารถ และผลการปฏิบัติ หน้าที่ของข้าราชการตารวจ ตามนัยมาตรา ๕ แห่ง พระราชบัญญัติตารวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๕๔ (รอง ผบก. ผู้รับเงินเดอื นในระดับ ส.๖) (หากม)ี ๘.๔ ในบญั ชีแสดงการเลือ่ นเงินเดอื นตามข้อ ๘.๓.๑ - ๘.๓.๓ ให้พิจารณาจัดอันดับ การเล่ือนเงินเดือนของข้าราชการตารวจแต่ละรายไว้ในช่อง “อันดับเลื่อน” โดยอาศัยหลักเกณฑ์ การพจิ ารณาตามข้อ ๖ อย่างเครง่ ครัด ๘.๕ ภายใต้บังคับข้อ ๘.๑ หลังจากหน่วยจัดทาบัญชีได้จัดทาบัญชีแสดงการเล่ือน เงินเดือนเรียบร้อยแล้ว หากผู้บังคับบัญชาตามลาดับช้ันจนถึงผู้บังคับบัญชาผู้มีอานาจส่ังเลื่อนเงินเดือน ประสงค์จะเปล่ยี นแปลงการเลอื่ นเงนิ เดอื นหรอื อันดับการเล่ือนเงินเดอื นของข้าราชการตารวจรายใด ให้ดาเนินการโดยการขีดฆ่าแก้ไขแล้วลงช่ือกากับและต้องแสดงเหตุผลการเปลี่ยนแปลงให้ชัดเจน ปรากฏในรายงานประชุมกอ่ นสง่ ไปยัง บช. หรอื ตร. (ฝุายความชอบ ทพ.) แลว้ แต่กรณี โดยห้ามมิให้ จัดทาบญั ชแี สดงการเลือ่ นเงินเดอื นขนึ้ ใหม่ ๘.๖ เม่ือผู้บังคับบัญชาผู้มีอานาจสั่งเล่ือนเงินเดือนได้พิจารณาเลื่อนเงินเดือน เรียบร้อยแล้ว ให้ส่งบัญชีแสดงการเล่ือนเงินเดือนพร้อมเอกสารท่ีเกี่ยวข้องไปยัง บช. หรือ ตร. (ฝุายความชอบ ทพ.) แล้วแต่กรณี แล้วให้ดาเนินการมีคาสั่งเล่ือนเงินเดือนให้แก่ข้าราชการตารวจ ตามผลการพจิ ารณาโดยเร็ว โดยไมต่ อ้ งรอผลการตรวจสอบจาก บช. หรือ ตร. (ฝุายความชอบ ทพ.) ทง้ั นห้ี ้ามมิให้มีการเปลีย่ นแปลงผลการพจิ ารณาเล่ือนเงินเดือนที่ได้พจิ ารณาไปแล้วโดยเด็ดขาด ๘.๗ การออกคาส่งั เลอื่ นเงนิ เดอื น เพื่อให้การพิจารณามีคาส่ังเลื่อนเงินเดือนเป็นไปด้วยความถูกต้องตามกฎหมาย และระเบียบทีเ่ กยี่ วข้องและเพือ่ ใหก้ ารปฏบิ ัติเป็นแนวทางเดียวกัน จึงให้ดาเนินการมีคาส่ังเล่ือนเงินเดือน ให้แก่ข้าราชการตารวจในสังกัดตามรูปแบบการออกคาสั่งแนบท้ายแนวทางน้ี โดยในการพิจารณา มคี าสัง่ เล่อื นเงินเดอื นประจาปี ครั้งที่ ๑ ครง่ึ ปแี รก (๑ เม.ย.) และการพิจารณามีคาสั่งเล่ือนเงินเดือน ประจาปี ครง้ั ที่ ๒ ครึง่ ปหี ลัง (๑ ต.ค.) ใหห้ น่วยต่างๆ พิจารณาดาเนนิ การมคี าสั่งดังน้ี ๘.๗.๑ คาส่ังเลื่อนเงินเดือน (๑.๕ ขั้น, ๑ ขั้น และ ๐.๕ ข้ัน) คาสั่งเลื่อนเงินเดือน และให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษ (เล่ือน ๑.๕ ขั้น และได้รับเงินตอบแทนพิเศษร้อยละ ๖, เล่ือน ๑.๐ ข้ัน และได้รับเงินตอบแทนพิเศษร้อยละ ๔, เลื่อน ๐.๕ ขั้น และได้รับเงินตอบแทนพิเศษร้อยละ ๒ แล้วแต่กรณี) คาส่ังให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษ (ร้อยละ ๖, ร้อยละ ๔ และร้อยละ ๒) ทุกกลุ่มตาแหน่ง รวมกันเพียงคาส่ังเดียว (ตามรูปแบบคาส่ังท่ีแนบ) โดยให้ปรับเปล่ียนช่ือคาสั่งให้สอดคล้องกับ ขอ้ เทจ็ จรงิ ในการเลอ่ื นเงนิ เดือน ๘.๗.2 คาส่ังเล่ือนเงินเดือนข้าราชการตารวจผู้รับเงินเดือนถึงข้ันสูงของระดับ เงินเดือน (เต็มขั้น) และได้รับการปรับระดับอัตราเงินเดือนให้รับเงินเดือนในระดับที่สูงขึ้นอีกหน่ึงระดับ (การประเมินขา้ มแทง่ ) ทุกกลุ่มตาแหน่งรวมกันเพยี งคาส่งั เดียว ๘.๘ กรณีข้าราชการตารวจผู้ใดได้รับการแต่งตั้งไปดารงตาแหน่งอื่นภายหลัง การพิจารณาเล่ือนเงินเดือนแล้ว อันเป็นเหตุให้ต้องเปล่ียนแปลงผู้มีอานาจส่ังเลื่อนเงินเดือนของ ข้าราชการตารวจผู้นั้น ให้ผู้บังคับบัญชาผู้มีอานาจสั่งเลื่อนเงินเดือนเดิมแจ้งผลการพิจารณาให้

คาอธิบายการบรหิ ารงานกาลังพล สานักงานตารวจแห่งชาติ  77 ผู้บังคับบัญชาผู้มีอานาจ ส่ังเลื่อนเงินเดือนใหม่เป็นผู้ส่ังเล่ือน โดยยังคงใช้วงเงินงบประมาณและโควตา เลื่อน ๑ ข้ัน หรือโควตา เล่ือน ๒ ข้ัน ของหน่วยจัดทาบัญชีเดิม เว้นแต่เป็นกรณีท่ีได้มีคาสั่งเลื่อน เงนิ เดอื นไปกอ่ นแล้วก่อนวนั ทคี่ าสัง่ แต่งตงั้ มีผลใช้บังคับ สาหรับข้าราชการตารวจที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งสูงขึ้นในตาแหน่ง ผบก. และเป็นการสั่งย้อนหลังไปเม่ือครั้งผู้น้ันดารงตาแหน่ง รอง ผบก. ให้พิจารณาดาเนินการ เช่นเดียวกับข้าราชการตารวจที่ดารงตาแหน่ง รอง ผบก. โดยให้หมายเหตุไว้ในคาสั่งเล่ือนเงินเดือน ว่าเปน็ การเลือ่ นเงนิ เดือนเมอ่ื ครัง้ ดารงตาแหน่ง รอง ผบก. ๘.๙ ภายหลังจากส่งบัญชีแสดงการเลื่อนเงินเดือนให้แก่ข้าราชการตารวจไปยัง บช. หรือ ตร. (ฝุายความชอบ ทพ.) แล้ว ถ้ามีการเปล่ียนแปลง ยศ ชื่อ ช่ือสกุล หรือสถานภาพของ ข้าราชการตารวจดังกล่าว เช่น ได้รับการเล่ือนเงินเดือนเพิ่มข้ึน ถูกงดเลื่อนเงินเดือน ได้รับยศสูงขึ้น ได้รับการแต่งต้ังไปดารงตาแหน่งอื่น ได้รับอนุญาตให้ลาออกจากราชการด้วยเหตุใดๆ ถึงแก่กรรม ฯลฯ ให้ลงหมายเหตไุ วใ้ นบัญชีแสดงการเลื่อนเงินเดือนที่หน่วยเก็บไว้ให้ครบถ้วน พร้อมท่ีจะเรียกมาตรวจได้ แล้วรายงานพร้อมด้วยเอกสารหลักฐานไปยัง บช. หรือ ตร. (ฝุายความชอบ ทพ.) โดยตรงภายใน ๗ วัน เพ่ิมเติมนอกเหนือจากการปฏิบัติตามระเบียบปกติ และหากข้าราชการตารวจได้รับการแต่งต้ังไป ดารงตาแหนง่ อนื่ ให้ผู้บงั คับบัญชาของหนว่ ยจัดทาบัญชีหนว่ ยใหม่เปน็ ผรู้ ับผิดชอบรายงาน ๘.๑0 กรณีมีคาสั่งเปล่ียนแปลงการสั่งเล่ือนเงินเดือนที่ได้มีคาสั่งไปแล้วสาหรับ ขา้ ราชการตารวจรายใด ดว้ ยประการใดๆ ก็ตาม ให้ผูม้ ีอานาจสั่งเล่ือนเงนิ เดอื นสัง่ ยกเลิกหรือถอนช่ือ ออกจากคาสั่งท่ีได้ส่ังการไปก่อนแล้วทุกราย และหากเป็นกรณีได้มีการเปล่ียนแปลงผู้มีอานาจส่ังเลื่อน เงินเดือนให้ผู้บังคับบัญชาผู้มีอานาจส่ังเล่ือนเงินเดือนใหม่รับผิดชอบแจ้งผู้บังคับบัญชาผู้มีอานาจ ส่ังเลื่อนเงินเดือนเดิม เพ่อื ส่ังยกเลกิ หรอื ถอนช่ือออกจากคาสัง่ ดว้ ยทุกครงั้ ๘.๑1 กรณีที่ไม่เลื่อนเงินเดือนให้แก่ข้าราชการตารวจผู้ใดตามนัยข้อ ๑๐ ของ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการกาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนข้าราชการตารวจ พ.ศ.๒๕๕๖ ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นพิจารณาด้วยความรอบคอบ รัดกุม และให้เกิดความเป็นธรรม โดยให้มีเหตุผล รายละเอียดที่ชัดเจนประกอบการพิจารณาดังกล่าวว่าข้าราชการตารวจผู้นั้น มีผลการปฏิบัติงานเป็นอย่างไร มีหน้าที่รับผิดชอบอะไร การรักษาวินัยเป็นอย่างไร มีระยะเวลา การมาปฏบิ ตั ิหนา้ ทรี่ าชการเท่าไร เป็นตน้ ทง้ั นใ้ี หป้ รากฏเหตุผลของการไม่เล่ือนเงนิ เดือนในรายงาน การประชมุ อย่างชดั เจน การแจ้งเหตุผลดังกล่าวให้ข้าราชการตารวจที่ไม่ได้เลื่อนเงินเดือนทราบ เพ่ือให้ข้าราชการตารวจที่ไม่ได้เลื่อนเงินเดือนทราบข้อบกพร่องของตนเองจะได้นาไปปรับปรุง ความประพฤติและประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าท่ีราชการให้ดีย่ิงข้ึนในโอกาสต่อไป ดังนั้นจึงให้ ผู้บังคับบัญชาช้ันต้นดาเนินการโดยเร็วภายหลังจากผู้มีอานาจสั่งเลื่อนเงินเดือน ได้มีคาส่ังเลื่อน เงินเดอื นในแต่ละครัง้ ไปแล้ว ๘.๑2 เม่ือผู้มีอานาจสั่งเล่ือนเงินเดือนได้ส่ังเลื่อนเงินเดือนให้แก่ข้าราชการตารวจ ในสังกัดแล้วให้ปิดประกาศสาเนาคาสั่งดังกล่าวในท่ีเปิดเผย ณ หน่วยจัดทาบัญชีอย่างน้อย ๑ ฉบับ เป็นระยะเวลาไมน่ อ้ ยกวา่ ๓๐ วนั

78  อนุชัย ณ วชั รเจรญิ ๙. การตรวจบัญชแี สดงการเลื่อนเงนิ เดือน เม่อื ดาเนนิ การพิจารณาเลื่อนเงินเดือนเสร็จส้ินแล้ว ให้หน่วยจัดทาบัญชีดาเนินการ ดงั นี้ ๙.๑ หน่วยจดั ทาบัญชีระดับ กก. ให้ส่งบัญชีฯ พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง ไปยัง บก. ตามที่ บก. กาหนด ๙.๒ หน่วยจัดทาบัญชีระดับ บก. ให้ส่งบัญชีฯ พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องไปยัง บช. ตามท่ี บช. กาหนด และดาเนินการดังนี้ ๙.๒.๑ สง่ บัญชีสรปุ ผลการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนในภาพรวมของ บก. ไปยัง ตร. (ฝาุ ยความชอบ ทพ.) สาหรับการเลื่อนเงินเดือนประจาปี ครั้งที่ ๑ ครึ่งปีแรก (๑ เม.ย.) ภายในวันท่ี 3๑ มี.ค. และการเล่ือนเงินเดือนประจาปี ครั้งท่ี ๒ คร่ึงปีหลัง (๑ ต.ค.) ภายในวันท่ี 3๐ ก.ย. (หากเป็น วันหยุดราชการใหส้ ่งในวันเปิดทาการแรกถัดจากวันทีก่ าหนดสง่ ) ๙.๒.๒ ให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบและมีอานาจตัดสินใจกรณีต้องแก้ไขบัญชี แสดงการเล่ือนเงินเดือนให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริง นาข้อมูลส่ง ตร.(ฝุายความชอบ ทพ.) เพื่อตรวจสอบ ความถกู ต้อง ตามห้วงระยะเวลาท่ี ตร. กาหนดในขอ้ ๙.๕ ดงั นี้ ๙.๒.2.๑ บญั ชแี สดงการเลือ่ นเงินเดอื น กลุ่ม ผกก.ลงมา ๙.๒.๒.2 บัญชีสรปุ ผลการพจิ ารณาเล่ือนเงนิ เดือนในภาพรวมของ บก. ๙.2.2.๓ บัญชสี รุปการใช้เศษโควตาและวงเงินงบประมาณในภาพรวม ของ บก. ๙.๓ หน่วยจดั ทาบญั ชีระดบั บช. ดาเนินการดังนี้ ๙.๓.๑ ส่งบัญชีแสดงการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการตารวจ กลุ่ม ผบก. ขึ้นไป และบัญชีเสนอขอความเห็นชอบการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการตารวจ กลุ่ม รอง ผบก. ท่ีผ่านการประเมิน สมรรถภาพ ความประพฤติ ความรู้ความสามารถ และผลการปฏิบัติหน้าท่ีของข้าราชการตารวจ ตามนัยมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติตารวจแห่งชาติ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ.๒๕๕๔ (รอง ผบก. ผู้รับเงินเดือน ในระดับ ส.๖) ในรอบการพิจารณาเล่ือนเงินเดือนประจาปี คร้ังที่ ๑ คร่ึงปีแรก (๑ เม.ย.) กาหนดส่ง ภายในวันที่ ๒๕ มี.ค. ในรอบการพิจารณาเล่ือนเงินเดือนประจาปี ครั้งท่ี ๒ ครึ่งปีหลัง (๑ ต.ค.) กาหนดส่งภายในวันที่ ๒๕ ก.ย. (หากเป็นวันหยุดราชการให้ส่งในวันเปิดทาการแรกถัดจากวันที่ กาหนดส่ง) ไปยงั ตร. (ฝุายความชอบ ทพ.) ๙.๓.๒ สง่ บัญชีสรปุ ผลการพิจารณาเล่ือนเงินเดือนในภาพรวมของ บช. ไปยัง ตร. (ฝุายความชอบ ทพ.) สาหรับการเลื่อนเงินเดือนประจาปี ครั้งที่ ๑ ครึ่งปีแรก (๑ เม.ย.) ภายในวันที่ 3๑ มี.ค. และการเลื่อนเงินเดือนประจาปี ครั้งที่ ๒ ครึ่งปีหลัง (๑ ต.ค.) ภายในวันที่ 3๐ ก.ย. (หากเปน็ วันหยุดราชการ ใหส้ ง่ ในวันเปดิ ทาการแรกถัดจากวันท่ีกาหนดส่ง) ๙.๓.๓ ให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบและมีอานาจตัดสินใจกรณีต้องแก้ไขบัญชี แสดงการเลื่อนเงินเดือนให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริง นาข้อมูลส่ง ตร. (ฝุายความชอบ ทพ.) เพ่ือตรวจสอบ ความถูกตอ้ งตามห้วงระยะเวลาท่ี ตร. กาหนดในข้อ ๙.๕ ดังน้ี ๙.3.3.๑ บัญชีแสดงการเล่ือนเงินเดือน กลุ่ม รอง ผบก. และกลุ่มที่ ขึ้นตรงต่อ บช.

คาอธิบายการบริหารงานกาลังพล สานักงานตารวจแห่งชาติ  79 ๙.3.3.2 บญั ชสี รุปผลการพิจารณาเล่ือนเงินเดอื นในภาพรวมของ บช. ๙.3.3.๓ บัญชีสรุปการใช้เศษโควตาและวงเงินงบประมาณในภาพรวม ของ บช. ๙.๔ หน่วยจดั ทาบญั ชรี ะดบั บก. ในสงั กัด สง.ผบ.ตร. ดาเนินการดังนี้ ๙.๔.๑ ส่งบัญชีแสดงการเลื่อนเงินเดือนของ ผบก. และบัญชีเสนอขอความ เห็นชอบการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการตารวจกลุ่ม รอง ผบก. ที่ผ่านการประเมินสมรร ถภาพ ความประพฤติ ความร้คู วามสามารถ และผลการปฏิบัติหนา้ ที่ของข้าราชการตารวจตามนัยมาตรา ๕ แห่งพระราชบญั ญตั ิตารวจแห่งชาติ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ (รอง ผบก. ผู้รับเงินเดือนในระดับ ส.๖) ในรอบการพจิ ารณาเลอื่ นเงินเดือนประจาปี คร้งั ท่ี ๑ ครึง่ ปแี รก (๑ เม.ย.) กาหนดส่งภายในวันที่ ๒๕ มี.ค. ในรอบการพิจารณาเล่ือนเงินเดือนประจาปี คร้ังท่ี ๒ ครึ่งปีหลัง (๑ ต.ค.) กาหนดส่งภายในวันท่ี ๒๕ ก.ย. (หากเป็นวนั หยุดราชการให้สง่ ในวนั เปดิ ทาการแรกถดั จากวันที่กาหนดสง่ ) ไปยงั ตร. (ฝาุ ยความชอบ ทพ.) ๙.๔.๒ ส่งบัญชสี รปุ ผลการพิจารณาเล่ือนเงินเดือนในภาพรวมของ บก. ไปยัง ตร. (ฝุายความชอบ ทพ.) สาหรับการเล่ือนเงินเดือนประจาปี ครั้งที่ ๑ ครึ่งปีแรก (๑ เม.ย.) ภายในวันที่ 3๑ มี.ค. และการเลื่อนเงินเดือนประจาปี ครั้งที่ ๒ ครึ่งปีหลัง (๑ ต.ค.) ภายในวันที่ 3๐ ก.ย. (หากเป็นวันหยุดราชการให้ส่งในวันเปิดทาการแรกถัดจากวันทก่ี าหนดสง่ ) ๙.๔.๓ ให้เจ้าหน้าท่ีผู้รับผิดชอบและมีอานาจตัดสินใจกรณีต้องแก้ไขบัญชี แสดงการเล่ือนเงินเดือนให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริง นาข้อมูลส่ง ตร. (ฝุายความชอบ ทพ.) เพ่ือตรวจสอบ ความถูกต้อง ตามห้วงระยะเวลาท่ี ตร. กาหนดในขอ้ ๙.๕ ดังน้ี ๙.4.3.๑ บัญชีแสดงการเล่ือนเงนิ เดือน กลุ่ม รอง ผบก.ลงมา ๙.4.3.2 บัญชีสรปุ ผลการพิจารณาเลือ่ นเงินเดือนในภาพรวมของ บก. ๙.4.3.๓ บัญชีสรุปการใช้เศษโควตาและวงเงินงบประมาณในภาพรวม ของ บก. ๙.๕ ให้ สกพ. กาหนดวัน เวลา ตรวจบัญชีแสดงการเลื่อนเงินเดือนของหน่วย จดั ทาบัญชีระดบั บก., บช. และ บก. ในสังกดั สง.ผบ.ตร. ตามขอ้ 9.2.2, 9.3.3 และ 9.4.3 ๙.๖ เมอ่ื หนว่ ยจัดทาบัญชีระดับ บช. และระดับ บก. ดาเนินการมีคาสั่งเลื่อนเงินเดือน ให้แก่ขา้ ราชการตารวจในสงั กัดตามนัยขอ้ ๘.๗ แล้ว ให้ส่งสาเนาคาส่ังเลื่อนเงินเดือนไปยังหน่วยงาน ท่ีเก่ียวข้องตามที่ระเบียบกาหนด และส่งสาเนาคาส่ังดังกล่าวไปยังฝุายความชอบ ทพ. โดยตรง เพิ่มเติมนอกเหนือจากการปฏิบัติตามระเบียบปกติ จานวน ๒ ชุด ภายใน ๗ วัน ทั้งนี้ให้รวมถึง การแกไ้ ขคาส่งั เลอื่ นเงินเดือนอ่นื ๆ ทุกกรณี ๙.๗ สาหรับข้าราชการตารวจท่ีดารงตาแหน่ง นว. และ ผู้ช่วย นว. ผบ.ตร., จตช., รอง ผบ.ตร., ผู้ช่วย ผบ.ตร., จตร., ผบช.ประจา สง.ผบ.ตร., และ ผบก.ประจา สง.ผบ.ตร. รวมตลอดถึง ข้าราชการตารวจท่ีได้รับคาสั่งให้ปฏิบัติราชการในสานักงานผู้บังคับบัญชาดังกล่าว เป็นระยะเวลา เกินกว่า 90 วัน หรือผู้ท่ีได้รับคาส่ังให้ปฏิบัติราชการในสานักงานผู้บังคับบัญชาและสานักงาน มคี วามประสงค์จะเปน็ ผ้พู ิจารณาเลื่อนเงินเดอื น ให้สานักงานประสานงานทาความตกลงกับผู้บังคับบัญชา ของหน่วยจัดทาบัญชีที่ข้าราชการตารวจผู้นั้นสังกัดอยู่ (ตามคาส่ังบรรจุและแต่งตั้ง) เพื่อตัดยอดตัวคน ให้สานกั งานเปน็ ผ้พู ิจารณาเล่ือนเงินเดือน ให้เจา้ หน้าท่ผี ู้ปฏิบตั ิงานในสานักงานผูบ้ ังคบั บัญชาข้างต้น

80  อนุชัย ณ วชั รเจรญิ หรือผู้ท่ีผู้บังคับบัญชาข้างต้นมอบหมาย ส่งข้อมูลการลาหรือมาสาย ผลการประเมินฯ และข้อมูลอื่นๆ ท่ีเก่ียวข้องกับการพิจารณาเล่ือนเงินเดือนของข้าราชการตารวจดังกล่าว และสาหรับข้าราชการตารวจ ที่ได้รับคาส่ังให้ปฏิบัติราชการในสานักงานผู้บังคับบัญชา ต้องแนบคาสั่งให้ปฏิบัติราชการในสานักงาน ผู้บังคับบัญชา และเอกสารการประสานงานทาความตกลงตัดยอดตัวคนให้สานักงานเป็นผู้พิจารณา เลือ่ นเงินเดอื น (หากมี) ให้ ทพ. พจิ ารณาดาเนินการในส่วนทีเ่ กี่ยวขอ้ งดงั นี้ ๙.๗.๑ การเล่ือนเงินเดือนประจาปี คร้ังที่ ๑ คร่ึงปีแรก (๑ เม.ย.) ให้ตรวจสอบ จานวนข้าราชการตารวจผู้ดารงตาแหน่ง นว. และ ผู้ช่วย นว. หรือผู้ที่ได้รับคาสั่งให้ปฏิบัติราชการ ในสานักงานผู้บังคับบัญชา ซึ่งหน่วยจัดทาบัญชีที่ข้าราชการตารวจผู้นั้นสังกัดอยู่ตัดยอดตัวคน ให้สานกั งานเปน็ ผู้พิจารณาเล่ือนเงินเดือน ณ 1 มี.ค. โดยให้ส่งข้อมูลฯ ตามแบบข้อมูลประกอบการ พิจารณาเลื่อนเงินเดือนให้แก่ข้าราชการตารวจท่ีดารงตาแหน่ง นว., ผู้ช่วย นว. และข้าราชการตารวจ ที่ได้รับคาสั่งให้ปฏิบัติราชการในสานักงาน พร้อมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้อง ภายในวันที่ ๑๐ มี.ค. (หากเปน็ วันหยุดราชการให้สง่ ในวนั เปิดทาการแรกถดั จากวนั ท่ีกาหนดส่ง) ไปยัง ตร. (ฝุายความชอบ ทพ.) ๙.๗.๒ การเล่ือนเงนิ เดอื นประจาปี ครง้ั ที่ ๒ ครง่ึ ปีหลัง (๑ ต.ค.) ให้ตรวจสอบ จานวนข้าราชการตารวจผู้ดารงตาแหน่ง นว. และ ผู้ช่วย นว. หรือผู้ที่ได้รับคาสั่งให้ปฏิบัติราชการ ในสานักงานผู้บังคับบัญชา ซึ่งหน่วยจัดทาบัญชีที่ข้าราชการตารวจผู้นั้นสังกัดอยู่ตัดยอดตัวคน ใหส้ านักงานเปน็ ผพู้ จิ ารณาเล่ือนเงินเดือน ณ 1 ก.ย. โดยให้ส่งข้อมูลฯ ตามแบบข้อมูลประกอบการ พิจารณาเลื่อนเงินเดือนให้แก่ข้าราชการตารวจท่ีดารงตาแหน่ง นว., ผู้ช่วย นว. และข้าราชการตารวจ ที่ได้รับคาสั่งให้ปฏิบัติราชการในสานักงาน พร้อมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องภา ยในวันที่ ๑๐ ก.ย. (หากเปน็ วันหยดุ ราชการให้สง่ ในวนั เปิดทาการแรกถดั จากวนั ทก่ี าหนดสง่ ) ไปยัง ตร. (ฝุายความชอบ ทพ.) 9.7.3 กรณตี ามข้อ 9.7.1 และ 9.7.2 ผู้บังคับบัญชาสามารถพิจารณาเล่ือน เงินเดือนประจาปี คร้ังที่ 1 คร่ึงปีแรก (1 เม.ย.) จานวน 1 ขั้น หรือ ประจาปี คร้ังท่ี 2 คร่ึงปีหลัง (1 ต.ค.) จานวน ๑ ข้ัน หรอื เล่อื นรวมทั้งปี 2 ข้นั (เลอ่ื น 1.5 ข้ัน ณ 1 ต.ค.) ใหแ้ กข่ ้าราชการตารวจ ตามข้อ 3.3.2.1 แล้วแต่กรณี หากเป็นการใช้โควตาเล่ือนเงินเดือน ตร. จะหักออกจากโควตาเล่ือน เงินเดือนท่ีผู้บังคับบัญชาได้รับการจัดสรรจาก ผบ.ตร. เช่น ในรอบการพิจารณาเล่ือนเงินเดือน ประจาปี 2556 ครั้งที่ 1 ครึ่งปีแรก (1 เม.ย. 2556) ผู้บังคับบัญชาพิจารณาเลื่อนเงินเดือนให้แก่ นว. และ ผู้ช่วย นว. รายละ 1 ขั้น ตร. จะดาเนินการมีคาส่ังเล่ือนเงินเดือนให้แก่ข้าราชการตารวจดังกล่าว รายละ 1 ข้ัน ตามที่ผู้บังคับบัญชาเสนอ และต่อมาเม่ือ ตร. จัดสรรโควตาเลื่อนเงินเดือน จานวน 20 อตั รา ให้แก่ผูบ้ งั คับบัญชา ตร. จะแจง้ ให้ผูบ้ งั คบั บัญชาท่านนั้น พิจารณาเล่ือนเงินเดือนในโควตา ตร. เพียง 18 อัตรา เนอื่ งจากมีการใชโ้ ควตาไปก่อนแล้ว จานวน 2 อตั รา ๑๐. อื่นๆ ๑๐.๑ การลงหมายเหตุในบัญชีแสดงการเลื่อนเงินเดือนในกรณีต่างๆ ใหด้ าเนินการดงั น้ี ๑๐.๑.๑ กรณีท่ีข้าราชการตารวจได้รับการแต่งตั้ง หรือได้รับคาสั่งให้ไป ปฏบิ ตั ริ าชการภายใน ตร. เมื่อมีการตกลงว่าหน่วยใดจะเป็นผู้พิจารณาเล่ือนเงินเดือน และคานวณวงเงิน งบประมาณและโควตาเลื่อน ๑ ข้ัน หรือโควตาเล่ือน ๒ ข้ันได้แล้ว ให้หมายเหตุในบัญชีแสดงการเล่ือน เงินเดือนให้ชดั เจนวา่ แตง่ ตั้งหรือได้รับคาส่ังให้ไปปฏบิ ัติราชการตัง้ แต่เมื่อใด ตามคาส่ังใคร เลื่อนเงินเดือน โดยคานวณวงเงินงบประมาณและโควตาเลื่อน ๑ ขั้น หรือโควตาเลื่อน ๒ ขั้น ของหน่วยจัดทาบัญชีใด พร้อมทั้งแนบเอกสารทเ่ี กีย่ วข้องไปพร้อมบญั ชแี สดงการเลอื่ นเงินเดอื นด้วย

คาอธิบายการบรหิ ารงานกาลังพล สานักงานตารวจแห่งชาติ  81 กรณีหน่วยต้นสังกัดไม่ได้เป็นผู้พิจารณาเล่ือนเงินเดือนต้องระบุ รายช่ือ และรายละเอียดต่างๆ ของข้าราชการตารวจดังกล่าวไว้ในบัญชีแสดงการเลื่อนเงินเดือนของ หน่วยนั้นให้ครบถ้วน รวมถึงหน่วยที่เป็นผู้พิจารณาเลื่อนเงินเดือนให้แก่ข้าราชการตารวจดังกล่าวด้วย ยกเว้นในช่อง “เลื่อนขึ้นรับ” ให้หมายเหตุตามวรรคแรกให้ชัดเจน และเมื่อทราบผลการพิจารณา หรือมีคาสงั่ เลื่อนเงินเดือนก็ให้หมายเหตุเพม่ิ เติมให้ถูกต้องตรงตามความเปน็ จริงต่อไป ๑๐.๑.๒ ผู้ท่ีได้รับการบรรจุเข้ารับราชการครั้งแรก บรรจุกลับเข้ารับราชการ (กรณีถูกส่ังพักราชการ ให้ออกจากราชการไว้ก่อน ถูกปลดออก ถูกไล่ออก หรือออกจากราชการ ด้วยเหตุใดๆ) และได้ปฏิบัติราชการในครึ่งปีท่ีแล้วมาเป็นเวลาไม่ครบ ๔ เดือน หรือผู้ที่ศึกษา ในสถานศึกษาของ ตร. และได้ปฏิบัติราชการคร้ังแรกในคร่ึงปีที่แล้วมาเป็นเวลาไม่ครบ ๒ เดือน ให้หมายเหตุไว้ให้ชัดเจนว่าบรรจุตั้งแต่เมื่อใด ตามคาสั่งใคร ท่ีเท่าใด ลงวันเดือนปีใด พร้อมท้ังแนบ สาเนาคาส่ังไปด้วย และผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ศึกษาในประเทศหรือไปศึกษา ฝึกอบรมหรือดูงาน ณ ต่างประเทศ ให้หมายเหตุให้ชัดเจนว่าไปเม่ือไร และกลับมาปฏิบัติงานเมื่อใด พร้อมท้ังแนบเอกสาร ทเี่ ก่ยี วข้องไปพร้อมบัญชีแสดงการเล่ือนเงนิ เดือนด้วย ๑๐.1.3 ผู้ที่ถูกงดเลื่อนเงินเดือนเพราะถูกสั่งลงโทษทางวินัยถึงที่สุด หรือถูกศาลพิพากษาลงโทษในคดีอาญาถึงที่สุด ให้ลงหมายเหตุในบัญชีแสดงการเลื่อนเงินเดือน ให้ชัดเจนว่างดการเล่ือนเงินเดือนเน่ืองจากถูกลงโทษสถานใด ตามคาสั่งใคร ที่เท่าใด ลงวันเดือนปีใด และการดาเนินการทางวินัยหรือคดีอาญาถึงท่ีสุดเม่ือใด พร้อมทั้งแนบสาเนาคาส่ังหรือคาพิพากษา ดงั กล่าวไวด้ ้วย ๑0.2 วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษ ซึ่งไม่ได้กาหนดไว้ ในแนวทางนใี้ หถ้ ือปฏิบัติตามหลกั เกณฑ์การเล่อื นเงนิ เดอื นโดยอนุโลม ๑0.3 การพิจารณาเล่อื นเงนิ เดือนขา้ ราชการตารวจ รวมทง้ั การใหเ้ งนิ ตอบแทนพเิ ศษ ใหผ้ ู้บงั คับบัญชาแตล่ ะระดับช้ันตอ้ งพจิ ารณาอย่างละเอียดรอบคอบ บริสุทธิ์ ยุติธรรม ตามแนวทางของ ระบบคุณธรรมอยา่ งแท้จริง 10.4 การขออนุมัติเลื่อนเงินเดือนในโควตา ตร. เพ่ือใช้สาหรับโครงการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อ ตร. เพอื่ เปน็ การสร้างขวัญกาลังใจให้แก่ข้าราชการตารวจในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ใหห้ นว่ ยงานทรี่ บั ผดิ ชอบโครงการน้นั ๆ พจิ ารณาดาเนินการดงั นี้ 10.4.1 การขออนุมัติเล่ือนเงินเดือน 1 ขั้น ในโควตา ตร. ต้องเสนอ ผบ.ตร. เพ่ือขออนุมัติใช้โควตา ตร. ก่อนวันที่ 1 เม.ย. ของปี และเม่ือ ผบ.ตร. อนุมัติแล้ว ต้องแจ้งให้ สกพ. (ฝุายความชอบ ทพ.) ทราบก่อนวันที่ 20 เม.ย. ของปี เพื่อจะได้กันโควตาเล่ือนเงินเดือนในโควตา ตร. ไว้สาหรับจดั สรรให้แกโ่ ครงการตา่ งๆ ได้ 10.4.2 การขออนุมัตเิ ลอื่ นเงนิ เดอื น 2 ขั้น ในโควตา ตร. ต้องเสนอ ผบ.ตร. เพ่ือขออนุมัติใช้โควตา ตร. ก่อนวันท่ี 1 ต.ค. ของปี และเม่ือ ผบ.ตร. อนุมัติแล้วต้องแจ้งให้ สกพ. (ฝุายความชอบ ทพ.) ทราบก่อนวันที่ 20 ต.ค. ของปี เพื่อจะได้กันโควตาและวงเงินงบประมาณ สาหรับใช้เลื่อนเงินเดอื นในโควตา ตร. ไวส้ าหรับจดั สรรให้แกโ่ ครงการตา่ งๆ ได้ 10.5 หากมีแนวทางการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการตารวจฉบับใดที่กาหนดขึ้นมา ก่อนหน้า ซึ่งขัดหรือแย้งกับแนวทางการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการตารวจฉบับนี้ ให้ถือปฏิบัติตาม แนวทางการเล่ือนเงนิ เดอื นขา้ ราชการตารวจฉบบั นี้

82  อนชุ ัย ณ วัชรเจรญิ ผู้มีอานาจสั่งเล่ือนเงนิ เดือนข้าราชการตารวจ ระเบยี บ ก.ตร. ว่าด้วยผ้มู ีอานาจสั่งเล่อื นเงนิ เดอื นข้าราชการตารวจ พ.ศ.๒๕๕๘ ลงวันที่ ๑๗ มิถนุ ายน พ.ศ.๒๕๕๘ กาหนดใหก้ ารเลอ่ื นเงินเดือนข้าราชการตารวจในสานักงานผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ ใหด้ าเนินการดงั นี้ (1) การส่ังเล่ือนเงินเดือนข้าราชการตารวจท่ีได้รับเงินเดือนระดับ ส.๓ ลงมาในหน่วยงาน ระดับกองบังคบั การ ใหผ้ ู้บังคบั การ หรอื ตาแหนง่ เทียบเท่าเป็นผู้สงั่ เลื่อน (2) การสงั่ เลื่อนเงินเดือนข้าราชการตารวจท่ีได้รับเงินเดือนระดับ ส.๕ ลงมา ในหน่วยงาน ระดบั กองบญั ชาการ ในสังกดั สานักงานผบู้ ญั ชาการตารวจแหง่ ชาติ ที่ไม่อยู่ในอานาจของผู้บังคับการ หรอื ตาแหน่งเทียบเท่า ตาม (๑) ให้ผู้บัญชาการ หรอื ตาแหน่งเทยี บเท่าเปน็ ผู้ส่ังเล่ือน (3) การส่ังเลื่อนเงินเดือนข้าราชการตารวจท่ีได้รับเงินเดือนระดับ ส.๕ ลงมา ที่ไม่อยู่ ในอานาจของผู้บังคับการ หรือตาแหน่งเทียบเท่าตาม (๑) หรือผู้บัญชาการ หรือตาแหน่งเทียบเท่า ตาม (๒) ให้ผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ หรือผบู้ งั คับบัญชาทไ่ี ด้รับมอบอานาจเป็นผู้ส่ังเล่ือน การส่งั เลื่อนเงนิ เดือนข้าราชการตารวจในหนว่ ยงานระดบั กองบญั ชาการ ให้ดาเนนิ การดังน้ี (1) การสั่งเล่ือนเงินเดือนข้าราชการตารวจท่ีได้รับเงินเดือนระดับ ส.๓ ลงมาในหน่วยงาน ระดบั กองบังคับการ ใหผ้ บู้ ังคบั การ หรือตาแหน่งเทียบเทา่ เปน็ ผู้สัง่ เลื่อน (2) การสั่งเลื่อนเงินเดือนข้าราชการตารวจท่ีได้รับเงินเดือนระดับ ส.๕ ลงมา ท่ีไม่อยู่ ในอานาจของผู้บังคับการ หรือตาแหน่งเทียบเท่าตาม (๑) ให้ผู้บัญชาการ หรือตาแหน่งเทียบเท่า เปน็ ผู้สัง่ เลอ่ื น เงินเพ่ิม พระราชบญั ญตั ติ ารวจแห่งชาติ มาตรา ๗๑ ได้บัญญัติว่า ข้าราชการตารวจอาจได้รับเงินเพ่ิม สาหรบั ตาแหน่งท่ีประจาอยใู่ นต่างประเทศ หรือตาแหน่งทีม่ ีเหตพุ ิเศษตามที่กาหนดในระเบียบ ก.ตร. โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง ซึง่ เงนิ เพิม่ สาหรับตาแหนง่ ทีม่ ีเหตพุ ิเศษสรุปได้ดงั นี้ ผปู้ ฏิบัตหิ น้าท่ดี ้านปอ้ งกันปราบปราม ดา้ นสบื สวน และด้านจราจร ระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยเงินเพิ่มสาหรับตาแหน่งที่มีเหตุพิเศษตาแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าท่ี ด้านป้องกันปราบปราม ด้านสืบสวน และด้านจราจร พ.ศ.๒๕๔๘ ลงวันที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๘ กาหนดไว้ว่าเงินเพิ่มสาหรับตาแหน่งท่ีมีเหตุพิเศษตาแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านปูองกันปราบปราม ได้แก่ ผปู้ ฏบิ ัตหิ นา้ ท่ีด้านปูองกันปราบปราม หมายถึง ข้าราชการตารวจซ่ึงดารงตาแหน่งอยู่ในสายงาน บรหิ ารงานปูองกันปราบปราม ปฏิบัติการปูองกันปราบปราม หรือปฏิบัติการปูองกันปรามปรามทางน้า ตามที่ ก.ตร. และกระทรวงการคลังกาหนด ตั้งแต่ตาแหน่งรองผู้กากับการหรือเทียบเท่ารองผู้กากับการ ลงมา

คาอธบิ ายการบรหิ ารงานกาลงั พล สานกั งานตารวจแห่งชาติ  83 ผู้ได้รับการแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งดังกล่าว ให้ได้รับเงินเพ่ิมสาหรับตาแหน่งท่ีมีเหตุพิเศษ ตาแหน่งผปู้ ฏบิ ตั ิหน้าท่ดี า้ นปอู งกันปราบปราม (ต.ป.ป.) นบั แต่วนั ท่ไี ด้รับการแต่งตั้งและเข้าปฏิบัติหน้าท่ี ในตาแหนง่ ผปู้ ฏิบัติหน้าท่ดี ้านปอู งกันปราบปราม ในอตั ราดังนี้ รองผกู้ ากบั การ ให้ได้รับเดอื นละ ๔,๗๐๐ บาท สารวตั ร ใหไ้ ดร้ บั เดือนละ ๔,๐๐๐ บาท รองสารวตั ร ให้ไดร้ ับเดอื นละ ๓,๕๐๐ บาท ผูบ้ งั คับหมู่ ให้ได้รับเดอื นละ ๓,๐๐๐ บาท เงนิ เพม่ิ สาหรับตาแหนง่ ท่มี ีเหตุพเิ ศษตาแหนง่ ผู้ปฏิบัติหนา้ ท่ดี า้ นสืบสวน ได้แก่ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ ด้านสืบสวน หมายถึง ข้าราชการตารวจซึ่งดารงตาแหน่งอยู่ในสายงานสืบสวน ตามที่ ก.ตร. และ กระทรวงการคลังกาหนด ต้ังแต่ตาแหน่งรองผู้กากับการหรอื เทียบเทา่ รองผู้กากบั การลงมา ผู้ได้รับการแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง ให้ได้รับ ต.ส.ส. นับแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้งและ เข้าปฏิบตั ิหนา้ ทใี่ นตาแหน่งผู้ปฏบิ ตั หิ น้าทดี่ า้ นสบื สวน ในอตั ราดงั น้ี รองผูก้ ากับการ ใหไ้ ดร้ ับเดอื นละ ๔,๗๐๐ บาท สารวตั ร ให้ได้รับเดือนละ ๔,๐๐๐ บาท รองสารวัตร ให้ได้รบั เดอื นละ ๓,๕๐๐ บาท ผู้บังคับหมู่ ให้ไดร้ บั เดอื นละ ๓,๐๐๐ บาท เงินเพม่ิ สาหรับตาแหนง่ ท่ีมเี หตุพเิ ศษตาแหน่งผู้ปฏิบัตหิ นา้ ท่ีดา้ นจราจร ได้แก่ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ ด้านจราจร หมายถึง ข้าราชการตารวจซ่ึงดารงตาแหน่งอยู่ในสายงานจราจร ตามที่ ก.ตร. และ กระทรวงการคลงั กาหนด ตงั้ แต่ตาแหน่งรองผู้กากับการหรอื เทยี บเท่ารองผู้กากับการลงมา ผู้ได้รับการแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง ให้ได้รับ ต.จ.ร. นับแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้งและ เขา้ ปฏบิ ตั ิหนา้ ทใ่ี นตาแหนง่ ผ้ปู ฏิบัตหิ นา้ ท่ีด้านจราจร ในอัตราดังนี้ รองผู้กากับการ ใหไ้ ด้รบั เดอื นละ ๔,๗๐๐ บาท สารวตั ร ใหไ้ ด้รับเดอื นละ ๔,๐๐๐ บาท รองสารวัตร ใหไ้ ดร้ ับเดอื นละ ๓,๕๐๐ บาท ผูบ้ ังคบั หมู่ ใหไ้ ด้รับเดือนละ ๓,๐๐๐ บาท ขา้ ราชการตารวจผ้ไู ด้รบั การแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่ง และปฏิบัติหน้าที่ด้านปูองกันปราบปราม ด้านสืบสวน หรือด้านจราจรไม่เต็มเดือนในเดือนใด ให้มีสิทธิได้รับ ต.ป.ป. ต.ส.ส. หรือ ต.จ.ร. สาหรับเดือนน้ันตามส่วนจานวนวันที่ได้ดารงตาแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ถ้าเดือนใดไม่ได้ ปฏิบัติหน้าท่ีด้านปูองกันปราบปราม ด้านสืบสวน หรือด้านจราจรที่ได้รับแต่งต้ัง ไม่มีสิทธิได้รับ ต.ป.ป. ต.ส.ส. หรอื ต.จ.ร. สาหรับเดือนนั้น เวน้ แตเ่ ปน็ กรณีดังตอ่ ไปน้ี ก. ไปราชการหรือไปชว่ ยราชการ ขา้ ราชการตารวจซงึ่ ไดร้ ับการแตง่ ตงั้ ให้ดารงตาแหน่งผ้ใู ด ไปราชการหรือไปช่วยราชการ โดยไม่ไดป้ ฏิบัติหน้าทใี่ นตาแหน่งทีม่ สี ิทธไิ ดร้ ับ ต.ป.ป. ต.ส.ส. หรือ ต.จ.ร. รวมแล้วเกิน ๓ วันใน ๑ เดือน ใหต้ ัดเงนิ เพม่ิ ตามจานวนวันทไ่ี ปราชการหรือไปช่วยราชการในเดอื นน้ัน

84  อนุชยั ณ วชั รเจรญิ ข. เจ็บปุวยจากการปฏิบตั ิหนา้ ท่รี าชการ ข้าราชการตารวจซ่ึงได้รับการแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่ง ผู้ใดเจ็บปุวยเน่ืองจากการ ปฏิบัติหน้าท่ีราชการจนเป็นหตุให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าท่ีได้และได้รับอนุญาตให้ลาให้ยังคงมีสิทธิได้รับ ต.ป.ป. ต.ส.ส. หรือ ต.จ.ร. แตท่ ้ังนต้ี ้องไม่เกนิ ๑๘๐ วนั ค. ไดร้ บั อนญุ าตใหล้ า (๑) ไดร้ ับอนุญาตให้ลาปุวยให้มีสทิ ธไิ ด้รับ ต.ป.ป. ต.ส.ส. หรือ ต.จ.ร. ระหว่างลาได้ ในปหี นงึ่ ไมเ่ กิน ๖๐ วนั ทาการ (๒) ได้รับอนญุ าตใหล้ าคลอดบุตรใหม้ สี ิทธไิ ดร้ บั ต.ป.ป. ต.ส.ส. หรือ ต.จ.ร. ระหว่างลาได้ ไมเ่ กนิ ๙๐ วัน (๓) ไดร้ บั อนญุ าตให้ลากิจส่วนตวั ให้มสี ทิ ธไิ ด้รับ ต.ป.ป. ต.ส.ส. หรือ ต.จ.ร. ระหว่างลาได้ ในปหี น่ึงไม่เกนิ ๔๕ วันทาการ แต่ในปที ีเ่ ริ่มรบั ราชการให้มีสิทธไิ ดร้ ับ ต.ป.ป. ต.ส.ส. หรอื ต.จ.ร. ระหว่างลาได้ ไม่เกนิ ๑๕ วันทาการ (๔) ได้รับอนุญาตให้ลาพักผ่อนประจาปีให้มีสิทธิได้รับ ต.ป.ป. ต.ส.ส. หรือ ต.จ.ร. ระหว่างลาได้ไม่เกินระยะเวลาที่ผู้น้ันมีสิทธิลาพักผ่อนประจาปีตามท่ีกาหนดไว้ในระเบียบ ว่าด้วยการลา ของข้าราชการ (๕) ได้รับอนุญาตให้ลาอุปสมบทในพระพุทธศาสนาหรือลาไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซ่ึงมใิ ชเ่ ป็นการลาภายในระยะเวลา ๑๒ เดือนแรกที่เข้ารับราชการ และตั้งแต่วันเริ่มรับราชการยังไม่เคยอุปสมบทในพระพุทธศาสนาหรือยังไม่เคยประกอบพิธีฮัจย์ ณ เมืองเมกกะ ใหม้ ีสิทธิไดร้ ับ ต.ป.ป. ต.ส.ส. หรอื ต.จ.ร. ระหว่างลาไดไ้ ม่เกนิ ๖๐ วนั (๖) ได้รับอนุญาตให้ลาไปศึกมา ฝึกอบรม ดูงาน หรือปฏิบัติการวิจัยที่ไม่เก่ียวกับ การปฏิบตั ิหน้าท่ดี า้ นปอู งกนั ปราบปราม ด้านสืบสวน หรือด้านจราจร ให้มีสิทธิได้รับ ต.ป.ป. ต.ส.ส. หรอื ต.จ.ร. ระหวา่ งลาได้ไมเ่ กนิ ๖๐ วัน สทิ ธใิ นการไดร้ บั ต.ป.ป. ต.ส.ส. หรือ ต.จ.ร. สนิ้ สุดลงเมือ่ (๑) พน้ จากตาแหนง่ ทม่ี สี ิทธิไดร้ บั เงินเพ่มิ สาหรับตาแหน่งท่ีมีเหตุพเิ ศษตามระเบียบนี้ (๒) พน้ จากหนา้ ทร่ี าชการสานักงานตารวจแหง่ ชาติไมว่ ่ากรณใี ด ผู้ใดมีตาแหน่งหน้าท่ีที่จะได้รับเงินเพ่ิมสาหรับตาแหน่งที่มีเหตุพิเศษหลายตาแหน่งหรือ เงนิ ประจาตาแหน่งอืน่ ใด ให้ได้รับเงนิ เฉพาะตาแหนง่ ทมี่ ีจานวนเงนิ มากกว่าเพียงตาแหนง่ เดียว ใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชาในฐานะผู้สั่งเลื่อนเงินเดือน หรือผู้บังคับบัญชาซึ่งผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ มอบหมายให้มีอานาจพิจารณาหรือสั่งเลื่อนเงินเดือน เป็นผู้ออกคาส่ังให้ข้าราชการตารวจท่ีอยู่ใน บงั คบั บญั ชาได้รับหรือหมดสิทธริ บั เงนิ เพ่มิ สาหรับตาแหน่งท่มี เี หตพุ เิ ศษตามระเบียบน้ี เงินเพิ่มสาหรับตาแหน่งที่มีเหตุพิเศษตาแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านปูองกันปราบปราม ด้านสืบสวน และด้านจราจร เป็นเงินที่มีกาหนดจ่ายเป็นรายเดือนเช่นเดียวกับเงินเดือน ในกรณีท่ี ถูกสัง่ พกั ราชการหรอื ใหอ้ อกจากราชการไว้ก่อน เพ่ือรอฟังผลการสอบสวนซ่ึงเป็นไปตามกฎหมายว่า ด้วยการนั้นให้งดจ่าย ในกรณีที่กลับเข้ารับราชการให้จ่ายเงินเพิ่มสาหรับตาแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตามส่วนสัมพันธ์ของเงินเดือนท่ีไดร้ บั เงินเพิ่มสาหรับตาแหน่งที่มีเหตุพิเศษตาแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านปูองกั นปราบปราม ด้านสืบสวน และดา้ นจราจร เปน็ เงินท่ีจ่ายควบกับเงนิ เดือนแต่ไม่นาไปรวมเพื่อคานวณบาเหน็จบานาญ

คาอธิบายการบรหิ ารงานกาลังพล สานกั งานตารวจแห่งชาติ  85 ผ้ปู ฏิบตั งิ านด้านการสาธารณสุข ระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยเงินเพิ่มสาหรับตาแหน่งที่มีเหตุพิเศษตาแหน่งผู้ปฏิบัติงาน ด้านการสาธารณสขุ พ.ศ.๒๕๔๘ ลงวนั ที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๘ กาหนดไว้วา่ เงนิ เพม่ิ สาหรบั ตาแหนง่ ที่มีเหตุพิเศษตาแหน่งผู้ปฏิบัติงานด้านการสาธารณสุข (พ.ต.ส.) ซึ่งผู้ปฏิบัติงานด้านการสาธารณสุข หมายถึง ข้าราชการตารวจผู้ดารงตาแหน่งหรือผู้ปฏิบัติงานในหน้าที่แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาลวิชาชพี นกั เทคนคิ การแพทย์ นักรังสีการแพทย์ นักกายภาพบาบดั นกั แก้ไขความผดิ ปกตขิ องการ ส่ือความหมาย หรอื นักวิชาการศึกษาพิเศษที่ปฏิบัติหน้าที่ด้านแก้ไขความผิดปกติของการสื่อความหมาย นักกจิ กรรมบาบดั หรือนักอาชวี บาบดั ทป่ี ฏบิ ัติหน้าทด่ี า้ นกิจกรรมบาบัดนักจิตวิทยาคลินิก หรือนักจิตวิทยา ท่ีปฏิบัติหน้าที่ด้านจิตวิทยาคลินิก และนักเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก ท้ังน้ีต้องเป็นผู้สาเร็จการศึกษา ระดับปรญิ ญาตรขี ้นึ ไปและไดร้ บั ใบอนญุ าตเป็นผปู้ ระกอบวชิ าชีพ หรอื ใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ ตามกฎหมายว่าด้วยการน้ัน โดยใช้ใบอนุญาตดังกล่าวปฏิบัติงานให้บริการด้านสุขภาพด้านใดด้านหนึ่ง หรอื หลายดา้ น ได้แก่ ด้านการรักษาพยาบาล ด้านการส่งเสริมสุขภาพ ด้านการควบคุมปูองกันโรค (รวมงานค้มุ ครองผู้บริโภค) ด้านการฟ้ืนฟูสภาพและได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าท่ีตามกลุ่มลักษณะงาน ทีก่ าหนดในบญั ชีกลุ่มตาแหนง่ ตามลักษณะงานและอตั รา พ.ต.ส. แนบทา้ ยระเบียบน้ี ให้ผู้ปฏิบัติงานด้านการสาธารณสุขได้รับ พ.ต.ส. ตามตาแหน่งหรือลักษณะงานท่ีปฏิบัติ โดยไมส่ งู กวา่ อตั ราท่ีกาหนดในบญั ชที ้ายระเบียบน้ี สว่ นจะได้รับเท่าใดให้เป็นไปตามท่ีคณะกรรมการ พิจารณาค่าตอบแทนกาลังคนด้านสาธารณสุข หรือคณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย พจิ ารณากาหนดตามวงเงินงบประมาณที่ได้รบั อนุมัติในแตล่ ะปี โดยทาเป็นประกาศ ในกรณีท่ีผู้ปฏิบัติงานด้านการสาธารณสุขผู้ใดอยู่ในหลายกลุ่มตาแหน่งต ามลักษณะงาน ให้ผู้น้นั ไดร้ ับ พ.ต.ส. ในอัตราทสี่ งู ท่ีสดุ ในกลุม่ ตาแหน่งตามลักษณะงานนนั้ เพยี งอัตราเดียว ผู้ปฏิบัติงานด้านการสาธารณสุขผู้ใดปฏิบัติหน้าท่ีตามลักษณะงานท่ีกาหนดไม่เต็มเดือน ในเดือนใด ให้ผู้น้ันได้รับ พ.ต.ส. สาหรับเดือนน้ันตามสัดส่วนของจานวนวันท่ีได้ปฏิบัติหน้าที่ แต่ถ้า ในเดือนใดมิได้ปฏิบัติหน้าท่ีตามลักษณะงานที่กาหนด ผู้น้ันไม่มีสิทธิได้รับ พ.ต.ส. สาหรับเดือนน้ัน ท้ังน้ี เว้นแตใ่ นกรณีดงั ต่อไปนี้ (๑) กรณีลาปุวยให้ได้รับ พ.ต.ส. ระหว่างลาได้ในปีงบประมาณหนึ่งหกสิบวันทาการ เวันแต่เป็นการปุวยอันเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี สานักงานตารวจแห่งชาติอาจกาหนดให้ได้รับ พ.ต.ส. เกนิ หกสบิ วนั ทาการไดต้ ามสมควรแก่กรณี (๒) กรณีลาคลอดบุตร ให้ไดร้ ับ พ.ต.ส. ระหวา่ งลาไดไ้ มเ่ กนิ เก้าสิบวนั (๓) กรณลี ากจิ สว่ นตวั ให้ไดร้ บั พ.ต.ส. ระหว่างลาได้ในปีงบประมาณหนึ่งไม่เกินส่ีสิบห้าวัน ทาการ แตส่ าหรบั ในปแี รกท่ีรับราชการให้ได้รับ พ.ต.ส. ระหว่างลาได้ในปีงบประมาณน้ันไม่เกินสิบห้าวัน ทาการ (๔) กรณีลาพักผ่อนประจาปี ให้ได้รับ พ.ต.ส. ระหว่างลาได้ไม่เกินระยะวลาท่ีผู้นั้นมีสิทธิ ลาพกั ผอ่ นประจาปีตามท่ีกาหนดไวใ้ นระเบียบวา่ ด้วยการลาของข้าราชการ (๕) กรณีลาอุปสมบทในพระพุทธศาสนาหรือลาไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซ่ึงมิใช่เป็นการลาภายในระยะเวลาสิบสองเดือนแรกที่เข้ารับราชการ หรือ ต้ังแต่เร่ิมรับราชการยังไม่เคยลาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา หรือยังไม่เคยลาไปประกอบพิธีฮัจย์ ให้ได้รับ พ.ต.ส. ระหว่างลาได้ไมเ่ กนิ หกสบิ วนั

86  อนชุ ัย ณ วชั รเจรญิ (๖) กรณีลาไปเข้ารับการตรวจเลือกหรือเข้ารับการเตรียมพลให้ได้รับ พ.ต.ส. ระหว่างลา ได้ไม่เกินหกสิบวัน แต่ถ้าพ้นระยะเวลาท่ีลาดังกล่าวแล้ว ผู้น้ันไม่ไปรายงานตัวเพ่ือเข้าปฏิบัติหน้าที่หลัก ของตาแหน่งท่ีได้รับการแต่งตั้งภายในเจ็ดวันให้งดจ่ายเงิน พ.ต.ส. หลังจากนั้นไว้จนถึงวันเข้าปฏิบัติ หนา้ ท่หี ลัก ผปู้ ฏบิ ัตงิ านทาลายวตั ถุระเบิด ระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยเงินเพิ่มสาหรับตาแหน่งที่มีเหตุพิเศษตาแหน่งผู้ปฏิบัติงาน ทาลายวัตถุระเบิด พ.ศ. ๒๕๔๙ ลงวนั ที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ กาหนดไว้ว่าเงินเพ่ิมสาหรับตาแหน่ง ท่ีมีเหตุพิเศษตาแหน่งผู้ปฏิบัติงานทาลายวัตถุระเบิด มีคานิยามท่ีเกี่ยวข้อง ได้แก่ “วัตถุระเบิด” หมายความว่า วตั ถุระเบดิ ลกู ระเบดิ กระสุนซงึ่ มอี านาจทาลายด้วยการระเบดิ กับระเบิด อาวุธใต้น้า ซ่ึงมีอานาจการระเบิด จรวดไพโรเทคนิค วัตถุระเบิดเคมี ชีวะ รังสี หรือสารเคมี ชีวะ รังสี รวมทั้ง อาวธุ นิวเคลยี รแ์ ละดนิ ระเบิดท่ใี ชใ้ นการทาลาย “ผู้ปฏิบัติงานทาลายวัตถุระเบิด” หมายความว่า ผู้ทาการตรวจทดลอง ค้นหา พิสูจน์ทราบ ทาให้ปลอดภัย ประเมินค่า เก็บกู้ เก็บรักษา ขนย้าย ทาลายล้างวัตถุระเบิดท่ีอยู่ในสภาพท่ีจะก่อให้เกิด อันตราย หรือความเสียหายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน รวมทั้งผู้ทาหน้าที่ฝึกสอนเกี่ยวกับวัตถุระเบิด ซง่ึ จะตอ้ งปฏิบัติงานทาลายวัตถุระเบิด หรือผู้ที่มีหน้าที่ต่อสู้ปราบปราม ซ่ึงจะต้องปฏิบัติงานทาลาย วตั ถุระเบิดด้วย “ต.ท.บ.” หมายความว่า เงินเพิ่มสาหรับตาแหน่งที่มีเหตุพิเศษตาแหน่งผู้ปฏิบัติงาน ทาลายวตั ถรุ ะเบดิ ผปู้ ฏิบตั ิงานทาลายวตั ถรุ ะเบิด ต้องเป็นผู้ผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการ ปรากฏว่า เปน็ ผู้มคี ณุ สมบัติดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) เป็นผู้มีความรู้ความสามารถและสาเร็จการศึกษาตามหลักสูตรทาลายวัตถุระเบิด ของกองทพั บก กองทพั เรอื กองทพั อากาศ สานกั งานตารวจแห่งชาติ หรอื หลกั สตู รอ่นื ที่ ก.ตร. รบั รอง (๒) สมรรถภาพของร่างกายและจิตใจสมบูรณ์พร้อมท่ีจะปฏิบัติหน้าท่ีในตาแหน่งได้มีสิทธิ ได้รบั ต.ท.บ. ต้ังแตว่ นั ท่ีผา่ นการตรวจสอบจากคณะกรรมการ และสานักงานตารวจแห่งชาติ ผู้ปฏิบัติงานทาลายวัตถุระเบิดมีสิทธิได้รับ ต.ท.บ. ตั้งแต่วันท่ีผ่านการตรวจสอบจาก คณะกรรมการ และสานกั งานตารวจแหง่ ชาตมิ คี าสั่งแต่งตัง้ ใหด้ ารงตาแหน่งผปู้ ฏิบตั งิ านทาลายวัตถุระเบดิ ตามอตั ราดังนี้ ชั้นสัญญาบัตร เดอื นละ ๑๐,๐๐๐ บาท ช้ันประทวน เดอื นละ ๗,๕๐๐ บาท การรับเงิน ต.ท.บ. ให้ได้รับตามหลักเกณฑ์ดังน้ี (1) ปีแรกที่ได้รับการแต่งต้ังเข้าประจาตาแหน่ง ให้ได้รับทุกเดือนนับแต่วันแต่งตั้ง จนถึงสิ้นปแี ต่งต้งั ปใี ดใหน้ ับปีนั้นเป็นปีแรก (2) ปถี ดั ไป ใหไ้ ด้รบั ตามผลการปฏบิ ตั ิงานทาลายวัตถุระเบดิ ของปีก่อนหนา้ นนั้ ดงั นี้ (ก) ปฏบิ ตั งิ านตั้งแต่ ๑๒ คร้งั ข้ึนไป ใหไ้ ด้รับตลอดปี (ข) ปฏบิ ัติงานไม่น้อยกวา่ ๙ ครัง้ ให้ไดร้ บั สบิ เดือนต้นของปี

คาอธิบายการบริหารงานกาลงั พล สานักงานตารวจแห่งชาติ  87 (ค) ปฏิบตั งิ านไม่นอ้ ยกว่า ๖ คร้งั ให้ไดร้ ับแปดเดือนตน้ ของปี (ง) ปฏบิ ตั ิงานไม่นอ้ ยกว่า ๓ ครง้ั ใหไ้ ดร้ บั หกเดือนตน้ ของปี (จ) ปฏิบัติงาน ๒ ครั้ง ใหไ้ ดร้ บั สีเ่ ดือนต้นของปี (ฉ) ปฏบิ ัตงิ าน ๑ ครั้ง ให้ไดร้ ับสองเดอื นต้นของปี (ช) ไมป่ ฏบิ ัติงาน ไมใ่ หไ้ ดร้ บั เลย การตัดเงนิ เพิม่ สาหรับตาแหน่งท่ีมีเหตุพิเศษตาม (๒) ไม่ให้ใช้บังคับแก่ผู้ปฏิบัติงานทาลาย วัตถุระเบิดตามคาส่ังผู้บังคับบัญชา จนเป็นเหตุให้ร่างกายและจิตใจไม่สมบูรณ์เพียงพอท่ีจะ ปฏิบัติงานทาลายวัตถุระเบิดในปีหน่ึง ๆ ได้ตั้งแต่หน่ึงร้อยแปดสิบวันข้ึนไป ตามรายงานความเห็น ของแพทย์ ผู้ปฏบิ ัติงานทาลายวตั ถรุ ะเบดิ พน้ จากตาแหน่ง เม่อื (๑) สมรรถภาพของร่างกายและจิตใจไม่สมบูรณ์พอท่ีจะทาหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทาลาย วัตถุระเบิดได้ ให้พ้นจากตาแหน่งนับแต่วันถัดจากส้ินปีที่คณะกรรมการมีความเห็นว่าไม่สามารถ ปฏิบัตหิ นา้ ท่ผี ปู้ ฏิบตั ิงานทาลายวตั ถรุ ะเบดิ ต่อไปได้ ในกรณีท่ีไม่ได้รับการตรวจสอบสมรรถภาพของร่างกายและจิตใจให้พ้นจากตาแหน่ง เชน่ เดยี วกัน (๒) พน้ จากหน้าทีร่ าชการสานักงานตารวจแห่งชาตไิ มว่ า่ กรณใี ด (๓) ได้รบั การแตง่ ตง้ั ให้ดารงตาแหน่งอ่นื หรอื ดารงตาแหนง่ ในสงั กัดอืน่ (๔) มีความประพฤตไิ มเ่ หมาะสม ใหผ้ บู้ ังคบั บัญชาตน้ สงั กดั รายงานสานกั งานตารวจแหง่ ชาติ สัง่ ใหพ้ ้นจากตาแหนง่ สิทธิในการได้รับ ต.ท.บ. สิ้นสุดลงเมื่อพ้นจากตาแหน่งผู้ปฏิบัติงานทาลายวัตถุระเบิด เว้นแตก่ รณที พี่ ้นจากตาแหนง่ หนา้ ทผ่ี ปู้ ฏบิ ัติงานทาลายวตั ถรุ ะเบิดเพราะร่างกายไม่สมบูรณ์เนื่องจาก การปฏิบัติหนา้ ทีเ่ ก่ียวกบั การทาลายวตั ถุระเบิด ให้ได้รับเงนิ ต.ท.บ. อีกได้ตามท่ีสานักงานตารวจแห่งชาติ เหน็ สมควร แต่ต้องไม่เกินสิบสองเดือนนับแต่วนั พ้นจากตาแหน่งหน้าทีผ่ ปู้ ฏบิ ัตงิ านทาลายวตั ถุระเบดิ ผู้ใดมีตาแหน่งหน้าท่ีที่ได้รับเงินเพ่ิมสาหรับตาแหน่งที่มีเหตุพิเศษหลายตาแหน่ง ให้ได้รับ เฉพาะตาแหน่งที่มีเหตุพเิ ศษเพยี งตาแหน่งเดียว ให้ผู้บังคับบัญชาในฐานะผู้สั่งเลื่อนเงินเดือนหรือผู้บังคับบัญชาซ่ึงผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ มอบหมายให้มีอานาจพิจารณาหรือส่ังเล่ือนเงินเดือน เป็นผู้ออกคาสั่งให้ข้าราชการตารวจท่ีอยู่ใน บังคับบญั ชาไดร้ ับหรอื หมดสิทธิรับเงินเพม่ิ สาหรบั ตาแหนง่ ที่มเี หตพุ ิเศษนี้ เงินเพ่ิมสาหรับตาแหน่งท่ีมีเหตุพิเศษตาแหน่งผู้ปฏิบัติงานทาลายวัตถุระเบิดเป็นเงินที่มี กาหนดจ่ายเป็นรายเดือนเช่นเดียวกับเงินเดือน ในกรณีที่ถูกส่ังพักราชการหรือให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลการสอบสวนซ่ึงเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการน้ันให้งดจ่าย ในกรณีท่ีกลับเข้ารับราชการ ให้จา่ ยเงนิ เพิ่มสาหรับตาแหน่งท่มี ีเหตพุ ิเศษตามสว่ นสมั พันธ์ของเงนิ เดือนที่ไดร้ ับ ให้สานักงานตารวจแห่งชาติส่งสาเนาคาสั่งการแต่งตั้งข้าราชการตารวจให้ดารงตาแหน่ง ผปู้ ฏิบตั ิงานทาลายวัตถุระเบดิ การตัดเงินเพ่มิ สาหรบั ตาแหน่งทมี่ เี หตุพเิ ศษ หรือการพ้นจากตาแหน่ง ผปู้ ฏิบัตงิ านทาลายวัตถุระเบิดใหก้ ระทรวงการคลังเพ่ือประกอบการเบิกจ่ายเงินเพ่ิมสาหรับตาแหน่ง ทมี่ เี หตุพเิ ศษทกุ ครง้ั

88  อนุชัย ณ วัชรเจรญิ ผปู้ ฏิบตั ิหน้าท่ีทางเรือ ระเบยี บ ก.ตร. วา่ ดว้ ยเงินเพิม่ สาหรับตาแหนง่ ท่มี เี หตุพเิ ศษตาแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าท่ีทางเรือ พ.ศ. ๒๕๔๙ ลงวันท่ี ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ กาหนดไว้ว่าเงินเพ่ิมสาหรับตาแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตาแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าที่ทางเรือ ซ่ึงคาว่า “ผู้ปฏิบัติหน้าท่ีทางเรือ” หมายความถึง ข้าราชการตารวจ ทม่ี ตี าแหน่งหนา้ ท่ีประจาอยูใ่ นเรอื ตรวจการณ์ สังกัดกองบงั คบั การตารวจนา้ “เรือตรวจการณ์” หมายความถึง เรือขนาด ๕๐ - ๖๐ ฟุตข้ึนไป ท่ีสานักงานตารวจแห่งชาติ สง่ั ใหข้ ้นึ ประจาการไว้ปฏิบัติราชการในสังกัดกองบงั คับการตารวจน้าและมีนายตารวจช้ันสัญญาบัตร เป็นผูค้ วบคุมเรอื “เงินเพิ่มสาหรับตาแหน่งที่มีเหตุพิเศษ” หมายความถึง เงินเพิ่มสาหรับตาแหน่งท่ีมีเหตุพิเศษ ตาแหนง่ ผู้ปฏบิ ัตหิ น้าท่ีทางเรอื “ต.น.ร.” หมายความว่า เงนิ เพิม่ สาหรับตาแหน่งท่มี เี หตพุ ิเศษตาแหน่งผู้ปฏบิ ตั ิหนา้ ทท่ี างเรอื ผู้ปฏิบัติหน้าที่ทางเรือมีสิทธิได้รับ ต.น.ร. ตั้งแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้งและรายงานตัว เขา้ ปฏิบัติหนา้ ทใี่ นเรอื ตรวจการณ์ในอัตราดงั น้ี ชัน้ สัญญาบัตร เดอื นละ ๓,๕๐๐ บาท ชนั้ ประทวน เดอื นละ ๒,๗๐๐ บาท ข้าราชการตารวจผู้ได้รับการแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าท่ีทางเรือ และปฏิบัติหน้าท่ี ในเรือตรวจการณ์ที่ได้รับการแต่งต้ังไม่เต็มเดือนในเดือนใด ให้มีสิทธิได้รับ ต.น.ร. สาหรับเดือนนั้น ตามส่วนจานวนวันที่ได้ดารงตาแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ถ้าเดือนใดไม่ได้ปฏิบัติหน้าท่ี ในเรอื ตรวจการณท์ ่ไี ดร้ ับการแต่งตงั้ ไมม่ ีสิทธิได้รบั ต.น.ร. สาหรบั เดอื นนน้ั เวน้ แต่เป็นกรณดี ังตอ่ ไปนี้ ก. ไปราชการหรอื ไปช่วยราชการ ข้า ร า ช กา ร ตา ร ว จ ซึ่งได้รับ กา ร แต่งตั้งให้ดา ร ง ตา แห น่ง ผู้ป ฏิบัติห น้า ที่ทา งเ รือ ผู้ใดไปราชการหรือไปช่วยราชการ โดยไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในตาแหน่งที่มีสิทธิได้รับ ต.น.ร. รวมแล้ว เกิน ๗ วันใน ๑ เดอื น ใหต้ ดั เงนิ เพ่ิมตามจานวนวนั ท่ไี ปราชการหรือไปชว่ ยราชการในเดือนนน้ั ข. เจ็บปวุ ยจากการปฏิบัติหน้าท่ีราชการ ข้าราชการตารวจซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าที่ทางเรือ ผู้ใดเจ็บปุวยเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการจนเป็นเหตุให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ และ ไดร้ ับอนุญาตใหล้ า ใหย้ งั คงมีสิทธไิ ดร้ บั ต.น.ร. แต่ทัง้ นี้ต้องไมเ่ กนิ ๑๘๐ วนั ค. ไดร้ บั อนุญาตใหล้ า (๑) ได้รับอนุญาตให้ลาปุวยให้มีสิทธิได้รับ ต.น.ร. ระหว่างลาได้ในปีหนึ่งไม่เกิน ๖๐ วันทาการ (๒) ไดร้ บั อนุญาตใหล้ าคลอดบตุ รให้มีสิทธิได้รบั ต.น.ร. ระหว่างลาได้ไม่เกิน ๙๐ วนั (๓) ได้รับอนุญาตให้ลากิจส่วนตัวให้มีสิทธิได้รับ ต.น.ร. ระหว่างลาได้ในปีหนึ่งไม่เกิน ๔๕ วนั ทาการ แตใ่ นปีทเ่ี ริม่ รบั ราชการใหม้ ีสิทธิไดร้ บั ต.น.ร. ระหว่างลาไดไ้ มเ่ กนิ ๑๕ วนั ทาการ (๔) ได้รับอนุญาตให้ลาพักผ่อนประจาปีให้มีสิทธิได้รับ ต.น.ร. ระหว่างลาได้ไม่เกิน ระยะเวลาทผี่ ้นู ้ันมสี ิทธิลาพักผ่อนประจาปีตามทก่ี าหนดไว้ในระเบียบวา่ ด้วยการลาของขา้ ราชการ

คาอธิบายการบรหิ ารงานกาลังพล สานักงานตารวจแห่งชาติ  89 (๕) ได้รับอนุญาตให้ลาอุปสมบทในพระพุทธศาสนาหรือลาไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ เมืองเมกกะ ประเทศซาอดุ อิ าระเบยี ซงึ่ มิใช่เป็นการลาภายในระยะเวลา ๑๒ เดือนแรกท่ีเข้ารับราชการ และตั้งแต่วันเริ่มรับราชการยังไม่เคยอุปสมบทในพระพุทธศาสนาหรือยังไม่เคยประกอบพิธีฮัจย์ ณ เมอื งเมกกะ ให้มีสิทธิได้รบั ต.น.ร. ระหว่างลาได้ไมเ่ กิน ๖๐ วัน (๖) ได้รับอนุญาตให้ลาไปศึกษา ฝึกอบรม ดูงาน หรือปฏิบัติการวิจัยท่ีไม่เกี่ยวกับ การปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ใี นตาแหนง่ ทีม่ สี ิทธิไดร้ ับ ต.น.ร. ให้มสี ิทธไิ ด้รบั ต.น.ร. ระหว่างลาได้ไม่เกิน ๖๐ วัน ผู้ใด มีตา แห น่งห น้าที่ที่จ ะได้รับเ งิน เพิ่ม สาห รับ ตาแ ห น่ง ที่มีเห ตุ พิเศ ษห ล าย ตาแ ห น่ง ให้ไดร้ ับเงินเฉพาะตาแหน่งท่ีมเี หตุพิเศษเพียงตาแหนง่ เดียว ให้ผู้บังคับบัญชาในฐานะผู้สั่งเล่ือนเงินเดือนหรือผู้บังคับบัญชาซ่ึงผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติ มอบหมายให้มีอานาจพิจารณาหรือสั่งเลื่อนเงินเดือน เป็นผู้ออกคาสั่งให้ข้าราชการตารวจที่อยู่ใน บังคบั บัญชาได้รับหรอื หมดสทิ ธิรับเงินเพ่มิ สาหรบั ตาแหนง่ ที่มเี หตพุ เิ ศษนี้ เงินเพ่ิมสาหรับตาแหน่งที่มีเหตุพิเศษตาแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าที่ทางเรือ เป็นเงินที่มีกาหนด จ่ายเป็นรายเดือนเช่นเดียวกับเงินเดือน ในกรณีที่ถูกส่ังพักราชการหรือให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลการสอบสวนซึ่งเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการน้ันให้งดจ่ายในกรณีท่ีกลับเข้ารับราชการ ให้จ่ายเงนิ เพิ่มสาหรบั ตาแหน่งท่มี ีเหตพุ ิเศษตามส่วนสมั พันธ์ของเงนิ เดือนท่ีไดร้ ับ นกั ประดานา้ ระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยเงินเพิ่มสาหรับตาแหน่งที่มีเหตุพิเศษตาแหน่งนักประดาน้า พ.ศ. ๒๕๔๙ ลงวันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ กาหนดไว้เงินเพิ่มสาหรับตาแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตาแหน่งนักประดานา้ คาว่า “ต.น.ด.” หมายความว่า เพิ่มสาหรับตาแหน่งที่มีเหตุพิเศษตาแหน่ง นกั ประดานา้ นกั ประดาน้าต้องมีคณุ สมบตั ิดงั ต่อไปน้ี (๑) ช้นั สัญญาบัตรอายุไมเ่ กนิ ห้าสบิ ปี ช้ันประทวนอายุไมเ่ กินสีส่ ิบหา้ ปี (๒) สาเร็จหลักสูตรนักประดาน้าชั้นต้น หรือหลักสูตรถอดทาลายอมภัณฑ์หรือ หลักสูตรนักทาลายใต้น้า หรือหลักสูตรนักทาลายใต้น้าจู่โจม ของสานักงานตารวจแห่งชาติหรือ ของกองทัพเรือ หรอื หลักสตู รอ่ืนท่ี ก.ตร. รบั รอง (๓) สมรรถภาพของรา่ งกายและจติ ใจสมบูรณพ์ รอ้ มทจ่ี ะทาหนา้ ทน่ี ักประดาน้าได้ ผบู้ ังคบั บัญชาพจิ ารณาแล้วเหน็ วา่ มีความสามารถทจ่ี ะปฏิบัตหิ น้าที่ต่อไปได้ ก็ให้คณะกรรมการ ทาการตรวจสอบสมรรถภาพของร่างกายและจิตใจของนักประดาน้าผู้นั้นในภาคสุดท้ายก่อนที่จะ พ้นจากตาแหน่งนักประดาน้า หากคณะกรรมการเห็นสมควรให้เป็นนักประดาน้าต่อไปได้ให้เสนอ สานักงานตารวจแห่งชาติเพื่อขอต่ออายุได้คราวละ ๒ ภาค การเสนอรายงานการขอต่ออายุนักประดาน้า ใหด้ าเนนิ การก่อนวันพน้ จากตาแหนง่ นกั ประดาน้า นกั ประดาน้ามีสิทธิได้รับ ต.น.ด. นบั แตว่ ันทม่ี คี ุณสมบัติครบถ้วน และสานักงานตารวจแห่งชาติ มีคาสั่งแตง่ ตั้งให้ดารงตาแหน่งนักประดาน้า ตามอตั ราดังน้ี ช้ันสญั ญาบตั ร เดือนละ ๗,๐๐๐ บาท ช้นั ประทวน เดือนละ ๕,๓๐๐ บาท


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook