Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 6406167 A ok 22may

6406167 A ok 22may

Published by วริษา กสิวงค์, 2021-10-26 08:48:18

Description: 6406167 A ok 22may

Search

Read the Text Version

ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๔ เลม ๑ โครงการสวนพระองคส มเดจ็ พระกนษิ ฐาธิราชเจา กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี มูลนิธิการศกึ ษาทางไกลผานดาวเทยี ม ในพระบรมราชูปถัมภ สํานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน สถาบันสง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี



ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๔ เลม ๑ โครงการสวนพระองคส มเดจ็ พระกนษิ ฐาธิราชเจา กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี มูลนิธิการศกึ ษาทางไกลผานดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ สํานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน สถาบันสง เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี

คาชแ้ี จง ตำมทส่ี ำนักงำนโครงกำรสว่ นพระองค์สมเดจ็ พระกนิษฐำธิรำชเจ้ำ กรมสมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำรี ได้จัดทำชุดกำรเรียนรู้สำหรับใช้ในโรงเรียนประถมศึกษำขนำดเล็กท่ีขำดครู มีครูไม่ครบ ชั้นหรืออยู่ในพ้ืนท่ีห่ำงไกลทุรกันดำร ซ่ึงประกอบด้วยชุดกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ (สำหรับครูผู้สอน) และชุด กิจกรรมกำรเรียนรู้ (สำหรับนักเรียน) หลังจำกที่มีกำรนำไปใช้ พบว่ำสื่อดังกล่ำวช่วยพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ ของโรงเรียนขนำดเล็กได้เป็นอย่ำงดี สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนจึงเห็นควรให้มีกำรนำสื่อ ดงั กล่ำวมำใชใ้ นโรงเรยี นประถมศึกษำท่ัวไป เพ่ือช่วยพฒั นำคุณภำพกำรศกึ ษำระดับประถมศึกษำให้ดยี งิ่ ขน้ึ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขนั้ พืน้ ฐำนและสถำบนั ส่งเสรมิ กำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี จึงได้พัฒนำชุดกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ใหส้ อดคล้องกับมำตรฐำนกำรเรยี นรู้และตวั ชว้ี ัด กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ วทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี สาระเทคโนโลยี วทิ ยาการคาํ นวณ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตำมหลักสูตรแกนกลำง กำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑ และเพ่ือให้สะดวกต่อกำรนำไปใช้ จึงจัดแยกเป็นรำยชั้น (ประถมศึกษำปีที่ ๑-๖) โดยระดับช้ันประถมศึกษำปีที่ ๑-๓ จะมีเพียงช้ันปีละ ๑ เล่ม และระดับชั้น ประถมศกึ ษำปีที่ ๔-๖ จะแยกเปน็ เล่ม ๑ และเลม่ ๒ ชดุ กำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้ (สำหรับครู) ของระดบั ชน้ั ประถมศึกษำปที ่ี ๔ เล่ม ๑ น้ี ประกอบด้วย ๖ หน่วยกำรเรียนรู้ ได้แก่ กำรใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะ กำรรวบรวมและประมวลผลข้อมลู กำรคน้ หำขอ้ มูล กำรสร้ำง ทำงเลือกในกำรแก้ปัญหำ กำรนำเสนอข้อมูล และกำรประเมินควำมน่ำเชื่อถือของข้อมูล ซึ่งแต่ละหน่วยกำร เรียนรู้จะมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วทิ ยำกำรคำนวณผำ่ นกำรทำกิจกรรมด้วยกำรลงมือปฏิบตั ิ เพื่อให้ผู้เรียนได้ ใช้ทักษะกระบวนกำรทำงเทคโนโลยี นำควำมรู้ที่ได้ไปใช้ในกำรดำรงชีวิต และรู้เท่ำทันกำรเปล่ียนแปลงของ โลกได้ คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่ำงย่ิงว่ำ ชุดกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ (สำหรับครูผู้สอน) ของระดับช้ัน ประถมศกึ ษำปีที่ ๔ เล่ม ๑ นี้ จะเป็นประโยชน์ต่อครูผู้สอนในกำรนำไปใช้จดั กำรเรยี นรูใ้ ห้กับนักเรียน เพอื่ เพ่ิม ประสิทธภิ ำพกำรจดั กำรเรียนรขู้ องครูและกำรเรียนรู้ของนกั เรียนใหส้ งู ขนึ้ ต่อไป สถำบันส่งเสรมิ กำรสอนวทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

สารสบาัญรบญั คำแคนำะแนนำะสนำหำสรับำหครับูผคสู้ รอูผนสู้ อน หนำ้ หนำ้ หนา้ ๑๑ 1 ทกั ษทะักษระบกรวะนบกวำนรทกำงรเททำคงโเนทโคลโยนีโลยี 5 โครงโสคร้ำงงสกรำ้ รงจกัดำกรจิ ัดกกรริจมกกรรำมรเกรำียรนเรียกู้ นลรมุ่ กู้สลำมุ่ระสกำำรระเกรำียรนเรยีูว้ ทินรยวู้ำิทศยำสำศตำรส์แตลระ์แเทลคะโเนทโคลโยนีโลยี 6 สสาสำรำะะเทเทคคโนโนโลโลยยี (ี ว(วทิ ทิ ยยำำกกำำรรคคำำนนววณณ))ชช้นั นั้ ปปรระะถถมมศศึกึกษษำำปปีทีที่ ๔่ี ๔ แนวแทนำวงกทำรงจกัดำหรจนัด่วหยนกว่ำรยเกรำียรนเรียู้ นรู้ 7 โครงโสคร้ำงงสรรำำ้ ยงวริชำยำวิทชำยวำทิศยำตำศร์แำตลระ์แเทลคะโเนทโคลโยนีโเลทยคี โเนทโคลโยนีโ(ลวยิทีย(วำิทกำยรำคกำนรควณำน)วรณะ)ดับระชดนั้ ับปชรนั้ะปถมระศถกึ มษศำึกปษที ำี่ ๔ปีท่ี ๔ 8 หนว่ หยนกว่ายรเกรายี รนเรียู้ทน่ี ๑รู้ทก่ี า๑รใกชา้เรหใตชุผ้เหลตเชุผงิลตเชรริงกตะรรกะ 13 สำระสสำำรคะสญั ำคมญัำตมรฐำำตนรฐแำลนะแตลวั ะชต้วี ดัวชข้ีวอดังหขอนงว่ หยนก่วำรยเกรำยี รนเรียทู้ นี่ ๑รูท้ ก่ี ำ๑รใกชำเ้ รหใตชุผ้เหลตเชผุ งิ ลตเรชรงิ กตะรรกะ 14 ลำดลบั ำกดำับรนกำเรสนนำอเสแนนอวแคนดิ วหคลิดักหขลอักงหขอนงว่ หยนก่วำรยเกรำยี รนเรยีู้ทนี่ ๑รทู้ กี่ ำ๑รใกชำ้เรหใตชุผ้เหลตเชผุ งิ ลตเรชริงกตะรรกะ 15 คำชคี้แจำชงปแี้ จระงปกอระบกแอผบนแกผำนรจกัดำรกจำัดรเกรำียรนเรยี้ทู น่ี ๑รทู้ อ่ี ัล๑กอัลรกทิ อมึ รแิทลึมะแเหลตะุผเหลตเชุผิงลตเรชรงิ กตะรรกะ 16 แนวแกนำรวจกัดำกรจิ ัดกกรรจิ มกกรรำมรเกรำียรนเรยีู้ขนอรงแู้ขผอนงแกผำนรจกดัำกรจำัดรเกรำียรนเรียู้ทน่ี ๑รู้ทอ่ี ัล๑กอัลรกิทอึมรแิทลึมะแเหลตะผุเหลตเชุผงิ ลตเรชริงกตะรรกะ 18 แผนแกผำนรจกัดำกรจำดัรเกรำียรนเรยีู้ทนี่ ๑รู้ทอี่ ัล๑กอัลรกทิ อมึ รแทิ ลมึะแเหลตะุผเหลตเชุผิงลตเรชริงกตะรรกะ 19 เฉลยเฉใบลงยำในบงำน 28 หน่วหยนก่วายรเกรายี รนเรียทู้ นี่ ๒ร้ทู ก่ี า๒รรกวาบรรวบมรขวอ้ มมขูล้อมูล 43 สำระสสำำรคะสัญำคมญัำตมรฐำำตนรฐแำลนะแตลวั ะชตี้วัดวชขี้วอดังหขอนง่วหยนก่วำรยเกรำียรนเรยีู้ทน่ี ๒รูท้ กี่ ำ๒รรกวำบรรวบมขรว้อมขูลอ้ มูล 44 ลำดลับำกดำับรนกำเรสนนำอเสแนนอวแคนดิ วหคลดิ ักหขลอักงหขอนง่วหยนก่วำรยเกรำยี รนเรยีู้ทนี่ ๒รทู้ ก่ี ำ๒รรกวำบรรวบมขรวอ้ มขูล้อมูล 45 คำชค้แี จำชงปีแ้ จระงปกอระบกแอผบนแกผำนรจกดัำรกจำัดรเกรำียรนเรยีทู้ น่ี ๒รทู้ ก่ี ำ๒รรกวำบรรวบมแรวลมะแปลระปมวระลมผวลลขผ้อลมขูลอ้ มูล 46 แนวแกนำรวจกัดำกรจิ ัดกกรริจมกกรรำมรเกรำียรนเรยีขู้ นอรงแู้ขผอนงแกผำนรจกดัำกรจำัดรเกรำียรนเรยีู้ทน่ี ๒รู้ทกี่ ำ๒รรกวำบรรวบมแรวลมะแปลระปมวระลมผวลลขผอ้ ลมขูล้อมูล 48 แผนแกผำนรจกัดำกรจำัดรเกรำยี รนเรียู้ทนี่ ๒รู้ท๒ก่ี.ำ๑รรกวำบรรวบมแรวลมะแปลระปมรวะลมผวลลขผ้อลมขลู อ้ มูล 49 เฉลยเฉใบลงยำในบงำน 56

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๓ การค้นหาขอ้ มูล หน้า สำระสำคัญ มำตรฐำนและตวั ช้วี ัดของหนว่ ยกำรเรยี นรู้ที่ ๓ กำรค้นหำข้อมูล 68 ลำดบั กำรนำเสนอแนวคดิ หลักของหน่วยกำรเรยี นรู้ที่ ๓ กำรคน้ หำข้อมลู 69 คำช้แี จงประกอบแผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ี่ ๓ กำรค้นหำและกำรใช้เทคโนโลยีอย่ำงปลอดภยั 70 แนวกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรูข้ องแผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๓ กำรค้นหำและกำรใช้เทคโนโลยอี ย่ำง 71 73 ปลอดภยั แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี ๓ กำรคน้ หำและกำรใช้เทคโนโลยีอย่ำงปลอดภยั 74 เฉลยใบงำน 80 91 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๔ การสร้างทางเลือกในการแกป้ ญั หา 92 สำระสำคัญ มำตรฐำนและตวั ช้ีวัดของหนว่ ยกำรเรยี นร้ทู ี่ ๔ กำรสร้ำงทำงเลือกในกำรแก้ปญั หำ 93 ลำดับกำรนำเสนอแนวคดิ หลักของหน่วยกำรเรียนรทู้ ี่ ๔ กำรสรำ้ งทำงเลอื กในกำรแกป้ ัญหำ 94 คำช้ีแจงประกอบแผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ ๔ กำรสร้ำงทำงเลือก 96 แนวกำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรูข้ องแผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี ๔ กำรสรำ้ งทำงเลอื ก 97 แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ ๔ กำรสรำ้ งทำงเลือก 103 เฉลยใบงำน 116 117 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๕ กำรนำเสนอขอ้ มลู 118 สำระสำคัญ มำตรฐำนและตัวช้ีวดั ของหนว่ ยกำรเรียนร้ทู ่ี ๕ กำรนำเสนอข้อมลู 119 ลำดับกำรนำเสนอแนวคิดหลักของหนว่ ยกำรเรียนรู้ท่ี ๕ กำรนำเสนอข้อมูล 121 คำช้ีแจงประกอบแผนกำรจดั กำรเรยี นร้ทู ี่ ๕ กำรนำเสนอข้อมูลใหน้ ำ่ สนใจ 122 แนวกำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้ของแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๕ กำรนำเสนอข้อมูลให้นำ่ สนใจ 126 แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ ๕ กำรนำเสนอข้อมูลใหน้ ่ำสนใจ เฉลยใบงำน

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๖ การประเมนิ ความน่าเชอื่ ถือของขอ้ มูล หน้า สำระสำคัญ มำตรฐำนและตวั ชวี้ ัดของหน่วยกำรเรียนรทู้ ี่ ๖ กำรประเมินควำมนำ่ เชื่อถอื ของข้อมูล 134 ลำดับกำรนำเสนอแนวคิดหลักของหนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ี่ ๖ กำรประเมินควำมน่ำเชื่อถอื ของขอ้ มูล 135 คำชแ้ี จงประกอบแผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ ๖ ข้อมลู น่ำเช่ือถือ แนวกำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรูข้ องแผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ ๖ ขอ้ มูลนำ่ เชื่อถือ 136 แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๖ ข้อมลู น่ำเชอื่ ถอื 137 เฉลยใบงำน 139 140 เฉลยแบบทดสอบ 145 บรรณานกุ รม 153 คณะผูจ้ ดั ทา 157 158

1 คาแนะนาสาหรับครูผสู้ อน ๑. แนวคิดหลกั กำรจัดกำรเรยี นกำรสอนวทิ ยำกำรคำนวณมุ่งใหผ้ เู้ รยี นมีควำมสำมำรถเขำ้ ใจเน้ือหำสำระวทิ ยำกำร คำนวณและนำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจำวนั ได้ รวมทัง้ เปิดโอกำสให้ผเู้ รยี นไดฝ้ ึกทกั ษะตำ่ ง ๆ เช่น ทักษะกระบวนกำรทำงเทคโนโลยี ทกั ษะกำรคิดอยำ่ งมีวิจำรณญำณ ทักษะกำรคิดสรำ้ งสรรค์ ทักษะกำร แกป้ ัญหำ ทักษะกำรเขียน ทักษะกำรอำ่ น นอกจำกนใี้ นกำรจดั กิจกรรมยังมงุ่ เนน้ กำรเรียนรรู้ ว่ มกันเปน็ กลมุ่ ซึ่งเปน็ กำรเปิดโอกำสให้ผู้เรยี นได้รว่ มกนั คิด ปรึกษำหำรอื อภปิ รำย แกป้ ญั หำ แสดงควำมคิดเห็น สะท้อน ควำมคิด และได้นำเสนอผลกำรทำกิจกรรม ซ่ึงช่วยให้ผเู้ รียนไดพ้ ฒั นำทง้ั ควำมรู้ ทกั ษะกระบวนกำรทำง เทคโนโลยีและทักษะอื่น ๆ รวมทง้ั คณุ ธรรม จรยิ ธรรมอีกด้วย กำรจดั กลุ่มอำจจัดเปน็ กลุ่ม ๒ คน หรือกลุม่ ๔-๖ คน หรอื อำจจดั กิจกรรมรว่ มกันท้งั ชัน้ ทั้งนี้ขน้ี อยู่กับวัตถปุ ระสงค์ของกำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นร้นู ัน้ ๆ ในกำรดำเนนิ กจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอนวิทยำกำรคำนวณ ส่งิ สำคญั ที่ผ้สู อนควรคำนึงถงึ เปน็ อันดบั แรกคือควำมรู้พนื้ ฐำนของผู้เรียน ผู้สอนอำจทบทวนหรือตรวจสอบควำมรเู้ ดมิ ของผเู้ รยี นโดยใช้คำถำมหรือ กลวิธตี ำ่ ง ๆ ที่กระตุ้นควำมสนใจของผเู้ รยี นและนำไปสกู่ ำรเรียนรูเ้ นอ้ื หำใหม่ ขัน้ กำรสอนเนือ้ หำใหม่ ผสู้ อน อำจกำหนดสถำนกำรณท์ ่ีเชอื่ มโยงกับเร่ืองรำวในขัน้ ทบทวนควำมรู้หรือมีคำถำม และมีกิจกรรมใหน้ ักเรียนได้ ลงมือปฏบิ ัตดิ ้วยกระบวนกำรสบื เสำะหำควำมรู้ (inquiry) ในกำรคน้ หำคำตอบท่สี งสยั ดว้ ยตนเอง ผู้สอนมี บทบำทเป็นผใู้ ห้อสิ ระทำงควำมคิดกับผูเ้ รียน คอยสังเกต ตรวจสอบควำมเข้ำใจและคอยให้ควำมช่วยเหลือและ คำแนะนำอยำ่ งใกลช้ ดิ ในกำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอน ผสู้ อนควรให้ผูเ้ รยี นแต่ละคนหรอื แตล่ ะกลุม่ ได้นำเสนอแนวคิด เพรำะผูเ้ รยี นมีโอกำสแสดงแนวคดิ เพมิ่ เติมรว่ มกนั ซักถำม อภปิ รำยขอ้ ขัดแย้งด้วยเหตแุ ละผล ผสู้ อนมีโอกำส เสรมิ ควำมรู้ ขยำยควำมรหู้ รอื สรุปประเดน็ สำคัญของสำระทน่ี ำเสนอนนั้ ทำให้กำรเรยี นรขู้ ยำยวงกวำ้ งและลึก มำกขน้ึ สำมำรถนำไปประยุกตใ์ ช้ในชีวติ จริงได้ นอกจำกนยี้ ังทำให้ผ้เู รียนเกิดเจตคติท่ีดี มีควำมภำคภูมิใจใน ผลงำน เกดิ ควำมรู้สึกอยำกทำ กล้ำแสดงออก และจดจำสำระทตี่ นเองไดอ้ อกมำนำเสนอได้นำน รวมท้ังฝึกกำร เป็นผู้นำ ผู้ตำม รับฟังควำมคิดเห็นของผู้อนื่ ๒. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ กำรนำชดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ไปใช้ ครูควรเตรียมตัวลว่ งหน้ำ ดังน้ี ๑. ศึกษำโครงสร้ำงกำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ เพื่อให้ทรำบวำ่ ตลอดท้งั ปีกำรศึกษำ นักเรียนต้อง เรียนรทู้ ้งั หมดกี่หน่วย แตล่ ะหน่วยมีหนว่ ยย่อยอะไรบ้ำง ใชเ้ วลำสอนกี่ชว่ั โมง และมกี แี่ ผน ๒. ศกึ ษำโครงสร้ำงหน่วยกำรเรียนรู้ ว่ำแตล่ ะหนว่ ยกำรเรยี นรูม้ ีเนอื้ หำอะไรบำ้ ง เนื้อหำละก่ีชั่วโมง ซง่ึ จะช่วยให้ครูผู้สอนมองเห็นภำพรวมของกำรสอนในหนว่ ยดังกลำ่ วได้อย่ำงชดั เจน

2 ๓. ศึกษำแนวกำรจัดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ ซ่งึ อยูใ่ นแผนแต่ละแผน เปน็ กำรสรุปแนวกำรจัดกิจกรรมใน แตล่ ะข้ันตอนกำรสอน ทำให้ครูมองเห็นภำพรวมของกำรจัดกำรเรียนรใู้ นชัว่ โมงนนั้ ๆ ๔. ศึกษำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ ตำมหัวข้อต่อไปน้ี ๔.๑ ขอบเขตเนอ้ื หำ เป็นเนอื้ หำทน่ี กั เรียนต้องเรยี นร้ใู นแผนที่กำลงั ศึกษำ ๔.๒ สำระสำคัญ เป็นควำมคิดรวบยอดหรอื หลักกำรทีน่ ักเรียนควรจะได้หลังจำกไดเ้ รยี นรตู้ ำม แผนทก่ี ำหนด ๔.๓ จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ แบ่งเปน็ ดำ้ นควำมรู้ ดำ้ นทกั ษะกระบวนกำรทำงเทคโนโลยี และด้ำน คณุ ธรรม ๔.๔ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ แบ่งเปน็ ขน้ั นำ ข้ันสอน และขน้ั สรุป ซึ่งแต่ละข้นั ครูผู้สอนควรศึกษำทำ ควำมเข้ำใจอยำ่ งละเอยี ด นอกจำกนค้ี รูควรพิจำรณำด้วยว่ำ ในแต่ละข้ันตอนกำรสอน ครูจะตอ้ ง ศึกษำวำ่ มีสือ่ /อปุ กรณ์อะไรบ้ำง ๔.๕ สอื่ /แหลง่ เรียนรู้ เป็นกำรบอกรำยกำรสอ่ื อปุ กรณ์ และแหลง่ เรยี นรู้ท่ีต้องใช้ในกำรจัด กิจกรรมกำรเรยี นร้ใู นช่ัวโมงน้ัน ๔.๖ กำรประเมนิ เป็นกำรบอกทง้ั วธิ กี ำร เคร่ืองมือ และเกณฑก์ ำรประเมนิ สำหรบั เครอ่ื งมอื กำร ประเมินในชดุ กำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ฯ น้ี ไดจ้ ัดเตรียมไว้ให้ครูผสู้ อนเรยี บรอ้ ยแลว้ ๓. สื่อการจัดการเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระเทคโนโลยี (วทิ ยาการ คานวณ) ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ สอ่ื กำรจัดกำรเรียนรู้ กล่มุ สำระวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี สำระเทคโนโลยี (วิทยำกำรคำนวณ) ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ่ี ๔ ประกอบด้วย ๓.๑ แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ สำหรบั ครูใชเ้ ป็นแนวทำงกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรูใ้ หก้ บั นักเรยี น ๓.๒ ใบกจิ กรรม สำหรบั นกั เรียนใช้ฝึกทกั ษะปฏิบัติ หรอื สร้ำงควำมคดิ รวบยอดในบทเรยี น โดยในใบ กิจกรรมจะประกอบด้วยใบงำน ใหน้ ักเรียนได้บันทกึ คำตอบ กำรตอบคำถำมหลงั จำกทำกิจกรรม เพื่อทบทวน ส่งิ ท่ีไดเ้ รียนรูจ้ ำกกำรทำกจิ กรรม และมีแบบฝึกหัดเพ่ือประเมนิ กำรเรยี นรู้หลังจำกเรยี นจบในแต่ละกิจกรรม ๓.๓ แบบทดสอบ เปน็ กำรวัดควำมรูค้ วำมเข้ำใจตำมตวั ช้วี ดั ท่กี ำหนดไว้ในหลกั สตู ร ใบกจิ กรรมของนักเรยี นชนั้ ประถมศกึ ษำปที ่ี ๔ ได้มีกำรกำหนดสญั ลักษณร์ ปู ดำว ๕ แฉก จำนวน ๔ ดวง และแถบสีส้ม โดย บ. หมำยถึง ใบกิจกรรม ผ. หมำยถงึ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้

3 ระดับช้ัน แผนที่ ใบกจิ กรรม ใบงานท่ี หน่วยการเรยี นรู้ที่ แผนการจดั การเรยี นรู้ หมำยเหตุ เลขแสดงลำดบั ของแผนกำรจดั กำรเรียนรู้จะเรียงตอ่ กนั จนครบทุกแผนในแตล่ ะหนว่ ยกำรเรยี นรู้ และใบงำนจะเรียงเลขตอ่ กันในแต่ละแผน เม่ือขึ้นหน่วยใหม่ กำรแสดงลำดับเลขของทั้งหน่วยกำรเรียนรู้ แผน และใบงำนจะเรม่ิ ตน้ ใหม่ ๔. ลกั ษณะชุดการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ ชุดกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ กลุม่ สำระกำรเรียนรวู้ ทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี สำระเทคโนโลยี (วิทยำกำรคำนวณ) ช้นั ประถมศึกษำปีที่ ๔ จดั ทำเปน็ หน่วยกำรเรียนรู้ (Learning Unit) โดยผำ่ นกำรวิเครำะห์ มำตรฐำนกำรเรยี นรแู้ ละตวั ชี้วัด กลุม่ สำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขน้ั พน้ื ฐำน พุทธศกั รำช ๒๕๕๑ มำจัดทำเปน็ หน่วยกำรเรียนรู้ ในแตล่ ะเล่ม เป็น ๒ เลม่ ดังน้ี เล่ม ๑ ประกอบด้วย หน่วยการเรยี นรู้ ๖ หนว่ ย ดงั น้ี หนว่ ยกำรเรยี นรูท้ ี่ ๑ กำรใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะ หนว่ ยกำรเรยี นร้ทู ี่ ๒ กำรรวบรวมขอ้ มูล หน่วยกำรเรยี นรทู้ ี่ ๓ กำรค้นหำขอ้ มลู หนว่ ยกำรเรียนรู้ท่ี ๔ กำรสรำ้ งทำงเลอื กในกำรแก้ปัญหำ หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๕ กำรนำเสนอขอ้ มูล หนว่ ยกำรเรยี นรู้ท่ี ๖ กำรประเมนิ ควำมนำ่ เชอื่ ถือของข้อมลู เลม่ ๒ ประกอบด้วย หน่วยการเรยี นรู้ ๑ หน่วย ดงั น้ี หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ่ี ๗ กำรเขยี นโปรแกรม

4 ๕. แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาตร์และเทคโนโลยี สาระเทคโนโลยี (วิทยาการ คานวณ) ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ กำรจัดทำแผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี สำระ เทคโนโลยี (วิทยำกำรคำนวณ) ช้ันประถมศึกษำปที ี่ ๔ กำหนดให้สอดคล้องกับหนว่ ยกำรเรียนรู้ แต่ละหนว่ ย กำรเรียนรู้ประกอบดว้ ย แผนกำรจดั กำรเรยี นรหู้ ลำยแผน โดยมอี งค์ประกอบของแผนกำรจัดกำรเรยี นรู้คอื ขอบเขตเน้ือหำ สำระสำคัญ จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ ซ่งึ มีทั้งดำ้ นควำมรู้ ด้ำนทักษะกระบวนกำรทำงเทคโนโลยี และด้ำนคุณธรรม กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ และกำรประเมิน สำหรับแผนกำรจัดกำรเรยี นรทู้ กุ แผน จะมแี นวกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ อยหู่ นำ้ แผนทกุ แผน ซง่ึ เปน็ กำรสรปุ ภำพรวมของกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ในชว่ั โมงน้ัน ๆ ในทุกขัน้ ตอน กำรสอนตั้งแต่ขนั้ นำ ขน้ั สอน ขัน้ สรปุ และกำรประเมนิ ผล พรอ้ มท้งั มีเฉลย คำตอบในใบงำน และเฉลยแบบทดสอบอีกดว้ ย

5 ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี ทกั ษะกระบวนกำรทำงเทคโนโลยี เป็นทักษะท่ีพัฒนำควำมสำมำรถของผูเ้ รียนในกำรแก้ปัญหำหรอื พัฒนำงำนอยำ่ งสรำ้ งสรรค์ ผูเ้ รียนจะได้รับกำรพัฒนำทกั ษะและกระบวนกำรทจ่ี ำเป็นตอ่ กำรดำรงชวี ติ ผำ่ นกำร จัดกำรเรยี นรทู้ เี่ นน้ กำรลงมือปฏบิ ตั ิ ซึ่งทกั ษะและกระบวนกำรสำคญั ของเทคโนโลยี ไดแ้ ก่ ๑. ทักษะกำรคิดเชิงระบบ ๒. ทกั ษะกำรคดิ สร้ำงสรรค์ ๓. ทักษะกำรคิดอยำ่ งมีวิจำรณญำณ ๔. ทักษะกำรคดิ วิเครำะห์ ๕. ทกั ษะกำรทำงำนร่วมกนั และกำรส่ือสำร ๖. ทกั ษะกำรคิดเชิงคำนวณ

6 โครงสร้างของชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระเทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ การใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะ การรวบรวมข้อมูล (๔ ชัว่ โมง) (๔ ชัว่ โมง) หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๓ การคน้ หาข้อมลู (๔ ชว่ั โมง) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สาระเทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) (๔๐ ชว่ั โมง/ปี) หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๗ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๔ การเขยี นโปรแกรม การสร้างทางเลือกใน (๒๐ ชว่ั โมง) การแก้ปัญหา (๔ ชวั่ โมง) หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๖ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๕ การนาเสนอข้อมลู การประเมนิ ความ น่าเช่อื ถอื ของขอ้ มูล (๒ ชัว่ โมง) (๒ ชว่ั โมง)

7 แนวทางการจัดหนว่ ยการเรียนรู้ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ เลม่ ๑ (ภาคเรยี นท่ี ๑) เล่ม ๒ (ภาคเรยี นที่ ๒) หนว่ ยกำรเรยี นรู้ที่ ๑ กำรใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ หน่วยกำรเรยี นร้ทู ี่ ๒ กำรรวบรวมข้อมลู หนว่ ยกำรเรียนร้ทู ่ี ๓ กำรค้นหำข้อมลู หน่วยกำรเรยี นร้ทู ่ี ๗ กำรเขยี นโปรแกรม หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ี่ ๔ กำรสรำ้ งทำงเลือกในกำรแก้ปัญหำ หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ่ี ๕ กำรนำเสนอข้อมูล หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ่ี ๖ กำรประเมนิ ควำมนำ่ เชื่อถือของข้อมลู

8 โครงสร้างรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ หนว่ ยการเรยี นรู้/ ตวั ชี้วัด ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔ เวลาที่ใช้ (ช่วั โมง) สาระการเรียนรู้ หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๑ ว ๔.๒ ป. ๔/๑ ใช้ กำรใชเ้ หตุผลเชิง เหตผุ ลเชงิ ตรรกะใน  กำรใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะเปน็ กำรนำกฎเกณฑ์ ตรรกะ กำรแก้ปัญหำ กำร หรือเง่ือนไขที่ครอบคลุมทกุ กรณีมำใช้ อธิบำยกำรทำงำน พจิ ำรณำในกำรแกป้ ญั หำ กำรอธิบำยกำร หน่วยกำรเรยี นรู้ที่ ๒ กำรคำดกำรณ์ผลลพั ธ์ ทำงำน หรือกำรคำดกำรณผ์ ลลัพธ์ กำรรวบรวมข้อมลู จำกปัญหำอย่ำงงำ่ ย  สถำนะเรมิ่ ต้นของกำรทำงำนทแ่ี ตกตำ่ งกัน ว ๔.๒ ป. ๔/๔ จะใหผ้ ลลพั ธ์ทแี่ ตกตำ่ งกัน รวบรวม ประเมนิ นำเสนอข้อมูลและ  ตัวอย่ำงปญั หำ เช่น เกม OX โปรแกรมทีม่ ี สำรสนเทศ โดยใช้ กำรคำนวณ โปรแกรมทมี่ ีตัวละครหลำยตวั ซอฟตแ์ วร์ที่ และมีกำรสงั่ งำนที่แตกตำ่ งหรอื มกี ำรสอ่ื สำร หลำกหลำย เพ่ือ ระหวำ่ งกัน กำรเดินทำงไปโรงเรียนโดย แก้ปัญหำใน วธิ กี ำรตำ่ ง ๆ ชีวิตประจำวัน  กำรรวบรวมขอ้ มูล ทำไดโ้ ดยกำหนดหัวข้อที่ ตอ้ งกำร เตรยี มอุปกรณ์ในกำรจดบันทกึ  กำรประมวลผลอย่ำงงำ่ ย เช่น เปรียบเทยี บ จัดกลุ่ม เรยี งลำดับ กำรหำผลรวม  วเิ ครำะหผ์ ลและสรำ้ งทำงเลือกท่เี ปน็ ไปได้ ประเมินทำงเลอื ก (เปรยี บเทียบ ตัดสนิ )  กำรนำเสนอข้อมลู ทำไดห้ ลำยลกั ษณะตำม ควำมเหมำะสม เชน่ กำรบอกเล่ำ เอกสำรรำยงำน โปสเตอร์ โปรแกรมนำเสนอ  กำรใช้ซอฟต์แวร์เพ่ือแกป้ ัญหำใน ชวี ติ ประจำวัน เช่น กำรสำรวจเมนูอำหำร กลำงวนั โดยใชซ้ อฟต์แวรส์ รำ้ งแบบสอบถำม และเก็บข้อมูล ใชซ้ อฟตแ์ วร์ตำรำงทำงำน เพ่ือประมวลผลขอ้ มูล รวบรวมขอ้ มูล เกยี่ วกบั คุณค่ำทำงโภชนำกำรและสรำ้ ง

9 หนว่ ยการเรียนรู้/ ตวั ชว้ี ดั ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๔ เวลาที่ใช้ (ชวั่ โมง) สาระการเรยี นรู้ หน่วยกำรเรยี นรู้ที่ ๓ ว ๔.๒ ป. ๔/๓ ใช้ รำยกำรอำหำรสำหรบั ๕ วัน ใช้ซอฟต์แวร์ กำรคน้ หำข้อมูล อินเทอร์เน็ตค้นหำ นำเสนอผลกำรสำรวจรำยกำรอำหำรท่ีเปน็ ข้อมูล และประเมนิ ทำงเลอื กและขอ้ มูลดำ้ นโภชนำกำร ควำมน่ำเช่ือถือของ ข้อมลู  กำรใชค้ ำคน้ ทีต่ รงประเด็น กระชับ จะทำให้ ไดผ้ ลลัพธ์ทรี่ วดเรว็ และตรงตำมควำม หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๔ ว ๔.๒ ป. ๔/๔ ตอ้ งกำร กำรสร้ำงทำงเลอื กใน รวบรวม ประเมนิ กำรแก้ปัญหำ นำเสนอข้อมูลและ  กำรประเมินควำมน่ำเชื่อถือของข้อมูล เชน่ สำรสนเทศ โดยใช้ พิจำรณำประเภทของเวบ็ ไซต์ (หนว่ ยงำน ซอฟต์แวร์ท่ี รำชกำร สำนักข่ำว องคก์ ร) ผู้เขียน วันที่ หลำกหลำย เพอ่ื เผยแพรข่ ้อมลู กำรอ้ำงอิง แก้ปญั หำใน ชวี ิตประจำวัน  เมอ่ื ได้ข้อมลู ทตี่ ้องกำรจำกเว็บไซตต์ ่ำง ๆ จะตอ้ งนำเนื้อหำมำพิจำรณำ เปรยี บเทยี บ แล้วเลือกข้อมูลท่ีมีควำมสอดคล้องและ สมั พันธก์ นั  กำรทำรำยงำนหรือกำรนำเสนอข้อมลู จะตอ้ งนำข้อมูลมำเรยี บเรียง สรปุ เป็นภำษำ ของตนเองทเ่ี หมำะสมกบั กลมุ่ เปำ้ หมำยและ วธิ กี ำรนำเสนอ (บูรณำกำรกับวิชำ ภำษำไทย)  กำรรวบรวมขอ้ มูล ทำไดโ้ ดยกำหนดหัวขอ้ ที่ ต้องกำร เตรยี มอุปกรณ์ในกำรจดบันทึก  กำรประมวลผลอยำ่ งงำ่ ย เช่น เปรียบเทยี บ จดั กลมุ่ เรยี งลำดับ กำรหำผลรวม  วเิ ครำะหผ์ ลและสรำ้ งทำงเลือกทเ่ี ป็นไปได้ ประเมินทำงเลือก (เปรียบเทียบ ตัดสนิ )  กำรนำเสนอข้อมูลทำไดห้ ลำยลักษณะตำม ควำมเหมำะสม เชน่ กำรบอกเล่ำ เอกสำรรำยงำน โปสเตอร์ โปรแกรมนำเสนอ

