Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือIEP

คู่มือIEP

Published by soooong101, 2021-09-29 08:02:23

Description: คู่มือIEP-ฉบับ พ.ศ. 2556

Search

Read the Text Version

ตวั อย่ำง บนั ทกึ ผลกำรประเมนิ จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรมของ เดก็ หญงิ ลีลำ ขำวใส ภำคเรยี นท่ี ๑ ปีกำรศกึ ษำ ๒๕๕๖ สำระกำรเรยี นรูภ้ ำษำไทย จุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม : ๑. ภายในวันที่ ๑๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๖ เมอื่ ให้อ่านคาพ้นื ฐานในระดับช้ัน ป.๑ ทีม่ ตี ัวสะกดตรงตามมาตราในแม่ กบ จานวน ๒๐ คาแบบสุ่ม ด.ญ.ลลี า สามารถอ่านได้ถูกตอ้ ง ลาดับ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ผลการทดสอบ คะแนน ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑.๑ เดก็ หญิงลีลาสามารถอา่ นคาว่า อาบนา้ ได้ถูกต้องอย่างน้อยรอ้ ยละ ๗๐ ๑.๒ เดก็ หญงิ ลีลาสามารถอ่านคาว่า ดาบ ไดถ้ ูกตอ้ งอย่างน้อยร้อยละ ๗๐ ๗ ๑.๓ เด็กหญงิ ลลี าสามารถอ่านคาว่า คาบ ได้ถูกต้องอย่างน้อยร้อยละ ๗๐ ๘ ๑.๔ เดก็ หญงิ ลีลาสามารถอา่ นคาว่า ตอบ ได้ถูกต้องอย่างน้อยร้อยละ ๗๐ ๗ ๑.๕ เด็กหญิงลีลาสามารถอา่ นคาว่า ชอบ ไดถ้ ูกตอ้ งอย่างนอ้ ยร้อยละ ๗๐ ๙ ๑.๖ เด็กหญงิ ลีลาสามารถอา่ นคาวา่ รอบ ได้ถูกตอ้ งอย่างนอ้ ยร้อยละ ๗๐ ๗ ๑.๗ เดก็ หญงิ ลลี าสามารถอ่านคาว่า แคบ ได้ถูกต้องอยา่ งน้อยรอ้ ยละ ๗๐ ๖ ๑.๘ เด็กหญิงลลี าสามารถอ่านคาว่า รบี ไดถ้ ูกต้องอยา่ งน้อยร้อยละ ๗๐ ๖ ๑.๙ เดก็ หญิงลลี าสามารถอ่านคาว่า ยางลบได้ถูกต้องอย่างน้อยร้อยละ ๗๐ ๙ ๑.๑๐ เด็กหญิงลีลาสามารถอา่ นคาว่า ตะเกียบ ไดถ้ ูกตอ้ งอยา่ งนอ้ ยร้อยละ ๗๐ ๑๐  ๑.๑๑ เด็กหญงิ ลีลาสามารถอ่านคาว่า กบ ไดถ้ ูกต้องอย่างน้อยร้อยละ ๗๐ ๗ ๑.๑๒ เดก็ หญงิ ลลี าสามารถอา่ นคาวา่ เกบ็ ได้ถูกต้องอย่างน้อยร้อยละ ๗๐ ๑๐  ๑.๑๓ เดก็ หญิงลีลาสามารถอ่านคาว่า กลับได้ถูกต้องอย่างนอ้ ยร้อยละ ๗๐ ๗ ๑.๑๔ เดก็ หญิงลีลาสามารถอา่ นคาวา่ กับ ไดถ้ กู ตอ้ งอยา่ งน้อยร้อยละ ๗๐ ๗ ๑.๑๕ เด็กหญิงลีลาสามารถอา่ นคาว่า จับ ได้ถกู ต้องอย่างน้อยร้อยละ ๗๐ ๗ ๑.๑๖ เด็กหญิงลลี าสามารถอา่ นคาวา่ กราบ ไดถ้ ูกต้องอย่างนอ้ ยรอ้ ยละ ๗๐ ๘ ๑.๑๗ เด็กหญิงลลี าสามารถอ่านคาวา่ พบ ได้ถูกต้องอยา่ งน้อยร้อยละ ๗๐ ๗ ๑.๑๘ เดก็ หญงิ ลีลาสามารถอา่ นคาว่า พบั ได้ถูกต้องอยา่ งนอ้ ยร้อยละ ๗๐ ๘ ๙

ลาดบั จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม ผลการทดสอบ คะแนน ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑.๑๙ เด็กหญงิ ลลี าสามารถอา่ นคาว่า ทบั ได้ถูกตอ้ งอยา่ งนอ้ ยร้อยละ ๗๐ ๑.๒๐ เด็กหญิงลีลาสามารถอ่านคาว่า ตะขาบ ไดถ้ ูกตอ้ งอยา่ งน้อยรอ้ ยละ ๗๐ ๙ รอ้ ยละของกำรผำ่ นจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม(เปำ้ หมำยระยะส้ัน) ๙ ระดับคณุ ภำพ ๙๐.๐๐ ดีเยยี่ ม

ตวั อยำ่ ง แบบสรปุ กำรประเมนิ ผลตำมแผนกำรจดั กำรศึกษำเฉพำะบคุ คล (IEP) ชอ่ื ……เด็กหญงิ ลลี า ขาวใส .ประเภทความพกิ าร บกพร่องทางการเรียนรู้ ปีการศึกษา…๒๕๕๕… เปำ้ หมำยระยะยำว ๑ ปี สรุปผลกำรจัดกำรศกึ ษำ ตำมแผนกำรจัดกำรศกึ ษำเฉพำะบุคคล กลมุ่ สำระ จานวน จานวน จานวน กำรเรยี นรู้ (IEP) จุดประสงค์ จดุ ประสงค์ จุดประสงค์ เชงิ พฤติกรรม เชงิ พฤติกรรม เชิงพฤติกรรม ภาษาไทย ภายในวนั ที่ ๓๑ มนี าคม ๒๕๕๗ ท้ังหมด (ข้อ) ท่ผี ่าน (ข้อ) ที่ ไม่ผา่ น (ข้อ) เดก็ หญิงลลี า สามารถอ่านคาพ้ืนฐานใน ระดับช้นั ป. ๑ ที่มีตัวสะกดตรงตาม ๕๕ - มาตราในแม่ กบ กด กก กม กน ได้ ๑๐๐ คา ภายในวันท่ี ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๖ ๔ ๕ - เด็กหญิงลีลา สามารถเขียนคาพ้ืนฐานใน ๒ - ระดับชั้น ป. ๑ ที่มีตัวสะกดตรงตาม ๒ มาตราในแม่ กบ กด กก กม กน ได้ ๑๐๐ คา ๑๒ คณติ ศาสตร์ ภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๗ ๑๐๐ เด็กหญิงลลี า สามารถบวกเลขทีม่ ีการทด ๔ และมีผลลพั ธไ์ ม่เกิน ๑๐๐ ได้ รวมจำนวนจุดประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมทีผ่ ำ่ น จำนวนจดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมทผี่ ำ่ นคิดเป็นรอ้ ยละ ระดับคณุ ภำพมำตรฐำนด้ำนผู้เรียน ระดับคุณภาพการเรยี นรู้ ๐ - ๔๙ การแปลความหมาย ไม่ผา่ น  ๐ หมายถงึ ผเู้ รยี นทาไดถ้ ูกต้องร้อยละ ๕๐ – ๕๙ การแปลความหมาย ปรับปรงุ  ๑ หมายถึง ผู้เรยี นทาไดถ้ ูกตอ้ งร้อยละ ๖๐ - ๖๙ การแปลความหมาย พอใช้  ๒ หมายถงึ ผเู้ รยี นทาไดถ้ ูกตอ้ งร้อยละ ๗๐ - ๗๙ การแปลความหมาย ดี  ๓ หมายถึง ผู้เรยี นทาไดถ้ ูกต้องรอ้ ยละ ๘๐ ขน้ึ ไป การแปลความหมาย ดีเย่ียม  ๔ หมายถึง ผู้เรียนทาได้ถูกตอ้ งร้อยละ

บรรณำนุกรม ประคอง ผลพิชญานันท์. (2552).แนวทำงกำรแกป้ ัญหำกำรดำเนินกำรจดั กำรศึกษำตำมแผนกำรจดั กำรศึกษำเฉพำะบุคคลในโรงเรียนพิเศษเฉพำะควำมพกิ ำร. วทิ ยานิพนธห์ ลกั สูตรครุศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวิชาการศกึ ษาพิเศษ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพบิ ูลสงคราม. สุทธพิ ร วจิ ติ รพนั ธุ์ (2549).กำรนเิ ทศแบบคลนิ กิ เพือ่ พัฒนำสมรรถภำพในกำรจดั กำรเรยี นร้เู ฉพำะบคุ คลของ ครูผ้สู อนนักเรยี นเรยี นรวมระดบั ชัน้ มัธยมศึกษำ โรงเรยี นนวมินทรำชนิ ูทิศ สตรวี ิทยำ พุทธมณฑล. วทิ ยานพิ นธศ์ ึกษาศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวิชาหลกั สตู รและการสอน มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร. สานักบรหิ ารงานการศึกษาพิเศษ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ. (2550). แนวทำงกำรใหบ้ รกิ ำรช่วยเหลอื ระยะแรกเร่ิมและกำรพฒั นำศกั ยภำพ สำหรับบคุ คลทีม่ ี ควำมบกพรอ่ งทำงสติปญั ญำของศนู ยก์ ำรศกึ ษำพเิ ศษ. กรุงเทพฯ : โรงพิมพช์ มุ นุมสหกรณก์ ารเกษตร แหง่ ประเทศไทยจากัด. สานกั บริหารงานการศกึ ษาพิเศษ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2551). แนวทำงกำรใหบ้ ริกำรช่วยเหลือระยะแรกเร่ิมและกำรพฒั นำศักยภำพ สำหรับบุคคลท่ี มคี วำมบกพร่องทำงกำรเหน็ ของศนู ย์กำรศกึ ษำพิเศษ. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ชุมนมุ สหกรณ์ การเกษตรแหง่ ประเทศไทยจากัด. สานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร. (2553). แนวทำงกำรจดั กิจกรรมพัฒนำผูเ้ รียนตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พื้นฐำน พุทธศกั รำช 2551. สานกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ. (2551). แนวทำงกำรให้บรกิ ำรชว่ ยเหลอื ระยะแรกเร่มิ และกำรพฒั นำศักยภำพ สำหรบั บุคคล ออทิสตกิ ของศนู ย์ กำรศึกษำพเิ ศษ.กรุงเทพฯ : โรงพิมพช์ ุมนุมสหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศ ไทยจากดั . สานักบรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ. (2550). แนวทำงกำรใหบ้ รกิ ำรช่วยเหลือระยะแรกเริ่มและกำรพัฒนำศักยภำพ สำหรับบคุ คลท่ี มคี วำมบกพร่องทำงกำรได้ยินของศนู ยก์ ำรศกึ ษำพิเศษ.โรงพิมพช์ มุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทยจากัด. สานกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2556). หลักสูตรกำรให้บรกิ ำรชว่ ยเหลือระยะแรกเร่มิ สำหรับเด็กพกิ ำร ศูนยก์ ำรศึกษำพิเศษ พุทธศักรำช ๒๕๕๖ ศรยี า นยิ มธรรม. (2546).กำรศึกษำพเิ ศษ. กรงุ เทพฯ : บริษัท ธนธัชการพมิ พจ์ ากัด. หน่วยศกึ ษานเิ ทศก์ กรมสามัญศึกษา. (2535) สมุดบนั ทกึ พัฒนำกำร กำรประเมินทักษะเพ่ือสำรวจ พัฒนำกำรสำหรบั เด็กรำ่ งกำยพิกำรเน่อื งจำกสมองและเดก็ ท่ีบกพร่องทำงสติปัญญำในระดับอำยุ ทำงพัฒนำกำร( 0-7 ปี).

David F. Bateman…..(et al).(2007). The special education program administrator’ s handbook – printed in the united states of America Heward, William L. (2006).Exceptional Children: An Introduction to Special Education. Upper Saddle River, New Jersey: Pearson Merrill Prentice Hall. Siegel, M Lawrence” (2002).The Complete IEP Guide How to Advocate for Your Special Education Child. 2nd.ed., Berkeley : Consolidated Printers inc

ภำคผนวก

ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรอื่ ง กาหนดประเภทและหลักเกณฑ์ของคนพิการทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๒1[๑] อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๓ และมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสาหรับคน พิการ พ.ศ. ๒๕๕๑ รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงศกึ ษาธิการ จงึ ออกประกาศกาหนดประเภทและหลักเกณฑ์ของ คนพิการทางการศึกษา ไว้ดังตอ่ ไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศน้ีเรียกว่า “ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง กาหนดประเภทและหลักเกณฑ์ของคน พิการทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๒” ขอ้ ๒ ประเภทของคนพิการ มีดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) บุคคลทมี่ คี วามบกพร่องทางการเห็น (๒) บุคคลที่มีความบกพร่องทางการไดย้ ิน (๓) บคุ คลทม่ี คี วามบกพรอ่ งทางสติปัญญา (๔) บคุ คลที่มีความบกพร่องทางรา่ งกาย หรอื การเคลอื่ นไหว หรือสขุ ภาพ (๕) บคุ คลทม่ี ีความบกพรอ่ งทางการเรียนรู้ (๖) บคุ คลท่ีมีความบกพรอ่ งทางการพดู และภาษา (๗) บุคคลท่ีมคี วามบกพร่องทางพฤติกรรม หรืออารมณ์ (๘) บุคคลออทิสตกิ (๙) บคุ คลพิการซอ้ น ข้อ ๓ การพิจารณาบคุ คลท่ีมีความบกพรอ่ งเพื่อจดั ประเภทของคนพกิ าร ใหม้ ีหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ (๑) บุคคลท่ีมีความบกพร่องทางการเห็น ได้แก่ บุคคลท่ีสูญเสียการเห็นต้ังแต่ระดับเล็กน้อยจนถึง ตาบอดสนิท ซ่งึ แบ่งเป็น ๒ ประเภทดังนี้ (๑.๑) คนตาบอด หมายถงึ บคุ คลทีส่ ูญเสยี การเห็นมาก จนต้องใช้ส่ือสมั ผสั และส่ือเสยี ง หาก ตรวจวัดความชดั ของสายตาข้างดีเมอื่ แก้ไขแล้ว อยใู่ นระดับ ๖ ส่วน ๖๐ (๖/๖๐) หรือ ๒๐ ส่วน ๒๐๐ (๒๐/ ๒๐๐) จนถึงไม่สามารถรบั รเู้ รอื่ งแสง (๑.๒) คนเห็นเลือนราง หมายถึง บคุ คลท่ีสูญเสยี การเหน็ แต่ยังสามารถอา่ นอกั ษร ตวั พมิ พ์ ขยายใหญด่ ้วยอปุ กรณ์เครือ่ งชว่ ยความพกิ าร หรือเทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก หากวัดความชดั เจนของ สายตาขา้ งดีเมื่อแกไ้ ขแล้วอยใู่ นระดับ ๖ สว่ น ๑๘ (๖/๑๘) หรือ ๒๐ สว่ น ๗๐ (๒๐/๗๐) (๒) บุคคลท่ีมีความบกพร่องทางการได้ยิน ได้แก่ บุคคลที่สูญเสียการได้ยินตั้งแต่ระดับหูตึงน้อยจนถึงหู หนวก ซ่งึ แบ่งเปน็ ๒ ประเภท ดงั นี้ (๒.๑) คนหูหนวก หมายถึง บุคคลทสี่ ญู เสยี การได้ยนิ มากจนไม่สามารถเขา้ ใจการพูดผ่าน

ทางการได้ยินไมว่ า่ จะใส่หรือไม่ใสเ่ ครื่องช่วยฟัง ซง่ึ โดยทั่วไปหากตรวจการได้ยินจะมกี ารสูญเสียการได้ยิน ๙๐ เดซิเบลขน้ึ ไป (๒.๒) คนหตู งึ หมายถงึ บคุ คลทมี่ กี ารไดย้ ินเหลอื อยู่เพียงพอทีจ่ ะไดย้ นิ การพูดผ่านทางการได้ ยิน โดยท่ัวไปจะใสเ่ ครือ่ งช่วยฟัง ซึง่ หากตรวจวัดการไดย้ ินจะมีการสญู เสียการได้ยนิ น้อยกวา่ ๙๐ เดซิเบล ลงมาถงึ ๒๖ เดซิเบล (๓) บคุ คลทม่ี คี วามบกพร่องทางสตปิ ัญญา ไดแ้ ก่ บคุ คลทมี่ ีความจากัดอยา่ งชดั เจนในการปฏบิ ตั ติ น (Functioning) ในปัจจบุ ัน ซ่ึงมีลักษณะเฉพาะ คือ ความสามารถทางสติปัญญาต่ากว่าเกณฑ์เฉลี่ยอย่างมีนัยสาคัญ ร่วมกับความจากัดของทักษะการปรับตัวอีกอย่างน้อย ๒ ทักษะจาก ๑๐ ทักษะ ได้แก่ การส่ือความหมาย การ ดูแลตนเอง การดารงชีวิตภายในบ้านทักษะทางสังคม/การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อ่ืน การรู้จักใช้ทรัพยากรในชุมชน การรู้จักดูแลควบคุมตนเอง การนาความรู้มาใช้ในชีวิตประจาวัน การทางาน การใช้เวลาว่าง การรักษาสุขภาพ อนามยั และความปลอดภยั ท้งั นี้ ไดแ้ สดงอาการดังกลา่ วกอ่ นอายุ ๑๘ ปี (๔) บคุ คลทีม่ ีความบกพร่องทางรา่ งกาย หรือการเคล่ือนไหว หรือสขุ ภาพ ซงึ่ แบ่งเป็น ๒ ประเภท ดงั นี้ (๔.๑) บุคคลท่ีมีความบกพร่องทางร่างกาย หรือการเคล่ือนไหว ได้แก่ บุคคลที่มีอวัยวะไม่สมส่วนหรือ ขาดหายไป กระดูกหรือกล้ามเน้ือผิดปกติ มีอุปสรรคในการเคลื่อนไหว ความบกพร่องดังกล่าวอาจเกิดจากโรค ทางระบบประสาท โรคของระบบกล้ามเน้ือและกระดกู การไม่สมประกอบ มาแต่กาเนดิ อุบตั ิเหตุและโรคติดต่อ (๔.๒) บุคคลท่ีมีความบกพร่องทางสุขภาพ ได้แก่ บุคคลที่มีความเจ็บป่วยเรื้อรังหรือมีโรคประจาตัวซึ่ง จาเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเน่ือง และเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา ซึ่งมีผลทาให้เกิดความจาเป็นต้องได้รับ การศึกษาพิเศษ (๕) บคุ คลทม่ี คี วามบกพร่องทางการเรยี นรู้ ได้แก่ บคุ คลทมี่ ีความผดิ ปกติในการทางานของสมอง บางส่วนท่ีแสดงถึงความบกพร่องในกระบวนการเรียนรู้ท่ีอาจเกิดขึ้นเฉพาะความสามารถด้านใดด้านหน่ึงหรือ หลายด้าน คือ การอ่าน การเขียน การคิดคานวณ ซึ่งไม่สามารถเรียนรู้ในด้านท่ีบกพร่องได้ ทั้งที่มีระดับ สติปัญญาปกติ (๖) บุคคลที่มีความบกพร่องทางการพูดและภาษา ได้แก่ บุคคลท่ีมีความบกพร่องในการเปล่งเสียงพูด เช่น เสยี งผิดปกติ อตั ราความเร็วและจงั หวะการพดู ผิดปกติ หรือบคุ คลที่มคี วามบกพร่อง ในเรื่องความเข้าใจหรือ การใช้ภาษาพูด การเขียนหรือระบบสัญลักษณ์อื่นที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร ซึ่งอาจเก่ียวกับรูปแบบ เนื้อหาและ หน้าท่ขี องภาษา (๗) บุคคลท่ีมีความบกพร่องทางพฤติกรรม หรืออารมณ์ ได้แก่ บุคคลท่ีมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนไปจาก ปกติเป็นอย่างมาก และปัญหาทางพฤติกรรมนั้นเป็นไปอย่างต่อเน่ือง ซึ่งเป็นผลจากความบกพร่องหรือความ ผิดปกติทางจิตใจหรือสมองในส่วนของการรับรู้ อารมณ์หรือความคิด เช่น โรคจิตเภท โรคซึมเศร้า โรคสมอง เส่อื ม เป็นต้น (๘) บุคคลออทิสติก ได้แก่ บุคคลที่มีความผิดปกติของระบบการทางานของสมองบางส่วน ซ่ึงส่งผลต่อ ความบกพร่องทางพัฒนาการด้านภาษา ด้านสังคมและการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และมีข้อจากัดด้านพฤติกรรม หรือมคี วามสนใจจากัดเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยความผดิ ปกติน้นั ค้นพบได้กอ่ นอายุ ๓๐ เดอื น

(๙) บุคคลพิการซ้อน ได้แก่ บุคคลที่มีสภาพความบกพร่องหรือความพิการมากกว่าหนึ่งประเภทใน บคุ คลเดยี วกนั ประกาศ ณ วนั ท่ี ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ จรุ ินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รฐั มนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธกิ าร

เร่ือง หลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารจัดทาแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล ระดบั การศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๕๒ อาศัยอานาจตามมาตรา ๔ และมาตรา ๘ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการจัดการศึกษา สาหรับคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงออกประกาศกาหนดหลักเกณฑ์และ วิธกี ารจดั ทาแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบุคคล ระดับการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐานไว้ ดงั ตอ่ ไปนี้ ข้อ ๑ ประกาศน้ีเรียกว่า “ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดทา แผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบคุ คล ระดับการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๕๒” ข้อ ๒ การจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ให้มีองค์ประกอบของแผนตามข้อ ๓ และ กระบวนการจัดทาแผนตามขอ้ ๔ ข้อ ๓ องค์ประกอบของแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบคุ คล ประกอบดว้ ยข้อมูลดังต่อไปน้ี (๑) ข้อมูลท่ัวไป เช่น วัน เดือน ปีเกิด ประเภทความพิการ ชื่อตัว ช่ือสกุล และที่อยู่ของผู้เรียน บิดา มารดา ผู้ปกครอง เปน็ ต้น (๒) ขอ้ มูลดา้ นการแพทย์ หรือด้านสุขภาพ (๓) ขอ้ มลู ดา้ นการศกึ ษา (๔) การกาหนดแนวทางการศึกษาและการวางแผนการจัดการศึกษาพิเศษ (๕) ความต้องการด้านสิ่งอานวยความสะดวก เทคโนโลยีส่ิงอานวยความสะดวก สื่อ บริการ และความชว่ ยเหลอื อ่ืนใดทางการศึกษา (๖) คณะกรรมการจัดทาแผน (๗) ความเห็นของบิดา มารดา ผูป้ กครอง หรอื ผเู้ รยี น (๘) ขอ้ มูลอ่ืนๆ ที่จาเป็น ขอ้ ๔ กระบวนการจัดทาแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบุคคล อย่างน้อยตอ้ งประกอบดว้ ย (๑) จดั ประเมินระดบั ความสามารถและความต้องการจาเปน็ พเิ ศษของผูเ้ รียนเป็นรายบุคคล (๒) กาหนดเปา้ หมายระยะยาว ๑ ปี เปา้ หมายระยะส้ัน หรือจดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม (๓) ประเมินความต้องการจาเป็นของผู้เรียนเป็นรายบุคคล ในด้านสิ่งอานวยความสะดวก เทคโนโลยีสิง่ อานวยความสะดวก สอ่ื บรกิ ารและความช่วยเหลอื อ่นื ใดทางการศึกษา (๔) กาหนดกระบวนการเรียนรแู้ ละปจั จยั ท่มี ีความตอ้ งการจาเปน็ ทางการศกึ ษา (๕) กาหนดรูปแบบ หลักเกณฑแ์ ละวิธีการประเมนิ ผลการเรียนรขู้ องผู้เรยี น ข้อ ๕ ให้สถานศึกษาแต่งต้ังคณะกรรมการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล สาหรับผู้เรียน แตล่ ะคนโดยมีกรรมการไมน่ อ้ ยกวา่ ๓ คน ซ่งึ ประกอบด้วย (๑) ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรือผ้แู ทน (๒) บดิ า หรอื มารดา หรือผปู้ กครอง หรือผ้ดู แู ลคนพกิ าร

(๓) ครูประจาช้ัน หรือครูแนะแนว หรือครูการศึกษาพิเศษ หรือครูที่รับผิดชอบงานด้านการศึกษา พเิ ศษที่ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษามอบหมาย เปน็ กรรมการและเลขานกุ าร ในกรณีท่ีสถานศึกษาใดมีนักวิชาการผู้เช่ียวชาญเฉพาะด้านความพิการ สถานศึกษาน้ันอาจ แตง่ ต้งั ใหน้ กั วิชาการดังกลา่ วเขา้ รว่ มเป็นกรรมการเพ่มิ เติมดว้ ยก็ได้ ข้อ ๖ ให้คณะกรรมการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ประชุมเพื่อจัดทาแผนตามข้อ ๒ แล้วนาแผนไปสู่การปฏิบัติ กากับ ติดตามผลการดาเนินงานตามแผน รวมทั้งจัดประชุมเพื่อประเมิน ทบทวน และปรับแผน พร้อมจัดทารายงานผลปลี ะ ๒ คร้ัง ข้อ ๗ ในการส่งต่อผู้เรียนที่จบการศึกษาแต่ละระดับ หรือย้ายสถานศึกษาให้สถานศึกษานาส่ง แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล รายงานผลการประเมิน การดาเนินการตามแผน แฟ้มประวัติและแฟ้ม สะสมผลการเรียนของผเู้ รยี น เพ่ือเปน็ ข้อมลู ในการจัดการศกึ ษาตอ่ ไป ประกาศ ณ วันท่ี ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ จุรนิ ทร์ ลักษณวศิ ษิ ฏ์ รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร

แบบฟอร์มแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบุคคล แผนกำรจัดกำรศึกษำเฉพำะบุคคล (Individualized Education Program: IEP) ชือ่ สถำนศกึ ษำ ................................................................ ระดับ............................................สังกัด ........................................ เร่ิมใชแ้ ผนวนั ท่ี ............................................................... สิ้นสุดแผนวันที่ ............................................................................. ๑. ขอ้ มลู ทัว่ ไป ช่ือ-ชอื่ สกลุ ......................................................................................................... เลขประจำตวั ประชำชน ..................................................................................... กำรจดทะเบยี นคนพิกำร  ไม่จด  ยงั ไมจ่ ด  จดแลว้ ทะเบียนเลขที่ .................................. วัน/เดอื น/ปเี กิด ............................................................................................ศาสนา…. ............................................. ประเภทควำมพิกำร ..................................................... ลกั ษณะควำมพิกำร ..................................................... ชื่อ-ชอ่ื สกลุ บิดำ ................................................................................................. ชอ่ื -ชอ่ื สกุลมำรดำ .............................................................................................. ชื่อ-ชอื่ สกลุ ผปู้ กครอง ........................................................................เกี่ยวข้องเป็น ................................................. ทอ่ี ยผู่ ู้ปกครองทต่ี ดิ ตอ่ ได้ .......................................................................................................................................... ตาบล/แขวง .............................. อาเภอ/เขต ............................. จงั หวดั .............................. รหัสไปรษณยี ์ ........... โทรศัพท์ .........................โทรศพั ทเ์ คล่อื นท.ี่ ........................โทรสาร ......................... e-mail address …………… ๒.ข้อมลู ทำงด้ำนกำรแพทย์หรอื ดำ้ นสุขภำพ  โรคประจาตัว .....................................................................................................................................  โรคภมู แิ พ้ ..........................................................................................................................................  การแพ้ยารักษาโรค.............................................................................................................................  ขอ้ มลู ประจาตวั ..................................................................................................................................  อืน่ ๆ .............................................................................................................................................. ๓.ข้อมูลดำ้ นกำรศกึ ษำ  ไมเ่ คยได้รบั การศกึ ษา/บรกิ ารทางการศกึ ษา  เคยไดร้ ับการศึกษา/บริการทางการศึกษา  ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษ .................................................ระดับ............................. พ.ศ. …………………  โรงเรยี นเรยี นร่วม ...................................................ระดับ............................. พ.ศ. …………………  การศึกษาด้านอาชีพ..................................................ระดบั .............................. พ.ศ. …………………  การศึกษานอกระบบ..................................................ระดับ............................ ..พ.ศ. …………………  การศึกษาตามอธั ยาศยั ...............................................ระดับ.............................. พ.ศ. …………………  อ่นื ๆ...........................................................................ระดบั .............................. พ.ศ. ………………… ๔.ข้อมลู อนื่ ๆ ท่จี ำเปน็ ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................................ ...



๕. กำรกำหนดแนวทำงกำรศึกษำและกำรวำงแผนกำรจดั กำรศกึ ษำพิเศษ ระดบั ควำมสำมำรถในปัจจบุ นั เป้ำหมำยระยะยำว ๑ ปี จ

จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม เกณฑ์และวธิ ปี ระเมนิ ผล ผู้รบั ผดิ ชอบ (เป้ำหมำยระยะสน้ั )

๖. ควำมตอ้ งกำรส่ิงอำนวยควำมสะดวก ส่ือ บริกำร และควำมชว่ ยเหลอื อื่นใดทำงกำรศึกษำ ส่งิ ทีม่ อี ยูแ่ ลว้ ที่ รำยกำร รหัส ผู้จัดหำ วิธีกำร ผูจ้ ดั (๑) (๒) (๓) (๑) (๒) (๓) (๑) (๒ รวมรายการท่ีขอรบั การอุดหนนุ .......................................................................................................... รวมจานวนเงนิ ท่ีขอรับการอดุ หนนุ .......................................................................................................... หมำยเหตุ ผจู้ ดั หำ (๑) ผ้ปู กครอง วิธีกำร (๑) ขอรับการอุดหนนุ

ส่งิ ทีต่ อ้ งกำร จำนวนเงนิ เหตุผลและควำมจำเปน็ ผปู้ ระเมิน ดหำ วิธกี ำร ที่ขออุดหนนุ ๒) (๓) (๑) (๒) (๓) .............. รายการ ..............บาท ( สองพนั บาทถ้วน) (๒) สถานศึกษา (๓) สถานพยาบาล/อนื่ ๆ น (๒) ขอยมื (๓) ขอยมื เงิน

๗. คณะกรรมกำรจดั ทำแผนกำรจดั กำรศกึ ษำเฉพำะบคุ คล ชื่อ ตำแหนง่ ลำยมือชอ่ื ๗.๑ ..................................................... ผู้บรหิ ารสถานศึกษา/ผู้แทน ................................. ๗.๒ ..................................................... บิดา/มารดาหรือผูป้ กครอง ................................. หรอื ผ้ดู ูแลคนพิการ ๗.๓ ..................................................... ครูประจาชน้ั หรือครูแนะแนว ................................. หรอื อาจารย์ทปี่ รึกษาหรือครกู ารศึกษาพิเศษ หรือครูท่รี ับผดิ ชอบงานด้านการศึกษาพิเศษ ทผ่ี บู้ รหิ ารสถานศกึ ษามอบหมาย ๗.๔ ..................................................... ............................................... ................................ ๗.๕ ..................................................... ................................................ ............................... ประชุมวนั ท่.ี ..................เดือน..................................พ.ศ............................ ๘. ควำมเหน็ ของบิดำ มำรดำ ผ้ปู กครอง หรอื ผู้เรียน การจดั ทาแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบคุ คล ฉบับนี้ ข้าพเจ้า  เหน็ ด้วย  ไม่เหน็ ดว้ ย ลงชื่อ...................................................................... ( .................................................................) บดิ า มารดา ผปู้ กครอง หรือผเู้ รยี น วนั ที่ ............ เดือน ..................... พ.ศ. ..................







นำงอรณุ ี สทุ ธธิ รรม

คณะบรรณำธิกำร 1. นายชลติ วพิ ัฒนคร ผอู้ านวยการศนู ย์การศึกษาพิเศษ ประจาจังหวดั มหาสารคาม 2. นายเจริญ แจ่มใส ผู้อานวยการศนู ย์การศึกษาพิเศษ ประจาจงั หวัดสมุทรสาคร 3. นายรุ่งโรจน์ นมิ่ นวนเกต 4. นางสาวอาพร ราชตกิ า ผ้อู านวยการศนู ย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 1 จงั หวดั นครปฐม 5. นายวรทัศน์ รงุ่ เรือง 6. นายยพุ นิ คาปนั ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษ ประจาจังหวดั ราชบุรี 7. นางสาวอรวรรณ เจอื จาน ผอู้ านวยการศูนย์การศึกษาพเิ ศษ ประจาจงั หวดั สงิ หบ์ รุ ี 8. นายสุรพล เสนบุญ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 9. นางครอรนี คุณารักษ์ ผู้อานวยการศูนย์การศึกษาพเิ ศษ ประจาจังหวัดปราจีนบุรี 10. นางแสงจนั ทร์ เพ็ญประจภาค 11. นายอดศิ ักดิ์ แกว้ กลาง ผอู้ านวยการศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษ ประจาจังหวดั พระนครศรอี ยุธยา 12. นางสาวอรณุ ี ศริ ินนั ท์ 13. นางสาวดวงรัตน์ ยาแสง รองผอู้ านวยการโรงเรียนโสตศึกษาจังหวดั ขอนแกน่ 14. นายสุวทิ ย์ อนิ ตะ๊ วกิ ลุ รองผอู้ านวยการโรงเรยี นนครราชสีมาปญั ญานุกลู 15. นางสาวภทรพร เล็กประเสริฐ ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจาจังหวัดมหาสารคาม 16. นางสาวนริ พล หลกั ฐาน ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษ ประจาจังหวัดมหาสารคาม 17. นางสาววิชุนนั ท์ เชือ้ เจรญิ ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษ เขตการศกึ ษา 5 จงั หวดั สุพรรณบรุ ี 18. นางสาวสุพัตรา นามวงค์ ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษ เขตการศกึ ษา 5 จงั หวัดสุพรรณบรุ ี 19. นางสาวปารีนารถ จันทรไ์ มตรี ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษ ประจาจังหวัดสมทุ รสาคร 20. นางสาวอรอนงค์ คดั ทะจันท์ ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษ เขตการศกึ ษา 9 21. นางสุคนธ์ ผาสุข ศนู ย์การศึกษาพิเศษ เขตการศกึ ษา 9 22. นางสาวคณติ ศาสตร์ บุญพนั ธ์ ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษ ประจาจังหวดั ลาปาง 23. นางพลู ศรี กองหอม ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษ ประจาจังหวัดพระนครศรอี ยธุ ยา 24. นางอุบลรัตน์ นานาผล โรงเรียนศรีสงั วาลขอนแกน่ 25. นายสมาน ทวเี ลิศ โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดร้อยเอ็ด 26. พลอย พิมพ์ศรี โรงเรยี นโสตศกึ ษาจงั หวัดร้อยเอด็ โรงเรียนวัดเสาธง ศนู ย์การศึกษาพิเศษ ประจาจังหวัดนครศรีธรรมราช ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 1 จงั หวดั นครปฐม ออกแบ




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook