Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือ สาวัตถีบัญญัติ

หนังสือ สาวัตถีบัญญัติ

Published by wichit1588, 2018-06-15 14:36:35

Description: หนังสือ สาวัตถีบัญญัติ

Search

Read the Text Version

คณจวี รสกิ ขาบท ๒๖. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี คณสสฺ จวี รลาภ อนตฺ ราย กเรยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๖๘๓. กภ็ ิกษณุ ีใดทาอนั ตรายแก่จวี รท่ีคณะจะพึงได้ ต้องอาบตั ิปาจติ ตยี ์ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถ๖ี ๘๔ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษุณีถุลลนันทา๖๘๕ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ตระกลู อุปัฏฐากของภิกษณุ ีถุลลนันทา ได้กล่าวกับภิกษุณีถลุ ลนนั ทาวา่ จะถวายจวี รแก่ภกิ ษุณสี งฆ์ ภกิ ษุณีถุลลนันทากลา่ ววา่ พวกทา่ นมีกจิ มาก มสี ่ิงที่ต้องทามาก ได้ทาอันตราย(แกล่ าภของคณะ) ต่อมา เรือนตระกูลนั้นถูกไฟไหม้ พวกเขาตาหนิ ประณาม โพนทะนาวา่ไฉนภิกษุณถี ุลลนันทาจงึ ทาอันตรายไทยธรรมของพวกเรา พวกเราตอ้ งคลาดจากสมบตั ิทั้งสอง คือ โภคสมบตั ิและบญุ สมบัติ ลาดบั นัน้ พระผมู้ ีพระภาครบั สั่งให้ประชุมสงฆเ์ พราะเรื่องน้ีเปน็ ต้นเหตุ ทรงสอบถามภิกษุทง้ั หลายแล้วจึงรบั สง่ั ให้ภิกษุณที ้ังหลายยกสิกขาบทนข้ี ึ้นแสดง๖๘๖ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ๖๘๗ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบญั ญตั ิเฉพาะภิกษณุ ี๖๘๘ ปฏิพาหนสกิ ขาบท ๒๗. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ธมมฺ ิก จวี รวภิ งคฺ ปฏพิ าเหยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๖๘๙. ก็ภกิ ษุณีใดคัดคา้ นการแจกจีวรทช่ี อบธรรม ตอ้ งอาบตั ิปาจิตตีย์ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๖ี ๙๐ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษุณีถลุ ลนันทา๖๙๑ ๖๘๒ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๒๓๙/๒๕๑ ๖๘๓ กงฺขา.อ.๒๖/๖๙ (มจร) ๖๘๔ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๓๕/๒๕๔ ๖๘๕ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๒๓๕/๒๕๔ ๖๘๖ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๒๓๕/๒๕๔ ๖๘๗ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๒๓๕/๒๕๔ ๖๘๘ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๒๓๕/๒๕๔ ๖๘๙ กงขฺ า.อ.๒๗/๖๙ (มจร) ๖๙๐ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๔๒/๒๕๖ ๖๙๑ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๔๒/๒๕๖

๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ อกาลจวี รเกิดขึ้นแกภ่ ิกษณุ ีสงฆ์ ลาดับน้ัน ภกิ ษุณีสงฆ์ประสงค์จะแจกจวี รน้นั จึงประชมุ กนั เวลาน้ันพวกภิกษุณี อันเตวาสนิ ขี องภิกษุณีถลุ ลนนั ทาหลกี ไปแลว้ภิกษณุ ีถลุ ลนนั ทาได้กลา่ วกบั ภิกษุณีเหล่านนั้ ดงั นว้ี ่า “แมเ่ จ้าทั้งหลาย ภกิ ษุณีท้งั หลายหลีกไปแลว้ อย่าเพิ่งแจกจีวรเลย” คัดค้านการแจกจวี ร พวกภิกษุณกี ลา่ วว่า “อยา่ เพง่ิ แจกจวี รเลย” แล้วแยกย้ายกันไป เม่ือเหล่าภิกษณุ ีอันเตวาสนิ ีกลบั มา ภิกษุณีถลุ ลนนั ทาจึงให้แจกจีวรน้ัน ลาดบั นน้ั พระผมู้ ีพระภาครบั สั่งให้ประชุมสงฆเ์ พราะเร่ืองน้ีเป็นตน้ เหตุ ทรงสอบถามภกิ ษุทง้ั หลายแล้วจงึ รบั ส่ังให้ภกิ ษณุ ที ั้งหลายยกสิกขาบทนีข้ ้ึนแสดง๖๙๒ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ๖๙๓ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญัติเฉพาะภกิ ษณุ ี๖๙๔ จวี รทานสกิ ขาบท ๒๘. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อคารกิ สสฺ วา ปรพิ พฺ าชกสสฺ วา ปรพิ พฺ าชกิ าย วา สมณจวี ร ทเทยยฺปาจติ ตฺ ยิ ๖๙๕. กภ็ ิกษณุ ีใดใหส้ มณจวี รแกช่ าวบ้าน แกป่ ริพาชก หรอื ปริพาชิกา ตอ้ งอาบตั ปิ าจิตตีย์ ๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถ๖ี ๙๖ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุณีถลุ ลนนั ทา๖๙๗ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษณุ ีถลุ ลนนั ทาให้สมณจีวรแก่พวกครนู ักฟ้อนบา้ งพวกนกั ฟ้อนบ้าง พวกกระโดดไม้ค้าบ้าง พวกมายากลบ้าง พวกตกี ลองบา้ ง เพื่อให้กลา่ วพรรณนาคุณของนางในชมุ นมุ ชน พวกครนู ักฟ้อนบ้าง พวกนักฟ้อนบา้ ง พวกกระโดดไม้ค้าบ้าง พวกมายากลบา้ ง พวกตีกลองบา้ ง ตา่ งกลา่ วพรรณนาคุณของภกิ ษุณีถลุ ลนนั ทาในชุมนมุ ชน ลาดับนัน้ พระผมู้ ีพระภาครับสั่งใหป้ ระชุมสงฆเ์ พราะเรื่องน้ีเป็นต้นเหตุ ทรงสอบถามภกิ ษทุ ัง้ หลายแล้วจงึ รบั ส่งั ใหภ้ กิ ษุณที งั้ หลายยกสิกขาบทนีข้ ึ้นแสดง๖๙๘ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ๖๙๙ ๖๙๒ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๔๒/๒๕๖ ๖๙๓ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๒๔๒/๒๕๗ ๖๙๔ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๔๒/๒๕๗ ๖๙๕ กงฺขา.อ.๒๘/๖๙ (มจร) ๖๙๖ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๒๔๖/๒๕๙ ๖๙๗ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๒๔๖/๒๕๙ ๖๙๘ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๒๔๖/๒๕๙ ๖๙๙ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๒๔๖/๒๖๐

๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญัติเฉพาะภกิ ษุณี๗๐๐ กาลอตกิ กมนสกิ ขาบท ๒๙. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี ทุพพฺ ลจวี รปจจฺ าสาย จวี รกาลสมย อตกิ กฺ าเมยยฺ ปาจติ ตฺ ิย๗๐๑. ก็ภิกษณุ ีใดใหล้ ่วงเลยสมัยแห่งจวี รกาลดว้ ยความหวงั ในจีวรที่เลอื่ นลอย ต้องอาบตั ิปาจติ ตยี ์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถ๗ี ๐๒ ๒) บุคคลผ้กู อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษุณีถุลลนันทา๗๐๓ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ตระกลู อปุ ัฏฐากของภกิ ษุณีถุลลนนั ทาไดก้ ล่าวกับภกิ ษณุ ีถลุ ลนันทาวา่ จะถวายจีวรแก่ภกิ ษุณีสงฆ์ ครั้นภกิ ษุณีท้ังหลายจาพรรษาแลว้ ประชมุ กนั ด้วยประสงค์ จะแจกจวี ร ภิกษุณีถลุ ลนันทาบอกให้ภิกษณุ เี หลา่ น้ันรอก่อน ภกิ ษณุ ีสงฆ์มีความหวงั ในจีวร ภกิ ษุณีทัง้ หลายให้ภิกษณุ ถี ลุ ลนันทาไปสืบดจู วี รนนั้ ให้รูเ้ ร่ือง ภิกษุณถี ุลลนันทาเขา้ ไปถึงตระกูลน้ัน ได้กลา่ วว่าทา่ นท้ังหลายจงถวายจีวรแก่ภิกษณุ สี งฆ์ คนเหล่านน้ั กลา่ วว่า พวกเรายังไมส่ ามารถท่จี ะถวายจีวรแกภ่ ิกษณุ สี งฆ์ พวกภกิ ษุได้นาเรือ่ งนี้ไปกราบทูล พระผู้มีพระภาคใหท้ รงทราบ ลาดับน้นั พระผูม้ ีพระภาครบั สงั่ ให้ประชมุ สงฆ์เพราะเร่ืองนี้เป็นต้นเหตุ ทรงสอบถามภกิ ษทุ งั้ หลายแล้ว จึงรับสั่งใหภ้ กิ ษุณที งั้ หลายยกสิกขาบทน้ีขนึ้ แสดง๗๐๔ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ๗๐๕ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญัติเฉพาะภกิ ษณุ ี๗๐๖ กถนิ ทุ ธารสกิ ขาบท ๓๐. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ธมมฺ กิ กถนิ ทุ ธฺ าร ปฏพิ าเหยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๗๐๗. กภ็ ิกษณุ ีใดคดั ค้านการเดาะกฐินท่ชี อบธรรม ตอ้ งอาบตั ิปาจิตตีย์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๗ี ๐๘ ๗๐๐ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๔๖/๒๖๐ ๗๐๑ กงขฺ า.อ.๒๙/๖๙ (มจร) ๗๐๒ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๒๔๙/๒๖๒ ๗๐๓ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๒๔๙/๒๖๒ ๗๐๔ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๒๔๙/๒๖๒ ๗๐๕ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๒๔๙/๒๖๓ ๗๐๖ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๒๔๙/๒๖๓ ๗๐๗ กงขฺ า.อ.๓๐/๖๙ (มจร)

๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ อุบาสกคนหนง่ึ ๗๐๙ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ อบุ าสกคนหนึ่งให้สร้างวิหารอุทศิ (ถวาย)สงฆ์ ในการฉลองวหิ ารนนั้ อบุ าสกนั้นประสงคจ์ ะถวายอกาลจีวรแก่ สงฆ์ทง้ั สองฝา่ ย แต่เวลานนั้ สงฆท์ ั้งสองฝ่ายกรานกฐินแล้ว ลาดับน้ัน อุบาสกนัน้ เข้าไปหาสงฆ์ ขอการเดาะกฐนิ ภิกษุทง้ั หลายจึงได้กราบทลู เรอื่ งนนั้ ให้พระผู้มีพระภาคทรงทราบ ลาดับน้นั พระผูม้ ีพระภาคทรงแสดงธรรมีกถาเพราะเรอ่ื งน้เี ป็นตน้ เหตุ ตรสั ว่า ภกิ ษทุ ง้ั หลาย เราอนุญาตใหเ้ ดาะกฐนิ ได้๗๑๐ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ๗๑๑ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบญั ญัตเิ ฉพาะภกิ ษณุ ี๗๑๒ ตวุ ฏั ฏวรรค เอกมญั จตวุ ฏั ฏนสกิ ขาบท ๓๑. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ โิ ย ทเฺ ว เอกมญเฺ จ ตวุ ฏเฺ ฏยยฺ ุ ปาจติ ตฺ ยิ ๗๑๓. ก็ภิกษุณเี หล่าใด ๒ รปู นอนบนเตียงเดยี วกัน ต้องอาบตั ิปาจติ ตยี ์ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๗ี ๑๔ ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษณุ ีนอนรว่ มกัน ๒ รปู ๗๑๕ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษณุ ี ๒ รูปนอนบนเตียงเดยี วกัน คนทั้งหลายเทยี่ วจาริกไปตามวิหารเหน็ แลว้ จึงตาหนิ ประณาม โพนทะนาว่า เหมอื นหญงิ คฤหัสถ์ผบู้ รโิ ภคกาม ลาดบั น้นั พระผู้มพี ระภาครบั สั่งใหป้ ระชมุ สงฆเ์ พราะเรือ่ งนเ้ี ป็นตน้ เหตุ ทรงสอบถามภกิ ษุทัง้ หลาย แล้วจงึ รบั สง่ั ให้ภกิ ษณุ ีทั้งหลายยกสกิ ขาบทนี้ขึน้ แสดง๗๑๖ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ๗๑๗ ๗๐๘ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๒๕๓/๒๖๕ ๗๐๙ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๕๓/๒๖๕ ๗๑๐ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๒๕๓/๒๖๕ ๗๑๑ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๒๕๓/๒๖๗ ๗๑๒ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๕๓/๒๖๗ ๗๑๓ กงฺขา.อ.๓๑/๖๙ (มจร) ๗๑๔ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๒๕๘/๒๗๐ ๗๑๕ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๒๕๘/๒๗๐ ๗๑๖ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๒๕๘/๒๗๐ ๗๑๗ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๒๕๘/๒๗๐

๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบญั ญตั ิเฉพาะภิกษณุ ี๗๑๘ เอกตั ถรณตวุ ฏั ฏนสกิ ขาบท ๓๒. ยา ปน ภิกขฺ นุ โิ ย ทเฺ ว เอกตถฺ รณปาวรุ ณา ตวุ ฏเฺ ฏยยฺ ุ ปาจติ ตฺ ยิ ๗๑๙. ก็ภิกษณุ ีเหล่าใด ๒ รูปใช้ผา้ ผนื เดยี วเปน็ ท้ังผ้าปูนอนและผา้ ห่ม นอนรว่ มกนั ต้องอาบัตปิ าจติ ตยี ์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๗ี ๒๐ ๒) บุคคลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษณุ ีนอนร่วมกนั ๒ รปู ๗๒๑ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุณี ๒ รปู ใช้ผ้าผนื เดียวเป็น ทงั้ ผา้ ปูนอนและผา้หม่ นอนร่วมกนั คนท้ังหลายเทย่ี วจาริกไปตามวหิ ารเห็นแล้วจึง ตาหนิ ประณาม โพนทะนาว่าเหมือนหญงิคฤหัสถผ์ ู้บริโภคกาม ลาดับนนั้ พระผ้มู ีพระภาครบั สั่งให้ประชมุ สงฆเ์ พราะเรอ่ื งนี้เป็นตน้ เหตุ ทรงสอบถามภิกษทุ ้ังหลายแล้วจึงรบั สั่งให้ภกิ ษุณีท้ังหลายยกสกิ ขาบทนี้ข้ึนแสดง ๗๒๒ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ๗๒๓ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบัญญัตเิ ฉพาะภกิ ษณุ ี๗๒๔ อผาสกุ รณสิกขาบท ๓๓. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ภกิ ขฺ นุ ยิ า สญจฺ จิ จฺ อผาสุ กเรยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๗๒๕. กภ็ กิ ษุณีใดจงใจก่อความไมผ่ าสกุ แกภ่ กิ ษณุ ี ต้องอาบตั ปิ าจิตตีย์ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๗ี ๒๖ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษณุ ีถลุ ลนนั ทา๗๒๗ ๗๑๘ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๒๕๘/๒๗๐ ๗๑๙ กงขฺ า.อ.๓๑/๖๙ (มจร) ๗๒๐ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๒๖๑/๒๗๒ ๗๒๑ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๒๖๑/๒๗๒ ๗๒๒ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๒๖๑/๒๗๒ ๗๒๓ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๒๖๑/๒๗๓ ๗๒๔ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๒๖๑/๒๗๓ ๗๒๕ กงฺขา.อ.๓๒/๖๙ (มจร) ๗๒๖ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๒๖๕/๒๗๔ ๗๒๗ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๖๕/๒๗๔

๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุณีถุลลนนั ทาเปน็ พหูสูต เปน็ นกั พดู แกล้วกล้าสามารถกล่าวธรรมีกถาได้ แม้พระภทั ทกาปิลานีกเ็ ป็นพหสู ูต เป็นนกั พูด แกลว้ กล้า สามารถกลา่ วธรรมีกถาได้ทง้ั เธอก็ไดร้ บั สรรเสริญว่ามคี ุณสมบัติยิ่งกวา่ คนทั้งหลายทราบเชน่ น้นั จึงเขา้ ไปหาพระภัททกาปลิ านกี ่อนแลว้ไปหาภกิ ษุณีถลุ ลนนั ทาภายหลงั ภกิ ษุณถี ลุ ลนนั ทาถูกความริษยาครอบงา จึงจงกรมบ้าง ยืนบ้าง นั่งบา้ ง นอนบา้ ง ยกขน้ึ แสดงเองบ้าง ใชผ้ อู้ น่ื ให้ยกขึ้นแสดงบา้ ง ทอ่ งบ่นบา้ งต่อหน้าพระภทั ทกาปิลานีเพ่ือกอ่ ความราคาญพวกภกิ ษุได้นาเรอื่ งน้ไี ปกราบทูลพระผู้มีพระภาคใหท้ รงทราบ พระผู้มีพระภาครับส่ังให้ประชมุ สงฆเ์ พราะเรื่องนเี้ ปน็ ตน้ เหตุ ทรงสอบถามภกิ ษุทงั้ หลาย แล้วจงึ รบั สง่ั ให้ภกิ ษณุ ีท้งั หลายยกสกิ ขาบทนีข้ นึ้ แสดง๗๒๘ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ๗๒๙ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญตั เิ ฉพาะภิกษุณี๗๓๐ นอปุ ฏั ฐาปนสกิ ขาบท ๓๔. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ทกุ ฺขติ สหชวี นิ ึ เนว อุปฏฐฺ ฃเหยยฺ น อปุ ฏฐฺ ฃาปนาย อสุ สฺ กุ กฺ กเรยยฺ ปาจติ ฺตยิ ๗๓๑. กภ็ ิกษุณีใดไม่ดูแลช่วยเหลือ หรอื ไม่ใส่ใจมอบหมายใหผ้ อู้ ื่นดแู ลช่วยเหลอื สหชวี ินผี ไู้ ด้รับความลาบาก ตอ้ งอาบตั ปิ าจติ ตีย์ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถ๗ี ๓๒ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษณุ ีถุลลนนั ทา๗๓๓ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุณีถลุ ลนันทาไม่ดแู ลชว่ ยเหลอื สหชีวนิ ี ผู้ได้รับความลาบาก ทง้ั ไม่ใสใ่ จมอบหมายใหผ้ ู้อ่ืนดแู ลช่วยเหลือ พระผมู้ ีพระภาครบั ส่งั ใหป้ ระชมุ สงฆเ์ พราะเรือ่ งน้ีเป็นตน้ เหตุ ทรงสอบถามภกิ ษุทั้งหลาย แลว้ จงึ รบั สั่งให้ภกิ ษณุ ีทั้งหลายยกสิกขาบทน้ีข้นึ แสดง๗๓๔ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ๗๓๕ ๕) ประเภทของบัญญัติ เปน็ ขอ้ บญั ญัตเิ ฉพาะภกิ ษุณี๗๓๖ ๗๒๘ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๖๕/๒๗๔ ๗๒๙ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๒๖๕/๒๗๕ ๗๓๐ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๒๖๕/๒๗๕ ๗๓๑ กงขฺ า.อ.๓๔/๗๐ (มจร) ๗๓๒ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๖๙/๒๗๙ ๗๓๓ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๒๖๙/๒๗๙ ๗๓๔ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๒๖๙/๒๗๙ ๗๓๕ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๖๙/๒๗๙

นกิ กัฑฒนสิกขาบท ๓๕. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ภกิ ขฺ นุ ยิ า อุปสสฺ ย ทตวฺ า กปุ ติ า อนตตฺ มนา นกิ กฺ ฑเฺ ฒยยฺ วา นกิ กฺ ฑฺฒาเปยฺยวา ปาจติ ตฺ ยิ ๗๓๗. ก็ภกิ ษุณีใดให้ท่ีพักแก่ภกิ ษณุ ีแล้ว โกรธ ไมพ่ อใจ ฉดุ ลากออกไป หรือใช้ใหฉ้ ุดลากออกไป ต้องอาบตั ิปาจติ ตีย์ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถ๗ี ๓๘ ๒) บคุ คลผ้กู อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษณุ ีถลุ ลนนั ทา๗๓๙ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ พระภทั ทกาปลิ านีจาพรรษาทเ่ี มอื งสาเกต เธอส่งทูตไปสานกั ของภิกษุณีถลุ ลนนั ทาด้วยธุระบางอยา่ ง ใหแ้ จง้ จะขอมาพักกรุงสาวัตถี ภกิ ษุณีถลุ ลนนั ทารับปากแลว้พระภัททกาปิลานเี ดนิ ทางจากเมอื งสาเกตไปถงึ กรงุ สาวัตถี พักในที่ภิกษุณีถลุ ลนนั ทาได้จัดให้ สมัยนั้น ภกิ ษุณถี ุลลนนั ทาเปน็ พหสู ูต เปน็ นักพูด แกลว้ กล้า สามารถกล่าวธรรมกี ถา เหมอื นพระภัททกาปิลานี คนทั้งหลายเห็นดงั นัน้ จึงเข้าไปหาพระเถรีก่อนแล้วไปหาภิกษณุ ถี ุลลนนั ทาภายหลงัภกิ ษณุ ถี ุลลนนั ทารเู้ ข้าจงึ โกรธ ขัดใจ ฉดุ ลากพระภทั ทกาปลิ านีออกจากห้อง ลาดบั นน้ั พระผู้มีพระภาครับสงั่ ให้ประชมุ สงฆเ์ พราะเร่ืองน้ีเปน็ ตน้ เหตุ ทรงสอบถามภิกษทุ ้งั หลายแล้วจงึ รับส่งั ใหภ้ ิกษณุ ีท้ังหลายยก สิกขาบทนี้ข้ึนแสดง ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ๗๔๐ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญัตเิ ฉพาะภิกษุณี๗๔๑ สงั สฏั ฐสกิ ขาบท ๓๖. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี สสฏฐฺ ฃา วหิ เรยยฺ คหปตนิ า วา คหปตปิ ตุ เฺ ตน วา สา ภกิ ขฺ นุ ี ภิกขฺ นุ หี ิ เอวมสสฺวจนยี า “มายเฺ ย สสฏฐฺ ฃา วหิ ริ คหปตนิ าปิ คหปตปิ ตุ ฺเตนาปิ ววิ จิ จฺ ายเฺ ย วเิ วกญเฺ ญว ภคนิ ยิ า สงโฺ ฆ วณฺเณตี”ต.ิเอวญจฺ สา ภกิ ขฺ นุ ี ภกิ ขฺ นุ หี ิ วจุ จฺ มานา ตเถว ปคฺคณเฺ หยยฺ สา ภกิ ขฺ ุนี ภิกขฺ นุ หี ิ ยาวตตยิ สมนภุ าสติ พพฺ า ตสสฺ ๗๓๖ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๒๖๙/๒๘๐ ๗๓๗ กงขฺ า.อ.๓๕/๗๐ (มจร) ๗๓๘ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๒๗๒/๒๘๒ ๗๓๙ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๗๒/๒๘๒ ๗๔๐ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๒๗๒/๒๘๓ ๗๔๑ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๒๗๒/๒๘๓

ปฏนิ สิ สฺ คคฺ าย ยาวตตยิ ญเฺ จ สมนภุ าสยิ มานา ต ปฏนิ สิ สฺ ชเฺ ชยยฺ อจิ เฺ จต กสุ ล.โน เจ ปฏนิ สิ สฺ ชเฺ ชยยฺ ปาจติ ฺตยิ ๗๔๒. กภ็ กิ ษณุ ีใดอยู่คลุกคลีกบั คหบดหี รือกบั บุตรคหบดี ภิกษณุ นี ้นั อนั ภิกษุณีท้ังหลายพึงวา่ กลา่ วตักเตอื นอยา่ งนวี้ ่า น้องหญิง ทา่ นอยา่ อยคู่ ลุกคลีกบั คหบดีหรือกบั บุตรคหบดี น้องหญิงจงแยกกันอย่เู ถิด สงฆ์ยอ่ มสรรเสริญการ แยกกันอยู่ของน้องหญิง กภ็ ิกษุณนี ัน้ อันภิกษณุ ีทั้งหลายว่ากล่าวตักเตือนอยา่ งน้ยี งั ยืนยนั อยู่อยา่ งน้ัน ภกิ ษณุ ีนน้ั อันภกิ ษุณที ั้งหลายพึงสวดสมนภุ าสนจ์ นครบ ๓ ครงั้ เพ่ือใหส้ ละเรือ่ งน้นั ถ้าเธอกาลังถกูสวดสมนภุ าสน์กว่าจะครบ ๓ คร้งั สละเรอ่ื งน้ันได้ น่ันเป็นการดี ถ้าไม่สละ ตอ้ งอาบตั ิปาจติ ตยี ์ ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๗ี ๔๓ ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษณุ ีจัณฑกาลี๗๔๔ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษุณีจัณฑกาลอี ย่คู ลุกคลกี บั คหบดบี า้ ง บุตรคหบดีบ้าง บรรดาภิกษุณีผมู้ ักนอ้ ย ฯลฯ พากันตาหนิ ประณาม โพนทะนาวา่ ไฉนแม่เจ้าจณั ฑกาลจี งึ อยู่คลุกคลีกบัคหบดีบา้ ง บตุ รคหบดีบ้างเล่า ครนั้ แล้ว ภกิ ษุณเี หลา่ น้ันได้นาเรือ่ งนี้ไปบอกภิกษทุ ้งั หลายให้ทราบ พวกภิกษุได้นา เรอ่ื งนไี้ ปกราบทูลพระผมู้ ีพระภาคใหท้ รงทราบ ลาดบั นนั้ พระผ้มู ีพระภาครับส่งั ให้ประชมุ สงฆเ์ พราะเรอื่ งนี้เปน็ ต้นเหตุ ทรงสอบถามภิกษทุ ัง้ หลายแลว้ จงึ รับสัง่ ใหภ้ กิ ษณุ ที ้ังหลายยกสิกขาบทนขี้ ้นึ แสดง๗๔๕ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ๗๔๖ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญัติเฉพาะภิกษณุ ี๗๔๗ อนั โตรฏั ฐสกิ ขาบท ๓๗. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อนโฺ ตรฏมเฐฃ สาสงกฺ สมมฺ เต สปปฺ ฏภิ เย อสตถฺ ิกา จารกิ จเรยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๗๔๘. กภ็ ิกษณุ ีใดเที่ยวจารกิ ไปไมม่ ีกองเกวยี นเปน็ เพ่ือนในทท่ี รี่ ู้กันว่านา่ หวาดระแวง มภี ยั น่ากลัวภายในรัฐ ตอ้ งอาบตั ิปาจติ ตีย์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๗ี ๔๙ ๗๔๒ กงฺขา.อ.๓๖/๗๐ (มจร) ๗๔๓ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๗๖/๒๘๖ ๗๔๔ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๗๖/๒๘๖ ๗๔๕ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๒๗๖/๒๘๖ ๗๔๖ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๒๗๖/๒๘๗ ๗๔๗ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๒๗๖/๒๘๗ ๗๔๘ กงฺขา.อ.๓๗/๗๐ (มจร)

๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษณุ ีหลายรปู ๗๕๐ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษณุ ีท้งั หลายเท่ียวจาริกไปไม่มีกองเกวียนเป็นเพอ่ื นในท่ีท่รี ู้กนั วา่ น่าหวาดระแวง มีภัยน่ากลวั ภายในรฐั พวกนกั เลง ขม่ ขนื (ภกิ ษุณีเหลา่ น้ัน) บรรดาภกิ ษุณผี ู้มักน้อย ฯลฯ พากนั ตาหนิ ประณาม โพนทะนาได้นาเรอื่ งนไี้ ปบอกภกิ ษุท้ังหลาย ให้ทราบ พวกภิกษุได้นาเรื่องนีไ้ ปกราบทูลพระผมู้ พี ระภาคใหท้ รงทราบ ลาดับนน้ั พระผ้มู ีพระภาครบั ส่งั ให้ประชมุ สงฆเ์ พราะเรอ่ื งนี้เปน็ ตน้ เหตุ ทรงสอบถามภกิ ษทุ ง้ั หลายทรงตาหนิแลว้ จึงรบั ส่งั ใหภ้ ิกษณุ ีทัง้ หลายยกสิกขาบทนขี้ ้นึ แสดง๗๕๑ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ๗๕๒ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บัญญัตเิ ฉพาะภกิ ษณุ ี๗๕๓ ตโิ รรฏั ฐสกิ ขาบท ๓๘. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี ตโิ รรฏมเฐ สาสงกฺ สมฺมเต สปปฺ ฏภิ เย อสตถฺ กิ า จาริก จเรยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๗๕๔. ก็ภิกษุณีใด เที่ยวจาริกไป ไม่มีกองเกวียนเป็นเพื่อน ในที่ที่รู้กันว่าน่าหวาดระแวง มีภัย น่ากลัวภายนอกรฐั ต้องอาบัตปิ าจิตตีย์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๗ี ๕๕ ๒) บุคคลผ้กู อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษณุ ีหลายรูป๗๕๖ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ พวกภกิ ษณุ เี ทยี่ วจารกิ ไปไม่มีกอง เกวยี นเปน็ เพ่ือนในทท่ี ีร่ กู้ ันวา่ นา่ หวาดระแวง มภี ัยน่ากลวั ภายนอกรัฐ พวกนักเลงข่มขนื (ภิกษุณีเหลา่ นัน้ ) ลาดบั น้ัน พระผมู้ ีพระภาครบั สง่ั ให้ประชุมสงฆ์เพราะเร่อื งนี้เปน็ ตน้ เหตุ ทรงสอบถามภกิ ษุทง้ั หลายแลว้ จึงรับสง่ั ใหภ้ ิกษณุ ที ั้งหลายยกสิกขาบทนี้ข้นึ แสดง๗๕๗ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ๗๕๘ ๗๔๙ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๒๘๓/๒๙๑ ๗๕๐ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๘๓/๒๙๑ ๗๕๑ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๘๓/๒๙๑ ๗๕๒ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๒๘๓/๒๙๒ ๗๕๓ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๘๓/๒๙๒ ๗๕๔ กงขฺ า.อ.๓๗/๗๐ (มจร) ๗๕๕ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๘๖/๒๙๓ ๗๕๖ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๘๖/๒๙๓ ๗๕๗ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๒๘๖/๒๙๓ ๗๕๘ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๘๖/๒๙๔

๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญัตเิ ฉพาะภกิ ษณุ ี๗๕๙ จติ ตาคารวรรค ราชาคารสิกขาบท ๔๑. ยา ปน ภกิ ฺขนุ ี ราชาคาร วา จติ ตฺ าคาร วา อาราม วา อยุ ยฺ าน วา โปกฺขรณึ วา ทสสฺ นายคจเฺ ฉยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๗๖๐. ก็ภิกษณุ ีใดไปดโู รงละครหลวง หอจติ รกรรม สวนสาธารณะ อุทยาน หรือสระโบกขรณี ต้องอาบัติปาจิตตยี ์ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๗ี ๖๑ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษณุ ีฉพั พัคคีย์๗๖๒ ๓) มูลเหตุแห่งการบัญญัติสิกขาบท ได้แก่ คนทั้งหลายพากันไปดูหอจิตรกรรม แม้พวกภิกษุณีฉัพพัคคีย์ก็ไปดูหอจิตรกรรม คนทั้งหลายตาหนิ ประณาม โพนทะนาว่า เหมือนหญิงคฤหัสถ์ ผู้บริโภคกามลาดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมสงฆ์เพราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุ ทรงสอบถามภิกษุทั้งหลาย แล้วจึงรับสง่ั ใหภ้ กิ ษณุ ที ้ังหลายยกสิกขาบทนี้ขน้ึ แสดง๗๖๓ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ๗๖๔ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบญั ญตั ิเฉพาะภิกษุณี๗๖๕ อาสนั ทปิ รภิ ญุ ชนสกิ ขาบท ๔๒. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อาสนทฺ ึ วา ปลลฺ งกฺ วา ปรภิ ุญเฺ ชยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๗๖๖. กภ็ กิ ษณุ ีใดใชต้ งั่ ยาวหรือแทน่ ตอ้ งอาบัตปิ าจติ ตีย์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๗ี ๖๗ ๗๕๙ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๒๘๖/๒๙๔ ๗๖๐ กงขฺ า.อ.๔๑/๗๑ (มจร) ๗๖๑ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๒๙๕/๓๐๑ ๗๖๒ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๒๙๕/๓๐๑ ๗๖๓ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๙๕/๓๐๑ ๗๖๔ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๒๙๕/๓๐๒ ๗๖๕ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๙๕/๓๐๒ ๗๖๖ กงฺขา.อ.๔๒/๗๑ (มจร) ๗๖๗ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๙๘/๓๐๕

๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษุณีหลายรูป๗๖๘ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษุณีท้ังหลายใช้ตัง่ ยาวบา้ ง แท่น บ้าง คนทงั้ หลายเที่ยวจารกิ ไปตามวหิ ารเห็นแลว้ จงึ ตาหนิ ประณาม โพนทะนาวา่ ใช้ต่ังยาวบา้ ง แท่นบ้าง เหมือนหญงิ คฤหัสถ์ผ้บู ริโภคกาม ลาดับนนั้ พระผู้มีพระภาครบั สั่งใหป้ ระชุมสงฆเ์ พราะเร่อื งน้ีเป็นต้นเหตุ ทรงสอบถามภิกษทุ ั้งหลายแลว้ จึงรับส่งั ใหภ้ ิกษุณีทั้งหลาย ยกสกิ ขาบทนี้ขึน้ แสดง๗๖๙ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ๗๗๐ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบญั ญตั เิ ฉพาะภิกษุณี๗๗๑ สตุ ตกนั ตนสกิ ขาบท ๔๓. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี สตุ ตฺ กนฺเตยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๗๗๒. กภ็ กิ ษณุ ีใดกรอด้าย ต้องอาบัติปาจิตตยี ์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถ๗ี ๗๓ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษุณีฉพั พัคคยี ์๗๗๔ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ พวกภกิ ษณุ ีฉัพพัคคียก์ รอดา้ ยอยู่ คนทงั้ หลายเทย่ี วจารกิ ไปตามวหิ ารเหน็ แล้วจงึ ตาหนิ ประณาม โพนทะนาว่าพวกภกิ ษุณีฉพั พคั คยี ์จึงกรอดา้ ยเหมือนหญิงคฤหัสถผ์ ู้บริโภคกาม ลาดบั น้นั พระผู้มีพระภาครับส่ังให้ประชุมสงฆ์เพราะเร่ืองน้ีเปน็ ต้นเหตุ ทรงสอบถามภิกษุท้งั หลายแลว้ จงึ รบั สงั่ ใหภ้ ิกษณุ ที ั้งหลายยก สิกขาบทนี้ขึน้ แสดง๗๗๕ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ๗๗๖ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญตั เิ ฉพาะภิกษณุ ี๗๗๗ ๗๖๘ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๒๙๘/๓๐๕ ๗๖๙ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๒๙๘/๓๐๕ ๗๗๐ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๒๙๘/๓๐๕ ๗๗๑ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๒๙๘/๓๐๕ ๗๗๒ กงฺขา.อ.๔๒/๗๑ (มจร) ๗๗๓ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๐๑/๓๐๗ ๗๗๔ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๐๑/๓๐๗ ๗๗๕ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๐๑/๓๐๗ ๗๗๖ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๐๑/๓๐๘

คิหเิ วยยาวจั จสกิ ขาบท ๔๔. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี คหิ เิ วยยฺ าวจจฺ กเรยยฺ ปาจติ ฺตยิ ๗๗๘. กภ็ ิกษุณีใดช่วยทาการขวนขวายเพื่อคฤหสั ถ์ ต้องอาบตั ปิ าจิตตยี ์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถ๗ี ๗๙ ๒) บุคคลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษณุ ีหลายรูป๗๘๐ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ พวกภกิ ษุณีช่วยทาการขวนขวายเพอื่ คฤหัสถ์ บรรดาภกิ ษณุ ผี มู้ ักนอ้ ย ฯลฯ พากันตาหนิ ประณาม โพนทะนาได้นาเรอื่ งนไี้ ปบอกภิกษทุ ัง้ หลายให้ทราบ พวกภิกษุได้นาเร่อื งนไี้ ปกราบทลู พระผูม้ ีพระภาคให้ทรงทราบ ลาดบั นน้ั พระผ้มู ีพระภาครบั ส่งั ให้ประชมุ สงฆ์เพราะเรอื่ งน้ีเปน็ ตน้ เหตุ ทรงสอบถามภกิ ษุทง้ั หลายแลว้ จึงรบั สั่งให้ภกิ ษทุ ง้ั หลายยกสิกขาบทน้ขี ึน้ แสดง๗๘๑ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ๗๘๒ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบญั ญตั ิเฉพาะภกิ ษณุ ี๗๘๓ อธกิ รณสกิ ขาบท ๔๕. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ภกิ ขฺ นุ ยิ า “เอหายเฺ ย อมิ อธกิ รณ วปู สเมหี”ติ วจุ จฺ มานา“สาธู”ติ ปฏสิ สฺ ณุ ิตวฺ าสา ปจฺฉา อนนตฺ รายกิ ินี เนว วปู สเมยยฺ น วปู สมาย อสุ สฺ กุ กฺ กเรยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๗๘๔. ก็ภกิ ษุณีใดอันภิกษณุ ีขอร้องอย่วู า่ แม่เจ้าโปรดมาช่วยระงบั อธิกรณ์นด้ี ว้ ยเถิด รบั ปากแล้วภายหลังภกิ ษุณนี ้นั ผู้ไม่มอี นั ตราย ไมช่ ่วยระงบั ไม่ขวนขวายใหผ้ ู้อืน่ ชว่ ยระงบั ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๗ี ๘๕ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษณุ ีถุลลนันทา๗๘๖ ๗๗๗ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๓๐๑/๓๐๘ ๗๗๘ กงฺขา.อ.๔๔/๗๑ (มจร) ๗๗๙ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๐๔/๓๐๙ ๗๘๐ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๐๔/๓๐๙ ๗๘๑ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๓๐๔/๓๐๙ ๗๘๒ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๐๔/๓๑๐ ๗๘๓ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๐๔/๓๑๐ ๗๘๔ กงขฺ า.อ.๔๕/๗๑ (มจร) ๗๘๕ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๐๗/๓๑๒ ๗๘๖ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๐๗/๓๑๒

๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษุณรี ูปหน่งึ เข้าไปหาภกิ ษุณี ถลุ ลนันทาใหม้ าช่วยระงับอธิกรณ์ ภิกษุณีถุลลนนั ทา รบั ปากแตไ่ ม่ช่วยระงับ ไม่ขวนขวายใหผ้ ู้อ่นื ชว่ ยระงบั ลาดบั นน้ั ภิกษณุ ีน้ันได้บอกเร่อื งนใ้ี หภ้ กิ ษุณีท้งั หลายทราบ ไดน้ าเรื่องนไ้ี ปบอกภิกษุท้งั หลายให้ทราบ พวกภิกษไุ ดน้ าเรื่องน้ีไปกราบทูล พระผูม้ ีพระภาคใหท้ รงทราบ ลาดับนั้น พระผ้มู ีพระภาครบั ส่ังให้ประชุมสงฆเ์ พราะเรื่องน้ีเปน็ ต้นเหตุ ทรงสอบถามภกิ ษุท้ังหลายแล้วจงึ รับส่งั ให้ภิกษุณที ั้งหลายยกสกิ ขาบทนข้ี นึ้ แสดง๗๘๗ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ๗๘๘ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบญั ญัตเิ ฉพาะภิกษุณี๗๘๙ โภชนทานสกิ ขาบท ๔๖. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อคารกิ สสฺ วา ปรพิ พฺ าชกสสฺ วา ปรพิ พฺ าชกิ าย วา สหตถฺ าขาทนยี วา โภชนยีวา ทเทยยฺ ปาจติ ตฺ ิย๗๙๐. กภ็ ิกษุณีใดให้ของเคีย้ วหรอื ของฉันดว้ ยมือตนแก่ชาวบ้าน แก่ ปริพาชก หรือแกป่ ริพาชิกา ตอ้ งอาบัตปิ าจติ ตีย์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๗ี ๙๑ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษณุ ีถลุ ลนนั ทา๗๙๒ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษณุ ถี ลุ ลนันทาใหข้ องเค้ยี วของ ฉนั ด้วยมือตนแก่พวกครนู ักฟ้อนบ้าง พวกนักฟอ้ นบ้าง พวกกระโดดไม้ค้าบา้ ง พวกมายากลบา้ ง พวกตกี ลองบา้ ง ใหก้ ลา่ วพรรณนาคุณของนางในทชี่ มุ นุมชน พวกครูนักฟ้อนบา้ ง พวกนกั ฟ้อนบ้าง พวกกระโดดไมค้ ้าบา้ ง พวกมายากลบ้าง พวกตีกลองบ้าง ต่างพากันกลา่ วพรรณนาคณุ ของภกิ ษุณีถุลลนันทาในชุมนุมชน๗๙๓ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ๗๙๔ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญตั เิ ฉพาะภกิ ษุณี๗๙๕ ๗๘๗ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๓๐๗/๓๑๓ ๗๘๘ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๐๗/๓๑๓ ๗๘๙ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๓๐๗/๓๑๓ ๗๙๐ กงฺขา.อ.๔๖/๗๒ (มจร) ๗๙๑ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๓๑๑/๓๑๖ ๗๙๒ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๑๑/๓๑๖ ๗๙๓ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๓๑๑/๓๑๗ ๗๙๔ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๓๑๑/๓๑๗

อาวสถจวี รสิกขาบท ๔๗. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี อาวสถจวี ร อนสิ สฺ ชเฺ ชตวฺ า ปรภิ ญุ ฺเชยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๗๙๖. กภ็ ิกษณุ ีใดใชผ้ ้าซบั ระดูแลว้ ไม่ยอมสละ ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถ๗ี ๙๗ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษณุ ีถุลลนนั ทา๗๙๘ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษณุ ีถลุ ลนันทาใช้ผา้ ซับระดูคนเดียวไมย่ อมสละภกิ ษุณีอืน่ ท่ีมปี ระจาเดือนไมม่ ีโอกาสได้ใช้ ลาดับน้ัน พระผ้มู พี ระภาครบั ส่งั ใหป้ ระชุมสงฆเ์ พราะเรื่องนเี้ ปน็ต้นเหตุ ทรงสอบถามภิกษุทงั้ หลาย แล้วจงึ รบั ส่ังใหภ้ ิกษุณีทงั้ หลายยกสกิ ขาบทน้ีข้นึ แสดง๗๙๙ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ๘๐๐ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บัญญัตเิ ฉพาะภกิ ษณุ ี๘๐๑ อาวสถวหิ ารสิกขาบท ๔๘. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี อาวสถ อนสิ สฺ ชชฺ ติ วฺ า จาริก ปกกฺ เมยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๘๐๒. ก็ภิกษุณีใดไม่สละท่ีพกั แลว้ หลกี จารกิ ไป ต้องอาบตั ิปาจิตตีย์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถ๘ี ๐๓ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษณุ ีถลุ ลนนั ทา๘๐๔ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษุณีถลุ ลนนั ทาไมส่ ละทพ่ี ักแล้วหลกี จารกิ ไป ตอ่ มาทพ่ี กั น้นั ถูกไฟไหม้ ภิกษุณที ัง้ หลายกล่าวอยา่ งนีว้ า่ แมเ่ จ้า พวกเราจงชว่ ยกนั ขนของออกมา ภกิ ษุณีบางพวกกล่าวอย่างนวี้ า่ “แมเ่ จา้ พวกดิฉนั ไมข่ นของออกมา สง่ิ ใดสิ่งหนงึ่ สูญหายไป แมเ่ จา้ จักทวงพวกดิฉนั ” เม่อื ๗๙๕ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๑๑/๓๑๗ ๗๙๖ กงขฺ า.อ.๔๗/๗๒ (มจร) ๗๙๗ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๑๔/๓๑๘ ๗๙๘ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๑๔/๓๑๘ ๗๙๙ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๓๑๔/๓๑๘ ๘๐๐ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๓๑๔/๓๑๙ ๘๐๑ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๓๑๔/๓๑๙ ๘๐๒ กงฺขา.อ.๔๘/๗๒ (มจร) ๘๐๓ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๑๘/๓๒๑ ๘๐๔ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๑๘/๓๒๑

ภกิ ษุณถี ลุ ลนนั ทากลับมาส่ทู ่ีพกั นั้นอีก ถามภิกษณุ ีท้ังหลายแลว้ ตาหนิ ประณาม โพนทะนาวา่ ไฉนพวกภิกษณุ ีเมื่อที่พักถูกไฟไหม้ จงึ ไม่ชว่ ยกนั ขนของออกมาเล่า ลาดบั นน้ั พระผ้มู ีพระภาครับสั่งให้ประชมุ สงฆ์เพราะเร่ืองน้ีเปน็ ต้นเหตุ ทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายแลว้ จึงรบั ส่งั ใหภ้ ิกษณุ ีทงั้ หลายยกสกิ ขาบทน้ขี น้ึ แสดง๘๐๕ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ๘๐๖ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบัญญตั เิ ฉพาะภิกษุณี๘๐๗ ตริ จั ฉานวชิ ชาปรยิ าปณุ นสิกขาบท ๔๙. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ตริ จฉฺ านวชิ ชฺ ปรยิ าปเุ ณยยฺ ปาจติ ตฺ ิย๘๐๘. กภ็ ิกษณุ ีใดเรยี นดริ ัจฉานวชิ า ต้องอาบตั ปิ าจิตตีย์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถ๘ี ๐๙ ๒) บุคคลผูก้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุณีฉัพพัคคีย์๘๑๐ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ พวกภิกษุณฉี ัพพัคคยี เ์ รียน ดิรจั ฉานวิชา ชาวบา้ นตาหนิ ประณาม โพนทะนาวา่ ภิกษุณีจึงเรยี นดิรัจฉานวชิ าเหมือนหญิงคฤหสั ถผ์ บู้ ริโภคกาม ลาดับนัน้ พระผู้มีพระภาครบั สง่ั ให้ประชุมสงฆ์เพราะเรื่องนเ้ี ป็นตน้ เหตุ ทรงสอบถามภิกษุท้ังหลาย แลว้ จงึ รบั ส่ังให้ภิกษุณีทั้งหลายยกสิกขาบทนี้ข้ึนแสดง๘๑๑ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ๘๑๒ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบญั ญัตเิ ฉพาะภิกษุณี๘๑๓ ตริ จั ฉานวชิ ชาวาจนสิกขาบท ๕๐. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ตริ จฉฺ านวชิ ชฺ วาเจยยฺ ปาจติ ฺตยิ ๘๑๔. ๘๐๕ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๑๘/๓๒๑ ๘๐๖ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๑๘/๓๒๒ ๘๐๗ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๓๑๘/๓๒๒ ๘๐๘ กงฺขา.อ.๔๙/๗๒ (มจร) ๘๐๙ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๒๒/๓๒๕ ๘๑๐ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๓๒๒/๓๒๕ ๘๑๑ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๒๒/๓๒๕ ๘๑๒ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๒๒/๓๒๕ ๘๑๓ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๒๒/๓๒๕

ก็ภกิ ษุณีใดสอนดริ จั ฉานวชิ า ตอ้ งอาบตั ิปาจิตตีย์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถ๘ี ๑๕ ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุณีฉพั พัคคยี ์๘๑๖ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ พวกภิกษุณีฉัพพัคคยี ส์ อน ดริ จั ฉานวชิ า ชาวบ้านตาหนิ ประณาม โพนทะนาวา่ เหมอื นหญิงคฤหัสถผ์ ู้บริโภคกาม ลาดับนั้น พระผ้มู ีพระภาครบั สั่งใหป้ ระชุมสงฆ์เพราะเร่อื งนี้เปน็ ตน้ เหตุ ทรงสอบถามภิกษุทงั้ หลาย แลว้ จงึ รบั สงั่ ใหภ้ ิกษณุ ีทั้งหลายยกสกิ ขาบทนขี้ ึ้นแสดง๘๑๗ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ๘๑๘ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบัญญตั ิเฉพาะภิกษณุ ี๘๑๙ อารามวรรค อารามปวสิ นสกิ ขาบท ๕๑. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี ชาน สภกิ ขฺ ุก อาราม อนาปจุ ฉฺ า ปวเิ สยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๘๒๐. อนึ่ง ภกิ ษุณใี ดรู้อยู่ เขา้ ไปสู่อารามที่มีภกิ ษโุ ดยไมบ่ อก ต้องอาบตั ปิ าจิตตยี ์ ๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๘ี ๒๑ ๒) บุคคลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุณีหลายรูป๘๒๒ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษหุ ลายรปู มจี ีวรผืนเดียว กาลงั ตัดเยบ็ จวี รอยูใ่ นอาวาสใกลห้ มู่บ้าน ภกิ ษณุ ีทั้งหลายเขา้ ไปสู่อาราม โดยไม่บอก เข้าไปหาภิกษเุ หล่านัน้ ถึงท่ีอยู่ ภิกษุทง้ั หลายจึงตาหนิ ประณาม โพนทะนาวา่ พวกภิกษุณีจึงเขา้ มาส่อู ารามโดยไม่บอก ภิกษุณีเหล่านั้นได้นาเรื่องนไี้ ปบอกภิกษุทง้ั หลายใหท้ ราบ พวกภกิ ษุได้นาเร่ืองน้ีไปกราบทูลพระผมู้ ีพระภาคใหท้ รงทราบ ๘๑๔ กงฺขา.อ.๕๐/๗๒ (มจร) ๘๑๕ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๒๕/๓๒๗ ๘๑๖ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๒๕/๓๒๗ ๘๑๗ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๒๕/๓๒๗ ๘๑๘ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๒๕/๓๒๘ ๘๑๙ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๓๒๕/๓๒๗ ๘๒๐ กงฺขา.อ.๕๑/๗๒ (มจร) ๘๒๑ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๒๘/๓๓๐ ๘๒๒ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๒๘/๓๓๐

ลาดับน้นั พระผู้มีพระภาครับสง่ั ให้ประชมุ สงฆเ์ พราะเร่อื งน้ีเป็นต้นเหตุ ทรงสอบถามภกิ ษุทงั้ หลายแล้วจงึ รับสั่ง ให้ภกิ ษณุ ที ั้งหลายยกสิกขาบทนขี้ ึ้นแสดง๘๒๓ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ๘๒๔ ๑ พระอนบุ ญั ญตั ิ อนงึ่ ภิกษุณใี ด ไม่บอกกลา่ วภกิ ษุทม่ี ีอยู่กอ่ น เขา้ สู่อาราม เป็นปาจติ ตีย์ มูลเหตแุ หง่ การบัญญัติสิกขาบท พระอนุบญั ญัติ ได้แก่ ภิกษุเหล่านน้ั หลีกไปแล้วจากอาวาสนั้นพวกภิกษุณีทราบว่าพระคุณเจ้าทั้งหลายหลีกไปแล้ว จึงไม่มาสู่อาราม ครั้นภิกษุเหล่านั้นกลับมายังอาวาสนั้นดั่งเดิม.ภิกษุณีทั้งหลายทราบว่า พวกพระคุณเจ้ากลับมาแล้ว จึงบอกกล่าวก่อนเข้าสู่อาราม เข้าไปหาภิกษุเหล่านั้น กราบไหว้แลว้ ได้ยืนอยู่ ณ ท่ีควรสว่ นข้างหนึง่ . ภิกษุเหล่านั้นได้กล่าวคานี้กะภิกษุณีเหล่านั้นว่า น้องหญิงทั้งหลาย เหตุไฉนพวกเธอจึงไม่กวาดอาราม ไม่จัดน้าฉนั นา้ ใชไ้ วเ้ ลา่ ภิกษณุ ีเหล่านั้นชแี้ จงว่าเพราะพระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติสิกขาบทไว้แล้ว เจ้าข้า ว่าภิกษุณีไม่บอกกล่าวก่อน ไม่พึงเข้าสู่อาราม ฉะนั้น พวกดิฉันจึงไม่ได้มา ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นพระผมู้ ีพระภาคทรงอนุญาตวา่ ดกู รภกิ ษุท้ังหลาย เราอนุญาตให้บอกกล่าวภิกษทุ ม่ี ีอยกู่ อ่ นเข้าสูอ่ าราม๘๒๕ ๒ พระอนุบญั ญัติ อนึ่ง ภกิ ษณุ ใี ดเขา้ ไปสู่อารามโดยไมบ่ อกภิกษทุ ี่มีอยู่ ต้องอาบตั ิปาจิตตีย์๘๒๖ ๕) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท พระอนบุ ญั ญตั ิ ได้แก่ ภกิ ษุเหล่านัน้ หลีกไปจากอาวาสน้นัแลว้ กลบั มาส่อู าวาสน้นั อีก ภิกษณุ ีทงั้ หลายคดิ วา่ พระคุณเจ้าทง้ั หลายจากไปแล้ว จงึ ไม่บอก เข้าไปสู่อารามพวกเธอไดม้ คี วามคิดดังนีว้ า่ พระผมู้ ีพระภาคทรงบญั ญตั ิสิกขาบทไว้วา่ ภกิ ษุณีไม่บอกภิกษทุ มี่ ีอยู่ ไม่พงึ เข้าอาราม พวกเรามิได้บอกภิกษุที่มีอยเู่ ข้าอาราม ตอ้ งอาบัติปาจิตตยี ์แลว้ กระมัง ภิกษุทัง้ หลายได้กราบทูลเรื่องนน้ั ให้พระผมู้ ีพระภาค ทรงทราบ๘๒๗ ๖) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บัญญตั เิ ฉพาะภกิ ษุณี๘๒๘ คณปรภิ าสนสิกขาบท ๕๓. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี จณฺฑกี ตา คณ ปรภิ าเสยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๘๒๙. ๘๒๓ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๒๘/๓๓๐ ๘๒๔ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๒๙/๓๓๑ ๘๒๕ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๓๒๘/๓๓๑ ๘๒๖ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๑๐๖/๓๓๒ ๘๒๗ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๓๒๙/๓๓๑ ๘๒๘ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๓๒๘/๓๓๑ ๘๒๙ กงขฺ า.อ.๕๓/๗๒ (มจร)

ก็ภิกษณุ ีใดขง้ึ เคียด บรภิ าษคณะ ต้องอาบัตปิ าจิตตีย์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถ๘ี ๓๐ ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุณีจณั ฑกาลี๘๓๑ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษณุ ีจณั ฑกาลชี อบก่อความบาดหมาง ก่อการทะเลาะ ก่อการวิวาท ก่อเร่ืองอือ้ ฉาว ก่ออธกิ รณใ์ นสงฆ์ เม่ือ สงฆ์ทากรรมแกจ่ ัณฑกาลนี ้ัน ภกิ ษณุ ีถลุ ลนนั ทาก็คดั คา้ น ต่อมา ภกิ ษณุ ีถลุ ลนนั ทาเดินทางไปยงั หมู่บา้ นด้วยธรุ ะบางอยา่ ง ภกิ ษุณสี งฆ์พอรวู้ ่า ภิกษุณถี ุลลนนั ทาจากไปแล้ว จึงลงอุกเปขนียกรรมแกภ่ ิกษณุ จี ัณฑกาลเี พราะไมเ่ หน็ อาบัติ ครัน้ ภิกษุณีถุลลนนั ทาทาธรุ ะน้นั ในหมบู่ า้ นเสรจ็ แล้วกลบั มายงั กรุงสาวัตถี เมื่อภิกษณุ ีถุลลนันทากาลงั มา ภิกษุณีจัณฑกาลีไม่ปูอาสนะ ไมต่ ั้งน้าล้างเท้า ตงั่ รองเท้า กระเบื้องเชด็ เทา้ ไม่ลุกรับบาตรและจีวร ไมเ่ อาน้าดืม่ ต้อนรับ ภกิ ษุณถี ลุ ลนันทาได้กล่าวกบั ภกิ ษุณีจัณฑกาลีนนั้ ว่า เม่ือฉันกาลงั มา ไฉนเธอไมป่ ูอาสนะ ไม่ตง้ั น้าลา้ งเทา้ ต่ังรองเท้า กระเบ้ืองเช็ดเท้า ไมล่ กุ รบั บาตรและจวี ร ไมเ่ อาน้าดืม่ ต้อนรับเล่า ภกิ ษณุ ีจณั ฑกาลีบอกใหท้ ราบ ภิกษุณถี ลุ ลนนั ทาจึงข้งึ เคยี ดบริภาษคณะวา่ ภิกษุณพี วกนีโ้ งเ่ ขลาภิกษณุ ีพวกนไี้ ม่ฉลาด ภกิ ษุณีพวกนี้ไม่รูจ้ ักกรรม โทษของกรรม กรรมวิบตั ิ หรือกรรมสมบัติ๘๓๒ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ๘๓๓ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญตั ิเฉพาะภกิ ษุณี๘๓๔ ปวารติ สกิ ขาบท ๕๔. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี นมิ นตฺ ติ า วา ปวารติ า วา ขาทนีย วา โภชนยี วาขาเทยยฺ วา ภญุ เฺ ชยยฺ วาปาจติ ตฺ ยิ ๘๓๕. กภ็ ิกษณุ ีใดได้รบั นมิ นตแ์ ล้ว บอกห้ามภตั ตาหารแลว้ เคยี้ วของเค้ยี ว หรือฉันของฉัน ตอ้ งอาบัติปาจติ ตีย์ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถ๘ี ๓๖ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุณีฉันหลายที่ในม้ือเดยี วกัน๘๓๗ ๘๓๐ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๓๓๘/๓๓๙ ๘๓๑ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๓๘/๓๓๙ ๘๓๒ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๒๘/๓๓๙ ๘๓๓ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๑๐๘/๓๔๐ ๘๓๔ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๑๐๘/๓๔๐ ๘๓๕ กงฺขา.อ.๕๔/๗๓ (มจร) ๘๓๖ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๓๔๒/๓๔๒ ๘๓๗ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๓๔๒/๓๔๒

๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ พราหมณ์คนหน่ึงนิมนต์ภกิ ษุณีทงั้ หลายใหฉ้ ัน พวกภกิ ษุณฉี นั แลว้ ห้ามภัตตาหารแล้ว พากันไปตระกลู ญาติ ภกิ ษณุ บี างพวกยังฉันอีก บางพวกนาบิณฑบาตกลบั ไป พราหมณน์ น้ั ได้กล่าวกับเพื่อนบา้ นผู้คนุ้ เคยว่า นายทงั้ หลาย เราเลีย้ งภิกษณุ ีให้อิม่ หนาแล้ว เชญิ มาเถดิ เราจักเลีย้ งพวกท่านให้อม่ิ หนาบา้ ง เพ่ือนบา้ นผคู้ ุน้ เคยเหลา่ นัน้ บอกเรอื่ งให้ทราบ พราหมณต์ าหนิประณาม โพนทะนา ลาดบั นั้น พระผ้มู ีพระภาครบั สัง่ ให้ประชุมสงฆเ์ พราะเร่ืองนเ้ี ป็นต้นเหตุ ทรงสอบถามภิกษุทง้ั หลาย แลว้ จงึ รับส่งั ให้ภกิ ษณุ ีท้งั หลายยกสกิ ขาบทนี้ขนึ้ แสดง๘๓๘ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ๘๓๙ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญตั เิ ฉพาะภิกษณุ ี๘๔๐ กุลมจั ฉรนิ สี กิ ขาบท ๕๕. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี กลุ มจฺฉรนิ ี อสสฺ ปาจติ ฺตยิ ๘๔๑. ก็ภกิ ษณุ ีใดหวงตระกูล ต้องอาบตั ิปาจติ ตยี ์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถ๘ี ๔๒ ๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษณุ ีหวงตระกูล๘๔๓ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษณุ รี ปู หนงึ่ เที่ยวบณิ ฑบาตใน ตรอกแห่งหน่ึงในกรงุ สาวัตถี เขา้ ไปทีต่ ระกูลแห่งหนง่ึ นั่งบนอาสนะที่เขาปูไว้ ครน้ั คนท้ังหลายนิมนต์เธอให้ฉนั แลว้ บอกให้นิมนต์ภกิ ษุณีอ่นื ๆ มาดว้ ย ภิกษุณนี นั้ คดิ วา่ ทาอย่างไร ภิกษุณอี ืน่ ๆ จึงจะไม่มา จึงเข้าไปหา ภกิ ษณุ ีทั้งหลายบอกว่า ในทีโ่ นน้ สนุ ัขดุ โคดุ สถานทลี่ ่ืน พวกท่านอย่าไปทน่ี ้ันเลย ภกิ ษณุ ีแมอ้ ีกรูปหนง่ึ ได้ไปบิณฑบาตที่ตรอกนน้ั เขา้ ไปทตี่ ระกูลนน้ั ต้ังอยู่ คร้ันแล้วน่งั บนอาสนะที่เขาปูไว้ ลาดบั นั้น คนทั้งหลายนิมนต์ใหภ้ ิกษุณีนั้นฉนั แล้ว ไดก้ ลา่ ววา่ แม่เจา้ ทาไมภิกษุณีทั้งหลายจงึ ไม่มาภกิ ษุณนี นั้ บอกเรื่องน้นั ใหค้ นทง้ั หลายทราบ คนทั้งหลายจึงตาหนิ ประณาม โพนทะนา ภกิ ษุณเี หล่านั้นได้นาเรือ่ งนไี้ ปบอกภิกษทุ งั้ หลายให้ทราบพวกภกิ ษุได้นาเรื่องนี้ไปกราบทลู พระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ๘๔๔ ๘๓๘ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๓๔๒/๓๔๒ ๘๓๙ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๑๐๙/๓๔๓ ๘๔๐ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๑๐๙/๓๔๒ ๘๔๑ กงขฺ า.อ.๕๕/๗๓ (มจร) ๘๔๒ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๔๖/๓๔๕ ๘๔๓ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๓๔๖/๓๔๕ ๘๔๔ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๓๔๖/๓๔๕

๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ๘๔๕ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบัญญตั ิเฉพาะภิกษุณี๘๔๖ อภกิ ขกุ าวาสสกิ ขาบท ๕๖. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี อภกิ ฺขเุ ก อาวาเส วสสฺ วเสยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๘๔๗. กภ็ กิ ษณุ ีใดจาพรรษาในอาวาสที่ไมม่ ภี กิ ษุ ต้องอาบัตปิ าจิตตีย์ ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๘ี ๔๘ ๒) บุคคลผ้กู อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษณุ ีหลายรูป๘๔๙ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษุณหี ลายรปู ออกพรรษาแลว้ ในอาวาสใกลห้ มู่บ้านพากันไปกรุงสาวัตถี ภกิ ษุณีทั้งหลายไดก้ ลา่ วว่า แม่เจ้าท้งั หลายจาพรรษาที่ไหน โอวาทสัมฤทธผิ์ ลดีละหรือภิกษณุ เี หล่านนั้ ตอบวา่ อาวาสที่พวกเราจาพรรษาไม่มภี กิ ษุเลย โอวาทจักสัมฤทธผิ์ ลดจี ากทไี่ หนกันพระผ้มู ีพระภาครบั ส่ังใหป้ ระชมุ สงฆเ์ พราะเร่อื งนีเ้ ป็นตน้ เหตุ ทรงสอบถามภกิ ษทุ ง้ั หลาย แล้วจงึ รบั สัง่ ให้ภิกษณุ ที ้งั หลายยกสกิ ขาบทนี้ขึน้ แสดง๘๕๐ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ๘๕๑ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบัญญัติเฉพาะภกิ ษณุ ี๘๕๒ อปวารณาสกิ ขาบท ๕๗. ยา ปน ภกิ ฺขนุ ี วสสฺ วฏุ ฐฺ ฃา อภุ โตสงเฺ ฆ ตหี ิ ฐฃาเนหิ น ปวาเรยยฺ ทฏิ เฺ ฐฃน วาสเุ ตน วา ปรสิ งกฺ ายวา ปาจติ ตฺ ยิ ๘๕๓. ก็ภิกษณุ ีใดจาพรรษาแลว้ ไม่ปวารณาในสงฆ์ ๒ ฝ่ายด้วยฐานะ ๓ คอื ดว้ ยไดเ้ หน็ ดว้ ยไดย้ นิ หรอืดว้ ยระแวงสงสัย ตอ้ งอาบตั ปิ าจิตตีย์ ๘๔๕ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๑๑๐/๓๔๖ ๘๔๖ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๑๑๐/๓๔๖ ๘๔๗ กงฺขา.อ.๕๖/๗๓ (มจร) ๘๔๘ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๓๔๙/๓๔๘ ๘๔๙ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๓๔๙/๓๔๘ ๘๕๐ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๓๔๙/๓๔๘ ๘๕๑ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๑๑๑/๓๔๙ ๘๕๒ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๑๑๑/๓๔๙ ๘๕๓ กงฺขา.อ.๕๗/๗๓ (มจร)

๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๘ี ๕๔ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุณีหลายรปู ๘๕๕ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษณุ ีหลายรปู ออกพรรษาในอาวาสใกล้หมูบ่ า้ นแล้วพากนั ไปกรงุ สาวัตถี ภกิ ษุณที ้ังหลายไดก้ ล่าวว่า ทา่ นท้ังหลายจาพรรษาทไี่ หน ไดป้ วารณาต่อภิกษสุ งฆแ์ ล้วหรอืภิกษุณีเหลา่ น้นั ตอบว่า พวกเรายงั มไิ ด้ปวารณาตอ่ ภิกษุสงฆเ์ ลย เจา้ ข้า ภิกษณุ ผี ู้มักน้อย ฯลฯ พากันตาหนิประณาม โพนทะนาไดน้ า เร่ืองน้ไี ปบอกภิกษทุ ั้งหลายให้ทราบ พวกภิกษุได้นาเรอื่ งน้ีไปกราบทูลพระผมู้ ีพระภาค ให้ทรงทราบ ลาดับนน้ั พระผู้มีพระภาครับสง่ั ใหป้ ระชุมสงฆเ์ พราะเร่อื งนี้เป็นต้นเหตุ ทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายแลว้ จึงรับสงั่ ใหภ้ ิกษณุ ีทั้งหลายยกสิกขาบทนีข้ ้นึ แสดง๘๕๖ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ๘๕๗ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบัญญัติเฉพาะภิกษณุ ี๘๕๘ โอวาทปู สงั กมนสกิ ขาบท ๕๙. อนวฺ ทธฺ มาส ภกิ ขฺ นุ ยิ า ภิกขฺ สุ งฆฺ โต ทเฺ ว ธมมฺ า ปจจฺ าสสี ติ พฺพา อโุ ปสถปจุ ฺฉกญจฺโอวาทปู สงกฺ มนญจฺ . ต อตกิ กฺ าเมนตฺ ยิ า ปาจติ ตฺ ยิ ๘๕๙. ก็ภิกษุณีพงึ หวังธรรม ๒ อยา่ งจากภกิ ษสุ งฆ์ทกุ กึง่ เดือน คือ การถามอุโบสถ ๑ การเขา้ ไปขอโอวาท๑ ผู้ฝา่ ฝนื ธรรม ๒ อย่างนนั้ ตอ้ ง อาบัตปิ าจิตตีย์ ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๘ี ๖๐ ๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุณีฉัพพัคคีย์๘๖๑ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุณีท้งั หลายจึงไดไ้ มถ่ ามอุโบสถและไมข่ อโอวาท๘๖๒ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ๘๖๓ ๘๕๔ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๓๕๒/๓๕๐ ๘๕๕ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๓๕๒/๓๕๐ ๘๕๖ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๕๒/๓๕๐ ๘๕๗ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๑๑๒/๓๕๑ ๘๕๘ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๑๑๒/๓๕๑ ๘๕๙ กงฺขา.อ.๕๘/๗๓ (มจร) ๘๖๐ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๓๕๘/๓๕๕ ๘๖๑ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๓๕๘/๓๕๕ ๘๖๒ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๕๘/๓๕๕

๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญตั ิเฉพาะภิกษุณี๘๖๔ ปสาเขชาตสิกขาบท ๖๐. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ปสาเข ชาต คณฑฺ วา รธุ ติ วา อนปโลเกตวฺ า สงฆฺ วา คณ วา ปรุ เิ สน สทธฺ ึเอเกเนกา เภทาเปยยฺ วา ผาลาเปยยฺ วาโธวาเปยยฺ วา อาลมิ ปฺ าเปยยฺ วา พนธฺ าเปยยฺ วา โมจาเปยฺย วาปาจติ ตฺ ยิ ๘๖๕. ก็ภิกษุณีใดไม่บอกสงฆ์หรือคณะ ใชใ้ ห้บ่ง ให้ผ่า ให้ชะลา้ ง ใหท้ า ให้พัน หรือใหแ้ กะฝหี รือบาดแผลที่เกิดในร่มผ้าอยู่กันสองต่อสองกับชาย ตอ้ งอาบัตปิ าจิตตยี ์ ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถ๘ี ๖๖ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุณีรูปหนงึ่ ๘๖๗ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษุณีรูปหนง่ึ กับบุรษุ หนึ่งตอ่ หนงึ่ ให้บ่งฝีอันเกดิในรม่ ผา้ . ครัน้ แลว้ บุรุษนั้นได้พยายามประทุษรา้ ยภิกษุณีรูปนัน้ นางไดส้ ่งเสยี งขน้ึ . ภกิ ษณุ ีทัง้ หลายได้พากนั ว่งิเข้าไปถามภิกษุณนี ้นั วา่ แม่เจ้าสง่ เสยี งเรื่องอะไรกัน เมอ่ื ถกู ถาม นางไดเ้ ลา่ เร่ืองน้ันแกเ่ หล่าภกิ ษุณี. บรรดาภิกษณุ ที เ่ี ป็นผมู้ ักนอ้ ย ต่างกเ็ พ่งโทษ ตเิ ตยี น โพนทะนาว่า ไฉนภิกษุณีกับบรุ ษุ หน่ึงต่อหนึ่งจงึ ได้ให้บ่งฝีอนั เกดิ ในร่มผ้าเล่า๘๖๘ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ๘๖๙ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญัตเิ ฉพาะภกิ ษุณี๘๗๐ คพั ภนิ วิ รรค คัพภนิ สิ ิกขาบท ๖๑. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี คพภฺ นิ ึ วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจติ ฺตยิ ๘๗๑. ๘๖๓ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๑๑๔/๓๕๖ ๘๖๔ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๑๑๔/๓๕๖ ๘๖๕ กงฺขา.อ.๖๐/๗๓ (มจร) ๘๖๖ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๖๑/๓๕๗ ๘๖๗ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๓๖๑/๓๕๗ ๘๖๘ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๖๑/๓๕๗ ๘๖๙ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๑๑๕/๓๕๘ ๘๗๐ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๑๑๕/๓๕๘ ๘๗๑ กงขฺ า.อ.๖๑/๗๔ (มจร)

กภ็ กิ ษุณีใดบวชให้สตรมี คี รรภ์ ต้องอาบตั ิปาจิตตยี ์ ๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๘ี ๗๒ ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษุณีหลายรูป๘๗๓ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษุณีทั้งหลายบวชใหส้ ตรมี คี รรภ์ เธอเท่ยี วบณิ ฑบาต คนท้ังหลายกล่าวอย่างนีว้ ่า ทา่ นท้งั หลายจงถวายภิกษาหารแก่แม่เจา้ แมเ่ จ้ามีครรภแ์ ก่ แลว้ ตาหนิประณาม โพนทะนาวา่ ไฉนพวกภิกษณุ ีจงึ บวชใหส้ ตรมี คี รรภ์เลา่ พวกภกิ ษไุ ดน้ าเรอื่ งนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ ลาดบั นน้ั พระผู้มีพระภาครับสั่งใหป้ ระชมุ สงฆเ์ พราะเร่ืองนี้เปน็ ต้นเหตุ ทรงสอบถามภิกษทุ ้ังหลายแลว้ จึงรับส่ังให้ภิกษุณีทั้งหลายยกสิกขาบทนข้ี นึ้ แสดง๘๗๔ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ๘๗๕ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญัตเิ ฉพาะภกิ ษุณี๘๗๖ ปายนั ตสี กิ ขาบท ๖๒. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี ปายนตฺ ึ วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๘๗๗. ก็ภิกษณุ ีใดบวชใหส้ ตรีมีลกู ยังดมื่ นม ตอ้ งอาบัตปิ าจิตตีย์ ๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๘ี ๗๘ ๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษุณีหลายรูปบวชใหส้ ตรมี ีลกู ยังดม่ื นม๘๗๙ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษณุ ที ้งั หลายบวชให้สตรมี ีลกู ยงั ดมื่ นม เธอเทยี่ วบิณฑบาต คนท้ังหลายกล่าววา่ ท่านทงั้ หลายจงถวาย ภิกษาหารแก่แม่เจ้า แมเ่ จา้ มีลกู แลว้ ตาหนวิ ่า ไฉนพวกภิกษณุ จี ึงบวชให้สตรมี ีลูกยงั ดื่มนมเล่า ลาดับน้ัน พระผมู้ ีพระภาครับสง่ั ให้ประชมุ สงฆ์เพราะเรื่องน้ีเปน็ ตน้ เหตุ ทรงสอบถามภิกษุทงั้ หลายแลว้ จึงรบั ส่งั ให้ ภิกษณุ ีทงั้ หลายยกสกิ ขาบทน้ขี ้ึนแสดง๘๘๐๘๗๒ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๖๔/๓๖๑๘๗๓ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๓๖๔/๓๖๑๘๗๔ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๖๔/๓๖๑๘๗๕ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๑๑๖/๓๖๒๘๗๖ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๑๑๖/๓๖๒๘๗๗ กงขฺ า.อ.๖๒/๗๔ (มจร)๘๗๘ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๓๖๘/๓๖๔๘๗๙ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๓๖๘/๓๖๔๘๘๐ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๓๖๘/๓๖๔

๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ๘๘๑ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบัญญตั เิ ฉพาะภกิ ษุณี๘๘๒ ปฐมสกิ ขมานสิกขาบท ๖๓. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ทเฺ ว วสสฺ านิ ฉสุ ธมเฺ มสุ อสกิ ฺขติ สิกขฺ สิกขฺ มาน วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจิตตฺ ยิ ๘๘๓. กภ็ ิกษณุ ีใดบวชใหส้ กิ ขมานาผู้ยงั ไม่ได้ศึกษาสกิ ขาในธรรม ๖ ข้อ ตลอด ๒ ปี ต้องอาบัตปิ าจติ ตยี ์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๘ี ๘๔ ๒) บุคคลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุณีหลายรปู ๘๘๕ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุณที ง้ั หลายบวชให้สิกขมานา ผู้ไม่ได้ศกึ ษาสกิ ขาในธรรม ๖ ขอ้ ๑ตลอด ๒ ปี สิกขมานาผู้บวชเปน็ ภกิ ษุณเี หล่านัน้ โงเ่ ขลา ไม่ฉลาด ไมร่ ้สู ิ่งท่ีควรหรอื ไม่ควรพวกภิกษุได้นาเรอ่ื งน้ีไปกราบทูลพระผมู้ ีพระภาคใหท้ รงทราบ ลาดับนนั้ พระผูม้ ีพระภาครับสั่งให้ประชมุ สงฆเ์ พราะเรื่องน้ีเป็นตน้ เหตุ ทรงสอบถามภิกษุทัง้ หลายคร้ันทรงตาหนแิ ลว้ ทรงแสดงธรรมกี ถา แลว้ รบั สั่งกับภิกษุทงั้ หลายวา่ ภิกษทุ ัง้ หลาย เราอนุญาตใหภ้ ิกษุณสี งฆ์ให้สกิ ขาสมมติ๑ในธรรม ๖ ข้อ เปน็ เวลา ๒ ปีแก่สกิ ขมานา๘๘๖ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ๘๘๗ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญัตเิ ฉพาะภิกษุณี๘๘๘ ทุตยิ สกิ ขมานสกิ ขาบท ๖๔. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ทเฺ ว วสสฺ านิ ฉสุ ธมฺเมสุ สิกขฺ ิตสกิ ฺข สิกขฺ มาน สงเฺ ฆน อสมมฺ ต วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺปาจติ ตฺ ยิ ๘๘๙. ๘๘๑ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๑๑๗/๓๖๔ ๘๘๒ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๑๑๗/๓๖๔ ๘๘๓ กงฺขา.อ.๖๓/๗๔ (มจร) ๘๘๔ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๗๒/๓๖๗ ๘๘๕ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๗๒/๓๖๗ ๘๘๖ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๓๗๒/๓๖๗ ๘๘๗ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๑๑๘/๓๖๙ ๘๘๘ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๑๑๘/๓๖๙ ๘๘๙ กงฺขา.อ.๖๔/๗๔ (มจร)

กภ็ ิกษุณีใดบวชให้สิกขมานาผู้ศึกษาสิกขาในธรรม ๖ ข้อตลอด ๒ ปแี ล้วแต่สงฆย์ ังไม่ได้สมมติ ต้องอาบัตปิ าจติ ตีย์ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถ๘ี ๙๐ ๒) บคุ คลผ้กู อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษณุ ีหลายรปู ๘๙๑ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุณีทงั้ หลายบวชให้สกิ ขมานา ผู้ศึกษาสกิ ขาในธรรม ๖ ขอ้ ตลอด ๒ ปี แตส่ งฆ์ยงั ไม่ไดส้ มมติ ภิกษุณที ง้ั หลายกลา่ ว อย่างนี้ว่า สิกขมานาทัง้ หลาย พวกเธอจงมานี่ จงรู้สิง่ นี้ ประเคนสง่ิ นี้ นาสิ่งนีม้ า ฉนั ตอ้ งการสงิ่ น้ี จงทาสิง่ น้ีใหเ้ ป็นกัปปิยะ สิกขมานาเหล่าน้นั ตอบว่า แม่เจ้า พวกดฉิ ันไม่ใชส่ กิ ขมานา พวกดฉิ ันเปน็ ภิกษุณี ลาดบั น้นั พระผ้มู ีพระภาครับสั่งให้ประชุมสงฆ์เพราะเร่ืองนี้เปน็ ตน้ เหตุ ทรงสอบถามภิกษทุ ้งั หลายคร้ันทรงตาหนิแล้ว ทรงแสดงธรรมีกถา แลว้ รับสง่ั กบั ภกิ ษุท้งั หลายวา่ ภกิ ษุทงั้ หลาย เราอนุญาตใหภ้ ิกษณุ สี งฆ์ใหว้ ุฏฐานสมมติแกส่ กิ ขมานาผไู้ ด้ศึกษาสกิ ขาในธรรม ๖ ข้อตลอด ๒ ปแี ล้ว ภกิ ษุทง้ั หลาย สงฆ์พึงให้วฏุ ฐานสมมติ พระผู้มีพระภาค ครั้นทรงตาหนิภิกษุณีเหล่านั้น โดยประการต่าง ๆ แล้ว แล้วรับสั่งให้ภิกษุณีท้ังหลายยกสิกขาบทนข้ี ึน้ แสดง๘๙๒ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ๘๙๓ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบัญญัตเิ ฉพาะภิกษณุ ี๘๙๔ ปฐมคหิ ิคตสกิ ขาบท ๖๕. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี อนู ทวฺ าทสวสสฺ คหิ ิคต วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๘๙๕. ก็ภกิ ษณุ ีใดบวชใหห้ ญงิ ทีม่ ีครอบครวั มีอายตุ ่ากวา่ ๑๒ ปี ต้องอาบัตปิ าจติ ตีย์ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๘ี ๙๖ ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษุณีหลายรูป๘๙๗ ๘๙๐ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๗๖/๓๗๒ ๘๙๑ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๓๗๖/๓๗๒ ๘๙๒ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๓๗๖/๓๗๒ ๘๙๓ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๑๑๙/๓๗๔ ๘๙๔ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๑๑๙/๓๗๔ ๘๙๕ กงขฺ า.อ.๖๕/๗๔ (มจร) ๘๙๖ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๘๐/๓๗๗ ๘๙๗ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๘๐/๓๗๗

๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษณุ ีทง้ั หลายบวชให้หญงิ ทมี่ ีครอบครัวมีอายตุ ่ากว่า ๑๒ ปี ๑ หญิงทบี่ วชเปน็ ภิกษุณเี หล่านน้ั ไมอ่ ดทน ไม่อดกลน้ั ต่อความเยน็ ความร้อน ความหวิ ความกระหาย สัมผสั จากเหลือบ ยุง ลม แดด สัตวเ์ ลอ้ื ยคลาน คากล่าวรา้ ย คาท่ีฟงั แล้วไม่ดี ความรสู้ ึกทางกายที่เกดิ ขนึ้ เปน็ ทกุ ข์ แสนสาหสั รุนแรง เผด็ รอ้ น ทไ่ี ม่น่ายนิ ดี ไม่น่าพอใจแทบจะครา่ ชวี ติ ลาดับน้นั พระผมู้ ีพระภาครบั ส่ังใหป้ ระชุมสงฆ์เพราะเรอ่ื งนี้เป็นต้นเหตุ ทรงสอบถามภกิ ษทุ ัง้ หลายแล้วจึงรบั ส่งั ใหภ้ กิ ษณุ ที ั้งหลายยกสกิ ขาบทนข้ี น้ึ แสดง๘๙๘ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ๘๙๙ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญตั เิ ฉพาะภิกษุณี๙๐๐ ทตุ ยิ คหิ คิ ตสกิ ขาบท ๖๖. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ปรปิ ณุ ณฺ ทวฺ าทสวสสฺ คหิ คิ ต ทเฺ ว วสสฺ านิ ฉสุ ธมเฺ มสุ อสกิ ขฺ ติ สิกฺข วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺปาจติ ตฺ ยิ ๙๐๑. ก็ภิกษณุ ีใดบวชใหห้ ญิงทมี่ ีครอบครัวมีอายคุ รบ ๑๒ ปยี งั ไม่ได้ ศึกษาสิกขาในธรรม ๖ ขอ้ ตลอด ๒ปี ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถ๙ี ๐๒ ๒) บุคคลผูก้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษณุ ีหลายรปู ๙๐๓ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษณุ ีทั้งหลายบวชใหห้ ญิงท่ีมีครอบครวั มีอายุครบ๑๒ ปยี ังไมไ่ ด้ศึกษาสิกขาในธรรม ๖ ข้อตลอด ๒ ปี หญงิ ทบ่ี วชเปน็ ภกิ ษุณีเหล่านั้นโงเ่ ขลา ไม่ฉลาด ไม่รสู้ ง่ิ ท่ีควรหรือไม่ควร พระผมู้ ีพระภาครบั ส่งั ให้ประชมุ สงฆเ์ พราะเร่อื งน้เี ปน็ ต้นเหตุ ทรงสอบถามภิกษุทง้ั หลาย ครนั้ ทรงตาหนแิ ล้ว ทรงแสดงธรรมกี ถา แลว้ รับส่งั กบั ภกิ ษทุ ัง้ หลายว่า ภกิ ษุทง้ั หลาย เราอนุญาตใหภ้ ิกษณุ ีสงฆ์ใหส้ ิกขาสมมติ ในธรรม ๖ ขอ้ เปน็ เวลา ๒ ปีแก่หญงิ ท่มี ีครอบครวั มีอายุครบ ๑๒ ปีภิกษุทัง้ หลาย สงฆ์พงึ ให้สกิ ขาสมมติ ๘๙๘ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๓๘๐/๓๗๗ ๘๙๙ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๑๒๐/๓๗๘ ๙๐๐ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๑๒๐/๓๗๘ ๙๐๑ กงขฺ า.อ.๖๖/๗๔ (มจร) ๙๐๒ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๘๔/๓๘๐ ๙๐๓ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๘๔/๓๘๐

พระผู้มีพระภาคคร้นั ทรงตาหนภิ ิกษณุ ีเหลา่ น้ันโดยประการต่าง ๆ แล้วตรสั โทษแห่งความเป็นผู้เลีย้ งยาก ฯลฯ แล้วจงึ รับสัง่ ให้ภิกษณุ ที ัง้ หลายยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง๙๐๔ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ๙๐๕ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญตั ิเฉพาะภกิ ษณุ ี๙๐๖ ตตยิ คหิ ิคตสกิ ขาบท ๖๗. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ปรปิ ุณณฺ ทวฺ าทสวสสฺ คหิ คิ ต ทฺเว วสสฺ านิ ฉสุ ธมเฺ มสุ สกิ ขฺ ติ สกิ ขฺ สงเฺ ฆนอสมฺมต วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๙๐๗. ก็ภิกษุณีใดบวชให้หญิงทีม่ ีครอบครัวมีอายคุ รบ ๑๒ ปผี ูไ้ ด้ศึกษา สิกขาในธรรม ๖ ขอ้ ตลอด ๒ ปีแตส่ งฆย์ งั ไม่ได้สมมติ ต้องอาบตั ปิ าจติ ตีย์ ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๙ี ๐๘ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุณีหลายรปู ๙๐๙ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษณุ ีบวชให้หญงิ ที่มคี รอบครวั มอี ายุครบ ๑๒ ปผี ู้ศกึ ษาสิกขาในธรรม ๖ ข้อตลอด ๒ ปีแต่สงฆย์ ังไมไ่ ด้สมมติ ภิกษุณีทั้งหลายกล่าวว่า สิกขมานาท้ังหลาย พวกเธอจงมานี่ จงรู้ส่งิ น้ี ประเคนส่ิงนี้ นาสิง่ น้ีมา ฉนั ต้องการส่ิงนี้ จงทาสิ่งนี้ใหเ้ ปน็ กัปปิยะ สิกขมานาเหล่านัน้ ตอบวา่ “แม่เจ้า พวกดิฉนั มิใช่สกิ ขมานา พวกดิฉันเป็น ภกิ ษุณี” ลาดับน้ัน พระผ้มู ีพระภาครับสง่ั ใหป้ ระชุมสงฆ์เพราะเรอื่ งน้ีเป็นต้นเหตุ ทรงสอบถามภิกษทุ ัง้ หลายแสดงธรรมีกถาแลว้ รับสง่ั กับภิกษุทั้งหลายว่า “ภิกษทุ ัง้ หลาย เราอนญุ าตใหภ้ กิ ษุณสี งฆ์ ใหว้ ุฏฐานสมมติแก่หญิงท่มี ีครอบครัวมีอายุ ๑๒ ปีผูไ้ ดศ้ ึกษาสกิ ขาในธรรม ๖ ข้อตลอด ๒ ปแี ลว้ ภกิ ษุท้ังหลาย สงฆ์พึงใหว้ ุฏฐานสมมติ พระผู้มีพระภาคครัน้ ทรงตาหนภิ ิกษุณเี หล่านนั้ โดยประการต่าง ๆ แล้วตรัสโทษแหง่ ความเป็นผูเ้ ลี้ยงยาก ฯลฯ แล้วรับสัง่ ใหภ้ ิกษุณีทั้งหลายยกสิกขาบทนี้ข้ึนแสดง๙๑๐ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ๙๑๑ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญัติเฉพาะภกิ ษณุ ี๙๑๒ ๙๐๔ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๓๘๔/๓๘๐ ๙๐๕ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๑๒๑/๓๘๒ ๙๐๖ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๑๒๑/๓๗๘ ๙๐๗ กงฺขา.อ.๖๗/๗๔ (มจร) ๙๐๘ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๓๘๘/๓๘๕ ๙๐๙ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๘๘/๓๘๕ ๙๑๐ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๓๘๘/๓๘๕ ๙๑๑ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๑๒๒/๓๗๘

ปฐมสหชวี นิ สี กิ ขาบท ๖๘. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี สหชวี นิ ึ วฏุ ฐฺ ฃาเปตวฺ า ทเฺ ว วสสฺ านิ เนว อนคุ ฺคณเฺ หยยฺ น อนคุ คฺ ณฺหาเปยยฺปาจติ ตฺ ยิ ๙๑๓. ก็ภิกษุณีใดบวชให้สหชีวินแี ลว้ ไมอ่ นุเคราะห์ ไม่ให้อนเุ คราะห์ตลอด ๒ ปี ต้องอาบัตปิ าจิตตยี ์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถ๙ี ๑๔ ๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษณุ ีถลุ ลนันทา๙๑๕ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษณุ ีถลุ ลนนั ทาบวชให้สหชวี นิ ี แลว้ ไมอ่ นเุ คราะห์ทั้งไม่ใหผ้ ู้อืน่ อนเุ คราะหต์ ลอด ๒ ปี สหชวี นผี ู้บวชเป็นภิกษณุ เี หล่านน้ั เปน็ คนโง่เขลา ไม่ฉลาด ไม่รู้จักสง่ิ ควรหรอื ไม่ควร ลาดบั นนั้ พระผู้มีพระภาครบั ส่งั ให้ประชมุ สงฆ์เพราะเร่ืองน้เี ป็นต้นเหตุ ทรงสอบถามภิกษทุ ั้งหลายแลว้ จงึ รบั สง่ั ใหภ้ ิกษุณีท้ังหลายยกสิกขาบทนขี้ ึ้นแสดง๙๑๖ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ๙๑๗ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญัติเฉพาะภิกษณุ ี๙๑๘ ปวตั ตนิ นี านพุ นั ธนสิกขาบท ๖๙. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี วฏุ ฐฺ ฃาปติ ปวตตฺ นิ ึ ทฺเว วสสฺ านิ นานพุ นเฺ ธยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๙๑๙. กภ็ ิกษณุ ีใดไม่ตดิ ตามปวตั ตนิ ีผูบ้ วชให้ตลอด ๒ ปี ต้องอาบัติ ปาจติ ตีย์ ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถ๙ี ๒๐ ๒) บุคคลผ้กู อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษุณีหลายรปู ๙๒๑ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ภกิ ษุณที ้ังหลายไม่ตดิ ตามปวตั ตนิ ี๑ผูบ้ วชใหต้ ลอด ๒ปี พวกเธอเป็นคนโง่เขลา ไม่ฉลาด ไมร่ จู้ ักส่ิงควรหรือไม่ควร บรรดาภกิ ษณุ ีผูม้ ักนอ้ ย ฯลฯ พากันตาหนิ ๙๑๒ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๑๒๒/๓๗๘ ๙๑๓ กงฺขา.อ.๖๘/๗๔ (มจร) ๙๑๔ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๙๒/๓๙๐ ๙๑๕ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๙๒/๓๙๐ ๙๑๖ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๓๙๒/๓๙๐ ๙๑๗ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๑๒๓/๓๙๐ ๙๑๘ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๑๒๓/๓๙๐ ๙๑๙ กงขฺ า.อ.๖๙/๗๕ (มจร) ๙๒๐ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๙๕/๓๙๒ ๙๒๑ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๓๙๕/๓๙๒

ประณาม โพนทะนา ไดน้ าเรือ่ งน้ีไปบอกภิกษทุ ้ังหลายให้ทราบ พวกภิกษไุ ด้นาเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ ลาดับน้ัน พระผู้มีพระภาครับสั่งใหป้ ระชุมสงฆเ์ พราะเรื่องน้ีเป็นต้นเหตุ ทรงสอบถามภิกษุทง้ั หลายแลว้ จงึ รับสัง่ ให้ภกิ ษุณีท้ังหลายยกสิกขาบทนีข้ นึ้ แสดง๙๒๒ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ๙๒๓ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบัญญัติเฉพาะภกิ ษุณี๙๒๔ ทตุ ยิ สหชวี นิ สี กิ ขาบท ๗๐. ยา ปน ภกิ ฺขนุ ี สหชวี นิ ึ วฏุ ฐฺ ฃาเปตวฺ า เนว วปู กาเสยยฺ น วปู กาสาเปยยฺ อนตฺ มโสฉปปฺ ญจฺ โยชนานปิ ิ ปาจติ ฺตยิ ๙๒๕. ก็ภกิ ษณุ ีใดบวชให้สหชีวนิ ีแลว้ ไม่พาหลีกไป ไม่ให้พาหลกี ไป โดยที่สดุ แม้ส้นิ ระยะทาง ๕-๖ โยชน์ตอ้ งอาบัติปาจติ ตีย์ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๙ี ๒๖ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษณุ ีถุลลนันทา๙๒๗ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษณุ ถี ลุ ลนันทาบวชให้สหชวี นิ ี แลว้ ไมพ่ าหลีกไปทั้งไม่ให้ผอู้ ่ืนพาหลีกไป สามีจึงจับ(สหชวี ินนี ัน้ ) บรรดาภิกษุณผี มู้ ักน้อย ฯลฯ พากนั ตาหนิ ประณาม โพนทะนาไดน้ าเรอ่ื งนี้ไปบอกภกิ ษุท้ังหลายให้ทราบ พวกภิกษุไดน้ าเร่อื งนี้ไปกราบทลู พระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ ลาดับนน้ั พระผมู้ ีพระภาครบั ส่งั ให้ประชุมสงฆ์เพราะเรอื่ งนี้เปน็ ตน้ เหตุ ทรงสอบถามภิกษทุ ้งั หลายแล้วจึงรับส่งั ใหภ้ ิกษุณีทั้งหลายยกสิกขาบทนขี้ ึ้นแสดง๙๒๘ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ๙๒๙ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญัติเฉพาะภิกษณุ ี๙๓๐ ๙๒๒ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๓๙๕/๓๙๒ ๙๒๓ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๑๒๔/๓๙๓ ๙๒๔ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๑๒๔/๓๙๓ ๙๒๕ กงฺขา.อ.๗๐/๗๕ (มจร) ๙๒๖ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๓๙๘/๓๙๕ ๙๒๗ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๓๙๘/๓๙๕ ๙๒๘ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๓๙๘/๓๙๕ ๙๒๙ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๑๒๕/๓๙๓ ๙๓๐ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๑๒๕/๓๙๓

กุมารภิ ตู วรรค ปฐมกุมารภิ ตู สิกขาบท ๗๑. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อนู วสี ตวิ สสฺ กุมารภิ ตู วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจติ ฺตยิ ๙๓๑. กภ็ ิกษุณีใดบวชใหก้ ุมารีมอี ายุต่ากว่า ๒๐ ปี ต้องอาบตั ิปาจิตตีย์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๙ี ๓๒ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษุณีหลายรูป๙๓๓ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษุณที ้ังหลายบวชให้กมุ ารีอายุตา่ กว่า ๒๐ ปี กุมารีทีบ่ วชเปน็ ภกิ ษณุ ีเหล่าน้นั ไม่อดทน ไม่อดกลั้นต่อความเย็น ความรอ้ น ความหวิ ความกระหาย สมั ผสั จากเหลอื บ ยงุ ลม แดด สตั ว์เล้อื ยคลาน คากลา่ วร้าย คาท่ีฟงั แล้วไม่ดี ความรู้สึกทางกายท่ีเกิดข้ึนเปน็ ทุกข์ แสนสาหสั รนุ แรง เผ็ดร้อน ท่ีไม่น่ายนิ ดี ไมน่ ่าพอใจ แทบจะคร่าชีวติ ลาดบั นัน้ พระผมู้ ีพระภาครับส่ังใหป้ ระชุมสงฆ์เพราะเรอ่ื งน้ีเปน็ ต้นเหตุ ทรงสอบถามภกิ ษทุ ้งั หลายแลว้ จงึ รับสง่ั ให้ภิกษณุ ี ท้ังหลายยกสิกขาบทนข้ี น้ึ แสดง๙๓๔ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญัตเิ ฉพาะภกิ ษุณี ทุตยิ กุมารภิ ตู สิกขาบท ๗๒. ยา ปน ภกิ ฺขนุ ี ปรปิ ณุ ณฺ วสี ตวิ สสฺ กมุ ารภิ ูต ทฺเว วสสฺ านิ ฉสุ ธมเฺ มสุ อสกิ ขฺ ติ สกิ ฺข วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺปาจติ ตฺ ยิ ๙๓๕. ก็ภิกษุณีใดบวชให้กมุ ารีผมู้ ีอายุครบ ๒๐ ปีผู้ยังไม่ได้ศึกษาสกิ ขา ในธรรม ๖ ขอ้ ตลอด ๒ ปี ตอ้ งอาบัตปิ าจติ ตยี ์ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๙ี ๓๖ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษณุ ีหลายรูป๙๓๗ ๙๓๑ กงฺขา.อ.๗๑/๗๕ (มจร) ๙๓๒ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๔๐๑/๓๙๘ ๙๓๓ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๔๐๑/๓๙๘ ๙๓๔ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๔๐๑/๓๙๘ ๙๓๕ กงขฺ า.อ.๗๒/๗๕ (มจร) ๙๓๖ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๔๐๕/๓๙๘ ๙๓๗ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๔๐๕/๓๙๘

๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษุณีท้งั หลายบวชให้กุมารีมอี ายุครบ ๒๐ ปีแต่ยังไมไ่ ดศ้ ึกษาสิกขาในธรรม ๖ ขอ้ ตลอด ๒ ปี พวกเธอโง่เขลา ไมฉ่ ลาด ไมร่ ู้ส่ิงที่ควรหรือไม่ควร พระผมู้ พี ระภาคคร้ันทรงตาหนิภกิ ษุณเี หลา่ น้ันโดยประการตา่ ง ๆ แลว้ แล้วรับสัง่ ใหภ้ กิ ษุณีทง้ั หลายยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง๙๓๘ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบญั ญัติเฉพาะภิกษณุ ี ตตยิ กุมารภิ ตู สิกขาบท ๗๓. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี ปรปิ ณุ ณฺ วสี ตวิ สสฺ กุมารภิ ตู ทเฺ ว วสสฺ านิ ฉสุ ธมฺเมสุ สกิ ขฺ ติ สกิ ขฺ สงเฺ ฆนอสมฺมต วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๙๓๙. กภ็ ิกษุณีใดบวชให้กุมารีมีอายุครบ ๒๐ ปี ผไู้ ดศ้ กึ ษาสิกขาใน ธรรม ๖ ข้อตลอด ๒ ปแี ลว้ แตส่ งฆ์ยงั ไม่ได้สมมติ ต้องอาบัตปิ าจิตตีย์ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๙ี ๔๐ ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษณุ ีหลายรูป๙๔๑ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษุณที ัง้ หลายบวชใหก้ มุ ารมี ีอายุครบ ๒๐ ปผี ไู้ ด้ศึกษาสิกขาในธรรม ๖ ข้อตลอด ๒ ปีแต่สงฆ์ยังไมไ่ ดส้ มมติ ภกิ ษณุ ที ั้งหลายกลา่ ววา่ สิกขมานาท้ังหลาย พวกเธอจงมาน่ี จงรสู้ ง่ิ นี้ ประเคนส่ิงนี้ นาสงิ่ น้ีมา ฉันตอ้ งการสิ่งน้ี จงทาส่งิ นีใ้ หเ้ ป็นกัปปิยะ กุมารเี หล่าน้ันกล่าวว่าแมเ่ จ้า พวกดฉิ ันมิใช่สิกขมานา พวกดฉิ ันเปน็ ภกิ ษุณี พระผู้มีพระภาคครัน้ ทรงตาหนภิ กิ ษุณเี หล่าน้นั โดยประการตา่ ง ๆ แล้วตรัส โทษแห่งความเปน็ ผู้เล้ยี งยาก ฯลฯ แลว้ รบั ส่งั ให้ภกิ ษณุ ีท้ังหลายยกสิกขาบทนี้ข้ึนแสดง๙๔๒ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบญั ญัตเิ ฉพาะภกิ ษณุ ี อูนทวาทสวสั สสกิ ขาบท ๗๔. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี อนู ทวฺ าทสวสสฺ า วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๙๔๓. ๙๓๘ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๔๐๕/๓๙๘ ๙๓๙ กงขฺ า.อ.๗๓/๗๕ (มจร) ๙๔๐ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๔๐๙/๔๐๕ ๙๔๑ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๔๐๙/๔๐๕ ๙๔๒ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๔๐๙/๔๐๕ ๙๔๓ กงฺขา.อ.๗๔/๗๕ (มจร)

ก็ภิกษณุ ีใดมีพรรษาต่ากวา่ ๑๒ บวชใหก้ ลุ ธดิ า ต้องอาบัติ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถ๙ี ๔๔ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษณุ ีหลายรูป๙๔๕ ๓) มูลเหตุแห่งการบัญญัติสิกขาบท ได้แก่ ภิกษุณีทั้งหลายมีพรรษาต่ากว่า ๑๒ บวชให้กุลธิดาพวกเธอเป็นผู้โง่เขลา ไม่ฉลาด ไม่รู้สิ่งที่ควรหรือไม่ควร แม้พวกสัทธิวิหารินีก็เป็นผู้โง่เขลา ไม่ฉลาด ไม่รู้สิ่งท่ีควรหรือไม่ควร บรรดาภิกษุณีผู้มักน้อย ฯลฯ พากันตาหนิ ประณาม โพนทะนา ได้นาเรื่องนี้ไปบอกภิกษุทั้งหลายให้ทราบ พวกภิกษุได้นาเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบแล้วจึงรับสั่งให้ภิกษุณีทั้งหลายยกสิกขาบทนี้ข้นึ แสดง๙๔๖ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญัตเิ ฉพาะภกิ ษณุ ี ปรปิ ุณณทวาทสวสั สสกิ ขาบท ๗๕. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี ปรปิ ณุ ฺณทวฺ าทสวสสฺ า สงเฺ ฆน อสมมฺ ตา วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๙๔๗. กภ็ ิกษุณีใดมีพรรษาครบ ๑๒ แลว้ แตส่ งฆ์ยังไม่ไดส้ มมติ บวชให้กุลธดิ า ตอ้ งอาบตั ิปาจิตตีย์ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๙ี ๔๘ ๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษณุ ีหลายรปู ๙๔๙ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษุณีทง้ั หลายมีพรรษาครบ ๑๒ แลว้ แต่สงฆ์ยังไมไ่ ด้สมมติบวชใหก้ ุลธิดา พวกเธอเป็นผูโ้ งเ่ ขลา ไมฉ่ ลาด ไมร่ สู้ ง่ิ ท่ีควร หรือไม่ควร แม้สทั ธวิ ิหารนิ กี เ็ ป็นผโู้ งเ่ ขลา ไม่ฉลาด ไมร่ สู้ ง่ิ ที่ควรหรอื ไม่ควร พวกภิกษไุ ดน้ าเร่ืองน้ีไปกราบทลู พระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ พระผมู้ ีพระภาคทรงตาหนแิ ลว้ ได้ทรงแสดงธรรมกี ถาแล้วรบั ส่งั กบั ภิกษุท้ังหลายว่า ภกิ ษุทัง้ หลาย เราอนญุ าตวฏุ ฐาปนสมมต๑ิ แกภ่ กิ ษุณผี ู้มีพรรษาครบ ๑๒ แล้ว ภกิ ษทุ ัง้ หลาย สงฆ์พงึ ให้วฏุ ฐาปนสมมติ ครนั้ พระผูม้ พี ระภาคทรงตาหนภิ ิกษุณเี หลา่ น้นั โดยประการตา่ ง ๆ แล้วจงึ รบั ส่ัง ใหภ้ กิ ษุณที ้งั หลายยกสิกขาบทนี้ข้นึ แสดง๙๕๐ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๙๔๔ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๔๑๓/๔๑๐ ๙๔๕ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๔๑๓/๔๑๐ ๙๔๖ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๔๑๓/๔๑๐ ๙๔๗ กงฺขา.อ.๗๕/๗๕ (มจร) ๙๔๘ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๔๑๖/๔๑๒ ๙๔๙ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๔๑๖/๔๑๒ ๙๕๐ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๔๑๖/๔๑๒

๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญตั เิ ฉพาะภิกษณุ ี ขิยยนธมั มสกิ ขาบท ๗๖. ยา ปน ภกิ ฺขนุ ี “อล ตาว เต อยฺเย วฏุ ฐฺ ฃาปเิ ตนา”ติ วจุ จฺ มานา “สาธ”ู ติ ปฏสิ สฺ ณุ ติ วฺ า สา ปจฺฉา ขยิ ยฺ นธมมฺ อาปชเฺ ชยฺย ปาจติ ตฺ ยิ ๙๕๑. กภ็ กิ ษณุ ีใดอนั สงฆก์ ล่าวอยวู่ า่ “แมเ่ จา้ เธออย่าบวชให้กลุ ธิดาเลย” รบั คาแลว้ ภายหลังกลับบน่ วา่ตอ้ งอาบตั ปิ าจิตตีย์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถี๙๕๒ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษณุ ีจัณฑกาลี๙๕๓ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษุณจี ัณฑกาลีเขา้ ไปหาภกิ ษณุ สี งฆ์ ขอวุฏฐาปนสมมติ ลาดับนั้น ภิกษุณสี งฆ์กาหนดพจิ ารณาเธอในขณะนั้นแลว้ ไมย่ อมให้วุฏฐาปนสมมติ ด้วยกล่าวว่า แม่เจา้เธออย่าบวชใหก้ ุลธิดาเลย ภิกษณุ จี ัณฑกาลกี ร็ ับคาของสงฆ์ ครั้นต่อมา ภกิ ษุณีสงฆใ์ ห้วุฏฐาปนสมมตแิ ก่ภิกษุณีเหล่าอื่น ภกิ ษณุ จี ณั ฑกาลีจึงตาหนิ ประณามโพนทะนาว่า “ดฉิ ันเท่านน้ั เป็นคนเขลา ดิฉันเท่านั้นไมม่ ีความละอาย ทท่ี าใหส้ งฆ์ใหว้ ฏุ ฐาปนสมมตแิ กภ่ กิ ษุณีเหล่าอ่นื ไม่ให้ แก่ดฉิ ันเทา่ นัน้ ” บรรดาภกิ ษุณีผู้มักน้อย ฯลฯ พากันตาหนิ ประณาม โพนทะนาไดน้ าเรอ่ื งน้ีไปบอกภิกษทุ ัง้ หลายใหท้ ราบ พวกภกิ ษุได้นาเรอ่ื งนไ้ี ปกราบทูลพระผ้มู ีพระภาคใหท้ รงทราบแลว้ จึงรับสัง่ ให้ภิกษุณที ้ังหลายยกสกิ ขาบทนี้ข้ึนแสดง๙๕๔ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบญั ญัติเฉพาะภิกษณุ ี ปฐมสกิ ขมานนวฏุ ฐาปนสกิ ขาบท ๗๗. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี สิกขฺ มาน “สเจ เม ตวฺ อยเฺ ย จวี ร ทสสฺ สิ เอวาหต วฏุ ฐฺ ฃาเปสสฺ ามี”ติ วตวฺ า สาปจฉฺ า อนนตฺ รายกิ นิ ี เนว วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ น วฏุ ฐฺ ฃาปนาย อสุ สฺ กุ กฺ กเรยยฺ ปาจติ ฺตยิ ๙๕๕. ๙๕๑ กงฺขา.อ.๗๖/๗๖ (มจร) ๙๕๒ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๔๒๐/๔๑๖ ๙๕๓ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๔๒๐/๔๑๖ ๙๕๔ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๔๒๐/๔๑๖ ๙๕๕ กงฺขา.อ.๗๗/๗๖ (มจร)

ก็ภกิ ษณุ ีใดกล่าวกบั สิกขมานาวา่ “แม่คุณ ถา้ เธอจักใหจ้ วี รแกเ่ รา เมื่อเปน็ อย่างน้ี เราก็จะบวชให้เธอ” ภายหลงั ภิกษณุ ีนนั้ ผู้ไม่มีอันตราย ไม่บวชให้ ไม่ขวนขวายใชใ้ หบ้ วชให้ ตอ้ งอาบตั ิปาจิตตยี ์ ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถ๙ี ๕๖ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุณีถุลลนันทา๙๕๗ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ สกิ ขมานารปู หน่งึ เขา้ ไปหาภิกษณุ ีถุลลนนั ทา ขออปุ สมบทภิกษณุ ีถุลลนนั ทากลา่ วกบั สกิ ขมานานน้ั ว่า แม่คุณ ถ้าเธอจักให้จวี รแก่เรา เมื่อเปน็ อย่างน้ี เรากจ็ ะบวชใหเ้ ธอ แล้วไมบ่ วชให้ ไมข่ วนขวายใชใ้ ห้บวชให้ ลาดบั นั้น สกิ ขมานานนั้ จึงบอกเรอ่ื งน้ันให้ภิกษุณีทั้งหลายทราบ บรรดาภกิ ษุณผี ู้มักน้อย ฯลฯ พากันตาหนิ ประณาม โพนทะนาได้นาเรอ่ื งนี้ไปบอกภิกษทุ ั้งหลายให้ทราบ พวกภิกษไุ ดน้ าเรอื่ งนไี้ ปกราบทูลพระผู้มพี ระภาคให้ทรงทราบแล้ว จงึ รบั ส่งั ใหภ้ ิกษุณีท้ังหลายยกสิกขาบทน้ีข้ึนแสดง๙๕๘ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญตั เิ ฉพาะภิกษณุ ี ทุตยิ สกิ ขมานนวฏุ ฐาปนสิกขาบท ๗๘. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี สกิ ขฺ มาน “สเจ ม ตวฺ อยเฺ ย ทฺเว วสสฺ านิ อนุพนธฺ สิ สฺ สิ เอวาห ต วฏุ ฐฺ ฃาเปสฺสาม”ี ติ วตวฺ า สา ปจฉฺ า อนนตฺ รายกิ นิ ี เนววฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ น วฏุ ฐฺ ฃาปนาย อสุ สฺ ุกกฺ กเรยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๙๕๙. กภ็ กิ ษณุ ีใดกล่าวกบั สิกขมานาวา่ แมค่ ณุ ถ้าเธอจกั ติดตามเราตลอด ๒ ปี เมอ่ื เปน็ อย่างนั้น เราก็จะบวชให้เธอ ภายหลงั ภิกษณุ นี ั้นผู้ไมม่ ีอนั ตรายไม่บวชให้ ไม่ขวนขวายใชใ้ หบ้ วชให้ ต้องอาบตั ิปาจติ ตีย์ ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๙ี ๖๐ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษุณีถุลลนนั ทา๙๖๑ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ สกิ ขมานารปู หน่ึงเข้าไปหาภิกษณุ ีถุลลนนั ทาขออุปสมบท ภกิ ษุณีถลุ ลนันทาไดก้ ล่าวกับสิกขมานาน้ันดังน้วี ่า “แม่คุณ ถา้ เธอจักตดิ ตาม ฉันตลอด ๒ ปี เมือ่เปน็ อย่างนี้ ฉนั จะบวชใหเ้ ธอ” แลว้ ไม่บวชให้ ไม่ขวนขวายใชใ้ ห้บวชให้ ลาดับนน้ั สกิ ขมานาน้นั บอกเร่ืองนน้ั ให้ภกิ ษุณีท้ังหลายทราบ ๙๕๖ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๔๒๓/๔๑๙ ๙๕๗ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๔๒๓/๔๑๙ ๙๕๘ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๔๒๓/๔๑๙ ๙๕๙ กงฺขา.อ.๗๘/๗๖ (มจร) ๙๖๐ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๔๒๖/๔๒๒ ๙๖๑ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๔๒๖/๔๒๒

บรรดาภิกษุณผี มู้ ักนอ้ ยไดน้ าเร่อื งนไี้ ปบอกภิกษุท้ังหลายให้ทราบ พวกภิกษุไดน้ าเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบแลว้ จงึ รับสง่ั ใหภ้ กิ ษณุ ีท้ังหลายยกสิกขาบทนข้ี ึ้นแสดง๙๖๒ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญัตเิ ฉพาะภิกษณุ ี โสกาวาสสกิ ขาบท ๗๙. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี ปรุ สิ สสฏฐฺ ฃ กุมารกสสฏฐฺ ฃ จณฑฺ ึ โสกาวาส สกิ ขฺ มาน วฏุ ฐฺ ฃาเปยฺย ปาจติ ตฺ ยิ ๙๖๓. ก็ภิกษณุ ีใดบวชให้สิกขมานาผู้คลุกคลีกบั ชาย คลุกคลีกับเด็ก ดรุ า้ ย ผทู้ าชายให้ระทมโศก ต้องอาบัติปาจติ ตยี ์ ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถ๙ี ๖๔ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษณุ ีถุลลนันทา๙๖๕ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษุณีถลุ ลนันทาบวชใหส้ ิกขมานา ชื่อจัณฑกาลผี ู้คลกุ คลีกับชาย คลุกคลีกบั เด็ก ดุร้าย ผู้ทาชายใหร้ ะทมโศก บรรดาภิกษณุ ผี ู้มักนอ้ ย ฯลฯ พากันตาหนิประณาม โพนทะนาไดน้ าเร่อื งนีไ้ ปบอกภกิ ษุ ท้งั หลายให้ทราบ พวกภกิ ษุไดน้ าเรอ่ื งน้ีไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคใหท้ รงทราบแลว้ จงึ รบั สัง่ ใหภ้ ิกษุณีท้ังหลายยกสิกขาบทนี้ข้ึนแสดง๙๖๖ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบญั ญัติเฉพาะภิกษณุ ี อนนญุ ญาตสกิ ขาบท ๘๐. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี มาตาปติ หู ิ วา สามเิ กน วา อนนญุ ญฺ าต สกิ ขฺ มาน วฏุ ฐฺ ฃาเปยฺย ปาจติ ตฺ ยิ ๙๖๗. กภ็ กิ ษุณีใดบวชให้สกิ ขมานาที่มารดาบดิ าหรอื สามยี งั ไมไ่ ด้อนญุ าต ต้องอาบัติปาจติ ตยี ์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถ๙ี ๖๘ ๙๖๒ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๔๒๖/๔๒๒ ๙๖๓ กงฺขา.อ.๗๙/๗๖ (มจร) ๙๖๔ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๔๒๙/๔๒๔ ๙๖๕ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๔๒๙/๔๒๔ ๙๖๖ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๔๒๙/๔๒๔ ๙๖๗ กงขฺ า.อ.๘๐/๗๖ (มจร) ๙๖๘ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๔๓๒/๔๒๘

๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษณุ ีถุลลนันทา๙๖๙ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษุณีถลุ ลนนั ทาบวชใหส้ กิ ขมานาผู้ท่ีมารดาบิดาบ้างสามีบา้ งยงั ไม่ได้อนุญาต ตอ่ มา มารดาบิดาบ้าง สามีบ้างตาหนิ ประณาม โพนทะนาวา่ ไฉนแม่เจ้าถุลลนันทาจึงบวชใหส้ ิกขมานา ท่ีพวกเรายังมิได้อนุญาตเลา่ ๙๗๐ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบัญญัตเิ ฉพาะภิกษณุ ี อนวุ สั สสกิ ขาบท ๘๒. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อนวุ สสฺ วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๙๗๑. ก็ภกิ ษุณีใดบวชให้สกิ ขมานาทุก ๆ ปี ต้องอาบตั ปิ าจิตตยี ์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถ๙ี ๗๒ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษณุ ีหลายรปู ๙๗๓ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษณุ ีทั้งหลายบวชใหส้ ิกขมานา ทุก ๆ ปี ทีอ่ ยู่จึงไม่เพียงพอ คนท้ังหลายตาหนิ ประณาม โพนทะนาวา่ “ไฉน พวกภิกษุณบี วชให้สิกขมานาทกุ ๆ ปี (ทาให้)ทอ่ี ยู่ไมเ่ พยี งพอเล่า” พวกภิกษุไดน้ าเรื่องนีไ้ ปกราบทลู พระผู้มีพระภาคใหท้ รงทราบจึงรับสง่ั ให้ภิกษุณที ั้งหลายยกสกิ ขาบทน้ีขนึ้ แสดง๙๗๔ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบญั ญตั ิเฉพาะภกิ ษุณี เอกวสั สสกิ ขาบท ๘๓. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี เอก วสสฺ ทฺเว วฏุ ฐฺ ฃาเปยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๙๗๕. กภ็ ิกษุณีใดบวชให้สกิ ขมานา ๒ รูป ใน ๑ ปี ตอ้ งอาบัตปิ าจิตตยี ์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถ๙ี ๗๖ ๙๖๙ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๔๓๒/๔๒๘ ๙๗๐ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๔๓๒/๔๒๘ ๙๗๑ กงขฺ า.อ.๘๒/๗๗ (มจร) ๙๗๒ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๔๓๒/๔๒๘ ๙๗๓ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๔๓๒/๔๒๘ ๙๗๔ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๔๓๒/๔๒๘ ๙๗๕ กงฺขา.อ.๘๓/๗๗ (มจร)

๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุณีหลายรูป๙๗๗ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษณุ ีท้งั หลายบวชให้สิกขมานา ปลี ะ ๒ รูป๑ (ทาให)้ ท่อี ยู่ไม่เพยี งพอเหมือนดังท่ีเปน็ มานนั่ แหละ คนทง้ั หลายกต็ าหนิ ประณาม โพนทะนาอยา่ งนั้นแหละวา่ไฉนพวกภกิ ษุณีบวชให้สกิ ขมานาปีละ ๒ รปู เล่า บรรดาภกิ ษณุ ี ผู้มักน้อย ฯลฯ พากันตาหนิ ประณามโพนทะนาไดน้ าเรอ่ื งน้ีไปบอกภิกษุ ทั้งหลายใหท้ ราบ พวกภิกษุได้นาเร่ืองน้ีไปกราบทลู พระผูม้ พี ระภาคจงึรบั ส่ังใหภ้ กิ ษุณีท้ังหลายยกสิกขาบทน้ีข้ึนแสดง๙๗๘ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบัญญัตเิ ฉพาะภกิ ษุณี ฉัตตปุ าหนวรรค ฉัตตปุ าหนสกิ ขาบท ๘๔. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อคลิ านา ฉตตฺ ปุ าหน ธาเรยยฺ ปาจิตตฺ ยิ ๙๗๙. อน่งึ ภกิ ษุณใี ดผไู้ ม่เป็นไข้ ก้นั รม่ และสวมรองเท้า ต้องอาบัติปาจติ ตยี ์ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๙ี ๘๐ ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษุณีฉพั พัคคีย์๙๘๑ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ พวกภกิ ษุณีฉัพพคั คีย์ก้นั ร่มและสวมรองเท้า คนทัง้ หลายตาหนิ ประณาม โพนทะนาวา่ เหมือนหญิงคฤหสั ถผ์ ูบ้ รโิ ภคกาม บรรดาภิกษุณี ผ้มู ักนอ้ ย ฯลฯ พากันตาหนิ ประณาม โพนทะนาได้นาเรอื่ งน้ีไปบอกภิกษทุ ั้งหลายใหท้ ราบ พวกภกิ ษุได้นาเร่ืองนไ้ี ปกราบทลู พระผมู้ ีพระภาคให้ทรงทราบทรงประชมุ สงฆ์บัญญตั สิ ิกขาบทแล้วจงึ รับสั่งให้ภกิ ษณุ ีทั้งหลายยกสกิ ขาบทน้ีขนึ้แสดง๙๘๒ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๑ พระอนบุ ญั ญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญตั เิ ฉพาะภกิ ษณุ ี ๙๗๖ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๔๔๑/๔๓๗ ๙๗๗ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๔๔๑/๔๓๗ ๙๗๘ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๔๔๑/๔๓๗ ๙๗๙ กงขฺ า.อ.๘๔/๗๗ (มจร) ๙๘๐ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๔๔๔/๔๓๗ ๙๘๑ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๔๔๔/๔๓๗ ๙๘๒ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๔๔๔/๔๓๗

ยานสกิ ขาบท ๘๕. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อคลิ านา ยาเนน ยาเยยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๙๘๓. อนงึ่ ภิกษุณใี ดผู้ไมเ่ ปน็ ไข้ โดยสารยานไป ตอ้ งอาบัตปิ าจติ ตีย์ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๙ี ๘๔ ๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุณีฉพั พัคคยี ์๙๘๕ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ พวกภกิ ษุณฉี ัพพคั คียโ์ ดยสารยานไป คนท้ังหลายตาหนิ ประณาม โพนทะนาว่า เหมอื นหญิงคฤหสั ถ์ผบู้ ริโภคกาม บรรดาภกิ ษณุ ีผมู้ ักน้อย ฯลฯ พากนั ตาหนิประณาม โพนทะนาได้นาเร่ืองน้ีไปบอกภกิ ษุทั้งหลายให้ทราบ พวกภิกษุได้นาเร่ืองนี้ไปกราบทูลพระผูม้ ีพระภาคให้ทรงทราบแลว้ จึงรับส่ังใหภ้ ิกษณุ ที ั้งหลายยกสิกขาบทขึน้ แสดง๙๘๖ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๑ พระอนุบญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญัติเฉพาะภกิ ษุณี สงั ฆาณสิ กิ ขาบท ๘๖. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี สงฆฺ าณึ ธาเรยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๙๘๗. กภ็ กิ ษุณีใดใชเ้ ครื่องประดบั เอว ต้องอาบตั ิปาจติ ตีย์ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถ๙ี ๘๘ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษณุ ีรูปหนง่ึ ๙๘๙ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษุณรี ูปหนงึ่ เปน็ ภิกษุณีประจาตระกูลของหญงิ คนหน่งึ หญงิ น้ันไดฝ้ ากเครื่องประดบั เอว ไปให้หญงิ ช่ือโนน้ ภิกษุณนี ้ันคดิ วา่ ถ้า เราจะใส่บาตรเดนิ ไป เราต้องเสียหายแน่ จึงสวมเครือ่ งประดับเดินไป เม่ือดา้ ยขาด เครื่องประดับเอวตกเรี่ยราดลงบนถนน คนท้งั หลายตาหนิ ประณามโพนทะนาว่าเหมอื นหญงิ คฤหสั ถผ์ ู้บรโิ ภคกาม บรรดาภกิ ษุณีผมู้ กั น้อย ฯลฯ พากันตาหนิประณาม โพนทะนาได้นาเรื่องน้ีไปบอกภิกษทุ ั้งหลายใหท้ ราบ พวกภกิ ษุได้นาเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผูม้ ีพระภาคใหท้ รงทราบแล้วจงึ รับสั่งให้ภิกษุณที ้ังหลายยกสกิ ขาบทนข้ี ึ้นแสดง๙๙๐ ๙๘๓ กงฺขา.อ.๘๕/๗๗ (มจร) ๙๘๔ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๔๔๙/๔๔๔ ๙๘๕ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๔๔๙/๔๔๔ ๙๘๖ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๔๔๙/๔๔๔ ๙๘๗ กงขฺ า.อ.๘๖/๗๗ (มจร) ๙๘๘ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๔๕๔/๔๔๘ ๙๘๙ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๔๕๔/๔๔๘ ๙๙๐ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๔๕๔/๔๔๘

๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญตั เิ ฉพาะภิกษุณี อติ ถาลงั การสิกขาบท ๘๗. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อติ ถฺ าลงกฺ าร ธาเรยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๙๙๑. ก็ภกิ ษุณีใดใชเ้ ครื่องประดับของสตรี ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๙ี ๙๒ ๒) บุคคลผูก้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษณุ ีฉพั พัคคยี ์๙๙๓ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ พวกภกิ ษุณฉี ัพพัคคยี ์ใช้เครื่องประดับของหญงิ คนทง้ั หลายตาหนิ ประณาม โพนทะนาว่า เหมือนหญงิ คฤหสั ถ์ผบู้ ริโภคกาม บรรดาภิกษุณี ผู้มักนอ้ ย ฯลฯ พากนัตาหนิ ประณาม โพนทะนาไดน้ าเร่อื งนี้ไปบอกภิกษุ ทงั้ หลายใหท้ ราบ พวกภิกษไุ ดน้ าเร่ืองนไี้ ปกราบทลู พระผู้มีพระภาคใหท้ รงทราบแล้วจงึ รบั สงั่ ให้ภกิ ษุณที ั้งหลายยกสกิ ขาบทนีข้ นึ้ แสดง๙๙๔ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญตั เิ ฉพาะภกิ ษณุ ี คันธวณั ณกสกิ ขาบท ๘๘. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี คนธฺ วณฺณเกน นหาเยยยฺ ปาจิตตฺ ยิ ๙๙๕. ก็ภกิ ษุณีใดสรงสนานด้วยของหอมและเคร่ืองยอ้ มผิว ตอ้ งอาบตั ิ ปาจติ ตยี ์ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๙ี ๙๖ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุณีฉัพพัคคีย์๙๙๗ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ พวกภกิ ษุณฉี ัพพัคคยี ส์ รงสนานดว้ ยของหอมและเคร่อื งย้อมผวิ คนทัง้ หลายตาหนิ ประณาม โพนทะนาว่า เหมือนหญงิ คฤหสั ถ์ ผบู้ รโิ ภคกาม บรรดาภกิ ษุณี ผู้ ๙๙๑ กงฺขา.อ.๘๗/๗๗ (มจร) ๙๙๒ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๔๕๗/๔๕๐ ๙๙๓ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๔๕๗/๔๕๐ ๙๙๔ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๔๕๗/๔๕๐ ๙๙๕ กงขฺ า.อ.๘๘/๗๗ (มจร) ๙๙๖ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๔๖๐/๔๕๒ ๙๙๗ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๔๖๐/๔๕๒

มกั น้อย ฯลฯ พากันตาหนิ ประณาม โพนทะนาไดน้ าเร่ืองนีไ้ ปบอกภิกษุท้ังหลายให้ทราบ พวกภกิ ษุได้นาเร่อื งน้ีไปกราบทลู พระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบแลว้ จึงรับส่ังใหภ้ ิกษณุ ีท้ังหลายยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง๙๙๘ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญตั ิเฉพาะภกิ ษุณี วาสติ กสกิ ขาบท ๘๙. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี วาสิตเกน ปิญญฺ าเกน นหาเยยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๙๙๙. กภ็ กิ ษุณีใดสรงสนานดว้ ยแป้งอบกลิ่น ต้องอาบตั ิปาจิตตีย์ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถ๑ี ๐๐๐ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษณุ ีฉพั พัคคีย์๑๐๐๑ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ พวกภิกษุณีฉพั พัคคีย์สรงสนานดว้ ยแปง้ ท่ีอบกล่ิน คนท้งั หลายตาหนิ ประณาม โพนทะนาว่าเหมือนหญงิ คฤหสั ถ์ผ้บู ริโภคกาม บรรดาภกิ ษุณี ผู้มกั น้อย ฯลฯ พากนัตาหนิ ประณาม โพนทะนาไดน้ าเรื่องน้ไี ปบอกภิกษทุ ั้งหลายใหท้ ราบ พวกภิกษุไดน้ าเรื่องน้ีไปกราบทูลพระผมู้ ีพระภาคให้ ทรงทราบแลว้ จึงรบั ส่ังใหภ้ กิ ษณุ ีท้ังหลายยกสกิ ขาบทนข้ี ้นึ แสดง๑๐๐๒ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญัตเิ ฉพาะภิกษุณี ภกิ ขนุ อิ มุ มทั ทาปนสิกขาบท ๙๐. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี ภิกขฺ นุ ยิ า อมุ ฺมททฺ าเปยฺย วา ปรมิ ททฺ าเปยยฺ วา ปาจติ ตฺ ยิ ๑๐๐๓. กภ็ ิกษุณีใดใช้ภกิ ษุณีให้บบี หรือใหน้ วด ตอ้ งอาบตั ปิ าจติ ตีย์ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถ๑ี ๐๐๔ ๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษณุ ีหลายรูป๑๐๐๕ ๙๙๘ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๔๖๐/๔๕๒ ๙๙๙ กงขฺ า.อ.๘๙/๗๗ (มจร) ๑๐๐๐ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๔๖๓/๔๕๔ ๑๐๐๑ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๔๖๓/๔๕๔ ๑๐๐๒ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๔๖๓/๔๕๔ ๑๐๐๓ กงฺขา.อ.๙๐/๗๗ (มจร) ๑๐๐๔ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๔๖๖/๔๕๖ ๑๐๐๕ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๔๖๖/๔๕๖

๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษุณีท้ังหลายใช้ภกิ ษณุ ใี หบ้ ีบบ้าง ใหน้ วดบา้ ง คนท้ังหลายเทยี่ วจารกิ ไปตามวิหารเหน็ แล้วตาหนิ ประณาม โพนทะนา เหมอื นหญิงคฤหัสถ์ผูบ้ รโิ ภคกาม บรรดาภิกษุณี ผมู้ ักนอ้ ย ฯลฯ พากนั ตาหนิ ประณาม โพนทะนาไดน้ าเรอ่ื งนีไ้ ปบอกภกิ ษุ ทั้งหลายให้ทราบ พวกภิกษุไดน้ าเรอ่ื งน้ีไปกราบทูลพระผู้มพี ระภาคให้ทรงทราบแล้วจึงรับสัง่ ใหภ้ กิ ษณุ ีท้ังหลายยกสกิ ขาบทน้ีข้นึ แสดง๑๐๐๖ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบัญญตั เิ ฉพาะภกิ ษุณี สิกขมานอมุ มทั ทาปนสกิ ขาบท ๙๑. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี สกิ ขฺ มานาย อุมมฺ ททฺ าเปยยฺ วา ปรมิ ททฺ าเปยยฺ วา ปาจติ ตฺ ยิ ๑๐๐๗. ก็ภกิ ษุณีใด ใช้สิกขมานาให้บีบหรือให้นวด ตอ้ งอาบัติปาจิตตยี ์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๐๐๘ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษณุ ีหลายรูป๑๐๐๙ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษณุ ีท้ังหลาย(ใชส้ ิกขมานาใหบ้ บี บ้าง ให้นวดบ้างฯลฯ ใชส้ ามเณรใี หบ้ ีบบ้าง ให้นวดบา้ ง ฯลฯ) ใชห้ ญงิ คฤหสั ถ์ ให้บบี บ้าง ให้นวดบา้ ง คนทั้งหลายเท่ยี วจาริกไปตามวหิ ารเหน็ จึงตาหนปิ ระณาม โพนทะนาวา่ เหมือนหญงิ คฤหัสถ์ผู้บรโิ ภคกาม๑๐๑๐ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญัตเิ ฉพาะภิกษณุ ี สามเณรีอมุ มทั ทาปนสกิ ขาบท ๙๒. ยา ปน ภิกขฺ นุ ี สามเณรยิ า อมุ ฺมททฺ าเปยยฺ วา ปรมิ ททฺ าเปยยฺ วา ปาจิตตฺ ยิ ๑๐๑๑. ก็ภกิ ษณุ ีใด ใชส้ ามเณรีให้บบี หรอื ให้นวด ตอ้ งอาบตั ิปาจิตตีย์ ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถ๑ี ๐๑๒ ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษณุ ีหลายรปู ๑๐๑๓ ๑๐๐๖ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๔๖๖/๔๕๖ ๑๐๐๗ กงฺขา.อ.๙๑/๗๘ (มจร) ๑๐๐๘ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๔๖๙/๔๕๘ ๑๐๐๙ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๔๖๙/๔๕๘ ๑๐๑๐ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๔๖๙/๔๕๘ ๑๐๑๑ กงฺขา.อ.๙๒/๗๘ (มจร) ๑๐๑๒ ว.ิ ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๔๗๐/๔๖๐

๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ (ใช้สามเณรีให้บีบบ้าง ใหน้ วดบา้ ง ฯลฯ) ใช้หญงิคฤหสั ถ์ ให้บบี บา้ ง ใหน้ วดบ้าง คนท้ังหลายเท่ียวจาริกไปตามวหิ ารเหน็ จึงตาหนิประณาม โพนทะนาวา่เหมือนหญงิ คฤหสั ถผ์ บู้ รโิ ภคกาม๑๐๑๔ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญัติเฉพาะภกิ ษณุ ี คิหนิ อิ ุมมัททาปนสกิ ขาบท ๙๓. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี คหิ นิ ยิ า อมุ มฺ ททฺ าเปยยฺ วา ปริมททฺ าเปยยฺ วา ปาจติ ตฺ ยิ ๑๐๑๕. ก็ภิกษุณีใด ใชห้ ญงิ คฤหัสถใ์ ห้บีบหรือให้นวด ตอ้ งอาบตั ิปาจิตตีย์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๐๑๖ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษุณีหลายรูป๑๐๑๗ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ใช้หญงิ คฤหัสถ์ ใหบ้ บี บ้าง ใหน้ วดบ้าง คนท้ังหลายเที่ยวจาริกไปตามวหิ ารเหน็ จึงตาหนิประณาม โพนทะนาว่า เหมือนหญิงคฤหัสถผ์ บู้ รโิ ภคกาม๑๐๑๘ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบญั ญตั ิเฉพาะภกิ ษุณี อนาปจุ ฉาสกิ ขาบท ๙๔. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี ภกิ ขฺ สุ สฺ ปรุ โต อนาปจุ ฉฺ า อาสเน นสิ เี ทยยฺ ปาจติ ฺติย๑๐๑๙. ก็ภิกษุณีใดไม่บอกก่อนนัง่ บนอาสนะข้างหนา้ ภิกษุ ตอ้ งอาบัติปาจิตตีย์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๐๒๐ ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษณุ ีหลายรูป๑๐๒๑ ๑๐๑๓ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๔๗๐/๔๖๐ ๑๐๑๔ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๔๗๐/๔๖๐ ๑๐๑๕ กงขฺ า.อ.๙๓/๗๘ (มจร) ๑๐๑๖ ว.ิ ภิกขุนี (ไทย) ๕/๔๗๑/๔๖๑ ๑๐๑๗ วิ.ภกิ ขนุ ี (ไทย) ๕/๔๗๑/๔๖๑ ๑๐๑๘ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๔๗๑/๔๖๑ ๑๐๑๙ กงฺขา.อ.๙๔/๗๘ (มจร) ๑๐๒๐ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๔๗๒/๔๖๓ ๑๐๒๑ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๔๗๒/๔๖๓

๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุณีท้งั หลายไมบ่ อกก่อน นงั่ บนอาสนะขา้ งหนา้ภกิ ษุ ภกิ ษทุ ั้งหลายจงึ ตาหนิ ประณาม โพนทะนาว่า ไฉนพวกภิกษุณีไม่บอกก่อนนั่งบนอาสนะข้างหนา้ ภิกษุพวกภิกษุได้นาเรอื่ งน้ไี ปกราบทูลพระผมู้ ีพระภาคให้ทรงทราบแล้วจึงรบั สงั่ ใหภ้ กิ ษณุ ีท้งั หลายยกสกิ ขาบทนี้ขึ้นแสดง ๑๐๒๒ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญัตเิ ฉพาะภิกษณุ ี ปญั หาปจุ ฉนสกิ ขาบท ๙๕. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อโนกาสกต ภกิ ขฺ ุ ปญหฺ ปจุ เฺ ฉยยฺ ปาจิตตฺ ยิ ๑๐๒๓. กภ็ ิกษณุ ีใดถามปญั หาภกิ ษุที่ตนยงั ไม่ได้ขอโอกาส ต้องอาบตั ิปาจิตตีย์ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถ๑ี ๐๒๔ ๒) บุคคลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษุณีหลายรูป๑๐๒๕ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษณุ ที ง้ั หลายถามปัญหาภิกษุท่ตี นยงั ไม่ได้ขอโอกาส ภกิ ษุทัง้ หลายจึงตาหนิ ประณาม โพนทะนาวา่ ไฉน พวกภกิ ษุณีจึงถามปัญหาภกิ ษุที่ตนยงั ไม่ไดข้ อโอกาสเลา่ ได้นาเรอ่ื งน้ไี ปบอกภิกษทุ ั้งหลายให้ทราบ พวกภกิ ษุไดน้ าเรื่องน้ไี ปกราบทลู พระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบแล้วจึงรบั ส่งั ให้ภกิ ษุณที ั้งหลายยกสกิ ขาบทน้ีขึ้นแสดง๑๐๒๖ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญตั ิเฉพาะภิกษณุ ี อสงั กจั จกิ สิกขาบท ๙๖. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อสกจจฺ กิ า คาม ปวเิ สยยฺ ปาจติ ตฺ ยิ ๑๐๒๗. ก็ภิกษุณีใดไมม่ ผี ้ารัดถันเข้าหมบู่ ้าน ตอ้ งอาบตั ปิ าจิตตีย์ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๐๒๘ ๑๐๒๒ วิ.ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๔๗๒/๔๖๓ ๑๐๒๓ กงขฺ า.อ.๙๕/๗๘ (มจร) ๑๐๒๔ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๔๗๖/๔๖๖ ๑๐๒๕ วิ.ภิกขุนี (ไทย) ๕/๔๗๖/๔๖๖ ๑๐๒๖ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๔๗๖/๔๖๖ ๑๐๒๗ กงขฺ า.อ.๙๖/๗๘ (มจร)

๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษุณีรูปหนึ่ง๑๐๒๙ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษุณีรูปหน่งึ ไม่มผี า้ รดั ถัน เขา้ ไปบิณฑบาตในหมู่บา้ น ขณะท่เี ธอเดนิ อยู่บนถนนลมบา้ หมูพัดเปดิ สังฆาฏิเวกิ ขึน้ คนทง้ั หลายส่งเสยี งวา่ ถันและท้องของแม่เจ้าสวยจริง ภิกษณุ ีน้นั ถกู คนทัง้ หลาย เยาะเยา้ จงึ เก้อเขนิ คร้นั เธอไปถึงที่อยู่จงึ บอกเรื่องน้ันให้ภิกษุณีท้ังหลายทราบ พวกภิกษุไดน้ าเรอ่ื งนไี้ ปกราบทลู พระผู้มพี ระภาคใหท้ รงทราบแลว้ จึงรับสัง่ ใหภ้ กิ ษุณีท้ังหลายยกสิกขาบทนข้ี ึ้นแสดง ๑๐๓๐ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญัติเฉพาะภิกษุณี ๕. ปาฏเิ ทสนยี ะ ๑๐ สกิ ขาบท เฉพาะภกิ ษภุ กิ ษุ ๒ สิกขาบทความนา ปาฏเิ ทสนยี ะ๑๐๓๑ คือสงิ่ ทตี่ อ้ งแสดงคนื ซงึ่ มีทง้ั หมด ๘ สกิ ขาบท ขนั้ ตอนการบญั ญตั สิ ิกขาบทเมอ่ื มีเรือ่ งเกดิ ขน้ึ มีคนตาหนติ เิ ตยี น ภกิ ษุณที งั้ หลายผมู้ กั น้อย ไดย้ นิ พวกชาวบ้านตาหนิ ประณาม โพนทะนา ไดน้ าเรื่องน้ีไปบอกใหภ้ กิ ษทุ ้ังหลายใหท้ ราบ พวกภกิ ษจุ งึ นา้ เร่ืองน้ีไป กราบทลู พระผมู้ พี ระภาคใหท้ รงทราบ พระผู้มพี ระภาคทรงสอบถามเรอื่ งราวทง้ั หมดแลว้ ทรงตาหนิแลว้ ทรงบญั ตั สิ ิกขาบทโดยอาศยั อานาจประโยชน์ ๑๐อยา่ งในการบญั ญตั สิ ิกขาบท ปฐมปาฏเิ ทสนยี สกิ ขาบท ๑. โย ปน ภกิ ฺขุ อญญฺ าตกิ าย ภกิ ฺขนุ ยิ า อนตฺ รฆร ปวฏิ ฐฺ ฃาย หตฺถโต ขาทนยี วา โภชนยี วา สหตฺถาปฏคิ คฺ เหตวฺ า ขาเทยยฺ วา ภญุ เฺ ชยยฺ วา ปฏเิ ทเสตพฺพ เตน ภกิ ขฺ นุ า “คารยหฺ อาวโุ ส ธมมฺ อาปชชฺ ึ อสปปฺ ายปาฏเิ ทสนยี ต ปฏิเทเสมี”ต๑ิ ๐๓๒. ๑๐๒๘ ว.ิ ภกิ ขุนี (ไทย) ๕/๔๘๐/๔๖๙ ๑๐๒๙ ว.ิ ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๔๘๐/๔๖๙ ๑๐๓๐ วิ.ภิกขนุ ี (ไทย) ๕/๔๘๐/๔๖๙ ๑๐๓๑ (บาลีดูใน กงฺขาวติ รณีอฏฐฺ ฃกถา คาแปลดใู นวินัยปฎิ ก เล่ม ๒, สถานที่ บุคคล มูลเหตุ บญั ญัตแิ ละประเภทของบญั ญตั ิ ดใู น กงฺขาวติ รณอี ฏฐฺ ฃกถา และ วนิ ยั ปฎิ ก เลม่ ๘) ๑๐๓๒ ว.ิ มหาวิ.๒/๕๕๔/๔๔๒(ไทย)

ก็ ภกิ ษุใดรับของเค้ียวหรือของฉนั ด้วยมือตนเองจากมือของภิกษุณีผ้ไู ม่ใชญ่ าติผเู้ ข้าไปในละแวกบ้าน เคยี้ วหรือฉัน ภกิ ษนุ น้ั พงึ แสดงคนื วา่ “ท่าน กระผมต้องธรรมคือปาฏเิ ทสนียะ เป็นธรรมท่ีนา่ ตาหนิ ไม่เปน็ สปั ปายะ กระผมขอแสดงคนื ธรรมนนั้ ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๐๓๓ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุรปู ใดรปู หน่งึ ๑๐๓๔ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ การรบั ของเคย้ี วหรือของฉันด้วยมือตนเองจากมือของภิกษณุ ผี ู้ไมใ่ ชญ่ าตผิ ูเ้ ขา้ ไปในละแวกบ้าน เคีย้ วหรอื ฉนั ๑๐๓๕ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ๑๐๓๖ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญตั ิเฉพาะภกิ ษุ๑๐๓๗ ตตยิ ปาฏเิ ทสนยี สกิ ขาบท ๓. ยานิ โข ปน ตานิ เสกขฺ สมมฺ ตานิ กลุ านิ โย ปน ภกิ ขฺ ุ ตถารเู ปสุ เสกขฺ สมมฺ เตสุ กเุ ลสุ ปุพเฺ พอนมิ นตฺ โิ ต อคลิ าโน ขาทนีย วา โภชนยี วา สหตถฺ า ปฏคิ ฺคเหตวฺ า ขาเทยยฺ วา ภญุ เฺ ชยยฺ วา ปฏเิ ทเสตพพฺ เตนภกิ ฺขนุ า “คารยหฺ อาวโุ ส ธมมฺ อาปชชฺ ึ อสปปฺ าย ปาฏเิ ทสนยี ต ปฏเิ ทเสม”ี ต๑ิ ๐๓๘. อนึ่ง ภิกษุใดไม่ไดร้ บั นมิ นต์ไว้กอ่ น ไมเ่ ป็นไข้ รับของเคย้ี วหรือของฉันในตระกูลทีไ่ ดร้ บั สมมตเิ ป็นเสขะเช่นน้นั ดว้ ยมอื ตนเองแล้วเคยี้ วหรอื ฉนั ภิกษนุ นั้ พงึ แสดงคนื ว่า “ท่านทัง้ หลาย กระผมตอ้ งธรรมคือปาฏิเทสนยี ะ เป็นธรรมท่ีนา่ ตาหนิ ไม่เปน็ สปั ปายะ กระผมขอแสดงคืนธรรมนน้ั ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๐๓๙ ๒) บคุ คลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษุหลายรูป๑๐๔๐ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ การไม่รจู้ ักประมาณแลว้ รบั อาหารมาฉัน๑๐๔๑ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๑ พระอนบุ ญั ญัติ๑๐๔๒ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญตั ิเฉพาะภิกษุ๑๐๔๓ ๑๐๓๓ กงฺข.อฏฺ.๓๑๘ (มจร) ๑๐๓๔ กงฺข.อฏ.ฺ ๓๑๘ (มจร) ๑๐๓๕ กงฺข.อฏฺ.๓๑๘ (มจร) ๑๐๓๖ กงขฺ .อฏ.ฺ ๓๑๘ (มจร) ๑๐๓๗ กงขฺ .อฏฺ.๓๑๘ (มจร) ๑๐๓๘ ว.ิ มหาวิ.๒/๕๖๖/๔๔๘(ไทย)วิ.๒/๕๖๖/๒๓๓ (ม) ๑๐๓๙ กงขฺ .อฏฺ.๓๒๐ (มจร) ๑๐๔๐ กงฺข.อฏฺ.๓๒๐ (มจร) ๑๐๔๑ กงฺข.อฏ.ฺ ๓๒๐ (มจร) ๑๐๔๒ กงขฺ .อฏ.ฺ ๓๒๐ (มจร)

๑๐๔๓ กงขฺ .อฏ.ฺ ๓๒๐ (มจร)

เฉพาะภกิ ษุณี ๘ สกิ ขาบท (บาลดี ูใน กงฺขาวติ รณีอฏฐฺ ฃกถา คาแปลดใู นวินัยปฎิ ก เล่ม ๓, สถานที่ บคุ คล มลู เหตุ บัญญตั แิ ละประเภทของบัญญัติ ดูใน กงฺขาวติ รณีอฏฺฐฃกถา และ วนิ ัยปิฎก เลม่ ๘) สปั ปวิ ญิ ญาปนสกิ ขาบท ๑. ยา ปน ภกิ ฺขนุ ี อคลิ านา สปปฺ ึ วิญญฺ าเปตวฺ า ภญุ ฺเชยยฺ ปฏเิ ทเสตพฺพ ตาย ภกิ ฺขนุ ยิ า “คารยหฺอยเฺ ย ธมฺม อาปชชฺ ึ อสปฺปาย ปาฏเิ ทสนยี ต ปฏิเทเสมี”ต.ิ อนง่ึ ภกิ ษุณใี ดผู้ไม่เปน็ ไข้ออกปากขอเนยใสมาฉัน ภกิ ษุณีนน้ั พึงแสดงคนื วา่ “แม่เจ้า ดฉิ นั ต้องธรรมคือปาฏเิ ทสนยี ะ เป็นธรรมทน่ี า่ ตเิ ตียน ไม่เปน็ สปั ปายะ ดฉิ นั ขอแสดงคนื ธรรมนน้ั ” ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษณุ ีฉพั พัคคยี ์ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษณุ ีฉัพพัคคีย์ออกปากขอ เนยใสมาฉนั คนทง้ั หลายจงึ ตาหนิ ประณาม โพนทะนาว่า ไฉนพวกภิกษณุ ีจงึ ออกปากขอเนยใสมาฉัน ใครเลา่ จะไมช่ อบใจอาหารทป่ี รงุ ดีพร้อม ใครเล่าจะไมช่ อบของเอรด็ อร่อย ภกิ ษณุ ีท้งั หลาย บรรดาภกิ ษณุ ี ผูม้ ักน้อย ฯลฯ พากนัตาหนิ ประณาม โพนทะนาไดน้ าเร่ืองน้ีไปบอกภกิ ษทุ ั้งหลาย พวกภกิ ษุไดน้ าเร่ืองนี้ไปกราบทูล พระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบแล้วรับสง่ั ใหภ้ กิ ษณุ ที ั้งหลายยกสกิ ขาบทน้ีข้นึ แสดง ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๑ พระอนบุ ญั ญัติ อนง่ึ ภกิ ษุณีใดผู้ไม่เป็นไข้ออกปากขอเนยใสมาฉนั ภิกษุณนี นั้ พึงแสดงคนืวา่ “แมเ่ จ้า ดฉิ ันต้องธรรมคือปาฏิเทสนียะ เป็นธรรมท่ีนา่ ติเตียน ไม่เป็นสัปปายะ ดฉิ ันขอแสดงคืนธรรมน้ัน” ๔.๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถี ๔.๒) บุคคลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษณุ เี ปน็ ไข้ ๔.๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษณุ ีทง้ั หลายเป็นไข้ พวกภกิ ษุณีผู้ถามอาการไข้ได้กลา่ ว กบั ภกิ ษณุ เี หลา่ นนั้ ดังนี้วา่ แมเ่ จา้ พวกทา่ นยงั สบายดีหรอื ยงั พอเป็นอยู่ไดห้ รือพวกภิกษุณผี ู้เป็นไข้กล่าวว่า แมเ่ จา้ เมอ่ื ก่อนพวกดิฉนั ออกปากขอเนยใสมา ฉนั ได้ เพราะเหตนุ ั้น พวกดิฉนั จึงมีความผาสุก แตบ่ ัดน้ีพวกดิฉันยาเกรงอยูว่ ่า พระผมู้ ีพระภาคทรงห้าม จงึ ไม่กล้าออกปากขอ เพราะเหตุนน้ั จึงไม่มคี วามผาสุก ภกิ ษุทง้ั หลายไดก้ ราบทลู พระผ้มู ีพระภาคให้ทรงทราบ ฯลฯทรงอนญุ าตเนยใส พระผ้มู ีพระภาคทรงอนญุ าตวา่ ภิกษุท้งั หลาย เราอนญุ าตให้ภิกษณุ ผี ูเ้ ป็นไข้ ออกปากขอเนยใสมาฉันได้ แลว้ รับส่ังให้ภกิ ษุณีท้งั หลายยกสิกขาบทน้ีข้นึ แสดง ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญัตเิ ฉพาะภิกษุณี เตลวญิ ญาปนสกิ ขาบท ๒. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อคลิ านา เตล วญิ ญฺ าเปตวฺ า ภญุ เฺ ชยยฺ ปฏเิ ทเสตพพฺ ตาย ภกิ ขฺ นุ ยิ า “คารยหฺอยเฺ ย ธมมฺ อาปชชฺ ึ อสปฺปาย ปาฏเิ ทสนยี ต ปฏเิ ทเสมตี .ิ [๑๒๓๖] อน่ึง ภกิ ษณุ ีใดผูไ้ ม่เป็นไข้ออกปากขอนา้ มันมาฉนั ภกิ ษณุ นี ั้นพงึ แสดงคืนวา่ “แม่เจ้าดิฉันตอ้ งธรรมคอื ปาฏเิ ทสนยี ะ เป็นธรรมทน่ี า่ ตเิ ตยี น ไมเ่ ปน็ สปั ปายะ ดิฉันขอแสดงคืนธรรมนนั้ ” นา้ ผ้ึง ฯลฯ

นา้ ออ้ ย ฯลฯ ปลา ฯลฯ เน้ือ ฯลฯ นมสด ฯลฯ) นมเปรี้ยวมาฉนั ภกิ ษณุ ีนน้ั พงึ แสดงคืนวา่ “แมเ่ จ้า ดิฉันต้องธรรมคือปาฏิเทสนยี ะ เปน็ ธรรมทน่ี า่ ติเตยี น ไมเ่ ปน็ สปั ปายะ ดฉิ ันขอแสดงคืนธรรมนน้ั ” ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถี ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษณุ ีฉพั พัคคีย์ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ พวกภิกษุณีฉัพพัคคยี ์ออกปากขอน้ามนั มาฉนั ฯลฯออกปากขอนา้ ผึ้งมาฉัน ฯลฯ ออกปากขอนา้ อ้อยมาฉัน ฯลฯ ออกปากขอปลามาฉัน ฯลฯ ออกปากขอเนอ้ื มาฉนั ฯลฯ ออกปากขอนมสดมาฉัน ฯลฯ ออกปากขอนมเปร้ียวมาฉนั คนทง้ั หลายจึงตาหนิ ประณาม โพนทะนาวา่ ไฉนพวกภิกษณุ จี ึงออกปากขอนมเปรี้ยวมาฉันเลา่ ใครเลา่ จะไมช่ อบใจอาหารที่ปรุง ดพี รอ้ ม ใครเลา่ จะไม่ชอบใจของที่เอร็ดอร่อย ลาดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งใหป้ ระชุมสงฆเ์ พราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุ ทรงสอบถามภกิ ษทุ งั้ หลายแลว้ จงึ รับสัง่ ให้ภกิ ษณุ ีทั้งหลายยกสิกขาบทน้ขี น้ึ แสดง ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ ๑ พระอนุบญั ญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบัญญตั ิเฉพาะภกิ ษณุ ี มธวุ ญิ ญาปนสิกขาบท ๓. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อคลิ านา มธุ วญิ ญฺ าเปตวฺ า ภญุ ฺเชยยฺ ปฏเิ ทเสตพพฺ ตาย ภกิ ฺขนุ ยิ า “คารยฺห อยฺเย ธมมฺ อาปชชฺ ึ อสปปฺ าย ปาฏเิ ทสนยี ต ปฏเิ ทเสมตี .ิ [๑๒๓๖] อนง่ึ ภกิ ษุณใี ดผู้ไมเ่ ป็นไข้ออกปากขอน้าผ้งึ มาฉัน ภกิ ษณุ ีน้นั พงึ แสดงคืนวา่ “แม่เจ้าดิฉันตอ้ งธรรมคอื ปาฏิเทสนยี ะ เปน็ ธรรมที่น่าติเตียน ไม่เป็นสัปปายะ ดฉิ ันขอแสดงคืนธรรมนัน้ ” ฯลฯ นา้ ออ้ ยฯลฯ ปลา ฯลฯ เนอื้ ฯลฯ นมสด ฯลฯ) นมเปรย้ี วมาฉนั ภกิ ษณุ นี ัน้ พงึ แสดงคืนวา่ “แม่เจ้า ดิฉนั ต้องธรรมคือปาฏิเทสนียะ เปน็ ธรรมที่น่าติเตยี น ไมเ่ ปน็ สปั ปายะ ดฉิ ันขอแสดงคืนธรรมนัน้ ” ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถี ๒) บุคคลผูก้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุณีฉัพพัคคีย์ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ พวกภิกษณุ ฉี ัพพคั คีย์ ออกปากขอน้าผ้ึงมาฉัน คนทง้ั หลายจึงตาหนิ ประณาม โพนทะนาวา่ ไฉนพวกภกิ ษุณจี ึงออกปากขอนมเปร้ียวมาฉันเลา่ ใครเล่าจะไมช่ อบใจอาหารทีป่ รงุ ดีพร้อม ใครเลา่ จะไมช่ อบใจของท่ีเอร็ดอร่อย ลาดับนัน้ พระผ้มู ีพระภาครับส่งั ให้ประชุมสงฆ์เพราะเร่ืองนี้เป็นตน้ เหตุ ทรงสอบถามภกิ ษุทั้งหลายแล้วจงึ รับสง่ั ใหภ้ กิ ษณุ ที ้ังหลายยกสิกขาบทนข้ี ึ้นแสดง ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ ๑ พระอนุบญั ญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญตั เิ ฉพาะภิกษุณี ผาณติ วญิ ญาปนสกิ ขาบท

๔. ยา ปน ภกิ ขฺ ุนี อคลิ านา ผาณติ วญิ ญฺ าเปตวฺ า ภญุ ฺเชยยฺ ปฏเิ ทเสตพพฺ ตาย ภกิ ขฺ นุ ิยา “คารยหฺอยเฺ ย ธมมฺ อาปชชฺ ึ อสปปฺ าย ปาฏเิ ทสนยี ต ปฏิเทเสมตี .ิ [๑๒๓๖] อนึ่ง ภกิ ษณุ ใี ดผู้ไม่เปน็ ไข้ออกปากขอน้าออ้ ยมาฉัน ภกิ ษุณีนั้นพงึ แสดงคนื ว่า “แม่เจา้ ดฉิ ันตอ้ งธรรมคือปาฏิเทสนยี ะ เป็นธรรมท่นี า่ ตเิ ตยี น ไม่เป็นสัปปายะ ดิฉันขอแสดงคืนธรรมนัน้ ” ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษณุ ีฉัพพัคคยี ์ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แกพ่ วกภกิ ษุณฉี ัพพัคคยี ์ ออกปากขอนา้ อ้อยมาฉัน คนทั้งหลายจงึ ตาหนิ ประณาม โพนทะนาวา่ ไฉนพวกภิกษุณีจึงออกปากขอนมเปรยี้ วมาฉันเลา่ ใครเล่าจะไมช่ อบใจอาหารทีป่ รุง ดีพร้อม ใครเล่าจะไมช่ อบใจของที่เอร็ดอร่อย ลาดบั น้นั พระผ้มู ีพระภาครบั สั่งใหป้ ระชมุ สงฆเ์ พราะเรื่องนี้เป็นตน้ เหตุ ทรงสอบถามภิกษทุ ้ังหลายแลว้ จงึ รับส่งั ให้ภิกษณุ ที ้ังหลายยกสกิ ขาบทนข้ี นึ้ แสดง ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ ๑ พระอนบุ ัญญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบญั ญัตเิ ฉพาะภิกษุณี มัจฉวญิ ญาปนสกิ ขาบท ๕. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อคลิ านา มจฉฺ วญิ ฺญาเปตวฺ า ภญุ เฺ ชยยฺ ปฏเิ ทเสตพพฺ ตาย ภกิ ฺขนุ ยิ า “คารยหฺอยเฺ ย ธมมฺ อาปชชฺ ึ อสปฺปาย ปาฏเิ ทสนยี ต ปฏเิ ทเสมตี .ิ [๑๒๓๖] อน่ึง ภิกษุณใี ดผูไ้ มเ่ ปน็ ไขอ้ อกปากขอปลามาฉนั ภกิ ษุณีน้ันพงึ แสดงคนื ว่า “แม่เจา้ดฉิ นั ต้องธรรมคือปาฏเิ ทสนยี ะ เปน็ ธรรมทน่ี า่ ติเตียน ไม่เป็นสปั ปายะ ดฉิ นั ขอแสดงคืนธรรมนนั้ ” ๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถี ๒) บุคคลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุณีฉัพพัคคีย์ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ พวกภกิ ษณุ ีฉพั พัคคยี ์ ออกปากขอปลามาฉนั คนท้ังหลายจึงตาหนิ ประณาม โพนทะนาวา่ ไฉนพวกภิกษุณีจึงออกปากขอนมเปรย้ี วมาฉนั เลา่ ใครเลา่ จะไม่ชอบใจอาหารทป่ี รุง ดพี ร้อม ใครเล่าจะไม่ชอบใจของทีเ่ อร็ดอร่อย ลาดบั นน้ั พระผู้มีพระภาครบั สั่งใหป้ ระชุมสงฆเ์ พราะเรือ่ งน้ีเป็นตน้ เหตุ ทรงสอบถามภกิ ษุท้งั หลายแลว้ จึงรับสัง่ ใหภ้ ิกษณุ ที ้ังหลายยกสิกขาบทนขี้ ึ้นแสดง ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ ๑ พระอนบุ ัญญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญัตเิ ฉพาะภกิ ษณุ ี มังสวญิ ญาปนสกิ ขาบท ๖. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อคลิ านา มส วญิ ญฺ าเปตวฺ า ภญุ เฺ ชยยฺ ปฏเิ ทเสตพฺพ ตาย ภกิ ขฺ นุ ยิ า “คารยหฺอยเฺ ย ธมมฺ อาปชชฺ ึ อสปฺปาย ปาฏเิ ทสนยี ต ปฏเิ ทเสมตี .ิ

[๑๒๓๖] อนง่ึ ภิกษุณใี ดผ้ไู ม่เปน็ ไขอ้ อกปากขอเน้ือมาฉนั ภิกษุณีนั้นพึงแสดงคืนวา่ “แม่เจา้ดิฉันต้องธรรมคือปาฏิเทสนียะ เป็นธรรมท่ีน่าตเิ ตยี น ไมเ่ ป็นสัปปายะ ดิฉันขอแสดงคนื ธรรมนน้ั ” ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถี ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุณีฉัพพัคคยี ์ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ พวกภกิ ษุณีฉัพพคั คีย์ ออกปากขอเน้ือมาฉัน คนทัง้ หลายจงึ ตาหนิ ประณาม โพนทะนาวา่ ไฉนพวกภกิ ษุณจี ึงออกปากขอนมเปรีย้ วมาฉนั เล่า ใครเลา่ จะไม่ชอบใจอาหารที่ปรงุ ดพี ร้อม ใครเล่าจะไมช่ อบใจของท่เี อร็ดอร่อย ลาดับน้นั พระผ้มู ีพระภาครบั สงั่ ใหป้ ระชุมสงฆ์เพราะเรือ่ งนี้เปน็ ต้นเหตุ ทรงสอบถามภกิ ษุทัง้ หลายแลว้ จงึ รบั สั่งใหภ้ กิ ษณุ ีทั้งหลายยกสิกขาบทนขี้ ึ้นแสดง ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ ๑ พระอนบุ ญั ญตั ิ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญัตเิ ฉพาะภกิ ษุณี ขีรวญิ ญาปนสกิ ขาบท ๗. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อคลิ านา ขรี วญิ ญฺ าเปตวฺ า ภญุ เฺ ชยยฺ ปฏเิ ทเสตพฺพ ตาย ภกิ ขฺ นุ ยิ า “คารยหฺอยเฺ ย ธมฺม อาปชชฺ ึ อสปฺปาย ปาฏเิ ทสนยี ต ปฏเิ ทเสมตี .ิ [๑๒๓๖] อน่ึง ภิกษุณีใดผูไ้ ม่เปน็ ไข้ออกปากขอนมสดมาฉนั ภกิ ษุณนี ้ันพงึ แสดงคืนวา่ “แม่เจา้ดิฉันต้องธรรมคือปาฏิเทสนียะ เปน็ ธรรมทีน่ า่ ตเิ ตยี น ไมเ่ ป็นสัปปายะ ดฉิ ันขอแสดงคนื ธรรมน้ัน” ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถี ๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษณุ ีฉัพพัคคยี ์ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ พวกภิกษุณีฉัพพัคคยี ์ออกปากขอนมสดมาฉัน คนทัง้ หลายจงึ ตาหนิ ประณาม โพนทะนาว่าไฉนพวกภกิ ษุณีจึงออกปากขอนมเปรีย้ วมาฉนั เลา่ ใครเล่าจะไม่ชอบใจอาหารท่ปี รุง ดีพร้อม ใครเล่าจะไมช่ อบใจของทีเ่ อร็ดอร่อย ลาดับนั้น พระผู้มีพระภาครบั สงั่ ให้ประชุมสงฆ์เพราะเรื่องน้ีเปน็ ตน้ เหตุ ทรงสอบถามภิกษทุ ้ังหลายแลว้ จึงรับสัง่ ใหภ้ ิกษณุ ที ั้งหลายยกสิกขาบทนขี้ ึ้นแสดง ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ ๑ พระอนุบัญญัติ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบัญญัตเิ ฉพาะภกิ ษณุ ี ทธวิ ญิ ญาปนสกิ ขาบท ๘. ยา ปน ภกิ ขฺ นุ ี อคลิ านา ทธึ วญิ ฺญาเปตวฺ า ภญุ เฺ ชยยฺ ปฏเิ ทเสตพพฺ ตาย ภกิ ฺขนุ ยิ า “คารยหฺอยเฺ ย ธมมฺ อาปชชฺ ึ อสปปฺ าย ปาฏเิ ทสนยี ต ปฏิเทเสมี”ต๑ิ ๐๔๔. อน่งึ ภิกษุณีใดผไู้ ม่เป็นไข้ออกปากขอนมเปรย้ี วมาฉนั ภิกษณุ นี นั้ พึงแสดงคืนวา่ “แม่เจ้า ดิฉนั ต้องธรรมคือปาฏิเทสนียะ เปน็ ธรรมท่นี า่ ตเิ ตยี น ไม่เปน็ สัปปายะ ดิฉันขอแสดงคนื ธรรมน้นั ”๑๐๔๔


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook