Th-03

หนงั สือคูมือจดั กิจกรรม การใชห นังสอื เรียน กลมุ สาระการเรยี นรูภาษาไทยตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธิการ ช้ันประถมศึกษาปท่ี ๓ สํานกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

หนงั สอื คมู่ อื จดั กิจกรรม การใช้หนงั สอื เรียน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทยตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธกิ าร ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๓ สถาบันภาษาไทย ส�ำ นักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำ�นักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

หนังสอื คมู่ อื จัดกจิ กรรมการใช้หนงั สือเรียน กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทยตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ของกระทรวงศกึ ษาธกิ ารชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๓ลิขสิทธ์ิของสำ�นักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ ารถนนราชด�ำ เนินนอก เขตดุสิต กรงุ เทพมหานคร ๑๐๓๐๐โทรศัพท์ และโทรสาร ๐-๒๖๒๘-๕๓๔๓ส�ำ นักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา สถาบันภาษาไทย ด�ำ เนนิ การจดั ทำ�ตน้ ฉบับISBN 978-616-395-726-9พิมพ์ครั้งท่ี ๑ พ.ศ. ๒๕๕๙จ�ำ นวนพิมพ ์ ๓๕,๐๐๐ เล่มพิมพท์ ี ่ โรงพมิ พช์ มุ นุมสหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จำ�กดั ๗๙ ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตจุ กั ร กรุงเทพมหานคร ๑๐๙๐๐ โทร. ๐-๒๕๖๑-๔๕๖๗ โทรสาร ๐-๒๕๗๙-๕๑๐๑ นายโชคดี ออสุวรรณ ผพู้ มิ พผ์ ูโ้ ฆษณา

คำ�นำ� การศกึ ษาเปน็ รากฐานส�ำ คญั ในการพฒั นาประเทศไปสคู่ วามเจรญิ ในทกุ ๆ ดา้ นรฐั บาลทุกยุคทุกสมยั จึงให้ความสำ�คัญในการส่งเสรมิ และพฒั นาการจดั การศึกษา กำ�หนดนโยบายให้หนว่ ยงานท่เี กีย่ วขอ้ งดำ�เนินการ โดยรัฐบาลปจั จบุ ันถอื ว่าการจัดการศึกษาตอ้ งน�ำ ไปสกู่ ารยกระดบั คณุ ภาพอยา่ งเปน็ รปู ธรรม นกั เรยี นตอ้ งไดร้ บั การศกึ ษาอยา่ งมคี ณุ ภาพและมคี วามสุขกับการเรยี นอยา่ งแทจ้ ริง พรอ้ มกับการพัฒนานกั เรยี นให้มที กั ษะสอดคลอ้ งตามบริบทสังคมในศตวรรษที่ ๒๑ นักเรียนมีความรู้ความสามารถในการอ่านการเขียนรู้จักแก้ปัญหา มศี ักยภาพการสอื่ สาร รูจ้ ักคดิ วเิ คราะห์ มีความคดิ สรา้ งสรรค์ และสามารถทำ�งานร่วมกันได้อย่างมคี วามสุข ส�ำ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน เปน็ หนว่ ยงานหลกั ในการจดั การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน จงึ ก�ำ หนดเปน็ นโยบายส�ำ คญั ใหน้ กั เรยี นทกุ ระดบั ชนั้ อา่ นออกเขยี นได้ อา่ นคลอ่ งเขียนคล่องและส่ือสารได้ เพื่อเป็นการวางรากฐานสำ�คัญในการเรียนรู้ระดับสูงต่อไป โดยพิจารณาเห็นว่า หนังสือเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธิการ ซ่ึงจัดทำ�มาต้ังแต่ปีการศึกษา ๒๕๕๒ เป็นสื่อการเรียนรู้ที่มีครูท่ัวประเทศนิยมเลือกใช้จัดการเรียนการสอนเห็นควรมีการเพ่ิมเติมกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน โดยจัดทำ�คู่มือจัดกิจกรรมการใช้หนังสือเรียนดังกล่าวเป็นแนวทางให้ครูเลือกจัดกิจกรรมท้ังในห้องเรียนและนอกห้องเรียนสำ�หรับหนังสือคู่มือจัดกิจกรรมการใช้หนังสือเรียน กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทยตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐานพทุ ธศกั ราช๒๕๕๑ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร แตล่ ะเลม่ มเี นอ้ื หาสาระน�ำ เสนอกจิ กรรมทสี่ รา้ งเสรมิ สมรรถนะและการเรยี นรู้ คณุ ลกั ษณะ คา่ นยิ ม ทกั ษะการท�ำ งานการด�ำ รงชพี ทกั ษะการคดิ คณุ ธรรมจริยธรรม สุขภาพพลานามัย และรู้จักประดษิ ฐ์คิดค้น

ในโอกาสนี้ ขอขอบคุณคณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงหนังสือเรียน และจัดทำ�คู่มือจัดกิจกรรมการใช้หนังสือเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร และผเู้ กย่ี วขอ้ งทุกฝ่ายที่ได้จัดทำ�คู่มือน้ี หวังวา่ หนังสือน้ีจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามหลักการและบรรลุตามจุดหมายของหลักสูตรหากมขี อ้ เสนอแนะ กรณุ าแจง้ ส�ำ นักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน ส�ำ นกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา สถาบนั ภาษาไทยเพอ่ื ปรบั ปรงุ แกไ้ ขใหห้ นงั สอื สมบรู ณย์ งิ่ ขน้ึ ตอ่ ไป (นายการุณ สกลุ ประดษิ ฐ)์ เลขาธิการคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน

สารบญั หนา้คำ�น�ำ บทน�ำ ๑แนวทางการจัดกจิ กรรม หนังสือเรยี น สาระการเรียนรชู้ ัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ๙ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑หมวดที่ ๑ กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น ๑๑หมวดที่ ๒ สรา้ งเสริมสมรรถนะและการเรียนร้ ู ๑๕หมวดท่ี ๓ เสรมิ สร้างคุณลกั ษณะและค่านยิ ม ๙๗หมวดท่ี ๔ เสริมสรา้ งทักษะการท�ำ งานการดำ�รงชพี และทกั ษะชวี ิต ๑๑๙



ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ บทนำ�ความมงุ่ หมายของหลกั สูตร หลักสูตรการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ กำ�หนดให้สถานศกึ ษาจดั การเรยี นรกู้ ลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทยตามสาระการเรยี นรแู้ ละมาตรฐานการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ สาระที่ ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรู้ความคิดเพ่ือนำ�ไปใช้ตดั สนิ ใจแกป้ ญั หาในการด�ำ เนนิ ชีวิตและมนี ิสยั รักการอา่ น สาระที่ ๒การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนสือ่ สาร เขยี นเรียงความ ย่อความและเขยี นเรอ่ื งราวในรปู แบบต่าง ๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๓.๑สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ สาระท่ี ๔ หลักการใช้ภาษาไทยมาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษาและรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติสาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็นวจิ ารณว์ รรณคดแี ละวรรณคดไี ทยอยา่ งเหน็ คุณคา่ และน�ำ มาประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตจริง สาระส�ำ คญั ของการจดั การเรยี นรู้ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยมุ่งให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๓เม่ือเรียนรู้ภาษาไทย สามารถอ่านออกเสียงคำ� คำ�คล้องจอง ข้อความ เรื่องส้ัน ๆ และบทรอ้ ยกรองไดถ้ กู ตอ้ งคลอ่ งแคล่ว เข้าใจความหมาย ล�ำ ดับเหตกุ ารณ์ สรุปความรู้ ข้อคดิอธิบายได้ สามารถเขียนบรรยาย บันทึก จดหมายลาครู เขียนเล่าประสบการณ์หรือจินตนาการ สามารถถามตอบ พูดแสดงความคิดเห็น ความรู้สึกจากอ่าน ฟัง หรือดูมีพื้นฐานความรู้หลักภาษาข้ันต้น เห็นความสำ�คัญของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีมีคุณค่าสามารถเช่ือมโยงเนอ้ื หาสาระลำ�ดับเรอ่ื งราวได้ ใช้ภาษาเพื่อการส่ือสารได้ รจู้ กั วรรณกรรมค�ำ คลอ้ งจอง และบทอาขยาน ฯลฯ หนงั สอื คู่มือจัดกจิ กรรม 1 การใช้หนงั สอื เรยี น กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ตัวช้วี ัดสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๓ ท่ี ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๑ ท ๑.๑ ป.๓/๑ ● การอา่ นออกเสยี งและการบอกความหมายของคำ� ท ๑.๑ ป.๓/๒ คำ�คลอ้ งจอง ขอ้ ความ และบทร้อยกรองงา่ ย ๆ ที่ประกอบด้วยค�ำ พ้ืนฐานเพมิ่ จาก ป.๒ ไม่น้อยกวา่ ๑,๒๐๐ คำ� รวมทัง้ ค�ำ ทเี่ รยี นรใู้ นกลมุ่ สาระการเรียนรอู้ ื่น ประกอบด้วย - ค�ำ ทีม่ ีตวั การันต์ - ค�ำ ทีม่ ี รร - คำ�ท่มี พี ยัญชนะและสระไม่ออกเสียง - ค�ำ พอ้ ง - ค�ำ พเิ ศษอืน่ ๆ เช่น คำ�ท่ใี ช้ ฑ ฤ ฤ ๅ ๒ ท ๑.๑ ป.๓/๓ ● การอา่ นจับใจความจากส่ือตา่ ง ๆ เชน่ ท ๑.๑ ป.๓/๔ - นทิ านหรือเรอ่ื งเกย่ี วกบั ท้องถ่นิ ท ๑.๑ ป.๓/๕ - เร่ืองเล่าส้นั ๆ - บทเพลงและบทร้อยกรอง - บทเรียนในกลุ่มสาระการเรียนร้อู ื่น - ข่าวและเหตกุ ารณ์ในชีวิตประจำ�วันในท้องถิ่น และชุมชน ๓ ท ๑.๑ ป.๓/๖ ● การอ่านหนังสือตามความสนใจ เชน่ - หนังสอื ที่นกั เรยี นสนใจและเหมาะสมกับวยั - หนงั สอื ท่ีครแู ละนักเรียนก�ำ หนดร่วมกนั ๔ ท ๑.๑ ป.๓/๗ ● การอา่ นข้อเขียนเชิงอธิบายและปฏิบัติตามค�ำ ส่งั หรอื ข้อ แนะนำ� เช่น - คำ�แนะนำ�ตา่ ง ๆ ในชีวิตประจ�ำ วัน - ประกาศ ป้ายโฆษณา และค�ำ ขวญั2 หนงั สอื คู่มือจดั กจิ กรรม การใชห้ นงั สือเรยี น กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ที ่ ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ๕ ท ๑.๑ ป.๓/๘ ● การอ่านข้อมูลจากแผนภาพ แผนที่ และแผนภูมิ ๖ ท ๑.๑ ป.๓/๙ ● มารยาทในการอา่ น เชน่ - ไม่อ่านเสยี งดงั รบกวนผอู้ น่ื - ไม่เล่นกันขณะท่ีอ่าน - ไมท่ �ำ ลายหนงั สือ - ไม่ควรแยง่ อ่านหรอื ชะโงกหนา้ ไปอา่ น ขณะทผ่ี ูอ้ ่ืนก�ำ ลงั อ่าน ๗ ท ๒.๑ ป.๓/๑ ● การคัดลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทัดตามรปู แบบการเขยี นตัว อกั ษรไทย ๘ ท ๒.๑ ป.๓/๒ ● การเขยี นบรรยายเก่ยี วกบั ลกั ษณะของคน สัตว์ สง่ิ ของ และ สถานท่ี ๙ ท ๒.๑ ป.๓/๓ ● การเขียนบนั ทึกประจ�ำ วนั ๑๐ ท ๒.๑ ป.๓/๔ ● การเขียนจดหมายลาครู ๑๑ ท ๒.๑ ป.๓/๕ ● การเขียนเร่อื งตามจินตนาการจากคำ� ภาพ และหวั ขอ้ ที่กำ�หนด ๑๒ ท ๒.๑ ป.๓/๖ ● มารยาทในการเขยี นเชน่ - เขียนให้อ่านงา่ ย สะอาด ไม่ขดี ฆ่า - ไม่ขีดเขียนในทีส่ าธารณะ - ใชภ้ าษาเขียนเหมาะสมกบั เวลา สถานท่ี และบุคคล - ไม่เขยี นลอ้ เลยี นผ้อู ่นื หรอื ทำ�ให้ผูอ้ นื่ เสยี หาย หนังสือคู่มือจดั กจิ กรรม 3 การใช้หนงั สอื เรียน กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ท ่ี ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ๑๓ ท ๓.๑ ป.๓/๑ ● การจบั ใจความและพดู แสดงความคดิ เห็น ท ๓.๑ ป.๓/๒ ความรู้สึกจากเรอ่ื งท่ีฟังและดู ท้ังทีเ่ ปน็ ความรู้ ท ๓.๑ ป.๓/๓ และความบนั เทิง เชน่ ท ๓.๑ ป.๓/๔ - เรื่องเล่าและสารคดสี �ำ หรับเด็ก - นทิ าน การต์ ูน และเร่ืองขบขนั - รายการส�ำ หรบั เด็ก - ข่าวและเหตุการณ์ประจำ�วัน - เพลง ๑๔ ท ๓.๑ ป.๓/๕ ● การพดู สอื่ สารในชีวติ ประจำ�วัน เช่น - การแนะน�ำ ตนเอง - การแนะน�ำ สถานทใี่ นโรงเรียนและในชุมชน - การแนะนำ�/เชญิ ชวนเกี่ยวกบั การปฏบิ ัติตน ในดา้ นต่าง ๆ เช่น การรักษาความสะอาด ของร่างกาย - การเลา่ ประสบการณ์ในชวี ิตประจำ�วนั - การพูดในโอกาสต่าง ๆ เช่น การพูดขอรอ้ ง การพดู ทกั ทาย การกล่าวขอบคุณและขอโทษ การพูดปฏิเสธ และการพูดซกั ถาม ๑๕ ท ๓.๑ ป.๓/๖ ● มารยาทในการฟัง เช่น - ตั้งใจฟัง ตามองผู้พูด - ไมร่ บกวนผอู้ นื่ ขณะท่ฟี ัง - ไม่ควรน�ำ อาหารหรือเคร่ืองดม่ื ไปรับประทาน ขณะทีฟ่ ัง - ไม่แสดงกริ ยิ าทีไ่ มเ่ หมาะสม เช่น โห่ ฮา หาว - ใหเ้ กยี รติผพู้ ูดด้วยการปรบมือ - ไม่พดู สอดแทรกขณะทฟี่ งั4 หนงั สอื ค่มู อื จัดกจิ กรรม การใช้หนงั สือเรยี น กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธิการ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ท่ ี ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ● มารยาทในการดู เช่น - ตั้งใจดู - ไมส่ ่งเสียงดังหรือแสดงอาการรบกวนสมาธิของผ้อู นื่ ● มารยาทในการพดู เช่น - ใชถ้ ้อยค�ำ และกิรยิ าทีส่ ภุ าพ เหมาะสมกบั กาลเทศะ - ใชน้ าํ้ เสยี งนุม่ นวล - ไมพ่ ูดสอดแทรกในขณะท่ผี อู้ ืน่ ก�ำ ลงั พูด - ไม่พูดล้อเลยี นให้ผอู้ ืน่ ไดร้ บั ความอบั อาย หรือเสยี หาย ๑๖ ท ๔.๑ ป.๓/๑ ● การสะกดคำ� การแจกลกู และการอ่านเป็นค�ำ ● มาตราตวั สะกดท่ีตรงตามมาตราและไม่ตรงตามมาตรา ● การผันอักษรกลาง อกั ษรสงู และอักษรต่ํา ● ค�ำ ทม่ี ีพยัญชนะควบกลํ้า ● ค�ำ ทม่ี ีอักษรนำ� ● คำ�ที่ประวสิ รรชนยี ์และคำ�ท่ีไมป่ ระวิสรรชนีย์ ● ค�ำ ทีใ่ ช้ ฤ ฤ ๅ ● คำ�ที่ใช้ บนั บรร ● คำ�ทใ่ี ช้ รร ● คำ�ที่มีตัวการันต์ ● ความหมายของคำ� ๑๗ ท ๔.๑ ป.๓/๒ ● ชนิดของคำ� ไดแ้ ก่ - คำ�นาม - ค�ำ สรรพนาม - ค�ำ กริยา หนงั สอื คู่มือจัดกจิ กรรม 5 การใช้หนงั สอื เรยี น กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธิการ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ท่ี ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ๑๘ ท ๔.๑ ป.๓/๓ ● การใชพ้ จนานุกรม ๑๙ ท ๔.๑ ป.๓/๔ ● การแตง่ ประโยคเพ่ือการสอ่ื สาร ได้แก่ - ประโยคบอกเล่า - ประโยคปฏเิ สธ - ประโยคค�ำ ถาม - ประโยคขอร้อง - ประโยคคำ�สงั่ ๒๐ ท ๔.๑ ป.๓/๕ ● ค�ำ คลอ้ งจอง ● ค�ำ ขวัญ ๒๑ ท ๔.๑ ป.๓/๖ ● ภาษาไทยมาตรฐาน ● ภาษาถน่ิ ๒๒ ท ๕.๑ ป.๓/๑ ● วรรณคดี วรรณกรรม และเพลงพนื้ บา้ น ท ๕.๑ ป.๓/๒ - นิทานหรือเรือ่ งในท้องถ่ิน ท ๕.๑ ป.๓/๓ - เร่ืองสนั้ ง่าย ๆ ปรศิ นาค�ำ ทาย ท ๕.๑ ป.๓/๔ - บทรอ้ ยกรอง - เพลงพน้ื บ้าน - เพลงกลอ่ มเด็ก - วรรณกรรมและวรรณคดใี นบทเรียนและ ตามความสนใจ ● บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองท่มี ีคุณค่า - บทอาขยานตามทีก่ �ำ หนด - บทร้อยกรองตามความสนใจ รวม ๓๑ 6 หนังสอื ค่มู ือจัดกจิ กรรม การใช้หนังสอื เรยี น กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ความสำ�คัญของหนงั สอื เรียน หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๓ ชุดภาษาเพ่ือชีวิต ภาษาพาที มุ่งเน้นให้นกั เรยี นได้เรยี นรทู้ ักษะทางภาษาจากการอา่ น พดู เขียน ฟังดู และใช้ภาษาเพอ่ื การสอื่ สารอยา่ งสัมฤทธผิ ล สว่ น วรรณคดลี �ำ นำ� มุ่งส่งเสรมิ ใหน้ กั เรียนไดเ้ รียนรูว้ รรณคดี วรรณกรรมอย่างรคู้ วามหมาย เกิดความซาบซึง้ และเห็นคณุ ค่า โดยครูต้องจัดกิจกรรมให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้และเข้าใจวรรณคดี วรรณกรรมที่กำ�หนดให้ทง้ั ตามเนอ้ื หาในบทเรยี น ในหอ้ งเรยี นและนอกหอ้ งเรยี น จงึ จะเปน็ ประโยชนต์ อ่ การจดั การเรยี นรู้ภาษาไทยให้เป็นไปตามหลกั การและบรรลจุ ุดมุง่ หมายของหลกั สูตรความส�ำ คญั ของการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ รฐั บาลทกุ ยคุ ทกุ สมยั ตา่ งใหค้ วามส�ำ คญั ตอ่ การจดั การศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาคณุ ภาพและมาตรฐานการศึกษา ให้ครูจัดการเรียนรู้จากนามธรรมสู่รูปธรรม ให้นักเรียนสามารถเช่ือมโยงองค์ความรู้จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครู นำ�หลักสูตรสถานศึกษาไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ ตามหลักการของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐานพทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ และเพอื่ ใหน้ กั เรยี นมคี ณุ ภาพตามมาตรฐานการเรยี นรู้ มคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห์ พัฒนาตนเองตามความสนใจและความถนัดอย่างเต็มตามศักยภาพและมีความสุขกับการเรียนรู้ บทบาทของครูภาษาไทยจึงต้องลดลงจากการสอนเน้ือหาในช้ันเรียนมาเป็นผู้อำ�นวยความสะดวก กระตุ้นให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองและเรียนรู้จากกลุ่มเพื่อนมากข้ึน เพ่ิมเติมองค์ความรู้จากสื่อเทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้หรือกิจกรรมสร้างสรรค์ที่คุณครูภาษาไทยเป็นผู้แนะนำ� สร้างบรรยากาศ จัดสถานการณ์จัดกิจกรรมให้เชอ่ื มโยงระหวา่ งนักเรียน ครู สถานศึกษา ชุมชน เพื่อสรา้ งสภาพแวดล้อมในการเรยี นรทู้ เ่ี ปน็ ประโยชน์ นกั เรยี นไดล้ งมอื ปฏบิ ตั ิ ท�ำ ใหน้ กั เรยี นไดเ้ กดิ ประสบการณต์ รง หนงั สอื คูม่ อื จดั กิจกรรม 7 การใช้หนังสอื เรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หนังสือคู่มอื นีไ้ ด้จัดหมวดกจิ กรรม แบง่ เป็น ๔ หมวด ๑๖ กลมุ่ กิจกรรม ดงั นี้หมวดที่ ๑ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (๓ กิจกรรม) หมวดท่ี ๒ สร้างเสริมสมรรถนะและการเรียนรู้ (๕ กิจกรรม) หมวดที่ ๓ สร้างเสริมคุณลักษณะและค่านิยม (๓ กิจกรรม)หมวดที่ ๔ สร้างเสริมทกั ษะการทำ�งาน การด�ำ รงชีพ และทักษะชวี ิต (๕ กจิ กรรม) หมวดที่ ๑ หมวดที่ ๒ หมวดท่ี ๓ หมวดท่ี ๔ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น สร้างเสริมสมรรถนะ สรา้ งเสรมิ คณุ ลกั ษณะ สรา้ งเสริมทักษะ และการเรียนรู้ และค่านิยม การทำ�งาน การด�ำ รงชีพ และทักษะชวี ติ ๑. กิจกรรมแนะแนว ๔. พฒั นาความสามารถ ๙. ปลูกฝังคา่ นยิ ม ๑๒. ปลูกฝังความรกั และจติ ส�ำ นกึ ในการ ความภาคภมู ิใจ ๒. กจิ กรรมนกั เรียน ด้านการส่ือสาร ๓. กจิ กรรมเพ่อื สังคม ๕. พฒั นาความสามารถ ทำ�ประโยชนต์ ่อสงั คม ในความเป็นไทยและ หวงแหนสมบตั ขิ องชาติและสาธารณประโยชน์ ดา้ นการคิดและการพฒั นา มีจติ สาธารณะและ ๑๓. ตอบสนอง ความสนใจ กรอบความคิด การให้บริการดา้ นตา่ ง ๆ ความถนัด และความต้องการ แบบเปิดกว้าง ทงั้ ท่เี ปน็ ประโยชนต์ ่อ ของผู้เรียนตามความ (Growth Mindset) ตนเองและสว่ นร่วม แตกตา่ งระหว่างบุคคล ๖. พัฒนาความสามารถ ๑๐. ปลกู ฝังความรกั ๑๔. ฝกึ การทำ�งาน ทกั ษะทางอาชพี ดา้ นการแกป้ ญั หา ชาติ ศาสนา และ ทรพั ย์สินทางปัญญา อยอู่ ย่างพอเพียง และ ๗. พฒั นาความสามารถ พระมหากษตั ริย์ มีวินยั ทางการเงิน ๑๕. พฒั นาความสามารถ ด้านเทคโนโลยี ๑๑. ปลูกฝังคุณธรรม ด้านการใช้ทกั ษะชีวิต ๑๖. สรา้ งเสรมิ สมรรถนะ ๘. พฒั นาทกั ษะ จริยธรรม (มวี นิ ยั การเรียนรู้ทส่ี ่งเสริม ซื่อสัตย์สุจรติ เสียสละ การเรยี นรู้ ๘ กลมุ่ อดทน มุง่ ม่ันในการ สาระการเรียนรู้ ทำ�งาน กตัญญู) ทางกาย ๓ กจิ กรรม ๕ กิจกรรม ๓ กจิ กรรม ๕ กจิ กรรม8 หนงั สอื คู่มือจัดกิจกรรม การใช้หนงั สอื เรียน กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธิการ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ แนวทางการจัดกิจกรรม หนงั สอื เรียนกลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ .................................................. สำ�นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดทำ�คู่มือจัดกิจกรรมการใช้หนังสอื เรยี น กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐานพทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ใชเ้ ปน็ แนวทางใหค้ รเู ลอื กจดั กจิ กรรมทงั้ ในหอ้ งเรยี นและนอกหอ้ งเรยี นตัวอย่างแนวทางการจัดกิจกรรมการใช้หนังสือเรียนนี้ นำ�เสนอหมวดท่ี ๑ หมวดที่ ๒หมวดท่ี ๓ และหมวดท่ี ๔ รวม ๑๖ กจิ กรรม หนงั สือค่มู อื จดั กจิ กรรม 9 การใช้หนงั สือเรยี น กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทยตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธกิ าร



ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ๑หมวดที่กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน หนังสือคมู่ ือจัดกิจกรรม 11 การใช้หนงั สอื เรยี น กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทยตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธิการ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ภาษาพาที หมวดที่ ๑ กิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี นกลมุ่ กจิ กรรมที่ ๓ กิจกรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์ บทท่ี ๓ ป่านีม้ คี ณุ๑. ช่อื กิจกรรม นกั พฒั นานอ้ ย๒. เวลาท่ใี ช้ ๑ ชวั่ โมง ๓๐ นาที๓. วตั ถปุ ระสงค์ ๓.๑ เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นอา่ นและเขยี นรายชอื่ ขยะและแยกตามมาตราตวั สะกดได้ ๓.๒ เพื่อใหน้ ักเรยี นแยกประเภทของขยะได้ ๓.๓ เพือ่ ใหน้ กั เรียนบอกประโยชน์ของขยะได้๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๑ นกั เรียนน�ำขยะมาคนละ ๕ ชนิด ๔.๒ ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับชื่อ ประเภท และประโยชน์ ของขยะ ๔.๓ บันทึกรายชือ่ ขยะบนกระดานแลว้ ฝึกอ่าน ๔.๔ นักเรียนบันทึกรายช่ือขยะตามหมวดหมู่มาตราตัวสะกดลงในใบงาน พรอ้ มเขียนประโยชนข์ องขยะ๕. สอ่ื การเรียนรู้ ๕.๑ ขยะท่นี กั เรียนเตรยี มมา ๕.๒ ใบงาน12 หนังสอื คู่มอื จดั กิจกรรม การใช้หนงั สอื เรยี น กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓๖. การวดั และประเมนิ ผล ๖.๑ สงั เกตการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๖.๒ ตรวจผลงาน๗. ข้อเสนอแนะ/ขอ้ สังเกต กจิ กรรมนี้ เป็นการเสรมิ ความร้เู ร่อื งการใช้มาตราตัวสะกดในการแยกประเภทของขยะและบอกประโยชนข์ องขยะได้ เป็นกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน กจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ สร้างเสรมิ สมรรถนะและการเรียนรู้ สร้างเสริมคณุ ลกั ษณะและค่านิยมปลกู ฝงั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม (มวี นิ ยั ซอื่ สตั ยส์ จุ รติ เสยี สละ อดทน มงุ่ มนั่ ในการท�ำงาน กตญั ญ)ูสร้างเสรมิ ทักษะการท�ำงาน การด�ำรงชีพและทักษะชีวิต หนงั สือคูม่ อื จัดกจิ กรรม 13 การใช้หนงั สือเรยี น กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทยตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร



๒หมวดท่ีสร้างเสรมิ สมรรถนะและการเรียนรู้

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หมวดที่ ๒ สรา้ งเสรมิ สมรรถนะและการเรยี นรู้กลุ่มกิจกรรมที่ ๔ พฒั นาความสามารถดา้ นการสอื่ สารพฒั นาความสามารถดา้ นการคดิ และ การพัฒนากรอบความคิดแบบเปดิ กว้าง (Growth Mindset)๑. ชือ่ กิจกรรม เกมไตรยางศ์พาสนกุ๒. เวลาที่ใช้ ๒ ชวั่ โมง๓. วัตถปุ ระสงค์ ๓.๑ เพ่ือให้นักเรยี นจ�ำแนกค�ำตามกลมุ่ อักษรสามหมู่ ๓.๒ เพื่อฝึกการท�ำงานรว่ มกัน๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ครนู �ำเสนอแผนภูมอิ กั ษรสามหมู่บนกระดานด�ำ (ภาคผนวก) ๔.๒ ให้นักเรียนใช้กิจกรรมเคล่ือนไหวร่างกายประกอบจังหวะทบทวนอักษรสามหมู่ ๔.๓ แบง่ กลุม่ นกั เรียนตามความเหมาะสม ๔.๔ ครนู �ำกล่องทม่ี ีอักษรสงู อักษรกลาง อักษรตํ่า ตั้งไวบ้ นโตะ๊ หน้าชนั้ เรียน ๔.๕ ครแู จกชดุ บตั รค�ำทมี่ อี กั ษรทง้ั สามหมคู่ ละกนั กลมุ่ ละ ๑ ชดุ ชดุ ละ ๑๕ ใบ (ภาคผนวก) ๔.๖ ครูก�ำหนดเวลาในการเล่นเกมภายใน ๕ นาที โดยน�ำบัตรค�ำไปใส่ ในแต่ละกล่องตามพยัญชนะต้นของอักษรสามหมู่ ครูเป่านกหวีด เม่อื หมดเวลา16 หนังสอื คมู่ อื จัดกิจกรรม การใช้หนังสือเรียน กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ๔.๗ ครูและนักเรียนช่วยกันตรวจสอบบัตรค�ำของแต่ละกล่องว่า กลุ่มใด ใส่ค�ำได้ถูกต้อง แล้วน�ำคะแนนท้ังสามกล่องของแต่ละกลุ่มมารวมกัน กลมุ่ ใดไดค้ ะแนนมากท่ีสดุ เปน็ ผชู้ นะ ๔.๘ ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปความรเู้ ก่ียวกบั อกั ษรสามหมู่๕. สอ่ื การเรียนรู้ ๕.๑ แผนภูมิอักษรสามหมู่ ๕.๒ กล่องใส่บัตรค�ำ ๕.๓ บตั รค�ำ ๕.๔ นกหวีด๖. การวดั และประเมนิ ผล ๖.๑ สงั เกตพฤติกรรมการท�ำงานรว่ มกัน ๖.๒ ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของบตั รค�ำแต่ละกลมุ่๗. ข้อเสนอแนะ/ขอ้ สงั เกต กิจกรรมนี้ เป็นการเสริมความรู้เร่ืองการจ�ำแนกค�ำตามกลุ่มอักษรสามหมู่สร้างเสริมสมรรถนะและการเรียนรู้ พัฒนาความสามารถด้านการส่ือสาร พัฒนาความสามารถด้านการคดิ และการพัฒนากรอบความคดิ แบบเปดิ กวา้ ง (Growth Mindset) หนงั สอื ค่มู อื จดั กจิ กรรม 17 การใช้หนังสือเรียน กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทยตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธิการ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หมวดท่ี ๒ สร้างเสรมิ สมรรถนะและการเรียนรู้กลุม่ กจิ กรรมที่ ๔ พฒั นาความสามารถดา้ นการสอ่ื สารพฒั นาความสามารถดา้ นการคดิ และ การพัฒนากรอบความคิดแบบเปดิ กวา้ ง (Growth Mindset) บทที่ ๒ แต่เด็กซือ่ ไว้๑. ชอ่ื กจิ กรรม Window คำ�สระลดรูป เปลี่ยนรูป๒. เวลาทใ่ี ช้ ๑ ช่วั โมง๓. วตั ถปุ ระสงค์ ๓.๑ เพื่อให้นกั เรียนฝึกอา่ นและเขยี นค�ำสระลดรปู เปล่ยี นรปู ๓.๒ เพือ่ ให้นักเรยี นจ�ำแนกค�ำท่ปี ระสมสระลดรูปและเปลย่ี นรูปได้๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ แบ่งกลมุ่ นักเรยี นตามความเหมาะสม ๔.๒ แจกใบงานค�ำท่ีประสมสระลดรูป และเปลี่ยนรปู ให้นักเรยี นอ่าน ๔.๓ นักเรียนจ�ำแนกค�ำสระลดรูป และเปลี่ยนรูป เขียนลงในตารางค�ำสระ ลดรปู เปลีย่ นรปู (ดูในภาคผนวก) ๔.๔ นักเรียนอ่านค�ำในแผนภูมิ หน้าต่างสองบาน (ดูในภาคผนวก) ใหเ้ พ่ือนฟงั18 หนังสือคู่มอื จดั กจิ กรรม การใช้หนงั สอื เรยี น กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓๕. สือ่ การเรียนรู้ ๕.๑ ใบงาน ๕.๒ กระดาษสขี นาดใหญ่ ๕.๓ ปากกาเมจิก๖. การวดั และประเมินผล ๖.๑ สังเกตพฤติกรรมนกั เรียนขณะปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ๖.๒ ตรวจผลงาน๗. ข้อเสนอแนะ/ข้อสงั เกต กิจกรรมนี้ เป็นการเสริมความรู้เร่ืองการอ่านการเขียนค�ำและการจ�ำแนกสระสร้างเสริมสมรรถนะและการเรียนรู้ พัฒนาความสามารถด้านการส่ือสาร พัฒนาความสามารถดา้ นการคดิ และการพัฒนากรอบความคดิ แบบเปดิ กว้าง (Growth Mindset) หนังสอื คมู่ ือจดั กจิ กรรม 19 การใชห้ นังสือเรียน กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทยตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ภาคผนวก ตารางค�ำสระลดรปู เปลี่ยนรูปอุปกรณ์๑. ใบงานค�ำ เด็ก ตก ชอลก์ ครก เล็ก ผลกั หกั คนื เห็ด เจด็ เลกิ ปนื ลวก หก ปลวก เล็ก บด ชม ผลัด ยืน บวบ หนั ลื่น เบิก เลย ตรม นวล เขม็ เร่ิม สัก20 หนังสอื คู่มอื จดั กิจกรรม การใช้หนังสอื เรียน กลุม่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธกิ าร

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓๒. หนา้ ตา่ งสองบาน สระลดรูป สระเปลย่ี นรปู ตก ปก หก เด็ก ชอลก์ ปลวก ครก บด จด ปวด ผลัก เห็ด ปรบ ตด อก คืน หกั เจ็ด ครบ พบ ตบ เล็ก ปนื ลวก หนงั สอื ค่มู อื จัดกจิ กรรม 21 การใช้หนงั สือเรยี น กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธิการ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หมวดที่ ๒ สรา้ งเสรมิ สมรรถนะและการเรียนรู้กลุ่มกิจกรรมท่ี ๔ พฒั นาความสามารถดา้ นการสอ่ื สารพฒั นาความสามารถดา้ นการคดิ และ การพฒั นากรอบความคดิ แบบเปิดกวา้ ง (Growth Mindset)๑. ชื่อกจิ กรรม ป่านีม้ คี ุณ๒. เวลาที่ใช้ ๑ ชวั่ โมง ๓๐ นาที๓. วตั ถปุ ระสงค์ ๓.๑ เพ่อื ใหน้ ักเรียนบอกช่ือตน้ ไม้ ดอกไมใ้ นโรงเรยี นได้ ๓.๒ เพอ่ื ให้นกั เรียนแยกช่ือต้นไม้ ดอกไมต้ ามมาตราตัวสะกดได้ ๓.๓ เพ่ือให้นักเรยี นอา่ นและเขยี นชือ่ ต้นไมแ้ ละดอกไมไ้ ด้๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ แบง่ กลุ่มนักเรยี นตามความเหมาะสม ๔.๒ แตล่ ะกลุ่มส�ำรวจและบนั ทึกชือ่ ต้นไม้และดอกไมใ้ นโรงเรียน ๔.๓ วาดภาพตน้ ไมแ้ ละดอกไมท้ ส่ี �ำรวจลงบนกระดาษขาว-เทา ๔.๔ นกั เรยี นเขยี นชอ่ื ตน้ ไม้ ดอกไมล้ งในรปู ผลไมท้ เ่ี ตรยี มไวน้ �ำไปตดิ บนตน้ ไม้ ตามหมวดหมมู่ าตราตัวสะกด๕. สอื่ การเรียนรู้ ๕.๑ ปากกาเมจกิ ๕.๒ กระดาษขาว-เทา ๕.๓ กาว ๕.๔ กระดาษสี22 หนังสอื ค่มู อื จัดกิจกรรม การใชห้ นังสือเรียน กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓๖. การวัดและประเมินผล ๖.๑ สังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั กิ จิ กรรมกลุ่ม ๖.๒ ตรวจผลงาน๗. ขอ้ เสนอแนะ/ข้อสังเกต กิจกรรมนี้ เป็นการเสริมความรู้เร่อื งการใชม้ าตราตวั สะกดในการแยกชอ่ื ต้นไม้ดอกไม้ รวมถงึ ใหน้ ักเรยี นสามารถอา่ นและเขยี นชือ่ ต้นไม้ ดอกไมไ้ ด้ สรา้ งเสรมิ สมรรถนะและการเรยี นรู้ พฒั นาความสามารถด้านการสอื่ สาร พฒั นาความสามารถดา้ นการคดิ และการพฒั นากรอบความคดิ แบบเปิดกวา้ ง (Growth Mindset)ห่งิ หอ้ ย ล�ำ พู ปลาตีนโกงกาง งทู ะเลแสม ปูแสม หอยแมลงภู่ หนังสอื คู่มือจัดกิจกรรม 23 การใชห้ นงั สอื เรียน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทยตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หมวดที่ ๒ สร้างเสรมิ สมรรถนะและการเรยี นรู้กลมุ่ กิจกรรมที่ ๔ พัฒนาความสามารถดา้ นการสือ่ สาร๑. ชอื่ กจิ กรรม ลกู น้อยคอยแม่๒. เวลาทีใ่ ช ้ ๒ ชั่วโมง๓. วัตถุประสงค์ ๓.๑ นักเรยี นจบั คูค่ �ำที่มีความหมายตรงกนั ข้ามได้ถกู ต้อง ๓.๒ นักเรยี นแต่งประโยคจากค�ำท่มี คี วามหมายตรงกนั ข้ามได้๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ครสู อนนกั เรยี นท�ำหวั สัตว์แมก่ ับลูก เปน็ รปู สตั วต์ ่าง ๆ เชน่ แมเ่ ป็ดกับ ลูกเป็ด แม่วัวกับลูกวัว แม่หมูกับลูกหมู และเขียนค�ำท่ีมีความหมาย ตรงกันข้ามไว้เปน็ คู่ ๔.๒ นกั เรยี นสวมหวั สตั ว์ทตี่ นเองท�ำไว้ ๔.๓ นักเรยี นร้องเพลงและท�ำท่าประกอบเดินไปรอบ ๆ เปน็ วงกลม เม่อื ครู ใหส้ ญั ญาณนกหวดี นกั เรยี นหยดุ อยกู่ บั ทแ่ี ลว้ วงิ่ หาคขู่ องตนเองทเี่ ปน็ ค�ำ ทมี่ คี วามหมายตรงกนั ข้าม ๔.๕ นกั เรยี นอ่านออกเสยี งค�ำท่จี บั คไู่ ด้ ๔.๖ นกั เรยี นแตง่ ประโยคปากเปลา่ จากค�ำทจ่ี บั คไู่ ด้ เชน่ เตยี้ -สงู = นอ้ งตวั เตยี้ แตพ่ ีต่ ัวสงู24 หนงั สอื คู่มือจดั กิจกรรม การใช้หนงั สือเรยี น กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓๕. สื่อการเรยี นรู้ หวั สตั ว์แม่-ลูก (ท�ำดว้ ยกระดาษขาวเทา)๖. การวดั และประเมนิ ผล ๖.๑ สังเกตการมีส่วนรว่ มในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ๖.๒ ความถกู ตอ้ งในการอ่านค�ำและแตง่ ประโยคปากเปล่า๗. ขอ้ เสนอแนะ/ขอ้ สังเกต กิจกรรมน้ี เป็นการเสริมความรู้เรื่องการจับคู่ค�ำที่มีความหมายตรงกันข้ามสรา้ งเสรมิ สมรรถนะและการเรียนรู้ พฒั นาความสามารถดา้ นการสื่อสาร หนงั สือคมู่ ือจัดกิจกรรม 25 การใช้หนังสือเรยี น กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทยตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธิการ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หมวดที่ ๒ สรา้ งเสรมิ สมรรถนะและการเรียนรู้กล่มุ กิจกรรมท่ี ๔ พัฒนาความสามารถดา้ นการส่ือสาร๑. ชอ่ื กจิ กรรม แม่หนอู ยไู่ หน๒. เวลาทใี่ ช้ ๒ ช่วั โมง๓. วตั ถปุ ระสงค์ ๓.๑ นกั เรยี นจับคู่ค�ำท่ีมคี วามหมายเหมือนกันไดถ้ กู ตอ้ ง ๓.๒ นกั เรยี นแตง่ ประโยคจากค�ำทมี่ คี วามหมายเหมือนกันได้๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ครสู อนนกั เรยี นท�ำหวั สตั วแ์ มก่ บั ลกู เปน็ รปู สตั วต์ า่ งๆเชน่ แมช่ า้ งกบั ลกู ชา้ ง แม่เสือกับลูกเสือ แม่หมากับลูกหมา และเขียนค�ำที่มีความหมาย เหมอื นกันไว้เปน็ คู่ ๔.๒ นักเรยี นสวมหัวสัตวท์ ่ตี นเองท�ำไว้ ๔.๓ นกั เรยี นรอ้ งเพลงและท�ำทา่ ประกอบเดนิ ไปรอบ ๆ เปน็ วงกลม เมอื่ ครใู ห้ สัญญาณนกหวีด นักเรียนหยุดอยู่กับที่แล้ววิ่งหาคู่ของตนเองที่เป็นค�ำ ที่มีความหมายเหมอื นกัน ๔.๕ นกั เรยี นอา่ นออกเสียงค�ำที่จบั คไู่ ด้ ๔.๖ นักเรียนแต่งประโยคปากเปล่าจากค�ำท่ีจบั คไู่ ด้ เช่น นก = วิหค - ฉันเหน็ นกเกาะอยูบ่ นตน้ ไม้ - ฉนั ไดย้ ินเสยี งวิหคน้อยร้องอยูเ่ จ้ือยแจ้ว26 หนังสอื ค่มู ือจัดกจิ กรรม การใชห้ นังสอื เรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓๕. ส่ือการเรียนรู้ หวั สัตวแ์ ม่-ลูก๖. การวดั และประเมินผล ๖.๑ สังเกตการมสี ว่ นรว่ มในการปฏบิ ัติกจิ กรรม ๖.๒ ความถูกตอ้ งในการอา่ นค�ำและแต่งประโยคปากเปลา่๗. ข้อเสนอแนะ/ข้อสงั เกต กิจกรรมน้ี เป็นการเสริมความรู้เรื่องการจับคู่ค�ำท่ีมีความหมายเหมือนกันสร้างเสรมิ สมรรถนะและการเรยี นรู้ พัฒนาความสามารถดา้ นการส่ือสาร หนงั สอื ค่มู ือจดั กิจกรรม 27 การใช้หนงั สือเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธกิ าร

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หมวดที่ ๒ สร้างเสริมสมรรถนะและการเรียนรู้กลมุ่ กจิ กรรมที่ ๔ พฒั นาความสามารถดา้ นการสอื่ สารพฒั นาความสามารถดา้ นการคดิ และ การพฒั นากรอบความคิดแบบเปดิ กว้าง (Growth Mindset) บทท่ี ๔ อาหารดชี วี มี สี ุข๑. ช่ือกิจกรรม บงิ โกวิสรรชนีย์๒. เวลาท่ีใช้ ๑ ชว่ั โมง๓. วัตถุประสงค์ ๓.๑ นกั เรียนอ่านค�ำทปี่ ระและไมป่ ระวิสรรชนีย์ ๓.๒ นกั เรยี นรกู้ ฎ กตกิ าในการเลน่ เกม๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ นักเรียนเขา้ แถวน่งั เป็นวงกลม ๔.๒ ครูแจกบัตรค�ำประวิสรรชนีย์และไม่ประวิสรรชนีย์ แล้วให้นักเรียนอ่าน ทลี ะคน ๔.๓ แจกแผน่ บงิ โกค�ำท่ีประและไมป่ ระวสิ รรชนยี ์ใหน้ กั เรียนคนละหนึ่งแผ่น ๔.๔ ครูสมุ่ หยิบบัตรค�ำและอ่านให้นักเรียนฟัง ถ้านักเรียนคนใดมีค�ำทคี่ รอู า่ น ให้วางฝาขวดนา้ํ ลงในแผ่นบงิ โก ๔.๕ นักเรยี นท่วี างฝาขวดน้าํ เรยี งกันครบสามฝาเป็นผูช้ นะเกมบงิ โก ๔.๖ คนทีช่ นะอา่ นค�ำในแผ่นบิงโก28 หนงั สอื คูม่ อื จัดกิจกรรม การใช้หนังสือเรียน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธิการ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓๕. สื่อการเรียนรู้ ๕.๑ บตั รค�ำท่ปี ระวิสรรชนียแ์ ละไม่ประวิสรรชนีย์ ๕.๒ แผ่นบงิ โก ๕.๓ ฝาขวดน้ําอดั ลม๖. การวดั และประเมินผล ๖.๑ สงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี นขณะปฏบิ ตั ิกิจกรรม ๖.๒ ตรวจสอบการอ่านค�ำ๗. ขอ้ เสนอแนะ/ขอ้ สังเกต กจิ กรรมนี้ เปน็ การเสรมิ ความรเู้ รอื่ งการอา่ นค�ำวสิ รรชนยี ์ สร้างเสรมิ สมรรถนะและการเรยี นรู้ พฒั นาความสามารถด้านการส่ือสาร พฒั นาความสามารถดา้ นการคิดและการพฒั นากรอบความคิดแบบเปดิ กว้าง (Growth Mindset) หนังสอื คู่มือจดั กิจกรรม 29 การใชห้ นังสือเรียน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทยตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ภาคผนวก เกมบงิ โกอุปกรณ์๑. บัตรคำ�บงิ โก ตะกรอ้ มะละกอ ตะป ู กระทะ ตะหลิว กระโดด กระโปรง ประต ู ประมาท กระเป๋า ถลอก องุน่ ประเทศ ตะโกน ขนม ขนนุ ผลิต ปฏิบัต ิ ราชการ ผลไม ้ ฝรง่ั ฉลาก ฉลาม ฉล ุ ผนัง ๒. แผน่ บิงโก เกมบงิ โกวิสรรชนยี ์ ตะกรา้ ขนนุ กระทะ ปฏิบัติ ขนม ตะปู ตะหลิว กระโปรง มะละกอ ถลอก ฝรัง่ ประเทศ ตะโกน ผลไม ้ ราชการ ตะปู กระเป๋า องนุ่ 30 หนงั สอื คูม่ ือจัดกิจกรรม การใช้หนงั สอื เรยี น กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หมวดที่ ๒ สรา้ งเสรมิ สมรรถนะและการเรียนรู้กลุ่มกจิ กรรมที่ ๔ พฒั นาความสามารถดา้ นการสอื่ สารพฒั นาความสามารถดา้ นการคดิ และ การพฒั นากรอบความคิดแบบเปิดกว้าง (Growth Mindset) บทท่ี ๗ ความฝนั เปน็ จริงได้๑. ชือ่ กิจกรรม ลว้ งลึกฝึกอ่าน๒. เวลาทใี่ ช้ ๑ ช่วั โมง๓. วตั ถปุ ระสงค์ ๓.๑ นกั เรียนอา่ นค�ำท่ใี ช้ รร (ร หนั ) ใหถ้ ูกต้อง ๓.๒ นกั เรยี นเขยี นค�ำท่ใี ช้ รร (ร หนั ) ทไ่ี ม่มีตวั สะกดและมตี ัวสะกดได้ถูกต้อง๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ครเู ขียนค�ำที่มี รร (ร หัน) อยา่ งหลากหลายลงในลกู บอลพลาสติก ๔.๒ น�ำลกู บอลท่เี ขยี นค�ำ รร (ร หนั ) ใสล่ งในกล่องกระดาษ แล้วใหน้ ักเรียน แต่ละคนล้วงลูกบอลข้ึนมาคนละ ๑ ลูก และร้องเพลงร�ำวง ๑ เพลง ใหน้ ักเรยี นทุกคนร�ำประกอบเพลงร�ำวง ๔.๓ เม่ือร้องเพลงจบให้ทุกคนอ่านค�ำในลูกบอลของตนให้เพื่อนฟัง แล้ว ผลดั กนั อา่ นใหค้ รบทกุ คน ๔.๔ เขยี นค�ำท่ีมี รร (ร หนั ) ใสใ่ นใบงาน (ดูจากภาคผนวก) หนังสอื คู่มือจัดกจิ กรรม 31 การใช้หนงั สือเรียน กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทยตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธิการ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓๕. สื่อการเรียนรู้ ๕.๑ ลกู บอลพลาสตกิ ๕.๒ กลอ่ งกระดาษ ๕.๓ เพลงร�ำวง๖. การวดั และประเมนิ ผล ๖.๑ สังเกตพฤติกรรมนกั เรยี นขณะท�ำกจิ กรรม ๖.๒ ตรวจสอบผลงาน๗. ข้อเสนอแนะ/ข้อสังเกต กจิ กรรมนี้ เปน็ การเสริมความรู้เร่ืองการอ่านค�ำทใ่ี ช้ รร (ร หัน) ทม่ี ตี วั สะกดและไมม่ ตี วั สะกด สร้างเสริมสมรรถนะและการเรียนรู้ พฒั นาความสามารถดา้ นการสอื่ สารพัฒนาความสามารถด้านการคิดและการพัฒนากรอบความคิดแบบเปิดกว้าง (GrowthMindset)32 หนังสือคูม่ ือจดั กจิ กรรม การใชห้ นงั สือเรยี น กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธกิ าร

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ภาคผนวก ล้วงลกึ ฝึกอ่านอุปกรณ์๑. เขียนค�ำ ทม่ี ี รร (ร หัน) ใสใ่ นใบงาน ชอื่ .......................................................นามสกลุ .................................................ค�ำ ทใี่ ช้ รร (ร หัน) คำ�ท่ีใช้ รร (ร หัน) ไมม่ ีตัวสะกด ตวั สะกด ภรรยา หรรษา จดั สรร จรรยา ธรรมดา พรรณนา ครรลอง อปุ สรรค วรรคตอน กรรไกร ฉกรรจ์ พรรคพวก กรรมการ สรรพคุณ หนังสือค่มู อื จัดกิจกรรม 33 การใชห้ นงั สอื เรียน กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทยตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หมวดที่ ๒ สร้างเสริมสมรรถนะและการเรยี นรู้กลมุ่ กิจกรรมที่ ๕ พัฒนาความสามารถด้านการคิดและการพัฒนากรอบความคิดแบบ เปดิ กว้าง (Growth Mindset)๑. ชื่อกจิ กรรม คำ�บนั บรร สรรค์สรา้ งจรวด๒. เวลาท่ใี ช้ ๒ ชวั่ โมง๓. วตั ถุประสงค์ ๓.๑ นกั เรยี นอ่านและเขยี นค�ำทใี่ ช้ บนั และ บรร ได้ถกู ตอ้ ง ๓.๒ นกั เรียนประดษิ ฐจ์ รวดจากกระดาษได้ ๓.๓ นกั เรียนรจู้ กั การท�ำงานรว่ มกนั๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ใหน้ กั เรยี นอา่ นแผนภมู บิ ทรอ้ ยกรอง “ค�ำทใ่ี ช้ บนั และ บรร” บนกระดาน พร้อมกัน ๔.๒ ครูและนกั เรยี นร่วมกนั หาค�ำทีใ่ ช้ บัน และ บรร จากบทรอ้ ยกรอง ๔.๓ แบ่งกล่มุ นักเรยี นตามความเหมาะสม ๔.๔ นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสนทนาถึงวิวัฒนาการของยานพาหนะทาง อากาศ ๔.๕ ครแู จกกระดาษส�ำหรับพบั จรวด ๔.๖ นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั ออกแบบจรวด แลว้ พบั ตามความคดิ ของตนเอง แลว้ เขยี นค�ำทใี่ ช้ “บัน” “บรร” ลงในปีกและล�ำตัวของจรวด พรอ้ มทั้ง ช่วยกนั ตั้งชือ่ จรวด ๔.๗ แต่ละกลุ่มน�ำจรวดที่พับได้ไปแข่งขันร่อนในสนาม จรวดกลุ่มใดร่อนได้ ไกลกว่า เปน็ กลุม่ ทช่ี นะ แล้วใหก้ ล่มุ ทีช่ นะออกมาอา่ นค�ำ บนั และ บรร34 หนังสือคู่มือจัดกจิ กรรม การใชห้ นงั สอื เรยี น กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ๔.๘ ใหน้ กั เรยี นกลมุ่ ทเ่ี หลอื ออกมาอา่ นค�ำ “บนั ” และ “บรร” ทเี่ ขยี นในจรวด หนา้ ช้ันเรียนบ้าง ๔.๙ ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปประโยชน์ที่ได้จากกิจกรรมค�ำ “บัน บรร สรรคส์ รา้ งจรวด”๕. สือ่ การเรยี นรู้ ๕.๑ แผนภูมบิ ทรอ้ ยกรอง “ค�ำทใ่ี ช้ บัน และ บรร” ๕.๒ กระดาษพบั จรวด ๕.๓ ปากกา๖. การวัดและประเมนิ ผล ๖.๑ สังเกตการอา่ นค�ำ ๖.๒ สังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิงาน ๖.๓ ประเมินผลงานการพับจรวด๗. ขอ้ เสนอแนะ/ข้อสงั เกต กิจกรรมนี้ เป็นการเสริมความรู้เร่ืองการอ่านและเขียนค�ำที่ใช้ บัน และ บรรให้นักเรียนรู้จักการท�ำงานด้วยกัน สร้างเสริมสมรรถนะการเรียนรู้ พัฒนาความสามารถด้านการสื่อสาร พัฒนาความสามารถด้านการคิดและการพัฒนากรอบความคิดแบบเปิดกว้าง (Growth Mindset) หนังสือคมู่ ือจัดกจิ กรรม 35 การใช้หนังสือเรียน กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทยตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หมวดที่ ๒ สร้างเสริมสมรรถนะและการเรียนรู้กล่มุ กจิ กรรมท่ี ๔ พัฒนาความสามารถดา้ นการสือ่ สาร๑. ชอื่ กิจกรรม คำ�พ้องรปู๒. เวลาทใ่ี ช้ ๑ ชั่วโมง๓. วัตถุประสงค์ ๓.๑ นกั เรียนอา่ นและเขียนค�ำพ้องรปู ได้ถกู ตอ้ ง ๓.๒ นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมเคล่ือนไหวร่างกายประกอบจังหวะค�ำพ้องรปู ได้๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ครตู ิดแผนภมู คิ �ำพอ้ งรูป สอนนกั เรยี นอ่านออกเสยี ง ๔.๒ ครูสาธติ การเคลอ่ื นไหวร่างกายประกอบจังหวะค�ำพ้องรปู ๔.๓ นกั เรยี นในชนั้ เคล่อื นไหวรา่ งกายประกอบจงั หวะค�ำพอ้ งรูป ๔.๔ ใหน้ กั เรยี นอ่านออกเสยี งค�ำพ้องรปู อีกครัง้ หน่งึ ๔.๕ ให้นักเรียนเขียนตามค�ำบอกค�ำพอ้ งรูป๕. ส่ือการเรียนรู้ แผนภมู ิค�ำพ้องรูป36 หนงั สอื คมู่ ือจัดกจิ กรรม การใชห้ นงั สือเรียน กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓๖. การวัดและประเมินผล ๖.๑ สังเกตการอ่าน ๖.๒ สงั เกตพฤตกิ รรมการเคลอ่ื นไหวรา่ งกายประกอบจังหวะ ค�ำพ้องรปู ๖.๓ ตรวจผลงานการเขยี นตามค�ำบอก๗. ข้อเสนอแนะ/ข้อสงั เกต กิจกรรมนี้ เป็นการเสริมความรู้เร่ืองการอ่านและเขียนคำ�พ้องรูป เพื่อให้นกั เรยี นสามารถปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเคลอ่ื นไหวร่างกายประกอบจงั หวะค�ำ พอ้ งรปู ได้ สร้างเสรมิสมรรถนะและการเรียนรู้ พฒั นาความสามารถด้านการสอ่ื สาร ภาคผนวก แผนภูมิค�ำพ้องรูป คำ�พอ้ งรูป พอ้ งรปู เขียนเหมือนกัน แต่อ่านนน้ั ต่างกนั ไป ปักเปา้ วา่ วตวั ใหญ ่ ดนู นั่ ไงปลาปกั เป้า เพลารถมีใหเ้ ห็น เพลาเยน็ ช่างเงยี บเหงา ทหารพลชี ีพเฝา้ บวงสรวงเข้าพลกี รรม กรโี ขลงใหญ่น�ำ กรกี ุง้ ด�ำดนู า่ ข�ำ แห่แหนมาช่วยท�ำ เรือหลายล�ำมจี อกแหน หนังสอื คู่มอื จดั กจิ กรรม 37 การใชห้ นังสอื เรียน กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทยตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธกิ าร

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หมวดท่ี ๒ สรา้ งเสรมิ สมรรถนะและการเรียนรู้กลุ่มกิจกรรมท่ี ๔ พฒั นาความสามารถด้านการสือ่ สาร๑. ชอื่ กจิ กรรม คำ�พอ้ งเสียง๒. เวลาท่ใี ช้ ๑ ช่วั โมง๓. วตั ถุประสงค์ ๓.๑ นักเรยี นอ่านและเขยี นค�ำพอ้ งเสยี งไดถ้ กู ต้อง ๓.๒ นักเรียนเล่นปฏิบัติกิจกรรมเคล่ือนไหวร่างกายประกอบจังหวะค�ำพอ้ งเสียงได้๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ครตู ดิ แผนภูมคิ �ำพอ้ งเสียง สอนนักเรยี นอา่ นออกเสยี ง ๔.๒ ครูสาธิตการเคลอ่ื นไหวร่างกายประกอบจังหวะค�ำพ้องเสยี ง ๔.๓ นักเรยี นในชั้นเคล่อื นไหวร่างกายประกอบจงั หวะค�ำพอ้ งเสียง ๔.๔ ให้นกั เรยี นอา่ นออกเสียงค�ำพอ้ งเสยี งอกี ครงั้ หน่งึ ๔.๕ ใหน้ ักเรยี นเขียนตามค�ำบอกค�ำพ้องเสยี ง๕. สือ่ การเรียนรู้ แผนภูมคิ �ำพ้องเสียง38 หนังสือคมู่ ือจดั กจิ กรรม การใช้หนงั สอื เรียน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓๖. การวดั และประเมนิ ผล ๖.๑ สงั เกตการอ่าน ๖.๒ สงั เกตพฤตกิ รรมการเคลื่อนไหวรา่ งกายประกอบจงั หวะค�ำพอ้ งเสียง ๖.๓ ตรวจผลงานการเขียนตามค�ำบอก๗. ขอ้ เสนอแนะ/ขอ้ สังเกต กิจกรรมน้ี เป็นการเสริมความรู้เรื่องการอ่านและเขียนค�ำพ้องเสียง เพื่อให้นักเรียนเล่นสามารถปฏิบัติกิจกรรมเคล่ือนไหวร่างกายประกอบจังหวะค�ำพ้องเสียงได้สรา้ งเสริมสมรรถนะและการเรยี นรู้ พัฒนาความสามารถดา้ นการสอ่ื สาร ภาคผนวกแผนภมู คิ �ำพอ้ งเสยี ง คำ�พ้องเสยี ง พอ้ งเสียงอา่ นเหมอื นกัน แตเ่ ขยี นนนั้ ตา่ งกนั ไป วนั ศุกรเ์ ราสขุ ใจ ซอ้ื พันธุไ์ มน้ านาพรรณ หน้าบ้านต้องนา่ อยู่ พ่อช่วยดูช่วยจัดสรร สรา้ งสรรค์ผลงานกัน คนโจษจันว่าท�ำดี โจทย์เลขโจทก์จ�ำเลย วัยเยาว์เอยอยา่ โง่เขลา ซอื้ ของราคาเยา ทกุ คนเราอยา่ ทกุ ขใ์ จ หนังสอื คู่มือจัดกิจกรรม 39 การใช้หนังสือเรียน กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทยตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หมวดท่ี ๒ สร้างเสริมสมรรถนะและการเรยี นรู้กลมุ่ กิจกรรมที่ ๔ พฒั นาความสามารถดา้ นการสอ่ื สาร๑. ช่อื กิจกรรม จานมหศั จรรย์๒. เวลาทใี่ ช้ ๑ ช่วั โมง๓. วตั ถุประสงค์ เพ่อื ใหน้ ักเรยี นอ่านและเขียนค�ำทมี่ ีตัวการนั ตไ์ ดถ้ ูกต้องได้๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ให้นกั เรยี นฝึกอา่ นค�ำที่มีตวั การันต์จากแผนภมู ิ ๔.๒ ครแู จกกระดาษโพสต์อทิ ให้นักเรียนคนละ ๑ ชดุ ๔.๓ ให้นักเรียนเขียนค�ำที่มีตัวการันต์แล้วฝึกอ่าน ค�ำไหนอ่านได้คล่อง และสามารถเขียนได้ถูก ให้นักเรียนเขียนลงในกระดาษสีท่ีติดเป็น แผ่นเล็ก ๆ แล้วน�ำไปติดไว้ท่ีจานกระดาษ จานของใครมีค�ำมากที่สุด ให้มารบั รางวลั จากครู๕. ส่ือการเรียนรู้ ๕.๑ แผนภมู ิ ๕.๒ กระดาษสตี ัดเปน็ แผน่ เลก็ ๆ ๕.๓ จานกระดาษ40 หนงั สอื คู่มือจดั กิจกรรม การใช้หนงั สอื เรียน กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓๖. การวัดและประเมินผล ทดสอบการอ่านและการเขียนค�ำทมี่ ีตัวการนั ต์๗. ข้อเสนอแนะ/ข้อสังเกต กิจกรรมนี้ เปน็ การเสริมความร้เู รอ่ื งการอา่ นและเขยี นค�ำ ท่มี ีการนั ตไ์ ด้ถกู ตอ้ งสรา้ งเสรมิ สมรรถนะและการเรียนรู้ พัฒนาความสามารถด้านการสื่อสาร หนังสอื คู่มอื จดั กิจกรรม 41 การใช้หนังสือเรียน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทยตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธิการ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หมวดที่ ๒ สรา้ งเสริมสมรรถนะและการเรยี นรู้กลมุ่ กจิ กรรมที่ ๔ พฒั นาความสามารถดา้ นการสอ่ื สาร บทท่ี ๙ คดิ ไป รไู้ ป๑. ชือ่ กจิ กรรม เกมกฬี าร่าเรงิ๒. เวลาท่ีใช้ ๒ ช่วั โมง๓. วตั ถุประสงค์ ๓.๑ เพ่อื ใหน้ ักเรยี นเขียนชอ่ื กีฬาท่รี ู้จักได้ ๓.๒ เพ่ือสรา้ งเสริมความแข็งแรงทางรา่ งกายของนักเรียน ๓.๓ เพื่อใหน้ ักเรยี นเรยี นรอู้ ย่างมีความสขุ และสนุกสนาน๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ใหน้ ักเรียนรว่ มกนั ร้องเพลง “กีฬา กฬี า เป็นยาวเิ ศษ” พรอ้ มกนั ๔.๒ แบง่ กลมุ่ นักเรียนตามความเหมาะสม ๔.๓ ครูแจกกระดาษขาวเทาและปากกาให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม แล้วให้ นกั เรียนแต่ละกลมุ่ เขียนประเภทของกีฬาที่นักเรียนร้จู ักมาให้มากท่สี ุด ในเวลา ๑๐ นาที ๔.๔ ตวั แทนแตล่ ะกลมุ่ น�ำผลงานทไี่ ด้ มาอา่ นใหเ้ พอ่ื นกลมุ่ อนื่ ฟงั หน้าชนั้ เรยี น ๔.๕ ครูตรวจความถูกต้องในการเขียนช่ือกีฬาประเภทต่าง ๆ กลุ่มใด เขยี นถูกต้องมากท่สี ุด เป็นผชู้ นะ ๔.๖ ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ ประโยชนข์ องการเล่นกฬี า42 หนังสอื คู่มอื จัดกจิ กรรม การใชห้ นงั สอื เรียน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธกิ าร

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓๕. ส่อื การเรียนรู้ ๕.๑ เพลง “กฬี า กฬี า เป็นยาวเิ ศษ” ๕.๒ กระดาษขาวเทา ๕.๓ ปากกา๖. การวดั และประเมินผล ๖.๑ สังเกตพฤติกรรมการท�ำงานร่วมกันในกลุ่ม ๖.๒ ตรวจสอบการเขยี นชือ่ กฬี าประเภทต่าง ๆ๗. ขอ้ เสนอแนะ/ขอ้ สงั เกต กิจกรรมนี้ เป็นการเสริมความรู้เร่ืองการเขียนชื่อกีฬาท่ีรู้จัก เพื่อให้นักเรียนเรยี นรู้อยา่ งมีความสุขและสนุกสนาน สรา้ งสมรรถนะและการเรียนรู้ พัฒนาความสามารถด้านการสื่อสาร หนังสอื คมู่ อื จดั กจิ กรรม 43 การใชห้ นงั สือเรียน กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทยตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร