โครงสร้างรายวชิ า โครงสรา้ งรายวิชา วทิ ยาการคํานวณ ระดบั มัธยมศึกษา ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 เวลา 20 ชวั่ โมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ ลำดบั ท่ี ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ มาตารฐาน/ตัวช้ีวัด/ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั ผลการเรยี นรู้ (ช่ัวโมง) คะแนน 1. การรวบรวมข้อมูลปฐมภมู ิ ว 4.2 ม.1/3 1.การรวบรวมข้อมูลจาก 4 26 ประมวลผล นําเสนอข้อมูล แหลง่ ขอ้ มลู ปฐมภูมิ 2.การนาํ เสนอขอ้ มูล 50 1.การออกแบบอัลกอริทึม 4 0 2. ออกแบบและเขยี นโปรแกรม ว 4.2 ม.1/2 เพื่อแก้ปญั หา 10 80 อยา่ งงา่ ย 2. KidBright คอื อะไร 20 3.สนุกคิด กบั KidBright 100 4.ตะลยุ โจทยป์ ญั หา 5.เซนเซอรแ์ ละการใช้งาน 3. แนวคิดเชิงนามธรรม ว 4.2 ม.1/1 1. แนวคดิ เชงิ นามธรรม 1 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่าง ว 4.2 ม.1/4 1.ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 4 4. ปลอดภยั อยา่ งปลอดภัย 2 .ก า ร พิ จ า ร ณ า ค วา ม เหมาะสมของเน้อื หา รวมตลอดปี / ภาค 19 สอบปลายภาคเรยี น 1 รวม 20
คำอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาแนวคิดเชิงนามธรรม การคัดเลือกคุณลักษณะท่ีจำเป็นต่อการแก้ปัญหา ขั้นตอนการแก้ปัญหา การเขียนรหัสจำลองผังงาน การเขียนออกแบบ และเขียนโปรแกรมอย่างง่าย ที่มีการใช้งานตัวแปร เง่ือนไข และการวนซ้ำ เพื่อแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์ การรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ การประมวลผล ข้อมูล การสร้างทางเลือก และประเมินผลเพื่อตัดสินใจ ซอฟต์แวร์ และบริการบนอินเทอร์เน็ตที่ใช้ในการ จดั การข้อมูล แนวทางการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้ปลอดภัย การจัดการอัตลักษณ์ การพิจารณาความ เหมาะสมของเนอ้ื หา ขอ้ ตกลงและขอ้ กำหนดการใช้สื่อและแหลง่ เรยี นรู้ นำแนวคิดเชิงนามธรรม และขัน้ ตอนการแกป้ ัญหา ไปประยุกต์ใช้ในการเขียนโปรแกรม หรือ การแก้ปัญหาในชีวิตจริง รวบรวมข้อมูล และสร้างทางเลือก ในการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ ตระหนักถึงการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เกิดประโยชน์ต่อการเรียนรู้ และไม่สร้างความ เสยี หายแก่ผู้อ่ืน การเกบ็ คะแนน คะแนนระหว่างเรยี น 80 คะแนน คะแนนปลายภาค 20 คะแนน รวม 100 คะแนน
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 หน่วยการเรยี นรู้ การรวบรวมขอ้ มลู ปฐมภูมปิ ระมวลผล นาํ เสนอข้อมูล รหสั – ชอ่ื รายวิชา วทิ ยาการคํานวณ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 4 ช่วั โมง ผ้สู อน นายศุภานต์ รินวงศ์ โรงเรยี น อนบุ าลแม่เมาะ (ชมุ ชน 1) มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคํานวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชวี ติ จรงิ อยา่ งเป็นขน้ั ตอนและเปน็ ระบบ ใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปญั หาไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ รเู้ ทา่ ทนั และมจี รยิ ธรรม ตวั ชี้วดั /ผลการเรียนรู้ ว 4.2 ม. 1/3 รวบรวมข้อมูลปฐมภมู ปิ ระมวลผล ประเมนิ ผลนําเสนอขอ้ มูล และสารสนเทศตามวตั ถปุ ระสงค์ โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอนิ เทอรเ์ นต็ ทีห่ ลากหลาย สาระสำคญั 1. ความความของแหล่งข้อมลู ปฐมภูมิ 2. ธรี วบรวมขอ้ มูลจากแหล่งขอ้ มลู ปฐมภูมิ 3. การใช้ซอฟต์แวร์ในการประมวลผลขอ้ มูล 4. การใชบ้ ริการบนอินเทอรเ์ น็ตที่หลากหลายในการรวบรวมข้อมูล 5. ความหมายของการนำเสนอข้อมลู 6. ลักษณะของการนำเสนอข้อมูล 7. การนำเสนอข้อมลู สารสนเทศในสายงาน 8. เทคนคิ การนำเสนอข้อมลู สารสนเทศ 9. การนำเสนอขอ้ มูลในรูปแบบของสื่ออ่นื ๆ สาระการเรยี นรู้ ข้อมูลปฐมภูมิ คือข้อเท็จจริงหรือรายละเอียดที่ผู้เก็บข้อมูลลงมือเก็บด้วยตนเองได้มา จาก แหล่งกำเนิดที่แท้จริง เช่น ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ การสังเกต การทดลอง การทดสอบหรือการวัดจากกลุ่ม ตวั อย่างโดยตรง กานำเสนอขอ้ มูล (Presentation of Data) เป็นการนำขอ้ เท็จจริงหรือรายละเอียดต่าง ๆ ของข้อมูล ที่เกบ็ รวบรวมไว้ มาจัดใหเ้ ปน็ ระเบยี บ และสามารถอ่านรายละเอยี ดหรือเปรยี บเทียบข้อเทจ็ จริงของข้อมลู เหลา่ นน้ั ได้ อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และตรงตามความตอ้ งการของผู้ใชง้ าน
จุดประสงค์การเรียนรู้ ความรู้ 1. บอกวิธรี วบรวมขอ้ มูลได้ 2. รวู้ ธิ ีการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมลู 3. บอกความหมายของการนำเสนอขอ้ มูลได้ 4. ยกตัวอย่างการนำเสนอข้อมูลในรปู แบบของส่ืออน่ื ๆ ได้ ทักษะกระบวนการ 1. ใชบ้ รกิ ารบนอินเทอรเ์ นต็ ทหี่ ลากหลายในการรวบรวมขอมูลได้ 2. ใชซ้ อฟต์แวร์ในการประมวลผลได้ 3. ใชเ้ ครือ่ งมอื เพอื่ นำเสนอขอ้ มูลได้ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ซอื่ สัตย์สจุ ริต 2. มวี นิ ัย 3. ใฝ่เรยี นรู้ 4. อย่อู ยา่ งพอเพียง 5. มุ่งม่นั ในการทำงาน สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี การประเมนิ ผลรวบยอด 1. แบบทดสอบหลังเรยี น เร่ือง การรวบรวมขอ้ มูลจากแหลง่ ข้อมลู ปฐมภมู ิ 2. แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การนาํ เสนอข้อมูล 3. กจิ กรรม ใครกนั ปฐมภมู ิ 4. ชนิ้ งานในช้ันเรียน นำเสนอข้อมลู ของตนเองจากโปรแกรม PowerPoint
5. ระดบั คณุ ภาพ นำ้ หนัก การประเมินผล คะแนน ดมี าก ดี (3) พอใช้ ปรับปรงุ ประเดน็ การประเมิน (4) (2) (1) 13 10 แบบทดสอบหลงั เรยี น เรื่อง การรวบรวมขอ้ มลู จาก คะแนน 8-9 6-7 0-5 13 แหลง่ ข้อมูลปฐมภมู ิ 10 26 แบบทดสอบหลงั เรยี น เร่ือง การนําเสนอข้อมูล คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน รวม 8-9 6-7 0-5 คะแนน คะแนน คะแนน กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 1 กจิ กรรมหลักของครู 1. ครูเชค็ ชอ่ื เข้าช้ันเรียน 2. ครนู ำอภปิ รายเรือ่ งขอ้ มูลและการแบง่ ประเภทของขอ้ มลู 3. ครูและนักเรียนรว่ มกันอภิปรายและยกตวั อย่างวธิ รี วบรวมข้อมูล ข้อดีและขอ้ เสยี ของแต่ละวิธี 4. ครูนำอภิปรายซอฟตแ์ วร์ทใ่ี ชใ้ นการประมวลผลและฟังก์ชันทางสถิติ 5. ครใู ห้นักเรียนยกตวั อยา่ งวิธรี วบรวมขอ้ มลู ปฐมภมู ิ เชน่ เลขท่นี ักเรียน นำ้ หนัก และ สว่ นสงู 6. ครอู ธบิ ายการประมวลผลและวิเคราะห์ขอ้ มูลซึ่งเป็นข้ันตอนในการนำขอ้ มลู ที่รวบรวมไวไ้ ปประมวลผล 7. ครใู ห้นกั เรียนทำกจิ กรรม ใครกันปฐมภมู ิ 8. ครูสรปุ ความหมายของแนวคิดเชงิ คำนามธรรม 9. ครเู ปิดโอกาสให้นกั เรียนถามในเร่ืองทไ่ี มเ่ ข้าใจ 10. ครนู ัดหมายนักเรยี นในการเรียนครงั้ ต่อไป ภาระงานของนกั เรียน 1. นักเรียนรว่ มกนั อภิปรายและยกตัวอยา่ งวธิ ีรวบรวมข้อมูล ข้อดีและข้อเสียของแต่ละวธิ ี 2. นักเรียนทำกจิ กรรม ใครกันปฐมภูมิ
ช่ัวโมงที่ 2 กิจกรรมหลกั ของครู 1. ครูเชค็ ชื่อเข้าชนั้ เรยี น 2. ครใู ห้นกั เรียนทำกิจกรรมตบมือตามขาสตั ว์ เพื่อกระตนุ้ นกั เรียนกอ่ นเขา้ ช้นั เรียน 3. ครทู บทวนนกั เรียนว่าข้อมูลปฐมคอื อะไร และลองใหย้ กตัวอยา่ ง เพอ่ื เปน็ การทบทวนกอ่ นเข้าชนั้ เรียน 4. ครูอธบิ ายวา่ มีเครอื่ งมือหลายอยา่ งท่นี ำมาใช้ประมวลผลข้อมลู ปฐมภูมิ 5. ครใู ห้นกั เรยี น เปดิ เครอื่ งคิดเลขในคอมพิวเตอร์เพื่อใหน้ ักเรียนหาคา่ หาค่า ดชั นีมวลกาย 6. ครอู ธิบายว่าถ้าหากอยากให้การประมวลผลข้อมูลน้ีง่ายข้นึ ให้นักเรยี นลองเข้าไปหาในอเิ ทอรเ์ นต็ กจ็ ะ เจอโปรแกรมหาค่า ดัชนีมวลกาย แบบออนไลน์เพ่ือให้นักเรียนสามารถใช้งานได้สดวกรวดเร็วมาก ยิ่งขึน้ 7. ครูใหน้ กั เรยี นยกตัวอย่างโปรแกรมประมวลผลข้อมลู ปฐมภมู ิ 8. ครูให้นักเรียนเข้าเวบ็ Kahoot! เพื่อแบบทดสอบโดยการแข่งขันกันในห้องเพ่อื ความสนกุ สนาน 9. ครูอธิบายคำตอบไปเป็นข้อๆเพอื่ ทบทวนและสรา้ งความเข้าใจให้กับนกั เรียน 10. ครสู รปุ คะแนนของนักเรียนและนดั หมายใหม้ าเรียนในชวั่ โมงตอ่ ไป ภาระงานของนักเรยี น 1. นกั เรียนทำกจิ กรรมตบมือตามขาสตั ว์ 2. นักเรียน เปดิ เคร่ืองคิดเลขในคอมพวิ เตอรเ์ พ่ือให้นกั เรียนหาคา่ หาค่า ดัชนมี วลกาย 3. นักเรยี นยกตัวอย่างโปรแกรมประมวลผลขอ้ มลู ปฐมภมู ิ 4. นักเรยี นเขา้ เว็บ Kahoot! เพ่ือแบบทดสอบ
ชั่วโมงที่ 3 กิจกรรมหลกั ของครู 1. ครเู ชค็ ช่อื เขา้ ชนั้ เรยี น 2. ครูอธิบายขอบเขตของเนอื้ หาทีจ่ ะเรียนในวันนี้ 3. ครเู ปิด PowerPoint เรื่อง การนำเสนอข้อมูล 4. ครอู ธบิ ายวา่ การนำเสนอขอ้ มูลมีความหมายอยา่ งไร 5. ครูยกตวั อย่างลกั ษณะของการนำเสนอข้อมูล 6. ครนู ำเสนอเนื้อหาที่เหลือตอ่ ไปพร้อมเวน้ ช่องวา่ งใหน้ กั เรียนไดส้ อบถามครเู ปน็ ระยะ 7. ครสู รปุ เนอื้ หาในชัว่ โมง 8. ครูสอบถามนักเรียนในเรอ่ื งทีไ่ ม่เขา้ ใจ 9. ครูนดั หมายใหน้ ักเรียน ภาระงานของนกั เรียน 1. นักเรียนรว่ มกนั ตอบคำถาม
ชั่วโมงที่ 4 กจิ กรรมหลกั ของครู 1. ครูเช็คชื่อเข้าชนั้ เรยี น 2. ครอู ธบิ ายขอบเขตของเนื้อหา 3. ครูให้นักเรียนเปดิ PowerPoint เพอ่ื ทำการเรยี นการสอน 4. ครูอธิบายเคร่ืองมือพื้นฐานของโปรแกรม PowerPoint ที่ใช้ในการเสนอ ปุ่มเครื่องมือ และหน้าท่ี การทำงานของปมุ่ เครอื่ งมือ 5. ครใู หน้ ักเรียนทำชิ้นงานในชั้นเรียน 6. ครตู รวจผลงานทีละคน 7. ครสู รุปเน้ือหาทั้งหมด 8. ครสู อบถามนักเรียนในเรอื่ งทไี่ มเ่ ขา้ ใจ ภาระงานของนักเรยี น 1. นักเรยี นเปดิ PowerPoint เพื่อทำการเรยี นการสอน 2. นักเรยี นทำช้นิ งานในชัน้ เรยี น นำเสนอขอ้ มูลของตนเองจากโปรแกรมPowerPoint 3. ครใู ห้นกั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น เรอ่ื ง การนาํ เสนอข้อมูล 4. นักเรียนสอบถามในเนื้อหาท่ตี นเองไมเ่ ขา้ ใจ
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 ใชเ้ วลา 2 ช่วั โมง/คาบ หนว่ ย 1/1 เร่อื ง การรวบรวมขอ้ มลู จากแหลง่ ข้อมูลปฐมภมู ิ วนั ที่ เดือน พ.ศ. 1.มาตราฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคาํ นวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชวี ิตจริงอยา่ งเป็นข้ันตอนและเปน็ ระบบ ใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่า ทนั และมจี ริยธรรม 2.ตวั ชี้วัด ว 4.2 ม. 1/3 รวบรวมขอ้ มลู ปฐมภูมปิ ระมวลผล ประเมนิ ผลนาํ เสนอขอ้ มลู และสารสนเทศตาม วตั ถปุ ระสงคโ์ ดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รือบรกิ ารบนอินเทอร์เนต็ ท่ีหลากหลาย 3.จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกวธิ รี วบรวมข้อมูลได้ 2. รู้วิธกี ารประมวลผลและวิเคราะหข์ ้อมูล 3. ใช้บรกิ ารบนอินเทอรเ์ นต็ ท่หี ลากหลายในการรวบรวมขอมลู ได้ 4. ใช้ซอฟต์แวร์ในการประมวลผลได้ 4.สาระสำคญั 1. ความความของแหล่งข้อมลู ปฐมภูมิ 2. ธรี วบรวมขอ้ มูลจากแหล่งข้อมูลปฐมภูมิ 3. การใช้ซอฟต์แวร์ในการประมวลผลข้อมูล 4. การใชบ้ รกิ ารบนอนิ เทอร์เน็ตทหี่ ลากหลายในการรวบรวมข้อมูล 5.สาระการเรยี นรู้ ข้อมูลปฐมภูมิ คือข้อเท็จจริงหรือรายละเอียดที่ผู้เก็บข้อมูลลงมือเก็บด้วยตนเองได้มา จาก แหล่งกำเนิดที่แท้จริง เช่น ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ การสังเกต การทดลอง การทดสอบหรือการวัดจากกลุ่ม ตวั อย่างโดยตรง
6.ด้านคุณลกั ษณะ 1. ซื่อสัตยส์ ุจริต 2. มวี ินยั 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง 5. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 7.สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8.กจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ขัน้ นำเข้าสบู่ ทเรียน(15 นาที) 1. ครูเช็คช่อื เขา้ ช้นั เรยี น 2. ครูนำอภิปรายเรื่องข้อมลู และการแบ่งประเภทของข้อมลู 3. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายและยกตวั อยา่ งวิธรี วบรวมขอ้ มลู ข้อดีและข้อเสียของแต่ละวธิ ี 4. ครนู ำอภิปรายซอฟต์แวรท์ ี่ใชใ้ นการประมวลผลและฟังกช์ ันทางสถิติ ขน้ั กิจกรรมการเรียนการสอน(30 นาที) 1. ครใู หน้ ักเรียนยกตัวอยา่ งวิธรี วบรวมขอ้ มูลปฐมภมู ิ เช่น เลขทีน่ ักเรยี น นำ้ หนัก และ ส่วนสงู 2. ครูอธิบายการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งเป็นขั้นตอนในการนำข้อมูลที่รวบรวมไว้ไป ประมวลผล เช่น การเขา้ รหัส การประมวลผลทางสถติ ิเพือ่ นำผลไปใชใ้ นการดำเนนิ การต่อไป 3. ครูใหน้ กั เรยี นทำกิจกรรม ใครกนั ปฐมภูมิ (ใหน้ ักเรียนหาข้อมลู ท่ีเป็นแหลง่ ข้อมลู ปฐมภูมิในอิเทอร์เน็ต และในนำมาเขียนในกระดาษ ในเวลา 5 นาที ใครได้ข้อมูลที่เป็นแหล่งข้อมูลปฐมถูมิน้อยที่สุด 5 อนั ดบั ทา้ ยจะโดนลงโทษโดยการเต้น)
ขัน้ สรปุ (15 นาที) 1. ครสู รุปความหมายของแนวคิดเชงิ คำนามธรรม 1.1 ข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมหรือบันทึกจากแหล่งข้อมูลโดยตรงด้วยวิธีต่างๆ เช่น จากการ สอบถามการสมั ภาษณ์การสำรวจการจดบันทกึ ตัวอย่างข้อมลู ปฐมภูมิ ไดแ้ ก่ ข้อมลู การมา โรงเรยี นสายของนกั เรยี น ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ซงึ่ ไดจ้ ากการจดบันทกึ ในรอบ 1 เดือนทผ่ี ่านมา 2. ครูเปิดโอกาสให้นกั เรยี นถามในเรอ่ื งที่ไม่เข้าใจ 3. ครูนดั หมายนกั เรียนในการเรียนครง้ั ตอ่ ไป ชัว่ โมงที่ 2 ข้ันนำเข้าสู่บทเรยี น(15 นาที) 1. ครูเช็คชอื่ เข้าชนั้ เรยี น 2. ครูให้นักเรยี นทำกิจกรรมตบมือตามขาสัตว์ เพ่ือกระตุ้นนักเรียนกอ่ นเข้าชัน้ เรียน 3. ครูทบทวนนักเรียนวา่ ข้อมลู ปฐมคืออะไร และลองให้ยกตวั อยา่ ง เพื่อเป็นการทบทวนกอ่ นเข้าชั้นเรยี น ข้นั กิจกรรมการเรียนการสอน(30 นาที) 1. ครูอธิบายว่ามีเครื่องมือหลายอย่างที่นำมาใช้ประมวลผลข้อมูลปฐมภูมิ เช่น โปรแกรม microsoft excel และโปรแกรมต่าง ๆ ในอิเทอร์เน็ต 2. ครูใหน้ ักเรียน เปดิ เคร่ืองคิดเลขในคอมพวิ เตอร์เพื่อใหน้ ักเรยี นหาคา่ หาคา่ ดัชนีมวลกาย 3. ครูอธิบายว่าถ้าหากอยากให้การประมวลผลข้อมูลนี้ง่ายขึ้น ให้นักเรียนลองเข้าไปหาในอิเทอร์เน็ตก็ จะเจอโปรแกรมหาค่า ดัชนมี วลกาย แบบออนไลนเ์ พ่ือให้นกั เรียนสามารถใช้งานได้สดวกรวดเร็วมาก ยิ่งขึน้ 4. ครูให้นกั เรยี นยกตัวอยา่ งโปรแกรมประมวลผลขอ้ มูลปฐมภมู ิ ขนั้ สรปุ (15 นาที) 1. ครใู หน้ กั เรียนเข้าเว็บ Kahoot! เพอ่ื แบบทดสอบโดยการแข่งขันกนั ในห้องเพ่อื ความสนุกสนาน 2. ครูอธบิ ายคำตอบไปเป็นข้อๆเพือ่ ทบทวนและสร้างความเข้าใจให้กบั นักเรียน 3. ครูสรปุ คะแนนของนกั เรียนและนัดหมายให้มาเรยี นในช่วั โมงต่อไป
9.ส่อื /แหล่งการเรียนรู้ 1. สอ่ื นำเสนอ เรือ่ ง การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งขอ้ มลู ปฐมภูมิ 2. แบบทดสอบหลังเรียนKahoot! เรอ่ื ง การรวบรวมขอ้ มลู จากแหล่งข้อมูลปฐมภมู ิ 3. กระดาษในการทำกิจกรรม ใครกนั ปฐมภมู ิ 10.การวดั ผลและประเมินผล 10.1 การวัดผล จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ ีการวดั เครื่องมอื ด้านความรู้ แบบทดสอบหลงั เรยี น เรื่อง การรวบรวมข้อมลู จาก แบบทดสอบหลัง แหลง่ ขอ้ มลู ปฐมภูมิ เรียน ดา้ นทักษะกระบวนการ โดยการประเมินทักษะกระบวนการได้แก่ การตอบ แบบประเมินดา้ น คำถามใน กิจกรรม ใครกันปฐมภมู ิ ทกั ษะกระบวนการ วดั โดยการสังเกตคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของ ผู้เรียน 5 ด้าน ได้แก่ 1. ซื่อสัตย์สุจริต แบบประเมนิ ด้าน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 2. มีวนิ ัย คณุ ลักษณะอันพึ่ง 3. ใฝ่เรยี นรู้ ประสงค์ 4. อยู่อย่างพอเพียง 5. มุง่ มั่นในการทำงาน วดั โดยการสงั เกตสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 5 ดา้ น 1. ความสามารถในการส่ือสาร แบบประเมนิ ด้าน สมรรถนะสำคัญของ สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา ผเู้ รียน 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
10.2 เกณฑ์การประเมนิ ผล 1) ดา้ นความรู้ แบบทดสอบหลังเรยี น ( 10 คะแนน) 10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 8-9 คะแนน หมายถึง ดี 6-7 คะแนน หมายถึง พอใช้ 0-5 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง หมายเหตุ ด้านความรเู้ กณฑ์ผา่ น รอ้ ยละ 80 ทุกประเดน็ การประเมิน แบบบนั ทกึ การประเมนิ ดา้ นความรู้ เรอื่ ง การรวบรวมข้อมูลจากแหลง่ ขอ้ มูลปฐมภมู ิ เลขท่ี ชือ่ -นามสกลุ แบบทดสอบหลังเรียน ร้อยละ ผลการประเมนิ (10 คะแนน) ผา่ น ไมผ่ ่าน 1 เดก็ ชายจกั รพรรด์ิ อินเหลา 7 70 ✓ ✓ 2 เด็กชายชยั พิชิต จอมใจ 8 80 ✓ ✓ 3 เด็กชายณฐั ภทั ร สตุ ๋า 7 70 ✓ ✓ 4 เดก็ ชายธนดล เบญจนาค 7 70 ✓ ✓ 5 เด็กชายรฐั กาล วงศ์ศรี 7 70 ✓ ✓ 6 เดก็ ชายศขิ รนิ ช่างซอ 8 80 ✓ ✓ 7 เด็กชายอนุพงษ์ พานพระ 7 70 ✓ ✓ 8 เดก็ ชายโอเลยี้ ง ทองแดง 7 70 ✓ ✓ 9 เด็กหญงิ จรินทร์ทิพย์ บุญประเสริฐ 9 90 ✓ ✓ 10 เดก็ หญิงจิราพร เมอื งใจมา 9 90 ✓ 11 เดก็ หญงิ จีรดาภา ศรีสวสั ด์ิ 9 90 12 เด็กหญิงตรีภตั ร วงศแ์ ก้วมลู 9 90 13 เด็กหญงิ ธดิ ารัตน์ เสรมิ สุข 8 80 14 เดก็ หญงิ ปิ่นนุช มีเจรญิ 9 90 15 เด็กหญงิ วรัญญาภรณ์ เตชะนันท์ 8 80 16 เด็กหญงิ วรี ภัทรา ศิริทรัพย์ 8 80 17 เดก็ หญงิ สภุ สั สรา อินเลก็ 8 80 18 เดก็ ชายครรชติ พรมมา 7 70 19 เด็กชายอานนั ท์ ฟุ้งสนั ติภาพ 7 70
เลขท่ี ชอ่ื -นามสกุล แบบทดสอบหลังเรยี น ร้อยละ ผลการประเมิน (10 คะแนน) ผา่ น ไม่ผา่ น 20 เด็กชายธนโชติ ทองปาน 7 70 ✓ ✓ 21 เด็กชายวริ ภทั ร ขัตธิ ิ 8 80 ✓ ✓ 22 เด็กชายภานภุ ัทร เรอื นมลู สาย 7 70 23 เดก็ หญงิ อมั ธิกา สนั ยสตทิ ัศน์ 8 80 หมายเหตุ คะแนนจากแบบทดสอบหลังเรยี น เกณฑ์ผา่ น รอ้ ยละ 80 ลงชอ่ื .................................................. (.......................................................) ครผู สู้ อน
2) ด้านทักษะกระบวนการ กิจกรรม ใครกันปฐมภมู ิ ภายใน 5 นาที 1. ไดข้ ้อมูลปฐมภูมมิ ากหว่า 10 อยา่ ง 2. ใชอ้ นิ เทอร์เน็ตในการทำกิจกรรม 3. ข้อมูลทห่ี ามามีความถูกต้อง 4. สามารถบอกข้อมูลปฐมภูมิเพมิ่ เติมได้ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นทักษะกระบวนการ ดา้ นทักษะกระบวนการ 4 ระดบั คะแนน 1 ทำกิจกรรม ใครกนั 32 ทำกิจกรรม ใคร กจิ กรรม ใครกันปฐมภมู ิ ปฐมภมู ิ ได้ ตาม ทำกจิ กรรม ใคร ทำกจิ กรรม ใครกัน กันปฐมภูมิ ได้ ภายใน 5 นาที เกณฑ์ครบทุกข้อ กนั ปฐมภมู ิ ได้ ปฐมภมู ิ ได้ ตาม ตามเกณฑ์ 1ข้อ ตามเกณฑ์ 3 ข้อ เกณฑ์ 2 ข้อ แบบประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการ 4 คะแนน หมายถึง ดีมาก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 3 ขึ้นไปทุกตัวชว้ี ดั ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
แบบประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ เร่อื ง การรวบรวมข้อมลู จากแหลง่ ข้อมลู ปฐมภูมิ เลขท่ี ชื่อ-นามสกุล คะแนนการประเมนิ ผลการประเมิน ผ่าน ไม่ผา่ น 1 เด็กชายจักรพรรด์ิ อินเหลา 4✓ 2 เดก็ ชายชยั พชิ ิต จอมใจ 4✓ 3 เดก็ ชายณฐั ภัทร สุตา๋ 4✓ 4 เดก็ ชายธนดล เบญจนาค 4✓ 5 เด็กชายรัฐกาล วงศศ์ รี 4✓ 6 เดก็ ชายศิขริน ช่างซอ 4✓ 7 เด็กชายอนุพงษ์ พานพระ 4✓ 8 เดก็ ชายโอเลี้ยง ทองแดง 4✓ 9 เดก็ หญงิ จรนิ ทร์ทิพย์ บญุ ประเสริฐ 4✓ 10 เด็กหญิงจิราพร เมอื งใจมา 4✓ 11 เด็กหญิงจีรดาภา ศรสี วัสด์ิ 4✓ 12 เดก็ หญิงตรีภัตร วงศแ์ กว้ มูล 4✓ 13 เด็กหญงิ ธิดารตั น์ เสรมิ สุข 4✓ 14 เด็กหญงิ ป่นิ นุช มีเจริญ 4✓ 15 เด็กหญงิ วรัญญาภรณ์ เตชะนันท์ 4✓ 16 เด็กหญิงวีรภทั รา ศริ ทิ รัพย์ 4✓ 17 เดก็ หญิงสุภัสสรา อนิ เลก็ 4✓ 18 เดก็ ชายครรชิต พรมมา 4✓ 19 เดก็ ชายอานันท์ ฟงุ้ สันติภาพ 4✓ 20 เด็กชายธนโชติ ทองปาน 4✓ 21 เดก็ ชายวิรภทั ร ขัตธิ ิ 4✓ 22 เด็กชายภานภุ ัทร เรอื นมลู สาย 4✓ 23 เดก็ หญิงอัมธกิ า สนั ยสติทศั น์ 4✓ หมายเหตุ ไดร้ ะดับคุณภาพ 3 ขน้ึ ไปทุกตัวชวี้ ดั ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน 3) ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ลงชอื่ .................................................. (.......................................................) ครผู ูส้ อน
แบบประเมินดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ่ ประสงค์ 4 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ หมายเหตุ ไดร้ ะดับคุณภาพ 3 ข้ึนไปทุกตัวชี้วดั ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน การประเมนิ ด้านสมรรถนะผ้เู รยี น เร่ือง แนวคดิ เชงิ คำนวณ ซือ่ สตั ยส์ ุจริต 1. ไม่โกหก 2. ไมค่ ัดลอกงานของผอู้ ่ืน 3. มคี ุณธรรมต่อตนเองและผู้อ่ืน 4. ไมล่ ักขโมยของผอู้ ื่น มวี นิ ยั 1. เข้าเรยี นตรงต่อเวลา 2. ไมโ่ ดดเรยี น 3. แตง่ กายสภุ าพเรยี บร้อย 4. ส่งการบา้ นตรงต่อเวลา ใฝเ่ รยี นรู้ 1. ต้ังใจเรยี น 2. สบื ค้นหาความรู้/ข้อมลู สมำ่ เสมอ 3. รว่ มทำกิจกรรมในห้องเรยี น 4. บนั ทึกความรู้ วเิ คราะหข์ ้อมูลจากส่งิ ท่เี รียนรู้ อยู่อยา่ งพอเพียง 1. ใชท้ รพั ย์สินของตนเอง 2. ใช้ทรพั ยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั คุ้มค่า และเกบ็ รักษาดแู ลอยา่ งดี 3. ไม่เอาเปรียบผู้อืน่ และไม่ทำให้ผอู้ ่ืนเดือดร้อน พร้อมให้อภยั เมอ่ื ผูอ้ ื่นกระทำผิดพลาด 4. นำวสั ดเุ หลือใช้มาสร้างงานตามทีค่ ณุ ครมู อบหมาย ม่งุ มนั่ ในการทำงาน
1. ตงั้ ใจและรับผิดชอบในการปฏิบัตหิ น้าท่กี ารงาน 2. เอาใจใสต่ ่อการปฏบิ ัติหน้าทท่ี ่ีได้รบั มอบหมาย 3. ตง้ั ใจและรบั ผดิ ชอบในการทำงานให้สำเร็จ 4. ปรับปรงุ และพัฒนาการทำงานดว้ ยตนเอง เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ด้านคณุ ลกั ษณะอนั ระดับคุณภาพ พึงประสงค์ 4 3 2 1 มีคณุ ลกั ษณะอนั มคี ณุ ลกั ษณะอนั มีคณุ ลกั ษณะอนั มคี ุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ซอ่ื สตั ยส์ ุจริต พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ 1 ข้อ ครบทกุ ขอ้ 3 ข้อ 2 ขอ้ มีคณุ ลกั ษณะอัน พึงประสงค์ มีคณุ ลกั ษณะอัน มีคณุ ลักษณะอัน มคี ณุ ลกั ษณะอนั 1 ข้อ มวี นิ ยั พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ พึงประสงค์ มีคุณลกั ษณะอัน พงึ ประสงค์ ครบทุกขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ 1 ขอ้ มคี ณุ ลักษณะอนั มคี ุณลักษณะอนั มคี ณุ ลักษณะอัน มีคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ 1 ข้อ ครบทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ข้อ มีคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มคี ุณลกั ษณะอนั มคี ณุ ลกั ษณะอนั มคี ุณลกั ษณะอัน 1 ข้อ อย่อู ยา่ งพอเพียง พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ พึงประสงค์ ครบทุกขอ้ 3 ข้อ 2 ขอ้ มีคณุ ลักษณะอัน มคี ุณลักษณะอัน มคี ุณลกั ษณะอนั มงุ่ มนั่ ในการทำงาน พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ หมายเหตุ ไดร้ ะดับคุณภาพ 3 ข้ึนไปทุกตวั ชว้ี ัด ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ
แบบประเมินดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ เรื่อง การรวบรวมข้อมูลจากแหลง่ ขอ้ มูลปฐมภูมิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ผลการประเมิน เลขที่ ซ่อื สัตย์สุจริต มวี นิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง มุง่ มัน่ ในการ ผ่าน ไม่ผ่าน หมายเหตุ ทำงาน 1 4 34 4 4✓ 2 4 43 4 4✓ 3 4 33 4 4✓ 4 4 33 4 4✓ 5 4 34 4 4✓ 6 4 33 4 4✓ 7 4 33 4 4✓ 8 4 34 4 4✓ 9 4 44 4 4✓ 10 4 4 4 4 4✓ 11 4 4 4 4 4✓ 12 4 4 4 4 4✓ 13 4 4 4 4 4✓ 14 4 4 4 4 4✓ 15 4 4 4 4 4✓ 16 4 4 4 4 4✓ 17 4 4 4 4 4✓ 18 4 3 4 4 4✓ 19 4 3 3 4 4✓ 20 4 3 3 4 4✓ 21 4 3 3 4 4✓ 22 4 3 3 4 4✓ 23 4 4 4 4 4✓ หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 3 ข้ึนไปทุกตัวชีว้ ัด ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน 4) ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ลงชือ่ .................................................. (.......................................................) ครูผูส้ อน
แบบประเมนิ ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 4 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ปรับปรงุ หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ขนึ้ ไปทุกตัวชว้ี ดั ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน การประเมินดา้ นสมรรถนะผ้เู รียน เร่ือง แนวคดิ เชิงคำนวณ ความสามารถในการส่ือสาร 1. มคี วามสามารถในการรบั และส่งสาร 2. เลือกรับหรือไม่รับข้อมูลขา่ วสารดว้ ยหลักเหตผุ ล 3. คำนึงถึงผลกระทบทีม่ ีต่อตนเองและสังคม 4. การเจรจาต่อรองเพื่อขจดั และลดปญั หาความขดั แยง้ ตา่ ง ๆ ความสามารถในการคดิ 1. การคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ 2. การคิดเป็นระบบ 3. การคดิ สังเคราะห์ 4. การคดิ อย่างสรา้ งสรรค์ ความสามารถในการแกป้ ญั หา 1. การแกป้ ัญหาและอปุ สรรคตา่ ง ๆ 2. มีการตดั สินใจที่มปี ระสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบท่ีเกดิ ขึ้นตอ่ ตนเอง สังคมและส่ิงแวดล้อม 3. ประยุกต์ความรูม้ าใชใ้ นการป้องกันและแกไ้ ขปัญหา 4. เข้าใจความสัมพันธ์และการเปลย่ี นแปลงของเหตุการณต์ ่าง ๆ ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 1. การเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง 2. การเรียนรอู้ ยา่ งตอ่ เนื่อง 3. การรจู้ กั หลีกเลย่ี งพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงค์ทีส่ ่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่ืน 4. การปรับตวั ให้ทันกับการเปลย่ี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ ม
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1. ความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีดา้ นตา่ ง ๆ 2. มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 3. การแกป้ ัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม 4. มีคุณธรรมในการใช้เทคโนโลยี เกณฑ์การให้คะแนนดา้ นสมรรถนะผ้เู รียน ด้านสมรรถนะ 4 ระดับคณุ ภาพ 1 ผูเ้ รยี น 32 มีความสามารถใน ความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน การสื่อสาร 1 ขอ้ การส่ือสาร การสือ่ สาร การสือ่ สาร การสอ่ื สาร มีความสามารถใน ครบทุกข้อ 3 ข้อ 2 ข้อ การคดิ 1 ข้อ ความสามารถใน มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน การคิด การคิด การคิด การคิด การแก้ปัญหา 1 ขอ้ ครบทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ข้อ มคี วามสามารถใน ความสามารถใน มคี วามสามารถใน มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน การใช้ทักษะชวี ติ การแกป้ ัญหา การแก้ปัญหา การแกป้ ัญหา การแก้ปัญหา 1 ขอ้ มีความสามารถใน ครบทกุ ขอ้ 3 ข้อ 2 ขอ้ การใช้เทคโนโลย ความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน มคี วามสามารถใน 1 ข้อ การใช้ทักษะชวี ติ การใชท้ กั ษะชีวิต การใช้ทักษะชีวติ การใชท้ ักษะชวี ติ ครบทุกขอ้ 3 ข้อ 2 ขอ้ ความสามารถใน มคี วามสามารถใน มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน การใช้เทคโนโลยี การใช้เทคโนโลยี การใชเ้ ทคโนโลย การใชเ้ ทคโนโลย ครบทุกขอ้ 3 ข้อ 2 ขอ้ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 2 ขึ้นไปทุกตวั ช้วี ัด ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ
แบบประเมนิ ด้านสมรรถนะผ้เู รียน เร่ือง การรวบรวมข้อมลู จากแหลง่ ขอ้ มูลปฐมภมู ิ สมรรถนะผูเ้ รยี น ผลการประเมิน เลขที่ การสือ่ สาร การคดิ การ การ การใช้ ผา่ น ไมผ่ ่าน หมายเหตุ แกป้ ัญหา ใช้ทกั ษะชวี ติ เทคโนโลยี 144 4 4 4✓ 244 4 4 4✓ 344 4 4 4✓ 444 4 4 4✓ 544 4 4 4✓ 644 4 4 4✓ 744 4 4 4✓ 844 4 4 4✓ 944 4 4 4✓ 10 4 4 4 4 4✓ 11 4 4 4 4 4✓ 12 4 4 4 4 4✓ 13 4 4 4 4 4✓ 14 4 4 4 4 4✓ 15 4 4 4 4 4✓ 16 4 4 4 4 4✓ 17 4 4 4 4 4✓ 18 4 4 4 4 4✓ 19 4 4 4 4 4✓ 20 4 4 4 4 4✓ 21 4 4 4 4 4✓ 22 4 4 4 4 4✓ 23 4 4 4 4 4✓ หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ขนึ้ ไปทุกตัวชวี้ ัด ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน ลงช่อื .................................................. (.......................................................) ครผู ูส้ อน
11. ข้อเสนอแนะ ✓ ใชส้ อนได้ ควรปรบั ปรุง ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่อื .................................................. (นายวิสุทธิศกั ด์ิ เครือสาร) ครพู เ่ี ล้ียง วันท่ี 1 เดอื น มถิ ุนายน พ.ศ.2564 12.บันทึกหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1) ผลท่ีเกดิ ข้ึนแกผ่ ู้เรยี น ด้านความรู้ จำนวนนกั เรียนที่ผา่ นเกณฑ์ 23 คน 100 คดิ เป็นร้อยละ จำนวนนกั เรยี นท่ไี ม่ผา่ นเกณฑ์ 0 คน 0 คดิ เปน็ รอ้ ยละ ด้านทักษะกระบวนการ จำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ 23 คน 100 คดิ เปน็ รอ้ ยละ จำนวนนกั เรยี นทไ่ี ม่ผ่านเกณฑ์ 0 คน 0 คิดเปน็ รอ้ ยละ ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ จำนวนนักเรียนทีผ่ ่านเกณฑ์ 23 คน 100 คิดเป็นรอ้ ยละ จำนวนนักเรียนที่ไมผ่ ่านเกณฑ์ 0 คน 0 คดิ เปน็ ร้อยละ ด้านสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน จำนวนนักเรียนท่ีผา่ นเกณฑ์ 23 คน 100 คิดเป็นรอ้ ยละ จำนวนนักเรยี นทไ่ี มผ่ า่ นเกณฑ์ 0 คน 0 คดิ เป็นร้อยละ 2) ปัญหาและอุปสรรค เนือ่ งจากคอมพิวเตอรม์ ีปัญหาจงึ ทำให้การเรียนการสอนเป็นไปได้ชา้
3)แนวทางการแกป้ ญั หา ให้นักเรียนใชม้ ือถือในการสืบค้นแทนการใช้คอมพิวเตอร์ ลงชื่อ.................................................. (.......................................................) ผสู้ อน วนั ท่.ี ......เดอื น................... พ.ศ.............. 13.ความคดิ เห็นของหวั หนา้ กล่มุ สาระ/สายชัน้ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอื่ .................................................. (.......................................................) หัวหนา้ กลมุ่ สาระ/สายชัน้ วันที่.......เดือน................... พ.ศ.............. 14.ความคดิ เห็นของฝา่ ยวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ.................................................. (.......................................................) ฝา่ ยวชิ าการ วนั ท่ี.......เดือน................... พ.ศ.............. 15.ความคิดเหน็ ของผู้อำนวยการโรงเรยี น ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ.................................................. (.......................................................) ผู้อำนวยการโรงเรยี น วันที.่ ......เดอื น................... พ.ศ..............
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ ชั้น มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564 หน่วย 1/2 เรอื่ ง การนําเสนอขอ้ มูล ใชเ้ วลา 2 ชวั่ โมง/คาบ วันที่ เดือน พ.ศ. 1.มาตราฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชิงคํานวณในการแกป้ ญั หาท่ีพบในชวี ิตจริงอยา่ งเปน็ ข้ันตอนและเปน็ ระบบ ใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่า ทนั และมีจริยธรรม 2.ตัวช้ีวดั ว 4.2 ม. 1/4 รวบรวมข้อมลู ปฐมภูมปิ ระมวลผล ประเมินผลนาํ เสนอข้อมลู และสารสนเทศตาม วัตถปุ ระสงคโ์ ดยใช้ซอฟต์แวร์หรอื บรกิ ารบนอนิ เทอร์เน็ตที่หลากหลาย 3.จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกความหมายของการนำเสนอขอ้ มูลได้ 2. ยกตวั อย่างการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบของสื่ออน่ื ๆ ได้ 3. ใชเ้ ครอ่ื งมือเพื่อนำเสนอข้อมลู ได้ 4.สาระสำคญั 1. ความหมายของการนำเสนอข้อมูล 2. ลกั ษณะของการนำเสนอข้อมูล 3. การนำเสนอขอ้ มูลสารสนเทศในสายงาน 4. เทคนคิ การนำเสนอข้อมลู สารสนเทศ 5. การนำเสนอขอ้ มลู ในรปู แบบของส่ืออ่ืน ๆ 5.สาระการเรยี นรู้ กานำเสนอข้อมูล (Presentation of Data) เป็นการนำข้อเท็จจริงหรือรายละเอียดต่าง ๆ ของข้อมูลที่ เก็บรวบรวมไว้ มาจัดให้เป็นระเบียบ และสามารถอ่านรายละเอียดหรือเปรียบเทียบข้อเท็จจริงของข้อมูล เหลา่ นัน้ ได้ อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และตรงตามความตอ้ งการของผ้ใู ช้งาน
6.ดา้ นคณุ ลักษณะ 1. ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 2. มวี นิ ยั 3. ใฝ่เรยี นรู้ 4. อยู่อย่างพอเพยี ง 5. มุ่งม่ันในการทำงาน 7.สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 8.กจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรียน(15 นาที) 1. ครูเชค็ ช่ือเขา้ ช้ันเรียน 2. ครูอธิบายขอบเขตของเน้ือหาทีจ่ ะเรยี นในวนั นี้ 1.1. ความหมายของการนำเสนอข้อมูล 1.2. ลักษณะของการนำเสนอข้อมูล 1.3.การนำเสนอข้อมลู สารสนเทศในสายงาน 1.4.เทคนิคการนำเสนอข้อมลู สารสนเทศ 1.5.การนำเสนอข้อมูลในรูปแบบของส่ืออ่ืน ๆ ขนั้ กจิ กรรมการเรยี นการสอน(30 นาที) 1. ครเู ปดิ PowerPoint เรือ่ ง การนำเสนอข้อมลู 2. ครูอธบิ ายว่าการนำเสนอข้อมูลมคี วามหมายอยา่ งไร 1.1.กานำเสนอข้อมูล (Presentation of Data) เป็นการนำข้อเท็จจริงหรือรายละเอียดต่าง ๆ ของ ข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้ มาจัดให้เป็นระเบียบ และสามารถอ่านรายละเอียดหรือเปรียบเทียบ ขอ้ เทจ็ จริงของข้อมูลเหลา่ นน้ั ได้ อยา่ งถกู ตอ้ ง รวดเร็ว และตรงตามความต้องการของผู้ใชง้ าน 3. ครูยกตัวอยา่ งลกั ษณะของการนำเสนอข้อมลู 2.1.การนำเสนอข้อมลู อยา่ งไมเ่ ป็นแบบแผน (Informal Presentation) 2.2.การนำเสนอขอ้ มลู อย่างเปน็ แบบแผน (Formal Presentation) 4. ครนู ำเสนอเนื้อหาทเ่ี หลือต่อไปพร้อมเวน้ ชอ่ งว่างใหน้ กั เรยี นได้สอบถามครูเป็นระยะ
ขน้ั สรปุ (15 นาที) 1. ครูสรปุ เนอื้ หาในวันนี้ 1.1 ความหมายของการนำเสนอข้อมูล 1.2 ลักษณะของการนำเสนอข้อมูล 1.3 การนำเสนอขอ้ มูลสารสนเทศในสายงาน 1.4 เทคนคิ การนำเสนอขอ้ มูลสารสนเทศ 1.5 การนำเสนอขอ้ มลู ในรปู แบบของสื่ออน่ื ๆ 2. ครสู อบถามนักเรยี นในเรอ่ื งท่ไี มเ่ ข้าใจ 3. ครูนดั หมายให้นักเรียนเตรียมข้อมูล เชน่ รูปภาพตนเอง ข้อมลู ตนเอง เพ่อื มาทำการนำเสนอข้อมูล ของตนเองในชว่ั โมงต่อไป ช่ัวโมงที่ 2 ข้นั นำเข้าสบู่ ทเรยี น(10 นาที) 1. ครเู ช็คชอื่ เขา้ ช้นั เรียน 2. ครอู ธบิ ายขอบเขตของเนอ้ื หาท่จี ะเรยี นในวนั นี้ เชน่ การใช้โปรแกรม PowerPoint 3. ครูเช็ควา่ ใครทย่ี ังไม่ได้เตรยี มข้อมูลในการนำเสนอใหน้ ักเรียนเตรียมตัวในชน้ั เรยี น ขัน้ กจิ กรรมการเรียนการสอน(40 นาที) 1. ครใู หน้ กั เรียนเปิด PowerPoint เพอ่ื ทำการเรียนการสอน 2. ครูอธิบายเครือ่ งมือพน้ื ฐานของโปรแกรม PowerPoint ท่ใี ช้ในการเสนอ ปุ่มเครื่องมอื และหน้าท่ีการ ทำงานของปุม่ เครือ่ งมอื 3. เมื่อครูอธิบายเสร็จแล้วครูให้นักเรียนทำชิ้นงานในชั้นเรียน นำเสนอข้อมูลของตนเองจากโปรแกรม PowerPoint (ใหนักเรียนนำข้อมลู ที่เตรียมมานำมาจดั วางใน โปรแกรม PowerPoint สามารถหารูปภาพ ตกแต่งในอนิ เทอรเ์ นต็ ) ขน้ั สรุป(10 นาท)ี 1. ครใู หน้ ักเรียนส่งผลงานและใหต้ รวจดูทลี ะคน 2. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น เร่อื ง การนําเสนอข้อมูล 3. ครสู รุปเนื้อหาทงั้ หมด 4. ครูสอบถามนักเรียนในเรอ่ื งท่ีไมเ่ ข้าใจ
9.สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้ 1. PowerPoint เร่ือง การนำเสนอข้อมูล 2. โปรแกรม PowerPoint ของนักเรยี นท่นี ำเสนอ 3. แบบทดสอบหลงั เรยี น เรื่อง การนาํ เสนอข้อมลู 4. อินเทอร์เน็ตในการหาข้อมูล 10.การวัดผลและประเมินผล 10.1 การวดั ผล จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ วธิ ีการวัด เครื่องมอื แบบทดสอบหลัง ดา้ นความรู้ แบบทดสอบหลังเรยี น เร่ือง การนาํ เสนอข้อมูล (โดยการตรวจคะแนนทไี่ ด้จากการทำแบบทดสอบ) เรยี น แบบประเมนิ ด้าน ดา้ นทักษะกระบวนการ โดยการประเมินทักษะกระบวนการไดแ้ ก่ การทำงาน ทักษะกระบวนการ นำเสนอข้อมลู ของตนเองจากโปรแกรมPowerPoint แบบประเมินดา้ น วัดโดยการสงั เกตคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของ คุณลักษณะอนั พ่งึ ผู้เรยี น 5 ดา้ น ได้แก่ ประสงค์ 1. ซอ่ื สัตย์สจุ ริต แบบประเมนิ ดา้ น สมรรถนะสำคัญของ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 2. มวี นิ ยั ผเู้ รียน 3. ใฝเ่ รยี นรู้ 4. อย่อู ย่างพอเพียง 5. มุง่ มั่นในการทำงาน วดั โดยการสงั เกตสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 5 ดา้ น 1. ความสามารถในการสื่อสาร สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
10.2 เกณฑ์การประเมนิ ผล 1) ดา้ นความรู้ แบบทดสอบหลังเรยี น ( 10 คะแนน) 10 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 8-9 คะแนน หมายถึง ดี 6-7 คะแนน หมายถึง พอใช้ 0-5 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง หมายเหตุ ด้านความรเู้ กณฑ์ผา่ น ร้อยละ 80 ทุกประเด็นการประเมิน แบบบันทกึ การประเมนิ ด้านความรู้ เรอ่ื ง การนําเสนอข้อมลู เลขท่ี ชอื่ -นามสกลุ แบบทดสอบหลงั เรยี น ร้อยละ ผลการประเมนิ (10 คะแนน) ผา่ น ไม่ผ่าน 1 เด็กชายจกั รพรรดิ์ อินเหลา 8 80 ✓ ✓ 2 เด็กชายชัยพชิ ติ จอมใจ 7 70 ✓ ✓ 3 เด็กชายณัฐภัทร สตุ ๋า 8 80 ✓ ✓ 4 เด็กชายธนดล เบญจนาค 8 80 ✓ ✓ 5 เด็กชายรัฐกาล วงศ์ศรี 8 80 ✓ ✓ 6 เด็กชายศิขริน ช่างซอ 7 70 ✓ ✓ 7 เด็กชายอนุพงษ์ พานพระ 8 80 ✓ ✓ 8 เด็กชายโอเลย้ี ง ทองแดง 7 70 ✓ ✓ 9 เดก็ หญิงจรนิ ทรท์ ิพย์ บญุ ประเสริฐ 9 90 ✓ ✓ 10 เดก็ หญิงจริ าพร เมอื งใจมา 9 90 ✓ 11 เดก็ หญงิ จีรดาภา ศรสี วสั ดิ์ 8 80 12 เดก็ หญงิ ตรภี ัตร วงศแ์ กว้ มูล 8 80 13 เด็กหญิงธิดารตั น์ เสริมสุข 9 90 14 เด็กหญิงปิน่ นชุ มีเจริญ 8 80 15 เดก็ หญงิ วรญั ญาภรณ์ เตชะนนั ท์ 8 80 16 เดก็ หญิงวีรภทั รา ศิริทรัพย์ 9 90 17 เดก็ หญงิ สภุ สั สรา อนิ เล็ก 8 80 18 เดก็ ชายครรชติ พรมมา 7 70 19 เด็กชายอานันท์ ฟุ้งสนั ตภิ าพ 7 70
เลขท่ี ชอ่ื -นามสกุล แบบทดสอบหลังเรยี น ร้อยละ ผลการประเมิน (10 คะแนน) ผา่ น ไม่ผา่ น 20 เด็กชายธนโชติ ทองปาน 7 70 ✓ ✓ 21 เด็กชายวริ ภทั ร ขัตธิ ิ 7 70 ✓ ✓ 22 เด็กชายภานภุ ัทร เรอื นมลู สาย 7 70 23 เดก็ หญงิ อมั ธิกา สนั ยสตทิ ัศน์ 8 80 หมายเหตุ คะแนนจากแบบทดสอบหลังเรยี น เกณฑ์ผา่ น รอ้ ยละ 80 ลงชอ่ื .................................................. (.......................................................) ครผู สู้ อน
2) ด้านทักษะกระบวนการ ชิ้นงานในชนั้ เรยี น นำเสนอขอ้ มูลของตนเองจากโปรแกรม PowerPoint 1. มคี วามถกู ตอ้ งครบถว้ น 2. มีความสวยงาม 3. มีความคิดสรา้ งสรรค์ 4. ทำไดต้ รงตามเวลา เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนด้านทกั ษะกระบวนการ ด้านทักษะกระบวนการ ระดบั คะแนน ช้นิ งานในชน้ั เรียน นำเสนอ 4 32 1 ขอ้ มูลของตนเองจาก ทำช้นิ งานในชั้น ชน้ิ งานในชนั้ เรยี นได้ โปรแกรมPowerPoint เรียนไดต้ ามเกณฑ์ ชิ้นงานในช้ันเรียนได้ ชนิ้ งานในช้นั เรยี น ตามเกณฑ์ 1 ข้อ ครบทกุ ขอ้ ตามเกณฑ์ ไดต้ ามเกณฑ์ 3 ขอ้ 2 ข้อ แบบประเมนิ ด้านทักษะกระบวนการ 4 คะแนน หมายถึง ดีมาก 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง หมายเหตุ ได้ระดบั คณุ ภาพ 3 ข้นึ ไปทุกตวั ชี้วัด ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
แบบประเมินด้านทกั ษะกระบวนการ เรอื่ ง การนาํ เสนอข้อมลู เลขท่ี ช่ือ-นามสกลุ คะแนนการประเมนิ ผลการประเมนิ ผา่ น ไม่ผ่าน 1 เด็กชายจกั รพรรด์ิ อินเหลา 4✓ 2 เด็กชายชยั พิชติ จอมใจ 4✓ 3 เดก็ ชายณัฐภทั ร สุต๋า 4✓ 4 เดก็ ชายธนดล เบญจนาค 4✓ 5 เด็กชายรฐั กาล วงศศ์ รี 4✓ 6 เดก็ ชายศิขรนิ ชา่ งซอ 4✓ 7 เด็กชายอนุพงษ์ พานพระ 4✓ 8 เด็กชายโอเล้ยี ง ทองแดง 4✓ 9 เดก็ หญิงจรินทร์ทิพย์ บุญประเสรฐิ 4✓ 10 เดก็ หญิงจิราพร เมืองใจมา 4✓ 11 เดก็ หญงิ จีรดาภา ศรีสวัสดิ์ 4✓ 12 เด็กหญิงตรภี ตั ร วงศ์แก้วมลู 4✓ 13 เด็กหญิงธดิ ารตั น์ เสริมสุข 4✓ 14 เด็กหญิงป่ินนุช มีเจรญิ 4✓ 15 เดก็ หญงิ วรญั ญาภรณ์ เตชะนันท์ 4✓ 16 เด็กหญงิ วีรภทั รา ศิริทรัพย์ 4✓ 17 เดก็ หญงิ สภุ สั สรา อินเลก็ 4✓ 18 เดก็ ชายครรชิต พรมมา 4✓ 19 เดก็ ชายอานันท์ ฟุ้งสนั ตภิ าพ 4✓ 20 เด็กชายธนโชติ ทองปาน 4✓ 21 เดก็ ชายวริ ภัทร ขัตธิ ิ 4✓ 22 เด็กชายภานภุ ัทร เรอื นมูลสาย 4✓ 23 เดก็ หญิงอัมธิกา สันยสตทิ ศั น์ 4✓ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คุณภาพ 3 ขน้ึ ไปทุกตัวช้วี ัด ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน 3) ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ลงช่ือ.................................................. (.......................................................) ครผู ู้สอน
แบบประเมินดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ่ ประสงค์ 4 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ หมายเหตุ ไดร้ ะดับคุณภาพ 3 ข้ึนไปทุกตัวชี้วดั ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน การประเมนิ ด้านสมรรถนะผ้เู รยี น เร่ือง แนวคดิ เชงิ คำนวณ ซือ่ สตั ยส์ ุจริต 1. ไม่โกหก 2. ไมค่ ัดลอกงานของผอู้ ่ืน 3. มคี ุณธรรมต่อตนเองและผู้อ่ืน 4. ไมล่ ักขโมยของผอู้ ื่น มวี นิ ยั 1. เข้าเรยี นตรงต่อเวลา 2. ไมโ่ ดดเรยี น 3. แตง่ กายสภุ าพเรยี บร้อย 4. ส่งการบา้ นตรงต่อเวลา ใฝเ่ รยี นรู้ 1. ต้ังใจเรยี น 2. สบื ค้นหาความรู้/ข้อมลู สมำ่ เสมอ 3. รว่ มทำกิจกรรมในห้องเรยี น 4. บนั ทึกความรู้ วเิ คราะหข์ ้อมูลจากส่งิ ท่เี รียนรู้ อยู่อยา่ งพอเพียง 1. ใชท้ รพั ย์สินของตนเอง 2. ใช้ทรพั ยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั คุ้มค่า และเกบ็ รักษาดแู ลอยา่ งดี 3. ไม่เอาเปรียบผู้อืน่ และไม่ทำให้ผอู้ ่นื เดือดร้อน พร้อมให้อภยั เมอ่ื ผูอ้ ื่นกระทำผิดพลาด 4. นำวสั ดเุ หลือใช้มาสร้างงานตามทีค่ ณุ ครมู อบหมาย ม่งุ มนั่ ในการทำงาน
1. ตงั้ ใจและรับผิดชอบในการปฏิบตั ิหน้าทีก่ ารงาน 2. เอาใจใสต่ ่อการปฏบิ ัติหน้าท่ที ่ีได้รบั มอบหมาย 3. ตง้ั ใจและรบั ผดิ ชอบในการทำงานใหส้ ำเรจ็ 4. ปรับปรงุ และพัฒนาการทำงานด้วยตนเอง เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ด้านคณุ ลกั ษณะอนั ระดับคณุ ภาพ พึงประสงค์ 4 3 2 1 มีคณุ ลกั ษณะอนั มคี ณุ ลกั ษณะอัน มคี ณุ ลักษณะอนั มคี ณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ซอ่ื สตั ยส์ ุจริต พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ 1 ข้อ ครบทกุ ข้อ 3 ข้อ 2 ข้อ มีคณุ ลกั ษณะอัน พึงประสงค์ มีคณุ ลกั ษณะอัน มีคุณลักษณะอัน มคี ุณลกั ษณะอนั 1 ข้อ มวี นิ ยั พึงประสงค์ พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ มีคุณลกั ษณะอัน พงึ ประสงค์ ครบทุกขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ 1 ขอ้ มคี ณุ ลักษณะอัน มีคุณลกั ษณะอัน มคี ุณลักษณะอัน มีคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ พึงประสงค์ 1 ข้อ ครบทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ข้อ มีคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มคี ุณลกั ษณะอัน มคี ุณลักษณะอนั มคี ุณลกั ษณะอัน 1 ข้อ อย่อู ยา่ งพอเพียง พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ พึงประสงค์ ครบทุกขอ้ 3 ข้อ 2 ขอ้ มีคณุ ลักษณะอัน มคี ุณลกั ษณะอัน มคี ณุ ลกั ษณะอนั มงุ่ มนั่ ในการทำงาน พึงประสงค์ พงึ ประสงค์ พงึ ประสงค์ ครบทกุ ขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ หมายเหตุ ไดร้ ะดับคุณภาพ 3 ขึน้ ไปทุกตวั ชวี้ ดั ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
แบบประเมนิ ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ เร่ือง การนาํ เสนอข้อมูล คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ผลการประเมิน เลขท่ี ซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต มีวนิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพยี ง มุ่งม่นั ในการ ผ่าน ไม่ผา่ น หมายเหตุ ทำงาน 1 4 43 4 4✓ 2 4 44 4 4✓ 3 4 33 4 4✓ 4 4 43 4 4✓ 5 4 33 4 4✓ 6 4 43 4 4✓ 7 4 33 4 4✓ 8 4 33 4 4✓ 9 4 44 4 4✓ 10 4 4 4 4 4✓ 11 4 4 4 4 4✓ 12 4 4 4 4 4✓ 13 4 4 4 4 4✓ 14 4 4 4 4 4✓ 15 4 4 4 4 4✓ 16 4 4 4 4 4✓ 17 4 4 4 4 4✓ 18 4 3 3 4 4✓ 19 4 3 3 4 4✓ 20 4 3 3 4 4✓ 21 4 4 3 4 4✓ 22 4 4 4 4 4✓ 23 4 4 4 4 4✓ หมายเหตุ ได้ระดับคุณภาพ 3 ขน้ึ ไปทุกตวั ชี้วดั ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน 4) ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ลงชื่อ.................................................. (.......................................................) ครูผูส้ อน
แบบประเมนิ ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 4 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ปรับปรงุ หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ขนึ้ ไปทุกตัวชว้ี ดั ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน การประเมินดา้ นสมรรถนะผ้เู รียน เร่ือง แนวคดิ เชิงคำนวณ ความสามารถในการส่ือสาร 1. มคี วามสามารถในการรบั และส่งสาร 2. เลือกรับหรือไม่รับข้อมูลขา่ วสารดว้ ยหลักเหตผุ ล 3. คำนึงถึงผลกระทบทีม่ ีต่อตนเองและสังคม 4. การเจรจาต่อรองเพื่อขจดั และลดปญั หาความขดั แยง้ ตา่ ง ๆ ความสามารถในการคดิ 1. การคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ 2. การคิดเป็นระบบ 3. การคดิ สังเคราะห์ 4. การคดิ อย่างสรา้ งสรรค์ ความสามารถในการแกป้ ญั หา 1. การแกป้ ัญหาและอปุ สรรคตา่ ง ๆ 2. มีการตดั สินใจที่มปี ระสิทธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบท่ีเกดิ ขึ้นตอ่ ตนเอง สังคมและส่ิงแวดล้อม 3. ประยุกต์ความรูม้ าใชใ้ นการป้องกันและแกไ้ ขปัญหา 4. เข้าใจความสัมพันธ์และการเปลย่ี นแปลงของเหตุการณต์ ่าง ๆ ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 1. การเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง 2. การเรียนรอู้ ยา่ งตอ่ เนื่อง 3. การรจู้ กั หลีกเลย่ี งพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงค์ทีส่ ่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่ืน 4. การปรับตวั ให้ทันกับการเปลย่ี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ ม
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1. ความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีดา้ นตา่ ง ๆ 2. มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 3. การแกป้ ัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม 4. มีคุณธรรมในการใช้เทคโนโลยี เกณฑ์การให้คะแนนดา้ นสมรรถนะผ้เู รียน ด้านสมรรถนะ 4 ระดับคณุ ภาพ 1 ผูเ้ รยี น 32 มีความสามารถใน ความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน การสื่อสาร 1 ขอ้ การส่ือสาร การสือ่ สาร การสือ่ สาร การสอ่ื สาร มีความสามารถใน ครบทุกข้อ 3 ข้อ 2 ขอ้ การคดิ 1 ข้อ ความสามารถใน มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน การคิด การคิด การคิด การคิด การแก้ปัญหา 1 ขอ้ ครบทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ข้อ มคี วามสามารถใน ความสามารถใน มคี วามสามารถใน มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน การใช้ทักษะชวี ติ การแกป้ ัญหา การแก้ปัญหา การแกป้ ัญหา การแก้ปัญหา 1 ขอ้ มีความสามารถใน ครบทกุ ขอ้ 3 ข้อ 2 ขอ้ การใช้เทคโนโลย ความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถใน มคี วามสามารถใน 1 ข้อ การใช้ทักษะชวี ติ การใชท้ กั ษะชีวิต การใช้ทักษะชีวติ การใช้ทกั ษะชวี ติ ครบทุกขอ้ 3 ข้อ 2 ข้อ ความสามารถใน มคี วามสามารถใน มคี วามสามารถใน มีความสามารถใน การใช้เทคโนโลยี การใช้เทคโนโลยี การใชเ้ ทคโนโลย การใชเ้ ทคโนโลย ครบทุกขอ้ 3 ข้อ 2 ขอ้ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 2 ขึ้นไปทุกตวั ช้วี ัด ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ
แบบประเมินดา้ นสมรรถนะผูเ้ รียน เรื่อง การนําเสนอข้อมูล สมรรถนะผเู้ รยี น ผลการประเมิน เลขที่ การสอ่ื สาร การคิด การ การ การใช้ ผ่าน ไม่ผา่ น หมายเหตุ แกป้ ญั หา ใช้ทักษะชวี ติ เทคโนโลยี 14 4 3 3 4✓ 23 4 3 3 4✓ 33 4 3 3 4✓ 44 4 3 3 4✓ 54 4 3 3 4✓ 64 4 3 3 4✓ 74 4 3 3 4✓ 84 4 3 3 4✓ 94 4 4 4 4✓ 10 4 4 4 4 4✓ 11 4 4 4 4 4✓ 12 4 4 4 4 4✓ 13 4 4 4 4 4✓ 14 4 4 4 4 4✓ 15 4 4 4 4 4✓ 16 4 4 4 4 4✓ 17 4 4 4 4 4✓ 18 4 4 3 4 4✓ 19 4 4 3 4 4✓ 20 3 4 3 4 4✓ 21 3 4 3 4 4✓ 22 4 4 3 4 4✓ 23 4 4 4 4 4✓ หมายเหตุ ได้ระดับคณุ ภาพ 2 ขึน้ ไปทุกตัวช้ีวัด ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน ลงชือ่ .................................................. (.......................................................) ครูผสู้ อน
11. ข้อเสนอแนะ ✓ ใช้สอนได้ ควรปรบั ปรงุ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื .................................................. (นายวสิ ทุ ธิศกั ด์ิ เครือสาร) ครพู ่ีเล้ยี ง วันท่ี 1 เดอื น มถิ ุนายน พ.ศ.2564 12.บันทึกหลังการจดั การเรยี นรู้ 1) ผลท่ีเกิดขนึ้ แก่ผ้เู รยี น ด้านความรู้ จำนวนนักเรียนที่ผา่ นเกณฑ์ 23 คน 100 คิดเปน็ รอ้ ยละ จำนวนนกั เรียนที่ไมผ่ ่านเกณฑ์ 0 คน 0 คิดเป็นร้อยละ ดา้ นทักษะกระบวนการ จำนวนนักเรียนทผ่ี า่ นเกณฑ์ 23 คน 100 คิดเปน็ รอ้ ยละ จำนวนนกั เรยี นที่ไม่ผ่านเกณฑ์ 0 คน 0 คดิ เป็นร้อยละ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ จำนวนนักเรียนทผี่ า่ นเกณฑ์ 23 คน 100 คิดเป็นรอ้ ยละ จำนวนนกั เรียนที่ไม่ผา่ นเกณฑ์ 0 คน 0 คดิ เป็นรอ้ ยละ ด้านสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น จำนวนนักเรยี นท่ผี ่านเกณฑ์ 23 คน 100 คิดเป็นรอ้ ยละ จำนวนนักเรยี นท่ไี มผ่ า่ นเกณฑ์ 0 คน 0 คดิ เปน็ ร้อยละ 2) ปัญหาและอปุ สรรค เน่ืองจากคอมพวิ เตอร์มีปัญหาจงึ ทำให้การเรียนการสอนเป็นไปไดช้ า้ และนกั เรียนมีรว่ มตอบคำถาม
3)แนวทางการแก้ปญั หา ครจู ะเปิดคอมพวิ เตอรก์ ่อนท่ีนกั เรียนจะเข้าเรียนก่อนเพ่ือใหท้ นั ใชง้ าน และครูไดท้ ำการสมุ่ ถามโดยการเลน่ เกม จึงทำให้นกั เรียนมสี ว่ นร่วมในการตอบคำถาม ลงชอ่ื .................................................. (.......................................................) ผสู้ อน วนั ที่.......เดือน................... พ.ศ.............. 13.ความคิดเหน็ ของหัวหนา้ กลุ่มสาระ/สายชั้น ............................................................................................................................. ................................................. ..................................................................................................................................................................... ......... .......................................................................................................................... .................................................... ลงช่อื .................................................. (.......................................................) หวั หนา้ กลุม่ สาระ/สายช้ัน วนั ที่.......เดือน................... พ.ศ.............. 14.ความคิดเห็นของฝา่ ยวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่ือ.................................................. (.......................................................) ฝา่ ยวิชาการ วันท.่ี ......เดือน................... พ.ศ.............. 15.ความคิดเหน็ ของผู้อำนวยการโรงเรียน ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ .................................................. (.......................................................) ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี น วนั ท.ี่ ......เดอื น................... พ.ศ..............
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย รหสั – ชอ่ื รายวิชา วทิ ยาการคํานวณ กลุม่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 10 ชวั่ โมง ครู นายศภุ านต์ รนิ วงศ์ โรงเรียน อนุบาลแมเ่ มาะ (ชมุ ชน 1) มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชีวิตจรงิ อย่างเปน็ ขั้นตอนและเป็น ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารในการเรยี นรู้การทำงาน และการแก้ปญั หาไดอ้ ยา่ งมี ประสทิ ธิภาพ รเู้ ทา่ ทัน และมีจรยิ ธรรม ตวั ช้วี ดั /ผลการเรียนรู้ ว 4.2 ม. 1/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมอยา่ งง่ายเพ่ือแกป้ ญั หาทางคณิตศาสตร์หรือวทิ ยาศาสตร์ สาระสำคญั 1. การออกแบบและเขยี นโปรแกรมท่มี กี ารใชต้ วั แปร เงื่อนไข วนซำ้ 2. การออกแบบอัลกอริทึม เพื่อแก้ปัญหา ทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์อย่างง่าย อาจใช้แนวคิด เชิงนามธรรมในการออกแบบเพ่อื ให้การแก้ปัญหามีประสิทธภิ าพ 3. การแกป้ ญั หาอย่างเป็นขนั้ ตอนจะช่วยให้แก้ปัญหาได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ 4. Kidbright คือไร 5. ส่วนประกอบของ Kidbright 6. การเขยี นโคด้ ของ บอร์ด kidbright 7. Kidbrightทำอะไรได้บ้าง 8. โปรแกรมท่ใี ชใ้ นการใชง้ านสำหรบั kidbright 9. ความความของแหล่งข้อมูลปฐมภมู ิ 10. ธรี วบรวมข้อมลู จากแหลง่ ข้อมูลปฐมภมู ิ 11. การใชซ้ อฟตแ์ วร์ในการประมวลผลข้อมูล 12. การใชบ้ ริการบนอนิ เทอร์เน็ตท่หี ลากหลายในการรวบรวมขอ้ มูล 13. การออกแบบและเขียนโปรแกรมทมี่ กี ารใช้ตัวแปร 14. ซอฟต์แวร์ทใี่ ช้ในการเขยี นโปรแกรม เชน่ Scratch, python, java, c, KidBright IDE 15. เซนเซอรแ์ ละการใช้งาน 16. เขยี นโปรแกรมแบบทางเลือกได้
สาระการเรยี นรู้ อัลกอริทึม (algorithm) เป็นระเบียบวิธีหรือขั้นตอนวิธีที่ดำเนินการด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ในการ แก้ปัญหาต่าง ๆ อย่างมีระบบ มีลำดับขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนกระทั่งได้ผลลัพธ์ ซึ่งสามารถเขียนได้หลายรูปแบบ การเลือกใช้ต้องเลือกใช้ขน้ั ตอนวิธีที่เหมาะสม กระชบั และรัดกมุ KidBright คือ บอร์ดสมองกลฝังตัว ขนาดเล็ก ที่ประกอบไปด้วย ไมโครคอนโทรลเลอร์ ESP32 ทำ หน้าที่ ประมวลผล และควบคุมสั่งงานอุปกรณ์ ที่ประกอบอยู่บนบอร์ด ซึ่งได้แก่หน้าจอแสดงผลแบบ Matrix LED ขนาด 168 จุด และเซ็นเซอร์ตรวจจับพื้นฐาน ที่สามารถปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้แก่ เซ็นเซอร์วัด ระดับความเขม้ ของแสง และ เซ็นเซอรว์ ัดอณุ หภูมิ ในการทำงานบางอย่างที่ต้องมีการตัดสินใจ เลือกว่าจะทำหรือไม่ทำ ตามเงื่อนไขที่กำหนดขึ้น โปรแกรม Kidbright IDEมีบล็อกคำสั่ง f และ if-else เพื่อจัดการการทำงานดังกล่าวข้างต้น สำหรับบล็อก คำส่งั f ถ้าเงื่อนไขหลงั if เปน็ จริง จะทำคำสงั่ ภายในบล็อก if ตัวแปรเป็นชื่อที่กำหนดขึ้นเพื่อใช้เก็บข้อมูลและเรียกใช้ในการทำงานต่าง ๆ การกำหนดค่าอย่างใด อย่างหนึ่งให้กับตัวแปรสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การรับค่าจากภายนอก การกำหนดค่าจากค่าคงท่ี หรือตัว แปรอื่น หรือการกำหนดค่าจากการคำนวณซึ่งใช้ ตัวดำเนินการ การตั้งชื่อตัวแปรควรตั้งชื่อให้เหมาะสมกับ คา่ ทเี่ กบ็ ในตวั แปร ในระบบสมองกลฝังตัว เซนเซอร์ คืออุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ตรวจวัดปริมาณทางกายภาพต่าง ๆ เช่น อณุ หภูมิ แสง เสียง การสัมผสั เปน็ ตน้ และแปลงสัญญานทางไฟฟา้ ใชต้ รวจสอบเงื่อนไขสำหรบั การสั่งงานส่วน ควบคุมแบบอัตโนมัติหรือตรวจข้อมูลต่าง ๆ สำหรับการเก็บบันทึกข้อมูล เช่น เซนเซอร์ตรวจสัดแสงสว่าง เซนเซอร์ตรวจวัดระดับเสียง เซนเซอร์ตรวจวัดความเข้มของสนามแม่เหล็ก เซนเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิและ ความชื้นสัมพัทธ์ เป็นตน้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ความรู้ 1. มคี วามร้คู วามเข้าใจเกย่ี วกับความหมายของอัลกอริทึมและการเขยี นอลั กอริทึม 2. บอกส่วนประกอบของบอร์ด KidBright ได้ 3. อธบิ ายความหมายของบลอ็ กทใี่ ชเ้ ขียนโปรแกรมได้ 4. แก้ไขปัญหาโดยการใช้งานตวั แปร 5. อธิบายความสำคัญของเซนเซอรพ์ ้นื ฐานได้
ทักษะกระบวนการ 1. สามารถปฏิบตั กิ ารเขยี นอัลกอรทิ มึ ในรูปแบบตา่ ง ๆ ไดใ้ ชซ้ อฟต์แวรใ์ นการประมวลผลได้ 2. สามารถปฏิบัติการเขยี นโปรแกรมเบ้ืองต้นใหบ้ อร์ด KidBright ได้ 3. เขียนโปรแกรมแสดงผลบนหน้าจอแสดงผล LED ได้ 4. ออกแบบและเขยี นโปรแกรมแก้ปัญหาทางคณติ ศาสตรห์ รือวทิ ยาศาสตร์อยา่ งง่าย 5. เขยี นแผนผังการประยกุ ต์ใช้งานเซนเซอร์ได้ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต 2. มีวินยั 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 5. มุ่งม่ันในการทำงาน สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี การประเมนิ ผลรวบยอด 1. แบบทดสอบหลงั เรยี น Kahoot! เรอ่ื ง สญั ลกั ษณผ์ งั งาน 2. แบบฝกึ หดั เรอ่ื ง สว่ นประกอบของ kidBright 3. แบบฝกึ หดั เรอ่ื ง สนุกคดิ กบั KidBright 4. แบบฝึกหดั เรอ่ื ง ตวั แปรและตันดำเนนิ การ 5. แบบฝกึ หัด เรอื่ ง เซนเซอร์และการใช้งาน 6. ใบงาน เร่อื ง ผังงาน 7. กิจกรรม การเขยี นโปรแกรมเบือ้ งตน้ ให้กบั ตัวบอรด์ kidBright 8. กจิ กรรม ชอบร้อนหรอื ชอบเย็น 9. ทำกจิ กรรมท่ี เรื่อง ตวั แปรด้วยโปรแกรม KidBright 10. กิจกรรมนำเสนอแบบร่างโครงงาน
การประเมนิ ผล ระดบั คุณภาพ น้ำหนกั คะแนน ประเดน็ การประเมนิ ดมี าก ดี (3) พอใช้ ปรบั ปรงุ (4) (2) (1) แบบทดสอบหลังเรียน Kahoot! เร่ือง สัญลักษณ์ผงั งาน 10 8-9 6-7 0-5 10 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน แบบฝึกหดั เร่ือง ส่วนประกอบของ kidBright 10 8-9 6-7 0-5 10 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน แบบฝึกหัด เร่อื ง สนกุ คดิ กบั KidBright 10 8-9 6-7 0-5 10 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน แบบฝกึ หดั เรอื่ ง ตวั แปรและตันดำเนนิ การ 10 8-9 6-7 0-5 10 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน แบบฝกึ หัด เรอ่ื ง เซนเซอร์และการใช้งาน 10 8-9 6-7 0-5 10 คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน รวม 50
กจิ กรรมการเรยี นรู้ ช่วั โมงท่ี 1 กจิ กรรมหลกั ของครู 1. ครูเช็คช่อื เข้าช้ันเรียน 2. ครเู กริน่ นำว่าถา้ หากเราจะตม้ ไข่ นักเรยี นแตล่ ะคนจะมวี ิธีอย่างไรกันบ้าง 3. ครสู ุ่มให้นักเรียนบอกถงึ วธิ ตี ้มไข่ของแตล่ ะคนว่าจะมีวิธีท่แี ตกต่างกันไหม 4. ครกู ล่าวถ้าหากนกั เรียนจะต้มไขโ่ ดยใชว้ ธิ ีท่เี หมอื นกนั ล่ะจะทำยงั ไง 5. ครูยกตัวอย่างผังงานมา 1 ผังงานเรื่องการต้มไข่ และอธิบายว่าหน้าของการออกแบบอัลกอริ ทึมมี หนา้ ตาเปน็ อย่างไร 6. ครูแจกใบงาน เรื่อง ผงั งาน ให้นกั เรยี นทำเกี่ยวกบั การแสดงอลั กอรทิ ึมในการแตง่ ตวั 7. ครูเก็บใบงาน เรือ่ ง ผงั งาน 8. ครสู รปุ ความหมายของผงั งาน 9. ครเู ปิดโอกาสให้นกั เรยี นถามในส่วนท่ีไมเ่ ขา้ ใจ 10. ครูนดั หมายนักเรยี นในการเรียนคร้ังต่อไป ภาระงานของนกั เรยี น 1. นกั เรียนบอกถึงวิธตี ้มไขข่ องแต่ละคนวา่ จะมวี ิธีทแ่ี ตกต่างกันไหม 2. นักเรยี นทำ ใบงาน เรื่อง ผงั งาน ชว่ั โมงท่ี 2 กจิ กรรมหลักของครู 1. ครเู ชค็ ช่อื เข้าช้นั เรยี น 2. ครูเปดิ PowerPoint นำเสนอเก่ยี วกับ หลกั การในเขียนผงั งาน 3. ครใู หน้ ักเรยี นทำกิจกรรม ใบ้ดูคืออะไร 4. ครนู ำรูปผังงาน มาให้นักเรยี นช่วยกนั บอกว่า ผงั งานนม้ี ีหลักการในเขยี นผงั งานในแบบใด 5. ครูให้นักเรียนเขา้ เวบ็ Kahoot! เพอื่ ทำแบบทดสอบ 6. ครูอธิบายคำตอบไปเปน็ ข้อๆเพอื่ ทบทวนและสรา้ งความเข้าใจให้กับนักเรียน 7. ครูสรุปคะแนนของนกั เรียนและนัดหมายให้มาเรยี นในช่ัวโมงตอ่ ไป ภาระงานของนักเรยี น 1. นกั เรียนออกมานำเสนอ 2 คน 2. นักเรยี นทำกิจกรรม ใบด้ ูคืออะไร 3. นกั เรยี นชว่ ยกันตอบหลักการในเขียนผังงานในแบบใด 4. นกั เรยี นเข้าเว็บ Kahoot! เพื่อทำแบบทดสอบ
ชว่ั โมงที่ 3 กจิ กรรมหลักของครู 1. ครูเช็คชือ่ เข้าชน้ั เรยี น 2. ครใู หน้ กั เรียนมาหยิบบอร์ด kidbright และตรวจเชค็ วา่ มีอุปกรณ์ครบไหม แลว้ บอกหมายเลขของตัว บอรด์ ให้ครู 3. ครเู ปิด PowerPoint เรื่อง kidbright คอื อะไร และอธิบายใหน้ กั เรียนฟัง 4. ครใู หน้ ักเรยี นดู PowerPoint เรอื่ ง kidbright และดูบอร์ดตัวจริงของตัวนักเรยี นเองว่าส่วนประกอบ ไหนอยู่ตรงไหน 5. ครูอธิบายว่าการเขียนโปรแกรมของ kidbright นั้นเป็นการเขียนโปรแกรมแบบ Block Programming เปน็ การเขียนโปรแกรมแบบลากแลว้ วาง 6. ครูทำกจิ กรรม การเขยี นโปรแกรมเบ้อื งต้นใหก้ ับ ตวั บอร์ด kidbright 7. ครูเกบ็ แบบฝึกหัด เร่อื ง สว่ นประกอบของ kidbright 8. ครสู รปุ ความหมาย kidbright 9. ครนู ดั หมายนกั เรียนในการเรียนครง้ั ตอ่ ไป ภาระงานของนกั เรยี น 1. นักเรยี นตรวจ บอร์ด kidbright เช็ควา่ มอี ุปกรณ์ครบไหม แลว้ บอกหมายเลขของตวั บอรด์ ใหค้ รู 2. นักเรียนเปิดโปรแกรม kidbright 3. นกั เรยี นครูทำกจิ กรรม การเขียนโปรแกรมเบอ้ื งตน้ ใหก้ บั ตัวบอร์ด kidbright 4. นกั เรยี นทำ แบบฝึกหัด เรือ่ ง ส่วนประกอบของ kidbright
ชัว่ โมงท่ี 4 กจิ กรรมหลักของครู 1. ครเู ชค็ ช่ือเข้าชั้นเรียน 2. ครอู ธิบายขอบเขตและจดุ ประสงคข์ องเน้ือหาในช่วั โมงนี้ 3. ครูให้นักเรียนเขยี นโปรแกรมตามครู 4. ครอู ธบิ ายการทำงานของโปรแกรมทนี่ กั เรยี นทำ 5. ครเู ดนิ ตรวจสอบการเขยี นโปรแกรมของนักเรียน 6. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรยี นถามในเรื่องท่ไี ม่เข้าใจ 7. ครนู ดั หมายนกั เรียนในการเรียนครง้ั ต่อไป ภาระงานของนักเรียน 1. นกั เรียนนำบอรด์ Kidbright ของตนเองมา 2. นกั เรียน เปิดโปรแกรม Kidbright 3. นกั เรยี นเขียนโปรแกรมตามครู ชั่วโมงท่ี 5 กจิ กรรมหลักของครู 1. ครเู ช็คช่อื เข้าชั้นเรยี น 2. ครอู ธบิ ายขอบเขตและจดุ ประสงค์ของเนื้อหาในช่วั โมงนี้ 3. ครใู หน้ กั เรียนเขียนโปรแกรมตามครู 4. ครูอธบิ ายการทำงานของโปรแกรมที่นกั เรยี นทำ 5. ครใู ห้ทำกจิ กรรม ชอบร้อนหรอื ชอบเยน็ 6. ครูเดินตรวจสอบการเขยี นโปรแกรมของนักเรียน และให้คะแนน 7. ครูเก็บแบบฝึกหดั เรื่อง สนกุ คดิ กบั KidBright 8. ครูนดั หมายในการเรียนในชว่ั โมงตอ่ ไป ภาระงานของนกั เรยี น 1. นักเรียนนำบอร์ด Kidbright ของตนเองมา 2. นกั เรยี น เปิดโปรแกรม Kidbright 3. นกั เรยี นเขียนโปรแกรมตามครู 4. นักเรยี นทำแบบฝึกหดั เรื่อง สนกุ คิด กับ KidBright
ชั่วโมงท่ี 6 กจิ กรรมหลักของครู 1. ครเู ช็คช่ือเข้าชน้ั เรียน 2. ครอู ธบิ ายขอบเขตและจดุ ประสงคข์ องเนื้อหาในช่ัวโมงนี้ 3. ครูนำเข้าสบู่ ทเรียน 4. ครูสุ่มผู้เรียนหนึ่งคนออกมานับจำนวนนักเรียนชาย และจำนวนนักเรียนหญิงแล้วจดบันทึกบน กระดาน 5. นกั เรียนหน่ึงคนออกมานับจำนวนนักเรียนชาย และจำนวนนักเรียนหญงิ แล้วจดบันทึกบนกระดาน 6. ครูสุ่มนกั เรยี นหน่งึ คนหาจำนวนผลรวม และเขียนผลรวมลงบนกระดาน ภายใตต้ ัวแปร “รวม” 7. ครูสรปุ เช่ือมโยงไปสู่ตัวแปรท่ีใช้ในการเขียนโปรแกรม 8. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนถามในเรือ่ งทไ่ี ม่เข้าใจ 9. ครูนดั หมายนักเรียนในการเรียนคร้งั ต่อไป ภาระงานของนกั เรียน 1. นักเรียนนำบอร์ด Kidbright ของตนเองมา 2. นกั เรียน เปดิ โปรแกรม Kidbright 3. นักเรยี นเขยี นโปรแกรมตามครู 4. นักเรียนหนึ่งคนออกมานบั จำนวนนกั เรียนชาย และจำนวนนกั เรยี นหญงิ แลว้ จดบันทึกบนกระดาน 5. นกั เรียนหนึ่งคนหาจำนวนผลรวม และเขียนผลรวมลงบนกระดาน ภายใต้ตัวแปร “รวม” 6. นกั เรยี น ทำกจิ กรรมท่ี เรอื่ ง ตัวแปรดว้ ยโปรแกรม KidBright 7. นกั เรียนรว่ มกนั สรุปเชอ่ื มโยงไปสตู่ วั แปรทใ่ี ช้ในการเขยี นโปรแกรม
ชั่วโมงท่ี 7 กจิ กรรมหลกั ของครู 1. ครูเชค็ ชอื่ เข้าชัน้ เรียน 2. ครอู ธิบายขอบเขตและจุดประสงค์ของเน้ือหาในชว่ั โมงน้ี 3. ครทู บทวนเน้ือหาในชว่ั โมงที่ผา่ นมา 4. ครูและนักเรียนอภิปรายร่วมกันถึงการประมวลผลทางคณิตศาสตร์ เช่น การบวก การลบ การคูณ การหาร และการเปรยี บเทยี บ 5. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสร้างโปรแกรม แบง่ ขนม 6. ครูสุ่มนกั เรยี นนำเสนอคำตอบ 7. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรียนถามในเร่อื งที่ไม่เข้าใจ 8. ครนู ัดหมายนกั เรียนในการเรียนครง้ั ต่อไป ภาระงานของนักเรยี น 1. นกั เรยี นนำบอรด์ Kidbright ของตนเองมา 2. นักเรียน เปิดโปรแกรม Kidbright 3. นกั เรียนร่วมกันสร้างโปรแกรม แบง่ ขนม 4. นกั เรียนจบั คกู่ ันทำ แบบฝึกหดั เรอื่ ง ตัวแปรและตันดำเนินการ 5. นกั เรียนนำเสนอคำตอบ 6. นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายถงึ การใชง้ านตวั แปรและตวั ดำเนินการ
ชวั่ โมงที่ 8 กจิ กรรมหลกั ของครู 1. ครเู ชค็ ชื่อเข้าช้นั เรียน 2. ครูจัดกิจกรรมละลายพฤติกรรม “แยกแยะสร้างสรรค์” 3. ครูบอกหวั ข้อการสอนวา่ วนั นี้จะสอนเร่ือง เซนเซอร์และการใชง้ าน 4. ครใู หน้ กั เรียนดู PowerPoint เกี่ยวกับของเซนเซอร์พน้ื ฐานของ kidbright และเซนเซอรภ์ ายนอก 5. ครยู กตัวอย่างเซนเซอร์ภายนอกต่างๆ 6. ครูใหน้ ักเรยี นเปดิ โปรแกรม kidbright เพ่อื ทำกิจกรรม การเขยี นโปรแกรมแบบทางเลอื ก 7. ครูเดินตรวจนกั เรยี นแตล่ ะคนวา่ ทำได้ไหมและใหค้ ะแนนในกิจกรรม 8. ครูเปดิ โอกาสให้นกั เรียนถามในสว่ นท่ไี ม่เข้าใจ 9. ครนู ัดหมายนกั เรียนในการเรียนครัง้ ตอ่ ไป ภาระงานของนักเรียน 1. นักเรียนนำบอรด์ Kidbright ของตนเองมา 2. นักเรียน เปิดโปรแกรม Kidbright 3. นกั เรยี นทำกิจกรรม การเขยี นโปรแกรมแบบทางเลือก 4. นกั เรียนทำแบบฝกึ หดั เรื่อง เซนเซอร์และการใชง้ าน ช่ัวโมงที่ 9 กิจกรรมหลกั ของครู 1. ครเู ช็คชือ่ เขา้ ชั้นเรยี น 2. ครใู หน้ ักเรยี นเล่นเกม ออมเงินเพื่อเปน็ การแบ่งกลมุ่ ในการทำกจิ กรรม 3. ครใู ห้นักเรียนเข้าเวบ็ ไซต์ https://www.kid-bright.org/ เพอื่ สบื คน้ หาข้อมูล 4. ครูยกตัวอยา่ งโครงงานวิทยาศาสตรท์ เ่ี กีย่ วกบั kidbright ใหน้ ักเรียน 5. ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่างโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 6. ครูเดนิ ตรวจนักเรียนแต่ละกลมุ่ และสอบถามถงึ ปญั หาและอุปสรรคในการทำงาน 7. ครเู กบ็ รวบรวมแบบร่างโครงงานวิทยาศาสตร์ 8. ครนู ดั หมายนักเรียนในการเรียนครง้ั ตอ่ ไป ภาระงานของนักเรยี น 1. นกั เรยี นเปดิ อนิ เทอรเ์ น็ตเพ่ือสบื คน้ ขอ้ มูล 2. นักเรยี นเลน่ เกม ออมเงินเพอื่ เปน็ การแบ่งกลมุ่ ในการทำกจิ กรรม 3. นกั เรียนเข้าเวบ็ ไซต์ https://www.kid-bright.org/ เพ่ือสืบค้นหาข้อมูล 4. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่างโครงงานวทิ ยาศาสตร์
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187