64-08-18-คู่มือครูวิทยาศาสตร์ ม2-3

893 876 ตวั อย่างที่ 1 void setup() { Serial.begin(9600); // เปดิ การอา่ นผา่ น Serial monitor } void loop() { Serial.println(analogRead(A0)); // อา่ นคา่ LDR จากพอร์ต A0 ผา่ น Serial monitor } สาหรับการใช้งานคาส่ังรบั ค่าตัวต้านทานปรบั คา่ ตามแสง LDR ในโปรแกรม Tinkercad สามารถทา ไดต้ ามข้ันตอนดงั ต่อไปนี้ 1. ขอ้ มลู อปุ กรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกสท์ ีใ่ ช้ในการต่อวงจร รูปอุปกรณ์ ชอ่ื อุปกรณ์ ขาสญั ญาณที่ต่อ Arduino Uno/ชนดิ สญั ญาณ Photoresistor A0 Resistor ตามภาพ 2. ตอ่ อปุ กรณ์ดังรปู ที่ 1 รปู ท่ี 1 ภาพแสดงการต่อวงจรประกอบตัวอยา่ งที่ 1 ใน tinkercad.com 3. นาตัวอยา่ ง code ตัวอยา่ งท่ี 1 ไปวางใน Code ---> Text ดังรปู ท่ี 2

894 877 รปู ท่ี 2 ภาพแสดงการนา Code ในตัวอย่างท่ี 1 มาใชใ้ น tinkercad.com ผลการทางานของโปรแกรม : เม่อื โปรแกรมทางานเม่ือเพิ่มค่าแสดง ค่าจาก Serial Monitor กจ็ ะเพ่ิมตาม และเม่ือลดคา่ แสงคา่ สัญญาณกจ็ ะลดลงเช่นกัน 2. เซอรโ์ วมอเตอร์ เซอรโ์ วมอเตอร์ (Servo Motor) เป็นมอเตอร์ท่ีมกี ารควบคุมการเคล่ือนทข่ี องมัน (State) ไม่ว่าจะเปน็ ระยะ ความเรว็ มมุ การหมุน โดยใช้การควบคุมแบบป้อนกลับ (Feedback control) เปน็ อุปกรณ์ทีส่ ามารถ ควบคมุ เครื่องจกั รกล หรือระบบการทางานนั้นๆ ให้เป็นไปตามความต้องการ เชน่ ควบคุมความเร็ว (Speed), ควบคุมแรงบดิ (Torque), ควบคมุ แรงตาแหนง่ (Position), ระยะทางในการเคล่อื นท(ี่ หมุน) (Position Control) ของตวั มอเตอรไ์ ด้ ซ่งึ มอเตอรท์ ่วั ไปไม่สามารถควบคมุ ในลกั ษณะงานเบ้ืองตน้ ได้ โดยให้ผลลัพธ์ตาม ความตอ้ งการท่ีมคี วามแมน่ ยาสงู รูปท่ี 3 ภาพแสดงเซอรโ์ วมอเตอรท์ ่มี ีอย่ทู ั่วไปในท้องตลาด

895 878 โดยปกติท่ัวไปเซอรโ์ วมอเตอร์จะมสี ายสัญญาณกนั อยแู่ ค่ 3 เสน้ ดงั ตารางขา้ งลา่ ง สี ความหมาย นา้ ตาล หรอื ดา เปน็ สาย Ground แดง เปน็ ไฟเลีย้ งอยู่ระหวา่ ง 4.8 – 6.6 V เหลอื ง หรอื ขาว เปน็ สายสัญญาณ หรือ Signal สาหรบั การใช้งาน Tinkercad ในการควบคมุ เซอรโ์ วมอเตอร์ สามารถเขยี น Code ควบคมุ องศามี รูปแบบการเขยี นหลักๆดงั ต่อไปนี้ sv1.write(องศาของมอเตอร)์ ; ตวั อย่างที่ 2 การสง่ั งานเซอร์โวมอเตอร์ #include <Servo.h> // ผนวกไลบราร่ี int s1 = 10; // เปดิ ใช้งาน s1 ท่ีพอร์ต 10 Servo sv1; // ประกาศการใชง้ าน sv1 void setup() { sv1.attach(s1); // เรยี กใชง้ านเตรยี มตอบสนอง sv1 } void loop(){ sv1.write(0); // sv1 ทางานท่ี 0 องศา delay(1000); //หนว่ งเวลา 1 วนิ าที sv1.write(90); // sv1 ทางานท่ี 90 องศา delay(1000); //หนว่ งเวลา 1 วนิ าที sv1.write(180); // sv1 ทางานท่ี 180 องศา delay(1000); //หนว่ งเวลา 1 วนิ าที } สาหรับการใชง้ านคาสงั่ ปรบั องศาของเซอรโ์ วมอเตอร์ ในโปรแกรม Tinkercad สามารถทาไดต้ าม ขน้ั ตอนดงั ตอ่ ไปน้ี

1. ขอ้ มูลอุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ท่ใี ช้ในการต่อวงจร 896 879 รูปอปุ กรณ์ ช่อื อุปกรณ์ ขาสญั ญาณทีต่ ่อ Arduino Uno/ชนดิ สญั ญาณ Micro Servo สสี ม้ ตอ่ ท่ีพอร์ต 10 สีแดงตอ่ ที่ 5V สีน้าตาลตอ่ ท่ี GND 2. ตอ่ อุปกรณด์ งั รปู ท่ี 4 รปู ท่ี 4 ภาพแสดงการต่อเซอร์โวมอเตอรเ์ ขา้ กับบอร์ด Arduino UNO รปู ท่ี 5 ภาพแสดงการนา Code ในตวั อยา่ งที่ 2 มาใช้ใน tinkercad.com ผลการทางานของโปรแกรม : เมือ่ โปรแกรมทางานเซอรโ์ วมอเตอร์จะทางานที่ 0 องศา เป็นเวลา 1 วินาที ถดั ไปจะทางานท่ี 90 องศา เป็นเวลา 1 วินาที และถัดไปก็จะทางานที่ 180 องศา เปน็ เวลา 1 วินาที จะ ทางานอยู่ต่อเน่ืองเพราะเขียนฟังก์ชนั อยใู่ นคาสงั่ loop (การวนซ้า) นนั่ เอง

897 880 3. การประยุกต์ใชง้ านตัวต้านทานปรับค่าตามแสง กับการใช้งานเปิดปดิ ไฟอัตโนมัติ จะมี Code ตัวอยา่ งใน การศึกษาดงั ต่อไปนี้ ตัวอย่างที่ 3 การเขียน Code ในการควบคุมอปุ กรณ์เปดิ ปดิ ไฟอตั โนมัตติ ามค่าแสง void setup() { pinMode(4, OUTPUT); // กาหนดคา่ พอร์ต 4 เปน็ OUTPUT Serial.begin(9600); // เปดิ การอ่านผ่าน Serial monitor } void loop() { int x = analogRead(A0); // กาหนดให้ x เป็นคา่ จานวนเต็มซึ่งรบั คา่ มาจาก A0 Serial.println(x); // อ้านคา่ LDR จากพอรต์ A0 ผา่ น Serial monitor if (x < 500) { // ถา้ ความเขม้ แสงนอ้ ยกว่า 500 digitalWrite(4, HIGH); // หลอด LED ทพ่ี อรต์ 4 จะตดิ } else { // นอกเหนอื จากนน้ั digitalWrite(4, LOW); // หลอด LED ท่พี อรต์ 4 จะดบั } } สาหรับการใช้งานคาสัง่ รับคา่ ตัวตา้ นทานปรับคา่ ตามแสง LDR เม่ือแสงมีคา่ น้อยให้เปิดหลอด LED ใน โปรแกรม Tinkercad สามารถทาได้ตามขัน้ ตอนดังต่อไปน้ี 1. ข้อมลู อปุ กรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ทใ่ี ช้ในการต่อวงจร รูปอุปกรณ์ ช่ืออุปกรณ์ ขาสัญญาณทีต่ ่อ Arduino Uno/ชนดิ สญั ญาณ Photoresistor A0 Resistor ตามภาพ Resistor ตามภาพ ตามภาพ LED

898 881 2. ต่ออปุ กรณ์ดงั รปู ที่ 6 รปู ท่ี 6 ภาพแสดงการต่อวงจรประกอบตวั อยา่ งที่ 3 ใน tinkercad.com 3. นาตัวอยา่ ง code ตัวอย่างท่ี 3 ไปวางใน Code ---> Text ดงั รปู ที่ 7 รูปที่ 7 ภาพแสดงการนา Code ในตวั อยา่ งที่ 3 มาใช้ใน tinkercad.com ผลการทางานของโปรแกรม : เม่อื โปรแกรมทางานเมื่อเพ่มิ ค่าแสง Serial Monitor ก็จะเพมิ่ ตาม และเม่ือลดค่าแสงคา่ สัญญาณก็จะลดลงเชน่ กนั และจะทางานเปิดหลอด LED แบบอัตโนมตั ิเม่อื ก็ต่อเม่ือคา่ แสงมคี า่ น้อยกว่า 500 หากมากกวา่ น้ีหลอด LED จะดบั

899 882 ใบงาน ที่ 14.1 เร่ือง การใชง้ าน LDR และเซอร์โวมอเตอร์ ใน Tinkercad รายช่ือสมาชกิ ในกลุ่มที่............... 1…………………………………………………………………………… หอ้ ง......... เลขท…่ี …… 2…………………………………………………………………………… ห้อง......... เลขที่……… 1. ศกึ ษาใบความรทู้ ี่ 14.1 เรือ่ ง การใช้งาน LDR และเซอร์โวมอเตอร์ ใน Tinkercad 2. ให้นักเรียนอธิบายคุณสมบัตขิ องอุปกรณด์ ังต่อนี้ พร้อมท้ังบอกแนวทางการประยุกต์ใช้งานทีพ่ บเห็นใน ชีวติ ประจาวนั อปุ กรณ์ คณุ สมบัตขิ องอุปกรณ์ การนาไปประยุกต์ใช้ท่พี บเห็น ตัวตา้ นทานปรบั ค่าตามแสง (LDR) เซอร์โวมอเตอร์

900 883 ใบงาน ที่ 14.2 เร่อื ง การนาเสนอ Flowchart และโปรแกรมในการใชท้ างเลอื ก รายชือ่ สมาชกิ ในกลุ่มท่.ี .............. 1…………………………………………………………………………… หอ้ ง......... เลขท…่ี …… 2…………………………………………………………………………… หอ้ ง......... เลขท่ี……… คาชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นออกแบบโฟรลว์ ช์ าร์ต ระบบเทคโนโลยีและการเขยี นโปรแกรมภาษาซี ตามสถานการณท์ ี่ กาหนดให้ พร้อมทง้ั นาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น สถานการณโ์ ปรแกรม : สถาานนกะากราณร์สณม์สมมตมิ ใตหิ ้ใLหD้ RLDเมRื่อเมจื่อกเจับอแกดบั ดแทดี่แดรงทที่แีม่ รคี งา่ทม่มี าีคก่ากมวา่ ก8ก0ว0่าห8ล0ัง0คาหลงั คา อตั โนมตั ทิ ีท่ าจากเซอร์โวจะเล่ือนมาบังแสงแดดให้ที่ตาแหน่ง 180 องศา หากแสงแดดน้อยกวา่ 800 หลังคา อัตโนมัตจิ ะเปิดรบั แสงแดดและเลื่อนกลบั คนื ที่ตาแหนง่ 0 องศา (สาหรบั การต่อขาสัญญาณให้นักเรียนเลือก ตอ่ เอง) Flowchart ระบบเทคโนโลยี โปรแกรมภาษาซี Input Void set up(){ Process } Output Void set loop() { }

901 884 เฉลยใบงาน ที่ 14.1 เรอ่ื ง การใชง้ าน LDR และเซอร์โวมอเตอร์ ใน Tinkercad รายชื่อสมาชกิ ในกลุ่มท.ี่ .............. 1…………………………………………………………………………… ห้อง......... เลขท่…ี …… 2…………………………………………………………………………… หอ้ ง......... เลขที…่ …… 1. ศกึ ษาใบความรู้ที่ 14.1 เรอื่ ง การใชง้ าน LDR และเซอร์โวมอเตอร์ ใน Tinkercad 2. ใหน้ กั เรยี นอธิบายคุณสมบัติของอปุ กรณด์ งั ต่อน้ี พร้อมทง้ั บอกแนวทางการประยุกต์ใช้งานที่พบเห็นใน ชวี ิตประจาวัน อปุ กรณ์ คณุ สมบัตขิ องอุปกรณ์ การนาไปประยกุ ตใ์ ช้ทพ่ี บเห็น ตวั ต้านทานปรบั ค่สามารถเปลี่ยนความนาไฟฟ้าไดเ้ ม่ือมีแสงมา ระบบปิดเปดิ ไฟอัตโนมตั ิตามคา่ แสง คา่ ตามแสง (LDR) ตกกระทบ โฟโตรีซีสเตอร์ ( Photo Resistor) หรือ โฟโตคอนดัคเตอร์ (Photo Conductor) เซอรโ์ วมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ท่มี ีการควบคุมการเคลื่อนที่ของ เปน็ อุปกรณ์ทสี่ ามารถควบคุมเครอื่ งจักรกล มนั (State) ไมว่ ่าจะเปน็ ระยะ ความเร็ว มุม หรอื ระบบการทางานนัน้ ๆ ให้เป็นไปตาม การหมุน โดยใชก้ ารควบคุมแบบปอ้ นกลบั ความต้องการ (Feedback control)

902 885 เฉลยใบงาน ที่ 14.2 เรื่อง การนาเสนอ Flowchart และโปรแกรมในการใชท้ างเลอื ก รายชอ่ื สมาชิกในกลุ่มท่.ี .............. 1…………………………………………………………………………… หอ้ ง......... เลขท่ี……… 2…………………………………………………………………………… หอ้ ง......... เลขท่ี……… คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นออกแบบโฟรลว์ ช์ าร์ต ระบบเทคโนโลยีและการเขียนโปรแกรมภาษาซี ตามสถานการณ์ท่ี กาหนดให้ พร้อมทัง้ นาเสนอหน้าช้นั เรยี น สถานการณโ์ ปรแกรม : สถานกะากราณรณส์ ม์สมมตมิ ใตหิ ้ใLหD้ LRDเมRื่อเเมจอื่ เกจับอแกดบั ดแทด่แี ดรงทท่ีแี่มรีคงา่ทมม่ี าีคก่ากมวา่ ก8ก0ว0่าห8ล0ัง0คาหลังคา อตั โนมตั ิท่ที าจากเซอรโ์ วจะเล่ือนมาบงั แสงแดดให้ท่ีตาแหน่ง 180 องศา หากแสงแดดน้อยกวา่ 800 หลังคา อัตโนมัตจิ ะเปิดรบั แสงแดดและเลอ่ื นกลบั คืนทตี่ าแหนง่ 0 องศา (สาหรบั การต่อขาสญั ญาณให้นักเรยี นเลือก ต่อเอง) Flowchart ระบบเทคโนโลยี โปรแกรมภาษาซี Input Void set up(){ } Process Void set loop() { Output }

903 886 แบบบันทกึ การประเมินผู้เรยี น ด้านความรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 14 เรอื่ ง การใช้งาน LDR และเซอร์โวมอเตอรใ์ น Tinkercad หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 เรื่อง นักออกแบบระบบ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ วิชา เทคโนโลยี 2 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 รายการประเมนิ อธบิ ายรปู แบบการเขียน เลขท่ี ชื่อ-สกลุ โปรแกรมควบคุม LDR และ Servo motor เพ่ือใช้แก้ปัญหาเชิง ระบบ 1 2 3 4 5 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ 4 คะแนน ระดับ 4 ดีมาก (………….…………………………………….) ครูผสู้ อน 3 คะแนน ระดับ 3 ดี 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ 1 คะแนน ระดับ 1 ปรับปรุง *เกณฑ์การผ่าน ระดับ 2 ข้ึนไป

904 887 แบบบันทกึ การประเมินผเู้ รียน ดา้ นทักษะและกระบวนการ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 14 เร่ือง การใชง้ าน LDR และเซอร์โวมอเตอรใ์ น Tinkercad หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่ือง นกั ออกแบบระบบ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ วชิ า เทคโนโลยี 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 เลขท่ี ชอื่ -สกลุ รายการประเมนิ สามารถใชค้ าสัง่ Arduino IDE 1 2 ทป่ี ระยุกต์ใช้กบั 3 LDR และ Servo motor เพื่อ 4 5 ใชแ้ ก้ปญั หาเชงิ ระบบ เกณฑ์การให้คะแนน ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมิน 4 คะแนน ระดับ 4 ดีมาก (………….…………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี ครูผู้สอน 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ 1 คะแนน ระดับ 1 ปรับปรงุ *เกณฑ์การผา่ น ระดับ 2 ขน้ึ ไป

905 888 แบบบนั ทึกการประเมินผเู้ รยี น ด้านคุณลักษณะ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 14 เรื่อง การใชง้ าน LDR และเซอร์โวมอเตอร์ใน Tinkercad หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เรอื่ ง นกั ออกแบบระบบ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ วิชา เทคโนโลยี 2 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 รายการประเมนิ มีเจตคตทิ ี่ดี เลขท่ี ชื่อ-สกลุ ต่อการ มีความ ซอ่ื สัตย์ มงุ่ มั่นในการ ทางานเปน็ ออกแบบ รบั ผดิ ชอบ ทางาน ทมี และเขียน โปรแกรม 1 2 3 4 5 เกณฑ์การให้คะแนน ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ 4 คะแนน ระดับ 4 ดมี าก (………….…………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี ครผู ู้สอน 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ 1 คะแนน ระดับ 1 ปรับปรงุ *เกณฑ์การผา่ น ระดับ 2 ขึน้ ไป

906 แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 15 เรื่อง การใช้งานโมดูล Ultrasonic และTemp ใน Tinkercad ด หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 เร่ือง นักออกแบบระบบ เวลา 2 ช่ัวโมง กลุม่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ รายวิชา เทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ขอบเขตเนอ้ื หา กิจกรรมการเรยี นรู้ สื่อ/แหลง่ เรียนรู้ 1. การเขียนโปรแกรมควบคุมโมดูล Ultrasonic ขั้นนา - เวบ็ ไซต์จาลองระบบ Tinkercad และ Temp ใน Tinkercad 1. ครูใหน้ ักเรยี นรว่ มกนับทบทวนความรู้เดิมจากการเรยี นใน www.tinkercad.com 2. การประยกุ ตใ์ ช้โปรแกรมเพ่ือใช้แก้ปัญหาเชิง ช่วั โมงทผ่ี ่านมา - คลิปวีดโี อเรือ่ งหุ่นยนต์เคล่ือนท่ีหลบหลกี สง่ิ กีด ระบบ 2. นกั เรยี นดูวดี โิ อหุน่ ยนตเ์ คล่อื นทห่ี ลบหลีกสิ่งกีดขวาง และ ขวางตามลงิ ค์ รว่ มกนั คดิ วิเคราะหเ์ ก่ียวกบั การทางานของหนุ่ ยนตน์ ั้นวา่ มีการ https://www.youtube.com/watch?v=VcDK3V จุดประสงค์การเรยี นรู้ ทการงทาน�ำ งอายน่าองยไา่รงไมรีอมุปอี กุปรกณรท์ณสี่ ์ทาี่สค�ำ ญัคญัอะอไะรไบรบ้า้างง FL1W0 ด้านความรู้ ขน้ั สอน - ใบความรทู้ ่ี 15 เรือ่ ง การเขียนโปรแกรมควบคุม 1. อธบิ ายรูปแบบการเขยี นโมดูล Ultrasonic และ 1. ครแู นะนาการใช้งานโมดูล Ultrasonic และ Temp ใน โมดลู Ultrasonic และ Temp ใน Tinkercad Temp เพ่ือใชแ้ กป้ ญั หาเชิงระบบ Tinkercad และสาธติ วธิ ีการใช้งานเบอ้ื งต้น ภาระงาน/ช้นิ งาน ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ 2. นักเรียนปฏิบตั ิตามและทดลองเขยี นคาสั่งควบคุม - ใบงานที่ 15.1 เรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมควบคุม โมดลู Ultrasonic และ Temp 1. สามารถใช้คาสั่ง Arduino IDE ท่ีประยุกตใ์ ช้กบั 3. นักเรียนศึกษาใบความรู้ท่ี 15 เรอ่ื ง การเขยี น โปรแกรมควบคุมโมดลู Ultrasonic และ Temp ใน Tinkercad - ใบงานท่ี 15.2 การนาเสนอ Flowchart ในการ โมดลู Ultrasonic และ Temp เพื่อใชแ้ ก้ปญั หาเชิง ระบบ ตามส่อื ท่ีครูนาเสนอประมาณ 15 – 20 นาที เขียนโปรแกรมควบคมุ โมดลู Ultrasonic และ 4. ครูและนักเรียนรว่ มอภปิ รายจากเนอื้ หาทน่ี กั เรยี นศึกษา Temp 5. นักเรยี นจับคู่ ทาใบงานที่ที่ 15.1 เรอ่ื ง การเขยี น สถานท:่ี ห้องคอมพิวเตอร์ โปรแกรมควบคุมโมดลู Ultrasonic และ Temp ใน Tinkercad 6. นักเรียนนาเสนอ ใบงานท่ี 15.2 เร่อื ง การเขยี น 889

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 15 เร่ือง การใช้งานโมดูล Ultrasonic และTemp ใน Tinkercad ด 907 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรือ่ ง นกั ออกแบบระบบ เวลา 2 ชว่ั โมง ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ รายวชิ า เทคโนโลยี โปรแกรมควบคุมโมดลู Ultrasonic และ Temp (อาจสุ่ม ด้านคุณลักษณะ นาเสนอหนา้ ช้นั เรียน เพือ่ ให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ แลกเปลย่ี น 1. มเี จตคตทิ ่ดี ีตอ่ การออกแบบและเขยี นโปรแกรม เรียนรกู้ นั ) 2. มคี วามรบั ผิดชอบ ซื่อสัตยแ์ ละม่งุ ม่นั ในการ ข้ันสรุป ทางานเป็นทีม 1. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรุปเน้อื หาร่วมกัน 2. นักเรียนสรุปและบันทึกเนื้อหาการเรียนรทู้ ี่สาคญั ลงในสมุด เรียน 890

908 891 การวัดและประเมนิ ผล สิง่ ทีต่ ้องการวดั วธิ ีการ เครือ่ งมอื ทีใ่ ช้ เกณฑ์ 1. ด้านความรู้ (K) 1. การเขยี น ใบงานท่ี 15.1 เรอื่ ง การ - แบบประเมินการคิด - นักเรยี นทุกคนผา่ น โปรแกรมควบคุมโมดูล เกขายี รนเขโยี ปนรโแปกรรแมกครมวคบวคบุมคมุ วจิ ารณญาณ เกณฑ์ไมต่ ่ากวา่ ร้อย Ultrasonic และ Temp ใน โมดูล Ultrasonic และ - แบบสงั เกตพฤติกรรม ละ 80 Tinkercad Temp - แบบประเมินการคิด 2. การประยกุ ตใ์ ช้โปรแกรม - ใบงานที่ 15.2 การ วเิ คราะห์ เพื่อใชแ้ ก้ปัญหาเชิงระบบ นกาารเสนน�ำ เอสนFอloFwlocwhachrtart - แบบประเมนิ ผงั มโนทัศน์ - แบบประเมินการทางาน กลมุ่ 2. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) - สังเกตพฤติกรรมการ - แบบประเมินผลดา้ น - นกั เรยี นทกุ คนผา่ น 1. ทักษะในการทางาน เกราียรนเรรียู้ขนอรงู้ขนอักงนเรักียเนรยี น กระบวนการเรียนรเู้ ทียบ เกณฑ์ไมต่ ่ากว่ารอ้ ย ร่วมกัน กบั เกณฑ์ ละ 80 2. ทักษะการคดิ วิเคราะห์ 3. ทกั ษะการสื่อสาร 4. ทักษะการคิดอย่างมี วิจารณญาณ 5. ทกั ษะความคิดสร้างสรรค์ 3. ดา้ นคณุ ลักษณะ (A) - สังเกตพฤติกรรมของ - แบบประเมนิ ผล - นกั เรยี นทุกคนผ่าน 1. ซ่ือสตั ยส์ จุ รติ นักเรยี น ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ เกณฑ์ไม่ต่ากวา่ รอ้ ย 2. มีวนิ ยั ประสงค์เทยี บกบั เกณฑ์ ละ 80 3. ใฝเ่ รยี นรู้ 4. ม่งุ มัน่ ในการทางาน

909 892 8. บันทกึ ผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอปุ สรรค .................................................................................................................................................................... ...... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ............................................................................................. .............................................................................. ลงชื่อ ......................................ผูส้ อน (.......................................................) วันที.่ .....เดอื น...............................พ.ศ............. 9. ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรอื ผู้ท่ไี ด้รับมอบหมาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงช่ือ ......................................ผตู้ รวจ (.......................................................) วันที.่ .....เดือน...............................พ.ศ.............

910 893 ใบความรู้ที่ 15 เรือ่ ง การเขียนโปรแกรมควบคมุ โมดลู Ultrasonic และ Temp สาหรับการใช้งานโปรแกรม Tinkercad ในเน้ือหานี้ นักเรียนจะประยุกต์การใช้กับอุปกรณ์ 2 ชนิด คือ Ultrasonic และTemp(ตัววัดอุณหภูมิ) เพ่ือให้เกิดการใช้งานอย่างหลากหลาย ก่อนเข้าสู่ข้ันตอนการ กออารกอแอบกบแเบชงิบวเิศชิงววกิศรวรกมรตร่อมไปตอ่ ดไปังรดายังรลาะยเอลยีะดเอตีย่อดไตปอ่นไ้ี ปนี้ Ultrasonic Ultrasonic หมายถึง คล่ืนเสยี งที่มีความถ่สี ูงเกินกวา่ ท่ีหูมนุษย์จะได้ยินโดยปกตแิ ลว้ หูมนุษย์เราจะได้ ยนิ คล่ืนเสียงทีม่ ียา่ นความถี่ระหว่าง 20 เฮิรตซ์ -20 กิโลเฮิรตซ์ (20,000 เฮริ ตซ์) โดยประมาณ คล่ืนท่ีมีความถ่ี มากกว่านห้ี รือต่ากวา่ น้ี หูเราจะไมไ่ ด้ยนิ และคลื่นทีม่ ีความถ่เี ท่ากับ 18 กิโลเฮริ ตซ์หรือมากกว่านั้น เราจะเรยี ก คลื่นประเภทน้ีว่า “คลื่นอัลตร้าโซนิค” (Ultrasonic Wave) โดยคาว่า “อัลตร้า” น้ันหมายความว่า พ้นขีด หรือเกิน และ “โซนิค” คือเสียง กล่าวรวมคือ คลื่นท่ีมีความถ่ีเกินขอบเขตของเสียงของมนุษย์ที่จะได้ยิน หาก ต่ากว่าย่านท่ีมนุษย์ได้ยิน เราเรียกมันว่า \"infrasounds\" หรือคล่ืนอินฟราโซนิค (Infrasonic Wave) ส่ิงมีชีวิต ในโลกนี้ มปี ระสาทการรบั รขู้ องคลื่นเสียงท่ไี มเ่ หมอื นกัน ดไู ดจ้ ากภาพด้านลา่ งเปน็ ตน้ รูปท่ี 1 ภาพแสดงการช่วงคล่ืนความถเ่ี สียงของสิ่งมีชวี ติ ทีไ่ ด้ยิน โมดลู อัลตรา้ โซนคิ เปน็ โมดูลท่นี ิยมนามาวัดระยะทางด้วยเสียง ซง่ึ โมดลู HC-SR04 จะมีขาสญั ญาณ ดังรูปและตารางขา้ งล่าง รูปที่ 2 ภาพโมดูลอัลตรา้ โซนิคโมเดล HC-SR04

911 894 ชอื่ พอรต์ Vcc Trig Echo GND ขอ้ มูล รับสญั ญาณไฟเล้ียง เป็นขาที่ใชก้ าเนิด เป็นขาทใี่ ช้รบั ใช้ตอ่ กบั GND ของ 5 Vdc สัญญาณคล่ืนเสียง สญั ญาณคลืน่ เสยี ง Arduino UNO รปู ที่ 3 ภาพการทางานของอัลตราโซนิคเม่อื คลนื่ สะท้อนกับผนงั สาหรับการใช้ Tinkercad รบั และสง่ ค่าจากโมดลู HC-SR04 สามารถสรา้ งเขยี น Code ไดต้ ามตวั อย่างที่ 1 ตวั อยา่ งที่ 1 การวดั ระยะทางผ่านอลั ตร้าโซนิค int pingPin = 10; // ให้ pingPin เป็นขา 10 ตอ่ กับ Trig int inPin = 11; // ให้ inPin เป็นขา 11 ตอ่ กบั Echo void setup() { Serial.begin(9600); } void loop() { long duration, cm; pinMode(pingPin, OUTPUT); digitalWrite(pingPin, LOW); delayMicroseconds(2); digitalWrite(pingPin, HIGH); delayMicroseconds(5); digitalWrite(pingPin, LOW); pinMode(inPin, INPUT); duration = pulseIn(inPin, HIGH); cm = microsecondsToCentimeters(duration); Serial.print(cm); Serial.print(\"cm\"); Serial.println(); delay(100); } long microsecondsToCentimeters(long microseconds) { return microseconds / 29 / 2; }

912 895 สาหรบั การใชง้ านคาสั่งวัดระยะทางในโมดลู Ultrasonic Distance sensor สามารถทาไดต้ าม ขน้ั ตอนดังตอ่ ไปนี้ 1. ข้อมูลอปุ กรณ์อเิ ล็กทรอนิกสท์ ี่ใช้ในการต่อวงจร รูปอปุ กรณ์ ชือ่ อุปกรณ์ ขาสัญญาณทีต่ ่อ Arduino Uno/ชนิดสญั ญาณ พอรต์ Vcc ต่อเข้ากบั 5V Ultrasonic พอร์ต Trig ตอ่ เข้ากบั พอรต์ 10 Distance sensor พอรต์ Echo ตอ่ เขา้ กบั พอรต์ 11 พอรต์ GND ต่อเขา้ กบั พอรต์ GND 2. ตอ่ อุปกรณด์ งั รปู ที่ 4 รปู ที่ 4 ภาพแสดงการต่อวงจรประกอบตัวอยา่ งที่ 1 ใน tinkercad.com

913 896 3. นาตวั อยา่ ง code ตัวอย่างท่ี 1 ไปวางใน Code ---> Text ดังรปู ที่ 5 รูปท่ี 5 ภาพแสดงการนา Code ในตวั อยา่ งที่ 1 มาใชใ้ น tinkercad.com ผลการทางานของโปรแกรม : เม่ือโปรแกรมเมื่อลากจุดวงกลมที่อยู่ในบรเิ วณสีเขยี วท่ีอัลตรา้ โซนิคสง่ คลนื่ ถงึ ก็ จะปรากฎฏระยะห่างท่ี Serial Monitor 2. Temp เป็นโมดลู ที่ใชว้ ัดอุณหภมู ิ (Temperature) ซง่ึ หมายถึง การวดั ค่าเฉลี่ยของพลังงานจลนซ์ ึ่งเกิดขึ้นจาก อะตอมแต่ละตวั หรือแต่ละโมเลกลุ ของสสาร เมื่อเราใส่พลังงานความร้อนใหก้ ับสสาร อะตอมของมนั จะ เคลอ่ื นท่ีเร็วขนึ้ ทาใหอ้ ุณหภูมิสูงขนึ้ เราสามารถเปล่ียนหน่วยของอุณหภมู ิได้จากตารางขา้ งลา่ ง Tmp-36 เป็น Sensor ที่ใช้วัดอุณหภมู ิสามารถใชก้ บั บอรด์ Arduino UNO ได้ โดยใช้สญั ญาณ อะนาล็อกในการรับค่าอุณหภูมิมาแปรผล

914 897 รูปที่ 6 ภาพแสดง Sensor วดั อณุ หภมู ิ Tmp-36 โดยปกตทิ ว่ั ไป Tmp-36 จะมีขาสัญญาณด้วยกนั อยู่ 3 ขา ดังตารางข้างลา่ ง ขา การต่อเข้ากับสมองกลฝงั ตวั Gnd ต่อเขา้ กับ GND Vout ตอ่ เข้ากับสญั ญาณ Analog Vs ตอ่ เขา้ กับไฟ 5V สาหรบั การใชง้ าน Tinkercad ในการใชง้ าน Sensor วัดอุณหภมู ิ สามารถเขยี น Code โดยมรี ูปแบบ การเขียนดงั ต่อไปน้ี ตวั อย่างที่ 2 การเขียนโปรแกรมรับค่าอณุ หภูมจิ าก Tmp-36 void setup() { Serial.begin(9600); } void loop() { int reading = analogRead(A0); float voltage = reading * 5.0; voltage /= 1024.0; Serial.print(voltage); Serial.print(\" volts \"); float temperatureC = (voltage - 0.5) * 100 ; Serial.print(temperatureC); Serial.print(\" degrees C \"); float temperatureF = (temperatureC * 9.0 / 5.0) + 32.0; Serial.print(temperatureF); Serial.println(\" degrees F \"); delay(1000); }

915 898 สาหรับการใชง้ านคาส่ัง Sensor วัดอณุ หภูมิ Tmp-36 ในโปรแกรม Tinkercad สามารถทาได้ตาม ขนั้ ตอนดังต่อไปน้ี 1. ข้อมลู อปุ กรณ์อิเล็กทรอนิกสท์ ี่ใชใ้ นการต่อวงจร รปู อปุ กรณ์ ชอ่ื อุปกรณ์ ขาสญั ญาณที่ต่อ Arduino Uno/ชนดิ สัญญาณ Gnd ตอ่ เข้ากับ GND Temperature Vout ต่อเข้ากับ A0 Vs ตอ่ เขา้ กบั ไฟ 5V Sensor(Tmp36) 2. ตอ่ อปุ กรณด์ ังรูปท่ี 7 รูปที่ 7 ภาพแสดงการต่อเซอร์โวมอเตอร์เข้ากับบอรด์ Arduino UNO

916 899 รูปที่ 8 ภาพแสดงการนา Code ในตวั อย่างที่ 2 มาใชใ้ น tinkercad.com ผลการทางานของโปรแกรม : เม่อื โปรแกรมทางาน ใหเ้ ลอ่ื นอุณหภมู ิ (ในกรอบสีแดงตามรปู ท่ี 8)ไปมา เปรียบเสมือนกับมีการเปลี่ยนแปลงอณุ หภูมิ หลงั จากนน้ั ก็สังเกตค่าท่ี Serial Monitor ที่เปลี่ยนตาม 3. การประยุกต์ใช้งาน Sensor วดั อณุ หภมู ิกบั การแจง้ เตือนความร้อนอัตโนมตั ิ จะมี Code ตวั อย่างใน การศกึ ษาดงั ต่อไปนี้ ตัวอยา่ งท่ี 3 การเขยี น Code ในการควบคุมการแจง้ เตอื นความร้อนดว้ ยเสียง void setup() { Serial.begin(9600); } void loop() { int reading = analogRead(A0); float voltage = reading * 5.0; voltage /= 1024.0; Serial.print(voltage); Serial.print(\" volts \"); float temperatureC = (voltage - 0.5) * 100 ; Serial.print(temperatureC); Serial.print(\" degrees C \"); float temperatureF = (temperatureC * 9.0 / 5.0) + 32.0; Serial.print(temperatureF); Serial.println(\" degrees F \"); if (temperatureC>80){tone(9,500,100);} delay(100); }

917 900 สาหรบั การใชง้ านระบบแจง้ เตือนอุณหภมู ิ ในโปรแกรม Tinkercad สามารถทาได้ตามขั้นตอน ดังตอ่ ไปนี้ 1. ขอ้ มลู อปุ กรณ์อิเลก็ ทรอนิกสท์ ใี่ ช้ในการต่อวงจร รปู อปุ กรณ์ ชื่ออุปกรณ์ ขาสัญญาณท่ตี ่อ Arduino Uno/ชนดิ สญั ญาณ Temperature Gnd ตอ่ เข้ากับ GND Sensor(Tmp36) Vout ตอ่ เข้ากับ A0 Vs ต่อเข้ากับไฟ 5V Peizo ตามภาพ 2. ต่ออุปกรณ์ดงั รปู ท่ี 9 รปู ท่ี 9 ภาพแสดงการตอ่ วงจรประกอบตวั อย่างท่ี 3 ใน tinkercad.com

918 901 3. นาตัวอยา่ ง code ตวั อยา่ งท่ี 3 ไปวางใน Code ---> Text ดังรปู ที่ 10 รูปที่ 10 ภาพแสดงการนา Code ในตวั อยา่ งท่ี 3 มาใชใ้ น tinkercad.com ผลการทางานของโปรแกรม : เมอื่ โปรแกรมทางานเม่ืออุณหภูมิมคี า่ มากกว่า 50 องศาเซลเซียลจะมีเสยี ง เตือนข้ึนมาที่ลาโพงเปยี โซและถา้ หากอุณหภมู ติ ัง้ แต่ 50 องศาเซลเซยี สลงมาเสยี งเตือนก็จะดบั ลง

919 902 ใบงาน ที่ 15.1 เรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมควบคมุ โมดูล Ultrasonic และ Temp รายชอ่ื สมาชกิ ในกลุ่มท.่ี .............. 1…………………………………………………………………………… หอ้ ง......... เลขท…ี่ …… 2…………………………………………………………………………… ห้อง......... เลขท…่ี …… 1. ศกึ ษาใบความรู้ที่ 15 เร่อื ง การเขียนโปรแกรมควบคมุ โมดูล Ultrasonic และ Temp 2. ใหน้ ักเรียนอธบิ ายคุณสมบัตขิ องอปุ กรณ์ดงั ต่อน้ี พร้อมทง้ั บอกแนวทางการประยุกต์ใช้งานในอนาคต อปุ กรณ์ คุณสมบัติของอุปกรณ์ การนาไปประยุกต์ใช้ Ultrasonic (SC-SR04) Temp Module (Tmp-36)

920 903 ใบงาน ที่ 15.2 เรือ่ ง การนาเสนอ Flowchart และโปรแกรม รายช่อื สมาชกิ ในกลุ่มที.่ .............. 1…………………………………………………………………………… หอ้ ง......... เลขท…่ี …… 2…………………………………………………………………………… ห้อง......... เลขท่…ี …… คาชแ้ี จง : ใหน้ ักเรียนวาดภาพรา่ ง ออกแบบโฟรลว์ ช์ าร์ต ระบบเทคโนโลยแี ละการเขยี นโปรแกรมภาษาซี ตาม สถานการณ์ทก่ี าหนดให้ พรอ้ มทง้ั นาเสนอหน้าชั้นเรยี น สถานการณโ์ ปรแกรม : ใหน้ ักเรยี นออกแบบการเขียนโปรแกรมเครื่องวัดความสูงของนักเรยี นจะออกแบบ อยา่ งไร เมอ่ื กาหนดให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพยี งแคเ่ คร่ืองคอมพิวเตอร์ และ Ultrasonic(HC-SR04) 1. วาดภาพร่างของระบบเคร่ืองวัดความสงู 2. อธิบายภาพร่างอยา่ งคร่าวๆ

921 904 3. เติมข้อมูลของโฟรลว์ ช์ าร์ต ระบบเทคโนโลยี และการเขยี นโปรแกรมภาษาซลี งในตารางให้เรียบรอ้ ย Flowchart ระบบเทคโนโลยี โปรแกรมภาษาซี Input Void set up(){ Process } Output Void set loop(){ }

922 905 เฉลยใบงาน ที่ 15.1 เรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมควบคมุ โมดลู Ultrasonic และ Temp รายชอื่ สมาชกิ ในกลุ่มท.ี่ .............. 1…………………………………………………………………………… ห้อง......... เลขที่……… 2…………………………………………………………………………… หอ้ ง......... เลขที…่ …… 1. ศึกษาใบความรทู้ ี่ 15 เร่ือง การเขยี นโปรแกรมควบคมุ โมดลู Ultrasonic และ Temp 2. ใหน้ กั เรยี นอธิบายคุณสมบัติของอุปกรณ์ดงั ต่อน้ี พร้อมทั้งบอกแนวทางการประยุกตใ์ ช้งานในอนาคต อปุ กรณ์ คุณสมบตั ขิ องอปุ กรณ์ การนาไปประยกุ ต์ใช้ Ultrasonic อปุ กรณ์ตรวจวัดระยะห่างของวตั ถุ โดยใช้ วัดระยะหา่ งของวตั ถุ วัดความลกึ ของ (SC-SR04) คณุ สมบตั ิของคลน่ื อัลตรา้ โซนิก ทะเล Temp Module อุปกรณว์ ดั อุณหภูมิ วดั อณุ หภูมภิ ายนอกตามทีต่ ้องการ (Tmp-36)

923 906 เฉลยใบงาน ที่ 15.2 เรื่อง การนาเสนอ Flowchart และโปรแกรม รายชื่อสมาชิกในกลุ่มท่.ี .............. 1…………………………………………………………………………… ห้อง......... เลขท่ี……… 2…………………………………………………………………………… ห้อง......... เลขท…ี่ …… คาชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นวาดภาพรา่ ง ออกแบบโฟรลว์ ช์ าร์ต ระบบเทคโนโลยีและการเขยี นโปรแกรมภาษาซี ตาม สถานการณ์ท่กี าหนดให้ พร้อมท้ังนาเสนอหน้าชนั้ เรียน สถานการณ์โปรแกรม : ใหน้ ักเรยี นออกแบบการเขยี นโปรแกรมเครื่องวดั ความสูงของคนนกั เรยี นจะออกแบบ อยา่ งไร เมือ่ กาหนดให้ใช้อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์เพยี งแคเ่ คร่ืองคอมพวิ เตอร์ และ Ultrasonic(HC-SR04) 1. วาดภาพร่างของระบบเครื่องวัดความสงู 2. อธบิ ายภาพรา่ งอย่างคร่าวๆ

924 907 3. เติมข้อมูลของโฟรลว์ ช์ าร์ต ระบบเทคโนโลยี และการเขยี นโปรแกรมภาษาซลี งในตารางให้เรียบรอ้ ย Flowchart ระบบเทคโนโลยี โปรแกรมภาษาซี Input Void set up(){ Process } Void set loop(){ Output }

925 908 แบบบนั ทกึ การประเมนิ ผูเ้ รียน ด้านความรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 15 เรอื่ ง การใชง้ านโมดูล Ultrasonic และTemp ใน Tinkercad หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง นักออกแบบระบบ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ วชิ า เทคโนโลยี 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 เลขท่ี ชอ่ื -สกลุ รายการประเมิน 1 อธบิ ายรปู แบบการเขียนโมดลู Ultrasonic 2 และ Temp เพ่ือใช้แกป้ ัญหาเชิงระบบ 3 4 5 เกณฑ์การให้คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน 4 คะแนน ระดับ 4 ดีมาก (………….…………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี ครผู ้สู อน 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ 1 คะแนน ระดับ 1 ปรบั ปรุง *เกณฑ์การผ่าน ระดับ 2 ข้ึนไป

926 909 แบบบันทึกการประเมินผเู้ รยี น ด้านทักษะและกระบวนการ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 15 เรอื่ ง การใช้งานโมดลู Ultrasonic และTemp ใน Tinkercad หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 เร่ือง นกั ออกแบบระบบ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ วชิ า เทคโนโลยี 2 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2 เลขท่ี ชือ่ -สกลุ รายการประเมนิ สามารถใช้คาสั่ง Arduino IDE ที่ประยุกต์ใช้กบั 1 โมดลู Ultrasonic และ Temp เพ่ือใช้แกป้ ญั หา 2 3 เชิงระบบ 4 5 ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมิน (………….…………………………………….) เกณฑ์การให้คะแนน ครูผสู้ อน 4 คะแนน ระดับ 4 ดีมาก 3 คะแนน ระดับ 3 ดี 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ 1 คะแนน ระดับ 1 ปรับปรุง *เกณฑ์การผ่าน ระดับ 2 ข้ึนไป

927 910 แบบบันทกึ การประเมนิ ผ้เู รียน ดา้ นคณุ ลกั ษณะ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 15 เรอ่ื ง การใช้งานโมดลู Ultrasonic และTemp ใน Tinkercad หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เร่ือง นกั ออกแบบระบบ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ วิชา เทคโนโลยี 2 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 2 รายการประเมนิ มีเจตคตทิ ี่ดี เลขที่ ชือ่ -สกลุ ต่อการ มคี วาม ซ่อื สตั ย์ มุ่งม่นั ใน ทางานเปน็ ออกแบบ รบั ผิดชอบ การทางาน ทมี และเขียน โปรแกรม 1 2 3 4 5 เกณฑ์การให้คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมนิ 4 คะแนน ระดับ 4 ดมี าก (………….…………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี ครผู ูส้ อน 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ 1 คะแนน ระดับ 1 ปรับปรงุ *เกณฑ์การผ่าน ระดบั 2 ขน้ึ ไป

928 911 ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ วศิ วกรนอ้ ย หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 รหัสวชิ า ว22103 รายวชิ า เทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2562 เวลา ๑๐ ชัว่ โมง 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวัด สาระ 4 เทคโนโลยี มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดารงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อ่ืนๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือ พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่าง เหมาะสมโดยคานึงถงึ ผลกระทบต่อชวี ิต สังคม และส่ิงแวดลอ้ ม ตวั ชวี้ ัด ว 4.1 ม.2/2 ระบุปัญหาหรือความต้องการในชุมชนหรือท้องถ่ิน สรุปกรอบของปัญหา รวบรวม วิเคราะห์ขอ้ มูลและแนวคิดท่ีเกย่ี วข้องกับปัญหา ว 4.1 ม.2/3 ออกแบบวธิ กี ารแกป้ ัญหา โดยวิเคราะห์เปรยี บเทยี บ และตัดสินใจเลอื กขอ้ มลู ที่จาเป็น ภายใต้เง่ือนไขและทรัพยากรทมี่ ีอยู่ นาเสนอแนวทางการแก้ปญั หาให้ผอู้ ืน่ เขา้ ใจ วางแผนข้นั ตอนการทางาน และดาเนินการแกป้ ญั หาอยา่ งเป็นข้ันตอน ว 4.1 ม.2/4 ทดสอบ ประเมนิ ผล และอธบิ ายปญั หาหรือขอ้ บกพรอ่ งท่เี กิดขนึ้ ภายใตก้ รอบเงอื่ นไข พรอ้ มท้ังหาแนวทางการปรบั ปรุงแก้ไข และนาเสนอผลการแก้ปัญหา ว 4.1 ม.2/5 ใช้ความรแู้ ละทกั ษะเก่ยี วกบั วสั ดุอปุ กรณเ์ ครือ่ งมือ กลไก ไฟฟ้า และอเิ ล็กทรอนกิ ส์เพื่อ แกป้ ัญหาหรอื พัฒนางานไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม และปลอดภัย 2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด 2.1 วัสดุแต่ละประเภทมีสมบัติแตกต่างกัน เช่น ไม้ โลหะ พลาสติก จึงต้องมีการวิเคราะห์สมบัติเพ่ือ เลือกใชใ้ ห้เหมาะสมกบั ลกั ษณะของงาน 2.2 การสรา้ งช้ินงานอาจใชค้ วามรเู้ รื่องกลไก เชน่ เฟือง รอก ล้อ เพลา 2.3 อปุ กรณ์และเครอื่ งมือในการสรา้ งช้นิ งานหรือพฒั นาวธิ ีการมหี ลายประเภท ต้องเลือกใช้ให้ถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภยั รวมทั้งรู้จกั เก็บรักษา 3. สาระการเรียนรู้ ความรู้ 1. กระบวนการเทคโนโลยี 2. ววิ ัฒนาการของเทคโนโลยี

929 912 ทกั ษะ/กระบวนการ 1. ทกั ษะกระบวนการคดิ วิเคราะห์ 2. ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา 3. ทักษะกระบวนการสืบค้น 4. ทกั ษะกระบวนการนาเสนอ 5. ทักษะกระบวนการสรา้ งเจตคติ เจตคติ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน 4.สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ซือ่ สตั ยส์ ุจรติ 2. มีวนิ ยั 3. ใฝ่เรยี นรู้ 4. มงุ่ มั่นในการทางาน 5. การประเมนิ ผลรวบยอด 6. การประเมนิ ผลรวบยอด ชนิ้ งานหรือภาระงาน - ใบงานที่ 16.1 กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมสาหรับแขนกล - ใบงานที่ 17.1 ทดลองต่อวงจรไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนิกส์ - ใบงานที่ 17.2 การเลอื กใช้เคร่ืองมือชา่ งท่ีเหมาะสมกับลักษณะของงาน - ใบงานที่ 17.3 ความปลอดภัยในการปฏบิ ตั งิ าน - ใบงานที่ 18.1 เร่อื ง ออกแบบแขนกลด้วยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม - ใบงานที่ 18.2 เรอ่ื ง จาลองระบบแขนกลด้วย tinkercad หรอื micro:bit - ใบงานท่ี 19 เร่อื ง การสรา้ งแขนกลอย่างง่าย

930 913 เกณฑ์การประเมินผลช้นิ งานหรอื ภาระงาน เกณฑ์การให้คะแนนช้นิ งานด้วยการวดั และประเมนิ ตามสภาพจริง ประเด็นการประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 32 เกณฑ์การประเมินดา้ นความรู้ กระบวนการเทคโนโลยี อธบิ ายระบบ อธบิ ายระบบ และ อธบิ ายระบบ และ บอกระบบ และ กระบวนการ กระบวนการ กระบวนการ กระบวนการ เทคโนโลยไี ด้ เทคโนโลยีได้ เทคโนโลยีได้ เทคโนโลยีได้ ครบถว้ น และ ครบถว้ น บางสว่ น แสดงแผนภาพ ระบบ กระบวนการ เทคโนโลยีได้ ววิ ัฒนาการของ อธบิ าย อธบิ ายววิ ฒั นาการ อธิบายววิ ัฒนาการ บอกวิวัฒนาการ เทคโนโลยี วิวัฒนาการของ ของเทคโนโลยไี ด้ ของเทคโนโลยีได้ ของเทคโนโลยีได้ เทคโนโลยีได้ และการเลือกใช้ได้ เลอื กใช้ไดอ้ ยา่ ง อยา่ งเหมาะสม เหมาะสม และ อธิบาย ผลกระทบของ เทคโนโลยีได้ เกณฑ์การประเมนิ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ ระบเุ ร่อื งหรือ ระบุเร่อื งหรือปัญหา ระบเุ รอื่ งหรือปัญหา ระบุและจาแนก อ้างอิง ทักษะการคดิ ปญั หา การ การจาแนกแยกแยะ การจาแนกแยกแยะ เรื่องหรือปัญหา วเิ คราะห์ (2548:5) กจาารแจน�ำ แกนแกยแกยแกยแะยะ การเปรียบเทียบ การเปรยี บเทยี บ ได้ สพฐ. การเปรียบเทยี บ ข้อมูลอื่นๆ และ ข้อมลู ได้ ข้อมูลอื่นๆ ตรวจสอบขอ้ มูล ตรวจสอบขอ้ มลู อยา่ งชานาญ อย่างชานาญ และหาข้อมลู เพิ่มเติมเพ่ือให้ และแมน่ ยา

931 914 ประเดน็ การประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 ทักษะกระบวนการ เพียงพอแกก่ าร 32 ระบุปญั หาและ แก้ปัญหา ความตอ้ งการได้ ตัดสนิ ใจ ทักษะกระบวนการ กาหนด สบื คน้ ระบุปัญหา ระบุปญั หา ความ ระบปุ ญั หา ความ จดุ ประสงค์การ ความตอ้ งการ ต้องการ สืบคน้ ต้องการ และสบื ค้น กสาบื รคสน้ ืบขค้อนมขลู้อไมดูล้ ได้ ทักษะกระบวนการ สบื ค้นข้อมลู ท่ี ขอ้ มูลที่เกี่ยวข้องกับ ข้อมลู ที่เกยี่ วข้องกบั อย่างชัดเจน นาเสนอ เกี่ยวข้องกับ ปัญหา และ ปัญหาได้ พูดบรรยาย ปญั หา ออกแบบ ออกแบบวาง อธบิ าย ส่ือสาร วางแผนการ แผนการแก้ปัญหาได้ ให้ผู้อน่ื เขา้ ใจ แกป้ ญั หา และ เนอ้ื หา ผลงาน ท่ี ถ่ายทอด ต้องการสือ่ สาร ความคดิ แนว ได้ ทางการ แกป้ ญั หาได้ กาหนด กาหนดจดุ ประสงค์ กาหนดจุดประสงค์ จุดประสงค์การ การสบื ค้นข้อมลู ได้ การสบื ค้นข้อมูลได้ สบื คน้ ขอ้ มลู ได้ อย่างชัดเจน เลอื ก อยา่ งชดั เจน เลอื ก อยา่ งชดั เจน แหลง่ ขอ้ มูลที่ แหล่งขอ้ มูลท่ี เลอื ก หลากหลายและมี หลากหลาย แหล่งขอ้ มูลท่ี ความนา่ เชอื่ ถือ หลากหลาย มี ความน่าเชื่อถือ และเลือกใช้ ขอ้ มลู ไดอ้ ย่าง ถูกต้อง พดู บรรยาย พดู บรรยาย อธบิ าย พูดบรรยาย อธิบาย อธิบาย สาธิต สาธติ และใชส้ อ่ื และสาธติ เพ่ือ และใช้สือ่ มลั ติมีเดยี ร์ ประกอบ ส่อื สารใหผ้ อู้ น่ื เข้าใจ โซเชียลมีเดยร์ กปารระนก�ำ อเสบนกอาเรพอื่ เนอื้ หา ผลงาน ท่ี เทคโนโลยีอ่ืน สนือ่ าสเสานรใอหเผ้ พู้อื่อื่นสเือ่ชา้สใาจร ตอ้ งการสือ่ สารได้ ประกอบการ เในห้อื ้ผหูอ้ าื่นผเลขงา้ าในจเนื้อหา นการเสนน�ำ เอสเนพอื่อเพ่อื ทผี่ตลอ้งางนกาทรสตี่ อื่ ้อสงากราไรด้ สอื่ สารใหผ้ ู้อื่น สื่อสารได้

932 915 ประเดน็ การประเมนิ 43 ระดับคะแนน 2 1 ทกั ษะกระบวนการ สร้างเจตคติ เขา้ ใจเนื้อหา พูดและ อา้ งอิง คุณลักษณะอัน ผลงาน ท่ี แสดงออกเพอ่ื พึงประสงค์การศึกษา ตอ้ งการส่อื สาร โน้มน้าวใหผ้ อู้ ่ืน ขัน้ พื้นฐาน สพฐ. ได้ แสดงพฤตกิ รรม มวี นิ ัย ตามคณุ ลักษณะ พดู และ พูดและแสดงออก พูดและแสดงออก อนั พึงประสงค์ได้ ใฝ่เรียนรู้ แสดงออกเพ่อื เพื่อโน้มน้าวให้ผู้อนื่ เพือ่ โนม้ น้าวให้ผู้อ่นื 1-2 ขอ้ โนม้ น้าวใหผ้ ู้อน่ื แสดงพฤตกิ รรมตาม แสดงพฤติกรรมตาม ไม่ค่อยปฏิบตั ิ แสดงพฤติกรรม คุณลกั ษณะอันพงึ คุณลักษณะอนั พงึ ตามกฎระเบียบ ตามคณุ ลักษณะ ประสงค์ได้5-6 ข้อ ประสงค์ได้ 3-4 ข้อ กตกิ า ของ อนั พงึ ประสงค์ได้ โรงเรยี น ของ 7-8 ข้อ หอ้ งเรียน ของ กลมุ่ ก่อกวน เกณฑ์การประเมนิ ด้านเจตคติ ความราคาญให้ ครูและเพื่อนใน ปฏิบัตติ าม ปฏิบัตติ าม ปฏิบตั ติ าม ห้องเรียน กฎระเบยี บ กฎระเบียบ กติกา กฎระเบยี บ กติกา เปน็ บางคร้ัง กติกา ของ ของโรงเรยี น ของ ของโรงเรียน ของ ไม่มีความ โรงเรยี น ของ หอ้ งเรยี น ของกลมุ่ หอ้ งเรียน ของกลุ่ม กระตือรือรน้ ห้องเรยี น ของ ไมก่ ่อกวนความ ได้เป็นส่วนใหญ่ ขาดความอดทน กลมุ่ ดว้ ยความ ราคาญใหค้ รูและ ไมก่ ่อกวนความ อดทน ไม่รจู้ ัก เต็มใจ ไม่ เพื่อนในห้องเรยี น ราคาญใหค้ รูและ แสวงหาความรู้ ก่อกวนความ เพือ่ นในห้องเรยี น จากแหล่งเรยี นรู้ ราคาญใหค้ รูและ อ่นื ๆ เพื่อนใน หอ้ งเรียน มีความ มีความกระตือรอื ร้น มคี วามกระตือรือร้น กระตือรือรน้ อดทน รูจ้ ักแสวงหา อดทน ในบางครัง้ อดทน เพยี ร ความรจู้ ากแหล่ง รจู้ ักแสวงหาความรู้ พยายาม เรียนรู้อน่ื ๆ จากแหล่งเรียนรู้ มงุ่ ม่ัน ร้จู กั อยเู่ สมอๆ อื่นๆ แสวงหาความรู้ จากแหล่งเรียนรู้ อน่ื ๆ อยเู่ สมอๆ

ประเดน็ การประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 916 32 มุง่ ม่ันในการทางาน ทางานที่ได้รับ ทางานท่ีไดร้ ับ ทางานท่ีได้รบั ทมอางบาหนมทา่ีไยดไ้รมับ9่ 33 มอบหมายเสร็จ มอบหมายเสรจ็ ตาม มอบหมายเสรจ็ ตาม ตามกาหนดเวลา กาหนดเวลา กาหนดเวลา เสร็จตาม ผลงานมีความ ผลงานมีความ ระดบั คะผแลนงนานมคี วาม กาหนดเวลา ประเด็นการประเมิน ถูกต้อง 4ละเอียด ถูกต้อง เร3ยี บรอ้ ย ถูกต้อง แต2ย่ ังไม่ ผลงานไม1ม่ ีความ ม่งุ ม่ันในการทางาน ปทราะงาณนตี ที่ได้รับ ทางานท่ีได้รบั เทรายี งบารนอ้ ทย่ีได้รับ เทราียงบารนอ้ ทย่ีไดร้ ับ เมรอยี บบหรม้อยายเสรจ็ มอบหมายเสรจ็ ตาม มอบหมายเสร็จตาม มอบหมายไม่ ตามกาหนดเเวกลณาฑ์กกาารหปนระดเเมวินลาดา้ นสมรรถนกะาหนดเวลา เสรจ็ ตาม ความสามารถในการ นผลาเงสานนอมคี วาม นผลาเงสานนอมีคอวภาปิมราย อผภลงิปารนามยคี แวลาะมตอบ ตกาอหบนคดาถเวาลมาได้ สื่อสาร อถกูภติป้อรงายลแะลเอะยี ด แถลูกะตต้อองบเรคยี าบถราอ้มยได้ คถูกาถตา้อมงไดแตเ้ ข่ยา้ ังใไจมง่ า่ ย เผขลา้ งใาจนงา่ไมย่มีความ ตปอระบณคาีตถามได้ เขา้ ใจง่าย เหมาะสม เเหรยี มบาระ้อสยมกบั เเหรยี มบาระอ้สยมกบั เเขรยีา้ ใบจรง้อ่ายย และมี กับลักษณะข้อมูล ลักษณะข้อมลู ลักษณะข้อมลู วิธีการนา่ สนเใกจณฑ์การประเมินดา้ นสมรรถนะ ความสามารถในการ เนหามเสานะสอมกับ นาเสนอ อภปิ ราย อภปิ ราย และตอบ ตอบคาถามได้ ส่อื สาร ลอักภษปิ ณราะยขแ้อลมะลู และตอบคาถามได้ คาถามได้เข้าใจง่าย เขา้ ใจงา่ ย ความสามารถในการ มตอคี บวาคมาสถาามมาไรดถ้ มเขคี ้าวใาจมงา่สยามเหารมถาใะนสม มเหคี มวาาะมสสมากมบัารถใน มเหีคมวาาะมสสมากมับารถ คดิ (คดิ สร้างสรรค์) ใเขน้ากใาจรงค่าดิย 4และมี กกาบั รลคกั ดิ ษณ3 ะข้อมูล กลัการษคณิดะ2ข้อมลู ใลนกั กษาณรคะดิข้อ1มูล 1. คิดริเริ่ม อวิธงคกี า์ปรรนะา่กสอนบใจ องคป์ ระกอบ องค์ประกอบ องคป์ ระกอบ 2. คิดคลอ่ งแคลว่ เหมาะสมกับ 3. คิดยดื หยนุ่ ลกั ษณะข้อมูล 4ค.วาคมิดสลาะมเอาียรถดใลนอกอาร มคี วามสามารถ มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถ อค้าดิ ง(อคิงดิ จสารกา้ งสอรารคี ร์)ังสิ ในการคิด 4 การคดิ 3 การคิด 2 ในการคดิ 1 น1.นั คทดิ .์ รเิ ร่มิ องค์ประกอบ องคป์ ระกอบ องค์ประกอบ องคป์ ระกอบ (22.5ค2ดิ 7ค).ลอ่ คงวแาคมลค่วดิ ส3.รา้คงิดสยรืดรหคย.์ ุ่นกรุงเทพฯ : ธ4น. คกิดจกลาะรเอพยี ิมดพล์.ออ คอวา้ างมอิสงจามาการถอใานรกี รางัรสิ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถในใช้ มคี วามสามารถในใช้ มคี วามสามารถ กแนากันรป้ทแญั์.ก้ปหัญา หา ในใช้ กระบวนการ กระบวนการ ในใช้ ข(2้นั 5ท2ี่71).กาครวทามาคควดิ าม กระบวนการ แกป้ ัญหา 3 ขน้ั แกป้ ญั หา 2 ข้ัน กระบวนการ เสขรา้ ้าใงจสใรนรปคัญ.์ หกราุงเทพฯ : แกป้ ัญหา 4-5 แก้ปัญหา 1 ขั้น ขธนน้ั กทจิี่ 2กากราพริมนพยิ .์ามและ ขนั้ รควบามรวสมามขอ้ารมถูลใทน่ี การ มคี วามสามารถ มีความสามารถในใช้ มคี วามสามารถในใช้ มคี วามสามารถ แกป้ ัญหา ในใช้ กระบวนการ กระบวนการ ในใช้ ขนั้ ที่ 1 การทาความ กระบวนการ แก้ปญั หา 3 ขน้ั แก้ปญั หา 2 ข้ัน กระบวนการ เข้าใจในปญั หา แก้ปญั หา 4-5 แกป้ ัญหา 1 ข้ัน ขั้นท่ี 2 การนิยามและ ขั้น รวบรวมข้อมลู ที่

ประเด็นการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 917 32 เกย่ี วขอ้ งกบั ปญั หา 934 ขั้นที่ 3 การนาเสนอ ระดับคะแนน ทางเลอื กหรือแนวทาง 32 1 ในการแก้ปญั หา แขปนั้นรวทะที่ เ4าดง็นตกัดกาสารรินแปกใจรป้ เะญัลเอืมหกนิา เทก่เี ่ียหวมขาอ้ ะงสกมับปัญหา 4 ขน้ั ที่ 35 การนลงามเสอื นอ ทปาฏงบิ เลัตือกิ การหแรกอื ป้แัญนวหทาาง ใแนลกะาตรรแวกจ้ปสญัอบหวาิธีการ ขแน้ักป้ทญัี่ 4หตาัดสินใจเลอื ก แอนา้ งวอทงิ างกกาารรใชแ้ก้ปัญหา ทกร่ีเหะมบาวะนสกมารออกแบบ ขเช้นั งิ ทวศิ่ี 5วกรารมลเงพม่ือื ปเสฏริบมตัสิกรา้ งรคแวกาป้ มัญคหดิ า แสลรา้ะงตสรรวรจคสแ์ อลบะวทิธักีกษาระ แกากร้ปแญั กกป้ห้ปัญาัญหหาา สสวท. อคา้วงาอมงิสากมาารรใชถ้ในการใช้ มีสมรรถนะ กทรกั ะษบะวชนวี กิตารออกแบบ ทักษะชีวติ 4 มีสมรรถนะทักษะ มสี มรรถนะทกั ษะ มสี มรรถนะ เ1ช.งิ กวาศิ รวตกรระรหมนเพัก่ือรู้และ ดา้ น ชวี ิต 3 ดา้ น ชีวติ 2 ดา้ น ทกั ษะชีวติ 1 ด้าน เสหร็นมิ คสณุ รค้าง่าคในวาตมนคเอิดง สแรล้าะงผสูอ้ รืน่ รค์และทักษะ ก2.ารกแากรค้ปิดัญวหิเคารสาสะวหท์ . คตวดั าสมินสใาจมแาลระถในการใช้ มสี มรรถนะ มสี มรรถนะทักษะ มสี มรรถนะทักษะ มีสมรรถนะ ทแกั ป้ษัญะชหวี าิตอย่าง ทักษะชวี ิต 4 ชวี ิต 3 ด้าน ชีวิต 2 ดา้ น ทักษะชวี ติ 1 1ส.ร้ากงาสรรตรรคะ์หนกั รู้และ ดา้ น ด้าน เ3ห. ็นกคาณุรจคัดา่ กใานรตกนับเอง แอลาระมผณู้อ่ืน์และ 2ค.วากมารเคครดิ ยี วดเิ คราะห์ ต4.ัดกสานิ รใสจรแา้ ลงะ แสกัม้ปพญันธหภาาอพยทา่ งีด่ ีกับ สผรูอ้ า้่นื งสรรค์ 3. การจดั การกบั อารมณ์และ ความเครยี ด 4. การสรา้ ง สมั พันธภาพท่ดี ีกับ ผู้อืน่

ประเด็นการประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 935 32 มีความสามาร9ถ35 อา้ งองิ คูม่ ือทักษะชวี ิต ในการใช1ท้ ักษะ 918 และกระบวนการ สพฐ. มีความสามารถรในะดบั คะมแีคนวนามสามารถใน ทางเทค1โนโลยี 1 การใช้ทกั 3ษะและ การใชท้ ัก2ษะและ มปีคระวเาดมน็ สามารถ เคทปวคารโมะนเสดโาลน็ มยกาี ารถรปในรกะาเมรใินช้ มีความสามารถ กระบวนการทารงะดบั คะกแรนะนบวนการทาง ในการใชท้ ักษะ สอ1อป.พ้าองรกกฐอะรแ.ิงเะบดบคบน็ วมู่ เกนชือาิงกทรวาักปศิรษรวะะกเชรมรีวินมติ ในการใช4ท้ ักษะ เทคโนโลย3ี 3-4 เทคโนโลย2ี 2 แมลีคะวกามระสบามวานรกถาร และ ทในากงเาทรคใชโน้ทโักลษยะี 1 กระบวน4การทาง ปแลระเกดร็นะบวนการ ค2อ.า้วงากอมางิสรคาคมิดู่มาเือชรทิงถรักใะนษบกะบาชรีวใติช้ มเทีคควโานมโสลายมี 5าร-6ถ มปีคระวเาดมน็ สามารถใน มปีคระวเาดม็นสามารถใน ทางเทคโนโลยี 1 เส3ท.พคคฐโว.นาโมลคยดิ ี สร้างสรรค์ ใปนรกะาเดรใ็นช้ทักษะ การใช้ทักษะและ การใช้ทกั ษะและ ประเด็น 1ค4.วากมรารสะคบามดิวาอนรยกถ่าใงรนมกี ารใช้ แมลีคะวามสามารถ กมรีคะวบามวนสากมาารรทถาใงน กมรีคะวบามวนสากมาารรทถาใงน อวเทิจอคากรโแนณบโญลบยเาชีณงิ วศิ วกรรม กในรกะาบรวในชกท้ าักรษทะาง เกทาครโในชท้โลกั ยษี 3ะ-แ4ละ เกทาครโในช้ทโลกั ยษี 2ะและ ความซ่ือสตั ย์ต่อ 251. การระคสบอ่ืิดวสเนชากงิ รารระบบ เแทลคะโนโลยี 5-6 ปกระบเดว็นนการทาง ปกระบเดวน็ นการทาง การทางานดู 36อ.อคกวาแราบทมบคาเงิดชาสงิ นวรริศา้ ่วงวมสกกรรับคม์ ปกระบเดวน็ นการทาง เทคโนโลยี 3-4 เทคโนโลยี 2 ผลงานของผู้อ่ืน 4ผ2.อู้ กนื่ ารคดิ อเชยงิ า่ รงะมบี บ เทคโนโลยี 5-6 ประเด็น ประเด็น เปน็ ตวั อย่าง วอ3จิ.า้ งาคอรวณิงามญคค่มู าิดือณสกราา้ รงใสชร้ รค์ ประเดน็ ความซอื่ สตั ย์ต่อ 54ห.ลกั าสรตู สคร่ือดิ วสอิชายาร่าพงน้ื มฐี าน การทางานดู 6วิจท. ากยราณรศทาญสาางตณารน์ รส่วามรกะับ ผคลวางมานซขื่ออสงตั ผยู้อ์ตืน่ ่อ ผเ5ท.ู้อคก่ืนโานรโสลอ่ื ยสี าสรสวท. เกปาน็รทตัวางอายนา่ ดงู อ6.า้ งกอาิงรทคา่มู งือากนารรว่ ใมชก้ ับ ผลงานของผู้อืน่ หผซู้อ่ืลสืน่กั ัตสยตู ์สรวุจิชรติาพ้ืนฐาน เกณฑ์การประเมนิ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เป็นตัวอย่าง วอิท้างยอางิศาคสู่มตือรก์ าสราใชระ้ มีความซ่ือสัตย์ ความซ่ือสัตย์ต่อการ ความซ่ือสตั ยต์ ่อการ เหทลคักโสนตู โลรวยิชี าสพส้นื วฐทา.น ต่อการทางานไม่ ทางานไม่คัดลอก ทางานไม่คัดลอก วิทยาศาสตร์ สาระ คดั ลอกผลงาน ผลงานของผู้อ่ืน ผลงานของผู้อืน่ ซเทอ่ื คสโัตนยโ์สลจุยรี ติ สสวท. ของผเกู้อณ่ืนฑแ์กลาะรมปี ระเมแนิละดมา้ นีควคาณุ มลคักดิ ษณะอันพงึ ประสงค์ ซ่อื สัตย์สจุ รติ มควคี าวมามคิดซื่อสตั ย์ คสรวา้ งมสซรือ่ รสคตั ์ ย์ต่อการ ความซ่อื สัตย์ต่อการ ตสร่อ้ากงเากสรณรทรฑาคง์กาทานารไปมร่ ะเมทินางดาา้ นนไคมณุ ่คัดลลักอษกณะอนั พทงึ าปงราะนสไงมคค่ ์ ัดลอก คมชิ้นัดีคลวงาอนมกสซผวื่อลยสงงาัตานยม์ ผคลวางมานซขื่ออสงตั ผยู้อ์ตืน่ ่อการ ผคลวางมานซขอื่ อสงัตผยู้อ์ตน่ื ่อการ ขตอ่ งกผาู้อรท่ืนาแงลานะมไมี ่ แทลางะามนคี ไวมา่คมัดคลิดอก ทางานไม่คดั ลอก ควัดาลมอคกดิ ผลงาน สผรล้างงาสนรขรอคง์ ผู้อน่ื ผลงานของผู้อ่ืน เกณฑ์การตัดสิน คะแนน 10-12 หมายถึง สขรอ้างงผสู้อรื่นรคะแด์ ลทับะาคมุณี ภาแพละดมมีคาวกามคิด คะแนน 7-9 หมายถงึ ชค้นิวางมานคสดิ รวะยดงับาคมุณภาสพรา้ งดสี รรค์ คะแนน 4-6 หมายถงึ สร้างสรรคะด์ ทบั าคุณภาพ พอใช้ เคกะณแนฑนก์ า0ร-ต3ัดสิน หมายถงึ ช้นิ งานสรวะยดงับาคมุณภาพ ปรบั ปรุง คะแนเนกณ10ฑ-ก์1า2รผห่านมายถงึ ตงั้ แต่ระดรบั ะ..ด..ับ...ค.ดุณีขภน้ึ าไพป...ด..มี...า..ก...... คเกะณแนฑนก์ า7ร-ต9ดั สิน หมายถงึ ระดับคุณภาพ ดี คะแนน 41-06-12 หมายถงึ ระดบั คุณภาพ พดีมอาใชก้ คะแนน 07-39 หมายถึง ระดับคุณภาพ ปดีรับปรงุ คะแนเนกณ4-ฑ6ก์ ารผห่านมายถึงตง้ั แตร่ ะดรบั ะ..ด..บั...ค.ดุณีขภึน้ าไพป...พ...อ..ใ..ช..้.... คะแนน 0-3 หมายถงึ ระดบั คุณภาพ ปรบั ปรุง เกณฑ์การผ่าน ตัง้ แตร่ ะดับ........ดีขึ้นไป................

936 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 16 เรอ่ื ง สารสนเทศกบั การแก้ปัญหา ด เวลา 2 ชัว่ โมง กลุม่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 เร่ือง วิศวกรนอ้ ย ขอบเขตเน้ือหา รายวิชา เทคโนโลยี 1. การระบปุ ญั หาจาเปน็ ต้องมีการ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอื่ /แหล่งเรียนรู้ วิเคราะห์สถานการณ์ของปัญหาเพือ่ สรุป ขน้ั นา 1. เว็บไซตส์ าหรบั สบื คน้ กรอบของปัญหาแลว้ ดาเนนิ การสืบค้น รวบรวมข้อมลู ความรู้จากศาสตร์ตา่ งๆ ที่ 1. นักเรียนดูรูปภาพและสื่อวดิ ีทศั นเ์ ก่ยี วกับแขนกลในรูปแบบต่างๆ - คลปิ แขนกลในอตุ สาหกรรม เกีย่ วขอ้ งเพื่อนาไปสู่การออกแบบแนว ทางการแก้ปัญหา 2. นกั เรียนอภปิ รายแลกเปลยี่ นความคิดเหน็ เกยี่ วกับแขนกล และ https://www.youtube.com/watch?v=sWgvIA จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ปัญหาในการเคลอ่ื นที่ของแขนกล kfqXQ ดา้ นความรู้ (K) ขั้นสอน - คลปิ การทางานของ Hydraulic 1. บอกการทางานของฮาร์ดแวรห์ รอื ออกแบบส่งิ ของเครื่องใชใ้ นการแก้ปัญหาได้ 1. นักเรียนสารวจและคน้ หาหวั ขอ้ ตามที่กาหนดจากอินเทอร์เน็ต ให้ https://www.youtube.com/watch?v=Ap_0P อย่างเหมาะสม นกั เรยี นสังเกต ตวั อย่างแขนกลและชนิ้ ส่วนประกอบทเี่ กีย่ วข้อง เพ่อื ใช้ mLMlNA 2. สารวจปญั หาหรอื ความต้องการของ ตนเอง ชมุ ชนหรือท้องถ่ิน เป็นขอ้ มูลพน้ื ฐานในการออกแบบแขนกล นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 4 - คลปิ การทางานของแขนกลการเกษตร 3. อธิบายปญั หาของสถานการณ์ต่างๆ คน ระดมความคดิ แล้วรว่ มกันปฏบิ ตั ใิ นใบงานท่ี 16.1 กระบวนการ https://www.youtube.com/watch?v=mlBJTg เพื่อสรปุ กรอบของปัญหาในการสืบค้น ออกแบบเชิงวิศวกรรมสาหรับแขนกล ตามสถานการณท์ ีก่ าหนดใหโ้ ดย RHPiA นาเสนอหนา้ ชน้ั เรียน กาหนดเวลาในการทากิจกรรมประมาณ 5 - 10 - คลปิ การทางานของแขนกลการบริการ นาที โดยมคี รเู ป็นผู้กระตุ้นและเสรมิ แรง https://av.voanews.com/Videoroot/Pangeavi 2. ใหแ้ ต่ละกลุ่มนาเสนอผลงานหน้าชน้ั เรยี นตามประเด็นต่อไปนี้ deo/2017/04/b/bf/bf47626c-173e-401d- - สรปุ ประเภทและการประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยแี ขนกลและระบบ a16f-02852214a26a.mp4 ไฮดรอลกิ สท์ ่ใี ช้ในงานดา้ นตา่ งๆ - คลิปการทางานของแขนกลการทหาร - แสดงผลการเปรยี บเทยี บการทางานของเทคโนโลยีแขนกลและ https://www.youtube.com/watch?v=p3MVcJ IARrA 919

937 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 16 เร่ือง สารสนเทศกับการแก้ปัญหา ด หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เร่ือง วิศวกรน้อย เวลา 2 ช่ัวโมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ รายวชิ า เทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 2 รวบรวมขอ้ มลู จากแหล่งข้อมูลทเี่ ช่อื ถอื ได้ อยา่ งเหมาะสม ระบบไฮดรอลิกส์ ภาระงาน/ชิ้นงาน ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (P) - แสดงผลการนาเทคโนโลยีแขนกลและระบบ ใบความรูท้ ่ี 16.1 ระบบแขนกลเบื้องต้น 1. สรปุ กรอบของปัญหา รวบรวม วเิ คราะหข์ ้อมูลจากศาสตร์ตา่ งๆ ท่เี ก่ยี วข้อง ไฮดรอลกิ สม์ าใช้ในงานอตุ สาหกรรม ใบงานที่ 16.1 กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เพอ่ื นาไปสู่การออกแบบแนวทางการ แกป้ ญั หาและสร้างชนิ้ งาน - สรปุ แนวโนม้ ของเทคโนโลยแี ขนกลในอนาคต สาหรบั แขนกล ด้านคณุ ลกั ษณะ (A) 3. นกั เรียนรว่ มกันวเิ คราะห์ประเดน็ ทแี่ ต่ละกลุ่มนาเสนอ โดยมคี รูเป็น สถานท:ี่ หอ้ งคอมพวิ เตอร์ 1. มคี วามรับผดิ ชอบ 2. ซอ่ื สตั ย์ ผอู้ านวยการเรียนรู้ และอาจเขียนบทสรปุ ลงในกระดาษปร๊ฟูุ หรอื สมุด 3. มุ่งม่นั ในการทางาน ขนั้ สรุป 1. นักเรยี นและครูรว่ มกันอภิปรายสรปุ ผลกจิ กรรมการเรียนรู้ กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมสาหรับแขนกล 2. นักเรียนสรุปและบนั ทึกความรู้ท่ไี ด้รบั จากการเรียนรู้ทเ่ี ปน็ ประเดน็ สาคัญลงในสมุดเรียน 920

938 921 การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอ่ื งมือทใ่ี ช้ เกณฑ์ ส่งิ ที่ต้องการวดั /ประเมนิ - ตรวจใบงานที่ 16.1 - แบบประเมนิ ผลดา้ น - นักเรียนทุกคนผา่ น ดา้ นความรู้ (K) กระบวนการออกแบบเชิง ความรู้ เกณฑ์ไม่ต่ากว่า 1. บอกการทางานของ วิศวกรรมสาหรบั แขนกล ใบงานท่ี 16.1 กระบวนการ ร้อยละ 80 ฮาร์ดแวร์ ออกแบบเชงิ วศิ วกรรม 2. อธิบายปญั หาของ - สังเกตพฤติกรรมการ สาหรบั แขนกล - นกั เรยี นทกุ คนผ่าน สถานการณ์ต่างๆ ได้ กเรายี รนเรรยี ู้ขนอรงขู้ นอักงเนรกัยี เนรยี น - แบบประเมนิ ผลดา้ น เกณฑ์ไม่ต่ากวา่ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ กระบวนการคิดวเิ คราะห.์ ร้อยละ 80 (P) - นกั เรยี นทุกคนผา่ น - แบบประเมินผลด้าน เกณฑ์ไมต่ ่ากวา่ ดา้ นคุณลักษณะ (A) คุณลักษณะเทยี บกับเกณฑ์ รอ้ ยละ 80

939 922 8. บันทกึ ผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปัญหาและอุปสรรค .................................................................................................................................................................... ...... ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ........................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ......................................ผูส้ อน (.......................................................) วันท่ี......เดือน...............................พ.ศ............. 9. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรอื ผู้ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ........................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ......................................ผตู้ รวจ (.......................................................) วนั ที.่ .....เดือน...............................พ.ศ.............

940 923 ใบความรูท้ ่ี 16 ระบบแขนกลเบือ้ งตน้ ระบบแขนกล (Robot Arm System) คือระบบการทางานที่มีการใช้เครื่องจักรกลทางานแทน ทรัพยากร มนุษย์ในกรณีนี้มีลักษณะเป็นเหมือนแขนของคน ใช้สาหรบั งานท่ีมีการหยิบจับ และเคลื่อนย้ายวัตถุ จากตาแหน่ง หนงึ่ ไปอีกตาแหน่งหนึ่ง การใช้งานของระบบแขนกลเหมาะสาหรับใช้ในงานทม่ี ีความอนั ตรายเกินกวา่ ท่ี จะเสย่ี งให้ มนุษย์ทา เช่น งานหยิบจับวัตถุมีอุณหภูมิสูงๆ รวมถึงการนามาใช้งานท่ีมีรูปแบบเดิมซ้าซากเพราะจะสามารถตั้ง โปรแกรมการทางานของแขนกลให้ทางานซ้าแบบเดมิ ได้จงึ ไม่เป็นการส้นิ เปลืองทรพั ยากรมนุษย์ในการทางาน และ ทาใหก้ ารทางานไวขึน้ เน่อื งจากไมม่ ีความเหนอ่ื ยล้าเหมือนทรัพยากรมนุษย์ ลกั ษณะของระบบแขนกล เนื่องจากหุ่นยนต์อุตสาหกรรมได้รับการออกแบบสร้างขึ้นมา เพ่ือทาหน้าท่ีแทนคน ดังน้ัน ลักษณะการ ออกแบบจึงมักจะเป็นส่วนบนของลาตัวมนุษย์ ประกอบด้วยหัวไหล่ แขน และมือ โดยปกติแล้ว มักออกแบบเป็น แขนเดียว ในบางแบบได้ออกแบบให้แขนเคล่ือนท่ีอยู่บนทางเล่ือนได้ อาจจาแนกโครงสร้างของหุ่นยนต์ได้ 4 แบบ ไดแ้ ก่ โครงสรา้ งคาร์ทเี ซียน หรือฉาก โครงสร้างคาร์ทีเซียน หรือฉาก (cartesian or rectangular) เป็นโครงสร้างท่ีประกอบด้วยส่วนต่างๆ ที่ วางไว้ต้ังฉากซ่ึงกันและกัน 3 ส่วน ซ่ึงทาให้สามารถเคลื่อนที่ไปยังจุดที่ต้องการได้โครงสร้างคาร์ทีเซียนหรือ โครงสร้างฉาก การเคลื่อนทข่ี องแกนการทางานทั้งสามแกน จะต้งั ฉากกนั ให้เหน็ ถงึ หุ่นยนต์ระบบลมในงานเจาะ โครงสร้างทรงกระบอก (cylindrical) โครงสร้างทรงกระบอก (cylindrical) มแี ขนเกาะกบั แกนกลาง ซึ่งเป็นหลัก แขนนั้นสามารถเคล่ือนทข่ี ึ้นลง หมุนรอบแกน และสามารถบิดและหดได้ แขนสามารถยืด และหดได้ตามแนวแกนเสาทรี่ องรับ แขนสามารถขึ้นลงได้ ตามระดับความต้องการ

941 924 โครงสรา้ งเชงิ ขั้ว (polar) โครงสรา้ งเชิงขัว้ (polar) มลี าตัวท่บี ดิ ได้ มีแขนท่หี มนุ และยืดหดได้ โครงสร้างมนุษย์ (antropomorphic) โครงสรา้ งมนษุ ย์ (antropomorphic) เป็นโครงสร้างที่เลียนแบบโครงสรา้ งของมนุษย์ ในหุ่นยนต์ อุตสาหกรรม มีลักษณะเปน็ ส่วนบนของลาตวั มนษุ ย์ ประกอบดว้ ยหวั ไหล่ แขนท่อนบน แขนท่อนล่าง ข้อมือและ มือโครงสรา้ งมนุษย์ และลักษณะการเคลื่อนท่ดี ้วยระบบไฮโดรลกิ ส์ และระบบเซอรโ์ วมอเตอรก์ ระแสตรง อุปกรณใ์ ห้กาลังขับเคลือ่ นแขนกล ในปจั จบุ นั มีอปุ กรณใ์ ห้กาลังขบั เคลอ่ื นแขนกลอยู่ 3 ชนิด คอื มอเตอร์กระแสไฟตรง นวิ แมตกิ ส์ และไฮโดรลอกิลสิก์ส์ 1. มอเตอร์กระแสไฟตรง คือ อุปกรณ์ขับเคล่ือนหมุนรอบตัวเองได้ ด้วยพลังงานจากระแสไฟตรง เป็น อุปกรณ์ที่ใช้ได้สะดวก ง่ายต่อการควบคุม และตาแหน่งแม่นยา ปัญหาสาคัญคือ มีกาลังจากัด และมีปัญหาในการ กนาารหนนุ่ ำ�ยหน่นุ ตยท์ นี่ขตับท์ เคข่ี ลับ่อืเคนลดอ่ืว้ นยไดฟ้วฟย้าไฟไปฟใา้ชไ้ใปนใบชร้ใิเนวบณรทิเวีม่ ณวี ัตทถีม่ ุไวี ัตไฟถุไเวชไ่นฟ งเชาน่ พงน่ าสนีพเป่นน็ สตี ้น 2. นิวแมติกส์ เป็นระบบที่ขับเคลื่อนทางตรง ทางโค้งหรือหมุนได้ ด้วยแรงอัดของลม เป็นอุปกรณ์ที่ราคา ถกู และยุ่งยากน้อยทีส่ ุด ปญั หาท่ีสาคัญอยทู่ ี่การควบคุมความเรว็ และตาแหน่ง 3. ไฮโดรลิกส์เป็นระบบท่ีขับเคลื่อนด้วยแรงอัดของน้ามัน เป็นอุปกรณ์ท่ีราคาแพง ให้กาลังสูง มีอุปกรณ์ อยูห่ ลายแบบ สามารถเลอื กใช้เหมาะสมกับงานได้ เชน่ การเคล่ือนท่ีเปน็ เสน้ ตรง หรือแบบหมุน เป็นต้น ระบบการ ควบคุมมักใช้ไฟฟ้า แต่เนื่องจากใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าน้อย และใช้กาลังไฟฟ้าต่ามาก จึงสามารถใช้หุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อน ดว้ ยระบบไฮโดรลกิ สก์ บั บรเิ วณทีว่ ตั ถไุ วไฟได้

942 925 มอื แขนกล มือแขนกลจะยึดตดิ กบั ส่วนของแขนกลท่ีเป็นขอ้ มือ (wrist) ซึ่งสามารถหมนุ ได้อยา่ งอิสระ 3 แนวแกน คือ แกนบดิ ในระนาบทีต่ ้ังฉากกบั ปลายแขน แกนเงยขนึ้ ลงจะหมนุ ในระนาบท่ตี ัง้ ฉากกับพืน้ และแกนสา่ ยจะหมุนใน ระนาบทขี่ นานกบั แกน อย่างไรตามลักษณะการใช้งาน ส่วนใหญ่จะทางานเพียง 2 ทิศทางเท่านั้น เชน่ แขนกลที่ใช้ ในงานเช่อื ม ในลักษณะท่ีสมมาตร จะให้ความอสิ ระของขอ้ มอื เพยี ง 2 แกนเทา่ นน้ั อย่างไรก็ตาม ในกรณีงานที่ คอ่ นข้างยุ่งยาก อาจใช้ถึง 3 แกนข้อสาคญั ของข้อมือ โดยจะต้องสรา้ งให้มีความม่นั คง และมีน้าหนักนอ้ ยที่สดุ ระบบไฮโดรลกิ ส์ ในยคุ ปัจจุบนั มนษุ ยส์ ามารถประดิษฐ์เคร่ืองกลท่ีสามารถผ่อนแรงในการทางานไดม้ าก บางคร้ังคนทางาน ออกแรงเพยี งเล็กน้อยแตส่ ามารถทางานเช่นยกของหนกั ได้มากมหาศาล การใช้เครื่องทุ่นแรงประเภทท่ี เรยี กว่า ระบบไฮโดรลิกส์ ก็เป็นสง่ิ หน่ึงที่ยังนยิ มใช้กนั แพร่หลายซึ่งนามาใช้ในการทางานที่หนักๆ เกนิ ความสามารถของแรงคน รูประบบไฮดรอลิกส์ การนาระบบไฮโดรลิกสไ์ ปใช้งาน ในปจั จบุ ันได้มีการนาระบบไฮโดรลกิ ส์ไปใชง้ านในอตุ สาหกรรมต่างๆ มากมาย แยกตามประเภทอุตสาหกรรม คือ – อตุ สาหกรรมเหลก็ – อตุ สาหกรรมประเภท เคร่ืองอัดข้ึนรูป (Press) งานตดั (Cutting) งานดดั ( Bending) - อตุ สาหกรรมอาหาร เช่นเครอ่ื งบด – อตุ สาหกรรมยานยนต์ และชิ้นสว่ น – อุตสาหกรรมบรรจภุ ณั ฑ์ และการพมิ พ์ – งานดา้ นวิศวกรรมโยธา – งานดา้ นการเดินเรือทะเล และงานสารวจแหล่งแร่ ขุด เจาะต่างๆ