146 ท่ี หัวเรื่อง ตวั ชวี้ ดั เน้อื หา จานวน 1.อธบิ ายปัญหา สาเหตุ อาการ และ (ชั่วโมง) 3 อาหารและ การปูองกนั โรคขาดสารอาหาร 1.โรคขาดสารอาหาร โภชนาการ ได้แก่ โรคลักปิดลักเปิด 8 2.บอกหลักการ และปฏบิ ัติตนตามหลัก โรคคอหอยพอก โรคเอ๋อ สุขาภบิ าลอาหารได้อยา่ งเหมาะสม โรคตาฟาง โรคโลหติ จาง ฯลฯ 2. หลกั การสขุ าภบิ าลอาหาร 3. จัดโปรแกรมอาหารท่ีเหมาะสม สําหรับครอบครวั ผู้สงู อายุ และผู้ปุวย - การปนเปอ้ื น - การปรงุ และจาํ หน่าย - ผู้ประกอบการ จาํ หนา่ ย อาหาร - สขุ ลักษณะทวั่ ไปบรเิ วณแผง จาํ หนา่ ย - สขุ ลักษณะอาหารถุง ฯลฯ 3. การจดั โปรแกรมอาหารท่ี เหมาะสมสาํ หรับบุคคลกล่มุ ตา่ งๆ - ตนเองและครอบครวั - ผูส้ งู อายุ - ผู้ปุวย ฯลฯ 4 เสริมสรา้ งสุขภาพ 1. มีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมสรา้ งเสริม 1. การรวมกล่มุ เพ่ือสร้างเสริม 12 สขุ ภาพของชมุ ชนอย่างสม่าํ เสมอ สุขภาพ เช่น กลุ่มออกกาํ ลังกาย เล่นกีฬา บาํ เพ็ญประโยชนแ์ ละ นันทนาการ เป็นต้น 2. อธบิ ายวธิ ีการของการออกกําลงั กาย 2. การออกกําลังกายที่ เพอ่ื สุขภาพได้อย่างถกู ตอ้ ง เหมาะสมกับบุคคลและวัยต่างๆ
147 ท่ี หัวเรอื่ ง ตวั ชี้วดั เน้อื หา จานวน (ชั่วโมง) 5 โรคท่ถี ่ายทอดทาง 1. อธบิ ายโรคทถี่ า่ ยทอดทางพนั ธุกรรม 1. โรคท่ีถ่ายทอดทางพันธกุ รรม 12 พันธุรกรรม สาเหตุ อาการ การปูองกนั และการรักษา -โรคทัลลัสซเี มยี -โรคภูมิแพ้ -โรคขาดสารไอโอดีน ฯลฯ 2. ปฏบิ ัตติ นในการปูองกนั โรคตดิ ตอ่ 2. การวางแผนรว่ มกับชมุ ชน โรคทเ่ี ป็นปญั หาต่อสุขภาพและโรคที่ เพื่อปูองกนั และหลีกเลี่ยง เปน็ ปญั หาสาธารณสุข โรคตดิ ต่อและโรคที่เปน็ ปญั หา สาธารณสุข 3. วิเคราะหผ์ ลกระทบของพฤติกรรม 3. ผลกระทบของพฤติกรรม สุขภาพที่มีต่อการปูองกนั โรค สุขภาพท่ีมตี ่อการปอู งกนั โรค 4. แนะนาํ ขอ้ มูล ข่าวสาร และแหล่ง 4. ขอ้ มลู ข่าวสาร และแหลง่ บรกิ ารเพื่อปูองกนั โรคแก่ครอบครวั และ บริการเพ่ือการปูองกนั โรค ชมุ ชน 6 ปลอดภยั จาก 1. อธิบายหลกั การ และวิธีการใชย้ าที่ 1.หลกั การและวิธีใชย้ า เช่น การ 10 การใชย้ า ถูกต้อง ใชโ้ ดยไมจ่ าํ เปน็ 2. วิเคราะห์ผลกระทบจากความเชอื่ ท่ผี ดิ 2. ความเช่ือเกี่ยวกับการใชย้ า เกยี่ วกับการใช้ยา - ยาบาํ รุงกาํ ลงั - ยาทที่ าํ จากอวัยวะสตั ว์ เชน่ อุ้งตีนหมี ดีงู สมองลงิ ยาดอง งเู ห่า 3. จําแนกอนั ตรายที่เกดิ จากการใชย้ า 3. การวเิ คราะห์อันตรายจาก การปูองกนั และการช่วยเหลอื ไดอ้ ย่าง การใชย้ า การปูองกัน และการ ถูกต้อง ช่วยเหลอื 4. แนะนําข้อมลู ข่าวสาร และความรู้ท่ี 4. การแนะนําในการเลือกใช้ ถกู ต้องเก่ยี วกับการใชย้ าแกค่ รอบครวั ขอ้ มูลข่าวสาร เกีย่ วกับการใช้ยา และชมุ ชน 7 ผลกระทบจากสาร 1. วิเคราะหป์ ัญหา สาเหตแุ ละการแพร่ 1.การวเิ คราะหป์ ญั หา สาเหตุ 10 เสพติด ระบาดของสารเสพติด ผลกระทบ และการแพรร่ ะบาด 2. วิเคราะห์ผลกระทบของสารเสพติดที่ ของสาร เสพติด
148 ท่ี หัวเรอื่ ง ตวั ช้วี ดั เนื้อหา จานวน (ชว่ั โมง) มตี อ่ ตนเอง ครอบครวั ชมุ ชนและ ประเทศ 3. มสี ว่ นรว่ มรณรงคป์ อู งกัน สิ่งเสพตดิ 2. การมีสว่ นรว่ มในการปอู งกัน ในชมุ ชนอยา่ งสม่าํ เสมอ สิ่งเสพติดในชมุ ชน 4. แนะนาํ สาระสาํ คัญของกฎหมายที่ 3. กฎหมายท่ีเกีย่ วข้องกับส่ิง เกี่ยวขอ้ งกับสิ่งเสพติดแก่ครอบครวั และ เสพตดิ ผ้อู ืน่ 8 ทักษะชีวิตเพื่อ 1. บอกความหมายและความสาํ คญั ของ 1. ความหมาย ความสาํ คัญของ 10 สุขภาพจิต ทักษะชวี ติ ได้ทั้ง 10 ประการ ทกั ษะชวี ติ 10 ประการ 2. บอกทักษะชวี ิตทจ่ี ําเปน็ ได้อย่างน้อย 2. ทกั ษะชวี ติ ทจ่ี ําเปน็ 3 ประการ 3 ประการ - ทักษะการตระหนกั รู้ในตน - ทักษะการจดั การกับอารมณ์ - ทกั ษะการจัดการกับความ เครยี ด 3. ประยุกตใ์ ชท้ ักษะชีวิตในการทาํ งาน 3. การประยุกต์ใชท้ กั ษะชีวติ ใน การปรับตวั และการแก้ปัญหาชีวติ การทํางาน การปรบั ตัว และการ ครอบครัวไดอ้ ยา่ งเหมาะสม แก้ปัญหาชวี ิต 4. แนะนํากระบวนการทักษะชวี ติ ใน 4.การแนะนาํ กระบวนการ การแก้ปัญหาแก่ครอบครวั เพอ่ื นและ ทกั ษะชวี ิตในการแกป้ ัญหากบั ผอู้ น่ื ผอู้ ่นื 9 อาชพี ผลติ จําหน่าย 1. อธบิ ายลักษณะเฉพาะของธุรกิจผลติ 1. ลักษณะธรุ กิจผลิตอาหาร 9 อาหารสําเรจ็ รปู และจําหน่ายอาหารสําเรจ็ รูป สาํ เร็จรูป ตามหลักสขุ าภิบาล 2. บอกขั้นตอนการดําเนนิ การของธุรกิจ 2. วิธกี ารดาํ เนินงานของธรุ กิจ อาหาร ผลิตและจําหนา่ ยอาหารสําเร็จรปู ผลิตและจําหน่ายอาหาร 3. บอกคุณสมบัติของร้านอาหารหรือ สําเรจ็ รปู สถานท่จี ําหนา่ ยอาหารสาํ เรจ็ รปู ตาม 3. คณุ สมบตั ิร้านอาหารหรือ หลักสุขาภิบาลอาหาร สถานท่จี ําหนา่ ยอาหารสําเรจ็ รปู ตามหลกั สุขาภบิ าลอาหาร
149 คาอธิบายรายวชิ า ทช31003 ศิลปศกึ ษา จานวน 2 หน่วยกิต ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั รู้ เข้าใจ มีคุณธรรม จริยธรรม ช่ืนชม เห็นคุณค่าความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมทาง ทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์สากล สามารถวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ได้อย่างเหมาะสม และสามารถเลือก ประกอบอาชีพจากความรดู้ า้ นการออกแบบได้ ศึกษา เรียนรู้ เกยี่ วกับศลิ ปศกึ ษา ดงั นีค้ อื ทัศนศิลป์สากล ความหมาย ความสําคัญ ความเป็นมา รูปแบบต่างๆทางทัศนศิลป์ ท่ีเกี่ยวข้องกับ ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เป็นต้นกําเนิดของงานทัศนศิลป์ทุกประเภท การวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ การ อนุรักษ์ภูมิปัญญา ด้านวัฒนธรรม ประเพณี โบราณสถานของทัศนศิลป์สากล การเลือกอาชีพจากความรู้ด้าน การออกแบบ ดนตรีสากล ความหมาย ความสําคัญ ความเป็นมา วิวัฒนาการรูปแบบเทคนิควิธีการของดนตรี ประเภทต่างๆ คุณค่าความงาม ความไพเราะของดนตรีสากล การวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ การอนุรักษ์ภูมิ ปัญญา วฒั นธรรม ประเพณี ของดนตรีสากล นาฏศิลป์สากล ความหมายความสําคัญ ความเป็นมา วิวัฒนาการ รูปแบบเทคนิควิธีการ คุณค่า ความงามของนาฏศิลป์สากล การวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ การอนุรักษ์ภูมิปัญญา วัฒนธรรม ประเพณีของ นาฏศิลป์สากล การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ ศึกษาจากเอกสาร จากธรรมชาติ ส่ือ ทุกประเภท และแหล่งเรียนรู้ ฝึกจินตนาการ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ สร้างสรรค์ ฝึกปฏิบัติ ทัศนศึกษา กิจกรรมค่าย ฯลฯ ให้เห็นคุณค่าและช่ืนชมความงามของ ทัศนศลิ ป์ ดนตรนี าฏศลิ ป์ และการอนุรักษ์ ภมู ปิ ัญญา วฒั นธรรม ประเพณี สิง่ แวดลอ้ ม ของทศั นศิลปส์ ากล การวัดและประเมินผล ประเมนิ ความรู้ ความเขา้ ใจ ความคิดเหน็ ช้นิ งาน ผลงาน โดยวธิ กี ารทดสอบ สังเกต สมั ภาษณ์
150 รายละเอยี ดคาอธบิ ายรายวิชา ทช31003 ศลิ ปศึกษา จานวน 2 หน่วยกิต ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ รู้ เข้าใจ มีคุณธรรม จริยธรรม ชื่นชม เห็นคุณค่าความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมทาง ทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์สากล สามารถวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ได้อย่างเหมาะสม และสามารถเลือก ประกอบอาชีพต่างๆ จากความรดู้ า้ นการออกแบบได้ ที่ หัวเร่อื ง ตวั ชวี้ ัด เนอื้ หา จานวน ช่วั โมง 1 ทัศนศลิ ปส์ ากล 1.อธบิ ายความหมาย ความสาํ คัญ และ 1.ความหมาย ความสําคญั และ 30 ความเปน็ มาของงานทศั นศลิ ป์สากลใน ความเป็นมาของทัศนศลิ ป์สากล ดา้ นต่าง ๆ ในด้าน - จติ รกรรม - ประติมากรรม - สถาปตั ยกรรม - ภาพพมิ พ์ 2. อธบิ ายเกีย่ วกบั ความซาบซึ้งในงาน 2. จดุ เสน้ สี แสง – เงา รูปร่าง ทศั นศิลปส์ ากล และรปู ทรง เพื่อให้เกดิ ความ ซาบซ้งึ และมีทัศนคตทิ ่ีดกี ับงาน ทศั นศิลป์ 3. อธบิ ายกระบวนวพิ ากษ์ วิจารณ์ งาน 3. การวิพากษ์วจิ ารณ์ งาน ทัศนศิลป์สากลด้านต่าง ๆ ทศั นศิลปส์ ากล 4.สามารถจนิ ตนาการ และอธิบาย 4. ความงามทางทศั นศิลป์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์ วิธีการ สากล ท่ีเกดิ จากการสรา้ งสรรค์ สร้างสรรค์ความงามจากธรรมชาตใิ ห้ ด้วยจุด เสน้ สี แสง – เงา ออกมาเป็นความงามทางทศั นศิลป์ รูปร่าง และรูปทรงของวัตถจุ าก สากล ธรรมชาติ 5.อธิบายวเิ คราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์ 5. ความคดิ สร้างสรรค์ ความ คุณค่าของงาน ทศั นศิลป์ สากล ในเรอ่ื ง สวยงาม ความเหมาะสม ความ ของความงาม ทีเ่ กิดจากความคิด พอดีของการนําวตั ถุ วสั ดุ สรา้ งสรรค์ของมนุษย์ โดยนาํ วัตถุ วสั ดุ ส่ิงของตา่ งๆ มาประดับตกแต่ง สิ่งของต่าง ๆ เข้ามาประดบั เสรมิ แตง่ รา่ งกายท่ีอยู่อาศัย หรือตกแต่ง ร่างกาย ท่ีอย่อู าศัย ตกแตง่ สถานท่ี สถานทสี่ ง่ิ แวดลอ้ มทว่ั ๆ ไป สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม 6.นาํ เสนอ ถา่ ยทอด ความรู้ วิพากษ์ 6.การศึกษา เปรยี บเทียบ
151 ท่ี หัวเรื่อง ตัวช้วี ัด เนอ้ื หา จานวน 2 ดนตรีสากล ชว่ั โมง วิจารณค์ วามคิดริเรม่ิ สรา้ งสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์ การตกแตง่ วัสดุของงานทัศนศลิ ป์สากล เกี่ยวกบั ความคิดสรา้ งสรรค์ใน การประดับตกแต่งในงาน 7.อธบิ ายคณุ คา่ ของความซาบซึ้ง ความ ทศั นศิลปส์ ากล รกั และความหวงแหนทางวัฒนธรรม 7.ความสาํ คญั ความดี ความงาม ประเพณีของโบราณสถาน ของวฒั นธรรม ประเพณี และ โบราณวตั ถุของสากลทัว่ โลก ความสวยงามของจิตรกรรมฝา ผนัง โบสถ์ วิหาร พระราชวัง ยคุ 8.นาํ เสนอถ่ายทอดความรู้ วเิ คราะห์ สมยั ตา่ ง ๆ ท่ัวโลก วิพากษ์ วจิ ารณ์ วัฒนธรรม ประเพณี 8.การนาํ เสนอและการวเิ คราะห์ โบราณสถาน โบราณวัตถุ ของสากลได้ วพิ ากษว์ จิ ารณเ์ กยี่ วกบั วัฒนธรรม ประเพณี โบราณสถานและ โบราณวัตถุของสากล 1.อธิบายประวตั ิ ความเป็นมาและ 1. ประวตั ิ ความเป็นมาและ 20 วิวัฒนาการของเคร่ืองดนตรีสากล วิวฒั นาการของเคร่อื งดนตรี ประเภทต่าง ๆ สากลประเภทตา่ ง ๆ 2.อธบิ าย รปู แบบและเทคนคิ วิธกี าร 2.รปู แบบของเคร่ืองดนตรสี ากล เล่นของเคร่ืองดนตรสี ากลประเภท ประเภทต่าง ๆ และเทคนิค ตา่ ง ๆ วิธีการเลน่ ของเครื่องดนตรี สากลแต่ละประเภท 3.อธบิ ายคุณค่าและความไพเราะของ 3. คณุ คา่ และความไพเราะของ การเลน่ เครื่องดนตรีสากล และสามารถ การเลน่ เคร่อื งดนตรีสากล และ วเิ คราะห์ วิพากษว์ จิ ารณ์ การวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ 4. อธบิ ายถึงคุณค่าและความไพเราะ 4. คณุ ค่าของความไพเราะ ของ ของเพลงสากล และสามารถวิเคราะห์ เพลง สากล และการวเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์ เพลงสากล วิพากษ์ วจิ ารณ์ 5. อธบิ ายประวัตคิ วามเปน็ มาของภูมิ 5. ประวัติ ความเป็นมาของ ปญั ญาทางดนตรีและเพลงสากล ภมู ปิ ัญญาทางดนตรแี ละเพลง สากล 6.อธิบายถึงคุณค่าของความรัก และ 6. เห็นคณุ คา่ และเกิดความหวง ความหวงแหน พร้อมยกตัวอย่าง แหนภูมปิ ญั ญาทางดนตรีสากล ตลอดจนร่วมสบื สานกระบวนการ
152 ท่ี หวั เรื่อง ตัวช้วี ดั เนือ้ หา จานวน 3 นาฏศลิ ปส์ ากล ชว่ั โมง ถ่ายทอดของภมู ิปัญญาทางดนตรีสากล 1.อธิบายรูปแบบ ประเภท และโอกาสใน 1.การแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละการ 30 การแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละการละครสากล ละครสากลในรูปแบบและ ท่ัวโลก โอกาสต่าง ๆ 2.อธบิ ายประวตั ิ ความเปน็ มาและ 2.ประวัติ ความเปน็ มา และ ววิ ัฒนาการของนาฏศิลป์และการละคร ววิ ัฒนาการการแสดงทาง สากลประเภทตา่ ง ๆ นาฏศิลป์และการละครสากล ประเภทตา่ งๆ 3.อธบิ ายความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง 3.ความสมั พันธ์ระหวา่ ง นาฏศิลป์และการละครสากล กับการ นาฏศิลปแ์ ละการละครสากล พัฒนาสังคม กับบทบาททางสังคมในการ พฒั นาสังคม 4.สามารถประยุกต์ใชท้ ักษะ การแสดง 4.การเลอื กใช้และผสมผสาน นาฏศิลปแ์ ละการละครสากลไปใชใ้ ห้ องค์ประกอบและพัฒนาทักษะ เกิดประโยชนต์ อ่ ตนเองและสังคมอย่าง ทางนาฏศลิ ปแ์ ละการละคร เหมาะสม สากล 5.อธิบายการนาํ ความรู้ ความเขา้ ใจและ 5.การใช้ความรู้ ความเขา้ ใจ ประสบการณ์มาประเมินคุณค่าการละคร และประสบการณป์ ระเมนิ และเชื่อมโยงกับชวี ติ และสังคมเลอื กชม คณุ คา่ การละคร และ การแสดง เพื่อสรา้ งความสุขและเกิด วธิ กี ารเลือกชมการแสดง ประโยชนต์ อ่ ตนเอง นาฏศิลปแ์ ละการละครของสากล เพ่ือสร้างความสุขและเกดิ ประโยชนต์ ่อตนเอง 6.อธบิ ายคุณค่า ความสําคัญของ 6.คณุ ค่าของนาฏศลิ ปแ์ ละการ นาฏศลิ ป์และการละครสากลมรดกทาง ละครสากลท่เี กยี่ วข้องกบั มรดก วัฒนธรรม และภูมปิ ญั ญาสากล กับการ ทางวัฒนธรรมภูมิปญั ญา สากล พัฒนาสงั คม และการพฒั นาสังคม 7.อธบิ ายประวตั ิ ความเปน็ มา 7.ประวตั ิ ความเปน็ มา และวิวฒั นาการของการลีลาศ วิวัฒนาการของลีลาศสากล มาตรฐาน ต่างๆทว่ั โลก 8.อธบิ าย คณุ ค่าและความสมั พันธข์ อง 8.คุณคา่ และความสัมพันธข์ อง วัฒนธรรม ประเพณที เ่ี กี่ยวข้องกบั วัฒนธรรม ประเพณี ที่เกีย่ วข้อง วิวฒั นาการของลีลาศมาตรฐานที่ กบั การววิ ัฒนาการของการ
153 ที่ หวั เรือ่ ง ตัวชี้วัด เนอื้ หา จานวน ชั่วโมง เก่ียวกับมรดกทางวฒั นธรรม ลีลาศมาตรฐานที่เปน็ มรดกทาง วฒั นธรรม 9.ระบุคณุ ค่าและความสัมพนั ธ์ของทา่ 9.การนาํ ทา่ ลลี าศมาตรฐาน ลีลาศ มาตรฐานไปประยุกตใ์ ช้ประกอบ ไปประยุกตใ์ ช้ประกอบเพลงอื่น กบั เพลงอื่น ๆ ๆ เพอ่ื นําไปใช้ โดยให้ เพอ่ื ใหส้ อดคล้องกับวฒั นธรรม สอดคล้องกับวฒั นธรรมใน ประเพณี และในชวี ิตประจาํ วันของแต่ ภมู ิภาค ละภูมภิ าคทัว่ โลก 4 การออกแบบกับ 1. อธิบายประเภทและลักษณะของ 1. ประเภทและลกั ษณะเฉพาะ 3 แนวทางการ อาชีพด้านการออกแบบตกแต่งทอ่ี ยู่ ของอาชีพการออกแบบดา้ น ประกอบอาชีพ อาศยั และเครื่องแตง่ กายได้ - การออกแบบตกแตง่ 2. สามารถประยุกตแ์ ละเลือกใชท้ กั ษะ - การออกแบบเคร่ือง การออกแบบงานศลิ ปะและนําไปใชใ้ น การประกอบอาชพี ได้ตรงตามแนวทาง เฟอร์นเิ จอร์ อาชพี - การออกแบบเส้อื ผา้ 3. อธิบายถึงคุณสมบตั ิของผ้ทู ี่จะ ประกอบอาชีพด้านการออกแบบตกแต่ง แฟช่ัน ทอี่ ยู่อาศัย และการแต่งกายได้ 2. สภาพการจา้ ง การทํางานแต่ ละสาขาอาชพี ด้านการออกแบบ 3. คุณสมบตั ขิ องผู้ประกอบ อาชพี ดา้ นการออกแบบตกแต่ง เคร่ืองเฟอร์นเิ จอรแ์ ละเส้ือผา้ แฟช่นั
154 สาระการพัฒนาสงั คม สาระการพฒั นาสังคม เป็นสาระเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครอง ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี หนา้ ท่ีพลเมอื ง และการพัฒนาตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน สังคม ประกอบด้วยมาตรฐานการเรียนรู้ ดงั น้ี สาระการพัฒนาสังคม ประกอบด้วย 4 มาตรฐาน ดังนี้ มาตรฐานที่ 5.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจ ตระหนักถงึ ความสําคัญเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครอง สามารถนาํ มาปรบั ใชใ้ นการดํารงชีวติ มาตรฐานท่ี 5 .2 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ เห็นคุณค่า และสบื ทอดศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี เพ่ือการอยู่ รว่ มกันอยา่ งสันตสิ ุข มาตรฐานที่ 5.3 ปฏิบัตติ นเป็นพลเมืองดีตามวิถปี ระชาธิปไตย มีจติ สาธารณะ เพ่ือความสงบสุขของสังคม มาตรฐานที่ 5.4 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ เห็นความสําคญั ของหลกั การพัฒนา และสามารถพัฒนาตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน สงั คม มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั และผลการเรยี นรูท้ ค่ี าดหวัง ในแต่ละมาตรฐาน มาตรฐานที่ 5.1 มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงความสําคญั เก่ยี วกบั ภมู ิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื งการปกครอง สามารถนาํ มาปรบั ใช้ในการดาํ รงชวี ติ มาตรฐาน มีความรู้ ความเข้าใจตระหนกั เกย่ี วกบั ภมู ิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การเรยี นรู้ระดบั การปกครองในโลก และนาํ มาปรับใชใ้ นการดาํ เนนิ ชวี ติ เพ่ือความม่ันคงของชาติ ผลการเรียนรู้ 1.อธิบายขอ้ มลู เกีย่ วกับภมู ิศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครอง ท่คี าดหวงั ท่เี ก่ยี วข้องกับประเทศตา่ งๆ ในโลก 2. วิเคราะห์เปรยี บเทยี บสภาพภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การ ปกครอง ของประเทศต่างๆ ในโลก 3. ตระหนัก และคาดคะเนสถานการณ์ระหว่างประเทศทางดา้ น ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ การเมือง การปกครอง ที่มีผลกระทบต่อประเทศไทยและโลกในอนาคต 4. เสนอแนะแนวทางในการแกป้ ญั หา การปูองกันและการพฒั นา ทางดา้ น การเมือง การปกครอง เศรษฐกิจและ สงั คม ตามสภาพปัญหาทเี่ กิดขึ้น เพ่ือความม่ันคงของชาติ
155 มาตรฐานที่ 5.2 มีความรู้ ความเขา้ ใจ เหน็ คุณค่าและสบื ทอดศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี เพอ่ื การอยู่ รว่ มกันอยา่ งมีความสุข มาตรฐาน มีความรู้ ความเขา้ ใจ เห็นคุณค่า และสบื ทอดศาสนา วัฒนธรรม ประเพณีของ ประเทศ การเรยี นรู้ระดบั ในสังคมโลก ผลการเรียนรู้ 1.อธิบาย ประวตั ิ ความสาํ คัญ หลกั คําสอน ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณีของประเทศ ทคี่ าดหวงั ในโลก 2. ยอมรับและปฏบิ ัตติ นเพ่ือการอยู่ร่วมกนั อย่างสนั ติสุขในสังคมที่มคี วามหลากหลาย ทางศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี 3. เลอื กรบั ปรับใช้วฒั นธรรม ประเพณี ท่สี อดคล้องและเหมาะสมกับสังคมไทย มาตรฐานท่ี 5.3 ปฏบิ ัติตนเปน็ พลเมืองดีตามวิถปี ระชาธิปไตยมจี ติ สาธารณะเพอื่ ความสงบสุขของ สงั คม มาตรฐาน มคี วามรู้ ความเข้าใจดาํ เนนิ ชีวติ ตามวถิ ีประชาธปิ ไตย กฎระเบยี บของประเทศต่างๆ ใน การเรยี นรรู้ ะดับ โลก ผลการเรียนรู้ 1.อธิบายความสําคัญและบทบาทหน้าทข่ี ององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนญู ที่คาดหวัง 2.ระบบุ ทบาทองค์กรระหวา่ งประเทศที่มบี ทบาทตอ่ การเมอื งการปกครองของประเทศไทย/โลก 3. ตระหนักถงึ ผลกระทบจากการไม่ปฏิบตั ิตามกฎหมายของประชาชนในประเทศตา่ งๆ 4. เสนอทางเลือกในการแกป้ ัญหาความไม่สงบท่ีเกี่ยวขอ้ งกับกฎหมายของประเทศไทย และประเทศตา่ งๆ มาตรฐานที่ 5.4 มีความรู้ ความเขา้ ใจ เหน็ ความสาํ คัญของหลกั การพฒั นา และสามารถพัฒนาตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน/สังคม มาตรฐาน มคี วามรู้ ความเข้าใจหลกั การพัฒนา ชมุ ชน สังคม สามารถวเิ คราะหข์ ้อมูล และเป็นผูน้ าํ การเรยี นร้รู ะดับ ผู้ตามในการพฒั นาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคมใหส้ อดคล้องกับสภาพการ เปลยี่ นแปลงของเหตกุ ารณป์ ัจจบุ นั ผลการเรียนรู้ 1.มคี วามรู้ ความเขา้ ใจหลกั การพัฒนาชุมชน สงั คม ทค่ี าดหวัง 2. บอกความหมายและความสาํ คัญของแผนชวี ติ และชมุ ชน สงั คม 3. วเิ คราะหแ์ ละนาํ เสนอข้อมูลตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน/สังคม ด้วยเทคนิค และวธิ ีการ ท่หี ลากหลาย 4. จงู ใจใหส้ มาชิกของชุมชนมีสว่ นรว่ มในการจดั ทาํ แผนชวี ิต และแผนชมุ ชน สังคมได้ 5. เปน็ ผนู้ าํ ผตู้ ามในการจดั ทําประชาคม ประชาพจิ ารณ์ของชุมชน 6. กําหนดแนวทางในการดาํ เนนิ การเพ่ือนาํ ไปส่กู ารทําแผนชีวิต ครอบครวั ชมุ ชน สงั คม 7. รว่ มพัฒนาแผนชมุ ชนตามขัน้ ตอน
156 สาระการพัฒนาสังคม (รายวชิ าบังคบั ) มาตรฐานท่ี รายวิชาบังคับ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย รหสั รายวิชา รายวิชา หนว่ ยกติ 3 5.1 การพัฒนาสงั คม สค31101 สงั คมศึกษา 2 5.2 และ 5.3 การพัฒนาสงั คม สค31102 ศาสนา และหนา้ ท่ีพลเมือง 1 5.4 การพัฒนาสงั คม สค31103 การพฒั นาตนเองชมุ ชน สงั คม 6 รวม สาระการพัฒนาสงั คม (รายวิชาเลอื กบังคับ) มาตรฐานที่ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย 5.1 รายวิชาเลือก รหสั รายวิชา รายวชิ า หน่วยกติ 3 การเงนิ เพ่ือชวี ิต3 สค32029 การเงินเพ่ือชวี ติ 3 3 การเรยี นรู้สู้ภัย สค32032 การเรียนรสู้ ภู้ ยั ธรรมชาติ3 ธรรมชาติ3 3 ประวตั ศิ าสตรช์ าติไทย ประวตั ศิ าสตร์ชาตไิ ทย3 3 3 สค32034 12 ลกู เสอื กศน. สค32035 ลูกเสือ กศน.3 รวม สาระการพฒั นาสงั คม (รายวชิ าเลือกบังคบั ) มาตรฐานที่ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 5.1 รายวิชาเลือก รหัสรายวิชา รายวิชา หน่วยกติ 3 อาเซียนศึกษา สค02015 อาเซียนศึกษา 3 รวม
157 คาอธบิ ายรายวิชา สค31001 สังคมศึกษาจานวน 3 หน่วยกิต ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักเกี่ยวกับภมู ิศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมืองการปกครอง ในโลกและนํามาปรับใชใ้ นการดําเนนิ ชวี ิตเพือ่ ความมั่นคงของชาติ ศึกษาและฝึกทักษะเกย่ี วกบั เรื่องดงั ต่อไปนี้ 1. สภาพภูมิศาสตร์กายภาพ ของประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรป ทวีปออสเตรเลีย ทวีปแอฟริกา ทวีป อเมริกา และปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทีส่ าํ คัญๆ 2. การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ แหล่งอารยะธรรมโลก บุคคลสําคัญของโลก เหตุการณ์สําคัญ ของโลกทีม่ ีผลต่อปจั จบุ ัน 3. ระบบเศรษฐกิจ สถาบันการเงิน และการเงินการคลังของประเทศไทย ระบบเศรษฐกิจระหว่าง ประเทศ และการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ 4. การพัฒนาการ การเมือง การปกครอง ของประเทศไทย และเหตุการณ์สําคัญทางการเมืองการ ปกครองของโลกท่ีส่งผลกระทบต่อประเทศไทย การจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ 1. จัดให้มีการสํารวจสภาพภูมิศาสตร์กายภาพประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครอง ของชุมชน จัดกลุ่มอภิปรายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สืบค้นข้อมูลทางกายภาพ จากแหล่งเรียนรู้ภูมิ ปญั ญา แผนที่ Website ฯลฯ และสรุปผลการเรยี นรู้ นาํ เสนอในรูปแบบตา่ งๆ 2. จดั ให้มกี ารศึกษาจากส่ือการเรยี นรู้ เชน่ เอกสาร ตาํ รา CD แหล่งการเรียนรู้ ภมู ิปญั ญา สถานท่สี าํ คัญ 3. จดั ให้มีการสืบคน้ รวบรวมข้อมูล โดยวิธีการต่างๆ เช่น การศึกษาดูงาน การเก็บข้อมูล จากองค์กร ฟังการบรรยายจากผ้รู ู้ จัดกลุ่มอภปิ ราย การวิเคราะห์ เสนอแนวคิด ทางเลอื ก 4. จัดกจิ กรรมการศึกษาจากสภาพจริง การเล่าประสบการณ์ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การค้นคว้าจาก ผู้รู้ แหล่งการเรียนรู้ ส่ือเทคโนโลยี ส่ือเอกสาร การจําลองเหตุการณ์ การอภิปราย การวิเคราะห์ สรุปผลการเรียนรู้ และนาํ เสนอ ในรูปแบบทีห่ ลากหลาย การวดั และประเมินผล ประเมินจากการทดสอบ การสังเกต การประเมนิ การมีส่วนรว่ มในการทาํ กจิ กรรมและการตรวจผลงาน ฯลฯ
158 รายละเอียดคาอธิบายรายวิชา สค 31001 สงั คมศกึ ษา จานวน 3 หนว่ ยกิต ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรูร้ ะดบั มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ตระหนักเกีย่ วกบั ภมู ิศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื งการปกครอง ในโลกและนาํ มาปรบั ใชใ้ นการดําเนินชีวติ เพ่อื ความมัน่ คงของชาติ ท่ี หวั เร่อื ง ตัวชี้วัด เนอ้ื หา จานวน 1. ภมู ศิ าสตร์กายภาพ (ชวั่ โมง) 1. มีความรู้ ความเข้าใจ 1. สภาพภมู ศิ าสตรก์ ายภาพของ 15 เก่ยี วกับสภาพทางภูมศิ าสตร์ ประเทศไทยกบั ทวปี เอเชีย กายภาพของประเทศไทยกับ ทวปี ยุโรป ทวปี ออสเตรเลยี ทวปี ต่างๆ ทวีปแอฟริกา ทวีปอเมรกิ า 2.เปรียบเทียบสภาพ 2. การเปรียบเทียบสภาพ ภูมิศาสตร์กายภาพของ ภูมศิ าสตร์กายภาพของประเทศ ประเทศไทยกับทวีป ไทยกบั ประเทศตา่ งในในทวีป ต่างๆ ต่างๆ 3. มีความรู้ ความเข้าใจ ใน 3. สาเหตแุ ละลักษณะการเกิด ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตทิ ่ี ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติท่ี เกิดขึน้ ในโลก สาํ คญั ๆ รวมทง้ั การปอู งกนั อันตรายเม่ือเกิด - พายุชนดิ ตา่ งๆ - นา้ํ ท่วม - แผน่ ดนิ ไหว - ภูเขาไฟระเบดิ - ภาวะโลกร้อน ปรากฏการณ์ เรือน กระจก 4. มที กั ษะการใชเ้ ครื่องมอื - อนื่ ๆ ทางภมู ศิ าสตร์ที่สําคญั ๆ 4. วิธีใชเ้ คร่ืองมือทางภมู ศิ าสตร์ - แผนท่ี - ลูกโลก - Website - อืน่ ๆ
159 ที่ หัวเรื่อง ตัวชี้วัด เนอื้ หา จานวน 2 ประวตั ิศาสตร์ 5.ร้วู ิธีปอู งกนั ตนเองให้ (ชั่วโมง) ปลอดภัยเมื่อเกิดภยั จาก 5.วิธปี อู งกนั ตนเองจากภยั ปรากฏการณธ์ รรมชาติ ธรรมชาติ 15 6. สามารถวิเคราะห์ แนวโนม้ และวกิ ฤต 6. ปัญหาการทาํ ลาย สิง่ แวดลอ้ มท่เี กิดจากการ ทรัพยากรธรรมชาติ และ กระทําของมนษุ ย์ สง่ิ แวดลอ้ ม 7. มีความรู้ ความเขา้ ใจใน การใช้นวัตกรรม และ 7. การวเิ คราะห์สาเหตุการเกิด 30 เทคโนโลยีดา้ นส่งิ แวดล้อม ปัญหา และสภาพการทําลาย เพ่ือพัฒนา ทรพั ยากรธรรมชาติ และ ทรพั ยากรธรรมชาติและ สิง่ แวดลอ้ มทีเ่ กดิ จากการกระทาํ สงิ่ แวดล้อมทย่ี ่งั ยนื ของมนุษย์ ในสภาพปจั จบุ นั และ แนวโน้มในอนาคต 1. อธบิ ายเหตกุ ารณส์ าํ คญั ทางประวัตศิ าสตรข์ อง - ปุาไม้ - ภเู ขา - แม่นํ้าลําคลองหนองบงึ ทะเล - ดนิ - สัตวป์ าุ สตั ว์นาํ้ - แรธ่ าตุ - มลพิษทางอากาศ - ปรากฏการณ์เรือนกระจก - อืน่ ๆ - การปูองกนั การพังทลายของ ดนิ - การพัฒนาดินให้อุดม สมบูรณ์ เช่น การปลกู ปาุ การ ปลูกหญ้าแฝก ฯลฯ 4. ความเขม้ แข็งของภาค ประชาชนในการแกป้ ญั หาการ ทาํ ลายทรัพยากรธรรมชาติ และ สงิ่ แวดล้อม (กรณีตัวอยา่ ง) 1. การแบง่ ชว่ งเวลา และยุคสมัย ทางประวัติศาสตร์
160 ท่ี หวั เร่ือง ตัวชี้วัด เนื้อหา จานวน 3 เศรษฐศาสตร์ (ชวั่ โมง) ประเทศตา่ งๆ ในโลกได้ 2. แหลง่ อารยธรรมโลก 2. วิเคราะห์ และ - จีน เปรยี บเทียบเหตุการณ์ - อินเดยี สาํ คัญทางประวตั ศิ าสตร์ของ - อยี ิปต์ แตล่ ะประเทศในโลก ท่มี ี - เมโสโปเตเมีย ผลกระทบต่อความ - กรกี เปลย่ี นแปลงของประเทศ - โรมัน ต่างๆ ในโลก 3. ประวตั ชิ าติไทย 3. วเิ คราะหเ์ หตุการณ์โลก - ธนบุรี ปจั จบุ ัน และคาดคะเน -รัตนโกสินทร์ เหตกุ ารณท์ ี่อาจจะเกิด - ลกั ษณะการเปลย่ี นแปลง ขนึ้ กบั ประเทศต่างๆใน การปกครอง อนาคตได้ - เหตุการณ์ปัจจุบันที่มีผลต่อ เน่ืองมาจากประวัติศาสตร์ไทย และประเทศต่างๆ ในโลกท่ี ส่งผลถึงอนาคต 1. วิเคราะหป์ ัญหาและ 1.1 ระบบเศรษฐกิจของประเทศ 40 แนวโน้มทางเศรษฐกจิ ของ ไทย ประเทศไทยได้ 1.2 แผนพฒั นาเศรษฐกิจและ สังคมแหง่ ชาติ 2. เสนอแนวทางการ 2. ปัญหาเศรษฐกิจของไทยใน แก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ ปจั จุบัน ของประเทศไทยใน ปัจจุบัน 3. รู้และเขา้ ใจ ตระหนักใน 3. ความสาํ คัญและความจาํ เป็นใน ความสาํ คญั ของการรว่ มกลมุ่ การรว่ มมือทางเศรษฐกิจกับ เศรษฐกิจ ระหวา่ งประเทศ ประเทศตา่ งๆ และประเทศตา่ งๆ ในโลก 4. รแู้ ละเขา้ ใจ ในระบบ 4. ระบบเศรษฐกจิ ในโลก เศรษฐกจิ แบบต่างๆ ในโลก 5. รแู้ ละเข้าใจความสัมพนั ธ์ 5. ความสัมพนั ธ์และผลกระทบ และผลกระทบทางเศรษฐกิจ ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กบั ระหว่างประเทศของประเทศ ภมู ิภาคตา่ งๆ ทวั่ โลก
161 ที่ หัวเรอื่ ง ตัวช้วี ดั เนอ้ื หา จานวน (ชว่ั โมง) ไทยกับกลมุ่ เศรษฐกิจของ ประเทศต่างๆ ในภมู ภิ าค ใน โลก 6. วเิ คราะหค์ วามสาํ คัญของ 6. รูปแบบของระบบเศรษฐกิจ ระบบเศรษฐกิจ และการ และวธิ กี ารเลอื กจัดกจิ กรรมทาง เลือกจดั กิจกรรมทาง เศรษฐกิจ เศรษฐกจิ ของประเทศตา่ งๆ ในโลก และผลกระทบ 7. เขา้ ใจในเรื่องกลไกราคา 7.1 กลไกราคากบั ระบบเศรษฐกิจ กับระบบเศรษฐกจิ ในปัจจบุ นั 7.2 การแทรกแซงกลไกราคาของ รัฐบาลในการส่งเสรมิ และแก้ไข ระบบเศรษฐกจิ 8. ร้แู ละเขา้ ใจในเร่ือง 8. ความหมาย ความสําคัญของ การเงิน การคลงั และการ เงินประเภท สถาบนั การเงิน และ ธนาคาร สถาบันทางการเงิน 9. การธนาคาร 9. รแู้ ละเข้าใจในระบบของ - ระบบของธนาคาร การธนาคาร - ประเภทของธนาคาร - บทบาทหน้าท่ีของธนาคาร แหง่ ประเทศไทย (ธนาคารกลาง) 10. การคลัง รายได้ประชาชาติ 10. ตระหนกั ในความสําคัญ - รายไดข้ องรัฐบาล และการ ของเงนิ และสถาบันการเงิน จัดทาํ งบประมาณแผน่ ดนิ - ภาษีกบั การพฒั นาประเทศ - ดลุ การคา้ - ดลุ การชําระเงิน 11. ปญั หาเศรษฐกจิ ในประเทศ 11.วิเคราะหผ์ ลกระทบจาก ไทย ประเทศตา่ งๆในภูมภิ าค ปญั หาทางเศรษฐกิจในเร่ือง ต่างๆ ของโลก การเงิน การคลงั ของ ประเทศไทย และสงั คมโลก 12.1แผนพัฒนาเศรษฐกิจ และ 12. รูแ้ ละเขา้ ใจเร่ือง สังคมแห่งชาติ ฉบบั ปจั จุบนั
162 ที่ หวั เรอื่ ง ตัวช้วี ดั เนือ้ หา จานวน 4 การเมืองการปกครอง (ชว่ั โมง) แผนพฒั นา เศรษฐกจิ และ 12.2 ผลของการใชแ้ ผนพฒั นา สงั คมแห่งชาติ เศรษฐกิจ และสงั คมแห่งชาติ 20 1. รู้และเข้าใจ ระบอบ 1.การปกครองระบอบ การเมืองการปกครองต่างๆ ประชาธปิ ไตย ท่ีใชอ้ ยปู่ ัจจุบัน 2. ตระหนักและเหน็ คุณค่า 2.1 การปกครองระบอบเผด็จการ การปกครองระบอบ 2.2 พัฒนาการของระบอบ ประชาธปิ ไตย ประชาธปิ ไตยของประเทศต่างๆ ในโลก 3. รแู้ ละเขา้ ใจ ผลที่เกิดจาก 3.เหตุการณส์ าํ คัญทางการเมือง การเปลยี่ นแปลงทาง การปกครอง ของประเทศไทย การเมืองการปกครอง ของ ประเทศไทยจากอดตี 4. เหตุการณส์ าํ คญั ทางการเมือง 4. รแู้ ละเข้าใจผลท่เี กิดจาก การปกครอง ของโลกที่สง่ ผล การเปลี่ยนแปลงการเมอื ง กระทบตอ่ ประเทศไทย การปกครองของโลก 5.1 หลักธรรมาภบิ าล 5. ตระหนักและเหน็ คณุ คา่ ของหลกั ธรรมาภิบาล และ - นิติธรรม นาํ ไปปฏิบตั ใิ นชีวิตจริง - คุณธรรม - ความโปร่งใส - ความคมุ้ คา่ - รบั ผดิ ชอบ - ความรว่ มมือ 5.2 แนวทางปฏบิ ตั ิตาม หลกั ธรรมาภิบาล
163 รายละเอียดคาอธิบายรายวิชา สค31002 ศาสนาและหนา้ ทพ่ี ลเมอื ง จานวน 2 หน่วยกติ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรูร้ ะดบั 1. มีความรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณค่า และสืบทอดศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี ของประเทศในสงั คมโลก 2. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ดาํ เนนิ ชีวิตตามวถิ ีประชาธิปไตย กฎระเบียบของประเทศตา่ งๆในโลก ที่ หัวเร่ือง ตัวชว้ี ัด เนอื้ หา จานวน (ชว่ั โมง) 1. ศาสนา วฒั นธรรม 1. มีความรู้ ความเขา้ ใจ 1. ศาสนาตา่ งๆ 20 ประเพณี ศาสนาที่สาํ คญั ๆ ในโลก - กาํ เนิดศาสนาตา่ งๆ - ศาสดาของศาสนาต่างๆ 2. มีความรู้ ความเขา้ ใจ ใน 2. หลักธรรมสําคัญของศาสนาต่างๆ หลกั ธรรมสาํ คญั ของแต่ละ - การเผยแพร่ศาสนาต่างๆ ศาสนา - ความขดั แย้งในศาสนาต่างๆ ซง่ึ ก่อให้เกดิ ผลเสยี ในสงั คม (กรณี ตวั อย่าง) 3. เห็นความสาํ คญั ในการอยู่ 3.การปฏิบตั ติ นใหอ้ ยู่ร่วมกันอย่าง ร่วมกบั ศาสนาอ่นื อยา่ ง สันตสิ ขุ สันติสขุ 4. ประพฤติปฏิบตั ิตนท่ีสง่ ผล 4. วธิ ฝี ึกปฏบิ ัตพิ ัฒนาจิตในแต่ละ ให้สามารถอยู่ร่วมกับศาสนา ศาสนา อ่นื อย่างสันติสุข 5. ฝึกปฏิบัตพิ ฒั นาจิต เพื่อให้ 5. การพฒั นาสติปญั ญาในการ สามารถพฒั นาตนเองใหม้ ี แก้ปัญหาต่างๆ และการพัฒนา สติปญั ญาในการแกป้ ญั หา ตนเองครอบครัว ชุมชน สังคม ตา่ งๆ และพฒั นาตนเอง (กรณตี ัวอย่าง) ครอบครวั สงั คม ชุมชน 6. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจใน 6. วัฒนธรรมประเพณใี นประเทศ วฒั นธรรมประเพณีของ ไทยและประเทศตา่ ง ๆ ในโลก ประเทศไทยและประเทศ - ภาษา ตา่ งๆในโลก - การแต่งกาย - อาหาร 20 - ประเพณีที่สําคัญๆ ฯลฯ
164 ที่ หัวเร่อื ง ตัวช้ีวดั เนื้อหา จานวน 2. หน้าท่ีพลเมือง (ชั่วโมง) 7. ตระหนักถึงความสําคัญ ใน 7. การอนรุ ักษ์ และสืบทอด วัฒนธรรมประเพณีของ วัฒนธรรมประเพณี (กรณีตัวอย่าง) ประเทศไทย และประเทศต่าง ๆ ในโลก 8. มสี ว่ นร่วมสบื ทอด 8.ข้อปฏิบัตใิ นการมีส่วนรว่ ม สืบ วฒั นธรรมประเพณีไทย ทอด ประพฤตปิ ฏบิ ตั ิตนเปน็ แบบอยา่ งในการอนุรกั ษ์วัฒนธรรม ประเพณอี ันดีงามของสงั คมไทย 9. ประพฤติตนเป็นแบบอย่าง 9.1 แนวทางในการเลือกรบั ปรับ ใช้ ของผู้ท่ีมวี ฒั นธรรมประเพณี วัฒนธรรมตา่ งชาติไดอ้ ย่างเหมาะสม อนั ดงี ามของสงั คมไทยและ กบั ตนเองและสังคมไทย (กรณี เลือกรบั ปรบั ใช้วัฒนธรรม ตวั อยา่ ง) จากตา่ งชาติไดอ้ ย่างเหมาะสม 9.2 คา่ นยิ มที่พงึ ประสงคข์ อง กบั ตนเองและสังคมไทย สังคมไทย - ความเออ้ื เฟื้อเผื่อแผ่ - การย้มิ แยม้ แจ่มใส - การใหอ้ ภยั ฯลฯ 10.ประพฤติปฏบิ ัตติ าม 10. คา่ นิยมที่พงึ ประสงคข์ อง คา่ นยิ มที่พึงประสงค์ของ ประเทศต่างๆ ในโลก สังคมโลก - การตรงตอ่ เวลา - ความมีระเบียบ ฯลฯ 11. เป็นผนู้ าํ ในการปูองกัน 11. วิธีปฏบิ ัตใิ นการประพฤติตนเปน็ 20 และแก้ไขปัญหาพฤติกรรม ผู้นาํ รว่ มในการปอู งกัน และแกไ้ ข ตามค่านิยมท่ไี มพ่ ึงประสงค์ ปญั หาพฤติกรรมท่ไี ม่พึงประสงค์ใน ของสงั คมไทย สังคมไทย 1. รูแ้ ละเขา้ ใจบทบญั ญัติของ รัฐธรรมนญู 1. บทบญั ญตั ขิ องรัฐธรรมนูญท่มี ีผล ตอ่ การเปล่ียนแปลงทางสงั คม และมี 2. รู้และเขา้ ใจบทบาทหน้าท่ี ผลต่อฐานะของประเทศในสังคมโลก ขององค์กรตามรฐั ธรรมนญู 2. บทบาทหนา้ ที่องค์กรตาม และการตรวจสอบอาํ นาจรฐั รัฐธรรมนญู และการตรวจสอบการ ใช้อํานาจรฐั
165 ท่ี หัวเรือ่ ง ตัวชว้ี ดั เนอื้ หา จานวน (ชั่วโมง) 3. อธบิ ายความเปน็ มา และ 3. ความเปน็ มา และการ การเปล่ียนแปลงของ เปลี่ยนแปลงของรฐั ธรรมนูญ รัฐธรรมนูญ 4. บอกวธิ ีปฏบิ ัติตนตาม 4.1 รัฐธรรมนูญ และกฎหมายอื่น ๆ รัฐธรรมนญู และกฎหมาย 4.2 การปฏบิ ตั ติ นให้สอดคล้องตาม บทบญั ญตั ิของรัฐธรรมนูญ และการ สนับสนนุ ส่งเสริมใหผ้ ู้อ่ืนปฏิบัติ 5. รูแ้ ละเข้าใจหลักสิทธิ 5. หลักสทิ ธิมนุษยชนและบทบาท 20 มนษุ ยชน หนา้ ที่ความรับผิดชอบของ คณะกรรมการสทิ ธิ์ 6. อธิบายหลกั สิทธิมนุษยชน 6. กฎหมายระหว่างประเทศท่วี า่ ใหผ้ อู้ น่ื ได้ ด้วยการคุม้ ครองสิทธดิ ้านบุคคล 7. ปฏิบัติตนตามหลักสิทธิ 7. การปฏิบตั ติ ามหลกั สิทธิมนุษยชน มนษุ ยชน
คาอธิบายรายวชิ า สค31003 การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สงั คม จานวน 1 หน่วยกติ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดบั มคี วามรู้ ความเข้าใจ หลักการพฒั นา ชมุ ชน สังคม สามารถวเิ คราะห์ขอ้ มลู และเป็นผู้นําผูต้ ามในการ พัฒนาตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน สงั คม.ใหส้ อดคล้องกบั สภาพการเปล่ยี นแปลงของเหตุการณ์ปจั จบุ ัน ศึกษาและฝกึ ทกั ษะเก่ียวกับเร่ืองดงั ตอ่ ไปนี้ 1. ความหมาย ความสาํ คัญ ของข้อมูล ประโยชน์ของขอ้ มลู ตนเอง ชมุ ชน สังคม 2. เทคนคิ และวธิ ีการจัดเก็บข้อมูล เช่น การจัดเวทีประชาคม การสํารวจข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม การสืบค้นข้อมลู จากแหล่งต่างๆ ฯลฯ 3. การวิเคราะหข์ ้อมูลเพ่อื การจดั ทําแผนพฒั นาตนเอง ชุมชน สงั คม 4. การจัดทําแผนพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สงั คม และการนําไปใช้ 5. ความหมายความสําคัญที่มาและบทบาทหน้าท่ีของผู้นํา ผู้ตามชุมชนด้านการจัดทําแผนพัฒนา ตนเอง ชุมชน สังคม 6. การเปน็ ผู้นํา ผูต้ ามในการขับเคลือ่ นแผนพัฒนาตนอง ชุมชน สงั คม สกู่ ารปฏิบัติ การจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ จัดให้ผู้เรียนศึกษาจากการปฏิบัติจริง เข้าร่วมสังเกตการณ์ ศึกษากรณีตัวอย่างในชุมชน และผู้นํา ชุมชน สร้างสถานการณ์จําลอง จัดทําเวทีประชาคม และการศึกษาดูงาน เปรียบเทียบการจัดทําแผนพัฒนา ตนเอง ชมุ ชน/สงั คม ระหว่างกลุ่ม ระหว่างชุมชน ฝึกทกั ษะการเป็นผู้นํา / ผู้ตามในการขับเคลื่อนแผนพัฒนาสู่ การปฏบิ ตั ิ การวดั และประเมนิ ผล ประเมนิ จากผลงาน และการมสี ว่ นรว่ มในการจัดทาํ แผนและการขบั เคล่ือนแผนพัฒนาสู่การปฏบิ ตั ิ
รายละเอียดคาอธบิ ายรายวิชา สค31003 การพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม จานวน 1 หนว่ ยกติ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเขา้ ใจ หลักการพฒั นา ชมุ ชน สงั คม สามารถวเิ คราะห์ข้อมลู และเป็นผนู้ าํ ผูต้ ามในการ พัฒนาตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน สงั คม.ใหส้ อดคล้องกับสภาพการเปลีย่ นแปลงของเหตกุ ารณ์ปจั จบุ ัน ที่ หัวเรือ่ ง ตัวชวี้ ดั เน้อื หา จานวน (ชัว่ โมง) 1. พฒั นาตนเอง ชุมชน สังคม 1. มีความรู้ ความเข้าใจ 1. หลกั การพฒั นาตนเอง ชมุ ชน 20 หลกั การพัฒนาตนเอง ชมุ ชน สังคม สงั คม 2. มีความรู้ ความเข้าใจ และ 2. ความหมาย ความสาํ คัญ เห็นความสาํ คญั ของขอ้ มูล ประโยชน์ ของข้อมูลดา้ น ตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน - ภูมศิ าสตร์ สงั คม - ประวตั ิศาสตร์ - เศรษฐศาสตร์ - การเมอื ง การปกครอง - ศาสนา วฒั นธรรม ประเพณี - หนา้ ทีพ่ ลเมอื ง - ทรัพยากร สงิ่ แวดล้อม - สาธารณสุข - การศกึ ษา 3. วเิ คราะห์และอธบิ าย 3. วิธีการจดั เก็บ วิเคราะห์ข้อมลู ดว้ ย ข้อมูล วธิ ีการทหี่ ลากหลาย และเผยแพร่ ข้อมูล 4. เกดิ ความตระหนัก และมี 4. การมีส่วนร่วมในการวางแผน ส่วนรว่ มในการจัดทํา พฒั นาตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน แผนพัฒนาชมุ ชน สงั คม สงั คม 5. สามารถกําหนดแนว 5.1 เทคนคิ การมสี ่วนร่วมในการ 20 ทางการพฒั นาตนเอง จดั ทําแผน เชน่ ครอบครัว ชุมชน สังคม - การจดั ทาํ เวทปี ระชาคม - การประชมุ กล่มุ ย่อย - การสมั มนา - การสํารวจประชามติ
ท่ี หวั เร่อื ง ตัวชวี้ ดั เนอื้ หา จานวน (ช่ัวโมง) - การประชาพิจารณ์ ฯลฯ 5.2 การจดั ทาํ แผน -ทศิ ทาง นโยบาย - โครงการ - ผรู้ บั ผิดชอบ - จดั ลําดับความสาํ คัญ ฯลฯ 5.3 การเผยแพร่สกู่ ารปฏิบัติ - การเขยี นรายงาน - การเขียนโครงงาน ฯลฯ 6. รูแ้ ละเขา้ ใจ บทบาท 6. บทบาท หนา้ ท่ขี องผู้นาํ /สมาชกิ ที่ หนา้ ทีข่ องผนู้ าํ ชมุ ชน ดีของชมุ ชน สงั คม 7. เปน็ ผู้นํา ผู้ตามในการ 7.1 ผ้นู าํ ผู้ตามในการจดั แผนพฒั นา จัดทาํ และขับเคลื่อน ชมุ ชน สังคม แผนพฒั นาตนเอง ครอบครวั 7.2 ผ้นู ํา ผ้ตู ามในการขบั เคลื่อน ชมุ ชนสงั คม แผนพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สังคม
คาอธิบายรายวชิ า สค32029 การเงินเพือ่ ชีวติ 3 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย จานวน 3 หนว่ ยกติ (120 ชั่วโมง) มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนัก เก่ียวกับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครองในโลก และนํามาปรับใช้ในการดําเนนิ ชวี ิต เพอื่ ความม่นั คงของชาติ ศึกษาและฝึกทักษะเกีย่ วกับเร่อื งดังต่อไปน้ี 1. ว่าด้วยเร่ืองของเงนิ ความหมายและประโยชน์ ประเภทของเงิน เงินฝาก การประกนั ภัยและการลงทนุ การชําระเงนิ ทางอิเล็กทรอนิกส์ โครงสรา้ งระบบสถาบนั การเงินของประเทศไทย 2. การวางแผนการเงิน ประเมนิ ฐานะการเงนิ ของตนเอง บนั ทึกรายรบั -รายจา่ ย เปูาหมายการเงินในชีวิต การออม 3. สินเช่อื การประเมนิ ความเหมาะสมก่อนตัดสนิ ใจก่อหน้ี ลกั ษณะของสนิ เชอ่ื รายย่อย ประเภทและ การคาํ นวณดอกเบย้ี เงนิ กู้ การปูองกันปัญหาหน้ี เครดิตบูโร วิธีแก้ไขปญั หาหนี้ หน่วยงานท่ใี ห้คาํ ปรึกษาเรื่อง วิธีแกไ้ ขปัญหาหนี้ 4. สทิ ธิและหน้าทีข่ องผูใ้ ชบ้ รกิ ารทางการเงิน สิทธิของผูใ้ ชบ้ รกิ ารทางการเงิน 4 ประการ หน้าท่ีของผู้ใชบ้ ริการทางการเงนิ 5 ประการ รู้จกั ศนู ย์คุ้มครองผูใ้ ชบ้ ริการทางการเงนิ (ศคง.) และหน่วยงานท่ีรับเรอ่ื งร้องเรยี นอืน่ ๆ การเขียนหนังสือ ร้องเรียนและขน้ั ตอนที่เก่ยี วข้อง 5. ภัยทางการเงิน ลกั ษณะ การปูองกันตนเอง และแก้ปญั หาภยั ทางการเงิน การจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ 1. จดั กลมุ่ อภปิ รายในเน้ือหาทีเ่ ก่ยี วข้อง 2. ศึกษาจากเอกสารและส่ือทุกประเภทท่ีเก่ียวข้อง เว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย และเว็บไซตข์ อง ศคง. 3. จดั ทาํ โครงการนทิ รรศการฐานการเรียนรู้ 4. เชญิ วิทยากรผ้รู ้มู าใหค้ วามรูเ้ กยี่ วกบั การก่อหน้ีอยา่ งเหมาะสม และการวางแผนการเงินใน ชีวิต การวัดและประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤตกิ รรมระหว่างการเรียนรู้ 2. วัดความรู้จากการทาํ กิจกรรมในใบงาน 3. การวดั ผลสัมฤทธิ์ปลายภาค
รายละเอียดคาอธิบายรายวิชา สค32029 การเงนิ เพอื่ ชีวติ 3 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย จานวน 3 หนว่ ยกติ (120 ชวั่ โมง) มาตรฐานการเรยี นรู้ระดบั มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนัก เกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครองในโลก และนํามาปรับใช้ในการดําเนินชีวติ เพอื่ ความม่นั คงของชาติ ที่ หวั เรื่อง ตวั ชว้ี ดั เนอ้ื หา จานวน 1. วา่ ด้วยเรอื่ งของเงิน ชั่วโมง 1. อธิบายความหมายและ 1. ความหมาย และประโยชน์ 1.1 ความหมายและ ของเงิน 24 ชม. ประโยชน์ ประโยชน์ของเงิน 2. ความหมาย และความ 2. บอกความหมาย และความ แตกตา่ งของการให้เงินและ 1.2 ประเภทของเงนิ แตกตา่ งของการใหเ้ งนิ และการ การให้ยมื เงิน ใหย้ ืมเงนิ 3. ความหมายของเงินเฟอู 1.3 เงินฝาก 3. บอกความหมายของเงนิ เฟูอ เงนิ ฝืด การประกนั ภยั และ เงนิ ฝืด การลงทนุ 1. อธบิ ายวิธกี ารตรวจสอบ 1. เงนิ ไทย ธนบัตร - ธนบตั ร - เหรยี ญกษาปณ์ 2. คํานวณอัตราแลกเปลย่ี น เงนิ ตราตา่ งประเทศ 2. เงนิ ตราต่างประเทศ 3. บอกชอ่ งทางแลกเปลยี่ น - สกลุ เงินของต่างประเทศ เงนิ ตราต่างประเทศ ทส่ี าํ คัญ 4. อธบิ ายเงนิ เสมือน - อัตราแลกเปล่ยี นและ 1. เลอื กประเภทเงินฝากท่ี วิธีการคาํ นวณเงนิ ตรา เหมาะสมกับตนเอง ต่างประเทศ - ชอ่ งทางการแลกเปลี่ยน เงินตราตา่ งประเทศ 3. เงนิ เสมอื น (virtual currency) 1. ประเภท ลกั ษณะ ประโยชน์ และขอ้ จํากดั ของ การฝากเงนิ - บญั ชเี งินฝากออมทรัพย์
ท่ี หัวเร่อื ง ตัวช้ีวัด เน้อื หา จานวน ชัว่ โมง 1.4 การชาระเงินทาง 2. คํานวณดอกเบยี้ เงินฝากแบบ - บญั ชีเงนิ ฝากประจํา อิเลก็ ทรอนิกส์ ทบตน้ - บญั ชเี งนิ ฝากประจาํ รายเดอื นปลอดภาษี 3. อธบิ ายการคุ้มครองเงนิ ฝาก - บัญชเี งนิ ฝากแบบ 4. บอกลักษณะการประกันภัย ข้ันบันได แตล่ ะประเภท - สลากออมทรัพย์/สลาก 5. บอกลักษณะการลงทนุ แต่ละ ออมสนิ ประเภท - ข้อแนะนําในการ 6. วเิ คราะหค์ วามแตกต่างของ ตัดสินใจเลือกประเภทเงนิ ฝาก เงินฝาก การประกนั ภัย และ 2. ความหมายและวธิ กี าร การลงทนุ คาํ นวณดอกเบยี้ เงินฝากแบบ 1. บอกความหมาย และ ทบต้น ประโยชน์ของการชําระเงนิ ทาง 3. การคมุ้ ครองเงินฝาก อเิ ล็กทรอนิกส์ 4. การประกนั ภยั และการ 2. บอกลกั ษณะของบตั ร ลงทนุ ATM บัตรเดบติ บัตรเครดิต Internet Banking 1. ความหมาย และประโยชน์ และ Mobile Banking ของการชาํ ระเงนิ ทาง 3. บอกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ อิเล็กทรอนิกส์ ระบบการชําระเงนิ ทาง 2. ลกั ษณะของบตั ร ATM อิเลก็ ทรอนกิ ส์ บัตรเดบิต บัตรเครดิต Internet Banking และ Mobile Banking 3. กฎหมายพนื้ ฐานที่ เกี่ยวขอ้ งกบั ระบบการชาํ ระ เงนิ ทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์
ที่ หวั เรือ่ ง ตวั ชีว้ ัด เนอื้ หา จานวน ชวั่ โมง 1.5 โครงสร้างระบบ สถาบันการเงนิ ของ 1. บอกโครงสร้างระบบสถาบัน 1.โครงสร้างระบบสถาบัน ประเทศไทย การเงินของประเทศไทย การเงินของประเทศไทย 2. บอกบทบาทหน้าท่ีของสถาบัน 2. สถาบนั การเงนิ และ การเงิน และหน่วยงานอน่ื ๆ หนว่ ยงานอื่น ๆ ภายใต้ ภายใตก้ ารกาํ กบั ดแู ลของธนาคาร การกํากับดแู ลของธนาคาร แหง่ ประเทศไทย แหง่ ประเทศไทย 3. บอกบทบาทหนา้ ที่ของ 3. ผ้ใู หบ้ ริการภายใต้ ผูใ้ ห้บรกิ ารภายใต้การกํากับดูแล การกาํ กับดแู ลของหนว่ ยงาน ของหนว่ ยงานอื่น ๆ อ่ืน ๆ 2. การวางแผนการเงนิ 30 ชม. 2.1 ประเมนิ ฐานะการเงนิ 1. อธบิ ายหลกั การประเมนิ ฐานะ 1. หลักการประเมนิ ฐานะ ของตนเอง การเงนิ การเงนิ ของตนเอง โดย 2. คํานวณฐานะทางการเงนิ ของ คํานวณจํานวนและอตั ราส่วน ตนเอง ดังน้ี - ความม่งั คัง่ สทุ ธิ - อัตราสว่ นภาระหน้ีสินตอ่ รายได้ (ต่อเดือน) - จํานวนเงนิ ออมเผ่ือ ฉกุ เฉิน - อัตราส่วนเงนิ ออมตอ่ รายได้ (ต่อเดอื น) 3. อธบิ ายลักษณะของการมี 2. การมสี ขุ ภาพการเงินท่ดี ี สุขภาพการเงนิ ทด่ี ี - ความหมาย 4. ประเมินสขุ ภาพการเงินของ - ลักษณะการมสี ุขภาพ ตนเอง การเงนิ ทด่ี ี ไดแ้ ก่ - มภี าระชําระหน้ี ไมเ่ กนิ 1 ใน 3 ของรายได้ ต่อเดือน - ออมอย่างน้อย 1 ใน 4 ของรายไดต้ ่อเดอื น - มีเงนิ ออมเผ่อื ฉุกเฉิน
ท่ี หวั เรือ่ ง ตัวชีว้ ัด เน้อื หา จานวน ช่วั โมง ประมาณ 6 เทา่ ของรายจา่ ย จําเป็นต่อเดือน 2.2 บนั ทกึ รายรับ- 1. วเิ คราะหค์ วามแตกตา่ งของ 1. ความแตกต่างของความ รายจ่าย “ความจาํ เปน็ ” และ “ความ จาํ เป็นและความต้องการ ตอ้ งการ” 2. จดั ลําดับความสําคญั ของ 2. การจดั ลาํ ดบั ความสําคัญ รายจ่าย ของรายจา่ ย 3. บอกลักษณะของการบันทึก 3. ลักษณะและประโยชน์ของ รายรบั -รายจ่าย บนั ทึกรายรับ-รายจ่าย 4. บอกประโยชนข์ องการบันทกึ รายรับ-รายจา่ ย 5. จดบันทึกรายรบั -รายจา่ ย 4. วิธบี นั ทกึ รายรบั -รายจา่ ย 6. วิเคราะห์บนั ทึกรายรับ- รายจ่าย 2.3 เปา้ หมายการเงนิ ใน 1. บอกประโยชนข์ องการมี 1. ประโยชนข์ องการมี ชวี ติ เปาู หมายการเงินในชวี ิต เปูาหมายการเงนิ ในชีวติ 2. บอกเปูาหมายการเงินทคี่ วรมี 2. เปูาหมายการเงินที่ควรมใี น ในชีวติ ชีวติ 3. สามารถตัง้ เปาู หมายการเงิน 3. ประเภทของเปาู หมาย ระยะสนั้ ระยะกลาง และระยะ การเงนิ ยาวตามหลกั SMART - ระยะสัน้ (ไม่เกนิ 1 ปี) ทเี่ หมาะสมกับตนเอง - ระยะกลาง (1 – 3 ปี) - ระยะยาว (มากกวา่ 3 ปี) 4. วิธีการต้งั เปาู หมายการเงิน ตามหลกั SMART 4. วางแผนการเงินของตนเอง 5. การวางแผนการเงินให้ ที่สอดคล้องกบั เปาู หมายในชีวิต เป็นไปตามเปูาหมายที่ตง้ั ไว้ 2.4 การออม 1. อธบิ ายความหมายและ 1. ความหมายและประโยชน์ ประโยชนข์ องการออม ของการออม 2. ตั้งเปาู หมายการออมท่ี 2. เปาู หมายการออม เชน่ เหมาะสมกับตนเอง - ออมอย่างน้อย 1 ใน 4 ของรายได้ต่อเดือน - ควรออมเพ่อื อะไรบา้ ง
ท่ี หวั เรอื่ ง ตัวช้ีวัด เน้อื หา จานวน 3. สนิ เช่ือ ชว่ั โมง 3. อธบิ ายหลกั การออมให้สาํ เร็จ 3. หลักการออมใหส้ ําเรจ็ 36 ชม. 4. สทิ ธแิ ละหน้าท่ขี อง 4. บอกบทบาทหนา้ ท่ีและ 4. ความรเู้ บื้องต้นเกย่ี วกับ ผ้ใู ช้บริการทางการเงนิ หลักการของกองทุนการออม กองทนุ การออมแห่งชาติ 10 ชม. แห่งชาติ (กอช.) (กอช.) และกองทนุ สาํ รอง 5. บอกความหมายและหลกั การ เล้ียงชพี ของกองทนุ สํารองเลี้ยงชพี 1. บอกลกั ษณะทีส่ ําคญั ของ 1. การประเมนิ ความ สินเช่ือประเภทตา่ ง ๆ เหมาะสมก่อนตัดสินใจ ก่อ หน้ี 2. บอกความหมาย บทบาท 2. ลักษณะของสินเชื่อ หนา้ ท่ี และข้อมลู ตา่ ง ๆ ท่ีสําคญั รายยอ่ ยและการคาํ นวณ เกย่ี วกบั เครดติ บูโร ดอกเบยี้ 3. บอกวธิ กี ารปอู งกันปัญหาหนี้ 3. เครดิตบูโร 4. บอกวิธีการแก้ไขปัญหาหน้ี 5. บอกช่องทางในการให้ 4. วิธีการปอู งกนั ปญั หาหนี้ คําปรึกษาวิธแี กไ้ ขปัญหาหน้ี 5. วธิ ีการแก้ไขปัญหาหน้ี 1. บอกสิทธขิ องผู้ใชบ้ รกิ ารทาง 6. หน่วยงานทีใ่ ห้คําปรกึ ษา การเงิน เก่ียวกบั วิธกี ารแก้ไขปัญหาหนี้ 1. สิทธขิ องผูใ้ ชบ้ ริการทาง 2. บอกหนา้ ที่ของผู้ใชบ้ ริการทาง การเงนิ การเงิน - ไดร้ บั ขอ้ มลู ท่ีถูกตอ้ ง - เลือกใชผ้ ลติ ภัณฑ์และ บริการได้อย่างอสิ ระ - ร้องเรียนเพ่ือความเป็น ธรรม - ไดร้ บั การพจิ ารณา คา่ ชดเชยหากเกดิ ความ เสยี หาย 2. หนา้ ที่ของผู้ใช้บริการ ทางการเงิน - วางแผนการเงนิ - ตดิ ตามข้อมูลขา่ วสารทาง
ท่ี หวั เรือ่ ง ตวั ชี้วดั เน้ือหา จานวน 5. ภัยทางการเงนิ ชว่ั โมง การเงนิ อย่างสมํา่ เสมอ 20 ชม. - เข้าใจรายละเอยี ดและ เปรยี บเทยี บข้อมลู ก่อน เลอื กใช้ - ตรวจทานความถกู ต้อง ของธุรกรรมทางการเงนิ ทุกครง้ั - เม่อื เป็นหนีต้ อ้ งชําระหน้ี 3. บอกบทบาทหน้าทข่ี องศูนย์ 3. บทบาทศูนยค์ ุ้มครอง คุม้ ครองผใู้ ช้บริการทางการเงิน ผูใ้ ช้บริการทางการเงนิ (ศคง.) (ศคง.) และหนว่ ยงานทรี่ บั เร่ือง และหน่วยงานท่ีรบั เร่ือง ร้องเรียนอ่ืน ๆ รอ้ งเรยี นอนื่ ๆ 4. บอกข้นั ตอนการร้องเรียน 4. ขน้ั ตอนการร้องเรียนและ 5. บอกหลักการเขยี นหนงั สอื การเขยี นหนังสือร้องเรยี น รอ้ งเรียน 1. บอกประเภทและลักษณะของ 1. ประเภท ลักษณะ การ ภยั ทางการเงิน และยกตัวอย่าง ปูองกนั ตนเอง และการ ภยั ทางการเงินที่มใี นชุมชน แกป้ ญั หาในเร่ืองภัยทาง 2. บอกวธิ กี ารปอู งกันตนเองจาก การเงิน ภัยทางการเงนิ - หนนี้ อกระบบ 3. บอกวิธแี ก้ปัญหาท่เี กิดจาก - แชร์ลกู โซ่ ภัยทางการเงนิ - ภัยใกล้ตัว เช่น การ หลอกลวงใหจ้ ่ายเบ้ยี ประกัน งวดสุดทา้ ย ตกทอง/ ล็อตเตอรปี่ ลอม - ภัยออนไลน์ - ภัยธนาคารออนไลน์ - ภยั บตั รอิเล็กทรอนิกส์
คาอธบิ ายรายวชิ า สค32032 การเรยี นรูส้ ูภ้ ัยธรรมชาติ 3 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย จานวน 3 หน่วยกิต (120 ชว่ั โมง) มาตรฐานการเรยี นรู้ 5.1 มีความรคู้ วามเข้าใจและตระหนกั เกยี่ วกับภมู ศิ าสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมืองการ ปกครองในโลก และนาํ มาปรับใช้ในการดาํ เนินชวี ิตเพื่อความมัน่ คงของชาติ มาตรฐานการเรยี นรู้ระดบั มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจและตระหนักเกย่ี วกบั ภูมิศาสตร์ ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื งการ ปกครอง ในโลกและนาํ มาปรับใช้ในการดําเนนิ ชีวิต เพื่อความมั่นคงของชาติ ผลการเรยี นรทู้ ีค่ าดหวงั 1. อธบิ ายความหมายของภัยแลง้ วาตภัย อทุ กภยั ดนิ โคลนถล่ม ไฟปาุ หมอกควนั แผน่ ดนิ ไหว และ สี นามิ 2. บอกประเภทของวาตภยั และไฟปาุ 3. บอกสาเหตุ และปัจจัยการเกิดภัยแลง้ วาตภยั อุทกภยั ดนิ โคลนถลม่ ไฟปาุ หมอกควัน แผน่ ดินไหว และสินามิ 4. บอกผลกระทบท่เี กดิ จากภัยแลง้ วาตภยั อทุ กภยั ดินโคลนถลม่ ไฟปาุ หมอกควัน แผ่นดินไหว และสี 5. ตระหนกั ถึงภยั และผลกระทบท่เี กิดจากภยั แลง้ วาตภัย อุทกภัย ดนิ โคลนถลม่ ไฟปุา หมอกควนั แผน่ ดินไหว และสนึ ามิ 6. บอกห้วงเวลาการเกิดภัยแล้งในประเทศไทย 7. บอกฤดูกาลการเกดิ ไฟปุาในแต่ละพ้ืนท่ีของประเทศไทย 8. บอกพืน้ ที่เสยี่ งภยั ตอ่ การเกิดภยั แล้ง วาตภยั อทุ กภยั ดินโคลนถลม่ แผน่ ดินไหว และสึนามใิ น ประเทศไทยและประเทศตา่ ง ๆ ในโลก 9. บอกสญั ญาณบอกเหตกุ ่อนเกดิ อุทกภยั ดนิ โคลนถล่ม และสนึ ามิ 10.บอกสถานการณ์ภยั แลง้ วาตภัย อทุ กภัย ดนิ โคลนถลม่ ไฟปาุ หมอกควนั แผน่ ดินไหว และสนึ ามิ ในประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ ในโลก 11.วเิ คราะห์เปรียบเทยี บสถิติการเกิดภยั แล้ง วาตภยั อทุ กภยั ดินโคลนถล่ม ไฟปุา หมอกควัน แผ่นดนิ ไหว และสึนามิของประเทศไทยและประเทศตา่ ง ๆ ในโลกและคาดคะเนการเกิดในอนาคต 12.บอกวิธกี ารเตรียมความพรอ้ มรับสถานการณ์การเกิดภัยแลง้ วาตภยั อุทกภัย ดินโคลนถล่ม ไฟปาุ หมอกควนั แผ่นดินไหว และสึนามิ 13.บอกวธิ กี ารปฏบิ ตั ิขณะเกิดภยั แลง้ วาตภัย อทุ กภยั ดนิ โคลนถลม่ ไฟปุา หมอกควัน แผน่ ดนิ ไหว และสนึ ามิ 14.บอกวิธกี ารปฏิบัติหลังเกิดภยั แล้ง วาตภัย อทุ กภยั ดนิ ไฟโคลนถล่ม ปุา หมอกควัน แผ่นดนิ ไหว
และสึนามใิ นประเทศไทย 15.เสนอแนวทางการปอู งกันและการแก้ปญั หาผลกระทบที่เกดิ จากภัยตา่ ง ๆ 16.ระบบุ ุคลากรทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับการให้ความชว่ ยเหลือผู้ประสบภยั ธรรมชาตติ ่าง ๆ 17.ระบหุ นว่ ยงานทีเ่ กีย่ วขอ้ งกับการให้ความช่วยเหลอื ผปู้ ระสบภัยธรรมชาติต่าง ๆ ศกึ ษาและฝึกทักษะ 1.สถานการณ์การเกิดภยั แล้ง วาตภัย อทุ กภยั ดนิ โคลนถลม่ ไ ฟปาุ หมอกควนั แผ่นดินไหว และสึนา มิ ประเทศไทย 2. การตรียมความพรอ้ มรับมือกับภัยแลง้ วาตภยั อทุ กภยั ดนิ โคลนถล่ม ไฟปาุ หมอกควัน แผน่ ดนิ ไหวและสึนามิ 3. สัญญาณบอกเหตกุ ่อนเกิดอุทกภยั และดนิ โคลนถลม่ และสึนามิ 4. ผลกระทบจากการเกิดภัยแลง้ วาตภยั อทุ กภัย ดินโคลนถล่ม ไฟปาุ หมอกควัน แผ่นดินไหว และสนึ ามิ 5. บคุ ลากรและหนว่ ยงานท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั การให้ความชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภยั ธรรมชาตติ ่าง ๆ การจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ 1. ศกึ ษาจากชัดวิชาการเรียนรู้สู้ภัยธรรมชาติ 3 และจากส่ือการเรียนรู้อื่น ๆ เช่น เอกสาร สอื่ อิเล็กทรอนกิ ส์ แหล่งเรียนรู้ในระบบออนไลน์ ฯลฯ 2. ศกึ ษาจากสภาพจรงิ และแหล่งเรยี นรู้ 3. ศกึ ษาจากผูร้ ู้ การเล่าประสบการณ์ การแลกเปล่ียนเรยี นรจู้ ากผู้ประสบภัย สรปุ ผลการเรยี นรู้ และ นําเสนอในรปู แบบทหี่ ลากหลาย การวัดและการประเมนิ ประเมินจากแบบทดสอบก่อนเรยี น แบบทดสอบกอ่ นเรยี น การสงั เกต การมสี ่วนรว่ ม การทํากจิ กรรม การตรวจผลงาน
รายละเอยี ดคาอธบิ ายรายวิชา สค32032 การเรยี นรู้ส้ภู ยั ธรรมชาติ 3 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย จานวน 3 หน่วยกติ (120 ชว่ั โมง) มาตรฐานการเรยี นรูร้ ะดับ มีความรูค้ วามเขา้ ใจและตระหนกั เกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครองในโลกและนาํ มาปรบั ใช้ในการดาํ เนนิ ชวี ติ เพ่ือความมั่นคงของชาติ ที่ หวั เร่ือง ตัวชว้ี ดั เนอ้ื หา เวลา 1 ภัยแล้ง (ชว่ั โมง) 1. อธบิ ายความหมายของภัยแล้ง 1. ความหมายของภยั แลง้ 2. อธบิ ายความหมายของฝนแล้ง 1.1 ความหมายของภยั แล้ง 15 ฝนท้งิ ชว่ ง 1.2 ความหมายของฝนแล้ง ฝนทงิ้ ช่วง 3. บอกสาเหตุ และปัจจัยการเกิด 2. ลักษณะการเกิดภัยแลง้ ภัยแล้ง 2.1 สาเหตุและปจั จัยการเกดิ ภยั แลง้ 4. บอกผลกระทบท่เี กิดจากภัยแลง้ 2.2 ผลกระทบทเี่ กดิ จากภัยแล้ง 5. ตระหนักถึงภัยและผลกระทบ 2.3 หว้ งเวลาการเกิดภัยแล้ง และ ทีเ่ กิดจากภยั แลง้ พ้ืนที่ 6. บอกหว้ งเวลาการเกิดภัยแล้ง และ เสยี่ งภัยตอ่ การเกิดภยั แล้งใน พนื้ ทเ่ี ส่ยี งภยั ตอ่ การเกดิ ภัยแล้งใน ประเทศไทย ประเทศไทยและประเทศตา่ ง ๆ ในโลก และประเทศตา่ ง ๆ ในโลก 7. บอกสถานการณภ์ ยั แลง้ ในประเทศ 3. สถานการณก์ ารเกดิ ภัยแลง้ ไทย และประเทศตา่ ง ๆ ในโลก 3.1 สถานการณ์ภัยแลง้ ในประเทศ 8. วิเคราะหเ์ ปรยี บเทียบสถติ ิการเกดิ ไทย ภัยแล้งของประเทศตา่ ง ๆ ในโลกและ และประเทศตา่ ง ๆ ในโลก คาดคะเนการเกิดภยั แลง้ ในอนาคต 3.2 สถิติการเกิดภยั แลง้ ของประเทศ ตา่ ง ๆ ในโลก 9. บอกวิธีการเตรยี มความพร้อมรบั 4. แนวทางการป้องกนั และการ สถานการณ์การเกิดภัยแลง้ แกไ้ ข 10. บอกวิธกี ารปฏบิ ตั ิขณะเกิดภัยแล้ง ปญั หาผลกระทบทเ่ี กดิ จากภยั แล้ง 11. บอกวิธีการปฏบิ ัติตนหลังเกิดภัย 4.1 การเตรยี มความพร้อมรบั
ที่ หวั เรื่อง ตวั ชวี้ ดั เนือ้ หา เวลา 2 วาตภัย (ช่ัวโมง) แลง้ สถานการณ์ การเกิดภยั แลง้ 15 12. เสนอแนวทางการปอู งกนั และการ 4.2 การปฏิบตั ขิ ณะเกิดภยั แล้ง แก้ไขปญั หาผลกระทบทีเ่ กิดจากภัย 1.4.3 การปฏิบตั ิตนหลงั เกดิ ภัยแล้ง แลง้ 2.1 ความหมายของวาตภยั 1. บอกความหมายของวาตภัย 2.1.1 ความหมายของวาตภยั 2. บอกประเภทของวาตภยั 2.1.2 ประเภทของวาตภยั 2.2 ลักษณะการเกิดวาตภัย 3. บอกสาเหตุ และปจั จยั การเกิด 2.2.1 สาเหตแุ ละปัจจยั การเกิด วาตภัย วาตภยั 4. บอกผลกระทบทเ่ี กิดจากวาตภยั 2.2.2 ผลกระทบทเี่ กิดจากวาตภัย 5. ตระหนักถงึ ภยั และผลกระทบท่ีเกดิ 2.2.3 พ้นื ทเ่ี ส่ยี งภยั ต่อการเกิดวาต จากวาตภยั ภัยใน 6. บอกพ้นื ท่เี สย่ี งภัย ประเทศไทยและประเทศตา่ ง ๆ ใน ตอ่ การเกิดวาตภัยในประเทศไทยและ โลก ประเทศต่าง ๆ ในโลก 2.3 สถานการณว์ าตภยั 7. บอกสถานการณว์ าตภยั ในประเทศ 2.3.1 สถานการณ์วาตภยั ในประเทศ ไทย และประเทศต่าง ๆ ในโลก ไทย 8. วิเคราะหเ์ ปรยี บเทียบสถิติการเกดิ และประเทศต่าง ๆ ในโลก วาตภัยในประเทศไทยและประเทศต่าง 2.3.2 สถติ ิการเกดิ วาตภัยใน ๆ ในโลกและคาดคะเนการเกิดวาตภยั ประเทศไทย ในอนาคต และประเทศตา่ ง ๆ ในโลก 9. บอกวิธกี ารเตรียมความพร้อมรบั 2.4 แนวทางการป้องกันและการ สถานการณ์การเกิดวาตภัย แก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกดิ จาก 10. บอกวธิ กี ารปฏบิ ตั ขิ ณะเกิดวาตภัย วาตภัย 11. บอกวิธีการปฏบิ ตั ิตนหลังเกดิ 2.4.1 การเตรียมความพร้อมรับ วาตภัย สถานการณ์ 12. เสนอแนวทางการปอู งกนั และการ การเกดิ วาตภยั แกไ้ ขปญั หาผลกระทบท่ีเกดิ จาก 2.4.2 การปฏิบตั ิขณะเกิดวาตภยั วาตภัย 2.4.3 การปฏิบตั ติ นหลังเกิดวาตภัย
ที่ หัวเรือ่ ง ตวั ช้ีวดั เนอ้ื หา เวลา (ชว่ั โมง) 3 อทุ กภยั 3.1 ความหมายของอุทกภยั และ ดินโคลน 25 ถลม่ 1. อธบิ ายความหมายของอทุ กภัย และ ดนิ โคลนถลม่ ดนิ โคลนถล่ม - ความหมายของอุทกภยั และดิน โคลนถล่ม 3.2 ลักษณะการเกิดอุทกภยั และ ดนิ โคลนถลม่ 2. บอกสาเหตุ และปจั จัยการเกดิ 3.2.1 สาเหตุและปัจจัยการเกิด อุทกภัย และดินโคลนถลม่ อุทกภัยและดินโคลนถล่ม 3. บอกผลกระทบที่เกดิ จากอุทกภยั 3.2.2 ผลกระทบที่เกิดจากอทุ กภยั และดินโคลนถลม่ และดนิ โคลนถลม่ 4. ตระหนักถึงภัยและผลกระทบทเี่ กดิ 3.2.3 สญั ญาณบอกเหตุก่อนเกิด จากอุทกภยั และดินโคลนถล่ม อทุ กภยั และดนิ โคลนถล่ม 5. บอกสญั ญาณบอกเหตกุ ่อนเกิด 3.2.4 พน้ื ท่ีเสี่ยงภัยต่อการเกิด อทุ กภยั และดินโคลนถล่ม อุทกภยั และดินโคลนถล่มใน 6. บอกพน้ื ที่เสีย่ งภัยตอ่ การเกดิ อุทกภยั ประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ ใน และดนิ โคลนถล่มในประเทศไทยและ โลก ประเทศต่าง ๆในโลก 3.3 สถานการณ์อทุ กภัย และดนิ โคลนถล่ม 6. บอกสถานการณ์อุทกภัย และดิน 3.3.1 สถานการณ์อุทกภยั และดนิ โคลนถล่มในประเทศไทย และประเทศ โคลนถลม่ ในประเทศไทย และ ตา่ ง ๆ ในโลก ประเทศต่าง ๆในโลก 7. วิเคราะห์เปรยี บเทียบสถติ ิการเกิด 3.3.2 สถติ ิการเกดิ อทุ กภยั และดิน อุทกภัย และดนิ โคลนถล่มในประเทศ โคลนถล่มในประเทศไทย และ ไทย และประเทศต่าง ๆ ในโลก และ ประเทศต่าง ๆในโลก คาดคะเนการเกดิ แผ่นดนิ ไหวในอนาคต 3.4 แนวทางการป้องกันและการ แกไ้ ขปญั หาผลกระทบทเี่ กดิ จาก อุทกภัย และดินโคลนถล่ม 8. บอกวิธกี ารเตรียมความพร้อมรับ 3.4.1 การเตรียมความพร้อมรับ สถานการณ์การเกิดอุทกภยั และดนิ สถานการณ์การเกิดอทุ กภัย และดิน โคลนถล่ม โคลนถลม่
ที่ หวั เรื่อง ตวั ช้ีวดั เน้อื หา เวลา 4 ไฟป่า 3.4.2 การปฏิบัตขิ ณะเกิดอทุ กภัย (ช่ัวโมง) 9. บอกวธิ ีการปฏิบัติขณะเกิดอุทกภัย และดินโคลนถล่ม และดนิ โคลนถล่ม 3.4.3 การปฏบิ ัติตนหลังเกดิ อุทกภยั 15 10. บอกวิธีการปฏบิ ตั ติ นหลงั เกิด และดนิ โคลนถล่ม อุทกภยั และดนิ โคลนถล่ม 11. เสนอแนวทางการปอู งกันและการ 4.1 ความหมายของไฟป่า แกไ้ ขปัญหาผลกระทบทเี่ กิดจาก - ความหมายของไฟปาุ อทุ กภยั และดนิ โคลนถลม่ 1. บอกความหมายของไฟปุา 4.2 ลักษณะการเกดิ ไฟป่า 2. บอกสาเหตุ และปจั จัยการเกิดไฟปาุ 4.2.1 สาเหตแุ ละปัจจัยการเกิดไฟ 3. บอกชนดิ ของไฟปาุ ปุา 4. บอกผลกระทบทเ่ี กิดจากไฟปาุ 4.2.2 ชนิดของไฟปุา 5. ตระหนกั ถงึ ภัยและผลกระทบทเ่ี กิด 4.2.3 ผลกระทบท่ีเกดิ จากไฟปาุ จากไฟปุา 4.2.4 ฤดกู าลการเกดิ ไฟปาุ ในแต่ละ 6. บอกฤดูกาลการเกดิ ไฟปุาในแต่ละ พืน้ ทข่ี องประเทศไทยและประเทศ พ้ืนท่ีของประเทศไทยและประเทศ ตา่ ง ๆ ในโลก ตา่ ง ๆ ในโลก 7. อธบิ ายสถานการณ์ไฟปุาในประเทศ 4.3 สถานการณไ์ ฟป่า ไทยและประเทศต่าง ๆ ในโลก 4.3.1 สถานการณ์ไฟปาุ ในประเทศ 8. วเิ คราะห์เปรียบเทียบสถิติการเกิด ไทยและประเทศตา่ ง ๆ ในโลก ไฟปุาของประเทศต่าง ๆ ในโลกและ 4.3.2 สถติ กิ ารเกดิ ไฟปาุ ของ คาดคะเนการเกิดไฟปุาในอนาคต ประเทศต่าง ๆในโลก 9. บอกวธิ ีการเตรียมความพร้อมรับ 4.4 แนวทางการป้องกันและการ สถานการณ์การเกิดไฟปุา แก้ไขปัญหาผลกระทบท่เี กดิ จาก 10. บอกวธิ กี ารปฏบิ ตั ิขณะเกิดไฟปาุ ไฟป่า 11. บอกวิธีการปฏบิ ัติตนหลงั เกิดไฟปุา 4.4.1 การเตรยี มความพร้อมรับ 11. เสนอแนวทางการปอู งกนั และการ สถานการณ์ แกไ้ ขปัญหาผลกระทบท่เี กิดจากไฟปาุ การเกิดไฟปุา 4.4.2 การปฏิบัติขณะเกิดไฟปุา 4.4.3 การปฏิบัตติ นหลงั เกดิ ไฟปุา
ท่ี หัวเรอื่ ง ตัวชวี้ ดั เนอื้ หา เวลา 5 หมอกควัน (ชว่ั โมง) 6 แผน่ ดนิ ไหว 1. บอกความหมายของหมอกควัน 5.1 ความหมายของหมอกควัน - ความหมายของหมอกควนั 2. บอกสาเหตุ และปัจจยั การเกิด 5.2 ลักษณะการเกดิ หมอกควัน หมอกควัน 5.2.1 สาเหตแุ ละปัจจัยการเกิด 3. บอกผลกระทบทเี่ กิดจากหมอกควนั หมอกควัน 4. ตระหนักถงึ ภัยและผลกระทบท่เี กิด 5.2.2 ผลกระทบท่ีเกดิ จากหมอก จากหมอกควนั ควนั 5. บอกพ้นื ทพี่ ้ืนทีท่ ี่ไดร้ บั ผลกระทบ 5.2.3 พื้นทที่ ่ีไดร้ ับผลกระทบจาก จากหมอกควนั ในประเทศไทยและ หมอกควนั ในประเทศไทยและ ประเทศต่าง ๆ ในโลก ประเทศตา่ ง ๆ ในโลก 6. บอกสถานการณ์หมอกควัน 5.3 สถานการณห์ มอกควัน ในประเทศไทย และประเทศต่าง ๆ 5.3.1 สถานการณ์หมอกควันใน ในโลก ประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ ใน 7. วเิ คราะห์เปรยี บเทียบสถติ ิการเกดิ โลก หมอกควันในประเทศไทยและประเทศ 5.3.2 สถติ ิการเกดิ หมอกควันใน ตา่ ง ๆ ในโลกและคาดคะเนการเกิด ประเทศไทยและประเทศตา่ ง ๆ ใน หมอกควนั ในอนาคต โลก 8. บอกวิธกี ารเตรยี มความพร้อมรับ 5.4 แนวทางการป้องกันและการ 15 สถานการณ์การเกิดหมอกควัน แกไ้ ขปัญหาผลกระทบทีเ่ กิดจาก 9. บอกวิธีการปฏบิ ตั ิขณะเกดิ หมอก แผ่นดินไหว ควัน 5.4.1 การเตรยี มความพร้อมรับ 10. บอกวิธีการปฏิบัตติ นหลังเกดิ สถานการณ์การเกิดหมอกควัน หมอกควนั 5.4.2 การปฏิบัตขิ ณะเกดิ หมอกควัน 11. เสนอแนวทางการปอู งกนั และการ 5.4.3 การปฏิบตั ติ นหลังเกดิ หมอก แก้ไขปญั หาผลกระทบท่เี กดิ จากหมอก ควัน ควัน 6.1 ความหมายของแผน่ ดนิ ไหว 1. อธบิ ายความหมายของแผ่นดนิ ไหว - ความหมายของแผ่นดินไหว
ท่ี หัวเรอ่ื ง ตวั ชว้ี ัด เนอ้ื หา เวลา 7 สึนามิ (ชัว่ โมง) 2. บอกสาเหตุ และปัจจยั การเกดิ 6.2 ลักษณะการเกิดแผ่นดินไหว แผน่ ดนิ ไหว 6.2.1 สาเหตุและปจั จัยการเกิด 3. บอกผลกระทบทเ่ี กิดจาก แผ่นดนิ ไหว แผ่นดนิ ไหว 6.2.2 ผลกระทบทเี่ กิดจาก 4. ตระหนักถงึ ภัยและผลกระทบท่ีเกิด แผน่ ดินไหว จากแผน่ ดนิ ไหว 6.2.3 พน้ื ทเ่ี ส่ยี งภัย 5. บอกพน้ื ทเี่ ส่ียงภยั ต่อการเกิดแผน่ ดินไหวในประเทศ ตอ่ การเกิดแผน่ ดินไหวในประเทศไทย ไทยและประเทศตา่ ง ๆ ในโลก และประเทศต่าง ๆ ในโลก 6. บอกสถานการณ์แผน่ ดนิ ไหว 6.3 สถานการณ์แผน่ ดนิ ไหว ในประเทศไทย และประเทศตา่ ง ๆ 6.3.1 สถานการณ์แผ่นดนิ ไหวใน ในโลก ประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ ใน 7. วเิ คราะหเ์ ปรยี บเทยี บสถิติการเกดิ โลก แผ่นดนิ ไหวของประเทศไทยและ 6.3.2 สถติ ิการเกิดแผ่นดินไหวของ ประเทศต่าง ๆ ในโลกและคาดคะเน ประเทศไทยและประเทศตา่ ง ๆ ใน การเกิดแผน่ ดนิ ไหวในอนาคต โลก 8. บอกวิธีการเตรยี มความพร้อมรับ 6.4 แนวทางการปอ้ งกันและการ 15 สถานการณ์การเกิดแผน่ ดนิ ไหว แก้ไขปัญหาผลกระทบทีเ่ กดิ จาก 9. บอกวิธีการปฏิบตั ิขณะเกิด แผ่นดนิ ไหว แผ่นดินไหว 6.4.1 การเตรยี มความพร้อมรับ 10. บอกวิธกี ารปฏิบัติตนหลงั เกิด สถานการณ์การเกิดแผ่นดินไหว แผน่ ดินไหว 6.4.2 การปฏิบตั ิขณะเกิด 11. เสนอแนวทางการปูองกันและการ แผ่นดนิ ไหว แกไ้ ขปัญหาผลกระทบทเี่ กดิ จาก 6.4.3 การปฏิบตั ิตนหลังเกดิ แผ่นดนิ ไหว แผน่ ดนิ ไหว 1. บอกความหมายของสึนามิ 7.1 ความหมายของสนึ ามิ 2. บอกสาเหตุ และปจั จัยการเกดิ - ความหมายของสึนามิ สึนามิ 7.2 ลักษณะการเกดิ สึนามิ 7.2.1 สาเหตแุ ละปัจจยั การเกิด
ท่ี หัวเรือ่ ง ตวั ช้ีวดั เน้อื หา เวลา (ช่วั โมง) 8 บคุ ลากร 3. บอกสญั ญาณบอกเหตกุ ่อนเกิด และหนว่ ย สนึ ามิ สึนามิ งานที่ 4. บอกผลกระทบที่เกดิ จากสึนามิ เกย่ี วข้อง 5. ตระหนกั ถงึ ภัยและผลกระทบทีเ่ กิด 7.2.2 สัญญาณบอกเหตุก่อนเกิด กับการให้ จากสึนามิ ความช่วย 6. บอกพืน้ ทีเ่ สย่ี งภัย สึนามิ เหลือการ ต่อการเกดิ สนึ ามใิ นประเทศไทยและ ประสบภยั ประเทศตา่ ง ๆ ในโลก 7.2.3 ผลกระทบที่เกดิ จากสึนามิ ธรรมชาติ 7. บอกสถานการณส์ ึนามิในประเทศ 7.2.4 พืน้ ทเี่ สีย่ งภัยต่อการเกิดสึนามิ ไทย และประเทศตา่ ง ๆ ในโลก 8. วิเคราะห์เปรยี บเทยี บสถิติการเกดิ ในประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ สนึ ามขิ องประเทศตา่ ง ๆ ในโลกและ คาดคะเนการเกิดสนึ ามิในอนาคต ในโลก 7.3 สถานการณส์ นึ ามิ 7.3.1 สถานการณ์สนึ ามิในประเทศ ไทยและประเทศตา่ ง ๆ ในโลก 6.3.2 สถิติการเกิดสนึ ามิของ ประเทศไทยและประเทศตา่ ง ๆ ใน โลก 9. บอกวธิ กี ารเตรียมความพร้อมรบั 7.4 แนวทางการปอ้ งกันและการ 5 สถานการณ์การเกิดสึนามิ แก้ไขปญั หาผลกระทบทเ่ี กิดจาก 10. บอกวิธกี ารปฏิบัตขิ ณะเกิดสึนามิ สนึ ามิ 11. บอกวธิ กี ารปฏบิ ตั ิตนหลังเกิด 7.4.1 การเตรียมความพร้อมรับ สนึ ามิ สถานการณ์ 11. เสนอแนวทางการปอู งกันและการ การเกดิ สนึ ามิ แกไ้ ขปญั หาผลกระทบทเ่ี กิดจากสนึ ามิ 7.4.2 การปฏิบัตขิ ณะเกิดสนึ ามิ 7.4.3 การปฏบิ ัตติ นหลงั เกิดสึนามิ 12. ระบุบุคลากรท่ีเกีย่ วข้องกับการให้ ความช่วยเหลือผู้ประสบภยั ธรรมชาติ 8.1 บคุ ลากรท่เี กี่ยวขอ้ งกับการให้ ตา่ ง ๆ ความ 13. ระบหุ นว่ ยงานท่เี กย่ี วข้องกบั การ ชว่ ยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภยั ต่าง ๆ ธรรมชาตติ า่ ง ๆ 8.2 หนว่ ยงานท่เี กี่ยวขอ้ งกับการ ให้ความ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ ต่าง ๆ
คาอธบิ ายรายวชิ า สค32034 ประวตั ิศาสตร์ชาติไทย จานวน 3 หนว่ ยกติ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักเก่ียวกับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครองในโลก และนาํ มาปรับใช้ในการดาํ เนินชวี ิต เพื่อความมั่นคงของชาติ ศกึ ษาและฝกึ ทกั ษะเก่ียวกบั ความภมู ใิ จในความเปน็ ไทย การประยุกต์ใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ บญุ คุณของแผน่ ดิน มรดกไทยสมยั รัตนโกสนิ ทร์ และการเปลี่ยนแปลงของชาติไทยสมยั รตั นโกสนิ ทร์ การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ การจัดกระบวนการการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ เกิดจิตสํานึก รัก และภาคภูมิใจในความเป็นไทยท่ีเกิดจากการแลกเปล่ียนเรียนรู้จากการอภิปรายกลุ่ม การสอบถาม การสัมภาษณ์ และการสืบค้นข้อมูล โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การ คน้ ควา้ อสิ ระ การใช้ปัญหาเป็นฐาน โครงงาน โครงการจากเอกสารหลักฐานทางประวัตศิ าสตร์ ผู้เชี่ยวชาญ ส่ือ เทคโนโลยี และการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงโดยใช้สถานการณ์หรือเหตุการณ์จริง และจากแหล่งเรียนรู้ จากทางประวัตศิ าสตร์ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั ชาติไทย การวดั และประเมินผล การสอบถาม การสัมภาษณ์ การประเมินช้ินงาน การสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ การนําเสนอผลงาน การรายงาน การอภปิ ราย แบบบันทกึ การเรียนรู้ แบบรายงานตนเอง และแบบทดสอบ
รายละเอยี ดคาอธิบายรายวิชา สค32034 ประวตั ิศาสตร์ชาติไทย จานวน 3 หน่วยกิต ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักเก่ียวกับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครองในโลก และนํามาปรับใช้ในการดําเนินชีวติ เพอื่ ความมั่นคงของชาติ ท่ี หวั เรอื่ ง ตัวชวี้ ดั เนื้อหา จานวน (ชั่วโมง) 1. ความภมู ิใจ 1. อธบิ ายความหมาย 1. สถาบนั หลักของชาติ 15 ในความเป็นไทย ความสาํ คญั ของสถาบนั หลกั 1.1 ชาติ ของชาติ 1.1.1 ความหมาย ความสําคัญ 2. อธบิ ายความเปน็ มาของ ของชาติ ชนชาติไทย 1.1.2 ความเป็นมาของ 3. บอกพระปรชี าสามารถ ชนชาติไทย ของพระมหากษัตริย์ไทย 1.1.3 การรวมไทยเปน็ ปึกแผ่น กบั การรวมชาติ 1.1.4 พระมหากษตั ริยไ์ ทย กับการรวมชาติ 4. อธบิ ายความสาํ คญั ของ 1.2 ศาสนา สถาบันศาสนา 1.2.1 ศาสนาพุทธ 1.2.2 ศาสนาครสิ ต์ 1.2.3 ศาสนาอิสลาม 1.2.4 ศาสนาซิกส์ 1.2.5 ศาสนาฮนิ ดู 5. อธบิ ายความสาํ คัญของ 1.3 พระมหากษัตรยิ ์ สถาบนั พระมหากษัตริย์ 1.3.1 องค์อุปถัมภ์ของศาสนา 6. อธบิ ายและยกตวั อย่าง 1.3.2 การปกครอง ที่แสดงถงึ ความภาคภูมิใจ 1.3.3 การเสยี สละ ในความเป็นไทย 1.3.4 พระปรีชาสามารถ 7. บอกบญุ คุณของ 2. บทสรปุ สถาบันพระมหากษัตริย์ เปน็ พระมหากษัตรยิ ไ์ ทย ศูนยร์ วมใจของคนในชาติ ต้ังแต่สมัยสุโขทัย อยธุ ยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์ 3. บุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทย ตั้งแตส่ มยั สุโขทัย อยธุ ยา ธนบรุ ี และ รตั นโกสินทร์ 3.1 สมยั สโุ ขทยั
ที่ หัวเร่ือง ตวั ชว้ี ดั เน้อื หา จานวน 2. การประยุกตใ์ ช้วธิ ีการ (ชั่วโมง) 1.อธิบายความหมาย 3.2 สมัยอยธุ ยา ทางประวัติศาสตร์ ความสําคญั และประโยชน์ 3.3 สมยั ธนบุรี 36 ของวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ 3.4 สมยั รัตนโกสินทร์ 3. พระราชกรณยี กจิ ของ 1. ความหมาย ความสาํ คัญและ 27 พระมหากษัตริย์ไทย 2. อธิบายวธิ กี ารทาง ประโยชน์ของวิธกี ารทาง สมัยรัตนโกสินทร์ ประวตั ศิ าสตร์ ประวัติศาสตร์ 2. วธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ 3. ประยุกตใ์ ช้วิธกี ารทาง 2.1 การกําหนดหวั เรอ่ื งทจี่ ะศึกษา/ ประวัตศิ าสตรใ์ นการศึกษา เร่ืองราวทางประวตั ศิ าสตร์ การต้ังประเด็นทจ่ี ะศึกษา ท่สี นใจ 2.2 การรวบรวมหลกั ฐาน/สืบคน้ และ 1. อธบิ ายพระราชกรณียกจิ รวบรวมข้อมูล ของพระมหากษตั รยิ ์ไทยสมยั 2.3 การประเมินคา่ ของหลักฐาน/ รตั นโกสินทร์ การวเิ คราะห์และตีความข้อมูล 2. อธบิ ายคณุ ประโยชน์ ทางประวัตศิ าสตร์ ของบุคคลสาํ คญั ที่มตี ่อ 2.4 การวิเคราะห์ สงั เคราะห์ และ การพฒั นาชาติไทย จัดหมวดหมขู่ อ้ มูล 2.5 การเรยี บเรยี งและนําเสนอข้อมลู 3. วเิ คราะหค์ ุณประโยชน์ 2.6 ตัวอยา่ งการนําวธิ กี ารทาง ของบุคคลสาํ คญั ทม่ี ีผลต่อ ประวตั ศิ าสตรม์ าใช้ศึกษา การพัฒนาชาติไทย ประวัติศาสตร์ไทย 4. เขยี นบรรยายคณุ ค่าที่ได้รับ 1. พระราชกรณยี กจิ ของ จากการศึกษาประวัติศาสตร์ พระมหากษัตริย์ไทยสมัย ชาติไทย รัตนโกสนิ ทร์ 2. คุณประโยชน์ของบคุ คลสําคญั 2.1 กรมพระราชวังบวร มหาสรุ สิงหนาท 2.2 ทา้ วสรุ นารี 2.3 สมเดจ็ เจ้าพระยามหาศรีสรุ ิ ยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) 2.4 กรมพระยาดํารงราชานภุ าพ 2.5 กรมหลวงชมุ พรเขตอุดมศักด์ิ 2.6 พระยาอนุมานราชธน
ที่ หัวเร่ือง ตวั ชวี้ ัด เน้อื หา จานวน 4. มรดกไทยสมยั 1. อธิบายความหมายและ (ช่ัวโมง) 1. ความหมายและความสาํ คัญของ รัตนโกสนิ ทร์ ความสาํ คญั ของมรดกไทย มรดกไทย 24 2. ยกตัวอย่างมรดกไทย 5. การเปล่ียนแปลงของ 2. มรดกไทยสมยั รตั นโกสนิ ทร์ ชาติไทยสมยั สมยั รัตนโกสินทร์ 2.1 ดา้ นสถาปัตยกรรม รัตนโกสนิ ทร์ ไดอ้ ยา่ งน้อย 3 เรื่อง 2.2 ดา้ นประติมากรรม 2.3 ด้านจติ รกรรม 3. วเิ คราะห์มรดกไทยสมัย 2.4 ด้านวรรณกรรม รัตนโกสนิ ทรท์ ่มี ผี ลต่อ 2.5 ดา้ นดนตรี และนาฏศลิ ป์ การพัฒนาชาติไทย 2.6 ดา้ นประเพณี 2.7 ด้านการแต่งกายและอาหาร 4. อธบิ ายความหมาย 2.8 ตัวอยา่ งการมีสว่ นรว่ ม ความสําคญั ของการอนรุ ักษ์ การอนุรักษม์ รดกไทยสมัย มรดกไทย รัตนโกสนิ ทร์ 5. ยกตัวอย่างการมีส่วนร่วม 3. มรดกไทยที่มผี ลต่อการพัฒนา ในการอนุรักษ์มรดกไทย ชาติไทย 1. วิเคราะห์เหตุการณส์ ําคญั 4. การอนุรกั ษ์มรดกไทย ทางประวัติศาสตรท์ ี่มีผลต่อ การพฒั นาชาติไทย 5. การมีสว่ นรว่ มในการอนรุ ักษ์ 18 มรดกไทย 1. เหตุการณ์สําคญั ทางประวัติศาสตรท์ ี่ มีผลต่อการพัฒนาชาตไิ ทย 1.1 การสถาปนาอาณาจักร รตั นโกสนิ ทร์ 1.2 สนธสิ ญั ญาเบาว์ริ่ง 1.3 การปฏิรปู การปกครองในสมยั รชั กาลท่ี 5 1.4 การเปลีย่ นแปลงการปกครอง 2475 1.5 ความเปน็ ชาติไทยสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม
ท่ี หวั เรื่อง ตวั ชวี้ ดั เนื้อหา จานวน (ชว่ั โมง) 2. อภิปรายและนําเสนอ 2. ตวั อย่างการวเิ คราะหแ์ ละอภปิ ราย เหตุการณส์ ําคัญทาง เหตกุ ารณส์ าํ คัญทางประวตั ศิ าสตร์ ที่ ประวตั ศิ าสตรท์ ่ีมผี ลตอ่ มผี ลต่อการพัฒนาชาตไิ ทย การพฒั นาชาติไทย
คาอธบิ ายรายวชิ า สค32035 ลกู เสอื กศน. จานวน 3 หน่วยกิต ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนร้รู ะดบั 1. มีความรู้ ความเขา้ ใจ ตระหนักเก่ยี วกบั ภมู ิศาสตร์ ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครองในโลก และนาํ มาปรับใช้ในการดําเนินชีวติ เพื่อความม่ันคงของชาติ 2. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ เห็นคณุ ค่า และสืบทอดศาสนา วฒั นธรรม ประเพณขี องประเทศ ใน สงั คมโลก 3. มีความรู้ ความเข้าใจ ดาํ เนินชวี ิตตามวถิ ีประชาธิปไตย กฎระเบยี บของประเทศต่าง ๆ ในโลก 4. มีความรู้ ความเข้าใจหลักการพัฒนาชุมชน สังคม สามารถวิเคราะห์ข้อมูล และเป็นผู้นํา ผู้ตาม ในการพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม ให้สอดคล้องกับสภาพการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ ปจั จบุ นั ศึกษาและฝึกทกั ษะเกย่ี วกับเรอ่ื งต่อไปน้ี ลูกเสือกับการพัฒนา การลูกเสือไทย การลูกเสือโลก คุณธรรม จริยธรรมของลูกเสือ วินัย และความเป็นระเบียบเรียบร้อย ลูกเสือ กศน. กับการพัฒนา ลูกเสือ กศน. กับจิตอาสาและการบริการ การเขียนโครงการเพอื่ พัฒนาชมุ ชนและสังคม ทกั ษะลูกเสอื ความปลอดภัยในการเข้าร่วมกิจกรรมลูกเสือ การ ปฐมพยาบาล การเดินทางไกล อยู่ค่ายพักแรม และชีวิตชาวค่าย การฝึกปฏิบัติการเดินทางไกล อยู่ค่าย พัก แรม และชีวติ ชาวคา่ ย การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ศึกษาค้นคว้าจากตําราเอกสาร แหล่งการเรียนรู้ในชุมชน ส่ือเทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต และ สอ่ื ท่ีหลากหลาย วทิ ยากร ผรู้ ู้ ปราชญ์ชุมชน ผู้ทรงคุณวุฒิ จัดกลุ่มศึกษา ค้นคว้า อภิปราย แลกเปล่ียนเรียนรู้ ศึกษานอกสถานที่ นิทรรศการ สาธิต ฝึกปฏิบัติจริงในพื้นที่/ชุมชน การฝึกปฏิบัติการเดินทางไกล อยู่ค่าย พักแรม และชีวิตชาวค่าย จัดทําโครงงาน วางแผนและร่วมกันศึกษาจัดทําโครงการ แก้ปัญหาจริงในชุมชน การฝึกปฏิบัตกิ ารเดินทางไกล อยคู่ ่ายพกั แรม และชวี ติ ชาวค่าย การวดั และประเมินผล สังเกตพฤติกรรมในการเรียนรู้ การแลกเปล่ียนเรียนรู้ ความสนใจ ความต้ังใจ ความรับผิดชอบ การปฏิบัติจริง การปฏิบัติงานกลุ่ม ความคิดเห็นของเพ่ือน ๆ ในกลุ่ม แฟูมสะสมงาน ใบงาน ชิ้นงาน ผลงาน แบบทดสอบ ผลการฝกึ ปฏิบตั กิ ารเดนิ ทางไกล อยู่คา่ ยพักแรม และชีวิตชาวค่าย
รายละเอยี ดคาอธบิ ายรายวิชา สค32035 ลกู เสอื กศน. จานวน 3 หน่วยกติ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ 1. มีความรู้ ความเขา้ ใจ ตระหนักเกยี่ วกบั ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครองในโลก และนํามาปรบั ใช้ในการดําเนินชีวติ เพ่ือความมั่นคงของชาติ 2. มคี วามรู้ ความเข้าใจ เหน็ คณุ ค่า และสบื ทอดศาสนา วฒั นธรรม ประเพณขี องประเทศ ใน สังคมโลก 3. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ดําเนนิ ชวี ติ ตามวถิ ปี ระชาธิปไตย กฎระเบียบของประเทศต่าง ๆ ในโลก 4. มีความรู้ ความเข้าใจหลักการพัฒนาชุมชน สังคม สามารถวิเคราะห์ข้อมูล และเป็นผู้นํา ผู้ตาม ในการพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม ให้สอดคล้องกับสภาพการเปล่ียนแปลงของเหตุการณ์ ปัจจบุ ัน ท่ี หัวเรื่อง ตัวช้วี ัด เนอ้ื หา จานวน ชว่ั โมง 1 ลูกเสือ 1. อธิบายสาระสาํ คัญของ 1. สาระสาํ คัญของการลูกเสือ 2 กับการพฒั นา การลกู เสือ 1.1 วัตถุประสงค์ของการพัฒนา ลกู เสอื 1.2 หลกั การสาํ คญั ของการลูกเสือ 2. อธบิ ายความสําคัญของ 2. ความสาํ คญั ของการลกู เสอื การลูกเสือกับการพฒั นา กับการพฒั นา 2.1 การพัฒนาตนเอง 2. 2 การพัฒนาสัมพันธ ภ าพ ระหว่างบคุ คล 2. 3 การพัฒนาสัมพันธ ภ าพ ภายในชมุ ชนและสังคม 3. อภิปรายความเป็น 3. ลกู เสอื กบั การพัฒนาความเป็น พลเมืองดใี นทัศนะของ พลเมืองดี ลูกเสอื 3.1 ความหมายของพลเมืองดี 3.2 ความเป็นพลเมืองดีในทศั นะ ของการลกู เสอื 4. นําเสนอผลการสํารวจ 4. การสาํ รวจตนเอง ครอบครัว ตนเอง ครอบครัว ชุมชน ชุมชน และสงั คม เพ่ือการพฒั นา และสังคม เพอื่ การพฒั นา 4.1 การสํารวจตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสงั คม
ที่ หวั เรอ่ื ง ตวั ชี้วดั เน้ือหา จานวน 2 การลกู เสอื ไทย ชั่วโมง 4.2 แนวทางการพัฒนาตนเอง 3 การลกู เสือโลก 3 ครอบครวั ชุมชน และสังคม 4 คุณธรรม 3 จริยธรรมของ 1. อธบิ ายประวัติการลกู เสือ 1. ประวตั ิการลูกเสอื ไทย ลูกเสือ 6 ไทย 1.1 พระราชประวัติของ พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้า เจา้ อยูห่ วั 1.2 กาํ เนิดลูกเสือไทย 1.3 กจิ การลูกเสือไทยแต่ละยุค 2. อธิบายความรู้ท่วั ไป 2. ความรู้ทว่ั ไปเกี่ยวกับคณะลูกเสือ เก่ียวกบั คณะลูกเสือ แหง่ ชาติ แหง่ ชาติ 2.1 คณะลูกเสือแห่งชาติ 2.2 การบริหารงานของคณะลูกเสือ แห่งชาติ 2.3 การลูกเสือในสถานศกึ ษา 1. อธิบายประวตั ผิ ู้ใหก้ ําเนดิ 1. ประวตั ผิ ้ใู หก้ าํ เนิดลกู เสือโลก ลกู เสอื โลก 2. อธิบายความสาํ คัญของ 2. องค์การลูกเสือโลก องค์การลูกเสอื โลก 3. อธิบายความสมั พนั ธ์ 3. ความสัมพันธ์ระหว่างลกู เสือไทย ระหว่างการลกู เสือไทยกบั กับลกู เสอื โลก การลูกเสอื โลก 1. อธิบายคาํ ปฏญิ าณและ 1. คําปฏิญาณและกฎของลกู เสือ กฎของลูกเสอื 2. อธบิ ายคุณธรรม 2. คุณธรรม จรยิ ธรรมจากคาํ จริยธรรมจากคําปฏิญาณ ปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื และกฎของลกู เสือ 3. ยกตัวอย่างการนํา 3. การนําคาํ ปฏิญาณ และกฎของ คําปฏิญาณและกฎของ ลกู เสือท่ใี ช้ในชีวิตประจําวนั ลกู เสือทใ่ี ชใ้ นชีวติ ประจําวัน 4. อธบิ ายความสมั พันธ์ 4 ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งคณุ ธรรม ระหวา่ งคุณธรรม จริยธรรม จริยธรรมในคาํ ปฏิญาณและกฎของ ในคาํ ปฏญิ าณและกฎของ ลกู เสอื กับหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ ลกู เสือกบั หลกั ปรชั ญาของ พอเพยี ง
ท่ี หัวเรือ่ ง ตัวช้ีวัด เนอ้ื หา จานวน ชวั่ โมง เศรษฐกจิ พอเพยี ง 6 5 วินัย และความ 1. อธิบายความหมาย และ 1. วินัย และความเปน็ ระเบียบ 6 เป็นระเบยี บ ความสาํ คัญของวนิ ยั และ เรียบร้อย เรยี บร้อย ความเป็นระเบียบเรียบร้อย 1.1 ความหมายของวนิ ยั และความ เปน็ ระเบยี บเรียบร้อย 1.2 ความสาํ คัญของวินัยและ ความเป็นระเบียบเรียบร้อย 2. อธิบายผลกระทบจาก 2. ผลกระทบจากการขาดวนิ ัย และ การขาดวินัยและขาดความ ขาดความเปน็ ระเบยี บเรียบร้อย เปน็ ระเบยี บเรียบร้อย 3. ยกตัวอยา่ งแนวทางการ 3. แนวทางการเสริมสรา้ งวนิ ัย และ เสรมิ สร้างวินยั และความ ความเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย เป็นระเบียบเรยี บร้อย 4. อธบิ ายระบบหมู่ลกู เสือ 4. ระบบหมู่ลูกเสือ 5. อธิบายและยกตัวอยา่ ง 5. การพัฒนาภาวะผ้นู าํ – ผตู้ าม การพัฒนาภาวะผนู้ าํ - ผ้ตู าม 6 ลกู เสือ กศน. กบั 1. อธบิ ายความเปน็ มา และ 1. ลกู เสือ กศน. การพฒั นา ความสําคัญของลูกเสือ 1.1 ความเปน็ มาของลูกเสอื กศน. กศน. 1.2 ความสาํ คัญของลูกเสอื กศน. 2. อธิบายลูกเสือ กศน. 2. ลกู เสือ กศน. กับการพฒั นา กบั การพฒั นา 3. ระบบุ ทบาทหน้าทขี่ อง 3. บทบาทหนา้ ที่ของลูกเสือ กศน. ลกู เสอื กศน. ที่มีตอ่ ตนเอง ทม่ี ตี อ่ ตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน ครอบครวั ชุมชน และสังคม และสงั คม 4. ระบบุ ทบาทหนา้ ท่ขี อง 4. บทบาทหนา้ ท่ขี องลูกเสือ กศน. ลูกเสอื กศน. ที่มีตอ่ ที่มีตอ่ สถาบนั หลักของชาติ สถาบนั หลกั ของชาติ 7 ลกู เสอื กศน. 1. อธบิ ายความหมาย และ 1. จติ อาสา และการบรกิ าร 12 กับจิตอาสา และ ความสําคัญของจิตอาสา 1.1 ความหมายของจติ อาสา การบรกิ าร และการบริการ 1.2 ความสําคัญของจติ อาสา 1.3 ความหมายของการบริการ
ท่ี หวั เรื่อง ตวั ชีว้ ดั เนือ้ หา จานวน ชวั่ โมง 1.4 ความสําคัญของการบริการ 12 2. อธิบายหลักการของ 2. หลกั การของจิตอาสา และ 6 จิตอาสา และการบรกิ าร การบริการ 2.1 หลกั การของจติ อาสา 2.2 ประเภทของจิตอาสา 2.3 หลกั การของการบริการ 2.4 ประเภทของการบริการ 3. ยกตวั อยา่ งกิจกรรม 3. กิจกรรมจิตอาสา และการ จิตอาสา และการให้บริการ ใหบ้ รกิ ารของลกู เสือ กศน. ของลกู เสือ กศน. 4. นําเสนอผลการปฏบิ ตั ติ น 4. การปฏบิ ัติตนในฐานะลูกเสือ กศน. ในฐานะลกู เสือ กศน. เพ่ือเป็นจิตอาสาและการใหบ้ ริการ เพือ่ เป็นจิตอาสา และ การให้บริการ อย่างน้อย 4 กิจกรรม 8 การเขียน 1. อธิบายความหมาย 1. โครงการเพื่อพัฒนาชุมชนและ โครงการเพ่ือ ความสาํ คญั ของโครงการ สังคม พฒั นาชุมชนและ 1.1 ความหมายของโครงการ สงั คม 1.2 ความสําคญั ของโครงการ 2. จาํ แนกลักษณะของ 2. ลักษณะของโครงการ โครงการ 3. ระบอุ งค์ประกอบของ 3. องค์ประกอบของโครงการ โครงการ 4. อธิบายขน้ั ตอนการเขยี น 4. ขั้นตอนการเขียนโครงการ โครงการ 5. บอกขั้นตอนการ 5. การดาํ เนนิ การตามโครงการ ดําเนินงานตามโครงการ 6. อภปิ รายผลการ 6. การสรปุ รายงานผลการ ปฏิบัติงานตามโครงการ ดําเนนิ งานโครงการเพื่อเสนอ และการเสนอผลการ ตอ่ ทปี่ ระชุม ดําเนินงานตอ่ ทป่ี ระชุม 9 ทักษะลูกเสือ 1. อธบิ ายความหมายและ 1. แผนที่ - เขม็ ทศิ ความสําคญั ของแผนท่ี - 1.1 ความหมาย และความสาํ คญั
ที่ หวั เรื่อง ตัวช้ีวดั เน้ือหา จานวน ชว่ั โมง เขม็ ทิศ ของแผนท่ี 6 1.2 ความหมาย และความสําคัญ ของเขม็ ทิศ 2. อธบิ ายส่วนประกอบ 2. วิธีการใช้แผนที่ – เขม็ ทศิ ของเข็มทิศ 2.1 วธิ กี ารใชแ้ ผนที่ 2.2 วธิ ีการใช้เขม็ ทศิ 3. อธิบายวธิ ีการใช้ 3. การใช้ Google Map และ Google Map และ Google Google Earth Earth 4. เงอ่ื นเชือกและการผูกแน่น 4. อธิบายความหมายและ 4.1 ความหมายของเง่ือนเชือก ความสาํ คญั ของเง่อื นเชือก และการผกู แนน่ และการผกู แน่น 4.2 ความสาํ คญั ของเง่อื นเชอื ก 5. ผกู เงอื่ นเชือกได้และ และการผกู แน่น บอกชอ่ื เง่อื นอยา่ งน้อย 7 4.3 การผกู เงื่อนเชือกและ เงือ่ น การผูกแน่น 6. สาธิตวิธกี ารผูกแนน่ อยา่ งน้อย 2 วิธี 10 ความปลอดภยั ใน 1. บอกความหมาย 1. ความปลอดภัยในการเขา้ ร่วม การเข้ารว่ ม ความสําคัญของความ กจิ กรรมลกู เสือ กจิ กรรมลกู เสือ ปลอดภยั ในการเขา้ ร่วม 1.1 ความหมายของความ กจิ กรรมลกู เสือ ปลอดภยั ในการเข้ารว่ มกจิ กรรม ลูกเสอื 1.2 ความสาํ คญั ของความ ปลอดภยั ในการเข้าร่วมกิจกรรม 2. บอกหลักการ วธิ ีการเฝาู ลกู เสือ ระวงั เบื้องตน้ ในการเข้ารว่ ม 2. หลกั การ วิธีการในการเฝาู ระวงั กิจกรรมลูกเสือ เบ้อื งต้นในการเข้ารว่ มกิจกรรม 3. อธบิ ายสถานการณห์ รือ ลูกเสือ โอกาสทจี่ ะเกดิ ความ 3. การชว่ ยเหลือเม่ือเกิดเหตุความ ไม่ปลอดภัยในการเข้ารว่ ม ไม่ปลอดภยั ในการเข้าร่วมกิจกรรม กจิ กรรมลูกเสือ ลูกเสือ 4. การปฏิบตั ติ นตามหลกั ความ ปลอดภยั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227