๙๘—๙๙ วทิ ยคุ มนาคมแบบดจิ ทิ ลั (Digital ค วา ม แ ต ก ต่ า ง ข อ งวิ ท ยุ ค ม นา ค ม และใช้งานไม่ได้ตามปกติ แต่เคร่ืองวิทยุสื่อสาร บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่ืสอสาร signal) หมายถึง เคร่ืองรบั ส่ง แอนะลอ็ กและดิจิทลั ความแตกต่างของ ดิ จิ ทั ล ยั ง ส า ม า ร ถ ติ ด ต ่ อ สื่ อ ส า ร ร ะ ห ว ่ า ง กั น ไ ด ้ สญั ญาณขอ้ มูลท่ถี กู เขา้ รหสั มีคา่ วิทยุคมนาคมดิจิทัลและวิทยุคมนาคมแอนะล็อก ตวั เครอ่ื งมคี วามทนทาน กนั นา้� กนั กระแทก และ แบบไม่ตอ่ เน่ือง (Discrete Data) อยทู่ กี่ ระบวนการสง่ สญั ญาณตา่ งกนั ระบบแอนะลอ็ ก ป้องกันการเกิดประกายไฟ จึงเหมาะกับการใช้ มี ค่ า ร ะ ห ว่ า ง ค่ า ส อ ง ค่ า คื อ ส่งสัญญาณต่อเน่ือง แต่ระบบดิจิทัลเครื่องส่งจะ งานภาคสนาม เช่น งานด้านบรรเทาสาธารณภัย สญั ญาณระดบั สูงสุดและต่ําสุด น�าสัญญาณทอี่ อกอากาศอยู่ ณ ตอนน้ันมาท�าให้ มคี วามปลอดภยั สงู สดุ สามารถปอ้ งกนั การดกั ฟงั แ ท น ด ว้ ย ร ะ ด บั แ รง ด นั ท่ี แ ส ด ง เปน็ สว่ นยอ่ ยจา� นวนมาก และใสร่ หสั ลา� ดบั เอาไว้ ได้โดยการเข้ารหัส ขณะที่ระบบแอนะล็อก สถานะเป็ นเลขศูนยแ์ ละเลขหน่ึง ท�าให้การแสดงผลเขา้ ใจได้ง่าย สามารถดกั ฟงั ได้งา่ ย ๆ เพยี งแคป่ รบั คลื่นความถ่ี (0,1) หรืออาจจะมีหลายสถานะ ใหต้ รงกันเท่าน้นั เอง ขนึ ้ อยู่กบั ค่าท่ีตงั ้ ไว ้ (threshold) ดว้ ยความกา้ วหนา้ ของเทคโนโลยี ทา� ให้วิทยุ สญั ญาณดิจทิ ลั เป็ นสญั ญาณท่ี คมนาคมในยคุ ดิจทิ ลั ถกู พฒั นาอย่างก้าวกระโดด ภาพท่ี ๒ วิทยุคมนาคมดิจิทลั ใชใ้ นการทาํ งานของคอมพิวเตอร ์ นั บ จ า ก วิ ท ยุ ค ม น า ค ม ยุ ค แ อ น ะ ล็ อ ก ม า สู ่ วิ ท ยุ และตดิ ตอ่ ส่อื สารกนั ในทางปฏบิ ตั ิ คมนาคมสัญญาณดิจิทัลซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี โดย มเี ครอื ขา่ ยการใหบ้ รกิ ารทคี่ รอบคลมุ ทว่ั ประเทศ โ ด ย ก า ร แ ป ล ง ค ล่ื น ส ญั ญ า ณ เฉพาะวทิ ยคุ มนาคมระบบทรงั ค์ (Digital Trunked สามารถติดต่อถึงกันได้โดยไม่จ�ากัดพ้ืนที่ และมี หรือขอ้ มู ลดิจิทลั เป็ นสญั ญาณ Radio System: DTRS) เปน็ เครอื ขา่ ยวิทยุส่ือสาร ระบบการสง่ สญั ญาณเสยี งทค่ี มชดั ไมม่ สี ญั ญาณ ดิจิทลั จะตอ้ งใชเ้ คร่ืองมือท่ีเรียก ท่ีมีการท�างานคล้ายกับระบบโทรศัพท์เคล่ือนท่ี รบกวนเหมอื นสญั ญาณแอนะลอ็ กแบบเดมิ DTRS วา่ ดจิ ทิ ลั ทรานสมติ เตอร ์(Digital จะมีสถานีกลาง (System control) ท�าหน้าที่ ยังมีคุณสมบัติพิเศษที่ระบบแอนะล็อกไม่มี คือ Transmitter) โดยเป็ นการเขา้ จดั ชอ่ งสญั ญาณใหม้ จี า� นวนชอ่ งสญั ญาณเพยี งพอ ในกรณจี า� เปน็ และมจี พี เี อส (Global Positioning ร ห สั ส ญั ญ า ณ ซ่ึ ง มี อ ยู่ ห ล า ย ในการรองรบั การใชง้ านของเครอ่ื งลกู ขา่ ยทง้ั หมด System: GPS) คอื ระบบกา� หนดตา� แหนง่ บนโลก รปู แบบ เชน่ NRZ-L NRZI เป็ นตน้ ในระบบ และมีสถานนที วนสญั ญาณ (Repeater สามารถบอกต�าแหน่งพิกัด ความเร็วและเวลา หลงั จากนนั ้ จึงมี การแปลงจาก station) ท�าหน้าท่ีเชื่อมโครงข่ายให้ครอบคลุม ระบุต�าแหน่ง และความเร็วในการเคล่ือนท่ีของ สญั ญาณดจิ ทิ ลั เป็ นขอ้ มูลอกี ครงั ้ พ้นื ท่ีของเครอื ข่ายน้นั ๆ และเลอื กช่องสญั ญาณ เครือ่ งวิทยสุ ่อื สารแบบ Real Time เพอื่ ใชใ้ นการ ดว้ ยวธิ ีการถอดรหสั (Decoding) ที่วา่ งอยู่ให้ลกู ข่ายโดยอัตโนมตั ิ ทั้งสามารถเรยี ก ควบคมุ และแจ้งเตอื น สามารถเลือกใช้งานแบบ เฉพาะเครอ่ื งลกู ขา่ ยทต่ี อ้ งการตดิ ตอ่ เฉพาะกลมุ่ ได้ ร ะ บ บ ส่ื อ ส า ร เ ฉ พ า ะ ก ลุ ่ ม ( P r i v a t e c a l l ) ภาพท่ี ๑ วิทยุคมนาคมตวั เคร่ืองสีแดง Announcement call, Telephone call และ วิทยคุ มนาคมเฉพาะกจิ ระบบดิจิทลั (Nation Emergency call รวมถงึ ความสามารถใชง้ านแบบ wide digital trunked radio) เป็นเครอื ข่ายแรก Data feature โดยการส่งข้อความแบบ Short ที่มีรัศมีการสื่อสารครอบคลุมและกว้างไกลท่ีสุด messaging และยังสามารถบันทึกเสียงการ ในประเทศไทย เป็นระบบการสื่อสารท่ีมีแม่ข่าย สนทนาไดอ้ ีกด้วย ให้บริการในลักษณะของการจัดกลุ่ม โดยข้อมูล ขา่ วสารทต่ี ดิ ตอ่ กนั จะมคี วามเปน็ สว่ นตวั มากขน้ึ สามารถเก็บเป็นความลับเฉพาะกลุ่มได้ดีย่ิงข้ึน ด้วยเพราะความสามารถพิเศษที่เพิ่มเติมมากข้ึน น่ันเอง โดยความสามารถของสัญญาณดิจิทัล ท�าให้คุณสมบัตขิ องวทิ ยคุ มนาคม มขี อ้ ดีดังนี้ จากความสามารถในการสื่อสารท่ีรวดเร็ว สงู สดุ และสอื่ สารไปยงั กลมุ่ คนจา� นวนมากไดโ้ ดย ไมจ่ า� กดั จา� นวน หรอื การตดิ ตอ่ กลมุ่ (Group call) เ ป ็ น ป ร ะ โ ย ช น ์ อ ย ่ า ง ย่ิ ง ใ น ส ถ า น ก า ร ณ ์ ฉุ ก เ ฉิ น มคี วามเสถยี รในการใชง้ าน แมใ้ นยามทเี่ กดิ เหตรุ า้ ย ภัยพิบัติ ซ่ึงการสื่อสารแบบแอนะล็อกอาจล่ม
๔๗ กิจการเคล่อื นท่ี ทางทะเล กจิ การเคล่อื นท่ีทางทะเล (Maritime mobile service) คอื กจิ การเคล่อื นท่ีระหวา่ งสถานีภาคพื น้ ดนิ กบั สถานี เรอื สถานีเรอื กบั สถานีเรอื หรอื การติดต่อบนเรอื ซ่งึ รวมถงึ สถานียานช่วยชีวิต และสถานีวิทยุบอกตาํ แหน่ง ฉุกเฉิน เช่น การควบคุมเรอื ประมงเขา้ และออกจากท่าเรอื (Port in-Port out : PIPO) และการติดต่อระหวา่ ง เรอื กบั เรอื ในยา่ น HF (๒-๒๕ เมกะเฮิรตซ)์ และ VHF (๑๕๖-๑๖๒.๐๕ เมกะเฮิรตซ)์ เป็ นคลน่ื ความถ่ี ทางสาํ นกั งาน กสทช. เป็ นผูอ้ อกใบอนุญาตใหใ้ ช ้ และไดจ้ ดั ฝึ กอบรมและใหใ้ บอนุญาตแก่เจา้ ของเรอื ประมงและคนเดินเรอื ประมงเป็ นจาํ นวนมาก เน่ืองจากท่ีผ่านมามีการใชง้ านโดยไม่ไดร้ บั ใบอนุญาต เป็ นอีกหน่ึงปัญหาท่ีทางการ ของไทยตอ้ งดาํ เนินการแกไ้ ขเพ่ื อแกป้ ัญหาดา้ นการประมง
ภาพท่ี ๑ ภาพการส่ง การส่ือสารจากการสะทอ้ น ๑๐๐—๑๐๑ สญั ญาณทางทะเล ท่ีชนั้ บรรยากาศไอโอโนสเฟี ยร ์ Ionosphere การส่ือสารผ่านระบบดาวเทียม Satellite Link Troposcatter การส่ือสารโดย ใชค้ ล่นื ตรง การส่ือสารโดยใชค้ ล่นื ดนั Ground Wave Direct Wave การส่ือสารดว้ ยไมโครเวฟ Microwave Link ทง้ั นต้ี อ้ งทา� ความเขา้ ใจสา� หรบั แผนงานคลน่ื ความถว่ี ทิ ยุ เพอื่ ใช้ แบบแถบข้างเดียวด้านสูง ส�าหรับการติดต่อส่ือสารในลักษณะ บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่ืสอสาร สญั ญาณเสยี ง (J3E) ซง่ึ ใชเ้ ปน็ เครอื่ งวทิ ยคุ มนาคมสา� หรบั สถานเี รอื ในกจิ การทแี่ ตกต4า่ งก7นั -โด2ยการกา� หนดชอ่ งความถ่ี และเงอ่ื นไขการ (Ship station) หมายถงึ เครอ่ื งรบั สง่ ทม่ี ขี ว้ั ตอ่ สายอากาศสา� หรบั ใช้ กับสายอากาศภายนอก และเป็นเคร่ืองติดตั้งประจ�าที่ในเรือ ใชค้ ลนื่ ความถเี่ พอ่ื ใหค้ รอบคลมุ สา� หรบั กจิ การเคลอื่ นทท่ี างทะเล เปน็ (Onboard a vessel) มมี าตรฐานทางเทคนคิ ของเครอ่ื งโทรคมนาคม ย่านความถี่ ๒๗ เมกะเฮิรตซ์ ในช่วงความถี่ ๒๖.๑-๒๗.๙๙ และอปุ กรณ์ (กทช. มท. ๑๐๒๒-๒๕๕๒) ตามทกี่ า� หนดไวใ้ นประกาศ เมกะเฮริ ตซ์ โดยมชี ว่ งหา่ งระหวา่ งชอ่ งสญั ญาณ (Channel Spacing) คณะกรรมการกจิ การโทรคมนาคมแหง่ ชาติ เรอื่ ง การตรวจสอบและ ๓ เฮริ ตซ์ และมกี ารมอดเู ลตแบบแถบขา้ งเดยี วดา้ นสงู (USB) ใช้ รบั รองมาตรฐานของเครอื่ งโทรคมนาคมและอปุ กรณต์ อ้ งปฏบิ ตั ติ าม สา� หรบั การตดิ ตอ่ สอ่ื สารในลกั ษณะสญั ญาณเสยี ง ซง่ึ ใชเ้ ปน็ เครอ่ื ง ดว้ ยสา� หรบั เงอ่ื นไขการใชค้ ลนื่ ความถ่ี ดงั นี้ วทิ ยคุ มนาคมสา� หรบั สถานเี รอื โดยเครอ่ื งวทิ ยคุ มนาคมสา� หรบั สถานี เรอื หมายถงึ เครอ่ื งรบั สง่ ทม่ี ขี วั้ ตอ่ สายอากาศสา� หรบั ใชภ้ ายในกบั การใชค้ ลนื่ ความถต่ี ามแผนความถวี่ ทิ ยุ กา� หนดใหใ้ ชใ้ นกจิ การ สายอากาศภายนอก และเปน็ เครอื่ งตดิ ตงั้ ประจา� ทใี่ นเรอื (Onboard เคลอื่ นทที่ างทะเลในลกั ษณะการใชค้ ลน่ื ความถร่ี ว่ มกนั (Shared use) a vessel) ทงั้ น้ี ไมร่ วมถงึ สถานยี านชว่ ยชวี ติ (Survival Craft Station) ไมไ่ ดเ้ ปน็ การจดั สรรคลน่ื ความถส่ี า� หรบั ผใู้ ชเ้ ฉพาะราย การใชค้ ลนื่ ความถตี่ ามแผนความถวี่ ทิ ยนุ ้ี ใชส้ า� หรบั ตดิ ตอ่ สอ่ื สารประเภทเสยี ง การกา� หนดการใชค้ ลนื่ ความถยี่ า่ น ๒๗ เมกะเฮริ ตซ์ ในชว่ ง พดู ดว้ ยเทคโนโลยแี อนะลอ็ กเทา่ นน้ั ความถ่ี ๒๖.๑-๒๗.๙๙ เมกะเฮริ ตซ์ สา� หรบั การตดิ ตอ่ สอื่ สารระหวา่ ง สถานเี รอื กบั สถานเี รอื และสถานเี รอื กบั สถานฝี ง่ั ดงั นี้ การใช้คล่ืนความถี่ตามแผนความถี่วิทยุนี้ ต้องเป็นไปตาม ขอ้ ตกลงในการประสานงานคลน่ื ความถบ่ี รเิ วณชายแดนทเี่ กยี่ วขอ้ ง ช่วงความถ่ี ๒๖.๑-๒๖.๕๑ เมกะเฮิรตซ ์ (ช่วง A) ซ่ึงอาจรวมถึงข้อจ�ากัดในการใช้คล่ืนความถี่และเง่ือนไขการแจ้ง ชว่ งความถ่ี ๒๖.๕๑-๒๖.๙๖ เมกะเฮิรตซ ์ (ชว่ ง B) จดทะเบยี น (Registration) หรอื แจง้ ขอ้ มลู (Notification) การใช้ ชว่ งความถ่ี ๒๖.๙๖-๒๗.๔๑ เมกะเฮริ ตซ ์ (ชว่ ง C) คล่ืนความถี่ การต้ังสถานีวิทยุคมนาคมในพ้ืนที่บริเวณชายแดน ชว่ งความถ่ี ๒๗.๔๑-๒๗.๘๖ เมกะเฮริ ตซ ์ (ชว่ ง D) ตามทก่ี า� หนด ทง้ั น้ี ผไู้ ดร้ บั อนญุ าตใหใ้ ชค้ ลน่ื ความถต่ี อ้ งใหค้ วามรว่ ม ชว่ งความถ่ี ๒๗.๘๖-๒๗.๙๙ เมกะเฮิรตซ ์ (ชว่ ง E) มอื ในการประสานงานคลนื่ ความถบ่ี รเิ วณชายแดนกบั ประเทศเพอ่ื นบา้ น ผไู้ ดร้ บั อนญุ าตใหใ้ ชค้ ลน่ื ความถต่ี อ้ งปฏบิ ตั ติ ามหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร การกา� หนดการจดั ชอ่ งความถใ่ี นลกั ษณะแบบไมเ่ ปน็ คู่ (Unpaired และเงอื่ นไขการอนญุ าตทคี่ ณะกรรมการกจิ การกระจายเสยี ง กจิ การ frequency) สา� หรบั การทา� งานแบบซมิ เพลก็ ซ์ (Simplex operation) โทรทศั น์ และกจิ การโทรคมนาคมแหง่ ชาตปิ ระกาศกา� หนด และทจ่ี ะ อกี ทง้ั กา� หนดใหค้ ลนื่ ความถ่ี ๒๗.๑๕๕ เมกะเฮริ ตซแ์ ละ ๒๗.๒๑๕ ประกาศกา� หนดเพมิ่ เตมิ ดว้ ย เมกะเฮริ ตซ์ เปน็ คลนื่ ความถเ่ี พอ่ื สนบั สนนุ ภารกจิ ปอ้ งกนั และบรรเทา สาธารณภยั ทอี่ ยตู่ ดิ กนั เทา่ กบั ๑๐ เมกะเฮริ ตซ์ โดยชว่ งหา่ งระหวา่ ง ชอ่ งสญั ญาณ (Channel spacing) ๓ กโิ ลเฮริ ตซ์ (kHz) มกี ารมอดเู ลต
๔๘ กิจการเคล่อื นท่ี ทางบก กิจการเคล่ือนท่ีทางบก (Land Mobile Service) หมายถึง กิจการ นอกจากน้ี กสทช. จะปรบั ปรงุ การใชค้ ลนื่ ความถ่ี เคล่อื นท่ีระหวา่ งสถานีฐาน (Base stations) กบั สถานีเคล่อื นท่ีทางบก ยา่ นความถ่ี ๔๗๐-๙๖๐ เมกะเฮริ ตซ์ ดงั น้ี ดว้ ยกนั เอง เช่น โทรศพั ทเ์ คล่อื นท่ีไรส้ ายท่ีใชก้ นั ในนามคล่นื มอื ถอื ย่าน ๘๐๐ เมกะเฮิรตซ ์ ๙๐๐ เมกะเฮิรตซ ์ และย่าน ๑๘๐๐ เมกะเฮิรตซ ์ ซ่งึ ๑ . ค ล่ื น ค ว า ม ถ่ี ๔ ๗ ๐ - ๕ ๑ ๐ ปั จ จุ บ นั ค ล่ื น ค ว า ม ถ่ี สํ า ห ร บั กิ จ ก า ร นี ถ้ ู ก กํ า ห น ด ใ น น า ม กิ จ ก า ร เมกะเฮิรตซ ์ โยกย้ายการใช้กิจการประจ�าที่ โ ท ร ค ม น า ค ม เ ค ล่ื อ น ท่ี ส า ก ล ห รื อ I n t e r n a t i o n a l M o b i l e และกิจการเคล่ือนท่ีทางบก ภายใน พ.ศ. ๒๕๖๓ Telecommunications (IMT) เพ่ื อใหส้ ามารถใชค้ ล่ืนดงั กลา่ วสําหรบั เพื่อรองรับการใช้งานกิจการโทรทัศน์ภาคพ้ืนดิน โทรศพั ทเ์ คล่อื นท่ีไดท้ ุกประเทศท่วั โลก ระบบดจิ ทิ ลั และปรบั ปรงุ ประกาศ กสทช. เรอื่ ง แผน ความถ่ีวิทยุส�าหรับกิจการโทรทัศน์ภาคพ้ืนดินใน ระบบดิจิทลั ให้รองรบั การใช้งานในยา่ น ๔๗๐-๖๙๘ เมกะเฮริ ตซ์ ภายใน พ.ศ. ๒๕๕๖ ๒ . ค ล่ื น ค ว า ม ถ่ี ๕ ๑ ๐ - ๗ ๙ ๐ เ ม ก ะ เ ฮิ ร ต ซ ์ ปรบั ปรงุ ประกาศ กสทช. เรอื่ ง แผนความถวี่ ทิ ยสุ า� หรบั กจิ การโทรทศั นภ์ าคพน้ื ดนิ ใน ระบบดจิ ทิ ลั ใหร้ องรบั การใชง้ านในยา่ น ๔๗๐-๖๙๘ เมกะเฮริ ตซ์ ภายใน พ.ศ. ๒๕๖๖ และจดั ทา� แผน ความถวี่ ทิ ยเุ พอ่ื รองรบั การใชง้ านกจิ การโทรคมนาคม เคลอ่ื นทสี่ ากล ในยา่ นความถ่ี ๖๙๘-๘๐๖ เมกะเฮริ ตซ์ ภายใน พ.ศ. ๒๕๖๖ ๓ . ค ล่ื น ค ว า ม ถ่ี ๗ ๙ ๔ - ๘ ๐ ๖ เมกะเฮิรตซ ์ โยกยา้ ยไมโครโฟนไรส้ ายและการใช้ งานในกจิ การอนื่ ๆ ภายใน พ.ศ. ๒๕๖๖ เพอ่ื รองรบั การใชง้ านกจิ การโทรคมนาคมเคลอ่ื นทส่ี ากลยา่ น ความถี่ ๖๙๘-๘๐๖ เมกะเฮริ ตซ์ ๔. คล่นื ความถ่ี ๘๐๖-๙๖๐ เมกะ- เฮิรตซ ์ ปรับปรุงการใช้คลื่นความถี่เพื่อรองรับ ก า ร ใ ช ้ ง า น กิ จ ก า ร โ ท ร ค ม น า ค ม เ ค ลื่ อ น ท่ี ส า ก ล กิจการเคล่ือนที่ทางบกระบบทรังค์ ภารกิจป้องกัน และบรรเทาสาธารณภยั การใชง้ าน RFID และการ ใช้งานระบบอาณัตสิ ัญญาณเพื่อควบคุมการเดินรถ ระบบราง ภายใน พ.ศ. ๒๕๖๓ (จากประกาศคณะ กรรมการกจิ การกระจายเสยี ง กจิ การโทรทศั น์ และ กจิ การโทรคมนาคมแหง่ ชาติ เรอื่ ง แผนแมบ่ ทการ บรหิ ารคลน่ื ความถี่ ฉบบั ที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๖๐) ระบบทรงั ค์ (Trunked radio) ทเี่ รยี กวา่ ระบบ วทิ ยคุ มนาคมระบบทรงั ค์ เปน็ เครอื ขา่ ยวทิ ยสุ อ่ื สารที่ มกี ารทา� งานคลา้ ยกบั ระบบโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นที่ ถอื เปน็ บรกิ ารวทิ ยคุ มนาคมเฉพาะกจิ ในยา่ นความถี่ ๘๐๐ เมกะเฮริ ตซ์ ท่ี กสทช. โทรคมนาคม เปน็ แมข่ า่ ยให้ บรกิ ารตดิ ตอ่ สอื่ สารในลกั ษณะจดั กลมุ่ ใหบ้ รกิ ารเพอื่
คล่นื ตรง ๑๐๒—๑๐๓ (Direct Wave) คล่นื สะทอ้ นจากพื น้ดิน (Ground refleced) สถานี เสาอากาศ ระหวา่ งประเทศอนั เปน็ หลกั สากล (International สถานี เสาอากาศ ภาคส่ง Mobile Telecommunications: IMT) ภาครบั อ�านวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร การ คลนื่ VHF หรอื Very High Frequency เปน็ เกรด็ ความรู ้ ประสานงานเฉพาะภายในกลมุ่ สามารถตดิ ตอ่ กนั คลื่นสัญญาณท่ี ITU ออกแบบมาให้ใช้กับคล่ืน โดยอตั โนมตั ใิ นพน้ื ทต่ี ลอด ๒๔ ชว่ั โมง โดยขอ้ มลู ความถต่ี า่ ง ๆ โดยเรม่ิ ตง้ั แต่ ๓๐-๓๐๐ เมกะเฮริ ตซ์ ในปั จจุบนั เทคโนโลยีโทรคมนาคมพฒั นาอย่าง ขา่ วสารทตี่ ดิ ตอ่ กนั จะเปน็ ความลบั เฉพาะกลมุ่ และ คลนื่ ชนดิ นสี้ า� คญั มาก เพราะเปน็ ทงั้ คลน่ื โทรทศั น์ ร ว ด เ ร็ ว แ ล ะ ต่ อ เ นื่ อ ง โ ด ย เ ฉ พ า ะ เ ท ค โ น โ ล ยี ที่ ยงั มวี ทิ ยสุ อ่ื สารสา� หรบั หนว่ ยราชการและหนว่ ยงาน วทิ ยุ หอบงั คบั การบนิ หรอื สา� หรบั ใชใ้ นกจิ การทหาร ใ ช ส้ ํ า ห ร บั บ ริ ก า ร โ ท ร ศ พั ท เ์ ค ลื่ อ น ท่ี ป ร ะ ก อ บ เอกชนใชส้ า� หรบั การประสานงาน ใชย้ า่ น ๔๐๐ ขอ้ ดขี อง VHF คอื คลน่ื ความสามารถกระจายไดไ้ กล เมกะเฮริ ตซ์ หรอื ๘๐๐ เมกะเฮริ ตซ์ และวทิ ยุ ครอบคลมุ พน้ื ทขี่ นาดใหญ่ ขอ้ เสยี คอื ถกู รบกวน ก บั ส ห ภ า พ โ ท ร ค ม นา ค ม ร ะ ห ว่ า ง ป ร ะ เ ท ศ ไ ด ้ สอ่ื สารสา� หรบั ประชาชนทวั่ ไป (Citizen band) ใช้ งา่ ย หากอยใู่ นพน้ื ทแี่ ออดั จะรบั สญั ญาณไมไ่ ด้ ปจั จบุ นั กําหนดความถ่ีวิทยุสําหรบั กิจการโทรคมนาคม ยา่ น ๒๔๕ เมกะเฮริ ตซ์ ทน่ี ยิ มนา� มาใชส้ า� หรบั การ หลายประเทศกา� ลงั นา� คลน่ื VHF สา� หรบั กจิ การ เ ค ลื่ อ น ที่ ส า ก ล ( I n t e r n a t i o n a l M o b i l e รกั ษาความปลอดภยั หรอื ตดิ ตอ่ ประสานงานในรา้ น โทรทศั นอ์ อกไปทา� อยา่ งอนื่ เพอื่ ไมใ่ หถ้ กู คลนื่ แทรก Telecommunications: IMT) เพ่ื อเป็ นแนวทาง อาหาร เปน็ ตน้ คลนื่ UHF หรอื Ultra High Frequency เปน็ สําหรบั ประเทศสมาชิกไดน้ ําไปใชป้ ระโยชนใ์ หเ้ ป็ น ส� า ห รั บ ม า ต ร ฐ า น ท า ง เ ท ค นิ ค ข อ ง เ ค ร่ื อ ง คลน่ื ท่ี ITU ออกแบบมาสา� หรบั กจิ การโทรทศั น์ มาตรฐานเดียวกนั ซ่งึ เป็ นที่ตระหนกั กนั โดยท่วั ไป โ ท ร ค ม น า ค ม แ ล ะ อุ ป ก ร ณ ์ ที่ ใ ช ้ กั บ เ ค รื่ อ ง วิ ท ยุ วทิ ยแุ ละโทรคมนาคมทงั้ หลาย มคี ลน่ื ตง้ั แต่ ๓๐๐- แลว้ ว่า ความถ่ีวิทยุสําหรบั กิจการโทรคมนาคม คมนาคมในกิจการเคลื่อนท่ีทางบก กสทช. มี ๓๐๐๐ เมกะเฮิรตซ์ ใช้เป็นช่วงสัญญาณหลัก เคล่ือนท่ีสากล เป็ นความถ่ีวิทยุท่ีมี ความสําคญั ประกาศคณะกรรมการกจิ การโทรคมนาคมแหง่ ชาติ ส�าหรับออกอากาศทวี แี ละวิทยุระบบดิจิทัล ขอ้ ดี กา� หนดยา่ นความถว่ี ทิ ยุ VHF/UHF สา� หรบั การ ของ UHF คอื สญั ญาณทม่ี คี ณุ ภาพสงู กวา่ VHF ต่อการพฒั นาดา้ นเศรษฐกิจและสงั คม และกลาย ส่ือสารประเภทเสียงพูด หรือข้อมูลให้มีความ ทะลทุ ะลวงดกี วา่ เพราะยง่ิ คลน่ื สงู ความหนาแนน่ เป็ นเครื่องมอื สําคญั ย่ิงในการลดชอ่ งวา่ ง เพ่ื อเขา้ เหมาะสมกับความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยี การทะลทุ ะลวงกย็ งิ่ มากขน้ึ ถา้ ชว่ งสญั ญาณกวา้ ง ถงึ เครือข่ายความรู ้นอกจากนีป้ ัจจุบนั เครื่องวิทยุ ด้านวิทยุคมนาคม และสอดคล้องหลักเกณฑ์ท่ี ท�ามีให้ใช้ความถ่ีได้มากกว่า และไม่ถูกแทรก กา� หนดไวใ้ นขอ้ บงั คบั วทิ ยขุ องสหภาพโทรคมนาคม รบกวนไดง้ า่ ย ทวั่ โลกนา� คลนื่ UHF ใชก้ บั ทวี ดี จิ ทิ ลั คมนาคมสามารถรองรบั บรกิ ารไดห้ ลากหลายและ โดยเฉพาะ เหมาะสา� หรบั สง่ สญั ญาณทม่ี แี บนดว์ ดิ ท์ สามารถใชง้ านคลื่นความถี่ไดห้ ลายย่าน รวมทงั้ สงู (Hight Bandwidth) คอื ความเรว็ ในการสง่ ย่านความถี่วิทยุ IMT แต่ในประเทศไทยยงั ไม่ได ้ ผา่ นขอ้ มลู สงู เชน่ การดาวนโ์ หลด (Download) ไฟลร์ ปู ภาพทกุ ประเภทใน ๑ วนิ าทใี ชแ้ บนดว์ ดิ ท์ กาํ หนดรายละเอียดใหช้ ดั เจน อาจจะเป็ นปัญหาใน มากกวา่ การดาวนโ์ หลดขอ้ ความในเวลา ๑ วนิ าที การใชเ้ ครอ่ื งวทิ ยคุ มนาคมดงั กลา่ วตามมาตรฐาน ระหว่างประเทศ ภาพท่ี ๑ โลโก ้ กิจการโทรคมนาคมเคล่อื นท่ีสากล บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่ืสอสาร (International Mobile Telecommunications: IMT)
๔๙ กิจการเคล่อื นท่ี ทางอากาศ กิจการเคล่อื นท่ีทางอากาศ หรอื ทางการบิน (Aeromautical Mobile ประกาศจากคณะกรรมการกจิ การกระจายเสยี ง S e r v i ce ) ห ม า ย ถึง กิ จ การ เ ค ล่ือ น ท่ี ร ะ ห ว่า ง ส ถานี ท า ง การ บิ นกบั กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ อากาศยาน หรอื ระหวา่ งอากาศยานกบั อากาศยาน ซ่งึ รวมถงึ สถานียาน เรื่อง หลักเกณฑ์ป้องกันการรบกวนการใช้คลื่น ช่วยชีวติ และสถานีวทิ ยบุ อกตาํ แหน่งฉุกเฉิน เช่น การตดิ ตอ่ ระหวา่ งหอ ความถใ่ี นกจิ การวทิ ยกุ ารบนิ และสถานวี ทิ ยกุ ระจาย บงั คบั การบนิ กบั เคร่อื งบนิ พาณิชยใ์ นประเทศและระหวา่ งประเทศ ในยา่ น เสยี งทไ่ี ดร้ บั จดั สรรคลน่ื ความถี่ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๙ HF และ VHF โดยท่ีสหภาพโทรคมนาคมระหวา่ งประเทศ หรอื ITU ได ้ ระบคุ วามหมายของกจิ การวทิ ยกุ ารบนิ หมายความ กาํ หนดยา่ นความถส่ี ากลใช ้เพ่ื อกจิ การควบคมุ จราจรทางอากาศเหมอื น ว่า กิจการวิทยุน�าทางการบินและกิจการเคลื่อนท่ี กนั ทุกประเทศทว่ ั โลกภายใตก้ ารเสนอแนะขององคก์ ารพลเรอื นระหวา่ ง ทางการบินในเส้นทางพาณิชย์ตามตารางก�าหนด ประเทศ (ICAO) ท่ีย่านความถ่ี ๑๑๘-๑๓๗ เมกะเฮิรตซ ์ แต่กย็ งั มีคล่นื คลนื่ ความถแ่ี ห่งชาตไิ ว้ ส่วน “ระบบควบคมุ จราจร ความถ่ีท่ีใชใ้ นระบบอปุ กรณอ์ ่นื ๆ ท่ีใชใ้ นกิจการการบิน หรอื บรษิ ทั วิทยุ ท า ง อ า ก า ศ ” ห ม า ย ค ว า ม ว ่ า ร ะ บ บ น� า ท า ง การบินของประเทศไทย เช่น ระบบติดตามอากาศยาน ระบบเคร่อื งช่วย (Navigation System) ระบบน�าร่อน (Landing การเดินอากาศ ระบบส่ือสารการบิน อุปกรณว์ ิทยุส่ือสาร บริเวณท่า System) และระบบส่ือสาร (Communication อากาศยาน และบรกิ ารส่ือสารการบินดว้ ยขอ้ มูล System) โดยใช้คลื่นความถ่ีในกิจการวิทยุน�าทาง ท า ง ก า ร บิ น แ ล ะ กิ จ ก า ร เ ค ลื่ อ น ท่ี ท า ง ก า ร บิ น ใ น เส้นทางบนิ พาณิชย์
Landline / mobile Switching Unit Satellite dish 49-1 49-2 Aeroplane Satellite Uplink (with on board base station) ๑๐๔—๑๐๕ Return link DowFinxleindklink UpMloinbDkiolewlninliknk UpMloinbDkiolewlninliknk Landline / mobile Switching Unit Satellite dish Forward link 49-2ภาพท่ี ๑ ภาพการส่งสญั ญาณเคล่อื นท่ีUplink ภาพท่ี ๒ ภาพการส่งสญั ญาณ เคล่อื นท่ีทางอากาศ หรือทางการบิน ทางอากาศ หรือทางการบิน อปุ กรณว์ ทิ ยสุ ่อื สาร บรเิ วณทา่ อากาศยาน สา� หรบั สหภาพโทรคมนาคมระหวา่ งประเทศ (ITU) ไดก้ า� หนด รเปรยซปะะา่่ึงรลนหเหะปย่ี ควเวท็นนา่ ว่างศาแคงมทปลสปถล่ัว่ืนัญรสี่ โงทะลญาขเ่ีตกกทนารลศาณงใดภชกเข(าเ้ สับIพอยCียคงอื่ ใAสงวตกกOาญั ้กจิ Dมับ)กาญoถราคwFาทร่ีเขinลสณxคยี่อle่ืiนนnวา่dงทkบพนอคlสี่ iคคแnลาง่ kมุนหวอ่ืนาจอะ์วมรขกิททาถออยจ�าี่ งารุ ใ๑อกทหAง๑าา้เคMศ๘งก์กอ-ิRด๑าาตทกคeร๓ากาี่เลtม๗ปศuาื่นส็นเรrหวญั บเกnิทมมิญนากอยื รlพานะุiทรณnลเกวี่มฮเkมเนั รรีิกสกทือตยีานักนุซรง์ ๑. Air-Ground ๑๑๗.๙๗๕-๑๓๗ เมกะเฮริ ตซ์ โดยความถข่ี องคลน่ื พาหย์ งั คงที่ กจิ การเคลอื่ นทท่ี างอากาศ มคี ลน่ื ๒. Ground-Ground ๑๕๐-๑๗๐ เมกะเฮริ ตซ์ และยา่ น ๔๐๐ ความถ่ีวทิ ยุที่ใชใ้ นระบบและหรอื อุปกรณ์ตา่ ง ๆ โดยเฉพาะภายใน เมกะเฮริ ตซ์ ทา่ อากาศยานสนามบนิ ดงั น้ี ๓. Trunked Radio System ยา่ น ๘๐๐ เมกะเฮริ ตซ์ Forward link บรกิ ารส่อื สารการบนิ ดว้ ยขอ้ มลู ระบบตดิ ตามอากาศยาน ๑. ส่ือสารการบินด้วยข้อมูล ย่าน HF ๒๘๕๐-๒๒๐๐๐ กิกะเฮิรตซ์ ๑. Primary Surveillance (PSR) ๑-๒๖๐ เมกะเฮริ ตซ์ ๒-๗๐๐ เมกะเฮริ ตซ์ และ ๓-๓๐๐ เมกะเฮิรตซ์ ๒. สื่อสารการบินด้วยข้อมูล ย่าน VHF ๑๑๗.๙๗๕-๑๓๗ เมกะเฮริ ตซ์ ๒. Secondary Surveillance (SSR) ๑๐๓๐ เมกะเฮิรตซ์ และ ๑๐๙๐ เมกะเฮิรตซ์ อยา่ งไรกต็ าม กจิ การคลนื่ ความถที่ างอากาศ ถกู กา� หนดใหใ้ ช้ เป็นคล่ืนความถ่ีเพื่อกิจการโทรคมนาคมเพ่ือความมั่นคงของรัฐ ๓. Advanced Surface Movement Radar ๙๐๐๐-๙๕๐๐ เนอ่ื งจากคลน่ื ความถเี่ ปน็ ทรพั ยากรสอ่ื สารของชาติ ใชเ้ พอ่ื ประโยชน์ เมกะเฮิรตซ์ สาธารณะ และมกั เปน็ ขา่ วอยเู่ สมอ เชน่ กรณสี ถานวี ทิ ยกุ ระจายเสยี ง ซงึ่ ประเทศไทยใชค้ ลน่ื เอฟเอม็ ระหวา่ ง ๘๗-๑๐๘ เมกะเฮริ ตซ์ มี ระบบเครอ่ื งชว่ ยการเดนิ อากาศ การรบกวนกบั ระบบวทิ ยตุ ดิ ตอ่ สอื่ สารการบนิ ในยา่ น VHF ระหวา่ ง บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่ืสอสาร ๑๑๗.๙๗๕-๑๓๗ เมกะเฮริ ตซ์ ทนี่ กั บนิ ใชต้ ดิ ตอ่ กบั หอบงั คบั การบนิ ๑. Non-Directional Beacon (NDB) และ Compass Locator แม้ว่าจะคนละย่านความถ่ีกัน แต่หากเคร่ืองส่งสถานีวิทยุไม่ได้ (COM.LO) ๑๓๐-๕๓๕ เมกะเฮริ ตซ์ มาตรฐาน อาจเกดิ ปญั หาการรวมคลนื่ หรอื การแพรฟ่ งุ้ ของคลน่ื ทา� ให้ การแพร่คล่ืนวิทยุกระจายเสียงแทนท่ีจะเป็นในย่าน ๘๗-๑๐๘ ๒. Very High Frequency OMNI- Directional Range เมกะเฮริ ตซ์ มาเปน็ ยา่ น ๑๑๘-๑๓๗ เมกะเฮริ ตซไ์ ด้ สง่ ผลใหน้ กั บนิ (VOR) ๑๐๘-๑๑๗.๙๗๕ เมกะเฮริ ตซ์ ไดย้ นิ เสยี งรายการหรอื เพลงจากคลนื่ วทิ ยนุ แ้ี ทน หรอื สง่ ผลตอ่ ระบบ เครอ่ื งชว่ ยเดนิ อากาศ เชน่ VOR หรอื ILS ทอี่ ยใู่ นยา่ นใกลเ้ คยี งคอื ๓. Distance Measuring Equipment (DME) ๙๖๐-๑๒๑๕ ๑๐๘-๑๑๗.๙๗๕ เมกะเฮริ ตซ์ ซง่ึ ถอื วา่ เปน็ การรบกวนทอ่ี าจสง่ ผล เมกะเฮริ ตซ์ เสยี หายได้ จงึ ตอ้ งมกี ารกา� หนดยา่ นและควบคมุ การใชง้ านทช่ี ดั เจน และปอ้ งกนั ไมใ่ หเ้ กดิ การรบกวนซง่ึ กนั และกนั ถอื เปน็ ปญั หาสา� คญั ท่ี ระบบส่อื สารการบนิ สา� นกั งาน กสทช. ตอ้ งเรง่ รดั แกไ้ ขและเปน็ หนงึ่ ในภารกจิ หนา้ ทใ่ี น ๑. วิทยุสื่อสาร ย่าน VHF ๑๑๗.๙๗๕ เมกะเฮิรตซ์ การบรหิ ารคลนื่ ความถ่ี ๒. วทิ ยสุ อื่ สาร ยา่ น UHF ๒๒๕-๔๐๐ เมกะเฮริ ตซ์
๕๐ การส่ือสารผ่านดาวเทียม ใน พ.ศ. ๒๔๘๘ อาเธอร ์ ซี คลาก (Arthur C. Clarke) นกั ฟิ สิกสแ์ ละ นกั เขยี นนวนิยายทางวทิ ยาศาสตร ์ ไ ด เ้ ขี ย นบ ท ค วา ม ขึน้ ม า ๒ ฉบ บั กล่า ว ถึง แ น ว คิ ด เ ร่ื อ ง ด า ว เ ที ย ม ส่ือสารของคลาก ซ่งึ ถอื วา่ เป็ นจดุ เร่ิมตน้ ของวิทยาการการส่ือสาร ผ่านดาวเทียม แนวคดิ เรอ่ื งการสอื่ สารผา่ นดาวเทยี มของคลาก ยังไม่สามารถท�าให้เป็นจริงได้ ทว่า เมื่อสหภาพ โซเวียตเป็นชาติแรกทไ่ี ดส้ ่งดาวเทียมทม่ี นุษย์สรา้ ง ชอื่ Sputnik-I (อา่ นวา่ สปตุ นกิ วนั ) ขน้ึ ไปโคจรรอบ โลกเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ ทา� หนา้ ทเ่ี พยี งส่งสญั ญาณ วทิ ยอุ อกมา แต่กเ็ ปน็ การแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ประโยชน์ ของดาวเทยี มในการสือ่ สารไดอ้ ย่างชดั เจน แนวคดิ เรอื่ งดาวเทยี มสอื่ สารทสี่ ามารถใหบ้ รกิ าร ครอบคลมุ ทว่ั โลกของคลากเปน็ ผลสา� เรจ็ เมอื่ บรษิ ทั ทางดา้ นโทรคมนาคมในสหรฐั อเมรกิ าไดร้ ว่ มมอื กนั เปน็ องคก์ ารสอ่ื สารดาวเทยี มระหวา่ งประเทศทเ่ี รยี ก ว่า International Telecommunications Satellite Consortium สง่ ดาวเทยี มสอื่ สารดวงแรกในวงโคจร คลากช่อื “Early Bird” ข้นึ ไปอยเู่ หนือมหาสมทุ ร แอตแลนตกิ ในเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๐๘ ต่อมา ได้มีการส่งดาวเทียมอีก ๒ ดวงในวงโคจรคลาก เหนือมหาสมุทรแปซิฟิกใน พ.ศ. ๒๕๑๐ อีก ดวงหนึ่งเหนือมหาสมุทรอินเดียใน ค.ศ. ๑๙๖๙ ท้ัง ๓ ดวงสามารถให้บริการส่ือสารครอบคลุมได้ ทว่ั โลกตามแนวคดิ ของคลาก ดงั ตวั อยา่ งในภาพท่ี ๑ เปน็ ภาพพนื้ ทใี่ หบ้ รกิ ารของดาวเทยี มสอื่ สาร Intelsat ๓ ดวง คอื ดาวเทยี ม Intelsat 18 อยทู่ ่ลี องจิจูด ๑๘๐ องศาตะวนั ออก (ดาวเทยี มสอ่ื สารในวงโคจร ค้างฟ้าแต่ละดวงจะมีต�าแหน่งบนเส้นศูนย์สูตร เหมอื นกนั แตต่ า� แหนง่ บนเสน้ ลองจจิ ดู (Longitude) ตา่ งกนั ดงั นนั้ เมอ่ื บอกวา่ ดาวเทยี มอยทู่ ต่ี า� แหนง่ ใด จะหมายถงึ ตา� แหนง่ ลองจจิ ดู ) ดาวเทยี ม Intelsat 21 อยทู่ ลี่ องจิจดู ๓๐๒ องศาตะวนั ออกและดาวเทียม Intelsat 33e อยู่ทลี่ องจจิ ดู ๖๐ องศาตะวนั ออก
ในภาพแสดงให้เห็นว่าพ้ืนท่ีให้บริการรวมของท้ัง และมาเลเซยี นอกจากการเชา่ ดาวเทยี ม PALAPA ๑๐๖—๑๐๗ สามภาพสามารถครอบคลมุ พน้ื ทบี่ นโลกไดท้ งั้ หมด เพอ่ื การตดิ ตอ่ ภายในประเทศแลว้ ตอ่ มาใน พ.ศ. Intelsat 18 at ๑๘๐° E ๒๕๓๔ ประเทศไทยเลง็ เหน็ ความตอ้ งการสอื่ สาร บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่ืสอสาร ดาวเทยี มสอ่ื สารถกู นา� มาใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งมาก ผ่านดาวเทียมที่มากข้ึน ท้ังต้องการให้เกิดความ ท้ังการสอ่ื สารทางเสียง เช่น กิจการโทรคมนาคม Intelsat 21 at ๓๐๒° E มนั่ คงในการสอื่ สารของประเทศ คณะรฐั มนตรจี งึ กจิ การการกระจายเสยี งและกจิ การโทรทศั นท์ งั้ ใน อนุมัติให้กระทรวงคมนาคมให้สัมปทานบริษัท ประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งท่ีผ่านมาน้ัน Intelsat 33e at ๖๐° E เอกชนเพ่ือจัดหาดาวเทียมให้บริการด้านการ สัญญาณเสียงและภาพเป็นสัญญาณแอนะล็อก สอ่ื สารในประเทศ และเมอ่ื มชี อ่ งสญั ญาณเหลอื ก็ (Analog) แต่ในปัจจุบันมีการสื่อสารท่ีเป็นแบบ ภาพท่ี ๑ พื น้ท่ีใหบ้ ริการของดาวเทียม Intelsat สามารถใหบ้ รกิ ารแกป่ ระเทศอนื่ ได้ โดยรจู้ กั กนั ใน ดิ จิ ทั ล ซึ่ ง ส า ม า ร ถ บี บ อั ด ข ้ อ มู ล ไ ด ้ ( D a t a 18, 21 และ 33) ชอื่ ของดาวเทยี มไทยคม จนถงึ ปจั จบุ นั นม้ี กี ารสง่ Compression) ท�าให้สามารถสื่อสารเสียงได้ ดาวเทยี มไปแลว้ ๕ ดวง โดยยงั ใหบ้ รกิ ารอยู่ ๔ ดวง พร้อมกันมากขึ้น โทรทัศน์มีความคมชัดขึ้นและ จา� นวนชอ่ งมากขน้ึ ทา� ใหเ้ กดิ การขยายตวั ของการ เนื่องจากความจ�ากัดของต�าแหน่งในวงโคจร ใหบ้ รกิ ารดาวเทยี มสอ่ื สารเป็นอย่างมาก ค้างฟ้าและระยะที่อยู่ไกล ในปัจจุบันจึงมีการใช้ ดาวเทียมสื่อสารในวงโคจรที่อยู่สูงจากผิวโลกไม่ นับตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๙ ประเทศไทยเร่มิ ต้น มาก (๕๐๐-๒,๐๐๐ กิโลเมตร) เรียกว่า วงโคจร เขา้ ส่กู จิ การดาวเทียมสือ่ สาร โดยเข้าเป็นสมาชกิ ต�่า (Low Earth Orbit: LEO) มากขึ้น แต่ ขององคก์ ารอนิ เทลแซท (Intelsat: International ดาวเทยี มทค่ี วามสงู ไมม่ ากนจ้ี ะไมอ่ ยปู่ ระจา� เหนอื Telecommunication Satellite Consortium) เพอ่ื ต�าแหน่งใดต�าแหน่งหน่ึงบนโลก ท�าให้มีเวลาที่ ใช้เป็นระบบโทรศัพท์และสื่อสารข้อมูลระหว่าง แต่ละต�าแหน่งบนโลกมองเห็นดาวเทียมในระยะ ประเทศ ประเทศไทยได้ใช้บริการดาวเทียม เวลาหนึ่งเท่านั้น การใช้ดาวเทียมส่ือสารในวง Intelsat-II โดยการเช่าใช้เพ่ือน�ามาให้บริการ โคจรตา�่ จงึ ตอ้ งมดี าวเทยี มหลายดวงทา� งานรว่ มกนั ติดต่อกับสถานีภาคพื้นดินฮาวาย เพ่ือให้บริการ เปน็ ฝูงดาวเทียม (Constellation satellite) คือ แกท่ หารอเมรกิ ันทีม่ าทา� การรบในสงครามอนิ โด เมอื่ ดาวเทยี มดวงหนง่ึ โคจรผา่ นไปกจ็ ะมดี าวเทยี ม จีน โดยได้ทดลองเปดิ ใหบ้ ริการโทรศพั ท์ทางไกล อกี ดวงหน่งึ ในฝงู โคจรผา่ นเขา้ มาให้บริการแทน ผา่ นดาวเทยี มกบั สหรฐั อเมรกิ า ในเดอื นธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๑๐ ต่อมามีการใช้ Intelsat เพ่ือให้ ใน พ.ศ. ๒๕๓๐ วศิ วกรของบรษิ ทั โมโตโรลา่ บรกิ ารโทรคมนาคมและการถา่ ยทอดโทรทศั นท์ วั่ ไดน้ า� เสนอหลกั การใชง้ านกลมุ่ ดาวเทยี มขนาดเลก็ ประเทศ จา� นวน ๗๗ ดวง โคจรในวงโคจรต่า� (ความสงู ประมาณ ๘๐๐ กโิ ลเมตร) เพอื่ การสอ่ื สารผ่าน สถานีดาวเทียมภาคพ้ืนดินในระยะแรก ใช้ ดาวเทียม โดยครอบคลมุ พนื้ ท่ีทั่วโลก ภายใต้ช่ือ จานสายอากาศขนาดใหญแ่ ละอุปกรณร์ าคาแพง โครงการ “อริ เิ ดยี ม (Iridium)” ซึ่งมีชอ่ื มาจาก จ�านวนมาก สถานีดาวเทียมภาคพ้ืนดินแห่งแรก จา� นวนดาวเทยี มทใ่ี ชใ้ นโครงการ ๗๗ ดวง เทา่ กบั ของประเทศไทยอย่ทู ่ี อ.ศรรี าชา จ.ชลบุรี ซง่ึ ยัง หมายเลขอะตอมของธาตอุ ิริเดียม อย่างไรก็ตาม คงใชง้ านมาจนถึงปจั จบุ นั น้ีเพ่อื ให้บรกิ ารส่ือสาร ในภายหลังได้มีการออกแบบระบบใหม่ท�าให้ ผ่านดาวเทียม Intelsat จา� นวนดาวเทยี มลดลงเปน็ ๖๖ ดวง แต่ยงั คงใช้ ช่ือว่าอิริเดียม นอกจากโครงการอิริเดียมแล้ว นอกจากนปี้ ระเทศไทยยงั ใชบ้ รกิ ารดาวเทยี ม การส่ือสารผ่านดาวเทียมที่ใช้กลุ่มดาวเทียมวง Inmarsat ซงึ่ เดมิ เปน็ ของรฐั บาลองั กฤษ แตต่ อ่ มา โคจรโลกตา่� ยงั มโี ครงการโกลบอลสตาร์ (Global star) ได้แปรรูปเป็นบริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของ และเทเลเดซคิ ส์ (Teledecis) โดยโกลบอลสตารใ์ ช้ องั กฤษตงั้ แต่ พ.ศ. ๒๕๔๘ และใหบ้ รกิ ารทว่ั โลก ดาวเทยี มจา� นวน ๔๘ ดวง ในขณะที่ เทเลเดซิค โดยประเทศไทยไดใ้ ชบ้ รกิ ารสอ่ื สารแบบเคลอ่ื นท่ี ใชด้ าวเทยี มจา� นวน ๒๘๘ ดวง เพอื่ ใหก้ ารสอ่ื สาร ผ่านดาวเทียมทั้งทางบก ทางน้�า และทางอากาศ ครอบคลุมท่ัวโลก ในอนาคตดาวเทียมส่ือสารใน ว ง โ ค จ ร ต่� า เ ช ่ น น้ี จ ะ ย่ิ ง มี ค ว า ม ส� า คั ญ ม า ก ขึ้ น ใน พ.ศ. ๒๕๒๒ ประเทศไทยโดยกรม เนอ่ื งจากความตอ้ งการสอ่ื สารขอ้ มลู อนิ เทอรเ์ นต็ ไปรษณีย์โทรเลขซ่ึงในขณะนั้นมีหน้าที่ดูแลเรื่อง เพ่ิมมากขึ้นท่ัวโลก ซ่ึงการสื่อสารผ่านสายไม่ การส่ือสารระหว่างประเทศ ได้ลงนามในบันทึก สามารถรองรับได้ ความเข้าใจกับประเทศอินโดนีเซีย เพ่ือเช่าใช้ ดาวเทียม PALAPA ในกิจการสื่อสารภายใน ประเทศเพิ่มเติม เชน่ เดียวกับประเทศฟลิ ปิ ปนิ ส์
๕๑ ดาวเทียมไทยคม ใน พ.ศ. ๒๕๓๓ ประเทศไทยมีการใชด้ าวเทียมเพ่ื อการส่ือสาร การถา่ ยทอดสญั ญาณโทรทศั นอ์ ย่างมากและ มีแนวโนม้ ท่ีเพ่ิ มขนึ ้ โดยเป็ นการใชบ้ ริการผ่านดาวเทียมของต่างประเทศท่ีใหบ้ ริการอยู่ ดงั นนั ้ เพ่ื อใหม้ ีการ บรกิ ารอย่างต่อเน่ืองและมีความม่นั คงของการใหบ้ รกิ าร คณะรฐั มนตรไี ดม้ ีมติอนุมตั ิใหโ้ ครงการดาวเทียม ส่ือสารในประเทศเป็ นโครงการของประเทศ (National project)
ตอ่ มาคณะรฐั มนตรไี ดอ้ นมุ ตั ติ ามทกี่ ระทรวง ๑๐๘—๑๐๙ คมนาคมซง่ึ ไดร้ บั มอบหมายใหค้ ดั เลอื กและตกลง ใหส้ ญั ญาสมั ปทานดา� เนนิ กจิ การดาวเทยี มสอื่ สาร ภายในประเทศแก่บริษัทชินวัตรคอมพิวเตอร์ จ�ากัด ซ่ึงต่อมาเปล่ียนเป็นบริษัทไทยคม จ�ากัด (มหาชน) เป็นเวลา ๓๐ ป โดยดาวเทียมท่ี บริษัทฯ จัดส่งขึ้นไปตลอดจนสถานีภาคพ้ืนดินที่ บรษิ ทั สรา้ งขน้ึ จะตกเปน็ ของรฐั ดาวเทยี มไทยคม เปน็ ดาวเทยี มประเภทสอ่ื สารทอ่ี ยใู่ นวงโคจรดาวเทยี ม คา้ งฟา้ และใชป้ ระโยชนใ์ นเชงิ พาณชิ ยด์ วงแรกของไทย และเมอ่ื วนั ท่ี ๑๗ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ พระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช ไดท้ รง พระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานชอื่ ดาวเทยี มวา่ “ไทยคม” ซง่ึ มาจากคา� วา่ “ไทยคม (นาคม)” มชี อ่ื ภาษาอังกฤษว่า “THAICOM” ซึ่งมาจากค�าว่า “Thai Communications” โดยมีความหมายสอื่ ถงึ การเชอื่ มโยงระหวา่ งประเทศไทยกบั เทคโนโลยี สอ่ื สารสมยั ใหม่ หลงั จากดาวเทยี มดวงแรกคอื ไทยคม-๑ แลว้ บริษัทก็ได้ส่งดาวเทียมดวงต่อ ๆ มาเป็นล�าดับ ดาวเทยี มแตล่ ะดวงมตี า� แหนง่ ในวงโคจรทตี่ า่ งกนั ท�าให้มีพ้ืนท่ีการให้บริการต่างกัน นอกจากนี้ แต่ละดวงยังให้บริการในย่านความถี่แตกต่างกัน ดาวเทียมไทยคมท�าหน้าท่ีเป็นตัวถ่ายทอดและ ทวนสัญญาณ (Repeater) ไปยังภาคพื้นดิน ทีท่ �าการสง่ และรับสัญญาณ สา� หรบั ให้บรกิ ารใน ดา้ นตา่ ง ๆ เชน่ ดา้ นโทรทัศน์ วทิ ยกุ ระจายเสยี ง โทรคมนาคม และการสอื่ สารขอ้ มลู ดาวเทยี มไทย คมไมไ่ ดใ้ หบ้ รกิ ารเพยี งเฉพาะในพนื้ ทป่ี ระเทศไทย แต่ยังให้บริการไปยังประเทศอ่ืนในทวีปเอเชีย ยโุ รป ออสเตรเลยี ดาวเทยี มไทยคมที่เคยใชง้ าน และที่ยงั ให้บริการจนถึงปัจจุบันดังตาราง บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่ืสอสาร
๕๒ ดาวเทียมไทพฒั ดาวเทียมไทพฒั เป็ นดาวเทียมดวงแรกท่ีคนไทยออกแบบสรา้ ง และ ภาพที่ ๑ บุคลากรที่รบั การถ่ายทอดเทคโนโลยีจาก ส่งเขา้ สู่วงโคจรอย่างครบทุกขนั ้ ตอน ในเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ และ ไดร้ บั พระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพล มหาวิทยาลยั เซอเรย ์ ประเทศสหราชอาณาจกั ร อดุลยเดช ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานชอ่ื วา่ “ไทพฒั ” ซ่ึงหมายถึง การพัฒนาเพ่ือความเป็นไทมี วงโคจรเปน็ แบบวงโคจรตา่� และเปน็ แบบสมั พนั ธก์ บั ดวงอาทติ ย์ (Sun synchronous) คอื จะผา่ นทใี่ ด ๆ บนโลกด้วยเวลาเดิม ดาวเทียมมีความสูงวงโคจร เฉลย่ี ๘๑๕ กโิ ลเมตรจากผวิ โลก การโคจรรอบโลก แต่ละรอบใช้เวลา ๑๐๑.๒ นาที และโคจรเข้ามาใน บรเิ วณประเทศไทยเวลาประมาณ ๑๐.๒๐ นาฬิกา ในอดีต การศกึ ษาทางดา้ นวศิ วกรรมดาวเทียม เรมิ่ ตน้ ในประเทศมหาอา� นาจ เชน่ สหรัฐอเมรกิ า รสั เซยี จนี เพราะเปน็ กจิ การทต่ี อ้ งอาศยั การลงทนุ สงู รั ฐ ห รื อ ภ า ค เ อ ก ช น ที่ ไ ด ้ รั บ ก า ร ส นั บ ส นุ น จ า ก รั ฐ เ ท ่ า นั้ น ที่ จ ะ ส า ม า ร ถ ด� า เ นิ น กิ จ ก า ร ไ ด ้ ต ่ อ ม า เทคโนโลยขี องอุปกรณอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ สท์ ่ีมีขนาดเลก็ ลง แตป่ ระสิทธิภาพสูงขึ้น ด้วยราคาทีถ่ กู ลงท�าให้ ภาคเอกชนและสถานศึกษาสามารถท่ีจะพัฒนา ดาวเทยี มขน้ึ ไดเ้ อง อีกทัง้ มคี วามต้องการดาวเทยี ม ในวัตถุประสงค์ต่าง ๆ มากขึ้น มหาวิทยาลัย เทคโนโลยมี หานครซงึ่ เปน็ มหาวทิ ยาลยั เอกชน เลง็ เหน็ ถงึ ความส�าคัญของเทคโนโลยดี าวเทยี มตอ่ การ พฒั นาเศรษฐกจิ และความกา้ วหนา้ ของประเทศ อกี ท้ังได้รับงบประมาณสนับสนุนส่วนหนึ่งจากบริษัท ยไู นเตด็ คอมมนู เิ คชน่ั จา� กดั (United Communication Co., Ltd.: UCOM) ซงึ่ ทา� ธรุ กจิ ทางดา้ นโทรคมนาคม ทไี่ ดจ้ ดั สง่ อาจารยม์ หาวทิ ยาลยั และวศิ วกรจาก UCOM ๑ คน (University of Surrey) ประเทศสหราช อาณาจกั ร โดยเรม่ิ ตง้ั แตก่ ารเรยี นรเู้ กยี่ วกบั สภาพแวดลอ้ ม ท่ีมีผลต่อการท�างานของดาวเทียมในอวกาศ การ ออกแบบ การสร้าง และการทดสอบดาวเทียม ให้สอดคล้องกับข้อก�าหนดของจรวดผู้ให้บริการ
ส่งดาวเทยี มเสร็จในเดือนมนี าคม พ.ศ. ๒๕๔๐ 80 ๑๑๐—๑๑๑ และได้ชื่อว่า TMSAT ซ่ึงมาจากคา� เตม็ ว่า Thai 60 Micro Satellite (ต่อมาไดร้ บั พระราชทานชอ่ื ว่า “ไทพัฒ”) ดาวเทยี มดวงน้มี ีขนาด ๓๕ x ๓๕ x 40 6 54 32 15 14 13 12 11 10 98 ๖๐ ลูกบาศก์เซนติเมตร นา�้ หนัก ๖๐ กโิ ลกรัม 20 ภายหลังจากการรอความพร้อมของจรวด ๑ ป 07 ดาวเทียมถูกน�าไปยังประเทศคาซัคสถานเพื่อ ตดิ ตงั้ และทดสอบบนจรวด Zenith-II จากฐานยงิ -20 เมืองไบคานัวร์ ก่อนส่งเข้าสู่วงโคจรต่�า (Low Earth Orbit) ได้ส�าเรจ็ เมือ่ วนั ที่ ๑๐ กรกฎาคม -40 พ.ศ. ๒๕๔๑ ดงั ในภาพที่ ๒ ดาวเทียมจะถูกตดิ ตง้ั ไวท้ สี่ ว่ นหวั ทมี่ ลี ายเสน้ สแี ดง และสว่ นนจ้ี ะเปดิ -60 ออกเม่ือเข้าสู่อวกาศแล้วจึงปล่อยดาวเทียมออก จากจรวดต่อไป การปล่อยจรวดออกจากฐานยิง -80 จรวดจะพงุ่ ขนึ้ ดว้ ยการเผาไหมข้ องเชอื้ เพลงิ ทปี่ ลอ่ ย ออกมาทางสว่ นท้ายของจรวด ท�าให้เกดิ แรงผลกั -160 -140 -120 -100 -80 -60 -40 -20 0 20 40 60 80 100 120 140 160 จรวดไปในทางตรงขา้ มคอื พงุ่ ข้นึ ดา้ นบน ภาพที่ ๓ ตวั อย่างเสน้ ทางโคจรดาวเทียมไทพฒั มีแนววงโคจรเล่ือนไปทางซ้าย ดาวเทียมในวง โดยเส้นทางโคจรของดาวเทียมไทพัฒเหนือ โคจรตา�่ แบบนส้ี ามารถโคจรผา่ นทกุ พนื้ ทใ่ี นโลกได้ ผวิ โลกทคี่ วามสงู ดงั แสดงในภาพท่ี ๓ เสน้ สเี หลอื ง เหมาะกบั การใชด้ าวเทยี มในวงโคจรตา�่ เพอื่ ประโยชน์ ในภาพที่ ๓ แสดงเสน้ ทางโคจรของดาวเทยี มไทพฒั ในการถ่ายภาพ และการท่ีดาวเทียมไทพัฒมี ในขณะที่ดาวเทียมไทพัฒโคจรไปรอบโลกน้ัน วงโคจรเป็นแบบสัมพันธ์กับดวงอาทิตย์ท�าให้เม่ือ โลกก็จะหมุนรอบตัวเองด้วย ท�าให้แต่ละรอบจะ ผา่ นทเ่ี ดมิ ในเวลาเดมิ ของแตล่ ะวนั จะมเี งาของภาพ เชน่ เงาของภเู ขา ตกึ หรอื ทศิ ทางการสะทอ้ นแสง ภาพที่ ๔ ก. กรงุ เทพมหานคร ประเทศไทย อาทิตย์จากผิวโลกคงเดิมจะท�าให้การวิเคราะห์ ภาพถา่ ยจากดาวเทยี มทา� ไดง้ า่ ย ตวั อยา่ งภาพถา่ ย จากดาวเทยี มไทพฒั ทส่ี ามารถถา่ ยภาพไดท้ ว่ั โลก บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่ืสอสาร แสดงในภาพที่ ๔ สีในรปู ไมใ่ ชส่ ีจริงท่เี ห็นตามปกติ แต่เปน็ สีที่ เกิดจากการน�าเอาภาพที่ถ่ายในย่านแสงสีแดง เขียวและใกล้อินฟาเรดมารวมกัน แล้วก�าหนดสี ใหม่ให้กับภาพที่ถ่ายในย่านอินฟาเรด การที่ ดาวเทียมไม่นิยมใช้ภาพถ่ายในย่านแสงสีฟ้า เนอ่ื งจากสฟี า้ จะกระเจงิ ในชน้ั บรรยากาศมาก ทา� ให้ ภาพไม่ชัดเจน ดาวเทียมไทพัฒนอกจากมีประโยชน์ในการ ศึกษาเรียนรู้เทคโนโลยีและวิศวกรรมของการ ออกแบบ สรา้ ง สง่ และสื่อสารกบั ดาวเทยี มแลว้ ภาพถา่ ยจากดาวเทยี มไทพฒั ไดถ้ กู นา� มาใชใ้ นการ ศกึ ษาและวจิ ยั การวเิ คราะหภ์ าพถา่ ยดาวเทยี มเพอ่ื ให้ทราบว่าสีที่ปรากฏในภาพหมายถึงทรัพยากร ธรรมชาตชิ นดิ ใด เชน่ ในภาพที่ ๔ ก. สแี ดงหมาย ถึงบริเวณที่เป็นต้นไม้ ปัจจุบันดาวเทียมไทพัฒ หมดอายุการใช้งานแล้วและอยู่ในระหว่างการ ออกแบบเพอื่ สร้างดวงตอ่ ไปมาทดแทน ภาพที่ ๒ ดาวเทียมถูกติดตงั้ ไวท้ ่ีส่วนหวั ของจรวด ภาพที่ ๔ ข. ซานฟรานซิสโก สหรฐั อเมริกา
๕๓ อนาคตของ ดาวเทียมส่ือสาร การติดต่อกบั ดาวเทียมส่ือสารไม่มีขอ้ จาํ กดั เหมือนการส่ือสารทางสาย การสอื่ สารผา่ นดาวเทียมช่วยให้สามารถเชอื่ ม ท่จี ะตอ้ งเชอ่ื มตอ่ สายไปยงั ผใู ้ ชแ้ ตล่ ะราย จงึ สามารถส่ือสารกนั ไดอ้ ยา่ ง ต ่ อ ใ ห ้ ค น ที่ อ ยู ่ ห ่ า ง ไ ก ล กั น ค น ล ะ ส ่ ว น ข อ ง โ ล ก กวา้ งขวางในทกุ พื น้ ท่ี ดาวเทยี มส่ือสารถกู นาํ มาใชใ้ นการแพรส่ ญั ญาณ สามารถสอื่ สารพดู คยุ และรบั สง่ ขอ้ มลู กนั ได้ ในตา่ ง โทรทศั น ์ ทาํ ใหค้ นท่ีอยู่ในพื น้ ท่ีห่างไกล เช่น ในเมอื งชนบท ป่ า ภูเขา หรอื ประเทศมีการใช้ประโยชน์จากดาวเทียมส่ือสาร ท ะ เ ลส า ม าร ถร บั บ ริ การโ ท ร ท ศั น ผ์ ่ าน ด า ว เ ที ย ม ท งั ้ ร า ย การ บ นั เ ทิ ง ไดแ้ ก่ ข่าวสาร หรอื ความรไู ้ ดอ้ ย่างเท่าเทียมกบั คนท่ีอยู่ในเมอื ง ๑ . ก า ร ก ร ะ จ า ย ส ญั ญ า ณ วิ ท ยุ โทรทศั น ์ (Radio and television broadcasting) การใช้ดาวเทียมในการแพร่ ภาพจากสถานีแม่ในกรุงเทพฯ ผ่านดาวเทียมไป ยังสถานีลูกข่ายในเขตภูมิภาค ซ่ึงสถานีลูกข่ายใน เขตภมู ภิ าคจะสง่ สญั ญาณเปน็ คลนื่ วทิ ยยุ า่ นความถี่ VHF หรือ UFH ไปสู่บ้านเรือนของผู้รับชม ท�าให้ ผชู้ มสามารถรบั ชมโทรทศั นไ์ ดท้ ว่ั ประเทศ และชว่ ย ลดตน้ ทนุ ในการสรา้ งสถานลี กู ขา่ ยเพอ่ื ออกอากาศซา�้ นอกจากน้ีดาวเทียมสื่อสารยังถูกน�ามาใช้ใน ร ะ บ บ อ อ ก อ า ก า ศ โ ท ร ทั ศ น ์ โ ด ย ต ร ง สู ่ บ ้ า น เ รื อ น (Digital Direct-To-Home: Digital DTH) ทา� ใหผ้ รู้ บั ชม ทม่ี เี ครอื่ งรบั สญั ญาณดาวเทยี มสามารถรบั สญั ญาณ โดยตรงจากดาวเทียม ท�าให้ผู้ชมสามารถรับชม รายการตา่ ง ๆ ดว้ ยคณุ ภาพของเสยี งและภาพทคี่ มชดั ทง้ั จากผใู้ หบ้ รกิ ารในประเทศและตา่ งประเทศทเี่ ปน็ ระบบเครือขา่ ยโทรทศั น์ทวั่ โลก (Global television network) ท่กี ระจายสัญญาณไปทวั่ โลก โดยอาศยั การเชอื่ มตอ่ สญั ญาณของระบบดาวเทยี มหลายดวง เชน่ การถ่ายทอดฟุตบอลโลกผา่ นดาวเทยี ม หรอื เมอื่ เกดิ ภยั พบิ ตั ิ เชน่ พายุ อทุ กภยั และแผน่ ดนิ ไหว ในทแ่ี หง่ ใดบนโลกกส็ ามารถเผยแพรอ่ อกไปไดท้ ว่ั โลก ท�าใหส้ ามารถสง่ ความชว่ ยเหลือได้อยา่ งทนั ที การสง่ สญั ญาณโทรทศั นผ์ า่ นดาวเทยี มสามารถ ครอบคลุมพ้ืนที่โลกได้มาก รวมถึงการเผยแพร่ สญั ญาณไปยงั ประเทศอน่ื อนั อาจกระทบอยา่ งยง่ิ ตอ่ การเมอื ง เศรษฐกจิ สังคมและวัฒนธรรมระหว่าง ประเทศ องค์การสหประชาชาติจึงมีการก�าหนด หลกั การสา� หรบั รฐั เกย่ี วกบั การใชด้ าวเทยี มเพอ่ื การ แ พ ร ่ สั ญ ญ า ณ โ ท ร ทั ศ น ์ รั บ ต ร ง ( P r i n c i p l e s Governing the Use by States of Artificial Earth Satellites for International Direct Television Broadcasting) ในเดอื นกรกฎาคม ค.ศ. ๑๙๗๒ แ ล ะ อ นุ ก ร ร ม ก า ร ก ฎ ห ม า ย ไ ด ้ เ ส น อ ห ลั ก ก า ร ใ ห ้ สมชั ชาใหญร่ บั รองเมอ่ื ๑๒ พฤศจกิ ายน ค.ศ. ๑๙๗๔
ปฏิญญาน้ีมีท่ีมาจากการที่ได้เร่ิมมีการทดลอง แ บ บ จุ ด ต ่ อ จุ ด ห รื อ ก า ร ป ร ะ ชุ ม แ บ บ ห ล า ย จุ ด ดาวเทยี มสอื่ สารในวงโคจรคา้ งฟา้ เมอื่ หมดอายุ ๑๑๒—๑๑๓ แพร่สัญญาณในบางประเทศและคาดว่าจะมีการ การประยกุ ตใ์ ชส้ า� หรบั การเรยี นการสอนทางไกล การใชง้ านอาจเนอ่ื งจากระบบภายในดาวเทยี มเสยี หาย ใหบ้ ริการในเชิงพาณชิ ย์ในเวลาอนั ใกล้ ซง่ึ การให้ (Distance learning) ชว่ ยเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ หรือเนื่องจากกาซท่ีใช้ผลักดันดาวเทียมให้รักษา บริการเช่นนี้มีผลกระทบอย่างยิ่งต่อการเมือง ไปสู่บริเวณทหี่ ่างไกล รปู แบบของระบบฝกอบรม วงโคจรท่ีต�าแหน่งเดิมหมดลง จะต้องสร้าง เศรษฐกิจ สงั คมและวฒั นธรรมระหว่างประเทศ ทางไกลผ่านดาวเทียมท่ีมีระบบสื่อสารโต้ตอบ ดาวเทยี มขนึ้ ไปทดแทนและใหบ้ รกิ ารทต่ี า� แหนง่ นนั้ ผ่านอินเทอร์เน็ตช่วยแก้ปัญหาลูกค้า และ สหภาพโทรคมนาคมระหวา่ งประเทศไดก้ า� หนดให้ ๒. การใหบ้ ริการระบบโทรศพั ท ์ สนับสนุนสินค้าได้ จะตอ้ งผลกั ดนั ดาวเทยี มทห่ี มดอายโุ ดยใชก้ ารขบั ดนั (Telephony) มีการใชด้ าวเทียมเป็ น คร้ังสุดท้ายไปอยู่ห่างจากวงโคจรเดิมสูงข้ึนไปอีก ตวั กลางในการสง่ สญั ญาณโทรศพั ท ์ การใชป้ ระโยชนด์ าวเทยี มสอื่ สารอกี ประเภทหนง่ึ ๓๐๐-๔๐๐ กโิ ลเมตรเหนอื วงโคจรคา้ งฟา้ เรยี ก เคล่ือนท่ี ระหวา่ งสถานีฐาน (Base แมจ้ ะไมใ่ ชก่ ารสอ่ื สารโดยตรงแตม่ กี ารสง่ ขอ้ มลู ลง วงโคจรบริเวณน้ีว่า วงโคจรป่าช้า (Graveyard station) เชน่ การให้บรกิ ารโทรศพั ทใ์ นพ้ืนที่ มาจากดาวเทียมเหมือนการกระจายเสียงและ orbit) และมีข้อแนะน�าให้ผลักดันดาวเทียมกลับ หา่ งไกลซงึ่ ไมส่ ามารถเดนิ สายโทรศพั ทไ์ ปได้ การ โทรทศั น์ คอื การระบตุ า� แหนง่ บนโลก โดยการ ลงมายงั พน้ื โลกภายในเวลา ๒๕ ป ซงึ่ การผลกั ดนั น้ี บรกิ ารโทรศพั ทผ์ า่ นดาวเทยี ม ไดแ้ กโ่ ทรศพั ทท์ าง ใชง้ านดาวเทยี มเพอ่ื ระบตุ า� แหนง่ บนโลกนเ้ี รยี กวา่ ดาวเทยี มจะเสยี ดสกี บั อากาศในชนั้ บรรยากาศและ ไกลชนบท ระบบน�าร่องบนโลกด้วยดาวเทียม (Global ลุกไหมห้ มดไปก่อนท่ีจะตกถึงพ้ืนและสรา้ งความ Navigation Satellite Systems: GNSS) สามารถ เสียหายให้แก่บนพื้นโลก ส�าหรับดาวเทียมท่ีอยู่ ๓ . ก า ร ใ ห บ้ ริ ก า ร ด า้ น ข อ้ มู ล ท�าให้ทราบต�าแหน่งบนโลกที่แม่นย�าก็สามารถ ในวงโคจรอนื่ ทอี่ ยตู่ า่� กวา่ วงโคจรคา้ งฟา้ เมอ่ื หมด (Data) และอนิ เทอรเ์ น็ต (Internet) นา� ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นกจิ การขนสง่ แผนที่ การเกษตร อายแุ ลว้ ยงั ไมม่ ขี อ้ บงั คบั ระหวา่ งประเทศวา่ จะตอ้ ง ดาวเทียมสื่อสารที่เป็นการติดต่อแบบสองทางมี ประมง โทรศพั ทเ์ คลอื่ นทปี่ จั จบุ นั กม็ เี ครอื่ งรบั GPS ดา� เนินการอย่างใด แตน่ อกจากดาวเทียมทห่ี มด พนื้ ทใ่ี หบ้ รเิ วณกวา้ งจงึ ถกู นา� มาใชเ้ ปน็ ตวั กลางใน อยภู่ ายในชว่ ยใหส้ ามารถบอกตา� แหนง่ ของเครอ่ื ง อายุดังกล่าวแล้ว ยังมีชิ้นส่วนของวัตถุอวกาศท่ี การส่งข้อมูลระหว่างชุมสาย (HUB) ที่อยู่ใน รบั โทรศพั ทไ์ ด้ ระบบนา� รอ่ งบนโลกดว้ ยดาวเทยี ม มนุษย์สร้างขึ้น เช่น จรวดส่งดาวเทียม สถานี บริเวณห่างไกล บริการน้ีมีผู้ใช้บริการอย่างแพร่ ประกอบดว้ ย ๓ สว่ น คอื ดาวเทยี ม สถานคี วบคมุ อวกาศทห่ี มดอายุ ยงั โคจรอยรู่ อบโลก จะเรยี กสงิ่ หลาย เช่น อนิ เทอรเ์ นต็ ส�าหรับหมูบ่ า้ นชายขอบ และเครอื่ งรบั สญั ญาณจากดาวเทยี ม ดาวเทยี มไม่ เหล่าน้ีวา่ “ขยะอวกาศ” (Space debris) วัตถุ การส่ือสารข้อมูลผ่านดาวเทียมยังถูกน�ามาเป็น ไดบ้ อกตา� แหนง่ ของเครอ่ื งรบั บนโลกแตใ่ ชค้ ลน่ื วทิ ยุ เหล่าน้ีมีความเร็วสูงมากจึงจะสามารถโคจรอยู่ ระบบส�ารองการส่ือสารด้วยสาย ในกรณีท่ีสาย ทส่ี ่งสญั ญาณออกมาโดยดาวเทยี มน�ารอ่ ง และผู้ รอบโลกได้ท�าให้เป็นอันตรายต่อดาวเทียมหรือ สื่ อ ส า ร ข ้ อ มู ล มี ป ั ญ ห า ห รื อ ถู ก ท� า ล า ย เ มื่ อ เ กิ ด ใชเ้ องจา� เปน็ ทจ่ี ะตอ้ งมเี ครอ่ื งรบั สญั ญาณคลน่ื วทิ ยุ มนุษย์อวกาศได้ ปัญหาของขยะอวกาศที่จะสร้าง ภั ย พิ บั ติ การเช่ือมต่อข้อมูลของบริษัทแม่ผ่าน ดังกล่าว การระบุต�าแหน่งของผู้ใช้ของทุกระบบ ความเสียหายมีแนวโน้มท่ีมากย่ิงข้ึน เน่ืองจาก ดาวเทียมไปยังบริษัทลูกในบริเวณท่ีห่างไกลหรือ จะใช้หลกั การ TOA (Time of Arrival) ซึง่ คอื วตั ถอุ วกาศทงั้ หลายทส่ี ง่ ไปหลายปกอ่ นกเ็ รมิ่ ทยอย ในต่างประเทศ เวลาทส่ี ญั ญาณคลนื่ วทิ ยใุ ชใ้ นเดนิ ทางจากดาวเทยี ม หมดอายุและแต่ละประเทศก็เร่งสร้างดาวเทียม นา� ร่องมาถงึ ผใู้ ช้ แสดงดังภาพท่ี ๑ ข้ึนมาใช้งาน ยิ่งท�าให้เกิดวัตถุอวกาศมากข้ึน ยัง ๔ . ก า ร ใ ห บ้ ริ ก า ร ด า้ น ส่ื อ ผ ส ม ไมม่ วี ธิ กี ารกา� จดั ขยะอวกาศไดเ้ นอ่ื งจากคา่ ใชจ้ า่ ย (Multimedia) ที่มีท้ังภาพ เสียงและการ ที่สูง จึงเป็นเรื่องที่หลายประเทศก�าลังให้ความ สือ่ สารแบบสองทาง เชน่ การประชุมทางไกลใน สนใจในการป้องกันอันตรายจากขยะอวกาศและ รปู แบบวดิ โี อ (Video conference) ทงั้ การประชมุ ความเสียหายท่ีจะเกิดข้ึน ปัจจุบันประเทศต่าง ๆ เช่นสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปได้มีความ ร่วมมือกันติดตามวัตถุอวกาศท่ีมีขนาดใหญ่กว่า บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่ืสอสาร ๑๐ เซนติเมตรซ่ึงมีกว่า ๕๐,๐๐๐ ช้ิน เพ่ือ เตรียมการป้องกันความเสียหายอันอาจเกิดต่อ ดาวเทียมหรือตกลงมายังโลกได้ ภาพที่ ๑ แสดงการทํางานระบบนําร่องบนโลกดว้ ยดาวเทียม
๕๔ กิจการโทรคมนาคม กิ จ ก า รโ ท ร ค ม นา ค ม ป ร ะ กอ บ ด ว้ ย ธุ ร ก ร ร ม ห ล า ก ห ล า ย ช นิ ด ซ่ ึง ส า ม า ร ถ จํา แ น ก ก า ร ส่ื อ ส า ร โทรคมนาคมได ้ ๒ ประเภทหลกั ๆ ไดแ้ ก่ โครงข่ายการติดต่อส่ือสารแบบใชส้ าย (Fixed-line communication networks) ไดแ้ ก่ โทรศพั ทพ์ ื น้ ฐาน โทรศพั ทร์ ะหว่างประเทศ โทรศพั ทส์ าธารณะ และอินเทอรเ์ น็ต เป็ นตน้ โครงข่ายการติดต่อส่ือสารแบบไรส้ าย (Wireless communication Networks) ไดแ้ ก่ โทรศพั ทเ์ คล่อื นท่ี และวิทยุคมนาคม เป็ นตน้
กิจการโทรคมนาคม เปน็ สาขาการผลิตหน่งึ พฒั นาเทคโนโลยโี ดยเพมิ่ ขดี ความสามารถในการ จากววิ ฒั นาการของเทคโนโลยีสอ่ื สารไร้สาย ๑๑๔—๑๑๕ ของประเทศท่ีเร่ิมมีบทบาทต่อการเจริญเติบโต สอ่ื สารด้วยขอ้ มูล (Data Communication) ทีม่ ี จะเห็นว่าเทคโนโลยีไร้สายมีเส้นทางการพัฒนา ของเศรษฐกจิ ไทยมากขนึ้ เปน็ ลา� ดบั การใหบ้ รกิ าร ความหลากหลายมากขึ้น จนเมื่ออุปกรณ์เคร่ือง ทส่ี ามารถแบง่ ได้ ๒ เสน้ ทางหลกั คือ ในเสน้ ทาง เสริมอ่นื ๆ บนเครือข่ายโทรคมนาคม เชน่ การ ลูกข่ายโทรศัพท์เคล่ือนท่ีในยุคปัจจุบันได้รับการ แ ร ก เ ป ็ น ก า ร พั ฒ น า ท่ี เ ริ่ ม ต ้ น จ า ก โ ท ร ศั พ ท ์ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce) บริการ ขยายศกั ยภาพใหร้ องรบั การใชง้ านในหลากหลาย เคลื่อนที่ โดยเริ่มต้นจากโทรศัพท์เคลื่อนท่ียุคที่ อนิ เทอรเ์ นต็ และจดหมายอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (e-mail) รูปแบบ ภายใต้ช่ือเรียกผลิตภัณฑ์ว่า Smart ๑ ด้วยระบบ AMPS ต่อมาเป็นโทรศพั ทเ์ คลื่อนท่ี บริการเหล่านี้ล้วนเป็นธุรกรรมโทรคมนาคมที่มี Phone หรอื โทรศพั ท์เคล่อื นท่อี จั ฉรยิ ะ เมอ่ื การ ยคุ ท่ี ๒ ดว้ ยระบบ GSM จนถงึ โทรศพั ทเ์ คลอื่ นท่ี อัตราการเจรญิ เติบโตสงู และพัฒนาอย่างรวดเร็ว ใชง้ านโทรศัพท์เคลือ่ นทมี่ คี วามแพร่หลาย ทา� ให้ ยคุ ท่ี ๓ ดว้ ยระบบ WCDMA และมาสู่โทรศัพท์ สอดคลอ้ งกบั ยคุ การสอื่ สารไรพ้ รมแดน ซง่ึ กจิ การ ค ว า ม ต ้ อ ง ก า ร ใ น ก า ร สื่ อ ส า ร ข ้ อ มู ล ใ น ป ริ ม า ณ เคล่ือนที่ในยุคท่ี ๔ ด้วยเทคโนโลยี LTE และ โทรคมนาคมดังกล่าวถือเป็นโครงสร้างพื้นฐาน มหาศาลผา่ นเครอื ข่ายโทรศพั ทเ์ คล่อื นทก่ี ย็ ง่ิ เพ่มิ LTE-A ในเส้นทางที่ ๒ เปน็ การพฒั นาท่ีเร่มิ ตน้ (Infrastructure) ที่ส�าคญั ในสาขาการผลิตอืน่ ๆ ขน้ึ อยา่ งกา้ วกระโดด ทา� ใหศ้ กั ยภาพของเครอื ขา่ ย จาก WLAN (Wireless Local Area Network) ไปสู่ โทรศพั ท์เคลอ่ื นทย่ี คุ แรก ๆ ไมอ่ าจรองรบั การใช้ BWA (Broadband Wireless Access) ดว้ ยระบบ เทคโนโลยีโทรศัพท์เคล่ือนที่มีการพัฒนา งานเทคโนโลยีส่อื สารโทรคมนาคมใหม่ ๆ ได้ WiMAX จนในทส่ี ดุ มแี นวโนม้ ทจี่ ะมงุ่ สมู่ าตรฐาน เร่ือยมา จากเดิมทเ่ี คยมขี นาดใหญ่ นา�้ หนกั มาก เดยี วกนั กับโทรศัพท์เคลือ่ นท่ี เมอ่ื วิวฒั นาการต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไป ประกอบ เมอ่ื เทคโนโลยอี เิ ล็กทรอนกิ ส์ไดม้ ีการพฒั นา กับความต้องการของผู้บริโภค เป็นหนึ่งในความ ไปอย่างมาก จนสามารถน�ามาใช้ในการสร้าง WLAN และ BWA เปน็ กลมุ่ ของเทคโนโลยี ก้าวหน้าทางวิศวกรรมท่ีมีแรงผลักดันมาจาก อปุ กรณส์ อ่ื สารไรส้ ายทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพและราคาถกู ทพ่ี ฒั นามาคนละเสน้ ทางกบั โทรศพั ทเ์ คลอ่ื นท่ี ซง่ึ ความต้องการของผู้บริโภค ในยุคเร่ิมต้นมี จึงมีการใช้งานอย่างกว้างขว้าง จนกระทั่งเกิด BWA นน้ั ถกู พฒั นามาจากมาตรฐานทางเทคนคิ รากฐานจากการทดลองสร้างแรงจูงใจของผู้ผลิต ระบบโทรศัพท์เคลอ่ื นทย่ี ุคที่ ๑ หรอื 1G และมี ท่ีเรียกว่า “IEEE802.16” ซึ่งมุ่งเน้นไปในการ อุปกรณ์เครือข่ายในการหาทางเลือกให้กับการ การพฒั นามาเรอ่ื ยมาสยู่ คุ 2G, 3G และ 4G ตาม พฒั นาดา้ นการสง่ ขอ้ มลู สอ่ื ประสม (Multimedia) สื่อสารโทรศพั ทผ์ า่ นคสู่ าย มาเปน็ การเพม่ิ ความ ล�าดับ ปัจจุบันเริ่มมกี ารพัฒนาโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นท่ี ด้วยความเร็วสูงเป็นหลัก โดยมิได้เน้นความ สะดวกให้ผู้คนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ผ่าน ยุคท่ี ๕ หรือ 5G กันแล้ว โดยรปู แบบการตดิ ต่อ สามารถในการเคลื่อนท่ี (Mobility) มากนัก แต่ การสอ่ื สารไรส้ าย ตอ่ มาเมอื่ ความตอ้ งการใชง้ าน สื่อสารจากท่ีเป็นการติดต่อส่ือสารกันระหว่าง ในปัจจุบันก็มีความพยายามที่จะเพิ่มขีดความ ของประชากรทว่ั โลกมมี ากขน้ึ เทคโนโลยเี ครอื ขา่ ย บุคคล พัฒนาจนอุปกรณ์ใช้สอยภายในบ้าน สามารถในการเคลอ่ื นทใ่ี หส้ งู ขนึ้ ดว้ ย (โดยพฒั นา โทรศัพท์เคลื่อนท่ีก็ได้รับการพัฒนาต่อเน่ืองจาก ส า ม า ร ถ สื่ อ ส า ร ส ่ ง ข ้ อ มู ล ร ะ ห ว ่ า ง กั น ไ ด ้ โ ด ย จาก IEEE802.16d ไปเปน็ IEEE802.16e) และ การส่ือสารเพียงเพื่อการสนทนาและส่ือสารดว้ ย อัตโนมัติ หรือท่ีเราเรียกว่าการสื่อสารแบบ สามารถน�าไปใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น เสียงเท่านั้น (Voice communication) มีการ Machine-to-Machine (M2M) VoIP, Web Browsing, Video Streaming, Video Conferencing และ IPTV แตใ่ นทางกลบั กนั 54-1 โทรศัพท์เคล่ือนที่เริ่มจากการมุ่งเน้นไปในการ ส่ือสารทางเสียง (Voice) เป็นหลัก ประกอบกบั LTE-A ความสามารถในการเคลอ่ื นที่ (Mobility) พร้อมกัน โดยมไิ ดม้ งุ่ เนน้ การสง่ ขอ้ มลู ความเรว็ สงู แตเ่ นอื่ งจาก 4G LTE พั ฒ น า ก า ร ด ้ า น ก า ร ส ่ ง ข ้ อ มู ล ส่ื อ ป ร ะ ส ม ด ้ ว ย ค ว า ม เ ร็ ว สู ง บ น โ ท ร ศั พ ท ์ เ ค ลื่ อ น ท่ี ถู ก ใ ห ้ ค ว า ม โทรศพั ทเ์ คล่อื นท่ียุค 2 3G สนใจมากขึ้นในระยะหลัง ซ่ึงส่วนใหญ่เกิดจาก ความตอ้ งการและพฤตกิ รรมของผใู้ ชง้ านเปลยี่ นไป 2.75G จึงท�าให้ทั้งสองเทคโนโลยีเร่ิมมีการพัฒนาการ เข้าหากนั จนอาจเกดิ การทับซ้อนกนั ในอนาคต 2.5G โทรศพั ทเ์ คล่อื นท่ียุค 1 2G บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่ืสอสาร 1G โทรศพั ทป์ ระจาํ ท่ี ภาพท่ี ๑ แสดงวิวฒั นาการของอุปกรณส์ ่ือสารในเทคโนโลยีส่ือสารยุคต่าง ๆ
๕๕ ยุค 1G ระบบแอนะลอ็ ก ๑. NMT (Nordic Mobile Telephone) ระบบทมี่ กี ารออกแบบและพฒั นา ยุคแอนะลอ็ กเซลลูลาร ์ (Analog ใชใ้ นกลมุ่ ประเทศสแกนดเิ นเวยี ใชง้ านในยา่ นความถ่ี ๔๕๐ MHz cellular) : มาตรฐานโทรศพั ท ์ เคล่อื นท่ียุคท่ี ๑ (1G) ปรมิ าณและ ๒. AMPS (American Mobile Phone System) ระบบทม่ี กี ารออกแบบและ ค ว า ม ต อ้ ง ก า ร ใ ช ง้ า น โ ท ร ศ พั ท ์ พฒั นาใชใ้ นกลมุ่ ประเทศสแกนดเิ นเวยี ใชง้ านในยา่ น เ ค ล่ื อ น ท่ี ใ น ม า ต ร ฐ า น โ ท ร ศ พั ท ์ ความถ่ี ๔๕๐ เมกะเฮริ ตซ์ เคล่อื นท่ี 1G ทว่ ั โลกโดยรวมไม่สูง มากนกั ส่ วนหน่ึ งนอกจากเร่ือง ๓ . TAC S ( To t a l Acce s s ของมาตรฐานท่ีมีอยู่หลากหลาย Communication System) ระบบท่มี ีการ แลว้ เทคโนโลยีโทรศพั ทเ์ คล่ือนท่ี ออกแบบและพัฒนาใช้ในประเทศองั กฤษ ใชง้ านใน ยา่ นความถ่ี ๙๐๐ เมกะเฮริ ตซ์ 1G กย็ งั มีขอ้ ดอ้ ยในหลาย ๆ ดา้ น ในประเทศไทยมีการเปิดให้บริการโทรศัพท์ ท้ังด้านการรักษาคุณภาพของการสื่อสารที่ไม่ เคลอ่ื นที่ 1G มาตรฐาน NMT ใช้ความถ่ยี ่าน ๔๗๐ สามารถท�าได้ดีนักท�าให้เกิดปัญหาสายหลุดบ่อย และ ๙๐๐ เมกะเฮริ ตซ์ และมาตรฐาน AMPS ยา่ น ความเสย่ี งตอ่ การถกู ลกั ลอบดกั ฟงั สญั ญาณและการ ความถี่ ๘๐๐ เมกะเฮริ ตซ์ ลักลอบส�าเนาเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนท่ีไปใช้ใน โทรศัพท์เครื่องอื่น ซึ่งส่ิงเหล่านี้เกิดขึ้นเน่ืองจาก องคก์ ารโทรศัพทแ์ ห่งประเทศไทย (ในปจั จบุ นั รูปแบบการส่ือสารระหว่างเครือข่ายและเคร่ือง คอื บริษทั ทีโอที จ�ากดั (มหาชน)) เปดิ ให้บรกิ าร ลูกขา่ ยโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นทท่ี เ่ี ปน็ แบบแอนะลอ็ ก โทรศพั ทเ์ คลอ่ื นที่ “เซลลลู าร์ ๔๗๐” (Cellular 470) ซ่ึงเป็นโทรศัพท์เคล่ือนท่ีอัตโนมัติระบบแรกด้วย การสอื่ สารในยคุ แอนะลอ็ กเซลลลู าร์ ใชม้ าตรฐาน โครงขา่ ยระบบ NMT (Nordic Mobile Technology) โทรศัพท์เคล่ือนที่ยุคท่ี ๑ หรือ 1G เป็นการใช้ ในยา่ นความถ่ี ๔๗๐ MHz ตงั้ แต่ พ.ศ. ๒๕๑๙ โดย เทคโนโลยีสื่อสารสามารถส่งผ่านข้อมูลด้วยระบบ ในระยะแรกนั้นเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นแบบ แอนะลอ็ ก (Analog) เปน็ การสอ่ื สารโดยใชส้ ญั ญาณ กระเปา๋ หิว้ ทม่ี ขี นาดใหญ่ นา้� หนักมาก และราคาสงู วทิ ยใุ นการสง่ คลน่ื เสยี งเทา่ นน้ั ไมร่ องรบั การสง่ ผา่ น อีกท้ังสามารถใช้ได้เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และ ขอ้ มลู ใด ๆ ทงั้ สน้ิ ในลกั ษณะคลา้ ยคลงึ กบั การรบั ปรมิ ณฑลเท่านัน้ สง่ สญั ญาณวทิ ยใุ นการเชอ่ื มตอ่ ระหวา่ งเครอื ขา่ ยและ เครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่รูปแบบการใช้งาน เซลลูลาร์ ๔๗๐ (Cellular 470) ซ่ึงเป็น คล่ืนความถ่ีวิทยุนั้นเป็นไปแบบหนึ่งความถี่ต่อหนึ่ง โทรศพั ทเ์ คลอ่ื นทอี่ ตั โนมตั ริ ะบบแรก ดว้ ยโครงขา่ ย ชอ่ งสญั ญาณ (Frequency division duplex) มกี าร ระบบ NMT (Nordic Mobile Technology) ในย่าน แยกช่องสัญญาณความถี่ออกเป็นคู่ โดยคู่หน่ึงใช้ ความถี่ ๔๗๐ เมกะเฮริ ตซ์ เป็นโทรศพั ทม์ กี า� ลังสง่ สา� หรบั รองรบั การสอ่ื สารในทศิ ทาง Downlink และ สงู และมรี ัศมกี ารตดิ ต่อกวา้ งไกลสงู สุด เนื่องจาก Uplink ของแตล่ ะชอ่ งสญั ญาณ ชอ่ งสญั ญาณหนง่ึ ชอ่ ง มสี ถานโี ครงขา่ ยตดิ ตง้ั ครอบคลมุ ถนนสายหลกั และ แทนการสนทนาของผบู้ รโิ ภคหนง่ึ คน เทคโนโลยใี น พนื้ ทต่ี า่ ง ๆ ทวั่ ประเทศ เสยี งทถี่ กู ถา่ ยทอดสญั ญาณ ยุค 1G ยังไม่มีมาตรฐานกลางส�าหรับโทรศัพท์ ผา่ นระบบเซลลลู าร์ ๔๗๐ จงึ มคี วามคมชดั ตอ่ เนอ่ื ง เคลอ่ื นทใี่ ด ๆ หากแตเ่ ปน็ ความพยายามของผผู้ ลติ ตลอดระยะการเดนิ ทาง แมใ้ นทอ้ งทท่ี รุ กนั ดาร แนว ในแตล่ ะประเทศทผ่ี ลติ อปุ กรณเ์ ครอื ขา่ ยและเครอื่ ง ชายแดน หรือทะเลฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ลกู ขา่ ยมาใชเ้ ปน็ เอกเทศของตนเอง ทา� ใหไ้ มส่ ามารถ บางส่วน แต่ระบบเซลลลู าร์ ๔๗๐ กไ็ มไ่ ด้รับความ น�าเคร่ืองลูกข่ายโทรศัพท์เคล่ือนที่จากเครือข่ายผู้ นยิ มมากนกั เนอื่ งจากเคร่ืองโทรศัพทห์ ายากและมี ใหบ้ รกิ ารทใ่ี ชม้ าตรฐานทางเทคนคิ ตา่ งกนั มาใชข้ า้ ม ราคาสงู อกี ทง้ั โทรศพั ทเ์ คลอ่ื นทร่ี ะบบอน่ื ของเอกชน กนั ได้ ตวั อยา่ งระบบเครอื ขา่ ยโทรศพั ทเ์ คลอื่ นทแี่ บบ ก็สะดวกกว่า มตี วั เลือกมากและมรี าคถูกกว่า 1G ไดแ้ ก่
๕๖ ยุค 2G ระบบ GSM ๑๑๖—๑๑๗ การส่ือสารในยุคดิจิทลั เซลลลู าร ์ (Digital cellular) ใชม้ าตรฐาน โทรศพั ทเ์ คล่อื นท่ยี คุ ท่ี ๒ หรอื 2G เ ป็ น ก า ร นํ า เ ท ค โ น โ ล ยี แ ท น ส ญั ญ า ณ เ สี ย ง แ ล ะ ส ญั ญ า ณ ส่ื อ ส า ร ร ะ ห ว่ า ง เ ค รื อ ข่ า ย แ ล ะ เคร่ืองลูกข่ายสถานี ฐานมาเขา้ รหสั เป็ นสญั ญาณดิจิทลั ทําให ้ ส า ม า ร ถ ย ก ร ะ ด บั ก า ร ค ว บ คุ ม คุณภาพของสญั ญาณเสียง เขา้ รหสั ป้องกนั การดกั ฟั งและการ ลกั ลอบสําเนาเลขหมายโทรศพั ท ์ และยังเป็นการเริ่มต้นยุคของการสื่อสาร โดยบริษทั Qualcomm Inc. สหรฐั อเมริกา นิยม ไมส่ ามารถใชโ้ ทรศพั ท์ข้ามเครอื ข่ายได้ คุณภาพ บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่ืสอสาร ข้อมูลแบบง่าย ๆ ด้วยการสื่อสารข้อมูลแบบ ใช้ในอเมริกาและเกาหลีใต้ และต่อมาได้รับการ เสยี งและสญั ญาณขอ้ มลู ทไี่ ดม้ คี ณุ ภาพดกี วา่ แบบ (SMS) Short Message Service และการใช้ ขยายขีดความสามารถให้เปน็ มาตรฐานโทรศัพท์ จเี อสเอ็ม จนกระท่ังมาตรฐาน 3G จึงมีสดั ส่วน โทรศพั ทเ์ คลอ่ื นทเี่ ปน็ อปุ กรณร์ บั สง่ สญั ญาณแบบ เคลื่อนท่ีท่ีมีส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกรองลงมา ในการตลาดท่ีลดลง โมเดม็ (Modem)ดว้ ยอตั ราเรว็ สงู สดุ ๙.๖ กโิ ลบติ เป็นอันดับที่สองจากมาตรฐานจีเอสเอ็ม แต่ผู้ใช้ ต่อวินาที โดยมีมาตรฐานเครือข่ายโทรศัพท์ เคลื่อนทจ่ี เี อสเอ็ม (GSM: Global System for Mobile Communication) ซง่ึ ไดร้ บั การคดิ คน้ โดย หนว่ ยงาน ETSI (European Telecommunication Standards Institute) จากสหภาพยุโรป ในชว่ ง พ.ศ. ๒๕๓๕ ใช้รูปแบบการสอื่ สารแบบ TDMA (Time Division Multiple Access) ซงึ่ กา� หนดให้ ค ว า ม ถ่ี ห นึ่ ง ชุ ด ส า ม า ร ถ ร อ ง รั บ ก า ร ส น ท น า ไ ด ้ พร้อม ๆ กันสูงสุดถึง ๘ ค่สู ายโดยใชก้ ารจัดสรร แบง่ ช่วงเวลาในการส่ือสาร เปน็ มาตรฐานหลักท่ี มกี ารใชง้ านทว่ั โลก และเปน็ มาตรฐานเดยี วรว่ มกนั ส�าหรับผู้ให้บริการทุกเครือข่าย ก่อให้เกิดการ ขยายตัวในการใช้งานครั้งส�าคัญ ทั้งในแง่ของ ปริมาณการใช้งานและจ�านวนผู้ใช้งานท่ัวโลก ผู้ ใช้บริการน�าเครื่องลูกข่ายข้ามไปใช้งานระหว่าง เครือข่าย GSM ด้วยกันได้ ซึ่งเรียกขีดความ สามารถน้วี ่า IR (International Roaming) นอกจากมาตรฐาน GSM แล้ว ในยุคของ โทรศพั ทเ์ คล่อื นที่ 2G กม็ มี าตรฐานทางเทคนิคที่ ส�าคัญ อันได้แก่ มาตรฐาน CDMA (Code Division Multiple Access) ทีไ่ ดร้ ับการผลกั ดัน
๕๗ ยุค 2.5G เทคโนโลยี GPRS 57-1 2G 2.5G 3G 4G WORLD GSM GPRS EDGE (TDMA) JAPAN PDC WCDMA HSPA (TDMA) (UMTS) U.S. iDEN LTE LTE-A U.S. (TDMA) IS-136 (TDMA) U.S. IS-95A IS-95B 1x EV-DO ASIA (CDMA) (CDMA) (CDMA2000) (CDMA2000) ภาพที่ ๑ แผนผงั แสดงระบบเทคโนโลยี ระบบสญั ญาณแบบ 2.5G ตน้ ยุคโมไบลอ์ ินเทอรเ์ น็ต (First การส่ือสารอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ ระดบั ๒๐๐-๓๐๐ Kbps เปน็ ระบบอนิ เทอรเ์ นต็ ไรส้ าย Era of Mobile Internet) ไดแ้ ก่ เคลื่อนที่ (Mobile Internet) และเป็นยุคเดยี วกนั 2.75G ในเครือข่ายโทรศัพท์ คล้ายกับระบบ มาตรฐานโทรศพั ทเ์ คล่ือนท่ียุคท่ี กับท่ีผู้ผลิตหลาย ๆ รายท่ัวโลกเปิดตัวโทรศัพท์ GPRS แตม่ คี วามเรว็ ทส่ี งู กวา่ คอื ทปี่ ระมาณ ๓๐๐๐ 2 . 5 G แ ล ะ ม า ต ร ฐ า น โ ท ร ศ พั ท ์ เคลื่อนทแ่ี บบสมารต์ โฟน (Smart phone) กอ่ ให้ KB ในปจั จบุ นั มที กุ พน้ื ทข่ี องประเทศ เปน็ เทคโนโลยี เคล่อื นท่ียุคท่ี 2.75G เกดิ ปรมิ าณการใชง้ านข้อมูลขนาดมหาศาล ในการรับ-ส่งข้อมูลด้วยเครือข่ายไร้สาย โดยมี ความเร็วในการรับสง่ ข้อมลู ที่ความเรว็ ๒๓๖ Kbps มาตรฐานโทรศพั ทเ์ คลอื่ นท่ยี คุ ท่ี ๒.๕ (2.5G) จีพี อารเ์ อส หรือ General Packet ซึง่ สูงกว่าการสง่ ด้วยเครอื ข่าย GPRS ถึง ๕ เท่า มาตรฐาน GSM ไดร้ บั การพฒั นาขีดความสามารถ Radio Services (GPRS) คอื ระบบบรกิ าร ช่วยให้คุณได้รับประโยชน์จากการส่ง-รับข้อมูล ให้รองรับการสื่อสารข้อมูลท่ีมีอัตราเร็วสูงขึ้น โดย เสริมที่รองรับการรับส่งข้อมูลที่เป็นท่ีนิยมในอดีต (Applications/Contents) บนโทรศัพท์เคลอื่ นท่ไี ด้ ข ย า ย ขี ด ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร สื่ อ ส า ร ภ า ย ใ ต ้ กอ่ นทีอ่ ินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะเขา้ มาแทนที่ โดย มากกว่าและรวดเร็วกว่า ท้ังการเข้า WAP และ มาตรฐาน GPRS (Generic Packet Radio Service) จีพีอาร์เอสจะส่งสัญญาณผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ WEB รบั สง่ MMS, Video/Audio Streaming และ ในยุค 2.5G ซึ่งรองรับการสื่อสารข้อมูลระหว่าง เคลอื่ นทใี่ นรปู แบบ Packet มนั สามารถรบั สง่ ขอ้ มลู Interactive Gaming และเป็นก้าวส�าคัญเพื่อการ เครือข่ายกับเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคล่ือนท่ีด้วย หรือข้อความ ได้ดีกว่าการส่งด้วยระบบซีเอสดี กา้ วเขา้ ส่ยู ุค 3G อตั ราเร็วสงู สดุ ทางทฤษฎีเท่ากับ ๑๑๙ กโิ ลบิตต่อ (Circuit Switched Data: CSD) ที่ใชค้ ลน่ื สญั ญาณ วินาที ซง่ึ ในยคุ 2.5G นั้นจะเปน็ ยุคท่เี ริม่ มีการใช้ แบบเดียวกับคลื่นของโทรศัพท์มือถือที่มีความเร็ว ซี ดี เ อ็ ม เ อ ห รื อ Co d e D i v i s i o n บรกิ ารในสว่ นของข้อมูลมากขึ้น การรบั ส่งขอ้ ความ นอ้ ยกวา่ มาก Multiple Access (CDMA) คอื เทคโนโลยี พฒั นาจาก SMS มาเปน็ MMS ซง่ึ เป็นจดุ เรมิ่ ตน้ การส่ือสารไรส้ ายดว้ ยระบบดิจทิ ลั ได้รบั การคดิ ค้น ข อ ง ก า ร ผ ลั ก ดั น ท า ง ก า ร ต ล า ด ใ ห ้ มี ก า ร พั ฒ น า เอดจ ์ หรอื Enhanced Data rates for และพฒั นาโดยบรษิ ทั Qualcomm เปน็ การส่อื สาร อุปกรณ์เคร่ืองลูกข่ายโทรศัพท์เคล่ือนที่ยุคใหม่ ที่ Global Evolution (EDGE) คอื วิธกี าร กันด้วยสัญญาณท่ีเข้ารหัสไว้แล้ว มีเพียงเครื่องส่ง มีหน้าจอสี มกี ล้องถา่ ยภาพ และมหี นว่ ยประมวล สอื่ สารระบบสโู่ ลกอนิ เทอรเ์ นต็ เปน็ เทคโนโลยตี าม และเครอ่ื งรบั เทา่ นนั้ ทจี่ ะสามารถถอดรหสั สญั ญาณ ผลที่มีศักยภาพสูงขึ้น เป็นการเร่ิมต้นเปิดยุคของ มาตรฐานโลกที่ก�าหนดโดย ITU (International ดังกลา่ วได้ Telecommunications Union) จะมีความเร็ว มากกวา่ GPRS ถึง ๔ เท่า โดยมีความเร็วอยูใ่ น
๕๘ ยุค 2.75G ต อ บ ส น อ ง ป ริ ม า ณ ก า ร ใ ช ้ ง า น ข อ ง โ ท ร ศั พ ท ์ ๑๑๘—๑๑๙ เคล่ือนท่ีรุ่นใหม่ ๆ ท่ีขยายตัวข้ึนอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยี EDGE ดังนนั้ ผใู้ ห้บรกิ ารโทรศพั ทเ์ คลือ่ นทีจ่ งึ ต้องสรรหา เทคโนโลยีสื่อสารชนิดใหม่เพ่ิมเติมเพ่ือรองรับ ปรมิ าณการส่อื สารด้วยข้อมลู ทเ่ี พ่มิ มากขนึ้ มาตรฐานโทรศพั ทเ์ คล่อื นท่ียุคท่ี ตอ่ มาในยคุ 2.75G เปน็ ยคุ ทม่ี กี ารพฒั นาตอ่ ภาพที่ ๑ โทรศทั พเ์ คลอ่ื นทที่ ร่ี องรบั ระบบ 2.75G บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่ืสอสาร 2 . 7 5 G เ กิ ด ขึ น้ ม า จ า ก ค ว า ม เนื่องมาจากมาตรฐาน GPRS แต่มีการพัฒนา พ ย า ย า ม พ ฒั นา เ ค รือ ข่ า ย 2 G ความเร็วในการรับส่งข้อมูลเพ่ิมสูงขึ้น เรียก เน่ืองจากอุปกรณ์ที่มีการติดต้ังใช้งานมีการ เดิม ไม่วา่ จะเป็ นมาตรฐาน GSM เทคโนโลยีนวี้ า่ EDGE (Enhanced Data rate ท�างานแบบ Time Division Multiple Access ห รื อ C D M A ใ ห เ้ กิ ด ป ร ะ โ ย ช น ์ for GPRS Evolution) ซึ่งสามารถรองรับการ (TDMA) ซง่ึ เปน็ เทคโนโลยเี กา่ ตอ้ งจดั สรรวงจรให้ สู ง สุ ด ส า ม า ร ถ ร อ ง ร บั ค ว า ม สอื่ สารข้อมูลมากกวา่ GPRS ประมาณ ๓ เทา่ กบั ผใู้ ชง้ านตายตวั ไมส่ ามารถนา� ทรพั ยากรเครอื ขา่ ย ตอ้ งการใชก้ ารส่ือสารขอ้ มูล ซ่งึ ดว้ ยอตั ราเรว็ สงู สดุ ทางทฤษฎเี ทา่ กบั ๓๘๔ กโิ ลบติ มาใชง้ านไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เมอ่ื มกี ารพฒั นา 2.5G และ 2.75G เป็ นช่อื เรียก ตอ่ วินาที เทคโนโลยี GPRS และ EDGE ซงึ่ ถอื เปน็ การเสรมิ อย่างไม่เป็ นทางการ แต่เพ่ื อให ้ เทคโนโลยสี อื่ สารขอ้ มลู แบบ Packet switching ที่ เ ห็น ภาพ ว่ า เ ป็ น เ ท ค โ น โ ล ยี ท่ี ม า การใหบ้ รกิ ารมาตรฐานโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นท่ี 2G มคี วามยดื หยนุ่ ในการสอื่ สารขอ้ มลู แบบ Non-Voice กอ่ นเทคโนโลยี 3G ในประเทศไทยโดยใช้เทคโนโลยี GSM บนย่าน แต่เทคโนโลยีท้ังสองประเภทนี้ก็ถือว่าเป็นการ ค ว า ม ถี่ ๙ ๐ ๐ เ ม ก ะ เ ฮิ ร ต ซ ์ แ ล ะ ๑ ๘ ๐ ๐ ต่อยอดบนเครือข่ายแบบเดิมที่มีการท�างานแบบ เมกะเฮิรตซ์นั้น ไม่สามารถรองรับการใช้งานรับ TDMA ทา� ใหผ้ ใู้ หบ้ รกิ ารเครอื ขา่ ยมขี อ้ จา� กดั ในการ สง่ ข้อมูลจ�านวนมาก ๆ ได้ และเพ่ือใหส้ ามารถ จัดสรรทรัพยากรเครือข่าย ท�าให้ไม่สามารถให้ บรกิ ารขอ้ มลู ไดอ้ ยา่ งเตม็ รปู แบบ เนอ่ื งจากจะทา� ให้ เกดิ ผลรบกวนตอ่ จา� นวนวงจรสอ่ื สารแบบ Voice มากจนเกนิ ไป ไมม่ ผี ใู้ หบ้ รกิ ารเครอื ขา่ ยโทรศพั ท์ เคลอ่ื นทใี่ ด ๆ สามารถใหบ้ รกิ าร GPRS และ EDGE ดว้ ยอตั ราเรว็ สงู สดุ ได้ เนอ่ื งจากตอ้ งแบง่ ชอ่ งสญั ญาณ สา� หรบั ใหก้ ารบรกิ ารแบบเสยี ง อยา่ งไรกต็ าม การ สอ่ื สารขอ้ มลู ดว้ ยเทคโนโลยี GPRS และ EDGE ยงั ถอื วา่ ชา้ มากเมอื่ เทยี บความเรว็ ในการรบั สง่ ขอ้ มลู ดว้ ยบรอดแบรนดผ์ า่ นคสู่ าย เชน่ เทคโนโลยกี าร สื่อสารข้อมลู ความเร็วสูงผา่ นสายโทรศัพท์ DSL (Digital Subscriber Line) ภาพท่ี ๒ การสื่อสารขอ้ มูลความเรว็ สูงผ่านสาย โทรศพั ท ์
๕๙ ยุค 3G
๑๒๐—๑๒๑ ยุคส่ือประสมเซลลลู าร ์ (Multimedia cellular) : มาตรฐานโทรศพั ทเ์ คล่อื นท่ียุคท่ี ๓ (3G) เป็ นมาตรฐาน ท่ไี ดร้ บั การออกแบบโดยหน่วยงาน 3GPP และเร่มิ มีการเปิ ดใหบ้ รกิ ารในเชงิ พาณิชยม์ าตงั ้ แต่ พ.ศ. ๒๕๔๕ โดยไดร้ บั การออกแบบมาใหใ้ ชก้ ารส่ือสารแบบ CDMA หรอื การกระจายขอ้ มูลของผูใ้ ชบ้ รกิ ารทุกคนบน ช่องสญั ญาณความถ่ีวิทยุแต่ละช่อง มี มาตรฐานโทรศพั ทเ์ คล่ือนท่ีหลกั ท่ีใชง้ านในเชิงพาณิ ชยค์ ือ WCDMA (Wideband CDMA) ซ่งึ ในระยะแรกมาตรฐาน WCDMA รองรบั การส่ือสารไดด้ ว้ ยอตั ราเรว็ สูงสุดเพี ยง ๓๘๔ กโิ ลบิตต่อวินาที ทงั ้ ในทิศทางการส่ือสาร Downlink และ Uplink ต่อมาหน่วยงาน 3GPP ก็ได้มีการเพ่ิม เดิน และมีความเร็ว ๓๘๔ กิโลบิตต่อวินาที เปน็ ยคุ กอ่ น ๆ จะตอ้ งเสยี ขา้ บรกิ ารตง้ั แตห่ นา้ เขา้ บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่ืสอสาร ศั ก ย ภ า พ ข อ ง ม า ต ร ฐ า น W C D M A ไ ป เ ป ็ น (Kbps) เม่อื ใชใ้ นรถท่กี �าลงั วง่ิ นอกจากนจ้ี ะตอ้ ง สรู่ ะบบของเครอื ขา่ ย) หากจะเปรยี บเทยี บเครอื ขา่ ย มาตรฐานส่วนขยาย เรียกช่ือว่า HSPA (High สามารถในการใช้โครงข่ายได้ท่ัวโลก (Global 2G กบั 3G ดว้ ยเทคโนโลยี 3G มชี อ่ งสญั ญาณ Speed Packet Access) โดยมีจุดมุ่งหมายใน Roaming) โดยผู้บริโภคสามารถน�าโทรศัพท์ ความถ่ี และความจใุ นการรบั สง่ ขอ้ มลู มากวา่ ทา� ให้ การพฒั นาทงั้ อปุ กรณเ์ ครอื ขา่ ยและขอ้ กา� หนดของ เ ค ลื่ อ น ท่ี ไ ป ใ ช ้ ไ ด ้ ทั่ ว โ ล ก น อ ก จ า ก นี้ จ ะ ต ้ อ ง การรับส่งข้อมูลของแอปพลิเคชันเป็นไปอย่างมี เครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคล่ือนที่ ให้รองรับการ สนับสนุนการใหบ้ ริการทไ่ี มข่ าดตอน (Seamless ประสทิ ธภิ าพ ทงั้ บรกิ ารขอ้ มลู และระบบเสยี งท่ี ส่ือสารด้วยอัตราเร็วที่เพมิ่ สงู มากข้ึน อย่างไรกด็ ี Delivery Service) ซึ่งผู้บริโภคสามารถใช้งาน ชัดเจน และสารมารถใช้บริการมัลติมีเดียเต็ม สหภาพโทรคมนาคมระหวา่ งประเทศ หรอื ITU โ ท ร ศั พ ท ์ เ ค ล่ื อ น ท่ี โ ด ย ไ ม ่ รู ้ สึ ก ถึ ง ก า ร เ ป ล่ี ย น ประสทิ ธภิ าพ ไดก้ �าหนดคลื่นความถี่ย่าน ๒๑๐๐ เมกะเฮริ ตซ์ สถานีฐาน หรือ Cell Site (MHz) เปน็ คลนื่ ความถม่ี าตรฐานในการเชอื่ มตอ่ ประโยชนข์ องเทคโนโลยี 3G ท่ีใช้ตรงกันทุกประเทศ ท�าให้โทรศัพท์เคล่ือนที่ จุดเด่นท่ีชัดเจนท่ีสุดของเทคโนโลยี 3G คือ เทคโนโลยี 3G ช่วยให้ชีวิตประจ�าวันได้รับ ท้ังหมดท่ีผลิตออกมาจะรองรับคลื่น ๒๑๐๐ การเพม่ิ ความเรว็ ในการเขา้ ถงึ อนิ เทอรเ์ นต็ ไรส้ าย เมกะเฮิรตซ์ เป็นหลัก และมีความถ่ีย่านอ่ืน ๆ เช่น ช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถรับส่งไฟล์ที่มี การบริการข้อมูลท่ีสะดวกและรวดเร็ว ซ่ึงมักคุ้น เชน่ ๘๕๐ เมกะเฮริ ตซ์ และ ๙๐๐ เมกะเฮริ ตซ์ ขนาดใหญ่ หรือการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร รับชม เคยในรูปแบบของ Wireless Broadband, Vidio เป็นทางเลอื ก คลิปวิดีโอ หรือการถ่ายทอดรายการสด การ Call หรอื การใชบ้ รกิ ารขอ้ มลู ในรปู แบบตา่ ง ๆ แต่ ฟังเพลงจากสถานีวิทยุเกือบทุกท่ีในโลกได้ง่าย ส�าหรับการใช้ประโยชน์ในเชิงลึกแล้ว ทั้งด้าน โ ท ร ศ พั ท เ์ ค ล่ื อ น ท่ี ยุ ค ท่ี ส า ม ห รื อ สะดวก รวดเร็ว และที่ส�าคัญไปกว่านั้นคือการ การศึกษา การสาธารณสุข ธุรกิจ ฯลฯ ช่วยให้ Third Generation of Mobile ให้บริการ 3G จะช่วยลดช่องว่างในการเข้าถึง ย่นระยะเวลาในการสื่อสาร ลดภาระค่าใช้จ่าย Telephone หรอื ที่หลาย ๆ คนเรยี กวา่ 3G อินเทอร์เน็ตในพ้ืนที่ชนบทห่างไกล และพื้นท่ีท่ี เช่น ค่าเดินทางเม่ือต้องการเดินทางมาประชุม เ ป ็ น ก ลุ ่ ม ข อ ง เ ท ค โ น โ ล ยี สื่ อ ส า ร ท่ี ส ห ภ า พ มีข้อจ�ากัดในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบมีสาย ดังน้ัน เทคโนโลยี 3G ช่วยให้เกิดความใกล้ชิด โทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International ท�าให้เกิดนวัตกรรมทางด้านโทรคมนาคม เกิด ระหวา่ งบคุ คลไดม้ ากขน้ึ ยกตวั อยา่ งเชน่ ในวงการ Telecommunication Union: ITU) ได้ก�าหนด บริการใหม่ ๆ ท่ีมีความหลากหลาย และสะดวก แพทย์ อปุ กรณ์ Telehealth เปน็ อปุ กรณท์ วี่ ดั คา่ มาตรฐานโทรคมนาคมแบบเคล่ือนที่ ที่เรียกว่า สบายมากขึ้น ก่อให้เกิดการหลอมรวมกันทาง ต่าง ๆ ขอวี่วการแล้วจะส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ มาตรฐาน International Mobile เทคโนโลยี (Convergence of Technology) (Real Time) กลบั ไปยงั แพทย์ เพอื่ ตรวจการรกั ษา Telecommunications-2000 หรือ IMT-2000 ท้ังด้านคอมพิวเตอร์ ด้านสื่อสารโทรคมนาคม เบอื้ งตน้ ผา่ น Video Conference ท�าให้เกดิ การ ซ่ึงกรอบนโยบายเก่ียวกับ IMT-2000 นั้นเป็น และด้านสารสนเทศต่าง ๆ เกิดสิ่งอ�านวยความ บรกิ ารทางการแพทยใ์ นรปู แบบใหมท่ รี่ วดเรว็ และ บริการทางด้านโทรคมนาคมท่ีสามารถให้บริการ สะดวกแก่ผู้บริโภคมากมาย ท�าให้ผู้ใช้บริการ ประหยดั สง่ ผลใหผ้ ปู้ ว่ ยหรอื คนไขไ้ ดร้ บั การรกั ษา ที่หลอมรวมกันได้อย่างหลากหลาย การพัฒนา มีควาสะดวกสบาย คล่องตัวในการใช้งาน และ อย่างทันท่วงที ในปัจจุบันมีแนวโน้มว่า ในกลุ่ม เทคโนโลยี 3G เกิดข้ึนในช่วง พ.ศ. ๒๕๔๔ สามารถได้รับบริการทุกท่ีทุกเวลา ของสาธารณสขุ ของชมุ ชนหา่ งไกล รวมไปถงึ กลมุ่ เปน็ ตน้ มา ซง่ึ ปจั จบุ นั มวี ธิ แี ละเทคนคิ ในการรบั -สง่ ประชากรท่ีมีความต้องการหรือข้อจ�ากัด หันมา ข ้ อ มู ล ที่ ก ้ า ว ห น ้ า ม า ก ขึ้ น มี ก า ร ใ ห ้ บ ริ ก า ร คุณสมบัติของ 3G คือ มีการเชื่อมต่อกับ ใช้บริการคลินิกหรือแพทย์ออนไลน์กันมากข้ึน อินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วและการรักษาความ เครือข่ายระบบอยตู่ ลอดเวลา ทอ่ี ปุ กรณท์ า� งานอยู่ และอาจนา� ไปสกู่ ารแทนทขี่ องการรกั ษาในรปู แบบ ปลอดภยั ทส่ี งู ขนึ้ ตามมาตรฐานสากล ในเรอื่ งของ และไม่จ�าเป็นต้องเข้าสู่ระบบด้วยตัวเองทุกครั้ง เดมิ ทตี่ อ้ งเดนิ ทางไกล ๆ ไปยงั ชุมชมใหญ่หรอื ตวั การถ่ายโอนข้อมูลต่�าสุด ๒ เมกะบิตต่อวินาที เมอื่ ตอ้ งการใชบ้ รกิ ารรบั สง่ ขอ้ มลู แตจ่ ะมคี า่ บรกิ าร เมืองหลัก (Mbps) ส�าหรับผู้ใช้งานที่อยู่กับที่ หรือในขณะ เมอ่ื ผใู้ ชเ้ รยี กใชข้ อ้ มลู ผา่ นเครอื ขา่ ยเทา่ นน้ั (หาก
๖๐ ยุค 4G LTE มาตรฐานโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นท่ยี คุ ท่ี ๔ หรือ 4G ไดถ้ ูกกาํ หนดมาตรฐาน ขนึ ้ ครงั ้ แรกเม่อื พ.ศ. ๒๕๕๑ โดย I n t e r n at i o n a l Te l e co m - munications Union-Radio communications sector ( I T U - R ) โ ด ย เ รี ย ก ข อ้ กํ า ห น ด นี ว้ ่ า T h e I n t e r n a t i o n a l Mobile Telecommunications Advanced specification (IMT- Advanced) ซง่ึ ไดก้ าํ หนดความเรว็ ของระบบ 4G ไวท้ ่ี 1Gbps แตด่ ว้ ย ขีดจํากดั ทางดา้ นเทคโนโลยีและ ความพรอ้ มของผูใ้ หบ้ ริการ จึง ทําใหร้ ะบบ 4G ในปั จจุบนั ยงั ไม่ ส า ม า ร ถ ทํ า ค ว า ม เ ร็ ว ใ น ก า ร รบั -ส่งขอ้ มูลไดส้ ูงตามขอ้ กาํ หนด เทคโนโลยีโทรศพั ทเ์ คล่ือนท่ียุคท่ี ๔ หรอื เทคโนโลยี Long Term Evolution (LTE) เป็นเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายความเร็วสูง ที่ พั ฒ น า ข้ึ น เ พื่ อ ช ่ ว ย ล ด ข ้ อ จ� า กั ด ข อ ง ก า ร รั บ ส ่ ง ข้อมูลที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ให้มีความสามารถใน การรับส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงถึง ๑๐๐ Mbps และจะชว่ ยลดความลา่ ชา้ ในการรบั สง่ ขอ้ มลู โดยรวม (Latency) ลงอย่างมาก ท�าให้การส่ือสารจากเดิม ด้วยภาพ และข้อความเปล่ียนไปเป็นรูปแบบของ วิ ดี โ อ แ ล ะ ภ า พ ๓ มิ ติ ไ ด ้ อ ย ่ า ง ส ม บู ร ณ ์ แ บ บ นอกจากน้ี LTE ยงั ถือเป็นระบบท่รี องรับการหลอม รวมทางเทคโนโลยี ท้ังเทคโนโลยีในอดีตและ เทคโนโลยีแห่งอนาคตที่มุ่งเข้าสู่โลก IP ในรูปแบบ Packet-Based ด้วยกัน และเป็นเทคโนโลยีสื่อสาร ยุคใหม่ที่พัฒนามาเพ่ือความต้องการของมนุษย์ซึ่ง มีการรับส่งข้อมูลที่มีความเร็วสูง มีความสามารถ ในการติดต่อสื่อสารได้ท้ังภาพและเสียงตลอดจน ข้อความภาพ โทรศัพท์เคลื่อนท่ีที่รองรับเทคโนโลยี LTE จะมีความสามารถและสมรรถนะสูงมาก ในระดับท่ีสามารถชมภาพวิดีโอถ่ายทอดสดได้ด้วย ภาพและเสียงท่ีมีคุณภาพสูง
๑๒๒—๑๒๓ ภาพท่ี ๑ ภาพแสดงความแตกต่างระหว่างเครือข่ายสญั ญาณ 3G และ 4G มาตรฐานโทรศัพท์เคล่ือนท่ี 4G ถือเป็น แรงจงู ใจในการพฒั นาเทคโนโลยี 4G LTE เปน็ เทคโนโลยที ส่ี ามารถตอบสนองตอ่ บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่ืสอสาร มาตรฐานสื่อสารไร้สายความเร็วสูงชนิดพิเศษ LTE มีดงั ตอ่ ไปนี ้ ความต้องการของตลาด โดยการใช้เทคนิคอัน การพัฒนาต่อยอดจากมาตรฐาน IMT-2000 ก้าวหน้าอย่าง OFDMA/SC-FDMA บน Air โดย 4G LTE ถือเป็นพัฒนาการอีกข้ันต่อจาก ๑. แม้ว่ามีความพยายามท่ีจะท�าให้ 3G เป็น Interface, ความยดื หยนุ่ ในการใชค้ ลนื่ ความถ่ี เชน่ 3G ซ่ึงเป็นการเติมเต็มเทคโนโลยี 3G ไม่ได้ โทรศัพท์เคล่ือนท่ีท่ีสามารถ Roaming ข้ามโครง ขนาดช่องสัญญาณท่ีหลากหลาย ต้ังแต่ ๑.๔ เป็นการเข้ามาแทนท่ีแต่อย่างใด ข่ายทุกประเภทได้ทั่วโลก แต่ด้วยมาตรฐานที่ เมกะเฮริ ตซ์ ไปจนถงึ ๒๐ เมกะเฮริ ตซ์ รวมทง้ั การ ซับซ้อนของ 3G ก็ยังคงมีปัญหาอยู่บ้างในการ ใช้ TD-LTE สา� หรบั Unpaired spectrum และ การพัฒนาเทคโนโลยี LTE เป็นการพัฒนา เช่ือมโยงและท�างานร่วมกันระหว่างเครือข่าย เทคนิคพิเศษอื่น ๆ เช่น MIMO และการใช้ เพื่อรองรับการสื่อสารสื่อประสม (Multimedia) modulation ที่สูงข้ึน การเติบโตของตลาดของ ที่มีความเร็วการส่งข้อมูลท่ีสูงกว่า 3G เช่น การ ๒. ผปู้ ระกอบการโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นทตี่ อ้ งการให้ บรอดแบรนดไ์ รส้ ายทสี่ งู ขนึ้ อยา่ งมนี ยั สา� คญั ทา� ให้ ให้บริการข่าวสารข้อมูลเพ่ือการศึกษา การซื้อ รปู แบบการแปลงคลนื่ ความถว่ี ทิ ยมุ ปี ระสทิ ธภิ าพ นกั พฒั นาเทคโนโลยดี า้ นนต้ี อ้ งทา� งานแขง่ กบั เวลา ขายสินค้าผ่านโทรศัพท์เคล่ือนที่และสามารถหัก มากขึ้น เพ่ิมขีดความสามารถในการรับ-ส่ง ต่อไป เพ่ือให้ทันกับความต้องการและความ ค่าใช้จ่ายผ่านบัญชีเงินฝากในธนาคารได้ทันที ข้อมูลความเร็วสูงมาก ๆ ซ่ึงไม่สามารถท�าได้ คาดหวังท่ีเพิ่มข้ึนของผู้คนจ�านวนมาก จนกลาย (Mobile commerce) วิดีโอแบบภาพเคล่ือนไหว ในโครงสร้างของเครือข่าย 3G เปน็ เทคโนโลยแี หง่ อนาคต คอื LTE-Advanced ท่ีเต็มรูปแบบ (Full-motion video) หรือการ หรอื LTE-A ป ร ะ ชุ ม ท า ง โ ท ร ศั พ ท ์ เ ค ลื่ อ น ที่ ( M o b i l e ๓. มีต้องการเครือข่ายแบบผสมผสานที่ teleconferencing) สามารถใช้งานเครือข่ายได้ท้ังแบบ Wireless LAN (hot spot) และเครือข่ายแบบ Cell หรือ อุปกรณ์ส่ือสารที่สามารถรองรับใช้งาน LTE แบบสถานีฐาน (ฺBase-station) ได้ คล้ายคลึงกับอุปกรณ์ท่ีใช้บนเครือข่าย 3G เช่น สมาร์ตโฟน และแท็บเล็ต การพัฒนา ๔ . ต ้ อ ง ก า ร แ บ น ด ์ วิ ต ท ์ ท่ี ก ว ้ า ง ขึ้ น แ ล ะ เทคโนโลยี LTE ก็เป็นผลมาจากจุดอ่อนของ 3G ต้องการให้เป็นเครือข่ายแบบดิจิทัล และเพอื่ ตอ้ งการหลดุ ออกจากขอ้ จา� กดั และปญั หา ของ 3G
๖๑ ยุค 5G 5G คือ เทคโนโลยีการส่ือสาร เจเนอเรชนั ท่ี ๕ (5th Generation of Cellular Mobile Communication) ปัจจบุ นั ไดม้ ีขอ้ กาํ หนดออกมาเกอื บสมบูรณแ์ ลว้ และเตรยี มจะประกาศใชใ้ นช่วง ค.ศ. ๒๐๒๐ ปัจจบุ นั จะไดเ้ หน็ การเตรยี มพรอ้ มของแตล่ ะเครอื ขา่ ยทว่ ั โลกพฒั นาตนเองใหร้ องรบั การมาของ 5G การบรกิ ารของเทคโนโลยี ส่ือสารในอนาคต อย่างเช่น 5G ท่ีมาพรอ้ มมิติใหม่ ๆ มีแนวคิดในเร่อื ง “ทุกสรรพส่ิงเช่อื มผ่านอนิ เทอรเ์ น็ต” หรอื “Internet of Things (IoT)”
๑๒๔—๑๒๕ ซึ่งมมี ติ ิการพิจารณาบรกิ าร 5G ใน ๓ มิติ บริการ 5G ความถ่ีทน่ี �ามาใชจ้ ะกว้างครอบคลุม (Spectrum sharing) ได้ ดังน้ันในความถ่ีที่ บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่ืสอสาร กล่าวคอื มติ แิ รกเปน็ เรอื่ งความเร็วใน ๑ ตาราง หลายย่านความถ่ี ได้แก่ ความถี่ในย่านต้ังแต่ ต่�ากว่า ๖ GHz ในบางยา่ นคลน่ื จะไมส่ ามารถใช้ กิโลเมตร มิติที่สองในเรื่องของความหน่วง ๔๐๐ MHz จนถงึ ยา่ น ๓๐๐ GHz การแบง่ ความถี่ ความถ่ีรว่ มกันได้ (Shared spectrum) เน่อื งจาก (Delay) และมติ ทิ ส่ี ามคอื จา� นวนการเชอื่ มโยงจาก จะแบ่งความถอี่ อกเป็น ๒ กลมุ่ โดยกา� หนดให้ มกี ารจดั สรรความถที่ ม่ี ลี กั ษณะเปน็ สทิ ธเิ ฉพาะตวั สถานฐี านใน ๑ ตารางกโิ ลเมตร ความถ่ี ๖ GHz เป็นเส้นแบ่งความถี่ระหว่าง (Exclusive use) ความถที่ ร่ี องรบั บรกิ าร 5G โดยการใหบ้ รกิ าร 5G บรกิ ารของ 5G แบง่ ออกเป็ น ๒ ส่วน หลัก (Core service หรือ 5G Primary) จะใช้ สา� หรบั ประเทศไทย กสทช. มคี วามตน่ื ตวั ใน คอื ความถใ่ี นยา่ นทต่ี า่� กวา่ ๖ GHz และความถใ่ี นยา่ น เร่ืองของเทคโนโลยีมาตรฐาน 5G และมีการ ทส่ี งู กวา่ ๖ GHz จะใชเ้ พอ่ื รองรบั ในการใหบ้ รกิ าร เตรียมความพรอ้ มในเรอื่ งดงั กลา่ วไว้เบื้องต้น คือ ๑. บริการ 5G Core services หมายถึง 5G Supplement service ในปัจจุบันพบว่ามี การเตรยี มจดั สรรคลนื่ ความถ่แี บบไมต่ ้องท�าการ บรกิ ารที่มอี ยใู่ น 4G, 3G, 2G และ 1G ดว้ ย น้นั ปริมาณการใช้งานคลนื่ ความถ่ีท่ใี นย่านต�่ากว่า ๖ ประมลู เพอ่ื ใหค้ นไทยไดใ้ ชง้ าน 5G ไดใ้ นราคาตา่� หมายความวา่ ผใู้ ชบ้ รกิ ารไมต่ อ้ งมกี ารลงทนุ ใหม่ GHz ลงมา มีปริมาณการใช้งานอย่างหนาแน่น และก�าหนดให้อปุ กรณท์ ี่จะใช้เทคโนโลยี 5G ได้ ถา้ ยงั มีความตอ้ งการใชบ้ ริการเดมิ ดงั นน้ั การหาเทคโนโลยใี หมเ่ พอื่ ใชง้ านกบั ความถี่ ต้องเป็นไปตามมาตรฐานโลก คือ สหภาพ ในย่านท่ีสูงกว่า ซึ่งเป็นย่านความถี่ท่ีไม่ได้มีการ โทรคมนาคมระหวา่ งประเทศ ITU (International ๒. บรกิ าร 5G supplement Services เป็น ใช้งานมากนัก มาเป็นทางเลือกในการให้บริการ Telecommunication Union) บรกิ ารทสี่ รา้ งขนึ้ มาใหมใ่ นเทคโนโลยขี อง 5G การ เพม่ิ เติม โดยคล่นื ความถใ่ี นย่านที่สูงกวา่ ๖ GHz แบ่งบริการ 5G ออกเป็นสองส่วนน้ันจะมีความ จะมขี อ้ เดน่ คอื มคี ลน่ื ความถที่ วี่ า่ งเปน็ จา� นวนมาก สา� คญั ตอ่ การบรหิ ารคลนื่ ความถเ่ี พอื่ รองรบั การให้ และมีความเป็นไปได้ท่ีจะมีการใช้ความถ่ีร่วมกัน
๖๒ เคเบิลโคแอกเชียล เคเบิลโคแอกเชียลถูกคิดค้นและจดสิทธิบัตร (Coaxial Cable) เป็นครั้งแรกใน พ.ศ. ๒๔๒๓ โดยวศิ วกรไฟฟ้าชาว องั กฤษชอื่ Oliver Heaviside ตอ่ มาใน พ.ศ. ๒๔๗๙ เคเบิลโคแอกเชียล (Coaxial cable) หรือสายโคแอกซ ์ (Coax wire) เคเบิลโคแอกเชียลได้ถูกน�ามาใช้เป็นคร้ังแรกกับ เป็ นสายนาํ สญั ญาณไฟฟา้ ท่ีมีโลหะเป็ นตวั นาํ ไฟฟา้ อยใู่ นแนวแกนกลาง ระบบโทรทัศน์วงจรปิดในการส่ือสัญญาณระหว่าง ตวั นาํ นีจ้ ะถูกห่อหุม้ ดว้ ยฉนวนโดยรอบ ท่ีผิวดา้ นนอกของฉนวนนีจ้ ะถูก เมอื งเบอรล์ นิ กบั เมอื งไลปซกิ ในชว่ งของการแขง่ ขนั ห่อหุม้ ดว้ ยแผ่นตวั นําท่ีเป็ นโลหะบางหรืออาจเป็ นเสน้ ใยตวั นําท่ีถกั เป็ น กฬี าโอลมิ ปกิ ในประเทศเยอรมนี เคเบลิ โคแอกเชยี ล เปี ยหรือตาข่ายอีกชนั ้ หน่ึง จากนนั ้ จะมีฉนวนห่อหุม้ โครงสรา้ งทงั ้ หมด ไดถ้ กู ตดิ ตง้ั สา� หรบั การใชง้ านเชงิ พาณชิ ยข์ นึ้ เปน็ ครง้ั อกี ชนั ้ ทาํ หนา้ ท่ีปอ้ งกนั สายสญั ญาณ ดงั ภาพท่ี ๑ ตวั นาํ ไฟฟา้ ในแนว แรกโดยบรษิ ทั AT&T ในสหรฐั อเมรกิ า ใน พ.ศ. ๒๔๘๔ แกนกลางทําหนา้ ท่ีส่ือสญั ญาณไฟฟ้าในขณะท่ีตวั นําตาข่ายทําหนา้ ท่ี ซ่ึ ง ร ะ บ บ ส า ย ส ่ ง สั ญ ญ า ณ นี้ ส า ม า ร ถ ส่ื อ สั ญ ญ า ณ เ ป็ น ส า ย ดิ น เ ค เ บิ ล โ ค แ อ ก เ ชี ย ล ถู ก ใ ช ใ้ น ก า ร นํ า ส ญั ญ า ณ ส่ื อ ส า ร โทรศัพท์ได้พร้อมกันมากถึง ๔๘๐ คู่สายในเวลา คอมพิ วเตอรใ์ นยุคแรก รวมทงั ้ การนําสญั ญาณคล่ืนวิทยุไปยงั สาย เดยี วกนั หลงั จากนน้ั ไดม้ กี ารนา� เคเบลิ โคแอกเชยี ล อากาศ เน่ื องจากสามารถส่งสญั ญาณความถ่ีสูงไดเ้ ป็ นระยะทางไกล มาใช้เชื่อมโยงระบบสื่อสารระยะไกลมากขึ้น และ และตวั นําไฟฟ้าตาข่ายชนั ้ นอกท่ีห่อหุม้ ตวั นําแกน จะทําหนา้ ท่ีปอ้ งกนั ใน พ.ศ. ๒๔๙๙ โครงการสือ่ สารระหวา่ งประเทศ สญั ญาณรบกวนทางไฟฟ้าไดเ้ ป็ นอย่างดี อีกทงั้ ยงั ช่วยปอ้ งกนั ไม่ให ้ ผา่ นมหาสมทุ รแอตแลนตกิ ชอ่ื TAT-1 (Transatlantic ส ญั ญ า ณ ท่ี ส่ ง ใ น ต วั นํ า แ ก น ก ล า ง แ พ ร่ ก ร ะ จ า ย ส ญั ญ า ณ อ อ ก ไ ป สู่ No. 1) ไดม้ กี ารนา� เคเบลิ โคแอกเชยี ล มาใชใ้ นระบบ ภายนอก เคเบิลใตน้ ้า� เป็นครั้งแรก ประเภทของเคเบลิ โคแอกเชยี ล เคเบลิ โคแอกเชยี ล มี ห ล า ย ป ร ะ เ ภ ท ขึ้ น อ ยู ่ กั บ รายละเอยี ดในสว่ นประกอบของโครงสรา้ งทอ่ี อกแบบ ข้ึนตามวัตถุประสงค์การใช้งานท่ีแตกต่างกัน เช่น Hard line, RG-#, Triaxial cable, Twin-axial cable, Rigid line, Semi-rigid ฯลฯ ทา� ใหเ้ คเบลิ โคแอกเชยี ล
ภาพที่ ๑ โครงสรา้ งของเคเบิลโคแอกเชียล ๑๒๖—๑๒๗ ภาพที่ ๒ ตวั อย่างโอแอกเชียลเคเบิลบางประเภท แตล่ ะประเภทมคี ณุ สมบตั ติ า่ ง ๆ ทไ่ี มเ่ ทา่ กนั เชน่ บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่ืสอสาร Hard line คา่ ความตา้ นทานหรอื อมิ พแี ดนซ์ (โดยทว่ั ไปมที ง้ั คา่ ๕๐ และ ๗๕ โอหม์ ) คา่ การลดทอนสญั ญาณ Triaxial cable ที่ความถี่ใช้งาน และระยะทางสูงสุดในการส่ือ Twin-axial cable สัญญาณ ฯลฯ Rigid line cable ประเภทของเคเบลิ โคแอกเชยี ลทคี่ นสว่ นใหญ่ คนุ้ เคยคือแบบ RG-# หรอื RG-#/U (เชน่ RG- Semi-rigid cable 6/U, RG-58, RG-174/U) ซงึ่ เปน็ ชื่อทกี่ �าเนิดมา จากมาตรฐานทางทหาร โดยคา� วา่ RG ยอ่ มาจาก ภาพที่ ๓ ตวั อย่างโอแอกเชียลเคเบิลแบบต่าง ๆ ของประเภท RG# ค�าวา่ Radio Guide และ U หมายถงึ Universal รวมถึง RG-6/U ท่ีมกั นิ ยมใชก้ บั สญั ญาณโทรทศั นห์ รือโทรทศั น ์ ตวั อยา่ งเชน่ RG-6/U เปน็ สายเคเบลิ โคแอกเชยี ล ดาวเทียม ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๖-๗ เซนติเมตร มคี ่าอมิ พแี ดนซ์ ๗๕ โอหม์ เหมาะ RG-58 C/U ส� า ห รั บ ก า ร ใ ช ้ ง า น กั บ สั ญ ญ า ณ โ ท ร ทั ศ น ์ ห รื อ RG-59 B/U โทรทัศนด์ าวเทียม RG-62 A/U การใชง้ านเคเบิลโคแอกเชียล แม้ว่า RG-6/U โ ค ร ง ส ร ้ า ง ข อ ง เ ค เ บิ ล โ ค แ อ ก เ ชี ย ล จ ะ ช ่ ว ย ใ ห ้ RG-11/U สามารถส่ือสญั ญาณความถี่สงู ไดด้ ี และยงั เคยใช้ เปน็ สายเคเบลิ ใตน้ า้� เชอื่ มโยงระหวา่ งประเทศ แต่ ปจั จบุ นั เคเบลิ โคแอกเชยี ลไมเ่ หมาะกบั การสอ่ื สาร ระยะทางไกลเนอ่ื งจากไมส่ ามารถรองรบั ปริมาณ ขอ้ มลู ทเ่ี พมิ่ ขน้ึ มหาศาลได้ จงึ มกี ารนา� เทคโนโลยี เคเบิลใยน�าแสงมาใช้แทน อีกท้ังการออกแบบ เคเบิลโคแอกเชียลให้ส่งเป็นระยะทางไกลมาก จะทา� ใหโ้ ครงสรา้ งของสายเคเบลิ มขี นาดใหญ่ และ ขาดความยดื หยนุ่ ในการตดิ ตง้ั ใชง้ านเมอื่ เทยี บกบั สายเคเบลิ แบบใหม่ ๆ อย่างไรก็ตาม เคเบิลโคแอกเชียลนิยมใช้ใน ก า ร สื่ อ สั ญ ญ า ณ ค ลื่ น วิ ท ยุ ห รื อ R F ( R a d i o F r e q u e n c y ) สั ญ ญ า ณ โ ท ร ทั ศ น ์ เ ค เ บิ ล ที วี โทรทัศน์วงจรปิด สัญญาณไมโครเวฟ และใน ระบบเครือข่ายท้องถิน่ หรอื LAN (Local Area Network) ของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ท่ีมีระยะทาง ไม่ไกลมาก
๖๓ เคเบิลโมเดม็ (Cable modem) เคเบิลโมเดม็ (Cable modem) เป็ นอุปกรณท์ ่ีไดร้ บั การพฒั นาขึน้ เพ่ื อใชก้ บั ระบบการใหบ้ ริการเคเบิลทีวี (CATV) เพ่ื อช่วยใหเ้ คร่อื งคอมพิ วเตอรใ์ นบา้ นของผูใ้ ชบ้ รกิ ารสามารถใชง้ านอนิ เทอรเ์ น็ตผ่านสายเคเบิลทีวี ได ้ ขณะเดียวกนั ผูใ้ ชบ้ ริการกย็ งั สามารถรบั ชมโทรทศั นผ์ ่านระบบของผูใ้ หบ้ ริการในเวลาเดียวกนั ไดโ้ ดย สญั ญาณไม่รบกวนกนั
๑๒๘—๑๒๙ เคเบลิ โมเด็มเปน็ การผสมค�าสองค�าคือคา� วา่ ภาพที่ ๑ การใชเ้ คเบิลโมเดม็ เพื่ อแยกสญั ญาณ วนิ าทไี ปจนถงึ ความเรว็ รว่ มรอ้ ยเมกะบติ ตอ่ วนิ าที บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่ืสอสาร เคเบลิ (Cable) และค�าว่าโมเด็ม (Modem) ซ่งึ ทงั้ นคี้ วามเรว็ ในการทา� งานของเคเบลิ โมเดม็ แตล่ ะ คา� วา่ เคเบิลหมายถึง สายสญั ญาณ ซึ่งในท่นี ้กี ็คอื อินเทอรเ์ น็ตออกจากระบบเคเบิลทีวี รนุ่ จะขน้ึ อยกู่ บั ความสามารถในการใหบ้ รกิ ารของ สายเคเบิลทีวี ส่วนค�าว่าโมเด็มมีท่ีมาจากค�าว่า ผปู้ ระกอบการ และความตอ้ งการในการรบั ขอ้ มลู มอดเู ลชนั (Modulation)/ดมี อดเู ลชนั (Demodulation) อุปกรณ์เคเบิลโมเด็มข้ึนมาเพ่ือท�าหน้าท่ีเฉพาะ ของผ้ใู ช้บรกิ าร สัญญาณอินเทอร์เน็ต แล้วส่งไปยังคอมพิวเตอร์ มอดูเลชนั เป็นวิธีการผสมข้อมูลท่ีต้องการ หรอื อปุ กรณอ์ นื่ ๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ระบบอนิ เทอรเ์ นต็ เ ค เ บิ ล โ ม เ ด็ ม ท่ี ท� า ห น ้ า ท่ี แ ย ก สั ญ ญ า ณ ส่ือสารเข้ากับสัญญาณความถ่ีค่าหนึ่งเพ่ือท�าให้ เชน่ ระบบ LAN (Local Area Internet) แบบ อินเทอรเ์ น็ต ออกจากสายเคเบลิ ทีวี แลว้ ส่งไปยงั สามารถส่งสัญญาณที่มีข้อมูลร่วมอยู่ไปได้ไกล อเี ทอรเ์ นต็ (Ethernet) ภายในทพี่ กั หรอื สา� นกั งาน เ ค รื่ อ ง ค อ ม พิ ว เ ต อ ร ์ โ ด ย ต ร ง เ พื่ อ ช ่ ว ย ใ ห ้ ข้อมูลที่ต้องการสื่อสารในกรณีน้ี กับสัญญาณ ของผ้ใู ช้บริการ คอมพวิ เตอร์สามารถใช้งานเชอ่ื มต่ออินเทอร์เนต็ คอมพิวเตอร์ที่เดินทางในระบบอินเทอร์เน็ตจะ ได้ อยา่ งไรกต็ าม หากมีคอมพิวเตอรม์ ากกวา่ ๑ เป็นสัญญาณดิจิทัลท่ีมีสถานะเป็น ๐ หรือ ๑ ระบบเคเบลิ ทวี ใี นยคุ แรกจะใชเ้ คเบลิ โคแอกเชยี ล เครือ่ ง หรือมกี ารเช่อื มโยงคอมพิวเตอร์หลาย ๆ (อาจเทยี บเทา่ กบั สญั ญาณทมี่ แี รงดนั ไฟฟา้ เปน็ ๐ เป็นสายสัญญาณเชื่อมโยงระหว่างต้นทางไปยัง เครอื่ งเปน็ เครอื ขา่ ย อาจตอ้ งมอี ปุ กรณอ์ น่ื เพม่ิ เตมิ โวลต์ หรือ ๕ โวลต์) กระบวนการมอดเู ลชนั นี้ ปลายทาง ปจั จบุ นั ไดม้ กี ารนา� เสน้ ใยนา� แสงเขา้ มา เชน่ ฮบั (Hub) หรอื เราเตอร์ (Router) เสรมิ เขา้ ไป ช่วยให้สามารถส่งขอ้ มูลดว้ ยความเร็วสูง และสง่ ใช้แทนเคเบิลโคแอกเชียลในบางส่วนของระบบ เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพ โดยฮับท�าหน้าท่ีกระจาย ข้อมูลได้ระยะทางท่ีไกลขึ้นมาก อีกทั้งยังช่วยให้ โครงขา่ ยเคเบลิ ทวี ี เนอ่ื งจากขอ้ ดขี องเสน้ ใยนา� แสง สัญญาณไปยังคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่ ใช้งาน สามารถส่งข้อมูลได้หลายช่องสัญญาณรวมกัน เ อ ง ท่ี ส า ม า ร ถ ร อ ง รั บ ป ริ ม า ณ ข ้ อ มู ล ที่ ม า ก ขึ้ น ในขณะที่เราเตอร์ท�าหน้าท่ีเช่ือมต่อเส้นทางเดิน เมอื่ สญั ญาณขอ้ มลู ทถ่ี กู ผสมกบั คลน่ื พาหเ์ ดนิ ทาง กว่าเดิม อกี ทงั้ มสี ญั ญาณรบกวนนอ้ ยมาก ระบบ ขอ้ มลู ไปยงั เครอ่ื งคอมพวิ เตอรท์ ตี่ อ้ งการในเครอื ขา่ ย ไปถึงปลายทางท่ีต้องการ ข้อมูลเดิมจะถูกแยก โครงข่ายสายส่งของเคเบิลทีวีแบบนี้เรียกว่าเป็น ออกจากคลนื่ พาหเ์ พอื่ นา� ไปใชต้ อ่ ไป กระบวนการ “ระบบไฮบริด (Hybrid)” คือ มกี ารผสมระหวา่ ง หลงั นี้เรียกว่า การดมี อดูเลชนั เคเบลิ โคแอกเชยี ลกบั เคเบลิ เสน้ ใยนา� แสงรว่ มกนั ในระบบ เม่อื ระบบโครงขา่ ยสายสง่ เปลยี่ นไป จึง ในยุคทรี่ ะบบการใหบ้ รกิ ารเคเบิลทีวีเรมิ่ เป็น ตอ้ งมีการพฒั นาเคเบิลโมเดม็ ให้รองรับความเร็ว ที่นิยม ผู้ให้บริการหรือผู้ประกอบการจะท�าการ ท่ีเพ่มิ ข้ึน ในการใหบ้ ริการดว้ ยความเรว็ ในการสง่ เช่ือมโยงเคเบิลโคแอกเชียลจากส�านักงานไปยัง ข้อมลู จากผู้ประกอบการไปยงั ผใู้ ช้บริการเรียกว่า บ้านผู้ใช้ ซ่งึ ในท่ีนีจ้ ะหมายถึงระบบเคเบลิ ทีวีท่ใี ช้ ดาวนส์ ตรมี (Downstream) ซง่ึ สามารถสง่ ขอ้ มลู เทคโนโลยกี ารสอื่ สารผา่ นสายเทา่ นนั้ ไมร่ วมการ ไดด้ ว้ ยความเรว็ สงู ถงึ หลายรอ้ ยเมกะบติ ตอ่ วนิ าที ให้บริการผ่านสัญญาณดาวเทียม โดยในเขต (Mb/s) ในขณะที่ความเร็วในการส่งข้อมูลจาก ชุมชนหน่ึงอาจจะมีผู้ใช้บริการเป็นจ�านวนมาก ผใู้ ชบ้ ริการไปยงั ผปู้ ระกอบการเรยี กวา่ อัปสตรีม ทา� ใหเ้ กดิ การเชอื่ มโยงเปน็ โครงขา่ ยของระบบสาย (Upstream) อาจมคี า่ เรม่ิ ตน้ ทตี่ า่� กวา่ เมกะบติ ตอ่ เคเบิล และท�าให้ผู้ประกอบการหรือผู้ให้บริการ ต้องแข่งขันกันด้วยการเพ่ิมช่องทีวีเพ่ือดึงดูดใจ ผู้ใชบ้ รกิ าร เมอื่ ระบบอนิ เทอรเ์ นต็ เรมิ่ เปน็ ทน่ี ยิ มแพรห่ ลาย ไปยังประชาชนท่ัวไป ท�าให้ผู้ใช้บริการตามบ้าน เรอื นมจี า� นวนเพม่ิ มากขน้ึ อยา่ งรวดเรว็ วศิ วกรจงึ มีแนวความคิดท่ีจะใช้ประโยชน์จากโครงข่าย สอ่ื สารของระบบเคเบลิ ทวี เี ดมิ ในการสอ่ื สญั ญาณ อินเทอร์เน็ตเพ่ิมเข้าไปร่วมกับสัญญาณโทรทัศน์ ที่มีอยู่เดิม เพราะเคเบิลโคแอกเชียลสามารถ รองรับปริมาณข้อมูลทั้งสองประเภทในการส่ือ สญั ญาณไดใ้ นระยะทางทไ่ี มไ่ กลมากนกั และเพม่ิ
๖๔ ดีเอสแอล (DSL) ดีเอสแอล (DSL) หรอื Digital Subscriber Line เป็ นอปุ กรณท์ ่ีมีหลกั การทาํ งานเช่นเดียวกบั เคเบิลโมเดม็ (Cable Modem) ดเี อสแอลจงึ เป็ นโมเดม็ ประเภทหน่งึ ท่ไี ดร้ บั การออกแบบพฒั นาสําหรบั ใชโ้ ทรศพั ทก์ บั คสู่ าย โทรศพั ทท์ ่ี เป็ นสายทองแดงธรรมดา เพ่ื อช่ วยใหเ้ คร่ืองคอมพิ วเตอรใ์ นบา้ นของผู ใ้ ชส้ ามารถใชง้ าน อนิ เทอรเ์ น็ตได ้ ดงั แสดงในภาพท่ี ๑ อย่างไรกต็ าม เน่ืองจากสายทองแดงท่ีเป็ นสายโทรศพั ทเ์ ดิมแบบสายคู่ ตีเกลียว (Twisted-pair) สามารถรองรบั ความเรว็ ในการส่ือสารขอ้ มูลไดน้ อ้ ยมากเม่อื เปรยี บเทียบกบั เคเบิล โคแอกเชียลหรอื เคเบิลเสน้ ใยนาํ แสง ทาํ ใหเ้ ทคโนโลยีภายในอปุ กรณ ์ DSL มีความแตกต่างจากเคเบิลโมเดม็ แมว้ า่ จะมีหลกั การทาํ งานในทาํ นองเดียวกนั กต็ าม
๑๓๐—๑๓๑ ภาพที่ ๑ การใชโ้ มเด็มแบบดีเอสแอลเพื่ อแยก สญั ญาณอินเทอรเ์ น็ตไปยงั คอมพิ วเตอร ์ เมื่อเทคโนโลยีการสื่อสารพัฒนามากขึ้นจน ระบบอนิ เทอรเ์ นต็ ความเรว็ สงู บนโครงขา่ ยสอ่ื สาร ไปยงั เซริ ฟ์ เวอร์ ทง้ั นผี้ ใู้ ชม้ กั สง่ ไฟลข์ นาดเลก็ เชน่ บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่ืสอสาร ทา� ใหเ้ ครอื่ งคอมพวิ เตอรต์ น้ ทางสามารถตดิ ตอ่ กบั ท่ีเป็นสายโทรศัพท์เดิม โดยอุปกรณ์ท่ีติดต้ังใน อีเมล ขอ้ ความ หรอื รปู ภาพขนาดเลก็ ไปยงั เพ่อื น เครอ่ื งคอมพวิ เตอรห์ รอื เครอื่ งเซริ ฟ์ เวอร์ (Server) บ้านของผู้ใช้บริการจะเรียกว่า ดีเอสแอลโมเด็ม หรือคู่สนทนามากกว่า ดังนั้นความเร็วในการรับ ใด ๆ ไดต้ ลอด ๒๔ ชวั่ โมงผา่ นสายโทรศพั ท์ ไดอลั อยา่ งไรกต็ าม ดีเอสแอลโมเดม็ มีข้อด้อยตรงที่ไม่ สง่ ขอ้ มลู แบบดาวนส์ ตรมี จงึ ไมเ่ ทา่ กบั (มากกวา่ ) โมเดม็ จงึ ถกู พฒั นามาเปน็ ดเี อสแอลโมเดม็ (DSL ส า ม า ร ถ ใ ห ้ บ ริ ก า ร เ ป ็ น ร ะ ย ะ ท า ง ไ ก ล ม า ก ไ ด ้ อปั สตรมี ทา� ให้เกิดเป็นค�าวา่ “Asymmetric” ซึง่ modem) เพื่อให้รองรับการสื่อสารข้อมูลด้วย เนอื่ งจากความเรว็ ในการสอื่ สญั ญาณจะมคี า่ ลดลง หมายถงึ “ไม่สมมาตร” ความเรว็ ในการส่งขอ้ มูล ความเรว็ ทส่ี งู ขนึ้ บนอนิ เทอรเ์ นต็ ได้ โดยดเี อสแอล เมอ่ื ระยะทางเพมิ่ ขนึ้ ผใู้ ชบ้ รกิ ารดเี อสแอลจงึ ควร ของ ADSL แบบดาวน์สตรีม โดยทั่วไปอยู่ที่ โมเด็มมีกระบวนการท�างานเหมือนเคเบิลโมเด็ม อยใู่ นระยะหา่ งจากผใู้ หบ้ รกิ ารเพยี งไมก่ กี่ โิ ลเมตร ประมาณ ๗๘๐ กโิ ลบติ ตอ่ วนิ าที แต่ก็สามารถ โดยส่งข้อมูลดิจิทัลของคอมพิวเตอร์ไปในช่อง เท่านั้น นอกจากน้ีการติดตั้งดีเอสแอลโมเด็ม เพ่ิมความเร็วไดส้ งู สุดถึง ๖.๑ เมกะบติ ตอ่ วนิ าที สัญญาณหนึ่ง ในขณะเดียวกันก็ท�าการแบ่งช่อง ผูใ้ ชอ้ าจทา� เองไมไ่ ด้ ถา้ ไมม่ คี วามรู้ทางเทคนิค ในขณะความเรว็ สงู สดุ ของการสง่ ขอ้ มลู แบบเรยี ก สัญญาณไว้ใช้ส�าหรับการส่ือสารสัญญาณเสียงท่ี ว่า อัปสตรีม อยู่ที่ประมาณ ๖๔๐ กิโลบิตต่อ เป็นสัญญาณแบบแอนะล็อกแยกออกจากช่อง ประเภทของดเี อสแอลและการใชง้ าน วนิ าที สัญญาณข้อมูล ท�าให้สามารถส่ือสารข้อมูล การใหบ้ รกิ ารเทคโนโลยดี เี อสแอลมหี ลายประเภท คอมพิวเตอร์และสนทนาผ่านโทรศัพท์ได้ในขณะ ๒. SDSL (Symmetric Digital เดยี วกัน อีกท้ังยงั สามารถใชง้ านสอ่ื สารข้อมลู ได้ ๑. ADSL (Asymmetric Digital Subscriber Line) เปน็ เทคโนโลยดี เี อสแอล ตลอดเวลาโดยไม่ต้องมีการเรยี กสายเหมือนการ Subscriber Line) เปน็ เทคโนโลยดี เี อสแอล ท่ี มี ค ว า ม เ ร็ ว ใ น ก า ร รั บ ส ่ ง ด า ว น ์ ส ต รี ม เ ท ่ า กั บ โทรศัพท์อกี ดว้ ย ที่มีการใช้งานตามบ้านเรือนและองค์กรธุรกิจ อปั สตรมี อย่างไรก็ตาม ผปู้ ระกอบการส่วนใหญ่ ขนาดย่อมอย่างแพร่หลาย แนวความคิดของ เ ร่ิ ม เ ป ลี่ ย น จ า ก เ ท ค โ น โ ล ยี ดี เ อ ส แ อ ล ม า เ ป ็ น ต่อมาในช่วงกลางทศวรรษ ๑๙๙๐ (พ.ศ. ADSL มาจากการคาดคะเนว่าการส่งข้อมูลจาก เทคโนโลยีสื่อสารเชิงแสง โดยเริ่มทยอยติดตั้ง ๒๕๓๓-๒๕๔๒) การให้บริการเพลง วิดีโอ เซริ ฟ์ เวอรไ์ ปยงั ผใู้ ชห้ รอื ดาวนส์ ตรมี (Downstream) เคเบลิ เสน้ ใยนา� แสงเขา้ ไปในเขตชมุ ชนทพี่ กั อาศยั เอกสาร และภาพขนาดใหญ่ รวมท้ังส่ือต่าง ๆ จะมีขนาดท่ีใหญ่กว่าการรับข้อมูลจากผู้ใช้หรือท่ี มากขึ้น เนือ่ งจากเทคโนโลยีเส้นใยนา� แสงมีราคา แบบออนไลน์เริ่มเปน็ ท่นี ิยมมากขึ้นอยา่ งรวดเรว็ เรียกว่า อัปสตรีม (Upstream) เนื่องจาก ถูกลง ท�าให้ผู้ประกอบการสามารถให้บริการ กอปรกับการเปล่ียนสายสอื่ สารจากสายทองแดง ธรรมชาตขิ องผู้ใช้มกั ต้องการดาวนโ์ หลดรปู ภาพ อินเทอร์เนต็ ผ่านเคเบิลเส้นใยน�าแสงเพมิ่ ข้ึน เป็นเส้นใยน�าแสงมีค่าใช้จ่ายท่ีสูงมาก ท�าให้ ภาพเคล่อื นไหว วิดีโอ สัญญาณถ่ายทอดสด เกม เทคโนโลยีดีเอสแอลเป็นท่ีสนใจและได้รับการ ออนไลน์ ภาพ ๓ มิติ หรอื ไฟล์ขนาดใหญ่ จาก พัฒนาขนึ้ มาใหม่ เพอื่ ให้บริการสอื่ ต่าง ๆ ผ่าน เซริ ฟ์ เวอรม์ ากกวา่ ทจ่ี ะสง่ ไฟลข์ อ้ มลู ขนาดใหญข่ นึ้
๖๕ เคเบิลเสน้ ใยนาํ แสง (Optical fiber cable) ก�าลังแสงส่วนใหญ่จึงเดินทางไปยังปลายทางได ้ ส่งผลให้เส้นใยน�าแสงมีค่าการลดทอนสัญญาณ (Attenuation) ตา�่ มากประมาณนอ้ ยกวา่ ๐.๓ ดบี ี ตอ่ กโิ ลเมตร (dB/km) และยงั สามารถรองรบั การ สอื่ สารขอ้ มลู ทค่ี วามเรว็ ระดบั เทอราบติ ตอ่ วนิ าท ี (Tb/s) เนอื่ งจากวสั ดทุ ใี่ ช้ทา� เสน้ ใยน�าแสงมกั เปน็ แกว้ และมีขนาดเล็กมาก การโค้งงอเพียงเล็กน้อยอาจ ทา� ใหเ้ สน้ ใยนา� แสงหกั ได ้ จงึ ตอ้ งมโี คต้ ตงิ้ (Coating) ทเี่ ปน็ วสั ดปุ ระเภทพอลเิ มอรเ์ คลอื บผวิ เสน้ ใยนา� แสง โดยรอบ เพ่ือช่วยให้เส้นใยน�าแสงมีความแข็งแรง สามารถโคง้ งอไดโ้ ดยไมแ่ ตกหกั เคเบิลเสน้ ใยนาํ แสง (Optical fiber cable) เป็ นสายส่งสญั ญาณท่ีมี ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของคอร์ของเส้นใย เสน้ ใยนําแสงหน่ึงเสน้ หรือหลายเสน้ รวมกนั อยู่ภายใน เสน้ ใยนําแสง น�าแสงเป็นตัวก�าหนดชนิดของเส้นใยน�าแสง โดย (Optical fiber) เป็ นท่อนําสญั ญาณแสงขนาดเลก็ ท่ีทําจากตวั กลาง ทว่ั ไปถา้ เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางของคอรม์ คี า่ เทา่ กบั หรอื โปรง่ แสง เช่น แกว้ หรือพลาสติก เสน้ ใยนําแสงท่ีใชใ้ นระบบส่ือสารมี นอ้ ยกวา่ ๑๕ ไมโครเมตร มกั จะเปน็ เสน้ ใยนา� แสง ขนาดเล็กประมาณเท่าเสน้ ผมคือ ๑๒๕ ไมโครเมตร (หรือ ๐.๑๒๕ ชนิดโหมดเดี่ยว (Single mode) แต่ถ้าเส้นผ่าน มิลลิเมตร) ศนู ยก์ ลางของคอรม์ ากกวา่ ๑๕ ไมโครเมตร มกั จะ เปน็ เสน้ ใยนา� แสงชนดิ หลายโหมด (Multimode) ทง้ั น้ี ในระบบสอื่ สารระยะทางไกล จะนยิ มใชเ้ สน้ ใยนา� แสง ชนิดโหมดเดี่ยวเนื่องจากมีคุณสมบัติที่สามารถส่ง ขอ้ มลู ทม่ี คี วามเรว็ สงู มากได ้ เชน่ ความเรว็ ระดบั กกิ ะบติ ตอ่ วนิ าท ี (Gb/s) หรอื เทอราบติ ตอ่ วนิ าท ี (Tb/s) ใน ขณะทเ่ี สน้ ใยนา� แสงชนดิ โหมดรว่ มมกั นยิ มใชใ้ นระบบ สอ่ื สารระยะทางใกล้ ๆ หรือใช้ในการส่งสญั ญาณ ควบคมุ ในระบบอตุ สาหกรรม เนอื่ งจากสามารถสอ่ื สญั ญาณขอ้ มลู ดว้ ยความเรว็ ไดต้ า�่ กวา่ ชนดิ โหมดเดย่ี ว วสั ดทุ ใี่ ชใ้ นการนา� แสงมกั ทา� มาจากแกว้ จงึ มกั เรยี กเสน้ ใยนา� แสง โคต้ ติง้ (Coating) วา่ เสน้ ใยแกว้ เสน้ ใยน�าแสงประกอบด้วยวัสดุโปร่งแสงสองช้ัน ช้นั ใน เรยี กวา่ แกนหรอื คอร ์ (Core) อยใู่ นแนวแกนกลาง และมวี สั ดโุ ปรง่ แสง ชน้ั นอกหอ่ หมุ้ ลอ้ มรอบตดิ กนั เรียกว่าแคลดดงิ้ (Cladding) ดังแสดง ในภาพที่ ๑ แกน หรอื คอร ์ จะมคี า่ ดรรชนหี กั เหของแสงสงู กวา่ แคลดดง้ิ เพอ่ื คอร ์ (Core) ท�าให้เกิดปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ท่ีเรียกว่าการสะท้อนกลับหมดหรือ TIR (Total Internal Reflection) ทา� ใหเ้ มอื่ สง่ แสงเขา้ สปู่ ลายดา้ นหนง่ึ แคลดดงิ ้ (Cladding) ของเสน้ ใยนา� แสง แสงจะเดนิ ทางไปยงั ปลายทางอกี ดา้ นหนง่ึ ไดโ้ ดยแสง จะถูกจ�ากัดให้เดินทางอยู่เฉพาะภายในส่วนของคอร์เท่าน้ัน โดยม ี (เสน้ ผา่ นศูนยก์ ลาง 0.12 มิลลิเมตร) แคลดดงิ้ ทา� หนา้ ทเี่ สมอื นเปน็ ผนงั กนั้ แสงไมใ่ หแ้ สงทะลผุ า่ นออกนอกคอร์ ภาพท่ี ๑ โครงสรา้ งของเสน้ ใยแกว้ หรือเสน้ ใยนาํ แสง (Optical fiber)
แจก็ เกต ผนงั กนั ความชืน้ เทปกนั นาํ ้ เสน้ ใยนาํ แสง ๑๓๒—๑๓๓ เชอื กฉีกสาย ส่วนสรา้ งความแขง็ แรง ท่อตนั เทียม ท่อหลวม ตวั รบั แรงดงึ ภาพท่ี ๒ ตวั อยา่ งโครงสรา้ งของเคเบลิ เสน้ ใยนาํ แสงท่มี สี ่วนประกอบพืน้ ฐาน เคเบลิ เสน้ ใยนา� แสงมลี กั ษณะภายนอกคลา้ ย ภายนอกสามารถระบชุ นดิ ของเสน้ ใยนา� แสงภายใน ๒.๓ เคเบลิ ใตน้ า�้ (Submarine cables) สว่ นมาก บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่ืสอสาร เคเบลิ ทว่ั ๆ ไป แตเ่ นอ่ื งจากเสน้ ใยนา� แสงทบี่ รรจุ ได ้ เชน่ สเี หลอื งหมายถงึ เคเบลิ เสน้ ใยนา� แสงชนดิ ใชส้ า� หรบั การสอ่ื สารขอ้ มลู ระหวา่ งภมู ภิ าคใหญ ่ ๆ ภายในสายเคเบิลไม่เหนียวและแข็งแรงเหมือน โหมดเด่ียว ในขณะท่ีสีส้มหมายถึงเคเบิลเส้นใย หรือระหว่างประเทศ ท่ีจ�าเป็นต้องติดตั้งใน ตัวน�าโลหะในสายไฟ เคเบิลเส้นใยน�าแสงจึงมี นา� แสงชนดิ หลายโหมด แนวทางผ่านใตแ้ มน่ ้�า ทะเล หรอื มหาสมุทร สาย โครงสรา้ งภายในทซ่ี บั ซอ้ นกวา่ เพราะตอ้ งหอ่ หมุ้ เคเบิลชนิดนี้มักประกอบด้วยโครงสร้างของท่อ เสน้ ใยนา� แสงดว้ ยวสั ดหุ ลายชนั้ เพอื่ ใหเ้ หมาะสมกบั ๒. เคเบลิ ภายนอกอาคาร (Outdoor หลวมหลาย ๆ ท่อ รวมกันอย่ใู นสายเคเบิลเส้น การน�าไปใช้งานในสภาพแวดล้อมท่ีแตกต่างกัน cables) ถกู ออกแบบสา� หรบั ใชน้ อกอาคารหรอื เดียวกัน สายเคเบิลอาจมีจ�านวนเส้นใยน�าแสง เนื่องจากเคเบิลเส้นใยน�าแสงหนึ่งเส้นภายในอาจ กลางแจง้ โครงสรา้ งภายในของสายเคเบลิ แบบนี้ มากตัง้ แตห่ ลกั รอ้ ยถึงหลกั พนั เส้น ทา� ใหม้ ีขนาด ประกอบด้วยเส้นใยน�าแสงเป็นจ�านวนมากต้ังแต่ มกั เปน็ แบบทอ่ หลวม (Loose buffer) หลายทอ่ เส้นผ่านศูนย์กลางค่อนข้างใหญ่กว่าสายเคเบิล หลายร้อยเส้นถึงกว่าหนึ่งพันเส้น จึงต้องมีการ (Tube) ประกอบเขา้ ดว้ ยกนั รว่ มกบั ตวั รบั แรงดงึ ประเภทอื่น แต่ก็ไม่ถือว่าใหญ่มากเม่ือเทียบกับ เคลอื บสที แี่ ตกตา่ งกนั ลงไปบนโคต้ ตงิ้ เพอ่ื ใชเ้ ปน็ (Strength member) เพอ่ื ชว่ ยใหเ้ คเบลิ สามารถรบั สายเคเบลิ ทองแดงทวั่ ไป สายเคเบลิ ประเภทนอ้ี าจ สญั ลกั ษณใ์ นการระบกุ ารใชง้ านของเสน้ ใยนา� แสง แรงดงึ ได้มากขณะติดตัง้ และใช้งาน ในแต่ละทอ่ มีลักษณะเป็นแบบลูกผสมหรือไฮบริดร่วมกับ แต่ละเส้น (สี) เส้นใยน�าแสงที่ใช้ในการสื่อสาร อาจมเี สน้ ใยนา� แสงอยปู่ ระมาณ ๒-๒๔ เสน้ และ ตวั น�าทองแดง สา� หรับส่งก�าลังไฟฟ้าไปพรอ้ มกัน เมอื่ เคลอื บสบี นโคต้ ตงิ้ แลว้ มกั จะมขี นาดเสน้ ผา่ น เมอื่ รวมกนั ทง้ั สายเคเบลิ อาจมจี า� นวนเสน้ ใยนา� แสง โครงสร้างของสายเคเบิลใต้น�้าจึงมีความซับซ้อน ศนู ยก์ ลางทปี่ ระมาณ ๒๕๐ ไมโครเมตร ตวั อยา่ ง มากถึงหลักร้อยหรือหลักพันเส้น เปลือกหุ้ม กว่าสายเคเบิลชนิดอ่ืน เพราะต้องทนต่อแรงกด โครงสรา้ งของเคเบลิ เสน้ ใยนา� แสงแสดงดงั ภาพท ี่ ๒ ภายนอกของเคเบิลภายนอกอาคารต้องมีความ ของน้า� มาก ๆ ได้เปน็ เวลานาน อีกท้ังต้องมสี ่วน ทนทานตอ่ การเปลยี่ นแปลงของสภาพแวดลอ้ มได้ ประกอบท่ปี อ้ งกนั การร่ัวซมึ ของนา�้ ไดเ้ ป็นอย่างดี ประเภทและการใชง้ าน การจา� แนกเคเบลิ สงู เคเบลิ ภายนอกอาคารอาจจา� แนกออกเปน็ ชนดิ อกี ด้วย เสน้ ใยนา� แสงตามประเภทการใชง้ านสามารถแบง่ ตา่ ง ๆ ตามลกั ษณะการใชง้ าน เชน่ ออกไดเ้ ป็นดังน้ี เคเบิลเส้นใยน�าแสงบางประเภทที่ใช้ใน ๒.๑ เคเบลิ แบบแขวนอากาศ (Aerial cables) ประเทศไทยจะตอ้ งเปน็ ไปตามมาตรฐานผลติ ภณั ฑ์ ๑. เคเบิลภายในอาคาร (Indoor นยิ มใชใ้ นการแขวนโยงระหวา่ งเสา หากโครงสรา้ ง อตุ สาหกรรม (มอก.) ตัวอย่างเชน่ เคเบลิ แบบ cables) ถกู ออกแบบสา� หรบั ใชภ้ ายในอาคาร มรี ปู รา่ งในภาคตดั ขวางคลา้ ยรปู เลขแปด จงึ มชี อื่ แขวนอากาศต้องเป็นไปตาม มอก.๒๑๖๖ เคเบิล โดยทวั่ ไปมกั มขี นาดเลก็ และมจี า� นวนของเสน้ ใยนา� เรียกว่าแบบฟิกเกอร์เอท (Figure-8 Cable) แบบฝังโดยตรงหรือแบบร้อยท่อต้องเป็นไปตาม แสงภายในสายเคเบลิ ไมม่ ากตงั้ แตห่ นงึ่ เสน้ จนถงึ ส�าหรับเคเบิลแบบแขวนอากาศท่ีนิยมใช้ในเมือง มอก.๒๑๖๕ และเคเบิลใต้น�าต้องเป็นไปตาม หลายสบิ เสน้ โครงสรา้ งภายในมกั เปน็ แบบทอ่ แนน่ ไทยเป็นแบบท่ีไม่มีโลหะตัวน�าหรือเป็นฉนวน มอก.๒๑๖๗ (Tight Buffer) หรอื แบบผสมระหวา่ งทอ่ แนน่ กบั ทง้ั หมดมชี อื่ เรยี กวา่ ADSS (All Dielectric Self ทอ่ หลวม (Loose Buffer) และมกั จะไมม่ สี ว่ น Support) ประกอบของโลหะอยเู่ ลย เปลอื กหมุ้ ภายนอกของ เส้นใยนา� แสงอาจทา� มาจากวสั ดุทม่ี ีความยืดหยุ่น ๒.๒ เคเบลิ แบบฝงั โดยตรง (Direct buried cable) พอประมาณ เคเบิลเส้นใยน�าแสงภายในอาคาร หรอื แบบรอ้ ยทอ่ (Duct cable) สา� หรบั การตดิ ตง้ั นยิ มใชก้ บั งานทเ่ี กยี่ วกบั ระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ ใตด้ นิ เพอื่ สรา้ งความเปน็ ระเบยี บและทศั นยี ภาพทดี่ ี ทอ้ งถน่ิ หรอื แลน (LAN) และอุปกรณ์ประเภท ทา� ใหบ้ างคนจงึ เรยี กสายเคเบลิ แบบนวี้ า่ แบบใตด้ นิ เคร่ืองมือวัดทงั้ หลาย เปน็ ตน้ โดยสขี องเปลอื กหมุ้ (Underground cables)
๖๖ การส่ือสารเชงิ แสง (Optical communication)
๑๓๔—๑๓๕ การส่ือสารเชงิ แสง (Optical communication) เป็ นระบบส่ือสารท่ีใชแ้ สงเป็ นพาหนะนาํ ขอ้ มูลเดินทาง จากตน้ ทางไปยงั ปลายทาง หรอื เรียกวา่ ใชแ้ สงเป็ นคล่นื พาห ์ (Carrier) โดยท่วั ไปขอ้ มูลตน้ ทางจะเป็ น สญั ญาณไฟฟา้ ของขอ้ มูลแอนะลอ็ กท่ีเป็ นเสียง ภาพ หรอื ขอ้ มูลดิจทิ ลั ขอ้ มูลท่ีตอ้ งการส่ือสารนีจ้ะถูก ผสมเขา้ กบั แสงท่ีเป็ นคล่นื พาหด์ ว้ ยกระบวนการมอดูเลชนั (Modulation) แสงทบี่ รรจขุ อ้ มลู แลว้ นจี้ ะถกู สง่ ไปยงั ปลายทาง เสน้ ใยนา� แสงในยคุ แรกทผ่ี ลติ ขน้ึ มคี า่ การลดทอน เลเซอรไ์ ดโอด (Laser diode) รวมทัง้ การผลิต บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่ืสอสาร ผ่านอากาศหรือผ่านเส้นใยน�าแสงก็ได้ หากส่ง สัญญาณสูงมากถึง ๑,๐๐๐ ดีบีต่อกิโลเมตร อปุ กรณร์ บั แสงหรอื โฟโตดเี ทกเตอร ์ (Photodetector) ผ่านอากาศถือว่าเป็นระบบส่ือสารเชิงแสงแบบ (dB/km) ท�าให้ยังไม่เป็นที่สนใจในการน�ามาใช้ มีขนาดเล็ก เหมาะกับการน�ามาใช้งานร่วมกับ ไรส้ าย แตถ่ า้ สง่ ผา่ นเสน้ ใยนา� แสงจะเรยี กวา่ ระบบ เป็นสายส่งสัญญาณเช่นเดียวกับสายไฟทองแดง เส้นใยน�าแสงได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งการตอบ ส่ือสารผ่านสาย หรือระบบสื่อสารผ่านเส้นใย อกี ทง้ั ยงั มปี ญั หาการเชอื่ มตอ่ เสน้ ใยนา� แสงทที่ า� ให้ สนองต่อการเปล่ียนสัญญาณไฟฟ้าเป็นสัญญาณ นา� แสง เมอ่ื แสงทบ่ี รรจขุ อ้ มลู เดนิ ทางไปยงั ปลายทาง เกิดการสูญเสียสัญญาณสูง ใน พ.ศ. ๒๕๑๓ แสงทเี่ รว็ เหมาะกบั การสอ่ื สารขอ้ มลู ทม่ี คี วามเรว็ สงู จะผ่านกระบวนการดีมอดเู ลต (Demodulation) (ค.ศ. ๑๙๗๐) บรษิ ทั คอร์นนงิ่ (Corning) ของ มากได ้ ทา� ใหป้ จั จบุ นั โครงขา่ ยสอ่ื สารผา่ นเสน้ ใยนา� เพอ่ื แยกขอ้ มลู ต้นทางออกจากแสง และท�าข้อมูล อเมรกิ า ไดป้ ระสบผลสา� เรจ็ ในการผลติ เสน้ ใยนา� แสงถอื เปน็ โครงขา่ ยหลกั ทส่ี า� คญั ทรี่ องรบั ปรมิ าณ ใหเ้ ปน็ สญั ญาณไฟฟา้ ทม่ี ลี กั ษณะเหมอื นสญั ญาณ แสงจากเนอื้ แกว้ บรสิ ทุ ธ ์ิ ทส่ี ามารถนา� มาใชใ้ นการ ข้อมูลจ�านวนมากในยุคของอินเทอร์เน็ตได้เป็น ตน้ ทางส�าหรับนา� ไปใช้งานตอ่ ไป ส่ือสารข้อมูลเชิงพาณิชย์ได้เป็นรายแรกของโลก อยา่ งด ี จนทา� ใหศ้ าสตราจารยช์ าลสเ์ คา (Charles เสน้ ใยนา� แสงทผ่ี ลติ ขน้ึ ในขณะนนั้ มคี า่ การลดทอน Kao) ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ใน พ.ศ. ขอ้ ดขี องระบบสอ่ื สารเชงิ แสงผา่ นเสน้ ใยนา� แสง สัญญาณสูงถึง ๒๐ ดีบีต่อกิโลเมตร (dB/km) ๒๕๕๒ ในฐานะทมี่ เี ปน็ ผบู้ กุ เบกิ ผลงานวจิ ยั ทท่ี า� ให้ คือ มคี า่ การลดทอนสญั ญาณตา�่ ทา� ใหส้ ามารถสง่ และอกี ไมก่ ่ีปตี อ่ มา เส้นใยนา� แสงได้ถูกพฒั นาให้ เกดิ ระบบสอื่ สารผา่ นเสน้ ใยนา� แสง ข้อมูลไปได้ไกลมาก (อาจมากถึงหลายร้อย มีค่าการลดทอนสัญญาณแสงที่ต่�าลงเหลือเพียง กิโลเมตร) อีกทัง้ ยังรองรับปริมาณข้อมูลจา� นวน ๕ ดีบีต่อกิโลเมตร เช่นเดียวกับเทคโนโลยีการ ระบบสอ่ื สารเชงิ แสงผา่ นเสน้ ใยนา� แสงถกู นา� มาก ๆ ได้ โดยเส้นใยน�าแสงหน่ึงเส้นสามารถ เ ชื่ อ ม ต ่ อ เ ส ้ น ใ ย น� า แ ส ง ท่ี ถู ก พั ฒ น า ใ ห ้ ดี ข้ึ น ม า ใ ช ้ เ ป ็ น เ ค รื อ ข ่ า ย ส่ื อ ส า ร ข ้ อ มู ล ข น า ด ใ ห ญ ่ รองรบั การสอื่ สารขอ้ มลู ทคี่ วามเรว็ ระดบั เทอราบติ จนท�าให้ค่าการสูญเสียสัญญาณของจุดเช่ือมต่อ (Backbone) ท่ีเชื่อมโยงทุกพืน้ ทีภ่ ายในประเทศ ต่อวินาที (Tb/s) และถ้าการเชื่อมโยงระหว่าง มคี ่าลดลงอย่างมาก (นอ้ ยกว่า ๑ ดบี ี) จงึ ท�าให้ ไทยในลษั ณะของโครงขา่ ยหลกั (Core network) สถานีเป็นเคเบิลเส้นใยน�าแสงท่ีประกอบด้วย เสน้ ใยนา� แสงเรมิ่ เปน็ ที่สนใจอยา่ งแพร่หลายมาก อกี ทง้ั ยงั ใชเ้ ปน็ เสน้ ทางเดนิ ขอ้ มลู ไปยงั ประเทศตา่ ง ๆ เสน้ ใยนา� แสงมากกวา่ หนง่ึ เสน้ กย็ งิ่ เพม่ิ ความเรว็ ข้นึ นับแต่น้นั เป็นต้นมา จนกระทัง่ ปัจจบุ นั เส้นใย ท่ัวโลกอีกด้วย ปัจจุบันประเทศไทยมีโครงข่าย ในการส่ือสญั ญาณไดม้ ากขน้ึ อีกเปน็ ทวีคูณ นา� แสงมคี า่ การลดทอนสญั ญาณทต่ี า�่ มากโดยมคี า่ สอ่ื สารผา่ นเสน้ ใยนา� แสงเปน็ จา� นวนมาก ตวั อยา่ ง นอ้ ยกวา่ ๐.๓ ดบี ตี อ่ กโิ ลเมตร เมอื่ ใชง้ านกบั แสง เชน่ โครงการเนต็ ประชารฐั ของรฐั บาลในชว่ ง พ.ศ. ระบบสอื่ สารผา่ นเสน้ ใยนา� แสงเรม่ิ เปน็ ทส่ี นใจ อิ น ฟ ร า เ ร ด ที่ มี ค ว า ม ย า ว ค ลื่ น ใ น ช ่ ว ง ๑ . ๓ ๒๕๖๐ มกี ารใชเ้ คเบลิ เสน้ ใยนา� แสงตอ่ เชอื่ มโยงไป เมอื่ มกี ารทา� วจิ ยั และนา� เสนอรปู แบบและหลกั การ ไมโครเมตร และ ๑.๕๕ ไมโครเมตร ยังหมู่บ้านต่าง ๆ ท่ียังขาดโอกาสในการเข้าถึง ของเสน้ ใยนา� แสงทม่ี โี ครงสรา้ งประกอบดว้ ยเนอ้ื แกว้ อนิ เทอรเ์ นต็ ทว่ั ประเทศรว่ ม ๒๔,๗๐๐ หมบู่ า้ น สองชั้นที่เรียกว่าคอร์ (Core) และแคลดดิ้ง เทคโนโลยขี องเส้นใยนา� แสงเรม่ิ มีบทบาทใน และกา� ลงั มกี ารขยายไปยงั จดุ ตา่ ง ๆ เพม่ิ เตมิ ใน (Cladding) ขนึ้ ในชว่ ง พ.ศ. ๒๕๐๙ (ค.ศ. ๑๙๖๖) การสื่อสารข้อมูลอย่างมาก เน่ืองจากเทคโนโลยี ระยะตอ่ มา เชน่ โรงเรยี น โรงพยาบาล โดยบทความของ เคา (Kao) กับฮอกเกอรแ์ ฮม ของสารกึ่งตัวน�า (Semi-conductor) ท�าให้การ (Hockerham) และบทความของ เวิร์ต (Werts) ผลติ แหลง่ ก�าเนิดแสง เช่น แอลอดี ี (LED) และ ภาพท่ี ๑ ระบบการส่ือสารดว้ ยเสน้ ใยนาํ แสง
๖๗ โทรเลข (Telegraph) โทรเลข (Telegraph) คือ ระบบโทรคมนาคมท่ีใชอ้ ปุ กรณท์ างไฟฟา้ ส่ง ใน พ.ศ. ๒๓๙๔ ได้มีการเช่ือมต่อผ่านสาย ขอ้ ความจากท่หี น่งึ ไปยงั อกี ท่หี น่งึ โดยอาศยั สายตวั นาํ ท่โี ยงตดิ ตอ่ ถงึ กนั เคเบลิ ใตท้ ะเลจากเมอื งโดเวอร ์ (Dover) ไปยงั เมอื ง แลใชอ้ าํ นาจแม่เหลก็ ไฟฟา้ การเร่มิ ตน้ ใหบ้ รกิ ารโทรเลขเชงิ พาณิชยน์ นั ้ คาเลส์ (Calais) ประเทศฝร่ังเศส และเช่ือมต่อ เกิดขนึ ้ ณ ประเทศองั กฤษใน พ.ศ. ๒๓๘๒ โดย วิลเลียม คุก (William เครอื ขา่ ยสายเคเบลิ ใตน้ า�้ ขา้ มมหาสมทุ รแอตแลนตกิ Cooke) และ ชาลส ์ วีตสตนั (Charles Wheatstone) จากนนั ้ แซมมวล เพ่อื เช่อื มโยงทวีปยุโรปกับสหรัฐอเมริกา ฟิ นลี บรซี มอรส์ (Samuel finley Breeze Morse) ไดค้ ิดคน้ รหสั ท่ีใช ้ ในการส่ือสารขึน้ใน พ.ศ. ๒๓๘๗ โดยมีการเรียกช่ือรหสั ดงั กล่าวว่า ในช่วงเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๔๐๐ และเมื่อ รหสั มอรส์ มาถงึ พ.ศ. ๒๔๐๔ หนว่ ยงานรว่ มระหวา่ งภาครฐั และเอกชน ได้ด�าเนินกิจการการวางสายเคเบิล
สาธารณชนท่วั ไปสามารถใชโ้ ทรเลขได้ ใน พ.ศ. พ.ศ. ๒๕๒๐ กรมไปรษณีย์โทรเลขได้โอน ๑๓๖—๑๓๗ ๒๔๕๕ กรมไปรษณีย์โทรเลขได้ประกาศให้ใช้ สว่ นปฏบิ ตั กิ ารใหบ้ รกิ ารโทรคมนาคมของประเทศ รหัสสัญญาณภาษาไทยในการรับส่งโทรเลขข้ึน รวมถงึ บรกิ ารโทรเลขไปอยใู่ นความรบั ผดิ ชอบของ การสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) ซึ่งเป็น ในปตี อ่ มา พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ รัฐวิสาหกิจต้ังข้ึนใหม่ สังกัดกระทรวงคมนาคม อยู่หัว รัชกาลที ่ ๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ เป็นผลให้การให้บริการโทรเลขขยายตัวออกไป กระทรวงทหารเรือจัดต้งั สถานวี ทิ ยุโทรเลขถาวร อย่างกว้างขวางและรวดเร็วด้วยการน�าระบบ ข้ึน ๒ สถาน ี ทีต่ า� บลศาลาแดง พระนคร และอีก ส่ือสารทางดาวเทียม ระบบเคเบิลใต้น้�า และ แหง่ หน่งึ ทจี่ ังหวัดสงขลา อุปกรณโ์ ทรคมนาคมทที่ ันสมยั มาใช้งานเพิ่มเติม ภาพท่ี ๑ แบบจาํ ลองของเคร่ืองโทรเลข ท่ีมอรส์ ภ า พ ท่ี ๓ ตึ ก ท่ี ทํ า ก า ร โ ท ร เ ล ข แ ห่ ง แ ร ก ข อ ง อย่างไรก็ตาม เน่ืองจากเทคโนโลยีด้านการ ใชส้ ่งโทรเลข เม่ือ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๘๗ ประเทศไทย ในกระทรวงกลาโหม ดา้ นมุมวงั สราญ ส่ือสารมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนเกิดบริการ รมย ์ (พ.ศ. ๒๔๑๘) โทรคมนาคมต่าง ๆ ที่มีประสิทธิภาพ สะดวก โทรเลขในโครงการตอ่ ๆ มาอกี โดยไดว้ างสาย รวดเรว็ ทา� ใหป้ ระชาชนสามารถตดิ ตอ่ สอ่ื สารกนั กระจายไปทกุ ภมู ภิ าคทวั่ โลกเปน็ ระยะทางรวมถงึ พ.ศ. ๒๔๙๖ ไดม้ ีการประดษิ ฐค์ ดิ คน้ เครื่อง ไดส้ ะดวก คลอ่ งตวั และมคี วามเปน็ สว่ นตวั มากขน้ึ ๑๘,๐๐๐ กิโลเมตร เชื่อมต่อทุกหวั เมอื งหลักรมิ โทรพิมพภ์ าษาไทยจนสา� เรจ็ เช่น โทรศพั ทเ์ คลื่อนท่ ี อินเทอรเ์ น็ต และอีเมล ชายฝังทะเล กอปรกับการัฒนาการส่งสัญญาณ บริการโทรเลขจึงถูกลดความส�าคัญและส่งผลให้ ดว้ ยคลน่ื วทิ ย ุ จงึ เรยี กว่า วทิ ยุโทรเลข ท�าให้ไม่ ยอดผู้ใช้บริการลดลง จากเดิมที่บริการโทรเลข ตอ้ งประสบปัญหาการพาดสายอีกตอ่ ไป เคยได้รับความนิยมสูงสุดในเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ ซ่ึงมียอดผู้ใช้บริการโทรเลขขาเข้าสูงถึง ๔๘๗,๙๘๔ ฉบบั และขาออกอกี กวา่ ๕๐๐,๐๐๐ ฉบับ ก็กลับเหลือยอดผู้ใช้บริการโทรเลขเพียง เดอื นละประมาณ ๑๐๐ ฉบบั คดิ เปน็ รายไดเ้ พยี ง ๕,๐๐๐ บาทตอ่ เดอื นเท่านัน้ พ.ศ. ๒๕๐๐ กรมไปรษณยี โ์ ทรเลข เร่ิมส่ัง สรา้ งเครอ่ื งโทรพมิ พไ์ ทยจากประเทศญปี่ นุ่ เขา้ มา ใชง้ านรบั สง่ โทรเลขเปน็ รนุ่ แรกระหวา่ งกรงุ เทพฯ- นครสวรรค ์ กรงุ เทพฯ-อตุ รดิตถ-์ เชยี งใหม่ ซง่ึ ตอ่ มาไดข้ ยายการรับสง่ โทรเลขโดยใช้เคร่ือง โทรพมิ พอ์ อกไปท่วั ประเทศ ภาพท่ี ๒ การใชง้ านโทรเลข การรบั สญั ญาณโทร ภาพท่ี ๔ เคร่ืองโทรพิ มพภ์ าษาไทย และภาษา ภาพท่ี ๕ เคร่ืองโทรพิ มพส์ ําหรบั ส่งโทรเลข บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่ืสอสาร อ งั ก ฤษ เ ค ร่ื อ ง แ ร ก ป ร ะ ดิ ษ ฐ โ์ ด ย ด ร . ส ม าน เลขมอรส์ ดว้ ยแถบ เม่อื มีการส่งสญั ญาณเรว็ เกนิ บุณยรตั พนั ธ ์ น อ ก จ า ก น้ั น ก า ร ซื้ อ ห า อุ ป ก ร ณ ์ ร ะ บ บ ส่ื อ สญั ญาณ อปุ กรณเ์ ครอ่ื งรบั สง่ โทรเลขและอปุ กรณ์ ๓๕ คาํ พนกั งานตอ้ งใชว้ ธิ ีขดี เสน้ สญั ญาณลงบน พ.ศ. ๒๕๐๔ อุปกรณ์โทรเลขต่าง ๆ ได้ ที่เกี่ยวข้องในระบบการให้บริการหลายอย่างไม่ ด�าเนินการติดตั้ง และเปิดใช้งานรับส่งโทรเลข สามารถจดั ซอ้ื หรอื จดั หาอะไหลม่ าซอ่ มบา� รงุ ไดอ้ กี แถบกอ่ น แลว้ จงึ พิ มพข์ อ้ ความจากแถบนนั้ ดว้ ย ติดต่อกับต่างประเทศด้วยวงจร HF 1 ARQ เนอ่ื งจากเปน็ อปุ กรณก์ ารสอ่ื สารทล่ี า้ สมยั และบาง เปน็ ตน้ มา โดยเรม่ิ ทา� การตดิ ตอ่ กบั ประเทศญป่ี นุ่ ชิ้นได้ยกเลิกการผลิตไป สุดท้ายการให้บริการ เคร่ืองพิ มพด์ ีด เป็นวงจรแรกและไดเ้ ปดิ เพมิ่ ขึ้นในเวลาต่อมา โทรเลขในประเทศไทยจึงได้ยุติลงในวันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ รวมเป็นระยะเวลากว่า ส�าหรับในประเทศไทยน้ันกิจการโทรเลขได้ ๑๓๓ ปี ในการให้บริการวิทยุโทรเลข เร่ิมต้นขึ้นอย่างเป็นทางการใน พ.ศ. ๒๔๑๘ ซ่ึ ง ต ร ง กั บ รั ช ส มั ย ข อ ง พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี ๕ เมื่อรัฐบาล ไทยมอบหมายให้กรมกลาโหมสร้างทางสาย โ ท ร เ ล ข ส า ย แ ร ก จ า ก ก รุ ง เ ท พ ฯ ไ ป ป า ก น�้ า จ.สมทุ รปราการ และวางสายเคเบิลโทรเลขใต้นา�้ ตอ่ ออกไปถงึ กระโจมไฟ นอกสันดอนปากแมน่ ้�า เจ้าพระยา รวมระยะทางยาว ๔๕ กโิ ลเมตรเพอื่ ทางราชการใชส้ ง่ ขา่ วเกยี่ วกบั การผา่ นเขา้ ออกของ เรอื กลไฟ จากนัน้ ในวนั ท่ี ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๒๖ (ในบางแหลง่ ทมี่ าก็ระบุว่าเปน็ วนั ที ่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๒๖) ได้มีประกาศให้
๖๘ โทรศพั ท ์ (Telephone) โทรศพั ท ์ ตรงกบั คําภาษากรีกวา่ Telephone โดย Tele แปลวา่ ทางไกล และ Phone แปลวา่ การสนทนา เมอ่ื แปลรวมกนั แลว้ กห็ มายถงึ การสนทนา กนั หรอื การสง่ เสียงจากจดุ หน่งึ ไปยงั จดุ หน่งึ ในระยะทางไกล ภาพที่ ๑ อเลก็ ซานเดอร ์ เกรแฮม เบลล ์ ภาพท่ี ๒ องคป์ ระกอบของโทรศพั ทท์ ่ี อเลก็ ซานเดอร ์ เกรแฮม เบลล ์ ประดิษฐ ์ ซ่งึ ไดร้ บั สิทธิบตั ร เม่ือ ๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๑๙ แสดงส่วนต่าง ๆ ของ โทรศพั ทท์ ี่เขาประดิษฐ ์ ผู้ประดิษฐ์โทรศัพท์ได้ส�าเร็จเป็นคนแรกคือ อเลก็ ซานเดอร ์ เกรแฮม เบลล ์ (Alexander Graham Bell) ชาวอเมริกัน ใน พ.ศ. ๒๔๑๙ ประกอบดว้ ย ตวั สง่ (Transmitter) คอื สว่ นสา� หรบั พดู และตัวรับ (Receiver) คือส่วนส�าหรับฟัง ซึ่งมีโครงสร้าง เ ห มื อ น ล� า โ พ ง ใ น ป ั จ จุ บั น มี แ ผ ่ น ไ ด อ ะ แ ฟ ร ม (Diaphragm) ติดอยู่กับขดลวดซ่ึงอยู่ใกล้กับ แม่เหลก็ ถาวร เมื่อมีเสียงมากระทบ แผ่นไดอะแฟรมกจ็ ะส่ัน ทา� ใหข้ ดลวดสนั่ หรอื เคลอ่ื นทตี่ ดั สนามแมเ่ หลก็ เกดิ กระแสไฟฟ้าขึ้นมาในขดลวด กระแสไฟฟ้าน้ีจะว่ิง ตามสายไฟถงึ หูฟัง ซึง่ สว่ นส�าหรบั ฟังกม็ ีโครงสรา้ ง เหมอื นกับสว่ นส�าหรบั พูด เมอื่ กระแสไฟฟ้ามาถงึ ก็ จะทา� ใหเ้ กดิ สนามแมเ่ หลก็ ขนึ้ รอบ ๆ ขดลวดของหฟู งั สนามแมเ่ หลก็ นจ้ี ะไปผลกั หรอื ดดู กบั สนามแมเ่ หลก็ ถาวรของหูฟงั แตเ่ นอ่ื งจากแม่เหล็กถาวรที่หฟู ังนั้น ไมส่ ามารถเคลอ่ื นทไี่ ด ้ ขดลวดและแผน่ ไดอะแฟรม จงึ เปน็ ฝา่ ยถกู ผลกั หรอื ดดู ใหเ้ คลอื่ นท ี่ การทไ่ี ดอะแฟรม เคลอ่ื นท ี่ จงึ เปน็ การตอี ากาศตามจงั หวะของกระแส ไฟฟ้าท่ีส่งมา ท�าให้เกิดเป็นเสียงขึ้นมาในอากาศ
เบลล์ได้น�าโทรศัพท์เข้าประกวดส่ิงประดิษฐ์ใหม่ ๑๓๘—๑๓๙ และได้รับรางวัลส่ิงประดิษฐ์ยอดเย่ียมที่เมือง ฟลิ ลาเดลเฟีย การใชโ้ ทรศพั ทใ์ นประเทศไทย กจิ การ ภาพที่ ๔ การติดตงั้ เคร่ืองชุมสายโทรศพั ทร์ ะบบ ภาพที่ ๖ โทรศพั ทพ์ ื น้ ฐานท่วั ไปในปัจจุบนั โทรศัพท์ในประเทศไทยมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ใน ไฟกลางที่ชุมสายวดั เลียบ ประมาณ พ.ศ. ๒๔๖๕ รชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั คมนาคม โดยแยกกองชา่ งโทรศพั ท ์ ออกจากกรม รัชกาลท ี่ ๕ โดยใน พ.ศ. ๒๔๒๔ โดยสมเดจ็ ไปรษณยี ์โทรเลข มาต้งั เปน็ รัฐวสิ าหกจิ ใชช้ ื่อว่า พระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษี “องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย” สังกัด สวา่ งวงศ ์ เจา้ กรมกลาโหม ณ ขณะนั้น ทรงน�า ก ร ะ ท ร ว ง ค ม น า ค ม ใ ห ้ บ ริ ก า ร ท้ั ง โ ท ร ศั พ ท ์ เ ค ร่ื อ ง โ ท ร ศั พ ท ์ ม า ท ด ล อ ง ติ ด ตั้ ง ท่ี ก รุ ง เ ท พ ฯ สาธารณะและโทรศัพท์ประจ�าท่ี (โทรศัพท์บ้าน) เครอื่ งหนงึ่ และทป่ี ากนา�้ จงั หวดั สมทุ รปราการอกี ทงั้ ในกรงุ เทพฯ และตา่ งจงั หวดั จนเปน็ ทแ่ี พรห่ ลาย เ ค ร่ื อ ง ห น่ึ ง โ ด ย อ า ศั ย ส า ย โ ท ร เ ล ข ร ะ ห ว ่ า ง มาจนถงึ ปจั จบุ ัน กรุงเทพฯ กับปากนา�้ ซงึ่ กรมกลาโหมไดส้ ร้างไว ้ ตัง้ แต ่ พ.ศ. ๒๔๑๘ โดยมวี ัตถปุ ระสงค์เพ่อื แจ้ง ข่าวเรือกลไฟเข้า-ออกที่ปากน�้าสมุทรปราการให้ กรุงเทพฯ รบั ทราบ ภาพที่ ๓ โทรศพั ทร์ ะบบแม็กนิ โต ภาพท่ี ๕ ชุ มสายโทรศพั ท ์ ใน พ.ศ. ๒๕๐๗ โดย พ.ศ. ๒๕๖๐ มีการใช้งานเลขหมาย มี พนกั งานต่อคู่ สาย ส�าหรับโทรศัพท์ประจ�าที่ (Fixed-line) ใน ใน พ.ศ. ๒๔๒๙ กรมโทรเลขไดร้ บั โอนกจิ การ ประเทศไทย ประมาณ ๒.๙๑ ลา้ นเลขหมาย จาก โทรศพั ทจ์ ากกรมกลาโหมมาดา� เนนิ การและขยาย ต ่ อ ม า ป รั บ ป รุ ง เ ป ็ น โ ท ร ศั พ ท ์ อั ต โ น มั ติ ช นิ ด บริษัทผใู้ หบ้ ริการ (Operator) จา� นวน ๒ ราย กิจการต่อไป ประชาชนทั่วไปเริ่มมีโอกาสได้ใช้ หยอดเหรยี ญ โดยขยายการติดตงั้ ณ ทที่ า� การ คอื บริษัท ทโี อที จา� กดั (มหาชน) (TOT) และ โทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยเป็นโทรศัพท์ระบบ ไปรษณีย์โทรเลขทุกแห่งในกรุงเทพฯ ท�าให ้ บรษิ ทั ทร ู คอรป์ อเรชน่ั จา� กัด (มหาชน) (True แม็กนิโต (Magneto system) หรือระบบ ค น ไ ท ย มี โ อ ก า ส ใ ช ้ บ ริ ก า ร โ ท ร ศั พ ท ์ ส า ธ า ร ณ ะ Corp) อย่างไรก็ตาม บริการโทรศัพท์ประจ�าท่ี แบตเตอรไ่ี ฟประจา� เครอ่ื ง (Local Battery หรอื LB) เป็นครั้งแรก ของประเทศไทยมีจ�านวนผู้ใช้บริการลดลงอย่าง ซง่ึ ทา� หนา้ ทป่ี อ้ นกระแสไฟฟา้ ใหก้ บั สว่ นสา� หรบั พดู ตอ่ เนอ่ื งในชว่ งหลายปที ผ่ี า่ นมา เนอื่ งมาจากความ เม่ือจะใชโ้ ทรศพั ท ์ ผใู้ ชต้ อ้ งหมนุ แมก็ นิโตทตี่ ิดอยู่ จากน้ันในวันที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๐ นยิ มบรกิ ารโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นทเี่ ขา้ มาทดแทน และ กับตัวเคร่ืองเพื่อส่งสัญญาณไปยังส่วนกลางท่ีมี ไดม้ กี ารเปดิ ใชช้ มุ สายอตั โนมตั ทิ ผ่ี เู้ ชา่ ใชส้ ามารถ บริการ VoIP ทีส่ ามารถให้ความคุ้มคา่ ด้านราคา พนกั งานตอ่ สายโทรศัพทใ์ ห้ หมุนตัวเลขบนหนา้ ปัด ตดิ ตอ่ ถงึ กนั ได้เองโดยไม่ แก่ผู้บริโภคได้มากกว่าบริการโทรศัพท์พ้ืนฐาน ตอ้ งผา่ นพนักงานตอ่ สาย แบบเดิม นอกจากน้ี ความนยิ มของสมาร์ตโฟน ที่ใช้กบั บริการโทรศัพท์เคล่ือนทบ่ี นเครือขา่ ย 3G ในวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๗ และ 4G ย่ิงเป็นปจั จัยสา� คัญที่เร่งท�าใหแ้ นวโน้ม พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช การใช้งานลดลงเร็วขึน้ ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตรา พระราชบัญญัติจัดต้ัง องค์การโทรศัพท์แห่ง บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่ืสอสาร ประเทศไทย เป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวง ใน พ.ศ. ๒๔๕๐ มีชุมสายโทรศัพท์แห่งแรก ภาพท่ี ๗ จาํ นวนเลขหมายโทรศพั ทป์ ระจาํ ท่ีในแต่ละปี ในประเทศไทย ณ สา� นักงานโทรศัพทก์ ลาง (วดั เลยี บ) เปน็ โทรศพั ทต์ ดิ ตง้ั เครอื่ งระบบ “แบตเตอร่ี ไฟกลาง” ใช้พนกั งานตอ่ สาย (Central Battery: CB) เป็นชุมสายก่ึงอัตโนมัติ ต่อจากนั้น พ.ศ. ๒๔๕๔ มีการติดตั้งโทรศัพท์สาธารณะ ณ ทที่ า� การโทรศพั ทก์ ลาง ถนนจกั รเพชร เปน็ แหง่ แรก
๖๙ เครือข่ายส่วนบุคคล (แพน) (PAN: Personal Area Network)
เครอื ข่ายส่วนบุคคล (PAN: Personal Area ภาพท่ี ๒ เครือข่ายส่วนบุคคล หรือแพน ๑๔๐—๑๔๑ Network) เป็ นเครอื ขา่ ยคอมพิ วเตอรส์ าํ หรบั การเชอ่ื มต่อท่อี ยใู่ นระยะไม่เกนิ ๑๐ เมตร โดย เดนมาร์กและนอร์เวย์ในยุคของไวก้ิง และต้องการรวมประเทศให้ บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่ืสอสาร มี จุดประสงคห์ ลกั เพ่ื อแลกเปล่ียนหรือโอน เป็นหนึ่งเดียว เปรียบเสมือนกับการเช่ือมโยงคอมพิวเตอร์และ ถ่า ย ข อ้ มู ลร ะ ห ว่ า ง อุ ป กร ณ เ์ ค ร่ือ ง ใช ส้ ่ ว น อุปกรณส์ อื่ สารตา่ ง ๆ เข้าด้วยกนั บุ ค ค ล เ ช่ น โ ท ร ศ พั ท เ์ ค ล่ื อ น ท่ี แ ท็ บ เ ล็ ต หลังจากนน้ั ก็ไดม้ ีการปรับปรงุ เทคโนโลยีน้ีเร่อื ยมาจนใน พ.ศ. คอมพิ วเตอร ์ ฯลฯ (ดงั แสดงตวั อย่างใน ๒๕๖๑ ไดม้ ี Bluetooth 4.0 คอื เทคโนโลยที พี่ ฒั นาขนึ้ โดยมแี นวคดิ ภาพ ท่ี ๑ ) ย ก ต วั อ ย่ า ง เ ช่ น การ เ ช่ือ ม ต่ อ ในดา้ นของการประหยดั พลังงานแทน จึงได้ออกมาเปน็ Bluetooth ค อ ม พิ ว เ ต อ ร เ์ พ่ื อ ส่ ง ข อ้ มู ลพิ ม พ เ์ อ ก ส า ร Low Energy หรือทร่ี จู้ กั กันวา่ Bluetooth LE หรือ BLE ไปยงั เคร่อื งพิ มพ ์ การเช่อื มต่อคอมพิ วเตอร ์ นอกจากบลูทูธแล้ว ในปัจจุบันมีมาตรฐานท่ีได้รับความนิยม กบั พีดเี อ (PDA: Personal Digital Assistant) มากขนึ้ นนั่ คอื ซกิ บ ี (Zigbee) โดยไดร้ บั การพฒั นาขนึ้ เพอื่ ใหใ้ ชไ้ ด้ เ พ่ื อ แ ล ก เ ป ล่ี ย นข อ้ มู ล ห รื อ ก า ร เ ช่ือ ม ต่ อ กับอปุ กรณท์ ไ่ี มซ่ า้� ซอ้ นและใชง้ ่ายกว่าบลทู ธู ตัวอยา่ งการใช้ซิกบกี ็ กลอ้ ง ดิ จิ ท ลั เ พ่ื อ ส่ ง ข อ้ มู ล ภาพ เ ข า้ เ ค ร่ื อ ง คือ การควบคุมสวิตช์ไฟฟ้าในบ้านเพ่ือควบคุมการใช้พลังงาน คอมพิ วเตอร ์ การเช่อื มต่อระหวา่ งโทรศพั ท ์ การควบคมุ สญั ญาณจราจร การใชก้ บั เครอ่ื งมอื ในงานอตุ สาหกรรม แบบสมารต์ เพ่ื อสง่ ขอ้ มูลถงึ กนั โดยไม่ตอ้ งใช ้ และงานดา้ นการแพทย ์ ซกิ บใี ชค้ ลน่ื วทิ ยคุ วามถ ่ี ๒.๔ GHz เหมอื นกบั อิ น เ ท อ ร เ์ น็ ต ห รื อ ก า ร เ ช่ื อ ม ต่ อ โ ท ร ศ พั ท ์ บลทู ธู แตบ่ างประเทศอาจจะใชค้ ลน่ื ความถอ่ี นื่ และมอี ตั ราความเรว็ เคล่อื นท่ีกบั หูฟังและไมโครโฟนแบบไรส้ าย ในการสง่ ขอ้ มลู ระหวา่ ง ๒๐ kbit/s จนถงึ ๒๕๐ kbit/s ซกิ บกี า� หนด ขน้ึ ตามมาตรฐานสากลคอื IEEE 802.15.4 และไดร้ บั การยอมรบั เทคโนโลยีท่ีนาํ มาใช ้ การสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ในแพนนั้น มาต้ังแต่ พ.ศ. ๒๕๔๗ นิยมใช้เทคโนโลยีเครือข่ายแบบไร้สายเพ่ือให้เกิดความสะดวกแก่ เครือข่ายส่วนบุคคล (PAN) ท�าให้การสื่อสารสะดวกและ ผู้ใช้ โดยบลูทูธ (Bluetooth) เป็นเกณฑ์วิธี หรือโพรโทคอล รวดเร็วยิง่ ขน้ึ เนื่องจากมอี ตั ราการรบั สง่ ข้อมลู ท่ีรวดเร็วมาก และ (protocol) ใช้คลืน่ วทิ ยคุ วามถ ี่ ๒.๔ GHz คา� ว่า บลทู ธู เป็นชื่อ ชว่ ยใหผ้ ูใ้ ช้สามารถเช่ือมต่ออุปกรณ์ตา่ ง ๆ ของตนเองเข้าด้วยกัน ร หั ส โ ค ร ง ก า ร พั ฒ น า เ ท ค โ น โ ล ยี ส่ื อ ส า ร ร ะ ย ะ ใ ก ล ้ ซึ่ ง มี บ ริ ษั ท โดยท่ีไม่ต้องเช่ือมต่อกับอินเทอร์เน็ต แต่อุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อม อีริคสัน ไอบีเอ็ม อินเทลโนเกีย และโตชิบา ร่วมกันด�าเนินการ โยงกันจะต้องอยู่ในบริเวณใกล้กัน และเพ่ิมจากเครือข่ายไร้สาย ต้งั แต่ พ.ศ. ๒๕๓๗ โดยจัดต้ังเปน็ คณะกรรมการ ช่ือ Bluetooth เครอื ขา่ ยสว่ นบคุ คลอาจจะถกู โจมตจี ากผไู้ มป่ ระสงคด์ ไี ดง้ า่ ย ดงั นนั้ Special Interest Group (Bluetooth SIG) และได้ประกาศใช ้ ผู้ใช้ตอ้ งกา� หนดรหัสผ่านในการเข้าถึงเครือข่าย โดยผใู้ ช้ควรต้งั ค่า Bluetooth 1.0 ใน พ.ศ. ๒๕๔๒ โดยคา� ว่า Bluetooth มาจากคา� รหัสใหผ้ อู้ ่ืนเดาไดย้ าก และควรเปลย่ี นรหัสผ่านเปน็ ประจ�า ว่า Blátönn ในภาษาของนอรส์ (Norse) หรือ Blåtand ในภาษา ของชาวเดนิช (Denish) ซ่ึงเป็นชื่อของกษัตริย์ฮารัลด์ที่ ๑ ของ ประเทศเดนมาร์ก (Harald) มีช่ือเต็มว่า “Harald Bluetooth” (ภาษาเดนมารก์ Harald Blåtand) กษตั รยิ อ์ งคน์ ไ้ี ดป้ กครองประเทศ ภาพท่ี ๑ การเช่อื มโยงอุปกรณต์ ่างๆ ดว้ ยบลูทูธ
๗๐ เครอื ขา่ ยเฉพาะท่ี (แลน) การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ (LAN: Local Area เข้าด้วยกันเปน็ เครือขา่ ยน้ันมี ๒ วธิ ี คือ แบบใช้ Network) สายสอื่ สาร (Wired network) และแบบไร้สาย (Wireless network) วิธีการเชื่อมต่อกันโดยใช้ เครือข่ายเฉพาะท่ี (LAN: Local Area Network) เ ป็ น เ ค รื อ ข่ า ย สายสอ่ื สารนน้ั อาจจะใชส้ ายทองแดง หรอื สายใยแกว้ คอมพิ วเตอรท์ ่ีเช่อื มโยงคอมพิ วเตอรแ์ ละอุปกรณต์ ่าง ๆ เขา้ ดว้ ยกนั น�าแสง (Optical fiber cable) ก็ได้ แลนแบบ โดยคอมพิ วเตอรแ์ ละอุปกรณเ์ หล่านนั ้ติดบริเวณท่ีไม่ห่างไกลกนั มาก ไร้สายน้ันนยิ มใชม้ าตรฐาน IEEE 802.11 ทรี่ ูจ้ ัก เช่น ภายในบา้ น ภายในอาคารเดียวกนั หรือระหว่างอาคารในบริเวณ กันดีในช่ือ Wi-Fi เครือข่ายไร้สายนี้มีความเร็วใน ขา้ งเคียง จดุ ประสงคข์ องแลนมกั ใชเ้ พ่ื อติดต่อส่ือสารกนั ในกลุ่มเลก็ ๆ การสอ่ื สารต้ังแตป่ ระมาณ ๑๑ Mbps (Megabits หรอื องคก์ รเดยี วกนั ตลอดจนเพ่ื อใชท้ รพั ยากรตา่ ง ๆ รว่ มกนั ตวั อยา่ ง per second หรอื ๑,๐๐๐,๐๐๐ บิตต่อวนิ าที หรือ เช่ น การเช่ือมต่อคอมพิ วเตอรภ์ ายในหอ้ งปฏิบตั ิการคอมพิ วเตอร ์ ประมาณ ๖๐,๐๐๐ ตัวอักษรต่อวินาที) ไปถึง การเชอ่ื มต่อคอมพิ วเตอรแ์ ละอปุ กรณต์ ่าง ๆ ภายในสํานกั งาน ๑,๐๐๐ Mbps. ส่วนแลนแบบใช้สายน้ันนิยมใช้ มาตรฐาน IEEE 802.3 ทีเ่ รยี กกันวา่ อเี ทอร์เน็ต (Ethernet) และมีความเร็วในการสื่อสารตั้งแต ่ ๑๐๐ Mbps ไปจนถงึ ๑ Gbps (Gigabits per second หรอื หนงึ่ พนั ลา้ นบติ ตอ่ วนิ าท)ี ในภาพรวมแลว้ แลน แบบใชส้ ายจึงมสี มรรถนะสงู กว่าแลนแบบไรส้ าย
การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันเป็น เ ค รื อ ข่ า ย แ บ บ ว ง แ ห ว น ( R i n g ๑๔๒—๑๔๓ แลนนั้นแบ่งตามลักษณะการเชื่อมต่อได้ ๒ Topology) เปน็ การเช่ือมต่อแต่ละสถานีเขา้ ลักษณะ คือ เครือข่ายแบบเพียร์ทูเพียร์ (Peer ดว้ ยกันแบบวงแหวน ดังแสดงในภาพที่ ๒ การ ภาพท่ี ๓ รูปร่างเครือข่ายแบบดาว to Peer) เป็นเครือข่ายขนาดเล็กท่ีเหมาะ เช่ือมต่อรูปแบบนี้ข้อมูลจะถูกส่งต่อไปในทิศทาง ส�าหรับการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ต�่ากว่า ๑๐ เดียวกันจนสถานีท่ีอยู่บนสายส่ือสารน้ีเม่ือได้รับ เครอื ขา่ ยแบบเมซ (Mesh topology) เคร่ือง และทุกเครื่องต้องสามารถประมวล ข้อมูลก็จะพิจารณาว่าเป็นข้อมูลของตนหรือไม ่ การเชอ่ื มตอ่ รปู แบบนน้ี ยิ มสรา้ งบนเครอื ขา่ ยแบบ ข้อมูลได้ โดยเครือข่ายลักษณะน้ีจะไม่ค�านึงถึง ถ้าใช่ก็รับไว้ ถ้าไม่ใช่ก็จะส่งข้อมูลน้ันต่อไป การ ไร้สาย โดยมีอุปกรณ์จัดเส้นทาง (Router) ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย ด ้ า น ข ้ อ มู ล ม า ก นั ก ส ่ ว น อี ก เช่ือมต่อรูปแบบน้ีสามารถรองรับสถานีได้เป็น ท�าหน้าที่สร้างเส้นทางระหว่างสถานีแต่ละคู่ให้ ลกั ษณะการเชอ่ื มตอ่ คอื เครอื ขา่ ยแบบไคลเอนต/์ จ�านวนมาก แต่มีข้อเสียคือสถานีต้องรอจนถึง สามารถสอ่ื สารกนั ได ้ ดังแสดงในภาพท่ี ๔ การ เซิร์ฟเวอร์ (Client/Server) เป็นเครือข่ายท่ีใช้ รอบของตนเองก่อนจึงสามารถส่งข้อมูลได้ เ ช่ื อ ม ต ่ อ รู ป แ บ บ นี้ เ ป ็ น ท่ี นิ ย ม ม า ก ใ น ป ั จ จุ บั น วิ ธี ก า ร ป ร ะ ม ว ล ผ ล จ า ก ศู น ย ์ ก ล า ง ห รื อ เ ค ร่ื อ ง เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงมาก โดยหากมี เซิร์ฟเวอร์เป็นหลัก เครือข่ายลักษณะนี้มีการ ภาพท่ี ๒ รูปร่างเครือข่ายแบบวงแหวน เสน้ ทางของการเชอื่ มตอ่ ของสถานคี ใู่ ดคหู่ นงึ่ ขาด ท�างานเป็นระบบมากกว่าเครือข่ายแบบเพียร์ทู จากกัน อุปกรณ์จัดเส้นทางจะเช่ือมต่อเส้นทาง เพียร์ จึงสามารถดูแลรักษาความปลอดภัยของ เครอื ข่ายแบบดาว (Star topology) ใหม่ไปยังจุดหมายปลายทางโดยอัตโนมัติ ท�าให้ ข้อมูลได้มากกว่า เป็นการเชื่อมต่อทุกสถานีในเครือข่ายกับหน่วย การติดต่อส่ือสารระหว่างคู่นั้นยังสามารถติดต่อ สลับสายกลาง เช่น ฮับ (Hub) หรือสวิตช์ กนั ได้ในอนาคต แลนสา� หรบั ใช้ในบา้ นเรือนจะมี นอกจากนก้ี ารเช่ือมต่อแลนอาจแบง่ ไดต้ าม (Switch) ดงั แสดงในภาพที่ ๓ โดยหน่วยสลับ ความสา� คญั และไดร้ บั ความนยิ มมากขน้ึ ทงั้ นเี้ ปน็ รูปร่างเครือข่าย (Network topology) ซ่ึงเป็น สายกลางจะรับขอ้ มลู จากสถานใี นเครือข่าย แลว้ เพราะอปุ กรณเ์ คร่ืองใช้ตา่ ง ๆ ในบา้ นจะสามารถ ลกั ษณะทางกายภาพของการเชอื่ มตอ่ แบง่ ไดเ้ ปน็ พจิ ารณาเพื่อส่งขอ้ มลู ไปยังสถานเี ปา้ หมาย การ ส่ื อ ส า ร กั น ไ ด ้ โ ด ย เ ท ค โ น โ ล ยี อิ น เ ท อ ร ์ เ น็ ต ข อ ง ๔ รูปแบบ ไดแ้ ก่ เชอื่ มตอ่ เครอื ขา่ ยดาวนหี้ ากมสี ถานใี ดเสยี หายจน สรรพสงิ่ (Internet of Things) จะทา� ใหโ้ ทรทศั น ์ ท�างานไม่ได้ หรือสายท่ีเช่ือมต่อระหว่างหน่วย เครอ่ื งเสยี ง ตเู้ ยน็ กานา้� รอ้ น เตาไมโครเวฟ กลอ้ ง เครือข่ายแบบบสั (Bus topology) สลบั สายกลาง (ฮบั หรอื สวติ ช)์ กบั สถานใี ดชา� รดุ วีดิทัศน์ เคร่ืองปรับอากาศ เคร่ืองตรวจจับ เป็นการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็ จ ะ ไ ม ่ ก ร ะ ท บ ต ่ อ ก า ร เ ชื่ อ ม ต ่ อ ข อ ง ส ถ า นี อ่ื น สญั ญาณบุกรกุ ประตู หนา้ ตา่ งทีต่ ดิ ตงั้ อปุ กรณ์ เป็นเครือข่ายโดยใช้สายสื่อสารหลักเพียงสาย โดยสถานีอื่น ๆ ในเครือข่ายสามารถส่งข้อมูล รบั สง่ ข้อมูล จะทา� ให้ส่งขอ้ มูลถงึ กันได้ เป็นตน้ เดียวที่เรียกว่า บัส (Bus) ดังแสดงตัวอย่างใน ถงึ กนั ไดต้ ามเดมิ แตห่ ากหนว่ ยสลบั สายกลางเสยี ภาพที่ ๑ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ หายจะส่งผลให้ทุกสถานีในเครือข่ายไม่สามารถ จุดเชื่อมต่อเรียกว่าสถานี (Node) และแต่ละ สง่ ขอ้ มลู ถงึ กนั ได ้ ขอ้ ดอี กี ประการหนงึ่ คอื การเพม่ิ สถานีเชื่อมต่อกันด้วยสายสื่อสารหลักเพ่ือให้ สถานีใหม่เข้ามาในเครอื ขา่ ยรปู แบบนท้ี า� ไดอ้ ยา่ ง สื่อสารข้อมูลกัน สามารถส่งสัญญาณไปใน สะดวก เพียงเชือ่ มต่อสายสือ่ สารจากหนว่ ยสลบั ทิศทางใดก็ได้ ดังนั้นจึงมีปัญหาคือแต่ละสถานี สายกลางไปสถานนี นั้ ไดเ้ ลยโดยทไ่ี มต่ อ้ งหยดุ การ อาจส่งข้อมูลเข้าไปในสายส่ือสารในเวลาเดียวกัน เชอื่ มตอ่ ของสถานอี นื่ ในเครอื ขา่ ย ทา� ใหก้ ารเชอื่ ม ซ่ึ ง จ ะ ท�า ใ ห ้ สั ญ ญ า ณ ข ้ อ มู ล ช น กั น แ ล ะ ห า ก เ กิ ด ตอ่ แบบดาวเป็นที่นยิ มใช้ในปัจจบุ นั ความเสียหายขึ้นกับบัสเพียงจุดเดียวก็จะส่งผล ให้ทุกอุปกรณ์ไม่สามารถสื่อสารถึงกันได้เลย จากปัญหาข้างต้นท�าให้การเช่ือมต่อรูปแบบน้ี ไม่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน ภาพท่ี ๔ รูปร่างเครือข่ายแบบเมซ บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่ืสอสาร ภาพท่ี ๑ รูปร่างเครือข่ายแบบบสั
๗๑ เครือข่ายระดบั เมือง (แมน) (MAN: Metropolitan Area Network) แมน หรอื เครอื ขา่ ยระดบั เมอื ง เป็ น เครอื ข่ายท่ีใชก้ ารเชอ่ื มต่อระหวา่ ง แ ล น ท่ี อ ยู่ ห่ า ง ไ ก ล ก นั เ ช่ น ก า ร เชอ่ื มตอ่ เครอื ขา่ ยระหวา่ งสาํ นกั งาน การเช่ือมต่อท่ีอยู่ระหว่างช่วงตึก หรือเคเบิ ลที วีท่ีเช่ือมต่ อระหว่าง สถานี ส่งสญั ญาณไปยงั บา้ นพกั อาศยั เครือข่ายระดบั เมืองอาจ เป็ นแบบใชส้ ายส่อื สาร โดยเชอ่ื มตอ่ ดว้ ยสายใยแกว้ นําแสง (Optical fiber cable) หรอื บางครงั้อาจเป็ น แบบไรส้ าย โดยใชค้ ล่นื ไมโครเวฟ เชอ่ื มตอ่ ดงั แสดงในภาพท่ี ๑ ด้านเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายที่น�ามาใช้กับ ภาพท่ี ๑ เครือข่ายระดบั เมือง หรือแมน อย่างไรก็ตาม การประยุกต์ใช้แมนมีข้อจ�ากัด แ ม น ไ ด ้ มี ก า ร พั ฒ น า W i M A X ( W o r l d w i d e ด้านค่าใช้จ่าย เนื่องจากอุปกรณ์ที่ใช้ในการติดต้ัง Interoperability for Microwave Access) เพื่อใช้ ป ร ะ โ ย ช น แ์ ล ะ การใชง้ าน ใ น อ นา ค ต เครอื ขา่ ยนั้นมีราคาสูง ซงึ่ ระยะห่างในการเชอ่ื มตอ่ เ ป ็ น ม า ต ร ฐ า น ใ น ก า ร เ ชื่ อ ม ต ่ อ แ ม น แ บ บ ไ ร ้ ส า ย แมนช่วยอ�านวยความสะดวกในการส่ือสาร เครอื ขา่ ยอาจเปลย่ี นแปลงไดโ้ ดยขน้ึ อยกู่ บั เทคโนโลยี ไดผ้ า่ นการรบั รองมาตรฐาน IEEE 802.16 มคี วามเรว็ ที่น�ามาประยุกต์ใช้ อีกท้ังจ�าเป็นต้องใช้ซอฟต์แวร์ สงู กวา่ ๗๒ megabits/sec และสามารถสง่ สญั ญาณ ให้กับองค์กรธุรกิจต่าง ๆ เนื่องจากข้อมูลเป็น ระดับสูงเขา้ มาช่วยในการจัดการ เพ่ือให้การใช้งาน ไปยังเครื่องของผู้รับผ่านคล่ืนไมโครเวฟได้โดย องค์ประกอบที่ส�าคัญในการด�าเนินงาน เม่ือธุรกิจ เครอื ขา่ ยมคี วามปลอดภยั และมคี วามนา่ เชอื่ ถอื ดงั นนั้ ไม่ต้องอาศยั สายใยแกว้ นา� แสง ขยายตวั ท�าให้เกดิ ส�านกั งานใหม่ ๆ กระจายตัวกัน บางองค์กรเม่ือต้องการเช่ือมต่อเครือข่ายระหว่าง ออกไป ทุกส�านักงานที่อยู่ห่างไกลกันยังสามารถ แลนท่ีอยู่ห่างไกลกันจึงอาจน�าแวนเข้ามาประยุกต์ การประยกุ ตใ์ ชแ้ มนโดยทว่ั ไปจะเนน้ การใชง้ าน ส่งข้อมูล ถึงกันได้อย่างรวดเร็วผ่านการเช่ือมต่อ ใชเ้ พอ่ื ใหเ้ กดิ ความคมุ้ คา่ ในการลงทนุ เนอื่ งจากแวน ภายในองค์กร ท่ีมีสาขาหรือส�านักงานกระจายอยู่ ด้วยแมน เพ่ิมประสิทธิภาพในการท�างานให้กับ เปน็ เครอื ขา่ ยบรเิ วณกวา้ งซงึ่ สามารถเชอ่ื มตอ่ ระหวา่ ง ท่ัวไปเป็นบริเวณกว้างที่จะต้องท�าร่วมกันระหว่าง พนักงาน และสร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริหาร แลนทอี่ ยไู่ กลกนั มากขน้ึ ซง่ึ จะกลา่ วถงึ ในหวั ขอ้ ถดั ไป ส�านักงานใหญ่กับส�านักงานสาขา เช่น การตรวจ นอกจากน้ีในสถานศึกษาก็น�าไปประยุกต์ใช้เพ่ือ สอบยอดเงนิ ในบญั ชเี งนิ ฝากของลกู คา้ ณ สา� นกั งาน อา� นวยความสะดวกในการจดั การขอ้ มลู ผเู้ รยี นผสู้ อน สาขา หรอื เคร่ืองรับจ่ายเงนิ อัตโนมัติ (Automatic หรอื ชว่ ยให้ การส่ือสารระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน Teller Machine: ATM) ผา่ นเครอื ขา่ ยมายงั สา� นกั งานใหญ่ สะดวกมากยิ่งขน้ึ ซึง่ เปน็ การเพม่ิ ศกั ยภาพทางการ และสง่ ข้อมูลกลบั งานประยุกต์ลักษณะนย้ี ังต้องใช้ เรยี นรอู้ กี ดว้ ย เทคโนโลยรี ะดบั สงู เชน่ การใชซ้ อฟตแ์ วรท์ เี่ ชอื่ ถอื ได้ (Trusted software) การเข้ารหัส (Encryption) หรือการวเิ คราะหข์ อ้ มลู (Data analytics)
๗๒ เครอื ข่ายบรเิ วณกวา้ ง (แวน) ๑๔๔—๑๔๕ (WAN: Wide Area Network) แวน หรือเครือข่ายบริเวณกวา้ ง เป็ นเครือข่ายท่ีใชเ้ ช่ือมโยงกบั การเปลย่ี นแปลงอยา่ งกวา้ งขวางในการใชเ้ ครอื ขา่ ย เครือข่ายอ่ืนท่ีอยู่ไกลกนั มาก เช่น เครือข่ายระหว่างจงั หวดั หรือ คอมพวิ เตอร์ เพราะผใู้ ชค้ อมพวิ เตอรใ์ นเครอื ขา่ ย ระหวา่ งภาคในประเทศ รวมถงึ เครอื ข่ายระหวา่ งประเทศ หนึ่งสามารถท�างานร่วมกับผู้ใช้ในอีกเครือข่าย หนึ่งได้ โดยการก�าหนดต�าแหน่งท่ีอยู่ของผู้ใช้ ภาพท่ี ๑ ต้นคริสต์ทศวรรษ ๑๙๙๐ มีการพัฒนา อินเทอร์เน็ตโพรโทคอล หรือไอพีแอดเดรส บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่สอืสาร โพรโทคอลท่เี รียกว่า “เฟรมรเี ลย์ (Frame relay)” (IP address) ของแต่ละเครือข่ายให้เป็นแบบ แวนทา� ใหผ้ คู้ นทอ่ี ยหู่ า่ งไกลกนั คนละประเทศ ข้ึนมาจาก X.25 โดยเฟรมรีเลยช์ ่วยให้การรบั สง่ เดยี วกนั ตา� แหนง่ ท่อี ย่นู ้วี า่ IP Address สามารถตดิ ตอ่ สอ่ื สารกนั ไดอ้ ยา่ งสะดวก บรษิ ทั ท่ี ขอ้ มลู ในเครอื ขา่ ยนน้ั รวดเรว็ ยง่ิ ขนึ้ และชว่ ยลดคา่ มีส�านักงานอยู่ในหลาย ๆ ประเทศสามารถรับ ใชจ้ า่ ยในดา้ นอปุ กรณเ์ ชอ่ื มตอ่ และสายสอ่ื สาร แต่ การใช้อินเทอร์เน็ตในระยะแรกน้ันส่วนมาก ส่งข้อมูลกันไดท้ ันที และท�าให้เกดิ การพัฒนาใน กเ็ ป็นโพรโทคอลทไ่ี ม่เหมาะสมในการรบั สง่ ขอ้ มลู เนน้ ไปทกี่ ารรบั และสง่ ขอ้ มลู หรอื คน้ หาขอ้ มลู ใน ดา้ นธรุ กิจอยา่ งตอ่ เน่อื ง ดังแสดงในภาพที่ ๑ ประเภทเสียงหรือภาพเคล่ือนไหว เนื่องจากการ เครื่องของผู้ใช้ในอีกเครือข่ายหน่ึง หลังจากน้ัน หนว่ ง (Delay) ของโพรโทคอลประเภทน้ี จะทา� ให้ ทิมโมที จอห์น เบอร์เนิร์ส-ลี (Timothy John ป ร ะ ว ตั ิ ค ว า ม เ ป็ น ม า ค ริ ส ต ์ ท ศ ว ร ร ษ ขาดความต่อเนื่องของข้อมูล ตัวอย่างการรับส่ง Berners-Lee) นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษซึ่ง ๑๙๗๐ คอมพวิ เตอรข์ นาดใหญท่ ใ่ี ชก้ นั ในวงการ ข้อมลู ประเภทเสยี งหรอื ภาพเคลอ่ื นไหว เชน่ การ ทา� งานอยทู่ หี่ อ้ งปฏบิ ตั กิ ารเซริ น์ (CERN = European ธุรกิจ มักจะเรียกว่าเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ ประชมุ ทางวดี ทิ ศั น์ (Videoconference) เปน็ การ Organization for Nuclear Research) ใน (Mainframe computer) การเชื่อมต่อระหว่าง ประชมุ ท่ีผู้เข้าร่วมประชุมอยู่คนละสถานที่และ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้พัฒนาเวิลด์ไวด์เว็บ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ จะตอ้ งสอื่ สารขอ้ มลู กนั ทง้ั ภาพและเสยี ง หากเกดิ (World Wide Web: WWW) ขน้ึ เพอ่ื ใช้งานบน อน่ื ๆ ทีม่ ีขนาดเลก็ กวา่ ที่ตงั้ อยูใ่ นอกี เมืองหนึง่ จะ การหนว่ งกจ็ ะทา� ใหก้ ารสอื่ สารนน้ั ไมร่ าบรนื่ ขอ้ มลู อนิ เทอรเ์ น็ตใน ค.ศ. ๑๙๘๙ ตอ้ งอาศยั สายเคเบลิ ของผใู้ ห้บริการทางโทรศัพท์ ท่ีสือ่ สารอาจไม่ครบถ้วนและก่อใหเ้ กิดผลเสยี ได้ เป็นตัวกลาง โดยใช้เกณฑ์วิธี หรือโพรโทคอล ประโยชนแ์ ละการใชง้ านในอนาคต (protocol) ที่ใช้ในการเช่ือมต่อ คือ เอกซ์.๒๕ ก า ร ป รั บ ป รุ ง ส� า คั ญ ร ะ ย ะ ต ่ อ ม า คื อ ก า ร ใ ช ้ ปัจจุบันแวนเข้ามามีบทบาทในการด�าเนิน ( X . 2 5 ) ที่ ส ห ภ า พ โ ท ร ค ม น า ค ม น า น า ช า ติ อนิ เทอรเ์ นต็ โพรโทคอล (Internet Protocol: IP) (International Telecommunication Union) ซึ่งเป็นโพรโทคอลในการสื่อสารข้ามเครือข่าย ชีวิตมากข้ึน การค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ก�าหนดขน้ึ ตัวอย่างการเช่อื มตอ่ นี้ เชน่ ธนาคาร คอมพวิ เตอร์ และเปน็ เทคโนโลยพี นื้ ฐานของการ หรือใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในการสื่อสาร ค้นหา สามารถสร้างเครือข่ายเพื่อเช่ือมเมนเฟรมคอม- เกดิ อนิ เทอรเ์ นต็ แนวคดิ นท้ี า� ใหส้ ามารถสง่ ขอ้ มลู ข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ถือเป็นการส่ือสารผ่าน พิวเตอร์ของตนเองไปยังส�านักงานสาขา และไป ข้ามเครือข่ายได้ (Internetworking) ท�าให้เกิด เครือขา่ ยบริเวณกวา้ งหรือแวน หนว่ ยงานภาครัฐ ยั ง เ ค รื่ อ ง รั บ จ ่ า ย เ งิ น อั ต โ น มั ติ ห รื อ เ อ ที เ อ็ ม ก็น�าแวนมาประยุกต์ใช้ ได้แก่ ระบบทะเบียน (Automatic Teller Machine) ราษฎร์ซึ่งส�านักบริหารการทะเบียน กระทรวง มหาดไทยเป็นผู้ดูแล ระบบน้ีใช้ส�าหรับจัดเก็บ ข้อมูลเก่ียวกับประชาชนไทยทุกคนเอาไว้ในฐาน ข้อมูลตั้งแต่เกิดจนกระทงั่ ตาย ขอ้ มลู ทเี่ กบ็ ไวน้ มี้ ี ประโยชนห์ ลายดา้ น เชน่ การจดั ทา� รายชอื่ ผมู้ สี ทิ ธิ ลงคะแนนเลอื กตง้ั และการยืนยันความแท้จริง ของข้อมูลในการ สมคั รงาน และระบบบรหิ าร การเงินภาครัฐ หรือ Government Financial Management Information System (GFMIS) ระบบนใ้ี ชส้ า� หรบั การกา� หนดรายละเอยี ดงบประมาณ ของแต่ละหน่วยงาน และการท�าฎีกาขอเบิกจา่ ย เงินเม่ือถึงก�าหนด ตลอดจนการใช้ในการเก็บ ทะเบยี นครภุ ณั ฑแ์ ละทรพั ยส์ นิ ของหนว่ ยงานดว้ ย ส่วนการใช้แวนในภาคเอกชน ได้แก่ ธนาคาร ออนไลน์ หรอื รา้ นค้าออนไลน์ เปน็ ตน้
๗๓ อินเทอรเ์ น็ตเกตเวย ์ (Internet gateway) เกตเวย ์ (Gateway) หมายถงึ จุดต่อเช่อื มของเครือข่ายทําหนา้ ท่ีเป็ นทางเขา้ สู่ระบบเครือข่ายต่าง ๆ บน เครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ น็ต สาํ หรบั ในความหมายของเราเตอร ์ (Router) คอื ถนนหรอื ชอ่ งทางการเชอ่ื มตอ่ สาํ หรบั ระบบเครอื ขา่ ย ประกอบดว้ ยสถานีของเกตเวย ์ สถานีของโฮสตเ์ คร่อื งคอมพิ วเตอรข์ องผใู ้ ชใ้ นเครอื ขา่ ย และ คอมพิ วเตอรท์ ่ีเคร่ืองแม่ข่ายมีฐานะเป็ นโหนดแบบโฮสต ์ (หมายถึง จุดเช่ือมต่อหรือสถานี เช่น เคร่ือง คอมพิ วเตอรใ์ นแต่ละเคร่อื ง อปุ กรณโ์ ทรศพั ทเ์ คล่อื นท่ี) ส่วนเคร่อื งคอมพิ วเตอรท์ ่ีควบคุมการจราจรภายใน เครอื ข่าย หรอื ผูใ้ หบ้ รกิ ารอนิ เทอรเ์ น็ตคือ โหนดแบบเกตเวย ์
๑๔๖—๑๔๗ ลกั ษณะการทาํ งานของเกตเวย ์ การนาํ ไปใช ้ บท ่ีท ๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ่สอืสาร เกตเวย์เป็นอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่เช่ือมต่อเครือข่ายต่างประเภท ตัวเกตเวย์สามารถสร้างตาราง ซึ่งสามารถบอกได้ว่าเครื่อง เขา้ ดว้ ยกนั เชน่ การใชเ้ กตเวยใ์ นการเชื่อมต่อเครือข่ายท่ีเป็น เซิร์ฟเวอร์ไหนอยู่ภายใต้เกตเวย์ตัวใด และจะสามารถปรับปรุง คอมพิวเตอร์ประเภทส่วนบุคคล (Personal Computer: PC) ข้อมูลตามเวลาทต่ี งั้ เอาไว้ ดงั นี้ เขา้ กบั คอมพวิ เตอร์ประเภทแมคอินทอช (MAC) ซึ่งเกตเวย์เป็น อุปกรณ์ท่ีมีความสามารถสูงในการเชื่อมต่อเครือข่ายตา่ ง ๆ เข้า การใชใ้ นระบบครวั เรอื น : Smart home/Smart ด้วยกันโดยสามารถเชื่อมตอ่ ขา่ ยงานบรเิ วณระยะไกล (Local Area system มีฟังก์ชันของการรับข้อมูลจากอุปกรณ์เซ็นเซอร์ไปยัง Network หรอื LAN) หลาย ๆ เครือขา่ ยที่ใช้โพรโทคอลตา่ งกนั และ ตัว Smart center แล้วส่งต่อไปยังอุปกรณ์ท่ีเก่ียวข้องด้วยส่ือ ใชส้ ง่ ขอ้ มลู ตา่ งชนดิ กนั ไดอ้ ยา่ งไมม่ ขี ดี จา� กดั ตวั อยา่ งเชน่ การเชอ่ื ม สญั ญาณ ไร้สายภายในบริเวณเดียวกัน หรอื เชอ่ื มต่อด้วยสญั ญาณ ตอ่ อเี ทอรเ์ นต็ (Ethernet LAN) ทใ่ี ชส้ ายสง่ แบบ UTP เขา้ กบั เครอื อนิ เทอรเ์ นต็ ผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ เกตเวยไ์ ปยงั อปุ กรณท์ เ่ี กย่ี วขอ้ งระยะ ขา่ ยแบบวงแหวน (Token Ring LAN) จึงเปรียบได้ว่า เกตเวย์ก็ ไกล ซึ่งสามารถบันทึกความเคลื่อนไหวการท�างานของอุปกรณ์ เป็นเหมือนนักแปลภาษาท่ีท�าให้เครือข่ายที่ใช้โพรโทคอลต่าง วเิ คราะห/์ ประมวลผล หรอื แจง้ เตอื นใหท้ ราบลว่ งหนา้ หรอื แจง้ เตอื น ชนิดกันสามารถสอ่ื สารกนั ได้ หากโพรโทคอลทใี่ ชร้ บั สง่ ขอ้ มลู ของ เมอ่ื เกิดเหตุ รวมไปถึงการให้ข้อมูลแนะน�าในกจิ กรรมทีเ่ กี่ยวข้อง เครอื ขา่ ยทงั้ สอง ไมเ่ หมอื นกนั เกตเวยจ์ ะทา� หนา้ ทแ่ี ปลงโพรโทคอล ให้ตรงกบั ปลายทางและเหมาะสมกับอุปกรณ์ที่แต่ละเครือข่ายใช้ แ อ ป พ ลิ เ ค ช นั ใ น ภ า ค ธุ ร กิ จ : B u s i n e s s งานอยู่ได้ด้วย อุปกรณ์เกตเวย์จึงมีราคาแพง และข้ันตอนในการ Application สามารถตดิ ตอ่ ผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ไดท้ ง้ั การรบั -สง่ ตดิ ตง้ั จะซบั ซอ้ นที่สดุ ในบรรดาอปุ กรณเ์ ครอื ขา่ ยท้งั หมด ขอ้ มลู การสอื่ สารทางเสยี งหรอื VoIP การตดิ ตอ่ ดว้ ยภาพและเสยี ง พร้อม ๆ กนั อีกสว่ นหนง่ึ คอื การตดิ ต่อกบั ลูกคา้ เพอื่ เปน็ ช่องทาง CAT Thailand Internet Gateway: THIX ให้ลูกค้าเข้าถึงและการให้บริการกับลูกค้า ซ่ึงแอปพลิเคชันเหล่านี้ ในประเทศไทย บรกิ ารของ CAT Thailand Internet Gateway: สามารถเกบ็ บนั ทกึ ขอ้ มลู การใชง้ านบนโลกอนิ เทอรเ์ นต็ ของลกู คา้ ที่ เกิดขน้ึ ได้ หรือทีเ่ รยี กวา่ Big data แอปพลเิ คชนั จะน�าขอ้ มูลมา CAT THIX เปน็ ผูบ้ รกิ ารเกตเวย์ ทา� หน้าทเี่ ชอื่ มต่อไปยงั เครอื ขา่ ย วิเคราะห์/ประมวลผล และจัดการสิ่งต่าง ๆ ให้ตอบสนองความ อิ น เ ท อ ร ์ เ น็ ต ท่ี อ ยู ่ ใ น ต ่ า ง ป ร ะ เ ท ศ ผ ่ า น ว ง จ ร เ ค เ บิ ล ใ ต ้ น�้ า ร ะ ห ว ่ า ง ต้องการของลกู ค้าตอ่ ไปได้ ประเทศของบริษัท CAT Telecom ไปยังผู้ที่ให้บริการเครือข่าย อินเทอร์เน็ตท่ีคลอบคลุมพ้ืนที่ทั่วโลก ด้วยปริมาณแบนด์วิดท์ การนาํ ไปใชเ้ พ่ื อความบนั เทิง : Entertainment (Bandwidth) ขนาดใหญ่ท่ีสุดในประเทศไทย โดยแบ่งการเชื่อม application ใหบ้ ริการเน้ือหาโดยจะสง่ ข้อมูล เน้อื หา ภาพ ต่อโครงข่ายออกเป็น ๒ ประเภท คือ และเสียงผ่านอินเทอร์เน็ตไปไว้ยังเซิร์ฟเวอร์ โดยผู้เข้าชมไม่ว่าจะ อยู่ที่ใดของโลกก็สามารถดูผ่านแอปพลิเคชัน ซ่ึงเดินทางผ่าน ๑. Transit international internet network อินเทอร์เน็ตเกตเวย์ไปยังเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวได้พร้อม ๆ กันเป็น เป็นการเช่ือมต่อกับ Backbone เพื่อแลกเปล่ียนข้อมูลในทวีป จ�านวนมาก รวมไปถงึ แอปพลเิ คชนั เกมออนไลนต์ า่ ง ๆ ที่สามารถ ตา่ ง ๆ เช่น อเมรกิ า ยุโรป เอเชียแปซฟิ กิ ด้วยความเรว็ สูงถึง ๑๐ เล่นได้ เสมอื นผ้เู ลน่ ได้เข้าไปอยู่ในเกมจรงิ ๆ แม้ในความเป็นจริง Gbps (กกิ ะบติ วนิ าท)ี เพอ่ื ใชเ้ ปน็ เสน้ ทางผา่ นไปยงั เครอื ขา่ ยปลายทาง ผเู้ ลน่ จะอยู่ในคนละสถานทหี่ รือคนละประเทศกต็ าม ประเทศต่าง ๆ ทวั่ โลก ๒. Peer-to-peer international internet network เปน็ การเชอ่ื มตอ่ กบั Internet Exchange ของประเทศ ต่าง ๆ โดยตรงด้วยเส้นทางที่ส้ันที่สุด เพ่ือแลกเปล่ียนข้อมูล ทอ้ งถน่ิ ของประเทศไทยกับข้อมูลทอ้ งถ่ินของประเทศนัน้ ๆ โดยมี ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในต่างประเทศเชื่อมต่อแบบ Peering มากกว่า ๒๕ รายท่ัวโลก รวมทงั้ ผูใ้ ห้บริการเนื้อหาชั้นนา� ต่าง ๆ เช่น Google, Microsoft ฯลฯ
๗๔ เกณฑว์ ิธี เกณฑว์ ธิ ี หรอื โพรโทคอล (Protocol) (Protocol) เปรียบเหมือนกบั ภาษาสากลของ ค อ ม พิ ว เ ต อ ร ์ ซ่ึง โ พ รโ ท ค อ ล จ ะ ภาพท่ี ๑ ลาํ ดบั ชน้ ั ของระบบอินเทอรเ์ น็ตโพรโทคอลซวีท (Internet protocol suite) ทาํ ใหก้ ารส่ือสารและตดิ ตอ่ ระหวา่ ง คอมพิวเตอรแ์ ตล่ ะเคร่อื งเชอ่ื มโยง กนั ได ้ ไม่ว่าเคร่ืองคอมพิ วเตอรท์ ่ี เชอ่ื มถงึ กนั จะเป็ นคอมพิ วเตอรร์ นุ่ เดยี วกนั หรอื ไม่ หากไมม่ โี พรโทคอล ก า ร ส่ื อ ส า ร บ น เ ค รื อ ข่ า ย ก็จ ะ ไ ม่ ส า ม า ร ถ เ กิ ด ขึ น้ไ ด ้ แ ล ะ ย งั ช่ ว ย ตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาดของการสง่ และรบั ขอ้ มูล และแสดงผลการรบั สง่ ขอ้ มูลระหวา่ งเครอ่ื งสองเครอ่ื ง ตวั อย่างของโพรโทคอล (Protocol) ๑. โพรโทคอล HTTP หรอื Hypertext Transfer Protocol จะใชเ้ มอื่ เรยี กโปรแกรม เบราว์เซอร์ (ฺBrowser) เช่น Microsoft Edge, Google Chorm, Firefox, Baidu จะเรียกดขู ้อมลู หรอื เว็บเพจ ๒. โพรโทคอล TCP หรอื Transfer Control Protocol คอื การตดิ ตอ่ ระหวา่ ง เบ ราวเ์ ซอรก์ บั เซริ ฟ์ เวอร์ ตอ้ งเปิดช่องส่ือสารระหวา่ ง กนั ช่องทางการส่อื สารทั้งสองข้าง มชี อ่ งหมายเลข กา� กับ เรยี กว่า พอรต์ (Port) ซง่ึ ไดร้ บั การกา� กบั ดแู ลดว้ ยโพรโทค อ ล ห นึ่ ง ท่ี มี ช่ื อ ว่า T C P (Transfer Control Protocol) ทา� ใหเ้ ครอื่ งเซริ ฟ์ เวอร์ สามารถให้บริการเครื่องไคลเอนต์ได้หลายเครื่อง พรอ้ มกัน ๓. อนิ เทอรเ์ นต็ โพรโทคอล หรอื ไอพี (Internet Protocol: IP) เปน็ ตวั ก�าหนด แอดเดรสของคอมพวิ เตอร์ ท่เี รียกวา่ เลขที่อยู่ไอพี (IP Address) อกี ตอ่ หนง่ึ การทคี่ อมพวิ เตอรเ์ คร่ือง หนึ่งส่งข้อมูลไปยังอีกเคร่ืองหน่ีงได้ถูกต้องเป็น เพราะมโี พรโทคอลท่ใี ชใ้ นการหาตา� แหน่ง ในกรณี นี้ใช้อินเทอร์เน็ตโพรโทคอล หรือท่ีเรียกว่า IP (Internet Protocol) ส่วน IP มีการก�าหนด แอดเดรสของคอมพวิ เตอรท์ เี่ รยี กวา่ เลขทอี่ ยไู่ อพี (IP Address)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358