Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาการบัญชีต้นทุนเบื้องต้น

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาการบัญชีต้นทุนเบื้องต้น

Published by kaew.xxxxxx, 2019-07-23 11:06:56

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาการบัญชีต้นทุนเบื้องต้น

Search

Read the Text Version

การออกแบบการจัดการเรียนรู กลุม สาระการเรียนรู การงานอาชีพและเทคโนโลยี รายวชิ า การบัญชีตน ทุนเบอื้ งตน รหสั วิชา ง 32273 ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที่ 5 จดั ทาํ โดย นางสาวกรแกว โอภาสสวุ คนธ ตําแหนง พนักงานราชการ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห 31 ตําบลชางเคิ่ง อําเภอแมแ จม จงั หวัดเชียงใหม สํานกั บริหารงานการศึกษาพเิ ศษ สํานักงานการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

คําอธบิ ายรายวิชา รายวิชา การบัญชตี นทนุ เบ้อื งตน รหสั วิชา ง 32273 ชั้น มธั ยมศกึ ษาปที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปการศึกษา 2562 เวลา 80 ช่วั โมง จํานวน 2 หนวยกิต คาํ อธิบายรายวิชา ศกึ ษาและปฏิบตั ิเกยี่ วกับ ลักษณะของกจิ การผลิตเปรยี บเทยี บกบั กจิ การซื้อขายสินคา องคป ระกอบของตน ทนุ การผลติ การรับจายวัตถุดบิ การบันทกึ รายการเกี่ยวกบั แรงงาน ช่ัวโมงทํางาน อัตราคา แรง คา ลวงเวลา เงนิ ประกนั สังคม ภาษเี งนิ ไดบุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จาย รายการหักตาง ๆ คาใชจา ยการผลิต การบันทึกรายการเก่ยี วกบั วตั ถุดบิ ตามวธิ ี บญั ชสี ินคาคงเหลอื แบบสน้ิ งวด และวิธกี ารบัญชีสินคาคงเหลอื แบบตอเนื่อง ตนทนุ การผลติ การคาํ นวณตนทนุ สินคา ท่ี ผลติ เสร็จ กระดาษทําการ รายการปรับปรงุ ปดบญั ชี และการจดั ทํางบตน ทนุ ผลติ ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู 1.มคี วามเขา ใจหลักการ และกระบวนการปฏบิ ตั งิ านบัญชีของกจิ การประเภทธรุ กจิ อุตสาหกรรม 2.มีทักษะปฏิบตั งิ านบัญชตี ามหลกั การบัญชีทีร่ ับรองทั่วไป สาํ หรับกิจการประเภทธุรกิจอุตสาหกรรม มกี ิจนิสยั มรี ะเบยี บ ละเอียดรอบคอบ ซอ่ื สตั ย มีวนิ ัยตรงตอเวลา และมีเจตคติท่ีดตี อวิชาชีพบัญชี รวมทั้งหมด 2 ตวั ชี้วดั /ผลการเรียนรู *** หมายเหตุ - ตวั ชี้วัด (รายวิชาพื้นฐาน) - ผลการเรยี นรู (รายวชิ าเพม่ิ เติม)

หนว ยท่ี 10 การออกแบบหน การปด บญั ชี รายวชิ า การบัญชตี นทุนเบ้ือ จํานวน 8 ชวั่ โมง : 10 คะแนน ระดับช้ันมัธยมศึกษาปท ี่ 5 ภาค หน ลกั ษณะของกิจการผลิตเปรีย จํานวน 4 ช หนว ยท่ี 9 วิชาการบญั ชีต กระดาษทาํ การและงบการเงิน จํานวน 8 จาํ นวน 8 ชว่ั โมง : 10 คะแนน หนว ยที่ 8 การปรบั ปรุงบญั ชี จาํ นวน 8 ช่ัวโมง : 10 คะแนน หนว ยท่ี 7 หนว ตนทนุ การผลิตและงบตน ทนุ ผลติ คาใชจ า จาํ นวน 12 ช่ัวโมง : 10 คะแนน จาํ นวน 8 ชัว่

นว ยการเรียนรู หนว ยที่ 2 องตน รหสั วิชา ง 32273 องคประกอบของตนทนุ การผลติ คเรียนท่ี 1 ปการศกึ ษา 2562 จาํ นวน 8 ชั่วโมง : 10 คะแนน นว ยท่ี 1 ยบเทยี บกับกิจการซ้ือขายสินคา หนว ยท่ี 3 ชั่วโมง : 10 คะแนน การรบั จา ยวัตถดุ บิ จํานวน 8 ช่ัวโมง : 10 คะแนน ตนทุนเบอื้ งตน 80 ช่วั โมง หนว ยท่ี 4 การบันทกึ รายการวัตถุดิบ จํานวน 8 ชว่ั โมง : 10 คะแนน วยที่ 6 หนว ยที่ 5 ายการผลิต การบนั ทกึ รายการเกย่ี วกบั คา แรงงานและรายการหักตางๆ วโมง : 10 คะแนน จาํ นวน 8 ช่ัวโมง : 10 คะแนน

การออกแบบ รายวชิ า การบญั ชตี น ทุนเ ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ่ี 5 ภ หนวยการเรยี นรูท่ี 1 เรื่อง อ 1.ลกั ษณะของกจิ การอุตสาหกรรม หนวย 2.ลกั ษณะของกิจการซ้ือขายสินคา ลกั ษณะของกจิ การ จาํ นวน 2 ช่วั โมง กบั กิจการซ้อื จํานวน 4 ชว่ั โม

บหนว ยการเรยี นรู เบือ้ งตน รหัสวชิ า ง 32273 ภาคเรยี นที่ 1 ปก ารศกึ ษา 2562 องคประกอบของตน ทนุ การผลติ ยที่ 1 3. การเปรียบเทยี บกิจการอุตสาหกรรม รผลติ เปรียบเทยี บ และกิจการซอ้ื ขายสนิ คา อขายสนิ คา มง : 10 คะแนน จํานวน 2 ชั่วโมง

แผนการจัดการเรียนรู หนว ยการเรยี นรูท ่ี 2 เร่ือง องคประกอบของตน ทนุ การผลิต แผนจัดการเรียนรูท่ี 2 เรือ่ ง องคประกอบของตนทนุ การผลิต รายวิชา การบญั ชตี น ทนุ เบื้องตน รหสั วชิ า ง 32273 ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปการศกึ ษา 2562 นํา้ หนกั เวลาเรียน 2 (นน./นก.) เวลาเรยี น 4 ชั่วโมง/สัปดาห เวลาทีใ่ ชในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู 4 ชวั่ โมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสําคัญ (ความเขา ใจที่คงทน) กจิ การอุตสาหกรรมเปนกจิ การท่ที ําการผลิตสินคา เพื่อจําหนาย อาจจะอยูใ นรูปของกิจการเจา ของคนเดยี ว หรอื กจิ การหา งหนุ สวน หรือบริษัทจาํ กดั เชน โรงงานผลติ เครอ่ื งเรือน เส้อื ผา สาํ เร็จรปู รถจักรยานยนต เปน ตน การประกอบ ธุรกจิ ประเภทนจี้ ะเร่ิมตน จากการซื้อวัตถดุ ิบเพ่ือแปรรปู เปนสินคาสาํ เรจ็ รปู สวนกจิ การทซี่ ื้อขายสนิ คาจะมีรายไดจ าก ธรุ กรรมการซื้อสนิ คามาแลว ขายสนิ คาใหกับลูกคา จะอยใู นรูปของการคาปลีกและการคา สง ดงั นนั้ จึงตอ งศึกษาลกั ษณะ ของกจิ การทั้งสองประเภทน้ีเพ่ือประโยชนใ นการทําบัญชีตอ ไป 2. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ช้ีวดั ช้ันป/ ผลการเรยี นร/ู เปาหมายการเรียนรู มาตรฐานการเรยี นรู (ใหตรงกบั หลกั สูตรแกนกลาง 2551 ปรบั ปรงุ 2560) ผลการเรยี นรู 1. บอกลกั ษณะของกจิ การอตุ สาหกรรมได 2. บอกลกั ษณะของกิจการซื้อขายสินคาได 3. เปรยี บเทียบกจิ การอุตสาหกรรมและกิจการซอื้ ขายสนิ คาได 3. สาระการเรยี นรู 3.1 เนอ้ื หาสาระหลัก : Knowledge (นกั เรยี นตองรูอะไร) 1.ลักษณะของกจิ การอุตสาหกรรม 2.ลักษณะของกิจการซื้อขายสนิ คา 3.การเปรียบเทียบกจิ การอุตสาหกรรมและกิจการซ้ือขายสินคา 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process (นกั เรยี นสามารถปฏบิ ตั อิ ะไรได) 1. บอกลกั ษณะของกิจการอตุ สาหกรรมได 2. บอกลกั ษณะของกจิ การซื้อขายสินคาได 3. เปรยี บเทียบกิจการอตุ สาหกรรมและกจิ การซื้อขายสินคา ได 3.3 คณุ ลักษณะที่พึงประสงค : Attitude (นักเรยี นควรแสดงพฤติกรรมการเรยี นอะไรบา ง) 1. ความรบั ผดิ ชอบ 2. ความสนใจใฝรู

4. สมรรถนะสาํ คญั ของนักเรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแกป ญหา 3. ความสามารถในการใชท ักษะชีวติ 5. คุณลกั ษณะของวชิ า 1. ความรับผดิ ชอบ 2. ความเชือ่ มั่นในตนเอง 3. ความสนใจใฝร ู 6. คุณลักษณะท่ีพึงประสงค 1. ใฝเรยี นรู 2. มงุ มั่นในการทาํ งาน 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน - ใบงานกจิ กรรมที่ 1 และ 2 เร่อื ง ลกั ษณะของกิจการผลิตเปรียบเทยี บกับกิจการซ้อื ขายสินคา 8. กจิ กรรมการเรียนรู (จัดกิจกรรมการเรยี นรูโ ดยใชก ระบวนการใด แสดงตามขนั้ ตอน : เวลาท่ใี ช 4 ช่ัวโมง - ขนั้ นาํ เขาสูบทเรยี น/ขั้นตั้งคําถาม (ชั่วโมง 1-4) 1.การศึกษาวชิ าการบญั ชีตนทนุ เบ้อื งตน เปนวิชาทตี่ องใชทักษะความรู ความสามารถรวมทง้ั สตปิ ญญา ทางบัญชชี วยใหรูจักพัฒนาเพื่อแกปญหา ผูเ รียนวชิ านนี้ อกจากจะไดความรูที่ถกู ตอ งแลว ยงั สามารถนาํ ไปประยุกตใ ชเพอ่ื เปนเครอื่ งมือท่สี ําคัญในการแกปญหาในชวี ติ ประจําวนั อกี ดวย 2.ครกู ลา วถึงวชิ าชีพบัญชีเปนวชิ าชพี ท่ีแตกตา งจากวิชาชพี อืน่ ๆ โดยเฉพาะเรอ่ื งความรบั ผดิ ชอบของ วิชาชีพซึ่งอยูในกรอบหลกั การประกอบวิชาชพี ไดแก กรอบแนวทางการปฏบิ ัติตามกฎหมายที่เกี่ยวของ รวมทง้ั จรรยาบรรณในวชิ าชีพ โดยตอ งอาศยั ความรูความชาํ นาญ และประสบการณการทํางานจรงิ 3.ผเู รยี นเลาประสบการณเ รยี นบัญชตี นทุนเบื้องตน หรอื ทํางานดา นบัญชที ผี่ เู รียนเคยศึกษามา 4.ครแู ละผูเ รียนรวมกันอภิปรายถึงธุรกจิ ตา งๆ โดยการยกตัวอยางรูปแบบตางๆ ของธรุ กิจทเี่ คยศึกษา บางแลว ซึง่ ผเู รียนสามารถทําความเขา ใจไดดแี ละตอบคําถามได - ข้ันสอน 5.ผูเรียนรับฟงคาํ ชแ้ี จงสงั เขปรายวิชา และการวดั ประเมนิ ผล ซกั ถามขอปญ หา รวมทง้ั แสดงความ คดิ เหน็ เกี่ยวกับการเรยี นวชิ าน้ี และทาํ แบบประเมินผลการเรยี นรูกอ นเรยี น จากนัน้ ใหสลบั กันตรวจและเกบ็ ผลคะแนนไว เปรยี บเทียบกับการประเมินผลหลงั เรยี นหนวยที่ 1 6.ครใู ชเ ทคนิควธิ สี อนแบบอภปิ ราย ซ่งึ เปนการสอนโดยที่ผเู รยี นแลกเปลย่ี นความคิดเห็นซงึ่ กันและกันเพื่อชวย แกไขปญหาอยา งใดอยางหนึ่ง การอภิปรายกระทาํ ระหวา งครูกบั ผูเรยี น หรอื ระหวางนกั เรยี นดวยกนั โดยมีครูเปนผู ประสานงาน วธิ กี ารสอนแบบอภิปรายจะชวยสง เสรมิ ใหผูเรยี นคดิ เปน พดู เปน และสรางความเปน ประชาธปิ ไตย โดยมี ขัน้ ตอนของวิธสี อนแบบอภิปราย - ข้ันสรุป 7.ครแู ละผูเรียนสรปุ ลกั ษณะของกิจการอุตสาหกรรม ลักษณะของกจิ การซื้อขายสนิ คา และการเปรยี บเทียบ กจิ การอตุ สาหกรรมและกิจการซอื้ ขายสินคา จากบทเรยี น โดยครจู ะใชคําถาม และใหผเู รียนตอบ 8.ผเู รยี นทํากจิ กรรมใบงาน และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรูหลงั เรียนหนว ยท่ี 1 9.ครผู ูส อนและผูเรียนรว มกันประเมนิ ผลการเรยี นรู โดยใชว ธิ กี ารประเมินผลตามเกณฑท่ีกาํ หนดไว

9. สอ่ื การเรยี นการสอน / แหลง เรยี นรู จาํ นวน สภาพการใชส ่อื รายการส่อื 2 ชดุ หนงั สือเรยี น 1. ใบงาน 1-2 เรื่องลักษณะของกิจการผลิตเปรียบเทยี บ กบั กจิ การซ้อื ขายสนิ คา 10. การวัดผลและประเมนิ ผล เปา หมาย หลักฐานการเรียนรู วธิ วี ดั เครอ่ื งมอื วดั ฯ ประเด็น/ การเรียนรู ช้ินงาน/ภาระงาน -ใบงาน เกณฑการให 1.ลกั ษณะของ ใบงานลกั ษณะของ ตรวจสอบใบงาน คะแนน กจิ การอุตสาหกรรม กิจการผลิตเปรยี บเทียบ สามารถคํานวณ กับกิจการซื้อขายสินคา เงนิ ประกนั ได 2.ลักษณะของ ถูกตองได 5 คะแนน กิจการซ้ือขายสินคา 3.การเปรียบเทยี บ กิจการอุตสาหกรรม และกิจการซอื้ ขาย สนิ คา 11. การบูรณาการตามจุดเนน ของโรงเรยี น หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจ ครู ผเู รยี น พอเพียง พอดดี านเทคโนโลยี พอดีดา นจติ ใจ 1. ความพอประมาณ รูจกั ใชเ ทคโนโลยมี าผลิตสอื่ ทเี่ หมาะสม และสอดคลองเน้ือหาเปนประโยชนต อ มีจิตสํานึกทด่ี ี เอื้ออาทร 2. ความมีเหตผุ ล ผูเ รียน ประนปี ระนอม นึกถึงประโยชน สวนรวม/กลุม ยดึ ถือการประกอบอาชพี ดว ยความ ไมห ยดุ นิ่งท่ีหาหนทางในชวี ิต หลดุ พน ถกู ตอง สุจริต แมจะตกอยูในภาวะขาด จากความทุกขย าก (การคน หาคาํ ตอบ แคลน ในการดาํ รงชวี ิต เพ่อื ใหหลุดพนจากความไมร ู) 3. มีภมู ิคมุ กนั ในตวั ที่ดี ภมู ิปญ ญา : มีความรู รอบคอบ และ ภมู ิปญญา : มคี วามรู รอบคอบ และ ระมัดระวัง ระมดั ระวงั สรา งสรรค

สง่ิ แวดลอม ครู ผเู รยี น งานและพลังงาน งานและพลงั งาน งานและพลังงาน - การเลือกใชอ ยางถูกวธิ ี - การเลอื กใชอยา งถูกวธิ /ี เทคนคิ - ยกตัวอยา งการใชอ ุปกรณ/ - การอนรุ ักษส่งิ แวดลอม วิธกี าร เครื่องใชไฟฟา อยา งถูกวธิ ี - กระบวนการการอนรุ กั ษ - แสนอแนะแนวทางอนรุ กั ษ สง่ิ แวดลอม สิ่งแวดลอม ลงชือ่ ..................................................ผสู อน (นางสาวกรแกว โอภาสสวุ คนธ) .

ใบงานที่ 1 ลักษณะของกิจการผลติ เปรียบเทียบกบั กิจการซือ้ ขายสนิ คา ใหน กั เรียนเปรยี บเทยี บเงนิ ทุนทใ่ี ชในกิจการอุตสาหกรรมและกิจการซ้ือขายสินคามขี อแตกตา งกนั อยางไร ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ เฉลย ใบงานท่ี 1 ลกั ษณะของกิจการผลิตเปรียบเทยี บกับกิจการซอื้ ขายสินคา ขอ 1 ใหน ักเรยี นเปรียบเทยี บเงินทุนที่ใชใ นกจิ การอุตสาหกรรมและกิจการซือ้ ขายสินคามขี อ แตกตางกันอยา งไร ตอบ เงินทนุ ที่ใชในกจิ การอุตสาหกรรมและกจิ การซ้อื ขายสินคา มขี อ แตกตา งกนั ดงั นี้ กิจการอุตสาหกรรม เงินทนุ ท่ีใช 1. ลงทนุ ในสนิ ทรัพยไมห มนุ เวยี น เชน เครอ่ื งมือ เคร่ืองจักร อาคารโรงงาน เปน ตน 2. ลงทุนในวตั ถุดิบท่ใี ชใ นการผลติ 3. ราคาจาํ หนายจะถูกกวากิจการทีซ่ ้ือสินคามาขายเน่ืองจากผลิตเอง กิจการซอ้ื ขายสนิ คา เงนิ ทุนท่ีใช 1. ลงทนุ เก่ยี วกับการซือ้ ขายสินคา 2. ราคาจาํ หนายจะสงู กวา กจิ การอุตสาหกรรมเน่ืองจากมคี าใชจายในการซ้ือสนิ คาจากผูผ ลิต

ใบงานที่ 2 คาํ ช้แี จง : จงตอบคําถามตอ ไปนี้ 1 จงสรปุ ความหมายของกจิ การอตุ สาหกรรม (Manufacturing Firm) มาใหเ ขาใจ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ 2 กิจการอตุ สาหกรรม มลี ักษณะอยา งไร ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ 3 ธรุ กิจบริการ หมายถงึ กจิ การประเภทใด ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ 4 จงอธิบายลกั ษณะของกิจการซือ้ ขายสินคามาใหเขา ใจ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ....................................................................................................................................................................... 5 ในการซอื้ ขายสินคา (Purchasing) แผนกจดั ซื้อตอ งประสานงานกบั หนวยงานใดบา ง ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................

........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ เฉลย ใบงานท่ี 2 คาํ ช้แี จง : จงตอบคําถามตอ ไปน้ี 1 จงสรุปความหมายของกจิ การอุตสาหกรรม (Manufacturing Firm) มาใหเ ขา ใจ ตอบ กจิ การอุตสาหกรรม (Manufacturing Firm) หมายถงึ กจิ การท่ีผลติ สินคา เพือ่ จาํ หนาย โดยจะ ซือ้ วัตถุดิบเพ่ือทําการแปรรปู ใหเ ปนสินคา สําเร็จรปู การคาํ นวณตน ทนุ สนิ คา สําเร็จรปู ตอหนวยน้นั จะ ทําไดโดยการนําตน ทุนการผลติ สินคาสําเรจ็ รูป หารดว ยจาํ นวนหนว ยของสินคาทผ่ี ลติ ได 2 กจิ การอุตสาหกรรม มลี กั ษณะอยางไร ตอบ ลักษณะของกจิ การอตุ สาหกรรม แบงไดด ังน้ี 1. ลักษณะของการประกอบการเปน กิจการท่ีผลิตสนิ คา เพอ่ื จาํ หนายโดยจะซอื้ วัตถดุ ิบมาเพอื่ ทํา การแปรรปู ใหเ ปนสนิ คาสําเรจ็ รูป อาจทําได 2 ลกั ษณะ คือ ทําการผลิตสินคาสาํ เรจ็ รูปเพ่ือจําหนา ย ใหกับผูบริโภค หรอื ผลิตสินคาสําเร็จรปู เพ่อื จาํ หนายใหกับโรงงานอตุ สาหกรรมเพือ่ นําไปแปรรปู ใหเกิด ผลติ ภัณฑใ หมข้ึนมา 2. การบนั ทึกบัญชีมหี ลกั ปฏบิ ตั ิเชนเดยี วกบั การบันทกึ บญั ชขี องกิจการซือ้ ขายสนิ คา มกี ารบนั ทึก บญั ชีสินทรพั ย หน้สี นิ ทนุ รายไดแ ละคา ใชจาย แตม ขี อแตกตา งจากกจิ การซือ้ ขายสนิ คา ตรงทก่ี จิ การ อุตสาหกรรมตองคํานวณหาตนทนุ สินคา ท่ผี ลิตในแตล ะครง้ั เพอ่ื ตง้ั ราคาขาย เปน ตน 3 ธุรกจิ บริการ หมายถงึ กจิ การประเภทใด ตอบ กจิ การทไี่ มไ ดข ายสินคา ท่เี ปน รูปธรรมสามารถจับตอ งไดแ ตเปน ในลักษณะการอาํ นวยความ สะดวก การใหป ระโยชนท่ีเปน นามธรรม ไมมรี ูปรา งไมส ามารถจับตอ งได ไดแก โรงพยาบาลใหบ รกิ าร รักษาคนไข สถานศกึ ษาบริการใหค วามรู หรอื สถาบันการเงนิ ใหบรกิ ารรบั ฝากและทําธรุ กรรมดาน การเงนิ เปน ตน 4 จงอธิบายลกั ษณะของกิจการซ้ือขายสนิ คามาใหเขาใจ ตอบ กจิ การซอ้ื ขายสินคาหมายถึง กจิ การท่ีขายสนิ คา โดยซอ้ื สนิ คา สําเรจ็ รปู มาจากผูผลติ หรือจาก พอคารายอนื่ ๆและนาํ มาขายตอ ใหผูบรโิ ภคเนื่องจากกิจการไมไ ดมกี ารผลิตสินคาเอง ตน ทุนประเภท คา วัตถุดบิ คาแรงคนงานและคา ใชจา ยการผลติ จงึ ไมเ กดิ ขน้ึ สง ผลใหระบบบญั ชีตน ทุนของธรุ กิจ ประเภทน้คี อ นขางงายไมจําเปนตองจดั วางระบบในการเก็บขอมลู ตนทุนทัง้ 3 ประเภท เมื่อไมม ขี อ มูล

ตนทุนกไ็ มจ ําเปนตอ งจัดทํางบตน ทุนผลิต ตน ทุนจะเกดิ ขนึ้ เฉพาะตนทุนขาย ซ่ึงหมายถึงมูลคาซอ้ื สินคา บวกดว ยคา ใชจา ยตางๆ ท่ีเกิดขน้ึ เพื่อใหไดส ินคา มา เชน คาขนสง คาประกันภัยเปน ตน 5 ในการซือ้ ขายสนิ คา (Purchasing) แผนกจัดซอ้ื ตอ งประสานงานกับหนว ยงานใดบาง ตอบ การซื้อสนิ คา (Purchasing) ตองมกี ารประสานงานกับหนว ยงานตางๆ ดงั นี้ 1. แผนกคลงั สนิ คา มีหนาที่ดแู ลตรวจสอบปริมาณสินคา วาสมควรทจี่ ะขอซื้อเพ่มิ เติมหรอื ไม 2. แผนกจัดซ้อื มหี นา ทส่ี ่งั ซอ้ื สนิ คาตามความตองการของแผนกคลังสินคา โดยคํานึงถงึ ราคา เง่อื นไขการชาํ ระเงินและประโยชนท ่ีกจิ การจะไดร บั เม่ือไดร ับใบขอซ้อื แลวจะสอบถามราคาสนิ คา ที่ จะซ้ือจากผขู ายหลายรายเพอ่ื ใหไ ดสนิ คา ทมี่ ีคุณภาพและราคาเหมาะสม 3. แผนกรบั สนิ คามหี นา ทีต่ รวจสอบสินคา ทผ่ี ขู ายนํามาสงวามจี าํ นวนคณุ สมบัตถิ ูกตอ งตรงตามที่ สง่ั ซอื้ หรอื ไมเมื่อผูขายนาํ สินคา ทสี่ ัง่ ซือ้ มาสงพรอมใบกาํ กบั สินคา/ ใบกํากบั ภาษีหรือใบสง ของใหแกผู ซ้อื ถาการตรวจสอบถกู ตองกจ็ ะลงนามวาไดรับสินคา ถูกตองในใบกํากบั สนิ คาหรอื ใบสงของใหผูขาย เปนหลกั ฐาน และจะสง สนิ คา ท่ีไดร ับไปยังแผนกทีเ่ ก่ียวขอ งตอ ไป 4. แผนกบัญชมี ีหนาท่ีตรวจสอบความถกู ตองของหลกั ฐานเอกสารการขอซื้อ การสงั่ ซ้ือ การรบั สนิ คา เง่ือนไขการชาํ ระเงิน การตดิ ตอกบั ผูข ายในเร่ืองการชําระเงิน 5. แผนกการเงินมหี นาท่ีตรวจสอบเอกสารการขอซือ้ การสั่งซ้อื การรับสินคา เงอ่ื นไขการชําระ เงิน การนดั วนั ชําระเงินใหกับผขู ายตอไป

การออกแบบการจัดการเรียนรู กลมุ สาระการเรียนรู การงานอาชีพและเทคโนโลยี รายวชิ า การบญั ชีตน ทุนเบือ้ งตน รหสั วิชา ง 32273 ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปที่ 5 จัดทาํ โดย นางสาวกรแกว โอภาสสวุ คนธ ตาํ แหนง พนกั งานราชการ

โรงเรียนราชประชานเุ คราะห 31 ตําบลชางเคงิ่ อาํ เภอแมแจม จงั หวัดเชียงใหม สาํ นักบรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ สํานกั งานการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ คาํ อธบิ ายรายวิชา รายวชิ า การบญั ชีตน ทุนเบือ้ งตน รหสั วิชา ง 32273 ช้ัน มธั ยมศึกษาปท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปก ารศึกษา 2562 เวลา 80 ชัว่ โมง จาํ นวน 2 หนว ยกิต คําอธิบายรายวิชา ศกึ ษาและปฏิบตั ิเก่ยี วกบั ลกั ษณะของกิจการผลิตเปรยี บเทียบกับกจิ การซ้ือขายสินคา องคประกอบของตน ทุน การผลติ การรบั จายวัตถุดบิ การบนั ทกึ รายการเกี่ยวกบั แรงงาน ชว่ั โมงทํางาน อัตราคาแรง คาลว งเวลา เงินประกนั สังคม ภาษีเงนิ ไดบุคคลธรรมดาหัก ณ ทจ่ี าย รายการหกั ตา ง ๆ คาใชจายการผลติ การบันทึกรายการเกยี่ วกับวตั ถุดิบตามวิธี บญั ชสี นิ คา คงเหลอื แบบสน้ิ งวด และวธิ ีการบญั ชสี ินคา คงเหลอื แบบตอเน่อื ง ตนทุนการผลิต การคาํ นวณตน ทนุ สนิ คา ท่ี ผลติ เสร็จ กระดาษทําการ รายการปรบั ปรุงปดบญั ชี และการจดั ทาํ งบตนทุนผลติ ตัวช้ีวดั /ผลการเรยี นรู 1.มีความเขา ใจหลกั การ และกระบวนการปฏบิ ตั ิงานบญั ชีของกจิ การประเภทธรุ กิจอุตสาหกรรม 2.มที กั ษะปฏบิ ตั งิ านบัญชีตามหลักการบัญชีทรี่ บั รองทั่วไป สาํ หรับกิจการประเภทธุรกิจอุตสาหกรรม มกี จิ นสิ ัย มรี ะเบยี บ ละเอียดรอบคอบ ซือ่ สัตย มวี นิ ัยตรงตอเวลา และมเี จตคติท่ีดตี อวชิ าชีพบญั ชี รวมท้ังหมด 2 ตวั ช้ีวดั /ผลการเรยี นรู *** หมายเหตุ - ตวั ชี้วดั (รายวชิ าพ้นื ฐาน) - ผลการเรยี นรู (รายวชิ าเพ่มิ เติม)



หนว ยท่ี 10 การออกแบบหน การปด บญั ชี รายวชิ า การบัญชตี นทุนเบ้ือ จํานวน 8 ชวั่ โมง : 10 คะแนน ระดับช้ันมัธยมศึกษาปท ี่ 5 ภาค หน ลกั ษณะของกิจการผลิตเปรีย จํานวน 4 ช หนว ยท่ี 9 วิชาการบญั ชีต กระดาษทาํ การและงบการเงิน จํานวน 8 จาํ นวน 8 ชว่ั โมง : 10 คะแนน หนว ยที่ 8 การปรบั ปรุงบญั ชี จาํ นวน 8 ช่ัวโมง : 10 คะแนน หนว ยท่ี 7 หนว ตนทนุ การผลิตและงบตน ทนุ ผลติ คาใชจ า จาํ นวน 12 ช่ัวโมง : 10 คะแนน จาํ นวน 8 ชัว่

นว ยการเรียนรู หนว ยที่ 2 องตน รหสั วิชา ง 32273 องคประกอบของตนทนุ การผลติ คเรียนท่ี 1 ปการศกึ ษา 2562 จาํ นวน 4 ชั่วโมง : 10 คะแนน นว ยท่ี 1 ยบเทยี บกับกิจการซ้ือขายสินคา หนว ยท่ี 3 ชั่วโมง : 10 คะแนน การรบั จา ยวัตถดุ บิ จํานวน 8 ช่ัวโมง : 10 คะแนน ตนทุนเบอื้ งตน 80 ช่วั โมง หนว ยท่ี 4 การบันทกึ รายการวัตถุดิบ จํานวน 8 ชว่ั โมง : 10 คะแนน วยที่ 6 หนว ยที่ 5 ายการผลิต การบนั ทกึ รายการเกย่ี วกบั คา แรงงานและรายการหักตางๆ วโมง : 10 คะแนน จาํ นวน 8 ช่ัวโมง : 10 คะแนน

การออกแบบ รายวิชา การบญั ชตี น ทุนเ ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปท่ี 5 ภ หนวยการเรียนรทู ี่ 1 เรือ่ งอ หนวย องคประกอบของ จาํ นวน 4 ชว่ั โม 1.อธบิ ายความหมายของตน 2.บอกองคประกอบของตน 3.แสดงความสัมพนั ธของตน จาํ นวน 4 ชวั่ โ

บหนวยการเรียนรู เบอื้ งตน รหสั วิชา ง 32273 ภาคเรยี นท่ี 1 ปก ารศกึ ษา 2562 องคประกอบของตนทุนการผลติ ยท่ี 2 งตน ทนุ การผลติ มง : 10 คะแนน นทุนการผลิตได นทุนการผลติ ได นทนุ การผลติ ได โมง

แผนการจัดการเรียนรู หนวยการเรียนรทู ่ี 2 เรอื่ ง องคประกอบของตนทนุ การผลิต แผนจดั การเรียนรูท ี่ 2 เร่อื ง องคป ระกอบของตน ทุนการผลิต รายวชิ า การบัญชีตนทุนเบือ้ งตน รหสั วชิ า ง 32273 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปท ี่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปก ารศกึ ษา 2562 นํ้าหนักเวลาเรียน 2 (นน./นก.) เวลาเรยี น 4 ช่ัวโมง/สปั ดาห เวลาทใ่ี ชในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู 4 ชั่วโมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสําคัญ (ความเขา ใจทีค่ งทน) ตน ทุนทใ่ี ชไ ปในการผลิตสนิ คาหรือผลิตภัณฑแตล ะชนดิ จะแตกตางกนั ขน้ึ อยูกับลักษณะและปจจัยอ่นื หลาย อยางของสนิ คาชนิดนน้ั ๆ แตโ ดยทวั่ ไปแลว ตน ทนุ การผลิตจะประกอบดวยวัตถุดบิ ทางตรง คา แรงงานทางตรง และ คา ใชจายในการผลติ 2. มาตรฐานการเรยี นรู/ตวั ชี้วดั ช้ันป/ผลการเรียนร/ู เปา หมายการเรยี นรู ผลการเรียนรู 1. อธิบายความหมายของตน ทุนการผลิตได 2. บอกองคป ระกอบของตนทุนการผลิตได 3. แสดงความสัมพันธข องตนทนุ การผลติ ได 3. สาระการเรียนรู 3.1 เนอื้ หาสาระหลัก : Knowledge 1. อธิบายความหมายของตนทุนการผลิต 2. บอกองคป ระกอบของตนทนุ การผลิต 3. แสดงความสมั พนั ธข องตนทุนการผลิต 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process 1. อธบิ ายความหมายของตน ทนุ การผลติ ได 2. บอกองคประกอบของตนทนุ การผลติ ได 3. แสดงความสมั พนั ธของตนทนุ การผลติ ได 3.3 คุณลักษณะท่ีพึงประสงค : Attitude 1. ความรับผิดชอบ 2. ความสนใจใฝร ู 4. สมรรถนะสาํ คญั ของนกั เรียน 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการแกปญหา 3. ความสามารถในการใชทักษะชวี ิต

5. คุณลกั ษณะของวิชา 1. ความรับผิดชอบ 2. ความเชือ่ มน่ั ในตนเอง 3. ความสนใจใฝร ู 6. คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค 1. ใฝเรียนรู 2. มุงม่นั ในการทาํ งาน 7. ชิน้ งาน/ภาระงาน - ใบงานกจิ กรรมท่ี 1 และ 2 เรอ่ื ง ลักษณะของกิจการผลิตเปรียบเทียบกบั กิจการซื้อขายสนิ คา 8. กิจกรรมการเรยี นรู (จัดกิจกรรมการเรยี นรูโ ดยใชก ระบวนการใด แสดงตามขน้ั ตอน : เวลาทีใ่ ช 4 ชัว่ โมง - ขั้นนาํ เขา สูบทเรยี น/ข้ันตัง้ คําถาม (ชั่วโมง 1-4) 1.ครูใชเทคนิคในการจดั กจิ กรรมการเรียนรโู ดยใชแบบโมเดลซปิ ปา (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรเู ดิม เปนการยกตวั อยางการผลติ สินคา สาํ เรจ็ รปู ทตี่ องมคี าใชจ า ยซึ่งเรยี กวาตนทุนเขามาเก่ยี วของ โดยตนทนุ จะขึ้นอยูตาม ลกั ษณะของวตั ถุดิบที่นํามาผลิตเปนสินคา สาํ เรจ็ รปู แตละประเภท 2..ครสู นทนากับผเู รียนถงึ วตั ถุดิบเปนสวนประกอบสาํ คัญในการผลิตทีจ่ ะถูกเปลย่ี นสภาพกลายเปนสนิ คา สาํ เร็จรูป 3.ผูเรียนยกตวั อยา งวตั ถดุ ิบ ไดแก ไมแ ปรรปู เปน วัตถุดิบทางตรง ในการผลติ เฟอรนิเจอร ผา เปน วัตถดุ บิ ทางตรง ในการผลิต เส้ือผาสาํ เร็จรปู ดินเหนยี ว เปน วัตถดุ ิบทางตรง ในการผลติ ผลติ ภณั ฑเ ซรามิก ผลไม เปน วัตถดุ ิบทางตรง ในการผลิต นํา้ ผลไม 4.ครผู ูส อนสนทนาซักถามใหผ เู รยี นเลาประสบการณเ กย่ี วกบั การผลิตสิง่ ของใชในครัวเรือนของตนเอง หรอื ให ผเู รยี นแสดงความรูเดิมของตนวา มีความรูมากนอ ยเพียงใด เพอ่ื ชว ยใหผ ูเรียนมีความพรอมในการเชอื่ มโยงความรูใหมก บั ความรเู ดิมของตน 5.ครแู นะนาํ ใหผเู รียนแสวงหาขอ มลู ความรูใหมเ กี่ยวกบั ตน ทุนการผลติ จากแหลงขอมลู หรอื แหลงความรตู า ง ๆ โดยผูส อนใหคําแนะนําเกยี่ วกับแหลง ขอมลู ตาง ๆ เพอ่ื ใหผ ูเรียนไปแสวงหา โดยผสู อนแนะนาํ แหลงความรูตา ง ๆ ใหแก ผูเรียนตลอดท้งั จดั เตรียมเอกสารส่อื ตาง ๆ 6. ทําแบบประเมนิ ผลกาเรียนรูกอ นเรยี นหนวยท่ี 2 - ขัน้ สอน 7. ครูใชเทคนิคการสอนวธิ สี อนแบบบรรยาย (Lecture Method) ซ่งึ เปนวธิ ีสอนท่ผี สู อนใหค วามรตู าม เนือ้ หาสาระดว ยการเลา อธิบายแสดงสาธติ โดยท่ีผูเ รยี นเปน ผฟู ง เพยี งอยางเดียว อาจเปด โอกาสใหซักถามปญ หา ไดบา งในตอนทายของการบรรยาย 8.ครแู ละผูเรยี นสรปุ ไดว า ตนทนุ (Cost) หมายถงึ มลู คา ของทรัพยากรทสี่ ญู เสียไปเพอ่ื ใหไดส ินคาหรือบรกิ าร โดยมูลคานนั้ จะตองสามารถวัดไดเ ปนหนว ยเงินตรา ซง่ึ เปนลกั ษณะของการลดลงในสนิ ทรัพยห รอื เพมิ่ ขน้ึ ใน หน้สี ิน ตนทนุ ท่เี กดิ ขึน้ อาจจะใหป ระโยชนในปจจุบันหรอื ในอนาคตกไ็ ด เม่ือตน ทุนใดที่เกิดขน้ึ แลว และกจิ การได ใชป ระโยชนไ ปแลว ตนทุนนัน้ จะถือเปน “คาใชจ าย” (Expenses) ดังนน้ั คาใชจ า ยจงึ หมายถงึ ตน ทนุ ทไ่ี ดให ประโยชนและกจิ การไดใชป ระโยชนทง้ั หมดไปแลว ในขณะนัน้ สาํ หรับตน ทนุ ทก่ี ิจการสูญเสยี ไปแตจ ะใหประโยชน ในอนาคตเรยี กวา “สินทรัพย (Assets)

9. ครใู ชเทคนิควิธสี อนแบบใชโสตทัศนวัสดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เปน วธิ สี อนท่ี นาํ อุปกรณโ สตทศั นว ัสดมุ าชวยพัฒนาคณุ ภาพการเรยี นการสอน ไดแ ก แผนใส และ Power Point ประกอบกาเรยี น 10. ครใู ชเ ทคนิคกระบวนการเรยี นการสอนของรปู แบบ แอล.ที. (L.T) คอื “Learning Together” ซ่ึงมี กระบวนการทง่ี า เพ่ือศึกษาองคประกอบของตน ทนุ การผลติ และความสัมพนั ธของตนทุนการผลิต 11. ครอู ธิบายความสัมพนั ธข องตน ทุนการผลติ เพมิ่ เตมิ จากท่ีกลา วมาแลว ในการผลติ สนิ คาน้ันจะแบง องคป ระกอบของตน ทนุ การผลติ ออกเปน 3 ประเภท 12. ผเู รียนปฏบิ ัติกจิ กรรมดังนี้ 12.1 ใหนาํ ตวั อยางกิจการอุตสาหกรรมมาศึกษา 1 แหง เพื่ออธิบายถงึ องคป ระกอบของกิจการอุตสาหกรรม น้ันวา ประกอบดวยอะไรบา ง 12.2 พิจารณารปู ภาพไม และเฟอรน ิเจอรไ มท ค่ี รูนาํ มาใหด ู แลวบอกองคป ระกอบของตน ทนุ ผลิตวา ไดแก อะไรบา ง 13. ครูเพ่ิมเตมิ เน้ือโดยเนนใหผ เู รยี นสรา งภูมคิ ุมกันทดี่ ใี หก บั ตนเอง คือ เตรียมใจใหพรอ มรับผลกระทบและ ความเปลย่ี นแปลงทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ในอนาคตทําใหเขมแขง็ ทางดานฐานะการเงิน โดยมเี ง่ือนไขคุณธรรมประกอบดว ย ในการ ซอ้ื สินคา มาบรโิ ภค หรอื จําหนายกต็ องคาํ นึ่งถงึ ความพอดี ระมัดระวงั ผลกระทบทเ่ี กิดขนึ้ อยางรอบคอบ จะไดไมเกดิ ปญหา ตา ง ๆ ตามมาภายหลัง 1) การมีความรู คือ นําความรูมาใชในการวางแผนและดาํ เนินชวี ติ 2) การมีคณุ ธรรม คือ มคี วามซื่อสตั ยส ุจริต สามัคคี และชวยเหลอื ซ่ึงกันและกนั -ข้นั สรุป 14. ครแู ละผเู รยี นสรปุ ความหมายของตนทุนการผลติ องคประกอบของตนทนุ การผลิต และความสัมพันธของ ตน ทนุ การผลติ โดยใชเ ทคนิคการจดั การเรยี นรูแบบใชคาํ ถาม (Questioning Method) 15. ผสู อนและผูเรยี นรวมกันประเมินผลการเรยี นรู โดยใชวธิ ีการประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ 16. ทาํ แบบประเมนิ ผลการเรียนรู และใบงานหนวยที่ 2 9. สอ่ื การเรยี นการสอน / แหลงเรียนรู จาํ นวน สภาพการใชส อ่ื รายการสื่อ 2 ชุด หนังสอื เรยี น 1. ใบงาน 1-2 เรื่อง องคป ระกอบของตน ทนุ การผลิต

10. การวดั ผลและประเมินผล เปา หมาย หลกั ฐานการเรยี นรู วธิ วี ัด ประเด็น/ การเรยี นรู ชนิ้ งาน/ภาระงาน เครอ่ื งมอื วดั ฯ เกณฑการให 1. อธบิ ายความหมาย ใบงานองคประกอบของ ตรวจสอบใบงาน คะแนน ของตนทนุ การผลติ ได ตน ทุนการผลติ -ใบงาน สามารถคาํ นวณ 2. บอกองคประกอบ ของตน ทนุ การผลติ ได เงนิ ประกนั ได 3. แสดงความสัมพันธ ถูกตองได 5 ของตน ทนุ การผลิตได คะแนน 11. การบูรณาการตามจดุ เนน ของโรงเรยี น หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจ ครู ผเู รียน พอเพียง พอดีดา นเทคโนโลยี พอดดี า นจติ ใจ 1. ความพอประมาณ รูจักใชเทคโนโลยมี าผลติ ส่ือทีเ่ หมาะสม และสอดคลอ งเน้ือหาเปน ประโยชนต อ ผเู รยี น มจี ติ สาํ นกึ ที่ดี เอื้ออาทร ประนปี ระนอม นกึ ถึงประโยชน สว นรวม/กลุม 2. ความมเี หตุผล ยึดถือการประกอบอาชีพดวยความ ไมห ยุดน่ิงที่หาหนทางในชีวิต หลดุ พน ถกู ตอง สจุ รติ แมจะตกอยูใ นภาวะขาด จากความทุกขยาก (การคน หาคําตอบ แคลน ในการดํารงชวี ิต เพื่อใหหลุดพนจากความไมร )ู 3. มภี มู คิ ุมกันในตัวท่ดี ี ภมู ปิ ญ ญา : มคี วามรู รอบคอบ และ ภมู ิปญญา : มคี วามรู รอบคอบ และ สิง่ แวดลอม ระมดั ระวงั ระมดั ระวงั สรา งสรรค งานและพลังงาน ครู ผูเรยี น - การเลือกใชอยางถูกวิธี งานและพลงั งาน งานและพลังงาน - การอนุรักษส ่ิงแวดลอม - การเลือกใชอยา งถกู วธิ /ี เทคนคิ - ยกตัวอยางการใชอปุ กรณ/ วิธกี าร เคร่อื งใชไฟฟาอยา งถูกวิธี - กระบวนการการอนรุ กั ษ - แสนอแนะแนวทางอนุรักษ ส่ิงแวดลอม สง่ิ แวดลอ ม ลงชือ่ ..................................................ผสู อน

(นางสาวกรแกว โอภาสสวุ คนธ) ใบงานท่ี 1 องคป ระกอบของตน ทุนการผลติ คําชีแ้ จง : จงตอบคาํ ถามตอไปนี้ 1 จงสรปุ สาระสาํ คัญของตนทนุ (Cost)มาใหเขา ใจ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ 2 ตนทนุ ทีแ่ บง ตามลักษณะสวนประกอบของผลติ ภณั ฑ กับตน ทนุ แบงตามความสําคัญและลกั ษณะของตนทุน การผลติ มคี วามแตกตา งกนั อยา งไร ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ 3 จงบอกความหมายของตน ทนุ การผลติ (Cost of Goods Manufactured) มาใหเ ขา ใจ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ 4 จงสรปุ สาระสําคญั ของความสัมพันธข องตน ทุนการผลิต วา เปน อยา งไรบา ง ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ 5 วตั ถุดิบมีความสําคญั ตอ การผลติ สนิ คา อยางไรบาง จงอธิบาย ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................

เฉลย ใบงานท่ี 1 องคป ระกอบของตน ทนุ การผลติ คําช้แี จง : จงตอบคําถามตอไปน้ี 1 จงสรปุ สาระสาํ คัญของตนทนุ (Cost)มาใหเ ขา ใจ ตอบ ตน ทุน (Cost) หมายถงึ มลู คา ของทรัพยากรทส่ี ูญเสียไปเพ่ือใหไดสนิ คา หรือบริการ โดยมูลคานั้นจะตอง สามารถวดั ไดเ ปน หนวยเงินตรา ซ่งึ เปนลกั ษณะของการลดลงในสนิ ทรัพยหรอื เพ่ิมข้นึ ในหนส้ี นิ ตนทนุ ทเี่ กดิ ขนึ้ อาจจะใหป ระโยชนในปจ จบุ นั หรอื ในอนาคตก็ได เมื่อตน ทุนใดท่ีเกดิ ขึ้นแลว และกจิ การไดใชป ระโยชนไ ปแลว ตน ทนุ น้ันจะถือเปน “คาใชจา ย”(Expenses) ดงั นน้ั คา ใชจ ายจึงหมายถึงตน ทนุ ท่ีไดใหประโยชนแ ละกิจการไดใช ประโยชนทั้งหมดไปแลวในขณะน้ัน สาํ หรบั ตนทนุ ท่ีกิจการสญู เสียไปแตจ ะใหป ระโยชนในอนาคตเรยี กวา “สินทรพั ย (Assets) 2 ตนทุนทแี่ บงตามลกั ษณะสวนประกอบของผลิตภณั ฑ กับตน ทนุ แบงตามความสาํ คญั และลักษณะของตน ทนุ การผลติ มีความแตกตา งกนั อยางไร ตอบ ตน ทนุ ท่ีแบงตามลกั ษณะสว นประกอบของผลติ ภณั ฑประกอบดวยวัตถุดบิ ทางตรง คาแรงงานทางตรง และ คาใชจายในการผลติ สวนตนทนุ แบง ตามความสาํ คัญและลักษณะของตน ทุนการผลติ ประกอบดวย 1. ตนทุนขน้ั ตน (Prime Costs) หมายถึง ตน ทนุ รวมระหวา งวตั ถดุ บิ ทางตรงและคาแรงงานทางตรง 2. ตน ทุนแปรสภาพ (Conversion Costs) หมายถึง ตน ทนุ ที่เกยี่ วกับแปรสภาพและเปล่ียนรปู แบบ จากวัตถดุ ิบทางตรงใหเปนสนิ คา สาํ เรจ็ รูป 3 จงบอกความหมายของตน ทนุ การผลติ (Cost of Goods Manufactured) มาใหเ ขา ใจ ตอบ ตนทุนการผลติ (Cost of Goods Manufactured) หมายถงึ จํานวนเงินคา ใชจ ายตา งๆ ทเี่ กดิ ขึน้ ใน การแปรสภาพวตั ถุดบิ ตามขัน้ ตอนจนเปนสินคาสําเรจ็ รปู พรอมทจ่ี ะขายใหผ บู ริโภคได 4 จงสรุปสาระสําคญั ของความสมั พนั ธข องตน ทนุ การผลิต วาเปน อยา งไรบาง ตอบ ในการผลติ สนิ คานนั้ จะแบงตนทนุ ออก 3 ประเภท ไดแ ก วัตถุดบิ ทางตรง คา แรงงานทางตรงและคา ใชจายใน การผลิต ซง่ึ คาใชจ ายในการผลติ ประกอบดว ยคาใชจ า ยทุกรายการที่เกิดขึน้ ในกระบวนการผลติ (ยกเวน วตั ถดุ บิ ทางตรงและคา แรงงานทางตรง) โดยตองโอนปด ไปยงั บัญชีคาใชจ า ยในการผลติ ซ่ึงเปนบัญชีคมุ การโอนตนทนุ การ ผลติ ไปเปนตน ทนุ สินคานั้น ในชวงท่สี ินคายังผลิตไมเ สร็จตนทุนสินคาทก่ี ําลงั อยูในกระบวนการผลิตจะโอนไปบัญชี งานระหวางทาํ เมือ่ สนิ คา ผลิตเสร็จก็จะโอนตน ทุนหนวยที่ผลติ เสร็จแลว ไปยังบัญชตี นทุนสินคาสาํ เร็จรปู เม่ือขาย สินคา สําเร็จรปู ตนทนุ สนิ คา สวนทีข่ ายจะถูกโอนจากบญั ชีสนิ คา สาํ เร็จรูปเขา บญั ชีตน ทุนของสินคาทขี่ าย 5 วัตถดุ ิบมคี วามสาํ คัญตอการผลิตสินคา อยา งไรบา ง จงอธิบาย ตอบ วตั ถดุ บิ (Materials) วัตถดุ บิ เปน องคประกอบทส่ี ําคัญของการผลติ สินคาสําเรจ็ รูป ซง่ึ ตนทนุ ท่เี กีย่ วกบั การใช วตั ถุดบิ ในการผลิตสินคาน้ันมี 2 ลกั ษณะ คอื 1. วัตถุดบิ ทางตรง (Direct Materials) หมายถึง วตั ถดุ บิ หลักท่ีใชใ นการผลิต และสามารถระบุไดชัดเจน วา ใชในการผลติ สนิ คา ชนิดใดชนิดหนึง่ ในปรมิ าณและตน ทุนเทาใด รวมทั้งจดั เปน วัตถดุ ิบหลกั ท่ใี ชใ นการผลติ สินคา ชนดิ น้ัน 2. วตั ถดุ ิบทางออม (Indirect Materials) หมายถงึ วัตถุดิบตา งๆ ที่เกยี่ วขอ งโดยทางออมกบั การผลติ

สนิ คา แตไมใชวตั ถดุ ิบหลักหรือวัตถดุ ิบสว นใหญ การออกแบบการจัดการเรียนรู กลุมสาระการเรียนรู การงานอาชพี และเทคโนโลยี รายวชิ า การบัญชีตนทุนเบ้ืองตน รหสั วิชา ง 32273 ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปที่ 5 จดั ทําโดย นางสาวกรแกว โอภาสสวุ คนธ ตําแหนง พนกั งานราชการ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห 31 ตําบลชางเคิง่ อาํ เภอแมแ จม จงั หวัดเชยี งใหม สาํ นกั บริหารงานการศึกษาพเิ ศษ

สาํ นกั งานการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ คําอธิบายรายวิชา รายวิชา การบญั ชตี นทุนเบ้อื งตน รหัสวิชา ง 32273 ช้ัน มัธยมศึกษาปที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปก ารศกึ ษา 2562 เวลา 80 ชั่วโมง จาํ นวน 2 หนวยกติ คาํ อธบิ ายรายวิชา ศึกษาและปฏิบตั เิ ก่ียวกับ ลักษณะของกิจการผลติ เปรียบเทยี บกบั กิจการซื้อขายสนิ คา องคป ระกอบของตนทนุ การผลติ การรบั จา ยวัตถดุ บิ การบันทึกรายการเกย่ี วกบั แรงงาน ชว่ั โมงทาํ งาน อัตราคาแรง คา ลว งเวลา เงนิ ประกนั สังคม ภาษเี งนิ ไดบ ุคคลธรรมดาหัก ณ ทจี่ าย รายการหักตา ง ๆ คาใชจ า ยการผลิต การบนั ทึกรายการเกย่ี วกบั วตั ถดุ ิบตามวิธี บญั ชีสินคา คงเหลอื แบบส้ินงวด และวิธีการบัญชสี ินคา คงเหลือแบบตอเน่อื ง ตนทนุ การผลติ การคาํ นวณตนทุนสินคาที่ ผลติ เสรจ็ กระดาษทาํ การ รายการปรบั ปรงุ ปด บญั ชี และการจัดทํางบตนทุนผลติ ตวั ชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู 1.มคี วามเขา ใจหลกั การ และกระบวนการปฏิบตั ิงานบัญชีของกิจการประเภทธุรกจิ อุตสาหกรรม 2.มที ักษะปฏิบตั ิงานบัญชีตามหลกั การบญั ชีท่ีรับรองทวั่ ไป สําหรบั กจิ การประเภทธุรกิจอุตสาหกรรม มกี ิจนิสัย มรี ะเบียบ ละเอยี ดรอบคอบ ซ่ือสัตย มีวินัยตรงตอเวลา และมีเจตคติท่ีดตี อวิชาชีพบญั ชี รวมท้ังหมด 2 ตวั ช้ีวัด/ผลการเรยี นรู *** หมายเหตุ - ตวั ชีว้ ัด (รายวิชาพ้ืนฐาน) - ผลการเรยี นรู (รายวชิ าเพิม่ เตมิ )

หนว ยท่ี 10 การออกแบบหน การปด บญั ชี รายวชิ า การบัญชตี นทุนเบ้ือ จํานวน 8 ชวั่ โมง : 10 คะแนน ระดับช้ันมัธยมศึกษาปท ี่ 5 ภาค หน ลกั ษณะของกิจการผลิตเปรีย จํานวน 4 ช หนว ยท่ี 9 วิชาการบญั ชีต กระดาษทาํ การและงบการเงิน จํานวน 8 จาํ นวน 8 ชว่ั โมง : 10 คะแนน หนว ยที่ 8 การปรบั ปรุงบญั ชี จาํ นวน 8 ช่ัวโมง : 10 คะแนน หนว ยท่ี 7 หนว ตนทนุ การผลิตและงบตน ทนุ ผลติ คาใชจ า จาํ นวน 12 ช่ัวโมง : 10 คะแนน จาํ นวน 8 ชัว่

นว ยการเรียนรู หนว ยที่ 2 องตน รหสั วิชา ง 32273 องคประกอบของตนทนุ การผลติ คเรียนท่ี 1 ปการศกึ ษา 2562 จาํ นวน 4 ชั่วโมง : 10 คะแนน นว ยท่ี 1 ยบเทยี บกับกิจการซ้ือขายสินคา หนว ยท่ี 3 ชั่วโมง : 10 คะแนน การรบั จา ยวัตถดุ บิ จํานวน 8 ช่ัวโมง : 10 คะแนน ตนทุนเบอื้ งตน 80 ช่วั โมง หนว ยท่ี 4 การบันทกึ รายการวัตถุดิบ จํานวน 8 ชว่ั โมง : 10 คะแนน วยที่ 6 หนว ยที่ 5 ายการผลิต การบนั ทกึ รายการเกย่ี วกบั คา แรงงานและรายการหักตางๆ วโมง : 10 คะแนน จาํ นวน 8 ช่ัวโมง : 10 คะแนน

การออกแบบ รายวชิ า การบัญชตี นทนุ เ ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 5 ภ หนว ยการเรยี นรูท่ี 1 เรอ่ื งอ หนวย การรบั จา ย จาํ นวน 8 ชว่ั โม

บหนวยการเรียนรู เบอ้ื งตน รหัสวิชา ง 32273 ภาคเรยี นที่ 1 ปก ารศกึ ษา 2562 องคประกอบของตนทนุ การผลติ ยท่ี 3 ยวตั ถุดิบ มง : 10 คะแนน 1.อธบิ ายความหมายของตนทุนการผลติ ได 2.บอกองคประกอบของตนทุนการผลติ ได 3.แสดงความสัมพนั ธของตน ทนุ การผลิตได จาํ นวน 4 ชั่วโมง

แผนการจัดการเรียนรู หนว ยการเรียนรทู ่ี 3 เรื่อง การรบั จายวตั ถดุ ิบ แผนจัดการเรยี นรูที่ 3 เร่อื ง การรับจา ยวัตถดุ บิ รายวชิ า การบัญชตี น ทุนเบอ้ื งตน รหสั วชิ า ง 32273 ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปที่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปการศกึ ษา 2562 น้ําหนักเวลาเรยี น 2 (นน./นก.) เวลาเรียน 4 ชั่วโมง/สปั ดาห เวลาท่ใี ชในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู 4 ชั่วโมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาํ คญั (ความเขาใจทีค่ งทน) วัตถุดิบ (Raw Materials) เปน สว นประกอบทีส่ ําคญั ในการผลติ สินคา ของกจิ การอตุ สาหกรรม โดยการนาํ วตั ถุดบิ ทก่ี ิจการซื้อมาผานกระบวนการแปรรูปไปเปน สินคาสาํ เร็จรปู ซึ่งวัตถดุ ิบแบงออกเปน 2 ประเภท คอื วัตถุดบิ ทางตรง และวัตถุดิบทางออม สวนวตั ถุดบิ ทีน่ ํามาคํานวณตนทนุ ผลติ สนิ คาคอื วัตถุดบิ ทางตรง หรือวัตถดุ ิบท่ใี ชไ ปในการ ผลติ ในการรับจายวัตถุดบิ จะผา นข้ันตอน การจัดทําเอกสารสําคญั ประกอบเพื่อปองกนั ขอผิดพลาดทอี่ าจจะเกดิ ขึ้นได โดยเอกสารใบสําคัญในการรับจา ยวัตถุดบิ จะเปน หลักฐานในการบันทึกบญั ชีเกยี่ วกับวัตถุดิบ และอางองิ ได 2. มาตรฐานการเรียนรู/ตัวช้ีวดั ช้ันป/ผลการเรียนรู/เปาหมายการเรยี นรู ผลการเรียนรู 1. บอกความหมายและประเภทของวตั ถุดิบได 2. อธิบายการจัดซื้อวัตถดุ ิบได 3. อธิบายและบนั ทึกการรบั จายวัตถุดบิ ได 4. อธิบายการตีราคาวัตถุดิบคงเหลอื ได 3. สาระการเรียนรู 3.1 เนอ้ื หาสาระหลัก : Knowledge 1. บอกความหมายและประเภทของวัตถุดิบ 2. อธิบายการจัดซ้ือวัตถดุ ิบ 3. อธบิ ายและบันทึกการรับจายวัตถุดิบ 4. อธบิ ายการตรี าคาวัตถุดบิ คงเหลอื 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process 1. บอกความหมายและประเภทของวตั ถุดิบได 2. อธิบายการจดั ซ้ือวตั ถุดบิ ได 3. อธิบายและบนั ทึกการรบั จายวัตถดุ บิ ได 4. อธิบายการตีราคาวัตถดุ ิบคงเหลือได 3.3 คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค : Attitude

1. ความรบั ผิดชอบ 2. ความสนใจใฝร ู 4. สมรรถนะสาํ คญั ของนักเรยี น 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแกปญหา 3. ความสามารถในการใชท ักษะชวี ิต 5. คณุ ลักษณะของวชิ า 1. ความรับผิดชอบ 2. ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 3. ความสนใจใฝร ู 6. คุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค 1. ใฝเรียนรู 2. มงุ มน่ั ในการทาํ งาน 7. ช้นิ งาน/ภาระงาน - แบบฝกทักษะ เรื่อง การรับจา ยวตั ถุดิบ 8. กจิ กรรมการเรียนรู (จดั กิจกรรมการเรยี นรโู ดยใชก ระบวนการใด แสดงตามขนั้ ตอน : เวลาท่ใี ช 4 ชั่วโมง - ขั้นนาํ เขาสบู ทเรยี น/ขั้นตั้งคําถาม (ช่วั โมง 1-8) 1.ครใู ชเ ทคนิคการสอนโดยใชแบบโมเดลซปิ ปา (CIPPA MODEL) เปน การทบทวนความรเู ดมิ โดยครสู นทนากบั ผเู รยี นเรื่องวตั ถุดบิ โดยวตั ถดุ ิบถอื เปนสวนสาํ คัญในการผลิตสนิ คา แตในการผลติ สินคา ชนิดใดชนิดหนึ่งน้ันสวนมากมักจะ ใชว ัตถดุ ิบหลายชนดิ โดยผูสอนใชการสนทนาซักถามใหผ ูเ รยี นเลา ประสบการณเ ดมิ หรือใหผ ูเ รยี นแสดงโครงความรูเดิม (Graphic Organizer) ของตน 2.ผูสอนใหค ําแนะนาํ เก่ียวกับแหลงขอ มูลตา ง ๆ เพ่ือใหผูเ รียนไปแสวงหาแหลง ความรูต าง ๆ ใหแกผ เู รยี นตลอด ทงั้ จัดเตรียมเอกสารสื่อตา ง ๆ - ขั้นสอน 3. ครใู ชเทคนคิ วธิ ีสอนแบบบรรยาย (Lecture Method) เปน วธิ ีสอนที่ผสู อนใหความรตู ามเน้อื หาสาระดวยการ เลา อธบิ ายแสดงสาธติ โดยทีผ่ เู รียนเปน ผฟู ง เพียง และเปด โอกาสใหซักถามปญ หาไดใ นตอนทายของการบรรยายเกี่ยว ความหมายและประเภทของวัตถดุ ิบ ซงึ่ วัตถดุ บิ ที่ใชในการผลิตเหลา น้ันแบง ออกได 2 ประเภท คอื 1. วตั ถดุ บิ ทางตรง (Direct Materials) คือวัตถุดิบที่ใชเ ปน สวนประกอบหลกั หรือสว นประกอบสําคญั ใน การผลิตสินคา สามารถช้ีไดช ัดวา จะใชผลิตสินคาชนิดใด เปนจํานวนเทา ไหรแ ละสามารถคาํ นวณมูลคา ตอการผลติ สนิ คา หนง่ึ หนว ยไดงาย เชน ไมเ ปน วัตถุดิบทางตรงในการผลิตเฟอรนิเจอรไม เหลก็ เปน วตั ถุดิบทางตรงในการผลิตรถยนต ผา เปน วัตถดุ บิ ทางตรงในการตัดเสอื้ ผา การคํานวณวัตถุดิบทใี่ ชในการผลิตสามารถคํานวณไดดงั นี้ วตั ถดุ ิบที่ใช้ไปในการผลิต = วตั ถดุ ิบต้นปี + ซื้อวตั ถดุ ิบระหว่างงวด + ค่าขนส่งเขา้ – ส่งคนื วตั ถดุ ิบ – ส่วนลดรบั – วตั ถดุ ิบปลายปี 2. วตั ถดุ ิบทางออ ม (Indirect Materials) หมายถึง วัตถุดบิ บางสวนที่ใชผลิตสินคา สําเรจ็ รูปหรือเปน เพยี งสว นประกอบหรืออาจเปนสวนสาํ คัญแตใชในปรมิ าณท่ีนอย มมี ลู คาตํ่าซึ่งยากแกก ารคํานวณเขา สูสินคาโดยตรง

ดังน้ันวัตถุดบิ ทางออมจึงถอื เปน คา ใชจ า ยการผลติ เชน กาว ตะปู สี ดาย กระดุม ซิป หรอื วัสดุส้ินเปลอื งอื่นๆ ซงึ่ ในการ คํานวณตนทุนการผลติ นน้ั จะคาํ นวณไดย ากกวา วตั ถุดิบทางตรงวาในการคํานวณสินคา 1 หนว ยนน้ั ตองใชว ตั ถดุ บิ ทางออม เปน จํานวนเทาไร เชน โรงงานผลิตเส้ือสาํ เร็จรปู เสอื้ 1 ตัวจะใชดา ยเปน จํานวนเทาไร วัตถดุ บิ ทางออมน้นั จะจัดอยใู นสว น ของคา ใชจายในการผลติ 4. ครใู ชเ ทคนคิ การสอนโดยใชแ บบโมเดลซปิ ปา (CIPPA MODEL) ซึง่ ไดการทบทวนความรเู ดมิ โดยสนทนา ซกั ถามใหผเู รียนเลาประสบการณเดมิ ของตนเกย่ี วกบั การจัดซ้ือสนิ คา หรือวัตถดุ บิ 5. ผูเรยี นการแสวงหาขอ มูลเกย่ี วกบั การจัดซอื้ วัตถุดบิ จากหนว ยงาน หรอื กิจการตา งๆ เชน บรษิ ัท หา ง ราน ตา งๆ เพื่อศึกษาวิธีการ ขน้ั ตอนการจัดซือ้ เอกสารสําคัญท่ีใชใ นการจดั ซอื้ เปน ตน 6. เม่อื ผเู รยี นศกึ ษาและทําความเขาใจกับขอมูล / ความรทู ีห่ ามาได ผูเรยี นสรางความหมายของขอมูล / ประสบการณใหม ๆ โดยใชก ระบวนตา ง ๆ ดวยตนเอง เชน ใชก ระบวนการคดิ กระบวนการกลมุ ในการอภิปราย และสรุป ความเขา ใจเกีย่ วกับขอ มูลนน้ั ๆ ซึง่ จําเปนตอ งอาศยั การเชื่อมโยงกับความรเู ดิม 7. ผูสอนใชก ระบวนการตา ง ๆ ในการจดั กิจกรรม เชน กระบวนการคิด กระบวนการกลุม กระบวนการแสวงหา ความรู กระบวนการแกปญ หา กระบวนการสรา งลักษณะนสิ ัย กระบวนการทกั ษะทางสงั คม ฯลฯ เพื่อใหผ ูเรยี นสราง ความรขู ึน้ มาดว ยตนเอง โดยใหการจดั ซือ้ วัตถุดิบกิจการอตุ สาหกรรมท่ีผลิตสินคา 8. ผเู รียนแบงกลมุ ตามความสนใจ เพอ่ื อาศัยกลุมเปน เครื่องมือในการตรวจสอบความรวมท้งั ขยายความรคู วาม เขา ใจของตนใหกวางขน้ึ ซ่ึงจะชว ยใหผ เู รียนไดแ บงปนความรคู วามเขา ใจของตนเองแกผูอน่ื และไดรับประโยชนจ าก ความรู ความเขา ใจของผอู น่ื ไปพรอ มกนั โดยศึกษาเอกสารท่ีเกีย่ วของในการจดั ซ้อื วัตถุดิบ 9. ผูเรยี นแตล ะกลุมสรปุ ความรทู ีไ่ ดร บั ท้งั หมด ท้ังความรูเดมิ และความรูใ หม และจดั ส่ิงท่ีเรยี นใหเปน ระเบียบ เพ่อื ใหผ ูเรียนจดจําส่งิ ท่เี รียนรูไดง า ย ผสู อนใหผเู รียนสรปุ ประเด็นสําคัญประกอบดว ยมโนทัศนห ลัก และมโนทัศนย อยของ ความรทู ง้ั หมด แลว นาํ มาเรียบเรียงใหไ ดส าระสาํ คัญครบถวน และใหผเู รยี นจดเปน โครงสรางความรู จะชวยใหจ ดจาํ ขอมลู ไดงา ย 10. ผูเรียนอภิปราย การแสดงบทบาทสมมติเกี่ยวกับการจัดซอื้ วตั ถุดบิ และเอกสารสาํ คญั ประกอบในการจัดซื้อ และใชส อื่ Power Point ประกอบ 11. ครูและผูเรียนประเมนิ ผลงานโดยมเี กณฑท่เี หมาะสม ซ่ึงในการปฏิบตั แิ ละ / หรอื การแสดงผลงานนจ้ี ะชว ยให ผูเรียนไดมีโอกาสแสดงผลงานการสรา งความรูของตนใหผูอ่ืนรับรู เปน การชวยใหผ เู รยี นไดต อกย้ําหรอื ตรวจสอบความ เขาใจของตน และชว ยสง เสริมใหผเู รยี นใชความคิดสรา งสรรค แตหากตองมกี ารปฏบิ ัตติ ามขอมูลท่ีได ขัน้ นจ้ี ะเปนขน้ั ปฏิบัติ และมกี ารแสดงผลงานท่ีไดปฏบิ ัติดว ย 12. ผเู รยี นสามารถประยุกตใชความรไู ปใชโดยการออกแบบแบบฟอรม และกรอกขอมูลในเอกสารสาํ คัญตางๆ ไดอยา งถกู ตองและรอบคอบ ซงึ่ เปน การสงเสรมิ ใหผ เู รียนไดฝก ฝนการนาํ ความรคู วามเขาใจของตนไปใชใ นสถานการณ ตา ง ๆ ทหี่ ลากหลาย เพ่มิ ความชํานาญ ความเขา ใจ ความสามารถในการแกป ญหาและความจําในเรอื่ งนัน้ ๆ เปน การให โอกาสผเู รยี นใชค วามรูใหเปน ประโยชน เปนการสงเสริมความคิดสรา งสรรค หลังจากประยุกตใชความรู อาจมีการ นาํ เสนอผลงานจากการประยุกตอ ีกคร้งั ก็ได 13. จากขอความรูตา งๆ ทผ่ี ูเรียนศกึ ษา คน ควา ปฏบิ ัติ ซง่ึ เปนกระบวนการของการสรา งความรู (Construction of Knowledge) จะชว ยใหนาํ ความรไู ปใช (Application) จงึ เปน รูปแบบครบตามหลัก CIPPA 14.ครใู ชเทคนวธิ สี อนแบบใชโสตทัศนวัสดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) ไดแก Power Point และ CD เกีย่ วกับการรับวัตถุดบิ 15.ครูใชเ ทคนิควธิ ีสอนแบบบรรยาย (Lecture Method) โดยใหความรูตามเนื้อหาสาระดวยการเลา อธบิ าย แสดงสาธิตโดยท่ผี ูเ รียนเปนผูฟง และเปดโอกาสใหซักถามปญหาของการรับวตั ถุดิบ ดงั น้ันกิจการจึงควรมีการจดั การใหรดั กุม ไมใหวัตถุดิบทีใ่ ชขาดประสิทธิภาพ หรือ เกดิ การสญู หายไดในเรื่องดังน้ี 1. การรับวัตถุดบิ เมื่อมีการสง วัตถดุ บิ มายังแผนกคลังวัตถดุ ิบ แผนกคลงั วัตถดุ ิบก็จะไดรับ

ใบสง ของ/ใบกาํ กับสนิ คา เพ่ือทาํ การตรวจสอบวาถูกตองตรงกันหรือไม แลวจัดเกบ็ วัตถุดิบไวใน คลังวัตถุดิบตามสภาพของวตั ถดุ บิ แตละประเภท จากนัน้ ก็จะนาํ หลักฐานไปบันทึกการรับวตั ถุดิบที่ บัตรวัตถุดบิ แตล ะประเภทที่รับเขามาในแตละวัน โดยจะมีหลกั ฐานการรับวตั ถดุ บิ นั้นเขาคลงั คือใบรับวัตถุดบิ ใบรับวัตถุดิบ 2. การเบกิ จายวัตถุดบิ เมื่อแผนกผลิตตา งๆ ตองการเบิกวตั ถุดิบจะทําใบเบกิ วัตถุดิบเพื่อขอเบิกวตั ถุดิบ ตามทแี่ ตละแผนกผลติ ตองการใช การจายวัตถดุ บิ ตองควบคมุ ใหร ัดกุม 3. บญั ชีแยกประเภทวัตถุดบิ สมดุ บญั ชเี ลม น้ีจะใชเ ปนทะเบียนคุมยอดวัตถุดิบในแตละชนดิ ของกิจการ วามีการรับเขา จายออก และมียอดคงเหลอื ในแตละวันเปนจํานวนเทา ใด ซ่ึงบญั ชี แยกประเภทวัตถดุ บิ จะเปนบัญชที ใ่ี ชในการบนั ทึกขั้นปลายหรอื ขน้ั สดุ ทาย 16.ครใู ชเ ทคนิคกกระบวนการเรียนการสอนของรปู แบบแอล.ที. (L.T) เรอื่ งการตรี าคาวตั ถดุ บิ คงเหลือ ซึง่ มีกระบวนการดงั น้ี 16.1 จดั ผูเรยี นเขากลมุ คละความสามารถ ( เกง - กลาง - ออ น ) กลุม ละ 4 คน 17.2 กลุมยอ ยกลุมละ 4 คน ศกึ ษาเนื้อหารวมกนั โดยกาํ หนดใหแ ตละคนมีบทบาทหนา ท่ชี ว ยกลมุ ในการเรยี นรู ไดแก การ ตรวจนับจาํ นวนวัตถุดิบคงเหลือ ณ วันส้นิ งวดบัญชี เพื่อคํานวณหาราคาทนุ ของวตั ถดุ ิบหรือปรมิ าณวัตถุดิบวา มีจาํ นวน คงเหลือท้ังส้นิ เทาใด วัตถุดิบคงเหลอื ถือเปน สินคาคงเหลือของกจิ การอุตสาหกรรม มีการตรี าคาหลายวธิ ีดวยกันแลว แต กิจการจะเลอื กวิธใี ดวิธหี น่ึง แตเ ม่ือไดเ ลือกแลวก็ควรจะถือปฏบิ ตั ิอยา งสมา่ํ เสมอตอเน่ือง โดยการตรี าคาวัตถดุ ิบ หมายถงึ การวัดมูลของวตั ถุดิบ ณ วันท่ีกจิ การตองการทราบ ซึง่ วธิ ีการทใี่ ชในการวดั มลู คา นน้ั มีอยูหลายวิธดี ว ยกัน สามารถสรปุ ได ดงั น้ี สมาชกิ คนท่ี 1 : อา นคําสั่ง ไดแก วธิ ีตีราคาตอไปนี้ 1 วธิ ีราคาเจาะจง (Identification Method) เปนการกาํ หนดราคาสนิ คาเฉพาะของสนิ คาแตล ะชนิด หรือ การตีราคาตามราคาที่แทจ ริง (Special Identification Method) เปน การตรี าคาวัตถุดิบตามทีจ่ า ยซอ้ื จริง ดังนน้ั หาก กจิ การใดเลือกใชว ิธนี ้ใี นการตีราคาวตั ถุดิบ กิจการจะตองมกี ารบันทึกแยกแยะอยางละเอียดวา วตั ถุดิบชิ้นใด ซ้ือมาราคา เทา ใด ท่ีเบิกใชแ ตละครงั้ เบกิ จากการซ้ือคร้ังใด ราคาเทาใดและทเี่ หลือจากการซื้อคร้ังใด วธิ นี ีเ้ หมาะสําหรบั ใชก บั วัตถดุ ิบ ทม่ี ลี กั ษณะเฉพาะและราคาสูง 2 วิธถี วั เฉลย่ี อยางงา ย (Simple Average Method) เปน การตีราคาวตั ถุดิบโดยนําตนทนุ ตอ หนว ย ทั้งท่ี เหลือตนงวดและซ้ือในระหวา งงวดแตละครั้ง มาทาํ การเฉล่ยี เพอื่ หาตนทนุ ตอ หนว ยเพียงจาํ นวนเดยี ว เปนการถัวเฉลยี่ อยา งงายๆ เหมาะกับกจิ การทม่ี ีการซื้อวตั ถุดบิ แตละครั้งปริมาณเทา กนั ทุกคร้ัง 3 วิธีถัวเฉลย่ี ถว งนา้ํ หนัก (Weighted Average Method) เปนการตีราคาวตั ถุดบิ โดยการถวั เฉล่ียตนทนุ เชน กัน แตจะขจัดปญ หาของการถวั เฉลย่ี อยา งงา ย เพราะวิธนี จ้ี ะใชก ารถัวเฉล่ยี โดยนาํ เอาตน ทนุ รวมหรือมูลคารวมของ วัตถุดิบตนงวดและการซื้อทุกครง้ั รวมกันแลวหารดว ยจํานวนหนวยของวัตถดุ ิบทงั้ หมดเพื่อใหไ ดราคาวัตถดุ ิบตอหนวย วธิ ี นจี้ ะไมน ิยมใชกนั มากแตจ ะใชวธิ ถี วั เฉลี่ยเคลอ่ื นที่ 4 วธิ เี ขา กอน-ออกกอน (First-In, First-Out Method–FIFO) มีขอสมมติฐานวาวัตถดุ ิบคงเหลือ รายการท่ี ซื้อมาหรือผลิตขึน้ กอนจะขายออกไปกอ น จึงเปนผลใหสนิ คาคงเหลือรายการทีเ่ หลืออยู ณ วันสิน้ งวด วตั ถุดบิ ปลายงวดจะ เปน วตั ถุดบิ ท่ซี ้ือมาทหี ลงั การเลือกใชวิธีการตรี าคาวัตถุดิบนนั้ ขึน้ อยูกบั ดลุ ยพนิ ิจของผบู รหิ ารควรเลือกวธิ ที ี่เหมาะสมกบั กิจการของตน มากทสี่ ดุ ซึง่ อาจพจิ ารณาจากขนาดกจิ การ ลักษณะของวัตถุดบิ และระบบบัญชีทีก่ จิ การใชส ว นการตีราคาวัตถดุ ิบเมื่อใด น้ันขน้ึ อยูก ับวิธกี ารบนั ทกึ บัญชีทก่ี ิจการเลือกใช กลา วคือหากกิจการใชการบันทึกบญั ชีแบบตอเนื่อง (Perpetual) กจิ การ กจ็ ะตองทําการตรี าคา ณ วันเบิกใชว ตั ถุดบิ แตห ากกจิ การเลือกใชการบนั ทกึ บัญชีแบบสนิ้ งวด (Periodic) กิจการก็จะทํา การตรวจนบั และตรี าคา ณ วันสิ้นงวด สมาชกิ คนท่ี 2 : หาคําตอบ เมอ่ื สมาชิกคนที่ 1 อา นแลว ก็ใหส มาชิกคนที่ 2 หาคําตอบ

สมาชิกคนที่ 3 : หาคาํ ตอบ เม่ือสมาชิกคนท่ี 1 อา นแลว ก็ใหสมาชิกคนท่ี 3 หาคาํ ตอบ สมาชิกคนท่ี 4 : ตรวจคาํ ตอบ 17.3 กลมุ สรปุ คาํ ตอบรวมกนั และสงคําตอบนน้ั เปน ผลงานกลุม 17.4 ผลงานกลมุ ไดคะแนนเทาไร สมาชกิ ทุกคนในกลุมนนั้ จะไดคะแนนนนั้ เทา กันทุกคน 18.ครใู ชเ ทคนิคการจัดการเรียนรแู บบใชค ําถาม (Questioning Method) เก่ยี วกับการวางแผนและควบคุม เก่ยี วกับวตั ถดุ บิ โดยเปนการหาคาํ ตอบในการดําเนนิ ธุรกิจเกย่ี วกบั การผลติ สิ่งท่ีมคี วามสําคญั มากคือ การจดั การเกย่ี วกบั วตั ถดุ บิ เพราะการบริหารวตั ถุดิบที่มีประสิทธิภาพจะชว ยใหก ารผลิตเปน ไปอยา งสมาํ่ เสมอในขณะเดยี วกันก็เสยี คาใชจา ย นอยดว ย เทคนิคในการบรหิ ารจดั การเกี่ยวกบั วัตถุดบิ มีใหเ ลอื กใชม าก เชน 18.1.การวางแผนความตองการใชวตั ถุดิบ (Material Requirements Planning Systems=MRP) 18.2.การสัง่ ซือ้ อยางประหยัด (Economic Order Quantity) หรือ EOQ ซ่งึ กิจการสามารถเลอื กใชที่เหมาะสม กบั กจิ การได แตในที่น้จี ะขอกลาวถึงเครื่องมือทีน่ ิยมใชก นั คือ “การสัง่ ซ้ืออยางประหยดั ” (EOQ) 19.ครแู สดงแผนผังการสัง่ ซือ้ อยา งประหยดั ซึง่ เปน ระบบการจดั การเกยี่ วกับวตั ถดุ บิ โดยจะมีหลกั เกณฑใ นการ คาํ นวณหาปริมาณการสงั่ ซื้อวัตถุดิบของกจิ การในแตล ะคร้ังวา กิจการสงั่ วตั ถดุ ิบครั้งละเทาใดจงึ จะเกิดตน ทุนจากการ ส่ังซื้อวตั ถดุ ิบน้ันตํ่าท่ีสุด ดังน้ันจึงจาํ เปน อยางยิ่งท่ีตองทําการศกึ ษาถึงตนทุนทเ่ี ก่ียวของกับวัตถดุ ิบทจ่ี ะเกิดข้นึ เพอ่ื บริหาร ใหเกิดตนทนุ เหลาน้ันต่ําทีส่ ุดเทาท่ีจะเปน ไปได 20.ครูอภิปรายตนทนุ ท่เี ก่ียวของกับการจดั การดานวัตถดุ บิ ดังน้ี 1 คาใชจา ยในการสง่ั ซ้ือ (Ordering Costs) หมายถงึ คา ใชจายทเ่ี กิดข้ึนเม่ือมกี ารสง่ั ซือ้ วัตถุดิบแตล ะครัง้ เชน คา ใชจา ยในการตดิ ตอ คาใชจายในการตรวจรบั เปน ตน โดยจะถูกประมาณการไวเปน ตอ ครั้ง 2 คาใชจ ายในการเก็บรกั ษา (Carrying Costs) หรือเรยี กวา “ตนทุนการถือครอง” หมายถงึ คาใชจ า ยท่ี เกดิ ข้นึ หลงั จากท่ไี ดร บั วัตถดุ ิบเขามาแลว เปน คาใชจ ายที่เก่ียวของกบั การเก็บรักษา บาํ รุงดูแลวัตถดุ บิ เชน คา ประกันภยั คาเชา คลังเกบ็ วัตถุดิบ คาภาษี คาเสียหายที่เกดิ จากวตั ถุดิบเสื่อมสภาพ ลา สมยั เปน ตน โดยมากมักประมาณการเปน ตอ หนวย ตอ ปห รอื อาจประมาณการเปน อตั รารอยละของมูลคาวัตถดุ ิบก็ได 3 ตนทนุ ตามราคาซ้ือ (Acquisition Costs) หมายถงึ ตนทนุ คาซ้ือหรือราคาซ้ือวัตถดุ ิบ จะไมมผี ลตอ การวางแผนเพ่ือกาํ หนดปรมิ าณซอื้ ท่ีประหยดั ทีส่ ุดเทา ใดนักหากราคาซ้ือขายไมมี การเปลยี่ นแปลงไมวาจะซ้ือมากหรอื นอยเพียงใด แตถา มีเง่ือนไขทแ่ี ตกตางออกไป เชน ราคาจะลดลงหากมีการซอื้ มากข้ึน กจิ การควรนาํ ราคาซ้ือวตั ถดุ บิ มารว มพจิ ารณากาํ หนดปริมาณซอ้ื ดังกลา ว 21.ครแู สดงรูปภาพรถยนตใหผูเ รยี นดู แลว ใหผูเรียนบอกวา 21.1 วัตถุดบิ ทางตรงในการผลติ รถยนต ไดแ ก 21.2 วัตถดุ บิ ทางออมในการผลติ รถยนต ไดแก 22.ผูเ รียนศกึ ษาการรบั จายวัตถดุ บิ ของกิจการอุตสาหกรรมแหงใดแหงหนง่ึ มา 1 กจิ การ แลว รา งเอกสาร แบบฟอรมท่ีเกีย่ วของในการนาํ มาใชใ นการบนั ทกึ การรับจายวัตถุดิบ ไดแก การรับวตั ถุดิบ การเบกิ จายวัตถุดบิ บัตรสินคา และบญั ชแี ยกประเภทวัตถุดิบ 23.ผูเรียนวางแผนการนําหลักของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปประยกุ ตใชไ ดด ังน้ี (1) สรางภมู คิ มุ กันที่ดีในตวั เองได เชน ใชค วามรอบคอบในการบนั ทึกบัญชีไมใหผดิ พลาด (2) มเี หตุผลในการวเิ คราะหตนทุนกอ นซ้ือ หรือผลติ สินคา และบันทึกบญั ชี (3) มีความเพยี งพอ ในการซื้อขายสนิ คา เพอ่ื บริโภคหรอื จําหนา ย (4) มเี ง่ือนไขดานคุณธรรม ไดแก บันทึกบัญชีใหถ ูกตอง (5) มเี งื่อนไขดา นวิชาการ ไดแก บันทึกบัญชตี ามหลักการบัญชที ่ียอมรับท่ัวไป และมีความรู เรื่องมาตรฐานการบญั ชี (6) สามารถนํารายการบัญชีไปบันทึกในเคร่อื งคอมพิวเตอรหรอื โปรแกรมสาํ เรจ็ รปู บัญชีได

- ขั้นสรปุ 24.ครูและผูเรียนสรุปความหมายและประเภทของวตั ถดุ ิบ การจดั ซ้ือวัตถุดิบ การรบั วตั ถุดบิ และการตรี าคา วัตถดุ ิบคงเหลือ โดยการถามตอบเปน กลุมและรายบุคคลตามสภาพจรงิ ของผเู รียน 25.ผเู รียนฝก ทักษาทาํ ใบงาน และแบบประเมินผลหนว ยที่ 3 ใหเกิดความชํานาญ เพื่อประยุกตใชใ น ชวี ิตประจําวันและประเมนิ ผเู รยี นตอ ไป 9. ส่อื การเรียนการสอน / แหลงเรียนรู จํานวน สภาพการใชส ่ือ รายการสอ่ื 2 ขอ หนงั สอื เรยี น 1. ใบงาน 1-2 เร่อื ง การรับจายวัตถดุ ิบ 10. การวัดผลและประเมนิ ผล เปาหมาย หลักฐานการเรียนรู วิธีวัด ประเดน็ / การเรยี นรู ชนิ้ งาน/ภาระงาน ตรวจสอบใบงาน เคร่อื งมอื วัดฯ เกณฑการให ใบงานการรบั จา ย 1. บอกความหมาย วตั ถุดบิ คะแนน และประเภทของ -ใบงาน สามารถคํานวณ วตั ถุดิบได 2. อธิบายการจัดซื้อ เงินประกนั ได วัตถุดิบได ถูกตองได 10 3. อธิบายและบันทึก คะแนน การรบั จา ยวัตถุดิบได 4. อธบิ ายการตรี าคา วตั ถุดิบคงเหลอื ได 11. การบูรณาการตามจดุ เนน ของโรงเรียน

หลักปรัชญาเศรษฐกิจ ครู ผเู รียน พอเพียง พอดีดานเทคโนโลยี พอดดี า นจติ ใจ 4. ความพอประมาณ รูจกั ใชเทคโนโลยมี าผลติ ส่อื ท่เี หมาะสม และสอดคลองเนื้อหาเปนประโยชนตอ ผูเ รียน มจี ติ สํานึกที่ดี เอือ้ อาทร ประนีประนอม นกึ ถึงประโยชน สว นรวม/กลุม 5. ความมีเหตผุ ล ยดึ ถือการประกอบอาชพี ดว ยความ ไมห ยุดนง่ิ ท่ีหาหนทางในชวี ิต หลดุ พน ถกู ตอง สจุ ริต แมจะตกอยใู นภาวะขาด จากความทุกขย าก (การคนหาคาํ ตอบ แคลน ในการดํารงชวี ติ เพื่อใหหลดุ พนจากความไมร )ู 6. มีภูมคิ มุ กนั ในตัวที่ดี ภมู ิปญญา : มคี วามรู รอบคอบ และ ภูมิปญ ญา : มีความรู รอบคอบ และ ระมัดระวงั ระมดั ระวงั สรา งสรรค สิง่ แวดลอม ครู ผเู รยี น งานและพลังงาน งานและพลังงาน งานและพลังงาน - การเลอื กใชอยางถกู วิธี - การเลอื กใชอยางถูกวธิ /ี เทคนิค - ยกตัวอยางการใชอปุ กรณ/ - การอนรุ ักษส ง่ิ แวดลอม วธิ กี าร เครอื่ งใชไฟฟา อยา งถูกวิธี - กระบวนการการอนุรักษ - แสนอแนะแนวทางอนรุ กั ษ สิ่งแวดลอม ส่งิ แวดลอม ลงชอ่ื ..................................................ผสู อน (นางสาวกรแกว โอภาสสวุ คนธ)

แบบฝกหัดทายหนว ยที่ 3 คําช้แี จง : จงตอบคาํ ถามตอไปน้ี ขอ 1 การคาํ นวณวัตถุดบิ ที่ใชในการผลิต ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ขอ 2 การคาํ นวณวัตถดุ บิ ทใี่ ชใ นการผลิต ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................

เฉลย แบบฝก หัดทา ยหนว ยที่ 3 ขอ 1 การคาํ นวณวัตถุดบิ ท่ีใชในการผลติ 200,000 30,000 วตั ถุดิบคงเหลือตน ป 1,000 ซื้อวตั ถดุ ิบ 196,000 บวก คา ขนสง เขา 201,000 226,000 5,000 25,000 หกั สง คนื วัตถุดบิ 3,000 201,000 สว นลดรับ 2,000 ซื้อวตั ถุดบิ สทุ ธิ 50,000 วตั ถุดิบท่มี ีอยทู ั้งสนิ้ หัก วตั ถดุ ิบคงเหลือปลายป (30,000-5,000) 197,000 วตั ถุดิบท่ใี ชไปในการผลติ 247,000 40,000 ขอ 2 การคาํ นวณวตั ถดุ บิ ทใี่ ชในการผลติ 200,000 207,000 2,000 วตั ถดุ บิ คงเหลอื ตนป ซือ้ วัตถุดบิ 202,000 บวก คาขนสง เขา 5,000 หัก สงคืนวัตถุดบิ ซ้อื วัตถดุ บิ สุทธิ วตั ถุดบิ ที่มีอยทู งั้ สิน้ หกั วัตถุดบิ คงเหลือปลายป วัตถดุ บิ ทใ่ี ชไปในการผลติ

การออกแบบการจัดการเรียนรู กลมุ สาระการเรยี นรู การงานอาชีพและเทคโนโลยี รายวิชา การบัญชีตนทุนเบอ้ื งตน รหสั วชิ า ง 32273 ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปที่ 5 จดั ทําโดย นางสาวกรแกว โอภาสสวุ คนธ ตาํ แหนง พนกั งานราชการ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห 31 ตําบลชา งเคิ่ง อาํ เภอแมแจม จงั หวัดเชยี งใหม

สํานกั บริหารงานการศึกษาพิเศษ สาํ นกั งานการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ คาํ อธบิ ายรายวิชา รายวิชา การบญั ชีตน ทุนเบื้องตน รหัสวิชา ง 32273 ช้ัน มธั ยมศกึ ษาปท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปการศกึ ษา 2562 เวลา 80 ช่ัวโมง จํานวน 2 หนว ยกิต คาํ อธบิ ายรายวิชา ศึกษาและปฏิบัตเิ กีย่ วกบั ลกั ษณะของกจิ การผลติ เปรียบเทียบกับกจิ การซ้ือขายสนิ คา องคประกอบของตนทนุ การผลติ การรับจา ยวตั ถุดิบ การบันทกึ รายการเกยี่ วกบั แรงงาน ชว่ั โมงทาํ งาน อัตราคา แรง คา ลว งเวลา เงนิ ประกันสังคม ภาษีเงินไดบุคคลธรรมดาหัก ณ ทจี่ าย รายการหกั ตา ง ๆ คาใชจ ายการผลติ การบันทึกรายการเกย่ี วกบั วตั ถุดิบตามวธิ ี บญั ชสี ินคาคงเหลือแบบส้นิ งวด และวธิ กี ารบัญชีสินคาคงเหลือแบบตอเนอื่ ง ตนทนุ การผลิต การคาํ นวณตนทนุ สนิ คาที่ ผลิตเสร็จ กระดาษทําการ รายการปรับปรุงปดบัญชี และการจดั ทํางบตนทุนผลติ ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู 1.มีความเขา ใจหลักการ และกระบวนการปฏบิ ตั งิ านบัญชีของกิจการประเภทธรุ กจิ อุตสาหกรรม 2.มีทักษะปฏบิ ัติงานบัญชตี ามหลักการบัญชที ่รี ับรองทั่วไป สําหรบั กิจการประเภทธุรกิจอุตสาหกรรม มกี ิจนสิ ัย มีระเบียบ ละเอยี ดรอบคอบ ซ่อื สัตย มีวินัยตรงตอเวลา และมเี จตคตทิ ่ีดีตอวชิ าชีพบัญชี รวมท้ังหมด 2 ตวั ชี้วดั /ผลการเรียนรู *** หมายเหตุ - ตัวช้ีวัด (รายวิชาพ้นื ฐาน) - ผลการเรยี นรู (รายวิชาเพิ่มเตมิ )

หนว ยท่ี 10 การออกแบบหน การปด บญั ชี รายวชิ า การบัญชตี นทุนเบ้ือ จํานวน 8 ชวั่ โมง : 10 คะแนน ระดับช้ันมัธยมศึกษาปท ี่ 5 ภาค หน ลกั ษณะของกิจการผลิตเปรีย จํานวน 4 ช หนว ยท่ี 9 วิชาการบญั ชีต กระดาษทาํ การและงบการเงิน จํานวน 8 จาํ นวน 8 ชว่ั โมง : 10 คะแนน หนว ยที่ 8 การปรบั ปรุงบญั ชี จาํ นวน 8 ช่ัวโมง : 10 คะแนน หนว ยท่ี 7 หนว ตนทนุ การผลิตและงบตน ทนุ ผลติ คาใชจ า จาํ นวน 12 ช่ัวโมง : 10 คะแนน จาํ นวน 8 ชัว่

นว ยการเรียนรู หนว ยที่ 2 องตน รหสั วิชา ง 32273 องคประกอบของตนทนุ การผลติ คเรียนท่ี 1 ปการศกึ ษา 2562 จาํ นวน 8 ชั่วโมง : 10 คะแนน นว ยท่ี 1 ยบเทยี บกับกิจการซ้ือขายสินคา หนว ยท่ี 3 ชั่วโมง : 10 คะแนน การรบั จา ยวัตถดุ บิ จํานวน 8 ช่ัวโมง : 10 คะแนน ตนทุนเบอื้ งตน 80 ช่วั โมง หนว ยท่ี 4 การบันทกึ รายการวัตถุดิบ จํานวน 8 ชว่ั โมง : 10 คะแนน วยที่ 6 หนว ยที่ 5 ายการผลิต การบนั ทกึ รายการเกย่ี วกบั คา แรงงานและรายการหักตางๆ วโมง : 10 คะแนน จาํ นวน 8 ช่ัวโมง : 10 คะแนน

การออกแบบ รายวิชา การบัญชตี น ทุนเ ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปท่ี 5 ภ หนว ยการเรียนรทู ี่ 1 เร่อื หนวย การบันทกึ ราย จํานวน 8 ชัว่ โมง

บหนวยการเรียนรู เบอ้ื งตน รหสั วิชา ง 32273 ภาคเรียนท่ี 1 ปก ารศึกษา 2562 อง การบันทึกรายการวัตถดุ ิบ ยที่ 4 ยการวัตถุดิบ ง : 10 คะแนน 1. บนั ทึกบัญชแี บบตรวจนับวัตถดุ บิ คงเหลือเมื่อส้ินงวด บัญชไี ด 2. บนั ทึกบญั ชวี ัตถุดิบคงเหลอื แบบตอเนือ่ งได จาํ นวน 4 ชั่วโมง

แผนการจดั การเรียนรู หนว ยการเรียนรทู ี่ 4 เรื่อง การบนั ทกึ รายการวัตถุดิบ แผนจัดการเรยี นรทู ี่ 4 เรื่อง การบันทกึ รายการวัตถุดิบ รายวชิ า การบัญชตี นทนุ เบือ้ งตน รหัสวิชา ง 32273 ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปท ่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปการศึกษา 2562 นํา้ หนักเวลาเรียน 2 (นน./นก.) เวลาเรียน 4 ช่ัวโมง/สัปดาห เวลาทีใ่ ชในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู 4 ชั่วโมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสําคัญ (ความเขา ใจที่คงทน) กิจการอุตสาหกรรมมกี ารควบคมุ การรับ-จา ยวัตถุดบิ โดยมกี ารบันทึกเก่ียวกับวตั ถดุ ิบ 2 วิธี ไดแก 1. วิธีตรวจนับวตั ถุดบิ คงเหลอื เมื่อสนิ้ งวดบัญชี จะไมม กี ารบันทกึ บัญชเี กี่ยวกับการเปลีย่ นแปลงเคลื่อนไหวข้นึ ลงของวตั ถุดิบตลอดเวลา กจิ การจะมีวิธกี ารบนั ทกึ ตามลกั ษณะที่มาของรายการคาเพ่ือใหเ หน็ ชัด เชน มบี ญั ชซี ื้อ บญั ชคี า ขนสงเขา บัญชีสงคนื วัตถุดิบ บัญชีสว นลดรับ รวมท้ังบัญชีวตั ถดุ บิ คงเหลือ 2. วิธีตรวจนบั วัตถดุ บิ คงเหลอื แบบตอเน่ือง เปนระบบท่ีบันทึกการเปลย่ี นแปลงความเคลือ่ นไหวข้นึ ลงของ วัตถดุ บิ คงเหลือ กจิ การจะบันทกึ รายการรับจายวตั ถดุ บิ ไวในบัญชวี ัตถดุ ิบทุกรายการและรายการตางๆ ที่บันทกึ ในบัญชี วัตถุดิบจะตองเปน บัญชที ่ีเก่ยี วกับวัตถดุ บิ เชน คา ขนสง เขา สงคืนวัตถุดิบ สวนลดรบั และการเบิกวตั ถุดบิ ใชในการผลิต เปน ตน 2. มาตรฐานการเรยี นร/ู ตัวชี้วดั ชั้นป/ผลการเรียนร/ู เปา หมายการเรียนรู ผลการเรียนรู 1. อธบิ ายวธิ ีบนั ทกึ บญั ชีเกีย่ วกบั วัตถุดิบได 2. คํานวณวัตถุดิบใชไปในการผลติ ได 3. สาระการเรยี นรู 3.1 เนอ้ื หาสาระหลัก : Knowledge 1. อธบิ ายวิธีบนั ทึกบญั ชเี กย่ี วกบั วัตถดุ ิบ 2. คํานวณวัตถดุ บิ ใชไ ปในการผลิต 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process 1. อธิบายวธิ ีบันทกึ บญั ชเี ก่ียวกบั วตั ถุดิบได 2. คาํ นวณวัตถดุ บิ ใชไปในการผลิตได 3.3 คุณลกั ษณะที่พึงประสงค : Attitude 1. ความรบั ผิดชอบ 2. ความสนใจใฝร ู 4. สมรรถนะสําคัญของนักเรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแกปญหา

3. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต 5. คณุ ลกั ษณะของวิชา 1. ความรบั ผดิ ชอบ 2. ความเชื่อมน่ั ในตนเอง 3. ความสนใจใฝร ู 6. คุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค 1. ใฝเรยี นรู 2. มุง มน่ั ในการทาํ งาน 7. ช้นิ งาน/ภาระงาน - แบบฝกทักษะ เร่ือง การบนั ทึกรายการวตั ถดุ ิบ 8. กิจกรรมการเรยี นรู (จัดกิจกรรมการเรยี นรโู ดยใชก ระบวนการใด แสดงตามขนั้ ตอน : เวลาท่ีใช 8 ชัว่ โมง - ขัน้ นาํ เขา สูบทเรยี น/ข้ันตั้งคาํ ถาม (ช่วั โมง 1-4) 1.ครแู ละผเู รียนสนทนาเร่ืองการผลิตสินคาเปน กระบวนการในการนําวัตถดุ ิบมาทาํ การแปรสภาพใหก ลายเปน สินคาสาํ เร็จรปู ดังนั้นวตั ถุดบิ จึงถือเปนสว นประกอบท่ีสาํ คัญของการผลิตสนิ คา และเปนตนทนุ สว นใหญเ ม่อื เทยี บกับ ตนทนุ อน่ื ๆ ดังน้นั กิจการอุตสาหกรรมจึงจาํ เปน ตองใหความสนใจในการควบคมุ วตั ถดุ บิ เร่ิมตง้ั แตก ารจัดซอื้ วัตถดุ บิ การ เก็บรักษา ตลอดจนการเบกิ จายวัตถดุ ิบเพ่ือไมใหตนทนุ การผลติ สนิ คาสูงข้นึ 2.ผูเรียนยกตัวอยางคาแรงท่ตี นเองเขาใจ ตามความคดิ เห็นของตนเอง - ข้นั สอน 3.ครใู ชเ ทคนคิ วิธีสอนแบบสาธิต ซง่ึ เปน วิธสี อนที่ครูแสดงใหผูเ รยี นดแู ละใหความรูโ ดยใชสอ่ื การเรียน Power Point รูท ีเ่ ปน รปู ธรรม และผูเรียนไดประสบการณตรง โดยในการสอนนั้นผูสอนเปนผูสาธติ รวมทง้ั ผูส อน และผูเรียนรวมกนั สาธติ วิธีบันทึกบญั ชเี กี่ยวกบั วัตถุดบิ ซง่ึ การบันทึกบัญชีเก่ียวกบั วตั ถุดิบทําได 2 วิธี คือ วิธีการ บัญชีวัตถดุ ิบแบบสน้ิ งวด (Periodic Inventory Method) และวธิ ีการบัญชวี ตั ถดุ ิบแบบตอ เนือ่ ง (Perpetual Inventory Method) 4.ครแู ละผเู รยี นชวยกันสาธิต การบันทึกบัญชแี บบตรวจนบั วัตถดุ ิบคงเหลอื เมื่อสน้ิ งวดบัญชี บัญชีที่ใชบ ันทกึ เก่ียวกับวตั ถุดิบทางตรงใชไป 5.ครูสาธติ การคํานวณวัตถดุ ิบใชไ ปในการผลิต และใหผ เู รยี นปฏิบัตติ าม 6.ผูเรียนฝกทกั ษะคาํ นวณหาวัตถดุ บิ ที่ใชไปในการผลติ ตามโจทยป ระกอบท่ีกําหนดให 7.ครสู อนใหผ เู รียนไดตระหนักในการปดไฟฟา ในหอ งเรยี นหรอื บรเิ วณโรงเรยี นในกรณีท่ีไมมีความจาํ เปน ตองใช เพ่ือประโยชนต อสวนรวม - ข้นั สรุป 8.ครูสรุปเนอ้ื หาท้ังหมดโดยอภปิ รายสั้น ๆ และสุมถามใหผ ูเรียนบางคนตอบเพื่อใหม ีความรู และเขาใจในการ นําไปใชใ นชวี ติ ประจําวันตอไปได 9.ผเู รยี นทําแบบประเมนิ ผลการเรียนรู และใบงาน 10.ผเู รียนฝกทกั ษะทําแบบฝกปฏบิ ตั ิ 9. สื่อการเรยี นการสอน / แหลง เรียนรู จาํ นวน สภาพการใชสอ่ื รายการสอ่ื 2 ขอ หนงั สอื เรยี น 1. ใบงาน 1-2 เร่อื ง การบนั ทึกรายการวัตถดุ บิ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook