67 “มาตรา ๑๐/๑ เมอื่ ผู้สูงอายุมสี ทิ ธิหรือเข้าเกณฑ์ไดร้ ับสิทธจิ ะได้รบั บานาญพน้ื ฐานตาม พระราชบัญญตั ินีแ้ ละใหร้ าชการสว่ นท้องถ่นิ ยกเว้นองค์การบริหารสว่ นจังหวดั มีหน้าทแี่ ละอานาจ ดาเนินการจดั ทาทะเบียนรายชื่อของผู้สูงอายทุ ีจ่ ะไดร้ บั บานาญพน้ื ฐานไดโ้ ดยสะดวก ทั้งนี้ ตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงอ่ื นไขท่ีคณะกรรมการกาหนดในระเบยี บ การดาเนนิ การตามวรรคหนงึ่ ใหห้ มายความรวมถึงการได้รับมอบหมายให้จา่ ยเงนิ บานาญ พน้ื ฐานในกรณีไม่สามารถโอนเขา้ บญั ชเี งนิ ฝากธนาคารของผมู้ ีสทิ ธิ และการทดรองจ่ายจากเงินสะสมใน กรณงี บประมาณประจาปีมีการจ่ายล่าช้า ทง้ั น้ี ตามหลักเกณฑ์ วธิ กี าร และเง่ือนไขท่ีรัฐมนตรีวา่ การ กระทรวงมหาดไทยกาหนดในระเบยี บ เมอื่ ไดด้ าเนินการทดรองจ่ายจากเงนิ สะสมในกรณงี บประมาณประจาปมี ีการจ่ายลา่ ชา้ ตามวรรคสองแล้ว ให้รายงานผลต่อกรมส่งเสรมิ การปกครองทอ้ งถ่นิ กระทรวงมหาดไทย จดั สรร งบประมาณประจาปีเพื่อชดใช้เงินทดรองต่อไป มาตรา ๑๐/๒ ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถ่นิ กระทรวงมหาดไทย มีหน้าท่แี ละ อานาจจดั ทางบประมาณประจาปเี พอื่ จา่ ยบานาญพื้นฐาน” มาตรา ๙ ให้ยกเลิกความใน (๑๑) ของมาตรา ๑๑ แห่งพระราชบญั ญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ ซ่ึงแกไ้ ขเพมิ่ เติมโดยพระราชบญั ญัตผิ ูส้ งู อายุ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐ และให้ใชค้ วามตอ่ ไปน้ีแทน “(๑๑) การจา่ ยเงินบานาญพื้นฐานเป็นรายเดอื นเพอื่ เป็นหลกั ประกันรายไดแ้ ก่ผสู้ งู อายุ ตามอตั ราทีค่ ณะรฐั มนตรีให้ความเหน็ ชอบ ท้ังน้ี ควรมีอัตราไมต่ ่ากวา่ เส้นแบ่งความยากจนตามทีก่ าหนด โดยสภาพฒั นาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในปีกอ่ นจ่ายด้วย ในกรณผี ู้สงู อายุไดร้ ับสิทธิสวัสดกิ ารจาก รฐั ตามกฎหมายอ่นื ท่มี ีการจ่ายในทานองเดียวกนั กบั เงนิ บานาญพ้ืนฐานน้ี ใหผ้ ู้นั้นเลือกรับสิทธิได้ทางเดยี ว เวน้ แต่ผ้สู ูงอายทุ ่ีได้รับสิทธิเบ้ียความพิการ การรับบานาญชราภาพจากกองทุนประกนั สังคม การรับบานาญ จากกองทุนการออมแห่งชาติ และให้มีการศึกษาเพอื่ ปรับปรุงอตั ราการจา่ ยทกุ สามปดี ้วย” มาตรา ๑๐ ใหย้ กเลิก (๑๑/๑) ของมาตรา ๑๑ แห่งพระราชบัญญตั ิผู้สงู อายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ ซง่ึ แก้ไขเพมิ่ เติมโดยพระราชบัญญตั ผิ สู้ งู อายุ (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๑ ให้ยกเลกิ ความในมาตรา ๑๓ แห่งพระราชบญั ญตั ิผสู้ ูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ และ ให้ใช้ความตอ่ ไปน้ีแทน “มาตรา ๑๓ ให้จัดตงั้ กองทนุ ขน้ึ กองทนุ หน่ึงในกรมกจิ การผู้สูงอายุ กระทรวงการพฒั นา สังคมและความมนั่ คงของมนุษย์ เรียกวา่ “กองทนุ ผสู้ ูงอายุและบานาญพื้นฐานแห่งชาติ” มฐี านะเป็นนิติ บุคคล โดยมีวัตถปุ ระสงค์เพ่ือให้เป็นแหล่งเงินทนุ สาหรับใช้จา่ ยเกี่ยวกับการคุ้มครอง การส่งเสริม การ สนับสนุน และการจดั สวัสดิการบานาญพื้นฐานสมทบงบประมาณประจาปสี าหรับจ่ายบานาญพ้นื ฐานให้แก่ ผูส้ งู อายุ รวมท้งั ใช้จา่ ยในการบรหิ ารจัดการกองทุน ตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี” มาตรา ๑๒ ใหเ้ พิ่มความต่อไปนีเ้ ปน็ มาตรา ๑๓/๑ มาตรา ๑๓/๒ มาตรา ๑๓/๓ และ มาตรา ๑๓/๔ แห่งพระราชบัญญัตผิ ู้สูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ “มาตรา ๑๓/๑ ให้กองทนุ มีอานาจกระทากจิ การตา่ ง ๆ ภายในขอบแหง่ วตั ถุประสงค์ตาม มาตรา ๑๓ และอานาจเช่นวา่ นใ้ี ห้รวมถงึ
68 (๑) ถือกรรมสทิ ธ์ิ มีสิทธคิ รอบครอง และมีทรัพยสทิ ธิตา่ ง ๆ (๒) ก่อตง้ั สทิ ธหิ รือกระทานติ ิกรรมใด ๆ (๓) กระทาการอ่นื ใดทเ่ี กย่ี วกับหรอื เกีย่ วเน่อื งในการจดั การใหส้ าเรจ็ ตามวตั ถุประสงค์ของ กองทุน มาตรา ๑๓/๒ ในกิจการของกองทนุ ท่เี ก่ยี วข้องกบั บคุ คลภายนอก ให้อธิบดีกรมกจิ การ ผสู้ ูงอายุเปน็ ผู้แทนกองทุน เพื่อการนี้ อธบิ ดีกรมกิจการผู้สงู อายุจะมอบหมายใหบ้ คุ คลใดปฏิบตั ิงานในเรื่อง ใดแทนก็ได้ แต่ต้องเปน็ ไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกาหนด มาตรา ๑๓/๓ ใหจ้ ดั ตง้ั สานักงานกองทนุ ผสู้ งู อายุและบานาญพน้ื ฐานแหง่ ชาติข้นึ ในกรม กิจการผสู้ งู อายุ ทาหนา้ ทีเ่ กีย่ วกบั งานธรุ การและวิชาการใหก้ ับกองทนุ คณะกรรมการบริหารกองทนุ คณะอนุกรรมการกิจการบานาญพ้นื ฐานแหง่ ชาติ คณะอนุกรรมการอื่น คณะทางาน หรือบคุ คลท่ี คณะกรรมการ หรอื คณะกรรมการบรหิ ารกองทุนแต่งต้งั ให้ดาเนนิ การตามพระราชบญั ญัตินี้ รวมทัง้ ให้มี อานาจหนา้ ทีด่ ังตอ่ ไปน้ี (๑) รับคาขอสนับสนนุ แผนงานหรอื โครงการจากหนว่ ยงานภาครฐั และองค์กรเอกชน ตลอดจนองค์กรด้านผสู้ งู อายุ ท้ังนี้ ตามระเบียบที่คณะกรรมการกาหนด (๒) จัดทายุทธศาสตร์ แผนงาน โครงการของกองทนุ รวมถึงกิจการเก่ียวกบั เงนิ สมทบ บานาญพืน้ ฐานทั้งระยะส้นั และระยะยาว (๓) เสนอความเห็นประกอบคาขอตาม (๑) และ (๒) เพ่ือเสนอใหค้ ณะกรรมการบริหาร กองทุนหรอื คณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องพิจารณา (๔) ประสานงานและร่วมมือกับสว่ นราชการ หน่วยงานของรฐั และหน่วยงานเอกชนใน การดาเนินงานของกองทนุ (๕) รับเงนิ จ่ายเงิน เก็บรกั ษาเงิน การตดั หนี้เปน็ สญู ของกองทุนตามระเบียบท่ี คณะกรรมการกาหนดโดยความเหน็ ชอบของกระทรวงการคลงั (๖) พฒั นาระบบ รูปแบบ วธิ ีการ และการใหบ้ ริการของกองทุน เพื่อสนบั สนนุ การ ดาเนนิ งานของกองทุน (๗) เก็บ รวบรวม วเิ คราะห์ และวิจยั ขอ้ มลู เกยี่ วกับการสนบั สนนุ การดาเนนิ งานของ กองทุน (๘) หน้าท่ีอืน่ ๆ ตามที่ไดร้ บั มอบหมาย มาตรา ๑๓/๔ ในการบรหิ ารจัดการของกองทนุ อธิบดกี รมกิจการผู้สงู อายจุ ะมอบหมายให้ ข้าราชการหรือเจา้ หน้าที่ของกรมกจิ การผ้สู ูงอายปุ ฏิบัติงานในกจิ การของกองทุนแล้ว กองทุนอาจจ้าง ผ้ปู ฏิบัติงานของกองทนุ ในตาแหนง่ ผู้จัดการกองทนุ และพนักงานของกองทุนเพื่อให้การบรหิ ารจัดการ กองทนุ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทัง้ นี้ ตามระเบียบที่คณะกรรมการกาหนด หลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารสรรหาผปู้ ฏิบตั งิ านของกองทุน แบบสัญญาจ้าง การปฏบิ ตั งิ าน อัตราเงินเดือน สทิ ธปิ ระโยชนอ์ น่ื นอกจากเงนิ เดือน โครงสร้างการบรหิ าร ตลอดจนการบรหิ ารงานบคุ คล ตามวรรคหน่ึง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วธิ กี าร และเง่ือนไขท่ีคณะกรรมการกาหนดในระเบียบ ในกรณี คณะกรรมการยังมิได้กาหนดให้นาหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงื่อนไขการปฏิบตั ิตามระเบยี บสานัก นายกรัฐมนตรีวา่ ด้วยพนกั งานราชการมาใช้บังคับโดยอนโุ ลม”
69 มาตรา ๑๓ ใหย้ กเลิกความใน (๒/๑) ของมาตรา ๑๔ แหง่ พระราชบัญญัตผิ ้สู ูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ ซึ่งแกไ้ ขเพ่มิ เตมิ โดยพระราชบัญญัตผิ สู้ งู อายุ (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐ และให้ใชค้ วามตอ่ ไปนีแ้ ทน “(๒/๑) เงินบารงุ ท่ีไดจ้ ากภาษสี รรพสามติ สุรา ยาสูบ น้ามันเช้ือเพลิง รถ หรอื ภาษีอนื่ ตามท่รี ัฐมนตรวี ่าการกระทรวงการคลงั ประกาศกาหนด (๒/๒) เงนิ ทไ่ี ด้รบั จากสานักงานสลากกินแบง่ รัฐบาลตามกฎหมายวา่ ดว้ ยสานกั งานสลาก กนิ แบ่งรัฐบาล (๒/๓) เงนิ บารุงท่ีไดจ้ ากส่วนแบ่งคา่ สมั ปทาน คา่ ธรรมเนียมใบอนญุ าต ในกจิ การสือ่ สาร วทิ ยุโทรทัศน์ และคมนาคมตามกฎหมายวา่ ดว้ ยองคก์ ารจัดสรรคล่นื ความถ่แี ละกากบั ดแู ลกจิ การ วิทยกุ ระจายเสยี ง วิทยโุ ทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (๒/๔) เงินบารงุ ที่ได้จากส่วนแบง่ รายได้จากคา่ ภาคหลวงตามกฎหมายวา่ ด้วยแร่ (๒/๕) เงินที่ไดจ้ ากเงนิ บารงุ จากภาษตี ามกฎหมายวา่ ด้วยรถยนต์ (๒/๖) เงินบารงุ ท่ีได้จากสว่ นแบ่งค่าสมั ปทาน คา่ ใบอนญุ าต ค่าภาษี หรอื ค่าธรรมเนยี มอน่ื ตามกฎหมายว่าด้วยการพนนั (๒/๗) เงินบารุงที่คลังได้รบั มาตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการบริหารทนุ หมนุ เวยี น (๒/๘) เงินบารุงที่ไดจ้ ากภาษีเงินไดป้ ระจาปขี องบคุ คลธรรมดาหรอื นิติบคุ คลทไี่ มไ่ ดร้ บั การ ต่อสิทธิพเิ ศษตามกฎหมายวา่ ด้วยสง่ เสรมิ การลงทุน (๒/๙) เงินบารงุ ที่ได้จากภาษเี งินได้ของบุคคลธรรมดาตามท่ีไดแ้ จง้ ความจานงในการย่ืน แบบการเสยี ภาษีประจาปี (๒/๑๐) เงินบารุงทไ่ี ดจ้ ากส่วนแบง่ รายได้คา่ สัมปทาน คา่ ภาคหลวง หรอื ค่าธรรมเนียมอ่นื จากกิจการขุดเจาะนา้ มันหรือกา๊ ซธรรมชาตติ ามกฎหมายปิโตรเลียม (๒/๑๑) เงินบารงุ อ่นื ๆ ตามท่ีคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ” มาตรา ๑๔ ใหย้ กเลิกความในมาตรา ๑๕/๑ มาตรา ๑๕/๒ และมาตรา ๑๕/๓ แห่ง พระราชบญั ญัติผสู้ ูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ ซ่ึงแก้ไขเพ่มิ เติมโดยพระราชบัญญัตผิ ้สู ูงอายุ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐ และให้ใชค้ วามต่อไปนี้แทน “มาตรา ๑๕/๑ ให้เรยี กเก็บเงินบารงุ กองทุนจากผมู้ ีหน้าท่ีเสยี ภาษีสรรพสามิตในสว่ นที่ เกยี่ วกับสนิ คา้ สุรา ยาสบู นา้ มนั เชอ้ื เพลิง หรือรถ ในอตั ราไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละห้าของภาษีที่เกบ็ จากสรุ า ยาสบู นา้ มนั เชอื้ เพลงิ หรือรถตามกฎหมายวา่ ดว้ ยภาษีสรรพสามติ และใหผ้ ูม้ ีหนา้ ทเ่ี สยี ภาษดี ังกลา่ วเปน็ ผู้ มหี น้าทส่ี ่งเงนิ บารุงกองทนุ พร้อมกบั ชาระภาษสี รรพสามิต ท้งั นี้ ตามระเบียบทร่ี ฐั มนตรีว่าการ กระทรวงการคลงั กาหนด ในการคานวณเงนิ บารงุ กองทุนตามวรรคหนึง่ หากมเี ศษของหนง่ึ สตางค์ใหป้ ัดทงิ้ มาตรา ๑๕/๒ ใหก้ รมสรรพสามิตและกรมศุลกากรเป็นผดู้ าเนนิ การเรียกเก็บเงินบารุง กองทุนตามมาตรา ๑๔ (๒/๑) เพ่ือนาสง่ เขา้ กองทนุ ตามระเบียบทร่ี ฐั มนตรวี ่าการกระทรวงการคลงั กาหนด โดยไม่ตอ้ งนาสง่ คลังเป็นรายได้แผ่นดนิ เพ่ือประโยชน์ในการเรยี กเกบ็ เงินบารงุ กองทนุ ตามวรรคหนึ่งเงนิ บารุงกองทนุ ให้ถือเปน็ ภาษแี ตไ่ ม่ใหน้ าไปรวมคานวณเปน็ มลู คา่ ของภาษี มาตรา ๑๕/๓ ในกรณีที่ผู้มหี นา้ ท่เี สียภาษีสรรพสามิตในสว่ นท่ีเกยี่ วกับสนิ คา้ สรุ า ยาสูบ นา้ มนั เชอื้ เพลิง รถ หรือภาษีอื่น ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยภาษสี รรพสามิตไดร้ บั การยกเวน้ ลดหยอ่ น หรอื คนื
70 ภาษี ให้ได้รบั การยกเวน้ ลดหยอ่ น หรือคนื เงินบารุงกองทนุ ดว้ ย ตามระเบยี บทรี่ ัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลงั กาหนด” มาตรา ๑๕ ให้เพ่มิ ความต่อไปน้เี ปน็ มาตรา ๑๕/๙ มาตรา ๑๕/๑๐ มาตรา ๑๕/๑๑ มาตรา ๑๕/๑๒ มาตรา ๑๕/๑๓ มาตรา ๑๕/๑๔ มาตรา ๑๕/๑๕ มาตรา ๑๕/๑๖ มาตรา ๑๕/๑๗ มาตรา ๑๕/๑๘ และมาตรา ๑๕/๑๙ แหง่ พระราชบัญญตั ิผู้สูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ “มาตรา ๑๕/๙ ให้กองทุนมรี ายไดจ้ ากการออกสลากตามกฎหมายว่าดว้ ยสานกั งานสลาก กินแบ่งรฐั บาลและใหส้ านกั งานสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นผมู้ ีหน้าท่ดี าเนินการและส่งเงินรายได้ดังกล่าว การกาหนดจานวน รปู แบบ และราคาสลากตามวรรคหน่ึง ให้คณะกรรมการเสนอ คณะรัฐมนตรใี หค้ วามเห็นชอบ ทง้ั นี้ การออกสลากดงั กลา่ วไม่อยูภ่ ายในบังคับตามกฎหมายว่าดว้ ยการ พนนั กรณีผู้มีสิทธเิ รียกร้องเงินรางวลั ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยสานกั งานสลากกนิ แบง่ รัฐบาลไมม่ า ขอรับเงนิ รางวลั ภายในกาหนดสองปใี ห้สานกั งานสลากกนิ แบ่งรัฐบาลเปน็ ผูม้ ีหนา้ ทน่ี าส่งรางวลั คา้ งจา่ ย พรอ้ มดอกผลเข้ากองทุน มาตรา ๑๕/๑๐ ใหก้ องทุนมีรายได้จากเงินบารุงที่ไดจ้ ากส่วนแบ่งในอัตราไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ย ละหา้ ของค่าสัมปทานหรือการอนญุ าตในกิจการสื่อสาร วทิ ยุ โทรทศั น์ และโทรคมนาคมตามกฎหมายว่า ด้วยองค์การจัดสรรคล่นื ความถแี่ ละกากับดูแลกิจการวทิ ยุกระจายเสยี ง วทิ ยุโทรทัศน์ และกิจการ โทรคมนาคม ทตี่ อ้ งนาสง่ เป็นรายไดแ้ ผ่นดนิ และให้สานักงานกจิ การกระจายเสียง กจิ การโทรทศั น์ และ กจิ การโทรคมนาคมแห่งชาติ เป็นผมู้ หี นา้ ทด่ี าเนนิ การและส่งเงินรายได้ดังกล่าวแก่กองทุนพร้อมกบั การสง่ เป็นรายไดแ้ ผน่ ดนิ มาตรา ๑๕/๑๑ ใหก้ องทุนมรี ายไดจ้ ากเงินบารงุ ที่ได้จากสว่ นแบ่งในอัตราไม่น้อยกว่าร้อย ละห้าของค่าภาคหลวงแร่ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยแร่ และให้กรมอุตสาหกรรมพ้นื ฐานและการเหมอื งแร่ เปน็ ผ้มู ี หน้าที่ดาเนนิ การและส่งเงินรายไดด้ งั กลา่ วแก่กองทนุ พร้อมกับการส่งเป็นรายได้แผน่ ดนิ มาตรา ๑๕/๑๒ ใหก้ องทนุ มีรายไดจ้ ากเงินบารุงจากภาษตี ามกฎหมายวา่ ดว้ ยรถยนต์และ ใหก้ รมการขนส่งทางบกเปน็ ผู้มีหนา้ ที่ดาเนนิ การและส่งเงินรายไดด้ งั กล่าว มาตรา ๑๕/๑๓ ให้เรยี กเกบ็ เงนิ บารุงกองทนุ จากผูม้ ีหนา้ ท่ีเสยี ภาษใี นสว่ นทเ่ี ก่ียวกบั รถใน อัตราไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละห้าของภาษีทเ่ี ก็บเพิ่มขึ้นจากรถตามกฎหมายวา่ ดว้ ยรถยนต์ และใหผ้ ู้มีหนา้ ที่เสยี ภาษดี งั กลา่ วเป็นผูม้ หี นา้ ท่ีส่งเงนิ บารงุ กองทุนพร้อมกับชาระภาษี ทงั้ นี้ ตามระเบียบทีร่ ัฐมนตรีวา่ การ กระทรวงคมนาคมกาหนด มาตรา ๑๕/๑๔ ในกรณีรัฐอนุญาต หรอื ตอ่ ใบอนุญาต ให้ผูร้ ับใบอนุญาตหรือผดู้ าเนิน กจิ การซึ่งอาจเป็นบุคคลธรรมดา นิตบิ คุ คล หรือหนว่ ยงานภาครัฐ เพอื่ จัดให้การเลน่ การพนันตามกฎหมายว่า ดว้ ยการพนนั โดยกาหนดใหผ้ ู้รบั ใบอนุญาตหรือผดู้ าเนินกจิ การซึง่ ต้องจา่ ยเงนิ บารุงไม่วา่ เป็นค่าธรรมเนยี ม คา่ สมั ปทาน หรือเงินอนื่ ใดทรี่ ัฐได้รับในทานองเดียวกนั ใหเ้ งนิ ดงั กลา่ วไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละแปดสิบ เปน็ รายไดข้ องกองทุน ใหห้ นว่ ยงานของรัฐทม่ี ีอานาจหนา้ ท่ีอนุญาตและเรียกเกบ็ เงินบารงุ ตามวรรคหนึ่งเป็นผู้มี หน้าทีส่ ่งเงินบารุงและแจ้งแก่กองทุน มาตรา ๑๕/๑๕ ใหท้ นุ หรือผลกาไรสว่ นเกินของทนุ หมนุ เวยี นที่คลงั ไดร้ ับ เปน็ รายได้ของ กองทุนตามอัตราร้อยละสบิ ของเงนิ ท่ีคลังไดร้ ับตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการบรหิ ารทนุ หมนุ เวียน
71 ใหก้ ระทรวงการคลงั มีหน้าท่ีส่งและแจง้ กองทุน มาตรา ๑๕/๑๖ ให้กองทุนมีรายได้จากเงินบารงุ ที่ไดจ้ ากภาษเี งนิ ได้ของบคุ คลธรรมดา หรอื เงนิ ได้นิติบคุ คลประจาปี ตามอัตราร้อยละหา้ สิบของจานวนเงินที่ต้องเสยี ภาษปี ระจาปี เน่อื งจากไม่ได้ รับการต่อสทิ ธิพเิ ศษตามกฎหมายวา่ ด้วยส่งเสริมการลงทนุ ใหเ้ ป็นหนา้ ทขี่ องกรมสรรพากร กระทรวงการคลงั มีหนา้ ทสี่ ่งและแจง้ กองทุน มาตรา ๑๕/๑๗ ให้กองทนุ มีรายได้จากเงนิ บารงุ ท่ีไดจ้ ากสว่ นแบง่ รายได้จากค่าสัมปทาน คา่ ภาคหลวง หรอื ภาษีจากการขดุ เจาะน้ามันเช้อื เพลงิ หรือแก๊สธรรมชาติ ตามอัตราไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละหา้ ของรายได้ตามกฎหมายวา่ ด้วยปิโตรเลียม ท้งั น้ีเป็นไปตามประกาศ ใหเ้ ปน็ หน้าท่ีของกรมเช้ือเพลิงธรรมชาติ กระทรวงอุสาหกรรม มหี นา้ ทส่ี ง่ และแจ้งกองทุน มาตรา ๑๕/๑๘ ใหค้ ณะกรรมการบรหิ ารกองทุนผสู้ งู อายแุ ละบานาญพ้ืนฐานแหง่ ชาติ จัดสรรและอนุมัติเงนิ กองทนุ ตามมาตรา ๑๔ (๒/๑) (๒/๒) (๒/๓) (๒/๔) (๒/๕) (๒/๖) (๒/๗) (๒/๘) (๒/๙) (๒/๑๐) (๒/๑๑) และ (๒/๑๒) และเงนิ ท่ีมผี บู้ ริจาคเขา้ กองทุนตามมาตรา ๑๖ (๓) ซ่งึ มวี ัตถปุ ระสงค์เพ่ือ จ่ายบานาญพ้ืนฐานสบทบกับงบประมาณประจาปีแกผ่ ูส้ ูงอายุ และการบรหิ ารจัดการกองทุน” มาตรา ๑๖ ให้ยกเลกิ ความในมาตรา ๑๖ แห่งพระราชบญั ญัติผสู้ งู อายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ และ ให้ใชค้ วามต่อไปนี้แทน “มาตรา ๑๖ ผบู้ ริจาคเงินหรือทรพั ยส์ ินใหแ้ ก่กองทนุ มีสิทธินาไปลดหยอ่ นในการคานวณ ภาษีเงินไดห้ รือได้รับการยกเว้นภาษีสาหรับทรพั ยส์ ินทีบ่ ริจาค แลว้ แต่กรณี ได้สองเทา่ ท้ังน้ี ตามหลักเกณฑ์ วธิ กี าร และเงือ่ นไขท่กี าหนดในประมวลรัษฎากร การบริจาคเงินตามวรรคหน่ึง ใหห้ มายความรวมถึงกรณีผูเ้ สียภาษเี งินได้ซ่ึงมใิ ช่นติ ิบุคคลมี สทิ ธแิ สดงเจตนาในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บคุ คลธรรมดาประจาปีใหร้ ฐั นาเงนิ ท่ีตนได้เสียภาษีไว้ไป อดุ หนุนกองทุนได้ปีละไม่เกินสามพันบาทได้ ท้ังนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากร กาหนด และใหเ้ ป็นหน้าท่ีของกรมสรรพากรในการนาสง่ และแจ้งกองทนุ ” มาตรา ๑๗ ให้เพิม่ ความต่อไปนี้ เป็นมาตรา ๑๖/๑ แหง่ พระราชบญั ญตั ผิ ู้สงู อายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ “มาตรา ๑๖/๑ ใหก้ องทุนจัดใหม้ ีระบบงานและฐานข้อมูลเพ่อื ปฏบิ ัติการตาม พระราชบญั ญัตินี้” มาตรา ๑๘ ใหย้ กเลกิ ความในมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญตั ผิ สู้ งู อายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ และ ใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปนีแ้ ทน “มาตรา ๑๘ ให้มีคณะกรรมการบรหิ ารกองทนุ ผู้สูงอายุและบานาญพน้ื ฐานแห่งชาติ ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมัน่ คงของมนษุ ย์ เป็นประธานกรรมการ ปลดั กระทรวงการคลัง เป็นรองประธานกรรมการ ผแู้ ทนกระทรวงสาธารณสุข ผแู้ ทนสานักงบประมาณ ผ้แู ทน กรมบญั ชีกลาง ผูแ้ ทนกรมส่งเสริมการปกครองทอ้ งถ่ิน และผ้ทู รงคุณวุฒซิ ึ่งคณะกรรมการแตง่ ตงั้ จานวนหก คน ในจานวนนตี้ อ้ งเปน็ ผแู้ ทนองค์กรของผสู้ ูงอายุจานวนหนงึ่ คน ผูแ้ ทนองค์กรเอกชนท่ีเก่ยี วข้องกับงานใน ด้านผสู้ งู อายุ เดก็ และเยาวชน ค้มุ ครองผบู้ ริโภคด้านละหนงึ่ คน และผ้มู คี วามรคู้ วามเชยี่ วชาญดา้ นการเงนิ
72 หรอื บญั ชี และกฎหมาย ด้านละหน่ึงคน เป็นกรรมการ และใหอ้ ธบิ ดีกรมกิจการผูส้ งู อายุ เป็นกรรมการและ เลขานุการ” มาตรา ๑๙ ใหย้ กเลิกความในมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบญั ญัติผสู้ งู อายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ ซง่ึ แกไ้ ขเพ่ิมเติมโดยพระราชบญั ญัติผ้สู ูงอายุ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓ และให้ใชค้ วามตอ่ ไปนี้แทน “มาตรา ๒๐ ใหค้ ณะกรรมการบรหิ ารกองทนุ ผู้สูงอายแุ ละบานาญพื้นฐานแหง่ ชาติมี อานาจหน้าที่ ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) บรหิ ารกองทุน รวมทั้งดาเนินการเกี่ยวกบั การลงทุนเพ่ือจดั หาผลประโยชน์ รายได้ และการจัดการกองทนุ ให้เป็นไปตามระเบยี บท่ีคณะกรรมการกาหนด (๒) พจิ ารณาอนุมัติการจา่ ยเงิน เพือ่ การคุม้ ครอง การสง่ เสรมิ การสนบั สนนุ และการจดั สวสั ดกิ ารพน้ื ฐานแก่ผสู้ งู อายุ ท้ังนี้ ตามหลักเกณฑ์ วธิ กี าร และเง่ือนไขท่ีคณะกรรมการกาหนดในระเบยี บ (๓) ให้ความเห็นชอบตอ่ กรอบและประมาณการวงเงนิ ก่อนเสนอคณะกรรมการให้ความ เห็นชอบ รวมท้ังอนุมัติจ่ายเงินบานาญพื้นฐานทจ่ี า่ ยจากเงินกองทุนเพ่ือสมทบงบประมาณประจาปี (๔) รายงานสถานะการเงินและการบริหารกองทุนต่อคณะกรรมการตามระเบียบท่ี คณะกรรมการกาหนด” มาตรา ๒๐ ให้เพ่มิ ความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๒๐/๑ และมาตรา ๒๐/๒ แห่ง พระราชบญั ญัติผ้สู งู อายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ “มาตรา ๒๐/๑ ให้คณะกรรมการบริหารกองทุนผสู้ งู อายุและบานาญพ้นื ฐานแห่งชาติมี อานาจแต่งตง้ั คณะอนุกรรมการเพ่อื ปฏบิ ัตหิ นา้ ทใี่ ดหน้าท่ีหนงึ่ หรือปฏบิ ตั ิหน้าทแี่ ทนตามทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ดงั นี้ (๑) คณะอนุกรรมการบริหารกิจการบานาญพื้นฐาน ใหม้ ีหน้าทแี่ ละอานาจพจิ ารณา กลั่นกรองแผนงานโครงการ ประมาณการวงเงินของกองทุน เพ่ือสมทบงบประมาณประจาปีในการจ่าย บานาญพื้นฐาน ทั้งน้ี ตามหลักเกณฑ์ วธิ ีการ และเง่ือนไขท่ีคณะกรรมการกาหนด (๒) คณะอนุกรรมการลงทนุ และจดั หาผลประโยชน์และรายได้แก่กองทุน ให้มีหนา้ ทแี่ ละ อานาจเก่ียวกับการพิจารณากาหนดกรอบวงเงนิ วิธีการ และเงอื่ นไขเก่ยี วกบั การนาเงินกองทุนบางสว่ นไป ลงทนุ เพ่ือจดั หาผลประโยชนแ์ ละรายได้กองทุนมากขึ้น ซ่ึงอาจลงทนุ เองหรือมอบหมายให้สถาบนั การเงนิ หรือนิตบิ ุคคลอื่นที่มีความน่าเชือ่ ถือดาเนินการแทนก็ได้ ท้ังน้ี ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงอ่ื นไขท่ี คณะกรรมการกาหนดโดยความเหน็ ชอบของกระทรวงการคลัง (๓) คณะอนุกรรมการอน่ื ตามความจาเปน็ องค์ประกอบ หน้าทแี่ ละอานาจ วาระการดารงตาแหนง่ การพ้นจากตาแหนง่ ของ คณะอนุกรรมการตามวรรคหนงึ่ ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกาหนด” “มาตรา ๒๐/๒ ให้กรรมการบริหารกองทนุ และอนกุ รรมการไดร้ ับเบย้ี ประชุมและ คา่ ตอบแทนอื่นตามหลักเกณฑ์ และวธิ ีการที่คณะกรรมการกาหนดโดยความเห็นชอบของ กระทรวงการคลัง” มาตรา ๒๑ ให้ยกเลกิ ความในวรรคหนง่ึ ของมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบญั ญตั ิผ้สู งู อายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปน้แี ทน
73 “มาตรา ๒๔ ให้นายกรฐั มนตรี รฐั มนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รฐั มนตรวี า่ การ กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมั่นคงของมนษุ ย์ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรวี า่ การ กระทรวงพลงั งาน และรฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย รกั ษาการตามพระราชบัญญัติน้ี และให้มีอานาจ ออกประกาศหรือระเบียบเพื่อปฏบิ ัติตามพระราชบญั ญัตนิ ี้ ท้งั น้ี ในสว่ นทเี่ กี่ยวกับราชการของกระทรวง นัน้ ” มาตรา ๒๒ ในระยะเรม่ิ แรกให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาปรับอัตราการรบั บานาญพ้นื ฐาน ของประชาชนให้เพ่ิมขน้ึ โดยให้มอี ัตราท่ีใกลเ้ คยี งกบั เสน้ แบ่งความยากจนตามท่ีสภาพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติกาหนด ท้งั น้ี จะตอ้ งดาเนนิ การให้เสร็จสนิ้ ภายในสามปีนับตง้ั แต่พระราชบญั ญัตนิ ใี้ ชบ้ งั คับ ผรู้ บั สนองพระบรมราชโองการ ......................................... นายกรฐั มนตรี
เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๓๔ ก หน้า ๔๗ เอกสารแนบ ๒ ราชกิจจานุเบกษา ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ พระราชบัญญตั ิ กองทุนการออมแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๔ ภมู พิ ลอดลุ ยเดช ป.ร. ใหไ้ ว้ ณ วันท่ี ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เปน็ ปที ่ี ๖๖ ในรัชกาลปัจจบุ ัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรใหม้ ีกฎหมายว่าดว้ ยกองทุนการออมแห่งชาติ พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเก่ียวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ และมาตรา ๔๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บญั ญัตใิ ห้กระทําได้โดยอาศยั อํานาจตามบทบญั ญัติแหง่ กฎหมาย จงึ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ใหต้ ราพระราชบญั ญตั ิขึน้ ไวโ้ ดยคาํ แนะนาํ และยนิ ยอมของรัฐสภา ดงั ตอ่ ไปนี้ มาตรา ๑ พระราชบัญญัติน้เี รียกว่า “พระราชบัญญัตกิ องทนุ การออมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๔” มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป เว้นแต่บทบัญญัติแห่งหมวด ๓ ให้ใช้บังคับเม่ือพ้นกําหนดสามร้อยหกสิบวันนับแต่วันท่ี ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป มาตรา ๓ ในพระราชบญั ญัตนิ ี้ “กองทุน” หมายความว่า กองทุนการออมแหง่ ชาติ “สมาชกิ ” หมายความว่า สมาชกิ กองทนุ การออมแห่งชาติ “เงนิ สะสม” หมายความว่า เงินทส่ี มาชิกสะสมเขา้ กองทุนตามพระราชบญั ญตั ินี้ “เงนิ สมทบ” หมายความวา่ เงินท่รี ฐั บาลจา่ ยสมทบเงินสะสมเขา้ กองทุนตามพระราชบญั ญตั ินี้
เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๓๔ ก หนา้ ๔๘ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ราชกจิ จานุเบกษา “บํานาญ” หมายความว่า เงินท่ีจ่ายให้แก่สมาชิกเป็นรายเดือนเม่ือสมาชิกภาพของสมาชิก สิ้นสุดลงเม่อื อายุครบหกสบิ ปีบริบรู ณแ์ ล้ว “เงินดํารงชีพ” หมายความวา่ เงนิ ทจี่ ่ายใหแ้ ก่สมาชิกเป็นรายเดือนแทนเงินบาํ นาญ “ทุพพลภาพ” หมายความว่า การสูญเสียอวัยวะหรือสูญเสียสมรรถภาพของอวัยวะหรือ ของร่างกาย หรือการสูญเสียสภาวะปกติของจิตใจ จนไม่สามารถทํางานได้ ท้ังนี้ ตามหลักเกณฑ์ ทีค่ ณะกรรมการการแพทยต์ ามกฎหมายว่าด้วยประกันสงั คมกาํ หนด “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการกองทนุ การออมแห่งชาติ “กรรมการ” หมายความว่า กรรมการกองทนุ การออมแห่งชาติ “พนักงานเจา้ หนา้ ที”่ หมายความวา่ ผู้ซ่ึงรฐั มนตรแี ต่งตงั้ ให้ปฏิบัติการตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี “เลขาธกิ าร” หมายความวา่ เลขาธกิ ารคณะกรรมการกองทุนการออมแหง่ ชาติ “รฐั มนตร”ี หมายความวา่ รฐั มนตรผี รู้ กั ษาการตามพระราชบัญญัตนิ ้ี มาตรา ๔ ใหร้ ฐั มนตรวี า่ การกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชบัญญตั ินีก้ ับให้มีอํานาจ ออกกฎกระทรวงและประกาศ และแตง่ ตัง้ พนักงานเจา้ หนา้ ทเ่ี พ่ือปฏบิ ัตกิ ารตามพระราชบัญญตั ินี้ กฎกระทรวงและประกาศนนั้ เมื่อได้ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาแล้วให้ใชบ้ ังคับได้ หมวด ๑ การจดั ตั้งกองทนุ และลักษณะของกจิ การกองทนุ มาตรา ๕ ให้จัดตงั้ กองทนุ ข้นึ กองทนุ หนึ่งเรียกวา่ “กองทนุ การออมแห่งชาติ” เรียกโดยย่อว่า “กอช.” ให้กองทุนเปน็ หนว่ ยงานของรฐั และมฐี านะเปน็ นติ บิ คุ คลทไ่ี มเ่ ปน็ สว่ นราชการหรือรฐั วิสาหกิจ กองทุนมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิกและเพ่ือเป็นหลักประกันการจ่าย บํานาญและให้ประโยชน์ตอบแทนแก่สมาชิกเม่อื สน้ิ สมาชกิ ภาพ รายได้ของกองทุนไม่ต้องนาํ ส่งเป็นรายไดแ้ ผน่ ดนิ มาตรา ๖ กิจการของกองทุนไม่อยู่ในบังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายว่าด้วยพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และกฎหมายว่าด้วย ประกันสงั คม มาตรา ๗ กองทนุ ประกอบดว้ ยทรัพยส์ ินดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) เงินสะสม (๒) เงินสมทบ
เลม่ ๑๒๘ ตอนท่ี ๓๔ ก หน้า ๔๙ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ราชกจิ จานเุ บกษา (๓) เงินหรอื ทรัพย์สนิ ท่ีมีผ้บู รจิ าคให้ (๔) เงินท่ีรัฐบาลจดั สรรให้ (๕) รายไดอ้ น่ื (๖) ดอกผลของเงินหรอื ทรพั ย์สนิ ของกองทนุ มาตรา ๘ ให้กองทนุ มีสาํ นักงานใหญ่ ณ สถานทท่ี ีร่ ัฐมนตรีประกาศกําหนดในราชกิจจานุเบกษา และจะจดั ต้งั สาขาหรอื ตวั แทนขน้ึ ณ ทอี่ ่ืนใดตามความจําเป็นก็ได้ มาตรา ๙ ให้กองทนุ มอี าํ นาจกระทาํ กิจการต่าง ๆ ภายในขอบวัตถุประสงค์ตามมาตรา ๕ และอํานาจเช่นว่านี้ใหร้ วมถึง (๑) ถอื กรรมสิทธ์ิ มสี ิทธิครอบครอง และมีทรัพยสทิ ธติ ่าง ๆ (๒) กอ่ ตง้ั สทิ ธหิ รือทํานิติกรรมใด ๆ ท้งั ในและนอกราชอาณาจกั ร (๓) ลงทุนหาผลประโยชน์จากทรพั ยส์ นิ ของกองทุน (๔) กระทําการอย่างอื่นบรรดาท่ีเก่ียวกับหรือเกี่ยวเน่ืองในการจัดให้สําเร็จตามวัตถุประสงค์ ของกองทุน มาตรา ๑๐ ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานของกองทุน ให้จ่ายจากเงินของกองทุนในบัญชี เงินกองกลางตามมาตรา ๔๖ (๓) ทัง้ นี้ ตามหลกั เกณฑ์และวิธีการทีค่ ณะกรรมการกาํ หนด หมวด ๒ การควบคมุ และการบริหาร มาตรา ๑๑ ให้มีคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติคณะหนึ่ง เรียกโดยย่อว่า “คณะกรรมการ กอช.” ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวง การพฒั นาสงั คมและความมน่ั คงของมนษุ ย์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงแรงงาน เลขาธิการสํานักงานประกันสังคม ผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เลขาธิการสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ สมาชิกที่ได้รับเลือกตามมาตรา ๑๒ จํานวนหกคน ผู้รับบํานาญที่ได้รับเลือก ตามมาตรา ๑๒ จํานวนหนึ่งคน และผู้ทรงคุณวุฒิจํานวนส่ีคน โดยในจํานวนนี้ต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านกฎหมาย ด้านบัญชี ด้านการเงินและการลงทุน และด้านสวัสดิการชุมชนด้านละหน่ึงคน เปน็ กรรมการ ใหเ้ ลขาธิการเปน็ กรรมการและเลขานุการ
เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๓๔ ก หนา้ ๕๐ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ราชกจิ จานเุ บกษา มาตรา ๑๒ การเลือกกรรมการซ่ึงเป็นสมาชิกและกรรมการซึ่งเป็นผู้รับบํานาญให้เป็นไป ตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีรัฐมนตรีประกาศกําหนด โดยคํานึงถึงการกระจายตัวในทุกภูมิภาคและ ความเท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง ทั้งนี้ จะให้มีการข้ึนบัญชีไว้สําหรับผู้ได้รับคะแนนถัดไปจาก ผไู้ ด้รบั เลือกเป็นกรรมการซ่ึงเป็นสมาชิกหรือกรรมการซึ่งเป็นผู้รับบํานาญเพ่ือประโยชน์ตามมาตรา ๑๗ วรรคหนงึ่ ด้วยกไ็ ด้ มาตรา ๑๓ ให้ประธานกรรมการ กรรมการโดยตําแหน่ง กรรมการซึ่งเป็นสมาชิกและ กรรมการซึง่ เป็นผู้รับบาํ นาญประชมุ ร่วมกัน เพ่อื เลือกกรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิ มาตรา ๑๔ กรรมการซึง่ เป็นสมาชิก กรรมการซง่ึ เป็นผรู้ บั บํานาญและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ตอ้ งมีสัญชาติไทยและไม่มลี ักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้ (๑) เปน็ คนไรค้ วามสามารถหรอื คนเสมือนไรค้ วามสามารถ (๒) เป็นหรอื เคยเป็นบุคคลล้มละลาย (๓) เคยต้องคําพิพากษาถึงท่ีสุดให้จําคุก ไม่ว่าจะมีการรอการลงโทษหรือไม่ก็ตาม เว้นแต่ เป็นโทษสําหรบั ความผิดท่ีไดก้ ระทาํ โดยประมาทหรือความผดิ ลหโุ ทษ (๔) เปน็ หรอื เคยเป็นข้าราชการการเมือง ผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถ่ิน หรอื ผ้บู รหิ ารท้องถ่ิน หรอื กรรมการหรอื ท่ปี รึกษา หรอื เจา้ หน้าทีข่ องพรรคการเมอื ง เว้นแต่จะได้พ้นจาก ตาํ แหน่งดงั กลา่ วไมน่ ้อยกวา่ สามปี (๕) เปน็ พนกั งานหรอื ลูกจา้ งของกองทุน (๖) เปน็ ผมู้ สี ว่ นไดเ้ สยี ในสญั ญากับกองทุน หรือในกิจการที่กระทําให้แก่กองทุนไม่ว่าโดยตรง หรือโดยอ้อม เวน้ แตเ่ ปน็ ผซู้ ่งึ คณะกรรมการมอบหมายให้เปน็ กรรมการในบริษทั ทก่ี องทนุ เปน็ ผู้ถอื หุน้ (๗) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ หรอื จากหนว่ ยงานเอกชน เพราะทจุ ริตตอ่ หน้าที่ มาตรา ๑๕ ให้กรรมการซึ่งเป็นสมาชิก กรรมการซ่ึงเป็นผู้รับบํานาญและกรรมการ ผทู้ รงคณุ วุฒิ มวี าระการดํารงตาํ แหนง่ คราวละสามปี กรรมการตามวรรคหนึ่งซึ่งพน้ จากตําแหนง่ อาจได้รับเลือกอีกได้ แต่จะดํารงตําแหน่งเกินสองวาระ ตดิ ตอ่ กันมไิ ด้ ในกรณีท่ีกรรมการซ่ึงเป็นสมาชิก กรรมการซึ่งเป็นผู้รับบํานาญหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ พ้นจากตําแหน่งตามวาระ ให้ดําเนินการเลือกกรรมการข้ึนใหม่ภายในหกสิบวัน ในระหว่างที่ยังมิได้ มีการเลือกกรรมการขึ้นใหม่ ให้กรรมการที่พ้นจากตําแหน่งตามวาระน้ันอยู่ในตําแหน่งเพ่ือดําเนินงาน ตอ่ ไป จนกวา่ กรรมการท่ีไดร้ ับเลอื กใหมเ่ ข้ารับหน้าที่
เลม่ ๑๒๘ ตอนที่ ๓๔ ก หน้า ๕๑ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ราชกิจจานเุ บกษา มาตรา ๑๖ นอกจากการพ้นจากตาํ แหนง่ ตามวาระตามมาตรา ๑๕ กรรมการซ่ึงเป็นสมาชิก กรรมการซ่ึงเป็นผูร้ บั บาํ นาญหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพน้ จากตําแหนง่ เมือ่ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) พน้ จากสมาชิกภาพ กรณกี รรมการซงึ่ เป็นสมาชกิ (๔) มีอายคุ รบเจด็ สบิ ปบี ริบรู ณ์ กรณีกรรมการซงึ่ เป็นผรู้ บั บาํ นาญและกรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิ (๕) ขาดคุณสมบตั หิ รือมีลกั ษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๔ (๖) คณะกรรมการมมี ตใิ หอ้ อกดว้ ยคะแนนเสยี งสามในสีข่ องจาํ นวนกรรมการทัง้ หมด มาตรา ๑๗ ในกรณีที่กรรมการซึ่งเป็นสมาชิกหรือกรรมการซ่ึงเป็นผู้รับบํานาญผู้ใดพ้นจาก ตาํ แหน่งกอ่ นวาระใหผ้ ู้ซ่ึงได้คะแนนถัดไปซ่ึงขึ้นบัญชีไว้ในการเลือกกรรมการซึ่งเป็นสมาชิกหรือกรรมการ ซึ่งเป็นผู้รับบํานาญเป็นกรรมการแทน ในกรณีที่ไม่มีผู้ขึ้นบัญชีไว้ให้ดําเนินการเลือกกรรมการซึ่งเป็น สมาชิกหรือกรรมการซ่งึ เปน็ ผูร้ บั บํานาญขนึ้ ใหมต่ ามมาตรา ๑๒ ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตําแหน่งก่อนวาระ ให้ดําเนินการเลือกกรรมการ ผู้ทรงคุณวฒุ ิขนึ้ ใหมต่ ามมาตรา ๑๓ แทนตาํ แหน่งท่วี า่ ง ให้กรรมการผู้ได้รับการเลือกให้ดํารงตําแหน่งแทนตามวรรคหน่ึงและวรรคสองอยู่ในตําแหน่ง เทา่ กบั วาระทเี่ หลอื อย่ขู องผู้ซ่งึ ตนแทน ในกรณที ่วี าระการดํารงตําแหน่งเหลืออยู่ไม่ถึงหน่ึงรอ้ ยแปดสิบวัน จะไม่เลือกกรรมการข้ึนดํารง ตําแหน่งแทนกไ็ ด้ มาตรา ๑๘ การประชุมของคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่าก่ึงหนึ่ง ของจาํ นวนกรรมการท้งั หมดจงึ จะเป็นองคป์ ระชมุ ในการประชุมของคณะกรรมการ ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าท่ีได้ ใหก้ รรมการท่มี าประชุมเลือกกรรมการคนหน่งึ เปน็ ประธานในที่ประชมุ การวินิจฉัยช้ีขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหน่ึงในการ ลงคะแนน ถา้ คะแนนเสยี งเท่ากันใหป้ ระธานในที่ประชมุ ออกเสยี งเพมิ่ ข้ึนอกี เสยี งหนง่ึ เปน็ เสยี งชีข้ าด การออกเสียงลงมตแิ ต่งต้งั หรอื เลกิ จ้างเลขาธกิ ารต้องมคี ะแนนเสียงไม่น้อยกว่าก่งึ หนงึ่ ของจํานวน กรรมการทงั้ หมดทอี่ ยู่ในตาํ แหน่ง มาตรา ๑๙ ประธานกรรมการและกรรมการผู้ใดมีส่วนได้เสียในเรื่องท่ีพิจารณาให้แจ้งการมี สว่ นไดเ้ สียนน้ั และหา้ มมิให้เขา้ ร่วมพิจารณาในเรือ่ งนั้น มาตรา ๒๐ ใหค้ ณะกรรมการมอี าํ นาจหน้าที่ ดังตอ่ ไปนี้ (๑) กําหนดนโยบาย และออกระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ และคําส่ังในการบริหารกิจการ ของกองทนุ
เล่ม ๑๒๘ ตอนท่ี ๓๔ ก หนา้ ๕๒ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ราชกจิ จานเุ บกษา (๒) กาํ หนดนโยบายการลงทุนของกองทนุ ตามหลักเกณฑ์ทก่ี าํ หนดโดยกฎกระทรวง (๓) กาํ กบั ดูแลการบรหิ ารกจิ การของกองทนุ (๔) ออกข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติงานของเลขาธิการและรองเลขาธิการด้านการลงทุน และการมอบอํานาจให้ผอู้ ืน่ ปฏบิ ัติงานแทนเลขาธิการและรองเลขาธกิ ารดา้ นการลงทนุ (๕) กาํ หนดหลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารในการรบั เก็บรักษา และจ่ายเงนิ ของกองทนุ (๖) พจิ ารณามอบหมายให้สถาบนั การเงนิ หรือนิตบิ คุ คลอื่นจดั การเงนิ ของกองทนุ (๗) แตง่ ตงั้ คณะอนกุ รรมการเพื่อปฏบิ ัติการตามทค่ี ณะกรรมการมอบหมาย (๘) ออกระเบยี บ คําสงั่ และข้อบังคบั เกยี่ วกบั การพนกั งาน ระบบพนักงานสัมพันธ์ การบรรจุ แต่งต้ัง ถอดถอน และวินัยพนักงานและลูกจ้างของกองทุน การกําหนดเงินเดือนและเงินอื่น ๆ รวมตลอดถึงการสงเคราะห์และสวสั ดกิ ารต่าง ๆ (๙) เสนอแนะต่อรัฐมนตรใี นการปรับปรงุ อัตราเงนิ สะสมและเงนิ สมทบ (๑๐) ปฏิบัติงาน อ่ืนใด เพื่อให้เป็น ไปต ามวัต ถุประสง ค์ข อง กอง ทุนต ามที่กําหน ด ในพระราชบญั ญัตนิ ้ี มาตรา ๒๑ ให้มคี ณะอนุกรรมการการลงทนุ ประกอบดว้ ย ผูอ้ าํ นวยการสํานักงานเศรษฐกิจ การคลัง เปน็ ประธานอนุกรรมการ ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย ผู้แทนสํานักงานคณะกรรมการกํากับ หลกั ทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เลขาธิการ และผู้ทรงคุณวุฒิจํานวนสี่คนซึ่งคณะกรรมการแต่งตั้งจาก ผู้มีความรู้ความสามารถและมีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ระบบไร้ดอกเบี้ย ด้านการเงินและการลงทุน หรือด้านกฎหมายเป็นอนุกรรมการ และรองเลขาธิการด้านการลงทุน เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ มาตรา ๒๒ ให้คณะอนกุ รรมการการลงทุนมีอํานาจหน้าท่ี ดังต่อไปนี้ (๑) ใหค้ ําแนะนําปรึกษาดา้ นการลงทนุ ตอ่ คณะกรรมการ (๒) ให้คําแนะนาํ ปรกึ ษาด้านการกําหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกสถาบันการเงินหรือนิติบุคคล ที่จะมอบหมายให้จัดการเงนิ ของกองทุน (๓) ติดตามดูแลการดําเนินงานของสถาบันการเงินหรือนิติบุคคลท่ีได้รับมอบหมายให้ จดั การเงินของกองทุน (๔) รายงานผลการดาํ เนนิ การดา้ นการลงทนุ และเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการ (๕) ปฏบิ ัติการในเรื่องอนื่ ใดตามทค่ี ณะกรรมการมอบหมาย มาตรา ๒๓ ให้นํามาตรา ๑๕ มาตรา ๑๖ มาตรา ๑๗ มาตรา ๑๘ และมาตรา ๑๙ มาใช้บังคบั แก่การดาํ รงตําแหนง่ การพ้นจากตาํ แหนง่ และการประชมุ ของคณะอนุกรรมการโดยอนโุ ลม
เลม่ ๑๒๘ ตอนที่ ๓๔ ก หน้า ๕๓ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๒๔ ใหป้ ระธานกรรมการ กรรมการ ประธานอนุกรรมการ และอนุกรรมการได้รับ ประโยชน์ตอบแทนตามท่ีรัฐมนตรีกําหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี และให้ถือเป็นค่าใช้จ่าย ของกองทนุ มาตรา ๒๕ ให้ค ณะกรรมการแต่งต้ังเลขาธิการ โดย คว ามเห็นชอบของ รัฐมนต รี และให้คณะกรรมการแตง่ ตง้ั รองเลขาธิการดา้ นการลงทุน การดํารงตําแหน่ง การพ้นจากตําแหน่ง และการกําหนดเงื่อนไขในการทดลองปฏิบัติงาน หรือการทํางานในหน้าที่เลขาธิการและรองเลขาธิการด้านการลงทุน ให้เป็นไปตามสัญญาจ้าง ทคี่ ณะกรรมการกําหนด โดยให้มอี ายุการจา้ งคราวละไม่เกินสี่ปี และเมื่อครบกําหนดอายุสัญญาจ้างแล้ว คณะกรรมการจะต่ออายุสญั ญาจา้ งอีกกไ็ ด้แต่ต้องไม่เกินสีป่ ี การทําสญั ญาจา้ ง ให้ประธานกรรมการเปน็ ผมู้ ีอาํ นาจทําสัญญาในนามกองทนุ ให้เลขาธิการและรองเลขาธิการด้านการลงทุนได้รับเงินค่าจ้าง ค่าตอบแทนและเงินอ่ืนตามที่ คณะกรรมการกาํ หนดโดยความเหน็ ชอบของรัฐมนตรี มาตรา ๒๖ เลขาธิการและรองเลขาธิการด้านการลงทุนต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะ ตอ้ งห้าม ดังตอ่ ไปนี้ (๑) มสี ัญชาติไทย (๒) มีอายุไม่เกินหกสบิ ปบี รบิ รู ณ์ในวันท่ไี ด้รบั การแต่งต้งั (๓) สามารถปฏิบตั ิงานให้แก่กองทนุ ไดเ้ ตม็ เวลา (๔) ไม่มีลกั ษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๔ (๑) (๒) (๓) (๔) (๖) และ (๗) มาตรา ๒๗ นอกจากการพ้นจากตําแหน่งตามอายุการจ้าง เลขาธิการและรองเลขาธิการ ด้านการลงทนุ พ้นจากตําแหนง่ เมื่อ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) ขาดคุณสมบัตหิ รอื มลี ักษณะต้องหา้ มตามมาตรา ๒๖ (๔) คณะกรรมการมีมติให้เลิกจ้างโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีสําหรับกรณีเลขาธิการ และคณะกรรมการมมี ตใิ หเ้ ลิกจา้ งสาํ หรับกรณรี องเลขาธกิ ารด้านการลงทนุ มาตรา ๒๘ ให้เลขาธิการเป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานและลูกจ้างของกองทุนและรับผิดชอบ ในการบริหารกิจการของกองทุนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุน และตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และนโยบายท่คี ณะกรรมการกําหนด เลขาธกิ ารต้องรบั ผดิ ชอบต่อคณะกรรมการในการบริหารกิจการของกองทุน
เลม่ ๑๒๘ ตอนที่ ๓๔ ก หน้า ๕๔ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๒๙ ในกิจการของกองทนุ ท่ีเก่ียวกับบคุ คลภายนอกใหเ้ ลขาธิการเปน็ ผ้แู ทนของกองทนุ การปฏิบตั ิงานของเลขาธิการและการมอบอาํ นาจให้ผู้อนื่ ปฏบิ ัตงิ านแทนเลขาธิการให้เป็นไปตาม ขอ้ บงั คับท่คี ณะกรรมการกําหนด นติ ิกรรมทก่ี ระทําโดยฝ่าฝนื ข้อบังคับตามวรรคสอง ย่อมไมผ่ ูกพันกองทุน เว้นแต่คณะกรรมการ จะให้สัตยาบนั หมวด ๓ สมาชกิ และสทิ ธปิ ระโยชน์ของสมาชกิ มาตรา ๓๐ ภายใต้บังคับมาตรา ๓๙ ให้บคุ คลสัญชาติไทยซงึ่ มีอายุไม่ต่ํากว่าสิบห้าปีบริบูรณ์ และไม่เกนิ หกสบิ ปบี รบิ ูรณ์ และไม่เปน็ ผู้ประกันตนตามกฎหมายวา่ ด้วยประกันสังคม ซึ่งส่งเงินเพื่อได้รับ ประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ สมาชิกกองทุนบําเหน็จบํานาญข้าราชการ กองทุนบําเหน็จบํานาญ ข้าราชการกรุงเทพมหานคร กองทุนบําเหน็จบํานาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น กองทุนสํารองเลี้ยงชีพ กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน หรือเปน็ สมาชิกกองทุนหรอื อยู่ในระบบบํานาญอื่น ตามทกี่ ําหนดโดยกฎกระทรวงมีสทิ ธิเป็นสมาชกิ ของกองทุน มาตรา ๓๑ บุคคลตามมาตรา ๓๐ อาจสมัครเป็นสมาชกิ ของกองทุนได้โดยแสดงความจํานง พร้อมกับการจ่ายเงินสะสมเขา้ กองทนุ ซงึ่ ต้องไม่น้อยกว่าเดือนละห้าสิบบาท แต่ไม่เกินจํานวนท่ีกําหนด โดยกฎกระทรวง การสมัครเป็นสมาชิกและการจ่ายเงินสะสม ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ทค่ี ณะกรรมการประกาศกาํ หนด มาตรา ๓๒ ให้รัฐบาลจ่ายเงินสมทบตามระดับอายุของผู้เป็นสมาชิกและเป็นอัตราส่วน กับจํานวนเงินสะสมตามบญั ชีเงินสมทบทา้ ยพระราชบัญญตั ิน้ี เงินสมทบตามวรรคหนึง่ เม่ือรวมกนั แลว้ ในปีหนึง่ ๆ ตอ้ งไม่เกินจํานวนเงินสมทบสูงสุดท่ีกําหนด โดยกฎกระทรวง ซึง่ ต้องไมเ่ กนิ จาํ นวนเงนิ สมทบสงู สดุ ตามบญั ชีเงินสมทบทา้ ยพระราชบัญญัติน้ี โดยให้มี การพิจารณาทบทวนกฎกระทรวงตามมาตรานี้ทกุ ห้าปี ในกรณีท่ีสมาชิกไม่จ่ายเงินสะสมเข้ากองทุน ให้สมาชิกรายนั้นยังคงการเป็นสมาชิกต่อไป แต่รัฐบาลไม่ตอ้ งจ่ายเงนิ สมทบเข้ากองทนุ สําหรบั สมาชกิ รายนัน้ การจา่ ยเงินสมทบ ให้จ่ายภายในสิ้นเดือนถดั จากเดอื นทส่ี มาชิกจ่ายเงินสะสมเขา้ กองทนุ มาตรา ๓๓ สมาชิกสนิ้ สมาชกิ ภาพเมือ่ (๑) อายคุ รบหกสบิ ปบี ริบูรณ์
เลม่ ๑๒๘ ตอนท่ี ๓๔ ก หนา้ ๕๕ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ราชกิจจานเุ บกษา (๒) ตาย (๓) ลาออกจากกองทุน มาตรา ๓๔ ภายใต้บงั คับมาตรา ๓๕ ในกรณีทสี่ มาชกิ สน้ิ สมาชกิ ภาพเพราะอายุครบหกสิบปี บริบรู ณ์ ใหส้ มาชกิ ผู้นนั้ มสี ทิ ธิได้รบั บํานาญจากกองทนุ จนตลอดชวี ติ บํานาญตามวรรคหนึง่ ใหค้ ํานวณจากเงนิ สะสม เงนิ สมทบ และผลประโยชนข์ องเงนิ สะสมและ เงินสมทบที่โอนไปเข้าบัญชีเงินบํานาญตามมาตรา ๔๗ พร้อมกับประมาณการเงินผลประโยชน์ ที่จะเกดิ ขึน้ ในภายหลังจากเงินในบัญชีเงินบํานาญน้ัน โดยให้เพียงพอกับการจ่ายบํานาญให้แก่สมาชิกได้ จนถงึ อายคุ รบแปดสบิ ปีบรบิ รู ณ์ ทัง้ นี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขทกี่ าํ หนดโดยกฎกระทรวง มาตรา ๓๕ ในกรณีเงินบํานาญที่คํานวณได้ตามมาตรา ๓๔ วรรคสอง มีจํานวนน้อยกว่า จํานวนเงินบํานาญข้ันตํ่าท่ีกําหนดโดยกฎกระทรวง ให้งดจ่ายเงินบํานาญแต่ให้จ่ายเป็นเงินดํารงชีพ จากเงนิ ในบัญชีเงินบํานาญของสมาชิกเท่ากับจํานวนเงินบํานาญขั้นตํ่านั้นจนกว่าเงินในบัญชีเงินบํานาญ จะหมด มาตรา ๓๖ ในกรณสี มาชกิ สนิ้ สมาชกิ ภาพเพราะถึงแกค่ วามตายกอ่ นอายคุ รบหกสิบปีบริบูรณ์ ให้จา่ ยเงนิ สะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินสะสมและเงินสมทบของผู้นั้นทั้งหมดจากกองทุน ให้แก่บุคคลซึ่งสมาชิกผู้ตายได้แสดงเจตนาไว้ต่อกองทุนตามแบบและวิธีการท่ีคณะกรรมการกําหนด เว้นแต่มไิ ดแ้ สดงเจตนาไว้ใหจ้ า่ ยแกท่ ายาท ตามหลักเกณฑด์ ังตอ่ ไปนี้ (๑) บตุ รให้ได้รบั สองสว่ น แตถ่ า้ ผตู้ ายมีบตุ รตง้ั แต่สามคนข้ึนไปใหไ้ ด้รับสามส่วน (๒) สามีหรอื ภริยาใหไ้ ด้รบั หนง่ึ ส่วน (๓) บดิ ามารดา หรอื บิดาหรือมารดาทีม่ ชี ีวิตอย่ใู หไ้ ดร้ บั หนึ่งส่วน ในกรณที ่ีไม่มที ายาทในอนมุ าตราใด หรอื ทายาทน้นั ได้ถึงแกค่ วามตายไปกอ่ นใหแ้ บ่งเงินดังกล่าว ระหว่างทายาทผูม้ สี ิทธใิ นอนุมาตราที่มีทายาทผ้มู ีสิทธิไดร้ ับ ในกรณีที่ไมม่ ีบคุ คลซงึ่ สมาชกิ ผู้ตายไดแ้ สดงเจตนาไว้และไม่มีทายาทตามวรรคหนึ่ง หรือบุคคลน้ัน ได้ถึงแก่ความตายไปก่อน ให้เงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินสะสมและเงินสมทบนั้น ตกเป็นของกองทุน มาตรา ๓๗ ในกรณที ส่ี มาชิกทุพพลภาพก่อนอายคุ รบหกสิบปีบรบิ รู ณ์ ซง่ึ แพทยท์ ่ีทางราชการ รับรองได้ตรวจและแสดงความเห็นว่าทุพพลภาพ สมาชิกจะขอรับเงินสะสมและผลประโยชน์ของเงิน สะสมทั้งหมดหรือบางสว่ นจากกองทุนก็ได้ การขอรับเงนิ สะสมและผลประโยชนข์ องเงนิ สะสมเพราะเหตทุ พุ พลภาพตามวรรคหนง่ึ ให้ขอรับ ไดเ้ พยี งครัง้ เดยี ว
เล่ม ๑๒๘ ตอนท่ี ๓๔ ก หน้า ๕๖ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๓๘ ในกรณีทสี่ มาชิกส้ินสมาชกิ ภาพเพราะลาออกจากกองทุน ให้สมาชิกมีสิทธิได้รับ เงินสะสมและผลประโยชน์ของเงินสะสมจากกองทุน ส่วนเงินสมทบและผลประโยชน์ของเงินสมทบ ให้ตกเปน็ ของกองทุน มาตรา ๓๙ เม่ือสมาชิกรายใดเป็นผู้ประกันตนตามกฎหมายว่าด้วยประกันสังคมซ่ึงส่งเงิน เพื่อได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ สมาชิกกองทุนบําเหน็จบํานาญข้าราชการ กองทุนบําเหน็จ บํานาญขา้ ราชการกรุงเทพมหานคร กองทนุ บาํ เหน็จบํานาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น กองทุนสํารองเลี้ยงชีพ กองทนุ สงเคราะหต์ ามกฎหมายว่าดว้ ยโรงเรียนเอกชน หรอื เป็นสมาชิกกองทนุ หรืออยู่ในระบบบํานาญอ่ืน ตามทก่ี ําหนดโดยกฎกระทรวงตามมาตรา ๓๐ ก่อนสิน้ สมาชิกภาพ ให้สมาชิกรายน้ันคงการเป็นสมาชิก ตอ่ ไปได้และสมาชกิ จะจ่ายเงนิ สะสมเขา้ กองทนุ กไ็ ด้ แตร่ ัฐบาลไมต่ อ้ งจา่ ยเงินสบทบเขา้ กองทนุ เม่ือสมาชิกสิ้นสมาชิกภาพ ให้กองทุนจ่ายเงินสะสมที่สมาชิกจ่ายตามวรรคหน่ึง พร้อมทั้ง ผลประโยชน์ทเ่ี กิดจากเงนิ ดงั กล่าวใหแ้ ก่สมาชกิ รายน้ันท้งั จาํ นวน โดยไมต่ ้องนาํ เงนิ ดงั กลา่ วไปรวมคํานวณ บํานาญตามมาตรา ๓๔ และคํานวณเพ่ือจ่ายเงินชดเชยตามมาตรา ๔๔ ด้วย มาตรา ๔๐ การจา่ ยเงนิ บาํ นาญที่สมาชิกจะได้รับตามมาตรา ๓๔ การจ่ายเงินดํารงชีพตาม มาตรา ๓๕ การจ่ายเงนิ กรณสี มาชกิ ถงึ แกค่ วามตายตามมาตรา ๓๖ การจ่ายเงินกรณีสมาชกิ ทพุ พลภาพ ตามมาตรา ๓๗ การจ่ายเงินกรณีสมาชิกลาออกจากกองทุนตามมาตรา ๓๘ การจ่ายเงินกรณีสมาชิก สน้ิ สมาชิกภาพตามมาตรา ๓๙ และการจ่ายเงินกรณีผู้รับบํานาญหรือผู้รับเงินดํารงชีพถึงแก่ความตาย ตามมาตรา ๔๙ ใหเ้ ป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเง่ือนไขที่กาํ หนดโดยกฎกระทรวง มาตรา ๔๑ สิทธิการรับเงินทั้งปวงตามพระราชบญั ญัตนิ ้เี ปน็ สทิ ธิเฉพาะตัวไมอ่ าจโอนแก่กนั ได้ มาตรา ๔๒ การหาประโยชน์ของกองทนุ ใหเ้ ปน็ ไปตามนโยบายของคณะกรรมการ และกองทุน จะมอบหมายให้บุคคลใดดาํ เนินการแทนตามความเหมาะสมก็ได้ การมอบหมายให้จดั การเงินของกองทุนภายในประเทศน้ัน กองทุนจะต้องมอบหมายให้สถาบัน การเงนิ หรือนติ ิบคุ คลอื่นท่ีมีความเช่ียวชาญในด้านการลงทุนไม่น้อยกว่าสองแห่ง ซ่ึงเป็นผู้ได้รับอนุญาต จัดการกองทุนส่วนบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เป็นผู้ได้รับมอบหมาย ให้จัดการเงินของกองทุน ทั้งน้ี โดยให้คํานึงถึงการกระจายความเสี่ยงด้วย และเพ่ือประโยชน์ในการ ดําเนินการหาประโยชน์ของกองทุนภายในประเทศ ให้ผู้ได้รบั มอบหมายให้จัดการเงินของกองทุนมีหน้าที่ และอยู่ในบังคับบทบัญญัติต่าง ๆ ตามที่กําหนดในกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เสมอื นหน่ึงกองทุนเปน็ กองทนุ สว่ นบุคคล การมอบหมายใหจ้ ัดการเงินของกองทุนในต่างประเทศน้ัน กองทุนจะต้องมอบหมายให้สถาบัน การเงินหรือนิติบุคคลอ่ืนท่ีมีความเช่ียวชาญในด้านการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ได้รับอนุญาต จากหน่วยงานที่มีหน้าท่ีกํากับดูแลตามกฎหมายของประเทศน้ัน ๆ เป็นผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการเงิน ของกองทุน
เลม่ ๑๒๘ ตอนท่ี ๓๔ ก หน้า ๕๗ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ราชกจิ จานุเบกษา การใหส้ ถาบนั การเงินหรือนติ บิ คุ คลอื่นเปน็ ผูไ้ ด้รบั มอบหมายให้จดั การเงนิ ของกองทุนในประเทศ หรือในตา่ งประเทศ คณุ สมบัตขิ องผู้ได้รับมอบหมาย วิธีจัดการ และค่าใช้จ่ายในการจัดการ ให้เป็นไป ตามหลกั เกณฑ์และวิธีการทกี่ ําหนดโดยกฎกระทรวง มาตรา ๔๓ เงินของกองทนุ ให้ลงทุนไดต้ ามหลักเกณฑ์ที่กําหนดโดยกฎกระทรวงซึ่งอย่างน้อย ตอ้ งกาํ หนดใหล้ งทนุ ในหลักทรพั ยท์ ม่ี คี วามมนั่ คงสูงไม่ต่ํากวา่ ร้อยละหกสิบ มาตรา ๔๔ ในวันทีส่ มาชกิ ส้ินสมาชิกภาพตามมาตรา ๓๓ (๑) หรือ (๒) ถ้าผลประโยชน์ ของเงนิ สะสมและเงินสมทบทไี่ ด้รับตลอดช่วงอายกุ ารเปน็ สมาชิกคํานวณได้น้อยกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ประจาํ ประเภทสบิ สองเดือนโดยเฉล่ียของธนาคารออมสิน ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารพาณิชย์แห่งใหญ่ห้าแห่งตามท่ีคณะกรรมการกําหนด ให้กองทุนจ่ายชดเชยให้แก่สมาชิก เพื่อให้ได้ผลประโยชน์เท่ากับอัตราดอกเบ้ียเงินฝากประจําท่ีคํานวณได้ข้างต้น ท้ังนี้ ตามหลักเกณฑ์ วธิ กี าร และเงอ่ื นไขทก่ี ําหนดโดยกฎกระทรวง การจ่ายชดเชยตามวรรคหน่ึง ให้กองทุนจา่ ยจากเงนิ ในบญั ชีเงินกองกลางตามมาตรา ๔๖ (๓) หมวด ๔ การเงินและการบญั ชี มาตรา ๔๕ กองทุนต้องจัดให้มีระบบบัญชีที่เหมาะสมเพื่อบันทึกรายการทางบัญชีและ แสดงผลการดําเนินงานและฐานะการเงินของกองทุนโดยถูกต้องตามมาตรฐานการบัญชี รวมท้ังต้องจัดให้มี การตรวจสอบภายในเปน็ ประจาํ ตลอดจนรายงานผลการตรวจสอบให้คณะกรรมการทราบอย่างน้อยปีละ หน่ึงครงั้ มาตรา ๔๖ ให้กองทนุ จดั ให้มีบญั ชี ประกอบดว้ ย (๑) บัญชเี งนิ รายบุคคลซ่งึ แสดงรายการเงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินสะสม และเงนิ สมทบบรรดาท่เี ปน็ ของสมาชกิ แตล่ ะคน (๒) บัญชีเงินบํานาญซึ่งแสดงรายการเงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินสะสม และเงินสมทบที่โอนมาจากบญั ชเี งินรายบุคคลของสมาชกิ ท่สี ิน้ สมาชิกภาพสาํ หรบั จ่ายบํานาญหรือจ่ายเงิน ดํารงชีพให้แก่สมาชกิ ผนู้ ้ัน (๓) บัญชีเงินกองกลางซึ่งแสดงรายการเงินท่ีรัฐบาลจัดสรรให้ตามมาตรา ๗ (๔) เงินท่ีมี ผู้บรจิ าคให้ เงนิ ตามบัญชเี งินรายบคุ คลที่ไม่มีผู้รบั เงนิ และทรัพย์สินของกองทุนในส่วนท่ีมิใช่ของสมาชิก ผรู้ บั บาํ นาญ หรือผูร้ บั เงนิ ดาํ รงชีพคนใด และดอกผลของเงนิ และทรัพย์สนิ ดังกล่าว มาตรา ๔๗ เมอ่ื สมาชิกผใู้ ดสน้ิ สมาชิกภาพเพราะอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ ให้โอนเงินจากบัญชี เงินรายบคุ คลตามมาตรา ๔๖ (๑) ของสมาชิกผู้น้ันมาเข้าบัญชีเงินบํานาญเพ่ือใช้จ่ายเป็นบํานาญตามที่ คํานวณได้ตามมาตรา ๓๔ หรือจา่ ยเป็นเงนิ ดํารงชีพตามมาตรา ๓๕ ให้แกส่ มาชกิ ผู้นน้ั
เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๓๔ ก หนา้ ๕๘ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ราชกจิ จานเุ บกษา มาตรา ๔๘ ในกรณีที่เงินในบัญชีเงินบํานาญของผู้รับบํานาญผู้ใดมีคงเหลือไม่เพียงพอจ่าย บํานาญ ให้จ่ายบํานาญจากเงนิ ของบญั ชเี งนิ กองกลาง มาตรา ๔๙ ในกรณีที่ผู้รับบํานาญหรือผู้รับเงินดํารงชีพตายและยังมีเงินคงเหลือในบัญชี เงนิ บาํ นาญของผูน้ ้ัน ใหจ้ ่ายเงินทีเ่ หลอื นนั้ แกบ่ คุ คลตามมาตรา ๓๖ โดยอนุโลม มาตรา ๕๐ ดอกผลที่ได้จากการนําเงินของกองทุนในแต่ละบัญชีไปลงทุนหาผลประโยชน์ เม่ือได้หักไว้สําหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานของกองทุนตามอัตราท่ีคณะกรรมการกําหนดแล้ว ทีเ่ หลอื ใหด้ าํ เนินการจดั สรร ดงั น้ี (๑) ดอกผลของการนําเงนิ ของบญั ชเี งนิ รายบุคคลไปลงทนุ ใหจ้ ดั สรรเปน็ ผลประโยชน์ของเงิน สะสมและเงนิ สมทบของเงินท่มี อี ยู่ในบัญชขี องสมาชิกแตล่ ะคน (๒) ดอกผลของการนําเงินของบัญชีเงินบํานาญของผู้รับบํานาญไปลงทุน ให้หักเข้าบัญชี เงนิ กองกลางตามอัตราทค่ี ณะกรรมการประกาศกําหนดเพอื่ สาํ รองจา่ ยเงินบาํ นาญในกรณีตามมาตรา ๔๘ สว่ นท่ีเหลอื ใหจ้ ัดสรรเพิม่ ในบัญชขี องผู้รบั บาํ นาญแตล่ ะคน (๓) ดอกผลของการนาํ เงินของบัญชีเงินบํานาญของผู้รับเงินดํารงชีพไปลงทุน ให้จัดสรรเพ่ิม ในบญั ชขี องผรู้ ับเงินดํารงชพี แตล่ ะคน (๔) ดอกผลอน่ื นอกจาก (๑) (๒) และ (๓) ให้จดั สรรเปน็ รายไดข้ องบัญชีเงินกองกลาง การจัดสรรดอกผลตามวรรคหน่ึง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลา ท่คี ณะกรรมการประกาศกาํ หนด หมวด ๕ การตรวจสอบและรายงาน มาตรา ๕๑ ใหก้ องทนุ แจ้งยอดเงินสะสม เงนิ สมทบ พร้อมทัง้ ผลประโยชน์ตอบแทนของเงิน ดังกล่าวในสว่ นของสมาชกิ แตล่ ะคนใหส้ มาชิกทราบอย่างนอ้ ยปีละหนง่ึ ครงั้ มาตรา ๕๒ ให้กองทุนยื่นรายงานแสดงการจัดการกองทุนต่อรัฐมนตรีอย่างน้อยเดือนละ หน่งึ ครั้งตามหลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการที่รัฐมนตรกี ําหนด มาตรา ๕๓ ให้กองทุนจัดทํางบการเงิน เพื่อแสดงผลการดําเนินงานและฐานะการเงิน ของกองทนุ เสนอผูส้ อบบัญชีภายในหนง่ึ ร้อยยสี่ บิ วนั นบั แต่วนั สิ้นปีบัญชี มาตรา ๕๔ ให้สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือผู้สอบบัญชีที่สํานักงานการตรวจ เงนิ แผน่ ดินใหค้ วามเห็นชอบเปน็ ผู้สอบบัญชขี องกองทุน
เล่ม ๑๒๘ ตอนท่ี ๓๔ ก หน้า ๕๙ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ราชกิจจานเุ บกษา มาตรา ๕๕ ให้ผู้สอบบัญชีทํารายงานการสอบบัญชีของกองทุนเสนอต่อรัฐมนตรีภายใน หน่งึ รอ้ ยห้าสบิ วนั นับแตว่ ันสน้ิ ปีบญั ชีและให้ประกาศงบการเงินที่ผ้สู อบบัญชีได้ตรวจสอบแล้วและรายงาน การสอบบัญชใี นราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๕๖ ให้กองทุนจัดทํารายงานประจําปีเสนอรัฐมนตรีเพ่ือพิจารณาเสนอต่อ คณะรฐั มนตรี สภาผแู้ ทนราษฎรและวฒุ ิสภา เพอ่ื ทราบภายในหนึง่ ร้อยแปดสิบวนั นับจากวันสน้ิ ปีบญั ชี รายงานตามวรรคหนึง่ ต้องแสดงประมาณการการเงนิ ทจ่ี ะขอให้รฐั บาลจัดสรรเพื่อการดําเนินงาน ของกองทนุ ในระยะเวลาสามปีนับจากวันเสนอรายงานผลงานของกองทุนในปีท่ีล่วงมาแล้ว พร้อมทั้งงบ การเงนิ และรายงานของผูส้ อบบญั ชีดว้ ย หมวด ๖ การควบคมุ กํากบั การจดั การกองทนุ มาตรา ๕๗ ให้คณะกรรมการมีอํานาจสั่งให้ผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการเงินของกองทุน กรรมการ ผู้จัดการ หรือผู้รับผิดชอบในการดําเนินงานของผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการเงินของกองทุน ชี้แจงข้อเทจ็ จริงเกยี่ วกบั การจดั การเงนิ ของกองทนุ ภายในระยะเวลาที่กําหนด ในกรณีที่ผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการเงินของกองทุนไม่ช้ีแจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการจัดการเงิน ของกองทนุ ภายในระยะเวลาท่ีกําหนดโดยไม่มีเหตุอันสมควร หรือปรากฏว่าผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการเงิน ข อ ง ก อ ง ทุ น จั ด ก า ร เ งิ น ข อ ง ก อ ง ทุ น ใ น ลั ก ษ ณ ะ ท่ี อ า จ เ ป็ น เ ห ตุ ใ ห้ เ กิ ด ค ว า ม เ สี ย ห า ย แ ก่ ก อ ง ทุ น ใหค้ ณะกรรมการมีอํานาจส่ังให้ผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการเงินของกองทุนแก้ไขหรือระงับการกระทํานั้น หรือสงั่ ยกเลกิ การมอบหมายใหจ้ ัดการเงินของกองทนุ น้ันได้ เม่ือได้รับคําสั่งยกเลิกการมอบหมายให้จัดการเงินของกองทุนตามวรรคสองแล้วให้ผู้ได้รับ มอบหมายใหจ้ ัดการเงนิ ของกองทนุ หยุดจัดการเงินของกองทุนในทันที และส่งมอบเงินและทรัพย์สินคืน ภายในเวลาท่ีกาํ หนดในคาํ สัง่ นั้น มาตรา ๕๘ ให้รัฐมนตรีมีอํานาจหน้าท่ีกํากับและดูแลโดยท่ัวไปซึ่งการจัดการกองทุน เพอ่ื ประโยชน์ในการน้ีจะแตง่ ตงั้ พนักงานเจ้าหน้าทีเ่ พอ่ื สอบสวนขอ้ เท็จจริงเก่ยี วกับการจัดการกองทุนหรือ จะแจง้ ให้คณะกรรมการดําเนนิ การตรวจสอบข้อเท็จจรงิ และรายงานให้รฐั มนตรีทราบดว้ ยก็ได้ ในกรณีท่ีรัฐมนตรีเห็นว่า ผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการเงินของกองทุนจัดการเงินของกองทุน ในลักษณะที่อาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่กองทุน รัฐมนตรีอาจขอให้คณะกรรมการพิจารณา ดําเนินการตามมาตรา ๕๗ วรรคสองและวรรคสาม ได้ มาตรา ๕๙ ในการปฏิบัติหน้าท่ีตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอํานาจ ดงั ต่อไปนี้
เลม่ ๑๒๘ ตอนท่ี ๓๔ ก หน้า ๖๐ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ราชกจิ จานุเบกษา (๑) เข้าไปในสถานที่ประกอบธุรกิจหรือสถานที่ตั้งของผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการเงิน ของกองทุนในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ข้ึนถึงพระอาทิตย์ตก หรือในเวลาทําการของสถานท่ีน้ัน เพ่ือตรวจสอบสมดุ บญั ชีหรือเอกสารหลักฐานเก่ียวกับการจัดการเงนิ ของกองทุน (๒) ยึดหรืออายดั เอกสารหรอื หลกั ฐานท่เี ก่ียวขอ้ งกับการกระทําความผดิ ตามพระราชบัญญัติน้ี เพ่อื ประโยชน์ในการสอบสวนข้อเท็จจรงิ หรอื ดําเนินคดี (๓) ส่ังให้กรรมการ ผู้จัดการ พนักงานหรือลูกจ้างของผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการเงิน ของกองทุนมาให้ถ้อยคําหรือส่งสําเนาหรือแสดงสมุดบัญชี หรือเอกสารหลักฐานเก่ียวกับการจัดการเงิน ของกองทุน ในการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ตี ามวรรคหนง่ึ ใหบ้ คุ คลที่เกี่ยวข้องอํานวยความสะดวกตามสมควร เมอ่ื ได้เขา้ ไปและลงมือทาํ การตรวจสอบตาม (๑) แล้ว ถ้ายงั ดําเนินการไม่เสร็จจะกระทําต่อไป ในเวลากลางคืนหรอื นอกเวลาทาํ การของสถานทนี่ นั้ กไ็ ด้ มาตรา ๖๐ ในการปฏิบัติหน้าท่ีพนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจําตัวแก่บุคคล ทเี่ กยี่ วขอ้ ง บัตรประจําตัวพนักงานเจ้าหน้าท่ี ให้เป็นไปตามแบบที่คณะกรรมการกําหนดโดยประกาศใน ราชกจิ จานเุ บกษา มาตรา ๖๑ ในการปฏิบตั ิหนา้ ทตี่ ามพระราชบญั ญัตินี้ ใหพ้ นักงานเจ้าหน้าท่ีเป็นเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา หมวด ๗ บทกาํ หนดโทษ มาตรา ๖๒ ผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการเงินของกองทุนรายใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๕๗ วรรคสาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองล้านบาท และปรับอีกไม่เกินวันละหน่ึงแสนห้าหม่ืนบาท จนกวา่ จะได้ปฏบิ ตั ิให้ถูกต้อง ในกรณีท่ีผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการเงินของกองทุนกระทําความผิดตามวรรคหนึ่ง กรรมการ ผจู้ ัดการ หรือบคุ คลใดซงึ่ รบั ผิดชอบในการดําเนินงานของผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการเงินของกองทุนนั้น ตอ้ งระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสองล้านบาทหรือทั้งจําทั้งปรับ เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่า ตนมไิ ดม้ สี ว่ นในการกระทาํ ความผิดของผู้ได้รบั มอบหมายใหจ้ ัดการเงินของกองทนุ น้ันด้วย มาตรา ๖๓ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคําสั่ง ขัดขวาง หรือไม่ให้ความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าท่ี ซ่ึงปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๕๙ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามเดือนหรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรอื ทัง้ จาํ ทั้งปรับ
เลม่ ๑๒๘ ตอนที่ ๓๔ ก หน้า ๖๑ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ราชกิจจานเุ บกษา มาตรา ๖๔ กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลซึ่งรับผิดชอบในการดําเนินงานของผู้ได้รับ มอบหมายให้จัดการเงินของกองทุนรายใดแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอก ให้แจ้งในสาระสําคัญเกยี่ วกบั การจดั การเงินของกองทุนต่อคณะกรรมการต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรบั ไม่เกนิ สองล้านห้าแสนบาท หรอื ทงั้ จาํ ทง้ั ปรบั มาตรา ๖๕ ความผิดตามมาตรา ๖๒ และมาตรา ๖๓ ให้คณะกรรมการเปรียบเทียบ ท่ีรฐั มนตรีแตง่ ต้งั มอี าํ นาจเปรียบเทยี บได้ คณะกรรมการเปรียบเทียบที่รัฐมนตรีแต่งต้ังตามวรรคหน่ึงให้มีจํานวนสามคน ซ่ึงคนหน่ึง ตอ้ งเปน็ พนกั งานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา เม่ือคณะกรรมการเปรียบเทียบได้ทําการเปรียบเทียบกรณีใด และผู้ต้องหาได้ชําระค่าปรับ ตามคาํ เปรยี บเทยี บภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการเปรียบเทียบกาํ หนดแลว้ ให้คดนี น้ั เปน็ อนั เลิกกนั ถ้าผู้ต้องหาไม่ยนิ ยอมใหเ้ ปรยี บเทียบ หรือเมื่อยินยอมแล้วไม่ชําระเงินค่าปรับภายในระยะเวลา ทกี่ าํ หนด ให้ดําเนินคดีตอ่ ไป บทเฉพาะกาล มาตรา ๖๖ ในวาระเริ่มแรกให้รัฐบาลจัดสรรเงินเข้าบัญชีเงินกองกลางตามมาตรา ๔๖ (๓) เปน็ จาํ นวนหนึง่ พนั ลา้ นบาท เพอ่ื เป็นค่าใชจ้ า่ ยในการดําเนนิ งานของกองทนุ มาตรา ๖๗ ในวาระเรม่ิ แรกให้มคี ณะกรรมการคณะหนึ่งประกอบด้วย ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการ ปลดั กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ ปลัดกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงแรงงาน เลขาธิการสํานักงานประกันสังคม ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เลขาธิการสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ เป็นกรรมการ และผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง เป็นกรรมการและเลขานุการ ทําหนา้ ทคี่ ณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ และให้ผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลังทําหน้าท่ี เลขาธิการ เพอ่ื ปฏบิ ตั หิ นา้ ทตี่ ามพระราชบัญญตั ินี้ไปพลางก่อน ใหค้ ณะกรรมการตามวรรคหน่ึงดาํ เนนิ การเลอื กกรรมการผ้ทู รงคุณวฒุ ิตามท่ีบัญญัติไวใ้ นมาตรา ๑๑ เปน็ กรรมการ และแตง่ ตงั้ เลขาธิการ ทั้งน้ี ภายในเกา้ สบิ วันนบั แต่วันท่พี ระราชบัญญัตินีใ้ ช้บังคับ มาตรา ๖๘ เม่ือได้ดําเนินการเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและแต่งตั้งเลขาธิการแล้ว ใ ห้ ก ร ร ม ก า ร เ ท่ า ท่ี มี อ ยู่ ป ร ะ ก อ บ เ ป็ น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ก อ ง ทุ น ก า ร อ อ ม แ ห่ ง ช า ติ เ พื่ อ ป ฏิ บั ติ ห น้ า ที่ ตามพระราชบัญญัตินี้ไปพลางก่อน โดยให้ดําเนินการเลือกกรรมการซึ่งเป็นสมาชิกตามท่ีบัญญัติไว้ ในมาตรา ๑๒ เพื่อให้ได้คณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติตามพระราชบัญญัติน้ีภายในสามร้อย หกสบิ วนั นับแตว่ ันทีห่ มวด ๓ มผี ลใชบ้ ังคับ
เลม่ ๑๒๘ ตอนท่ี ๓๔ ก หนา้ ๖๒ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ราชกจิ จานเุ บกษา ในกรณีที่ยังไม่อาจเลือกกรรมการซ่ึงเป็นผู้รับบํานาญตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๒ ได้ เนื่องจากยังไม่มีผู้รับบํานาญตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ดําเนินการเลือกกรรมการซึ่งเป็นสมาชิกตาม วรรคหน่ึงอีกหน่ึงคน เพ่ือปฏิบัติหน้าท่ีไปพลางก่อนจนกว่าจะมีการเลือกกรรมการซ่ึงเป็นผู้รับบํานาญ ตามพระราชบญั ญตั ินี้ มาตรา ๖๙ ภายในหนึ่งปีนับแต่วันท่ีบทบัญญัติแห่งหมวด ๓ ใช้บังคับ หากในวันท่ีสมัคร เข้าเปน็ สมาชิกผสู้ มัครเขา้ เปน็ สมาชิกผู้ใดมีอายุห้าสิบปีบริบูรณ์ขึ้นไป ให้ผู้นั้นมีสิทธิเป็นสมาชิกของกองทุน ต่อไปไดอ้ กี สิบปนี ับแต่วันทีเ่ ปน็ สมาชิก และเม่ือเป็นสมาชิกของกองทุนครบสิบปีหรือเม่ือสมาชิกซ่ึงมีอายุ หกสิบปีบริบูรณ์ข้ึนไปลาออกจากการเป็นสมาชิกให้ถือว่าเป็นกรณีท่ีสมาชิกอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ ตามพระราชบญั ญัตินแี้ ละให้นําบทบัญญัตใิ นหมวด ๓ และหมวด ๔ มาใชบ้ งั คับโดยอนโุ ลม ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อภสิ ิทธ์ิ เวชชาชวี ะ นายกรัฐมนตรี
บัญชเี งนิ สมทบ อายุสมาชกิ อัตราสว นเงนิ สมทบ เงินสมทบสูงสุด ตอเงนิ สะสม ไมเ กนิ ๓๐ ป ๓,๐๐๐ บาท ตอ ป เกนิ ๓๐ ป แตไ มเกนิ ๕๐ ป รอยละ ๕๐ ๔,๘๐๐ บาท ตอป เกิน ๕๐ ป รอ ยละ ๘๐ ๖,๐๐๐ บาท ตอ ป รอ ยละ ๑๐๐
เลม่ ๑๒๘ ตอนที่ ๓๔ ก หนา้ ๖๓ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ราชกิจจานเุ บกษา หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับน้ี คือ โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๐ มาตรา ๘๔ (๔) บัญญัติให้รัฐต้องดําเนินการตามแนวนโยบายด้านเศรษฐกิจ คือ จัดให้มี การออมเพอ่ื การดาํ รงชีพในยามชราแกป่ ระชาชน และเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างทั่วถึง ดังนั้นเพื่อให้มีระบบการออม เพื่อการดํารงชีพในยามชราภาพที่ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มโดยเฉพาะประชากรภาคแรงงานส่วนใหญ่ ของประเทศท่เี ป็นแรงงานนอกระบบยังไมไ่ ด้รับความคมุ้ ครองเพ่อื การชราภาพอย่างทวั่ ถงึ จึงทําใหบ้ ุคคลเหล่านี้ มีความเสี่ยงท่ีจะตกอยู่ในความยากจนในวัยสูงอายุ อันเนื่องมาจากไม่มีช่องทางหรือโอกาสเข้าถึงระบบ การออมเงินในขณะทอี่ ยู่ในวัยทํางาน เพ่อื สรา้ งความมั่นคงในบ้นั ปลายของชีวิตตลอดจนเพื่อเป็นการสร้างวินัย ในการออมของประชาชนคนไทยในวยั ทาํ งาน จงึ สมควรจดั ตงั้ กองทนุ เพ่อื เปน็ ช่องทางการออมขั้นพ้ืนฐานให้แก่ ผทู้ ีย่ ังไม่ไดร้ ับความคมุ้ ครองเพือ่ การชราภาพใหไ้ ดร้ บั ผลประโยชน์ในรูปบาํ นาญ อันเปน็ การสรา้ งความเทา่ เทียม และความเปน็ ธรรมในการดูแลจากภาครัฐ จึงจาํ เปน็ ตอ้ งตราพระราชบัญญัตนิ ี้
รายงาน ของ คณะกรรมาธกิ ารวิสามัญพจิ ารณา รา่ งพระราชบญั ญตั ิกองทุนบาเหน็จบานาญ ข้าราชการ (ฉบบั ท่ี ..) พ.ศ. .... สภาผแู้ ทนราษฎร สานกั กรรมาธิการ ๑ สานกั งานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร
รายงานคณะกรรมาธิการวิสามญั ----------------------- ตามท่ีท่ีประชมุ สภาผู้แทนราษฎร ชุดท่ี ๒๕ ปีที่ ๓ คร้ังท่ี ๑๙ (สมัยสามัญประจาปคี รั้งที่สอง) วันพุธที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๔ ได้ลงมติรับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติกองทุนบาเหน็จบานาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ) และร่างพระราชบัญญัติกองทุนบาเหน็จบานาญข้าราชการ (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... (นายพิสิฐ ลี้อาธรรม กับคณะ เป็นผู้เสนอ) และต้ังกรรมาธิการวิสามัญข้ึน คณะหน่ึงเพ่ือพิจารณา กาหนดการแปรญัตติภายใน ๑๕ วัน โดยใหถ้ ือเอาร่างพระราชบัญญัตขิ องคณะรฐั มนตรี เป็นหลักในการพจิ ารณา นน้ั บดั นี้ คณะกรรมาธกิ ารวสิ ามัญได้ดาเนนิ การแล้ว ปรากฏผลดังน้ี ๑. คณะกรรมาธิการวสิ ามัญได้มีมติเลอื กตั้ง (๑) นายวรี ะกร คาประกอบ เปน็ ประธานคณะกรรมาธกิ าร (๒) นายอุบลศกั ด์ิ บวั หลวงงาม เปน็ รองประธานคณะกรรมาธกิ าร คนท่ีหนง่ึ (๓) นายวริ ชั พนั ธมุ ะผล เปน็ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง (๔) นายพิสิฐ ลอี้ าธรรม เปน็ รองประธานคณะกรรมาธกิ าร คนทสี่ าม (๕) รองศาสตราจารยส์ รุ วาท ทองบุ เป็นรองประธานคณะกรรมาธกิ าร คนทส่ี ี่ (๖) นายสรุ ทิน พิจารณ์ เปน็ รองประธานคณะกรรมาธกิ าร คนทีห่ า้ (๗) ศาสตราจารยส์ ุชาติ ธาดาธารงเวช เป็นกรรมาธกิ ารและทปี่ รึกษา (๘) นางแกว้ กาญจน์ วสุพรพงศ์ เป็นกรรมาธกิ ารและท่ีปรึกษา (๙) นายสมศักดิ์ คุณเงนิ เปน็ โฆษกคณะกรรมาธิการ (๑๐) นายธนกร ไชยกลุ เป็นโฆษกคณะกรรมาธิการ (๑๑) ศาสตราจารยโ์ กวทิ ย์ พวงงาม เปน็ โฆษกคณะกรรมาธกิ าร (๑๒) นายเกษม ศุภรานนท์ เปน็ เลขานุการคณะกรรมาธกิ าร (๑๓) นางศรกี ญั ญา ยาทิพย์ เปน็ ผูช้ ว่ ยเลขานุการคณะกรรมาธกิ าร (๑๔) นายกองตรี อาญาสทิ ธ์ิ ศรีสวุ รรณ เป็นผชู้ ว่ ยเลขานุการคณะกรรมาธิการ ๒. คณะกรรมาธิการวิสามัญไดม้ ีมติต้ังท่ีปรกึ ษาประจาคณะกรรมาธกิ าร ดังน้ี (๑) นายปกป้อง กลบั วเิ ศษ (๒) นายโรจนศักดิ แสงธศิริวิไล (๓) นายธนะ บารุงแสง (๔) นายทานอง ดาศรี (๕) นายไพรัตน์ แดนขนบ (๖) นายสมปอง ภักดีกิจ (๗) นายวฒั นา จาปาดิบรัตนกุล (๘) นายระพิน สวุ รรณมุข (๙) นายเกรกิ ฤทธิ แจง้ พรมมา (๑๐) นางแพงศรี พจิ ารณ์ (๑๑) นายวีระพล ขวญั เมอื ง
(๒) (๑๒) ว่าทร่ี ้อยตรี ทนงชติ บุญทน (๑๓) นายทปี พรรธน์ สงิ หท์ ี (๑๔) ร้อยตรี ชนั ษา พิมศรี (๑๕) นายพลภัทร หอมแม้น (๑๖) พันตารวจโท ชัยบัญชา กองทอง (๑๗) รองศาสตราจารย์วรวรรณ อบุ ลเลิศ (๑๘) นางสาวนภชั สร พิมพพ์ ชื (๑๙) นายธนชยั ไพรสิงห์ (๒๐) นางสาวชุติกาญจน์ ศรีเสมอสมบัติ (๒๑) นายปฏวิ ัติ พิจารณ์ (๒๒) นางสาวณพดา พรนพอดุ ม (๒๓) นางสาวปวณี า ปาคา (๒๔) นายณพลเดช มณลี งั กา (๒๕) นายวัยพจน์ ปัญญะ (๒๖) นางสาวปญั นิษา จารสั ธนเดช (๒๗) นายฐาณุพงศ์ อโนทัยไพบลู ย์ (๒๘) นายไพบลู ย์ แจ่มพงค์ (๒๙) นายกัมปนาท บุตรโต (๓๐) นายจารัส พิมพา (๓๑) นายศุภฤกษ์ อ่อนสงไกร (๓๒) นายอาวธุ ทองบุ (๓๓) นายอาพล เพ็ญตระการ ๓. คณะกรรมาธิการวิสามัญได้มีมติต้ัง นายต่อศักด์ิ คุ้มปลั่ง นิติกรชานาญการ กลุ่มงาน คณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สานักกรรมาธิการ ๑ สานักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้ช่วยเลขานุการประจาคณะกรรมาธิการ ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙๓ วรรคส่ี ๔. ผูซ้ งึ่ คณะรฐั มนตรไี ดม้ อบหมายให้มาช้แี จงแสดงความคดิ เห็น คอื ๔.๑ กระทรวงการคลัง กรมบัญชีกลาง (๑) นางสาววลัยรัตน์ ศรีเชียงพิมพ์ ผู้อานวยการกลุ่มงานเงินเดือน ค่าจ้าง บาเหน็จ บานาญ กองคา่ ตอบแทนและประโยชน์เกอ้ื กลู (๒) นายวิรยิ ะ ธรรมจักร นิตกิ รชานาญการ กลมุ่ งานเงนิ เดอื น คา่ จา้ ง บาเหน็จ บานาญ กองคา่ ตอบแทนและประโยชนเ์ กื้อกูล (๓) นายปริเศษ รัตนภริ มย์ นักวชิ าการคลังปฏิบัตกิ าร
(๓) กองทุนบาเหน็จบานาญข้าราชการ (๑) นายแมน ชุติชูเดช รองเลขาธิการกลุ่มงานกลยุทธ์ลงทุนและบริหาร ผู้จดั การกองทนุ (๒) นายสจุ นิ ดา สขุ มุ ผชู้ ว่ ยเลขาธกิ ารกล่มุ งานบริหาร (๓) นายรัฐเมธ วรญั ญู ผชู้ ว่ ยผู้จัดการกองทุนบาเหนจ็ บานาญข้าราชการ (๔) นางสาววารุณี องศท์ วเี กียรติ ผอู้ านวยการฝ่ายกฎหมาย ๔.๒ สานักนายกรฐั มนตรี สานกั งบประมาณ (๑) นางวลั ลภา เชาวลิต นกั วเิ คราะห์งบประมาณชานาญการพเิ ศษ (๒) นางสาวณฏั ฐนี เกดิ สุคนธ์ นติ กิ รชานาญการพเิ ศษ (๓) นางปภาดา อวนศรี นักวิเคราะหง์ บประมาณชานาญการพเิ ศษ (๔) นางสาวสุทธาสนิ ี ขนั การไร่ นักวเิ คราะห์งบประมาณชานาญการ (๕) นายเรืองฤทธิ์ ชจู นั ทร์ นักวเิ คราะหง์ บประมาณปฏิบตั ิการ สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๑) นางสาวไปรมา สงิ หรักษ์ นกั กฎหมายกฤษฎีกาชานาญการพิเศษ (๒) นางสาววิชชุกาญจน์ พฒั นพันธช์ ยั นักกฎหมายกฤษฎกี าชานาญการพิเศษ สานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ นายสุรพล ศรเี ฮอื ง ผ้อู านวยการกองยุทธศาสตรแ์ ละการวางแผน เศรษฐกิจมหภาค ๔.๓ ส่วนราชการไมส่ ังกดั สานักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรอื ทบวง สานกั งานคณะกรรมการกากับหลักทรัพย์และตลาดหลกั ทรัพย์ (๑) นางณัฐญา นิยมานสุ ร ผชู้ ว่ ยเลขาธิการสายธรุ กิจจดั การลงทนุ (๒) นางนา้ ทพิ ย์ สนิ สุขเพม่ิ พนู ผ้อู านวยการฝ่ายกฎหมาย ๒ (๓) นางศิษฏศรี นาคะศริ ิ ผู้อานวยการฝ่ายกากับธุรกิจออกแบบและกองทุน สารองเลย้ี งชพี (๔) นายสมเกียรติ อนันตภากรณ์ ผชู้ ว่ ยผู้อานวยการฝา่ ยกฎหมาย ๒ (๕) นางรชั นยี ์ สมุทรานนท์ รองผู้อานวยการฝ่ายกากับธุรกิจออกแบบการลงทุน และกองทุนสารองเลี้ยงชีพ (๖) นายวรทิ ธิ์ นิตยาภรณ์ เจ้าหนา้ ท่บี ริหาร (๗) นางสาววิลาสนิ ี มงคลศรี เจ้าหน้าทฝี่ ่ายกากบั ธุรกิจออกแบบการลงทุน ๕. ผเู้ ข้ารว่ มประชมุ คือ ๕.๑ กองทนุ การออมแห่งชาติ นายไชยรัตน์ ทองสัมพันธ์ นิติกร ๕.๒ สานกั งานคณะกรรมการนโยบายรฐั วสิ าหกิจ (๑) นายสุธารกั ษ์ ธรี ์จันทกึ ผอู้ านวยการกองพฒั นารัฐวิสาหกิจ ๓ (๒) นายอรรถกร แจงบารุง นักวิเคราะห์รฐั วสิ าหกจิ ชานาญการพเิ ศษ
(๔) ๖. การต้งั คณะอนุกรรมาธิการ คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาการบูรณาการระบบบานาญแห่งชาติ ประกอบด้วย (๑) ศาสตราจารย์สุชาติ ธาดาธารงเวช เป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการ (๒) นายสุรทนิ พจิ ารณ์ เปน็ รองประธานคณะอนกุ รรมาธกิ าร คนทห่ี นึง่ (๓) นายสมศักดิ์ คุณเงิน เป็นรองประธานคณะอนกุ รรมาธกิ าร คนท่ีสอง (๔) นายกองตรี อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ เปน็ โฆษกคณะอนกุ รรมาธกิ าร (๕) นายธนกร ไชยกุล เปน็ โฆษกคณะอนกุ รรมาธิการ (๖) นายสรุ พล ศรีเฮือง เป็นอนกุ รรมาธกิ าร (๗) นายวโรทยั โกศลพิศษิ ฐ์กุล เปน็ อนกุ รรมาธกิ าร (๘) นางศรีกญั ญา ยาทิพย์ เปน็ เลขานกุ ารคณะอนกุ รรมาธกิ าร (๙) นายจิรพงษ์ เวชมงคลกร เปน็ ผชู้ ่วยเลขานกุ ารคณะอนุกรรมาธกิ าร (๑๐) นางธรี นชุ ทองชวิ เป็นผูช้ ่วยเลขานกุ ารคณะอนุกรรมาธกิ าร นอกจากน้ัน ได้มมี ตติ งั้ ทีป่ รึกษาประจาคณะอนุกรรมาธิการ คอื นายนันทชยั ปญั ญาสุรฤทธิ์ ๗. รา่ งพระราชบญั ญัตฉิ บับนี้ มีผูเ้ สนอคาแปรญัตติ คอื นายวรภพ วิรยิ ะโรจน์ ๘. ผลการดาเนินการตามมาตรา ๗๗ ของรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย คณะกรรมาธิการวิสามัญได้นาผลการรับฟังความคิดเห็นและการวิเคราะห์ผลกระทบ ท่ีอาจเกิดข้ึนจากร่างพระราชบัญญัติกองทุนบาเหน็จบานาญข้าราชการ (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... (คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ) ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้ส่งให้สภาผู้แทนราษฎร ตามหนังสือที่ นร ๐๕๐๓/๓๗๘๓๖ ลงวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๔ เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติกองทุนบาเหน็จบานาญข้าราชการ (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... มาใช้ประกอบ การพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญครบถ้วนตามมาตรา ๗๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว และร่างพระราชบัญญัติกองทุนบาเหน็จบานาญข้าราชการ (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... (นายพิสิฐ ลี้อาธรรม และคณะ เป็นผู้เสนอ) เป็นร่างพระราชบัญญัติเก่ียวด้วยการเงิน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้คารับรองแล้วตามรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๑๓๔ และเนื่องจากร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีหลักการทานองเดียวกับ ร่างพระราชบัญญัติท่ีเสนอโดยคณะรัฐมนตรี ซึ่งตามประกาศสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการ การรับฟังความคิดเห็นและการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากร่างพระราชบัญญัติท่ีเสนอโดยสมาชิก สภาผู้แทนราษฎร หรือผู้มีสิทธิเลือกต้ัง พ.ศ. ๒๕๕๒ ข้อ ๒ วรรคสอง สานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อาจไม่ดาเนินการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวก็ได้ ดังน้ัน การรับฟังความคิดเห็น ของร่างพระราชบัญญัตฉิ บับน้ี ท่ีประชุมสภาผู้แทนราษฎรจงึ มีมติให้ใช้ผลการรับฟงั ความคดิ เห็นของคณะรฐั มนตรี มาใช้ประกอบการพิจารณาได้
(๕) ๙. ผลการพจิ ารณา ชือ่ ร่างพระราชบญั ญตั ิ ไม่มกี ารแกไ้ ข คาปรารภ ไม่มีการแกไ้ ข มาตรา ๑ ไม่มกี ารแกไ้ ข มาตรา ๒ ไมม่ ีการแกไ้ ข มาตรา ๓ เพม่ิ มาตรา ๓๘/๒ ไมม่ กี ารแก้ไข มาตรา ๔ แก้ไขมาตรา ๓๙ วรรคสอง ไมม่ ีการแกไ้ ข นายวรภพ วริ ยิ ะโรจน์ ขอแปรญัตติแก้ไขเพมิ่ เตมิ ความในมาตรา ๓๙ เป็นดังน้ี “มาตรา ๔ ใหย้ กเลิกความในวรรคสองของมาตรา ๓๙ แห่งพระราชบญั ญัตกิ องทุน บาเหนจ็ บานาญขา้ ราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ ซึง่ แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบญั ญัติกองทนุ บาเหน็จบานาญ ข้าราชการ (ฉบับท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๕๐ และใหใ้ ช้ความตอ่ ไปน้ีแทน “ในกรณีท่สี มาชิกผู้ใดประสงคท์ ่สี ่งสะสมเข้ากองทนุ เกินกว่าอัตราตามวรรคหน่ึง ใหด้ าเนนิ การตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่คี ณะกรรมการกาหนด แต่ทงั้ น้ีการส่งเงินสะสมตามมาตรานี้ รวมกนั แลว้ จะตอ้ งไม่เกนิ ร้อยละสบิ หา้ ของเงินเดือนให้เป็นไปตามความประสงค์ของสมาชิกโดยไม่จากัดอัตรา การสง่ เงินสะสม”” คณะกรรมาธิการไดช้ แี้ จงแลว้ ผ้แู ปรญัตติพอใจ มาตรา ๔/๑ เพ่ิมมาตรา ๔๓/๑ คณะกรรมาธกิ ารเพ่มิ ขึน้ ใหม่ มกี รรมาธิการขอสงวนความเหน็ นายจิรพงษ์ เวชมงคลกร นางแก้วกาญจน์ วสุพรพงศ์ และนางศรีกัญญา ยาทิพย์ ขอสงวนความเห็น โดยขอให้ตดั มาตรา ๔๓/๑ ออกท้งั มาตรา นายวรภพ วริ ิยะโรจน์ ขอแปรญัตติ โดยขอให้เพิ่มความเปน็ มาตรา ๔๓/๑ ดงั นี้ “แก้ไขเพม่ิ เตมิ มาตรา ๔๓/๑ แหง่ พระราชบัญญัติกองทนุ บาเหน็จบานาญข้าราชการ (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... เป็นดังน้ี “มาตรา ๔๓/๑ ใหย้ กเลิกความในวรรคสองของมาตรา ๓๙ แหง่ พระราชบญั ญตั ิ พระราชบัญญตั ิกองทุนบาเหนจ็ บานาญขา้ ราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ ซงึ่ แก้ไขเพิม่ เตมิ โดยพระราชบัญญตั ิกองทุน บาเหน็จบานาญขา้ ราชการ (ฉบบั ท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๕๐ และให้ใช้ความตอ่ ไปนแ้ี ทน” “สมาชกิ มสี ิทธิขอรับเงนิ จากกองทนุ ใหเ้ ปน็ ตามความประสงค์ของสมาชิกโดยไม่จากดั อัตราการสง่ เงินสะสม เงนิ สมทบ และผลประโยชน์ตอบแทนดังกลา่ วทีบ่ ันทึกไว้ในบัญชีรายบคุ คลเพื่อใช้จ่าย โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ ฉพาะแต่ในการจัดหาที่อยู่อาศยั ของตนได้ ทั้งน้ี ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธกี าร ท่ีคณะกรรมการกาหนด”” คณะกรรมาธิการได้ช้แี จงแลว้ ผแู้ ปรญัตติพอใจ
(๖) มาตรา ๕ เพิ่มมาตรา ๕๙ วรรคสอง มีการแก้ไข มีกรรมาธิการขอสงวนความเห็น นายวีระกร คาประกอบ นายวิสิทธ์ิ พิทยาภรณ์ นางแก้วกาญจน์ วสุพรพงศ์ และนางศรีกัญญา ยาทิพย์ ขอสงวนความเห็น โดยขอให้คงไว้ตามรา่ งเดิม มาตรา ๖ แก้ไขมาตรา ๖๗/๑ มกี ารแก้ไข มีกรรมาธิการขอสงวนความเหน็ นายวีระกร คาประกอบ นายวิสิทธิ์ พิทยาภรณ์ นางแก้วกาญจน์ วสุพรพงศ์ และนางศรกี ัญญา ยาทพิ ย์ ขอสงวนความเห็น โดยขอให้คงไว้ตามร่างเดิม มาตรา ๗ แกไ้ ขมาตรา ๗๐ ไมม่ ีการแกไ้ ข มาตรา ๗/๑ แก้ไขมาตรา ๗๐/๘ วรรคหน่ึง คณะกรรมาธิการเพม่ิ ข้ึนใหม่ มาตรา ๘ ไม่มีการแก้ไข มาตรา ๙ ไมม่ ีการแกไ้ ข ๑๐. ขอ้ สังเกตของคณะกรรมาธกิ ารวิสามัญ คณะกรรมาธิการวิสามัญได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ต้ังแต่ชื่อร่างพระราชบัญญัติ คาปรารภ และพิจารณาตามลาดับมาตราจนจบร่างแล้วเห็นว่า ควรมีข้อสังเกตที่คณะรัฐมนตรี และหน่วยงาน ของรัฐท่ีเก่ียวข้อง ควรทราบและปฏิบัติไว้ท้ายรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณา ดังนี้ ๑๐.๑ คณะกรรมาธิการวิสามัญได้มีการเพ่ิมมาตรา ๔/๑ ซึ่งเป็นการเพ่ิมมาตรา ๔๓/๑ ของพระราชบัญญัติกองทุนบาเหน็จบานาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ และเพ่ิมมาตรา ๗/๑ ซึ่งเป็นการแก้ไข มาตรา ๗๐/๘ ของพระราชบัญญัติกองทุนบาเหน็จบานาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ โดยการแก้ไขเพิ่มเติม ดังกล่าวเป็นไปตามหลักการและเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติกองทุนบาเหน็จบานาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (นายพสิ ฐิ ล้อี าธรรม กับคณะ เป็นผู้เสนอ) ทสี่ ภาผู้แทนราษฎร ไดม้ มี ติรบั หลกั การไว้แล้ว เปน็ ดงั น้ี หลักการ แกไ้ ขเพิ่มเตมิ พระราชบัญญตั ิกองทนุ บาเหน็จบานาญขา้ ราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ ดังตอ่ ไปนี้ (๑) เพิม่ บทบญั ญัติเกย่ี วกบั อานาจของกองทนุ ในการรับโอนเงินของสมาชิก จากกองทนุ สารองเลีย้ งชีพหรือกองทุนอื่นทจ่ี ัดต้งั ขึ้นตามกฎหมายและมีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือเปน็ หลกั ประกัน ในกรณีการออกจากงานหรือชราภาพได้ (เพ่มิ มาตรา ๓๘/๒) (๒) แก้ไขเพ่มิ เติมอัตราการสง่ เงนิ สะสมของสมาชกิ โดยให้ส่งไดไ้ มเ่ กินร้อยละ สามสิบของเงินเดอื น (แก้ไขเพ่มิ เตมิ มาตรา ๓๙ วรรคสอง และมาตรา ๗๐/๘ วรรคหนงึ่ ) (๒/๑) เพ่ิมเติมหลักเกณฑ์การอนญุ าตให้สมาชิกสามารถขอรับเงินจากกองทุน ไม่เกินอัตราร้อยละสามสิบของจานวนเงินสะสม เงนิ สมทบ และผลประโยชน์ตอบแทนดังกลา่ วที่บันทึกไวใ้ นบัญชี รายบุคคลเพื่อใชจ้ า่ ยโดยมวี ตั ถุประสงค์เฉพาะแตใ่ นการจัดหาทอ่ี ยู่อาศัยของตนได้ (เพ่ิมมาตรา ๔๓/๑)
(๗) (๓) เพ่ิมหลักเกณฑก์ ารบรหิ ารเงนิ ของสมาชกิ ผู้ถึงแก่ความตายในกรณีที่ผู้มีสิทธิ รับมรดกยังไมย่ นื่ คาขอรับเงินท่สี มาชิกมีสิทธไิ ดร้ ับ (เพ่ิมมาตรา ๕๙ วรรคสอง) (๔) แก้ไขเพิ่มเติมหลกั เกณฑเ์ ก่ียวกบั การบรหิ ารเงนิ ของสมาชกิ ซึ่งสิน้ สุดสมาชิกภาพ (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๖๗/๑) (๕) แก้ไขเพ่ิมเติมหลักเกณฑเ์ ก่ยี วกบั การลงทุนของเงนิ ของกองทุนในบัญชี เงนิ สารองและในบัญชีเงนิ รายบคุ คลของสมาชิกแตล่ ะคน (แกไ้ ขเพิ่มเติมมาตรา ๗๐) ๑๐.๒ กระทรวงการคลังควรมีแผนการระยะยาวในการบูรณาการกองทุนต่าง ๆ เข้าด้วยกันเป็นกองทุนระดับชาติ โดยมีลักษณะเป็นกองทุนบานาญประชาชน เน่ืองจากประเทศไทยมีกองทุน ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้สาหรับสารองเลี้ยงชีพ และเป็นสวัสดิการแก่สมาชิกในวัยเกษียณจานวนมาก เพ่ือเป็น การวางมาตรฐานการจัดสวัสดิการของประเทศในภาพรวม และเป็นหลักประกันการดารงชีวิตของประชาชน ทกุ คน โดยคานึงถึงผู้สงู อายุท่ีจะต้องได้รับบานาญพ้นื ฐาน ซ่ึงในระยะเร่มิ ตน้ อาจเรม่ิ จาก ๑,๐๐๐ บาทต่อเดือน และทยอยเพ่ิมขึ้นไปจนถึงเส้นแบ่งความยากจนท่ีกาหนดโดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ ๒,๗๖๓ บาทต่อเดือน) หรืออาจจะพิจารณาดัชนีชว้ี ัดตัวอื่น ๆ ด้วย ท้ังนี้ เป็นไปตามรายงาน ของคณะอนกุ รรมาธิการพิจารณาศกึ ษาการบรู ณาการระบบบานาญแหง่ ชาติท่แี นบมาพรอ้ มน้ี ๑๐.๓ การแก้ไขเพม่ิ เติมบทบัญญัติของพระราชบญั ญัติกองทุนบาเหน็จบานาญข้าราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ในครั้งนี้ มีการแก้ไขในหลักการสาคัญหลายประการ เช่น การให้สิทธิสมาชิกของกองทุน สามารถส่งเงินในอัตราสูงสุดไม่เกินร้อยละสามสิบของเงินเดือน และการให้สิทธิแก่สมาชิกในการขอรับเงิน สะสม เงินสมทบ และผลประโยชนต์ อบแทนเงินดังกลา่ วที่บันทกึ ไว้ในบัญชีรายบุคคลของตนในอัตราไม่เกนิ ร้อย ละสามสิบจากกองทุนเพื่อใช้ในการจัดหาที่พักอาศัยของตน แต่เน่ืองจากสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีที่สมาชิก กองทุนได้รับในปัจจุบัน คือ กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๑๒๖ (พ.ศ. ๒๕๐๙) ออกตามความในประมวลรัษฎากร วา่ ด้วยการยกเว้นรัษฎากร ข้อ ๒ (๔๓) กาหนดกรอบอัตราในจานวนเงินไม่เกินห้าแสนบาทสาหรับปีภาษีน้นั ๆ ทาให้กรอบวงเงินสมทบทีจ่ ะได้มีการเพ่มิ เติมข้นึ ใหม่เกนิ กวา่ กรอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ใช้บังคับ ประกอบกับ ในปัจจุบันยังไม่มีการออกกฎกระทรวงหรือระเบียบเพื่อให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่สมาชิกกรณีท่ีมีการขอรับ เงินจากกองทุนเพ่ือใช้ในการจัดหาท่ีพักอาศัย ส่งผลให้สมาชิกท่ีมีการขอรับเงนิ จากกองทุนตามเง่ือนไขดังกล่าว จะต้องนาเงินที่ได้รับจากกองทุนในส่วนนี้มาคานวณเป็นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ดังน้ัน กรมสรรพากร ในฐานะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรดาเนินการศึกษาแนวทางในการพิจารณาปรับเพ่ิมกรอบวงเงินที่สมาชิกจ่าย สะสมเข้ากองทุนบาเหน็จบานาญข้าราชการใหม่ และศึกษาแนวทางการยกเว้นหรือให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี แก่สมาชิกของกองทุนท่ีประสงค์จะขอรับเงินจากกองทุนเพื่อใช้ในการจัดหาที่พักอาศัยตามความในมาตรา ๔๓/๑ ทง้ั นี้ เพอ่ื ใหส้ อดคล้องกบั พระราชบญั ญัตดิ ังกลา่ วต่อไป ๑๐.๔ กองทุนบาเหน็จบานาญข้าราชการควรมีการพิจารณาให้ข้าราชการท่ีเป็นอดีตสมาชิก ของกองทุนกลับเข้าเป็นสมาชิกอีกครั้งเพ่ือเปิดโอกาสในการออมเงินหลังวัยเกษียณโดย ให้กองทุนเสนอแก้ไข พระราชบัญญตั ิกองทุนบาเหน็จบานาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ ในครัง้ ถัดไป ๑๐.๕ กองทุนบาเหน็จบานาญข้าราชการควรมีการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ผลตอบแทนโดยต้องชี้ให้เห็นถึงความม่ันคงในการลงทุนอย่างเหมาะสมและโปร่งใสเพ่ือให้สมาชิกสามารถ เข้ามามีส่วนร่วมในการดาเนินการและสามารถตรวจสอบการดาเนินการ โดยต้องช้ีแจงให้เห็นถึงผลตอบแทน และความเสี่ยงที่อาจต้องสูญเสียไปในแต่ละแผนการลงทุนว่ามีรายละเอียดเป็นเช่นไร และกองทุนควรมี การกาหนดเกณฑ์ผลตอบแทนขนั้ ต่าท่ีสมาชกิ จะได้รับว่าเป็นเท่าไรเพือ่ เป็นหลักประกันให้แก่สมาชิกด้วยโดยให้ กองทุนเสนอแก้ไขพระราชบัญญัติกองทนุ บาเหน็จบานาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ ในครั้งถัดไป
บันทกึ หลกั การและเหตุผล ประกอบรา่ งพระราชบัญญัตกิ องทนุ บาเหน็จบานาญขา้ ราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... หลักการ แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ พระราชบญั ญัติกองทุนบาเหนจ็ บานาญขา้ ราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ ดังต่อไปนี้ (๑) เพม่ิ บทบญั ญัติเก่ยี วกบั อานาจของกองทนุ ในการรบั โอนเงนิ ของสมาชกิ จากกองทุนสารองเลย้ี งชพี หรือกองทุนอ่ืนทจ่ี ัดต้ังข้ึนตามกฎหมายและมีวตั ถุประสงค์เพ่ือเป็น หลกั ประกนั ในกรณีการออกจากงานหรือชราภาพได้ (เพิ่มมาตรา ๓๘/๒) (๒) แก้ไขเพิ่มเติมอัตราการสง่ เงินสะสมของสมาชกิ โดยให้ส่งไดไ้ ม่เกินร้อยละ สามสบิ ของเงินเดอื น (แก้ไขเพม่ิ เตมิ มาตรา ๓๙ วรรคสอง) (๓) เพม่ิ หลักเกณฑก์ ารบริหารเงนิ ของสมาชกิ ผู้ถึงแกค่ วามตายในกรณีท่ีผูม้ ีสทิ ธิ รบั มรดกยังไมย่ ่นื คาขอรับเงินที่สมาชกิ มีสิทธไิ ดร้ บั (เพ่ิมมาตรา ๕๙ วรรคสอง) (๔) แก้ไขเพิม่ เติมหลักเกณฑเ์ ก่ียวกับการบรหิ ารเงนิ ของสมาชกิ ซง่ึ สน้ิ สดุ สมาชกิ ภาพ (แก้ไขเพม่ิ เติมมาตรา ๖๗/๑) (๕) แก้ไขเพมิ่ เติมหลักเกณฑ์เก่ยี วกับการลงทุนของเงินของกองทนุ ในบัญชี เงินสารองและในบญั ชีเงนิ รายบคุ คลของสมาชิกแตล่ ะคน (แก้ไขเพ่มิ เติมมาตรา ๗๐) เหตุผล โดยท่ีเปน็ การสมควรแก้ไขเพ่ิมเติมบทบัญญตั ิของพระราชบัญญตั ิกองทนุ บาเหนจ็ บานาญขา้ ราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ ให้มีความเหมาะสมยิ่งขนึ้ โดยกาหนดให้กองทุนสามารถรับโอนเงนิ ของสมาชิกจากกองทนุ สารองเล้ยี งชีพหรือกองทนุ อื่นท่ีจัดตั้งขึน้ ตามกฎหมายและมวี ตั ถุประสงค์ เพ่อื เปน็ หลักประกนั ในกรณีการออกจากงานหรอื ชราภาพได้ กาหนดใหส้ มาชกิ สามารถส่งเงนิ สะสม เพิ่มข้นึ ได้ไมเ่ กนิ ร้อยละสามสิบของเงนิ เดือน และเปดิ โอกาสให้สมาชกิ สามารถเลือกแผนการลงทนุ ได้หลากหลายขึน้ และสามารถลงทนุ ได้ทั้งเงินสะสม เงินสมทบ เงนิ ประเดิม เงินชดเชย และผลประโยชน์ตอบแทนของเงนิ ดังกล่าว และในกรณที ี่สมาชกิ ไม่ไดใ้ ชส้ ทิ ธเิ ลือกแผนการลงทนุ ใหถ้ ือว่า สมาชิกยินยอมใหก้ องทุนนาเงินดงั กลา่ วไปลงทุนในหลักทรัพยท์ ม่ี ีความเสยี่ งเหมาะสมกับชว่ งอายุ ของสมาชิก นอกจากน้ี ในกรณที ่ีสมาชิกส้ินสดุ สมาชกิ ภาพและยงั ไม่รับเงนิ ท่ีตนมสี ิทธไิ ด้รบั คืน หรอื ขอทยอยรบั เงินคนื สมาชิกมสี ิทธิเลอื กแผนการลงทนุ ที่กองทุนจัดให้เพือ่ ให้กองทนุ บรหิ ารเงนิ น้นั ตอ่ ไปได้ สาหรับกรณที ี่สมาชิกถงึ แกค่ วามตายและผมู้ ีสิทธริ บั มรดกของสมาชิกยังไม่ยื่นคาขอรับเงนิ ใหก้ องทุนบริหารเงนิ นัน้ ต่อไปไดต้ ามแผนการลงทุนท่ีสมาชิกผูน้ ้ันไดเ้ ลอื กไว้ก่อนวันทผี่ ู้นั้น ถงึ แก่ความตาย จงึ จาเปน็ ต้องตราพระราชบัญญัตนิ ี้
ร่าง พระราชบญั ญัติ กองทุนบาเหนจ็ บานาญข้าราชการ (ฉบบั ที่ ..) พ.ศ. .... .......................................... .......................................... .......................................... ............................................................................................................................. ....... .......................................... โดยท่ีเปน็ การสมควรแก้ไขเพ่ิมเตมิ กฎหมายว่าดว้ ยกองทนุ บาเหนจ็ บานาญข้าราชการ ............................................................................................................................. ....... .......................................... มาตรา ๑ พระราชบัญญตั ินีเ้ รียกว่า “พระราชบญั ญตั กิ องทุนบาเหนจ็ บานาญ ขา้ ราชการ (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. ....” มาตรา ๒ พระราชบญั ญัตนิ ใี้ หใ้ ช้บงั คับตง้ั แตว่ ันถัดจากวนั ประกาศ ในราชกิจจานเุ บกษาเป็นตน้ ไป มาตรา ๓ ใหเ้ พม่ิ ความต่อไปนเ้ี ปน็ มาตรา ๓๘/๒ แหง่ พระราชบัญญตั กิ องทุน บาเหนจ็ บานาญขา้ ราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ “มาตรา ๓๘/๒ บุคคลใดซึ่งเข้ารบั ราชการและมีสิทธไิ ดร้ ับเงินจากกองทุนสารอง เลี้ยงชีพตามกฎหมายวา่ ดว้ ยกองทุนสารองเล้ยี งชพี หรือกองทุนอ่นื ที่จัดตั้งข้นึ ตามกฎหมายและมีวตั ถุประสงค์ เพ่ือเป็นหลักประกันในกรณีการออกจากงานหรือชราภาพ ได้แสดงความประสงค์ใหโ้ อนเงินดงั กลา่ ว ท้งั จานวนมายงั กองทุน ให้กองทนุ รบั โอนเงินดังกล่าวเข้าเป็นเงนิ สะสมและดอกผลของเงินสะสม ในบญั ชีเงินรายบุคคลของสมาชิกผูน้ นั้ ทงั้ น้ี ตามหลกั เกณฑ์และวิธีการท่ีคณะกรรมการกาหนด”
๒ มาตรา ๔ ให้ยกเลกิ ความในวรรคสองของมาตรา ๓๙ แหง่ พระราชบัญญตั ิกองทนุ บาเหนจ็ บานาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ ซ่งึ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญตั ิกองทุนบาเหนจ็ บานาญ ขา้ ราชการ (ฉบับท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๕๐ และให้ใชค้ วามต่อไปน้ีแทน “ในกรณีท่ีสมาชิกผ้ใู ดประสงค์ท่จี ะสง่ เงินสะสมเข้ากองทุนเกินกว่าอัตราตามวรรคหนงึ่ ให้ดาเนินการตามหลักเกณฑ์และวธิ ีการท่ีคณะกรรมการกาหนด แตท่ ้ังนี้ การส่งเงินสะสมตามมาตราน้ี รวมกันแลว้ จะตอ้ งไม่เกินร้อยละสามสิบของเงนิ เดือน” มาตรา ๔/๑ ให้เพิ่มความตอ่ ไปนี้เป็นมาตรา ๔๓/๑ แห่งพระราชบัญญัติกองทุน บาเหน็จบานาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ “มาตรา ๔๓/๑ สมาชิกตัง้ แตห่ า้ ปีขน้ึ ไปมสี ิทธขิ อรับเงินจากกองทุนไมเ่ กนิ อัตรา รอ้ ยละสามสิบของจานวนเงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์ตอบแทนดังกล่าวท่ีบันทึกไว้ในบญั ชี รายบุคคลเพื่อใช้จา่ ยโดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ ฉพาะแตใ่ นการจดั หาทอี่ ยู่อาศยั ของตนได้ ทงั้ น้ี ตามหลกั เกณฑ์ เง่ือนไข และวิธกี ารทค่ี ณะกรรมการกาหนด” มาตรา ๕ ให้เพ่มิ ความต่อไปนีเ้ ปน็ วรรคสองของมาตรา ๕๙ แหง่ พระราชบญั ญัติ กองทนุ บาเหนจ็ บานาญขา้ ราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ “ถ้าผู้มีสทิ ธิรบั มรดกตามวรรคหนง่ึ ยงั ไม่ย่นื คาขอรับเงิน ให้กองทนุ บรหิ ารเงนิ นน้ั ต่อไปไดต้ ามแผนการลงทุนท่ีสมาชิกผู้นน้ั ไดเ้ ลอื กไว้ก่อนวันท่ผี ูน้ ้ันถึงแก่ความตายคงเงนิ ไวจ้ นกว่า ผ้มู ีสิทธนิ นั้ จะมาขอรบั เงิน” มาตรา ๖ ใหย้ กเลิกความในมาตรา ๖๗/๑ แหง่ พระราชบญั ญตั กิ องทุนบาเหนจ็ บานาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ ซ่ึงแกไ้ ขเพิ่มเติมโดยพระราชบญั ญตั ิกองทนุ บาเหนจ็ บานาญ ขา้ ราชการ (ฉบับท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๕๐ และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปน้ีแทน “มาตรา ๖๗/๑ ในกรณที ส่ี มาชกิ ซ่งึ สมาชิกภาพสน้ิ สดุ ลงและมสี ทิ ธิไดร้ บั เงินสะสม เงินสมทบ เงินประเดมิ เงินชดเชย และผลประโยชน์ตอบแทนเงนิ ดังกลา่ วตามมาตรา ๔๕ ยงั ไม่ขอรบั เงินคนื หรือขอทยอยรบั เงินคืน ให้กองทุนบริหารเงินที่ยังไม่รบั คืนตามแผนการลงทุนเดมิ ต่อไปได้ ในกรณี เช่นวา่ น้ี ใหผ้ ู้นัน้ มีสทิ ธิเลือกแผนการลงทุนตามมาตรา ๗๐ วรรคสามได้ แต่ถ้าผูน้ ัน้ ขอโอนเงนิ ไปยงั กองทนุ สารองเลยี้ งชพี หรอื กองทนุ อ่นื ทีจ่ ัดตัง้ ขนึ้ ตามกฎหมายและมีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือเป็นหลกั ประกันในกรณี การออกจากงานหรือชราภาพ ใหก้ องทนุ โอนเงนิ ไปยังกองทุนดงั กล่าวภายในเจด็ วนั ทาการนบั แต่วันท่ี ผู้นน้ั แสดงความประสงคแ์ ละได้ปรากฏหลกั ฐานถกู ตอ้ งครบถว้ น ทัง้ นี้ ตามหลักเกณฑ์และวธิ กี าร ทค่ี ณะกรรมการกาหนด ในกรณีที่กองทนุ บรหิ ารเงินของสมาชิกซ่ึงสมาชิกภาพสิ้นสุดลงต่อไปตามวรรคหนึ่ง และตอ่ มาผู้นัน้ ถึงแกค่ วามตาย ถา้ ผมู้ สี ิทธิรับมรดกตามมาตรา ๕๙ ยังไมย่ ื่นคาขอรบั เงินดังกล่าว ให้กองทุนบรหิ ารเงินนั้นต่อไปไดต้ ามแผนการลงทุนท่สี มาชิกผูน้ น้ั ไดเ้ ลอื กไว้แล้วจนกว่าผู้มสี ิทธิ รบั มรดกนั้นจะย่ืนคาขอรับเงินดงั กล่าวคงเงนิ ไวจ้ นกว่าผมู้ ีสทิ ธริ ับมรดกจะย่ืนคาขอรับเงินน้นั ”
๓ มาตรา ๗ ใหย้ กเลิกความในมาตรา ๗๐ แหง่ พระราชบัญญัตกิ องทุนบาเหน็จ บานาญขา้ ราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ ซง่ึ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบญั ญัติกองทนุ บาเหน็จบานาญ ข้าราชการ (ฉบบั ท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๕๐ และให้ใชค้ วามต่อไปน้ีแทน “มาตรา ๗๐ เงินของกองทุนทอี่ ยู่ในบัญชีเงนิ สารองตามมาตรา ๗๑ (๑) ใหล้ งทุนได้ ดังตอ่ ไปนี้ (๑) เงนิ ฝากธนาคารแห่งประเทศไทยหรอื ธนาคารทเ่ี ปน็ รัฐวิสาหกิจ หรือบัตรเงินฝาก ทธี่ นาคารท่เี ปน็ รฐั วสิ าหกจิ เป็นผู้ออก (๒) พันธบัตรรฐั บาล ตั๋วเงนิ คลงั หรือพนั ธบตั รธนาคารแหง่ ประเทศไทย (๓) ตราสารแสดงสิทธิในหนีท้ ่ีกระทรวงการคลังค้าประกันเงินต้นและดอกเบ้ยี (๔) ตราสารแสดงสิทธใิ นหนี้ที่รฐั วสิ าหกจิ ตามกฎหมายวา่ ด้วยวธิ กี ารงบประมาณ เปน็ ผู้ออก เงนิ ของกองทุนที่อยู่ในบัญชีเงินกองกลางตามมาตรา ๗๑ (๒) ให้ลงทุนได้ ตามหลักเกณฑ์ทีก่ าหนดในกฎกระทรวง ซึ่งอย่างน้อยตอ้ งกาหนดให้ลงทนุ ในหลักทรัพย์ท่ีมคี วาม มน่ั คงสงู ไม่ต่ากว่ารอ้ ยละหกสิบ เงนิ ของกองทุนที่อยูใ่ นบัญชีเงินรายบคุ คลตามมาตรา ๗๑ (๓) ใหก้ องทนุ จัดให้มี แผนการลงทนุ เพอื่ ให้สมาชกิ เลือก โดยอาจกาหนดให้ลงทุนในหลกั ทรัพย์ท่มี ีความม่นั คงสงู แตกต่างกันได้ แตอ่ ยา่ งน้อยต้องมีแผนการลงทุนท่ีกาหนดให้ลงทนุ ในหลกั ทรัพย์ทม่ี ีความมั่นคงสูง ไม่ต่ากว่ารอ้ ยละหกสิบ และแผนการลงทนุ ทก่ี าหนดให้ลงทุนในหลักทรัพย์ท่มี คี วามเส่ียงเหมาะสม กับชว่ งอายุของสมาชกิ แต่ถ้าสมาชิกไม่ไดใ้ ช้สทิ ธเิ ลอื กแผนการลงทุน ให้ถือว่าสมาชิกยนิ ยอม ใหก้ องทุนนาเงินดังกล่าวไปลงทุนในหลักทรัพยท์ ่ีมคี วามเสี่ยงเหมาะสมกบั ช่วงอายุของสมาชิก การกาหนดใหห้ ลกั ทรพั ยใ์ ดเปน็ หลักทรพั ยท์ ีม่ ีความมัน่ คงสงู ตามวรรคสองและวรรคสาม ใหเ้ ปน็ ไปตามทีก่ าหนดในกฎกระทรวง การจัดให้มแี ผนการลงทุน การเลอื กแผนการลงทนุ การให้ข้อมูลประกอบการพิจารณา เลือกแผนการลงทนุ แกส่ มาชิก และการเปลยี่ นแปลงแผนการลงทนุ ใหเ้ ป็นไปตามหลกั เกณฑ์และ วธิ กี ารที่คณะกรรมการกาหนด” มาตรา ๗/๑ ใหย้ กเลกิ ความในวรรคหนึง่ ของมาตรา ๗๐/๘ แห่งพระราชบัญญัติ กองทุนบาเหนจ็ บานาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ ซงึ่ แกไ้ ขเพม่ิ เติมโดยพระราชบญั ญัติกองทุนบาเหนจ็ บานาญขา้ ราชการ (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๔๙ และให้ใช้ความต่อไปน้ีแทน “มาตรา ๗๐/๘ ใหส้ มาชกิ ตามมาตรา ๗๐/๖ สง่ เงินสะสมเขา้ กองทุนโดยคานวณ ตามบญั ชอี ัตราเงนิ เดอื นและตามอตั ราท่ีกาหนดในกฎกระทรวง แตท่ ั้งน้ี การส่งเงินสะสมดังกลา่ ว จะต้องไม่เกนิ ร้อยละสามสบิ ของเงินเดือน” มาตรา ๘ ให้ผู้ที่เป็นสมาชกิ กองทนุ บาเหนจ็ บานาญข้าราชการอยู่ในวนั กอ่ นวันท่ี พระราชบัญญัตินใ้ี ชบ้ งั คบั ยังคงอยใู่ นแผนการลงทนุ เดิมก่อนวันทีพ่ ระราชบัญญัตนิ ้ใี ชบ้ ังคับตอ่ ไป จนกว่าจะแสดงความประสงค์เลอื กแผนการลงทุนตามมาตรา ๗๐ วรรคสาม แห่งพระราชบญั ญัติ กองทุนบาเหน็จบานาญขา้ ราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ ซึง่ แก้ไขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบัญญตั นิ ้ี
๔ มาตรา ๙ ใหร้ ฐั มนตรวี ่าการกระทรวงการคลงั รักษาการตามพระราชบัญญตั นิ ้ี ผรู้ ับสนองพระบรมราชโองการ ......................................... นายกรัฐมนตรี
ภาคผนวก
รายงานผลการพจิ ารณา ของ คณะอนกุ รรมาธิการพจิ ารณาศกึ ษาการบรู ณาการ ระบบบานาญแหง่ ชาติ เสนอ คณะกรรมาธิการวิสามัญพจิ ารณาร่างพระราชบัญญตั ิ กองทนุ บาเหน็จบานาญขา้ ราชการ (ฉบับท่ี..) พ.ศ. .... กลมุ่ งานคณะกรรมาธกิ ารการพาณชิ ยแ์ ละทรัพยส์ ินทางปญั ญา สานกั กรรมาธกิ าร ๑ สานกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
รายงานการศกึ ษา เร่ือง “บานาญประชาชน” โดยคณะอนกุ รรมาธิการพจิ ารณาศึกษาการบูรณาการระบบบานาญแหง่ ชาติ ในคณะกรรมาธิการวสิ ามัญพิจารณา รา่ งพระราชบัญญตั กิ องทนุ บาเหน็จบานาญขา้ ราชการ (ฉบบั ท่ี ..) พ.ศ. .... ๑. ความเปน็ มา ตามที่ท่ีประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนบาเหน็จบานาญ ขา้ ราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... สภาผู้แทนราษฎร เม่อื วันศุกร์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ท่ีประชุมได้มีมติแต่งต้ัง คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาการบูรณาการระบบบานาญแห่งชาติ ตามข้อบังคับการประชุม สภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙๖ เพ่ือจัดทาข้อเสนอแนะและแผนการบูรณาการระบบบานาญแห่งชาติ นาเสนอตอ่ คณะกรรมาธิการวิสามญั ฯ เพอ่ื นาไปสู่การแกไ้ ขเพิ่มเติมและจัดทาข้อสังเกตต่อร่างพระราชบัญญัติ กองทุนบาเหนจ็ บานาญข้าราชการ (ฉบบั ที่ ..) พ.ศ. .... โดยคณะอนกุ รรมาธิการคณะนี้ ประกอบด้วย 1. ศาสตราจารย์สุชาติ ธาดาธารงเวช เป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการ 2. นายสุรทนิ พิจารณ์ เป็นอนุกรรมาธิการ 3. นายกองตรี อาญาสทิ ธิ์ ศรีสวุ รรณ์ เปน็ อนุกรรมาธกิ าร 4. นายธนกร ไชยกุล เปน็ อนกุ รรมาธกิ าร 5. นายสมศกั ด์ิ คณุ เงิน เปน็ อนกุ รรมาธกิ าร 6. นางสาวศรีกัญญา ยาทพิ ย์ เปน็ อนุกรรมาธิการ 7. นายจิรพงษ์ เวชมงคลกร เปน็ อนุกรรมาธกิ าร 8. เลขาธิการสภาพฒั นาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ หรอื ผแู้ ทน เปน็ อนุกรรมาธิการ 9. ผ้อู านวยการสานักงานเศรษฐกจิ การคลงั หรอื ผู้แทน เป็นอนุกรรมาธิการ 10. เลขาธิการคณะกรรมการกองทนุ การออมแหง่ ชาติ หรอื ผแู้ ทน เปน็ อนุกรรมาธกิ าร โดยบุคคลตามข้อ ๘ ข้อ ๙ และขอ้ ๑๐ ได้มอบหมายผู้แทน ดังนี้ ๑. เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ นายสุรพล ศรีเฮือง เปน็ อนุกรรมาธกิ าร ๒. ผู้อานวยการสานักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้มอบหมายให้นายวโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล เปน็ อนุกรรมาธกิ าร ๓. เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ นางธีรนุช ทองชิว เปน็ อนุกรรมาธกิ าร ใหม้ ีอานาจหน้าทดี่ ังต่อไปน้ี ๑. พิจารณา เสนอแนะ และจัดทาแผนการบูรณาการระบบบานาญแห่งชาติ เพื่อให้ประชาชน เกิดการออมเงินและมีรายได้หลังเกษียณและจัดทาข้อสังเกตต่อร่างพระราชบัญญัติกองทุนบาเหน็จบานาญ ข้าราชการ (ฉบบั ท่ี ..) พ.ศ. ....
-๒- ๒. พิจารณาขอเอกสารและเชิญหน่วยงานหรือบุคคลท่ีเกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงหรือแสดง ความคดิ เหน็ เพอ่ื ประกอบการพิจารณาศึกษาเกยี่ วกับเรอื่ งดงั กล่าว ๓. หน้าที่และอานาจอ่นื ตามท่คี ณะกรรมาธิการวิสามญั ฯ มอบหมาย ๒. การเลอื กตาแหนง่ ต่าง ๆ ในคณะอนุกรรมาธกิ ารฯ ๒.๑ ท่ีประชุมคณะอนุกรรมาธิการฯ ได้ มีมติ แต่งต้ังบุ คคลเพ่ือดารงตาแหน่ งต่าง ๆ ในคณะอนกุ รรมาธิการฯ ดังน้ี ๑) นายสรุ ทิน พิจารณ์ เป็นรองประธานคณะอนุกรรมาธกิ าร คนที่หนงึ่ ๒) นายสมศกั ด์ิ คุณเงนิ เป็นรองประธานคณะอนุกรรมาธกิ าร คนที่สอง ๓) นางสาวศรีกญั ญา ยาทิพย์ เป็นเลขานกุ ารคณะอนุกรรมาธิการ ๔) นายจริ พงษ์ เวชมงคลกร เป็นผู้ช่วยเลขานกุ ารคณะอนุกรรมาธิการ ๕) นางธีรนชุ ทองชวิ เป็นผู้ชว่ ยเลขานกุ ารคณะอนุกรรมาธิการ ๖) นายกองตรี อาญาสทิ ธ์ิ ศรีสุวรรณ์ เป็นโฆษกคณะอนุกรรมาธกิ าร ๗) นายธนกร ไชยกุล เป็นโฆษกคณะอนุกรรมาธิการ ๒.๒ ที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการฯ ได้แต่งตั้งให้นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธ์ิ รองเลขาธิการ สานักงานประกนั สงั คม ดารงตาแหน่งทีป่ รึกษาประจาคณะอนุกรรมาธิการ ๓. ระยะเวลาในการพจิ ารณา คณะอนกุ รรมาธกิ าร ฯ ได้มกี ารประชุมจานวน ๓ คร้ัง โดยเริม่ ประชมุ ตัง้ แตว่ ันศกุ ร์ท่ี ๑๑ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๕ ถงึ วนั พุธที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ๔. ผลการพิจารณาของคณะอนกุ รรมาธกิ าร ๔.๑ ภาพรวมระบบการออมเพ่ือการเกษียณอายุและปัญหาของไทยเก่ียวกับรายได้หลังเกษียณอายุ ของประชาชน ประเทศไทยได้เข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ (Ageing Society) หรือการมีประชากรที่มีอายุ ต้ังแต่ ๖๐ ปีขึ้นไปเกินกว่าร้อยละ ๑๐ ของประชากรทั้งประเทศ มาตั้งแต่ปี ๒๕๔๘ โดย ณ ส้ินปี ๒๕๖๔ ประเทศไทยมีจานวน ผู้สูงอายุประมาณ ๑๒.๒ ล้านคน คิดเป็นประมาณ ร้อยละ ๑๘.๕ ของประชากร ท้ังประเทศ และกาลังจะเข้าสู่ \"สังคมผู้สูงอายุในระดับสุดยอด” (Super Aged Society) กล่าวคือ มีจานวน ผู้สูงอายุท่ีมีอายุ ๖๐ ปีข้ึนไปคิดเป็น ร้อยละ ๒๘ ของประชากรท้ังประเทศ ในปี ๒๕๗๗ จากข้อมูลดังกล่าว ทาให้ภาครัฐต้องเผชิญกับความท้าทาย ในการดูแลประชาชนผู้สูงอายุให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีอย่างน้อย ในระดบั พนื้ ฐาน โดยมุ่งเนน้ ใหป้ ระชาชนมีรายได้ หลงั เกษียณที่เพยี งพอ ปัจจุบันภาครัฐได้มีความพยายามในการจัดระบบบาเหน็จบานาญให้มีความเหมาะสมและ ครอบคลุม ประชาชนวัยแรงงานทุกกลุ่มอาชีพ โดยได้นาแนวคิดระบบการออมหลายเสาหลัก (Multi-Pillar Savings System) ของธนาคารโลกมาปรับใช้ ส่งผลให้ระบบบาเหน็จบานาญของไทยในปัจจุบันมีหลาย รูปแบบ ทั้งสวัสดิการด้านการชราภาพ ที่รัฐบาลเป็นผู้ให้ฝ่ายเดียว (เช่น เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ บาเหน็จบานาญ ข้าราชการ เป็นตน้ ) และการออมเพื่อการเกษยี ณอายุ ท่ีให้ประชาชนวยั แรงงานมีสว่ นร่วมออมเพ่ือการเกษยี ณ ของตน ท้ังท่ีเป็นการออมภาคบังคับ (เช่น กองทุนประกันสังคม กองทุนบาเหน็จบานาญข้าราชการ (กบข.) เป็นต้น) และการออมภาคสมัครใจ (เช่น กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กองทุนสารองเล้ียงชีพ เป็นต้น)
-๓- ซ่ึงครอบคลุมประชากรวัยแรงงานทุกกลุ่ม แต่จะเห็นได้ว่าการกากับดูแลระบบบาเหน็จ บานาญของไทย อยู่ภายใต้หลายหน่วยงานทาให้ขาดเอกภาพในการกาหนดนโยบาย และเกิดความซ้าซ้อน ในการดาเนินงาน ขาดการบูรณาการเพ่ือเสริมสร้างความเป็นอันหน่ึงอันเดียวกันภายใต้การบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ และ ยังไม่สามารถที่จะวางระบบมาตรฐานสวัสดิการของรัฐได้อย่างเหมาะสม โดยการพิจารณาถึงระบบการออม เพือ่ การเกษียณควรพจิ ารณาความเช่อื มโยงใน ๓ มิติ ท่มี ีความสาคญั คือ (๑) มิติด้านความครอบคลุม โดยสาหรับประเทศไทยภาครัฐได้จัดให้มีระบบบาเหน็จบานาญ ท่คี รอบคลุมประชาชนต้งั แต่วัยแรงงานถึงวัยสูงอายทุ ุกกลุ่มแล้ว แตแ่ รงงานนอกระบบส่วนใหญ่อาจจะยงั ไมไ่ ด้ เขา้ สู่ระบบการออมเพอื่ การชราภาพ ทาให้เมื่อเกษยี ณจะได้รบั เพียงเบย้ี ยงั ชีพผสู้ ูงอายจุ ากภาครฐั เท่าน้นั (๒) มิติด้านความเพียงพอ เมื่อพิจารณาอัตราทดแทนรายได้ ( Replacement Rate) หรืออัตราส่วน ของรายได้หลังเกษียณต่อรายได้ก่อนเกษียณพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีแนวโน้มท่ีจะมีรายได้ หลังเกษียณ ไม่เพียงพอ โดยที่รายได้ท่ีเพียงพอในระดับพื้นฐานควรอยู่ที่ ร้อยละ ๕๐ – ๖๐ ของรายได้ ก่อนเกษียณ ซ่ึงมีเพียงกลุ่มข้าราชการที่มีรายได้หลังเกษียณเฉล่ีย ร้อยละ ๖๐ – ๗๐ ของรายได้ก่อนเกษียณ หรืออยู่ในระดับ ที่เพียงพอ แต่สาหรับแรงงานในระบบท่ีมีการส่งเงินเข้ากองทุนประกันสังคมเพียงช่องทาง เดียวอาจมีรายได้ ไม่เพียงพอต่อการดารงชีพหลังเกษียณ อีกทั้งสาหรับกลุ่มแรงงานนอกระบบส่วนใหญ่ ยังไม่เข้าสู่ระบบการออม เพื่อการเกษียณอายุ ทาให้แรงงานกลุ่มดังกล่าวมีความเส่ียงท่ีจะอยู่ในภาวะยากจน หลงั เกษยี ณ (๓) มิติด้านความย่ังยืนทางการคลัง โดยในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ พบว่า รัฐบาลได้จัดสรร งบประมาณ รายจ่ายด้านบาเหน็จบานาญกว่า ๕.๒ แสนล้านบาท (หรือ ร้อยละ ๓.๐๔ ของ GDP) และมแี นวโนม้ เพ่มิ ข้ึน อยา่ งต่อเน่ือง เนื่องจากคาดวา่ ประเทศไทยกาลงั เขา้ สสู่ ังคมผู้สูงอายุในระดับสุดยอดในปี ๒๕๗๗ ซงึ่ อาจทาให้ งบประมาณรายจ่ายด้านบาเหน็จบานาญเพ่ิมสูงข้ึนถึงกว่า ๑ ล้านล้านบาท ซ่ึงหนว่ ยงาน ที่เกี่ยว ข้องต้องว างแผนการรองรับในการบริหารจัดการในทุกมิติประกอบกัน ภ ายใต้หลั ก ความย่ังยืน ทางการคลงั และความสมดลุ ของรายรับและรายจา่ ยของประเทศในระยะยาว ๔.๒ ขอ้ เสนอแนะและขอ้ สังเกตระบบบานาญประชาชน จากการศึกษาสภาพการณ์ในปัจจุบัน คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาการบูรณาการระบบ บานาญแห่งชาติ เห็นว่าในปัจจุบันมีผู้สูงอายุท่ีมีอายุต้ังแต่ ๖๐ ปีขึ้นไปประมาณ ๑๒ ล้านคน โดยแบ่งเป็น ข้าราชการที่รับบานาญประมาณ ๑ ล้านคนและผู้สูงอายุที่รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุประมาณ ๑๑ ล้านคน ประกอบกับยังมีภาคแรงงานท่มี ีอายุระหว่าง ๑๕ – ๖๐ ปี ประมาณ ๔๒.๗ ล้านคน โดยแบ่งเป็นแรงงานในระบบ ประมาณ ๑๒.๓ ล้านคน และแรงงานนอกระบบประมาณ ๓๐.๔ ล้านคน ซึ่งกลุ่มแรงงานนอกระบบที่มีความเส่ียง สูงท่ีจะเผชิญปัญหาขาดแคลนรายได้ในช่วงวัยชราประมาณ ๑๗.๖ ล้านคนยังไม่ได้เข้าสู่ระบบการออมเพ่ือการ เกษียณอายุที่ภาครัฐจัดให้มีข้ึน เนื่องจากระบบการออมของแรงงานนอกระบบในปัจจุบันเป็นการออมภาคสมัคร ใจและอิงจากฐานรายได้ ซ่ึงแรงงานนอกระบบส่วนใหญ่มีรายได้ท่ีไม่แน่นอน อาจพึ่งพาแหล่งรายได้จากเบ้ยี ยังชีพ ผูส้ ูงอายใุ นจานวนเดือนละ ๖๐๐ - ๑,๐๐๐ บาทต่อคนต่อเดือนตามช่วงอายุเพียงช่องทางเดียว ซ่ึงอาจไมเ่ พียงพอ ต่อการดารงชีพหลังเกษียณ กับทั้งด้วยศักยภาพของบุคคลบางประเภทสามารถท่ีจะออมเงินสาหรับตนเองเพื่อใช้ ในวัยเกษียณ กับท้ังระบบบานาญในภาพรวมยังมีลักษณะเป็นระบบบานาญบนพ้ืนฐานของอาชีพ ยังมิได้มีการ บูรณาการการดาเนินการของกองทุนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน โดยเป็นการเสริมสร้างระบบสวัสดิการของประเทศให้มี
-๔- ความมั่นคงในอนาคต และเสริมสร้างอุปนิสัยในการออมของประชาชนเพ่ือเป็นหลักประกันในการใช้ชีวิตภาย หลังจากการเกษียณอายุอย่างยั่งยืนภายใต้หลักความเท่าเทียมซึ่งสอดคล้องกับบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ในมาตรา ๔๘ วรรค ๒ “บุคคลซ่ึงมีอายุเกินหกสิบปีและไม่มีรายได้ เพียงพอแก่การยังชีพ และบุคคลผู้ยากไร้ย่อมมีสิทธิได้รับความช่วยเหลือท่ีเหมาะสมจากรัฐตามท่ีกฎหมาย บัญญัติ” สาหรับประชาชนทุกคนเพื่อเป็นหลักประกันทางรายได้เม่ือสูงอายุซ่ึงถือว่าเป็นสิทธิท่ีจาเป็น และต้องมี จานวนท่ีพอเพยี งเหมาะสมต่อการดารงชวี ติ อย่างมีคุณภาพ จงึ มขี ้อเสนอแนะและข้อสังเกตในประเด็นตา่ ง ๆ ดังนี้ (๑) ควรมีการจัดทา “ระบบบานาญประชาชน” โดยปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อปรับเบ้ียยังชีพผู้สูงอายุจากเดิมอัตรา ๖๐๐ - ๑,๐๐๐ บาทต่อคนต่อเดือน เป็นอัตราข้ันต่า ๓,๐๐๐ บาทต่อเดือน ซ่ึงมีลักษณะเป็นบานาญพื้นฐาน ของประชาชนทกุ คน โดยให้รัฐนาเงินรายได้มาจากการจัดเก็บรายได้ของสานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมถึง เงินบางส่วนที่ได้มาจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพ่ิม (Value Added Tax: VAT) และภาษีท่ีรัฐจัดเก็บโดย กรมสรรพสามิตนามาจัดสรรให้แกป่ ระชาชนในทกุ ประเภท ยกเว้น ประชาชนที่มีสทิ ธิท่ีได้รบั อยู่แล้วดีกว่าสิทธิ ตามระบบบานาญประชาชนนี้ เชน่ ขา้ ราชการพลเรือน และข้าราชการส่วนทอ้ งถิ่น เป็นต้น ทง้ั น้ี ตามแนวทาง และหลักเกณฑ์รายงานผลการศึกษา เรื่อง “แนวทางการเสนอกฎหมายบานาญพื้นฐานแห่งชาติ” ของคณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร ซ่ึงได้เสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ ผ้สู งู อายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ ในเร่ืองต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ (๑.๑) เปล่ียนชื่อคณะกรรมการผู้สูงอายแุ ห่งชาตเิ ป็นคณะกรรมการผสู้ ูงอายแุ ละบานาญ แห่งชาตแิ ละปรบั ปรงุ องคป์ ระกอบของคณะกรรมการผสู้ ูงอายุแห่งชาติ (๑.๒) แก้ไขปรับปรุงสิทธิผู้สูงอายุให้มีสิทธิได้รับการคุ้มครอง การส่งเสริม และการ สนับสนุนในจากด้านการจ่ายเงินเบ้ียยังชีพเป็นรายเดือนอย่างท่ัวถึงและเป็นธรรมและการจ่ายเงินสงเคราะห์ เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุเฉพาะผู้มีรายได้น้อย เป็นการจ่ายเงินบานาญพ้ืนฐานเป็นรายเดือนเพื่อเป็น หลักประกันรายได้แก่ผู้สูงอายุถ้วนหน้า ท้ังน้ี ต้องมีจานวนไม่ต่ากว่าเส้นแบ่งความยากจนตามที่กาหนด โดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในปีก่อนจ่ายด้วย กรณีผู้สูงอายุได้รับสิทธิสวัสดิการจากรัฐ ตามกฎหมายอื่นที่มีการจ่ายในทานองเดียวกันกับเงินบานาญพื้นฐานให้ผู้นั้นเลือกรับสิทธิได้ทางเดียว เว้นแต่ ผู้สูงอายุท่ีได้รับสิทธิเบ้ียความพิการ การรับบานาญชราภาพจากกองทุนประกันสังคม การรับบานาญจาก กองทุนการออมแห่งชาติ และให้มีการศึกษาเพื่อปรับปรุงอัตราการจ่ายทุกสามปีเพ่ือเสนอต่อคณะรัฐมนตรี รวมทั้งรายงานต่อรัฐสภาด้วย ทัง้ นี้ ในระยะเร่ิมแรกกาหนดให้คณะรฐั มนตรพี ิจารณาปรับอัตราการรบั บานาญ พื้นฐานใหเ้ พม่ิ ขึ้น โดยใหม้ ีอตั ราท่ีใกลเ้ คียงกับเส้นแบ่งความยากจนภายในสามปตี ่อไป (๑.๓) ปรับปรุงหน้าท่ีและอานาจกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความม่ันคงของมนุษย์ ให้มีหน้าที่และอานาจดาเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับจัดทาบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิรับบานาญ พ้ืนฐานในแต่ละปีโดยเป็นบัญชีรายช่ือที่เป็นปัจจุบันและรายงานการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนย้ายผู้มีสิทธิ รบั บานาญแห่งชาติทกุ เดือน ประสานการจัดทางบประมาณบานาญพ้ืนฐานรายปีการส่งเสริมสนบั สนนุ การจ่าย บานาญพื้นฐานให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกาหนด ทั้งน้ี ในการจ่ายบานาญพื้นฐานอาจมอบหมาย ให้กรมบญั ชกี ลาง กระทรวงการคลงั เป็นผู้จ่ายเข้าบัญชเี งินฝากของผูร้ บั บานาญพืน้ ฐานได้
-๕- (๑.๔) กาหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินยกเว้นองค์การบริหารส่วนจังหวัด มีหน้าที่ และอานาจดาเนินการรับลงทะเบียนเพ่ือรับบานาญพ้ืนฐานจากผู้สูงอายุหรือผู้ซ่ึงมีอายุห้าสิบเก้าปีขึ้นไป ท่ียื่นคาขอใช้สิทธิหรือยกเลิกการใช้สิทธิดังกล่าว ท้ังนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขที่คณะกรรมการ กาหนดในระเบียบ และให้หมายความรวมถึงการได้รับมอบหมายจ่ายเงินบานาญพื้นฐานในกรณีไม่สามารถ โอนเข้าบัญชีเงินฝากของผู้มีสิทธิด้วย รวมท้ังกาหนดให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย จดั ทางบประมาณประจาปเี พ่อื จา่ ยบานาญพน้ื ฐาน (๑.๕) ปรับปรุงที่มารายได้และการบริหารงานกองทุนผู้สูงอายุให้มีรายได้มากข้ึนเพ่ือ สมทบงบประมาณประจาปีเพ่ือจ่ายบานาญพื้นฐานให้มากขึ้น เกดิ ความต่อเนื่อง และยั่งยนื จากที่มาเงินรายได้ ประกอบด้วยเงินทุนประเดิมท่ีรัฐบาลจัดสรรให้ เงินที่ได้รับจากงบประมาณรายจ่ายประจาปี เงินบารุงจาก ผ้มู ีหน้าทีเ่ สียภาษีสรรพสามิตในส่วนท่ีเก่ยี วกับสินค้าสุรา และยาสูบในอัตราร้อยละสองของภาษีทีเ่ ก็บจากสุรา และยาสูบตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิต เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคหรือมอบให้ เงินอุดหนุน จากต่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ และเงินหรือทรัพย์สินท่ีตกเป็นของกองทุนหรือที่กองทุนได้รับ ตามกฎหมายหรือโดยนติ กิ รรมอนื่ โดยกาหนดทีม่ าของรายไดเ้ พมิ่ ขึ้นจากเงินบารุงทไี่ ดจ้ ากภาษีสรรพสามิตสุรา ยาสูบ น้ามันเชื้อเพลิงรถยนต์ รถ หรือภาษีอ่ืนตามท่ีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศกาหนด เงินบารุงท่ีได้รับจากการออกสลากตามกฎหมายว่าด้วยสานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เงินบารุงท่ีได้จาก สว่ นแบ่งค่าสัมปทาน ค่าธรรมเนียมใบอนญุ าต ในกจิ การสอื่ สาร วิทยุ โทรทัศน์ และโทรคมนาคมตามกฎหมาย วา่ ด้วยองค์การจัดสรรคลื่นความถี่และกากับดูแลกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการคมนาคม เงินบารุงที่ได้จากส่วนแบ่งรายได้จากค่าภาคหลวงตามกฎหมายว่าด้วยแร่ เงินที่ได้จากเงินบารุงจากภาษี ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ เงินบารุงท่ีได้จากส่วนแบ่งค่าสัมปทาน ค่าใบอนุญาต ภาษี หรือค่าธรรมเนียมอ่ืน ตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน เงินบารุงที่คลังได้รับมาตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารทุนหมุนเวียน เงินบารุง ที่ได้จากภาษีเงินได้ประจาปีของบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ไม่ได้รับการต่อสิทธิพิเศษตามกฎหมายว่าด้วย ส่งเสริมการลงทุนเงินบารุงท่ีได้จากภาษีเงินได้ของบุคคลธรรมดาประจาปีที่ผู้เสียภาษีแสดงความจานง เงินบารุงที่ได้จากส่วนแบ่งรายได้ค่าสัมปทาน ค่าภาคหลวง หรือค่าธรรมเนียมอื่นจากกิจการขุดเจาะน้ามัน หรือก๊าชธรรมชาติตามกฎหมายปิโตรเลียม หรือเงินบารุงอื่น ๆ ตามท่ีคณะรัฐมนตรีเห็นชอบหรือตามท่ี คณะรัฐมนตรีเห็นชอบเพ่ือให้เพียงพอจ่ายบานาญพ้ืนฐาน รวมทั้งเห็นสมควรปรับปรุงการบริหารจัดการ กองทุนผู้สูงอายุให้สามารถนาเงินทุนไปหาประโยชน์ด้วยการลงทุนได้ รวมท้ังกาหนดชื่อกองทุน โครงสร้าง และการบริหารกองทุนใหม่ เพื่อให้การบริหารจัดการท่ีมีประสิทธิภาพ มีการสรรหาบุคลากรจากภายนอก ให้เข้ามาบรหิ ารจดั การเพอ่ื ทดแทนการสรรหาอัตรากาลงั ข้าราชการทีเ่ พมิ่ ข้ึนได้ ท้งั นี้ รายละเอยี ดตามร่างพระราชบัญญัตผิ ้สู งู อายุ (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... ตามเอกสารแนบ ๑ (๒) ให้มีการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๔ ตามเอกสารแนบ ๒ โดยให้โอนกองทุนผู้สูงอายุตามพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. ๒๕๔๖ มาอยู่ในกองทุน การออมแห่งชาติและให้มีลักษณะการดาเนินการเป็น “บานาญประชาชน” (๓) ให้รัฐบาลดาเนินการปรับปรุงแก้ไขและรวมกฎหมายเกี่ยวกับกองทุนบานาญต่าง ๆ โดยให้มีการรวมกองทุนบานาญต่าง ๆ ให้เป็นกองทุนบานาญระบบเดียวกัน (Central Provident Fund)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387