Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-21-คู่มือและแผนการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ม.2-2

64-08-21-คู่มือและแผนการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ม.2-2

Published by elibraryraja33, 2021-08-21 02:27:57

Description: 64-08-21-คู่มือและแผนการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ม.2-2

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 44 ๓๔๐ หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 6 กฎหมายในชีวติ ประจาวัน เรือ่ ง กฎหมายเกยี่ วกับบัตรประจาตัวประชาชนและทะเบียนราษฎร เวลา 1 ชว่ั โมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศึกษา ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ดา้ นทักษะและกระบวนการ 3. ครูนานักเรยี นเข้าสบู้่ ทเรยี น โดยกล่าววา่ “บัตรประจาตัวประชาชน 2. จากวิดี ีิทัศน์ท่ีกาหนดให้นักเรียนสามารถอภิปราย และทะเบยี นราษฎรน้นั มีความสาคญั มาก เห็นได้จากครูสามารถร้ไู ดว้ า่ สิทสธิทปิ ธริปะรโยะโชยนช์ขนอ์ขงบอัตงบรปัตระปจรำ� ะตจัวาปตรัวะปชรำะชชนาไชด้อนยได่ำง้อย่าง นกั เรยี นเกิดขน้ึ ท่จี งั หวัดใด และยงั มีข้อมูลอีกมากท่ีครสู ามารถดูได้อีก เหเมหำมะาสะมสม ดังน้นั ในคาบนีเ้ ราจะมาศกึ ษาว่า บตั รประจาตวั ประชาชนและทะเบียน ด้านคุณลักษณะ ราษฎรนม้ี ีความสาคัญกับเราอยา่ งไรบ้าง” 3. จากวิดีทัศน์ที่กาหนดให้นักเรียนสามารถนาเสนอ แนแวนทวำทงาแงกแไ้ กข้ไปขญัปัญหำหเกาเีย่ กวี่ยกวบั กบับัตบรัตปรรปะรจะำ� จตาวั ตปัวรปะรชะำชชานชน ขน้ั สอน แลแะลทะะทเะบเียบนียรนำรษาฎษรฎไรดไ้อดยอ้ ่ำยง่าเงหเมหำมะาสะมสม 1. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั ศึกษาเกี่ยวกบั บัตรประจาตวั ประชาชนและ ทะเบียนราษฎร จาก Power Point เร่ือง กฎหมายเกย่ี วกบั บตั ร ประจาตวั ประชาชนและทะเบียนราษฎร 2. ครูเปดิ วีดิ ิีทศั น์ เร่ือง “คนไม่มสี ัญชาติได้รบั บัตร ปชช.” ความยาว ประมาณ 6 นาที ใหผ้ ู้เรยี นดู จากนั้นครูใช้แนวคาถามในการพฒั นา ความรู้ด้านทักษะและกระบวนการ และดา้ นคณุ ลกั ษณะ โดยระหวา่ ง การตอบคาถามครูควรจดบันทึกคาถามของนักเรียนบนกระดาน หน้าหอ้ งด้วย โดยใชแ้ นวคาถามดังนี้ 332430

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 44 ๓๔๑ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 กฎหมายในชวี ิตประจาวนั เรอ่ื ง กฎหมายเกย่ี วกบั บัตรประจาตัวประชาชนและทะเบียนราษฎร เวลา 1 ช่ัวโมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษาศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชา สังคมศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 2 ทีม่ า : https://www.youtube.com/watch?v=pOxevTz4ZYk 2.1 จากวดิี ทีิ ัศน์ท่ีนกั เรียนไดร้ ับชมไปน้ัน นักเรียนคดิ ว่าบตั ร ประชาชนสาคญั อยา่ งไร (แนวคาตอบ : นกั เรียนแสดงความคิดเหน็ ) 2.2 บตั รประจาตวั ประชาชนนามาซ่งึ สทิ ธิและหนา้ ทีต่ า่ ง ๆ มากมาย จากวิดี ทีิ ัศน์ท่นี กั เรียนชมไปนัน้ ถ้าบคุ คลเหลา่ นีไ้ ด้รับบตั ร ประจาตวั ประชาชนจาไดร้ ับสิทธอิ ะไรบา้ ง (แนวคาตอบ : เกยี่ วกบั การศึกษา ความเป็นอยู่ และอ่นื ๆ) 2.3 ให้นักเรยี นลองเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่พอ เปน็ ไปได้ (แนวคาตอบ : นกั เรยี นแสดงความคดิ เหน็ ) 4. ครูเพ่ิมเติมความรูใ้ ห้นักเรียนทน่ี อกเหนือจากคาตอบที่นักเรยี นได้ ตอบแล้ว 32441

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 44 ๓๔๒ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6 กฎหมายในชวี ติ ประจาวนั เรือ่ ง กฎหมายเกยี่ วกับบัตรประจาตัวประชาชนและทะเบียนราษฎร เวลา 1 ช่วั โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษาศาสนา และวฒั นธรรม รายวชิ า สังคมศึกษา ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ขนั้ สรุป 1. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรุปการเรียนรู้ โดยใชแ้ นวคาถามในการสรุป ดงั น้ี 1.1 นักเรียนคดิ ว่าบัตรประจาตัวประชาชนและทะเบยี นราษฎร จาเปน็ สาหรบั คนในประเทศน้ัน ๆ อย่างไรบา้ ง (แนวคาตอบ : นกั เรียน แสดงความคิดเห็น) 1.2 บุคคลที่เขามีปัญหาเก่ยี วกับบตั รประจาตัวประชาชนและ ทะเบยี นราษฎร นกั เรยี นคิดว่าเขามีความรูส้ กึ อย่างไรบ้าง (แนวคาตอบ : นกั เรยี นแสดงความคิดเหน็ ) 342 325

343 34236 การวดั และประเมินผล ส่งิ ท่ีต้องการวัด/ประเมิน วธิ กี าร เคร่อื งมอื ท่ใี ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ - การตอบคาถาม - คาถามสาคัญ - คาตอบมีความ 1. นักเรียนสามารถอธิบาย - การปฏิบัติกิจกรรมใน - กิจกรรมในชั้นเรยี น สมเหตุสมผลและมี ขนั้ขต้ั นอตนกอำนรขกอามรบี ขัตรอ มี บั ต ร ชนั้ เรยี น - วดิ ที ัศน์ เรื่อง “คน ความเป็นไปได้ ปรปะรจะำ� ตจวั าปตรัวะปชำรชะนชไดา้อชยนำ่ งได้ ไม่มีสญั ชาติไดร้ ับ - พฤติกรรมการปฏิบตั ิ ถกูอตยอ้า่ งถูกต้อง บตั ร ปชช.” กจิ กรรมในช้นั เรียนเป็น ทพี่ งึ พอใจ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ - การตอบคาถาม - คาถามสาคัญ - คาตอบมีความ 2. จากวิดีทัศน์ที่กาหนดให้ - การปฏิบัตกิ ิจกรรมใน - กิจกรรมในชั้นเรียน สมเหตุสมผลและมี นกันเักรียเรนียสนำสมำารมถาอรภถิปอรภำิปยราย ชัน้ เรียน - วดิ ที ัศน์ เร่ือง “คน ความเป็นไปได้ สิทสธิทิปธริปะโรยะชโนยข์ ชองนบ์ขัตอรงบัตร - การตอบคาถาม ไม่มสี ัญชาติได้รับ - พฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิ ปรปะรจะำ� ตจัวาปตรัวะปชำรชะนชไดา้อชยนำ่ งได้ - การปฏบิ ตั ิกิจกรรมใน บัตร ปชช.” กจิ กรรมในช้ันเรยี นเปน็ เหอมยำ่าะงสเหมมาะสม ชั้นเรียน - คาถามสาคัญ ทพ่ี งึ พอใจ - กจิ กรรมในช้ันเรียน - คาตอบมีความ ดา้ นคุณลกั ษณะ - วดิ ที ัศน์ เรอ่ื ง “คน สมเหตสุ มผลและมี 3. จากวิดที ัศน์ทีก่ าหนดให้ ไมม่ สี ญั ชาติได้รับ ความเปน็ ไปได้ นักเรยี นสามารถนาเสนอแนว บัตร ปชช.” - พฤตกิ รรมการปฏบิ ัติ ทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับบตั ร กจิ กรรมในช้นั เรียนเป็น ประจาตวั ประชาชนและ ที่พงึ พอใจ ทะเบยี นราษฎรไดอ้ ย่าง เหมาะสม

344 332474 บันทึกผลหลงั สอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอปุ สรรค .................................................................................................................................................................... ...... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ............................................................................................. .............................................................................. ลงช่ือ ..............................................ผู้สอน (.......................................................) วนั ท่.ี .........เดือน..........พ.ศ............. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหารหรือผู้ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย ........................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ..............................................ผ้ตู รวจ (.......................................................) วันที่..........เดือน..........พ.ศ.............

๓๔๕ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 6 กฎหมายในชวี ิตประจาวนั แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 45 เวลา 1 ชว่ั โมง กล่มุ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษาศาสนา และวฒั นธรรม เรื่อง กฎหมายภาษแี ละแรงงาน ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 รายวชิ า สังคมศึกษา ตัวช้วี ดั กิจกรรมการเรยี นรู้ สื่อ/แหล่งเรยี นรู้ ส 2.1 ม.2/1 อธิบายและปฏิบัติตนตามกฎหมาย ขน้ั นา 1. วดิี ทีิ ศั น์ เรื่อง “บุกผับจับแรงงานต่างดา้ ว ที่เกยี่ วข้องกบั ตนเอง ครอบครวั ชมุ ชนและประเทศ 1. นักเรียนร่วมกันชมสื่อวีดิีทัศน์ “บุกผับจับแรงงานต่างด้าวผิด ผิดกฎหมาย 200 ราย” กฎหมาย 200 ราย” จากนั้นร่วมกันอภิปราย ในประเด็นความ 2. Power Point เรื่อง กฎหมายภาษีและ สาระสาคัญ ยากลาบากของแรงงานท่ีผิดกฎหมาย และสะท้อนความรู้สึกที่มีต่อ แรงงาน กฎหมายแรงงานและภาษีอากรมสี ่วนสาคัญยงิ่ ใน ปญั หาแรงงาน โดยใชแ้ นวคาถามดังน้ี 3. ใบความรู้ เร่ือง กฎหมายแรงงาน การขบั เคล่ือนระบบเศรษฐกจิ ของประเทศ การที่ บคุ คลมคี วามรู้เก่ียวกับกฎหมายดงั กล่าวจะช่วยให้ ภาระงาน/ชน้ิ งาน บคุ คลเหลา่ น้นั ยากต่อการโดนเอารดั เอาเปรียบและ - ปฏิบัตกิ ิจกรรม “สัญญารกั จาก สามารถปอ้ งกันการปฏบิ ัติตนทีจ่ ะไปเอารดั เอาเปรียบ นายจา้ ง” ผู้อนื่ โดยไม่รูต้ วั อีกดว้ ย ขอบเขตเน้ือหา - กฎหมายเก่ยี วกับภาษีอากร - กฎหมายเกยี่ วกบั แรงงาน จุดประสงค์การเรยี นรู้ วิดีทศั นเ์ รื่อง “บุกผับจับแรงงานต่างดา้ วผิดกฎหมาย 200 ราย” ด้านความรู้ ทีม่ า : https://www.youtube.com/watch?v=SYRk1tYBQ-c 1. นักเรียนสามารถอธิบายหลักการสาคัญของ กฎกหฎมหำมยาแยรแงรงงำงนาไนดไ้อดย้อ่ำยง่าถงูกถตูกอ้ตงอ้ ง 1.1 นักเรียนคิดว่าแรงงานกลุ่มน้ีหากเลือกได้จะเลือกมาเป็น แรงงานผิดกฎหมายหรือไม่ (แนวคาตอบ : ผ้เู รียนแสดงความคิดเห็น) 332485

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6 กฎหมายในชีวติ ประจาวนั แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 45 ๓๔๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม เรือ่ ง กฎหมายภาษแี ละแรงงาน เวลา 1 ชว่ั โมง ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 รายวิชา สังคมศกึ ษา 2. นักเรียนสามารถอธิบายหลักการสาคัญและ 1.2 การเป็นแรงงานผิดกฎหมายกับแรงงานถูกกฎหมาย แรงงาน ประเภทของภาษีอากรได้อย่างถูกตอ้ ง ประเภทใดน่าจะโดนเอารัดเอาเปรียบมากกว่ากัน เพราะอะไร (แนว ด้านทกั ษะและกระบวนการ คาตอบ : ผเู้ รยี นแสดงความคิดเห็น) 3. จากกฎหมายหมายแรงงานท่ีกาหนดให้นักเรียน 1.3 นักเรียนคิดว่าเพราะเหตุใดท่ีทาให้คนเหล่านี้เลือกมาเป็นแรง สามารถออกแบบข้อกาหนดการจ้างงานตาม งานผิดกฎหมาย ท้ัง ๆ ท่ีรู้ว่าการทางานมีความเส่ียง (แนวคาตอบ : กฎหมายแรงงานไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ความยากจนกดดันให้ไม่มีทางเลือก การโดนหลอกลวงจากนายจ้าง ดา้ นคุณลกั ษณะ หรอื คาตอบอนื่ ทีไ่ ปในทานองเดียวกันน้ี) 4. นักเรียนสามารถบอกประโยชน์ของการใช้กฎหมาย 2. ครูกล่าวนาเข้าสู่บทเรียน “ปัญหาแรงงานเป็นปัญหาใหญ่ของ แรงงานไดอ้ ย่างเหมาะสม ประเทศไทยในเร่ืองการเอารัดเอาเปรียบและทารุณกรรมแรงงาน ซ่ึง 5. นักเรียนสามารถบอกประโยชน์ของการปฏิบัติตาม เกิดจากการไม่ทาตามกระบวนการกฎหมายของทั้งลูกจ้างและนายจ้าง กฎหมายภาษอี ากรทมี่ ตี ่อสังคมได้อยา่ งเหมาะสม โดยวันนี้ เราจะมาเรียนกันในเรื่องกฎหมายท่ีเกี่ยวข้องกับเร่ืองน้ี คือ กฎหมายแรงงานและกฎหมายภาษีอากร เพราะสุดท้ายแล้วในฐานะ พลเมืองและเพื่อนมนุษย์ ครูหวังว่านักเรียนจะได้นาความรู้เหล่านี้ไป ชว่ ยเหลอื คนกลมุ่ น้แี ละปกปอ้ งตวั เองได้” ขั้นสอน 1. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั ศกึ ษา Power Point เรอื่ ง กฎหมายภาษีและ แรงงาน ในประเดน็ ดงั นี้ 1) ความหมายของภาษี 2) ประเภทของภาษี (ภาษที างตรง ภาษที างออ้ ม) 32469

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6 กฎหมายในชีวิตประจาวนั แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 45 ๓๔๗ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษาศาสนา และวฒั นธรรม เร่อื ง กฎหมายภาษแี ละแรงงาน เวลา 1 ช่วั โมง ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 รายวชิ า สังคมศึกษา 3) การจา่ ยภาษแี ละการลดหยอ่ นภาษี 2. ครุแู บ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม ๆ ละประมาณ 4 – 5 คน จากนั้นให้ ปฏิบัติกิจกรรม “สัญญารักจากนายจ้าง” โดยมีแนวทางในการดาเนิน กิจกรรมดงั ตอ่ ไปน้ี 1) ครูแจกใบความรู้ เร่ือง กฎหมายแรงงาน ให้กลุ่มละ 1 ชุด จากนนั้ ใหผ้ เู้ รียนรว่ มกนั ศกึ ษาใบความรู้ 2) ครูกาหนดให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเป็นเจ้าของบริษัทผลิตปลา กระป๋อง จากนั้นให้นักเรียนท่ีร่วมกันเป็นเจ้าของบริษัทน้ัน ระดม ความคิดถึงนโยบายเกี่ยวกับแรงงาน โดยกาหนดประเดน็ ขัน้ ตา่ ไว้ดงั นี้ 2.1) เวลาในการทางานต่อวนั และกาหนดวนั พกั 2.2) สทิ ธใิ นการลา 2.3) คา่ จ้าง (รายวันหรอื รายเดอื น หากลาจะหกั เงินหรอื ไม)่ 2.4) สวสั ดิการของพนกั งาน 3) ครูเน้นย้าว่านโยบายที่นกั เรียนกาหนดนั้นตอ้ งไม่ขัดกบั กฎหมาย ท่ีปรากฏในใบความรดู้ ้วย 4) ครูสุ่มผู้เรียนนาเสนอนโยบายของกลุ่มตน และให้ผู้เรียนคนอื่น ๆ ชว่ ยกันตงั้ คาถามว่า นโยบายที่คดิ มานนั้ ขดั กบั กฎหมายหรือไม่ 3. ครสู รปุ กิจกรรมทที่ าไป 34370

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 กฎหมายในชีวิตประจาวนั แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 45 ๓๔๘ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษาศาสนา และวฒั นธรรม เรือ่ ง กฎหมายภาษีและแรงงาน เวลา 1 ช่ัวโมง ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 รายวิชา สังคมศกึ ษา ขัน้ สรุป 1. ครแู ละนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปความรทู้ ไี่ ด้เรียนไปในคาบน้ี โดยใชแ้ นวคาถามในการสรปุ ความร้ดู ังน้ี 12.1 เพราะเหตุใดจงึ ต้องมีการกาหนดกฎเกณฑ์ควบคุม แรงงาน (แนวคาตอบ : เพื่อป้องกนั การเอารดั เอาเปรยี บและเพื่อความ ปลอดภยั ในการทางาน) 12.2 เพราะเหตใุ ดเราจึงต้องเสียภาษี (แนวคาตอบ : เพราะ เป็นหน้าทีใ่ นการสละทรพั ยส์ ิน เพ่อื นาไปพฒั นาสาธารณะประโยชน์ และการบรหิ ารกจิ การบา้ นเมือง) 12.3 หากประชาชนไม่ยอมเสียภาษกี นั มากขึน้ จะเกิดผล อยา่ งไรบ้าง (แนวคาตอบ : ผูเ้ รียนแสดงความคิดเหน็ ) 348 331

349 333429 การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีการ เครือ่ งมือทีใ่ ช้ เกณฑ์ ส่ิงทต่ี ้องการวัด/ประเมิน ดา้ นความรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบาย - การตอบคาถาม - คาถามสาคัญ - คาตอบมีความ หลหักกลำั กรสก�ำคาัญรขสอางกคฎั ญหมขำยอ ง - การปฏิบตั กิ ิจกรรมใน - กิจกรรมในช้ันเรยี น สมเหตสุ มผลและมี แรกงงฎำหนไมดา้อยยแ่ำรงถงงกู าตน้อไงด้อย่าง ช้นัในเรชยี ้ันนเรยี น - วิดี ีทิ ศั น์ เร่อื ง “บุก ความเป็นไปได้ ถกู ตอ้ ง ผบั จบั แรงงานตา่ ง - พฤติกรรมการปฏิบตั ิ 2. นักเรียนสามารถอธิบาย ด้าวผดิ กฎหมาย กจิ กรรมในชั้นเรยี นเป็น หลหักลกกั ำกรสาร�ำสคาญั คแัญลแะลปะรปะรเภะทเภท 200 ราย” ทพ่ี ึงพอใจ ขอขงภอำงษภอี าำษกรีอไดา้อกยรำ่ ไงดถ้กูอตยอ้ ่างง - Power Point ถูกต้อง เรอ่ื ง กฎหมายภาษี และแรงงาน - ใบความรู้ เรอื่ ง กฎหมายแรงงาน ด้านทักษะ/กระบวนการ 3. จ า ก ก ฎ ห ม า ย ห ม า ย - การตอบคาถาม - คาถามสาคัญ - คาตอบมีความ แรแงงรำนงทงี่กาำ� นหนทด่ี กใหา้นหกั นเรดียนใ ห้ - การปฏิบัติกจิ กรรมใน - กจิ กรรมในชนั้ เรียน สมเหตสุ มผลและมี สำนมัำกรเถรียออนกสแาบมบารขถ้ออก�ำอหกนแดบบ ชัน้ในเรชยี ้นั นเรียน - วิดี ทีิ ศั น์ เร่ือง “บุก ความเปน็ ไปได้ กำขรจ้อำ้กงางหำนตดำกมากรจฎ้าหงมงำายนตาม ผบั จับแรงงานตา่ ง - พฤตกิ รรมการปฏิบตั ิ แรกงงฎำหนไมดาอ้ ยยแ่ำรงเงหงมาำนะไสดม้อย่าง ดา้ วผดิ กฎหมาย กจิ กรรมในช้ันเรียนเป็น เหมาะสม 200 ราย” ทพี่ งึ พอใจ - Power Point เร่ือง กฎหมายภาษี และแรงงาน - ใบความรู้ เรือ่ ง กฎหมายแรงงาน ดา้ นคณุ ลักษณะ 4. นักเรียนสามารถบอก - การตอบคาถาม - คาถามสาคัญ - คาตอบมีความ ปรปะโรยะชนโ ์ขยอชงนกำ์ ขรใอชง้กกฎหามรำใยช้ - การปฏบิ ตั ิกิจกรรมใน - กจิ กรรมในชนั้ เรียน สมเหตสุ มผลและมี แรกงงฎำหนไมดาอ้ ยยแ่ำรงงเหงมาำนะไสดม้อย่าง ช้ันในเรชียั้นนเรยี น - วดิี ทีิ ศั น์ เรอื่ ง “บุก ความเปน็ ไปได้ เหมาะสม ผับจบั แรงงานต่าง - พฤติกรรมการปฏิบัติ 5. นักเรี ยนส ามาร ถบอ ก ด้าวผิดกฎหมาย กิจกรรมในช้ันเรียนเป็น ปรปะโรยะชโนยข์ ชอนง์ขกำอรงปกฏาบิรตัปติ ฏำิบมัติ 200 ราย” ท่พี ึงพอใจ กฎตหามมำกยฎภหำษมาอี ยำกภราทษม่ีอีากรท่ีมี - Power Point ต่อตสอ่ ังสคงัมคไดมอ้ไดยอ้ ำ่ ยงเา่ หงมเหำมะาสะมสม เรอ่ื ง กฎหมายภาษี และแรงงาน - ใบความรู้ เรอ่ื ง กฎหมายแรงงาน

350 333530 บันทึกผลหลงั สอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอปุ สรรค .................................................................................................................................................................... ...... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ............................................................................................. .............................................................................. ลงช่ือ ..............................................ผู้สอน (.......................................................) วนั ท่.ี .........เดอื น..........พ.ศ............. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหารหรือผู้ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย ........................................................................................................................................................................... ลงช่ือ ..............................................ผ้ตู รวจ (.......................................................) วันที่..........เดือน..........พ.ศ.............

351 33541 ใบความรู้ เรือ่ ง กฎหมายแรงงาน กฎหมายแรงงาน หมายถึง ข้อบังคับท่ีรัฐได้บัญญัติข้ึนเพ่ือกาหนดความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับ ลูกจ้างเก่ียวกับการจ้างและการทางาน องค์กรของฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง การเจรจาต่อรองเก่ียวกับ สภาพการจ้าง การระงับข้อพิพาทแรงงาน การนัดหยุดงาน ปิดงาน งดจ้างงาน สหภาพแรงงาน ตลอดจน การกาหนดความคุ้มครองความปลอดภัยในการทางานของลูกจ้าง การจัดหางาน การสงเคราะห์อาชีพ และ การสง่ เสริมการทางานเพอ่ื สร้างประสิทธภิ าพการทางานใหเ้ พิ่มพนู มากขึ้น นายจา้ ง หมายความวา่ ผู้ซึ่งตกลงรับลกู จ้างเข้าทางานโดยจา่ ยคา่ จ้างให้ ลูกจา้ ง หมายความว่า ผซู้ งึ่ ตกลงทางานใหน้ ายจ้าง โดยประสงค์สงิ่ ตอบแทนเรียกว่าค่าจา้ ง โดยลูกจา้ งจะต้องเปน็ บคุ คลธรรมดาเทา่ นน้ั แตน่ ายจา้ งจะเปน็ บคุ คลธรรมดาหรือนิตบิ คุ คลก็ได้ สญั ญาจ้างแรงงาน คอื สญั ญาท่ีเกิดข้ึนระหว่างคู่กรณสี องฝ่ายคอื ฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง ทาใหน้ ายจ้าง มีอานาจบังคับบัญชาเหนือตัวลูกจ้าง กล่าวคือ นายจ้างมีอานาจในการว่ากล่าวตักเตือนลงโทษ ทางวินัย หัก คา่ จ้างเมอื่ ลกู จ้างไม่ปฏบิ ัตติ ามคาสัง่ หรอื ระเบยี บขอ้ บังคบั 1. การปฏบิ ัตติ นระหวา่ งนายจา้ งกับลูกจ้าง 1.1 ให้นายจ้างปฏิบัติต่อลูกจ้างให้ถูกต้องตามสิทธิและหน้าที่ท่ีกาหนดไว้ในประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณชิ ย์ เว้นแต่กฎหมายคุม้ ครองแรงงานจะกาหนดไว้เป็นอย่างอนื่ 1.2 ให้นายจ้างปฏิบัติต่อลูกจ้างชายและหญิงในการจ้างงานเท่าเทียมกัน เว้นแต่ลักษณะหรือ สภาพของงานไมอ่ าจปฏิบตั ิเช่นนนั้ ได้ 1.3 ให้นายจ้างประกาศเวลาทางานปกติให้ลกู จา้ งทราบ โดยกาหนดเวลาเร่ิมต้นและเวลาสน้ิ สุด ของการทางานแต่ละวันของลูกจ้างได้ไม่เกินเวลาทางานของแต่ละประเภทงาน ตามบทบัญญัติของกฎหมาย แต่ต้องไม่เกินแปดช่ัวโมงตอ่ วัน เว้นแตง่ านท่ีอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลกู จ้าง โดย เวลาทางานปกติตอ้ งไม่เกนิ เจด็ ชั่วโมงตอ่ วัน 1.4 ห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างทางานล่วงเวลาในวันทางาน เว้นแต่ได้รับความยินยอมจาก ลูกจ้างก่อนเป็นคราวๆ ไป ในกรณีที่ลักษณะหรือสภาพของงานต้องทาติดต่อกันไป หรืองานฉุกเฉิน นายจ้าง อาจให้ลูกจ้างทางานลว่ งเวลาได้เท่าท่จี าเปน็ 1.5 ห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างทางานในวันหยุด เว้นแต่ ในกรณีท่ีลักษณะหรือสภาพของงาน ต้องทาติดต่อกันไป หรืองานฉุกเฉิน นายจ้างอาจใหล้ ูกจ้างทางานในวันหยุดได้เทา่ ทีจ่ าเป็น 1.6 ในวันท่ีมีการทางาน ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างมีเวลาพักระหวา่ งการทางานวันหนึ่งไมน่ ้อยกว่า หนึ่งชั่วโมง หลังจากท่ีลูกจา้ งทางานแลว้ ไมเ่ กนิ หา้ ชั่วโมงติดตอ่ กนั 1.7 ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจาสัปดาห์ สัปดาห์หน่ึงไม่น้อยกว่าหน่ึงวัน ต้องมี ระยะหา่ งกันไมเ่ กนิ หกวัน 1.8 ให้นายจ้างประกาศกาหนดวันหยุดตามประเพณีให้ลูกจ้างทราบล่วงหน้า ปีหนึง่ ไม่น้อยกว่า สบิ สามวันโดยรวมวันแรงงานแห่งชาติ

352 35325 1.9 ลูกจ้างซึ่งทางานติดต่อกันมาแล้วครบหนึ่งปีมีสิทธิหยุดพักผ่อนประจาปีได้โดยไม่น้อยกว่า หกวนั ทางานต่อปี 1.10 หา้ มมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างทางานล่วงเวลาหรือทางานในวนั หยุดในงานที่อาจเป็นอันตราย ตอ่ สุขภาพและความปลอดภัยของลกู จา้ ง 1.11 ให้ลกู จ้างมีสทิ ธิลาปว่ ยได้เท่าท่ปี ่วยจรงิ การลาปว่ ยตง้ั แต่สามวันทางานข้นึ ไป นายจ้างอาจ ให้ลูกจา้ งแสดงใบรับรองแพทยแ์ ผนปัจจุบันชน้ั หนึ่ง หรือของสถานพยาบาลของราชการ 2. การว่าจา้ งแรงงานเดก็ 2.1 ห้ามใชแ้ รงงานเดก็ อายุต่ากว่าสิบหา้ ปที างานโดยเด็ดขาด 2.2 ห้ามใช้แรงงานเด็กอายุต่ากว่าสิบแปดปี ในกิจการบางประเภท และทางานระหว่างเวลา 22.00 น. – 06.00 น. ทางานวนั หยุดและทางานล่วงเวลา 2.3 ห้ามใช้แรงงานเด็กอายุต่ากว่าสิบแปดปีในสถานเต้นรา ราวง หรือรองเง็ง และสถานท่ีอ่ืน ตามท่กี าหนดในกฎหมาย 2.4 ให้ลูกจ้างเด็กท่ีอายุต่ากว่าสิบแปดปี มีสิทธิลาเพ่ือรับการอบรม สัม มนา ท่ีจัดโดย สถานศึกษาหรอื หนว่ ยงานของรฐั โดยได้รับคา่ จ้างแต่ไม่เกนิ สามสบิ วนั ตอ่ ปี 2.5 การวา่ จ้างแรงงานเด็กอายุต่ากว่าสิบแปดปี ต้องแจ้งพนักงานตรวจแรงงานภายในสิบห้าวัน นบั ต้งั แต่วนั ท่เี ดก็ เข้าทางาน 3. การวา่ จ้างแรงงานหญงิ 3.1 ห้ามนายจ้างให้ลูกจ้างหญิงทางานตามท่ีกาหนดในกฎหมาย เช่น งานเหมืองแร่หรืองาน กอ่ สร้างที่ต้องทาใตด้ นิ งานผลติ หรอื ขนส่งวัตถุระเบดิ เป็นต้น 3.2 ห้ามนายจ้างให้ลูกจ้างมีครรภ์ทางานในระหว่างเวลา 22.00 น. – 06.00 น. ทางาน วนั หยุดและทางานล่วงเวลา หรือทางานอย่างหน่ึงอย่างใด 3.3 หา้ มนายจา้ งเลกิ จ้างลกู จ้างหญิงเพราะเหตุมคี รรภ์ 3.4 ใหแ้ รงงานหญงิ มสี ิทธลิ าเพอ่ื คลอดบตุ ร ครรภห์ น่งึ ไมเ่ กินเกา้ สบิ วนั 3.5 ห้ามนายจ้าง หัวหน้างาน ผู้ควบคุมงานหรือผู้ตรวจงาน ล่วงเกินทางเพศต่อแรงงานหญิง หรือเดก็

๓๕๓ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 กฎหมายในชีวิตประจาวนั แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 46 เวลา 1 ชัว่ โมง กล่มุ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษาศาสนา และวฒั นธรรม เรือ่ ง กฎหมายเกย่ี วกับการอนรุ กั ษ์สิ่งแวดลอ้ ม ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ รายวชิ า สังคมศกึ ษา 1. ภาพ“การเปรียบเทียบพื้นท่ปี ่า กรณีสรา้ งบ้านพกั ตลุ าการ ดอยสเุ ทพ” ตวั ช้วี ดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 2. ส่ือ PowerPoint เรื่อง กฎหมาย ส 2.1 ม.2/1 อธบิ ายและปฏิบัติตนตาม ขั้นนา เกย่ี วกบั การอนุรกั ษ์ สงิ่ แวดลอ้ ม 1. นักเรียนรว่ มกนั ชมภาพ “การเปรยี บเทยี บพ้นื ทป่ี า่ กรณสี รา้ ง 3. กระดาษบรู๊ฟและอุปกรณเ์ ครอื่ งเขียน กฎหมายท่ีเก่ียวข้องกับตนเอง ครอบครวั ชุมชน บา้ นพกั ตุลาการ ดอยสุเทพ” จากนั้นใหน้ กั เรยี นร่วมกันตอบคาถาม 4. วิดี ทีิ ัศนข์ า่ ว เรอื่ ง “โดรนจบั ภาพชัด และประเทศ ปล่อยน้าเสยี ลงทะเลปากน้าปราณ” สาระสาคัญ เพ่อื นาเข้าสบู่ ทเรียน โดยใชแ้ นวคาถาม ดงั น้ี ภาระงาน/ช้ินงาน - ปา้ ยประชาสมั พันธ์ การอนรุ ักษ์ กฎหมายเก่ยี วกับสงิ่ แวดล้อมนัน้ มจี ุดประสงค์เพื่อ ปกปอ้ งสิง่ แวดลอ้ มใหอ้ ย่ใู นสภาพปกติ เม่ือไม่ให้เกดิ ธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ ม ในกจิ กรรม การหาประโยชน์ทีเ่ กิดพอดีจนทาให้เกดิ ผลกระทบ “พลเมืองรกั ษป์ า่ ” ต่อบคุ คลจานวนมาก ขอบเขตเนอ้ื หา ภาพ“การเปรยี บเทยี บพน้ื ทปี่ ่า กรณีสร้างบา้ นพักตลุ าการ ดอยสุเทพ” - พระราชบญั ญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ทมี่ า ; - พระราชบญั ญัตสิ งวนและคุ้มครองสตั ว์ป่า พ.ศ. https://mgronline.com/onlinesection/detail/966110000000003531511717 2535 - พระราชบญั ญตั สิ ง่ เสริมและรักษาคุณภาพ 1) ภาพนีแ้ สดงอะไรใหน้ ักเรียนรับทราบบา้ ง (แนวคาตอบ : สง่ิ แวดลอ้ มแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ผ้เู รียนแสดงความคิดเห็น) 35336

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 6 กฎหมายในชวี ิตประจาวนั แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 46 ๓๕๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษาศาสนา และวฒั นธรรม เรื่อง กฎหมายเก่ียวกับการอนรุ ักษ์ส่ิงแวดล้อม เวลา 1 ช่ัวโมง ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 รายวิชา สังคมศึกษา จุดประสงค์การเรียนรู้ 2) นกั เรยี นรูส้ ึกอย่างไรบ้างกบั ภาพนี้ (แนวคาตอบ : ผ้เู รียน ด้านความรู้ แสดงความคิดเห็น) 1. อธิบายข้อกฎหมายท่ีเกี่ยวกับการอนุรักษ์ 3) นกั เรียนคิดว่าหากมีการกระทาแบบนใี้ นพ้ืนที่อน่ื ๆ อีก จะ ธรธรรมรชมำชตาิแตลแิ ะลสะง่ิ สแ่ิงวแดวลดอ้ ลมอ้ ไมดไ้อดย้อ่ำยงา่ ถงกูถตกู ้อตง้อง ส่งผลกระทบต่อชีวติ ประชาชนในพื้นที่อยา่ งไรบ้าง (แนวคาตอบ : ด้านทักษะและกระบวนการ ผู้เรยี นแสดงความคิดเหน็ ) 2. จากภาพข่าวท่ีกาหนดให้นักเรียนสามารถ 2. ครูกล่าวนาเขา้ สู่บทเรียน “ต้นไม้ หรือสง่ิ แวดลอ้ มธรรมชาติ มี อออกอแกบแบปบำ้ ปย้าปยรปะรชะำชสาัมสพัมันพธันเ์ กธีย่์เกวี่กยับวกสับิง่ แสว่ิงดแลว้อดมล้อม ความสาคัญต่อมนุษย์ทุกคน แต่ในปจั จุบัน มกี ารบุกรุก เข้าไปตัด ไดไอ้ดย้อ่ำยงา่ เงหเมหำมะาสะมสม ต้นไม้อย่างต่อเนอื่ ง ไม่วา่ จะเป็นดว้ ยเหตผุ ลใด ๆ กต็ ามกเ็ พราะว่ามา ด้านคุณลักษณะ จากการเลง็ เหน็ ผลประโยชน์เบอื้ งหน้า ไมค่ ดิ ถึงอนาคตว่าการตดั 3. บอกประโยชน์ท่ีเกิดขึ้นจากการปฏิบัติตนตาม ต้นไมห้ รอื บกุ รกุ ป่าล่าสตั วจ์ ะทาใหเ้ กิดผลเสียอย่างไร ซง่ึ แนน่ อนวา่ ใน กฎกหฎมหำมยาทย่เีทกีเ่ ่ียกวีย่ ขวอ้ ขง้อกงับกชับุมชชมุ นชไนดไ้อดยอ้ ำ่ยงา่ เงหเมหำมะาสะมสม การกระทาที่มีผลตอ่ ผคู้ นส่วนรวมเชน่ นี้ กฎหมายกเ็ ขามามีส่วน เกี่ยวขอ้ งเหมอื นกนั ซงึ่ เป็นเรื่องที่เราจะมาเรยี นในวันนี้ คอื กฎหมาย เกี่ยวกับการอนรุ ักษ์ธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม” ขน้ั สอน 1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันศึกษาเกี่ยวกับ พระราชบญั ญัตปิ ่าสงวน แห่งชาติ พ.ศ. 2507 พระราชบญั ญัติสงวนและคุ้มครองสตั ว์ปา่ พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญตั ิส่งเสรมิ และรักษาคณุ ภาพ สง่ิ แวดลอ้ มแหง่ ชาติ พ.ศ. 2535 จาก สอื่ PowerPoint เรอ่ื ง กฎหมายเกี่ยวกบั การอนรุ ักษ์ สง่ิ แวดลอ้ ม 33574

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 6 กฎหมายในชวี ิตประจาวัน แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 46 ๓๕๕ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษาศาสนา และวฒั นธรรม เร่ือง กฎหมายเกย่ี วกับการอนรุ ักษส์ ่ิงแวดล้อม เวลา 1 ชวั่ โมง ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 รายวิชา สังคมศึกษา 2. นักเรียนรว่ มกันปฏบิ ัติกิจกรรม “พลเมืองรักษ์ป่า” โดยปฏบิ ัติ กิจกรรมดังน้ี 2.1 ผู้สอนแบ่งนักเรยี นออกเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละประมาณ 3 – 5 คน จากนนั้ ผสู้ อนแจกกระดาษบรฟู๊ และอปุ กรณ์การเขียนให้กลมุ่ ละ 1 ชุด 2.2 ผู้สอนเปดิ วดิี ทีิ ศั น์ข่าว เรอ่ื ง “โดรนจับภาพชัด ปลอ่ ยนา้ เสียลงทะเลปากน้าปราณ” ให้นักเรยี นดู วดิี ีทิ ศั นข์ า่ ว เร่อื ง “โดรนจับภาพชดั ปล่อยน้าเสียลงทะเลปากน้าปราณ” ท่ีมา : https://www.youtube.com/watch?v=jGj7sUpsClM 2.3 ผูส้ อนกาหนดใหผ้ ู้เรียนชว่ ยกันออกแบบป้ายประชาสัมพันธ์ รณรงค์เพ่ือแก้ไขปญั หาดังกล่าว โดยกาหนดเงือ่ นไขในการทาดังน้ี 33585

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 6 กฎหมายในชีวติ ประจาวัน แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 46 ๓๕๖ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษาศาสนา และวฒั นธรรม เรอ่ื ง กฎหมายเกยี่ วกับการอนุรักษ์ส่ิงแวดลอ้ ม เวลา 1 ช่ัวโมง ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 รายวชิ า สังคมศกึ ษา 1) ป้ายประชาสมั พันธค์ วรหลกี เล้ยี่ งถอ้ ยคาทร่ี ุนแรง 2) ควรมีข้อกฎหมายที่เรียนไประบอุ ย่าง 1 ขอ้ 2.4 หลงั จากทน่ี ักเรียนทาเสรจ็ แล้ว ใหน้ กั เรียนนาไปติดไวบ้ น ผพนังรอบห้องเรยี น เม่ือครบทุกกลุม่ แล้วใหผ้ ู้สอนเดินดทู ีละกลุ่มและ ใหผ้ ้เู รยี นในหอ้ งรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นดว้ ย 3. นักเรียนร่วมกนั อภปิ รายแนวทางในการอนรุ กั ษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ ม โดยใช้แนวคาถาม คือ “สาหรบั นกั เรยี นแลว้ เราจะมีวธิ ีการช่วยอนรุ ักษธ์ รรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ อยา่ งไรบ้าง” ข้นั สรุป 1. นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายสรปุ กฎหมายเกย่ี วกบั กาำราออนนุรุรกั ักษษ์ ์ ธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม โดยใชแ้ นวคาถามดังน้ี 1.1 กฎหมายบญั ญัติให้คนทุกคนตอ้ งรกั ษาธรรมชาตแิ ละ สง่ิ แวดลอ้ มเพราะเหตุใด (แนวคาตอบ : เพราะสงิ่ แวดลอ้ มธรรมชาติ มีความสาคญั ต่อการดารงชวี ิตของมนุษย)์ 1.2 เม่อื เราทาตามกฎหมายในการปกป้องรักษาสิง่ แวดลอ้ มจะ ทาให้เกิดผลดีอย่างไร (แนวคาตอบ : จะทาใหช้ ีวิตของเราปกตสิ ุข หรือคาตอบอ่ืน ๆ ทีไ่ ปในทศิ ทางทเี่ ป็นไปได้) 2. ครสู ่งั ผลงานรวบยอดของหนว่ ยการเรียนรู้ โดยใหน้ ักเรียนแต่ละ คนไปศึกษาขา่ วว่าประเทศไทยน้นั มีปญั หาในการบังคบั ใชก้ ฎหมายใน 33569

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 6 กฎหมายในชวี ติ ประจาวนั แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 46 ๓๕๗ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม เรอื่ ง กฎหมายเกยี่ วกับการอนรุ กั ษ์ส่ิงแวดลอ้ ม เวลา 1 ชว่ั โมง ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 รายวิชา สังคมศกึ ษา ประเดน็ ใดบา้ ง จากนั้นให้นักเรียนเลอื กมา 1 ประเดน็ และใหแ้ ต่ง กลอน 8 ในการพูดถึงสภาพปัญหานนั้ และเสนอแนวทางการแกไ้ ข ปัญหา ไม่น้อยกวา่ 5 บท ลงในกระดาษ A4 และตกแต่งให้สวยงาม 357 340

358 35481 การวัดและประเมินผล สิง่ ทีต่ ้องการวัด/ประเมนิ วิธกี าร เครอื่ งมอื ที่ใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ 1. อ ธิ บ า ย ข้ อ ก ฎ ห ม า ย ที่ - การตอบคาถาม - คาถามสาคัญ - คาตอบมีความ เกเย่ี กว่ีกยับวกกำรั บอนกรุ ากั รษอ์ธรนรุมรชั กำตษิ์ - การปฏิบัติ - กิจกรรม “พลเมอื งรักษ์ สมเหตุสมผลและมี แลธะรสรง่ิ มแชวดาตลอิ้แมลไะดสอ้ ิ่งยแำ่ วงถดกู ลต้ออ้ มง กจิ กรรมในชั้นเรียน ป่า” ความเปน็ ไปได้ ได้อยา่ งถกู ต้อง เรยี น - ภาพ“การเปรยี บเทยี บ - พฤติกรรมการปฏิบัติ พนื้ ท่ีป่า กรณีสรา้ งบ้านพัก กจิ กรรมในชนั้ เรยี นเป็น ตุลาการ ดอยสุเทพ” ที่พงึ พอใจ - ส่อื PowerPoint เรอื่ ง กฎหมายเกย่ี วกบั การ อนุรักษ์ ส่งิ แวดล้อม - วดิี ีทิ ัศน์ขา่ ว เร่ือง “โดรน จบั ภาพชดั ปลอ่ ยน้าเสยี ลงทะเลปากน้าปราณ” ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ 2. จากภาพข่าวท่ีกาหนดให้ - การตอบคาถาม - คาถามสาคัญ - คาตอบมีความ นกันเักรียเรนียสนำสมาำรมถาอรอถกอแอบกบแบบ - การปฏิบัติ - กิจกรรม “พลเมืองรักษ์ สมเหตุสมผลและมี ป้ำปยา้ ปยรปะรชะำชสามั สพัมันพธัน์เกธ์เีย่ กวี่ยกวับกับ กจิ กรรมในชัน้ เรียน ป่า” ความเปน็ ไปได้ ส่งิ สแ่ิ วงดแลวอ้ มดไลด้อยม่ำงไเหด้มอำยะส่ ามง เรยี น - วดีิ ทีิ ศั นข์ ่าว เรื่อง “โดรน - พฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิ เหมาะสม จับภาพชดั ปล่อยนา้ เสีย กจิ กรรมในชน้ั เรียนเป็น ลงทะเลปากน้าปราณ” ทพ่ี งึ พอใจ ด้านคุณลกั ษณะ 3. บอกประโยชน์ทีเ่ กิดขน้ึ - การตอบคาถาม - คาถามสาคัญ - คาตอบมีความ - การปฏิบตั ิ - กจิ กรรม “พลเมอื งรักษ์ สมเหตสุ มผลและมี จากการปฏบิ ตั ิตนตาม กิจกรรมในช้ันเรียน ป่า” ความเป็นไปได้ เรียน - ภาพ“การเปรียบเทียบ - พฤติกรรมการปฏิบตั ิ กฎหมายที่เกยี่ วข้องกบั ชุมชน กจิ กรรมในชั้นเรียนเป็น ไดอ้ ย่างเหมาะสม พืน้ ที่ปา่ กรณสี ร้างบา้ นพัก ตลุ าการ ดอยสเุ ทพ” ทพี่ ึงพอใจ - สื่อ PowerPoint เร่ือง กฎหมายเกยี่ วกบั การ อนรุ กั ษ์ สิง่ แวดล้อม - วิดี ีทิ ัศนข์ า่ ว เรอื่ ง “โดรน จบั ภาพชัด ปลอ่ ยน้าเสีย ลงทะเลปากน้าปราณ”

359 334529 บันทึกผลหลงั สอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอปุ สรรค .................................................................................................................................................................... ...... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ............................................................................................. .............................................................................. ลงช่ือ ..............................................ผู้สอน (.......................................................) วนั ท่.ี .........เดอื น..........พ.ศ............. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหารหรือผู้ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย .................................................................................... ....................................................................................... ลงชอ่ื ..............................................ผู้ตรวจ (.......................................................) วันที่..........เดอื น..........พ.ศ.............

๓๖๐ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 กฎหมายในชวี ติ ประจาวนั แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 47 เวลา 1 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษาศาสนา และวัฒนธรรม เรอื่ ง กฎหมายระหว่างประเทศ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 รายวิชา สงั คมศึกษา ตัวชวี้ ัด กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื /แหล่งเรียนรู้ ส 2.1 ม.2/1 อธบิ ายและปฏบิ ตั ติ น ขัน้ นา 1. วดิี ีทิ ศั น์ขา่ ว เรือ่ ง “จับกุม ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตนเอง 1. ครเู ปิดวดิี ีทิ ัศน์ข่าว เรอ่ื ง “จับกุมเรอื ประมงเวียดนาม รุกล้าน่านน้า” เพื่อนานักเรียนเข้าสู่ เรือประมงเวยี ดนาม รุกลา้ น่านนา้ ” ครอบครวั ชมุ ชนและประเทศ บทเรียน จากนน้ั ใชแ้ นวคาถามในการนาเข้าสู่บทเรียนดังนี้ 2. Power Point เรอ่ื ง “กฎหมาย ระหว่างประเทศ” สาระสาคัญ 3. วิดี ีทิ ศั น์ เร่อื ง “วาดภาพเพอ่ื เน่ืองดว้ ยประเทศแต่ละประเทศนนั้ นาเสนอแนวทางการแก้ไขปญั หาดา้ น ไม่ได้ดารงความรฐั อยปู่ ระเทศเดยี วแต่ สิทธมิ นษุ ยชน” อยู่รว่ มกันในโลก การที่มีกฎเกณฑ์หรือ 4. กระดาษบรู๊ฟและอปุ กรณเ์ คร่ือง กฎหมายท่ปี ระเทศต่าง ๆ ยอมรับและใช้ เขยี น รว่ มกันกจ็ ะทาให้ประเทศเหลา่ นั้น ภาระงาน/ชน้ิ งาน สามารถดารงอยู่ได้อยา่ งปกติสขุ - การวาดภาพเพื่อนาเสนอแนว ขอบเขตเนอื้ หา ทางการแก้ไขปญั หาด้านสทิ ธมิ นษุ ยชน - กฎหมายเกีย่ วกับสิทธิมนุษยชน - กฎหมายเกีย่ วกบั อาณาเขตทางทะเล จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วดิี ีทิ ศั น์ข่าว เรือ่ ง “จับกมุ เรือประมงเวยี ดนาม รุกลา้ นา่ นน้า” ดา้ นความรู้ ทีม่ า : https://www.youtube.com/watch?v=HQbeIlBemeE 1. นักเรียนสามารถอธิบายเกี่ยวกับ 1) นกั เรยี นคิดว่าเรือประมงเวียดนามนั้นทาผดิ อะไร (แนวคาตอบ : ลุกลา้ น่านน้าไทย) หลหักลกักำกราสรำ� สคัญาคขัญองขปอฏงิญปฏญิญำสญำากสลากลว่า 2) เขตแดนทางทะเลของแต่ละประเทศใครเปน็ คนกาหนด (แนวคาตอบ : นกั เรยี นแสดง วำ่ ดดว้ ว้ ยยสสิททิ ธธิมมิ นนษุ ษุ ยยชชนนไไดดอ้ อ้ ยยา่ ่ำงงถถูกูกตตอ้ ้องง ความคิดเหน็ ) 334630

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 6 กฎหมายในชวี ิตประจาวัน แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 47 ๓๖๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษาศาสนา และวฒั นธรรม เร่ือง กฎหมายระหวา่ งประเทศ เวลา 1 ชั่วโมง ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 รายวิชา สังคมศกึ ษา 2. นักเรียนสามารถอธิบายเกี่ยวกับ 3) ถ้าให้แต่ละประเทศกาหนดเอง จะเกดิ ปญั หาหรือไม่(แนวคาตอบ : นกั เรียนแสดง หลหกั ลกักำกราสรำ� สคาญั คขัญอขงอกงฎกหฎมหำมยาทยำทงทางะทเละเล ความคดิ เหน็ ) ไดไ้อดย้อ่ำยง่าถงกู ถตกู อ้ ตงอ้ ง 2. ครนู าเขา้ สูบ่ ทเรียน โดยกลา่ วว่า “ถา้ หากเราใหแ้ ตล่ ะประเทศกาหนดเขตแดนเอง กจ็ ะ ด้านทักษะและกระบวนการ เกิดปัญหาตามมา ดังนั้นจงึ ต้องมอี งค์การในระดับนานาชาติทีก่ าหนดและประเทศตา่ ง ๆ ก็ 3. จากภาพข่าวที่กาหนดให้นักเรียน ปฏบิ ัตติ าม จึงจะทาใหเ้ กิดความเรยี บรอ้ ย จงึ เกดิ เปน็ กฎหมายระหวา่ งประเทศ” ส า ม า ร ถ ว า ด ภ า พ เ พ่ื อ น า เ ส น อ แ น ว ทางการแก้ไขปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน ข้ันสอน ไดอ้ ย่างเหมาะสม 1. ครูและนักเรียนร่วมกนั ศึกษาในประเดน็ กฎหมายทางทะเล และกฎหมายเกย่ี วกบั สิทธิ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ มนษุ ยชน จากส่ือ Power Point เร่ือง “กฎหมายระหวา่ งประเทศ” 4. นักเรียนสามารถบอกประโยชน์ของ 2. ครูใหน้ กั เรียนชมวิดี ีทิ ัศน์ เรื่อง “วาดภาพเพ่ือนาเสนอแนวทางการแก้ไขปญั หาดา้ นสิทธิ การท่ีรัฐต่าง ๆ ปฏิบัติตามกฎหมาย มนุษยชน” ความยาวประมาณ 6 นาที โดยเน้นยา้ ให้นักเรียนจดบันทกึ ใจความสาคญั ระหวา่ งประเทศไดอ้ ย่างเหมาะสม 34641

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 6 กฎหมายในชวี ติ ประจาวัน แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 47 ๓๖๒ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษาศาสนา และวฒั นธรรม เร่อื ง กฎหมายระหว่างประเทศ เวลา 1 ชัว่ โมง ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 รายวิชา สงั คมศกึ ษา วิดี ทีิ ศั น์ เรื่อง “วาดภาพเพ่ือนาเสนอแนวทางการแกไ้ ขปญั หาดา้ นสทิ ธมิ นุษยชน” ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=855wZB99533WWE 3. ครแู บง่ กลุ่มผเู้ รียนออกเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละประมาณ 4 – 5 คน จากนั้นแจกกระดาษบรฟู๊ และอุปกรณเ์ ครอ่ื งเขียนใหน้ ักเรยี น 4. ครูให้นกั เรียนในแตล่ ะกลุ่มวาดภาพทเี่ ป็นการเสนอวธิ กี ารแก้ไขปัญหาชาวโรฮิงญาจาก วดิ ที ัศน์ท่ไี ด้ดูไป เมื่อเสรจ็ ให้นาไปติดไวท้ ีพ่ นงั ของหอ้ ง และให้คดั เลือกผูน้ าเสนอจานวน 1 คน ไปยนื ประจาอยทุ่ ี่บริเวณผลงานของกลมุ่ ตนเอง 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลงานของกลุม่ ของตนเอง เม่ือเสรจ็ แล้วครตู ้องพยายามจัด กลุ่มของวิธใี นการแกไ้ ขปญั หาออกเป็นกลมุ่ ๆ และสรุปให้นักเรยี นฟงั 36425

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 กฎหมายในชวี ิตประจาวัน แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 47 ๓๖๓ กล่มุ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม เร่อื ง กฎหมายระหว่างประเทศ เวลา 1 ชั่วโมง ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 รายวิชา สังคมศกึ ษา ข้ันสรุป 1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปการเรียนร้ทู ่ีได้เรยี นไปในคาบน้ี โดยใชแ้ นวคาถามในการสรปุ การเรยี นรู้ ดังน้ี 1) นักเรยี นคิดวา่ กฎหมายระหว่างประเทศมีความสาคัญหรือไม่ อย่างไร (แนวคาตอบ : นกั เรยี นแสดงความคดิ เห็น) 2) นักเรยี นคดิ ว่าหากมีประเทศในภูมิภาคอาเซียนสกั 2 – 3 ประเทศไม่ปฏบิ ัติตาม กฎหมายระหวา่ งประเทศ จะสง่ ผลกระทบถึงประเทศไทยหรอื ไม่ (แนวคาตอบ : นักเรียน แสดงความคดิ เหน็ ) 3) นกั เรยี นคิดวา่ การทป่ี ระเทศต่าง ๆ พร้อมใจกนั ปฏิบัตติ ามกฎหมายระหวา่ งประเทศ จะเกิดผลดีอะไรบ้าง (แนวคาตอบ : นกั เรียนแสดงความคดิ เหน็ ) 36436

364 34674 การวดั และประเมินผล สิ่งท่ีต้องการวดั /ประเมนิ วธิ ีการ เคร่ืองมอื ทใี่ ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ - คาตอบมีความ 1. นักเรียนสามารถอธิบาย - การตอบคาถาม - คาถามสาคัญ สมเหตสุ มผลและมี เกเี่ยกว่ียกวกับับหหลลักักกกำารรสส�ำาคัญของ - การปฏบิ ตั ิ - กจิ กรรมในชนั้ เรยี น ความเปน็ ไปได้ ปปฏิฏญิญญญำสาสำากกลลวว่ำ่าดด้วยสิทธิ กจิ กรรมในชัน้ เรียน - วดิี ทีิ ัศน์ขา่ ว เร่อื ง - พฤตกิ รรมการปฏิบตั ิ มนมนุษุษยยชชนนได้ออยย่า่งำถงูกถตูก้อตง้อง เรยี น “จับกมุ เรือประมง กจิ กรรมในชน้ั เรยี นเปน็ 2. นักเรียนสามารถอธิบาย เวยี ดนาม รุกล้านา่ นนา้ ” ท่พี ึงพอใจ เกเ่ียกวี่ยกวกับับหหลลักักกกำารรสส�ำาคคัญัญของ - Power Point เรอ่ื ง กฎกฎหหมมำยายททำางงททะะเลเลไไดด้อ้อยย่ำาง “กฎหมายระหวา่ ง - คาตอบมีความ ถูกถตกู ้อตอ้งง ประเทศ” สมเหตุสมผลและมี - วิดี ทีิ ศั น์ เรื่อง “วาดภาพ ความเปน็ ไปได้ เพอื่ นาเสนอแนวทางการ - พฤติกรรมการปฏบิ ัติ แกกำรไ้ ขไขปแญั กห้ปาัญดห้านำดส้ำิทนธสิ ิทธิ กิจกรรมในชั้นเรยี นเป็น มนุษยชน” ทพี่ งึ พอใจ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ - คาตอบมีความ 3. จากภาพข่าวท่ีกาหนดให้ - การตอบคาถาม - คาถามสาคัญ สมเหตสุ มผลและมี นักเรียนสามารถวาดภาพเพื่อ - การปฏิบตั ิ - กจิ กรรมในชัน้ เรียน ความเปน็ ไปได้ นาเสนอแนวทางการแก้ไข กจิ กรรมในชั้นเรียน - วีดิ ทีิ ศั น์ เรื่อง “วาดภาพ - พฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิ ปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนได้ เรยี น เพือ่ นาเสนอแนวทางการ กจิ กรรมในชัน้ เรียนเป็น อยา่ งเหมาะสม กแำกรไ้ ขไขปแัญกหป้ าัญดหา้ ำนดสำ้ิทนธสิ ทิ ธิ ที่พงึ พอใจ มนุษยชน” ด้านคุณลักษณะ 4. นักเรี ยนส ามาร ถบอ ก - การตอบคาถาม - คาถามสาคัญ ประโยชน์ของการท่ีรัฐต่าง ๆ - การปฏบิ ัติ - กจิ กรรมในชน้ั เรียน ปฏิบัติตามกฎหมายระหว่าง กจิ กรรมในชั้นเรียน - วดิี ีทิ ศั น์ข่าว เรอ่ื ง ประเทศไดอ้ ยา่ งเหมาะสม เรียน “จับกมุ เรือประมง เวียดนาม รุกล้าน่านนา้ ” - Power Point เรอ่ื ง “กฎหมายระหวา่ ง ประเทศ” - วีดิ ิที ัศน์ เรอื่ ง “วาดภาพ เพ่ือนาเสนอแนวทางการ กแกำรไ้ ขไขปแัญกหป้ าญั ดหา้ นำดส้ำิทนธสิ ทิ ธิ มมนนุษษุ ยยชชนน”

365 34685 บันทึกผลหลงั สอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอปุ สรรค ............................................................................................................................. ............................................. ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ..............................................ผูส้ อน (.......................................................) วนั ท่.ี .........เดอื น..........พ.ศ............. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหารหรือผู้ทีไ่ ด้รบั มอบหมาย ......................................................................................................................................................................... .. ลงชอ่ื ..............................................ผูต้ รวจ (.......................................................) วันท่ี..........เดอื น..........พ.ศ.............

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 7 ๓๖๖366 ๓๖๖34696 ช่ือหน่วยการเรียนรู้ เหตุการณ์และการเปหลนี่ย่วนยแกปารลเงรกยี านรส้ทู า่ี 7คัญของระบอบการปกครองของไทย รชหื่อสั หวนิช่วายกสาร2เ2รีย1น0ร1ู้ เหตราุกยาวริชณา์แลสะังคกมาศรเึกปษลา่ียนกแลุ่มปสลางรกะากราสราเรคยี ัญนรขู้ อสงั คระมบศอึกษบากาศราปสกนคาแรลอะงวขฒั อนงไธทรรยม ชรหนั้ ัสมวธั ชิยามศกึ สษ2าป2ที1ี่ 021 ภรายควเริชียานทส่ี ัง1คมศกึ ษา กปลกี มุ่ารสศารึกะษกาาร2เ5รีย6น2รู้ สงั คมศกึ ษา ศาสเวนลาาและ7วัฒชนวั่ธโรมรงม …ชัน้…ม…ธั …ย…ม…ศกึ…ษ…า…ป…ที …่ี …2………ภ…าค…เ…รยี …น…ท…่ี 1…………………ป…กี …าร…ศ…ึก…ษ…า …2…5…6…2…………………………เว…ล…า……7………ชวั่…โ…ม…ง.. 1….…ม…า…ต…รฐ…า…น…กา…ร…เร…ีย…น…ร้/ู…ต…วั …ช้ีว…ดั …………………………………………………………………………………………………………….. ส1า.รมะาทต่ี ร2ฐานการหเรนยี า้ นทร่ีพ/ู้ ตลเวั มชือว้ี งัดวฒั นธรรม และการดาเนนิ ชีวิตในสังคม มสาตระรทฐา่ี 2นการเรียหนนรู้าสท2่พี .ล2เมือง วฒั เขนา้ ธใรจรรมะบแบลกะากราเรมดือางเกนานิ รชปวี กิตคในรอสงั ใคนมสงั คมปัจจบุ นั ยึดม่ัน ศรัทธาและ มาตรฐานการเรียนรู้ ส.2๒..2๒ เขำ้ ใจรธเขะาา้รบใงบจไวรกซ้ะำบ่งึรกเบมากอืราปงรกกเำมครือรปองกงคราะรอปบงกอใคบนรปสอรงั งคะใชมนาปสธัจงปิ คจไมบุ ตปันยัจอยจนั ึดบุ มมนั พี ย่ั รยศะึดมรมัทหนั่ ธาำกศษรแทัตลธระิยาธแ์ทำ� ลรงะไวซ้ ึ่ง กำรปกครองระบอเธปบาน็ปรงปรไะรวชะซ้ มำง่ึ ธกุขปิ ารไตปยกอคนั รมอีพงรระะบมอหบำปกษระัคชรายิ ธท์ ปิ รไงตเปยอน็ นัปมรพีะมระขุ มหากษัตรยิ ท์ รง ตัวชวี้ ัด เป็นประมขุ ตวั ชวี้ ดั ม.2/1 วิเคราะห์ข้อมลู ขา่ วสาร ทางการเมืองการปกครองท่ีมีผลกระทบต่อสังคมไทยสมัยปัจจุบนั 2 .สาระสมา.2ค/ัญ1/คววเิ าคมรคาะิดหร์ขว้อบมยูลอดข่าวสาร ทางการเมืองการปกครองท่ีมีผลกระทบต่อสังคมไทยสมยั ปัจจบุ นั 2 .สาระกสารคใญั ช้ห/คลวักาเมหคตดิุผรลวในบกยอารดพิจารณาข้อมูลต่างๆ อย่างรอบคอบ จะนาไปสู่ความเข้าใจในข้อมูลนั้นได้เป็น อย่างดี สกง่ ผารลใชห้ห้บลุคักคเลหสตาุผมลารในถตกัดารสพินิจใจาแรลณะาใขช้อขม้อูลมตลู ่ใาหงเ้ๆกดิอปยร่าะงรโยอชบนค์ตอ่อบตนจเะอนงาแไลปะสผู่คู้อว่ืนาไมดเ้ ข้าใจในข้อมูลนั้นได้เป็น 3อย. ่าสงาดรี ะสก่งาผรลเใรหียบ้ นคุ รคู้ ลสามารถตดั สนิ ใจและใช้ขอ้ มลู ให้เกดิ ประโยชนต์ อ่ ตนเองและผู้อืน่ ได้ 3. สาระคกวาราเมรรยี ู้ นรู้ 1คว. าหมลรักู้ การเลอื กรับข้อมลู ข่าวสาร 21. กหาลรกั ปกฏาิรปูเลกอื ากรรปับกขค้อรมอลูงสขมา่ วัยสราัชรกาลท่ี 5 32. การเปปฏลิรยี่ ูปนกแาปรลปงกกคารรอปงกสคมรัยอรงชั ก2า4ล7ท5ี่ 5 43. เกหาตรกุเปาลรณีย่ น์ 1แป4ลตงลุกาครปมก2ค5รอ1ง62475 54. เหตกุ ารณ์ 614ตุลตาุลคามคม25215916 65. เหตุการณพ์ 6ฤษตภลุ าทคมิฬ2519 76. เหตุการณ์รพฐั ฤปษรภะาหทามริฬ19 กันยา 2549 87. กเหาตรรกุ ฐัาปรณระ์รหฐั าปรระ2ห5า5ร719 กันยา 2549 ท8ัก. ษกาะร/รกฐัรปะบระวหนากรา2ร 557 1ท.กั กษาะร/วกเิ รคะรบาะวหนข์ก้อาเรทจ็ จริง 21. การวิเคราะห์สขา้อเหทต็จแุจลระงิ ผลที่เกิดจากการปฏริ ูปการปกครองสมัยรัชกาลที่ 5 ๓32.. การวิเคราะหป์สาัจเจหัยตแแุ ลละะผผลลขทอ่เี งกกดิ าจราเปกกลา่ียรนปแฏปริ ลปู งการปกครองสพม.ยัศร.2ัชก4า7ล5ที่ 5 ๔43เจ..ตกคาตรวิ ิเคราะหส์ปาจั เจหยั ตแุขลอะงผเหลตขุกอางรกณาร์ เ1ป4ล่ยี ตนุลแาปแลลงะกา6รปตกลุ คารอง พ.ศ.2475 ๕54๑.. การวอิเภคปิราระาหยค์สถณุาเาคหน่าตกขขุ าออรงงณกเห์ทารตน่ี เกุาลาไือปรกณสรกู่ ์บั 1าขร4อ้เกมติดลู ลุ เขหาา่ ตแวุกสลาะรณ6์พตฤลุ ษาภาทมฬิ ๖65๒.. การวอิเภคิปราระาหยค์ผสวลถาทมน่ีเกสกดิำ�าคขรัญณึน้ หข์ทลอี่นังาจกไาปกรสปเูก่ กาิดครเหเรกอติดงุกเไหาทรตยณุกใน์พารปฤณจัษจ์พภบุ ฤาันทษทมภ่ีเิฬากทิดมจฬิ ากการปฏิรปู การบริหารราชการสมยั รชั กาลท๗76ี่ ๕.. การวเิ คราะหส์ผถลาทน่เี กดิารขณน้ึ ห์ทลน่ี งัาจไปากสเ่กู กาดิ รเเหกตดิ ุกเหารตณุกา์พรฤณษร์ ภฐั าปทรมะฬิหาร 2549 การปกค๘887ร๓.อ...งกกกขาาาอรรรงวแวไเิเิสทคคดรยรงาาใคนะะวหหปา์ผผ์สจัมลลถจคทาทบุดิ นเ่ี่ีเนัเกกหกิดิดน็าขขรเกณึน้้นึ ย่ี หห์ทวลลกี่นังังบัาจจไคาาปวกกสาเเม่กูกสาิดดิ ร�ำเเหเคหกญัตติดุกุกขเหาาอรรตงณณกุการ์า์รรัฐรัฐเณปปปรรลร์ ะะยัฐ่ี หหปนาาแรรระปห2ล2าง55รก44า2ร995ปก4ค9รอง พ.ศ. ๒๔๗๕ ทส่ี ง่ ผลต่อ

๓๖๗36570 ๔. สมรรถ9น. ะกสาำ�รควเิญั ครขาอะงหผ์สู้เรถียานนการณ์ทนี่ าไปสกู่ ารเกิดเหตุการณ์รฐั ประหาร 2557 ๕ ร.ัชกคาณุเจลลตทัก๑๒๓๔๒๑คี่3เ1215จษ......ต...0ตใคคคคมณิกกก.ฝคววววีวาาาะก่เตาาาานิรรรรอามมมมิียยัออแรันสสสสนสภภเพปาาาาดรปปิิ มมมมงึู้รงรราาาาปียคาารรรรบวรยยถถถถะาเคคใใใใทมสนนนนุณวยีคงากกกกคบคดิมาาาา่า์ผเสรรรรหขลาสคใใอ็นชชคด่ือดิ ง้้ทเเญัแีสทกกักลาข่ยีคาษะรรอวโผะนเกงลลชกโบั อืลกวีาคกยิตรรวรีะปาบัทกมขบคส้อรขามอคอูลงงญั ไขกทข่าาอยวรใงสรนเัฐาหปปรตัจรกุ ะจาหบุ ราันณรทก์ 2เี่ าก5ริดเ5จป7าลก่ียกนาแรปปลฏงิรกูปากราปรกบครรหิ อางรรพา.ชศก.2า4รส7ม5ยั ท่ี ส่งผลตอ่ ๓ก.ารมปงุ่ มกน่ัครในอกงขารอทงไำ�ทงยานในปัจจบุ ัน ๖. การปร4ะ.เกมานิ รผอลภริปวรบายยอขด้อคิดท่ีไดจ้ ากเหตุการณ์ 14 ตลุ า 2516 และ 6 ตลุ า 2519 ช5ิ้น.งกาานรหอรภือปิ ภราารยะคงวาานมสาคญั ของเหตกุ ารณพ์ ฤษภาทมฬิ ทสี่ ่งผลต่อการปกครองไทยในปัจจุบัน -6แ.ผกนาผรแงั เสสด้นงเควลวามเหคติดุกเหารน็ ณเกฺ์สย่ี �ำ วคกัญับทเหาตงกุ ารเณมอื์พงฤกษาภรปาทกมคิฬรอกงับขกอางรไเทมยือง๒ก๔าร๗ป๕ก-ครปอัจงจไบุทนัย (Timeline) 7. การอภปิ รายความสาคัญของเหตกุ ารณ์รัฐประหาร 2549 ที่ส่งผลตอ่ การปกครองไทยในปัจจบุ นั 8. การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตกุ ารณร์ ฐั ประหาร 2557 ที่ส่งผลต่อการปกครองไทยในปจั จุบัน 4. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการสื่อสาร 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุง่ มัน่ ในการทางาน 6. การประเมนิ ผลรวบยอด ชน้ื งานหรอื ภาระงาน - แผนผังเสน้ เวลาเหตุการณส์ าคญั ทางการเมืองการปกครองไทย 2475 – ปจั จุบนั (Timeline)

๓๖๘ 35681 เกณฑ์การประเมนิ ผลชิ้นงานหรอื ภาระงาน ประเด็นการ ระดบั คุณภาพ ประเมนิ 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง) ปฏิบตั ติ ามเกณฑ์ท่ี ความสมบูรณข์ อง สามารถปฏบิ ัติตาม ปฏบิ ตั ติ ามเกณฑ์ที่ ปฏบิ ตั ิตามเกณฑ์ที่ กาหนดให้ตอ่ ไปนี้ ผดิ ไปหรอื เนอ้ื หา ประเด็นทีก่ าหนดให้ กาหนดให้ตอ่ ไปนี้ ผดิ ไป กาหนดให้ต่อไปนี้ ผดิ ไป ขาดไป 3 ประเดน็ ตอ่ ไปนไ้ี ด้ถูกตอ้ ง หรอื ขาดไป 1 ประเดน็ หรอื ขาดไป 2 ประเดน็ - สามารถเรยี งลาดบั เวลา ครบถ้วน - สามารถเรยี งลาดับ - สามารถเรียงลาดับเวลา เหตกุ ารณ์สาคญั ทาง เวลาเหตกุ ารณ์สาคญั เหตกุ ารณส์ าคญั ทาง การเมืองได้ ๑-.สามารถเรยี งลาดบั ทางการเมืองได้ การเมอื งได้ - ระบุรายละเอยี ดของ - ระบุรายละเอยี ดของ - ระบรุ ายละเอยี ดของ เหตกุ ารณ์สาคัญทาง เวลาเหตุการณ์สาคัญ เหตุการณ์สาคญั ทาง เหตกุ ารณส์ าคัญทาง การเมืองได้ ทางการเมอื งได้ การเมืองได้ - ระบุสาเหตทุ เ่ี กดิ ขนึ้ ของ เหตกุ ารณ์สาคัญทาง ๒-.ระบรุ ายละเอยี ดของ การเมอื งได้ เหตกุ ารณส์ าคญั ทาง การเมอื งได้ - ระบผุ ลทีเ่ กิดข้นึ ของ การเมืองได้ - ระบุสาเหตทุ ่เี กดิ ขนึ้ - ระบสุ าเหตุท่ีเกิดข้ึนของ เหตกุ ารณ์สาคัญทาง ๓-.ระบุสาเหตุท่เี กิดขนึ้ ของเหตกุ ารณ์สาคญั ทาง เหตกุ ารณ์สาคัญทาง การเมอื งได้ ของเหตกุ ารณส์ าคญั การเมืองได้ การเมอื งได้ ทางการเมอื งได้ - ระบุผลทีเ่ กิดขน้ึ ของ - ระบผุ ลทเ่ี กิดขน้ึ ของ ผลงานทนี่ กั เรียนผลติ ขนึ้ มา เหตกุ ารณ์สาคญั ทาง เหตกุ ารณ์สาคัญทาง นน้ั ขาดองคป์ ระกอบ ๔-.ระบผุ ลทีเ่ กิดข้นึ ของ การเมืองได้ การเมอื งได้ มากกว่า ๒ องค์ประกอบ และภาพรวมของผลงานตา่ เหตุการณ์สาคัญทาง กว่ามาตรฐานที่ควรจะเปน็ การเมืองได้ ๒. ความนา่ สนใจ ผลงานทนี่ กั เรียนสร้าง ผลงานทนี่ กั เรยี นผลติ ผลงานทน่ี ักเรียนผลติ และความเปน็ ขนึ้ มานนั้ มี ข้ึนมานนั้ ขาด ขึ้นมานนั้ ขาด ระเบียบ องค์ประกอบดังน้ี องค์ประกอบใด องค์ประกอบสาคัญ ๑-๒ ๑. การจดั วาง องค์ประกอบหนงึ่ องค์ประกอบ รปู แบบมีความ สวยงาม เปน็ ระเบยี บ งา่ ยต่อการอ่าน ๒. มีการแบง่ สว่ น ของเน้อื หาตา่ ง ๆ งา่ ย ต่อการค้นหาและการ อ่าน ๓. การส่งงานไมเ่ กนิ กวา่ กาหนดทีก่ าหนดไว้ ไว้ เกณฑ์การตดั สิน คะะแแนนนน4๗ - ๘ หมายถงึ ดหีมมากำยถงึ ดีมำก เกณฑ์กาครคคคคคผะะะะะะแ่าแแนนแแแนนนนนนนนนนน321๕ต๔ำ�่ -กตว๖งั้่ำแหหห๔ตมมม่ระาาายยยดถถถบั ึงงึึง ดพปหหหีรอมมมบัใชำำำป้ยยยรถถถงุ ึงึงึง ดี พอใช้ ปรับปรงุ เกณฑก์ ารผา่ น ตงั้ แตร่ ะดบั พอใช้

๓๖๙ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 48 เร่ือง หลกั การเลือกรบั ข้อมลู ขา่ วสาร เวลา 1 ชั่วโมง เรอ่ื ง เหตกุ ารณ์และการเปลี่ยนแปลงสาคัญของการเมืองการปกครองไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สงั คมศกึ ษา ตัวชว้ี ัด กจิ กรรมการเรียนรู้ สือ่ /แหลง่ เรยี นรู้ ส 2.2 ม.2/1 วิเคราะหข์ ้อมูล ขา่ วสารทาง ขน้ั นา 1. กรณศี ึกษา เรื่อง “กรมอุตุฯ ประกาศเตอื น 7-11 ธนั วาคมนี้ การเมืองการปกครองท่ีมผี ลกระทบต่อสงั คมไทยสมัย 1. ครูนาเสนอภาพข่าวสารทางสื่อออนไลน์และอินเตอร์เน็ตให้นักเรียน อุณหภมู ลิ ดฮวบ” ปจั จุบัน ชม พรอ้ มกบั ตง้ั คาถามดังตอ่ ไปน้ี สาระสาคัญ ภาระงาน / ชนิ้ งาน การพจิ ารณาข้อมลู ขา่ วสารจาเป็นตอ้ งใชท้ ักษะท่ี ๑. การวิเคราะหข์ ้อเท็จจริงจาก กรณีศึกษาในกิจกรรม “ขา่ วใสไ่ ข่” สาคัญหลายประการ เพื่อใหไ้ ดม้ าซึ่งข้อเทจ็ จรงิ ซึ่งจะ ส่งผลให้ผรู้ บั สารสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูล ขา่ วสารไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและสรา้ งสรรค์ ขอบเขตเน้ือหา ทีม่ ารูปภาพ : https://www.thairath.co.th/content/1445566113535 1. หลักการเลอื กรบั ข้อมูลข่าวสาร 1.1 ภาพดังกล่าวเป็นข่าวที่ส่ือถึงอะไร (คำทำนำยเหตุกำรณ์ที่จะ 1.1 ทักษะสาคัญในการเลอื กรับขอ้ มลู เกดิ ข้นึ ในปี 2562) ขา่ วสาร 1.2 ความสาคญั ของการเลอื กรับข้อมลู ขา่ วสาร จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ 1. นกั เรียนสามารถระบุและอธิบายหลกั การใน การเลอื กรับข้อมูลขา่ วสารได้อยา่ งถูกต้อง 335629

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 48 เรอื่ ง หลักการเลอื กรบั ขอ้ มลู ขา่ วสาร ๓๗๐ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 7 เรื่อง เหตุกแาผรนณก์แาลระจกัดากราเปรเลรีย่ นแรทู้ป่ีล4ง8สาคญั เรขอื่ องงหกาลรักเกมาือรงเกลาือรกปรกับคขรอ้ อมงูลไทขย่าวสาร ๓๗๐ กหลน่มุ ว่ สยากราะรกเรายีรนเรรยี ทู้ นี่ ร7ู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวเรฒั ่ือนงธเรหรตมกุ ารณแ์ ละกรารยเวปิชลาีย่ นสังแคปมลศงึกสษาคาัญของการเมืองการปกครองไทย เวลา 1 ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม 1.2ราหยวากิชนาักสเงัรคียมนศพกึบษเจาอข่าวในลักษณะดังกล่าว นักเรียนจะมีวิธีการ ชเว้นั ลมาัธย1มศชกึ ่ัวษโมาปงที ่ี 2 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ ปฏิบตั อิ ย1่าง.2ไรห(นากั นเรักียเนรียตนอบพตบำเจมอคขวำ่ามวใเหนมลัำกะษสณมะ) ดังกล่าว นักเรียนจะมีวิธีการ ด2า้ .นจทาักกษกะรแณละีตกัวรอะบย่วานงทกี่ากราหนดให้ นักเรียน ปฏบิ ตั อิ ย1่า.ง3ไรน(นักักเรเรียียนนคติดอวบ่าตขำ่ามวคดวังำกมลเห่ามวำมะีคสวมา)มน่าเช่ือถือหรือไม่ อย่างไร สามา2รถ. วจิเาคกรกาะรหณ์ขีต้อัวเอทย็จ่าจงรทิงี่กไดา้อหยน่าดงใถหูก้ ตน้อักงเแรียลนะ (นักเรียน1ตอ.3บตนำักมเครวียำนมคเหิดมวำ่าะขส่ามว)ดังกล่าวมีความน่าเช่ือถือหรือไม่ อย่างไร สมาเมหาตรุสถมวผิเลคราะห์ข้อเท็จจริงได้อย่างถูกต้องและ (นกั เร2ยี .นคตรอูเบชตื่อำมมโคยวงเำขม้าเสหู่บมทำะเรสียมน) เร่ือง การเลือกรับข้อมูลข่าวสาร (จากข่าว สมเหตุสมผล ดังกล2่าว. นคักรูเชรียื่อนมโจยะงเเหข็น้าสวู่าบทปเัจรีจยุนบันเรขื่อ้ งมูลกขาร่าเวลสือากรรสับาขม้อามรูลถขเข่า้าวถสึงาผรู้ร(ับจสาการขไ่าดว้ ด้านคุณลักษณะ อดยังก่าลงส่าวะนดักวกเรมียานกจขะ้ึนเหซ็น่ึงวอ่าาจปจั ะจมุบีคันวขา้อมมนูล่าขเ่าชวื่อสถาือรทสี่ามมาากรนถ้อเขย้าแถตึงกผตู้ร่าับงสกาันรไปด้ 3ด.า้ นคักุณเรยีลนกั สษาณมะารถอภิปรายคุณค่าของการ ดอังยน่าั้นงสผู้ระับดสวากรมจาากเปข็น้ึ จซะต่ึงอ้ างมจีหจละักมกีคาวราใมนนก่ารเชเล่ือือถกือรทับ่ีมขา้อกมนูล้อข่ายวแสตากรตเ่าพง่ือกไันม่ใไหป้ เลือกรบั 3ข.้อนมักลู เขรยี่าวนสารมอายรา่ถงอถภูกปิ วริธาีไดยอ้คยณุ ่าคง่าเหขมอางกะสารม ไดดงั ้รนับั้นขผ้อู้รมับูลสทารี่ผจิดาพเปล็นาจดะซต่ึง้อนงมักหีเรลียักนกจาะรไใดน้เกราียรนเลรือู้ถกึงรทับักขษ้อะมแูลลขะ่าแวนสวารทาเพงใ่ือนไกมา่ใหร้ เลอื กรับข้อมลู ข่าวสารอย่างถูกวิธีได้อยา่ งเหมาะสม เไลดอื ้รกับรขบั ้อขม้อูลมทูลี่ผขิดา่ วพสลาารดอยซา่ ึ่งนถักู วเริธียี) นจะได้เรียนรู้ถึงทักษะและแนวทางในการ เลอื กรบั ขอ้ มูลข่าวสารอยา่ งถกู วธิ )ี ขัน้ สอน ขนั้ สอ๑น. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละเท่าๆ กัน เพื่อทากิจกรรม “ข่าว๑ใส.่ไนขัก่”เรโียดนยแคบร่งูกกาลหุ่มนอดอใกหเป้แ็นต่ล4ะกลุ่มศกึกลษุ่มาลขะ่าเทว่าหๆัวกขัน้อ เพ่ือท“ากกริจมกอรุตรุฯม ป“รขะ่ากวาใศสเ่ไตขือ่”นโ7ด-ย1ค1รูกธานั หวานคดมในห้ี ้แอตุณ่ลหะภกูมลิลุ่มดศฮึกวบษ”าข่าว หัวข้อ “กร“มกอตุรมฯุ อุตุฯ ประก2าศ. เคตรอื ูกนาห7น-1ด1ใหธ้แนั ตว่ลาะคกมลนุ่ม้ี รอ่วุณมหกภันมูศิลึกดษฮาวกบร”ณีศึกษาท่ีกาหนดให้ จากนั้น ร่วมกนั2ว. ิเครูกาะาห์ขนอ้ดเใทห็จ้แจตร่ลงิ ะตกามลปุ่มระ่วเมดกน็ ันดศงั ึกนษี้ ากรณีศึกษาที่กาหนดให้ จากน้ัน ร่วมกนั วิเ2ค.ร1าะจหา์ขก้อกเรทณจ็ ศีจึกริงษตาาทมี่กปารหะนเด็นใหด้งั เนป้ี็นเรื่องเก่ียวกบั อะไร (ข่าวประกาศ จากกรมอ2ุต.ุน1ยิ จมาวกิทกยราณเศีร่อืึกงษาอทุณี่กหาภหูมนจิดะใหลด้ เลปง็นอเยรา่อื งรเกวด่ียเวรกว็ ับ) อะไร (ข่าวประกาศ จากกรมอ2ุต.2นุ ิยจมาวกิทกยราณเศี รึก่อื ษงาอทณุ ี่กหาหภนูมดิจใะหล้ดนลักงเอรยี ่านงคริดววด่าเรเน็ว)้ือหาของข่าวมีความ เป็นไปได2ห้ .ร2ือไจมา่ กอกยรา่ ณงไีศรึก(นษักาทเร่ีกียานหตนอดบใตหา้ มนคักวเราียมนเหคมิดาวะ่าสเนมื้อ) หาของข่าวมีความ เป็นไปไดห้ รอื ไม่ อยา่ งไร (นักเรียนตอบตามความเหมาะสม) 373035730

๓๗๑ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 48 เร่ือง หลกั การเลือกรับข้อมลู ข่าวสาร หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 7 เร่อื ง เหตุการณแ์ ละการเปลี่ยนแปลงสาคัญของการเมืองการปกครองไทย เวลา 1 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สงั คมศึกษา ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 2.3 นกั เรียนคิดว่า ข่าวท่ีนามาให้นักเรียนศึกษาน้ัน มคี วามน่าเชอ่ื ถือ หรอื ไม่ อยา่ งไร (นักเรยี นตอบตามความเหมาะสม) 2.4 นักเรียนจะนาข่าวดังกล่าวไปเผยแพร่ให้กับผู้อ่ืนได้รับรู้ด้วย หรอื ไม่ อย่างไร (ผเู้ รยี นแสดงควำมคดิ เห็น) 3 ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวเพื่อตอบคาถามและอธิบายที่หน้าชั้น เรยี นตามประเด็นทก่ี าหนดให้ 4. ครูสรุปประเด็นเก่ียวกับขอ้ เท็จจริงและความน่าเช่อื ถือของกรณศี ึกษา ตามคาตอบทน่ี กั เรยี นตอบหน้าชนั้ เรยี น 5. ครใู หน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกันระดมความคดิ เกยี่ วกับหลกั การในการ เลือกรับข้อมูลข่าวสาร โดยผู้สอนใช้แนวคาถามดังน้ี “จากกิจกรรมข่าวใส่ไข่ที่ นักเรียนได้ทาไปน้ัน นักเรียนแต่ละกลุ่มมีวิธีการหรือใช้ทักษะใดบ้างใน การศึกษาถงึ ความน่าเชื่อถอื และการเลอื กรับข้อมลู ขา่ วสาร” 6. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาเขียนคาตอบพร้อมอธิบาย หลักการในการเลือกรบั ขอ้ มลู ข่าวสารหน้าช้ันเรยี น 7. ครสู รปุ และอธิบายหลกั การเลือกรับข้อมลู ขา่ วสารเพมิ่ เติม ขั้นสรุป 1. นักเรียนรว่ มกันอภิปรายคณุ ค่าของการเลือกรับขอ้ มูลข่าวสารอยา่ งถูก วิธี โดยครูใช้แนวคาถามดังนี้ “นักเรียนคิดว่าการท่ีนักเรียนมีทักษะในการรับ ข้อมูลข่าวสารที่ดี และเลอื กรับข้อมลู ข่าวสารได้อย่างถกู วธิ ีนั้น จะสง่ ใหอ้ ยา่ งไร 37541

๓๗๒ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 7 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 48 เร่ือง หลักการเลือกรับข้อมูลขา่ วสาร เวลา 1 ช่ัวโมง เร่อื ง เหตุการณ์และการเปล่ียนแปลงสาคัญของการเมืองการปกครองไทย ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 กลุม่ สาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศึกษา กับนักเรียนบ้าง” (ชว่ ยให้เรามีวิจารณญาณในการเช่อื ถือสือ่ ตา่ งๆ มากข้นึ และ สามารถใช้ประโยชนจ์ ากสื่อท่ีมคี วามนา่ เชื่อถอื ในทางท่ีสร้างสรรค์ได)้ 2. นักเรียนสามารถสรุปความรู้จากการเรียนเรื่องหลักการเลอื กรบั ขอ้ มูล ข่าวสารไดอ้ ย่างไรบ้าง (การพิจารณาข้อมูลข่าวสารจาเป็นต้องใช้ทกั ษะทส่ี าคัญ หลายประการ เพื่อให้ได้มาซ่ึงข้อเท็จจริง ซ่ึงจะส่งผลให้ผู้รับสารสามารถใช้ ประโยชน์จากข้อมูลขา่ วสารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและสร้างสรรค์) 372 355 การวดั และประ สิ่งทีต่ ้อง ดา้ นความ 1. นักเรีย อธิบายหล รบั ข้อมูลข ถูกต้อง ด้านทักษ 2. นักเรีย ข้อเท็จจริง และสมเหต ด้านคุณลกั 3. นักเรยี น คุณคา่ ของ ข่าวสารอย เหมาะสม

373337536 การวดั และประเมินผล สิ่งที่ต้องการวัด/ประเมนิ วิธีการ เครื่องมือทใี่ ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ - คาถามสาคัญ ๑1. รนะักบเุแรลยี ะนอสธาบิ มำายรหถรละกั บกแุำรละ - การตอบคาถาม - กจิ กรรม “ข่าวใส่ไข”่ - ความถกู ต้องของคาตอบและความ ใอนธกิบำารยเลหือลกั รกบั าขรใอ้ นมกลู าขร่ำเลวสือำกร เป็นไปได้ มากกวา่ รอ้ ยละ ๘๐ ไรดบั ้อขย้อ่ำมงลูถขูกา่ตว้อสงารได้อย่าง ถูกต้อง ดา้ นทักษะและกระบวนการ - การตอบคาถาม - คาถามสาคญั - ความถกู ต้องของคาตอบและความ ๒2. . วนเิ ักคเรรำยี ะนหส์ขา้อมเาทรจ็ ถจวริเงิคไรดา้ ะห์ - การตอบคาถาม - กิจกรรม “ข่าวใส่ไข”่ เป็นไปได้ มากกวา่ รอ้ ยละ ๘๐ อขยอ้ ่ำเทงถจ็ กูจตรงิ้อไงดแ้อลยะา่ สงมถเูกหตต้อสุ งมผล - การอภิปราย - คาถามสาคัญ และสมเหตสุ มผล - ความถกู ต้องของคาตอบและความ ดา้ นคุณลกั ษณะ เปน็ ไปได้ มากกว่าร้อยละ ๘๐ 3. นักเรยี นสามารถอภปิ ราย คุณคา่ ของการเลือกรับข้อมูล ขา่ วสารอยา่ งถูกวิธไี ด้อยา่ ง เหมาะสม

37345774 บนั ทึกผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอุปสรรค .................................................................................................................................................................... ...... ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. .............................................. ลงช่ือ ......................................ครู (.......................................................) วันท่.ี .........เดือน..........พ.ศ............. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ ารหรือผู้ทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงชอ่ื ......................................ผตู้ รวจ (.......................................................) วนั ที.่ .........เดอื น..........พ.ศ.............

37355785 กรณีตวั อยา่ ง เรอ่ื ง กรมอตุ ุฯ ประกาศเตือน ๗7-1๑1๑ ธันวาคมน้ี อณุ หภมู ลิ ดฮวบ ประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ สาหรับภาคเหนือและภาค ตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากการ สญั จรผา่ นบริเวณทมี่ หี มอกหนาไว้ดว้ ย สาหรบั ภาคใต้ยงั คงมฝี นตกต่อเนอื่ ง และมฝี นตกหนักบางแห่ง อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงกาลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมถึง ประเทศจีนตอนกลางแล้ว คาดว่าในช่วงวันที่๗7-1๑0๐ ธ.ค. 61 จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทาให้บริเวณ ดังกลา่ วจะมฝี นฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากน้ันอากาศจะหนาวเย็นลงกบั มลี มแรง โดยอณุ หภูมิจะลดลง๑1-3๓ องศาเซลเซียสในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและ ปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง๑1-2๒องศาเซลเซียส สาหรบั มรสุมตะวันออกเฉยี งเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะ มกี าลงั แรงขนึ้ ทาให้ภาคใตม้ ฝี นตกหนกั บางแหง่ ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง ๑1-2๒ องศาเซลเซียส สาหรับมรสุมตะวนั ออกเฉียงเหนอื ทพี่ ัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมกี าลังแรงขนึ้ ทาใหภ้ าคใตม้ ฝี นตกหนกั บางแห่ง ลักษณะสาคัญทางอุตุนิยมวิทยา ลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทาให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝน ตกต่อเน่ืองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ในขณะท่ีลมตะวันออกเฉยี งใต้พดั ปกคลุมภาคเหนือ ทาให้บริเวณดังกล่าวมีหมอก ในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ แต่ยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้าบริเวณภาคเหนือตอนบนและภาค ตะวันออกเฉยี งเหนือตอนบน สาหรับบริเวณความกดอากาศสูงกาลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่เสริมลงปกคลุมถึงประเทศจีน ตอนกลางแล้ว คาดวา่ ปกคลุมภาคเหนอื ตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนอื ตอนบนในวันพร่งุ นี้ (7 ธ.ค.) ทาให้บรเิ วณ ดังกลา่ วจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก หลงั จากนนั้ อากาศจะหนาวเย็นลงกบั มลี มแรง ทีม่ า : https://www.krasahit.com/371122/

๓๗๖ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 49 เรอื่ ง การปฏิรปู การบริหารราชการในสมยั รัชกาลที่ 5 ต่อการเปลีย่ นแปลงการบรหิ ารราชการในปจั จุบนั หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 7 เรอื่ ง เหตุการณ์และการเปลี่ยนเแรป่อื ลงงเสหา� ตคกุ ัญารขณองแ์ กลาะรกเมารอื เงปกลาย่ี รนปแกปคลรองสงไาทคยญั ของการเมืองการปกครองไทย เวลา 1 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สงั คมศกึ ษา ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ตวั ชี้วดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ สือ่ /แหลง่ เรียนรู้ ส 2.2 ม.2/1 วเิ คราะหข์ อ้ มูล ข่าวสารทาง ขั้นนา 1. วเกีด่ยีทิ วัศกนบั เ์ กอ่ยีานวกาจับหอนำ� นา้ ทำจี่ขหอนงก้ำาทรข่ี องกำร ปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ เรอื่ ง “ชาวบา้ น การเมืองการปกครองที่มีผลกระทบต่อสังคมไทยสมัย 1. ครูนาวิดีทัศน์เกี่ยวกับอานาจหน้าที่ของการปกครองส่วนท้องถิ่น รอ้ งถนนเปน็ หลุมเป็นบอ่ ” ปจั จบุ นั เรอื่ ง “ชาวบ้านร้องถนนเป็นหลุมเปน็ บ่อ” ให้นักเรียนชม จากนั้นตัง้ คาถาม 2. ใบความรู้ เรื่อง การปฏริ ูปการ สาระสาคญั เพ่ือกระตุ้นความสนใจของนักเรียนดงั น้ี การพัฒนากฎเกณฑใ์ นการอยรู่ ่วมกนั ในสังคมให้เทา่ บริหารราชการในสมัยรัชกาลท่ี 5 ทันกับสถานการณ์อืน่ รอบด้าน สง่ ผลให้บุคคลรู้จกั การ ปรบั ตวั ไปในแนวทางท่เี หมาะสมกบั บริบทสงั คมอน่ื ๆ ซึง่ ภาระงาน / ชน้ิ งาน จะนาไปสู่การพัฒนาชาติใหเ้ กิดความกา้ วหนา้ ได้ ๑. ใบกิจกรรม เรื่อง “ลักษณะการ ขอบเขตเนื้อหา บริหารราชการในปัจจบุ นั กบั การปฏริ ูป การบรหิ ารราชการในสมยั รัชกาลท่ี 5” 1. การปฏิรูปการปกครองสมัยรัชกาลที่ 5 1.1 สาเหตขุ องการปฏริ ปู การบรหิ ารราชการ ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=n5nby9PfUKw 37596 1.2 ลกั ษณะของการเปลี่ยนแปลงการบริหาร 1.1 จากวิดีทัศน์ท่ีนักเรียนได้ชมไปนั้น เป็นเร่ืองราวเก่ียวกับอะไร ราชการ (ถนนเป็นหลุม เปน็ บ่อ สร้างความไม่สะดวกให้กบั คนในชมุ ชน) 1.3 ผลทเ่ี กิดขน้ึ จากการปฏิรูปการบริหาร 1.2 หากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับนักเรียน นักเรียนจะทา ราชการ ทีส่ ่งผลมาถงึ ปจั จุบนั อย่างไร หรือติดต่อไปที่หน่วยงานใด เพราะเหตุใด (หน่วยงานองค์กร จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น) ด้านความรู้ 1. นกั เรยี นสามารถอธิบายลักษณะการปฏริ ูปการ บรหิ ารราชการสมัยรัชกาลที่ 5 ได้อย่างถูกต้อง

๓๗๗ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 7 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 49 เร่ือง การปฏิรปู การบริหารราชการในสมัยรัชกาลที่ 5 ตอ่ การเปล่ียนแปลงการบริหารราชการในปัจจุบัน ๓๗๗ เรอื่ ง เหตุการณแ์ ละการเปลย่ี นแปลงสาคัญของการเมืองการปกครองไทย เวลา 1 ช่ัวโมง กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สแงั คผมนศกกึาษรจาดั ศกาสรนเรายี แนลระู้ทวี่ ัฒ4น9ธรรเมรื่อง การปฏรริ าปู ยกวาิชราบสริหังคามรรศาึกชษกาารในสมัยรชั กาลที่ 5 ตอ่ การเปลยี่ นแปลงการบรหิ ารราชนั้กามรัธใยนมปศัจกึ จษุบาันปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 สเงั รคื่อมงศเกึหษตากุ าศราณส์แนลาแะกลาะรวเฒั ปนลี่ยธนรรเแรมปอ่ื ลงงชเส่วหา�ยตคเกุหญั าลรขรอื 1ณอาจ.ยงแ์3ะกวลสาิชหะง่รากาผเกามลสรไืออังมเงคยป่มกา่มลีหางศีย่ ไรนกึรนป่วษแกยาปคงลารนองสงหไารทคือยัญหขนอ่วยงกงาานรเดมังือกงลก่าาวรไปมก่เขค้ารมอางใไหท้คยวาม เวลา 1 ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ด้านทักษะและกระบวนการ 2. 1คร.3ูเชื่หอมากโยไมงเ่มขีห้าสนู่บวยทงเราียนนหรเือร่ือหงน่วกยางราปนฏดิรังูปกกลา่ารวบไมริห่เขา้ารมราใชหก้คาวราในม 2. จากใบความรู้ท่ีกาหนดให้ นักเรียนสามารถ สชมว่ ยัยเรหัชลกอื าจละทส่ีง5ผลตอ่ยอา่กงาไรเปลี่ยนแปลงการบริหารราชการในปัจจุบัน วิเคราดะ้าหน์สทาักเหษตะุแแลละะผกลรทะบ่ีเกวิดนจกาากรการปฏิรูปการปกครอง (นักเร2ีย.นคจระูเชห่ือ็นมไโดย้วง่าเขก้าาสรู่บปทกเครรียอนงสเร่ว่ือนงทก้อางรถปิ่นฏไดิร้เูปขก้าามราบมรีบิหทาบรารทาชมกาากรขใึ้น สมยั รชั 2ก.าจลทาก่ี 5ใบไดค้อวยาา่มงรถู้ทูกี่กตา้อหง นดให้ นักเรียนสามารถ ซสงึ่มกัยารัปชกคารลอทงี่ส5่วนตท่อ้อกงถานิ่รเป็นลผ่ียลนมแาปจาลกงกกาารรปบฏริริหูปการารคารชอกงาในรใสนมปัยรัจัชจกุบาันล วิเคราะดห้า์สนาคเณุหตลุแกั ลษะณผะลที่เกิดจากการปฏิรูปการปกครอง ท(น่ี 5ักเรดียังนนั้จะวนัเหน็นเี้ รไาดจ้วะ่ามกาาศรกึ ปษกาคว่ารอกงาสร่วปนกทค้อรงอถง่ินไทไยดใ้เนข้าปมจั าจมุบีบนั ททบเ่ี กาิดทจมาากกกขาึ้นร สมยั รัช3ก.านลทกั เ่ี ร5ยี ไนดส้อายม่าางรถถูกอตภอ้ ิปงรายความสาคัญของการ ปซฏง่ึ กริ าปู รกปากรคปรกอคงรสอ่วงนสทม้อัยงรถัชิน่ กเาปล็นทผี่ 5ลมมาีอจะากไรกบา้ารงปเฏกิรดิ ปู จกาากรสคารเอหงตใุในดสแมลัยะรสัช่งกผาล ปกครอดงไา้ ทนยคใุณนปลจักจษบุ ณนั ะทเี่ กิดจากการปฏริ ูปการบริหาร อทยี่ 5่างไดรังกนบั ้ันกวาันรนปี้เกรคาจรอะมงใานศปึกจั ษจาุบวนัา่ )การปกครองไทยในปัจจุบันทีเ่ กดิ จากการ ราชการ3ส.มนัยักรเัชรกียานลสทา่ีม5ารไถดอ้ ภยา่ปิ งรเาหยมคาวะาสมมสาคญั ของการ ปฏิรูปการปกครองสมัยรัชกาลท่ี 5 มีอะไรบา้ ง เกิดจากสาเหตุใด และส่งผล ปกครองไทยในปัจจบุ นั ที่เกิดจากการปฏริ ปู การบริหาร ขอัน้ย่าสงอไนรกบั การปกครองในปจั จบุ ัน) ราชการสมัยรัชกาลที่ 5 ได้อย่างเหมาะสม ๑. นกั เรยี นแบง่ กลุ่มออกเป็น 3 กลุ่ม กล่มุ ละเทา่ ๆ กัน ข้ันสอ2น. ครูกาหนดให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาใบความรู้เรื่อง การปฏิรูป การบ๑ริห. านรกั รเารชยี กนาแรบใง่ นกสลมมุ่ ัยอรอัชกกเปาล็นท3ี่ 5กลซมุ่ึงกกาลหุ่มนลดะใเหท้แา่ ๆตๆ่ลกกะนั กนั ลุ่มรับผิดชอบ หวั ข้อ2ตา่. งคกรนั ูกาดหงั นี้ดให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาใบความรู้เรื่อง การปฏิรูป การบริหารราชกากรลในุม่ สทมี่ 1ัยรัชกกาาลรทบี่ ร5หิ าซรึ่งรกาาชหกนารดสให่วน้แกตล่ าะงกลุ่มรับผิดชอบ หัวขอ้ ต่างกนั ดงั นกี้ ลุ่มท่ี 2 การบริหารราชการสว่ นภูมิภาค กลุ่มที่ 31 การบริหารราชการสว่ นทก้ลอางถงิ่น จากนนั้ รกว่ มลกุ่มนัทวี่ 2เิ คราะกหา์ปรรบะรเิหดา็นรทรี่กาาชหกนารดสใว่หน้ตภอ่ มูไปิภาค -กลส่มุาเทห่ี ต3ุของกกาารรเบปรลหิ่ียานรแรปาลชงกลาักรสษว่ณนะทก้อางรถบนิ่ รหิ ารราชการ จากนั้นร-่วลมักษนั วณิเะคขราอะงหกาป์ รรบะรเดหิ น็ารทรกี่ าาชหกนาดรแใหตต้ล่ อ่ะไปประเภท - สาเหตุของการเปลยี่ นแปลงลักษณะการบริหารราชการ - ลกั ษณะของการบรหิ ารราชการแตล่ ะประเภท 377 337670

๓๗๘ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 49 เรอื่ ง การปฏริ ูปการบริหารราชการในสมัยรัชกาลท่ี 5 ตอ่ การเปลีย่ นแปลงการบริหารราชการในปัจจบุ นั หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 7 เรอื่ ง เหตุการณแ์ ละการเปล่ยี นเแรปอ่ื ลงงเสหา�ตคกุ ญั ารขณอง์แกลาะรกเามรือเงปกลาีย่ รนปแกปคลรงอสงาไทคยญั ของการเมืองการปกครองไทย เวลา 1 ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สงั คมศกึ ษา ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 - ผลทเี่ กดิ ข้นึ จากการเปล่ียนแปลงการบรหิ ารราชการแต่ ละประเภท 3. ให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มแลกเปล่ียนเรียนรู้ข้อมลู ระหวา่ งกัน ด้วยการ ให้สมาชิกในกลุ่มจานวน 2-3 คน นาข้อมูลของกลุ่มตนเองไปอธิบายให้ กลุ่มอ่ืนฟัง ขณะเดียวกันสมาชิกที่ประจากลุ่มให้แลกเปล่ียนข้อมูลของกลุ่ม ตนเองกลับไปยังสมาชิกกลุ่มอ่ืนด้วย จนครบทั้ง 3 กลุ่ม โดยสมาชิกทุกคน ในกลุ่มจะต้องบันทึกข้อมูลที่ได้จากการแลกเปลี่ยนลงในใบกิจกรรม เรื่อง “ลักษณะการบริหารราชการในปัจจุบันกบั การปฏิรูปการบริหารราชการใน สมยั รัชกาลท่ี 5” 5. ครูสุ่มนักเรียนจานวน 2-3 คน ออกมานาเสนอข้อมูลลักษณะการ ปฏิรปู การบรหิ ารราชการในสมัยรชั กาลท่ี 5 หน้าช้นั เรยี น 6. ครูสรุปและอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะการปฏิรูปการบริหาร ราชการในสมยั รัชกาลท่ี 5 ข้นั สรปุ 1. นักเรียนร่วมกันอภิปรายความสาคัญของการปกครองไทยใน ปัจจุบันที่เกิดจากการปฏิรูปการบริหารราชการสมัยรัชกาลที่ 5 โดยครูใช้ แนวคาถามดังน้ี “นักเรียนคิดว่า การบริหารราชการในปัจจุบันท่ีเป็นผลมา จากการปฏิรูปการบริหาราชการในสมัยรัชกาลท่ี 5 มคี วามสาคัญต่อตนเอง ชุมชน และประเทศชาตอิ ยา่ งไรบ้าง” 337681

๓๗๙ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 49 เร่ือง การปฏริ ูปการบริหารราชการในสมัยรชั กาลที่ 5 ต่อการเปล่ยี นแปลงการบรหิ ารราชการในปจั จุบัน หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 เรอ่ื ง เหตุการณแ์ ละการเปลยี่ นเแรปอ่ื ลงงเสหา� ตคกุ ัญารขณองแ์ กลาะรกเามรือเงปกลาย่ี รนปแกปคลรองสงไาทคยัญของการเมืองการปกครองไทย เวลา 1 ชวั่ โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศกึ ษา ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 2. นักเรียนสรุปความรู้จากการเรียนเรื่อง การปฏิรูปการบริหาร ราชการในสมัยรัชกาลที่ 5 ต่อการเปล่ียนแปลงการบริหารราชการใน ปัจจุบนั โดยครใู ช้คาถามดงั ตอ่ ไปน้ี 2.1 จากการที่นักเรียนได้ทากิจกรรม นักเรียนคิดว่าเพราะเหตุ รัชกาลที่ 5 จึงต้องมีการปฏิรูปการบริหารราชการ (เพ่ือให้เหมาะสมกับ สถานการณร์ อบด้าน) 2.2 การปฏิรูปการบริหาราชการ ส่งผลอย่างไรบ้าง (ส่งผลให้ บุคคลปรับตัวไปในแนวทางท่ีเหมาะสมกับบริบทสังคมอื่นๆ ซึ่งจะนาไปสู่ การพัฒนาชาติให้เกิดความเท่าเทียมและเหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ รอบด้าน) 362 379

38036830 การวัดและประเมินผล ส่งิ ที่ต้องการวดั / วิธกี าร เครือ่ งมอื ที่ใช้ เกณฑ์ ประเมิน - การตอบคาถาม - ความถูกต้องของคาตอบและความ - คาถามสาคัญ เปน็ ไปได้ มากกว่าร้อยละ ๘๐ ดา้ นความรู้ - การตอบคาถาม - ใบความรู้เรื่อง การปฏิรปู ๑1. สนำักมเรำยีรถนอสธาิบมำายรถ การบริหารราชการในสมัย - ความถูกต้องของคาตอบและความ ลอกัธษิบาณยะลกักำษรณปฏะิรกูปาร - การตอบคาถาม รัชกาลที่ 5 เป็นไปได้ มากกว่าร้อยละ ๘๐ สกรปไดามำฏ้อชรยั ิรบยกรูป่าราชั กงรหิกาถสำำรูกมรลบตรยัทรำ้อรี่หิชัช๕งากกรำารลที่ 5 - การอภปิ ราย - ใบกิจกรรม เร่ือง “ลักษณะ การบรหิ ารราชการในปัจจบุ นั - ความถูกต้องของคาตอบและความ ด้านทักษะและ กับการปฏิรปู การบริหาร เป็นไปได้ มากกวา่ ร้อยละ ๘๐ กระบวนการ ราชการในสมัยรชั กาลที่ 5” ๒2. สนำกั มเรำียรถนวสิเาคมราำระถห์ - คาถามสาคัญ สวำเิ คเหราตะแุ หลส์ะาผเลหตแุ ละผล - ใบความร้เู รื่อง การปฏริ ูป สทกไทปดมำ่เีกีเ่ ก้อกรยัคดิปยดิรรจา่กจชัองำาคกงถกกรำสูกกกอลมตำางทยั ร้อรี่รปป๕งชั ฏฏกริิราปููปลกทาี่ 5ร การบริหารราชการในสมัย ดา้ นคุณลกั ษณะ รัชกาลที่ 5 ๓. อภ3ปิ .รำนยกั คเรวยีำนมสำ� คญั - ใบกิจกรรม เรอื่ ง “ลักษณะ ขสอามงกาำรรถปอกภคิปรรอางยไทยใน การบรหิ ารราชการในปจั จบุ นั ปคัจวาจมุบสันาทคี่เัญกิดขจอำงกการำร กบั การปฏิรูปการบรหิ าร ปรบปทำฏกรเ่ี ชกิหริคกดิ ูปารำจรอกรารงำสกาไรมชทกบยักายรรราใหิ ชัปนรำกสปฏรำมจัริ ลัยปูจทุบกี่ านั๕ร ราชการในสมัยรชั กาลที่ 5” รชั กาลท่ี 5 ได้อยา่ ง - คาถามสาคัญ เหมาะสม

33868411 บนั ทึกผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปัญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................... ลงช่อื ......................................ครู (.......................................................) วนั ท.ี่ .........เดือน..........พ.ศ............. ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหารหรือผู้ทีไ่ ด้รบั มอบหมาย ........................................................................................................................................................................... ลงช่ือ ......................................ผู้ตรวจ (.......................................................) วันท่ี..........เดือน..........พ.ศ.............

382 338625 ชอ่ื - สกลุ ............................................ชั้น.............เลขท.ี่ ........... ใบกจิ กรรม เรือ่ ง ลกั ษณะการบริหารราชการในปจั จบุ นั กบั การปฏริ ูปการบรหิ ารราชการในสมัยรัชกาลที่ 5 คาช้ีแจง : ให้นักเรียนนาความรู้ท่ีได้จากการแลกเปลี่ยน เร่ืองลักษณะการบริหารราชการในปัจจุบันที่เป็นผลมาจากการ ปฏิรูปการบรหิ ารราชการในสมัยรชั กาลท่ี 5 เขียนลงในตารางทก่ี าหนดใหถ้ กู ตอ้ ง ลกั ษณะการบริหาร สาเหตุทท่ี าให้เกิดการ ลักษณะการเปล่ียนแปลงท่ี ผลท่เี กิดขึ้นจากการ ราชการ เปลย่ี นแปลง เกิดขนึ้ เปลี่ยนแปลง 1. การบริหารราชการ สว่ นกลาง 2. การบริหารราชการ สว่ นภมู ิภาค 3. การบริหารราชการ สว่ นทอ้ งถ่นิ

338636 ใบความรู้ เร่ือง การปฏิรูปการบริหารราชการในสมยั รชั กาลที่ 5 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็น ของตะวันตก โดยจัดรวมกรมต่างๆ ทีม่ ีลักษณะงาน คลา้ ยๆ ยุคแห่งการล่าอาณานิคมของชาวตะวันตก โดยเฉพาะอย่าง กันมาเป็นกรมขนาดใหญ่ 12 กรม ต่อมาเปลี่ยนเป็น ยิง่ อังกฤษและฝรั่งเศส ทาให้ประเทศเพอ่ื นบา้ นของไทยตอ้ ง กระทรวง อยู่ในความดูแลของเสนาบดี มี 12 กระทรวง ตกเป็นอาณานิคมของประเทศทงั้ สอง ส่วนประเทศไทยเป็น คือ ประเทศเดียวท่ีมิได้เป็นอาณานิคมของชาติใด ประเทศ มหาอานาจต่าง ๆ จึงแข่งขันกันเพ่ือเข้ามามีอิทธิพลเหนือ 1.) กระทรวงมหาดไทย บังคับบัญชาหัวเมืองฝ่าย ประเทศไทย เหนือและเมืองลาว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้ทรง 2.) กระทรวงกลาโหม บังคับบญั ชาหัวเมืองฝ่ายใต้ ดาเนินนโยบายทางการทูต เพ่ือมิใหป้ ระเทศมหาอานาจฝ่าย หัวเมอื งฝ่ายตะวนั ออก ตะวนั ตก และเมอื งมลายู ใดฝ่ายหนึ่งถือเป็นข้ออ้างในการยึดครองประเทศไทย โดย การเร่งพัฒนาประเทศให้มีความเจริญในด้านต่าง ๆ อย่าง 3.) กระทรวงการต่างประเทศ จัดการเรื่อง รวดเร็ว และศึกษาหาความรู้ ความเข้าใจในภาษา เกย่ี วกับการต่างประเทศ วฒั นธรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ ของชาติตะวันตก อันจะ ทาใหก้ ารเจรจากบั ประเทศเหล่านนั้ ดีขน้ึ 4.) กระทรวงวัง มีหน้าที่บังคับบัญชากิจการใน พระราชวงั สาเหตสุ าคญั ในการปฏริ ูปการปกครองสมัยรัชการที่ 5 1. เกิดจากภยันตรายที่มาจากการคุกคามของประเทศ 5.) กระทรวงนครบาล จดั การเกยี่ วกบั เร่อื งตารวจ และราชฑณั ฑ์ มหาอานาจตะวันตก ถ้าคนไทยไม่มีการปรับปรุงตนเองให้ เจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับอารยประเทศ อาจะเป็นข้ออ้างที่ 6.) กระทรวงเกษตรพาณิชการ ว่าการเกี่ยวกับ ทาให้ชาตติ ะวันตกเขา้ มาปกครองประเทศไทยได้ การเพาะปลกู เหมอื งแร่ ปา่ ไม้ 2. การปกครองในระบบเก่า อานาจการปกครอง 7.) กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ ว่าการเกี่ยวกับ บ้านเมอื งตกอยู่กับขนุ นาง ถ้ามีการปฏิรปู แผน่ ดินใหท้ ันสมัย ภาษอี ากรและงบประมาณแผน่ ดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิรูปทางการปกครองแล้ว จะทาให้ สถาบันพระมหากษัตริย์มีพระราชอานาจอย่างแท้จริง ด้วย 8.) กระทรวงยุติธรรม จัดการเร่ืองชาระคดีและ เหตุน้ีพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรง การศาล ดาเนินการปรับปรุงประเทศให้ทันสมัยตามแบบตะวันตกใน ทุกๆ ๆด้านด้ำแนละแทลาะงดท้าำนงดก้ำานรเกมำือรงเมกือารงกปำกรคปรกอคงรกอ็เปงก็น็เกปา็นร 9.) กระทรวงยุทธนาธิการ จัดการเกี่ยวกับเรื่อง ปกำฏริรปูปฏทิรสี่ ูปาทค่ีสัญ�ำปครัญะปกราะรหกำนร่ึงหนึ่ง การทหารในกรมทหารบก และทหารเรอื 10.) กระทรวงธรรมการ มีหน้าท่ีดูแลด้าน การศึกษา การสาธารณสุขและสงฆ์ 11.) กระทรวงโยธาธิการ ว่าการเร่อื งการก่อสร้าง ถนน คลอง การชา่ ง ไปรษณยี โ์ ทรเลข และรถไฟ

38438674 การปรับปรงุ การปกครองสมยั รชั กาลที่ 5 12.) กระทรวงมุรธาธิการ เกี่ยวกับการรักษาตรา 1. การปรบั ปรุงการปกครองส่วนกลาง แผ่นดิน งานระเบียบสารบรรณ หนังสือราชการหลังจากนั้น มี ก า ร ป ฏิ รู ป ก า ร ป ก ค ร อ ง ส่ ว น ก ล า ง โ ด ย ย ก เ ลิ ก ในวันที่ 1 เมษายน 2435 ทรงยุบกระทรวงที่ซ้าซ้อนกัน อยู่ทาให้เหลือกระทรวงเพียง 10 กระทรวง คือ มหาดไทย จตสุ ดมภแ์ ละใชก้ ารบริหารงานแบบกระทรวงตามแบบ กลาโหม นครบาล วัง ต่างประเทศ พระคลังมหาสมบัติ โยธาธิการ ยุตธิ รรม ธรรมการ เกษตราธกิ าร 2. การปรับปรุงการปกครองสว่ นภมู ิภาค 3. การปรับปรงุ การปกรองส่วนท้องถน่ิ ก่อนท่ีพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจะ 1) ทรงริเร่ิมให้สิทธิแก่ราษฎรในการเลือกผู้ปกครอง ได้ทรงเปลี่ยนระเบียบการปกครองครั้งใหญ่ใน พ.ศ.2435 ตนเองเป็นครั้งแรก โปรดเกล้าฯให้มีการทดลองเลือกตั้ง เหตุการณ์ระหว่างประเทศตามชายแดนมีทีท่าว่าจะทา “ผู้ใหญ่บ้าน”ที่บางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แทน ความรุนแรงมากข้ึน จาเป็นจะต้องจัดการรักษาพระราช การแต่งตั้งโดยเจ้าเมือง ต่อมาใน พ.ศ.2440 ทรงออก อานาจและราชอาณาจักรไว้ ดังน้ันพระองค์จึงได้ทรงจัด พระราชบัญญัติการปกครองท้องที่ ร.ศ.116 กาหนดการ รวบรวมหัวเมืองตามชายแดนที่สาคัญๆ ขึ้นเป็นเขตการ เลือกต้ังผู้ใหญ่บ้าน กานัน โดยอาศัยเสียงข้างมากของ ป ก ค ร อ ง เ รี ย ก ว่ า “ ม ณ ฑ ล ” โ ด ย มุ่ ง ท่ี จ ะ ป้ อ ง กั น ราษฎร ราชอาณาจักรให้พ้นจากการคุกคามจากภายนอกเป็นหลัก และในขณะเดียวกันก็เป็นการทดลองจัดระเบียบการ ๒) โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งสุขาภิบาลกรุงเทพฯ เป็น ปกครองอย่างใหม่ พระองค์ทรงเลือกบุคคลท่ีทรงคณุ วุฒิท่ีมี คร้ังแรก และสุขาภิบาลหัวเมืองแห่งแรก ที่ตาบลท่าฉลอม ความสามารถสูง และเป็นท่ีไว้วางพระราชหฤทัยออกไป จังหวัดสมุทรสาคร โดยมีคณะกรรมการประกอบด้วย ดารงตาแหน่งข้าหลวงใหญ่ประจามณฑล ซ่ึงเรียกว่า กานนั ผใู้ หญ่บ้าน ทาหน้าท่ีบรหิ ารงาน สขุ าภิบาล มีรายได้ “เทศาภิบาล” มีการยกเลิกหัวเมือง เอก โท ตรี จัตวา และ จากภาษีโรงเรือนในท้องถ่ิน ยกเลิกหัวเมืองประเทศราช จัดการปกครองแบบมณฑล เทศาภิบาล แบ่งเขตการปกครองเป็นมณฑล เมือง อาเภอ ที่มำ : https://storylog.story/59955398642f2b047f73c287 ตาบล และหมู่บ้าน ขึ้นตรงต่อกระทรวงมหาดไทย เป็นการ https://www.matichon.co.th/article/news_100027 รวมอานาจตามหัวเมืองเข้าสู่ราชธานี 1) มณฑล มีข้าหลวงเทศาภิบาล เป็นผู้ดูแล แต่ละ มณฑลแบ่งออกเปน็ เมอื ง 2) เมือง มีผู้ว่าราชการเป็นผู้ดูแล แต่ละเมืองแบ่ง ออกเปน็ อาเภอ 3) อาเภอ มีนายอาเภอเป็นผู้ดูแล แต่ละอาเภอ แบ่งออกเปน็ ตาบล 4) ตาบล มีกานันเป็นผู้ดูแล แต่ละตาบลแบ่ง ออกเป็นหมู่บา้ น 5) หมูบ่ า้ น มผี ใู้ หญบ่ า้ นเป็นผู้ดแู ล ทีม่ า : https://storylog.co/story/59955339988664422f2f2bb004477f7f733c2c28877 https://www.matichon.co.th/article/news_1000021727

๓๘๕ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 50 เรอื่ ง การเปล่ียนแปลงการปกครอง 2475 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 เรอ่ื ง เหตกุ ารณ์และการเปล่ียนแปลงสาคัญของการเมืองการปกครองไทย เวลา 1 ชัว่ โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศกึ ษา ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ตวั ชวี้ ัด กิจกรรมการเรียนรู้ สอื่ /แหลง่ เรียนรู้ ส 2.2 ม.2/1 วิเคราะหข์ อ้ มูล ขา่ วสารทาง ขัน้ นา 1. ภาพสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอย่หู วั พระราชทานรฐั ธรรมนูญให้แก่ประชาชน การเมืองการปกครองท่ีมผี ลกระทบต่อสงั คมไทยสมยั 1. ครูนารูปภาพการพระราชทานรัฐธรรมนูญของพระบาทสมเด็จ 2. วดิ ีทัศน์ เรื่อง ยอ้ นรอยรัฐประหาร ปจั จบุ นั พระปกเกล้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ให้นักเรียนชม จากน้ันตั้งคาถามเพ่ือ ไทย ตอน 1 ปฎิวตั ิ 2475 สาระสาคัญ กระตนุ้ ความสนใจของผ้เู รียน การเปล่ียนแปลงรูปแบบของกฎเกณฑต์ ่างๆๆทาง ภาระงาน / ชิ้นงาน สังคม จะต้องคานึงถงึ ปัจจยั ต่างๆๆอย่างรอบดา้ น เพอ่ื ให้ ๑. การวิเคราะห์เหตกุ ารณ์การ สงั คมเกดิ ความเรยี บร้อยและสามารถพฒั นาได้อยา่ งมี เปล่ียนแปลงการปกครอง 2475 ประสิทธภิ าพ ขอบเขตเนื้อหา ทม่ี า : https://www.tnews.co.th/contents/33311334411 1. การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 1.1 จากรูปท่ีเห็นเป็นรูปเก่ียวกับอะไร (พระบาทสมเด็จ 1.1 สาเหตุการเปล่ียนแปลงการปกครอง พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 7 พระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรก 2475 ใหก้ ับประชาชน) 1.2 ลาดบั เหตกุ ารณ์การเปลี่ยนแปลงการ ปกครอง 2475 1.3 ผลท่เี กดิ ขนึ้ จากการเปล่ียนแปลงการ ปกครอง 2475 ท่ีส่งผลตอ่ การปกครองไทยในปจั จบุ นั จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ด้านความรู้ 38685

หหกกลลนนม่่มุุว่ว่ สสยยาากกรราาะะรรกกเเรราายยีี รรนนเเรรรรยยีี ้ทููท้ นนีี่่ รร77ูู้้ สสเเังงั รรคคื่ออื่ มมงงศศเเึกกึ หหษษตตาากุุกาาศศรราาณณสสนน์แแ์ าาลลแแะะลลกกาาะะรรววเเฒฒัั ปปนนลลธธ่ี่ียยรรนนแแรรผผแแมมปปนนกกลลาางงสสรรจจาาัดัดคคกกัญญั าาขขรรรราาออเเรรยยงงียยีววกกนนิิชชาารรรราาท้้ทููเเมมสส่ีี่ ืืออ55งัังคคงง00กกมมาาศศรรึึกกปปเเษษรรกก่ออืื่าาคคงงรรกกออาางงรรไไททเเปปยยลล่ี่ียยนนแแปปลลงงกกาารรปปกกคครรอองง 22447755 ๓๓๘๘๖๖ เเปปลลีย่ย่ี ๑ด11นน.า้..แแนนนปปนคักกัลลกั วเเงงเรรากกรยียี มียาานนรรนรสสปปู้สาากกำมมคคมาารรำรรออรถถถงงอออพพธธธบิบิ..ิบศศาาำ..ยย22ยลล44ลาาำ�77ดดด55บับั บั เเเไไหหหดดตตต้ออ้ กุกุ ุกยยาาำ่า่ารรรงงณณถถณููกก์์กก์กตตาาำรร้้ออรงง สป2กอมปเคปเสปปคอกม2ปขขปปมมยยาาววั้นนั้กรกราากก44ลลรราาะะา่า่บบศศคคสสคค77่ี่ียยมมปปงงชชึึูรรูรรกกออรรไไนน2255เเาารรออณณรรออนนหหษษธธัับบแแ..งงบบงงมมาาปิิปททาาปปใใ1111เเคคเเา้า้ญญนนาาปปกกไไปป่ี่ีสสลลงงรร....ะะตตััาาลล33นน่่็็22นนงงงงููเเพพสสแแยยสสชช่ี่ียยกกผผววรรมม..ลล))ิทิท่ื่ืออนนนนาาศศ่่ลลาาะะเเ))ะะธธรรมม..ััปปหหกกตตบบ22สสปปิริรเเโโรร่่เเออออตตง่ง่พพาา44ยยกกรระะผผกกชชุุบบกกงงีีรรคค77ยยเเลลยยาาเเททปปาารราานน55ขขออรร์์ ศะศะออรรเเรร้้าาคคยยปปปปงงะะใเใเนนสสณณิิา่่าดดหหหหกกจจน็น็ชชาาูู่่งงบบ์์ววาาคค้้เเดดตตปปมมาาไไปปทท่่กกาารรรรััุุธธาาใใรรงง็็นนกกรรหหเเออดดิิซซปปะะกกรระะบัับไไาาชชงงึ่่ึงงจจีีไไยยปปลลบบกกเเไไตตกกาาึึงงนนหห่่ททตตออาาาาธธยยปปตตตตรราาิิบบปปววยยเเ้้ออรรปปมมุุกกรรจจใใไไสสเเะะงง่ืื่ตตออนนาากกสสกกะะมมเเเเรรยยงงคคถถิิเเปปดดททบปบปณณปปรราาััจจููกกรกกรขขศศลล็็ออนนนน์์ตตณณจจา้้ึึาาาี่ี่ไไนนยยงงกกออา่่ารรุุรรบบททไไาานนงงเเาายเยเททเเััญญนนยยปปๆๆมมปปรรแแ่่าายยไไณณืื่่ลลาาออลลงงปปใใมม((มมสสีย่ย่ีไไกกนน่ีี่ยย์์โโไไลลาา่่รรไไนนิิททลลาารรปปนนกกดดงงแแกกธธรร((จัจัแแมมกก้้เเนนิิรรปปเเ((จจปปปปาาปปดดาาเเาาัักกลลบุุบยยหหลลลลรรชชัังงลลเเงงันนันน่ี่ีปปงงยยรรยยี่ี่เเตตยยมมพพกกบบีียย้ั้ันน์์นนกกุุลีลีนนกกเเาาื่่ืา้า้ออนนววปปััแแกกคคแแาารรงงจจัันนตต็็นนษษปปรร))ปปปปรระะนนออรรออณณลลกกลลณณนน้ีี้ะเะเบบงงงงคคงงรระะาา์์บบกกจจตตกกกกาาไไเเรรปปออปปาาาาจจาาาาาาออบบ็็มมนนกกสะสะรรรรรรงงูู่่ เเชชวว้ัั้นนลลามามธััธยย11มมชชศศวั่วั่กึึกโโษษมมาางงปปีทีท่ี่ี 22 เปลีย่ นแปลงกำรปกครอง พ.ศ.๒๕๔๗ ไดอ้ ยำ่ งถูกต้อง คเเแแปกปกแเแคเปปปปลลลลิิาากกดดลลลลรระะะะคคเเ่ี่ีี่ี่ยยยยเเเเเเรรหหหหหหปป33ดดนนนนออ22็็ มมมมนนลล44ดด..้า้าแแแแงง..าาาา่ีี่้า้ายยนนขขนนเเ..ปปปปนนะะะะนนกกนนออททัักกลลนนลลสสสสัักกี่่ีคคงงยยแแเเกัักงงัังงกกมมมมเเไรไรุุณณกกปปรรษษกกววททีียยเเีียยาารราาลลกกะะยยลลนนรรนนีีรรยยแแงงััใใักกับบสสปปนนปปสสกกนนลลษษาาคคกกปปาากกาาะะสสมมณณมมคครรววกกัจจัคคาาาาปปาารรจจะะรราารรมมรรรรออะะุบุบออกกมมถถาาถถบบงงงงคคนัันววรรสสววววิิเเรรไไพพถถิิเเพพาาคคดดนนคคออออ..คค..รร้อ้อศศรรกกงงศศภภาาัั ยยญญาา..าา..22ะะิิพพปป22ะะ่าา่ รรหหขขงง44หห..รร44ศศเเ์์ผผออ์์ปปาา77หห77..ลลยยง22งััจจมม5555ททแแเเจจาา44หห่ี่ีเเไไััยยะะลลทท77กกดดสสททตตะะี่่ีิิสสดด้้55ออมมุุ่ีี่แแสสกก่่งงขขยย่่งงสสผผาา้ึึ้ไไนน่่าาผผดดดดลลรรงงจจลล้้ถถถถงงตตณณาาใใคคููกกููกก่่ออกกหห์์ กกววตตตตกกกก้้เเกกาา้้าา้้ออออาาาาิิมมดดรรรรรรงงงง 383368669

2. นักเรียนสามารถวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิด ความเหมาะสม) การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 ได้ถูกต้อง 2. ครูเช่ือมโยงเข้าสู่บทเรียน เรื่อง การเปล่ียนแปลงการปกครอง และเหมาะสม 2475 ที่ส่งผลต่อการปกครองไทยในปัจจุบัน (การเปล่ียนแปลงการ ๓๘๗ 3. นักเรียนสามารถวิเคราะห์ผลท่ีเกิดขึ้นจากการ ปกครองใน พ.ศ.2475 นามาซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย เพื่อจะนาไปสู่ ๓๘๗ เปล่ียนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 ได้อย่างถูกต้อแงผนกกาารรจปดั รกับาเปรเลร่ียยี นนปรู้ทระ่ี 5เท0ศใหเ้เรป่อื ็นงไปกตารามเปสลถ่ียานนแกปารลณงก์โลารกปดกังคนรั้นอวงัน2น4้ีเร7า5จะ หหกกปคแเปลลนนลิกดลมุ่มุ่ะ่วว่คเ่ียสสเยยรหหนาาอกก็มน4ดรรแงาาาะะา้ขเ.รรปะหกกกนกอเเนลรรสลนาาี่คงยยีียัง่มุกมรรไ่วุณกวทนนสเเยเรรรากายลกรรยีียีรรยูู้้ททัาใกับนนะนปรน่ี่ีษกคเรร77ปกรสาณูู้้วียัจครสสานจเะารมเเงัังรรรรุบอมคคยีาูท้ืืออ่่ งนันมมรสี่งงไร7ถศศพาดู้เเอึกึกสคหห.้อศเษษงัภัยตตรญค.ิาาื่อป2่ากุกุมขงงราา4ศศศเอรรเาหกึาา7หณณยงษสสมต5แเนนาา์แแ์ุกหะลาาลลาทศสตระแแะะาี่สณมุแลลกกสก่งนาาะะแ์สผารรววาลดลรแเเะัฒัฒงตปปณลกค่นนอลลาะ์กวรกวธธ่ีี่ยยเาัฒารรานนแปมรรรรนผแแลมมธี่ยปปนรนแเเกลลสอมขรรรผแางงมมยนั้่ืออ่ืาปนสสรา่บศงงสเกลจาางรึูรกอาง““๑๑ไัดคค่ือณสรรนษยยงกัญัญ..จบา้ออ้าาา“๑คคดัคขขา้รรญนนรกยกญั.รรงาาออเอ้รรัาานููนนครยยขงงรแออนสรยีรวาาาววกกอเลยยริทูนรนย่ววาิิชชงาาอะรรยีธาิวิกดดีรรรยาาัฐฐัสนริวิชเาทู้ีีเเททิรปปง่ิพาดมมรรสสาัฐ่ีััผศศชรรูท้ีเทืืออป5รงังัมสละะนนย่ีัศคครงงาือ05งัหหอ์์์ะเเนกกะมมคงเ0หหยหาาป์เาากมเศศหรร่าตตาหรราน็ศกึกึไไรงตุุปปรกกเททตึกปไไษษุรปกเทาารกกษุยยรใรอื่าาากรรกยคคือ่ดะารงคณณบัตตงรรชณจตรออกกออ์์ากกึอกอง์กนนาาธงงนางาาตารรไไิปรไรรร้อททท11ป1เเไเเเปปงปยปปยยตกปลปปลเลยคลลป่ียฎี่ยฎฎ่ียรี่่ียยนกิวลนนิวิวอนนัตแาี่ตัยตัแแงิแแรปไ2ิิปนปเท22ปปลป4ลลแงย44ลลง7ลกงปใกงง77ย่ี5กานกกลารน55า”ปราาปงรแ””ปจัใรรกกปหปกจปปคใใาก้นลคุบหหกกรรคกัรงอนั้น้นคคปเมอรงรบักกัรรกงอลีียเเ2ออา้ งักคนรร2ง4งงยียีชษร)427นนม22อณ745ชชง445ะ7มมจเ775ปา55็นก ๓๘๗ เวลา 1 ชั่วโมง 2 เชวั้นลามเธั ชชวย1ั้ั้นนลมชามมศวั่ธััธึกโยยษ1มมมางชปศศ่วัีทึกึกโ่ีษษ2มาางปปีทีท่ีี่ 2 ทีม่ า : 386 338770387 ทhhขปขปtt่ีม้้ออฎฎttppามมววิิ ssทhปข:::ตััตููลล//tีม่้อฎ22t//ิิpททาwwมิว22s..:ีี่่ไไ:ัตwwูล/44นน2ดด/ิทwww277.ัั้้กกจจ่ีไw..yy4นดเเาา55wooรร7ั้กกกจuu””.ีียยyเา5ttกกoรuuกกกกกกนนกววu”าาียbbลลลลลลแแtกิเิเรรuกกกนeeคควุ่มมุ่่มุุ่ม่มุุ่มาบบb..ชชลลลแccิเรรรeททททททค่่ooงงุุุ่่มมม่มมบาา.ชcรกกmmีี่ี่่ี่ีี่่ทททะะ่oงววม132132าลลกmี่่ีี่//หหิิดดีะว213wwุุ่่มมล/หิป์์ปดีีิทท๒กสผกลwaaุ่มออป์ีทลลรรttััศศ�aำลภำำ๔อccออลรtะะัศาาดรรสผสผนhhทนcำอเเ22กะ๗กกาเเผสhดดนเป??ปปับเก2ภลภลพ์กดดี่์เเดปvvา?ป44ภลเเ๕บับัดก์กvเเาททลลเ4==เาาปปสร็น็นับเลทลรร=าปหร็น77ิดเเครHHพพย่ี่ยีป7ีเ่่ีเังเ็็Hนนททพืื่่หหี่ยออี่ปย่เี็นทกก่ืหตอขEE55รคกนนEสสก5นสนกก่ก่ีีงงตต00ีก่งิดิดุก0ึ้นอิดม33แแงังัค3แังคาาSSแุกุกาSขขำงขหคคค““แ“ปปปbbรbรหหหปาารึ้น้นึึ้นกกกมมมuยลuuอยยลอ๒ลลลรนรนนณลหrลหหrrแ้ลลองังแแ้้ะUณงอองUUณณงง๔ดดดงุ่มลลจก์กนุุ่่มมลลIปลลกก2นนyIIใก์ก2yy๗ใใังะก์ก์าำ4หำรังงัะะาาัจ44หห4กาจรรำรปก&4กกา๕ารจจอ้รรปปรจ&&ลาปออร7้้ดlจัรรเกลลาาiยปป7กดดsllัุ่ยัจจมปปกังiiยย5จเเtกกssำรุุ่่มมก=กกปปังังต5จจทลttคกลัยรรัรฐกก==Pตตาลลคค่อะยัยัลลรที่ส่ยีััคฐฐเLปPPราา่อ่ออไปเะะรรCทท่ีย่ียนี่ส่งLLนเปปรทรรรCงปออไไเเCCลผนน่งแอี่ส่สีะเเแทท่านปปรร2ลผCCงงปป2่ีปยลหง่ง่แแงๆCปะะี้่่าานน22ลี่ยผลผลนลใ4D22ปปาหหๆๆล๒CCนให้้ีีกๆBงลี่ยลีย่รแ7หลล44DDงาาแ5กัน๔้เไนนใใปกก5เ้กBBกงง9ปรรทา77หหก๗5แแ5กกัันนลจร9ำิดไไลยดิ55เ้้เ9ป9ปป๕ททาราา9งกกงกกจจ9รรป90กตลลยยิดิดาปป9น9าา9คอกรงงกกCกก้ั0น0รกกตตนคาาBอ99นนนคคออ7รรรง1CCา้้ัันนDรรอนนBBBอองนน773งง11าาDDD 387 การปกครอง 2475

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 50 เรอ่ื ง การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ๓๘๘ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 7 เร่ือง เหตกุ ารณ์และการเปลี่ยนแปลงสาคัญของการเมืองการปกครองไทย เวลา 1 ชวั่ โมง กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชา สงั คมศกึ ษา ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 3. ครูวาดแผนผังความคิดบนกระดาน ตามหัวข้อและประเด็น ดังตอ่ ไปน้ี การเปล่ยี นแปลงการปกครอง 2475 สภาพสังคมและปัจจัยท่ี ลาดบั เหตกุ ารณ์การ สง่ ผลใหเ้ กิดการ เปล่ียนแปลง เปลย่ี นแปลงการ กลา�ำรดปับกเคหรตอกุ งำร2ณ4์ก7ำ5ร ปกครอง เปลยี่ นแปลงกำรปกครอง ผลทเ่ี กดิ ข้ึนจากการ ๒๕๔๗ เปลย่ี นแปลง การปกครอง 2475 4. นักเรียนส่งตัวแทนกลุ่มจานวน 2 – 3 คน ออกมาเขียนข้อมูลท่ี 38781 ได้จากการวิเคราะห์ตามหวั ขอ้ ท่ีกาหนดใหบ้ นกระดาน 5. ครูสมุ่ นักเรยี นจานวน 2 คน สรุปเหตุการณก์ ารเปลี่ยนแปลงการ ปกครอง 2475 หนา้ ช้ันเรียน 6. ครูสรุปและอธิบายเพิ่มเติมเก่ียวกับเหตุการณ์การเปล่ียนแปลง การปกครอง 2475 ขั้นสรุป 1. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นและอภิปรายถึงความสาคัญ ของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ที่ส่งผลต่อการปกครองของ ไทยในยุคปัจจุบนั โดยครใู ช้แนวคาถามดงั ต่อไปนี้

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 50 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ๓๘๙ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 เรื่อง เหตุการณแ์ ละการเปลี่ยนแปลงสาคัญของการเมืองการปกครองไทย เวลา 1 ช่วั โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา สังคมศกึ ษา ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 1.1 การเปล่ียนแปลงการปกครอง 2475 จากระบอบ สมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นประชาธิปไตยน้ัน นักเรียนคิดว่าเกิดปัญหา อะไรตามมาหรือไม่ อย่างไร 1.2 การเปล่ียนแปลงการปกครอง 2475 นักเรียนคิดว่า ประเทศไทยพร้อมสาหรบั การเปลยี่ นแปลงในครั้งนั้นหรือไม่ อย่างไร 1.3 จากคาถามข้อ 1.1 และ 1.2 นักเรียนจะมีข้อเสนอแนะ อย่างไรเก่ียวกับการเปล่ียนแปลงการปกครอง 2475 (ตามความคิดของ นักเรยี น) 1.4 นักเรียนคิดว่าการเปล่ียนแปลงการปกครอง 2475 ส่งผล กับการปกครองของไทยในยุคปจั จุบันหรือไม่ อย่างไร 2. นกั เรียนสามารถสรุปความรู้จากการเรียนเร่ือง การเปลี่ยนแปลง การปกครอง 2475 โดยครใู ชค้ าถามดงั ตอ่ ไปนี้ 2.1 จากการท่ีนักเรียนได้ทากิจกรรม นักเรียนคิดว่าการ เปลย่ี นแปลงรปู การปกครองจะต้องคานึงถึงปจั จัยใดบา้ ง 2.2 หากมีการคานึงถึงปัจจัยต่างๆ ตามที่นักเรียนตอบมาแล้ว นน้ั จะส่งผลอยา่ งไรกับสังคม 337829


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook