หลักสูตรปฐมวัย-64

หลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวยั หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ พุทธศักราช ๒๕๖๐ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) (สาหรบั เด็กอายุ ๓ – ๖) กล่มุ สาระการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ๑๒.๒.๑ คน๎ หาคาตอบขอ๎ สงสัยตํางๆ โดยใชว๎ ธิ กี ารหลากหลายด๎วยตนเอง คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ในการดารงชีวิต ศึกษาหาความร๎ูเพ่มิ เติม ทาโครงงาน หรอื ชิน้ งานที่กาหนดใหห๎ รือตามความสนใจ ๒. ครูผู้สอนระดบั ปฐมวยั ๒.๑ ผ๎ูสอนระดับช้ันอนุบาลปีท่ี ๒ เก็บรวบรวมข๎อมูลเก่ียวกับตัวเด็กเป็นรายบุคคล สํงตํอให๎ผ๎ูสอน ระดับชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑ เพอื่ เป็นขอ๎ มลู ในการชํวยเหลือเด็กใหป๎ รับตัวเข๎ากบั การเรยี นรใ๎ู หมํตอํ ไป ๒.๒ พดู คุยกับเดก็ ถึงประสบการณด์ ี ๆ ทีเ่ ดก็ จะได๎พบและเรียนรูใ๎ นชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ ๒.๓ จัดให๎เด็กได๎มีโอกาสทาความร๎ูจักกับผ๎ูสอน และบรรยากาศของห๎องเรียนในระดับชั้น ประถมศึกษาปที ี่ ๑ ๓. ผู้สอนระดับประถมศึกษา ๓.๑ จัดกิจกรรมให๎เดก็ และผ๎ปู กครอง มีโอกาสไดท๎ าความรจู๎ กั คุน๎ เคยกบั ผ๎สู อนและ ห๎องเรยี นชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ กํอนเปิดภาคเรยี น ๓.๒ จัดสภาพหอ๎ งเรยี นให๎ใกล๎เคยี งกบั ห๎องเรยี นระดับปฐมวยั ๓.๓ จดั กิจกรรมสร๎างขอ๎ ตกลงทเี่ กดิ จากเด็กรํวมกันเกยี่ วกับการปฏิบัติตน ๓.๔ เผยแพรํขาํ วสารดา๎ นพัฒนาการ และสร๎างความสัมพันธท์ ่ดี กี ับเดก็ ผ๎ปู กครอง ๔. ผู้ปกครอง ๔.๑ รวํ มกิจกรรมท่ีทางสถานศึกษาจัดขึ้นอยํางสมา่ เสมอ ๔.๒ ดแู ล เอาใจใสผํ ๎ูเรยี นอยาํ งใกลช๎ ดิ ใหค๎ วามรํวมมือกบั ผ๎ูสอนในการสํงเสรมิ พฒั นาการผเู๎ รยี น เพื่อเด็กจะไดป๎ รบั ตวั ไดเ๎ ร็วยิ่งขนึ้

สว่ นท่ี ๔ หลกั สตู รตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา

หลักสูตรต้านทุจรติ ศกึ ษา (Anti-Corruption Education) ยุทธศาสตร์ชาติวําด๎วยการปูองกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๖๐ -๒๕๖๔) ยุทธศาสตร์ ท่ี ๑ “สร๎างสังคมท่ีไมํทนตํอการทุจริต” ได๎มํุงเน๎นให๎ความสาคัญในกระบวนการปรับสภาพสังคม ให๎เกดิ ภาวะที่ “ไมทํ นตํอการทุจริต” โดยเร่ิมต้ังแตํกระบวนการกลํอมเกลาทางสังคมในทุกระดับชํวงวัย ตั้งแตํ ปฐมวัย เพ่ือสร๎างวัฒนธรรมตํอต๎านการทุจริต และปลูกฝังความพอเพียง มีวินัย ซ่ือสัตย์สุจริตยึดประโยชน์ สํวนรวมมากกวําประโยชน์สํวนตน เป็นการดาเนินการผํานสถาบันหรือกลุํมตัวแทนท่ีทาหน๎าท่ีในการกลํอม เกลาสังคมให๎มีความเป็นพลเมืองท่ีดี มีจิตสาธารณะ เสียสละเพื่อสํวนรวมและเสริมสร๎างให๎ทุกภาคสํวนมี พฤตกิ รรมท่ไี มํยอมรบั และตํอตา๎ นการทจุ ริตในทกุ รูปแบบและได๎กาหนดกลยุทธ์ ๔ กลยุทธ์ กลําวคือ กลยุทธ์ที่ ๑ ปรับฐานความคิดทุกชํวงวัย ต้ังแตํปฐมวัยให๎สามารถแยกระหวํางผลประโยชน์สํวนตนกับผลประโยชน์ สํวนรวม กลยุทธ์ท่ี ๒ สํงเสริมให๎มีระบบและกระบวนการกลํอมเกลาทางสังคมเพ่ือต๎านทุจริต กลยุทธ์ที่ ๓ ประยกุ ต์หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเครื่องมือต๎านทุจริต และกลยุทธ์ที่ ๔ เสริมพลังการมีสํวนรํวมของ ชุมชน(Community)และบูรณาการทุกภาคสํวนเพ่ือตํอต๎านการทุจริต คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงได๎มีคาสั่งที่ ๖๔๖/๒๕๖๐ ลงวนั ท่ี ๒๖ เมษายน ๒๕๖๐ แตํงตง้ั คณะอนุกรรมการจัดทาหลักสูตร หรือชุดการเรียนรู๎และสื่อ ประกอบการเรียนร๎ู ดา๎ นการปูองกนั การทุจริตซ่ึงประกอบด๎วยผู๎ทรงคุณวุฒิหรือผู๎เชี่ยวชาญจากหนํวยงานด๎าน การศึกษา และหนํวยงานที่เก่ียวข๎องในการจัดทาหลักสูตรการเรียนการสอน จากทั้งภายในและภายนอก หนํวยงาน รวมทั้งผ๎ูทรงคุณวุฒิจากองค์กรภาคเอกชนเพ่ือดาเนินการจัดทาหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู๎และสื่อ ประกอบการเรียนร๎ู ด๎านการปูองกันการทุจริต นาไปใช๎ในการเรียนการสอนให๎กับนักเรียน นักศึกษาในทุก ระดับชั้นเรียนทั้งในสํวนของการศึกษาต้ังแตํระดับปฐมวัยอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา ท้ังภาครัฐและเอกชน รวมทั้งอาชีวศึกษาและการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย นอกจากน้ี ยัง รวมถึงสถาบันการศึกษาอ่ืนท่ีเกี่ยวข๎อง เชํน สถาบันการศึกษาในสังกัดสานักงานตารวจแหํงชาติ สถาบันการศึกษาทางทหาร เป็นต๎น เพ่ือให๎ครอบคลุมกลํุมเปูาหมายที่เกี่ยวข๎องกับการศึกษาทั้งระบบ รวมทั้ง บุคลากรภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ รวมท้ังภาคประชาชน เพื่อเป็นการปลูกฝังจิตสานึกในการแยกแยะประโยชน์ สํวนตนกับประโยชน์สวํ นรวมจิตพอเพียงต๎านทจุ ริต และสร๎างพฤตกิ รรมที่ไมยํ อมรับและไมํทนตอํ การทจุ รติ เพ่ือเป็นการปูองกันการทุจริต โดยเร่ิมปลูกฝังนักเรียนตั้งแตํปฐมวัยจนถึงมัธยมศึกษาปีท่ี ๖ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน จึงจัดทารายวิชาเพ่ิมเติม “การปูองกันการทุจริต” ให๎ สถานศึกษาทุกแหํงนาไปใช๎ในการจัดการเรียนการสอนเพ่ือปลูกฝังและสร๎างวัฒนธรรมตํอต๎านการทุจริตให๎แกํ นักเรียนสร๎างความตระหนักให๎นักเรียน ยึดถือประโยชน์สํวนรวมมากกวําประโยชน์สํวนตน มีจิตพอเพียงต๎าน ทุจริต ละอายและเกรงกลวั ท่จี ะไมํทุจรติ และไมทํ นตํอการทุจรติ ทุกรูปแบบ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน ในฐานะองค์กรรับผิดชอบการจัดการศึกษาให๎แกํนักเรียน ต้ังแตํ ระดับปฐมวัย จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๖ จึงได๎จัดทารายวิชาเพ่ิมเติม “การปูองกันการทุจริต”ประกอบด๎วย เนื้อหา ๔ หนํวยการเรียนรู๎ ได๎แกํ ๑) การคิดแยกแยะระหวํางผลประโยชน์สํวนตนและผลประโยชน์สํวนรวม ๒) ความละอายและความไมํทนตํอการทุจริต๓) STRONG / จิตพอเพียงตํอต๎านการทุจริต และ ๔) พลเมือง และ ความรับผิดชอบตํอสังคม ซ่ึงท้ัง ๔ หนํวยน้ี จะจัดทาเป็นแผนการจัดการเรียนร๎ู ตั้งแตํช้ันปฐมวัย จนถึง ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๖ เพื่อให๎สถานศึกษาทุกแหํงนาไปใช๎ในการจัดการเรียนการสอน เพ่ือปลูกฝังและปูองกัน การทุจริตให๎แกํนักเรียนทุกระดับ ทั้งนี้ เป็นการสร๎างพลเมืองที่ ซื่อสัตย์สุจริตให๎แกํประเทศชาติ

ปัญหาคอร์รัปชันลดลง และดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชันของประเทศไทย มีคําคะแนนสูงข้ึน บรรลุตาม เปูาประสงค์ของยุทธศาสตร์ชาติวําด๎วย การปูองกันและปราบปรามการทุจริตระยะท่ี ๓ (พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๖๔) โรงเรียนชุมชนประชานิกรอานวยเวทย์ หวังเป็นอยํางย่ิงวําหลักสูตรต๎านทุจริตศึกษา : Anti- Corruption Education จะสร๎างความรู๎ความเข๎าใจและทักษะให๎แกํผู๎เรียนในเรื่องการคิดแยกแยะระหวําง ผลประโยชนส์ ํวนตน กบั ผลประโยชน์สวํ นรวม ความอายและความไมํทนตํอการทุจริต STRONG : จิตพอเพียง ต๎านทุจริต และพลเมือง กับความรับผิดชอบตํอสังคม เพื่อรํวมกันปูองกันหรือตํอต๎านการทุจริต มิให๎มีการ ทุจริตเกิดขึ้นในสังคมไทย รวํ มสรา๎ งสังคมไทยที่ไมํทนตอํ การทุจรติ ตํอไป รายละเอยี ดของหลักสตู รต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education) กรอบการจัดทาหลกั สูตรหรือชุดการเรียนรู๎และส่ือประกอบการเรียนรู๎ ด๎านการปูองกันการทุจริต โดยท่ีประชุม ได๎ เห็นชอบรํวมกันในการจัดทาหลักสูตรหรือชุดการเรียนร๎ูและส่ือประกอบการเรียนรู๎ ด๎านการปูองกันการทุจริต หัวข๎อวิชา ๔ วชิ า ประกอบดว๎ ย ๑) การคดิ แยกแยะระหวาํ งผลประโยชน์สวํ นตนกับผลประโยชนส์ ํวนรวม ๒) ความอายและความไมํทนตํอการทุจรติ ๓) STRONG : จติ พอเพียงตา๎ นทจุ ริต ๔) พลเมืองและความรบั ผิดชอบตํอสงั คม เนื้อหาหลักสตู รหรอื ชุดการเรยี นร๎ู ดา๎ นการปอู งกันการทุจรติ โดยไดแ๎ บํงกลุมํ ตามการเรียนการสอนในแตํละชํวงชนั้ หลกั สูตรการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน ดาเนินการจัดทาเป็นแผนการจัดการเรียนรู๎โดยแยกเป็น 13 ระดับช้ันปี ได๎แกํ ระดับ ปฐมวัย ระดับประถมศึกษาชนั้ ปีที่ ๑ – ๖และระดับมัธยมศึกษาช้นั ปีท่ี ๑ – ๖ในแตํละระดับชั้นปี จะใช๎เวลาเรียนทั้งปี จานวน ๔๐ ช่ัวโมง ต๎องจัดทาเนอื้ หาและกิจกรรมการเรียนการสอนใหแ๎ ตกตาํ งกนั ตามความเหมาะสมและการเรียนร๎ูในแตลํ ะชํวงวัย โครงสรา้ งรายวชิ าระดบั ปฐมวยั เรอื่ ง จานวน ลาดับ หน่วยการเรียนรู้ ช่ัวโมง การคิดแยกแยะระหวํางผลประโยชนส์ วํ นตน ๑. การคดิ แยกแยะระหวาํ งผลประโยชน์สํวนตน และผลประโยชนส์ ํวนรวม ๑๔ และผลประโยชนส์ ํวนรวม - การคดิ แยกแยะ - ระบบคดิ ฐาน ๒ - ของเลํน - การรบั ประทานอาหาร - การเขา๎ แถว - การเก็บของใช๎สวํ นตัว - ทางานท่ไี ด๎รบั มอบหมาย - การแบํงปัน - การแตงํ กาย - การทากจิ วัตรประจาวัน (การใช๎นา้ ไฟฟูา กระดาษ การทิ้งขยะ)

๒. ความละอายและความไมํทนตอํ การทุจริต ความละอายและความไมํทนตํอการทุจรติ ๑๒ - ของเลํน ๙ - การรับประทานอาหาร - การเข๎าแถว - การเกบ็ ของใชส๎ วํ นตวั - ทางานทไ่ี ดร๎ ับมอบหมาย - การแบํงปนั - การแตงํ กาย - การทากจิ วตั รประจาวัน ๓. STRONG / จติ พอเพียงตํอต๎านการทจุ รติ STRONG / จติ พอเพียงตํอต๎านการทุจริต - ความพอเพยี ง - ความโปรํงใส - ความตน่ื ร๎ู / ความรู๎ - ต๎านทุจรติ - มุํงไปข๎างหน้า - ความเอ้อื อาทร - การรับประทานอาหาร - การชํวยเหลือเพอ่ื น - การใชก๎ ระดาษ ๔. พลเมืองกับความรบั ผิดชอบตํอสังคม พลเมืองกบั ความรบั ผดิ ชอบตํอสงั คม ๕ - ความรับผดิ ชอบตํอตนเอง ๔๐ - ความรับผิดชอบตอํ ผู๎อืน่ - การตรงตอํ เวลา - การทาความสะอาดห๎องเรียน - การชํวยเหลอื ตนเอง รวม

กิจกรรมการเรียนรู้ แนวคดิ และแนวการสอน กิจกรรมการเรียนร๎ูที่ใช๎ในการจัดการเรียนการสอน เน๎นการใช๎ทฤษฎีการเรียนร๎ู การสร๎างความร๎ู ได๎แกํ ๑) ทฤษฎีคอนสตรคั ตวิ สิ ต์ (Construction Theory) ๒) ทฤษฎคี อนสตรคั ตวิ ิสต์เชงิ สังคม (Social Constructivism Theory) ๓) ทฤษฎีคอนสตรัคตวิ สิ ต์เชิงปัญญา (Cognitive Constructivism) ๔) ทฤษฎปี ระมวลผลขอ๎ มูล (Information Processing Theory) ๕) ทฤษฎีพหุปัญญา (Theory of Multiple Intelligences) ๖) ทฤษฎีการเรียนรู๎แบบรํวมมือ (Cooperative Learning Theory) ในการจัดการเรียนการสอน โดยภาพรวมจะใช๎กลยุทธ์การสอนที่เน๎น ผู๎เรียนเป็นสาคัญ คือจัดตามความแตกตํางของเด็กแตํละคน ด๎วยการสอนโดยใช๎กระบวนการคิดวิเคราะห์ คิด สังเคราะห์ การฝึกปฏิบัติจริงการทาโครงงานสืบสวนสอบสวน กระบวนการเรียนรู๎ ๕ ข้ันตอน (๕ STEPs) การ อภิปราย การแกป๎ ญั หาตลอดจนใช๎เทคนิคการสอนท่หี ลากหลายเหมาะกับผ๎ูเรียนแตลํ ะวยั ส่ือการเรยี นรแู้ ละแหล่งเรยี นรู้ จัดกิจกรรมด๎วยสื่อการเรียนรู๎ท่ีเก่ียวกับการปูองกันและปราบปรามการทุจริต เชํน วีดิโอ ขําว VTR นิทาน การ์ตูน ภาพยนตร์สั้น เอกสารแก๎ทุจริตคิดฐานสอง ส่ือสิงพิมพ์ตําง ๆ ใบความรู๎ ใบงาน วัสดุอุปกรณ์ ตําง ตลอดจนแหลํงเรียนรท๎ู ใี่ ชค๎ อมพวิ เตอรใ์ นการสืบค๎น การวัดและประเมินผล การประเมนิ การเรยี นร๎ู โดยใช๎เคร่อื งมอื ประเมินการเรยี นรู๎ในดา๎ น -ความรู๎ความเขา๎ ใจ -การปฏบิ ตั ิ -คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ -เคร่ืองมือท่ีใช๎ประเมิน นกั เรยี นผํานการประเมนิ ทุกกิจกรรม รอ๎ ยละ ๘๐ ขนึ้ ไป จงึ จะถือวําผํานเกณฑ์การประเมิน

การจดั กิจกรรม ประกอบด๎วย ๔ หนํวยการเรยี นรู๎ คอื ๑) การคิดแยกแยะผลประโยชนส์ ํวนตนกับผลประโยชนส์ วํ นรวม ๒) ความไมํทนและความอายตํอการทุจริต ๓) STRONG : จติ พอเพยี งตา๎ นทุจรติ ๔) พลเมืองกับ ความรับผิดชอบตํอสงั คม โดยกาหนดชัว่ โมงการจดั การเรยี นการสอนดงั น้ี ที่ หนวํ ยการเรียนรู๎ ช่ัวโมง ๑ การคิดแยกแยะระหวํางผลประโยชนส์ ํวนตนและประโยชน์สวํ นรวม ๑๔ ๒ ความไมํทนและความอายตอํ การทุจริต ๑๒ ๓ STRONG : จติ พอเพียงตํอต๎านการทุจริต ๙ ๔ พลเมืองกับความรบั ผิดชอบตอํ สังคม ๕ รวม ๔๐ โดยหลักสูตรรายวิชาเพ่ิมเติม การปูองกันการทุจริต การศึกษาข้ันพื้นฐาน กาหนดเป็น ๑ หลักสูตร และแยกเป็น แผนการจัดการเรียนร๎ู ๗ ระดบั ชั้นปี ไดแ๎ กํ ระดบั ปฐมวยั ระดับประถมศึกษาชน้ั ปีท่ี ๑ - ๖ ท้งั น้ี ในแตลํ ะระดบั ชัน้ ปี จะใช๎เวลาเรียนทั้งปี จานวน ๔๐ ช่ัวโมง ซึ่งจะมีเน้ือหาและกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีแตกตํางกัน ตามความเหมาะสมและการเรยี นรใ๎ู นแตํละชวํ งวยั

ภาคผนวก คาสง่ั แตํงตั้งคณะกรรมการจัดทาหลกั สตู รสถานศกึ ษาปฐมวยั แบบตรวจสอบคณุ ภาพของหลักสูตรสถานศกึ ษากํอนนาไปใช๎ แบบนเิ ทศ ติดตามการเรียนการสอน (นเิ ทศภายใน) แบบประเมินคณุ ภาพของแผนการจดั ประสบการณ์ แบบฟอร์มการเขยี นแผนการจัดประสบการณ์

ตารางวเิ คราะหม์ าตรฐาน/ตัวบง่ ชี้/สภาพที่พงึ ประสงค์

พัฒนาการด้านร่างกาย การวเิ คราะห์สา มาตรฐานที่1 รา่ งกายเจรญิ เตบิ โตตามวยั ช้ัน อ.3 ( 5-6 ปี ) ตวั บ่งช้ี สภาพทพ่ี ึงประสงค์ 1.1.1 นา้ หนัก และ ส่วนสูงตาม ชน้ั อ.1 ช้นั อ.2 เกณฑข์ องกรมอนามยั (3-4ปี) ( 4-5 ปี ) 1.2.1 รบั ประทาน อาหารทมี่ ีประโยชนไ์ ด้ 1.1นา้ หนกั และ 1.1.1 .นา้ หนกั 1.1.1 .นา้ หนกั หลายชนดิ และดม่ื นา้ สะอาดได้ด้วยตนเอง สว่ นสงู ตามเกณฑ์ และ ส่วนสูงตาม และ สว่ นสงู ตาม เกณฑ์ของกรมอนามยั เกณฑ์ของกรม อนามัย 1.2 มีสขุ ภาพ 1.2.1 รบั ประทาน 1.2.1 รับประทาน อนามัยสุขนสิ ยั ทีด่ ี อาหารทมี่ ีประโยชน์ อาหารท่ีมีประโยชน์ และดม่ื นา้ สะอาดเมอ่ื มี และด่มื นา้ สะอาด ผู้แนะนา ด้วยตนเอง 1.2.2 ล้างมอื กอ่ น 1.2.2 ลา้ งมือก่อน 1.2.2 ลา้ งมอื ก่อน รับประทานอาหาร รับประทานอาหาร รบั ประทานอาหาร และหลงั จากใชห้ ้องนา้ และหลังจากใช้ และหลงั จากใชห้ อ้ งนา้ หอ้ งส้วมเมอ่ื มีผู้แนะนา ห้องนา้ หอ้ งส้วมด้วย หอ้ งสว้ มด้วยตนเอง ตนเอง

าระการเรยี นรู้รายปี สาระการเรยี นรรู้ ายปี ประสบการณส์ าคญั สาระท่คี วรเรียนรู้ 1.การปฏิบัติตนตามสุขอนามัย สขุ นิสัยท่ีดี (เร่อื งราวเกย่ี วกับตวั เด็ก) ในการปฏบิ ตั ิกจิ วัตรประจาวนั 1.อาหารที่ช่วยให้ร่างกายเจรญิ เติบโต 1.การประกอบอาหารไทย 1.อาหารที่มปี ระโยชน์และไมม่ ี 2.การปฏบิ ัติตนตามสุขอนามัย สุขนิสยั ทดี่ ี ประโยชน์ ในกิจวตั รประจาวนั 2.อาหารหลัก5หมู่ 3.การมีเจตคติทีด่ ตี อ่ การรับประทาน อาหารที่มีประโยชน์ 4.มารยาทในการรับประทานอาหาร 1.การปฏบิ ัตติ นตามสุขอนามยั สขุ นิสัยทด่ี ี 1.อวัยวะตา่ ง ๆ ของรา่ งกายและการ ในกิจวัตรประจาวนั รกั ษาความปลอดภยั 2.การชว่ ยเหลือตนเองในกิจวตั รประจาวนั 2.วิธรี ะวงั รักษาร่างกายให้สะอาดและมี 3.การปฏิบตั ติ นใหป้ ลอดภยั ในกจิ วตั ร สุขภาพอนามยั ทีด่ ี ประจาวนั 4.การฟังนทิ านเร่ืองราวเกีย่ วกับสขุ นสิ ยั ทด่ี ี

พัฒนาการดา้ นรา่ งกาย มาตรฐานที่1 รา่ งกายเจรญิ เติบโตตามวยั (ต่อ) ตัวบ่งช้ี สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ช้นั อ.1 ชั้น อ.2 ช้ัน อ.3 ( 5-6 ปี ) (3-4ป)ี ( 4-5 ปี ) 1.2.3 นอน 1.2.3 นอนพกั ผ่อน 1.2.3 นอน พักผอ่ นเป็น เวลา เปน็ เวลา พกั ผ่อนเป็นเวลา 1.2.4 ออก กาลังกายเปน็ 1.2.4 ออกกาลังกาย 1.2.4 ออกกาลงั เวลา เปน็ เวลา กายเป็นเวลา 1.3 รกั ษาความ 1.3.1 เล่นและทา 1.3.1 เลน่ และทา 1.3.1 เล่น ปลอดภัยของตนเอง ทากิจกรรม และผู้อน่ื กิจกรรมอย่างปลอดภัย กจิ กรรมอยา่ ง และปฏบิ ัตติ อ่ ผ้อู ืน่ อยา่ ง เม่ือมีผชู้ แี้ นะ ปลอดภยั ดว้ ย ปลอดภัย ตนเอง

สาระการเรยี นร้รู ายปี ประสบการณส์ าคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ การปฏิบัตติ นตามสุขอนามัยสุขนิสัยทด่ี ใี น ประโยชนข์ องการนอนหลบั กิจวัตรประจาวัน พกั ผ่อน 1.การเลน่ อิสระ (เรอื่ งราวเกีย่ วกบั ตวั เดก็ ) 2.การเคลื่อนไหวข้ามส่ิงกรดี ขวาง 1.ประโยชนข์ องการออกกาลัง 3.การเลน่ เคร่อื งเลน่ อยา่ งปลอดภยั กาย 4.การเลน่ พน้ื บ้านไทย 2.การเล่นเคร่อื งเล่นสนามอย่าง 5.การเล่นนอกห้องเรยี น ถกู วิธี 6.การเล่นเคร่อื งเล่นสนามอย่างอิสระ (เรื่องราวเกยี่ วกบั ตัวเด็ก) 1.การปฏิบตั ติ นใหป้ ลอดภัยในกจิ วตั ร 1.การรกั ษาความปลอดภยั ของ ประจาวนั ตนเองและการปฏบิ ตั ติ ่อผู้อืน่ 2.การฟังนิทานเรื่องราวเหตุการณเ์ กยี่ วกบั อย่างปลอดภัยในชวี ิตประจาวนั การป้องกนั และรักษาความปลอดภัย 2.การปฏิบัตติ นอย่างเหมาะสม 3.การเลน่ บทบาทสมมติเหตกุ ารณต์ ่าง ๆ เมื่อเจบ็ ป่วย 4.การพูดกับผู้อน่ื เกย่ี วกบั ประสบการณ์ชอง 3.การระวงั ภัยจากคนแปลกหน้า ตนเองหรือพดู เล่าเร่ืองราวเก่ียวกบั ตนเอง และอุบัตภิ ยั ต่าง ๆ 5.การเลน่ เคร่ืองเล่นอยา่ งปลอดภัย 6.การเลน่ และทางานร่วมกบั ผอู้ ่ืน

พัฒนาการด้านรา่ งกาย มาตรฐานที่ 2 กลา้ มเนื้อใหญ่และกล้ามเน้อื เล็กแข็งแรง ใชไ้ ด้อยา่ งคล่องแคล่วและป ตัวบ่งช้ี สภาพทพ่ี ึงประสงค์ ชั้น อ.1 ชน้ั อ.2 ชั้น อ.3 (3-4ป)ี ( 4-5 ปี ) ( 5-6 ปี ) 2.1 เคล่อื นไหว 2.1.1 เดนิ ตามแนวท่ี 2.1.1 เดินตอ่ เทา้ ไป 2.1.1 เดินตอ่ เท้า ร่างกายอยา่ ง กาหนดได้ ข้างหน้า เปน็ เสน้ ตรงได้ ถอยหลัง เป็น คล่องแคลว่ โดยไม่ต้องกางแขน เส้นตรงไดโ้ ดยไม่ตอ้ ประสานสมั พนั ธ์ กางแขน และทรงตวั ไดด้ ี 2.1.2 กระโดดสองขา 2.1.2 กระโดดขาเดียว 2.1.2 กระโดดขา ขึน้ ลงอยกู่ บั ทไ่ี ด้ อยูก่ บั ทไี่ ด้โดยไมเ่ สยี การ เดยี วไปขา้ งหน้าได้ ทรงตวั อยา่ งคลอ่ งแคล่วโดย ไมเ่ สียการทรงตัว 2.1.3 วิง่ แล้วหยดุ ได้ 2.1.3 วง่ิ หลบหลีกสิง่ 2.1.3 วงิ่ หลบหลกี กีดขวางได้ สิ่งกีดขวางได้อยา่ ง คลอ่ งแคลว่ 2.1.4 รบั ลกู บอลโดย 2.1.4 รบั ลกู บอลโดยใช้ 2.1.4 รับลกู บอลท ใชม้ ือและลาตวั ชว่ ยได้ มอื ทงั้ สองขา้ ง กระดอนขน้ึ จากพ้ืน ได้

ประสานสมั พันธก์ ัน สาระทีค่ วรเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้รายปี ประสบการณ์สาคญั 1.การเคลื่อนไหวเคล่อื นท่ี (เรอื่ งราวเกี่ยวกับตัวเด็ก) 2.การเคล่ือนไหวโดยควบคุมตนเองไปใน 1.การทาสิง่ ตา่ ง ๆ ดว้ ยตนเอง อง ทศิ ทาง ระดบั และพน้ื ที่ -การเดินต่อเท้าไปขา้ งหนา้ -การเดินตอ่ เทา้ ถอยหลัง 1.การเคลื่อนไหวเคล่ือนที่ 1.การทาสง่ิ ตา่ ง ๆ ด้วยตนเอง 2.การเคลื่อนไหวโดยควบคมุ ตนเองไมใน -การกระโดดขาเดยี วอยกู่ ับที่ ย ทศิ ทาง ระดบั และพืน้ ท่ี -การกระโดดขาเดยี วไปขา้ งหนา้ 1.การเคลอื่ นไหวเคลื่อนที่ 1.การทาสิ่งตา่ ง ๆ ดว้ ยตนเอง 2.การเลน่ เครื่องเล่นสนามอย่างอสิ ระ -การวงิ่ หลบหลีกสง่ิ กีดขวาง 3.การเคล่อื นไหวโดยควบคุมตนเองไมใน ทิศทาง ระดบั และพื้นท่ี 4.การเคลอ่ื นไหวข้ามส่งิ กีดขวาง ท่ี 1.การเคลือ่ นไหวเคลอื่ นที่ 1.การทาสงิ่ ตา่ ง ๆ ดว้ ยตนเอง 2.การเคลือ่ นไหวพรอ้ มอุปกรณ์ -การรับลูกบอล 3.การเคลอ่ื นไหวท่ใี ช้การประสาน สมั พันธ์ของการใช้กลา้ มเน้อื ใหญใ่ นการ ขว้าง การจบั การโยน

พฒั นาการดา้ นร่างกาย มาตรฐานท่ี 2 กล้ามเน้อื ใหญ่และกล้ามเน้ือเล็กแขง็ แรง ใชไ้ ด้อย่างคล่องแคล่วและป ตวั บ่งชี้ สภาพทีพ่ ึงประสงค์ 2.2 ใชม้ ือ – ตา ชั้น อ.1 ช้นั อ.2 ชั้น อ.3 ประสานสมั พนั ธ์ ( 5-6 ปี ) กัน (3-4ปี) ( 4-5 ปี ) 2.2.1 .ใช้กรรไกร 2.2.1 .ใชก้ รรไกรตดั 2.2.1 .ใช้กรรไกรตดั ตดั กระดาษตามแนว เส้นโค้งได้ กระดาษขาดจากกันได้ กระดาษตามแนว โดยใช้มอื เดียว เสน้ ตรงได้ 2.2.2 เขยี นรปู วงกลม 2.2.2 เขียนรูปสี 2.2.2 เขียนรปู สามเหลยี่ มตามแบบ ตามแบบได้ เหลี่ยมตามแบบได้ ไดอ้ ย่างมีมมุ ชดั เจน อยา่ งมีมุมชัดเจน 2.2.3 รอ้ ยวสั ดทุ ีม่ ีรู 2.2.3 ร้อยวัสดุที่มรี ู 2.2.3 รอ้ ยวัสดทุ ่มี รี ู ขนาดเส้นผา่ ศนู ยก์ ลาง ขนาดเส้นผ่าศนู ยก์ ลาง ขนาด 1 เซนติเมตรได้ 0.5 เซนตเิ มตรได้ เส้นผ่าศนู ยก์ ลาง 0.25 เซนติเมตรได้

ประสานสมั พันธ์กัน(ต่อ) สาระการเรียนรรู้ ายปี ประสบการณ์สาคญั สาระท่ีควรเรียนรู้ 1. การหยิบจบั การใชก้ รรไกรตดั (เรอื่ งราวเกยี่ วกบั ตัวเดก็ ) การฉีก การตัด การปะ และการ 1. การเคลื่อนไหวโดยควบคุมรา่ งกายไปใน รอ้ ยวัสดุ ทิศทาง ระดบั และพื้นทต่ี า่ ง ๆ 2.การทากิจกรรมศิลปะตา่ ง ๆ - การใช้กรรไกรปลายมนตดั กระดาษหรือตัด 3.การประดิษฐส์ ง่ิ ตา่ ง ๆ ดว้ ยเศษ ใบไม้ วัสดุ - การใช้กรรไกรปลายมนอยา่ งถกู วิธี 1.การเขยี นภาพและการเล่นกบั สี 1. การเคลื่อนไหวโดยควบคุมรา่ งกายไปใน ทศิ ทาง ระดบั และพืน้ ทตี่ า่ ง ๆ - การเขยี นภาพเป็นรูปสี่เหล่ยี มตามแบบ - การเขียนภาพเปน็ รูปสามเหลยี่ มตามแบบ 1. การหยบิ จับ การใชก้ รรไกรตดั 1. การเคลื่อนไหวโดยควบคุมรา่ งกายไปใน การฉกี การตัด การปะ และการ ทศิ ทาง ระดบั และพนื้ ที่ตา่ ง ๆ ร้อยวัสดุ - การรอ้ ยวสั ดุ

พัฒนาการด้านอารมณแ์ ละจิตใจ มาตรฐานที่ 3 มสี ขุ ภาพจิตดีและมีความสุข ตัวบง่ ชี้ สภาพท่ีพึงประสงค์ ชน้ั อ.2 ชัน้ อ.3 3.1 แสดงออกทาง ชั้น อ.1 ( 4-5 ปี ) ( 5-6 ปี ) อารมณ์ไดอ้ ยา่ ง (3-4ปี) เหมาะสม 3.1.1 แสดงอารมณ์ 3.1.1 แสดงอาร 3.1.1 แสดงอารมณ์ ความรูส้ ึกไดบ้ าง ความรูส้ กึ ไดต้ าม ความรู้สกึ ได้ สถานการณ์ สถานการณ์ สอดคล้องกบั สถานการณ์อย่า เหมาะสม

สาระการเรยี นรรู้ ายปี สาระทคี่ วรเรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั รมณ์ 1.การฟังเพลง การร้องเพลงและการแสดง (เรอื่ งราวเกี่ยวกับตัวเด็ก) ปฏกิ ิริยาโต้ตอบเสียงดนตรี 1.การเรียนรู้ทจี่ ะแสดง 2.การเคลอ่ื นไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี ความรู้สึกในทางท่ีดีและ าง 3.การเล่นบทบาทสมมติ เหมาะสม 4.การทากิจกรรมศลิ ปะตา่ ง ๆ 5.การสร้างสรรค์สิง่ สวยงาม 6.การเล่นอิสระ 7.การเล่นตามมมุ ประสบการณ์ 8.การเล่นนอกหอ้ งเรยี น 9.การร่วมสนทนาและแลกเปลยี่ นความคิดเห็น เชงิ จรยิ ธรรม 10.การพดู สะทอ้ นความรสู้ ึกของตนเองและ ผ้อู ่ืน 11. การแสดงความยินดีเมื่อผูอ้ น่ื มีความสุข เห็นใจเมื่อมผี ู้อ่นื เศร้าหรอื เสียใจ และการ ช่วยเหลอื ปลอบโยนเมอ่ื ผู้อ่นื ไดร้ ับบาดเจบ็ 12.การเลน่ และทางานรว่ มกบั ผูอ้ ่ืน

พฒั นาการด้านอารมณ์และจิตใจ มาตรฐานท่ี 3 มีสุขภาพจิตดีและมคี วามสขุ (ต่อ) ตัวบง่ ชี้ สภาพทพ่ี ึงประสงค์ ช้ัน อ.2 ช้นั อ.3 ( 4-5 ปี ) ( 5-6 ปี ) 3.2 มคี วามรู้สกึ ทีด่ ีต่อ ชน้ั อ.1 ตนเองและผอู้ ื่น (3-4ปี) 3.2.1 กล้าพดู กลา้ 3.2.1 กลา้ พูด ก แสดงออกอยา่ ง แสดงออกอย่าง 3.2.1 กล้าพดู กลา้ เหมาะสมบาง เหมาะสมตาม แสดงออก สถานการณ์ สถานการณ์ 3.2.2 แสดงความพอใจ 3.2.2 แสดงความ 3.2.2 แสดงควา ในผลงานของตนเอง พอใจในผลงานและ พอใจในผลงานแ ความสามารถของ ความสามารถขอ ตนเอง ตนเองและผู้อ่ืน

สาระการเรยี นรรู้ ายปี สาระทคี่ วรเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั กลา้ 1.การร่วมสนทนาและแลกเปลยี่ นความ (เรื่องราวเก่ยี วกบั ตัวเด็ก) คิดเห็นเชงิ จริยธรรม 1.การแสดงความรู้สกึ ที่ดีต่อ 2.การเล่นบทบาทสมมติ ตนเองและผอู้ ่ืน 3.การร่วมสนทนาและแลกเปลย่ี นความ คดิ เหน็ 4.การพดู แสดงความคิดเห็น ความรสู้ กึ และ ความตอ้ งการ 5. การพูดอยา่ งสรา้ งสรรค์ในการเล่นและ การกระทาต่าง ๆ าม 1.การพดู สะทอ้ นความรสู้ กึ ของตนเองและ 1.การสะทอ้ นการรับร้อู ารมณ์ และ ผอู้ นื่ และความร้สู กึ ของตนเองและ อง 2. การแสดงความยินดีเมือ่ ผอู้ นื่ มีความสุข ผอู้ ่ืน เหน็ ใจเม่อื มผี ู้อื่นเศรา้ หรอื เสยี ใจ และการ ช่วยเหลอื ปลอบโยนเมือ่ ผ้อู น่ื ไดร้ บั บาดเจบ็ 3.การปฏิบัตกิ ิจกรรมต่าง ๆ ตาม ความสามารถของตนเอง

พฒั นาการดา้ นอารมณ์และจิตใจ มาตรฐานท่ี 4 ชนื่ ชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี และการเคล่ือนไหว ตวั บง่ ช้ี สภาพท่พี งึ ประสงค์ ชัน้ อ.1 ช้นั อ.2 ช้ัน อ.3 (3-4ป)ี ( 4-5 ปี ) ( 5-6 ปี ) 4.1 สนใจ 4.1.1 สนใจ มี 4.1.1 สนใจ มี 4.1.1 สนใจ มี 1.กา 2.กา มีความสุขและ ความสขุ และ ความสขุ และ ความสขุ และ 3.กา 4.กา แสดงออก ผ่านงาน แสดงออกผา่ นงาน แสดงออกผ่านงาน แสดงออกผ่านงาน 5.กา ตนเอ ศิลปะ ดนตรีและ ศิลปะ ศิลปะ ศิลปะ 6.กา การเคลอื่ นไหว 1.กา โตต้ อ 4.1.2 สนใจ มี 4.1.2 สนใจ มี 4.1.2 สนใจ มี 2.กา ความสุข และ ความสุข และ ความสุข และ 3.กา แสดงออกผ่าน แสดงออกผ่าน แสดงออกผ่าน 4.กา เสยี งเพลง ดนตรี เสยี งเพลง ดนตรี เสียงเพลง ดนตรี 1.กา 4.1.3 สนใจมี 4.1.3 สนใจมี 4.1.3 สนใจมี โต้ตอ ความสุข และแสดง ความสขุ และแสดง ความสุข และแสดง 2.กา ทา่ ทาง/เคลอ่ื นไหว ท่าทาง/เคล่ือนไหว ทา่ ทาง/เคลอื่ นไหว 3.กา ประกอบเพลง ประกอบเพลง ประกอบเพลง จงั หวะ 4.กา จงั หวะและดนตรี จังหวะและดนตรี และดนตรี 5.กา

สาระการเรยี นรู้รายปี สาระทีค่ วรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั ารทากิจกรรมศิลปะต่าง ๆ (เรื่องราวเก่ยี วกบั ตวั เด็ก) ารสร้างสรรคส์ ่ิงสวยงาม 1.การเล่นและทาสง่ิ ตา่ ง ๆ ด้วย ารสะท้อนความรู้สกึ ตนเองตามลาพงั หรือกับผอู้ นื่ ารทางานศิลปะ - การทางานศิลปะ ารปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ตามความสามารถของ อง 1.การเลน่ และทาสิง่ ตา่ ง ๆ ดว้ ย ารสร้างสรรคส์ ง่ิ สวยงาม ตนเองตามลาพังหรอื กบั ผ้อู ื่น - การเลน่ เครือ่ งดนตรี ารฟงั เพลง การร้องเพลง และการแสดงปฏกิ ิรยิ า - การรอ้ งเพลง อบเสยี งดนตรี - การเคลอื่ นไหวประกอบเพลง ารเลน่ เครื่องเล่นดนตรีประกอบจังหวะ 1.การเล่นและทาสิ่งตา่ ง ๆ ดว้ ย ารเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี ตนเองตามลาพังหรอื กบั ผูอ้ น่ื ารรอ้ งเพลง - การแสดงทา่ ทางประกอบเพลง - การเคลอื่ นไหวตามจังหวะ ารฟังเพลง การรอ้ งเพลง และการแสดงปฏกิ ิรยิ า ดนตรี อบเสียงดนตรี ารเคลื่อนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี ารเลน่ บทบาทสมมติ ารเล่นอสิ ระ ารเลน่ รายบคุ คล กลุ่มยอ่ ย กลมุ่ ใหญ่

พฒั นาการดา้ นอารมณ์และจิตใจ มาตรฐานท่ี 5 มีคณุ ธรรม จริยธรรม และมีจติ ใจท่ดี งี าม ตวั บง่ ชี้ สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ชนั้ อ.1 ช้ัน อ.2 ชัน้ อ.3 ( 5-6 ปี ) (3-4ปี) ( 4-5 ปี ) 5.1.1 ขออนญุ า 5.1 ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 5.1.1 บอกหรอื ช้ไี ดว้ ่า 5.1.1 ขออนญุ าต หรอื รอคอยเมื่อ ต้องการสง่ิ ของข สงิ่ ใดเป็นของตนเองและ หรือรอคอยเม่ือ ผู้อื่นดว้ ยตนเอง ส่งิ ใดเปน็ ของผู้อ่นื ตอ้ งการสิ่งของของ ผอู้ ืน่ เม่อื มผี ชู้ ้แี นะ 5.2 มีความเมตตา 5.2.1 แสดงความรกั 5.2.1 แสดงความ 5.2.1 แสดงควา กรุณามนี ้าใจและ ชว่ ยเหลอื แบ่งปนั เพอื่ นและมีเมตตาสตั ว์ รกั เพ่ือนและมีเมตตา รักเพอื่ นและมเี ม เลี้ยง สัตวเ์ ลีย้ ง สตั ว์เลยี้ ง 5.2.2 แบง่ ปนั ผู้อ่นื ได้ 5.2.2 ช่วยเหลอื 5.2.2 ช่วยเหลอื เม่อื มีผชู้ ้แี นะ และแบง่ ปันผ้อู ่นื ได้ และแบง่ ปนั ผู้อน่ื เมือ่ มีผ้ชู ีแ้ นะ ด้วยตนเอง

สาระการเรยี นรูร้ ายปี ประสบการณ์สาคัญ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ ) าต 1.การฟงั นิทานเกยี่ วกบั คณุ ธรรม (เร่ืองราวเก่ยี วกับบคุ คลและ จริยธรรม สถานที่แวดลอ้ มเด็ก) ของ 2.การรว่ มสนทนาและแลกเปลยี่ นความ 1.คุณธรรมจริยธรรม คิดเห็นเชงิ จรยิ ธรรม - ความซอ่ื สัตยส์ ุจรติ 3.การเลน่ บทบาทสมมติ - ความเกรงใจ 4.การเลน่ และทางานร่วมกบั ผ้อู น่ื 2.การเคารพสทิ ธขิ องตนเองและ 5.การปฏิบตั ิตนเปน็ สมาชกิ ทีด่ ขี อง ผอู้ ่นื ห้องเรยี น 6.การปฏิบัติตามหลักศาสนาทตี่ นนบั ถอื าม 1.การฟังนิทานเก่ยี วกบั ความเมตตา 1.คณุ ธรรมจริยธรรม มตตา กรณุ า - ความเมตตา กรณุ า 2.การเล่นบทบาทสมมติ 3.การเล้ยี งสัตว์ อ 1.การฟงั นิทาน เก่ยี วกับคุณธรรม 1.คุณธรรม จริยธรรม นได้ จริยธรรม - ความมีน้าใจ ช่วยเหลอื 2.การเล่นบทบาทสมมติ แบง่ ปนั 3.การปฏบิ ตั ติ นเปน็ สมาชกิ ที่ดขี อง - ความกตัญญู ห้องเรียน

พัฒนาการดา้ นอารมณแ์ ละจิตใจ มาตรฐานท่ี 5 มคี ณุ ธรรม จริยธรรม และมจี ิตใจทดี่ ีงาม (ต่อ) ตัวบ่งชี้ สภาพทพ่ี ึงประสงค์ 5.3 มีความเหน็ อกเห็น ชัน้ อ.1 ช้นั อ.2 ชน้ั อ.3 ใจผูอ้ น่ื ( 5-6 ปี ) (3-4ปี) ( 4-5 ปี ) 5.4 มคี วามรบั ผิดชอบ 5.3.1 แสดงสหี 5.3.1 แสดงสีหนา้ หรอื 5.3.1 แสดงสหี นา้ และทา่ ทางรบั รู้ ความรสู้ ึกผูอ้ น่ื อ ท่าทางรบั รคู้ วามรสู้ กึ และท่าทางรบั รู้ สอดคลอ้ งกบั สถานการณ์ ผอู้ ื่น ความร้สู กึ ผูอ้ นื่ 5.4.1 ทางานท 5.4.1 ทางานทไ่ี ดร้ บั 5.4.1 ทางานที่ ได้รับมอบหมาย สาเร็จดว้ ยตนเอ มอบหมายจนสาเร็จเมอื่ ได้รับมอบหมายจน มผี ูช้ ว่ ยเหลือ สาเรจ็ เมอื่ มีผู้ชี้แนะ

สาระการเรยี นร้รู ายปี ประสบการณส์ าคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู้ ) หนา้ 1.การเลน่ และทางานรว่ มกับผอู้ นื่ (เรื่องราวเก่ียวกับบุคคลและสถานที่ 2.การเล่นบทบาทสมมติ แวดล้อมเดก็ ) อย่าง 1.คณุ ธรรมจริยธรรม -ความเห็นอกเห็นใจผู้อืน่ ท่ี 1.การทากิจกรรมศิลปะต่าง ๆ เรอ่ื งราวเก่ยี วกบั บคุ คลและสถานที่ ยจน 2.การดแู ลหอ้ งเรียนร่วมกัน แวดล้อมเด็ก) อง 3.การมสี ว่ นร่วมรบั ผดิ ชอบดูแล 1.คณุ ธรรมจรยิ ธรรม รกั ษาสิง่ แวดลอ้ มท้งั ภายในและ -ความรบั ผดิ ชอบ ภายนอกหอ้ งเรยี น -ความอดทน มุ่งมน่ั 4.การรว่ มกาหนดข้อตกลงของ -ความเพียร ห้องเรียน

พัฒนาการดา้ นสังคม มาตรฐานท่ี 6 มที กั ษะชีวิตและปฏิบัตติ นตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตวั บง่ ชี้ สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ช้ัน อ.1 ช้นั อ.2 ช้ัน อ.3 (3-4ป)ี ( 4-5 ปี ) ( 5-6 ปี ) 6.1 ช่วยเหลอื ตนเองใน 6.1.1 .แต่งตวั โดยมี 6.1.1 .แตง่ ตัวดว้ ย 6.1.1 .แต่งตัวด การปฏิบตั กิ ิจวตั ร ผู้ชว่ ยเหลือ ตนเอง ตนเองไดอ้ ยา่ ง ประจาวนั คลอ่ งแคลว่ 6.1.2 รบั ประทาน 6.1.2 รับประทาน 6.1.2 รบั ประท อาหารดว้ ยตนเอง อาหารดว้ ยตนเอง อาหารด้วยตนเอ อยา่ งถกู วิธี 6.1.3 ใชห้ ้องนา้ 6.1.3 ใชห้ ้องน้า 6.1.3 ใช้และทา ห้องส้วม โดยมี ห้องสว้ มดว้ ยตนเอง ความสะอาดหล ผชู้ ว่ ยเหลือ หอ้ งนา้ หอ้ งสว้ ม ดว้ ยตนเอง

สาระการเรียนร้รู ายปี ประสบการณ์สาคัญ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ) ดว้ ย 1.การช่วยเหลือตนเองในกจิ วัตรประจาวนั (เร่อื งราวเกี่ยวกับตัวเดก็ ) 1.การทาส่งิ ตา่ ง ๆ ด้วย ตนเอง - การแต่งกายด้วยตนเอง ทาน 1.การช่วยเหลอื ตนเองในกจิ วัตรประจาวนั 1.การทาส่งิ ตา่ ง ๆ ด้วย อง 2.การปฏบิ ัติตนตามสขุ อนามยั สุขนิสัยท่ดี ี ตนเอง ในกจิ วัตรประจาวนั - การรับประทานอาหาร ดว้ ยตนเอง า 1.การช่วยเหลอื ตนเองในกจิ วตั รประจาวนั 1.การทาสงิ่ ตา่ ง ๆ ดว้ ย ลงั ใช้ 2.การมีส่วนร่วมรับผิดชอบดแู ลรักษา ตนเอง ม ส่ิงแวดล้อมท้ังภายในและภายนอก - การใชห้ อ้ งน้าห้องส้วม หอ้ งเรยี น - การทาความสะอาด 3.การปฏบิ ัตติ นเปน็ สมาชิกทีด่ ขี อง หอ้ งน้า ห้องส้วม หอ้ งเรียน 4.การใหค้ วามร่วมมอื ในการปฏบิ ตั กจิ กรรม

พัฒนาการดา้ นสังคม มาตรฐานที่ 6 มีทกั ษะชีวติ และปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง (ตอ่ ตวั บ่งชี้ สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ ชั้น อ.1 ช้นั อ.2 ชนั้ อ.3 (3-4ป)ี ( 4-5 ปี ) ( 5-6 ปี ) 6.2 มวี นิ ัยใน 6.2.1 เกบ็ ของเลน่ 6.2.1 เก็บของเลน่ 6.2.1 เกบ็ ของเล ตนเอง ของใช้เขา้ ท่ี เมอ่ื มผี ู้ ของใชเ้ ขา้ ท่ี ด้วย ของใชเ้ ขา้ ที่ ช้ีแนะ ตนเอง เรยี บร้อยด้วยตนเอ 6.2.2 เข้าแถว 6.2.2 เขา้ แถว 6.2.2 เขา้ แถว ตามลาดบั ก่อนหลงั ตามลาดับก่อนหลังได้ ตามลาดบั กอ่ นหล ได้เมื่อมผี ้ชู ้ีแนะ ด้วยตนเอง ได้ด้วยตนเอง 6.3 ประหยดั 6.3.1 ใชส้ ่ิงของ 6.3.1 ใช้ส่ิงของ 6.3.1 ใช้ส่งิ ของ และพอเพียง เครอ่ื งใชอ้ ย่าง เครอื่ งใช้อยา่ งประหยัด เคร่ืองใช้อยา่ ง ประหยัดและ และพอเพียงเมื่อมีผู้ ประหยดั และ พอเพยี งเมอื่ มผี ู้ ชีแ้ นะ พอเพยี งดว้ ยตนเอ ชีแ้ นะ

อ) สาระการเรยี นรู้รายปี ประสบการณส์ าคัญ สาระที่ควรเรยี นรู้ ล่น 1.การชว่ ยเหลือตนเองในกจิ วตั รประจาวนั (เร่ืองราวเก่ยี วกบั ตัวเด็ก) 2.การมีสว่ นร่วมรบั ผดิ ชอบดูแลรกั ษาสิง่ แวดล้อมท้ัง 1.การปฏิบัติตนเปน็ อง ภายในและภายนอกห้องเรยี น สมาชิกที่ดขี องครอบครวั 3.การปฏบิ ตั ติ นเปน็ สมาชิกทด่ี ขี องหอ้ งเรียน และโรงเรียน 4.การร่วมกาหนดขอ้ ตกลงของหอ้ งเรียน - การเก็บของเลน่ เขา้ ท่ี 5.การดูแลหอ้ งเรยี นรว่ มกัน 1.การปฏบิ ตั ิตนเปน็ สมาชกิ ที่ดขี องห้องเรียน 1.การปฏบิ ตั ิตนเปน็ ลงั 2.การใหค้ วามรว่ มมือในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ ง ๆ สมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครัว และโรงเรยี น - การเข้าแถวตามลาดบั 1.การปฏบิ ัตติ นตามแนวทางของหลักปรัชญาของ 1.การตระหนักรเู้ กีย่ วกับ เศรษฐกิจพอเพยี ง ตนเอง 2.การมสี ่วนรว่ มรับผิดชอบดูแลสง่ิ แวดลอ้ มทั้ง - การใชส้ ง่ิ ของอยา่ ง อง ภายในและภายนอกหอ้ งเรียน ประหยดั 3.การใชว้ ัสดุส่ิงของเคร่ืองใชอ้ ย่างคุม้ ค่า 4.การทางานศลิ ปะท่นี าวัสดุหรอื สง่ิ ของเคร่ืองใช้ทใี่ ช้ แล้วมาใชห้ รือแปรรปู แล้วนากลบั มาใชใ้ หม่

พัฒนาการด้านสังคม มาตรฐานที่ 7 รักธรรมชาติ สิง่ แวดล้อม วัฒนธรรมและความเป็นไทย ตวั บง่ ช้ี ชน้ั อ.1 สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ชน้ั อ.3 1 (3-4ป)ี ชั้น อ.2 ( 5-6 ปี ) ภ 7.1 ดแู ลรักษา 7.1.1 มีส่วนรว่ ม ( 4-5 ปี ) 7.1.1 ดแู ลรักษา 2 ธรรมชาติและ ดแู ลรกั ษาธรรมชาติ ธรรมชาติและ แ ส่ิงแวดลอ้ ม และสง่ิ แวดลอ้ มเมอ่ื 7.1.1 มีส่วนรว่ ม สิง่ แวดลอ้ มด้วย 3 มีผชู้ แ้ี นะ ดแู ลรักษาธรรมชาติ ตนเอง 4 และสิ่งแวดล้อมเมือ่ เห 7.1.2 ทง้ิ ขยะไดถ้ ูก มีผู้ชแ้ี นะ 7.1.2 ทง้ิ ขยะไดถ้ กู 5 ท่ี ที่ แ 7.1.2 ทง้ิ ขยะไดถ้ กู 6 ที่ 1 ล 2 3 ใช 4 ว

สาระการเรียนร้รู ายปี สาระท่คี วรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ 1.การมสี ่วนร่วมในการดูแลรกั ษาส่งิ แวดล้อมทั้ง (ธรรมชาติรอบตวั เดก็ ) ภายในและภายนอกห้องเรียน 1.สงิ่ แวดลอ้ มในโรงเรียน 2.การสนทนาข่าวและเหตุการณ์ทเี่ กี่ยวกับธรรมชาติ และการดแู ลรกั ษา และสิ่งแวดลอ้ มในชวี ติ ประจาวนั 2. สง่ิ แวดลอ้ มตาม 3.การเพาะปลกู และดแู ลต้นไม้ ธรรมชาติและการอนุรักษ์ 4.การอธบิ ายเชือ่ มโยงสาเหตุและผลทีเ่ กิดข้ึนใน สิง่ แวดลอ้ ม หตุการณห์ รือการกระทา 3.การรักษาสาธารณสมบตั ิ 5.การตดั สินใจและมสี ่วนรว่ มในกระบวนการ ในห้องเรยี น แกป้ ญั หา 6.การศึกษานอกสถานที่ 1.การคดั แยก การจดั กลุ่มและจาแนกสิง่ ตา่ ง ๆ ตาม 1.ขยะและการคัดแยกขยะ ลกั ษณะรปู ร่าง รปู ทรง 2.การดแู ลรกั ษาสง่ิ แวดล้อม 2.การใชว้ ัสดแุ ละสง่ิ ของเครอ่ื งใช้อย่างคุ้มค่า 3.การทางานศลิ ปะที่นาวัสดุหรือสง่ิ ของ เครอ่ื งใช้ที่ ชแ้ ล้วมาใช้ซา้ หรือแปรรปู แลว้ นากลบั มาใช้ใหม่ 4.การสรา้ งสรรค์ชิ้นงานโดยใชร้ ปู ร่างรูปทรงจาก วสั ดทุ ีห่ ลากหลาย

พัฒนาการด้านสังคม มาตรฐานท่ี 7 รักธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม วฒั นธรรมและความเป็นไทย (ต่อ) ตวั บ่งชี้ สภาพท่พี งึ ประสงค์ ชัน้ อ.1 ชนั้ อ.2 ช้นั อ. (3-4ป)ี ( 4-5 ปี ) ( 5-6 ป 7.2 มีมารยาท 7.2.1 ปฏบิ ตั ติ นตาม 7.2.1 ปฏบิ ตั ติ น 7.2.1 ปฏิบัต ตามวัฒนธรรมไทย มารยาทไทยไดเ้ มื่อมีผ้ชู ี ตามมารยาทไทยได้ ตามมารยาท และรกั ความเปน็ แนะ ด้วยตนเอง ตามกาลเทศะ ไทย 7.2.2 กลา่ วคาขอบคุณ 7.2.2 กล่าวคา 7.2.2 กลา่ ว และขอโทษเมอื่ มีผูช้ แ้ี นะ ขอบคุณและขอ ขอบคณุ และ ดว้ ยตนเอง โทษด้วยตนเอง 7.2.3 หยดุ ยนื ตรงเม่อื ได้ 7.2.3 ยืนตรงเมือ่ 7.2.3 ยนื ตร ยินเพลงชาตไิ ทยและเพลง ได้ยินเพลงชาติไทย ร่วมรอ้ งเพลง สรรเสริญพระบารมี และเพลงสรรเสรญิ ไทยและเพลง พระบารมี สรรเสรญิ พระ

สาระการเรยี นรูร้ ายปี .3 ประสบการณส์ าคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ ปี ) ติตน 1.การปฏิบตั ิตนตามวฒั นธรรมท้อง 1.การปฏิบตั ิตนตามมารยาทและ ทไทยได้ ถิน่ ทอี่ าศัยและประเพณีไทย วัฒนธรรมไทย ะ 2.การเลน่ บทบาทสมมตกิ ารปฏบิ ตั ิ ตนในความเปน็ คนไทย -การแสดงความเคารพ วคา -การพดู สภุ าพ ะขอโทษ 1.การปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมทอ้ ง - การกล่าวคาขอบคุณและขอโทษ ถ่นิ ทีอ่ าศัยและประเพณไี ทย 1.การปฏิบตั ิตนตามมารยาทและ รงและ 2.การเล่นบทบาทสมมตกิ ารปฏบิ ตั ิ วัฒนธรรมไทย งชาติ ตนในความเปน็ คนไทย ง 3.การพูดสะท้อนความรสู้ ึกของ -การพูดสภุ าพ ะบารมี ตนเองและผอู้ น่ื - การกลา่ วคาขอบคุณและขอโทษ 1.การปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมทอ้ ง ถิน่ ท่อี าศยั และประเพณีไทย 1.วันสาคัญของชาติ ศาสนา 2.การเลน่ บทบาทสมมติการปฏบิ ตั ิ พระมหากษตั รยิ ์ ตนในความเปน็ คนไทย 2.สัญลกั ษณ์สาคัญของชาตไิ ทย 3.การรว่ มกจิ กรรมวนั สาคญั 3.การแสดงความจงรกั ภักดตี ่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

พฒั นาการด้านสงั คม มาตรฐานที่ 8 อย่รู ่วมกับผู้อื่นไดอ้ ย่างมีความสขุ และปฏิบัตติ นเปน็ สมาชกิ ทดี่ ีของสังค ตวั บ่งช้ี ช้นั อ.1 สภาพที่พึงประสงค์ ชนั้ อ.3 (3-4ป)ี ( 5-6 ปี ) 8.1 ยอมรบั ความ ช้นั อ.2 เหมือนและความ 8.1.1 เลน่ และทา ( 4-5 ปี ) 8.1.1 เล่นและทา แตกต่างระหวา่ ง กิจกรรมรว่ มกับเด็กที่ กิจกรรมร่วมกบั เดก็ บคุ คล แตกตา่ งไปจากตน 8.1.1 เล่นและทา ทแ่ี ตกต่างไปจากตน กิจกรรมร่วมกับเด็ก ทแ่ี ตกตา่ งไปจากตน 8.2 มปี ฏสิ ัมพนั ธ์ 8.2.1 เล่นร่วมกบั 8.2.1 เลน่ หรือ 8.2.1 เลน่ หรือ ทด่ี กี ับผู้อืน่ เพอ่ื น ทางานรว่ มกับเพ่ือน ทางานร่วมกบั เพอ่ื น เปน็ กลมุ่ อย่างมเี ป้าหมาย 8.2.2 ย้มิ ทักทายหรือ 8.2.2 ยม้ิ ทกั ทาย 8.2.2 ยิ้มทกั ทาย คุยกับผูใ้ หญแ่ ละบุคคล หรอื คยุ กบั ผใู้ หญ่และ หรอื คุยกบั ผู้ใหญ่และ ท่ีคนุ้ เคยเม่อื มผี ชู้ แ้ี นะ บคุ คลที่คนุ้ เคยได้ บคุ คลทคี่ ุน้ เคยได้ ดว้ ยตนเอง เหมาะสมกบั สถานการณ์

คมในระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ สาระการเรียนรรู้ ายปี ประสบการณส์ าคญั สาระที่ควรเรยี นรู้ 1.การปฏิบตั ิตนเปน็ สมาชกิ ที่ดขี องห้องเรยี น 1.การยอมรบั ความเหมอื น 2.การรว่ มสนทนาและแลกเปลยี่ นความคิดเหน็ และความแตกต่างระหวา่ ง 3.การเลน่ และทางานร่วมกบั ผอู้ นื่ บุคคล 4.การมสี ว่ นรว่ มในการแก้ปญั หาความขดั แยง้ 5.การเล่นหรอื ทากจิ กรรมรว่ มกับกลมุ่ เพอื่ น 6.การทาศลิ ปะแบบรว่ มมือ 1.การปฏบิ ัติตนเปน็ สมาชกิ ที่ดขี องห้องเรียน 1.การเล่นร่วมกับเพอื่ นอย่างมี 2.การเลน่ และทางานรว่ มกับผอู้ นื่ เป้าหมาย 3.การเล่นหรือทากิจกรรมรว่ มกับกลมุ่ เพือ่ น 2.การทางานรว่ มกบั เพอ่ื น อย่างมเี ปา้ หมาย 1.การปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมท้องถนิ่ ท่ีอาศยั และ 1.การมปี ฏิสัมพันธ์ท่ดี กี บั ผอู้ นื่ ประเพณีไทย -การย้ิมแย้มทกั ทายผ้ใู หญ่ 2.การปฏบิ ัติตนเปน็ สมาชิกท่ีดขี องหอ้ งเรียน -การยิ้มแย้มทกั ทายบุคคลที่ 3.การให้ความรว่ มมอื ในการปฏิบตั ิกจิ กรรม ตา่ ง ๆ คุ้นเคย

พฒั นาการดา้ นสงั คม มาตรฐานที่ 8 อยรู่ ่วมกับผู้อื่นได้อย่างมคี วามสขุ และปฏบิ ัติตนเป็นสมาชกิ ท่ดี ขี องสังค ตวั บง่ ชี้ สภาพที่พงึ ประสงค์ ชน้ั อ.1 ช้ัน อ.2 ชั้น อ.3 (3-4ป)ี ( 4-5 ปี ) ( 5-6 ปี ) 8.3ปฏิบัตติ น 8.3.1 ปฏิบัตติ าม 8.3.1 มีสว่ นรว่ มสรา้ ง 8.3.1 มีส่วนร่วมสร เบือ้ งตน้ ในการ ข้อตกลงเมอ่ื มีผู้ ข้อตกลงและปฏิบัตติ าม ข้อตกลงและปฏิบตั ติ เปน็ สมาชิกทด่ี ีของ ชี้แนะ ขอ้ ตกลงเม่อื มผี ชู้ ีแ้ นะ ขอ้ ตกลงดว้ ยตนเอง สงั คม 8.3.2 ปฏบิ ตั ติ น 8.3.2 ปฏบิ ัตติ นเป็นผ้นู า 8.3.2 ปฏิบตั ิตนเปน็ เปน็ ผนู้ าและผตู้ าม และผูต้ ามได้ดว้ ยตนเอง และผ้ตู ามไดเ้ หมาะส เม่อื มผี ู้ช้ีแนะ สถานการณ์ 8.3.3 ยอมรบั การ 8.3.3 ประนปี ระนอม 8.3.3 ประนปี ระนอ ประนปี ระนอมแกไ้ ข แกไ้ ขปัญหาโดยปราศจาก แก้ไขปัญหาโดยปรา ปัญหาเมื่อมีผูช้ แี้ นะ การใชค้ วามรนุ แรงเมอื่ มีผู้ การใชค้ วามรนุ แรงด ชี้แนะ ตนเอง

คมในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมุข(ต่อ) สาระการเรยี นรู้รายปี ประสบการณ์สาคญั สาระท่ีควรเรียนรู้ รา้ ง 1.การรว่ มกาหนดข้อตกลงของ (เรอ่ื งราวเกย่ี วกบั ตัวเดก็ ) ตาม หอ้ งเรียน 1.การเคารพสิทธิของตนเองและผ้อู ่นื 2.การปฏบิ ตั ติ นเปน็ สมาชกิ ทดี ขี อง - การสร้างขอ้ ตกลงของหอ้ งเรียน หอ้ งเรยี น - การปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลงของ 3.การให้ความร่วมมอื ในการปฏบิ ัติ หอ้ งเรยี น กิจกรรมต่าง ๆ 4.การเล่นบทบาทสมมตกิ ารปฏบิ ตั ิ ตนในความเปน็ คนไทย นผนู้ า 1.การปฏิบัตติ นเปน็ สมาชิกที่ดขี อง 1.การเคารพสิทธิของตนเองและผอู้ น่ื สมกบั ห้องเรียน - การเปน็ ผู้นา ผู้ตาม 2.การใหค้ วามรว่ มมือในการปฏิบัติ 1.การปฏิบัติตนเปน็ สมาชกิ ท่ีดขี อง กจิ กรรมตา่ ง ๆ ครอบครวั และโรงเรียน 3.การเลน่ และทางานร่วมกับผอู้ น่ื -การประนปี ระนอม อม 1.การมีสว่ นรว่ มในการเลือกวธิ ีการ าศจาก แกป้ ญั หา ด้วย 2.การมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ความขดั แย้ง

พฒั นาการดา้ นสติปญั ญา มาตรฐานที่ 9 ใช้ภาษาสื่อสารได้เหมาะสมกับวัย ตวั บ่งชี้ สภาพทพี่ งึ ประสงค์ 9.1สนทนา ช้ัน อ.1 ชน้ั อ.2 ช้ัน อ.3 โตต้ อบและ เล่า ( 5-6 ปี ) เรื่องให้ผูอ้ ่ืนเข้าใจ (3-4ป)ี ( 4-5 ปี ) 9.1.1 ฟงั ผ้อู น่ื พูด 9.1.1 ฟงั ผูอ้ ่นื พูดจนจบ 9.1.1 ฟงั ผู้อืน่ พดู จนจบและสนทนา โตต้ อบอยา่ งตอ่ เนื่อง และพดู โตต้ อบเก่ียวกับ จนจบและสนทนา เช่ือมโยงกบั เรอื่ งท่ี ฟัง เรื่องท่ฟี งั โตต้ อบสอดคล้องกับ เรอ่ื งทฟ่ี ัง 9.1.2 เล่าเรอ่ื งดว้ ย 9.1.2 เลา่ เร่อื งเป็น 9.1.2 เล่าเรือ่ งเป็น ประโยคสนั้ ๆ ประโยคอย่าง ประโยคอยา่ ง ตอ่ เน่ือง ต่อเน่อื ง

สาระการเรียนรู้รายปี ประสบการณส์ าคัญ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ 1.การรอจงั หวะทีเหมาะสมในการพดู (ส่ิงตา่ ง ๆ รอบตัวเด็ก) 2.การพูดแสดงความคิดความรสู้ ึกและความ 1.การใชภ้ าษาท้งั การพดู อ่าน เขยี น ต้องการ เพ่ือการส่ือสารในชวี ิตประจาวนั 3.การฟงั เสียงตา่ ง ๆ ในสิง่ แวดล้อม - มารยาทในการฟงั และพูด 4.การฟังและปฏบิ ตั ิตามคาแนะนา - การสนทนาโต้ตอบอย่างตอ่ เน่ือง สอดคล้องกับเรื่องที่ฟัง 5.การฟังเพลง นทิ าน คาคล้องจอง บทรอ้ ย กรองหรือรเร่ืองราวตา่ ง ๆ 1.การพูดกับผูอ้ ่ืนเกยี่ วกบั ประสบการณ์ของ 1.การใช้ภาษาทง้ั การพูด อ่าน เขียน ตนเองหรือผพู้ ดู เล่าเรอื่ งราวเกี่ยวกับตนเอง เพ่อื การส่อื สารในชวี ิตประจาวัน 2.การพดู อธิบายเกีย่ วกับสงิ่ ของ - การเลา่ เร่ืองเปน็ ประโยค เหตุการณ์และความสัมพนั ธข์ องส่งิ ต่าง ๆ 3.การพูดเรียงลาดบั คาเพื่อใช้ในการสอื่ สาร 4.การพดู อยา่ งสรา้ งสรรค์ในการเลน่ และ การกระทาตา่ งๆ

พฒั นาการด้านสติปญั ญา มาตรฐานที่ 9 ใชภ้ าษาสอ่ื สารไดเ้ หมาะสมกับวัย (ตอ่ ) ตวั บ่งชี้ สภาพทีพ่ ึงประสงค์ 9.2อา่ นเขียน ชนั้ อ.1 ชั้น อ.2 ชนั้ อ.3 ภาพและ (3-4ป)ี สัญลักษณไ์ ด้ 9.2.1 อ่านภาพ ( 4-5 ปี ) ( 5-6 ปี ) และพดู ขอ้ ความ ดว้ ยภาษาของ 9.2.1 อ่านภาพ 9.2.1 อา่ นภาพ 1.การอ่าน ตนเอง ซา้ ยไปขวา สัญลกั ษณ์ คา สัญลกั ษณ์ คา 2.การสงั เก 9.2.2 เขยี น ขีด เขียนของผ เขยี่ อยา่ งมี พร้อมท้ังชีห้ รือ ด้วยการชี้หรอื กวาด 3.การอ่าน ทศิ ทาง 4.การอา่ น กวาดตามอง ตามองจดุ เร่มิ ต้นและ โดยมผี ชู้ ี้แน 5.การเหน็ ขอ้ ความตาม จุดจบของขอ้ ความ 6.การสงั เก 7.การคาด บรรทดั จากนทิ าน 8.การเล่นเ 9.2.2 เขียน 9.2.2 เขยี นชือ่ ของ คลา้ ยตัวอักษร ตนเองตามแบบ 1.การเขียน 2.การเขยี น เขียนข้อความดว้ ยวธิ ี 3.การคิด ส ท่ีคิดขน้ึ เอง อยา่ งอิสระ 4.การสงั เก 5.การเหน็

สาระการเรยี นร้รู ายปี สาระท่คี วรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั นและชข้ี อ้ ความโดยกวาดสายตาตามบรรทัดจาก (ส่ิงต่าง ๆ รอบตัวเดก็ ) า จากบนและลา่ ง 1.การใช้ภาษาทัง้ การพูด อา่ น กตตวั อกั ษรทปี่ ระกอบเปน็ คา ผ่านการอา่ นหรือ เขยี น เพ่ือการสอื่ สารใน ผู้ใหญ่ ชวี ิตประจาวนั นหนังสือภาพ นิทานหลากหลายประเภท/รปู แบบ - การอ่านภาพสญั ลกั ษณ์ นอย่างอิสระตามลาพงั การอา่ นรว่ มกนั การอา่ น - การอ่านคา นะ นแบบอยา่ งการอา่ นทถี่ ูกต้อง 1.การใชภ้ าษาทั้งการพดู อา่ น กตทศิ ทางการอา่ นตวั อกั ษร คา และขอ้ ความ เขยี น เพอื่ การสอ่ื สารใน ดเดาคาวลี หรือประโยค ทมี่ โี ครงสร้างซา้ ๆ กัน ชีวิตประจาวนั น เพลง คาคล้องจอง - การเขยี นคลา้ ยตวั อักษร เกมทางภาษา - การเขียนช่อื ของตนเอง นร่วมกันตามโอกาสและการเขียนอิสระ นคาท่มี คี วามหมายกบั ตัวเด็ก คาคนุ้ เคย สะกดคาและเขียนเพอื่ ส่อื ความหมายดว้ ยตนเอง ะ กตตัวอกั ษรในชือ่ ของตนเองหรือคาคุ้นเคย นแบบอย่างการเขยี นทถี่ กู ต้อง

พัฒนาการดา้ นสติปญั ญา มาตรฐานที่ 10 มีความสามารถในการคดิ ทเ่ี ป็นพ้ืนฐานในการเรียนรู้ ตัวบง่ ชี้ สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ช้ัน อ.1 ชน้ั อ.2 ชนั้ อ.3 (3-4ป)ี ( 4-5 ปี ) ( 5-6 ปี ) 10.1มีความสามารถ 10.1.1 บอก 10.1.1 บอก 10.1.1 บอกลักษณะ ในการคิดรวบยอด ลกั ษณะของสงิ่ ตา่ ง ลกั ษณะและ และส่วนประกอบการ ๆ จากการสงั เกตโดย สว่ นประกอบของส่งิ เปลี่ยนแปลงหรือ ใช้ประสาทสมั ผัส ตา่ ง ๆ จากการ ความสมั พันธ์ของส่ิงตา่ ง สงั เกตโดยใช้ ๆ จากการสงั เกตโดยใช ประสาทสมั ผสั ประสาทสัมผสั

สาระการเรียนรู้รายปี ประสบการณ์สาคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้ 1.การสงั เกต ลักษณะ สว่ นประกอบการ (ส่ิงต่าง ๆ รอบตัวเด็ก) เปลย่ี นแปลง และความสมั พนั ธข์ องส่ิงต่าง ๆ 1. สิ่งต่าง ๆ รอบตัว มชี ่ือ โดยใชป้ ระสาทสมั ผสั อยา่ งเหมาะสม ลักษณะ สี ผวิ สมั ผสั ง 2.การสงั เกตส่งิ ต่าง ๆ และสถานที่ จาก ขนาด รูปรา่ ง รปู ทรง ช้ มมุ มองท่ีต่างกัน ปริมาตร นา้ หนัก จานวน 3.การบอกและแสดงตาแหนง่ ทศิ ทางและ สว่ นประกอบ ระยะทางของส่งิ ต่าง ๆ ด้วยการกระทา - การใช้ประสาทสัมผสั ใน ภาพวาด ภาพถา่ ย และรปู ภาพ การสงั เกต 4.การเลน่ กบั สื่อตา่ ง ๆ ทีเ่ ปน็ ทรงกลม ทรง -บอกลกั ษณะของสิง่ ตา่ ง สเ่ี หลยี่ มมุมฉาก ทรงกระบอก กรวย ๆ 5.การคัดแยก จดั กลมุ่ และการจาแนกสงิ่ -การสังเกตและบอกการ ต่าง ๆ ตามลักษณะและรูปรา่ ง รูปทรง เปลี่ยนแปลงของสิง่ ตา่ ง ๆ 6.การต่อของชิน้ เล็กเตมิ ในชิน้ ใหญใ่ ห้ สมบรู ณ์ และการแยกชนิ้ สว่ น 7.การทาซ้า การตอ่ เตมิ และการสรา้ งแบบ รปู

พฒั นาการดา้ นสตปิ ญั ญา มาตรฐานที่ 10 มีความสามารถในการคิดทเ่ี ป็นพ้ืนฐานในการเรยี นรู้ ตวั บ่งช้ี สภาพทพ่ี ึงประสงค์ ชั้น อ.1 ชั้น อ.2 ชัน้ อ.3 (3-4ปี) ( 4-5 ปี ) ( 5-6 ป 10.1 มีความสามารถ 10.1.2 จบั คู่หรือ 10.1.2 จับคแู่ ละ 10.1.2 จบั ค่แู ล ในการคิดรวบยอด เปรยี บเทียบเทยี บสงิ่ ตา่ ง เปรียบเทยี บความ เปรียบเทียบควา ๆ โดยใชล้ ักษณะหรอื แตกตา่ งหรอื ความ แตกตา่ งหรอื ควา หน้าทีก่ ารใช้งาน เหมอื นของสิง่ ตา่ ง ๆ เหมือนของสิง่ ต่า โดยใชล้ กั ษณะทีส่ งั เกต โดยใช้ลักษณะท พบเพยี งลักษณะเดยี ว พบสองลกั ษณะข 10.1.3 คัดแยกสงิ่ ต่าง 10.1.3 จาแนกและ 10.1.3 จาแนก ๆ ตามลักษณะหรือ จัดกล่มุ ส่ิงตา่ ง ๆ โดย กลมุ่ ส่งิ ต่าง ๆ โด หน้าทีก่ ารใชง้ าน ใชอ้ ย่างนอ้ ยหนง่ึ ต้ังแตส่ องลกั ษณ ลักษณะเป็นเกณฑ์ เป็นเกณฑ์

สาระการเรยี นรรู้ ายปี 3 ประสบการณ์สาคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู้ ปี ) ละ 1.การจับค่กู ารเปรยี บเทียบและการ 1. ส่งิ ตา่ ง ๆ รอบตวั มชี อ่ื าม าม เรียงลาดับสงิ่ ตา่ ง ๆ ตามลกั ษณะ ลักษณะ สี ผวิ สัมผสั ขนาด าง ๆ ทสี่ งั เกต ความยาว ความยาว นา้ หนัก รูปรา่ ง รูปทรง ปริมาตร นา้ หนกั ขนึ้ ไป ปริมาตร จานวน ส่วนประกอบ กและจดั ดยใช้ 2.การบอกและแสดงอนั ดับท่ีของสงิ่ - จบั คสู่ ่ิงตา่ ง ๆ ณะขนึ้ ไป ตา่ ง ๆ - เปรยี บเทยี บและบอกความ 3.การนบั และแสดงจานวนของสง่ิ ต่าง เหมือนความตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจาวนั - เปรียบเทียบความสูง - เปรียบเทยี บของสองชน้ิ ทม่ี ี นา้ หนักแตกตา่ งกนั 1.การคดั แยก การจัดกลุม่ และการ 1. ส่งิ ต่าง ๆ รอบตวั มชี อ่ื จาแนกสิ่งตา่ ง ๆตามลักษณะและ ลักษณะ สี ผิวสมั ผสั ขนาด รปู รา่ ง รูปทรง รูปรา่ ง รปู ทรง ปริมาตร นา้ หนกั 2.การชั่ง ตวง วัดสงิ่ ต่าง ๆ โดยใช้ จานวน สว่ นประกอบ เครือ่ งมือและหน่วยท่ไี ม่ใช่มาตรฐาน - การจาแนก ๓.การรวมและการแยกสิ่งตา่ ง ๆ - การจดั กลุม่

พฒั นาการด้านสตปิ ัญญา มาตรฐานที่ 10 มีความสามารถในการคิดท่ีเป็นพนื้ ฐานในการเรยี นรู้ (ต่อ) ตวั บง่ ชี้ สภาพที่พงึ ประสงค์ ชัน้ อ.1 ช้ัน อ.2 ชั้น อ.3 (3-4ป)ี ( 4-5 ปี ) ( 5-6 ปี ) 10.1มี 10.1.4 เรยี งลาดับ 10.1.4 10.1.4 เรยี งลาดับ 1.ก ของ ความสามารถใน สิ่งของหรอื เรียงลาดบั สงิ่ ของ ส่ิงของหรอื เหตกุ ารณ์ 2.ก เรีย การคิดรวบยอด เหตกุ ารณ์ อย่างนอ้ ย หรอื เหตุการณ์ อย่างนอ้ ย 5 ลาดับ ควา 3.ก 3 ลาดบั อยา่ งน้อย 4 เหต ลาดับ 1.ก เกดิ 10.2 มี 10.2.1 ระบุผลที่ 10.2.1 ระบุ 10.2.1 อธบิ ายเขื่อม ความสามารถใน เกิดขน้ึ ในเหตกุ ารณ์ สาเหตหุ รอื ผลที่ โยงสาเหตุและผลท่ี การคดิ เชิง หรือการกระทาเม่ือมี เกดิ ขน้ึ ใน เกดิ ขน้ึ ในเหตกุ ารณ์ เหตผุ ล ผ้ชู ี้แนะ หรอื การกระทาดว้ ย เหตุการณ์หรือการ ตนเอง กระทาเมือ่ มีผู้ ชแ้ี นะ

สาระการเรียนร้รู ายปี ประสบการณส์ าคัญ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ การเปรยี บเทียบและเรียงลาดบั จานวน 1. ส่งิ ต่าง ๆ รอบตัว มชี ื่อ ลกั ษณะ สี องสิง่ ตา่ ง ๆ ผวิ สัมผสั ขนาด รปู รา่ ง รูปทรง ปรมิ าตร การจบั คู่การเปรยี บเทยี บและการ นา้ หนัก จานวน สว่ นประกอบ ยงลาดับส่งิ ตา่ ง ๆ ตามลกั ษณะความยาว - การเรียงลาดบั สิ่งของ ามยาว น้าหนกั ปรมิ าตร - การเรยี งลาดับเหตกุ ารณ์ การบอกและเรยี งลาดับกจิ กรรมหรอื ตุการณต์ ามชว่ งเวลา (ธรรมชาตริ อบตวั ) 1.การเปลย่ี นแปลงและความสมั พนั ธข์ อง การอธบิ ายเชื่อมโยงสาเหตุและผลที่ สิ่งต่าง ๆ รอบตัว ดขึ้นในเหตุการณ์หรือการกระทา - สารวจเหตกุ ารณใ์ นชวี ติ ประจาวัน - อธิบายถงึ สาเหตุและผลทเ่ี กดิ ใน เหตุการณ์ตา่ ง ๆ

พฒั นาการด้านสติปัญญา มาตรฐานท่ี 10 มีความสามารถในการคดิ ที่เป็นพน้ื ฐานในการเรียนรู้ (ตอ่ ) ตัวบง่ ชี้ สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ 10.3 มี ชน้ั อ.1 ชั้น อ.2 ช้ัน อ.3 ความสามารถใน (3-4ป)ี การคดิ แก้ปญั หา ( 4-5 ปี ) ( 5-6 ปี ) และตัดสนิ ใจ 10.3.1 ตดั สนิ ใจใน เรอ่ื งง่าย ๆ 10.3.1 ตดั สินใจใน 10.3.1 ตดั สินใจใน เรอ่ื งง่าย ๆ และเรมิ่ ๆ และยอมรับผลที่เ เรยี นร้ผู ลท่เี กดิ ข้นึ 10.3.2 แก้ปัญหาโดย 10.3.2 ระบุปญั หา 10.3.2 ระบุปัญหา ลองผิดลองถูก และแก้ปัญหาโดยลอง ทางเลอื กและเลือกว ผิดลองถกู แกป้ ญั หา