slide วันที่ 16-18 พค ผบก วพบ นครราชสีมา

สรุปการนาเสนอวิชาการ ๕ นาที โดยผเู้ ข้ารบั การอบรมหลกั สตู รผูบ้ รหิ ารการสาธารณสขุ ระดับกลาง รุ่นท่ี 32 / 2561 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา สถาบันพระบรมราชชนก

คุณปราณี โสพลโรงพยาบาลชุมชนเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษา

ความเป็ นมา ตามมติการประชุมคณะกรรมการอานวยการ จัดงานเฉลิมพระ เกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม พ.ศ.2550 วันที่ 7 มิถุนายน 2550 เห็นชอบโครงการพัฒนาโรงพยาบาลชุมชนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 9 แห่ง ของกระทรวงสาธารณสุขและตามหนังสือสานัก เลขาธิ การคณะรั ฐมนตรี ที่ นร.0508/ท 4511 ลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2552 เพ่ิมโรงพยาบาลเสาไห้ รวม 10 แห่งท่ัว ประเทศเจตนารมณ์ เพ่ือเฉลมิ พระเกยี รตแิ ด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมพิ ลอดลุ ยเดชฯ และพฒั นาโรงพยาบาลเฉลิมพระเกยี รติ 80 พรรษา ให้เป็ นแบบอยู่ ของโรงพยาบาลชุมชน ท้ังในด้าน บริหาร บริการ และวิชาการ ท่ีเหมาะสมกับสภาพชุมชนในพน้ื ท่ี

หลักการของโรงพยาบาล ชุมชนเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษา1. ให้เป็ นโรงพยาบาลของชุมชนอย่างแท้จริง โดยจัดระบบให้ประชาชน ในชุมชนเข้ามามสี ่วนร่วม2. โรงพยาบาลเป็ นส่วนหนึ่งของชุมชนที่ทางานเช่ือมโยงสอดประสานกบั องค์กรอ่นื3. ระบบบริการของโรงพยาบาลเน้นงานเวชศาสตร์ครอบครัว การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกนั ควบคุมโรค การรักษาและการฟื้ นฟูสภาพแบบองค์รวม (Holistic Health Care)4. ส่งเสริมกจิ กรรมจิตอาสาท่ีหลากหลายรูปแบบ ท้ังในและนอกโรงพยาบาล5. มกี ารบริหารจัดการที่ดี ภูมสิ ถาปัตย์ สวยงามเป็ นระเบยี บ ส่ิงแวดล้อมดี และเหมาะสม

โรงพยาบาลชุมชนเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษา ๙ ท้งั ๑๐ แห่ง จังหวดั เชียงใหม่ รพก.วัดจนั ทร์ จังหวดั หนองบวั ลาภู ขนาด ๑๐เตยี ง รพก.นาวงั ขนาด ๓๐ เตยี งจานวนเตียงจรงิ ๑๐ เตยี ง จานวนเตยี งจจรงั ิงห๓ว๐ดั สเตุรยีินงทร์ รพก.พนมดงรกั ขนาด ๓๐ เตยี ง จงั หวัดสระบรุ ี รพก.เสาไห้ ขนาด ๓๐ เตียง รพก.หว้ ยกระเจา จานวนเตยี งจรงิ ๓๗เตียงจานวนเตยี งจริง ๕๕ เตียง รพก.เบญจลกั ษ์ จงั หวัดศรสี ะเกษ จังหวดั กาญจนบรุ ี ขนาด ๓๐ เตยี ง ขนาด ๓๐ เตียง จานวนเตยี งจริง ๓๔ เตียง จานวนเตียงจรงิ ๓๘ เตียง จังหวัดนครราชสีมา รพก.พระทองคำ ขนาด ๓๐ เตยี ง จานวนเตยี งจริง ๓๐เตียง รพก.เขาชะเมา จังหวดั ระยอง ขนาด ๓๐ เตยี ง จานวนเตยี งจริง ๓๐ เตยี ง จังหวัดตรัง รพก.หาดสาราญ รพก.ยี่งอ จังหวดั นราธวิ าส ขนาด ๓๐ เตียง ขนาด ๓๐ เตยี งจานวนเตยี งจรงิ ๑๗ เตียง จานวนเตียงจรงิ ๔๔ เตียง

อตั ลกั ษณ์ จดุ ยนื เป็ นโรงพยาบาลของชุมชนมุ่งสืบสานพระราชดาริ(More than Hospitals) ของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ล1. เป็ นโรงพยาบาลเฉลิมพระเกยี รติ อดลุ ยเดชฯของในหลวง ร.92. เป็ นโรงพยาบาลท่มี ีความเป็ น วิสยั ทศั น์ หนึง่ เดยี วกบั พนื้ ท่แี ละชุมชน3. เป็ นโรงพยาบาลทม่ี ีบริการดี โรงพยาบาลของชุมชนท่ีมี4. มมี าตรฐาน อบอุ่นเป็ นกันเอง คุณภาพและเป็ นเลิศด้านสุขภาวะอย่างสม พระเกียรตใิ นการเป็ นโรงพยาบาลเฉลมิ พระ ผ้คู นยมิ้ แย้มแจ่มใส เกยี รติ ๘๐พรรษา พนั ธกิจ 1. พฒั นาโรงพยาบาลสู่องค์กรบริหารจัดการทด่ี ตี ามแนวคาสอน ของพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุยเดชฯ และสืบสานพระราชดาริ 2. พฒั นาระบบการดแู ลสุขภาพและบรกิ ารของโรงพยาบาลชุมชนท่ีมีคุณภาพและมาตรฐาน3. พฒั นาบุคลากรของโรงพยาบาลให้เป็ นคนเก่ง คนดี ด้วยจิตวญิ ญาณการทางานอย่างมคี วามสุข

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกมุ ารีเสด็จพระราชดาเนนิ ทรงเปิ ดโรงพยาบาลเบญจลกั ษ์เฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษาอย่างเป็ นทางการเมื่อ 17 เมษายน 2552

โรงพยาบาลเบญจลักษ์เฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษา

LOGO

LOGO

แนวคดิ หลกั การ วตั ถปุ ระสงค์ วิธกี ารนเิ ทศงานหลกั การนิเทศงาน Mahasarakham Province Sommhay

❖การตดิ ตาม ชว่ ยเหลือสนบั สนนุ การปฏบิ ัติงาน ตลอดจน ผลลพั ธต์ ามภารกจิ ของหนว่ ยงาน นโยบาย เปา้ หมาย แผนงาน และแนวปฏบิ ตั ิ วเิ คราะหป์ ัญหาอปุ สรรค สาเหตุ ปจั จยั ที่ เกีย่ วขอ้ ง ใหข้ อ้ เสนอแนะ เพอ่ื ปรับปรงุ แกไ้ ขการปฏิบัติงาน❖เน้นที่ ความรว่ มมือ มใิ ช่ ควบคุมงาน จนท. Mahasarakham Province Sommhay

❖ปฏบิ ตั ิงานใหส้ าเรจ็❖ปฏบิ ตั งิ านใหส้ ะดวก❖นาบรกิ ารให้ถงึ ประชาชนมากที่สดุ❖เกิดความคลอ่ งตวั ในการประสานงาน Mahasarakham Province Sommhay

❖ได้คณุ ภาพ มาตรฐานตามเป้าหมาย❖เสริมความรทู้ างวิชาการผนู้ ิเทศ/ผรู้ ับนเิ ทศ❖รวบรวม/ศึกษาขอ้ มูลเพอ่ื พัฒนา ปรบั ปรงุ Mahasarakham Province Sommhay

❖การนิเทศเป็นทมี การจดั ผูน้ เิ ทศงานทม่ี ีความรู้ความชานาญเฉพาะ สาขา นิเทศงานในด้านท่ีตนมคี วามรู้ความชานาญ ▪ ทีมบริหาร ▪ ทีมบรกิ าร ▪ ทีมวิชาการ Mahasarakham Province Sommhay

❖การนเิ ทศในลกั ษณะไขว้ จัดเปน็ ทีม หรอื ไปนิเทศเพยี งคนเดยี วโดยนเิ ทศงาน ดา้ นท่ผี ู้นิเทศมีความรู้ความชานาญแก่หน่วยงานที่อยู่ใน ระดบั เดยี วกับหน่วยงานผนู้ เิ ทศงาน❖การนเิ ทศเปน็ กลุ่ม เรียกผรู้ ับการนเิ ทศมาพบเป็นกล่มุ เพื่อสอบถามการ ปฏิบัตงิ าน หรือชี้แจงวธิ ีการทางานหรอื เพ่มิ พนู ความรู้ Mahasarakham Province Sommhay

❖ร้จู ุดมุ่งหมาย จุดประสงค์❖รู้นโยบาย แผนงาน เปา้ หมาย❖รโู้ ครงสรา้ ง การจดั รปู งาน❖การบริหาร และการสงั่ การ❖รกั ในงานทต่ี นรบั ผดิ ชอบ Mahasarakham Province Sommhay

❖รู้หนา้ ที่ของผรู้ บั ผดิ ชอบตามสายงาน❖ร้คู วามสามารถ ทักษะ ขวญั กาลงั ใจ สภาพ❖รู้วิธปี ฏิบตั ิงานถูกตอ้ งในงานนน้ั ๆ❖รผู้ ลงาน คุณภาพงาน❖สภาพแวดล้อมอนื่ ๆ Mahasarakham Province Sommhay

ตอ้ งเสรมิ พลงั ผูร้ บั นเิ ทศใหแ้ ขง็ แกร่ง เพื่อกา้ วสู่เปา้ หมาย Mahasarakham Province Sommhay

สวสั ดี Mahasarakham Province Sommhay

เทคนิคการทางานดี แสงเทยี น นนั ทะวงศ์ นกั วชิ าการสาธารณสุขชานาญการ สานักงานสาธารณสุขอาเภอจุน จงั หวดั พะเยา

KPI GOALANC BI CI CA CD COC DHS DHBDHF EPI EOC FCT HDC HFM HIVLTC NCD PCC PCA SRRT TB UCCARE

คดิ บวก จิตใจท่ีสงบ อดทนตรงต่อเวลา เทคนิคการ ความเป็ น ทางานดี มืออาชีพ สุภาพ อ่อนน้อม





สนุ ทรยี สนทนา Dialogue โดย นางขนิษฐา หมายสขุ กลาง พยาบาลวชิ าชพี ชานาญการ โรงพยาบาลรอ้ ยเอ็ด

สุนทรยี สนทนา•ความหมาย องค์ประกอบ•กตกิ าพืน้ ฐาน หลกั ปฏิบัติ •การจดั การวงสนทนาที่ดี

ความหมาย• การสือ่ สารภายในองคก์ ร• เปิดประเดน็ / เกิดวงสนทนา• สร้างกระบวนคิดรว่ มกัน อย่างสร้างสรรค์• *** Dialogue คือ เครือ่ งมือทีใ่ ชแ้ กป้ ัญหา หรือ พฒั นาองค์กรในระยะยาว

องค์ประกอบ ฟัง ไตร่ตรอง ซกั ถาม นาเสนอความคิด องค์ประกอบสาคัญ*** ฟัง ฟังอย่างต้งั ใจ “ฟงั ให้ได้ยิน” ( Deep Listening ) พดู ด้วยคาพูดทีส่ ร้างสรรค์ ไมข่ ดั แยง้ ไม่สรปุ ว่า คาพูดของใครผิด-ถกู ดี-ไมด่ ี แตส่ รปุ ด้วย เวลาที่ตกลงกันไว้

กติกาพื้นฐาน 1.1.เปิดโอกาสใหท้ กุ คน : นาเสนอความคิด เท่าเทียมกนั2.ไมพ่ ดู นอกประเดน็ ไมพ่ ูดแทรก3.ไมต่ ัดสิน ไมส่ รปุ4.ดารงความเงยี บไวไ้ ด้ ตราบที่ทกุ คนยังอยู่ ในกระบวนการไตร่ตรอง

หลกั ปฏิบตั ิ Dialogue 1. ฟังอย่างลึกซึ้ง 2. เปน็ อิสระ และผอ่ นคลาย3. ทุกคนเท่าเทียมกนั ไม่มีผู้นา และไมม่ ีผ้ตู าม

การจดั การ วงสนทนาที่ดีSPEAKING

S Setting : นั่งเป็นวงกลม เหน็ หน้าซงึ่ กันและกนั 1.P Process : เปน็ กระบวนการ ซึ่งเปน็ ไปตามเหตุ/ปัจจัย คาดการณล์ ว่ งหนา้ ไม่ได้ ไมส่ รปุE Ends : ไม่อนญุ าตใหแ้ ตล่ ะคนนาเป้าหมายส่วนตัวเขา้ ไปใช้ ไม่โต้แยง้ ไมโ่ อ้อวด ไม่แนะนาส่ังสอน

A Attitude : มีเจตคตดิ ีตอ่ คนอ่นื จิตใจเปดิ กวา้ ง 1. มคี วามสุขท่ีไดย้ ินได้ฟงั และไดเ้ รียนร้จู ากผู้อื่นK Key Actor : คณะทางาน ได้แก่ ผปู้ ระสานงาน สร้างฉาก และค้นหาผู้ทจ่ี ะมาน่งั พดู คยุ / Facilitator ผูอ้ านวยความสะดวก

I Instrument : เครื่องมอื / Dialogue ใช้ภาษาทีไ่ ม่เปน็ ทางการN Norms of Interaction : บรรทดั ฐานของการปฏิสมั พนั ธ์ เท่าเทียมกัน :คาพูดและการปฏิบตั ิ :เลีย่ งคาพดู ที่แสดงวา่ ตนเองเหนือกวา่ หรือด้อยกว่าคนอน่ืG Genre : Dialogue ไม่ใชก่ ารพดู คยุ แบบพิจารณาถกเถียง แต่เป็นการพดู คุยแบบเปิด ไมม่ เี ปา้ หมาย เพือ่ สรา้ งความหมายร่วมกัน

ทุกคนมีเมล็ดพันธ์ุ แห่งความดีอยูใ่ นหวั ใจแต่ต้องการความกรุณาเข้าไปกระตุ้นให้เมลด็ พนั ธุแ์ ตกตวั .. องค์ทะไลลามะความเชือ่ ดงั กลา่ ว จะนามนุษย์ ใหเ้ ปิดใจยอมรับผูอ้ ่นืและแผค่ วามกรณุ าให้คนรอบข้าง

สวสั ดีค่ะ



การนาเสนอวชิ าการ ๕ นาที โดย นายฉณะชิฌธ์ิ ลบั โกษาพิพัฒน์ นักวชิ าการสาธารณสุขชานาญการ สานักงานสาธารณสุขอาเภอศีขรภูมิ จงั หวดั สุรินทร์ ๓๒๑๑๐

การนาเสนอวชิ าการ ๕ นาที “ การพดู คือศิลปะของผ้นู าโลกท้งั โลกถกู ชักนาด้วยลิน้ ของ ผ้ทู ี่พดู เป็ น ”

การนาเสนอวชิ าการ ๕ นาทีการพูด ๓ มิติ

การพดู ๓ มิติมิตทิ ี่ ๑ พดู จากส่ิงที่เราเหน็ หรือจากหัวข้อท่ีต้งั ้ว้มิติท่ี ๒ ส่ิงน้นั เกยี่ วข้องกบั สิ่งอ่ืนอย่าง้รมิตทิ ่ี ๓ ใส่ความเหน็ หรือความรู้สึก หรือฝากคาคม ให้ข้อคดิ สะกดิ ชักชวน

การพูด ๓ มิติ

การพูด ๓ มิติ

การพูด ๓ มิติ= ดอกกหุ ลาบ ในแจกนั มีสีสันสวยงาม หลากหลายกง่ิ ก้านใบแขง็ แรงทนทานกหุ ลาบเหล่านี้้ ด้มาจากเกษตรกรทป่ี ลกู ขาย= การจะ้ด้มาซ่ึงกหุ ลาบท่สี วยงามเกษตรกรต้องดแู ล ใส่ป๋ ุย รดน้าพรวนดนิ ใช้ยากาจดั ศัตรูพชืหรือแม้แต่อาจฉีดสารอะ้รบางอย่างเพอื่ ความสวยสดของกหุ ลาบ

การพูด ๓ มิติ

การพูด ๓ มิติ “ความสวยงามท่ีทุกคนหลงใหลน้ัน ถ้ามองอีกด้านหน่ึง ก็มีอนั ตรายจากสารพษิ รอบข้าง มีอนั ตรายจากหนามกุหลาบ เป็ นอนั ว่า สรรพส่ิงมีท้งั ด้านบวกและ ด้านลบ เหรียญมี ๒ ด้าน จงึ ขอฝากข้อคดิ ้ว้ว่า การรับรู้หรือการมองอะ้รน้ัน ควรมีความรอบคอบ มองรอบด้าน เป็ นภาพรวม จึงจะ้ด้ชื่อว่า เป็ นการมองแบบผู้มีปัญญา”

การพดู ๓ มิติมิตทิ ี่ ๑ พดู จากส่ิงที่เราเหน็ หรือจากหัวข้อท่ีต้งั ้ว้มิติท่ี ๒ ส่ิงน้นั เกยี่ วข้องกบั สิ่งอ่ืนอย่าง้รมิตทิ ่ี ๓ ใส่ความเหน็ หรือความรู้สึก หรือฝากคาคม ให้ข้อคดิ สะกดิ ชักชวน

การพูด ๓ มิติตัวอย่างท่ี ๒ ; เปรียบเทยี บดอกกหุ ลาบ กบั ความมีระเบยี บ

การพดู ๓ มิติ ดอกกหุ ลาบ หลายสีหลายกล่ินมารวมกันอย่ใู นแจกนั เดยี วกัน ก็มีความงดงามด้วยการจดั ระเบียบหรือการแต่งของช่างจดั ดอก้ม้ เปรียบประดจุ หนึ่งว่าในสังคมมีคนหลายประเภทหากทุกคนเคารพระเบียบกติกาสังคมกจ็ ะน่าอยู่ มีความเป็ นระเบียบเรียบร้อยมีวฒั นธรรม ดังน้ัน “ความมีระเบยี บจึงสาคญั มากในปัจจุบนั ”