10 หน่วยการเรยี นรู้/ ตวั ชี้วดั ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔ เวลาทีใ่ ช้ (ช่ัวโมง) สาระการเรยี นรู้ หน่วยกำรเรยี นรู้ท่ี ๕ ว ๔.๒ ป. ๔/๔  กำรใชซ้ อฟต์แวรเ์ พือ่ แกป้ ัญหำใน กำรนำเสนอข้อมลู รวบรวม ประเมิน ชีวิตประจำวนั เชน่ กำรสำรวจเมนอู ำหำร นำเสนอข้อมลู และ กลำงวันโดยใช้ซอฟตแ์ วรส์ รำ้ งแบบสอบถำม สำรสนเทศ โดยใช้ และเกบ็ ข้อมูล ใช้ซอฟตแ์ วร์ตำรำงทำงำน ซอฟต์แวรท์ ่ี เพือ่ ประมวลผลขอ้ มูล รวบรวมขอ้ มูล หลำกหลำย เพื่อ เกี่ยวกับคุณค่ำทำงโภชนำกำรและสร้ำง แกป้ ญั หำใน รำยกำรอำหำรสำหรบั ๕ วนั ใช้ซอฟต์แวร์ ชีวิตประจำวัน นำเสนอผลกำรสำรวจรำยกำรอำหำรที่เปน็ ทำงเลือกและข้อมูลดำ้ นโภชนำกำร  กำรรวบรวมขอ้ มลู ทำได้โดยกำหนดหวั ขอ้ ท่ี ตอ้ งกำร เตรยี มอุปกรณ์ในกำรจดบนั ทกึ  กำรประมวลผลอย่ำงง่ำย เชน่ เปรยี บเทียบ จัดกลุ่ม เรยี งลำดับ กำรหำผลรวม  วเิ ครำะหผ์ ลและสร้ำงทำงเลือกทเ่ี ปน็ ไปได้ ประเมนิ ทำงเลือก (เปรยี บเทียบ ตัดสิน)  กำรนำเสนอขอ้ มลู ทำไดห้ ลำยลกั ษณะตำม ควำมเหมำะสม เช่น กำรบอกเล่ำ เอกสำรรำยงำน โปสเตอร์ โปรแกรมนำเสนอ  กำรใช้ซอฟตแ์ วร์เพอ่ื แก้ปญั หำใน ชวี ิตประจำวนั เช่น กำรสำรวจเมนอู ำหำร กลำงวนั โดยใชซ้ อฟต์แวรส์ ร้ำงแบบสอบถำม และเก็บขอ้ มูล ใช้ซอฟตแ์ วรต์ ำรำงทำงำน เพอ่ื ประมวลผลขอ้ มลู รวบรวมขอ้ มูล เกย่ี วกับคุณค่ำทำงโภชนำกำรและสร้ำง รำยกำรอำหำรสำหรับ ๕ วัน ใช้ซอฟต์แวร์ นำเสนอผลกำรสำรวจรำยกำรอำหำรทเ่ี ป็น ทำงเลือกและขอ้ มูลด้ำนโภชนำกำร

11 หนว่ ยการเรยี นรู้/ ตัวช้ีวดั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ เวลาทีใ่ ช้ (ช่วั โมง) สาระการเรียนรู้ หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๖ ว ๔.๒ ป. ๔/๓ ใช้ กำรประเมินควำม อนิ เทอรเ์ น็ตค้นหำ  กำรใชค้ ำคน้ ที่ตรงประเด็น กระชบั จะทำให้ นำ่ เชื่อถอื ของข้อมูล ขอ้ มูล และประเมิน ได้ผลลัพธท์ ร่ี วดเร็วและตรงตำมควำม ควำมน่ำเช่อื ถือของ ตอ้ งกำร หนว่ ยกำรเรียนรู้ที่ ๗ ขอ้ มลู กำรเขียนโปรแกรม  กำรประเมนิ ควำมนำ่ เช่ือถือของข้อมลู เช่น ว ๔.๒ ป. ๔/๒ พิจำรณำประเภทของเว็บไซต์ (หน่วยงำน ออกแบบ และเขียน รำชกำร สำนกั ขำ่ ว องค์กร) ผู้เขยี น วันท่ี โปรแกรมอย่ำงงำ่ ย เผยแพรข่ ้อมูล กำรอ้ำงองิ โดยใช้ซอฟต์แวรห์ รือ ส่อื และตรวจหำ  เมอื่ ไดข้ ้อมลู ทีต่ ้องกำรจำกเว็บไซต์ตำ่ ง ๆ ข้อผดิ พลำดและแก้ไข จะต้องนำเนอื้ หำมำพิจำรณำ เปรยี บเทียบ แลว้ เลอื กข้อมูลท่ีมีควำมสอดคลอ้ งและ สมั พนั ธ์กัน  กำรทำรำยงำนหรือกำรนำเสนอข้อมูล จะตอ้ งนำข้อมลู มำเรยี บเรียง สรุป เปน็ ภำษำ ของตนเองท่เี หมำะสมกับกลมุ่ เป้ำหมำยและ วธิ ีกำรนำเสนอ (บรู ณำกำรกบั วชิ ำ ภำษำไทย)  กำรออกแบบโปรแกรมอย่ำงง่ำย เชน่ กำร ออกแบบโดยใช้ storyboard หรือกำร ออกแบบอัลกอรทิ มึ  กำรเขยี นโปรแกรมเปน็ กำรสร้ำงลำดบั ของ คำสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงำน เพ่อื ให้ได้ ผลลพั ธต์ ำมควำมต้องกำร หำกมขี ้อผิดพลำด ใหต้ รวจสอบกำรทำงำนทลี ะคำสงั่ เมอ่ื พบ จุดทที่ ำใหผ้ ลลพั ธไ์ ม่ถูกต้อง ให้ทำกำรแกไ้ ข จนกวำ่ จะไดผ้ ลลพั ธท์ ี่ถูกต้อง  ตัวอย่ำงโปรแกรมทม่ี ีเรื่องรำว เช่น นิทำนท่ี มกี ำรโต้ตอบกบั ผ้ใู ช้ กำรต์ ูนส้ัน เลำ่ กิจวัตร ประจำวัน ภำพเคล่อื นไหว

12 หน่วยการเรียนรู้/ ตวั ชว้ี ัด ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ เวลาทีใ่ ช้ (ชว่ั โมง) สาระการเรยี นรู้  กำรฝกึ ตรวจหำข้อผิดพลำดจำกโปรแกรม ของผู้อนื่ จะช่วยพฒั นำทักษะกำรหำสำเหตุ ของปญั หำไดด้ ีย่ิงข้ึน  ซอฟต์แวรท์ ่ใี ชใ้ นกำรเขียนโปรแกรม เช่น Scratch, logo

13 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๑ การใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะ

14 หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ การใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะ จานวนเวลาเรียน ๔ ชวั่ โมง จานวนแผนการจดั การเรียนรู้ ๑ แผน ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- สาระสาคญั ของหนว่ ย การคิดอย่างเป็นระบบเป็นข้ันตอนและการใช้เหตุผลเชิงตรรกะจะชว่ ยให้การแกป้ ญั หามปี ระสิทธิภาพ มาตรฐานและตัวชว้ี ดั มาตรฐาน ว ๔.๒ เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชงิ คานวณในการแกป้ ญั หาที่พบในชวี ิตจริงอยา่ งเปน็ ขั้นตอนและเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทัน และมจี รยิ ธรรม ตวั ชว้ี ัด ว ๔.๒ ป. ๔/๑ ใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะในการแก้ปัญหา อธบิ ายการทางาน การคาดการณผ์ ลลพั ธ์ จากปญั หาอย่างง่าย

15 ลาดับการนาเสนอแนวคดิ หลกั ของหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ การใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ การแสดงขนั้ ตอนการทางานหรอื การแกป้ ัญหา การใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะ โครงสรา้ งของหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ การใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะ หน่วยการเรียนรู้ จานวนแผน ชอื่ แผนการจัดการเรียนรู้ จานวนช่ัวโมง ๔ หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ ๑ ๑ อลั กอรทิ ึมและเหตุผลเชงิ ตรรกะ การใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ

16 คาชแ้ี จงประกอบแผนจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑ อลั กอริทึมและเหตผุ ลเชงิ ตรรกะ เวลา ๔ ชั่วโมง ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ๑. สาระสาคัญของแผน การแสดงขั้นตอนการทางานหรือการแก้ปญั หา จะช่วยฝกึ ทกั ษะการคิดอย่างเปน็ ข้ันตอน การใช้ เหตุผลเชงิ ตรรกะ จะช่วยฝึกทักษะของการแกป้ ัญหาอย่างมีเหตุมผี ล ๒. ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมในการนาไปใช้ ๒.๑ ขอบขา่ ยเน้อื หา การแสดงขั้นตอนการทางานหรือการแก้ปัญหาและการใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะ ๒.๒ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ จดุ ประสงค์ด้านความรู้ ๑. การแสดงขน้ั ตอนการทางานหรือการแกป้ ัญหา ๒. การใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ จุดประสงค์ด้านทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี ๑. ใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแก้ปญั หา จดุ ประสงค์ด้านคณุ ธรรม ๑. มีความมงุ่ ม่นั ในการทางาน ๒. มีความซอ่ื สัตยต์ ่อตนเอง ๓. ใฝ่เรยี นรู้ ๔. มีวนิ ยั ๕. ความสามคั คี ช่วยเหลือในการทางานกลมุ่ รว่ มกนั ๒.๓ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ๑) การเตรียมตัวของครู นักเรยี น การจดั กลมุ่ โดยแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๔ คน ๒) การเตรียมส่ือ วสั ดุอปุ กรณ์ ของครู นกั เรียน สง่ิ ท่ีครตู ้องเตรยี ม คือ - ส่งิ ท่นี ักเรยี นต้องเตรยี ม คือ ๒.๑ ดนิ สอ จานวน ๑ แทง่ /คน ๒.๒ ดินสอสี จานวน ๑ กล่อง/กลมุ่ ๓) เตรยี มใบงาน ใบความรู้ ใบกจิ กรรม

17 ๓.๑ ใบงาน ๐๑ พานอ้ งแมวกลบั บา้ น ๓.๒ ใบงาน ๐๒ ใหม้ า ตอบไป ๓.๓ ใบงาน ๐๓ ใคร อะไร ทีไ่ หน ๓.๔ ใบงาน ๐๔ นักสบื น้อยถอดรหสั ๓.๕ ใบงาน ๐๕ แบบฝกึ หดั เร่ืองอลั กอริทมึ และเหตุผลเชิงตรรกะ ๒.๔ วัดผลประเมินผล ๑) วธิ ีการวัดผลประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ การตอบคาถามในใบงาน ๑.๒ สังเกตทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยีในการทากจิ กรรม ๑.๓ สงั เกตดา้ นคณุ ธรรมขณะทากิจกรรม ๒) วิธกี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์ ๒.๑ เครื่องมือและเกณฑ์ในการประเมนิ ด้านความรู้ ตรวจให้คะแนนจากการตอบคาถามในใบงาน แลว้ ใชเ้ กณฑ์ในการให้คะแนน ดังนี้ - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ต่ากวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน ๒.๒ เครอ่ื งมือและเกณฑ์ในการประเมินทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี สังเกตทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี โดยใชแ้ บบประเมินทกั ษะกระบวนการทาง เทคโนโลยี (ดงั แนบ) นาคะแนนมารวมกนั แล้วใชเ้ กณฑ์ในการใหค้ ะแนนดังนี้ - มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ต่ากว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน ๒.๓ เครอื่ งมือและเกณฑใ์ นการประเมนิ ดา้ นคุณธรรม สังเกตคุณลักษณะดา้ นคณุ ธรรมโดยใช้แบบประเมนิ ดา้ นคุณธรรม (ดังแนบ) นาคะแนนมารวมกนั แล้วใชเ้ กณฑ์ในการให้คะแนน ดงั นี้ - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ต่ากว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน ๓) การทดสอบกอ่ นเรยี น หลังเรียน แบบฝึกหดั ก่อนเรยี น หลงั เรยี น ทาแบบฝกึ หัดในใบงานหลงั เรียน ๓. อน่ื ๆ ............................................................................................................................. ........................................

18 หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ การใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะ แนวการจัดกจิ กรรมการเรยี นรขู้ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เร่อื ง อัลกอรทิ ึมแล รายวชิ าวิทยาศาสตรแ์ ล แนวการจดั กิจก ข้นั นา  จับคู่เพ่ือนอธบิ ายวธิ กี ารเดนิ ทางจากบ ขน้ั สอน  ทากิจกรรมท่ี ๑ ใช้อลั กอรทิ ึมและเหต  ทาใบงาน ๐๑ พาน้องแมวกลับบา้ น ข้ันสรปุ  ทาใบงาน ๐๒ ให้มา ตอบไป วดั และประเมนิ ผล  ทาใบงาน ๐๓ ใคร อะไร ทีไ่ หน  ทาใบงาน ๐๔ นกั สบื น้อยถอดรหัส  อภิปรายและลงขอ้ สรุปเกยี่ วกับอัลกอร  ใบงาน ๐๕ แบบฝกึ หัด เรือ่ งอัลกอริทมึ  ประเมนิ จากการตอบคาถาม  ประเมนิ จากการทากิจกรรมในช้นั เรียน  ประเมนิ จากการทาแบบฝึกหัด

ของแผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑ เวลา ๔ ช่ัวโมง ละเหตุผลเชงิ ตรรกะ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ ละเทคโนโลยี เทคโนโลยี กรรมการเรยี นรู้ บ้านมาโรงเรยี น ตผุ ลเชิงตรรกะอย่างไร รทิ ึมและเหตุผลเชงิ ตรรกะ มและเหตุผลเชิงตรรกะ น

กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโล หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ การใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะ แผนการจดั ก กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรอ่ื ง อลั กอริทึมและ รายวิชาวทิ ยาศาสตร์แ ขอบเขตเนือ้ หา กิจกรรมการเรียนรู้ (๔ ช่ัวโมง) การแสดงขั้นตอนการทางาน ชวั่ โมงที่ ๑ ขนั้ นา (๑๐ นาท)ี หรือการแก้ปญั หาและการใช้ ๑. ครูแจกกระดาษทม่ี ชี ื่อสถานท่ีปลายทางใหน้ เหตุผลเชิงตรรกะ จดุ ประสงคด์ ้านความรู้ โรงอาหาร ห้องคอมพวิ เตอร์ ห้องดนตรี หอ้ นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ว่าถ้าต้องการเดินทางจา ๑. การแสดงข้นั ตอนการทางาน เส้นทางอย่างไรให้ผทู้ ่ีมาเยย่ี มโรงเรียนเดนิ ไ หรือการแกป้ ญั หา ๒. ครูสุ่มนกั เรยี น ๒-๓ กล่มุ ออกมานาเสนอวิธ สถานท่ีปลายทาง นักเรียนกลุ่มทน่ี งั่ ฟังการน ๒. การใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะ นน้ั คอื ท่ีใด จดุ ประสงค์ด้านทักษะ ๓. ครูสรปุ ว่าการนาเสนอของเพ่ือนกล่มุ ใดชดั เ กระบวนการทางเทคโนโลยี (แนวตอบ : อธิบายไดล้ ะเอียด บอกระยะท ๑. ใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะในการ ขน้ั สอน (๔๐ นาท)ี ๔. ครูแบ่งกลุ่มนักเรยี นกลุ่มละ ๔ คน แกป้ ญั หา จุดประสงคด์ า้ นคณุ ธรรม ๑. มีความมงุ่ มัน่ ในการทางาน ๒. มคี วามซื่อสัตยต์ ่อตนเอง

19 ลยี เทคโนโลยี ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ การเรียนรทู้ ี่ ๑ เวลา ๔ ช่วั โมง ะเหตุผลเชงิ ตรรกะ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๔ และเทคโนโลยี เทคโนโลยี สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ไม่ซ้ากนั เช่น หอ้ งสมดุ ๑. ใบงาน องนาฏศิลป์ ห้องพยาบาล เสาธง แล้วถาม ภาระงาน/ช้นิ งาน ากห้องเรียนไปยังสถานท่ดี ังกล่าว จะอธิบาย ๑. การตอบคาถามในใบงาน ไปได้ถูกต้อง ๒. การทาแบบฝกึ หัด ธีการเดินทางท่ีได้รับในขอ้ ๑ โดยไม่บอก วธิ กี ารประเมิน นาเสนอคิดตามและทายว่าสถานท่ีปลายทาง ๑. การตอบคาถามในแบบฝึกหัด ๒. สงั เกตทักษะกระบวนการ เจนท่สี ดุ และถามนักเรียนวา่ เพราะเหตุใด ทางเทคโนโลยีในการทากจิ กรรม ทาง/ตาแหน่ง/ทิศทาง/จุดสังเกต) ๓. สงั เกตด้านคุณธรรมขณะ ทากิจกรรม เกณฑก์ ารประเมนิ ๑. การตอบคาถามในแบบฝึกหดั

20 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ การใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะ แผนการจดั ก กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรือ่ ง อัลกอริทึมและ รายวิชาวิทยาศาสตร์แ ๓. ใฝเ่ รียนรู้ ๕. ครูแจกใบงาน ๐๑ ให้แต่ละกลมุ่ ร่วมกันทาแ ๔. มวี นิ ัย คาแนะนาเกีย่ วกบั การดูแผนท่ี ตาแหน่งในแ ๕. มีความสามัคคี ชว่ ยเหลือใน แผนท่ี และบา้ นแมวอยู่ตาแหนง่ ใดในแผนท การทางานกลุ่มร่วมกนั ๖. ครูสมุ่ นกั เรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอหน ไมเ่ หมือนกัน ขน้ั สรุป (๑๐ นาที) ๗. ครถู ามคาถามนักเรียนเพื่อเข้าส่ปู ระเด็นการ เชน่ - วนั น้นี กั เรียนได้เรยี นอะไรไปบ้าง (แนว - การอธบิ ายเสน้ ทางใหค้ นทไ่ี ม่รจู้ กั เดินท ตอบ : อธบิ ายได้ละเอียด บอกระยะทา ๘. ครูนาสรุปแนวคิดเก่ยี วกับอัลกอริทึม ดังน สถานท่ตี า่ ง ๆ หรอื ขนั้ ตอนการพาแมวเหม ขั้นตอนการทางานหรือการแก้ปัญหา นน่ั เ ชั่วโมงท่ี ๒ ขน้ั นา (๑๐ นาที)

การเรยี นรูท้ ี่ ๑ เวลา ๔ ชั่วโมง ะเหตุผลเชิงตรรกะ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔ และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ไดถ้ กู ต้องด้วยตนเอง และตอบคาถามในใบงาน โดยครเู ป็นผู้ให้ - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน แผนท่ี เช่น อาจดวู า่ แมวอยูต่ าแหน่งใดใน - ๕๐ % - ๗๕ % ได้ ๒ คะแนน ที่ และจะเดินทางกลบั บ้านได้อยา่ งไร - ต่ากวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน นา้ ช้นั เรยี น ซงึ่ แต่ละกลมุ่ อาจจะได้คาตอบที่ ๒. มีคณุ ลักษณะด้านคุณธรรม - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน รสรปุ เกย่ี วกับอลั กอรทิ ึม ตัวอยา่ งคาถาม - ๕๐ % - ๗๕ % ได้ ๒ คะแนน - ตา่ กว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน วตอบ : การบอกเสน้ ทางเดิน/วิธีเดนิ ทาง) ทางไปได้ถกู ตอ้ ง ควรจะอธบิ ายอยา่ งไร (แนว าง/ตาแหนง่ /ทิศทาง/จดุ สงั เกต) น้ี “ข้นั ตอนการเดินทางจากห้องเรยี นไปยงั มียวกลับบ้าน นั้น เรยี กวา่ อัลกอรทิ มึ หรือ เอง”

หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ การใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ แผนการจดั ก กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่อง อัลกอริทึมและ รายวิชาวิทยาศาสตร์แ ๑. ครสู ุ่มนกั เรียน ๓ คน ที่มีความสูงแตกต่างก จดั ลาดบั ตามความสูงดงั รูป คนที่ ๑ คนที่ ๒ ๒. ครดู จู ากความสงู ของนักเรียนทั้ง ๓ คน และ - นกั เรียนคนท่ี ๑ (อาจบอกชื่อ) สงู กว่าน - นักเรียนคนที่ ๓ สูงกวา่ คนที่ ๑ แล้วต้งั คาถามวา่ - นกั เรียนคนท่ี ๒ สูงกว่านกั เรยี นคนท่ี ๓ - นักเรียนคนที่ ๓ สงู กวา่ นักเรียนคนท่ี ๒ ๓. ครสู รุปโดยเขียนสญั ลักษณ์แสดงความสมั พ คนท่ี ๓ > คนท่ี ๑ > คนท่ี ๒ (เคร ข้นั สอน (๓๐ นาที) ๔. ครแู บง่ กลุ่มนักเรียนกลุ่มละ ๔ คน และให้น

การเรยี นรทู้ ี่ ๑ 21 ะเหตุผลเชงิ ตรรกะ และเทคโนโลยี เทคโนโลยี เวลา ๔ ช่วั โมง กนั ออกมายนื เรียงกันหนา้ ชน้ั เรยี น โดย ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ คนท่ี ๓ ะบอกข้อมูลแก่นกั เรยี นดังน้ี นักเรียนคนท่ี ๒ ๓ ใช่หรอื ไม่ (คาตอบ : ไม่ใช่) ๒ ใชห่ รือไม่ (คาตอบ : ใช่) พันธ์ของความสงู นักเรยี น ๓ คน ดงั น้ี ร่ืองหมาย “>” แทนคาวา่ “สูงกว่า”) นักเรยี นแต่ละกลุ่มช่วยกันทาใบงาน ๐๒

22 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ การใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะ แผนการจัดก กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรอื่ ง อลั กอรทิ ึมและ รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์แ ๕. ครูสมุ่ นักเรยี นนาเสนอคาตอบใบงาน ๐๒ ข้นั สรปุ (๒๐ นาที) ๕. ใหน้ กั เรียนตอบคาถามหลังจากทากจิ กรรม โดยสามารถเปรยี บเทยี บข้อมูลไดอ้ ยา่ งสมเห ชว่ั โมงท่ี ๓ ขนั้ นา (๑๐ นาท)ี ๑. ครูแนะนาการทางานของเครื่องหมาย มาก 1 < 2 คอื หมายเลข 1 น้อยกว่า 2 8 > 5 คือ หมายเลข 8 มากกวา่ 5 และครูตงั้ คาถามว่าการทางานของเคร่ืองห (แนวคาตอบ ถา้ ด้านกว้างหนั ไปทางใด แส ๒. ครูถามนักเรยี นเกี่ยวกบั การใชเ้ ครอื่ งหมาย เขยี นวา่ หอ้ งเรียนอากาศรอ้ นกวา่ หอ้ งพยา มากกว่าน้อยกวา่ อยา่ งไร (แนวคาตอบ หอ้ ๓. ครูตงั้ คาถามให้นักเรียนหาข้อสรปุ วา่ ห้องอ พยาบาล) ขน้ั สอน (๔๐ นาท)ี

การเรียนรทู้ ี่ ๑ เวลา ๔ ช่ัวโมง ะเหตุผลเชิงตรรกะ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ และเทคโนโลยี เทคโนโลยี และสรปุ เก่ียวกบั อลั กอริทมึ ในใบงาน ๐๒ หตุสมผลจากสถานการณ์ที่กาหนดให้ กกว่า น้อยกว่า เช่น หมาย ๒ ชนิดนแี้ ตกต่างกันอยา่ งไร สดงวา่ คา่ นั้นมีค่ามาก) ยมากกวา่ (>) และ น้อยกวา่ (<) เช่น ถ้าจะ าบาลจะเขยี นเคร่ืองหมายเปรียบเทยี บ องพยาบาลมีอากาศเย็น>หอ้ งเรยี น) อะไรที่มีอากาศเย็นกวา่ กัน แนวคาตอบ (ห้อง

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑ การใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะ แผนการจัดก กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรอื่ ง อัลกอริทึมและ รายวชิ าวิทยาศาสตร์แ ๔. ครูแบ่งกล่มุ นักเรียนกลุ่มละ ๔ คน ๕. ครูแจกใบงาน ๐๓ ให้แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ทา คาแนะนาเก่ียวกบั การใช้เคร่อื งหมายเปรยี ๖. ครสู ุ่มนกั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอหน ไมเ่ หมือนกัน ขน้ั สรปุ (๑๐ นาที) ๗. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรุปการตอบคาถาม ความเข้าใจ ตวั อย่างคาถาม เช่น - จากใบงาน ๐๓ ตอนท่ี ๑ นักเรยี นมีวิธ - จากใบงาน ๐๓ ตอนที่ ๒ นักเรยี นทรา ชวั่ โมงท่ี ๔ ขัน้ นา (๑๐ นาท)ี ๑. ครใู ห้นกั เรียนดูภาพข้อความ แลว้ ถามนักเรียนว่าภาพนีเ้ ปน็ ข้อความอะไ ๒. ครูให้นักเรยี นดภู าพ ดงั น้ี

การเรียนรู้ที่ ๑ 23 ะเหตุผลเชงิ ตรรกะ และเทคโนโลยี เทคโนโลยี เวลา ๔ ชว่ั โมง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ าและตอบคาถามในใบงาน โดยครเู ป็นผใู้ ห้ ยบเทียบมากกวา่ นอ้ ยกวา่ นา้ ช้นั เรียน ซ่งึ แตล่ ะกลุ่มอาจจะไดค้ าตอบท่ี มในใบงาน ๐๓ โดยครตู ง้ั คาถามเพอ่ื ทดสอบ ธีคดิ หาคาตอบอยา่ งไร าบได้อย่างไรวา่ รูปต่อไปควรเป็นรูปใด ไร (เป็นข้อความภาษาองั กฤษปรกติ)

24 แผนการจัดก เรอื่ ง อัลกอริทึมและ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ การใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะ รายวิชาวิทยาศาสตร์แ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทีม่ าของแหล่งขอ้ มูล https://www.pinterest.com /pin/745064332075307172/ แล้วถามวา่ ภาพนีค้ ืออะไร (ภาษาสญั ลักษณ์) ๓. ครูถามนักเรยี นว่า ภาพแรกแตกตา่ งจากภ ๔. ครอู ธบิ ายเพิ่มเตมิ วา่ เราสามารถแปลงรหสั อ่านไมเ่ ขา้ ใจได้ หรอื ถอดรหัสจากภาษาที่อ ๕. ครูให้นกั เรียนทดลองเล่นเกมถอดรหัส และ ขน้ั สอน (๓๐ นาที) ๖. ครแู นะนานักเรยี นเก่ียวกับวิธีการในการถอ ๗. ครแู บ่งกลุ่มนักเรยี นกลุ่มละ ๔ คน และให

การเรยี นรู้ที่ ๑ เวลา ๔ ชัว่ โมง ะเหตุผลเชิงตรรกะ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ภาพท่ี ๒ อย่างไร สจากภาษาองั กฤษ ไปเปน็ ภาษาสญั ลักษณ์ท่ี อ่านไมอ่ อกใหเ้ ป็นภาษาท่ีอ่านออกได้ ะแปลงรหสั อยา่ งละ 1 เกม อดรหสั และวธิ กี ารแปลงรหัส หน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มช่วยกันทาใบงาน ๐๔

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑ การใช้เหตุผลเชิงตรรกะ แผนการจัดก กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรอ่ื ง อัลกอรทิ ึมและ รายวิชาวิทยาศาสตร์แ ๘. ครูสุ่มนกั เรยี นนาเสนอคาตอบใบงาน ๐๔ ด้วย หรือถามวา่ มีใครได้คาตอบท่ีแตกตา่ งจ ขัน้ สรปุ (๒๐ นาที) ๙. ให้นกั เรยี นตอบคาถามหลงั จากทากิจกรรม และการแปลงรหัส เชน่ นักเรยี นสามารถต สรุปเกี่ยวกบั อลั กอรทิ ึมซึ่งคือการแสดงข้นั ต เหตุผลเชิงตรรกะ โดยสามารสรปุ จากขอ้ ม ๑๐. ครูแจกใบงาน ๐๕ แบบฝกึ หัด เรื่องอลั กอร ทดสอบความเขา้ ใจ

การเรยี นรทู้ ี่ ๑ 25 ะเหตุผลเชิงตรรกะ และเทคโนโลยี เทคโนโลยี เวลา ๔ ชัว่ โมง ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๔ ซึ่งคาถามเดียวกันอาจถามนกั เรียนกลุ่มอืน่ จากนี้หรือไม่ เพราะอะไร ม และตงั้ คาถามเพิ่มเตมิ เกยี่ วกับการถอดรหัส ตัง้ รหัสของตนเองได้หรือไม่ อย่างไร จากนนั้ ตอนการทางานหรือการแก้ปญั หาและการใช้ มูลทใี่ หม้ าได้อย่างสมเหตุสมผล รทิ ึมและเหตุผลเชงิ ตรรกะ เพื่อใหน้ ักเรยี น

26 แบบประเมินดา้ นคณุ ธรรม แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๑ อลั กอริทึมและเหตผุ ลเชิงตรรกะ ชื่อผปู้ ระเมิน/กลุ่มประเมนิ ……………………………………………………………………………………………………………………………….. ชือ่ กลุ่มรับการประเมิน……………………………………………………………………………………………………………………. ประเมินผลครง้ั ที่………………….... วัน ……………..……... เดอื น ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………............. เรอื่ ง………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ที่ ลกั ษณะ/พฤติกรรมบ่งช้ี ระดับพฤติกรรม คะแนนที่ได้ เกิด = ๑ ไมเ่ กิด = ๐ ๑. มคี วามมงุ่ ม่ันในการทางาน ๒. มคี วามซอ่ื สัตยต์ ่อตนเอง ๓. ใฝ่เรียนรู้ ๔. มวี นิ ยั ๕. ความสามัคคี ชว่ ยเหลอื ในการทางานกล่มุ รว่ มกนั รวมคะแนนทไี่ ด้ทงั้ หมด = …………… คะแนน คุณลักษณะตามจดุ ประสงคด์ ้านคุณธรรม - มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน - ตา่ กวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน

27 แบบประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยีในการทากิจกรรม แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑ อัลกอรทิ ึมและเหตุผลเชิงตรรกะ เกณฑก์ ารประเมิน มีดงั น้ี ๒ หมายถงึ พอใช้ ๑ หมายถงึ ควรปรับปรงุ ๓ หมายถึง ดี สิง่ ท่ปี ระเมิน คะแนน ใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแก้ปัญหา รวมคะแนน เกณฑ์การประเมิน ทักษะ ระดบั ความสามารถ กระบวนการทาง ดี (๓) พอใช้ (๒) ควรปรบั ปรุง (๑) เทคโนโลยี สามารถใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะใน ไมส่ ามารถใช้เหตผุ ลเชงิ ใชเ้ หตผุ ลเชงิ สามารถใชเ้ หตผุ ลเชงิ การแก้ปัญหา โดยการชแ้ี นะ ตรรกะในการแก้ปญั หา ถงึ แม้ ของครูหรือผู้อืน่ จะไดร้ ับคาแนะนาจากครูหรือ ตรรกะในการ ตรรกะในการแก้ปญั หา ผอู้ ืน่ แก้ปญั หา ด้วยตนเอง

28 เฉลยใบงาน

29

30

31 1. เดนิ ตรงไปทางขวา ๑,๐๐๐ เมตร ๒,๓๐๐ 2. เล้ียวขวาเดินตามทางโคง้ ๘๐๐ เมตร 3. เดินตรงลงไปด้านล่าง ๕๐๐ เมตร ระยะทางรวมในการเดนิ ทางนอ้ ยทส่ี ดุ มี เชน่ เดินตรงไปทางขวา ๕๐๐ เมตร เล้ยี วขวา เดนิ ตรงไป ๑,๐๐๐ เมตร เล้ยี วซ้าย เดนิ ตรงไป ๑,๐๐๐ เมตร ถงึ บ้านแมวเหมียว หมายเหตุ คาตอบของนักเรียนอาจแตกตา่ งจากน้ี ให้ครพู จิ ารณาขั้นตอนการเดินทาง ของนักเรียนว่าสามารถพาแมวเหมียวกลบั บ้านไดห้ รือไม่

32

33

34 √ ขนาดแปลงปลกู ผกั ของซี > >ขนาดแปลงปลูกผกั ของเอ ขนาดแปลงปลกู ผักของบี √ มขี นาดเลก็ กว่า อายจุ าปา > อายจุ าปี > อายจุ าปนู √ เปน็ นอ้ งของ

35 >จานวนขน้ั บนั ได จานวนข้ันบนั ได จากช้นั ๑ ไป ช้นั ๒ จากช้นั ๒ ไป ชน้ั ๓ และ จานวนขั้นบนั ได จากช้ัน ๓ ไป ชน้ั ๔ √ เวลาทเ่ี อม๋ าถึง < เวลาที่โอ๋มาถงึ < เวลาที่โกม๋ าถงึ < เวลาที่เก๋มาถึง √ เอ๋ เก๋


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook