๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถ๑ี ๐๔๕ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุณเี ปน็ ไข้๑๐๔๖ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ พวกภกิ ษณุ ฉี ัพพัคคยี อ์ อกปากขอนมเปรีย้ วมาฉัน คนท้งั หลายจงึ ตาหนิ ประณาม โพนทะนาว่าไฉนพวกภกิ ษุณีจึงออกปากขอนมเปร้ยี วมาฉนั เลา่ ใครเลา่ จะไม่ชอบใจอาหารทปี่ รุง ดีพร้อม ใครเลา่ จะไมช่ อบใจของทเี่ อร็ดอร่อย๑๐๔๗ ลาดบั นน้ั พระผู้มีพระภาครับสงั่ ให้ประชุมสงฆเ์ พราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุ ทรงสอบถามภกิ ษุทง้ั หลายแลว้ จงึ รับสั่งให้ภกิ ษุณีท้ังหลายยกสิกขาบทนขี้ ้นึ แสดง ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ๑๐๔๘ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญตั ิเฉพาะภิกษณุ ี๑๐๔๙ ๖. เสขยิ วัตร ๗๒ สกิ ขาบท (บาลดี ูใน กงฺขาวติ รณีอฏฐฺ ฃกถา คาแปลดูในวินัยปฎิ ก เล่ม ๒, สถานที่ บุคคล มูลเหตุ บัญญัติและประเภทของบญั ญัติ ดใู น กงขฺ าวิตรณอี ฏฺฐฃกถา, วนิ ยั ปฎิ ก เลม่ ๘ และภกิ ขปุ าตโิ มกข์แปล พรอ้ มมาติกาสาหรบัวินจั ฉยั สกิ ขาบท ของพระมหาธติ ิพงศ์ อตุ ตมปญั โญ) ๗๒ ขอ้ บญั ญัติที่สาวัตถี ปรารภภิกษุฉัพพัคคยี ์ (กงฺขาวิตรณีอฏฺฐฃกถา หน้า ๓๒๓ ยอ่ หน้าท่ี ๓) ข้อท่ีไม่ไดบ้ ญั ญัติทีส่ าวัตถี มี ๓ สิกขาบท คือ ๕๑ (โกสัมพี ปรารภภกิ ษหุ ลายรปู ) (กงฺขาวิตรณีอฏฐฺ ฃกถา หน้า ๓๒๓ ยอ่ หน้าท่ี ๓) ๕๕ (แควน้ ภัคคะ ปรารภภกิ ษุหลายรปู ) (กงขฺ าวิตรณอี ฏฐฺ ฃกถา หนา้ ๓๒๓ ย่อหน้าที่ ๓) ๕๖ (แคว้นภคั คะ ปรารภภกิ ษุหลายรปู ) (กงขฺ าวิตรณีอฏฺฐฃกถา หน้า ๓๒๓ ยอ่ หน้าท่ี ๓) ท้ัง ๗๕ ข้อ เป็นสาธารณบญั ญัติ คอื เป็นข้อบัญญัตทิ ่วั ไปทั้งภกิ ษุและภิกษณุ ี ปรมิ ณั ฑลวรรค ปรมิ ณั ฑลสกิ ขาบท ๑. ปรมิ ณฑฺ ล นวิ าเสสสฺ ามีติ สิกขฺ า กรณียา. พงึ ทาความสาเหนยี กว่า เราจักครองอนั ตรวาสกให้เรยี บร้อย๑๐๔๕๑๐๔๖๑๐๔๗๑๐๔๘๑๐๔๙
๑๐๕๐ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถ๑ี ๐๕๑ ๒) บุคคลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษฉุ ัพพัคคยี ์๑๐๕๒ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ พระฉัพพัคคยี ์นงุ่ ผ้าเลอื้ ยหนา้ บ้าง เลือ้ ยหลังบา้ งชาวบ้านพากันเพ่งโทษ ตเิ ตยี น โพนทะนาวา่ ไฉน พระสมณะเชือ้ สายพระศากยบตุ ร จงึ ไดน้ งุ่ ผ้าเล้อื ยหนา้ บ้างเลื้อยหลังบา้ ง เหมอื นพวกคฤหสั ถ์ผ้บู ริโภคกามเลา่ ภิกษุทง้ั หลายไดย้ ินชาวบ้านเหลา่ น้นั พากันเพ่งโทษ ตเิ ตียนโพนทะนา๑๐๕๓ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ อนั ภกิ ษนุ งุ่ ปิดมณฑลสะดือ มณฑลเข่า ช่อื ว่านงุ่ เป็นปรมิ ณฑล. ภิกษุใดอาศยั ความไมเ่ อ้ือเฟ้ือ นุง่ ผ้าเลื้อยหน้าหรอื เลื้อยหลัง ต้องอาบัติทุ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบญั ญตั ิทว่ั ไปทั้งภิกษุและภิกษุณี๑๐๕๔ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไมแ่ กล้ง ๑ ไม่มสี ติ ๑ ไมร่ ู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ มอี นั ตราย ๑ วิกลจรติ ๑อาทิกมั มิกะ ๑ ไม่ตอ้ งอาบัติ๑๐๕๕ ทุตยิ ปรมิ ณั ฑลสกิ ขาบท ๒. ปรมิ ณฑฺ ล ปารปุ สิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๐๕๖ พงึ ทาความสาเหนยี กวา่ เราจักครองอุตตราสงคใ์ หเ้ รยี บรอ้ ย ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๐๕๗ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษุฉัพพัคคยี ์๑๐๕๘ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ พระฉัพพัคคีย์ห่มผ้าเลอ้ื ยหน้าบ้าง เลื้อยหลงั บ้างชาวบ้านพากนั เพ่งโทษ ตเิ ตียน โพนทะนาวา่ ไฉน พระสมณะเชือ้ สายพระศากยบตุ ร จงึ ไดน้ ุ่งผา้ เลื้อยหนา้ บ้างเลอื้ ยหลงั บา้ ง เหมอื นพวกคฤหัสถผ์ ูบ้ ริโภคกามเลา่ ภกิ ษทุ ้ังหลายไดย้ นิ ชาวบา้ นเหลา่ นั้นพากันเพ่งโทษ ตเิ ตยี นโพนทะนา๑๐๕๙ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อนั ภิกษุน่งุ ปิดมณฑลสะดอื มณฑลเขา่ ช่อื ว่านุ่งเป็นปรมิ ณฑล. ภกิ ษใุ ดอาศยั ความไมเ่ อ้ือเฟื้อ นุง่ ผ้าเล้ือยหน้าหรือเล้ือยหลงั ต้องอาบตั ทิ ุกกฏ๑๐๖๐ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบัญญัติท่ัวไปท้ังภกิ ษุและภิกษุณี๑๐๖๑๑๐๕๐ วิ.มหา. ๒/๕๗๖/๔๕๖ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๕๗๖/๒๓๙ (ม)๑๐๕๑ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๐๕๒ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๙๙๑๐๕๓ กงฺขา.อ. ๓๒๓ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๙๙๑๐๕๔ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๐๕๕ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๐๕๖ วิ.มหา. ๒/๕๗๗/๔๕๗ (ทยฺย) ว.ิ มหา. ๒/๕๗๗/๒๔๐ (ม)๑๐๕๗ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๐๕๘ กงฺขา.อ. ๓๒๓ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๐๑๐๕๙ กงฺขา.อ. ๓๒๓ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๐๑๐๖๐ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๐
๖) อนาปัตตวิ าร ไม่แกลง้ ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ตู้ ัว ๑ อาพาธ ๑ มีอนั ตราย ๑ วกิ ลจรติ ๑ อาทกิ ัมมกิ ะ ๑ไม่ต้องอาบัติ๑๐๖๒สปุ ปฏจิ ฉนั นสกิ ขาบท ๓. สปุ ปฺ ฏจิ ฉฺ นโฺ น อนตฺ รฆเร คมสิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๐๖๓ พึงสาเหนยี กวา่ เราจักปกปดิ กายใหด้ ี ไปในละแวกบ้าน ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๐๖๔ ๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษุฉัพพัคคีย์๑๐๖๕ ๓) มูลเหตแุ หง่ การบัญญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษุฉัพพคั คยี ์ไม่ปกปิดกายด้วยดเี ขา้ ไปในละแวกบ้าน ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัตอิ ันภิกษุพงึ ปิดกายดว้ ยดีไปในละแวกบ้าน. ภิกษใุ ดอาศยั ความไม่เอื้อเฟื้อ เดนิ เปิดกายไปในละแวกบ้าน ต้องอาบตั ทิ กุ กฏ.๑๐๖๖ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญัติทวั่ ไปท้ังภิกษุและภิกษุณี๑๐๖๗ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไมแ่ กลง้ ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ตู้ ัว ๑ อาพาธ ๑ มอี นั ตราย ๑ วกิ ลจรติ ๑ อาทิกัมมิกะ๑ไม่ต้องอาบตั ๑ิ ๐๖๘ ทตุ ยิ สปุ ปฏจิ ฉันนสกิ ขาบท ๔. สปุ ปฺ ฏจิ ฉฺ นโฺ น อนตฺ รฆเร นสิ ที สิ สฺ ามตี ิ สิกขฺ า กรณยี า.๑๐๖๙ พงึ ทาความสาเหนียกวา่ เราจักปกปิดกายให้ดี นัง่ ในละแวกบ้าน ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๐๗๐ ๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษุฉัพพัคคยี ์๑๐๗๑ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ ัพพคั คีย์ไมป่ กปดิ กายด้วยดีนงั่ ในละแวกบ้าน ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั อิ ันภกิ ษพุ งึ ปิดกายด้วยดี น่งั ในละแวกบ้าน. ภิกษใุ ดอาศยั ความไม่เอือ้ เฟ้ือ นงั่ เปิดกายในละแวกบา้ น ตอ้ งอาบัติทุกกฏ.๑๐๗๒๑๐๖๑ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๐๖๒ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๐๖๓ ว.ิ มหา. ๒/๕๗๘/๔๕๗ (ทยฺย) วิ.มหา. ๒/๕๗๘/๒๔๐ (ม)๑๐๖๔ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๐๖๕ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๐๖๖ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๐ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๐๑๐๖๗ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๐๖๘ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๐๖๙ ว.ิ มหา. ๒/๕๗๙/๔๕๘ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๕๗๙/๒๔๐ (ม)๑๐๗๐ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๐๗๑ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๐๗๒ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๐ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๐
๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญัติท่ัวไปทั้งภิกษุและภิกษุณี๑๐๗๓ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไมแ่ กลง้ ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ู้ตวั ๑ อาพาธ ๑ อยู่ในที่พกั ๑ มีอนั ตราย ๑วกิ ลจรติ ๑ อาทกิ ัมมกิ ะ ๑ ไม่ตอ้ งอาบัติ๑๐๗๔สสุ งั วตุ สิกขาบท ๕. สสุ วโุ ต อนตฺ รฆเร คมสิ สฺ ามีติ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๐๗๕ พงึ ทาความสาเหนยี กว่า เราจักสารวมดี ไปในละแวกบ้าน ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๐๗๖ ๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคีย์๑๐๗๗ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษุฉพั พัคคีย์ไมส่ ารวมเขา้ ไปในระแวกบ้าน ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ อนั ภิกษุพึงสารวมดว้ ยดไี ปในละแวกบ้าน. ภกิ ษุใดอาศยั ความไม่เออื้ เฟื้อ คะนองมือก็ดคี ะนองเท้ากด็ ี ไปในละแวกบ้าน ต้องอาบัติทุกกฏ.๑๐๗๘ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญัติทั่วไปทั้งภิกษุและภกิ ษุณี๑๐๗๙ ๖) อนาปัตติวาร ไม่แกลง้ ๑ เผลอ ๑ ไม่รตู้ ัว ๑ อาพาธ ๑ มอี ันตราย ๑ วกิ ลจรติ ๑ อาทิกัมมิกะ๑ไมต่ อ้ งอาบตั ๑ิ ๐๘๐ ทตุ ยิ สสุ งั วตุ สิกขาบท ๖. สสุ วโุ ต อนตฺ รฆเร นสิ ที สิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๐๘๑ พึงทาความสาเหนียกว่า เราจักสารวมดี นง่ั ในละแวกบา้ น ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๐๘๒ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคีย์๑๐๘๓ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ พระฉัพพคั คียค์ ะนองมือบ้าง คะนองเทา้ บ้าง นงั่ ในละแวกบ้าน ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิอนั ภิกษพุ ึงสารวมดี น่งั ในละแวกบ้าน. ภกิ ษใุ ดอาศัยความไมเ่ อ้ือเฟอื้คะนองมือกด็ ี คะนองเท้ากด็ ี น่งั ในละแวกบา้ น ตอ้ งอาบัติทุกกฏ๑๐๘๔๑๐๗๓ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๐๗๔ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๐๗๕ วิ.มหา. ๒/๕๘๐/๔๕๘ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๕๘๐/๒๔๑ (ม)๑๐๗๖ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๐๗๗ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๐๑๐๗๘ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๑๑๐๗๙ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๐๘๐ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๐๘๑ วิ.มหา. ๒/๕๘๑/๔๕๙ (ทยฺย) ว.ิ มหา. ๒/๕๘๑/๒๔๑ (ม)๑๐๘๒ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๐๘๓ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๑
๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญตั ิท่วั ไปท้ังภิกษุและภกิ ษุณี๑๐๘๕ ๖) อนาปัตตวิ าร ไมแ่ กล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตวั ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจรติ ๑ อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบตั ิ๑๐๘๖ โอกขติ ตจักขสุ กิ ขาบท ๗. โอกขฺ ิตตฺ จกขฺ ุ อนตฺ รฆเร คมสิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๐๘๗ พึงทาความสาเหนียกวา่ เราจักทอดจกั ษลุ ง ไปในละแวกบา้ น ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๐๘๘ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษุฉัพพัคคีย์๑๐๘๙ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุฉพั พัคคยี ์ไม่ทอดสายตาลงไปในละแวกบ้าน ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ อนั ภิกษุพงึ มนี ยั นต์ าทอดลง เดินไปในละแวกบ้าน พงึ แลประมาณช่ัวแอกหนงึ่ .ภิกษใุ ดอาศยั ความไม่เอ้ือเฟ้ือ ไปในละแวกบ้าน พลางแลดูในทน่ี ั้นๆ ต้องอาบัตทิ ุกกฏ๑๐๙๐ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญัติทว่ั ไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณี๑๐๙๑ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตวั ๑ อาพาธ ๑ มีอนั ตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกัมมกิ ะ ๑ ไมต่ อ้ งอาบัติ๑๐๙๒ ทตุ ยิ โอกขิตตจกั ขสุ กิ ขาบท ๘. โอกขฺ ิตตฺ จกฺขุ อนตฺ รฆเร นสิ ที สิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๐๙๓ พงึ สาเหนียกว่า เราจักมีจักษุทอดลง น่งั ในละแวกบ้าน ๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๐๙๔ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคีย์๑๐๙๕ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ พระฉัพพัคคียน์ ง่ั ในละแวกบา้ น พลางแลดูในทน่ี ้ันๆ๑๐๘๔ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๑๑๐๘๕ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๐๘๖ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๐๘๗ ว.ิ มหา. ๒/๕๘๒/๔๕๙ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๕๘๒/๒๔๑ (ม)๑๐๘๘ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๐๘๙ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๑๑๐๙๐ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๑๑๐๙๑ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๐๙๒ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๐๙๓ วิ.มหา. ๒/๕๘๓/๔๖๐ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๕๘๓/๒๔๒ (ม)๑๐๙๔ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๐๙๕ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๑
๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัตอิ นั ภิกษพุ ึงมนี ยั น์ตาอันทอดลง น่ังในละแวกบา้ น พึงแลประมาณชว่ัแอกหน่ึง. ภิกษุใดอาศยั ความไม่เออื้ เฟือ้ นง่ั ในละแวกบา้ น พลางแลดใู นท่ีนน้ั ๆ ต้องอาบัติทกุ กฏ.๑๐๙๖ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญตั ิทั่วไปทั้งภิกษุและภกิ ษุณี๑๐๙๗ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไมแ่ กลง้ ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ้ตู วั ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทกิ ัมมิกะ ๑ ไม่ตอ้ งอาบัติ๑๐๙๘อกุ ขติ ตกสกิ ขาบท ๙. น อกุ ฺขติ ตฺ กาย อนตฺ รฆเร คมสิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๐๙๙ พึงทาความสาเหนียกวา่ เราจักไม่เวิกผา้ ไปในละแวกบา้ น ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถ๑ี ๑๐๐ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคยี ์๑๑๐๑ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษุฉัพพัคคีย์เดินเวิกผา้ ไปในละแวกบ้าน ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ อันภกิ ษุไม่พึงเดนิ เวิกผา้ ไปในละแวกบา้ น. ภกิ ษุใดอาศัยความไม่เออื้ เฟ้ือ เวกิ ผา้ ขึ้นขา้ งเดียวก็ดี ทัง้ สองข้างก็ดี เดินไปในละแวกบา้ น ต้องอาบตั ทิ ุกกฏ.๑๑๐๒ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญัติทัว่ ไปทั้งภิกษุและภิกษุณี๑๑๐๓ ๖) อนาปัตตวิ าร ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วกิ ลจริต ๑ อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ตอ้ งอาบัติ๑๑๐๔ทตุ ยิ อกุ ขติ ตกสกิ ขาบท๑๐. น อกุ ขฺ ติ ตฺ กาย อนตฺ รฆเร นสิ ที สิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๑๐๕พงึ ทาความสาเหนยี กวา่ เราจักไมน่ ่ังเวกิ ผ้าในละแวกบ้าน๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถ๑ี ๑๐๖๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุฉัพพัคคีย์๑๑๐๗๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ พั พคั คยี ์น่ังเวกิ ผ้าในละแวกบา้ น๑๐๙๖ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๒๑๐๙๗ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๐๙๘ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๐๙๙ วิ.มหา. ๒/๕๘๔/๔๖๐ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๕๘๔/๒๔๒ (ม)๑๑๐๐ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๐๑ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๒๑๑๐๒ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๒๑๑๐๓ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๐๔ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๐๕ วิ.มหา. ๒/๕๘๕/๔๖๑ (ทยฺย) ว.ิ มหา. ๒/๕๘๕/๒๔๒ (ม)๑๑๐๖ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๐๗ กงฺขา.อ. ๓๒๓ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๒
๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อนั ภกิ ษไุ ม่พงึ เวิกผ้านงั่ ในละแวกบ้าน. ภกิ ษุใดอาศัยความไม่เออื้ เฟื้อ เวิกผา้ ข้ึนขา้ งเดยี วก็ดี ทง้ั สองข้างก็ดี นั่งในละแวกบา้ น ตอ้ งอาบตั ิทุกกฏ.๑๑๐๘ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญตั ิทว่ั ไปทั้งภกิ ษุและภิกษุณี๑๑๐๙ ๖) อนาปัตตวิ าร ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รตู้ วั ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วกิ ลจรติ ๑ อาทกิ ัมมิกะ ๑ ไมต่ อ้ งอาบตั ิ๑๑๑๐อุชชคั ฆกิ วรรค อุชชคั ฆกิ สิกขาบท ๑๑. น อชุ ชฺ คฆฺ ิกาย อนตฺ รฆเร คมสิ สฺ ามตี ิ สกิ ฺขา กรณยี า.๑๑๑๑ พึงทาความสาเหนียกวา่ เราจักไมห่ ัวเราะดัง ไปในละแวกบ้าน ๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถ๑ี ๑๑๒ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคยี ์๑๑๑๓ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษุฉัพพัคคยี ์หวั เราะดงั ไปในละแวกบ้าน ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ อันภกิ ษุไม่พงึ เดนิ หวั เราะล่นั ไปในละแวกบ้าน ภกิ ษใุ ดอาศัยความไมเ่ ออ้ื เฟอ้ื เดินหัวเราะไปในละแวกบ้าน ตอ้ งอาบัติทุกกฏ.๑๑๑๔ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญตั ิท่วั ไปทั้งภกิ ษุและภกิ ษุณี๑๑๑๕ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไมแ่ กล้ง ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ตู้ วั ๑ อาพาธ ทาอาการเพียงย้ิมแย้มในเมื่อมีเรอื่ งที่นา่ ขัน ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทกิ มั มิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติ๑๑๑๖ทุตยิ อชุ ชคั ฆิกสกิ ขาบท๑๒. น อชุ ชฺ คฆฺ ิกาย อนตฺ รฆเร นสิ ที สิ สฺ ามตี ิ สิกขฺ า กรณยี า.๑๑๑๗พงึ ทาความสาเหนียกว่า เราจักไม่น่ังหัวเราะดังในละแวกบ้าน๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถ๑ี ๑๑๘๒) บุคคลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุฉัพพัคคีย์๑๑๑๙๑๑๐๘ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๐/๑๐๒๑๑๐๙ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๑๐ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๑๑ วิ.มหา. ๒/๕๘๖/๔๖๑ (ทยฺย) ว.ิ มหา. ๒/๕๘๖/๒๔๓ (ม)๑๑๑๒ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๑๓ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๒๑๑๑๔ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๓๑๑๑๕ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๑๖ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๑๗ ว.ิ มหา. ๒/๕๘๗/๔๖๒ (ทยยฺ ) ว.ิ มหา. ๒/๕๘๗/๒๔๓ (ม)๑๑๑๘ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๑๙ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๓
๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษุฉพั พคั คีย์น่ังหวั เราะดังในละแวกบ้าน ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติอันภกิ ษุไม่พึงนงั่ หวั เราะล่นั ในละแวกบ้าน. ภิกษุใดอาศัยความไม่เออื้ เฟ้ือ น่ังในละแวกบ้านหวั เราะลน่ั ต้องอาบตั ิทุกกฏ๑๑๒๐ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บัญญัติทว่ั ไปท้ังภิกษุและภกิ ษุณี๑๑๒๑ ๖) อนาปัตตวิ าร ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตวั ๑ อาพาธ ๑ ทาอาการเพียงยิ้มแยม้ ในเมอ่ื มีเรอื่ งทีน่ า่ ขัน ๑ มีอนั ตราย ๑ วกิ ลจริต ๑ อาทกิ มั มิกะ ๑ ไมต่ อ้ งอาบตั ิ๑๑๒๒ อจุ จสทั ทสกิ ขาบท ๑๓. อปปฺ สทโฺ ท อนตฺ รฆเร คมสิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๑๒๓พงึ ทาความสาเหนียกว่า เราจักพูดเสยี งเบา ไปในละแวกบ้าน ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๑๒๔ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุฉัพพัคคีย์๑๑๒๕ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษุฉัพพคั คีย์เดนิ ตะโกนเสยี งดงั ไปในละแวกบา้ น ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ อันภกิ ษพุ งึ มีเสียงเบาเดินไปในละแวกบ้าน. ภกิ ษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟ้ือ เดนิ ส่งเสยี งตะเบ็ง เสียงตะโกนไปในละแวกบ้าน. ต้องอาบัตทิ ุกกฏ.๑๑๒๖ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบัญญัติทัว่ ไปทั้งภกิ ษุและภิกษุณี๑๑๒๗ ๖) อนาปตั ติวาร ไมแ่ กล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วกิ ลจริต ๑ อาทิกัมมิกะ๑ ไมต่ อ้ งอาบตั ๑ิ ๑๒๘ทตุ ยิ อจุ จสทั ทสกิ ขาบท๑๔. อปปฺ สทโฺ ท อนตฺ รฆเร นสิ ที สิ สฺ ามตี ิ สิกขฺ า กรณยี า.๑๑๒๙พึงทาความสาเหนียกวา่ เราจักน่งั พดู เสียงเบาในละแวกบา้ น๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถ๑ี ๑๓๐๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ ัพพัคคยี ์๑๑๓๑๑๑๒๐ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๓๑๑๒๑ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๒๒ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๒๓ วิ.มหา. ๒/๕๘๘/๔๖๒ (ทยยฺ ) ว.ิ มหา. ๒/๕๘๘/๒๔๔ (ม)๑๑๒๔ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๒๕ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๓๑๑๒๖ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๓๑๑๒๗ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๒๘ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๒๙ วิ.มหา. ๒/๕๘๙/๔๖๓ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๕๘๙/๒๔๔ (ม)๑๑๓๐ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๓๑ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๓
๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษุฉัพพัคคีย์น่งั พูดตะโกนเสียงดงั ในละแวกบา้ น ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ อนั ภิกษุพึงมีเสยี งเบา นงั่ ในละแวกบ้าน. ภิกษใุ ดอาศัยความไม่เอือ้ เฟ้ือ ส่งเสียงตะเบ็ง เสียงตะโกน นั่งในละแวกบา้ น ต้องอาบัติทุกกฏ.๑๑๓๒ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบัญญตั ิทว่ั ไปทั้งภกิ ษุและภกิ ษุณี๑๑๓๓ ๖) อนาปัตติวาร ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ตู้ ัว ๑ อาพาธ ๑ มอี ันตราย ๑ วิกลจรติ ๑ อาทิกัมมิกะ๑ ไมต่ ้องอาบตั ๑ิ ๑๓๔ กายปั ปจาลกสิกขาบท ๑๕. น กายปปฺ จาลก อนตฺ รฆเร คมสิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๑๓๕ พงึ ทาความสาเหนียกว่า เราจักไม่เดินโคลงกายไปในละแวกบ้าน ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถ๑ี ๑๓๖ ๒) บุคคลผูก้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษุฉัพพัคคยี ์๑๑๓๗ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ ัพพคั คีย์เดินโคลงกายไปในละแวกบ้านวางทา่ภาคภมู ิ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ อันภิกษไุ ม่พงึ เดินโคลงกายไปในละแวกบ้าน พงึ ประคองกายเดินไป. ภิกษุใดอาศยั ความไมเ่ อื้อเฟือ้ เดนิ โคลงกายไปในละแวกบา้ น วางทา่ ภาคภมู ิ ตอ้ งอาบัตทิ ุกกฏ.๑๑๓๘ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบัญญัติทั่วไปทั้งภกิ ษุและภกิ ษุณี๑๑๓๙ ๖) อนาปัตตวิ าร ไมแ่ กล้ง ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ มอี ันตราย ๑ วกิ ลจรติ ๑ อาทิกมั มิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติ๑๑๔๐ทุตยิ กายปั ปจาลกสกิ ขาบท๑๖. น กายปปฺ จาลก อนตฺ รฆเร นสิ ีทสิ สฺ ามตี ิ สิกขฺ า กรณยี า.๑๑๔๑พงึ ทาความสาเหนียกว่า เราจักไมน่ ่ังโคลงกายในละแวกบ้าน๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๑๔๒๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษุฉัพพัคคีย์๑๑๔๓๑๑๓๒ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๓๑๑๓๓ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๓๔ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๓๕ ว.ิ มหา. ๒/๕๙๐/๔๖๓ (ทยฺย) วิ.มหา. ๒/๕๙๐/๒๔๔ (ม)๑๑๓๖ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๓๗ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๓๘ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๔ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๔๑๑๓๙ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๔๐ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๔๑ วิ.มหา. ๒/๕๙๑/๔๖๔ (ทยฺย) วิ.มหา. ๒/๕๙๑/๒๔๕ (ม)๑๑๔๒ กงขฺ า.อ. ๓๒๓
๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ พระฉัพพัคคียน์ ั่งโคลงกายอยู่ในละแวกบ้าน วางทา่ภาคภูมิ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อันภิกษไุ ม่พึงนั่งโคลงกายในละแวกบ้าน พงึ นงั่ ประคองกาย. ภิกษุใดอาศยั ความไมเ่ อ้ือเฟื้อ นง่ั โคลงกายในละแวกบ้าน วางท่าภาคภมู ิ ต้องอาบตั ิทุกกฏ๑๑๔๔ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบญั ญัติท่ัวไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณี๑๑๔๕ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไมแ่ กลง้ ๑ เผลอ ๑ ไม่รตู้ วั ๑ อาพาธ ๑ อยู่ในที่พกั ๑ มอี ันตราย ๑วกิ ลจริต ๑ อาทิกมั มกิ ะ ๑ ไม่ตอ้ งอาบตั ิ๑๑๔๖ พาหปุ ปจาลกสกิ ขาบท ๑๗. น พาหปุ ปฺ จาลก อนตฺ รฆเร คมสิ สฺ ามตี ิ สกิ ฺขา กรณยี า.๑๑๔๗ พงึ ทาความสาเหนยี กวา่ เราจักไมเ่ ดินแกว่งแขนไปในละแวกบา้ น ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๑๔๘ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษุฉัพพัคคีย์๑๑๔๙ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ พระฉัพพัคคีย์เดนิ ไกวแขนไปในละแวกบ้านแสดงทา่ กรดี กราย ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ อันภิกษุไม่พึงเดินแกว่งแขนไปในละแวกบ้าน พึงประคองแขนเดินไป. ภกิ ษุใดอาศัยความไมเ่ อ้ือเฟ้อื เดินแกวง่ แขนไปในละแวกบ้าน แสดงท่ากรดี กราย ต้องอาบตั ทิ ุกกฏ.๑๑๕๐ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญตั ิทั่วไปทั้งภกิ ษุและภกิ ษุณี๑๑๕๑ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไมแ่ กลง้ ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตวั ๑ อาพาธ ๑ มอี ันตราย ๑ วิกลจรติ ๑ อาทิกัมมิกะ๑ ไมต่ อ้ งอาบตั ๑ิ ๑๕๒ทุตยิ พาหปุ ปจาลกสิกขาบท๑๘. น พาหปุ ปฺ จาลก อนตฺ รฆเร นสิ ที สิ สฺ ามตี ิ สิกขฺ า กรณยี า.๑๑๕๓พึงทาความสาเหนยี กว่า เราจักไมน่ ่ังแกว่งแขนในละแวกบา้ น๑๑๔๓ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๔๑๑๔๔ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๔๑๑๔๕ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๔๖ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๔๗ ว.ิ มหา. ๒/๕๙๒/๔๖๔ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๕๙๒/๒๔๕ (ม)๑๑๔๘ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๔๙ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๕๐ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๔ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๔๑๑๕๑ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๕๒ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๕๓ ว.ิ มหา. ๒/๕๙๓/๔๖๕ (ทยฺย) วิ.มหา. ๒/๕๙๓/๒๔๕ (ม)
๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๑๕๔ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคยี ์๑๑๕๕ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ พระฉัพพัคคยี ์นงั่ ไกวแขน แสดงทา่ กรดี กรายในละแวกบ้าน ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อันภิกษไุ ม่พงึ นั่งไกวแขนในละแวกบ้าน พงึ นั่งประคองแขน. ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟ้ือ นัง่ แกว่งไกวแขนในละแวกบ้าน แสดงท่ากรีดกราย ต้องอาบัติทุกกฏ.๑๑๕๖ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญตั ิทั่วไปทั้งภกิ ษุและภิกษุณี๑๑๕๗ ๖) อนาปัตตวิ าร ไมแ่ กล้ง ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ตู้ วั ๑ อาพาธ ๑ อยู่ในท่ีพัก ๑ มีอนั ตราย ๑วกิ ลจรติ ๑ อาทกิ มั มกิ ะ ๑ ไม่ตอ้ งอาบัติ๑๑๕๘ สสี ปั ปจาลกสิกขาบท ๑๙. น สสี ปปฺ จาลก อนตฺ รฆเร คมสิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๑๕๙ พึงทาความสาเหนียกว่า เราจักไม่เดนิ โคลงศีรษะไปในละแวกบ้าน ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๑๖๐ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษุฉัพพัคคีย์๑๑๖๑ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ พระฉัพพัคคยี ์เดนิ โคลงศรี ษะไปในละแวกบ้านทาท่าคอพับ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อันภิกษไุ ม่พึงเดินโคลงศีรษะไปในละแวกบ้าน พึงเดนิ ประคองศรี ษะไป ภิกษุใดอาศยั ความไมเ่ อื้อเฟื้อ เดนิ โคลงศีรษะไปในละแวกบ้าน ทาทา่ คอพับ ต้องอาบตั ิทุกกฏ.๑๑๖๒ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บัญญตั ิทว่ั ไปทัง้ ภกิ ษแุ ละภกิ ษณุ ๑ี ๑๖๓ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ มอี ันตราย ๑ วิกลจรติ ๑ อาทิกัมมิกะ๑ ไมต่ อ้ งอาบตั ๑ิ ๑๖๔ทุตยิ สสี ปั ปจาลกสิกขาบท๒๐. น สสี ปปฺ จาลก อนตฺ รฆเร นสิ ที สิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๑๖๕๑๑๕๔ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๕๕ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๕๖ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๔ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๔๑๑๕๗ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๕๘ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๕๙ ว.ิ มหา. ๒/๕๙๔/๔๖๕ (ทยยฺ ) ว.ิ มหา. ๒/๕๙๔/๒๔๖ (ม)๑๑๖๐ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๖๑ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๖๒ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๕ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๕๑๑๖๓ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๖๔ กงขฺ า.อ. ๓๒๓
พงึ ทาความสาเหนยี กว่า เราจักไมน่ ั่งโคลงศีรษะในละแวกบ้าน ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถ๑ี ๑๖๖ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ ัพพัคคีย์๑๑๖๗ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ พระฉัพพัคคียน์ ง่ั โคลงศีรษะในละแวกบ้าน ทาท่าคอพบั ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อันภิกษุไม่พงึ นงั่ โคลงศรี ษะในละแวกบ้าน พงึ นงั่ ประคองศีรษะภกิ ษใุ ดอาศัยความไมเ่ อื้อเฟ้ือ นง่ั โคลงศรี ษะในละแวกบ้าน ทาศีรษะให้ห้อย ตอ้ งอาบตั ิทุกกฏ.๑๑๖๘ ๕) ประเภทของบัญญัติ เปน็ ขอ้ บญั ญตั ิทั่วไปทง้ั ภิกษุและภิกษุณ๑ี ๑๖๙ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ อยู่ในที่พัก ๑ มีอันตราย ๑วิกลจรติ ๑ อาทิกัมมิกะ ๑ ไมต่ อ้ งอาบัต๑ิ ๑๗๐ขัมภกตวรรค ขมั ภกตสกิ ขาบท ๒๑. น ขมภฺ กโต อนตฺ รฆเร คมสิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๑๗๑ พงึ ทาความสาเหนียกวา่ เราจักไม่เดนิ เทา้ สะเอวไปในละแวกบา้ น ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถ๑ี ๑๗๒ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษุฉัพพัคคยี ์๑๑๗๓ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษฉุ พั พัคคีย์เดนิ เทา้ สะเอวไปในละแวกบ้าน ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ อนั ภกิ ษุไม่พงึ เดินค้ากายไปในละแวกบา้ น ภกิ ษุใดอาศยั ความไม่เอื้อเฟื้อ เดนิ คา้ กายข้างเดยี วก็ตาม ทัง้ สองข้างกต็ าม ไปในละแวกบา้ น ต้องอาบัติทุกกฏ.๑๑๗๔ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญตั ิทัว่ ไปทั้งภิกษุและภกิ ษุณี๑๑๗๕ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไมแ่ กลง้ ๑ เผลอ ๑ ไม่รตู้ วั ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วกิ ลจรติ ๑ อาทกิ ัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบตั ิ๑๑๗๖๑๑๖๕ วิ.มหา. ๒/๕๙๕/๔๖๖ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๕๙๕/๒๔๖ (ม)๑๑๖๖ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๖๗ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๖๘ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๕ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๑/๑๐๕๑๑๖๙ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๗๐ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๗๑ ว.ิ มหา. ๒/๕๙๖/๔๖๗ (ทยฺย) วิ.มหา. ๒/๕๙๖/๒๔๗ (ม)๑๑๗๒ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๗๓ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๗๔ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๒/๑๐๕ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๒/๑๐๕๑๑๗๕ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๗๖ กงฺขา.อ. ๓๒๓
ทุตยิ ขัมภกตสกิ ขาบท ๒๒. น ขมภฺ กโต อนตฺ รฆเร นสิ ที สิ สฺ ามตี ิ สิกขฺ า กรณยี า.๑๑๗๗ พงึ ทาความสาเหนยี กวา่ เราจักไม่นั่งเทา้ สะเอวในละแวกบ้าน ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๑๗๘ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ ัพพัคคยี ์๑๑๗๙ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษุฉพั พัคคยี ์นั่งเทา้ สะเอวในละแวกบ้าน ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ อนั ภิกษุไม่พงึ นัง่ ค้ากายไปในละแวกบ้าน ภิกษุใดอาศยั ความไม่เอือ้ เฟ้ือ น่ังค้ากายข้างเดียวก็ตาม ท้ังสองขา้ งกต็ าม ไปในละแวกบ้าน ตอ้ งอาบัติทกุ กฏ.๑๑๘๐ ๕) ประเภทของบญั ญัติ เป็นขอ้ บญั ญัติทั่วไปทง้ั ภิกษุและภิกษุณ๑ี ๑๘๑ ๖) อนาปตั ติวาร ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ อยู่ในที่พัก ๑ มีอันตราย ๑วิกลจรติ ๑ อาทิกมั มกิ ะ ๑ ไมต่ อ้ งอาบัต๑ิ ๑๘๒ โอคุณฐติ สกิ ขาบท ๒๓. น โอคณุ ฐฺ ฃโิ ต อนตฺ รฆเร คมสิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๑๘๓ พงึ ทาความสาเหนียกว่า เราจักไมเ่ ดนิ คลุมศรี ษะไปในละแวกบา้ น ๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถ๑ี ๑๘๔ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษุฉัพพัคคีย์๑๑๘๕ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุฉพั พคั คยี ์เดนิ คลุมศีรษะไปในละแวกบา้ น ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อันภกิ ษุไม่พงึ คลุมศรี ษะเดนิ ไปในละแวกบา้ น ภิกษุใดอาศยั ความไม่เอื้อเฟื้อ เดนิ คลุมศีรษะไปในละแวกบ้าน ตอ้ งอาบตั ิทุกกฏ.๑๑๘๖ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบัญญัติทว่ั ไปท้ังภิกษุและภกิ ษุณี๑๑๘๗ ๖) อนาปัตตวิ าร ไม่แกลง้ ๑ เผลอ ๑ ไม่รูต้ วั ๑ อาพาธ ๑ มีอนั ตราย ๑ วิกลจรติ ๑ อาทกิ ัมมิกะ ๑ ไม่ตอ้ งอาบตั ิ๑๑๘๘๑๑๗๗ วิ.มหา. ๒/๕๙๗/๔๖๗ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๕๙๗/๒๔๗ (ม)๑๑๗๘ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๗๙ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๒/๑๐๕๑๑๘๐ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๒/๑๐๕๑๑๘๑ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๘๒ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๘๓ วิ.มหา. ๒/๕๙๘/๔๖๗ (ทยฺย) ว.ิ มหา. ๒/๕๙๘/๒๔๗ (ม)๑๑๘๔ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๘๕ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๘๖ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๒/๑๐๖ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๒/๑๐๖๑๑๘๗ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๘๘ กงฺขา.อ. ๓๒๓
ทตุ ยิ โอคณุ ฐติ สกิ ขาบท ๒๔. น โอคณุ ฐฺ ฃโิ ต อนตฺ รฆเร นสิ ที สิ สฺ ามตี ิ สิกขฺ า กรณยี า.๑๑๘๙ พงึ ทาความสาเหนยี กว่า เราจักไม่นั่งคลมุ ศีรษะในละแวกบา้ น ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถ๑ี ๑๙๐ ๒) บุคคลผูก้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุฉัพพัคคยี ์๑๑๙๑ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษุฉพั พัคคยี น์ ่ังคลุมศรี ษะในละแวกบ้าน ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ อนั ภกิ ษุไม่พึงคลมุ ศีรษะน่ังในละแวกบ้าน ภกิ ษใุ ดอาศัยความไม่เอ้อื เฟื้อ คลมุ ศรี ษะน่ังในละแวกบา้ น ต้องอาบตั ทิ ุกกฏ.๑๑๙๒ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญัติทว่ั ไปทั้งภิกษุและภิกษุณี๑๑๙๓ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไม่แกลง้ ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ู้ตวั ๑ อาพาธ ๑ อยู่ในที่พกั ๑ มีอนั ตราย ๑วิกลจรติ ๑ อาทกิ มั มกิ ะ ๑ ไม่ตอ้ งอาบัติ๑๑๙๔ อุกกฏุ กิ สกิ ขาบท ๒๕. น อกุ กฺ ฏุ กิ าย อนตฺ รฆเร คมสิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๑๙๕ พงึ ทาความสาเหนียกวา่ เราจักไมเ่ ดินกระโหยง่ ไปในละแวกบา้ น ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถ๑ี ๑๙๖ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ ัพพัคคีย์๑๑๙๗ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษุฉัพพคั คยี ์เดินกระโหยง่ ไปในละแวกบ้าน ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ อันภิกษุไม่พึงมีการกระหยง่ เทา้ เดนิ ไปในละแวกบา้ น ภิกษุใดอาศัยความไมเ่ อ้ือเฟ้ือเดนิ กระหยง่ เท้าไปในละแวกบ้าน ต้องอาบัตทิ กุ กฏ.๑๑๙๘ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญัติท่ัวไปท้ังภิกษุและภกิ ษุณี๑๑๙๙ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไมแ่ กล้ง ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ตู้ ัว ๑ อาพาธ ๑ อยู่ในท่ีพกั ๑ มีอันตราย ๑วกิ ลจรติ ๑ อาทกิ มั มกิ ะ ๑ ไม่ตอ้ งอาบัติ๑๒๐๐๑๑๘๙ วิ.มหา. ๒/๕๙๙/๔๖๘ (ทยยฺ ) ว.ิ มหา. ๒/๕๙๙/๒๔๘ (ม)๑๑๙๐ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๙๑ กงฺขา.อ. ๓๒๓ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๒/๑๐๖๑๑๙๒ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๒/๑๐๖๑๑๙๓ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๙๔ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๙๕ ว.ิ มหา. ๒/๖๐๐/๔๖๘ (ทยฺย) ว.ิ มหา. ๒/๖๐๐/๒๔๘ (ม)๑๑๙๖ กงฺขา.อ. ๓๒๓๑๑๙๗ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๑๙๘ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๒/๑๐๖ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๒/๑๐๖๑๑๙๙ กงขฺ า.อ. ๓๒๓๑๒๐๐ กงฺขา.อ. ๓๒๓
ปลั ลตั ถกิ สิกขาบท ๒๖. น ปลลฺ ตถฺ กิ าย อนตฺ รฆเร นสิ ที สิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๒๐๑ พงึ ทาความสาเหนยี กวา่ เราจักไม่นั่งรัดเขา่ ในละแวกบ้าน ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถ๑ี ๒๐๒ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุฉัพพัคคยี ์๑๒๐๓ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุฉัพพคั คีย์นั่งรัดเข่าในละแวกบา้ น ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ อันภิกษไุ ม่พึงมีการรดั เขา่ น่ังในละแวกบ้าน ภกิ ษุใดอาศัยความไม่เอือ้ เฟื้อนั่งรัดเขา่ ดว้ ยมอื กด็ ี รัดเขา่ ด้วยผา้ กด็ ี ในละแวกบ้าน ต้องอาบัตทิ กุ กฏ.๑๒๐๔ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบญั ญตั ิทั่วไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณี๑๒๐๕ ๖) อนาปัตตวิ าร ไมแ่ กล้ง ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ตู้ ัว ๑ อาพาธ ๑ อยู่ในท่ีพัก ๑ มอี ันตราย ๑วกิ ลจรติ ๑ อาทิกัมมกิ ะ ๑ ไม่ตอ้ งอาบัติ๑๒๐๖ สกั กจั จปฏิคคหณสกิ ขาบท ๒๗. สกกฺ จจฺ ปิณฑฺ ปาต ปฏคิ คฺ เหสสฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๒๐๗ พงึ ทาความสาเหนียกว่า เราจักรบั บิณฑบาตโดยเคารพ ๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๒๐๘ ๒) บคุ คลผ้กู อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ ัพพัคคีย์๑๒๐๙ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ พระฉัพพัคคีย์รบั บิณฑบาต โดยไมเ่ อาใจใส่ ทาอาการดุจท้งิ เสีย ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ อันภกิ ษพุ ึงรับบิณฑบาตโดยเคารพ ภิกษใุ ดอาศัยความไม่เอ้ือเฟอ้ืรบั บณิ ฑบาตโดยไม่เคารพ ทาอาการดจุ ท้ิงเสีย ตอ้ งอาบัติทุกกฏ.๑๒๑๐ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบญั ญตั ิท่วั ไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณี๑๒๑๑ ๑๒๐๑ วิ.มหา. ๒/๖๐๑/๔๖๙ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๖๐๑/๒๔๘ (ม) ๑๒๐๒ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๐๓ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๐๔ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๒/๑๐๖ ๑๒๐๕ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๐๖ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๐๗ วิ.มหา. ๒/๖๐๒/๔๖๙ (ทยฺย) วิ.มหา. ๒/๖๐๒/๒๔๙ (ม) ๑๒๐๘ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๐๙ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๑๐ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๒/๑๐๖ ๑๒๑๑ กงฺขา.อ. ๓๒๓
๖) อนาปตั ตวิ าร ไมแ่ กล้ง ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ูต้ วั ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจรติ ๑ อาทกิ มัมิกะ ๑ไมต่ ้องอาบตั ิ๑๒๑๒ ปตั ตสญั ญีปฏคิ คหณสิกขาบท ๒๘. ปตตฺ สญญฺ ี ปิณฑฺ ปาต ปฏคิ คฺ เหสสฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณียา.๑๒๑๓ พงึ ทาความสาเหนยี กว่า เราจักใหค้ วามสาคญั ในบาตรขณะรับบิณฑบาต ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถ๑ี ๒๑๔ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษุฉัพพัคคยี ์๑๒๑๕ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ พระฉัพพัคคียร์ บั บิณฑบาต พลางแลไปในที่นั้นๆเม่อื เขากาลงั เกลี่ยบณิ ฑบาตลงกด็ ี เมื่อเกลยี่ เสร็จแล้วก็ดี หารสู้ กึ ตวั ไม่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ อันภิกษพุ งึ แลดูบาตรรบั บณิ ฑบาต ภกิ ษใุ ดอาศยั ความไมเ่ อื้อเฟื้อรบั บิณฑบาตพลางเหลียวแลไปในที่นั้นๆ ต้องอาบัตทิ กุ กฏ.๑๒๑๖ ๕) ประเภทของบัญญัติ เป็นข้อบญั ญัติทวั่ ไปท้ังภกิ ษแุ ละภิกษณุ ๑ี ๒๑๗ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไม่แกลง้ ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ตู้ วั ๑ อาพาธ ๑ มอี นั ตราย ๑ วิกลจรติ ๑ อาทิกัมมิกะ๑ ไมต่ ้องอาบตั ๑ิ ๒๑๘ สมสูปกปฏิคคหณสกิ ขาบท ๒๙. สมสปู ก ปณิ ฑฺ ปาต ปฏคิ คฺ เหสสฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๒๑๙ พึงทาความสาเหนียกวา่ เราจักรบั บิณฑบาตพอเหมาะกับแกง ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๒๒๐ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษฉุ ัพพัคคยี ์๑๒๒๑ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ พระฉัพพัคคยี ์รับบิณฑบาต๑๒๒๒ รบั แตส่ ูปะเป็นส่วนมาก ๑๒๑๒ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๑๓ ว.ิ มหา. ๒/๖๐๓/๔๗๐ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๖๐๓/๒๔๙ (ม) ๑๒๑๔ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๑๕ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๑๖ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๒/๑๐๗ ๑๒๑๗ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๑๘ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๑๙ วิ.มหา. ๒/๖๐๔/๔๗๐ (ทยฺย) ว.ิ มหา. ๒/๖๐๔/๒๔๙ (ม) ๑๒๒๐ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๒๑ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๒๒ ทีช่ ื่อว่า สปู ะ มีสองชนิด คอื สปู ะทาดว้ ยถ่วั เขียว ๑ สูปะทาด้วยถวั่ เหลอื ง ๑ ทจี่ บั ไดด้ ว้ ยมอื .
๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อนั ภิกษุพงึ ฉนั บิณฑบาตโดยไมร่ งั เกยี จ ภกิ ษใุ ดอาศยั ความไม่เอ้ือเฟ้ือ ฉันบิณฑบาตโดยรังเกียจ ทาอาการดจุ ไม่อยากฉัน ตอ้ งอาบตั ิทุกกฏ.๑๒๒๓ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญตั ิทว่ั ไปทั้งภกิ ษุและภิกษุณี๑๒๒๔ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ มีอนั ตราย ๑ วกิ ลจรติ ๑ อาทิกัมมิกะ ๑ ไมต่ อ้ งอาบตั ิ๑๒๒๕ สมตติ ตกิ สกิ ขาบท ๓๐. สมตติ ตฺ กิ ปณิ ฑฺ ปาต ปฏคิ คฺ เหสสฺ ามตี ิ สิกขฺ า กรณยี า.๑๒๒๖ พึงทาความสาเหนียกวา่ เราจักรบั บณิ ฑบาตเสมอขอบปากบาตร ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๒๒๗ ๒) บุคคลผูก้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคยี ์๑๒๒๘ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุฉพั พคั คีย์รบั บิณฑบาตล้นขอบปากบาตร ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อันภกิ ษุพึงรับบิณฑบาตเสมอขอบปากบาตร ภิกษุใดอาศยั ความไม่เออ้ื เฟ้ือ รบั บิณฑบาตจนล้น ตอ้ งอาบัติทุกกฏ.๑๒๒๙ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญตั ิทั่วไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณี๑๒๓๐ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไมแ่ กลง้ ๑ เผลอ ๑ ไม่รูต้ ัว ๑ มีอันตราย ๑ วกิ ลจรติ ๑ อาทิกมั มิกะ ๑ ไม่ตอ้ งอาบตั ิ๑๒๓๑ สกั กจั จวรรค สกั กจั จภญุ ชนสกิ ขาบท ๓๑. สกกฺ จจฺ ปิณฑฺ ปาต ภญุ ชฺ สิ สฺ ามตี ิ สกิ ฺขา กรณยี า.๑๒๓๒ พึงทาความสาเหนียกว่า เราจักฉันบิณฑบาตโดยเคารพ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถ๑ี ๒๓๓ ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคยี ์๑๒๓๔ ๑๒๒๓ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๒/๑๐๗ ๑๒๒๔ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๒๕ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๒๖ วิ.มหา. ๒/๖๐๕/๔๗๑ (ทยฺย) ว.ิ มหา. ๒/๖๐๕/๒๕๐ (ม) ๑๒๒๗ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๒๘ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๒๙ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๒/๑๐๗ ๑๒๓๐ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๓๑ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๓๒ ว.ิ มหา. ๒/๖๐๖/๔๗๑ (ทยฺย) วิ.มหา. ๒/๖๐๖/๒๕๐ (ม) ๑๒๓๓ กงขฺ า.อ. ๓๒๓
๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ พระฉัพพัคคียฉ์ ันบิณฑบาตโดยไม่เอาใจใส่ ทาอาการดจุ ไม่ยากฉนั ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ อนั ภกิ ษุพึงฉันบิณฑบาตโดยไม่รังเกยี จ ภิกษุใดอาศัยความไม่เอือ้ เฟ้ือ ฉันบณิ ฑบาตโดยรังเกียจ ทาอาการดจุ ไม่อยากฉนั ตอ้ งอาบัติทกุ กฏ.๑๒๓๕ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบัญญัตทิ ่ัวไปทั้งภิกษุและภิกษุณี๑๒๓๖ ๖) อนาปัตตวิ าร ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่ร้ตู ัว ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจรติ ๑ อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ตอ้ งอาบตั ิ๑๒๓๗ ปตั ตสญั ญภี ญุ ชนสิกขาบท ๓๒. ปตตฺ สญญฺ ี ปณิ ฑฺ ปาต ภญุ ชฺ สิ สฺ ามตี ิ สิกขฺ า กรณยี า.๑๒๓๘ พงึ ทาความสาเหนียกว่า เราจักให้ความสาคญั ในบาตรขณะฉนั บิณฑบาต ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๒๓๙ ๒) บุคคลผ้กู อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษุฉัพพัคคีย์๑๒๔๐ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ พระฉัพพัคคีย์ฉนั บณิ ฑบาตพลางเหลยี วแลไปในที่นน้ั ๆ เมอ่ื เขาเกลีย่ บิณฑบาตลงก็ดี เม่ือเกล่ยี เสร็จแลว้ ก็ดี หารู้สึกตวั ไม่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อันภิกษุผู้ฉนั อาหารพงึ แลดูในบาตร ฉนั บณิ ฑบาต ภกิ ษใุ ดอาศัยความไมเ่ อ้ือเฟ้ือ ฉันบิณฑบาตพลางแลดูไปในที่น้นั ๆ ต้องอาบัติทุกกฏ.๑๒๔๑ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบัญญตั ทิ วั่ ไปท้ังภกิ ษุและภิกษุณี๑๒๔๒ ๖) อนาปัตตวิ าร ไมแ่ กลง้ ๑ เผลอ ๑ ไม่ร้ตู ัว ๑ อาพาธ ๑ มีอนั ตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทกิ ัมมกิ ะ ๑ ไมต่ ้องอาบัติ๑๒๔๓ สปทานสิกขาบท ๓๓. สปทาน ปณิ ฑฺ ปาต ภญุ ชฺ สิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๒๔๔ พงึ ทาความสาเหนยี กว่า เราจักฉนั บณิ ฑบาตไปตามลาดบั ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๒๔๕ ๑๒๓๔ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๓๕ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๓/๑๐๗ ๑๒๓๖ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๓๗ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๓๘ วิ.มหา. ๒/๖๐๗/๔๗๒ (ทยยฺ ) ว.ิ มหา. ๒/๖๐๗/๒๕๑ (ม) ๑๒๓๙ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๔๐ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๔๑ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๓/๑๐๗ ๑๒๔๒ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๔๓ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๔๔ วิ.มหา. ๒/๖๐๘/๔๗๒ (ทยยฺ ) ว.ิ มหา. ๒/๖๐๘/๒๕๑ (ม)
๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษุฉัพพัคคีย์๑๒๔๖ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษุฉัพพัคคยี ์ฉันบณิ ฑบาตไม่ไปตามลาดับ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อนั ภกิ ษพุ ึงฉันบณิ ฑบาตเกลยี่ ใหเ้ สมอ ภกิ ษใุ ดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ ฉนั บิณฑบาตเจาะลงในทนี่ ั้นๆ ตอ้ งอาบัตทิ กุ กฏ.๑๒๔๗ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญัติท่ัวไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณี๑๒๔๘ ๖) อนาปัตตวิ าร ไมแ่ กล้ง ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ู้ตวั ๑ อาพาธ ๑ ตักใหภ้ ิกษุอ่ืน เวา้ แหวง่ ๑ ตกัเกลีย่ ลงในภาชนะอน่ื แหว่ง ๑ ตักสูปะแหว่งเวา้ ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจรติ ๑ อาทกิ มั มิกะ ๑ไม่ต้องอาบัติ๑๒๔๙สมสปู กสกิ ขาบท ๓๔. สมสปู ก ปณิ ฑฺ ปาต ภญุ ชฺ สิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๒๕๐ พึงทาความสาเหนียกว่า เราจักฉนั บิณฑบาตพอเหมาะกบั แกง ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถ๑ี ๒๕๑ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษฉุ ัพพัคคีย์๑๒๕๒ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษุฉพั พคั คยี ์ฉันแกงมากกว่าขา้ วสกุ ๑๒๕๓ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ อันภกิ ษุพึงฉนั บิณฑบาตมีสูปะพอดกี นั ภกิ ษุใดอาศัยความไม่เออ้ื เฟื้อ ฉันแตส่ ูปะอยา่ งเดียว ต้องอาบัตทิ กุ กฏ๑๒๕๔ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบัญญตั ทิ ว่ั ไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณี๑๒๕๕ ๖) อนาปัตตวิ าร ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ตู้ วั ๑ อาพาธ ๑ ฉนั กับขา้ วอยา่ งอื่นๆ ๑ ฉันของญาติ๑ฉันของคนปวารณา ๑ ฉนั เพือ่ ประโยชน์แกภ่ กิ ษุอนื่ ๑ จา่ ยมาด้วยทรพั ย์ของตน ๑ มอี ันตราย ๑วกิ ลจรติ ๑อาทิกมั มิกะ ๑ ไม่ตอ้ งอาบัติ๑๒๕๖ นถปู กตสกิ ขาบท ๓๕. น ถปู โต โอมททฺ ิตวฺ า ปณิ ฺฑปาต ภญุ ชฺ สิ สฺ ามีติ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๒๕๗ ๑๒๔๕ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๔๖ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๔๗ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๓/๑๐๘ ๑๒๔๘ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๔๙ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๕๐ วิ.มหา. ๒/๖๐๙/๔๗๓ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๖๐๙/๒๕๑ (ม) ๑๒๕๑ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๕๒ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๕๓ ท่ชี อื่ ว่า สปู ะ มีสองชนดิ คอื สูปะทาด้วยถวั่ เขยี ว ๑ สูปะทาด้วยถั่วเหลือง ๑ ท่ีจบั ไดด้ ว้ ยมือ ๑๒๕๔ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๓/๑๐๘ ๑๒๕๕ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๕๖ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๕๗ วิ.มหา. ๒/๖๑๐/๔๗๓ (ทยฺย) ว.ิ มหา. ๒/๖๑๐/๒๕๒ (ม)
พงึ ทาความสาเหนยี กว่า เราจักไม่ฉนั บณิ ฑบาตขยุ้มลงแต่ยอด ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๒๕๘ ๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ ัพพัคคีย์๑๒๕๙ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ พั พคั คีย์ฉนั บณิ ฑบาตขย้มุ ลงแตย่ อด ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อนั ภิกษุไม่พึงขยุ้มลงแตย่ อดฉันบิณฑบาต ภิกษใุ ดอาศัยความไม่เอ้ือเฟ้ือ ขยุ้มลงแต่ยอดฉนั บิณฑบาต ต้องอาบัตทิ ุกกฏ.๑๒๖๐ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญตั ิท่วั ไปทั้งภิกษุและภกิ ษุณี๑๒๖๑ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ กวาดตะล่อมข้าวที่เหลือเล็กน้อยรวมเป็นคาแล้วเปบิ ฉนั ๑ มอี ันตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทกิ ัมมิกะ ๑ ไมต่ ้องอาบตั ๑ิ ๒๖๒โอทนปั ปฏจิ ฉาทนสกิ ขาบท ๓๖. น สปู ํ วา พยฺ ญชฺ น วา โอทเนน ปฏจิ ฉฺ าเทสสฺ ามิ ภยิ โฺ ย กมยฺ ต อปุ าทายาติ สกิ ขฺ า กรณียา.๑๒๖๓ พึงทาความสาเหนยี กวา่ เราจักไม่ใชข้ า้ วสกุ กลบแกงหรือกบั ขา้ ว เพราะอยากได้มาก ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๒๖๔ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษฉุ ัพพัคคีย์๑๒๖๕ ๓) มูลเหตุแหง่ การบัญญัตสิ กิ ขาบท ได้แก่ พระฉัพพคั คยี อ์ าศยั ความอยากได้มาก กลบแกงบ้างกับขา้ วบ้าง ด้วยขา้ วสกุ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อันภิกษุผฉู้ นั อาหารไม่พึงกลบแกง หรือกบั ขา้ ว ดว้ ยข้าวสุกเพราะอยากจะได้มาก ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ กลบแกงหรอื กบั ข้าวด้วยขา้ วสุก เพราะอยากจะได้มาก ต้องอาบัตทิ ุกกฏ๑๒๖๖ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญตั ิท่วั ไปท้ังภิกษุและภกิ ษุณี๑๒๖๗ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไมแ่ กลง้ ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ตู้ วั ๑ เจ้าของกลบถวาย ๑ ไม่ไดม้ ุ่งอยากได้มาก ๑มอี นั ตราย ๑ วิกลจรติ ๑ อาทิกมั มิกะ ๑ ไมต่ ้องอาบตั ิ๑๒๖๘ ๑๒๕๘ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๕๙ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๖๐ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๓/๑๐๘ ๑๒๖๑ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๖๒ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๖๓ ว.ิ มหา. ๒/๖๑๑/๔๗๕ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๖๑๑/๒๕๒ (ม) ๑๒๖๔ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๖๕ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๖๖ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๓/๑๐๘ ๑๒๖๗ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๖๘ กงขฺ า.อ. ๓๒๓
สโู ปทนวิญญตั ตสิ กิ ขาบท ๓๗. น สปู ํ วา โอทน วา อคลิ าโน อตตฺ โน อตฺถาย วญิ ญฺ าเปตวฺ า ภญุ ชฺ สิ สฺ ามตี ิ สิกขฺ า กรณยี า.๑๒๖๙ พงึ ทาความสาเหนยี กวา่ เราจักไม่ออกปากขอแกง หรือขา้ วสกุ มาฉันส่วนตวั ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๒๗๐ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุฉัพพัคคยี ์๑๒๗๑ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ พระฉัพพัคคีย์ขอกับข้าวบา้ ง ขา้ วสุกบ้าง เพอ่ืประโยชนแ์ ก่ตนมาฉัน ชาวบา้ นพากนั เพง่ โทษ ติเตยี น โพนทะนาว่า ไฉนพระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรจึงไดข้ อกับข้าวบ้าง ขา้ วสกุ บ้าง เพื่อประโยชน์แกต่ นมาฉนั เล่า กบั ขา้ วหรอื ขา้ วสกุ ทีด่ ี ใครจะไม่พอใจ ของทีม่ รี สอรอ่ ยใครจะไม่ชอบใจ ภกิ ษุท้ังหลายไดย้ ินชาวบ้านเพง่ โทษ ติเตียนโพนทะนา ๓.๑) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ภิกษทุ ั้งหลายอาพาธ พวกภิกษผุ ู้พยาบาลได้ถามภิกษุทั้งหลายผูอ้ าพาธว่า อาวุโสท้งั หลาย พวกท่านยังพอทนได้หรอื ยังพอให้อัตภาพเปน็ ไปได้หรอื ภิกษอุ าพาธท้ังหลายตอบว่า อาวโุ สทัง้ หลาย เมอ่ื กอ่ นพวกผมขอสปู ะบ้าง ขา้ วสกุ บ้างเพ่ือประโยชนแ์ ก่ตนมาฉนั ได้ พวกผมมคี วามผาสกุ เพราะเหตนุ นั้ แต่บัดน้ีพวกผมรังเกยี จอย่วู ่า พระผูม้ ีพระภาคทรงหา้ มแล้ว จึงไมข่ อ เพราะเหตุนั้น พวกผมจงึ ไม่มีความผาสุก ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อันภกิ ษุไม่อาพาธ ไม่พึงขอสูปะ หรอื ขา้ วสุก เพ่ือประโยชนแ์ ก่ตนมาฉัน ภิกษใุ ดอาศัยความไม่เอ้ือเฟอื้ มิใชผ่ ู้อาพาธ ขอสูปะก็ดี ขา้ วสกุ กด็ ี เพื่อประโยชน์แก่ตนมาฉัน ต้องอาบัติทกุ กฏ. ๑ พระอนุบัญญัติ ภิกษุพึงทาความศึกษาว่า เราไม่อาพาธ จักไม่ขอสูปะก็ดี ข้าวสุกก็ดี เพื่อประโยชน์แกต่ นฉัน อนั ภกิ ษไุ ม่อาพาธ ไม่พึงขอสปู ะ หรือขา้ วสกุ เพอื่ ประโยชน์แกต่ นมาฉัน ภิกษุใดอาศัยความไม่เอือ้ เฟ้อื มใิ ชผ่ ูอ้ าพาธ ขอสปู ะกด็ ี ขา้ วสุกกด็ ี เพอื่ ประโยชน์แกต่ นมาฉนั ตอ้ งอาบัตทิ ุกกฏ๑๒๗๒ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบัญญัตทิ ่วั ไปทั้งภิกษุและภกิ ษุณี๑๒๗๓ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ ขอต่อญาติ ๑ ขอต่อคนปวารณา๑ ขอเพ่ือประโยชน์แก่ภกิ ษุอืน่ ๑ จา่ ยมาดว้ ยทรัพยข์ องตน ๑ มีอันตราย ๑ วกิ ลจริต ๑ อาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบตั ิ๑๒๗๔ ๑๒๖๙ ว.ิ มหา. ๒/๖๑๓/๔๗๕ (ทยยฺ ) ว.ิ มหา. ๒/๖๑๓/๒๕๓ (ม) ๑๒๗๐ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๗๑ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๗๒ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๓/๑๐๙ ๑๒๗๓ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๗๔ กงฺขา.อ. ๓๒๓
อุชฌานสญั ญสี กิ ขาบท ๓๘. น อชุ ฌฺ านสญฺญี ปเรส ปตฺต โอโลเกสสฺ ามตี ิ สิกขฺ า กรณยี า.๑๒๗๕ พงึ ทาความสาเหนยี กว่า เราจักไม่มงุ่ ตาหนิ มองดูบาตรของภิกษเุ หล่าอนื่ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๒๗๖ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ ัพพัคคยี ์๑๒๗๗ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ พระฉัพพัคคีย์มีความมุง่ หมายจะเพ่งโทษ แลดูบาตรของภิกษเุ หลา่ อื่น ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อันภกิ ษุไม่พงึ มงุ่ หมายจะเพ่งโทษ แลดูบาตรของภิกษอุ น่ื ภิกษุใดอาศัยความไมเ่ อ้ือเฟ้อื มีความมุ่งหมายจะเพ่งโทษ แลดบู าตรของภิกษพุ วกอนื่ ต้องอาบตั ิทกุ กฏ.๑๒๗๘ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บัญญัติทว่ั ไปทั้งภิกษุและภกิ ษุณี๑๒๗๙ ๖) อนาปัตตวิ าร ไมแ่ กลง้ ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ้ตู ัว ๑ แลดูด้วยคดิ ว่าจักเตมิ ของฉนั ให้ หรอื จักสง่ั ให้เขาเตมิ ถวาย ๑ มไิ ดม้ ีความมุ่งหมายจะเพ่งโทษ ๑ มีอนั ตราย ๑ วิกลจรติ ๑ อาทกิ ัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติ๑๒๘๐ กพฬสกิ ขาบท ๓๙. นาติมหนตฺ กพฬ กรสิ สฺ ามีติ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๒๘๑ พงึ ทาความสาเหนยี กวา่ เราจักไม่ทาคาขา้ วให้ใหญ่เกนิ ๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๒๘๒ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุฉัพพัคคีย์๑๒๘๓ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษุฉพั พคั คีย์ทาคาข้าวใหญเ่ กนิ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ อนั ภิกษุผฉู้ ันอาหารไมพ่ ึงทาคาขา้ วใหใ้ หญ่เกนิ ไป ภกิ ษใุ ดอาศยัความไมเ่ อ้ือเฟ้ือ ทาคาขา้ วให้ใหญ่ ต้องอาบตั ิทุกกฏ.๑๒๘๔ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญัติทัว่ ไปท้ังภิกษุและภิกษุณี๑๒๘๕ ๑๒๗๕ วิ.มหา. ๒/๖๑๔/๔๗๖ (ทยฺย) วิ.มหา. ๒/๖๑๔/๒๕๔ (ม) ๑๒๗๖ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๗๗ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๗๘ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๓/๑๐๙ ๑๒๗๙ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๘๐ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๘๑ ว.ิ มหา. ๒/๖๑๕/๔๗๖ (ทยฺย) วิ.มหา. ๒/๖๑๕/๒๕๔ (ม) ๑๒๘๒ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๘๓ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๘๔ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๓/๑๐๙ ๑๒๘๕ กงขฺ า.อ. ๓๒๓
๖) อนาปัตตวิ าร ไมแ่ กล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รูต้ วั ๑ อาพาธ ๑ ฉนั ของเคย้ี ว ๑ ฉันผลไมน้ ้อยใหญ่๑ฉันกับแกง ๑ มีอนั ตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกัมมกิ ะ ๑ ไม่ต้องอาบัติ๑๒๘๖ อาโลปสกิ ขาบท ๔๐. ปรมิ ณฑฺ ล อาโลปํ กรสิ สฺ ามตี ิ สกิ ฺขา กรณยี า.๑๒๘๗ พงึ ทาความสาเหนียกว่า เราจักทาคาขา้ วให้กลม ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถ๑ี ๒๘๘ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุฉัพพัคคยี ์๑๒๘๙ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษฉุ พั พคั คีย์ทาคาขา้ วให้ยาว ไม่กลม ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ อันภกิ ษผุ ู้ฉนั อาหารพึงทาคาข้าวใหก้ ลมกล่อม ภกิ ษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ ทาคาข้าวยาวต้องอาบัตทิ ุกกฏ.๑๒๙๐ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญตั ิทั่วไปท้ังภิกษุและภิกษุณี๑๒๙๑ ๖) อนาปัตตวิ าร ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่ร้ตู วั ๑ อาพาธ ๑ ฉันของเคยี้ ว ๑ ฉนั ผลไมน้ อ้ ยใหญ่๑ ฉันกบั แกง ๑ มีอันตราย ๑ วกิ ลจรติ ๑ อาทิกมั มิกะ ๑ ไม่ต้องอาบตั ิ๑๒๙๒ กพฬวรรค อนาหฏสกิ ขาบท ๔๑. น อนาหเฏ กพเฬ มขุ ทวฺ าร ววิ รสิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๒๙๓ พงึ ทาความสาเหนียกว่า เราจักไม่อ้าปากรอคาข้าวท่ยี ังไม่ถึงปาก ๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถ๑ี ๒๙๔ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคีย์๑๒๙๕ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ พระฉัพพัคคียเ์ มื่อคาข้าวยงั ไมน่ ามาถึง ย่อมอ้าชอ่ งปากไวท้ ่า ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ อนั ภิกษุผู้ฉนั อาหาร เม่ือคาขา้ วยังไม่ถึงปาก ไม่พึงอา้ ช่องปากไวท้ ่าภกิ ษใุ ดอาศัยความไม่เอ้ือเฟื้อ เม่อื คาขา้ วยงั นามาไม่ถงึ ปาก อ้าช่องปากไว้ทา่ ตอ้ งอาบัตทิ ุกกฏ.๑๒๙๖ ๑๒๘๖ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๘๗ วิ.มหา. ๒/๖๑๖/๔๗๗ (ทยฺย) วิ.มหา. ๒/๖๑๖/๒๕๔ (ม) ๑๒๘๘ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๘๙ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๙๐ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๓/๑๐๙ ๑๒๙๑ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๒๙๒ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๙๓ ว.ิ มหา. ๒/๖๑๗/๔๗๘ (ทยฺย) วิ.มหา. ๒/๖๑๗/๒๕๕ (ม) ๑๒๙๔ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๙๕ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๙๖ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๔/๑๑๐
๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบญั ญัติทั่วไปท้ังภกิ ษุและภิกษุณี๑๒๙๗ ๖) อนาปัตตวิ าร ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตวั ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทกิ ัมมกิ ะ ๑ ไม่ต้องอาบัติ๑๒๙๘ ภญุ ชมานสกิ ขาบท ๔๒. น ภญุ ชฺ มาโน สพพฺ หตถฺ มเุ ข ปกขฺ ปิ สิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณียา.๑๒๙๙ พงึ ทาความสาเหนยี กวา่ ขณะกาลงั ฉัน เราจักไมส่ อดมือท้งั หมดเขา้ ในปาก ๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถ๑ี ๓๐๐ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคยี ์๑๓๐๑ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ พระฉัพพัคคียก์ าลังฉันอยู่ สอดน้วิ มอื ทัง้ หมดเขา้ ไปในปาก ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ อันภิกษุกาลังฉันอาหารอยู่ ไม่พึงสอดน้ิวมอื ท้ังหมดเข้าในปาก ภิกษุใดอาศัยความไม่เอ้อื เฟ้ือ กาลังฉนั อยู่ สอดนว้ิ มือทั้งหมดเข้าในปาก ต้องอาบัติทุกกฏ.๑๓๐๒ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบัญญตั ิทวั่ ไปทั้งภกิ ษุและภกิ ษุณ๑ี ๓๐๓ ๖) อนาปัตตวิ าร ไม่แกลง้ ๑ เผลอ ๑ ไม่รตู้ วั ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วกิ ลจรติ ๑ อาทกิ ัมมกิ ะ๑ ไมต่ อ้ งอาบตั ิ๑๓๐๔ สกพฬสกิ ขาบท ๔๓. น สกพเฬน มเุ ขน พยฺ าหรสิ สฺ ามตี ิ สกิ ฺขา กรณยี า.๑๓๐๕ พึงทาความสาเหนียกวา่ ขณะท่ีในปากมีคาข้าว เราจกั ไม่พดู คยุ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๓๐๖ ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษุฉัพพัคคีย์๑๓๐๗ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ พั พคั คยี ์พดู คยุ ขณะทีใ่ นปากมีคาข้าว ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อันภกิ ษุผฉู้ นั อาหารไม่พึงพูดดว้ ยทั้งปากยังมีคาขา้ ว ภกิ ษใุ ดอาศัยความไมเ่ อ้ือเฟื้อ พูดดว้ ยทัง้ ปากยงั มีคาข้าว ต้องอาบัติทุกกฏ.๑๓๐๘ ๑๒๙๗ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๙๘ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๒๙๙ ว.ิ มหา. ๒/๖๑๘/๔๗๘ (ทยฺย) วิ.มหา. ๒/๖๑๘/๒๕๕ (ม) ๑๓๐๐ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๐๑ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๐๒ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๔/๑๑๐ ๑๓๐๓ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๐๔ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๐๕ ว.ิ มหา. ๒/๖๑๙/๔๗๙ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๖๑๙/๒๕๖ (ม) ๑๓๐๖ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๐๗ กงฺขา.อ. ๓๒๓
๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบัญญัติทว่ั ไปทั้งภกิ ษุและภิกษุณี๑๓๐๙ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไมแ่ กลง้ ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ตู้ ัว ๑ อาพาธ ๑ มอี ันตราย ๑ วิกลจรติ ๑ อาทกิ ัมมิกะ๑ ไมต่ อ้ งอาบตั ิ๑๓๑๐ ปิณฑุกเขปกสกิ ขาบท ๔๔. น ปณิ ฺฑกุ เฺ ขปก ภญุ ชฺ สิ สฺ ามตี ิ สกิ ฺขา กรณยี า.๑๓๑๑ พึงทาความสาเหนยี กวา่ เราจักไม่ฉันโยนคาขา้ ว ๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๓๑๒ ๒) บุคคลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษฉุ ัพพัคคีย์๑๓๑๓ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุฉัพพคั คีย์ฉนั โยนคาข้าว ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อนั ภิกษุผูฉ้ นั อาหารไมพ่ ึงฉนั เดาะคาข้าว ภกิ ษุใดอาศยั ความไม่เอ้อื เฟ้ือ ฉนั เดาะคาขา้ วตอ้ งอาบัตทิ ุกกฏ๑๓๑๔ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบัญญตั ทิ ่วั ไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณี๑๓๑๕ ๖) อนาปัตตวิ าร ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ตู้ ัว ๑ อาพาธ ๑ ฉนั อาหารทีแ่ ขน้ ๑ ฉันผลไมน้ อ้ ยใหญ่ ๑ มอี ันตราย ๑ วิกลจรติ ๑ อาทิกมั มกิ ะ ๑ ไมต่ ้องอาบตั ิ๑๓๑๖ กพฬาวจั เฉทกสกิ ขาบท ๔๕. น กพฬาวจเฺ ฉทก ภญุ ชฺ สิ สฺ ามตี ิ สกิ ฺขา กรณยี า.๑๓๑๗ พงึ ทาความสาเหนยี กวา่ เราจักไม่ฉันกัดคาข้าว ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถ๑ี ๓๑๘ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษุฉัพพัคคีย์๑๓๑๙ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษุฉัพพคั คยี ์ฉันกดั คาข้าว ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั อิ ันภกิ ษุผฉู้ ันอาหารไม่พึงฉันกดั คาข้าว ภิกษใุ ดอาศยั ความไม่เอ้อื เฟื้อ ฉนั อาหารกัดคาขา้ ว ตอ้ งอาบัติทุกกฏ๑๓๒๐ ๑๓๐๘ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๔/๑๑๐ ๑๓๐๙ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๑๐ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๑๑ วิ.มหา. ๒/๖๒๐/๔๗๙ (ทยยฺ ) ว.ิ มหา. ๒/๖๒๐/๒๕๖ (ม) ๑๓๑๒ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๑๓ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๑๔ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๔/๑๑๐ ๑๓๑๕ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๑๖ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๑๗ วิ.มหา. ๒/๖๒๑/๔๗๙ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๖๒๑/๒๕๖ (ม) ๑๓๑๘ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๑๙ กงฺขา.อ. ๓๒๓
๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบัญญัตทิ ่ัวไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณี๑๓๒๑ ๖) อนาปัตตวิ าร ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตวั ๑ อาพาธ ๑ ฉนั ขนมทแ่ี ขน้ แขง็ ๑ ฉันผลไม้นอ้ ยใหญ่ ๑ ฉนั กบั แกง ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจรติ ๑ อาทิกัมมกิ ะ ๑ ไมต่ ้องอาบตั ิ๑๓๒๒ อวคณั ฑการกสกิ ขาบท ๔๖. น อวคณฺฑการก ภญุ ชฺ สิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณียา.๑๓๒๓ พึงทาความสาเหนยี กวา่ เราจักไม่ฉนั อาหารทากระพุ้งแก้มตยุ่ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถ๑ี ๓๒๔ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษุฉัพพัคคยี ์๑๓๒๕ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษฉุ ัพพคั คยี ์ฉนั อาหารทากระพงุ้ แกม้ ตุ่ย ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ อันภิกษุฉนั อาหารไม่พึงฉนั ทากระพุ้งแกม้ ใหต้ ยุ่ ภิกษุใดอาศยั ความไม่เออ้ื เฟือ้ ฉนั อาหารทากระพ้งุ แก้มใหต้ ุ่ยข้างเดียวก็ดี ทั้งสองข้างก็ดี ตอ้ งอาบัติทกุ กฏ๑๓๒๖ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบัญญตั ทิ ั่วไปท้ังภิกษุและภิกษุณี๑๓๒๗ ๖) อนาปัตตวิ าร ไม่แกลง้ ๑ เผลอ ๑ ไม่ร้ตู ัว ๑ อาพาธ ๑ ฉันผลไมน้ ้อยใหญ่ ๑ มีอนั ตราย ๑วิกลจริต ๑ อาทิกัมมกิ ะ ๑ ไม่ตอ้ งอาบัติ๑๓๒๘ หตั ถนทิ ธนุ กสกิ ขาบท ๔๗. น หตถฺ นทิ ธฺ นุ ก ภญุ ชฺ สิ สฺ ามตี ิ สกิ ฺขา กรณียา.๑๓๒๙ พึงทาความสาเหนียกวา่ เราจักไม่ฉนั สลดั มือ ๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๓๓๐ ๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ ัพพัคคีย์๑๓๓๑ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษุฉพั พัคคีย์ฉันอาหารสลดั มอื ๔) บญั ญัติ มี ๑ พระบัญญัติอันภิกษุผู้ฉันอาหารไม่พึงฉันสลัดมือ ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อฉนั อาหารสลัดมือต้องอาบตั ิทุกกฏ.๑๓๓๒ ๑๓๒๐ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๔/๑๑๐ ๑๓๒๑ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๒๒ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๒๓ ว.ิ มหา. ๒/๖๒๒/๔๘๐ (ทยยฺ ) ว.ิ มหา. ๒/๖๒๒/๒๕๗ (ม) ๑๓๒๔ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๒๕ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๒๖ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๔/๑๑๑ ๑๓๒๗ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๒๘ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๒๙ วิ.มหา. ๒/๖๒๓/๔๘๐ (ทยยฺ ) ว.ิ มหา. ๒/๖๒๓/๒๕๗ (ม) ๑๓๓๐ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๓๑ กงฺขา.อ. ๓๒๓
๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญตั ิท่ัวไปท้ังภิกษุและภกิ ษุณี๑๓๓๓ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไมแ่ กล้ง ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ตู้ ัว ๑ อาพาธ ๑ สลดั มอื ท้ิงเศษอาหาร ๑ มีอันตราย ๑วกิ ลจริต ๑ อาทกิ มั มิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติ๑๓๓๔ สติ ถาวการกสกิ ขาบท ๔๘. น สติ ถฺ าวการก ภญุ ชฺ สิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๓๓๕ พึงทาความสาเหนยี กวา่ เราจักไม่ฉนั โปรยเมลด็ ข้าว ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๓๓๖ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ ัพพัคคีย์๑๓๓๗ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษุฉัพพคั คยี ์ฉนั โปรยเมล็ดขา้ ว ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ อันภกิ ษุผฉู้ ันอาหารไม่พึงฉนั ทาเมล็ดขา้ วตก ภิกษุใดอาศยั ความไม่เอือ้ เฟ้ือ ฉนั ทาเมล็ดขา้ วใหร้ ว่ ง ต้องอาบตั ิทุกกฏ๑๓๓๘ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญตั ิทัว่ ไปทั้งภิกษุและภกิ ษุณ๑ี ๓๓๙ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไม่แกลง้ ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ ท้งิ ผงขา้ วเมล็ดข้าวติดไปด้วย ๑ มีอันตราย ๑วกิ ลจริต ๑ อาทกิ ัมมิกะ ๑ ไมต่ ้องอาบัติ๑๓๔๐ ชวิ หานจิ ฉารกสิกขาบท ๔๙. น ชวิ หฺ านจิ ฉฺ ารก ภญุ ชฺ สิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณียา.๑๓๔๑ พงึ ทาความสาเหนียกวา่ เราจักไม่ฉนั แลบลิ้น ๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถ๑ี ๓๔๒ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษฉุ ัพพัคคีย์๑๓๔๓ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษฉุ พั พัคคีย์ฉนั แลบล้นิ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิอนั ภิกษุผฉู้ ันอาหารไม่พึงแลบลิ้น ภกิ ษใุ ดอาศัยความไม่เอ้ือเฟ้ือ ฉันอาหารแลบลน้ิ ตอ้ งอาบัติทกุ กฏ ๑๓๔๔ ๑๓๓๒ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๔/๑๑๑ ๑๓๓๓ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๓๔ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๓๕ วิ.มหา. ๒/๖๒๕/๔๘๑ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๖๒๕/๒๕๘ (ม) ๑๓๓๖ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๓๗ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๓๘ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๔/๑๑๑ ๑๓๓๙ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๔๐ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๔๑ ว.ิ มหา. ๒/๖๒๔/๔๘๑ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๖๒๔/๒๕๗ (ม) ๑๓๔๒ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๔๓ กงขฺ า.อ. ๓๒๓
๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญัติทัว่ ไปทั้งภกิ ษุและภิกษุณี๑๓๔๕ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไมแ่ กล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตวั ๑ อาพาธ ๑ มีอนั ตราย ๑ วิกลจรติ ๑ อาทกิ ัมมกิ ะ ๑ ไมต่ ้องอาบัติ๑๓๔๖ จปจุ ปกุ ารกสิกขาบท ๕๐. น จปจุ ปกุ ารก ภญุ ชฺ สิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๓๔๗ พึงทาความสาเหนยี กว่า เราจักไม่ฉนั ทาเสียงดังจ๊บั ๆ ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวตั ถ๑ี ๓๔๘ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษุฉัพพัคคยี ์๑๓๔๙ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุฉพั พคั คยี ์ฉันทาเสยี งดังจบ๊ั ๆ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ อันภิกษฉุ ันอาหารไม่พงึ ฉันทาเสยี งดงั จบั ๆ ภิกษใุ ดอาศยั ความไม่เอ้ือเฟื้อ ฉนั อาหารดังจับๆ ตอ้ งอาบตั ทิ ุกกฏ๑๓๕๐ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญัตทิ ั่วไปท้ังภิกษุและภกิ ษุณี๑๓๕๑ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตวั ๑ อาพาธ ๑ มอี ันตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกัมมกิ ะ๑ ไม่ต้องอาบตั ิ๑๓๕๒ สรุ สุ รุ วุ รรค หตั ถนลิ เลหกสกิ ขาบท ๕๒. น หตถฺ นลิ เฺ ลหก ภญุ ชฺ สิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๓๕๓ พึงทาความสาเหนยี กวา่ เราจักไม่ฉนั เลยี มอื ๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๓๕๔ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ ัพพัคคยี ์๑๓๕๕ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษุฉัพพัคคีย์ฉันเลียมอื ๑๓๔๔ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๔/๑๑๑ ๑๓๔๕ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๔๖ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๔๗ วิ.มหา. ๒/๖๒๖/๔๘๒ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๖๒๖/๒๕๘ (ม) ๑๓๔๘ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๔๙ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๕๐ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๔/๑๑๑ ๑๓๕๑ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๕๒ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๕๓ ว.ิ มหา. ๒/๖๒๘/๔๘๓ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๖๒๘/๒๕๙ (ม) ๑๓๕๔ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๕๕ กงฺขา.อ. ๓๒๓
๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติอันภกิ ษุผฉู้ นั อาหารไม่พึงฉันเลียมือ ภกิ ษใุ ดอาศัยความไมเ่ อ้ือเฟ้ือฉันอาหารเลียมือต้องอาบัตทิ ุกกฏ.๑๓๕๖ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญตั ิท่วั ไปทั้งภกิ ษุและภกิ ษุณี๑๓๕๗ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตวั ๑ อาพาธ ๑ มอี ันตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทกิ ัมมกิ ะ๑ ไม่ตอ้ งอาบัติ๑๓๕๘ ปตั ตนลิ เลหกสกิ ขาบท ๕๓. น ปตตฺ นลิ เฺ ลหก ภญุ ชฺ สิ สฺ ามตี ิ สกิ ฺขา กรณียา.๑๓๕๙ พงึ ทาความสาเหนยี กวา่ เราจักไม่ฉนั เลียบาตร ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถ๑ี ๓๖๐ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคยี ์๑๓๖๑ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ พั พคั คยี ์ฉนั ขอดบาตร ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ อันภกิ ษผุ ู้ฉันอาหารไมพ่ งึ ฉันขอดบาตร. ภกิ ษุใดอาศยั ความไม่เอือ้ เฟื้อ ฉนั อาหารขอดบาตร ตอ้ งอาบัติทุกกฏ.๑๓๖๒ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญตั ิทั่วไปทั้งภกิ ษุและภกิ ษุณี๑๓๖๓ ๖) อนาปัตตวิ าร ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ ข้าวสุกเหลือน้อยกวาดขอดรวมกนั เขา้ แลว้ ฉัน ๑ มอี นั ตราย ๑ วิกลจรติ ๑ อาทิกัมมกิ ะ ๑ ไม่ตอ้ งอาบตั ๑ิ ๓๖๔ โอฏฐนลิ เฺ ลหกสกิ ขาบท ๕๔. น โอฏฐฺ ฃนลิ เฺ ลหก ภญุ ชฺ สิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณียา.๑๓๖๕ พงึ ทาความสาเหนยี กว่า เราจักไม่ฉนั เลียรมิ ฝปี าก ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๓๖๖ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ ัพพัคคยี ์๑๓๖๗ ๑๓๕๖ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๕/๑๑๒ ๑๓๕๗ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๕๘ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๕๙ วิ.มหา. ๒/๖๒๙/๔๘๓ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๖๒๙/๒๕๙ (ม) ๑๓๖๐ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๖๑ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๖๒ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๕/๑๑๒ ๑๓๖๓ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๖๔ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๖๕ ว.ิ มหา. ๒/๖๓๐/๔๘๔ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๖๓๐/๒๖๐ (ม) ๑๓๖๖ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๖๗ กงขฺ า.อ. ๓๒๓
๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ ัพพคั คยี ์ฉันเลยี ริมฝปี าก ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ อันภกิ ษุผู้ฉนั อาหารไมพ่ ึงฉนั เลียรมิ ฝีปาก. ภกิ ษุใดอาศยั ความไม่เอือ้ เฟื้อ ฉนั อาหารเลียริมฝีปาก ต้องอาบตั ทิ ุกกฏ๑๓๖๘ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญตั ทิ ั่วไปทั้งภกิ ษุและภิกษุณี๑๓๖๙ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่ร้ตู วั ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วกิ ลจริต ๑ อาทิกัมมกิ ะ๑ ไม่ตอ้ งอาบัติ๑๓๗๐ ฉตั ตปาณสิ กิ ขาบท ๕๗. น ฉตตฺ ปาณสิ สฺ อคลิ านสสฺ ธมฺม เทเสสสฺ ามตี ิ สิกขฺ า กรณยี า.๑๓๗๑ พึงทาความสาเหนยี กว่า เราจักไม่แสดงธรรมแก่คนท่ีไมเ่ ป็นไขผ้ ู้ก้นั รม่ ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๓๗๒ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคยี ์๑๓๗๓ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ พระฉัพพคั คยี แ์ สดงธรรมแกบ่ ุคคลผกู้ ้ันรม่ บรรดาภิกษทุ ีเ่ ปน็ ผู้มักน้อย ต่างกเ็ พง่ โทษ ติเตียน โพนทะนา ๓.๑) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษทุ ั้งหลายรงั เกียจเพือ่ จะแสดงธรรมแก่คนเป็นไขม้ ีรม่ ในมอื ชาวบ้านพากันเพ่งโทษ ติเตยี น โพนทะนาวา่ ไฉนพระสมณะเช้ือสายพระศากยบุตรจึงไม่ แสดงธรรมแก่คนเปน็ ไขซ้ ึ่งมีร่มในมือเล่า ภิกษทุ ้งั หลายได้ยินชาวบา้ นพวกน้ันเพง่ โทษ ตเิ ตียนโพนทะนา ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ อันภิกษไุ ม่พงึ แสดงธรรมแกบ่ ุคคลไม่เป็นไขผ้ กู้ ัน้ ร่ม ภกิ ษุใดอาศัยความไมเ่ อ้ือเฟ้ือ แสดงธรรมแกค่ นไม่เป็นไขผ้ ู้กั้นร่ม ต้องอาบตั ิทุกกฏ. ๑ พระอนุบญั ญัติ ภิกษุพึงทาความศึกษาวา่ เราจักไมแ่ สดงธรรมแกบ่ ุคคลไม่ใช่ผู้เจ็บไข้ มีร่มในมือ.๑๓๗๔ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบญั ญัตทิ ว่ั ไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณี๑๓๗๕ ๖) อนาปัตตวิ าร ไมแ่ กลง้ ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ู้ตัว ๑ อาพาธ ๑ มอี ันตราย ๑ วกิ ลจรติ ๑ อาทิกัมมิกะ๑ไม่ตอ้ งอาบตั ๑ิ ๓๗๖ ๑๓๖๘ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๕/๑๑๒ ๑๓๖๙ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๗๐ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๗๑ วิ.มหา. ๒/๖๓๔/๔๘๗ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๖๓๔/๒๖๒ (ม) ๑๓๗๒ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๗๓ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๗๔ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๕/๑๑๔ ๑๓๗๕ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๗๖ กงขฺ า.อ. ๓๒๓
ทณั ฑปาณสิ กิ ขาบท ๕๘. น ทณฑฺ ปาณสิ สฺ อคลิ านสสฺ ธมมฺ เทเสสสฺ ามตี ิ สิกขฺ า กรณยี า.๑๓๗๗ พึงทาความสาเหนยี กวา่ เราจักไม่แสดงธรรมแก่คนท่ีไมเ่ ป็นไข้ผถู้ ือไม้พลอง ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวตั ถ๑ี ๓๗๘ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคยี ์๑๓๗๙ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคยี ์ แสดงธรรมแกค่ นที่ไม่ปว่ ยผู้ถือไม้พลอง๑๓๘๐ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัตอิ ันภิกษไุ ม่พงึ แสดงธรรมแก่คนไมเ่ ปน็ ไข้ผู้ถือไม้พลอง ภิกษใุ ดอาศยัความไมเ่ อ้ือเฟ้ือแสดงธรรมแกค่ นไมเ่ ปน็ ไข้ ผู้ถอื ไม้พลอง ตอ้ งอาบตั ทิ ุกกฏ. ๑ พระอนุบญั ญัติ อนั ภกิ ษุไม่พึงแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไขผ้ ู้ถือไมพ้ ลอง ภิกษุใดอาศัยความไม่เอือ้ เฟ้ือแสดงธรรมแก่คนไมเ่ ป็นไข้ ผู้ถือไม้พลอง ต้องอาบัติทกุ กฏ.๑๓๘๑ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญัติทั่วไปท้ังภิกษุและภกิ ษุณี๑๓๘๒ ๖) อนาปัตตวิ าร ไมแ่ กลง้ ๑ เผลอ ๑ ไม่รตู้ วั ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจรติ ๑ อาทกิ ัมมกิ ะ๑ ไมต่ ้องอาบัติ๑๓๘๓ สตั ถปาณสิ กิ ขาบท ๕๙. น สตถฺ ปาณสิ สฺ อคลิ านสสฺ ธมฺม เทเสสสฺ ามตี ิ สิกขฺ า กรณยี า.๑๓๘๔ พงึ ทาความสาเหนยี กว่า เราจักไม่แสดงธรรมแก่คนท่ีไม่เป็นไข้ผู้ถือศัสตรา ๑) สถานท่ีบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถ๑ี ๓๘๕ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคีย์๑๓๘๖ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษุฉพั พัคคียแ์ สดงธรรมแกค่ นท่ไี ม่ปว่ ยผู้ถือศัสตรา๑๓๘๗ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญตั ิ อันภกิ ษไุ ม่พึงแสดงธรรม แกบ่ ุคคลผู้ไม่เป็นไขผ้ ู้ถอื ศสั ตรา ภิกษใุ ดอาศัยความไมเ่ อ้ือเฟ้ือ แสดงธรรมแกบ่ คุ คลผ้ไู ม่เปน็ ไข้ ผูถ้ ือศสั ตรา ตอ้ งอาบัติทุกกฏ. ๑ พระอนุบัญญตั ิ๑๓๘๘ ๑๓๗๗ ว.ิ มหา. ๒/๖๓๕/๔๘๘ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๖๓๕/๒๖๓ (ม) ๑๓๗๘ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๗๙ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๘๐ ไมพ้ ลอง ได้แก่ ไมพ้ ลองยาวส่ีศอกของมชั ฌมิ บุรุษยาวกวา่ นั้นไม่ใชไ่ มพ้ ลองสน้ั กวา่ น้ัน กไ็ ม่ใชไ่ ม้พลอง ๑๓๘๑ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๕/๑๑๔ ๑๓๘๒ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๘๓ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๘๔ วิ.มหา. ๒/๖๓๖/๔๘๙ (ทยฺย) วิ.มหา. ๒/๖๓๖/๒๖๓ (ม) ๑๓๘๕ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๘๖ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๘๗ ศสั ตรา ไดแ้ ก่ วัตถุเครื่องประหารมคี มข้างเดียว มคี มสองขา้ ง ๑๓๘๘ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๕/๑๑๔
๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญัติทั่วไปท้ังภิกษุและภิกษุณี๑๓๘๙ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไมแ่ กลง้ ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ้ตู วั ๑ อาพาธ ๑ มีอนั ตราย ๑ วกิ ลจริต ๑ อาทิกัมมิกะ๑ ไมต่ อ้ งอาบตั ๑ิ ๓๙๐ อาวธุ ปาณสิ กิ ขาบท ๖๐. น อาวธุ ปาณสิ สฺ อคลิ านสสฺ ธมมฺ เทเสสสฺ ามตี ิ สิกขฺ า กรณยี า.๑๓๙๑ พงึ ทาความสาเหนียกวา่ เราจักไม่แสดงธรรมแก่คนท่ีไมเ่ ป็นไข้ผูถ้ ืออาวุธ ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๓๙๒ ๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษุฉัพพัคคยี ์๑๓๙๓ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษุฉพั พัคคยี ์แสดงธรรมแก่คนทไ่ี ม่เป็นไข้ผูถ้ ืออาวุธ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อันภิกษุไม่พึงแสดงธรรมแก่คนไม่เปน็ ไข้ ผถู้ ืออาวธุ ภกิ ษุใดอาศัยความไม่เอ้ือเฟื้อแสดงธรรมแกค่ นไมเ่ ป็นไข้ มมี ือถืออาวุธ ตอ้ งอาบตั ิทุกกฏ ๑ พระอนุบญั ญัติ๑๓๙๔ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญัตทิ ว่ั ไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณี๑๓๙๕ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไมแ่ กลง้ ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตวั ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วกิ ลจรติ ๑ อาทกิ ัมมิกะ๑ ไมต่ อ้ งอาบตั ิ๑๓๙๖ ปาทุกวรรค ปาทุกสกิ ขาบท ๖๑. น ปาทกุ ารฬุ หฺ สสฺ อคลิ านสสฺ ธมมฺ เทเสสสฺ ามตี ิ สิกขฺ า กรณยี า.๑๓๙๗ พงึ ทาความสาเหนยี กวา่ เราจักไม่แสดงธรรมแก่คนท่ีไม่เปน็ ไขผ้ ู้สวมเขียงเทา้ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๓๙๘ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษุฉัพพัคคยี ์๑๓๙๙ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษฉุ ัพพคั คยี ์ แสดงธรรมแก่คนที่ไม่เปน็ ไข้ผสู้ วมเขยี งเทา้ ๑๓๘๙ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๙๐ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๙๑ ว.ิ มหา. ๒/๖๓๗/๔๘๙ (ทยฺย) ว.ิ มหา. ๒/๖๓๗/๒๖๓ (ม) ๑๓๙๒ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๙๓ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๓๙๔ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๕/๑๑๔ ๑๓๙๕ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๙๖ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๙๗ ว.ิ มหา. ๒/๖๓๘/๔๙๐ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๖๓๘/๒๖๔ (ม) ๑๓๙๘ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๓๙๙ กงฺขา.อ. ๓๒๓
๔) บัญญัติ มี ๑ พระบัญญัติ อันภิกษุไม่พึงแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ ผู้สวมเขียงเท้า ภิกษุใดอาศยั ความไม่เออ้ื เฟือ้ แสดงธรรมแก่คนไม่เปน็ ไข้ ผู้เหยียบเขียงเท้าก็ดี ผู้สวมเขียงเท้าก็ดี ผู้สวมเขียงเท้าหุ้มส้นกด็ ตี อ้ งอาบัติทุกกฎ ๑ พระอนุบัญญัติ๑๔๐๐ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญัติทวั่ ไปทั้งภิกษุและภกิ ษุณี๑๔๐๑ ๖) อนาปัตตวิ าร ไม่แกล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตวั ๑ อาพาธ ๑ มอี ันตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทกิ ัมมิกะ๑ ไมต่ ้องอาบตั ิ๑๔๐๒ อปุ าหนสิกขาบท ๖๒. น อปุ าหนารุฬหฺ สสฺ อคลิ านสสฺ ธมมฺ เทเสสสฺ ามตี ิ สกิ ฺขา กรณยี า.๑๔๐๓ พงึ ทาความสาเหนียกว่า เราจักไม่แสดงธรรมแก่คนที่ไมเ่ ปน็ ไขผ้ ้สู วมรองเท้า ๑) สถานท่บี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวตั ถ๑ี ๔๐๔ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคีย์๑๔๐๕ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุฉพั พัคคียแ์ สดงธรรมแก่คนท่ไี ม่เปน็ ไข้ผ้สู วมรองเทา้ ๔) บัญญัติ มี ๑ พระบัญญัติ อันภิกษุไม่พึงแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ ผู้สวมรองเท้า ภิกษุใดอาศัยความไมเ่ อ้ือเฟือ้ แสดงธรรมแก่คนไม่เปน็ ไข้ ผูเ้ หยยี บรองเทา้ ก็ดี ผ้สู วมรองเท้าก็ดี ผสู้ วมรองเทา้ ห้มุ ส้นกด็ ีต้องอาบตั ิทุกกฎ ๑ พระอนุบัญญตั ิ๑๔๐๖ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญตั ทิ ว่ั ไปท้ังภิกษุและภิกษุณี๑๔๐๗ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไมแ่ กล้ง ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ู้ตวั ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วกิ ลจรติ ๑ อาทกิ ัมมกิ ะ๑ ไม่ต้องอาบัติ๑๔๐๘ ยานสกิ ขาบท ๖๓. น ยานคตสสฺ อคลิ านสสฺ ธมมฺ เทเสสสฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณียา.๑๔๐๙ พงึ ทาความสาเหนียกวา่ เราจักไม่แสดงธรรมแก่คนท่ีไมเ่ ปน็ ไข้ผอู้ ยู่ในยาน ๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๔๑๐ ๑๔๐๐ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๖/๑๑๕ ๑๔๐๑ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๐๒ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๐๓ ว.ิ มหา. ๒/๖๓๙/๔๙๑ (ทยยฺ ) ว.ิ มหา. ๒/๖๓๙/๒๖๔ (ม) ๑๔๐๔ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๐๕ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๐๖ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๖/๑๑๕ ๑๔๐๗ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๐๘ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๐๙ วิ.มหา. ๒/๖๔๐/๔๙๑ (ทยฺย) วิ.มหา. ๒/๖๔๐/๒๖๕ (ม) ๑๔๑๐ กงฺขา.อ. ๓๒๓
๒) บคุ คลผ้กู อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคีย์๑๔๑๑ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษฉุ พั พัคคีย์แสดงธรรมแกค่ นทไี่ ม่ปว่ ยผู้อยใู่ นยาน๑๔๑๒ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อนั ภิกษุไม่พงึ แสดงธรรมแก่คนไม่เปน็ ไขผ้ ูน้ ั่งไปในยาน ภิกษใุ ดอาศัยความไมเ่ อื้อเฟ้ือแสดงธรรมแกค่ นไมเ่ ป็นไข้ ผู้น่งั ไปในยาน ต้องอาบัติทุกกฏ.๑ พระอนุบญั ญัติ๑๔๑๓ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บญั ญตั ทิ ัว่ ไปทั้งภกิ ษุและภิกษุณี๑๔๑๔ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไม่แกลง้ ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ้ตู ัว ๑ อาพาธ ๑ มอี ันตราย ๑ วกิ ลจรติ ๑ อาทกิ ัมมกิ ะ๑ ไมต่ ้องอาบตั ิ๑๔๑๕ สยนสกิ ขาบท ๖๔. น สยนคตสสฺ อคลิ านสสฺ ธมมฺ เทเสสสฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๔๑๖ พงึ ทาความสาเหนยี กว่า เราจักไม่แสดงธรรมแก่คนท่ีไม่เปน็ ไข้ผู้อยู่บนท่ีนอน ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๔๑๗ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคยี ์๑๔๑๘ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษฉุ พั พคั คยี ์ แสดงธรรมแก่คนไม่ป่วยผ้อู ยบู่ นทนี่ อน ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อันภิกษุไม่พงึ แสดงธรรมแก่คนไม่เปน็ ไข้ ผอู้ ยบู่ นทน่ี อน. ภกิ ษุใดอาศัยความไมเ่ อ้ือเฟือ้ แสดงธรรมแก่คนไมเ่ ป็นไข้ผูน้ อนอยู่ โดยท่ีสดุ แมบ้ นพื้นดิน ต้องอาบัติทกุ กฏ. ๑ พระอนุบญั ญตั ิ๑๔๑๙ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นขอ้ บัญญตั ิท่วั ไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณี๑๔๒๐ ๖) อนาปัตตวิ าร ไมแ่ กล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รตู้ ัว ๑ อาพาธ ๑ มอี ันตราย ๑ วิกลจรติ ๑ อาทิกัมมิกะ๑ ไมต่ อ้ งอาบัติ๑๔๒๑ ปลั ลตั ถกิ สิกขาบท ๖๕. น ปลลฺ ตฺถกิ าย นสิ นิ นฺ สสฺ อคลิ านสสฺ ธมมฺ เทเสสสฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๔๒๒ ๑๔๑๑ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๑๒ ยาน ไดแ้ ก่ คานหาม รถ เกวยี น เตยี งหาม วอ เปลหาม ๑๔๑๓ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๖/๑๑๕ ๑๔๑๔ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๑๕ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๑๖ ว.ิ มหา. ๒/๖๔๑/๔๙๒ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๖๔๑/๒๖๕ (ม) ๑๔๑๗ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๑๘ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๑๙ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๖/๑๑๖ ๑๔๒๐ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๒๑ กงขฺ า.อ. ๓๒๓
พึงทาความสาเหนียกวา่ เราจักไม่แสดงธรรมแก่คนท่ีไมเ่ ป็นไขผ้ ู้นง่ั รดั เข่า ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๔๒๓ ๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษุฉัพพัคคีย์๑๔๒๔ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษุฉัพพัคคีย์แสดงธรรมแก่คนทีไ่ มเ่ ป็นไข้ผู้นงั่ รัดเขา่ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อันภิกษุไม่พงึ แสดงธรรมแก่คนไมเ่ ป็นไข้ผูน้ ่ังรดั เข่า ภกิ ษใุ ดอาศัยความไมเ่ อ้ือเฟ้ือ แสดงธรรมแกค่ นไมเ่ ปน็ ไขผ้ ู้น่ังรัดเขา่ ด้วยมือก็ดี ผนู้ ่ังรดั เข่าดว้ ยผ้ากด็ ี ต้องอาบัติทุกกฏ. ๑พระอนุบญั ญตั ิ๑๔๒๕ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบญั ญัตทิ ั่วไปท้ังภิกษุและภกิ ษุณี๑๔๒๖ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไม่แกลง้ ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ้ตู วั ๑ อาพาธ ๑ มอี ันตราย ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกัมมกิ ะ๑ ไมต่ ้องอาบัติ๑๔๒๗ เวฐติ สกิ ขาบท ๖๖. น เวฐฃติ สสี สสฺ อคลิ านสสฺ ธมมฺ เทเสสสฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณียา.๑๔๒๘ พึงทาความสาเหนยี กวา่ เราจักไม่แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้โพกศรี ษะ ๑) สถานทบี่ ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๔๒๙ ๒) บคุ คลผูก้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ ัพพัคคยี ์๑๔๓๐ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุฉพั พัคคยี ธ์ รรมแก่คนไมเ่ ป็นไขผ้ ู้โพกศีรษะ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ อันภิกษุไม่พงึ แสดงธรรมแก่คนไมเ่ ป็นไข้ผู้โพกผา้ พันศรี ษะ ภกิ ษใุ ดอาศยั ความไมเ่ อ้ือเฟือ้ แสดงธรรมแก่คนไม่เปน็ ไข้ผ้โู พกผ้าพันศีรษะ ต้องอาบตั ทิ ุกกฏ. ๑ พระอนุบญั ญัติ๑๔๓๑ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบัญญัติท่ัวไปทั้งภกิ ษุและภกิ ษุณี๑๔๓๒ ๖) อนาปัตติวาร ไมแ่ กลง้ ๑ เผลอ ๑ ไม่รตู้ วั ๑ อาพาธ ๑ ให้เขาเปิดปลายผมจกุ แลว้ แสดง ๑มีอันตราย ๑ วิกลจรติ ๑ อาทิกมั มิกะ ๑ ไม่ตอ้ งอาบตั ๑ิ ๔๓๓ ๑๔๒๒ วิ.มหา. ๒/๖๔๒/๔๙๒ (ทยฺย) ว.ิ มหา. ๒/๖๔๒/๒๖๕ (ม) ๑๔๒๓ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๒๔ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๒๕ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๖/๑๑๖ ๑๔๒๖ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๒๗ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๒๘ วิ.มหา. ๒/๖๔๓/๔๙๓ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๖๔๓/๒๖๖ (ม) ๑๔๒๙ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๓๐ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๓๑ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๖/๑๑๖ ๑๔๓๒ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๓๓ กงขฺ า.อ. ๓๒๓
โอคุณฐติ สกิ ขาบท ๖๗. น โอคณุ ฐฺ ฃิตสสี สสฺ อคลิ านสสฺ ธมมฺ เทเสสสฺ ามตี ิ สิกขฺ า กรณยี า.๑๔๓๔ พึงทาความสาเหนยี กวา่ เราจักไม่แสดงธรรมแก่คนที่ไมเ่ ป็นไขผ้ คู้ ลุมศีรษะ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๔๓๕ ๒) บคุ คลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษฉุ ัพพัคคยี ์๑๔๓๖ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ พั พัคคียแ์ สดงธรรมแก่คนทไ่ี มเ่ ป็นไข้ผ้คู ลมุศรี ษะ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติอันภิกษไุ ม่พงึ แสดงธรรมแก่คนไมเ่ ปน็ ไขผ้ ู้คลุมศีรษะ ภกิ ษใุ ดอาศยัความไม่เอื้อเฟ้ือแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้คลมุ ศีรษะ ต้องอาบัตทิ ุกกฏ ๑ พระอนุบัญญตั ิ๑๔๓๗ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บัญญตั ทิ ่ัวไปทั้งภิกษุและภิกษุณี๑๔๓๘ ๖) อนาปัตตวิ าร ไม่แกลง้ ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ตู้ วั ๑ อาพาธ ๑ ให้เขาเปิดผา้ คลุมศรี ษะแลว้ แสดง ๑มอี ันตราย ๑ วกิ ลจรติ ๑ อาทิกมั มิกะ ๑ ไม่ต้องอาบตั ิ๑๔๓๙ ฉมาสกิ ขาบท ๖๘. น ฉมาย นสิ ีทติ วฺ า อาสเน นสิ นิ นฺ สสฺ อคลิ านสสฺ ธมมฺ เทเสสสฺ ามีติ สกิ ฺขา กรณยี า.๑๔๔๐ พึงทาความสาเหนยี กวา่ เราน่ังทพ่ี ้ืนดนิ จักไม่แสดงธรรมแก่คนที่ไมเ่ ป็นไข้ผนู้ ัง่ บนอาสนะ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๔๔๑ ๒) บุคคลผ้กู อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคยี ์๑๔๔๒ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษุฉัพพัคคีย์แสดงธรรมแกค่ นทไ่ี ม่เปน็ ไขผ้ ู้นัง่ บนอาสนะ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อันภกิ ษนุ ั่งอยู่บนพนื้ ไม่พงึ แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผ้นู ัง่ อยู่บนอาสนะ ภิกษุใดอาศัยความไม่เอ้อื เฟ้ือ นั่งอย่ทู ี่พน้ื ดนิ แสดงธรรมแก่คนไมเ่ ป็นไขผ้ ูน้ ง่ั อยู่บนอาสนะ ต้องอาบตั ิทกุ กฏ๑ พระอนุบัญญตั ิ๑๔๔๓ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เป็นข้อบัญญตั ทิ ว่ั ไปท้ังภิกษุและภิกษุณี๑๔๔๔ ๑๔๓๔ วิ.มหา. ๒/๖๔๔/๔๙๓ (ทยฺย) ว.ิ มหา. ๒/๖๔๔/๒๖๖ (ม) ๑๔๓๕ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๓๖ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๓๗ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๖/๑๑๖ ๑๔๓๘ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๓๙ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๔๐ ว.ิ มหา. ๒/๖๔๕/๔๙๔ (ทยฺย) วิ.มหา. ๒/๖๔๕/๒๖๗ (ม) ๑๔๔๑ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๔๒ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๔๓ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๖/๑๑๗ ๑๔๔๔ กงขฺ า.อ. ๓๒๓
๖) อนาปตั ตวิ าร ไมแ่ กลง้ ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ตู้ ัว ๑ อาพาธ ๑ มอี ันตราย ๑ วกิ ลจรติ ๑ อาทกิ ัมมกิ ะ๑ ไมต่ ้องอาบตั ิ๑๔๔๕ นจี าสนสกิ ขาบท ๖๙. น นเี จ อาสเน นสิ ที ติ วฺ า อจุ เฺ จ อาสเน นสิ นิ นฺ สสฺ อคลิ านสสฺ ธมมฺ เทเสสสฺ ามีติ สกิ ฺขากรณยี า.๑๔๔๖ พงึ ทาความสาเหนยี กว่า เราน่ังบนอาสนะต่า จักไม่แสดงธรรมแกค่ น ทีไ่ ม่เปน็ ไข้ผู้นง่ั บนอาสนะสูง ๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถ๑ี ๔๔๗ ๒) บุคคลผกู้ อ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษุฉัพพัคคีย์๑๔๔๘ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ พระฉัพพัคคียน์ ง่ั อยู่บนอาสนะต่าแสดงธรรมแก่บุคคลผู้น่งั อยู่บนอาสนะสูง บรรดาภกิ ษทุ ี่เปน็ ผู้มักนอ้ ย ตา่ งกเ็ พ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาวา่ ไฉนพระฉพั พัคคยี ์นั่งอยู่บนอาสนะตา่ จงึ ไดแ้ สดงธรรมแกบ่ คุ คลผู้นั่งอย่บู นอาสนะสูง ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อันภิกษุผู้น่ังบนอาสนะต่า ไม่พึงแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไขผ้ นู้ ่งั อยู่บนอาสนะสูงภิกษุใดอาศัยความไม่เอ้ือเฟื้อ นง่ั บนอาสนะตา่ แสดงธรรมแก่คนไมเ่ ปน็ ไข้ ผ้นู งั่ บนอาสนะสูงต้องอาบัติทุกกฏ ๑ พระอนบุ ญั ญตั ิ เรือ่ งเคยมมี าแลว้ ภรรยาของบุรุษจณั ฑาลคนหนึ่งในพระนครพาราณสีได้ต้งั ครรภ์ นางได้บอกแกส่ ามีว่า นาย ดิฉนั กาลงั ตัง้ ครรภ์ ดิฉนั อยากรับประทานมะม่วง. สามีตอบว่า มะมว่ งไม่มี เพราะไม่ใชห่ น้ามะมว่ ง. นางกลา่ ววา่ ถ้าไม่ได้รบั ประทาน ดฉิ ันจักตาย. สมัยนั้น ต้นมะม่วงของหลวงมีผลไม่วาย มีอยู่ต้นหนึ่ง บุรุษจัณฑาลนั้นเดินเข้าไปที่ต้นมะม่วงนั้นครั้นแล้วได้ขน้ึ ไปแฝงอยบู่ นต้นมะม่วงน้นั . พอดีพระเจา้ แผ่นดินได้เสด็จไปถึงต้นมะม่วงนั้น ครั้นแล้วประทับนั่งบนพระราชอาสน์สงู ทรงเรียนมนต์กบั พราหมณป์ โุ รหิต บุรุษจัณฑาลคิดว่า พระเจ้าแผ่นดินพระองค์นี้ ประทับนั่งบนพระราชอาสน์สูงเรียนมนต์ ชื่อว่าไม่เคารพธรรม และพราหมณ์คนนี้นั่งบนอาสนะต่า สอนมนต์แก่พระเจ้าแผน่ ดินผปู้ ระทับน่ังบนพระราชอาสน์สูงก็ช่อื ว่าไมเ่ คารพธรรม ส่วนเราผ้ลู กั มะม่วงของหลวง เพราะเหตุแห่งสตรีกช็ ือ่ ว่าไมเ่ คารพธรรมเหมอื นกนั แท้จรงิ การกระทาทงั้ น้ลี ว้ นต่าทรามทั้งนั้น ดงั น้แี ล้วไตล่ งมา ณ ระหวา่ งพระเจา้ แผ่นดนิ และพราหมณ์ทั้งสองนนั้ แล แลว้ กลา่ วคาถาข้ึนว่าดังนี้ ท้งั สองไมร่ ู้อรรถ ทัง้ สองไมร่ ูเ้ หน็ ธรรม คอื พราหมณ์ผู้สอนมนตโ์ ดยไม่ เคารพธรรม และพระเจ้าแผ่นดินผทู้ รงเรียนมนตโ์ ดยไมเ่ คารพธรรม.พราหมณ์น้นั กลา่ วคาถาว่าดังน้:ี - เพราะข้าวสกุ แห่งขา้ วสาลีอนั ขาวสะอาด ผสมกบั แกงเน้ือ ข้าพเจา้ บริโภค แลว้ ฉะนนั้ ขา้ พเจ้าจึงมไิ ดป้ ระพฤติอยู่ในธรรม ทเ่ี หลา่ พระอรยิ ะสรรเสรญิ แลว้ . ๑๔๔๕ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๔๖ วิ.มหา. ๒/๖๔๗/๔๙๖ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๖๔๗/๒๖๘ (ม) ๑๔๔๗ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๔๘ กงฺขา.อ. ๓๒๓
บุรุษจณั ฑาลนั้นไดก้ ล่าวสองคาถาวา่ ดังน้ี:- ทา่ นพราหมณ์ เราติเตียนการได้ทรัพย์และการไดย้ ศ เพราะน่นั เป็นการ เลยี้ งชพี โดยความเป็นเหตใุ ห้ตกต่า และเปน็ การเลยี้ งชีพโดยทางท่ไี ม่ชอบ ธรรม จะประโยชนอ์ ันใดด้วยการเลย้ี งชพี เชน่ นัน้ ทา่ นจงรีบออกไปเสยี เถดิ ทา่ นมหาพราหมณ์ แม้สตั ว์ที่มีชวี ติ เหล่าอน่ื ก็ยงั หงุ หากนิ ได้ ความอาธรรม์ท่ี ท่านได้ประพฤติมาแลว้ อย่าได้ทาลายท่านดุจก้อนหินทาลายหม้อนา้ ฉะนน้ั ๑๔๔๙ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นขอ้ บัญญตั ิทัว่ ไปท้ังภิกษุและภิกษุณี๑๔๕๐ ๖) อนาปัตตวิ าร ไม่แกลง้ ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ้ตู วั ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วกิ ลจรติ ๑ อาทิกัมมกิ ะ๑ ไม่ตอ้ งอาบัติ๑๔๕๑ ฐติ สิกขาบท ๗๐. น ฐฃโิ ต นสิ นิ นฺ สสฺ อคลิ านสสฺ ธมมฺ เทเสสสฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๔๕๒ พึงทาความสาเหนยี กวา่ เรายืนอยจู่ กั ไมแ่ สดงธรรมแกค่ นท่ไี มเ่ ป็นไขผ้ ู้น่ังอยู่ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๔๕๓ ๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษฉุ ัพพัคคีย์๑๔๕๔ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษุฉพั พัคคีย์แสดงธรรมแกค่ นท่ีไม่เปน็ ไขผ้ ้นู ง่ั อยู่ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อันภิกษุผู้ยนื อยู่ ไม่พงึ แสดงธรรมแกค่ นไมเ่ ป็นไขผ้ ู้นง่ั อยู่ ภกิ ษใุ ดอาศยั ความไม่เอื้อเฟ้ือยืนแสดงธรรมแกค่ นไมเ่ ปน็ ไขผ้ นู้ ั่งอยู่ ตอ้ งอาบัติทุกกฏ.๑ พระอนุบัญญตั ิ๑๔๕๕ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ข้อบัญญัตทิ ่วั ไปท้ังภิกษุและภกิ ษุณี๑๔๕๖ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไมแ่ กลง้ ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ู้ตวั ๑ อาพาธ ๑ มอี ันตราย ๑ วกิ ลจรติ ๑ อาทกิ ัมมกิ ะ๑ ไม่ตอ้ งอาบตั ิ๑๔๕๗ ปจั ฉโตคมนสกิ ขาบท ๗๑. น ปจฉฺ โต คจฉฺ นโฺ ต ปรุ โต คจฉฺ นฺตสสฺ อคลิ านสสฺ ธมมฺ เทเสสสฺ ามีติ สกิ ฺขา กรณยี า.๑๔๕๘ พงึ ทาความสาเหนยี กวา่ เราเดนิ อย่ขู า้ งหลงั จักไม่แสดงธรรมแกค่ นที่ไมเ่ ปน็ ไข้ผู้เดินไปข้างหนา้ ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวตั ถ๑ี ๔๕๙ ๑๔๔๙ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๖/๑๑๗ ๑๔๕๐ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๕๑ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๕๒ ว.ิ มหา. ๒/๖๔๘/๔๙๗ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๖๔๘/๒๖๙ (ม) ๑๔๕๓ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๕๔ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๕๕ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๖/๑๑๗ ๑๔๕๖ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๕๗ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๕๘ วิ.มหา. ๒/๖๔๙/๔๙๘ (ทยฺย) ว.ิ มหา. ๒/๖๔๙/๒๖๙ (ม)
๒) บุคคลผู้กอ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษฉุ ัพพัคคยี ์๑๔๖๐ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภกิ ษุฉพั พัคคยี ์แสดงธรรมแกค่ นทไ่ี มเ่ ป็นไขผ้ ูเ้ ดินไปข้างหนา้ ๔) บญั ญตั ิ มี ๑ พระบัญญัติ อันภิกษุผู้เดินไปข้างหลัง ไม่พึงแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้เดินไปขา้ งหนา้ ภิกษใุ ด อาศยั ความไมเ่ อื้อเฟอื้ เดินไปขา้ งหลัง แสดงธรรมแกค่ นไมเ่ ป็นไขผ้ เู้ ดินไปขา้ งหน้า ต้องอาบตั ิทุกกฏ.๑ พระอนุบญั ญัติ๑๔๖๑ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญัตทิ ว่ั ไปท้ังภกิ ษุและภิกษุณี๑๔๖๒ ๖) อนาปัตตวิ าร ไมแ่ กล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รูต้ ัว ๑ อาพาธ ๑ มอี ันตราย ๑ วกิ ลจริต ๑ อาทิกัมมกิ ะ๑ ไมต่ อ้ งอาบัติ๑๔๖๓ อปุ ปเถนคมนสิกขาบท ๗๒. น อปุ ปฺ เถน คจฉฺ นโฺ ต ปเถน คจฉฺ นตฺ สสฺ อคลิ านสสฺ ธมมฺ เทเสสสฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๔๖๔ พึงทาความสาเหนยี กวา่ เราเดนิ ไปนอกทางจักไมแ่ สดงธรรมแกค่ น ท่ีไม่เป็นไข้ผเู้ ดนิ ในทาง ๑) สถานทบ่ี ญั ญตั สิ ิกขาบท ได้แก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๔๖๕ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษุฉัพพัคคยี ์๑๔๖๖ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภิกษุฉัพพัคคีย์เดินอยู่นอกทาง แสดงธรรมแกค่ นทไ่ี ม่เปน็ ไข้ผู้เดนิ ในทาง ๔) บญั ญัติ มี ๑ พระบัญญัติ อันภิกษุผู้เดินไปนอกทาง ไม่พึงแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้เดินไปในทาง ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อเดินไปนอกทาง แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้เดินไปในทาง ต้องอาบัติทกุ กฏ. ๑ พระอนุบัญญัติ๑๔๖๗ ๕) ประเภทของบัญญตั ิ เปน็ ขอ้ บัญญัตทิ ัว่ ไปท้ังภกิ ษุและภิกษุณี๑๔๖๘ ๖) อนาปัตตวิ าร ไมแ่ กล้ง ๑ เผลอ ๑ ไมร่ ตู้ วั ๑ อาพาธ ๑ มีอันตราย ๑ วิกลจรติ ๑ อาทิกัมมิกะ๑ ไมต่ ้องอาบตั ิ๑๔๖๙ ๑๔๕๙ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๖๐ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๖๑ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๖/๑๑๗ ๑๔๖๒ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๖๓ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๖๔ วิ.มหา. ๒/๖๕๐/๔๙๘ (ทยยฺ ) ว.ิ มหา. ๒/๖๕๐/๒๖๙ (ม) ๑๔๖๕ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๖๖ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๖๗ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๖/๑๑๘ ๑๔๖๘ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๖๙ กงขฺ า.อ. ๓๒๓
ฐโิ ตอจุ จารสกิ ขาบท ๗๓. น ฐฃโิ ต อคลิ าโน อจุ จฺ าร วา ปสสฺ าว วา กรสิ สฺ ามตี ิ สกิ ขฺ า กรณยี า.๑๔๗๐ พึงทาความสาเหนียกว่า เราไมเ่ ปน็ ไข้ จักไม่ยืนถา่ ยอจุ จาระหรือปสั สาวะ ๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๔๗๑ ๒) บุคคลผ้กู อ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษฉุ ัพพัคคีย์๑๔๗๒ ๓) มลู เหตแุ ห่งการบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ ภกิ ษฉุ ัพพัคคีย์ยนื ถ่ายอุจจาระหรอื ปสั สาวะทั้งที่ไม่เป็นไข้ ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบญั ญัติ อันภิกษุยนื อยู่ มิใชผ่ ู้อาพาธ ไมพ่ ึงถา่ ยอุจจาระ หรอื ถ่ายปัสสาวะภิกษุใดอาศัยความไม่เอ้ือเฟ้ือ มใิ ช่ผ้อู าพาธ ยืนถ่ายอุจจาระก็ดี ยืนถา่ ยปัสสาวะก็ดี ต้องอาบัติทกุ กฎ ๑ พระอนุบัญญัติ๑๔๗๓ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ข้อบัญญัติทั่วไปทั้งภิกษุและภกิ ษุณี๑๔๗๔ ๖) อนาปตั ตวิ าร ไม่แกลง้ ๑ เผลอ ๑ ไม่รตู้ วั ๑ อาพาธ ๑ มอี ันตราย ๑ วกิ ลจริต ๑ อาทิกัมมกิ ะ๑ ไม่ต้องอาบตั ิ๑๔๗๕ หรเิ ตอจุ จารสกิ ขาบท ๗๔. น หรเิ ต อคลิ าโน อจุ จฺ าร วา ปสสฺ าว วา เขฬ วา กรสิ สฺ ามตี ิ สกิ ฺขากรณียา.๑๔๗๖ พงึ ทาความสาเหนยี กวา่ เราไมเ่ ปน็ ไขจ้ ักไมถ่ า่ ยอุจจาระ ปัสสาวะ หรือบ้วนน้าลาย ลงบนของเขียว ๑) สถานทีบ่ ญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรุงสาวัตถ๑ี ๔๗๗ ๒) บคุ คลผกู้ อ่ เหตุ ได้แก่ ภิกษุฉัพพัคคีย์๑๔๗๘ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ ภิกษุฉพั พคั คยี ์ไมเ่ ปน็ ไข้ ถ่ายอจุ จาระ ปสั สาวะ หรอืบ้วนน้าลาย ลงบนของเขยี ว ๔) บัญญตั ิ มี ๑ พระบัญญตั ิ อันภกิ ษมุ ใิ ช่ผอู้ าพาธ ไมพ่ ึงถา่ ยอุจจาระ หรือถา่ ยปัสสาวะ หรอืบว้ นเขฬะ ลงบนของสดเขียว ภกิ ษใุ ดอาศัยความไม่เอ้ือเฟื้อ มิใช่ผ้อู าพาธ ถา่ ยอุจจาระกด็ ี ถ่ายปัสสาวะกด็ ีบว้ นเขฬะก็ดี ลงบนของสดเขียว ต้องอาบตั ิทุกกฏ. ๑ พระอนุบัญญัติ๑๔๗๙ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เปน็ ขอ้ บญั ญตั ทิ ั่วไปท้ังภิกษุและภิกษุณี๑๔๘๐ ๑๔๗๐ ว.ิ มหา. ๒/๖๕๑/๔๙๘ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๖๕๑/๒๗๐ (ม) ๑๔๗๑ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๗๒ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๗๓ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๖/๑๑๘ ๑๔๗๔ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๗๕ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๗๖ ว.ิ มหา. ๒/๖๕๒/๔๙๙ (ทยยฺ ) วิ.มหา. ๒/๖๕๒/๒๗๐ (ม) ๑๔๗๗ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๗๘ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๗๙ ว.ิ ป. (ไทย) ๘/๑๕๖/๑๑๘
๖) อนาปตั ตวิ าร ไมแ่ กล้ง ๑ เผลอ ๑ ไม่รู้ตวั ๑ อาพาธ ๑ ของที่ถ่ายลงในที่ปราศจากของสดเขยี วแลว้ ไหลไปรดของสดเขียว ๑ มีอันตราย ๑ วกิ ลจรติ ๑ อาทกิ ัมมกิ ะ ๑ ไม่ต้องอาบัติ๑๔๘๑ อทุ เกอจุ จารสกิ ขาบท ๗๕. น อุทเก อคลิ าโน อจุ จฺ าร วา ปสสฺ าว วา เขฬ วา กรสิ สฺ ามตี ิ สกิ ฺขากรณียา.๑๔๘๒ พงึ ทาความสาเหนียกวา่ เราเราไม่เปน็ ไข้จักไม่ถา่ ยอุจจาระ ปัสสาวะ หรอื บว้ น นา้ ลาย ลงในนา้ ๑) สถานที่บญั ญตั สิ กิ ขาบท ไดแ้ ก่ กรงุ สาวัตถ๑ี ๔๘๓ ๒) บคุ คลผู้กอ่ เหตุ ไดแ้ ก่ ภิกษุฉัพพัคคยี ์๑๔๘๔ ๓) มลู เหตแุ หง่ การบญั ญตั สิ กิ ขาบท ได้แก่ พระฉัพพคั คีย์ถ่ายอุจจาระบ้าง ถา่ ยปสั สาวะบา้ งบว้ นเขฬะบ้าง ลงในนา้ ชาวบา้ นพากันเพง่ โทษ ตเิ ตยี น โพนทะนาวา่ ไฉน พระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรจงึ ได้ถา่ ยอุจจาระบ้าง ถ่ายปสั สาวะบ้าง บ้วนเขฬะบ้าง ลงในน้าเหมือนพวกคฤหสั ถผ์ บู้ รโิ ภคกามเล่า ๔) บัญญัติ มี ๑ พระบัญญัติ อันภิกษุมิใช่ผู้อาพาธ ไม่พึงถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ หรือบ้วนเขฬะลงในน้า ภกิ ษใุ ดอาศัยความไมเ่ ออ้ื เฟอ้ื มใิ ชผ่ ู้อาพาธ ถ่ายอจุ จาระ ปสั สาวะ หรือบ้วนเขฬะ ลงในน้า ตอ้ งอาบตั ิทุกกฏ. ๑ พระอนุบัญญตั ิ๑๔๘๕ ๕) ประเภทของบญั ญตั ิ เป็นข้อบญั ญตั ทิ ัว่ ไปท้ังภกิ ษุและภกิ ษุณี๑๔๘๖ ๖) อนาปัตตวิ าร ไมแ่ กลง้ ๑ เผลอ ๑ ไม่รตู้ วั ๑ อาพาธ ๑ ของท่ีถา่ ยไว้บนบกแลว้ ไหลลงสู่นา้ ๑มีอนั ตราย ๑ วิกลจรติ ๑ อาทกิ ัมมิกะ ๑ ไมต่ ้องอาบัติ๑๔๘๗ ๑๔๘๐ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๘๑ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๘๒ วิ.มหา. ๒/๖๕๔/๕๐๑ (ทยยฺ ) ว.ิ มหา. ๒/๖๕๔/๒๗๑ (ม) ๑๔๘๓ กงขฺ า.อ. ๓๒๓ ๑๔๘๔ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๘๕ วิ.ป. (ไทย) ๘/๑๕๖/๑๑๘ ๑๔๘๖ กงฺขา.อ. ๓๒๓ ๑๔๘๗ กงฺขา.อ. ๓๒๓
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241