เกณฑ์การให้คะแนนดา้ นสมรรถนะนกั เรยี น ด้านสมรรถนะนกั เรยี น ระดับคะแนน ความสามารถในการ 432 1 สอ่ื สาร ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถในการคิด การสือ่ สาร การสื่อสาร การส่อื สาร การส่อื สาร 1 ข้อ ความสามารถในการ แกป้ ญั หา ครบทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ข้อ ความสามารถใน การคิด ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน 1 ข้อ การคดิ การคดิ การคดิ ความสามารถใน การแกป้ ัญหา ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ 1 ข้อ ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน การแก้ปัญหา การแกป้ ัญหา การแกป้ ัญหา ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ข้นึ ไปทุกตวั ช้วี ัด ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน 4 หมายถงึ ดมี าก 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ
แบบประเมินด้านสมรรถนะนักเรียน เรอื่ ง เว็บเบราว์เซอร์ สมรรถนะนักเรียน ผลการประเมนิ หมายเหตุ เลขท่ี การ การคิด การ ผ่าน ไมผ่ า่ น สือ่ สาร แก้ปญั หา 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉลยี่ ลงชื่อ (.......................................................) ครู
8. ข้อเสนอแนะ ✓ ใช้สอนได้ ควรปรบั ปรุง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่ือ.................................................. (นายวิสุทธิศกั ดิ์ เครือสาร) ครพู ีเ่ ล้ยี ง วันท่ี 1 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2564 9.บันทกึ หลงั การจัดการเรยี นรู้ คน 100 คิดเป็นร้อยละ 1) ผลทเ่ี กดิ ขึ้นแกผ่ ้เู รียน คน 0 คิดเป็นร้อยละ ดา้ นความรู้ จำนวนนกั เรียนทผ่ี ่านเกณฑ์ 175 คน 175 คิดเปน็ รอ้ ยละ จำนวนนกั เรยี นทไ่ี มผ่ ่านเกณฑ์ 0 คน 0 คดิ เปน็ ร้อยละ ดา้ นทักษะกระบวนการ จำนวนนักเรยี นทผ่ี า่ นเกณฑ์ 175 คน 175 คิดเปน็ ร้อยละ จำนวนนักเรียนที่ไมผ่ ่านเกณฑ์ 0 คน 0 คิดเป็นร้อยละ ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ จำนวนนกั เรยี นที่ผ่านเกณฑ์ 175 คน 175 คดิ เปน็ ร้อยละ จำนวนนักเรยี นที่ไมผ่ า่ นเกณฑ์ 0 คน 0 คดิ เปน็ ร้อยละ ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน จำนวนนกั เรยี นทผี่ ่านเกณฑ์ 175 จำนวนนักเรยี นทไี่ มผ่ า่ นเกณฑ์ 0 2) ปัญหาและอปุ สรรค เน่ืองจากสถานการณก์ ารแพร่ระบาดจึงทำให้นกั เรยี นแบ่งกลุ่มมาโรงเรยี น เปน็ กล่มุ A และกลุ่มB นักเรียนไม่ ชว่ ยกันตอบคำถามในชั้นเรยี น และอุปกรณใ์ นการเรยี นการสอน มจี ำกัด
3)แนวทางการแกป้ ัญหา ครใู ชแ้ ผนละ สองครง้ั ใชก้ ารสมุ่ ตอบ และใหแ้ บ่งกลุ่มทำงานในชน้ั เรียน ลงชอ่ื .................................................. (.......................................................) ผสู้ อน วันท.ี่ ......เดอื น................... พ.ศ.............. 10.ความคดิ เหน็ ของหวั หนา้ กล่มุ สาระ/สายชั้น ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ .................................................. (.......................................................) หัวหนา้ กลุม่ สาระ/สายชัน้ วนั ท.่ี ......เดือน................... พ.ศ.............. 11.ความคิดเหน็ ของฝ่ายวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่อื .................................................. (.......................................................) ฝา่ ยวิชาการ วนั ท.่ี ......เดอื น................... พ.ศ.............. 12.ความคดิ เหน็ ของผอู้ ำนวยการโรงเรยี น ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่ือ.................................................. (.......................................................) ผู้อำนวยการโรงเรียน วนั ท่ี.......เดือน................... พ.ศ..............
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 4 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 หน่วยท่ี 2/2 เรอื่ ง Google Search เวลา 1 ชัว่ โมง 1. มาตรฐาน/ตัวชี้วดั / ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รเู้ ท่าทัน และมจี ริยธรรม ตัวชีว้ ดั /ผลการเรยี นรู้ ว 4.2 ป.3/3 ใชอ้ ินเทอร์เน็ตคน้ หาความรู้ 2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ ช่วยให้การติดต่อสื่อสารทำได้สะดวกและรวดเร็ว เป็น แหล่งข้อมลู ความรู้ทีช่ ว่ ย ในการเรียนและการดำเนินชีวติ เวบ็ เบราว์เซอรเ์ ป็นโปรแกรมสำหรบั อ่านเอกสารบน เวบ็ เพจ การสืบค้นขอ้ มูลบนอนิ เทอร์เน็ตทำได้โดยใชเ้ วบ็ ไซตส์ ำหรับสืบคน้ และต้องกำหนดคำค้นท่เี หมาะสมจึง จะได้ข้อมูลตามต้องการ ข้อมูลความรู้ เช่น ขน้ั ตอนการทำอาหาร การใชอ้ นิ เทอร์เนต็ อย่างปลอดภัยควรอยู่ใน การดแู ลของครู หรอื ผู้ปกครอง 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ 1. อธิบายขัน้ ตอนการหาข้อมลู ด้วย Google Search ได้ ด้านทกั ษะกระบวนการ 1. พจิ ารณาเลือกแหลง่ ขอ้ มูลที่น่าเชอื่ ถอื ได้ ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน สมรรถนะท่สี ำคญั ของนกั เรยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใชช้ วี ติ
4. สาระการเรยี นรู้ 1. การใช้อินเตอร์เน็ตเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ ช่วยให้การติดต่อสื่อสารทำได้สะดวกและรวดเร็วเป็น แหลง่ ข้อมูลความรทู้ ีช่ ่วย ในการเรียนและการดำเนนิ ชีวิต 2. เวบ็ เบราว์เซอร์เป็นโปรแกรมสำหรบั อ่านเอกสารบนเวบ็ เพจ 3. การสืบค้นขอ้ มลู บนอินเตอรเ์ นต็ ทำไดโ้ ดยใชเ้ ว็บไซต์สำหรับสบื คน้ และต้องกำหนดคำคน้ ท่เี หมาะสมจึง จะไดข้ ้อมูลตามตอ้ งการ 4. ข้อมูลความรู้ เช่น วิธีทำอาหาร วิธีพับกระดาษเป็นรูปต่างๆข้อมูลประวัติศาสตร์ชาติไทย (อาจเป็น ความรู้ในวิชาอน่ื ๆหรอื เรอื่ งทเี่ ปน็ ประเดน็ ทสี่ นใจในช่วงเวลานัน้ ) 5. การใช้อนิ เตอรเ์ น็ตอยา่ งปลอดภัยควรอยู่ในการดูแลของครู หรือผปู้ กครอง 5. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำเข้าสูบ่ ทเรียน 1. ครถู ามนักเรยี นเพื่อเปน็ การทบทวนความร้เู ดิมของนักเรยี นและเพื่อกระตนุ้ ความสนใจของนักเรยี น เช่น “เมื่อนกั เรยี นต้องการร้เู รอื่ งเกย่ี วกับอะไรสกั เรื่องหนง่ึ นักเรียนจะไปถามใคร? จะเปน็ อย่างไรถ้ามคี นท่ี สามารถตอบเราได้ทุกเรอื่ งท่ีเราสงสัย?” 2. ครูถามนักเรียนว่า “ถ้าคุณครูส่ังใหน้ กั เรียนหาขอ้ มลู เกี่ยวกับเรอ่ื งไวรัสโคโรนา Covid-19 นกั เรียนจะ ไปถามใคร หรอื หาข้อมูลจากไหนทจี่ ะไดข้ ้อมูลทคี่ รบถ้วนมากที่สดุ ” ข้ันสอน (วธิ สี อน/นวตั กรรม) 1. ครูแนะนำนักเรียนวา่ เมือ่ กอ่ น ถ้าเราอยากร้เู รือ่ งอะไรเราจะต้องไปท่หี ้องสมดุ และเลอื กดหู นังสือตาม หมวดหมู่ที่เราต้องการจะรู้ แต่ในปัจจุบันเราไม่ต้องเดินทางไปห้องสมุด เราก็สามารถหาข้อมูลต่างๆได้ จากอินเทอร์เน็ต ที่รวบรวมข้อมูลมากมายจากทั่วทุกมุมโลกเอาไว้ ที่มีทั้งข้อความ ภาพ วีดิโอ แผนที่ ใน ปจั จบุ นั มีเวบ็ ไซต์มากมายทใี่ ห้บริการค้นหาข้อมลู แต่ท่ีนยิ มมากท่สี ุด กค็ ือ Google Google Search เป็นเครื่องมือที่ให้บริการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต(Search Engine) ของ เว็บไซต์ Google.com ผู้ใช้งานเพียงเข้า เว็บไซต์ www.google.com จากนั้นพิมพ์คำหรือข้อความ (Keyword) เกี่ยวกับเร่ืองทีต่ ้องการค้นหา และกดปุ่ม Enter Google Search ก็จะแสดงเว็บไซต์ท้ังหมด ที่เกี่ยวข้องกับ Keyword เหล่านั้นทันที ไม่เฉพาะแต่เพียงการค้นหาข้อมูลในรูปของเว็บไซต์ เท่านั้น Google Search ยังสามารถค้นหาข้อมูลที่เป็นไฟล์รูปภาพ (Images) , กลุ่มข่าว (News Groups) และ สาระบบเวบ็ (Web Directory) ได้อยา่ งแมน่ ยำอีกด้วย 2. ครูอธิบายเพ่มิ เติมว่า เพราะความงา่ ยของการเขา้ ถึงข้อมูล ทำให้มผี ูค้ นมากมายหลงเชื่อข้อมูลท่ีไม่เป็น ความจริงที่อ่านเจอ ดังนั้น หากต้องการเอาข้อมูลมาใช้ประโยชน์ นักเรียนจะต้องดูที่มาของแหล่งข้อมูล
และนำข้อมูลมาเปรยี บเทียบกนั จากหลายๆที่ และจึงนำขอ้ มูลไปประมวลผลเปน็ สารสนเทศที่มีประโยชน์ ต่อไป 3. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 5 กลุ่ม และแจกใบงานที่ 2.2 Google Search ให้นักเรียน พร้อม อธิบายการทำใบงาน คือ ให้นักเรียนช่วยกันพิจารณาว่า ข้อมูลที่ใดเชื่อถือได้ ให้ทำเครื่องหมาย / หน้า ข้อมูลทีเ่ ช่อื ถอื ได้ และทำเคร่อื งหมาย x หน้าข้อมลู ทไี่ ม่นา่ เช่อื ถือ โดยใหเ้ วลาในการทำใบงาน 20 นาที 4. เมือ่ ครบกำหนดครูใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาอธิบาย ว่าทำไมข้อมูลข้อนัน้ ๆถึงน่าเชื่อถือ และทำไม ถงึ ไมน่ า่ เช่อื ถอื โดยครคู อยให้คำแนะนำเพมิ่ เตมิ 5. ทำแบบทดสอบออนไลน์ เร่อื ง มาคน้ หาขอ้ มลู กนั เถอะ จำนวน 2 ขอ้ (แบบอธบิ าย) ขัน้ สรปุ 1. ครสู รปุ ใหน้ ักเรยี นเข้าใจว่า Google Search คือ โปรแกรมบนอนิ เทอร์เน็ตที่ชว่ ยใหผ้ ู้ใช้ค้นหาข้อมูล ได้งา่ ยขน้ึ โดยทีผ่ ูใ้ ชง้ านเพยี งแตท่ ราบหัวขอ้ ทตี่ ้องการคน้ หาแล้วปอ้ นคำหรือข้อความนัน้ ๆลงไป บนเวบ็ ไซต์ www.google.com แตเ่ พราะมขี ้อมลู ท่หี ลากหลายจงึ ตอ้ งดูแหล่งท่มี าของขอ้ มูล ก่อนท่ีจะนำข้อมลู ไปใชป้ ระโยชนต์ ่อไป 2. ครใู หน้ ักเรยี นช่วยกนั บอกประโยชนข์ องการใชง้ าน Google Search แนวคำตอบ : ค้นหาข้อมูลทตี่ ้องการไดส้ ะดวก รวดเร็ว สามารถค้นหาแบบเจาะลึกได้ มีความหลากหลายในการค้นหาข้อมูล 3. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรียนไดส้ อบถามเพ่ิมเติม 6. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 1. ใบงานท่ี 2.2 Google Search
7. การวดั ผลและประเมินผล วิธีการวัด เครื่องมอื 7.1 การวัดผล แบบทดสอบ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นความรู้ แบบทดสอบออนไลน์ เร่ือง มาค้นหา ข้อมูลกนั เถอะ ด้านทกั ษะกระบวนการ ประเมนิ จากใบงานที่ 2.2 Google แบบประเมนิ ด้านทักษะ Search กระบวนการ ดา้ นคณุ ลักษณะ อันพงึ ประสงค์ วัดโดยการสงั เกตคุณลกั ษณะอนั พึง แบบประเมินดา้ น ประสงค์ของนักเรยี น 3 ดา้ น ได้แก่ คุณลกั ษณะอนั พึง่ ประสงค์ สมรรถนะที่สำคญั ของนักเรยี น 1. มวี นิ ยั แบบประเมนิ ดา้ นสมรรถนะ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ สำคัญของนักเรียน 3. มุ่งมั่นในการทำงาน วดั โดยการสงั เกตสมรรถนะสำคัญของ นักเรยี น 3 ด้าน ไดแ้ ก่ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
7.2 เกณฑ์การประเมนิ ผล ดา้ นความรู้ แบบทดสอบออนไลน์ เร่ือง มาคน้ หาข้อมลู กนั เถอะ (10 คะแนน) 10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 8-9 คะแนน หมายถึง ดี 6-7 คะแนน หมายถึง พอใช้ 0-5 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง หมายเหตุ ดา้ นความรูเ้ กณฑผ์ ่าน รอ้ ยละ 80 ทกุ ประเด็นการประเมนิ แบบบันทึกการประเมินด้านความรู้ เรอื่ ง Google Search เลขที่ แบบฝึกหัด รอ้ ยละ ผลการประเมนิ (10คะแนน) ผ่าน ไมผ่ ่าน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉลยี่ ลงชื่อ (.......................................................) ครู
ด้านทักษะกระบวนการนกั เรยี น การประเมนิ ด้านทกั ษะกระบวนการ เร่ือง Google Search การสรุปความรู้ในรูปแบบ ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมาอธิบาย ว่าทำไมข้อมลู ข้อนั้นๆถึงนา่ เช่อื ถือ และทำไม ถึงไมน่ ่าเช่ือถือ 1. ทำไดถ้ ูกตอ้ งครบถ้วน 2. อธิบายไดอ้ ย่างละเอียดเข้าใจงา่ ย 3. ใช้ภาษาถกู ต้อง 4. งานมคี วามสะอาดเรียบร้อย การสรุปความรใู้ นรปู แบบ ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุม่ ออกมาอธิบาย วา่ ทำไมข้อมลู ข้อนน้ั ๆถึงนา่ เชอ่ื ถือ และทำไม ถงึ ไม่น่าเชื่อถือ คะแนน 4 คะแนน หมายถึง ดมี าก คะแนน 3 คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 คะแนน หมายถงึ ปรับปรงุ เกณฑก์ ารให้คะแนนดา้ นทกั ษะกระบวนการ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ระดับคะแนน นักเรยี นชว่ ยกันพจิ ารณาวา่ 432 1 ขอ้ มลู ที่ใดเชอ่ื ถือได้ ทำตามเกณฑ์ ทำตามเกณฑ์ ทำตามเกณฑ์ ทำตามเกณฑ์ เป็นประเมิน เปน็ ประเมิน เป็นประเมนิ เปน็ ประเมนิ ได้ 1 ขอ้ ครบตามเกณฑ์ ได้ 3 ข้อ ได้2 ขอ้ หมายเหตุ : ไดค้ ะแนน 3 ขน้ึ ไปทุกตวั ชวี้ ัด ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ 4 หมายถึง ดีมาก 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง
แบบประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการ เรอ่ื ง Google Search เลขท่ี คะแนนด้านทักษะ ผลการประเมิน หมายเหตุ กระบวนการ ผา่ น ไม่ผ่าน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉลี่ย ลงช่อื (.......................................................) ครู
ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ไดร้ ะดบั คุณภาพ 3 ขนึ้ ไปทุกตัวชวี้ ดั ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ หมายเหตุ: ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ กำหนดระดบั คุณภาพ 4 = ดมี าก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรับปรุง การประเมนิ ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เรื่อง Google Search มวี ินัย 1.เขา้ เรียนตรงตอ่ เวลา 2.ไม่โดดเรยี น 3.แต่งกายสภุ าพเรยี บร้อย 4.สง่ การบา้ นตรงต่อเวลา ใฝเ่ รยี นรู้ 1.ตง้ั ใจเรยี น 2.สืบค้นหาความรู/้ ข้อมลู สมำ่ เสมอ 3.รว่ มทำกจิ กรรมในหอ้ งเรยี น 4.บนั ทึกความรู้ วิเคราะห์ข้อมลู จากสงิ่ ท่ีเรยี นรู้ มุง่ ม่นั ในการทำงาน 1.ต้งั ใจและรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าท่กี ารงาน 2.เอาใจใส่ต่อการปฏบิ ัติหนา้ ทท่ี ี่ไดร้ บั มอบหมาย 3.ต้งั ใจและรับผิดชอบในการทำงานใหส้ ำเร็จ 4.ปรับปรงุ และพัฒนาการทำงานด้วยตนเอง
เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านสมรรถนะนกั เรียน ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึง ระดบั คะแนน ประสงค์ มีวินัย 432 1 มคี ุณลักษณะอัน ใฝ่เรียนรู้ มีคณุ ลกั ษณะอัน มคี ุณลกั ษณะอัน มีคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ม่งุ มัน่ ในการทำงาน พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ พึงประสงค์ 1 ข้อ ครบทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ขอ้ มีคุณลกั ษณะอัน พึงประสงค์ มีคุณลักษณะอนั มีคณุ ลักษณะอนั มคี ุณลักษณะอนั 1 ข้อ พึงประสงค์ พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ มีคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ครบทุกขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ 1 ข้อ มคี ุณลักษณะอัน มคี ณุ ลกั ษณะอัน มีคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ ครบทกุ ข้อ 3 ข้อ 2 ข้อ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 3 ข้นึ ไปทุกตวั ชว้ี ัด ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน 4 หมายถงึ ดมี าก 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถงึ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรงุ
แบบประเมนิ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เร่อื ง Google Search คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ผลการประเมิน เลขที่ หมายเหตุ ผ่าน ไมผ่ า่ น มวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ ม่ันในการ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉล่ยี ลงชือ่ (.......................................................) ครู
ดา้ นสมรรถนะนักเรียน ได้ระดับคณุ ภาพ 2 ข้นึ ไปทุกตวั ชว้ี ดั ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน หมายเหตุ : ดา้ นสมรรถนะนักเรยี น กำหนดระดบั คุณภาพ 4 = ดมี าก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรับปรุง การประเมินดา้ นสมรรถนะนักเรยี น เรือ่ ง Google Search ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มีความสามารถในการรบั และสง่ สาร 2. เลือกรบั หรือไม่รับข้อมลู ข่าวสารดว้ ยหลกั เหตุผล 3. คำนงึ ถึงผลกระทบท่ีมีตอ่ ตนเองและสังคม 4. การเจรจาตอ่ รองเพ่ือขจดั และลดปญั หาความขัดแย้งต่าง ๆ ความสามารถในการคดิ 1. การคดิ อย่างมีวิจารณญาณ 2. การคิดเปน็ ระบบ 3. การคดิ สังเคราะห์ 4. การคิดอย่างสรา้ งสรรค์ ความสามารถในการแกป้ ัญหา 1. การแก้ปญั หาและอุปสรรคต่าง ๆ 2. มกี ารตดั สนิ ใจท่ีมีประสทิ ธิภาพโดยคำนงึ ถึงผลกระทบทเี่ กดิ ขึ้นต่อตนเอง สงั คมและสิ่งแวดลอ้ ม 3. ประยุกต์ความรู้มาใชใ้ นการป้องกันและแกไ้ ขปญั หา 4. เขา้ ใจความสมั พนั ธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณต์ ่าง ๆ
เกณฑ์การให้คะแนนดา้ นสมรรถนะนกั เรยี น ด้านสมรรถนะนกั เรยี น ระดับคะแนน ความสามารถในการ 432 1 สอ่ื สาร ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถในการคิด การสือ่ สาร การสื่อสาร การส่อื สาร การส่อื สาร 1 ข้อ ความสามารถในการ แกป้ ญั หา ครบทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ข้อ ความสามารถใน การคิด ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน 1 ข้อ การคดิ การคดิ การคดิ ความสามารถใน การแกป้ ัญหา ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ 1 ข้อ ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน การแก้ปัญหา การแกป้ ัญหา การแกป้ ัญหา ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ข้นึ ไปทุกตวั ช้วี ัด ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน 4 หมายถงึ ดมี าก 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ
แบบประเมนิ ดา้ นสมรรถนะนกั เรยี น เร่อื ง Google Search สมรรถนะนักเรยี น ผลการประเมนิ หมายเหตุ เลขท่ี การ การคิด การ ผ่าน ไมผ่ า่ น ส่ือสาร แกป้ ญั หา 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉลยี่ ลงชอ่ื (.......................................................) ครู
8. ขอ้ เสนอแนะ ✓ ใช้สอนได้ ควรปรบั ปรงุ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ.................................................. (นายวิสทุ ธิศักดิ์ เครือสาร) ครพู ่ีเลย้ี ง วนั ท่ี 1 เดอื น มถิ ุนายน พ.ศ.2564 9.บันทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้ คน 100 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 1) ผลทเ่ี กิดขนึ้ แกผ่ ูเ้ รียน คน 0 คิดเป็นร้อยละ ดา้ นความรู้ จำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ 175 คน 175 คดิ เปน็ รอ้ ยละ จำนวนนกั เรยี นทไี่ ม่ผ่านเกณฑ์ 0 คน 0 คดิ เปน็ ร้อยละ ดา้ นทักษะกระบวนการ จำนวนนักเรยี นที่ผา่ นเกณฑ์ 175 คน 175 คดิ เป็นรอ้ ยละ จำนวนนักเรยี นท่ไี ม่ผา่ นเกณฑ์ 0 คน 0 คดิ เป็นรอ้ ยละ ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ จำนวนนักเรียนท่ผี ่านเกณฑ์ 175 คน 175 คิดเป็นรอ้ ยละ จำนวนนกั เรียนท่ไี ม่ผ่านเกณฑ์ 0 คน 0 คดิ เปน็ รอ้ ยละ ด้านสมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น จำนวนนักเรยี นทผ่ี า่ นเกณฑ์ 175 จำนวนนกั เรียนทไ่ี มผ่ ่านเกณฑ์ 0 2) ปัญหาและอปุ สรรค เน่ืองจากสถานการณก์ ารแพร่ระบาดจงึ ทำใหน้ ักเรียนแบ่งกล่มุ มาโรงเรยี น เป็นกลมุ่ A และกลุม่ B นกั เรียน บางคนใชค้ อมพิวเตอร์ไม่เป็นและจะเรยี กใหไ้ ปทำให้ตลอด
3)แนวทางการแก้ปญั หา ครใู ชแ้ ผนละ สองคร้งั และครูให้นักเรียนทำพร้อมๆกนั ลงชอ่ื .................................................. (.......................................................) ผสู้ อน วันท.่ี ......เดือน................... พ.ศ.............. 10.ความคดิ เหน็ ของหัวหน้ากลมุ่ สาระ/สายช้ัน ............................................................................................................................. ................................................. ..................................................................................................................................................................... ......... .......................................................................................................................... .................................................... ลงชอื่ .................................................. (.......................................................) หวั หนา้ กลุ่มสาระ/สายชน้ั วนั ท.่ี ......เดือน................... พ.ศ.............. 11.ความคิดเหน็ ของฝา่ ยวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.................................................. (.......................................................) ฝา่ ยวิชาการ วันท.ี่ ......เดือน................... พ.ศ.............. 12.ความคดิ เหน็ ของผู้อำนวยการโรงเรียน ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื .................................................. (.......................................................) ผู้อำนวยการโรงเรยี น วนั ท.ี่ ......เดือน................... พ.ศ..............
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 หนว่ ยการเรียนรู้ รวบรวม ประมวลผล และนำเสนอข้อมลู รหสั – ชอื่ รายวชิ า วทิ ยาการคํานวณ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 2 ช่ัวโมง ผู้สอน นายศุภานต์ รนิ วงศ์ โรงเรียน อนบุ าลแมเ่ มาะ (ชมุ ชน 1) มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รู้เทา่ ทัน และมีจรยิ ธรรม ตวั ช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ ว 4.2 ป.3/4 รวบรวม ประมวลผล และ นำเสนอข้อมลู โดยใช้ ซอฟต์แวรต์ ามวัตถุประสงค์ สาระสำคญั 1. การการรวบรวมข้อมลู ทำได้โดยกำหนดหวั ขอ้ ที่ต้องการเตรยี มอุปกรณ์ในการจดบนั ทกึ 2. การประมวลผลอย่างงา่ ย เชน่ เปรียบเทยี บ จัดกลุ่ม เรียงลำดบั 3. การนำเสนอข้อมูลทำได้หลายลักษณะตามความเหมาะสมเช่น การบอกเล่า การทำเอกสารรายงาน การจดั ทำป้าย ประกาศ 4. การใช้ซอฟต์แวร์ทำงานตามวัตถุประสงค์ เช่นใช้ซอฟต์แวร์ นำเสนอหรือซอฟต์แวร์กราฟิกสร้าง แผนภูมริ ปู ภาพ ใช้ซอฟต์แวร์ประมวลคำทำป้ายประกาศหรือเอกสารรายงานใช้ซอฟต์แวร์ตาราง ทำงานในการประมวลผลขอ้ มูล 5. การการรวบรวมข้อมลู ทำไดโ้ ดยกำหนดหวั ขอ้ ทีต่ ้องการเตรยี มอปุ กรณ์ในการจดบนั ทึก 6. การประมวลผลอยา่ งงา่ ย เช่นเปรยี บเทียบ จดั กลุม่ เรยี งลำดับ 7. การนำเสนอข้อมูลทำได้หลายลักษณะตามความเหมาะสมเช่น การบอกเล่า การทำเอกสารรายงาน การจดั ทำป้าย ประกาศ 8. การใช้ซอฟต์แวร์ทำงานตามวัตถุประสงค์ เช่นใช้ซอฟต์แวร์ นำเสนอหรือซอฟต์แวร์กราฟิกสร้าง แผนภมู ริ ูปภาพใช้ซอฟตแ์ วร์ประมวลคำทำป้ายประกาศหรือเอกสารรายงานใช้ซอฟต์แวรต์ ารางทำงานใน การประมวลผลขอ้ มูล
สาระการเรียนรู้ การรวบรวมข้อมูล นำข้อมูลจากแหล่งข้อมูลตา่ งๆ มารวมกันไว้ในรูปแบบที่เหมาะสม นำข้อมูลที่เกบ็ รวบรวมได้มาประมวลผล เพื่อแปรสภาพข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่ต้องการ นำข้อมูลที่รวบรวมและผ่านการ ประมวลผลข้อมูล มานำเสนอ หรือทำการเผยแพร่ให้ผู้ที่สนใจได้รับทราบ หรือนำไปวิเคราะห์เพื่อไปใช้ ประโยชน์ การรวบรวมข้อมูล นำข้อมูลจากแหล่งข้อมูลตา่ งๆ มารวมกันไว้ในรูปแบบที่เหมาะสม นำข้อมูลที่เกบ็ รวบรวมได้มาประมวลผล เพื่อแปรสภาพข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่ต้องการ นำข้อมูลที่รวบรวมและผ่านการ ประมวลผลข้อมูล มานำเสนอ หรือทำการเผยแพร่ให้ผู้ที่สนใจได้รับทราบ หรือนำไปวิเคราะห์เพื่อไปใช้ ประโยชน์ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ 1. อธิบายขัน้ ตอนการรวบรวมข้อมลู ได้ 2. อธบิ ายข้นั ตอนการประมวลผลข้อมลู ได้ ทกั ษะกระบวนการ 1. สามารถพิจารณาเลอื กแหลง่ ข้อมูลทนี่ ่าเชื่อถือ 2. นำขน้ั ตอนการประมวลผลข้อมูลไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
การประเมินผลรวบยอด 1. แบบทดสอบออนไลน์ เรอื่ ง การรวบรวมขอ้ มูล 2. แบบทดสอบออนไลน์ เรื่อง การประมวลผล การประเมนิ ผล ระดับคณุ ภาพ นำ้ หนกั คะแนน ประเดน็ การประเมนิ ดมี าก ดี (3) พอใช้ ปรบั ปรงุ (4) (2) (1) แบบทดสอบออนไลน์ เรื่อง การรวบรวมข้อมูล 10 8-9 6-7 0-5 6 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน แบบทดสอบออนไลน์ เรือ่ ง การประมวลผล 10 8-9 6-7 0-5 6 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน รวม 12 กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 กจิ กรรมหลักของครู 1. ครถู ามนักเรียนเพือ่ เป็นการทบทวนความรู้เดมิ ของนกั เรยี น 2. ครแู จกใบความรทู้ ่ี 4 DATA ให้กับนกั เรียน 3. ครใู ห้นกั เรียนช่วยกันตอบว่า เราจะหาขอ้ มลู ต่างๆไดจ้ ากทไ่ี หนบา้ ง 4. ครอู ธบิ าย ข้ันตอนการรวบรวม ประมวลผล และ นำเสนอขอ้ มลู 5. ครแู จกใบงานที่ 3.1 ไวรสั โคโรนา Covid-19 6. ครสู รุปให้นกั เรียนเข้าใจวา่ ข้อมูล (DATA) คอื อะไร 7. ครแู ละนกั เรียนสรปุ รว่ มกนั วา่ แหล่งขอ้ มูล หรอื สอื่ (Media Forms) 8. ครเู ปิดโอกาสให้นักเรยี นสอบถามเพ่ิมเตมิ ภาระงานของนกั เรียน 1. นกั เรียนร่วมกันอภิปรายและยกตัวอยา่ งวธิ ีรวบรวมขอ้ มลู ขอ้ ดแี ละข้อเสยี ของแต่ละวิธี 2. นกั เรยี นทำใบงานท่ี 3.1 ไวรัสโคโรนา Covid-19 3. นักเรยี นสรุปรว่ มกนั วา่ แหลง่ ขอ้ มูล หรอื สื่อ (Media Forms)
ชั่วโมงที่ 2 กจิ กรรมหลักของครู 1. ครเู ช็คชือ่ นกั เรยี นเข้าชัน้ เรียนเพื่อนับยอดจำนวนนักเรียนที่เข้าเรียน 2. ครูใหน้ กั เรียนทำกิจกรรมภูเขาไฟระเบดิ (เกมหาสง่ิ ของตามทีค่ รูกำหนด) 3. ครูทบทวนนักเรยี นว่าข้อมลู ปฐมคอื อะไร และลองใหย้ กตวั อย่าง เพ่ือเปน็ การทบทวนก่อนเขา้ ชั้นเรยี น 4. ครใู ห้นกั เรียนทำกิจกรรมที่ 1 แยกแยะกลมุ่ 5. ครเู ข้าสู่เนอ้ื หาโดยบอกความหมายของการประมวลผล 6. ครคู อยเสนอแนะนักเรียน 7. ครเู ปรยี บเทียบการทำงานระหว่างมนษุ ย์กบั คอมพวิ เตอร์ 8. ครใู หน้ กั เรียนทำกิจกรรม แบบฝึกหดั ชว่ ยกนั คิดช่วยกนั ตอบ 9. ครกู ับนกั เรียนชว่ ยกันสรปุ 10. ครูเปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นสอบถามเพิ่มเตมิ 11. ครนู ัดหมายนักเรยี นในคาบตอ่ ไป ภาระงานของนกั เรยี น 1. นักเรยี นทำกิจกรรมภูเขาไฟระเบดิ (เกมหาสิ่งของตามท่ีครกู ำหนด) 2. นกั เรียนทำกจิ กรรมที่ 1 แยกแยะกลมุ่ 3. นกั เรียนทำกจิ กรรม แบบฝึกหัดชว่ ยกันคดิ ชว่ ยกนั ตอบ 4. นักเรยี นช่วยกันสรปุ เนอ้ื หา
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 5 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564 หนว่ ยท่ี 3/1 เรื่อง รวบรวมข้อมลู เวลา 1 ชวั่ โมง 1. มาตรฐาน/ตัวชี้วดั / ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รู้เท่าทนั และมีจรยิ ธรรม ตัวช้วี ดั /ผลการเรียนรู้ ว 4.2 ป.3/4 รวบรวม ประมวลผล และ นำเสนอข้อมลู โดยใช้ ซอฟต์แวรต์ ามวตั ถุประสงค์ 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การรวบรวมข้อมูล นำข้อมูลจากแหล่งข้อมูลตา่ งๆ มารวมกันไวใ้ นรูปแบบที่เหมาะสม นำข้อมูลที่เกบ็ รวบรวมได้มาประมวลผล เพื่อแปรสภาพข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่ต้องการ นำข้อมูลที่รวบรวมและผ่านการ ประมวลผลข้อมูล มานำเสนอ หรือทำการเผยแพร่ให้ผู้ที่สนใจได้รับทราบ หรือนำไปวิเคราะห์เพื่อไปใช้ ประโยชน์ 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ 1. อธบิ ายข้นั ตอนการรวบรวมข้อมูลได้ ด้านทักษะกระบวนการ 1. สามารถพิจารณาเลอื กแหล่งข้อมลู ท่ีนา่ เช่ือถือ ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน สมรรถนะทสี่ ำคญั ของนกั เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. สาระการเรยี นรู้ 1. การการรวบรวมขอ้ มูลทำได้โดยกำหนดหัวข้อทีต่ ้องการเตรยี มอุปกรณ์ในการจดบันทกึ 2. การประมวลผลอย่างงา่ ย เช่นเปรยี บเทียบ จัดกลุ่ม เรียงลำดับ 3. การนำเสนอข้อมูลทำได้หลายลักษณะตามความเหมาะสมเช่น การบอกเล่า การทำเอกสารรายงาน การจัดทำป้าย ประกาศ 4. การใช้ซอฟต์แวร์ทำงานตามวัตถุประสงค์ เช่นใช้ซอฟต์แวร์ นำเสนอหรือซอฟต์แวร์กราฟิกสร้าง แผนภมู ิรูปภาพ ใช้ซอฟต์แวร์ประมวลคำทำป้ายประกาศหรือเอกสารรายงานใช้ซอฟต์แวร์ตาราง ทำงานในการประมวลผลขอ้ มลู 5. กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ นำเข้าสู่บทเรียน 1. ครถู ามนักเรียนเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนและเพ่ือกระตุ้นความสนใจของนักเรยี น เช่น “เมอื่ นกั เรยี นต้องการร้เู รอ่ื งเก่ยี วกับอะไรสักเรอื่ งหน่ึงนักเรียนจะไปถามใคร? จะเป็นอย่างไรถ้ามคี นท่ี สามารถตอบเราได้ทุกเร่ืองท่เี ราสงสัย?” 2. ครถู ามนักเรียนวา่ “ถา้ คุณครูสง่ั ให้นกั เรียนหาขอ้ มลู เกยี่ วกับเร่อื งไวรสั โคโรนา Covid-19นกั เรยี นจะ ไปถามใคร หรอื หาข้อมูลจากไหนทจี่ ะไดข้ ้อมูลที่ครบถว้ นมากทส่ี ุด” ขนั้ สอน (วิธีสอน/นวัตกรรม) 1. ครแู จกใบความรู้ที่ 4 DATA ใหก้ บั นกั เรยี น พร้อมอธยิ ายใบความรู้ ข้อมูล (DATA) คือ ข้อเท็จจริงหรือสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์ สิ่งของ เรื่องราว เหตุการณ์ หรือสถานที่ต่างๆ ที่เราสนใจ ซึ่งประเภทของข้อมูลที่ได้รับจะอยู่ในรูปแบบของ ข้อมูลรูปภาพ ตัวเลข สัญลักษณ์ ตัวอักษร เสียง ภาพเคลื่อนไหว รสสัมผัสและผิวสัมผัส ซึ่งเราจะรับรู้ได้จากประสาท สมั ผัสทั้ง 5 ได้แก่ ตา หู จมูก ปาก ผวิ สัมผสั ประเภทของข้อมลู 1. ขอ้ มูลตวั อกั ษร คอื ขอ้ มลู ที่ประกอบด้วยตัวอกั ษรและตวั เลขที่ใชใ้ นการคำนวณ ทัง้ ภาษาไทย และภาษาตา่ งประเทศ เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน 2. ขอ้ มลู ตัวเลข คอื ข้อมลู ท่ปี ระกอบไปด้วยตวั เลข 0 – 9 ใช้ในการคำนวณได้ เชน่ คะแนน จำนวนเงนิ ราคาสนิ คา้ 3. ขอ้ มูลภาพ คอื ขอ้ มูลทเี่ ป็นภาพ อาจเป็นภาพนิ่ง หรอื ภาพเคลือ่ นไหว 4. ข้อมูลเสียง คือ ข้อมูลที่รับรู้ด้วยการได้ยิน จัดเก็บข้อมูลในสื่อคอมพิวเตอร์ สามารถ แสดงผลข้อมูลเสยี งดว้ ยเครอื่ งขยายเสยี งและลำโพง
2. ครใู ห้นักเรียนชว่ ยกันตอบว่า เราจะหาขอ้ มูลต่างๆไดจ้ ากทีไ่ หนบ้าง? แนวคำตอบ : ห้องสมดุ หนงั สือพิมพ์ ถามจากผู้มปี ระสบการณ์ อนิ เทอรเ์ นต็ 3. ครอู ธิบายเพ่ิมเตมิ ว่า แหล่งขอ้ มลู หรอื ส่ือ (Media) คือ ตวั กลางในการติดตอ่ สื่อสาร โดยนำสารจาก ผู้ส่งไปยังผู้รับเพื่อติดต่อสื่อสารถึงกัน แหล่งข้อมูล หมายถึง สถานท่ีหรือแหล่งท่ีเกิดขอ้ มลู แหล่งขอ้ มลู จะ แตกตา่ งกนั ไปตามขอ้ มลู ท่ตี อ้ งการ สามารถแบง่ แหลง่ ขอ้ มลู ตามลกั ษณะการเกิด ไดด้ งั นี้ 1.แหล่งข้อมูลปฐมภูมิ หมายถึง ข้อมูลทั่วไปที่ได้จากการเก็บรวบรวม หรือบันทึก จากแหล่งข้อมูลโดยตรง อาจเป็นการสาอบถาม การสัมภาษณ์ การจดบันทึก และการจัดหา ด้วยเคร่อื งอัตโนมตั ิ 2.แหล่งข้อมูลทุติยภูมิ หมายถึง ข้อมูลที่ได้มีผู้รวบรวมไว้แล้วในลักษณะเอกสาร ตีพิมพ์เผยแพร่และตำราทางวิชาการ เช่น ข้อมูลสถิติต่าง ๆ ข้อมูลเหล่านี้มีการตีพิมพ์ เผยแพร่เพื่อใช้งานหรือนำไปประมวลผลต่อ 4. ครอู ธิบาย ข้ันตอนการรวบรวม ประมวลผล และ นำเสนอข้อมูล ขั้นตอนวิธี หรือแผนการรวบรวมเพื่อนำมาทำเป็นสารสนเทศหรือความรู้เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ต่อไป มีข้ันตอนคอื 1. การกำหนดหวั ขอ้ 2. การเตรยี มอุปกรณ์ 3. ค้นหาและเกบ็ ข้อมูล 4. นำข้อมูลทไ่ี ด้มาทำการประมวลผล โดยการเปรยี บเทยี บ จดั กลมุ่ เรียงลำดบั จนได้ผลเป็น สารสนเทศ 5. นำเสนอ ซึ่งทำได้หลายลักษณะตามวัตถุประสงค์ เช่น การบอกเล่า เอกสารรายงาน โปสเตอร์ โปรแกรมนำเสนอต่างๆ 5. ครูแจกใบงานที่ 3.1 ไวรัสโคโรนา Covid-19 พร้อมอธิบายวิธีการทำใบงานคือ ให้นักเรียนหาข้อมูล เกี่ยวกับเรื่องไวรัสโคโรนา Covid-19 ตามหัวข้อที่กำหนดในใบงาน และทำการวิเคราะห์ข้อมูล หลงั จากวิเคราะห์แล้ว ให้นกั เรียนเขียนลงในใบงาน และนำมาส่งในช่วั โมงเรียนถดั ไป 6. ครูให้นกั เรียนทำแบบทดสอบออนไลน์ เรอื่ ง การรวบรวมขอ้ มูล จำนวน 10 ขอ้ ขนั้ สรุป 1. ครสู รุปให้นกั เรยี นเขา้ ใจวา่ ข้อมลู (DATA) คือ ข้อเท็จจริงหรือสงิ่ ต่างๆ สามารถหาข้อมูลไดจ้ าก แหลง่ ข้อมูลต่างๆ โดยมขี ัน้ ตอน คือ การกำหนดหัวขอ้ การเตรยี มอุปกรณ์ ค้นหาและเกบ็ ข้อมลู ประมวลผลข้อมูล และนำเสนอ
2. ครแู ละนักเรยี นสรุปร่วมกนั วา่ แหลง่ ข้อมูล หรือ สื่อ (Media Forms) มดี ้วยกนั หลายรปู แบบ เรา จำเปน็ ตอ้ งเข้าใจ จดุ ประสงค์ของแหลง่ ขอ้ มลู (สื่อ) หรือท่เี รียกว่า การรเู้ ท่าทันส่ือไมอ่ ย่างน้นั เราจะ หลงเช่อื ไปกับสื่อ (แหล่งข้อมูล) ทไ่ี มเ่ หมาะสมได้ 3. ครเู ปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามเพ่มิ เตมิ 6. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้ 1. ใบงานที่ 3.1 ไวรสั โคโรนา Covid-19 2. ใบความรทู้ ี่ 4 DATA 3. แบบทดสอบออนไลน์ เรอื่ ง การรวบรวม
7. การวดั ผลและประเมนิ ผล วิธกี ารวัด เคร่อื งมอื 7.1 การวดั ผล แบบทดสอบ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ แบบทดสอบออนไลน์ เร่ือง การรวบรวม ขอ้ มูล ดา้ นทักษะกระบวนการ ประเมนิ ใบงานที่ 3.1 ไวรัสโคโรนา แบบประเมินด้านทักษะ Covid-19 กระบวนการ ด้านคุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ วัดโดยการสังเกตคุณลกั ษณะอนั พงึ แบบประเมนิ ดา้ น ประสงคข์ องนักเรียน 3 ดา้ น ได้แก่ คุณลกั ษณะอันพง่ึ ประสงค์ สมรรถนะทีส่ ำคัญ ของนักเรียน 1. มีวินัย แบบประเมนิ ด้านสมรรถนะ 2. ใฝ่เรียนรู้ สำคญั ของนกั เรียน 3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน วัดโดยการสงั เกตสมรรถนะสำคัญของ นกั เรยี น 3 ด้าน ได้แก่ 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
7.2 เกณฑ์การประเมนิ ผล ดา้ นความรู้ แบบทดสอบออนไลน์ เรอื่ ง การรวบรวมขอ้ มูล (10 คะแนน) 10 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 8-9 คะแนน หมายถึง ดี 6-7 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0-5 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง หมายเหตุ ดา้ นความรู้เกณฑ์ผา่ น ร้อยละ 80 ทกุ ประเดน็ การประเมิน แบบบนั ทึกการประเมนิ ดา้ นความรู้ เร่ือง รวบรวมข้อมูล เลขท่ี แบบฝึกหัด รอ้ ยละ ผลการประเมิน (10คะแนน) ผา่ น ไม่ผา่ น 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉลี่ย ลงช่อื (.......................................................) ครู
ดา้ นทักษะกระบวนการนักเรยี น การประเมินด้านทักษะกระบวนการ เร่ือง รวบรวมขอ้ มูล การสรุปความรู้ในรูปแบบ ให้นักเรียนหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องไวรัสโคโรนา Covid-19 ตามหัวข้อที่กำหนด ในใบงาน 1. ทำสำเรจ็ ตามเวลาทีก่ ำหนด 2. สามารถบอกแหลง่ ที่มาของขอ้ มูลได้ 3. เข้าใจงา่ ย 4. งานมคี วามสะอาดเรียบร้อย การสรุปความรู้ในรูปแบบ ให้นักเรียนหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องไวรัสโคโรนา Covid-19 ตามหัวข้อที่กำหนด ในใบงาน คะแนน 4 คะแนน หมายถงึ ดมี าก คะแนน 3 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน 1 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ เกณฑ์การให้คะแนนด้านทกั ษะกระบวนการ ดา้ นทักษะกระบวนการ ระดบั คะแนน นักเรียนหาขอ้ มูลเกยี่ วกบั 432 1 เรือ่ งไวรสั โคโรนา Covid-19 ทำตามเกณฑ์ ทำตามเกณฑ์ ทำตามเกณฑ์ ทำตามเกณฑ์ เป็นประเมิน เปน็ ประเมิน เปน็ ประเมนิ เป็นประเมนิ ได้ 1 ข้อ ครบตามเกณฑ์ ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ขอ้ หมายเหตุ : ได้คะแนน 3 ขนึ้ ไปทกุ ตวั ชีว้ ดั ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน 4 หมายถึง ดีมาก 3 หมายถึง ดี 2 หมายถงึ พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ
แบบประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการ เรอ่ื ง รวบรวมขอ้ มลู เลขท่ี คะแนนด้านทักษะ ผลการประเมิน หมายเหตุ กระบวนการ ผา่ น ไม่ผา่ น 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉลี่ย ลงชื่อ (.......................................................) ครู
ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ไดร้ ะดบั คุณภาพ 3 ขนึ้ ไปทุกตัวชวี้ ดั ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน หมายเหตุ: ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ กำหนดระดบั คุณภาพ 4 = ดมี าก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรับปรงุ การประเมินด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เรอ่ื ง รวบรวมขอ้ มลู มวี ินัย 1.เขา้ เรียนตรงตอ่ เวลา 2.ไม่โดดเรยี น 3.แต่งกายสภุ าพเรยี บร้อย 4.สง่ การบา้ นตรงต่อเวลา ใฝเ่ รยี นรู้ 1.ตง้ั ใจเรยี น 2.สืบค้นหาความรู/้ ข้อมลู สมำ่ เสมอ 3.รว่ มทำกจิ กรรมในหอ้ งเรยี น 4.บนั ทึกความรู้ วิเคราะห์ข้อมลู จากสงิ่ ที่เรียนรู้ มุง่ ม่นั ในการทำงาน 1.ต้งั ใจและรับผิดชอบในการปฏิบัตหิ นา้ ท่ีการงาน 2.เอาใจใส่ต่อการปฏบิ ัติหนา้ ทีท่ ี่ได้รับมอบหมาย 3.ต้งั ใจและรับผิดชอบในการทำงานใหส้ ำเรจ็ 4.ปรับปรงุ และพัฒนาการทำงานดว้ ยตนเอง
เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านสมรรถนะนกั เรียน ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึง ระดบั คะแนน ประสงค์ มีวินัย 432 1 มคี ุณลักษณะอัน ใฝ่เรียนรู้ มีคณุ ลกั ษณะอัน มคี ุณลกั ษณะอัน มีคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ม่งุ มัน่ ในการทำงาน พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ พึงประสงค์ 1 ข้อ ครบทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ขอ้ มีคุณลกั ษณะอัน พึงประสงค์ มีคุณลักษณะอนั มีคณุ ลักษณะอนั มคี ุณลักษณะอนั 1 ข้อ พึงประสงค์ พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ มีคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ครบทุกขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ 1 ข้อ มคี ุณลักษณะอัน มคี ณุ ลกั ษณะอัน มีคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ ครบทกุ ข้อ 3 ข้อ 2 ข้อ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 3 ข้นึ ไปทุกตวั ชว้ี ัด ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน 4 หมายถงึ ดมี าก 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถงึ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรงุ
แบบประเมนิ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เรอ่ื ง รวบรวมข้อมลู คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ผลการประเมิน เลขที่ หมายเหตุ ผ่าน ไมผ่ า่ น มวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ ม่งุ มนั่ ในการ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉล่ยี ลงชือ่ (.......................................................) ครู
ดา้ นสมรรถนะนักเรียน ได้ระดับคณุ ภาพ 2 ข้นึ ไปทุกตวั ชว้ี ดั ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมนิ หมายเหตุ : ดา้ นสมรรถนะนักเรยี น กำหนดระดับคุณภาพ 4 = ดมี าก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรับปรงุ การประเมินดา้ นสมรรถนะนักเรยี น เร่อื ง รวบรวมขอ้ มูล ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มีความสามารถในการรบั และสง่ สาร 2. เลือกรบั หรือไม่รับข้อมลู ข่าวสารดว้ ยหลกั เหตผุ ล 3. คำนงึ ถึงผลกระทบท่ีมีตอ่ ตนเองและสังคม 4. การเจรจาตอ่ รองเพ่ือขจดั และลดปัญหาความขดั แยง้ ต่าง ๆ ความสามารถในการคดิ 1. การคดิ อย่างมีวิจารณญาณ 2. การคิดเปน็ ระบบ 3. การคดิ สังเคราะห์ 4. การคิดอย่างสรา้ งสรรค์ ความสามารถในการแก้ปัญหา 1. การแก้ปญั หาและอุปสรรคตา่ ง ๆ 2. มกี ารตดั สนิ ใจท่ีมีประสทิ ธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกดิ ขึ้นต่อตนเอง สงั คมและสิ่งแวดลอ้ ม 3. ประยุกต์ความรู้มาใชใ้ นการป้องกนั และแกไ้ ขปญั หา 4. เขา้ ใจความสมั พนั ธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตกุ ารณต์ ่าง ๆ
เกณฑ์การให้คะแนนดา้ นสมรรถนะนกั เรยี น ด้านสมรรถนะนกั เรยี น ระดับคะแนน ความสามารถในการ 432 1 สอ่ื สาร ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถในการคิด การสือ่ สาร การสื่อสาร การส่อื สาร การส่อื สาร 1 ข้อ ความสามารถในการ แกป้ ญั หา ครบทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ข้อ ความสามารถใน การคิด ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน 1 ข้อ การคดิ การคดิ การคดิ ความสามารถใน การแกป้ ัญหา ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ 1 ข้อ ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน การแก้ปัญหา การแกป้ ัญหา การแกป้ ัญหา ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ข้นึ ไปทุกตวั ช้วี ัด ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน 4 หมายถงึ ดมี าก 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ
แบบประเมนิ ด้านสมรรถนะนักเรียน เรื่อง รวบรวมขอ้ มลู สมรรถนะนกั เรียน ผลการประเมนิ หมายเหตุ เลขท่ี การ การคิด การ ผา่ น ไม่ผา่ น สื่อสาร แก้ปญั หา 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉลย่ี ลงชื่อ (.......................................................) ครู
8. ขอ้ เสนอแนะ ✓ ใช้สอนได้ ควรปรบั ปรงุ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื .................................................. (นายวสิ ุทธศิ กั ดิ์ เครือสาร) ครูพ่ีเลี้ยง วันท่ี 1 เดอื น มถิ ุนายน พ.ศ.2564 9.บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ คน 100 คิดเปน็ รอ้ ยละ 1) ผลท่เี กิดขนึ้ แก่ผู้เรยี น คน 0 คดิ เป็นร้อยละ ดา้ นความรู้ จำนวนนักเรียนทีผ่ ่านเกณฑ์ 175 คน 175 คดิ เป็นร้อยละ จำนวนนักเรียนทไ่ี มผ่ า่ นเกณฑ์ 0 คน 0 คดิ เป็นร้อยละ ดา้ นทักษะกระบวนการ จำนวนนักเรียนทผ่ี า่ นเกณฑ์ 175 คน 175 คิดเป็นร้อยละ จำนวนนักเรียนทีไ่ มผ่ ่านเกณฑ์ 0 คน 0 คิดเป็นร้อยละ ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ จำนวนนักเรยี นทผ่ี ่านเกณฑ์ 175 คน 175 คดิ เปน็ รอ้ ยละ จำนวนนกั เรยี นทไี่ ม่ผ่านเกณฑ์ 0 คน 0 คิดเป็นร้อยละ ด้านสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน จำนวนนกั เรียนทผี่ ่านเกณฑ์ 175 จำนวนนักเรียนทไ่ี ม่ผ่านเกณฑ์ 0 2) ปัญหาและอปุ สรรค เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดจึงทำใหน้ กั เรยี นต้องหยุดเรียน
3)แนวทางการแก้ปญั หา ลงชื่อ.................................................. ให้ใช้การเรียนการสอน แบบ On hand (.......................................................) ผูส้ อน วันท.ี่ ......เดือน................... พ.ศ.............. 10.ความคดิ เหน็ ของหัวหนา้ กล่มุ สาระ/สายช้ัน ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่ือ.................................................. (.......................................................) หวั หน้ากลมุ่ สาระ/สายช้ัน วนั ที.่ ......เดือน................... พ.ศ.............. 11.ความคิดเห็นของฝา่ ยวิชาการ ........................................................................................................................................ ...................................... ............................................................................................. ................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่อื .................................................. (.......................................................) ฝา่ ยวิชาการ วนั ที.่ ......เดือน................... พ.ศ.............. 12.ความคดิ เหน็ ของผูอ้ ำนวยการโรงเรยี น ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ .................................................. (.......................................................) ผู้อำนวยการโรงเรียน วันท่.ี ......เดอื น................... พ.ศ..............
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 หนว่ ยท่ี 3/2 เร่ือง การประมวลผล เวลา 1 ชวั่ โมง 1. มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด/ ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทัน และมจี รยิ ธรรม ตวั ชว้ี ดั /ผลการเรียนรู้ ว 4.2 ป.3/4 รวบรวม ประมวลผล และ นำเสนอขอ้ มูล โดยใช้ ซอฟต์แวรต์ ามวัตถุประสงค์ 2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การรวบรวมข้อมูล นำข้อมูลจากแหล่งข้อมูลตา่ งๆ มารวมกันไวใ้ นรูปแบบที่เหมาะสม นำข้อมูลที่เก็บ รวบรวมได้มาประมวลผล เพื่อแปรสภาพข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่ต้องการ นำข้อมูลที่รวบรวมและผ่านการ ประมวลผลข้อมูล มานำเสนอ หรือทำการเผยแพร่ให้ผู้ที่สนใจได้รับทราบ หรือนำไปวิเคราะห์เพื่อไปใช้ ประโยชน์ 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ 1. อธิบายขั้นตอนการประมวลผลขอ้ มูลได้ ด้านทักษะกระบวนการ 1. นำขนั้ ตอนการประมวลผลข้อมูลไปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจำวนั ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน สมรรถนะท่สี ำคัญของนักเรยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. สาระการเรยี นรู้ 1. การการรวบรวมขอ้ มลู ทำได้โดยกำหนดหัวข้อทีต่ อ้ งการเตรียมอุปกรณใ์ นการจดบนั ทึก 2. การประมวลผลอยา่ งงา่ ย เช่นเปรยี บเทียบ จัดกลุ่ม เรยี งลำดบั 3. การนำเสนอข้อมูลทำได้หลายลักษณะตามความเหมาะสมเช่น การบอกเล่า การทำเอกสารรายงาน การจดั ทำปา้ ย ประกาศ 4. การใช้ซอฟต์แวร์ทำงานตามวัตถุประสงค์ เช่นใช้ซอฟต์แวร์ นำเสนอหรือซอฟต์แวร์กราฟิกสร้าง แผนภมู ริ ปู ภาพใชซ้ อฟตแ์ วรป์ ระมวลคำทำป้ายประกาศหรือเอกสารรายงานใช้ซอฟต์แวร์ตารางทำงานใน การประมวลผลขอ้ มูล 5. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้ันนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครเู ชค็ ชอ่ื นักเรียนเขา้ ช้ันเรยี นเพ่อื นบั ยอดจำนวนนกั เรยี นทีเ่ ข้าเรียน 2. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมภูเขาไฟระเบิด (เกมหาสิ่งของตามที่ครูกำหนด) เพื่อทบทวนความรู้เดิมใน ชั่วโมงเรยี นที่ผ่าน และกระตุ้นให้นกั เรยี นตน่ื ตัวพร้อมต่อการเรียนรู้ในเนือ้ หาถัดไป 3. ครใู ห้นกั เรียนทำกิจกรรมที่ 1 แยกแยะกลมุ่ ขนั้ สอน (วิธสี อน/นวตั กรรม) 1. ครูเข้าสู่เนื้อหาโดยบอกความหมายของการประมวลผลข้อมูล “กระบวนการที่กระทำกับข้อมูลท่ี รวบรวมไว้เพื่อให้ได้ขอ้ มูล หรือสารสนเทศทีอ่ ยูใ่ นรูปแบบท่ีต้องการนำไปใช้ รูปแบบการประมวลผลข้อมลู ทนี่ ยิ มใชใ้ นปัจจุบนั เปน็ การประมวลผลด้วยเคร่ืองมอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เช่น คอมพิวเตอร์ สมารต์ โฟน” 2. ครูคอยเสนอแนะนักเรียนว่า กระบวนการทางความคิดของคนเรานั้นก็เหมือนการทำงานของ คอมพวิ เตอร์ น้นั กค็ อื ขัน้ ตอนรบั ขอ้ มูล (Input) คือ ขั้นตอนท่ีนักเรยี นไปหาขอ้ มูลจากแหล่งขอ้ มลู ต่างๆ ขั้นตอนประมวลผลข้อมูล (Process) คือ ขั้นตอนที่นักเรียนได้ข้อมูลมาแล้วนำมาเรียงลำดับข้อมูล วิเคราะหข์ อ้ มลู แสดงผลข้อมลู (Output) คอื ขน้ั ตอนท่ีนักเรยี นแตล่ ะคนได้ออกมานำเสนอขอ้ มูลอยใู่ นขณะนี้น่ันเอง จัดเก็บข้อมูล คือ กระบวนการท่ีนักเรียนได้รวบรวมข้อมูล ประมวลผล และนำมาเสนอ จะเกิดเป็นข้อมูล สารสนเทศ ที่นกั เรียนสามารถจดจำและนำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ 3. ครเู ปรยี บเทยี บการทำงานระหวา่ งมนุษยก์ บั คอมพวิ เตอร์ 4. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรม แบบฝึกหัดช่วยกันคิดช่วยกันตอบ โดยให้นักเรียนช่วยกันตอบเพื่อนำภาพ อปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์ มาใส่ให้ตรงกบั ระบบการทำงานของคอมพวิ เตอร์น้นั ๆ 5. ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า ใบงานนี้นักเรียนจะได้รู้จักอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และเรียนรู้วิธีการประมวลผล คือ การนำข้อมูลท่ีได้ ซึ่งเป็นรปู ภาพอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆ ผ่านกระบวนการตา่ งๆ มาจัดให้อยู่ในกลมุ่ ทีก่ ำหนด
ขั้นสรุป 1. ครูกับนักเรียนช่วยกันสรุป โดย ครูถามนำนักเรียน เช่น “ขั้นตอนการประมวลผลข้อมูล เพื่อนำไปใช้ ประโยชน์ มีข้ันตอนเหมอื นกบั ระบบการทำงานของคอมพวิ เตอร์ คอื ขน้ั ตอนอะไรบ้าง” แนวคำตอบ : ขั้นตอนการรับข้อมูล ขั้นตอนประมวลผลข้อมูล ขั้นตอนแสดงผลข้อมูล หรือการ นำเสนอ และขั้นตอนจดั เกบ็ ข้อมูล 2. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรยี นสอบถามเพ่มิ เตมิ 3. ครูนดั หมายนักเรยี นในคาบตอ่ ไป 6. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. กิจกรรมนำเสนอข้อมูล 2. แบบฝกึ หัดช่วยกันคดิ ชว่ ยกันตอบ 3. ภาพตวั อย่างข้ันตอนการทำงานของคอมพวิ เตอร์ 4. แบบทดสอบออนไลน์ เรื่อง การประมวลผล
7. การวดั ผลและประเมนิ ผล วธิ ีการวดั เคร่อื งมือ 7.1 การวัดผล แบบทดสอบ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ แบบทดสอบออนไลน์ เรื่อง การ ประมวลผล ด้านทกั ษะกระบวนการ แบบฝกึ หดั ชว่ ยกันคดิ ช่วยกนั ตอบ แบบประเมนิ ด้านทักษะ กระบวนการ ด้านคุณลกั ษณะ วดั โดยการสงั เกตคุณลักษณะอนั พึง อนั พงึ ประสงค์ ประสงคข์ องนักเรียน 3 ด้าน ไดแ้ ก่ แบบประเมินด้าน คณุ ลักษณะอันพึง่ ประสงค์ สมรรถนะทีส่ ำคญั 1. มีวินยั ของนักเรียน 2. ใฝเ่ รียนรู้ แบบประเมินดา้ นสมรรถนะ 3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน สำคัญของนักเรียน วดั โดยการสังเกตสมรรถนะสำคัญของ นักเรยี น 3 ดา้ น ไดแ้ ก่ 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
7.2 เกณฑ์การประเมนิ ผล ด้านความรู้ แบบทดสอบออนไลน์ เร่อื ง การประมวลผล (10 คะแนน) 10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 8-9 คะแนน หมายถงึ ดี 6-7 คะแนน หมายถึง พอใช้ 0-5 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ หมายเหตุ ด้านความรเู้ กณฑ์ผ่าน รอ้ ยละ 80 ทกุ ประเดน็ การประเมนิ แบบบนั ทกึ การประเมนิ ดา้ นความรู้ เรื่อง การประมวลผล เลขที่ แบบฝึกหดั รอ้ ยละ ผลการประเมิน (10คะแนน) ผา่ น ไม่ผา่ น 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉล่ยี ลงชอ่ื (.......................................................) ครู
ด้านทักษะกระบวนการนกั เรยี น การประเมนิ ด้านทักษะกระบวนการ เรื่อง การประมวลผล การสรุปความรใู้ นรปู แบบ นักเรยี นตดั ภาพอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แล้วนำมาตดิ ให้ตรงกบั ระบบการทำงานของ คอมพิวเตอร์ 1. ทำสำเร็จตามเวลาทก่ี ำหนด 2. มีความคิดสร้างสรรค์ 3. เขา้ ใจง่ายสามารถอธิบายได้ 4. งานมีความสะอาดเรยี บร้อย การสรุปความรู้ในรปู แบบ นักเรยี นตัดภาพอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แล้วนำมาติดใหต้ รงกบั ระบบการทำงานของ คอมพวิ เตอร์ คะแนน 4 คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนน 3 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน 1 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารให้คะแนนดา้ นทกั ษะกระบวนการ ด้านทกั ษะกระบวนการ ระดับคะแนน นกั เรยี นทำ 432 1 กิจกรรมตัด เติม ติด ทำตามเกณฑ์ ทำตามเกณฑ์ ทำตามเกณฑ์ ทำตามเกณฑ์ เปน็ ประเมิน เป็นประเมนิ เปน็ ประเมิน เป็นประเมิน ได้ 1 ข้อ ครบตามเกณฑ์ ได้ 3 ขอ้ ได้ 2 ขอ้ หมายเหตุ : ได้คะแนน 3 ขึน้ ไปทุกตัวช้ีวดั ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ 4 หมายถงึ ดีมาก 3 หมายถึง ดี 2 หมายถงึ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรุง
แบบประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ เรอื่ ง การประมวลผล เลขท่ี คะแนนด้านทักษะ ผลการประเมิน หมายเหตุ กระบวนการ ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉลย่ี ลงชอ่ื (.......................................................) ครู
ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 3 ขน้ึ ไปทุกตัวชี้วดั ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน หมายเหต:ุ ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ กำหนดระดบั คุณภาพ 4 = ดมี าก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรบั ปรุง การประเมินด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เร่อื ง การประมวลผล มวี ินัย 1.เขา้ เรยี นตรงตอ่ เวลา 2.ไมโ่ ดดเรียน 3.แต่งกายสุภาพเรียบร้อย 4.ส่งการบา้ นตรงต่อเวลา ใฝเ่ รยี นรู้ 1.ตง้ั ใจเรยี น 2.สืบคน้ หาความรู้/ข้อมูลสม่ำเสมอ 3.รว่ มทำกจิ กรรมในห้องเรียน 4.บันทึกความรู้ วเิ คราะห์ข้อมลู จากสง่ิ ทเ่ี รียนรู้ มุง่ ม่นั ในการทำงาน 1.ตงั้ ใจและรับผดิ ชอบในการปฏิบัตหิ น้าทก่ี ารงาน 2.เอาใจใสต่ ่อการปฏบิ ตั ิหน้าทที่ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 3.ต้งั ใจและรับผดิ ชอบในการทำงานให้สำเรจ็ 4.ปรบั ปรงุ และพัฒนาการทำงานดว้ ยตนเอง
เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านสมรรถนะนกั เรียน ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึง ระดบั คะแนน ประสงค์ มีวินัย 432 1 มคี ุณลักษณะอัน ใฝ่เรียนรู้ มีคณุ ลกั ษณะอัน มคี ุณลกั ษณะอัน มีคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ม่งุ มัน่ ในการทำงาน พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ พึงประสงค์ 1 ข้อ ครบทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ขอ้ มีคุณลกั ษณะอัน พึงประสงค์ มีคุณลักษณะอนั มีคณุ ลักษณะอนั มคี ุณลักษณะอนั 1 ข้อ พึงประสงค์ พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ มีคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ครบทุกขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ 1 ข้อ มคี ุณลักษณะอัน มคี ณุ ลกั ษณะอัน มีคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ ครบทกุ ข้อ 3 ข้อ 2 ข้อ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 3 ข้นึ ไปทุกตวั ชว้ี ัด ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน 4 หมายถงึ ดมี าก 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถงึ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรงุ
แบบประเมนิ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เรอ่ื ง การประมวลผล คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ผลการประเมนิ เลขท่ี หมายเหตุ ผ่าน ไมผ่ า่ น มวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมั่นในการ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉล่ยี ลงชื่อ (.......................................................) ครู
ด้านสมรรถนะนักเรียน ไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ขึน้ ไปทกุ ตัวชว้ี ดั ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน หมายเหตุ : ดา้ นสมรรถนะนักเรียน กำหนดระดบั คุณภาพ 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรับปรุง การประเมนิ ด้านสมรรถนะนกั เรียน เรือ่ ง การประมวลผล ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มีความสามารถในการรบั และส่งสาร 2. เลือกรบั หรือไม่รับข้อมูลขา่ วสารดว้ ยหลักเหตผุ ล 3. คำนงึ ถึงผลกระทบที่มตี ่อตนเองและสังคม 4. การเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปญั หาความขัดแยง้ ต่าง ๆ ความสามารถในการคดิ 1. การคิดอย่างมวี ิจารณญาณ 2. การคดิ เป็นระบบ 3. การคิดสังเคราะห์ 4. การคิดอยา่ งสร้างสรรค์ ความสามารถในการแก้ปัญหา 1. การแก้ปญั หาและอปุ สรรคต่าง ๆ 2. มกี ารตัดสนิ ใจที่มปี ระสทิ ธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบทเี่ กดิ ข้นึ ต่อตนเอง สงั คมและสง่ิ แวดลอ้ ม 3. ประยกุ ต์ความรู้มาใชใ้ นการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหา 4. เขา้ ใจความสัมพันธ์และการเปลย่ี นแปลงของเหตกุ ารณต์ ่าง ๆ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222