Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

Published by Suttirat Srisawat, 2021-09-27 19:52:48

Description: การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

Search

Read the Text Version

กิจกรรมท่ี 1.1 เขยี นกราฟ จุดเดอื ดของสารบริสทุ ธ์ิ 3

4 กจิ กรรมที่ 2 เรอ่ื ง จุดเดอื ดของสารผสม จดุ ประสงค์ เพ่ืออธบิ ายเกี่ยวกบั จุดเดอื ดของสารผสม อุปกรณ์ 1.น้าเปล่า(จากกิจกรรมที่ 1) 2.เกลือ 3.บกี เกอร์ 4.ตะเกียงแอลกอฮอล์ 5.เทอรม์ อมิเตอร์ 6.ชุดขาต้ังและมือจับ 7.แทง่ แกว้ คนสาร วธิ ีทา 1.เติมเกลอื (สารผสม)ลงไปในบีกเกอร์ทีม่ นี ้าเปล่า(นานา้ เปล่ามาจากกิจกรรมท่ี 1) 2.นาบีกเกอรไ์ ปตง้ั ไว้บนตะเกยี งแอลกอฮอล์ 3.นาเทอรม์ อมิเตอรจ์ ุม่ ลงไปในนา้ ท่ีผสมเกลือโดยไม่ใหเ้ ทอรม์ อมิเตอร์สมั ผัสกับ บีกเกอร์โดยใชช้ ุดขาต้ังและมือจบั ยดึ ไว้ 4.ใชแ้ ท่งแกว้ คนใหล้ ะลายจนหมด 5.จากนั้นสงั เกตและอ่านคา่ ทกุ ๆ 1 นาทีจนนา้ เดอื ดแล้วอา่ นอณุ ภูมติ ่อไป อกี 10 นาที และบนั ทกึ ขอ้ มลู

กิจกรรมท่ี 2.1 เขยี นกราฟ จดุ เดอื ดของสารผสม 5

6 กิจกรรมท่ี 3 เรื่อง จุดหลอมเหลวของสารบรสิ ธุ ์ิ จดุ ประสงค์ เพ่ืออธิบายเกี่ยวกับจุดหลอมเหลวของสารบริสทุ ธ์ิ อปุ กรณ์ 1.นา้ แข็ง 2.บกี เกอร์ 3.ตะเกยี งแอลกอฮอล์ 4.เทอร์มอมิเตอร์ 5.ชดุ ขาตงั้ และมอื จับ วิธที า 1.นาน้าแขง็ (สารบรสิ ทุ ธ์ิ)ใสล่ งไปในบีกเกอร4์ -5 กอ้ น 2.นาบกี เกอรไ์ ปต้งั ไวบ้ นตะเกยี งแอลกอฮอล์ 3.นาเทอรม์ อมิเตอร์จุ่มลงไปในน้าแขง็ โดยไม่ใหเ้ ทอรม์ อมิเตอร์สมั ผสั กับบีกเกอร์ โดยใชช้ ดุ ขาตั้งและมอื จบั ยดึ ไว้ 4.จากน้นั สงั เกตและอ่านคา่ ทุกๆ 1 นาทจี นน้าเดอื ดแล้วอ่านอณุ ภมู ิตอ่ ไป อกี 10 นาที และบนั ทกึ ข้อมลู

กจิ กรรมท่ี 3.1 เขยี นกราฟ จดุ หลอมเหลวของสารบริสทุ ธ์ิ 7

8 กจิ กรรมที่ 4 เรอ่ื ง จดุ หลอมเหลวของสารผสม จดุ ประสงค์ เพื่ออธิบายเกยี่ วกับจดุ หลอมเหลวของสารผสม อปุ กรณ์ 1.แท่งเทยี นขีผ้ งึ้ 2.บีกเกอร์ 3.ตะเกยี งแอลกอฮอล์ 4.เทอรม์ อมเิ ตอร์ 5.ชดุ ขาต้งั และมือจับ วธิ ที า 1.นาแท่งเทียนขี้ผ้งึ (สารผสม)ใส่ลงไปในบีกเกอร์ 2-3 แทง่ 2.นาบกี เกอร์ไปตั้งไว้บนตะเกียงแอลกอฮอล์ 3.นาเทอร์มอมิเตอรจ์ ่มุ ลงไปในบกี เกอรท์ ่ีมแี ทง่ เทียนโดยไมใ่ หเ้ ทอรม์ อมเิ ตอร์ สัมผสั กับบีกเกอร์โดยใชช้ ดุ ขาต้ังและมือจับยดึ ไว้ 4.จากนั้นสงั เกตและอา่ นค่าทุกๆ 1 นาทีจนน้าเดอื ดแลว้ อ่านอณุ ภมู ิตอ่ ไป อกี 10 นาที และบนั ทกึ ขอ้ มลู

กิจกรรมที่ 4.1 เขยี นกราฟ จุดหลอมเหลวของสารผสม 9

10 ใบความรู้เรื่อง จุดเดือดและจุดหลอมเหลว จุดเดอื ดของธาตุหรอื สสารเป็นอุณหภูมิซง่ึ ความดันไอของของเหลวเทา่ กับความ ดนั ของส่ิงแวดล้อมทีอ่ ยรู่ อบของเหลวน้ัน ของเหลวในสง่ิ แวดล้อมท่ีเปน็ สุญญากาศมีจุด เดอื ดตา่ กวา่ ของเหลวทีค่ วามดันบรรยากาศ ของเหลวในส่งิ แวดล้อมความดนั สงู จะมีจุด เดือดสงู กวา่ ของเหลวทีค่ วามดันบรรยากาศ จึงอาจกล่าวไดว้ ่า จดุ เดือดของของเหลว มีได้หลากหลายขึ้นอยูก่ ับความดันของส่ิงแวดลอ้ ม (ซึ่งมกั แตกตา่ งกันไปตามความสูง) ในความดนั เท่ากัน ของเหลวต่างชนิดกันยอ่ มเดือดทอี่ ณุ หภูมิต่างกัน จุดหลอมเหลว คือ จุดทสี่ ารเปลีย่ นสถานะจาก\"ของแขง็ เปน็ ของเหลว\" จุดหลอมเหลวนีม้ ีคา่ เท่ากับ จุดเยือกแขง็ เพยี งแต่จุดเยอื กแข็งใช้เรยี กเมอ่ื สาร เปลยี่ นสถานะจากของเหลวเปน็ ของแข็ง ตวั อยา่ งเชน่ น้า มจี ดุ หลอมเหลว เป็น 0 องศาเซลเซียส (Celsius) หมายความว่า นา้ แข็งซ่งึ เป็นสถานะของแขง็ ของน้า จะกลายสถานะเปน็ ของเหลวเมือ่ อุณหภูมิมากกว่า 0 องศาเซลเซียส และนา้ ก็มีจุดเยือก แขง็ ที่ 0 องศาเซลเซยี ส อธบิ ายว่า น้าสถานะของเหลวจะกลายสถานะเป็นของแข็งเม่อื อุณหภมู ิลดลงตา่ กว่า 0 องศาเซลเซยี ส

11 ใบความร้เู ร่ือง สารบริสุทธ์แิ ละสารผสม สารบรสิ ทุ ธิ์ คือ สารเนอื้ เดยี วทม่ี จี ุดเดอื ดและจุดหลอมเหลวคงที่ เช่น น้ามีจุดเดอื ด 100 องศาเซลเซียส (ขณะท่นี ้าเดือดวดั อุณหภูมิได้ 100 องศาเซลเซยี ส) สารบริสทุ ธิ์ จาแนกเป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1. ธาตุ (Element) คอื สารบรสิ ทุ ธิ์ทป่ี ระกอบดว้ ยอะตอมชนิดเดียว ไม่สามารถแยก ออกเปน็ สารอื่นโดยวธิ ที างเคมี หน่วยย่อยของธาตคุ อื อะตอม เชน่ ออกซิเจน (O) เหล็ก (Fe) ทองแดง (Cu) อะลมู เิ นยี ม (Al) ทอง (Au) เป็นต้น 2. สารประกอบ (Compound) คอื สารบริสุทธ์ทิ ี่ประกอบด้วยหน่วยยอ่ ยๆ ทีย่ งั คงแสดง สมบตั ขิ องสารไดท้ เ่ี รียกว่า โมเลกุล หรือประกอบดว้ ยอะตอมของธาตุตั้งแต่ 2 ชนิดขนึ้ ไป รวมตัวกันทางเคมดี ้วยอัตราส่วนของมวล หรือปริมาตรทค่ี งท่ี สามารถแยกสารประกอบ ออกเป็นธาตทุ ่เี ป็นองค์ประกอบ หรอื สารประกอบอน่ื ได้โดยวิธกี ารทางเคมี เช่น น้า (H2O) ประกอบดว้ ยธาตไุ ฮโดรเจน (H) และธาตอุ อกซเิ จน (O)

12 ใบความรูเ้ รื่อง สารบริสทุ ธ์แิ ละสารผสม สารผสม(mixture)หมายถงี เกดิ จากสารบรสิ ุทธ์ติ ง้ั แต่ 2 ชนดิ มาผสมกนั ใน อตั ราส่วนที่ไม่คงที่ ซึง่ สารแต่ละชนิดยังคงแสดงสมบัติของสารเดิมอยู่ เชน่ นา้ เกลือ ประกอบด้วยน้าและเกลอื แกง นา้ โซดา ทราย ดนิ เป็นต้น

13 แบบทดสอบ คาชแ้ี จง: ใหน้ กั เรยี นเลือกคาตอบทีถ่ กู ตอ้ งที่สุดเพียงขอ้ เดียว 1.สารบริสุทธจ์ิ าแนกเป็นกี่ประเภท ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4 2.สารผสมเกิดจากอะไร ก. เกิดจากสารผสม 1 ชนดิ ขน้ึ ไป ข. เกดิ จากสารผสม 2 ชนิดขน้ึ ไป ค. เกิดจากสารบรสิ ุทธ์ิ 1 ชนิดขึ้นไป ง. เกดิ จากสารบริสทุ ธิ์ 2 ชนิดขน้ึ ไป 3.ข้อใดเป็นสารบริสทุ ธิ์ ก. น้าตาล ข. เกลอื แกง ค. น้าแข็ง ง. น้าเกลือ

4.สมบัตขิ องสารบริสุทธ์คิ อื อะไร 14 ก. จุดเดอื ดและจดุ หลอมเหลวคงท่ี ข. จุดเดอื ดคงท่ี จดุ หลอมเหลวไมค่ งทีี ค. จดุ เดือดไม่คงท่ี จดุ หลอมเหลวคงที่ ง. ถกู ทกุ ข้อ 5.จดุ หลอมเหลวคอื ข้อใด ก.จุดท่สี ารเปลีย่ นสถานะของแข็งเปน็ ของเหลว ข.จุดทีส่ ารเปล่ยี นสถานะของแข็งเปน็ ของแขง็ ค.จุดทีส่ ารเปล่ียนสถานะของเหลวเปน็ ของแขง็ ง.ไมม่ ีขอ้ ใดถกู 6.หน่วยยอ่ ยของธาตคุ ืออะไร ก. ไฮโดรคาร์บอน ข. นา้ ค. โมเลกุล ง. อะตอม

7.หนว่ ยย่อยของธาตุประกอบไปดว้ ยอะไรบ้าง 15 ก. ออกซิเจน (O) ข. เหลก็ (Fe) ค. ทองแดง (Cu) ง. ถูกทุกขอ้ 8.จุดเดอื ดของของเหลวมีความหลากหลายไดข้ ้นึ อย่กู ับสงิ่ ใด ก. ความสูงของช้ันบรรยากาศ ข. ความดันของส่งิ แวดล้อม ค. จดุ เดอื ดของสารผสม ง. สถานะของของเหลว 9.สารประกอบแสดงสมบัตขิ องสารเรียกว่าอะไร ก. อะตอม ข. ธาตุ ค. โมเลกุลอะตอม ง. ไฮโดรคาร์บอน 10. นา้ กม็ จี ดุ เยือกแข็งทกี่ อี่ งศาเซลเซยี ส ก. 0 องศาเซลเซียส ข. 5 องศาเซลเซยี ส ค. 10 องศาเซลเซียส ง. 15 องศาเซลเซยี ส

16 เฉลย ข้อ คำตอบ 1. ข 2. ง 3. ค 4. ก 5. ก 6. ง 7. ง 8. ข 9. ค 10. ก

แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง อะตอม ธาตแุ ละสารประกอบ หน่วยการเรียนรยู้ อ่ ยที่ 4 เร่ือง ความหนาแนน่ ของสาร รหัสวิชา/ชือ่ วิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับช้ัน มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 เวลา 3 ชั่วโมง ผสู้ อน นางสาวปณิดา พลกระโทก โรงเรยี น วัดนาเหลา่ บก(สัมฤทธร์ิ าษฎร์วิทยา) มาตรฐานการเรียนรู้: มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พันธร์ ะหว่างสมบัติ ของสสารกับโครงสร้างและแรงยดึ เหน่ียวระหว่างอนภุ าค หลกั และธรรมชาติ ของการเปลยี่ นแปลงสถานะของสาร การเกดิ สารละลาย การเกดิ ปฏิกิริยาเคมี ตวั ชว้ี ัด : 5. อธบิ ายและเปรียบเทียบความหนาแน่นของสารบรสิ ทุ ธ์ิและสารผสม 6. ใชเ้ คร่อื งมอื เพ่อื วดั มวลและปรมิ าตรของสารบรสิ ทุ ธิ์และสารผสม จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายและเปรยี บเทยี บความหนาแนน่ ของสารบริสทุ ธ์แิ ละสารผสมได้ 2. เลือกใชเ้ ครื่องมือเพือ่ วัดมวลและปรมิ าตรของสารบริสทุ ธิ์และสารผสมได้ สาระสำคัญ : สารบริสทุ ธแ์ิ ตล่ ะชนิดมีความหนาแน่น หรือ มวลต่อหนึง่ หน่วยปรมิ าตรคงท่ี เป็นคา่ เฉพาะของสารนน้ั ณ สถานะและอณุ หภมู ิหนง่ึ แตส่ ารผสมมคี วามหนาแนน่ ไมค่ งทีข่ ึ้นอยกู่ ับชนดิ และสดั ส่วนของสารทีผ่ สมอยูด่ ้วยกนั สาระการเรยี นรู้ 1. ดา้ นความรู้ สารบริสุทธแ์ิ ตล่ ะชนิดมีความหนาแนน่ หรือ มวลตอ่ หนงึ่ หน่วยปรมิ าตรคงท่ี เปน็ คา่ เฉพาะของสารนัน้ ณ สถานะและอณุ หภูมิหนงึ่ แตส่ ารผสมมคี วามหนาแน่นไมค่ งที่ขน้ึ อยู่กับชนดิ และสัดส่วนของสารทีผ่ สมอยู่ด้วยกนั 2. ด้านทักษะสำคญั ในการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์

2.1 ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2.1.1 ทักษะการสงั เกต 2..1.2 ทกั ษะการวัด 2.1.3 ทักษะการทดลอง 2.1.4 ทกั ษะการคำนวณ 2.1.5 ทกั ษะการลงความเห็นจากขอ้ มูล 2.2 ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 2.2.1 ดา้ นความรว่ มมือ การทำงานเป็นทมี และภาวะผ้นู ำ 3. ดา้ นเจตคตทิ างวทิ ยาศาสตร์ 3.1 ความมงุ่ มั่น มานะ อดทน 3.2 ความละเอยี ดรอบคอบ ชิ้นงาน/ภาระงาน 1. เขียนผงั มโนทัศน์อธบิ ายและเปรียบเทียบความหนาแน่นของสารบริสทุ ธ์ิและสารผสม กจิ กรรมการเรยี นรู้ (รูปแบบการจดั การเรยี นรู้แบบ STEAM โดยใชป้ ญั หาเป็นฐาน) ข้นั ตอนที่ 1: ระบปุ ญั หา 1.1 ครูผูส้ อนสร้างสถานการณ์ ยกตัวอยา่ งสถานการณ์ เพื่อกำหนดกรอบปญั หาใหผ้ ู้เรยี นเกดิ ความสงสยั อยากรู้ และนำไปคดิ ต่อ เช่น - นักเรยี นเคยสงสยั หรือไม่ วา่ ทำไมเรือจงึ ลอยนำ้ ได้ แตท่ ำไมเรือดำน้ำจงึ ไมล่ อยน้ำ (นกั เรยี นสามารถตอบได้ตามความเขา้ ใจของนักเรยี นได้ ไม่มีถูกหรอื ผิด) - นักเรยี นคดิ ว่าความหนาแนน่ มีความเกย่ี วข้องกับเรือดำนำ้ หรือไม่ (การที่เรอื ดำน้ำสามารถดำลงสูท่ ะเลลึกไดน้ ัน้ ตอ้ งทำใหเ้ รือดำนำ้ ทง้ั ลำมคี วามหนาแน่นมากกวา่ นำ้ และหากตอ้ งการให้เรอื ลอยข้ึนส่ผู ิวน้ำตอ้ งทำให้เรือมคี วามหนาแนน่ น้อยกว่าน้ำ)

- นักเรยี นจะหาความหนาแน่นของวตั ถุต่างๆไดอ้ ยา่ งไร (นกั เรยี นสามารถตอบได้ตามความเข้าใจของนกั เรยี นเอง โดยที่ครไู ม่เฉลยว่าความหนาแนน่ หาได้จากอะไร) 1.2 ครูทำกจิ กรรมทบทวนความรูพ้ ้นื ฐานเกยี่ วกบั มวลและปริมาตร โดยอาจใชค้ ำถาม เชน่ - มวลคืออะไรและหน่วยของมวลคอื อะไร (มวลคอื ปริมาตรของเนื้อท้งั หมดของสาร ทงั้ ของแขง็ ของเหลวและแก๊สตา่ งกม็ มี วล หนว่ ยของมวล คอื กรัมหรอื กโิ ลกรัม) - ปริมาตรคืออะไรและหนว่ ยของปรมิ าตรคอื อะไร (ปรมิ าตรคือความจขุ องวัตถุทมี่ ี รูปทรง 3 มติ วิ ตั ถุทกุ ชนิดมปี รมิ าตรทงั้ สิ้น หน่วยของปริมาตรท่เี ป็นมาตรฐานมีไดห้ ลากหลาย เช่น cm3 หรือ m3 หรอื อ่ืน ๆ) 1.3 ให้นกั เรียนอา่ นทำความเขา้ ใจเกยี่ วกับเรอื่ ง ทะเลเดดซ(ี Dead Sea)และรว่ มกัน อภิปรายถงึ ความหมายของความหนาแนน่ หนว่ ยความหนาแน่น วธิ กี ารคำนวณความหนาแนน่ ของสาร จากเรอื่ งดงั กล่าวครูให้นักเรยี นอภปิ รายตัวอย่างโจทย์เก่ยี วกับ การคำนวณความหนาแนน่ ของสารและตอบคำถามชวนคดิ ขนั้ ตอนท่ี 2: รวบรวมขอ้ มูลและออกแบบวธิ กี ารแกป้ ญั หา 2.1 แบง่ กล่มุ นักเรียนเป็น 3 กลุ่มทีไ่ ด้จากการสมุ่ โดยภายในกลมุ่ ตอ้ งมกี ารเลอื กหัวหนา้ กลุ่ม และรองหัวหน้ากลมุ่ แล้วส่งตัวแทนรับชุดกจิ กรรมการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์เรือ่ ง ความหนาแนน่ ของสารบริสทุ ธแิ์ ละสารผสม 2.2 ให้นกั เรียนอ่านค่มู ือเพือ่ ทำความเขา้ ใจเกยี่ วกับวธิ กี ารหาปรมิ าตรของสาร และดำเนนิ กจิ กรรม ตอนท1่ี ความหนาแนน่ ของสารบรสิ ุทธิ์ 2.2.1 จดั เตรยี มวัสดอุ ปุ กรณ์ - กระบอกตวงขนาด 100 mL - เครื่องชัง่ ดิจติ ัล 2 ตำแหน่ง - หลอดหยด - กระดาษทชิ ชู่ (ซับนำ้ ล้น) - นำ้ - สารละลายน้ำเกลอื (น้ำปริมาตร 200 mL เกลอื 5 ช้อนโต๊ะ)

2.2.2 นำกระบอกตวงขนาด 100 mL มาชัง่ และบันทึกมวลลงตารางบันทกึ ผลการทดลอง 2.2.3 ตวงน้ำให้ไดป้ ริมาตร 100 mL ตรวจสอบการตวงปริมาตรของนกั เรียนให้โค้งลา่ งของ ระดับน้ำอย่เู หนอื สเกลปรมิ าตร 100 mL และหากปริมาตรยงั ไม่ถงึ ให้นำหลอดหยด ดดู นำ้ และหยดลงไปใหถ้ งึ ปริมาตร 100 mL 2.2.4 นำกระบอกตวงท่มี นี ้ำปริมาตร 100 mL ไปชง่ั มวลและจดบันทกึ ในตารางบนั ทกึ ผล การทดลอง 2.2.5 คำนวณหามวลของน้ำเปลา่ ในกระบอกตวง (โดยหกั ลบคา่ จากข้อ 2.2.4 และ ขอ้ 2.2.2) 2.2.6 ใช้มวลและปริมาตรของนำ้ ท่ีไดค้ ำนวณหาความหนาแนน่ ของสาร ในหน่วย g/Cm3 และจดบนั ทึกลงในตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง 2.2.7 รินน้ำออกจากกระบอกตวั ให้เหลอื ปรมิ าตร 50 mL 2.2.8 ช่ังมวลของน้ำและกระบอกตวงในขอ้ 2.2.7 แลว้ คำนวณหาปริมาณนำ้ ในกระบอกตวง แลว้ จดบนั ทึกผลการทดลองในตารางบันทกึ ผลการทดลอง 2.2.9 รินน้ำออกจากกระบอกตัวให้เหลือปรมิ าตร 25 mL แลว้ นำไปชั่งคำนวณหาปรมิ าตรน้ำ ในกระบอกตวง 2.3 กิจกรรมตอนที่ 2 ความหนาแนน่ ของสารผสม 2.3.1 จัดเตรยี มวัสดอุ ปุ กรณ์ - บกี เกอร์ขนาด 250 mL - หลอดหยด 1 อัน - ผงเกลือแกง - ชอ้ นชา 1 คนั - น้ำเปลา่ หรือนำ้ กลนั่

- เคร่ืองชงั่ ดิจิตลั /เคร่ืองชง่ั อืน่ ๆ -แทง่ แกว้ คน -ไมบ้ รรทัด 2.3.2 นำบกี เกอร์ขนาด 250 mL มาชัง่ และจดบันทกึ มวลในตารางบันทกึ ผลการทดลององ 2.3.3 ตวงน้ำให้ได้ปรมิ าตร 100 mL และใสผ่ งเกลอื แกงลงในน้ำ 2 ช้อนชา จดบนั ทึก ปรมิ าตรรวม หลังจากนนั้ ใช้แท่งแก้วคน คนผงเกลือแกงให้ละลายแล้วนำบีกเกอร์ของผสมที่ไดไ้ ปชา้ งมวลและจดบนั ทึก 2.3.4 คำนวณหามวลของสารละลายเกลอื แกง ในบกี เกอร์ (โดยหกั ลบคา่ มวลของสารผสม จาก ข้อ 2.3.3 และมวลบีกเกอร์ข้อ 2.3.2) แลว้ จดบันทึกลงในตารางบนั ทึกผลการทดลอง 2.3.5 ทดลองย้อนเทยี นขนาดกลางท่ีถกู ห่นั ครงึ่ ท่อน ลงในสารละลายดงั กลา่ วขา้ งต้น จด บันทึกระดบั ความสูงจากกน้ บีกเกอร์ แล้วนำเทียนออกมาเชด็ ใหแ้ หง้ 2.3.6 ใชม้ วลและปรมิ าตรของสารละลายเกลือแกงท่ไี ดค้ ำนวณหาความหนาแนน่ ของสาร ใน หนว่ ย g/Cm3 และจดบันทกึ ลงในตารางบนั ทึกผลการทดลอง 2.3.7 เติมผงเกลอื แกงลงในบีกเกอร์เดิม อีก 3 ช้อนชา จดบนั ทึกปรมิ าณรวม หลงั จากน้ันใช้ แท่งแก้วคน คนผงเกลอื แกงใหล้ ะลายแล้วนำบีกเกอร์ของสารผสมทไี่ ด้ ไปชง่ั มวลและจดบันทึก 2.3.8 คำนวณหามวลของสารละลายเกลือแกงในบีกเกอร์ (โดยหกั ลบค่ามวลของสารผสม จากขอ้ 2.3.7 และ มวลบีกเกอรข์ อ้ 2.3.2) แล้วจดบนั ทึกลงในตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง 2.3.9 ทดลองยอ้ นเทยี นขนาดกลางที่ถูกหน่ั คร่งึ ทอ่ น ลงในสารละลายดังกลา่ วข้างตน้ จดบันทึกระดบั ความสงู จากก้นบกี เกอร์ แล้วนำเทียนออกมาเชด็ ใหแ้ หง้ 2.3.10 เตมิ ผงเกลือแกงในบีกเกอร์เดมิ อีก 5 ช้อนชา จดบนั ทกึ ปริมาณรวม หลงั จากนัน้ ใช้ แท่งแกว้ คน คนผงเกลอื แกงใหล้ ะลายแล้วนำบีกเกอรข์ องสารผสมท่ีได้ ไปชง่ั ม่วนและจดบนั ทึก 2.3.11 คำนวณหามวลของสารละลายเกลือแกงในบีกเกอร์ (โดยหักลบค่ามวลของสารผสม

จากขอ้ 2.3.10 และมวลบีกเกอรข์ อ้ 2.3.2) แลว้ จดบนั ทึกลงในตารางบันทกึ ผลการทดลอง 2.3.12 ทดลองย้อนเทียนขนาดกลางทถี่ กู หน่ั ครง่ึ ท่อน ลงในสารละลายดงั กล่าวขา้ งตน้ จดบนั ทึกระดบั ความสูงจากก้นบีกเกอร์ แล้วนำเทียนออกมาเช็ดใหแ้ หง้ 2.3.13 ใชม้ วลและปริมาตรของสารละลายเกลือแกงที่ไดค้ ำนวณหาความหนาแน่นของสาร ในหนว่ ย g/Cm3 และจดบันทกึ ลงในตารางบนั ทึกผลการทดลอง 2.4 ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอผลการทำกจิ กรรม โดยนำผลการทำกิจกรรมมาเขียนในตารางบนั ทกึ ผลการทำกิจกรรม ทต่ี ดิ หนา้ หอ้ งเรยี นเพอ่ื เปรยี บเทยี บขอ้ มูลของแตล่ ะกลุ่ม เชอ่ื มโยงความรขู้ องนกั เรียนท่ีได้จากการอภปิ รายกิจกรรมตอนที่ 1 ความหนาแนน่ ของสารบรสิ ทุ ธิ์ กับกจิ กรรมตอนท่ี 2 ความหนาแน่นของสารผสม 2.5 ใหน้ ักเรียนทำกิจกรรมตอนที่ 3 การเปรยี บเทียบความหนาแนน่ ของสาร นกั เรยี นเปรยี บเทียบความหนาแน่นของสารจากนตารางท่กี ำหนดให้ 2.6 นกั เรียนในกล่มุ ร่วมกนั ออกแบบ ภาพวาด ตาราง หรือผังมโนทศั นเ์ พ่ืออธิบายและเปรียบเทยี บความหนาแนน่ ของสารบรสิ ทุ ธิแ์ ละสารผสม ขั้นตอนท่ี 3: สงั เคราะห์ข้อมลู 3.1 ให้นกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายผลจากการทำกจิ กรรมตอนท่ี1และตอนท2ี่ เกีย่ วกับการหาความหนา แน่นของสารบรสิ ุทธิแ์ ละสารผสมเพ่อื ใหไ้ ดข้ อ้ สรปุ วา่ ความหนาแนน่ ของสาร เป็นปริมาณ แสดงความสัมพนั ธ์ระหว่างมวลของสารใน หน่ึงหนว่ ยปรมิ าตรของสารน้ัน โดยสารบริสทุ ธแิ์ ตล่ ะชนดิ มี ความหนาแนน่ หรือมวลตอ่ หนึ่งหน่วยปริมาตรคงที่ เป็นคา่ เฉพาะของสารนั้น ณ สถานะอณุ หภูมแิ ละ ความดันหนงึ่ แต่สารผสมมีความหนาแน่นไมค่ งทข่ี ึ้นอยู่กับชนดิ และ อตั ราส่วนของสารท่ีผสมอย่ดู ้วยกัน ข้นั ตอนที่ 4: ดำเนนิ การแกป้ ัญหา 4.1 ให้นกั เรียนจดั ทำการเขยี นบรรยาย วาดภาพ ตาราง หรือเขียนผงั มโนทัศน์เพอ่ื อธิบายและเปรียบเทยี บความหนาแน่นของสารบริสุทธแ์ิ ละสารผสม ทีไ่ ด้จากการสรปุ และสังเคราะหข์ อ้ มลู ขั้นตอนที่ 5: นำเสนอและอภปิ รายผลงาน

5.1 ใหน้ ักเรยี นออกมาอภปิ รายชิน้ งานของกลุ่มตวั เองหนา้ ชัน้ เรยี นในหวั ขอ้ เรื่องความหนาแนน่ ของสารบริสทุ ธ์ิและส ารผสม เก่ียวกบั ประโยชน์จากการนำความรูเ้ รือ่ งความหนาแนน่ ของสารมาใช้ในชีวติ ประจำวัน เพือ่ ใหน้ กั เรยี นเหน็ ความสำคญั ในการเรยี นเร่อื งดงั กลา่ ว 5.2 ใหน้ ักเรยี นรว่ มแลกเปลี่ยนความร้กู ับเพ่ือนในห้องเรยี นหรอื เพอ่ื นตา่ งกลุ่ม ข้นั ตอนท่ี 6: ประเมนิ ผล 6.1 ประเมนิ ด้านความรู้ - ประเมนิ ความรคู้ วามเข้าใจ สามารถอธิบายและเปรยี บเทียบความหนาแน่นของสารบริสทุ ธ์ิและสารผสม (แบบทดสอบวดั ความรู้และความถูกตอ้ งของผังมโนทศั น์ เร่อื ง ความหนาแนน่ ของสารบริสทุ ธิแ์ ละสารผสม) 6.2 ประเมินดา้ นทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ดา้ นทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 - ประเมินจากการทำกิจกรรม โดยการสังเกตพฤตกรรมที่แสดงออกขณะทำกิจกรรมในทุกขั้นตอน (แบบประเมินพฤตกิ รรม) 6.3 ประเมนิ เจตคติทางวทิ ยาศาสตร์ - ประเมนิ จากการทำกจิ กรรม โดยการสังเกตพฤตกรรมที่แสดงออกขณะทำกิจกรรมในทกุ ข้ันตอน (แบบประเมนิ พฤตกิ รรม) ส่อื /นวัตกรรม และแหลง่ เรยี นรู้ - ชุดกจิ กรรมวิทยาศาสตร์เรือ่ ง ความหนาแน่นของสารบริสทุ ธ์ิและสารผสม - อุปกรณ์การทำการทดลอง - Power point ทะเลสาปเดดซี (Dead Sea)

การวดั และประเมนิ ผล ประเด็นการประเมิน วธิ กี ารประเมนิ เคร่ืองมือ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ - ประเมินความสามารถในการ - แบบประเมนิ Rubric รอ้ ยละ 70 1. Score อบิ ายและเปรียบเทยี บคว อธิบายและเปรียบเทยี บความหน - แบบทดสอบวดั ความรู้ ประเมนิ ระดบั ดี ามหนาแนน่ ของสาร าแน่นของสารจากแบบทดสอบแ - ผงั มโนทศั น์ ละผังมโนทศั น์ ด้านทักษะ การสงั เกตพฤตกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม 1. ทกั ษะกระบวนการทางวิ ทยาศาสตร์ 1.1ทักษะการสังเกต 1.2 ทักษะการวัด 1.3 ทักษะการทดลอง 1.4 ทักษะการคำนวณ 1.5 ทักษะการลงความเห็นจา กข้อมลู 2. ทักษะแหง่ ศตวรรษที2่ 1 2.1 ดา้ นความร่วมมือ การทำงานเปน็ ทมี และภา วะผู้นำ

ดา้ นเจตคติทางวทิ ยาศา การสังเกตพฤตกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม ประเมินระดบั ดี สตร์ 1. ความมุง่ มานะ อดทน 2. ความละเอยี ดรอบคอบ แบบบนั ทึกหลงั การสอน พฤตกิ รรมท่ีพบ แนวทางแก้ไข ประเด็นปญั หาทพี่ บ 1. ด้านพฤติกรรมผ้เู รยี น 2. ดา้ นการเรียนการสอน

การประเมนิ ดา้ นความรู้ ที่ ชือ่ -นามสกลุ ผลการประเมนิ * รวม ร้อยละ สรปุ 123 (20 คะแนน) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23

24 25 26 27 ภาพรวม กำหนดเกณฑ์ประเมนิ ไว้ทร่ี อ้ ยละ 70 เป็นเกณฑ์ผา่ น * 1 หมายถงึ ผลการประเมนิ ดา้ นความร้จู ากประเมินการทดสอบ คะแนนเตม็ 10 2 หมายถงึ ผลการประเมินดา้ นความรจู้ ากการประเมนิ ความหนาแนน่ ของสาร คะแนนเตม็ 5 3 หมายถงึ ผลการประเมนิ ดา้ นความร้จู ากการประเมนิ ให้ความร่วมมือนการทำกิจกรรม คะแนนเตม็ 5

ตารางรายการประเมนิ การทดสอบ เกณฑ์การประเมินแบบทดสอบ การประเมินแบบทดสอบ เกณฑก์ ารให้คะแนน แบบทดสอบ เร่ือง ความหนาแน่นของสาร ตอบถกู ข้อละ 1 คะแนน แบบปรนัยเลือกตอบ 4 ตัวเลอื ก จำนวน 10 ข้อ ตารางรายการประเมนิ การอธบิ ายและเปรยี บเทยี บสารบรสิ ทุ ธิ์และสารผสม เกณฑก์ ารประเมนิ การอธบิ ายและเปรยี บเทียบสารบริสุทธิแ์ ละสารผสม การประเมินผังมโนทัศน์ เกณฑก์ ารให้คะแนน 1. สามารถอธิบายและเปรียบเทียบความหนาแน่นของสารบรสิ ุทธิ์และสารผสมได้ ถูกตอ้ งและครบถ้วน 2. สามารถอธบิ ายและเปรยี บเทียบความหนาแนน่ ของสารบรสิ ุทธแิ์ ละสารผสมได้อย่าง ถูกตอ้ ง 3. สามารถ ปฏบิ ตั ิข้อละ 1 คะแนน อธบิ ายและเปรยี บเทยี บความหนาแนน่ ของสารบริสทุ ธแ์ิ ละสารผสมไดพ้ อสงั เขป 4. สามารถ อธิบายและเปรียบเทียบความหนาแน่นของสารบริสทุ ธ์ิและสารผสมไดเ้ พียงเล็กน้อย ไม่ครบถ้วน 5. สามารถอธิบายหรือ เปรยี บเทียบความหนาแน่นของสารบริสทุ ธ์ิและสารผสมได้เพียงอย่างใดอย่างหน่งึ ไม่ครบถ้วน

การประเมินดา้ นทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 ที่ ช่ือ-นามสกลุ ทักษะทางวิทยาศาสตร์ 2. แห่ง รวม ค่าเฉล่ยี ระดบั 1. ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ศตวรรษท่ี (18 คะแนน) 1 2 1.1 1.2 1.3 1.4 1.5 21 3 4 2.1 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 ภาพรวม

* 1.1 หมายถงึ ผลการประเมนิ ด้านทกั ษะการสังเกต คะแนนเตม็ 3 1.2 หมายถึงผลการประเมนิ ดา้ นทักษะการวัด คะแนนเตม็ 3 1.3 หมายถึงผลการประเมนิ ดา้ นทกั ษะการทดลอง คะแนนเตม็ 3 1.4 หมายถงึ ผลการประเมนิ ดา้ นทกั ษะการคำนวณ คะแนนเต็ม 3 1.5 หมายถงึ ผลการประเมินด้านทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล คะแนนเต็ม 3 2.1 หมายถงึ ผลการประเมนิ ด้านความร่วมมือ การทำงานเปน็ ทีมและภาวะผนู้ ำ คะแนนเต็ม 3 ระดับคณุ ภาพ 4.51 – 5.00 ระดบั ดีเยยี่ ม คะแนนเฉลยี่ ระหว่าง 3.51 – 4.50 ระดับ ดีมาก 2.51 – 3.50 ระดบั ดี 1.51 – 2.50 ระดับ พอใช้ 1.00 – 1.50 ระดบั ปรับปรงุ

ตารางรายการประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เกณฑก์ ารประเมินทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการ รายการประเมิน เกณฑ์การประเมนิ ทางวทิ ยาศาสตร์ การสังเกตและบรรยาย ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรุง (1) การสังเกต รายละเอยี ดเกยี่ วกับ สามารถสงั เกตและบรรยาย การเปรียบเทยี บความ รายละเอยี ดเกีย่ วกับความ สามารถการสังเกตและ การสังเกตและบรรยาย การวดั หนาแนน่ ของสาร หนาแนน่ ของสารบรสิ ุทธ์ิ บรสิ ทุ ธแ์ิ ละสารผสม และสารผสมดว้ ยตนเอง บรรยายรายละเอียดเกีย่ วกบั รายละเอยี ดเกี่ยวกับ การทดลอง โดยไมม่ ีเพม่ิ เติมความ การคำนวณ ความสามารถในการวดั คดิ เหน็ ความหนาแน่นของสาร ความหนาแน่นของ มวลและปรมิ าตร หรอื ผลการปฏิบตั ิกิจกรรม สามารถจวดั มวลและ บริสุทธิ์และสารผสมได้ สารบรสิ ุทธแ์ิ ละสารผสม มาจดั กระทำใหอ้ ยู่ใน ปรมิ าตร รูปแบบที่มคี วามหมาย ของสารบรสิ ุทธ์ิและ ถกู ต้องจากการช้แี นะของครู ไดถ้ ูกตอ้ งเพียงบางส่วน หรือความสัมพนั ธก์ นั สารผสมได้ และอธิบายใน มากข้ึน การนำเสนอขอ้ มลู ไดด้ ว้ ย หรือผ้อู ื่นหรอื มีการเพ่ิมเติม แมว้ า่ จะไดร้ ับคำชี้แนะจาก การทดลอง ตนเอง ความหนาแนน่ ของสาร ความคิดเหน็ ครหู รอื ผอู้ ื่น บริสทุ ธ์แิ ละสารผสม สามารถทำการทดลองได้ ถูกตอ้ งดว้ ยตนเอง สามารถวัดมวลและปริมาตร สามารถจำวดั มวลและ การคำนวณหาคา่ ความ หนาแนน่ ของสาร สามารถคำนวณหาคา่ ความ ของสารบรสิ ุทธิแ์ ละสารผสม ปรมิ าตร บรสิ ุทธ์แิ ละสารผสม หนาแนน่ ของสารบริสุทธิ์ และสารผสมไดจ้ ากการ ได้ และนำเสนอขอ้ มลู ได้จาก ของสารบรสิ ทุ ธ์ิและสารผสม ทดลองได้ถกู ตอ้ งด้วย ตนเอง การชี้แนะของครหู รือผู้อนื่ ได้ และนำเสนอข้อมูลได้ หรอื มีการเพม่ิ เติมความ เพียงบางส่วน คดิ เห็น แมว้ ่าจะได้รบั คำช้ีแนะจาก ครหู รือผู้อน่ื สามารถทำการทดลอง สามารถทำการทดลองได้ ได้ถูกต้อง จากการชี้แนะของ ถูกตอ้ งเพียงบางส่วนแม้ว่า ครูหรอื ผอู้ น่ื หรอื มีการ จะไดร้ บั คำช้ีแนะจากครูหรอื เพิ่มเตมิ ความคิดเห็น ผอู้ ื่น สามารถ สามารถ คำนวณหาค่าความหนาแนน่ คำนวณหาค่าความหนาแนน่ ของสารบรสิ ทุ ธิแ์ ละสารผสม ของสารบรสิ ทุ ธ์ิและสารผสม ได้ถูกตอ้ ง จากการชี้แนะของ ได้ถกู ตอ้ งเพยี งบางสว่ น ครหู รอื ผู้อนื่ หรือมีการ แมว้ า่ จะได้รับคำช้แี นะจาก เพมิ่ เตมิ ความคิดเหน็ ครูหรอื ผ้อู ืน่

ตารางรายการประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เกณฑก์ ารประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ (ต่อ) ทกั ษะกระบวนการ รายการประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ ทางวทิ ยาศาสตร์ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรุง (1) การลงความเหน็ การลงความเหน็ จากขอ้ มูล สามารถลงความเห็น สามารถลงความเหน็ สามารถลงความเห็น จากข้อมลู ที่ได้จากการทดลอง จากขอ้ มูลท่ไี ด้จากการ จากข้อมลู ทไี่ ด้จากการ จากขอ้ มูลทไี่ ด้จากการ ทดลองไดถ้ ูกต้องด้วย ทดลองไดถ้ กู ต้อง ทดลองไดถ้ ูกตอ้ งเพยี งบ ตนเอง จากการชีแ้ นะของครู างส่วนแมว้ า่ จะไดร้ บั หรือผอู้ นื่ หรอื มีการ คำชแี้ นะจากครหู รือ เพิ่มเติมความคดิ เหน็ ผู้อืน่

ตารางรายการประเมนิ ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 เกณฑ์การประเมินทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 ทักษะแห่ง รายการประเมิน เกณฑ์การประเมนิ ศตวรรษท่ี 21 ใหค้ วามร่วมมอื ในการ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรุง (1) ความรว่ มมือ ทำงานเปน็ ทีม มกี ารเลอื ก การทำงานเป็นทมี ผู้นำกลมุ่ และสมาชกิ สามารถ สามารถ สามารถ ยอมรบั ความคดิ เห็นของ ใหค้ วามร่วมมือในการ และภาวะผนู้ ำ ผู้อนื่ ให้ความร่วมมือในการ ใหค้ วามรว่ มมือในการ ทำงานเป็นทีม มกี ารเลือกผู้นำกลมุ่ ทำงานเปน็ ทีม ทำงานเป็นทีม และสมาชิกยอมรบั ความคดิ เห็นของผ้อู ื่น มีการเลอื กผนู้ ำกลมุ่ แล มกี ารเลือกผู้นำกลุ่ม ทง้ั น้ีต้องอาศัยการ กระตนุ้ จากครูหรือ ะสมาชกิ ยอมรบั ความ และสมาชกิ ยอมรับ ผอู้ ่นื คดิ เหน็ ของผูอ้ ่นื ตลอด ความคดิ เห็นของผ้อู น่ื ช่วงเวลาทีท่ ำกจิ กรรม ในบางชว่ งเวลาทที่ ำ กิจกรรม

การประเมนิ ดา้ นเจตคตทิ างวิทยาศาสตร์ ที่ ชือ่ -นามสกลุ ผลการ รวม คา่ เฉล่ยี ระดบั ประเมิน* (6 คะแนน) 1 2 12 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 ภาพรวม * 1 หมายถงึ ผลการประเมินด้านความม่งุ มน่ั มานะอดทน คะแนนเต็ม 3 2 หมายถึงผลการประเมินดา้ นความละเอียดรอบคอบ คะแนนเต็ม 3

ระดบั คณุ ภาพ 4.51 – 5.00 ระดบั ดเี ย่ยี ม คะแนนเฉลยี่ ระหวา่ ง 3.51 – 4.50 ระดับ ดมี าก 2.51 – 3.50 ระดับ ดี 1.51 – 2.50 ระดบั พอใช้ 1.00 – 1.50 ระดบั ปรบั ปรงุ

ตารางรายการประเมนิ ดา้ นเจตคตทิ างวิทยาศาสตร์ เกณฑก์ ารประเมนิ ด้านเจตคตทิ างวิทยาศาสตร์ เจตคติ รายการประเมนิ ดี (3) เกณฑก์ ารประเมิน ทางวิทยาศาสตร์ พอใช้ (2) ควรปรบั ปรุง (1) พฤติกรรมตามลำดับขนั้ ปฏิบัติครบทุก ความมุ่งมนั่ 1. ไมย่ ่อทอ้ ต่อการคน้ หาข้อมูลเพอ่ื จำแนกประเภท ข้อ ปฏบิ ัติ 2 ข้อ ปฏบิ ัติเพียง 1 ข้อ มานะอดทน ของดนิ 2 คะแนน 1 คะแนน 2. แสดงความเขา้ ใจและยอมรบั ว่าความไมแ่ นน่ อน 3 คะแนน ความ สามารถเกิดขึ้นได้ ปฏบิ ตั ิ 2 ข้อ ปฏบิ ตั ิเพยี ง 1 ข้อ ละเอียดรอบคอบ 3. มคี วามมงุ่ ม่ันจนทำช้ินงานได้เสร็จสมบูรณ์ ปฏบิ ัตคิ รบทุก 2 คะแนน 1 คะแนน พฤตกิ รรมตามลำดับขนั้ ขอ้ 1. มีการตรวจทานอยา่ งละเอียดก่อนตัดสนิ ใ่จ 2. มคี วามระมดั ระวงั ในการวัดและหาคา่ 3 คะแนน 3.ตรวจสอบและเปรียบเทยี บขอ้ มูลจากเพ่ือนในกลมุ่

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนวัดนาเหล่าบก(สัมฤทธิ์ราษฎร์วิทยา) ชื่อ-สกุล............................................................ ชั้น............เลขที่...........

ก คำนำ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ อะตอม ธาตุ และสารประกอบ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ชุดนี้ถูกจัดทำเพื่อให้นักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ได้ศึกษา ตามตัวชี้วัด หลักสูตรการเรียนรู้แกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐ ) จัดทำ กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยจะคำนึงถึงการเรียนรู้ของผู้เรียน เพราะฉะนั้นการเรีนรู้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการบรรยายทฤษฎี อย่างเดียวอาจจะ ทำให้ผู้เรียนไม่เข้าใจ และจะให้การเรียนการสอนเป็นไปแบบไม่มี ประสิทธิภาพได้ อาจทำให้ผู้เรียนขาดเจตคติ ทักษะและกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์นี้จะทำให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ มากขึ้น และจะทำให้ผู้เรียน มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผู้จัดทำกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์นี้หวังอย่างยิ่งว่าชุดกิจกก รมนี้จะทำให้ ผู้เรียนได้เรียนรู้ถึงชนิดของดินและลักษณะของดินมากยิ่ง ขึ้นจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน และจะทำให้ผู้เรียนได้นำการเรียนรู้จาก กิจกรรมนี้ไปใช้ในการเรียนรู้ต่อไป นางสาวปณิดา พลกระโทก ผู้จัดทำ

สารบัญ ข เรื่อง หน้ า คำนำ ก สารบัญ ข คำชี้แจงการใช้ชุดกิจกรรม 1 ใบความรู้ การหาปริมาตรโดยช้ถ้วยยูรีกา 2 กิจกรรมที่ 1 4 กิจกรรมที่ 2 6 กิจกรรมที่ 3 10 แผนผังเปรียบเทียบความหนาแน่นของสาร 12 แบบทดสอบท้ายกิจกรรม 13 เฉลยแบบทดสอบท้ายกิจกรรม 15

1 คำชี้แจงการใช้ชุดกิจกรรม ๑. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ เรื่อง ความหนาแน่นของสาร บริสุทธิ์และสารผสม ประกอบด้วย กิจกรรมที่ 1 ความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์ กิจกรรมที่ 2 ความหนาแน่นของสารผสม กิจกรรมที่ 3 การเปรียบเทียบความหนาแน่นของสาร ๒. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 3 กลุ่ม กลุ่มละเท่าๆกัน ๓. นักเรียนอ่านขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติกิจกรรมให้ละเอียดก่อน ลงมือปฏิบัติกิจกรรม ๔. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบท้ายกิจกรรม ๕. หากนักเรียนมีข้อสงสัยในการปฏิบัติกิจกรรม ให้ปรึกษาครูผู้สอน ทันที

2 ขอขอบคุณใบความรู้จาก GAMMACO

3 ขอขอบคุณใบความรู้จาก GAMMACO

4 กิจกรรมที่ 1 เรื่อง ความหนาแน่นของสารบริทสุทธิ์ จุดประสงค์ เพื่ออธิบายความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์ อุปกรณ์ - กระบอกตวงขนาด 100 mL - เครื่องชั่งดิจิตัล 2 ตำแหน่ง - หลอดหยด - กระดาษทิชชู่ (ซับน้ำล้น) - น้ำ - สารละลายน้ำเกลือ (น้ำปริมาตร 200 mL เกลือ 5 ช้อนโต๊ะ) วิธีการทดลอง 1. นำกระบอกตวงขนาด 100 mL มาชั่งและบันทึกมวลลงตารางบันทึก ผลการทดลอง 2. ตวงน้ำให้ได้ปริมาตร 100 mL ตรวจสอบการตวงปริมาตรของ นักเรียนให้โค้งล่างของ ระดับน้ำอยู่เหนือสเกลปริมาตร 100 mL และหากปริมาตรยังไม่ถึง ให้นำ หลอดหยด ดูดน้ำและหยดลงไปให้ถึงปริมาตร 100 mL 3. นำกระบอกตวงที่มีน้ำปริมาตร 100 mL ไปชั่งมวลและจดบันทึกใน ตารางบันทึกผลการทดลอง 4. คำนวณหามวลของน้ำเปล่าในกระบอกตวง (โดยหักลบค่าจากข้อ 3 และ ข้อ 1)

5 5. ใช้มวลและปริมาตรของน้ำที่ได้คำนวณหาความหนาแน่นของสารใน หน่วย g/Cm3 และจดบันทึกลงในตารางบันทึกผลการทดลอง 6. รินน้ำออกจากกระบอกตัวให้เหลือปริมาตร 50 mL 7. ช่ั่งมวลของน้ำและกระบอกตวงในข้อ 2.2.7 แล้วคำนวณหาปริมาณ น้ำในกระบอกตวงแล้วจดบันทึกผลการทดลองในตารางบันทึกผลการ ทดลอง 8. รินน้ำออกจากกระบอกตัวให้เหลือปริมาตร 25 mL แล้วนำไปชั่ง คำนวณหาปริมาตรน้ำในกระบอกตวง

6 กิจกรรมที่ 2 เรื่อง ความหนาแน่นของสารสม จุดประสงค์ เพื่ออธิบายความหนาแน่นของสารผสม อุปกรณ์ - บีกเกอร์ขนาด 250 mL - หลอดหยด 1 อัน - ผงเกลือแกง - ช้อนชา 1 คัน - น้ำเปล่าหรือน้ำกลั่น - เครื่อั่งดิจิตัล/เครื่องชั่งอื่นๆ - แท่งแก้วคน - ไม้บรรทัด วิธีทำการทดลอง 1. น้ำบีกเกอร์ขนาด 250 mL มาชั่งและจดบันทึกมวลในตารางบันทึกผล การทดลอง

7 2. ตวงน้ำให้ได้ปริมาตร 100 mL และใส่ผงเกลือแกงลงในน้ำ 2 ช้อนชา จดบันทึกปริมาตรรวม หลังจากนั้นใช้แท่งแก้วคน คนผงเกลือแกงให้ ละลายแล้วนำบีกเกอร์ของผสมที่ได้ไปช้างมวลและ จดบันทึก 3. คำนวณหามวลของสารละลายเกลือแกง ในบีกเกอร์ (โดยหักลบค่ามวลของสารผสมจาก ข้อ 2 และมวลบีกเกอร์ข้อ 1) แล้วจด บันทึกลงในตารางบันทึกผลการทดลอง 4. ทดลองย้อนเทียนขนาดกลางที่ถูกหั่นครึ่งท่อน ลงในสารละลายดังกล่าว ข้างต้น จดบันทึกระดับความสูงจากก้นบีกเกอร์ แล้วนำเทียนออกมาเช็ด ให้แห้ง

8 5. ใช้มวลและปริมาตรของสารละลายเกลือแกงที่ได้คำนวณหาความ หนาแน่นของสาร ในหน่วย g/Cm3 และจดบันทึกลงในตารางบันทึก ผลการทดลอง 6. เติมผงเกลือแกงลงในบีกเกอร์เดิม อีก 3 ช้อนชา จดบันทึกปริมาณ รวม หลังจากนั้นใช้แท่งแก้วคน คนผงเกลือแกงให้ละลายแล้วนำบีก เกอร์ของสารผสมที่ีได้ ไปชั่งมวลและจดบันทึก 7. คำนวณหามวลของสารละลายเกลือแกงในบีกเกอร์ (โดยหักลบค่า มวลของสารผสม จากข้อ 6 และ มวลบีกเกอร์ข้อ 1) แล้วจดบันทึกลง ในตารางบันทึกผลการทดลอง 8. ทดลองย้อนเทียนขนาดกลางที่ถูกหั่นครึ่งท่อน ลงในสารละลายดัง กล่าวข้างต้น จดบันทึกระดับความสูงจากก้นบีกเกอร์ แล้วนำเทียน ออกมาเช็ดให้แห้ง 9. เติมผงเกลือแกงในบีกเกอร์เดิม อีก 5 ช้อนชา จดบันทึกปริมาณ รวม หลังจากนั้นใช้แท่งแก้วคน คนผงเกลือแกงให้ละลายแล้วนำบีก เกอร์ของสารผสมที่ได้ ไปชั่งม่วนและจดบันทึก 10. คำนวณหามวลของสารละลายเกลือแกงในบีกเกอร์ (โดยหักลบค่า มวลของสารผสมจากข้อ 9 และมวลบีกเกอร์ข้อ 1) แล้วจดบันทึกลง ในตารางบันทึกผลการทดลอง

9 11. ทดลองย้อนเทียนขนาดกลางที่ถูกหั่นครึ่งท่อน ลงในสารละลายดัง กล่าวข้างต้น จดบันทึกระดับความสูงจากก้นบีกเกอร์ แล้วนำเทียนออก มาเช็ดให้แห้ง 12. ใช้มวลและปริมาตรของสารละลายเกลือแกงที่ได้คำนวณหาความ หนาแน่นของสาร ในหน่วย g/Cm3 และจดบันทึกลงในตารางบันทึก ผลการทดลอง

10 กิจกรรมที่ 3 เรื่อง การเปรียบเทียบความหนาแน่นของสาร

11

แผนผังเปรียบเทียบความหนาแน่นของสาร 12

13 แบบทดสอบท้ายกิจกรรม 1.ข้อใดคือสมบัติของสารบริสุทธิ์ ก. จุดเดือดคงที่ ข. ความหนาแน่นคงที่ ค. จุดหลอมเหลวคงที่ ง. ถูกทุกข้อ 2. ข้อใดคือคุณสมบัติของสารผสม ก. มีจุดเดือดคงที่ ข. มีองค์ประกอบตั้งแต่ 2 ชนิดมารวมกัน ค. ช่วงอุณหภูมิที่หลอมเหลวแคบกว่าสารบริสุทธิ์ ง. ความหนาแน่นคงที่ 3. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับความหนาแน่น (density) ก. หน่วยของความหนาแน่น คือ กรัม หรือกิโลกรัม ข. หน่วยของมวลคือลูกบาศก์เซนติเมตร ค. อัตราส่วนของมวลต่อปริมาตรของสาร ง. หน่วยของปริมาตรคือกิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร 4. ข้อใดคืออุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลองเรื่องความหนาแน่นของสาร ก. ตะเกียงแอลกอฮอล์ ข. เทอร์โมมิเตอร์ ค. ถ้วยยูรีกา ง. หลอดคาปิลลารี่ 5. วัตถุชิ้นหนึ่งมีมวล 50 กรัม มีปริมาตร 25 ลบ.ซม. วัตถุชิ้นนี้มีความ หนาแน่นเท่าใด ก. 0.2 กรัม/ลบ.ซม. ข. 2 กรัม/ลบ.ซม. ค. 5 กรัม/ลบ.ซม. ง. 25 กรัม/ลบ.ซม.