เร่อื งทคี่ ณะกรรมาธกิ าร พิจารณาเสร็จแลว้ คร้ังท่ี 6 (สมัยสามัญประจาปคี ร้งั ท่ีหนึง่ ) เปน็ พิเศษ วันที่ 18 มิถนุ ายน 2563
รายงานผลการพจิ ารณาศึกษา เรือ่ ง “แนวทางการป้องกันและแกไ้ ขปญั หาฝุ่นละออง ขนาดเล็ก PM ๒.๕” ของ คณะกรรมาธกิ ารการปอ้ งกันและบรรเทา ผลกระทบจากภยั ธรรมชาติและสาธารณภัย สภาผ้แู ทนราษฎร กลุ่มงานคณะกรรมาธกิ ารการปอ้ งกันและบรรเทา ผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภยั สานกั กรรมาธิการ ๓ สานกั งานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร
ก สารบัญ หนา้ สารบัญ…………………………..…………………………………………………………………………………………………………….….. ก รายนามคณะกรรมาธกิ าร……………………………………..………………………………………………………………………….... ข รายนามคณะอนุกรรมาธิการ…………………………………………………………………………………………………………….... ง บทสรุปผู้บรหิ าร……………………………………………………………………………………………………………………………..…. จ ๑. การดาเนนิ งาน………………………………………………………………………………………………………………..……...…….๒ ๒. วธิ กี ารพิจารณาศึกษา……………………………..………………………..……………………………………………………….…. ๒ ๓. ผลการพจิ ารณาศึกษา…………………….……………………..……………………………………………………..…………..…..๕ ๓.๑ ผลการติดตามการดาเนนิ งานของหน่วยงานท่ีเกย่ี วข้องในการแก้ไขปญั หาฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕…...๕ ๓.๒ การเสนอแนวทางและมาตรการในการปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหาฝุน่ ละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕………….....๑๘ ๓.๓ การเสนอความเหน็ เกีย่ วกับปัญหา อปุ สรรค แนวทางการแก้ไข และข้อเสนอแนะต่าง ๆ...………. ๒๒ ๔. ขอ้ สงั เกตของคณะกรรมาธิการ.………………………………………………………..…..……………………..………………๒๘
ข รายนามคณะกรรมาธกิ ารการปอ้ งกนั และบรรเทาผลกระทบจากภยั ธรรมชาติและสาธารณภัย สภาผ้แู ทนราษฎร ชุดท่ี ๒๕ นายวุฒชิ ัย กิตติธเนศวร ประธานคณะกรรมาธกิ าร นางบญุ ย่ิง นติ ิกาญจนา นายวาโย อศั วรุ่งเรือง นายจกั รพรรดิ ไชยสาส์น รองประธานคณะกรรมาธิการ รองประธานคณะกรรมาธกิ าร รองประธานคณะกรรมาธิการ คนท่ีหนง่ึ คนที่สอง คนทีส่ าม นายพาณวุ ัฒณ์ สะสมทรพั ย์ นายเชิงชาย ชาลีรินทร์ นางสาวเพชรดาว โตะ๊ มนี า รองประธานคณะกรรมาธิการ รองประธานคณะกรรมาธิการ เลขานุการ คนทส่ี ี่ คนที่หา้ คณะกรรมาธกิ าร นางสาวธนภร โสมทองแดง นายกญั จน์พงศ์ จงสุทธนามณี นายขวัญเลศิ พานชิ มาท ผชู้ ว่ ยเลขานุการคณะกรรมาธกิ าร โฆษกคณะกรรมาธิการ โฆษกคณะกรรมาธกิ าร
ค นายวิสาร เตชะธีราวฒั น์ นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ประธานทปี่ รกึ ษาคณะกรรมาธิการ ท่ปี รึกษาคณะกรรมาธกิ าร นายจตุพร เจริญเชอื้ นายจกั รัตน์ พวั้ ชว่ ย นายมานพ ศรผี ง้ึ กรรมาธกิ าร กรรมาธกิ าร กรรมาธกิ าร
ง รายนามคณะอนกุ รรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการปอ้ งกัน และแกไ้ ขปญั หาฝุน่ ละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ ในคณะกรรมาธกิ ารการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภยั สภาผู้แทนราษฎร ชดุ ท่ี ๒๕ นายกัญจนพ์ งศ์ จงสุทธนามณี ประธานคณะอนุกรรมาธิการ นายวาโย อัศวรุ่งเรอื ง นายพรี พล เดชะชาติ นายสนธิ คชวัฒน์ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ รองประธานคณะอนกุ รรมาธิการ เลขานกุ ารคณะอนกุ รรมาธิการ คนท่ีหน่ึง คนที่สอง นายณัฐพงษ์ ธรี ะภทั รานนท์ นายนพร โพธ์ิพัฒนชัย นางนิอร สิริมงคลเลศิ กุล อนกุ รรมาธกิ าร อนุกรรมาธิการ อนุกรรมาธกิ าร ผชู้ ่วยศาสตราจารย์บญุ รตั น์ โลห่ ์วงศว์ ัฒน นายปฐมคม เปร่ืองประเสรฐิ นางสาวหทัยพัชร เลิศกมลนิมิตร อนุกรรมาธิการ อนกุ รรมาธกิ าร อนกุ รรมาธกิ าร
จ บทสรุปผ้บู รหิ าร สืบเนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทยทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ และภาคตะวันตก รวมท้ังพ้ืนที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประสบปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ที่มีค่าสูงเกินเกณฑ์มาตรฐานอย่างต่อเน่ือง อันส่งผลกระทบโดยตรงต่อส่ิงแวดล้อม เศรษฐกิจ และสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยแหล่งกาเนิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ที่สาคัญ ได้แก่ การคมนาคม การเผาในท่ีโล่งและการเผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ไฟป่าในพื้นที่อนุรักษ์ และหมอกควันข้ามแดน คณะกรรมาธิการ การป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย ได้ตร ะหนั ก ถงึ ความสาคัญของปัญหาสถานการณฝ์ ุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ อนั อยใู่ นหน้าท่ีและอานาจของคณะกรรมาธิการ จึงได้มีมติตั้งคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปญั หาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ข้ึน เพื่อพิจารณาศึกษาเรื่องดังกล่าว โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมและแสดงความคิดเห็น เพื่อให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณา รวมท้ังศึกษากฎหมายและระเบียบท่ีเก่ียวข้อง ตลอดจนเดินทางไปศึกษาดูงาน เร่ือง “การบริหารจัดการและแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง ขนาดเล็ก PM ๒.๕ และการให้ความช่วยเหลือประชาชนท่ีได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย” ณ จังหวดั เชยี งราย ส่งผลใหไ้ ดร้ ับทราบขอ้ มลู ท่ีครบถว้ น โดยผลการพจิ ารณาศึกษาแบ่งออกเป็น ๓ ประเดน็ คอื ๑) ผลการติดตามการดาเนินงานของหน่วยงานที่เก่ียวข้องในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ เช่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมการขนส่งทางบก กระทรวงสาธารณสุข กรมอุตุนิยมวิทยา และกรมควบคุมมลพษิ เปน็ ตน้ ๒) การเสนอแนวทางและมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ซึ่งคณะกรรมาธิการได้มีข้อสังเกตต่อการดาเนินงานของหน่วยงานที่เข้าร่วมประชุมและแสดงความคิดเห็น ในหลากหลายประเดน็ ๓) การเสนอความเห็นเก่ียวกับปัญหา อุปสรรค แนวทางการแก้ไข และข้อเสนอแนะต่าง ๆ เช่น การสร้าง ความเข้าใจและส่งเสริมให้ประชาชนเกิดความตระหนักในการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ เปน็ ตน้ ทงั้ น้ี จากการศึกษาแนวทางการป้องกนั และแก้ไขปัญหาฝ่นุ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ คณะกรรมาธิการ ได้มีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ จานวน ๖ ประเด็น ดังนี้ ๑) ควรกาหนดให้มีหน่วยงานหลักท่ีรับผิดชอบด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ๒) ควรกาหนดให้การตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ มีมาตรฐานเดียวกัน เพ่ือให้เกิด ความเป็นเอกภาพของขอ้ มูล ๓) ควรดาเนินการแจ้งเตือนภัยฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ใน ๒ ระยะ คือ การแจ้งเตือนในรูปแบบ ของการพยากรณแ์ ละการรายงานค่าฝนุ่ ละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ ประจาวนั และการแจ้งเตือนในภาวะวิกฤต ๔) ควรมีการพัฒนาและการวจิ ัยหนา้ กากอนามยั เพื่อป้องกนั ปญั หาฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ๕) ควรมีการจัดทาพ้ืนท่ีปลอดฝุ่นหรือห้องปลอดฝุ่น (Safety Zone) ภายในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล โรงเรยี น และทที่ าการขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ อยา่ งน้อยหนว่ ยงานละ ๑ แหง่
ฉ ๖) ควรกาหนดให้มีกฎหมายที่เก่ียวข้องกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ โดยศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดต้ังองค์กรท่ีทาหน้าท่ีในการบูรณาการการบังคับใช้กฎหมาย และดาเนินภารกิจ ในการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ รวมทั้งสนับสนุนให้มีการศึกษาเพื่อจัดทาร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาด เปน็ การเฉพาะเพ่อื แกไ้ ขปัญหาฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕
รายงานผลการพิจารณาศึกษาแนวทางการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปัญหาฝนุ่ ละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ ของ คณะกรรมาธิการการปอ้ งกันและบรรเทาผลกระทบจากภยั ธรรมชาตแิ ละสาธารณภยั สภาผู้แทนราษฎร _______________________ ตามท่ีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีท่ี ๑ คร้ังท่ี ๒๑ (สมัยสามัญประจาปีครัง้ ท่ีหนึ่ง) วันพุธท่ี ๑๑ กันยายน ๒๕๖๒ ท่ีประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้ลงมติต้ังคณะกรรมาธิการการป้องกัน และบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้มีหน้าที่และอานาจ ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙๐ (๒๑) ในการกระทากิจการ พิจารณาสอบหา ข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใด ๆ ที่เก่ียวกับการดาเนินงานของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนท่ีเก่ียวข้อง กับกระบวนการและมาตรการการป้องกันภัยธรรมชาติและสาธารณภัย การแจ้งเตือนภัยพิบัติทางธรรมชาติ การฟ้ืนฟูหลังเกิดภัยธรรมชาติและสาธารณภัย การพัฒนามาตรการในการป้องกันภัยธรรมชาติและสาธารณภัย รวมท้ังติดตามการให้ความช่วยเหลือและดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยดังกล่าว น้ัน กรรมาธิการคณะน้ี ประกอบดว้ ย ๑. นายวฒุ ิชยั กิตตธิ เนศวร ประธานคณะกรรมาธกิ าร ๒. นางบญุ ย่ิง นติ ิกาญจนา รองประธานคณะกรรมาธิการ คนทีห่ นึ่ง ๓. นายวาโย อศั วรงุ่ เรือง รองประธานคณะกรรมาธิการ คนท่ีสอง ๔. นายจกั รพรรดิ ไชยสาสน์ รองประธานคณะกรรมาธกิ าร คนที่สาม ๕. นายพาณุวฒั ณ์ สะสมทรพั ย์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนทสี่ ่ี ๖. นายเชิงชาย ชาลรี ินทร์ รองประธานคณะกรรมาธกิ าร คนท่ีหา้ ๗. นางสาวเพชรดาว โตะ๊ มนี า เลขานุการคณะกรรมาธิการ ๘. นางสาวธนภร โสมทองแดง ผูช้ ว่ ยเลขานกุ ารคณะกรรมาธิการ ๙. นายกัญจนพ์ งศ์ จงสทุ ธนามณี โฆษกคณะกรรมาธกิ าร ๑๐. นายขวัญเลิศ พานิชมาท โฆษกคณะกรรมาธกิ าร ๑๑. นายวสิ าร เตชะธีราวัฒน์ ประธานทปี่ รึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๑๒. นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ที่ปรกึ ษาคณะกรรมาธกิ าร ๑๓. นายจตพุ ร เจรญิ เชือ้ กรรมาธิการ ๑๔. นายจกั รัตน์ พ้วั ชว่ ย กรรมาธิการ ๑๕. นายมานพ ศรผี งึ้ กรรมาธิการ บัดนี้ คณะกรรมาธิการได้ดาเนินการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหา ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงขอรายงานผลการพิจารณาศึกษาเร่ืองดังกล่าว ต่อสภาผู้แทนราษฎร ดงั นี้
๒ ๑. การดาเนินงาน คณะกรรมาธิการได้มีมติตั้งคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหา ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ โดยมีหน้าท่ีและอานาจพิจารณาศึกษาแนวทางและมาตรการในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ท่ีอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพและอนามัยของประชาชน รวมท้ังติดตามผลการดาเนินงานของหน่วยงานที่เก่ียวข้องในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว พร้อมทั้งเสนอความเห็น เกี่ยวกับปัญหา อุปสรรค แนวทางการแก้ไข และข้อเสนอแนะต่าง ๆ อันเนื่องมาจากการพิจารณาศึกษา ของคณะอนกุ รรมาธิการ ตลอดจนปฏิบัติงานอื่น ๆ ตามทค่ี ณะกรรมาธกิ ารมอบหมาย เวน้ แตห่ น้าท่แี ละอานาจ ในการสอบหาข้อเทจ็ จริง แล้วรายงานผลการพิจารณาศึกษาต่อคณะกรรมาธิการภายใน ๙๐ วัน ทง้ั น้ี ตามขอ้ บังคับ การประชมุ สภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙๖ ซ่งึ อนุกรรมาธิการคณะน้ี ประกอบดว้ ย ๑) นายกัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี ประธานคณะอนกุ รรมาธิการ ๒) นายวาโย อัศวรุ่งเรอื ง รองประธานคณะอนกุ รรมาธิการ คนที่หนึง่ ๓) นายพีรพล เดชะชาติ รองประธานคณะอนกุ รรมาธกิ าร คนทสี่ อง ๔) นายสนธิ คชวัฒน์ เลขานกุ ารคณะอนุกรรมาธิการ ๕) นายณัฐพงษ์ ธีระภทั รานนท์ อนกุ รรมาธิการ ๖) นายนพร โพธ์ิพัฒนชยั อนุกรรมาธกิ าร ๗) นางนอิ ร สิรมิ งคลเลิศกลุ อนกุ รรมาธิการ ๘) ผูช้ ว่ ยศาสตราจารยบ์ ุญรัตน์ โล่ห์วงศ์วัฒน อนกุ รรมาธิการ ๙) นายปฐมคม เปรอ่ื งประเสริฐ อนกุ รรมาธกิ าร ๑๐) นางสาวหทยั พัชร เลิศกมลนิมิตร อนกุ รรมาธิการ ๒. วิธีการพิจารณาศึกษา ๒.๑ คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ในคณะกรรมาธิการการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย สภาผ้แู ทนราษฎร ไดจ้ ดั ใหม้ ีการประชุม จานวน ๙ ครั้ง ดังนี้ ครง้ั ที่ ๑ วันอังคารที่ ๑๙ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๒ คร้ังที่ ๒ วันอังคารที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๖๒ ครัง้ ที่ ๓ วันอังคารที่ ๑๗ ธนั วาคม ๒๕๖๒ ครั้งท่ี ๔ วนั อังคารท่ี ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๒ ครั้งท่ี ๕ วันอังคารท่ี ๗ มกราคม ๒๕๖๓ ครง้ั ที่ ๖ วนั อังคารที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๓ ครง้ั ที่ ๗ วนั ศุกรท์ ่ี ๓๑ มกราคม ๒๕๖๓ ครั้งที่ ๘ วนั ศุกร์ท่ี ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ครั้งท่ี ๙ วนั ศุกรท์ ี่ ๑๔ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๓ ๒.๒ คณะกรรมาธิการการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย สภาผู้แทนราษฎร โดยคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง ขนาดเล็ก PM ๒.๕ ไดด้ าเนินการโดยเชญิ หนว่ ยงานมารว่ มประชุมและแสดงความคดิ เหน็ ดังนี้
๓ รองอธิบดกี รมปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชานาญการพิเศษ ๑) กระทรวงมหาดไทย รักษาการในตาแหน่งผู้เช่ยี วชาญด้านการจัดการ กรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัย สาธารณภัย (๑) นายเชษฐา โมสิกรัตน์ นติ ิกรชานาญการพเิ ศษ (๒) นายพีระพงศ์ หมืน่ ผ่อง นักวเิ คราะห์นโยบายและแผนชานาญการพิเศษ นกั วิเคราะหน์ โยบายและแผนชานาญการ (๓) นายพสิ ิษฐ์ วงศเ์ ธยี รธนา นติ กิ รปฏบิ ัตกิ าร (๔) นายวนั ชนะ หรา่ ยเจรญิ นติ กิ รปฏบิ ัติการ (๕) นางจันทรจ์ ริ า โพธิ์ทองนาค (๖) นายชมุ พล วรวิทยาการ รองอธิบดีกรมส่งเสรมิ การปกครองท้องถนิ่ (๗) นางสาวจุฑารตั น์ โฉมรงุ่ ผู้อานวยการกองสงิ่ แวดล้อมทอ้ งถน่ิ กรมสง่ เสริมการปกครองท้องถิน่ ผอู้ านวยการกลมุ่ งานทรัพยากรธรรมชาติ (๑) นายทวี เสรมิ ภกั ดกี ลุ เลขารองอธบิ ดีกรมส่งเสรมิ การปกครองท้องถิ่น (๒) นางสาวออ้ วดี สนุ ทรวิภาต (๓) นายศิริรตั น์ บารงุ เสนา รองผู้อานวยการสานักส่งิ แวดลอ้ ม (๔) นายนภาดล แย้มมณฑา หัวหน้ากล่มุ งานควบคุมมลพษิ ๑ ๒) กรุงเทพมหานคร นักวชิ าการสุขาภิบาลชานาญการ (๑) นางสาวพนิตนาฏ ธนาอภินนั ทน์ (๒) นายจารุพงศ์ เพง็ เกลีย้ ง นกั วชิ าการขนสง่ ชานาญการ (๓) นายชาญศกั ด์ิ คชานบุ าล นายชา่ งตรวจสภาพรถ ๓) กระทรวงคมนาคม นักวทิ ยาศาสตรป์ ฏิบัติการ กรมการขนส่งทางบก วศิ วกรเครอ่ื งกลปฏิบตั ิการ (๑) นายจักรพนั ธ์ ห้องสวัสด์ิ (๒) นายณรงค์ เกตุแก้ว นายแพทย์ชานาญการ (๓) นางสาวฐติ ิมา แสงงาม นกั วชิ าการสาธารณสขุ ปฏบิ ตั กิ าร (๔) นายกรดิศวร์ บุญหล้า ๔) กระทรวงสาธารณสุข รองอธิบดีกรมอนามยั กรมควบคมุ โรค ผอู้ านวยการกองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ (๑) นายหริ ัญวฒุ ิ แพร่คุณธรรม นักวชิ าการสาธารณสขุ ชานาญการ (๒) นายบวร มิตรมาก นกั วิชาการสาธารณสขุ กรมอนามัย (๑) นายดนัย ธีวันดา ผู้อานวยการกอง กองคลังและกระจายผลิตภัณฑ์ (๒) นางนภพรรณ นันทพงษ์ เจ้าหน้าทีจ่ ัดซอ้ื ๖ (๓) นางสาวกรวิภา ปุนณศริ ิ (๔) นางสาวณฐั กานต์ ฉัตรวไิ ล องคก์ ารเภสชั กรรม (๑) นายวีระ คงเจรญิ สมบัติ (๒) นางสาววรนารี แสวงทรพั ย์
๔ ๕) สานกั นายกรัฐมนตรี กรมประชาสมั พันธ์ (๑) นางสาวสุดฤทัย เลศิ เกษม ผอู้ านวยการสานกั ขา่ ว (๒) นายอนุชา นาคฤทธ์ิ นักประชาสัมพันธ์ชานาญการพิเศษ (๓) นางสาวชาลนิ ี ศรีอ่าอ่วม นักสอ่ื สารมวลชนปฏบิ ัติการ สานักงานกองทุนสนบั สนนุ การสร้างเสริมสขุ ภาพ นายณัฐพงศ์ โพธวิ์ ฒั นะชัย นักบริหารแผนชานาญการ สานักสนับสนุน การควบคมุ ปัจจยั เส่ยี งทางสุขภาพ กองอานวยการรกั ษาความมัน่ คงภายในราชอาจกั ร (๑) วา่ ทีร่ อ้ ยตรี ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้วา่ ราชการจังหวดั เชียงราย ในฐานะ รองผู้อานวยการรักษาความมั่นคงภายใน จงั หวัดเชยี งราย (๒) พนั เอก เทอดศักดิ์ งามสนอง รองเลขาธิการกองอานวยการรักษาความมั่นคง ภายในภาค ๓ (๓) พันเอก พศิน แสงคา รองผูอ้ านวยการรักษาความมั่นคงภายใน จังหวดั เชียงราย (ฝ่ายทหาร) ๖) กระทรวงดิจิทลั เพือ่ เศรษฐกิจและสังคม กรมอตุ นุ ิยมวิทยา (๑) นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ รองอธิบดกี รมอุตุนิยมวทิ ยา ฝา่ ยวชิ าการ (๒) นายสุรพงษ์ สารปะ ผ้อู านวยการส่วนพยาการณ์อากาศเชงิ ตัวเลข (๓) นางสาวสมั ฤทธิ์ สุทธิประภา ผอู้ านวยการศูนย์โอโซนและรงั สี ๗) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม กรมควบคมุ มลพิษ (๑) นางสาวพรศรี สุทธนารักษ์ ผู้อานวยการกองจดั การคณุ ภาพอากาศและเสยี ง (๒) นางสาวนิรพร เพชรทอง นกั วิชาการสิง่ แวดลอ้ มชานาญการพิเศษ (๓) นายวรวฒั น์ กลนิ่ ศริ มิ งคล ปฏิบัติงานดา้ นสิง่ แวดลอ้ ม ๘) สานกั งานคณะกรรมการกจิ การกระจายเสยี ง กจิ การโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (๑) พันเอก วรี ชาติ ศรกี งั วาล รักษาการผู้อานวยสานักรบั เร่ืองร้องเรียน และคุม้ ครองผู้บรโิ ภคในกจิ การโทรคมนาคม (๒) นางสาวกนกพรรณ ญาณภริ ตั ผ้อู านวยการสว่ น ๙) ผู้เชี่ยวชาญ (๑) รองศาสตราจารยน์ ธิ พิ ฒั น์ เจียรกลุ หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศริ ริ าชพยาบาล มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล (๒) รองศาสตราจารย์พานิช อนิ ต๊ะ อาจารย์ประจาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีและสหวิทยาการ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา (๓) ผู้ชว่ ยศาสตราจารยภ์ าสกร แช่มประเสริฐ อาจารย์ประจาภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ (๔) นายไพฑรู ย์ สิงคเสลิต นกั วิชาการอิสระ
๕ ๒.๓ คณะกรรมาธิการได้มีมติเดินทางไปศึกษาดูงานร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการ จานวน ๑ คร้ัง คือ ศึกษาดูงาน เร่ือง “การบริหารจัดการและแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ และการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย” เมื่อวันจันทร์ท่ี ๒๗ มกราคม ๒๕๖๓ ณ จงั หวดั เชยี งราย โดยมปี ระเด็นข้อสงั เกตดังนี้ ๑) สานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ควรนากลไกการจัดการ ความเสี่ยงจากภัยพิบัติโดยอาศัยชุมชนเป็นฐาน (Community Based Disaster Risk Management: CBDRM) มาใช้ประโยชนใ์ นการให้ความรู้แก่ประชาชนในพ้ืนที่เกีย่ วกบั สถานการณไ์ ฟปา่ และหมอกควนั ๒) ควรให้ความสาคัญเก่ียวกับการเข้าถึงข้อมูลการแจ้งเตือนสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ของประชาชนในพนื้ ท่ี ๓) การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันของจังหวัดเชียงราย ควรกาหนดพ้ืนท่ี และช่วงเวลาของมาตรการควบคุมการเผาในที่โล่ง เน่ืองจากการเพาะปลูกพืชแต่ละชนิดมีความหลากหลาย และแตกต่างกนั ๔) ควรทาความตกลงกับประเทศเพ่ือนบ้านเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควัน ๕) ควรสร้างความร่วมมือกับองค์กรปกครองท้องถิ่นในพ้ืนที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการ สถานการณ์ไฟปา่ และหมอกควนั ตลอดจนเครื่องมือและอปุ กรณ์ในการดบั ไฟ ๖) ควรมีข้อมูลการวิจัยท่ีทาให้ประชาชนตระหนกั เก่ียวกับปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ทกี่ ่อให้เกิดผลกระทบตอ่ สขุ ภาพของประชาชน ๗) ควรผลักดันการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาประชาชน เกี่ยวกับการจ่ายเงินชดเชยให้แก่ เกษตรกรผู้ปลกู ยาสูบทไี่ ดร้ บั ผลกระทบจากสาธารณภัย ๘) มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงควรมีการประชาสัมพันธ์เก่ียวกับสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ผา่ นผนู้ าในชุมชน ซึง่ สามารถสะท้อนปญั หาใหป้ ระชาชนตระหนกั ได้เป็นอย่างดี ๙) ควรขับเคล่ือนให้มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงและสถาบันการศึกษาในเครือข่ายภาคเหนือ เป็นต้นแบบในการแกไ้ ขปญั หาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ๑๐) ควรนางบประมาณจากกองทุนที่เก่ียวข้องมาใช้ในการดาเนินงานด้านการป้องกันและบรรเทา สาธารณภยั ๑๑) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรนาโครงการ “ยักษ์ขาววัดฝุ่น” ไปประยุกต์ใช้ในพื้นท่ีแต่ละจงั หวัด เพ่ือการแกไ้ ขปญั หาฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ๓. ผลการพิจารณาศกึ ษา คณะกรรมาธิการได้จัดทารายงานผลการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหา ฝนุ่ ละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ ซ่ึงสรปุ ไดด้ ังน้ี ๓.๑ ผลการติดตามการดาเนินงานของหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ๑) กรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยงานกลางท่ีมีหน้าที่และอานาจตามพระราชบัญญัติ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. ๒๕๕๐ ในการบูรณาการและประสานงานกับหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติของประเทศ ในเหตุการณ์เฉพาะหน้าหรือในภาวะฉุกเฉิน กรณีปัญหา
๖ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” ตามท่ีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษ เป็นผู้เสนอ เมื่อวันท่ี ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ดาเนินการช่วยเหลือและสนับสนุน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ในภาวะวิกฤตหรือเหตุการณ์เฉพาะหน้า ตามแผนปฏิบัตกิ ารขับเคลอ่ื นวาระแหง่ ชาติดงั กล่าว โดยแบ่งการดาเนินการออกเป็น ๒ แผนงาน ดังนี้ (๑) ในเขตพ้ืนท่ีจังหวัดและพ้ืนท่ีกรุงเทพมหานคร ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อานวยการจังหวัดและผู้อานวยการกรุงเทพมหานคร ตามพระราชบัญญัติป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. ๒๕๕๐ เป็นผู้บัญชาการ (Single Command) ดาเนินการเกี่ยวกับการป้องกัน และแกไ้ ขปญั หาฝนุ่ ละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ ในพน้ื ที่ ได้แก่ (๑.๑) ดาเนินการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ เพือ่ แก้ไขปัญหาในระยะเร่งดว่ นและในช่วงวิกฤต โดยให้ติดตาม เฝ้าระวัง ประเมิน วิเคราะห์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ จัดทาแผนเผชิญเหตุ ใหค้ รอบคลุมทงั้ ช่วงกอ่ นเกิดเหตุ ระหวา่ งเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ (๑.๒) ป้องกันและลดการเกิดมลพิษท่ีต้นทาง (แหล่งกาเนิด) ทั้งแหล่งกาเนิดมลพิษ ทเี่ กิดจากการขนสง่ การจราจร หรือโรงงานอุตสาหกรรม ซ่ึงเปน็ แหลง่ ทมี่ าของปญั หาฝุ่นละออง (๑.๓) ประสานงานและแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เช่น องค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ิน อาเภอ จังหวัด เป็นต้น เฝ้าระวังและติดตามคุณภาพอากาศในพ้ืนที่ รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพ ในการบริหารจัดการมลพิษ โดยให้มีการจัดระเบียบการเผาในที่โลง่ และในที่ชมุ ชนหรือเมือง พร้อมทั้งสร้างความรู้ และความเข้าใจให้แก่ประชาชนเก่ียวกับเร่ืองของการเผา ปัญหาที่เกิดจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ตลอดจนการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ซึ่งเป็นไปตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สง่ั การไว้ (๒) การแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะทาหนา้ ที่ เป็นหน่วยประสานงานใหก้ บั หน่วยงานทีเ่ ก่ียวข้องในการดาเนนิ การตามแผนปฏิบัตกิ ารป้องกนั และแก้ไขปัญหา หมอกควนั และไฟปา่ โดยแบ่งพืน้ ทีใ่ นการปฏิบตั กิ ารออกเปน็ ๔ พื้นที่ ดังน้ี (๒.๑) พื้นท่ีป่า เป็นหน้าท่ีของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เชน่ กรมป่าไม้ หรือกรมอุทยานแห่งชาติ สตั ว์ปา่ และพันธุพ์ ืช เปน็ ตน้ เปน็ ผู้ดาเนนิ การ (๒.๒) พื้นที่ชุมชน เป็นหน้าท่ีขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน อาเภอ และจังหวัด เปน็ ผดู้ าเนินการ (๒.๓) พื้นที่เกษตรกรรม เป็นหน้าท่ีของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาเภอ และจังหวดั เป็นผ้ดู าเนนิ การ (๒.๔) พื้นที่ริมทาง เป็นหน้าท่ีของหน่วยงานท่ีรับผิดชอบในเขตพื้นท่ีริมทางนั้น เป็นผดู้ าเนนิ การ ๒) กรุงเทพมหานคร สถานการณ์ฝุ่นละออง PM ๒.๕ มีแหล่งกาเนิดมาจากยานพาหนะท่ีใช้เคร่ืองยนต์ดีเซล ร้อยละ ๕๕ การเผาในที่โล่ง ร้อยละ ๓๕ การก่อสร้างและอุตสาหกรรม ร้อยละ ๑๐ ประกอบกับสภาพ อุตุนิยมวิทยา ซ่ึงกรุงเทพมหานครได้ดาเนินการติดตั้งสถานีตรวจวัดฝนุ่ ละออง PM ๒.๕ ครอบคลุมหลายพื้นที่ เพอื่ ให้ทราบถึงสถานการณค์ ณุ ภาพอากาศและนาไปใชก้ าหนดแนวทางแก้ไขปญั หา ดงั นี้
๗ (๑) กรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เก่ียวข้องดาเนินมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง ในระยะเร่งดว่ นในพ้ืนท่ีกรุงเทพมหานคร โดยการควบคุมเพื่อลดปริมาณฝ่นุ PM ๒.๕ จากรถยนต์ การกอ่ สร้าง การเผาในท่โี ลง่ และการปลอ่ ยมลพิษจากโรงงานอตุ สาหกรรม รวมถงึ การดูแลสุขภาพของประชาชน (๒) แต่งต้ังคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ในพื้นที่ กรงุ เทพมหานคร โดยมีผู้วา่ ราชการกรงุ เทพมหานครเป็นประธาน (๓) ตงั้ ศนู ยป์ ระสานงานและแก้ไขปญั หามลพิษทางอากาศในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (๔) ปลดั กรุงเทพมหานครมีขอ้ ส่งั การให้สานักงานเขต ๕๐ เขต เข้มงวดมาตรการเพอื่ ลดฝนุ่ ละออง PM ๒.๕ (๕) ลดการใชร้ ถเครอ่ื งยนตด์ เี ซลและลดการจราจรติดขดั ในชัว่ โมงเรง่ ดว่ น (๖) แจง้ ข้อสัง่ การของนายกรัฐมนตรีให้หน่วยงานต่าง ๆ ท่เี กี่ยวขอ้ ง (๗) ศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปไดใ้ นการติดตั้งเครื่องกรองฝุน่ PM ๒.๕ หอสงู (๘) เผยแพรข่ อ้ มูลคณุ ภาพอากาศ (๙) จัดหารถฉดี พ่นละอองน้าประสทิ ธภิ าพสูง (๑๐) การแก้ไขปัญหาระยะยาว โดยปรับปรุงมาตรฐานการระบายไอเสียรถยนต์และน้ามันเชื้อเพลงิ พัฒนาโครงข่ายการให้บริการขนส่งสาธารณะให้เช่ือมโยงทุกระบบ ส่งเสริมให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งสาธารณะ และการเพิม่ พน้ื ที่สเี ขียว ทัง้ นี้ กรงุ เทพมหานครยงั พบปัญหาและอปุ สรรคในการแก้ไขปัญหาฝนุ่ ละออง PM ๒.๕ คือ (๑) การสรา้ งความตระหนักรขู้ องประชาชนตอ่ ปญั หาฝนุ่ ละออง PM ๒.๕ (๒) การจดั การปัญหาไมส่ ามารถทาไดอ้ ย่างเบด็ เสรจ็ และเป็นระบบ (๓) องคค์ วามรใู้ นการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุน่ ละออง PM ๒.๕ (๔) มาตรการควบคมุ ฝ่นุ ละออง PM ๒.๕ จากแหลง่ กาเนดิ หลกั ยงั ขาดประสิทธิภาพ (๕) มีพนื้ ทจ่ี ากัดในการเพมิ่ พื้นที่สีเขียว (๖) การวางผงั เมอื งไมเ่ อื้อตอ่ การกระจายตัวของมลพษิ ทางอากาศ ๓) กรมการขนส่งทางบก กรมควบคุมมลพิษได้มีการศึกษาเกี่ยวกับฝุ่นละออง PM ๒.๕ พบว่าแหล่งกาเนิดท่ีสาคัญ ของฝุ่นละออง PM ๒.๕ ร้อยละ ๕๐ เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเคร่ืองยนต์ดีเซล กรมการขนส่งทางบก จึงเร่งดาเนินการแก้ไขปัญหาด้วยการเข้มงวดตรวจสภาพรถที่ใช้งานบนท้องถนน โดยกองตรวจการขนส่งทางบก ได้จัดชุดผู้ตรวจการ จานวน ๑๖ ชุด ออกตรวจวัดควันดารถบรรทุกและรถโดยสารในเขตกรุงเทพมหานคร และปรมิ ณฑล รวมทั้งสานักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศได้ส่งผู้ตรวจการออกตั้งจุดตรวจวัดควนั ดาบนถนนสายหลัก และสายรอง บรเิ วณสถานขี นส่งผูโ้ ดยสาร และสถานประกอบการขนส่ง ทงั้ นี้ กรมการขนส่งทางบกไดม้ กี ารบูรณาการ กับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องโดยร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ กรุงเทพมหานคร และกองบังคับการตารวจจราจร ออกตรวจวัดควันดารถโดยสารประจาทางขององค์การขนส่งมวลชน กรุงเทพ (ขสมก.) ณ เขตการเดินรถ และบริเวณที่มีค่ามลพิษสูงในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่ง ท่ัวไทยตรวจวัดควันดารถโดยสารไม่ประจาทาง ณ สถานท่ีประกอบการ หรือจุดท่ีกาหนด กรณีค่าควันดา เกินกาหนดจะมีความผิดฐานนารถท่ีมีสภาพไม่ม่ันคงแข็งแรงมาใช้งาน โดยจะส่ังห้ามใช้รถ และเปรียบเทียบปรับ ๕,๐๐๐ บาท กรณีค่าควันดาอยู่ระหว่าง ร้อยละ ๓๐ - ๔๕ จะมีใบเตือนให้เจ้าของรถดูแลบารุงรักษารถ ไม่ให้ค่าควันดาเกินกว่าที่กฎหมายกาหนด หากตรวจพบบนถนนจะลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด นอกจากน้ี กรมการขนสง่ ทางบกยังได้ลดจานวนรถบรรทุกและรถโดยสารในเขตเมืองชนั้ ใน โดยเปิดให้บรกิ ารตรวจสภาพรถ
๘ และดาเนินการทางทะเบียนสาหรับรถบรรทุกและรถโดยสาร ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ณ สถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑล คลองหลวง และร่มเกล้า นอกจากนี้ ยังมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน และผู้ประกอบการขนส่งดูแลรักษารถไม่ให้ปล่อยควันดา และเปิดช่องทางให้ประชาชนแจ้งเบาะแสรถควันดา ผ่านช่องทางต่าง ๆ ซึ่งผลการตรวจวัดควันดารถบรรทุกและรถโดยสารทั่วประเทศ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ มีรถควนั ดาจานวน ๓,๕๒๐ คนั จากรถท่ตี รวจจานวน ๑๒๒,๓๗๐ คัน ๔) กรมควบคุมโรค กรอบภารกิจท่เี กี่ยวข้องกบั การป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝ่นุ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ของกรมควบคุมโรค ได้แก่ การเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพ และการสอบสวนโรค โดยมีแนวทางและมาตรการ ในการปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหา ดงั น้ี (๑) การเฝา้ ระวงั สถานการณม์ ลพษิ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ (๒) การจดั ทาระบบเฝ้าระวงั และรายงานโรค (๓) การลงพ้นื ทสี่ อบสวนโรค (๔) การสื่อสารความเสยี่ ง และให้ข้อมลู สขุ ภาพแก่ประชาชน เพื่อให้ประชาชนเกิดความตระหนัก ลดความตระหนกจากการรับขา่ วสาร (๕) การสนบั สนนุ อปุ กรณป์ ้องกันตนเอง ซง่ึ กรมควบคุมโรคได้มีการดาเนินงานในระยะเร่งด่วน โดยแต่งตั้งคณะทางานศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข (Emergency Operation Center: EOC) กรณีฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน (PM ๒.๕) กรมควบคุมโรค ปี ๒๕๖๒ และในระยะยาวได้มีการวิจยั และพัฒนาองค์ความรู้ และจัดทาคู่มือการดาเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อป้องกันผลกระทบ ต่อสุขภาพจากฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน ปี ๒๕๖๓ รวมท้ังพัฒนาระบบเฝ้าระวังผลกระทบ ต่อสุขภาพและพัฒนาระบบเช่ือมโยงฐานข้อมูล โดยเชื่อมโยงระหว่างข้อมูลสุขภาพและข้อมูลฝุ่นละออง ขนาดเล็ก ซึ่งดาเนินงานภายใต้พระราชบัญญัติควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากส่ิงแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๒ และแผนปฏิบตั กิ ารขบั เคล่อื นวาระแหง่ ชาติ \"การแก้ไขปญั หามลพษิ ด้านฝนุ่ ละออง\" ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคมีข้อเสนอในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ขนาดเลก็ PM ๒.๕ ดังน้ี (๑) ควรเน้นมาตรการลดฝุ่นจากแหลง่ กาเนิดเป็นหลกั (๒) ควรบูรณาการข้อมูลการตรวจวัดคุณภาพอากาศกับข้อมูลสุขภาพเพ่ือนาไปสู่การส่ือสาร ความเส่ยี งดา้ นสุขภาพท่ตี รงประเดน็ มากขนึ้ (๓) หน่วยงานที่เก่ียวข้องควรช่วยกันสร้างความตระหนัก และลดความตระหนกแก่ประชาชน เมอื่ เกดิ เหตุ ๕) กรมอนามัย ภารกิจของกรมอนามัยที่เก่ียวข้องกับการป้องกนั และแก้ไขปัญหาฝุน่ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ได้แก่ การปอ้ งกันปจั จัยเส่ยี งต่อสขุ ภาพ และดูแล คมุ้ ครองสุขภาพของประชาชน ท้งั ประชาชนทั่วไปและกลุ่มเส่ียง ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงต้ังครรภ์ ผสู้ งู อายุ และคนทางานกลางแจ้ง และสนับสนนุ มาตรการทางกฎหมายในการควบคุม แหล่งกาเนิดภายใต้พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยมี ๕ มาตรการหลัก ดังนี้ (๑) เฝ้าระวัง แจ้งเตือนสถานการณ์ โดยติดตามและประเมินสถานการณ์ตามระดับความเส่ียง รวมทั้งรายงานสถานการณแ์ ละการปฏบิ ตั ติ นผ่านช่องทางของหนว่ ยงาน (๒) เฝา้ ระวังการเจ็บปว่ ย และสอบสวนโรค
๙ (๓) ส่ือสาร สร้างความรอบรู้ให้แก่ประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ โดยเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ (Website) กรมอนามัย รวมถึงมีการช้ีแจง ให้ความรู้ในการจัดการตนเองจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ในแกนนากลุ่มเส่ียง เช่น ศูนย์พัฒนาเด็ก โรงเรียน และชมรมผู้สูงอายุ เป็นต้น และสนับสนุนชุดความรู้ และหน้ากากปอ้ งกนั ฝนุ่ ใหก้ บั หนว่ ยงาน เพือ่ ให้ความร้กู บั ประชาชนกลมุ่ เสีย่ ง (๔) ดแู ลสขุ ภาพประชาชน โดยจัดบริการสาธารณสขุ และจัดตง้ั คลนิ กิ มลพษิ (๕) มาตรการทางกฎหมาย โดยจดั ส่งและชี้แจงแนวทางการใช้พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เกี่ยวกับการควบคุมและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นละออง แก่สานักงานสาธารณสุขจังหวดั นอกจากนี้ ยังมีการจัดประชุมทางไกล (Video Conference) การเฝ้าระวังผลกระทบ ต่อสุขภาพจาก PM ๒.๕ โดยปลัดกระทรวงสาธารณสุขและผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข แก่สานักงาน สาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ และส่งข้อส่ังการไปยังหน่วยงานที่เก่ียวข้อง ตลอดจนจัดทาคู่มือการดาเนินงาน ด้านการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน ปี ๒๕๖๓ และคู่มือในการเฝ้าระวังสุขภาพสาหรบั ประชาชน ๖) รองศาสตราจารย์นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตรศ์ ิริราชพยาบาล มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ คือ ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีอนุภาคเส้นผ่าศูนย์กลางเฉล่ีย น้อยกว่า ๒.๕ ไมครอน (ไมโครเมตร) ซึง่ จะแขวนลอยอยูใ่ นอากาศรวมกับไอน้า ควัน และก๊าซต่าง ๆ แมว้ า่ จะมี ขนาดเล็กมาก แต่เมื่อมีการแผ่ฝุ่นละอองในอากาศรวมกันแล้วจะปรากฏพ้ืนผวิ ของฝุ่นละอองในจานวนมหาศาล ทาให้สามารถนาพาสารต่าง ๆ ล่องลอยในบรรยากาศรอบตัวมนุษย์ได้ โดยเฉพาะสารท่ีเป็นพิษต่อร่างกายมนุษย์ เช่น สารหนู ตะกวั่ แคดเมยี ม กรดกามะถนั เป็นต้น นอกจากน้ีฝนุ่ ละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ ยังสามารถทาปฏิกิริยา กับสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ กระตุ้นให้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้เกิดอาการกาเริบข้ึนมาได้ ในทางทฤษฎีสามารถ แบ่งแหล่งกาเนดิ ของฝุน่ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ไดจ้ านวน ๒ รปู แบบ คอื (๑) แหล่งกาเนิดจากปฐมภูมิ เกิดจากแหล่งกาเนิดโดยตรง เช่น ฝุ่นละอองจากถนน ไอเสีย จากรถยนต์ ขี้เถ้า เขม่าควันไฟ การเผาไหม้ในทโี่ ลง่ แจง้ เป็นตน้ (๒) แหล่งกาเนิดจากแหล่งทตุ ิยภูมิ เกิดจากปฏิกริ ิยาตา่ ง ๆ ในบรรยากาศหลังจากที่ฝนุ่ ละออง ถูกปล่อยออกจากแหล่งกาเนิดได้ระยะหน่ึง ฝุ่นละอองประเภทนี้อาจกลายเป็นอนุภาคใหม่หรือเป็นอนุภาคเดิม ทม่ี อี งคป์ ระกอบอ่ืนเพม่ิ ขึน้ เมื่อฝุ่นละอองขนาดเล็กถูกสูดดมผ่านเข้าไปในลมหายใจ จะสามารถผ่านลงไปได้ลึกจนถึง หลอดลมฝอยและถุงลมท่ีเป็นปลายสุดของปอด ก่อให้เกิดปฏิกิริยาระคายเคือง และเกิดการอักเสบเฉียบพลัน และเรื้อรงั จนเกิดผลร้ายต่อร่างกายของมนุษย์ กลา่ วคอื (๑) ทาให้คนที่เป็นโรคระบบการหายใจเร้ือรังเกิดอาการกาเริบ ได้แก่ โรคจมูกอักเสบ โรคภมู ิแพ้ โรคหดื และโรคถงุ ลมโป่งพอง (๒) ทาให้เดก็ เจบ็ ป่วยดว้ ยโรคระบบการหายใจเพิ่มขน้ึ โดยเฉพาะโรคหืด (๓) เน่ืองจากเด็กมีสัดส่วนปริมาตรการหายใจต่อน้าหนักตัวสูงกว่าผู้ใหญ่ จึงมีโอกาส ได้รับมลพิษทางอากาศรวมถึงฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ เพิ่มมากขึ้น เพราะการเจริญเติบโตทางกายภาพ และสมรรถภาพของปอดในเด็กจะเติบโตเต็มท่ีในช่วงอายุประมาณ ๒๐ ปี ดังน้ัน จึงส่งผลให้สมรรถภาพ การทางานของปอดในระยะยาวถดถอยลง จนอาจทาใหเ้ ดก็ ป่วยเปน็ โรคถุงลมโป่งพองเหมือนกับคนทส่ี ูบบหุ รี่ได้ (๔) อาจเป็นสาเหตุสว่ นหน่งึ ทาให้เกดิ เป็นโรคมะเรง็ ปอด วณั โรค และปอดอกั เสบเพม่ิ ข้ึน
๑๐ (๕) เพ่ิมความเส่ียงของการเกิดโรคสมองเสื่อม โรคตาแห้ง โรคผิวหนังอักเสบ ภูมิแพ้ และผวิ หนงั แก่กอ่ นวัย นอกจากนี้ ฝุ่นละอองขนาดเล็กบางส่วนท่ีมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๐.๑ ไมครอน สามารถเล็ดรอดผา่ นผนังถุงลมผา่ นเส้นเลอื ดฝอยเข้าส่กู ระแสโลหติ และกระจายตัวแทรกซึมไปยังอวยั วะต่าง ๆ ทวั่ รา่ งกายได้ ซ่งึ แนวทางในการรบั มอื กบั ปญั หาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ อาจสามารถดาเนินการได้ ดงั น้ี (๑) ให้ความรู้กับประชาชนเพื่อให้ตระหนักถึงพิษภัยของฝุ่นละอองขนาดเล็กและมลพิษ ในอากาศ (๒) การใชอ้ ุปกรณ์ป้องกันตัว เช่น หน้ากากอนามัยท่สี ามารถป้องกันฝ่นุ ละอองขนาดเล็กได้ หรือการใชเ้ ครื่องฟอกอากาศ หรอื แผ่นกรองอากาศสาหรับใชก้ ับเครื่องปรับอากาศในตัวอาคาร เปน็ ต้น ๗) องค์การเภสชั กรรม องค์การเภสัชกรรมเป็นหน่วยงานท่ีมีอานาจและหน้าท่ีในการจัดหาเคร่ืองมือและอุปกรณ์ ที่เก่ียวข้องกับเวชภัณฑ์ให้กับหน่วยงานที่เก่ียวข้องหรือโรงพยาบาลในการกากับและดูแล ของภาครัฐ ซ่ึงจะเน้นในเร่ืองของเวชภัณฑ์ประเภทยาเป็นหลัก โดยองค์การเภสัชไม่ได้เป็นผู้ผลิตเวชภัณฑ์เองแต่จะเป็น ผู้ดาเนินการจัดซ้ือและจัดส่งให้กับหน่วยงานต่าง ๆ รวมท้ังหน้ากากอนามัยด้วย องค์การเภสัชกรรม จะดาเนินจัดซ้ือและจัดส่งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้หน่วยงานที่เก่ียวข้องแจกจ่ายให้กับประชาชน ท่ีต้องการต่อไป ในปัจจุบันภาครัฐยังไม่มีนโยบายเก่ียวกับเร่ืองการจัดตั้งโรงงานเพ่ือผลิตหน้ากากอนามัย หรอื เวชภณั ฑ์อนื่ ๆ เนอื่ งจากมีโรงงานของภาคเอกชนทด่ี าเนนิ การในเรื่องดงั กลา่ วเปน็ จานวนมากอย่แู ลว้ ๘) รองศาสตราจารย์พานิช อินต๊ะ อาจารย์ประจาวิทยาลัยเทคโนโลยีและสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาได้มีการจัดตั้งหน่วยวิจัยสนามไฟฟ้าประยุกต์ ในงานวิศวกรรม (Research Unit of Applied Electric Field in Engineering: RUEE) ขึ้น เพ่ือทาหน้าท่ี เป็นหน่วยวิจัยและพัฒนาเคร่ืองมือและอุปกรณ์ สาหรับการวัด การควบคุม และการป้องกันฝุ่นละออง โดยใช้หลักการของไฟฟ้าสถิต ซ่ึงมีเครื่องมือวัดและวิเคราะห์ฝุ่นท่ีได้มาตรฐาน รวมท้ังให้บริการสอบเทียบ เคร่ืองวัดฝุ่น ทดสอบประสิทธิภาพแผ่นกรองอากาศ หน้ากากอนามัยและเคร่ืองฟอกอากาศให้กับบริษัทเอกชน เพ่ือผลิตและจาหน่ายในเชิงพาณิชย์ ซ่ึงในปัจจุบันได้มีการวิจัย ทดสอบ และพัฒนานวัตกรรม ในการเตรยี มความพรอ้ มเพ่ือรบั มือกบั ภยั ท่ีเกิดจากฝนุ่ ละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ จานวน ๓ นวัตกรรม ดังน้ี (๑) นวัตกรรมเคร่ืองบาบัดฝุ่นและฆ่าเช้ือโรคในอากาศ ได้แก่ เครื่องบาบัดและฆ่าเชื้อโรค ในอากาศภายในอาคารโดยใช้เทคนิคไฟฟ้าสถิต ซึ่งมีข้อดี คือ มีประสิทธิภาพในการบาบัดฝุ่นและฆ่าเช้ือโรค สูงถึงร้อยละ ๙๙ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาแผ่นกรองท่ีเป็นขยะใช้แล้วหรือเสื่อมสภาพ และมี ค่าใช้จ่าย ในการบารุงรักษาต่า แต่มีข้อเสีย คือ มีราคาค่อนข้างสูงและมีการปล่อยก๊าซโอโซน (O๓) ที่อาจเป็นอันตราย ต่อมนุษย์เม่ือสูดดมเข้าไป แต่สามารถลดการปลดปล่อยก๊าซโอโซนตามมาตรฐานอุตสาหกรรมเพ่ือไม่ให้เกิด อันตรายได้ (๒) นวัตกรรมหน้ากากอนามัย มีการวิจัย พัฒนา และออกแบบหน้ากากอนามัยให้เหมาะสม กับรูปหน้าของคนเอเชีย โดยมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับหน้ากากอนามัยแบบ N๙๕ นอกจากน้ียังวิจัย และพัฒนาหน้ากากอนามัยจากวัสดุธรรมชาติหรือเส้นใยธรรมชาติในท้องถ่ิน ซ่ึงจากการทดสอบ ร่วมกับกรมอนามัย พบว่าเส้นใหญ่ธรรมชาติท่ีทาจากวัสดุในท้องถ่ินสามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก ๐.๓ ไมครอน ได้ถึงร้อยละ ๕๐ - ๙๐ ขึ้นอยู่กับความละเอียดของเส้นใยและการทอ นอกจากน้ียังได้มี การทดสอบหน้ากากอนามัยแบบต่าง ๆ รวมท้ังการใช้แผ่นกรองในรูปแบบอ่ืน ๆ เช่น ใช้แผ่นกระดาษชาระ
๑๑ ร่วมกับหน้ากากอนามัย เป็นต้น เพื่อทดสอบประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ซึ่งผลการทดสอบจะได้มีการรวบรวมและเผยแพร่ใหป้ ระชาชนได้ทราบต่อไป (๓) การวิจัยและจัดสร้างห้องต้นแบบปลอดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ซึ่งในปัจจุบัน ได้ดาเนินการวิจัยและจัดสร้างห้องต้นแบบปลอดฝุ่นให้กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ทุกวิทยาเขต โดยใช้วิธีการติดตั้งเคร่ืองที่มีระบบเติมอากาศหรือเคร่ืองฟอกอากาศไว้ภายในห้อง รวมทงั้ การจัดสร้างหอ้ งปลอดฝนุ่ อัจฉริยะ (Smart Room) ทีส่ ามารถควบคมุ ได้ดว้ ยอปุ กรณ์อิเล็กทรอนกิ ส์ ๙) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาสกร แช่มประเสริฐ อาจารย์ประจาภาควิชาวิศวกรรม คอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ ปัญหามลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ท่ีเกิดขึ้นในปัจจุบัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในจังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้ความสาคัญในเรื่องดังกล่าวเป็นจานวนมาก เนื่องจากเป็นปัญหาท่ีส่งผลกระทบ ต่อสุขภาพของประชาชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้มีการเผยแพร่ให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับเรื่องของภัย ท่ีเกิดข้ึนจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ เพ่ือให้ประชาชนเกิดความเข้าใจและตระหนักถึงความสาคัญ ในการป้องกันตนเองจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก เช่น มีการให้ความรู้เก่ียวกับเร่ืองของการใช้หน้ากากอนามัย การแจกหน้ากากอนามัยให้แก่นักศึกษาโดยกาหนดให้ต้องใส่หน้ากากอนามัย เม่ือต้องดาเนินกิจกรรม ในทโ่ี ล่งแจ้ง หรือภายในหอ้ งหรอื อาคารท่ฝี ุน่ ละอองสามารถเขา้ ไปไดโ้ ดยงา่ ย เปน็ ตน้ ต่อมาไดม้ ีแนวคิดเกีย่ วกับ เร่ืองของการจัดสร้างพ้ืนที่ปลอดภัยจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ (Safety Zone) ให้กับกลุ่มบุคคล ท่ีมีความเส่ียงหรือความอ่อนไหว เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยท่ีเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น เพื่อไม่ให้บุคคลดังกล่าวสัมผัสกับอากาศท่ีมีมลพิษโดยตรง โดยให้ความสาคัญในเรื่องของการลดปริมาณฝุ่น และควันภายในพื้นท่ีปลอดภัยในช่วงภาวะวิกฤติให้มีค่าต่ากว่าเกณฑ์มาตรฐาน ซ่ึงในการจัดสร้างห้อง หรอื พื้นทปี่ ลอดฝุ่น สามารถแบ่งพืน้ ทอ่ี อกเปน็ ๓ กลมุ่ ไดแ้ ก่ (๑) พื้นท่ีกลุ่มสีเขียว เป็นพื้นท่ีที่สามารถจัดการและควบคุมได้ เช่น ห้องนอน ห้องทางาน ห้องประชุม เป็นต้น (๒) พืน้ ทีก่ ล่มุ สเี หลือง เป็นพ้นื ท่ีทส่ี ามารถจัดการได้ แต่ควบคุมไม่ได้ เช่น ห้องน้า โถงบนั ได ทางขึ้นลงอาคาร พื้นทีท่ างเขา้ อาคาร เป็นต้น (๓) พื้นท่ีกลุ่มสีแดง เป็นพ้ืนที่ที่ไม่สามารจัดการได้และควบคุมไม่ได้ เช่น โรงอาหาร โรงจอดรถ เป็นต้น ในการจัดสร้างพ้ืนท่ีปลอดฝุ่นหรือห้องปลอดฝุ่น (Safety Zone) ประกอบไปด้วย ๓ ส่วน ทส่ี าคัญ กล่าวคือ (๑) การกนั ฝนุ่ ขา้ งนอก ไม่ให้เข้ามาภายในหอ้ งปลอดฝุน่ (๒) การใช้เครื่องกรองฝุ่น เพอ่ื ทาใหอ้ ากาศภายในหอ้ งสะอาดขนึ้ (๓) การสรา้ งแรงดนั เพอื่ ดนั ฝุ่นออกไปจากห้อง โดยสรา้ งแรงดนั ภายในห้องให้สูงกว่าภายนอก ปัจจุบันมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ร่วมมือกับท้องถิ่นหรือชุมชนในการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ สภู้ ัยฝ่นุ ควัน เพอื่ ให้ความรู้แกท่ ้องถิน่ หรอื ชมุ ชน ได้แก่ (๑) โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพตาบล จานวน ๒๐๕ แห่ง (๒) ศูนย์การเรียนรู้สู้ภัยฝุ่นควัน (โรงเรียนและศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัยอาเภอ) จานวน ๑๐๓ แหง่ (๓) ภาคเอกชน (ศนู ยเ์ ด็กเลก็ และบา้ นพักคนชรา) จานวน ๓๐ แหง่
๑๒ ๑๐) นายไพฑูรย์ สิงคเสลิต นักวิชาการอิสระ ปัญหาโลกร้อนและสภาวะภูมิอากาศที่เปล่ียนแปลงไป รวมท้ังปัญหามลพิษท่ีเกิดจาก ยานพาหนะเป็นปัญหาที่สาคัญประการหน่ึงที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ สาธารณรัฐเกาหลี เป็นประเทศหน่ึง ท่ีได้มีการค้นคว้า วิจัย และพัฒนาเกี่ยวกับเรื่องของการลดมลพิษทางอากาศจากแหล่งต้นกาเนิด มาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะแหล่งกาเนิดมลพิษที่เกิดจากยานพาหนะประเภทรถยนต์ ซึ่งสาธารณรัฐเกาหลี ได้ออกฎหมายพิเศษที่เก่ียวข้องการปรับปรุงคุณภาพอากาศและส่ิงแวดล้อม รวมท้ังจัดทาโ ครงการ ลดมลพิษจากยานพาหนะประเภทรถยนต์ดีเซล ตั้งแต่ปี ๒๐๐๕ - ๒๐๑๔ โดยได้ทาการพัฒนาและทดลอง เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการแผ่คล่ืนพลังงานของรังสีอินฟราเรดย่านไกล ( Far Infrared Radiation) กับน้ามันเชื้อเพลิงและก๊าซ เพ่ือปรับเปล่ียนคุณสมบัติทางเคมีและโครงสร้างขอ งน้ามันเชื้อเพลิง ซ่ึงทาให้น้ามันเช้ือเพลิงลดความหนืด ลดแรงตึงผิว และมีเส้นผ่าศูนย์กลางละอองน้ามันที่เล็กลง โดยใช้อุปกรณ์ท่ีเรียกว่า Eco-Plasma ติดตั้งเข้าไปในระบบน้ามันเชื้อเพลิงของรถยนต์ เพื่อช่วยให้เครื่องยนต์ มีการเผาไหม้ท่ีดีข้ึน ทาให้ลดปริมาณการปล่อยก๊าซท่ีเป็นมลพิษหรือควันที่เกิดจากเครื่องยนต์ให้น้อยลง สามารถใชไ้ ด้ท้ังในเครอ่ื งยนต์เช้อื เพลิงแบบดีเซลและเบนซนิ ๑๑) กระทรวงสาธารณสขุ กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความสาคัญเก่ียวกับเรื่องปัญหาสุขภาพท่ีเกิดจากฝุ่นละออง ขนาดเล็ก PM ๒.๕ ที่ส่งกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ซ่ึงฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒. ๕ เป็นองค์ประกอบ หนงึ่ ท่สี าคญั ในการก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ โรคระบบหวั ใจและหลอดเลือด ทาใหผ้ ปู้ ่วยทอี่ ยใู่ นกลุ่มเส่ียง หรือกลุ่มโรคเรื้อรังประสบกับภาวะอันตรายได้ เน่ืองจากฝุน่ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ จะแทรกเข้าไปในระบบ หายใจและหลอดเลือด ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขแบ่งระดับค่าการเฝ้าระวังฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ตามประกาศกรมอนามัย เรื่อง ค่าเฝ้าระวังผลกระทบต่อสขุ ภาพจากฝุน่ ละอองขนาดเล็กในบรรยากาศ ลงวันท่ี ๒๘ ธนั วาคม ๒๕๖๑ ไว้ ดังน้ี ค่าระดับฝุ่นละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ สี ความหมาย เฉล่ยี ๒๔ ช่ัวโมง (ไมโครกรมั ตอ่ ลกู บาศกเ์ มตร) ๐ – ๒๕ ฟา้ ดีมาก ๒๖ – ๓๗ เขยี ว ดี ๓๘ – ๕๐ เหลอื ง ปานกลาง ๕๑ – ๙๐ สม้ เริ่มมีผลกระทบตอ่ สุขภาพ ๙๑ ขึ้นไป แดง มผี ลกระทบต่อสขุ ภาพ กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดทาพัฒนาชุดองค์ความรู้ที่เก่ียวกับเรื่องฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ โดยได้จัดทาเป็นคลิปวีดีโอให้ความรู้ รวมท้ังประชาสัมพันธ์ผ่านส่ือป้ายโฆษณา (Billboard) โทรทัศน์ วิทยุ ชุมชน หรือเสียงตามสาย รวมท้ังภาพอินโฟกราฟิก (Infographic) เพื่อประชาสัมพันธ์หรือเผยแพร่ความรู้ ใหแ้ ก่ประชาชนในเรื่องท่เี กีย่ วข้องกับผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ทสี่ ่งผลต่อสขุ ภาพประชาชน รวมถึงคาแนะนาต่าง ๆ ในการปฏิบัติตนสาหรับบุคคลในกลุ่มเส่ียง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ คนทางานกลางแจ้ง เป็นต้น การใช้หน้ากากอนามัย การออกกาลังกาย ตลอดจนการส่ือสาร การสร้างความรอบรู้ให้แก่ประชาชน ผ่านกลุ่มผู้นาต่าง ๆ ได้แก่ ๑) การช้ีแจงให้ความรู้ในการจัดการตนเองจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕
๑๓ ในแกนนากลุ่มส่ยี ง เชน่ เจ้าหนา้ ท่ีสาธารณสขุ อาสาสมคั รสาธารณสขุ ประจาหมูบ่ า้ น เป็นตน้ ๒) การใหแ้ กนนา กลุ่มเส่ียง ลงพ้ืนท่ี เคาะประตูบ้าน ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้และดูแลสุขภาพในเบ้ืองต้น สาหรับแนวทาง การแจ้งเตือนภัยฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ กระทรวงสาธารณสุขจะดาเนินการแจ้งเตือนภัยผ่านช่องทาง การส่ือสารออนไลน์ต่าง ๆ เช่น เพจ “คนรักอนามัย ใส่ใจอากาศ PM ๒.๕”เป็นต้น โดยจะมีความถ่ี ในการแจง้ เตือนภยั ดังนี้ ค่าระดับ PM ๒.๕ สี การแจง้ เตอื นภัย เฉล่ีย ๒๔ ช่ัวโมง ๐ - ๒๕ ฟ้า เฝ้าระวงั ติดตามสถานการณ์ ๒๖ - ๓๗ เขียว เตือนภัย ๑ ครั้งตอ่ วัน ๓๘ - ๕๐ เหลือง เตือนภยั ๒ ครง้ั ต่อวนั (ตวั อยา่ ง เช่น ๐๖.๐๐ นาฬกิ า / ๑๘.๐๐ นาฬิกา เปน็ ตน้ ) ๕๑ - ๙๐ ส้ม เตือนภยั ๓ ครงั้ ต่อวนั (ตัวอยา่ ง เช่น ๐๖.๐๐ นาฬิกา / ๑๒.๐๐ นาฬิกา / ๑๘.๐๐ นาฬกิ า เปน็ ต้น) ๙๑ ขึน้ ไป แดง เตือนภัย ๔ ครัง้ ตอ่ วนั (ตัวอย่าง เชน่ ๐๖.๐๐ นาฬกิ า / ๐๙.๐๐ นาฬิกา / ๑๒.๐๐ นาฬิกา /๑๘.๐๐ นาฬิกา เปน็ ตน้ ) กฎหมายท่ีเก่ียวข้องกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ที่ใช้อยู่ ในปัจจุบันจะประกอบด้วยกฎหมาย ๒ ฉบับ ได้แก่ ๑) การประกาศเขตควบคุมมลพิษ ตามพระราชบัญญัติ ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และ ๒) การประกาศพื้นท่ี ควบคุมเหตุราคาญ ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งในทางปฏิบัติ การออกประกาศเขตควบคุมมลพิษจะดาเนินการได้ยากกว่า เนื่องจากเป็นอานาจของคณะกรรมการ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติในการออกประกาศ และจะต้องมีเครื่องมือที่ใช้ในการตรวจวัดค่ามลพิษ รวมถึงมีขั้นตอน ในการดาเนินการต่าง ๆ แต่การประกาศพ้ืนท่ีควบคุมเหตุราคาญจะเป็นอานาจของเจ้าพนักงานท้องถิ่น ในการออกประกาศฉบับดังกล่าว หากมีเหตุราคาญเกิดขึ้นตามกฎหมาย ซึ่งตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขการประกาศพื้นที่ควบคุมเหตุราคาญ พ.ศ. ๒๕๖๑ หากพบว่ามีพื้นท่ี ท่ีปรากฏเหตุราคาญเกิดข้ึนและส่งผลกระทบต่อประชาชนหรือชุมชนจนก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ของประชาชนจานวนมากและครอบคลุมพื้นท่ีเป็นบริเวณกว้าง เจ้าพนักงานท้องถ่ินสามารถท่ีจะออกประกาศ พ้ืนท่ีควบคุมเหตุราคาญได้ เมื่อเข้าลักษณะเป็นพ้ืนท่ีที่มีสถานประกอบกิจการใด ๆ หรือการกระทาใด ๆ ที่เป็นแหล่งกาเนิดของเหตุราคาญน้ันมากกว่า ๑ แหล่งข้ึนไป ซึ่งเป็นการขัดขวางสภาวะความเป็นอยู่ที่เหมาะสม กับการดารงชีพของประชาชน ผู้อานวยการท้องถ่ินในฐานะเจ้าพนักงานท้องถ่ินสามารถออกประกาศกาหนด พื้นทค่ี วบคุมเหตรุ าคาญได้ โดยการประกาศกาหนดพ้ืนที่ควบคุมเหตุราคาญท่ีเกิดจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ จะพิจารณาเหตุในการออกประกาศจากเหตุดังต่อไปนี้ ๑) ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ในพื้นท่ีมีระดับค่า ตั้งแต่ ๕๐ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรขึ้นไป ๒) แหล่งกาเนิดมลพิษต้องมีความชัดเจน และ ๓) ส่งผลกระทบ ต่อสุขภาพของประชาชน ซ่ึงภายในเขตชุมชนเมืองแหล่งกาเนิดมลพิษทางอากาศท่ีสาคัญ ได้แก่ รถยนต์
๑๔ ที่ใช้เคร่ืองยนต์ดีเซล พื้นที่ก่อสร้าง และโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอานาจในการส่ังระงับ เหตรุ าคาญเหล่าน้ันได้ เช่น การหา้ มไม่ให้รถยนต์ท่ีใช้เคร่ืองยนต์ดีเซลเข้ามาภายในเขตชุมชนเมืองในบางชว่ งเวลา ห้ามการก่อสร้างในบางพ้ืนท่ี เป็นต้น แต่การสั่งระงับเหตุราคาญดังกล่าวมีขอบเขตในการระงับที่จากัด และอาจจะต้องประสานงานกับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องท่ีมีหน้าท่ีและอานาจโดยตรงในเรื่องดังกล่าว นอกจากน้ี ยงั ตอ้ งคานึงถงึ สทิ ธขิ น้ั พื้นฐานของประชาชนอีกด้วย ๑๒) กรมประชาสมั พันธ์ กรมประชาสัมพันธ์มีกรอบภารกิจหน้าที่ตามแผนปฏิบัติการขับเคล่ือนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” ใน ๓ มาตรการ ไดแ้ ก่ มาตรการท่ี ๑ การเพ่มิ ประสิทธิภาพในการบริหาร จัดการในเชิงพ้ืนท่ี มาตรการท่ี ๒ การป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ตน้ ทาง (แหล่งกาเนิด) และมาตรการท่ี ๓ การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการมลพิษ โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ ประชาชนในพื้นท่ีเสี่ยง และกลุ่มเป้าหมายรอง คือ กลุ่มประชาชนในพื้นท่ีอื่น ๆ ซ่ึงจะเน้นในเร่ืองของการทาประชาสัมพันธ์ท้ังในช่วง ก่อนเกิดภัย ระหว่างเกิดภัย และหลังเกิดภัย โดยจะทาการประชาสัมพันธ์ผ่านส่ือหลักของกรมประชาสัมพันธ์ เช่น สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย สานักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ สานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด เป็นต้น และส่ือออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งในการประชาสัมพันธ์จะต้องผ่านกระบวนการบริหารประเด็นการประชาสัมพันธ์ ของกรมประชาสัมพันธ์ ได้แก่ ๑) โฆษกกระทรวง ๒๐ กระทรวง และ ๒) คณะทางานปฏิบัติการข่าวสาร (IO) ๖ ดา้ น เพ่ือรายงานผลการดาเนนิ งานเข้าสู่ท่ปี ระชมุ คณะรฐั มนตรเี ปน็ ประจาทุกเดือน นอกจากนี้ กรมประชาสมั พันธ์ ยังร่วมมือกับหน่วยงานที่เก่ียวข้องในการพัฒนาแอปพลิเคชัน (Application) บนมือถือ (Smartphone) เช่น Air CMI ซ่ึงเป็นแอปพลิเคชันท่ีใช้สาหรับตรวจวัดคุณภาพอากาศในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น และในอนาคต จะไดพ้ ฒั นาแอปพลิเคชันดังกลา่ วให้ครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป ๑๓) กรมอุตุนิยมวิทยา กรมอุตุนิยมวิทยามีภารกิจเก่ียวกับการบริหารจัดการด้านอุตุนิยมวิทยา โดยปฏิบัติหน้าที่ เกี่ยวกับการตรวจ เฝ้าระวัง ติดตาม รายงานสภาวะอากาศ อากาศเพ่ือการบินและปรากฏการณ์ธรรมชาติ รวมท้ังให้ความรู้และบริการด้านอุตุนิยมวิทยาด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว แม่นยา และทันเหตุการณ์ เพื่อประโยชน์สูงสุดในเชิงเศรษฐกิจและสังคม เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม ตลอดจนเป็นการป้องกัน การเกิดภัยพิบัติ และความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เอกชน และหน่วยงานของรัฐ จากภัยธรรมชาติ เป็นไปตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ซ่ึงในส่วนของการพยากรณ์คุณภาพอากาศนั้น กรมอุตุนิยมวิทยาไม่ได้มีหน้าที่โดยตรง แต่กรมอุตุนิยมวิทยาก็มีหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนข้อมูลการพยากรณ์อากาศอย่างต่อเนื่องให้กับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เพ่ือให้หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องสามารถบริหารจัดการฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ในภาวะฉุกเฉิน ไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ ซ่ึงปัจจัยทางอุตุนิยมวิทยาท่ีมีผลกระทบต่อฝุน่ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ คอื ความกดอากาศสูง (High Pressure) มักเป็นปัจจัยของปรากฏการณ์อุณหภูมิผกผันกลับในช้ันบรรยากาศ (Temperature Inversion) ที่ระดับใกล้ผิวพื้นดิน เป็นเหตุให้การลอยตัวขึ้นของอากาศไม่ดี และเม่ือความกดอากาศมีกาลังอ่อนลงจะทาให้ ลมมีกาลังอ่อนหรือสงบลง เป็นอุปสรรคของการแพร่กระจายของฝุ่นละออง โดยเฉพาะเขตพ้ืนท่ีกรุงเทพมหานคร ฝุ่นควัน และไอเสียจากยานพาหนะต่าง ๆ จะเกิดการสะสมขึ้น และถ้าระดับอุณหภูมิผกผันกลับลดระดับลง จะทาใหค้ วามเข้มข้นของฝุ่นละอองในช้ันบรรยากาศเพ่ิมมากขึ้น ปัจจยั หลกั ทางอุตุนิยมวิทยาท่ีมีผลต่อการเพิ่มข้ึน ของฝ่นุ ละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ ได้แก่ (๑) ลมสงบหรือลมอ่อน มักเกิดจากชั้นบรรยากาศใกล้ผิวพื้นดินเกิดการผกผันกลับ ของอุณหภูมิ (Inversion)
๑๕ (๒) ไมม่ ีฝนตกในพืน้ ท่ี ส่วนปัจจยั หลกั ทางอุตุนิยมวทิ ยาที่มีผลต่อการลดลงของฝุ่นละออง PM ๒.๕ ได้แก่ (๑) มลี มแรงมากกว่า ๔ knot หรอื ประมาณ ๒ เมตรตอ่ วินาที สาหรบั ในเขตพ้นื ทกี่ รงุ เทพมหานคร หรอื ในพื้นทเ่ี มืองใหญ่ จะทาใหก้ ารลอยตัวของฝุน่ ละอองทาได้ดีขนึ้ (๒) มีฝนตกครอบคลมุ พนื้ ทส่ี ว่ นมาก (มากกวา่ ๑๐ มลิ ลิเมตรขึน้ ไป) แนวทางการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ท่ีสาคัญ ได้แก่ การลดการปล่อยมลพิษ จากแหล่งกาเนิด การใช้ระบบชะล้าง หรือการทาให้เจือจาง ซ่ึงกรมอุตุนิยมวิทยา ได้จัดทาแผนปฏิบัติการ เพ่ือสนับสนุนข้อมูลอุตุนิยมวิทยากรณีฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ โดยแบ่งออกเป็นส่วนปฏิบัติการเฝ้าระวัง และติดตาม ส่วนวิเคราะห์พยากรณ์ ส่วนประชาสัมพันธ์และส่วนสนับสนุน หากสถานการณ์ค่าฝุ่นละออง อยใู่ นระดบั ๑ (ฝนุ่ ละอองมคี ่าน้อยกวา่ ๕๐ ไมโครกรัมต่อลูกบาศกเ์ มตร) หรอื ระดับ ๒ (ฝนุ่ ละอองมีคา่ ระหว่าง ๕๑ - ๗๕ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) จะมีรองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาผู้ท่ีได้รับมอบหมายเป็นผู้บัญชาการ หากสถานการณ์อยู่ในระดับ ๓ (ฝนุ่ ละอองมีค่าระหวา่ ง ๗๖ - ๑๐๐ ไมโครกรมั ต่อลูกบาศกเ์ มตร) หรือระดับ ๔ (ฝนุ่ ละอองมีค่ามากกวา่ ๑๐๐ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรข้ึนไป) จะมีอธบิ ดีกรมอตุ ุนิยมวิทยาเป็นผู้บัญชาการ สาหรับแนวทางการเผยแพร่ข้อมูลการพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยาจะสนับสนุนการเฝ้าระวังฝุ่นละออง ขนาดเล็ก PM ๒.๕ เมื่อปริมาณฝุ่นละอองขนาด PM ๒.๕ มีค่ามากกว่า ๕๐ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ค่าเฉลี่ย ๒๔ ช่ัวโมง ต่อเน่ืองเป็นส่วนใหญ่) ผู้บัญชาการสถานการณ์มีอานาจในการสั่งเพ่ิมการตรวจ สารประกอบอุตุนิยมวิทยาในทุก ๆ ช่ัวโมงหรือมากกว่านัน้ ได้ เพื่อให้คณะทางานทาการวิเคราะห์สภาพอากาศ ท่ีจะส่งผลกระทบตอ่ ปัญหาฝุน่ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ พร้อมทั้งคาดการณ์สภาพอากาศอย่างตอ่ เนื่องทกุ วนั จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง และให้คณะทางานจัดทาสื่อประชาสัมพันธ์ ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ภาพอินโฟกราฟิก (Infographics) หรือคลิปวีดีโอ เป็นต้น ขึ้นเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยาเพ่ือเผยแพร่ สู่สาธารณะ พร้อมจัดส่งข้อมูลให้หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องดาเนินการต่อไป สาหรับแนวทางการแก้ไขปัญหา เกี่ยวกับการพยากรณ์สภาพอากาศท่ีกรมอุตุนิยมวิทยากาลังดาเนินการ ได้แก่ ๑) การขอรับการสนับสนุน งบประมาณเพื่อติดตั้งเคร่ืองตรวจอากาศวดั สภาพอากาศให้มีความถ่ีเพิ่มข้ึนเพื่อให้การพยากรณ์มีความถูกต้อง แม่นยา ๒) การพัฒนาแบบจาลองบรรยากาศเพื่อการสนับสนุนข้อมูลเพ่ือการคาดการณ์ฝุ่นละออง ให้มีประสิทธิภาพมากข้ึน และ ๓) การขอสนับสนุนงบประมาณเพ่ือเพ่ิมสถานีตรวจวัดอากาศชั้นบน AWS TOWER (CLIMATE TOWER) WIND PROFIELER ๑๔) สานักงานกองทุนสนบั สนนุ การสรา้ งเสริมสขุ ภาพ สานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพเป็นหน่วยงานท่ีมีหน้าที่และภารกิจ เก่ียวกับการสนับสนุนและส่งเสริมสุขภาพของประชาชนร่วมกับหน่วยงานหรือภาคเอกชนหรือภาคีต่าง ๆ สาหรับในเร่ืองปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ สานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ไดใ้ ห้ความสาคัญเก่ียวกบั การแกไ้ ขปัญหาฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ใน ๒ ภารกจิ ดังน้ี (๑) ภารกิจหลัก พื้นที่ในเขตจังหวัดภาคเหนือ เช่น จังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น ซึ่งมุ่งเน้น ในเรื่องของการสร้างป่าชุมชน โดยสานักงานจะให้ทุนภาคีในเครือข่ายทาโครงการเกี่ยวกับป่าชุมช น จานวน ๑ โครงการ เน่ืองจากในปี ๒๕๖๑ จังหวัดในเขตภาคเหนือเหนือประสบปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ไมน่ ้อยกวา่ ๕๕ ลา้ นไร่ เฉพาะจงั หวดั เชียงใหม่ประสบปัญหาค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ เกนิ คา่ มาตรฐาน ถึง ๑๑๒ วัน ท่ีผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการสร้างโมเดล (Model) การเรียนรู้ระหว่างกลุ่มมหาวิทยาลัย ในเขตภาคเหนือรว่ มกับกลไกภาคประชาชน ซ่งึ ได้รับการตอบรับจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน เป็นอยา่ งดี
๑๖ (๒) ภารกจิ รอง พื้นท่ีในเขตจังหวัดสมุทรสาคร เนอ่ื งจากจงั หวดั สมุทรสาครเป็นจังหวดั ที่อยู่ติด กับทะเลมีกระแสลมพัดผ่านค่อนข้างมาก ประกอบกับมีโรงงานอุตสาหกรรมประมาณ ๑,๐๐๐ - ๒,๐๐๐ โรงงาน เป็นแหล่งกาเนิดมลพิษทางอากาศ มลพิษทางน้า ขยะ และอื่น ๆ ซึ่งจะต้องมีการดาเนินการป้องกันและแก้ไข เกยี่ วกับเรอ่ื งดังกลา่ ว ๑๕) กรมควบคมุ มลพษิ ในพ้ืนที่จังหวัดเชียงรายมีการติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ จานวน ๒ สถานี คือ บริเวณอาเภอเมือง และอาเภอแม่สาย โดยมีแนวทางการดาเนินงานและปฏิบัติการในการรับมือสถานการณ์ หมอกควนั ภาคเหนอื (Standard Operating Procedure: SOP for Northern Haze Response) ๖ ระดบั คือ ระดับท่ี ๑ (ปริมาณ PM ๒.๕ = ๐ - ๓๗ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ติดตามสถานการณ์ จากรายงานสถานการณ์และคณุ ภาพอากาศประเทศไทย ระดับที่ ๒ (ปริมาณ PM ๒.๕ = ๓๘ - ๕๐ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ติดตามเฝ้าระวัง และตรวจสอบขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วขอ้ ง และดาเนินการตามภารกิจ ระดับที่ ๓ (ปริมาณ PM ๒.๕ = ๕๑ - ๗๕ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ดาเนินมาตรการ เพ่ือลดและควบคุมการเผาอย่างเร่งด่วน และรณรงค์ให้ประชาชนงดเผา รวมทั้งส่ือสารข้อมูลให้ประชาชน รบั ทราบอย่างถูกต้อง ระดบั ที่ ๔ (ปริมาณ PM ๒.๕ = ๗๖ - ๙๐ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ผู้วา่ ราชการจังหวัด ใช้อานาจส่ังการตามกฎหมายที่มีอยู่ และระดมสรรพกาลังเพ่ือดาเนินมาตรการอย่างเข้มงวด รวมทง้ั ขอความร่วมมือ ประชาชนงดเผา และเรง่ สอ่ื สารใหป้ ระชาชนทราบสถานการณ์และการปฏิบัติตนทถี่ ูกตอ้ ง ระดับที่ ๕ (ปริมาณ PM ๒.๕ = ๙๑ - ๑๙๐ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ดาเนินการ ไม่ให้มีการเผาเด็ดขาด ควบคู่กับมาตรการลดผลกระทบจากหมอกควนั และเร่งสื่อสารใหป้ ระชาชนทราบสถานการณ์ และการปฏบิ ัตติ นทถ่ี ูกตอ้ ง ระดบั ที่ ๖ (ปรมิ าณ PM ๒.๕ มากกวา่ ๑๙๐ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ประชมุ คณะกรรมการ ส่ิงแวดล้อมแห่งชาติเพ่ือกลั่นกรองแนวทาง และยกระดับมาตรการลดผลกระทบต่อสุขภาพจากปัญหา ฝ่นุ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษได้มีข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาหมอกควันของจังหวัดเชียงราย ดงั นี้ (๑) การบริหารจัดการเช้ือเพลิง ควรมีการเฝ้าระวังและควบคุมการเผา โดยจัดระเบียบ และเหลื่อมเวลาการเผา รวมท้ังจัดการเชื้อเพลิงตามหลักวิชาการ ตลอดจนศึกษาและส่งเสริมการวิจัย เกษตรปลอดการเผา และสง่ เสริมการนาเศษวัสดจุ ากการเกษตรมาใชป้ ระโยชน์เพื่อลดการเผา (๒) การลักลอบจุดไฟเผาปา่ ควรสง่ เสริมกลไกเชิงบวก โดยสร้างและขยายเครือข่ายหมู่บ้าน ปลอดการเผาและหมบู่ ้านเครือข่ายปอ้ งกนั ไฟ (๓) หมอกควันข้ามแดน ควรมีมาตรการหรือกาหนดบทลงโทษในกรณีที่ประเทศต้นเหตุ ไมแ่ กไ้ ขปัญหา และประสานกบั ประเทศเพื่อนบ้านโดยดาเนนิ งานผ่านกลไกคณะกรรมการชายแดน ๑๖) กรมสง่ เสริมการปกครองท้องถ่นิ แนวทางการดาเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ จังหวัดเชียงราย ปี ๒๕๖๒ - ๒๕๖๓ แบง่ ออกเปน็ ๓ ระยะ คอื
๑๗ ระยะที่ ๑ ระยะเตรียมความพร้อม (ตุลาคม - ธันวาคม ๒๕๖๒) คือ การประกาศห้ามเผา ทุกชนิดโดยเด็ดขาด และจัดทาแผนปฏิบัติการโดยตั้งคณะทางานติดตามสถานการณ์ จัดเตรียมบุคลากร อุปกรณ์ และเครือข่ายการสอื่ สาร รวมทั้งจัดทาแนวกันไฟ ตลอดจนประชาสัมพนั ธ์สถานการณ์ ระยะที่ ๒ ระยะเผชิญเหตุ (มกราคม - เมษายน ๒๕๖๓) คือ การประกาศห้ามเผาทุกชนิด และบังคับใช้กฎหมายห้ามเผาเด็ดขาด โดยมีการบัญชาการเหตุการณ์และรับแจ้งเหตุเพ่ือเฝ้าระวังการเผา และลดปญั หาฝุน่ ละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ ระยะที่ ๓ ระยะฟ้ืนฟู (พฤษภาคม - กันยายน ๒๕๖๓) คือ ดาเนินการถอดบทเรียน รวมทั้ง ฟน้ื ฟูป่าและสง่ เสริมเครอื ข่ายเกษตรปลอดการเผา ตลอดจนส่งเสรมิ การมสี ่วนรว่ มของประชาชน ทั้งน้ี กรมสง่ เสริมการปกครองท้องถ่นิ ได้มีข้อเสนอแนะในการดาเนินการป้องกันแกไ้ ขปัญหา ไฟปา่ หมอกควันและฝ่นุ ละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ ดงั น้ี (๑) สร้างความร่วมมือในการควบคุมไฟป่าและหมอกควัน โดยสนับสนุนให้ประชาชน วางแผนการใช้ประโยชน์จากป่าให้เหมาะสมกับแต่ละพ้ืนท่ี พร้อมทั้งเป็นผู้ดูแลและควบคุมมิให้เกิดไฟป่า ทัง้ น้ี หน่วยงานภาครฐั ต้องใหก้ ารสนบั สนุนองคค์ วามร้ใู นการควบคมุ ไฟและการดบั ไฟอย่างต่อเน่ือง (๒) ส่งเสริมแนวคิดการจัดตั้งกองทุนสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควันในระดับชุมชน เพ่ือสนับสนุนงบประมาณในการปฏิบัติการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ของพืน้ ท่ี โดยไมต่ อ้ งรอรบั การจัดสรรจากภาครฐั เพยี งอยา่ งเดียว (๓) การประสานและขอความรว่ มมือการแก้ไขปญั หาหมอกควันข้ามแดนผ่านหน่วยประสานงาน ชายแดนประจาพืน้ ท่ี เพือ่ ลดปญั หาหมอกควนั ขา้ มแดน ๑๗) กองอานวยการรกั ษาความม่นั คงภายในราชอาณาจกั ร แนวทางปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษ ด้านฝนุ่ ละออง” มจี านวน ๓ มาตรการ คอื (๑) มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเชิงพ้ืนที่ (การแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วน และในช่วงวิกฤต) โดยติดตาม เฝ้าระวัง สร้างการรับรู้ และดาเนินการตามแผนเผชิญเหตุ รวมทั้งเพ่ิมความเข้มงวด ในการแก้ไขปัญหา ตลอดจนรณรงค์และประชาสัมพันธโ์ ดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเส่ียง นอกจากน้ี ยังมีการกาหนด พน้ื ทปี่ ลอดฝุ่นหรอื ห้องปลอดฝนุ่ (Safety Zone) และจัดตัง้ คณะทางานเพือ่ แก้ไขปัญหาดงั กล่าว (๒) มาตรการป้องกันและลดการเกิดมลพิษท่ีแหล่งกาเนิด โดยเข้มงวดการตรวจจับ รถควนั ดา และบรหิ ารจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรดว้ ยวธิ ีการกาจัดที่เหมาะสมปราศจากการเผา (๓) มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการมลพิษ โดยเฝ้าระวัง ติดตาม และตรวจสอบ คุณภาพอากาศในพื้นที่ เพื่อแจ้งให้ประชาชนทราบ ตลอดจนส่งเสริมการมีส่วนร่วม สร้างความตระหนัก และปรับพฤติกรรมเพ่ือลดการเผา ทัง้ น้ี ปญั หาอุปสรรคในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเกิดฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศ ในจงั หวัดเชยี งราย มีดังนี้ (๑) ลักษณะภมู ิประเทศทส่ี ูงชัน บางพืน้ ทเี่ ป็นหุบเขาลึก กอ่ ให้เกิดเชื้อเพลิงสะสมจานวนมาก (๒) งบประมาณในการสนบั สนนุ ปฏบิ ตั กิ ารไมเ่ พยี งพอเม่ือเทียบกับภารกิจ (๓) เจา้ หน้าทห่ี รอื ชุดปฏบิ ัติการที่มคี วามเช่ียวชาญดา้ นการดับไฟปา่ มจี านวนไม่เพยี งพอ (๔) การส่งเสริมให้ปรับเปลี่ยนวิธีการทาเกษตรของเกษตรกรเป็นเกษตรปลอดการเผา ยังไมเ่ ปน็ ท่ียอมรบั
๑๘ ๑๘) สานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม แหง่ ชาติ สานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม แห่งชาติ มีภารกิจหลักด้านการกากับดูแลผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และผู้ประกอบ กิจการโทรคมนาคม อย่างไรก็ตาม สานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติมีความยินดีอย่างย่ิงที่จะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เกี่ยวกับมาตรการ ในการแจ้งเตือนภัยฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ โดยสามารถประสานกับเครือข่ายผู้ประกอบกิจการ โทรคมนาคมในการส่งข้อความส้ัน (Short Message Service: SMS) เพื่อแจ้งเตือนภัยฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ และแนะนาวิธีการปฏบิ ัตติ นเพ่ือป้องกันปัญหาฝุน่ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ รวมท้ังสามารถประสาน กับสมาคมวิทยุสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซ่ึงมีเครือข่ายอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ เพ่ือขอความร่วมมือและความช่วยเหลือในด้านการติดต่อส่ือสารกรณีเกิดภัยพิบัติหรือเหตุฉุกเฉิน นอกจากนี้ สานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติยังได้จัดทา Line Official Account ซ่ึงสามารถใช้เป็นช่องทางในการสื่อสารและแจ้งเตือนภัยให้แก่ประชาชน โดยปัจจบุ ัน มีสมาชิกจานวนประมาณ ๕,๙๐๐,๐๐๐ คน ๓.๒ การเสนอแนวทางและมาตรการในการปอ้ งกันและแก้ไขปัญหาฝนุ่ ละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการต่อการดาเนินงานของหน่วยงานท่ีเข้าร่วมประชุม และแสดงความคิดเหน็ ๑) ภาครัฐควรกาหนดให้มีหน่วยงานหลักในการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ท้ังในภาคนโยบาย (การกาหนดแผนระยะสัน้ แผนระยะกลาง และแผนระยะยาว) และภาคปฏบิ ัติ ๒) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจนาแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ามันร่ัวไหลลงทะเลมาปรับใช้ เป็นแนวทางหรอื แผนการดาเนนิ การในการแกไ้ ขปัญหาฝ่นุ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ๓) สถานที่พักพิงชั่วคราวท่ีจัดเตรียมขึ้นตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ควรเป็นสถานที่ที่ผู้ประสบภัยสามารถเข้าพักได้ในทันที โดยจะต้องมีความสะดวก สะอาด และปลอดภัย รวมทัง้ มอี ปุ กรณป์ อ้ งกนั ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ทีม่ ีประสิทธภิ าพ ๔) ภาครัฐควรมีหน่วยงานหลักในการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ทั้งในด้านการควบคุม ติดตาม ตรวจสอบ การแจ้งเตือน และการให้ความช่วยเหลือ ซ่ึงในปัจจุบันมีเพียง การบูรณาการการทางานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้อานวยการจังหวัด หรือผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อานวยการกรุงเทพมหานคร ในลักษณะของผู้บัญชาการ (Single Command) เพียงอย่างเดียว เมื่อไม่มีหน่วยงานหลักในการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงขาดแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพราะมีหน่วยงานต่าง ๆ รวมท้ัง กฎหมายและระเบียบท่ีเก่ียวข้องอยู่เป็นจานวนมาก รวมถึงการขาดสภาพการบังคับใช้กฎหมาย ขาดการตรวจสอบและติดตาม ตลอดจนขาดการอนุวัติการกฎหมายให้เป็นไปตามอนุสัญญาหรือพิธีสาร ซ่ึงแตกต่างจากประเทศที่มีกฎหมายหรือหน่วยงานหลักที่ดาเนินการในเร่ืองดังกล่าว ดังน้ัน ภาครัฐ อาจดาเนินการแก้ไขปัญหาได้ใน ๒ แนวทาง คือ (๑) การออกกฎหมายอากาศสะอาด (Clean Air Act) (๒) ให้หน้าทแี่ ละอานาจแก่คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ตามพระราชบัญญตั ิสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๐ หรือจัดต้ังสานักงานปกป้องสภาพอากาศแห่งชาติ (National Air Protection Agency: NAPA) เพื่อทาหน้าท่ีเป็นหน่วยงานหลักในการกากับ ดูแล ติดตาม ตรวจสอบ และเร่งรัดให้หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง
๑๙ ดาเนินป้องกันและการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ รวมทั้งให้หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องดาเนินการ บงั คับใช้กฎหมายอย่างจรงิ จงั เพ่ือใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสดุ และมปี ระสทิ ธภิ าพ ๕) ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลสุขภาพประชาชนผู้ประกอบอาชีพกลางแจ้งจากสถานการณ์ ฝุน่ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ เช่น มอเตอร์ไซคร์ ับจ้าง ตารวจจราจร และคนงานก่อสรา้ ง เปน็ ตน้ ๖) กรมอนามยั ควรใชด้ ัชนีสขุ ภาพอันเน่ืองมาจากคุณภาพอากาศ (Air Quality Health Index: AQHI) เพ่ือแจ้งเตือนคุณภาพอากาศต่อประชาชน และควรกาหนดวิธีปฏิบัติตนในสถานการณ์ฝุ่นละออง ขนาดเล็ก PM ๒.๕ โดยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงแนวทางการป้องกันตนเองจากสถานการณ์ ฝุน่ ละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ ๗) กรมอนามยั ควรกาหนดมาตรฐานของเคร่ืองฟอกอากาศและห้องปลอดเช้ือ (Clean room) ๘) ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม กาหนดให้มีการถ่ายโอนภารกิจ ในการเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับโรงงานจาพวกท่ี ๑ และจาพวกที่ ๒ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ดงั นั้น จะมีแนวทางอย่างไรใหอ้ งคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ สามารถบริหารจัดการโรงงานได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ๙) หน่วยงานที่เก่ียวข้องควรกาหนดมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษ ด้านฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ สาหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะ ๑๐) ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม ได้กระจายอานาจ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินมีอานาจดาเนินการ โดยให้อานาจแก่สภาท้องถิ่นสามารถออกข้อบัญญัติท้องถิ่น เพื่อควบคุมดูแลกิจกรรมและกิจการต่าง ๆ ท้ังน้ี หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องควรมีการติดตามผลการดาเนินงาน ตามขอ้ บญั ญัติทอ้ งถิน่ ด้วย ๑๑) การจัดประชุมทางไกล (Video Conference) การเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพจาก PM ๒.๕ แก่สานักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ควรมีหน่วยงานที่เก่ียวข้องเข้าร่วมสังเกตการณ์เพื่อนาข้อสั่งการ จากกระทรวงสาธารณสุขไปปฏิบัติได้อย่างรวดเร็ว ๑๒) ควรกาหนดให้โรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจอยู่ในโรคหรือกลุ่มอาการตามท่ีกรมควบคุมโรค กาหนดแนวทางการสอบสวนเหตุการณ์ท่ีเก่ียวเนื่องกับมลพิษอากาศจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ไว้จานวน ๓ ประเภท ได้แก่ ๑) เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ๒) ผู้ป่วยโรคหอบหืด (Asthma) โรคปอด อุดก้ันเร้ือรัง (Chronic Obstructive Pulmonary Disease: COPD) และโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (Acute Coronary Disease: ACD) และ ๓) ผู้ปว่ ยกลมุ่ อาการ Allergy attack ๑๓) ควรกาหนดให้การตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) มีการตรวจวัดควันดา อย่างเข้มงวด ๑๔) ควรกาหนดให้โรงงานติดต้ังเคร่ืองตรวจวัดฝุ่นละออง PM ๒.๕ รวมท้ังมีมาตรการ ในการแก้ไขปัญหาหากโรงงานมีค่าฝ่นุ ละอองเกินเกณฑม์ าตรฐาน ๑๕) ควรส่งเสริมอาชีพในชุมชน โดยให้ชุมชนเป็นผู้ผลิตหน้ากากอนามัยในราคาที่ประชาชน สามารถเขา้ ถงึ ได้ ๑๖) กรมการขนส่งทางบกควรมีมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนประชาชน เพ่ือลดปัญหา ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ที่เกิดจากการเผาไหม้ท่ีไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ดีเซล เช่น การตั้งจุดบริการ ตรวจสภาพรถ เปน็ ตน้ ๑๗) หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องกับการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง PM ๒.๕ ควรดาเนินการ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพ่ิมเติม ๑๘) หน่วยงานภาครัฐควรมีการสนับสนุนให้ประชาชาชนสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ป้องกันตนเอง เชน่ หนา้ กากอนามัย เครอ่ื งกรองฝุน่ เปน็ ตน้ ในราคาท่ไี ม่แพง
๒๐ ๑๙) หน่วยงานภาครัฐหรือมหาวิทยาลัยควรมีการจัดทาและเผยแพร่ข้อมูลเก่ียวกับการใช้ หน้ากากอนามัยและผลการทดสอบหน้ากากอนามัยแบบอนามัยท่ีถูกต้องตามหลักวิชาการ เพ่ือให้ประชาชน มีความรู้ ความเข้าใจ ที่ถกู ต้องเกีย่ วกบั เร่ืองดงั กล่าว ๒๐) ภาครัฐควรมอบอานาจ สนับสนุนงบประมาณ และบุคลากร เพ่ือให้กับองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นสามารถบริหารจัดการเก่ียวกับเร่ืองของสถานีตรวจวัดสภาพอากาศ รวมท้ังการแจ้งเตือนภัย ให้แก่ประชาชนได้ ๒๑) ภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีนโยบายหรือแนวทางที่ชัดเจนเก่ียวกับเร่ือง ของการกาหนดระดับค่ามาตรฐานฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ตลอดจนมาตรการในการดาเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เช่น หากค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ มีระดับ เกินค่ามาตรฐานหรืออยู่ในภาวะวิกฤต ควรให้หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องสั่งปิดโรงเรียน หรือสั่งปิดสถานที่ก่อสร้าง หรือส่ังห้ามไม่ให้รถบรรทุกเข้ามาในเขตพื้นที่ชุมชนเมืองตามระยะเวลาที่กาหนด เพื่อลดปริมาณกิจกรรม ที่เป็นแหล่งกาเนิดในการก่อมลพิษทางอากาศ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาหรือคานึงถึง ความเหมาะสมของการดาเนินการในแต่ละพ้ืนท่ีประกอบด้วย เช่น ในเขตพื้นท่ีกรุงเทพมหานคร การส่ังปิด โรงเรียนหรือสถานท่ีก่อสร้างอาจช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ได้ แต่ในเขตพื้นท่ีต่างจังหวัด ซึ่งมีปัจจัยในการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ จากการเผาไหม้ในท่ีโล่งแจ้ง ไฟป่า หรือแหล่งกาเนิดอื่น การให้ประชาชนเข้ามาพักอาศัยอยู่ในห้องปลอดฝุ่นหรือพ้ืนที่ปลอดฝุ่น (Safety Zone) อาจจะเหมาะสมมากกว่า เปน็ ต้น ๒๒) ในการออกประกาศกาหนดพื้นท่ีควบคุมเหตุราคาญที่เกิดจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการกาหนดแนวทางหรือข้อปฏิบัติหรือการสั่งการที่ชัดเจนเกี่ยวกับการป้องกัน และแกไ้ ขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ เพอ่ื ให้เกดิ ความมีประสิทธภิ าพและประสิทธิผลในการปฏิบัตหิ น้าท่ี ๒๓) กรมอุตุนิยมวิทยาเป็นหน่วยงานของรัฐที่ยังไม่มีกฎหมายในระดับพระราชบัญญัติ ทีเ่ กยี่ วขอ้ งกบั การปฏิบัติหน้าท่ีขององค์กรโดยตรง ภาครฐั จงึ ควรใหค้ วามสาคญั ในเร่อื งดังกล่าว ๒๔) การบังคับใช้พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ และทแ่ี ก้ไขเพ่ิมเติม ในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ อาจจะไม่บรรลุวัตถุประสงค์มากนัก เน่ืองจากขอบเขตอานาจ ของกฎหมายดังกล่าวมีค่อนข้างจากัด หากบังคับใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพ่ิมเติม อาจได้ผลท่ีเป็นรูปธรรมมากกว่า โดยเฉพาะการประกาศเขตควบคุมมลพิษ ตามพระราชบญั ญัตดิ งั กล่าว ๒๕) คณะทางานปฏิบัติการข่าวสาร (IO) ๖ ด้าน ในส่วนของคณะทางานปฏิบัติการข่าวสาร ดา้ นเศรษฐกิจ ไม่มีโฆษกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ มอยู่ในคณะทางานดว้ ย ๒๖) กรมประชาสัมพันธ์หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการเพ่ิมข้อมูลข่าวสารและประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับเร่ืองสถานการณ์คุณภาพอากาศและการปฏิบัติตนเม่ือต้องรับมือกับปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ เช่น การแจ้งข่าวส้ันเก่ียวกับคุณภาพอากาศ วิธีการสวมใส่หน้ากากอนามัยท่ีถูกต้อง เป็นต้น รวมท้ังการประชาสัมพันธ์ข่าวสารโดยใช้สื่อต่าง ๆ ให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะประชาชน ในชุมชนท้องถ่ิน เช่น การประชาสัมพันธ์ผ่านวิทยุชุมชนหรือเสียงตามสาย เป็นต้ น เพื่อให้ประชาชน ไดร้ ับทราบขอ้ มูลอย่างเทา่ เทยี มกนั ๒๗) การไม่ยกเลิกประกาศพื้นที่ควบคุมเหตุราคาญ ก่อให้เกิดปัญหาการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าท่ีทีเ่ กีย่ วข้อง ๒๘) ควรมีการบูรณาการการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันเกี่ยวกับการชิงเผา ในพนื้ ท่ี ๙ จงั หวัดภาคเหนอื อยา่ งเป็นระบบ
๒๑ ๒๙) ควรกาหนดแผนปฏิบัติการเก่ียวกับการเผาไร่อ้อย ซ่ึงนับเป็นปัญหาสาคัญที่ส่งผลกระทบ ต่อการเกดิ ฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ๓๐) กรมควบคุมมลพิษควรมีข้อมูลเชิงวิชาการเก่ียวกับการติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพ ตามลักษณะพื้นที่ของแต่ละจังหวดั ๓๑) กรมควบคุมมลพิษควรมีการชี้แจงให้ชัดเจนว่าอุปกรณ์ตรวจวัดปริมาณฝุ่นประเภทใด ท่มี คี า่ เป็นมาตรฐาน ซง่ึ จะส่งผลใหเ้ กิดความเปน็ เอกภาพของขอ้ มูล ๓๒) กลไกการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติโดยอาศัยชุมชนเป็นฐาน (Community Based Disaster Risk Management: CBDRM) มีประโยชน์ต่อการดาเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง ขนาดเล็ก PM ๒.๕ ดงั น้นั องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ินควรเขา้ มามีสว่ นร่วมในกลไกดังกล่าว ๓๓) ควรมีมาตรการสนับสนุนทางเศรษฐกิจแก่ผู้ท่ีได้รับผลกระทบจากการมาตรการกาหนด เขตควบคุมห้ามเผาเพอื่ ลดปรมิ าณฝุน่ ละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ ๓๔) การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ควรดาเนินการในระยะยาว เน่ืองจากข้อจากัด ด้านอานาจหนา้ ทแี่ ละงบประมาณของหน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ ง ๓๕) หน่วยงานที่เก่ียวข้องควรสื่อสารความเส่ียงเรื่องการชิงเผาในช่วงวิกฤตให้ประชาชนรับรู้ และเข้าใจ ๓๖) สานกั งานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกจิ การโทรคมนาคมแห่งชาติ เป็นช่องทางการแจ้งเตือนภัยฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถเข้าถึงประชาชน ได้ทุกกลมุ่ ๓๗) สานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม แห่งชาติ ควรกาหนดมาตรการในการแจ้งเตือนภัยฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ร่วมกับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง เช่น หากค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ มีปริมาณเกิน ๕๐ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในช่วงระหว่าง ๒ - ๓ วัน จะต้องดาเนินการส่งข้อความข้อความสั้น (Short Message Service: SMS) เพ่ือแจ้งเตือนภัย ใหป้ ระชาชนมีวธิ ีการปฏบิ ัตติ นทถ่ี กู ต้อง เช่น จดั หาหนา้ กากอนามัย และงดกจิ กรรมกลางแจง้ เปน็ ต้น ๓๘) สานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ประกอบด้วยสานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติภาค และสานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติเขต ท่กี ระจายตัวอยตู่ ามพืน้ ทต่ี า่ ง ๆ ซ่งึ สามารถใช้เปน็ ชอ่ งทางในการประชาสัมพันธแ์ ละแจ้งเตือนภัยได้ ๓๙) สมาชิกใน Line Official ของสานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ มีจานวนมาก ดังนั้น ช่องทางดังกล่าวสามารถเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ในการแจ้งเตอื นภัยฝ่นุ ละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ ๔๐) หากสานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม แห่งชาติ สามารถดาเนินการแจ้งเตอื นภัยฝุน่ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ให้แก่ประชาชนได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ยอ่ มเป็นแนวทางและมาตรการการแจ้งเตอื นภยั ในอนาคตกรณีเกิดภัยพบิ ัติอ่นื ๆ ๔๑) สานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ควรทาข้อตกลงร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ เกี่ยวกับมาตรการในการแจ้งเตือนภัยฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ กรณคี ่าฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ เกนิ เกณฑม์ าตรฐาน ๔๒) มาตรการเชิงรุกในการแจ้งเตือนภัยฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ทเี่ กิดประโยชน์แก่ประชาชน คือ การแจ้งเตือนภัยผ่านช่องทางการส่งข้อความสั้น (Short Message Service: SMS) โดยเชื่อมโยงกับค่าฝุ่นละออง
๒๒ ขนาดเล็ก PM ๒.๕ และเบอรโ์ ทรศัพท์ในแต่ละพื้นที่ เน่อื งจากคา่ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ของแต่ละพ้ืนที่ มีปริมาณไม่เท่ากัน ดังนั้น หากเป็นการแจ้งเตือนภัยผ่านการส่งข้อความข้อความส้ัน (Short Message Service: SMS) แบบเดียวกันทั้งประเทศ อาจทาให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก ๓.๓ การเสนอความเห็นเก่ียวกับปญั หา อปุ สรรค แนวทางการแก้ไข และขอ้ เสนอแนะต่าง ๆ ๑) มาตรการเชิงนโยบายตามแผนปฏิบัติการขับเคล่ือนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหา มลพิษด้านฝุ่นละออง” ในระยะสั้น (พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๔) และระยะยาว (พ.ศ. ๒๕๖๕ - ๒๕๖๗) ยังไม่มี ความชัดเจน มาตรการเชิงนโยบายตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษ ด้านฝุ่นละออง” ในระยะส้ัน (พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๔) และระยะยาว (พ.ศ. ๒๕๖๕ - ๒๕๖๗) ท้ังมาตรการ การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเชิงพ้ืนที่ มาตรการการป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง (แหล่งกาเนิด) เช่น การควบคุมและลดมลพิษจากการเผาในที่โล่ง การควบคุมและลดมลพิษจากการก่อสร้าง และผังเมือง การควบคุมมลพิษจากภาคอุตสาหกรรม และการควบคุมมลพิษจากภาคครัวเรือน เป็นต้น รวมทั้งการปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ท่ีเปลี่ยนแปลงไป กาหนดแต่เพียงระยะเวลา ที่ควรดาเนินการ หน่วยงานรับผิดชอบหลัก และหน่วยงานรับผิดชอบสนับสนุนเท่าน้ัน แต่ยังไม่มีรายละเอียด หรือขน้ั ตอนในการปฏิบตั ิและแผนปฏบิ ัติการ (Action Plan) ท่ชี ัดเจนเพยี งพอ ทาให้การปฏบิ ตั ิการในเชิงพื้นที่ ขาดรูปธรรม ส่งผลให้มาตรการเชิงนโยบายดังกล่าวไม่มีประสิทธิภาพและไม่ประสบความสาเร็จตามวัตถุประสงค์ ท่ีตั้งไว้ พร้อมกันน้ีตัวช้ีวัดที่กาหนดในแผนปฏิบัติการไม่สอดคล้องกับปัญหาในพื้นท่ี ดังนั้น การแก้ไขปัญหา ทั้งในระยะส้ันและในระยะยาวต้องมีรายละเอียดของขั้นตอนการดาเนินงานและตัวช้วี ดั ทช่ี ัดเจนในการผลักดัน ให้กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และจังหวัดต่าง ๆ เป็นพ้ืนท่ีปลอดฝุ่น โดยผลักดันการปรับปรุงมาตรฐาน การระบายไอเสียรถยนต์และคุณภาพน้ามันเชื้อเพลิง สนับสนุนการพัฒนาโครงข่ายการให้บริการขนส่ง สาธารณะให้เช่ือมโยงทุกระบบ รวมทั้งรณรงค์ส่งเสริมและจูงใจให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ โดยเพ่ิมทางเลือกการเดินทางแทนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งมวลชนทางราง ดว้ ยการพัฒนาพื้นท่ีรอบสถานีรถไฟฟ้าใหม้ ีประสิทธิภาพมากย่ิงข้ึน เพ่ือช่วยลดระยะการเดนิ ทาง ลดการใช้พลังงาน และลดมลพิษ และเพ่ิมพื้นท่ีสีเขียวในกรุงเทพหานครจากปัจจุบัน ๖.๗๑ ตารางเมตรต่อคน เป็น ๑๐ ตารางเมตร ต่อคน ภายในปี พ.ศ. ๒๕๗๓ และควบคุมกาลังการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งการเผาในท่ีโล่ง ทั้งในพื้นท่ีเกษตรและพ้ืนท่ีป่า ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชนและการขยายเครือข่าย ก า ร ต ร ว จ วั ด คุ ณ ภ า พ อ า ก า ศ ร ว ม ถึ ง ข้ อ มู ล ก า ร ต ร ว จ วั ด โ ด ย ป ร ะ ช า ช น โ ด ย ใ ช้ น วั ต ก ร ร ม ที่ ทั น ส มั ย ท้ังนี้ ส่วนราชการที่เก่ียวข้อง โดยเฉพาะอย่างย่ิงกระทรวงการคลงั ควรสนับสนุนให้มีมาตรการจูงใจท่ีก่อให้เกิด ประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่ประชาชนเพ่ือปรับเปล่ียนพฤติกรรมการก่อมลพิษ เช่น การให้สิทธิประโยชน์ ทางภาษีทางการเงินหรอื การลงทนุ เป็นต้น ๒) ไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบหลักท่ีสามารถบูรณาการการทางานร่วมกับหน่วยงานอื่น ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ กรมควบคุมมลพิษมีอานาจทางกฎหมายจากัดแต่เพียงการเสนอความเห็นทางวิชาการ เพือ่ สนับสนนุ ภารกจิ ของคณะกรรมการควบคุมมลพษิ และคณะกรรมการสงิ่ แวดล้อมแห่งชาติ โดยกรมควบคุมมลพิษ ทาหน้าที่เป็นเพียงจุดศูนย์กลางและผู้ประสานงานในการแจ้งข้อมูลสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ และประสานให้หน่วยงานปฏิบตั ิดาเนินการเท่านั้น ซงึ่ ยังไมส่ ามารถจัดการปัญหาฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕
๒๓ ในชว่ งท่ีเกินค่ามาตรฐานหรือเกิดวิกฤตหรือจัดการตามแผนท้ังในระยะส้ันและระยะยาวได้เต็มประสิทธิภาพมากนัก ซึ่งต่างจากในประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกามีองค์กรพิทักษ์ส่ิงแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา (United States of Environmental Protection Agency: US EPA) สาธารณรัฐประชาชนจีนมีหน่วยงานดูแล กฎหมายอากาศสะอาด หรือแม้แต่สาธารณรัฐเกาหลยี ังออกกฎหมายฉุกเฉินด้านสิง่ แวดล้อม คือ หากประกาศ ให้ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ เป็นภัยธรรมชาติท่ีมีผลกระทบต่อสังคมแล้ว หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม ท่ีเป็นเจ้าภาพหลักซึ่งขึ้นต่อประธานาธิบดีโดยตรงสามารถประกาศสั่งการให้แก้ไขปัญหาได้ทันทีหรือสั่งการ ให้สามารถด าเ นิน ก าร ต าม แผ น ทั้ง ร ะย ะ สั้น และระยะยาวโดยไม่ต้ องรอให้ หน่วยงานปฏิบัติมาด าเนิ นการ (Social disaster: South Korea brings in emergency laws to tackle dust pollution) เชน่ สั่งหยดุ การกอ่ สร้าง บนถนน ส่ังหยุดการเผาในท่ีโล่งทุกประเภท สั่งโรงงานลดกาลังการผลิต ส่ังห้ามรถยนต์ควันดาวิ่งเข้าเมือง และส่ังลดปริมาณรถยนต์ว่ิงในเมืองโดยกาหนดวันคู่วันคี่ เป็นต้น ท้ังนี้ ประเทศไทยมีพระราชบัญญัติป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. ๒๕๕๐ ซ่ึงสามารถประกาศให้สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ที่มีค่าเกินเกณฑ์มาตรฐานเป็นภัยธรรมชาติ และสามารถนาวิธีการจัดการต่าง ๆ มาใช้ได้โดยอาศัยอานาจ ของผู้ว่าราชการจังหวัด แต่อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันยังไม่มีจังหวัดใดประกาศเขตพ้ืนท่ีประสบสาธารณภัย เกี่ยวกับปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ โดยใช้อานาจตามกฎหมายดังกล่าว เน่ืองจากอาจส่งผลกระทบ ต่อการท่องเที่ยวและการถูกฟ้องจากภาคเอกชน หรือแม้แต่พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม ซึ่งเป็นกฎหมายที่สามารถใช้เป็นมาตรการในการดูแลประชาชนให้มีสุขอนามัยที่ดี ก็ยังไม่สามารถบังคับใช้ให้มีประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ ดังนั้น แม้จะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบหรือมีกฎหมาย หลายฉบบั ท่ีใช้แก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ กต็ าม แตย่ งั คงขาดหน่วยงานกลางซ่ึงเป็นหน่วยงานหลัก ท่ีจะดูแลรับผิดชอบปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ดังน้ัน คณะกรรมาธิการจึงมีความเห็นว่า ควรมีหน่วยงานที่คอยกากับดูแลการปฏิบัติการให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ๓) ระบบการวัดค่าและการพยากรณ์คุณภาพอากาศของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ยงั ไม่ชัดเจนและไมแ่ ม่นยา ปัจจุบันการวัดค่าและการพยากรณ์คุณภาพอากาศของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ประชาชนสามารถติดตามได้หลากหลายช่องทาง เช่น หน่วยงานทางราชการอย่างกรมควบคุมมลพิษ หน่วยงานทางภาคเอกชนผ่านชอ่ งทางแอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น AirVisual AirCMI และยักษ์ขาววัดฝุ่น เป็นต้น หรือแม้แต่การวัดค่าผ่านเคร่ืองวัดฝุ่นละอองแบบพกพา โดยแต่ละช่องทางมีการวัดค่าหรือพยากรณ์คุณภาพอากาศ ซ่ึงอาจจะแตกต่างกัน โดยการติดตามการวดั ค่าและการพยากรณ์คุณภาพอากาศฝุ่นละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ ของหน่วยงานเอกชนผ่านช่องทางแอปพลิเคชันมีการนาเสนอข้อมูลแบบอ่านผลทันที (Real Time) ขณะที่กรมควบคุมมลพิษมีการกาหนดค่ามาตรฐานฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ค่าเฉลี่ย ๒๔ ชั่วโมงย้อนหลัง และแม้ว่ากรมควบคุมมลพิษจะมีการประยุกต์ใชแ้ บบจาลองทางคณิตศาสตร์เพื่อพยากรณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ควบคู่กับข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา แต่ก็ยังเกิดปัญหาด้านความชัดเจนและความแม่นยา เพราะภารกิจหลักของกรมอุตุนิยมวิทยามีอานาจหน้าที่เกี่ยวกับพยากรณ์อากาศ ดังนั้น อุปกรณ์และเครื่องมือ ของหน่วยงานจึงนามาใช้เพ่ือการพยากรณ์อากาศเท่านั้น ไมไ่ ด้ใช้เพ่ือการพยากรณ์ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ท่ีจะเกิดขึ้นล่วงหน้า แต่ถ้าจะใช้พยากรณ์ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ จะต้องเป็น เสาวัดทิศทางและความเร็วลมที่มีความสูงอย่างน้อย ๑๐ เมตร ข้ึนไป โดยตรวจวัดทุก ๑ ชั่วโมง รวมท้ังต้องติดต้ังเครื่องมือตรวจวัดความสูงของภาวะอุณหภูมิผกผัน (Temperature Inversion) หรือค่าความสูง
๒๔ ผสมของอากาศ (Mixing Height) ซึ่งจะทาให้การนาข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยาไปประกอบการพยากรณ์ ของกรมควบคุมมลพษิ มคี วามแมน่ ยามากยิ่งขึน้ คณะกรรมาธิการเห็นว่า การดาเนินงานพยากรณ์คุณภาพอากาศฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ปัจจุบันได้มีการบูรณาการของหน่วยงานมากข้ึน เช่น จังหวัดเชียงใหม่ได้เปิดตัว Application AirCMI ซ่ึงเป็นผลผลิตของนักวิจัยในจังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้เคร่ืองมือท่ีทาการตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบอ่านผลทันที (Real Time) เพื่อแจ้งเตือนปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ไปยังโทรศัพท์มือถือของประชาชนได้ทันที และทาการคาดการณล์ ว่ งหน้าสง่ ไปยงั โทรศัพทม์ ือถือของประชาชนในจังหวัด จะเห็นได้ว่าข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศสามารถเข้าถึงได้จากหลายแหล่งข้อมูล ทาให้เกิดความสับสนในสังคมและส่งผลให้ภาครัฐไม่สามารถนาข้อมูลที่หลากหลายดังกล่าวมาใช้ประกอบ การตัดสินใจในการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นเอกภาพ ภาครัฐโดยเฉพาะกรมควบคุมมลพิษ จงึ ควรเป็นเจ้าภาพหลักในการทาการวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์หรือดาเนนิ การรว่ มกับภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ แบบอ่านผลทันที (Real Time) รวมท้ังกาหนดค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ และต้องผสานข้อมูลที่หลากหลายให้เป็นระบบ เพื่อประโยชน์ในการดาเนินการตามนโยบายและกฎหมายในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ และเป็นแนวทางในการแจ้งเตือนประชาชนเพื่อให้ประชาชนป้องกันตัวเองหรือออกห่างจากพ้ืนท่ีท่ีมีปริมาณ ฝุ่นสูงตอ่ ไป ๔) ควรกาหนดมาตรฐานท่อี ้างอิงจากขอ้ มูลเชิงสุขภาพ (AQHI: Air Quality Health Index) เนื่องจากปัจจุบันกรมควบคุมมลพิษได้กาหนดมาตรฐานฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ สาหรับภาพรวมในทุกมิติ ท้ังด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ โดยไม่ได้เน้นการป้องกันสุขภาพ เป็นหลัก ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจึงควรกาหนดมาตรฐานด้านสุขภาพของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ เพอ่ื ใชใ้ นการแจง้ เตือนประชาชนในการปอ้ งกันสุขภาพของตัวเอง ๕) มาตรการการจัดการลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ จากการคมนาคม (๑) ส่งเสริมการใชน้ วัตกรรมในการจับรถควนั ดาบนท้องถนน เนื่องจากปัจจุบันรถขนาดเล็กและรถขนาดใหญ่ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลมักมีอายุการใช้งาน เป็นระยะเวลานานและมกี ารบรรทุกน้าหนกั มากกว่าที่กาหนดไว้ ประกอบกบั ขาดการบารงุ รักษา ทาใหร้ ถยนต์เหล่าน้ี มีปริมาณควันดาสูงเกินกว่าค่ามาตรฐานหลายเท่าตัว แม้ว่าจะมีมาตรการจากัดอายุการใช้งานของรถโดยสาร ประจาทางขององค์การขนสง่ มวลชน กรงุ เทพ (ขสมก.) และรถโดยสารสาธารณะ แต่กไ็ ม่สามารถครอบคลุมรถ เครอ่ื งยนต์ดีเซลทั้งหมดบนท้องถนน ซง่ึ การตรวจสภาพรถและการตรวจจบั บนท้องถนนทดี่ าเนนิ การในปัจจุบัน มีข้อจากัดและไม่มีประสิทธิผล แต่ด้วยเทคโนโลยีการบันทึกภาพอัจฉริยะที่สามารถพัฒนานามาใช้ร่วมกับ กล้องวงจรปิด (Close Circuit Television: CCTV) ของกรุงเทพมหานคร จะช่วยในการตรวจจับรถควันดา ได้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากกว่า ดังน้ัน จึงควรนาแนวคิดดังกล่าวมาพิจารณาในการตรวจจับควันดา จากรถเครื่องยนต์ดีเซลต่อไป (๒) เร่งรัดการใช้มาตรฐาน Euro ๕ - ๖ และทดแทนรถเก่าด้วยรถมาตรฐาน Euro ๕ - ๖ เน่ืองจากการทดแทนรถเก่าด้วยรถมาตรฐานใหม่ต้องใช้ระยะเวลานานโดยเฉพาะ กับรถเครื่องยนต์ดีเซลขนาดใหญ่ (รถโดยสารและรถบรรทุก) ซ่ึงการเร่งรัดการใช้มาตรฐาน Euro ๕ - ๖ และทดแทนรถเก่าด้วยรถมาตรฐาน Euro ๕ - ๖ จะทาให้สามารถลดปริมาณการระบายมลพิษได้อย่างรวดเร็วข้ึน และยังเกิดประโยชน์ต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน จึงนับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ข้อเท็จจริงประเทศไทย
๒๕ ประกาศใช้นา้ มันและมาตรฐานไอเสยี รถยนตเ์ ปน็ ระดับ Euro ๔ ซงึ่ มปี ริมาณกามะถนั ในนา้ มนั ไม่เกนิ ๕๐ ส่วน ในล้านสว่ นตั้งแต่ปี ๒๐๑๒ แต่ในสภาพความเปน็ จริงแล้วทั้งรถเมล์ รถบสั นาเท่ียว และรถบรรทุกท่วี ่ิงกันเต็มเมือง เหล่าน้ี ส่วนใหญ่ยังเป็นเคร่ืองยนต์ระดับ Euro ๓ ดังนั้น หากไม่มีการดูแลรักษาเคร่ืองยนต์ที่ดีก็จะทาให้มี การปล่อยควันดาออกมามากทุกครั้งที่ทาการเร่งเครื่องยนต์ถึงแม้จะใช้น้ามันประเภท Euro ๔ ก็ตาม ในสาธารณรัฐสิงคโปร์ได้ประกาศใชน้ า้ มนั และมาตรฐานไอเสียระดบั Euro ๖ ซ่งึ มคี า่ กามะถันในน้ามันน้อยมาก รวมท้ังป๊ัมน้ามันหลายแห่งในประเทศมาเลเซียมีการจาหน่ายน้ามันดีเซล Euro ๕ (กามะถันในน้ามันไม่เกิน ๑๐ ส่วน ในล้านส่วน) ส่วนประเทศที่พัฒนาแล้วเช่น ประเทศญี่ปุ่น ประเทศสหรัฐอเมริกา และเครือรัฐออสเตรเลีย ต่างก็ใช้น้ามันและมาตรฐานไอเสียระดับ Euro ๖ มานานหลายปีแล้ว จึงไม่ค่อยพบเห็นควันดาจากรถ เครื่องยนต์ดเี ซลในประเทศเหลา่ น้ี (๓) เร่งรัดให้รถเครื่องยนต์ดีเซลติดต้ังอุปกรณ์กาจัดควันดา เช่น ระบบ Diesel Particulate Filter หรือ DPF Diesel Particulate Filter หรือ DPF คือ อุปกรณ์กรองเขม่าไอเสียท่ีสามารถดักจับ เขม่าควันต่าง ๆ โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็ก (Particulate Matter) ท่ีเกิดจากการเผาไหม้ในเครื่องยนต์ ดีเซลไม่ให้ปล่อยออกไปสู่อากาศได้โดยเป็นอุปกรณ์ที่ติดอยู่หลังห้องเผาไหม้ก่อนถึงท่อไอเสียซึ่งภายใน DPF จะมีตัวแผ่นกรองลักษณะเป็นช่องคล้ายรังผึ้ง โดยเป็นช่องรูพรุนที่เล็กมากซ่ึงจะยอมให้ผ่านได้เฉพาะอากาศ เท่านนั้ สว่ นเขมา่ ควันท่ีมีอนุภาคใหญ่กว่าอากาศจะถูกดักเก็บไว้ รฐั บาลสาธารณรฐั ประชาชนจีนไดส้ ง่ั การใหร้ ถยนต์ บรรทุกขนาดใหญ่ท่ีใช้เครื่องยนต์ดีเซลท่ีจดทะเบียนหลังเดือนกรกฎาคม ๒๐๒๑ ต้องเปล่ียนเป็นเคร่ืองยนต์ Euro ๖ และต้องติดตั้งอุปกรณ์ดักฝุ่นที่เรียกว่า \"Diesel Particulate Filter หรือ DPF\" ทุกคัน ซ่ึงคาดว่า จะทาให้สาธารณรัฐประชาชนจีนในปี ๒๐๓๐ สามารถลดปริมาณฝ่นุ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ และก๊าซไนโตรเจน ไดออกไซด์ในบรรยากาศลงได้ถึงร้อยละ ๘๒ และ ๘๖ ตามลาดับ โดยจะสามารถลดอัตราการเสียชีวิตก่อนวัย ของประชาชนเน่ืองจากมลพิษทางอากาศได้ถึง ๒๙,๐๐๐ คนต่อปี ซึ่งประเทศไทยยังมีการดาเนินการช้ากว่า ประเทศเพื่อนบ้านท่ีมีรายได้ระดับเดียวกันเสมอดังเช่น น้ามันประเภท Euro ๕ จะผลิตมาใช้ได้ก็คงรอถึง ต้นปี ๒๐๒๒ ท้ังยังต้องจัดการกับรถบรรทุกและรถบัสเคร่ืองยนต์ดีเซลที่ไม่ได้มาตรฐานอีกจานวนมาก โดยเฉพาะรถที่จดทะเบียนในกรุงเทพมหานครจานวนประมาณ ๑๘๗,๐๐๐ คัน นอกจากนี้ อุปกรณ์กาจัดควันดา เช่น ระบบ Diesel Particulate Filter หรือ DPF ยังได้รับการกล่าวถึงน้อยมาก ดังน้ัน ภาครัฐควรมีบทบาท และมาตรการเชิงบวกในการสนับสนุนให้ประชาชนติดตั้งระบบ Diesel Particulate Filter หรือ DPF หรือเทียบเท่า และกาหนดมาตรการสาหรับรถใหม่ให้ติดต้ังเป็นมาตรฐาน เพ่ือลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ อยา่ งย่งั ยนื สาหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ในเขตกรุงเทพมหานคร และเมืองใหญ่อาจจะดาเนินการขยายพ้ืนท่ีห้ามรถบรรทุกเข้ามาในเส้นทางวงแหวนรอบนอก โดยระยะยาว จะต้องกาหนดมาตรการห้ามรถบรรทุกเข้าเมืองในเขตชั้นใน ซ่ึงมีวัตถุประสงค์ในการลดมลพิษท้ังทางตรง คือ ลดไอเสียจากรถบรรทุก และผลทางอ้อม คือ ลดความคับคั่งของการจราจร การขยายพื้นที่ห้ามรถบรรทุก เข้ามาในเส้นวงแหวนรอบนอกมีปัจจัยรองรับคือสถานีขนส่งสินค้าชานเมือง ๔ มุมเมือง แต่จะต้องมีการปรับปรุง ระบบโลจิสติกส์ในการนาสินค้าไปถึงร้านค้าและผู้บริโภค โดยมีมาตรการสนับสนุน ได้แก่ ผังการใช้ประโยชน์ ท่ีดินท่ตี ้องกระจายจุดขนถ่ายสินคา้ ออกไปชานเมือง และการใชร้ ถปลอดมลพิษในการขนส่งภายในเมือง
๒๖ ๖) สง่ เสรมิ การเดินทางดว้ ยระบบขนสง่ มวลชนในพ้ืนทท่ี ั่วประเทศโดยรัฐเปน็ ผสู้ นับสนนุ ระบบขนส่งมวลชน ได้แก่ รถโดยสารประจาทาง ขนส่งมวลชนระบบราง (การรถไฟฟ้า ขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย และรถไฟฟ้าบีทีเอส) และอื่น ๆ เป็นทางเลือก ในการเดินทางที่ช่วยลดมลพิษ และมีผลกระทบทางอ้อมในการลดความคับคั่งของการจราจร ซ่ึงจะช่วย ลดมลพิษด้วย แต่การใช้บริการระบบขนส่งมวลชนอาจไม่สะดวก ไม่ปลอดภัย ใช้เวลานาน ค่าโดยสาร อาจมีราคาสงู และใหบ้ ริการไม่ครอบคลุมท้ังประเทศ ดังนัน้ รัฐควรสร้างแรงจูงใจเพื่อสง่ เสริมการขนส่งมวลชน ด้วยวิธีการต่าง ๆ รวมถึงการสนับสนุนด้านการเงิน เช่น ลดราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้า หรือจัดบริการรถโดยสาร สาธารณะฟรีแก่ประชาชน หรือลดราคาค่าจอดรถบริเวณสถานีรถไฟฟ้าในช่วงเกิดวิกฤตฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ และควรมีการจัดสรรพ้ืนท่ีจอดรถในบริเวณสถานีมากยิ่งขึ้น พร้อมท้ังขยายโครงข่ายระบบราง และรถโดยสารประจาทางท่ีใชพ้ ลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) ใหค้ รอบคลมุ ทั้งประเทศ ๗) เขม้ งวดการเผาในท่โี ล่งและการเผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร สืบเน่ืองจากการเผาในพื้นท่ีโล่งเป็นปัจจัยหลักที่ทาให้เกิดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ปกคลุมท่ัวทั้งพ้ืนท่ีภาคเหนือของประเทศไทยและพื้นท่ีอ่ืน ๆ เช่น การเผาอ้อยในพ้ืนที่ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การเผาในพน้ื ท่ีป่าเพ่ือเตรียมพื้นท่ีเพาะปลูกพชื เชิงเด่ียว (ข้าวโพด) ในพืน้ ท่ภี าคเหนือ ของประเทศไทย ตลอดจนการเผานาข้าวหลังการเก็บเกี่ยวในทุกพื้นที่ ดังนั้น รัฐควรมีมาตรการเข้มงวด ตอ่ กรณกี ารเผาในทโี่ ล่งและการเผาของเสียจากเกษตรกรรมเป็นแหลง่ กาเนิดที่สาคัญของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ทั้งน้ี หน่วยงานภาครัฐควรแนะนาและกากับให้มีทางเลือกในการจัดการกับของเสียจากเกษตรกรรม โดยดาเนินการร่วมกับบุคลากรภาคเกษตรกรรม เช่น ท่ีผ่านมารัฐบาลโดยสานักงานคณะกรรมการอ้อย และน้าตาลทรายยังกาหนดให้โรงงานน้าตาลรับอ้อยไฟไหม้เข้าโรงงานได้ ร้อยละ ๕๐ โดยจะหักเงินค่าปรับ ๓๐ บาทต่อตัน ซ่ึงจะเกิดการเผาไร่อ้อยประมาณ ๖ ล้านไร่ (ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันตก ซึ่งมีโรงงานนา้ ตาลทรายจานวน ๕๒ แห่ง จากจานวน ๕๗ แห่ง) โดยอ้อยไฟไหม้เม่ือตัดแลว้ ตอ้ งเขา้ หบี ออ้ ยภายใน ๒ วัน ไมเ่ ชน่ นัน้ ความหวานจะลดลงมาก ดงั นน้ั จะเหน็ ว่าในเดอื นมกราคมถงึ กลางเดือน กุมภาพันธ์จะเกิดการเผาไร่อ้อยจานวนมากที่จังหวัดกาแพงเพชร จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดราชบุรี จังหวัดนครปฐม จังหวัดอยุธยา จังหวัดชลบุรี จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดสระแก้ว จังหวัดขอนแก่น จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดอ่างทอง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เป็นต้น ซึ่งกรณีดังกล่าวทาให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ท่ัวประเทศ และรัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนเร่ืองน้ี ดังน้ัน ในอนาคตหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องควรบริหารจัดการ และออกกฎระเบียบให้ชัดเจนโดยไม่ให้โรงงานอุตสาหกรรมผลิตน้าตาลทรายรับซื้ออ้อยที่เกิดจากการเผา นอกจากนี้ ต้องมีมาตรการเข้มงวดที่ไม่ก่อให้เกิดการเผาขยะ เผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรทั้งในเขต กรุงเทพมหานคร ปรมิ ณฑล และในเขตเมอื งของจงั หวัดตา่ ง ๆ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย ควรให้ความสาคัญ ในการป้องกันปัญหาไฟป่าในพ้ืนท่ีอนุรักษ์และมีมาตรการจัดการไฟป่าอย่างทันท่วงที โดยมีเป้าหมาย เพ่ือลดและปอ้ งกันการเพิม่ ขน้ึ ของจดุ ความร้อน (Hotspot) ในพ้นื ที่อนุรักษ์อยา่ งเป็นรปู ธรรม ท้ังนี้ เพือ่ วตั ถปุ ระสงค์ ในการแก้ไขปญั หาฝุน่ ละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ ณ แหล่งกาเนดิ มลพิษ
๒๗ ๘) สร้างความเข้าใจและส่งเสริมให้ประชาชนเกิดความตระหนักในการป้องกันและแก้ไข ปัญหาฝุน่ ละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ ภาครัฐควรเร่งเผยแพร่ข้อมูลแก่ประชาชนและรับฟังข้อคิดเห็นความสนใจของประชาชน ต่อภาวะมลพิษอากาศ ดังปรากฏเม่ือต้นปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ซ่ึงเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่บ่งช้ีถึงความสนใจ ต่อสภาวะแวดล้อมของคนช้ันกลางรุ่นใหม่ประกอบกับการเข้าถึงส่ืออิเล็กทรอนิกส์และข้อมูลจากต่างประ เทศ เป็นแรงผลักดันให้หน่วยงานราชการต้องให้ความสาคัญต่อการเผยแพร่ข้อมูลแก่ประชาชนอย่างเท่าเทียม และไมน่ อ้ ยกวา่ ช่องทางสื่ออ่ืน ๆ เพ่อื สร้างความเข้าใจท่ีถกู ต้องและสร้างความตระหนักรใู้ ห้ประชาชนมสี ่วนร่วม ในการปรับปรุงคุณภาพอากาศ รวมท้ังต้องเร่งขยายเครือข่ายการตรวจวัดคุณภาพอากาศ โดยรวมข้อมูล การตรวจวัดจากประชาชนและใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วย เนื่องจากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศมีจานวนจากัด อาจไมอ่ ยู่ในพ้นื ท่ีทีป่ ระชาชนให้ความสนใจ ประกอบกับปัจจุบนั มเี คร่ืองวัดคุณภาพอากาศราคาถูกที่ประชาชน สามารถหาซ้ือมาใช้ได้ ดังน้ัน หน่วยงานของรัฐควรมีมาตรการในการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจวัด มลพิษอากาศ โดยให้ข้อแนะนาเกี่ยวกับการซ้ือและการใช้อุปกรณ์ รวมท้ังการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล จากอุปกรณ์ ๙) การประชาสมั พนั ธ์หรอื การสอื่ สารถงึ อันตรายของฝุ่นละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ การประชาสัมพันธ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ยังมีรูปแบบที่เป็นทางการ มากจนเกินไป ซ่ึงยังไม่กระตุ้นหรือจูงใจให้ประชาชนเกิดความตระหนักมากขึ้น ขณะเดียวกันประชาชน เร่ิมเคยชนิ กับสถานการณฝ์ ุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ หน่วยงานจงึ ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการสื่อสารความเสี่ยง ที่จะมีผลกระทบต่อสุขภาพท้ังระยะส้ันและระยะยาวให้ชัดเจน เพื่อทาให้ประชาชนเกิดความตระหนัก ซึ่งกรมประชาสัมพันธ์ต้องเข้ามามีบทบาทมากข้ึน ดังน้ัน ควรกาหนดให้มีการแจ้งเตือนและคาดการณ์ สถานการณฝ์ นุ่ ละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ ในสอ่ื ตา่ ง ๆ พร้อมกบั การพยากรณอ์ ากาศของกรมอุตนุ ยิ มวิทยาด้วย นอกจากนี้ ปัญหาและแนวทางการป้องกันตนเองจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ควรถูกบรรจุไว้ในหลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน เพื่อให้เยาวชนได้ตระหนักรู้และเข้าใจถึงภัยสิ่งแวดล้อม รปู แบบใหม่ ๆ รวมถึงฝุน่ ละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ ดว้ ย ๑๐) ประชาสมั พันธ์การใสห่ นา้ กากอนามัยและเร่งการวิจัยและพฒั นาหนา้ กากอนามัย หนว่ ยงานภาครฐั กระทรวงสาธารณสขุ และกรมประชาสมั พันธ์ ควรเรง่ สร้างการรับรใู้ ห้ประชาชน ทั่วไปในการสวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี และควรมีทางเลือกของขนาดและชนิดของหน้ากากอนามัย ให้มีความเหมาะสมกับสรีระของประชาชนทุกเพศทุกวัย และภาครัฐควรจัดให้มีการผลิตหน้ากากอนามัย ให้เพียงพอต่อความต้องการ และประชาชนสามารถเข้าถึงได้ในราคาที่เป็นธรรม เนื่องจากปัจจุบัน หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ โดยเฉพาะ N ๙๕ มีราคาค่อนข้างแพงและมักจะขาดตลาด โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตของการเกิดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ท่ีมีค่าสูงเป็นเวลาหลายวัน ทาใหก้ ารเขา้ ถงึ หน้ากากป้องกนั ฝุ่นละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ ของประชาชนที่มีรายไดน้ ้อยเป็นไปไดย้ าก ๑๑) เรง่ การวจิ ยั และพัฒนาพ้ืนท่ีปลอดฝนุ่ หรือหอ้ งปลอดฝุ่น (Safety Zone) กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข สถาบันวิชาการ และมหาวิทยาลัย ควรมีการวิจัย และพัฒนากาหนดมาตรฐานของพ้ืนที่ปลอดฝุ่นหรือห้องปลอดฝุ่น (Safety Zone) เพ่ือเป็นสถานท่ีหลบภัย ในกรณีที่มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ สูง เป็นเวลาติดต่อกันหลายวัน โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข ตอ้ งเรง่ พฒั นาวิจัยหาวสั ดุราคาถูกในประเทศมาใช้เป็นวสั ดจุ ัดทาพ้ืนที่ปลอดฝนุ่ หรือห้องปลอดฝุน่ (Safety Zone) ท่ีมีประสิทธิภาพ และมอบหมายให้กรมอนามัยกาหนดมาตรฐานในการป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ รวมทั้งกาหนดมาตรฐานพื้นท่ีปลอดฝุ่นหรือห้องปลอดฝุ่น (Safety Zone) เพื่อนาไปออกแบบใช้กับสถานท่ี
๒๘ ต่าง ๆ ต่อไป และควรกาหนดให้มีพื้นท่ีปลอดฝุ่นหรือห้องปลอดฝุ่น (Safety Zone) ในองค์กรปกครอง สว่ นทอ้ งถ่ินต่าง ๆ เพือ่ ใหป้ ระชาชนในชมุ ชนไดใ้ ชป้ ระโยชน์ดังกล่าว ๑๒) เร่งติดตั้งสถานีตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ในบรรยากาศให้ครอบคลุม พน้ื ท่เี ส่ียงทว่ั ประเทศ กรมควบคุมมลพิษเป็นหน่วยงานหลักในการติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดคุณภาพอากาศ ในบรรยากาศท่วั ประเทศและรายงานผลการตรวจวัดใหป้ ระชาชนทราบ แตข่ อ้ เท็จจริงสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ในบรรยากาศโดยเฉพาะการตรวจวัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ยังไม่ครอบคลุมทุกพ้ืนท่ี โดยส่วนใหญ่ ร้อยละ ๘๐ จะติดต้ังในเขตกรุงเทพมหานคร แต่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกลับมีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ เพียงจานวน ๔ แหง่ เท่าน้ัน รวมถึงภาคกลางและภาคตะวันตกซึ่งมีเพียงจานวน ๖ แหง่ ดงั นัน้ กรมควบคุมมลพิษ หรือท้องถิ่นต่าง ๆ ควรขยายการติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ให้ครอบคลุมพื้นท่ี ที่มีความเส่ยี งท่วั ประเทศเป็นการเร่งด่วนต่อไป ๔. ข้อสงั เกตของคณะกรรมาธกิ าร ๑) หนว่ ยงานหลกั ทร่ี ับผดิ ชอบดา้ นการป้องกนั และแกไ้ ขปญั หาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ เนอ่ื งจากฝุน่ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ มแี หลง่ กาเนิดทีม่ บี ริบทแตกตา่ งกนั โดยแยกได้ ดงั นี้ (๑) ปัญหาจากการคมนาคม ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน และกระทรวงมหาดไทย (๒) ปัญหาจากการเผาในท่ีโล่งและพื้นที่อนุรักษ์ ซ่ึงอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม และกระทรวงมหาดไทย (๓) ปัญหาจากภาคอุตสาหกรรม ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงมหาดไทย (๔) ปญั หาหมอกควันข้ามแดน ซง่ึ อยู่ในความรบั ผิดชอบของกระทรวงการตา่ งประเทศ กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม และกระทรวงกลาโหม ทัง้ นี้ ยงั มสี ว่ นราชการอนื่ ๆ แมไ้ ม่ได้มภี ารกิจในการแก้ไขปัญหาโดยตรง แตม่ ีความสาคัญอย่างย่ิง ในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข ฯลฯ เป็นต้น คณะกรรมาธิการเห็นว่า ด้วยเหตุที่ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ มีความซับซ้อน และเกี่ยวข้องกับส่วนราชการหลายกระทรวง หน่วยงานท่ีทาหน้าที่แก้ไขปัญหาในเชิงพื้นที่จาเป็นที่จะต้อง เปน็ กระทรวงท่สี ามารถบังคับใช้กฎหมายและควบคุม กากับ ดแู ล กจิ กรรมของประชาชนในพ้ืนที่ได้ ดว้ ยเหตุน้ี คณะกรรมาธิการจึงเห็นว่ากระทรวงมหาดไทยในฐานะท่ีเป็นส่วนราชการที่ทาหน้าที่หลักในการบริหาร ราชการแผ่นดินในพื้นที่และใกล้ชิดประชาชน จึงควรเป็นหน่วยงานหลักในการบังคับใช้กฎหมาย นโยบาย เพ่อื จดั การปญั หาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ผ่านระบบ Single Command ท่ีมีอยู่ อย่างไรกต็ าม การตัดสินใจผ่านระบบ Single Command กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องทาหน้าท่ีเป็นหน่วยงานหลักในการสนับสนุนข้อมูลที่หลากหลายและรอบด้าน ทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ ไม่ว่าข้อมูลดังกล่าวจะเป็นของรัฐหรือไม่ เช่น ข้อมูลจากระบบ Air๔thai และ AirVisual และข้อมูล ท่ีผลิตขึ้นโดยสถาบันการศึกษาของรัฐและเอกชน เป็นต้น เพื่อประกอบการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และทันต่อสถานการณ์ ท้ังนี้ หน่วยงานภายใต้ระบบ Single Command จะต้องไม่นาเอาความไม่แน่นอน ของข้อมูลท่ีมีอยู่มาเป็นเหตุให้ไม่ดาเนินการ เพื่อมีมาตรการในการคุ้มครองสุขภาพและสวัสดิภาพของประชาชน รวมไปถงึ มาตรการเพ่ือค้มุ ครองส่งิ แวดลอ้ มดว้ ย
๒๙ นอกจากน้ี ส่วนราชการอ่ืน ๆ ท่ีไม่ได้มีภารกิจในการแก้ไขปัญหาโดยตรงต้องสนับสนุนให้การแก้ไข ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ สามารถดาเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น กระทรวงการคลัง จะต้องสนับสนุนให้การใช้งบประมาณท่ีเกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาสามารถดาเนินการได้อย่างรวดเร็ว และถกู ตอ้ งตามกฎหมาย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกจิ และสังคมจะต้องสนับสนนุ ข้อมูลสารสนเทศท่เี กี่ยวข้อง กับการพยากรณ์สภาพอากาศให้แก่ระบบ Single Command เพื่อใช้ประกอบการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง ขนาดเล็ก PM ๒.๕ เปน็ ต้น สานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ควรต้องมีบทบาทเชิงรุกในการเสนอและจัดทาแนวทาง การใช้งบประมาณ รวมถึงตรวจสอบการใช้งบประมาณเพื่อตอบสนองต่อการแก้ไขปัญหาและบรรเทา สาธารณภัย ตลอดจนการคุ้มครองและสงวนรกั ษาทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อม ๒) การตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ที่เป็นมาตรฐาน และมีความเป็นเอกภาพ ของขอ้ มูล คณะกรรมาธิการเห็นว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต้องสนับสนุน ให้กรมควบคุมมลพิษประสานและเช่ือมโยงระบบการตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ที่มีอยู่ ให้เป็นระบบ มีมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพของข้อมูล ทั้งน้ี การประสานและเชื่อมโยง ระบบดังกล่าวควรดาเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ นอกจากน้ี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อมต้องสนับสนุนให้มีการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพ่ือการประยุกต์ใช้ในการ ตรวจวัดปริมาณ ฝ่นุ ละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ และมลพิษทางอากาศอืน่ ๆ ในการจัดทาระบบการตรวจวัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ และอุปกรณ์ที่เก่ียวข้อง คณะกรรมาธิการเห็นว่า รัฐบาลควรสนับสนุนงบประมาณให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดดาเนินการ เพื่อให้มีระบบการตรวจวัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ และอุปกรณ์ท่ีเก่ียวข้องได้ด้วยตนเอง ๓) การแจง้ เตือนภยั ฝุน่ ละอองขนาดเลก็ PM ๒.๕ คณะกรรมาธิการเห็นว่า การแจ้งเตือนภัยฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ควรดาเนินการ ใน ๒ ระยะ ดงั ต่อไปนี้ (๑) การแจ้งเตือนในรูปแบบของการพยากรณ์และการรายงานค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ประจาวัน ในกรณีน้ีคณะกรรมาธิการเห็นว่า สานักนายกรัฐมนตรีโดยกรมประชาสัมพันธ์ กระทรวงดิจิทัล เพ่ือเศรษฐกิจและสังคมโดยกรมอุตุนิยมวิทยา สานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ต้องดาเนินการให้การแจ้งเตือนภัยฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ เป็นส่วนหนึ่งของการพยากรณ์สภาพภูมิอากาศ และขอความร่วมมือให้ส่ือมวลชนทุกประเภทนาเสนอข้อมูล เพ่ือการแจ้งเตือนภัยฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ผ่านส่ือทุกรูปแบบ เช่น การแจ้งเตือนผ่านระบบ การส่งขอ้ ความสั้น (Short Message Service: SMS) และระบบกระจายเสียงผา่ นวทิ ยชุ มุ ชน เปน็ ตน้ (๒) การแจ้งเตือนในภาวะวิกฤต ในกรณีน้ีคณะกรรมาธิการเห็นว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อม และกระทรวงสาธารณสุข ต้องร่วมกันสนับสนุนข้อมูลสถานการณ์ความรุนแรงของฝุ่นละออง ขนาดเล็ก PM ๒.๕ ให้ระบบ Single Command เพื่อประกาศให้ประชาชนทราบโดยเร่งด่วน โดยกาหนด แนวทางการปฏิบัติตนในภาวะวิกฤต และสานักนายกรัฐมนตรีโดยกรมประชาสัมพันธ์ กระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคมโดยกรมอุตุนิยมวิทยา สานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ต้องดาเนินการประกาศและประชาสัมพันธ์ภาวะวิกฤต รวมทั้งแนวทาง การปฏิบัติตนในภาวะวิกฤตให้ประชาชนทราบโดยเร่งด่วน เช่น การแจ้งเตือนผ่านระบบการส่งข้อความสั้น (Short Message Service: SMS) เป็นต้น
3lU91Pd \"11a9 ~61azn~~ui~ni~5aQI iBT1a~01~61ai w4 < 1 9 ~ 3 z ~ i a p J \"Qlaas u m 4P/ w ~ ~ ~P ~ P d41 ~ P d ~ b b ~ ~ w \"(B~PIPPIWd .l.)b ~ W ~ 3 W.W. .... a\"iCnnssui3nis 6, a\"ipd\"n~iu~a\"~i3PnI isani~a~wusi~~s
niuddd~~yuani~bbwu~iw~~'b~aduZ?u~a\"nni~bb~d~idw~:~ivsJ\"~$inadyu aa:Gmuiinwnsns ( a ~ u .d.) w.n . (ntus~iuum?~Bur;'~auau) a : R n z s u i ~ n l 3 ? a i ~ ~ i u n a : ~ i d b i a ~ i ~ i 3 rin~in35ui~ni3nm:5~9:nau~au a. u i u n q w d aan\"aa$ b . udi?uima=uti i'ubFiu=i m. u i u q a ~ n v w\"aw\"wuqa d. UIUF~NI~~dd$rn\"~~pd~f~ &. u%inw='im=i w\"mu3u s. uiJu%9=a?GWuUgU I 6.r. uiu$uaS s u i n u i y a s d d. UIUL%VUIFJ m7a43uw< a. u i ~ a i a r l ( i o l 5 u i sJ\"a~i&u a o . ui9aiiafit$flaai u9%~;ws ab. uidaiaz~Ym6$ i b ~ 0 a i 6 v t l Y @a.uiu%flw5 w?dqan: am. ~1~453: 'bm3a4~qa ad. u i u 3 : asAayw3 a&. uiuuw !aiGu$ as. u i u u ~ ~~~aSadwadui31 ad. uiuGnu y 0~7bnw ad. u i u y ~ ~ ~ ~a una\"Aa @auiud3:wau qw9SGiuaubnv b o . ~lud3:bgod ~ % ~ 3 1 d 9 bald E I ~ ~ U I ba. u i u d ? n i ~ C ~ L W ~ S bb. wabw w d ~ n 9= ~ ~ m v u ~ b m . Qiauniansisi~u'w~$tuiuwiqa bd. UIUWSLWW wamaa b&.uidflw3ws amYwG bs. u i u y v q'bauiu bd. UIUSNLWW 9¶@@.16 bd. uidYvgin9d b~n\"aaGw a . ~ 1 ~ 7 ~wfi~iw~\"~1A,16 mo. uiuaYv$ ~wv9fad ma. uiu7Qu hsqYm6 mb. ui~'$k~Puji u y n s mm. u i u ? i ~ % ~bg~ ~ 6 a u a i n me.. uiuausJ\"~n?q?uw< m&. UIU~UU? GUIAI: m s . UIURI~;~~ G W ~ L ~ Q m6.r. u i u a u y 5 d 9~i?utl md. uiuaugni qolfiu ma. uiuasaqn$ ~ u ~ l i y ~ m 6 d o . U i ~ a q t~p i~ i ~ i i ~ 5 d a . u i u a \" ~ G~a~qwi=ritu h.uiua\"uqw': LIMUM?~~ dm. ~ 7 ~ q c OT(WJ%JIUi d&.u i u a ~ A n i 5$uym d6.r. u i u a f i v i i ?i3quw3 d a . u i u ~ a n 3 i vi i d ~ ~ a i
Iunsiadsayuaniirrnusiv~5ynd b b qd m n&d b c (a~uaifi~dss0a- idnW ;Aa~aad) iuwsd ~uniriusb' rim ddssyuduaauIfi& uiuiiwaa mwmii r5un35ui5nisIunwsnssu7%ni5 na a i f i ~ G a i s ~ i i i ~ ~ ~ s s ~ a r j ~ ~ ~ n a a ~ u ~(a~rju~d~..)r wr .a~~. wa\"nu~ wuailn~ wnm~n~s s n s sanauq I j l t i p l a a i a a n a i n m s ~ ~ u n ~ s u i ~ n i rsi~aaiui fdi ~b, unsinu b&m di~nnssui5nis n~udiuu5nisranais~idE~ TwstTwVi 0 bbdd bbdd -ln5a1s 0 bbdd bbdb hJsvwu6-a~danwsaGnaa\"[email protected]
Guw\"n~~nni5~~az~~ya d s z n a u i i a w s z ~ i u u i y ~ i n a ~ y u $ u $ ~ ~ a z w \" w u ~(a~Gnuwdm..)n W.W. ....
uinsi I. wszsiusJ\"Qm~~fl$~d~u~dbbda\"u~moina\"udszni~~usia~ooi y runvia8u6u\\d uinsi m 1~untbm?iuluuinsa1s L ~ c i ~ w s z s i a r j n ? m ~ n a d y u ~ u t ~ ~ a z w\"mui~nvmsnsw.n. $M$ ~~az199\"b$naiuia'bd&~wu \"uinsi as nssunis~ws~q~?Guazr;'~~wu~nvmsnsiaisznisii5~6i~~p9pd~ n=iaazdTI ~~aaaio'b6?u~~idi~d~~ni o\\6z i i s ~ & 1 ~ ~ ~ p d ~ i n i a ~ u ~ i i u a a ~ a i s z 1 ~ 1 6 ~dansu~il~unaiszniuas>np9~didnuu ~4 uW ldn u m s ~ ~ i a ~ ~ n s s u n i s r ; ' w s ~ q ~ ~ G oaz@~wu~nwnsns$ulp9laX.inssun~s~ws~q~?G~~azr;'~~wubnvnsnsd~w\"uoinii~bp9d~ niuaisz~uau~u~i~bp9pddb4 -w\"awdQ.duon~uiwwa~doun-dinssuni3r;'wsdq~~~b~a~~bbwubnvnsns ni~~i~~unis~~a~ps\"b6uid~nssunisr;'wsdq~~~bbaz~bbwubnvnsn~ niuassnaad %ps\"ii~ndiui~b~~dnis~ps\"bba\"aba~o~iu~u~d-~~~eld~dbn\"i~~a\"u~~bbia\"udns
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168