Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การจราจร

การจราจร

Published by mrnok, 2021-03-28 03:05:27

Description: การจราจร

Search

Read the Text Version

๑๔๔ ๑.๓ การจดั ตง้ั จดุ สกดั จะตงั้ ไดเ ฉพาะกรณที มี่ เี หตกุ ารณฉ กุ เฉนิ หรอื จาํ เปน เรง ดว น เกดิ ขน้ึ และจะตอ งไดร บั อนมุ ตั จิ ากผบู งั คบั บญั ชาตง้ั แตร ะดบั หวั หนา สถานตี าํ รวจ หรอื ผรู กั ษาการแทน ขน้ึ ไป โดยมีกําหนดระยะเวลาเทา ท่มี เี หตกุ ารณฉุกเฉินหรอื จําเปนเรงดว นดังกลา วยงั คงมีอยูเทานน้ั ๒. การปฏิบัติ ๒.๑ การปฏบิ ตั หิ นา ที่ ณ ดา นตรวจ จดุ ตรวจหรอื จดุ สกดั จะตอ งมนี ายตาํ รวจระดบั ชัน้ สัญญาบัตรเปนหัวหนา และจะตองแตง เครอ่ื งแบบในการปฏิบัติหนาทด่ี ังกลา ว ๒.๒ การปฏบิ ตั ใิ นการตรวจคน จบั กมุ ตอ งปฏบิ ตั ติ ามประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณา ความอาญา และประมวลระเบยี บการตํารวจเกย่ี วกับคดี วา ดวยการนัน้ โดยเครงครดั ๒.๓ ที่ดานตรวจหรือจุดตรวจ ตองมีแผงก้ันท่ีมีเคร่ืองหมายการจราจรวา “หยุด” โดยใหเปนไปตามมาตรฐานท่ีดานตรวจหรือจุดตรวจ จะตองมีในการติดตั้งปายและเครื่องหมาย การจราจร และในเวลากลางคนื จะตอ งใหม แี สงไฟสอ งสวา งใหม องเหน็ ไดอ ยา งชดั เจนในระยะไมน อ ยกวา ๑๕๐ เมตร กอ นถงึ จดุ ตรวจ และใหม แี ผน ปา ยแสดงยศ ชอ่ื นามสกลุ และตาํ แหนง ของหวั หนา เจา หนา ที่ ตํารวจที่ประจําดานตรวจและจุดตรวจดังกลาว นอกจากนั้นใหมีแผนปายแสดงขอความวา “หากพบ เจา หนา ทท่ี จุ รติ หรอื ประพฤตมิ ชิ อบใหแ จง ผบู งั คบั การ โทร. ................” (ใหใ สห มายเลขโทรศพั ทข อง ผบู ังคบั การไว ขอความดงั กลา วขา งตน ใหม องเห็นไดช ัดเจนในระยะไมนอยกวา ๑๕ เมตร ๒.๔ การต้ังจุดตรวจ หรือจุดสกัด ใหทุกหนวยประสานการปฏิบัติระหวางหนวย ใกลเคียงใหชัดเจน โดยเฉพาะอยางย่ิงหนวยที่มีเขตพ้ืนท่ีรับผิดชอบติดตอกัน โดยมิใหเกิดการตั้ง จุดตรวจ หรือจุดสกดั ซาํ้ ซอ นอนั เปนเหตใุ หเกิดความเดอื ดรอนแกประชาชนผสู ัญจรไปมาเปนอนั ขาด ๓. การควบคุมและตรวจสอบการปฏบิ ตั ิ ๓.๑ เมอ่ื เจา หนา ทตี่ าํ รวจเรม่ิ ตน หรอื เลกิ ปฏบิ ตั หิ นา ทปี่ ระจาํ จดุ ตรวจ หรอื จดุ สกดั ใหรายงานทางวิทยุ ใหผูบังคับบัญชาผูส่ังอนุมัติใหต้ังจุดตรวจ หรือจุดสกัดดังกลาวทราบ และเม่ือ เสรจ็ สน้ิ การปฏบิ ตั แิ ลว ใหห วั หนา เจา หนา ทตี่ าํ รวจประจาํ จดุ ตรวจ หรอื จดุ สกดั ดงั กลา ว รายงานผลการ ปฏบิ ตั เิ ปน ลายลกั ษณอ กั ษรเสนอผบู งั คบั บญั ชาตามลาํ ดบั ชน้ั จนถงึ ผสู ง่ั อนมุ ตั ภิ ายในวนั ถดั ไปเปน อยา งชา ๓.๒ ใหผ บู งั คบั บญั ชาตงั้ แตร ะดบั สารวตั รขน้ึ ไป ผลดั เปลยี่ นหมนุ เวยี นกนั ออกตรวจการ ปฏบิ ตั หิ นา ทข่ี องเจา หนา ทตี่ าํ รวจประจาํ ดา นตรวจ จดุ ตรวจ หรอื จดุ สกดั ทม่ี อี ยใู นเขตพน้ื ทรี่ บั ผดิ ชอบ ๓.๓ ใหถือวาเปนหนาที่ของผูบังคับบัญชาตาม ๓.๒ ที่จะตองเอาใจใสกวดขัน ดูแลการปฏิบตั ขิ องเจาหนา ท่ีตาํ รวจผใู ตบ งั คบั บัญชาของตน มิใหฉวยโอกาสขณะปฏบิ ัติหนาท่ปี ระจํา ดานตรวจ จุดตรวจ หรือจุดสกัด เรียกหรือรับผลประโยชนจากผูใชรถที่กระทําผิดกฎหมาย หรือ ไปดาํ เนินการจัดตง้ั จุดตรวจ หรือจุดสกดั ในเขตเดนิ รถหรือทางหลวง โดยมไิ ดร ับคําส่งั จากผมู อี ํานาจ เพอื่ แสวงหาผลประโยชนโ ดยมชิ อบ และหากตรวจพบวา เจา หนา ทต่ี าํ รวจผใู ดประพฤตมิ ชิ อบในลกั ษณะ ดังกลาว ก็ใหรีบพิจารณาดําเนินการกับเจาหนาท่ีผูน้ันไปตามอํานาจหนาท่ี ทั้งทางคดีอาญาและคดี วินัย แลวรายงานใหผูบังคับบัญชาตามลําดับช้ันจนถึง ตร. ทราบโดยมิชักชา โดยรายงานดังกลาว ใหระบุ ยศ นาม ตําแหนงของขาราชการตํารวจผูกระทําผิด พรอมกับรายละเอียดเก่ียวกับลักษณะ และพฤตกิ ารณแหงการกระทาํ ความผิดใหละเอียดชดั เจน

๑๔๕ ๓.๔ หากปรากฏวา ผูบ ังคบั บัญชาในระดบั ตั้งแตกองบังคับการหรือเทียบเทาข้นึ ไป หรอื ตาํ รวจอน่ื สบื สวนขอ เทจ็ จรงิ จนปรากฏชดั เจน หรอื ตรวจตราพบวา มเี จา หนา ทต่ี าํ รวจ ณ ดา นตรวจ จุดตรวจ หรือจุดสกัดท่ีใด มีพฤติการณมิชอบดังกลาว ตาม ๓.๓ หรือจับกุมตัวได โดยลักษณะของ พฤตกิ ารณเ ปน การกระทาํ รว มหลายคน และหรอื เปน ระยะเวลาตอ เนอ่ื งกนั หลายวนั ใหผ บู งั คบั บญั ชา พจิ ารณาทณั ฑท างวนิ ยั แกผ บู งั คบั บญั ชาทใี่ กลช ดิ ของเจา หนา ทตี่ าํ รวจทก่ี ระทาํ ผดิ ดงั กลา วฐานบกพรอ ง ละเลยไมเอาใจใสดแู ลผูใ ตบังคบั บญั ชาของตนอกี สว นหนง่ึ ดวย ๓.๕ ใหผ บู ญั ชาการตาํ รวจสอบสวนกลาง ผบู ญั ชาการตาํ รวจนครบาล ผบู ญั ชาการ ตํารวจภูธรภาค ๑ - ๙ ผูบัญชาการตํารวจตระเวนชายแดน และจเรตํารวจติดตามผลการปฏิบัติ และรายงานผลการปฏิบัติใหสํานักงานตํารวจแหงชาติ ทราบภายในวันท่ี ๗ ของแตละเดือน ในรายงานใหป รากฏดว ยวา ไดม อบหมายใหต รวจตดิ ตาม และมผี ลการปฏบิ ตั เิ ปน อยา งไร ทง้ั นใี้ หป ฏบิ ตั ิ อยางจริงจงั และตอ เน่อื ง การต้ังดานตรวจ จุดตรวจ จุดสกัดในงานจราจร อาศัยหลักการของการตรวจจับ ความผิดตามกฎหมายจราจร มคี วามหมายครอบคลมุ ถงึ เรื่องดงั ตอไปน้ี ๑) การตรวจจบั เปน ยทุ ธวธิ หี นง่ึ ของการบงั คบั ใชก ฎหมาย (Law enforcement) ทม่ี ี หลักการแนชัด มเี หตุผล มใิ ชการลองถกู (Trial and Error) หรอื ปฏิบตั ิตามท่เี คยสืบตอ กันมา ๒) การตรวจจับเปนการบังคับใชกฎหมายท่ีผูปฏิบัติตองมีความรู (Knowledge) ความเขา ใจในเหตผุ ลและทมี่ าของการกระทาํ มกี ารฝก อบรมอยา งมอื อาชพี (Professionalism) สามารถ ใชเ ครอื่ งมอื ในการตรวจวดั ไดแ ละมยี ทุ ธวธิ ี (Tactics) ในการดาํ เนนิ การทเ่ี หมาะสมในแตล ะสถานการณ ๓) การตรวจจับเปนการปฏิบัติหนาท่ีโดยนําเอาหลักจิตวิทยาเขามาใช เพ่ือใหเกิด ความสมั พันธท ่ีดีกบั ประชาชนไปพรอมกัน ๔) การตรวจจบั มวี ตั ถปุ ระสงคเ พอ่ื ยบั ยง้ั อบุ ตั เิ หตุ (Accident) ลดความเสยี่ ง (Risk) ลดความสูญเสีย (Loss) ของประชาชน ดังน้ัน จงึ มใิ ชก ารทาํ งานเพอ่ื ใหไดป รมิ าณ (Quantity) หรอื ผล การจบั กุม แตเ ปน การตรวจจับที่ตอ งการคุณภาพ (Quality) คอื เพอ่ื ความปลอดภัยของประชาชน โดยหลกั การสาํ คญั ในการตรวจจบั ความผดิ จราจรควรมงุ เนน ความปลอดภยั มากกวา ปริมาณการจับ แตในสถานการณจริง บางครั้งเจาหนาที่ตํารวจจราจรมักใหความสําคัญกับปริมาณ การจับกุมมากกวา ไมคอยมีการเก็บขอมูล หรือการวิเคราะหขอมูลตอเน่ืองภายหลังจากการตั้ง ดานตรวจ จุดตรวจในแตละครั้งวาสามารถลดการสูญเสียหรือปองกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนนได อยางแทจ รงิ ไดอยา งไรบา ง

๑๔๖ ¢éѹàμÃÂÕ Á¡Òà แนวทางในการต้ังจุดตรวจเพื่อตรวจคนระดับแอลกอฮอลในเลือดของผูขับข่ีมีแนวทาง ปฏบิ ตั ทิ ี่สําคัญ ไดแ ก ๑. การเตรียมการดานกําลังพล การตั้งจุดตรวจที่เหมาะสมจะตองใชเจาหนาท่ีตาํ รวจ ประมาณ ๑๐-๑๒ นาย ประกอบดวย ๑.๑ เจาหนาที่ตํารวจชั้นสัญญาบัตร สาํ หรับควบคุมการปฏิบัติ จาํ นวน ๒ นาย ประกอบดว ยหวั หนาจดุ ตรวจคือ รองผูก าํ กบั การ (จราจร) หรือสารวัตรจราจร จํานวน ๑ นาย และ มีรอ ยเวรทําหนา ท่ีตรวจวดั เพื่อยืนยนั ผลอกี ๑ นาย แตในทางปฏิบัติ หากกําลงั พลไมเ พียงพออาจใช นายตํารวจระดับสญั ญาบัตรเพียง ๑ นายในการควบคุมการต้งั จดุ ตรวจ ๑.๒ เจา หนาท่ีตาํ รวจระดบั ชน้ั ประทวน จํานวน ๑๐ นาย ทําหนาที่ในการตรวจวัด ระดบั แอลกอฮอลในผขู บั ข่ีเบ้อื งตนจํานวน ๔-๖ นาย เปนผูชวยรอ ยเวรจาํ นวน ๒ นาย และทาํ หนา ที่ ในการสงตัวผตู องหาไปยังสถานีตํารวจในเขตทอ งทีจ่ าํ นวน ๒-๔ นาย อยางไรก็ตามในทางปฏบิ ัติจรงิ อาจจําเปน ตอ งใชก าํ ลงั พลระดบั ชนั้ ประทวนประมาณ ๕-๖ นาย และใหอ าสาจราจรเขา มารว มกจิ กรรม การตงั้ จดุ ตรวจดว ย เนอ่ื งจากในปจ จบุ นั กําลงั เจา หนา ทต่ี ํารวจไมเ พยี งพอ เพราะตอ งทาํ การตง้ั จดุ ตรวจ หลายจดุ ภายในวันเดียวกัน ๒. การเตรียมการดานวัสดุและอุปการณ กอนการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอลทุกครั้ง เจา หนา ทต่ี ํารวจจะมกี ารจดั เตรยี มวสั ดแุ ละอปุ กรณท เ่ี กย่ี วขอ งในสว นตา งๆ ใหพ รอ มสาํ หรบั การใชง าน ซึ่งวสั ดุและอปุ กรณท ส่ี าํ คญั ประกอบดว ย ๑) อาวธุ ประจํากาย ๒) รถขนวัสดุและอุปกรณ ๓) ปายไฟ ๑ ชุด ๔) กรวยยาง ๓๐-๕๐ กรวย ๕) เครอื่ งมือตรวจวัดระดบั แอลกอฮอลแ บบเบ้อื งตน ๖) เคร่ืองมือตรวจวดั ระดบั แอลกอฮอลแบบยนื ยนั ผล ๗) แผงก้ัน ๘) โตะ จาํ นวน ๑-๒ ตัว ๙) เกาอ้ี ๖-๗ ตัว ๑๐) เครือ่ งปน ไฟ ๑๑) กระบองไฟ ๑๒) ไฟฉาย ๑๓) เส้ือสะทอ นแสง

๑๔๗ ¢Ñ¹é μ͹¡Òû¯ºÔ μÑ Ô ๑. การประชุมชี้แจง ข้ันตอนน้ีเปนข้ันตอนที่หัวหนาผูควบคุมการต้ังจุดตรวจทําหนาท่ี ในการอธิบาย ชี้แจงรายละเอียดและขอมูลท่ีเก่ียวของกับการปฏิบัติงานใหผูปฏิบัติไดรับทราบ ในประเดน็ ตางๆ ดงั น้ี ๑) นโยบาย ๒) ระเบียบ คาํ สงั่ และขอกฎหมายทเี่ ก่ยี วของกบั การปฏิบตั ิหนาที่ ๓) เปาหมายในการต้งั จุดตรวจ ๔) บริเวณทีต่ ง้ั จุดตรวจและหนาทร่ี ับผดิ ชอบของแตละนาย ๕) ฝกทบทวนทา สญั ญาณจราจรทจ่ี าํ เปนในการปฏิบตั หิ นา ที่ ๖) ตรวจสอบความพรอมดานการแตงกายและความพรอ มดา นรางกาย ๗) ตรวจสอบความพรอ มดา นวสั ดแุ ละอปุ กรณที่จาํ เปน ๒. การเลอื กสถานทต่ี งั้ จดุ ตรวจและรปู แบบการตง้ั จดุ ตรวจในขนั้ ตอนนี้ เจา หนา ทตี่ ํารวจ ท่ีเกี่ยวของกับการตั้งจุดตรวจควรคาํ นึงถึงหลักในการเลือกสถานที่และรูปแบบการตั้งจุดตรวจ ท่ีเหมาะสม ดงั นี้ ๑) เลือกจุดตรวจโดยคาํ นึงถึงความปลอดภัยของเจาหนาท่ีผูปฏิบัติ ผูขับข่ีท่ีถูก เรียกตรวจ รวมถึงผลกระทบโดยภาพรวมตอประชาชนผูใชรถใชถนน ตลอดจนประชาชนที่พักอาศัย อยใู นบริเวณใกลเ คียง ๒) การตงั้ จดุ ตรวจตอ งดําเนนิ การตามรปู แบบทส่ี าํ นกั งานตาํ รวจแหง ชาตกิ ําหนดไว อยา งเครงครัด ๓) เจาหนาท่ีผูปฏิบัติงานตองจอดรถในลักษณะที่เปนระเบียบเรียบรอย มีความ ปลอดภัย ๔) บรเิ วณจดุ ตรวจควรมโี ตะ และเกา อใี้ นจํานวนทเ่ี หมาะสมสําหรบั เจา หนา ทท่ี ท่ี าํ การ ทดสอบเพอ่ื ยนื ยนั ผลและเจา หนา ทท่ี ที่ าํ หนา ทบ่ี นั ทกึ การจบั กมุ รวมถงึ จดั ไวส ําหรบั ผทู ถี่ กู เรยี กใหต รวจ สาํ หรับการนงั่ รอเพ่ือตรวจยืนยนั ผล การรอบนั ทกึ จับกุมและรอการสง ตวั ไปยังสถานีตํารวจทอ งที่ ๓. การปฏบิ ัตหิ นาทจี่ รงิ การปฏบิ ตั หิ นาทีข่ องเจาหนา ท่ตี าํ รวจในการตัง้ จดุ ตรวจเพอ่ื วัด ระดับแอลกอฮอลข องผขู บั ขี่ มขี นั้ ตอนทส่ี ําคญั ดังนี้ ๑) การเรยี กรถ ในการตงั้ จดุ ตรวจวดั แอลกอฮอลน น้ั บางครง้ั อาจมปี ญ หาดา นสภาพ การจราจรที่ไมคลองตัวมากนัก เจาหนาที่ตํารวจจําเปนตองทําการสุมตรวจยานพาหนะที่ตองสงสัย โดยพจิ ารณาไดจ ากพฤตกิ รรมในการขบั ข่ี และลกั ษณะภายนอกของยานพาหนะทมี่ กี ารตกแตง เพมิ่ เตมิ ซึ่งการสุมตรวจน้ีจําเปนตองอาศัยความเชี่ยวชาญจากเจาหนาที่ที่มีประสบการณในการต้ังจุดตรวจ มาเปน เวลานาน ๒) การเปา ทดสอบเบือ้ งตน เมอ่ื ผขู ับข่ีถูกเรียกหยดุ ใหตรวจเจาหนา ทที่ ี่ทาํ การเรยี ก หรืออาจเปนเจาหนาท่ีนายอื่นจะทําการตรวจวัดระดับแอลกอฮอลเบื้องตน โดยการขอใหผูขับขี่ให ความรวมมือในการตรวจวัดแอลกอฮอลนั้น เจาหนา ท่ีตาํ รวจจะตอ งใชถอยคาํ กิรยิ าและวาจาท่สี ุภาพ

๑๔๘ รวมถงึ ไมส อ งไฟฉายไปยงั บรเิ วณใบหนา ของผขู บั ขโ่ี ดยตรง หากผลการทดสอบเบอ้ื งตน ปรากฏวา ผขู บั ข่ี มรี ะดบั แอลกอฮอลใ นเลอื ดเกนิ อตั ราทก่ี ฎหมายกําหนด เจา หนา ทตี่ ํารวจนายนนั้ จะแจง ใหผ ขู บั ขขี่ บั รถ เขาไปในจุดที่เตรียมไวและเชิญตัวผูขับข่ีไปยังบริเวณท่ีจัดเตรียมไวสาํ หรับการตรวจวัดเพ่ือยืนยันผล ตอ ไป ๓) การเปาทดสอบเพ่ือยืนยันผล ในข้ันตอนน้ีเจาหนาท่ีตาํ รวจระดับสัญญาบัตร จะทําหนา ทใ่ี นการตรวจวดั เพอื่ ยนื ยนั ผล โดยมเี จา หนา ทร่ี ะดบั ชนั้ ประทวนเปน ผชู ว ย เจา หนา ทตี่ าํ รวจ จะชแ้ี จงรายละเอียดในการตรวจวัด ขอกฎหมาย บทลงโทษ ตลอดจนคาํ แนะนาํ ใหผ ูขับข่ตี ระหนกั ถงึ ความปลอดภยั บนทองถนน หากผลการตรวจวัดพบวา ผูข ับข่มี ีระดบั แอลกอฮอลใ นเลือดไมเกินอตั รา ท่ีกฎหมายกาํ หนด เจาหนาท่ีผูปฏิบัติจะใหคําแนะนาํ เร่ืองการขับขี่อยางปลอดภัย กอนปลอยผูขับขี่ คนนน้ั ไป ในทางกลบั กนั หากผลการตรวจวดั พบวา ผขู บั ขม่ี รี ะดบั แอลกอฮอลใ นเลอื ดเกนิ อตั ราทก่ี ฎหมาย กาํ หนด เจาหนาทีผ่ ปู ฏบิ ตั จิ ะทาํ บันทึกจับกมุ ทันที ๔) ทาํ บนั ทกึ จบั กมุ ขนั้ ตอนนเ้ี ปน ขน้ั ตอนสําหรบั การทาํ บนั ทกึ จบั กมุ ผขู บั ขท่ี ม่ี รี ะดบั แอลกอฮอลเ กนิ อตั ราทก่ี ฎหมายกําหนด โดยเจา หนา ทต่ี ํารวจระดบั ชน้ั ประทวนจะเปน ผชู ว ยนายตาํ รวจ ชั้นสญั ญาบตั รในการเขยี นบนั ทึกจับกุม กอ นทจี่ ะสงตอ ใหเจาหนาทีต่ าํ รวจนายอน่ื นาํ ผถู กู จับกุมไปสง พนักงานสอบสวนของสถานีตาํ รวจทองท่ตี อ ไป ๕) นําสงพนักงานสอบสวน เม่ือทําบันทึกจับกุมผูขับขี่ท่ีมีระดับแอลกอฮอลเกิน อตั ราทก่ี ฎหมายกาํ หนดเรยี บรอ ยแลว เจา หนา ทตี่ ํารวจทร่ี บั ผดิ ชอบการนาํ สง ตวั ผกู ระทาํ ความผดิ ไปยงั พนักงานสอบสวนของสถานีตาํ รวจในพื้นที่ ท้ังน้ี ตองมีการจัดเตรียมยานพาหนะสาํ หรับการสงตัว ผูกระทําความผิดไวใหพรอม เจาหนาท่ีตาํ รวจตองมีความเขมงวด ไมปลอยใหผูกระทําความผิดขับขี่ ยานพาหนะสวนตัวไปยังสถานีตํารวจเองเด็ดขาด หากผูกระทาํ ความผิดตองการนํารถไปดวย ตองทาํ การประสานครอบครวั ญาติหรือเพอื่ นใหมานํารถไปแทน ๖) การทาํ บันทึกสอบสวน เมื่อพนักงานสอบสวนของสถานีตํารวจทองท่ีรับตัว ผกู ระทาํ ความผดิ แลว จะทาํ การสอบสวนและสาํ นวนการสอบสวน สาํ หรบั เตรยี มการสง ฟอ งศาลภายใน เวลา ๔๘ ชั่วโมง ๗) การคุมขังและการประกันตัว ในกรณีที่ผูกระทําความผิดไมตองการถูกคุมขัง ณ สถานีตาํ รวจทองที่ ผูกระทาํ ความผดิ สามารถไดรบั การประกันตัวในวงเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท ไมเ ชน นนั้ จะตองถูกคมุ ขังทสี่ ถานีตาํ รวจทอ งทีก่ อ นทจ่ี ะถูกสง ฟองศาลตอ ไป ๘) การสง ฟอ งศาล พนักงานสอบสวนจะสงฟอ งศาลแขวงภายใน ๔๘ ชว่ั โมง ๙) การตดิ ตามคดี เมอื่ การตดั สนิ คดสี น้ิ สดุ แลว หนว ยงานทที่ าํ หนา ทจี่ บั กมุ จะตดิ ตาม ผลของคดี เพอื่ ประโยชนใ นการตดิ ตามและทาํ หนงั สอื ขอรบั สว นแบง เงนิ รางวลั นําจบั สําหรบั เจา หนา ที่ ผปู ฏบิ ตั ิ ทงั้ นีห้ นวยปฏบิ ัตติ อ งทาํ หนังสอื ไปยงั ศาลเพ่อื ขอรับเงนิ รางวลั นาํ จบั ภายใน ๖๐ วนั หลังจาก คดสี น้ิ สดุ

๑๔๙ ô.ò ÇμÑ ¶Ø»ÃÐʧ¤¢ ͧ¡ÒÃμé§Ñ ¨´Ø μÃǨ¨ÃҨà ประเภทของการต้ังจุดตรวจตามวตั ถปุ ระสงคใ นงานจราจร ไดแก ๑. การกวดขันตรวจจับ (Intensive Surveillance) มีวัตถุประสงคท่ีจะมุงจุดสนใจไปท่ี ถนนเสนใดเสนหนึง่ ในชวงเวลาหนึง่ อยางเขมงวด ไมใ ชก ารออกตรวจโดยท่วั ไป ตัวอยา งเชน ในระยะ เวลา ๑ - ๒ เดอื น จะสง เจาหนาท่ตี ํารวจออกตรวจจับโดยปรากฏตัวใหป ระชาชนเห็น พรอมกบั การตั้ง จดุ ตรวจ เพอ่ื ตรวจจบั ความผดิ บางประเภท เชน ขบั รถเรว็ ไมส วมหมวกนริ ภยั ไมค าดเขม็ ขดั เมาสรุ าฯ ซ่งึ เปน ความผิดทีส่ รางความสญู เสยี ใหช ุมชนมากที่สดุ ดงั น้ัน จงึ ควรจะเลอื กถนนทม่ี ีเหตุเกิดมากท่ีสดุ เปนพนื้ ทีก่ วดขนั จบั กุม โดยอาจจะตง้ั จดุ ตรวจท่ีจุดใดจุดหน่งึ บนถนนเสน น้นั ปรบั จดุ ทีต่ ัง้ หรอื เปล่ียน เวลาต้งั บา ง เพ่ือหลีกเลยี่ งการคาดเดาไดภ ายหลังจากการกวดขนั จับกุมอยางหนกั แลว พฤตกิ รรมการ ขับข่ีของประชาชนในถนนยานน้ันก็จะเริ่มเปลี่ยนแปลงไป แตพฤติกรรมดังกลาวอาจจะกลับมาอีก ถา เจาหนาทไ่ี มต รวจจับอยางตอ เน่ือง ดงั น้นั เมอ่ื หยุดพกั การกวดขนั ทจ่ี ดุ ใดไปแลว กไ็ มค วรจะเลกิ ไป อยางถาวร ยงั จําเปนทจ่ี ะตอ งกลบั มาต้ังจดุ ตรวจอีก เชน ทุก ๑ เดือน จะกลบั มา ๒ ครั้ง จนกวาจะ แนใจวาจะไมมีการฝาฝน อีก ๒. การตรวจจับแบบเฉพาะเรื่อง (Specializes Surveillance) การตรวจจับแบบน้ี เปน วธิ กี ารทม่ี งุ ไปเพอื่ การแกป ญ หาทลี ะเรอื่ งในครง้ั ๆ หนง่ึ ซงึ่ อาจมปี ระสทิ ธภิ าพมากกวา การตรวจจบั พรอม ๆ กันทุกเร่ืองไมวาผูขับขี่ไปกระทําผิดท่ีใดก็จะถูกตรวจจับเน่ืองจากตองการจะพุงเปาไปยัง การแกป ญ หาเฉพาะดา นทจ่ี ําเปน สงู สดุ ของสถานี อาทิ ผฝู า ฝน สญั ญาณไฟ การขบั รถเรว็ การขบั รถเมาสรุ า การแซงรถผดิ กฎหมาย พฤตกิ รรมทก่ี อ ใหเ กดิ อนั ตรายของรถบรรทกุ ฯลฯ การตรวจจบั แบบเฉพาะเรอื่ งนี้ อาจวางกาํ ลงั เจา หนาทกี่ ระจายไปในจุดสําคัญและใชการตั้งจดุ ตรวจ (Check Point) เปน กลไกหน่ึงใน พน้ื ท่ี เพอ่ื ใหป ระชาชนตระหนกั วา เจา หนา ทต่ี าํ รวจกวดขนั เอาจรงิ และตอ งปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรม อนงึ่ ในการตง้ั จดุ ตรวจแบบนจ้ี ะตอ งเตรยี มเครอื่ งมอื อปุ กรณใ นการตรวจวดั ไปดว ย เชน เครอื่ งวดั ความเมา เครอื่ งตรวจจับความเร็ว เนื่องจากไมใชก ารตง้ั จุดตรวจท่วั ๆ ไป การตงั้ จุดตรวจแบบนีม้ เี ปา หมายไว โดยเฉพาะ คอื กดดนั การกระทาํ ความผดิ ประเภทนน้ั อยา งรนุ แรง จนไมก ลา กระทาํ ผดิ หรอื เลกิ กระทาํ ไปโดยรวดเรว็ ๓. การต้ังจุดตรวจขา งทาง (Road side Checkpoints) หรือจุดตรวจกวดขนั วนิ ยั จราจร หรอื ทเี่ รยี กกนั วา “ดา นลอย” มวี ตั ถปุ ระสงคส าํ หรบั ตรวจใบอนญุ าตขบั ข่ี ทะเบยี นรถ อปุ กรณส ว นควบ ของรถและเอกสารประจาํ รถ เปน ตน ขอ ดขี องการตง้ั จดุ ตรวจขา งทาง ทาํ ใหเ จา หนา ทต่ี าํ รวจสามารถตรวจ รถไดเ พมิ่ ขน้ึ เพราะไมท าํ ใหก ารจราจรหยดุ ชะงกั ชว ยใหเ จา หนา ทต่ี รวจพบรถทมี่ ลี กั ษณะไมป ลอดภยั ได เปนเคร่ืองมือหลักในการตรวจสอบรถที่ชื่อไมตรงกับทะเบียนและรถเชา เพ่ือขัดขวางกระบวนการขน ยาเสพตดิ ชว ยใหเ จา หนา ทสี่ ามารถตรวจสอบการใชอ ปุ กรณเ พอ่ื ความปลอดภยั เชน ยาง ไอเสยี รถยนต เขม็ ขดั นริ ภัย กระจกเงา กระจกหนาและขาง ไฟสอ งสวา งและไฟสัญญาณอปุ กรณท ี่เก่ยี วของชวยนํา รถทไี่ มสมบรู ณออกจากทองถนน หรอื ส่งั ไปซอมได

๑๕๐ โดยหลักการสําคัญในการตรวจจับความผิดจราจรควรมุงเนนความปลอดภัยมากกวา ปริมาณการจับ แตในสถานการณจริง บางครั้งเจาหนาที่ตํารวจจราจรมักใหความสําคัญกับปริมาณ การจบั กมุ มากกวา สงั เกตไดจ ากมสี ถติ กิ ารจบั กมุ ผกู ระทาํ ความผดิ ตามกฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ หรอื พ.ร.บ.รถยนตฯ แตไ มค อ ยมีการเก็บขอมูล หรือการวเิ คราะหข อมลู ตอเนอื่ งภายหลงั จากการตัง้ ดานตรวจ จดุ ตรวจในแตล ะครง้ั วาสามารถกวดขนั วินยั จราจร และสามารถลดการสูญเสยี หรือปอ งกนั การเกดิ อุบตั ิเหตทุ างถนนไดอ ยางแทจริงไดอ ยางไรบาง ô.ó ¡ÒÃáÊ´§μÑÇ㹡ÒÃμÃǨ¨ºÑ áÅСÒÃμÃǨ¤¹Œ ö ñ) ¡ÒÃáÊ´§μÑǢͧตาํ ÃǨ㹡ÒÃμÃǨ¨ºÑ การแสดงตวั ของตาํ รวจจราจรหรอื ทางหลวงในการตรวจจบั มกั จะมผี เู ขา ใจวา ตาํ รวจ ควรจะแอบซุมในความมืด หลบตามเสาไฟฟาหรือตนไม หรือต้ังจุดตรวจ (Check Point) ในที่มืด เพ่ือดักจับผูกระทําผิดใหได มิใหมีโอกาสหลบหนี ตํารวจจึงมักจะไมคอยเอาจริงเอาจังในที่เปดเผย หรือมกั จะปฏบิ ตั ติ วั ตามปกติเชน คนธรรมดาทว่ั ไปมากกวา การตรวจจบั ความผดิ จราจรนนั้ มคี าํ สาํ คญั (Key Words) ทตี่ อ งกระทาํ อยู ๓ ขอ คอื • ทาํ ตัวใหเปน ที่มองเห็น (Visible) • กระตือรอื รน (Active) • เปนตวั อยา งทีด่ ี (Good Example) ทุกครง้ั ทีเ่ จา หนา ท่อี อกทํางาน จะตองแสดงตวั ใหเห็นไดชัดเจนในบรเิ วณทีม่ องเหน็ ไดชัด (Visible) เชน มีแสงไฟฟาสวาง มีผูผานไปมาจํานวนมาก โดยมีวัตถุประสงคเพื่อสราง ความตระหนักถึงความเส่ียง (Perceived Risk) ใหแกประชาชน ซ่ึงจะไดรับผลกวางขวางมากกวา การต้ังจดุ ตรวจแบบแอบซอ น สว นการตรวจจับแบบแอบซอนนนั้ นาจะใชไ ดใ นกรณดี ักจับผกู ระทาํ ผิด และหลบหนใี นบางจดุ เปน กรณพี ิเศษเทา นัน้ ไมควรนํามาใชใ นกรณที ัว่ ไป เจา หนา ทต่ี าํ รวจเมอ่ื ปรากฏตวั บนถนนแตล ะครงั้ จะตอ งแสดงตวั ในการทาํ งานอยา ง กระตือรือรน (Active) กระฉับกระเฉง ไมค วรอยูนิง่ ดดู ายใหเกิดการกระทาํ ผดิ จราจรตอ หนา ในบาง พื้นท่ีเจาหนาที่ตํารวจจราจรทํางานเฉพาะเม่ือรวมตัวกันตั้งจุดตรวจ แตเมื่อเลิกจุดตรวจแลวก็จะเดิน ไปมาเหมือนประชาชนท่ัวไป ปลอยใหมีการกระทําผิดตอหนา ซ่ึงเปนส่ิงท่ีจะตองแกไขเพราะความ กระตอื รอื รน ของตํารวจทาํ ใหต ํารวจนาเชือ่ ถอื เปนท่ีเคารพยําเกรง เจา หนา ที่ตาํ รวจควรเปนตวั อยา งที่ดี (Good Example) อยเู สมอ ไมว าในเรอ่ื งการ ขบั ขี่ การเคารพกฎจราจร ฯลฯ แตมีตาํ รวจจํานวนหนงึ่ ละเลยกฎจราจร ไมสนใจสายตาของประชาชน เพราะคิดวาประชาชนจะเขาใจเองวาเปนการปฏิบัติหนาที่ หรือเช่ือวาตํารวจสามารถทําอะไรก็ได เพราะมีสิทธพิ เิ ศษ

๑๕๑ ò) ¡ÒÃμÃǨ¤¹Œ ö เมื่อมีการวางกําลังเจาหนาที่และเรียกหยุดรถในบริเวณจุดตรวจแลว เจาหนาท่ีควร ปฏบิ ัตติ วั ในการทาํ งานดังตอ ไปนี้ ๒.๑) การพดู คยุ กบั ผฝู า ฝน (Contact with Violator) เมอ่ื สงั เกตเหน็ ผขู บั ขรี่ ถทฝ่ี า ฝน กฎจราจร เรียกรถใหหยุดในบริเวณดานตรวจแลวเดินเขาไปตรวจ เจาหนาที่ตํารวจจะเริ่มการพูดคุย และปฏิบัติงาน ดงั น้ี - แนะนาํ ตัวเอง - แจง สาเหตทุ ่เี รยี กรถใหหยดุ - ถามถงึ สาเหตทุ ต่ี อ งขบั รถฝาฝน วา มีเหตุผลความจาํ เปนอยางไร - ขอดูใบอนญุ าตขับข่ี หรือหลักฐานอน่ื - ตดั สินใจวาจะออกใบสงั่ หรอื ไมอ อกใบสั่งใหผฝู าฝน - ถา ออกใบส่งั แลว สงใบส่ังพรอมกับแนะนาํ การไปชาํ ระคา ปรบั - ถา วา กลา วตกั เตอื น กอ็ บรม ตกั เตอื นโดยเผชญิ หนา และบอกใหส ญั ญาวา จะไมก ระทําผิดอีก เพื่อผลในการจดจาํ การแนะนําตัวที่เหมาะสมนาจะเปนการเขาไปทักทายอยางปกติท่ีกระทํากัน ในสังคมท่ัวไป สวนการทําความเคารพหรือไม ควรจะใหเปนวิจารณญาณของเจาหนาท่ีเอง เชน ถาพบขาราชการหรือผูสูงอายุ แตประเด็นสําคัญไมไดอยูที่วิธีการแตอยูที่วัตถุประสงค คือ ตองการ สรา งความเปน กนั เองและมีการตดิ ตอ สื่อสารท่ีเขาใจกันชดั เจนทีส่ ุดมากกวา ๒.๒) การตรวจคน รถ (Vehicle Searches) การตรวจคน รถของเจา หนา ทจ่ี ะกระทาํ ได ก็ตอเมื่อมีเหตุผลที่กฎหมายใหอํานาจเทาน้ัน ไดแก มีเหตุผลที่ควรสงสัยวารถคันนี้มีส่ิงของที่ผิด กฎหมาย หรอื สงิ่ ของทจ่ี ะนาํ ไปใชก ระทาํ ความผดิ หรอื สง่ิ ของทไี่ ดม าจากการกระทาํ ความผดิ ซกุ ซอ นอยู การตรวจคนรถอาจเกิดขน้ึ หลงั จากเจา หนาท่ไี ดพูดคยุ กับผูขับขี่แลว เกิดความสงสยั ก็ได แตไมส ามารถ กระทาํ ไดห ากจะใชเ ปน การตอบโต ผูข ับขท่ี ี่มีปากเสียงกบั ตํารวจ หรอื ไมพ อใจผูขับขี่ ในขณะทาํ การตรวจคน รถนนั้ ควรใหผขู ับข่ยี ืนหางจากเจา หนา ท่ี แตย งั คงยืน ในบริเวณทส่ี ามารถมองเหน็ การตรวจคน และมีสิทธดิ ูการตรวจคนไดโดยตลอด หลักการตรวจคนรถควรดาํ เนินการตามลําดบั ดงั นี้ - เรม่ิ จากเปด ฝากระโปรงทา ยรถและตรวจหาสงิ่ ของแบบวนตามเขม็ นาฬก า (Clockwise Pattern) ในทายรถ - ตอ ไปเดนิ ไปดานหนา รถและเปดฝากระโปรงหนา ตรวจ - ตรวจดทู ใี่ ตกนั ชน - ตรวจดูทตี่ ะแกรงชอ งลมหนารถ - ตรวจดูที่หมอ นาํ้ - ตรวจดลู อ รถหนา หลังและซอกลอ

๑๕๒ - ตรวจดภู ายในหองโดยสาร เริ่มจากดา นหลงั ของแผงหนาปดรถ - ตรวจดเู บาะหนา และใตเ บาะ - ตรวจดทู ีพ่ ิงศรี ษะและทบี่ ังแดด - ตรวจดูผา หมุ เบาะ ที่เก็บของหนา รถ และคอนโซล - ตรวจดูเบาะหลงั และใตเ บาะ - ตรวจดพู ้ืนรถ การตรวจคน แตละครงั้ ลาํ ดบั และวธิ ีการตรวจคนรถ สามารถปรับตามสถานที่ และสิง่ ของทจ่ี ะคนหา แตจะตอ งกระทาํ โดยความนุมนวล ไมกอใหเ กิดความสกปรก ขา วของถูกร้ือคน เสยี หายและควรจดั เกบ็ ขา วของใหอยูในสภาพเดิมในแตล ะข้ันตอนทีผ่ านไป ô.ô ËÅ¡Ñ ã¹¡ÒÃμé§Ñ ¨´Ø μÃǨ¨ÃҨà ñ) ¡ÒÃμÑ駨شμÃǨ ¡ÒÃàÅÍ× ¡Ê¶Ò¹·èμÕ Ñ§é ¨Ø´μÃǨ สถานท่คี วรรองรบั ความปลอดภยั สาธารณะ และการ ทํางานของเจา หนาท่ีตาํ รวจ โดยควรมลี ักษณะ ดงั น้ี การตั้งจดุ ตรวจท่ีดีควรจะประกอบไปดวย หลักการดังน้ี • เลอื กสถานท่ีทป่ี ลอดภัยเปน ส่งิ สาํ คญั อนั ดับแรกท่ตี อ งคาํ นึงถึง โดยหลกี เลี่ยง บรเิ วณทางแยก ทางโคง เนนิ เขา และพนื้ ทไ่ี มม แี สงสวา งหรอื มคี วามมดื สนทิ มรี ะยะการมองเหน็ จาก ผขู บั ขที่ เ่ี พยี งพอ มพี นื้ ทกี่ วา งพอใหเ จา หนา ทแ่ี ละผกู ระทาํ ผดิ จอดรถ โดยไมก ดี ขวางการจราจร นอกจากน้ี อาจจะมีอุปกรณการตรวจรถอยูดวย แตตองไมกลายเปนสิ่งอันตรายควรเปนสิ่งท่ีสามารถเดินทางไป ไดทัง้ กลางวนั และกลางคนื • ใชรถยนตต ํารวจ ๑ คนั จอดบังเพ่อื ปอ งกันอนั ตราย • ใชป ายเตอื น โดยตั้งหา งจากจุดตรวจเพยี งพอท่รี ถจะชะลอได • วางกรวยยางบังคบั รถใหเ ดนิ ในชองที่ตองการ • เลือกเจา หนาท่ตี าํ รวจ ทาํ หนาท่ีเปนผูหยดุ รถ (stopper) ๑ คน • เจา หนา ทที่ ุกคนควรสวมเส้ือสะทอ นแสง • ใชรถตาํ รวจอีก ๑ คนั เตรียมสําหรับการไลล า รถทีห่ ลบหนี • มหี วั หนา จดุ ตรวจทคี่ อยตรวจสอบทงั้ การจดั การ และควบคมุ มารยาทเจา หนา ที่ • ทาํ งานโดยมขี นั้ ตอนทว่ี างแผนลว งหนา ดว ยความสภุ าพและปฏบิ ตั อิ ยา งมอื อาชพี • ไมค วรตรวจกลางถนนทกุ ชองจราจร • ไมควรเรยี กรถทกุ คนั ตรวจโดยไมมเี หตุผลหรือไมม ขี อสงสัยมากอ น

๑๕๓ ò) »ÃÐàÀ·¢Í§¨Ø´μÃǨ จุดตรวจในประเทศไทยอาจจําแนกตามลักษณะการทํางาน ขนาดและจํานวน เจาหนาที่ที่ใชได ๓ ลักษณะ เร่ิมจากลักษณะที่ใชมากท่ีสุดบนทางหลวง คือ แบบเสนตรง ตอมา เปนแบบที่ใชบนทางหลวงเชนกันแตมีความซับซอนมากกวา คือ แบบวงกลม และแบบสุดทาย เปน แบบทใี่ ชม ากทสี่ ดุ ในเมอื งทม่ี รี ถตดิ แตก ระทาํ ไดง า ยมคี วามคลอ งตวั สงู คอื แบบในเมอื ง ทง้ั นโี้ ดยมี รายละเอียดของแตล ะประเภทดังนี้ ๒.๑ จุดตรวจแบบที่ ๑ “จดุ ตรวจแบบเปน เสนตรง” การต้ังจุดตรวจแบบนี้เหมาะสําหรับใชบนถนนในเมืองหรือทางหลวง ท่ีมีรถ จํานวนไมหนาแนนมาก และรถอาจจะว่ิงดวยความเร็ว หากเลือกไดควรเลือกต้ังบริเวณที่มีไหลทาง เพอื่ มพี น้ื ทใี่ นการทาํ งานแกเ จา หนา ที่ หรอื เลอื กตง้ั ในพน้ื ทท่ี เี่ ปน ทางบงั คบั ทรี่ ถจะตอ งชะลอความเรว็ กอนมาถึงจุดน้ี เชน มีทางโคง ถนนขรุขระ มีการกอสราง หรือคอขวด ซึ่งรถไมกลาใชความเร็วสูง อยูแลว ซง่ึ จะทาํ ใหเจา หนา ท่ปี ลอดภยั กวาทจ่ี ะตองเรียกหยดุ รถท่ีมีความเรว็ ในการทํางานทุกคร้ังเจาหนาท่ีจะตองวางปายเตือนสําหรับจุดตรวจแบบนี้ ปายเตือนนี้มีเพ่ือใหสัญญาณแกผูขับขี่เตรียมตัวในการชะลอรถลงตามลําดับกอนมาถึงบริเวณที่ เรียกหยดุ อาจใชปา ยที่มีขอความใหร ะวัง ขางหนา มจี ดุ ตรวจ หรอื หากไมม ีก็ใชกรวยยางวางเตอื นเปน ระยะๆ กอ นมาถงึ จดุ ตรวจกไ็ ด ควรจะวางปา ยเตอื นกอ นหนา จดุ ตรวจออกไปประมาณ ๑๕๐ - ๒๐๐ เมตร ซงึ่ ระยะทเ่ี วน ไวน เ้ี ปน ระยะทร่ี ถซง่ึ มาดว ยความเรว็ สงู สามารถชะลอรถลงมาไดพ อดโี ดยไมเ ปน อนั ตราย หลักคิดมาจากการคํานวณระยะคิดและระยะหยุดของรถบนถนนไวเผ่ือสําหรับผูขับข่ี หากไมวาง ปายเตือนเลย จะทําใหผูขับข่ีตองหยุดรถกะทันหัน ซ่ึงอาจจะเปนอันตราย อาจถูกฟองรองไว และ ยังแสดงวาเจาหนาท่ีตํารวจไมมีความรูในเร่ืองความปลอดภัยดวย การตั้งจุดตรวจแบบเสนตรง จงึ ควรดาํ เนนิ การดังน้ี โปรดดภู าพท่ี ๑

๑๕๔ ÀÒ¾·èÕ ñ : ¡ÒÃμé§Ñ ¨Ø´μÃǨẺ໚¹àʹŒ μç

๑๕๕ จากภาพขางตน จะเห็นไดวาในการตั้งจุดตรวจแบบเสนตรงนั้น เจาหนาท่ีอาจจะใชผิว การจราจรเปน พื้นทเ่ี รียกหยดุ รถได แตจ ะตอ งแนใ จวา เปนพ้ืนที่ทปี่ ลอดภยั โดยมกี ารจดั การพรอ มกับ ใชกรวยยางวางเปนแนวพ้ืนท่ีไว และเพ่ือปองกันรถท่ีมองไมเห็นจุดตรวจหรือหยุดไมทันว่ิงมาชน เจา หนา ที่ กอ็ าจจะใชร ถยนตส ายตรวจจอดบงั ไว ๑ คนั เปน เสมอื นแนวกาํ แพงปอ งกนั ตวั ไว โดยเปด ไฟ วบั วาบชว ยในการมองเหน็ ของผขู บั ข่ี สว นรถยนตท จ่ี อดนนั้ ใหห นั หวั รถออกในลกั ษณะพรอ มทจี่ ะวง่ิ ได ทนั ทหี ากมเี หตทุ ี่จะตองไลติดตามผูขับขข่ี ้ึน เม่ือรถยนตของประชาชนว่ิงใกลจุดตรวจ การจัดการภายในจุดตรวจจะตองมีเจาหนาท่ี คนหนงึ่ ทาํ หนา ทเ่ี รยี กรถและคดั เลอื กรถ โดยจะเรยี กรถทต่ี อ งสงสยั วา กระทาํ ผดิ วงิ่ เขา ไปในพนื้ ทต่ี รวจ เพื่อคัดกรองแตรถท่ีนา จะตรวจ สวนรถอืน่ ท่ีไมใชเ ปา หมายอาจจะแยกออกใหวิง่ บนถนนตอไป ทัง้ นี้ เพ่ือไมสรางปญหาการจราจร เพราะไมจําเปนวาการต้ังจุดตรวจทุกครั้งจะตองเรียกหยุดรถทุกคัน เมื่อมีการคัดเลือกรถเขามาในพื้นที่ตรวจแลว หลังจากนั้นก็จะเปนหนาท่ีของตํารวจคนอื่นๆ ท่ีจะทํา หนาท่ีตรวจตามเปาหมายของการต้ังจุดตรวจตอไป เชน การตรวจใบขับขี่ การตรวจลักษณะผูขับขี่ การตรวจสภาพรถ ฯลฯ ขณะเดียวกันก็ควรมีเจาหนาท่ีเฝาระวังรถที่หลบหนีดวยอีก ๑ คน จัดใหยืนอยูทาย ทสี่ ดุ ของจดุ ตรวจ เพราะการตงั้ จดุ ตรวจแตล ะครง้ั มกั จะมผี ขู บั ขที่ หี่ ลบเลย่ี งระหวา งทเ่ี จา หนา ทที่ าํ งาน แอบขับรถออกจากจุดตรวจไปโดยไมมีใครสังเกตเห็น เจาหนาท่ีคนนี้จะคอยสังเกตรถที่หลบหนีนี้ และเรียกมาตรวจเองหรืออาจจะวิทยุแจงตํารวจอีก ๑ นาย ที่วางแผนใหจอดรถเลยจุดตรวจออกไป คอยสกัดจบั ตวั ไว เพื่อทาํ ใหผ ูหลบหนีรวู าตํารวจเปน มอื อาชีพ ไมส ามารถหลบหนไี ด การต้ังจุดตรวจแบบนี้ หัวหนาจุดตรวจจะตองคอยสังเกตและควบคุมการทํางานของ ทุกคน ในกรณมี ีรถตดิ บนถนนเพราะการตรวจเปนสาเหตุ หัวหนาจุดตรวจอาจจะพิจารณาปลอยรถ ทั้งหมดไปโดยไมเรียกเขาในพ้นื ที่ตรวจเปน ครงั้ คราว เพอ่ื แกปญ หาจราจรกอนกไ็ ด การตรวจพบผูกระทําผิด เจาหนาท่ีอาจจะออกใบสั่งใหไปเสียคาปรับที่สถานีตํารวจ หรอื อาจจะตงั้ โตะ ปรบั บรเิ วณจดุ ตรวจ ซง่ึ หากตง้ั โตะ ปรบั กจ็ ะมขี อ ดใี นเรอื่ ง การบงั คบั ใชก ฎหมายทรี่ วดเรว็ ซงึ่ จะสง ผลตอ การปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรมของผกู ระทาํ ผดิ มากขนึ้ มไิ ดม ขี อ หา มหรอื ถอื วา เปน เรอ่ื งเสยี หาย สําหรับปายเตือนกอนถึงจุดตรวจน้ันอาจจัดทําเปนแบบตูไฟฟามีแสงสวางหรือปาย สะทอนแสงท่ีไมมีไฟฟาก็ได ข้ึนอยูกับภูมิประเทศและความสะดวก ขณะเดียวกันบริเวณจุดตรวจ ก็อาจจะเพิ่มปายเตือนหรือตูไฟฟามีแสงสวางเขาไปอยูติดกันดวย เพ่ือเพ่ิมการสังเกตเห็นของผูขับข่ี ไดชัดเจนข้นึ มขี อสังเกตถงึ จุดตรวจในปจ จบุ นั จํานวนหนงึ่ ที่ไมมีการเตอื นแตว างกรวยยางขวางถนน หางจากตัวจุดตรวจ ประมาณ ๑๕ เมตร ทําใหไมมีระยะหยุดระยะคิดเพียงพอ นอกจากน้ัน ยงั วางกรวยยางยาวเปนเสนตรงตลอดระยะทาง ๑๕ เมตรดว ย ทําใหส้นิ เปลอื งกรวยยางจํานวนมาก และไมสะดวกในการขนยาย การตั้งจุดตรวจแบบน้ีพบเห็นมากในเขตภูธร ฉะน้ันควรเปลี่ยนแปลง

๑๕๖ โดยใหเวนระยะหยุดระยะคิดเปนระยะทางประมาณ ๑๕๐-๒๐๐ เมตร ท้ังน้ีอาจจะวางกรวยยาง ทจ่ี ดุ แรกของระยะ ๑๕๐ หรอื ๒๐๐ เมตรกอ นถงึ จดุ ตรวจ เพยี ง ๑ กรวยกอ น ในลกั ษณะขวางกลางถนน เพื่อเตือนรถท่ีวิ่งมาดวยความเร็วเปล่ียนชองจราจรและชะลอความเร็วเตรียมเขาจุดตรวจ ตอมาท่ี ระยะประมาณ ๗๕ หรอื ๑๐๐ เมตรจากจุดตรวจ ใหว างกรวยยางอกี ครั้งหน่งึ แตว างเพ่ิมเปน ๓ กรวย ในแนวขวางถนน ๑ ชอ ง เพอื่ เตอื นอกี ครง้ั หลงั จากนน้ั กจ็ ะถงึ จุดตรวจเลย หากทาํ แบบนจี้ ะประหยดั กรวยยางและปลอดภัยมากกวา หลกั การตง้ั จดุ ตรวจแบบเสนตรงโดยสรปุ คอื - ใหรถท่ขี บั ขีม่ าบนถนนไดเห็นปา ยเตือนเพอื่ ชะลอรถลว งหนา - ทจี่ ดุ ตรวจมเี จา หนา ทแ่ี ยกรถทจี่ ะตรวจ ออกจากรถทไ่ี มต อ งสงสยั และตรวจเฉพาะรถ ท่ีตองสงสยั เทานน้ั เพอื่ ไมใ หประชาชนเสียเวลา - รถท่ีจะตรวจ จะตองจัดการใหเ ขาจอดในทีป่ ลอดภยั - การตรวจจะตองเปนไปอยา งรวดเร็ว คาํ นงึ ถงึ เวลาที่ประชาชนเสียไป - การทํางานของเจาหนาที่จะตองตรงไปตรงมา อยางมืออาชีพ ตองตอบคําถามท่ี ประชาชนถาม - หากมีการหลบหนจี ะตองมกี ารวางแผนลว งหนา ท่จี ะจดั การ - หากพบผูกระทาํ ผิดอาจจะออกใบสงั่ หรอื วา กลา วตักเตือน - การตงั้ โตะปรบั เปน ผลดี ไมใ ชข อเสียหาย - ระยะเวลาในการต้ังจุดตรวจไมควรนานเกินไป ตองคํานึงถึงเจาหนาที่ผูปฏิบัติวา มคี วามเหนื่อยลา หรือยัง หากเจา หนา ทไี่ มพรอ มควรหยุด ไมควรทาํ ตอ ไป

๑๕๗ ๒.๒ จดุ ตรวจแบบท่ี ๒ “จดุ ตรวจแบบวงกลม” การตงั้ จดุ ตรวจแบบนี้ เปน การตง้ั จดุ ตรวจทใ่ี ชค นจาํ นวนมาก เปน การระดม ครั้งใหญหรือมีเปาหมายเพ่ือบูรณาการหลายหนวยงาน โดยอาจใชพื้นท่ีริมถนน เชน โรงเรียน สนามกีฬา ปมนํ้ามันเกา ในการตรวจแทนที่จะใชพื้นท่ีบนผิวการจราจรหรือไหลทาง ความลึกของ พ้นื ทีว่ งกลมจากริมถนนไมค วรมากกวา ๕ - ๑๐ เมตร แตต ัวปา ยเตือนนนั้ ไปวางไวบนถนน หางจาก จุดตรวจประมาณ ๑๕๐ - ๒๐๐ เมตรเชนเดิม ดวยเหตุผลเดียวกันคือเวนไวเผ่ือสําหรับระยะคิด และระยะหยุดของผูขับข่ี จุดตรวจแบบนเี้ หมาะสําหรับตํารวจทางหลวง หรือตํารวจภธู รทตี่ งั้ จดุ ตรวจ ในเขตนอกเมอื งหรอื ชานเมอื ง มรี ถไมห นาแนน มากรถวง่ิ ไดเ รว็ หรอื พน้ื ทจ่ี งั หวดั ชายแดนภาคใตท อ่ี าจ จะมกี ารตอ สกู บั เจา หนา ทขี่ ณะตง้ั จดุ ตรวจ โดยอาจใชก าํ ลงั ฝา ยปอ งกนั ปราบปรามรว มตง้ั จดุ ตรวจดว ย เปนจุดตรวจที่เหมาะสําหรับจํานวนเจาหนาที่มาก เพื่อเปาหมายท้ังดานอาชญากรรมและจราจร ไปพรอ มกัน การต้ังจุดตรวจแบบนี้ เจาหนาท่ีสามารถตรวจรถไดเปนเวลานาน โดยไม ทาํ ใหเ กดิ ปญ หาการจราจรและปลอดภยั สงู โดยจะตอ งมผี เู รยี กหยดุ รถและคดั เลอื กรถเขา ตรวจ ๑ หรอื ๒ คน แตห ากอยใู นพ้นื ทอี่ ันตราย อาจจะเพิ่มเจา หนา ที่ติดอาวธุ สงครามเพอ่ื รักษาความปลอดภัยไว ทจี่ ดุ น้ดี ว ย เม่ือรถเขา พน้ื ท่ตี รวจแลว กจ็ ะเปนหนาท่ตี รวจตามเปาหมาย โปรดดูภาพที่ ๒

๑๕๘ ÀÒ¾·Õè ò : ¡ÒÃμÑ駨´Ø μÃǨẺǧ¡ÅÁ

๑๕๙ จากภาพขางตน จะเห็นไดวาการตั้งจุดตรวจแบบน้ี เจาหนาที่สามารถใชเวลา ในการตรวจไดนาน เชน การตรวจคนตัวรถที่ซุกซอนยาเสพติดอยางละเอียด โดยมีไฟฟาสองสวาง ทเี่ ตรยี มตวั ไว หรอื ตรวจปส สาวะผขู บั ขี่ เมอ่ื รถเขา มาพนื้ ทต่ี รวจ เจา หนา ทอี่ าจแบง งานกนั ทาํ แยกยอ ย ออกไปได เชน ตาํ รวจจราจร ตาํ รวจสายตรวจ เจา หนา ทกี่ รมการขนสง ทางบก เจา หนา ทด่ี า นกกั กนั สตั ว ศลุ กากร ฯลฯ นอกจากนี้หากใชจุดตรวจแบบนี้ในภารกิจการลดอุบัติเหตุ อาจจะแบงแยกงาน เจาหนาท่ีผูตรวจออกไป เชน ตรวจใบขับข่ี ตรวจวัดความเมา ตรวจควันดํา เสียงดัง ฯลฯ มีโตะ เปรียบเทียบปรับพรอม ซึ่งปกติกระทําไดยากในจุดตรวจทั่วไป เน่ืองจากจุดตรวจแบบนี้มีพ้ืนที่มาก ดังนัน้ อาจจะเพม่ิ กจิ กรรมอ่ืนในจดุ ตรวจไดด วย เชน การรณรงคในชว งเทศกาลอาจจะเพมิ่ เจา หนาท่ี พยาบาล ทน่ี ั่งพกั หรอื การใหความรูแ กผขู บั ข่ีฯ เขาไปดว ย เมอื่ มกี ารตรวจเสรจ็ แลว รถแตล ะคนั จะวง่ิ ออกจากพนื้ ทต่ี รวจโดยมเี จา หนา ทค่ี ดั เลอื กรถ หมายเลข ๓ ทาํ หนาทต่ี รวจสอบครงั้ สดุ ทาย เพ่ือปองกนั รถท่หี ลบเลี่ยง โดยมีกรวยยางต้งั ไวใ หรถว่ิง เขาออกคนละทาง จุดตรวจแบบนี้สามารถต้ังขึ้นโดยมีระยะเวลานานได สามารถจัดที่พักสําหรับ เจาหนาทใ่ี หห มนุ เวียนกนั ทํางาน จัดหาอาหารเครอื่ งดื่ม จดั หอ งสุขาได โดยอาจจะเปนจุดตรวจหลกั ของสถานีตํารวจซ่ึงเปดใชเปนครั้งคราว เพ่ือใหผูใชถนนไมสามารถคาดเดาเวลาต้ังไดวาจะเปดใช เม่ือใด แตไมควรเปดใชเปนเวลาที่แนนอนตายตัวจนประชาชนคาดหมายได เพราะประชาชนเรียนรู ทจี่ ะหลบหลีกอยูเสมอ หลักการตั้งจุดตรวจแบบวงกลมโดยสรุปคือ - ใหร ถทขี่ ับข่ีมาบนถนนไดเ ห็นปายเตือนเพ่อื ชะลอรถลว งหนา - จัดท่ีตรวจอยูในพ้ืนที่เฉพาะ ท่ีจะตองเล้ียวรถเขามาขางถนน ไมมีการตรวจบน ผิวการจราจรเหมือนจุดตรวจแบบอื่นๆ - จะตองมีเจาหนาที่คัดแยกรถ เพ่ือเรียกรถที่ตองสงสัยใหเขามาในพื้นที่ตรวจ สวนรถอ่นื ๆ ท่ไี มตองสงสัยจะคดั แยกใหว ง่ิ บนถนนตอ ไปไมรบกวนเวลาผูขบั ข่ที ่เี ปนพลเมืองดี - รถที่จะตรวจ จะมีเสนทางวนเปนวงกลมเพ่ือใหเจาหนาที่ตํารวจหลายคนเรียก หยุดตรวจ - การเรียกใหเขาชองตรวจใด อาจจะมีการประสานงานกันระหวางเจาหนาที่ คัดแยกกับผูตรวจเพราะผูหยุดรถรูลวงหนาวาตองสงสัยในเร่ืองใด เชน ขาดตอภาษี ไมคาดเข็มขัดฯ หรือเปนเร่ืองพเิ ศษ เชน แอลกอฮอล ใชสารเสพติดฯ - การทาํ งานของเจาหนาทจ่ี ะตองตรงไปตรงมา เชน สงสยั วากระทาํ ผิดเรอื่ งหนง่ึ แตเ มือ่ ตรวจสอบแลว ไมผ ิด ก็ไมควรหาเรือ่ งอ่นื โยกโยเพอื่ หาเรื่องจะจบั ใหไ ด ควรปลอยไปใหเ ดินทาง ตอ ไปโดยเร็ว

๑๖๐ - หากสงสยั มกี ารหลบหนี เจา หนา ทผี่ ปู ลอ ยรถออกสถู นน จะตอ งสอบถามผตู รวจวา รถคันน้ีตรวจสอบเสร็จแลวหรือไม โดยสอื่ สารทางวิทยกุ ันตลอดเวลา - หากพบผกู ระทาํ ผดิ อาจจะออกใบสง่ั หรอื วา กลา วตกั เตอื น การวา กลา วตกั เตอื น ไมใ ชเ รอ่ื งทไ่ี มค วรทาํ อาจจะทาํ ไดห ากผขู บั ขข่ี าดเจตนา นา เชอื่ วา จะปรบั ปรงุ ตวั ได ไมจ าํ เปน วา จะตอ ง เอาผลคดไี ปเสียท้งั หมด - การตัง้ โตะ ปรับเปน ผลดี ไมใชข อเสยี หาย - ระยะเวลาในการตั้งจุดตรวจไมควรนานเกินไป ตองคํานึงถึงเจาหนาที่ผูปฏิบัติ วามคี วามเหน่อื ยลา หรอื ยงั หากเจาหนาท่เี หน่ือยแลว อาจจัดชุดไปสลบั เปลี่ยน หรอื หยดุ ตรวจไปเลย และไมค วรมีคําส่ังตง้ั จุดตรวจ ๒๔ ชม. เตม็ ที่สําหรบั จดุ ตรวจแบบน้ีไมค วรเกิน ๔ ชม. ๒.๓ จดุ ตรวจแบบที่ ๓ “แบบในเมือง” จดุ ตรวจแบบนมี้ กั จะเปน ขนาดเลก็ ทใี่ ชใ นเขตเมอื งของนครบาลหรอื อาํ เภอใหญ ของตํารวจภูธร ท่ีอาจมีรถหนาแนนและรถติดขัด ว่ิงไดชา ซ่ึงแตเดิมมักจะมีกําลังเจาหนาท่ียืนอยู ริมถนนเรยี กรถระหวา ง ๔ - ๕ คน ไมม เี ครอ่ื งมอื ในเร่ืองความปลอดภัย เรยี กรถใหจ อดขา งทางแลว แยกกนั ตรวจ ทง้ั นโ้ี ดยควรทจ่ี ะตอ งเปลย่ี นแปลงวธิ กี ารตรวจแบบนใ้ี หเ กดิ ความปลอดภยั เพมิ่ ขนึ้ ไดแ ก การเพิ่มปายเตือนระหวางระยะ ๑๐ - ๓๐ เมตร เพื่อใหผูขับขี่เตรียมตัวหยุดรถ ซึ่งเวนระยะทางไว ไมมากนักเพราะรถวิ่งดวยความเร็วต่ําอยูแลว พรอมกันน้ันก็เพิ่มใหมีวางกรวยยาง และการจอดรถ จกั รยานยนตเพอ่ื เปน กาํ แพงความปลอดภยั ดว ย รถจักรยานยนตท่ีเปนกําแพงความปลอดภัยนี้ ยังอาจใชเปนรถติดตาม รถหลบหนดี ว ย โดยใหน าํ รถจกั รยานยนตเ จา หนา ทท่ี มี่ หี ลายคนั มาจอดเปน กาํ แพงความปลอดภยั รว มกนั หากเปนเวลากลางคืนควรจะตองมีไฟฉาย กระบองแสงสวางและเจาหนาท่ีควรสวมเสื้อสะทอนแสง ทุกคน การตรวจแบบนี้หากมีรถยนต ก็ใหใชเปนกําแพงก้ันเขตปลอดภัยแทนรถจักรยานยนต การตั้งจดุ ตรวจแบบนี้อาจพิจารณารปู แบบได ตามภาพที่ ๓

๑๖๑ ÀÒ¾·Õè ó : ¡ÒÃμé§Ñ ¨´Ø μÃǨ¢¹Ò´àÅç¡áººã¹àÁÍ× §

๑๖๒ จากภาพขางตน จะเห็นไดว าผูข บั ข่ีบนถนนจะมองเหน็ ปายเตอื นหรือตูไฟแสดงจดุ ตรวจ ในระยะที่ใกลกับจุดตรวจมาก แตเนื่องจากเปนการตั้งจุดตรวจในเมืองท่ีรถวิ่งดวยความเร็วต่ํา ผูขับขี่ สามารถชะลอรถเตรียมตัวถูกเรียกหยุดได บุคคลสําคัญของการตั้งจุดตรวจคนแรกคือผูทําหนาที่ คัดแยกรถ เพราะถนนในเมืองจะมีรถติดขัดไดงาย หากคัดแยกไมดีจะทําใหเกิดรถติดได ดังนั้น เจา หนา ทคี่ ดั แยกรถจะตอ งมที กั ษะทจ่ี ะตอ งแยกรถตอ งสงสยั ออกจากรถปกตทิ ว่ั ไป และใชห ลกั การเดมิ คอื รถไมตองสงสัยหรือประชาชนท่ัวไปไมตองเดือดรอน แตจะถูกแยกใหขับขี่ตอไปโดยสะดวก หลักการ สําคัญคือ การต้ังจุดตรวจไมใชจะตองตรวจรถทุกคัน การเรียกรถแตละคันเปนการรบกวนสิทธิของ ประชาชนทตี่ าํ รวจจะตองเคารพดว ย ผทู ถี่ กู คดั แยกจะตอ งเขา ไปในพนื้ ทต่ี รวจทจี่ ดั ไวโ ดยมเี จา หนา ทตี่ าํ รวจรอตรวจ เจา หนา ท่ี คัดแยกจะตอ งใชสัญญาณมอื สอื่ สารกบั เจา หนาทีผ่ ูตรวจ วา ใหรับรถทส่ี ง ไป โดยอาจจะมกี ารพูดดวย วาจาหรอื สญั ลกั ษณต อ กนั เพอ่ื ใหเ กดิ ความเขา ใจตรงกนั เชน ไมส วมหมวก หรอื ไมต ดิ แผน ปา ยทะเบยี น การตรวจอาจจะกระทาํ โดยตํารวจกลุมเลก็ ๆ ประมาณ ๔-๕ คน หรอื กลมุ ใหญข ้นึ ประมาณ ๗-๑๐ คน กไ็ ด แตถ ึงแมจ ะมีตาํ รวจนอยเชน ๕ คน แตท ่ีขาดไมไดคอื ผทู าํ หนาท่รี ะวงั หลงั เมอื่ รถหลบหนี ทอ่ี าจ จะตองตรวจดวยและสอดสองรถหลบเลี่ยงไปดวยพรอมกัน โดยอาจจะตองจอดรถจักรยานยนตไว เพอื่ การติดตามดา นหลงั สุดของจดุ ตรวจ เนื่องจากมีการวางกรวยยาง ฉะน้ันเจาหนาท่ีจะมีพื้นที่ทํางานชัดเจนวาเรียกรถได ครงั้ ละเทา ใด ซงึ่ ผแู ยกคดั รถจะตอ งสง รถเขา มาตรวจเทา ทม่ี พี น้ื ที่ การวางกรวยยางนย้ี งั มปี ระโยชนอ น่ื ๆ ดวย คอื เร่ืองความปลอดภยั จากการถูกรถเฉ่ยี วชน และการปองกนั การหลบหนี โดยผถู กู เรียกตรวจ ไมสามารถใชเวลาชุลมนุ หลบหนีไปจากจุดตรวจไดเหมอื นแตกอน เพราะมแี นวกรวยยางที่สังเกตเหน็ ไดช ดั ถา มรี ถฝาออกไป และมีการจัดชองทางออกไวเ ฉพาะแลว หลักการตั้งจดุ ตรวจขนาดเลก็ ในเมอื ง โดยสรุปคือ - ใหร ถทข่ี ับขม่ี าบนถนนไดเ ห็นปา ยเตือนเพอ่ื ชะลอรถลว งหนา - การตรวจอาจใชผวิ การจราจรหรอื ไหลท าง แตมีการก้นั ใหเหน็ พ้ืนท่เี ฉพาะนแี้ ลว - มีเจาหนาท่ีคัดแยกรถและสงใหผูตรวจโดยประสานงานทางวาจาหรือสัญลักษณ ทา ทาง ไมตองใชว ทิ ยสุ ือ่ สารก็ได - รถทจ่ี ะเขา ชอ งตรวจควรมจี าํ นวนไมม าก แตจ ะตอ งควบคมุ ใหส มดลุ ไมเ กดิ การชลุ มนุ หรือทําใหร ถติด - การทาํ งานของเจา หนา ทจ่ี ะตอ งตรงไปตรงมา และไมแ สดงกริ ยิ าอาการทผ่ี ขู บั ขที่ ว่ั ไป มองเห็นวา ไมสุภาพเพราะมผี ขู บั ขผ่ี านไปมาจาํ นวนมาก - มีการควบคุมรถท่ีจะหลบหนีโดยวางตัวเจาหนาท่ีระวังหลังไวเชนปกติ แมจะมี เจาหนาที่จํานวนนอ ย

๑๖๓ - หากพบผูกระทําผิดอาจจะออกใบสั่งหรือวากลาวตักเตือน การวากลาวตักเตือน เปน เรอื่ งท่ีกระทําได ไมใชเ รอ่ื งเสียหายหรือมองไปในทางทจุ รติ - การตั้งโตะปรับเปนผลดี สามารถกระทําไดระยะเวลาในการตั้งจุดตรวจไมควรนาน เกนิ ไป เต็มท่ีไมควรเกนิ ๒ ชม. จากหลักการตั้งจุดตรวจที่ไดกลาวมาไดจําแนกประเภทของการตั้งจุดตรวจออกเปน ๓ ประเภทหลกั ไดแ ก ñ. ¡ÒÃμÑ駨شμÃǨ໚¹àÊŒ¹μçเหมาะสําหรับใชบนถนนในเมืองหรือทางหลวงท่ีมีรถ จาํ นวนไมห นาแนนมาก และรถอาจจะว่งิ ดว ยความเรว็ ò. ¡ÒÃμÑ駨شμÃǨ໚¹Ç§¡ÅÁเปนการต้ังจุดตรวจท่ีใชคนจํานวนมาก เปนการระดม ครง้ั ใหญห รอื มเี ปาหมายเพอ่ื บรู ณาการหลายหนว ยงาน ó. ¡ÒÃμÑ駨شμÃǨ¢¹Ò´àÅç¡áººã¹àÁ×ͧจุดตรวจแบบนี้มักจะเปนขนาดเล็กท่ีใช ในเขตเมืองของนครบาลหรืออําเภอใหญของตํารวจภูธร ท่ีอาจมีรถหนาแนนและรถติดขัด ว่ิงไดชา ซ่ึงรูปแบบการตั้งจุดตรวจท้ัง ๓ แบบ เปนการพิจารณาจากสภาพถนน และปริมาณของรถที่สัญจร ไปมาเพ่อื เปนหลกั ในการพิจารณา ตัง้ จดุ ตรวจใหเกดิ ความปลอดภัยในการปฏบิ ัตหิ นาที่ ó) ¡ÒÃμ§Ñé ¨Ø´μÃǨà¾×èÍÅ´ÍºØ ÑμàÔ ËμØ ๓.๑ การตงั้ จดุ ตรวจเพอ่ื ควบคมุ อบุ ตั เิ หตุ มขี อ พจิ ารณาเพม่ิ เตมิ ในการตง้ั ๒ ขอ คอื ๓.๑.๑ ขอมูลอุบัติเหตุท่ัวไปในพื้นท่ี ไดแก ผูวางแผนตั้งจุดตรวจจะตอง ทราบขอมูลสถานที่และเวลาเกิดอุบัติเหตุสูงสุดในแตละเดือนของสถานีตํารวจแหงนั้นเสียกอน เพ่ือใชพิจารณาในการวางแผนตั้งจุดตรวจ โดยควรท่ีจะเลือกต้ังจุดตรวจในบริเวณที่มีอุบัติเหตุเกิด สงู ทสี่ ุดกอ น เชน อบุ ัตเิ หตเุ กิดบนถนนเสนใด สว นเวลาท่เี กดิ อบุ ัติเหตสุ งู สุดกค็ วรออกไปตัง้ จุดตรวจ ในเวลาน้ันดวย เชน เวลากลางคืน เม่ือรวมกันก็จะไดสถานท่ีต้ังจุดตรวจที่เหมาะสมคือ สถานท่ี และเวลาทเ่ี กิดอุบัตเิ หตุสูงสดุ ไมใชตงั้ จุดตรวจในทีเ่ ดิมเวลาเดิม หรอื ตงั้ จุดตรวจทม่ี ไี ฟฟาไวตอ สายไฟ ดังนั้นการต้ังจุดตรวจโดยท่ัวไปท่ีเจาหนาที่ตํารวจสถานีตางๆ ออกไปตั้ง จุดตรวจ ในเวลาวา งจากการจัดการจราจร เชน ๑๐.๐๐ น. หรือ ๑๔.๐๐ น. จงึ ไมใ ชก ารตัง้ จดุ ตรวจ เพ่ือลดอุบัติเหตุดวยเชนกัน แตเปนการต้ังจุดตรวจเพ่ือทําผลงานหรือสรางสถิติการออกใบสั่งเทาน้ัน ไมส ามารถนํามาอา งไดว า ไดวางมาตรการเพ่อื ควบคุมอบุ ตั ิเหตุในพ้ืนทแี่ ลว เพราะการวางมาตรการ เพ่ือควบคุมอุบัติเหตุจะตองใชขอมูลอุบัติเหตุจริงๆ และมีแนวทางที่สอดคลองกันจริง การตั้ง จดุ ตรวจจราจร จงึ อาจจะแยกไดเ ปน ๒ แบบ คอื การตง้ั จดุ ตรวจเพอื่ กวดขนั วนิ ยั จราจรทวั่ ไป กบั การตง้ั จุดตรวจเพื่อควบคุมอุบัติเหตุ ซึ่งแทจริงแลวแตกตางกัน ไมสามารถจะทําเรื่องเดียวแลวอางวาใช ทงั้ สองวัตถุประสงคได

๑๖๔ ๓.๑.๒ ขอมูลอุบัติเหตุเฉพาะทาง ไดแก การเก็บขอมูลอุบัติเหตุสําคัญ บางประเภทเพอื่ ใชใ นการแกไ ข เชน อบุ ตั เิ หตทุ เ่ี กดิ จากความเมา ซง่ึ ทราบขอ มลู วา สถานบนั เทงิ ยา นใด เปน สาเหตุ กว็ างแผนตงั้ จดุ ตรวจเมอ่ื สถานบนั เทงิ ปด รา นบนถนนในยา นนนั้ อบุ ตั เิ หตทุ เ่ี กดิ จากการขบั รถเรว็ ก็ตั้งจุดตรวจบนถนนท่ีมีขอมูลการขับรถเร็ว หรืออุบัติเหตุท่ีเกิดจากการฝาไฟแดง ก็ตั้งชุดตรวจจับ ทางแยกทมี่ กั จะมกี ารขบั รถฝา ไฟแดง เปน เรอื่ งการวางแผนลดอบุ ตั เิ หตใุ นแตล ะประเภทเฉพาะเจาะจง ลงไป โดยเร่มิ จากการมีขอมูลและนาํ ขอมูลมาใชใ นการตดั สนิ ใจ การวางแผนตงั้ จดุ ตรวจแบบเฉพาะเจาะจงนี้ อาจจะไดข อ มลู อบุ ตั เิ หตหุ ลายประเภท ซึ่งสถานีตํารวจจะตองจัดลําดับความสําคัญกอน จึงจะวางแผนควบคุมได โดยใหความสําคัญกับ ประเภทอุบัติเหตุท่ีเสียหายมากกอน อาทิ มีขอมูลอุบัติเหตุจาก ความเมา ขับรถเร็ว ฯ เปนเร่ืองท่ี สถานตี ํารวจดําเนนิ การกอ นเพราะมผี ูเสยี ชีวติ และบาดเจบ็ จาํ นวนมาก แตอ บุ ตั ิเหตุจากสาเหตอุ น่ื ท่มี ี ความเสียหายนอย ก็รอไวดําเนินการในภายหลังได โดยผูบังคับบัญชาในยุคใหมจะตองเปลี่ยน จากบทบาทผูตรวจการณบนทองถนน ที่ตรวจดูความเรียบรอยท่ัวไป เปนผูกํากับแผนงาน กิจกรรม โดยใชขอมลู มาพจิ ารณาแทน ¢ŒÍ椄 à¡μ การจดั ลาํ ดบั ความสาํ คญั ในการตง้ั จดุ ตรวจจราจรนนั้ มกั จะมกี ารสบั สน ไปกับการควบคุมการจราจร โดยไมเห็นความสําคัญของการควบคุมอุบัติเหตุ ดังนั้นในแตละสถานี ตํารวจ จึงมกี ารออกคาํ สั่งใหนํากาํ ลงั ตํารวจจราจรไปจัดการจราจรประจําวนั ตามจดุ ตางๆ เกอื บหมด แตไมมีการวางแผนเพ่ือลดอุบัติเหตุแตอยางใด ซึ่งแสดงถึงการวางแผนที่สับสน ระหวางแผนงาน อบุ ตั เิ หตแุ ละแผนงานจดั การจราจร ทจ่ี ะตอ งมที งั้ ๒ ดา น แตห วั หนา สถานตี าํ รวจหรอื รองผกู าํ กบั จราจร จํานวนมากยังไมสามารถแยกแยะความสําคัญ หรือแบงหมวดหมูงาน แตปฏิบัติงานเหมือน ทเ่ี คยทาํ มาแลว ท้งั ทเ่ี ปนเร่อื งสาํ คัญเทา เทยี มกันทัง้ คู การตงั้ จดุ ตรวจเพอื่ ลดอบุ ตั เิ หตจุ ะเกดิ ผลดไี ด จะตอ งอาศยั ผบู งั คบั บญั ชาและนโยบาย ทส่ี อดคลอ งกนั เพอื่ สนบั สนนุ ใหม กี ารปฏบิ ตั ดิ า นการตรวจจบั แตเ ปน การตรวจจบั เฉพาะทางทม่ี ขี อ มลู ในการตดั สนิ ใจ ดว ยเหตนุ ก้ี องบญั ชาการตาํ รวจนครบาลและภธู รในอนาคต จงึ ควรจะแยกประเภทงาน จราจรใหมีน้ําหนักเทากัน ระหวางการควบคุมอุบัติเหตุและการอํานวยความสะดวกดานการจราจร โดยใหสถานีตํารวจแตละแหงตองมีแผนงานรองรับ คอยตรวจสอบกิจกรรมวาสอดคลองกันหรือไม และตรวจสอบจากสถิติขอมูลอุบัติเหตุจราจรภายหลังดําเนินการมาประกอบการพิจารณาจึงจะทําให การต้ังจุดตรวจจราจรในอนาคตมีประสิทธภิ าพและประสิทธิผล

๑๖๕ การต้ังจุดตรวจเพื่อลดอุบัติเหตุ จากงานวิจัยตางประเทศท่ีนาสนใจสามารถนํามา เปนขอมลู ประกอบการพิจารณาตั้งจุดตรวจ ดงั นี้ -. ò) ¡ÒÃμéѧ¨Ø´μÃÇ¨Ç´Ñ áÍÅ¡ÍÎÍŏ àÁ×ͧ ÃٻẺ ਺ç -μÒ ¨Ò¡´èÁ× áÅÇŒ ¢Ñº ਺ç -μÒ´nj ÂÊÒàËμØÍè¹× Modesto ตํารวจ ๖-๑๒ นาย/คืนละ ๑ จุด -๙.๓ % +๑๒.๙ % Ventura ตาํ รวจ ๓-๕ นาย/คนื ละ ๓ จดุ -๓๙.๗ % -๗.๔ % Visalia ตาํ รวจ ๓-๕ นาย/คืนละ ๑ จดุ -๑๔.๗ % +๓.๕ % Ontario หนวยลาดตระเวน -๑๘.๐ % -๓.๙ % μÒÃÒ§·èÕ ó.ò การตั้งจุดตรวจวัดความเมารูปแบบตางๆ กับความสามารถในการลดการเจ็บ-ตาย จากด่มื แลวขบั ¡ÒáÃШÒÂกําÅѧตําÃǨ໚¹Ë¹‹ÇÂàÅç¡ (ó-õ ¹ÒÂ) á실Ãͺ¤ÅØÁËÅÒ¨ش䴌¼Å´Õ áÅШÐãËŒ¼Å㹡ÒÃŴ਺ç μÒ¨ҡàÁÒáÅÇŒ ¢ºÑ ÁÒ¡¡ÇÒ‹ Ç¸Ô ¡Õ ÒÃÍ×è¹æ ในสถานการณท ่ีทรพั ยากร (คน- เวลา-เงนิ )มจี าํ กัด... การตง้ั ดาน ตอ งพจิ ารณาถงึ ขอ มูลวา จุดใด (แผนท่อี บุ ัตเิ หตุ) ชวงเวลาใด (นาฬก า อุบัติเหตุ) จึงจะเกิดผลมากท่ีสุด ซ่ึงในหลายพื้นที่... การเพ่ิมข้ึนของจุดตรวจ นอกจากจะลดจํานวน อุบตั ิเหตุ การบาดเจ็บ เสียชีวิตแลว...คดอี าชญากรรมอื่นๆ กล็ ดลงดวย ò) ¡ÒÃμÑ§é ¨´Ø μÃǨ¨Ñº “¤ÇÒÁàÃçÇ” รถทแี่ ลน ดว ยความเรว็ ทแ่ี ตกตา งกนั มากบนถนน นาํ ไปสกู ารเกดิ อบุ ตั เิ หตุ อบุ ตั เิ หตุ จากความเร็วที่มีผูเสียชีวิต มักเกิดกับถนนตรงหรือทางโคงมากกวาทางแยกบนถนนที่มีชองจราจร มากกวา ๑ ชองจราจร และในชวงทฝ่ี นตก ขอมูลจาก NHTSA (National Highway and Traffic Safety Administration) พบวา ปจ จยั ทส่ี ง ผลตอพฤตกิ รรมการขับขี่เรว็ o พฤติกรรมของผูขับขเี่ พศชาย อายุ ๑๕-๒๐ ป มีพฤติกรรมขบั ข่ีรถเรว็ มากที่สดุ o ปริมาณแอลกอฮอลใ นเลอื ดทเี่ พิม่ มากขึน้ สงผลตอพฤตกิ รรมการขับขเ่ี ร็ว o ชว งเวลาหลงั เทย่ี งคนื ถงึ ตสี าม เปน ชว งเวลาทผ่ี ขู บั ขมี่ พี ฤตกิ รรมขบั ขเี่ รว็ มากทสี่ ดุ จากขอมูลดงั กลา วแสดงใหเ ห็นวา “¤¹¢ºÑ öÁáÕ ¹Ç⹌Á·è¨Õ Ð㪌¤ÇÒÁàÃÇç μÒÁÊÀÒ¾¶¹¹ÁÒ¡¡Ç‹Ò¾¡Ô ´Ñ º¹»‡ÒÂจํา¡´Ñ ¤ÇÒÁàÃçÇ”

๑๖๖ การตั้งจุดตรวจจะยังคงมีผลตอการเปล่ียนแปลงพฤติกรรมในการขับข่ีเร็วในระยะหาง ออกไปอีก ประมาณ ๔ กิโลเมตร จากตาํ แหนง ทีต่ ัง้ จุดตรวจ ดังน้ันการเลือกตงั้ จดุ ตรวจทีม่ คี วามถ่ีของ จดุ เสย่ี งในชว ง ๔ กโิ ลเมตร จงึ เปน ตาํ แหนง การตง้ั ดา นทมี่ ผี ลตอ การลดอบุ ตั เิ หตไุ ดส งู สดุ จากการศกึ ษา วจิ ัยพบวา มาตรการเขมงวดในการตั้งจุดตรวจจับความเรว็ สามารถลดการสูญเสียชีวิตลงไดรอยละ ๖ และลดการชนแบบรุนแรงไดถ ึงรอ ยละ ๑๔ ÀÒ¾·Õè ô รปู แบบ แบงพน้ื ทอ่ี อกเปน ๕ โซน

๑๖๗ คาํ อธบิ ายเพ่มิ เตมิ ในการตั้งจุดตรวจแบบแบง พื้นทอี่ อกเปน ๕ โซน พนื้ ทส่ี ว นที่ ๑ เปน พนื้ ที่ เฝา สงั เกตรถและบคุ คลทอ่ี ยภู ายในรถทจี่ ะวงิ่ ผา นเขา มาในบรเิ วณพน้ื ทตี่ ง้ั จดุ ตรวจ มีเจาหนาที่ตาํ รวจอยปู ฏบิ ัติ ๒ นาย โดยอยูก อนถึงพนื้ ที่ตัง้ จุดตรวจหา งประมาณ ๒๐-๑๐๐ เมตร (ตามสภาพพื้นท)่ี พน้ื ทส่ี ว นที่ ๒ เปน พน้ื ท่ที ีพ่ จิ ารณาคดั กรองรถเพอื่ เรียกรถเขา มาสพู ้นื ทต่ี รวจคน มีเจาหนาทตี่ ํารวจ ๒ นาย และเจา หนา ท่ีตํารวจท่ีทาํ หนาที่เปนหัวหนา จดุ ตรวจ ๑ นาย รวมเจา หนาท่จี ํานวน ๓ นาย พนื้ ทสี่ ว นท่ี ๓ เปน พนื้ ทตี่ รวจคน มเี จา หนา ทต่ี าํ รวจทาํ หนา ทต่ี รวจคน รถและบคุ คลตอ งสงสยั ทนี่ งั่ มา ๒ ชดุ ปฏบิ ัติ (๑ ชุดปฏิบตั ิมี ๓ – ๔ คน รถท่ีเขาทําการตรวจคน ควรมไี มเกิน ๒ คัน ในแตล ะชว ง ทท่ี าํ การตรวจคน และการตรวจคน ใชเ จา หนา ทต่ี าํ รวจ ๓ – ๔ คนตอ รถทาํ การตรวจคน ๑ คนั โดยคน ๒ คน คมุ กนั ๑ - ๒ คน) มเี จา หนา ทตี่ าํ รวจอกี ๑ คน ทาํ หนา ทบี่ นั ทกึ ภาพขณะตรวจคน ไวเปนหลักฐาน และมีเจาหนาท่ีตํารวจอีก ๑ คน ทําหนาท่ีคอยควบคุมการปลอยรถออก จากพื้นที่ตรวจคน เพ่อื ปอ งกนั อุบัตเิ หตุ รวมเจาหนา ที่ตํารวจที่อยใู นพน้ื ท่นี ี้ ๘ - ๑๑ คน พน้ื ทสี่ ว นท่ี ๔ เปนพื้นท่ีคอยสกัดรถ หากรถตองสงสัยท่ีเขามาในพื้นท่ีต้ังจุดตรวจไมยอมหยุดรถใหทําการ ตรวจคน เจาหนาท่ีตํารวจที่อยูปฏิบัติหนาท่ีทายพ้ืนที่จุดตรวจนี้จะทําหนาท่ีนํารถตํารวจ ที่จอดอยูทายจุดตรวจเขาสกัดขวางกันไมใหผานหรือไลติดตามหากหลบหนี ในสวนน้ีจะมี เจาหนาที่ตํารวจทําหนาท่ีประจํารถยนต ๑ คัน ๑ คน และเจาหนาที่ตํารวจประจํา รถจักรยานยนต ๑ คนั ๒ คน รวมเจา หนา ที่จาํ นวน ๓ คน พนื้ ทส่ี ว นที่ ๕ เปนพ้ืนที่ควบคุมผกู ระทําความผิด หรอื พ้นื ท่ีบรกิ ารประชาชน มเี จา หนาทต่ี าํ รวจอยูปฏบิ ัติ อยา งนอ ย ๑ คน จากภาพประกอบดงั กลา วและคาํ อธบิ ายเพมิ่ เตมิ การตงั้ จดุ ตรวจแบบแบง พนื้ ทอ่ี อกเปน ๕ โซน ลกั ษณะจดุ ตรวจดงั กลา วเปน หลกั พน้ื ฐานในการวางกาํ ลงั และตาํ แหนง หนา ทข่ี องเจา หนา ทตี่ าํ รวจ ซง่ึ ตอ งใชก าํ ลงั พลทมี่ ปี รมิ าณเพยี งพอ มลี กั ษณะการวางกาํ ลงั แบบการตงั้ จดุ ตรวจเปน วงกลม เปน การตงั้ จุดตรวจท่ีใชคนจํานวนมาก เปนการระดมครั้งใหญหรือมีเปาหมายเพ่ือบูรณาการหลายหนวยงาน ซึ่งในการปฏิบัติหนาที่จริง หากไมมีกําลังพลเพียงพอหรือสถานที่ต้ังไมเหมาะสมก็ควรตองพิจารณา ในรูปแบบอ่ืนท่เี หมาะสม และคาํ นึงถึงความปลอดภัยตอ ผปู ฏบิ ัตงิ านตอ ไป

๑๖๘ ÀÒ¾·Õè õ แสดงการต้ังจุดตรวจในทางเดินรถท่ีมีการจราจรไปในทิศทางเดียวกัน (One Way) ÀÒ¾·èÕ ö แสดงการตงั้ จุดตรวจในทางเดินรถทีม่ กี ารจราจรสวนกัน (Two Way)

๑๖๙ ÀÒ¾·Õè ÷ แสดงการต้งั จดุ สกดั ในถนนสายเล็ก โดยใชรถยนตชวยเปนสงิ่ กีดขวาง ÀÒ¾·èÕ ø แสดงการตัง้ จุดสกดั ในถนนสายเล็ก โดยหลมุ บอบนถนนเปนเคร่อื งชวย

๑๗๐ ÀÒ¾·Õè ù แสดงการต้งั จดุ สกดั ในถนนสายเลก็ โดยใชเ คร่อื งกดี ขวางชว ย

๑๗๑ ÀÒ¾·èÕ ñð การตงั้ จุดตรวจแบบ สองชอ งจราจรตอ ทศิ ทาง (ใชพ ื้นท่จี อดรถทมี่ อี ยู) 150-200 ม. ÊÑÞÅѡɳ จุดตรวจสอบไมควรอยูใน รถตํารวจ ตาํ แหนง ทส่ี ามารถมองเหน็ ได ปายเตือน ตงั้ แตร ะยะประมาณ 300 ม. ตาํ รวจทที่ าํ หนา ทหี่ ยดุ หรอื ตรวจสอบรถยนตบ นถนน ตํารวจทท่ี าํ หนา ที่ ตรวจสอบรถยนต รถยนตที่ถูกตรวจสอบ Í»Ø ¡Ã³·ÕèμÍŒ §ãªŒ ■ แสงไฟและเสอ้ื กก๊ั ทส่ี ะทอ นแสงได ตลอดเวลา ■ ปา ยเตือนทส่ี ะทอ นแสงได ■ ไฟเตือนกะพริบสีเหลืองติดตั้ง บนปายเตือน ■ กรวยทส่ี ะทอ นแสงได (ถา จาํ เปน ) ËÁÒÂàËμØ ภายหลังจากการตรวจสอบ ตํารวจ ทควที่ าํามหสนะดาทวกต่ี ใรนวรจถสยอนบตคจนัะดตงัอกงลอา าํวนออวยก จากจดุ ตรวจสอบไดอยา งปลอดภยั เกาะกลาง POLICE POLICE

๑๗๒ ÀÒ¾·Õè ññ รปู แบบการต้ังจดุ ตรวจ สองชอ งจราจรตอ ทิศทาง (ใชพ ้ืนท่ีไหลท าง) ÊÑÞÅ¡Ñ É³ รถตํารวจ ปายเตือน ตตาํรรววจจสทอท่ีบาํ รหถนยานทตห่ี บ ยนดุ ถหนรนอื ตตราํ วรวจจสทอีท่บาํรหถยนนา ทตี่ รถยนตทีถ่ ูกตรวจสอบ กรวยท่ีสะทอนแสงได การวางกรวย 150-200 ม. ÍØ»¡Ã³·μÕè ÍŒ §ãªŒ จุดตรวจสอบไมควรอยูใน แกไปฟสราเงวยตไยฟเอื ตทแนือลส่ีกะนะะเทพทสอ้ืรอีส่ บิกะนกส๊ัทแทเี อหสสี่ ลงนะไอืทแดงอสตน(งดถิ ไแตาดสจง้ังบาํไดนเปตปลนา อย)ดเตเวอื ลนา ตาํ แหนง ทส่ี ามารถมองเหน็ ได ■ ตงั้ แตร ะยะประมาณ 300 ม. ■ ■ POLICE ■ เกาะกลาง ËÁÒÂàËμØ ทภาท่ี ยาํ หหลนังา จทาตี่ กรกวาจรสตอรบวจจะสตออบงอตาํ ํานรววยจ ความสะดวกในรถยนตคันดังกลาว ออกจากจดุ ตรวจสอบไดอ ยา งปลอดภยั POLICE

๑๗๓ ÀÒ¾·èÕ ñò ทางหลวงขนาดสองชอ งจราจร (ใชพ น้ื ทห่ี ยดุ รบั สง รถโดยสารหรอื พนื้ ทจ่ี อดรถ) 150-200 m. ÊÑÞÅ¡Ñ É³ จุดตรวจสอบไมควรอยูใน รถตาํ รวจ ตาํ แหนง ทสี่ ามารถมองเหน็ ได ปายเตือน ตงั้ แตร ะยะประมาณ 300 ม. ตาํ รวจทที่ าํ หนา ทห่ี ยดุ หรอื ตรวจสอบรถยนตบ นถนน ตาํ รวจทท่ี ําหนา ท่ี ตรวจสอบรถยนต รถยนตท ่ีถกู ตรวจสอบ Í»Ø ¡Ã³·èμÕ ÍŒ §ãªŒ ■ แสงไฟและเสื้อกั๊กที่สะทอนแสงได ตลอดเวลา ■ ปายเตือนทส่ี ะทอ นแสงได ■ ไฟเตือนกะพริบสเี หลืองตดิ ต้ังบนปา ย ËÁÒÂàËμØ ภายหลังจากการตรวจสอบ ตาํ รวจท่ที ํา สหะนดาวทกี่ตใรนวรจถสยอนบตจคะันตดอังงกอลําานวอวยอคกวจาามก จดุ ตรวจสอบไดอยา งปลอดภัย POLICE

๑๗๔ ÀÒ¾·èÕ ñó รูปแบบการตงั้ จุดตรวจสองชอ งจราจร รถวิ่งสวน (ใชพืน้ ทข่ี องไหลทาง) ÊÞÑ Å¡Ñ É³ รถตํารวจ ปา ยเตือน ตตาํรรววจจสทอท่ีบาํรหถนยานทตหี่ บ ยนดุ ถหนรนอื ตตรําวรวจจสทอ่ีทบาํรหถยนนาทต่ี รถยนตท ่ีถกู ตรวจสอบ กรวยทสี่ ะทอ นแสงได การวางกรวย 150-200 m. ÍØ»¡Ã³· μèÕ ŒÍ§ãªŒ จุดตรวจสอบไมควรอยูใน ไปตกปแฟสรลาาวเงยยอตยไเเดฟืตตอทเอืือแวนส่ี ลลนนะกาะททะเพอ่ีสสะนรื้อทิบแกอสส๊ักงนีเทหไแี่สดลสะ ือ(งทถไงอาดตจนิดาํ แตเสปั้งงบนไ)นด ตาํ แหนง ทสี่ ามารถมองเหน็ ได ■ ตงั้ แตร ะยะประมาณ 300 ม. ■ POLICE ■ ■ ËÁÒÂàËμØ ภายหลงั จากการตรวจสอบ ตาํ รวจที่ทาํ หนาที่ตรวจสอบจะตองอํานวยความ จสุดะตดรววกจใสนอรบถยไดนอ ตยคาันงปดลังกอลดาภวัยออกจาก

๑๗๕ ÀÒ¾·èÕ ñô บริเวณชุมชน (ใชพ้นื ท่ีหยดุ รับสงรถโดยสารหรอื พืน้ ท่ีจอดรถ) 50-75 ม. ÊÞÑ Å¡Ñ É³ รถตาํ รวจ ปายเตอื น ตาํ รวจทท่ี าํ หนา ทหี่ ยดุ หรอื ตรวจสอบรถยนตบ นถนน ตาํ รวจท่ที าํ หนาที่ ตรวจสอบรถยนต รถยนตท ถ่ี ูกตรวจสอบ ÍØ»¡Ã³· μÕè ÍŒ §ãªŒ ■ แสงไฟและเส้ือก๊ักท่ีสะทอนแสงได ตลอดเวลา ■ ปา ยเตอื นทส่ี ะทอ นแสงได ■ ไฟเตือนกะพริบสีเหลืองติดตั้งบนปาย เตือน ■ กรวยที่สะทอ นแสงได (ถาจาํ เปน) ËÁÒÂàËμØ ภายหลงั จากการตรวจสอบ ตาํ รวจทที่ าํ หนา ที่ ตรวจสอบจะตองอํานวยความสะดวกใน รอถยยา นงปตลคอันดดภังยักลาวออกจากจุดตรวจสอบได POLICE

๑๗๖ จากเน้อื หาทีไ่ ดก ลาวมาเปนเร่อื งของรูปแบบการต้ังจดุ ตรวจประเภทตา ง ๆ สามารถนาํ ไปปรับใชไดตามสถานการณตางๆ ขึ้นอยูกับความเหมาะสมในแตละพื้นท่ี แตส่ิงหน่ึงที่ตองคํานึงถึง ใหม ากเพ่อื สรางความปลอดภัยใหกบั เจา หนา ทีต่ ํารวจจราจรผูปฏิบัตหิ นา ทบี่ ริเวณจดุ ตรวจ คือ ความ เขา ใจพืน้ ฐานของ หลักการการบริหารจราจรในบริเวณทม่ี ีการเปลี่ยนแปลงชอ งจราจรมาประกอบการ พจิ ารณารปู แบบการตง้ั จดุ ตรวจ เพอื่ ความปลอดภยั ซงึ่ ในเลม นไ้ี ดน าํ หลกั การสากลมาแนะนาํ ใหท ราบดงั นี้ ËÅÑ¡¡ÒáÒúÃÔËÒèÃÒ¨Ã㹺ÃÔàdz·èÕÁÕ¡ÒÃà»ÅÕè¹á»Å§ª‹Í§¨ÃҨà »ÃСͺ仴ŒÇ ËÅÑ¡¡Òôѧ¹éÕ Advance warning area มกี ารเตอื นลว งหนา เพอื่ ใหผ ขู บั ขที่ ราบวา จะมกี ารเปลยี่ นแปลงชอ งจราจรอยา งไรขา งหนา เพือ่ ใหผูขับขี่ชะลอ เปลยี่ นชองจราจร ลดการติดขดั บรเิ วณจดุ ท่จี ะมกี ารเบ่ียงการจราจร Transition Area มีระยะการเบ่ียงชอ งจราจรทย่ี าวเพยี งพอ เหมาะสม ชัดเจน Working/Activity Area มีการก้นั พน้ื ท่ที าํ งาน และพ้ืนทจ่ี ราจรชัดเจน กําหนดความเรว็ ในการควบคมุ Termination Area แจงผูขับข่ีถึงจุดสิ้นสุดการเบ่ียงการจราจร เพื่อใหคืนสภาพ การเดินทางอยางรวดเร็ว ปลอดภยั

๑๗๗ SDWCLeiihgorgaenrenkcnntsidoeplniazcoinefgtrdaevveilce Downstream Taper nleTotesrrmmtraianlffiaotcpioernreasAtuiromenaes Buffer Space (longitudinal) tthoTaerplaloaafficwstcssivtSithtrpyaroaffiacurcegeha Bapunfpoffdr(lorraeotwtrteverociSardratffipekiloa)escncrse awnodisrkWmseoaersrttke,areSisaqipdluaesipctofemoraregnet isAtacwktihevesitryeplAwarcoeerak prtorvaiffiBd(loeucsnffagepnirtrduoSdtwpeinacoactrilkeo)enrsfor omfToritavsnesnsiottirromanffiaAlcrpeoaautht Shoulder Taper AdtveallesnxctpereaWcffitcaarwhneihnaagdtAtorea

๑๗๘ ÊÙμ÷ãÕè ªãŒ ¹¡ÒÃคาํ ¹Ç³ Table 6C-3. Taper Length Criteria for Temporary Traffic Control Zones Type of Taper Taper Length Merging Taper at least L Shifting Taper at least 0.5 L Shoulder Taper at least 0.33 L One-Lane, Two-Way Traffic Taper 50 feet minimum, 100 feet maximum Downstream Taper 100 feet per lane Note : Use Table 6C-4 to calculate L Table 6C-4. Formulas for Determining Taper Length Speed (S) Taper Length (L) in feet 40 mph or less L = WS2/ 60 45 mph or more L = WS Where : ● L = taper length in feet ● W = width of offset in feet ● S = posted speed limit, or off-peak 85th-percentile speed prior to work starting, or the anticipated operating speed in mph Table 6C-1. Recommended Advance Warning Sign Minimum Spacing Road Type Distance Between Signs** A BC Urban (low speed)* 100 feet 100 feet 100 feet Urban (high speed)* 350 feet 350 feet 350 feet Rural 500 feet 500 feet 500 feet Expressway / Freeway 1,000 feet 1,500 feet 2,640 feet

๑๗๙ ¡ÒûÃÐÂ¡Ø μãªŒËÅ¡Ñ ¡ÒúÃÔËÒèÃҨà ¡ºÑ ¨Ø´μÃǨ ¨Ø´Ê¡Ñ´ áÅÐ ´‹Ò¹ ´‹Ò¹μÃǨ ต้งั เปนการถาวร รปู แบบ การบรหิ ารจราจรใหนาํ มาประยุกตใ ชได (Advance Warning, Transition) ¨Ø´μÃǨ / ¨Ø´Ê¡Ñ´ ควรนําหลักการบริหารจราจรมาประยุกต แตกรณีจําเปน เพอื่ ความมน่ั คง ถา จะไมต อ งการเตอื นลว งหนา (Advance Warning) กส็ ามารถลดชดุ ปา ยเตอื นลว งหนา ออกตามความเหมาะสมของภารกิจ ¡ÒÃầ‹ ¾é×¹·ºèÕ ÃàÔ Ç³¨´Ø μÃǨ ¨´Ø Ê¡´Ñ ´Ò‹ ¹ à»ÃÂÕ ºà·Õºã¹ËÅÑ¡¡ÒúÃËÔ ÒèÃҨà = Activity/Working Area หลังจากสน้ิ สุดการตรวจแลว ตองวางตาํ แหนง Termination Area (พนื้ ที่สนิ้ สดุ การต้งั จุดตรวจ) ไดแก Buffer Space + Dowstream Taper ÊÃØ»â´ÂËÅÑ¡¡ÒÃμéѧ¨Ø´μÃǨ ¨Ø´Ê¡Ñ´ ´‹Ò¹ã¹ºÃÔàdz·ÕèÁÕ¡ÒÃà»ÅÕè¹á»Å§ª‹Í§¨ÃҨà μŒÍ§คาํ ¹§Ö ¶Ö§¾¹×é ·èÕ¡ÒèѴ¡ÒÃàËŋҹÕé¾Ô¨ÒóÒà¾Í×è ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÂÑ Advance Warning Area (¾×é¹·Õè¡ÒÃàμ×͹ÅÇ‹ §Ë¹ÒŒ ) กรณีดานท่ีตั้งถาวร ตองมีปายเตือนลวงหนากอนถึงดานวาจะปดชองจราจรไหน เปนระยะๆ หางกอนถึงดาน ๕๐๐ – ๑,๐๐๐ เมตร (กรณีจุดตรวจ จุดสกัด พิจารณาเปนกรณี ตามภารกิจวาการเตือนลว งหนา มีผลกระทบตอความมัน่ คงของภารกิจหรอื ไม) Transition Area (¾×¹é ·ÕèºÃÔàdzà»ÅÂÕè ¹/àºèÕ§¡ÒèÃÒ¨Ã) ในการต้ังจุดตรวจ จุดสกัด ดาน ตองมีการเบ่ียงการจราจรดวยกรวยยางที่เห็นเดนชัด โดยระยะวางกรวยยาง ตองมีระยะยาวพอสมควรใหรถท่ีชะลอความเร็วสามารถชะลอรถและเบ่ียง การจราจรไดอยางปลอดภัยกอนเขาดาน โดยมีระยะตามสูตรการคํานวณ (โดย แผงเตือน/ปายไฟ จดุ ตรวจ จะวางอยหู ลงั แนวกรวยยางท่ีเบย่ี งจราจร)

๑๘๐ Activity/Working Area (¾é¹× ·èÕºÃàÔ Ç³¨Ø´μÃǨ ¨Ø´Ê¡´Ñ ´Ò‹ ¹) พื้นที่ชวงดังกลาวจะกําหนดตามภารกิจของเจาหนาที่ โดยพื้นท่ีเฝาสังเกตจะเริ่มต้ังแต สน้ิ สุด แนวเบยี่ งการจราจร ระยะทางของพื้นท่บี ริเวณจดุ ตรวจ พิจารณาจาก กาํ ลังพล ยานพาหนะ ท่ตี อ งใช Termination Area มีการคืนสภาพการจราจรปกติ โดยวางกรวยยาง เพ่ือคืนชองจราจรระยะทางประมาณ ๓๐-๕๐ เมตร ตามความเหมาะสม ¡ÒÃầ‹ ¾×é¹·ÕèºÃàÔ Ç³¨Ø´μÃǨáμÅ‹ оé¹× ·àÕè ¾×èÍãËŒà¡´Ô ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÂÑ (áμÅ‹ оé×¹·èμÕ ÍŒ §ÁÕÃÐÂÐËÒ‹ § à¾×Íè ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÑÂ) ๑ พงษสันต คงตรแี กว (๒๕๕๑), การตรวจจับความผดิ จราจร Traffic Surveillance เอกสารประกอบการสอนวิชาจราจร, นครปฐม : โรงเรียนนายรอ ยตํารวจ ๒ Stuster JW, Blowers PA. Experimental evaluation of sobriety checkpoint programs. Washington, DC: U.S. Department of Transportation, National Highway Safety Traffic Administration, ๑๙๙๕. DOT HS ๘๐๘ ๒๘๗

๑๘๑ บทท่ี ๕ การบังคบั ใชก ฎหมายใหม ปี ระสิทธิภาพ õ.ñ ¨ÔμÇÔ·ÂÒ㹡Òúѧ¤ºÑ 㪡Œ ®ËÁÒ ¨μÔ Ç·Ô ÂÒ หมายถงึ วชิ าทว่ี า ดว ยการศกึ ษาเกย่ี วกบั พฤตกิ รรม หรอื กริ ยิ าอาการของมนษุ ย รวมถึงความพยายามที่จะศึกษาวามีอะไรบางหรือตัวแปรใดบาง ในสถานการณใดที่เกี่ยวของกับการ ทาํ ใหเ กดิ พฤตกิ รรมตา ง ๆ ซง่ึ ขอ มลู ดงั กลา วจะทาํ ใหส ามารถคาดคะเน หรอื พยากรณไ ดโ ดยใชแ นวทาง หรอื วิธกี ารทางวิทยาศาสตรเ ปน เคร่อื งมือชว ยในการวเิ คราะห ปญ หาดา นการจราจรทเ่ี กดิ ขนึ้ ทาํ ใหม คี วามจาํ เปน อยา งยง่ิ ทจ่ี ะตอ งมกี ารกาํ หนดวธิ กี าร เชงิ กลยทุ ธใ หส งั คมไดร บั รถู งึ ปญ หา ตระหนกั วา เปน ปญ หาทสี่ าํ คญั ของสงั คม โดยมงุ เปา ไปยงั ทศั นคติ และพฤตกิ รรมของประชาชนในการใชร ถใชถ นน วธิ กี ารทางจติ วทิ ยา หรอื จติ วทิ ยาจราจรไดถ กู นาํ มาใช ในประเทศท่พี ัฒนาแลว ทงั้ หลาย อยา งเชน ประเทศญป่ี ุน เปน วิถที างในการเรยี นรคู วามจรงิ เก่ียวกบั ปญ หาการขบั ข่ี และการใชพ ื้นที่ของถนนรวมกบั คนอนื่ ๆ และครอบคลมุ ในเรอื่ งของการใหการศกึ ษา เพือ่ สรา งวัฒนธรรมความปลอดภัยดวย การบังคับใชก ฎหมายเปนเครอ่ื งมอื อยา งหนึ่งในทางจติ วทิ ยา เพอ่ื ใหเ กดิ การแปลงพฤตกิ รรมทด่ี ใี นการใชร ถใชถ นน ขณะเดยี วกนั ตอ งคาํ นงึ ถงึ กระบวนการปรบั เปลยี่ น พฤติกรรมใหครบกระบวนการ โดยเฉพาะอยางยิ่งตองแกไขสาเหตุนํากอนการกระทําพฤติกรรม การขบั ข่ีที่ละเมิดกฎหมาย ในสวนของการบังคับใชกฎหมายซึ่งเปนบทบาทสําคัญของตํารวจ ตองใหความสําคัญ ตอการสรางการยอมรับ การบังคับใชกฎหมายของประชาชนและการปรับเปล่ียนพฤติกรรมการขับขี่ ทดี่ ขี ้ึน ดงั นั้น จติ วทิ ยาการบังคบั ใชก ฎหมายตอ งเปนการบรู ณาการดวยหลกั การเบื้องตน ๔ ประการ เขาดว ยกนั เพอ่ื ใหเกดิ ผลดงั ตอไปนี้คอื ñ. ãËŒ»ÃЪҪ¹ÃѺÃÙŒ¡Òúѧ¤ÑºãªŒ¡®ËÁÒÂÁÒ¡¢éÖ¹ ซ่ึงไดแก การต้ังจุดตรวจ และ ดา นจราจรในจดุ ตา งๆ ทเ่ี ดน ประชาชนเหน็ ไดช ดั เจน มกี ารเปลยี่ นสถานท่ี ความเขม งวดในการตรวจจบั และเวลาท่ีออกไปตรวจจบั อยูเรอ่ื ยๆ และในแตล ะทีมงานควรมตี ํารวจอยหู ลายๆ คน มกี ารแตง กาย ที่เหน็ เดน ชดั มีรายชอ่ื หัวหนา ชุดปฏิบัตกิ ารพรอ มหมายเลขโทรศพั ท ò. ó礏ãËŒÁÕ¡Òúѧ¤ÑºãªŒ¡®ËÁÒ«íéÒËÅÒÂæ ¤Ãéѧ เพื่อยํ้าใหผูขับข่ีและผูโดยสาร รถจกั รยานยนตท ราบวา มกี ารเสยี่ งในการถกู จับสูงไดใ นทุกที่และทุกเวลา หากมีการฝา ฝนกฎหมาย ó. Á¡Õ Òúѧ¤ÑºãªÍŒ ‹ҧࢌÁ§Ç´áÅÐÊมํ่าàÊÁÍ ไมม ีการแบง แยกหรือเลือกปฏบิ ตั ิ ซึง่ จะ นาํ ไปสูการเปลย่ี นแปลงอยางถาวรของพฤติกรรมของผูใชรถใชถนน ô. à¼Âá¾Ã‹¢ŒÍÁÙÅ¡Òúѧ¤ÑºãªŒ¡®ËÁÒÂÍ‹ҧá¾Ã‹ËÅÒ ทั้งน้ีเพราะกฎหมายจราจร เปนกฎหมายที่เกี่ยวของกับชีวิตประจําวันของผูใชรถใชถนนจึงตองอาศัยความรวมมือจากประชาชน ทัว่ ไป

๑๘๒ ฉะนั้น การบังคับใชกฎหมายของเจาหนาที่ตํารวจจราจร เพ่ือใหประชาชนปฏิบัติตาม กฎหมายดวยการรักษาวินยั ในการขับข่ี หรอื โดยสารยวดยานพาหนะ แมก ฎหมายไดม ขี อบังคบั ไวแลว ก็ตาม แตก็ไมไดหมายความวาผูใชรถใชถนนจะไมฝาฝนกฎหมายจราจร ตรงกันขามผูขับขี่กลับมอง ไมเ หน็ ความสาํ คญั ของกฎหมายจราจรดว ยซา้ํ ไป เนอื่ งจากเหน็ วา มโี ทษเลก็ นอ ย เปน เหตใุ หก ารปฏบิ ตั งิ าน ถูกผูบังคับบัญชา หรือแมแตประชาชนท่ัวไป ตําหนิติเตียน วาไมเขมงวดในการบังคับใชกฎหมาย จนเกดิ การกระทาํ ความผดิ กฎจราจรอยา งตอ เนอื่ ง และกลายเปน วฒั นธรรมทปี่ ฏบิ ตั ติ ามกนั มาอยา งผดิ ๆ จิตวิทยาการบังคับใชกฎหมายของเจาหนาที่ตํารวจจึงมีความจําเปนอยางย่ิงที่ตํารวจตองเรียนรู โดยเฉพาะอยางยิ่ง การปฏิบัติหนาที่ของตํารวจในยุคศตวรรษท่ี ๒๑ ซ่ึงเปนยุคของโลกแหงการใช เทคโนโลยี สังคมออนไลน (Social Media) หมายถึง สังคมท่ีมีการตอบสนองไดหลายทิศทาง โดยผานเครือขายอินเทอรเน็ต ซ่ึงก็คือ เว็บไซต ที่บุคคลบนโลกน้ีสามารถมีปฏิสัมพันธโตตอบกันได ขณะนเ้ี ทคโนโลยเี วบ็ ไดพ ฒั นาเขา สยู คุ ๔.๐ มกี ารพฒั นาเวบ็ ไซตท เี่ รยี กวา Web application คอื เวบ็ ไซต ท่ีมีโปรแกรมตางๆ มีการตอบโตกับผูใชงานมากข้ึน ซึ่งก็เปนประโยชนตอการพัฒนางานเจาหนาท่ี ตํารวจ ขณะเดียวกันก็เปนสื่อที่ตํารวจตองระมัดระวังเน่ืองจากความเจริญกาวหนาทางเทคโนโลยี ก็ทําใหคนรายใชเปนเคร่ืองมือในการจับผิดการปฏิบัติหนาที่ของตํารวจในหลายรูปแบบ เชน เมื่อไมพอใจการปฏิบัติงานของตํารวจก็จะหลอกลอใหตํารวจตกเปนเครื่องมือทางอารมณ แลว แอบถา ยคลปิ วดิ ีโอ ซ่งึ เจาหนาท่ีอาจถูกกลนั่ แกลงโดยรูเทาไมถ งึ การณไ ด การบงั คบั ใชก ฎหมายจงึ มสี ถานะเปน กลไกการลงโทษเพอ่ื ทาํ ใหพ ฤตกิ รรมทไี่ มเ หมาะสมยตุ ลิ ง อยางไรก็ตาม ¹Ñ¡¨ÔμÇÔ·ÂÒ์¹ÂéíÒÇ‹Ò ¡ÒÃŧâ·É·ÕèÁÕ»ÃÐÊÔ·¸ÔÀҾ㹡ÒûÃѺà»ÅÕè¹¾ÄμÔ¡ÃÃÁ¹Ñé¹ ¨ÐμÍŒ §à»¹š ä»â´Â·èÕ¼ÙŒ·¶Õè ¡Ù »ÃѺà»ÅèÕ¹¾Äμ¡Ô ÃÃÁÃºÑ ÃŒÙ (ãËŒ¤ÇÒÁÃ)ŒÙ ÇÒ‹ ¼Œ·Ù Õèŧâ·É (ตาํ ÃǨ) ¡ÃÐทํา ¡ÒÃŧâ·É´ŒÇÂà¨μ¹Ò·èÕ´Õ ÁØ‹§ËÇѧãËŒ¼ÙŒ¶Ù¡Å§â·Éä´Œ»ÃÐ⪹¨Ò¡¡ÒûÃѺà»ÅÕè¹¾ÄμÔ¡ÃÃÁ¹éѹ Í¡Õ ·§éÑ ¡ÒÃŧâ·É¨ÐμÍŒ §äÁท‹ าํ ã˼Œ ¶ŒÙ ¡Ù ŧâ·ÉÃʌ٠¡Ö ÇÒ‹ μ¹àͧä´ÃŒ ºÑ ¡ÒÃŧâ·É·äÕè Áà‹ »¹š ¸ÃÃÁ ËÃÍ× Ã¹Ø áç à¡¹Ô ä»Í¡Õ ´ÇŒ  เนอ่ื งจากการลงโทษทร่ี นุ แรงจะทาํ ใหเ กดิ พฤตกิ รรมการตอ ตา น ดงั นนั้ เจา หนา ทตี่ าํ รวจ จราจรจงึ จาํ เปน ตอ งใชศ ลิ ปะทด่ี ใี นการบงั คบั ใชก ฎหมายเพอื่ ใหผ ขู บั ขย่ี อมรบั การบงั คบั ใชก ฎหมายนน้ั ไมเ กิดการตอตาน หรอื มีทัศนคตทิ ีไ่ มด ีตอ ตาํ รวจ อกี ท้ังเกิดการปรับเปลย่ี นพฤติกรรมการใชรถใชถนน ทเ่ี ปนไปตามกฎหมายจราจรในที่สุด ÈÅÔ »Ð¡Òúѧ¤ºÑ 㪌¡®ËÁÒ¨ÃÒ¨Ãã¹ºÃºÔ ·Êѧ¤ÁÇѲ¹¸ÃÃÁä·Â เจา หนา ทต่ี าํ รวจจะตอ งแสดงบทบาทหนา ทด่ี งั ตอ ไปนใี้ หป รากฏแกส งั คมโดยทวั่ กนั ในพนื้ ที่ รบั ผดิ ชอบของแตล ะสถานเี พอื่ ใหส รา งความเขา ใจจนกลายเปน กระแสเชงิ บวกในสงั คม และเปน การสรา ง ความชอบธรรมในการปฏิบัติหนาที่ในการบังคับใชกฎหมายจราจรในบริบทที่สังคมไทยยังไมสามารถ แกไขเหตปุ จ จยั นําท่ีทําใหเกดิ พฤตกิ รรมที่ไมเ หมาะสมได ดังนี้ ñ. ËҾǡ การเดินเขาหาภาคีเครือขาย ผูมีสวนไดเสียในทุกกลุม ทุกอาชีพ และสรางความ สมั พนั ธท แี่ นน แฟน ในบรบิ ทของการทาํ งานรว มกนั โดยทตี่ าํ รวจเปด พนื้ ทใ่ี หภ าคเี ครอื ขา ยไดม สี ว นรว ม

๑๘๓ ในทกุ ขนั้ ตอนของกระบวนการทาํ งานนนั้ นอกจากจะทาํ ใหต าํ รวจมพี ลงั มวลชนในการรว มทาํ งานแลว ยังชวยเสริมสรางพลังอํานาจแกตํารวจในกรณีที่มีการตอตาน ตอรอง ขัดขืนการบังคับใชกฎหมาย อกี ดว ย สงิ่ ทค่ี วรตระหนกั คอื อยา คดิ ตดิ กรอบเพยี งการตดิ ตอ เชอ่ื มความสมั พนั ธก บั กลมุ ภาคี เครือขายท่ีเปนกลุมคนทํางานแตเพียงเทาน้ัน กลุมผูใชรถใชถนนก็นับวาเปนภาคีเครือขายที่สําคัญ เชน เดยี วกนั ไมว า จะเปน นกั เรยี น นสิ ติ นกั ศกึ ษา คนงาน กลมุ แมบ า น แมค า คนขบั รถโดยสารประจาํ ทาง เปน ตน อีกท้ังการสรางความสัมพันธก็ไมควรจํากัดวงกิจกรรมอยูเพียงการทํางาน ประชุม หารือรวมกันแตเพียงเทานั้น หากแตการเลนกีฬา การจัดกิจกรรมสันทนาการตางๆ ก็สามารถสราง ความสัมพันธที่แนนแฟนและนํามาซึ่งความรวมมือที่ดีท่ีอาจจะมากกวาการทําบันทึกขอตกลงรวม (MOU) ดวย ดังท่ีพบวาหนวยงานราชการ หรือสถานศึกษาหลายแหงทํา MOU รวมกับตํารวจ แตก็มิไดดําเนินการอยางเขมแข็งเทาท่ีควร ดังน้ัน การสรางเครือขายจึงควรเริ่มตนดวยการมุงเนนท่ี คุณภาพมากกวามุงเนนปริมาณ เม่ือความสัมพันธมีความใกลชิดแนนแฟนแลวจึงเพ่ิมจํานวนภาคี มากขนึ้ เรอื่ ยๆ ทงั้ นต้ี าํ รวจควรเรม่ิ ตน เดนิ เขา หาภาคที เ่ี ปน กลมุ เปา หมายทเี่ ฉพาะเจาะจงกบั ปญ หาดว ย ท้ังนี้ ตํารวจจราจรอาจจะใชเทคโนโลยีสารสนเทศในรูปแบบตางๆ เพ่ือสรางกลุม ทางสังคมใหมีความใกลชิดกันมากยิ่งขึ้น มีการติดตอสัมพันธกันโดยมีกิจกรรมในการทํางานดานการ จราจรรว มกันในรูปแบบตา งๆ เชน การใชร ะบบไลนกลุม Social Network เปน ตน การทํางานรวมกัน เปน โซนและการมองเหน็ ความเหมอื นความตา งระหวา งโซนอน่ื ๆ ในมติ เิ รอื่ งตา งๆ นน้ั อาจจะสามารถ สรา งบรรยากาศในการรว มมอื ทเี่ ขม แขง็ มากขน้ึ ทงั้ นเ้ี จา หนา ทต่ี าํ รวจจะตอ งทาํ การพจิ ารณาตามบรบิ ท ของสังคม วัฒนธรรมทีแ่ ตกตางกันไปในแตท อ งท่ี กลยุทธท่ดี ีของทแี่ หงหนง่ึ อาจจะไมเหมาะสมกบั อีก แหง หน่ึงกไ็ ด ส่ิงท่ีสําคัญในการเสริมพลังอํานาจใหตํารวจสามารถบังคับใชกฎหมายไดอยางมี ประสิทธิภาพ ลดการตอ ตา น และสรา งการยอมรบั จากประชาชนสว นรวมได คอื การสือ่ สารผานส่อื ตางๆ ที่มากพออยางทั่วถึง และตอเน่ืองถึงการกระทําของตํารวจทุกๆ กิจกรรม เนื่องจากจะทําให ประชาชนรบั รขู า วสารอยา งตอ เนอื่ ง ซมึ ซบั เขา ไปในภาพจาํ วา “ตาํ ÃǨÁ¤Õ ÇÒÁÁ§‹Ø Á¹èÑ Á¤Õ ÇÒÁ¾ÂÒÂÒÁ 㹡Òû¯ÔºμÑ Ô˹ŒÒ·ÕÍè ‹ҧàμçÁ¤ÇÒÁÊÒÁÒö ¶§Ö áÁŒÇÒ‹ ¨Ðทาํ §Ò¹´ÇŒ ¤ÇÒÁ¢Ò´á¤Å¹·Ã¾Ñ ÂÒ¡ÃμÒ‹ §æ â´ÂÁàÕ ¨μจํา¹§à¾×Íè ãË»Œ ÃЪҪ¹ Êдǡ ÃÇ´àÃÇç áÅж֧·ÕèËÁÒÂÍÂÒ‹ §»ÅÍ´ÀÂÑ ” ò. 㪢Œ ŒÍÁÅ٠໹š ÍÒÇØ¸·Ò§»˜ÞÞÒ㹡Ò÷íÒ§Ò¹ ตํารวจจราจรตองทํางานอยางมืออาชีพ (Professional) น่ันหมายความวา ตองใช หลกั วชิ าการ มขี อ มลู ในระดบั พน้ื ทที่ ส่ี ามารถนาํ มาใชป ระโยชนใ นการโนม นา ว ชกั จงู วางแผนการทาํ งาน ท้ังในสวนของตํารวจ และในสวนท่ีตองการใหภาคีเครือขายและผูมีสวนไดเสียเห็นความสําคัญ เห็นความจําเปนที่จะตองเขามารวมมือกันในการแกไขปองกันพฤติกรรมการขับข่ีท่ีละเมิด กฎหมายจราจร

๑๘๔ การนําขอมูลที่เฉพาะเจาะจง ที่เกิดข้ึนในพื้นที่แตละแหงมาใชน้ันจะสามารถสราง ความตระหนักในปญหาที่ทําใหประชาชนรับรูวาเปนปญหาใกลตัวไดมากกวาการใชขอมูลระดับชาติ ที่ไมเ ฉพาะเจาะจง อีกทั้งขอมูลจะทําใหการทํางานของตํารวจภายใตทรัพยากรท่ีจํากัดเปนไปอยางมี ประสทิ ธภิ าพมากขนึ้ ดว ย เรยี กไดว า สามารถแกป ญ หาตามความสาํ คญั กอ นหลงั สามารถแกป ญ หาได ถูกที่ ถูกคน ถูกเวลา โดยใชข อมลู ที่มปี ระสทิ ธิภาพในการตดั สนิ ใจ การทํางานอยา งมอื อาชพี น้ีจะสรา ง ศรัทธาและการยอมรับที่ดีในที่สดุ ó. ¡ÒûÃЪÒÊÁÑ ¾Ñ¹¸ã ¹§Ò¹¨ÃҨà “วิสัยทัศน” ในการประชาสัมพันธในงานจราจร “การสรางภาพลักษณที่ดี และการ สื่อสารงานจราจรสูสงั คม” ó.ñ ͧ¤»ÃСͺ¢Í§¡ÒûÃЪÒÊÑÁ¾¹Ñ ¸ã¹§Ò¹¨ÃҨà สามารถจาํ แนกองคป ระกอบสาํ คญั ของการประชาสมั พนั ธอ อกเปน ๔ ประการ คือ ๑. องคกร สถาบนั หรือหนวยงานในงานจราจร หนว ยงานจราจรแตละ สภ. ศูนยปฏิบัตกิ ารจราจร ๒. ขาวสารประชาสัมพันธในงานจราจร ขอมูลเก่ียวกับเสนทาง ทางลัด ถนนเสีย การเปดปดถนนเปนชวงเวลา การยายสถานที่ราชการ หางราน การซอมผิวทาง ขบวนแหประเพณีตางๆ ๓. สื่อประชาสัมพันธในงานจราจร สวนใหญตํารวจมักจัดทําเปนแผนปาย ปายสัญลกั ษณ การออกรายการวทิ ยุ ทวี ที องถิ่น หนังสอื พมิ พท อ งถ่ิน ในปจจุบันมสี อ่ื อิเลก็ ทรอนกิ ส ทีใ่ ชใ นชีวิตประจําวนั มากข้ึน แมจะเขา ถงึ ไดน อ ยราย แตสามารถแพรขา วไดอยางรวดเรว็ เชน เฟซบกุ (facebook) ไลน (line) ๔. กลุมประชาชนเปาหมายของการประชาสัมพันธในงานจราจร ไดแก กลุม บุคคลหรอื ประชาชนทีเ่ ปนเปา หมายในการสอื่ สารประชาสัมพันธค รงั้ น้นั ๆ ดงั น้ี ๔.๑ กลุมประชาชนภายใน เจาหนา ที่ตาํ รวจทุกนาย ไวส ําหรบั สอื่ สาร รับคาํ สง่ั แสดงผลการปฏบิ ัติ ๔.๒ กลุมประชาชนภายนอก กลุมประชาชนทว่ั ไป ó.ò ¡ÒûÃЪÒÊÑÁ¾¹Ñ ¸à ª§Ô Ã¡Ø (Pro-active Public Relation) หมายถึง การประชาสัมพันธที่มีการชี้แจงและใหความรูความเขาใจกับกลุม เปาหมายโดยตรง โดยมีการวางแผนไวลวงหนากอนที่จะมีกิจกรรม หรือเหตุการณใด เพื่อใหเกิด ความยอมรบั และความรว มมือ

๑๘๕ Â·Ø ¸ÈÒÊμᏠÒûÃЪÒÊÁÑ ¾¹Ñ ¸àªÔ§ÃØ¡ ÁÕ ô »ÃСÒà ¤×Í ñ. Â·Ø ¸ÈÒÊμÏ¡ÒÃà¼Âá¾Ã‹¢‹ÒÇÊÒà »ÃСͺ´ŒÇ ๑.๑ มีการวางแผนปฏบิ ตั กิ ารประชาสัมพันธ ๑.๒ เนน ความชัดเจนของการกาํ หนดวิธกี ารตางๆ ๑.๓ ดําเนินยทุ ธวิธตี ามแผนใหครบถว น ò. Â·Ø ¸ÈÒÊμᏠÒêѡ¨Ù§ã¨ »ÃСͺ´ÇŒ  ๒.๑ การกําหนดแผน หรือวิธีการท่ีจะจูงใจประชาชนกลุมเปาหมาย ใหเ หน็ พอ งกับเนอ้ื หาท่ีนาํ ไปประชาสมั พันธอ ยางเปนขนั้ ตอน ๒.๒ นําขาวสารใหถึงผูรับสารกลุมเปาหมายโดยตรงแบบเผชิญหนา (face to face) ó. ÂØ·¸ÈÒÊμÏ¡ÒèѴͧ¤¡Òà ໚¹¡ÒÃกํา˹´μÑǺؤ¤Åทํา§Ò¹ μŒÍ§ãªŒ ºØ¤Åҡ÷ÁÕè Õ¤³Ø ÊÁºμÑ ´Ô ѧ¹Õé ๓.๑ เปนนักประชาสัมพันธท่ีแทจริง เปนผูชํานาญในวิชาชีพ การประชาสมั พันธ ๓.๒ มภี ูมปิ ญญา ๓.๓ มคี วามรับผิดชอบ ๓.๔ มีความรอบรใู นงานหลายสาขาวิชาชพี ๓.๕ มคี วามอดทน เสียสละ มานะ สงู าน ๓.๖ มีจรรยาบรรณ ๓.๗ ไมหวนั่ ตอ ปญ หา ô. Â·Ø ¸ÈÒÊμÏ¡ÒÃäμÃμ‹ Ãͧ เปนการทบทวนและใครค รวญการดาํ เนนิ การ ประชาสัมพันธที่ดําเนินไปแลว เพื่อจะไดปรับแผนหรือแกไขปญหาใหสอดคลองกับเหตุการณท่ีกําลัง เผชิญอยูไดท นั ทว งที การส่ือสารเพื่อการประชาสัมพนั ธ การส่ือสารเชิงรุก ๑. กอ เสริมสรา ง ๑. ใหค วามรู ๒. กนั ปองกนั ๒. สรา งความเขา ใจ ๓. แก รกั ษา ๓. เนน การแสดงออก ๔. กู ฟนฟู ๔. รวดเร็วฉับไว ๕. ตรงประเดน็

๑๘๖ ó.ó ¡ÒÃãªÊŒ Íè× »ÃЪÒÊÁÑ ¾¹Ñ ¸μÒ‹ §æ ã¹§Ò¹¨ÃҨà ñ. ÊÍ×è ºØ¤¤Å ประกอบดวย - สาํ นักงานตาํ รวจแหงชาติ - กองบญั ชาการ - กองบงั คับการ - กองกาํ กบั การ - ขา ราชการตาํ รวจ - บคุ คลท่ีมชี ่ือเสยี งหรือผูน าํ ชมุ ชน ò. ÊÍ×è ʧèÔ ¾ÔÁ¾ ประกอบดวย - ใบปลวิ แผน พับ โปสเตอร - จดหมายขา ว - ปา ยประกาศ - สตกิ๊ เกอร - แผน ปา ยประชาสมั พันธ ó. Ê×èÍÁÇŪ¹ ประกอบดว ย - สถานีวิทยุขาวสารดา นจราจร ระดับประเทศ/ระดบั ทองถ่นิ - โทรทศั น - หนงั สือพมิ พ - นติ ยสาร - ภาพยนตร - เครอื ขา ยท่ใี ชใ นการประชาสัมพนั ธ (Connection) ô. ÊÍè× ¡¨Ô ¡ÃÃÁ ประกอบดว ย - นิทรรศการ - โครงการ - การประกวด - การแขงขัน - การรณรงค õ. ÊèÍ× âÊμ·ÈÑ ¹ ประกอบดวย - ปา ยสลบั ขอความ - เวบ็ ไซต - Application - Line - Facebook - Video Clip - Spot โฆษณา

๑๘๗ ó.ô à·¤¹Ô¤¡ÒÃ㪌Ê×Íè »ÃЪÒÊÑÁ¾Ñ¹¸ ● สะดวกในการเขาถึงหลายชองทาง ● งายตอ การจดจํา ● รวดเร็วและทันสถานการณ ● ใชข อ ความท่ที นั สมัย เขาใจงา ยและนา สนใจ ó.õ ÀÒ¤Õà¤Ã×Í¢‹Ò»ÃЪÒÊÁÑ ¾Ñ¹¸ ● ปจจัยแหงความสําเร็จในงานประชาสัมพันธ คือ การมีสวนรวม ทุกภาคสวนท้ังภายในและภายนอกองคกรอยางเขมแข็ง เชน ชุมชน ผูนําทองถ่ิน หนวยราชการ ส่ือมวลชน สถานศกึ ษา เอกชน ฯลฯ ● การสรางสอ่ื สมั พันธก บั องคก รภายในและภายนอกองคก ร ● ส่ือมวลชนทุกแขนงเพื่อสรางสัมพันธไมตรี/ทุกภาคสวนท้ังภาครัฐ และเอกชน ● การสง ขาวสารเปนไปอยางตอเนอ่ื งและชัดเจน ● ตดิ ตอ ประสานงานโดยขอหมายเลขโทรศพั ท e-mail, line หรอื เทคโนโลยี การสงขอมูลอนื่ ๆ ท่สี ะดวก ● มีการสรางความสัมพันธท่ีดีโดยมีการนัดกับสื่อและองคกรภายใน เดอื นละ ๑ คร้งั หรอื ประชมุ หรือในรปู แบบสภากาแฟ ¡ÒûÃЪÒÊÑÁ¾¹Ñ ¸· ´Õè ·Õ ÊÕè Ø´ã¹§Ò¹¨ÃҨà ¤Í× “à¨ÒŒ ˹ŒÒ·Õตè าํ ÃǨ·Ø¡¹Ò” º·ÊÃØ» การทงี่ านประชาสมั พนั ธข องหนว ยงานจราจรจะดาํ เนนิ ไปไดอ ยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ ยอ มขนึ้ อยูกับปจจัยหลายๆ ดาน ที่สําคัญท่ีสุดคือ ตัวของขาราชการตํารวจจราจรซ่ึงปฏิบัติหนาท่ีอยูบน ทองถนนนั่นเอง ถาพวกเขามีการประชาสัมพันธท่ีดี มีความสามารถในการประชาสัมพันธใหแก หนวยงาน รูจักการสรางความเขาใจอันดีใหเกิดแกประชาชน หรือหนวยงานท่ีเกี่ยวของแลว งานประชาสมั พนั ธของหนวยงานจราจรก็ยอ มจะประสบผลสําเรจ็ ไดโดยงา ย ตาํ รวจจราจรทเี่ ปน นกั ประชาสมั พนั ธ จะตอ งเปน ตาํ รวจทท่ี าํ งานเพอื่ การสรา งสรรค ธาํ รงไว ซ่ึงความสัมพันธอันดีงามระหวางหนวยงานจราจรกับกลุมประชาชน ตํารวจที่วานี้ไมจําเปนตองเปน ตาํ รวจทมี่ รี ปู รา งหนา ตาดี มบี คุ ลกิ ทชี่ วนตอ งตาผพู บเหน็ หรอื คลอ งแคลว พดู เกง เสมอไป แตส รปุ แลว ควรจะตองเปนผูมีคุณสมบัติดังน้ี คือ เฉลียวฉลาด ซ่ือสัตยสุจริต มีความคิดริเร่ิมสรางสรรค มคี วามสามารถในการเขียน พดู ไดดี มคี ณุ ธรรม กลาทจี่ ะทําในสง่ิ ท่ีถูกตอ ง รูจักข้นั ตอนในการทาํ งาน และที่สําคัญท่ีสุดก็คือ ตองมีความรูในการประชาสัมพันธเปนอยางดี จึงจะเปนนักประชาสัมพันธ ทสี่ มบูรณแบบได

๑๘๘ ตาํ รวจไทยทกุ คนตอ งตระหนกั วา วชิ าชพี ของตนเองนนั้ ยอ มจะตอ งเกย่ี วขอ งกบั ประชาชน ไมท างตรงกท็ างออ ม การศกึ ษาวา ทาํ อยา งไรจงึ จะสามารถเขา กบั ประชาชนไดด ี จงึ เปน เรอ่ื งทน่ี า สนใจ ยอมหวังวาถา ไดศกึ ษาเรยี นรเู ขาใจถึงหลกั การประชาสัมพันธแลว ก็นา จะนาํ วชิ าความรูท่ีไดร ับนไ้ี ปใช ใหเ ปน ประโยชนใ นการทาํ งานตอ ไปได สดุ ทา ยนข้ี อฝากคตเิ ตอื นใจสาํ หรบั ตาํ รวจจราจรทต่ี อ งการเปน นกั ประชาสมั พนั ธท ด่ี วี า “ภาพลกั ษณข องเราจะดหี รอื เลว เปน ผลมาจากการประพฤตปิ ฏบิ ตั ขิ องตวั เราเอง โดยแท” (the result of our conduct) ซงึ่ เปน คติของ ARISTOTLE นกั ปราชญผ ูย่ิงใหญของโลก ท่ีกลา วไวเ มือ่ หลายพันปมาแลว และก็ยงั คงเปน อมตะอยเู สมอตราบจนทุกวนั นี้ ô. ¡Òú§Ñ ¤Ñºãª¡Œ ®ËÁÒ·ËÕè ÅÒ¡ËÅÒÂáÅÐàËÁÒÐÊÁ การบงั คบั ใชก ฎหมายเพอื่ การปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมนนั้ เปน ขน้ั ตอนสดุ ทา ยทน่ี าํ มาใช ภายหลังจากมีการใชกลยทุ ธต า งๆ อยา งครบถวนมาระยะเวลาหน่ึงแลว นนั่ หมายถงึ ตํารวจตองผา น ขนั้ ตอนการกระทําดังตอไปนม้ี าแลว ๑) มีการรวบรวมขอมูล และนําเสนอขอมูลที่เปนปญหาที่เกิดข้ึนในชุมชนแหงนั้น แลว จนทําใหประชาชนตระหนักเห็นปญหา และเกิดความเขาใจวาตํารวจมีความต้ังใจ มุงมั่นที่จะ แกป ญหาเพอ่ื ใหป ระชาชนไดรบั ผลประโยชนจากการแกไ ขปองกันปญหาเหลาน้นั ๒) มกี ารสรา งภาคเี ครอื ขา ยทม่ี คี ณุ ภาพ มคี วามหลากหลาย มคี วามเปน ผมู สี ว นไดเ สยี ทุกภาคสวน และมีจํานวนท่ีมากพอโดยมีความสัมพันธท่ีดีตอกันระหวางตํารวจจราจรกับภาคี เหลานนั้ ๓) มีการสอ่ื สารในรปู แบบตางๆ จนสามารถสรา งกระแสทางสงั คมในระดับชุมชน ท่ีตอ งการแกป ญหา จนเปน ที่รบั รกู นั อยางทัว่ ถึง ชดั เจน ๔) มีการส่ือสารใหเห็นวาตํารวจคํานึงถึงความสะดวก ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพยสนิ ของประชาชนเปน สาํ คัญ และมงุ มัน่ ทาํ เพอ่ื ใหประชาชนในชุมชนปลอดภยั และผาสกุ ๕) ดําเนินการบังคับใชกฎหมายในระดับที่มีความรุนแรงนอยและเพิ่มระดับ ตามพฤติกรรมการกระทําผิด โดยจะตองยึดมั่นในหลักความยุติธรรมในการบังคับใชกฎหมาย และแสดงใหป ระชาชนเหน็ ความโปรงใสในการดาํ เนนิ การเพื่อสรา งศรัทธาและความเช่อื มั่น ท้ังนี้ ควรดําเนินการสื่อสารทางสังคมอยางตอเนื่องโดยเปล่ียนแปลงกลยุทธ ในการสอ่ื สารดวย เพอื่ ดึงดูดความสนใจ สรา งการจดจาํ และการยอมรับ º·ÊÃ»Ø จิตวิทยาสังคมกับการบังคับใชกฎหมายจราจร เปนการท่ีตํารวจจราจรพึงตระหนักวา การทาํ งานของตาํ รวจเปน ปฏบิ ตั กิ ารทางสงั คมจติ วทิ ยาโดยมเี ปา หมายเพอ่ื เปลย่ี นและสรา งพฤตกิ รรม การใชรถใชถนนของประชาชนใหเปนไปอยางปลอดภัยและเคารพสิทธิในการใชรถใชถนนซึ่งเปนพื้นท่ี สาธารณะรว มกนั

๑๘๙ การปฏิบัตกิ ารทางสงั คมจติ วิทยา มดี ังตอไปนี้ ๑. ทบทวน พัฒนาตนเอง เพ่ือสรางศรัทธาและการยอมรับ โดยใชหลัก “สุภาพบุรุษ จราจร” ๒. เขาใจประวัติศาสตร สังคม วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของประชาชนที่เก่ียวของกับ การใชร ถใชถ นนอยา งลกึ ซงึ้ เพอ่ื ทาํ ความเขา ใจสาเหตขุ องปญ หากอ นคดิ วางแผนแกไ ขปญ หาไดอ ยา ง ตรงเปา หมาย ๓. ใหความสําคัญกับการจัดเก็บขอมูลท่ีมีประสิทธิภาพเพ่ือนําขอมูลมาใชประโยชน ใหมากทส่ี ุด เรยี กวาเปนการทาํ งานในรปู แบบตาํ รวจมืออาชีพ ๔. แสดงบทบาทของนักส่ือสารมวลชนในทุกรูปแบบ และเปดชองทางการส่ือสาร ที่สามารถเขาถงึ กลุมเปา หมายใหไดมากท่สี ดุ เพือ่ สรางความรู ความประทบั ใจ ความเชือ่ มัน่ ศรทั ธา รว มกันกบั ประชาชน โดยทํางานเปน ทีมในแนวระนาบ และใหเกียรติกบั ทุกๆ ฝา ย อีกทั้งพึงหลีกเลี่ยง การแสดงภาพเดนเพียงลาํ พงั หรือเฉพาะกลมุ เทา น้ัน เพือ่ ปองกนั การเกดิ กลุมตรงขา ม ๕. เทคนคิ การสอื่ สารจะตอ งทาํ ใหเ หน็ เนอื้ หาสาระของความพยายามอยา งแรงกลา ของ ตาํ รวจที่จะกระทาํ ทกุ วิถีทางในการรกั ษาชวี ติ และทรัพยส นิ ของประชาชนในการใชรถใชถ นน นําเสนอ อยางตอเนื่อง ใชวิธีการส่ือสารที่หลากหลาย เปล่ียนแปลงไปตามบริบทสถานการณเพื่อสราง ความสนใจในการรบั สาร ๖. สรา งดา นในการปะทะกอ นการปะทะกบั ตาํ รวจ โดยการใชพ ลงั มวลชนทม่ี พี ลงั อาํ นาจ ในการปองกันหรือบังคับปรับเปลี่ยนพฤติกรรม กอนที่จะถึงขั้นการดําเนินการบังคับใชกฎหมายของ ตาํ รวจ ยกตวั ยา งเชน ทมี เจา หนา ทตี่ าํ รวจจราจรของสถานตี าํ รวจแมร มิ จงั หวดั นา น สรา งความสมั พนั ธ อยางเขมแข็งกับภาคีเครือขายทุกภาคสวนโดยเฉพาะอยางย่ิงกลุมผูนําชุมชนซ่ึงเปนผูนําเชิง บารมแี ละใหข อ มลู ใหแ นวทางแลกเปลย่ี นโนม นา วใหผ นู าํ เหลา นเี้ กดิ แรงบนั ดาลใจในการชว ยรกั ษาชวี ติ ของชาวแมร ิมจากอบุ ัตเิ หตทุ างถนน ทาํ ใหผูนํามสี ว นรวมอยา งเขมแข็งในรูปแบบตา งๆ เชน การสรา ง กฎระเบยี บหมบู า นในการปกครองดแู ล บงั คบั ควบคมุ พฤตกิ รรมระหวา งกนั การสอ่ื สารโดยการใชเ สยี ง ตามสายเพอ่ื เตอื นลกู บา น และเยาวชนใหส วมหมวกนริ ภยั “พนี่ อ งทกุ ทา น วนั นจ้ี ะขบั ขร่ี ถมอเตอรไ ซค อยาลืมใสหมวกกันน็อกดวย หากทานไมใสนอกจากจะเปนการปองกันอันตรายแลว ยังจะถูกตํารวจ จับดวย ตํารวจแจง มาวา ต้ังแตน ี้จะจบั จรงิ แลว ปรับ ๕๐๐ บาท และไมสามารถชว ยไดด ว ย จึงขอเตอื น พีน่ อ งไว อยา ลืมสวมหมวกกันน็อกดวย” การกระทาํ ดงั กลา วจะเปน การลดแรงกดดนั ลดการตอ ตา นและสรา งการยอมรบั การบงั คบั ใชก ฎหมายโดยประชาชนยังมีทัศนคตทิ ่ดี ตี อ ตํารวจดว ย

๑๙๐ õ.ò ·¡Ñ ÉÐ㹡Òú§Ñ ¤Ñºãª¡Œ ®ËÁÒ การบังคับใชก ฎหมายจราจร หมายถงึ การบังคับใหผใู ชรถใชถ นนไดป ฏิบัติตามกฎหมาย ขอบังคับเกี่ยวกับการจราจร การขนสงทางบก เพื่อความเปนระเบียบเรียบรอยของสังคม และเพ่ือ เปน การสรา งวนิ ยั ในการขบั ขใ่ี หแ กป ระชาชนผใู ชร ถใชถ นน การบงั คบั ใชก ฎหมายจราจร เปน มาตรการ ทสี่ าํ คญั มาตรการหนง่ึ ในการแกไ ขปญ หาจราจร ซงึ่ การบงั คบั ดว ยกฎหมายใหผ ใู ชร ถใชถ นนตอ งปฏบิ ตั ิ ตามกฎหมายจราจร เพอ่ื ใหเ กดิ ความเรยี บรอ ยในสงั คม โดยมจี ดุ ประสงคเ พอื่ ทจ่ี ะเปน การขม ขมู ากกวา จะเปน การแกแ คน ผกู ระทาํ ความผดิ กฎหมายจราจรทอี่ อกมาใชบ งั คบั กเ็ พอื่ ความสะดวกและปลอดภยั ของผูใชรถใชถนน วิธีการท่ีจะทําใหการบังคับใชกฎหมายมีประสิทธิภาพ ก็โดยผานการดําเนินการ ตามกระบวนการยตุ ธิ รรม ซงึ่ หมายความวา หนว ยงานในกระบวนการยตุ ธิ รรม คอื ตาํ รวจ อยั การ ศาล และราชทัณฑ จะตองประสานกันในการท่ีจะทําใหการบังคับใชกฎหมายมีความแนนอน รวดเร็ว เสมอภาค และมีโทษท่ีเหมาะสม ซ่ึงจะทําใหกฎหมายมีผลใชบังคับในการขมขูยับยั้งใหคนเกิด ความเกรงกลัวและไมกลา ท่ีจะกระทาํ ผิด ความแนน อน รวดเร็ว เสมอภาค และการมโี ทษทเ่ี หมาะสม สาํ หรับการบงั คับใชกฎหมายแยกออกพจิ ารณา ดงั น้ี ๒.๑ การบังคบั ใชก ฎหมายตอ งมีความแนนอน การทาํ ใหก ารบงั คบั ใชก ฎหมายมคี วามแนน อน หมายความวา จะตอ งทาํ ใหผ กู ระทาํ ความผดิ มคี วามรสู ึกวามโี อกาสทจ่ี ะถูกจับกมุ และถกู ลงโทษ เมอ่ื มกี ารกระทําความผดิ หากเมอื่ มกี าร กระทําความผิดเกิดข้ึนมาแลว ผูกระทําความผิดสามารถหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม และการถูกลงโทษ ไปไดแ ลว ผกู ระทาํ ความผดิ กจ็ ะไมเ กดิ ความเกรงกลวั เพราะคดิ วา มโี อกาสทจ่ี ะหลดุ รอดจากการถกู จบั กมุ ไปได และคมุ คา ทจี่ ะเสย่ี งตอ การกระทาํ ความผดิ เนอ่ื งจากมโี อกาสทจี่ ะไดร บั ประโยชนจ ากการกระทาํ ความผดิ แตผ ลเสียไมมี หรือมีโอกาสท่ีจะไดร ับผลเสยี นอยมาก ๒.๒ การบังคบั ใชกฎหมายตอ งมีความรวดเรว็ การทจี่ ะทาํ ใหก ารบงั คบั ใชก ฎหมายมปี ระสทิ ธภิ าพ นอกจากจะตอ งทาํ ใหก ารบงั คบั ใชก ฎหมายมคี วามแนน อนแลว ยงั จะตอ งทาํ ใหก ารบงั คบั ใชก ฎหมายมคี วามรวดเรว็ ดว ย ทวี่ า การบงั คบั ใชกฎหมายมีความรวดเร็ว หมายความวา หลังจากท่ีมีการกระทําความผิดเกิดขึ้นแลว จะตองมีการ จับกุมลงโทษผูกระทําความผิดใหไดอยางรวดเร็ว เพ่ือใหผูกระทําความผิดเกิดความเกรงกลัวไมกลา กระทาํ ความผดิ อกี ซง่ึ ตา งกบั กรณที มี่ กี ารกระทาํ ความผดิ เกดิ ขน้ึ แตส ามารถจบั กมุ ไดเ มอ่ื เวลาทลี่ ว งเลย มา ๓-๔ ป แลว ผลในการขม ขูย บั ยงั้ จะลดลง เพราะคนโดยทว่ั ไปจะมองไมเ หน็ ตวั อยางหรอื ผลรา ย ท่ีไดรับจากการกระทําความผิด เชน มีคดีฆาตกรรมอยางโหดเห้ียม เปนขาวตามหนาหนังสือพิมพ แตไ มส ามารถจบั กมุ ผกู ระทาํ ความผดิ มาลงโทษไดอ ยา งรวดเรว็ หรอื จบั กมุ ผกู ระทาํ ความผดิ ไดเ มอื่ ระยะ เวลาไดผ า นไปแลว ๒-๓ ป ประชาชนกจ็ ะลมื เหตกุ ารณด งั กลา ว หรอื กรณที ม่ี กี ารจบั กมุ ไดอ ยา งรวดเรว็ แตก ารพจิ ารณาคดเี ปน ไปอยา งลา ชา ใชเ วลา ๒-๓ ป แมผ กู ระทาํ ความผดิ จะถกู ลงโทษ แตป ระชาชนกอ็ าจ จะลมื เลอื นเหตกุ ารณท เ่ี กดิ ขน้ึ ไปแลว เชน นจ้ี ะทาํ ใหผ ลในการขม ขู ยบั ยงั้ ของการบงั คบั ใชก ฎหมายลดลง

๑๙๑ ดงั นั้น เพ่ือจะทําใหวัตถุประสงคของการบังคบั ใชก ฎหมาย อนั เปน การขมขูยบั ยัง้ เปนไปอยางมีประสิทธิภาพมากยิ่งข้ึน กระบวนการยุติธรรมของไทย จึงตองตอบสนองตอการเรง การดําเนินการเก่ียวกับคดีสําคัญๆ ที่เปนท่ีสะเทือนขวัญประชาชน และท่ีประชาชนใหความสนใจ โดยเม่ือตํารวจสามารถจับกุมผูกระทําผิดไดอยางรวดเร็วภายในเวลาไมก่ีวัน ก็สามารถเรงทําสํานวน สงพนักงานอัยการเพื่อยื่นฟองตอศาล ศาลก็จะไดเรงการพิจารณาและตัดสินดวยความรวดเร็ว โดยใชเ วลาเพยี ง ๑๕ วนั นบั แตจ บั กมุ ผกู ระทาํ ความผดิ ได เปน ตน ซงึ่ ยอ มจะทาํ ใหป ระชาชนไดเ หน็ ผล ของโทษทผ่ี กู ระทาํ ความผดิ ไดร บั จากการกระทาํ ความผดิ และทาํ ใหก ารบงั คบั ใชก ฎหมายมปี ระสทิ ธภิ าพ เพม่ิ มากขน้ึ ๒.๓ การบงั คับใชกฎหมายตองยดึ หลกั เสมอภาค การบงั คบั ใชก ฎหมายตอ งยดึ หลกั ความเสมอภาค กลา วคอื จะตอ งบงั คบั ใชก ฎหมาย กับบคุ คลทกุ คนโดยไมมีการเลือกปฏบิ ตั ิ แตจะตองมกี ารปฏิบัติดว ยความเทาเทยี มกนั โดยไมค ํานงึ ถงึ ความแตกตา งในเรอื่ ง ฐานะ อํานาจ ตําแหนง ศาสนา เช้ือชาติ สีผิว และอน่ื ๆ มิฉะนัน้ จะทําใหการ บงั คับใชกฎหมายไมมผี ลในการขม ขู ยับย้งั หรอื ทาํ ใหผ ลในการขม ขู ยบั ยั้งลดลง การบังคับใชกฎหมายที่ไมเทาเทียมกัน จะมีผลทําใหผลในการขมขู ยับย้ังลดลง น้ันเน่ืองมาจากผูท่ีคิดวาตนมีอภิสิทธิ์ หรือจะเปนผูท่ีมีสิทธิไดรับการยกเวนในการถูกจับกุมลงโทษ และจะไมเกรงกลัวตอการกระทําความผิด เพราะคิดวา เมื่อทําความผิดแลวจะสามารถหลุดรอด หรอื ไดร บั การละเวน ในการบงั คบั ใชก ฎหมายได นอกจากนก้ี ารบงั คบั ใชก ฎหมายทไี่ มเ ทา เทยี มกนั ยงั เปน การ เปด ชองทางใหม ขี อยกเวน หรือขอ แกต วั ในการหลบหนจี ากการดําเนนิ คดีลงโทษได ซึง่ จะมผี ลตามมา ก็คือ ทําใหคนไมเกรงกลัวการบังคับใชกฎหมาย ด่ังคํากลาวท่ีวา “บุคคลทุกคนมีสิทธิเทาเทียมกัน ภายใตกฎหมาย ดังนั้นไมวาผูใดกระทําความผิดในลักษณะเดียวกัน จะตองไดรับโทษเชนเดียวกัน” หรอื กลา วอกี นยั หนง่ึ การบงั คบั ใชก ฎหมายและการลงโทษ จะตอ งกระทาํ อยา งเสมอภาค และเทา เทยี มกนั โดยคาํ นงึ ถึง “การกระทําความผดิ ” มใิ ช “ผูกระทาํ ความผดิ ” ๒.๔ การบังคับใชกฎหมายจะตอ งมบี ทลงโทษทีเ่ หมาะสม ปจจัยที่สําคัญประการหน่ึงท่ีจะทําใหการบังคับใชกฎหมายมีผลในการขมขูหรือ ยบั ยงั้ หรอื ไมน น้ั อยทู บ่ี ทโทษ ถา บทลงโทษไมร นุ แรงหรอื มบี ทลงโทษทเี่ บา กจ็ ะทาํ ใหผ กู ระทาํ ความผดิ และคนทว่ั ไปไมเ กดิ ความเกรงกลวั เพราะผลประโยชนท จ่ี ะไดร บั จากการกระทาํ ความผดิ จะมมี ากกวา ผลรา ยทไ่ี ดร บั จากการถกู ลงโทษ ถอื ไดว า เปน สง่ิ ทคี่ มุ คา ตอ การเสย่ี ง “การลงโทษจะตอ งใหเ ปน อตั ราสว น กบั การกระทาํ ความผดิ ” กลาวคือ โทษท่จี ะลงนั้น จะตองมากพอทจ่ี ะทาํ ใหผ กู ระทาํ ความผดิ เกิดความ รสู กึ เกรงกลวั และสญู เสยี เกนิ กวา ประโยชนท ไ่ี ดร บั จากการกระทาํ ความผดิ ดงั นนั้ การทจ่ี ะทาํ ใหก ารบงั คบั ใชกฎหมายมีผลทําใหผูกระทําความผิดเกิดความเกรงกลัวจะตองมีบทลงโทษที่เหมาะสมกับความผิด คําวา “เหมาะสม” หมายความวา โทษที่จะลงจะตองไมเบาจนเกินไป และไมหนักจนเกินไป เพราะหากการบงั คบั ใชก ฎหมายมบี ทลงโทษทหี่ นกั เกนิ ความเหมาะสม จะกอ ใหเ กดิ ผลเสยี ๓ ประการ คือ (จรุ ีรตั น ประยูรฉตั รพันธ, ๒๕๓๙: ๕๓-๕๔)

๑๙๒ ๑) ทําใหผูเสียหายหรือเหย่ือไดรับผลรายจากการกระทําความผิดรุนแรงมากขึ้น ทั้งน้ีเพราะผูกระทําความผิดจะพยายามปกปดการกระทําความผิดของตน มิใหมีผูลวงรูหรือมีพยาน รเู หน็ เชน ในกรณคี วามผดิ ทมี่ โี ทษประหารชวี ติ สาํ หรบั คดขี ม ขนื ผกู ระทาํ ความผดิ กจ็ ะไมเ พยี งแตข ม ขนื อยางเดียว แตจ ะฆา เหย่อื เพอ่ื ปกปดความผดิ ของตนเองดว ย เพราะถึงอยา งไรการกระทําผดิ แตเพยี ง การขมขืน ก็จะตองถูกลงโทษประหารชีวิตอยูแลว การฆาเหยื่ออาจทําใหตนเองหลุดรอดจากการถูก ลงโทษได เปน ตน ๒) ทําใหผูกระทําความผิดมีโอกาสหลุดรอดจากการดําเนินคดีตามกระบวนการ ยุติธรรมไดมากข้ึน เพราะย่ิงมีโทษรุนแรงมากข้ึนเทาไร ก็ตองมีพยานหลักฐานท่ีเพียงพอและม่ันคง ในการทจี่ ะลงโทษจาํ เลยมากขน้ึ เทา นน้ั หากพยานหลกั ฐานไมเ พยี งพอ กจ็ ะทาํ ใหจ าํ เลยมโี อกาสหลดุ รอด จากการถกู พพิ ากษาลงโทษได เพราะศาลจะถอื คติ “ปลอ ยคนผดิ สบิ คน ดกี วา เอาคนบรสิ ทุ ธมิ์ าลงโทษ เพยี งคนเดยี ว” ดงั นนั้ ถา ไมม พี ยานหลกั ฐานทเ่ี พยี งพอและมนี า้ํ หนกั จรงิ ๆ กจ็ ะเปด โอกาสใหผ กู ระทาํ ความผิดหลุดรอดไปได และย่ิงโทษหนักเทาใดก็ยิ่งตองการพยานหลักฐานมากขึ้น และย่ิงมีโอกาส หลุดรอดมากขนึ้ ๓) จะทาํ ใหเกดิ การกล่นั แกลง โดยการโยนความผิดใหผ ูอ่นื เพ่อื ใหผูอื่นไดร บั โทษ แทนการกระทําความผิดของตนเอง เชน ในบางประเทศ การพกอาวุธปนมีโทษหนักถึงประหารชีวิต ดงั นนั้ หากตอ งการเอาชวี ติ ของผอู น่ื ก็เพยี งการกล่ันแกลงใหบุคคลนัน้ มอี าวุธอยใู นความครอบครอง เทา นัน้ ดังนั้น การมีบทลงโทษท่ีหนักเกินไป ก็จะเกิดผลเสียซึ่งเปนผลกระทบทําให การบังคับใชกฎหมายดอยประสิทธิภาพลง ในขณะเดียวกัน การมีบทลงโทษท่ีเบาเกินไปก็จะทําให การบังคับใชกฎหมายไมมีผลในการขมขูและยับย้ัง ดังน้ันการบังคับใชกฎหมายจะใหมีผลในการขมขู ยับยง้ั และมีประสิทธิภาพ จะตองมีบทลงโทษท่เี หมาะสม ในขณะเดยี วกันการบงั คับใชก ฎหมายตองมี ความรวดเรว็ แนน อน และเสมอภาค ประกอบดว ย การมโี ทษรนุ แรงแตเ พยี งอยา งเดยี วไมอ าจมผี ลในการ ขมขู ยับยง้ั หากไมส ามารถจับกมุ และนาํ ตวั ผกู ระทาํ ความผดิ มาลงโทษได แตก ารจะทําใหมีการบังคบั ใชก ฎหมายมปี ระสิทธิภาพ กระบวนการยตุ ธิ รรมจะตองมบี ทบาทอยางมาก ในการทาํ ใหการบงั คบั ใช กฎหมายมีความแนนอน รวดเร็ว เสมอภาค และเหมาะสม สําหรับการบังคับใชกฎหมายจราจรในประเทศไทย มีเจาหนาที่ตํารวจและ เจาหนาท่ีของกรมการขนสงทางบก เปนผูมีอํานาจบังคับใชกฎหมายท่ีเก่ียวของกับการจราจร โดยเจา หนา ทต่ี าํ รวจจะตอ งหามาตรการกวดขนั มใิ หม กี ารฝา ฝน กฎจราจรและรกั ษากฎหมายใหศ กั ดสิ์ ทิ ธ์ิ โดยนาํ กฎหมายทม่ี อี ยแู ลว มาปฏบิ ตั อิ ยา งจรงิ จงั และใหเ ครง ครดั ยงิ่ ขนึ้ ดว ยความซอื่ สตั ยแ ละซอ่ื ตรงตอ หนา ทขี่ องตนเอง และจะตอ งไมม กี ารปลอ ยปละหรอื ละเลยใหม กี ารละเมดิ ตอ กฎหมายจราจร เพราะหาก มกี ารปลอ ยปละหรอื ละเลยแลว อาจจะทาํ ใหเ กดิ อบุ ตั เิ หตแุ ละยงั ความเสยี หายใหแ กช วี ติ และทรพั ยส นิ ได และนอกจากน้ีอาจจะทําใหเกิดปญหาการจราจร โดยจุดมุงหมายสําคัญของการบังคับใชกฎหมาย

๑๙๓ จราจร กเ็ พือ่ เปนการขมขู ยับยงั้ ผลู ะเมดิ หรอื ผมู แี นวโนมวาจะละเมิดตอ กฎหมาย กฎ หรือระเบยี บ ท่ีเก่ียวกับการจราจร ในขณะเดียวกันการบังคับใชกฎหมายจราจรที่เหมาะสมนั้น มิใชเพียงเพื่อทําให ผูละเมิดไดเรียนรูท่ีจะหลีกเล่ียงพฤติกรรมละเมิดกฎหมาย หรือลดพฤติกรรมท่ีเห็นแกประโยชน สวนตน ในการใชรถใชถนน โดยไมคํานึงถึงบุคคลอื่น แตวัตถุประสงคของการควบคุมการจราจร โดยทวั่ ไป กเ็ พอื่ ความปลอดภยั และเปน ระเบยี บเรยี บรอ ยของผใู ชร ถใชถ นน ตลอดจนเพอื่ ใหก ารจราจร มีความคลอ งตัวสามารถเคลอ่ื นไหวไดโดยไมติดขัด õ.ó ÂØ·¸Ç¸Ô ãÕ ¹¡ÒèºÑ ¡ÁØ ¼Œ¡Ù ÃÐทํา¼´Ô ¡®¨ÃÒ¨Ãã¹Å¡Ñ ɳÐμÒ‹ §æ “¡®¨ÃҨà ¤Í× ¡®á˧‹ ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀÂÑ ” เมื่อทุกคนปฏิบัติตามกฎจราจรอยางเครงครัดจะทําใหการจราจรบนทองถนน ไมต ดิ ขดั และตรงกนั ขา ม หากมบี างคนไมป ฏบิ ตั ติ ามกฎจราจรกจ็ ะทาํ ใหเ กดิ ปญ หาการจราจรตดิ ขดั ขน้ึ ได นอกจากน้ีท่ีสําคัญอยางย่ิง คือ การปฏิบัติตามกฎจราจรจะเปนการปองกันอุบัติเหตุท่ีจะนํามาซ่ึง ความสูญเสียชีวิต รางกาย และทรัพยสินของประชาชนและประเทศชาติ ในปจจุบันน้ียังมีผูฝาฝน กฎหมายจราจรเปน จาํ นวนมาก และเปน สาเหตใุ หเ กดิ อบุ ตั เิ หตอุ ยเู สมอๆ ดงั จะเหน็ ไดจ ากขา วอบุ ตั เิ หตุ ตามถนนสายตางๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและตางจังหวัด ดังนั้น เจาหนาที่ตํารวจเมื่อออกปฏิบัติ หนาที่ควรตระหนักวากําลังชวยลดและปองกันการเสียชีวิตและบาดเจ็บใหกับประชาชน และระหวาง การออกตรวจทกุ ครัง้ เจาหนาทตี่ ํารวจควรจะสอดแทรกขอ มลู ใหค าํ แนะนาํ ตอผูข บั ขที่ ุกครั้ง การเพม่ิ ความปลอดภยั ทางถนนนน้ั ควรจะใชก ารแกไ ขทางจติ วทิ ยา (Psychological correct) ตอ ผกู ระทาํ ผดิ ดว ย โดยเจา หนา ทต่ี าํ รวจอาจใหค าํ แนะนาํ ตอ ผขู บั ขที่ ขี่ าดความรหู รอื ประพฤตไิ มเ หมาะสม สาระสาํ คญั ทสี่ ดุ ของกฎจราจรนน้ั อยทู เี่ จา หนา ทต่ี าํ รวจเขา ถงึ ผขู บั ขแ่ี ตล ะคน (Individual) ดว ยการใหข อ มลู หรอื แนะนาํ เม่ือมีโอกาสเพ่ือใหเขาใจกฎจราจรมากกวาเนนปริมาณการจับกุม เจาหนาท่ีตํารวจควรปฏิบัติงาน อยา งหนักแนน แตยุตธิ รรม (Firm but Fair) ตลอดเวลา โดยเคารพตอสทิ ธิของประชาชน ตองสภุ าพ ไมหยาบคาย หรือแสดงความไมเคารพตอผูใชถนน หรือแมแตผูใชถนนจะแสดงความหยาบคาย ไมสุภาพ หรือแสดงความไมเคารพตอเจาหนาท่ีตํารวจ ก็ไมควรท่ีจะกระทําเชนนั้นตอบกลับไป เจา หนาทต่ี ํารวจทุกคนควรจดจาํ ไววาไดถูกฝกฝนมาเพอื่ เปนผสู งบ ใจเยน็ และเกงกลา ในยามฉุกเฉิน หรอื ยามท่ตี องตอสูกับเหตุรา ย สามารถควบคมุ อารมณจ ากการดูถกู การทาทาย ย่ัวยุ และเหตกุ ารณ เลวรา ย ๆ ได การเปนตัวอยา งทด่ี ีเปนส่งิ ทส่ี าํ คัญมาก โดยเฉพาะเจา หนาทต่ี าํ รวจและตาํ รวจจราจร ซ่ึงเปนตัวอยางท่ีถูกสนใจ ถูกวิพากษวิจารณอยางมาก เจาหนาท่ีตํารวจคนหนึ่งจะตองยอมลําบาก เพื่อจะเปนตัวอยางของพฤติกรรมที่ดี รถยนตที่เจาหนาที่ตํารวจใชโดยเฉพาะรถท่ีมีสัญลักษณตํารวจ จําเปนจะตองมีการขับข่ีใหเปนตัวอยางท่ีดีตามแบบแผนท่ีกําหนดไว ถาเจาหนาท่ีตํารวจเปนผูฝาฝน กฎหมายแลว เจา หนาท่ีตาํ รวจจะไปชักชวนใหประชาชนปฏบิ ัติตามกฎหมายไดอ ยา งไร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook