Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สี่ทศวรรษ จากวิทยาลัยครูสู่มหาวิทยาลัย: พัฒนาการมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง

สี่ทศวรรษ จากวิทยาลัยครูสู่มหาวิทยาลัย: พัฒนาการมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง

Published by sakulsueb_9, 2020-05-08 00:41:54

Description: หนังสือที่เล่าเรื่องราวความเป็นมาของมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ผ่านมุมมองและความทรงจำของคณาจารย์อาวุโสหลากหลายท่าน คือประวัติศาสตร์ความทรงจำที่ผ่านมาแล้วกว่า 40 ปี จากวิทยาลัยครูสู่มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ผลงานการเขียนและเรียบเรียงโดย ผศ.จำลอง คำบุญชู อาจารย์ประจำสาขาวิชาภาษาไทย(ศศ.บ.) คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ และรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง(ตำแหน่งก่อนเกษียณ)

Keywords: 40 ปี,วิทยาลัยครูลำปาง,มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง

Search

Read the Text Version

สที่ ศวรรษ จาก วิทยาลัยครู สู่ มหาวทิ ยาลัย : พฒั นาการมหาวิทยาลยั ราชภัฏลำปาง ISBN XXXXXXXXXXXXX ผูเ้ ขยี น ผศ.จำลอง คำบญุ ช ู คณะทำงาน ผศ.ดร.ดวงจันทร์ เดยี่ ววิไล ประธานคณะทำงาน รศ.ชตุ มิ า เวทการ กรรมการ อ.ยอดยงิ่ รักสตั ย์ กรรมการ อ.ดร.วยิ ดา เหลม่ ตระกูล กรรมการ อ.สภุ าพ ต๊ะใจ กรรมการ อ.วเิ ชิด ทวีกลุ กรรมการ ผศ.จำลอง คำบุญช ู เลขานกุ ารคณะทำงาน พมิ พ์ครง้ั ที่ 1 ธันวาคม 2556 จำนวน XXXX เลม่ ศิลปกรรม อาร์ทรูมปร้ินแอนด์ดไี ซน ์

คำนยิ ม 9 มิถุนายน 2514 เป็นวันท่ี อาจารย์โอฬาร โรจน์หิรัญ และคณะทำงานมา ร่วมกันวางหลักปักหมุด สร้างวิทยาลัยครูลำปาง หลังจากท่ีต้องดำเนินการอย่าง เหน็ดเหนื่อยยุ่งยาก มีปัญหาอุปสรรค นานัปการ แต่ด้วยความมุ่งม่ันทุกสิ่งทุกอย่างก็ ผ่านพ้นจนสำเร็จเสร็จสมบูรณ์เป็นวิทยาลัยครูลำปาง สร้างความเจริญให้แก่พื้นที่และ ผลิตทรัพยากรบุคคลท่ีมีคุณค่า มีประสิทธิภาพ ออกไปรับใช้ พัฒนาสังคมชุมชนและ ประเทศชาติมาอย่างต่อเน่ืองจากวิทยาลัยครู เข้าสู่ความเป็นสถาบันราชภัฏ และเติบโต จนเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางในท่ีสุด จากวันน้ันถึงวันน้ีเป็นเวลากว่า 42 ป ี ผ่านมาแลว้ ในวาระครบรอบ 10 ปี การสถาปนาให้เป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง จึงได้มดี ำริให้มีการวจิ ัยเก็บรวบรวมข้อมลู สาระอันเปน็ คณุ ประโยชนเ์ ปน็ หลกั ฐานให้เห็น ถึงความเป็นมาของมหาวิทยาลัยตลอดจนการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนามหาวิทยาลัย นับต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเห็นชอบมอบหมายให้ผู้ช่วยศาสตราจารย์จำลอง คำบุญชู ผู้ซึ่งเป็นศิษย์เก่ารุ่นแรกและเป็นอาจารย์ประจำของมหาวิทยาลัยเป็นผู้รับผิด ชอบดำเนินการ เพ่ือให้ได้มาซึ่งข้อมูลอันเป็นหลักฐาน เพ่ือการศึกษา เพื่อการสืบค้น และเพื่อการดำเนินการต่อยอดต่อไปในอนาคต และขอให้ตีพิมพ์เป็นหนังสือชื่อ สี่ทศวรรษ จากวิทยาลัยครู สมู่ หาวทิ ยาลัย : พัฒนาการมหาวทิ ยาลัยราชภัฏลำปาง หนังสือเล่มน้ีเป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้อมูลอันเป็นภูมิหลังดั้งเดิมของวิทยาลัยครู ลำปาง สถาบันราชภฏั ลำปาง จนถึงการเปน็ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ลำปางในขณะน้ีซึง่ อาจ ไม่สมบูรณ์ท่ีสุด อย่างไรก็ตามถือว่าได้มีการเริ่มต้นแล้วตามปณิธานที่มุ่งหวังไว้ว่าจะต้อง มีการสืบค้นและรวบรวมประวัติและการพัฒนามหาวิทยาลัยไว้เป็นหลักฐาน และ คุณูปการนี้เป็นพลังปัญญาและความอุตสาหะโดยแท้จริง ในนามของมหาวิทยาลัย ราชภัฏลำปางต้องขอขอบคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์จำลอง คำบุญชู และผู้ท่ีให้ความ ร่วมมือในการดำเนินการ ผู้ให้ข้อมูลทุกท่านท้ังท่ียังอยู่และผู้ท่ีล่วงลับไปแล้วด้วยความ เคารพด้วยใจจริง และหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะยังประโยชน์ให้กับคนรุ่นต่อๆไปเพ่ือใช ้ ในการศกึ ษาสบื คน้ เรยี นรูห้ รอื วิจยั ตอ่ ไป (ผูช้ ่วยศาสตราจารย์เลก็ แสงมอี านภุ าพ) อธกิ ารบดี มหาวิทยาลยั ราชภฏั ลำปาง

ความในใจของผเู้ ขยี น “ส่ีทศวรรษ จากวทิ ยาลยั ครู สูม่ หาวิทยาลยั : พัฒนาการมหาวิทยาลัยราชภัฏ ลำปาง” เล่มนี้มีจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2542 จากดำริของท่านอธิการบดีและคณะบริหาร สถาบันราชภัฏลำปาง ซึ่ง ผศ. เล็ก แสงมีอานุภาพ เป็นอธิการบดีสมัยแรก โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประวัติพัฒนาการสถาบันในโอกาสที่จะครบรอบ 30 ปีวันคล้าย วันสถาปนาในปี 2544 ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถาบันได้มอบหมายให้ศูนย์ศิลป วัฒนธรรมเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งขณะน้ันผู้เขียนยังเป็นผู้อำนวยการศูนย์ศิลปวัฒนธรรม สถาบันราชภัฏลำปาง จึงทำหน้าท่ีเป็นประธานคณะทำงาน และมีทีมงานในศูนย์ศิลป วัฒนธรรมร่วมงาน คอื รศ.ชตุ มิ า เวทการ ผศ.ณรงค์ สมทิ ธธิ รรม อ.จิตรกร แตม้ คลอ่ ง อ.ยอดยงิ่ รักสตั ย์ นอกจากน้ี ผศ. ดร.ดวงจันทร์ เดย่ี ววไิ ล คณบดีคณะครุศาสตร์ ใน ขณะนน้ั ได้เข้าร่วมเป็นคณะทำงานนด้ี ว้ ย

คณะทำงานดังกล่าวทำงานกันแบบอาสาสมัครใช้เวลาว่างพบปะหารือกันเป็น คราว ๆไป ผูเ้ ขียนและผศ.ดร.ดวงจนั ทร์ รับผิดชอบสมั ภาษณผ์ ใู้ ห้ขอ้ มูล พอถึงการเรียบ เรียงทุกคนเห็นชอบให้ผู้เขียนรับผิดชอบในการเขียน ซ่ึงพวกเราคิดตรงกันว่าจะเขียน บอกเล่าความทรงจำของสถาบัน และใช้ช่ือหนังสือว่า “สามทศวรรษ สถาบันราชภัฏ ลำปาง” การจดั ทำหนังสือดงั กลา่ วพวกเราจัดทำได้เพยี ง “ฉบบั รา่ ง” เพอื่ นำเสนอในเวที เสวนา “ แลหลงั 30 ปี สถาบนั ราชภัฏลำปาง” เม่ือวนั ท่ี 14 กุมภาพันธ์ 2545 ณ ห้องประชุมบัวตอง มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง โดยคาดหวังว่าให้เวทีเสวนาตรวจสอบ เพิ่มเติมเน้ือหาให้ถูกต้องสมบูรณ์ย่ิงขึ้น จากนั้นพวกเราก็หยุดทำงานกันไป ดังนั้น “สามทศวรรษ สถาบนั ราชภฏั ลำปาง” จงึ ยังคงเป็นฉบบั รา่ งอยู่เช่นเดมิ จนกระทง่ั ในปี 2549 ผศ.ดร.ดวงจนั ทร์ เดี่ยววิไล ขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวย การสถาบนั วิจัยและพฒั นา มหาวทิ ยาลัยราชภัฏลำปาง ได้ชกั ชวนคณะทำงานชุดเดิมมา ปรับปรุงรา่ ง “สามทศวรรษ สถาบันราชภัฏลำปาง” ใหส้ มบูรณ์และเพ่มิ เติมเนอื้ หาให้ถงึ ยุค “มหาวิทยาลัย” เพื่อร่วมฉลองโอกาสครบรอบ 40 ปี (ในปี 2554) โดย ผศ.ดร.ดวงจันทร์ เดยี่ ววไิ ล เป็นประธานคณะทำงาน ผเู้ ขยี นเปน็ เลขานุการ และมคี ณะ ทำงานคือ รศ.ชุติมา เวทการ อ.ยอดยิง่ รักสตั ย์ อ.ดร.วิยดา เหล่มตระกูล อ.สภุ าพ ตะ๊ ใจ และอ.วเิ ชิด ทวกี ลุ พวกเราเห็นตรงกันว่า ให้ผู้เขียนปรับปรุงเน้ือหาของเดิม (30 ปีแรก) และให้ น้องๆ อาจารย์รุ่นใหม่เขียนเหตุการณ์ 10 ปีหลัง พวกเราทำงานจัดประชุมติดตามงาน กันในช่วงแรก 3-4 ครั้ง จากนั้นก็ขาดหายไป การทำงานไม่คืบหน้า จนล่วงเลยปี 2554 ไป งานเขยี นก็ยงั ไม่เสร็จ พอขึ้นภาคเรียนท่ี 2/2556 ท่านอธิการเล็ก แสงมีอานุภาพ ได้ถามผู้เขียนว่า “เม่ือไหร่ประวัตมิ หาวทิ ยาลัยจะเสรจ็ ช่วยทำให้เสรจ็ ก่อนผมจะหมดวาระอธิการบดีไดม้ ้ัย อยากใหเ้ สรจ็ ทัน งานฉลองวาระครบ 10 ปีการเป็นมหาวทิ ยาลยั ใน ปี 2557” ดว้ ยเหตุ น้ีผู้เขียนจึงตัดสินใจเขียนหนังสือเล่มน้ีด้วยตัวเองทั้งหมดโดยไม่ได้ปรึกษาหารือกับน้องๆ

คณะทำงานข้างต้นแต่อย่างไร แต่ยังคงแนวคิดเดิมที่จะให้เป็นหนังสือบอกเล่าความทรง จำลำดับเหตุการณ์สำคัญมากกว่าเป็นงานวิจัยประวัติศาสตร์ เพื่อจัดพิมพ์ให้แล้วเสร็จ ภายในเดือนธนั วาคม 2556 ดังนัน้ ความรบั ผิดชอบหรือข้อผิดพลาดใดๆ อนั เกิดจากข้อ สรปุ ขอ้ คิดเหน็ รวมทงั้ เน้ือท้ังหมดของหนงั สือเล่มนี้ผู้เขียนขอรับผดิ ชอบแตเ่ พียงผู้เดยี ว ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ข้อมูลให้สัมภาษณ์ ถึงวันนี้ผู้ให้สัมภาษณ์หลายท่าน ได้เสียชีวิตไปแล้ว ขอขอบคุณ ผศ.เล็ก แสงมีอานุภาพ ท่ีจุดประกายให้เกิดหนังสือเชิง ประวัติของมหาวทิ ยาลัย ขอขอบคณุ ผศ.ดร.จักรกฤษณ์ สำราญใจ อดตี รองอธิการบดี ฝ่ายวิชาการ ท่ีเป็นผู้สนับสนุนคณะทำงานในช่วงแรกรวมทั้งเป็นผู้เสนอโครงการจัดทำ ประวัติสถาบันดังกลา่ ว ขอขอบคณุ คณะทำงานทุกทา่ นทีม่ ีส่วนร่วมทำให้งานสำเร็จ ผเู้ ขียนขอขอบพระคณุ สถาบันการฝึกหัดครู 4 แห่ง ที่ทำให้ผเู้ ขยี นมองเห็นภาพ พัฒนาการของวิทยาลัยครูสู่การเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏได้อย่างต่อเนื่อง เร่ิมต้นจากปี 2514-2515 ท่ีมีโอกาสได้ศึกษา ป.กศ. ช้ันต้น ที่ วิทยาลัยครูอุตรดิตถ์ ต่อมาปี 2516-2517 ได้มีโอกาสศึกษา ป.กศ. ชั้นสูง เอกภาษาไทย รุ่นแรกของวิทยาลัยครู ลำปาง จากนั้นในปี 2518-2519 ได้มีโอกาสศึกษาระดับปริญญาตรียุคการ เปลย่ี นแปลงของวทิ ยาลยั ครู ทีว่ ทิ ยาลยั ครพู บิ ูลสงคราม และในปี 2520- 2529 ไดม้ ี โอกาสเข้ารับราชการเป็นอาจารย์ ประจำภาควิชาภาษาไทย ท่ี วิทยาลัยครูสุรินทร ์ ต่อมาได้ขอย้ายมารับราชการที่วิทยาลัยครูลำปางจนถึงปัจจุบันจนกระทั่งวิทยาลัยครู ลำปางพฒั นาการเป็นมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ลำปางในวันน้ี (ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์จำลอง คำบุญช)ู 6 ธันวาคม 2556

สารบัญ ส่ที ศวรรษ ห้ายุคสมัย มหาวิทยาลยั ราชภฏั ลำปาง……………………………………………………………. ยุคบุกเบกิ : กำเนดิ วทิ ยาลัยครูลำปาง (พ.ศ. 2514 – 2517) ภาวะขาดแคลนคร…ู สรา้ งวทิ ยาลัยครูเพิม่ เรียกรอ้ งต้งั วค.ลำปาง เสนอทด่ี ิน “นาปอ้ ใต้- ทุ่งกู่ด้าย -หนองหวั หงอก” สุดทา้ ยทหี่ นองหวั หงอก วนั สถาปนา และ 5 ผบู้ ุกเบิก พัฒนาปา่ แพะเปน็ วทิ ยาลัยครูลำปาง ตรา - สี - พระพทุ ธพทิ ยาจารย์…สญั ลกั ษณ์คสู่ ถาบัน นกั ศกึ ษารนุ่ บกุ เบกิ ภาคปกติ และ ภาคค่ำ ป.กศ. ชัน้ สูง รุน่ แรก เครื่องแบบนกั ศกึ ษายุคแรก จาก F ถงึ Sr รหัสเรยี กนักศกึ ษายุคแรก ปญั หาท่ดี นิ 26 ปี กับการแก้ไข ชีวติ ความทรงจำของรนุ่ บกุ เบิก “อาจารยใ์ หม่ ชวี ติ ใหม่” “นักศึกษาใหม่ วิทยาลัยใหม่ รว่ มใจพฒั นา” “สร้างรกั สร้างฐานะ สร้างความผูกพัน” “สภาอาจารย์ ยุคบกุ เบกิ ” “สงิ่ ทนี่ ่าภมู ใิ จและประทบั ใจ ของผ้ชู ว่ ยฝา่ ยวิชาการ” “เปดิ เทอมใหม ่ อาจารย์ใหญ่ กล่าวคำตอ้ นรับนักศกึ ษาร่นุ แรก” ลำดับเหตกุ ารณส์ ำคัญ สรปุ

ยุคผลิตบณั ทิตครุศาสตร์ : ยกระดบั คณุ ภาพการฝกึ หดั ครูไทย (พ.ศ. 2518 – 2527) วค. 17 แหง่ เปิดสอนปรญิ ญาตรี และยกร่าง พ.ร.บ.วิทยาลัยคร ู การเปล่ียนแปลงภายใต้ พ.ร.บ. วทิ ยาลยั ครู พ.ศ. 2518 วค.ลำปาง เปดิ สอนระดับปรญิ ญาตร ี ขยายบทบาทพฒั นาครูประจำการ “อคป.” เขา้ รว่ มโครงการสง่ เสริมคณุ ภาพการศึกษาโรงเรียน ตชด. เกิดศนู ยว์ ัฒนธรรม ภาวะวิกฤติ “ครูล้นตลาด-นกั ศึกษาจำนวนลดลง” เปิดสอน “เทคนิคอาชพี ” จุดเชื่อมตอ่ สู่สาขาวิชาการอ่ืน เลกิ ผลิตครู ป.กศ. ช้นั ตน้ และ ป.กศ. ช้นั สูง เปิดทางออกของวทิ ยาลยั ครู โดยแกไ้ ข พ.ร.บ. วิทยาลัยคร ู ลำดับเหตกุ ารณส์ ำคญั สรปุ ยุคสหวิทยาลยั ล้านนา : สร้างความพรอ้ มสูก่ ารเป็นมหาวทิ ยาลัย ( พ.ศ. 2528 – 2534) โครงสรา้ งใหม่ “สหวทิ ยาลัยล้านนา” นโยบายของสหวิทยาลัยลา้ นนา เปิดสอนสาขาศลิ ปศาสตร์ สาขาวทิ ยาศาสตร ์ ตั้งคณะวิชาวิทยาการจดั การ ปรับโฉมโครงการ “อคป.” เปน็ “กศ.บป.” จดั ตั้งคณะวิชาเกษตรและอตุ สาหกรรมการเกษตร รว่ มมอื ธรรมศาสตรเ์ ปดิ ศูนยส์ อนปรญิ ญาโท นำไปสู่ “การเปดิ รปศ.” รับ “สถาบนั สมทบ” วิทยาลยั พลศึกษา นำไปสู่ “การปดิ ค.บ. พลศกึ ษา” ลำดบั เหตกุ ารณส์ ำคัญ สรุป

ยคุ สถาบนั ราชภฏั : จดุ เปล่ียนผ่านสูส่ ถาบันอดุ มศกึ ษาเพื่อพฒั นาทอ้ งถิน่ (พ.ศ. 2535 – 2546) 14 กุมภา วันราชภัฏ จุดเปลยี่ นผ่านสู่ “สถาบันอุดมศึกษาเพอื่ การพัฒนาท้องถิน่ ” เลอื กตง้ั อธกิ ารบดีคร้ังแรก ตราพระราชลัญจกร…ตราพระราชทานสญั ลกั ษณ์ประจำสถาบนั ราชภฏั จัดการศึกษาเพอื่ พระสงฆ์ (กศ.พส.) เปิดสอนระดบั บณั ฑติ ศึกษา จดั ต้ังคณะเทคโนโลยีอตุ สาหกรรม เปดิ หลกั สูตรบรหิ ารธุกจิ บัณฑติ และการบญั ชบี ณั ฑติ เปดิ “ศูนยว์ ิทยาลัยเทคนคิ ลำพนู ” จัดการศึกษานอกสถานที่ตงั้ รับนกั ศกึ ษาต่างประเทศ “คนแรก” การพัฒนาความร่วมมอื กบั ต่างประเทศ ลำดับเหตกุ ารณส์ ำคัญ สรปุ ยคุ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ลำปาง : สู่ความเป็นอิสระทางวิชาการ (พ.ศ. 2547 - ปัจจุบัน) บทบาทพันธกิจ โครงสรา้ งการบรหิ ารและการแบง่ ส่วนราชการ พัฒนาหลกั สตู รสำหรับนักศกึ ษาต่างประเทศ ขยายหลักสตู รปรญิ ญาโทและเปิดสอนปรญิ ญาเอก เปิดสอนรัฐประศาสนศาสตบณั ฑิต สาขาการปกครองทอ้ งถ่นิ เปดิ สอนสาขานิตศิ าสตร์

หว้ งแห่งเวลารกั ษาราชการแทนอธกิ ารบด ี กาลสมัยแห่งการเปลย่ี นแปลง สูท่ ศวรรษที่ 5 โครงสร้าง และชอ่ื องคก์ ร “ยุคมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ” การรบั นกั ศึกษาใหมใ่ นรอบ 10 ปี อาจารยส์ องระบบ หนึ่งมหาวิทยาลัย คุณวุฒแิ ละตำแหน่งทางวชิ าการของคณาจารย์ งบประมาณและกองทุน คณุ ภาพการศกึ ษา การพฒั นามหาวิทยาลยั ในทศวรรษท่ี 5 ลำดับเหตกุ ารณ์สำคญั สรปุ บทสรปุ บรรณานกุ รม ภาคผนวก

สีท่ ศวรรษ ห้ายคุ สมัย มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ลำปาง เศมรหษาวฐิทกิจยแาลลัยะกราาชรเภมัฏือลงำขปอางงปมรีพะเัฒทศนไาทกยารมเาปเลปี่็ยนนลแำปดัลบงตในามรอสบภสาี่พทศสังวครรมษขกอารง ศึกษา พัฒนาการมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง นับต้ังแต่ปีการก่อตั้งวิทยาลัยครูลำปางจนถึงปี พ.ศ. 2556 มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ลำปางมพี ัฒนาการเป็น 5 ยุค คอื 1. ยุคบกุ เบิก : กำเนดิ วทิ ยาลัยครูลำปาง (พ.ศ. 2514 – 2517) 2. ยคุ ผลติ บณั ฑติ ครุศาสตร์ : ยกระดับคณุ ภาพการฝึกหดั ครไู ทย (พ.ศ. 2518 – 2527) 3. ยคุ สหวิทยาลยั ลา้ นนา : สร้างความพรอ้ มสู่การเป็นมหาวทิ ยาลยั (พ.ศ. 2528 – 2534) 4. ยุคสถาบันราชภัฏ : จุดเปลี่ยนผา่ นสสู่ ถาบันอุดมศกึ ษาเพือ่ พัฒนาท้องถ่นิ (พ.ศ. 2535 – 2546) 5. ยุคมหาวิทยาลัยราชภฏั ลำปาง : สู่ความเป็นอิสระทางวิชาการ (พ.ศ. 2547 - ปัจจบุ ัน) พัฒนาการใน 2 ยุคแรกทั้ง ยุคบุกเบิก และยุคผลิตบัณฑิตครุศาสตร์ เป็น พฒั นาการท่ีเกดิ ข้นึ ท่ามกลางบรบิ ทสงั คมไทยอยู่ใน “ชว่ งประชาธปิ ไตยเบง่ บาน - สรา้ ง ฐานปัญญาชน” วทิ ยาลัยครเู ป็นหนง่ึ ในสถาบันทส่ี รา้ งบคุ ลากรระดบั สงู ของประเทศ และ เปน็ ความตอ้ งการของประเทศในขณะนัน้ 1

สว่ น 3 ยุคหลังคอื ยุคสหวทิ ยาลัยลา้ นนา ยุคสถาบนั ราชภัฏ ยุคมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏลำปาง เป็นพัฒนาการท่ีเกิดขึ้นใน “ช่วงวิกฤตครูล้นตลาด - สร้างโอกาส พัฒนาสู่ความเป็นมหาวทิ ยาลยั ” วิทยาลัยครูท่ัวประเทศทุกแห่งต้องปรบั ตัวโดยการขยาย หลักสูตรไปผลติ บณั ฑติ สาขาวิชาการอื่นๆ และคอ่ ยๆ ยกระดับบทบาทพนั ธกจิ เปลย่ี นช่อื สถาบัน ปรับโครงสร้างการบริหารจัดการให้เป็นมหาวิทยาลัยที่มีความคล่องตัวและมี อสิ ระทางวชิ าการ ตลอดหา้ ยคุ สมยั เริ่มจากยุควิทยาลยั ครูจนถงึ ยคุ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏลำปางน้นั มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางได้มีพัฒนาการมาเป็นลำดับได้ร่วมสร้างสรรค์พัฒนาบุคลากร ของชาตแิ ละสังคมไทยให้เป็นท่ยี อมรับของสังคมมาอยา่ งต่อเนอ่ื ง 2

ยุคบุกเบิก : กำเนิดวทิ ยาลัยครูลำปาง (พ.ศ. 2514 – 2517) มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางพัฒนามาจากวิทยาลัยครูลำปาง เริ่มบุกเบิกก่อตั้ง ข้ึนในขณะท่ีกระแสสังคมเรียกร้องให้สร้างวิทยาลัยครูเพิ่มขึ้นในภูมิภาคต่างๆ ของ ประเทศไทย ซ่ึงเป็นภาวะท่ีประเทศไทยกำลังขาดแคลนครู ในยุคบุกเบิกกำเนิดวิทยาลัย ครูลำปาง ตั้งแต่ พ.ศ. 2514 – 2517 วทิ ยาลยั ครูลำปางจึงเป็นสถาบนั การศกึ ษาแห่ง ใหม่ที่จัดการศึกษาในระดับที่สูงข้ึนของจังหวัดลำปาง และเป็นความหวังใหม่ เป็น สถาบันการฝึกหัดครูแห่งใหม่รองรับลูกหลานของคนในพื้นท่ีให้ได้รับศึกษาในระดับสูง ขึน้ และสำเรจ็ การศึกษาเพื่อประกอบวชิ าชพี ครอู ย่างมคี ณุ ภาพ 3

ภ าวะขาดแคลนคร…ู สร้างวทิ ยาลยั ครเู พ่ิม ก่อนการก่อตั้งวิทยาลัยครูลำปางน้ัน ประเทศไทยมีวิทยาลัยครูท่ัวประเทศรวม ท้งั สิน้ 25 แหง่ ตง้ั อยู่ในส่วนกลาง 7 แห่งและอยู่ในส่วนภมู ภิ าคอกี 18 แหง่ 1 ในชว่ ง พ.ศ.2508 – 2510 นั้น ประเทศไทยประสบปัญหาขาดแคลนครู เพราะเกิดภาวะผล กระทบจากอัตราการเพ่ิมของประชากรในประเทศไทยท่ีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว วิทยาลัยครู ท่ัวประเท ศ ต้องรบั ภาระหนักในการผลติ ครูให้กบั ประเทศ “...อาจารยบ์ ญุ ถนิ่ อตั ถากร ขณะทด่ี ำรงตำแหนง่ อธบิ ดกี รมการฝกึ หดั ครนู น้ั ท่านบอกเราว่า ครูขาด ครูไม่พอ ประชากรเพ่ิมอย่างรวดเร็ว ถ้าปล่อยไว้ เมืองไทยพังแน่ ช่วงพ.ศ.2508 – 2510 เพ่ิมข้ึนอย่างรวดเร็วถึงร้อยละ 2.5 - 3.5 ท่านอาจารย์บุญถ่ินจึงวางแผนแก้ปัญหาครูขาดแคลน โดยตั้ง เป้าหมายจัดต้ังวิทยาลัยครูเพ่ิมขึ้นเป็น 35 แห่ง ให้แต่ละแห่งรับนักศึกษา 2,000 คน และกำหนดเป้าหมายว่าภายใน พ.ศ.2520 จะสามารถผลิตครู ได้พอเพียง แก้ปัญหาขาดแคลนครูได้และจะมีจำนวนครูพอดีกับอัตราการ เพ่ิมของประชากร มีโครงการทยอยจัดต้ังวิทยาลัยครูเพ่ิมขึ้นจนกว่าจะครบ 35 แห่ง สุดแล้วแต่จังหวัดใดพ้ืนท่ีใดจะพร้อมและเหมาะสม...แต่พอสุดท้าย ในปี 2510 - 2511 เราถูกบังคับให้รับนักศึกษาภาคค่ำ บอกพังแน่ถ้าให้ เปิดภาคค่ำภายในไม่เกิน 20 ปีข้างหน้าจะเกิดปัญหาครูเกินอย่างรุนแรง คุณภาพครูจะลด ไม่รู้จะแก้ได้อย่างไร...กรมการฝึกหัดครู ตัดสินใจ ตง้ั วทิ ยาลัยครูเพ่มิ 3 แหง่ ขออนุมัตแิ ละประกาศจดั ต้งั พรอ้ มกนั ในปี 2514 มที ่ี ลำปาง บุรรี มั ย์ และภเู กต็ ปี 2515 ที่จนั ทบรุ ี ปี 2516 ที่เชยี งราย กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ เลย สุรินทร์ สุราษฎร์ธานี กาญจนบุรี รวมเป็น 36 แห่ง...”2 1 ประกอบด้วย วค.จันทรเกษม วค.พระนคร วค. เพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ วค.ธนบุรี วค.บ้านสมเด็จ เจ้าพระยา วค.สวนสุนันทา วค.สวนดุสิต วค.เชียงใหม่ วค.อุตรดิตถ์ วค.พิบูลสงคราม วค.นครสวรรค ์ วค.อุดรธานี วค.มหาสารคาม วค.สกลนคร วค.นครราชสีมา วค.อุบลราชธานี วค.พระนครศรีอยุธยา วค.ฉะเชิงเทรา วค.เทพสตรี วค.เพชรบุรี วค.นครปฐม วค.หมู่บ้านจอมบึง วค.สงขลา วค.นครศรีธรรมราช และ วค.ยะลา 2 สมั ภาษณ์ นายบญุ ชู นาถวงษ,์ อดตี รองอธิบดีกรมการฝกึ หัดคร,ู 2 พฤษภาคม 2544. 4

เรียกรอ้ งตง้ั วค.ลำปาง เสนอทด่ี นิ “นาป้อใต้- ทงุ่ กู่ดา้ ย -หนองหัวหงอก” นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการท่ีจะขยายการจัดต้ังวิทยาลัยครูให้ครบ 35 แห่งดังกล่าวข้างต้นนั้น ได้ก่อให้เกิดกระแสเรียกร้องของประชาชนในจังหวัดต่างๆ เรียก ร้องให้รัฐบาลจัดต้ังวิทยาลัยครูในจังหวัดของตนโดยเฉพาะอย่างย่ิงจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ และมจี ำนวนประชากรมากแต่ไม่มสี ถาบนั การศึกษาระดับสูงอยู่ในจังหวัด ลำปางเป็นจังหวัดหนึ่งท่ีประชาชนเรียกร้องขอให้รัฐบาลจัดตั้งวิทยาลัยครูขึ้นใน จังหวัดลำปาง กระแสเรียกรอ้ งนีไ้ ด้เริ่มปรากฏชัดเจนเมอื่ “...ตน้ ปี พ.ศ. 2512 นายสุ วิทย์ กัลยารัตนกุล ศกึ ษาธิการจงั หวัดลำปาง ไดท้ ำเรื่องเสนอกระทรวงศกึ ษาธกิ ารจดั ตง้ั วิทยาลัยครูข้นึ ทีล่ ำปาง...”3 การเรียกร้องดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยหน่วยราชการระดับจังหวัดทำ เร่ืองเสนอต่อกระทรวงศึกษาธิการพร้อมท้ังเสนอที่ดินสำหรับก่อตั้งวิทยาลัยครู ดัง ปรากฏหลักฐานวา่ “...นายทรงชัย เจตะบตุ ร ศึกษาธกิ ารจังหวัดลำปางมหี นังสอื ท่ี ลป. 23/2473 ลงวนั ท่ี 23 เมษายน 2512 เสนอท่ีดนิ สำหรบั ก่อตงั้ วิทยาลัยครู ลำปางทจ่ี งั หวดั ลำปาง จำนวน 2 แปลง...”4 3 วิทยาลัยครูลำปาง “ประวัติวิทยาลัยครูลำปาง” ในคู่มือนักศึกษา โครงการอบรมครูและบุคลากรทางการศึกษา ประจำการ ประจำปีการศึกษา 2521, หนา้ 2. 4 เรื่องเดียวกัน, หนา้ 3. 5



แปลงแรกอย่ใู นพน้ื ท่ี บ้านนาปอ้ ใต้ ตำบลต้นธงชัย อำเภอเมอื ง มีพนื้ ท่ี 470 ไร่ แปลงท่ีสองอยู่ในพ้ืนที่ บ้านหนองหัวหงอก ตำบลชมพู อำเภอเมือง มีพื้นท่ี 460 ไร่ ต่อมาทางจังหวัดลำปางได้ทำหนังสือ “...ที่ ลป. 23/3678 ลงวันท่ี 6 มิถุนายน 2512...”5 เสนอท่ีดินสำหรบั กอ่ ตัง้ วทิ ยาลยั ครลู ำปางอกี 1 แปลง อยใู่ นพืน้ ท่ี บา้ นทงุ่ กู่ ด้าย ตำบลปงแสนทอง อำเภอเมือง อยู่ใกล้กับสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาคเหนือ ถนนลำปาง-เชียงใหม ่ ประชาชนชาวลำปางเฝ้าติดตามความคืบหน้าของการจัดตั้งวิทยาลัยครูท่ีลำปาง มาอยา่ งตอ่ เน่อื งจนกระทงั่ “...ในเดือนธันวาคม 2512 พ.ต.สง่า กิตติขจร เลขาธิการคณะ รฐั มนตรี และประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาภาคเหนอื มาตรวจราชการที่ ลำปาง ไดม้ ผี ูแ้ ทนประชาชน นำโดย นายมัว่ พรหมวงศ์ และกลุ่มบคุ คลใน วงการศึกษา ได้ย่ืนเรื่องราวขอจัดต้ังวิทยาลัยครูข้ึนในจังหวัดลำปาง...”6 อกี คร้ังหน่งึ สุดทา้ ยทหี่ นองหวั หงอก จากการเสนอท่ีดินเพ่ือการก่อตั้งวิทยาลัยครูลำปางท้ัง 3 แปลง คือ ท่ีดินใน พื้นท่ีบ้านนาป้อใต้ ที่ดินในพ้ืนที่บ้านหนองหัวหงอก และท่ีดินในพื้นที่บ้านทุ่งกู่ด้ายน้ัน กรมการฝึกหัดครูจึงได้พิจารณาความเหมาะสมของสถานที่สร้างวิทยาลัยครูลำปาง มา โดยลำดบั จนกระทัง่ 5 เรื่องเดียวกนั , หน้า 3. 6 วิทยาลัยครลู ำปาง “ประวัติวิทยาลยั ครลู ำปาง” ในคูม่ ือนักศกึ ษา ปีการศึกษา 2534, หน้า 1. 7

“... ในวันท่ี 27 มิถุนายน 2512 นายบุญถ่ิน อัตถากร อธิบดี กรมการฝึกหัดครูได้เดินทางมาตรวจที่ดินบริเวณหมู่บ้านหนองหัวหงอก ตำบลชมพู อำเภอเมือง จงั หวดั ลำปาง...”7 ในปี พ.ศ.2514 ทางราชการได้เลอื กทีด่ นิ บรเิ วณพน้ื ทบี่ า้ นหนองหวั หงอกเปน็ สถานทกี่ อ่ สร้างวทิ ยาลัยครลู ำปาง “...นายสาโรช บัวศรี อธิบดีกรมการฝึกหัดครู ได้มีหนังสือท่ี ศธ. 0303/579 ลงวันที่ 20 มกราคม 2514 แจ้งให้จังหวัดจัดทำเร่ือง กรรมสิทธ์ิที่ดินบริเวณพ้ืนที่บ้านหนองหัวหงอก ตำบลชมพู อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง จำนวน 460 ไร่ ตามที่จังหวัดได้รายงานเสนอไปเม่ือครั้ง แรก...”8 “...เท่าที่รู้ท่ีผู้บริหารเลือกท่ีหนองหัวหงอกน้ี เพราะอยู่ใกล้ตัวเมือง ท่ีสุด มีคลองชลประทานผ่าน มีไฟฟ้าผ่านแต่ท่ีนาป้อและทุ่งกู่ด้ายจะมี ปญั หาเรอื่ งน้ำและอยู่ไกลตัวเมอื งกว่า...” 9 จังหวัดลำปางได้ดำเนินการเร่ืองกรรมสิทธ์ที่ดินที่จะก่อสร้างวิทยาลัยครูลำปาง บริเวณพ้ืนท่ีบ้านหนองหัวหงอก โดยออกสำรวจรังวัดและประชุมช้ีแจงราษฎรท่ีอยู่ ใกลเ้ คยี ง คือราษฎรตำบลชมพู และราษฎรตำบลกลว้ ยแพะ อำเภอเมอื งลำปาง หลงั การ สำรวจรังวัดท่ีดินแล้วจังหวัดลำปางสามารถจัดหาพื้นที่เพิ่มเติมจากเดิมอีกหลายร้อยไร่ กล่าวคอื 8 วิทยาลัยครูลำปาง “ประวัตวิ ทิ ยาลัยครูลำปาง” ในคมู่ ือนกั ศกึ ษา ปีการศกึ ษา 2521, หนา้ 3. 9 สัมภาษณ์ อาจารย์ประเสรฐิ อสุ าหกร, อาจารยร์ ุน่ บุกเบิกวทิ ยาลัยครูลำปาง, 20 พฤษภาคม 2544. 8

“...ในเดือนกุมภาพันธ์ 2514 ทางจังหวัดได้มอบหมายให้นายธานี บุญคุ้ม ศึกษาธิการจังหวัดลำปางและนายอุทัย ไกรจักร นายอำเภอเมือง ลำปางไปประชุมราษฎรท่ี วัดกล้วยหลวง ตำบลกล้วยแพะ มีสมาชิกสภา ผแู้ ทนราษฎรคอื นายบญุ เท่ง ทองสวสั ด์ิ สอื่ มวลชนและผใู้ หญ่บา้ นเขา้ ร่วม ประชุมด้วย...ในวันท่ี 15 กุมภาพันธ์ 2514 สำรวจได้ที่เพิ่มอีก 270 ไร่ จากน้ันในระหวา่ งวนั ที่ 24 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2514 คณะสำรวจได้ รังวัดขยายพื้นที่ไปตามแนวถนนศรีชุม – แม่ทะ ถึงกิโลเมตรท่ี 7.30 ได้เนื้อท่ีรวมทั้งส้ิน 944 ไร่ 2 งาน 89 ตารางวา นายสุบิน เกษทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง จึงมีหนังสือที่ ลป. 23/3506 ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2514 ตอบยืนยันให้กระทรวงศึกษาธิการทราบเร่ืองกรรมสิทธิ์ ท่ีดนิ ...” 10 วันสถาปนา และ 5 ผู้บกุ เบกิ หลังจากที่คณะของกรมการฝึกหัดครู ซ่ึงประกอบด้วย “...นายสมพงษ ์ ศิริเจริญ ผู้อำนวยการกองโรงเรียนฝึกหัดครู นายปริญญา อังศุสิงห์ สถาปนิก นายบรรจง ปณุ โณฑก วิศวกร นายโอฬาร โรจน์หิรญั อาจารย์เอกวทิ ยาลยั ครูอตุ รดติ ถ์ และนายเชี่ยวชาญ เพชรจรัส อาจารย์โทได้เดินทางมาสำรวจวางแผนผังการก่อสร้าง วทิ ยาลัยครลู ำปาง เมอ่ื วันที่ 4 มิถุนายน 2514”11 แล้ว ต่อมาในวันที่ 9 มิถุนายน 2514 กระทรวงศึกษาธิการก็ได้ประกาศจัดตั้ง วิทยาลยั ครลู ำปาง และได้แตง่ ตงั้ ให้ นายโอฬาร โรจนห์ ิรัญ ผชู้ ว่ ยผ้อู ำนวยการวทิ ยาลัย ครูอตุ รดติ ถ์ เป็นผู้รกั ษาการในตำแหนง่ อาจารยใ์ หญว่ ทิ ยาลยั ครลู ำปาง 10 วทิ ยาลยั ครูลำปาง “ประวัติวิทยาลยั ครลู ำปาง” ในคมู่ ือนกั ศึกษา ปกี ารศึกษา 2521, หน้า 3. 11 เรื่องเดยี วกนั . หนา้ 4. 9



หลังจากน้ันอาจารย์โอฬาร โรจน์หิรัญ จึงได้ชักชวนอาจารย์จากวิทยาลัยครู อุตรดติ ถ์มารว่ มเป็นคณะผบู้ กุ เบิกก่อต้งั วทิ ยาลัยครูลำปาง รวม 5 คน คือ นายโอฬาร โรจน์หิรัญ อาจารย์ใหญ่ นายประชมุ มขุ ดี ผู้ชว่ ยอาจารยใ์ หญฝ่ า่ ยวชิ าการ นายบัณฑติ วรกุลสุกรีเขต ผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่ฝ่ายธุรการ นายรัฐ จันทร์เดช อาจารย์ฝ่ายศิลป์ และนายประเสรฐิ อสุ าหกร อาจารยฝ์ า่ ยช่าง เก่ียวกบั วนั ที่ 9 มิถุนายน 2514 วนั สถาปนาวทิ ยาลยั ครูลำปาง ซงึ่ ตรงกับวัน คล้าย“วนั รชั ฎาภเิ ษก”12 นี้ อาจารย์ประชมุ มขุ ดี ไดเ้ ลา่ เกรด็ ที่นา่ สนใจไวต้ อนหนึง่ วา่ “...ผู้บรหิ ารเกิดความคิดกนั วา่ จะตัง้ ชอื่ วิทยาลัย ใหส้ อดคล้องกบั การฉลอง รัชฎาภิเษกครองราชย์ 25 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่าน อาจารย์โอฬารท่านก็คิดและบอกอาจารย์รัฐ ท่านอาจารย์รัฐก็เดินเร่ืองน้ี เขาก็บอกว่าเติมคำว่า รัชฎาภิเษกเข้าไปเป็น วิทยาลัยครูรัชฎาภิเษกลำปาง แต่การเดินเร่ืองน้ีเราทำไม่ทัน หมายถึงว่าเร่ืองน้ีกระทรวงได้ดำเนินการมา กอ่ นแลว้ ทางกระทรวงศกึ ษาธิการได้ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาแลว้ ทาง กระทรวงก็ชแี้ จงวา่ ไมท่ นั แลว้ ต้องใช้ชอ่ื วทิ ยาลัยครลู ำปาง...”13 อาจารย์ประเสริฐ อสุ าหกร กไ็ ด้เล่าถงึ วนั สถาปนานีว้ ่า “...อาศัยเอาฤกษ์วนั ท่ี 9 มิถนุ ายน ซึง่ เปน็ วนั คลา้ ยวันรัชฎาภเิ ษก วางหมดุ ฝังเอาไว้หลักหน่ึง จุดฝังหลักน้ีอยู่ใต้ต้นยอป่า ทุกวันนี้ก็คือบริเวณแถวๆ แยกท่จี ะเขา้ ไปอาคาร 7(ปจั จุบนั คอื บริเวณอาคารบา้ นเด็กปฐมวัย)...” 14 12 “วนั รัชฎาภเิ ษก” คือวันที่ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ ัวภมู ิพลอดุลยเดช เสดจ็ เถลงิ ถวัลยราชสมบตั ิครบรอบ 25 ป ี 13 สัมภาษณ์ อาจารย์ประชุม มุขดี, ผู้บริหารรุ่นบุกเบิก อดีตผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่วิทยาลัยครูลำปาง, 18 มีนาคม 2544. 14 สัมภาษณ์ อาจารยป์ ระเสริฐ อุสาหกร, อา้ งแลว้ . 11

อาจารย์ประชมุ มุขดี ได้เล่าถึงการบกุ เบิกกอ่ ตง้ั วทิ ยาลยั ครลู ำปางว่า “...ตอนท่ีกรมการฝึกหัดครูมีนโยบายต้ังวิทยาลัยครู 3 แห่ง ที่ลำปาง บรุ รี ัมย์ และภเู ก็ต กรมคิดวา่ ลำปางน้ันอยู่ใกลอ้ ุตรดิตถ์ ความจริงนัน้ มัน ใกล้เชียงใหม่มากกว่า แต่กรมบอกว่าน่าจะให้คนวิทยาลัยครูอุตรดิตถ์ข้ึนไป ทำ เพราะอย่ใู นพน้ื ที่ 15 ...อาจารย์โอฬาร โรจน์หิรัญ ท่านเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการ ก็ได้รับ แต่งต้ังให้เป็นอาจารย์ใหญ่วิทยาลัยครูลำปาง พวกเราก็หาอาสาสมัครกันไป รว่ มงานกับท่านอาจารย์โอฬาร มีด้วยกัน 4 คน กม็ ีผม มีอาจารยบ์ ัณฑิต วรกุล สกุ รีเขต อาจารย์รฐั จันทรเ์ ดช และอาจารยป์ ระเสริฐ อสุ าหกร เป็น ผู้บุกเบิกในคร้ังแรก เขาจัดให้พวกเราพักท่ีโรงแรมสวนดอก16 เป็นบ้านอยู่ ร่วมปี ...ตอนหลังมีอาจารย์จากวิทยาลัยครูอุตรดิตถ์ ตามไปเยอะ ปี 2515 พอพวกเราไปวางรากฐานเสร็จแล้วคนศรัทธาก็ย้ายตามไปอยู่ลำปาง กันมอี าจารย ์ มานิต สทุ ธจิตต์ อาจารยร์ ัชนกี ร สุทธจิตต์ อาจารย์ดวงพร น่ิมมา และอาจารย์ประสงค์ น่ิมมา อาจารย์ประสงค์นั้นมีคำสั่งให้ย้ายมา ลำปางแต่อยรู่ ะหวา่ งเรยี นตอ่ จงึ ตามมาภายหลัง ทต่ี ามมาภายหลงั อกี ปกี ม็ ี อาจารย์วิรัช ไชยรักษ์ และมีอาจารย์ที่สอบบรรจุได้มารายงานตัวในปี 2515 อีกเยอะ...”17 15 ขณะนั้นนักศึกษาที่สังกัดจังหวัดลำปางถูกส่งไปเรียนที่วิทยาลัยครูอุตรดิตถ์ (ซึ่งมีอยู่ 2 รุ่น แต่ก่อนส่งไปเรียน วค.เชียงใหม่) 16 อยู่ใกล้วัดสวนดอก ปัจจบุ ันเปลย่ี นเป็นโรงแรมคิม 17 สมั ภาษณ์ อาจารย์ประชมุ มขุ ดี,อ้างแลว้ . 12

พฒั นาป่าแพะเปน็ วิทยาลยั ครูลำปาง สภาพเดิมของท่ีต้ังวิทยาลัยครูลำปางชาวบ้านเรียกกันว่า “แพะหนองหัวหงอก” ส่วนใหญ่เป็นพ้ืนที่ป่าแพะ 18 อยู่บริเวณฝั่งทิศตะวันตกของทางหลวงหมายเลข 1037 สายลำปาง – แม่ทะ ระหวา่ งกิโลเมตรท่ี 6 – 7 บริเวณฝัง่ ด้านตะวนั ออกของถนนสายนี้ มีหนองนำ้ สาธารณะชอื่ วา่ “หนองหัวหงอก” เม่ือ พ.ศ.2514 น้นั พ้ืนทีบ่ รเิ วณน้ี มีผ้คู น ต้ังบ้านเรือนอาศัยอยู่เพียงยี่สิบกว่าหลังคาเรือน ชาวบ้านเรียกหย่อมบ้านน้ีว่า “บา้ นหนองหวั หงอก” “...ท่ี วค. นี้ตะก่อนเป็นป่า เป็นแพะ ตอนพ่อหลวงเป็นละอ่อน ต้นไม้ใหญ่ มซี พั พะ มไี มต้ งึ ไมเ้ หยี ง ไมบ้ ะมื่น ไม้ดู่ ไมแ้ งะ ไม้แดง ไมเ้ ปา เสาวิหารวดั กาดเมฆหลงั เก่าเปนิ้ กต็ งึ เอาตามหมนู่ เี้ ลาะ...”19 (ท่ี วค.ตรงนแ้ี ต่ ก่อนเป็นป่า ตอนท่ีหลวงพ่อยังเป็นเด็ก ต้นไม้มีขนาดใหญ่ มีหมดท้ังไม้ พลวง ไมเ้ หียง ไม้กระบก ไม้ประดู่ ไม้เต็ง ไมแ้ ดง ไมร้ งั เสาวิหารวัดกาด เมฆหลงั เดิมเขาก็พากันมาเอาแถวนีแ้ หละ) สภาพ “ป่าแพะหนองหัวหงอก” ในขณะนั้นบางส่วนก็เป็นท่ีอยู่อาศัย ท่ีทำกิน เป็นท่เี ลีย้ งววั เลยี้ งควาย เปน็ แหลง่ อาหาร ของชาวบา้ นในละแวกนี้ “...ชาวบ้านเขามาเล้ียงวัวเล้ียงควายกันนัก มีหมู่บ้านกล้วยพ่อง กาดเมฆ บ้านกลาง ดอนตัน มาเลี้ยงนี้หมดหญ้ามันงามเป็นเด่น หน้าเห็ด เขาก็มาเสาะเห็ด หน้าแมงมันเขากะมาเสาะแมงมัน ตะก่อนนี้ชาวบ้าน แปงบา้ นแปงเฮอื นอยูซ่ าวกว่าหลงั คา ลุงกับเพ่อื นบา้ นอีกหา้ ครอบครัวมบี ้าน อยู่ในเขตทเ่ี ปน้ิ จะสรา้ ง วค. หมู่เฮาก็เลยบริจาคหื้อหลวงกห็ ันแก่ความเจรญิ หลวงเป้ินก็ชดเชยที่หื้อไป หล่ายทางปู้นทางวัดหนองหัวหงอก ส่วนลุง เป้ินก็ฮับไว้เป็นภารโรง...” 20 (ชาวบ้านเขามาเล้ียงวัวเล้ียงควายกันมาก 18 คำวา่ “ป่าแพะ” หรือ “แพะ” ในภาษาถน่ิ เหนือ หมายถงึ “ป่าละเมาะ” 19 สัมภาษณ์ พอ่ หนานหลวง แสนปินตา, ชาวบ้านกาดเมฆ, 6 มกราคม 2544. 20 สมั ภาษณ์ นายอา้ ย ใจแก้ว, อดตี นักการภารโรงวิทยาลัยครูลำปาง, 7 มกราคม 2544. 13

มีพวกบ้านกล้วยบ้าง บ้านกาดเมฆ บ้านกลาง บ้านดอนตัน มาเล้ียงท่ีนี่ หมดหญา้ มนั ขึ้นเป็นลานงาม ฤดเู หด็ ออกเขาก็มา เกบ็ เห็ด ฤดูแมลงมัน(ลกู มดชนิดหนึ่งกินเป็นอาหารได้)เขาก็มาหาแมลงมัน แต่ก่อนน้ีชาวบ้านปลูก บ้านกันอยู่แถวน้ียี่สิบกว่าหลังคา ลุงกับเพื่อนบ้านอีกห้าครอบครัวมีบ้านอยู่ ในพื้นท่ีที่จะสร้าง วค. พวกเราได้บริจาคให้หลวงเพราะเห็นแก่ความเจริญ หลวงเขาก็ได้ชดเชยท่ีให้ฝั่งตรงข้ามบริเวณวัดหนองหัวหงอก ส่วนลุง ทางการกร็ ับไวเ้ ปน็ ภารโรง) “...ตะก่อนแพะมันกว้าง จาวบ้านเขามาเสาะเห็ดกนั มี แผวจาวบา้ น หนองยางปู้น เวลาเห็ดออกเห็ดอะหยังก็มีหมด เห็ดแดง เห็ดแง้น เห็ดถ่าน เห็ดโคนขาว เห็ดโคนปลวก เขาก็เสาะหากนิ กันเนาะ...”21 (เมือ่ ก่อนปา่ กวา้ ง มาก ชาวบ้านมาหาเห็ดกันแม้แต่ชาวบ้านหนองยางก็มากัน ฤดูเห็ดออกมี เหด็ ทุกอย่าง มเี หด็ แดง เหด็ แงน้ เห็ดถา่ น เหด็ โคนขาว เห็ดโคนปลวก เขา ก็มาหาเกบ็ ไปกินกันนะ) “...ไข่มดส้ม ผักหวาน แมงมัน เห็ด บะกอก บะมื่น เขากต็ งึ ไปเสาะ หาเกบ็ กนิ กัน ยังแพะหนองหวั หงอกเนยี ะ มนั มซี พั พะ...”22 (ไข่มดแดง ผักหวาน แมลงมนั เหด็ มะกอก กระบก เขากไ็ ปหาเกบ็ กินกนั จากปา่ แพะ หนองหัวหงอกน้ี มันมีหมดทกุ อย่าง) ถึงแม้ว่าป่าแพะหนองหัวหงอกผืนนี้ได้แปรเปลี่ยนพัฒนาเป็นสถาบันการศึกษา ระดับสูงของจังหวัดลำปาง แต่ด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของผู้บริหารตั้งแต่ยุคกำเนิด วิทยาลัยครูลำปางและยุคต่อมาได้พยายามเก็บรักษาสภาพป่าแพะหนองหัวหงอกในอดีต ให้คนรุ่นหลังได้เห็นได้ชื่นชมความร่ืนรมย์ของแมกไม้ ได้ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ ผู้บริหารจึง มีนโยบายอนรุ กั ษพ์ น้ื ท่ีบางส่วนให้คงสภาพเดิมไวอ้ ย่างต่อเนือ่ งมาทกุ ยคุ ทุกสมัย 21 สมั ภาษณ์ นายแป อุ่นผูก, ชาวบ้านกลว้ ยแพะ, 7 กรกฎาคม 2544. 22 สัมภาษณ์ แม่หลวงนอ้ ย นนั ต๊ะภาพ, ชาวบา้ นกาดเมฆ, 6 มกราคม 2544. 14

ตรา - สี - พระพทุ ธพทิ ยาจารย์…สญั ลกั ษณค์ ูส่ ถาบัน ตราสญั ลักษณ์และคติพจน์ “...ตราประจำวิทยาลัยครลู ำปางน้ี อาจารยร์ ฐั จนั ทร์เดช เป็นคนออกแบบรวม ทงั้ เป็นผคู้ ิดคตพิ จน์ประจำวิทยาลยั ดว้ ย...”23 ลักษณะของตราเป็นวงกลมสองวงซ้อนกันขอบรอบวงกลมชั้นนอกมีลักษณะ หยักโค้งมนทึบหนา ภายในวงกลมชั้นในมีรูปมงกุฎครอบเจดีย์วัดพระแก้วดอนเต้า24 ดา้ นล่างของรูปเปน็ อักษรยอ่ วา่ วค.ลป. และคตพิ จนว์ ่า วริ เิ ยน ทุกขฺ มจฺเจติ 25 ภายใน วงกลมชั้นนอกน้ัน มีข้อความว่า วิทยาลัยครูลำปาง อยู่ด้านบน มีข้อความว่า ๙ มถิ ุนายน ๒๕๑๔ อยดู่ ้านลา่ ง ตราสัญลักษณ์ดังกล่าวมีความเก่ียวข้องกับวันสถาปนาวิทยาลัยครูลำปาง วันคล้ายกับ “วนั รชั ฏาภเิ ษก” และศาสนสถานสำคญั ของจงั หวดั ลำปาง เขยี ว – แดงเลอื ดหมู อาจารยป์ ระชุม มุขดี ไดเ้ ลา่ เกรด็ ที่มาของสปี ระจำสถาบันวา่ “...ตอนคิดเรื่องสีนี้ ท่านอาจารย์โอฬาร โรจน์หิรัญ ท่านบอกว่า ท่านเรียนจบจากนิวยอร์กสเตท สีสถาบันของท่านคือสีแดงเลือดหมู ส่วน ผมเรยี นจบจากมชิ ิแกน สีประจำสถาบันคือสเี ขยี ว เราตกลงกันว่าเอาสีสอง สถาบันมารวมกันเป็นสีประจำวิทยาลัย ในท่ีสุดก็ได้ออกมาเป็น เขียว – แดงเลือดหมู ...สเี ขียวทว่ี ่านเี้ ป็นสเี ขยี วเข้มแบบสเี ปลอื กผลฝร่งั นะครบั ...”26 23 สัมภาษณ์ อาจารย์ประชมุ มขุ ดี, อ้างแล้ว. 24 วดั พระแก้วดอนเตา้ เปน็ วัดเก่าแกค่ ่เู มอื งเขลางค์นคร เคยเปน็ ทปี่ ระดิษฐานพระแก้วมรกตนาน 32 ป ี 25 คติพจน์ “วิรเิ ยน ทกุ ฺข มจเฺ จต”ิ นน้ั มคี วามหมายวา่ “ล่วงทุกข์ไดด้ ้วยความเพยี ร” 26 สัมภาษณ์ อาจารยป์ ระชมุ มุขดี, อ้างแล้ว. 15

พระพุทธพิทยาจารย์ แนวความคดิ ในการจัดสร้าง “พระพทุ ธพทิ ยาจารย์-ศาลาพระพทุ ธพิทยาจารย์- สวนสามสอ” นีส้ ืบเนือ่ งมาจาก “...ทา่ นอาจารย์สมพงษ์ ศิรเิ จรญิ รองอธิบดกี รมการฝกึ หัดครู ได้ เสนอความคิดว่าที่ประสานมิตร (วิทยาลัยวิชาการศึกษาประสานมิตร) มี ศาลาจริยศึกษาทา่ นก็อยากใหท้ ี่นม่ี ีบา้ ง...”27 ประกอบกับ “...สภาพเดิมของวิทยาลัยเราเป็นป่าแต่ก็ถูกรถแทรกเตอร์ไถไป มาก เราจึงต้องการมีบริเวณท่ีสงบร่มร่ืนเราจึงกันพ้ืนที่ไว้ไม่ให้ตัดต้นไม้ แล้วสร้างศาลาพระพุทธพิทยาจารย์ขนึ้ ตน้ ไม้บริเวณรอบศาลาเราก็รักษาไว้ ไมใ่ หต้ ัด...”28 อาจารย์ประเสริฐ อุสาหกร อาจารย์รุ่นบุกเบิกได้เล่าเหตุการณ์การสร้าง พระพุทธพทิ ยาจารยแ์ ละศาลาพระพทุ ธพิทยาจารย์ไวว้ า่ “...อาจารย์ธีรศักดิ์ วงศ์คำแน่น เป็นผู้ออกแบบศาลา อาจารย์วีร วรรณ เขาก็ติดต่อขอไม้สักอ่อนมาสร้างศาลา ในการออกแบบพระพุทธรูป น้ัน อาจารย์รัฐ จันทร์เดช ออกแบบจะเอาให้เหมือนพระพุทธรูปสมัย เชยี งแสน ร่นุ สิงหห์ นง่ึ ผม ตอ้ งไปติดต่อป้นั ท่จี งั หวัดพะเยา อาจารยห์ มวด ภาษาไทยชดุ ของอาจารย์ดวงพร นิม่ มา เขาช่วยกนั พจิ ารณาต้ังช่อื พระพุทธ รูปวา่ พระพุทธพิทยาจารย์ 27 สัมภาษณ์ อาจารย์ประเสรฐิ อสุ าหกร, อ้างแล้ว. 28 สัมภาษณ์ อาจารย์ประชมุ มุขดี, อ้างแลว้ . 16

...พอในปี 2516 ก็สร้างเสร็จ เปิดเทอมเราก็ทำพิธีปลุกเสก พระพุทธพิทยาจารย์ตรงบริเวณศาลาพระพุทธพิทยาจารย์ พูดถึงการทำพิธี ปลูกเสก กว่าจะสำเร็จได้จะต้องมีทองกว่าจะต้องนิมนต์พระผู้ใหญ่มาได้มัน ยากมากเลย ตอนน้ันเราทำเหรียญพระพุทธพิทยาจารย์ด้วย 10,000 องค์ หลวงพ่อเมืองวัดท่าแหน แม่ทะ ท่านมาทำพิธีปลุกเสก เชื่อม้ัยว่าตอนพิธี เสร็จชาวบ้านเขาพากันแย่งธงผ้ายันต์ที่เราติดไว้รอบบริเวณพิธี จนคนทำไม่ ไดเ้ ลย ธงผ้ายนั ตท์ ่วี ่านผ้ี มพมิ พจ์ ากหลวงพอ่ เกษม สุสานไตรลกั ษณ์ ประตู ม้า มีความหมายใหโ้ ชคดีมีลาภ มเี ลขเกา้ ไทย เก้าฝรัง่ เกา้ จนี 3 อย่าง วัน น้นั หวยออกเก้าเก้ามีคนถกู เปน็ แถว คนงานเขาถกู กนั เยอะ...” 29 สวนสามสอ ต่อมาอาจารยม์ านติ สทุ ธจติ ต์ ไดต้ ง้ั ชอ่ื บรเิ วณท่ีตั้งศาลาพระพุทธพิทยาจารย์น้ี วา่ “สวนสามสอ” (สะอาด สว่าง สงบ) และในปี พ.ศ. 2532 ท่านกไ็ ดเ้ ป็นผูน้ ำในการ บูรณะศาลาพระพุทธพิทยาจารย์ของเดิมที่เป็นอาคารไม้สักมาเป็นอาคารคอนกรีตดัง ปรากฏในปจั จบุ ันน้ี “...ขณะนนั้ ยงั ไมป่ รากฏชอื่ เรยี กบรเิ วณนจี้ งึ หารอื กบั พระวริ ชั รววิ งั โส 30 ว่าไม่ควรเรียกตัวเองว่าสำนักสงฆ์หรือวัดเพราะผิดกฎหมายทั้งสองอย่าง จึงตั้งช่ือว่าสวนสามสอ ซึ่งเป็นคำกลางๆ และมีความหมายเป็นสากลและ ตรงกับคำว่า “อาราม” ในพุทธกาลซ่ึงแปลว่า “สถานที่น่ารื่นรมย์”...สมัย น้ันสวนสามสอยังไม่มีสังกัดว่าเป็นหน่วยงานของฝ่ายใด และในความคิด ของทุกคนก็เปน็ เพยี งเสมอื นวา่ เป็นวัดๆ หนึง่ ของชมุ ชนชาว วค.ลป. เพื่อใช้ เป็นศูนย์กลางในการทำบุญ ผมผู้เล่าเร่ืองนี้ก็ได้รับมอบหมายจากอธิการ โอฬาร โรจนห์ ริ ัญ เป็นการสว่ นตวั วา่ ชว่ ยดูแลศาสนาสถานแห่งน.้ี ..” 31 29 สมั ภาษณ์ อาจารย์ประเสรฐิ อุสาหกร, อ้างแลว้ . 30 ขณะน้ัน พระวิรัช รวิวังโส ไดร้ ับนิมนต์มาจำพรรษาอยู่ทศ่ี าลาพระพุทธพทิ ยาจารย ์ 31 มานิต สทุ ธจิตต์ “ฟนื้ ฝอยตดิ ตามสวนสามสอ” ใน สองทศวรรษวิทยาลัยครูลำปาง .2534, หน้า 27 - 28. 17

สัญลกั ษณ์คู่สถาบันดังกลา่ วน้ี อาจารยส์ งั เวยี น (สรรพป์ ระสทิ ธ์) ภริ มยพ์ ลัด32 ไดป้ ระพันธ์บทเพลงถา่ ยทอดถ้อยคำแห่งความภาคภูมิใจไว้ใน “เพลงมนต์เขลางค์” ซง่ึ ใน บางตอนของบทเพลงมีว่า “...พระแก้วดอนเต้าร่มเงาแห่งความเยือกเย็นหากใครได้เห็นย่อมมี แต่ความสุขสันต์ ลุ่มน้ำแม่วังดุจดังสายธารน้ำใจ ยากที่จะหยุดไหลเป็นรัก จากใจแห่งชาวเขลางค์ ขอสักการะองค์พระพุทธพิทยาจารย์ เป็นสักขีและ ดลบันดาลให้ความสุขสันต์ทุกคนอย่าหมาง สีเขียวแดงเลือดหมูรวมหมู่ไม่มี วนั จาง วค. ลำปางคเู่ มอื งเขลางคต์ ลอดไป” นกั ศึกษารุ่นบกุ เบกิ ภาคปกติ และ ภาคค่ำ ในปีการศึกษา 2515 วิทยาลัยครูลำปางสามารถเปิดรับนักศึกษารุ่นแรกเข้า เรียนไดท้ ันที โดยรบั นักศึกษาจากพืน้ ทร่ี ับผดิ ชอบในสังกัด 2 จงั หวดั คอื จงั หวดั ลำปาง และจงั หวัดเชยี งราย (รวมท้งั พะเยาซึง่ ขณะนน้ั ยังเป็นอำเภอหนง่ึ ของเชยี งราย) ในปีแรกนั้นเปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาการศึกษาชั้นต้น (ป.กศ.ช้ัน ต้น) ทั้งภาคปกติและภาคค่ำ เน่ืองจากจำนวนท่ีรับนักศึกษาเข้าเรียนในภาคปกติมี จำนวน เพียง 300 คน ทำให้ผู้สมัครเข้าเรียนรุ่นแรกจำนวนมากที่ผิดหวัง เพราะสอบ เข้าเรียนภาคปกติไม่ได้ กจ็ ึงสมัครเข้าเรยี นภาคคำ่ “...นักศึกษาภาคค่ำรุ่นแรกมีคนมาสมัครถึง 1,200 คน เราจำเปน็ ต้องรับหมด เพราะเราสู้แรงชี้นำทางฝ่ายการเมืองไม่ได้ เขาต้องการให้รับ มากๆ เขาต้องการให้ลกู หลานชาวลำปางได้เรยี นมากทสี่ ดุ รวมท้งั จังหวัดขา้ ง เคยี ง เราก็ใหเ้ หตุผลวา่ เราขาดแคลนอาจารย์แตเ่ ราก็ต้องรับหมดทงั้ 1,200 คน จนเราตอ้ งทำอาคารช่ัวคราวยาวเหยียดมุงหญ้าคาอยกู่ ลางสนาม...”33 32 อาจารย์สรรพ์ประสทิ ธ์ ภิรมย์พลดั เป็นอาจารยร์ ่นุ บุกเบกิ หมวดวชิ าภาษาไทย วค.ลำปาง 33 สมั ภาษณ์ อาจารยป์ ระชุม มุขดี, อ้างแล้ว. 18

อาจารย์วิวัฒน์ แดงสังวาลย์ ได้เล่าบรรยากาศวันเปิดเรียนปีแรกและการเร่ิม ต้นชีวติ อาจารยส์ อนภาษาองั กฤษทีว่ ทิ ยาลัยครูลำปางวา่ “แล้ววันท่ี 9 มิถุนายน (วันเปิดเรียน) ก็มาถึง...หลังอาหารเช้า นักศึกษาเดินมาเข้าแถวเคารพธงชาติท่ีหน้าอาคารสำนักงานช่ัวคราว ฟัง โอวาทและคำช้ีแจงจากผู้บริหาร แล้วเดินไปห้องเรียนหลังคามุงแฝกยาวไป ในสนามตรงข้ามอาคาร 1 ปัจจุบัน ห้องเรียนแบบง่ายๆ ใช้กระดานดำก้ัน ห้องไม่มีฝาหอ้ ง จึงทำใหอ้ ากาศเยน็ สบายไม่ต้องมีพดั ลม …ในฐานะอาจารย์ หมวดภาษาอังกฤษทีเ่ ดก็ ที่สดุ เพราะท่านอ่ืนๆ เป็นอาจารย์ท่ยี ้ายมาจากทอ่ี นื่ ผู้อาวุโสว่าอย่างไรจึงยอมทำตาม เช่นมีการแบ่งห้องเรียนภาษาอังกฤษออก เป็น 3 กลุ่ม กลุ่ม เอ สำหรับนักศึกษาท่ีมีพื้นฐานความรู้ภาษาอังกฤษดี ท่ีสุด กลุม่ บี และกลุ่ม ซี แต่ละกล่มุ มี 3 หอ้ ง ในฐานะอาจารย์มือใหม่จงึ ได้รับมอบหมายให้สอนกลุ่ม ซี เมื่อมีภาคค่ำก็มีค่าสอนเพียงช่ัวโมงละ 35 บาท...สอนในห้องเรียนช่ัวคราวอยู่เทอมหนึ่ง (ระบบไตรภาค) อาคารเรียน หลังแรกก็แล้วเสรจ็ ทุกอย่างกย็ า้ ยเข้ามายกเว้นสหกรณ์ ชั้น 2 ชนั้ 3 เปน็ ห้องเรียน ห้องพักอาจารย์ ส่วนช้ันล่างเป็นห้องสำนักงาน...แต่ห้องเรียน ชว่ั คราวก็ยังคงใชอ้ ยเู่ พราะห้องเรยี นไมพ่ อ”34 34 ววิ ัฒน์ แดงสงั วาลย์. “ปฐมบทชวี ติ ใตต้ ้นเหียง.” ใน ความทรงจำในป่าเหยี ง หนงั สอื ที่ระลึกงานเกษียณอายุราชการ ปี 2552, มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ลำปาง, หนา้ 54-56. 19

ป.กศ. ช้ันสงู รนุ่ แรก หลังจากเปิดสอน ป.กศ. ต้น ในปี 2515 แล้วในปีต่อมาก็เปิดสอนระดับ ป.กศ.ช้ันสูง โดยการคัดเลอื กนกั ศึกษาที่จบ ป.กศ.ต้น จากวทิ ยาลัยครอู ตุ รดิตถ์ มาเข้า เรียน อาจารยป์ ระชุม มขุ ดี อดีตผูช้ ่วยผู้อำนวยการฝา่ ยวิชาการ เล่าวา่ “...กรมการฝึกหัดครูมีนโยบายให้วิทยาลัยครูลำปางโตขึ้น เร่งให้ โตทั้งวิทยาลัยครูลำปาง บุรีรัมย์ และภูเก็ต ดังน้ันจึงขยายการเรียนการ สอนเพิ่มขึ้นโดยเปิดสอนระดับ ป.กศ.ช้ันสูง...ในปีแรกได้มีการคิดกันว่าจะ รับ ป.กศ. สูง ปีที่ 1 ด้วยแต่เนื่องจากไม่ค่อยพร้อมหลายๆ ด้านจึงเล่ือน เปน็ ปถี ัดไป...” 35 “...เมื่อมีประกาศของ วค.อุตรดิตถ์ว่า วค. ลำปาง ขอให้ วค. อุตรดิตถ์ คัดเลือกนักศึกษาท่ีจะจบ ป.กศ.ต้น จำนวน 60 คน เรียนต่อ ป.กศ.สูง ทวี่ ค. ลำปาง ...ผมได้คัดเลอื กให้เรียนต่อท่ี วค.อตุ รดิตถ์ แตด่ ว้ ย ความอยากกลบั บา้ นและเรียน ป.กศ.สูง รุ่นแรก ของวค.ลำปาง จึงขอโอน สิทธิ์มาเรียนที่ วค.ลำปาง แต่กว่าจะได้มารายงานตัวเข้าเรียน เพื่อนๆ ก็ เลอื กวชิ าเอกกันเรยี บร้อยแลว้ ผมตอ้ งรายงานตัวกบั ผชู้ ว่ ยผอู้ ำนวยการฝ่าย วิชาการ และท่านระบุว่าผมมีสิทธ์ิเลือกได้เฉพาะวิชาเอกภาษาอังกฤษและ วิชาเอกคณิตศาสตร์เท่าน้ันเอกอ่ืนมีจำนวนผู้เรียนเกินที่กำหนดแล้ว...ขณะที่ ผมยังไม่รู้จะเลือกวิชาเอกใดดีก็ได้พบเพ่ือนใหม่ช่ือ รัตนา ฤทัยสว่างสกุล มาจาก วค.จันทรเกษม เราสองคนจึงไปขอร้องหัวหน้าหมวดวิชาภาษาไทย (รศ. ดวงพร น่ิมมา) เปดิ วชิ าเอกภาษาไทย ดงั นั้นเอกภาษาไทย ป.กศ. สงู รนุ่ แรก ของวค.ลำปาง จึงมเี พยี งสองคน...”36 35 สัมภาษณ์ อาจารยป์ ระชุม มขุ ดี, อ้างแลว้ . 36 จำลอง คำบุญชู, “อันเนื่องมาจากศิษย์ดื้อ....และอาจารย์ใจกว้าง” ,ในสองทศวรรษวิทยาลัยครูลำปาง, 2534.หน้า 130-131. 20

เครอ่ื งแบบนกั ศกึ ษายคุ แรก การเปดิ สอนในระดับ ป.กศ. ช้ันสูง ร่นุ แรกของวทิ ยาลัยครูลำปาง มี 5 วชิ า เอก ได้แก ่ วชิ าเอกสังคมศึกษา วชิ าเอกวทิ ยาศาสตรท์ ั่วไป วิชาเอกคณติ ศาสตร์ วชิ า เอกภาษาองั กฤษ และวิชาเอกภาษาไทย รปู เครอื่ งแตง่ กายนกั ศึกษาหญงิ ระดบั ป.กศ. ชนั้ ตน้ รูปเครอื่ งแตง่ กาย นกั ศึกษาหญิง ระดับ ป.กศ. ชนั้ ตน้ (คนกลาง - เสอ้ื แขนยาว กระโปรงจีบและตดิ โบว)์ ป.กศ. ชนั้ สูง (สวมกระโปรงสีกรมท่าไมม่ ีจบี สวมเส้อื เชิต้ สีขาวแขนส้ัน) นกั ศกึ ษาชาย ระดบั ป.กศ. ชน้ั ตน้ (กางเกงสเี ทา) และ ป.กศ. ชนั้ สงู (กางเกงสกี รมทา่ ) 21

รปู เครอื่ งแตง่ กาย ชดุ ปกติ รปู เครอ่ื งแตง่ กาย ชดุ พธิ กี าร 22

รบั นอ้ งใหม่ “ลอดซ้มุ สะเลียม” “คล้องมาลัยช่อใบสะเลยี ม” ถึงแมว้ า่ ผู้บริหารและคณาจารย์รุ่นบกุ เบิกจะมาจากวิทยาลัยครูอุตรดติ ถ์ แต่การ ออกแบบเครื่องแต่งกายนักศึกษากลับแตกต่างไปจากวิทยาลัยครูอุตรดิตถ์มาก โดยจำแนกเคร่ืองแต่งกายนักศึกษาภาคปกติให้แตกต่างกับภาคค่ำ และจำแนกระดับ นักศึกษา ป.กศ. ตน้ ใหแ้ ตกตา่ งจากนกั ศึกษาระดบั ป.กศ. ชนั้ สูง ดงั นี ้ 23

นกั ศึกษาภาคปกติ ป.กศ. ตน้ ผู้หญิง สวมกระโปรงสนี ้ำเงินจีบรอบ เสือ้ สีขาว แขนยาว ปกคอมน ผูกโบว์แบบริบบ้ินสีน้ำเงินตรงคอเสื้อ แล้วกลัดเข็มตราวิทยาลัย ตรงปกเสื้อปักจุดสีน้ำเงินบอกชั้นปีและปักชื่อด้วยด้ายสีเขียวตรงอกเสื้อด้านซ้าย สวมถุงเท้าสีขาว และรองเท้าสีดำสายรัด คาดเข็มขัดตราวิทยาลัย ทั้งชุดปกติและชุด พธิ กี าร นักศกึ ษา ภาคปกติ ป.กศ. ต้น ผู้ชาย สวมกางเกงขายาวสีเทา ถุงเท้าสีดำ รอง เทา้ สดี ำ เสือ้ เชิต้ สีขาว ผูกเนกไทสีแดงเลือดหมู คาดเขม็ ขัดสดี ำหวั เขม็ ขัดตราวทิ ยาลัย ชุดปกติจะเป็นเช้ิตแขนสั้นสีขาวปักชื่อที่อกด้านซ้ายด้วยด้ายสีเขียวและปักจุด สนี ้ำเงนิ ทปี่ กเสอื้ บอกชนั้ ปี แตถ่ ้าชุดพิธีการจะเปน็ เสอื้ เชิต้ สีขาวแขนยาวไม่ปักจุดไม่ปกั ชือ่ นกั ศกึ ษา ภาคค่ำ ป.กศ. ตน้ ผูห้ ญงิ สวมกระโปรงสีน้ำเงนิ จบี รอบ เสื้อสีขาวแขนยาว ปกคอมนผูกโบว์แบบริบบ้ินสีแดงตรงคอเส้ือ แล้วกลัดเข็มตราวิทยาลัย ตรงปกเสื้อปัก จดุ สแี ดงบอกชัน้ ปแี ละตรงอกเสื้อปักชอื่ ด้วยดา้ ยสเี ขียว สวมถงุ เท้าสขี าว และรองเทา้ สีดำ สายรัด คาดเข็มขดั ตราวทิ ยาลัย ท้งั ชุดปกติและชุดพธิ ีการ นักศกึ ษา ภาคคำ่ ป.กศ. ตน้ ผชู้ าย สวมกางเกงขายาวสเี ทา ถงุ เทา้ สดี ำ รอง เท้าสีดำ เสอื้ เชติ้ สีขาว ผูกเนกไทสีแดงเลือดหมู คาดเข็มขดั สดี ำหวั เข็มขัดตราวิทยาลยั ชุดปกติจะเป็นเชิ้ตแขนส้ันสีขาวปักชื่อท่ีอกด้านซ้ายด้วยด้ายสีเขียวและปักจุดสีแดงท่ีปก เส้ือบอกชั้นปี แต่ถ้าชุดพิธีการจะเป็นเสื้อเช้ิตสีขาวแขนยาวไม่ปักจุดไม่ปักช่ือ ถ้าเป็น ทหาร ตำรวจ สามารถแต่งเครือ่ งแบบทหาร ตำรวจ ได้ นักศึกษาระดับ ป.กศ. ชั้นสูง ผู้หญิง สวมกระโปรงสีกรมท่าไม่มีจีบ สวมเสื้อ เชิต้ สขี าวแขนสั้นติดตราสถาบนั ท่อี กเส้อื ดา้ นซา้ ยและปักชอื่ ด้วยดา้ ยสีเขยี วท่ีอกเส้อื ด้วย สวมรองเทา้ คลัชชูสดี ำ ท้งั ชดุ ปกตแิ ละชดุ พธิ กี าร สว่ นนกั ศกึ ษาระดบั ป.กศ. ช้นั สงู ผชู้ าย สวมกางเกงขายาวสกี รมทา่ เส้ือเชต้ิ สี ขาวปักชื่อไว้ที่อกด้านซ้ายด้วยด้ายสีเขียว ผูกเนกไทสีแดงเลือดหมู สวมถุงเท้าสีดำ รองเท้าหนงั สดี ำ ถ้าเป็นชุดพธิ ีก็สวมเส้อื เช้ติ สีขาวแขนยาว ไมต่ ้องปักช่ือ และผกู เนกไทสี แดงเลือดหมู 24

ในช่วงหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เป็นยุคสมัยประชาธิปไตยเบ่งบาน นักเรียนนักศึกษามีข้อเรียกร้องเปล่ียนแปลงระเบียบการแต่งกายกันแทบทุกสถาบัน ในวิทยาลัยครูลำปางก็เช่นกัน ความเข้มงวดในด้านเครื่องแบบของนักศึกษาเร่ิมลดลง และผ่อนปรนตามข้อเรียกร้องของนักศึกษา และเครื่องแบบนักศึกษาก็ได้วิวัฒนาการ เรื่อยมาจนถึงปจั จบุ ัน จาก F ถึง Sr รหัสเรยี กนักศกึ ษายุคแรก ยคุ แรกของการจัดการเรียนการสอนในวทิ ยาลัยครลู ำปางนัน้ มกี ารจดั การเรียน การสอนเพียง 2 ระดบั คอื ระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาการศกึ ษาช้นั ต้น (ป.กศ. ต้น) ซึง่ รับผู้เรียนจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (ม.ศ.3) มาเรียน 2 ปี และ ระดับ ประกาศนียบตั รวิชาการศกึ ษาชน้ั สงู (ป.กศ. ชัน้ สงู ) ซึง่ รับผู้เรียนจบจาก ป.กศ.ตน้ มา เรยี นอกี 2 ปี วิทยาลัยครูลำปางมีการใช้อักษรย่อภาษาอังกฤษเรียกแต่ละช้ันปีให้ครอบคลุม ท้งั 4 ชน้ั ปี โดยใชร้ หัสอักษรยอ่ ภาษาอังกฤษดังนี ้ “F” (Freshy ) หมายถงึ นักศึกษา ป.กศ.ต้น ปที ่ี 1 “S” (Sophormor) หมายถึงนักศกึ ษา ป.กศ.ตน้ ปที ่ี 2 “Jr”( Junior) หมายถึงนกั ศกึ ษา ป.กศ. ชนั้ สูง ปที ่ี 1 “Sr” (Senior) หมายถึงนักศึกษา ป.กศ. ชั้นสงู ปที ่ี 2 แต่ถ้าเป็นนักศึกษาภาคค่ำก็จะเติมอักษร “T” (Twilight) เข้าไปข้างหน้า เป็น “TF” “TS” “TJr” และ “TSr” อักษรย่อ รหัสเรียกนักศึกษาเหล่านี้ใช้อยู่ในช่วงแรกเท่าน้ัน พอภายหลังมีการ เปิดสอนในระดับปริญญาตรี การเรียกกลุ่มนักศึกษาโดยใช้ตัวย่อดังกล่าวก็ได้ยกเลิกไป เปน็ รหัสนักศึกษาในปัจจุบนั 25

ปัญหาทดี่ ิน 26 ปี กับการแกไ้ ข เมื่อจังหวัดลำปาง ได้รับแจ้งจากกรมการฝึกหัดครูให้จัดทำเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดิน บรเิ วณพน้ื ท่บี า้ นหนองหวั หงอก จงั หวดั ลำปาง จงึ ดำเนนิ การหาที่ดินกอ่ ตง้ั วทิ ยาลยั ครูให้ มบี รเิ วณพื้นท่กี ว้างขวางเพียงพอโดยในเดอื นกมุ ภาพนั ธ์ 2514 ทางจังหวดั ได้มอบหมาย ให้นายธานี บุญคุ้ม ศึกษาธิการจังหวัดลำปางและนายอุทัย ไกรจักร นายอำเภอเมือง ลำปางไปประชุมราษฎรท่ี วัดกล้วยหลวง ตำบลกล้วยแพะ มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คือ นายบญุ เทง่ ทองสวัสด์ิ ส่ือมวลชนและผู้ใหญบ่ ้านเข้าร่วมประชมุ ด้วยได้ชี้แจงราษฎร บา้ นหนองหวั หงอก ตำบลชมพู และราษฎรบ้านกล้วย ตำบลกลว้ ยแพะ ซง่ึ มีทที่ ำกนิ อยู่ ในบริเวณใกลเ้ คยี งบรจิ าคที่ดนิ เพือ่ จดั สรา้ งวทิ ยาลยั ครู เพ่ิมเติมจากเดิมซึ่งมีอยู่ 460 ไร่ จนในท่ีสุดรวมเนื้อที่ได้ท้ังสิ้น 944 ไร่ 2 งาน89 ตารางวา จังหวัดลำปางจึงมีหนังสือ แจ้งกรรมสทิ ธทิ์ ่ดี นิ ไปยงั กรมการฝกึ หัดครู ดงั กล่าวขา้ งตน้ การดำเนินการในเรื่องท่ีดินกรรมสิทธ์ิท่ีดินดังกล่าวน้ี ได้เกิดความสับสนสร้าง เข้าใจผิดในกลุ่มราษฎรชาวบ้านกล้วย ตำบลกล้วยแพะ เป็นอย่างมาก ชาวบ้านที่ไม่ ยินยอมบริจาคท่ีดินตามที่จังหวัดลำปางได้กล่าวอ้าง จึงได้เรียกร้องอ้างกรรมสิทธ์ิใน ที่ดนิ คืน “...ตอนน้ันนายอำเภออุทัย ไกรจักร นายบุญเท่ง ส.ส. เข้าร่วม ประชุมในวิหารวัดกล้วยหลวง ตอนเข้าก็เซ็นชื่อประชุม... ลงลายช่ือลายมือ เต๊กลายมือ... บางคนหูเบาก็ไปเต๊กบางคนก็บ่าเต๊ก หมู่ตำบลกล้วยแพะบ่มี ไผยินยอมหนา...พอตกบะแลง บุญทวงศ์ ก็ประกาศในข่าวรอบพายัพสถานี วิทยุลำปางว่า จาวบ้านสองหมู่บ้านคือ บ้านหนองหัวหงอกและบ้านกล้วย ยินดีบริจาคที่ดิน บริจาคท่ีดินสร้าง วค. กำน้ีก็เป็นเร่ืองเป็นราวกันว่า โดนผู้ใหญ่บ้านกำนัน จุ๊จาวบ้านคนเฒ่าคนแก่กดลายมือ จาวบ้านเขาเลย บา่ ยอม....” 37(...ตอนน้ันนายอทุ ัย ไกรจักร นายบญุ เท่ง ส.ส. เขา้ มาประชุม ในวิหารวัดกล้วยหลวง ตอนเข้าก็เซ็นชื่อประชุม...ลงลายชื่อพิมพ์ลายมือ... 37 สัมภาษณ์ นายเบดิ อุน่ มอ่ น, ชาวบา้ นกล้วยหลวง, 6 กรกฎาคม 2544. 26

บางคนหูเบาก็ไปพิมพ์ลายนิ้วมือบางคนก็ไม่ยอมพิมพ์ พวกตำบลกล้วยแพะ ไม่มีใครยินยอมนะ...พอถึงตอนเย็นบุญทวงศ์ ณ ลำปางก็ประกาศใน รายการข่าวรอบพายัพทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัด ลำปางว่าชาวบ้านหนองหัวหงอกและชาวบ้านกล้วย ยินดีบริจาคที่ดินสร้าง วค. ทีน้ีก็เกิดเรื่องเกิดราวว่าถูกผู้ใหญ่บ้านกำนันหลอกชาวบ้านผู้เฒ่าผู้แก่ พิมพ์ลายนิว้ มือ ชาวบา้ นเขาจึงไมย่ อม...) “...ทีแรกก็พากันไปท่ีอำเภอ และไปจังหวัดทีนี้ไปกันหลายคน สมัยน้ันเกิด การปฏิวตั ิเปิ้นห้ามชมุ นมุ เกนิ 5 คน แต่จาวบ้านเปน็ จาวนาคนใดก็ใคร่ได้ท่ี ไร่ท่ีนาคืนคนเป็นร้อยตดิ ตอ่ จังหวัดก็บา่ เดินเรอ่ื งหื้อ ทางขา้ หลวงทางจงั หวดั น้เี ปนิ้ ตงึ บ่าอยูห่ ้ือปะ มาบะใดกว็ ่าติดธุระบ่าอยหู่ ื้อปะตงึ บ่าไดอ้ ู้ได้จากัน กเ็ ลย ส่งตัวแทนไปเข้าหาคณะปฏิวัติที่กรุงเทพฯ เลย...”38 (ตอนแรกก็พากันไป อำเภอ และไปจังหวัดทีนี้ไปหลายคน สมัยน้ันเกิดการปฏิวัติ ทางการห้าม ชุมนุมเกิน 5 คน แต่ชาวบ้านเป็นชาวนาคนใดก็ต้องการได้ท่ีนาคืนคนเป็น ร้อยติดต่อจังหวัดก็ไม่เดินเร่ืองให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเขาก็ไม่อยู่ให้ได้พบ มาเมื่อไหร่ก็ว่าติดธุระไม่อยู่ให้พบ จึงไม่ได้พูดได้คุยกัน ก็เลยส่งตัวแทนไป เขา้ หาคณะปฏิวตั ิทก่ี รุงเทพฯ เลย) ปัญหากรรมสทิ ธิท์ ดี่ ินจึงเปน็ ปญั หาและความขัดแยง้ ระหวา่ งชาวบ้านกับวิทยาลยั ครลู ำปางและยดื เยอื้ ยาวนานตง้ั แตเ่ รม่ิ ลงมอื กอ่ สร้างวิทยาลยั ครูลำปาง กว่าปญั หาจะยตุ ิ ลงได้ต้องใช้เวลาถึง 26 ปี ด้วยความพยายามของผู้บริหารตั้งแต่ยุคบุกเบิก คือ “อาจารยใ์ หญ”่ “ผู้อำนวยการ” “อธิการ” และต่อ ๆ กันมาถึง “อธกิ ารบด”ี รวมกันถงึ 7 ท่าน 38 สัมภาษณ์ นายตาล อนุ่ มอ่ น, แกนนำชาวบา้ นเรยี กรอ้ งกรรมสิทธท์ิ ่ีดนิ ชาวบา้ นกล้วยแพะ, 6 กรกฎาคม 2544. 27

“...เมื่อเร่ิมลงมือสร้างตอนนั้นก็เกิดปัญหาเรื่องท่ีดินกับประชาชน แต่เราไม่ได้ดำเนินการโดยตรงกับชาวบ้านเร่ืองท่ีดินทั้งหมดเป็นเร่ืองของ จังหวัด เราก็พยายามไม่ไปโต้แย้งกับชาวบ้าน แต่ชาวบ้านก็ได้มาพูดว่าเขา ไม่มีท่ีดินทำกิน เขาจะเอาอะไรกิน เราก็เห็นใจและพยายามชี้แจงว่าเรามา ตามคำส่ังของทางราชการให้เรามาสร้างตรงนี้ ถ้าเราไม่สร้างตรงนี้เราก็ผิด สว่ นท่ีดินจะไดม้ าอยา่ งไรเราไมร่ ู้...”39 “...ผมไปรับตำแหน่งปี 2523 ...ได้รับรู้ปัญหาในทุกด้านไม่ว่าด้าน บรหิ าร ด้านวชิ าการ ดา้ นชีวิตความเป็นอยขู่ องบคุ ลากร...ปัญหาเร่อื งที่ดนิ ก็ พยายามแก้ไขสร้างถนนข้ึนบนดอยไปบ้านพักอาจารย์ทางข้ึนบนดอยไม่ได้ กลายเป็นที่ทำนา...เราก็พยายามเจรจากับชาวบ้านแรกๆชาวบ้านก็โกรธ บ้างครั้งก็มีอาวุธมาข่มขู่ ทางเราพยายามเจรจาได้คุยกับเจ้าของที่ ขอที่ดิน เฉพาะทางขึน้ บนดอยจะขอสรา้ งทางแตไ่ ม่เอาเปลา่ ขอโดยแลกเปลย่ี นใหล้ ูก เจ้าของที่เป็นลูกจ้างทำงานให้เงินเดือน อาจารย์ประเสริฐ อุสาหกร ก็ช่วย เจรจาจนสำเร็จ เจรจาเสร็จก็รีบขนดินถมในกลางคืนน้ันเลย 200 กว่า เที่ยว เราต้องรีบทำเพราะรู้ว่าหากมีคนมาพูดเปลี่ยนคำพูดความคิดก็เปลี่ยน นอกจากทางข้ึนดอยแล้วด้านทางเกษตรเราก็เจรจาได้ที่มาหลาย 10 ไร่ โดยรบั ลูกเจา้ ของทเ่ี ข้ามาทำงานเปน็ ลกู จ้างของวทิ ยาลัย”40 ความพยายามหาข้อยุติเกี่ยวกับปัญหาเรื่องกรรมสิทธ์ิท่ีดินระหว่างสถาบันกับ ชาวบา้ นดังกลา่ วนอี้ ดตี อธิการสถาบันราชภัฏลำปาง รศ.ไพฑูรย์ ธรรมแสง มีแนวคดิ วา่ 39 สัมภาษณ์ อาจารยป์ ระชมุ มุขดี, อ้างแลว้ . 40 สัมภาษณ์ ดร. สวุ รรณ นาคพนม, อดตี อธกิ ารวิทยาลยั ครลู ำปาง, 2 พฤษภาคม 2544. 28

“...มันมีปัญหาใหญ่เรื่องท่ีดินกับชาวบ้านผมก็ได้มาพบท่าน อธิบดี(กรมการฝึกหัดครู) ก็คุยกับท่านแล้วท่านก็อยากให้เร่ืองมันจบใน สมยั ผม ผมกเ็ ลยมแี นวคิดวา่ อะไรทีค่ ิดว่าน่าจะเป็นของเขาก็ใหเ้ ขาไป อะไรท่ี นา่ จะเปน็ ของเรากใ็ ห้เอาไว้คือเราจะไมห่ วงเอาไว้ทัง้ หมด เสยี เทา่ ไหรก่ ช็ ่างขอ ให้มันพบกันที่คร่ึงทางท่านอธิบดีท่านก็ไม่ว่าอะไร แต่พอเอาเข้าจริง ๆ แล้ว เมื่อนิติกรของกรมไป ไปทีไรนิติกรต่อสู้เพื่อกรมทุกทีไม่ยอมชาวบ้านเลย เพราะฉะน้ันที่ผมคิดไว้ก็ไม่ตรงตามที่ผมคิดไว้นิติกรเขาก็บอกว่ากรมเป็น เจ้าของ ชาวบ้านเขาไม่ยอมมันก็เลยไม่สำเร็จในสมัยนั้น …ชาวบ้านขอให้ ปล่อยที่ดินให้เขาเพราะว่าเขาก็อ้างว่าที่ดินของเขาเป็นของบรรพบุรุษของเขา น้ันแหละและที่นี้ทางอำเภอก็รับรองว่าจะแก้ปัญหาให้เสร็จ โดยจะให้ผู้แทน ราษฎร ส.ส. ของจังหวัดเข้ามา ทำให้ถูกกฎหมายข้ึนมา …จะแก้ไขให้โดย ทำเป็นกฎหมายออกมาทำนองน้ีแต่ผมไม่ค่อยแน่ใจ หลังจากน้ันก็เงียบแล้ว กแ็ ก้ไขสำเรจ็ ในสมยั ต่อมา…”41 นอกจากผู้บริหารแล้วยังเกิดปัญหาข้ึนกับผู้ปฏิบัติงานด้วย บางครั้งก็ถูกชาว บ้านใชอ้ าวุธข่มขูใ่ หห้ ยุดไถในพ้นื ทท่ี ่มี ีปัญหา “...ผมได้รับคำสั่งจากผู้อำนวยการให้นำรถแทรกเตอร์ทำถนนจากท่ี เป็นโรงยิมอยู่ตอนนี้ไปทางเกษตร ผมก็ถูกชาวบ้านใช้ปืนขู่ ...จนผมต้อง หยุดไถ อีกคร้ังหน่ึงผมได้รับคำส่ังไปไถทางขึ้นบนดอย ลุงจ๋อยเข้ามาต่อว่า ผมมาไถคันนาท่ีนาของคนอ่ืนเสียหายและบอกให้ผมหยุดไถ ผมก็บอกว่า หยดุ ไม่ได้ลงุ เพราะเจา้ นายส่งั สักพักกม็ ีคนมาเพ่ิม สองคน สามคน หา้ คน มาล้อมรถแทรกเตอร์ไว้ ลุงจ๋อยถือมีดถางหญ้ายาวเฟื้อย...และพูดว่าถ้าผู้ว่า ส่งั กใ็ ห้ผู้ว่ามาไถ ถ้านายอำเภอส่ังก็ใหน้ ายอำเภอมาไถ ผมจงึ ทิ้งรถรีบไปหา อาจารยป์ ระเสรฐิ อสุ าหกร มาเจรจากบั ชาวบา้ นกลวั ชาวบ้านจะเผารถ...”42 41 สมั ภาษณ์ รศ. ไพฑูรย์ ธรรมแสง, อดตี อธกิ ารวิทยาลัยครูลำปาง, 4 พฤษภาคม 2544. 42 สัมภาษณ์ นายปอน อุปปญั ญา, นักการภารโรงรนุ่ แรก, 9 กรกฎาคม 2544. 29

จนกระทั่งใน พ.ศ. 2540 ในสมัยของอธิการบดี รศ.วรรณวดี ม้าลำพอง ปัญหาเรื่องที่ดินดังกล่าวจึงได้ข้อยุติลงตามการพิจารณาวินิจฉัยส่ังการโดย นายสหัส พินทุเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางในสมัยนั้น ซึ่งข้อยุติได้สร้างความพอใจให้กับชาว บ้านและทำให้มหาวทิ ยาลัยร้สู กึ คล่คี ลายปัญหาลง “... เฮาเรียกร้องมาตลอดซาวหกปี (26 ปี) โดยสันติวิธี บ่าเคย เดินขบวนจนถึงปี 2540 ความยตุ ธิ รรมกะเกดิ ขน้ึ คดตี ัดสินวา่ สว่ นไหนทาง ราชภัฏได้ทำกินแล้วหื้อเป็นของราชภัฏ ส่วนไหนที่ราชภัฏบ่าได้ทำห้ือเป็น ของราษฎรไป...”43 จากการพิจารณาวินิจฉัยสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางดังกล่าว ในที่สุด กม็ ีผลทำใหท้ ี่ดิน จำนวน 944 ไร่ 2 งาน 89 ตารางวา ลดลงเหลอื เพียง 502 ไร่ 3 งาน 30 ตารางวา คืนสู่กรรมสทิ ธข์ องชาวบา้ น 441 ไร่ 3 งาน 59 ตารางวา ถึงแม้ว่าปัญหาท่ีดินจะมีข้อยุติและคล่ีคลายปัญหาลงได้ แต่ก็ยังมีการกระทบ กระท่ังระหว่างชาวบ้านเจ้าของท่ีดินข้างเคียงกับมหาวิทยาลัยอยู่บ้าง จนกระท่ังในสมัย ของอธกิ ารบดี ผศ. เลก็ แสงมีอานุภาพ ปัญหาจงึ สิ้นสุดลงและได้จัดซอ้ื ทด่ี นิ บางส่วนที่ เป็นปัญหาคืนจากชาวบ้าน ทำให้ท่ีดินของมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง รวมเป็นเนื้อท่ี 657 ไร่ 3 งาน 92 ตารางวา 43 สัมภาษณ์ นายตาล อนุ่ ม่อน, อ้างแลว้ . 30

“ ...เห็นว่าการแก้ปัญหาที่ดินท่ีดีท่ีสุดในยามนั้นก็คือหางบประมาณ มาจัดซื้อท่ีดินที่เป็นรอยต่อท่ีล่อแหลมที่มีปัญหา เพื่อขจัดปัญหาทั้งหลาย จึงได้นำเข้าเสนอขออนุมัติงบประมาณจากเงินคงคลัง เพ่ือนำไปจัดซื้อที่ดิน เร่ิมต้ังแต่เดือน มกราคม ปี 2548 จนถึง กุมภาพันธ์ 2551 รวมการจัดซือ้ 5 ครั้ง เราซอ้ื ที่ดนิ ได้ 57 แปลง เปน็ จำนวนเนอื้ ที่ 155 ไร่ 62 ตารางวา ใช้งบประมาณไปทั้งหมด ย่ีสิบเก้าล้านหน่ึงแสนสองหมื่นกว่าบาท เม่ือรวม กับที่ดินของเดิมท่ีมีอยู่ก็เป็นเนื้อท่ี จำนวน 657 ไร่ 3 งาน 92 ตารางวา ในสถานะปัจจบุ ัน...”44 พ้ืนท่ีของมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางในปัจจุบันนอกจากพ้ืนที่จำนวน 657 ไร่ 3 งาน 92 ตารางวา ท่บี า้ นหนองหัวหงอกแลว้ ยังมีพ้นื ทท่ี ไ่ี ดร้ ับบริจาคจากผมู้ ศี รทั ธา คือ แม่เล็ก พิชญกุล ซ่ึงบริจาคที่ดินจำนวน 115 ไร่ 72 งาน ตั้งอยู่เลขที่ 8 ตำบล พระบาท อำเภอเมือง จงั หวัดลำปางอกี ดว้ ย 44 สมั ภาษณ์ ผศ. เลก็ แสงมีอานุภาพ, อธิการบดีมหาวิทยาลยั ราชภัฏลำปาง, 17 พฤษภาคม 2556. 31

ชีวติ ความทรงจำของรุ่นบุกเบิก ชวี ติ และความทรงจำในส่ขี วบปแี รกของวทิ ยาลยั ครลู ำปาง ผู้บรหิ าร คณาจารย์ นักศึกษาและบุคลากรของวิทยาลัยต่างมีความรักความผูกพันอันดีต่อกันและต่อสถาบัน หลายท่านได้เลา่ ความทรงจำเกรด็ เหตกุ ารณ์ในอดีตไวอ้ ย่างนา่ สนใจ อาท ิ



“อาจารยใ์ หม่ ชีวติ ใหม่” “ ...11 พฤษภาคม 2515 รถด่วนกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ ก็นำ บัณฑิตใหม่หมาดๆ มาถึงสถานีรถไฟนครลำปาง...ไม่รู้เลยว่าวิทยาลัยครู ลำปางอยู่ตรงไหน...คุยกับคนขับรถส่ีล้อจนได้ข้อมูลว่าน่าจะอยู่ใกล้บ้าน กล้วย...คนขับบอกว่าถนนไม่ดีเป็นฝุ่น แต่ก็นั่งมาเร่ือยๆ...จนมาถึงบ้าน หนองหัวหงอก มองไปทางขวาเห็นถนนลูกรังตัดใหม่แยกยาวเข้าไปในพื้นท่ี เปิดโล่งเกือบจะหาตน้ ไมใ้ หญไ่ มไ่ ด้เลย...ไปรายงานตัว ณ สำนักงานช่วั คราว (อาคารอุตสาหกรรมศิลป์)45 ถนนลูกรังตัดผ่านท่ีโล่งมีต้นไม้อยู่โหรงเหรง มองไม่เห็นอาคารเรียนเลย มีแต่หอพักหญิง 2 หลัง และหอพักชาย (อาคารศิลปะปัจจุบัน) มาถึงสำนักงานก็พบอาจารย์หลายคนท่ีมาก่อนแล้ว รายงานตัวกับ อาจารย์โอฬาร โรจน์หิรัญ อาจารย์ใหญ่ ...ตอนบ่าย อาจารย์ประชุม บุญน้อม ก็เดินทางมารายงานตัว หลังรายงานตัวก็เตรียม ตัวหาที่พักกัน บ้านพักก็เต็มหมดแล้วเราเลยต้องลงหอพักชายมีห้องพัก อาจารยย์ งั พอวา่ งอย ู่ เรามากอ่ นเลยไดช้ ั้นสองกบั อาจารยป์ ระชุม บุญน้อม ไมม่ อี ะไรเลยในห้อง โชคดมี ีเสือ่ กกหยาบๆ คนละผืน หมอนคนละใบ นัน่ คือ วันคืนแรก ณ วิทยาลัยครูลำปาง ซึ่งเลือกมาเองด้วยอุดมการณ์ที่อยากจะ เร่ิมชีวิตการทำงานในฐานะผู้บุกเบิกและไม่คิดเลยว่าจะอยู่มาได้ตลอดชีวิต ราชการ...”46 45 เปน็ อาคารโรงฝึกงานถูกรื้อไปแลว้ และสร้างอาคารโยธาขนึ้ มาแทนท่ีในปจั จบุ ัน 46 ววิ ัฒน์ แดงสังวาลย์, “ปฐมบทชวี ติ ใต้ต้นเหยี ง.” ใน ความทรงจำในป่าเหียง หนงั สือที่ระลึกงานเกษียณอายรุ าชการ ปี 2552, มหาวิทยาลยั ราชภัฏลำปาง, หนา้ 51-53. 34



“ผมมาอย่ลู ำปาง เม่ือ 15 พฤษภาคม 2515 ในตำแหน่งครจู ตั วา เงินเดือน 750 ตอนนนั้ เหงามาก เพราะวิทยาลัยยงั ไมเ่ ปดิ และแทบไม่มอี ะไร เลย มอี าคารท่ที ำงานอย่หู ลงั เดียว (อาคารโรงฝกึ งาน) นักศกึ ษา กย็ งั ไม่มา อาคาร 1 มีแต่ช้ันล่าง ร้านอาหารก็ไม่มี ตอนเย็นต้องอาศัยคุณยายสำเภา และคุณลุงบรรจบช่วยทำอาหารให้ เพอื่ น ๆ ก็ยงั ไม่รูจ้ ักกันเพราะต่างคนตา่ ง มา...ตอนเย็นก็นอนหอพัก (อาคารศิลปะ ปัจจุบัน) ห้องใครห้องมัน ผมมี วิทยุเครอื่ งเก่าๆ เคร่อื งหนง่ึ กฟ็ งั ไม่ค่อยรู้เรอ่ื งออู้ ีแ้ ต่ก็ยงั ดเี หมอื นมเี พอ่ื น...”47 “...ผมสอบบรรจุจากกรมปี 2515 เลือกมาอยู่ลำปางเพราะเป็น วิทยาลัยใหม่ และตอนน้ันอาจารย์จาก วค.อุตรดิตถ์ ที่ไปอยู่กัน อาจารย์ โอฬารเราก็รู้จักเราเป็นลูกศิษย์ อาจารย์ประชุมเราก็มีความประทับใจความ ผกู พันเป็นอาจารย์นิเทศก์ฝกึ สอน อาจารย์รัฐ จนั ทร์เดช สมยั เรียนแกก็เป็น อาจารยป์ ระจำหอพกั ผมกม็ คี วามสนิทสนมกัน ...ตอนไปถึงคนื แรกสนกุ เขา้ นอนสัก 3 ทมุ่ 4 ท่มุ เสียงปืนดังตูม ๆๆๆ เราก็ไมร่ ูเ้ ขายิงอะไรกนั ตอนเช้า ไปกินข้าว ก็ถามเขาเมื่อคืนมีอะไรกันเขายิงอะไรกันตูมๆๆ จ่าปรีชาบอกเขา ยิงเคลียร์พ้ืนที่ คือตอนน้ันถนนสายนั้นเป็นเส้นทางที่ถูกจ้ีมอเตอร์ไซค์บ่อย ท่ีสุด ผ่านตรงนั้นเขาจะยิงปืนคล้ายๆกับประกาศว่าข้ามีปืนนะ สูอย่ามาจ้ีข้า ไม่ได้นะ เป็นการยงิ เคลยี รพ์ ื้นท่ีคนื หนึง่ ยงิ ไม่ร้กู ี่ครงั้ ...”48 47 .ศิริ พรมด,ี “ส่วนหนง่ึ ของ 37 ปีแห่งความทรงจำ”. ใน ความทรงจำในปา่ เหียง หนังสือท่ีระลกึ งานเกษยี ณอายุ ราชการ ปี 2552, มหาวิทยาลยั ราชภัฏลำปาง, หน้า 31. 48 สัมภาษณ์ ผศ.สทิ ธชิ ยั หาญสมบัต,ิ อาจารย์รุ่นบกุ เบิกวิทยาลยั ครลู ำปาง อธกิ ารบดสี ถาบันราชภัฏอุตรดติ ถ์: 18 มนี าคม 2544 36

“...รับราชการในตำแหน่งอาจารย์ตรี ณ วิทยาลัยครูอุตรดิตถ ์ ตอ่ มาวทิ ยาลัยครลู ำปาง จะเปิดสอนในปี 2515 ...จึงขอย้ายกลับภูมิลำเนา (ลำปาง) พอปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2514 ก็ขนสัมภาระท่ีมีอยู่ข้ึนรถไฟ กลับลำปาง...ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะถึง วค.ลำปาง ช่วงนั้นเป็นช่วงการ รับนักศึกษาภาคค่ำ ...ทำงานอยู่ประมาณ 10 วัน ได้รับการทักทายจาก ผู้บริหาร คือ อาจารย์โอฬาร โรจน์หิรัญ ด้วยใบหน้าย้ิมแย้มแจ่มใส... วันหน่ึงอาจารย์บอกว่า ทาง วค.อุตรดิตถ์ไม่ให้ย้าย ...จึงต้องเดินทางกลับ อตุ รดิตถ์...และลาศกึ ษาตอ่ หลังจบปรญิ ญาโท ได้ 2 ปจี งึ ขอย้ายกลับสภู่ มู ิ ลำเนาทีว่ ิทยาลยั ครูลำปาง สมดงั ความมงุ่ หวัง”49 “วนั ที่ 17 พฤษภาคม 2515 ผมเข้ามาวันแรกหอบขา้ วของพะรงุ พะรัง คนท่ีเจอคนแรกคืออาจารย์ โอฬาร โรจน์หิรัญ ก็กล่าวต้อนรับผม และให้ อาจารย์สมพงษ์ กาญจนสุนทร พาไปอยู่หอพัก คือที่ตึกศิลป์ ปจั จุบัน คนที่อย่กู ่อนผมตอนน้ัน คือ อาจารยว์ ิวัฒน์ แดงสังวาลย์ เราจะอยู่ ดว้ ยกนั กินด้วยกัน ต่อมาสัก 2 – 3 วัน กม็ คี นตามมาอยู่เรื่อยๆ มอี ย่วู นั หน่ึงผมไปกินข้าวบ้านน้าเภาเสร็จไม่รู้จะทำอะไร ก็เอาหมากฮอสมาเล่นกับ อาจารยช์ ยั ฤทธิ์ ผมเล่นเสมอกับแก แกโกรธมากเลย พอรุ่งเช้าแกเจอผมไป ทำงานผูกเนกไท เขาจึงรู้ว่าผมเป็นอาจารย์ เพราะที่แกโกรธตอนเล่นหมาก ฮอสนั้นแกก็เผยออกมาให้ทราบว่าตอนแรกคิดว่าเล่นหมากฮอทแล้วเสมอ กับคนเฝ้าตึก น่ีก็เป็นเกร็ดชีวิตที่มันประทับใจแล้วก็ลืมยากนะ...สมัยน้ันเรา สรา้ งวงดนตรีขึน้ มา คอ่ นข้างมีชอื่ เสียง เลน่ กนั โอโ้ ห! ระเบดิ เถิดเทิงกนั เลย นะ ถึงนครสวรรค์ ถงึ ท่ไี หนก็มาหาเราหมด”50 49 เสาวนยี ์ แสงมีอานภุ าพ, “ส่งิ ดๆี ที่ข้าพเจ้าไดร้ บั จากสถาบันการศึกษาแห่งน”ี้ . ใน ความทรงจำในปา่ เหยี ง หนังสือท่ี ระลกึ งานเกษยี ณอายรุ าชการ ปี 2552, มหาวิทยาลัยราชภฏั ลำปาง, หน้า 23-25. 50 สัมภาษณ์ ผศ.ประชุม บุญนอ้ ม อดตี คณบดีคณะมนษุ ยศาสตร์ฯสถาบนั ราชภฏั ลำปาง : 5 เมษายน 2544. 37

“...ผมเดนิ ทางมาบรรจุเปน็ ครูตรีวทิ ยาลัยครูลำปาง 16 มกราคม 2516 รู้แต่ว่าวิทยาลัยครูอยบู่ ้านหนองหัวหงอก ...ในฐานะผ้มู าใหมพ่ วกเรา ทั้งหมดต่างก็ต่ืนเต้นกับสภาพและบรรยากาศของวิทยาลัยครูในสมัยโน้นมี แต่ผืนป่าแห้งแล้งฝุ่นแดงปลิวฟุ้งกระจาย บ้านพักกับที่ทำงานห่างกันไกล ใครมีมอเตอร์ไซค์ก็ข่ี ใครไม่มีก็เดิน...ความรู้สึกของพวกเราในยามนั้นตาม ความนึกคิดของผมคิดว่าพวกเราท้ังหลายต่างก็มาจากหลายที่หลายทางมา พบกันท่ีน่ี ที่ท่ีกำลังเร่ิมก่อร่างสร้างตัว ต่างแสดงออกถึงความรักและความ หว่ งใยทใี่ สซือ่ บริสทุ ธิ์ เราร่วมแรงร่วมใจกนั ทกุ ๆ ภารกจิ เรมิ่ ตั้งแต่การจัดเวร ยามดูแลความปลอดภัยในยามวิกาล ค่ำมืดดึกดื่นไม่เคยเก่ียงงานกันแม้แต่ น้อย เวลามีงานเล้ียงสังสรรค์เราก็ทำเอง กินเอง เล่นดนตรีกันเอง... กต็ งั้ ปณิธานไว้เลยนี่พูดจากใจจรงิ นะวา่ ที่น่กี ็คอื ท่ที ่ฉี ันจะอยู่ พดู ได้วา่ อาจ จะตลอดชวี ิตฉันจะไม่ย้าย…”51 “…เดินทางมาจังหวัดลำปาง เม่ือ 19 พฤษภาคม 2516 หิ้วลัง กระดาษใส่ตำราและเคร่ืองมือบางชิ้น ข้ึนรถไฟจากหัวลำโพงเพื่อมาบรรจุ เป็นอาจารย์ตรีท่ีวิทยาลัยครูลำปาง ซึ่งสมัยน้ันเป็นป่ารกร้าง มีอาจารย์ โอฬาร โรจน์หิรัญ เป็นอาจารย์ใหญ่ ได้รับความอนุเคราะห์จากท่าน อาจารย์เล็ก แสงมีอานุภาพ ให้พักอาศัยอยู่บ้านพักบนดอยด้วยกัน ทา่ นเปน็ กัลยาณมิตรท่ีดมี าก เป็นทั้งพี่ เพ่ือน และปัจจบุ นั เป็นผบู้ งั คบั บัญชา งานสอนช่วงปีแรกๆ สอนทางวชิ าการศึกษา มหี อ้ งเรยี นชัว่ คราวแบบหลงั คา มุงตองตึง ต่อมาได้สอนทางวิชาหัตถศึกษางานประดิษฐ์ต่างๆ รวมถึงงาน ไฟฟา้ – วทิ ยุ…”52 51 สมั ภาษณ์ ผศ.เล็ก แสงมีอานภุ าพ, อธิการบดีสถาบนั ราชภัฏลำปาง, 17 พฤษภาคม 2544. 52 บุญชดั เนติศกั ด์ ิ ,“คิดถงึ ” หนงั สอื ทรี่ ะลกึ งานเกษยี ณอายุราชการ ปี 2553, หน้า 13 38