920 933 920 2. คาส่งั if...else if...else คาสง่ั นสี ามารถต่อไปได้เร่ือยๆจนกวา่ จะพอใจ if(เงือ่ นไข 1) { //คาสั่ง 1 }else if(เงอ่ื นไข 2) { //คาสั่ง 2 }else { //คาส่ัง 3 } ไปเร่อื ยๆๆ แปลวา่ ถ้าเมื่อไหร่ท่ีนันเง่ือนไข11ถกู ต้องหรือเป็นจรงิ ก็ให้เร่ิมทาคาส่งั ท่ี 1 ได้ แต่ถ้ายังไมเ่ ปน็ จรงิ ก็ไปตรวจสอบ ท่ีเงอ่ื นไขที่ 2 ถา้ เงอ่ื นไขท่ี 2 เป็นจริงกท็ าคาส่ังที่ 2 แตถ่ ้าไม่เปน็ จรงิ ทังสองคาส่ังกจ็ ะทาคาส่ังท่ี 3 รอไปก่อน ตัวอยา่ งท่ี 2 ตวั อย่างคาส่ังเง่ือนไขแบบ if...else if...else void setup() { pinMode(4,INPUT); pinMode(3,OUTPUT); pinMode(5,OUTPUT); } void loop() { if (digitalRead(4)== HIGH) //ถ้ามีการกดสวิตชซ์ท่ีขา4 { digitalWrite(3,HIGH); //LED ทขี่ า 3 จะแดง 5 วนิ าทแี ลว้ จงึ ดับและ LEDท่ขี า 5 จะดบั 5 วนิ าที digitalWrite(5,LOW); delay(10); }else //ถ้ายังไมม่ ีการกดสวติ ชซ์ ์LEDทขี่ า 5 จะแดงแต่ท่ีขา 3 จะดับ { digitalWrite(5,HIGH); digitalWrite(3,LOW); } delay(100); //ในการตรวจสอบว่ามกี ารกดสวติ ชซ์หรือไม่ ในแต่ละครงั ชิปจะรอดูอยู่0.1วนิ าที //ถ้าไมม่ ีการกดชปิ กจ็ ะตรวจสอบใหมอ่ กี รอบไปเร่ือยๆจนกวา่ จะพบว่ามีการกด }
921 934 921 การใช้งาน tinkercad.com ประกอบตวั อย่างท่ี 2 1. ขอ้ มูลอปุ กรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกสท์ ่ใี ช้ในการต่อวงจร รปู อุปกรณท์ ่ี ชอื่ อุปกรณ์ ขาสัญญาณท่ตี ่อ Arduino Uno/ชนดิ สัญญาณ Pushbutton ขา 4/INPUT LED LED1 ใชข้ า 3/ OUTPUT Resistor LED1 ใชข้ า 5/ OUTPUT - 2. ต่ออุปกรณด์ งั รูปที่ 4 รูปที่ 4 ภาพแสดงการต่อวงจรประกอบตัวอยา่ งท่ี 2 ใน tinkercad.com
935 922 922 3. นาตัวอย่าง code ตัวอย่างท่ี 1 ไปวางใน Code ---> Text ดังรูปท่ี 2 รูปที่ 5 ภาพแสดงการนา Code ในตัวอยา่ งที่ 2 มาใช้ใน tinkercad.com ผลการทางานของโปรแกรม : เมือ่ กดสวิตซช์หลอด LED1 ไฟจะตดิ LED2 จะดับ เม่ือปล่อยสวติ ซชห์ ลอด LED 2 จะตดิ LED 1 จะดับ ดังรปู ที่ 6 การทางานเมอ่ื ไมก่ ดปุ่ม การทางานเมอ่ื กดปุ่ม รูปที่ 6 ภาพแสดงการทางานของTinkercad.com ในตัวอยา่ งที่ 2
936 923 923 ใบงานที่ 6.1 เร่ือง การใช้ทางเลือกเพื่อใช้ในการแก้ปญั หาทางคณิตศาสตรแ์ ละวิทยาศาสตร์ รายชื่อสมาชิกในกลุ่มท่ี............... 1…………………………………………………………………………… หอ้ ง......... เลขที่……… 2…………………………………………………………………………… หอ้ ง......... เลขที่……… 1. ศกึ ษาใบความรู้ที่ 6.1 เรอ่ื ง ทางเลอื กในภาษาซี 2. ให้นักเรียนเขยี นภาษาซีตามผงั งาน (Flowchart) ทก่ี าหนดตามเง่ือนไขต่อไปนี พร้อมทงั Run โปรแกรม ผ่าน Tinkercad ที่แสดงผลผ่าน Serial monitor ผังงาน (Flowchart) Code ภาษาซี 2.1 โปรแกรม เม่อื กดปมุ่ สวติ ซ์ หลอดไฟ LED ดับ Void set up() { เรมิ่ ตน้ } หลอดไฟดับ Void set loop() { กดปมุ่ หลอดไฟดับ } สินสุด
ผังงาน (Flowchart) 937 924 924 2.2 โปรแกรม - กดปุม่ สวิตซช์ที่ 1 หลอดไฟ LED 1 ตดิ Code ภาษาซี - กดปุ่มสวติ ซช์ท่ี 2 หลอดไฟ LED 2 ติด Void set up() - นอกเหนือจากนันใหด้ ับ { เริม่ ต้น } Void set loop() หลอด LED ดบั { กดปมุ่ สวิตซ์ ไมใ่ ช่ 1,2 หลอด LED 1 , ใช่ หลอด LED 2 ดับ หลอด LED 1 , หลอด LED 2 ติด สวา่ ง สนิ สุด }
925 938 925 ใบงานที่ 6.2 เรอ่ื ง การนาเสนอผงั งาน (Flowchart) และโปรแกรมในการใชท้ างเลอื ก รายชื่อสมาชิกในกลุ่มท่.ี .............. 1…………………………………………………………………………… หอ้ ง......... เลขท่ี……… 2…………………………………………………………………………… หอ้ ง......... เลขที…่ …… คาชแี จง : ใหน้ กั เรยี นออกแบบผงั งาน (Flowchart) ระบบเทคโนโลยีและการเขียนโปรแกรมภาษาซี ตามสถานการณท์ ่ีกาหนดให้ พรอ้ มทังนาเสนอหน้าชนั เรียน สถานการณ์โปรแกรม : ให้นักเรียนตอ่ วงจรและเขียนโปรแกรมใน Tinkercad โดยใช้เงื่อนไขต่อไปนี กดสวิตชซ์ท่ี 1 หลอด LED 1 ติด,กดสวติ ชซ์ที่ 2 หลอด LED 2 ตดิ และกดสวิตซช์ที่ 3 หลอด LED 3 ติด นอกเหนือจากนันให้หลอด LED ดับ ผงั งาน (Flowchart) ระบบเทคโนโลยี โปรแกรมภาษาซี Input Void set up() { Process } Output Void set loop() { }
926 939 926 แบบบนั ทกึ การประเมนิ ผเู้ รียน ด้านความรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 เรือ่ ง รูจ้ กั ทางเลอื ก หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 4 เร่ือง โปรแกรมเมอร์น้อย กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ วชิ า เทคโนโลยี 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 รายการประเมนิ เลขที่ ช่อื -สกุล อธิบายความหมายรปู แบบเขียนโปรแกรมการใช้ ทางเลือกเพื่อใชแ้ กป้ ัญหาทางคณติ ศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ 1 2 3 4 5 การแปลผลคะแนน(เ(ลเลือือกกใชใชอ้ อ้ยย่างา่ ใงดใดออย่ายงา่ หงหนน่งึ ต่ึงาตมาคมวคาวมาเมหเมหามะาสะมสกมบั กลบั กั ลษกั ณษะณกะากรปารปะรเมะนิเม)นิ ) ระดับคะแนน แปลผล ระดับคณุ ภาพ คิดเป็นรอ้ ยละ 4 ดีเยย่ี ม 76-100 3 ดี 51-75 2 พอใช้ 26-50 1 ปรับปรุง 0-25 ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมิน (………….…………………………………….) ครผู ู้สอน
927 940 927 เกณฑ์การวดั และประเมินผลหน่วยท่ี 4 เรื่องโปรแกรมเมอร์น้อย 6 สิง่ ท่ตี ้องการวัด/จุดประสงค์ 4 ระดับคุณภาพ/คะแนน 1 32 1. ดา้ นความรู้ (K) อธิบายความหมาย อธบิ ายความหมาย อธบิ ายความหมาย บอก อธิบายความหมายรูปแบบ รปู แบบเขียน รูปแบบเขยี น รปู แบบเขียน ความหมาย เขียนโปรแกรมการใชท้ างเลือก โปรแกรมการใช้ โปรแกรมการใช้ โปรแกรมการใช้ รปู แบบเขยี น เพอื่ ใช้แกป้ ญั หาทางคณติ ศาสตร์ ทางเลือกเพื่อใช้ ทางเลอื กเพื่อใช้ ทางเลือกเพ่ือใช้ โปรแกรมการ แคลณะติ วศทิ ายสาตศรา์แสลตะรว์ ิทยาศาสตร์ แกป้ ัญหาทาง แก้ปัญหาทาง แกป้ ัญหาทาง ใช้ทางเลือกเพื่อ ทคาณงคติ ณศาิตสศตารส์แตลระแ์ ละ ทคาณงคิตณศาิตสศตารส์แตลระแ์ ละ ทคาณงคิตณศาิตสศตารส์แตลระแ์ ละ ใชแ้ ก้ปญั หา วิทยาศาสตร์ ได้ วิทยาศาสตร์ ได้ วิทยาศาสตร์ได้ ททาางงคณิตศาสตร์ บา้ ง แคลณะิตวิทศยาสาศตราส์ ตร์ อยา่ งเหมาะสม ไแดล้ ะ วิทยาศาสตร์ ได้
928 941 928 แบบบันทกึ การประเมินผเู้ รยี น ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 6 เรอื่ ง ร้จู กั ทางเลอื ก หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 เรื่อง โปรแกรมเมอรน์ ้อย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ วิชา เทคโนโลยี 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 รายการประเมนิ เลขที่ ช่ือ-สกุล ทักษะการคดิ ทกั ษะการคิด ทักษะการ วิเคราะห์ แกป้ ัญหา ทางานรว่ มกนั 1 2 3 4 5 เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมนิ 4 คะแนน ระดับ ดมี าก (………….………………………………….) 3 คะแนน ระดับ ดี ครูผูส้ อน 2 คะแนน ระดับ พอใช้ 1 คะแนน ระดับ ปรบั ปรุง *เกณฑ์การผ่าน ระดบั 2 ขึนไป
929 942 929 แบบบนั ทึกการประเมินผ้เู รียน ด้านคณุ ลกั ษณะ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 6 เรอื่ ง รู้จกั ทางเลอื ก หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เรื่อง โปรแกรมเมอร์น้อย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ วิชา เทคโนโลยี 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 รายการประเมนิ เลขที่ ชอื่ -สกุล ซอ่ื สัตย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมนั่ ในการ สจุ รติ ทางาน 1 2 3 4 5 เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมนิ 4 คะแนน ระดับ ดมี าก (………….…………………………………….) 3 คะแนน ระดับ ดี ครูผ้สู อน 2 คะแนน ระดับ พอใช้ 1 คะแนน ระดับ ปรับปรุง *เกณฑ์การผ่าน ระดับ 2 ขึนไป
930 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 7 เรือ่ ง ฟงั ก์ชันใน Tinkercad หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 เรอ่ื ง ฟังก์ชันใน Tinkercad เวลา 2 ช่ัวโมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ รายวชิ า เทคโนโลยี 1 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ขอบเขตเนอ้ื หา กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ 1. การเขยี นโปรแกรมทมี่ ีฟังก์ชนั ภาษา C ใน ข้นั นา 1.www.thinkercad.com Tinkercad 1. ครทู บทวนความรเู้ ดิม เร่ือง Tinkercad ในชวั่ โมงท่ีแล้ว 2.ใบความรทู้ ่ี 7 การเขยี นโปรแกรมท่มี ฟี งั กช์ นั 2. การประยุกต์ใช้โปรแกรมที่มฟี ังก์ชัน 2. ครูสอบถามนักเรยี นเมื่อใดบา้ งที่นักเรยี นต้องตัดสนิ ใจ ภาษา C ใน Tinkercad จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เมื่อมีทางเลือกมากกวา่ หนง่ึ ทาง และเมื่อนกั เรียนต้องตัดสนิ ใจ ด้านความรู้ นักเรยี นจะเลือกทางนั้นเพราะอะไร นักเรยี นชว่ ยกนั ตอบ และ 3.สอื่ Power Point เรอื่ ง ทางเลือกในภาษาซี บอกความหมายรปู แบบเขียนโปรแกรมการใช้ฟงั กช์ นั ครูกส็ รปุ รว่ มกันกับนกั เรยี น ภาระงาน/ช้ินงาน ขน้ั สอน ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ 1. นักเรียนศึกษาเรื่อง การใช้ทางเลอื กในภาษาซี ใบงานที่ 7 การเขยี นโปรแกรมที่มฟี ังก์ชัน สามารถประยุกตใ์ ชค้ าสงั่ Arduino IDE จาลองใน ในสื่อท่ีครนู าเสนอประมาณ 15 - 20 นาที Tinkercad เพ่ือใชง้ านแก้โจทยป์ ญั หา 2. ครแู ละนักเรยี นร่วมอภิปรายจากเน้อื หาทน่ี กั เรียน ภาษา C ใน Tinkercad ดา้ นคณุ ลกั ษณะ ศกึ ษา และยกตวั อยา่ งสถานการณ์ทซ่ี บั ซ้อนในการเขียน 1. มีเจตคตทิ ่ดี ตี ่อการออกแบบและเขยี นโปรแกรม โปรแกรมภาษาซี และใหเ้ สนอหาวธิ ใี นการเรยี บเรียงคาสั่งแบบ 2..มีความรับผดิ ชอบ ซอ่ื สัตย์และมุ่งม่ันในการทางาน ฟังก์ชันเพอ่ื ให้การทางานระบบดูงา่ ยข้นึ เป็นทมี 3. นักเรยี นจบั คปู่ ฏบิ ตั ิ กจิ กรรมใบงาน7 การเขียนโปรแกรม ทม่ี ฟี ังก์ชันภาษา C ใน Tinkercad 943 930
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 7 เรอ่ื ง ฟังก์ชนั ใน Tinkercad 931 กหลนุ่มวสยากราะรกเรายี รนเรรียทู้ นี่ ร4ู้ วิทยาศาสตร์ แผนการจัดกเารรอ่ื เงรยี ฟนงั รกูท้ ์ชี่ ัน7ใน เTรi่อื nงkeฟrังcกa์ชdนั ใน Tinkercad 931 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ เวลา 2 ชั่วโมง เร่อืรงายฟวงั ชิ กา์ชันเทในคโTนiโnลkยeี rc1ad ช้ันมธั เวยลมาศึก2ษาชป่ัวทีโม่ี 1ง ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 4. นกั เรยี นนาเสนอรากยจิ วกิชรรามใเบทงคาโนนทโลี่ 7ยีก1ารเขยี นโปรแกรม ท4.มี่ 4นฟี.ักนงั เกรกั ียเช์ รนนัยี นนภ�ำนาเสาษเนาสอนCอกใิจกนกิจรกTรรiมnรใมkบใeงบrางcนาaนทdที่ 7่ี 7กการาเรขเยี ขนยี โนปโรปแรกแรมกทรมี่ ี ท(ฟอังมี่ากจีฟช์นงั ันากภเส์ชานนั ษอภาหาCนษ้าใาชน้ันCTเรiใnยี นkนeTเrพcina่ือkdใeห(rน้อcักาaจเdรนยี ำ� นเสแตนล่อะหกนล้ามุ่ ชั้นเรียน เพอ่ื แ(ใอหลาน้กจกัเนปเารลเยี่ียสนนแเอรตหยี ่ลนะ้ารกช้กู ลั้นุม่ เ)รแยี ลนกเปพล่ือ่ยีใหนน้เรกั ียเนรยีรนกู้ นัแต) ล่ ะกลุ่ม ขแลัน้ กสเรปปุ ล่ยี นเรยี นรู้กัน) ข้นั ส1.รุปครรูแูแลละะนนกั ักเเรรียยี นนรร่วว่ มมกกนั นั สสรรุปปุ เนเน้อื ้ือหหาารรว่ ่วมมกกันนั 21. นครักแูเรลยี ะนนสสักรรเุปรปุ ยี แแนลลระะว่บบมนั นักททันึกสกึ เรเนนปุ ื้อื้อเหนหาื้อากหกาารรเรว่เรยีมียนกนรันรู้ททู้ ี่ส่สีาคำ� คัญญั ลงใน ลสงมใดุ2นเ.สรนมียักุดนเรียนสรปุ และบนั ทึกเนื้อหาการเรยี นรู้ทส่ี าคัญ ลงในสมุดเรียน 944 931 931
932 945 932 การวดั และประเมนิ ผล สงิ่ ทีต่ ้องการวัด/ประเมนิ วธิ กี าร เครอ่ื งมอื ที่ใช้ เกณฑ์ นกั เรียนทุกคน ด้านความรู้ (K) ตรวจใบงานที่ 7 1.ใบงานที่ 7 การเขียน ผา่ นเกณฑ์ไมต่ ่ากว่า โปรแกรมทมี่ ีฟงั ก์ชนั ภาษา C ร้อยละ 80 บอกความหมายรูปแบบ ใน Tinkercad นกั เรียนทกุ คน เขยี นโปรแกรมการใช้ 2. แบบประเมินผลด้านความรู้ ผา่ นเกณฑ์ไม่ตา่ กว่า เทยี บกับเกณฑ์ ร้อยละ 80 ฟงั ก์ชนั เพ่ือใช้แก้ปัญหาทาง แบบประเมินผล นกั เรยี นทกุ คน คณติ ศาสตร์และ ด้านกระบวนการเรียนรู้ ผา่ นเกณฑ์ไมต่ า่ กว่า เทียบกับเกณฑ์ ร้อยละ 80 วทิ ยาศาสตร์ แบบประเมินผล ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) สงั เกตพฤตกิ รรม ด้านคุณลักษณะเทียบกับเกณฑ์ (สPา)มาสราถมปารถะยปุกรตะย์ใชุก้ ตใ์ ช้ การเรียนรขู้ อง คาส่ัง Arduino IDE จาลอง นกั เรียน ใน Tinkercad เพื่อใชง้ าน แกโ้ จทยป์ ญั หาทาง คณิตศาสตร์และ วิทยาศาสตรไ์ ด้ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A) สงั เกตพฤตกิ รรม 1. มีเจตคติทด่ี ีต่อการ ของนักเรียน ออกแบบและเขียน โปรแกรม 2..มีความรับผิดชอบ ซ่ือสัตยแ์ ละมงุ่ มนั่ ในการ ทางานเปน็ ทีม
933 946 933 8. บนั ทึกผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปัญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................. ............................................. ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................... ลงช่ือ ......................................ผู้สอน (.......................................................) วนั ที.่ .........เดอื น..........พ.ศ............. 9. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารหรอื ผู้ที่ไดร้ บั มอบหมาย ........................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ......................................ผตู้ รวจ (.......................................................) วนั ท.ี่ .........เดอื น..........พ.ศ.........
934 947 934 ใบความร้ทู ่ี 7 เร่ือง ฟงั ก์ชนั ใน Tinkercad การใช้งานในโปรแกรมท่ีซบั ซ้อน ทม่ี ีการทางานหลายๆลาดับขั้นในโปรแกรมเดียว อาจช่วยได้ในการ เขยี นโปรแกรมย่อยเปน็ ฟังก์ชันท้งิ ไว้ แล้วเรยี กใชง้ านเป็นลาดับส่วน ซ่ึงตวั ฟังกช์ ันเองจะมีรปู แบบการทางาน ของตัวเองโดยเฉพาะตามเป้าหมายท่เี ขยี นไวใ้ นแต่ละฟงั ก์ชนั ดงั นี้ 1. การใชง้ านโปรแกรมแบบไมม่ ีฟังก์ชนั และแบบใช้ฟังก์ชนั แบบ 1 ฟงั กช์ ัน โปรแกรมแบบไม่มีฟงั กช์ ัน โปรแกรมแบบใช้ฟงั ก์ชนั void setup() void LED () // ฟังก์ชัน LED { { pinMode(13,OUTPUT); // ประกาศขา 13 digitalWrite(13,HIGH); // ขา 13 ไฟตดิ Output delay(2000); // หน่วงเวลา 2 วนิ าที digitalWrite(13,HIGH); // ขา 13 ไฟตดิ digitalWrite(13,LOW); // ขา 13 ไฟดบั delay(2000); // หนว่ งเวลา 2 วินาที } digitalWrite(13,LOW); // ขา 13 ไฟดับ void setup() } {pinMode(13,OUTPUT); // ประกาศขา 13 void loop() Output { LED (); // เรียกใชฟ้ ังก์ชัน LED } } void loop() { }
935 948 935 ซึ่งการทางานของโปรแกรมในตารางขา้ งต้นจะทางานเหมือนกัน คือ หลอด LED จะตดิ เปน็ เวลา 2 วนิ าทีแลว้ ดบั โปรแกรมแบบไมม่ ี ฟังกช์ นั ใน Tinkercad โปรแกรมแบบใช้ ฟงั กช์ นั ใน Tinkercad 2. การใช้งานโปรแกรมแบบไม่มฟี งั กช์ นั และแบบใชฟ้ ังก์ชัน แบบมากกว่า 1 ฟงั กช์ นั โปรแกรมแบบไมม่ ีฟงั ก์ชนั โปรแกรมแบบใชฟ้ ังก์ชัน void setup() void LED1 () // ฟังกช์ ัน LED1 { { pinMode(12,OUTPUT); // ประกาศขา 12 digitalWrite(12,HIGH); // ขา 12 ไฟติด Output delay(2000); // หนว่ งเวลา 2 วินาที pinMode(13,OUTPUT); // ประกาศขา 13 digitalWrite(12,LOW); // ขา 12 ไฟดบั Output } digitalWrite(12,HIGH); // ขา 12 ไฟติด void LED2 () // ฟังก์ชนั LED2 delay(2000); // หน่วงเวลา 2 วินาที { digitalWrite(12,LOW); // ขา 12 ไฟดบั digitalWrite(13,HIGH); // ขา 13 ไฟตดิ digitalWrite(13,HIGH); // ขา 13 ไฟติด digitalWrite(13,HIGH); // ขา 13 ไฟตดิ delay(2000); // หนว่ งเวลา 2 วินาที delay(2000); // หน่วงเวลา 2 วินาที digitalWrite(13,LOW); // ขา 13 ไฟดบั digitalWrite(13,LOW); // ขา 13 ไฟดับ
936 949 936 โปรแกรมแบบไม่มีฟังกช์ นั โปรแกรมแบบใชฟ้ ังก์ชนั } } void loop() void setup() { {pinMode(13,OUTPUT); // ประกาศขา 13 } Output LED1 (); // เรียกใชฟ้ งั กช์ ัน LED1 LED2 (); // เรยี กใช้ฟังกช์ ัน LED2 } void loop() { } ซึ่งการทางานของโปรแกรมในตารางข้างต้นจะทางานเหมือนกัน คอื หลอด LED ดวงที่ 1 จะติดเปน็ เวลา 2 วินาทแี ล้วดบั หลงั จากน้นั หลอด LED ดวงที่ 2 จะติดเปน็ เวลา 2 วนิ าทีแล้วดบั โปรแกรมแบบไม่มี ฟงั กช์ ัน ใน Tinkercad โปรแกรมแบบใช้ ฟงั ก์ชนั ใน Tinkercad แบบ 2 ฟังกช์ ัน
950 937 937 ตวั อย่างท่ี 1 การรับค่าจากตัวอกั ษรท่ีคยี บ์ อร์ดแลว้ ทาใหห้ ลอด LED ติด ดับ แบบไมม่ ีฟังก์ชนั อปุ กรณ์ทใี่ ชใ้ น Tinkerkad มดี ังน้ี รูปอุปกรณ์ ชอื่ อปุ กรณ์ ขาสญั ญาณทตี่ อ่ Arduino Uno/ชนิดสัญญาณ Arduino Uno R3 13 Resistor ตามภาพ Input Process Output รับค่าตวั อกั ษรจาก ตรวจสอบการกด หลอด LED ติด คีย์บอร์ด o หรือ c ตัวอักษร o หรอื c หรอื ดับ 2. ต่อวงจรตามภาพที่ 1 ภาพท่ี 1 แสดงการต่ออุปกรณอ์ เิ ล็กทรอนิกสก์ บั บอร์ด Arduino Uno R3 ใน Tinkercad
3. โปรแกรมจะทางานตามผังงานต่อไปนี้ 951 938 938 เร่ิมตน้ LED ดับ ไมใ่ ช่ ไม่ใช่ รบั ค่าตวั อักษร c กดตัวอกั ษร o ใช่ ใช่ LED ตดิ LED ดับ
952 939 939 Code ตวั อยา่ งแบบไม่มฟี ังกช์ นั char a; //สร้างตวั แปร a เกบ็ อักษรขนาด 1 Byte void setup() { Serial.begin(9600); //เปิดการใชง้ านจอแสดงผลช่อง 9600 pinMode(13,OUTPUT); // ขา 13 ทาหนา้ ท่ี output } void loop() { if(Serial.available()>0) //ถ้ามกี ารกดตัวอักษร จะทาตามเง่ือนไขต่อไปนี้ { a=Serial.read(); // ตัวแปร a อ่านค่าจากคยี ์บอรด์ if(a=='o') // หลอดไฟ LED ติด { digitalWrite(13,HIGH); Serial.println(\"open\"); // แสดงค่า AA ทีละบรรทดั } if(a=='c') //เม่ือมีการรบั ค่า A และกดปุ่ม Enter { digitalWrite(13,LOW); // หลอดไฟ LED ดบั Serial.println(\"close\"); // แสดงคา่ AA ทีละบรรทดั } } delay(100); // หนว่ งเวลา 0.1 วินาที }
953 940 940 4. นา code ตวั อย่าง มาใชใ้ น tinkercad ดังภาพที่ 2 ภาพท่ี 2 แสดงการนา code แบบไม่มีฟังก์ชันมาใช้งานใน Tinkercad ตัวอย่างท่ี 2 การรบั ค่าจากตัวอักษรที่คีย์บอร์ดแล้วทาให้หลอด LED ติด ดับ แบบมีฟงั ก์ชนั อปุ กรณท์ ี่ใชใ้ น Tinkerkad มีดงั น้ี รปู อุปกรณ์ ชอื่ อุปกรณ์ ขาสัญญาณท่ตี ่อ Arduino Uno/ชนดิ สัญญาณ Arduino Uno R3 13 Resistor ตามภาพ Input Process Output รับคา่ ตัวอกั ษรจาก ตรวจสอบการกด หลอด LED ติด คียบ์ อร์ด o หรือ c ตัวอักษร o หรือ c หรือ ดับ
954 941 941 2. ต่อวงจรตามภาพท่ี 3 ภาพที่ 3 แสดงการตอ่ อปุ กรณ์อิเล็กทรอนิกส์กบั บอร์ด Arduino Uno R3 ใน Tinkercad 3. โปรแกรมจะทางานตามผงั งานตอ่ ไปนี้ เรม่ิ ตน้ LED ดับ ไม่ใช่ รับค่าตวั อกั ษร c ไมใ่ ช่ กดตัวอกั ษร o ใช่ ใช่ LED ตดิ LED ดับ
942 942 955 Code ตัวอยา่ งแบบมีฟงั ก์ชัน char a; //สรา้ งตวั แปร a เกบ็ อักษรขนาด 1 Byte void key() //ประกาศฟังก์ชนั key เพ่ือรับคา่ ตวั อกั ษรจากคีย์บอรด์ { if(Serial.available()>0) //ถา้ มีการกดตวั อักษร จะทาตามเง่อื นไขตอ่ ไปน้ี { a=Serial.read(); // ตัวแปร a อา่ นคา่ จากคียบ์ อรด์ if(a=='o') // หลอดไฟ LED ตดิ { digitalWrite(13,HIGH); Serial.println(\"open\"); // แสดงค่า AA ทลี ะบรรทัด } if(a=='c') //เมื่อมีการรับคา่ A และกดป่มุ Enter { digitalWrite(13,LOW); // หลอดไฟ LED ดับ Serial.println(\"close\"); // แสดงค่า AA ทีละบรรทดั } } delay(100); // หน่วงเวลา 0.1 วินาที } void setup() { Serial.begin(9600); //เปิดการใช้งานจอแสดงผลชอ่ ง 9600 pinMode(13,OUTPUT); // ขา 13 ทาหน้าท่ี output } void loop() {key(); // นาฟงั ก์ชนั key(); มาใชแ้ บบวนรอบ }
943 943 956 4. นา code ตวั อยา่ ง มาใชใ้ น tinkercad ดังภาพท่ี 4 ภาพที่ 4 แสดงการนา code แบบมีฟังก์ชนั มาใชง้ านใน Tinkercad
957 ใบงานท่ี 7.1 เรอ่ื ง การเขยี นโปรแกรมที่มฟี งั กช์ ันภาษา C ใน Tinkercad รายชื่อสมาชิกในกลุ่มท.่ี .............. 1…………………………………………………………………………… หอ้ ง......... เลขท่ี……… 2…………………………………………………………………………… หอ้ ง......... เลขที่……… 1. ศึกษาใบความรู้ท่ี 4.7 เร่ือง การเขียนโปรแกรมท่มี ีฟังกช์ นั ภาษา C ใน Tinkercad 2. ใหน้ ักเรยี นเขียนภาษาซีและผงั งาน (Flowchart) ท่กี าหนดตามเงื่อนไขต่อไปน้ี พร้อมท้งั Run โปรแกรม ผ่าน Tinkercad โดยตอ่ วงจรดงั ภาพ สถานการณ์ ดงั ตาราง รบั คา่ ตัวอกั ษร สถานะ LED o1 LED หลอดที่ 1 ติด c1 LED หลอดที่ 1 ดับ o2 LED หลอดที่ 2 ตดิ c2 LED หลอดที่ 2 ดับ
958
959 ครผู ู้สอน
948 960 948 เกณฑก์ ารวัดและประเมินผลหนว่ ยที่ 4 เร่ืองโปรแกรมเมอรน์ อ้ ย 6 ส่งิ ที่ต้องการวัด/จุดประสงค์ 4 ระดบั คณุ ภาพ/คะแนน 1 32 บอกบอก ความหมาย 1. ดา้ นความรู้ (K) อธิบายบอก อธิบาย อธบิ ายบอก รปู แบบเขยี น โปรแกรมการใช้ บอกความหมายรูปแบบเขยี น ความหมาย ความหมายบอก ความหมาย ฟงั กช์ ันเพื่อใช้ แกป้ ัญหาทาง โปรแกรมการใช้ฟังก์ชันเพื่อใช้ รปู แบบเขยี น ความหมาย รปู แบบเขียน คณิตศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ ได้ แก้ปัญหาทางคณติ ศาสตร์ โปรแกรมการใช้ รปู แบบเขียน โปรแกรมการใช้ และวทิ ยาศาสตร์ ฟงั ก์ชันเพอื่ ใช้ โปรแกรมการใช้ ฟงั กช์ ันเพอื่ ใช้ แกป้ ญั หาทาง ฟังกช์ นั เพ่อื ใช้ แกป้ ัญหาทาง คณิตศาสตร์และ แก้ปญั หาทาง คณิตศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ได้ คณิตศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ ได้ อยา่ งเหมาะสม วทิ ยาศาสตร์ ได้ บ้าง
961 949 949 แบบบันทึกการประเมินผเู้ รียน ด้านทกั ษะและกระบวนการ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 7 เรอ่ื ง ฟงั ก์ชันใน Tinkercad กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ วชิ า เทคโนโลยี 1 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 รายการประเมนิ เลขท่ี ชอื่ -สกุล . ทกั ษะการคิด ทักษะการคิด ทักษะการ วเิ คราะห์ แก้ปัญหา ทางานร่วมกนั 1 2 3 4 5 เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมิน 4 คะแนน ระดับ ดมี าก (………….…………………………………….) 3 คะแนน ระดับ ดี ครูผ้สู อน 2 คะแนน ระดับ พอใช้ 1 คะแนน ระดับ ปรับปรุง *เกณฑ์การผ่าน ระดับ 2 ขึ้นไป
950 962 950 แบบบนั ทกึ การประเมนิ ผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 7 เรื่อง ฟังก์ชันใน Tinkercad หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 4 เรอ่ื ง โปรแกรมเมอร์น้อย กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ วชิ า เทคโนโลยี 1 ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 1 รายการประเมนิ เลขท่ี ชอ่ื -สกุล ซอื่ สตั ย์ มวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมนั่ ในการ สจุ รติ ทางาน 1 2 3 4 5 เกณฑ์การให้คะแนน ลงชือ่ ...................................................ผ้ปู ระเมนิ 4 คะแนน ระดับ ดมี าก (………….…………………………………….) 3 คะแนน ระดับ ดี ครูผู้สอน 2 คะแนน ระดับ พอใช้ 1 คะแนน ระดับ ปรบั ปรงุ *เกณฑ์การผ่าน ระดบั 2 ขน้ึ ไป
951 963 951 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ วศิ วกรนอ้ ย รหัสวชิ า ว21103 รายวิชา เทคโนโลยี 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 เวลา 10 ชั่วโมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้ีวัด สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพ่ือการดารงชีวิตในสังคมที่มีการเปล่ียนแปลง อย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่นๆ เพ่ือแก้ปัญหาหรือ พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่าง เหมาะสมโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบต่อชวี ิต สงั คม และสง่ิ แวดลอ้ ม มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชิงคานวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชีวติ จริงอย่างเป็นข้ันตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม ตัวชวี้ ัด ตัวช้ีวัด ว 4.1 ม.1/5 ใช้ความรู้และทักษะเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ กลไก ไฟฟ้า หรือ อเิ ล็กทรอนิกส์เพือ่ แก้ ปญั หาไดอ้ ย่างถูกต้อง เหมาะสมและปลอดภยั ตัวช้ีวัด ว 4.2 ม.1/3 รวบรวมข้อมูล ปฐมภูมิ ประมวลผล ประเมินผล นาเสนอข้อมูล และ สารสนเทศ ตามวัตถปุ ระสงค์ โดยใช้ซอฟตแ์ วร์ หรือบรกิ ารบนอนิ เทอรเ์ น็ตท่ีหลากหลาย 2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด วัสดุในแต่ละประเภทมีสมบัติแตกต่างกัน เช่น ไม้ โลหะ พลาสติก จึงต้องมีการวิเคราะห์เพ่ือ เลอื กใช้ให้เหมาะกับงาน มีการสรา้ งชิ้นงานโดยใช้กลไกไฟฟ้า โดยมีอุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างงานอย่าง ถูกต้องเหมาะสมและปลอดภัย รวบรวมข้อมลู จากแหล่งข้อมูลปฐมภูมิ ประมวลผล สรา้ งทางเลือก ประเมินผล จะทาให้ได้สารสนเทศ เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรือการตัดสินใจได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ และเพ่ือให้ได้ผลลัพธ์ที่ มีความหมายและมีประโยชน์ต่อการนาไปใช้งาน การใชช้ซซออฟฟตแ์แววรร์ห์หรรือือบบรริกิกาารรบบนนออินนิ เทเทออรร์เน์เน็ต็ตทที่หห่ี ลลาากกหหลลาายยใในน การรวบรวม ประมวลผลสร้างทางเลือก ประเมินผลนาเสนอ จะช่วยให้แก้ปญั หาได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และ แมน่ ยา 3. สาระการเรียนรู้ ความรู้ 1. นาเคร่ืองมอื ช่างไปใชไ้ ด้เหมาะสมกบั งาน 2. สรา้ งช้ินงานโดยประยกุ ต์ใช้ความร้เู รอื่ งกลไกล้อและเพลา
952 964 952 3. เข้าใจหลักการทางานกลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และนาความรู้ไปประยุกต์ใช้สร้าง แบบจาลองพลังงานไฟฟา้ ได้ 4. การเขียนโปรแกรมควบคุมหลอด LED ด้วยเง่ือนไขตา่ งๆ ในโปรแกรมจาลอง 5. แนวคิดแกไ้ ขปญั หาหรือสนองความต้องการโดยการใชก้ ระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม ทักษะ/กระบวนการ 1. ทกั ษะในการทางานร่วมกนั 2. ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ 3. ทักษะการสื่อสาร 4. ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ 5. ทกั ษะความคิดสร้างสรรค์ เจตคติ 1. มีวินยั 2. ซ่ือสัตย์สุจริต 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. มงุ่ มัน่ ในการทางาน 4.สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ซ่อื สตั ยส์ ุจรติ 2. มีวินัย 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. มงุ่ มั่นในการทางาน 6. การประเมินผลรวบยอด ชิ้นงานหรือภาระงาน - ใบงานท่ี 5.1 เร่ือง รถจาลองพลงั งานยาง - ใบงานที่ 5.2 เรอื่ ง ไฟฟา้ และอิเลคก็ ทรอนนกิ ิกสส์เเ์บบื้อื้องงตตน้ น้
953 965 953 - ใบงานที่ 5.3 เรื่อง กลไก ไฟฟา้ และอิเลก็ ทรอนกิ ส์ - แบบรถจาลองพลงั งานไฟฟา้ - ใบงานที่ 5.4 เขียนโปรแกรมจาลองอยา่ งงา่ ย - ใบงานท่ี 5.5 เรอื่ ง ยานยนต์แหง่ โลกอนาคต - ใบงานที่ 5.6 เรอื่ ง ออกแบบยานยนต์แห่งโลกอนาคต (สร้างแนวทางพฒั นายานยนต์แห่งโลกอนาคต โดยใชก้ ระบวนออกเชงิ วิศวกรรม) - ใบงานท่ี 5.7 เรื่อง ออกแบบการนาเสนอผลงาน (นาเสนอแนวคิดในการพัฒนายานยนต์แห่งโลก อนาคต) เกณฑก์ ารประเมินผลชนิ้ งานหรอื ภาระงาน ประเดน็ การประเมนิ 4 (ดีมาก) ระดบั คะแนน 1 (ปรับปรุง) 3 (ดี) 2 (พอใช้) เนอ้ื หา - จาแนกกล่มุ - จาแนกกลุม่ - จาแนกกลุม่ - ไมจ่ าแนกกล่มุ ความคิดไดช้ ดั เจน ความคดิ ได้ชดั เจน ความคดิ ได้ ความคดิ ไดช้ ดั เจน - เห็นภาพรวมกว้างๆ - เหน็ ภาพรวม - เนอื้ หาไม่กระชบั - เนือ้ หาไม่กระชบั ของหวั ข้อใหญ่ กวา้ งๆขขอองงหัวขอ้ ส้นั ไม่ได้ใจความ ไมไ่ ดใ้ จความ - เนอื้ หากระชับส้ันได้ หใหัวญข้อ่ ใหญ่ - ขาดความสัมพนั ธ์ - ไม่มี ใจความ - เนอ้ื หากระชับ ของเนื้อหา ความสมั พันธ์ของ - มคี วามสัมพันธข์ อง สน้ั ไดใ้ จความ เน้ือหา เนือ้ หา - มคี วามสัมพนั ธ์ - จับประเดน็ ได้ ของเน้ือหา ชัดเจน - เขา้ ใจง่าย รปู แบบ - แยกความคิดหลัก - แยกความคิด - แยกความคิดหลัก -ไม่แยกความคดิ ความคิดรอง หลัก ความคดิ ความคดิ รอง หลัก ความคดิ รอง ความคิดย่อย ได้ รอง ความคิด ความคิดย่อย ได้ ความคดิ ย่อย ให้ ชัดเจน ยอ่ ย ไดช้ ดั เจน ชดั เจน ชัดเจน - เช่ือมโยงความคดิ - เช่ือมโยง - เชอื่ มโยงความคดิ - ไม่เชอื่ มโยง รวบยอดหลัก ความคดิ รวบยอด รวบยอดหลัก ความคดิ รวบยอด ความคดิ รอง หลัก ความคดิ ความคิดรอง หลัก ความคดิ รอง ความคดิ ย่อย รอง ความคิดย่อย ความคิดย่อย ความคดิ ย่อย - รวบรวมขอ้ มูล - รวบรวมข้อมลู - รวบรวมขอ้ มลู
954 966 954 ประเดน็ การประเมนิ 4 (ดมี าก) ระดบั คะแนน 1 (ปรบั ปรงุ ) 3 (ดี) 2 (พอใช้) จานวนมากอยู่ใน จานวนมากอยู่ใน จานวนมากไมอ่ ยใู่ น กระดาษแผน่ เดียวกนั กระดาษแผ่น กระดาษแผ่น - การนาเสนอง่ายต่อ เดียวกนั เดยี วกัน การจดจา - การนาเสนอง่าย - ใชส้ ญั ญลักาษลักณษ์ ณ์ ต่อการจดจา หรอื รปู ภาพประกอบ - ใชส้ ัญลญักาษลกัณษ์ ณ์ - สร้างความ หรอื รูปภาพ เพลิดเพลินในการ ประกอบ อ่าน - เวน้ ทว่ี า่ งเพอื่ ให้ สามารถขยายได้ - มสี ีสันทงั้ แผน่ ความรับผิดชอบ - ชิ้นงานสาเร็จ - ช้ินงานสาเรจ็ - ช้นิ งานสาเรจ็ - ชิ้นงานไม่สาเรจ็ สมบูรูณ์ถกู ตอ้ ง สมบูรณู ์ถกู ตอ้ ง สมบูรูณ์ถูกตอ้ ง และไม่สมบรู ูณ์ - ส่งงานตรงเวลา - สง่ งานตรงเวลา - สง่ งานตรงเวลา - สง่ งานไมต่ รง - ผลงานมีความ - ผลงานมีความ - ผลงานมคี วาม เวลา เรียบรอ้ ย เรยี บรอ้ ย เรยี บร้อย - ผลงานไม่มคี วาม - ผลงานแปลกใหม่ - ผลงานแปลก - ผลงานไม่แสดงให้ เรยี บรอ้ ย แสดงให้เห็นถึง ใหม่แสดงให้เหน็ เหน็ ถึงความคดิ ความคดิ สร้างสรรค์ ถงึ ความคิด สร้างสรรค์ - มคี วามตงั้ ใจในการ สรา้ งสรรค์ ทางาน เกณฑค์ ณุ ภาพ คะแนน 10 - 12 หมายถงึ ระดบั คุณภาพ ดมี าก คะแนน 7 - 9 หมายถึง ระดับคุณภาพ ดี คะแนน 4 - 6 หมายถึง ระดับคุณภาพ พอใช้ คะแนน 0 - 3 หมายถงึ ระดับคุณภาพ ปรับปรงุ เกณฑ์การตดั สนิ ตัง้ แต่ระดับ ดี
955 แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 1 เรื่อง ล้อและเพลา หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 เรื่อง กลไก ไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนิกส์ เวลา 2 ช่วั โมง กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ขอบเขตเน้อื หา รายวิชา เทคโนโลยี 1 ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1 1. กลไก ล้อและเพลา กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ขน้ั นา - สือ่ วดี ทิ ัศน์ Wheels And Axles ด้านความรู้ 11. .นักเรียนดูสื่อวีดิทัศน์ เรรอื่ือ่ งง สสอื่ ือ่ เเททคคโโนนโโลลยยีเเีปปลล่ยี ีย่ นนโลโลกก https://www.youtube.com/watch?v=P 1. เข้าใจหลักการทางานของล้อและเพลา 2.คครรแู แู ลละะนนกั กั เรเรียียนนรร่ว่วมมกกนั นัสสนนททนนาเากเ่ียกว่ยี กวับกปับรปะรเะดเน็ดท็นช่ีทม่ีชใมนใน 7xu9O0miEc ด้านทกั ษะและกระบวนการ 1. ออกแบบรถจาลองรถพลังงานยาง วดี ทิ ัศน์ - สอื่ วีดทิ ศั น์ Wheel and Axle - Simple 2. ทดลอง อธบิ าย กลไกการทางานขชองล้อและ ข้ันสอน Machines | Science for Kids | Educational เเพลา ดา้ นคณุ ลกั ษณะ 13. ครูแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรใู้ นครั้งน้ี Videos by Mocomi 1. ซอ่ื สัตย์สจุ ริต 24. นักเรยี นแบง่ กล่มุ ๆ ละ 5 คน ศึกษาเร่อื ง ล้อและเพลา ใน https://www.youtube.com/watch?tim 2. มวี ินัย 3. ใฝเ่ รียนรู้ ใบความร้ทู ่ี 5.1 และส่ือที่ครูนาเสนอประมาณ 10-15 นาที e_continue=102&v=ndT35aqDfAQ 35. ครูและนกั เรียนรว่ มอภิปรายเกยี่ วกบั ความหมายของ ล้อ - สิ่งของทคี่ รูกาหนด (อาจเปลย่ี นแปลงได้ และเพลา ตามความเหมาะสม) แนวคาตอบ - ใบความรู้ที่ 5.1 เรอื่ ง กลไกล้อและเพลา ล้อและเพลาเป็นเคร่ืองกลท่ชี ่วยผ่อนแรงประกอบดว้ ยวัตถุ ภาระงาน/ช้นิ งาน ทรงกระบอก 2 อนั ตดิ กัน อนั ใหญ่เรียกว่าล้อ อันเล็กเรียกว่า - ใบงานที่ 5.1 เรือ่ ง รถจาลองพลังงานยาง เพลา ใช้เชือก 2 เส้น พันรอบล้อเสน้ หนึง่ อีกเสน้ หนงึ่ พนั รอบ เพลาโดยพนั ไปคนละทาง ปลายข้างหน่งึ ของเชือกท่ีพันรอบ 967 955
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 1 เรอ่ื ง ล้อและเพลา 956 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ เร่ือง กลไก ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนกิ ส์ รายวิชา เทคโนโลยี 1 เวลา 2 ชั่วโมง 4. มงุ่ ม่ันในการทางาน ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 1 เพลาผกู ตดิ กบั วตั ถุ ปลายขา้ งหนึง่ ของเชือกที่พนั รอบล้อใช้ สาหรบั ออกแรงดึง 46. ครูถามนักเรยี นต่อวา่ ส่ิงของใดบา้ งท่ีใช้กลไกของล้อและ เพลาในการทางาน แนวคาตอบ สว่านไฟฟา้ รถของเลน่ บงั คับวิทยุกระป๋อง 57. ครแู จกอุปกรณ์ (ไมเ้ สียบลูกชิ้น หรอื ตะเกียบ หลอดดดู หนังยาง กระดาษแข็ง เทปใส ดนิ นา้ มนั ลวด หรือเส้นดา้ ย กรรไก)ร)กกลล่มุ ุ่มลละะ11ชชุดดุ เพเพ่ือือ่ ใหให้แ้แตต่ลล่ะะกกลลมุ่ ุม่อออกกแแบบบใบใบงางนาน5.51.1 แลว้ สร้างรถจาลองตามแบบท่ีนกั เรยี นได้ออกแบบไวใ้ นใบงาน ท่ี 5.1 68. ครใู ห้นกั เรียนนารถจาลองของนกั เรยี นมาทดสอบการวิ่ง ของรถตามเงื่อนไขที่กาหนดและบันทกึ ผลการทดสอบ 9 . 7ใ.นใกนรกณรที ณ่รี ีทถ่รีจถาลจอ�ำลงยองั ไยมังส่ ไมามส่ ารมถาทราถตทาำ� มตภาามรภกาจิ รไกดจิ้ ใไหด้คใรหูก้คบั รู กนับกนเรกั ยี เนรรยี ว่นมรก่วนัมวกิเนัควริเาคะรหาส์ ะาหเห์สตาเุแหลตะุแแลนะวแทนาวงทปราบังปปรับุงรปถรจงุ ารลถอง จขำ�้นั ลสอรงปุ 968 956
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 แผนเกรา่ือรงจดั กกลาไรกเรไียฟนฟรทู้าแี่ ล1ะอเิ ลรอ่ื็กงทรลอ้อนแิกลสะ์ เพลา เวลา 2 ชว่ั โมง หกลนมุ่วสยากราะรกเราียรนเรรยี ้ทู น่ี ร5ู้ วิทยาศาสตร์ เรื่อง รกาลยไวกิชาไฟฟเทา้ คแโลนะโอลิเยลี ็ก1ทรอนกิ ส์ ชนั้ มเัธวยลมาศึก2ษาชปวั่ ีทโี่ม1ง กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 10. ครแู ละนักเรียนรรา่วยมวกิชันาสรเปุทปคจัโนจโยั ลทย่สี ี ่งผ1ลต่อการ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 957 หกลนุม่ว่ สยากราะรกเรายี รนเรรยี ู้ทนี่ ร5ู้ วิทยาศาสตร์ เคล1่อื0น. คทรี่ขแู อลงะรนถจักาเรลยี อนงรเ่วชมน่ กันควสารมปุ สปมัจดจลุยั ขทอส่ี งง่ ตผวั ลรตถ่อสกภาราพลอ้ รถ 957 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ขเคนลาอ่ื ดนลทอ้ ี่ขรถองเรปถ็นจตาน้ลอง เชน่ ความสมดุลของตัวรถ สภาพล้อรถ เวลา 2 ชั่วโมง ขนาดล้อรถแผเปน็นกตาน้รจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 เร่ือง ล้อและเพลา ช้ันมเัธวยลมาศึก2ษาชป่ัวที โ่ีม1ง แผนเกราื่อรงจัดกกลาไรกเรไียฟนฟรู้ทา้ แ่ี ล1ะอเิเลร่อืก็ งทรลอ้อนแกิ ลสะ์ เพลา ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 เรื่อง รกาลยไวกิชาไฟฟเทา้ คแโลนะโอลิเยลี ็ก1ทรอนกิ ส์ ขั้น1ส0ร. ปุ ครแู ละนกั เรยี นรรา่วยมวกิชันาสรเปุทปคจัโนจโยั ลทย่ีสี ่งผ1ลต่อการ เคล1อื่.0น. คทรี่ขแู อลงะรนถจกั าเรลียอนงรเ่วชม่นกนัควสารมปุ สปมัจดจลุัยขทอี่สง่งตผัวลรตถ่อสกภาราพลอ้ รถ ขเคนลาอ่ื ดนลทอ้ ี่ขรอถงเรปถ็นจตาน้ลอง เชน่ ความสมดุลของตวั รถ สภาพล้อรถ ขนาดลอ้ รถ เป็นต้น 957 957 969 957957
958 970 958 การวดั และประเมินผล สงิ่ ท่ีต้องการวัด วธิ กี าร เคร่อื งมอื ที่ใช้ เกณฑ์ 1. ดา้ นความรู้ (K) - ใบกจิ กรรมท่ี 5.1 - แบบประเมนิ การคดิ - นกั เรยี นทกุ คน วิจารณญาณ ผา่ นเกณฑ์ไมต่ า่ 1. ออกแบบรถจาลองรถ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม กวา่ รอ้ ยละ 80 - แบบประเมนิ การคิด นักเรียนทกุ คนผา่ น พลงั งานยาง วเิ คราะห์ เกณฑ์ไม่ต่ากวา่ ร้อย - แบบประเมินผงั มโนทัศน์ รล้อะย8ล0ะ 80 2. ทดลอง อธบิ าย กลไกการ - แบบประเมนิ การทางาน ทางานชของล้อและเพลา กลมุ่ - นักเรยี นทกุ คน - แบบประเมินผลด้าน ผ่านเกณฑ์ไม่ต่า 2. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) - สงั เกตพฤติกรรม กระบวนการเรียนร้เู ทียบกบั กวา่ รอ้ ยละ 80 เกณฑ์ 1. ทักษะในการทางาน การเรียนรขู้ อง - นักเรยี นทกุ คน - แบบประเมินผล ดา้ น ผา่ นเกณฑ์ไม่ตา่ รว่ มกนั นักเรยี น คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ กว่าร้อยละ 80 เทยี บกับเกณฑ์ 2. ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ 3. ทักษะการสื่อสาร 4. ทกั ษะการคิดอยา่ งมี วิจารณญาณ 5. ทักษะความคดิ สร้างสรรค์ 3. ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ - สังเกตพฤติกรรม ประสงค์ (A) ของนักเรยี น 1. ซอื่ สตั ยส์ จุ รติ 2. มีวนิ ัย 3. ใฝ่เรยี นรู้ 4. มุ่งมน่ั ในการทางาน
959 971 959 8. บนั ทึกผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปัญหาและอุปสรรค .................................................................................................................................................... ...................... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ......................................ผ้สู อน (...................................................) วันท่ี..........เดอื น..........พ.ศ............. 9. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย ........................................................................................................................................................................... ลงช่อื ......................................ผตู้ รวจ (..................................................) วันท่ี..........เดอื น..........พ.ศ........
972 960 960 ใบความรทู้ ่ี 5.1 เรอื่ ง กลไก (Mechanism) หนว่ ยที่ 5 แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 1 เรือ่ ง ล้อและเพลา รายรวายิชวาิชเาทคเทโคนโนลโยลี ย1ี1รหรหัสสัวชิ วา21ว1201310ภ3าคภเารคียนเรทยี ่ี น2ทชี่ 2ั้นมชธั น้ั ยมมธั ศยกึ มษศาึกปษีทาี่ 1ปีที่ 1 กลไก หมายถึง ส่วนของอุปกรณ์ที่ทาหน้าทส่ี ่งผา่ นการเคล่ือนที่ ทาให้มกี ารเปลยี่ นตาแหน่งจากตน้ ทางไป ยังปลายทางของการเคล่ือนท่ี นอกจากนี้ยังทาหน้าท่ีเปลี่ยนทิศทาง ความเร็ว ลักษณะการเคล่ือนที่ และยังช่วย ผอ่ นแรงทาให้ทางานไดง้ า่ ยขน้ึ หรอื มีประสทิ ธิภาพมากขน้ึ อีกด้วย การทางานของกลไกนั้นต้องอาศัยอุปกรณ์หรือช้ินส่วนเป็นตัวทาให้เกิดการทางานในลักษณะต่างๆ ซึ่งอุปกรณ์แต่ละประเภทก็จะมีหน้าที่ในการทางานท่ีแตกต่างกันไป และจาเป็นอย่างย่ิงที่ต้องควบคุมการทางาน ของกลไกเหล่านั้นเพ่ือให้เปน็ ไปตามความตอ้ งการและวัตถปุ ระสงค์ของการใช้งานในทนี่ จี้ ะยกตัวอยา่ งลอ้ และเพลา ซงึ่ เปน็ กลไกอยา่ งงา่ ยทพี่ บเห็นได้โดยท่ัวไปในชวี ิตประจาวนั ลอ้ ล้อและเพลา เปน็ กลไกอย่างง่ายท่ชี ว่ ยผอ่ นแรงในการทางานประกอบด้วย วัตถทุ เ่ี ปน็ วงกลมหรือทรงกระบอก 2 อันท่ีมีขนาดแตกตา่ งกนั และอย่ตู ดิ กัน โดยวตั ถุ ที่มีขนาดใหญก่ ว่าเรยี กว่าลอ้ และวัตถุที่มขี นาดเล็กกวา่ เรยี กวา่ เพลา เมอ่ื ล้อหรอื เพลาหมนุ จะทาให้อกี ส่วนหมุนตามเรานาหลักการล้อและเพลามาประยุกต์ใชใ้ น เพลา 2 ลักษณะ คือ ลอ้ และเพลา 1. ผอ่ นแรงโดยการหมนุ ล้อ จะทาใหเ้ พลาหมุน เชน่ ไขควง ลกู บิดประตู กวา้ นตักนา้ ท่ีเปิดกระป๋อง พวงมาลยั รถยนต์ เพลา ลอ้ ไขควง เม่ือออกแรงหมนุ ด้ามจบั (ล้อ) ทาใหส้ ว่ น ทต่ี ดิ กบั กา้ นไขควง (เพลา)หหมมุนนุ ตตาามม ลูกบิดประตู กลไกการลอ็ คประตูอยู่ภายในลูกบดิ ซึ่งเป็น การยากในการหมนุ เพลาเพ่ือเปดิ ประตู ดงั นัน้ การเพิ่มส่วน ของดา้ มลูกบดิ (ล้อ)ชว่ ยทาให้งา่ ยในการจับและเปิดประตู
973 961 961 ท่เี ปิดกระป๋อง เมื่อออกแรงหมุนดา้ มจบั ของท่ี เพล ล้อ เปดิ กระป๋อง (ล้อ) ซ่ึงมชี ิ้นส่วนที่เช่ือมต่อกับ ใบมดี (เพลา) ทาให้ใบมดี เปิดกระป๋องหมุน เพลา ล้อ ตาม 2. เมื่อออกแรงหมุนเพลา จะทาใหล้ ้อหมนุ เชน่ พัดลม ลอ้ รถยนต์ พดั ลมกดสวติ ชเ์ ปิดพัดลม ไฟฟา้ ทาให้แกนมอเตอร์(เ(เพพลลาา)) หมุน สง่ ผลให้ใบพดั (ล้อ) ทตี่ ิดอย่กู ับแกนมอเตอรห์ มนุ ตาม เเพพลลา ลอ้ ลอ้ รถยนต์ เคร่ืองยนต์ทาใหเ้ พลาล้อหมนุ สง่ ผลทา ให้ล้อรถยนตห์ มุนตาม รถยนตจ์ งึ เคลอื่ นที่ได้ สว่าน คอื เครอื่ งมือชนิดหนึ่ง ใช้สาหรบั เจาะรบู นวสั ดหุ ลาย ประเภท เปน็ เคร่ืองมือท่ีใชบ้ ่อยในงานไมแ้ ละงาน โลหะ ประกอบด้วยส่วนสาคญั คือดอกสวา่ นท่ีหมุนได้
974 962 962 ใบงานที่ 5.1 เร่อื ง รถพลังงานยาง หนว่ ยท่ี 5 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 เร่ือง ล้อและเพลา รารยาวยชิ วาิชเาทเคทโคนโโนลโยลี ย1ี 1รหรสั หวัสชิ าว2ว121101303ภาภคาเครเยี รนยี ทน่ีท2่ี 2ชั้นชมน้ั ัธมยธั มยศมกึศษกึ าษปาีทปี่ท1ี่ 1 ชอื่ กลุ่ม……………………………………. สมาชกิ ในกลุ่ม 1………………………………………………………….. 2………………………………………………………….. 3………………………………………………………….. 4………………………………………………………….. 1. ให้นักเรยี นยกตัวอยา่ งส่งิ ของรอบตวั ที่ใช้หลักการของล้อและเพลา พร้อมท้งั อธิบายหลกั การทางาน ของสิง่ ของน้ัน ............................................................................................................................. ........................................ .......................................................................................... ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ 2. ใหน้ กั เรียนออกแบบรถจาลองโดยใช้สิง่ ของทีก่ าหนดให้ ดงั นี้ 2.5 เทปใส 1) ไม้เสยี บลกู ชิ้น หรอื ตะเกยี บ 2) หลอดดูด 2.6 ดินน้ามนั 3) หนังยาง 2.7 ลวด หรือเสน้ ดา้ ย 4) กระดาษแขง็ (จากกล่องกระดาษเหลือทิ้ง หรือกระดาษรีไซเคิล) 2.8 กรรไกร แบบรถจาลองรถพลงั งานยาง
975 963 963 แบบบันทกึ การประเมินผ้เู รยี น ด้านความรู้ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรือ่ ง ล้อและเพลา หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เรอื่ ง กลไก ไฟฟา้ และอิเล็กทรอนกิ ส์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ วชิ า เทคโนโลยี 1 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 รายการประเมนิ เลขท่ี ชื่อ-สกุล ออกแบบรถจาลอง ทดลอง อธบิ าย รถพลงั งานยาง กลไกการทางาน ชองลอ้ และเพลา 1 2 3 4 5 เกณฑ์การให้คะแนน ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ 4 คะแนน ระดับ 4 ดมี าก (………….…………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี ครผู ้สู อน 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ 1 คะแนน ระดับ 1 ปรับปรงุ *เกณฑ์การผ่าน ระดับ 2 ขนึ้ ไป
976 964 964 แบบบันทึกการประเมนิ ผเู้ รียน ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 เร่อื ง ล้อและเพลา หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เรื่อง กลไก ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ วิชา เทคโนโลยี 1 ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 รายการประเมนิ เลขท่ี ช่อื -สกุล ทกั ษะในการ ทกั ษะการ ทักษะการ ทักษะการคดิ ทกั ษะ ทางาน คิดวิเคราะห์ สอื่ สาร อยา่ งมี ความคิด ร่วมกนั วิจารณญาณ สร้างสรรค์ 1 2 3 4 5 เกณฑ์การให้คะแนน ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมิน 4 คะแนน ระดับ 4 ดมี าก (………….…………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี ครผู สู้ อน 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ 1 คะแนน ระดับ 1 ปรบั ปรงุ *เกณฑ์การผ่าน ระดับ 2 ขึน้ ไป
977 965 965 แบบบนั ทกึ การประเมนิ ผู้เรียน ดา้ นคณุ ลักษณะ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 เรอ่ื ง ล้อและเพลา หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เร่ือง กลไก ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนิกส์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ วชิ า เทคโนโลยี 1 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 รายการประเมิน เลขที่ ชื่อ-สกุล ซอ่ื สัตย์ มีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ มุง่ มั่นในการ สุจรติ ทางาน 1 2 3 4 5 เกณฑ์การให้คะแนน ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ 4 คะแนน ระดับ 4 ดมี าก (………….…………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี ครผู ู้สอน 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ 1 คะแนน ระดับ 1 ปรับปรงุ *เกณฑ์การผ่าน ระดับ 2 ข้ึนไป
966 แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 2 เร่อื ง จาลองวงจรอิเลก็ ทรอนิกสอ์ ย่างง่าย หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรื่อง วิศวกรนอ้ ย เวลา 2 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ รายวชิ า เทคโนโลยี 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ขอบเขตเนอ้ื หา 1. ไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนิกส์เบ้ืองตน้ สมบัติ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่อื /แหล่งเรยี นรู้ ของตัวต้านทาน หลอด LED แบตเตอร่ี มอเตอร์ ขั้นนา - ใบความรทู้ ี่ 5.2 เรื่อง ไฟฟา้ และอเิ ลก็คทรอนกิ ส์ สวิตซช์ และเพยี โซอเิ ล็กทริค 1. ครกู ระต้นุ ความสนใจของนักเรยี น โดยให้นักเรียนร่วมกัน เบ้ืองต้น จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ตอบคาถามต่อไปนี้ ภาระงาน/ชิ้นงาน ดา้ นความรู้ - นกั เรยี นรจู้ กั ไฟฟา้ หรือไม่ 1. บอกความหมายของไฟฟ้าได้ - ถา้ กรณีที่ไม่มีไฟฟา้ ใช้ เชน่ พน้ื ที่ทข่ี าดแคลนไฟฟา้ หรอื - ใบงานที่ 5.2 เรอ่ื ง ไฟฟ้าและอเิ ลก็คทรอนิกส์ 2. มีความรู้ความเข้าใจหลักการทางานของตัว ต้านทาน หลอด LED แบตเตอรี่ มอเตอร์ สวติ ซช์ ไฟดบั นกั เรียนคดิ วา่ ไฟฟา้ สาคัญกับการดารงชีวติ หรอื ไม่ และเพียโซอเิ ลก็ ทริค แนวคาตอบ (หากไมม่ ีไฟฟา้ จะทาให้เกิดความยากลาบากใน ด้านทกั ษะและกระบวนการ 1. มีทักษะการต่อวงจรอเิ ลก็คทรอนิกสจ์ าลอง การดารงชีวิต เพราะเคร่ืองอานวยความสะดวกต้องใชไ้ ฟฟา้ เป็น ส่วนใหญ่) - นักเรยี นรู้จักอเิ ล็กทรอนกิ ส์หรอื ไม่ เกี่ยวข้องกบั ไฟฟ้า อยา่ งไร แนวคาตอบ (การนาสญั ญาณไฟฟ้าไปใชง้ าน การควบคมุ และออกแบบสญั ญาณไฟฟ้าอุปกรณ์ชน้ิ ส่วนอิเล็กทรอนกิ ส์ท่ี 978 966
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 2 เร่อื ง จาลองวงจรอเิ ล็กทรอนิกส์อยา่ งงา่ ย 967 กหลน่มุ่วสยากราะรกเราียรนเรรียูท้ นี่ ร5ู้ วิทยาศาสตร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2เรอ่ื งเรื่อวงศิ วจการลนอ้องวยงจรอเิ ล็กทรอนิกสอ์ ยา่ งง่าย 967 ดก้าลนมุ่ คสุณารละักกษาณรเระียนรู้ วิทยาศาสตร์ เวลา 2 ชว่ั โมง ดา้ นค1ณุ . ลมักคี ษวาณมะรับผดิ ชอบ ซื่อสัตย์ และมุ่งม่นั รายเรวื่อิชงา วิศเทวคกโรนนโ้อลยยี 1 ชัน้ มเวธั ลยามศึก2ษาชปว่ั ที โ่ีม1ง ในการ1ท.ามงคีานวามรบั ผิดชอบ ซ่อื สตั ย์ และมุ่งม่ัน ทาหนา้ ท่ีควบคุมการทารงาายนวสชิ ัญาญาเณทคไฟโนฟโา้ ลใหยี้ เ1ปน็ ไปตามท่ี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ในการทางาน อทอาหกแนบา้ ทบีค่ไวว้)บคุมการทางานสัญญาณไฟฟ้าให้ เปน็ ไปตามที่ อขอ้ันกสแอบนบไว้) ขน้ั 1ส.อนนักเรยี นศึกษาใบความรู้ที่ 5.2 เรอ่ื ง ไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอ นิก1ส.์เบน้อืักงเรตยี น้ นแศลึกะษสาบืใบคคน้ วขา้อมมรูลู้ทวี่ ง5จ.2รไเฟรอื่ฉงายไอฟยฟา่ ้างแงลา่ ยะจอาิเลกก็ ททรรออนกิ ส์ เอนบินกิ อื้ เสงตเ์ ตบอน้รื้อ์เงนแต็ตลน้ ะสแบืละคส้นืบขคอ้ ้นมขลู อ้ วมงจูลรวไงฟจฉรไาฟยฉอายย่าองยงา่ ยงงจ่าายกจอานิ กเทอรเ์ น็ต อนิ 2เต. คอรรเ์แู นล็ตะนักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายเน้อื หาท่นี กั เรยี นศึกษาจาก ใบ2ค.วคามรแูร้แูลละะนจักาเรกยีกนารรส่วมบื กคนั้นอภิปรายเนือ้ หาทีน่ กั เรยี นศึกษาจาก ใบ3ค.วานมกั รเรู้แียลนะทจาากใบกงาารนสทืบ่ีค5้น.2 เรอ่ื ง ไฟฟ้าและอเิ ลก็คทรอนกิ ส์ เบื้อ3.งตนน้ ักเรยี นทาใบงานท่ี 5.2 เรอ่ื ง ไฟฟ้าและอิเลคทรอนกิ ส์ เบ้อื4.งตคน้รชู ้ีประเด็นว่าไฟฉายเป็นตวั อย่างของวงจรอิเล็กทรอนกิ ส์ อย4่า.งงคา่ รยชู ีป้ทร่เี ปะเลด่ยี น็ นวพา่ ไลฟงั งฉาานยไเฟป็นฟตา้ เวั ปอน็ ยพ่างลขังองางนวงแจสรงอแิเลล็กะทเปรน็อนทิก่ี ส์ นอยยิ ่ามงใงชา่ ก้ ยันทอเี่ยปา่ ลงแย่ี พนพร่หลลังงาายนมไฟีกาฟรา้ พเปัฒ็นนพาลใหงั งป้ ารนะแหสยงัดแพลละังเงปาน็นทมี่าก ขนึน้ิยมใสชาก้ มนั าอรถยใา่ ชงง้แาพนรไ่หดล้ทานยทมานกี ามราพกฒัขนึ้ นาโใดหย้ปกราะรหเปยลดั ย่ี พนลหังลงาอนดมไฟาก แขบึ้นบสไสา้เมปา็นรหถลใชอง้ ดานLไEดD้ทนซทึง่ ากนามรใาชก้งขาน้ึนหโดลยอกดาLรเEปDลจีย่ านเหปลน็ อตดอ้ ไงฟมี ตแบัวตบา้ ไนสม้เปา็นคหวบลอคดุมปLรEิมDาณซก่งึ รกะาแรสใชไฟง้ าฟน้าหไมลใ่อหด้ไหLลEDผา่ จนาหเปลอ็นดต้อLงEมDี มตัวากตเา้ กนินมไาปคเวพบื่อคปุม้อปงกริมันาหณลกอรดะLแEสDไฟเฟสีย้าไหมา่ใยห้ไหลผ่านหลอด LED มากเกินไปเพือ่ ป้องกันหลอด LED เสยี หาย 979 967967
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง จาลองวงจรอเิ ลก็ ทรอนกิ สอ์ ย่างงา่ ย 968 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ เร่ือง วิศวกรนอ้ ย เวลา 2 ชั่วโมง รายวิชา เทคโนโลยี 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ข้นั สรปุ 1. นักเรียนแบ่งกลมุ่ แล้วรว่ มกนั สรุปองค์ความรู้และนาความรู้ ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการออกแบบจาลองไฟฉายโดยใช้หลักการของ ไฟฟ้าเป็นตัวอย่างวงจรอเิ ล็กทรอนิกส์อย่างง่าย 980 968
969 981 969 การวดั และประเมินผล สง่ิ ท่ตี ้องการวดั วิธีการ เครือ่ งมอื ทใี่ ช้ เกณฑ์ 1. ด้านความรู้ (K) - ใบงานท่ี 5.2 - แบบประเมินการคิด - นกั เรียนทกุ คน 1. อธิบาย วจิ ารณญาณ ผ่านเกณฑ์ไม่ตา่ -แบบสังเกตพฤติกรรม กวา่ รอ้ ยละ 80 ความหมายของไฟฟา้ -แบบประเมินการคดิ วเิ คราะห์ นักเรียนทุกคนผ่าน -แบบประเมนิ ผงั มโนทัศน์ เกณฑ์ไม่ต่ากว่าร้อย และอเิ ล็กคทรอนิกส์ -แบบประเมินการทางานกลุม่ รล้อะย8ล0ะ 80 2. อธบิ ายอปุ กรณ์ อเิ ลก็คทรอนิกสเ์ บ้ืองตน้ 2. ด้านทกั ษะ/ - สงั เกตพฤติกรรมการ - แบบประเมนิ ผล - นักเรียนทกุ คน กระบวนการ (P) กเรายี รนเรรีย้ขู นอรง้ขูนอักงเรนียกั นเรยี น ด้านกระบวนการเรยี นรเู้ ทียบกบั ผา่ นเกณฑ์ไมต่ า่ เกณฑ์ กว่าร้อยละ 80 1. ทกั ษะในการ - สงั เกตพฤติกรรมของ นกั เรียน - แบบประเมนิ ผลดา้ น - นักเรียนทุกคน ทางานรว่ มกนั คุณลักษณะอันพึงประสงคเ์ ทียบ ผา่ นเกณฑ์ไม่ตา่ กบั เกณฑ์ กวา่ รอ้ ยละ 80 2. ทกั ษะการคิด วเิ คราะห์ 3. ทักษะการ สื่อสาร 3. ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) 1. ซอ่ื สตั ยส์ ุจริต 2. มุ่งมั่นในการ ทางาน
970 982 970 8. บันทกึ ผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปัญหาและอปุ สรรค ............................................................................................................................. ............................................. ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. .............................................. ลงช่ือ ......................................ผู้สอน (.......................................................) วนั ที.่ .........เดอื น..........พ.ศ............. 9. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงชอ่ื ......................................ผ้ตู รวจ (.......................................................) วนั ท.ี่ .........เดือน..........พ.ศ.........
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 471
Pages: