Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore NBTC_20190206_spread_A3

NBTC_20190206_spread_A3

Published by smith.boon, 2019-02-07 22:35:06

Description: NBTC_20190206_spread_A3

Search

Read the Text Version

๑๕๕ เครอื ข่ายอจั ฉรยิ ะ ๒๔๘—๒๔๙ (Smart network) เครือข่ายอจั ฉริยะ (Smart network) หมายถึง การท่ีอุปกรณ ์ กำรทอ่ี ปุ กรณเ์ ชอื่ มตอ่ กบั เครอื ขำ่ ยอนิ เทอรเ์ นต็ บท ่ีท ๖ การใช้เทคโนโล ียการ ่ืสอสาร ต่าง ๆ สามารถทํางานไดโ้ ดยเช่ือมต่อกบั เครือข่ายอินเทอรเ์ น็ต ม ี ๒ รปู แบบคอื กำรเชอ่ื มตอ่ ทตี่ วั ผใู้ ชง้ ำนตอ้ งอยู่ ไม่ว่าจะเป็ นบา้ นอจั ฉริยะ รถยนตอ์ จั ฉริยะ รถเมลอ์ จั ฉริยะ นา ิ กา กบั ท ่ี (Fixed boadband) เชน่ กำรใชค้ อมพวิ เตอร์ อจั ฉริยะหรือสมารต์ วอช เป็ นตน้ โดยผูใ้ ชง้ านสามารถส่งั การและ แบบต้ังโต๊ะ และกำรเช่ือมต่อที่ผู้ใช้งำนสำมำรถ ควบคุมการใชง้ านผ่านอปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส ์ เช่น สมารต์ โฟน เคลอื่ นทไี่ ด ้ (Mobile connectivity) เชน่ กำรใช้ สมำร์ตโฟน แท็บเล็ต ในบริเวณที่ท่ีมีสัญญำณ ภาพท่ี ๑ แนวคิดการพฒั นาประเทศไทย อนิ เทอรเ์ นต็ เชน่ สญั ญำณ 3G 4G หรอื สญั ญำณ Wi-Fi ครอบคลมุ กำรท่ีอุปกรณ์ต่ำง ๆ สำมำรถเช่ือมโยงกับ อินเทอร์เน็ต หรืออินเทอร์เน็ตในทุกสรรพส่ิง (Internet of Things: IoT) ทำ� ใหอ้ ปุ กรณเ์ หลำ่ นนั้ สำมำรถเชอ่ื มโยงหรอื สง่ ขอ้ มลู ถงึ กนั ไดด้ ว้ ยระบบ อนิ เทอรเ์ นต็ โดยไมต่ อ้ งปอ้ นขอ้ มลู กำรเชอื่ มโยง นผ้ี ใู้ ชง้ ำนสำมำรถสงั่ กำรควบคมุ อปุ กรณเ์ หลำ่ นนั้ ผำ่ นเครอื ขำ่ ยอนิ เทอรเ์ นต็ แนวคดิ เครอื ขำ่ ยอจั ฉรยิ ะในประเทศไทย เปน็ ส่วนหน่ึงของนโยบำยสมำร์ตไทยแลนด์ (Smart Thailand) หมำยถึง ประชำชนในประเทศไทย สำมำรถเขำ้ ถงึ และใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ เปน็ เพอ่ื ทำ� ให้ ชวี ติ สะดวกสบำยขนึ้ เครอื ขำ่ ยอจั ฉรยิ ะมเี ปำ้ หมำย ในกำรขยำยโครงข่ำยอินเทอร์เน็ตควำมเร็วสูงให้ ครอบคลมุ ประชำกร รอ้ ยละ ๙๕ ภำยใน พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยปจั จบุ นั ประเทศไทยมพี นื้ ทบ่ี รกิ ำรโครง ข่ำยเคเบลิ ใยแก้วนำ� แสงไปถึงระดบั ตำ� บล แตย่ งั ขำดควำมพร้อมของอุปกรณ์ในกำรให้บริกำร อินเทอร์เน็ตควำมเร็วสูง เพ่ือให้กำรด�ำเนินงำน บรรลุเป้ำหมำย จ�ำเป็นต้องมีกำรปรับเปลี่ยน อุปกรณ ์ รวมทงั้ กำรวำงสำยเคเบิลใยแกว้ นำ� แสง เพิม่ เตมิ กำรขยำยโครงขำ่ ยเคเบลิ ใยแกว้ นำ� แสง นคี้ วรเร่ิมทค่ี วำมสำ� คัญกบั กำรปรับปรุงโครงขำ่ ย ในระดบั จังหวดั ทมี่ ีควำมครอบคลมุ ของโครงขำ่ ย น้อยก่อน เชน่ สตูล กระบ่ ี อุดรธำน ี ร้อยเอ็ด และขอนแกน่ ทงั้ นกี้ ระทรวงเทคโนโลยสี ำรสนเทศ และกำรสอื่ สำร มแี นวคิดทจ่ี ะระดมทุนเพื่อนำ� มำ ใชใ้ นกำรขยำยโครงขำ่ ย เชน่ กำรระดมทนุ ผำ่ น กองทุนโครงสร้ำงพ้ืนฐำน ซึ่งจะช่วยท�ำให้กำร ขยำยโครงข่ำยด�ำเนินไปได้รวดเร็วขึ้น โดยไม่ จ�ำเป็นต้องพึ่งพำเงินงบประมำณของรัฐเพียง อย่ำงเดยี ว

๑๕๖ รฐั บาลอเิ ลก็ ทรอนิกส ์ สำมำรถคน้ หำขอ้ มลู ทต่ี อ้ งกำรภำยในหนว่ ยงำนตน้ (e-Government) สงั กดั ของตนเองได ้ ทำ� ให้เกดิ ควำมสะดวกรวดเรว็ และเพมิ่ ประสทิ ธิภำพในกำรทำ� งำนมำกขึน้ การพฒั นารฐั บาลอเิ ลก็ ทรอนิกส ์ รฐั บำลไดแ้ บง่ ระดบั กำรพฒั นำรฐั บำลอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เพื่อเป็นตัววัดควำมก้ำวหน้ำในกำรพัฒนำระบบ รฐั บำลอเิ ลก็ ทรอนกิ ส ์ ซงึ่ ไดม้ กี ำรจดั แบง่ ไว ้ ๕ ระดบั ดงั น ้ี ๑. ขั้นท ่ี ๑ ขน้ั ใหข้ อ้ มลู (Information) เปน็ ระยะเรม่ิ แรก โดยทกุ สว่ นรำชกำรตอ้ งจดั ทำ� เวบ็ ไซต ์ เพ่อื ใหบ้ รกิ ำรข้อมูลต่ำง ๆ แก่ผใู้ ช้บรกิ ำร ๒. ข้ันที่ ๒ ให้บริกำรโต้ตอบกับประชำชน (Interaction) เป็นกำรพัฒนำระบบต่อจำกระยะ แรก โดยข้นั ที ่ ๒ น้ี นอกจำกจะมีกำรบรกิ ำรข้อมลู แล้ว ผู้ใช้ยังสำมำรถท�ำกำรค้นหำข้อมูลและให้ บริกำรสอบถำมขอ้ มลู ควบคู่ไปด้วย รฐั บาลอเิ ลก็ ทรอนิกส ์ (e-Government หรอื Electronic government) ๓ . ขั้ น ที่ ๓ ท� ำ ธุ ร ก ร ร ม ผ ่ ำ น เ ว็ บ ไ ซ ต ์ ไ ด ้ คือ การใชอ้ ปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส ์ คอมพิ วเตอร ์ และอนิ เทอรเ์ น็ต เพ่ื อให ้ (Interchange Transaction) เป็นขัน้ ท่ีผใู้ ช้บริกำร บรกิ ารสาธารณะ เกิดการปฏสิ มั พนั ธท์ างดิจทิ ลั ระหวา่ งประชาชน และ สำมำรถด�ำเนนิ ธุรกรรมผำ่ นทำงเวบ็ ไซต์ เช่น กำร ภาคธุรกิจกบั หน่วยงานของภาครฐั ในทุกระดบั และอาํ นวยความสะดวก ชำ� ระภำษี โดยผ่ำนทำงเวบ็ ไซตข์ องกรมสรรพำกร ในการมีส่วนรว่ มของประชาชนในการกาํ กบั ดูแล ๔. ข้ันท่ี ๔ กำรบูรณำกำร (Integration) จุดประสงค์ในกำรจัดตั้งรัฐบำลอิเล็กทรอนิกส์ ๒. Government To Business (G2B) เป็นกำรน�ำข้อมูลของแต่ละหน่วยงำนมำรวมกัน คือ รัฐบำลเห็นวำ่ ส่วนรำชกำรตำ่ ง ๆ เป็นกลไกขบั เปน็ บรกิ ำรของภำครฐั ตอ่ ภำคธรุ กจิ ทำ� ใหภ้ ำคธรุ กจิ ท�ำให้ผู้ใช้บริกำรสำมำรถเข้ำมำท�ำธุรกรรมได้ง่ำย เคลื่อนท่ีส�ำคัญ กอ่ ให้เกิดกำรพฒั นำประเทศ เพ่มิ สำมำรถคน้ หำขอ้ มลู หรอื ดำ� เนนิ งำนตำ่ ง ๆ ผำ่ นทำง สะดวก และรวดเรว็ ภำยในหน้ำตำ่ งเดยี ว คุณภำพในกำรให้บริกำรประชำชน และท�ำให้ภำค เว็บไซต์ของหน่วยงำนรัฐได้ ธุรกิจได้รับกำรบริกำรที่รวดเร็ว ลดขั้นตอนกำร ๕. ข้ันท่ี ๕ ระดับกำรท�ำงำนที่ชำญฉลำด ท�ำงำนและงบประมำณท่ีซ�้ำซ้อน ตอบสนองกำร ๓. Government To Government (Intelligence) เป็นข้ันตอนสุดท้ำย โดยเป็นกำร เปลยี่ นแปลงและกำรแขง่ ขนั ทำงเศรษฐกจิ กบั ประเทศ (G2G) เป็นบรกิ ำรระหว่ำงภำครฐั ดว้ ยกันเอง ซึ่ง พัฒนำซอฟต์แวร์ขึ้น เพ่ือท่ีจะสำมำรถเรียนรู้ อ่ืนๆ หมำยถึงกำรให้บริกำรระหวำ่ งหน่วยงำนภำครัฐทั้ง พฤตกิ รรมของผ้ใู ชบ้ รกิ ำร ซ่ึงซอฟต์แวร์สำมำรถดงึ ในระดบั ทอ้ งถนิ่ ระดบั จงั หวดั ระดบั ภำค หรอื ระดบั ขอ้ มลู ได้ทนั ทเี มอ่ื เกิดกำรเปลี่ยนแปลง รปู แบบกำรใหบ้ รกิ ำรของรฐั บำลอเิ ลก็ ทรอนกิ ส ์ ป ร ะ เ ท ศ โ ด ย มี ก ำ ร เ ชื่ อ ม โ ย ง ร ะ บ บ เ ค รื อ ข ่ ำ ย (e-Government) สำมำรถแบง่ ได้เป็น ๔ ประเภท สำรสนเทศระหว่ำงหน่วยงำนของกระทรวงต่ำง ๆ ใน พ.ศ. ๒๕๕๗ องค์กำรเพอ่ื ควำมร่วมมอื ไดแ้ ก่ เขำ้ ด้วยกัน ท�ำใหห้ นว่ ยงำนภำครฐั ต่ำง ๆ สำมำรถ และกำรพฒั นำทำงเศรษฐกจิ หรอื โออซี ดี ี (Organisation แลกเปล่ียนข้อมูลข่ำวสำรผ่ำนทำงระบบเครือข่ำย for Economic Co-operation and Development: ๑. Government To Citizen หรอื ทั้งนี้เพื่อลดระยะเวลำในกำรแลกเปล่ียนข้อมูลของ OECD) ยังคงใช้ค�ำว่ำ รัฐบำลดิจิทัล (Digital Government To Consumer (G2C) ทำงรำชกำร และเพ่ิมประสิทธิภำพในกำรทำ� งำน government) และถือเป็นรัฐบำลอิเล็กทรอนิกส ์ เปน็ บรกิ ำรของภำครฐั ตอ่ ประชำชน เชน่ กำรจดั ตง้ั (e-Government) ประเภทหนึ่ง รัฐบำลในหลำย เว็บไซต์เพ่ือให้ประชำชนสำมำรถดำวน์โหลดแบบ ๔. Government To Employees ประเทศเริ่มใช้ค�ำว่ำรัฐบำลดิจิทัลส�ำหรับกำรให้ ฟอรม์ ตำ่ ง ๆ บรกิ ำรยนื่ แบบภำษแี ละชำ� ระภำษ ี หรอื (G2E) เป็นบรกิ ำรของภำครัฐตอ่ บุคลำกร ท�ำให้ บริกำรที่หลำกหลำยโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ บรกิ ำรข้อมลู ข่ำวสำรจำกรัฐบำล พนักงำนในสังกัดกระทรวง ทบวง กรม กอง อยำ่ งเชน่ กำรวเิ ครำะหข์ อ้ มลู ขนำดใหญ ่ (Big data) ระบบอตั โนมตั ิ หรอื กำรวเิ ครำะหค์ ำดกำรณล์ ว่ งหนำ้

๑๕๗ การทาํ เหมอื งขอ้ มูล ๒๕๐—๒๕๑ (Data mining) การทาํ เหมืองขอ้ มูล (Data mining) คือ การคน้ หาส่ิงท่ีมีประโยชน ์ ๑. Association algorithm เป็น จากฐานขอ้ มูลหรอื คลงั ขอ้ มูลท่ีมีขนาดใหญ่ท่ซี บั ซอ้ น เพ่ื อใหไ้ ดม้ าซ่งึ ขน้ั ตอนวธิ กี ำรคน้ หำควำมสมั พนั ธข์ องขอ้ มลู ในขอ้ มลู ขนำดใหญ ่ (Big Data) เพอ่ื นำ� ไปใชใ้ นกำรวเิ ครำะห์ ขอ้ มูลอนั เป็ นประโยชน ์ และสามารถนาํ ขอ้ มูลและความรทู ้ ่ีไดน้ นั ้ ไปใช ้ หรอื ทำ� นำยปรำกฏกำรณต์ ำ่ ง ๆ ผลกำรวเิ ครำะห์ วิเคราะหห์ รอื นาํ ไปใชป้ ระโยชนใ์ นดา้ นใดดา้ นหน่ึง ทไ่ี ดจ้ ะเปน็ คำ� ตอบของปญั หำ ซง่ึ กำรวเิ ครำะหแ์ บบ น้ีเป็นกำรใช้ “กฎควำมสัมพันธ์ ”(Association rule) เพื่อหำควำมสัมพันธ์ของข้อมูลเช่น กำร วเิ ครำะหก์ ำรซอ้ื สนิ คำ้ ของลกู คำ้ ทเ่ี รยี กวำ่ Market Basket Analysis โดยนำ� กำรซอื้ ขำย (Transaction) มำวเิ ครำะห ์ เพอื่ ใหส้ ำมำรถออกโฆษณำสนิ คำ้ ให้ เกดิ แรงจงู ใจในกำรซอื้ ขำยมำกขน้ึ ๒. Clustering algorithm เปน็ ข้ันตอนวิธีในกำรจ�ำแนกข้อมูลใหม่ให้อยู่ในกลุ่ม เดยี วกนั โดยอำศยั ควำมเหมอื น (Similarity) หรอื ควำมใกลช้ ดิ (Proximity) ซงึ่ คำ� นวณจำกกำรวดั ระยะของขอ้ มลู ขำเขำ้ เชน่ บรษิ ทั จำ� หนำ่ ยรถยนต์ ได้แยกข้อมูลกลุ่มลูกค้ำ หรือจ�ำแนกกลุ่มลูกค้ำ ตำมชว่ งอำย ุ เพศ เพอ่ื วเิ ครำะหป์ จั จยั เสย่ี งทมี่ โี อ กำศเกดิ โรคตำ่ ง ๆ เพอื่ เสนอขำยประกนั คมุ้ ครอง ชวี ติ ไดต้ รงกลมุ่ เปำ้ หมำย กำรท�ำเหมืองข้อมูล เป็นกระบวนกำรในกำร ๑. เพอ่ื กำรคน้ พบองคค์ วำมรใู้ หมใ่ นฐำนขอ้ มลู ๓. Time series algorithm เปน็ วธิ ี บท ่ีท ๖ การใช้เทคโนโล ียการ ่ืสอสาร ค ้ น ห ำ ค ว ำ ม รู ้ ใ น ฐ ำ น ข ้ อ มู ล ( K n o w l e d g e (Knowledge discovery in databases) กำรพยำกรณ์แบบข้อมูลอนุกรมเวลำ เช่น กำร Discovery in Databases: KDD) โดยใช้เทคนิค ๒. เพ่ือกำรสกัดองค์ควำมรู้ท่ีซ่อนเร้นอยู ่ พยำกรณก์ ำรขำย (Sales forecasting) หรอื คำด กระบวนกำร และวิธีอันชำญฉลำด เพื่อค้นหำ (Knowledge extraction) คะเนกบั สงิ่ ทจี่ ะเกดิ ขนึ้ ในอนำคต กำรพยำกรณม์ ี รูปแบบของข้อมูลจำกข้อมูลจ�ำนวนมหำศำลโดย ๓. เพ่ือจัดกำรกับข้อมูลในอดีต (Data บทบำทส�ำคัญกับทุกหน่วยงำนท้ังภำครัฐและ อัตโนมัติ จำกหลักกำรทำงคณิตศำสตร์ หลัก archeology) เอกชน เชน่ กำรพยำกรณร์ ำยรบั หรือรำยจ่ำยใน สถิติ ระบบฐำนข้อมูล กำรเรียนรู้ของเคร่ืองจักร ๔. เพอ่ื สำ� รวจขอ้ มลู (Data exploration) ปงี บประมำณถดั ไป เพอ่ื นำ� มำวำงแผน กำรเขยี นรำ่ ง (Machine learning) หรือเทคโนโลยีกำรเรียนรู้ ๕. เพ่ือค้นหำรูปแบบของข้อมูลท่ีซ่อนอยู ่ งบประมำณ หรอื ออกแบบสดั สว่ นงบประมำณทใี่ ช้ จดจ�ำ (cognitive technology) (Data pattern processing) ใน พ.ศ. ถดั ไป ๖. เพอ่ื เกบ็ เกย่ี วผลประโยชนจ์ ำกขอ้ มลู ทม่ี อี ยู่ การทาํ เหมอื งขอ้ มูล ส�ำหรับกำรท�ำเหมือง ๔. Decision trees algorithm ขอ้ มลู มหี ลำกหลำยประเภทเปน็ ไปตำมจดุ ประสงค์ ซึ่งแต่ละประเภทมีข้ันตอนวิธี (Algorithm) เปน็ กำรแยกขอ้ มลู (Classification) ออกเปน็ กลมุ่ ตำ่ ง ๆ ไดแ้ ก ่ ทตี่ ่ำงกัน เช่น โดยใชค้ ณุ สมบตั ขิ องขอ้ มลู (Attribute) เปน็ ตวั กำ� หนดขอบเขต โดยเปน็ กำรดขู อ้ มลู จำกบนลงลำ่ ง ๕. Neural network algorithm เปน็ แนวคิดท่ีได้มำจำกกำรจ�ำลองกำรท�ำงำนของ เซลล์สมองของมนษุ ย ์ สำมำรถนำ� มำประยกุ ตใ์ ช้ กบั งำนดำ้ นตำ่ ง ๆ เชน่ กำรพยำกรณ ์ กำรจดจำ� ใบหนำ้ เรยี นรจู้ ำ� ลำยมอื ลำยเซน็ ใชใ้ นทำงกำร แพทย์

๑๕๘ ครปิ โทเคอรเ์ รนซี (Cryptocurrency) ครปิ โทเคอรเ์ รนซี (Cryptocurrency) เงนิ ดิจทิ ลั (Digital currency หรอื Virtual currency) เป็ นหน่วย ขอ้ มูลอิเลก็ ทรอนิกสร์ ูปแบบหน่ึงท่ีถูกสรา้ งขึน้ เพ่ื อใชเ้ ป็ นส่ือกลางในการแลกเปล่ียนสินคา้ บริการ รวมถงึ สิทธิอ่นื ๆ โดยอาศยั เทคโนโลยีการเกบ็ บนั ทกึ ขอ้ มูลแบบกระจายศูนย ์ (Distributed Ledger Technology: DLT) ซ่งึ ออกแบบใหส้ ามารถสรา้ งธุรกรรมระหวา่ งบุคคล (Peer-to-peer transaction) ได ้ โดยให้บุคคลอ่ืนท่ีร่วมอยู่ในระบบสำมำรถเห็นธุรกรรมและร่วม แมว้ ำ่ ครปิ โทเคอรเ์ รนซยี งั ไมถ่ กู ยอมรบั ใหเ้ ปน็ สกลุ เงนิ ทส่ี ำมำรถชำ� ระ กันรับรองควำมถูกต้องของธุรกรรมแทนกำรใช้ตัวกลำง (Third หนไ้ี ดต้ ำมกฎหมำย และกำรนำ� มำใชเ้ ปน็ สอ่ื กลำงสำ� หรบั กำรชำ� ระสนิ คำ้ party) นอกจำกนี้เทคโนโลยีกำรเก็บบันทึกข้อมูลแบบกระจำยศูนย์ และบริกำรยังไม่แพร่หลำยนัก แต่กลับพบว่ำปริมำณกำรซ้ือขำย สำมำรถเพิ่มควำมปลอดภัยและเสถียรภำพของระบบจัดเก็บข้อมูล คริปโทเคอร์เรนซีทั่วโลกขยำยตัวแบบก้ำวกระโดดโดยเฉพำะในช่วง โดยกำรใช้กระบวนกำรเข้ำรหัส (Cryptography) จึงช่วยลดโอกำส คร่ึงหลงั ของ พ.ศ. ๒๕๖๐ เนอื่ งจำกมกี ำรเขำ้ เกง็ กำ� ไรของนกั ลงทนุ ในกำรถูกโจรกรรมหรือปลอมแปลงข้อมูลธุรกรรม อยำ่ งตอ่ เนอ่ื ง ปจั จบุ นั มคี รปิ โทเคอรเ์ รนซที ซ่ี อื้ ขำยทวั่ โลกประมำณ ๑,๖๐๐ สกุล และมีมูลค่ำตำมรำคำประมำณ ๓๐๐ พันล้ำนเหรียญสหรัฐ คริปโทเคอรเ์ รนซ ี สำมำรถจ�ำแนกออกเป็น ๓ ประเภทหลัก คอื

ภาพท่ี ๑ ตารางเปรียบเที ยบเงินและคริปโทเคอรเ์ รนซี ๒๕๒—๒๕๓ ๑. ครปิ โทเคอรเ์ รนซีท่ีไม่สามารถระบุผูอ้ อกได ้ คุณลกั ษณะความเป็ นเงินของคริปโทเคอรเ์ รนซี บท ่ีท ๖ การใช้เทคโนโล ียการ ่ืสอสาร อยา่ งชดั เจน (Decentralized cryptocurrency) หำกพิจำรณำคุณลักษณะของคริปโทเคอร์เรนซีในแต่ละประเภท หมำยถึง ครปิ โทเคอรเ์ รนซที มี่ กี ลไกทเ่ี ปดิ ใหส้ ำธำรณชนสำมำรถเปดิ เทียบกับคุณลักษณะของเงินตำมนิยำมทำงเศรษฐศำสตร์ ๓ กระเปำเงนิ คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency wallet) เพื่อท�ำ ประกำร คือ ธุรกรรมได้ด้วยตนเอง รวมถึงสำมำรถเข้ำร่วมในกลไกกำร รับรองควำมถูกต้องของธุรกรรมในระบบผำ่ นกระบวนกำรกำรขดุ ๑. เปน็ ตวั กลำงซอ้ื ขำยแลกเปลยี่ นได ้ (Medium of exchange) (Mining) หรอื กำรคำ� นวณสมกำรทำงคณติ ศำสตรโ์ ดยใชค้ อมพวิ เตอร์ ๒. แบง่ แยกเป็นหนว่ ยย่อยในกำรชำ� ระคำ่ สินคำ้ และบรกิ ำรได้ ท่ีมีประสิทธิภำพสูง โดยผู้ขุดหรือเจ้ำของคอมพวิ เตอรท์ แี่ กส้ มกำร (Unit of account) ได้จะได้รับคริปโทเคอร์เรนซีชนิดนั้น ๆ เป็นผลตอบแทน โดย ๓. ตอ้ งรกั ษำมลู คำ่ ในตนเองไดเ้ มอื่ เวลำเปลย่ี นไป (Store of value) ค ริ ป โ ท เ ค อ ร ์ เ ร น ซี แ ร ก ที่ ไ ด ้ รั บ ค ว ำ ม นิ ย ม อ ย ่ ำ ง แ พ ร ่ ห ล ำ ย คื อ บิทคอยน์ (Bitcoin) ซึ่งถูกพัฒนำข้ึนโดยเทคโนโลยีบล็อกเชน ปจั จบุ นั ครปิ โทเคอรเ์ รนซปี ระเภท Decentralized cryptocurrency (Blockchain technology) ทน่ี บั เปน็ ประเภทหนง่ึ ของเทคโนโลยกี ำร ยังคงขำดคุณสมบัติควำมเป็นเงินในข้อที่ ๑ เนื่องจำกยังคงม ี เกบ็ บนั ทกึ ข้อมลู แบบกระจำยศูนย ์ โดยแนวคดิ เร่ืองบทิ คอยนแ์ ละ ข้อจ�ำกัดด้ำนเทคโนโลยีซึ่งส่งผลให้ในกำรท�ำธุรกรรมในแตล่ ะครง้ั เทคโนโลยีบล็อกเชน ถูกกล่ำวถึงคร้ังแรกในบทควำมตีพิมพ์เร่ือง ต้องใช้ระยะเวลำนำนและมีต้นทุนสูงกว่ำระบบช�ำระเงินในปัจจุบัน Bitcoin: A Peer-to-Peer Electronic Cash System ใน พ.ศ. และข้อที่ ๓ เนื่องจำกมีรำคำผันผวนสูงรวมถึงไม่มีสินทรัพย์หรือ ๒๕๕๑ โดย Satoshi Nakamoto ซ่งึ เป็นนำมสมมติ และไดเ้ ผย เ งิ น ต ร ำ ส กุ ล ต ่ ำ ง ป ร ะ เ ท ศ ห นุ น ห ลั ง ดั ง เ ช ่ น เ งิ น ต ร ำ ดั ง นั้ น แพร่โปรแกรมต้นฉบับส�ำหรับกำรสร้ำงบิทคอยนใ์ หแ้ กส่ ำธำรณะ คริปโทเคอร์เรนซีจึงยังไม่เหมำะในกำรท�ำหน้ำท่ีเป็นส่ือกลำง (Open-source software) ใน พ.ศ. ๒๕๕๒ นอกจำกนี้ยังมี แลกเปลี่ยนมูลค่ำแทนเงินตรำ ขณะที่คริปโทเคอร์เรนซีประเภท Decentralized cryptocurrency ชนิดอื่นท่ีถือก�ำเนิดตำมมำและ Privately-issued cryptocurrency ซ่งึ มเี งินของธนำคำรกลำงหนนุ ก�ำลงั เป็นทนี่ ิยม เชน่ ไลทค์ อยน์ (Litecoin: LTC) อเี ธอร ์ (Ether: หลงั หรือ CBDC อำจสำมำรถตคี วำมไดว้ ำ่ เปน็ เงนิ ไดต้ ำมนยิ ำมทำง ETH) และริปเปลิ (Ripple: XRP) เศรษฐศำสตร์ ๒. คริปโทเคอรเ์ รนซีท่ีสามารถระบุผูอ้ อกได ้ อย่ำงไรก็ดี เทคโนโลยีดังกล่ำวท�ำให้ผู้ท�ำธุรกรรมคริปโท- ชดั เจน (Privately-issued Cryptocurrency) เคอร์เรนซีสำมำรถท�ำธุรกรรมได้โดยไม่จ�ำเป็นต้องเปิดเผยตัวตน หมำยถงึ ครปิ โทเคอรเ์ รนซที ถี่ กู สรำ้ งขนึ้ โดยองคก์ รหรอื สถำบนั ท่ีแท้จริง จึงท�ำให้กำรติดตำมแหล่งที่มำของคริปโทเคอร์เรนซีท�ำ หนง่ึ โดยเปน็ ผกู้ ำ� หนดคณุ สมบตั ขิ องครปิ โทเคอรเ์ รนซ ี เชน่ วธิ กี ำร ได้ยำก ส่งผลให้คริปโทเคอร์เรนซีอำจถูกน�ำมำใช้เป็นเคร่ืองมือใน ใช้งำน และปริมำณคริปโทเคอร์เรนซีในระบบ ใช้งำนได้หลำย กำรฟอกเงนิ และทำ� ธุรกรรมเลี่ยงกฏหมำย นอกจำกนีจ้ ำกรำคำที่ วตั ถปุ ระสงค์ บำงคร้งั จึงถูกเรยี กว่ำโทเคนดจิ ิทัล (Digital token) เพม่ิ ขน้ึ อยำ่ งรวดเรว็ และผนั ผวนสงู จงึ ทำ� ใหค้ รปิ โทเคอรเ์ รนซถี กู ใช้ เป็นช่องทำงในกำรเก็งก�ำไรและแอบอ้ำงในลักษณะแชร์ลูกโซ่เพื่อ ๓. ครปิ โทเคอรเ์ รนซีท่ีธนาคารกลางเป็ นผอู ้ อก หลอกลวงประชำชนท่รี ู้เท่ำไมถ่ งึ กำรณ์ (Central Bank Digital Currencies) เรยี กสน้ั ๆ ว่ำ CBDC เปน็ ครปิ โทเคอรเ์ รนซที มี่ คี ณุ สมบตั เิ ทำ่ กบั เงนิ ตรำทสี่ ำมำรถ ขณะเดยี วกนั หำกครปิ โทเคอรเ์ รนซถี กู นำ� มำใชเ้ ปน็ สอื่ กลำงแลก ช�ำระหน้ไี ด้ตำมกฎหมำย (legal tender) ปัจจุบนั ยงั ไม่มีธนำคำร เปลย่ี นมลู ค่ำอยำ่ งแพร่หลำยท่เี ทียบเทำ่ หรือแทนเงิน อำจส่งผลตอ่ กลำงใดทีน่ �ำ CBDC มำใช้จรงิ อยำ่ งไรกด็ ี ธนำคำรกลำงหลำยแห่ง กำรดำ� เนนิ นโยบำยทำงกำรเงนิ ของธนำคำรกลำงได ้ ดงั นนั้ หนว่ ยงำน อยู่ระหว่ำงกำรศึกษำวิจัยเทคโนโลยแี ละรปู แบบกำรใช้งำน เพื่อน�ำ รัฐหลำยประเทศรวมถึงประเทศไทยจึงจ�ำเป็นต้องหำแนวทำงและ มำใช้ส�ำหรับกำรช�ำระเงินระหว่ำงสถำบันกำรเงิน (Wholesale ออกเกณฑก์ ำรก�ำกบั ดแู ลคริปโทเคอรเ์ รนซีท่เี หมำะสม CBDC) หรอื เพอ่ื กำรชำ� ระเงนิ ระหวำ่ งลกู คำ้ รำยยอ่ ย (Retail CBDC) โดยคริปโทเคอร์เรนซีประเภทนี้ ธนำคำรกลำงจะเป็นผู้ก�ำหนด ปรมิ ำณเงนิ ในระบบรวมถงึ แนวทำงในกำรดำ� เนนิ นโยบำยทำงกำรเงนิ เช่น กำรเพ่ิมลดปริมำณเงินในระบบเพ่ือเป็นกลไกขับเคล่ือนทำง เศรษฐกิจ กำรเพิ่มสภำพคล่องให้กับสถำบันกำรเงินในยำมเกิด วิกฤตเศรษฐกจิ

๑๕๙ อากาศยานไรค้ นขบั (Drone) โดรน (Drone) เป็ นท่ีรจู ้ กั กนั วา่ เป็ น อากาศยานไรค้ นขบั หรอื Unmanned Aircraft Systems (UAS) และ Unmanned Aerial Vehicles (UAVs) โดยจะใชส้ ญั ญาณวิทยุในการควบคุมบินระยะไกลของเคร่อื งบิน ปัญหำเก่ียวกับกำรน�ำอุปกรณ์เหล่ำนี้ไปใช้งำนคือ กำรรักษำ ๒ . โ ด ร น ปี ก น่ิ ง ห รื อ ปี ก ต รึง ( F i x e d - w i n g เสถยี รภำพและปอ้ งกนั ไมใ่ หร้ ะบบลม้ เหลวเมอ่ื ตอ้ งปะทะกบั แรงลม ซงึ่ drones) มีลักษณะหน้ำตำและกำรท�ำงำนคล้ำยคลึงกับเครื่องบิน จ�ำเป็นต้องด�ำเนินกำรโดยผู้ท่ีมีทักษะระดับสูง โดรนสำมำรถติดตั้ง และจะต้องมีลู่ทำงในกำรปล่อยบิน สำมำรถบินได้นำน สำมำรถ กลอ้ งบนั ทกึ ภำพ และเครอื่ งรบั สง่ สญั ญำณ เพ่ือส่งภำพและข้อมูลไป เดนิ ทำงในระยะไกล และมคี วำมรวดเรว็ มำก อกี ทง้ั ยงั สำมำรถบรรทกุ ของ ยังเคร่ืองคอมพิวเตอร์ โดรนแบ่งเปน็ ๓ ประเภท ไดแ้ ก่ หนัก ๆ ได้ในระยะไกล และใช้พลังงำนน้อย ซ่ึงเหมำะกบั กำรใช้งำน เพื่อส�ำรวจพ้นื ที่ทกี่ ว้ำงใหญ ่ และกิจกรรมทำงกำรทหำร ๑. โดรนแบบหลายใบพดั (Multirotor UAVs) คือ โดรนทมี่ ตี งั้ แต ่ ๒ ใบพดั ขน้ึ ไป เปน็ ประเภทที่เป็นท่ีนิยมและพบเห็น ๓. โดรนแบบผสาน (Hybrid model หรอื tilt- ได้มำกท่ีสุด เคลื่อนตวั ไดร้ วดเรว็ และคลอ่ งแคลว่ โดยอำจมจี �ำนวน wing) เป็นโดรนแบบผสำนที่รวมเอำควำมสำมำรถของโดรนทั้ง ใบพดั ตงั้ แต่ ๒-๘ ใบพดั หรอื มำกกว่ำ สำมำรถควบคมุ ทศิ ทำงได้ง่ำย สองชนิดเข้ำไวด้ ว้ ยกนั คอื จะเปน็ โดรนทมี่ ปี กี นงิ่ ตดิ กบั ลำ� ตวั เครอื่ ง และ ควบคุมควำมสเถียรขณะบินในอำกำศ ไม่ต้องใช้ลู่ทำงในกำรบิน มีใบพัด สำมำรถบินไดร้ วดเร็วกวำ่ ระยะไกลกว่ำ และมีประสิทธภิ ำพ สำมำรถบินขนึ้ ลงในลกั ษณะแนวดิง่ ได ้ มำกกวำ่ โดรนแบบปกี นง่ิ และสำมำรถรอ่ นขน้ึ ลงในแนวดง่ิ โดยไมต่ อ้ ง ใชล้ ทู่ ำง แตโ่ ดรนประเภทนมี้ อี ยู่น้อยในตลำดโลกและมีรำคำสูง

ภาพท่ี ๑ ๒๕๔—๒๕๕ การใชป้ ระโยชน ์ มำตรำ ๘๐ “ผใู้ ดฝำ่ ผนื หรอื ไมป่ ฏบิ ตั ติ ำมเงอื่ นไขทกี่ ำ� หนดตำม บท ่ีท ๖ การใช้เทคโนโล ียการ ่ืสอสาร กำรใชโ้ ดรนในอดตี นนั้ มีไว้เพือ่ อำ� นวยควำมสะดวกทำงกำร ประกำศของกระทรวงคมนำคม เรื่อง หลักเกณฑ์กำรขออนุญำต และเงื่อนไข ในกำรบังคับหรือปล่อยอำกำศยำนซึ่งไม่มีนักบิน ทหำร ให้ควำมชว่ ยเหลอื รกั ษำชวี ิตและควำมปลอดภัยของทหำร ประเภทอำกำศยำนทีค่ วบคมุ กำรบนิ จำกภำยนอก ประกำศ ณ วัน ในพ้ืนที่เส่ียง แต่ในปัจจุบันโดรนถูกพัฒนำให้ใช้งำนในกลุ่ม ท ี่ ๒ กรกฏำคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ตอ้ งระวำงโทษปรบั ไมเ่ กนิ ๕๐,๐๐๐ อตุ สำหกรรมตำ่ ง ๆ ทห่ี ลำกหลำยมำกขึ้น เช่น มีกำรน�ำโดรนไปใช้ บำท” ในกำรตรวจสอบและซ่อมแซมระบบโครงสรำ้ งพ้นื ฐำนขนำดใหญ ่ เชน่ สะพำน ทำงเดินรถ โดยมีจุดเด่นในกำรบนิ รำบไปกับแนวเสำ ปัจจุบันหนว่ ยงำนท่เี กย่ี วขอ้ งในรับเรือ่ งข้ึนทะเบยี นโดรนม ี ๒ ท�ำใหส้ ำมำรถสำ� รวจและตรวจสอบควำมเสียหำยได้ง่ำยและมี หน่วยงำน คือ ส�ำนักงำนกำรบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (The ประสิทธภิ ำพ Civil Aviation Authority of Thailand: CAAT) เปน็ กำรขนึ้ ทะเบยี น ผู้บังคับอำกำศยำนโดรน และคณะกรรมกำรกิจกำรกระจำยเสียง กำรนำ� โดรนไปใชใ้ นอตุ สำหกรรมกำรเกษตร เชน่ กำรพน่ ยำและ กิจกำรโทรทัศน์ และกิจกำรโทรคมนำคมแห่งชำติ หรือ กสทช. สำรเคม ี กำรหวำ่ นเมลด็ พนั ธพ์ุ ชื และตรวจสอบคณุ ภำพของพชื พนั ธ ์ุ (National Broadcasting and Telecommunication Commission: ตรวจสอบกำรเพำะปลกู วเิ ครำะหด์ นิ และพนื้ ทกี่ ำรเกษตร รวมไป NBTC) เป็นกำรข้ึนทะเบียนขออนุญำตใช้คลื่นควำมถี่ ส�ำหรับ ถงึ กำรสำ� รวจพนื้ ทเี่ พำะปลกู ดว้ ยระบบเซน็ เซอรท์ ตี่ ดิ ตงั้ บนโดรนไดอ้ กี รปู แบบโดรนท่ตี อ้ งขึน้ ทะเบยี น มีดงั น้ี ดว้ ย โดรนสำมำรถน�ำมำใช้ในกำรให้ควำมช่วยเหลือได้อีกด้วย เช่น ยูนเิ ซฟน�ำโดรนมำใชเ้ พ่อื ขนสง่ ผลตรวจโรคเอดสข์ องเดก็ ทำรกใน ๑. โดรนทมี่ กี ำรตดิ ตงั้ กลอ้ งบนั ทกึ ภำพ ตอ้ งขนึ้ ทะเบยี นทกุ กรณี พื้นท่ีทุรกันดำรประเทศเยอรมนีมีกำรพัฒนำและผลิตโดรน เพ่ือ ขนสง่ อปุ กรณ์ช่วยชวี ิตคนท่ีกำ� ลงั จมน�ำ้ กำรใชโ้ ดรนค้นหำภำยหลงั ๒. โดรนที่มีนำ�้ หนักเกิน ๒ กโิ ลกรัม ตอ้ งขึ้นทะเบียนทุกกรณ ี เหตกุ ำรณเ์ ฮอรเิ คนในสหรฐั อเมรกิ ำ สว่ นในประเทศไทยไดม้ กี ำรใช้ ทงั้ นไี้ มต่ ดิ ตงั้ กลอ้ งบนั ทกึ ภำพ และมนี ำ�้ หนกั ไมเ่ กนิ ๒ กโิ ลกรมั ไม่ โดรนในกำรค้นหำนักบินเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอำกำศที่ตกใน ต้องขึ้นทะเบยี น บรเิ วณเขำชะเมำ จงั หวัดระยอง ๓. กรณีท่ีโดรนมีน�้ำหนักมำกกว่ำ ๒๕ กิโลกรัม ต้องได้รับ การขนึ ้ ทะเบยี นโดรน กำรทโี่ ดรนสำมำมรถนำ� ไปใชป้ ระโยชน์ อนุญำตเป็นหนังสือจำกรฐั มนตรกี ระทรวงคมนำคม ทหี่ ลำกหลำย ในขณะเดยี วกนั กลุ่มผู้ประสงค์ร้ำยสำมำรถใช้โดรน เพ่ือลักลอบเก็บข้อมูลส่วนส�ำคัญ เช่น กำรถ่ำยภำพในพ้ืนที่ส่วน โดยหนังสอื กำรขน้ึ ทะเบียนโดรนมีอำยุ ๒ ปนี บั ตง้ั วันท่ีมีกำร บุคคล หรือเพื่อก่อกวน และสร้ำงเป็นอำวุธในกำรก่อกำรร้ำย ออกหนงั สอื หำกผใู้ ดไม่น�ำโดรนไปขน้ึ ทะเบยี นตำมข้อกำ� หนดขำ้ ง ส�ำหรบั ในประเทศไทยจงึ มกี ำรออกพระรำชบญั ญตั กิ ำรเดินอำกำศ ต้น จะมีบทลงโทษตำมฃพระรำชบัญญัติกำรเดินอำกำศ พ.ศ. พ.ศ. ๒๔๙๗ มำตรำ ๒๔ ควำมวำ่ ๒๔๙๗ มำตรำ ๒๔ ประมวล มำตรำ ๗๘ ต้องระวำงโทษจ�ำคุก ไม่เกนิ ๑ ป ี หรอื ปรบั ไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บำท หรือท้งั จำ� ทั้งปรับ “ห้ำมมิให้ผู้ใดบังคับหรือปล่อยอำกำศยำนซ่ึงไม่มีนักบิน หรือ ทิ้งร่มอำกำศนอกจำกได้รับอนุญำตเป็นหนังสือจำกรัฐมนตรี และ ปฏิบัติตำมเง่อื นไจทีร่ ฐั มนตรกี �ำหนด” มำตรำ ๗๘ “ผู้ใดบังคับหรือปล่อยอำกำศยำนซ่ึงไม่มีนักบิน โดยไม่ไดร้ บั อนุญำตเปน็ หนงั สอื จำกรฐั มนตรตี ำมมำตรำ ๒๔ ตอ้ ง ระวำงโทษจำ� คุกไม่เกนิ ๑ ปี หรือปรบั ไมเ่ กนิ ๔๐,๐๐๐ บำท หรือ ท้ังจำ� ทั้งปรับ”

๑๖๐ แช็ตบอท (Chatbot) ปัจจุบันควำมนิยมของแอปพลิเคชันประเภทแช็ต หรือกำรส่ง ข้อควำมเป็นที่นิยมกันมำก ซึ่งเป็นโอกำสท่ีนักพัฒนำและธุรกิจจะ ทำ� กำรพัฒนำแช็ตบอทข้ึนมำ เพือ่ ใหบ้ ริกำรแกผ่ ู้ใชง้ ำน เชน่ กำรเปน็ ผชู้ ว่ ยสว่ นตวั จองโตะ๊ อำหำร กำรวเิ ครำะห ์ กำรสอื่ สำร กำรชว่ ยเหลอื ให้ข้อมูลลูกค้ำ กำรออกแบบ เครื่องมือส�ำหรับนักพัฒนำซอฟต์แวร์ กำรศึกษำ ควำมบนั เทงิ กำรเงินและธนำคำร อำหำร เกม สขุ ภำพ ฝำ่ ยทรพั ยำกรบคุ คล ฝำ่ ยกำรตลำด ขำ่ วสำร กำรใชง้ ำนส่วนบุคคล ฯลฯ ซ่งึ สำมำรถใหบ้ ริกำรลูกคำ้ เป็นไดแ้ บบอตั โนมัติ มีควำมถูกต้อง แมน่ ยำ� และรวดเรว็ อำจสำมำรถเชอื่ มโยงกบั อปุ กรณอ์ นิ เทอรเ์ นต็ เปน็ ทกุ สรรพสง่ิ (Internet of Things: IoT) เพอ่ื ทำ� กำรสอ่ื สำรกบั อปุ กรณต์ ำ่ ง ๆ แชต็ บอท แบง่ ออกเปน็ ๒ ประเภท ไดแ้ ก่ ๑. Rule-Based approach คอื แชต็ บอทประเภททถี่ ูก ก�ำหนดด้วยกฎเกณฑ์ เป็นระบบที่ไม่มีควำมซับซ้อน โดยกำรสร้ำง กฎเกณฑต์ ำ่ ง ๆ ไว ้ ซงึ่ จำ� เปน็ จะตอ้ งสรำ้ งกฎและคำ� สำ� คญั (Keyword) เพือ่ ให้ครอบคลมุ และตรงตำมเป้ำหมำยกำรใชง้ ำนแชต็ บอทมำกที่สดุ เนอื่ งจำกแชต็ บอทประเภทนจี้ ะสำมำรถโตต้ อบและหำคำ� ตอบทต่ี รงกบั คำ� สำ� คญั มำกทส่ี ดุ หรอื ขอ้ ควำมทค่ี ลำ้ ยกนั มำกทส่ี ดุ ออกมำ แชต็ บอท (Chatbot) คอื โปรแกรมคอมพิ วเตอรห์ รอื ปญั ญา ๒. AI-Based approach คอื แชต็ บอทประเภททม่ี ปี ญั ญำ ประดษิ ฐ ์ (AI) ประเภทหน่งึ ท่ใี ชเ้ พ่ื อสนทนากบั ผใู ้ ชใ้ นลกั ษณะ ประดษิ ฐ ์ (AI) ใชก้ ำรเรียนร้ขู องเครอ่ื งจักร (Machine learning) เข้ำ เหมอื นการพู ดคุยคลา้ ยกบั เป็ นคนคนหน่ึง ออกแบบมาเพ่ื อ มำชว่ ย ซงึ่ จะมกี ำรใชร้ ะบบกำรประมวลผลภำษำมนษุ ยท์ มี่ คี วำมซบั ซอ้ น จาํ ลองวิธีการสนทนาของมนุษย ์ (Natural Language Processing: NLP และ Natural Language Understanding: NLU) เพ่ือช่วยให้แช็ตบอทเข้ำใจภำษำมนุษย์มำก แช็ตบอท (Chatbot) เริ่มต้นเม่ือ พ.ศ. ๒๕๐๙ โจเซฟ ไวเซนบัน (Joseph ขน้ึ ปัจจุบนั มีบริษทั ใหญ่ ๆ ได้พฒั นำเทคโนโลย ี NLP-NLU ขน้ึ มำใช ้ Weizenbaum) ซ่ึงเป็นนักวิจัยจำกสถำบันเทคโนโลยีแมสซำชูเซตส์ (Massachusetts ซ่ึงกำรเรียนรู้ของเครื่องจักรจะท�ำให้แช็ตบอทสำมำรถเรียนรู้และ Institute of Technology: MIT) ไดพ้ ฒั นำ เอลิซำ (Eliza) แชต็ บอทตัวแรกของโลก พัฒนำตัวเองได้ จนท�ำให้มีควำมสำมำรถในกำรพูดคุยใกล้เคียงกับ ท�ำหนำ้ ทแ่ี ทนจิตแพทย์ โดยเอลิซำใชก้ ำรประมวลผลภำษำมนุษย์ (Natural language มนุษย ์ ตวั อย่ำงแช็ตบอทของบรษิ ัทใหญ่ ๆ ได้แก ่ Watson ของ IBM, processing) ตวั แรก ๆ ของโลก เนอ่ื งจำกสำมำรถทำ� กำรสอื่ สำรกบั ผใู้ ชง้ ำนไดด้ ว้ ยภำษำ Siri ของ Apple, Amazon Lex ของ Amazon, Cortana ของ Microsoft พดู ปกติ ไม่จำ� เป็นต้องใชภ้ ำษำคอมพิวเตอร์มำช่วยในกำรสื่อสำร ผำ่ นกำรทดสอบทวั รงิ และ Facebook Messenger หรอื กำรรับคำ� สั่งของอุปกรณ์เครอื่ งใช้ (Touring Test) โดยสำมำรถทำ� ใหผ้ ใู้ ชง้ ำนจำ� นวนหนง่ึ เขำ้ ใจวำ่ กำ� ลงั คยุ อยกู่ บั นกั จติ บำ� บดั จรงิ ในบำ้ น อยำ่ งเชน่ Amazon Echo ท่ใี ชร้ ะบบ Alexa ในกำรรับคำ� สั่ง และ Google home ของ Google จดุ เดน่ ของ Chatbot กำรใชง้ ำนแชต็ บอตทำ� ใหผ้ ใู้ ชม้ คี วำมสะดวก สบำยมำกข้ึน เน่ืองจำกกำรใช้แช็ตบอตในกำรหำค�ำตอบน้ัน ท�ำให ้ ผใู้ ชไ้ ดร้ ับค�ำตอบทันที ทกุ ทที่ ุกเวลำ ตลอด 24 ชวั่ โมง และไมม่ ีวัน หยดุ อกี ดว้ ย นอกจำกนแ้ี ชต็ บอตยงั สำมำรถเปน็ ตวั ชว่ ยในกำรเลอื กซอ้ื หรอื ใหค้ ำ� แนะนำ� สนิ คำ้ และบรกิ ำรได ้ อกี ทงั้ ยงั สำมำรถปรบั แตง่ ใหต้ รง ตำมควำมตอ้ งกำรของผใู้ ชง้ ำนได ้ และยงั ทำ� ใหผ้ ใู้ ชม้ คี วำมรสู้ กึ วำ่ กำ� ลงั พดู คยุ และปรกึ ษำกบั คนจรงิ ๆ เพรำะแชต็ บอตมกี ำรโตต้ อบอยำ่ งเปน็ ธรรมชำติ

๑๖๑ ปัญญาประดิษฐ ์ ๒๕๖—๒๕๗ (Artificial Intelligence: AI) AI ภาพท่ี ๑ ปญั ญาประดิษฐ ์ (AI) เป็ นการผสมรวม ของความรู ้ ๓ สาขา ใน พ.ศ. ๒๕๔๐ มีกำรแข่งขันหมำกรุก ระหว่ำงมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ของ IBM ช่ือว่ำ ดปี บล ู (Deep Blue) โดยแขง่ กบั แกร ี คำสปำรอฟ (Garry Kasparov) แชมปโ์ ลกหมำกรุก ในปนี ั้น ดีปบลูสำมำรถเอำชนะได้ ท�ำให้เกิดกำรยอมรับ ในปัญญำประดิษฐ์มำกข้ึนและมีแนวคิดท่ีจะน�ำ ปัญญำประดษิ ฐไ์ ปใช้แก้ปญั หำทซี่ ับซ้อนมำกขน้ึ ปัญญาประดิษฐ ์ (Artificial Intelligence: AI) หมายถงึ เทคนิคทาง นกั วจิ ยั ดำ้ นปญั ญำประดษิ ฐพ์ ยำยำมออกแบบ วิทยาศาสตรค์ อมพิ วเตอรท์ ่ีทําใหร้ ะบบทํางานไดต้ ามปกติ ไม่ตอ้ ง ข้ันตอนวิธี (Algorithm) ท่ีท�ำให้คอมพิวเตอร์ อาศยั สตปิ ญั ญาของมนุษย ์ เชน่ การจดจาํ ภาพ เสยี งพูด การตดั สนิ ใจ เชอื่ มโยงควำมรแู้ ละเปรยี บเทยี บเพอื่ เรยี นรรู้ ปู แบบ แ ล ะ การ แ ป ล ภาษ า ซ่ึง ปั ญ ญ าป ร ะ ดิ ษ ฐ เ์ ป็ น ศ าส ต รใ์ น ส าข า วิ ช า ทเี่ กิดขึ้นซำ้� ๆ จนระบบกำรท�ำงำนที่ควบคุมด้วย วิทยาศาสตรค์ อมพิ วเตอร ์ (Computer science) เก่ียวกบั การเขียน ปัญญำประดิษฐ์สำมำรถวิเครำะห์เรียนรู้เชิงลึก โปรแกรมคอมพิ วเตอร ์ (Coding) อธิบายกระบวนการแกไ้ ขปัญหาท่ี และปรับขั้นตอนวิธีได้ด้วยตัวมันเอง (Deep เป็ นขนั ้ ตอนอย่างชดั เจน เรยี กเทคนิคนีว้ า่ ขนั ้ ตอนวิธี (Algorithm) Learning) เชน่ กำรทำ� งำนวิเครำะห์ขอ้ มูลขนำด ใหญ ่ (Big data) ในโครงข่ำยอนิ เทอรเ์ นต็ ท�ำให้ ปัญญำประดิษฐ์ถือก�ำเนิดมำจำกกำรคิดค้น วเิ ครำะหผ์ ลดำ้ นเคม ี โดยนำ� ควำมรขู้ องผเู้ ชยี่ วชำญ คอมพิวเตอร์ที่บรรจุข้ันตอนวิธีจนสำมำรถเรียน บท ่ีท ๖ การใช้เทคโนโล ียการ ่ืสอสาร กำรทดสอบของทวั รงิ (Touring Test) ใน พ.ศ. ไปเก็บไวใ้ นระบบคอมพิวเตอร์ รู้ข้อมูลจำกท่ัวทุกมุมโลกในทุกวินำที จนมีขีด ๒๔๙๓ โดย อลัน ทัวริง (Alan touring) โดย ควำมสำมำรถในกำรพยำกรณอ์ นำคตไดอ้ ยำ่ งแมน่ ยำ� เป็นกำรทดสอบที่ให้มนุษย์เป็นผู้ตัดสินใจว่ำกำร กำรพัฒนำด้ำนปัญญำประดิษฐ์เป็นไปอย่ำง กระทำ� ของปญั ญำประดษิ ฐส์ ำมำรถแยกออกจำก ตอ่ เนื่อง แตเ่ นือ่ งจำกควำมยำกและปัญหำทเ่ี กิด ปัญญำประดิษฐ์เร่ิมมีบทบำทในสังคมธุรกิจ กำรกระท�ำของมนุษย์ได้หรือไม่ ถ้ำไม่ได้ถือว่ำ ขน้ึ ในกำรพฒั นำ ทำ� ใหก้ ลมุ่ ผใู้ หท้ นุ สนบั สนนุ กำร และอุตสำหกรรมต่ำง ๆ เช่น กำรส่ือสำร ผำ่ นกำรทดสอบ วิจยั ไมเ่ ชอ่ื มนั่ ในระบบปัญญำประดิษฐ์ ท�ำใหก้ ำร โทรคมนำคม กำรบรกิ ำรทำงกำรเงิน กำรขนสง่ วิจัยเริ่มหยุดชะงัก จนกระทั่งใน พ.ศ. ๒๕๓๓ กำรค้ำปลีก สขุ ภำพ กำรแพทย์ และกำรศกึ ษำ ตอ่ มำเมอื่ ทมี วจิ ยั ของมหำวทิ ยำลยั สแตนฟอรด์ เป็นต้นมำ มีกำรน�ำปัญญำประดิษฐ์เช่ือมต่อกับ ตำมลำ� ดบั โดยสง่ ผลกระทบอยำ่ งมำกและชดั เจน โดยศำสตรำจำรยเ์ อด็ เวริ ด์ เฟยเกนบำม (Edward ระบบอินเทอร์เน็ต ท�ำให้กำรเรียนรู้ของปัญญำ ในช่วง พ.ศ. ๒๕๖๘ ซ่ึงเป็นช่วงเวลำที่ข้อมูล Feigenbaum) คิดค้นระบบผู้เช่ียวชำญ ชื่อว่ำ ประดิษฐม์ ีประสิทธภิ ำพมำกข้ึน ขนำดใหญ่ (Big Data) จะมีกำรใช้งำนอย่ำง เดนด์เรียล (Dendral) ใน พ.ศ. ๒๕๐๘ เพ่ือ หลำกหลำยส่งผลกระทบในกำรพลิกผันรูปแบบ อุตสำหกรรมตำ่ ง ๆ ปญั ญำประดษิ ฐเ์ ปน็ สงิ่ ทใี่ กลต้ วั ในปจั จบุ นั ซง่ึ ในภำคธุรกิจจ�ำเป็นต้องศึกษำควำมสำมำรถของ ปญั ญำประดษิ ฐแ์ ละผลกระทบตอ่ แรงงำนและกำร ตลำดในอนำคต

๑๖๒ ความจรงิ เสมอื น (Virtual Reality) ภาพท่ี ๑ ผูใ้ ชง้ านความเป็ นจรงิ เสมือนผ่าน แว่นตา Oculus อุปกรณ์ท่ีใช้ในกระบวนกำรรับรู้ควำมจริง เสมอื นมหี ลำกหลำยอปุ กรณท์ ที่ ำ� งำนรว่ มกนั ไดแ้ ก ่ อปุ กรณแ์ ทนการมองเหน็ สร้ำงภำพ รูป วตั ถ ุ ๓ มติ ิขนึ้ มีแสง เงำ และขนำดทเี่ หมือนจริง ของวัตถ ุ เปน็ ตน้ อปุ กรณ์ทีค่ ุ้นเคยในปจั จบุ ันอย่ำง เช่น แว่นตำวีอำร์ (Virtual reality:VR) ซึ่งเป็น จอภำพแบบสวมศีรษะ (Head Mounted Display) อุ ป ก ร ณ แ์ ท น ก า รไ ด ย้ ิ น เ ป ็ น อุ ป ก ร ณ ์ สั ง เ ค ร ำ ะ ห ์ เ สี ย ง แ บ บ ส เ ต อ ริ โ อ ท่ี ส ่ ง สั ญ ญ ำ ณ ท่ี มี เสียงสูงต�่ำ และควำมดังเช่นเดียวกับเสียงจำก แหล่งก�ำเนิดเสียงจริง อุปกรณแ์ ทนการไดก้ ล่นิ จะประกอบด้วย อปุ กรณก์ ำ� เนดิ ควำมรอ้ น เพอ่ื ปลอ่ ยสำรเคมใี หก้ ลน่ิ ที่คล้ำยกับกล่ินของสิ่งท่ีผู้ใช้เคยมีประสบกำรณ์ ไดก้ ลนิ่ มำกอ่ น มที ง้ั แบบตดิ ตง้ั รอบตวั ผใู้ ชง้ ำน และ ตดิ ต้งั ไวก้ ับจอภำพแบบแวน่ ตำหรือแบบสวมศีรษะ อปุ กรณแ์ ทนรสชาติ อปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เพือ่ กระตนุ้ ประสำทรับรสท่ีล้นิ ดว้ ยไฟฟำ้ เพื่อสรำ้ ง รสชำต ิ เชน่ เปรย้ี ว เคม็ ขม และใชอ้ ณุ หภมู กิ ระตนุ้ ประสำทรับรส หวำน หรอื เผด็ ท่ิลิ้นได้ ความจรงิ เสมือน หรือวีอาร ์ (Virtual Reality: VR) เป็ นคําใชเ้ รียก ภาพท่ี ๒ แว่น oculus รุ่น Gear VR เวอรช์ นั 2 เทคโนโลยี หรอื วทิ ยาการดา้ นคอมพิ วเตอรใ์ นการสรา้ งความคดิ เก่ียวกบั วตั ถแุ ละปรากฏการณใ์ นโลกจรงิ ดว้ ยการจาํ ลอง เม่อื ผใู ้ ชง้ านรบั รขู ้ อ้ มูล ผ่านการแทนความจรงิ ดว้ ยเนือ้ หาและอุปกรณข์ องระบบ สมองของผู ้ ใ ช ง้ า น จ ะ เ ป ล่ี ย น ส่ิ ง ท่ี ร บั รู เ้ ป็ น ค ว า ม คิ ด ท่ี เ ห มื อ น ห รื อ ใ ก ล เ้ คี ย ง ก บั ประสบการณข์ องผใู ้ ชง้ าน ทาํ ใหผ้ ใู ้ ชง้ านสามารถจาํ และระลกึ ไดเ้ ก่ยี วกบั วตั ถุและปรากฏการณ ์ หรือสรา้ งความคิดหรือประสบการณใ์ หม่เก่ียว กบั วตั ถุหรอื ปรากฏการณท์ ่ีไม่เคยสมั ผสั มากอ่ น

๒๕๘—๒๕๙ ภาพท่ี ๓ เดก็ ทดลองใชร้ ะบบความเป็ นจรงิ เสมือน ภาพท่ี ๕ การจาํ ลองขบั เคร่ืองบิน อปุ กรณแ์ ทนสมั ผสั ภาพท่ี ๖ ภาพจาํ ลองผูใ้ ชก้ าํ ลงั รำ่ งกำย ขอ้ มลู รงั สวี ทิ ยำ ในรปู ทรงของรำ่ ยกำย ใน เปน็ อปุ กรณส์ ร้ำงแรงป้อนกลับไปยังบริเวณอวัยวะทมี่ ีกำร เคล่อื นไหวมือและศีรษะในระบบ ค.ศ. ๑๙๗๐-๑๙๘๐ ความเป็ นจรงิ ผสม สมั ผสั หรอื ออกแรงกระทำ� ตอ่ สงิ่ ของนอกกำย หรืออุปกรณ์สร้ำง ใน ค.ศ. ๑๙๙๓ อุปกรณ์ผ่ำตัดทำงไกลชน้ิ แ ร ง ส่ั น ส� ำ ห รั บ อ วั ย ว ะ ท่ี โ ด น แ ร ง ก ร ะ ท บ จ ำ ก ภำยนอก รวมไปถงึ แรกไดถ้ กู พฒั นำขนึ้ และกำรผำ่ ตดั โดยใชห้ นุ่ ยนต์ บท ่ีท ๖ การใช้เทคโนโล ียการ ่ืสอสาร อุปกรณส์ ร้ำงกำรควำมรอ้ นแทนสัมผสั รอ้ น อปุ กรณ์พ่นน�้ำหรือลม คร้งั แรกประสบควำมสำ� เร็จใน ค.ศ. ๑๙๙๘ โดย และอุปกรณป์ ลอ่ ยกระแสไฟฟ้ำด้วยอปุ กรณ์ทค่ี วบคมุ ดว้ ย บังคับด้วยแพทย์ในกำรผ่ำตัด มีกำรใช้อุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ในกำรเป็นตัวกลำงส่งข้อมูล ท�ำให้ กำรผ่ำตัดเป็นไปอย่ำงมีประสิทธิภำพ และไม่ พัฒนำกำรของเทคโนโลยีควำมจริงเสมือน มีแนวคิดมำจำก คลำดเคลอ่ื น เทคโนโลยกี ำรฉำยภำพยนตร ์ ตอ่ มำใน ค.ศ. ๑๙๕๐ มกี ำรพัฒนำ อปุ กรณ์ส่งเสียงพรอ้ มกับภำพ เชน่ กำรใชม้ ภี ำพเคลื่อนไหวพร้อม วงกำรบันเทิง ควำมจริงเสมือนถูกน�ำมำ เสยี งตำมธรรมชำต ิ และในชว่ งเวลำเดยี วกนั คอื ค.ศ. ๑๙๕๐-๑๙๖๐ ประยกุ ตใ์ ชท้ ง้ั ในดำ้ นอตุ สำหกรรมเกม ภำพยนตร์ มีกำรสร้ำงเทคโนโลยีที่สำมำรถตอบโต้กับผู้ใช้งำนคอมพิวเตอร์ได้ รวมไปถึงส่ือบันเทิงอื่น ๆ ท�ำให้ผู้ใช้งำนได้รับ ในช่วงปลำย ค.ศ. ๑๙๕๐ มกี ำรพฒั นำเทคโนโลยีด้ำนกรำฟิก เพอ่ื อรรถรสทเ่ี พม่ิ ข้นึ จำกแต่ก่อนทไี่ ด้แค่ควบคมุ ผำ่ น ใหใ้ กลเ้ คยี งกบั ควำมเปน็ จรงิ ในธรรมชำต ิ และกลำยมำเปน็ พน้ื ฐำน เมำส์และแป้นพิมพ์ หรือแป้นควบคุม ภำพ ดำ้ นเทคโนโลย ี AR ในปจั จบุ นั (Augmented Reality คอื กำรจำ� ลอง ก ร ำ ฟ ิ ก ค ว ำ ม ล ะ เ อี ย ด สู ง ถู ก ป ร ะ ม ว ล ผ ล อ ย ่ ำ ง ภำพวตั ถจุ รงิ ในรูปแบบ ๓ มติ ิในปัจจบุ นั ) รวดเรว็ ทำ� ใหผ้ พู้ ฒั นำซอฟตแ์ วรส์ ำมำรถสรำ้ งโลก เสมือนในคอมพิวเตอร์หรือโลกที่ถูกประดิษฐ์ขึ้น การประยุกตใ์ ชง้ าน โดยไม่ต่ำงไปจำกโลกแห่งควำมเปน็ จรงิ กำรน�ำควำมจรงิ เสมอื นมำใชใ้ นด้ำนตำ่ ง ๆ เชน่ กำรฝึกอบรม กำรซอ้ มขับเครือ่ งบินใน ค.ศ. ๑๙๖๐ ทจ่ี ำ� ลองห้องขับของนกั บนิ กำรคน้ ควำ้ วจิ ยั ทำงกำรแพทย ์ ในปลำย ค.ศ. ๑๙๖๐ มกี ำรสรำ้ ง โปรแกรมจำ� ลองลกั ษณะโมเลกลุ ทำงชวี วทิ ยำ กำรสรำ้ งแบบจำ� ลองของ ภาพท่ี ๔ ผูใ้ ชง้ านระบบความเป็ นจรงิ เสมือนสามารถสมั ผสั วตั ถุจาํ ลองผ่าน อุปกรณต์ ิดท่ีนิว้

๑๖๓ ความเป็ นจรงิ เสรมิ (Augmented Reality) ความเป็ นจรงิ เสรมิ หรอื เออาร ์ (Augmented Reality: AR) เป็ นการจาํ ลองเสรมิ เขา้ ไปในการแสดงภาพหรอื เสียงของโลกจรงิ ท่ีผูใ้ ชก้ าํ ลงั รบั รอู ้ ยู่ เช่น มองเหน็ หรอื ไดย้ ินส่ิงท่ิกาํ ลงั เกิดขนึ ้ ในโลกจรงิ พรอ้ มกบั วตั ถุหรอื ปรากฏการณท์ ่จี าํ ลองขนึ ้ ในอกี สถานท่ี หรอื เวลาอ่นื ในเวลาและสถานท่เี ดยี วกนั เพ่ื อเพ่ิ มการรบั รขู ้ องผใู ้ ชเ้ ก่ยี ว กบั ส่ิงท่ีสรา้ งขนึ ้ หรอื โลกจรงิ ใหด้ ีขนึ ้

๒๖๐—๒๖๑ ภาพท่ี ๑ การแสดงภาพบนจอโทรศพทซ์ อ้ นกบั ภาพท่อี ยบู่ นโลกจรงิ ภาพท่ี ๓ การใชร้ ะบบจาํ ลองภาพพระเมรุมาศเสมือนจรงิ ๓ มิติ บท ่ีท ๖ การใช้เทคโนโล ียการ ่ืสอสาร โดยการใชแ้ อปพลิเคชนั ถา่ ยบนแผ่นพบั แจกในงานพระราชพิ ธี องคป์ ระกอบของระบบความเป็ นจรงิ เสรมิ ประกอบดว้ ย ถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหา- ๓ สว่ นหลกั ดงั น้ี ภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิ ตร สว่ นแรก เปน็ สว่ นนำ� เขำ้ ขอ้ มลู ทจ่ี ำ� เปน็ ประกอบดว้ ย ตำ� แหนง่ หรอื สมั ผสั ไดข้ องสง่ิ ของ หรอื ปรำกฎกำรณท์ ไี่ มไ่ ดอ้ ยใู่ นควำมเปน็ จรงิ ในควำมเปน็ จรงิ ทต่ี อ้ งกำรเสรมิ กำรจำ� ลองเขำ้ ไป หรอื ระยะเวลำท่ี ตรงนนั้ ขณะนน้ั เสรมิ เขำ้ ไป เชน่ กำรใชเ้ สยี งสงั เครำะหเ์ สรมิ เขำ้ กบั ตอ้ งกำรเสรมิ เขำ้ ไป ซง่ึ สำมำรถกำ� หนดโดยใชส้ ญั ลกั ษณห์ รอื วตั ถทุ ่ี ควำมเปน็ จรงิ ทผี่ ใู้ ชอ้ ยผู่ ำ่ นหฟู งั เชน่ กำรจำ� ลองเสยี งของธรรมชำตทิ ี่ สำมำรถตรวจจบั ไดด้ ว้ ยตวั ตรวจจบั ตำ่ ง ๆ เชน่ กลอ้ ง อปุ กรณร์ บั เกดิ ขน้ึ เมอื่ ผใู้ ชอ้ ยใู่ นทน่ี น้ั แตต่ ำ่ งเวลำ ตำ่ งฤดกู ำล รวมถงึ กำรเสรมิ เสยี ง หรอื คลนื่ สญั ญำณตำ่ ง ๆ ทตี่ ดิ อยกู่ บั โลกในควำมเปน็ จรงิ เชน่ สง่ิ จำ� ลองทไี่ มม่ อี ยจู่ รงิ เขำ้ ไปเพอ่ื สอ่ื ถงึ จนิ ตนำกำรทต่ี อ้ งกำรใหผ้ ใู้ ช้ กลอ้ งและโปรแกรม ตรวจหำตำ� แหนง่ และแปลรหสั จำกควิ อำรโ์ คด้ รบั รไู้ ด ้ เชน่ กำรเสรมิ ตวั ละครในจนิ ตนำกำรเขำ้ ไปกบั โลกจรงิ ทผี่ ใู้ ช้ (QR Code) งำนมองเหน็ ไดผ้ ำ่ นจอภำพเหมอื นกบั วำ่ ตวั ละครเสมอื นนน้ั อยใู่ นโลก ควำมเปน็ จรงิ สว่ นทสี่ อง เปน็ สว่ นประมวลผลเพอ่ื นำ� ขอ้ มลู ทต่ี อ้ งกำรเสรมิ มำ ปรบั ใหเ้ ขำ้ กบั สภำพแวดลอ้ มในควำมเปน็ จรงิ รวมถงึ แสดงภำพตำม กำรสรำ้ งควำมเปน็ จรงิ เสมอื นในยคุ แรกเปน็ กำรจำ� ลองกำรขบั มมุ มองทคี่ ำ� นวณจำกตำ� แหนง่ ของสญั ลกั ษณท์ อี่ ำ่ นคำ่ มำไดแ้ ละ เครื่องบินท่ีผนวกเข้ำกับระบบกำรแสดงภำพวิดีโอที่บันทึกมำจำก ตำ� แหนง่ ในกำรมองของผใู้ ชง้ ำน กำรบนิ จรงิ และมกี ำรพฒั นำเพม่ิ เตมิ โดยเฉพำะกบั งำนทตี่ อ้ งใชร้ ว่ ม กบั ควำมเปน็ จรงิ ในขณะนน้ั เพอื่ ทำ� ใหผ้ ใู้ ชง้ ำนทำ� งำนไดม้ ปี ระสทิ ธภิ ำพ สว่ นสดุ ทำ้ ย คอื กำรแสดงผลทเ่ี สรมิ สงิ่ ทไ่ี ดจ้ ำกกำรจำ� ลองเขำ้ ไป ดขี น้ึ กบั ควำมเปน็ จรงิ โดยประสำนตำ� แหนง่ และเวลำใหเ้ ขำ้ กนั ระหวำ่ งสง่ิ ทจ่ี ำ� ลองขน้ึ และควำมเปน็ จรงิ เชน่ กำรใชเ้ ครอ่ื งฉำยภำพโพรเจกเตอร์ ในประเทศไทยมีกำรใช้งำนควำมเปน็ จริงเสรมิ กับงำนด้ำนกำร ฉำยภำพลงบนวตั ถหุ รอื สงิ่ แวดลอ้ มทต่ี อ้ งกำรเสรมิ ดว้ ยแบบจำ� ลอง ตลำดสง่ เสรมิ กำรขำย เพม่ิ ลกู เลน่ ใหก้ บั สนิ คำ้ และบรกิ ำร ใหล้ กู คำ้ หรือกำรแสดงภำพท่ีได้ถ่ำยโลกในควำมเป็นจริงท่ีเสริมแบบจ�ำลอง เข้ำถึงข้อมูลที่มำกขึ้นด้วยกำรจับภำพเคร่ืองหมำยเออำร์โค้ด (AR ๓ มติ ิ หรอื ตวั อกั ษร หรอื ภำพ เขำ้ ไปบรเิ วณทท่ี ำ� สญั ลกั ษณไ์ ว ้ เพอ่ื Code) เป็นต้น รวมถึงกำรใช้สรำ้ งภำพของวัตถุที่เก่ียวข้องกับค�ำ ใหผ้ ใู้ ชม้ องเหน็ ทง้ั สองสง่ิ พรอ้ มกนั บรรยำยในเอกสำร หนงั สอื สงิ่ พมิ พ ์ หนงั สอื พมิ พ ์ ในชว่ ง พ.ศ. ๒๕๕๐ เปน็ ตน้ มำ แตท่ แี่ พรห่ ลำยในวงกวำ้ ง ไดแ้ ก ่ กำรใชก้ บั แผน่ การประยกุ ตใ์ ชง้ าน เร่มิ แรก ในระบบควำมเปน็ จรงิ เสรมิ พบั ทรี่ ะลกึ งำนพระรำชพธิ ถี วำยพระเพลงิ พระบรมศพพระบำทสมเดจ็ ผใู้ ชส้ ำมำรถรบั รขู้ อ้ มลู ทม่ี ำกขน้ึ ชดั เจนขน้ึ รวมถงึ เพม่ิ ควำมสะดวก พระปรมนิ ทรมหำภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนำถบพติ ร และประสทิ ธภิ ำพในกำรรบั รขู้ อ้ มลู ขำ่ วสำรเกย่ี วกบั ควำมเปน็ จรงิ ท่ี ผใู้ ชร้ บั รใู้ นขณะนน้ั เชน่ มขี อ้ มลู แบบทป่ี กตไิ มม่ ี ณ ตำ� แหนง่ ทม่ี องเหน็ แมว้ ำ่ เทคโนโลยเี ออำรจ์ ะมมี ำกอ่ นหนำ้ นน้ี ำน แตก่ ำรแพรห่ ลำย เชน่ มคี ำ� บรรยำย คำ� แปล แสดง เพมิ่ เตมิ พรอ้ มกบั เหน็ สถำนทหี่ รอื ขนึ้ กบั เครอื่ งมอื หรอื อปุ กรณท์ ใี่ ชไ้ ด ้ รวมถงึ กำรออกแบบเนอื้ หำทแี่ สดง วตั ถทุ กี่ ำ� ลงั มองเหน็ หรอื ผใู้ ชส้ ำมำรถรบั ร ู้ มองเหน็ ไดย้ นิ ไดก้ ลนิ่ ให้ใช้งำนได้จริงบนอุปกรณ์ที่ผู้ใช้งำนมี ซ่ึงในปัจจุบันอุปกรณ์ท่ี ใช้งำนได้ เช่น โทรศัพท์เคล่ือนที่มีรำคำถูกลงแต่มีประสิทธิภำพ ภาพท่ี ๒ คาํ แปลปรากฎขนึ ้ ท่ีหนา้ จอ เม่ือนาํ โทรศพั ทไ์ ปส่องท่ีปา้ ย สงู ขน้ึ มำก จงึ สำมำรถออกแบบระบบควำมเปน็ จริงเสรมิ ทีน่ ำ่ สนใจ ซ่งึ มีคําในภาษาต่างประเทศ จนไดร้ ับกำรยอมรบั และนำ� ไปใชง้ ำนจรงิ มำกขนึ้

๑๖๔ ความเป็ นจรงิ ผสม (Mix reality) ความเป็ นจรงิ ผสม (Mix reality) ห รื อ ค ว า ม เ ป็ น จ ริ ง เ ห นื อ จ ริ ง (Hyper reality) หรือความเป็ น จรงิ ผสาน (Merged reality) คือ การผสมผสานการสรา้ งความคิด ห รื อ ค ว า ม รู ส้ ึ ก ท่ี เ กิ ด จ า ก ก า ร จาํ ลองในโลกเสมอื น และวตั ถุหรอื ปรากฏการณท์ ่ีเกิดขึน้ ในโลกจรงิ พรอ้ มกนั กลา่ วคือ เป็ นการท่ีผูใ้ ช ้ งาน ร บั รูแ้ ล ะ มี ป ฏิส มั พ นั ธ ก์ บั ส่ิ ง ต่าง ๆ ในความเป็ นจรงิ แลวตั ถุ ห รื อ ก า ร จํา ล อ ง ใ น โ ล ก เ ส มื อ น ท่ี ผูใ้ ชส้ ามารถรบั รูก้ ารตอบสนอง ไ ด ไ้ ป พ ร อ้ ม ๆ ก นั เปน็ จรงิ ผำ่ นทำงกำรมองเหน็ ไดย้ นิ ไดก้ ลน่ิ รบั องคป์ ระกอบของความเป็ นจรงิ ผสม หรืออุปกรณ์ก�ำเนิดคล่ืนเสียง ควำมสั่น หรือ รส หรอื สมั ผสั กบั วตั ถตุ ำ่ ง ๆ รอบตวั ขณะเดยี วกนั ประกอบด้วย สัญญำณไฟฟ้ำ ควำมร้อน รวมถึงแรงที่สำมำรถ ณ ตำ� แหนง่ และเวลำที่ก�ำหนดในโลกจริง จะมีกำร ทำ� งำนไดอ้ ยำ่ งมปี ระสทิ ธภิ ำพ รวดเรว็ เพยี งพอและ แสดงขอ้ มลู จำ� ลองในโลกเสมอื นขนึ้ โดยทำ� กำรซอ้ น ส่วนน�ำเข้ำข้อมูลจำกผู้ใช้และโลกในควำม สะดวกในกำรตดิ ตงั้ ใช้งำนกับผ้ใู ช้งำนท่เี คล่ือนไหว ข้อมูลท่ีผู้ใช้สำมำรถรับรู้ได้ด้วยสัมผัสทั้งห้ำไว้ด้วย เป็นจริง ได้แก่ อุปกรณ์ที่มีตัวตรวจจับต�ำแหน่ง ในโลกจรงิ รวมถงึ หนว่ ยประมวลผลสรำ้ งกำรจำ� ลอง กันกับควำมเป็นจรงิ ทร่ี บั รอู้ ย ู่ เชน่ ขณะมองไปตำม หรือเวลำจำกควำมเป็นจริงรอบผู้ใช้งำน และส่วน ด ้ ว ย ค อ ม พิ ว เ ต อ ร ์ ที่ ป ร ะ ส ำ น ต� ำ แ ห น ่ ง แ ล ะ เ ว ล ำ ทำงทเี่ ดนิ จะมขี อ้ มลู ขำ่ วสำรทตี่ ำ� แหนง่ ทส่ี นใจ หรอื นำ� เขำ้ ขอ้ มลู จำกผใู้ ชง้ ำน สำ� หรบั ควบคมุ สง่ั งำน หรอื ระหว่ำงผลลัพธ์ที่จ�ำลองขึ้นกับควำมเป็นจริงที่ผู้ใช้ สำมำรถเรียกหน้ำจอกำรสนทนำด้วยข้อควำมจำก น�ำไปค�ำนวณหรือท�ำปฏิบัติกำรต่ำง ๆ ในระบบ รบั รูอ้ ย่ขู ณะนั้น โทรศพั ทเ์ คลอื่ นท ี่ แสดงซอ้ นบนภำพทำงเดนิ ทม่ี อง คอมพวิ เตอร ์ ไปจนถงึ กำรตดิ ตอ่ สอ่ื สำร ผำ่ นแวน่ จอแสดงภำพ สว่ นกำรแสดงผลควำมจรงิ ทผี่ สมผสำนกนั เชน่ สว่ นกำรประมวลผลเพอ่ื สรำ้ งผลลพั ธจ์ ำกขอ้ มลู จอภำพสวมศีรษะ ท่ีแสดงกำรแทรกภำพหน้ำจอ ภาพท่ี ๑ ผูใ้ ชก้ าํ ลงั ดูภาพอุปกรณ ์ ที่ได้รับจำกโลกจริง จำกผู้ใช้งำน และข้อมูลในตัว กรำฟกิ รปู ๓ มติ ิ ภำพเคลอื่ นไหว กรำฟ ทพ่ี อดกี บั เม่ือมีภาพชิน้ ส่วนจาํ ลองประกอบซอ้ นเสริมเขา้ กบั ระบบโลกเสมอื นเองเพอ่ื สรำ้ งผลลพั ธส์ ง่ ไปยงั อปุ กรณ์ ภำพทผ่ี ใู้ ชม้ องเหน็ จำกโลกจรงิ หรอื แวน่ ตำมองเหน็ ชิน้ ส่วนจรงิ ผ่านแว่นตา HoloLens ทผ่ี ใู้ ชร้ บั รไู้ ด ้ สว่ นทใี่ ชแ้ สดงผลเพอื่ สรำ้ งกำรรบั รสู้ งิ่ ท่ี ทง้ั โลกจรงิ และโลกเสมอื นหรอื อปุ กรณฉ์ ำยบนโลกจรงิ จำ� ลองขนึ้ ในโลกเสมอื น ไมว่ ำ่ จะเปน็ จอภำพ ลำ� โพง

๒๖๒—๒๖๓ ภาพท่ี ๒ เทคโนโลยีแสดงภาพ ๓ มิติเสริมในความเป็ นจรงิ ภาพท่ี ๖ โรงภาพยนตร ์ ๔ มิติ ท่ีมีการใชเ้ ทคโนโลยีใหผ้ ูใ้ ชร้ บั รจู ้ าก บท ่ีท ๖ การใช้เทคโนโล ียการ ่ืสอสาร แสดงโครงกระดูกในการเรียนดา้ นกายวิภาคดว้ ยระบบ สมั ผสั ท่ีมากกว่าการมองเหน็ Complete Anatomy Lab (CAL) ภาพท่ี ๗ การใชส้ ่ือประสมร่วมกบั การออกแบบฉากสถานท่ีใหผ้ ูร้ บั ภาพท่ี ๓ การติดตงั้ กลอ้ งตรวจจบั ขอ้ มูลในโลกจรงิ เขา้ กบั แว่นตา ชมนิทรรศการรูส้ ึกสมจรงิ แสดงภาพ ๓ มิติ ในระบบความเป็ นจรงิ ประสมระหว่างระบบ วีอารแ์ ละเออารแ์ บบนอ้ ยชิน้ การประยกุ ตใ์ ชง้ าน ปจั จบุ นั กำรประยกุ ตใ์ ชง้ ำนควำมจรงิ ผสม มกั อยใู่ นดำ้ นบนั เทงิ เชน่ กำรสรำ้ งเครอื่ งเลน่ ในสวนสนกุ ทมี่ กี ำรใช้ ภาพท่ี ๔ การออกแบบทางสถาปตั ยกรรมโดยใชค้ วามเป็ นจรงิ กำรรบั ร้กู ำรเคล่อื นไหวของตัวเครอื่ งเล่นผสมกับกำรรบั รภู้ ำพเสียง ประสมแสดงผลลพั ธข์ องการออกแบบท่ีผูอ้ อกแบบเขา้ ถงึ ได ้ และกำรสนั่ ของอปุ กรณท์ แี่ ทนกำรรบั รสู้ ง่ิ ทจี่ ำ� ลองขน้ึ มำ เชน่ กำรใช้ สมจรงิ ภำพและเสยี งรวมกบั กำรสน่ั สะเทอื น เพอ่ื ใหผ้ ใู้ ชร้ บั รถู้ งึ กำรชนหรอื ปะทะกบั สงิ่ ของ กำรทำ� ใหผ้ ใู้ ชร้ บั รถู้ งึ ควำมเรว็ ของรถไฟเหำะดว้ ยกำร ภาพท่ี ๕ ระบบความเป็ นจรงิ ประสมท่ีพฒั นาบนระบบปฏบิ ตั ิการ แสดงภำพและเสยี งทเ่ี ปลยี่ นแปลงรวดเรว็ พรอ้ มกบั มกี ำรโยกของเกำ้ อ้ี คอมพิ วเตอรเ์ ปิ ดเพ่ื อเช่อื มโยงกบั อุปกรณห์ ลายผูผ้ ลิตใหส้ ามารถ นงั่ ใหเ้ หมอื นกบั รถไฟกำ� ลงั เคลอ่ื นไปบนรำงดว้ ยควำมเรว็ รวมไปถงึ ทาํ งานร่วมกนั ไดท้ งั้ รูปแบบ AR VR หรือผสม กำรเพมิ่ ลกู เลน่ ของกำรสน่ั ของเกำ้ อใี้ นโรงหนงั ทสี่ อดคลอ้ งกบั เสยี งใน ภำพยนตร ์ ๓ มติ ิ กำรพน่ ลม เพอื่ ใหผ้ ชู้ มรบั รถู้ งึ อณุ หภมู ิ หรอื ลม ตำมเนอ้ื เรอื่ งทกี่ ำ� ลงั ฉำย การใชง้ านในประเทศไทย นอกเหนือจำกระบบเครื่องเล่น หรอื เกม รวมถงึ โรงหนงั ทนี่ ำ� เขำ้ จำกตำ่ งประเทศ ยงั มกี ำรนำ� ควำม เปน็ จรงิ ผสมใชก้ บั กำรจดั แสดงพิพิธภัณฑ์ให้มีควำมน่ำสนใจ โดยผู้ ใช้งำนสำมำรถรับรู้โดยกำรมองเห็น หรือรู้สึกถึงกำรเคล่ือนไหว ของที่นั่ง และโต้ตอบกับสิ่งท่ีจ�ำลองข้ึนมำไปพร้อมกับกำรดูและฟัง วัตถุ ฉำก หรืออ่ำนข้อควำมที่จัดแสดงไปพร้อม ๆ กัน ซ่ึงอำจมี กำรใช้อุปกรณ์พิเศษช่วยในกำรแสดงผล เช่น กำรจัดแสดงเน้ือหำ ในนิทรรศกำรรตั นโกสินทร ์ ทผ่ี ูช้ มสำมำรถรบั รถู้ งึ กำรใชช้ ีวติ เรอ่ื ง รำวทำงประวัติศำสตร์ ในขณะที่รู้สึกเหมือนกับโดยสำรอยู่บนเรือ หรือรถรำง

ตอนท่ี ๒ เทคโนโลยกี ารสอื่ สาร บทท่ี ๗ เนื อ้ หาและผลกระทบของส่ื อ ๑๖๕ เนื อ้ หาของส่ือในยุคดิจิทลั ๑๖๖ นิ ยามระบบนิ เวศนส์ ่ือของไทย ๑๖๗ นโยบายในการกาํ กบั ดูแล



๑๖๕ เนือ้ หาของสื่อในยุคดิจทิ ลั เนือ้ หาส่อื ดจิ ทิ ลั (Digital contents) หมายถงึ ข่าวสาร ขอ้ มูล ท่ีถูกจดั ทาํ ลักษณะของเน้ือหำส่ือดิจิทัล ได้แก่ ข้อควำม ขนึ ้ โดยบุคคล หรอื คณะบุคคลอย่างอสิ ระ และปราศจากการตรวจสอบ (Text) เสียง (Audio) ภำพน่ิง (Photo/Still คดั กรอง แลว้ นาํ เผยแพรอ่ ยู่บนเครอื ข่ายอนิ เทอรเ์ น็ต image) ภำพเคลอื่ นไหว (Animation) อนิ โฟกรำฟกิ (Infographic) และวิดีโอ (Video) กำรน�ำเสนอเน้ือหำสื่อดิจิทัลให้เกิดกำรรับรู้ อย่ำงแพร่หลำย สำมำรถกระท�ำผ่ำนช่องทำง ต่ำง ๆ ได้แก่ อีเมล เว็บไซต์ กระดำนสนทนำ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส ์ แบบแอปพลิเคชัน และส่ือส่ิงพิมพ์ ออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ ยูทูบ ทวิตเตอร์ เนื้อหำสื่อดิจิทัลทุกลักษณะที่แพร่กระจำย ผ่ำนหลำยช่องทำงกำรน�ำเสนอ มุ่งหวังบรรลุ วัตถุประสงค์ส�ำคัญ ๔ ประกำร ได้แก่ เพื่อควำม บันเทิง เพื่อกำรศึกษำ เพื่อโน้มน้ำวใจ และเพ่ือ เปล่ียนควำมคิดทัศนคติ ทุกวัตถุประสงค์ของกำรน�ำเสนอเน้ือหำส่ือ ดจิ ทิ ลั เปน็ สงิ่ ทต่ี อ้ งกำรกำรกำ� กบั ดแู ลอยำ่ งเหมำะสม เพ่ือป้องกันและแก้ไขปัญหำที่อำจเกิดขึ้นจำกกำร เผยแพร่ ในส่วนของเป้ำหมำยกำรก�ำกับดูแลเน้ือหำสื่อ ดจิ ทิ ลั ได้แก่ กำรป้องกันกำรหม่นิ สถำบนั เบือ้ งสงู ก ำ ร ป ้ อ ง กั น ก ำ ร ป ลุ ก ร ะ ด ม ส ร ้ ำ ง ค ว ำ ม แ ต ก แ ย ก ก ำ ร ป ้ อ ง กั น ก ำ ร ล ่ ว ง ล ะ เ มิ ด ห รื อ ก ำ ร ท� ำ ล ำ ย ศิ ล ป วั ฒ น ธ ร ร ม ต ล อ ด จ น ศี ล ธ ร ร ม อั น ดี ง ำ ม กำรปกปอ้ งเด็ก เยำวชน จำกเนือ้ หำท่ีไมเ่ หมำะสม แ ล ะ เ ป ็ น อั น ต ร ำ ย แ ล ะ ก ำ ร ป ก ป ้ อ ง เ ส รี ภ ำ พ ก ำ ร แสดงออก มำตรกำรกลไกกำรก�ำกับดูแลเนื้อหำส่ือดิจิทัล สำมำรถใชก้ ระบวนกำรทำงกฎหมำย (Legal) กำรปิด กั้นและกลั่นกรองเน้ือหำ (Blocking and filtering s y s t e m ) ห รื อ โ ด ย ก ฎ ก ติ ก ำ ม ำ ร ย ำ ท แ ล ะ มำตรฐำนทำงจริยธรรม (Code of conduct) สำมำรถร้องเรยี นปัญหำไดโ้ ทรศพั ทส์ ำยด่วน (Hot Line) อีเมล หรือปุ่มร้องเรียน และจ�ำเป็นต้องสร้ำง เสริมควำมรู้ให้เท่ำทันส่ือ (Media literacy)

๑๖๖ นิยามระบบนิเวศ เพื่อขำยข่ำว อีกท้ังระบบนิเวศสื่อของไทยม ี ๒๖๖—๒๖๗ สื่อของไทย สอื่ สรำ้ งสรรคน์ อ้ ยลง เหตเุ พรำะรำยไดไ้ ปผกู ขำด ส่ือเพียงไม่ก่ีรำย ท�ำให้ขำดรำยกำรที่มีคุณภำพ ขำดขำ่ วแนวสบื สวน และอนำคตเชอื่ วำ่ จะลดนอ้ ย ลงอกี เนอ่ื งจำกกำรทำ� ขำ่ วลกั ษณะนมี้ คี วำมเสย่ี ง ทจ่ี ะถกู ฟอ้ งหรอื ถกู ตดั โฆษณำ รวมถงึ เกดิ สอื่ แยก ย่อย โดยส่อื ทเ่ี ข้ำสอู่ อนไลน ์ จะมีวิธกี ำรคดั เลือก สำรให้ตรงกับรสนยิ มของผเู้ สพ หำกมองในเร่ือง เศรษฐกิจไม่มีปัญหำ เพรำะสำมำรถเลือกเสพ รำยกำรท่ีสนใจไดม้ ำกทสี่ ดุ ถือเป็นทำงเลอื กของ ผู้บริโภค แต่เมื่อมองด้ำนกำรเมืองและสังคม พบวำ่ ผเู้ สพจะไดเ้ ฉพำะขอ้ มลู ทห่ี นนุ ควำมเชอ่ื ของ ตัวเอง ท�ำให้สังคมเกิดกำรแบ่งขั้วและขำด จิตส�ำนึกร่วม เพรำะส่ือออนไลน์มีผู้ทรงอิทธิพล บนโลกออนไลน์ (Online Influencer) บุคคล กลุ่มน้ีมีอิทธิพลต่อควำมคิดและพฤติกรรมของ สมำชิกที่ติดตำมเป็นอย่ำงมำก หลำยครั้งเพจ ใหญ่ ๆ ได้มีกำรเปิดประเด็นบนโลกออนไลน ์ จนกระท้ังสื่อหลักต้องอำศัยข้อมูลเหล่ำน้ันน�ำมำ ท�ำเป็นข่ำว แต่บุคคลกลุ่มนี้ก็ไม่ได้เป็นแค่คนดี เสมอไป อำจจะมกี ำรแสวงหำประโยชน ์ รวมไปถงึ ให้ข้อมูลปลอมเพ่ือเพิ่มรำยได้ให้กับตนเอง นิ เ ว ศ ส่ื อ ( M e d i a E c o l o g y ) เ ป็ น แ น ว คิ ด ใ น ก า ร จ ดั ร ะ บ บ ส�ำหรับต่ำงประเทศเร่ืองระบบนิเวศสื่อก็ได้ ส่ิ ง แ ว ด ล อ้ ม ล ว้ น ส ร า้ ง ผ ล ก ร ะ ท บ ต่ อ ก า ร ร บั รู ้ ค ว า ม เ ข า้ ใ จ สร้ำงผลกระทบดว้ ยเช่นกัน และเปน็ ผลสืบเนอ่ื ง ค ว า ม รู ส้ ึ ก ก า ร ใ ห ค้ ุ ณ ค่ า แ ล ะ ย งั ห ม า ย ถึ ง ก า ร ท่ี ม นุ ษ ย เ์ ข า้ ไ ป มำจำกผลกระทบกันภำยในประเทศไทย เมื่อมี มี ป ฏิ ส มั พ นั ธ ก์ บั ส่ื อ ทํ าใ หส้ า ม าร ถใช ช้ ี วิ ต อ ย่ า ง ป ก ติ สุ ข กำรเคลอ่ื นไหวในสอ่ื ของประเทศไทยและประเทศ ต่ำง ๆ เงินดำ้ นโฆษณำจะเกดิ กำ� ไรขึ้นกบั บริษัท เพรำะระบบสำรสนเทศก็ไม่ต่ำงจำกระบบ มีโอกำสเข้ำถึงสื่อ และใช้ส่ือได้อย่ำงเหมำะสม ในต่ำงประเทศ ทั้งเฟซบุ๊ก (Facebook) และ บท ่ีท ๗ เ ืน้อหาและผลกระทบของ ่ืสอ กำรหมนุ เวียนของส่งิ แวดล้อม แนวคดิ น้กี ล่ำวได้ ส่วนผู้ใช้และผู้ผลิตต้องให้ควำมส�ำคัญกับผู้ท่ี กเู กลิ (Google) กวำดรำยไดโ้ ฆษณำออนไลนเ์ ปน็ ว่ำ ข่ำวสำรที่ไหลเวียนอยู่ในสังคมเหมือนน้�ำ ส่ือสำรแลกเปล่ียนร่วมกันอย่ำงเท่ำเทียม และ สว่ นใหญจ่ ำกกำรกระทำ� กจิ กรรมตำ่ ง ๆ ในสอ่ื ของ แสงแดด อำหำร และอำกำศ ไหลเวียนหลอ่ เลยี้ ง สือ่ สำรผำ่ นเนอ้ื หำทีด่ ี มีประโยชน์ตอ่ ตวั ผสู้ ื่อสำร ผูใ้ ช้งำน สว่ นส่อื อื่น ๆ ทีไ่ มเ่ กย่ี วขอ้ งกับรำยได้ สรรพชวี ติ อย่ใู นห่วงโซ่ของระบบนเิ วศ หำกระบบ รวมถึงผู้รับสำร จำกนั้นภำครัฐและภำคเอกชน จำกกำรโฆษณำ ตัวอย่ำงเช่น ดิสนีย์อยู่รอดได้ นิ เ ว ศ ไ ด ้ ส ม ดุ ล ส ร ร พ ชี วิ ต ก็ จ ะ เ จ ริ ญ เ ติ บ โ ต ต้องท�ำงำนร่วมกันอย่ำงสอดคล้อง คอยก�ำกับ เ พ ร ำ ะ เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ก ล ยุ ท ธ ์ ใ น ก ำ ร ท� ำ ธุ ร กิ จ งอกงำม เป็นรม่ เงำและอำหำรแกช่ ีวติ อ่ืน ถำ้ เสยี ควบคุม โดยสร้ำงค ่ ำ นิ ย ม ใ ห ้ ทุ ก ก ำ ร ส่ื อ ส ำ ร จำกเดมิ มงุ่ สรำ้ งภำพยนตรจ์ ำ� นวนมำกใหล้ ดนอ้ ย ส ม ดุ ล ต ้ น ไ ม ้ ก็ จ ะ เ ห่ี ย ว เ ฉ ำ เ กิ ด วิ ก ฤ ต ท ำ ง เ อ้ื อ อ� ำ น ว ย ต ่ อ ก ำ ร อ ยู ่ ร่วมกัน ล ง แ ต ่ เ น ้ น ภ ำ พ ย น ต ร ์ ท่ี ส ร ้ ำ ง ก� ำ ไ ร ห รื อ สงิ่ แวดลอ้ ม ระบบนเิ วศสอ่ื เกดิ ขนึ้ มอี งคป์ ระกอบ หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ เน้นบริกำรขำย ๔ ส่วน ไดแ้ ก่ ผู้ใช ้ ผผู้ ลิต ผู้กำ� กบั ควบคมุ และ ส�ำหรับในประเทศไทย ระบบนิเวศส่ือมี ออนไลน์เป็นหลัก เนอ้ื หำ องคป์ ระกอบเหลำ่ นก้ี อ่ ใหเ้ กดิ ระบบนเิ วศสอ่ื ผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจ กำรเมืองและสังคม ท่ีดีและสร้ำงสมดุลให้ส่ือเป็นไปตำมแบบแผน โดยพบวำ่ ปจั จบุ นั มสี อื่ ไมป่ ลอดภยั เกดิ ขนึ้ เหมอื น ระบบนิเวศไม่สมดุลกัน วิธีแก้ปัญหำคือ ท่วี ำงไว้ มีมลพิษอยู่มำก และไม่มีควำมสมดุลของระบบ ต้องท�ำให้ประชำชนรู้เท่ำทันสื่อ และไม่หลงเชื่อ นิเวศ เช่น โฆษณำเท็จ เน้ือหำสำระที่เป็นเท็จ เน้ือหำท่ีได้อ่ำน ได้ยิน ได้ฟัง แต่สำมำรถคิด ระบบนิเวศสื่อท่ีดีควรเร่ิมจำกกำรอบรม หรือกำรเอำเปรียบผู้บริโภค นอกจำกนี้ยังม ี วเิ ครำะห ์ สงสยั และรจู้ กั กำรวพิ ำกษส์ อื่ สว่ นภำค ทกั ษะและศลิ ปะในกำรใชส้ อื่ แกผ่ ใู้ ช ้ เพอื่ ใหท้ กุ คน ข่ำวปลอม (Fake news) หรือจงใจเขียนข้ึนมำ รัฐและเอกชนต้องสร้ำงมำตรกำรในกำรก�ำกับ ดูแลมำกขึน้ และผู้ผลิตส่อื ต้องสรำ้ งสรรคเ์ นือ้ หำ ทด่ี มี คี ณุ ภำพ รวมถงึ ตอ้ งมกี ำรสง่ เสรมิ กำรกำ� กบั ดแู ลและจรยิ ธรรมสื่อเพม่ิ มำกขึน้

๑๖๗ นโยบายในการกาํ กบั ดูแล กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทศั น ์ รวมทงั้ การใหบ้ ริการโครงข่ายอินเทอรเ์ น็ต จดั เป็ นกิจการส่ือสาร มวลชนท่ีมีการกาํ กบั ดูแลเนือ้ หาโดยหน่วยงานรฐั เขม้ งวดท่ีสุด เม่อื เทียบกบั กิจการส่ือสารมวลชนทุกประเภท ดว้ ยเหตุท่ีเป็ นกิจการซ่งึ ตอ้ งใชท้ รพั ยากรคล่ืนความถ่อี นั เป็ นสมบตั ิสาธารณะ อีกทงั ้ ยงั เป็ นกิจการท่ีมีขีด ความสามารถเขา้ ถงึ ประชาชนไดอ้ ย่างกวา้ งขวาง และมีอทิ ธิพลในระดบั สูงต่อค่านิยม ความคิด ตลอดจน ทศั นคติของประชาชน

๒๖๘—๒๖๙ พฒั นาการการกํากบั ดูแล แบ่งออกเป็น ๒ ช่วง ดังน้ี ต่อควำมมนั่ คงของชำติ โดยมผี แู้ ทนจำก 9 หน่วยรำชกำรรว่ มเปน็ บท ่ีท ๗ เ ืน้อหาและผลกระทบของ ่ืสอ คณะกรรมกำร ประกอบด้วย กระทรวงไอซีท ี กระทรวงวัฒนธรรม ๑. ยคุ กอ่ นปฏริ ปู ส่ือ กำรกำ� กบั ดแู ลสอื่ วทิ ยกุ ระจำยเสยี ง กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร กระทรวงยตุ ธิ รรม สำ� นกั งำนขำ่ วกรองแหง่ ชำติ และวทิ ยโุ ทรทศั น ์ กอ่ น พ.ศ. ๒๕๔๐ ซง่ึ เปน็ ชว่ งเวลำกอ่ นกำรปฏริ ปู สำ� นกั งำนตำ� รวจแหง่ ชำต ิ สำ� นกั งำนคณะกรรมกำรปรำบปรำมกำร ส่ือ อยู่ภำยใต้คณะกรรมกำรบริหำรวิทยุกระจำยเสียง และวิทยุ ฟอกเงิน กำรสื่อสำรแห่งประเทศไทย และองค์กำรโทรศัพท์แห่ง โทรทัศน์ (กบว.) ซึ่งถูกจัดต้ังข้ึนตำมระเบียบวิทยุกระจำยเสียง ประเทศไทย และวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. ๒๕๑๘ การกาํ กบั ดูแลกิจการส่ือ แบง่ ออกเป็น ๓ กระทรวงตำม ต่อมำใน พ.ศ. ๒๕๓๕ รัฐบำลนำยอำนันท์ ปันยำรชุน ได้ ลักษณะของสอ่ื ดงั นี้ ยกเลิกระเบียบวิทยุกระจำยเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. ๒๕๑๘ พร้อมกบั ยกเลกิ คณะกรรมกำรบริหำรวทิ ยกุ ระจำยเสียง และวิทยุ ๑. ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรกิจกำรกระจำยเสียง กิจกำร โทรทัศน์ (กบว.) แล้วออกระเบียบวิทยุกระจำยเสียงและวิทยุ โทรทศั น ์ และกิจกำรโทรคมนำคมแหง่ ชำติ (กสทช.) รับผิดชอบ โทรทศั น ์ พทุ ธศกั รำช ๒๕๓๕ และจดั ตง้ั คณะกรรมกำรกจิ กำรวทิ ยุ ก�ำกับดแู ลเน้อื หำทเี่ ผยแพรผ่ ำ่ นส่อื วทิ ยุและโทรทัศน์ กระจำยเสียงและวิทยุโทรทัศน์แห่งชำติ (กกช.) ท�ำหน้ำท่ีเป็น กลไกก�ำกับดูแลแทน แต่กำรตรวจพิจำรณำเน้ือหำรำยกำรวิทยุ ๒. กระทรวงดิจิทลั เพอื่ เศรษฐกจิ และสังคม รับผดิ ชอบกำ� กบั กระจำยเสียง และวิทยุโทรทัศน์ ตลอดจนโฆษณำ ให้ผู้ประกอบ ดูแลเน้ือหำท่ีเผยแพร่ผำ่ นโครงข่ำยอินเทอรเ์ นต็ กิจกำรรบั ผิดชอบตรวจพิจำรณำอนุมัติไดเ้ อง ๓. กระทรวงวฒั นธรรม รบั ผดิ ชอบกำ� กบั ดแู ลเนอื้ หำทเี่ ผยแพร่ ส�ำหรับกำรก�ำกับดูแลสื่ออินเทอร์เน็ต ริเริ่มด�ำเนินกำรเป็น ผ่ำนภำพยนตร์และสง่ิ พมิ พ์ ครง้ั แรกใน พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยคณะกรรมกำรเทคโนโลยสี ำรสนเทศ แหง่ ชำต ิ (National Information Technology Committee: NITC) กฏหมายท่ีเก่ียวขอ้ ง ได้แก่ ซ่ึงจัดตั้งขึ้นตำมระเบียบส�ำนักนำยกรัฐมนตรี ว่ำด้วยกำรส่งเสริม กำรพัฒนำเทคโนโลยีสำรสนเทศ มีนำยกรัฐมนตรีเป็นประธำน - พระรำชบญั ญตั ิลขิ สิทธ ์ิ พ.ศ. ๒๕๓๗ และพระรำชบัญญัติ คณะกรรมกำร และผอู้ ำ� นวยกำรศนู ยเ์ ทคโนโลยอี เิ ลก็ ทรอนกิ สแ์ ละ แก้ไขเพ่ิมเติมพระรำชบญั ญัตลิ ิขสทิ ธ ์ิ พ.ศ. ๒๕๓๘ คอมพวิ เตอรแ์ หง่ ชำต ิ (เนคเทค) เปน็ กรรมกำรและเลขำนกุ ำร เปน็ - พระรำชบญั ญตั วิ ำ่ ดว้ ยกำรกระทำ� ควำมผดิ เกยี่ วกบั คอมพวิ เตอร ์ หนว่ ยงำนหลกั ในกำรรับผิดชอบด�ำเนินกำร พ.ศ. ๒๕๕๐ - พระรำชบญั ญัตจิ ดแจ้งกำรพิมพ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ๒. ยคุ หลงั ปฏริ ปู ส่ือ กำรกำ� กบั ดแู ลสอ่ื วทิ ยกุ ระจำยเสยี ง - พระรำชบัญญัติภำพยนตร์และวดี ทิ ัศน์ พ.ศ. ๒๕๕๐ สอ่ื โทรทศั น ์ รวมทง้ั สอ่ื อนิ เทอรเ์ นต็ เกดิ กำรเปลย่ี นแปลงอยำ่ งมำก - พระรำชบญั ญตั กิ ำรประกอบกจิ กำรกระจำยเสยี งและกจิ กำร นับตั้งแต่มีกำรบังคับใช้รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พ.ศ. โทรทศั น ์ พ.ศ ๒๕๕๑ ๒๕๔๐ มีบทบัญญัติว่ำด้วยกำรปฏิรูปส่ือเป็นต้นมำ โดยเฉพำะ - พระรำชบัญญัติองค์กรจัดสรรคล่ืนควำมถ่ีและก�ำกับกำร อยำ่ งยิ่งกำรกำ� กบั ดแู ลสือ่ อินเทอร์เน็ต ประกอบกิจกำรวิทยกุ ระจำยเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ พ.ศ ๒๕๕๓ - พระรำชบญั ญัติคุ้มครองผบู้ ริโภค พุทธศกั รำช ๒๕๒๒ ควำมรับผิดชอบก�ำกับดูแลสื่ออินเทอร์เน็ต ได้เปล่ียนจำก และพระรำชบญั ญตั แิ กไ้ ขเพมิ่ เตมิ พระรำชบญั ญตั คิ มุ้ ครองผบู้ รโิ ภค คณะกรรมกำรเทคโนโลยีสำรสนเทศแห่งชำติ มำอยู่กับกระทรวง พ.ศ. ๒๕๔๑ เ ท ค โ น โ ล ยี ส ำ ร ส น เ ท ศ แ ล ะ ก ำ ร สื่ อ ส ำ ร ( ไ อ ซี ที ) เ มื่ อ มี ก ำ ร จั ด ต้ั ง - พระรำชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๑ หนว่ ยงำนแหง่ นขี้ นึ้ ใน พ.ศ. ๒๕๔๕ โดยอำศยั พระรำชบญั ญตั ปิ รำม กำรท�ำใหแ้ พร่หลำยและกำรคำ้ วัตถุลำมก พ.ศ. ๒๔๗๑ พระรำช นอกจำกนยี้ งั มปี ระกำศหลกั เกณฑก์ ำรกำ� กบั ดแู ลเนอื้ หำรำยกำร บัญญัติกำรสอบสวนคดพี ิเศษ พ.ศ. ๒๕๔๗ และพระรำชบญั ญัติ ในกจิ กำรกระจำยเสยี งและกจิ กำรโทรทศั น ์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ควบคมุ กจิ กำรเทปและวัสดโุ ทรทศั น ์ พ.ศ. ๒๕๓๐ เป็นเคร่อื งมอื ตอ่ มำใน พ.ศ. ๒๕๔๖ กระทรวงไอซีที ได้ต้ังคณะกรรมกำร สบื สวนปอ้ งกนั และปรำบปรำมอำชญำกรรมคอมพวิ เตอร์ (Cyber Inspector) ขนึ้ มำทำ� หนำ้ ทกี่ ำ� กบั ดแู ลเนอ้ื หำบนเวบ็ ไซต ์ ไมใ่ หเ้ ปน็ ภยั

ตอนท่ี ๓ ระบบนิเวศนส์ อ่ื ของประเทศไทย : ผปู ้ ระกอบการ ผใู ้ ช ้ กฎหมาย และการกาํ กบั ดแู ล บทนํา ๑๖๘ การหลอมรวมส่ื อ ๑๖๙ การซอื ้ และควบรวมกิจการสื่อ ๑๗๐ ยุคดิจิทลั และยุคเศรษฐกิจและ สงั คมดิจิทลั



๑๖๘ การหลอมรวมสื่อ การหลอมรวมส่ือ (Media convergence) หมายถงึ เครอื ขา่ ยการส่อื สาร ๓. เครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ นต็ เปน็ เครอื ขำ่ ย ท่ี เ กิ ด จ า ก ก า ร ห ล อ ม ร ว ม ร ะ ห ว่ า ง เ ค รื อ ข่ า ย โ ท ร ศ พั ท ์ เ ค รื อ ข่ า ย ขนำดใหญท่ มี่ ผี ใู้ ชง้ ำนอยมู่ ำกมำยทวั่ โลก ทำ� ใหเ้ กดิ คอมพิ วเตอร ์ และเครอื ข่ายอนิ เทอรเ์ น็ต ซ่งึ หลอมรวมกบั เทคโนโลยีส่ือ กำรพฒั นำทำงดำ้ นเทคโนโลยอี ยำ่ งมำกมำย มกี ำร เป็ นการขบั เคล่อื นของเทคโนโลยีท่ีสามารถรบั -ส่งสญั ญาณเสียง ภาพ บรกิ ำรทห่ี ลำกหลำย เชน่ กำรรบั สง่ ขอ้ มลู ระยะไกล น่ิง และขอ้ มูลไปพรอ้ ม ๆ กนั บนโครงข่ายเดียวกนั ผ่ำนเครือข่ำยกำรรับส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส ์ (e-mail) หรือกำรศึกษำทำงไกลผ่ำนอินเทอร์เน็ต (e-learning) เปน็ ตน้ กำรหลอมรวมสื่อ ม ี ๔ ระดบั ไดแ้ ก่ ๑. กำรหลอมรวมบริกำร (Convergence of services) ๒. กำรหลอมรวมของชอ่ งทำงกำรสอื่ สำรขอ้ มลู (Convergence of transmission channels) ๓. กำรหลอมรวมของอปุ กรณล์ กู ขำ่ ย (Conver- gence of terminals) ๔. กำรหลอมรวมของผใู้ หบ้ รกิ ำร (Convergence of providers) ผ่ำนกำรควบรวมกิจกำรและกำร สรำ้ งเครือขำ่ ยพนั ธมิตรทำงธรุ กจิ กำรใช้บริกำรที่เกี่ยวกับกำรหลอมรวมส่ือใน ประเทศไทย มีปจั จยั ๓ ประกำร คอื ๑. ควำมต้องกำรใช้บริกำรที่หลำกหลำยและ สำมำรถเขำ้ ถงึ ไดอ้ ยำ่ งสะดวกรวดเรว็ มำกยง่ิ ขนึ้ โดยใช ้ เครอื ขำ่ ยอนิ เทอรเ์ นต็ ทสี่ ำมำรถเชอื่ มตอ่ ไดจ้ ำกทใ่ี ด กไ็ ด้ตลอดเวลำ และกำรใชบ้ รกิ ำรนนั้ ไมไ่ ดจ้ ำ� กดั อยใู่ น เฉพำะกลุ่มผู้ท่ีมีควำมช�ำนำญด้ำนเทคโนโลยี เช่น ระยะแรกทมี่ กี ำรนำ� อนิ เทอรเ์ นต็ เขำ้ มำใช ้ ทำ� ใหม้ แี นว โนม้ ทม่ี กี ำรขยำยกำรใชม้ ำกยง่ิ ขนั้ มปี ระสทิ ธภิ ำพสงู ขน้ึ ดว้ ย กระแสหลอมรวมเทคโนโลยกี ลำยเปน็ จดุ เปลยี่ น ๑. เครือข่ ายโทรคมนาคม ค ว ำ ม ๒. กำรแขง่ ขนั ของผบู้ รกิ ำรและคำ่ บรกิ ำรทไ่ี มส่ งู ดำ้ นอตุ สำหกรรม เนอื่ งจำกเทคโนโลยอี นิ เทอรเ์ นต็ สำมำรถทำงเทคโนโลยที เ่ี ชอื่ มตอ่ ไดท้ งั้ สำยทองแดง มำกนกั เมอื่ เปรยี บเทยี บกบั กำรใชบ้ รกิ ำรเดยี วกนั จำก โทรทศั น ์ และโทรศพั ทเ์ คลอื่ นท ่ี ถกู หลอมรวมเขำ้ มำ สำยเคเบลิ โทรศพั ทแ์ บบไรส้ ำย หรอื แมก้ ระทงั่ ผำ่ น ชอ่ งทำงอน่ื ผปู้ ระกอบกำรทใี่ หบ้ รกิ ำรสนใจกำรบรกิ ำร อยใู่ นแหลง่ เดยี วกนั สำมำรถปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรม ดำวเทียม ท�ำให้มีทำงเลือกส�ำหรับกำรเช่ือมต่อได้ หลอมรวมสอื่ มำกขน้ึ ของผใู้ ช ้ สง่ ผลตอ่ วธิ กี ำรสอ่ื สำร กำรตลำด และกำร มำกขน้ึ รวมทงั้ ควำมกำ้ วหนำ้ ของเครอื ขำ่ ยอนิ เทอรเ์ นต็ เปลยี่ นแปลงทำงธรุ กจิ จำกเดมิ ทมี่ กี ำรแยกออกจำก กอ่ ใหเ้ กิดกำรใหบ้ ริกำรที่หลำกหลำย ๓. กำรเตบิ โตของกำรใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ควำมเรว็ สงู กนั ในแตล่ ะตลำดกำรแขง่ ขนั อยำ่ งชดั เจน กระทงั่ มำ นโยบำยของรฐั บำลสนบั สนนุ ผใู้ หบ้ รกิ ำรอนิ เทอรเ์ นต็ สทู่ ศิ ทำงกำรพฒั นำทำ� ใหส้ อ่ื ตำ่ ง ๆ กลำยเปน็ ตลำด ๒ . เ ค รื อ ข่ า ย วิ ท ยุ แ ล ะ โ ท ร ท ศั น ์ ควำมเรว็ สงู โดยมบี รษิ ทั กสท โทรคมนำคม จำ� กดั แข่งขันเดียวกัน มีควำมหลำกหลำย และเป็นทำง เ ค รื อ ข ่ ำ ย รู ป แ บ บ น้ี ส ่ ว น ใ ห ญ ่ ไ ด ้ รั บ ร ำ ย ไ ด ้ จ ำ ก (มหำชน) และบรษิ ทั ทโี อท ี จำ� กดั (มหำชน) เปน็ หนว่ ย เลอื กใหก้ บั ประชำชน รำยกำรบันเทิง เมื่อเครือข่ำยนี้สำมำรถเชื่อมต่อ งำนนำ� รอ่ ง ดงั นน้ั กำรเตบิ โตของกำรใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ผ่ำนเครือข่ำยอนิ เทอรเ์ นต็ แลว้ จะทำ� ใหเ้ กดิ บรกิ ำร ควำมเรว็ สงู มำกขน้ึ จะสง่ ผลใหบ้ รกิ ำรหลอมรวมสอ่ื มี กำรหลอมรวมด้ำนบริกำรของเครือข่ำยต่ำง ๆ ในรปู แบบตำ่ ง ๆ ทหี่ ลำกหลำย เชน่ ทง้ั กำรฟงั เพลง โอกำสขยำยตวั เพมิ่ ขน้ึ ตำมไปดว้ ย มีดังน้ี วทิ ย ุ และกำรรบั ชมโทรทศั นผ์ ำ่ นอนิ เทอรเ์ นต็

๑๖๙ การซือ้ และควบรวม กรณที ่ี ๒ บรษิ ทั ทถี่ กู ซอ้ื กจิ กำรสมคั รใจขำยหนุ้ ๒๗๒—๒๗๓ กิจการส่ื อ ใหก้ บั พนั ธมติ ร เพอื่ ใหก้ จิ กำรสำมำรถดำ� เนนิ กำรตอ่ ไปได ้ เรยี กวำ่ กำรเขำ้ ควบคมุ กจิ กำรแบบเปน็ มติ ร แผนแมบ่ ทกจิ การโทรคมนาคม มเี ปา้ หมายใหก้ าํ หนดหลกั เกณฑ ์เงอ่ื นไข (Friendly takeover) หรอื กำรซอ้ื กจิ กำรแบบเปน็ วธิ กี ารดาํ เนินการ วธิ ปี อ้ งกนั พฤตกิ รรมการกดี กนั และขอ้ กาํ หนดอน่ื ๆ มติ ร เชน่ บรษิ ทั เดอะวอลตด์ สิ นยี ์ (The Walt เพ่ือสง่ เสรมิ ผปู ้ ระกอบการรายใหม่ สง่ เสรมิ และคมุ ้ ครองผปู ้ ระกอบการ Disney Company) ย่ืนข้อเสนอซ้ือกิจกำรของ รายยอ่ ย ทเวนตีเฟสิ ต์เซนจูรฟี อกซ์ (21st Century Fox) จนสำมำรถทำ� ตกลงผำ่ นไปไดด้ ว้ ยดี รวมทง้ั ปอ้ งกนั กำรผกู ขำด กำรกดี กนั กำรแขง่ ขนั กจิ กำรของอกี บรษิ ทั หนงึ่ (ผถู้ กู ซอ้ื ) ดว้ ยวธิ กี ำรเขำ้ เพอ่ื ปอ้ งกนั กำรซอื้ หรอื ควบรวมกจิ กำร (Merger and ซอื้ หนุ้ หรอื ซอื้ สนิ ทรพั ยข์ องบรษิ ทั ผถู้ กู ซอ้ื นนั้ โดยที่ สำ� หรบั ประเทศไทย มขี อ้ กำ� หนดกำรควบรวม acquisition) ถอื เปน็ วธิ กี ำรดำ� เนนิ กำรทำงธรุ กจิ เพอื่ ผู้ซ้ือและผู้ถูกซ้ือยังคงสถำนะเป็นบริษัทอยู่ทั้งคู ่ กิจกำร มีระบุไว้ในพระรำชบัญญัติกำรแข่งขัน ใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ ำพในแงข่ องเศรษฐกจิ มรี ปู แบบสำ� คญั คอื ทำงกำรคำ้ พ.ศ. ๒๕๔๒ มำตรำ ๒๖ ควบคมุ พฤตกิ รรมกำรควบรวมกจิ กำร อนั อำจกอ่ ใหเ้ กดิ กำร กำรควบรวมกจิ กำร (Merger) และกำรซอื้ รปู แบบท ่ี ๑ บรษิ ทั หนง่ึ เขำ้ ซอ้ื สนิ ทรพั ยข์ องอกี ผกู ขำด และพระรำชบญั ญตั ปิ ระกอบกจิ กำรกระจำย บท ํนา กจิ กำร (Acquisition) มคี วำมหมำยแตกตำ่ งกนั ดงั นี้ บรษิ ทั หนงึ่ เพยี งอยำ่ งเดยี ว โดยบรษิ ทั ทขี่ ำยสนิ ทรพั ย์ เสียงและกิจกำรโทรทัศน์ พุทธศักรำช ๒๕๕๑ ยงั คงดำ� เนนิ ธรุ กจิ ตอ่ ไปได ้ กำรซอ้ื กจิ กำรลกั ษณะนี้ มำตรำ ๓๑ ปอ้ งกนั กำรจำ� กดั โอกำสในกำรรบั รจู้ ำก ๑. การควบรวมกจิ การ (Merger) เรยี กวำ่ กำรซอื้ สนิ ทรพั ย ์ (Asset Acquisition) แหล่งข้อมูลที่หลำกหลำย กำรถือครองธุรกิจใน หมำยถงึ กำรทก่ี จิ กำรหรอื บรษิ ทั ตงั้ แต ่ ๒ บรษิ ทั ขน้ึ กจิ กำรประเภทเดยี วกนั (Common ownership) ไป ตกลงรวมธรุ กจิ กนั เหลอื เพยี งบรษิ ทั เดยี ว โดย รปู แบบท ่ี ๒ บรษิ ทั หนง่ึ เขำ้ ไปซอ้ื ทง้ั ทรพั ยส์ นิ จำ� นวนใบอนญุ ำต และพน้ื ทที่ ขี่ อรบั ใบอนญุ ำต สว่ นของ บรษิ ทั ทเี่ กดิ จำกกำรรวมกนั อำจเปน็ บรษิ ทั เดมิ แหง่ และหนสี้ นิ ของอกี บรษิ ทั หนง่ึ ดว้ ยกำรซอื้ หนุ้ โดย กำรครองสทิ ธขิ ำ้ มสอ่ื (Cross media) จำ� นวนสอื่ ท่ี ใดแหง่ หนงึ่ หรอื เกดิ เปน็ บรษิ ทั ใหม ่ ขน้ึ อยกู่ บั รปู แบบ บรษิ ทั ทข่ี ำยหนุ้ ยงั คงดำ� เนนิ ธรุ กจิ ตอ่ ไปได ้ แตผ่ ถู้ อื ถอื ครอง สว่ นแบง่ ตลำดในแตล่ ะสอื่ และจำ� นวนผู้ ของกำรควบรวม ดงั ตวั อยำ่ ง ๒ รปู แบบ ดงั นี้ หนุ้ เดมิ จะสญู เสยี อำ� นำจในกำรบรหิ ำรใหก้ บั บรษิ ทั ประกอบกำรกำรซอื้ และควบรวมกจิ กำร (Merger ท่ีเข้ำไปซ้ือหุ้น กำรซ้ือกิจกำรลักษณะนี้เรียกว่ำ and acquisition หรอื M&A) และกำรถอื หนุ้ ไขว ้ รปู แบบท ี่ ๑ บรษิ ทั ตงั้ แต ่ ๒ แหง่ ขนึ้ ไป ตกลง กำรซอื้ หนุ้ (Share acquisition) หรอื กำรเขำ้ ควบคมุ (Companies with subsidiary and/or associate) รวมกจิ กำรกนั แลว้ เหลอื เพยี งบรษิ ทั เดยี ว กจิ กำร (Takeover) โดยทวั่ ไปกำรซอ้ื ขำด แบง่ ได้ ในประเทศไทยมกี ำรดำ� เนนิ กำรโดยภำคธรุ กจิ ตำ่ ง ๆ ๒ กรณ ี คอื อย่ำงต่อเนื่อง รูปแบบกำรควบรวมกิจกำรมี รปู แบบท ี่ ๒ บรษิ ทั ตงั้ แต ่ ๒ แหง่ ขนึ้ ไป ตกลง ๓ รปู แบบ คือ รวมกจิ กำรกนั ตง้ั ขน้ึ เปน็ บรษิ ทั ใหม ่ กำรรวมกจิ กำร กรณที ่ี ๑ บรษิ ทั ทถี่ กู ซอ้ื กจิ กำรไมเ่ ตม็ ใจ แตถ่ กู ลักษณะน้ีเรียกอีกช่ือหน่ึงว่ำ กำรรวมงบดุล อกี บรษิ ทั หนงึ่ กวำ้ นซอื้ หนุ้ จนกระทง่ั ผถู้ อื หนุ้ เดมิ ๑. การซือ้ และควบรวมกิ จการ (Consolidation) สญู เสยี อำ� นำจในกำรออกเสยี งและควบคมุ กจิ กำร แบบแนวนอน (Horizontal merger ไป เรยี กวำ่ กำรเขำ้ ควบคมุ กจิ กำรแบบเปน็ ปฏปิ กั ษ ์ and acquisition) คอื กำรควบรวมกจิ กำร ๒. การซอื ้ กจิ การ (Acquisition) (Hostile takeover) หรือกำรซื้อกิจกำรแบบไม่ กบั กจิ กำรทท่ี ำ� ธรุ กจิ เดยี วกนั เชน่ ควบรวมกจิ กำร หมำยถงึ กำรทกี่ จิ กำรหรอื บรษิ ทั หนง่ึ (ผซู้ อื้ ) เขำ้ ซอื้ เป็นมิตร ระหวำ่ งบรษิ ทั ยทู วี ี เคเบลิ เนต็ เวริ ก์ จำ� กดั (มหำชน) (ยทู วี )ี กบั บรษิ ทั อนิ เตอรเ์ นชนั่ แนล บรอดคำสตงิ้ คอร์ปอเรช่ัน จ�ำกัด (มหำชน) (ไอบีซี) ซ่ึงเป็น ผใู้ หบ้ รกิ ำรเคเบลิ ทวี รี ะบบบอกรบั สมำชกิ เชน่ กนั ทงั้ คู่ ๒. การซือ้ และควบรวมกิจการ แบบแนวตงั ้ (Vertical merger and acquisition) คือ กำรควบรวมกิจกำรกับ กจิ กำรทที่ ำ� ธรุ กจิ ทส่ี ง่ เสรมิ หรอื ตอ่ เนอ่ื งกนั ๓. การควบรวมกจิ การแบบอน่ื ๆ (Other merger and acquisition) คอื กำรควบรวมกจิ กำรกบั กจิ กำรทท่ี ำ� ธรุ กจิ ทไี่ ม่ เกยี่ วขอ้ งกนั เลย เชน่ บรษิ ทั คอมลงิ ค ์ จำ� กดั ทำ� ธรุ กจิ โทรคมนำคมเข้ำซ้ือหุ้นสำมัญของบริษัทโรงแรม รำชดำ� ร ิ จำ� กดั (มหำชน) ธรุ กจิ โรงแรม เพอื่ เปน็ กำร ลงทนุ

๑๗๐ ยุคดิจทิ ลั และยุคเศรษฐกิจ รำชกำรแผ่นดิน รวมท้ังกจิ กรรมทำงเศรษฐกจิ และ และสงั คมดิจทิ ลั สงั คมอน่ื ๆ ทสี่ ง่ ผลตอ่ กำรพฒั นำทำงเศรษฐกจิ กำร พฒั นำคณุ ภำพชวี ติ ของคนในสงั คม และกำรจำ้ งงำน ท่ีเพ่ิมขน้ึ ประโยชน์ของกำรน�ำเทคโนโลยีดิจิทัลมำสรำ้ ง สรรคบ์ รกิ ำรใหม ่ ๆ คอื กำรเพมิ่ ผลผลติ โดยใชเ้ วลำ นอ้ ยลง และสรำ้ งมลู คำ่ เพมิ่ ใหแ้ กส่ นิ คำ้ และบรกิ ำร ตำ่ ง ๆ ทำ� ใหเ้ กดิ โอกำสทำงธุรกิจในทุกสำขำอำชีพ รูปแบบธรุ กจิ ทขี่ บั เคลอื่ นเศรษฐกจิ ในยคุ ดจิ ทิ ลั มดี งั นี้ ๑. Smart solution หมำยถงึ ธรุ กิจเพอ่ื อ�ำนวย ควำมสะดวกในชวี ติ ประจ�ำวันดว้ ยเทคโนโลยีดจิ ิทลั เช่น ธุรกิจผู้ให้บริกำรรับชมภำพยนตร์ออนไลน์ ของ Netflix ธรุ กจิ ขำยสินค้ำออนไลนข์ อง Lazada และ Shopee ธุรกิจบริกำรส่งสินค้ำออนไลน์ของ Line Man รวมถงึ กำรใหบ้ รกิ ำรธรุ กรรมทำงกำรเงนิ ผ่ำนแอปพลิเคชันหรือท่ีเรียกว่ำ โมไบล์แบงก้ิง (Mobile Banking) กำรชำ� ระคำ่ สนิ คำ้ โดยกำรสแกน คิวอำร์โคด้ (QR Code) เพอ่ื โอนเงนิ ไปยงั ผขู้ ำย ๒. Interactive platform หมำยถึง ธุรกิจที่ เปดิ โอกำสใหผ้ รู้ บั และผสู้ ง่ สำรสำมำรถมปี ฏสิ มั พนั ธ์ กันได้ทันทีด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น ธุรกิจกำร ถ ่ ำ ย ท อ ด ส ด ร ำ ย ก ำ ร โ ท ร ทั ศ น ์ ผ ่ ำ น เ ฟ ซ บุ ๊ ก ไ ล ฟ ์ (Facebook Live) ธุ ร กิ จ ส อ น ทั ก ษ ะ แ ล ะ ค ว ำ ม รู ้ ผ่ำนช่องทำงยูทูบ (YouTube) ยคุ ดจิ ทิ ลั หมายถงึ ยคุ สมยั ท่ีมีการเปล่ยี นแปลง จากระบบแอนะลอ็ กเป็ น ๓. Empathic encounters หมำยถึง ธรุ กิจที่ ระบบดิจทิ ลั หรอื ท่ีเรยี กวา่ ส่งผลต่อการดาํ เนินชีวิตประจาํ วนั โดยมีการ วิ เ ค ร ำ ะ ห ์ ค ว ำ ม ต ้ อ ง ก ำ ร ข อ ง ผู ้ บ ริ โ ภ ค จ ำ ก นั้ น จึ ง ส่ื อสารผ่านระบบออฟไลน ์ (Offline) มาสู่ ระบบออนไลน ์ (Online) น�ำเสนอบริกำรท่ีเหมำะสมผ่ำนเทคโนโลยีดิจิทัล มากขนึ ้ ทาํ ใหม้ นุษยเ์ ปล่ียนแปลงพฤติกรรมการส่ือสารและคน้ หาขอ้ มูล เช่น ธุรกิจ Airbnb ที่เข้ำใจควำมต้องกำรของนัก ความรไู ้ ดจ้ ากท่วั ทุกมุมโลก ทุกเวลา ท่องเท่ียวในด้ำนท่ีพัก หำกนักท่องเที่ยวต้องกำร ที่พักแบบใด เว็บไซต์ก็จะน�ำเสนอที่พักท่ีนักท่อง ววิ ฒั นำกำรทำงดำ้ นคอมพวิ เตอร ์ ทำ� ใหม้ ขี นำด สำมำรถสนทนำกันผ่ำนเครือข่ำยสังคมออนไลน ์ เทย่ี วตอ้ งกำรออกมำใหผ้ บู้ รโิ ภคเลอื ก ธรุ กจิ กำรจอง เล็กลง กนิ กระแสไฟน้อยลง ประมวลผลได้รวดเร็ว และใชส้ ำมำรถใชแ้ อปพลเิ คชนั (Application) ผำ่ น ทพ่ี กั ผำ่ นแอปพลเิ คชนั ของทรำเวลโลกำ้ (Traveloka) ขน้ึ และรำคำถกู ลง ระบบดจิ ทิ ลั จงึ มคี วำมนยิ มมำก สมำร์ตโฟนในกำรติดต่อสื่อสำร ก่อให้เกิดสังคม ทนี่ กั ทอ่ งเทย่ี วสำมำรถกำ� หนดรปู แบบทพี่ กั ทตี่ อ้ งกำร ขึ้น เริ่มมีอนิ เทอร์เน็ตจึงเกิดขึน้ บนโลก ออนไลน์ หรอื โซเชยี ลมีเดยี (Social media) ได้ด้วยตนเอง และสปอติฟำย (Spotify) ท่ีสร้ำง ประสบกำรณ์กำรฟังเพลงแบบใหม่ โดยผู้ฟัง ในประเทศไทย อนิ เทอรเ์ นต็ เกดิ ขนึ้ ในรำว พ.ศ. ยคุ เศรษฐกจิ และสงั คมดจิ ทิ ลั (Digital สำมำรถเลือกนักร้องท่ีชอบและระบบจะวิเครำะห์ ๒๕๓๐ ประชำชนเรม่ิ มกี ำรสง่ ไปรษณยี อ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ Economy) หมำยถงึ ยคุ ท่เี ศรษฐกิจและสังคม กำรเลน่ เพลงตำมควำมชืน่ ชอบนักร้องของผู้ฟงั แทนกำรส่งทำงไปรษณีย์ องค์กรภำครัฐและภำค ใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ทิ ลั เปน็ กลไกสำ� คญั ในกำรขบั เคลอื่ น ธุรกิจจึงหันมำสร้ำงเว็บไซต์ (Website) เพ่ือให้ กำรปฏริ ปู กระบวนกำรผลติ กำรดำ� เนนิ ธรุ กจิ กำรคำ้ กระทรวงดจิ ทิ ลั เพอื่ เศรษฐกจิ และสงั คม (Ministry ประชำชนสำมำรถเขำ้ ถงึ ขอ้ มลู ไดอ้ ยำ่ งสะดวก กำรบรกิ ำร กำรศึกษำ กำรสำธำรณสขุ กำรบรหิ ำร of Digital Economy and Society) มีอำ� นำจหน้ำท่ี เกย่ี วกบั กำรวำงแผน สง่ เสรมิ และพฒั นำเศรษฐกจิ ดิจิทัลของประเทศไทย หน่วยงำนในสังกัดท่ีก�ำกับ ดแู ล เชน่ บรษิ ทั ทโี อท ี จำ� กดั (มหำชน) บรษิ ทั กสท โทรคมนำคม จำ� กัด (มหำชน)

บทนํา ๒๗๔—๒๗๕

ตอนที่ ๓ ระบบนิเวศนส์ อ่ื ของประเทศไทย : ผปู ้ ระกอบการ ผใู ้ ช ้ กฎหมาย และการกาํ กบั ดแู ล บทท่ี ๘ ผู ป้ ระกอบการดา้ นการส่ื อสาร ๑๗๑ ผูป้ ระกอบกิจการกระจายเสียง ๑๗๒ ผูป้ ระกอบกิจการโทรศพั ทป์ ระจาํ ที่ ๑๗๓ ผูป้ ระกอบกิจการโทรศพั ทเ์ คล่ือนที่ ๑๗๔ ผูผ้ ลิตเนื อ้ หาในกิจการ กระจายเสียง ๑๗๕ ผูป้ ระกอบกิจการโทรทศั น ์ ๑๗๖ ผูผ้ ลิตเนื อ้ หาในกิจการโทรทศั น ์ ๑๗๗ ผูผ้ ลิตเนื อ้ หาในส่ืออนไลน ์



๑๗๑ ผูป้ ระกอบกิจการ กระจายเสียง ระบบแมเ่ หลก็ ไฟฟำ้ หรอื ระบบอนื่ ระบบใดระบบหนง่ึ หรอื หลำยระบบรวมกนั หรอื กำรใหบ้ รกิ ำรอน่ื ทำ� นอง เดยี วกนั ทคี่ ณะกรรมกำรกำ� หนดใหเ้ ปน็ กจิ กำรกระจำย เสยี งม ี ๒ รปู แบบ ดงั น ้ี ๑. กำรใหบ้ รกิ ำรทไ่ี มใ่ ชค้ ลนื่ ควำมถ ่ี ซงึ่ ไมต่ อ้ ง ขอรบั กำรจดั สรรคลนื่ ควำมถี่ ๒. กำรให้บริกำรท่ีต้องขอรับกำรจัดสรรคล่ืน ควำมถ ี่ แบง่ เปน็ ๓ ประเภท ไดแ้ ก ่ บรกิ ำรสำธำรณะ บรกิ ำรชมุ ชน บรกิ ำรทำงธรุ กจิ ๔. การใหบ้ รกิ ารแบบประยกุ ต ์ กำรให้ บริกำรเสยี ง กำรให้บรกิ ำรข้อมูล กำรให้บรกิ ำรสอื่ ประสม หรอื กำรใหบ้ ริกำรอนื่ ทำ� นองเดียวกัน โดย ผำ่ นโครงขำ่ ยกระจำยเสยี งหรอื โทรทศั นท์ เ่ี ปน็ กำรให้ บริกำรโดยตรงต่อผู้รับบริกำร ไม่ว่ำจะมีกำรเรียก เกบ็ คำ่ บรกิ ำรคำ่ ธรรมเนยี ม หรอื คำ่ ใชจ้ ำ่ ยอนื่ ใดหรอื ไมก่ ็ตำม ผู้ประกอบกิจกำรกระจำยเสียงจะต้องได้รับใบ อนุญำต เพ่ือกำรประกอบกิจกำรได้อย่ำงถูกต้อง ตำมทกี่ ำ� หนดไวใ้ นพระรำชบญั ญตั กิ ำรประกอบกจิ กำร กระจำยเสียงและกิจกำรโทรทัศน์ พ.ศ.๒๕๕๑ ลกั ษณะและคณุ สมบตั ิของผขู้ อใบอนุญำต มีดังน้ี ๑. ไมเ่ ปน็ บคุ คลลม้ ละลำยหรอื ถกู พทิ กั ษท์ รพั ย์ ตำมคำ� สง่ั ศำล ผูป้ ระกอบการกิจการกระจายเสียง หมายถงึ เจา้ ของกิจการหรือผูใ้ ห ้ ๒. กรรมกำรหรือบุคคลผู้มีอ�ำนำจกระท�ำกำร บรกิ ารเก่ียวกบั การกระจายเสียง มี ๔ ประเภท ไดแ้ ก่ ผู ก พั น ผู ้ ข อ รั บ ใ บ อ นุ ญ ำ ต ต ้ อ ง ไ ม ่ เ ป ็ น บุ ค ค ล ท่ี ม ี รำยช่ืออยู่ในบัญชีรำยชื่อบุคคลท่ีตลำดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทยเห็นว่ำไม่สมควรเป็นผู้บริหำรตำม ขอ้ บังคบั ตลำดหลักทรัพยแ์ ห่งประเทศไทย ๑. การใหบ้ รกิ ารโครงข่ายกระจาย โครงสรำ้ งพนื้ ฐำนหรอื สงิ่ อำ� นวยควำมสะดวกเพอ่ื กำร ๓. ผขู้ อรบั ใบอนญุ ำต กรรมกำร ผ้จู ัดกำรหรือ เสียง คือ กำรให้บริกำรระบบกำรเช่ือมโยงของ ใหบ้ รกิ ำรกจิ กำรกระจำยเสยี ง ไมว่ ำ่ จะเปน็ ทดี่ นิ อำคำร ผูม้ อี �ำนำจกระทำ� กำรผูกพนั ผูข้ อรับใบอนญุ ำตต้อง กลมุ่ เครอ่ื งสง่ หรอื ถำ่ ยทอดสญั ญำณเสยี งทใี่ ชใ้ นกำร สงิ่ ปลกู สรำ้ ง เสำ ระบบสำย สำยอำกำศ ทอ่ หรอื สง่ิ ไมเ่ คยถกู ศำลมคี ำ� พพิ ำกษำถงึ ทสี่ ดุ วำ่ มโี ทษทำงอำญำ ส่งข่ำวสำรสำธำรณะหรือรำยกำรจำกสถำนีไปยัง อน่ื ใดตำมทคี่ ณะกรรมกำรกำ� หนด ซง่ึ เปน็ ควำมผิดตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรประกอบ เครอ่ื งรบั ไมว่ ำ่ จะโดยสอ่ื ตวั นำ� ทเ่ี ปน็ สำย คลนื่ ควำมถแ่ี สง กิจกำรกระจำยเสยี งและกจิ กำรโทรทศั น ์ และกฎหมำย คลน่ื แมเ่ หลก็ ไฟฟำ้ หรอื สื่อตวั น�ำอน่ื ใด ๓. การใหบ้ รกิ ารกระจายเสยี ง คอื กำร อน่ื ทกี่ ำ� หนดภำยในเวลำ ๒ ปกี อ่ นกำรยนื่ ขอรบั ใบ ใหบ้ รกิ ำรกำรสง่ ขำ่ วสำรสำธำรณะหรอื รำยกำรไปยงั อนญุ ำต ๒. การใหบ้ ริการส่ิงอํานวยความ เครอ่ื งรบั ทส่ี ำมำรถรบั ชมหรอื รบั ฟงั กำรใหบ้ รกิ ำรนน้ั ๆ สะดวกดา้ นกระจายเสยี ง คอื กำรใหบ้ รกิ ำร ได ้ ไมว่ ำ่ จะสง่ ผำ่ นระบบคลนื่ ควำมถ ่ี ระบบสำย ระบบแสง

๑๗๒ ผู ป้ ระกอบกิจการ ๒๗๘—๒๗๙ โทรศพั ทป์ ระจําท่ี บริกำรโทรศัพท์ประจ�ำที่ ณ ส้ินไตรมำสท่ี ๑ พ.ศ. ๒๕๕๘ อยทู่ ่ี ๔,๖๙๙ และมแี นวโนม้ เพม่ิ ขน้ึ อย่ำงตอ่ เน่ือง อยำ่ งไรก็ดีกำรเพิ่มข้ึนของค่ำ HHI เป็นผลมำจำก กำรลดลงของจ�ำนวนเลขห ม ำ ย โทรศพั ทป์ ระจำ� ทที่ ลี่ ดลงอยำ่ งตอ่ เนอ่ื ง เนอ่ื งจำก กำรท่ีผู้ใช้บริกำรมีกำรใช้งำนโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพ่มิ ข้ึน ผูป้ ระกอบกิจการโทรศพั ทป์ ระจําท่ี หมายถึง ผูท้ ่ีไดร้ บั ใบอนุ ญาต ปจั จบุ นั ผปู้ ระกอบกจิ กำรโทรศพั ทป์ ระจำ� ทไี่ ด้ ประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบท่ีมี โครงข่ายเป็ นของตวั เองให ้ เปลย่ี นแปลงผใู้ หบ้ รกิ ำร เปน็ ผลมำจำกกำรใชง้ ำน บริการแก่บุคคลท่วั ไปจํานวนมาก ผ่านสายเช่ือมต่อกบั โครงข่าย ของผู้ใช้งำนโทรศัพท์ประจ�ำที่ที่ลดลง ท�ำให้จำก โ ท ร ศ พั ท พ์ ื น้ ฐ าน เ พ่ื อ ใ หส้ า ม าร ถโ ท ร เข า้ อ อ กได ้ ซ่ึง ผู ใ้ ชง้ านจ ะ เดิมบริษัททรูคอร์ปอเรช่ัน จ�ำกัด (มหำชน) ใชโ้ ทรศพั ทช์ นิ ดท่ีใชง้ านตงั ้ อยู่กบั ท่ีและส่ือสารผ่านสายโลหะหรือ (TrueCorp) ซึ่งเป็นหน่ึงในผู้ประกอบกิจกำร ใยแกว้ นาํ แสง โทรศัพทป์ ระจำ� ท่ีครบวำระตำมกำรสนิ้ สดุ สัญญำ สมั ปทำนเมอ่ื วนั ท ี่ ๒๘ ตลุ ำคม พ.ศ. ๒๕๖๐ เวลำ โทรศพั ทป์ ระจำ� ทที่ ผ่ี ปู้ ระกอบกจิ กำรโทรศพั ท์ ๓. บริษัททีทีแอนด์ที จ�ำกัด (มหำชน) ๒๔.๐๐ น. นอกจำกน้ีทีโอทีได้รับโอนลูกค้ำ บท ่ีท ๘ ูผ้ประกอบการด้านการ ่ืสอสาร ประจ�ำท่ีส่งสัญญำณไปยังผู้ใช้ ไดแ้ ก่ โทรศัพท์ (TT&T) รับสัมปทำนกำรให้บริกำรโทรศัพท์ โทรศพั ทบ์ ำ้ นของทที แี อนดท์ ี จ�ำนวน ๓.๕ แสน ที่ใช้กันตำมครัวเรือน ห้ำงร้ำน และส�ำนักงำน ประจ�ำทใี่ นเขตภูมภิ ำค เลขหมำย หลังศำลลม้ ละลำยกลำงมคี �ำสง่ั พทิ กั ษ์ ท่ัวไปในรูปของเคร่ืองโทรศัพท์ต้ังโต๊ะ กอ่ นสน้ิ ทรัพย์เด็ดขำดให้ทีโอทีด�ำเนินกำรต่อ ทีโอทีจึงมี ไตรมำสท่ี ๑ พ.ศ. ๒๕๕๘ พบว่ำ ผ้ปู ระกอบกำร ทัง้ น ้ี หำกค�ำนวณสว่ นแบ่งตลำดจำกจำ� นวน บ ท บ ำ ท ส� ำ คั ญ ใ น ก ำ ร เ ป ็ น ผู ้ ป ร ะ ก อ บ กิ จ ก ำ ร กิจกำรโทรศัพทป์ ระจำ� ที่ ๓ รำยหลัก คือ ผใู้ ชบ้ รกิ ำร ณ สนิ้ ไตรมำสท ่ี ๑ พ.ศ. ๒๕๕๘ พบวำ่ โทรศพั ทป์ ระจำ� ทรี่ ำยใหญท่ สี่ ดุ และรำยเดยี วทใี่ ห้ TOT มสี ่วนแบ่งตลำดสูงสุดท่ีร้อยละ ๖๑.๔ ตำม บรกิ ำรโทรศพั ทป์ ระจำ� ท่ีภำยในประเทศ ๑. บรษิ ทั ทีโอทจี ำ� กดั (มหำชน) (TOT) ด้วย TRUE มสี ว่ นแบ่งตลำดรอ้ ยละ ๒๘.๘ และ TT&T มีส่วนแบง่ ตลำดร้อยละ ๙.๘ ตำมล�ำดับ ตลำดคำ้ ปลกี บริกำรโทรศัพทป์ ระจำ� ท ี่ มผี ใู้ ห้ ๒. บรษิ ทั ทรูคอรป์ อเรชั่น จำ� กดั (มหำชน) บริกำรหลักคงเหลืออย ู่ ๑ รำย คือ บรษิ ทั ทีโอท ี (TrueCorp) รับสมั ปทำนกำรใหบ้ รกิ ำรโทรศพั ท์ จำกส่วนแบ่งตลำดข้ำงต้น ค่ำตัวช้ีวัดควำม จำ� กดั (มหำชน) (TOT) ซึง่ ณ ส้นิ ไตรมำสท ี่ ๓ ประจำ� ที่ในเขตนครหลวง เข้มข้นของตลำดในอุตสำหกรรม หรือค่ำ HHI พ.ศ. ๒๕๖๑ มีเลขหมำยทเี่ ปดิ ใชบ้ รกิ ำรทั้งหมด (Hirschman-Herfindahl Index) ของตลำดคำ้ ปลกี ประมำณ ๓.๐๕ ลำ้ นเลขหมำย และมคี รวั เรือน ทีเ่ ขำ้ ถงึ ร้อยละ ๑๔.๒๕ รำยไดจ้ ำกกำรให้บริกำร ณ ส้นิ ไตรมำสท่ี ๓ พ.ศ. ๒๕๖๑ ผูป้ ระกอบกำรมีรำยได้จำกกำรให้ บรกิ ำรโทรศพั ทป์ ระจำ� ทร่ี วม ๑,๗๙๐.๐ ลำ้ นบำท ลดลงจำกไตรมำสก่อนหน้ำ ๒๔๖.๐ ล้ำนบำท หรือคิดเป็นร้อยละ ๑๒ ส�ำหรับรำยรับเฉล่ียต่อ เดือนต่อเลขหมำยที่ค�ำนวณค่ำเฉล่ียถ่วงน้�ำหนัก จ ำ ก บ ริ ก ำ ร โ ท ร ศั พ ท ์ พื้ น ฐ ำ น แ ล ะ โ ท ร ศั พ ท ์ สำธำรณะอยูท่ ่ี ๑๙๖ บำท ซงึ่ ลดลงจำกไตรมำส ก่อนหนำ้ คดิ เป็นร้อยละ ๘

๑๗๓ ผู ป้ ระกอบกิจการ โทรศพั ทเ์ คล่ือนท่ี ผูป้ ระกอบกิจการโทรศพั ทเ์ คล่อื นท่ี หมายถงึ ผูไ้ ดร้ บั ใบอนุญาตประกอบกิจการใหบ้ รกิ ารส่ือสารทางโทรศพั ท ์ ท่ีผูส้ ่งและผูร้ บั สามารถส่ือสารไดเ้ ป็ นคาํ พู ด เคร่อื งหมาย สญั ญาณ ตวั หนงั สือ ภาพ เสียงหรอื การอ่นื ใดท่ี สามารถส่ือความหมายไดโ้ ดยอาศยั คล่ืนวิทยุ แต่ทงั ้ นี ไ้ ม่รวมถึงการใหบ้ ริการวิทยุคมนาคมเฉพาะกิจ หรือ เฉพาะกลุ่ม

๒๘๐—๒๘๑ ปจั จบุ นั ผปู้ ระกอบกจิ กำรโทรศพั ทเ์ คลอื่ นทใ่ี นประเทศไทย เปน็ มีประสิทธิภำพขึ้น สำมำรถแบ่งออกเป็น ๒ ระบบด้วยกันคือ หน่วยงำนรัฐวิสำหกิจท่ีได้รับกำรจัดสรรคล่ืนควำมถี่โดยตรงจำก WiMAX (Worldwide Interoperability of Microwave Access) กรมไปรษณยี โ์ ทรเลขคอื บมจ. ทโี อท ี และบมจ. กสท โทรคมนำคม และ LTE (Long Term Evolution) ซงึ่ ทงั้ สองระบบนเี้ ปน็ เทคโนโลยี และบรษิ ัทเอกชนที่ด�ำเนนิ กำรให้บรกิ ำรภำยใต้สญั ญำร่วมกำรงำน ไรส้ ำยทม่ี ำชว่ ยในเรอื่ งของกำรรบั สง่ ขอ้ มลู ใหเ้ รว็ ขน้ึ กวำ่ ในยคุ กอ่ น ๆ ในลักษณะกำรด�ำเนินกำรแบบบีทีโอ (BTO: Build Transfer นั่นเอง โดยในส่วนของ WiMax น้ันนิยมใชแ้ คใ่ นบำงประเทศ เชน่ Operate) กับหน่วยงำนรฐั วสิ ำหกิจทง้ั สองหนว่ ยงำน ซ่งึ หมำยถึง ญปี่ ุน่ , ไต้หวนั , บงั กลำเทศ ซึง่ LTE นนั้ เป็นทน่ี ยิ มใชม้ ำกกว่ำรวม เอกชนเป็นผู้ลงทุนสร้ำงเครือข่ำยพร้อมกับโอนกรรมสิทธ์ิอุปกรณ์ ถึงบ้ำนเรำด้วยเช่นกัน ท�ำให้เกิดกำรแข่งขันกัน ถือได้ว่ำเป็นกำร เครือข่ำยเหล่ำนั้นให้แก่หน่วยงำนเจ้ำของสัมปทำน โดยรัฐให้สิทธิ พฒั นำผู้ประกอบกิจกำรโทรศพั ทเ์ คลอื่ นท่ใี นไทยให้ดียง่ิ ขนึ้ เอกชนในกำรด�ำเนินกิจกำรเป็นระยะเวลำช่วงหนึ่ง ผู้ประกอบ กจิ กำรโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นทหี่ ลกั ในไทยมสี ว่ นแบง่ กำรตลำด ดงั น ี้ กลมุ่ ตารางท่ี ๑ ผูป้ ระกอบการโทรศพั ทเ์ คล่อื นท่ี บรษิ ทั AIS รอ้ ยละ ๔๓.๘ กลุม่ บรษิ ัท TRUE รอ้ ยละ ๓๑.๐ กลุ่ม บรษิ ทั DTAC รอ้ ยละ ๒๓.๐ กลมุ่ บริษทั CAT ร้อยละ ๑.๙๒ และ บท ่ีท ๘ ูผ้ประกอบการด้านการ ่ืสอสาร กลุ่มบริษัท TOT รอ้ ยละ ๐.๑๓ ผใู้ หบ้ ริกำรโทรศัพทเ์ คลอื่ นท ี่ ม ี ๒ กลุ่ม คอื ๑. ผใู้ หบ้ รกิ ำรโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นที่ทมี่ ีโครงขำ่ ยหรอื มสี ิทธใิ นกำร ใช้โครงขำ่ ย (Mobile Network Operators: MNOs) ๒. ผู้ให้บริกำรโทรศพั ท์เคลื่อนท่ีบนโครงข่ำยเสมอื น (Mobile Virtual Network Operators: MVNOs) รำยรบั เฉลย่ี ตอ่ เดอื นตอ่ เลขหมำยของบรกิ ำรโทรศพั ทเ์ คลอื่ นท ี่ (หรือ ARPU ซ่ึงค�ำนวณโดยไม่รวมรำยได้จำกกำรเชื่อมต่อ โครงขำ่ ย) โดย ณ สน้ิ ไตรมำสท ่ี ๓ พ.ศ. ๒๕๖๑ ARPU ของ บรกิ ำรโทรศัพท์เคล่ือนท ่ี อยู่ที่ ๒๔๐ บำท ลดลงจำกไตรมำสกอ่ น หน้ำร้อยละ ๑.๗ โดยหำกแยกประเภทบรกิ ำรระบบ Prepaid มคี ำ่ รำยรับเฉลี่ยต่อเดือนต่อเลขหมำยอยู่ที่ ๑๕๑ ลดลงจำกไตรมำส กอ่ นหน้ำรอ้ ยละ ๓.๑ สว่ นระบบ Postpaid มรี ำยรบั เฉลยี่ ต่อเดือนต่อเลขหมำยอยู่ ที่ ๕๒๕ บำท ลดลงจำกไตรมำสกอ่ นหนำ้ ร้อยละ ๑.๓ อัตรำคำ่ บริกำรเฉลี่ยประเภทเสียงนำทีละ ๐.๕๙ บำทต่อนำที ซึ่งเท่ำกับ ไตรมำสกอ่ นหนำ้ สำ� หรบั รำยไดจ้ ำกกำรใหบ้ รกิ ำร ณ สนิ้ ไตรมำสท ี่ ๓ พ.ศ. ๒๕๖๑ เทำ่ กบั ๗๑,๒๐๐ ล้ำนบำท เทำ่ กบั ไตรมำสก่อนหนำ้ โดยรำยได้ เสียงและรำยไดม้ ใิ ชเ่ สียงเท่ำกับ ๖๓,๔๐๐ ล้ำนบำท และรำยได้ อนื่ ๆ ๗,๘๐๐ ล้ำนบำท ในปจั จุบันผู้ประกอบกจิ กำรโทรศัพท์เคลื่อนท่ไี ด้นำ� เทคโนโลยี ทใี่ ชใ้ นยคุ 4G มำใหบ้ รกิ ำรแทบทกุ เครอื ขำ่ ย เพรำะเปน็ กำรพฒั นำ จำกระบบไร้สำยในอดตี ทัง้ หมด ทงั้ 1G, 2G และ 3G เปน็ ระบบท่ี

๑๗๔ ผู ผ้ ลิตเนื อ้ หาในกิจการ กระจายเสี ยง ผูผ้ ลิตเนือ้ หาในกิจการกระจายเสียง หมายถงึ บุคคลหรอื หน่วยงานท่ีเป็ นผูส้ รา้ งเนือ้ หารปู แบบเสียง แลว้ ส่ง สารท่ีเป็ นเนื อ้ หารูปแบบเสียงไปยงั บุคคลอ่ืนหรือไปยงั หน่ วยงานอ่ืนผ่านตวั กลางต่าง ๆ ท่ีเป็ นระบบคล่ืน ความถ่ี ระบบสาย ระบบแสง ระบบแม่เหลก็ ไฟฟา้ หรอื หลายระบบรวมกนั

ผู้ผลิตเนื้อหำต้องมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจใน รำยกำรหน่ึงข้ึนมำ หรืออำจกล่ำวได้ว่ำ ผู้ผลิต สำมำรถของผู้ด�ำเนินรำยกำรที่มีควำมสำมำรถ ๒๘๒—๒๘๓ เนอ้ื หำทจ่ี ะสอ่ื ออกไปอยำ่ งถอ่ งแท ้ มวี ตั ถปุ ระสงค์ รำยกำรเปน็ ตน้ คดิ เกย่ี วกบั รำยกำร (an originator พเิ ศษในกำรตง้ั คำ� ถำม สรปุ ประเดน็ และมไี หวพรบิ ชดั เจน เขำ้ ใจถงึ ควำมสำมำรถและควำมพรอ้ มใน of idea) เปน็ ผทู้ ท่ี ำ� หนำ้ ทใี่ หผ้ รู้ ว่ มงำนทกุ ฝำ่ ยเชอื่ ถอื ในกำรแกป้ ญั หำเฉพำะหนำ้ รวมทงั้ ยงั ตอ้ งมนี ำ้� เสยี ง บท ่ีท ๘ ูผ้ประกอบการด้านการ ่ืสอสาร กำรรับเนอื้ หำของผู้ท่สี ่อื สำรดว้ ย รวมทง้ั เลือกใช้ ในควำมคดิ ของตน ผผู้ ลติ รำยกำรจะเปน็ ผพู้ จิ ำรณำ ลลี ำกำรพูดทเ่ี หมำะสม คำ� เรียกของผูท้ ่ีท�ำหนำ้ ที่ วิธีกำรสื่อสำรได้อย่ำงเหมำะสม เพ่ือให้กำร ตดั สนิ ใจวำ่ ควรจะเลอื กใครเปน็ ผเู้ ขยี นบท ใครเปน็ ในกำรด�ำเนนิ รำยกำรวทิ ยุกระจำยเสียง สอื่ สำรในแตล่ ะครั้งบรรลุเปำ้ หมำย ซ่งึ เนื้อหำทผ่ี ู้ ผกู้ ำ� กบั รำยกำร ใครเปน็ ผดู้ ำ� เนนิ รำยกำร หรอื สำมำรถ ผลติ ในกิจกำรกระจำยเสยี ง สำมำรถจ�ำแนกเป็น ใหค้ ำ� แนะนำ� ไดว้ ำ่ ควรจะเชญิ ใครเปน็ ผเู้ ชยี่ วชำญหรอื ๖. ผูแ้ สดง (Actors) ในรายการ เน้ือหำประเภทตำ่ ง ๆ ดังน้ี วิทยำกรที่จะมำร่วมในรำยกำร เปน็ ตน้ ในขณะ วทิ ยปุ ระเภทท่มี ีผแู ้ สดง คอื รำยกำรละคร ที่ท�ำกำรบันทึกเสียง ผู้ผลิตรำยกำรจะตอ้ งอยใู่ น วิทยุ กำรแสดงเป็นศิลปะที่ต้องฝึกฝนอย่ำงมำก ๑. เนือ้ หาข่าวสาร หมำยถึง เนอื้ หำท่ี ห้องบันทึกเสียงเพ่ือประสำนงำน อ�ำนวยควำม ผู้แสดงจะต้องเป็นผู้ที่มีควำมสำมำรถท�ำให้ตัว เสนอเหตุกำรณ์อย่ำงตรงไปตรงมำตำมท่ีเกิดขึ้น สะดวกและตรวจสอบคุณภำพของรำยกำรดว้ ย ละครมีชีวิตชีวำข้ึนมำ หรือที่เรียกว่ำ ตีบทแตก จรงิ เพอื่ ใหผ้ ฟู้ งั ไดท้ รำบขำ่ วครำวควำมเคลอื่ นไหว โดยเฉพำะกำรแสดงละครทำงวิทยุที่ผู้ฟังมองไม่ ต่ำง ๆ ๒. ผเู ้ ขยี นบท (Script writer) เปน็ เห็นตัวและกิริยำของตัวแสดง ผู้ฟังจะวำดภำพ ผรู้ บั แนวคดิ จำกผผู้ ลติ รำยกำรและแสวงหำขอ้ มลู บคุ ลกิ ของตวั ละครจำกเสยี งของผแู้ สดง ดงั นน้ั ผแู้ สดง ๒. เนือ้ หาเพ่ื อการศึกษา หมำยถึง จำกแหลง่ ตำ่ ง ๆ มำเรียบเรยี ง กล่นั กรองเป็นตัว จะตอ้ งมกี ำรฝกึ ฝนในเรอ่ื งของกำรใชเ้ สยี งเปน็ พเิ ศษ เน้ือหำที่เสนอสำระที่เป็นควำมรู้ ประสบกำรณ์ อกั ษร รวมทง้ั กำ� หนดลกั ษณะของเสยี งทตี่ อ้ งกำร โดยกำรอ่ำนบท ท�ำควำมเขำ้ ใจกบั บคุ ลกิ ลกั ษณะ ทักษะและทัศนคติค่ำนิยมแก่ผู้ฟังรำยกำร คือ ใช้ ซ่ึงเรียกว่ำเป็นกำรเขียนบทวิทยุเพ่ือใช้เป็น ของตวั ละครออกมำ รวมทั้งกำรท� ำ ง ำ น ร ่ ว ม กั น รำยกำรที่เสนอควำมรทู้ ัว่ ไปแก่ผฟู้ งั และรำยกำร เคร่อื งมือในกำรผลติ รำยกำร ผู้เขียนบทจะตอ้ งมี กั บ ผู ้ ก� ำ กั บ ร ำ ย ก ำ ร ที่ มี ค ว ำ ม สำมำรถทำงดำ้ น ทเ่ี สนอเนอื้ หำสำระทเี่ ปน็ สว่ นหนง่ึ ของหลกั สตู รของ จินตนำกำร มีควำมสำมำรถในกำรใช้ภำษำวิทย ุ กำรละคร สถำบนั กำรศึกษำ และเป็นผู้ที่มีควำมรู้เก่ียวกับกำรใช้ภำษำในวิทย ุ และเป็นผู้ท่ีมีควำมรู้เก่ียวกับอุปกรณ์ด้ำนเสียง ๗ . วิ ท ย า ก ร ห รื อ แ ข ก ร บั เ ชิ ญ ๓. เนือ้ หาโนม้ นา้ ว จูงใจ หมำยถึง เช่น ไมโครโฟน แผ่นเสียง และเทป รวมท้ัง (Special speaker or guest) รำยกำร เน้ือหำท่ีมุ่งเปล่ียนแปลงทัศนคติและค่ำนิยมของ เทคนคิ ทำงดำ้ นเสยี งเพอื่ ระบคุ วำมตอ้ งกำรในกำร วทิ ยบุ ำงรำยกำร เชน่ รำยกำรสมั ภำษณ ์ รำยกำร ผู้ฟัง มักอยู่ในรูปแบบรำยกำรประเภทบทควำม ใชเ้ สียงตำ่ ง ๆ ในบทวทิ ยไุ ด้อยำ่ งถูกตอ้ ง ซง่ึ จะ อภปิ รำย หรือรำยกำรเพือ่ กำรศกึ ษำ จ�ำเป็นตอ้ ง หรอื กำรอภิปรำย เป็นคนเดยี วกนั กบั ผู้ผลิตรำยกำรก็ได้ มีกำรเชิญผู้ที่มีควำมรู้ควำมสำมำรถหรือมีควำม ช�ำนำญในเรื่องนั้น ๆ มำร่วมในรำยกำร เพ่ือให้ ๔. เนื อ้ หาบนั เทิง หมำยถึง เน้ือหำ ๓. ผกู ้ าํ กบั รายการ (Programme ผู้ฟังเกิดควำมเชื่อถือ นอกเหนือจำกควำมรู้ด้ำน รำยกำรทม่ี งุ่ ใหเ้ กดิ ควำมเพลดิ เพลนิ และสนกุ สนำน director) ท�ำหน้ำท่ีในกำรหำวัสดุรำยกำร วิชำกำรแล้ว ผู้ผลิตหรือผู้ก�ำกับรำยกำรจะต้อง แก้ไขปรับปรุงบท ควบคุมกำรผลิตรำยกำร กำร เลือกเชิญผู้ที่มีควำมรู้ควำมสำมำรถในด้ำนกำร ๕. เนือ้ หาโฆษณาประชาสมั พนั ธ ์ ฝึกซ้อมบทและกำรบันทึกรำยกำรภำยในห้อง พู ด ท ำ ง วิ ท ยุ กระจำยเสียงด้วย ท้ังนี้เพ่ือให้ หมำยถงึ เนอ้ื หำรำยกำรทมี่ งุ่ เนน้ ใหผ้ ฟู้ งั คลอ้ ยตำม บนั ทกึ เสยี ง โดยใหค้ ำ� แนะนำ� แกผ่ แู้ สดงหรอื ผรู้ ว่ ม รำยกำรมรี สชำติ น่ำฟังไม่นำ่ เบ่ือหนำ่ ย กบั คณุ ภำพ และประโยชนข์ องผลติ ภณั ฑ ์ บรกิ ำร รำยกำรให้แสดงออกอย่ำงสมบทบำท รวมทั้งให้ หน่วยงำน คำ� แนะนำ� ทำงด้ำนดนตรี เสยี งประกอบและกำร จ ะ เ ห็ น ไ ด ้ ว ่ ำก ร ะ บ ว นก ำ ร ผ ลิ ต เ นื้ อ ห ำ ใ น ควบคุมเสียงแก่ชำ่ งเทคนคิ ทั้งน้ผี ู้กำ� กบั รำยกำร กิจกำรกระจำยเสียงนั้นจะมีบุคคลที่เก่ียวข้องใน องค์ประกอบหลักในกำรผลิตเน้ือหำกำร อำจจะเป็นคนเดียวกันกับผู้เขียนบทและผู้ผลิต กำรผลิต ๗ ฝ่ำย ยกเวน้ รำยกำรบำงรำยกำรทีม่ ี กระจำยเสยี ง ประกอบดว้ ย กลมุ่ ผฟู้ งั วตั ถปุ ระสงค์ รำยกำรกไ็ ด ้ จ�ำนวนบุคคลำกรน้อยกว่ำน้ี เช่น รำยกำร เน้ือหำสำระ รูปแบบรำยกำร เสียง บทกำร บทควำมทำงวิทยุกระจำยเสียง รำยกำรพูดคุย กระจำยเสียง สถำนท่ี อุปกรณ์กำรผลิต วัสดุ ๔. ช่างเทคนิค (Technician) เปน็ รำยกำรเพลง ประเภทที่มีผู้จัดรำยกำรคนเดียว รำยกำร บคุ ลำกร และงบประมำณ ซึ่งกำรผลิต ผู้ที่ปฏิบัติงำนอยู่ในห้องบันทึกเสียง ท�ำหน้ำท่ีใน (Disc Jockey or DJ.) ที่ท�ำหน้ำท่ีทั้งด�ำเนิน เน้ือหำกระจำยเสยี ง มลี ักษณะกระบวนกำรหรือ กำรควบคุมและปรับแต่งสัญญำณเสียงท่ีมำจำก รำยกำร และควบคมุ เสยี ง รำยกำรประเภทนเ้ี ปน็ ข้ันตอนจึงเป็นงำนที่ต้องท�ำร่วมกันหลำยฝ่ำย แหลง่ ต่ำง ๆ เชน่ เทป ไมโครโฟน และแผ่นเสียง ที่นิยมมำกเพรำะเป็นรำยกำรที่มีควำมสะดวก แต่ละฝ่ำยต่ำงมีควำมส�ำคัญและต้องพึ่งพำอำศัย กำรควบคมุ เสยี งจะทำ� ตำมบทวทิ ยทุ มี่ เี ครอื่ งหมำย ประหยดั และทำ� ใหผ้ ฟู้ งั เกดิ ควำมรสู้ กึ เปน็ กนั เอง กนั และกัน ดังนน้ั จงึ ต้องเขำ้ ใจบทบำทหนำ้ ทขี่ อง ทร่ี ะบไุ วเ้ พอื่ ใหก้ ำรปฏบิ ตั งิ ำนเปน็ ไปไดอ้ ยำ่ งรวดเรว็ นอกจำกรูปแบบรำยกำรแล้ว จ�ำนวนบุคลำกร แต่ละฝ่ำย เพื่อประสำนงำนกันได้อย่ำงถูกต้อง ในกำรผลิตเน้ือหำของรำยกำรยังขึ้นอยู่กับขนำด โดยมีฝ่ำยตำ่ ง ๆ ดงั นี้ ๕. ผดู ้ าํ เนินรายการ (Presenter) ของสถำนีด้วย ถ้ำเป็นสถำนีขนำดเล็ก มีคน ในรำยกำรวิทยุกระจำยเสียงจะต้องมีบุคคลที่ท�ำ ท�ำงำนน้อย บุคคลำกรในกำรผลิตเน้ือหำย่อมมี ๑. ผูผ้ ลิตรายการ (Producer) หน้ำท่ีในกำรประกำศรำยกำร บรรยำยเช่ือมโยง จำ� นวนนอ้ ยดว้ ย บำงครง้ั คนคนเดยี วตอ้ งทำ� หนำ้ ท่ี เปน็ บคุ คลทมี่ คี วำมสำ� คญั ทสี่ ดุ ในกำรผลติ รำยกำร รำยกำรตง้ั แตต่ น้ จนจบ และประกำศปดิ รำยกำร หลำยอย่ำงรวมกัน เช่น เป็นทั้งผู้ผลิตรำยกำร เพรำะเปน็ ผู้ที่รบั ผดิ ชอบให้คำ� แนะนำ� และด�ำเนนิ ซงึ่ บทบำทของผดู้ ำ� เนนิ รำยกำรจะขนึ้ อยกู่ บั รปู แบบ ผ้กู ำ� กับรำยกำร และผู้เขยี นบท รำยกำรใหม้ ีรำยกำรวทิ ยุกระจำยเสยี งรำยกำรใด รำยกำร รำยกำรบำงรำยกำรต้องอำศัยควำม

๑๗๕ ผูป้ ระกอบกิจการโทรทศั น ์ ผูป้ ระกอบกิจการโทรทศั น ์ หมายถงึ บุคคล องคก์ ร หรอื หน่วยงานท่ีได ้ ภำพรวมกิจกำรโทรทัศน์มีกำรแข่งขันท่ีรุนแรง รบั อนุ ญาตใหด้ ําเนิ นกิจการโทรทศั น ์ โดยการขอรบั การจดั สรรคล่ืน มำกขึ้น จึงเป็นผลให้เกิดกำรเปล่ียนแปลงหลำย ความถ่ีตาม พ.ร.บ. องคก์ รจดั สรรคล่ืนความถ่ีและกาํ กบั การประกอบ ประกำร ไดแ้ ก่ กิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทศั น ์ และกิจการโทรคมนาคม ๑. สถำนีโทรทัศน์หนึ่งช่องมีกำรเผยแพร่ ชว่ งกอ่ น พ.ศ. ๒๕๕๔ กจิ กำรวทิ ยโุ ทรทศั นภ์ ำค สำ� หรบั ๖ สถำนโี ทรทศั นซ์ ง่ึ เปน็ ของหนว่ ยงำนภำครฐั สัญญำณ ออกอำกำศรำยกำรในหลำยชอ่ งทำงหรอื พ้ืนดินได้รับจัดสรรให้ใช้ย่ำนควำมถี่ในช่วง ๕๑๐- เรียกได้ว่ำ หน่วยงำนรัฐได้ผูกขำดสิทธิควำมเป็น หลำกหลำยแพลตฟอร์ม ท้ังนี้เพื่อขยำยฐำนกลุ่ม ๗๙๐ เมกะเฮริ ตซ ์ ซง่ึ มแี ถบควำมถ ่ี ๒๘๐ เมกะเฮริ ตซ ์ เจำ้ ของคลน่ื ควำมถ่ีในกำรออกอำกำศวิทยุโทรทศั น์ เปำ้ หมำยผชู้ มใหเ้ พม่ิ มำกขน้ึ และสรำ้ งกำรตดิ ตำมชอ่ ง โดยจัดสรรเพื่อให้ส่งสัญญำณวิทยุโทรทัศน์ระบบ ภำคพน้ื ดนิ ในระบบเดมิ แบบแอนะลอ็ กไวท้ งั้ หมด ใหก้ บั ผชู้ ม แอนะลอ็ กในระบบภำคพนื้ ดนิ จำ� นวน ๖ ชอ่ งรำยกำร

๒๘๔—๒๘๕ ๒. สถำนโี ทรทศั นต์ ำ่ ง ๆ มกี ำรแขง่ ขนั ทส่ี งู ขน้ึ ประเภทบรกิ ำรสำธำรณะหรอื บรกิ ำรชมุ ชนยงั คงมี ๓ . ก า ร ใ ห บ้ ริ ก า ร ส่ิ ง อํ า น ว ย บท ่ีท ๘ ูผ้ประกอบการด้านการ ่ืสอสาร อนั เปน็ ผลจำกกำรมจี ำ� นวนชอ่ งโทรทศั นท์ เ่ี พม่ิ ขนึ้ อปุ สรรคในกำรเขำ้ สตู่ ลำด เนอ่ื งจำก กสทช. ยงั ไม่ ความสะดวกดา้ นกระจายเสียงหรือ แต่เม็ดเงินโฆษณำในอุตสำหกรรมไม่ได้เพิ่มขึ้น ไดก้ ำ� หนดเงอื่ นไขในกำรเขำ้ สตู่ ลำดโทรทศั นด์ จิ ทิ ลั โทรทศั น ์ (Broadcasting facility เนอ่ื งจำกภำวะเศรษฐกิจที่มกี ำรเติบโตต�่ำ ระดบั ทอ้ งถน่ิ ซง่ึ รวมถงึ ขอ้ จำ� กดั ในกำรเขำ้ สตู่ ลำด provider) หมำยถึง ให้บริกำรโครงสร้ำง ในอนำคตคอื ควำมสำมำรถกำรเขำ้ ถงึ หรอื ควำม พน้ื ฐำน หรอื สง่ิ อำ� นวยควำมสะดวก ไมว่ ำ่ จะเปน็ ๓. สถำนีโทรทัศน์รำยใหญ่มีกำรจัดตั้ง สำมำรถพัฒนำเน้ือหำท่ีตรงควำมต้องกำรผู้ชม อำคำร เสำ ระบบสำย หรือท่อ หรือสิ่งอันใด บริษัทย่อย เพ่ือผลิตรำยกำรป้อนให้กับสถำนี และควำมจงรกั ภกั ดตี อ่ ชอ่ งโทรทศั นข์ องผชู้ ม ในทำ� นองเดยี วกนั โดยผใู้ หบ้ รกิ ำรลงทนุ ในกำรจดั เ พื่ อ ป ร ะ โ ย ช น ์ ใ น ก ำ ร ป ฏิ บั ติ ต ำ ม เ งื่ อ น ไ ข ข อ ง อำคำร สง่ิ ปลกู สรำ้ ง ทดี่ นิ เสำอำกำศ Combiner ใบอนุญำตท่ีก�ำหนดให้ต้องมีกำรน�ำรำยกำรจำก ผู้ประกอบกิจกำรโทรทัศน์ยังหมำยถึงผู้ท่ีให้ ให้บริกำรแก่ผู้ให้บริกำรโครงข่ำยมำเช่ำเพื่อส่ง ผู้ผลิตรำยกำรภำยนอก สถำนีมำออกอำกำศ บรกิ ำรหรอื ประกอบกจิ กำร มดี งั น้ี เครอื่ งส่งและระบบ ไมน่ อ้ ยกวำ่ สดั สว่ นทกี่ ำ� หนด และเพ่ือลดผลก�ำไร ของสถำนีโทรทัศน์ท่ีได้รับใบอนุญำตอันจะท�ำให้ ๑. เจา้ ของโครงขา่ ย หมำยถงึ บคุ คลมี ๓. การใหบ้ ริการกระจายเสี ยง ชว่ ยลดภำระคำ่ ธรรมเนยี มทต่ี อ้ งชำ� ระใหก้ บั กสทช. โครงขำ่ ยเปน็ ของตนเอง หรอื ผมู้ สี ทิ ธใิ นกำรดำ� เนนิ ห รื อ โ ท ร ท ศั น ์ ( B r o a d c a s t i n g ทง้ั ทีค่ �ำนวณจำกสัดสว่ นของผลก�ำไรของกจิ กำร กิจกำรโครงข่ำย ไม่ว่ำจะเป็นผู้ประกอบกิจกำร service provider) หมำยถงึ ใหบ้ รกิ ำรกำร กระจำยเสยี งหรอื กจิ กำรโทรทศั นห์ รอื ไมก่ ต็ ำม โดย สง่ ขำ่ วสำรสำธำรณะหรอื รำยกำรไปยงั เครอ่ื งรบั ท่ี ๔. สถำนโี ทรทศั นม์ กี ำรแขง่ ขนั กนั มำกขน้ึ ดว้ ยกำร ให้เจ้ำของโครงข่ำยโทรทัศน์ระบบแอนะล็อกเดิม สำมำรถรบั ชม รบั ฟงั กำรใหบ้ รกิ ำรนน้ั ๆ ได ้ ผำ่ น ลดรำคำคำ่ โฆษณำและกำรพฒั นำเนอ้ื หำรำยกำร ประกอบด้วยสถำนีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (๒ ระบบคลน่ื ควำมถ ี่ ระบบสำย ระบบแสง ระบบ เพอ่ื ตอบสนองกบั ผชู้ มใหไ้ ดม้ ำกทสี่ ดุ แมบ้ ำงชอ่ ง โครงข่ำย) กรมประชำสัมพันธ์ โดยสถำนีวิทยุ แม่เหล็กไฟฟ้ำ หรือระบบใดระบบหน่ึงหรือ โทรทศั นจ์ ะเปน็ ผนู้ ำ� ในกำรสรำ้ งควำมแตกตำ่ ง แต่ โทรทศั นแ์ ห่งประเทศไทย, บริษทั อสมท จ�ำกดั หลำยระบบรวมกัน ทีค่ ณะกรรมกำรกำ� หนดให้ จะมสี ถำนอี นื่ ๆ ลอกเลยี นแบบควำมสำ� เรจ็ นนั้ ๆ (มหำชน) โดยชอ่ ง ๙ MCOT HD และองคก์ ำร เป็นกิจกำรกระจำยเสียงหรือกิจกำรโทรทัศน ์ ไดใ้ นเวลำตอ่ มำไมน่ ำน ก ร ะ จ ำ ย เ สี ย ง แ ล ะ แ พ ร ่ ภ ำ พ ส ำ ธ ำ ร ณ ะ แ ห ่ ง โดยใหบ้ รกิ ำรดำ้ นรำยกำร จะผลติ ดว้ ยตนเองหรอื ประเทศไทย โดยสถำนโี ทรทศั นไ์ ทยพบี เี อส เปน็ ผู้ จำ้ งคนอน่ื ผลติ จำกนนั้ ผใู้ หบ้ รกิ ำรจะตอ้ งไปเชำ่ ชอ่ ง ๕. กจิ กำรประเภทเคเบลิ ทวี ที อ้ งถน่ิ หนั มำสรำ้ ง ให้บริกำรโครงข่ำยในระบบดิจิทัลไปพร้อมกัน สญั ญำณเพอื่ สง่ รำยกำรของตนเองไปสผู่ รู้ บั บรกิ ำร หรอื รกั ษำควำมไดเ้ ปรยี บในกำรแขง่ ขนั ดว้ ยกำร หมำยควำมว่ำ ผู้ประกอบกำรทุกรำยท่ี กสทช. หรอื ประชำชน แตผ่ ใู้ หบ้ ริกำรกระจำยเสียงหรือ เผยแพรร่ ำยกำรทมี่ เี นอ้ื หำของทอ้ งถน่ิ สว่ นกจิ กำร รบั รองใบอนญุ ำต ใหใ้ ชค้ ลน่ื ควำมถต่ี ำมทก่ี ำ� หนด โทรทัศน์จะท�ำหน้ำท่ีส่งสญั ญำณเองไมไ่ ด ้ เคเบลิ ทวี ใี นระดบั ประเทศตอ้ งแขง่ ขนั ดว้ ยคณุ ภำพสงู จะตอ้ งเลอื กใชโ้ ครงขำ่ ยกลมุ่ ใดกลมุ่ หนงึ่ จำกผใู้ ห้ และกำรเผยแพรเ่ นอื้ หำคณุ ภำพสงู ประกอบธรุ กจิ บรกิ ำรทงั้ ๔ รำยดังกล่ำว ๔. การใหบ้ ริการแบบประยุ กต ์ โทรคมนำคมเสรมิ ดว้ ย (Broadcasting application ๒. การใหบ้ รกิ ารโครงขา่ ยกระจาย provider) หมำยถึง กำรให้บริกำรเสียง ๖. สถำนีโทรทัศน์แบบดิจิทัล ประเภทธุรกิจ เสียงหรือโทรทศั น ์ (Broadcasting กำรให้บริกำรข้อมูล กำรให้บริกำรสื่อประสม มีกำรแข่งขันที่มีภำระต้นทุนจำกกำรประมูลท่ีมี network provider) หมำยถงึ กำรให้ (Multimedia) โดยผำ่ นโครงข่ำยกระจำยเสียงหรือ มลู คำ่ สงู และไมส่ ำมำรถเปลยี่ นหรอื โอนกรรมสทิ ธิ์ บ ริ ก ำ ร ร ะ บ บ ก ำ ร เ ชื่ อ ม โ ย ง ข อ ง ก ลุ ่ ม เ ค ร่ื อ ง ส ่ ง โทรทศั นท์ เ่ี ปน็ กำรใหบ้ รกิ ำรโดยตรงตอ่ ผรู้ บั บรกิ ำร ใบอนุญำตได้ หรอื ถำ่ ยทอดสญั ญำณเสยี งหรอื ภำพทใ่ี ชใ้ นกำรสง่ ไม่ว่ำจะมีกำรเรียกเก็บค่ำบริกำร ค่ำธรรมเนียม ข่ำวสำรสำธำรณะหรือรำยกำรจำกสถำนีไปยัง หรอื คำ่ ใชจ้ ำ่ ยอนื่ ใดหรอื ไมก่ ต็ ำม โอกำสของกำรเข้ำสู่ตลอดของผู้ประกอบ เครอ่ื งรบั ผำ่ นสอื่ ตวั นำ� ทเ่ี ปน็ สำย คลนื่ ควำมถ ี่ แสง กจิ กำรโทรทศั นร์ ำยใหมพ่ บกำรเปลยี่ นแปลง สถำนี คลน่ื แมเ่ หลก็ ไฟฟำ้ หรอื สอ่ื ตวั นำ� อนั ใด โดยผใู้ หบ้ รกิ ำร โทรทัศน์ดำวเทียมยังคงเข้ำสู่ตลำดได้ไม่ยำก โครงขำ่ ยเปน็ ผลู้ งทนุ ในกำรพฒั นำโครงขำ่ ยโทรทศั น ์ อำจตอ้ งเตรยี มตวั ในกำรจดั ทำ� แผนธรุ กจิ และแผนกำร ท่ีประกอบไปด้วยอุปกรณ์เคร่ืองส่งกับอุปกรณ์ ประกอบกิจกำรให้ละเอียดมำกข้ึน เพื่อน�ำเสนอ รวบรวมและกระจำยสญั ญำณ (Head End) เพอ่ื ตอ่ กรรมกำรบรษิ ทั กสท ขณะทส่ี ถำนโี ทรทศั นด์ จิ ทิ ลั ใหบ้ รกิ ำรสง่ สญั ญำณหรอื รำยกำรไปยงั ผรู้ บั บรกิ ำร ภำคพื้นดินประเภทธุรกิจระดับชำติรำยใหม่ไม่ หรอื บำ้ นประชำชน แตไ่ มม่ หี นำ้ ทที่ ำ� รำยกำร หรอื สำมำรถเขำ้ สตู่ ลำดระดบั ชำตไิ ดอ้ กี ๑๕ ป ี ผปู้ ระกอบ เปน็ เจำ้ ของรำยกำรทส่ี ง่ ไป กิจกำรสถำนีโทรทัศน์ดิจิทัลระดับท้องถิ่น และ

๑๗๖ ผู ผ้ ลิตเนื อ้ หาในกิจการ ภำยหลังจำกกำรเปล่ียนผ่ำนไปสู่โทรทัศน์ใน โทรทศั น ์ ระบบดจิ ทิ ลั แลว้ นนั้ ชอ่ งรำยกำรโทรทศั นม์ จี ำ� นวน เพิ่มสงู ขน้ึ กำรเพมิ่ ขึ้นของจำ� นวนชอ่ งรำยกำรและ ผูผ้ ลิตเนื อ้ หาในกิจการโทรทศั น ์ หมายถึง บุคคลหรือหน่ วยงานท่ีเป็ น ผู้ประกอบกำรโทรทัศนด์ งั กลำ่ ว แสดงใหเ้ หน็ ได้วำ่ ผูส้ รา้ งเนือ้ หารูปแบบเสียงและภาพ แลว้ ส่งไปยงั บุคคลอ่ืน หรือไปยงั อปุ สรรคในกำรเขำ้ สตู่ ลำดโทรทศั นล์ ดนอ้ ยลง เนอื่ งจำก หน่ วยงานอ่ืนผ่านตวั กลางต่าง ๆ ท่ีเป็ นระบบคล่ืนความถ่ี ระบบสาย ผู้ประกอบกำรภำคเอกชนท่ีประสงค์จะประกอบ ระบบแสง ระบบแม่เหลก็ ไฟฟ้า หรือระบบอ่ืน ระบบใดระบบหน่ึงหรือ กิจกำรสถำนีโทรทัศน์สำมำรถเข้ำร่วมประมูลคล่ืน หลายระบบรวมกนั และนาํ ไปสู่โทรทศั นท์ ุกรปู แบบ ผูผ้ ลิตเนือ้ หาตอ้ งมี ควำมถไ่ี ด ้ ซง่ึ แตกตำ่ งจำกในระบบแอนะลอ็ กเดมิ ที่ ค ว า ม รู ้ ค ว า ม เ ข า้ ใ จ ใ น เ นื อ้ ห า ท่ี จ ะ ส่ื อ อ อ ก ไ ป น นั ้ อ ย่ า ง แ จ่ ม ช ดั มี ภำคเอกชนรำยใหม ่ ๆ ไมส่ ำมำรถเขำ้ มำประกอบ วตั ถปุ ระสงคช์ ดั เจน เขา้ ใจถงึ ความสามารถและความพรอ้ มในการรบั กจิ กำรโทรทศั นไ์ ดอ้ ยำ่ งเสร ี โดยมเี พยี งชอ่ ง ๓ และ เนือ้ หาของผูท้ ่ีตนจะส่ือสารดว้ ย รวมทงั ้ เลอื กใชว้ ิธีการส่ือสารไดอ้ ย่าง ชอ่ ง ๗ เทำ่ นน้ั ทไ่ี ดร้ บั สมั ปทำนจำกรฐั ในกำรจดั ตง้ั เหมาะสม เพ่ื อใหก้ ารส่ือสารครงั ้ นนั ้ ๆ บรรลุเปา้ หมายท่ีไดต้ งั ้ ไว ้ สถำนีและให้บริกำรช่องรำยกำร เม่ือจ�ำนวนช่องมี จำ� นวนเพม่ิ สงู ขน้ึ ถงึ ๔ เทำ่ ตวั สง่ ผลใหผ้ ปู้ ระกอบ กำรชอ่ งโทรทศั นใ์ นระบบดจิ ทิ ลั และในระบบแอนะลอ็ ก เดิมปรับตวั เพ่อื สรำ้ งจดุ แข็งใหก้ ับสถำนขี องตนเพ่อื ใหส้ ำมำรถแขง่ ขนั กบั ชอ่ งอน่ื ๆ ดงั นน้ั เนอื้ หำทถี่ กู ผลติ มำแบง่ ออกเปน็ ประเภทตำ่ ง ๆ เชน่ ๑. รายการสนทนา (Conversational programme) เปน็ รปู แบบรำยกำรทมี่ คี นมำพดู คยุ กนั ๒ หรอื ๓ คน โดยมคี นหนง่ึ เปน็ ผดู้ ำ� เนนิ รำยกำร หรอื ดำ� เนนิ กำรสนทนำ สว่ นบคุ คลทเี่ หลอื จะเปน็ ผรู้ ว่ มสนทนำ ผดู้ ำ� เนนิ รำยกำรจะทำ� หนำ้ ทนี่ ำ� กำรสนทนำ และคอยควบคมุ กำรสนทนำใหเ้ ปน็ ไป ตำมขอบเขตและวตั ถปุ ระสงคข์ องรำยกำร แตกตำ่ ง กบั รำยกำรพดู คยุ กลำ่ วคอื รำยกำรพดุ คยุ เปน็ กำร พดู คยุ กบั ผชู้ มโดยตรงในขณะทร่ี ำยกำรสนทนำมใิ ช่ เปน็ กำรพดู คยุ กบั ผชู้ มโดยตรง แตเ่ ปน็ กำรสนทนำ กั น ร ะ ห ว ่ ำ ง ผู ้ ร ่ ว ม ร ำ ย ก ำ ร ก ำ ร น� ำ เ ส น อ ร ำ ย ก ำ ร ส น ท น ำ ท่ี ดี ๒. รายการสมั ภาษณ ์ (Interview programme) เปน็ รปู แบบรำยกำรทม่ี บี คุ คล ๒ คนหรือมำกกว่ำมำร่วมพูดคุยซักถำมปัญหำ ข้อ สงสยั หรอื ชแ้ี จงขอ้ เทจ็ จรงิ ตำมหวั ขอ้ ทก่ี ำ� หนดใน แตล่ ะรำยกำร โดยมผี ดู้ ำ� เนนิ รำยกำร ๑ คน ทำ� หนำ้ ทส่ี มั ภำษณห์ รอื ซกั ถำม และผรู้ ว่ มรำยกำรหรอื ผใู้ หส้ มั ภำษณเ์ ปน็ ผตู้ อบหรอื ชแี้ จงขอ้ เทจ็ จรงิ ตอ่ ขอ้ คำ� ถำม รำยกำรขำ่ ว (News Programme) เปน็ รปู แบบ รำยกำรท่ีนำ� เสนอเหตุกำรณ ์ เรือ่ งรำว ข้อเทจ็ จริง หรือข้อคิดเห็นท่ีน่ำสนใจ มีควำมสดใหม่ มีผล กระทบตอ่ ประชำชนสว่ นใหญ ่ หรอื มอี งคป์ ระกอบขำ่ ว อน่ื ๆ โดยใชว้ ธิ กี ำรนำ� เสนอทงั้ ในลกั ษณะของกำร ประกำศ กำรอำ่ นคำ� บรรยำยขำ่ วประกอบภำพโดย ผปู้ ระกำศขำ่ ว กำรรำยงำนพเิ ศษหรอื กำรสมั ภำษณ์ โดยผสู้ อ่ื ขำ่ ว หรอื ผรู้ ำยงำนขำ่ ว ในสถำนทจี่ รงิ หรอื ลกั ษณะอน่ื ๆ

๓. รายการละคร (Drama Programme) เปน็ ๒. กำรหำขอ้ มลู ในกำรทำ� สครปิ ต ์ หลงั จำกทที่ รำบวำ่ ตอ้ งกำร ๒๘๖—๒๘๗ รปู แบบรำยกำรทน่ี ำ� เสนอเรอื่ งรำวโดยใชก้ ำรแสดงตำมบทบำทในเรอ่ื งรำว จะน�ำเสนอเร่ืองอะไร ก็ต้องเร่ิมหำข้อมูลทั้งจำกกำรลงพื้นท่ีจริง ทแ่ี ตง่ ขนึ้ หรอื ดดั แปลงจำกเรอื่ งจรงิ เพอ่ื สอ่ื ควำมหมำยเกย่ี วกบั สำระ สอบถำมจำกผรู้ ู้ หรอื จำกแหลง่ ขอ้ มลู ตำ่ ง ๆ ทง้ั หนงั สอื อนิ เทอรเ์ นต็ บท ่ีท ๘ ูผ้ประกอบการด้านการ ่ืสอสาร ขอ้ คดิ คตเิ ตอื นใจ และควำมบนั เทงิ ไปสผู่ ชู้ มรำยกำร โดยอำศยั องค์ โดยข้อมูลน้ันต้องมำจำกแหล่งข่ำวที่เช่ือถือได้ และเป็นควำมจริง ประกอบและเทคนคิ ทำงกำรละคร ศลิ ปะกำรแสดง เทคนคิ กำรถำ่ ยทำ� เพรำะกำรท�ำงำนสื่อนั้นกำรน�ำเสนอควำมจริงถือเป็นจรรยำบรรณ กำรตัดต่อล�ำดับภำพ และกำรให้เสียงดนตรีและเสียงประกอบ และสง่ ผลตอ่ รำยกำร เพรำะหำกนำ� เสนอขอ้ มลู ทผี่ ดิ ๆ กจ็ ะทำ� ให้ เพอื่ ใหเ้ รอ่ื งรำวมคี วำมสมจรงิ สมจงั ผชู้ มชมแลว้ มอี ำรมณร์ ว่ ม และ ไมม่ คี นเชอ่ื ถอื และเลอื กทจ่ี ะไมช่ มรำยกำร เกดิ ควำมรสู้ กึ คลอ้ ยตำม ๓. วำงแผนกำรถ่ำยทำ� เม่ือได้สครปิ ตท์ ท่ี ำ� ให้รู้ว่ำตอ้ งถ่ำยท�ำ ๔. รายการเพลง (Music programme) เป็น อะไรกจ็ ะมำวำงแผนกำรถำ่ ยทำ� กอ่ นหลงั ตอ้ งไปถำ่ ยทไ่ี หน อยำ่ งไร รำยกำรทน่ี ำ� เสนอเพลงหรอื กำรแสดงดนตร ี ซง่ึ สำมำรถจดั นำ� เสนอ ตดิ ตอ่ ใครบำ้ ง ตอ้ งมกี ำรถำ่ ยอะไรบำ้ ง เปน็ ขนั้ ตอนของกำรเตรยี ม ในลักษณะเป็นเพลงที่มีภำพประกอบเป็นเร่ืองรำวตำมเน้ือหำของ งำน เตรยี มซอ้ื ของ ตดิ ตอ่ ประสำนงำนกบั ทมี ตำ่ ง ๆ และกำ� หนดวนั เพลงทเี่ รยี กวำ่ มวิ สกิ วดิ โี อ (Music Vedio) หรอื เปน็ กำรจดั แสดง เวลำ ในกำรถำ่ ยทำ� เพรำะกำรถำ่ ยทำ� รำยกำรโทรทศั นน์ นั้ คอ่ นขำ้ ง คนตรีท่ีเรียกว่ำกำรแสดงคอนเสิร์ต ซึ่งอำจจะเป็นกำรบันทึกเทป มเี วลำทจี่ ำ� กดั กำรวำงแผนทด่ี จี ะทำ� ใหก้ ำรทำ� งำนมปี ระสทิ ธภิ ำพมำกขนึ้ โทรทศั นไ์ วล้ ว่ งหนำ้ กอ่ นออกอำกำศแพรห่ ลำย หรอื เปน็ กำรถำ่ ยทอดสด ๔. กำรถำ่ ยทำ� เปน็ ขน้ั ตอนกำรทำ� งำนทสี่ ำ� คญั ทส่ี ดุ กำรทำ� ตำม ๕. รายการปกิณกะ (Variety programme) แผนงำนจะทำ� ใหภ้ ำพทีอ่ อกมำตรงตำมเป้ำหมำยท่ีวำงไว ้ และควร หรอื ทน่ี ยิ มเรยี กวำ่ รำยกำรวำไรต ้ี (Variety) เปน็ รปู แบบรำยกำรท่ี เตรียมพร้อมรับมือกับปัญหำเฉพำะหน้ำต่ำง ๆ ท่ีอำจจะเกิดข้ึน มุ่งเน้นน�ำเสนอควำมบันเทิงหลำยเร่ือง หลำยรส โดยใช้รูปแบบ ระหวำ่ งกำรทำ� งำน กำรนำ� เสนอทหี่ ลำกหลำยคลำ้ ย ๆ กบั รำยกำรนติ ยสำร ตำ่ งกนั เพยี ง รำยกำรปกณิ กะไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งเชอ่ื มโยงหรอื รอ้ ยเรยี งแตล่ ะชว่ งแตล่ ะ 5. กำรตดั ตอ่ สว่ นใหญจ่ ะเปน็ หนำ้ ทขี่ องทมี ตดั ตอ่ ผผู้ ลติ หรอื ตอนของรำยกำรให้เป็นอันหน่ึงอันเดียวกัน รำยกำรปกิณกะจึงมี โปรดวิ เซอรจ์ ะเปน็ คนทค่ี วบคมุ ทศิ ทำงและกรอบใหก้ บั รำยกำรวำ่ ควร ควำมหลำกหลำยทงั้ ในดำ้ นเนอื้ หำรำยกำร และรปู แบบกำรนำ� เสนอ จะตดั ตอ่ อยำ่ งไร มกี ำรเพมิ่ เตมิ เทคนคิ อยำ่ งไร และเลำ่ เรอื่ งอยำ่ งไร ด้วยควำมมุ่งหวังท่ีจะสร้ำงควำมพึงพอใจ สร้ำงควำมสนุกสนำน บนั เทงิ เรงิ ใจใหก้ บั กลมุ่ ผชู้ มรำยกำรทมี่ คี วำมชอบแตกตำ่ งกนั รปู แบบ เนอื้ หำในกจิ กำรโทรทศั นใ์ นประเทศไทยทมี่ กั จะไดร้ บั ควำมนยิ ม รำยกำรทมี่ กั ปรำกฏในรำยกำรปกณิ กะ ไดแ้ ก ่ รำยกำรแสดงดนตรี ไดแ้ ก ่ ละคร ขำ่ ว เกมโชว ์ ภำพยนตร ์ และถำ่ ยทอดสดกฬี ำทไี่ ดร้ บั และร้องเพลง รำยกำรแสดงตลกหรือละครตลกเบำสมองรำยกำร ควำมสนใจในประเทศ เชน่ วอลเลยบ์ อล ฟตุ บอล กำรแขง่ ขนั ในยคุ สัมภำษณ์นักร้องหรือนักแสดงท่ีมีชื่อเสียง พร้อมกำรแสดงควำม โทรทศั นด์ จิ ทิ ลั ใชง้ บประมำณลงทนุ มหำศำล กำรตอ่ สแู้ ยง่ ชงิ ไมใ่ ช่ สำมำรถพเิ ศษ เรอื่ งของควำมคมชดั หรอื ควำมดงึ ดดู ของดำรำนกั แสดงแตล่ ะชอ่ ง แต่ เปน็ เรอ่ื งของเนอ้ื หำทที่ ำ� ใหผ้ ชู้ มสนใจไดม้ ำกกวำ่ ๖. รายการสปอต (Spot programme) เปน็ รปู แบบ รำยกำรที่น�ำเสนอเน้ือหำสำระที่ผ่ำนกระบวนกำรผูกเรื่องและ ผผู้ ลติ เนอื้ หำมหี ลำกหลำยบรษิ ทั เชน่ บรษิ ทั บรอดคำซท ์ ไทย เรยี บเรยี งใหส้ นั้ กะทดั รดั และใชศ้ ลิ ปะกำรนำ� เสนอดว้ ยภำพและเสยี ง เทเลวชิ ั่น จ�ำกดั อำ� นวยกำรดำ� เนินงำน คุณอรุโณชำ ภำณพุ ันธ ุ์ ทสี่ อดคลอ้ งและกลมกลนื กบั เนอื้ หำสำระโดยใชร้ ะยะเวลำรวมทง้ั สน้ิ บริษัททีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จ�ำกัด อ�ำนวยกำรด�ำเนินงำน ๓๐-๖๐ วนิ ำท ี วตั ถปุ ระสงคข์ องกำรนำ� เสนอในรปู แบบสปอตวทิ ยุ คณุ ณฏั ฐนนั ท ์ ฉววี งษ ์ บรษิ ทั โพลพี ลสั เอน็ เตอรเ์ ทนเมน้ ท ์ จำ� กดั โทรทศั นก์ เ็ พอ่ื จะตอกยำ้� ซำ้� เตอื น ดว้ ยกำรออกอำกำศแพรภ่ ำพบอ่ ย ควบคุมกำรด�ำเนินงำน คุณอรพรรณ วัชรพล บริษัทดีด้ำ วิดีโอ ครงั้ เชน่ สปอตประชำสมั พนั ธ ์ สปอตโฆษณำหรอื สปอตรณรงคใ์ น โปรดกั ชน่ั จำ� กดั โดยมคี ณุ ไพรชั สงั วรบิ ตุ ร เปน็ ประธำนบรษิ ทั และ เรอ่ื งรำวหรอื ประเดน็ ปญั หำหนงึ่ ของสงั คม ซงึ่ ผรู้ ณรงคต์ อ้ งกำรโนม้ นำ้ ว บรษิ ทั ทเ่ี ปน็ ทงั้ ชอ่ งในกำรออกอำกำศและผลติ เนอ้ื หำดว้ ยตวั เอง เชน่ หรอื ชกั จงู ใจใหป้ ระชำชนทว่ั ไปไดร้ บั ร ู้ และรว่ มมอื กนั ปฏบิ ตั ติ ำม บริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมม่ี จ�ำกัด (มหำชน) บริษัทเวิร์คพอยท์ เอน็ เทอรเ์ ทนเมนท ์ จำ� กดั (มหำชน) เปน็ ตน้ ขนั ้ ตอนการทํางานของผู ผ้ ลิ ตเนื อ้ หารายการ โทรทศั น ์ ๑. คิดหัวข้อในกำรน�ำเสนอในแต่ละเทป ในกำรผลิตเน้ือหำ รำยกำรโทรทัศนน์ น้ั จะมีรูปแบบของรำยกำรเปน็ ตวั ก�ำหนดทศิ ทำง วำ่ เรำตอ้ งกำรจะสอ่ื สำรอะไรกบั คนชม ซง่ึ ในแตล่ ะครงั้ นน้ั กต็ อ้ งเพมิ่ ควำมนำ่ สนใจไปเรอื่ ย ๆ ตอ้ งคดิ วำ่ จะนำ� เสนออะไร ควรเปน็ เรอ่ื งท่ี ผชู้ มใหค้ วำมสนใจโดยอำจจะหยบิ ประเดน็ เรอ่ื งทกี่ ำ� ลงั เปน็ กระแสใน ปจั จบุ นั

๑๗๗ ผูผ้ ลิตเนือ้ หาในสื่อ ๑. กลุ่มผูผ้ ลิตเนื อ้ หาวิดีโอท่วั ไป ออนไลน ์ หมำยถงึ ผทู้ ผ่ี ลติ มวิ สกิ วดิ โี อ รำยกำรทวี ี ภำพยนตร์ เป็นตน้ ซง่ึ บำงเวบ็ ไซต์หรอื แอปพลเิ คชนั ต้องช�ำระ ผูผ้ ลิตเนื อ้ หาในส่ือออนไลน ์ หมายถึง องคก์ รหรือบุคคลท่ีผลิตและ คำ่ ใชจ้ ำ่ ยกอ่ นรบั ชมหรอื ดำวนโ์ หลด เชน่ บรกิ ำรรบั สรา้ งสรรคเ์ นือ้ หาต่าง ๆ เพ่ื อเผยแพรผ่ ่านเครอื ข่ายอนิ เทอรเ์ น็ต โดย ชมภำพยนตรอ์ อนไลนข์ องเนต็ ฟลกิ ซ ์ (Netflix) และ ผลิตเนือ้ หาออกมาใน ๓ รปู แบบ ไดแ้ ก่ วิดีโอ เสียง และรปู ภาพ สามารถ อะเมซอน (Amazon) แตบ่ ำงเว็บไซต์กไ็ ม่ตอ้ งเสีย แบ่งเป็ นกลุ่มได ้ ดงั นี ้ คำ่ ใชจ้ ำ่ ยในกำรรบั ชม เชน่ เวบ็ ไซตย์ ทู บู (YouTube) ๒. กลุ่มผูผ้ ลิตเนื อ้ หาเสี ยงท่วั ไป หมำยถึง ผู้ที่ผลิตเพลง รำยกำรวิทยุออนไลน ์ เป็นต้น ซึง่ บำงเวบ็ ไซต์หรือแอปพลเิ คชัน ต้องชำ� ระ ค่ำใช้จ่ำยก่อนฟังหรือดำวน์โหลด เช่น ไอทูนส์ (iTunes) และ แอปเปิลมิวสกิ (Apple music) แต่ บำงเว็บไซต์ก็ไม่ต้องเสียค่ำใช้จ่ำยในกำรฟัง เช่น จูกซ ์ (JOOX) สปอติฟำย (Spotify) สถำนวี ิทยุ เวบ็ ไซตอ์ อนไลนต์ ำ่ ง ๆ ๓. กลุ่มผูผ้ ลิตเนื อ้ หาข่าว หมำยถึง ผทู้ ผี่ ลติ ขำ่ วรปู แบบวดิ โี อ ขำ่ วรปู แบบเสยี ง เปน็ ตน้ ผู้ผลิตจะผลิตข่ำวได้อย่ำงรวดเร็วและประหยัดใน กำรน�ำเสนอขำ่ ว ซงึ่ สว่ นใหญ่จะไมเ่ สียค่ำใชจ้ ำ่ ยใน กำรอำ่ นขำ่ วในเวบ็ ไซตแ์ ละแอปพลเิ คชนั ตำ่ ง ๆ เชน่ ขำ่ วไทยรัฐออนไลน ์ และมติชนออนไลน์ ๔ . ก ลุ่ ม ผู ผ้ ลิ ต เ นื อ้ ห า โ ฆ ษ ณ า หมำยถงึ ผู้ทผ่ี ลิตโฆษณำรปู แบบวดิ โี อ และโฆษณำ รูปแบบภำพ เป็นตน้ สำมำรถพบเหน็ โฆษณำผำ่ น ทำงออนไลนใ์ นเวบ็ ไซตแ์ ละแอปพลเิ คชนั ตำ่ ง ๆ เชน่ เฟซบุ๊ก (Facebook) ยูทูบ (YouTube) และ อินสตำแกรม (Instagram) ๕ . ก ลุ่ ม ผู ผ้ ลิ ต เ นื อ้ ห า เ ว็ บ ไ ซ ต ์ ถา ม ต อ บ หมำยถงึ ผทู้ ผ่ี ลติ เวบ็ ไซตถ์ ำมตอบ รูปแบบภำพ และเว็บไซต์ตำมตอบรูปแบบเสียง เป็นต้น เว็บไซต์เหล่ำน้ีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสำมำรถ โพสต์ค�ำถำมที่ต้องกำรค�ำตอบหรือตอบค�ำถำมท่ีมี ผู้โพสต์สอบถำมก่อนหน้ำนี้ได้ เว็บไซต์ถำมตอบ ยอดนยิ ม ไดแ้ ก่ ยำฮู ! รู้รอบ (Yahoo! Answers) และวกิ ริ อบร ู้ (WikiAnswers) เปน็ ตน้ ๖ . ก ลุ่ ม ผู ผ้ ลิ ต เ นื อ้ ห า แ ผ น ท่ี บ น เ ว็บ ไ ซ ต แ์ ล ะ แ อ ป พ ลิ เ ค ช นั ห ม ำ ย ถึ ง ผู้ท่ผี ลติ แผนที่รูปแบบภำพ และแผนทร่ี ปู แบบเสียง เป็นต้น เว็บไซต์และแอปพลิเคชันท่ีช่วยให้ผู้คน สำมำรถค้นหำสถำนท่ี และสร้ำงเส้นทำงไปยัง จดุ หมำยปลำยทำงไดอ้ ยำ่ งรวดเรว็ โดยไมเ่ สยี คำ่ ใชจ้ ำ่ ย เชน่ กเู กลิ แผนท่ี (Google Maps) และแมปเควสต ์ (MapQuest)

บทท่ี ๘ ผูป้ ระกอบการดา้ นการส่ือสาร ๒๘๘—๒๘๙

ตอนที่ ๓ ระบบนิเวศนส์ อ่ื ของประเทศไทย : ผปู ้ ระกอบการ ผใู ้ ช ้ กฎหมาย และการกาํ กบั ดแู ล บทท่ี ๙ ผู ใ้ ชส้ ่ื อ ๑๗๘ ผูฟ้ ังวิทยุกระจายเสียง ๑๗๙ ๑๘๐ ผูช้ มโทรทศั น ์ ๑๘๑ ผูใ้ ชโ้ ทรศพั ทป์ ระจาํ ที่ ๑๘๒ ผูใ้ ชโ้ ทรศพั ทเ์ คลื่อนท่ี ๑๘๓ ๑๘๔ ผูใ้ ชอ้ ินเทอรเ์ น็ต ผูใ้ ชว้ ิทยุคมนาคม เปรียบเทียบการใชส้ ่ือของ ประเทศไทยกบั ต่างประเทศ



๑๗๘ ผูฟ้ ั งวิทยุกระจายเสียง ผู ฟ้ ั งวิ ท ยุ กร ะ จา ย เ สี ย ง ห ม า ย ถึง ผู ฟ้ ั ง ร า ย การ ต่ า ง ๆ จา กอุ ป กร ณ ร์ บั ส ญั ญ า ณ เ สี ย ง อ อ กอ า กา ศ โดยใชค้ ล่ืนวิทยุ หรือคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าเพ่ื อรบั สาร ตามจุดประสงคข์ องแต่ละบุคคล

ผฟู้ งั วทิ ยกุ ระจำยเสยี งถอื ไดว้ ำ่ เปน็ องคป์ ระกอบ อ่นื ๆ ๒๙๒—๒๙๓ ส�ำคญั ของกำรเกิดข้ึนของรำยกำรต่ำง ๆ ที่จัดใน 0.43% วทิ ย ุ เพรำะกำรตดั สนิ วำ่ รำยกำรทจ่ี ดั อยนู่ ป้ี ระสบ ผลสำ� เรจ็ หรอื ไม ่ ผจู้ ดั รำยกำรจะตอ้ งคน้ หำวำ่ กลมุ่ โทรศพั ทเ์คล่อื นท่ี ท่ีทาํงาน ผู้ฟังเหล่ำนี้เป็นใคร นอกจำกจะรู้ว่ำเป็นกลุ่มใด 26.23% 13.05% แล้ว ควรจะรู้ให้ลึกซง้ึ ลงไปถึงประวตั ิ พฤติกรรม และทัศนคติของคนในกลุ่มน้ัน ควรทรำบถึงอำยุ คอมพิ วเตอร ์ ท่ีบา้น เพศ ระดบั กำรศกึ ษำ อำชีพ เป็นต้น นอกจำกนี้ 1.29% 49.92% ถ้ำสำมำรถรู้ไปถึงควำมสนใจและทัศนคติที่กลุ่ม ผู้ฟังวิทยุกระจำยเสียงมีต่อรำยกำรต่ำง ๆ ก็จะ เคร่อื งรบั วทิ ยุ ในรถ 10,606,000 อ�ำนวยควำมสะดวกในกำรสร้ำงเนื้อหำรำยกำร 72.48% 36.60% 10,554,000 เปน็ อยำ่ งมำก ในเดอื นตลุ ำคม พ.ศ. ๒๕๖๑ มี ประชำกรไทยอำยตุ ้งั แต่ ๑๒ ปขี ้ึนไป รบั ฟังวทิ ยุ ภาพท่ี ๑ กราฟวงกลมแสดงสดั ส่วนการฟังวิทยุในเคร่ืองรบั และสถานท่ีต่าง ๆ คล่ืนหลักในระบบเอฟเอ็ม จ�ำนวน ๔๐ สถำนี (๘๗.๕-๑๐๗.๐ MHz) จำกทุกช่องทำง เช่น 10,326,000 เคร่ืองรับวทิ ยุ โทรศัพทเ์ คลอ่ื นท ่ี แทบ็ เล็ต และ คอมพวิ เตอร ์ ในเขตพน้ื ทก่ี รงุ เทพฯ และปรมิ ณฑล 10,027,000 10,052,000 ประมำณ ๑๐,๖๐๖,๐๐๐ คน 9,699,000 9,533,000 ผลกำรส�ำรวจกำรเข้ำถงึ บรกิ ำรกระจำยเสียง 9,463,000 ของครัวเรือนในประเทศไทย แสดงให้เห็นว่ำ 9,619,000 มีครัวเรือนที่มีเครื่องรับสัญญำณวิทยุประมำณ 9,473,000 ๑๑,๐๘๗,๐๒๔ ครัวเรือน คิดเปน็ สัดส่วนรอ้ ยละ ๕๒.๐ และมีค่ำเฉล่ียจ�ำนวน เคร่ืองรบั สัญญำณ วทิ ยตุ อ่ ครวั เรอื นเทำ่ กบั ๐.๗๕ เครอ่ื งตอ่ ครวั เรอื น ประชำกรทกุ ชว่ งอำยมุ สี ดั สว่ นกำรรบั ฟงั วทิ ยุ ม.ค.61 ก.พ.61 มี.ค.61 เม.ษ.61 พ.ค.61 มิ.ย.61 ก.ค.61 ส.ค.61 ก.ย.61 ต.ค.61 ใกล้เคียงกัน โดยประชำกรทม่ี ีอำยุ ๖๐ ปขี น้ึ ไป มสี ดั สว่ นกำรรบั ฟงั วทิ ยทุ กุ วนั มำกทส่ี ดุ ระยะเวลำ ภาพท่ี ๒ แสดงจาํ นวนผูฟ้ ังวิทยุระบบคล่นื FM ตงั้ แต่ มกราคม-ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ในกำรรับฟังวิทยุต่อสัปดำห์ มีค่ำเฉล่ียเท่ำกับ ๖๖๙ นำทตี อ่ สัปดำห์ หรอื ๙๕ นำทีตอ่ วัน และ วนั เสำร-์ อำทติ ยห์ รอื วนั ธรรมดำสดั สว่ นกำรรบั ฟงั มีคำ่ ไม่แตกตำ่ งกนั ทั้งน้ี จำกข้อมูลพฤติกรรมกำรรับฟังวิทยุ ประเภทรำยกำรท่ีผู้ฟังวิทยุกระจำยเสียงสนใจมำกที่สุด บท ่ีท ๙ ูผ้ใช้ ่ืสอ (Radio Listening Behavior) พบว่ำ ผู้คนส่วน ไดแ้ ก ่ รำยกำรเพลง รำยกำรข่ำวสำร รำยงำนกำรจรำจร รำยกำร ใหญ่นิยมรับฟังวิทยุท่ีบ้ำน วิทยุในรถ และในที่ สัมภำษณ์ รำยกำรถ่ำยทอดสดกีฬำ รำยกำรทอล์คโชว์ รำยกำร ท�ำงำน นอกจำกน้ียังพบว่ำ ประชำชนส่วนใหญ่ ธรรมะและรำยกำรตอบปัญหำ นยิ มรบั ฟงั วทิ ยผุ ำ่ นทำงเครอ่ื งรบั วทิ ย ุ ตำมมำดว้ ย ผำ่ นทำงโทรศัพท์เคลื่อนท่ี และผ่ำนคอมพิวเตอร์ ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เทคโนโลยีได้เข้ำมำสู่วิถีชีวิตของผู้คน ตำมกรำฟวงกลมในภำพที่ ๑ ดังน้ี ท�ำให้กำรเลือกฟังวิทยุกระจำยเสยี งลดลงเรือ่ ย ๆ เหตผุ ลทีผ่ ฟู้ งั ยงั เลอื กฟงั วทิ ยกุ ระจำยเสียง เพรำะผฟู้ ังไมต่ อ้ งเลือกเพลงดว้ ยตนเอง วัตถปุ ระสงค์ในกำรรับฟังวิทยุนนั้ โดยทัว่ ไป และมีผู้จัดรำยกำรคอยเลือกเพลง แนะน�ำเพลงให้ตลอดเวลำ จะรับฟังเพ่ือควำมเพลิดเพลิน เพื่อรับทรำบ เหมือนได้รับกำรดูแลเอำใจใส่ ท�ำให้กำรฟังเพลงสะดวกและง่ำย ข่ำวสำรประจ�ำวัน เพ่ือรับทรำบข่ำวสำรภำยใน นอกจำกนี้กำรฟังวิทยุกระจำยเสียงมีควำมหลำกหลำยไม่จ�ำเจ ชมุ ชน เพอ่ื เปน็ กจิ กรรมรว่ มกบั ผอู้ นื่ เพอื่ รบั ขอ้ มลู มกี ำรสลบั สบั เปลย่ี นเพลงไมซ่ ำ้� และไมเ่ สยี เวลำตอ่ ตวั ผฟู้ งั เปน็ สอื่ เพิ่มเติมในเร่ืองท่ไี ม่มคี วำมช�ำนำญ เพือ่ เปน็ ชอ่ ง ที่ ส ำ ม ำ ร ถ ส ร ้ ำ ง ป ฏิ สั ม พั น ธ ์ ร ะ ห ว ่ ำ ง ผู ้ ฟ ั ง แ ล ะ ผู ้ จั ด ร ำ ย ก ำ ร ไ ด ้ ท ำ ง แ ล ก เ ป ล่ี ย น ค ว ำ ม คิ ด เ ห็ น แ ล ะ เ พ่ื อ เ ป ็ น สื่ อ ตลอดเวลำ และถอื เป็นเสน่ห์ของกำรฟังวิทยุกระจำยเสียงมำตั้งแต่ ในกำรช่วยเหลอื ผู้อนื่ ยคุ แรกจนถงึ ปจั จบุ ัน

๑๗๙ ผูช้ มโทรทศั น ์ ผูช้ มโทรทศั นใ์ นประเทศไทย มีมาก ถึ ง ร อ้ ย ล ะ ๙ ๘ ข อ ง ป ร ะ ช า ก ร ทงั ้ หมด ซ่งึ ประชากรไทยสามารถ รบั ชมโทรทศั นผ์ ่าน ๓ ช่องทาง ดงั นี ้ ๑. ผ่ า น ร ะ บ บ ภ า ค พื ้ น ดิ น (Terrestrial television) หรอื ฟรที ีวี (Free TV) คิดเปน็ รอ้ ยละ ๔๕.๘ ของครวั เรือน ท้งั หมด ๒ . ผ่ า น ร ะ บ บ เ ค เ บิ ล ( C a b l e television) รอ้ ยละ ๒๘.๗ ๓. ผา่ นระบบดาวเทยี ม (Satellite television) คิดเป็นร้อยละ ๒๕.๕ โทรทัศน์ ภำคพนื้ ดนิ หรอื ฟรที วี ี เปน็ ระบบหลกั ทคี่ นเลอื กรบั ชม แต่ถ้ำพิจำรณำกำรออกอำกำศในเชิงเทคนิคกลับ พบว่ำ ผู้ชมโทรทัศน์ในกิจกำรเคเบิลทีวี และทีวี ดำวเทยี ม มสี ดั สว่ นกำรรบั ชมมำกกวำ่ โทรทัศนท์ ่ีใช้ คลื่นควำมถี่ในกำรออกอำกำศ เนอื่ งจำกผูช้ มเห็น ว่ำกำรรับชมรำยกำรโทรทัศน์ผ่ำนดำวเทียมและ เคเบิลทีวีมีควำมคมชัดของภำพในทุกช่องรำยกำร มำกกวำ่ กำรรบั ชมผำ่ นเสำอำกำศในระบบภำคพนื้ ดนิ ภำคครวั เรอื นในประเทศไทยมแี นวโนม้ รบั สญั ญำณ วิทยุโทรทัศน์ผ่ำนเสำอำกำศในระบบภำคพื้นดิน ลดลงอยำ่ งต่อเน่ือง จำกขอ้ มลู กำรรับสญั ญำณวทิ ยุ โทรทศั นข์ องครวั เรอื นถงึ พ.ศ. ๒๕๕๕ พบแนวโนม้ ว ่ ำ สั ด ส ่ ว น ค รั ว เ รื อ น ท่ี รั บ สั ญ ญ ำ ณ โ ท ร ทั ศ น ์ ผ ่ ำ น เสำอำกำศระบบภำคพ้ืนดิน ลดลงจำกร้อยละ ๘๖ ใน พ.ศ. ๒๕๕๐ เหลือเพยี งรอ้ ยละ ๓๖ ใน พ.ศ. ๒๕๕๕ ขณะท่ีสัดส่วนครัวเรือนท่ีรับสัญญำณ โทรทัศน์ผ่ำนดำวเทียมเพ่ิมจำกร้อยละ ๓ เป็น รอ้ ยละ ๔๕ ในชว่ งเวลำเดยี วกนั จนเปน็ ชอ่ งทำงหลกั ท่ี ค รั ว เ รื อ น ส ่ ว น ใ ห ญ ่ ใ ช ้ ใ น ก ำ ร รั บ สั ญ ญ ำ ณ วิ ท ยุ โทรทัศน์มำกท่สี ุด

กำรปรับตัวของภำคครัวเรือนในช่วงดังกล่ำว ๒๙๔—๒๙๕ จงึ เปน็ โอกำสทำงธรุ กจิ ของผปู้ ระกอบกจิ กำรโทรทศั น์ ผำ่ นดำวเทยี มและกจิ กำรทเี่ กย่ี วเนอ่ื ง เชน่ ตวั แทน บท ่ีท ๙ ูผ้ใช้ ่ืสอ ขำยกล่องและจำนรับสัญญำณดำวเทียม ผู้ผลิต เนื้อหำรำยกำร แต่ก็เป็นข้อจ�ำกัดที่ส�ำคัญของ กำรเปลยี่ นผำ่ นสกู่ ำรรบั สง่ สญั ญำณวทิ ยโุ ทรทศั น์ แบบภำคพน้ื ดนิ ระบบดจิ ทิ ลั ในเวลำตอ่ มำ เนอื่ งจำก ครวั เรอื นอำจไมเ่ หน็ ถงึ ควำมจำ� เปน็ ตอ้ งเปล่ียนไป ใ ช ้ ร ะ บ บ ก ำ ร รั บ ส ่ ง สั ญ ญ ำ ณ ดั ง ก ล ่ ำ ว เพรำะ สำมำรถรบั สญั ญำณวทิ ยโุ ทรทศั นช์ อ่ งตำ่ ง ๆ ผำ่ น ดำวเทยี มไดช้ ดั เจนอยแู่ ลว้ ก่อนมีแผนแม่บทกิจกำรกระจำยเสียงและ กิจกำรโทรทศั น ์ ฉบบั ท ี่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๕) ประชำกรไทยมีทำงเลือกในกำรรับชมโทรทัศน์ คอ่ นข้ำงจำ� กัดเพยี งชอ่ งฟรที วี ี ๖ ชอ่ งเทำ่ น้ัน แม้ มี ท ำ ง เ ลื อ ก อื่ น เ พ่ิ ม เ ติ ม จ ำ ก ท้ั ง ช ่ อ ง ร ำ ย ก ำ ร ใ น เคเบลิ ทีวี และทีวดี ำวเทยี ม แตค่ นสว่ นใหญ่ยังรบั ชมฟรีทีวี ๖ ช่องเป็นหลัก ท้ังน้ี กำรเป็น สมำชกิ เคเบลิ ทวี หี รอื ตดิ ตง้ั ระบบรบั สญั ญำณจำก จำนดำวเทยี ม เพยี งเพอ่ื ใหส้ ำมำรถรบั ชมสญั ญำณ ชอ่ งฟรีทีวไี ดช้ ดั เจนกว่ำเดมิ เท่ำนั้น อยำ่ งไรก็ตำม ช่วงสถำนกำรณ์ควำมไมส่ งบ ทำงกำรเมอื ง พ.ศ. ๒๕๕๒-๒๕๕๗ ผู้ชมจ�ำนวน มำกเปล่ียนมำติดต้งั และรบั ชมรำยกำรในชอ่ งทวี ี ดำวเทียมมำกขึ้น เน่อื งจำกฟรที ีว ี ๖ ช่องหลกั มี ขอ้ จำ� กดั ในกำรใหข้ อ้ มลู ขำ่ วสำรทรี่ อบดำ้ นและทนั สถำนกำรณ์ สัดส่วนครัวเรือนผู้ชมรำยกำร โทรทัศน์ผ่ำนทีวีดำวเทียมเพิ่มสูงข้ึนเป็นร้อยละ ๔๕ ถือเป็นปรำกฏกำรณ์สะท้อนให้เห็นถึงข้อ จ� ำ กั ด ท ำ ง ด ้ ำ น เ ส รี ภ ำ พ ใ น ก ำ ร น� ำ เ ส น อ ข ้ อ มู ล ข่ำวสำรทำงโทรทัศน์ผ่ำนรำยกำรท่ีฝ่ำยรัฐเป็น เจ้ำของ และควำมต้องกำรแสวงหำข้อมูลท ี่ รอบด้ำน ทันเหตกุ ำรณข์ องผ้ชู ม ในทศั นะของผบู้ รโิ ภค พบวำ่ ทวี อี นิ เทอรเ์ นต็ โมไบล์ทีวี กับทีวีดำวเทียม เคเบิลทวี ี โทรทศั น์ ดิจิทัลภำคพ้ืนดิน มีควำมแตกต่ำงกันลดลง เนื่องจำกสำมำรถเข้ำถึงได้ง่ำยข้ึน มีแนวโน้มท่ี ผู้ชมรุ่นใหม่จะเลือกรับชมผ่ำนแพลตฟอร์มท่ีพก พำหรือเคลื่อนท่ีได้มำกข้ึน ส่วนเน้ือหำรำยกำร ท่ีผลิตข้ึนสำมำรถน�ำไปออกอำกำศไดห้ ลำยชอ่ ง ทำง รวมท้งั ชอ่ งทำงโทรคมนำคม เนอื่ งจำกกำร หลอมรวมส่ือ (Digital convergence) รวมถึง กำรท่ีกิจกำรอำจเลือกผลิตรำยกำรเพ่ือเผยแพร่ ผ ่ ำ น ช ่ อ ง ท ำ ง อิ น เ ท อ ร ์ เ น็ ต โ ด ย เ ฉ พ ำ ะ ม ำ ก ข้ึ น เพอื่ หลกี เลย่ี งกำรกำ� กบั ดแู ลดำ้ นเนอื้ หำของ กทสช.

๑๘๐ ผูใ้ ชโ้ ทรศพั ทป์ ระจาํ ที่ ผใู ้ ชโ้ ทรศพั ทป์ ระจาํ ท่ี หมายถงึ ผูใ้ ชโ้ ทรศพั ทช์ นิดท่ใี ชง้ านตงั ้ อยู่กบั ท่ี ส่ือสารผ่านสายโลหะหรอื ใยแกว้ นาํ แสง โทรศพั ทป์ ระจาํ ท่ีมีหลายแบบ ไดแ้ ก่ โทรศพั ทท์ ่ีใชก้ นั ตามครวั เรอื น หา้ งรา้ น และสํานกั งานท่วั ไปในรปู ของ เคร่อื งโทรศพั ทต์ งั ้ โตะ๊ มีสายเชอ่ื มตอ่ กบั โครงขา่ ยโทรศพั ทพ์ ื น้ ฐานในพื น้ ท่เี พ่ื อใหส้ ามารถโทรเขา้ -ออกได ้และ ทาํ งานโดยอาศยั ไฟฟา้ จากชุมสายโทรศพั ทเ์ พี ยงอย่างเดียว ทาํ ใหส้ ามารถใชง้ านไดแ้ มช้ ่วงเวลาท่ีไฟฟา้ ดบั

จาํ นวนเลขหมายโทรศพั ทป์ระจาํ ท่ี(ลา้ นหมายเลข) ๒๙๖—๒๙๗ 40% 9.9% 32.9% 30% 9.8% 32.6% 20% 9.7% 32.2% 10% 9.6% 31.8% 9.4% 31.2% 0% 9.3% 30.7% 9.2% 30.4% 9.1% 30.0% 8.9% 29.6% 8.8% 29.1% 8.6% 28.6% 9.5% 28.2% 9.3% 27.7% 01/55 02/55 03/55 04/55 01/56 02/56 03/56 04/56 01/57 02/57 03/57 04/57 01/58 อตั ราการเขา้ ถงึ ประชากร อตั ราการเขา้ ถงึ ครวั เรอื น ภาพท่ี ๑ กราฟแสดงจาํ นวนหมายเลขโทรศพั ทป์ ระจาํ ท่ี 6.8 จาํ นวนเลขหมายโทรศพั ทป์ระจาํ ท่ี(ลา้ นหมายเลข) ท้ังหมด ซึ่งมีแนวโน้มท่ีลดลง และในภำพรวมมี 6.6 อัตรำกำรยกเลิกเลขหมำยอยู่ท่ีร้อยละ ๗ ต่อปี 6.4 6.6 6.5 6.2 ผใู้ ชโ้ ทรศพั ทป์ ระจำ� ทใ่ี นเขตกรงุ เทพมหำนคร 6.0 6.4 6.4 และปริมณฑลมีจ�ำนวนกำรใช้งำ นมำกที่สุด 5.8 รอ้ ยละ ๓๔.๒๐ รองลงมำเปน็ ภำคกลำง รอ้ ยละ 5.6 6.3 ๓๗.๑๐ ภำคเหนอื รอ้ ยละ ๒๗ ภำคใต ้ รอ้ ยละ 5.4 ๒๒.๗๐ และภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 5.2 6.2 6.1 ๑๖.๓๐ เฉล่ียผู้ใช้โทรศัพท์ประจ�ำที่จะเสียค่ำใช้ 5.0 บริกำรเฉลี่ยเดือนละ ๑๔๖ บำทต่อหมำยเลข 6.0 6.0 โทรศัพท์ 5.9 กลุ่มผู้ใช้งำนโทรศัพท์ประจ�ำท่ีสำมำรถจัด ล ้าน 5.8 อนั ดบั ไดด้ ังนี้ 01/55 5.7 02/55 03/55 5.6 04/55 01/56 02/56 03/56 04/56 01/57 02/57 03/57 04/57 01/58 ภาพท่ี ๒ กราฟแสดงอตั ราการเขา้ ถงึ บริการโทรศพั ทป์ ระจาํ ท่ี ๑. อนั ดับท ี่ ๑ คือ กลุ่มธรุ กจิ ซง่ึ กลมุ่ ธรุ กจิ ใช้โทรศัพท์ประจ�ำท่ีเป็นหมำยเลขโทรศัพท์ของ โทรศพั ทป์ ระจำ� ทบี่ ำงชนดิ สำมำรถรองรบั กำร กำรส่ือสำรทำงเสียงผ่ำนอินเทอร์เน็ต (VoIP: ส�ำนักงำนท่ีใช้มำนำนท�ำให้ยังไม่ต้องกำรเปลี่ยน บท ่ีท ๙ ูผ้ใช้ ื่สอ ทำ� งำนเปน็ โทรศพั ทไ์ รส้ ำยได ้ ซง่ึ เครอ่ื งหลกั จะตอ่ Voice over Internet Protocol) ทมี่ คี ำ่ บรกิ ำรถกู โดยมคี ำ่ ใชบ้ รกิ ำรโทรศพั ทป์ ระจำ� ทค่ี ดิ เปน็ รอ้ ยละ กบั สำยโทรศัพท์ปกต ิ แต่ส่วนของเครื่องรบั เสียง กวำ่ ณ สนิ้ ไตรมำสท ี่ ๑ พ.ศ. ๒๕๕๘ มเี ลขหมำย ๘๐ และมีจำ� นวนหมำยเลขอยทู่ ีร่ ้อยละ ๒๐ พูดหรือฟัง (หูโทรศัพท์) จะเช่ือมต่อกับเคร่ือง โทรศัพท์ประจ�ำที่ ซ่ึงรวมถึงโทรศัพท์สำธำรณะ หลักด้วยสญั ญำณวทิ ย ุ ทำ� ใหส้ ำมำรถรับและโทร แ ล ะ โ ท ร ศั พ ท ์ ป ร ะ เ ภ ท P C T ( P e r s o n a l ๒. อนั ดบั ท ี่ ๒ คอื กลมุ่ บำ้ นพกั อำศยั ซง่ึ เปน็ ออกจำกทีใ่ ด ๆ ในบำ้ น โดยทผ่ี รู้ บั ไมต่ อ้ งเดนิ มำ C o m m u n i c a t i o n s T e l e p h o n e s ) จ� ำ น ว น กลมุ่ ผสู้ งู อำยทุ ใี่ ชบ้ รกิ ำร เพรำะไมม่ คี วำมรใู้ นกำร ยกหโู ทรศทั พท์ เี่ ครอ่ื ง แตเ่ ครอ่ื งหลกั ของโทรศพั ท์ ๕,๕๙๖,๒๑๘ เลขหมำยแบง่ เปน็ เลขหมำยในเขต ใชง้ ำนสมำรต์ โฟนเปน็ สว่ นมำก โดยมคี ำ่ ใชบ้ รกิ ำร ป ร ะ จ� ำ ที่ ช นิ ด น้ี ต ้ อ ง เ ชื่ อ ม ต ่ อ กั บ ก ร ะ แ ส ไ ฟ ฟ ้ ำ กรงุ เทพมหำนครและปรมิ ณฑลจำ� นวน ๒,๙๕๔,๖๒๒ โทรศพั ทป์ ระจำ� ทค่ี ดิ เปน็ รอ้ ยละ ๒๐ และมจี ำ� นวน ภำยในบ้ำน ซึ่งจะใช้งำนไม่ได้หำกไฟฟ้ำดับหรือ เลขหมำย และเลขหมำยในเขตภูมภิ ำค จำ� นวน หมำยเลขอยทู่ ี่รอ้ ยละ ๘๐ ขดั ข้อง ๒,๖๔๑,๕๙๖ เลขหมำย เฉลยี่ ผใู้ ชโ้ ทรศพั ทป์ ระจำ� ทจ่ี ะเสยี คำ่ ใชบ้ รกิ ำร เฉลี่ยเดอื นละ ๑๔๖ บำทต่อหมำยเลขโทรศัพท ์ ผ้ใู ชโ้ ทรศัพท์ประจ�ำทข่ี องไทยมจี ำ� นวนลดลง อตั รำกำรเขำ้ ถงึ ประชำกรของบรกิ ำรโทรศพั ท์ อย่ำงต่อเน่ืองในช่วงหลำยปีท่ีผ่ำนมำ เนื่องจำก ประจำ� ท ี่ อยทู่ รี่ ้อยละ ๘.๓ ของจ�ำนวนประชำกร ควำมนยิ มใชบ้ รกิ ำรโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นท ่ี และบรกิ ำร ท้งั หมด หรอื ร้อยละ ๒๗.๗ ของจ�ำนวนครวั เรือน

๑๘๑ ผูใ้ ชโ้ ทรศพั ทเ์ คลอื่ นท่ี Technology Holdings Ltd.) เส่ยี วหมี่ (Xiaomi) เลโนโว (Lenovo) แซดทอี ี (ZTE) และไมโครแมกซ์ (Micromax) ในประเทศไทยผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่มีจ�ำนวน มำกขนึ้ เรอื่ ย ๆ จำกรำยงำนยอดผใู้ ชบ้ รกิ ำรโทรศพั ท์ เคลอื่ นท่โี ดยนับเฉพำะผู้ใหบ้ รกิ ำรหลักทง้ั ๓ รำย ใหญ่ของประเทศไทยได้แก่ AIS, DTAC และ TrueMove พบว่ำเม่ือต้น พ.ศ. ๒๕๖๐ น้ันยอด ผใู้ ชง้ ำนรวมทงั้ สน้ิ เพมิ่ ขนึ้ ไปอยทู่ ยี่ อด ๙๐.๗ ลำ้ นคน ประชำกรไทยนิยมใช้โทรศัพท์เคล่ือนที่ในช่วง ระหวำ่ งชมโทรทัศนม์ ำกทส่ี ุด ตำมดว้ ยใชข้ ณะนอน เล่น เดนิ ทำง ระหวำ่ งรอ ขณะเข้ำห้องนำ�้ ในชว่ ง เวลำท่ีอยู่กับครอบครัว ระหว่ำงชอปปิง ระหว่ำง ประชุม หรือช่วงเวลำเรียน และใช้ในช่วงเวลำ สังสรรค์ กิจกรรมที่คนไทยนิยมใช้ผ่ำนโทรศัพท์ เคลื่อนท ่ี ได้แก่ สงั คมออนไลน์ (Social media) ควำมบันเทิง รับส่งอีเมล ท�ำธุรกรรมทำงกำรเงิน กำรใชค้ วำมเปน็ จรงิ เสรมิ หรอื เออำร ์ (Augmented Reality: AR) และกำรซอ้ื ขำยผำ่ นโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นท่ี ผใู ้ ชโ้ ทรศพั ทเ์ คลอ่ื นท่ี หมายถงึ ผใู ้ ชอ้ ปุ กรณต์ ดิ ตอ่ ส่ือสารอเิ ลก็ ทรอนิกส ์ ผลกระทบจำกกำรใช้โทรศัพท์ในด้ำนบวก เชน่ ท่ีใชใ้ นการส่ือสารแบบสองทาง โทรศพั ทเ์ คล่อื นท่ีในปัจจุบนั ทงั ้ หมด ช่วยให้กำรติดต่อส่ือสำรมีควำมสะดวกรวดเร็ว ติดต่อผ่านเครือข่ายโดยใชเ้ ทคโนโลยีการส่งดว้ ยคล่ืนวิทยุแบบไรส้ าย ท� ำ ใ ห ้ เ กิ ด ค ว ำ ม ส ะ ด ว ก ต ่ อ ก ำ ร ท� ำ ง ำ น ท ำ ง ธุ ร กิ จ (ยกเวน้ โทรศพั ทด์ าวเทยี ม) โทรศพั ทเ์ คลอ่ื นท่เี คร่อื งแรกถกู ผลติ และออก ต่ำง ๆ ท�ำให้เกิดควำมเพลิดเพลินจำกกำรใช้ แสดงใน พ.ศ. ๒๕๑๖ โดยมารต์ นิ คูเปอร ์ (Martin Cooper) นกั ประดษิ ฐ ์ โทรศัพท์ฟังเพลง หรือเล่นเกมและท�ำให้ช่วย จากบรษิ ทั โมโตโรลา่ เป็ นโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นท่ขี นาดใหญท่ ่มี ีนาํ ้ หนกั ประมาณ ประหยัดเวลำและคำ่ ใช้จำ่ ยในกำรที่จะตอ้ งเดนิ ทำง ๑.๑ กโิ ลกรมั ซ่งึ ทาํ ใหผ้ ใู ้ ชง้ านลาํ บากในการใชง้ านโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นท่มี าก ไปติดต่อธรุ ะด้วยตนเอง ในยุคแรก ดว้ ยความกา้ วหนา้ ทําใหโ้ ทรศพั ทม์ ีขนาดเลก็ ลงจนสามารถ ถือพกพาเป็ นท่ีนิ ยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบนั โทรศพั ทเ์ คล่อื นท่ีท่ีมี ขณะเดยี วกบั กส็ ง่ ผลกระทบในดำ้ นลบ เชน่ ใน ความสามารถเพ่ิ มขนึ ้ ในปัจจบุ นั เรยี กวา่ สมารต์ โฟน (Smartphone) ด้ำนสุขภำพจติ กำรตดิ ต่อสอ่ื สำรอย่ำงรวดเร็วเกิน ไปทำ� ใหห้ งดุ หงดิ ได ้ ในกรณที ไี่ มไ่ ดร้ บั กำรตอบกลบั ผู้ใช้โทรศัพท์เคล่ือนท่ีในปัจจุบันนอกจำกจะใช้ ปจั จบุ นั จำ� นวนผใู้ ชง้ ำนโทรศพั ทเ์ คลอื่ นทที่ ว่ั โลก ในทนั ท ี ในดำ้ นสขุ ภำพ กำรใชโ้ ทรศพั ทเ์ คลอ่ื นทเี่ ปน็ โทรศัพท์เคล่ือนท่ีโทรเข้ำและรับสำยซึ่งเป็นควำม เพิม่ ขึน้ จำก พ.ศ. ๒๕๔๓ ท่มี ีจ�ำนวน ๑๒.๔ ล้ำน เวลำนำนท�ำให้ตอ้ งกม้ ศรี ษะ กอ่ ให้เกดิ อำกำรเกร็ง สำมำรถพ้ืนฐำนของโทรศัพท์แล้ว ยังมีคุณสมบัต ิ คน มำเป็น ๔,๖๐๐ ล้ำนคน ทำ� ใหย้ อดผลิดเพิ่มข้ึน ส่งผลต่อเสียกล้ำมเน้ือคอ กำรฟังเสียงดังเป็น พ้นื ฐำนของโทรศพั ทเ์ คล่อื นทอ่ี ีกมำกมำย เชน่ กำร มำกเช่นเดียวกัน จำกรำยงำน พ.ศ. ๒๕๕๗ ผใู้ ช้ เวลำนำนอำจน�ำไปสู่ควำมเส่ียงกำรสูญเสียกำร ส่งข้อควำมส้ันเอสเอ็มเอส ปฏิทิน นำฬิกำปลุก โทรศัพท์เคลื่อนที่ในโลกเลือกใช้โทรศัพท์เคล่ือนท่ี ได้ยิน ในด้ำนส่ิงแวดล้อม แบทเตอร่ีในโทรศัพท์ ตำรำงนดั หมำย เกม กำรใชง้ ำนอนิ เทอรเ์ นต็ บลทู ธู ย่ีห้อซัมซุงมำกท่ีสุด ตำมด้วยโนเกีย (Nokia) เคลื่อนที่มีสำรพิษเป็นส่วนประกอบ เช่น สำร อินฟรำเรด กล้องถ่ำยภำพ เอ็มเอ็มเอส วิทยุ แอปเปลิ (Apple) แอลจี (LG) หัวเว่ย (Huawei) แคดเมียม สำรตะกั่ว ลิเทียมไอออน ดังน้ันผู้ใช้ เครอ่ื งเล่นเพลง และจพี เี อส ทีซีแอลคอมมิวนิเคชัน (TCL Communication โทรศัพท์เคล่ือนท่ีต้องแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ก่อน นำ� ไปทิ้ง โทรศัพท์เคล่ือนที่อำจถูกน�ำไปใช้ในทำงที่ผิด เช่น แอบถ่ำยภำพอนำจำร หลอกลวงเพอ่ื ขอข้อมลู สำ� คญั นอกจำกนโ้ี ทรศัพทเ์ คลอื่ นท่ีบำงรุน่ ทีม่ ีรำคำ สูงอำจเปน็ แรงจงู ใจให้เกดิ กำรโจรกรรมได้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook