คู่มือและแผนการเรียนรู้_ม.1-12090938-609-1079

733 719 719 แบบบนั ทกึ การประเมนิ ผ้เู รียน ดา้ นความรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 เร่อื ง แนวคิดเชิงนามธรรมในการแก้ปญั หา หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เรอ่ื ง นักออกแบบระบบ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ วชิ า เทคโนโลยี11 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 รายการประเมิน เลขที่ ช่อื -สกุล อธิบายเกย่ี วกับ บอกวธิ กี ารนาแนวคดิ เชิง ความหมายและที่มาของ นามธรรมไปใชใ้ นการ แนวคดิ เชิงนามธรรมได้ แก้ปัญหาได้ 1 2 3 4 5 ฯ เกณฑ์การให้คะแนน ลงชอื่ ...............................................ผ้ปู ระเมิน 4 คะแนน ระดับ 4 ดีมาก (………….……………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ ครูผู้สอน 1 คะแนน ระดับ 1 ปรับปรงุ *เกณฑ์การผา่ น ระดบั 2 ขึ้นไป

734 720 720 แบบบนั ทึกการประเมนิ ผูเ้ รียน ดา้ นทักษะและกระบวนการ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 เรอ่ื ง แนวคิดเชิงนามธรรมในการแก้ปญั หา หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื ง นักออกแบบระบบ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ วิชา เทคโนโลยี11 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 เลขที่ ชอ่ื -สกุล ทักษะการคดิ รายการประเมิน ทกั ษะการ แกป้ ญั หา ทกั ษะการใช้ ทกั ษะการ นาเสนองาน 1 เทคโนโลยี ทางานรว่ มกัน 2 3 4 5 ฯ เกณฑ์การให้คะแนน ลงชื่อ...............................................ผปู้ ระเมิน 4 คะแนน ระดับ 4 ดมี าก (………….……………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ ครผู ้สู อน 1 คะแนน ระดับ 1 ปรับปรุง *เกณฑ์การผ่าน ระดับ 2 ขน้ึ ไป

735 721 721 แบบบนั ทกึ การประเมินผู้เรยี น ดา้ นคณุ ลกั ษณะ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื ง แนวคิดเชงิ นามธรรมในการแกป้ ัญหา หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เร่ือง นักออกแบบระบบ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ วชิ า เทคโนโลยี11 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 รายการประเมนิ เลขที่ ชือ่ -สกุล ซ่ือสัตย์ มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มน่ั ในการ ทางาน 1 2 3 4 5 ฯ เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่อื ...............................................ผู้ประเมิน 4 คะแนน ระดับ 4 ดมี าก (………….……………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ ครูผู้สอน 1 คะแนน ระดับ 1 ปรับปรงุ *เกณฑ์การผ่าน ระดับ 2 ขึ้นไป

722 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 เร่ือง สนุกกับการเขยี นผงั งาน หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 เร่อื ง นกั ออกแบบระบบ เวลา 2 ชัว่ โมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ รายวชิ า เทคโนโลยี 1 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 ขอบเขตเน้อื หา กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้ 1.การเขยี นอลั กอรทิ ึมเพ่ือแก้ปัญหา ข้ันนา - ใบความรู้ท่ี 2.1 เรือ่ ง รูจ้ ักกับอลั กอริทึม จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. ครทู บทวนความรเู้ ดมิ ในช่ัวโมงที่แลว้ - เวบ็ ไซต์ https://www.draw.io/ (Flowchat) ด้านความรู้ 2. ช้ีแจงจดุ ประสงค์การเรียนรู้ - เวบ็ ไซต์https://sites.google.com/site/ 3. ครูนาเข้าสบู่ ทเรียนโดยใชค้ าถามเชือ่ มโยงสขู่ ้ันตอนการแกป้ ญั หา computerbcyschool/home/com_m_3/alg 1.อธิบายความหมายของอัลกอริทึมและการ และการเขียนผงั งาน เขียนอลั กอริทึมได้ orithm (ตวั อย่างอัลกอริทมึ : การตม้ ไขไ่ ก่) 2.เขียนอลั กอริทมึ ในรูปแบบต่างๆได้ ขัน้ สอน ภาระงาน/ช้นิ งาน ด้านทกั ษะและกระบวนการ 1. นักเรยี นแบง่ กลมุ่ ออกเป็นกลมุ่ (ตามบรบิ ทของห้องเรียน) - ใบงานท่ี 2.1 เร่ือง สนุกกับการเขยี นผงั งาน 1. ทักษะการคิดวเิ คราะห์ 2. ครูนกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกย่ี วกบั ข้ันตอนการตม้ ไข่ สถานการณ์เพ่ือการแกป้ ญั หา ไขกไ่โกด่โยดใยหใน้ หกั ้นเรกั ียเรนียเขนียเขนยีเปนน็เปขน็้อขๆอ้ ๆ 2. ทกั ษะการคดิ สรา้ งสรรค์และนวัตกรรม 3. นักเรียนศกึ ษาใบความรู้ท่ี 2.1 เรอื่ ง สนุกกบั การเขียนผงั งาน 3. ทักษะการคิดแกป้ ัญหา สถานการณเ์ พื่อการแก้ปัญหา ดา้ นคณุ ลักษณะ 4. ครูนานักเรยี นอภิปรายเขยี นผังการต้มไข่ไก่ตามขั้นตอน 1. มีวินยั ที่นักเรยี นเขยี นไวแ้ ละเชื่อมโยงเข้าส่เู ร่ืองการเขียนอลั กอริทึม 2. ใฝเ่ รียนรู้ 5. นกั เรยี นทาใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง สนกุ กับการเขยี นผงั งาน 3. มุ่งม่ันในการทางาน สถานการณ์เพื่อการแกป้ ัญหา โดยเขียนผงั งานจากสถานการทณกี่ ์ าหนด ทกี่ �ำหนด 736 722

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 2 เรอื่ ง สนุกกบั การเขยี นผงั งาน 723 กหลนุ่ม่วสยากราะรกเรายี รนเรรยี ู้ทน่ี ร2ู้ วิทยาศาสตร์ แผนการจัดการเเรรยี ือ่ นงรู้ทนี่ ัก2ออกเรแ่ือบงบรสะนบกุ บกับการเขียนผังงาน 723 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ เวลา 2 ชั่วโมง เรราอื่ ยงวิชนาักอเอทกคแโบนบโลรยะีบ1บ ชน้ั มธัเวยลมาศกึ ษ2าปชีทั่วโ่ี ม1ง รายวชิ า เทคโนโลยี 1 ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 1 ขั้นสรปุ ข้ัน1ส.ครรปุ ูใช้คาถามใหน้ ักเรียนอธิบายความหมายและข้นั ตอน ใน1ก.าครรเขูใชียค้ นาผถงั างมาในหน้ ักเรียนอธบิ ายความหมายและขนั้ ตอน ใน2ก.ากรจิ เขกยีรรนมผังEงxาiนt Ticket ใหน้ กั เรยี นเขียนความเขา้ ใจเก่ยี วกบั กา2ร.เกขจิียกนรผรังมงาEนxit Ticket ใหน้ กั เรียนเขียนความเขา้ ใจเกีย่ วกบั การเขียนผงั งาน 737 723723

724 738 724 การวัดและประเมินผล ส่งิ ท่ีต้องการวดั /ประเมนิ วธิ ีการ เคร่ืองมือทใี่ ช้ เกณฑ์ - ใบงานที่ 2.1 เรอื่ ง - นักเรียนทกุ คน ดา้ นความรู้ - ตรวจใบงานที่ 2.1 สนุกกับการเขียนผังงาน ผา่ นเกณฑ์ไม่ตา่ กว่า สถานการณเ์ พ่ือการแก้ปัญหา รอ้ ยละ70 1. อธบิ ายความหมาย - แบบประเมินผลดา้ นความรู้ ของอัลกอรทิ ึมและการ กเขายี รนเขอียลั นกอัลรทิกอึมรไิทดึม้ ได้ 2.เขยี นอลั กอริทมึ ใน รปู แบบตา่ งๆได้ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ - สังเกตพฤติกรรมการ - แบบประเมนิ ผลด้านด้าน - นกั เรยี นทกุ คน ทักษะ/กระบวนการ ผ่านเกณฑ์ไม่ตา่ กว่า 1. ทักษะการคิด เรียนรขู้ องนักเรียน ร้อยละ 70 วเิ คราะห์ 2. ทักษะการคิด สร้างสรรค์และนวตั กรรม 3.ทักษะการคดิ แกป้ ัญหา ด้านคณุ ลกั ษณะ - สังเกตพฤติกรรมของ - แบบประเมินผลด้านคณุ ลกั ษณะ - นกั เรียนทุกคน 1) มีวินัย นกั เรียน คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ไมต่ า่ กว่า 2) ใฝ่เรยี นรู้ รอ้ ยละ 70 3) มุ่งมัน่ ในการ ทางาน

739 725 725 8. บนั ทกึ ผลหลงั สอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอปุ สรรค .................................................................................................................................................................... ...... ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................. .............................................................................. ลงชือ่ ......................................ผูส้ อน (.......................................................) วนั ท่ี..........เดือน..........พ.ศ............. 9. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผ้บู รหิ ารหรือผู้ที่ไดร้ บั มอบหมาย .................................................................................................... ....................................................................... ลงชื่อ ......................................ผตู้ รวจ (.......................................................) วันที่..........เดอื น..........พ.ศ.........

726 740 726 ใบความรู้ที่ 2.1 เร่อื ง รู้จกั กับอลั กอรทิ ึม หน่วยท่ี 2 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2 เร่อื ง นักออกแบบระบบ รายราวยชิ วาิชเาทคเทโนคโลนยโลี 1ยี1รหรัสหวัสิชวา2ว12110130ภ3าภคาเรคียเรนียทนี่ 2ที่ ช2้ันชมน้ั ธั มยธัมยศมึกศษึกาษปาีทป่ี ีท1ี่ 1 จดุ ประสงค์ อธิบายความหมายของอัลกอริทึมและการเขยี นอลั กอริทึมได้ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- รจู้ กั กับอัลกอริทมึ อัลกอริทึม (Algorithm) หมายถึง ขั้นตอนหรอื ลาดับการประมวลผลในการแกป้ ัญหาใดปญั หาหน่ึงซึ่ง จะชว่ ยให้ผพู้ ัฒนาโปรแกรมเหน็ ข้นั ตอนการเขยี นโปรแกรมอยา่ งง่ายขึ้น อัลกอริทึม (Algorithm) หมายถึง แนวคิดอย่างมีเหตุมีผลท่ีผู้พัฒนาโปรแกรม โปรแกรมเมอร์ หรือ นักวิเคราะห์ระบบ ใช้ในการอธิบายวิธีการทางานอย่างเป็นข้ันตามลาดับในการที่จะพัฒนาโปรแกรมนั้นๆ ให้กับผู้ที่สนใจหรือผู้ท่ีเป็นเจ้าของงาน หรือผู้ที่รับผิดชอบได้ทราบถึงข้ันตอนต่างๆ ในการเขียนหรือพัฒนา โปรแกรม ขณะเดียวกันสามารถช่วยให้ผู้ท่ีเป็นจาเป็นของงาน หรือผู้ที่รับผิดชอบได้ตรวจสอบขั้นตอนต่างๆ ในการทางาน และความถูกต้องในแต่ละขั้นตอนการทางาน โดยผู้ท่ีเป็นเจ้าของงานหรือผู้ท่ีรับผิดชอบนั้นๆ ไม่จาเป็นตอ้ งเขยี นโปรแกรมเปน็ เขียนอลั กอรทิ ึม มีหลกั การเขยี นอย่างไร หลักการเขยี นอัลกอริทมึ 1. กระบวนการสาคัญเริ่มตน้ ทจ่ี ุดจดุ เดยี วในการมีจุดเรมิ่ ตน้ หลายที่จะทาให้กระบวนการวธิ สี ับสน จน จในทใน่ีสทดุ สี่อุดาจอทาาจใทหำ� ้ผใลหล้ผัพลธลท์พั ีไ่ ธด์ท้ไมี่ไดต่ ไ้ รมงต่กรับงคกวับาคมวตา้อมงตก้อารงกหารือหอราจอื ทอาใจหทอ้ ำ� ลัใหกอ้ รลั ทิ กมึอนรทิั้นมึไมนส่ ้นั าไมมาส่ ราถมทาารงถาทนไ�ำดง้เาลนยไดเ้ ลย 2. กาหนดการทางานเป็นขั้นเป็นตอนอย่างชัดเจน การกาหนดอัลกอริทึมที่ดีควรมีข้ันตอนที่ชัดเจนไม่ คลุมเครือ เสร็จจากข้ันตอนหนึ่ง ไปยังข้ันตอนที่สองมีเงื่อนไขการทางานอย่างไร ควรกาหนดให้ชัดเจนทางาน ไดเ้ ลย 3. การทางานแต่ละขั้นตอนควรสั้นกระชับ เพราะการกาหนดขั้นตอนการทางานให้สั้นกระชับ นอกจากจะทาให้โปรแกรมทางานได้รวดเร็วแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นท่ีมาพัฒนาโปรแกรมต่อด้วยเพราะ สามารถศึกษาอัลกอริทึมจากโปรแกรมทเี่ ขยี นไว้ได้งา่ ยชัดเจนทางานได้เลย 4. ผลลัพธ์ในแต่ละข้ันตอนควรต่อเนื่องกัน การออกแบบข้ันตอนท่ีดีน้ันผลลัพธ์จากขั้นตอนแรกควร เป็นข้อมูลสาหรับนาเข้า ให้กับข้อมูลในข้ันต่อไป ต่อเนื่องกันไปจนกระท่ังได้ผลลัพธ์ตามท่ีต้องการ 5. การออกแบบอัลกอริทึมท่ีดี ควรออกแบบให้ครอบคลุมการทางานในหลายรูปแบบ เช่น การออกแบบโดยคิดไว้ล่วงหน้าว่าหากผู้ใช้โปรแกรมป้อนข้อมูลเข้าผิดประเภท โปรแกรมจะมีการเตือ่ นว่า ผู้ใช้งานมีการใส่ข้อมูลท่ีผิดประเภทโดยโปรแกรมจะไม่รับข้อมูลนั้น เพื่อให้ใส่ข้อมูลใหม่อีกครั้ง เพื่อป้องกัน การเกิดจดุ บกพรอ่ งของโปรแกรมได้

ตวั อย่างทอัลกอร่ิทึม : การต้มไขไ่ ก่ 741 727 727 อลั กอริทมึ ที่ 1 อัลกอรทิ มึ ที่ 2  ผลท่ไี ด้เหมือนกนั คือ :: ไข่ต้ม  ผลลัพธ์อลั กอรธิ มึ 1 สามารถทานได้เลย  ส่วนผลลพั ธ์อัลกอริธมึ 2 ต้องปอกกอ่ นทาน  สรปุ คือ เราได้ผลลัพธ์ตามท่โี จทย์ตอ้ งการ คือ :: ไข่ต้ม อ้างอิงตัวอย่าง :: https://sites.google.com/site/computerbcyschool/home/com_m_3/algorithm

728 742 728 ใบงานรู้ที่ 2.1 เรอ่ื ง สนุกกับการเขยี นผงั งานสถานการณเ์ พอื่ การแก้ปญั หา หน่วยที่ 2 แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 2 เรอ่ื ง นักออกแบบระบบ รายรวาิชยวาิชเาทคเทโนคโลนยโลี 1ยี1รหรสั หวัสชิ วา2ว121101303ภาภคาเครยีเรนียทนี่ ท2ี่ 2ชนั้ ชมั้นัธมยธั มยศมกึ ศษึกาษปาีทปี่ ีท1ี่ 1 จุดประสงค์ อธิบายความหมายของอลั กอรทิ ึมและการเขยี นอลั กอริทึมได้ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ช่อื กลุ่ม..............................................................................................ระดับช้ัน...................หอ้ ง......................... คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามต่อไปนใ้ี หถ้ ูกต้อง 1.จงเขียนอลั กอริทึมของ “การเตรียมตวั มาโรงเรยี น” ลาดับขั้นตอนที่กาหนด การเรยี งลาดับขนั้ ตอนที่ถูกต้อง ตืน่ นอน เริ่มต้น ส่งงานครูประจาวชิ าเพ่ือแก้เกรด เขยี นเอกสารขอแก้ 0 ร ทางานที่ได้รบั มอบหมาย จบ ใหค้ รหู ัวหน้ากล่มุ สาระเซ็น รบั รอง 2.จงเขียนอลั กอริทึม การรบั ค่าตวั เลข 3 จานวน เพื่อหาค่าเฉลย่ี ลาดับ การเรยี งลาดับขัน้ ตอนท่ีถูกต้อง

729 743 729 เฉลยใบงานรู้ท่ี 2.1 เร่ือง สนกุ กบั การเขียนผงั งานสถานการณเ์ พ่ือการแก้ปัญหา หน่วยท่ี 2 แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2 เร่ือง นกั ออกแบบระบบ รายรวายชิ วาชิ เาทคเทโนคโลนยโลี 1ยี1รหรสั หวสั ิชวา2ว121101303ภาภคาเครียเรนียทน่ี ท2ี่ 2ชนั้ ชมนั้ ัธมยธั มยศมึกศษึกาษปาีทป่ี ที1่ี 1 จุดประสงค์ อธบิ ายความหมายของอลั กอริทมึ และการเขยี นอลั กอริทึมได้ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ชอ่ื กลุ่ม..............................................................................................ระดับชน้ั ...................ห้อง......................... คาช้แี จง ให้นกั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปนใ้ี หถ้ ูกต้อง 1.จงเขียนอลั กอริทึมของ “การเตรยี มตวั มาโรงเรยี น” ลาดับข้ันตอนทีก่ าหนด การเรียงลาดับขนั้ ตอนท่ีถกู ต้อง อาบน้า ตนื่ นอน แปรงฟนั แปรงฟนั รับประทานอาหารเชา้ อาบน้า เดนิ ทางมาโรงเรียน แตง่ ตวั ตื่นนอน แตง่ ตัว รบั ประทานอาหารเชา้ เดนิ ทางมาโรงเรียน 2.จงเขียนอลั กอริทมึ การรับค่าตัวเลข 3 จานวน เพ่ือหาคา่ เฉล่ยี ลาดับ การเรียงลาดบั ข้นั ตอนท่ีถกู ต้อง 1 รับคา่ ตัวเลข ตัวที่ 1 2 รับค่าตัวเลข ตวั ท่ี 2 3 รับคา่ ตวั เลข ตวั ที่ 3 4 หาคา่ เฉลี่ยตวั เลข 3 จานวน 5 แสดงผลลพั ธ์

730 744 730 แบบบนั ทกึ การประเมนิ ผู้เรียน ดา้ นความรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 เรือ่ ง สนกุ กบั การเขยี นผังงาน หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 เร่ือง นักออกแบบระบบ กกลลุม่ ่มุ สสาารระะกกาารรเเรรยี ยี นนรรู้ วู้ วทิ ทิ ยยาาศศาาสสตตรร์ ว์ วชิ ิชาาเทเทคคโนโนโลโยล1ียี 1ช้ันชมั้นัธมยัธมยศมกึศษึกาษปาที ปี่ ีท1ี่ 1 รายการประเมิน เลขที่ ชอ่ื -สกลุ อธบิ ายความหมายของ บอกวิธีการนาแนวคิดเชงิ อัลกอริทึมและการเขียน นามธรรมไปใชใ้ นการ อัลกอริทึมได้ แกป้ ญั หาได้ 1 2 3 4 5 ฯ เกณฑ์การให้คะแนน ลงชอ่ื ...............................................ผู้ประเมนิ 4 คะแนน ระดับ 4 ดีมาก (………….……………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ ครูผู้สอน 1 คะแนน ระดับ 1 ปรับปรงุ *เกณฑ์การผ่าน ระดบั 2 ข้ึนไป

745 731 731 แบบบนั ทกึ การประเมินผเู้ รยี น ดา้ นทักษะและกระบวนการ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 เรื่อง สนุกกบั การเขียนผังงาน หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 เร่ือง นกั ออกแบบระบบ กลุม่ สกาลรุ่มะสกาารระเกรายี รนเรู้ยี วนิทรยู้ วาิทศยาสาศตารส์ วตชิ รา์ วเิชทาคเโทนคโลโนยโี ล1ยชี1นั้ มชธัน้ ยมมธั ศยึกมษศาึกปษีทาป่ี 1ีท่ี 1 รายการประเมิน เลขที่ ชอ่ื -สกลุ ทกั ษะการคดิ ทักษะการคิด ทักษะการคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละ วิเคราะห์ แก้ปญั หา นวัตกรรม 1 2 3 4 5 ฯ เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่ือ.............................................ผปู้ ระเมนิ 4 คะแนน ระดับ 4 ดมี าก (………….……………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ ครูผสู้ อน 1 คะแนน ระดับ 1 ปรบั ปรงุ *เกณฑ์การผา่ น ระดบั 2 ขน้ึ ไป

732 746 732 แบบบันทึกการประเมินผูเ้ รียน ดา้ นคณุ ลกั ษณะ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 เรอื่ ง สนกุ กบั การเขยี นผงั งาน หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 เร่ือง นักออกแบบระบบ กลุ่มสารระะกกาารรเเรรยี ียนนรรู้ ู้ววิทิทยยาาศศาาสสตตรร์ ว์ วชิ ชิ าาเทเทคคโนโนโลโลยยี1ี 1ช้ันช้นัมธัมยธั มยศมกึศษกึ าษปาีทป่ีท1ี่ 1 รายการประเมิน เลขที่ ชื่อ-สกลุ มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ ม่นั ในการ ทางาน 1 2 3 4 5 ฯ เกณฑ์การให้คะแนน ลงชอ่ื ..............................................ผ้ปู ระเมนิ 4 คะแนน ระดับ 4 ดมี าก (………….……………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ ครผู ้สู อน 1 คะแนน ระดับ 1 ปรบั ปรงุ *เกณฑ์การผ่าน ระดบั 2 ขึ้นไป

733 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 3 เรื่อง การเขยี นอัลกอรทิ ึมเพื่อแกป้ ญั หา หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 เรื่อง นกั ออกแบบน้อย เวลา 2 ชั่วโมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ รายวิชา เทคโนโลยี 1 ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 ขอบเขตเนือ้ หา กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้ 11..การเขียนอัลกอรริทิทมึ มึ เเพพือ่ อ่ื แแกกป้ ป้ ัญัญหหาา ข้ันนา - ใบความรู้ 3.1 เรือ่ ง 22..ประโยชชนน์ข์ขอองงออัลลั กกออรริททิ ึมึม 1. ครทู บทวนความรเู้ ดมิ ในชั่วโมงทแ่ี ลว้ การเขยี นอัลกอริทึมเพือ่ 2. ชี้แจงจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ แก้ปญั หา จุดประสงค์การเรียนรู้ 3. ครนู าเขา้ สู่บทเรียนโดยใชค้ าถามดงั ต่อไปนี้ว่า - เวบ็ ไซต์ ด้านความรู้ “นักเรียนจะเขยี นอัลกอริทึมเพ่ือแก้ปญั หาอย่างไร” ? https://www.draw.io ภาระงาน/ชิ้นงาน 1.ออธธิบบิ าายยววธิ ิธกี ารเขยี นอลั กอริทมึ ดด้วว้ ยยรรหหัสสั 4. นานักเรียนอภปิ รายต่อไปโดยใช้คาถามและเพม่ิ กิจกรรมการเรยี นรู้ - ใบงานที่ 3.1 เรื่อง การเขยี น การจดั เรียงผงั งาน (ส่ือกิจกรรมเพ่มิ เติม) จำ�าลลอองงแแลละะดดว้ ว้ ยยผผงั งั งาานนไดได้ ้ อลั กอริทึมเพื่อแกป้ ัญหา 22..สามารถเขียนอัลลกกออรรทิ ทิ ึมมึ ดดว้ ว้ ยยรรหหสั ัส ขน้ั สอน จ�ำาลลอองงแแลละะผผังงั งงาานนไไดด้ ้ 1. ครนู กั เรียนรว่ มกนั อภิปรายเก่ียวกบั การเขยี นอลั กอริทึมเพ่ือแก้ปัญหา 2. นกั เรียนศกึ ษาใบความรู้ที่ 3.1 เรื่องการเขียนอัลกอริทึมเพื่อแกป้ ัญหา ดา้ นทักษะและกระบวนการ และใหน้ ักเรียนจับฉลากเลือกหัวข้อในการเขยี นอลั กอริทมึ 1.ททักกั ษษะะกกาารรคคดิ ิดววเิ เิคครราะห์ 3. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ลงมือปฏิบัตกิ ารเขียนอลั กอริทึมโดยกาหนดเวลา 2.ททักักษษะะกกาารรคคิดดิ แแกก้ปป้ ญั ญั หา ประมาณ 10 นาที แล้วจัดกจิ กรรม Gallery Walk ให้แต่ละกลมุ่ ตดิ แสดง 3.ททักักษษะะกกรระะบบววนนกกาารรทา�ำงานรว่ มกนั ผลงานรอบๆหอ้ ง โดยครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ประเมินผลงานแลว้ สรุปผล 747 733

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 3 เรอื่ ง การเขียนอัลกอริทึมเพื่อแก้ปญั หา 734 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ เรอื่ ง นกั ออกแบบน้อย รายวิชา เทคโนโลยี 1 เวลา 2 ช่ัวโมง ดา้ นคุณลกั ษณะ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 1.ซซ่ือื่อสสตั ตั ยย์ การทากิจกรรม 2. มวี ินยั ขน้ั สรุป 3. ใฝ่เรยี นรู้ 4. ม่งุ มนั่ ในการทางาน 1. นักเรยี นทาใบงานใบงานท่ี 3.1 เรอ่ื ง การเขียนอัลกอริทึมเพ่ือ แก้ปญั หา 2. นักเรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ เนื้อหาเรอ่ื งการเขยี นอลั กอรทิ ึมเพ่ือ แก้ปัญหา 748 734

749 735 735 การวัดและประเมินผล วธิ ีการ เคร่ืองมือท่ีใช้ เกณฑ์ ส่งิ ทต่ี ้องการวดั /ประเมิน - ตรวจใบงานหนว่ ยท่ี 3.1 - ใบงานที่ 3.1 เรื่อง การ - นักเรยี นทุกคนผา่ น ด้านความรู้ (K) เขียนอัลกอรทิ ึมเพื่อ เกณฑ์ไม่ต่ากว่าร้อยละ 1.อธบิ ายวธิ ีการเขยี น แก้ปญั หา 70 - แบบประเมินผลดา้ น อัลกอริทมึ ดว้ ยรหัสจาลอง ความรู้ เทียบกบั เกณฑ์ และด้วยผงั งานได้ 2.สามารถเขียนอัลกอริทมึ ด้วยรหัสจาลองและดว้ ยผงั งานได้ ด้านทักษะ/กระบวนการ - สังเกตพฤติกรรมการ - แบบประเมินผลด้านดา้ น - นักเรยี นทุกคนผ่าน ทักษะ/กระบวนการ เกณฑ์ไม่ต่ากวา่ ร้อยละ (P) เรยี นรู้ของนักเรียน 70 11.)ททกั กั ษะการคิดวเิ คราะห์ ((AAnalytic Thinking) 22.)ททักกั ษะการคิดสรา้ งสรรค์ แแลละนวตั กรรม (Creative TThinking and Innova- tIinonno)vation) 33. )ททักักษษะะกกาารรคคิดิดแแกกป้ ้ปญั ัญหหาา ((PProblem Solving) ดา้ นคณุ ลักษณะ (A) - สังเกตพฤติกรรมของ - แบบประเมนิ ผลด้าน - นักเรียนทุกคนผ่าน คุณลักษณะ เกณฑ์ไมต่ ่ากวา่ ร้อยละ 1.) มวี ินัย นกั เรียน 70 2.) ใฝเ่ รียนรู้ 3.) มงุ่ มน่ั ในการ ทท�ำางาน

750 736 736 8.บันทึกผลหลงั สอน ผลการเรยี นรู้ .............................................................................................. ...................................................................................... ปญั หาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ...................................................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ....................................................... ลงช่อื ……………..............................................ผ้สู อน (.............................................................) วนั ที่ .......... เดือน.......... พ.ศ. ............ 9.ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผู้ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย ...................................................................................................... .............................................................................. ลงชื่อ ……………..............................................ผ้ตู รวจ (.............................................................) วันที่ .......... เดอื น .......... พ.ศ. ............

751 737 737 ใบความรู้ท่ี 3.1 เรอื่ ง ผังงาน(Flowchart) หนว่ ยที่ 2 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 32 เรือ่ ง นกั ออกแบบระบบ รายวชิ า เททคคโโนนโโลลยยี ี1 รรหหัสัสวชิ วา21ว1201310ภ3าภคาเรคียเรนียทนี่ ท1ี่ ช1นั้ ชมนั้ ธั มยธั มยศมึกศษกึ าษปาีทปีท่ 1ี่ 1 จดุ ประสงค์ 1.ออธธบิ ิบายความหมายของอัลลกกออรรทิ ทิ ึมึมแแลละะกกาารรเขเขียียนนออัลัลกกออรทิริทมึ ึมไดไ้ด้ 2.สสาามารถเขียนอลั กอริทึมดด้ว้วยยรรหหัสสั จจ�ำาลลอองงดด้ว้วยยผผงั งั างนานไดได้ ้ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ผงั งาน (Flowchart) ผังงาน (Flowchart) คือ แผนภาพแสดงลาดับข้ันตอนการทางานของ Algorithm, Workflow, Process เป็นเครอื่ งมือใชก้ ารรวบรวมจัดลาดับความคดิ เพ่ือใหเ้ ห็นขั้นตอนการทางานที่ชดั เจนและใชว้ างแผนการ ทางานข้ันแรก โดยสัญลักษณ์ Flowchart แสดงถึงการทางานลักษณะต่างๆ เช่ือมต่อกัน ตารางสญั ลักษณพ์ นื้ ฐานในการเขียนอลั กอริทึม สัญลักษณ์ ชอื่ เรยี ก ความหมาย เรม่ิ ต้นและจบ จุดเริ่มตน้ และจดุ สนิ้ สุดของผงั งาน การนาเข้าข้อมลู การปฎิบตั งิ าน จดุ ที่จะนาข้อมูลเขา้ จากภายนอก การตัดสนิ ใจ หรือออกสู่ภายนอก โดยไม่ระบุ ชนดิ ของอุปกรณ์ จดุ ท่มี ีการปฏิบตั งิ านอย่างใดอยา่ ง อหยนา่ ง่ึ งหนง่ึ จดุ ที่จะต้องเลือกปฏบิ ตั อิ ย่างใด อย่างหนงึ่ ทิศทางขั้นตอนการทางานซ่งึ ทิศทาง ซจง่ึะจตะ้อตงอ้ปงฏปบิ ฏัตบิ ิตตั ่อติ เอ่นเื่อนงอื่ กงันกตนั ามหวั ตลากู มศหรัวชลี้ กู ศรช้ี

752 738 738 ประโยชนข์ องผังงาน 1๑.. ชว่ ยอธบิ ายลาดบั ขนั้ ตอนการทางานของโปรแกรม 2๒.. ทาใหต้ รวจสอบขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรมไดง้ ่าย 3๓.. ทาใหผ้ ้อู ื่นสามารถศกึ ษาการทางานของโปรแกรมและแกไ้ ขโปรแกรมได้งา่ ย รูปแบบของอัลกอริทมึ การเขียนอลั กอริทมึ มหี ลายรูปแบบ โดยผเู้ ขียนสามารถใช้อัลกอริทมึ หลายรูปแบบประกอบกนั ในการ ออกแบบอัลกอรทิ ึมนัน้ เพอ่ื ใช้ในการแกป้ ญั หาการเขยี นโปรแกรมได้ 1. แบบลาดบั (Sequential) มลี ักษณะการทางานจะเป็นไปตามขน้ั ตอน กอ่ น-หลงั ต่อเน่ืองกนั ไปเปน็ ลาดบั โดยการทางานแต่ละข้ันตอนต้องทาให้เสร็จก่อน แล้วจึงไปทาขั้นตอนต่อไป ขนั้ ตอนที่ 1 ข้นั ตอนที่ 2 ขนั้ ตอนที่ 3 ตงั้ กระทะบนเตา ข้ันตอนที่ 4 เปิดแก๊สและตดิ ไฟ ตวั อยา่ ง อัลกอริทึมแบบลาดับ (Sequential) การทอดไขด่ าว ใส่น้ามนั พชื 1. ตง้ั กระทะบนเตา 2. เปดิ แก๊สและตดิ ไฟ รอจนนา้ มันรอ้ น 3. ใสน่ ้ามันพชื 4. รอจนน้ามันร้อน ตอกไขใ่ ส่กระทะ 5. ตอกไขไ่ ส่กระทะ 6. รอจนไข่สุก รอจนไขส่ ุก 7. ตกั ไข่ใสจ่ านทเ่ี ตรียมไว้ ตกั ไขใ่ สจ่ านที่ เตรยี มไว้

753 739 739 2. แบบทางเลือก (Decision) อัลกอริทึมรูปแบบน้ี มีเง่ือนไขเป็นตัวกาหนดเส้นทางการทางานของ กระบวนการแก้ปัญหา โดยตัวเลือกนั้นอาจจะมีต้ังแต่ 2 ตัวข้ึนไป เช่น สอบข้อเขียน คะแนนเต็ม 100 ได้คะแนน 50 สอบผา่ น ถา้ ต่ากวา่ 50 สอบไมผ่ า่ น เรม่ิ ต้น เงอื่ นไข คาสง่ั คาสั่ง จบการทางาน เริม่ ผา่ น ตัวอยา่ ง อลั กอริทึมแบบทางเลอื ก คะแนน อัลกอรทิ ึมตดั เกรดวชิ าคอมพวิ เตอร์ สอบ ผา่ น 1. คะแนนสอบของนกั เรียน 2. ตรวจสอบคะแนน (คะแนนที่สอบผา่ น 50 คะแนน) จบ 3. ถ้ามากกว่า 50 คะแนน สอบผา่ น 4. ถา้ น้อยกว่า 50 คะแนน สอบตก 5. ประกาศผล

754 740 740 3.แบบทาซา้ (Repetition) อัลกอรทิ ึมแบบนีค้ ลา้ ยกบั แบบทางเลอื ก คือ มกี ารตรวจสอบเง่อื นไข แต่ แตกต่างกันตรงท่ีเมอ่ื การทางานตรงตามเงือ่ นไขทก่ี าหนด โปรแกรมจะกลบั ไปทางานอกี ครัง้ วนการทางานแบบนี้ เรือ่ ยๆ จนกระทัง่ ไม่ตรงกับเงอื่ นไขทก่ี าหนดไวจ้ ึงหยดุ การทางานหรือทางานในขน้ั ต่อไป เริม่ ต้น เง่อื นไข คาสง่ั คาสงั่ เรม่ิ จบการทางาน หยบิ ถุง เลือกมงั คุด ตวั อยา่ ง อลั กอรึทึมแบบทาซ้า อลั กอริทึมการซอ้ื มังคุด 1 กิโลกรมั จรงิ 1. หยบิ ถงุ พลาสตกิ 2. หยบิ มงั คุดมาเลือก โดยกดท่เี ปลือกที่น่มิ ๆ > 1 กก. เลอื กต่อ 3. ตรวจสอบเงอ่ื นไข (นอ้ ยกว่า 1 กโิ ลกรมั ) 4. ถา้ จริง เลือกมงั คุดต่อ 5. ถา้ เทจ็ หยุดเลือก 6. จา่ ยเงินให้กับผ้ทู ข่ี าย ไมจ่ ริง จ่ายเงนิ จบ

755 741 741 การเขียนอัลกอริทมึ เพื่อแก้ปัญหา ในชีวิตประจาวันทุกคนต้องเคยพบกับปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการเรียน การงานการเงิน หรือ แม้แต่การเล่นเกม เมื่อพบกับปัญหา แต่ละคนมีวิธีที่จะจัดการหรือแก้ปัญหาเหล่าน้ันแตกต่างกันไป ซ่ึงแต่ละ วิธีการอาจให้ผลลพั ธ์ที่เหมอื นหรือแตกต่างกันเล็กน้อย ท้ังน้ีขึ้นอยู่กับความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ของ บุคคลผู้นั้น อย่างไรก็ตาม หากเรานาวิธีการแก้ปัญหาต่างวิธีนั้นมาวิเคราะห์ให้ดี จะพบว่าสามารถสรุปวิธีการ เหล่านั้นเปน็ ทฤษฎีซึง่ มรี ูปแบบท่ีแน่นอนได้ และบางครัง้ ตอ้ งอาศัยการเรียนรใู้ นระดับสูงเพ่ือแก้ปญั หาบางอย่างให้ สมบูรณ์แบบ นอกจากวิธีการแก้ปัญหาท่ียกตัวอย่างมาซ่ึงได้แก่ วิธีการลองผิดลองถูก การใช้เหตุผล การใช้วิธีขจัด ยังมีวิธีการแก้ปัญหาอีกมากมายที่ผู้แก้ปัญหาสามารถเลือกใช้ให้เข้ากับตัวปัญหาและประสบการณ์ของผู้แก้ปัญหา เอง แต่อย่างไรก็ตาม วิธีการเหล่านั้นล้วนมีข้ันตอนท่ีคล้ายคลึงกัน และจากการศึกษาพฤติกรรมในการเรียนรู้ และแก้ปญั หาของมนุษย์พบว่า โดยปกตมิ นุษย์มีกระบวนการในการแก้ปญั หา ซ่ึงประกอบดว้ ย 4 ขั้นตอน ดังนี้ 1. การวิเคราะหแ์ ละกาหนดรายละเอยี ดของปญั หา การวิเคราะห์และกาหนดรายละเอยี ดของปัญหา (State the problem) ขัน้ ตอนนเ้ี ป็นข้ันตอนแรกสดุ กอ่ นที่จะลงมือแกป้ ญั หา แต่ผู้แก้ปัญหามักจะมองขา้ มความสาคญั ของขั้นตอนน้ีอยเู่ สมอ จดุ ประสงคข์ องข้ันตอนน้ี คือการทาความเข้าใจกับปัญหาเพื่อแยกให้ออกวา่ ข้อมลู ท่ีกาหนดมาในปัญหาหรอื เง่อื นไขของปญั หาคืออะไร และ สงิ่ ที่ต้องการคืออะไร อกี ทั้งวธิ ีการทใ่ี ช้ประมวลผล ในการวเิ คราะห์ปญั หาใด กลา่ วโดยสรปุ มีองคป์ ระกอบในการ วิเคราะห์ ดงั น้ี 1. การระบขุ ้อมลู เข้า ไดแ้ ก่ การพจิ ารณาข้อมลู และเงอื่ นไขที่กาหนดมาในปญั หา 2. การระบุข้อมูลออก ได้แก่ การพิจารณาเปา้ หมายหรือสง่ิ ทีต่ ้องหาคาตอบ 3. การกาหนดวธิ ปี ระมวลผล ได้แก่ การพจิ ารณาขัน้ ตอนวิธีหาคาตอบหรอื ข้อมูลออก 2. การเลือกเครอ่ื งมือและออกแบบขัน้ ตอนวธิ ี การเลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธี (Tools and Algorithm development) ขั้นตอนนี้เป็น ขน้ั ตอนของการวางแผนในการแก้ปัญหาอยา่ งละเอียดถี่ถว้ น หลงั จากที่เราทาความเข้าใจกบั ปญั หา พจิ ารณาขอ้ มูล และเงื่อนไขที่มีอยู่ และสิ่งท่ีต้องการหาในข้ันตอนท่ี 1 แล้ว เราสามารถคาดคะเนวิธีการที่จะใช้ในการแก้ปัญหา ขนั้ ตอนนี้จาเป็นตอ้ งอาศัยประสบการณ์ของผู้แก้ปัญหาเป็นหลัก หากผู้แกป้ ัญหาเคยพบกับปัญหาทานองนี้มาแล้ว ก็สามารถดาเนินการตามแนวทางท่เี คยปฏิบตั ิมา ขั้นตอนนจ้ี ะเริ่มจากการเลือกเครอ่ื งมือที่ใช้ในการแกป้ ัญหา โดยพิจารณาความเหมาะสมระหวา่ งเครอื่ งมือ กบั เงอ่ื นไขต่างๆ ของปัญหาซึ่งหมายรวมถึงความสามารถของเคร่ืองมือในการแก้ปญั หาดังกล่าว และสงิ่ ท่ีสาคัญคือ ความค้นุ เคยในการใช้งานเคร่ืองมือน้นั ๆ ของผู้แก้ปญั หา

756 742 742 ออีกกี สส่ิงหนึง่ ท่สี า�ำคัญในการรแแกกป้ ป้ ัญัญหหาาคคอื อื ยยุททุ ธธววิธธิที ีท่ใช่ใี ชใ้ น้ในกากราแรกแ้ปกัญ้ปญัหาหหารหอื รทือเ่ี ทราี่เรเราียเรกียวก่าวข่า้ันขตัน้อตนอวิธนี ว(aิธlีgorithm) ใน (กaาlgรoแกri้ปthัญmห)า ใน หกลารังแจากก้ปทญั ่ีเรหาาไดห้เคลรงัื่อจงามกือทชีเ่วรยาแไดก้เปคัญรอื่หงามแือลช้ว่วผยู้แก้ปัญญหหาาตแ้อลงว้ วาผงแู้ แกผป้ นัญว่าหจาะตใ้อช้เงควรา่ืองแงมผือนดวังา่ กจละ่าใวชเ้ พ่ือให้ได้ เผคลรลอื่ พั งธมท์ อื ถี่ดกู ังตกอ้ลง่าแวลเพะดื่อทีใหสี่ ้ไดุ ดก้ผาลรลอัพอธก์ทแ่ีถบกูบตข้อนั งตแอลนะวดธิ ทีในส่ี กุดารกแากรป้อญัอกหแาบผบแู้ ขก้ันปญัตอหนาวคธิวีใรนใชกแ้ าผรนแภก้าปพญั หหราอื เผค้แูรกอ่ื ้ปงมัญอื หในากคาวรแใชส้ดง แขผน้ั นตภอนาพกาหรรทือำ� เงคารน่ือเพงมอื่ ือใหในง้ า่กยาตรอ่แคสวดางมขเั้นขา้ตใอนนเกชน่ารผทงั างงาานน(เfพloือ่ wใcหhง้ aา่ rยtต) ทอ่ จ่ีคำ�วลาอมงเขน้ัาใตนอนเชวน่ธิ กี ผารงั แงากนป้ ญั (fหloาwในcรhปู aขrอt)งสทญั จี่ ลาลกั อษงณ์ ขรห้ันสัตลอำ�นลวอิธงีก(าpรsแeกu้ปdoัญหcoาdในeร) ูปซงึ่ขเอปงน็ สกัญารลจักำ� ษลณอง์ ขรน้ั หตัสอลนาวลธิ อกี งาร(แpกsป้eญัudหoาในcoรปูdขeอ) งซคงึ่ ำ� เบปรน็ รกยาารยจกาาลรอใงชขเ้ คนั้ รตอื่ องนมอวื ธิชกีว่ ยารออกแบบ แดกังก้ปลญั ่าหวนาใอนกรจูปาขกอแงสคดางบกระรยบาวยนกกาารรทใชี่ เ้ัดคเจร่อืนงแมลอื้วชยว่ ังยชอ่วอยกใแหบ้ผบู้แกด้ปงั กัญลหา่ าวสนาอมกาจรถากหแาขส้อดผงกิดรพะลบาวดนขกอางวริธทีก่ีชาดั รเทจ่ีในชแ้ไดล้งว่ายงัและ ชแว่กยไ้ ขใหไดผ้ ้อแู้ ยก่า้ปงัญรวหดาเรสว็ ามารถหาขอ้ ผดิ พลาดของวิธีการท่ใี ช้ได้ง่ายและแกไ้ ขได้อยา่ งรวดเร็ว 3. การดาเนนิ การแก้ปัญหา การดาเนินการแก้ปัญหา (Implementation) หลังจากที่ได้ออกแบบข้ันตอนวิธีเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนน้ี เป็นขั้นตอนทตี่ ้องลงมือแก้ปัญหาโดยใช้เคร่ืองมือท่ีได้เลือกไว้ หากการแก้ปัญหาดงั กล่าวใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วย ง่าน ขั้นตอนน้ีก็เป็นการใช้โปรแกรมสาเร็จหรือใช้ภาษาคอมพิวเตอร์เขียนโปรแกรมแก้ปัญหา ขั้นตอนนี้ต้องอาศัย ความรู้เกี่ยวกับเคร่ืองมือท่ีเลือกใช้ซ่ึงผู้แก้ปัญหาต้องศึกษาให้เข้าใจและเช่ียวชาญ ในขณะที่ดาเนินการหากพบ แนวทางท่ดี กี ว่าท่ีออกแบบไวก้ ็สามารถปรับเปล่ยี นได้ 4. การตรวจสอบและปรับปรุง การตรวจสอบและปรบั ปรงุ (Refinement) หลงั จากทล่ี งมือแกป้ ัญหาแล้ว ต้องตรวจสอบใหแ้ นใ่ จว่า วธิ ีการนใ้ี ห้ผลลัพธ์ทถี่ กู ต้อง โดยผูแ้ กป้ ัญหาต้องตรวจสอบว่าข้นั ตอนวธิ ที ่ีสรา้ งข้นึ สอดคล้องกบั รายละเอียดของ ปญั หา ซึง่ ไดแ้ ก่ ข้อมูลเข้า และข้อมลู ออก เพือ่ ใหม้ ั่นใจวา่ สามารถรองรบั ขอ้ มลูุเขเขา้ ้าไดได้ใ้ในนททุกกุ กกรรณณอี อี ยย่าา่ งงถูกต้องและ สมบรู ณ์ ในขณะเดียวกนั กต็ ้องปรับปรงุ วธิ ีการเพ่ือให้การแกป้ ัญหานไ้ี ด้ผลลัพธ์ที่ดที สี่ ดุ ตัวอยา่ งการประยุกต์ใชอ้ ัลกอริทมึ เพ่ือแกป้ ัญหา ตวั อยา่ งที่ 1 การเขยี นอัลกอริทมึ เพ่ือรบั ค่า A , B และกาหนดให้ C มคี ่าเท่ากับ A บวกกับ B พร้อม กับพมิ พผ์ ลลพั ธ์ของค่า C ในรูปแบบขอ้ ความ และสัญลักษณ์ แบบข้อความ แบบสญั ลกั ษณ์ เริ่มต้น 1.รบั ค่า A , B 2. กาหนดคา่ C = A + B 3. พมิ พผ์ ลลัพธข์ องค่า C จบ

743757 743 ตัวอย่างที่ 2 การเขียนอัลกอริทึม เพื่อรับค่าตัวเลข 2 จานวนจากทางแป้นพิมพ์ เพื่อทาการคูณกัน แล้ว แสดงผลลพั ธท์ างเอกสาร ในรูปแบบขอ้ ความ และสญั ลกั ษณ์ แบบขอ้ ความ แบบสัญลกั ษณ์ เร่ิมต้น 1. รับคา่ ตัวเลข 2 จานวน ( X , Y ) 2. ทาการคณู กนั Multiple = X * Y 3. แสดงคา่ Multiple ทางเอกสาร จบ ตัวอยา่ งท่ี 3 การเขยี นอัลกอริทึม เพื่อสลับค่าของ A และ B เม่อื A=10 , B= 25 ในรปู แบบข้อความ และสัญลกั ษณ์ แบบขอ้ ความ แบบสัญลักษณ์ เริม่ ต้น 1. กาหนดค่า A=10 , B = 25 2. กาหนดให้ C = A 3. กาหนดให้ A = B 4. กาหนดให้ B = C จบ

758 744 744 ใบงานที่ 3.2 เรื่อง การเขยี นอัลกอริทึมเพ่ือแก้ปญั หา หนว่ ยที่ 2 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 23 เรื่อง นักออกแบบระบบ รราายยววิชิชาาเเททคคโโนนโลโลยยี 1ี รหรหสั ัสวิชวา2ว12110130ภ3าภคาเครยีเรนยี ทน่ีท1่ี 1ชน้ัชมั้นธัมยธั มยศมกึศษกึ ษาปาปีทที ่ี 1่ี 1 จดุ ประสงค์ 11.อ. ธอบิธิบายายคคววามามหหมมาายยขขอองงออัลัลกกออรริทิทึมึมและการเขียนอลั กอริททึมมึ ไไดด้ ้ 22.ส. าสมามาราถรถเขเขียยีนนออลั ลั กกออรรทิ ิทึมึมดด้วว้ ยยรรหหัสัสจา�ำลองด้วยผังงานได้ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ชือ่ กลุ่ม...............................................................................................ระดับชน้ั ........................ห้อง................. คาชแ้ี จง : ใหน้ ักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้ใหถ้ กู ต้อง 1. จงเรียงอลั กอริทึมที่กาหนดใหถ้ กู ต้อง ลาดบั อลั กอรทิ ึมทก่ี าหนด การเรียงลาดับอัลกอรทิ ึมทีถ่ ูกตอ้ ง เปิดโทรศพั ท์ กดหมายเลขโทรศพั ท์ วางโทรศพั ท์ รอสญั ญาณ จบ สนทนา เริ่มตน้ นาอลั กอริทึมทเี่ รียบเรียงเสรจ็ สมบูรณแ์ ลว้ มาเขียนลงในผงั งานใหถ้ ูกต้อง

759 745 745 2. จงเขียนอัลกอริทึม การตรวจสอบอายุของผู้รับบริการในร้านอนิ เทอร์เน็ต ห้ามนักเรยี นท่ีมีอายุต่ากว่า 15 เข้าใช้ บริการในรา้ นในเวลาราชการ ในรปู แบบขอ้ ความและสญั ลกั ษณ์ แบบขอ้ ความ แบบสัญลกั ษณ์

760 746 746 3. จงเขียนอลั กอริทึม “การประกาศผลการสอบ” ในรปู แบบขอ้ ความและสญั ลักษณ์ แบบข้อความ แบบสัญลักษณ์

761 747 747 เฉลยใบงานท่ี 3.2 เร่อื ง การเขยี นอัลกอรทิ ึมเพอื่ แกป้ ัญหา หน่วยที่ 2 แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 2 เรือ่ ง นักออกแบบระบบ ราายยววชิ ิชาาเเททคคโโนนโโลลยยี 1ี รรหหัสัสวิชวา2ว12110130ภ3าภคาเครียเรนยี ทนี่ ท1่ี 1ชั้นชมนั้ ธัมยัธมยศมึกศษกึ ษาปาปีทีท่ 1่ี 1 จุดประสงค์ สามารถเขยี นอัลกอริทึมดว้ ยรหสั จาลองดว้ ยผังงานได้ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ชอ่ื กลุ่ม..............................................................................................ระดบั ชัน้ ..........................หอ้ ง................. คาช้แี จง : ให้นักเรียนตอบคาถามตอ่ ไปนี้ให้ถกู ต้อง 1. จงเรียงอัลกอริทมึ ท่ีกาหนดให้ถูกต้อง ลาดบั อัลกอริทึมท่กี าหนด การเรียงลาดบั อลั กอริทึมทถี่ ูกต้อง เปิดโทรศพั ท์ เร่ิมต้น กดหมายเลขโทรศพั ท์ เปิดโทรศัพท์ วางโทรศัพท์ กดหมายเลขโทรศัพท์ รอสญั ญาณ รอสัญญาณ จบ สนทนา สนทนา วางโทรศพั ท์ เรมิ่ ตน้ จบ นาอลั กอรทิ มึ ท่ีเรยี บเรยี งเสรจ็ สมบรู ณ์แลว้ มาเขยี นลงในผงั งานให้ถกู ต้อง เร่มิ ตน้ เปิดโทรศัพท์ กดหมายเลขโทรศัพท์ รอสญั ญาณ สนทนา วางโทรศพั ท์ จบ

762 748 748 2. จงเขียนอัลกอรทิ ึม การตรวจสอบอายขุ องผู้รบั บริการในรา้ นอินเทอร์เนต็ ห้ามนักเรียนทีม่ อี ายุตา่ กวา่ 15 เขา้ ใช้ บริการในรา้ นในเวลาราชการ พร้อมแสดงข้อความบนหนา้ จอ ในรปู แบบข้อความและสญั ลกั ษณ์ แบบขอ้ ความ แบบสัญลักษณ์ เรมิ่ ตน้ เริ่มต้น รับคา่ อายุ 1. รับคา่ อายุจากผู้ใชบ้ ริการ 2. ตรวจสอบอายุ ตรวจสอบ 2.1 ถา้ อายุ 15 ปีขึ้นไป ใช้บรกิ ารได้ 2.2 ถ้าอายุต่ากวา่ 15 ปี หา้ มใชบ้ รกิ าร 3. แสดงขอ้ ความบนหน้าจอ จบการทางาน อายุ 15 ปี ข้ึนไป อายุตา่ กว่า 15 ปี จบ

763 749 749 4. จงเขียนอลั กอริทึม “การประกาศผลการสอบ” ในรูปแบบข้อความและสญั ลักษณ์ แบบข้อความ แบบสญั ลกั ษณ์ เริม่ ต้น เร่ิมตน้ 1. รับคะแนนสอบ รบั คะแนนสอบ 2. ประกาศผลการสอบ 3. สอบไม่ผา่ น ประกาศผลสอบ 4. เรยี นซ่อมเสริม รอผลสอบซอ่ ม 5. สอบซ่อม 6. รอผลการสอบซอ่ ม 7. ดปู ระกาศผลสอบซ่อม จบ สอบซอ่ ม เรียนซอ่ มเสริม ผลสอบ จรงิ ไมจ่ รงิ จบ

764 750 750 แบบบันทึกการประเมนิ ผเู้ รยี น ดา้ นความรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 เร่อื ง แนวคิดเชิงนามธรรมในการแก้ปัญหา หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรื่อง นักออกแบบระบบ กลกุม่ล่มุสสาราะระกกาารรเรเรยี ียนนรรู้ วู้ วทิ ิทยยาาศศาาสสตตรร์ วิชา เทคโนโลยี11 ชช้ัน้ันมมธั ัธยยมมศศึกึกษษาาปปที ีท่ี 1ี่ 1 รายการประเมนิ เลขท่ี ชอ่ื -สกลุ อธบิ ายวิธีการเขียน สามารถเขียนอัลกอรทิ มึ อัลกอริทมึ ด้วยรหสั ดว้ ยรหัสจาลอง จาลองและด้วยผงั งานได้ และผังงานได้ 1 2 3 4 5 ฯ เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่อื ...............................................ผปู้ ระเมนิ 4 คะแนน ระดับ 4 ดีมาก (………….……………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ ครผู สู้ อน 1 คะแนน ระดับ 1 ปรบั ปรงุ *เกณฑ์การผ่าน ระดับ 2 ขึ้นไป

765 751 751 แบบบนั ทกึ การประเมนิ ผ้เู รียน ดา้ นทักษะและกระบวนการ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื ง แนวคิดเชงิ นามธรรมในการแกป้ ญั หา หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เรอื่ ง นักออกแบบระบบ กลกุ่มลสุ่มาสราะรกะการาเรรเยีรียนนรรู้ วู้ วทิ ทิ ยยาาศศาาสสตตรร์ ์ววิชชิ าา เเทคโนโลย1ี 1 ช้ันมัธยมศศกึ ึกษษาาปปที ที ่ี ่ี11 รายการประเมนิ เลขท่ี ชือ่ -สกุล ทักษะการคิด ทกั ษะการคดิ ทักษะการทางาน วิเคราะห์ 1 แกป้ ัญหา ร่วมกนั 2 3 4 5 ฯ เกณฑ์การให้คะแนน ลงชอื่ ...............................................ผ้ปู ระเมิน 4 คะแนน ระดับ 4 ดมี าก (………….………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี ครผู ้สู อน 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ 1 คะแนน ระดับ 1 ปรบั ปรุง *เกณฑ์การผา่ น ระดบั 2 ขึ้นไป

766 752 752 แบบบนั ทกึ การประเมนิ ผ้เู รยี น ดา้ นคณุ ลกั ษณะ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 เร่ือง แนวคิดเชงิ นามธรรมในการแกป้ ัญหา หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เรือ่ ง นกั ออกแบบระบบ กกลล่มุ มุ่สสาารระะกกาารรเรเรียียนนรรู้ ู้ววิททิ ยยาาศาสตร์ วิชา เทคโนโลลยยี ี1 ชช้ัน้นั มมธั ัธยยมมศศึกึกษษาาปปีทที ี่ 1ี่ 1 รายการประเมิน เลขที่ ช่อื -สกลุ ซือ่ สตั ย์ มวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งม่นั ในการ ทางาน 1 2 3 4 5 ฯ เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่ือ...............................................ผูป้ ระเมิน 4 คะแนน ระดับ 4 ดีมาก (………….………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี ครูผูส้ อน 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ 1 คะแนน ระดับ 1 ปรบั ปรงุ *เกณฑ์การผ่าน ระดบั 2 ขน้ึ ไป

753 767 753 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3 ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้...................กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม............................................................ รหัสวิชา ว21103…….... รายวชิ า .เทคโนโลยี 1…..... กลุ่มสาระการเรียนรู้ .วทิ ยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1.…….. ภาคเรยี นท่ี 1..... . ปีการศกึ ษา 2562.... .เวลา....4......ชั่วโมง ………………………………………………………………………………………………….……………………………………………….. 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐานการเรยี นรู้ มามตารตฐราฐนานว ว4.41.1เขเ้าขใ้าจใจแแนนววคคิดิดหหลลักักขขอองงเเทคโนโลยเี พื่อกกาารรดดา�ำรรงงชชวี ีวิติตในในสสงั คังคมมทท่ีมีก่มาีกราเรปเลปี่ยลน่ียแนปแลปงลง อย่างรวดดเเรรว็ ็ว ใช้ความมรรูแู้แลละะททักักษษะะททาางงดด้า้านนววิทิทยยาศาศาสาสตตร์รค์ ณคณติ ศิตาศสาตสรต์ แรล์ แะศลาะสศตารส์อตนื่ รๆ์อ่ืนเพๆอ่ื แเกพป้ ่ือัญแหกา้ปหัญรหือาหรือ พพฒััฒนนาางงาานนออยยา่่างงมมคีีคววาามมคคดิิดสสรรา้้างงสสรรรรคค์์ดดว้ ้วยยกกรระะบบววนนกกาารรออออกกแแบบบบเเชชงิ งิววศิ ิศววกกรรรรมมเลเลอื ือกกใชใชเ้ ท้เทคคโนโนโลโลยยอี ีอยยา่ งา่ เงหมาะสม โตเหดัวยมชคาี้วะ�ำดั สนมงึ ถโดึงยผคลากนรึงะถทึงบผตลอ่กชระวี ทิตบสตัง่อคชมวี ติแลสะงั สคิง่ มแวแดลละอ้สม่งิ แวดลอ้ ม ตวั ช้ีวัด ว 4.1 ม.1/2 ระบุปญั หาหรือความตอ้ งการในชีวิตประจาวัน รวบรวม วิเคราะห์ข้อมลู และ แนวคิดทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ปญั หา ตัวชี้วัด ว 4.1 ม.1/3 ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือก ข้อมลู ท่ีจาเปน็ นาเสนอแนวทางการแก้ปญั หาใหผ้ ูอ้ ่ืนเขา้ ใจ วางแผนและดาเนินการแกป้ ญั หา ตัวช้ีวัด ว 4.1 ม.1/4 ทดสอบ ประเมินผล และระบุข้อบกพร่อง ที่เกิดขึ้น พร้อมท้ังหาแนวทาง การปรบั ปรุงแกไ้ ข และนาเสนอผลการแก้ปัญหา ตัวช้ีวัด ว 4.1 ม.1/5 ใช้ความรู้และทักษะเก่ียวกับวัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ กลไก ไฟฟ้า หรือ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ เพื่อแก้ปญั หาไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง เหมาะสมและปลอดภยั 2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด 2.12.ใ1ชใก้ ชร้กะรบะวบนวกนากราอรออกอแกบแบเบชเงิชวงิ ิศววศิ กวกรรมรมเพเพ่ือื่อแแกก้ป้ปัญญั หหาาหหรรือือตตออบบสสนนอองงคคววาามมตต้ออ้ งงกการจากมนษุ ย์ 2.2.2กากราเรลเอืลกือใกชใว้ชสั้วดสั ุดเุ คเครร่อื อื่ งงมมือือแแลละะออุปปุ กกรรณณใ์ ใ์นนกกาารรสสรรา้ า้งงสสรรรคค์เทเ์ ทคคโนโนโลโลยยโี ดี ยโดวยัสวดสัุแดตแุ่ลตะล่ปะระปเรภะทเภทมี มเใสพชีสมื่อใ้ มบหเบลตั้เหตัือิ ขมิขกอ้ ้อใาจชะจำ�้ใสาหกกมเ้ดั ดัหกใใบัมนนาลกกะักาาสรษรมใใณชชกท้ะท้ับแี่ข่ีแลตอตักกงกษงตตณาา่า่นะงงแกขกลอนัันะงเงเเชชกาน่น่นิดปแไไมลรม้ะะ้โโลเโลกยหหดิชะปะนพรก์พะลับลโาผยาสใู้ชสตชนตกิง้ ิก์กาจับนจงึ ผอึงต้ใูตยอ้ชอ้่างง้ งงมาแมนกี ทีกอาาจ้ รยรรว่าวงิเิงเิคแครทราาจ้ ะะรหหงิ ส์ ์สมมบบตััตขิิขอองงววสัสั ดดุุ เพอ่ื เลอื ก 3. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ - อธิบายข้ันตอนการแก้ปญั หาดว้ ยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม - วิเคราะห์ปัญหาตามกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม - บอกประเภทและอธบิ ายสมบัติของวัสดุ - อธิบายการเลอื กใชว้ สั ดุและเคร่ืองมือช่างท่ีเหมาะสมกับลกั ษณะของงานและความปลอดภัย ทักษะ/กระบวนการ - ทักษะการแก้ปญั หา - ทกั ษะการนาเสนอ - ทักษะการคิดวิเคราะหง์ านและวางแผนการทางาน

754 768 754 เจตคติ - เห็นคณุ คา่ ของการนากระบวนการเทคโนโลยีมาใช้ในชวี ติ ประจาวนั อยา่ งสรา้ งสรรค์ - เหน็ ความสาคัญของแกป้ ัญหาหรอื สนองความตอ้ งการในงานทีผ่ ลติ โดยใชค้ วามคดิ สร้างสรรค์ 4.สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมัน่ ในการทางาน 6. การประเมนิ ผลรวบยอด ช้นิ งานหรอื ภาระงาน ใบกจิ กรรมท่ี 3.1 เร่ือง กระบวนออกแบบเชิงวิศวกรรม เกณฑ์การประเมนิ ผลงาน ช้ินงาน หรือ ภาระงาน ประเด็นการประเมนิ 4 (ดมี าก) ระดับคณุ ภาพ 1 (ปรับปรงุ ) 3 (ดี) 2 (พอใช้) เกณฑ์การประเมนิ ด้านความรู้ 1. การอธบิ ายความรู้ เขียนอธบิ ายเร่ืองที่ เขียนอธบิ ายเร่ืองท่ี เขยี นอธบิ ายเรื่องท่ี เขียนอธิบายเรื่องที่ ศึกษา พรอ้ มให้ ศกึ ษามาไดอ้ ยา่ ง ศึกษามาไดอ้ ยา่ ง ศกึ ษามาได้อย่าง เหตุผล ชใ้ี ห้เหน็ ความสาคญั ของเรื่อง ชดั เจน พรอ้ มให้ ชัดเจน พรอ้ มให้ ชัดเจน พรอ้ มให้ ทีศ่ กึ ษา แตม่ ขี ้อมลู ทไ่ี มเ่ ฉพาะเจาะจง เหตผุ ลทห่ี นกั แนน่ เหตุผลที่หนกั แนน่ เหตผุ ลที่หนกั แน่น และไมส่ นบั สนุน ขอ้ สรปุ ชใี้ ห้เห็น ชีใ้ ห้เห็น ชใ้ี หเ้ หน็ ความสาคญั ของ ความสาคัญของ ความสาคญั ของ เรอื่ งที่ศกึ ษา มี เรอื่ งที่ศึกษา มี เร่ืองท่ีศึกษา มี มขีข้อ้อมมูลูลทที่ ี่ มขขี้อ้อมมูลลูทท่ี ่ี มขีขอ้ ม้อลูมทูลท่ี ี่

769 755 755 ประเด็นการประเมิน 4 (ดมี าก) ระดับคุณภาพ 1 (ปรับปรงุ ) 3 (ดี) 2 (พอใช้) เฉพาะเจาะจง เฉพาะเจาะจง เฉพาะเจาะจง สนบั สนุนข้อสรปุ สนับสนนุ ข้อสรปุ สนับสนนุ ข้อสรปุ ใช้ภาษาสื่อสารได้ ใชภ้ าษาได้ เหมาะสม พดู เหมาะสม พชัดู เชจดั นเจน ภาษาทใ่ี ชไ้ ม่กากวม 2. ขน้ั ตอนการ เขียนข้นั ตอนการ เขียนขั้นตอนการ เขยี นขน้ั ตอนการ ไม่สามารถเขยี น แกป้ ญั หา แกป้ ญั หาได้ แกป้ ญั หาได้ แกป้ ัญหาไดแ้ ต่ไม่ ขน้ั ตอนการ ครบถว้ นและ ครบถ้วนและ เปน็ ไปตามขั้นตอน แกป้ ัญหาตาม ถกู ต้องตามขน้ั ตอน ถกู ต้องตามขน้ั ตอน ขนั้ ตอนได้ เป็นลาดบั ชดั เจน 3.การวิเคราะหแ์ ละ จากสถานการณ์ จากสถานการณ์ จากสถานการณ์ จากสถานการณ์ กาหนดรายละเอยี ด ปัญหาท่กี าหนดให้ ปญั หาทกี่ าหนดให้ ปัญหาท่กี าหนดให้ ปญั หาที่กาหนดให้ ของปัญหา สามารถวิเคราะห์ สามารถวิเคราะห์ สามารถวิเคราะห์ ไมส่ ามารถวเิ คราะห์ ส่ิงทตี่ อ้ งการคือ สิ่งท่ีต้องการคือ ส่งิ ทต่ี อ้ งการคือ สิ่งท่ีตอ้ งการคืออะไร อะไร ข้อมูลท่ี อะไร ขอ้ มูลท่ี อะไร ขอ้ มลู ที่ ขอ้ มลู ท่ีกาหนดให้คอื กาหนดใหค้ ืออะไร กาหนดให้คืออะไร กาหนดให้คืออะไร อะไร เง่อื นไขคอื เงือ่ นไขคืออะไร ได้ เง่ือนไขคืออะไร ได้ เงอื่ นไขคืออะไร แต่ อะไร ได้ ถูกต้องทั้งหมดและ ถูกต้อง แยงัตไ่ยมังช่ ไัดมเช่ จัดนเจน ชัดเจนทกุ ประเด็น เกณฑ์การประเมินดา้ นทักษะและกระบวนการ 1. ทกั ษะการคิด วิเคราะห์ขั้นตอน วิเคราะห์ขน้ั ตอน วิเคราะหข์ น้ั ตอน วิเคราะห์ข้นั ตอน วเิ คราะห์ กระบวนการทางาน กระบวนการทางาน กระบวนการทางาน กระบวนการทางาน ทเี่ ลอื กไดถ้ ูกต้อง ทเ่ี ลอื กได้ถูกต้องแต่ ท่เี ลอื กไดถ้ ูกต้อง ท่เี ลือกไม่ถูกต้อง และครบถว้ น ตาม ไม่เปน็ ลาดบั บางสว่ น ตขาัน้ มตขอน้ั นตอน 2. ทกั ษะการนาเสนอ นาเสนอ นาเสนอ นาเสนอ นาเสนอ

770 756 756 ประเด็นการประเมิน 4 (ดีมาก) ระดับคุณภาพ 1 (ปรับปรงุ ) 3 (ดี) 2 (พอใช้) กระบวนการทางาน กระบวนการทางาน กระบวนการทางาน กระบวนการทางาน ทเ่ี ลอื กได้ถูกต้อง ทีเ่ ลอื กได้ถูกต้อง ที่เลือกไดถ้ ูกต้อง ท่ีเลือกไม่ถกู ต้อง และครบถว้ น ตาม และครบถ้วน แตข่ าดบางประเด็น ขั้นตอน เข้าใจงา่ ย 3. วางแผนการ วางแผนการ วางแผนการ วางแผนการ ไมส่ ามารถวาง แกป้ ัญหาแบบลาดับ แกป้ ัญหาแบบ แก้ปัญหาแบบ แกป้ ัญหาแบบ แผนการแก้ปัญหา ลาดบั โดยการเขียน ลาดบั โดยการเขยี น ลาดบั โดยการเขยี น แบบลาดับโดยการ รหัสลจาำ� ลองและผงั รหสั จลำ�าลองและผงั รหัสจล�ำาลองและผงั เขียนรหัสลจำ�าลองและ ผงาังนงาไนด้ถไดูก้ถตกู้อตงอ้ ง ผงางั นงาไดนถ้ไดูกถ้ตกู้อตงสอ้ ่วงน ผงางั นงาไดน้ได้ถูกตตอ้ อ้ งง ผังงานได้ ท้งั หมด สใหว่ นญใ่ หญ่ บางส่วน เกณฑ์การประเมินดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. การมีวินัย ปฏบิ ัตติ าม ปฏิบัตติ าม ปฏบิ ตั ติ าม ไมค่ ่อยปฏบิ ัติตาม กฎระเบียบ กติกา กฎระเบยี บ กติกา กฎระเบียบ กติกา กฎระเบียบ กติกา ของโรงเรยี น ของ ของโรงเรียน ของ ของโรงเรยี น ของ หอ้ งเรียน ของกลมุ่ หอ้ งเรยี น ของกลุม่ หอ้ งเรยี น ของกลุ่ม ของโรงเรยี น ของ ก่อกวนความราคาญ ด้วยความเตม็ ใจ ไม่ ไม่ก่อกวนความ ให้ครูและเพือ่ นใน ก่อกวนความ ราคาญใหค้ รูและ หอ้ งเรียน ของกลมุ่ หอ้ งเรยี น ราคาญใหค้ รูและ เพ่อื นในหอ้ งเรียน เปน็ บางคร้ัง เพือ่ นในห้องเรียน ได้เป็นส่วนใหญ่ ไมก่ ่อกวนความ ราคาญให้ครูและ เพือ่ นในหอ้ งเรยี น 2. การใฝ่เรียนรู้ มีความ มคี วาม มีความ ไมม่ ีความ กระตือรือรน้ กระตือรือร้น กระตือรือร้น กระตือรอื รน้ ขาด อดทน เพยี ร อดทน รจู้ ัก อดทน ใน ขคาวดามคอวดามทอนดทน พยายาม แสวงหาความรจู้ าก บในาบงคารงัง้ครรง้ั ู้จรัก้จู กั ไอมด่รทู้จนักแสไมว่รงู้จหกัาความรู้ มงุ่ ม่ัน รู้จกั แสวงหา แหลง่ เรียนรอู้ ื่น ๆ แสวงหาความรูจ้ าก จแาสกวแงหลาค่งกวามรเรรู้จยี านกรู้ แหลง่ เรียนร้อู น่ื ๆ อแ่นื หๆลง่ เรียนรู้อ่นื ๆ ความรูจ้ ากแหลง่ อยู่เสมอ ๆ เรียนรอู้ ื่นๆอยเู่ สมอๆ

757 777517 757 ประเด็นการประเมนิ ระดับคุณภาพ 757 4 (ดีมาก) 3 (ดี) ระดบั คุณภาพ2 (พอใช้) 758 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ ) ประเดน็ การประเมนิ 1 (ปรับปรุง) ๆ 4 (ดมี าก) 3. มุง่ ม่ันในการทางาน ทๆางานท่ีไดร้ ับ ทางานท่ีได้รับ ทางานท่ีไดร้ บั ทางานที่ได้รับ ผลเมกผทถถผปกมรละียกกููลลาาออราเงหหบงะตตงงอบบาาาาณนน้้ออรียนหหนนน้องงดดดมมมีตทมมยเเาาลลคีววปีคคี่ีไเยยะะดวรลลววรเเยีเเา้ราาาาสสะออมบบัมมณรรียยี ถร็็จจดดตี้อกูตตยตาามมอ้ ง เผรกถทผผมกมลยี กูลลาาออางบหหงตงงบบาาาารนนน้อหหนนนอ้ งดดมมมทมมยเเีคาาเววคีคี่ีไรยยวดลลียววาเเร้าาาาสสบมบัมมรรรถ็จ็จอ้ กู ตตยตาา้อมมง ผแเมถทผกผมกถตลรูกูกลลาาออายีงย่ หหงตตงงบบาบังาาานน้้ออนหหเรนนนรงงดดมมมอ้ ทยีมมเเีคยาาแแววบคีคี่ีไยยตตวดลลววรเเา่ย่ย้ราาาาสสอ้ มบัังังมมรรยไไถจ็็จมมูกตต่่ ตาา้อมมง คตมทตผเผมรวลลาาออาียามมงงงบบบมาาากกหหรนนนเาารมมอ้ ทไไหหยีมมาา่ีไนนบยย่่มมดดดไไรีีคคร้ มมเเอ้ับ7ววววเ่เ่ ย5าาสสลลมม8รราา็จจ็ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน ถูกต้อง เรยี บร้อย เรียบร้อย ประณีต เรียบร้อเยกณฑ์การประเมินดา้ นเจตคเตริยี บร้อย 1.เเหห็น็นคคุณณุ คค่าา่ขขอองงกกาารร นากระบวนการ นากระบวนการ นากระบวนการ ไมน่ ากระบวนการ นากระบวนการ เทคโนโลยีมาใช้ใน เทคโนโลยมี าใชใ้ น เทคโนโลยีมาใชใ้ น เทคโนโลยีมาใช้ใน เทคโนโลยีมาใชใ้ น ชีวติ ประจาวนั ได้ ชวี ิตประจาวนั ได้ ชีวิตประจาวันได้ ชวี ิตประจาวันได้ ชวี ิตประจาวันอยา่ ง อย่างถูกต้อง ตาม อยา่ งถูกต้องตาม บางโอกาส สรา้ งสรรค์ หลักการ หลักการ กระบวนการ กระบวนการ เทคโนโลยี เทคโนโลยี สามารถเป็น ตัวอยา่ งได้ 2. เห็นความสาคัญ นากระบวนการ นากระบวนการ นากระบวนการ นากระบวนการ ของแกป้ ัญหาหรือ แกป้ ัญหาสร้าง แกป้ ญั หาสร้าง แกป้ ญั หาสร้างช้ัน แก้ปญั หาสรา้ งช้ัน สนองความต้องการใน ชิน้ งานที่มคี วามคดิ ช้นิ งานที่มคี วามคดิ งานแต่ไมไ่ ด้ใช้ งาน แต่ไม่สมบูรณ์ ใงนางนาทนผ่ี ทลผี่ติ โลดิตยโใชด้คยวใาชม้ คิด สร้างสรรคแ์ ละ สรา้ งสรรคแ์ ตไ่ ม่ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ขาดความคดิ คสรว้างมสครรดิ คส์ รา้ งสรรค์ แปลกใหม่ แปลกใหม่ สร้างสรรค์

759 หหนน่วว่ ยยกกาารรเเรรียยี นนรร้ทู ู้ที่ 3่ี .....3.... แแผผนนกกาารรจจดั ดั กกาารรเเรรยี ยี นรู้ที่ 1 เรอ่ื ง กระะบบววนนกกาารรออออกกแแบบบบเชเชิงงิววิศิศววกกรรมรม เวลา .เ.ว..ล.2า..2.. ชช่ัววั่ โโมมงง เร่ืองเ.ร..อ่ื..ง.กกรระะบบววนนกกาารรออออกกแแบบบบเเชชิงิงววิศิศววกกรรรรมม....................... ชั้นชมั้นธั มยธัมยศมึกศษกึ าษปาที ป่ี ที ่ี11 กกลลุ่มุ่มสสาารระะกกาารรเรเรียียนนรรู้ วู้..ทิ...ย..าวศทิ ายสาตศรา์ สตร์........ รราายยววชิ ชิ าา.เ.ท..ค.เโทนคโโลนยโี ลยี...... ขอบเขตเน้ือหา กจิ กรรมการเรียนรู้ แหล่งเรยี นรู้ กระบวนการออกแบบเชิง - ขัน้ นา วศิ วกรรม สอ่ื 1. ครูทบทวนความรู้เดมิ เรื่องนักออกแบบน้อยในชั่วโมงทแี่ ล้ว - ใบความร้ทู ี่ 1 เรือ่ ง กระบวน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ออกแบบเชงิ วิศวกรรม ด้านความรู้ 2. ครแู จง้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ - ส่อื Power Point เรอื่ ง กระบวน ออกแบบเชงิ วศิ วกรรม 1. อธิบายข้ันตอนการแก้ปญั หา 3. ครนู าเข้าสบู่ ทเรียนโดยยกสถานการณก์ ารแกป้ ัญหา - คลิปเพลง Engineering Design ด้วยกระบวนการออกแบบเชงิ Process (lyric video) วศิ วกรรม โดยใช้เร่อื งเล่าจากโซเชียล https://youtu.be/6dR3iKaWUoU 2. วิเคราะหแ์ ละแก้ไขปญั หาโดยใช้ 4. ครูใชค้ าถามเพื่อกระตุน้ ใหน้ ักเรยี นตระหนักว่าการแก้ปญั หา ภhtาtรpะs/:ช//ิน้ yงoาuนtu.be/6dR3iKaWUo กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม ตา่ งๆ จาเป็นตอ้ งทาอย่างเป็นข้ันเปน็ ตอน เพ่ือใหส้ ามารถแกป้ ัญหา U- ใบงานท่ี 1 เร่ืองกระบวนการ น้นั ๆ ได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ เชน่ ครถู ามวา่ “สมมุตวิ า่ นักเรยี นเปน็ ออกแบบ ด้านทักษะและกระบวนการ คนประสบปญั หาเหลา่ น้ดี ้วยตนเอง นกั เรียนจะทาการแก้ปัญหา 1. ทกั ษะการแกป้ ญั หา เหล่านัน้ อยา่ งไร” ภาระงาน/ช้นิ งาน 2. ทักษะการนาเสนอ ขนั้ สอน - ใบงานท่ี 1 เรื่อง กระบวนออกแบบ 3. ทกั ษะการคิดวิเคราะห์งานและ 1. ครนู าเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเชงิ วางแผนการทางาน วิศวกรรม ซงึ่ ประกอบดว้ ย 6 ข้ันตอน คือ 772 759

760 แแผผนนกกาารรจจัดัดกกาารรเรยี นร้ทู ี่ 1 เรือ่ ง กกรระะบบววนนกกาารรออออกกแแบบบบเชเชิงวงิ วศิ ศิววกกรรมรม เวลา เ..ว..ล.2า..2.. ชช่ัวัว่ โโมมงง หหนนว่ ว่ ยยกกาารรเรเรียยี นนรรู้ท้ทู ี่ 3่ี .....3.... เรื่องเ.ร..อ่ื ..ง.กกรระะบบววนนกกาารรออออกกแแบบบบเเชิงวิศวกรรม....................... ชน้ั ชม้ันธั มยธัมยศมกึ ศษกึ าษปาีทปี่ ที ่ี 11 กกลล่มุ มุ่ สสาารระะกกาารรเรเรียยี นนรรู้ วู้..ิท..ย...าวศทิ ายสาตศรา์ สตร์........ รราายยววิชิชาาเ..ท..ค.เโทนคโลโนยโี ลยี...... ดา้ นคณุ ลักษณะ - ระบุปัญหา เชิงวศิ วกรรม 1. มวี นิ ัย - รวบรวมขอ้ มลู และแนวคดิ ที่เกี่ยวข้องกบั ปญั หา - ออกแบบวิธกี ารแกป้ ัญหา 2. ใฝเ่ รยี นรู้ - วางแผนและดาเนินการแกป้ ัญหา 3. มุ่งมัน่ ในการทางาน - ทดสอบ ประเมนิ ผล และปรับปรุงแก้ไขวิธกี ารแกป้ ัญหา - นาเสนอวธิ กี ารแกป้ ญั หา ผลการแกป้ ัญหาหรือชน้ิ งาน (ใบความรทู้ ่ี 1 เร่อื ง กระบวนออกแบบเชิงวิศวกรรม) 2. ครยู กหวั ข้อหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ทเ่ี กดิ ขึ้นรอบตัวและให้ นักเรียนรว่ มกนั แกป้ ัญหาตามกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม (เทคนิคการสอน แบบ Phenomenon-Based Learning) 3. นักเรียนทาใบงานท่ี 1 เรอ่ื ง กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม 4. ครูสุม่ นกั เรียนเพ่ือนาเสนอ ใบงานที่ 1 เรื่อง กระบวนการ ออกแบบเชงิ วศิ วกรรม ขนั้ สรุป 1. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปเนอื้ หาเร่อื งกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม ผา่ นคลปิ https://youtu.be/6dR3iKaWUoU 2. นักเรียนสรปุ และบันทึกเนอื้ หาการเรยี นรู้ทสี่ าคัญลงในสมดุ เรียน 773 760

761 (Phenomenon-Based Learning ) หมายถงึ เป็นการเรียนที่มาจากหัวข้อหรอื เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกดิ ข้นึ รอบตัว เปน็ การเรยี นในลกั ษณะของโครงงานท่ี นักเรียนทางานเปน็ กลุ่มและมีเนือ้ หาการเรยี นครอบคลุมหลายวชิ า ศ.นพ.วจิ ารณ์ พานิช 774 761

775 762 762 การวัดและประเมนิ ผล ส่ิงทต่ี ้องการวัด/ประเมิน วธิ กี าร เครื่องมือทีใ่ ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ ตรวจใบงานที่ 3.1 - นักเรียนทุกคนผ่าน 1. อธิบายขน้ั ตอนการ - ใบงานท่ี 1เร่ือง เกณฑ์ไมต่ ่าํ กว่าร้อย แก้ปัญหาดว้ ยกระบวนการ สังเกตพฤติกรรมการ รลอ้ะย8ล0ะ 80 ออกแบบเชงิ วิศวกรรม เรียนรู้ของนักเรียน กระบวนการออกแบบเชงิ 2. วิเคราะห์และแก้ไข เวชิศงิ ววกิศรวรกมรรม ปัญหาโดยใช้กระบวนการ สงั เกตพฤติกรรมของ ออกแบบเชิงวศิ วกรรม นักเรียน - แบบบนั ทกึ การประเมนิ ด้านทักษะและ ผู้เรียน ด้านความรู้เทยี บกบั กระบวนการ เกทณยี บฑก์ ับเกณฑ์ 1. ทักษะการแก้ปญั หา 2. ทักษะการนาเสนอ แบบบนั ทกึ การประเมนิ - นักเรียนทุกคนผา่ น 3. ทักษะการคิดวิเคราะห์ ผเู้ รยี น ด้านทักษะและ เกณฑ์ไมต่ ่าํ กวา่ รอ้ ย งานและวางแผนการ กระบวนการเทียบกับเกณฑ์ รลอ้ะย8ล0ะ 80 ทางาน เทียบกบั เกณฑ์ ดา้ นคุณลักษณะ แบบบนั ทึกการประเมนิ - นกั เรยี นทุกคนผ่าน 1. มีวินยั ผู้เรยี น ด้านคณุ ลักษณะ เกณฑ์ไมต่ ่าํ กวา่ ร้อย 2. ใฝเ่ รียนรู้ เทียบกับเกณฑ์ รลอ้ะย8ล0ะ 80 3. มงุ่ ม่ันในการทางาน

763 776 763 8. บนั ทึกผลหลงั สอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอปุ สรรค ............................................................................................................................. ............................................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................... ลงช่ือ ......................................ผู้สอน (.......................................................) วันท่ี..........เดือน..........พ.ศ............. 9. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารหรอื ผู้ทไ่ี ด้รบั มอบหมาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงชอื่ ......................................ผ้ตู รวจ (.......................................................) วันที่..........เดอื น..........พ.ศ.........

764 777 764 ใบความรูท้ ่ี 1 กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เร่ืองเล่าจากโซเชียล เรื่องท่ี 1 โรงงานผลิตสบู่แห่งหนึ่ง มียอดส่ังซื้อจานวนมาก ปัญหาที่พบคือ ในข้ันตอนการบรรจุสบู่ใส่ กล่องพบวา่ สบู่จานวนหนึ่งมเี ฉพาะกล่องเปล่าไม่มีสบู่บรรจุเข้าไปดว้ ย เน่ืองจากเครื่องจักร ไมก่ ้าวหนา้ พอ ทาให้ เกิดปัญหากับลูกค้าเป็นอย่างมาก CEO จึงจ้างบริษัทท่ีปรึกษาหลายล้านดอลล่า มาแก้ปัญหา ส่ิงที่บริษัทท่ี ปรึกษาแนะนาคือให้ติดเครื่องชั่ง ไว้ที่สายพาน หากกล่องเปล่าท่ีหนักไม่พอไหลออกมาจากสายพานผ่านตาช่ัง ตาชั่งจะสง่ั ให้สายพานหยดุ เมื่อเคร่ืองหยุดให้พนักงานหยิบกลอ่ งเปลา่ ท่ีเครอ่ื งช่งั ออก แล้วให้พนักงานเปิดเครอ่ื ง ใหม่ เช่นน้ี ปรากฏวา่ CEO พอใจกับการแกป้ ัญหามากและไมม่ ีปญั หาดงั กล่าวอีกเลย ต่อมาทาง CEO ได้มาเยี่ยมโรงงาน ขณะตรวจเยี่ยมสายพาน พบพนักงานคนหน่ึงน่ังเฝ้าสายพาน แต่ท่ี แปลกก็คือมีพัดลมตัวใหญ่ ๆ ตงั้ อยู่ CEO จจึงึงถถาามมพพนนกั ักงงาานนคคนนนน้ัน้ันววา่ ่าเเออาาพพัดัดลลมมมมาาตตั้งั้งททำ� าไไมมพพนนักักงงาานนตตออบบวว่า่า“อ้อ ผมขเ้ี กียจไปเปิดเครื่องใหม่ เลยเปิดพัดลมพดั กลอ่ งเปล่าก่อนท่มี ันจะถึงเคร่ืองช่ังครับ จะได้มีเวลาไปทาอยา่ งอื่น ไมต่ ้องมวั มาเฝ้าเครื่อง” เรื่องท่ี 2 ท่ีร้านขายไก่ทอดแห่งหน่ึง มียอดขายดีมาก ๆ ในร้านมีการอบรมพนักงานว่า หากมีการเปิด ห้องเย็นเพื่อเอาไก่มาลงทอดต้องปิดประตูห้องเย็นเสมอเพ่ือรักษาอุณภูมิสินค้า แต่เนื่องจากพนักงานต้องทางาน แข่งกับเวลา จึงทาให้พนักงานปิดประตูไม่สนิทเพราะต้องรีบ ทาให้อุณภูมิเสีย และไก่ก็เสียเร็ว ทางผู้จัดการร้าน จึงนาป้ายขนาดใหญ่ มาติดเพื่อบอกให้ปิดให้สนิทแต่ก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้ จึงนาเร่ืองไปปรึกษาผู้จัดการเขต ผู้จัดการเขตแนะนาให้มีพนักงานหนึ่งคนมาคอยเปิด-ปิดประตู แต่เนื่องจากลูกค้าเยอะจึงต้องดึงคนไปช่วยฝ่าย อ่ืนปัญหาเลยไม่ถูกแก้ไข จนกระทั่งผู้จัดการภาคมาตรวจเยี่ยม ทางผู้จัดการร้านจึงแจ้งถึงปัญหาท่ีเกิดขึ้น ผู้จัดการภาคก็ยืนครุ่นคิดอยู่บริเวณหน้าประตูห้องเย็น แล้วก็มีเสียงมาจากผู้จัดการท่านหน่ึงท่ีมาเย่ียมร้านด้วย กล่าวขนึ้ วา่ “ถา้ ข้เี กยี จปดิ ประตู กใ็ ห้ประตมู นั ปดิ เองสิ” เรือ่ งที่ 3 ผูผ้ ลิตยาสีฟันแบบหลอดยี่ห้อหน่ึง กาลังวางแผนเพ่ิมยอดขายยาสฟี ันของตนระหว่างที่ประชุม เคร่งเครียด จะเพิ่มยอดขายด้วยวิธีใดได้บ้าง โดย วางแผนทาโฆษณา วางแผน promotion ลด แลก แจก แถม เพ่มิ หนว่ ยขายตรง เขา้ ถึงตัวผู้บริโภคให้มากข้ึน และอกี อน่ื ๆ อกี มากมาย แผนการเหล่านี้ ทุกหัวข้อที่เสนอมา ใช้ ทรัพยากร ท้ัง เงินทุน บุคลากร เวลา ความรู้ความชานาญ เป็นเร่ืองใหญ่มาก อยู่ๆ ก็มีฝ่ายผลิตคนหน่ึง ซึ่งไม่มี ความรู้ความชานาญในดา้ นการตลาดเทา่ คนท่กี าลังถกเถียงกันอยา่ งเมามนั เสนอข้ึนมาเบา ๆ วา่ \"กระแม้ว่า เรา ลองเพิ่มขนาดปากหลอดท่ีบบี ยาสฟี ันออก ใหก้ ว้างขึ้นสักหน่อย บบี ทีนงึ ยามันก็ออกมากข้นึ หน่อย มันหมดเร็ว ข้นึ เด๋ียวลกู คา้ ก็ตอ้ งกลบั มาซ้ือใหมเ่ องแหละ\" จากความคิดนี้ทาให้ยอดขายพุง่ เพิ่มขึน้ มากกวา่ 20% ในปนี นั้ สรุป จากเร่ืองเล่าท้ังสาม จะเห็นว่าแต่ละปัญหาสามารถแก้ปัญหาได้อย่างหลากหลายวิธี แต่การ แก้ปัญหาบางวิธีอาจส่งผลให้เกิดปัญหาอย่างอ่ืนตามมาอีก ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการดาเนินการอยา่ งมมาากก ส่งผลต่อต้นทุนการผลิต ดังน้ันในการแก้ปัญหาต่างๆ จึงจาเป็นต้องดาเนินการอย่างเป็นระบบ โดยใช้ กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม

765 778 กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม 765 ใในนกกาารรดดา�ำเนเนนิ ินชชวี ีวติ ิตปปรระะจจาว�ำนัวันออาจาปจประรสะบสกบับกปับญัปหัญาหตาา่ ตง่าๆง บๆางบปาญั งปหัญามหคี าวมาีคมวซาับมซซ้อับนซก้อานรแกกาป้ รญัแกห้ปาจัญงึ หาจึง จ�ำาเปน็ ตอ้ งอาศยั ความรู้ ทักษะะ ททรรพั พั ยยาากกรรแแลละะกกาารรววาางงแแผผนนกกาารรททา�ำงางานนออยยา่ ง่าเงปเปน็ น็ขน้ัข้นัตอตนอนเปเป็นร็นะรบะบบเพเื่อพใอ่ื หใ้ไหดไ้ ้ ดว้ ธิ ี กวาิธรีกแากรแป้ กัญ้ปหัญาหทาี่ดทีท่ีด่ีสีทุดี่สใดุ นใบนทบเทรียเรนยี นนี้นนกั นี้ เกัรียเรนียจนะจไะดไเ้ ดร้เียรนียรนู้เรก้เู ย่ีกวี่ยกวบักับกรกะรบะบวนวนกการารอออกกแแบบบบเชเชงิ ิงววิศิศววกกรรรรมมซงึ่ ประกอบ ดซว้่งึ ยปร6ะกขอนั้ บตดอ้วนย 6ดังขนั้น้ี ตอน ดงั น้ี 1. ระบปุ ัญหา (Problem Identification) เป็นการทาความเข้าใจสถานการณ์ของปัญหา โดยวิเคราะห์เงื่อนไขหรือข้อจากัดของสถานการณ์ เพ่ือ ตดั สินใจเลือกปัญหาหรือความต้องการท่ีจะดาเนินการแก้ไข และกาหนดขอบเขตของปัญหา ซ่ึงจะนาไปสู่การหา แนวทางในการแก้ปัญหาต่อไป โดยการนาเทคนิคหรือวิธีการต่าง ๆ มาช่วยในการวิเคราะห์ปัญหา เช่น การ วิเคราะห์ด้วย 5W1H หรอื ผงั กา้ งปลา (Fishbone Diagram) 2. รวบรวมขอ้ มูลและแนวคดิ ที่เกยี่ วข้องกบั ปัญหา (Related Information Search) เม่ือระบุและกาหนดขอบเขตของปัญหาที่ต้องการแก้ไขได้แล้ว การดาเนินการต่อไปคือการรวบรวม ข้อมูลและความรู้ทุกด้านท่ีเกี่ยวข้องกับปัญหาหรือความต้องการ เช่น ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี ในข้ันนีค้ วรมีการจดบนั ทกึ ผลการรวบรวมขอ้ มลู ท่ีเก่ยี วข้องทงั้ หมดเพ่ือพัฒนาแนวทางในการแก้ปญั หา ซ่ึงก่อนการรวบรวมข้อมูลควรมกี ารกาหนดประเดน็ ในการสบื ค้น ซ่งึ อาจเร่มิ จากการตัง้ คาถามเก่ียวกับสิง่ ทีจ่ าเป็น ต่อการแกป้ ญั หาภายใตข้ อบเขตของปัญหาทร่ี ะบไุ ว้ โดยใช้เทคนคิ ทเ่ี รียกวา่ การระดมสมอง (brainstorming) 3. ออกแบบวธิ กี ารแกป้ ัญหา (Solution Design) เม่ือได้ข้อมูลองค์ประกอบพื้นฐานท่ีจาเป็นต่อการพัฒนาแนวทางการแก้ปัญหาแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือ การออกแบบแนวทางแก้ปัญหาให้มีรายละเอียดที่ชัดเจนขึ้นและอาจออกแบบไว้หลายแนวทาง จากนั้นจึง ตัดสินใจเลือกแนวทางแก้ปัญหาที่เหมาะสมกับเง่ือนไขและขอบเขตของปัญหามากท่ีสุด โดยพิจารณาจากปัจจัย ดา้ นต่าง ๆ ทีเ่ กี่ยวขอ้ ง เช่น ข้อดี ข้อเสีย ความสอดคล้องกบั ทรพั ยากรทางเทคโนโลยีท่ีมีอยู่ ปัจจยั ท่ีขดั ขวางหรือ

766 779 766 ข้อจากัด ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม การนาไปใช้งานเพ่ือแก้ปัญหา ความประหยัด ความปลอดภัย การ บารุงรักษา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของวิธีการหรือแนวทางการแก้ปัญหา ในการตัดสินใจเลือกแนวทางในการ แก้ปัญหาเราสามารถใช้ตารางชว่ ยประเมินเพ่ือตัดสนิ ใจเลือก สาหรบั ประเด็นในการตดั สินใจสามารถปรบั เปล่ียน ไดต้ ามความเหมาะสม 4. วางแผนและดาเนนิ การแก้ปญั หา (Planning and Development) กอ่ นการลงมือสร้างชิ้นงานควรมีการวางแผนโดยกาหนดลาดบั ขั้นตอนของการสรา้ งชน้ิ งานหรอื พัฒนา วิธีการตามท่ไี ด้ออกแบบไว้ มีการกาหนดเป้าหมายและเวลาในการดาเนนิ งาน รวมท้งั ผรู้ ับผิดชอบงานในแตล่ ะ ขนั้ ตอนอย่างชัดเจน จากนน้ั จึงลงมือสรา้ งช้นิ งานหรือพฒั นาวธิ กี ารตามท่ไี ดอ้ อกแบบไว้ หลังจากวางแผนการทางานเรียบรอ้ ยแลว้ ขั้นต่อไปเป็นการลงมือสรา้ งชน้ิ งานตามแผนงานที่ไดก้ าหนดไว้ ในการสร้างชน้ิ งานควรเลอื กใชว้ สั ดุให้เหมาะสมกับประเภทของงาน และอปุ กรณ์ที่ใช้ในการทางานก็ต้องใช้ให้ ถูกต้องและคานึงถงึ ความปลอดภัยในการใชง้ าน 5.ทดสอบ ประเมินผล และปรบั ปรงุ แก้ไขวิธกี ารแก้ปัญหาหรอื ชิ้นงาน (Testing, Evaluation and Design Improvement) ในการทดสอบการทางานของช้ินงานหรอื วิธกี ารควรมีการกาหนดประเดน็ ในการทดสอบ ใหส้ อดคล้อง กับจุดประสงค์ของชิน้ งานหรือวิธีการทส่ี ร้างขึน้ ซ่ึงจะชว่ ยลดเวลาและทาใหก้ ารปฏบิ ัติงานง่ายย่ิงขึ้น โดยอาจทา ไดใ้ นรปู แบบของแบบประเมินรายการ หรอื การเขียนบันทกึ ผลการทดสอบในแตล่ ะประเดน็ จากนน้ั วิเคราะห์ผล การทดสอบเพ่ือหาแนวทางปรบั ปรงุ แกไ้ ขชิน้ งานหรือวธิ กี าร ใหม้ ปี ระสิทธิภาพยิง่ ขนึ้ 6.นาเสนอวธิ ีการแกป้ ัญหา ผลการแก้ปญั หาหรือชนิ้ งาน (Presentation) การนา�ำเเสสนนออขขอ้ ้อมมูลูลใใหหผ้ ้ผอู้ ู้อน่ื ื่นเขเข้า้าใจใจเกเกย่ี ่ียวกวกบั ับภภาพาพรวรมวขมอขงอกงรกะรบะวบนวกนากราทราทงำา� นงาตน้งั แตต้ังแ่ นตว่แคนิดวใคนิดแใกน้ปแัญก้ปหาัญหา ข้ันตอนการแก้ปญั หา รรววมมทท้งั ้ังผผลลขขอองงกกาารรแแกก้ป้ปัญัญหหาแาและลแะนแวนทวาทงากงากราปรรปับรปับรปุงรแุงกแ้ไกข้ไใขหใ้มหีป้มรีปะรสะทิ สธิทิภธาิภพามพากมขาก้ึนขซึ้นึง่ ซ่ึง สามารถทำ�าได้หลายวิธี เชน่ กาารรเเขขยี ียนนรราายยงงาานนกกาารรททาำ�แแผผ่นน่ นนาำ�เสเสนนออผผลลงางนาน ททัง้ งั้ นน้ี ี้ในกกาารรททาำ� งงาานนตตาามมกกรระะบบววนนกกาารรออออกกแแบบบบเชเชงิ งิววิศศิ ววกกรรรมมนน้ันนั้ ออาาจจตตอ้ อ้ งงยย้ออ้ นนกกลลบั บั ไปไปททางำ� างนานซซ้าใำ้� นในบบางางขน้ั ตขอัน้ นตอเนช่นเชกน่ ลับกลไปับรไวปบรวรบวมรวขม้อขม้อลู มเพูล่ือเพพ่อื ัฒพนัฒานหารหอื รปือรปับรปับรปุงรผงุ ลผงลางนาในหใด้หขีด้ ้นึีขน้ึ

767 780 767 ตวั อยา่ งการแก้ปญั หาด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม จาก เร่อื งที่ 1 เร่ืองท่ี 1 โรงงานผลิตสบู่แห่งหนึ่ง มียอดส่ังซื้อจานวนมาก ปัญหาที่พบคือ ในข้ันตอนการบรรจุสบู่ใส่ กลอ่ งพบว่า สบู่จานวนหนึ่งมเี ฉพาะกล่องเปล่าไม่มีสบู่บรรจุเข้าไปดว้ ย เนื่องจากเคร่ืองจักร ไม่ก้าวหน้าพอ ทาให้ เกิดปัญหากับลูกค้าเป็นอย่างมาก CEO จึงจ้างบริษัทท่ีปรึกษาหลายล้านดอลล่า มาแก้ปัญหา สิ่งที่บริษัทที่ ปรึกษาแนะนาคือให้ติดเครื่องชั่ง ไว้ที่สายพาน หากกล่องเปล่าที่หนักไม่พอไหลออกมาจากสายพานผ่านตาช่ัง ตาช่ังจะสั่งให้สายพานหยดุ เม่ือเครอื่ งหยุดใหพ้ นกั งานหยิบกลอ่ งเปลา่ ท่ีเคร่อื งชง่ั ออก แลว้ ให้พนักงานเปิดเครอ่ื ง ใหม่ เช่นนี้ ปรากฏวา่ CEO พอใจกบั การแก้ปญั หามากและไมม่ ีปญั หาดังกลา่ วอีกเลย ต่อมาทาง CEO ได้มาเยี่ยมโรงงาน ขณะตรวจเยี่ยมสายพาน พบพนักงานคนหนึ่งนั่งเฝ้าสายพาน แต่ท่ี แปลกก็คือมีพัดลลมมตตัวัวใใหหญญ่ ่ๆๆต้ังตอั้งยอู่ ยCู่ ECOEOจึงจถึงาถมาพมนพักนงักางนาคนนคนน้ันนว้ัน่าวเอ่าาเอพาัดพลัดมลมมาตม้ังาทตา้ังไทม�ำไพมนักพงนานักตงาอนบตวอ่า“บอว้อ่า “ผอมอ้ขเี้ผกมียขจเ้ีไกปยี เปจไิดปเคเปรดิื่อเงคใหรอ่ืมง่ ใเหลมย่ เปลิดยเพปดั ดิ ลพมดั พลดั มกพลดั อ่ กงลเปอ่ ลง่าเปกล่อา่นกทอ่ มี่ นันทจมี่ ะนัถจึงเะคถรงึ ื่อเงคชรัง่อื คงรชับง่ั ครจบั ะไจดะ้มไเีดวม้ ลเีาวไลปาทไปาอทยำ� า่องยอา่ ื่นง อไม่ืน่ตไ้อมงต่ม้อวั งมมาัวเฝมา้ าเเคฝรา้ อื่ เคง”ร่อื ง” 1. ระบปุ ญั หา กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม 6 ข้ันตอน สบู่จานวนหน่ึงมเี ฉพาะกล่องเปลา่ ไม่มีสบ่บู รรจเุ ข้าไปดว้ ย 2. รวบรวมขอ้ มลู และแนวคิดท่เี กี่ยวข้อง ไม่มีการตรวจสอบภายในกล่องสบู่ เช่น ตรวจสอบโดยมนษุ ย์ กับปญั หา หรอื เครื่องจักร 3. ออกแบบวธิ กี ารแก้ปัญหา ตรวจสอบนา้ หนักกล่องสบู่ 4. วางแผนและดาเนินการแก้ปญั หา เมื่อสบูว่ ่ิงผ่านสายพานมายงั จุดตรวจ สามารถใช้วธิ ีการชง่ั น้าหนกั ดงั น้ี 5.ทดสอบ ประเมินผล และปรบั ปรงุ แก้ไข - ใชต้ ราช่ัง แล้วใหส้ ายพานหยุด วธิ ีการแกป้ ญั หาหรือช้นิ งาน - ใชพ้ ัดลมเป่า 6.นาเสนอวิธกี ารแกป้ ญั หา ผลการแกป้ ัญหา ทดสอบการใช้งานตราชั่ง และการใชง้ านพัดลมเป่า หรอื ชิน้ งาน กล่องสบู่เปล่า ถูกคัดแยกไดจ้ ากทง้ั สองวธิ ี แตก่ ารใชพ้ ัดเปา่ ประหยดั ต้นทนุ ไดม้ ากกวา่

768 781 768 ใบงานท่ี 1 กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม คาสงั่ ใหน้ ักเรียนยกสถานการณ์ท่ีเปน็ ปัญหาหรอื เหตุการณต์ า่ งๆ ทีเ่ กิดขึ้นใกล้ตวั ของนักเรียน แลว้ ดาเนินการ แก้ปัญหาด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม …………………………………..…………………………………..…………………………………..…………………………………..…………… ……………………..…………………………………..…………………………………..…………………………………..………………………… …………………………………..…………………………………..…………………………………..…………………………………..…………… ……………………..…………………………………..…………………………………..…………………………………..………………………… …………………………………..…………………………………..…………………………………..…………………………………..…………… ……………………..…………………………………..…………………………………..…………………………………..………………………… …………………………………..…………………………………..…………………………………..…………………………………..…………… ……………………..…………………………………..…………………………………..…………………………………..………………………… …………………………………..…………………………………..…………………………………..…………………………………..…………… ……………………..…………………………………..…………………………………..…………………………………..………………………… กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม 6 ขั้นตอน 1. ระบุปัญหา 2. รวบรวมข้อมลู และแนวคิดทเ่ี กีย่ วข้อง กับปัญหา 3. ออกแบบวิธกี ารแก้ปัญหา 4. วางแผนและดาเนินการแก้ปัญหา 5. ทดสอบ ประเมนิ ผล และปรบั ปรุงแก้ไข วิธีการแกป้ ญั หาหรอื ช้ินงาน 6. นาเสนอวิธีการแกป้ ัญหา ผลการแก้ปัญหา หรอื ช้นิ งาน ชอื่ ................................................................ช้นั ......................เลขท.ี่ ...................

782 769 769 แบบบนั ทึกการประเมินผูเ้ รยี น ด้านความรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เร่อื ง กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรื่อง กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ วชิ า เทคโนโลยี 1 ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 1 รายการประเมนิ เลขท่ี ชอ่ื -สกลุ ออธธบิ ายขน้ั ตตออนนกกาารร ววเิ ิเคครราะห์และะแแกก้ไไ้ขข แแก้ปัญหหาาดด้ว้วยย ปปัญหาโโดดยยใใชช้ ้ กกรระะบวนกกาารรออออกกแแบบบบ กกรระะบบววนการรออออกกแแบบบบ เชงิ วศิิศววกกรรรรมม เเชชิงวศิ ววกกรรรรมม 1 2 3 4 5 เกณฑ์การให้คะแนน ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ 4 คะแนน ระดับ ดีมาก (………….…………………………………….) 3 คะแนน ระดับ ดี ครูผสู้ อน 2 คะแนน ระดับ พอใช้ 1 คะแนน ระดับ ปรบั ปรุง *เกณฑ์การผา่ น ระดับ 2 ข้นึ ไป