เน้ือหำ ............................................................................................ .................................................................................... เนื้อหำ ใหร้ ะบุเน้ือหาตามเร่ืองทีจ่ ดั กิจกรรมการเรยี นการสอนให้ชดั เจน ตัวอย่ำง เนื้อหำ คาพ้ืนฐานในระดบั ช้ัน ป.๑ มาตรา แม่ กบ คาว่า “อาบนา้ ” กจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอน ขน้ั นา...................................................................................................................................... ขั้นสอน...................................................................................................................... ................... ขน้ั สรุป………………………………………………………………………………………………………………………………………. กจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอน ให้ระบุกระบวนการจดั กจิ กรรมการเรียนสอนแต่ละขน้ั ตอนตามเนอื้ หา นัน้ ๆ ซง่ึ ประกอบดว้ ย ขน้ั นา ขั้นสอน และขน้ั สรปุ ตัวอยำ่ งขัน้ นำ ข้นั นำ นกั เรยี นดภู าพเดก็ อาบน้า และรว่ มกนั สนทนาเก่ียวกับการทาความสะอาดร่างกาย ขั้นสอน ครใู ช้วิธสี อนโดยใช้ประสาทสมั ผัสหลายดา้ น(Multi Sensory Approach)และการฝึกทักษะย่อย ( Skill Training ) หมายถงึ วิธีสอนอ่านและเขียนเปน็ คา โดยมกี ระบวนการสอนตามลาดับดังนี้ ๑. ครสู รา้ งบตั รคา คาว่า อำบน้ำ โดยใช้วสั ดทุ มี่ ือสัมผสั ไดล้ งบนกระดาษแลว้ ให้เด็กดคู าและ อา่ นใหน้ กั เรียนฟงั พร้อมทั้งใหน้ ักเรยี นอา่ นตาม ๒. นกั เรยี นใช้นวิ้ ลากไปตามตัวอกั ษรทีละตัวท่ีประกอบขนึ้ เปน็ คา อาบน้า พร้อม ท้ังออกเสยี งช่ือช่อื ตวั พยญั ชนะและสระนนั้ และอา่ นคาว่า อำบนำ้ เม่อื ลากครบทุกตัวอักษร( ใบงานที่ ๑ ) ๓. นกั เรยี นทาใบงาน จับคภู่ าพกบั คา ( ภาพอาบน้า กบั คาวา่ อาบนา้ ) พรอ้ มท้งั ระบายสภี าพให้ สวยงามและอ่านคา ท่ีกาหนดให้เรยี นรู้ ( ใบงานท่ี ๒ ) ๔. นักเรยี นทาใบงาน ระบายสคี าด้วยสีท่ีกาหนดและนบั จานวนคาอาบน้าทน่ี กั เรียนระบายสพี ร้อมท้ังอา่ น ใหค้ รฟู งั ( ใบงานที่ ๓ ) ๕. นกั เรยี นอ่านคาว่าอาบน้าตามใบงานทกี่ าหนด และร่วมตรวจสอบกับครวู ่าอ่านถูกต้องกค่ี า ( ใบงานที่ ๔ ) ข้นั สรปุ นกั เรียนนาใบงานท่ีทาท้ังหมดตามแผนการสอนมาร่วมจดั ทาเป็นหนงั สือของฉันและอา่ นใหค้ รูฟัง
ส่ือ /อปุ กรณ์ /สิง่ อำนวยควำมสะดวก/ บริกำร……………………………………………………………………… สอ่ื /อุปกรณ์ /ส่งิ อำนวยควำมสะดวก/ บริกำร ให้ระบุรายการส่อื /อุปกรณ์/สิง่ อานวยความสะดวก / บริการ ทใ่ี ช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ตัวอย่ำง สอื่ /อปุ กรณ์ /สง่ิ อำนวยควำมสะดวก/ บริกำร ๑) ภาพเด็กอาบนา้ ๒) กระดาษทราย ๓) ใบงาน ๔) สไี ม้ ๕) กระดาษกาวยน่ กำรวัดและประเมนิ ผล วธิ กี าร........................................................................................................ เคร่ืองมอื ..................................................................................................... เกณฑ.์ ........................................................................................................ กำรวดั และประเมินผล ให้ระบรุ ายละเอยี ดการวัดและประเมนิ ผลผ้เู รยี นตามแผนการสอน เฉพาะบุคคล ซึ่งประกอบด้วย - วิธีการ ใหร้ ะบวุ ธิ กี ารทผี่ ้สู อนใช้ในการวัดและประเมินผล เชน่ สงั เกต ทดสอบ เป็นตน้ - เคร่อื งมือ ให้ระบุเครื่องมอื ทผ่ี สู้ อนใชใ้ นการวัดและประเมนิ ผลท่สี อดคล้องกบั วิธีการวดั และ ประเมินผล เชน่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม แบบทดสอบ เปน็ ต้น - เกณฑ์ ให้ระบุเกณฑ์การวดั และประเมินผลทผ่ี สู้ อนใชใ้ นการวดั และประเมินผล
ตัวอยำ่ ง กำรวัดผลและประเมินผล ๑. วธิ ีกำร - ทดสอบ - สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ๒. เครือ่ งมือ - แบบทดสอบ - แบบสังเกตการเรียนรู้ ๓. เกณฑ์กำรผำ่ น อา่ นคาวา่ อาบนา้ ไดร้ ้อยละ ๗๐ กำรเสริมแรง................................................................................................................................................ กำรเสริมแรง ให้ระบรุ ายการหรือรายละเอียดท่ใี ช้ในการเสริมแรง เชน่ คาชม การสัมผัส การปรบมือ การให้รางวัล เป็นต้น ตวั อยำ่ ง กำรเสรมิ แรง 1. เบี้ยอรรถกร (สตก๊ิ เกอรโ์ ดเรมี) 2. คาชมเชย ควำมคดิ เหน็ ของผู้บริหำรหรือผูท้ ไ่ี ด้รบั มอบหมำย ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอื่ ......................................................... () ตาแหนง่ .................................................... ……/……./………..
ควำมคิดเหน็ ของผูบ้ ริหำรหรอื ผู้ท่ีได้รับมอบหมำย หลงั จากการออกแบบแผนการสอน เฉพาะบคุ คลแลว้ ใหค้ รผู รู้ บั ผิดชอบนาแผนการสอนเสนอผู้บรหิ ารหรอื ผ้ทู ี่ไดร้ ับมอบหมาย ใหล้ งความเก่ยี วกับแผนการสอนฉบบั นี้ แลว้ จึงใหค้ รผู ้รู ับผิดชอบนาไปจดั การเรยี นการสอนได้ ตวั อย่ำง ควำมคดิ เหน็ ของผู้บริหำรหรือผทู้ ไี่ ด้รบั มอบหมำย ……… เห็นชอบให้ใชแ้ ผนน้ีในการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนได้ โดยในสว่ นของบัตรคาควรมีการ เพมิ่ รหัสสใี นสว่ นของตัว “บ” เพ่อื เพิ่มความสนใจและนาทางแกผ่ เู้ รยี น ลงช่อื ........................................................ (นายคาลือ ชาวนา่ นแท้ ) ตาแหน่ง ผอู้ านวยการโรงเรียนบ้านรมิ นา้ น่าน บนั ทึกหลังกำรสอน ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงช่อื ....................................... …๑๖(…/…พฤษภาคม…./ ๒๕๕๖……) … ครผู รู้ บั ผดิ ชอบ ……/……/…….. บนั ทึกหลงั กำรสอน ใหบ้ นั ทึกผลหลงั การสอนตลอดจนปญั หา อุปสรรค ของผ้เู รยี นทเี่ กดิ ขน้ึ ขณะปฏิบตั ิ กจิ กรรมการเรียนการสอนตามแผนการสอนเฉพาะบคุ คล และข้อเสนอแนะ โดยผูร้ ับผดิ ชอบอาจ จดั ทารปู แบบการบนั ทกึ ให้สะดวกกบั การบันทึกได้
ตวั อย่ำง บันทึกหลังสอน วนั เดอื น ปี ล ระดับคุณภาพการเรยี นรู้ ผลกงารสอน ๐๑ ๒ ๓ ๔ ชื่ อ ๑๖ ผ้เู รยี นสามารถทากจิ กรรมตามใบงานที่ ๑ อยใู่ นระดบั ดี โดยใน พฤษภาคม การทากิจกรรมครตู ้องกระตุ้นเต.ือนทางวาจากับผเู้ รยี น ๒๕๕๖ ใบงานท๒่ี ผู้เรียนสามารถจบั คภู่ .าพกบั คาอยู่ในระดับพอใชค้ รูต้อง กระตนุ้ เตอื นทางวาจากับผเู้ รยี น.เปน็ ระยะ ๑๗ . พฤษภาคม - ผู้เรียนสามารถทากิจกรรมตาม. ใบงานที่ ๓ ได้อย่างรวดเร็ว ๒๕๕๖ และมคี ณุ ภาพอย่ใู นระดบั ดีเยย่ี ม. โดยผเู้ รยี นใหค้ วามรว่ มมือและ ให้ความสนใจมากขนึ้ . - ผเู้ รียนสามารถทากิจกรรมตาม. ใบงานที่ ๔ ได้อยา่ งรวดเร็วและ มีคุณภาพอย่ใู นระดับดเี ยย่ี ม โด.ยผเู้ รยี นใหค้ วามร่วมมอื และให้ ความสนใจมากขน้ึ . . (นางใจดี เมตตา ) ครผู รู้ บั ผิดชอบ ๑๗/พฤษภาคม/๒๕๕๖
กำรวัดและประเมินผลแผนกำรจดั กำรศึกษำเฉพำะบคุ คล กำรวดั และประเมนิ ผลแผนกำรจัดกำรศกึ ษำเฉพำะบคุ คล ๑. จดุ มุ่งหมำยและแนวทำงกำรวัดและประเมินผลผเู้ รยี นเรยี นรวม จากหลกั เกณฑ์และวิธกี ารปรับใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สาหรับ กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ ได้กาหนดคุณภาพที่ต้องการให้เกิดขึ้นแก่ผู้เรียนในระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานทุกคน ครอบคลุมมาตรฐานและตวั ชี้วัด ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ การอ่านคิด วิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะที่พึง ประสงค์ กิจกรรมพฒั นาผู้เรียนในระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน สาหรับผู้เรียนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ การ วัดและประเมินผลจะต้องคานึงถึงปัจจัยความแตกต่างของผู้เรียน อาทิ ผู้เรียนท่ีพิการอาจต้องมีการปรับการ ประเมินผลที่เอ้ือต่อสภาพผู้เรียนท้ังวิธีการและเคร่ืองมือท่ีใช้ หรือ กลุ่มผู้เรียนท่ีมีจุดเน้นเฉพาะด้าน อาจ กาหนดสัดส่วนนา้ หนักคะแนนและวิธกี ารประเมินท่ีให้ความสาคัญแก่ทักษะด้านการปฏิบัติ นอกจากน้ัน การ วัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ควรอยู่บนหลักการพ้ืนฐาน เพ่ือพัฒนาการเรียนรู้ และตัดสินผลการเรียน ควรประเมินเป็นระยะสม่าเสมอเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการปรับปรุงการเรียนการสอนและแก้ไข ข้อบกพร่องต่างๆ สิ่งสาคัญอีกประการท่ีมีผลต่อประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของการวัดและประเมินผล ไดแ้ ก่ วิธกี ารและเคร่อื งมือที่ใช้ในการประเมิน ครูผู้สอนควรให้ความสาคัญในการประเมินตามสภาพจริงด้วย วธิ กี ารทีห่ ลากหลาย เช่น การพูดคุยและใช้คาถาม การสังเกต การสะท้อนการเรียนรู้ การประเมินจากการ ปฏิบัติ การตรวจการบ้าน การแสดงออกในการปฏิบัติงาน การประเมินด้วยแฟ้มสะสมงาน แบบทดสอบ เป็นตน้ เพือ่ ใหท้ ราบว่าผเู้ รยี นบรรลมุ าตรฐาน/ตวั ชี้วัดหรอื มีแนวโน้มวา่ จะบรรลตุ ัวชว้ี ัดเพียงใด และสิ่งเหล่านี้ ควรพจิ ารณาใหเ้ หมาะสมกับผู้เรียนแต่ละกล่มุ เพอ่ื ใหก้ ารวดั และประเมนิ ผลเกดิ ประสิทธิภาพสงู สุด การประเมิน ทดสอบผู้เรียนที่มีความต้องการจาเป็นพิเศษทางการศึกษาให้สอดคล้องกับ หลกั การจดั การศึกษาพเิ ศษสาหรับบุคคลพิการ ผู้ดาเนินการทดสอบต้องจัดบริการช่วยเหลือและอานวยความ สะดวกด้านการประเมินผลให้สอดคล้องกับความต้องการจาเป็นพิเศษทางการศึกษาของคนพิการแต่ละ ประเภทและบุคคล สาหรบั ประเภทและความชว่ ยเหลอื และอานวยความสะดวก โดยทัว่ ไปอาจมีลักษณะดงั น้ี ๑) ด้านรูปแบบของข้อสอบ (Presentation Accommodation) เป็นการปรับเปล่ียน รูปแบบของแบบทดสอบ หรือคาสั่งในการทาแบบทดสอบ เช่น ตัวพิมพ์ที่มีขนาดใหญ่ พิมพ์ด้วยอักษร เบรลล์ แปลเปน็ ภาษามอื อ่านใหฟ้ งั เป็นต้น ๒ ) ด้านวิธีการตอบข้อสอบ (Response Accommodation) เป็นการปรับเปล่ียนวิธีการใน การตอบคาถามในแบบทดสอบ หรือการกระตนุ้ เตือน เช่น การอนุญาตให้นักเรียนระบุคาตอบโดยการชี้หรือ
การใช้ภาษาท่าทาง (gesturing) หรือให้มีเจ้าหน้าท่ีช่วยเขียนคาตอบ (scribe) การบันทึกคาตอบโดยใช้ เทคโนโลยีต่างๆ เป็นต้น ๓) ดา้ นการกาหนดเวลาสอบและตารางสอบ (Timing and Scheduling Accommodation) เป็นการปรับเปลี่ยนเกี่ยวกับเวลาการสอบ หรือตารางการสอบ เช่น ขยายเวลาในการ ทาแบบทดสอบใหม้ ากข้นึ หรอื อนญุ าตใหม้ กี ารหยดุ พกั ในระหวา่ งการทาขอ้ สอบ เป็นต้น ๔) ครผู สู้ อนแต่ละสาระการเรียนรู้อาจจัดบริการชว่ ยเหลอื และอานวยความสะดวก ด้านการประเมนิ ผล ๔.๑) กรณีเด็กอ่านไม่ได้ ให้ใชว้ ธิ ีการอา่ นให้ฟังโดยใชร้ ะยะเวลาการทาข้อสอบเท่าเดิม ๔.๒) กรณเี ดก็ อ่านไมไ่ ด้ เขยี นไมไ่ ด้ ใชว้ ิธีการสอบแบบปากเปล่า ๔.๓) กรณีเด็กเลก็ ให้ทาแบบทดสอบในข้อสอบ กรณีเด็กโตทาในกระดาษคาตอบ ๔.๔) ขนาดของตัวอักษร มีขนาดเหมาะสมกับอายุของเด็ก ๔.๕) ปรบั เกณฑ์ในการสอบ เชน่ เด็กปกติ ร้อยละ ๘๐ เดก็ พเิ ศษ รอ้ ยละ๖๐ ๔.๖) ปรับแบบทดสอบ เช่น จากทมี่ หี ลายตัวเลอื ก อาจจะเป็น แบบให้เลือก ถูก ผดิ ๔.๗) ปรบั เนือ้ หาขอ้ สอบ เช่น แบง่ ข้อสอบเปน็ ขนั้ ตอนแยกยอ่ ย ๔.๘) ใชว้ ธิ กี ารจบั คใู่ นการอา่ นข้อสอบ ๔.๙) เพ่ิมช้นิ งานให้เดก็ เพื่อเพมิ่ คะแนน ๔.๑๐) ลดคะแนนสอบข้อเขยี น เพม่ิ คะแนนการสอบปฏิบัติ ๔.๑๑) ในการทาแบบทดสอบอาจจะมสี ่งิ ท่เี ด็กชอบใชเ้ สรมิ แรงในการสอบ ๔.๑๒) คาถามท่ใี ช้ ควรเป็นคาถามไม่ซบั ซ้อน และตรงประเด็น ๔.๑๓) ตัวเลือกในแบบทดสอบ ควรแตกต่างกนั อยา่ งชดั เจน ๔.๑๔) แยกข้อสอบตามศกั ยภาพของแตล่ ะบคุ คล ๒. กำรให้ควำมช่วยเหลือและอำนวยควำมสะดวกดำ้ นกำรสอบและกำรประเมินผล มีหลกั การดังน้ี การให้ความช่วยเหลอื และอานวยความสะดวกดา้ นการสอบและการประเมินผล มหี ลกั การดงั นี้ ๑) เป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนพิการหรือบกพร่อง สามารถเข้าถึงการเรียน การสอนหรอื การสอบ แต่ตอ้ งไม่เป็นการเออ้ื ประโยชนท์ ไ่ี มเ่ ปน็ ธรรมแก่ผู้เรียนดังกล่าว ๒) เป็นการเปล่ียนแปลงวิธีการในการเข้าถึงการเรียนการสอน และการประเมินผล การเรียนของผู้เรียน โดยไม่เปล่ียนแปลงมาตรฐานในการปฏิบัติงาน หรือการสอบของผู้เรียน เป้าหมาย สาคญั คือ หาวธิ กี ารท่ีเหมาะสมในการสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงการเรียนการสอนและการสอบ โดย ไม่ปรบั มาตรฐาน
๓) การช่วยเหลือและอานวยความสะดวกทั้งหมดท่ีร้องขอ เพ่ือใช้สาหรับผู้เรียนใน การทดสอบระดับประเทศ ต้องมีการบันทึกไว้ในแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (Individualized Education Program : IEP) ท่ีใช้อยู่ในปัจจุบันของผู้เรียน และต้องเป็นส่ิงท่ีปรากฏอยู่ในรายการช่วยเหลือ และอานวยความสะดวก ทไ่ี ดร้ ับอนุญาตให้ใช้ได้ ๔) ผู้เรียนท่ีต้องการบริการด้านการเอ้ือตามสภาพของผู้เรียน มีความต้องการโอกาส ในการเรียนรู้ การใช้การเอ้ือตามสภาพผูเ้ รียนในบริบทของห้องเรียนและมีความต้องการจาเป็นในการเอ้ือตาม สภาพผูเ้ รยี นในการทดสอบ โดยเง่ือนไขหรือข้อกาหนดในการทดสอบในห้องเรียนควรใกล้เคียงกับการสอบใน ระดับชาติมากท่ีสุดเท่าที่จะมากได้ เพ่ือช่วยเพิ่มความสบายใจให้กับผู้เรียนซ่ึงจะส่งผลต่อการทาแบบทดสอบ ของผู้เรยี น ๕) สิ่งสาคัญประการหนึ่งที่พึงระลึกคือ การช่วยเหลืออานวยความสะดวก อย่างเดียวกันที่ใช้ในการเรียนการสอนหรือการทดสอบในช้ันเรียน อาจไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในการทดสอบ ระดบั ชาติ ๓. กำรกำกับดแู ลคณุ ภำพกำรศึกษำ การตรวจสอบคุณภาพผเู้ รียนตามความคาดหวังของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ กาหนดให้มกี ารวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๔ ระดับ ได้แก่ ระดับชั้นเรยี น ระดบั สถานศึกษา ระดับเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษา และระดบั ชาติ ทุกระดับมเี จตนารมณ์เชน่ เดียวกนั คอื ตรวจสอบความกา้ วหนา้ ในการเรียนรขู้ องผูเ้ รยี น เพอ่ื นาผลการประเมนิ มาใชเ้ ป็นขอ้ มูลในการพฒั นาอยา่ ง ต่อเนอื่ ง ๑) การประเมนิ ระดับช้ันเรยี น การวัดและประเมินผลในชั้นเรียนเป็นการวัดและประเมินผลท่ีอยู่ในกระบวนการจัดการ เรยี นรู้ ผ้สู อนดาเนนิ การเพื่อพัฒนาผเู้ รยี นและตดั สินผลการเรียนในรายวิชา/กิจกรรมท่ีสอน ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การซักถาม การตรวจการบ้าน การแสดงออกในการปฏิบัติผลงาน เป็นต้น เพ่ือพิจารณาว่าบรรลุ ตัวช้ีวัดหรือมีแนวโน้มว่าจะบรรลุตัวชี้วัดเพียงใดแล้วแก้ไขข้อบกพร่องเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมี วัตถุประสงค์เพ่ือเก็บคะแนนของหน่วยการเรียนรู้ เป็นการประเมินผลกลางภาคตามรูปแบบที่สถานศึกษา กาหนด ผลการประเมินอาจเป็นคะแนนหรือระดับผลการเรียน สามารถนามาเป็นข้อมูลใช้ปรับปรุงการเรียน การสอนต่อไปอกี ด้วย สาหรับผ้เู รียนพิการเรียนร่วม สามารถประเมนิ ตามตัวชี้วัดท่ีกาหนดเปน็ เป้าหมายในแต่ ละหน่วยการเรียนรู้ ด้วยวิธีการต่างกับผู้เรียนท่ัวไป โดยปรับวิธีการ เคร่ืองมือ เวลาและสถานที่ตามสภาพ ความต้องการจาเป็นพิเศษทางการศึกษาของผู้เรียนเฉพาะบุคคลตามที่ระบุไว้ในแผนการจัดการศึกษาเฉพาะ บุคคล (IEP) และนาผลการประเมินไปใช้ในการปรับแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลเม่ือพบว่าผู้เรียนไม่ บรรลตุ ามเป้าหมายท่กี าหนด หรือ ผูเ้ รยี นเรียนร้ไู ม่เต็มศกั ยภาพ
๒ ) การประเมินระดบั สถานศกึ ษา การประเมนิ ระดบั สถานศกึ ษาเป็นการตรวจสอบผลการเรียนของผู้เรียนตามกลุ่มสาระการ เรียนรู้รายปี/รายภาค การอ่าน คิดวิเคราะห์ และการเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์และกิจกรรมพัฒนา ผ้เู รียน การอนมุ ัติผลการเรยี น การตดั สนิ การเล่ือนชน้ั เรียน นอกจากน้ันสถานศึกษาควรนาผลการประเมิน ไปใช้ในการปรับปรุงนโยบาย รูปแบบ วิธีการจัดการศึกษาพิเศษ ตลอดจนบริการทางการศึกษาพิเศษที่ สถานศึกษาจดั ใหผ้ ้เู รยี น และต้องประเมินเปน็ รายบคุ คล ไม่นาไปเปรียบเทียบกบั ผเู้ รียนคนอ่ืน ซ่ึงการประเมนิ ผลสัมฤทธิ์การเรียนรขู้ องผูเ้ รยี นอาจกาหนดรายละเอยี ดเพื่อนาไปเทียบเคียงเป็นระดับผล การเรียนได้ เชน่ ระดบั ผลกำรเรยี น รอ้ ยละ ๕ ระดับ ระดบั คณุ ภำพ ๒ ระดับ ดเี ยย่ี ม ๔ ระดับ ๔ ๘๐-๑๐๐ ดี ๓.๕ ๗๕-๗๙ ดีเยย่ี ม ๓ ๗๐-๗๔ พอใช้ ๒.๕ ๖๕-๖๙ ดี ๒ ๖๐-๖๔ ผา่ น ผ่าน ๑.๕ ๕๕-๕๙ ไมผ่ า่ น ๑ ๕๐-๕๔ ผ่าน ๐ ๐-๔๙ ไม่ผา่ น ไม่ผา่ น ๓) การประเมนิ ระดบั สานักงานเขตพื้นท่กี ารศึกษา การประเมินระดับสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาเป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนตาม มาตรฐานการเรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และจัดให้ผู้เรียนพิการ เข้ารับการประเมินพร้อมกับผู้เรียนทั่วไป แต่สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาต้องกาหนดรายละเอียดให้ ผู้ดาเนนิ การทดสอบจดั บริการชว่ ยเหลือและอานวยความสะดวกดา้ นการทดสอบให้สอดคล้องกับความต้องการ จาเป็นพิเศษทางการศึกษาของผู้เรียนพิการแต่ละบุคคล และต้องระบุไว้ในแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล จึงมีสิทธิได้รับบริการช่วยเหลือและอานวยความสะดวกด้านการทดสอบและไม่นาผลการประเมินไปวิเคราะห์ รวมกับผู้เรียนท่ัวไป ๔) การประเมินระดับชาติ การประเมินระดับชาติเป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับชาติ ตามมาตรฐานการ เรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนทุกคนท่ี เรียนในช้ันประถมศึกษาปีที่ ๓ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๓ และช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๖ สาหรับการดาเนินการทดสอบและประเมินผู้เรียนพิการในโรงเรียนเรียนร่วม ควรมีแนวทางเช่นเดียวกับการ ประเมินระดับเขตพ้ืนท่ีการศึกษา แต่นาผลการประเมินไปวิเคราะห์ จาแนกตามรูปแบบ หรือประเภท
การศกึ ษาให้ครอบคลมุ เพ่ือนาไปใช้ในการวางแผนยกระดับคุณภาพการศึกษา ตลอดจนเป็นข้อมูลสนับสนุน การตดั สินใจในระดบั นโยบายของประเทศ เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาตามศักยภาพพื้นฐานความแตกต่างระหว่าง บุคคลที่จาแนกตามสภาพปัญหา และความต้องการได้แก่ กลุ่มผู้เรียนทั่วไป กลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถ พเิ ศษ กลมุ่ ผูเ้ รยี นทม่ี ีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่า กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหาด้านวินัยและพฤติกรรม กลุ่มผู้เรียนท่ี ปฏิเสธโรงเรียน กลุ่มผู้เรียนท่ีมีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มผู้เรียนที่พิการทางร่างกายและสติปัญญา เป็นต้น ข้อมูลจากการประเมินจึงเป็นหัวใจในการดาเนินการช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงที อันเป็นโอกาสให้ ผูเ้ รยี นได้รบั การพฒั นาและประสบความสาเรจ็ ในการเรียน ๔. กำรจดั ทำระเบยี บว่ำด้วยกำรวดั และประเมินผลกำรเรียนของสถำนศกึ ษำ สถานศึกษาต้องเชื่อมโยงกับการเรียนรู้ให้เป็นกระบวนการเดียวกัน ให้ครอบคลุม สามารถวัด และประเมินผลผู้เรียนได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย ดังน้ันสาระของระเบียบดังกล่าวต้องกาหนด บนพื้นฐานของ นโยบายด้านการจัดการศึกษาของประเทศ จุดเน้นของสถานศึกษาและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตร สถานศึกษา การจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ให้เด็กทุกคนที่กาหนดไว้ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๔๒ แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๑๐ วรรค ๒ มาตรา ๒๘ และพระราชบัญญัติ การจัดการศึกษาสาหรับคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๕ พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๑๒ เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย นโยบายการจัดการศึกษาสาหรับกลุ่มเป้าหมาย เฉพาะ ดังนั้น สถานศึกษาต้องกาหนดสาระของการวัดประเมินผลผู้เรียนให้ครอบคลุมลักษณะการจัด การศึกษาของสถานศกึ ษารวมถงึ ผู้เรยี นพกิ ารเรียนรว่ มเปน็ การเฉพาะ ซงึ่ ควรมรี ายละเอียด ดังตอ่ ไปนี้ ๑) แนวการวัดและประเมนิ ผลผเู้ รียนเรียนรวม สถานศึกษาต้องจัดทาแนวทางการวัดและ ประเมนิ ผลตามหลกั สตู รสถานศึกษาให้ครอบคลุมผเู้ รียนทุกประเภท รวมท้ังผเู้ รยี นท่ีมีความต้องการจาเปน็ พเิ ศษทางการศึกษา หรอื จดั ทาควบค่กู ับระเบยี บการวัดประเมินผลของสถานศกึ ษาตามหลักสูตรแกนกลาง การศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ๒) การให้ระดับผลการเรียนสาหรับผู้เรียนเรียนร่วมให้เทียบเคียงเกณฑ์ระดับคะแนนแต่ละ ระดับผลการเรียนตามท่ีระบุไว้ในระเบียบการวัดและประเมินผลผู้เรียนตามหลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐานโดย การปรับวธิ ีการ วดั ประเมินผลทีเ่ ออ้ื ต่อสภาพผ้เู รียน ดา้ นเวลาสอบ วธิ กี ารตอบประเมิน สถานที่ หรือจัดส่ิง อานวยความสะดวกในการทาแบบทดสอบ ๓) สถานศึกษาควรมีการติดตาม กากับ ดูแล ให้ครูประจาช้ัน ครูผู้สอน กลุ่มสาระการ เรียนรู้ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการ ในการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) การจัดการ เรยี นรู้ การวดั ประเมินผลใหเ้ กดิ ประโยชน์สงู สุดแก่ผ้เู รียน ๔) ผู้สอนหรือสถานศึกษาควรนาเป้าหมายระยะยาว และระยะส้ัน (จุดประสงค์เชิง พฤติกรรม) ในการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) ให้นาไปเทียบเคียงกับตัวช้ีวัดช้ันปี / ราย ภาค ในกลมุ่ สาระวชิ า กจิ กรรมนน้ั ๆ เพอ่ื ปรับเอกสารการวัดประเมนิ ผลทเ่ี กี่ยวขอ้ ง ๕) การวัดและประเมินผลผู้เรียนให้วัดตามจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมท่ีกาหนดไว้ในจัดทา แผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) และแผนการสอนเฉพาะบุคคล (IIP) ใหด้ าเนนิ การดังนี้
๕.๑ กรณีเด็กพิการรนุ แรง มีปญั หาไมส่ ามารถเรียนในสาระการเรียนร/ู้ รายวชิ าใด ให้ประเมินผลตามจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมที่กาหนดไว้ในแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) และ แผนการสอนเฉพาะบุคคล (IIP) โดยเป็นการประเมินเฉพาะบคุ คลไม่ตอ้ งเปรียบเทยี บกบั เด็กปกติ ๕.๒ กรณีเด็กพิการเรียนร่วมกับเด็กท่ัวไปในบางาระการเรียนรู้/รายวิชาใด ให้ใช้ เกณฑป์ ระเมินผลในสาระการเรยี นรนู้ ั้นๆ ตามปกติ แต่ต้องพิจารณาปรับวิธีการสอบ การกาหนดเวลาและใน วชิ าทีป่ รบั เปลี่ยนจะต้องมกี ารสอนที่สอดคล้องในชน้ั เรยี น ๖) การรายงานผลการสอนนั้น โรงเรยี นตอ้ งรายงานผลความก้าวหน้าของนกั เรียนตามท่ี กาหนดไวใ้ นแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบคุ คลและแผนการสอนเฉพาะบุคคลเปน็ ระยะๆ และให้นารายงาน ดงั กลา่ วแนบผลการเรียนในแต่ละภาคเรียน เพื่อใหผ้ ปู้ กครอง ผ้ทู ี่เกี่ยวข้องรับทราบด้วย ๗) การกาหนดเกณฑก์ ารเลื่อนช้ันผ้เู รียน ใหใ้ ชแ้ นวปฏิบตั ิการวัดผลของสถานศึกษา ๘) ขั้นตอนหลักเกณฑ์วธิ ีการใดๆ ท่ไี มไ่ ดร้ ะบุไวใ้ นแนวทางการวดั ประเมนิ ผลผเู้ รียนให้ปฏบิ ตั ิตาม ระเบียบ การวดั และประเมินผลของสถานศึกษาทใ่ี ชก้ บั ผู้เรียนทั่วไป ๙) ใหส้ ถานศึกษานาผลการประเมนิ ผลผู้เรยี นไปปรับปรุง การจดั การเรยี นการสอน ปรบั แผนจดั ทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) ให้เปน็ ไปตามหลักการการจัดการศึกษาพิเศษ และมงุ่ พัฒนาผูเ้ รียนใหเ้ ตม็ ศกั ยภาพ ๑๐) การสง่ ต่อผูเ้ รยี นท่ีจบการศกึ ษาแตล่ ะระดับ หรือยา้ ยสถานศกึ ษาให้ดาเนินการตามขอ้ ๗ ในประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจดั ทาจดั ทาแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล ระดับการศึกษา ข้ันพ้ืนฐาน พ.ศ. ๒๕๕๒ ๑๑) ใหส้ ถานศึกษานาแนวทางการวัดประเมินผลผเู้ รียน เสนอต่อคณะกรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐานใหค้ วามเห็นชอบก่อนประกาศใช้
ตวั อยำ่ งแผนกำรจดั กำรศึกษำเฉพำะบคุ คล แผนกำรสอนเฉพำะบคุ คล และกำรวดั และประเมนิ ผลแผนกำรจดั กำรศกึ ษำเฉพำะบุคคล แผนกำรจดั กำรศกึ ษำเฉพำะบุคคล (Individualized Education Program : IEP) ช่อื สถานศกึ ษา โรงเรยี นบา้ นรมิ น้าน่าน ระดบั ชั้น ป. ๓ สังกัด สานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศึกษานา่ น เขต ๑ เริ่มใช้แผน วนั ท่ี ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๖ สิ้นสุดแผน วันท่ี ๓๑ มนี าคม ๒๕๕๗ ๑. ข้อมลู ทั่วไป ช่ือ-ชอื่ สกุล ด.ญ.ลลี า ขาวใส เพศ ชาย หญงิ เลขประจาตัวประชาชน ๑- ๑๐๐๑-๐๐๑๐๑ – ๐๐-๑ การจดทะเบยี นคนพิการ ไม่จด ยงั ไมจ่ ด จดแล้ว วัน/เดือน/ปเี กดิ ๑ มถิ นุ ายน ๒๕๔๖ อายุ ๙ ปี ๑๑ เดอื น ศาสนา พทุ ธ ประเภทความพกิ าร บคุ คลทีม่ ีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ลักษณะความพิการ ปัญหาดา้ นการอา่ น เขียน และคณติ ศาสตรเ์ รือ่ งการบวก ลบ เลข ชื่อ – ชอื่ สกลุ บดิ า นายราพนั ขาวใส ชอ่ื – ชอ่ื สกุลมารดา นางมาลา ขาวใส ชื่อ – ชอ่ื สกลุ ผูป้ กครอง นางมาลา ขาวใส เก่ียวข้องเป็น มารดา ท่ีอยูผ่ ปู้ กครองท่ตี ิดต่อได้บ้านเลขที่ ๓ ซอย - หมู่ท่ี ๑๑ ถนน น่าน - พะเยา ตาบลไชยสถาน อาเภอเมือง จังหวัดนา่ น รหสั ไปรษณีย์ ๕๕๐๐๐ โทรศัพท์ ๐๕๔-๗๗๕๖๙๐ โทรศพั ท์เคลื่อนที่ - โทรสาร - e-mail address - ๒. ข้อมูลดา้ นการแพทย์หรือดา้ นสขุ ภาพ โรคประจาตัว (ระบุ) โรคหอบหดื ประวตั กิ ารแพย้ า (ระบ)ุ ................….................................................................................. โรคภูมิแพ้ (ระบ)ุ .....................…….................................................................................. ขอ้ จากดั อื่นๆ (ระบ)ุ ............................……........................................................................ ผลการตรวจทางการแพทย์ (ระบุ) แพทย์วนิ จิ ฉัยว่าเปน็ เด็กทม่ี ีความบกพร่องทางการเรียนรแู้ ละมี ภาวะสมาธสิ ้ันร่วมดว้ ย
๓. ขอ้ มูลดา้ นการศึกษา ไม่เคยไดร้ บั การศึกษา / บริการทางการศกึ ษา เคยได้รบั การศึกษา / บริการทางการศึกษาจาก ศนู ย์การศึกษาพิเศษ…………………………….. ระดบั ……………………..พ.ศ…...……..…. โรงเรยี นเฉพาะความพกิ าร…………………….. ระดบั ……………………..พ.ศ…………….. โรงเรียนเรียนร่วม โรงเรียนบา้ นริมน้าน่าน ระดบั ป.๒ พ.ศ. ๒๕๕๕ การศกึ ษาดา้ นอาชพี ……..………….………….. ระดบั ……………………..พ.ศ…………….. การศึกษานอกระบบ…….………….………….. ระดับ……………………..พ.ศ…………….. การศกึ ษาตามอธั ยาศัย…...………….……….. ระดบั ……………………..พ.ศ…………….. อ่นื ๆ……………………...………….…….……….. ระดับ……………………..พ.ศ……………. ๔. ข้อมลู อน่ื ๆทจี่ าเปน็ ๑) พอ่ แมแ่ ยกกนั อยู่ ๒) มีความสามารถในการวาดรปู และสนใจดา้ นศิลปะเปน็ อย่างมาก ๓) มนี า้ ใจ ชอบช่วยเหลอื ครู และเพื่อน ๔) เม่อื สาเรจ็ การศกึ ษาระดับประถมศกึ ษา ตอ้ งการศกึ ษาต่อในระดบั มธั ยมศกึ ษา
๕. การกาหนดแนวทางการศึกษาและการวางแผนการจดั การศึกษาพเิ ระดบั ควำมสำมำรถในปจั จบุ ัน เป้ำหมำยระย กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย สาระที่ ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพือ่ นาไปใช้ตดั สินใจ แก้ปญั หาในการดาเนินชีวิต และมีนสิ ัยรักการอา่ น ป.๑ ตวั ชว้ี ดั ๑ การอ่านออกเสยี งคา คาคลอ้ งจองและข้อความสนั้ ๆ ตวั ช้วี ดั ๒ บอกความหมายของคาและขอ้ ความทอ่ี ่าน จดุ เด่น ๑.สามารถบอกช่อื พยัญชนะ ก - ฮ โดยให้ดูแบบส่มุ ไดถ้ กู ต้อง ๔๔ ตัว ๒.สามารถอา่ นคาพื้นฐานหนงั สอื ภาษาไทยระดับชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ แม่ ก กา ได้ จดุ ดอ้ ย ภายในวนั ที่ ๓๑ ๑. ไม่สามารถอ่านคาพนื้ ฐานในระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ ทม่ี ีตวั สะกด ๒๕๕๗ เด็กหญงิ ทง้ั ๘ แม่ ตรงตามมาตราได้ ( แม่ กน กก กม กง กบ อ่านคาพนื้ ฐานใน กด เกย เกอว ) ๑ ทม่ี ีตัวสะกดตร ในแม่ กบ กด กน ได้ ๑๐๐
เศษ เกณฑแ์ ละวธิ กี ำร ผูร้ ับผิดชอบ ประเมนิ ผล ยะเวลำ ๑ ปี จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม (เปำ้ หมำยระยะส้ัน) ๑ มีนาคม วธิ ีการ/เครอ่ื งมอื การ นางใจดี งลลี า สามารถ ประเมนิ เมตตา นระดบั ชนั้ ป. ๑.ภายในวนั ท่ี ๓๑ กรกฎาคม ทดสอบ/แบบทดสอบ ครปู ระจากลุ่ม รงตามมาตรา พ.ศ.๒๕๕๖ เม่ือให้อ่านคา เกณฑก์ ารผ่าน สาระการเรียนรู้ ด กก กม พ้นื ฐานในระดบั ชน้ั ป. ๑ ทม่ี ี ร้อยละ ๗๐ ภาษาไทย ตัวสะกดตรงตามมาตรา ใน คา แม่ กบ จานวน ๒๐ คา
ระดับควำมสำมำรถในปัจจบุ ัน เปำ้ หมำยระยะเ
เวลำ ๑ ปี จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม เกณฑแ์ ละวิธีกำร ผู้รบั ผิดชอบ (เปำ้ หมำยระยะส้นั ) ประเมินผล นางใจดี เมตตา แบบสมุ่ เดก็ หญงิ ลลี า วิธกี าร/เคร่อื งมือการ ครปู ระจากลุ่ม สาระการเรยี นรู้ สามารถอา่ นได้ถูกต้อง ประเมนิ ภาษาไทย ๒.ภายในวนั ที่ ๓๐ กนั ยายน ทดสอบ/แบบทดสอบ พ.ศ.๒๕๕๖เมื่อให้อา่ นคา เกณฑ์การผ่าน พ้ืนฐานในระดบั ชัน้ ป. ๑ ท่ี รอ้ ยละ ๗๐ มีตวั สะกดตรงตามมาตรา ในแม่ กด จานวน ๒๐ คา แบบสุ่ม เดก็ หญิงลีลา สามารถอ่านได้ถกู ต้อง ๓. ภายในวันท่ี ๓๐ วธิ กี าร/เคร่ืองมือการ นางใจดี เมตตา พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๖ ประเมิน ครูประจากลุ่ม สาระการเรียนรู้ เมื่อให้อ่านคาพ้นื ฐานใน ทดสอบ/แบบทดสอบ ภาษาไทย ระดบั ชน้ั ป. ๑ ทม่ี ตี วั สะกด เกณฑ์การผา่ น ตรงตามมาตรา ในแม่ กก รอ้ ยละ ๗๐ จานวน ๒๐ คา แบบส่มุ เด็กหญิงลีลา สามารถอา่ น ได้ถูกตอ้ งทกุ คา
ระดับควำมสำมำรถในปัจจบุ ัน เปำ้ หมำยระยะเว
วลำ ๑ ปี จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม เกณฑแ์ ละวิธกี ำร ผู้รับผิดชอบ (เป้ำหมำยระยะสัน้ ) ประเมินผล นางใจดี เมตตา ๔.ภายในวนั ท่ี ๓๑ มกราคม วธิ กี าร/เคร่อื งมือการ ครูประจากลุ่ม สาระการเรียนรู้ พ.ศ.๒๕๕๗เมื่อให้อ่านคา ประเมนิ ภาษาไทย พ้ืนฐานในระดบั ช้นั ป.๑ ที่มี ทดสอบ/แบบทดสอบ ตัวสะกดตรงตามมาตรา ใน เกณฑ์การผา่ น แม่ กม จานวน ๒๐ คา ร้อยละ ๗๐ แบบสมุ่ เด็กหญิงลลี า สามารถอ่านได้ถูกต้อง ๕.ภายในวันท่ี ๓๑ มีนาคม วธิ ีการ/เครอ่ื งมือการ นางใจดี พ.ศ.๒๕๕๗ เม่ือใหอ้ ่านคา ประเมิน เมตตา พนื้ ฐานในระดบั ชั้น ป. ๑ ที่ ทดสอบ/แบบทดสอบ ครปู ระจากลุ่ม มีตวั สะกดตรงตามมาตรา เกณฑ์การผ่าน สาระการเรียนรู้ ในแม่ กน จานวน ๒๐ รอ้ ยละ ๗๐ ภาษาไทย คา แบบสุ่ม เดก็ หญิงลลี า สามารถอา่ นได้ถูกต้อง
ระดับควำมสำมำรถในปัจจบุ ัน เป้ำหมำยระยะเวล สำระที่ ๒ กำรเขยี น ภายในวันท่ี ๓๑ มีน มำตรฐำน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียน เขียนส่ือสาร เขยี น ๒๕๕๖ เดก็ หญงิ ลีลา เรียงความ ยอ่ ความ และเขียนเร่อื งราวในรูปแบบต่างๆ เขียน สามารถเขียนคาพนื้ ฐ รายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอย่างมี ระดับช้นั ป. ๑ ทม่ี ประสิทธภิ าพ ตรงตามมาตราในแม ป.๑ กด กก กม กน ตวั ชว้ี ัด ๑.คดั ลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทดั ๑๐๐ คา ตวั ช้วี ดั ๒.เขียนสอ่ื สารดว้ ยคาและประโยคง่ายๆ จุดเด่น ๑.สามารถเขยี นพยัญชนะ ก - ฮ ตามคาบอกแบบสมุ่ ได้ ๒.สามารถเขียนคาพ้นื ฐานหนังสือภาษาไทยระดับชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ แม่ ก กา ได้ จุดออ่ น ๑. ไมส่ ามารถเขียนคาพืน้ ฐานในระดบั ช้นั ป. ๑ ท่ีมตี วั สะกดท้งั ๘ แม่ ตรงตามมาตราได้ (แม่ กน กก กม กง กบ กด เกย เกอว )
ลำ ๑ ปี จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม เกณฑแ์ ละวธิ ีกำร ผรู้ บั ผิดชอบ (เป้ำหมำยระยะสน้ั ) ประเมินผล นาคม ๑.ภายในวนั ท่ี ๓๑ กรกฎาคม วธิ ีการ/เครอ่ื งมือการ นางใจดี า ๒๕๕๖ เม่อื ให้เขยี นคาพืน้ ฐาน ประเมิน เมตตา ฐานใน ในระดับชนั้ ทดสอบ/ ครปู ระจากลุ่ม มีตัวสะกด ป. ๑ ทมี่ ีตวั สะกดตรงตาม แบบทดสอบ สาระการเรยี นรู้ ม่ กบ มาตรา ในแม่ กบ จานวน เกณฑ์การผา่ น ภาษาไทย ได้ ๒๐ คา ตามคาบอกแบบสุ่ม ร้อยละ ๗๐ เดก็ หญิงลลี า สามารถเขียนได้ ถูกต้อง
ระดบั ควำมสำมำรถในปจั จุบัน เปำ้ หมำยระยะเวล
ลำ ๑ ปี จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม เกณฑแ์ ละวิธกี ำร ผูร้ บั ผดิ ชอบ (เปำ้ หมำยระยะสน้ั ) ประเมินผล ๒. ภายในวนั ที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ เมอ่ื ให้ วิธกี าร/เครื่องมือการ นางใจดี เขยี นคาพน้ื ฐานในระดับช้ัน ประเมิน เมตตา ป. ๑ ทม่ี ตี ัวสะกดตรงตาม ทดสอบ/ ครูประจากลุ่ม มาตรา ในแม่ กด จานวน แบบทดสอบ สาระการเรยี นรู้ ๒๐ คา ตามคาบอกแบบสมุ่ เกณฑ์การผา่ น ภาษาไทย เดก็ หญงิ ลีลา สามารถเขียน รอ้ ยละ ๗๐ ไดถ้ ูกต้อง ๓. ภายในวันที่ ๓๐ วธิ ีการ/เครอื่ งมือการ นางใจดี พฤศจิกายน ๒๕๕๖ เม่ือให้ ประเมนิ เมตตา เขียนคาพืน้ ฐานในระดับชน้ั ทดสอบ/ ครปู ระจากลุ่ม ป. ๑ ที่มตี ัวสะกดตรงตาม แบบทดสอบ สาระการเรียนรู้ มาตรา ใน แม่ กก เกณฑ์การผา่ น ภาษาไทย จานวน ๒๐ คา ตามคาบอก ร้อยละ ๗๐ แบบสุม่ เดก็ หญงิ ลลี า สามารถเขยี นไดถ้ ูกต้อง
ระดบั ควำมสำมำรถในปจั จบุ ัน เปำ้ หมำยระยะเวลำ
ำ ๑ ปี จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม เกณฑ์และวิธกี ำร ผ้รู บั ผิดชอบ (เปำ้ หมำยระยะสนั้ ) ประเมนิ ผล ๑. ๒. ๔ . ภายในวนั ท่ี ๓๑ วธิ กี าร/เครื่องมือการ นางใจดี มกราคม ๒๕๕๗ เมื่อให้ ประเมนิ เมตตา เขียนคาพืน้ ฐานในระดับช้นั ทดสอบ/แบบทดสอบ ครปู ระจากลุ่ม ป. ๑ ท่ีมีตัวสะกดตรงตาม เกณฑ์การผา่ น สาระการเรยี นรู้ มาตรา ในแม่ กม ร้อยละ ๗๐ ภาษาไทย จานวน ๒๐ คา ตามคา บอกแบบส่มุ เดก็ หญิงลลี า สามารถเขียนไดถ้ ูกต้อง ๕.ภายในวันที่ ๓๑ มนี าคม วิธีการ/เคร่อื งมือการ นางใจดี ๒๕๕๗ เมื่อให้เขียนคา ประเมินทดสอบ/ เมตตา พนื้ ฐานในระดบั ชั้น ป. ๑ ที่ แบบทดสอบ ครปู ระจากลุ่ม มตี วั สะกดตรงตามมาตรา เกณฑ์การผา่ น สาระการเรียนรู้ ในแม่ กน จานวน ๒๐ คา ร้อยละ ๗๐ ภาษาไทย ตามคาบอกแบบส่มุ เด็กหญิงลลี า สามารถเขียน ไดถ้ ูกตอ้ ง
ระดับควำมสำมำรถในปจั จบุ นั เป้ำหมำยระยะเวลำ สาระท่ี ๓ การฟัง กาหนดตามสาระ มาตรฐาน สาระที่ ๔ หลกั การใช้ภาษา การเรียนรู้ตามระดบั ชัน้ ของ สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม ๓) สามารถเรยี นไดต้ ามสาระ มาตรฐานการเรยี นรตู้ ามระดบั ชนั้ ป. ๓
๑ ปี จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม เกณฑแ์ ละวิธีกำร ผรู้ บั ผดิ ชอบ (เป้ำหมำยระยะส้นั ) น ประเมินผล งผเู้ รียน(ป. กาหนดตามตวั ช้ีวดั และสาระ การเรียนรแู้ กนกลางตาม วิธีการ/เครอื่ งมือการ นางใจดี ระดบั ชน้ั ของผเู้ รยี น(ป.๓) ประเมนิ เมตตา ๑. ทาช้ินงาน,โครงงาน/ ครปู ระจากลุม่ แบบประเมนิ ชน้ิ งาน, สาระการเรยี นรู้ แบบประเมนิ โครงงาน ภาษาไทย ๒. ทดสอบ/แบบทดสอบ - ขยายเวลาในการสอบ ใหม้ ีเวลามากข้ึน -จดั แยกห้องสอบท่ี เหมาะสม -อ่านขอ้ สอบใหฟ้ งั -คาท่ใี ชใ้ นการสรา้ ง แบบทดสอบ ควรเป็นคา พื้นฐานท่กี าหนดไว้ใน สาระท่ี ๑ เกณฑ์การผา่ น เหมอื นนักเรยี นระดบั ชน้ั เดียวกัน
ระดับควำมสำมำรถในปัจจบุ ัน เป้ำหมำยระยะเวลำ ๑ กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ สาระท่ี ๑ จานวนและการดาเนนิ การ มาตรฐาน ค ๑.๒ เข้าใจถงึ ผลทเ่ี กิดข้นึ จากการดาเนนิ การของ จานวนและความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งการดาเนนิ การต่างๆ และ สามารถใชก้ ารดาเนนิ การในการแกป้ ัญหา ป.๑ ตัวชี้วัดท่ี ๑ บวก ลบ ระคนของจานวนนบั ไมเ่ กินหนง่ึ รอ้ ย และศนู ย์ พร้อมทัง้ ตระหนักถงึ ความสมเหตุ สมผลของ คาตอบ จดุ เด่น ๑. รคู้ วามหมายของการบวกและการใช้ เครอื่ งหมายบวก ๒. สามารถบวกเลข โดยไม่มกี ารทด ผลลพั ธไ์ มเ่ กิน ๑๐๐ ภายในวนั ที่ ๓๑ มนี าคม ๒๕ จุดด้อย เดก็ หญงิ ลีลา สามารถบวกเลข ๑. ไมส่ ามารถบวกเลขทีม่ ีการทด และมผี ลลัพธไ์ ม่ ทดและมผี ลลพั ธไ์ ม่เกนิ ๑๐๐ ไ เกิน ๑๐๐
ปี จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม เกณฑ์และวิธกี ำร ผูร้ ับผิดชอบ (เปำ้ หมำยระยะสน้ั ) ประเมนิ ผล ๑) ภายในวนั ท่ี ๓๐ วิธกี าร/เคร่อื งมือการ นายการุณย์ เออ้ื เฟื้อ ๕๕๗ กนั ยายน พ.ศ.๒๕๕๖ เมื่อให้ ประเมิน ครปู ระจากลุ่ม ขท่ีมีการ สาระการ ได้ บวกเลขทีม่ กี ารทด ผลลัพธไ์ ม่เกิน การทดสอบ/แบบทดสอบ เรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ๕๐ เดก็ หญงิ ลีลาสามารถทาได้ เกณฑก์ ารผ่าน ถกู ตอ้ ง รอ้ ยละ ๘๐
ระดับควำมสำมำรถในปัจจุบัน เปำ้ หมำยระยะเวลำ ๑ สาระท่ี ๒ การวัด นักเรยี นเรียนร้ตู ามสาระ มา สาระที่ ๓ เรขาคณิต การเรยี นรตู้ ามระดับชนั้ ป.๓ สาระท่ี ๔ พีชคณิต สาระท่ี ๕ การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น สาระที่ ๖ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ สามารถเรยี นได้ตามสาระ มาตรฐานการเรียนรตู้ าม ระดบั ช้นั ป. ๓
๑ ปี จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม เกณฑแ์ ละวธิ ีกำร ผ้รู บั ผิดชอบ (เปำ้ หมำยระยะส้ัน) ประเมินผล าตรฐาน นายการุณย์ ๓ ๒) ภายในวันท่ี ๓๑ มนี าคม วิธีการ/เคร่ืองมือการ เอ้ือเฟื้อ พ.ศ.๒๕๕๗เมื่อให้บวกเลขที่มี ประเมนิ การทดสอบ/ การทด ผลลพั ธ์ไม่เกิน ๑๐๐ แบบทดสอบ ครูประจากลมุ่ เดก็ หญงิ ลลี าสามารถทาได้ เกณฑ์การผ่าน สาระการเรยี นรู้ ถกู ต้อง ร้อยละ ๘๐ คณิตศาสตร์ นกั เรียนเรยี นร้ตู ามตัวชี้วดั และ สาระการเรยี นรู้แกนกลางตาม วิธีการ/เคร่อื งมอื การประเมิน นายการุณย์ ระดับช้ัน ป.๓ ๑. ทาชน้ิ งาน,โครงงาน/แบบ เอ้อื เฟ้ือ ประเมนิ ชนิ้ งาน,แบบประเมนิ โครงงาน ครปู ระจากลมุ่ ๒. ทดสอบ/แบบทดสอบ สาระการเรยี นรู้ - ขยายเวลาในการสอบให้มเี วลา คณติ ศาสตร์ มากขึน้ -จัดแยกหอ้ งสอบท่เี หมาะสม -อา่ นขอ้ สอบให้ฟงั -จานวนท่ีใช้ในการทดสอบมี ผลลัพธ์ไมเ่ กิน ๑๐๐ เกณฑ์การผา่ น -เหมอื นนักเรยี นระดับช้ัน เดียวกนั
ระดบั ควำมสำมำรถในปจั จบุ ัน เป้ำหมำยระยะเวลำ ๑ สำระกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตร์ นกั เรียนเรียนรตู้ ามสาระ มา สามารถเรยี นได้ตามสาระ มาตรฐานการเรยี นรตู้ าม ระดบั ชัน้ ป.๓ ระดับชน้ั ป. ๓
๑ ปี จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม เกณฑ์และวธิ ีกำร ผรู้ บั ผดิ ชอบ (เปำ้ หมำยระยะสัน้ ) ประเมินผล าตรฐาน นักเรียนเรยี นรู้ตามตวั ช้ีวัดและ วธิ ีการ/เครอ่ื งมือการ นางสมสวย สาระการเรยี นรู้แกนกลางตาม ระดบั ชน้ั ป.๓ ประเมนิ สุดตา ๑. ทาชน้ิ งาน,โครงงาน/ ครูประจากลุ่ม แบบประเมินชนิ้ งาน, สาระการ แบบประเมินโครงงาน เรียนรู้ ๒. ทดสอบแบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ - ขยายเวลาในการสอบ ให้มเี วลามากขนึ้ -จดั แยกห้องสอบที่ เหมาะสม -อ่านข้อสอบให้ฟงั เกณฑ์การผา่ น เหมือนนกั เรียน ระดบั ช้ันเดยี วกัน
ระดบั ควำมสำมำรถในปจั จบุ ัน เปำ้ หมำยระยะเวลำ ๑ สาระการเรียนร้สู งั คม ศาสนาและวฒั นธรรม นกั เรยี นเรียนรู้ตามสาระ มา การเรยี นรตู้ ามระดบั ช้นั ป.๓ สามารถเรยี นได้ตามสาระ มาตรฐานการเรยี นรูต้ าม ระดบั ช้ัน ป. ๓
๑ ปี จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม เกณฑ์และวธิ กี ำร ผู้รบั ผดิ ชอบ (เปำ้ หมำยระยะสั้น) ประเมนิ ผล าตรฐาน นางใจบุญ ๓ นักเรยี นเรยี นรูต้ ามตวั ชี้วัดและ วิธกี าร/เคร่ืองมือการ สุดดี สาระการเรียนรแู้ กนกลางตาม ประเมนิ ระดบั ชนั้ ป.๓ ๑. ทาชิ้นงาน ครูประจากลุ่ม ,โครงงาน/แบบ สาระการเรยี นรู้ ประเมินช้ินงาน,แบบ สงั คม ศาสนา ประเมินโครงงาน และวฒั นธรรม ๒. ทดสอบ/ แบบทดสอบ - ขยายเวลาในการ สอบใหม้ ีเวลามากข้ึน -จัดแยกห้องสอบท่ี เหมาะสม -อา่ นข้อสอบให้ฟัง เกณฑ์การผ่าน เหมือนนักเรียน ระดับช้นั เดียวกนั
ระดับควำมสำมำรถในปจั จบุ ัน เปำ้ หมำยระยะเวลำ ๑ ป สำระกำรเรยี นรศู้ ลิ ปะ นักเรยี นเรียนรู้ตามสาระ สามารถเรยี นไดต้ ามสาระ มาตรฐานการเรยี นรูต้ าม มาตรฐาน การเรียนร้ตู าม ระดับชน้ั ป. ๓ ระดับชนั้ ป.๓ สำระกำรเรียนร้สู ุขศึกษำและพลศกึ ษำ นักเรยี นเรยี นรู้ตามสาระ สามารถเรยี นไดต้ ามสาระ มาตรฐานการเรียนรู้ตาม มาตรฐาน การเรียนรู้ตาม ระดับชน้ั ป. ๓ ระดบั ชนั้ ป.๓
ปี จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม เกณฑแ์ ละวิธีกำรประเมนิ ผล ผ้รู บั ผิดชอบ (เป้ำหมำยระยะสัน้ ) นักเรียนเรียนรู้ตามตวั ช้ีวดั และ วธิ ีกำร/เคร่อื งมือกำรประเมนิ นายอาทติ ย์ สาระการเรียนร้แู กนกลางตาม ประเมนิ ผลจากแฟม้ สะสมงาน สีแดง ระดบั ชนั้ ป.๓ เกณฑ์กำรผ่ำน ครูประจากลมุ่ เหมอื นนกั เรยี นระดับช้ันเดยี วกนั สาระการเรียนรู้ นักเรียนเรียนรู้ตามตัวช้ีวดั และ ศลิ ปะ สาระการเรียนรแู้ กนกลางตาม วธิ กี ำร/เครอ่ื งมือกำรประเมนิ ระดับชนั้ ๑. ประเมนิ แฟ้มสะสมงาน/แบบ นายประเทศ ป.๓ ประเมินแฟ้มสะสมงาน ขอบเขต ๒.ทดสอบ/แบบทดสอบ ครปู ระจำกลุ่ม - ขยายเวลาในการสอบใหม้ ีเวลา สาระการเรียนรู้ มากข้นึ สขุ ศกึ ษาและพล -จัดแยกหอ้ งสอบที่เหมาะสม ศึกษา - อ่านขอ้ สอบใหฟ้ ัง เกณฑก์ ำรผำ่ น เหมือนนักเรียนระดบั ชั้นเดยี วกนั
ระดบั ควำมสำมำรถในปจั จุบัน เปำ้ หมำยระยะเวลำ ๑ ปี สำระกำรเรียนร้กู ำรงำนอำชพี /เทคโนโลยี นกั เรยี นเรยี นรู้ตามสาระ สามารถเรยี นได้ตามสาระ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน การเรียนรตู้ าม ตามระดับชนั้ ป. ๓ ระดบั ชั้น ป.๓ สำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ นกั เรียนเรยี นรู้ตามสาระ สามารถเรียนได้ตามสาระ มาตรฐานการเรยี นรู้ ตามระดับชั้น ป. ๓ มาตรฐาน การ เรียนรูต้ ามระดับชัน้ ป.๓
จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม เกณฑแ์ ละวิธีกำรประเมนิ ผล ผู้รบั ผิดชอบ (เปำ้ หมำยระยะสั้น) นักเรยี นเรียนรตู้ ามตวั ช้วี ดั และ วิธีการ/เครือ่ งมือการประเมนิ นายงานดี สาระการเรียนรูแ้ กนกลางตาม ๑. ประเมินชิ้นงาน/แบบ ขยนั ระดบั ชน้ั ป.๓ ประเมนิ ช้นิ งาน ครูประจากลุ่ม ๒. ประเมนิ แฟม้ สะสมงาน/ สาระการเรยี นรู้ นักเรยี นเรียนรู้ตามตวั ชี้วดั และ แบบประเมนิ แฟ้มสะสมงาน สาระการเรยี นรแู้ กนกลางตาม เกณฑ์การผา่ น นายอังกฤษ ระดับชั้น ป.๓ เหมอื นนักเรยี นระดับชน้ั ตา่ งประเทศ เดยี วกัน ครูประจากลุ่ม สาระการเรียนรู้ วิธีการ/เครื่องมือการประเมนิ ๑. ประเมินแฟม้ สะสมงาน/ แบบประเมินแฟ้มสะสมงาน ๒. ทดสอบ/แบบทดสอบ -จัดแยกหอ้ งสอบที่เหมาะสม -อ่านข้อสอบให้ฟัง เกณฑ์การประเมนิ เหมือนนกั เรียนระดบั ช้ัน เดียวกนั
๖. ควำมต้องกำรด้ำนส่งิ อำนวยควำมสะดวก เทคโนโลยีสิง่ อำนวยควำมสะดวก สื่อ บริกำ สิ่งที่มีอย่แู ล้ว ท่ี รำยกำร รหัส ผู้จัดหำ วิธีกำร (๑) (๒) (๓) (๑) (๒) (๓) (๑) บญั ชี ก ๑. คอมพิวเตอร์ต้ังโต๊ะ AC๐๕๐๑ บัญชี ข ๒ กระดาษโปสเตอรส์ ี BM๐๑๐๒ ๓ กระดาษ A ๔ BM๐๑๐๑ ๔ แผน่ ฟิวเจอร์บอร์ด ๒ มม. BM๐๑๐๙ ๖๕ X ๖๑ซ.ม. ๕ แผน่ สติ๊กเกอรใ์ ส BM๐๑๐๖ บญั ชี ค ๖ บริการสอนเสริม CS๐๑๐๑ รวมรำยกำรท่ีขอรบั กำรอุดหนนุ ๖ รำยก ๒,๐๐๐บำ รวมจำนวนเงินท่ีขอรับกำร (๑) ผปู้ กครอง อุดหนุน (๑) ขอรับกำรอุดหนนุ หมำยเหตุ ผูจ้ ดั หำ วธิ ีกำร
ำร และควำมชว่ ยเหลอื อนื่ ใดทำงกำรศึกษำ สิง่ ทีต่ ้องกำร จำนวนเงนิ ผจู้ ัดหำ วิธกี ำร ท่ีขอ เหตุผลและควำมจำเปน็ ผู้ประเมิน ) (๒) (๓) (๑) (๒) (๓) อุดหนุน เดก็ หญิงลีลำมที กั ษะ นำงใจดี ภำษำไทยและ เมตตำ คณติ ศำสตร์ ครผู ู้สอน ๒๐๐บาท ต่ำกว่ำระดบั ชัน้ ท่ีเรยี น ๒๔๐บาท อยปู่ จั จุบนั ๒ ชน้ั เรียน ๓๖๐บาท ทำให้มีผลกระทบต่อ กำรเรียนรู้สำระอ่ืนๆ ๒๐๐บาท และมผี ลสัมฤทธิท์ ำงกำร เรยี นตำ่ จำเป็นตอ้ งได้รับ ๑,๐๐๐ กำรแก้ไขและพัฒนำ บาท อยำ่ งเร่งด่วน กำร ำท ( สองพนั บำทถ้วน ) (๒) สถำนศกึ ษำ (๓) สถำนพยำบำล/อื่นๆ (๒) ขอยืม (๓) ขอยืมเงิน
๗. คณะกรรมกำรจัดทำแผนกำรจดั กำรศกึ ษำเฉพำะบคุ คล ชือ่ ตำแหน่ง ลำยมือชื่อ ๗.๑ นายอานวย การศึกษา ผูอ้ านวยการโรงเรียนรมิ น้านา่ น …….………… ๗.๒ นางมาลา ขาวใส มารดา ………………… ๗.๓ นางใจดี เมตตา ครปู ระจาชัน้ /ครปู ระจากลมุ่ สาระฯภาษาไทย ……….………… ๗.๔ นายการณุ ย์ เอือ้ เฟอื้ ครปู ระจากลมุ่ สาระฯคณิตศาสตร์ ……….………… ประชมุ เมื่อวันที่ ๑๕ เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ๘. ควำมเหน็ ของบิดำ มำรดำ ผู้ปกครองหรือผู้เรยี น กำรจดั ทำแผนกำรจดั กำรศกึ ษำเฉพำะบคุ คล ฉบับน้ี ขำ้ พเจำ้ เห็นด้วย ไม่เหน็ ด้วย ลงชื่อ…………………………………… (นางมาลา ขาวใส ) ผปู้ กครอง วันท่ี ๑๕ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
แผนกำรสอนเฉพำะบคุ คล (Individual Implementation Plan : IIP) ชื่อ-ชือ่ สกลุ ด.ญ.ลลี า ขาวใส ระดบั ช้นั ป. ๓ ประเภทควำมพิกำร บคุ คลทม่ี ีความบกพร่องทางการเรยี นรู้ ภำคเรยี นที่ ๑ ปกี ำรศึกษำ ๒๕๕๖ ผรู้ บั ผดิ ชอบ นางใจดี เมตตา สำระกำรเรียนรู้ภาษาไทย สาระท่ี ๑ การอ่าน เร่อื ง อ่านคาพ้นื ฐานในระดบั ชัน้ ป. ๑ เปำ้ หมำยระยะยำว ๑ปี ภายในวันท่ี ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๗ ด.ญ.ลลี าสามารถอา่ นคาพืน้ ฐานในระดบั ชั้น ป. ๑ ที่มีตัวสะกดตรงมาตราในแม่ กบ กด กก กม กน ได้ ๑๐๐ คา จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม (เปำ้ หมำยระยะสน้ั ) ๑. ภายในวันท่ี ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๖ เมื่อให้อา่ นคาพน้ื ฐานในระดบั ชนั้ ป.๑ ท่มี ตี วั สะกดตรงตามมาตราใน แม่ กบ จานวน ๒๐ คาแบบสุ่ม ด.ญ.ลีลา สามารถอ่านได้ถูกตอ้ ง เกณฑแ์ ละวิธปี ระเมนิ ผล วิธีการ/เคร่ืองมือการประเมนิ ทดสอบ/แบบทดสอบ เกณฑ์การผา่ น ร้อยละ ๗๐ แผนที่ ๑ วันทีใ่ ชแ้ ผน ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ถงึ วันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เวลำ ๖๐ นาที จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรมที่ ๑.๑ เม่ือให้อา่ นคาพนื้ ฐานในระดับชั้น ป.๑ ท่ีมตี ัวสะกดตรงตามมาตราในแม่ กบ จานวน ๑ คา คือ อาบน้า ด.ญ.ลลี าสามารถอ่านได้ถกู ต้องร้อยละ ๗๐ เนื้อหำ คาพ้นื ฐานในระดับชน้ั ป.๑ มาตราสะกด แม่ กบ ตรงมาตรา ได้แก่ คาวา่ “อาบนา้ ” กิจกรรมกำรเรียนกำรสอน ขนั้ นำ นกั เรียนดูภาพเดก็ อาบน้า และร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั การทาความสะอาดรา่ งกาย ข้นั สอน ครูใช้วธิ ีสอนโดยใช้ประสาทสัมผัสหลายด้าน (Multi Sensory Approach) และการฝกึ ทกั ษะย่อย ( Skill Training ) หมายถึงวิธสี อนอา่ นและเขียนเปน็ คา โดยมีกระบวนการสอนตามลาดบั ดงั น้ี ๑. ครสู รา้ งบตั รคา คาวา่ อำบนำ้ โดยใชว้ สั ดทุ ีม่ อื สมั ผสั ไดล้ งบนกระดาษแล้วใหเ้ ด็กดคู าและ อา่ นให้นักเรยี นฟัง พร้อมทง้ั ให้นักเรียนอา่ นตาม ๒. นักเรียนใช้น้วิ ลากไปตามตัวอกั ษรทีละตัวท่ีประกอบข้ึนเปน็ คา อาบน้า พร้อม ทั้งออกเสยี งช่ือช่อื ตวั พยัญชนะและสระน้ัน และอ่านคาวา่ อำบน้ำ เมอ่ื ลากครบทุกตวั อักษร( ใบงานที่ ๑ ) ๓. นักเรยี นทาใบงาน จับค่ภู าพกบั คา ( ภาพอาบน้า กบั คาว่าอาบนา้ ) พร้อมทั้งระบายสีภาพใหส้ วยงามและอ่าน คา ทีก่ าหนดให้เรยี นรู้ ( ใบงานท่ี ๒ ) ๔. นกั เรียนทาใบงาน ระบายสีคาด้วยสีทก่ี าหนดและนบั จานวนคาอาบน้าทนี่ ักเรียนระบายสพี ร้อมทง้ั อา่ นให้ครูฟัง ( ใบงานที่ ๓ ) ๕. ใหน้ ักเรยี นอา่ นคาวา่ อาบนา้ ตามใบงานทก่ี าหนด และร่วมตรวจสอบกับครูว่าอ่านถกู ตอ้ งก่ีคา
๖. ( ใบงานท่ี ๔ ) ขั้นสรุป นกั เรยี นนาใบงานที่ทาท้ังหมดตามแผนการสอนมารว่ มจัดทาเป็นหนังสือของฉันและอา่ นใหค้ รูฟัง สอื่ /อปุ กรณ/์ สงิ่ อำนวยควำมสะดวก/บริกำร ๑)ภาพเดก็ อาบน้า ๒) กระดาษทราย ๓) ใบงาน ๔) สีไม้ ๕) กระดาษกาวย่น กำรวัดผลและประเมนิ ผล ๑. วธิ ีกำร - ทดสอบ - สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ๒. เครือ่ งมือ - แบบทดสอบ - แบบสังเกตการเรยี นรู้ ๓. เกณฑก์ ำรผำ่ น อ่านคาว่า อาบนา้ ไดร้ อ้ ยละ ๗๐ กำรเสริมแรง ๑. คาชม ๒. สต๊กิ เกอร์ ควำมคิดเห็นของผูบ้ รหิ ำรหรือผ้ทู ไี่ ด้รับมอบหมำย เหน็ ชอบให้ใช้แผนนใ้ี นการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนได้ โดยในส่วนของบตั รคาควรมีการเพมิ่ รหัสสใี นส่วนของตวั “บ” เพ่ือเพ่ิมความสนใจและนาทางแกผ่ เู้ รียน ลงชอื่ ..........อานาจ บารมี ............ ( นายอานาจ บารมี ) ตาแหน่ง..ผู้อานวยการบ้านรมิ น้านา่ น ๑๕ /พฤษภาคม./๒๕๕๖
บันทกึ หลังกำรสอน วนั เดือน ปี ผลการสอน ระดับคุณภาพการเรียนรู้ ๐๑ ๒ ๓ ๔ ๑๖ ผ้เู รียนสามารถทากจิ กรรมตามใบงานที่ ๑ อยู่ในระดบั ดี โดยในการทา พฤษภาคม กิจกรรมครูต้องกระต้นุ เตือนทางวาจากับผู้เรียน ๒๕๕๖ ใบงานท๒ี่ ผ้เู รียนสามารถจับค่ภู าพกับคาอยู่ในระดับพอใช้ครตู ้องกระตุ้น เตือนทางวาจากับผู้เรยี นเป็นระยะ ๑๗ - ผู้เรยี นสามารถทากจิ กรรมตามใบงานท่ี ๓ ไดอ้ ย่างรวดเรว็ พฤษภาคม และมคี ุณภาพอยใู่ นระดับดีเยี่ยม โดยผู้เรียนให้ความร่วมมือและใหค้ วาม ๒๕๕๖ สนใจมากขึน้ - ผู้เรียนสามารถทากจิ กรรมตามใบงานที่ ๔ ได้อย่างรวดเรว็ และมีคุณภาพ อย่ใู นระดับดเี ย่ยี ม โดยผเู้ รยี นใหค้ วามรว่ มมือและใหค้ วามสนใจมากขนึ้ ระดับคุณภาพการเรยี นรู้ การแปลความหมาย ไม่ผา่ น ๐ หมายถึง ผเู้ รยี นทาได้ถูกต้องรอ้ ยละ ๐ - ๔๙ การแปลความหมาย ปรบั ปรงุ ๑ หมายถงึ ผเู้ รียนทาไดถ้ ูกตอ้ งร้อยละ ๕๐ – ๕๙ การแปลความหมาย พอใช้ ๒ หมายถึง ผูเ้ รียนทาไดถ้ ูกตอ้ งรอ้ ยละ ๖๐ - ๖๙ การแปลความหมาย ดี ๓ หมายถงึ ผเู้ รียนทาไดถ้ ูกตอ้ งรอ้ ยละ ๗๐ - ๗๙ การแปลความหมาย ดีเย่ยี ม ๔ หมายถึง ผเู้ รียนทาไดถ้ ูกตอ้ งรอ้ ยละ ๘๐ ขึ้นไป ลงช่ือ ...........ใจดี เมตตา........... (นางใจดี เมตตา ) ครผู รู้ บั ผิดชอบ ๑๗/พฤษภาคม/๒๕๕๖
ภำคผนวก
ใบงำนท่ี 1 คำสั่ง ใหน้ กั เรียนดูภำพ ดูคำและอ่ำนตำมครู อำบน้ำ ๐ หมายถงึ ผู้เรยี นทาได้ถกู ตอ้ งรอ้ ยละ ๐ - ๔๙ ขอ้ คิดเห็น/ข้อเสนอแนะ ๑ หมายถึง ผเู้ รียนทาได้ถกู ต้องรอ้ ยละ ๕๐ – ๕๙ ........................................................................... ๒ หมายถงึ ผู้เรียนทาไดถ้ ูกตอ้ งร้อยละ ๖๐ - ๖๙ ........................................................................... ๓ หมายถงึ ผเู้ รียนทาได้ถูกต้องรอ้ ยละ ๗๐ - ๗๙ ๔ หมายถงึ ผูเ้ รยี นทาได้ถกู ต้องรอ้ ยละ ๘๐ ขนึ้ ไป ลงชอ่ื ................................................ผูส้ อน ............./................../...............................
ใบงำนท่ี 2 เลน่ น้ำ คำสง่ั ให้นักเรียนจับคู่ภำพกับคำ อำบนำ้ อำบนำ้ อำบนำ้ เลน่ น้ำ อำบน้ำ อำบน้ำ อำบน้ำ ภาพอาบนา้ กนิ น้ำ สนี ำ้ อำบน้ำ อำบน้ำ ๐ หมายถึง ผู้เรียนทาได้ถูกต้องรอ้ ยละ ๐ - ๔๙ ข้อคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะ ๑ หมายถงึ ผู้เรียนทาได้ถูกต้องรอ้ ยละ ๕๐ – ๕๙ ........................................................................... ๒ หมายถงึ ผเู้ รยี นทาได้ถูกตอ้ งรอ้ ยละ ๖๐ - ๖๙ ........................................................................... ๓ หมายถงึ ผเู้ รยี นทาไดถ้ กู ตอ้ งรอ้ ยละ ๗๐ - ๗๙ ๔ หมายถงึ ผเู้ รยี นทาไดถ้ ูกต้องร้อยละ ๘๐ ขนึ้ ไป ลงชอ่ื ................................................ผูส้ อน ............./................../...............................
ใบงำนที่ 3 คำสัง่ ใหน้ กั เรยี นระบำยสีคำว่ำ อำบนำ้ ด้วยสีแดง อำบนำ้ เลน่ น้ำ สีนำ้ อำบนำ้ อำบนำ้ เลน่ นำ้ อำบน้ำ กินนำ้ อำบนำ้ อำบน้ำ ๐ หมายถึง ผเู้ รียนทาได้ถูกตอ้ งร้อยละ ๐ - ๔๙ ข้อคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะ ๑ หมายถึง ผู้เรียนทาได้ถกู ต้องร้อยละ ๕๐ – ๕๙ ........................................................................... ๒ หมายถึง ผูเ้ รียนทาได้ถูกต้องร้อยละ ๖๐ - ๖๙ ........................................................................... ๓ หมายถงึ ผูเ้ รียนทาไดถ้ ูกตอ้ งรอ้ ยละ ๗๐ - ๗๙ ๔ หมายถงึ ผู้เรียนทาได้ถูกตอ้ งร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ลงช่ือ................................................ผู้สอน ............./................../...............................
ใบงำนท่ี 4 คำสง่ั ใหน้ ักเรียนอ่ำนคำ อำบน้ำ อำบนำ้ อำบนำ้ อำบนำ้ อำบน้ำ อำบน้ำ อำบนำ้ อำบนำ้ ๐ หมายถงึ ผเู้ รียนทาได้ถูกต้องร้อยละ ๐ - ๔๙ ขอ้ คดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะ ๑ หมายถงึ ผู้เรียนทาได้ถูกต้องร้อยละ ๕๐ – ๕๙ ........................................................................... ๒ หมายถงึ ผเู้ รียนทาไดถ้ กู ต้องรอ้ ยละ ๖๐ - ๖๙ ........................................................................... ๓ หมายถึง ผู้เรียนทาไดถ้ กู ตอ้ งร้อยละ ๗๐ - ๗๙ ๔ หมายถึง ผ้เู รียนทาได้ถกู ต้องรอ้ ยละ ๘๐ ขนึ้ ไป ลงชื่อ................................................ผู้สอน ............./................../...............................
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225