เอกเร่ิมคบกับผู้หญิงจริงจังตอนท่ีไปเรียนและท�ำงานอยู่อเมริกา คร้ังแรกที่ไปอยู่ต้องปรับตัวกับสภาพสังคมใหม่ท่ีแตกต่างไปจากเดิม เพราะ ความรู้สึกเหงา ไม่มีเพื่อน ห่างบ้าน เขาจึงเริ่มสานความสัมพันธ์กับผู้หญิง จริงจงั มากข้ึน เริ่มตน้ จากการหาเพื่อนคุยทางอนิ เตอรเ์ น็ต จนร้จู ักกบั ผหู้ ญิง คนไทยทม่ี าอาศยั อยปู่ ระเทศออสเตรเลยี จากนน้ั กน็ ดั พบกนั ตอนทเ่ี อกกลบั มา เมืองไทยชั่วคราวและคบหาเป็นแฟนกัน แต่อยู่ด้วยกันได้ไม่ถึงหนึ่งปีก็ต้อง เลิกรากัน ต่างคนต่างแยกย้ายไปมคี นใหม่ โดยบอกเหตผุ ลวา่ “นสิ ัยส่วนตวั บางอย่างท่ไี มเ่ ขา้ กนั และปญั หาภาวะทางการเงนิ ” ผหู้ ญงิ คนทสี่ องของเอกเปน็ เพอื่ นนกั ศกึ ษาชาวญปี่ นุ่ อายหุ า่ งกนั เกอื บ 10 ปี “เขาเดก็ ป.ตรี ตอนนัน้ ทไ่ี ปเจอกนั ก็เปน็ แฟนโดยบังเอิญ ไมไ่ ดต้ ้งั ใจ ไปแคม้ ปง้ิ และเมา ดกึ ๆ มาไมม่ เี ตน้ ทน์ อน เลยไปนอนดว้ ยกนั ” มคี วามสมั พนั ธ์ กันไม่ถึง 2 ปี เอกก็ไปมีผู้หญิงคนใหม่ เขาเล่าว่า “คนท่ี 3 ก็เป็นคนญี่ปุ่น เหมอื นกัน อายุเท่ากัน ไปแยง่ เขามา แต่คบกันได้ไมน่ าน เขาก็ไปมคี นใหม”่ เอกเลือกคบกับผู้หญิงชาวเอเชียด้วยกันมากกว่า และชอบผู้หญิง หนา้ ตาดี “อาจจะรสู้ กึ อบอนุ่ มากกวา่ มงั๊ อาจจะมอี คตกิ บั ผหู้ ญงิ ฝรง่ั ผหู้ ญงิ ฝรงั่ ตวั ใครตวั มนั มากกวา่ ไมอ่ อ่ นหวานเหมอื นคนเอเชยี ไมเ่ ขา้ ใจ วัฒนธรรมกัน ผู้หญิงฝรั่งตอนท่ีเราไปอยู่จริงๆ ก็เห็นหาสวยๆ ได้น้อย” ผู้หญิงคนท่ีเอกประทับใจและรู้สึกดีด้วยมากท่ีสุด คือผู้หญิงคนไทย คนแรกซึง่ มอี ายเุ ทา่ กันกบั เอก เขาบอกว่า “เขาดูเป็นผู้หญิงฉลาด หรอื วา่ เราเจอกันไม่นาน เราก็เลยรู้สึก ว่าเขาเป็นคนดีก็ไม่รู้ เป็นคนที่ถูกกาละเทศะ ไม่จู้จ้ีอะไรมาก ดกี บั เรามาก” 130 นิวตั ร สวุ รรณพัฒนา และกาญจนา แถลงกจิ
ถุงยางอนามยั ช่วยจัดการชีวติ ทางเพศไดล้ งตวั เมอ่ื ถามถงึ ความคดิ และประสบการณก์ ารใชถ้ งุ ยางอนามยั กบั เพศสมั พนั ธ์ ของเอก ยอ้ นไปท่ปี ระสบการณ์ทางเพศคร้งั แรกกับพนักงานบรกิ ารตอนเรียน อยู่มัธยม 5 เรื่อยมาจนถึงความสัมพันธ์กับเพ่ือนหญิงในชั้นเรียนเดียวกัน เขาจ�ำได้อย่างเลือนรางและคิดว่าตัวเองน่าจะไม่ได้ใช้ “ตอนนั้นปัญหาเร่ือง เอดส์ เรือ่ งอะไรคงยงั ไมม่ มี ั๊ง คิดวา่ ตอนนนั้ ยงั ไม่มีโรคเอดส”์ จนกระทงั่ เอกเขา้ มาเรยี นในมหาวทิ ยาลยั สถานะของการเปน็ นกั ศกึ ษา ท�ำให้เริ่มรับรู้เร่ืองโรคและถุงยางอนามัยอยู่บ้าง และการท่ีไม่ได้คบหาหรือ สานสัมพันธ์กับผู้หญิงอย่างจริงจัง เขาจึงหันมาให้ความส�ำคัญกับการใช้ ถุงยางอนามัยกับเพศสมั พันธท์ ุกคร้งั โดยบอกวา่ “มันไม่ใช่เป็นความรัก หรือเป็นแบบรู้จักกันมาก่อน ไม่ได้เป็น อะไร เราก็ต้องป้องกันระวังตัวด้วย ระวังเรื่องท้อง เรื่องโรค เรือ่ งอะไรด้วยละ่ ไมร่ ู้จักสนทิ ใจ ไม่ไดค้ บกนั มาก่อน” กระทงั่ ทกุ วนั นี้ เอกยอมรบั วา่ คนุ้ เคยกบั การใชถ้ งุ ยางอนามยั กบั ผหู้ ญงิ ทกุ คน ไมว่ า่ จะรจู้ กั กนั ทางอนิ เตอรเ์ นต็ ตามผบั รา้ นคาราโอเกะ หรอื แมก้ ระทง่ั กับคนรักของตัวเอง จนรู้สึกว่าหากครั้งไหนที่เกิดพลาดไม่ได้ใช้ก็จะรู้สึก ไม่ม่ันใจและกังวลใจ เพราะมันหมายถึงผลกระทบกับชีวิตของตัวเองท่ียัง มีหลายอยา่ งไม่ลงตวั เอกประเมินว่าตัวเขายังไม่พร้อมจะรับผิดชอบหรือแบ่งปันชีวิตร่วมกับ ใครอีกคน และรสู้ กึ ว่ายงั สนุกกับการใชช้ วี ิตทางเพศอสิ ระอยา่ งนี้ไปเรอื่ ยๆ “เปน็ คนเลอื กมากหรอื เปลา่ กไ็ มใ่ ช่ อาจเปน็ นสิ ยั บางอยา่ งทโ่ี ลเล ลงั เล บางทีท�ำงานสกั อย่าง กล็ งั เลไปเรอื่ งอ่นื ” ถุงยางอนามยั กบั การดำ� เนนิ ชวี ิตทางเพศในสังคมไทย 131
เอกไม่ต้องการสร้างเง่ือนไขผูกมัดชีวิตตัวเองไว้กับการมีคู่รักเพียง คนเดียว และมองว่าการแต่งงานเป็นเรื่องปลายทางท่ีอาจเกิดข้ึนหรือไม่ก็ได้ ขน้ึ อยกู่ บั ความพรอ้ มในการตดั สนิ ใจของตวั เอง เอกไมไ่ ดเ้ อย่ ถงึ คนในครอบครวั วา่ กดดนั ใหต้ อ้ งคดิ เรอ่ื งการแตง่ งานในฐานะทเี่ ปน็ ลกู ชายคนเดยี วของครอบครวั ด้วยหรือไม่ ดูท่าทางเขาไม่จริงจังที่จะพูดถึงเร่ืองเหล่านี้มากนัก เพียงแต ่ เลา่ ใหฟ้ งั ว่าพ่ีสาวได้แต่งงานมคี รอบครวั และมหี ลานให้พอ่ แม่แลว้ สำ� หรบั ผหู้ ญงิ ทเ่ี อกคบหากนั ฉนั ทค์ นรกั เขาใหเ้ หตผุ ลของการใชถ้ งุ ยาง อนามัยไปท่ีป้องกันท้องมากกว่าป้องกันโรค และพวกเธอก็ไม่ปฏิเสธการใช้ ถุงยางอนามัยกับเขา โดยเฉพาะในบริบทความสัมพันธ์ท่ีเกิดขึ้นในยามท่ี ตอ้ งใชช้ วี ติ โดดเดยี่ วอยตู่ า่ งบา้ นตา่ งเมอื ง และไมไ่ ดค้ าดหวงั ใชช้ วี ติ อยรู่ ว่ มกนั ยืนยาว แต่ก็มีข้อยกเว้นส�ำหรับแฟนคนไทยคนแรกของเอก ท่ีเขายอมรับว่า ไมไ่ ดใ้ ช้ถงุ ยางอนามัยปอ้ งกันทุกครงั้ “เขาเป็นหมนั และเขาก็บอกว่า ไม่ยอมใช้ คยุ กันคบกนั มานาน พอ และตรวจสขุ ภาพอย่เู สมอ” แม้ความคิดเร่ืองถุงยางอนามัยในความหมายของเอกจะเกิดจาก ความตระหนักเร่ืองการป้องกันโรคและป้องกันท้องเป็นหลัก และความมั่นใจ เรื่องความปลอดภัยจะเป็นเง่ือนไขส�ำคัญท่ีจะเลือกไม่ใช้ถุงยางอนามัยใน บางกรณี นบั ว่าเอกไดก้ ้าวเขา้ สู่ความรู้สกึ สนทิ ชิดเชอ้ื กบั ถุงยางอนามยั ไมไ่ ด้ รสู้ กึ แปลกแยกจากกนั และคน้ พบจดุ ทส่ี มดลุ ในการใชช้ วี ติ ทางเพศโดยมถี งุ ยาง อนามยั เขา้ มาเปน็ สว่ นหน่งึ ของชีวติ เขาไดแ้ ลว้ “ใช้กบั ไมใ่ ช้ถงุ ยางฯ ความรู้สกึ ทางเพศมนั กไ็ มแ่ ตกตา่ งกนั มาก นะ ยกเว้นว่ามันหนาเกินไป อันน้ีก็มีผลกับความรู้สึกอยู่บ้าง ก็ตอ้ งเลือกหาแบบท่ใี สแ่ ลว้ เรารู้สึกดี” 132 นิวัตร สุวรรณพฒั นา และกาญจนา แถลงกจิ
4.2 ความสัมพันธ์เชิงอ�ำนาจในเร่ืองเพศกับการใช้ถุงยาง อนามัย ความสมั พนั ธเ์ ชงิ อำ� นาจในเรอ่ื งเพศนส้ี มั พนั ธก์ บั บรรทดั ฐานทางสงั คม วัฒนธรรมในเรื่องเพศข้างต้น ท่ีวางอยู่บนฐานคิดการมองเรื่องเพศท่ีปกต ิ ถกู ตอ้ ง วา่ ตอ้ งเปน็ เพศสมั พนั ธใ์ นรปู แบบรกั ตา่ งเพศระหวา่ งชายกบั หญงิ และ อยู่ในสถาบันการแตง่ งาน เพอ่ื สืบลกู สบื หลาน สรา้ งครอบครัวเทา่ นั้น การใช้ ชวี ติ บนฐานคดิ เรอื่ งเพศดงั กลา่ ว สง่ ผลใหผ้ หู้ ญงิ ขาดอำ� นาจในการจดั การเรอ่ื ง เพศของตนเอง และยงั เปน็ การวางสถานะของถงุ ยางอนามยั ไวใ้ นความหมาย ของการนอกใจไม่ซ่ือสัตย์ ท�ำให้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเกิดความรู้สึกอึดอัด ไม่สะดวกใจในการบอกให้คู่ใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เพราะความ สมั พนั ธร์ ะหวา่ งคใู่ นฐานคดิ ขา้ งตน้ ทำ� ใหค้ เู่ ทา่ กบั ความไวว้ างใจ จงึ ไมจ่ ำ� เปน็ ต้องใชถ้ ุงยางอนามัยในความสมั พนั ธ์ทางเพศแบบคผู่ ัว − เมยี หรอื แมก้ ระท่งั แฟนและค่รู กั ในการนดั พดู คุยสมั ภาษณ์กับวัยรนุ่ หญิงคนหนึ่ง9 ทีอ่ อกจากโรงเรียน มาหางานท�ำเพราะฐานะทางบ้านไม่ดี ปัจจุบันเป็นนักร้องและแดนเซอร ์ (นกั เตน้ ) ตามวงดนตรใี กลบ้ า้ น เธอเลา่ ใหผ้ ชู้ ว่ ยนกั วจิ ยั ทเ่ี ปน็ หญงิ เชน่ กนั ฟงั วา่ เธอมีเพศสัมพันธ์คร้ังแรกกับแฟนตอนอายุ 15 ปี โดยไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย เธอไม่เคยคิดเร่ืองถุงยางอนามัย และไม่รู้จักมาก่อน ตอนนั้นใช้วิธี “หล่ัง ข้างนอก” ปจั จบุ ันเธอมีคูป่ ระจำ� คบกนั ไดป้ ระมาณ 5 ปี เป็นความสมั พนั ธ์แบบ อปุ ถมั ภโ์ ดยเขาคอยชว่ ยเหลอื ดแู ล อยา่ งไรกต็ าม เธอยงั มโี อกาสมเี พศสมั พนั ธ์ กับคนอ่ืนแบบไม่ผูกมัดอยู่บ้างเป็นบางครั้ง เธอบอกว่ามันเป็นไปตามประสา คนมอี าชพี นกั รอ้ งและแดนเซอรท์ ต่ี อ้ งเจอคนมาก เธอพยายามใชถ้ งุ ยางอนามยั 9 สัมภาษณ์เชงิ ลกึ วยั รุน่ หญิงคนหนึ่ง อายุ 22 ปี วันท่ี 9 สงิ หาคม 2553. ถุงยางอนามยั กับการดำ� เนนิ ชีวติ ทางเพศในสงั คมไทย 133
กับคูช่ ่ัวคราวบ้างแต่ไมท่ กุ ครัง้ แต่ส�ำหรับค่ปู ระจ�ำแล้ว เธอใช้ถงุ ยางฯ เฉพาะ ชว่ งระยะไม่ปลอดภัยเน่ืองจากกงั วลเร่ืองท้องไม่พร้อม การที่คู่ของเธอไม่ใช้ถุงยางอนามัย และยังเลือกการ “หล่ังข้างใน” ในระยะปลอดภัย ท�ำให้เธอกังวลและต้องกินยาคุมฉุกเฉินอยู่บ่อยคร้ัง จนส่งผลใหเ้ กิดการทอ้ งนอกมดลูก ระยะหลงั ๆ เธอพยายามหลกี เลีย่ งการกนิ ยาคมุ ฉกุ เฉนิ และเปลย่ี นมาใชถ้ งุ ยางอนามยั มากขน้ึ แตใ่ นบางครงั้ กม็ คี วามคดิ ไมอ่ ยากใช้ถุงยางอนามยั กบั ค่ปู ระจำ� เธอบอกว่า “ถา้ เปน็ ไปได้ ไม่อยากให้ใส่นะ ในเมือ่ มนั เปน็ ของๆ เราแลว้ ” เธอบอกว่า เธอชอบสลับกันท�ำออรัลเซ็กส์กับคู่ เพราะท�ำให้เกิด “ความรสู้ กึ ไวว้ างใจกนั ” เธอมองวา่ ถงุ ยางฯ เปน็ สญั ลกั ษณข์ องความไมไ่ วว้ างใจ ในชวี ติ คู่ ครงั้ หนง่ึ “เราเอาถุงยางฯ ไปสอดไว้ทฝี่ าปดิ รถ แล้วเขาไปเห็นพอดี กไ็ มส่ บายใจอยแู่ ลว้ วา่ ทำ� ไมเราตอ้ งพกถงุ ยางฯ มนั กก็ ลบั กลายเปน็ วา่ ไมไ่ วใ้ จ เราแล้ว ตอ่ วา่ เรา วา่ เอาถงุ ยางฯ มาจากไหน” นอกจากนั้น ถุงยางอนามยั ยังมคี วามหมายในทางลบกับเธอด้วย เธอ เล่าใหฟ้ งั วา่ “ผูช้ าย (ที่เธอเคยมเี พศสมั พันธ์ดว้ ย) มกั มองว่า ผู้หญิงที่พกถงุ ยางฯ เปน็ คนที่พรอ้ มจะมีเพศสัมพนั ธก์ ับคนอน่ื ๆ เสมอ” รปู แบบความสมั พนั ธแ์ บบรกั ตา่ งเพศและความสมั พนั ธท์ างเพศในสถาบนั การแตง่ งาน เปน็ รปู แบบความสมั พนั ธเ์ ชงิ อำ� นาจเรอื่ งเพศทมี่ อี ทิ ธพิ ลโดยตรง ในการผกู มดั ความสามารถของผหู้ ญงิ ในการตอ่ รองเรอ่ื งเพศสมั พนั ธท์ ป่ี ลอดภยั กับคู่ของเธอ รวมทั้งการใช้ถุงยางอนามัย ผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์ท้ังในและ นอกการสมรสมกั ขาดอำ� นาจตอ่ รองเรอื่ งเพศและการใชถ้ งุ ยางอนามยั มกั รสู้ กึ ไมส่ ะดวกใจทจี่ ะพดู เรอื่ งเพศกบั คู่ และมกั หยดุ ใชถ้ งุ ยางอนามยั เมอื่ สานสมั พนั ธ์ กับคู่ยาวนานข้ึน โดยถือว่าความสัมพันธ์ที่ยาวนานน้ันเท่ากับความซ่ือสัตย์ และความไวว้ างใจ ผชู้ ายจงึ กลายเปน็ ผตู้ ดั สนิ ใจทง้ั ในเรอื่ งรปู แบบและวธิ กี าร ป้องกัน ภายใต้รูปแบบความสมั พนั ธ์แบบรักต่างเพศนี้ 134 นิวัตร สุวรรณพัฒนา และกาญจนา แถลงกจิ
ทง้ั นเี้ ปน็ เพราะการขอใหใ้ ชถ้ งุ ยางอนามยั ถกู แทนคา่ เทา่ กบั การทผี่ หู้ ญงิ กล่าวหาว่าคู่นอกใจ หรือเท่ากับสารภาพว่าตนเองมีเพศสัมพันธ์นอกคู่หรือ นอกสมรส นัยแฝงของถุงยางอนามัยเช่นนี้อาจน�ำไปสู่การกระท�ำรุนแรงต่อ ผหู้ ญิงที่ลกุ ขึน้ มาพดู เช่นในประเทศแอฟริกาใต้ท่มี รี ายงานวา่ ผู้หญิงไม่กลา้ ใช้ถุงยางฯ เพราะกลัวว่าตนเองจะถูกคู่กระท�ำรุนแรง ในประเทศโมร็อกโก (Mellors, 2005) การแสดงความรักเทดิ ทนู ถอื เปน็ สว่ นส�ำคัญในชีวิตคู่ ท�ำให้ ผู้หญิงไมส่ ามารถแสดงความต้องการใชถ้ งุ ยางอนามัยได้ แม้ว่าคู่ของเธอจะมี เช้ือเอชไอวีก็ตาม (ALCS, 2005) ในอกี ดา้ นหนงึ่ ผหู้ ญงิ ปฏเิ สธการใชถ้ งุ ยางอนามยั เพราะถงุ ยางอนามยั มีความหมายเท่ากับการคุมก�ำเนิดเท่าน้ัน ในหลายวัฒนธรรมที่การตั้งครรภ์ เปน็ ตัวบ่งชีพ้ นั ธะผกู พันระหวา่ งคู่ ท�ำให้ผู้หญงิ กงั วลถึงผลกระทบที่จะเกดิ ขน้ึ กบั ชวี ติ สมรส หากไมส่ ามารถตงั้ ครรภก์ บั คไู่ ด้ การใชถ้ งุ ยางอนามยั ในคแู่ ตง่ งาน จงึ มีนอ้ ยมาก (Chaya, Amen & Fox, 2002) ดงั น้ัน การแตง่ งานจงึ กลายเป็น ปัจจัยเส่ียงเบื้องต้นส�ำหรับผู้หญิง เน่ืองจากพวกเธอไม่ได้มองเรื่องการใช้ ถงุ ยางอนามยั เพอื่ การปอ้ งกนั โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธเ์ ลย ในบางวฒั นธรรม ทคี่ วามสมั พนั ธแ์ บบนอกค/ู่ ผวั เดยี ว การมคี หู่ ลายคนเปน็ เรอื่ งยอมรบั ได้ คแู่ ตง่ งาน กย็ ่งิ เส่ยี งตอ่ เพศสมั พนั ธ์ทไ่ี มป่ ้องกันมากขึ้น จากรปู แบบความสมั พนั ธท์ างเพศแบบรกั ตา่ งเพศ เพศสมั พนั ธใ์ นสถาบนั การแต่งงาน และบรรทดั ฐานทางวัฒนธรรมตา่ งๆ ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง ประเทศไทยจงึ ไมแ่ ตกต่างจากโมรอ็ กโกและอีกหลายๆ ประเทศทว่ั โลก ทกี่ วา่ ครึ่งของผ้หู ญงิ ทมี่ เี ชอ้ื เอชไอวเี ปน็ ผทู้ รี่ บั เชอื้ เอชไอวมี าจากสามขี องเธอเอง และถงุ ยางอนามยั ก็แทบไม่เคยอยู่ในความคิดของผู้หญิงท่ีอยู่ในรูปแบบความสัมพันธ์ทางเพศ แบบนี้เลย บรรทดั ฐานทางสงั คมวฒั นธรรมเรอื่ งเพศทใ่ี หค้ ณุ คา่ กบั “ความเปน็ ชาย” ท�ำให้ผู้ชายต้องก้าวร้าวและเป็นฝ่ายรุกเร่ืองเพศ เป็นผู้น�ำในเรื่องเพศ ไม่ให ้ ผู้หญิงหรือฝ่ายรับต่อรองในเร่ืองเพศได้ อีกท้ังกล้าเสี่ยงในกิจกรรมทางเพศ ถงุ ยางอนามัยกับการดำ� เนินชีวติ ทางเพศในสงั คมไทย 135
สง่ ผลตอ่ ความสมั พนั ธเ์ ชงิ อำ� นาจทง้ั ในแบบรกั ตา่ งเพศและรกั เพศเดยี วกนั ทำ� ให้ ทง้ั เกย์ ผหู้ ญงิ และกะเทยมคี วามยากลำ� บากในการตอ่ รองใหใ้ ชถ้ งุ ยางอนามยั อีกท้ังยังต้องเผชิญกับการถูกกระท�ำรุนแรงทางเพศด้วย (Khan & Bondyo- padhyay, 2005) ท้ังหมดน้ีชี้ให้เห็นว่า ผลกระทบจากความไม่เสมอภาคเท่าเทียมทาง เพศภาวะในเร่ืองการใช้ถุงยางอนามัยเป็นเรื่องส�ำคัญที่ส่งผลต่อการรับ − ถ่ายทอดเช้ือเอชไอวี แม้จะมีการลงนามรับรองเรื่องดังกล่าวในปฏิญญา สหประชาชาติว่าด้วยเร่ืองเอชไอวีในปี 2544 โดยรัฐบาลต่างๆ แต่กลับมี การกลา่ วถงึ เรอื่ งนอ้ี ยู่นอ้ ยมากในรายงานผลการด�ำเนินงานระดบั ประเทศใน กลมุ่ ประเทศที่ ICASO ใหก้ ารสนับสนุนจัดทำ� รายงาน อยา่ งไรกต็ าม รายงานการดำ� เนนิ งานในหลายประเทศอาทิ เอลซลั วาดอร ์ จาไมกา้ และโมรอ็ กโก เรอื่ งการสง่ เสรมิ ทกั ษะการตอ่ รองเรอ่ื งเพศในโปรแกรม สรา้ งความเขา้ ใจเรอ่ื งเอชไอวี และการสง่ เสรมิ บทบาททางเพศภาวะ การสง่ เสรมิ การเรียนรู้ให้ผู้ชายและผู้หญิงปรับเพ่ิมทักษะในการสื่อสาร รับฟัง และสร้าง ความสมั พนั ธ์ เพอ่ื ใหเ้ กดิ การเคารพความต้องการและความปรารถนาของกัน และกนั ในการใชถ้ งุ ยางอนามยั รวมทงั้ การมสี ว่ นรว่ มของผชู้ ายในเรอื่ งสขุ ภาพ ทางเพศและอนามัยเจริญพนั ธ์ุ จะช่วยส่งผลใหม้ ีการใช้ถุงยางอนามัยเพ่ิมขึ้น ได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ (Drezin, Torres & Daly, 2007) UNAIDS (2009) กเ็ หน็ ดว้ ยกบั การเอาชนะอปุ สรรคความทา้ ทายในเรอ่ื ง ความสัมพันธ์เชิงอ�ำนาจระหว่างเพศในทางวัฒนธรรม โดยระบุว่า การให ้ การศึกษาเร่ืองการป้องกันการรับ − ถ่ายทอดเช้ือเอชไอวี และการส่งเสริม ถงุ ยางอนามยั ตอ้ งเอาชนะอปุ สรรคความทา้ ทายในเรอ่ื งปัจจัยทางวฒั นธรรม และความเป็นเพศท่ีสลับซับซ้อน การออกแบบโปรแกรมสง่ เสรมิ ถงุ ยางอนามยั จงึ จำ� เปน็ ตอ้ งคำ� นงึ ถงึ เรอื่ ง ทวี่ า่ ผหู้ ญงิ และวยั รนุ่ หญงิ เปน็ กลมุ่ ทม่ี กั ปฏเิ สธทจ่ี ะรบั รขู้ อ้ มลู ขา่ วสารเกยี่ วกบั ถุงยางฯ และการเขา้ ถงึ ถุงยางอนามัย และมกั เป็นฝา่ ยทีไ่ มม่ ีอ�ำนาจต่อรองใน 136 นิวตั ร สุวรรณพฒั นา และกาญจนา แถลงกจิ
การใชถ้ ุงยางอนามัย ขณะทีห่ ลายบริบทสังคม ผชู้ ายเปน็ ฝ่ายต่อต้านการใช้ ถงุ ยางอนามยั แมว้ า่ ถงุ อนามยั ผหู้ ญงิ จะชว่ ยใหผ้ หู้ ญงิ มกี ารควบคมุ การปอ้ งกนั ตนเองไดก้ ต็ าม ผหู้ ญงิ จงึ เปน็ กลมุ่ ทเี่ ปราะบางตอ่ การรบั − ถา่ ยทอดเชอ้ื เอชไอวี เสมอ บนความสัมพันธ์ทางเพศในลักษณะดังกล่าวที่ใช้มายาคติเร่ือง ความไว้วางใจมาก�ำกับความสัมพันธ์และการตัดสินใจใช้หรือไม่ใช้ถุงยาง อนามัยนั้น เราจึงมักจะได้ยินประโยคเหล่านี้เสมอๆ “ก็คบกันมาต้ังนานแล้ว ไมต่ อ้ งใชก้ ็ได้” หรือ “ไมไ่ วใ้ จเหรอ” “แคค่ ร้ังเดียวไม่เปน็ ไรหรอก” “ฝา่ ไฟแดง ไมท่ อ้ งหรอก” ฯลฯ เหลา่ นถ้ี กู รวบรวมไวใ้ นเหตผุ ลทผี่ ชู้ ายมกั ไมใ่ ชถ้ งุ ยางอนามยั พร้อมขอ้ โต้แยง้ ดังนี้ เหตุผลทผ่ี ้ชู าย ขอ้ โต้แย้ง ไมใ่ ชถ้ งุ ยางฯ “ก็คบกันมาตั้งนาน ถกู ตอ้ งทค่ี ณุ คบกบั เขามานาน แตเ่ ขาละ่ คบคณุ คนเดยี วหรอื แล้ว ไม่ต้องใชก้ ไ็ ด้” เปลา่ ไมผ่ ดิ ทค่ี ณุ จะไวใ้ จแฟนคณุ แตจ่ ะแนใ่ จไดอ้ ยา่ งไรวา่ ผู้หญิงคนอ่ืนๆ ของแฟนคุณน่ะปลอดภัย “ไมไ่ วใ้ จเหรอ?!!!” ค�ำถามที่ท�ำให้อีกฝ่ายท�ำใจล�ำบากทุกครั้ง เวลาท่ียืนยัน “แค่ครัง้ เดียว ให้ใช้ถุงยางฯ การใช้ถุงยางอนามัยไม่ใช่เครื่องหมายของ ไมเ่ ปน็ ไรหรอก” ความไมไ่ วใ้ จ แตเ่ ปน็ สญั ลกั ษณข์ องความรบั ผดิ ชอบ มีผู้ชายหลายคนติดเช้ือเอชไอวีจากการมีเพศสัมพันธ์ คร้ังแรก และผู้หญิงอีกไม่น้อยตั้งท้องอย่างไม่ต้ังใจจาก การมเี ซก็ ซ์เพียงครั้งเดียวโดยไม่ไดป้ อ้ งกัน “ฝ่าไฟแดง ถ้าฝ่ายหญิงเป็นคนท่ีมีช่วงตกไข่ค่อนข้างเร็วก็ไม่แน่นอน ไม่ท้องหรอก!” เสมอไปวา่ วนั นน้ั จะปลอดภยั ถงุ ยางอนามยั ไมใ่ ชแ่ คก่ ารคมุ กำ� เนดิ แตป่ อ้ งกนั โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธอ์ กี ดว้ ย ยงิ่ เปน็ ช่วงพ้ืนท่ีสีแดงแล้ว ร่างกายของผู้หญิงจะมีโอกาสติดเช้ือ ไดง้ า่ ยข้นึ ควรใชไ้ ว้จะดีกวา่ ที่มา: http://women.mthai.com/rate − xxx/22761.html; http://www.numwan.com/lovelove/ view.asp?GID=38 ถงุ ยางอนามัยกบั การดำ� เนินชวี ิตทางเพศในสงั คมไทย 137
เหตุผลการไม่ใช้ถุงยางอนามัยข้างต้น สะท้อนความคิดที่ยกเอาเรื่อง ความไวว้ างใจในสมั พนั ธภาพทลี่ กึ ซง้ึ มาเปน็ เหตผุ ลในการไมใ่ ชถ้ งุ ยางฯ กบั คู่ รวมทั้งความคิดเรื่องความเส่ียง กล้าได้กล้าเสีย ซ่ึงเป็นลักษณะหน่ึงของ ความเป็นชายท่ีถูกสรา้ งและหลอ่ หลอมจากสงั คม ในขอ้ โตแ้ ยง้ เองกย็ อมรบั วา่ เหตผุ ลดงั กลา่ วมกั สรา้ งความอดึ อดั ลำ� บาก ใจทุกครง้ั เวลาทีต่ ้องพดู คุยใหใ้ ช้ถงุ ยางอนามยั นอกจากนี้ ยงั เปน็ การยืนยัน ใหเ้ หน็ สถานะและความหมายของถงุ ยางอนามยั วา่ เทา่ กบั “ความไมซ่ อ่ื สตั ย/์ ไม่ไวว้ างใจ” และการใชถ้ ุงยางอนามยั เปน็ การ “ใช้กับคนอนื่ เพอื่ ป้องกันโรค และท้องไมพ่ ร้อม” การสง่ เสรมิ ใหใ้ ชถ้ งุ ยางอนามยั จงึ ตดิ อยใู่ นกรอบฐานคดิ ความเชอื่ เรอื่ ง เพศตามจารตี ระหว่างชายและหญิงภายใตส้ ถาบนั การแตง่ งานและการสรา้ ง ครอบครัว และถุงยางอนามัยถูกใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันโรคจากเพศ สมั พนั ธอ์ นั ตรายและเสย่ี ง แมว้ า่ จะพยายามสรา้ งภาพลกั ษณข์ องถงุ ยางอนามยั ขน้ึ มาใหม่ดว้ ยการหยบิ เอาเรื่อง “ความปลอดภยั ” “ความรบั ผดิ ชอบในตัวเอง และค”ู่ และ “การดแู ลเอาใจใสซ่ ง่ึ กนั และกนั ” มาใช้ เชน่ เดยี วกบั แนวคดิ โครงการ รณรงค์ “ยดื อก พกถงุ ” กต็ าม แตภ่ าพลกั ษณข์ องถงุ ยางอนามยั ทส่ี รา้ งขนึ้ ใหม่ แมจ้ ะพยายามแกะปมปญั หาเรอื่ งเพศจากฐานคตเิ รอ่ื งเพศดงั กลา่ ว อาจกลาย เปน็ การผลติ ซำ้� ความหมายและยนื ยนั ถงึ กรอบบงั คบั ทเี่ ครง่ ครดั ในเรอ่ื งเพศและ สถานะความหมายของถุงยางฯ ในแบบเดิมของในสังคมไทย ข้อเสนอแนะในการมองให้ทะลุกรอบเพื่อส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัย จงึ ตอ้ งให้ความสำ� คัญไปที่การส่งเสรมิ ความเสมอภาคเทา่ เทยี มทางเพศภาวะ การเสรมิ สรา้ งพลงั อำ� นาจของผหู้ ญงิ วยั รนุ่ หญงิ และกลมุ่ เกย์ กะเทย รวมทง้ั พนกั งานบรกิ ารทางเพศ ซงึ่ เพศวถิ ขี องคนกลมุ่ เหลา่ น้ี ไดถ้ กู กรอบฐานคดิ เรอื่ ง เพศแบบจารตี นกี้ ดบงั คบั เอาไว้ และตอ้ งมกี ารดำ� เนนิ การทงั้ ในระดบั บคุ คลและ โครงสรา้ งทเ่ี ปน็ กฎหมาย นโยบายและความเชอื่ ทางสงั คมวฒั นธรรมทเ่ี กย่ี วขอ้ ง พรอ้ มกนั ไปด้วย 138 นิวตั ร สวุ รรณพัฒนา และกาญจนา แถลงกจิ
ผเู้ ขยี นไดพ้ ดู คยุ กบั วรรณา ผหู้ ญงิ ทอ่ี ยรู่ ว่ มกบั เชอ้ื เอชไอวี เรอื่ งราวของ เธอเปน็ ภาพตวั แทนของผหู้ ญงิ ทอี่ ยภู่ ายใตก้ รอบความสมั พนั ธเ์ ชงิ อำ� นาจเรอ่ื ง เพศ ทนี่ ำ� พาเธอไปสวู่ กิ ฤตชิ วี ติ ครงั้ แลว้ ครงั้ เลา่ แตก่ เ็ ปน็ ความคดิ เรอ่ื งการจดั การ ความสัมพันธ์เชิงอ�ำนาจในเรื่องเพศน้ีเอง ท่ีก�ำลังน�ำเธอออกไปสู่ชีวิตใหม่ เน่ืองจากเร่ืองของเธอมีความยาวมาก ผู้เขียนจึงขอแบ่งเรื่องของเธอออกเป็น 2 ตอน ดังนี้ วรรณา (ตอนท่หี นึ่ง): ผู้หญิงตอ้ งสร้างอำ� นาจเรือ่ งเพศ จากหญิงสาวแรกรุ่นในช่วง 20 กว่าปีก่อน เธอเป็นสาวชาวบ้านที่มี โอกาสเรียนหนังสือจนถึงชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ท�ำงานในบริษัท เอกชน สมรสกบั สถาปนกิ หนมุ่ ซงึ่ ทำ� งานในทเ่ี ดยี วกนั ครองรกั สรา้ งครอบครวั จนมีลูกน้อยร่วมกัน แต่แล้วในวัยเบญจเพส เธอกลับต้องสูญเสียสามีไป เม่ือเขาประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ในขณะท่ีลูกน้อยเพ่ิงลืมตาดูโลกได้เพียง 13 วนั เธอกดั ฟนั ลมื ความเจ็บปวด ตั้งใจท�ำงานทเี่ ดมิ เพือ่ เลย้ี งดูลูกน้อยตอ่ ไป แตช่ วี ติ เธอเรมิ่ ตน้ ผกผนั กบั ความสญู เสยี ครงั้ ทหี่ นงึ่ สอง และสาม ทตี่ ามมา... เธอพบรกั และแตง่ งานใหมอ่ กี ครงั้ ทงั้ คอู่ ยกู่ นิ จนมลี กู นอ้ ยรว่ มกนั ขณะ เลย้ี งลกู นอ้ ยในวยั 3 ขวบ สามกี เ็ รม่ิ มอี าการปว่ ย ทอ้ งเสยี ตอ่ เนอื่ ง แนน่ หนา้ อก หายใจไมอ่ อก สบู ผอมลงเรอื่ ยๆ วนั นน้ั อาการของเขาดแู ยม่ าก เธอรบี พาเขา้ ไป โรงพยาบาล เดิมทีเดียวคิดว่าจะไปโรงพยาบาลอ�ำเภอ แต่ต้องเปล่ียนใจไป โรงพยาบาลเอกชนทอี่ ยใู่ กลก้ วา่ เพราะเขาดเู จบ็ ปวดมาก เมอื่ ไปถงึ โรงพยาบาล “หมอบอกว่ามันมีหนองอยู่ที่ปอด เหมือนกับว่าเอามาตรวจดู กอ่ นวา่ มนั เปน็ อะไร แลว้ เขากเ็ อาเขม็ เขา้ ไปดดู หนองออกมาตรวจ บอกว่าเป็นหนองติดเชื้อฯ แล้วหมอเขาก็บอกเราตรงๆ เลยว่า หมอสงสัยจะติดเช้ือฯ เราก็ถามหมอว่าติดเชื้ออะไร...หมอบอก เราตรงๆ เลยนะว่าติดเชอ้ื เอดส์ คือตอนนัน้ กช็ อ็ คเลยนะ มนั ชา ถงุ ยางอนามัยกับการดำ� เนนิ ชวี ิตทางเพศในสงั คมไทย 139
ไปท้ังตัว ไมร่ สู้ ึกตวั เลย ตอนน้นั กร็ สู้ ึกโกรธ แคน้ โกรธมากว่า ทำ� ไมตอ้ งเกดิ ขนึ้ กบั เรา ทำ� ไมแฟนเราตอ้ งเปน็ คนแบบน้ี ยอมรบั วา่ ตอนนนั้ ไมไ่ ดด้ แู ลเขาเลย ถา้ เหมอื นตวั หมดั กจ็ ะบม้ี นั จนแหลก คามอื โกรธ ทั้งท่ีเราก็ซ่อื สัตย์แลว้ ทำ� ไมเขาต้องเป็นแบบน”ี้ วรรณายังคงดูแลอาการเขาอยู่ แต่หลังจากเข้า − ออกโรงพยาบาล หลายครงั้ เขากเ็ สยี ชวี ติ ในปนี น้ั เอง พ.ศ. 2540 อนั เปน็ ปที เ่ี ธอเองกไ็ ปตรวจเลอื ด หาเชอ้ื เอชไอวี โดยตรวจยนื ยนั 2 ครง้ั ใน 2 สถานท่ี ผลสดุ ทา้ ยออกมาตรงกนั เธอจึงตอ้ งท�ำใจยอมรบั กับส่ิงที่เกดิ ข้นึ ในชวี ิตของเธอ เธอบอกวา่ ตอนน้นั ไมม่ ีความรูอ้ ะไร คดิ ว่าเร่อื งน้เี ป็นเรอื่ งไกลตัว ไม่มี ทางเกดิ ขน้ึ กบั ชวี ติ ตนเองได้ และเธอกไ็ มไ่ ดค้ ดิ วา่ ชะตากรรมเดยี วกนั นจ้ี ะเกดิ ขน้ึ กับลกู ของเธอท่เี กิดกบั สามีคนนี้เลย ตอนเลก็ ๆ เขาแข็งแรง อ้วนท้วนสมบรู ณ์ เปน็ ปกตเิ หมอื นเดก็ คนอนื่ ๆ ทวั่ ไป ไมม่ อี ะไรบง่ บอกวา่ เขาจะไดร้ บั เชอ้ื เอชไอวี จนกระท่งั อกี 3 ปีถดั มาหลังจากทสี่ ามเี สยี ชีวติ เมอ่ื ลูกของเธออายไุ ด้ 6 ขวบ เขากเ็ รม่ิ ปว่ ยดว้ ยอาการปอดบวมและมเี ชอ้ื รา นน่ั เปน็ ครงั้ แรกทล่ี กู ของ เธอต้องไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาล เมือ่ หมอตรวจดูก็พบว่าลกู มีเช้อื เอชไอวี สญั ญาณความสญู เสยี อกี ครงั้ ในชวี ติ เรม่ิ ปรากฏ เมอื่ ลกู เธอเจบ็ ปว่ ยอยา่ ง ต่อเนื่อง เธอต้องลาออกจากงานท่ีท�ำเพื่อมาดูแลลูก จนสุดท้ายลูกก็จากไป เธอไมม่ จี ติ ใจทอ่ี ยากจะกลบั ไปทำ� งานอกี เฝา้ คดิ และโทษตวั เองวา่ การเสยี ชวี ติ ของลูกน้ันเป็นความผิดของตนเอง เพราะขณะน้ันไม่มีความรู้เร่ืองเอชไอวี/ เอดสเ์ ลย ไมร่ วู้ ธิ กี ารดแู ลรกั ษาวา่ เมอื่ รกั ษาอาการเชอ้ื ราเยอ้ื หมุ้ สมองจนอาการ ดีข้ึน ก็ต้องกินยาต่อเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ�้ำ แต่ด้วยความสงสารลูกท ี่ ไมอ่ ยากกนิ ยา กเ็ ลยใหล้ กู หยดุ กนิ ยา จนกระทงั่ ลกู กลบั มาเปน็ ซำ�้ และเสยี ชวี ติ ในท่ีสุด ท�ำให้ชีวิตเธอพลิกผันอีกครั้งมาเป็นแกนน�ำในการท�ำงานกับเพื่อนๆ ผทู้ ่มี เี อชไอวี 140 นิวัตร สวุ รรณพฒั นา และกาญจนา แถลงกจิ
นับหน่ึงใหม่กับความเปลี่ยนแปลงในชีวิตช่วงเกือบ 10 ปีที่ ผา่ นมา “ตอนนัน้ กเ็ ลยคิดว่ากลับไปท�ำงานกค็ งไม่มใี จท�ำแล้ว เพราะว่า ลูกเราก็ไม่มีแล้ว มีก�ำลังใจท่ีลูกอีกคนเรายังมีอยู่ ญาติพ่ีน้อง พ่อแม่เราก็ใหก้ �ำลังใจดี ชาวบ้านก็ให้ก�ำลงั ใจ กอ็ ยตู่ ่อได”้ หลังออกจากงาน วรรณาเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มผู้ติดเชื้อฯ ในระดับ ต�ำบลต้งั แต่ช่วงปี พ.ศ. 2544 ไดป้ กี วา่ ๆ กท็ ำ� หนา้ ท่เี ปน็ ประธานกลุ่ม จากนนั้ ก็ได้เข้ามาเป็นอาสาสมัครของเครือข่ายฯ ในระดับอ�ำเภอ เธอสนใจและ กระตอื รอื รน้ เขา้ รว่ มกจิ กรรมการพฒั นาศกั ยภาพ ในปถี ดั มา รฐั บาลเรมิ่ โครงการ นำ� รอ่ งแจกจา่ ยยาตา้ นไวรสั ฟรี ตอ่ มาขยายพนื้ ทใ่ี หบ้ รกิ ารเพม่ิ มากขน้ึ กอ่ นจะ ผนวกรวมเขา้ ไวใ้ นชุดบริการของระบบหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ “เวลาเขามีพัฒนาศักยภาพไปนั่นไปน่ี เราก็สนใจ อยากจะได้ ข้อมูล อยากจะรู้ แล้วเราก็คิดว่าไม่อยากจะให้ใครต้องมาเจอ อยา่ งเรา ไม่อยากใหใ้ ครตอ้ งมาเสยี ลูกอยา่ งเรา กเ็ ลยพยายาม หาความรู้ เขาอบรมทไ่ี หนกเ็ สนอตวั ไปทุกท่ี เพราะอยากจะได้ ความรู้ แลว้ กม็ าเป็นอาสาสมคั รศูนยอ์ งค์รวมเย่ียมบ้าน” และการท�ำงานครั้งนี้เองที่ท�ำให้เธอได้พบรักใหม่กับสมาชิกในกลุ่ม ผ้ตู ิดเช้อื ฯ ในต�ำบลเดียวกัน เธอส่ังสมความรู้และประสบการณ์ในการส่ือสารถ่ายทอดความรู้ด้าน การดแู ลรกั ษาและจดั การชวี ติ ผา่ นรปู แบบการทำ� งานทเี่ รยี กวา่ “ศนู ยอ์ งคร์ วม” (รปู แบบการรว่ มจัดบริการให้การปรึกษา เยีย่ มบ้าน และติดตามใหค้ ำ� แนะนำ� ด้านการดูแลรักษาด้วยยาต้านไวรัส) ไปยังเพื่อนๆ ผู้ที่มีเชื้อเอชไอวีและ เจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาลท่ีท�ำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในปี 2548 เธอเริ่มก้าวเข้าสู่การเรียนรู้เรื่องใหม่ที่ไม่ได้หยุดอยู่เพียงเร่ืองยากับ การรักษา ถงุ ยางอนามยั กบั การดำ� เนนิ ชีวติ ทางเพศในสงั คมไทย 141
เธอเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรเู้ รอื่ งการจดั การกบั ชวี ติ หลงั การรกั ษาดว้ ย ยาต้านไวรัส ผ่านการดำ� เนนิ โครงการทเ่ี รยี กวา่ “ชวี ิตจริง” ในฐานะแกนน�ำ เพ่ือน�ำความรู้ท่ีได้เรียนรู้มาไปจัดกระบวนการเรียนรู้ให้กับเพื่อนๆ ในกลุ่ม ในเครือขา่ ยฯ เร่ืองหนึ่งในการจัดการกับชีวิตหลังการรักษาด้วยยาต้านไวรัสคือ การเรียน/รู้จักกับเพศวิถีหรือการด�ำเนินชีวิตทางเพศของตนเอง เพ่ือเรียนรู ้ การจัดการความสัมพันธ์ทางเพศกับคู่ เธอบอกว่าชีวิตทางเพศของตนเอง น่าจะคล้ายกับชีวิตส่วนใหญ่ของผู้หญิงคนอ่ืนๆ คือ การมีคู่และอยู่กับคู่ของ ตนเองเท่านน้ั โดยไม่คิดถงึ ผู้ชายคนอืน่ ๆ อกี เลย เธอไดเ้ รม่ิ เรยี นรแู้ ละพดู คยุ เรอื่ งวถิ ที างเพศของตนเอง ของเพอ่ื นผหู้ ญงิ คนอน่ื ๆ ของเพอื่ นผชู้ าย และของเพอ่ื นๆ คนรกั เพศเดยี วกนั เธอพบวา่ บางคน ก็เลือกท่ีจะอยู่คนเดียว ไม่คิดจะมีคู่อีก แต่บางคนก็เลือกวิถีแบบที่ไม่มีและ ไมอ่ ยกู่ บั คคู่ นเดยี ว ในขณะทบ่ี างคนรวมทง้ั เธอเอง เลอื กแบบทจี่ ะอยกู่ บั คขู่ อง ตัวเองเท่าน้ัน “ไม่เคย มันไม่รู้นะ เพราะตัวเองอาจจะรับไม่ได้ คิดว่าตัวเอง มีใครก็มีคนนั้น ไม่เคยคิด ไม่มีในใจเลยว่าอยากจะมีใคร ชอบใคร (อกี ) ไม่มีเลย” อย่างไรก็ตาม เธอเรียนรู้ว่า บางคนแม้จะยึดติดอยู่กับรูปแบบหรือ วถิ ชี วี ติ ความสมั พนั ธท์ างเพศในแบบทตี่ วั เองเลอื กไวอ้ ยา่ งเหนยี วแนน่ แตก่ ย็ งั มีคนอื่นๆ ที่เลอื กใชช้ ีวิตทางเพศปรบั เปล่ยี นไปมาในรปู แบบตา่ งๆ ขา้ งต้น เธอได้เรียนรู้เพ่ิมเติมว่าการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยของ ผทู้ มี่ เี ชอื้ เอชไอวไี มไ่ ดเ้ ปน็ เพยี งเรอื่ งทเี่ ธอเคยไดย้ นิ เพอ่ื นๆ บอกกนั มาวา่ “ชา่ ง มนั เถอะ ไมต่ อ้ งใชก้ ไ็ ด้ เพราะไหนๆ กต็ ดิ เชอ้ื ฯ แลว้ ” แตก่ ารไมใ่ ชถ้ งุ ยางอนามยั ในการมีเพศสัมพันธ์ท�ำให้ผู้ที่มีเชื้อเอชไอวีมีโอกาสถ่ายทอดเช้ือฯ ไปยังผู้อ่ืน 142 นวิ ัตร สุวรรณพฒั นา และกาญจนา แถลงกิจ
และยังมโี อกาสรบั เชือ้ ฯ เพ่ิมเติมเขา้ มาด้วย ซ่งึ จะส่งผลกระทบตอ่ สขุ ภาพของ ผอู้ นื่ และตนเอง ทำ� ใหเ้ พศสมั พนั ธแ์ บบปอ้ งกนั ดว้ ยการใชถ้ งุ ยางอนามยั กลาย เปน็ สงิ่ จ�ำเปน็ ในชวี ิตของเธอเสียแล้ว การรว่ มเรยี นรแู้ ละจดั การเรยี นรเู้ รอ่ื งวถิ ที างเพศและความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง เพศในกลมุ่ เพอ่ื นๆ ที่มีเชอ้ื เอชไอวนี ้ี ท�ำใหเ้ ธอเริม่ พูดคุยเรอ่ื งเพศสัมพนั ธ์ ซ่งึ เป็นเรื่องที่ไม่เคยพดู มากอ่ น เธอเลา่ ให้ฟงั ว่า การจดั การเรียนรู้กับเพื่อนๆ นน้ั บางครั้งก็จัดกันในพื้นท่ีตั้งส�ำนักงานองค์การบริหารส่วนต�ำบล บ้างก็จัด ในวดั หรอื ในโรงพยาบาล ซง่ึ กต็ อ้ งระมดั ระวงั เพราะเปน็ ทส่ี าธารณะ มคี นเดนิ ผา่ นไปมา เนื่องจากกลวั คนท่ีผา่ นไปมาได้ยนิ แลว้ ซำ�้ เตมิ พวกเธอว่า “ท่ีเป็นเอดส์น่ี ก็เพราะเป็นคนแบบนี้น่ีเอง ชอบพูดเรื่องเพศ เร่อื งหีๆ ...ควยๆ …” ซ่ึงที่จริงแล้ว การพูดคุยเรื่องเพศในวัยย่าง 40 ปีของผู้หญิงคนหนึ่ง ท่ีผ่านการแต่งงานมา 2 คร้ัง มีลกู 2 คนนั้น ไมน่ ่าจะเปน็ เรอ่ื งทีน่ ่าแปลกใจ แต่อยา่ งใด วรรณาโตมาในอำ� เภอแหง่ หนงึ่ หา่ งไกลจากตวั จงั หวดั ราว 50 กโิ ลเมตร เธอบอกวา่ สมัยเธอเป็นเด็กหญิงนน้ั ไมเ่ คยได้เรียนรูเ้ ร่ืองเพศเลย “...ไมไ่ ดเ้ รยี นรเู้ ลยเรอื่ งเพศ สมยั กอ่ นยงิ่ รา้ ย เขาไมส่ อนเลย ขนาด พอ่ แมเ่ รายงั ไมเ่ คยบอกเคยสอนเลยวา่ เราจะมปี ระจำ� เดอื นมานะ เขาไม่บอกเราเลย จนกระทง่ั เรามี กต็ กใจสะดงุ้ วา่ เราเปน็ อะไร ขนาดใส่ผ้าอนามัยยังใส่กลับด้าน เอาด้านท่ีเป็นแถบกาวใส่ (หัวเราะ)…ใช่ ไม่ได้สอน สมัยก่อนเขาไม่ได้สอนเรื่องเพศอะไร เลย ท่ีโรงเรียนก็ไม่มี สุขศึกษาก็ไม่มีอะไรมาก ไม่ได้ลงลึกถึง เรือ่ งเพศ ไมก่ ล้าพูดเลยเร่ืองเพศ เรอ่ื งอะไรแบบน้ี” ถงุ ยางอนามยั กบั การด�ำเนนิ ชีวิตทางเพศในสังคมไทย 143
หลงั เรม่ิ ตน้ เรยี นร/ู้ พดู เรอื่ งเพศและชวี ติ ทางเพศของตนเอง พรอ้ มๆ กบั เรยี นรวู้ ถิ ชี วี ติ ทางเพศของเพอื่ นๆ เธอไดเ้ ดนิ ไปสกู่ ารเรยี นรเู้ รอื่ งเพศในมติ ใิ หม่ ที่เธอเองก็ไม่เคยคดิ มากอ่ น นนั่ คือเร่ืองความสุข ความพึงพอใจทางเพศของ ตนเอง สองปถี ดั มา เธอเขา้ รว่ มในโครงการ “เสยี งและทางเลอื ก” ของเครอื ขา่ ย ผู้หญิงที่อยู่ร่วมกับเช้ือเอชไอวี การเรียนรู้คร้ังนี้เป็นเสมือนการต่อยอด ผลดั ชวี ติ ใหม่ เธอไดเ้ รยี นรรู้ ว่ มกบั เพอื่ นผหู้ ญงิ ทมี่ เี ชอื้ เอชไอววี า่ ผหู้ ญงิ ควรจะ สอื่ สาร พดู คยุ เรอื่ งเพศ ความตอ้ งการ และความสขุ ทางเพศของตนเองกบั คไู่ ด้ แรกเร่ิมแม้จะดูขัดเขินท่ีต้องพูดในเร่ืองท่ีไม่เคยพูด ไม่เคยแม้แต่จะคิด แต่เธอและเพื่อนๆ ก็ปรับตัวเรียนรู้อย่างสนุกสนานกับการพูดคุยเรื่องท่าทาง การมเี พศสัมพนั ธ์ “เคยบอกคู่ของเราไหมว่าเรารู้สึกอย่างไรบ้าง…เคยอยากบอก ไหมว่าใหเ้ ขาเร่ิมต้นอย่างไร…ท่าไหนทชี่ อบ…” แนน่ อนวา่ คำ� ตอบตอ่ ค�ำถามนี้ลว้ นมคี ำ� ตอบเดียวคอื “ไม”่ เธอเริ่มต้นพาคู่ของเธอเขามาร่วมเรียนรู้เรื่องชีวิตและเพศสัมพันธ์ด้วย เพราะในชีวิตจริงนั้น การจัดการดูแลความสัมพันธ์ทางเพศท�ำเพียงล�ำพัง ไม่ได้ คู่ของเธอเริ่มเข้ามาสู่กระบวนการเรียนรู้ พูดคุยร่วมกันมากข้ึนในการ เพ่ิมเสียงและทางเลือกของผู้หญิง วิถีชีวิตทางเพศของเธอเปล่ียนแปลงไป จากทเี่ คยฝากไวก้ บั คู่ ปรับเปล่ยี นมาเป็นการพดู คยุ กำ� หนดร่วมกัน ฤดฝู นกลางปี 2552 เธอบอกวา่ บทเรยี นลา่ สดุ เรอ่ื งอำ� นาจระหวา่ งเพศ ท�ำให้เธอเข้าใจท่ีมาของความสัมพันธ์ระหว่างเพศที่ไม่เท่าเทียม และการ ปรบั สมดลุ อำ� นาจกบั คเู่ พอ่ื จดั การชวี ติ ของเธอและคใู่ หมอ่ กี ครง้ั เปน็ บทเรยี น ชวี ติ ท่ีเปียกปอนผา่ นมาถึง 43 ฤดูฝน 144 นวิ ัตร สุวรรณพัฒนา และกาญจนา แถลงกจิ
วรรณา (ตอนจบ): ถุงยางอนามัยในชวี ิต วรรณาพบกับคู่คนปัจจุบันในการทำ� กิจกรรมกลุ่มเรื่องยาและการดูแล สุขภาพของผมู้ ีเช้ือเอชไอวที ี่อำ� เภอบา้ นเกิดในปี 2546 เขาอายเุ ทา่ กนั กบั เธอ สำ� หรบั เธอตอนน้นั แลว้ ถือว่าเพศสมั พันธ์เป็นเรอื่ งของผ้ชู าย เรือ่ งเพศ ภาษา ค�ำพูดต่างๆ ไม่เคยเอ่ยออกจากปากของเธอเลย เธอถือว่าค�ำเหล่าน้ันเป็น “คำ� ลามก” ไมส่ ภุ าพ และเพศสมั พนั ธเ์ ปน็ ความตอ้ งการของผชู้ าย ตอ้ งใหผ้ ชู้ าย เป็นฝ่ายเรม่ิ “ใช่ เปน็ คำ� ไมด่ ี อาย อะไรกอ็ าย คอื ไมเ่ คย สมมตวิ า่ นอนดว้ ยกนั (ก็) ไม่เคยดูเลย จะหลับตาไม่ดูอะไรสักอย่าง ปิดไฟตลอด อาย เจ็บก็ทนเอา ทนให้มันเสร็จไปซะ...ก็ไม่บอก ชอบแบบน้ี ก็ไม่บอก ไม่บอกอะไรสักอย่าง เงียบ...ถ้าเราไม่เสร็จแล้วเขา ถามวา่ เสรจ็ หรอื ยงั เรากบ็ อกวา่ เสรจ็ แลว้ ใหม้ นั เสรจ็ ไปซะ อะไร แบบน้ี...เขาไม่ใช้ถุงยางอนามัย เราก็ยอมเขา อยู่ท่ีแฟน... กย็ อมไป ชา่ งมันเถอะ” แตค่ วามคดิ เร่ิมเปลยี่ นไปในช่วงวัย 39 ปี วรรณาเล่าว่า หลายปีมาน้ี เธอและเพื่อนๆ พยายามชวนให้คู่ของตนเองมาเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนร ู้ เร่ืองเพศและความสัมพันธ์ระหว่างเพศ แรกๆ ผู้ชายมักไม่ว่างเพราะต้องไป ท�ำงาน เนื่องจากมีโอกาสในการท�ำงานมากกว่าผู้หญิง แต่ต่อมาก็สามารถ ชวนคู่ให้มาเรียนรู้ร่วมกันได้ ท�ำให้เขามีความเข้าใจเพ่ิมมากข้ึนถึง ความเปลย่ี นแปลงทเี่ รมิ่ เกดิ ขนึ้ กบั ตวั เธอและความสมั พนั ธข์ องทงั้ คู่ เรอ่ื งบางเรอื่ ง ที่ไม่เคยพดู กันก็เริม่ ต้นพดู คุยกนั “เปล่ียนไป เราชอบแบบไหน เรา (ก็) กล้าที่จะพูดจะบอก แบบน้ีเราเจ็บ เราก็จะบอก แฟนเราก็ฟังด้วย ท่าไหน ก็คือ เขาก็จะตามใจเราอยถู่ า้ เราพดู เพราะว่าเม่อื กอ่ นน้เี ขาไมร่ ้”ู ถงุ ยางอนามัยกบั การด�ำเนนิ ชีวิตทางเพศในสังคมไทย 145
ส�ำหรับเธอ การเริ่มต้นพูดคุยเรื่องนี้โดยการใช้ค�ำวิชาการ เช่น “เพศสมั พนั ธ”์ “อวยั วะเพศชาย อวยั วะเพศหญงิ ” ทำ� ใหไ้ ดค้ อ่ ยๆ เรม่ิ พดู ในสง่ิ ท่ีไม่เคยคิดจะพูด เร่ิมท�ำความคุ้นเคย จนกล้าพูดกล้าคุยเพิ่มมากข้ึน และ ท้ายสุดการเข้าเรียนรู้ พูดคุยในภาษาของตนเอง เช่น “เอากัน” “ควย หี” ทแี่ ม้จะยงั รูส้ กึ ขดั เขนิ อย่บู ้าง ด้วยถูกบอกถกู สอน ถูกก�ำชบั มาวา่ เป็นค�ำลามก แต่เธอกเ็ รยี นรทู้ ่จี ะปรับตวั ใชค้ �ำเหลา่ นั้นผสมผสานไปด้วย และด้วยความรู้ท่ีมีในเรื่อง “การรับ − ถ่ายทอดเช้ือเอชไอวีระหว่างคู่” ทีน่ �ำไปสูโ่ อกาสการรบั เชือ้ ฯ ด้อื ยา ทำ� ใหเ้ ธอพูดคยุ เรื่องการใชถ้ งุ ยางอนามัย ในเพศสมั พนั ธ์กับคบู่ อ่ ยคร้งั ขน้ึ และเปน็ เรอ่ื งที่ต้องใชเ้ วลา การจดั การชวี ติ ความสมั พนั ธท์ างเพศของเธอกบั คู่ และตำ� แหนง่ ของถุงยางอนามยั ในการจัดการความสัมพนั ธใ์ หมข่ องเธอ คู่ของเธอไมต่ อ้ งการใช้ รสู้ ึกแปลกปลอมกบั ถุงยางอนามยั ใส่แลว้ ไมม่ ี ความสขุ “ถา้ ไม่ใส่นี่แฟนมี (เสร็จ) แต่ถ้าใสเ่ ขาจะไม่เสรจ็ เลย บางครงั้ จะ ออ่ นไปเลย มปี ญั หาแบบน้ี แฟนกบ็ อกวา่ ถา้ ใชถ้ งุ ยางฯ ทางไหน กไ็ มร่ หู้ าไมเ่ จอ ถา้ ไมใ่ ชเ้ ขา้ ไปมนั กร็ วู้ า่ มนั อนุ่ ๆ แตถ่ า้ ใสถ่ งุ ยางฯ แล้วมันไม่ร้สู กึ เขาบอกแบบนี”้ ตวั เธอเองกบ็ อกวา่ “ตอนแรกๆ มนั เจบ็ ๆ มนั ยงั ไงกไ็ มร่ ู้ ตอนแรกมนั รสู้ กึ ไม่สนกุ ” สำ� หรบั เธอและคู่ การใชถ้ งุ ยางอนามยั ทำ� ใหค้ วามรสู้ กึ สมั ผสั ทางเพศ เปล่ียนไป ไม่สนุกเหมือนก่อน แต่ก็ยังใช้มาเร่ือยๆ ได้ร่วมปีแล้ว จนรู้สึก เคยชินและธรรมดาไปแลว้ ด้วยความกลัวการได้รับเชื้อสายพันธุ์ใหม่ที่อาจเป็นเช้ือด้ือยาและเพื่อ สุขภาพที่ดี ท�ำให้ถงุ ยางฯ เปน็ สิง่ จำ� เปน็ ส�ำหรับการมเี พศสัมพันธ์ เธอจงึ มอง 146 นิวัตร สวุ รรณพฒั นา และกาญจนา แถลงกิจ
หาวิธีการอ่ืนๆ มาชดเชย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบรรยากาศพูดคุย เรียกว่า เล้าโลมคู่ด้วยค�ำพูด พลิกแพลงท่าทางการมีเพศสัมพันธ์เพื่อสร้างอารมณ ์ เย้ายวนใจ ข้ามความรู้สึกอายท�ำให้เขาชอบ และบอกในส่ิงที่ตนเองชอบให ้ เขาท�ำ ตอบสนองร่วมกันกบั เขา เรือ่ ยไปจนถึงกฎเหล็กทวี่ ่า “ถา้ ไมใ่ ชก้ ไ็ มต่ อ้ งนอนงน้ั ไมไ่ ด้ โกรธกโ็ กรธไป ชา่ งเถอะ ตอ้ งใจ แข็ง ยงั ไงๆ กพ็ ูดกบั เขาว่ามนั ไม่ชินนะการใช้ถงุ ยางฯ เพราะวา่ เขาไม่ไดใ้ ช้มานาน ลองใชน้ ะ เราลองใชด้ ”ู “เรื่องการใชถ้ ุงยางฯ เม่อื ก่อนน้ไี ปไหนมากพ็ ดู ให้เขาฟัง แตเ่ ขา ยงั ไมใ่ ชอ้ ยู่ เขากร็ นู้ ะว่ามนั จะรบั และถ่ายทอดเช้อื ฯ กันอยา่ งไร เขากร็ ู้ แต่เขาไม่ยอมใช้ หลงั จากที่เอาเขาเข้าไปใน “ว้อยซ์ฯ” 10 หรอื มอี ะไรมาพดู ใหเ้ ขาฟงั เขาเรมิ่ มากลมุ่ เรม่ิ มาฟงั เรา เมอ่ื กอ่ นน้ี “ชวี ติ จรงิ ” เขาไมค่ อ่ ยมาเขา้ กระบวนการเทา่ ไหร่ เพราะไปทำ� งาน แต่ช่วงหลังมีเวลาเข้ามาร่วมกิจกรรม ได้แลกเปล่ียนกับคนอ่ืน บา้ ง ไดเ้ รียนรู้กับกจิ กรรมบ้าง... ...กถ็ ามเขาวา่ เมอ่ื กอ่ นบอกใหใ้ ชถ้ งุ ยางฯ แลว้ ทำ� ไมไมใ่ ช้ ทำ� ไม ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้ เขาบอกว่าก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้สึกว่ามี ความตระหนกั มากข้ึน เขาพดู แบบนี้ ได้เหน็ อะไรหลายๆ อยา่ ง บางทีเรารู้อะไรก็ไปพูดให้แกฟัง อย่าง...มีเพ่ือนอยู่คนหน่ึง แฟนเขาด้ือยา (ต้านไวรัส) ส่วนตัวเขายังไม่ได้กินยาฯ พอดี เขาไมส่ บายแลว้ มาตรวจ มโี ครงการ (ตรวจหา) เชอื้ ฯ ดอ้ื ยาดว้ ย เขาด้ือยาฯ โดยอัตโนมัติเลยนะ ท้ังท่ี (ยัง) ไม่ได้ใช้ยาฯ ก็เล่า 10 เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ของโครงการเสียงและทางเลือกในภาคเหนือ ระยะท่ีสาม ด�ำเนินการ โดยเครือข่ายผู้หญิงที่อยู่ร่วมกับเอชไอวีในภาคเหนือ ภายใต้การสนับสนุนของมูลนิธิรักษ์ไทย ดำ� เนินการในช่วงปี พ.ศ. 2549 − 2550 ถงุ ยางอนามยั กับการดำ� เนินชวี ิตทางเพศในสังคมไทย 147
ให้เขาฟัง เล่าเคส (กรณี) ต่างๆ ให้เขาฟัง เขาก็อาจจะซึมซับ เข้าไป สุดท้ายก็อาจจะเป็นเพราะเราด้วยว่า ทีน้ีเราต้องรัก ตวั เองแลว้ นะ ตอ้ งไมย่ อมแลว้ นะ เรายงั ไมไ่ ดก้ นิ ยาฯ เลย ถา้ เกดิ เรารบั เชื้อฯ ดือ้ ยาเขามาล่ะ” แม้จะยังอิดออดอยู่บ้าง แต่คู่ของเธอก็เข้าใจและให้ความร่วมมือ “บางครง้ั ก็ยังขออยู่นะ วา่ ไมต่ อ้ งใช้สักครงั้ ได้ไหม ครง้ั เดียวจริงๆ เราก็ไมเ่ อา เดยี๋ วจะเคยตวั ” เธอมองว่าเรือ่ งน้ีไม่ไดเ้ ป็นเร่ืองใครมอี ำ� นาจเหนือกวา่ ใคร แต่เป็นเรอื่ ง ของการใช้อำ� นาจร่วมกนั และเป็นการสือ่ สารพดู คุยกัน “ก็ไม่ได้มีอ�ำนาจเหนือ มีอ�ำนาจร่วมกันค่ะ ก็เราตกลงกันแล้ว ท่ีสุดแล้วเขาบอกว่าอยากจะเอาถูไปถูมาข้างนอก ถูไปถูมาได้ แต่ถ้าจะเอาเข้าข้างในต้องใส่ถุงยางฯ นะ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ยอม เลยนะ เอาถไู ถขา้ งนอกไดอ้ ยู่” นอกจากการวางกฎในความสัมพันธ์แล้ว เธอมองว่าเรื่องน้ีเป็นเร่ือง ที่ต้องเรียนรู้ ปรับตัวเข้าหากันทั้งสองฝ่าย ตัวเธอเองก็เรียนรู้ที่จะช่วยให้เขา มเี พศสัมพันธ์โดยใชถ้ ุงยางอนามัยกบั เธอ “คือ เราอยากให้เขาเหมือนกับ...ใช้ถุงยางฯ แล้วมันก็สนุกดี ทงั้ ๆ ทเี่ ราไม่สนุก เราก็ฝืนพดู วา่ สนุกดี แลว้ เรากพ็ ลิกแพลงบ้าง ทา่ นน้ั ทา่ นี้ ยกแขง้ ยกขา ยกไปยกมาบา้ ง ทำ� ใหเ้ ขาชอบ ถา้ ใช้ ถุงยางฯ แลว้ ทำ� ให้เขาเห็นว่า ใช้ถุงยางฯ แลว้ เราสนุก เขาเหน็ เราสนุก เหมือนเรามีความสุข เขาก็มคี วามสขุ ” ส�ำหรับทั้งคู่แล้ว ถุงยางฯ เป็นสิ่งท่ีจ�ำเป็นต้องใช้ ด้วยค�ำนึงถึงการมี สขุ ภาพและชีวติ ท่ีปลอดภยั เธอบอกวา่ 148 นิวัตร สุวรรณพัฒนา และกาญจนา แถลงกจิ
“ถา้ ไมม่ เี ชอ้ื คดิ วา่ คงไมใ่ ช้ เพราะวา่ เรากท็ ำ� หมนั แลว้ ...ใช่ ไมใ่ ช้ สนุกกว่า ตอนน้คี ิดถึงความปลอดภยั ถงึ ใช้ แตถ่ า้ มันไมม่ เี ร่ืองนี้ ถ้าไมม่ เี อชไอวี กค็ งไม่ใช้ (เพราะ) ทำ� หมันไปแล้ว” จากค�ำพูดของวรรณาที่ว่า แม้จะรู้สึกแปลกปลอมแต่ก็ต้องปรับตัว สร้างความเคยชิน และหาวิธีการอื่นๆ มาทดแทนรสสัมผัสท่ีขาดหายไป น�ำไปสู่ประเด็นท่ีว่า “เป็นไปได้ไหมที่เราจะเรียนรู้เร่ืองการสร้างความสุข ความพึงพอใจเร่ืองอรรถรสทางเพศกับถุงยางอนามัย เพื่อใช้เสริมหรือ ทดแทนรสสมั ผัสทห่ี ายไป” บทสรปุ นใ้ี ชไ้ มไ่ ดก้ บั ทกุ คน เพราะเพอื่ นเธอยงั เผชญิ ชะตากรรมอยู่ วรรณาทงิ้ ทา้ ยไวว้ า่ เพอ่ื นๆ คนอนื่ ของเธอ แมจ้ ะรว่ มกจิ กรรมและเรยี นร้ ู มาดว้ ยกัน แตก่ ลับไม่สามารถจัดการชีวติ ไดเ้ ช่นเดยี วกับเธอ เพือ่ นผู้หญงิ ท่มี ี เช้ือเอชไอวีหลายคนซ่ึงมีคู่ใหม่ หลายคนมีคู่ใหม่เป็นชายอายุน้อยกว่าบอก กบั คู่ว่าไม่มีเช้อื เอชไอวี เธอมองวา่ เพื่อนๆ ของเธอยังคงเผชิญกบั การมีเพศสมั พันธท์ ไ่ี ม่พรอ้ ม ไม่เต็มใจ แต่ไม่สามารถขัดขืนได้ เพราะคู่ใช้ความรุนแรงท้ังทางจิตใจและ ร่างกาย แม้ว่าจะจบลงด้วยการเลิกร้างกันไป แต่ก็มักกลับมาอยู่ด้วยกันอีก หมนุ เวยี นอยเู่ ชน่ นี้ แมเ้ พอ่ื นๆ ของเธอจะไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งพง่ึ พาคใู่ นดา้ นเศรษฐกจิ และการทำ� มาหากนิ แตไ่ มส่ ามารถหลดุ พน้ จากความสมั พนั ธร์ นุ แรงในลกั ษณะ ดงั กล่าวได้ เธอมองวา่ ภายใตค้ วามสมั พนั ธท์ เ่ี พอื่ นๆ กำ� หนดตวั เองดอ้ ยคา่ กวา่ คู่ ด้วยสถานการณม์ ีเช้อื เอชไอวี ท�ำใหอ้ �ำนาจการตอ่ รองจัดการเพศสมั พันธ์ ทดี่ แี ละปลอดภยั เปน็ เรอ่ื งทที่ ำ� ไดย้ าก มพิ กั พดู ถงึ เรอื่ งการใชถ้ งุ ยางอนามยั ถงุ ยางอนามยั กับการด�ำเนนิ ชีวติ ทางเพศในสังคมไทย 149
“การเรียนรู้เรื่องอ�ำนาจมันใช้ได้/ไม่ได้มันอยู่ท่ีตัวคนอีกทีนะ ถา้ เรายงั ยึดติดอยู่กับสิ่งเก่าๆ มนั อาจจะชว่ ยไมไ่ ด้ แตถ่ า้ สมมติ ว่า เออ...มนั จริงนะ มนั ทำ� ให้เราเป็นอยา่ งนี้ ตอนน้ีกบั เม่อื ก่อน มันไม่เหมือนกัน ก็คือนึกถึงความปลอดภัยเป็นหลัก นึกถึง การรักตัวเอง มันก็แล้วแต่ตัวผู้หญิงด้วยนะ สมมติเขากล้าที่จะ พดู กลา้ ท่ีจะปฏิเสธ กลา้ ทีจ่ ะหลดุ ออกจากกรอบของความเป็น ผู้หญิง มันกน็ ่าจะได้” แต่ในอีกด้านหนึ่ง เธอก็พบว่า มีเพื่อนผู้หญิงจ�ำนวนหน่ึงท่ีไม่ได้ผ่าน กระบวนการเรยี นรเู้ รือ่ งเพศและการจดั การความสัมพันธ์ต่างๆ แบบเธอ แต่รู้ จากการพดู คยุ กนั วา่ บางคนใชถ้ งุ ยางอนามยั ทกุ ครงั้ ทมี่ เี พศสมั พนั ธ์ ดว้ ยคำ� นงึ ถงึ การมีสุขภาพที่ดีและปลอดภยั ทา้ ยสดุ วรรณาบอกวา่ การเรยี นรทู้ ผี่ า่ นมาทำ� ใหเ้ ธอเขา้ ใจชวี ติ เขา้ ใจ ความคาดหวงั ของสงั คมตอ่ ตวั ผมู้ เี ชอ้ื เอชไอวี และเขา้ ใจเพอื่ นๆ ทม่ี เี ชอื้ เอชไอว ี มากขน้ึ ด้วยเช่นกนั “เราเข้าใจมากข้ึน เม่ือก่อนเราก็พูดแบบน้ี ท�ำไมไม่ใช้ถุงยางฯ ทอ้ งมาอกี แลว้ แตเ่ ดย๋ี วนเี้ ราผา่ นกระบวนการ เราเหน็ เราเขา้ ใจ มากขึ้นแล้ว อีกอย่างหน่ึงมันก็เกิดขึ้นกับตัวเราเองด้วย ทำ� ให้ เราเขา้ ใจเพื่อนด้วย ถา้ เขาจะคาดหวังกับเราแบบนนั้ มนั กไ็ มผ่ ิด เพราะว่าเขาคาดหวังแบบนั้น (มุมเขา) เมื่อก่อนเราก็ยังเป็น แบบนัน้ เลย เพราะเราผา่ นกระบวนการมาเราถงึ เขา้ ใจเพ่ือน” จากชีวิตของวรรณาที่เป็นภาพตัวแทนของผู้หญิงในรูปแบบหนึ่ง ไปสู่เรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นหญิงในสมัยปัจจุบันที่มีอายุต่างกันกว่า 20 ป ี เพอ่ื ใหเ้ หน็ วถิ ชี วี ติ ทางเพศและเรยี นรวู้ า่ ถงุ ยางอนามยั อยตู่ รงไหนในโลกทศั น์ ความคดิ ความเชอ่ื เรอื่ งเพศและในชวี ติ ทางเพศของเธอ ดว้ ยการพดู คยุ กบั กลมุ่ 150 นวิ ัตร สุวรรณพัฒนา และกาญจนา แถลงกจิ
นักศึกษาหญิงสามคน11 ในช่วงเวลาสองเดือน โดยการให้เพื่อนชักชวน เพื่อนสนิทมาพูดคุยด้วย ท�ำให้พบว่าทั้งสามคนขาดความสนใจและขาด ความเข้าใจเรือ่ งความเสย่ี งต่อการรับเชื้อเอชไอวี เรื่องทอ้ งกับแท้ง ส่วนท่ีเหมือนกันของนักศึกษาหญิงท้ังสามคนคือ เคยต้ังท้องและ เคยท�ำแทง้ มาแลว้ ในช่วงเรยี นมัธยมปลายและมหาวิทยาลยั ทัง้ สามคนแมจ้ ะ เปน็ เพอ่ื นสนทิ กนั มาตงั้ แตเ่ ลก็ ๆ แตห่ นง่ึ ในนน้ั เพงิ่ เปดิ เผยเรอ่ื งทำ� แทง้ ใหเ้ พอื่ น สนิทรูเ้ ป็นคร้งั แรก ขณะทเ่ี คยรับรูเ้ ร่อื งของเพื่อนมากอ่ นแล้ว ทั้งสามคนเคยมี เพศสัมพันธ์กับแฟนมากกว่าหนึ่งคน และทั้งสามคนไม่คิดว่าจะจริงจังถึง ขั้นอย่รู ่วมชวี ิตในอนาคตกบั ผ้ชู ายคนที่คบอยู่ปจั จบุ ัน หากมีโอกาสพบคนทดี่ ี กว่านีก้ พ็ รอ้ มจะเปิดใจเรียนรู้ ส่ิงท่ีต่างกันระหว่างนักศึกษาหญิงท้ังสามคนคือ สองในสามคนเคยมี แฟนเปน็ ผหู้ ญงิ มากอ่ น คนหนง่ึ อยกู่ บั แฟนผหู้ ญงิ ดว้ ยกนั เปน็ เวลาเกอื บสามปี ไม่เคยใช้ถุงยางอนามัย เพราะคิดว่าไม่จ�ำเป็นต้องใช้ แต่เม่ือมาคบผู้ชายจึง เร่ิมใช้ถุงยางอนามัย เธอเปรียบเทียบการคบแฟนผู้ชายกับแฟนผู้หญิงว่า เพศสมั พนั ธก์ บั ผหู้ ญงิ เปน็ เรอ่ื งการตอบสนองกนั โดยไมต่ อ้ งบงั คบั แฟนผหู้ ญงิ จะเป็นฝ่ายเอาอกเอาใจและท�ำให้เธอรู้สึกมีความสุขในเรื่องเพศ ขณะที่ เพศสัมพันธ์กับผู้ชายเน้นท่ีการตอบสนองความต้องการของผู้ชายเป็นหลัก เพราะต้องทำ� ให้ผู้ชายรู้สึกสุขและพงึ พอใจ นักศึกษาหญิงอีกคนหนึ่ง (คนที่สอง) เคยคบกับผู้หญิงด้วยกันในช่วง ระยะสัน้ ๆ โดยบอกวา่ เป็นการตามกระแสวยั รุน่ และยืนยันวา่ ตวั เองชอบผู้ชาย 11 เปน็ การพดู คยุ สมั ภาษณอ์ ยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการ และทำ� กจิ กรรมรว่ มกนั รวม 3 ครงั้ ๆ ละ 2–3 ชว่ั โมง ในรา้ นกาแฟสบายๆ บรรยากาศเปน็ กนั เอง และเปน็ สว่ นตวั วนั ท่ี 1 สงิ หาคม, 22 และ 30 กนั ยายน 2553 ถุงยางอนามยั กับการด�ำเนินชวี ิตทางเพศในสงั คมไทย 151
มากกว่า อีกทั้งยังมีทัศนะว่าการคบและมีเพศสัมพันธ์ระหว่างหญิงกับหญิง เป็นเร่ืองผิดปกติ เพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับชายถือเป็นเพศสัมพันธ์ท ี่ ไม่ธรรมชาติ ไม่ถูกที่ทาง เพราะเป็นเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก ไม่ใช่ช่อง ทางการรว่ มเพศ “ตามปกติ” ซ่งึ รวมไปถึงเพศสัมพนั ธใ์ นค่หู ญงิ ชายทรี่ ว่ มเพศ กันทางทวารหนักด้วย ด้วยเหตุผลว่าช่องทวารหนักเป็นช่องขับถ่ายของเสีย สกปรก การรว่ มเพศกนั ตอ้ งเปน็ ทางชอ่ งคลอดเทา่ นน้ั ซง่ึ เปน็ ชอ่ งทางปกตติ าม ธรรมชาติ เธอไม่ได้รังเกียจเพศสัมพันธ์ระหว่างหญิงกับหญิง เพราะไม่ได ้ ร่วมเพศกันทางทวารหนัก แต่รับไม่ได้หากใช้อุปกรณ์เสริม เช่น “ดิลโด้” แทนการสอดใสอ่ วยั วะเพศชาย เพราะ “ไมใ่ ชข่ องจรงิ ” เธอบอกวา่ “มขี องจรงิ แลว้ ท�ำไมยังต้องใชข้ องปลอมอีก” นอกจากนี้ เธอยังมีความคดิ เรอื่ งเพศทีว่ ่า ผู้ชายเปน็ ฝา่ ยรกุ หญงิ เปน็ ฝ่ายรับและตอบสนอง ท�ำให้เธอไม่กล้าพูดคุยและต่อรองเพื่อเพศสัมพันธ์ ท่ีมีความสุขและปลอดภัยกับแฟนอย่างตรงไปตรงมา อีกท้ังไม่เคยบอกว่า ความสุขทางเพศของตัวเองเป็นอย่างไร โดยต้องแสดงบทบาทตอบสนอง ความต้องการของค่ตู ลอดเวลา “ยังไงไมร่ ู้ มนั นา่ เกลียดถา้ ผูห้ ญงิ รุก ชอบใหเ้ ขารกุ มากกวา่ ” ดว้ ยกรอบคดิ เรอ่ื งเพศเชน่ นี้ ทำ� ใหเ้ ธอไมพ่ ดู คยุ ตอ่ รองเรอื่ งการใชถ้ งุ ยาง อนามัยกับแฟนที่คบปัจจุบัน ขณะเดียวกันเธอก็มีความสัมพันธ์ซ้อนกับชาย คนอนื่ ๆ ท้ังในลกั ษณะความสมั พนั ธช์ วั่ ขา้ มคืน (one night stand) อันเปน็ การเจอกนั ในสถานทเ่ี ทย่ี ว รวมทง้ั ความสมั พนั ธแ์ บบชว่ั คราวกบั ผชู้ ายคนอนื่ ๆ ด้วย แต่เธอไม่เคยพูดเรื่องการใช้ถุงยางอนามัย เพราะมองว่าเป็นเรื่องของ ผชู้ าย ความคดิ ดงั กลา่ วทำ� ใหก้ ารตอ่ รองทางเพศ เชน่ การปฏเิ สธมเี พศสมั พนั ธ์ และการตอ่ รองใหใ้ ชถ้ งุ ยางอนามยั ทำ� ไดย้ ากขน้ึ เพราะกลายเปน็ วา่ หากผหู้ ญงิ ยนิ ยอมอยใู่ นความสมั พนั ธแ์ บบลกึ ซงึ้ แลว้ เพศสมั พนั ธเ์ ปน็ สว่ นหนง่ึ ของหนา้ ท่ี และเปน็ การบอกสถานะของความสมั พันธแ์ บบลึกซง้ึ ไปเสยี แลว้ 152 นิวตั ร สุวรรณพฒั นา และกาญจนา แถลงกิจ
“ถ้าเราจะไม่ยอม (มีเพศสัมพันธ์) มันก็จะห่างกันหน่อยละ มนั จะไมค่ ่อยสนิทกนั เหมือนเดมิ ” “เหมือนวา่ เรายอม (ไม่ใช้ถงุ ยางฯ) ไปแลว้ ท�ำไมถึงไมย่ อมอีก มคี นอน่ื แลว้ เหรอ อะไรอย่างน”ี้ เมื่อมองเร่ืองประสบการณ์การใช้ถุงยางอนามัยกับคู่ ทั้งสามคนไม่ได้ ใช้ถุงยางอนามัยกับคู่อย่างสม�่ำเสมอ โดยฝ่ายชายมักเลือกการหลั่งข้างนอก แทน ทำ� ใหท้ งั้ สามคนมปี ระสบการณท์ อ้ งไมพ่ รอ้ มแลว้ ตอ้ งไปทำ� แทง้ จงึ เขม้ งวด กับการป้องกันตนเองมากขึ้น แต่มีบางคร้ังที่ฝ่ายชายไม่ได้ใช้ถุงยางฯ ท�ำให้ ทั้งสามคนตัดสินใจใช้ยาคุมก�ำเนิดแทน โดยให้เหตุผลว่า “สบายใจกว่า ตดั ปญั หา ไมต่ ้องกังวลเรื่องทอ้ ง” เมื่อถามถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอชไอวี/เอดส์ ท้ังสามคน ตอบว่า “คดิ วา่ เรอื่ งโรคเปน็ เรอื่ งไกลตวั เมอ่ื เทยี บกบั ปญั หาทอ้ งทม่ี โี อกาส เกิดขึ้นกับตนเองมากกว่า” “(มนั ) เหมอื น (กบั วา่ ) เรอื่ งทอ้ ง มนั เคยเกดิ กบั เรา ทำ� ใหเ้ ราตอ้ ง คิดแตเ่ ร่อื งนี้ พอป้องกนั ได้กจ็ บ แต่เร่ืองโรคตดิ ต่อฯ น่ี เหมือน มันยังไม่เกิดกับเรา ทำ� ใหเ้ ราไม่รสู้ กึ ” “ต้องใสท่ ุกครัง้ กย็ าก เลยต้องปอ้ งกัน เกดิ พลาดขึน้ มา เผือ่ เขา บอกวา่ ไม่ ใสแ่ ลว้ ไม่สนกุ เราเลยกินยากนั ไว้ก่อน” ท้ังสามคนยังพูดถึงข้อดีของการกินยาคุมฯ ในแง่บ�ำรุงผิวเพ่ือความ สวยงาม กลายเป็นแรงเสริมในการตัดสินใจเลือกกินยาคุมฯ เพื่อปรับระดับ ฮอรโ์ มนในรา่ งกาย จงึ นยิ มใชย้ าคมุ ฯ มากขนึ้ ทงั้ ในกลมุ่ วยั รนุ่ หญงิ และกะเทย “ตอนแรกไม่คิดว่าอยากจะกิน เพราะไม่ได้มีอะไรกันทุกวัน แต่เหมือนกับเป็นทางเลือกอีกทางคือ กินเพื่อผิว คิดอย่างน้ี ถุงยางอนามัยกบั การดำ� เนินชีวิตทางเพศในสังคมไทย 153
ไปหาหมอก็ต้องกินยารักษาอยู่แล้ว แต่ถ้ากินเพื่อแบบน้ีแล้ว ไดส้ ว่ นนนั้ มา กร็ ้สู กึ ด”ี ในบางช่วงทั้งสามคนได้แลกเปล่ียนพูดคุยเร่ืองยาคุมก�ำเนิดกันอย่าง จริงจัง ราวกับว่าผู้เขียนและผู้ช่วยฯ ไม่ได้นั่งรวมอยู่ในห้องเดียวกันน้ันด้วย พวกเธอคุยกันว่ายาคุมฯ มีหลายชนิด และบางชนิดไม่ได้ท�ำให้เกิดอาการ ข้างเคียง เช่น มีร่างกายอวบอ้วนขึ้น ท�ำให้ผิวสวย ท�ำให้เพ่ือนคนหน่ึงท ี่ ยังกังวลเรื่องท้องไม่พร้อมได้รับค�ำแนะน�ำให้ซ้ือยาคุมก�ำเนิดกินควบคู่ไปกับ การใช้ถงุ ยางอนามัยท่ีไม่สม�่ำเสมอไปด้วย ส�ำหรับนักศึกษาหญิงคนท่ีสาม เธอมีความเช่ือว่าอวัยวะร่างกายของ หญิงและของท่ีใช้กับอวัยวะเพศ (หญิง) เป็นของต่�ำ “คนท่ีเขาไปสัก ไปจับ ผ้าอนามยั ของผูห้ ญิง ของในตัวก็หายไปหมด” เธอมองวา่ ถงุ ยางฯ เปน็ ของผชู้ าย ผา้ อนามยั เปน็ ของผหู้ ญงิ การจดั หา หรอื ใช้ต้องดแู ลกนั เอง ไมใ่ หย้ ุ่งเกยี่ วกนั เปน็ เรอ่ื งของใครของมนั เธอบอกวา่ “เคยใชถ้ งุ ยางฯ แตไ่ มเ่ คยซอ้ื เวลาจะใช้ ใหแ้ ฟนไปซอื้ เพราะเปน็ ของทผี่ ชู้ ายใช้ ไม่ใชผ่ หู้ ญงิ ใช้ ผหู้ ญงิ ใชย้ าคมุ เรากไ็ ปซ้ือเองนะ หนง่ึ เวลาเรามปี ระจำ� เดอื น เราจะไมใ่ หเ้ ขาไปซอื้ ผหู้ ญงิ ตอ้ งซอ้ื ผ้าอนามัยเอง มันเป็นเร่ืองของผู้หญิงจะรู้ดี ถ้าเราไปใช้เขา มนั เปน็ ของตำ่� แลว้ ใหผ้ ชู้ ายไปซอื้ ใหเ้ ขาไปจบั ไปถอื เราจะบาป” ทง้ั สามคนอธบิ ายวา่ เพศสมั พนั ธข์ องตนเองเปน็ เพศสมั พนั ธท์ ไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง อยู่นอกกรอบประเพณี เนอื่ งจากเป็นเพศสมั พนั ธน์ อกกรอบการแตง่ งาน และ มองว่าการท�ำแท้งเป็นบาป ผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัวและรักษาพรหมจรรย์ ไว้กับตัวเอง หากไม่สามารถท�ำตามกรอบประเพณีได้ ผลกระทบจะเกิดขึ้น กบั ผหู้ ญงิ และญาตทิ างฝา่ ยหญงิ จะเจบ็ ปว่ ย หรือทเี่ รียกว่า “ผดิ ผ”ี นน่ั เอง “ผู้หญิงควรจะซิง เพ่ือท�ำให้ผู้ชายรัก…ทุกวันนี้เราบาปอยู่แล้ว คอื หนึ่ง มอี ะไรกนั โดยไม่ถกู ตอ้ งตามประเพณี อย่ดู ้วยกนั ก่อน 154 นิวตั ร สุวรรณพัฒนา และกาญจนา แถลงกจิ
ท�ำให้พ่อแม่เสียใจ ถ้าเรามีอะไรกันแล้ว ในตัวเรารู้สึกผิด บอกตัวเองตลอดเวลาว่าไม่น่าเลยนะ ไม่น่าสลิด (แร่ด) เลย ใจหนง่ึ ฉนั กไ็ มอ่ ยากทำ� กบั เธอ อกี ใจกบ็ อกวา่ ทำ� ไปเถอะ มนั เปน็ แบบน้ี เลยทำ� ไมไ่ ด.้ ..เหมอื นเขาบอกวา่ มนั จะผิดผี เขาจะทำ� ให้ แม่เรา...ถ้าเป็นผู้หญิงก็เป็นทางแม่ เวลาเราอยู่กับแฟน คนใด คนหนึ่งในครอบครัวแฟนไม่ป่วย คนใดคนหน่ึงของครอบครัว เราจะต้องป่วย...ตอนแรกท่ี (ท้องและท�ำแท้ง) ไม่เกิดกับเรา ก็มองเขาว่าไม่กลัวบาปเหรอ แต่พอมาเจอกับเรา ก็รู้เลยว่า ต้องทำ� ไม่อยากทำ� กต็ ้องท�ำ เพอ่ื อนาคต หลายอยา่ ง เพอื่ พอ่ แมด่ ว้ ย” กรอบประเพณแี ละความเชอ่ื ทางศาสนา เปน็ ภาพสะทอ้ นการมงุ่ ควบคมุ เนื้อตัวร่างกายและความคิดความรู้สึกของผู้หญิง โดยใช้ค�ำอธิบายแบบกด บงั คบั สง่ ผลใหผ้ หู้ ญงิ รสู้ กึ วา่ ตนเองทำ� ผดิ บาป และตดิ ยดึ อยกู่ บั การลงโทษและ ประณามตวั เอง ผหู้ ญงิ จำ� นวนหนงึ่ ไมส่ ามารถดำ� เนนิ ชวี ติ ทางเพศใหส้ อดคลอ้ ง ตามกรอบจารตี ประเพณดี งั กลา่ วได้ ทางออกจงึ กลายเปน็ การหาเหตผุ ลทดแทน เพ่ือสร้างความสบายใจให้กับตัวเอง และหาทางป้องกันผลกระทบอ่ืนๆ ที่ ตามมาภายหลงั “คยุ กบั แฟนวา่ ถา้ มลี กู จะเลยี้ งใหด้ ที ส่ี ดุ จะรกั ไมว่ า่ เขาเปน็ อะไร ก็ตาม เพราะวา่ อาจทดแทนสงิ่ ท่เี ราท�ำไปแลว้ ได้ไมม่ าก แตม่ นั กพ็ อทดแทนไปได้บ้าง” “(ท้อง) มันอยู่ในน้ี มันเป็นเร่ืองธรรมดา หากเราไม่ต้องการ เราเอาออกไปเสีย” “เคยมอี ะไรกับคนน้ันแล้ว มกี ับคนนี้อีกคนจะเป็นไรไป มันเปน็ แบบนไ้ี ปเสยี เหมอื นทบี่ อกวา่ ไมม่ อี ะไรเลยกจ็ ะไมม่ ี แตถ่ า้ มแี ลว้ ก็ต้องมีตลอด” ถุงยางอนามัยกบั การดำ� เนนิ ชวี ติ ทางเพศในสงั คมไทย 155
ส�ำหรับฟ้าแล้ว ยาคุมฯ เป็นของผู้หญิง ถุงยางฯ เป็นของ ผ้ชู าย ฟ้า เปน็ นักศึกษาหญงิ อายุ 21 ปี เข้ารว่ มเป็นสมาชกิ ของกลุ่มเยาวชน ในตำ� บลแหง่ หนงึ่ เรานดั พดู คยุ กบั ฟา้ พรอ้ มกบั เพอ่ื นสนทิ อกี สองคนทเี่ คยเรยี น มัธยมมาด้วยกันและต่างแยกย้ายไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยกันคนละแห่ง ในจงั หวดั เดียวกนั และยงั คบหาเปน็ เพ่ือนต่อเน่ืองเรื่อยมา ฟา้ เลา่ ให้ฟังว่าเคย ลองคบหากบั เพอ่ื นหญงิ ทเ่ี ขา้ มาจบี และขอเปน็ แฟนกนั ตอนทตี่ วั เองยงั เรยี นอยู่ ชน้ั มธั ยม 3 ฟา้ คบกบั เพอื่ นหญงิ คนนไี้ มถ่ งึ ปี โดยไมม่ อี ะไรเกนิ เลยมากไปกวา่ คุยกันทางโทรศัพท์ และไปเจอกันท่ีโรงเรียน จู่ๆ วันหนึ่งฝ่ายผู้หญิงก็ขอยุติ ความสัมพันธ์โดยบอกเพียงว่า “ไม่อยากคบกับผู้หญิงแล้ว จะกลับไปคบกับ ผู้ชาย” พอฟา้ เรยี นชนั้ มธั ยม 4 กไ็ ดร้ จู้ กั กบั เพอ่ื นชายตา่ งโรงเรยี นทคี่ ยุ กนั ผา่ น โปรแกรมสนทนาออนไลน์ Hi − 5 และคบหาเปน็ แฟนกนั เพศสมั พนั ธค์ รง้ั แรก ของฟา้ มกี บั ผชู้ ายคนนี้ ตอนนฟี้ า้ มแี ฟนทคี่ บกนั มาได้ 4 ปกี วา่ ๆ อายมุ ากกวา่ ฟ้า 2 ปแี ละท�ำงานแลว้ “คนนน้ี านสดุ ทกุ ทเี กอื บปกี เ็ ลกิ ปกี วา่ กเ็ ลกิ แตค่ นนจ้ี ะเลกิ หลาย คร้ังก็กลับมาง้อกันก็คืนดี ไม่รู้จะคุยกับใครอีกแหละ เพราะได้ กค็ งไมด่ ีเท่าเรา” ฟ้าเล่าให้ฟังว่าแฟนหนุ่มคนนี้ค่อนข้างอารมณ์ร้อน มีหลายคร้ังที่ฟ้า เจอกบั ความรนุ แรงทม่ี สี าเหตมุ าจากความหงึ หวง ฟา้ ยอมรบั วา่ ในชว่ งทค่ี บหา กับแฟนคนนี้ ตนเองแอบไปมีสัมพันธ์กับผู้ชายอีกคนหน่ึงที่มีครอบครัวแล้ว จนเกดิ เหตกุ ารณท์ ะเลาะกับแฟนหนุ่มและถึงข้ันใชค้ วามรนุ แรงกบั ฟา้ “มอี ยคู่ รง้ั หนง่ึ ผชู้ ายคนนนั้ โทรมาหาเราตอนกลางคนื ทง้ั ทร่ี วู้ า่ เราอยูก่ บั แฟน เราก็ไม่พูด แตใ่ หพ้ ดู กบั แฟน พอแฟนรับ เขาก็ ไม่พูด แฟนก็เลยโทรกลับไป แล้วก็ส่งข้อความมาที่เบอร์แฟน 156 นวิ ตั ร สวุ รรณพฒั นา และกาญจนา แถลงกิจ
แกลง้ บอกวา่ สง่ ผดิ เลยทะเลาะกบั แฟนรนุ แรง โดนถบี ตดิ ฝาเลย บอกว่าถ้ามอี ีกจะเลกิ เลย เราผดิ เราก็ไม่กล้าทำ� อะไรเขา แตค่ บ กันมาแฟนก็ไม่เคยมเี ร่อื งผู้หญงิ นะ อยู่ด้วยกันไมเ่ หน็ มี ไวใ้ จได้ เราก็ไปง้อเขา อีกนานกว่าจะดกี นั ” หลงั จากเรอ่ื งน้ี ฟา้ โมโหทผี่ ชู้ ายคนนน้ั ทำ� ใหฟ้ า้ กบั แฟนตอ้ งทะเลาะกนั และตัดสินใจไม่ติดต่อกับเขาอีก ฟ้ามองว่าเร่ืองท่ีเกิดข้ึนเป็นปัญหาที่มาจาก การใช้ชีวิตประจ�ำวันร่วมกันมากกว่า แต่ก็เห็นว่าเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่ง ในการใช้ชีวิตคู่ร่วมกันหากเขาใช้ความรุนแรงอีก เพราะตัวเองสู้แรงผู้ชายไม่ ไดแ้ น่นอน ทุกวันน้ีแฟนหนมุ่ ก็ไปรบั สง่ ฟา้ ท่ีบา้ นเป็นประจำ� โดยทค่ี รอบครวั ของทัง้ สองฝา่ ยก็รับร้คู วามสมั พันธข์ องท้ังคู่ ฟา้ เล่าวา่ “แม่กม็ ีเตือนๆ อยบู่ า้ งว่าอย่าไปนอนบา้ นเขาบ่อย เขาจะนนิ ทา แต่บ้านน้ันเขาก็ถามว่าเมื่อไหร่จะมา เม่ือไหร่จะมาอยู่ด้วยกัน จะไปขอ” ฟ้ากับเพื่อนๆ ผู้หญิงในกลุ่มเดียวกันพูดคุยถึงเรื่องการแต่งงาน หลายคนมักจะคิดว่า ยังไงผู้หญิงก็ต้องแต่งงานและมีลูก เพื่อนฟ้าก็แต่งงาน มีลูกกนั ไปแลว้ หลายคน ฟ้าเองกค็ ิดเชน่ น้นั “ใจเราคือแต่งดีกว่า แต่ถ้าไม่แต่งก็แค่จดทะเบียนก็ได้ ผู้หญิง อยา่ งไรกต็ อ้ งแต่ง” แตบ่ างทฟี า้ กล็ งั เลใจกบั ชวี ติ การอยดู่ ว้ ยกนั เปน็ คู่ และการมเี พศสมั พนั ธ์ กับแฟนตัวเองประจ�ำเป็นเร่ืองน่าเบ่ือ การไปมีอะไรกับคนอ่ืนบ้างโดยไม่ต้อง จริงจังอะไรมากมายดูน่าตื่นเต้นดี เพราะเธอเคยมีความสัมพันธ์กับผู้ชาย ที่เพียงรู้จักกันผิวเผินจากการไปเที่ยวกลางคืน แล้วถูกใจกันจนลงเอยด้วย การมีเพศสัมพันธ์กัน แต่พอเล่าเร่ืองนี้ให้เพ่ือนฟังก็ถูกต�ำหนิว่าฟ้าไม่น่าท�ำ อยา่ งนน้ั เลย เพราะเพอื่ นมองวา่ ฟา้ กำ� ลงั นอกใจแฟนตัวเอง ถุงยางอนามัยกบั การด�ำเนินชวี ิตทางเพศในสังคมไทย 157
แม้ฟ้าจะคิดเร่ืองการแต่งงานมีครอบครัว แต่ก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะคิด จริงจังกับแฟนหนุ่มท่ีก�ำลังคบหากันอยู่ ฟ้ายังเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้ และท�ำความรูจ้ กั กบั ผชู้ ายคนอืน่ อย่างน้อยๆ ฟ้ากค็ ิดว่าตัวเองยงั สาว ยังอยู่ ในวัยเรียน ยังเลือกได้มากกว่าน้ี ทุกวันนี้ฟ้าก็แอบมีคุยกับผู้ชายคนอื่นๆ อยบู่ ้าง ฟา้ เล่าใหฟ้ งั ถึงเหตุการณท์ เ่ี พิ่งเกิดข้นึ กับเธอไมน่ านนว้ี า่ “ก�ำลังจะไปเรียน แล้วขี่รถจอดไฟแดง แล้วเขามากับเพื่อน เขากม็ ากอ๊ กๆๆๆ เรากห็ นั ไป กอ๊ กๆๆ อะไร เขากบั เพอ่ื นกถ็ ามวา่ ไปไหน มีเบอร์ไหม เราก็ให้ไป แล้วเขาก็โทรมา ก็ติดต่อกัน วนั นไี้ ปกนิ ขา้ วดว้ ยกนั ไหม พเ่ี ลย้ี ง พาเพอื่ นไปดว้ ย ขบั รถพาไป เล้ยี ง แลว้ กบ็ อกว่าถ้าคบกับพ่ี อยากได้อะไรจะซ้อื ให”้ ฟ้าเติบโตมากับการสั่งสอนเรื่องเพศให้ผู้หญิงรักนวลสงวนตัว คุณค่า ของผ้หู ญงิ อยูท่ ่ี “ผหู้ ญิงควรจะซิง เพือ่ ทำ� ให้ผู้ชายรกั ” แต่เม่ือเผชิญกับสถานการณ์นี้ด้วยตัวเอง ฟ้ากับเพื่อนๆ รู้สึกสับสน ระหว่างค�ำสั่งสอนของผู้ใหญ่ที่ขัดแย้งกับการด�ำเนินชีวิตทางเพศของตัวเอง ในขณะนี้ “ถามวา่ เช่อื ไหม ถ้าไมเ่ ช่ือเรากไ็ มเ่ อามาคดิ แตว่ า่ เราไม่ไดท้ ำ� ตาม ความเชอ่ื นนั้ ” เม่ือใดท่ตี ้องตัดสินใจ ฟ้าและเพ่ือนๆ ก็เลือกท่จี ะทำ� ตามความต้องการ ของตัวเอง และปล่อยให้เกิดข้นึ เลยตามเลย โดยกำ้� ก่ึงกบั ความรู้สกึ ผิด “ถา้ มคี รั้งแรก ก็ต้องมตี ่อไป มนั ไม่นา่ มีเลยตั้งแตค่ รง้ั แรก ถ้าเรา แต่งงานแล้วเขารู้ว่าเราผ่านมาก่ีคน เขาจะคิดแล้วว่าคนน้ี เป็นอยา่ งไร เปน็ โรคไหม” ฟา้ มคี วามสมั พนั ธก์ บั ผชู้ ายมาแลว้ 3 คน และอยใู่ นสถานะทต่ี อ่ รองเรอ่ื ง เพศและปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์กับคู่ไม่ได้มาก ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก หรือคู่ท่ีมี ความสมั พนั ธ์ชวั่ คราวกต็ าม 158 นวิ ตั ร สุวรรณพฒั นา และกาญจนา แถลงกิจ
ส�ำหรบั ฟ้าแล้วในความสัมพนั ธ์ฉันท์คู่รัก เพศสัมพันธ์คลา้ ยเป็นหนา้ ท่ี ท่ีถกู เรยี กร้องให้ตอบสนองความตอ้ งการของคู่ มากกว่าการยินยอมพรอ้ มใจ และความสุขความพึงพอใจร่วมกัน เพศสัมพันธ์เป็นส่วนหนึ่งของการยืนยัน สถานะความสัมพันธ์ฉันท์คู่รัก ฟ้ามองว่าการตัดสินใจเรื่องเพศนั้นขึ้นอยู่กับ ผชู้ ายมากกวา่ ฝา่ ยหญงิ “เราก็พูดได้ แต่อยู่ท่ีเขา แต่ถ้าเขายินยอมก็จบไป แต่ถ้าเขา ไม่ยนิ ยอมก็บังคับเอา เพราะมันขนึ้ อยู่กับนิสัยผู้ชายแต่ละคน” ฟา้ เคยอยากลองคน้ พบความสขุ ทางเพศดว้ ยตวั เอง แตพ่ อลองคดิ วา่ จะ เร่ิมต้นกับคเู่ มื่อไร กเ็ กดิ ความรู้สึกขัดแยง้ กับตัวเอง เพราะถูกบอกมาตลอดว่า ผหู้ ญงิ ไมค่ วรเปน็ ฝา่ ยรกุ ไมค่ วรแสดงออกถงึ ความตอ้ งการทางเพศของตวั เอง ให้คนอื่นรู้ แม้แต่การช่วยตัวเองก็เป็นเรื่องท่ีควรปกปิดไว้ ไม่อย่างน้ันจะถูก มองไปในทางเสียหาย ฟา้ เชอ่ื วา่ เพศวถิ ใี นกรอบเรอ่ื งเพศแบบหญงิ กบั ชายและเพศสมั พนั ธท์ าง ช่องคลอดเป็นเร่ืองถูกต้อง เมื่อเพื่อนหญิงในกลุ่มที่เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงด้วย กันเลา่ ใหฟ้ ้าฟงั ว่าเคยใช้ “ของเลน่ ” เวลามอี ะไรกันกับแฟน ฟ้าคิดวา่ “มนั ไมใ่ ชข่ องจรงิ มขี องจรงิ แล้วท�ำไมต้องใช้ของปลอมอกี ” ดงั นั้น เพศสัมพนั ธข์ องคนรกั เพศเดยี วกัน เพศสมั พนั ธท์ างทวารหนัก เพศสัมพันธ์ที่ไม่ใช่การสอดใส่ด้วยอวัยวะเพศ การใช้ปากท�ำออรัลเซ็กส ์ เป็นเรอ่ื งท่ฟี า้ ยอมรับไมไ่ ด้ เปน็ เรื่องความสกปรก น่าสะอดิ สะเอยี น ถุงยางอนามัยและยาคุมก�ำเนิด: ทางเลือกและการต่อรอง เร่ืองเพศสัมพันธ์ทปี่ ลอดภัยและเปน็ สขุ ฟ้าเรียนรู้เร่ืองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากการเข้ากลุ่มเยาวชนใน ต�ำบล ฟ้ารู้ดีว่าเพศสัมพันธ์ท่ีไม่ป้องกันจะมีผลกระทบเกิดขึ้นตามมาอย่างไร ถงุ ยางอนามยั กับการด�ำเนนิ ชีวติ ทางเพศในสงั คมไทย 159
ถึงกระน้ันเม่ือตัดสินใจมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย ฟ้ายอมรับว่าคู่ไม่ได้ใส่ถุงยาง อนามัยสม�่ำเสมอ “มีน้อยคร้ังท่ีจะใส่ คู่จะเลือกใช้วิธีหล่ังข้างนอกแทน” และเคยมีคร้ังหนง่ึ ทฟี่ า้ ตอ้ งกนิ ยาคุมกำ� เนดิ แบบฉุกเฉิน “ตอนนนั้ มกี กิ๊ แลว้ กกิ๊ ไมใ่ ชถ้ งุ ยางฯ เรากไ็ มร่ วู้ า่ มนั หลง่ั ใน มนั ก็ ไม่บอก เราไม่คิดว่าเขาจะหล่ังใน เพราะไม่ได้คบกันจริงจัง แคค่ ยุ กนั ธรรมดา เลยใหไ้ ปซอ้ื ยาคมุ ฉกุ เฉนิ มนั เปน็ คนจา่ ยตงั ค์ เราเป็นคนซ้อื ” แตแ่ ลว้ วนั หนง่ึ ฟา้ กพ็ ลาดมที อ้ งและตดั สนิ ใจทำ� แทง้ ฟา้ ไมเ่ คยเลา่ เรอื่ ง นี้ให้ใครฟังมาก่อน จนกระทั่งได้มาฟังเร่ืองราวของเพื่อนสองคนที่ต่างก็เคย ผ่านประสบการณ์ท�ำนองเดียวกัน ในความคิดของฟ้าและเพ่ือนๆ มองว่า การปอ้ งกนั เปน็ หนา้ ทข่ี องผชู้ าย แตผ่ หู้ ญงิ กลายเปน็ ฝา่ ยทไี่ ดร้ บั ผลกระทบจาก เพศสมั พนั ธท์ ไี่ มป่ อ้ งกนั มากกวา่ ผชู้ าย โดยเฉพาะในความสมั พนั ธฉ์ นั ทค์ นรกั ทเี่ พศสมั พนั ธม์ โี อกาสเกดิ ขน้ึ บอ่ ยครง้ั ผหู้ ญงิ จงึ มองหาทางเลอื กในการปอ้ งกนั ที่ทำ� ได้ด้วยตัวเองดว้ ยการกินยาคมุ กำ� เนดิ “กลวั พลาดอีก มนั เปลอื งถงุ ยางฯ ด้วย” ฟ้าแยกชัดเจนว่าการใช้ถุงยางอนามัยเป็นการตัดสินใจของผู้ชาย สว่ นยาคมุ กำ� เนดิ เปน็ การตดั สนิ ใจของผหู้ ญงิ เมอื่ ฟา้ ถามเรอ่ื งนก้ี บั เพอื่ นสนทิ ท้ังสองคนท่ีเลือกกินยาคุมก�ำเนิด ทั้งคู่ประเมินว่าในความสัมพันธ์ฉันท์คู่รัก ตอนน้ี การกินยาคุมก�ำเนิดน่าจะช่วยลดความกังวลเรื่องการตั้งครรภ ์ ส่วนความเส่ียงเรื่องโรคมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับโอกาส ในการต้งั ครรภท์ ่ีมมี ากกว่า เพือ่ นของฟา้ บอกวา่ “มนั น้อยมากเรือ่ งน้ี (โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์) ท่เี ข้ามาถึงเรา แต่มีเร่ืองตั้งครรภ์เยอะมาก ในวัยของเรา” 160 นวิ ัตร สวุ รรณพฒั นา และกาญจนา แถลงกิจ
แตฟ่ า้ ยงั กงั วลเรอื่ งผลขา้ งเคยี งของการกนิ ยาคมุ กำ� เนดิ เพราะเคยไดย้ นิ มาว่า กินยาแลว้ จะอ้วน หนา้ จะเป็นฝา้ เมอ่ื เพ่ือนใหข้ อ้ มลู วา่ ยาคุมฯ มหี ลาย ประเภท บางยห่ี อ้ กนิ เขา้ ไปแลว้ มสี รรพคณุ เรอื่ งบำ� รงุ ผวิ พรรณ บางยหี่ อ้ กไ็ มม่ ี ผลต่อน้�ำหนักตวั ฟ้าจงึ เอาเร่อื งน้ไี ปปรกึ ษาแม่ “ไม่ถึงกับสนิทคุยกับแม่ทุกเรื่อง แต่ก็ไว้ใจ เร่ืองยาคุมก็ถามแม่ เหมอื นกนั แมแ่ ฟนด้วย แมก่ ว็ ่าเพงิ่ จะมากนิ เหรอ” ตงั้ แตน่ น้ั เปน็ ตน้ มาฟา้ จงึ ตดั สนิ ใจปอ้ งกนั ตวั เองดว้ ยการกนิ ยาคมุ กำ� เนดิ 4.3 ศาสนาและวัฒนธรรมความเช่ือในเรื่องเพศกับการใช ้ ถุงยางอนามัย ศาสนาและวฒั นธรรมความเชอ่ื ในเรอื่ งเพศนน้ี บั วา่ มคี วามสำ� คญั ตอ่ กร อบคิดเร่ืองเพศและการใช้/ไม่ใช้ถุงยางอนามัยในสังคมไทยและสังคมโลก แม้งานวิจัยช้ินน้ีจะไม่ได้ท�ำกิจกรรมที่เก่ียวข้องกับศาสนาและวัฒนธรรม ความเชอื่ ท่ชี ดั เจนนกั แต่มคี วามจำ� เป็นที่ต้องกลา่ วถึงไว้ในงานเขียนช้นิ นี้ ความเช่ือทางศาสนามองบทบาทที่ทางของเรื่องเพศว่าเป็นเรื่องของ การเจรญิ พนั ธ์ุ เรอื่ งเพศทไี่ ดร้ บั การยอมรบั จงึ มจี ดุ มงุ่ หมายเฉพาะอยทู่ ก่ี ารผลติ สมาชิกใหม่ของครอบครัวและสังคมและจ�ำกัดอยู่ในสถาบันการแต่งงาน การสร้างครอบครัว ความปรารถนาและพฤติกรรมทางเพศที่เป็นเรื่องของ ความพงึ พอใจทางกาย ไมเ่ กย่ี วขอ้ งและไมไ่ ดเ้ พอ่ื การเจรญิ พนั ธ์ุ เชน่ การสำ� เรจ็ ความใคร่ด้วยตนเอง การใช้ถุงยางอนามัยในการมีเพศสัมพันธ์ และ ความสัมพันธ์ทางเพศท่ไี มอ่ ยู่ในกรอบสถาบนั การแตง่ งาน เชน่ เพศสัมพันธ์ กอ่ นการสมรสและนอกสมรส เพศสมั พนั ธก์ บั คนเพศเดยี วกนั การซอ้ื ขายบรกิ าร ทางเพศ ฯลฯ ถูกจัดว่าไม่ถูกตอ้ งเหมาะสม ถุงยางอนามัยกับการดำ� เนินชวี ิตทางเพศในสงั คมไทย 161
กรอบคิดท่ีเข้มงวดทางศาสนาและศีลธรรมในกิจกรรมทางเพศ และ ความเชอ่ื ทว่ี า่ การสง่ เสรมิ การใชถ้ งุ ยางอนามยั เปน็ การสง่ เสรมิ การมเี พศสมั พนั ธ์ นบั เปน็ ปจั จยั ใหญท่ ข่ี ดั ขวางการใชถ้ งุ ยางอนามยั การแทนคา่ “ถงุ ยางอนามยั ” เท่ากับ “ความส่ำ� ส่อน” ยง่ิ สง่ ผลกระทบทงั้ ในแง่ของการจดั ใหม้ ถี งุ ยางฯ และ ความรู้สึกอึดอัดใจในการใช้ถุงยางฯ เน่ืองจากการส่งเสริมการใช้ถุงยางฯ ถูกให้ความหมายว่าเป็นการส่งเสริมเพศสัมพันธ์นอกกรอบศีลธรรม ซึ่งขัด ความเชื่อทางศาสนา ท�ำให้คนไม่กล้าใช้ แจกจ่าย หรือขายถงุ ยางอนามัย ดังเช่นในการพูดคุยแลกเปล่ียนประสบการณ์ระหว่างคนท�ำงานด้าน เอดสท์ เี่ หน็ วา่ บางศาสนา บางนกิ าย อาทิ ครสิ ตศ์ าสนานกิ ายโรมนั คาทอลกิ แม้จะไม่ได้ออกมาพูดเรื่องการใช้ถุงยางฯ เพื่อป้องกันการรับ − ถ่ายทอด เชื้อเอชไอวี แต่การออกมาบอกว่าไม่เห็นด้วยกับการใช้ถุงยางอนามัยเพ่ือ คมุ กำ� เนิด กท็ �ำให้มกี ารตีความและยกเลิกการใช้ถุงยางอนามยั ในทกุ ๆ กรณี ในบางวัฒนธรรมที่ให้คุณค่ากับการมีลูกของผู้หญิงว่าเป็นผู้หญิงที่ สมบรู ณ์ คอื เปน็ ทง้ั เมยี และแม่ ทำ� ใหผ้ หู้ ญงิ ทอ่ี ยภู่ ายใตร้ ะบบคดิ ความเชอื่ เรอ่ื ง เพศดังกล่าวนี้ ไม่ต้องการใช้ถุงยางฯ ในชีวิตคู่หรือในครอบครัวของพวกเธอ หลายประเทศผคู้ นจำ� นวนมากรสู้ กึ อดึ อดั ทจ่ี ะตอ้ งซอื้ − ขาย − แจกจา่ ยถงุ ยาง อนามยั อาทิ ไนจเี รีย ผู้คนรสู้ ึกอดึ อดั ทีจ่ ะซอื้ ถุงยางฯ เพราะกลวั จะถกู มองว่า เปน็ ผทู้ ไ่ี มค่ วบคมุ ความตอ้ งการทางเพศของตนเอง หรอื เอลซลั วาดอร์ เภสชั กร ปฏิเสธที่จะขายถุงยางอนามัย ในขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพก็ไม่ต้องการ ส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัย บางประเทศถุงยางฯ หมายถึงของที่ใช้กับคน บางกลุ่ม เช่น แรงงานบริการทางเพศ และจนถึงปัจจุบันในโมร็อกโกถือว่า การมีหรอื พกถงุ ยางอนามัยเปน็ การบง่ บอกว่าอยากมเี พศสัมพนั ธ์ นอกจากน้ี ในประเทศอินโดนีเซยี การรณรงค์เรือ่ งการปอ้ งกัน รวมทง้ั การส่งเสริมการใช้ ถงุ ยางอนามยั ถกู วพิ ากษ์วิจารณ์อย่างหนกั จากองค์กรศาสนาบางองค์กรวา่ เนื้อความท่ีใช้ในการรณรงค์เป็นการชักชวนให้คนมีเพศสัมพันธ์กัน (Drezin, Torres & Daly, 2007) 162 นวิ ตั ร สุวรรณพัฒนา และกาญจนา แถลงกิจ
ปรากฏการณ์เดียวกันนี้อาจคล้ายกับส่ิงท่ีเกิดข้ึนในการด�ำเนินงาน เพ่ือป้องกันและแก้ไขปัญหาการรับ − ถ่ายทอดเช้ือเอชไอวีในกลุ่มเยาวชน ในประเทศไทย ภายใตโ้ ครงการฯ ทไ่ี ดร้ บั การอดุ หนนุ งบประมาณจากกองทนุ โลก เมื่อเทียบดูสถิติของการแจกจ่ายถุงยางอนามัยระหว่างหน่วยงานหลักๆ ที่ด�ำเนินงานภายใต้โครงการเดียวกันแล้ว พบว่าในจ�ำนวนถุงยางอนามัย ท่ีแจกจ่ายออกไปเกอื บ 7 ลา้ นช้ินตั้งแตช่ ว่ งเร่ิมต้นโครงการจนเกอื บถงึ ปที ่ี 7 ของการด�ำเนินงาน หน่วยงานหนึ่งท่ีเป็นองค์กรทางศาสนาและมีพ้ืนท่ี การด�ำเนินงานอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทยแจกจ่ายถุงยางอนามัยออกไป เพียงเกอื บ 3 หมนื่ ชน้ิ เทา่ นัน้ นบั วา่ น้อยท่สี ุดและนอ้ ยกวา่ หน่วยงานอ่ืนๆ อกี 7 หนว่ ยงานทร่ี ว่ มกนั ดำ� เนนิ งาน การจดั ใหม้ ถี งุ ยางอนามยั ทสี่ ามารถเขา้ ถงึ ไดแ้ ละมเี พยี งพอใหใ้ ชไ้ ดน้ นั้ เปน็ เรอ่ื งสำ� คญั และเปน็ สทิ ธขิ นั้ พน้ื ฐานดา้ นการดแู ลสขุ ภาพทท่ี กุ คนควรไดร้ บั และผเู้ ขยี นไมไ่ ดม้ เี จตนาทจ่ี ะวพิ ากษว์ จิ ารณค์ วามคดิ ความเชอื่ ของหนว่ ยงาน ดังกล่าว แตค่ วามคดิ ความเชอื่ ทางศาสนาของหนว่ ยงานนี้ไดช้ ้ีให้เห็นชัดจาก ผลการดำ� เนนิ งานดา้ นการแจกจา่ ยถงุ ยางอนามยั วา่ ถงุ ยางอนามยั ไมไ่ ดเ้ ปน็ ยทุ ธศาสตรห์ ลกั ในการส่งเสริมดา้ นการปอ้ งกนั การรบั − ถ่ายทอดเช้ือเอชไอวี ของหน่วยงานน้แี ต่อยา่ งใด แม้ว่ากรอบคิดที่เข้มงวดในเรื่องเพศของศาสนาและศีลธรรมจะกลาย เป็นปัจจัยส�ำคัญในการก�ำหนดกรอบการเรียนรู้และจัดการเรื่องเพศในสังคม อยา่ งไรกต็ าม มรี ายงานการดำ� เนนิ งานในกลมุ่ องคก์ รศาสนาในหลายประเทศ ไมว่ า่ จะเปน็ โมรอ็ กโกทจ่ี ดั การเรยี นรฝู้ กึ อบรมใหก้ บั ผนู้ ำ� และครผู สู้ อนศาสนา ใหม้ บี ทบาทในการปอ้ งกันแกไ้ ขปัญหาเอดส์ ในไนจเี รยี และในภาคเหนอื และ ภาคใตข้ องประเทศไทยมกี ารพฒั นาหลกั สตู รทใี่ ชใ้ นการเรยี นรเู้ รอื่ งเพศทรี่ อบ ดา้ นโดยการปรกึ ษาหารอื กบั ผนู้ ำ� ชมุ ชนและผนู้ ำ� ทางศาสนา และในโมแซมบกิ มโี ครงการทใ่ี หน้ กั บวชและแมช่ นี กิ ายคาทอลกิ เขา้ รว่ มสง่ เสรมิ การมเี พศสมั พนั ธ์ ที่ปลอดภัยกว่าให้กับคู่แต่งงาน โดยให้บริการการปรึกษาท่ีมุ่งเน้นเร่ืองการ ถงุ ยางอนามัยกบั การด�ำเนนิ ชีวติ ทางเพศในสงั คมไทย 163
สอื่ สารความสขุ ความพงึ พอใจระหวา่ งคแู่ ตง่ งาน เพอ่ื ใหส้ ามารถพดู คยุ สอื่ สาร กนั อย่างเปิดเผยมากขึน้ ถึงเร่ืองเกีย่ วกับเพศสัมพันธ์ทตี่ นเองชอบและไม่ชอบ 4.4 ความสขุ ความพงึ พอใจและความเชอ่ื สว่ นบคุ คลในเรอ่ื ง ถุงยางอนามยั ผเู้ ขยี นไดพ้ ดู คยุ กบั กลมุ่ นกั เรยี นและนกั ศกึ ษาชายทเี่ รยี นในมหาวทิ ยาลยั ในจังหวัดเชียงใหม่12 โดยเริ่มจากการสัมภาษณ์เด่ียวเจาะลึกเร่ืองราว และ ขอใหพ้ วกเขาชวนเพอ่ื นสนิทมาร่วมพดู คยุ จนไดเ้ ร่ืองราวมาเสนอขา้ งลา่ งน้ี “ลกู ผูช้ ายตัวจรงิ ตอ้ งฟันหญงิ และไมก่ ลัว” วัยรุ่นนักศึกษาชายกลุ่มนี้ ปัจจุบันแยกย้ายกันไปเรียนต่างสถาบัน แต่ยังคงความสัมพันธ์ฉันท์เพ่ือนสนิทอยู่ และยังคงเกาะกลุ่มอยู่ด้วยกันเวลา ทกี่ ลบั ไปในชมุ ชน พวกเขาแตล่ ะคนเคยมเี พศสมั พนั ธก์ บั ผหู้ ญงิ มากกวา่ หนง่ึ คน ในช่วงเร่ิมต้นชีวิตและการเรียนรู้เรื่องเพศของพวกเขาคล้ายกับวัยรุ่น ชายรุ่นพ่ีของพวกเขา ท่ีเริ่มต้นจากการชวนกันดูหนังโป๊ต้ังแต่ช่วงเรียนอยู่ ชน้ั มธั ยมตน้ และเขา้ กลมุ่ พดู คยุ กบั เพอื่ นๆ ผชู้ าย ทเี่ รมิ่ ถา่ ยทอดความคดิ กระตนุ้ และปลุกเร้าความเชื่อเรื่องเพศให้กันและกันว่า เป็นลูกผู้ชายต้องกล้าได ้ กล้าเสียในเร่ืองผู้หญิง หากผู้ชายคนไหนไม่ฟันผู้หญิงก็จะถูกล้อเลียนว่า ไมเ่ ปน็ ผู้ชาย สง่ ผลให้วยั ร่นุ ชายสว่ นมากในกล่มุ น้เี รม่ิ ตน้ ใช้ชีวติ ทางเพศแบบ กล้าไดก้ ลา้ เสยี 12 เป็นการพูดคุยสัมภาษณ์อย่างไม่เป็นทางการ กลุ่มวัยรุ่นชายรวม 4 คน อายุราว 19–20 ปี ท่ีก�ำลังเรียนระดับอุดมศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ 2–3 คร้ัง ในร้านกาแฟ ศาลาข้างห้องประชุม อบต. 164 นวิ ตั ร สุวรรณพฒั นา และกาญจนา แถลงกจิ
“ผู้หญิงมาหาถงึ บ้าน ตอ้ งฟนั ” “ผูช้ ายต้องฟนั หญิงเยอะๆ ผูช้ ายตอ้ งกล้า” แมก้ ารเรมิ่ ตน้ เรยี นรเู้ รอ่ื งเพศของวยั รนุ่ ชายจะเรมิ่ ตน้ คลา้ ยๆ กนั แตก่ ม็ ี ความแตกตา่ งในบางเรือ่ ง เช่น พวกเขาไมไ่ ดส้ นใจกับการซ้ือบรกิ ารทางเพศ แลว้ เพราะสว่ นใหญม่ กั เลอื กมเี พศสมั พนั ธก์ บั แฟน ครู่ กั เพอื่ นในมหาวทิ ยาลยั หรอื ผ้หู ญิงทพี่ บกันตามสถานที่เท่ยี วกลางคืน ซึ่งเป็นชอ่ งทางและโอกาสที่จะ มเี พศสัมพันธ์ไดง้ า่ ยส�ำหรับวยั รุ่น “ถา้ ซ้อื บรกิ ารมนั กค็ งจะเปน็ แบบคนท่ีมีอายแุ ล้ว แกแ่ ลว้ เขาคง ซือ้ กัน อยา่ งผมมนั ก็ยงั หาได้อีกเยอะครับ” ในสงั คมทใ่ี หค้ วามสำ� คญั กบั เพศชายและความเปน็ ผชู้ าย และคาดหวงั ให้ผชู้ ายมีบทบาทหนา้ ทีเ่ ปน็ ผู้นำ� ในสังคม ชมุ ชน และครอบครวั รวมทง้ั เป็น ฝ่ายรุกในเร่ืองเพศ ท�ำให้ผู้ชายมองเร่ืองโอกาสมีเพศสัมพันธ์กับคนหลายคน หรอื เพศสมั พนั ธน์ อกคู่ และเพศสมั พนั ธช์ ว่ั คราวเปน็ เรอื่ งทที่ ำ� ไดง้ า่ ยกวา่ ผหู้ ญงิ ข้ึนอยู่กับความคิดของผู้ชายแต่ละคนว่าจะรู้สึกและให้ความหมายว่าสิ่งนี้เป็น โอกาสของตัวเองมากน้อยแค่ไหน ความรู้สึกท่ีว่านี้ท�ำให้วัยรุ่นชายกลุ่มนี้ ไม่ต้องการยึดติดหรือผูกมัดตนเองไว้เพียงกับผู้หญิงคนใดคนหนึ่ง “เอ” ผู้ท ี่ ใส่กางเกงยีนส์ สวมแจ็คเก็ตตัวโคร่ง พร้อมสร้อยคอเส้นโตและหมวกแก็บ บอกวา่ “ก็อยากได้คนน้ีเป็นคู่ชีวิต แต่ถ้าหากไกลกัน เราก็อาจมอง คนอ่ืนบ้างครับ มันก็น่าจะมีโอกาสไปมีเซ็กส์กับคนอ่ืนนะ แตก่ ไ็ ม่อยากมี ก็ไมร่ ู้นะ อารมณเ์ วลาไปเทยี่ วเมาเหล้าแล้วเจอ อาจจะมีอะไร สว่ นตัวก็อยากอยู่เฉยๆ ไมอ่ ยากไปมีอะไร” สำ� หรบั พวกเขา จงึ ไมใ่ ชเ่ รอื่ งแปลกอะไรทจ่ี ะคดิ และรสู้ กึ ถงึ ความคาดหวงั ที่ต้องเป็นฝ่ายรุก เป็นผู้น�ำที่ช่�ำชองในเร่ืองเพศ โดยเรียนรู้เร่ืองการแสวงหา ความสุขทางเพศตามความพึงพอใจของตนเองเป็นด้านหลัก พวกเขาเรียนรู้ ถุงยางอนามัยกบั การดำ� เนินชวี ิตทางเพศในสังคมไทย 165
ความสขุ ทางเพศจากการสอดใสแ่ ละการหลง่ั ทำ� ใหล้ ะเลยการสอื่ สารเรอื่ งเพศ กบั คู่ พวกเขาแทบไมเ่ คยถามคเู่ ลยวา่ ตอ้ งการมเี พศสมั พนั ธห์ รอื ไม่ และทา่ ทาง การมีเพศสมั พนั ธ์ที่ร้สู ึกดี ชอบ และต้องการของคเู่ ป็นอย่างไร รวมถงึ ไม่เคย ถามถงึ ความร้สู กึ กังวลใจของผูห้ ญิงที่มีตอ่ การมีเพศสมั พนั ธ์ในแตล่ ะครั้ง “หนา้ 7 หลัง 7 เปน็ อยา่ งไร ไม่เคยรูม้ ากอ่ น” ถุงยางอนามัยอยู่ตรงไหนในวิถีคนกล้าและการฟันหญิง ของพวกเขา “ถ้าพกถุงยางฯ แล้ว จะไม่ไดส้ าว ผมเลยไมพ่ ก” เสน้ ทางชวี ติ ของพวกเขาทม่ี โี อกาสพบปะผหู้ ญงิ มากมาย ทำ� ใหพ้ วกเขา มที ศั นคตติ อ่ ผหู้ ญงิ ทพี่ บเจอในแตล่ ะครง้ั วา่ เปน็ หญงิ ทมี่ ปี ระสบการณท์ างเพศ กับคนหลายคน เป็นผู้หญิงที่ไม่มีคุณคา่ ดงั นน้ั การคิดเร่อื งความรบั ผิดชอบ การปอ้ งกนั โรคและการตง้ั ครรภ์ จงึ ไมใ่ ชป่ ระเดน็ ทพี่ วกเขาใสใ่ จใหค้ วามสำ� คญั และมองว่าเป็นปญั หาของผหู้ ญงิ มากกว่า “ก็พวก (ผู้หญิง) ที่เอามาแต่ละคนนี่ มันสุดยอดกันท้ังน้ัน ใส่ (ถุงยางฯ) ก็ได้ ไมใ่ ส่กไ็ ด”้ ขณะท่ีบางคนกล้าได้กล้าเสีย และกล้าเสี่ยง แต่บางคนก็คิดแตกต่าง ออกไป “กบั ผหู้ ญงิ คนอน่ื ผมกใ็ ชถ้ ุงยางฯ กับเขา เพราะไมไ่ ว้ใจ” “มนั แทบไมไ่ ดต้ ดั สนิ ใจเลย เพราะคดิ อยแู่ ลว้ วา่ ตอ้ งใช้ ผมไมก่ ลา้ เลยทีจ่ ะไม่ใชน้ ะครบั ถ้านอนกับคนอน่ื นะ” แต่กรอบคิดเรื่องความเป็นชายท่ีผูกโยงภาพการเป็นฝ่ายรุก กล้าได้ กล้าเสีย ก็ทำ� ใหบ้ างคนหวั่นไหวเมอ่ื ถกู ท้าทาย 166 นิวัตร สวุ รรณพัฒนา และกาญจนา แถลงกิจ
“กลัวผู้หญิงว่าเราปอด เราจะใช้ถุงยางฯ เขาก็ถามว่าเรากลัว เหรอ...แต่เขางา่ ย เรากก็ ลัวโรค” และความคิดท่ีว่าเมื่อเอาแล้วต้องมันส์ ต้องถึงจุดสุดยอดด้วยการหล่ัง ก็กลายมาเป็นเหตุผลท่ีท�ำให้พวกเขาตัดสินใจใช้/หรือไม่ใช้ถุงยางอนามัย และให้ความหมายถงุ ยางอนามัยเปน็ เคร่อื งมือลดทอนความสขุ “ใส่ได้ไมน่ านก็ถอด ต่างคนต่างบอกไม่สนกุ หลงั จากน้ันไมใ่ ช้ อกี เลย” “มันไม่เสร็จสักที เลยดึงออก ถ้ากินเหล้าจะแตกยาก บางที สองชว่ั โมงก็มคี รบั ” ถุงยางอนามัยจึงไม่ได้อยู่ในวิถีลูกผู้ชายตัวจริงแบบพวกเขา ส�ำหรับ พวกเขาถงุ ยางฯ ถกู ใหค้ วามหมายวา่ เปน็ เครอ่ื งขดั ลาภ ทำ� ใหไ้ มไ่ ดฟ้ นั หญงิ และสัญลกั ษณข์ องความกลวั ซง่ึ ขัดตอ่ วถิ ีความกลา้ ในการล่าหญิง เปน็ ส่ิงท่ี ลดทอนความสุขทางเพศ และยังเป็นหลักฐานให้ผู้ใหญ่จับจ้องมองพวกเขา อีกด้วย ดว้ ยความทเี่ ปน็ เยาวชนทถ่ี กู สงั คมทวั่ ๆ ไปคาดหวงั วา่ ไมค่ วรมเี พศสมั พนั ธ ์ ก่อนวัยอนั ควร ทำ� ใหก้ ารพกพา การไปซอ้ื หรอื การเข้าไปขอถุงยางอนามยั ในชุมชน จะท�ำให้พวกเขารู้สึกถูกจับจ้องมองจากผู้ใหญ่ในชุมชนมากขึ้น กลายเป็นเง่ือนไขอีกข้อหนึ่งที่ท�ำให้พวกเขาไม่ค่อยพกหรือและเข้าไม่ถึง ถงุ ยางอนามยั พวกเขาบอกวา่ เรอื่ งนไ้ี มค่ อ่ ยเปน็ ปญั หาสำ� หรบั คนทไ่ี มต่ อ้ งการ ใช้หรือไม่ค่อยได้ใช้อยู่แล้ว แต่กลายเป็นปัญหาส�ำหรับคนท่ีต้องการใช้แล้ว ไมค่ ่อยมีให้ใช้ “มนั ไมม่ คี รับ มันใชห้ มด มาขอบ่อยๆ เขากจ็ ะแซว” “ไปซอ้ื เซเวน่ กก็ ลวั คนรจู้ กั ไปอนามยั กไ็ มไ่ ด้ กลวั ผใู้ หญจ่ ะรู้ ตอ้ ง ไปเอาทศี่ นู ยใ์ นเมอื ง หรือไม่กบ็ ้านพท่ี ่ีเข้าใจกัน” ถุงยางอนามัยกบั การดำ� เนินชีวิตทางเพศในสังคมไทย 167
แมว้ า่ ความเปน็ ชายจะทำ� ใหว้ ยั รนุ่ กลมุ่ นรี้ สู้ กึ มเี สรใี นการเรยี นรเู้ รอื่ งเพศ ได้โดยไม่ถูกประณามจากสังคมมากมายเท่าวัยรุ่นหญิง แต่พวกเขาก็ยังคง ยึดติดอยู่กับการให้คุณค่าและความหมายเรื่องพรรมจรรย์ของผู้หญิง และ คา่ นยิ มการรกั นวลสงวนตัวโดยบอกวา่ “รูส้ กึ ดที ่เี ป็นคนแรกของผู้หญิง” พวกเขาแยกแยะคุณค่าความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างผู้หญิงท่ัวไปกับ ผู้หญิงท่ีคบเป็นแฟนจริงจังแตกต่างกัน ในกรณีผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์เป็น แฟนกัน ยงั มีความยับย้งั ชง่ั ใจทจ่ี ะมเี พศสมั พนั ธอ์ ยูบ่ า้ ง “ผมชอบผหู้ ญงิ เรยี บรอ้ ย ไม่เทีย่ วกลางคนื นสิ ัยด”ี “เหมอื นการใหเ้ กยี รตเิ ขามากกวา่ กลวั ปญั หาตามมาหลายอยา่ ง เพราะว่าเราสนิทกับพอ่ แมข่ องเขาดว้ ย รูก้ นั ทกุ อย่างครับ” “ผมเพงิ่ คบกับเขาไม่นาน ยังไม่คดิ มอี ะไรกัน” แม้จะเริ่มต้นด้วยความคิดเร่ืองการให้เกียรติกัน ยับย้ังชั่งใจไม่ม ี ความสัมพันธ์กันเกินขอบเขต แต่ด้วยความใกล้ชิดและความรู้สึกต้องการ ตามวัยท่ีก�ำลังเจริญเติบโต และแรงกระตุ้นจากเพ่ือนๆ ก็ท�ำให้หลายคน ขา้ มเสน้ ความสมั พนั ธท์ ตี่ นเองเคยขดี ไวว้ า่ คนนจ้ี ะเปน็ แฟนทจี่ ะรกั กนั ไปนานๆ กระโจนเขา้ สกู่ ารมคี วามสมั พนั ธแ์ บบสมั ผสั กนั ลกึ ซง้ึ แทน และสว่ นใหญไ่ มค่ อ่ ย ใช้ถุงยางอนามัย มักเลือกวิธีการหล่ังข้างนอกแทน เนื่องจากมองว่าโอกาส เสี่ยงจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีน้อยกว่า แต่ก็ส่งผลกระทบกับผู้หญิง ทตี่ อ้ งเสยี่ งต่อการต้งั ครรภท์ ีไ่ ม่พรอ้ ม งานวจิ ยั จำ� นวนหนงึ่ ชใ้ี หเ้ หน็ วา่ มกี ารใชถ้ งุ ยางอนามยั ตำ�่ มากในคทู่ มี่ ี ความสัมพันธ์ฉันท์คู่รักและคู่แต่งงานที่เช่ือกันว่าต้องไว้วางใจคู่ของตนเอง และมกี ารใชถ้ งุ ยางอนามยั ตำ�่ มากในกลมุ่ วยั รนุ่ ทคี่ ดิ และรสู้ กึ วา่ “ตนเองไมเ่ สยี่ ง ตอ่ เอชไอว”ี (Chaya, Amen & Fox, 2002) 168 นิวตั ร สวุ รรณพฒั นา และกาญจนา แถลงกิจ
นอกจากน้ี ยงั พบว่าในกลมุ่ ผหู้ ญงิ และผูช้ ายทัว่ ไปทีไ่ มเ่ คยรบั รู/้ สนใจ การสง่ เสรมิ การใช้ถงุ ยางอนามัย เพราะคดิ วา่ ไมใ่ ชเ่ ร่ืองของตนเอง ก็มอี ตั รา การใชถ้ งุ ยางอนามยั ตำ�่ มากเชน่ กนั รวมทง้ั มขี อ้ มลู ทแ่ี สดงวา่ ผชู้ ายมแี นวโนม้ จะใชถ้ งุ ยางอนามยั กบั คนู่ อนชว่ั คราวหรอื คทู่ ซี่ อ้ื บรกิ ารทางเพศ มากกวา่ จะใช้ กบั คทู่ มี่ คี วามสมั พนั ธด์ ว้ ยในระยะยาว (Global Campaign for Microbicides, 2006) ในวัฒนธรรมทีเ่ ชอื่ วา่ “ผชู้ ายที่แทจ้ ริง” คือผู้ที่มเี พศสมั พันธก์ ับผหู้ ญงิ หลายๆ คน (ฟันผู้หญิงได้หลายคน) ก็จะมองว่า เร่ืองเพศและการแสวงหา ความสขุ ความพงึ พอใจทางเพศเปน็ สทิ ธขิ องตนเอง และผชู้ ายทว่ั โลกมกั คดิ วา่ ถุงยางอนามัยน้ันลดทอนความรู้สึกและสัมผัสของความสุขทางเพศลงไป รวมท้ังส่งผลต่อการร่วมเพศด้วย โดยเปรียบเทียบการใส่ถุงยางอนามัยว่า “เหมือนกับการอาบน�้ำโดยใส่รองเท้าบู๊ต” หรือ “การดมกลิ่นกุหลาบโดยใส่ หน้ากากปอ้ งกนั กา๊ ซพษิ ไว”้ (International HIV/AIDS Alliance, 2006) หรือ เหมอื นกบั การอาบนำ�้ โดยใสเ่ สอื้ กนั ฝน ฯลฯ ปจั จยั เหลา่ นก้ี ลายเปน็ แรงกดดนั ทางสังคมต่อผู้ชายว่าต้องหาความสุขทางเพศเพื่อพิสูจน์ความเป็นชายของ ตนเอง และมกั จะไมใ่ ช้ถงุ ยางอนามยั อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ฉันท์คู่รักของวัยรุ่นทุกคนไม่ได้เป็นแบบ ข้างต้นเสียทั้งหมด หลายคู่ให้ความส�ำคัญกับการใช้ถุงยางอนามัยเป็น สว่ นหนง่ึ ของเพศสมั พนั ธก์ บั ครู่ กั ดว้ ยเหตผุ ลเรอื่ งความรบั ผดิ ชอบรว่ มกนั และ ความสบายใจทงั้ สองฝ่าย “มีวธิ ีการบอกเขา นานๆ ไปกเ็ ร่มิ ชนิ แต่นี่ 2 ปเี ขาไปเรียน ก็คือ ไมไ่ ดม้ อี ะไรกนั บอ่ ย กลบั มาเจอกก็ ลายเปน็ เรอ่ื งตลกมากกวา่ ครบั เฮย้ ..วันนี้อันไหนดี คุยเล่นกนั ได้ มีเซก็ ส์แลว้ รักกนั มากขึน้ ครับ” “ความรสู้ กึ ตา่ งกนั ครบั แตม่ นั ระแวงวา่ จะเสรจ็ เมอื่ ไหรว่ ะ ไมส่ นกุ ก็เลยมถี งุ ยางฯ ไว้ทบ่ี ้านตลอด” ถุงยางอนามัยกบั การด�ำเนนิ ชวี ติ ทางเพศในสงั คมไทย 169
“มันสะดวกกวา่ การคุมก�ำเนิดต้องกนิ ทุกวนั ใชม่ ะ อันนี้แบบวา่ มแี ลว้ คอ่ ยใช้ กค็ อื เราใชเ้ ราคมุ เฉพาะวนั ทเี่ ราทำ� ไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ ง น่ังรอ น่ังกินทุกวันๆ เราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ได้มีอะไรกัน ทุกวนั ” “ใช้มาแล้วมันชิน ใช้มานาน จนมันรู้สึกตรงกันข้ามด้วยซ�้ำ บางครัง้ ถ้าไมไ่ ดใ้ ช้แลว้ รสู้ ึกไมค่ อ่ ยมัน่ ใจ” “ถ้าเกิดว่าเราหล่ังข้างนอกแล้ว มันกะจังหวะท่ีเราต้อง เอาออกมาขา้ งนอกไมถ่ กู ถา้ ใสถ่ งุ ยางฯ แลว้ มนั ตอ่ เบด็ เสรจ็ เลย ขา้ งในเลย” 4.5 กฎหมายและนโยบายเรอ่ื งเพศกับการใช้ถุงยางอนามัย วัฒนธรรม ศาสนา และความเชื่อส่วนบุคคลในเรื่องถุงยางอนามัย แยกไม่ออกจากนโยบายระดับประเทศ เนือ่ งจากนโยบายต่างๆ มักจะสะท้อน และสง่ อทิ ธพิ ลตอ่ บรรทดั ฐานทางสงั คมและประเพณที งั้ ในเรอื่ งเพศและในเรอ่ื ง ถุงยางอนามัย จึงจ�ำเป็นที่จะต้องมองสองส่วนนี้อย่างเชื่อมโยงกัน และ ตรวจสอบดวู า่ มกี ฎหมายและนโยบายลกั ษณะใดบา้ งทค่ี วบคมุ จำ� กดั การเรยี น รู้เรื่องเพศ และการด�ำเนินชีวิตทางเพศ และมีกฎหมายและนโยบายลักษณะ ใดบ้างท่ียกเลิกหรือก�ำหนดข้อห้ามในการแจกจ่ายถุงยางอนามัย หรือม ี การเลือกปฏิบัติกับกลุ่มคนท่ีอยู่ในภาวะเปราะบางต่อการรับ − ถ่ายทอดเช้ือ เอชไอวี และมกี ารกำ� หนดใหพ้ ฤตกิ รรมตา่ งๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การใชถ้ งุ ยางอนามยั กลายเปน็ อาชญากรรมหรอื ผดิ กฎหมาย กรอบแนวคิดเรื่องความไม่เป็นธรรมทางเพศ และการจัดล�ำดับคุณค่า เรอื่ งเพศ ทป่ี รากฏอยภู่ ายใตส้ ถาบนั ตา่ งๆ ในสงั คมและในกำ� กบั ของรฐั สง่ ผล ใหเ้ กดิ การตดั สนิ คณุ คา่ เรอ่ื งเพศวา่ สงู /ตำ่� ถกู /ผดิ ด/ี ไมด่ ี ปกต/ิ ไมป่ กติ ทำ� ให้ 170 นวิ ตั ร สุวรรณพัฒนา และกาญจนา แถลงกจิ
กลุม่ คนบางกลุ่ม เพศสมั พนั ธ์บางรูปแบบ และวถิ ีเพศบางวิถี ถูกควบคมุ และ ก�ำหนดว่าเป็นอันตราย มีความเสี่ยง ท่ีมักจะมาพร้อมวิธีการในการก�ำกับ ควบคุมหลายวิธี รวมทงั้ การเสนอใหใ้ ช้ถงุ ยางอนามยั เป็นอุปกรณห์ รอื เครอ่ื ง มอื ปอ้ งกนั สำ� หรบั เพศสมั พนั ธท์ อี่ นั ตรายและเสย่ี ง เพศสมั พนั ธท์ อี่ ยนู่ อกรปู แบบ และผิดปกติ อันส่งผลให้ภาพลักษณ์และการรับรู้เร่ืองถุงยางอนามัยมักถูก ประทบั ตราและผลติ ซำ�้ อยใู่ นวงั วนของความเสย่ี ง ความไมไ่ วว้ างใจ และอนั ตราย อย่อู ยา่ งต่อเนือ่ งเสมอมา อยา่ งไรกต็ าม ไมไ่ ดห้ มายความวา่ การจดั ใหม้ หี รอื แจกจา่ ยถงุ ยางอนามยั เพื่อใช้ในเพศสัมพันธ์หรือเพศวิถีในรูปแบบดังกล่าวเป็นไปได้อย่างราบรื่น เพราะภาครัฐหลายแห่งได้ก�ำหนดนโยบายที่เข้มงวดกับการควบคุมรูปแบบ เพศสัมพันธ์ หรือเพศวิถีต่างๆ ไว้ในเชิงลงโทษมากกว่าการป้องกันให้ม ี ความปลอดภยั ดว้ ยการกำ� หนดตคี วามวา่ เพศวถิ หี รอื รปู แบบเพศสมั พนั ธน์ นั้ ๆ ผดิ ต่อหลักกฎหมายและศลี ธรรม ทำ� ให้คนหลายๆ กลมุ่ เขา้ ไมถ่ ึงและไมไ่ ดร้ ับ ถุงยางอนามยั รายงานของ ICASO ระบุว่า รัฐบาลบางประเทศกำ� หนดนโยบายหา้ ม จดั ใหม้ ถี งุ ยางอนามยั อยา่ งเปน็ ทางการ เชน่ ในฟลิ ปิ ปนิ ส์ รฐั บาลปฏเิ สธทจี่ ะ ใชเ้ งนิ งบประมาณเพอ่ื สนบั สนนุ ถงุ ยางอนามยั ใหก้ บั หนว่ ยงานสาธารณะ หา้ ม ไม่ให้คลินิกสาธารณสุขมีถุงยางอนามัย และต�ำรวจก็มักจะออกมาขัดขวาง การสง่ เสรมิ การใชถ้ งุ ยางอนามยั (Human Rights Watch, 2004b) ในประเทศ โมรอ็ กโก เจา้ หนา้ ทแ่ี ละแกนนำ� ทที่ ำ� งานใหก้ บั โครงการภายใตก้ ารสนบั สนนุ ของกระทรวงสุขภาพ ถูกจับกุมจากการส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัย และ บางคนถูกจับกุมในข้อหายุยงส่งเสริมให้กลุ่มประชากรท่ีมีความเปราะบาง ออกมาเรยี กรอ้ งแสดงความตอ้ งการในทส่ี าธารณะ (Drezin, Torres & Daly, 2007) ถงุ ยางอนามัยกับการด�ำเนนิ ชีวติ ทางเพศในสังคมไทย 171
ในประเทศเนปาลมีการจับกุมชายท่ีมีเพศสัมพันธ์กับชายและแรงงาน บรกิ ารทางเพศทพ่ี กถงุ ยางอนามยั เชน่ เดยี วกบั ประเทศไทยทมี่ กี ารจบั กมุ หญงิ บริการทางเพศ และกะเทยหรือสาวประเภทสองทีพ่ กถงุ ยางอนามัย ในขอ้ หา ชักชวนให้มีการค้าประเวณี จนกระทั่งองค์กรที่ท�ำงานกับหญิงบริการต้อง ออกมารณรงค์ด้วยการพิมพ์ข้อความลงบนกล่องใส่ถุงยางอนามัยที่แจกจ่าย จากเงินสนับสนุนโครงการด้านการป้องกันการรับ − ถ่ายทอดเช้ือเอชไอวีว่า “หา้ มใชป้ ระกอบเป็นหลกั ฐานการจบั กุม” (Drezin, Torres & Daly, 2007) กระทรวงสุขภาพในประเทศโมร็อกโก ได้พัฒนาข้อความการป้องกัน เฉพาะในกลุ่มเยาวชนและผู้หญิง โดยไม่ได้ด�ำเนินการใดๆ ส�ำหรับกลุ่มชาย ที่มีเพศสัมพันธ์กับชายและแรงงานบริการทางเพศเลย ประเทศแคนาดา ทไ่ี ดช้ อื่ วา่ มหี ลกั ประกนั ดา้ นสขุ ภาพและคณุ ภาพชวี ติ ในมาตรฐานทส่ี งู รวมทง้ั มีความตระหนกั ในเร่อื งสิทธมิ นุษยชน กย็ งั พบวา่ มปี ระชากรบางกลมุ่ ทอ่ี ยูใ่ น ภาวะเปราะบาง เชน่ เยาวชน ชนเผา่ พน้ื เมอื ง ผอู้ พยพ และผหู้ ญงิ ทถ่ี กู ลอ่ ลวง มาค้ามนุษย์ รวมท้ังชุมชนบางประเภท เช่น ชุมชนในชนบทเล็กๆ ท่ียังคงมี ข้อจ�ำกัดในการเข้าถึงถุงยางอนามัยชายและถุงอนามัยผู้หญิง ในประเทศ โรมาเนียก็พบว่า เยาวชนท้ังในเมืองและชนบท และกลุ่มแก๊งวัยรุ่นที่ไม่เรียน ในโรงเรยี นถกู กนั ออกไปจากกจิ กรรมการสง่ เสรมิ การใชถ้ งุ ยางอนามยั นอกจากน ้ี มีรายงานว่าในประเทศจาไมก้า เจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพไม่สามารถเสนอทาง เลือกในการป้องกันให้กับเยาวชนได้โดยไม่ได้รับการยินยอมจากผู้ปกครอง (Drezin, Torres & Daly, 2007; ARAS, 2005; AIDS Calgary Awareness Association, 2005) กลมุ่ ผตู้ อ้ งขงั เปน็ อกี กลมุ่ ทเี่ ขา้ ไมถ่ งึ ถงุ ยางอนามยั โดยมรี ายงานทงั้ จาก ประเทศฮอนดรู สั โรมาเนยี วา่ ไมม่ ถี งุ ยางอนามยั แจกจา่ ยในเรอื นจำ� เชน่ เดยี ว กับเรือนจ�ำประจ�ำจังหวัดบางจังหวัดในประเทศแคนาดาท่ีไม่มีถุงยางฯ และ สารหลอ่ ลนื่ แจกจา่ ย และในประเทศโมรอ็ กโก ผตู้ อ้ งขงั จะไดร้ บั ถงุ ยางอนามยั 172 นิวตั ร สุวรรณพัฒนา และกาญจนา แถลงกิจ
จากญาตทิ ไ่ี ปเยย่ี มเทา่ นน้ั โดยแอบซอ่ นไวใ้ นตะกรา้ อาหารทน่ี ำ� ไปเยยี่ ม (AIDS Calgary Awareness Association, 2005; Drezin, Torres & Daly, 2007) UNAIDS (2009) เองก็ไดอ้ อกมาเรยี กรอ้ งว่า ถงุ ยางฯ ควรมอี ยทู่ ว่ั ไป ไม่ ว่าจะเพื่อแจกจ่ายฟรีหรือขายในราคาต�่ำ และได้รับการส่งเสริมการใช้ในวิธี การที่จะช่วยเอาชนะอุปสรรคทางสังคมและอุปสรรคส่วนบุคคลท่ีขวางกัน การใช้ถงุ ยางฯ การใชถ้ ุงยางฯ เกิดขึ้นจากการท่คี นสามารถเขา้ ถึงได้ฟรหี รือ ซอื้ มาในราคาทซ่ี อื้ หาได้ ควรมกี ารสง่ เสรมิ การใชถ้ งุ ยางฯ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ทัง้ ในกลมุ่ ประชากรทวั่ ไปและกลมุ่ คนท่อี ย่ใู นภาวะเสี่ยงตอ่ การรบั − ถ่ายทอด เชื้อเอชไอวี โดยเฉพาะผูห้ ญิง วยั รุน่ แรงงานบรกิ ารทางเพศและลูกคา้ ผใู้ ช ้ ยาเสพตดิ ดว้ ยวิธีการฉดี และชายที่มเี พศสัมพันธ์กบั ชาย UNFPA คาดประมาณว่า การสนับสนุนถุงยางอนามัยในประเทศที่ม ี รายไดต้ ำ่� ถงึ ปานกลางยงั คงไมเ่ พยี งพอ (UNFPA, 2007) นอกจากน้ี แลว้ เงนิ ทนุ จากต่างประเทศส�ำหรับการจัดซ้ือจัดหาถุงยางอนามัยก็ไม่ได้เพิ่มข้ึนเลย ในรอบหลายปที ่ผี ่านมา UNAIDS (2009) จงึ เรยี กร้องให้มีความร่วมมือกันใน ทกุ ระดบั เพอื่ สนับสนุนใหป้ ระเทศตา่ งๆ โดยเฉพาะประเทศทย่ี ังคงพง่ึ พาเงิน ช่วยเหลือจากต่างประเทศ ให้มีการจัดซื้อจัดหา มีการส่งเสริม และแจกจ่าย ถงุ ยางอนามยั ในขณะทบี่ างประเทศกย็ งั มกี ารกฎหมายหรอื นโยบายทเี่ ปดิ ชอ่ ง ให้มีการจบั กุมผู้พกพาและแจกจ่ายถงุ ยางอนามัย ในปี พ.ศ. 2544 รฐั บาลหลายประเทศไดร้ ว่ มลงนามสญั ญาตามปฏญิ ญา สากลวา่ ดว้ ยเรอื่ งเอชไอวขี องสหประชาชาติ (UNGASS 2001) เพอื่ ขจดั การเลอื ก ปฏิบัติทุกรูปแบบต่อผู้ที่อยู่ร่วมกับเอชไอวีและสมาชิกของกลุ่มที่อยู่ในภาวะ ความเปราะบางมากทส่ี ดุ ตามมาดว้ ยการจดั ทำ� ขอ้ ตกลง แนวทางแกไ้ ขปญั หา ค�ำประกาศ และระบบทางกฎหมายในระดับประเทศจ�ำนวนหน่ึง เพ่ือใช้ใน การปกป้องคุ้มครอง ในทางทฤษฎีแล้วย่อมท�ำให้เกิดสิทธิข้ันพ้ืนฐานท่ีจะมี ความปลอดภัยจากการถกู เลอื กปฏิบัติ ถุงยางอนามัยกบั การด�ำเนนิ ชวี ิตทางเพศในสังคมไทย 173
อยา่ งไรกต็ าม กลบั ปรากฏชอ่ งวา่ งขนาดใหญร่ ะหวา่ งสญั ญาทลี่ งนาม บนกระดาษในเร่ืองนโยบายต่อต้านการเลือกปฏิบัติ กับกฎหมายและส่ิงท ่ี เกดิ ขนึ้ ในความเปน็ จรงิ เนอื่ งจากพบวา่ มขี อ้ มลู จำ� นวนมากทกี่ ลา่ วถงึ การเลอื ก ปฏบิ ัติในการให้บรกิ าร โดยเฉพาะกบั กลุ่มที่ถกู ทำ� ใหอ้ ย่ชู ายขอบมากท่ีสุดคือ กลมุ่ แรงงานบรกิ ารทางเพศ กลมุ่ ชายทม่ี เี พศสมั พนั ธก์ บั ชาย และผใู้ ชย้ าเสพตดิ ด้วยวิธีการฉีด ซ่ึงเป็นกลุ่มที่อยู่ในภาวะเปราะบางต่อการรับ − ถ่ายทอด เชื้อเอชไอวีมากท่ีสุดด้วย เช่นเดียวกับท่ีเกิดข้ึนกับผู้ท่ีอยู่ร่วมกับเช้ือเอชไอว ี การขาดการปกปอ้ งคมุ้ ครองไมใ่ หเ้ กดิ การเลอื กปฏบิ ตั กิ บั คนทำ� งานดา้ นสขุ ภาพ และการป้องกันเอชไอวี เป็นอุปสรรคส�ำคัญที่ใหญ่ท่ีสุดประการหนึ่งส�ำหรับ การจัดให้มีและเอื้อให้เข้าถึงบริการและอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งถุงยางอนามัย ใหแ้ กป่ ระชากรกลมุ่ ต่างๆ เหล่านี้ สว่ นทท่ี ำ� ใหส้ ถานการณย์ ำ�่ แยล่ งไปคอื ขอ้ เทจ็ จรงิ ทวี่ า่ บรรทดั ฐานทาง สังคมและศีลธรรมได้ท�ำให้พฤติกรรมบางเร่ืองและอาชีพบางอาชีพกลายเป็น เรอื่ งผดิ กฎหมาย เชน่ การใชย้ าเสพตดิ งานบรกิ ารทางเพศ และความสมั พนั ธ์ กับเพศเดียวกันโดยเฉพาะในส่วนของผู้ชาย ซึ่งส่งผลต่อการปฏิบัติท่ีขัดกัน ในหลายประเทศ โดยขณะทกี่ ระทรวงสขุ ภาพและสวสั ดกิ ารสงั คมและโครงการ ตา่ งๆ ดำ� เนนิ งานกบั กลมุ่ ทม่ี คี วามเปราะบางและถกู ทำ� ใหอ้ ยชู่ ายขอบ กระทรวง และหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐบาล อาทิ กระทรวงยุติธรรมและกิจการภายใน กระทรวงมหาดไทย และหนว่ ยงานดา้ นความมนั่ คง กลบั สง่ เสรมิ การใชก้ ฎหมาย เพื่อเอาผดิ กับการมพี ฤติกรรมดงั กล่าว ในประเทศทก่ี ำ� หนดใหง้ านบรกิ ารทางเพศเปน็ เรอื่ งผดิ กฎหมาย แรงงาน บรกิ ารทางเพศจะพบกบั ความยากลำ� บากในการเขา้ ถงึ บรกิ ารสขุ ภาพ การไดร้ บั ถงุ ยางอนามยั ในปรมิ าณทเ่ี พยี งพอจากคลนิ กิ สขุ ภาพ และการทแี่ รงงานบรกิ าร ทางเพศตามถนนมเี วลาจำ� กดั มากในการตอ่ รองการใชถ้ งุ ยางอนามยั กบั ลกู คา้ 174 นิวัตร สวุ รรณพัฒนา และกาญจนา แถลงกิจ
กอ่ นท่จี ะนั่งรถไปกับลูกค้าเพราะกลวั ว่าจะถกู จบั กุม (Old Law a Curse on South Africa’s Sex workers, 3 March 2006) และในหลายๆ ประเทศ ผหู้ ญงิ ทถี่ กู จบั กมุ กอ็ าจถกู กระทำ� ความรนุ แรงและขม่ ขนื ดว้ ย ดงั นนั้ ในเงอื่ นไข แวดล้อมเช่นน้ี การดำ� เนนิ โครงการดา้ นการปอ้ งกนั และส่งเสรมิ การใชถ้ ุงยาง อนามัยไม่ควรให้เจ้าหน้าที่ต�ำรวจหรือทหารมีอ�ำนาจในการควบคุมเหนือ แรงงานบริการทางเพศหรือกลุ่มที่อยู่ในภาวะเปราะบางต่างๆ ดังข้อวิพากษ์ วิจารณ์ต่อโครงการถุงยางอนามัย 100% ในเร่ืองความรุนแรงและการละเมิด สิทธมิ นษุ ยชน (Drezin, Torres & Daly, 2007) ท้ายสุด ผู้เขียนสรุปได้ว่า บรรทัดฐานทางสังคม − วัฒนธรรมในเร่ือง เพศกับการใช้ถุงยางอนามัย ความสัมพันธ์เชิงอ�ำนาจในเร่ืองเพศกับการใช ้ ถุงยางอนามัย ศาสนาและวัฒนธรรมความเช่ือในเร่ืองเพศกับการใช้ถุงยาง อนามัย ความสุขความพึงพอใจและความเช่ือส่วนบุคคล และกฎหมายและ นโยบายเร่ืองเพศกับการใช้ถุงยางอนามัย ล้วนมีผลสัมพันธ์ต่อวิธีคิดและ การมองเร่ืองเพศและการใชถ้ ุงยางอนามัย กรอบคิดเรื่องเพศกระแสหลักในระบบคิดแบบรักต่างเพศระหว่าง ชาย − หญงิ (heterosexual) ที่สรา้ งขึ้นมาจากการอ้างอิงความแตกตา่ งทาง เพศสรีระ/กายภาพ (sex) วา่ มี 2 เพศสรรี ะคอื ชายกับหญงิ น�ำไปสู่การสรา้ ง บทบาทหน้าท่ีเรื่องเพศทางสังคม − วัฒนธรรม ในการก�ำหนดตัวตนและ ความเปน็ เพศหรอื เพศภาวะ (gender) เพยี ง 2 เพศภาวะคือ ความเปน็ ชาย และความเปน็ หญงิ และสดุ ทา้ ยนำ� ไปสกู่ ารยอมรบั เพยี งเพศวถิ เี ดยี ว (sexuality) ระหว่างชายกับหญิง ภายใต้สถาบันการแต่งงานและครอบครัว และใช้เป็น บรรทดั ฐานทางสงั คมและวฒั นธรรมเรอื่ งเพศ วา่ เปน็ สงิ่ ทป่ี กตถิ กู ตอ้ งในสงั คมน ้ี เป็นระบบคิดและความเชื่อเร่ืองเพศกระแสหลักท่ีได้รับการสร้างและผลิตซ้�ำ มาอย่างตอ่ เนอ่ื ง ถุงยางอนามัยกบั การดำ� เนนิ ชวี ิตทางเพศในสังคมไทย 175
ระบบคดิ และความเชอื่ เรอื่ งเพศกระแสหลกั ทอี่ ยภู่ ายใตก้ ารกา� กบั ควบคมุ ให้ค่าของศาสนาและวัฒนธรรม และการให้คุณให้โทษทางกฎหมายและ นโยบายน้ีส่งผลอย่างย่ิงต่อระบบคิดความเช่ือเร่ืองเพศและการจัดการ ความสัมพันธ์เชิงอ�านาจทางเพศของคน ที่รวมไปถึงการท�าให้คนสามารถ เข้าถึงและได้รับบรกิ ารทเี่ กี่ยวขอ้ งกับเรื่องสขุ ภาพทางเพศ และการเข้าถึงและ ได้ใชถ้ ุงยางอนามัยในชีวิตทางเพศของตนเอง การใชอ้ งคค์ วามรทู้ างการแพทย ์ เชน่ การแพทยท์ างชวี ภาพ และเครอื่ งมอื ทางการแพทย์ เช่น เคร่ืองมือทางระบาดวิทยา มาอธิบายความหมายของ โรคระบาดและความเจบ็ ปว่ ยทมี่ าพรอ้ มกบั เรอื่ งเพศ โดยนา� มาใชเ้ ปน็ เครอ่ื งมอื ในการก�ากับควบคุมโรค ได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตซ�้าการกีดกัน แบ่งแยก ตีตราเพศภาวะและเพศวิถีอ่ืนๆ ท่ีไม่รวมอยู่ในระบบคิดความเชื่อเร่ืองเพศ แบบกระแสหลัก การด�าเนินมาตรการตา่ งๆ ในการสง่ เสริมการใช้ถงุ ยางอนามยั ในกลมุ่ ประชากรต่างๆ ที่ถูกระบุว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง เป็นกลุ่มท่ีไม่อยู่ในระบบคิดความ เชื่อเร่ืองเพศกระแสหลัก แม้จะส่งผลให้เกิดการใช้ถุงยางอนามัยได้อยู่บ้าง แต่เปน็ เพยี งระยะสน้ั ๆ ในช่วงการรณรงคเ์ ทา่ นั้น แตผ่ ลกระทบระยะยาวกวา่ คอื การทถี่ งุ ยางอนามยั ไมถ่ กู ผนวกรวมเขา้ ไปในเพศวถิ อี น่ื ๆ และการดา� เนนิ ชวี ิตทางเพศในสงั คมไทย ตราบใดทีย่ ังไม่ไดม้ ีการทบทวน ร้อื สร้างระบบ คดิ ความเชอ่ื เรอื่ งเพศ โดยการนา� เอาเรอ่ื งเพศวถิ ี การจดั การความสมั พนั ธ์ อา� นาจตอ่ รองเรอ่ื งเพศ ความสขุ ความพงึ พอใจเรอื่ งเพศ ขนึ้ มาพดู คยุ กนั อยา่ ง เสมอภาค 176 นวิ ัตร สุวรรณพฒั นา และกาญจนา แถลงกจิ
ความสขุ และความปลอดภยั 5กับถงุ ยางในสังคมไทย เน้ือหาในบทน้ีเป็นส่วนหน่ึงของงานในช่วงขยายเวลาของงานวิจัยชิ้นนี้ ส่วนแรกเป็นการน�าเอาแนวคิดและปฏิบัติการสื่อสารเรื่องเพศเชิงบวกและ ความสุขความพึงพอใจทางเพศมาปรับใช้เพิ่มเติมในการส่งเสริมเพศสัมพันธ์ ทป่ี ลอดภยั และการใชถ้ งุ ยางอนามยั สว่ นทส่ี อง เปน็ รา่ งเคา้ โครงกระบวนการ เรียนรู้เร่ืองเพศวิถีและถุงยางอนามัยส�าหรับการปรึกษาหารือและเสนอให้ ทมี วจิ ยั ภาคสนามและกลมุ่ /องคก์ รพฒั นาเอกชนในภาคเหนอื ใหค้ วามเหน็ และ นา� ไปทดลองใช ้ และสว่ นทส่ี าม เปน็ การทดลองขยายผลในระหวา่ งการทา� งาน รณรงคช์ ว่ งเทศกาลวนั เอดสโ์ ลก ซง่ึ กลมุ่ /องคก์ รพฒั นาเอกชนไดก้ า� หนดหวั ขอ้ รณรงค์เรื่องเพศว่า “คิดกัน...ไว้” “เปิดปากพูดเร่ืองเพศ” โดยได้พูดคุยชี้ชวน ใหท้ มี วจิ ยั ภาคสนามและกลมุ่ /องคก์ รพฒั นาเอกชนในภาคเหนอื รว่ มกนั พฒั นา งานรณรงค์โดยใช้ตัวอย่างการรณรงค์เร่ืองเพศและถุงยางอนามัยที่เพิ่มมิติ การสอื่ สารเรอื่ งเพศเชงิ บวกและความสขุ ความพงึ พอใจทางเพศ ผนวกเพม่ิ เตมิ เข้าไปในการรณรงค์เร่อื งเพศสมั พันธ์ท่ปี ลอดภัยโดยใช้ถงุ ยางอนามยั ดว้ ย ถงุ ยางอนามยั กับการดา� เนินชวี ิตทางเพศในสังคมไทย 177
5.1 ความสุขความพึงพอใจทางเพศถือเป็นองค์ประกอบ สำ� คญั ของสขุ ภาพทางเพศ การพดู คยุ เรอื่ งการปอ้ งกนั โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธแ์ ละการแพรร่ ะบาด ของเอชไอว/ี เอดสน์ น้ั มกั ไมม่ มี ติ เิ รอื่ งความสขุ ความพงึ พอใจทางเพศ ซง่ึ หาก มุ่งหวงั ให้คนมสี ุขภาพทางเพศที่ดี กค็ วรต้องทบทวนแนวคิด ความเชอื่ และ กระบวนการในการป้องกนั แก้ไขปัญหาท่ีด�ำเนนิ การอยู่ องค์การอนามัยโลก WHO ได้ใหน้ ยิ ามเรอ่ื งสขุ ภาพทางเพศไวว้ า่ “สุขภาพทางเพศหมายถึงการมีสภาพทางกาย จิตใจ อารมณ์ และสงั คม การเปน็ อยทู่ ด่ี ใี นเรอื่ งทส่ี มั พนั ธก์ บั เรอื่ งเพศวถิ ี สขุ ภาพ ทางเพศไมใ่ ชเ่ ปน็ เพยี งภาวะปราศจากโรค ความเสอ่ื มสมรรถภาพ ทางเพศ หรือไม่เจริญพันธุ์ สุขภาพทางเพศควรวางอยู่บน พื้นฐานความสัมพนั ธท์ างเพศและเพศวถิ ีท่เี ปน็ มติ ิดา้ นบวกและ ความเคารพ เช่นเดียวกับการมีประสบการณ์ทางเพศที่เป็นสุข พงึ พอใจและปลอดภยั โดยปราศจากการบงั คบั เลอื กปฏบิ ตั ิ และ ความรนุ แรง...” (WHO, 2012) ในการทบทวนและรอ้ื สรา้ งระบบคดิ ความเชอื่ เรอื่ งเพศในสงั คมไทยใหม่ นน้ั ตอ้ งยอมรบั ใหม้ กี ารนำ� เอาเรอ่ื งประสบการณท์ างเพศดา้ นบวก โดยเฉพาะ เรื่องความสุขความพึงพอใจทางเพศมาผนวกรวมเข้าไว้ในแนวคิด ความเชื่อ การพูดคุยและการท�ำงานดว้ ย เพอ่ื ผลลพั ธท์ ด่ี ีตอ่ การส่งเสรมิ สุขภาพทางเพศ ในทางสาธารณสุข การเรียนรู้ที่จะพูดคุยส่ือสารเร่ืองความสุขความพึงพอใจ ทางเพศ เพศสมั พนั ธท์ ดี่ แี ละปลอดภยั จะเปน็ แนวทางนำ� ไปสกู่ ารเปลยี่ นแปลง ความสมั พนั ธเ์ ชงิ อำ� นาจในการพดู คยุ ตอ่ รองเรอื่ งเพศสมั พนั ธท์ ป่ี ลอดภยั ระหวา่ ง คู่ ชว่ ยลดปัญหาการกระทำ� ความรุนแรงทางเพศตอ่ คู่และผหู้ ญงิ อกี ดว้ ย 178 นวิ ตั ร สวุ รรณพฒั นา และกาญจนา แถลงกจิ
(1) เติมความสุข ความพึงพอใจเข้าไปในเรื่องเพศ ท�ำให้ เพศสัมพันธ์ปลอดภัย เป็นสุข และเซ็กซ่ีด้วย (pleasure กับการท�ำ safer sex ให้ sexy) จากการตดิ ตามแนวคดิ เรอ่ื งการเอาเพศวถิ กี ลบั เขา้ ไปในการทำ� งานเรอื่ ง เอชไอว/ี เอดส์ (Putting Sexuality back into HIV/AIDS) มาตงั้ แตช่ ว่ งปี 2547 ในเวทสี มั มนาเรอ่ื งเอดสร์ ะดบั โลกครงั้ ที่ 15 ทจ่ี ดั ขนึ้ ทก่ี รงุ เทพฯ ซง่ึ มกี ารเปดิ ตวั โครงการท่ีเรียกว่า The Pleasure Project ในงานสัมมนาครั้งน้ีด้วย 2 ป ี ต่อมา The Pleasure Project ไดท้ ำ� เอกสารท่เี รียกว่า แผนทแี่ ห่งความสุข พึงใจทางเพศของโลก (The Global Mapping of Pleasure) (Philpott, Knerr & Boydell, 2006) รวบรวมรายชื่อโครงการและองค์กรต่างๆ ทวั่ โลกทน่ี ำ� เอา ความสุขความพึงพอใจทางเพศเข้าไปไว้เป็นเร่ืองแรกในการป้องกันเอชไอวี การส่งเสริมสุขภาพทางเพศ และการส่ือสารเรื่องเพศ รวมท้ังเพศสัมพันธ์ ทป่ี ลอดภัยในสื่อ การท�ำแผนที่ดังกล่าวท�ำให้ได้เรียนรู้ว่า มีองค์กรจ�ำนวนมากและ หลากหลาย ทง้ั องคก์ รศาสนา กลมุ่ เยาวชน องคก์ รพฒั นาเอกชน และองคก์ ร ดา้ นเอชไอวี ทส่ี ง่ เสรมิ เพศสมั พนั ธท์ ส่ี ขุ พงึ ใจ และปลอดภยั โดยใชเ้ ทคนคิ วธิ ี การต่างๆ อาทิ เทคนิคและการพูดคุยสนทนาเก่ียวกับเรื่องเพศ การสอนคู่ แตง่ งานเรอ่ื งเพศสมั พนั ธท์ ด่ี ขี นึ้ และการเพมิ่ เตมิ ภาพตา่ งๆ เรอ่ื งความปรารถนา เขา้ ไปในสอ่ื การเรยี นรเู้ รอื่ งเพศ ทงั้ ยงั มงุ่ ไปทว่ี ธิ กี ารตา่ งๆ ในการกระตนุ้ ใหใ้ ช้ ถงุ ยางอนามยั ชายและถงุ อนามัยสตรีดว้ ยวธิ ีการเย้ายวนใจ เพือ่ เปน็ ตัวอย่าง ของการใช้ความสุขพึงใจเร่ืองเพศเติมเข้าไปในการป้องกันเอชไอวีและ การสง่ เสรมิ สขุ ภาพทางเพศ (Philpott, Knerr & Boydell, 2006; The Pleasure Project, 2004) การดำ� เนนิ งานดงั กลา่ วยงิ่ ตอกยำ้� ใหเ้ หน็ วา่ ทผี่ า่ นมา การทำ� งานเรอ่ื ง เอดส์ท�ำให้เร่ืองเพศถูกครอบอยู่ภายใต้กรอบของอันตรายและความเส่ียงจาก ถงุ ยางอนามัยกบั การด�ำเนินชวี ติ ทางเพศในสงั คมไทย 179
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242