3. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำ 1. ครูใหน้ กั เรียนอ่านโจทย์ตามหนงั สอื เรียนหนา้ 45 2. ครูใชค้ ำถามให้นกั เรยี นไดว้ เิ คราะหโ์ จทย์เชน่ โจทยถ์ ามอะไร นกั เรยี นต้องตอบคำถามกค่ี ำถาม ข้นั สอน 3. นักเรียนตอ้ งตอบคำถามกคี่ ำถาม (2 คำถาม) คำถามอะไรบา้ ง (แมจ่ ดั ขนมกลว้ ยได้ก่ีถงุ และ เหลือขนมกล้วยกชี่ ้นิ ) 4. จะหาคำตอบได้อยา่ งไร นกั เรียนอาจจะยังคดิ วธิ ีหาคำตอบไมไ่ ด้ 5. ครูอาจใช้ตัวนับแทนขนมตาล 32 ชิ้น จากนั้นใหจ้ ัดเปน็ กอง กองละ 5 ชน้ิ เพอื่ ให้นักเรยี น สงั เกตวา่ สามารถใชก้ ารหารในการหาคำตอบ แตเ่ ปน็ การหารไม่ลงตวั 6. เมื่อได้คำตอบแล้ว ครูควรใหน้ กั เรยี นตรวจคำตอบโดยนำคำตอบทไี่ ด้ คูณกับตวั หารแล้วนำไปบวก กบั เศษไดผ้ ลลัพธเ์ ท่ากับตัวต้ัง 7. จากนัน้ ครูใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันวิเคราะห์โจทย์ เขียนประโยคสัญลกั ษณ์และหาคำตอบในกรอบทา้ ย หน้า 45 8. เม่ือไดค้ ำตอบแล้วครูควรให้นักเรยี นตรวจสอบคำตอบ จากนัน้ ครแู ละนกั เรียนช่วยกันตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง ข้นั สรุป 9. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ สง่ิ ทไ่ี ด้เรียนรู้ ว่าการแกโ้ จทยป์ ญั หาทำไดโ้ ดยอา่ นทำความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปญั หา หาคำตอบ และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ 7. สื่อการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 สสวท. 2. แบบฝึกคณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 สสวท. 8. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วิธีการวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หดั 1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
2. เครอื่ งมือ 2.1 แบบฝึกหัด 2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรม 3. เกณฑก์ ารประเมิน 3.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ผ่านต้ังแต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น
แผนการจดั การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค 12101 ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นที่ 2 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 6 เรอื่ ง การหาร เวลา 20 ชัว่ โมง แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 17 เรือ่ ง โจทยป์ ญั หาการหาร เวลา 1 ช่วั โมง ผสู้ อน นางสาวลภสั รดา สรอ้ ยสน --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณติ มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของจำนวน ผลท่ีเกิดขน้ึ จากการดำเนนิ การสมบัติของการดำเนินการและนำไปใช้ 2. ตวั ช้ีวัด ค 1.1 ป.2/6 หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์แสดงการหารทตี่ ัวตัง้ ไมเ่ กิน 2 หลกั ตวั หาร 1 หลกั โดยที่ผลหารมี 1 หลกั ทัง้ หารลงตัวและหารไม่ลงตัว 3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การแกโ้ จทย์ปญั หาทำไดโ้ ดยอ่านทำความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา หาคำตอบ และตรวจสอบความ สมเหตุสมผลของคำตอบ 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายวิธีการหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาการหารได้ (K) 2. เขียนประโยคสัญลักษณก์ ารหารและแสดงวธิ ีหาคำตอบได้ (P) 3. รับผิดชอบตอ่ หนา้ ท่ีท่ไี ดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรียนรู้ 1. ความรู้ (K) 1. การแก้โจทย์ปญั หาและการสร้างโจทย์ปญั หา พร้อมทั้งหาคำตอบ 2. ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด (P) 1. การแกป้ ัญหา 2. ความสามารถในการสือ่ สารความหมายทางคณิตศาสตร 3. การเชอ่ื มโยง 4. การให้เหตุผล
3. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำ 1. ครูใหน้ กั เรียนอ่านโจทย์ตามหนงั สอื เรียนหนา้ 45 2. ครูใชค้ ำถามให้นกั เรยี นไดว้ เิ คราะหโ์ จทย์เชน่ โจทยถ์ ามอะไร นกั เรยี นต้องตอบคำถามกค่ี ำถาม ข้นั สอน 3. นักเรียนตอ้ งตอบคำถามกคี่ ำถาม (2 คำถาม) คำถามอะไรบา้ ง (แมจ่ ดั ขนมกลว้ ยได้ก่ีถงุ และ เหลือขนมกล้วยกชี่ ้นิ ) 4. จะหาคำตอบได้อยา่ งไร นกั เรียนอาจจะยังคดิ วธิ ีหาคำตอบไมไ่ ด้ 5. ครูอาจใช้ตัวนับแทนขนมตาล 32 ชิ้น จากนั้นใหจ้ ัดเปน็ กอง กองละ 5 ชน้ิ เพอื่ ให้นักเรยี น สงั เกตวา่ สามารถใชก้ ารหารในการหาคำตอบ แตเ่ ปน็ การหารไม่ลงตวั 6. เมื่อได้คำตอบแล้ว ครูควรใหน้ กั เรยี นตรวจคำตอบโดยนำคำตอบทไี่ ด้ คูณกับตวั หารแล้วนำไปบวก กบั เศษไดผ้ ลลัพธเ์ ท่ากับตัวต้ัง 7. จากนัน้ ครูใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันวิเคราะห์โจทย์ เขียนประโยคสัญลกั ษณ์และหาคำตอบในกรอบทา้ ย หน้า 45 8. เม่ือไดค้ ำตอบแล้วครูควรให้นักเรยี นตรวจสอบคำตอบ จากนัน้ ครแู ละนกั เรียนช่วยกันตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง ข้นั สรุป 9. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ สง่ิ ทไ่ี ด้เรียนรู้ ว่าการแกโ้ จทยป์ ญั หาทำไดโ้ ดยอา่ นทำความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปญั หา หาคำตอบ และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ 7. สื่อการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 สสวท. 2. แบบฝึกคณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 สสวท. 8. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วิธีการวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หดั 1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
2. เครอื่ งมือ 2.1 แบบฝึกหัด 2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรม 3. เกณฑก์ ารประเมิน 3.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ผ่านต้ังแต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น
แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค 12101 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นท่ี 2 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 6 เร่ือง การหาร เวลา 20 ช่วั โมง แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 18 เรือ่ ง โจทย์ปัญหาการหาร เวลา 1 ช่วั โมง ผสู้ อน นางสาวลภัสรดา สรอ้ ยสน ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลท่ีเกิดขน้ึ จากการดำเนนิ การสมบตั ิของการดำเนินการและนำไปใช้ 2. ตวั ชว้ี ัด ค 1.1 ป.2/6 หาค่าของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการหารทตี่ วั ตงั้ ไม่เกนิ 2 หลกั ตวั หาร 1 หลัก โดยที่ผลหารมี 1 หลักทั้งหารลงตัวและหารไม่ลงตัว 3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การแก้โจทยป์ ญั หาทำได้โดยอ่านทำความเข้าใจปัญหา วางแผนแกป้ ัญหา หาคำตอบ และตรวจสอบความ สมเหตุสมผลของคำตอบ 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายวิธีการหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการหารได้ (K) 2. เขียนประโยคสัญลักษณ์การหารและแสดงวิธหี าคำตอบได้ (P) 3. รบั ผิดชอบตอ่ หนา้ ทีท่ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ 1. ความรู้ (K) 1. การแก้โจทยป์ ัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหา พรอ้ มทั้งหาคำตอบ 2. ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด (P) 1. การแกป้ ัญหา 2. ความสามารถในการส่ือสารความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. การเชือ่ มโยง
4. การใหเ้ หตุผล 3. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มั่นในการทำงาน 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ครใู ห้นักเรียนอ่านโจทยต์ ามหนงั สือเรยี นหน้า 46 2. ครูใช้คำถามใหน้ ักเรียนไดว้ ิเคราะหโ์ จทย์ เชน่ โจทย์ถามอะไร นักเรยี นตอ้ งตอบคำถามกี่คำถาม (2คำถาม) คำถามอะไรบ้าง (ตะกรา้ แตล่ ะใบมีไขไ่ ก่กีฟ่ อง และเหลือไขไ่ ก่ก่ฟี อง) โจทยบ์ อกอะไร จะหาคำตอบได้ อย่างไร นักเรียนอาจจะยงั หาคำตอบไม่ได้ ข้นั สอน 3. ครใู ชต้ วั นบั แทนไข่ 40 ฟอง หรือวาดภาพประกอบ จากนัน้ ให้แบ่งตามเงอื่ นไขทกี่ ำหนด เพ่อื ให้ นกั เรียนสังเกตวา่ สามารถใชก้ ารหารในการหาคำตอบได้ แตเ่ ปน็ การหารไม่ลงตวั 4. จากน้นั ครใู หน้ ักเรียนชว่ ยกนั วิเคราะหโ์ จทยเ์ ขยี นประโยคสัญลกั ษณแ์ ละหาคำตอบในกรอบทา้ ย หนา้ 46 5. ครูใหน้ ักเรียนอ่านโจทยต์ ามหนงั สอื เรียนหน้า 47 6. ครถู ามนักเรียนว่า ตอ้ งวเิ คราะห์สิ่งทโ่ี จทย์บอกอย่างไร (เมอ่ื จัดขนมถว้ ยใสจ่ านแล้วยังเหลอื ขนม ถว้ ยอีก2 ถว้ ย) ครถู ามตอ่ ไปว่า ถา้ จดั ขนมถ้วยแล้วยังเหลืออีก แสดงว่าจดั ได้พอดหี รอื ไม่ นักเรียนตอบวา่ จัดไดไ้ ม่ พอดี ครูถามต่อไปว่า ถา้ จัดแลว้ ไม่พอดีแสดงว่าขนมถ้วยทีเ่ หลอื ต้องเปน็ เศษใช่หรือไม่ (ใช่) 7. ครอู าจใชต้ วั นับหรือวาดรูปแทนขนมถ้วย 20 ถ้วย แลว้ จดั เป็นกอง 6 กอง กองละเท่า ๆ กนั ได้กองละ 3 ถว้ ย และเหลือตัวนับ 2 ตัว ดงั น้นั คำตอบคือ 3 ครูควร ให้นกั เรียนตรวจคำตอบ ขน้ั สรปุ 8. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียน โดยใหเ้ ขียนประโยคสญั ลกั ษณ์และหาคำตอบ ตามหนงั สือเรยี น หนา้ 48 ซง่ึ ในขอ้ 2 นักเรียนต้องวิเคราะหโ์ จทย์เพื่อหา ตวั ตงั้ และตวั หารกอ่ น จงึ จะเขยี นประโยคสัญลกั ษณ์การ หารได้ 9. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ส่ิงท่ไี ดเ้ รียนรู้ วา่ การแกโ้ จทยป์ ัญหาทำได้โดยอา่ นทำความเขา้ ใจปญั หา วางแผนแกป้ ญั หา หาคำตอบ และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ 10. จากนัน้ ให้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัด 6.11 หน้า 27 - 29
7. สอื่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียนคณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 สสวท. 2. แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 สสวท. 8. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวัดและประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หัด 1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2. เครอ่ื งมือ 2.1 แบบฝกึ หดั 2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค 12101 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 เร่อื ง การหาร เวลา 20 ชัว่ โมง แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 19 เร่ือง การสร้างโจทย์ปญั หาการหารจากภาพ เวลา 1 ช่ัวโมง ผ้สู อน นางสาวลภสั รดา สร้อยสน ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 1 จำนวนและพชี คณติ มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลที่เกิดขนึ้ จากการดำเนินการสมบัตขิ องการดำเนนิ การและนำไปใช้ 2. ตวั ช้วี ัด ค 1.1 ป.2/6 หาค่าของตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการหารท่ีตัวตง้ั ไม่เกนิ 2 หลกั ตวั หาร 1 หลัก โดยที่ผลหารมี 1 หลักทง้ั หารลงตัวและหารไม่ลงตัว 3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การสรา้ งโจทย์ปัญหาตอ้ งมที ้ังสว่ นทโี่ จทยบ์ อกและสว่ นทีโ่ จทย์ถาม นอกจากนีโ้ จทย์ปญั หาท่ีสร้างต้องมี ความเปน็ ไปได้ 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายวธิ ีการสรา้ งโจทย์ปัญหาการหารจากภาพได้ (K) 2. สรา้ งโจทย์ปัญหาการหารจากภาพและเขยี นประโยคสญั ลักษณ์ (P) 3. รบั ผดิ ชอบต่อหน้าทีท่ ่ไี ดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ 1. ความรู้ (K) 1. การสรา้ งโจทยป์ ัญหาการหารจากภาพ 2. ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ (P) 1. การแกป้ ัญหา 2. ความสามารถในการสื่อสารความหมายทางคณิตศาสตร์
3. การเชอื่ มโยง 4. การให้เหตุผล 5. การคดิ สรา้ งสรรค์ 3. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A) 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน 6. กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นำ 1. จากภาพตามหนังสอื เรยี นหน้า 49 ครถู ามนักเรียนวา่ จากภาพนักเรยี นเหน็ อะไรบา้ ง (แมข่ องขุน กำลงั จะจัดดอกบวั 21 ดอก จดั เปน็ กำ กำละ 3 ดอก) 2. ครถู ามนกั เรยี นตอ่ ไปว่า จะสรา้ งโจทยป์ ญั หาการหารในส่วนทโ่ี จทยถ์ ามอย่างไร (แมจ่ ะจัดดอกบัว ได้ก่ีกำ) ครูถามวา่ เขียนเป็นโจทยป์ ญั หาท่สี มบูรณ์ไดอ้ ยา่ งไร (แมม่ ีดอกบัว21 ดอก จดั เปน็ กำ กำละ 3 ดอก จะ จัดได้ก่กี ำ) ขัน้ สอน 3. ครูแนะนำว่า โจทยป์ ัญหาที่สรา้ งควรมีความเป็นไปได้และสามารถหาคำตอบได้ สว่ นท่ีโจทย์ถาม และส่วนทโี่ จทยบ์ อกคืออะไร ถ้าสามารถตรวจสอบได้ตามนีแ้ สดงวา่ โจทย์ปัญหาการหารท่ีสรา้ งมคี วามถูกต้อง สมบูรณ์ เมอื่ สรา้ งโจทย์ปญั หาแล้วครใู ห้นักเรียนเขียนเปน็ ประโยคสัญลักษณ์พรอ้ มท้ังหาคำตอบ 4. ครใู ห้นักเรียนดูภาพตามหนงั สอื เรยี นหน้า 50 แล้วจดั กจิ กรรมการสอนทำนองเดียวกับการสอน หนา้ 49 5. ครแู บง่ นักเรยี นเปน็ กลุ่ม ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ ชว่ ยกนั สรา้ งโจทย์ปัญหาการหารจากภาพและเขียน ประโยคสัญลกั ษณ์ ตามหนังสือเรียนหน้า 51 6. ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอโจทย์ปัญหาทส่ี ร้างข้นึ สว่ นทโ่ี จทยบ์ อก ส่วนท่ีโจทย์ถาม เขียนประโยคสัญลักษณแ์ ละหาคำตอบพร้อมทั้งตรวจสอบคำตอบ 7. ครูและนักเรยี นช่วยกันตรวจสอบความเป็นไปได้ของโจทยป์ ัญหาทีส่ ร้าง ขั้นสรปุ 8. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียน โดยให้สร้างโจทยป์ ัญหาการหารและเขียนประโยคสัญลักษณ์จาก ภาพท่กี ำหนด ตามหนังสอื เรียนหนา้ 52 ครูควรพิจารณาความเปน็ ไปไดข้ องโจทย์ท่ีนักเรียนสร้างว่ามีความ เป็นไปไดห้ รือไม่
9. จากน้นั ครแู ละนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้องและสรุปสง่ิ ทีไ่ ดเ้ รียนรู้ วา่ การสร้างโจทย์ปัญหา ตอ้ งมที งั้ สว่ นทโ่ี จทย์บอกและสว่ นที่โจทย์ถาม นอกจากนโ้ี จทยป์ ญั หาที่สรา้ งต้องมีความเปน็ ไปได้ 10. จากน้ันใหน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหัด 6.12 หน้า 30 - 32 7. สอ่ื การเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี นคณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 สสวท. 2. แบบฝกึ คณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 สสวท. 8. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หัด 1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.3 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 2. เครือ่ งมือ 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น 3.3 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ ผ่านต้ังแต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น
แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 12101 ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 6 เรือ่ ง การหาร เวลา 20 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 20 เรื่อง การสร้างโจทยป์ ญั หาการหารจากประโยคสญั ลกั ษณ์ เวลา 1 ชัว่ โมง ผ้สู อน นางสาวลภัสรดา สรอ้ ยสน ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณติ มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลท่ีเกิดขึน้ จากการดำเนนิ การสมบัตขิ องการดำเนินการและนำไปใช้ 2. ตัวช้ีวัด ค 1.1 ป.2/6 หาคา่ ของตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการหารที่ตัวต้งั ไมเ่ กิน 2 หลัก ตวั หาร 1 หลัก โดยท่ีผลหารมี 1 หลักท้งั หารลงตัวและหารไม่ลงตัว 3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การสร้างโจทยป์ ัญหาตอ้ งมีท้งั ส่วนท่โี จทย์บอกและส่วนที่โจทยถ์ าม นอกจากนีโ้ จทยป์ ัญหาท่ีสร้างต้องมี ความเป็นไปได้ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายวธิ ีการสร้างโจทย์ปญั หาการหารจากประโยคสัญลักษณไ์ ด้ (K) 2. สร้างโจทยป์ ัญหาการหารจากประโยคสญั ลกั ษณ์ได้ (P) 3. รบั ผดิ ชอบตอ่ หน้าทที่ ีไ่ ด้รบั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ 1. ความรู้ (K) 1. การสร้างโจทยป์ ญั หาการหาร 2. ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด (P) 1. การแก้ปญั หา 2. ความสามารถในการสือ่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. การเช่อื มโยง 4. การใหเ้ หตุผล
5. การคดิ สร้างสรรค์ 3. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั นำ 1. ครูกำหนดประโยคสญั ลักษณ์การหารเพ่อื ให้นักเรยี นสร้างโจทยป์ ญั หาจากประโยคสัญลักษณท์ ี่ กำหนด 2. เม่อื นักเรยี นสรา้ งโจทยป์ ัญหาแล้ว ครคู วรใหน้ ักเรยี นอา่ นโจทยแ์ ละพิจารณาความเปน็ ไปได้ของโจทย์ อาจให้นักเรียนบอกสว่ นทโี่ จทย์ถามและโจทยบ์ อกอีกครัง้ ขน้ั สอน 3. ครยู กตัวอยา่ งการสร้างโจทยป์ ัญหาการหารจากประโยคสัญลักษณท์ ีเ่ ปน็ การหารไมล่ งตวั ตาม หนังสอื เรยี นหนา้ 54 4. ก่อนจะใหน้ ักเรียนสร้างโจทย์ปัญหานัน้ ครคู วรถามนกั เรยี นกอ่ นว่า จากประโยคสัญลกั ษณน์ เี้ ปน็ การ หารลงตวั หรือไมล่ งตัว ถ้าเปน็ การหารลงตัว การต้ังคำถามในส่วนท่โี จทย์ถามจะมคี ำถามเดียว แต่ถา้ เป็นการหาร ไมล่ งตัว การต้ังคำถามในส่วนทีโ่ จทยถ์ ามจะมี 2 คำถาม ตามตัวอยา่ งในหนังสือเรียนหนา้ 54 5. ครูแบง่ นกั เรยี นเปน็ กลุ่ม ให้นกั เรียนแต่ละกล่มุ ชว่ ยกันสรา้ งโจทยป์ ญั หาการหารจากประโยค สญั ลักษณท์ ี่กำหนดให้ ตามหนงั สอื เรยี นหน้า 55 6. ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอโจทยป์ ญั หาทส่ี รา้ งขนึ้ ส่วนทโี่ จทยบ์ อก สว่ นท่โี จทย์ถามและหา คำตอบ พร้อมทัง้ ตรวจสอบคำตอบ 7. ครูและนกั เรยี นชว่ ยกันตรวจสอบความเปน็ ไปได้ของโจทยป์ ัญหาที่สร้าง ขนั้ สรปุ 8. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียน โดยใหส้ รา้ งโจทย์ปัญหาการหารจากประโยคสัญลกั ษณ์ ที่กำหนด ตามหนังสอื เรียนหนา้ 56 ครูควรพจิ ารณาความเปน็ ไปได้ของโจทย์ทน่ี ักเรยี นสร้าง วา่ มีความเป็นไปไดห้ รอื ไม่ 9. จากนน้ั ให้นกั เรียนทำแบบฝกึ หดั 6.13 หนา้ 33 – 34 7. สื่อการเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 สสวท. 2. แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 สสวท. 8. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หัด 1.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ รว่ มกิจกรรม 1.3 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2. เครื่องมอื 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม 3. เกณฑก์ ารประเมนิ 3.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน 3.3 การประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 12101 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 2 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 เรอื่ ง เวลา เวลา 14 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 1 เร่อื ง เตรยี มความพร้อม เวลา 1 ชว่ั โมง ผ้สู อน นางสาวลภัสรดา สร้อยสน ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 2 การวดั และเรขาคณิต มาตรฐาน ค. 2.1 เข้าใจพน้ื ฐานเกยี่ วกบั การวดั วัดและคาดคะเนขนาดของส่งิ ท่ีต้องการวัด และ นำไปใช้ 2. ตัวช้วี ัด ค 2.1 ป.2/1 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลาท่ีมีหน่วยเด่ยี วและเป็นหน่วยเดียวกัน 3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด ปฏทิ ินเปน็ เครื่องมือที่บอก วัน เดอื น ปี โดย 1 ปี มี 12 เดือน 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความหมายของปฏทิ นิ ได้ (K) 2. อา่ นปฏทิ นิ ได้ (P) 3. รบั ผิดชอบต่อหนา้ ที่ทไ่ี ด้รับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรียนรู้ 1. ความรู้ (K) 1. การอา่ นปฏทิ นิ 2. ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด (P) 1. ความสามารถในการสอื่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. การเช่ือมโยง 3. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ใชข้ อ้ มูลในหนงั สือเรียนหน้าเปิด เพ่ือกระต้นุ ความสนใจของผู้เรยี น โดยใชค้ ำถามเช่นสถานท่ีในภาพ คอื สถานที่ใด ❖ ในภาพนกั เรยี นกำลังทำกจิ กรรมอะไร ❖ นักเรียนเขา้ แถวเคารพธงชาติเวลาใด ❖ บ้านของนักเรยี นมีนาฬกิ าหรอื ไม่ ❖ ทำไมทกุ บา้ นต้องมนี าฬกิ า และร่วมกันสนทนาเกย่ี วกับชนดิ ประเภทของนาฬิกา รวมทงั้ ความจำเป็นและประโยชน์ของนาฬิกา เพ่ือนำเข้าสูบ่ ทเรยี น ขั้นสอน 2. ใชห้ นังสอื หนา้ 60 เพื่อเตรยี มความพรอ้ ม โดยจดั กิจกรรม “วนั เกดิ ของฉัน” เพื่อตรวจสอบความรู้ พน้ื ฐานของนักเรียนและใช้คำถาม เช่น ❖ 1 สัปดาห์มีกี่วัน ไดแ้ กว่ ันอะไรบา้ ง ❖ 1 ปีมกี ีเ่ ดอื น เดือนอะไรบา้ ง ❖ นกั เรียนเกิดเดอื นอะไร ❖ วนั เกิดของนักเรียนปนี ี้ตรงกบั วนั อะไร เป็นตน้ 3. จากน้ันแบ่งนกั เรยี นเป็นกล่มุ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กัน แจกแบบบันทึกกจิ กรรมกลุ่มละ 1 ใบ เพอ่ื ให้ นักเรียน สำรวจวนั เกิดของเพือ่ นในกลุ่ม และนำเสนอหนา้ ชั้นเรียน 4. ครเู ปลยี่ นคำถามในแบบบันทึกกจิ กรรมได้ตามความเหมาะสม ขนั้ สรุป 5. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ว่า ปฏทิ นิ เป็นเครอื่ งมอื ท่ีบอก วัน เดอื น ปี โดย 1 ปี มี 12 เดอื น 7. สอื่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียนคณติ ศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 สสวท. 2. แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 สสวท. 8. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วิธีการวัดและประเมินผล 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเข้าร่วมกิจกรรม
1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม 2. เครือ่ งมอื 2.1 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม 2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ 3. เกณฑก์ ารประเมิน 3.1 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ผ่านตัง้ แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น 3.2 การประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
แผนการจดั การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 12101 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 2 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 7 เรอื่ ง เวลา เวลา 14 ช่ัวโมง แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 2 เรอื่ ง การอ่านปฏทิ นิ เวลา 1 ชว่ั โมง ผสู้ อน นางสาวลภัสรดา สรอ้ ยสน ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต มาตรฐาน ค. 2.1 เข้าใจพืน้ ฐานเก่ียวกบั การวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งทต่ี ้องการวดั และนำไปใช้ 2. ตวั ชวี้ ัด ค 2.1 ป.2/1 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเกยี่ วกบั เวลาท่ีมีหน่วยเดยี่ วและเป็นหนว่ ยเดยี วกนั 3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด ปฏทิ นิ เป็นเคร่ืองมอื ทบ่ี อก วนั เดอื น ปี โดย 1 ปี มี 12 เดอื น เดือนทีล่ งท้ายดว้ ย คม มี 31 วัน เดือนที่ลงท้ายด้วย ยน มี 30 วนั เดือนกมุ ภาพนั ธม์ ี 28 วนั หรอื 29 วัน 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อา่ นปฏิทินได้ (K) 2. บอกเดอื นใน 1 ปีได้ (P) 3. รับผิดชอบต่อหน้าทีท่ ี่ได้รับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ 1. ความรู้ (K) 1. การอา่ นปฏิทนิ 2. ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด (P) 1. ความสามารถในการส่ือสารความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. การเชอ่ื มโยง 3. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุง่ มนั่ ในการทำงาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นำ 1. ใช้ปฏิทนิ จริงหรอื ภาพปฏิทนิ ตามหนงั สือเรียนหน้า 61 เพ่อื ให้นักเรยี นสงั เกต สว่ นประกอบต่าง ๆ ในปฏิทนิ พรอ้ มท้งั ตั้งคำถามเพ่อื กระตุ้นความสนใจ เช่น ❖ ปฏทิ ินนเ้ี ป็นปี พ.ศ. และ ค.ศ. อะไร ❖ เดอื นทกี่ ำหนดใหเ้ ป็นเดือนอะไร และมีกี่วัน ❖ วันแรกและวนั สดุ ท้ายของเดือนตรงกบั วันอะไร ครอู าจให้ความร้เู กย่ี วกับ พ.ศ. และ ค.ศ.เพ่มิ เติม ขั้นสอน 2. แบง่ นักเรียนเปน็ กลุ่ม ใชป้ ฏิทินปี พ.ศ. ต่างกัน แจกนกั เรียนกลมุ่ ละ 1 อัน 3. แต่ละกลุม่ สำรวจและตอบคำถามตามแบบบันทึกกจิ กรรม หน้า 62 และนำเสนอหนา้ ชัน้ เรียน และ ร่วมกนั สรปุ ว่า ❖ 1 ปี มี 12 เดือน ❖ 1 เดอื นมี 30 หรอื 31 วัน ยกเว้นเดอื นกุมภาพนั ธม์ ี 28 หรือ 29 วนั ❖ เดือนทีม่ ี 30 วนั ไดแ้ กเ่ ดอื น เมษายน มิถุนายน กันยายน พฤศจิกายน (ให้สังเกตว่าทกุ เดือนจะลงท้าย ด้วยคำว่า ยน) ❖ เดือนทมี่ ี 31 วัน ได้แก่เดือน มกราคม มีนาคม พฤษภาคม กรกฎาคม สิงหาคม ตุลาคม ธนั วาคม (ให้สงั เกตวา่ ทุกเดอื นจะลงทา้ ยดว้ ยคำว่า คม) 4. จากน้ันให้นกั เรยี นชว่ ยกันตอบคำถามท้ายหนา้ 62 5. ใชต้ ารางทแี่ สดงลำดับทข่ี องเดือน ชื่อเดือน อักษรยอ่ และจำนวนวัน ในหนงั สอื เรยี นหน้า 63 เพอ่ื ให้ นักเรียนสังเกตอกั ษรยอ่ ของแต่ละเดอื น 6. ครอู าจใช้สือ่ ใบปลิว หรอื ภาพโฆษณาสินคา้ ต่าง ๆ ทมี่ อี กั ษรยอ่ ของเดือน เพือ่ แสดงให้นกั เรยี นเหน็ ว่ามกี ารเขียนชอื่ เดอื นเป็นอักษรย่อในชีวติ ประจำวนั และเนน้ ย้ำใหน้ กั เรยี นสังเกตลำดับท่ีของแตล่ ะเดือน แลว้ ร่วมกันสรปุ ว่า อกั ษรยอ่ ตวั หน้า มาจากพยญั ชนะตวั แรกของเดือน (ถา้ ซ้ำกันใหใ้ สส่ ระ) อักษรยอ่ ตัวหลงั มาจาก คำว่า ยนและคม ท่อี ย่ทู ้ายชื่อเดอื นแตล่ ะเดือน (เดอื นทลี่ งทา้ ยดว้ ย ยน ใช้ ย เดือนท่ีลงท้ายด้วย คม ใช้ ค ) 7. ใหน้ ักเรียนทำกิจกรรมหาเดอื นเกิดของเดก็ ชายเปน็ เอกตามหนงั สือเรยี นท้ายหนา้ 63 และร่วมกัน ตรวจสอบความถูกต้อง ขน้ั สรปุ 8. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนตอบคำถามเก่ยี วกบั ปฏิทนิ ตามหนงั สอื เรยี น หนา้ 64
9. จากน้ันครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ สงิ่ ทีไ่ ดเ้ รยี นรู้ วา่ ปฏิทินเป็นเคร่อื งมอื บอก วัน เดือน ปี 1 ปี มี 12 เดอื น 1 เดือน มี 30 วัน หรอื 31 วนั ยกเวน้ เดือนกมุ ภาพันธ์มี 28 วนั หรอื 29 วัน เดอื นท่ีลงท้ายด้วย คม มี 31 วนั เดอื นทลี่ งท้ายดว้ ย ยน มี 30 วัน 10. จากนั้นใหน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หัด 7.1 หนา้ 39 – 41 7. สอ่ื การเรียนรู้ 1. หนังสือเรยี นคณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 สสวท. 2. แบบฝกึ คณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 สสวท. 3. ปฏิทิน 8. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หัด 1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม 1.3 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกล่มุ 2. เคร่ืองมอื 2.1 แบบฝึกหดั 2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม 2.3 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ 3. เกณฑก์ ารประเมนิ 3.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ผ่านตัง้ แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น 3.3 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค 12101 ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 2 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 7 เรื่อง เวลา เวลา 14 ชั่วโมง แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 3 เรื่อง การอา่ นปฏทิ นิ เวลา 1 ชว่ั โมง ผ้สู อน นางสาวลภัสรดา สร้อยสน ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 2 การวัดและเรขาคณิต มาตรฐาน ค. 2.1 เข้าใจพนื้ ฐานเกีย่ วกับการวดั วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงที่ต้องการวดั และ นำไปใช้ 2. ตวั ช้วี ัด ค 2.1 ป.2/1 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเกยี่ วกับเวลาทม่ี หี นว่ ยเดี่ยวและเป็นหน่วยเดียวกัน 3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด ❖ ปฏทิ นิ เป็นเคร่ืองมือท่บี อก วนั เดือน ปี โดย 1 ปี มี 12 เดอื น ❖ เดือนทีล่ งท้ายด้วย คม มี 31 วัน เดอื นท่ีลงท้ายด้วย ยน มี 30 วนั เดือนกมุ ภาพนั ธม์ ี 28 วัน หรอื 29วัน 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อ่านปฏทิ นิ ได้ (K) 2. บอกวัน วันที่ เดือน ปี และวันสำคัญ จากปฏิทินได้ (P) 3. รบั ผิดชอบตอ่ หนา้ ท่ที ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรียนรู้ 1. ความรู้ (K) 1. การอ่านปฏทิ นิ 2. ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด (P) 1. ความสามารถในการสือ่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. การเช่ือมโยง 3. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 6. กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันนำ 1. ใช้ปฏิทนิ 1 เดือน ตามหนังสอื เรยี นหน้า 65 ใหน้ กั เรียนบอกสง่ิ ท่ีสงั เกตไดจ้ ากปฏทิ นิ โดยครอู าจต้ัง คำถาม ดงั น้ี ❖ ปฏทิ ินนเ้ี ปน็ เดอื นอะไร ปีอะไร ❖ มีจำนวนกี่วนั ❖ มวี ันสำคัญอะไรบ้าง และตรงกบั วนั อะไร วันท่เี ท่าไร ❖ เสาร์ที่สองของเดือนตรงกบั วันที่เท่าไร ❖ ถา้ วันนเี้ ปน็ วันท่ี 18 เม่อื วานนีแ้ ละวันพรุ่งนเี้ ปน็ วนั ทีเ่ ทา่ ไร ขนั้ สอน 2. ใชป้ ฏิทนิ ปีเดียวกันทตี่ อ่ เนื่องกนั 3 เดอื น ตามหนังสอื เรียนหน้า 66 แล้วตั้งคำถามเพื่อ กระตุ้นให้นกั เรยี นสงั เกตความต่อเน่อื งของวนั สุดทา้ ยในเดือนปัจจุบันกับวันแรกของเดือนถัดไป 3. ใชค้ ำถามเก่ยี วกบั วนั น้ี เมอ่ื วาน และพรุ่งนี้ แล้วจงึ อภปิ รายสรปุ ร่วมกันวา่ วันแรกของเดอื นปัจจุบัน จะต่อจากวันสุดท้ายของเดอื นก่อนหนา้ และวนั สุดทา้ ยของเดอื นปัจจบุ นั จะมาก่อนวันแรกของเดอื นถัดไป 4. จากนนั้ ร่วมกันตอบคำถามทา้ ยหนา้ 66 5. ใช้ปฏิทินปีปจั จุบัน จัดกจิ กรรม “วนั สำคญั ” ตามหนังสือเรียนหนา้ 67 โดยครแู บง่ นกั เรยี น เป็นกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน หรอื ตามความเหมาะสม 6. แจกปฏิทนิ ให้แต่ละกลมุ่ ช่วยกันสำรวจ และตอบคำถามเกี่ยวกับ วันสำคัญต่าง ๆ ท่ีปรากฏในปฏิทนิ ของแต่ละเดอื น 7. ให้นกั เรยี นสังเกตสขี องวนั ทข่ี องวนั สำคัญและวนั หยดุ ซ่ึงสว่ นใหญจ่ ะใชอ้ ักษรสีแดง หรือสอี ื่น ๆ ที่ แตกตา่ งจากสีของวนั ท่ีของวันปกติ โดยครูอาจใช้คำถาม เชน่ ❖ วนั พชื มงคลตรงกับวันอะไร วันท่ีเท่าไร เดอื นอะไร ❖ วันรฐั ธรรมนญู ตรงกับวนั อะไร วนั ทีเ่ ทา่ ไร เดือนอะไร ❖ วันแรงงาน ตรงกับวนั อะไร วนั ทเ่ี ทา่ ไร เดอื นอะไร ข้ันสรุป 8. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน โดยใชป้ ฏิทินท่ตี อ่ เนอ่ื งกัน 3 เดือน ตามหนงั สือเรียนหนา้ 68 ใหน้ ักเรียนตอบคำถามเก่ียวกับ วัน วันที่ และ วันสำคญั ในเดือนที่กำหนดให้ เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นได้เนน้ ย้ำความเข้าใจ เกย่ี วกับการอา่ นปฏิทิน เดือน และวนั ต่าง ๆ
9. จากนน้ั ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ส่งิ ทไ่ี ด้เรียนรู้ ว่าปฏิทนิ เปน็ เครือ่ งมือทบ่ี อก วัน เดอื น ปี และอาจ แสดงวันสำคญั ตา่ ง ๆ 10. จากนั้นให้นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัด 7.2 หน้า 42 – 44 7. สอื่ การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียนคณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 สสวท. 2. แบบฝึกคณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 สสวท. 3. ปฏทิ นิ 11. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หัด 1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.3 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 2. เครอ่ื งมือ 2.1 แบบฝึกหัด 2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม 2.3 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม ผ่านตัง้ แต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน 3.3 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น
แผนการจดั การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 12101 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 2 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 7 เรื่อง เวลา เวลา 14 ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง การเขยี นแสดง วนั เดือน ปี เวลา 1 ช่วั โมง ผู้สอน นางสาวลภสั รดา สร้อยสน ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณติ มาตรฐาน ค. 2.1 เข้าใจพน้ื ฐานเกี่ยวกับการวดั วัดและคาดคะเนขนาดของสง่ิ ท่ีต้องการวัด และ นำไปใช้ 2. ตัวช้วี ัด ค 2.1 ป.2/1 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกย่ี วกับเวลาทมี่ หี น่วยเดี่ยวและเปน็ หนว่ ยเดยี วกนั 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การเขียนแสดงวัน เดือน ปี อาจเขียนชื่อเดอื นโดยใชค้ ำย่อหรือใชล้ ำดับท่ีของเดือน และอาจเขยี นแสดง วนั ที่ ปีพทุ ธศกั ราชหรือคริสตศ์ กั ราชเปน็ ตัวเลขสองหลกั พ.ศ. เปน็ คำยอ่ ของพทุ ธศักราช และค.ศ. เปน็ คำย่อของคริสตศ์ ักราช 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อ่านวัน เดอื น ปี ทีก่ ำหนดใหไ้ ด้ (K) 2. เขียนวัน เดือน ปี ทกี่ ำหนดให้ได้ (P) 3. รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ที่ท่ไี ด้รบั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ 1. ความรู้ (K) 1. การเขยี นแสดง วนั เดอื น ปี 2. ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ (P) 1. การแก้ปัญหา 2. ความสามารถในการส่อื สารความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. การเช่ือมโยง
3. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นำ 1. ครูนำภาพสนิ คา้ หรือใบโฆษณาทีม่ ีการเขียนแสดงวนั เดือน ปี เชน่ ภาพสินค้าท่รี ะบุวันผลติ และวัน หมดอายุ เพือ่ ใหน้ กั เรยี นเห็นการเขียนแสดงวนั เดอื น ปีแบบต่าง ๆ 2. ครูแนะนำวา่ เราอาจเขียนชื่อเดอื นโดยใช้อกั ษรยอ่ หรือใชล้ ำดบั ท่ีของเดือน และเขยี นแสดงวนั ท่ี เดือน ปีเป็นตัวเลข 2 หลัก เชน่ วนั ท่ี 2 มกราคม พ.ศ. 2562สามารถเขียนแสดงเป็น 02/01/62 หรือ 02 01 62 3. ครูยกตวั อยา่ งอ่นื เพม่ิ เตมิ หรือครอู าจบอกวันที่ เดือน ปีแล้วให้นกั เรยี นออกมาเขียนแสดงวนั เดือน ปี บนกระดาน ขั้นสอน 4. ครูจดั กิจกรรม “ชีวติ ปลอดภยั ถ้าใสใ่ จ วัน เดอื น ป”ี ตามหนังสอื เรยี นหนา้ 70 โดยครแู ละนักเรียน ชว่ ยกันจดั หาสินค้าต่าง ๆ ท่พี บในชีวติ จริง ทีร่ ะบุวันผลติ และวนั หมดอายุ 5. จากนัน้ จัดนกั เรยี นเป็นกล่มุ ตามความเหมาะสมและแจกสินคา้ ให้นักเรยี นกลุ่มละ 3 – 4 ช้นิ ให้ นักเรยี น แต่ละกลมุ่ อ่านปา้ ยแสดงวันผลิต และวันหมดอายุของสนิ ค้านั้น ๆ 6. นำเสนอ แล้วจึงรว่ มกนั อภิปรายถงึ การเขยี น วนั เดือน ปี แบบตา่ ง ๆ 7. จากนั้นครนู ำเสนอเกร็ดความรู้เกี่ยวกบั อักษรย่อภาษาองั กฤษที่ปรากฏอยูบ่ นฉลากสินค้าทน่ี กั เรยี น สามารถพบได้ทวั่ ไป เชน่ MFG MFD หมายถึงวันผลิต EXP EXD หมายถงึ วันหมดอายุ 8. ใหน้ กั เรียนช่วยกันจับคู่ วัน เดือน ปี ท่ีตรงกันและเขียนแสดงวัน เดือน ปี ในแบบท่แี ตกต่างกนั ตาม หนังสอื เรียนหน้า 71 ขั้นสรุป 9. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี น โดยใหน้ กั เรียนเขียนหรอื อ่าน วนั เดือน ปี แบบตา่ ง ๆ
โดยเฉพาะการอ่าน ฉลากสนิ คา้ เนอื่ งจากเป็นเร่อื งใกลต้ ัวทน่ี กั เรียนสามารถพบไดใ้ นชวี ติ จริงตามหนังสือเรียน หนา้ 72 10. จากน้ันครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปสงิ่ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู้วา่ การเขยี นแสดงวนั เดอื น ปี มีหลายแบบ อาจ เขียนช่อื เดือนโดยใชค้ ำยอ่ หรอื ใช้ลำดับท่ีของเดือน อาจเขยี นแสดงวนั ทีแ่ ละปพี ุทธศกั ราชหรือคริสตศ์ กั ราชเปน็ ตวั เลขสองหลกั พ.ศ. เป็นคำย่อของพทุ ธศกั ราช และ ค.ศ. เปน็ คำยอ่ ของครสิ ต์ศกั ราช 11. จากนน้ั ใหน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หัด 7.3 หน้า 45 – 46 7. สอ่ื การเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียนคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 สสวท. 2. แบบฝกึ คณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 สสวท. 3. ภาพสนิ คา้ ที่ระบวุ นั ผลติ และวนั หมดอายุ 8. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหัด 1.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม 1.3 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 2. เคร่อื งมือ 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2.3 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกล่มุ 3. เกณฑก์ ารประเมนิ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน 3.3 การประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค 12101 ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 2 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 เรอ่ื ง เวลา เวลา 14 ช่วั โมง แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 5 เร่ือง การบอกเวลาเปน็ นาฬิกา เวลา 1 ชัว่ โมง ผ้สู อน นางสาวลภสั รดา สรอ้ ยสน ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 2 การวดั และเรขาคณิต มาตรฐาน ค. 2.1 เข้าใจพื้นฐานเกีย่ วกับการวดั วัดและคาดคะเนขนาดของสง่ิ ทีต่ ้องการวดั และ นำไปใช้ 2. ตวั ชีว้ ัด ค 2.1 ป.2/1 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเกี่ยวกับเวลาท่ีมหี นว่ ยเดีย่ วและเปน็ หน่วยเดยี วกัน 3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด นาฬกิ าเป็นเคร่อื งมอื บอกเวลาอาจบอกโดยใช้เข็มหรือตวั เลข การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ า เม่อื เขม็ ยาวบนหนา้ ปัดนาฬิกาชีท้ ตี่ ัวเลข 12 และเขม็ สนั้ ชที้ ต่ี ัวเลขใดจะบอก เวลาเป็นนาฬกิ าตามท่เี ขม็ ส้นั ช้ี เวลากลางวนั เริ่มต้งั แต่ 6 นาฬิกา ถึงก่อน18 นาฬิกา เวลากลางคืนเรมิ่ ตั้งแต่ 18 นาฬกิ า ถึงก่อน 6 นาฬิกา 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายเวลากลางวนั และกลางคืนได้ (K) 2. บอกเวลาเปน็ นาฬกิ าได้ (P) 3. รบั ผดิ ชอบตอ่ หน้าที่ที่ไดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ 1. ความรู้ (K) 1. การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ า 2. ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด (P) 1. ความสามารถในการสือ่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. การเชือ่ มโยง
3. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) 1. มีวินยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นำ 1. ครกู ับนกั เรียนร่วมกันสนทนาเกีย่ วกบั เวลาในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวติ ประจำวนั ของนักเรียน เช่น ต่ืนนอนเวลา 6 นาฬิกา เคารพธงชาตเิ วลา 8 นาฬิกา รบั ประทานอาหารกลางวนั เวลา 12 นาฬิกา 2. ครถู ามนักเรียนวา่ เราจะรไู้ ด้อย่างไรว่าเราต่ืนนอนเวลา 6 นาฬิกาหรือเราเคารพธงชาติเวลา 8 นาฬิกา และเรารบั ประทานอาหารกลางวันเวลา 12 นาฬิกา (ดูเวลาจากนาฬกิ า) ขน้ั สอน 3. จากน้นั ครแู นะนำนาฬิกาและส่วนประกอบตา่ ง ๆของนาฬิกาวา่ นาฬิกาเปน็ เครื่องมอื ใช้บอกเวลา หนา้ ปดั นาฬิกาประกอบดว้ ยเข็มสั้น เขม็ ยาว และตวั เลข 1 – 12 เป็นตัวเลขบอกเวลา ครหู มนุ เข็มนาฬกิ า เพ่ือแสดงใหเ้ ห็นว่า ใน 1 วัน นาฬิกาจะหมุน 2 รอบรอบละ 12 ชว่ั โมง เป็นกลางวันและกลางคนื ดังนั้น 1 วัน เทา่ กบั 12 + 12 = 24 ช่วั โมง 4. ครใู ช้นาฬิกาจริงหรอื นาฬิกาจำลองชนิดมีเฟืองหมุนเข็มนาฬกิ า เพอ่ื แสดงเวลากลางวัน เร่ิมตั้งแต่ 6 นาฬกิ า 7 นาฬิกา … จนถงึ เวลาก่อน 18 นาฬิกา(12 ช่ัวโมง) 5. ครแู นะนำการอา่ นเวลาเปน็ นาฬิกาจากหนา้ ปัดนาฬิกาโดยเร่ิมอ่านจาก 6 นาฬกิ า7 นาฬิกา … จนถงึ 12 นาฬกิ า หลงั จาก 12 นาฬิกา เข็มสน้ั จะช้ที ตี่ วั เลข 1 แตใ่ หอ้ ่านเวลาเปน็ 13 นาฬกิ า เมื่อหมนุ เข็มไปทีต่ ัวเลข 2 ใหอ้ า่ นเวลาเป็น 14 นาฬกิ า อ่านเชน่ น้ไี ปเรื่อย ๆ จนถงึ เวลาก่อน 18 นาฬกิ า ซ่ึงเขม็ ส้ันจะชี้ทต่ี ัวเลข 6 แลว้ ให้ นักเรียนสังเกตตำแหนง่ ของเขม็ สนั้ และเข็มยาววา่ ชีท้ ่ตี วั เลขใด ขั้นสรุป 6. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปวา่ นาฬกิ าเป็นเครือ่ งมอื บอกเวลา เม่อื เขม็ ยาวบนหน้าปัดนาฬิกาชที้ ี่ ตัวเลข 12 จะบอกเวลาเปน็ นาฬกิ า โดยดูจากตวั เลขทเ่ี ขม็ สนั้ ชี้ และเวลาตัง้ แต่ 6 นาฬิกา ถงึ ก่อน 18 นาฬิกา เปน็ เวลากลางวนั 7. จากนนั้ ให้นกั เรยี นช่วยกันบอกเวลาจากหน้าปัดนาฬิกาท้ายหนา้ 74 7. ส่ือการเรียนรู้ 1. หนังสือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 สสวท. 2. แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 สสวท.
3. นาฬิกาจริงหรือนาฬกิ าจำลอง 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วธิ กี ารวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหัด 1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม 2. เครอ่ื งมือ 2.1 แบบฝกึ หดั 2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑก์ ารประเมนิ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ผ่านตัง้ แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น
แผนการจัดการเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 12101 ช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนท่ี 2 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 7 เรอื่ ง เวลา เวลา 14 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6 เร่ือง การบอกเวลาเป็นนาฬกิ า เวลา 1 ชว่ั โมง ผสู้ อน นางสาวลภสั รดา สรอ้ ยสน ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต มาตรฐาน ค. 2.1 เข้าใจพื้นฐานเกีย่ วกบั การวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งท่ตี ้องการวดั และนำไปใช้ 2. ตวั ชี้วัด ค 2.1 ป.2/1 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเกีย่ วกับเวลาที่มหี นว่ ยเดยี่ วและเปน็ หน่วยเดียวกนั 3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด นาฬกิ าเปน็ เคร่ืองมือบอกเวลาอาจบอกโดยใช้เข็มหรือตวั เลข การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ า เมือ่ เข็มยาวบนหนา้ ปัดนาฬิกาช้ีทตี่ วั เลข 12 และเข็มส้นั ชท้ี ตี่ วั เลขใดจะบอก เวลาเป็นนาฬกิ าตามทเี่ ขม็ สั้นชี้ เวลากลางวันเร่มิ ตง้ั แต่ 6 นาฬกิ า ถึงก่อน18 นาฬกิ า เวลากลางคนื เร่มิ ตงั้ แต่ 18 นาฬิกา ถงึ ก่อน 6 นาฬกิ า 1 วัน เท่ากบั 24 ชั่วโมง และ 1 ชั่วโมง เท่ากบั 60 นาที 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายเวลากลางวนั และกลางคืนได้ (K) 2. บอกเวลาเปน็ นาฬกิ าได้ (P) 3. รบั ผิดชอบต่อหน้าทที่ ไี่ ด้รบั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรียนรู้ 1. ความรู้ (K) 1. การบอกเวลาเป็นนาฬกิ า 2. ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ (P) 1. ความสามารถในการสอื่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. การเชอ่ื มโยง
3. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. ม่งุ ม่ันในการทำงาน 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้ันนำ 1. ครูทบทวนเรือ่ งนาฬกิ าและเวลากลางวัน วา่ นาฬิกาเป็นเคร่ืองมอื บอกเวลา เม่ือเขม็ ยาวบนหนา้ ปัด นาฬกิ าชีท้ ่ตี วั เลข 12 จะบอกเวลาเป็นนาฬิกา โดยดูจากตัวเลขท่เี ขม็ ส้นั ช้ี และเวลาตง้ั แต่ 6 นาฬกิ า ถึงกอ่ น 18 นาฬกิ า เปน็ เวลากลางวนั ข้ันสอน 2. ครูใชน้ าฬิกา แสดงช่วงเวลากลางคืน พรอ้ มกับแนะนำการอ่านบอกเวลา โดยเรม่ิ ต้ังแต่ 18 นาฬกิ า ซงึ่ เขม็ ส้นั จะชที้ ี่ตัวเลข 6 แล้วหมนุ เข็มแสดงเวลา 19 นาฬกิ าซึ่งเขม็ สน้ั จะช้ที ตี่ ัวเลข 7 หมุนเขม็ แสดงเวลาไป เรอ่ื ย ๆจนถึง 24 นาฬิกา หรอื 0 นาฬกิ า เข็มสน้ั และเขม็ ยาวจะชี้ท่ีตวั เลข 12 3. ครูอธิบายว่า เวลา 24 นาฬกิ าหรอื 0 นาฬิกาเป็นเวลาสน้ิ สุดของวัน เมอ่ื เข็มยาวเคลื่อนทเี่ ลยตวั เลข 12จะเปน็ การเร่มิ ต้นนับวันใหม่ 4. ครหู มุนเขม็ นาฬกิ าตอ่ ไปเพื่อแสดงเวลา 1 นาฬิกา 2 นาฬิกา … 5 นาฬกิ า ใหน้ กั เรยี นอ่านเวลาต่าง ๆ ท่คี รหู มนุ และให้สังเกตตำแหนง่ ของเขม็ ยาววา่ จะชที้ ่ีเลข 12 เสมอ และสรปุ วา่ ตงั้ แต่ 18 นาฬกิ าถงึ ก่อน 6 นาฬิกา เปน็ เวลากลางคืน ข้ันสรปุ 5. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน โดยให้นักเรยี นบอกเวลา จากภาพนาฬกิ าทกี่ ำหนด ทัง้ ช่วงเวลา กลางวนั และช่วงเวลากลางคืน ตามหนังสอื เรยี นหน้า 76 6. จากนัน้ ครูและนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้องและสรปุ สิง่ ทีไ่ ด้เรียนรวู้ ่า 1 วัน มี 24 ชวั่ โมง นาฬกิ าเป็นเครื่องมอื บอกเวลา เม่ือเข็มยาวบนหน้าปดั นาฬิกาชท้ี ่ีตวั เลข 12 จะบอกเวลาเปน็ นาฬิกา โดยดจู าก ตวั เลขท่ีเขม็ ส้นั ชี้ เวลากลางวันเรม่ิ ตงั้ แต่ 6 นาฬิกา หลังจาก 12 นาฬิกา จะเปน็ เวลา 13 นาฬิกา 14 นาฬิกา 15 นาฬกิ า 16 นาฬกิ า 17 นาฬิกา จนถงึ กอ่ น 18 นาฬกิ า เวลากลางคนื เร่ิมตัง้ แต่ 18 นาฬิกา หลงั จาก 24 นาฬิกา จะเป็นเวลา 1 นาฬิกา 2 นาฬกิ า3 นาฬิกา 4 นาฬกิ า 5 นาฬกิ า จนถึงกอ่ น 6 นาฬกิ า 7. จากนนั้ ใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หัด 7.4 หนา้ 47 – 49 7. สือ่ การเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี นคณติ ศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 สสวท. 2. แบบฝึกคณติ ศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 สสวท.
3. นาฬกิ าจรงิ หรอื นาฬกิ าจำลอง 8. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วิธกี ารวัดและประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหดั 1.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม 2. เคร่ืองมอื 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น
แผนการจดั การเรยี นรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค 12101 ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นที่ 2 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 7 เรื่อง เวลา เวลา 14 ช่วั โมง แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 7 เรือ่ ง การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ า เปน็ นาที เวลา 1 ชว่ั โมง ผู้สอน นางสาวลภสั รดา สรอ้ ยสน ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 2 การวดั และเรขาคณิต มาตรฐาน ค. 2.1 เข้าใจพนื้ ฐานเกี่ยวกับการวดั วัดและคาดคะเนขนาดของสิง่ ที่ต้องการวดั และ นำไปใช้ 2. ตัวชวี้ ัด ค 2.1 ป.2/1 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปญั หาเก่ียวกบั เวลาท่มี ีหน่วยเดย่ี วและเปน็ หนว่ ยเดยี วกัน 3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การบอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาที ให้พจิ ารณาทตี่ ำแหน่งเข็มสัน้ จะบอกเวลาเป็นนาฬิกาและเขม็ ยาวจะ บอกเวลาเปน็ นาที 1 วัน เท่ากบั 24 ชว่ั โมง และ 1 ชัว่ โมง เท่ากบั 60 นาที 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายการบอกเวลาเปน็ นาฬิกา เปน็ นาทีได้ (K) 2. บอกเวลาเป็นนาฬกิ า เป็นนาทไี ด้ (P) 3. รับผดิ ชอบตอ่ หน้าทท่ี ่ีไดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ 1. ความรู้ (K) 1. การบอกเวลาเปน็ นาฬิกา 2. ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด (P) 1. ความสามารถในการสื่อสารความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. การเช่อื มโยง 3. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) 1. มีวนิ ยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งม่นั ในการทำงาน 7. กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นำ 1. ครูทบทวนการบอกเวลาเปน็ นาฬกิ าโดยการถาม-ตอบ เชน่ หมนุ เข็มส้ันไปที่ตัวเลข 3 เขม็ ยาวไปท่ี ตวั เลข 12 2. ใหน้ ักเรยี นบอกเวลาว่าเป็นเวลาอะไรโดยบอกทั้งชว่ งเวลากลางวนั และกลางคืน 3. ใช้คำถามถามนำเข้าสู่บทเรยี นว่า ถา้ เข็มยาวไม่ได้ชที้ ีต่ วั เลข 12 จะอา่ นเวลาไดอ้ ย่างไร ขนั้ สอน 4. จากน้นั ครหู มุนเขม็ แสดงเวลา 8 นาฬิกา ซง่ึ เข็มสัน้ จะชท้ี ตี่ ัวเลข 8 และเขม็ ยาวชี้ที่ตัวเลข 12 แลว้ ครหู มุนเข็มยาวชไี้ ปทีต่ วั เลข 1 ครแู นะนำ การอา่ นเวลา 8 นาฬกิ า 5 นาที แลว้ ครหู มุนเขม็ ยาวชี้ทตี่ วั เลข 2 ครูแนะนำการอา่ นเวลา 8 นาฬกิ า 10 นาที แล้วครูหมนุ เขม็ ยาวชท้ี ี่ตวั เลข 3 ครแู นะนำการอา่ นเวลา 8 นาฬิกา 15 นาที แลว้ ครหู มุนเขม็ ยาวชี้ท่ีตวั เลข 4 ครูแนะนำการอ่านเวลา 8 นาฬิกา 20 นาที ... 5. ครแู นะนำ การอา่ นชว่ ง 5 นาที เช่นนไี้ ปเรื่อย ๆ จนถงึ 8 นาฬิกา 55 นาที แลว้ หมุนเขม็ ยาวชีท้ ี่ ตัวเลข 12 เข็มสั้นเคล่ือนท่ีไปท่ีตัวเลข 9 พอดี ครูแนะนำว่า เข็มยาวชท้ี ่ตี ัวเลข 12 เป็นการเคล่ือนท่ีไป 60 นาที 6. ครถู ามนักเรยี นว่า อา่ นเปน็ เวลาใด (9 นาฬิกา) ขน้ั สรปุ 7. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรุปวา่ ในขณะทเ่ี ขม็ ยาวเคลอื่ นที่ครบ 1 รอบ ใช้เวลา 60 นาที เขม็ ส้นั เคลอ่ื นท่จี ากตัวเลข 8 ไปตัวเลข 9 ใช้เวลา 1 ช่ัวโมง ดงั นน้ั 60 นาที เท่ากับ 1 ช่ัวโมง 8. จากนัน้ ครหู มนุ เขม็ อกี 1 รอบ โดยหมุนเข็มเพ่ือแสดงเวลาต่อจาก 9 นาฬิกา ถงึ 10 นาฬิกา ให้ นักเรยี นอา่ นเวลาต่าง ๆ ทเี่ ข็มเคลือ่ นที่ไปทุก ๆ 5 นาที จนครบ 60 นาที หรือ 1 ชั่วโมง 7. สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 สสวท. 2. แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 สสวท. 3. นาฬิกาจริงหรอื นาฬกิ าจำลอง 8. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหัด 1.2 สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
2. เครอื่ งมือ 2.1 แบบฝึกหัด 2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรม 3. เกณฑก์ ารประเมิน 3.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ผ่านต้ังแต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น
แผนการจัดการเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค 12101 ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนท่ี 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 7 เร่ือง เวลา เวลา 14 ช่วั โมง แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 8 เรือ่ ง การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ า เปน็ นาที เวลา 1 ชวั่ โมง ผ้สู อน นางสาวลภสั รดา สร้อยสน ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 2 การวัดและเรขาคณิต มาตรฐาน ค. 2.1 เข้าใจพน้ื ฐานเกย่ี วกบั การวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงทีต่ อ้ งการวัด และ นำไปใช้ 2. ตวั ชว้ี ดั ค 2.1 ป.2/1 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเก่ยี วกับเวลาทม่ี ีหนว่ ยเดี่ยวและเป็นหนว่ ยเดยี วกนั 3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การบอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาที ให้พิจารณาทีต่ ำแหนง่ เขม็ สั้นจะบอกเวลาเปน็ นาฬิกาและเข็มยาวจะ บอกเวลาเปน็ นาที 1 วนั เทา่ กับ 24 ช่ัวโมง และ 1 ชว่ั โมง เทา่ กับ 60 นาที 4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายการบอกเวลาเปน็ นาฬกิ า เปน็ นาทีได้ (K) 2. บอกเวลาเปน็ นาฬกิ า เป็นนาทไี ด้ (P) 3. รับผดิ ชอบต่อหน้าที่ทีไ่ ด้รับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรียนรู้ 1. ความรู้ (K) 1. การบอกเวลาเปน็ นาฬิกา 2. ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ (P) 1. ความสามารถในการสือ่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. การเชือ่ มโยง 3. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นำ 1. ครใู ห้นกั เรียนอ่านเวลาเป็นนาฬิกาและนาที จากเวลาท่คี รกู ำหนด โดยให้บอกเวลาเปน็ กลางวนั และ กลางคืน และใหน้ กั เรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง 2. จากนน้ั ให้นักเรียนสงั เกตตำแหนง่ ของเข็มสั้นและเข็มยาว ณ เวลาตา่ ง ๆ เชน่ เวลา 8 นาฬกิ า 30 นาที เข็มสั้นชีร้ ะหวา่ งตวั เลข 8 กบั ตัวเลข 9 เข็มยาวช้ที ตี่ วั เลข 6 เวลา 8 นาฬิกา 55 นาที เข็มส้นั ชเ้ี กอื บถึง ตวั เลข 9 เข็มยาวชที้ ตี่ ัวเลข 11 เปน็ ต้น ขั้นสอน 3. ครูจดั กจิ กรรม “สนกุ กบั นาฬกิ า”โดยใช้สื่อนาฬกิ าจริงหรือนาฬิกาจำลองชนิดมเี ฟอื ง 4. ครทู ำบัตรแสดงเวลา ดงั ตัวอย่างในหนงั สือเรียนหน้า 79 5. ใหน้ กั เรียนออกมาจับบัตรแสดงเวลาแล้วหมนุ เข็มนาฬิกาตามเวลาทีน่ กั เรยี นหยิบได้ ตามบตั ร ให้นักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของตำแหนง่ เข็มส้นั และเขม็ ยาว ขั้นสรปุ 6. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียนโดยใหน้ ักเรียนจบั คูเ่ วลาใหต้ รงกบั เวลาบนหนา้ ปัดนาฬกิ าท่ี กำหนดเปน็ รายบุคคลตามหนงั สือเรียนหน้า 80 7. จากนน้ั ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้องและสรปุ สง่ิ ทไ่ี ด้เรียนรู้วา่ 60 นาที เทา่ กับ 1 ช่ัวโมง การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ าและนาทีให้พิจารณาทตี่ ำแหน่งเขม็ ส้ันและเข็มยาว 8. จากน้นั ใหน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หัด 7.5หนา้ 50 - 52 7. สื่อการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 สสวท. 2. แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 สสวท. 3. นาฬิกาจรงิ หรอื นาฬกิ าจำลอง
8. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหัด 1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเข้ารว่ มกจิ กรรม 2. เครือ่ งมือ 2.1 แบบฝึกหัด 2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 12101 ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรียนที่ 2 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 7 เรื่อง เวลา เวลา 14 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 เรือ่ ง การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ า เปน็ นาที เวลา 1 ชว่ั โมง ผูส้ อน นางสาวลภัสรดา สรอ้ ยสน ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณติ มาตรฐาน ค. 2.1 เข้าใจพนื้ ฐานเก่ียวกบั การวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งทต่ี ้องการวัด และ นำไปใช้ 2. ตวั ชีว้ ดั ค 2.1 ป.2/1 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเกี่ยวกับเวลาที่มีหน่วยเดยี่ วและเป็นหน่วยเดียวกัน 3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การบอกเวลาเปน็ นาฬิกาและนาที ใหพ้ จิ ารณาทต่ี ำแหนง่ เขม็ สั้นจะบอกเวลาเปน็ นาฬิกาและเข็มยาวจะ บอกเวลาเป็นนาที 1 วนั เทา่ กบั 24 ชัว่ โมง และ 1 ชว่ั โมง เท่ากับ 60 นาที 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายการบอกเวลาเปน็ นาฬิกา เป็นนาทีได้ (K) 2. บอกเวลาเปน็ นาฬกิ า เป็นนาทีได้ (P) 3. รับผดิ ชอบตอ่ หน้าท่ีทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ 1. ความรู้ (K) 1. การบอกเวลาเปน็ นาฬิกา 2. ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด (P) 1. ความสามารถในการสอื่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. การเชอ่ื มโยง
3. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 6. กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นำ 2. ครูใหน้ กั เรยี นอา่ นเวลาเปน็ นาฬิกาและนาที จากเวลาท่คี รูกำหนด โดยให้บอกเวลาเปน็ กลางวนั และ กลางคนื และใหน้ กั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง 2. จากนั้นใหน้ ักเรยี นสงั เกตตำแหนง่ ของเขม็ ส้นั และเขม็ ยาว ณ เวลาตา่ ง ๆ เช่น เวลา 8 นาฬิกา 30 นาที เข็มสัน้ ชร้ี ะหวา่ งตัวเลข 8 กบั ตวั เลข 9 เขม็ ยาวช้ีที่ตัวเลข 6 เวลา 8 นาฬิกา 55 นาที เข็มสัน้ ช้ีเกือบถงึ ตัวเลข 9 เข็มยาวชี้ที่ตวั เลข 11 เปน็ ตน้ ขั้นสอน 3. ครูจดั กจิ กรรม “สนุกกบั นาฬกิ า”โดยใชส้ ่อื นาฬิกาจริงหรือนาฬกิ าจำลองชนดิ มเี ฟือง 4. ครูทำบัตรแสดงเวลา ดงั ตวั อย่างในหนังสือเรยี นหน้า 79 5. ให้นกั เรยี นออกมาจับบัตรแสดงเวลาแลว้ หมนุ เข็มนาฬิกาตามเวลาที่นักเรียนหยบิ ได้ ตามบตั ร ให้นกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ งของตำแหน่งเข็มสนั้ และเขม็ ยาว ข้ันสรุป 6. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี นโดยใหน้ ักเรียนจับค่เู วลาใหต้ รงกบั เวลาบนหน้าปดั นาฬิกาที่ กำหนดเป็นรายบคุ คลตามหนังสือเรียนหน้า 80 7. จากนน้ั ครแู ละนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้องและสรปุ ส่งิ ท่ีได้เรียนรู้ว่า 60 นาที เท่ากับ 1 ชวั่ โมง การบอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาทีใหพ้ จิ ารณาที่ตำแหน่งเขม็ สัน้ และเขม็ ยาว 8. จากนน้ั ให้นกั เรียนทำแบบฝึกหัด 7.5หน้า 50 - 52 7. ส่อื การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 สสวท. 2. แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 สสวท.
3. นาฬิกาจริงหรือนาฬกิ าจำลอง 8. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วิธีการวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหัด 1.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม 2. เครื่องมอื 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น
แผนการจดั การเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค 12101 ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรียนท่ี 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เรอื่ ง เวลา เวลา 14 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 9 เรื่อง การบอกระยะเวลาเป็นชว่ั โมง เป็นนาที เวลา 1 ชั่วโมง ผูส้ อน นางสาวลภสั รดา สรอ้ ยสน ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 2 การวัดและเรขาคณติ มาตรฐาน ค. 2.1 เข้าใจพืน้ ฐานเกยี่ วกับการวดั วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงทต่ี อ้ งการวดั และ นำไปใช้ 2. ตวั ช้วี ัด ค 2.1 ป.2/1 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปญั หาเก่ียวกับเวลาที่มีหน่วยเดี่ยวและเป็นหนว่ ยเดียวกนั 3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด 1 วัน เทา่ กับ 24 ช่ัวโมง และ 1 ชั่วโมง เท่ากบั 60 นาที การบอกเวลาเปน็ นาฬิกาและนาที ให้พิจารณาทตี่ ำแหนง่ เข็มสนั้ จะบอกเวลาเปน็ นาฬิกาและเข็มยาว จะบอกเวลาเป็นนาที 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายการบอกระยะเวลาเป็นชัว่ โมง เป็นนาทไี ด้ (K) 2. บอกระยะเวลาเปน็ ช่วั โมง เปน็ นาที เมื่อกำหนดเวลาเรม่ิ ต้นและเวลาสิ้นสุดกิจกรรมได้ (P) 3. รับผดิ ชอบตอ่ หน้าที่ที่ได้รบั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรียนรู้ 1. ความรู้ (K) 1. การบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมงเป็นนาที 2. ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ (P) 1. การแกป้ ัญหา 2. ความสามารถในการสอื่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. การเช่อื มโยง 4. การใหเ้ หตุผล
3. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน 6. กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันนำ 1. ครูตดิ บตั รภาพตามหนงั สอื เรียนหน้า 81 ทแ่ี สดงระยะเวลาทพี่ อ่ ใชล้ ้างรถ 2. ครูใช้การถาม-ตอบ ดังนี้ ❖ พ่อเร่ิมลา้ งรถเวลาใด (8 นาฬิกา) ❖ พอ่ ล้างรถเสรจ็ เวลาใด (10 นาฬกิ า) ขน้ั สอน 3. จากนน้ั ครูถามว่า พ่อใช้เวลาล้างรถก่ชี วั่ โมงรไู้ ด้อยา่ งไร นักเรยี นอาจจะยงั ตอบไมไ่ ด้ 4. ครูควรแนะนำวธิ ีการหาระยะเวลาเป็นชั่วโมงโดยนบั จาก เวลาเรมิ่ ต้น คอื 8 นาฬิกา ไปจนถงึ เวลาสิน้ สุด คอื 10 นาฬิกา นับได้ 2 ช่วั โมง ดงั นั้น พ่อใช้เวลาลา้ งรถ 2 ชัว่ โมง 5. จากนนั้ ครูตดิ บัตรภาพแม่ทำงานบา้ น 6. แล้วใช้การถาม-ตอบในทำนองเดียวกัน แล้วครถู ามว่า พอ่ ใชเ้ วลาลา้ งรถมากกวา่ หรือน้อยกวา่ ท่แี ม่ใช้ เวลาทำงานบ้าน (พ่อใชเ้ วลาล้างรถน้อยกว่าแมใ่ ช้เวลาทำงานบา้ น) แล้วเปรยี บเทียบให้นกั เรยี นเห็นวา่ ระยะเวลา ที่พอ่ ลา้ งรถ 2 ชวั่ โมง นอ้ ยกว่าระยะเวลาทแ่ี ม่ทำงานบ้าน 3 ชว่ั โมง อยู่ 1 ชว่ั โมง โดยการเปรียบเทียบสว่ นทแี่ ร เงาแสดงระยะเวลาในบัตรภาพที่ต่างกันอยู่ 1 ช่อง ชอ่ งละ 1 ชั่วโมง 7. จากน้นั ให้นักเรยี นชว่ ยกนั บอกระยะเวลาทเ่ี รยี นคณติ ศาสตร์ตงั้ แต่9 นาฬิกา ถึง 10 นาฬิกา และ ระยะเวลาในการซ้อมกฬี าตั้งแต่ 14 นาฬิกา ถึง 16 นาฬิกา
ข้ันสรปุ 8. ให้นกั เรยี นเปรียบเทียบวา่ กจิ กรรมใดใชเ้ วลามากกวา่ กัน แลว้ ร่วมกนั สรปุ วา่ การบอกระยะเวลา เป็นชัว่ โมง ให้สังเกตการเคลือ่ นท่ขี องเข็มส้ันวา่ เคล่อื นท่ไี ปกี่ชอ่ ง 7. ส่อื การเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 สสวท. 2. แบบฝกึ คณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 สสวท. 3. นาฬิกาจรงิ หรือนาฬกิ าจำลอง 8. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหัด 1.2 สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้าร่วมกจิ กรรม 2. เครอ่ื งมือ 2.1 แบบฝึกหัด 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม 3. เกณฑก์ ารประเมนิ 3.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น
แผนการจดั การเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค 12101 ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นที่ 2 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 7 เรื่อง เวลา เวลา 14 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 10 เร่ือง การบอกระยะเวลาเปน็ ช่วั โมง เป็นนาที เวลา 1 ชว่ั โมง ผู้สอน นางสาวลภสั รดา สรอ้ ยสน ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 2 การวัดและเรขาคณติ มาตรฐาน ค. 2.1 เข้าใจพน้ื ฐานเก่ยี วกับการวดั วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงทตี่ ้องการวดั และ นำไปใช้ 2. ตวั ชวี้ ัด ค 2.1 ป.2/1 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเก่ียวกบั เวลาท่ีมหี นว่ ยเดย่ี วและเปน็ หนว่ ยเดยี วกนั 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด 1 วนั เท่ากับ 24 ช่วั โมง และ 1 ชว่ั โมง เท่ากับ 60 นาที การบอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาที ให้พจิ ารณาทีต่ ำแหนง่ เขม็ สน้ั จะบอกเวลาเป็นนาฬกิ าและเขม็ ยาว จะบอกเวลาเป็นนาที 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายการบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมง เป็นนาทไี ด้ (K) 2. บอกระยะเวลาเป็นชว่ั โมง เปน็ นาที เม่อื กำหนดเวลาเร่มิ ตน้ และเวลาสิน้ สดุ กิจกรรมได้ (P) 3. รับผิดชอบตอ่ หน้าทท่ี ่ไี ดร้ บั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ 1. ความรู้ (K) 1. การบอกระยะเวลาเปน็ ชว่ั โมงเปน็ นาที 2. ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ (P) 1. การแก้ปัญหา 2. ความสามารถในการส่ือสารความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. การเช่ือมโยง 4. การให้เหตุผล
3. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำ 1. ครตู ิดบัตรภาพตามหนังสอื เรยี นหนา้ 82 ที่แสดงระยะเวลาทน่ี ิดล้างจาน 2. ครูใชก้ ารถาม-ตอบ ดงั น้ี ❖ นิดเร่มิ ลา้ งจานเวลาใด (17 นาฬิกา) ❖ นดิ ล้างจานเสร็จเวลาใด (17 นาฬิกา 15 นาที) ข้นั สอน 3. จากน้ันครถู ามว่า นดิ ใช้เวลาล้างจานกี่นาที รู้ได้อย่างไร นกั เรียนอาจจะยงั ตอบไมไ่ ด้ 4. ครคู วรแนะนำวิธกี ารหาระยะเวลาเปน็ นาที โดยนบั จากเวลาเรมิ่ ต้น คอื 17 นาฬิกา 0 นาที จนถึงเวลาสิ้นสดุ คือ 17 นาฬิกา 15 นาที นับได้ 15 นาที ดงั นนั้ นิดใช้เวลาลา้ งจาน 15 นาที 5. จากนั้นครูตดิ บตั รภาพหนอ่ ยลา้ งหอ้ งน้ำ 5. ครูใชก้ ารถาม-ตอบในทำนองเดยี วกนั แลว้ ถามวา่ หนอ่ ยใช้เวลาลา้ งหอ้ งน้ำมากกว่าหรอื นอ้ ยกว่านิด ใชเ้ วลาล้างจาน (หนอ่ ยใชเ้ วลาล้างห้องนำ้ มากกวา่ นดิ ใชเ้ วลาลา้ งจาน)
7. เปรียบเทียบให้นักเรยี นเห็นว่าระยะเวลาท่นี ิดใชเ้ วลาลา้ งห้องน้ำ 20 นาที มากกว่าระยะเวลาทน่ี ิด ล้างจาน 15 นาที อยู่ 5 นาที โดยการเปรียบเทยี บสว่ นท่แี รเงาแสดงระยะเวลาในบตั รภาพทตี่ ่างกนั อยู่ 1 ชอ่ ง ช่องละ 5 นาที 8. จากนัน้ ใหน้ กั เรยี นช่วยกนั บอกระยะเวลาท่อี าบน้ำต้ังแต่ 6 นาฬกิ า ถงึ 6 นาฬกิ า 10 นาที และ ระยะเวลาในการรับประทานอาหาร ต้งั แต่ 7 นาฬิกา 5 นาที ถงึ 7 นาฬิกา 30 นาที ขั้นสรปุ 9. ให้นกั เรยี นเปรยี บเทียบวา่ กิจกรรมใดใช้เวลามากกว่ากัน แลว้ ร่วมกนั สรปุ ว่า การบอกระยะเวลาเปน็ นาที ให้สงั เกตการเคลอื่ นท่ขี องเขม็ ยาวว่าเคลื่อนทไี่ ปกีช่ ่อง 7. สอื่ การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 สสวท. 2. แบบฝกึ คณติ ศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 สสวท. 3. นาฬิกาจริงหรือนาฬกิ าจำลอง 8. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวดั และประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หดั 1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรม 2. เครื่องมอื 2.1 แบบฝึกหัด 2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน
แผนการจัดการเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค 12101 ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นท่ี 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 7 เรือ่ ง เวลา เวลา 14 ชัว่ โมง แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 11 เรื่อง การบอกระยะเวลาเปน็ ช่ัวโมง เปน็ นาที เวลา 1 ชัว่ โมง ผ้สู อน นางสาวลภัสรดา สรอ้ ยสน ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 2 การวดั และเรขาคณิต มาตรฐาน ค. 2.1 เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกบั การวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่งิ ทีต่ ้องการวัด และนำไปใช้ 2. ตัวชี้วัด ค 2.1 ป.2/1 แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหาเกยี่ วกบั เวลาทีม่ ีหนว่ ยเด่ยี วและเปน็ หนว่ ยเดยี วกนั 3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด 1 วนั เทา่ กบั 24 ชัว่ โมง และ 1 ชั่วโมง เท่ากบั 60 นาที การบอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาที ใหพ้ จิ ารณาท่ตี ำแหน่งเข็มสน้ั จะบอกเวลาเปน็ นาฬิกาและเข็มยาว จะบอกเวลาเปน็ นาที 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายการบอกระยะเวลาเป็นชัว่ โมง เป็นนาทีได้ (K) 2. บอกระยะเวลาเปน็ ช่ัวโมง เป็นนาที เมื่อกำหนดเวลาเร่มิ ตน้ และเวลาส้ินสุดกจิ กรรมได้ (P) 3. รับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ที่ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรียนรู้ 1. ความรู้ (K) 1. การบอกระยะเวลาเป็นชว่ั โมงเปน็ นาที 2. ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด (P) 1. การแก้ปัญหา 2. ความสามารถในการสือ่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. การเช่อื มโยง 4. การให้เหตุผล
3. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้ันนำ 1. ครูตดิ บตั รภาพตามหนงั สอื เรยี นหน้า 83 2. จากนนั้ ใช้การถาม-ตอบ โดยใช้นาฬกิ าเป็นส่ือให้นักเรยี นเห็นเวลาเริ่มทำการบ้านคือ 19 นาฬิกา แล้วหมนุ เข็มใหน้ าฬกิ าเดนิ ไป 1 ชว่ั โมง เพื่อแสดงเวลาที่ตน้ กล้าทำการบา้ นเสรจ็ คอื 20 นาฬิกา 3. ครถู ามว่าตน้ กลา้ ทำการบ้านเสรจ็ เวลาใด (20 นาฬกิ า) ขั้นสอน 4. จากนน้ั ครตู ดิ บตั รภาพแก้วตาเรมิ่ ป่ันจกั รยานเวลา 17 นาฬกิ า 10 นาที และเวลาผ่านไป 25 นาที ครหู มนุ เขม็ นาฬกิ าใหน้ ักเรยี นเหน็ การเคล่ือนทีข่ องเขม็ ยาวจากเวลา 17 นาฬิกา 10 นาที โดยใช้เวลา 25 นาที หรือ 5 ช่อง ไปสน้ิ สดุ กิจกรรมที่เวลา 17 นาฬิกา35 นาที 5. ครูถามนักเรยี นวา่ แก้วตาปั่นจกั รยานเสร็จเวลาใด (17นาฬิกา 35 นาที) 6. จากน้นั ให้นักเรียนรว่ มกนั อ่านโจทยแ์ ละตอบคำถามเกี่ยวกับระยะเวลาทา้ ยหนงั สอื เรยี นหนา้ 83 ครูและนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และสรปุ บทเรียน ขน้ั สรปุ 7. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียน โดยกำหนดเวลาเรมิ่ กิจกรรมและเวลาสิ้นสดุ กิจกรรมให้ 2 กิจกรรมตามหนังสือเรยี นหนา้ 84 ใหน้ กั เรยี นหาระยะเวลาในการทำกิจกรรมเป็นชวั่ โมง เป็นนาที และ กำหนดเวลาเรมิ่ กิจกรรมและระยะเวลาในการทำกิจกรรมเปน็ ชวั่ โมงเปน็ นาที ให้ 2 กิจกรรม ให้นกั เรยี นหาเวลา สิน้ สุดกจิ กรรมเป็นรายบคุ คล 8. จากนั้นครูและนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้องและ สรุปส่ิงทีไ่ ดเ้ รยี นรู้วา่ การบอกระยะเวลา อาจบอกเปน็ ชัว่ โมงหรอื เป็นนาทีโดยนับจากเวลาเร่ิมต้นจนถึงเวลาสน้ิ สดุ 9. จากนน้ั ให้นักเรียนทำแบบฝกึ หัด 7.6 หนา้ 53 – 55 7. สื่อการเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 2 สสวท. 2. แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 2 สสวท. 3. นาฬกิ าจริงหรือนาฬิกาจำลอง
8. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหดั 1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม 2. เครือ่ งมือ 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 3. เกณฑก์ ารประเมนิ 3.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรม ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252