1 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ รำยวชิ ำ เทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรส่ือสำร กลุม่ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชีพและเทคโนโลยีชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนที่ 1รหสั วชิ า ง31101 เวลา 2 ชัว่ โมง/สัปดาห์ ศึกษาและอธิบายองค์ประกอบของระบบสารสนเทศ หลักการทางานของคอมพิวเตอร์ ระบบสื่อสารข้อมูลสาหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง แก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ เลือกใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมติดตอ่ ส่ือสารคน้ ห้าขอ้ มูลผ่านอินเตอร์เนต็ ใช้คอมพิวเตอร์ในการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ เพื่อประกอบการตัดสินใจและนามาใช้ในการทางานไดอ้ ยา่ งเหมาะสมและมปี ระสทิ ธิภาพ โดยนาความรู้และทักษะกระบวนการทางคอมพิวเตอร์มาใช้ในการพัฒนาโครงงานคอมพวิ เตอร์ไดอ้ ย่างสร้างสรรค์ โดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ เพ่ือให้เกิดความรู้ เกิดทักษะการปฏิบัติ มีคุณธรรม จริยธรรมเห็นคณุ คา่ มีจิตสานกึ และใชก้ ระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ปัญหาการทางานไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ตัวชี้วัด ง 3.1 ม.4-6/1 ม.4-6/2 ม.4-6/3 ม.4-6/4 ม.4-6/5 ม.4-6/6 ม.4-6/7 ม.4-6/8 ม.4-6/9ม.4-6/10 ม.4-6/11 ม.4-6/12 ม.4-6/13 รวม 13 ตัวช้ีวัด
2 โครงสรำ้ งรำยวิชำ เทคโนโลยสี ำรสนเทศและกำรสอ่ื สำรรหัสวิชำ ง31101 ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 4 ภำคเรียนที่ 1 เวลำ 2 ช่ัวโมง ตอ่ สัปดำห์คะแนนเต็ม 100 คะแนน อตั รำสว่ นคะแนนระหว่ำงภำคเรยี นกบั ปลำยภำค 80 : 20ท่ี ช่ือหน่วยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน สำระสำคญั เวลำ นำ้ หนัก /ตวั ชี้วดั (ชั่วโมง) คะแนน1 ความรูเ้ บอ้ื งตน้ เกีย่ วกับ ง 3.1 - เทคโนโลยีสารสนเทศมบี ทบาทสาคัญ 2 5เทคโนโลยสี ารสนเทศและ ม.4-6/1 ต่อการพฒั นาในด้านตา่ งๆการสอ่ื สาร - องคป์ ระกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบด้วย ฮารด์ แวร์ ซอฟตแ์ วร์ ขอ้ มลู บคุ ลากร และขน้ั ตอนปฏบิ ตั งิ าน2 ขอ้ มลู สารสนเทศ และ ง 3.1 - การเก็บรวบรวมข้อมูลมีความสาคัญโดย 2 5 ความรู้ ม.4-6/10 ข้อมลู ท่ีเกบ็ รวบรวมได้ต้องเปน็ ขอ้ มลู ท่ดี ี 10 10 ม.4-6/11 มคี วามถกู ต้องสมบูรณ์ 2 203 คอมพิวเตอรส์ ว่ นบุคคล - สารสนเทศ คอื ผลลัพธ์ท่ไี ด้จากการนา ขอ้ มูลมาประมวลผล เพ่ือให้ไดส้ ิ่งทเี่ ป็น สอบกลางภาค ประโยชน์ในการนาไปใช้งานมากขน้ึ ง 3.1 - องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์ไดแ้ ก่ ม.4-6/2 หนว่ ยรับเขา้ หน่วยประมวลผลกลาง ม.4-6/4 หน่วยความจา หน่วยส่งออกและหนว่ ย ม.4-6/8 เกบ็ ข้อมลู - คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์และ อปุ กรณต์ ่อพ่วง - การเลือกคุณลักษณะของฮาร์ดแวรแ์ ละ ซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับงาน
3ท่ี ชอ่ื หน่วยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำน สำระสำคัญ เวลำ น้ำหนัก4 การสอ่ื สารข้อมลู และ (ชว่ั โมง) คะแนน /ตัวชีว้ ดั เครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 4 10 ง 3.1 - ระบบสื่อสารข้อมูล ประกอบด้วย5 อนิ เทอรเ์ นต็ ม.4-6/3 ขา่ วสาร ผู้ส่ง ผู้รับสื่อกลางโพรโตคอล6 หลกั การแก้ปัญหาดว้ ย คอมพวิ เตอร์ - เครือขา่ ยคอมพิวเตอรจ์ ะ สื่อสารและ รับ-สง่ ขอ้ มลู กนั ได้ต้องใช้โพรโตคอล ชนดิ เดียวกนั ง 3.1 - อินเทอร์เนต็ เป็นเครือขา่ ยขนาดใหญท่ ่ี 4 10 ม.4-6/9 เชื่อมตอ่ เครือข่ายคอมพวิ เตอร์ของ ม.4–6/13 องคก์ รธรุ กจิ หน่วยงานของรัฐบาล สถานศึกษา ตลอดจนเช่ือมโยงบคุ คล ตา่ งๆ เขา้ ไว้ดว้ ยกนั ผูใ้ ชส้ ามารถ เขา้ ถึงอินเทอรเ์ น็ตโดยผ่านผใู้ ห้บรกิ าร อินเทอรเ์ นต็ หรือไอเอสพี ซ่ึงให้บรกิ าร การเชือ่ มต่อเขา้ สู่อนิ เทอรเ์ น็ตแบบตา่ งๆ ง 3.1 - ในการแก้ปญั หา มีวธิ ีการมากมายท่ี 4 10 ม.4-6/5 สามารถเลอื กให้เหมาะสมกับตวั ปญั หา และประสบการณ์ของผ้แู ก้ปัญหาเอง โดยวธิ ีการแก้ปญั หาแต่ละวิธีล้วนมี ขนั้ ตอนหลักที่คลา้ ยคลงึ กันประกอบ ด้วยการวเิ คราะห์และกาหนด รายละเอียดของปญั หา การเลือก เคร่ืองมือและออกแบบขนั้ ตอน วิธีในการแก้ปัญหา การดาเนนิ การ แกป้ ญั หา และการตรวจสอบและ ปรบั ปรุงวธิ ีการ
4ท่ี ชื่อหน่วยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน สำระสำคญั เวลำ นำ้ หนัก7 การพฒั นาโปรแกรม (ช่วั โมง) คะแนน /ตัวช้วี ัด สอบปลายภาค 10 10 ง 3.1 หลงั จากท่ีได้ออกแบบวิธใี นการแกป้ ญั หา 2 20 ม.4-6/5 ซ่ึงอยูใ่ นรูปแบบของรหสั ลาลองหรอื ผงั 40 100 ม.4-6/6 งานแลว้ ขนั้ ตอนต่อไปคอื การพัฒนา ม.4-6/7 โปรแกรมตามผังงาน โดยการเขยี น ม.4-6/11 โปรแกรมด้วยภาษาใดภาษาหน่งึ จากนั้น ม.4-6/12 ต้องทาการตรวจสอบโปรแกรมทีไ่ ด้และ จัดทาเอกสารประกอบการพัฒนา รวมตลอดภาคเรยี นกระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ 1. กระบวนการกลุ่ม 2. กระบวนการแกป้ ัญหา 3. กระบวนการทางานรว่ มกันกำรวดั และประเมนิ ผล 1. วธิ ีกำรวัดและประเมนิ ผล ด้ำนควำมรู้ (K) - ทดสอบก่อนเรียน 20 ขอ้ - ตอบคาถามตามใบงาน - ทดสอบหลังเรียน 20 ขอ้ ดำ้ นทกั ษะกระบวนกำร (P) - สงั เกตพฤติกรรมการเรยี น - ประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ านกลมุ่ ดำ้ นเจตคติ (A) - สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรายบคุ คล - ประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ านกลุ่ม
52. เคร่อื งมือกำรวดั และประเมินผล 2.1 แบบทดสอบกอ่ นเรียน 2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี น 2.3 แบบประเมินผลการปฏบิ ัตงิ านกลุ่ม 2.4 ใบงาน 2.5 แบบทดสอบหลงั เรียน3. เกณฑก์ ำรวดั และประเมินผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการเรียน ผ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ 80 2. ประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ านกล่มุ ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ 80 3. ตอบคาถามตามใบงาน ผา่ นเกณฑ์ ร้อยละ 80 4. ทดสอบหลังเรยี น ผา่ นเกณฑ์ รอ้ ยละ 80แหล่งเรยี นรู้ / ส่ือกำรเรยี นรู้ 1. ใบงาน 2. ใบความรู้ 3. หนังสือเรยี น 4. บทเรยี นบนเครือขา่ ยอนิ เทอร์เน็ตกำรประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 3 คะแนน 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 3 คะแนน 2. ซอื่ สตั ย์สุจริต 3 คะแนน 3. มวี นิ ยั 3 คะแนน 4. ใฝ่เรียนรู้ 3 คะแนน 5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง 3 คะแนน 6. มงุ่ ม่นั ในการทางาน 3 คะแนน 7. รักความเป็นไทย 3 คะแนน 8. มีจติ สาธารณะ 24 คะแนน รวม
6สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น 3 คะแนน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 3 คะแนน 2. ความสามารถในการคดิ 3 คะแนน 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3 คะแนน 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 3 คะแนน 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 15 คะแนน รวม
7แผนการจัดการเรียนรู้ ท่ี 1กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี รายวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี 1หน่วยที่ 1 ชือ่ หน่วย เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 4เร่ือง ความหมายและระบบสารสนเทศ เวลาเรยี น 2 ชั่วโมง1. สาระสาคญั เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมีบทบาทสาคัญต่อการดาเนินชีวิตประจาวันของมนุษย์มกี ารนาเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารมาใช้ประโยชน์ในดา้ นต่างๆ แนวโน้มการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเรว็ เนื่องจากมีการพัฒนาอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ระบบเครือข่ายและเทคโนโลยีเพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้มนุษย์มากย่ิงข้ึน ดังนั้นจึงควรสร้างความตระหนักในการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในทางทีเ่ หมาะสมไม่ก่อความเดือดร้อนตอ่ ตนเองและผอู้ ่ืน ระบบสารสนเทศ เป็นระบบท่ีช่วยเสริมประสิทธิภาพการทางานโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ระบบสารสนเทศประกอบด้วย ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล บุคลากร และขั้นตอนการปฏิบัติงานระบบสารสนเทศ เป็นกระบวนการรวบรวม บันทึก ประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ และเผยแพร่สารสนเทศ เพ่ือใชใ้ นการวางแผน การทางาน และการตัดสินใจ โดยมีกระบวนการทางานด้วยการนาข้อมูลเข้าการประมวลผลข้อมูล การแสดงผล และการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งสามารถศึกษาได้จากตัวอย่างระบบสารสนเทศโดยระบบสารสนเทศท่ีดีจะต้องเช่ือถือได้ เข้าใจง่าย ทันต่อเวลา คุ้มราคา ตรวจสอบได้ ยืดหยุ่น สอดคล้องกับความตอ้ งการ สะดวกในการเขา้ ถึง และปลอดภยั2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ง 3.1 เข้าใจ เห็นคุณค่า และใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้นข้อมูลการเรยี นรู้ การสื่อสาร การแกป้ ัญหา การทางาน และอาชีพอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ประสทิ ธผิ ล และมคี ุณธรรม ตวั ช้วี ัด 1. อธบิ ายองคป์ ระกอบของระบบสารสนเทศ (ง 3.1 ม.4-6/1) ๏ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ด้านความรู้ 1. บอกตัวอย่างเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารทีใ่ ช้ในชีวิตประจาวนั 2. อธบิ ายประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 3. อธบิ ายแนวโน้มการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
8 4. ใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารได้อย่างเหมาะสม 5. อธิบายและวเิ คราะห์องคป์ ระกอบของระบบสารสนเทศ ด้านทักษะกระบวนการ 1. ปฏบิ ตั ติ นในการมบี ทบาทเกยี่ วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ 2. เขา้ ใจผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ 3. นาประโยชน์ของเทคโนโลยสี ารสนเทศไปใช้ในชวี ติ ประจาวันได้ ด้านคณุ ลกั ษณะ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ซ่ือสัตย์สจุ ริต 3. มวี นิ ัย 4. ใฝเ่ รียนรู้ 5. อยอู่ ย่างพอเพียง 6. มงุ่ ม่นั ในการทางาน 7. รกั ความเปน็ ไทย 8. มจี ิตสาธารณะ3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร 3.2 องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ 3.3 ประโยชน์และตวั อย่างของการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร 3.4 แนวโนม้ การใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 3.5 ความเปลยี่ นแปลงจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร 3.6 ตัวอยา่ งอาชีพทางดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร4. กิจกรรมการเรียนรู้ 4.1 ขน้ั เตรยี มการ 4.1.1 แบ่งกลมุ่ ผู้เรยี นเป็นออกเปน็ 5 กลมุ่ 4.1.2 จดั เตรียมกระดาษชาร์ท 4.1.3 จัดเตรียมปากกาสี 4.1.4 จดั เตรยี มสไี ม้ 4.2 ข้นั ดาเนินการ 4.2.1 ผสู้ อนกลา่ วถงึ ความสาคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศ และใหผ้ เู้ รยี นช่วยกนั ยกตวั อยา่ ง การนาเทคโนโลยีสารสนเทศไปใช้งานดา้ นต่างๆ
9 4.2.2 ผู้เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-test) จานวน 20 ขอ้ เวลา 20 นาที 4.2.3 ผ้สู อนแบ่งผเู้ รียนออกเป็น 5 กลุม่ โดย กล่มุ ท่ี 1 ศึกษาเร่ือง ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ กลุ่มท่ี 2 ศกึ ษาเร่อื ง เทคโนโลยสี ารสนเทศในประเทศไทย กลมุ่ ที่ 3 ศึกษาเร่อื ง บทบาทของเทคโนโลยสี ารสนเทศ กลมุ่ ที่ 4 ศึกษาเร่ือง ประโยชน์ของเทคโนโลยสี ารสนเทศ กลมุ่ ที่ 5 ศกึ ษาเรื่อง ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ 4.2.4 ผู้สอนให้ผู้เรียนในแต่ละกลุ่มช่วยกันศึกษาค้นคว้าข้อมูลตามหัวข้อท่ีได้รับมอบหมายและ เขียนสรุปเป็น Mind map ลงในกระดาษชาร์ทพร้อมท้งั ตกแตง่ ใหส้ วยงาม 4.2.5 ผูส้ อนใหผ้ ้เู รยี นช่วยกันอภปิ รายเน้ือหาท้งั หมดแล้วส่งตัวแทนกล่มุ ออกมานาเสนอหน้าช้ัน เรยี น 4.2.6 ผูส้ อนใหผ้ เู้ รยี นทาใบงานท่ี 1.1 เรื่องความหมายและระบบสารสนเทศ 4.2.7 ผูส้ อนและผู้เรียนชว่ ยกนั สรุปความรทู้ ีไ่ ด้5. สือ่ และแหลง่ เรยี นรู้ 5.1 ใบงานที่ 1.1 ความหมายและระบบสารสนเทศ 5.2 สื่อ PowerPoint บทท่ี 1 เรือ่ ง ความหมายและระบบสารสนเทศ 5.3 หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ของ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 5.4 หอ้ งสมุดโรงเรียนชลราษฎรอารุง 5.5 เครื่องคอมพิวเตอร์ 5.6 เคร่ืองฉายโปรเจคเตอร์ 5.7 เครื่องขยายเสยี งและไมโครโฟน6. การวดั และประเมินผล 6.1 เครื่องมือในการวัดและประเมนิ ผล 6.1.1 แบบสงั เกตการปฏิบตั ิงาน 6.1.2 แบบประเมนิ ผลงาน (ใบงานท่ี 1.1) 6.2 วธิ ีการประเมนิ ผล 6.2.1 สังเกตจากการตอบคาถามในใบงาน 6.2.2 สงั เกตจากการมีส่วนรว่ มในกจิ กรรม
10 6.3 เกณฑ์การวัดและประเมินผล 6.3.1 ผลการประเมินเป็นรายบุคคลจากแบบสังเกตการปฏบิ ัติงานไมต่ ่ากว่า 80 % ผูท้ ่ีไม่ผา่ นการประเมินต้องซ่อมเสริมด้วยการปฏิบัตงิ านเด่ียวให้สาเรจ็ 6.3.2 ผลการประเมินผลงานของกลุ่มไมต่ า่ กว่า 70 %7. คุณลกั ษณะสอดแทรก สอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรม เร่ืองการทางานร่วมกนั8. การบรณู าการ - กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ไดแ้ ก่ การวเิ คราะหข์ ้อมลู ทกั ษะการนาเสนอรายงาน - กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาอังกฤษ ได้แก่ คาศัพทเ์ กีย่ วกบั ชอ่ื ขอ้ มลู สารสนเทศ9. กจิ กรรมเสนอแนะ (ถ้าม)ี ……………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
11 ใบงานที่ 1.1 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 เวลาเรียน 2 ชัว่ โมง รายวิชา การงานอาชพี และเทคโนโลยี 1 รหัสวิชา ง 31101หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารเรือ่ ง ความหมายและระบบสารสนเทศ ให้ผู้เรียนศกึ ษาบทเรียน เรอื่ ง เทคโนโลยสี ารสนเทศ แล้วอภปิ รายสรปุ ต่อไปนี้1. เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร หมายถึง…………………………………..………………………….......................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………2. จงอธิบายบทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศมีต่อมนษุ ยใ์ นด้านตา่ งๆ ดงั น้ี บทบาทด้านการศึกษา……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… บทบาทดา้ นการแพทย์และสาธารณสขุ ………………………………………………………..…………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… บทบาทดา้ นเกษตรและอตุ สาหกรรม…………………………………………………………..………………………………..…… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… บทบาทดา้ นการเงินการธนาคาร…………………………………………………………………………………………..…………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… บทบาทดา้ นความมัน่ คง…………………………………………………………………….……………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………….………………………….. บทบาทด้านการคมนาคม………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… บทบาทด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม..………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… บทบาทด้านการพาณชิ ย์………………………………………………………………………………………………………..…………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
123. อธิบายองคป์ ระกอบทีส่ าคญั ของระบบสารสนเทศ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………4. จงยกตวั อย่างอาชพี ทเ่ี กย่ี วข้องกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………5. จงอธิบายว่าอปุ กรณเ์ ทคโนโลยีและสารสนเทศในอนาคตจะมีลักษณะอย่าไร ยกตัวอย่างประกอบ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………6. สมารด์ การ์ดและเงินอเิ ล็กทรอนกิ ส์ คือ……………………………………………………….………………………….………. ……………………………………………………………………………………………..………………………………………….…..……… ยกตวั อยา่ งเชน่ ……………………………………………………………………………………………………………….…………..….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….……7. การชมรายการโทรทศั น์แบบออนดีมานด์ มีลกั ษณะอย่างไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
13 บนั ทึกการจดั การเรียนรู้1. ผลการจดั กิจกรรม …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..2. ปัญหาและอปุ สรรค / ขอ้ บกพรอ่ งทพ่ี บในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..3. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอ่ื …………….………..………………. (นางสาวสาวิตรี หงษา) ผจู้ ัดการเรยี นรู้
14ความเหน็ ของครพู ่ีเล้ียง …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงชื่อ………..………………………………... (นางสาววรนุช แสงจนั ทร์) หวั หน้ากลมุ่ งานคอมพวิ เตอร์ความเหน็ ของรองผู้อานวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงชื่อ………..…………………………..….. (นายเชษฐา ปาละกลู ) รองผูอ้ านวยการโรงเรียนความเห็นของผู้อานวยการโรงเรียน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงชื่อ………..…………………………..….. (นายอทุ ยั สิงหโ์ ตทอง) ผู้อานวยการโรงเรยี น
Place your screenshot here Place your screenshot herePlace your screenshot here
Place your screenshot here
15แผนการจดั การเรียนรู้ ที่ 2กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี รายวิชา การงานอาชพี และเทคโนโลยี 1หนว่ ยที่ 2 ช่ือหน่วย ข้อมลู สารสนเทศ และความรู้ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4เรือ่ ง องคป์ ระกอบของสารสนเทศ เวลาเรยี น 2 ชัว่ โมง1. สาระสาคญั องค์ประกอบของระบบสารสนเทศประกอบด้วยฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ บุคลากร ข้อมูล และข้ันตอนการปฏิบัติงาน ซึ่งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในระบบสารสนเทศสามารถแบ่งได้ตามหลักการทางานของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ บุคลากรและข้อมูลเป็นองค์ประกอบของระบบสารสนเทศ โดยบุคลากรจะหมายถึงบุคคลท่ีปฏิบัติงานหรือผู้ท่ีเก่ียวข้องกับระบบสารสนเทศ แบ่งเป็นนักวิเคราะห์ระบบ โปรแกรมเมอร์ เจ้าหน้าท่ีฝ่ายปฏบิ ัตงิ านเคร่ือง และผใู้ ช้ ส่วนขอ้ มูลจะหมายถงึ ข้อเท็จจรงิ ทอ่ี ยใู่ นรูปแบบต่าง ๆ ที่ใชใ้ นระบบสารสนเทศ ซงึ่ มีทงั้ ขอ้ มลู ทไ่ี มผ่ ่านการประมวลผลหรอื ข้อมลู ดบิ และข้อมลู ทผ่ี า่ นการประมวลผลแล้วหรอื สารสนเทศนั่นเอง ขนั้ ตอนการปฏบิ ัติงาน คือ การรวมองคป์ ระกอบของระบบสารสนเทศอ่ืน ๆ มาดาเนินงานรว่ มกันเพ่ือพัฒนาระบบสารสนเทศเดิมหรือสร้างระบบสารสนเทศใหม่ ด้วยการกาหนดวงจรการพัฒนาระบบข้ึน โดยการวิเคราะห์เชิงโครงสร้าง 6 ข้ันตอน คือ การวางแผนระบบ การวิเคราะห์ระบบ การออกแบบระบบ การพฒั นาระบบ การติดตัง้ ระบบ และการดูแลรกั ษาระบบ2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ง 3.1 เข้าใจ เห็นคุณค่า และใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้นข้อมูลการเรยี นรู้ การสอ่ื สาร การแกป้ ัญหา การทางาน และอาชพี อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ประสทิ ธผิ ล และมีคุณธรรม ตัวชี้วดั 1. ใชค้ อมพวิ เตอร์ในการประมวลผลขอ้ มูลให้เป็นสารสนเทศเพ่ือประกอบการตัดสินใจ (ง 3.1 ม. 4–6/10) ๏ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ด้านความรู้ 1. ออกแบบเครอื่ งมอื ทีใ่ ชเ้ กบ็ รวบรวมขอ้ มลู 2. เก็บรวบรวมและวิเคราะห์ขอมลู เพ่อื นามาประมวลผล 3. ใชโ้ ปรแกรมคอมพวิ เตอรเ์ ก็บรวบรวมข้อมลู ประมวลผลข้อมูลให้เปน็ สารสนเทศ 4. นาเสนอรปู แบบสารสนเทศท่ีสอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการ
16 5. นาสารสนเทศไปใช้ในการประกอบการตดั สินใจ 6. อธิบายจริยธรรมในการใช้และสร้างข้อมูล ด้านทักษะกระบวนการ 1. เขา้ ใจระดบั ของผ้ใู ชส้ ารสนเทศ 2. นาประโยชน์ของเทคโนโลยสี ารสนเทศไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ ด้านคุณลักษณะ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ซือ่ สัตยส์ ุจริต 3. มีวินยั 4. ใฝ่เรียนรู้ 5. อยู่อยา่ งพอเพียง 6. มุง่ มัน่ ในการทางาน 7. รกั ความเปน็ ไทย 8. มจี ติ สาธารณะ3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ขอ้ มลู สารสนเทศ และความรู้ 3.2 การจัดการความรู้ 3.3 ลกั ษณะของข้อมูลท่ดี ี 3.4 การจดั เกบ็ ข้อมูล 3.5 จรยิ ธรรมในโลกของข้อมูล4. กิจกรรมการเรียนรู้ 4.1 ขั้นเตรยี มการ 4.1.1 จัดเตรยี มสอ่ื การสอน เรอื่ ง ขอ้ มลู สารสนเทศ และความรู้ 4.1.2 จัดเตรยี มใบงาน 2.1 เรือ่ ง โปรแกรมเพอื่ สขุ ภาพ 4.2 ขัน้ ดาเนินการ 4.2.1 ผู้สอนนาเข้าสู่บทเรียนโดยการถามคาถามและให้ผู้เรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็น เก่ียวกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศ โดยครเู ปดิ โอกาสให้ผู้เรียนค้นควา้ ข้อมูลจากหนังสอื เรยี น 4.2.2 ผสู้ อนอธิบายความหมายของข้อมูล สารสนเทศ และความรู้ อธิบายถึงความแตกตา่ งของ ขอ้ มูล สารสนเทศ และความรู้ รวมไปถงึ การจดั การความร้โู ดยถามคาถามสลบั กันไป
17 4.2.3 ผู้สอนให้ผู้เรยี นทาใบงาน 2.1 เรอ่ื งโปรแกรมเพอื่ สุขภาพ จากน้ันผู้สอนอธบิ ายการหาค่า BMR โดยใช้โปรแกรม Microsoft Excel หลังจากนั้นให้ผู้เรียนใช้เวลาทาใบงาน 50 นาที โดย ผู้สอนจะชว่ ยแนะนาและคอยตอบคาถามเม่ือผ้เู รียนเกดิ ปัญหา 4.2.4 ผสู้ อนและผู้เรยี นรว่ มกนั อภิปรายและสรปุ ความรู้ท่ไี ดจ้ ากการทาใบงาน5. สอ่ื และแหลง่ เรียนรู้ 5.1 ใบงานท่ี 2.1 โปรแกรมเพ่ือสุขภาพ 5.2 ส่อื PowerPoint บทที่ 2 เรื่อง ขอ้ มลู สารสนเทศ และความรู้ 5.3 หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 ของ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 5.4 หอ้ งสมดุ โรงเรียนชลราษฎรอารุง 5.5 เคร่อื งคอมพิวเตอร์ 5.6 เครอื่ งฉายโปรเจคเตอร์ 5.7 เคร่อื งขยายเสียงและไมโครโฟน6. การวดั และประเมนิ ผล 6.1 เครือ่ งมือในการวดั และประเมินผล 6.1.1 แบบสังเกตการปฏบิ ัติงาน 6.1.2 แบบประเมินผลงาน (ใบงานที่ 2.1) 6.2 วธิ ีการประเมินผล 6.2.1 สังเกตจากการตอบคาถามในใบงาน 6.2.2 สังเกตจากการมีสว่ นรว่ มในกิจกรรม 6.3 เกณฑ์การวดั และประเมินผล 6.3.1 ผลการประเมนิ เป็นรายบคุ คลจากแบบสงั เกตการปฏบิ ตั ิงานไมต่ า่ กว่า 80 % ผู้ท่ไี มผ่ ่านการประเมนิ ต้องซ่อมเสริมดว้ ยการปฏบิ ัติงานเดี่ยวให้สาเรจ็ 6.3.2 ผลการประเมินผลงานของกลมุ่ ไม่ตา่ กว่า 70 %7. คณุ ลกั ษณะสอดแทรก สอดแทรกคณุ ธรรม จริยธรรม เรอ่ื งการทางานรว่ มกนั
188. การบรณู าการ - กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ได้แก่ การวิเคราะห์ข้อมลู ทักษะการนาเสนอรายงาน - กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาอังกฤษ ได้แก่ คาศัพท์ของข้อมูล สารสนเทศ และความรู้9. กจิ กรรมเสนอแนะ (ถา้ มี) ……………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
19 ใบงานท่ี 2.1 ชั้น มัธยมศึกษาปที ่ี 4 เวลาเรียน 2 ชวั่ โมง รายวชิ า การงานอาชีพและเทคโนโลยี 1 รหัสวชิ า ง 31101หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 ขอ้ มลู สารสนเทศ และความรู้เรอ่ื ง โปรแกรมเพอ่ื สุขภาพ ใหผ้ ูเ้ รียนศกึ ษาเน้ือหาจากหนังสือเรยี นรายวชิ าพ้นื ฐานเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร บทที่ 2แล้วศึกษาขอ้ มูลต่อไปน้ี1. Basal Metabolism Rate (BMR) คือ สูตรคานวณพลังงานท่ีใช้ต่อวันในภาวะร่างกายปกติเฉพาะคน ซ่ึงออกแบบมาให้มีความแมน่ ยา ช่วยกาหนดและจากัดจานวนพลงั งานทรี่ ่างกายตอ้ งการ โดยคดิ จากเพศ นา้ หนักสว่ นสูง และอายุBMR สาหรับผชู้ าย = 66 + (13.7 x น้าหนักตวั เป็น กก.) + (5 x ส่วนสงู เป็น ซม.) – (6.8 x อาย)ุBMR สาหรบั ผู้หญิง = 665 + (9.6 x น้าหนักตัวเปน็ กก.) + (1.8 x ส่วนสูงเปน็ ซม.) – (4.7 x อาย)ุตวั อย่างเชน่ ผูห้ ญิง อายุ 35 ปี สว่ นสงู 165 ซม. น้าหนกั 60 กก. BMR จะเท่ากบั 665 + (9.6 x 60) + (1.8 x 165) – (4.7 x 35) = 1373.5 แคลอรี หากมกี จิ กรรมท่ีต้องใชพ้ ลังงานหรือออกกาลังกายเพิ่มเตมิ ร่างกายก็จะมีการเผาผลาญพลงั งาน เพอื่นามาใชม้ ากข้นึ สามารถคานวณพลงั งานไดด้ ังตารางกจิ กรรม จานวนแคลอรีท่รี า่ งกายเผาผลาญตอ่ วันนั่งทางานอยู่กับที่ และไมไ่ ด้ออกกาลังกายเลย BMR ทคี่ านวณได้ x 1.2ออกกาลงั กายเล็กน้อย(ประมาณอาทติ ย์ละ 1-2 วัน) BMR ที่คานวณได้ x 1.375ออกกาลงั กายเลก็ น้อย(ประมาณอาทิตยล์ ะ 3-5 วนั ) BMR ทค่ี านวณได้ x 1.55ออกกาลังกายเล็กน้อย(ประมาณอาทิตย์ละ 6-7 วนั ) BMR ท่ีคานวณได้ x 1.725 ตัวอยา่ งเชน่ BMR ของคุณ = 1502.9 ถา้ คุณเปน็ คนออกกาลงั กายเล็กน้อย จะคานวณโดยใช้สูตรBMR x 1.375 น่ันคือ ปรมิ าณแคลอรีทต่ี ้องการต่อหนึ่งวัน คือ 1502.9 x 1.375 = 2066.49 แคลอรี
20ใหผ้ เู้ รียนแต่ละคนจัดทาโปรแกรมการรบั ประทานอาหาร และโปรแกรมการออกกาลังกาย โดยปฏิบัติดงั นี้1.1 ใหผ้ ูเ้ รียนคานวณหาคา่ BMR ของนกั เรียนและเพ่ือนในห้อง จานวน 4 คน โดยใชโ้ ปรแกรมคอมพวิ เตอร์ที่เหมาะสมเปน็ เคร่ืองมือสาหรับการเกบ็ รวบรวมข้อมูล พร้อมบนั ทกึ ไฟล์ในส่ือบันทึกไวเ้ พื่อตรวจสอบและเรยี กใชง้ านภายหลงัที่ ชอ่ื -นามสกลุ เพศ น้าหนกั ส่วนสูง อายุ BMR (กก.) (ซม.) (ป)ี1 ตัวเอง23451.2 ให้นกั เรียนคน้ หาข้อมลู จากอนิ เทอร์เน็ตเพื่อหาปริมาณแคลอรีของอาหารท่ีรับประทานในแตล่ ะวนั โดยจดั ทาเปน็ ตารางขอ้ มลู ที่ รายการอาหาร ปรมิ าณแคลอรีของอาหาร 1 2 3 4 5 รวม
212. อธิบายวา่ ข้อมลู คืออะไร แตกตา่ งจากสารสนเทศและความรู้อย่างไร………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………3. ข้อมูลทด่ี ีควรมีลกั ษณะอย่างไร………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………4. อธิบายขน้ั ตอนการจดั เก็บขอ้ มูล………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………5. ยกตวั อยา่ งการกระทาความผิดตาม “พระราชบญั ญัติว่าด้วยการกระทาความผดิ เกีย่ วกบั คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550”มาอย่างน้อย 3 ข้อ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
22 บันทกึ การจัดการเรียนรู้1. ผลการจัดกจิ กรรม …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..2. ปญั หาและอุปสรรค / ข้อบกพร่องท่ีพบในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกป้ ญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงช่อื …………….………..………………. (นางสาวสาวติ รี หงษา) ผู้จัดการเรียนรู้
23ความเหน็ ของครพู ่ีเล้ียง …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงชื่อ………..………………………………... (นางสาววรนุช แสงจันทร์) หวั หน้ากลมุ่ งานคอมพวิ เตอร์ความเหน็ ของรองผู้อานวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงชื่อ………..…………………………..….. (นายเชษฐา ปาละกลู ) รองผูอ้ านวยการโรงเรียนความเห็นของผู้อานวยการโรงเรียน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงช่ือ………..…………………………..….. (นายอทุ ยั สงิ หโ์ ตทอง) ผู้อานวยการโรงเรยี น
24แผนการจดั การเรียนรู้ ที่ 3กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี รายวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี 1หน่วยท่ี 3 ช่ือหน่วย คอมพวิ เตอรส์ ่วนบุคคล ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4เร่ือง องค์ประกอบและหลกั การทางานของคอมพิวเตอร์ เวลาเรียน 2 ชัว่ โมง1. สาระสาคัญ คอมพิวเตอร์มีกระบวนการทางานอย่างมีลาดับข้ันตอน โดยมีกลุ่มของอุปกรณ์ที่ทางานประสานกัน เป็นหน่วยงานต่างๆ ที่ทางานรับส่งข้อมูลร่วมกันระหว่างหน่วยอื่นๆ ที่อยู่ในองค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ จะทางานได้ต้องประกอบไปด้วยส่วนสาคญั 5 ส่วนด้วยกนั คือ หน่วยรับเข้า หน่วยประมวลผลกลาง หนว่ ยความจาหลกั หนว่ ยความจารอง และหน่วยแสดงผล การทางานของคอมพิวเตอร์เริ่มต้นจากผู้ใช้งานป้อนข้อมูล หรือคาสั่งผ่านอุปกรณ์รับ ไปประมวลผล เพื่อประมวลผลตามข้อมูลหรือคาส่ังท่ีได้รับ อาจมีการเก็บข้อมูลไว้ในหน่วยความจาหลักเพ่ือการประมวลผล แลว้ แสดงผลลัพธ์ผ่านทางอุปกรณ์แสดงผลชนิดต่างๆ หากผู้ใช้ตอ้ งการการบนั ทกึ ข้อมูลเกบ็ ไว้ กจ็ ะทาการบันทกึ ขอ้ มลู ลงหนว่ ยความจารองชนดิ ต่างๆ ต่อไป2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ง 3.1 เข้าใจ เห็นคุณค่า และใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้นข้อมูลการเรยี นรู้ การสอื่ สาร การแกป้ ญั หา การทางาน และอาชพี อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ประสทิ ธิผล และมคี ณุ ธรรม ตัวช้วี ัด 1. อธิบายองคป์ ระกอบและหลกั การทางานของคอมพวิ เตอร์ (ง 3.1 ม.4-6/2) 2. บอกคณุ ลกั ษณะของคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณต์ ่อพ่วง (ง 3.1 ม. 4–6/4) ๏ จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ 1. อธิบายองค์ประกอบและหลกั การทางานของคอมพิวเตอร์ 2. อธบิ ายหนา้ ทข่ี องอปุ กรณค์ อมพิวเตอร์ ด้านทกั ษะกระบวนการ 1. สามารถเขียนองค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ได้ 2. สามารถนาประโยชนข์ องเทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ได้
25 ดา้ นคณุ ลกั ษณะ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต 3. มีวินยั 4. ใฝ่เรียนรู้ 5. อยู่อย่างพอเพยี ง 6. มุง่ มัน่ ในการทางาน 7. รกั ความเปน็ ไทย 8. มีจติ สาธารณะ3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 องคป์ ระกอบของคอมพิวเตอร์ 3.2 หลกั การในการทางานคอมพวิ เตอร์4. กิจกรรมการเรียนรู้ 4.1 ข้นั เตรียมการ 4.1.1 จัดเตรยี มตวั อย่างส่วนประกอบของคอมพวิ เตอร์ 4.1.2 จดั เตรียมสอ่ื การสอน เรื่อง องค์ประกอบและหลกั การทางานของคอมพวิ เตอร์ 4.1.3 จัดเตรยี มใบงาน 3.1 เร่ือง อธบิ ายองค์ประกอบและหลกั การทางานของคอมพิวเตอร์ 4.2 ขนั้ ดาเนนิ การ 4.2.1 ผู้สอนนาเข้าสบู่ ทเรียนโดยการทบทวนความรู้เรอ่ื งข้อมูล สารสนเทศ และความรู้ และถาม คาถามโดยให้นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็น โดยครูเปิดโอกาสให้นักเรียนค้นคว้า ขอ้ มูลจากหนังสือเรียน 4.2.2 ผู้สอนอธิบายองค์ประกอบของคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์พร้อมทั้ง แสดงตัวอย่างให้นักเรียนดูทีละชิ้นสว่ น พร้อมท้ังอธิบายหลักการทางานของคอมพิวเตอร์ โดยสลบั ไปกับการถามคาถาม 4.2.3 ผู้สอนใหผ้ ู้เรยี นทาใบงานที่ 3.1 องค์ประกอบและหลกั การทางานของคอมพวิ เตอร์ 4.2.4 ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันอภิปรายและสรุปองค์ประกอบและหลักการทางานของ คอมพวิ เตอร์
265. สือ่ และแหล่งเรียนรู้ 5.1 ใบงานท่ี 3.1 เรอื่ ง องค์ประกอบและหลกั การทางานของคอมพิวเตอร์ 5.2 สอ่ื PowerPoint บทที่ 3 เร่ือง องคป์ ระกอบและหลักการทางานของคอมพิวเตอร์ 5.3 หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 ของ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 5.4 ห้องสมุดโรงเรยี นชลราษฎรอารงุ 5.5 เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ 5.6 เคร่อื งฉายโปรเจคเตอร์ 5.7 เครื่องขยายเสยี งและไมโครโฟน6. การวดั และประเมินผล 6.1 เคร่อื งมือในการวดั และประเมินผล 6.1.1 แบบสงั เกตการปฏบิ ัติงาน 6.1.2 แบบประเมนิ ผลงาน (ใบงานที่ 3.1) 6.2 วิธีการประเมนิ ผล 6.2.1 สังเกตจากการตอบคาถามในใบงาน 6.2.2 สงั เกตจากการมสี ่วนรว่ มในกิจกรรม 6.3 เกณฑ์การวดั และประเมินผล 6.3.1 ผลการประเมินเปน็ รายบุคคลจากแบบสังเกตการปฏบิ ัติงานไม่ตา่ กวา่ 80 % ผู้ที่ไม่ผา่ นการประเมินต้องซ่อมเสริมดว้ ยการปฏิบัติงานเดีย่ วใหส้ าเร็จ 6.3.2 ผลการประเมนิ ผลงานของกลมุ่ ไม่ต่ากว่า 70 %7. คุณลกั ษณะสอดแทรก สอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรม เรอื่ งการทางานรว่ มกนั8. การบรูณาการ - กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ไดแ้ ก่ การวเิ คราะห์ข้อมลู การตอบคาถาม และการแสดงความคดิ เหน็ - กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ได้แก่ คาศัพท์เก่ียวกบั ชอ่ื สว่ นประกอบของคอมพิวเตอร์
279. กิจกรรมเสนอแนะ (ถา้ มี) ……………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
28 ใบงานท่ี 3.1 ชั้น มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 เวลาเรยี น 2 ชั่วโมง รายวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี 1 รหัสวชิ า ง 31101หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 คอมพวิ เตอร์ส่วนบุคคลเรอ่ื ง องค์ประกอบและหลักการทางานของคอมพิวเตอร์ ให้ผเู้ รยี นศกึ ษาเนื้อหาจากหนังสอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารบทท่ี 3เรื่องคอมพิวเตอรส์ ว่ นบคุ คล หัวข้อองคป์ ระกอบและหลกั การทางานของคอมพิวเตอร์ แล้วตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 1. ให้ผเู้ รยี นหาภาพองค์ประกอบคอมพวิ เตอร์มาติดในตาราง และเขยี นอธิบายหน้าท่ีการทางานของแต่ ละหนว่ ยตามความเข้าใจของผู้เรียน .......................................................................................................................... .......................................................................................................................... .......................................................................................................................... .................................................................................... ...................................... .......................................................................................................................... .............................................................................................. ............................ .......................................................................................................................... .................................................................................................. ........................ .......................................................................................................................... ...................................................................................................... .................... .......................................................................................................................... ................................................................................................................ .......... .......................................................................................................................... .................................................................................................................... ...... ..........................................................................................................................
292. จากแผนภาพในข้อ 1 ผู้เรียนแบ่งองคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์ออกเป็น..................หน่วย โดย หนว่ ย......................................มหี น้าที่............................................................................................................. ตวั อย่างของอุปกรณ์ทจ่ี ัดอยู่ในหน่วยน้ี เชน่ ..................................................................................................... หนว่ ย......................................มีหนา้ ท่.ี ............................................................................................................ ตวั อยา่ งของอปุ กรณ์ทจ่ี ัดอยู่ในหน่วยนี้ เชน่ ..................................................................................................... หนว่ ย......................................มหี นา้ ที่............................................................................................................. ตวั อยา่ งของอุปกรณ์ที่จัดอยู่ในหนว่ ยนี้ เช่น .................................................................................................... หน่วย......................................มีหนา้ ท.่ี ....................................................................................... ..................... ตวั อยา่ งของอุปกรณ์ท่จี ดั อยู่ในหน่วยน้ี เช่น .................................................................................................... หน่วย......................................มหี น้าท่ี ............................................................................................................ ตัวอยา่ งของอุปกรณ์ท่จี ดั อยู่ในหน่วยน้ี เช่น.....................................................................................................3. พจิ ารณาผงั การทางานร่วมกันระหวา่ งซพี ียู หนว่ ยความจา และอปุ กรณร์ ับเข้า และส่งออก เปน็ ดังรูป ให้ผเู้ รียนตอบคาถามต่อไปนี้
303.1 ถา้ หมายเลข เปน็ หน่วยความจาแบบไมส่ ามารถลบเลอื นได้ ซึ่งแตกต่างจากหมายเลข คือ........................................................................................หนว่ ยความจาหมายเลข ทาหนา้ ท่.ี ........................…...........................................................................................................................................................................3.2 แรมชนดิ .........................................................ใช้ในการจดจาขอ้ มูลและโปรแกรมต่างๆ ท่ีอยรู่ ะหว่างการประมวลผลของคอมพวิ เตอร์ โดยอยทู่ ี่ตาแหน่ง................................................................................................................................................................................................................................. ................................................3.3 สแตตกิ แรม จัดเปน็ หนว่ ยความจาแบบ.......................................................................................................... อาจอยู่ภายนอกซีพยี ู เช่น อยู่บนเมนบอร์ด แตป่ ัจจบุ ันมักพบในตวั ซพี ียูทาหน้าที่เป็นหนว่ ยความจาภายใน ซพี ยี ู และมคี วามเร็วสูง โดยอยทู่ ี่ตาแหน่ง..................................................................................................... ............................................................................................................................................................................3.4 ในซีพียปู ระกอบดว้ ย หน่วยควบคมุ ทาหนา้ ท.่ี ..........................................................................................คือตาแหน่งท.่ี ................. หนว่ ยคานวณและตรรกะ ทาหนา้ ท่.ี ........................................................................คือตาแหน่งท.่ี .................3.5 แรมและซีพยี มู ีการทางานร่วมกนั โดยมขี ั้นตอนการทางานสมมติดังน้ี คอมพิวเตอร์คานวณเลข 2 จานวน โดยตวั เลขดงั กล่าวเมื่อผ้ใู ชป้ ้อนขอ้ มูลเขา้ มาจะถูกจดั เกบ็ ไว้ชัว่ คราว ภายในหมายเลข...........................จากนน้ั หมายเลข.......................... ภายในซีพยี ู จะควบคมุ คาสัง่ และแปล ความหมายของคาสัง่ ในการคานวณตวั เลข 2 จานวน ดงั กลา่ ว โดยส่งสญั ญาณควบคุมไปใหห้ มายเลข ...........................เพื่อทาการคานวณตวั เลข และเกบ็ ผลลพั ธ์ที่ไดไ้ ว้ในหมายเลข................................เพือ่ รอ การแสดงผลตอ่ ไป3.6 ในการสง่ ข้อมูลและคาสั่งซึง่ อยใู่ นรปู ของสัญญาณไฟฟ้าระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ภายในแผนภาพดังกล่าว สามารถส่งผา่ น............................................................................................................................................
31 บนั ทกึ การจัดการเรยี นรู้1. ผลการจัดกจิ กรรม …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..2. ปัญหาและอปุ สรรค / ข้อบกพร่องที่พบในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….………..………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงช่ือ…………….………..………………. (นางสาวสาวติ รี หงษา) ผจู้ ัดการเรียนรู้
32ความเหน็ ของครพู ่ีเล้ียง …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงชื่อ………..………………………………... (นางสาววรนชุ แสงจันทร์) หวั หน้ากลุ่มงานคอมพวิ เตอร์ความเหน็ ของรองผู้อานวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงชื่อ………..…………………………..….. (นายเชษฐา ปาละกลู ) รองผู้อานวยการโรงเรียนความเห็นของผู้อานวยการโรงเรียน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …...……………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ……...…………………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงช่ือ………..…………………………..….. (นายอทุ ยั สงิ หโ์ ตทอง) ผอู้ านวยการโรงเรยี น
Place your screenshot here Place your screenshot herePlace your screenshot here
Place your screenshot here
33แผนการจัดการเรยี นรู้ ที่ 4กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี รายวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี 1หนว่ ยท่ี 3 ชอ่ื หน่วย คอมพิวเตอร์สว่ นบคุ คล ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4เรอื่ ง การเลอื กซื้อคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณ์ เวลาเรียน 2 ชว่ั โมง1. สาระสาคัญ การเลือกซื้อเคร่ืองคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือพีซีน้ัน อุปกรณ์ที่มีความจาเป็นต้องพิจารณาคุณลกั ษณะในการเลือกซ้ือเพอื่ นามาประกอบกนั เป็นเคร่ืองคอมพิวเตอร์ สาหรับผูเ้ ริม่ ใชค้ อมพวิ เตอร์ ไม่ควรซ้ืออุปกรณ์มาประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์เอง ควรเลือกเครื่องคอมพิวเตอร์ท่ีจัดขายเป็นชุดให้แล้ว และเลือกซื้อจากบริษัทท่ีเช่ือถือได้ เน่ืองจากผู้ผลิตได้เลือกอุปกรณ์ตา่ ง ๆ ท่ีเหมาะสมมาประกอบเป็นเครอ่ื งคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว สาหรับผู้ใช้ท่ีต้องการเลือกซ้ือช้ินส่วนต่างๆ มาประกอบเป็นเคร่ืองคอมพิวเตอร์ตามท่ีต้องการ หรือเพ่ือปรับปรุงอุปกรณ์บางอยา่ ง เช่น ซีพียู เมนบอรด์ และแรม ในการเลือกซอ้ื เครอื่ งคอมพิวเตอร์น้ันควรเลือกซ้ือให้เหมาะสมกบั การใชง้ านของเรา2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ง 3.1 เข้าใจ เห็นคุณค่า และใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้นข้อมูลการเรียนรู้ การสื่อสาร การแก้ปัญหา การทางาน และอาชพี อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ประสทิ ธผิ ล และมคี ุณธรรม ตวั ชวี้ ัด 1. บอกคุณลกั ษณะของคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณต์ ่อพว่ ง (ง 3.1 ม. 4–6/4) 2. ใช้ฮารด์ แวรแ์ ละซอฟตแ์ วรใ์ ห้เหมาะสมกบั งาน (ง 3.1 ม. 4–6/8) ๏ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ด้านความรู้ 1. บอกส่วนประกอบหลักของคอมพวิ เตอร์ 2. บอกคุณลกั ษณะของชนิ้ สว่ นคอมพวิ เตอร์ 3. กาหนดคุณลักษณะของอุปกรณค์ อมพวิ เตอรต์ ามความต้องการในการใชง้ าน ด้านทักษะกระบวนการ 1. สามารถแนะนาสว่ นประกอบของคอมพิวเตอร์ให้ผ้อู น่ื ได้ 2. สามารถชว่ ยแนะนาการเลือกซือ้ คอมพวิ เตอร์ให้กับผอู้ ่นื ได้ 3. สามารถนาประโยชน์ของเทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์ไปใช้ในชวี ิตประจาวันได้
34 ดา้ นคณุ ลักษณะ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 2. ซอื่ สตั ยส์ ุจริต 3. มวี ินยั 4. ใฝ่เรียนรู้ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง 6. มุ่งมั่นในการทางาน 7. รกั ความเป็นไทย 8. มีจติ สาธารณะ3. สาระการเรียนรู้ 3.1 การเลอื กซอ้ื คอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม 3.2 การเลือกซือ้ เครอ่ื งคอมพิวเตอร์และอปุ กรณ์4. กิจกรรมการเรียนรู้ 4.1 ขนั้ เตรยี มการ 4.1.1 จัดเตรยี มส่ือการสอน เรือ่ ง การเลอื กซื้อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ 4.1.2 จดั เตรียมใบงาน 3.2 เร่ือง การเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมกับงาน 4.2 ขัน้ ดาเนนิ การ 4.2.1 ผู้สอนนาเข้าสู่บทเรียนโดยการทบทวนความรู้เร่ืององค์ประกอบและหลักการทางานของ คอมพิวเตอรแ์ ละถามคาถามโดยให้ผู้เรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็น โดยครเู ปดิ โอกาสให้ ผู้เรยี นค้นคว้าขอ้ มูลจากหนังสอื เรยี น 4.2.2 ผู้สอนสุ่มเลือกตัวแทนผู้เรียน 2–3 คน เพื่อตอบคาถามว่า ผู้เรียนต้องการใช้งาน คอมพวิ เตอร์แบบไหน เพราะอะไร 4.2.3 ผู้สอนอธิบายวิธีการเลือกซ้ือคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมพร้อมท้ังยกตัวอย่างให้ผู้เรียนดูว่า ในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์มาประกอบเองน้ัน ควรเลือกซ้ืออุปกรณ์อย่างไร โดยสลับไป กับการถามคาถาม 4.2.4 ผสู้ อนใหผ้ ู้เรยี นทาใบงานท่ี 3.2 การเลือกซ้อื คอมพวิ เตอร์ให้เหมาะสมกับงาน 4.2.5 ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันอภิปรายและสรุปการเลือกซอ้ื คอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมกับการใช้ งาน
355. ส่อื และแหล่งเรียนรู้ 5.1 ใบงานที่ 3.2 เรอ่ื ง การเลอื กซอื้ คอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมกบั งาน 5.2 ส่ือ PowerPoint บทท่ี 3 เรอ่ื ง การเลือกซอ้ื คอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณ์ 5.3 หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 ของ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 5.4 หอ้ งสมดุ โรงเรยี นชลราษฎรอารงุ 5.5 เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ 5.6 เครอ่ื งฉายโปรเจคเตอร์ 5.7 เครอ่ื งขยายเสยี งและไมโครโฟน6. การวดั และประเมนิ ผล 6.1 เครื่องมือในการวัดและประเมนิ ผล 6.1.1 แบบสังเกตการปฏิบตั ิงาน 6.1.2 แบบประเมนิ ผลงาน (ใบงานที่ 3.2) 6.2 วิธีการประเมินผล 6.2.1 สงั เกตจากการตอบคาถามในใบงาน 6.2.2 สังเกตจากการมสี ่วนรว่ มในกิจกรรม 6.3 เกณฑ์การวดั และประเมินผล 6.3.1 ผลการประเมินเป็นรายบุคคลจากแบบสังเกตการปฏิบตั งิ านไมต่ า่ กวา่ 80 % ผู้ที่ไมผ่ ่านการประเมนิ ต้องซ่อมเสริมด้วยการปฏิบัติงานเด่ยี วใหส้ าเรจ็ 6.3.2 ผลการประเมนิ ผลงานของกลมุ่ ไมต่ ่ากวา่ 70 %7. คณุ ลักษณะสอดแทรก สอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรม เรอ่ื งการทางานรว่ มกัน8. การบรณู าการ - กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ไดแ้ ก่ การวเิ คราะห์ข้อมูล การตอบคาถาม และการแสดงความคดิ เหน็ - กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ได้แก่ คาศัพท์เก่ยี วกบั ชอื่ ส่วนประกอบของคอมพวิ เตอร์
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200