แผนการจัดการเรยี นรู้ รหัสวชิ า......30404-1002....... วิชา ......วทิ ยาศาสตร์การประกอบอาหาร........ ประเภทวชิ า......คหกรรม.......สาขาวชิ า........อาหารและโภชนาการ.......... หลักสตู ร.....ประกาศนียบตั รวิชาชีพชนั้ สงู ......(ภาคทฤษฎี/ปฏิบตั )ิ จัดทาโดย นางสาวอาริยา นยิ มชาติ ตาแหน่ง ครูผ้ชู ่วย ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 แผนกวิชาอาหารและโภชนาการ วิทยาลยั อาชวี ศกึ ษาฉะเชิงเทรา สถาบันการอาชวี ศึกษาภาคกลาง 3
คานา แผนการสอนวชิ า วทิ ยาศาสตร์การประกอบอาหาร รหสั วชิ า 30404-1002 ฉบับนจ้ี ัดทาขึ้นเพื่อใช้เป็น คูม่ อื ครู สาหรับประกอบการจดั การเรียนการสอนหลักสตู รประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พ.ศ. 2557 ประเภท วิชาคหกรรม โดยได้ยึดแนวทางปฏิบัติในการดาเนินการท้ังรูปแบบและเนื้อหารายวิชาจากคณะกรรมการ พฒั นาจัดทาแผนการสอนรายวิชา หลักสูตรประกาศนียบตั รวิชาชพี ชั้นสงู (ปวส.) ของสานักงานคณะกรรมการ การอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการ ประกอบดว้ ย โครงสร้าง สว่ นประกอบทางเคมี การเปล่ียนแปลงทางเคมี และทางกายภาพของอาหาร หลักการทดลอง การวางแผนการทดลอง การดาเนินงาน การวัดและประเมินผล การสรปุ ผล การรายงานผลการทดลอง การจัดทาตารับมาตรฐาน การทดลองและประกอบอาหารประเภทต่าง ๆ ตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร ซึ่งจะครอบคลุมจุดประสงค์รายวิชา และมีเนื้อหา สอดคล้องกบั คาอธบิ ายรายวิชา ตามกาหนดในหลกั สูตร ส่วนสาคัญของแผนการสอนรายวิชาจะ ประกอบด้วย หัวข้อวิชา รายการสอน และจุดประสงค์การสอน ที่สามารถเป็นตัวบ่งชี้การเปลี่ยนแปลง พฤตกิ รรมไม่วา่ จะเป็นดา้ นพุทธิ พสิ ัย ทักษะพิสยั และจติ พสิ ัย การจัดทาแผนการสอนรายวิชาน้ี ถือเป็นเป้าหมายหน่ึงของผู้จัดทาที่จะพัฒนางานด้านวิชาการสู่ กระบวนการจดั การเรียนการสอนอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ล เพอ่ื ประโยชน์ นางสาวอารยิ า นยิ มชาติ วิทยาลยั อาชวี ศกึ ษาฉะเชิงเทรา
สารบัญ หนา้ คานา 1 สารบัญ 2 ลกั ษณะรายวิชา 3 สมรรถนะประจาหน่วย 5 ตารางวิเคราะห์หลกั สูตร 9 กาหนดการสอน กรอบแนวทางการจัดการเรียนรแู้ ละการประเมินผลตามสภาพจริงประจาหนว่ ยการเรยี นรู้ 12 29 แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 1 รงควัตถุ และปฏิกิริยาการเกดิ สีนา้ ตาลในอาหาร 45 แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 2 การเส่ือมเสียของอาหาร และการถนอมอาหาร 62 แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 3 เน้ือสัตวแ์ ละผลติ ภัณฑ์ 79 แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ 4 ไขแ่ ละผลิตภัณฑ์ 96 แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี 5 นม และผลิตภัณฑ์ 113 แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 6 ไขมนั และนา้ มัน 130 แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 7 ผัก และผลไม้ 147 แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี 8 ธญั ชาติ และผลิตภณั ฑ์ แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 9 แป้ง และน้าตาล
ส่วนท่ี 1 การวิเคราะห์รายวชิ า
1 ลักษณะรายวชิ า รหสั วชิ า........30404-1002...........ช่ือวิชา............วิทยาศาสตร์การประกอบอาหาร……………………. หนว่ ยกติ ……………3(5)……………………......เวลาเรยี นต่อภาค...................90...........................ชว่ั โมง จุดประสงค์รายวชิ า 1. เข้าใจเก่ียวกบั โครงสร้าง สว่ นประกอบทางเคมี การเปล่ยี นแปลงทางเคมีและทางกายภาพของอาหาร และหลกั การประกอบอาหารประเภทตา่ ง ๆ 2. เขา้ ใจหลกั การทดลองอาหาร การวางแผนการทดลอง การดาเนนิ งาน การวัดและ ประเมนิ ผล การรายงานผลการทดลอง การจัดทาตารบั มาตรฐานและพัฒนาผลิตภัณฑอ์ าหาร 3. สามารถค้นคว้า ทดลองและประกอบอาหารตามกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 4. มเี จตคตแิ ละกจิ นสิ ยั ในการจดั การงานอาชีพ ด้วยความรบั ผิดชอบ รอบคอบ มวี ินัย ขยัน ประหยัด อดทน และสามารถทางานรว่ มกนั สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เกี่ยวกับโครงสร้าง ส่วนประกอบ การเปลีย่ นแปลงทางเคมีและกายภาพของอาหาร 2. ประกอบอาหารประเภทต่าง ๆ ตามกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละการพฒั นาผลติ ภัณฑ์ 3. ประยกุ ตห์ ลักการและกระบวนการในการปฏบิ ตั งิ านอย่างมีประสิทธภิ าพและปลอดภัย คาอธิบายรายวิชา ศกึ ษาและปฏบิ ัตเิ ก่ียวกับโครงสรา้ ง สว่ นประกอบทางเคมี การเปลี่ยนแปลงทางเคมแี ละทางกายภาพ ของอาหาร หลักการทดลอง การวางแผนการทดลอง การดาเนินงาน การวัดและประเมินผลการสรปุ ผล การ รายงานผลการทดลอง การจัดทาตารบั มาตรฐาน การทดลองและประกอบอาหารประเภทต่าง ๆ ตาม กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และการพฒั นาผลติ ภณั ฑอ์ าหาร
สมรรถนะประจาหน่วย 2 ท่ี สมรรถนะประจาหนว่ ย เวลาเรยี น (ชม.) ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ รวม 1 รงควตั ถุ และปฏิกิริยาการเกดิ สีนาตาลในอาหาร 2 การเสอ่ื มเสยี ของอาหาร และการถนอมอาหาร 2 8 10 3 เนือสตั ว์และผลติ ภณั ฑ์ 1 45 4 ไข่และผลติ ภัณฑ์ 2 8 10 5 นม และผลติ ภัณฑ์ 2 8 10 6 ไขมัน และนามัน 2 8 10 7 ผัก และผลไม้ 2 8 10 8 ธัญชาติ และผลิตภัณฑ์ 2 8 10 9 แปง้ และนาตาล 2 8 10 สอบภาคปฏบิ ตั ิ 5 รวม
3 ตารางวิเคราะห์หลักสตู ร รหสั วิชา.....30404-1002........วิชา....วทิ ยาศาสตร์การประกอบอาหาร.......หนว่ ยกิต....3(5)...... ชนั .......ปวส........................สาขาวิชา/กลุ่มวิชา/......อาหารและโภชนาการ.......... พฤติกรรม พทุ ธิพสิ ยั ช่อื หนว่ ย ความ ู้ร ความเ ้ขาใจ นาไปใ ้ช ิวเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมิน ่คา ทักษะพิสัย จิตพิสัย รวม ลาดับ จานวนคาบ หน่วยที่ 1 รงควตั ถุ และปฏกิ ิรยิ าการเกดิ สนี าตาลในอาหาร 1. รงควัตถุ และการใชป้ ระโยชน์ในอาหาร 1 1 1 1 1 1 1 1 8 1 10 2. ปฏกิ ริ ยิ าการเกิดสนี าตาลในอาหาร หน่วยที่ 2 การเส่ือมเสยี ของอาหารและการถนอมอาหาร 1. การเสอ่ื มเสยี ของอาหาร 1 1 1 1 11 - 1 7 2 5 2. การถนอมและเกบ็ รกั ษา หน่วยท่ี 3 เนือสตั วแ์ ละผลิตภณั ฑ์ 1. การเปลยี่ นแปลงของอาหารประเภทเนือสัตว์เมื่อปรงุ อาหาร 1 1 1 1 111 1 8 1 10 2. การเสยี สภาพธรรมชาติของโปรตีนในเนือสตั ว์ 3. การเกิดสนี าตาลในอาหารประเภทเนือสตั ว์ หนว่ ยท่ี 4 ไขแ่ ละผลติ ภณั ฑ์ 1. การเสียสภาพธรรมชาติของโปรตนี ในไข่ 1 1 1 1 1 1 1 1 8 1 10 2. คุณสมบัตเิ ชงิ หน้าท่ขี องไข่ในอาหารประเภทต่างๆ หน่วยท่ี 5 นม และผลติ ภณั ฑ์ 1. นม องค์ประกอบ และคณุ สมบตั ิบางประการในอาหาร 1 1 1 1 1 1 1 1 8 1 10 2. คอลลอยดใ์ นอาหาร หนว่ ยที่ 6 ไขมนั และนามนั 1 1 1 1 1 1 1 1 8 1 10 -คุณสมบตั ขิ องไขมันและนามันทีใ่ ช้ในการประกอบอาหาร หนว่ ยที่ 7 ผัก และผลไม้ 1. ไฮโดรคอลลอยด์ในอาหาร 2. องคป์ ระกอบทส่ี าคัญของผัก และผลไม้ 1 1 1 1 1 1 1 1 8 1 10 3. การเปลีย่ นแปลงของอาหารประเภทผัก และผลไม้ เม่อื ผา่ นการปรงุ ประกอบ หน่วยท่ี 8 ธญั ชาติ และผลิตภณั ฑ์ 1 1 1 1 1 1 1 1 8 1 10 -องคป์ ระกอบของธัญชาติ และการนาไปใชเ้ ป็นอาหาร
4 หนว่ ยท่ี 9 แป้ง และนาตาล 1 1 1 1 1 1 1 1 8 1 10 -ปฐมนเิ ทศชแี จงขอบขา่ ยของเนือหารายวิชา -คณุ สมบตั เิ ชงิ หน้าทขี่ องแปง้ และนาตาลในการประกอบ อาหาร สอบภาคปฏบิ ัติ 5 90 รวม 9 9 9 9 9 9 8 9 71 ลาดับความสาคญั 1 1 1 1 112 1
5 กาหนดการสอน ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้/ สมรรถนะประจาหน่วย เกณฑก์ ารปฏบิ ตั งิ าน สปั ดาห์ ช่ัวโมง รายการสอน ท่ี ท่ี 1-2 1-10 หน่วยที่ 1 รงควตั ถุ และ 1.อธิบายความรทู้ ่ัวไป 1.แบบสังเกตพฤติกรรมแบบ 3 11-15 ปฏิกริ ยิ าการเกิดสีนาตาลใน เกย่ี วกับรงควัตถุ และ ประเมิน 4-5 16-25 อาหาร ปฏิกิรยิ าการเกดิ สีนาตาล 2.แบบทดสอบ 6-7 26-35 1. รงควตั ถุ และการใช้ ในอาหาร 3.เกณฑ์ประเมินผลงานตาม ประโยชน์ในอาหาร 2.ฝึกทักษะการปฏบิ ตั ิการ ใบงาน แบบประเมินผลงาน 2. ปฏกิ ิริยาการเกดิ สีนาตาล ทดลองรงควตั ถุ และ ตามใบงาน ในอาหาร ปฏิกิริยาการเกดิ สนี าตาล 4.แบบประเมนิ คณุ ธรรม ในอาหาร จริยธรรม หน่วยที่ 2 การเส่ือมเสยี ของ 1.อธิบายความรทู้ ่ัวไป 1.แบบสงั เกตพฤติกรรมแบบ อาหารและการถนอมอาหาร เกีย่ วกับการเสื่อมเสียของ ประเมนิ 1. การเส่ือมเสยี ของอาหาร อาหารและการถนอม 2.แบบทดสอบ 2. การถนอมและเกบ็ รักษา อาหาร 3.เกณฑป์ ระเมินผลงานตาม 2.ฝึกทักษะการปฏิบตั ิการ ใบงาน แบบประเมนิ ผลงาน เส่ือมเสยี ของอาหารและ ตามใบงาน การถนอมอาหาร 4.แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม หนว่ ยที่ 3 เนือสตั ว์และ 1.แสคงความรูค้ วามเขา้ ใจ 1.แบบสงั เกตพฤติกรรมแบบ ผลติ ภัณฑ์ เกีย่ วกบั เนือสตั ว์และ ประเมิน 1. การเปล่ยี นแปลงของ ผลติ ภัณฑ์ 2.แบบทดสอบ อาหารประเภทเนือสตั ว์เมือ่ 2.ฝึกทักษะการปฏิบตั ิการ 3.เกณฑป์ ระเมนิ ผลงานตาม ปรงุ อาหาร ทดลองเนือสตั วแ์ ละ ใบงาน แบบประเมินผลงาน 2. การเสียสภาพธรรมชาตขิ อง ผลิตภัณฑ์ ตามใบงาน โปรตีนในเนอื สตั ว์ 4.แบบประเมนิ คณุ ธรรม 3. การเกดิ สีนาตาลในอาหาร จรยิ ธรรม ประเภทเนือสัตว์ หน่วยที่ 4 ไขแ่ ละผลิตภัณฑ์ 1.อธิบายความรู้เกี่ยวกับไข่ 1.แบบสงั เกตพฤติกรรมแบบ 1. การเสยี สภาพธรรมชาติ และผลติ ภัณฑ์ ประเมนิ ของโปรตนี ในไข่ 2.ฝกึ ทกั ษะการปฏบิ ตั กิ าร 2.แบบทดสอบ 2. คุณสมบัติเชิงหน้าทีข่ อง ทดลองไขแ่ ละผลติ ภณั ฑ์ 3.เกณฑ์ประเมนิ ผลงานตาม ไขใ่ นอาหารประเภทต่างๆ ใบงาน แบบประเมนิ ผลงาน
6 ตามใบงาน 4.แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม หน่วยที่ 5 นมและผลติ ภัณฑ์ 1. อธบิ ายความรู้ท่ัวไป 1.แบบสังเกตพฤติกรรมแบบ 1. นม องคป์ ระกอบ และ เกีย่ วกบั นม และผลติ ภัณฑ์ ประเมิน คุณสมบตั ิบางประการใน 2. ฝกึ ทักษะการปฏิบัติการ 2.แบบทดสอบ อาหาร ทดลองนม และผลิตภัณฑ์ 3.เกณฑ์ประเมินผลงานตาม 8-9 36-45 10-11 46-55 2. คอลลอยด์ในอาหาร ใบงาน แบบประเมนิ ผลงาน 12-13 56-65 14-15 66-75 ตามใบงาน 4.แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม หนว่ ยที่ 6 ไขมนั และนามนั 1. อธบิ ายความรู้ทว่ั ไป 1.แบบสังเกตพฤตกิ รรมแบบ -คุณสมบัตขิ องไขมนั และ เก่ยี วกับไขมนั และนามนั ประเมนิ นามนั ท่ใี ช้ในการประกอบ 2. ฝกึ ทักษะการปฏบิ ตั กิ าร 2.แบบทดสอบ อาหาร ทดลองไขมันและนามัน 3.เกณฑ์ประเมนิ ผลงานตาม ใบงาน แบบประเมนิ ผลงาน ตามใบงาน 4.แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม หนว่ ยท่ี 7 ผกั และผลไม้ 1. อธิบายความรูท้ ัว่ ไป 1.แบบสังเกตพฤตกิ รรมแบบ 1. ไฮโดรคอลลอยด์ในอาหาร เกย่ี วกับผักและผลไม้ ประเมนิ 2. องคป์ ระกอบท่สี าคญั ของ 2. ฝกึ ทักษะการปฏิบตั ิการ 2.แบบทดสอบ ผกั และผลไม้ ทดลองผกั และผลไม้ 3.เกณฑ์ประเมินผลงานตาม 3. การเปล่ียนแปลงของ ใบงาน แบบประเมนิ ผลงาน อาหารประเภทผัก และผลไม้ ตามใบงาน เมอื่ ผ่านการปรุงประกอบ 4.แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม หน่วยที่ 8 ธัญชาติ และ 1. อธบิ ายความรทู้ ่ัวไป 1.แบบสังเกตพฤตกิ รรมแบบ ผลติ ภณั ฑ์ เกยี่ วกับธญั ชาตแิ ละ ประเมนิ -องค์ประกอบของธัญชาติ ผลิตภัณฑ์ 2.แบบทดสอบ และการนาไปใช้เป็นอาหาร 2. ฝึกทักษะการปฏบิ ตั ิการ 3.เกณฑ์ประเมนิ ผลงานตาม ทดลองธญั ชาตแิ ละ ใบงาน แบบประเมินผลงาน ผลิตภัณฑ์ ตามใบงาน
7 หนว่ ยท่ี 9 แป้ง และนาตาล 1. อธบิ ายความรูท้ ัว่ ไป 4.แบบประเมนิ คณุ ธรรม 16-17 76-85 -ปฐมนิเทศชแี จงขอบขา่ ยของ เกีย่ วกบั การแป้งและ จริยธรรม 18 86-90 เนือหารายวชิ า นาตาล 1.แบบสงั เกตพฤตกิ รรมแบบ -คุณสมบัติเชิงหน้าท่ขี องแป้ง 2. ฝกึ ทักษะการปฏิบัติการ ประเมิน และนาตาลในการประกอบ ทดลองแป้งและนาตาล 2.แบบทดสอบ อาหาร 3.เกณฑป์ ระเมินผลงานตาม ใบงาน แบบประเมนิ ผลงาน สอบภาคปฏบิ ตั ิ ตามใบงาน 4.แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
8 ส่วนท่ี 2 แผนการจดั การเรียนร้บู ูรณาการ และการประเมนิ ตามสภาพจริง รายหนว่ ยการเรยี นรู้
9 กรอบแนวทางการจดั การเรยี นรู้และการประเมินผลตามสภาพจรงิ ประจาหน่วยการเรียนรู้ แนวทางการประเมิน หนว่ ยที่ รายการสอน สมรรถนะ เกณฑก์ ารปฏบิ ัติงาน ทดสอบความ ู้ร ประเมินการป ิฏบั ิตงาน ประเมินผลงาน ประเมินพฤ ิตกรรม อื่น ๆ รงควัตถุ และปฏิกิริยาการ 1.อธบิ ายความรทู้ ว่ั ไป 1.แบบสังเกตพฤตกิ รรมแบบ เกดิ สนี าตาลในอาหาร เกีย่ วกับรงควัตถุ และ ประเมิน 1. รงควตั ถุ และการใช้ ปฏิกริ ิยาการเกิดสีนาตาล 2.แบบทดสอบ 1 ประโยชน์ในอาหาร ในอาหาร 3.เกณฑป์ ระเมินผลงานตาม 2. ปฏกิ ริ ิยาการเกดิ สี 2.ฝกึ ทักษะการปฏบิ ัตกิ าร ใบงาน แบบประเมินผลงาน นาตาลในอาหาร ทดลองรงควตั ถุ และ ตามใบงาน ปฏกิ ริ ยิ าการเกดิ สีนาตาล 4.แบบประเมินคณุ ธรรม ในอาหาร จรยิ ธรรม การเสื่อมเสียของอาหาร 1.อธิบายความรู้ทั่วไป 1.แบบสงั เกตพฤติกรรมแบบ และการถนอมอาหาร เกยี่ วกับการเสอ่ื มเสียของ ประเมิน 1. การเสือ่ มเสยี ของอาหาร อาหารและการถนอม 2.แบบทดสอบ 2 2. การถนอมและเกบ็ รักษา อาหาร 3.เกณฑป์ ระเมินผลงานตาม 2.ฝกึ ทกั ษะการปฏบิ ัตกิ าร ใบงาน แบบประเมนิ ผลงาน เสือ่ มเสยี ของอาหารและ ตามใบงาน การถนอมอาหาร 4.แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม เนือสัตวแ์ ละผลิตภณั ฑ์ 1.แสคงความรคู้ วาม 1.แบบสังเกตพฤตกิ รรมแบบ 1. การเปล่ยี นแปลงของ เข้าใจเกี่ยวกับเนือสตั ว์ ประเมนิ อาหารประเภทเนอื สตั วเ์ มื่อ และผลติ ภัณฑ์ 2.แบบทดสอบ ปรุงอาหาร 3 2. การเสียสภาพธรรมชาติ 2.ฝกึ ทกั ษะการปฏิบัติการ 3.เกณฑป์ ระเมินผลงานตาม ทดลองเนือสตั วแ์ ละ ใบงาน แบบประเมนิ ผลงาน ของโปรตนี ในเนอื สตั ว์ ผลิตภัณฑ์ ตามใบงาน 3. การเกิดสีนาตาลในอาหาร 4.แบบประเมินคณุ ธรรม ประเภทเนอื สตั ว์ จริยธรรม 4 ไข่และผลติ ภัณฑ์ 1.อธิบายความรู้เกี่ยวกบั 1.แบบสังเกตพฤตกิ รรมแบบ 1. การเสียสภาพธรรมชาติ ไขแ่ ละผลติ ภัณฑ์ ประเมนิ
10 แนวทางการประเมนิ เกณฑก์ ารปฏิบัติงาน หน่วยท่ี รายการสอน สมรรถนะ ทดสอบความ ู้ร ประเมินการป ิฏบั ิตงาน ประเมินผลงาน ประเมินพฤ ิตกรรม อื่น ๆ ของโปรตนี ในไข่ 2.ฝกึ ทกั ษะการปฏบิ ัตกิ าร 2.แบบทดสอบ 2. คุณสมบัติเชิงหนา้ ทข่ี อง ทดลองไข่และผลติ ภณั ฑ์ 3.เกณฑ์ประเมนิ ผลงานตาม ไขใ่ นอาหารประเภทตา่ งๆ ใบงาน แบบประเมนิ ผลงาน ตามใบงาน 4.แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม นมและผลติ ภัณฑ์ 1. อธบิ ายความรทู้ ั่วไป 1.แบบสงั เกตพฤตกิ รรมแบบ 1. นม องค์ประกอบ และ เกยี่ วกับนม และ ประเมิน คณุ สมบัติบางประการใน ผลติ ภัณฑ์2. ฝกึ ทักษะ 2.แบบทดสอบ 5 อาหาร การปฏบิ ตั กิ ารทดลองนม 3.เกณฑ์ประเมนิ ผลงานตาม 2. คอลลอยด์ในอาหาร และผลิตภัณฑ์ ใบงาน แบบประเมนิ ผลงาน ตามใบงาน 4.แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ไขมัน และนามนั 1. อธบิ ายความรู้ทว่ั ไป 1.แบบสงั เกตพฤติกรรมแบบ -คุณสมบตั ขิ องไขมันและ เก่ยี วกบั ไขมันและนามนั ประเมิน นามนั ทใ่ี ช้ในการประกอบ 2. ฝกึ ทกั ษะการ 2.แบบทดสอบ อาหาร ปฏิบตั ิการทดลองไขมัน 3.เกณฑ์ประเมินผลงานตาม 6 และนามนั ใบงาน แบบประเมนิ ผลงาน ตามใบงาน 4.แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ผัก และผลไม้ 1. อธิบายความรู้ทั่วไป 1.แบบสังเกตพฤตกิ รรมแบบ 7 1.ไฮโดรคอลลอยด์ในอาหาร เกย่ี วกบั ผักและผลไม้ ประเมิน 2. องค์ประกอบทีส่ าคัญของ 2. ฝึกทกั ษะการ 2.แบบทดสอบ
11 แนวทางการประเมิน เกณฑ์การปฏบิ ตั งิ าน หนว่ ยท่ี รายการสอน สมรรถนะ ทดสอบความ ู้ร ประเมินการป ิฏบั ิตงาน ประเมินผลงาน ประเมินพฤ ิตกรรม อื่น ๆ ผัก และผลไม้ ปฏิบตั ิการทดลองผักและ 3.เกณฑ์ประเมนิ ผลงานตาม 3. การเปลย่ี นแปลงของ ผลไม้ ใบงาน แบบประเมินผลงาน อาหารประเภทผกั และผลไม้ ตามใบงาน เม่ือผา่ นการปรุงประกอบ 4.แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ธัญชาติ และผลติ ภณั ฑ์ 1. อธิบายความรทู้ วั่ ไป 1.แบบสงั เกตพฤติกรรมแบบ -องคป์ ระกอบของธญั ชาติ เก่ียวกับธัญชาตแิ ละ ประเมนิ และการนาไปใช้เปน็ อาหาร ผลติ ภัณฑ์ 2.แบบทดสอบ 8 2. ฝกึ ทักษะการ 3.เกณฑป์ ระเมินผลงานตาม ปฏิบัตกิ ารทดลองธัญชาติ ใบงาน แบบประเมินผลงาน และผลิตภัณฑ์ ตามใบงาน 4.แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม แป้ง และนาตาล 1. อธิบายความร้ทู ่วั ไป 1.แบบสังเกตพฤติกรรมแบบ -ปฐมนิเทศชแี จงขอบขา่ ย เกย่ี วกบั การแป้งและ ประเมนิ ของเนือหารายวชิ า นาตาล 2.แบบทดสอบ 9 -คณุ สมบตั เิ ชิงหน้าท่ีของแปง้ 2. ฝึกทกั ษะการ 3.เกณฑ์ประเมินผลงานตาม และนาตาลในการประกอบ ปฏบิ ัตกิ ารทดลองแป้ง ใบงาน แบบประเมินผลงาน อาหาร และนาตาล ตามใบงาน 4.แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม
12 แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท.ี่ ......1...........จำนวน.......10......ชวั่ โมง จำนวนชั่วโมงรวม .........90.....ช่วั โมง สัปดำหท์ ่ี.....1-2....... ชอ่ื วชิ ำ...............วทิ ยำศำสตร์กำรประกอบอำหำร............................................................................ ชอื่ หน่วย...........รงควัตถุ และปฏิกริ ยิ ำกำรเกดิ สีนำตำลในอำหำร..................................................... ชื่อเร่อื ง.............รงควตั ถุ และปฏกิ ริ ิยำกำรเกดิ สีนำตำลในอำหำร...................................................... 1. สาระสาคัญ สี (Color) หรอื รงควตั ถุ หมำยถงึ สีท่ปี รำกฏเม่ือคนเรำมองเหน็ วตั ถทุ ม่ี สี ี เชน่ สแี ดง สีเขยี ว สนี ำเงนิ หรือสเี หลือง เปน็ ต้น ส่วนสำรสี (Colorant) เป็นสำรเคมีใดๆ ทงั ท่ีเกดิ ขึนตำมธรรมชำติ หรอื เป็นสำร สงั เครำะห์ทใี่ ห้สีออกมำ ควำมสำคัญของสี หรอื รงควัตถุ สเี ป็นสมบัติทำงกำยภำพอยำ่ งหน่ึงของอำหำร ทังอำหำรทไ่ี ดจ้ ำกธรรมชำติและอำหำรทไี่ ด้จำกแปรรูป เป็นผลติ ภัณฑต์ ่ำงๆ เพรำะสีเป็นปัจจยั สำคญั ที่ผูบ้ ริโภคใชใ้ นกำรตดั สนิ ใจ เลือกซอื อำหำรรว่ มกบั ลกั ษณะ ปรำกฏอน่ื ๆ และกำรยอมรับสอี ำหำรของผู้บรโิ ภคจะแตกต่ำงกันตำมฐำนะทำงเศรษฐกิจและสังคมที่แตกตำ่ ง กนั ดว้ ย นอกจำกนันสขี องอำหำรยงั ใชบ่ ง่ ชีถงึ กำรเปลย่ี นแปลงทำงดำ้ นคณุ ภำพของอำหำรอีกด้วย เชน่ สีของ เนือสตั ว์ เปน็ ต้น อำหำรท่ไี ด้จำกธรรมชำติทงั ท่มี ำจำกพืชและสัตวจ์ ะมชี นิดของรงควตั ถหุ รือสำรสีแตกตำ่ งกนั นอกจำกนรี งควัตถุในอำหำรทีไ่ ด้จำกพืชแต่ละชนดิ ก็ยงั มสี มบัตแิ ตกต่ำงกนั อีกดว้ ย 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย 1. ด้ำนพุทธพิ ิสยั ผู้เรียนมคี วำมรูท้ ัว่ ไปเก่ียวกับรงควตั ถุ และปฏิกิรยิ ำกำรเกดิ สนี ำตำลในอำหำร 2. ด้ำนทกั ษะพิสยั ผู้เรียนฝึกทักษะกำรปฏบิ ตั ิกำรทดลองรงควตั ถุ และปฏิกิรยิ ำกำรเกดิ สีนำตำลใน อำหำร 3. ดำ้ นจติ พสิ ัย ผู้เรียนมคี ุณธรรม จริยธรรม อันพึงประสงค์ ดำ้ นควำมรบั ผดิ ชอบ กำรตรงตอ่ เวลำ กำรทำงำนร่วมกับผูอ้ ่ืน 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. .เพื่อศกึ ษำชนิดของรงควตั ถุทไี่ ด้จำกวัตถุดบิ อำหำรชนดิ ตำ่ งๆกนั 2. เพอื่ ศกึ ษำกำรเปลยี่ นแปลงของรงควตั ถุ เมือ่ ผ่ำนกระบวนกำรหงุ ตม้ 3. เพอ่ื ศึกษำกำรเกดิ ปฏกิ ิรยิ ำกำรเกดิ นำตำลในผักผลไมแ้ ละวธิ กี ำรยบั ยงั ปฏกิ ิรยิ ำ 4. เพอ่ื ศกึ ษำปฏิกริ ิยำกำรเกิดสีนำตำลชนดิ Non – enzymatic ในกำรประกอบอำหำร 5. วิเครำะหก์ ำรทำงำนและนำเสนอผลงำนได้อยำ่ งมีเหตผุ ลและใชว้ สั ดอุ ยำ่ งคมุ้ ค่ำ
13 ปฏิบตั งิ ำนดว้ ยควำมเออื เฟ้อื เผ่ือแผ่ช่วยเหลอื แบง่ ปนั ซงึ่ กันและกนั และมีควำมซื่อสัตย์ สำมำรถนำไป ประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตประจำวันโดยยึดหลกั เศรษฐกิจพอเพยี งไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม 4. สาระการเรยี นรู้ 1. รงควัตถุ และกำรใช้ประโยชนใ์ นอำหำร 2. ปฏิกิริยำกำรเกดิ สนี ำตำลในอำหำร 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ท่.ี ....1-2......) (เขียนเชงิ บรู ณาการตาม 6 ขัน้ ตอนของ PjBL และหรือสอดแทรกหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง) ปฐมนิเทศ 1. ครชู ีแจงขอบขำ่ ยของเนือหำรำยวชิ ำ กิจกรรมกำรเรยี นกำรสอน วธิ กี ำรวดั ผลประเมนิ ผล ตกลงข้อ ปฏบิ ตั ิระหวำ่ งผูเ้ รียนและผู้สอน ขั้นท่ี 1 เตรียมความพร้อม 1. นำเข้ำสู่บทเรียนโดยครูใช้ใบควำมรู้ท่ี 1 เร่ือง รงควัตถุ และปฏิกิริยำกำรเกิดสีนำตำลในอำหำร โดยให้นักเรียนดูรูปภำพวัตถุดิบต่ำง ๆ พร้อมกระตุ้นให้ผู้เรียนอภิปรำยและหำสำเหตุของรงควัตถุ และ ปฏิกริ ิยำกำรเกดิ สีนำตำลในอำหำร 2. ครูจัดเตรียมแผนกำรเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ แหล่งศึกษำค้นคว้ำ วิธีกำรประเมินประสำนกำรใช้ เทคโนโลยีสำรสนเทศ และชแี จงกระบวนกำรเรยี นรู้รว่ มกนั กำรทำงำนเปน็ ทมี ข้ันที่ 2 กาหนดและเลอื กขอ้ 3. ครใู ช้ใบงำนที่ 1 เรอื่ ง รงควัตถุ และปฏิกิริยำกำรเกดิ สีนำตำลในอำหำร โดยกำรทำให้กำรแบ่งกลุ่ม นักศึกษำออกเปน็ กลมุ่ ๆ ละ ประมำณ 5 คน เลอื กประธำน เลขำนุกำรกลมุ่ อื่น ๆ ตำมควำมเหมำะสม 4. ให้ศึกษำใบควำมรู้ท่ี 1 เรื่องรงควัตถุ และปฏิกิริยำกำรเกิดสีนำตำลในอำหำร โดยให้ศึกษำแหล่ง เรียนรู้อนื่ ๆ ทเี่ กีย่ วข้องกับกำรเลือกวัตถุดิบในกำรประกอบอำหำรโดยใช้กระบวนกำรถนอมและกำรแปรรูป อำหำรทค่ี ำนงึ ถงึ ควำมปลอดภัย พรอ้ มชว่ ยกันคดิ ระดมสมอง นำไปสู่กำหนดและเลือกหวั ข้อโครงงำนร่วมกนั ขัน้ ท่ี 3 เขยี นเคา้ โครงของโครงงาน 5. ครใู ชใ้ บควำมรู้ เรือ่ งกำรจดั ทำโครงงำนเชิงทดลองเพอื่ สรำ้ งควำมรู้ควำมเข้ำใจ ทักษะกระบวนกำร ในกำรเขยี นเคำ้ โครงของโครงงำนทผ่ี ู้เรยี นจะจดั ทำ ครูใหค้ ำแนะนำ ช่วยเหลือ ให้คำปรึกษำ ตรวจสอบวิธีกำร เขยี นเค้ำโครงของโครงงำนให้ถกู ตอ้ งตำมระเบียบวธิ ี รวมทังประสำนงำนกับหน่วยงำน บคุ คล หรือแหล่งข้อมูล ทีเ่ กีย่ วข้องกับกำรจดั ทำเคำ้ โครงของโครงงำน 6. ครใู ช้ใบงำนท่ี 1 เรือ่ งรงควัตถุ และปฏิกิริยำกำรเกิดสีนำตำลในอำหำร โดยให้เลือกวัตถุดิบในกำร ประกอบอำหำรโดยใช้กระบวนกำรทดลองรงควัตถุ และปฏิกิริยำกำรเกิดสีนำตำลในอำหำรท่ีคำนึงถึงควำม ปลอดภยั ให้นกั เรียนดำเนนิ กำรจดั ทำเคำ้ โครง โครงงำน และเสนอครูผูส้ อนเพื่อขออนมุ ตั ิกำรจัดทำโครงงำน
14 ขน้ั ท่ี 4 ปฏิบตั งิ านโครงงาน 7. ครูใช้ใบมอบหมำยงำน เร่ือง กำรจัดทำโครงงำนให้นักเรียนไปดำเนินกำรจัดทำโครงกำรเลือก วตั ถุดิบในกำรประกอบอำหำร โดยครปู ระเมินนักศกึ ษำเปน็ รำยบุคคลและรำยกลมุ่ 8. ครูใช้ใบมอบหมำยงำน เร่อื ง กำรนำเสนอโครงงำน ให้แต่ละกลุ่มได้ออกแบบกำรนำเสนอผลงำนที่ ไดด้ ำเนินกำรตำมเค้ำโครงงำน ขนั้ ที่ 5 นาเสนอผลงาน 9. นักเรียนนำเสนอผลกำรดำเนินโครงงำน ของแต่ละกลุ่ม พร้อมทังนำเสนอรำยงำนผลกำร ดำเนินงำนในรูปแบบของเอกสำรประกอบกำรนำเสนอ ข้นั ที่ 6 ประเมนิ โครงงาน 10. ครูผู้สอนและนักศึกษำร่วมกันประเมินผลโครงงำน โดยใช้แบบประเมินท่ีได้จัดทำขึนอย่ำง หลำกหลำยตำมสภำพจรงิ รวมทังใหข้ ้อเสนอแนะจำกกำรดำเนนิ โครงงำนของแต่ละกลุ่ม 6. สอื่ และแหลง่ การเรยี นรู้ 1. ส่ือสิง่ พิมพ์ - ใบควำมรู้ท่ี 1 รงควตั ถุ และปฏิกิรยิ ำกำรเกิดสีนำตำลในอำหำร - ใบงำนท่ี 1 กำรทดลองรงควัตถุ และปฏิกริ ยิ ำกำรเกดิ สีนำตำลในอำหำร - เกณฑก์ ำรประเมินผลงำน 2. ส่อื ของจริง - วัตถุดิบอำหำรของสด และของแหง้ 7. หลักฐานการเรียนรู้ 7.1 หลักฐานความรู้ 1.แบบทดสอบ 2.ผลกำรนำเสนองำน 7.2 หลักฐานการปฏิบัติงาน 1. ผลกำรทดสอบ 2. เอกสำรบันทกึ รำยงำนตำมหวั ขอ้ ทีม่ อบหมำย 8. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 8.1 เครอ่ื งมอื ประเมนิ - แบบสังเกตพฤตกิ รรมแบบประเมนิ - แบบทดสอบ - เกณฑป์ ระเมนิ ผลงำนตำมใบงำน แบบประเมินผลงำนตำมใบงำน - แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม
15 8.2 เกณฑ์การประเมนิ - อธิบำยวัตถุดบิ ในกำรประกอบอำหำรได้อยำ่ งถกู ตอ้ ง - ปฏิบตั ิงำนตำมใบงำนถูกตอ้ งตำมขันตอนกำรปฏิบตั ิงำน - ผลงำนสำเร็จประเมนิ ตำมเกณฑ์ 9. กิจกรรมเสนอแนะ/งานท่มี อบหมาย (ถ้าม)ี - 10. เอกสารอ้างองิ เอกสำรประกอบกำรบรรยำย วชิ ำวทิ ยำศำสตรก์ ำรประกอบอำหำร ของ อ.ดร.สวุ รรณำ พชิ ยั ยงศว์ งศ์ ดี อ.นันทพร รจุ ขิ จร และอ.ศวรรญำ ปน่ั ดลสุข
16 ใบความรู้ท่ี..1...... หน่วยท่ี.....1..... รหสั วชิ า 30404-1002 ชอื่ วชิ า วทิ ยำศำสตร์กำรประกอบอำหำร ภาคเรยี นที่ 1/2564 ชือ่ หน่วย รงควตั ถุ และปฏกิ ริ ยิ ำกำรเกิดสนี ำตำลในอำหำร เวลารวม 90 ช่ัวโมง ชือ่ เรอ่ื ง รงควตั ถุ และปฏิกริ ยิ ำกำรเกิดสีนำตำลในอำหำร เวลา 10 ช่ัวโมง จุดประสงค์การเรยี นรู้ จุดประสงค์ทั่วไป - นักเรยี นรเู้ ก่ยี วกบั ชนดิ ของรงควตั ถทุ ีไ่ ดจ้ ำกวตั ถุดิบอำหำรชนดิ ตำ่ งๆกนั - นกั เรยี นสำมำรถอธิบำยกำรเปลย่ี นแปลงของรงควัตถุ เม่อื ผำ่ นกระบวนกำรหุงต้ม - นักเรยี นอธบิ ำยกำรเกดิ ปฏกิ ิรยิ ำกำรเกดิ นำตำลในผักผลไมแ้ ละวธิ กี ำรยบั ยงั ปฏกิ ริ ยิ ำ - นักเรยี นอธิบำยปฏิกริ ิยำกำรเกิดสีนำตำลชนิด Non – enzymatic ในกำรประกอบอำหำร จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม - นกั เรยี นสำมำรถแสดงรู้ควำมเข้ำใจเกีย่ วกับชนิดของรงควตั ถุที่ไดจ้ ำกวตั ถดุ ิบอำหำรชนดิ ต่ำงๆกนั ได้ - นกั เรียนสำมำรถอธบิ ำยกำรเปลี่ยนแปลงของรงควัตถุ เมื่อผำ่ นกระบวนกำรหุงตม้ ได้ - นกั เรยี นสำมำรถอธิบำยกำรเกดิ ปฏกิ ริ ยิ ำกำรเกดิ นำตำลในผกั ผลไม้และวธิ ีกำรยับยังปฏกิ ิรยิ ำได้ - นกั เรยี นสำมำรถอธิบำยปฏิกิรยิ ำกำรเกดิ สีนำตำลชนิด Non – enzymatic ในกำรประกอบอำหำรได้ สมรรถนะรายหนว่ ย 1.ชนิดของรงควัตถทุ ไี่ ด้จำกวัตถดุ ิบอำหำร 2.กำรเปลีย่ นแปลงของรงควัตถุ เมื่อผำ่ นกระบวนกำรหุงตม้ 3.กำรเกิดปฏิกิริยำกำรเกิดนำตำลในผกั ผลไมแ้ ละวิธีกำรยบั ยังปฏกิ ริ ิยำ 4.ปฏกิ ริ ยิ ำกำรเกิดสนี ำตำลชนดิ Non – enzymatic ในกำรประกอบอำหำร เนอ้ื หาสาระ 1.ชนดิ ของรงควตั ถุท่ไี ดจ้ ำกวตั ถดุ ิบอำหำร 2.กำรเปล่ียนแปลงของรงควัตถุ เมื่อผำ่ นกระบวนกำรหุงตม้ 3.กำรเกดิ ปฏกิ ิรยิ ำกำรเกดิ นำตำลในผักผลไมแ้ ละวธิ กี ำรยับยังปฏิกิรยิ ำ 4.ปฏกิ ริ ิยำกำรเกิดสีนำตำลชนดิ Non – enzymatic ในกำรประกอบอำหำร แบบฝึกหดั /เฉลย ตอนท่ี 1 รงควัตถใุ นพชื และกำรเปลย่ี นแปลงเมอ่ื ผ่ำนกระบวนกำรหงุ ตม้ ตอนท่ี 2 ปฏกิ ริ ิยำกำรเกิดสินำตำลในผักผลไม้ ตอนท่ี 3 ผลของกำรปรุงประกอบอำหำรตอ่ ปฏกิ ริ ยิ ำกำรเกิดสนี ำตำลในเนือสตั ว์
17 เอกสารอ้างอิง เอกสำรประกอบกำรบรรยำย วชิ ำวิทยำศำสตรก์ ำรประกอบอำหำร ของ อ.ดร.สวุ รรณำ พิชยั ยงศว์ งศด์ ี อ.นนั ทพร รุจขิ จร และอ.ศวรรญำ ปั่นดลสุข
18 ใบงานท.่ี .1... หน่วยท.ี่ ........1.............. รหัสวิชา 30404-1002 ช่ือวิชา วิทยาศาสตร์การประกอบ สอนคร้ังท.ี่ .....1-2... อาหาร ช่อื หนว่ ย รงควัตถุ และปฏิกริ ยิ ำกำรเกดิ สีนำตำลในอำหำร เวลารวม.....90...ชั่วโมง ชอื่ งาน รงควัตถุ และปฏกิ ริ ยิ ำกำรเกดิ สนี ำตำลในอำหำร จานวน......10....ชัว่ โมง จุดประสงค์การเรียนรู้ จดุ ประสงคท์ ั่วไป - นกั เรียนรเู้ ก่ียวกบั ชนดิ ของรงควตั ถุท่ไี ดจ้ ำกวตั ถุดบิ อำหำรชนดิ ต่ำงๆกัน - นกั เรียนสำมำรถอธิบำยกำรเปลี่ยนแปลงของรงควตั ถุ เม่อื ผ่ำนกระบวนกำรหุงต้ม - นักเรยี นอธบิ ำยกำรเกิดปฏิกิริยำกำรเกดิ นำตำลในผักผลไม้และวิธีกำรยบั ยงั ปฏกิ ิรยิ ำ - นักเรยี นอธบิ ำยปฏิกริ ยิ ำกำรเกิดสีนำตำลชนดิ Non – enzymatic ในกำรประกอบอำหำร จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม - นกั เรยี นสำมำรถแสดงรู้ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับชนดิ ของรงควัตถุที่ได้จำกวตั ถุดิบอำหำรชนิดต่ำงๆกันได้ - นักเรียนสำมำรถอธิบำยกำรเปลยี่ นแปลงของรงควัตถุ เมอื่ ผำ่ นกระบวนกำรหงุ ต้มได้ - นักเรยี นสำมำรถอธิบำยกำรเกิดปฏกิ ริ ยิ ำกำรเกดิ นำตำลในผักผลไม้และวธิ กี ำรยับยังปฏกิ ิรยิ ำได้ - นักเรยี นสำมำรถอธบิ ำยปฏกิ ิรยิ ำกำรเกิดสีนำตำลชนดิ Non – enzymatic ในกำรประกอบอำหำรได้ สมรรถนะรำยหน่วย 1.ชนิดของรงควตั ถทุ ่ไี ด้จำกวตั ถุดิบอำหำร 2.กำรเปลีย่ นแปลงของรงควัตถุ เมอื่ ผ่ำนกระบวนกำรหงุ ต้ม 3.กำรเกิดปฏิกิรยิ ำกำรเกิดนำตำลในผกั ผลไม้และวิธกี ำรยับยังปฏกิ ิริยำ 4.ปฏกิ ิรยิ ำกำรเกดิ สีนำตำลชนดิ Non – enzymatic ในกำรประกอบอำหำร เครอ่ื งมือ วัสดุ – อุปกรณ์ 1. เอกกำรประกอบกำรสอนวชิ ำ วิทยำศำสตร์กำรประกอบอำหำร 2. ใบควำมร้ปู ระกอบกำรเรยี นกำรสอนวทิ ยำศำสตร์กำรประกอบอำหำร 3. แบบฝกึ หัด/แบบทดสอบ ลาดบั ขน้ั ตอนการปฏิบัตงิ าน 1. ให้นกั ศกึ ษำแบ่งกลุ่มตำมควำมเหมำะสม เพ่อื ศึกษำและอภิปรำย 1.1 อธบิ ำยชนดิ ของรงควตั ถุทไ่ี ด้จำกวตั ถดุ ิบอำหำร 1.2 อธิบำยกำรเปล่ยี นแปลงของรงควตั ถุ เม่ือผ่ำนกระบวนกำรหงุ ต้ม 1.3 อธบิ ำยกำรเกิดปฏิกิรยิ ำกำรเกิดนำตำลในผกั ผลไมแ้ ละวธิ ีกำรยับยงั ปฏกิ ริ ิยำ 1.4 อธิบำยกำรปฏกิ ิริยำกำรเกิดสีนำตำลชนิด Non – enzymatic ในกำรประกอบอำหำร
19 2. เขยี นอภปิ รำยและวเิ ครำะห์ใสก่ ระดำษ 3. นำผลงำนส่งครูผู้สอนเพื่อประเมนิ ผล ภาพประกอบ - ข้อควรระวัง ผเู้ รยี นควรตรวจสอบขอ้ มูลก่อนให้ถ่ถี ้วน ละเอียด และรอบคอบก่อน เพอ่ื ป้องกันควำมผดิ พลำดกอ่ น กำรส่งงำน ข้อเสนอแนะ (ถ้าม)ี นักศกึ ษำควรมีภำพประกอบกำรนำเสนองำน และสำมำรถอธิบำยเนอื หำให้สอดคลอ้ งกบั ภำพให้ถูกตอ้ ง การประเมนิ ผล (ต้องระบเุ กณฑ์การประเมินใหช้ ัดเจน) 1. สังเกตผเู้ รยี นมคี วำมสนใจ เกดิ ควำมเขำ้ ใจในสำระกำรเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงควำมกระตือรือรน้ ใน กำรแสดงควำมคิดเหน็ และสรุปสำระกำรเรยี นรปู้ ระจำหน่วย 2. ทำใบงำนได้อยำ่ งถูกต้อง ทนั เวลำท่ีกำหนด ใบงำนสะอำดและเป็นระเบยี บ 3. ผู้เรยี นทำแบบฝกึ หดั หลงั เรียนได้ถูกตอ้ ง โดยได้คะแนน 50% เป็นอยำ่ งตำ่ เอกสารอา้ งอิง เอกสำรประกอบกำรบรรยำย วชิ ำวทิ ยำศำสตร์กำรประกอบอำหำร ของ อ.ดร.สวุ รรณำ พิชัยยงศ์ วงศ์ดี อ.นนั ทพร รจุ ิขจร และอ.ศวรรญำ ป่ันดลสุข
20 ใบกจิ กรรมท่ี...1.. หน่วยที.่ .....1....... รหสั วิชา 30404-1002 ชื่อวิชา วทิ ยาศาสตร์การประกอบ สอนครัง้ ที่ 1-2 อาหาร ช่อื หน่วย รงควตั ถุ และปฏิกริ ิยำกำรเกิดสีนำตำลในอำหำร เวลารวม 90 ชว่ั โมง ชอ่ื งาน รงควัตถุ และปฏกิ ริ ยิ ำกำรเกดิ สนี ำตำลในอำหำร จานวน 10 ช่ัวโมง จุดประสงค์การเรยี นรู้ จุดประสงคท์ ่ัวไป - นักเรยี นรู้เกย่ี วกับชนิดของรงควัตถุท่ีได้จำกวตั ถดุ ิบอำหำรชนิดต่ำงๆกนั - นักเรียนสำมำรถอธิบำยกำรเปลยี่ นแปลงของรงควตั ถุ เมื่อผำ่ นกระบวนกำรหงุ ต้ม - นักเรียนอธบิ ำยกำรเกิดปฏิกิรยิ ำกำรเกดิ นำตำลในผักผลไมแ้ ละวธิ กี ำรยับยงั ปฏกิ ิริยำ - นกั เรยี นอธิบำยปฏิกิรยิ ำกำรเกิดสีนำตำลชนดิ Non – enzymatic ในกำรประกอบอำหำร จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม - นักเรียนสำมำรถแสดงรคู้ วำมเข้ำใจเกีย่ วกับชนิดของรงควตั ถุทีไ่ ดจ้ ำกวัตถุดิบอำหำรชนดิ ต่ำงๆกันได้ - นกั เรียนสำมำรถอธบิ ำยกำรเปลีย่ นแปลงของรงควัตถุ เมือ่ ผำ่ นกระบวนกำรหงุ ต้มได้ - นักเรยี นสำมำรถอธิบำยกำรเกิดปฏกิ ิริยำกำรเกิดนำตำลในผักผลไม้และวธิ กี ำรยับยังปฏกิ ริ ยิ ำได้ - นกั เรยี นสำมำรถอธิบำยปฏิกริ ยิ ำกำรเกิดสนี ำตำลชนดิ Non – enzymatic ในกำรประกอบอำหำรได้ สมรรถนะรำยหนว่ ย 1.ชนิดของรงควัตถุท่ีได้จำกวัตถุดิบอำหำร 2.กำรเปลยี่ นแปลงของรงควัตถุ เม่ือผ่ำนกระบวนกำรหงุ ตม้ 3.กำรเกิดปฏิกิริยำกำรเกิดนำตำลในผกั ผลไม้และวิธกี ำรยับยังปฏิกิรยิ ำ 4.ปฏิกริ ยิ ำกำรเกดิ สนี ำตำลชนิด Non – enzymatic ในกำรประกอบอำหำร เคร่อื งมือ วัสดุ – อุปกรณ์ 1. เอกกำรประกอบกำรสอนวชิ ำ วทิ ยำศำสตร์กำรประกอบอำหำร 2. ใบควำมรู้ประกอบกำรเรียนกำรสอนวทิ ยำศำสตร์กำรประกอบอำหำร 3. แบบฝึกหดั /แบบทดสอบ ลาดับกิจกรรม 1. ผู้เรียนตอ้ งใหค้ วำมสนใจในกำรศึกษำ เพอื่ หำเทคนิค วธิ กี ำร หรือหลักกำรง่ำยเพอื่ ให้หำคำตอบได้ อย่ำงถูกตอ้ ง และรวดเร็ว โดยกำร ตังใจฟังหลักกำร เทคนคิ วิธีกำรที่ครูผู้สอนสรปุ ในขณะท่ีทำกำรสอน และนำ ข้อสงสัยซักถำมครใู นกำรเรียนทุกครังท่เี กดิ ควำมสับสน และไมเ่ ขำ้ ใจ 2. ผู้มกี ำรทบทวนบทเรยี น ตลอดเพ่อื เสรมิ สร้ำงควำมเขำ้ ใจอยำ่ งแท้จรงิ 3. ผู้เรยี นหมั่นทำใบงำน แบบฝึกหัด และแกไ้ ขข้อท่ผี ดิ ให้ถกู ต้องเสมอ
21 4. ผเู้ รียนต้องสร้ำงมโนภำพให้เกิดควำมคิดรวบยอดในสำระกำรเรียนรแู้ ละเทคนคิ วิธีกำรพรอ้ มกบั ควำม จำเปน็ ในกำรนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดขนึ โดยตนเองใหไ้ ด้เพอื่ เกิดควำมร้คู วำมเข้ำใจอย่ำงแท้จริงไม่ใช่เกดิ จำก กำรทอ่ งจำ 5. ผเู้ รยี นตอ้ งดำเนนิ กำรตำมกจิ กรรมหรืองำนที่ได้รบั มอบหมำย ให้เสรจ็ สินภำยในระยะเวลำท่กี ำหนด และฝกึ ฝนตนเองเสมอ เมอื่ ไดร้ บั มอบหมำยงำนมำ การประเมนิ ผล (ต้องระบุเกณฑก์ ารประเมินใหช้ ัดเจน) 1. สังเกตผู้เรียนมีควำมสนใจ เกิดควำมเข้ำใจในสำระกำรเรียนรู้ ตลอดจนแสดงควำมกระตอื รือร้นใน กำรแสดงควำมคิดเหน็ และสรุปสำระกำรเรียนรูป้ ระจำหน่วย 2. ทำใบงำนไดอ้ ยำ่ งถกู ต้อง ทนั เวลำทก่ี ำหนด ใบงำนสะอำดและเป็นระเบยี บ 3. ผู้เรียนทำแบบฝกึ หดั หลังเรยี นไดถ้ กู ตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เปน็ อย่ำงตำ่ เอกสารอา้ งองิ เอกสำรประกอบกำรบรรยำย วชิ ำวิทยำศำสตรก์ ำรประกอบอำหำร ของ อ.ดร.สุวรรณำ พิชัยยงศว์ งศ์ ดี อ.นันทพร รจุ ิขจร และอ.ศวรรญำ ปนั่ ดลสขุ
22 ใบปฏบิ ัติงานท่.ี .1... หนว่ ยท.่ี .........1............ รหสั วชิ า 30404-1002 ชอ่ื วิชา วทิ ยำศำสตร์กำรประกอบ สอนครั้งท.่ี ...1-2............ อำหำร ชือ่ หนว่ ย รงควตั ถุ และปฏกิ ิรยิ ำกำรเกดิ สนี ำตำลในอำหำร จานวนรวม..90..ช่ัวโมง ชอ่ื งาน รงควตั ถุ และปฏิกิริยำกำรเกดิ สนี ำตำลในอำหำร จานวน......10.....ชั่วโมง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ จุดประสงค์ทั่วไป - นักเรยี นร้เู กีย่ วกบั ชนิดของรงควตั ถุทไ่ี ดจ้ ำกวตั ถุดบิ อำหำรชนดิ ต่ำงๆกัน - นกั เรียนสำมำรถอธิบำยกำรเปลี่ยนแปลงของรงควตั ถุ เมอ่ื ผำ่ นกระบวนกำรหงุ ตม้ - นักเรยี นอธิบำยกำรเกิดปฏกิ ิริยำกำรเกดิ นำตำลในผกั ผลไมแ้ ละวธิ กี ำรยับยงั ปฏิกิริยำ - นักเรยี นอธิบำยปฏกิ ิริยำกำรเกดิ สีนำตำลชนดิ Non – enzymatic ในกำรประกอบอำหำร จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม - นักเรียนสำมำรถแสดงรู้ควำมเข้ำใจเก่ยี วกบั ชนดิ ของรงควตั ถทุ ่ไี ด้จำกวตั ถุดิบอำหำรชนดิ ต่ำงๆกนั ได้ - นักเรียนสำมำรถอธิบำยกำรเปลยี่ นแปลงของรงควตั ถุ เมอ่ื ผ่ำนกระบวนกำรหุงตม้ ได้ - นักเรียนสำมำรถอธิบำยกำรเกิดปฏกิ ิริยำกำรเกิดนำตำลในผกั ผลไมแ้ ละวิธกี ำรยับยงั ปฏกิ ิรยิ ำได้ - นกั เรยี นสำมำรถอธบิ ำยปฏิกิริยำกำรเกิดสนี ำตำลชนิด Non – enzymatic ในกำรประกอบอำหำรได้ สมรรถนะรำยหนว่ ย 1.ชนิดของรงควัตถทุ ไ่ี ดจ้ ำกวตั ถุดิบอำหำร 2.กำรเปลย่ี นแปลงของรงควตั ถุ เม่อื ผ่ำนกระบวนกำรหงุ ตม้ 3.กำรเกดิ ปฏกิ ิรยิ ำกำรเกดิ นำตำลในผักผลไม้และวธิ กี ำรยับยังปฏิกิรยิ ำ 4.ปฏกิ ริ ิยำกำรเกดิ สนี ำตำลชนดิ Non – enzymatic ในกำรประกอบอำหำร เครอ่ื งมือ/วสั ดุ อุปกรณ์ (จานวน ขนาด) 1. เอกกำรประกอบกำรสอนวิชำ วิทยำศำสตรก์ ำรประกอบอำหำร 2. ใบควำมรู้ประกอบกำรเรยี นกำรสอนวิทยำศำสตรก์ ำรประกอบอำหำร 3. แบบฝึกหัด/แบบทดสอบ ลาดับขั้นตอนการปฏบิ ตั งิ าน 1. ใหน้ กั ศึกษำแบ่งกลุ่มตำมควำมเหมำะสม เพ่ือศึกษำและอภปิ รำย 1.1 อธบิ ำยชนิดของรงควตั ถทุ ีไ่ ดจ้ ำกวตั ถุดิบอำหำรชนิดตำ่ งๆกัน 1.2 อธิบำยกำรเปล่ยี นแปลงของรงควตั ถุ เม่ือผ่ำนกระบวนกำรหุงตม้ 1.3 อธบิ ำยกำรเกดิ ปฏิกริ ยิ ำกำรเกดิ นำตำลในผกั ผลไมแ้ ละวิธกี ำรยับยงั ปฏิกริ ยิ ำ 1.4 อธิบำยปฏกิ ิริยำกำรเกดิ สีนำตำลชนิด Non – enzymatic ในกำรประกอบอำหำร 2. เขยี นอภปิ รำยและวิเครำะห์ใสก่ ระดำษ
23 3. นำผลงำนสง่ ครูผู้สอนเพือ่ ประเมนิ ผล ภาพประกอบ - ขอ้ ควรระวัง ผู้เรยี นควรตรวจสอบข้อมูลก่อนให้ถี่ถว้ น ละเอียด และรอบคอบกอ่ น เพ่ือป้องกนั ควำมผิดพลำดกอ่ น กำรส่งงำน ขอ้ เสนอแนะ (ถา้ ม)ี นกั ศึกษำควรมภี ำพประกอบกำรนำเสนองำน และสำมำรถอธิบำยเนือหำใหส้ อดคล้องกบั ภำพให้ ถกู ตอ้ ง กำรประเมินผล (ต้องระบเุ กณฑก์ ำรประเมนิ ให้ชดั เจน) 1. สังเกตผเู้ รยี นมีควำมสนใจ เกิดควำมเข้ำใจในสำระกำรเรียนรู้ ตลอดจนแสดงควำมกระตอื รอื รน้ ในกำร แสดงควำมคิดเห็นและสรุปสำระกำรเรยี นรู้ประจำหน่วย 2. ทำใบงำนได้อยำ่ งถกู ต้อง ทันเวลำทก่ี ำหนด ใบงำนสะอำดและเป็นระเบยี บ 3. ผเู้ รยี นทำแบบฝึกหัดหลังเรยี นไดถ้ กู ตอ้ ง โดยได้คะแนน 50% เป็นอยำ่ งต่ำ เอกสารอา้ งองิ เอกสำรประกอบกำรบรรยำย วิชำวิทยำศำสตร์กำรประกอบอำหำร ของ อ.ดร.สวุ รรณำ พิชัยยงศว์ งศ์ ดี อ.นนั ทพร รุจิขจร และอ.ศวรรญำ ปั่นดลสขุ
ใบมอมหมายงานท่.ี .1... 24 หนว่ ยท่ี.....1......... รหัสวชิ า 30404-1002 ช่ือวชิ า วทิ ยำศำสตรก์ ำรประกอบอำหำร สอนครง้ั ท.่ี ....1-2... ชือ่ หนว่ ย รงควัตถุ และปฏกิ ิรยิ ำกำรเกดิ สนี ำตำลในอำหำร ชอ่ื งาน รงควัตถุ และปฏกิ ริ ิยำกำรเกิดสีนำตำลในอำหำร จุดประสงค์การเรยี นรู้ - นักเรยี นร้เู ก่ยี วกบั ชนดิ ของรงควตั ถทุ ไ่ี ด้จำกวัตถุดิบอำหำรชนดิ ตำ่ งๆกนั - นักเรียนสำมำรถอธิบำยกำรเปล่ียนแปลงของรงควัตถุ เม่อื ผ่ำนกระบวนกำรหุงตม้ - นักเรียนอธบิ ำยกำรเกดิ ปฏกิ ริ ิยำกำรเกิดนำตำลในผกั ผลไมแ้ ละวธิ ีกำรยับยังปฏกิ ิรยิ ำ - นักเรยี นอธบิ ำยปฏกิ ิรยิ ำกำรเกดิ สนี ำตำลชนดิ Non – enzymatic ในกำรประกอบอำหำร แนวทางการปฏิบตั งิ าน 1. ครูใชใ้ บมอบหมำยงำน เร่อื ง กำรจดั ทำโครงงำนให้นักเรยี นไปดำเนินกำรจดั ทำโครงกำรเลอื ก วตั ถุดิบในกำรประกอบอำหำร โดยครปู ระเมินนกั ศึกษำเป็นรำยบคุ คลและรำยกลมุ่ 2. ครูใช้ใบมอบหมำยงำน เรื่อง กำรนำเสนอโครงงำน ใหแ้ ต่ละกลุ่มได้ออกแบบกำรนำเสนอผลงำน ทีไ่ ด้ดำเนนิ กำรตำมเค้ำโครงงำน แหล่งคน้ ควา้ 1. เอกกำรประกอบกำรสอนวชิ ำ วทิ ยำศำสตร์กำรประกอบอำหำร 2. ใบควำมรปู้ ระกอบกำรเรียนกำรสอนวิทยำศำสตร์กำรประกอบอำหำร 3. แบบฝกึ หดั /แบบทดสอบ คาถาม/ปัญหา - กาหนดเวลาส่งงาน - เอกสารอ้างอิง เอกสำรประกอบกำรบรรยำย วชิ ำวทิ ยำศำสตร์กำรประกอบอำหำร ของ อ.ดร.สวุ รรณำ พิชยั ยงศว์ งศ์ ดี อ.นนั ทพร รุจขิ จร และอ.ศวรรญำ ปนั่ ดลสุข
25 แบบประเมนิ ผลงาน หน่วยการเรียนร้ทู ่ี............................................................................................................................. ช่อื กลมุ่ .........................................................................ชนั้ ................................................................ รายช่อื สมาชิก 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ขอ้ ท่ี รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ 321 1 ควำมถูกต้องของเนอื หำ 2 ควำมประณีตสวยงำม 3 ควำมคดิ รเิ ร่ิมสร้ำงสรรค์ 4 สำระประโยชน์ 5 ................................................................. รวม ผ้ปู ระเมนิ .............................................. วันท.่ี .............เดือน...............................พ.ศ...................
26 เกณฑ์การประเมนิ 1. ความถูกต้องของเน้อื หา 3 คะแนน = มเี นือหำสำระสำคัญครบถ้วน ส่ือควำมหมำยชดั เจนและมรี ูปภำพประกอบ 2 คะแนน = มีเนือหำสำระสำคญั ครบถว้ น สื่อควำมหมำยและมีรปู ภำพไมต่ รงเนอื หำ 1 คะแนน = มีเนือหำสำระสำคัญไม่ชัดเจน และไมค่ รบถว้ น 2. ความประณตี สวยงาม 3 คะแนน = รปู ภำพสวยงำม ตัวอักษรคมชัด สีสันเหมำะสม กำรวำงรปู แบบสมดุล 2 คะแนน = รูปภำพสวยงำม ตัวอกั ษรคมชัด กำรวำงรปู แบบสมดุล 1 คะแนน = รปู ภำพไมส่ วยงำม กำรวำงรปู แบบสมดุล 3. ความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ 3 คะแนน = รปู แบบกำรนำเสนอแปลกใหม่ มีกำรประยุกตใ์ ช้วสั ดุอุปกรณ์ในท้องถิ่น และประหยดั 2 คะแนน = รูปแบบกำรนำเสนอแปลกใหม่ มีกำรประยกุ ตใ์ ชว้ สั ดอุ ปุ กรณใ์ นท้องถิน่ แต่ไม่ประหยัด 1 คะแนน = รปู แบบกำรนำเสนอไมแ่ ปลกใหม่ ไมน่ ่ำสนใจ 4. สารประโยชน์ 3 คะแนน = ให้ควำมคิดรวบยอดเกย่ี วกบั องคป์ ระกอบ ครอบคลุมและชดั เจน 2 คะแนน = ให้ควำมคดิ รวบยอดเก่ยี วกับองคป์ ระกอบ ไมค่ รอบคลุมแต่ชัดเจน 1 คะแนน = ให้ควำมคดิ รวบยอดเกย่ี วกบั องคป์ ระกอบ ไมค่ รอบคลมุ และไม่ชัดเจน 5..................................................................
27 แบบประเมินการนาเสนอผลงาน หน่วยการเรียนรูท้ ี่............................................................................................................................. ชื่อกลมุ่ .........................................................................ชนั้ ................................................................ รายชอ่ื สมาชิก 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ขอ้ ที่ รายการประเมิน คะแนน หมายเหตุ 321 1 กำรเตรยี มควำมพรอ้ ม 2 เนือหำสำระ 3 รูปแบบกำรนำเสนอ 4 กำรมสี ่วนรว่ มของสมำชกิ ในกลุ่ม 5 กำรรกั ษำเวลำ 6 ควำมสนใจของผู้ฟัง รวม ผูป้ ระเมิน.............................................. วนั ที.่ .............เดอื น...............................พ.ศ...................
28 เกณฑ์การประเมนิ 1. การเตรียมความพรอ้ ม 3 คะแนน = มกี ำรจัดเตรียมสถำนที่ สือ่ /อุปกรณ์ไวอ้ ย่ำงพร้อมเพรียง 2 คะแนน = มสี ่ือ/อุปกรณ์พรอ้ ม ขำดกำรจัดเตรียมสถำนท่ี 1 คะแนน = สอื่ /อุปกรณไ์ มเ่ พยี งพอ ขำดกำรจัดเตรียมสถำนที่ 2. เนอ้ื หาสาระ 3 คะแนน = สำระสำคัญครบถ้วน ตรงตำมจดุ ประสงค์ 2 คะแนน = สำระสำคญั ไม่ครบ ตรงตำมจุดประสงค์ 1 คะแนน = สำระสำคญั ไม่ครบ ไมต่ รงตำมจุดประสงค์ 3. รูปแบบการนาเสนอ 3 คะแนน = มีรูปแบบกำรนำเสนอทีเ่ หมำะสม ใช้เทคนิคแปลกใหม่ มีสื่อและ ใช้เทคโนโลยปี ระกอบกำรนำเสนอ นำวสั ดุในทอ้ งถน่ิ มำประยุกตใ์ ช้ อย่ำงคุม้ ค่ำและประหยดั 2 คะแนน = ใช้เทคนคิ แปลกใหม่ มสี ือ่ และใช้เทคโนโลยปี ระกอบกำรนำเสนอ ขำดกำรประยกุ ต์ใช้วสั ดใุ นทอ้ งถ่นิ 1 คะแนน = เทคนคิ กำรนำเสนอไม่เหมำะสม ไม่น่ำสนใจ 4. การมสี ่วนร่วมของสมาชิก 3 คะแนน = สมำชกิ ทกุ คนมีบทบำทและมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมกล่มุ 2 คะแนน = สมำชิกสว่ นใหญ่มบี ทบำทและมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมกลุม่ 1 คะแนน = สมำชิกส่วนนอ้ ยมบี ทบำทและมสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมกล่มุ 5. การรักษาเวลา 3 คะแนน = ดำเนินกจิ กรรมได้ตำมเวลำทก่ี ำหนด 2 คะแนน = ดำเนินกิจกรรมเร็วกว่ำเวลำท่ีกำหนด 1 คะแนน = ดำเนนิ กจิ กรรมช้ำกว่ำเวลำทีก่ ำหนด 6. ความสนใจของผฟู้ งั 3 คะแนน = ผู้ฟังมำกกว่ำร้อยละ 80 สนใจ และให้ควำมรว่ มมือ 2 คะแนน = ผฟู้ ังรอ้ ยละ 70 – 80 สนใจ แลใหค้ วำมร่วมมือ 1 คะแนน = ผู้ฟงั นอ้ ยกวำ่ ร้อยละ 70 สนใจ และใหค้ วำมร่วมมอื
29 แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยท.่ี ......2...........จำนวน.......5......ชัว่ โมง จำนวนช่วั โมงรวม .........90.....ชว่ั โมง สปั ดำหท์ ี่.....3....... ชื่อวิชำ...............วทิ ยำศำสตร์กำรประกอบอำหำร............................................................................ ชื่อหน่วย...........กำรเส่อื มเสยี ของอำหำร และกำรถนอมอำหำร..................................................... ชอ่ื เรอื่ ง.............กำรเส่ือมเสียของอำหำร และกำรถนอมอำหำร...................................................... 1. สาระสาคัญ 1. กำรเส่อื มเสยี ของอำหำร 2. กำรถนอมและเกบ็ รกั ษำ 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย 1. ดำ้ นพุทธิพสิ ยั ผู้เรียนมีควำมรทู้ ัว่ ไปเก่ยี วกบั กำรเส่อื มเสียของอำหำรและกำรถนอมอำหำร 2. ด้ำนทักษะพิสัย ผู้เรียนฝึกทกั ษะกำรปฏิบตั กิ ำรเสอ่ื มเสยี ของอำหำรและกำรถนอมอำหำร 3. ด้ำนจติ พิสยั ผเู้ รียนมีคณุ ธรรม จริยธรรม อนั พึงประสงค์ ด้ำนควำมรับผิดชอบ กำรตรงต่อเวลำ กำรทำงำนร่วมกบั ผอู้ ืน่ กำรทำงำนรว่ มกับผ้อู ื่น 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. เพอื่ กำรศึกษำกำรเปล่ียนแปลง สี เนอ้ื สมั ผัส และกลนิ่ ของอำหำรประเภทตำ่ งๆ กนั 2. เพอ่ื ศกึ ษำกรรมวิธีกำรถนอมอำหำรดว้ ยวิธตี ่ำงๆ กัน 3. วิเครำะหก์ ำรทำงำนและนำเสนอผลงำนไดอ้ ยำ่ งมีเหตผุ ลและใช้วัสดอุ ยำ่ งคมุ้ คำ่ 4. ปฏิบัติงำนด้วยควำมเออ้ื เฟอ้ื เผ่อื แผช่ ่วยเหลือแบง่ ปนั ซง่ึ กนั และกนั และมคี วำมซอ่ื สัตย์ สำมำรถนำไป ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั โดยยดึ หลกั เศรษฐกิจพอเพียงไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม 4. สาระการเรยี นรู้ กำรเสื่อมเสียของอำหำรเกดิ ขึ้นไดจ้ ำกหลำยสำเหตุ โดยสำเหตุหนง่ึ ทีส่ ำคญั คือกำรปนเป้ือนของ เช้อื จลุ นิ ทรียแ์ ตล่ ะชนิดจะทำใหอ้ ำหำรเสอ่ื มเสียแตกต่ำงกนั โดยปจั จยั ทใ่ี ช้ในกำรพจิ ำรณำเพ่อื ยอมรับคณุ ภำพ ของอำหำรไดแ้ ก่ สี เนอ้ื สัมผสั กล่นิ และรสของอำหำร รวมทั้งกำรไมพ่ บสง่ิ ผิดปกตทิ ีไ่ ม่ใช่ลักษณะอำหำรน้ันๆ หำกอำหำรนัน้ มีกำรเปลยี่ นแปลงเกิดขนึ้ เชน่ เปลี่ยนสี กลิน่ รส หรือมเี มือกเกดิ ขึน้ ซงึ่ ไม่ใช่ลักษณะผดิ ปกติ ของอำหำรน้นั ๆจึงพจิ ำรณำไดว้ ำ่ อำหำรน้นั อำจมีกำรเน่ำเสยี เกิดขน้ึ กำรถนอมอำหำรเป็นหน่ึงในวธิ ชี ว่ ยยดื อำยกุ ำรเกบ็ รักษำของอำหำร ประกอบดว้ ยหลำยวธิ ี เช่น กำร ดอง กำรหมัก กำรใชค้ วำมเยน็ กำรใช้ควำมรอ้ น กำรฉำยรงั สี เป็นตน้ สำมำรถใชว้ ธิ เี ดียวหรอื หลำยวธิ ีรว่ มกนั ก็ ได้
30 5. กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ท.ี่ ....3......) (เขยี นเชงิ บูรณาการตาม 6 ขน้ั ตอนของ PjBL และหรอื สอดแทรกหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง) ปฐมนิเทศ 1. ครูช้ีแจงขอบข่ายของเนื้อหารายวิชา กิจกรรมการเรียนการสอน วิธีการวัดผลประเมินผล ตกลง ขอ้ ปฏิบตั ริ ะหวา่ งผ้เู รยี นและผสู้ อน ขนั้ ที่ 1 เตรยี มความพรอ้ ม 1. นาเขา้ สบู่ ทเรียนโดยครูใชใ้ บความรทู้ ี่ 1 เรอื่ งการเสื่อมเสียของอาหาร และการถนอมอาหาร โดย ใหน้ ักเรียนดรู ปู ภาพวตั ถุดบิ ตา่ ง ๆ พรอ้ มกระตุน้ ให้ผเู้ รียนอภปิ รายและหาสาเหตุของแป้งและนา้ ตาล 2. ครูจัดเตรียมแผนการเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ แหล่งศึกษาค้นคว้า วิธีการประเมินประสานการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ และชแี้ จงกระบวนการเรยี นรู้ร่วมกนั การทางานเปน็ ทมี ขน้ั ที่ 2 กาหนดและเลอื กขอ้ 3. ครูใชใ้ บงานที่ 2 เร่อื ง การเสื่อมเสียของอาหาร และการถนอมอาหาร โดยการทาให้การแบ่งกลุ่ม นกั ศกึ ษาออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ ประมาณ 5 คน เลือกประธาน เลขานกุ ารกล่มุ อ่นื ๆ ตามความเหมาะสม 4. ให้ศึกษาใบความรู้ท่ี 2 เร่ือง การเส่ือมเสียของอาหาร และการถนอมอาหาร โดยให้ศึกษาแหล่ง เรยี นรูอ้ ืน่ ๆ ทีเ่ ก่ยี วข้องกับการเลือกวัตถุดิบในการประกอบอาหารโดยใช้กระบวนการถนอมและการแปรรูป อาหารทคี่ านงึ ถึงความปลอดภัย พรอ้ มช่วยกนั คดิ ระดมสมอง นาไปสกู่ าหนดและเลือกหวั ขอ้ โครงงานร่วมกนั ขั้นที่ 3 เขียนเคา้ โครงของโครงงาน 5. ครใู ช้ใบความรู้ เร่อื งการจดั ทาโครงงานเชิงทดลองเพอ่ื สรา้ งความรูค้ วามเข้าใจ ทักษะกระบวนการ ในการเขยี นเค้าโครงของโครงงานท่ผี ู้เรียนจะจดั ทา ครใู ห้คาแนะนา ช่วยเหลือ ให้คาปรึกษา ตรวจสอบวิธีการ เขยี นเคา้ โครงของโครงงานใหถ้ กู ตอ้ งตามระเบียบวิธี รวมทั้งประสานงานกับหนว่ ยงาน บคุ คล หรือแหล่งข้อมูล ทเ่ี กีย่ วขอ้ งกับการจัดทาเค้าโครงของโครงงาน 6. ครูใช้ใบงานท่ี 2 เรื่องการเสื่อมเสียของอาหาร และการถนอมอาหาร โดยให้เลือกวัตถุดิบในการ ประกอบอาหารโดยใช้กระบวนการทดลองแป้งและน้าตาล ที่คานึงถึงความปลอดภัย ให้นักเรียนดาเนินการ จดั ทาเคา้ โครง โครงงาน และเสนอครูผูส้ อนเพื่อขออนุมตั ิการจดั ทาโครงงาน ขน้ั ที่ 4 ปฏบิ ตั ิงานโครงงาน 7. ครูใช้ใบมอบหมายงาน เรื่อง การจัดทาโครงงานให้นักเรียนไปดาเนินการจัดทาโครงการเลือก วตั ถดุ ิบในการประกอบอาหารโดยใช้กระบวนการถนอมและการแปรรูปอาหารที่คานึงถึงความปลอดภัยตาม หลกั และวธิ กี ารของแต่ละกลมุ่ โดยครปู ระเมนิ ความกา้ วหนา้ การทาโครงงานของแต่ละกลุ่ม ประเมินนักศึกษา เปน็ รายบุคคลและรายกลมุ่ รวมทัง้ ใหข้ ้อเสนอแนะ ตามแผนการปฏิบัติงานของแตล่ ะกลุ่ม 8. ครใู ชใ้ บมอบหมายงาน เร่ือง การนาเสนอโครงงาน ให้แต่ละกลุ่มได้ออกแบบการนาเสนอผลงานท่ี ไดด้ าเนินการตามเคา้ โครงงาน ขั้นที่ 5 นาเสนอผลงาน 9. นักเรียนนาเสนอผลการดาเนินโครงงาน ของแต่ละกลุ่ม พร้อมทั้งนาเสนอรายงานผลการ ดาเนินงานในรปู แบบของเอกสารประกอบการนาเสนอ ขน้ั ที่ 6 ประเมนิ โครงงาน 10. ครูผู้สอนและนักศึกษาร่วมกันประเมินผลโครงงาน โดยใช้แบบประเมินที่ได้จัดทาขึ้นอย่าง หลากหลายตามสภาพจรงิ รวมท้ังใหข้ อ้ เสนอแนะจากการดาเนนิ โครงงานของแต่ละกลุ่ม
31 6. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ 1. สื่อสงิ่ พิมพ์ - ใบควำมรูท้ ่ี 2 กำรเส่อื มเสยี ของอำหำร และกำรถนอมอำหำร - ใบงำนท่ี 2 กำรเส่อื มเสียของอำหำร และกำรถนอมอำหำร - เกณฑ์กำรประเมินผลงำน 2. สอ่ื ของจรงิ - วัตถดุ ิบอำหำรของสด และของแหง้ 7. หลกั ฐานการเรียนรู้ 7.1 หลักฐานความรู้ 1.แบบทดสอบ 2.ผลกำรนำเสนองำน 7.2 หลกั ฐานการปฏบิ ตั ิงาน 1. ผลกำรทดสอบ 2. เอกสำรบนั ทึกรำยงำนตำมหัวข้อทมี่ อบหมำย 8. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 8.1 เครือ่ งมือประเมิน - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมแบบประเมิน - แบบทดสอบ - เกณฑป์ ระเมนิ ผลงำนตำมใบงำน แบบประเมินผลงำนตำมใบงำน - แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม 8.2 เกณฑก์ ารประเมิน - อธบิ ำยวัตถดุ บิ ในกำรประกอบอำหำรได้อย่ำงถูกตอ้ ง - ปฏบิ ตั งิ ำนตำมใบงำนถูกต้องตำมขั้นตอนกำรปฏิบัติงำน - ผลงำนสำเรจ็ ประเมินตำมเกณฑ์ 9. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานทีม่ อบหมาย (ถา้ ม)ี - 10. เอกสารอา้ งองิ เอกสำรประกอบกำรบรรยำย วชิ ำวทิ ยำศำสตร์กำรประกอบอำหำร ของ อ.ดร.สุวรรณำ พชิ ยั ยงศ์วงศ์ ดี อ.นนั ทพร รุจขิ จร และอ.ศวรรญำ ปนั่ ดลสุข
32 ใบความรู้ท.ี่ .2...... หน่วยที่.....2..... รหัสวิชา 30404-1002 ชื่อวชิ า วทิ ยำศำสตร์กำรประกอบอำหำร ภาคเรียนที่ 1/2564 ชอ่ื หนว่ ย กำรเส่อื มเสยี ของอำหำร และกำรถนอมอำหำร เวลารวม 90 ชวั่ โมง ชื่อเรื่อง กำรเสอ่ื มเสียของอำหำร และกำรถนอมอำหำร เวลา 5 ชว่ั โมง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ จดุ ประสงคท์ ั่วไป - นักเรียนรู้เก่ยี วกับกำรเปลีย่ นแปลง สี เนื้อสัมผสั และกลิ่น ของอำหำรประเภทต่ำงๆ กัน - นักเรียนสำมำรถอธิบำยกรรมวธิ กี ำรถนอมอำหำรดว้ ยวธิ ตี ่ำงๆ กนั - นักเรียนอธิบำยวเิ ครำะห์กำรทำงำนและนำเสนอผลงำนไดอ้ ย่ำงมีเหตผุ ลและใชว้ สั ดุอย่ำงคุ้มคำ่ จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม - นักเรยี นสำมำรถแสดงรู้ควำมเข้ำใจเก่ียวกบั กำรเปลย่ี นแปลง สี เนือ้ สมั ผสั และกล่ิน ของอำหำร ประเภทต่ำงๆ กันได้ - นกั เรียนสำมำรถอธบิ ำยกรรมวธิ กี ำรถนอมอำหำรดว้ ยวิธีต่ำงๆ กนั ได้ - นกั เรยี นสำมำรถอธิบำยวเิ ครำะห์กำรทำงำนและนำเสนอผลงำนได้อยำ่ งมเี หตุผลและใชว้ ัสดอุ ยำ่ ง คุม้ ค่ำได้ สมรรถนะรายหน่วย 1.กำรเปลีย่ นแปลง สี เน้อื สมั ผัส และกลิ่น ของอำหำรประเภทต่ำงๆ กัน 2.กรรมวธิ ีกำรถนอมอำหำรด้วยวธิ ตี ่ำงๆ กนั 3.กำรเกิดปฏกิ ริ ิยำกำรเกดิ น้ำตำลในผักผลไมแ้ ละวิธกี ำรยบั ย้ังปฏกิ ิริยำ 4.วิเครำะหก์ ำรทำงำนและนำเสนอผลงำนไดอ้ ยำ่ งมเี หตุผลและใช้วสั ดอุ ย่ำงคุ้มค่ำ เน้อื หาสาระ 1.กำรเปล่ยี นแปลง สี เน้อื สมั ผัส และกล่นิ ของอำหำรประเภทต่ำงๆ กัน 2.กรรมวธิ กี ำรถนอมอำหำรดว้ ยวิธตี ่ำงๆ กนั 3.กำรเกดิ ปฏกิ ิริยำกำรเกิดนำ้ ตำลในผกั ผลไมแ้ ละวิธีกำรยบั ยงั้ ปฏกิ ริ ยิ ำ 4.วิเครำะห์กำรทำงำนและนำเสนอผลงำนไดอ้ ยำ่ งมีเหตุผลและใชว้ สั ดอุ ย่ำงคมุ้ ค่ำ แบบฝึกหดั /เฉลย ตอนท่ี 1 กำรศกึ ษำกำรแปลนเปล่ียนของอำหำร ตอนท่ี 2 กำรถนอมอำหำรด้วยกำรดองเปรยี้ ว (กะหลำ่ ปลีดอง-ซำวเครำท์) ตอนที่ 3 กำรถนอมอำหำรด้วยกำรดองเคม็ (ไข่เค็ม)
33 ตอนที่ 4 กำรถนอมอำหำรด้วยกำรแชอ่ ิ่ม (แชอ่ ม่ิ มะมว่ ง) ตอนที่ 5 กำรถนอมอำหำรดว้ ยกำรทำให้เข็มข้น (แยมสตรอเบอร่ี) เอกสารอา้ งอิง เอกสำรประกอบกำรบรรยำย วิชำวิทยำศำสตร์กำรประกอบอำหำร ของ อ.ดร.สวุ รรณำ พชิ ยั ยงศว์ งศด์ ี อ.นันทพร รจุ ขิ จร และอ.ศวรรญำ ปั่นดลสขุ
ใบงานที.่ .2... 34 หนว่ ยท.ี่ ........2.............. รหสั วิชา 30404-1002 ชื่อวชิ า วิทยาศาสตร์การประกอบ สอนครั้งท่ี......3... อาหาร ชื่อหน่วย กำรเสือ่ มเสยี ของอำหำร และกำรถนอมอำหำร เวลารวม.....90...ชั่วโมง ชอ่ื งาน กำรเสอ่ื มเสยี ของอำหำร และกำรถนอมอำหำร จานวน......5...ชั่วโมง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ จุดประสงค์ทั่วไป - นักเรียนรู้เกี่ยวกบั กำรเปล่ยี นแปลง สี เนื้อสัมผสั และกลน่ิ ของอำหำรประเภทตำ่ งๆ กัน - นักเรียนสำมำรถอธบิ ำยกรรมวธิ ีกำรถนอมอำหำรดว้ ยวธิ ีต่ำงๆ กัน - นกั เรยี นอธิบำยวิเครำะห์กำรทำงำนและนำเสนอผลงำนได้อยำ่ งมเี หตผุ ลและใช้วสั ดุอยำ่ งคุ้มคำ่ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม - นกั เรยี นสำมำรถแสดงรู้ควำมเข้ำใจเกีย่ วกับกำรเปลย่ี นแปลง สี เนอ้ื สัมผสั และกล่นิ ของอำหำร ประเภทต่ำงๆ กันได้ - นกั เรยี นสำมำรถอธิบำยกรรมวธิ กี ำรถนอมอำหำรดว้ ยวิธตี ่ำงๆ กนั ได้ - นักเรียนสำมำรถอธิบำยวิเครำะหก์ ำรทำงำนและนำเสนอผลงำนได้อย่ำงมีเหตผุ ลและใชว้ ัสดอุ ย่ำง คุ้มคำ่ ได้ สมรรถนะรายหน่วย 1.กำรเปลี่ยนแปลง สี เนอ้ื สมั ผัส และกล่ิน ของอำหำรประเภทตำ่ งๆ กัน 2.กรรมวธิ กี ำรถนอมอำหำรด้วยวิธีต่ำงๆ กนั 3.กำรเกดิ ปฏกิ ิริยำกำรเกดิ นำ้ ตำลในผกั ผลไมแ้ ละวิธีกำรยบั ยงั้ ปฏกิ ริ ิยำ 4.วิเครำะหก์ ำรทำงำนและนำเสนอผลงำนไดอ้ ย่ำงมีเหตผุ ลและใชว้ ัสดุอย่ำงค้มุ คำ่ เครอื่ งมือ วสั ดุ – อปุ กรณ์ 1. เอกกำรประกอบกำรสอนวชิ ำ วิทยำศำสตร์กำรประกอบอำหำร 2. ใบควำมรู้ประกอบกำรเรยี นกำรสอนวทิ ยำศำสตร์กำรประกอบอำหำร 3. แบบฝกึ หดั /แบบทดสอบ ลาดบั ข้ันตอนการปฏิบตั ิงาน 1. ใหน้ ักศกึ ษำแบง่ กลุม่ ตำมควำมเหมำะสม เพือ่ ศึกษำและอภิปรำย 1.1 อธิบำยกำรเปลีย่ นแปลง สี เนือ้ สัมผสั และกล่ิน ของอำหำรประเภทต่ำงๆ กนั 1.2 อธิบำยกรรมวธิ กี ำรถนอมอำหำรด้วยวิธีต่ำงๆ กัน 1.3 อธบิ ำยกำรเกดิ ปฏิกิรยิ ำกำรเกดิ นำ้ ตำลในผักผลไมแ้ ละวิธีกำรยับยั้งปฏิกิรยิ ำ 1.4 อธบิ ำยกำรวเิ ครำะห์กำรทำงำนและนำเสนอผลงำนไดอ้ ย่ำงมีเหตผุ ลและใชว้ สั ดุอย่ำงคมุ้ ค่ำ
35 2. เขียนอภิปรำยและวเิ ครำะห์ใส่กระดำษ 3. นำผลงำนส่งครผู ู้สอนเพอื่ ประเมนิ ผล ภาพประกอบ - ข้อควรระวัง ผเู้ รียนควรตรวจสอบข้อมูลก่อนให้ถีถ่ ้วน ละเอียด และรอบคอบกอ่ น เพือ่ ปอ้ งกันควำมผดิ พลำดกอ่ น กำรส่งงำน ข้อเสนอแนะ (ถา้ มี) นักศกึ ษำควรมีภำพประกอบกำรนำเสนองำน และสำมำรถอธบิ ำยเน้อื หำใหส้ อดคลอ้ งกับภำพให้ถกู ต้อง การประเมินผล (ต้องระบเุ กณฑก์ ารประเมินใหช้ ัดเจน) 1. สังเกตผู้เรยี นมคี วำมสนใจ เกิดควำมเข้ำใจในสำระกำรเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงควำมกระตือรือร้นใน กำรแสดงควำมคิดเหน็ และสรปุ สำระกำรเรียนรปู้ ระจำหน่วย 2. ทำใบงำนไดอ้ ย่ำงถกู ต้อง ทนั เวลำที่กำหนด ใบงำนสะอำดและเปน็ ระเบียบ 3. ผู้เรียนทำแบบฝกึ หดั หลงั เรียนไดถ้ ูกตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอยำ่ งต่ำ เอกสารอา้ งองิ เอกสำรประกอบกำรบรรยำย วิชำวทิ ยำศำสตรก์ ำรประกอบอำหำร ของ อ.ดร.สวุ รรณำ พิชยั ยงศ์ วงศ์ดี อ.นนั ทพร รุจิขจร และอ.ศวรรญำ ปนั่ ดลสุข
36 ใบกิจกรรมท่ี...2.. หนว่ ยท่.ี .....2....... รหัสวิชา 30404-1002 ชอื่ วิชา วิทยาศาสตร์การประกอบ สอนครง้ั ท่ี 3 อาหาร ช่อื หนว่ ย กำรเส่อื มเสยี ของอำหำร และกำรถนอมอำหำร เวลารวม 90 ชั่วโมง ชอ่ื งาน กำรเสื่อมเสยี ของอำหำร และกำรถนอมอำหำร จานวน 5 ช่ัวโมง จุดประสงค์การเรยี นรู้ จดุ ประสงค์ทั่วไป - นกั เรยี นร้เู กยี่ วกับกำรเปลีย่ นแปลง สี เน้ือสัมผสั และกลิน่ ของอำหำรประเภทต่ำงๆ กนั - นกั เรียนสำมำรถอธิบำยกรรมวธิ กี ำรถนอมอำหำรด้วยวิธีต่ำงๆ กนั - นักเรียนอธิบำยวเิ ครำะหก์ ำรทำงำนและนำเสนอผลงำนได้อยำ่ งมเี หตผุ ลและใชว้ สั ดุอยำ่ งคุ้มค่ำ จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม - นกั เรียนสำมำรถแสดงรู้ควำมเข้ำใจเก่ียวกับกำรเปลีย่ นแปลง สี เน้อื สมั ผสั และกลน่ิ ของอำหำร ประเภทต่ำงๆ กนั ได้ - นกั เรียนสำมำรถอธบิ ำยกรรมวธิ ีกำรถนอมอำหำรด้วยวิธีต่ำงๆ กนั ได้ - นักเรยี นสำมำรถอธบิ ำยวเิ ครำะห์กำรทำงำนและนำเสนอผลงำนไดอ้ ย่ำงมีเหตผุ ลและใช้วัสดอุ ยำ่ ง คมุ้ คำ่ ได้ สมรรถนะรายหนว่ ย 1.กำรเปลยี่ นแปลง สี เน้อื สมั ผัส และกล่ิน ของอำหำรประเภทต่ำงๆ กนั 2.กรรมวธิ ีกำรถนอมอำหำรดว้ ยวธิ ตี ำ่ งๆ กนั 3.กำรเกิดปฏิกริ ิยำกำรเกิดนำ้ ตำลในผักผลไม้และวิธีกำรยบั ยงั้ ปฏิกิรยิ ำ 4.วเิ ครำะหก์ ำรทำงำนและนำเสนอผลงำนไดอ้ ย่ำงมีเหตผุ ลและใชว้ สั ดอุ ย่ำงคมุ้ ค่ำ เครอ่ื งมือ วสั ดุ – อุปกรณ์ 1. เอกกำรประกอบกำรสอนวิชำ วทิ ยำศำสตรก์ ำรประกอบอำหำร 2. ใบควำมรูป้ ระกอบกำรเรียนกำรสอนวทิ ยำศำสตร์กำรประกอบอำหำร 3. แบบฝึกหัด/แบบทดสอบ ลาดับกิจกรรม 1. ผูเ้ รียนตอ้ งใหค้ วำมสนใจในกำรศึกษำ เพ่ือหำเทคนิค วิธกี ำร หรอื หลักกำรง่ำยเพือ่ ใหห้ ำคำตอบได้ อยำ่ งถกู ตอ้ ง และรวดเร็ว โดยกำร ตัง้ ใจฟงั หลกั กำร เทคนิควธิ ีกำรที่ครูผู้สอนสรุปในขณะท่ีทำกำรสอน และนำ ขอ้ สงสัยซกั ถำมครูในกำรเรยี นทกุ ครั้งทเี่ กดิ ควำมสบั สน และไม่เขำ้ ใจ 2. ผูม้ กี ำรทบทวนบทเรียน ตลอดเพือ่ เสริมสรำ้ งควำมเขำ้ ใจอยำ่ งแท้จริง 3. ผเู้ รยี นหมน่ั ทำใบงำน แบบฝกึ หัด และแกไ้ ขข้อทผี่ ิดใหถ้ ูกต้องเสมอ 4. ผูเ้ รยี นต้องสรำ้ งมโนภำพใหเ้ กิดควำมคิดรวบยอดในสำระกำรเรียนร้แู ละเทคนคิ วธิ กี ำรพรอ้ มกบั ควำม
37 จำเปน็ ในกำรนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ ห้เกิดขึ้นโดยตนเองใหไ้ ดเ้ พอ่ื เกิดควำมรู้ควำมเข้ำใจอย่ำงแทจ้ ริงไมใ่ ช่เกดิ จำก กำรทอ่ งจำ 5. ผเู้ รียนตอ้ งดำเนินกำรตำมกจิ กรรมหรืองำนท่ไี ดร้ บั มอบหมำย ให้เสร็จสิ้นภำยในระยะเวลำที่กำหนด และฝึกฝนตนเองเสมอ เมอ่ื ได้รับมอบหมำยงำนมำ การประเมินผล (ตอ้ งระบเุ กณฑ์การประเมินใหช้ ัดเจน) 1. สงั เกตผ้เู รยี นมคี วำมสนใจ เกดิ ควำมเข้ำใจในสำระกำรเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงควำมกระตอื รอื รน้ ใน กำรแสดงควำมคิดเห็นและสรปุ สำระกำรเรียนรปู้ ระจำหนว่ ย 2. ทำใบงำนได้อย่ำงถูกต้อง ทนั เวลำทีก่ ำหนด ใบงำนสะอำดและเป็นระเบยี บ 3. ผู้เรียนทำแบบฝึกหดั หลงั เรียนได้ถกู ต้อง โดยได้คะแนน 50% เป็นอย่ำงตำ่ เอกสารอา้ งอิง เอกสำรประกอบกำรบรรยำย วิชำวิทยำศำสตร์กำรประกอบอำหำร ของ อ.ดร.สวุ รรณำ พิชัยยงศว์ งศ์ ดี อ.นันทพร รุจิขจร และอ.ศวรรญำ ปั่นดลสุข
38 ใบปฏบิ ัตงิ านที.่ .2... หน่วยท.่ี .........2............ รหัสวชิ า 30404-1002 ชอื่ วชิ า วิทยำศำสตรก์ ำรประกอบ สอนครงั้ ท่.ี ...3............ อำหำร ชอ่ื หนว่ ย กำรเส่อื มเสยี ของอำหำร และกำรถนอมอำหำร จานวนรวม..90..ช่ัวโมง ชอ่ื งาน กำรเส่ือมเสยี ของอำหำร และกำรถนอมอำหำร จานวน......5.....ชั่วโมง จุดประสงค์การเรยี นรู้ จดุ ประสงคท์ ั่วไป - นกั เรยี นรเู้ กี่ยวกบั กำรเปล่ียนแปลง สี เนื้อสัมผสั และกลิ่น ของอำหำรประเภทตำ่ งๆ กัน - นักเรยี นสำมำรถอธบิ ำยกรรมวิธกี ำรถนอมอำหำรด้วยวิธตี ่ำงๆ กัน - นักเรียนอธิบำยวิเครำะหก์ ำรทำงำนและนำเสนอผลงำนได้อยำ่ งมีเหตุผลและใชว้ ัสดอุ ย่ำงคุ้มค่ำ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม - นกั เรียนสำมำรถแสดงรู้ควำมเข้ำใจเกีย่ วกบั กำรเปลีย่ นแปลง สี เน้ือสมั ผสั และกลิ่น ของอำหำร ประเภทต่ำงๆ กนั ได้ - นกั เรียนสำมำรถอธบิ ำยกรรมวิธกี ำรถนอมอำหำรดว้ ยวธิ ตี ่ำงๆ กันได้ - นกั เรียนสำมำรถอธิบำยวิเครำะห์กำรทำงำนและนำเสนอผลงำนได้อย่ำงมเี หตุผลและใชว้ ัสดุอย่ำง ค้มุ ค่ำได้ สมรรถนะรายหนว่ ย 1.กำรเปล่ียนแปลง สี เนื้อสัมผัส และกล่ิน ของอำหำรประเภทต่ำงๆ กนั 2.กรรมวธิ ีกำรถนอมอำหำรดว้ ยวิธีต่ำงๆ กนั 3.กำรเกดิ ปฏกิ ริ ิยำกำรเกดิ น้ำตำลในผกั ผลไม้และวิธีกำรยบั ยัง้ ปฏกิ ริ ยิ ำ 4.วเิ ครำะห์กำรทำงำนและนำเสนอผลงำนได้อย่ำงมีเหตผุ ลและใชว้ ัสดอุ ย่ำงคมุ้ คำ่ เครอื่ งมือ/วัสดุ อุปกรณ์ (จานวน ขนาด) 1. เอกกำรประกอบกำรสอนวิชำ วิทยำศำสตรก์ ำรประกอบอำหำร 2. ใบควำมรู้ประกอบกำรเรียนกำรสอนวิทยำศำสตร์กำรประกอบอำหำร 3. แบบฝกึ หดั /แบบทดสอบ ลาดับข้ันตอนการปฏิบัติงาน 1. ให้นักศึกษำแบ่งกลมุ่ ตำมควำมเหมำะสม เพอื่ ศึกษำและอภิปรำย 1.1 อธิบำยกำรเปลยี่ นแปลง สี เนอ้ื สมั ผัส และกลน่ิ ของอำหำรประเภทต่ำงๆ กัน 1.2 อธิบำยกรรมวิธีกำรถนอมอำหำรดว้ ยวธิ ีตำ่ งๆ กัน 1.3 อธบิ ำยกำรเกดิ ปฏิกริ ิยำกำรเกิดน้ำตำลในผักผลไมแ้ ละวิธกี ำรยบั ยัง้ ปฏิกริ ยิ ำ 1.4 อธิบำยกำรวิเครำะห์กำรทำงำนและนำเสนอผลงำนได้อย่ำงมีเหตุผลและใช้วสั ดอุ ยำ่ งคมุ้ ค่ำ
39 2. เขียนอภิปรำยและวิเครำะหใ์ สก่ ระดำษ 3. นำผลงำนส่งครผู ู้สอนเพื่อประเมนิ ผล ภาพประกอบ - ข้อควรระวัง ผู้เรียนควรตรวจสอบขอ้ มลู ก่อนให้ถถี่ ว้ น ละเอยี ด และรอบคอบก่อน เพ่อื ปอ้ งกันควำมผดิ พลำดกอ่ น กำรสง่ งำน ข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) นกั ศึกษำควรมีภำพประกอบกำรนำเสนองำน และสำมำรถอธบิ ำยเนอ้ื หำใหส้ อดคล้องกับภำพให้ ถกู ตอ้ ง กำรประเมินผล (ตอ้ งระบุเกณฑ์กำรประเมินให้ชัดเจน) 1. สังเกตผู้เรยี นมคี วำมสนใจ เกิดควำมเขำ้ ใจในสำระกำรเรยี นรู้ ตลอดจนแสดงควำมกระตือรือรน้ ในกำร แสดงควำมคิดเหน็ และสรปุ สำระกำรเรียนรปู้ ระจำหนว่ ย 2. ทำใบงำนไดอ้ ยำ่ งถกู ต้อง ทันเวลำที่กำหนด ใบงำนสะอำดและเป็นระเบียบ 3. ผเู้ รยี นทำแบบฝึกหดั หลังเรียนได้ถูกตอ้ ง โดยไดค้ ะแนน 50% เป็นอยำ่ งตำ่ เอกสารอ้างองิ เอกสำรประกอบกำรบรรยำย วชิ ำวิทยำศำสตรก์ ำรประกอบอำหำร ของ อ.ดร.สุวรรณำ พิชัยยงศว์ งศ์ ดี อ.นันทพร รุจขิ จร และอ.ศวรรญำ ปนั่ ดลสขุ
ใบมอมหมายงานที.่ .2... 40 หนว่ ยที่.....2......... รหสั วิชา 30404-1002 ชอ่ื วิชา วทิ ยำศำสตร์กำรประกอบอำหำร สอนครง้ั ที.่ ....3... ชื่อหนว่ ย กำรเสื่อมเสยี ของอำหำร และกำรถนอมอำหำร ช่อื งาน กำรเสอื่ มเสยี ของอำหำร และกำรถนอมอำหำร จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - นักเรยี นรู้เกี่ยวกับกำรเปล่ียนแปลง สี เน้ือสัมผัส และกล่ิน ของอำหำรประเภทต่ำงๆ กนั - นกั เรียนสำมำรถอธิบำยกรรมวธิ กี ำรถนอมอำหำรด้วยวธิ ีต่ำงๆ กัน - นักเรยี นอธิบำยวิเครำะห์กำรทำงำนและนำเสนอผลงำนไดอ้ ยำ่ งมเี หตุผลและใชว้ ัสดอุ ย่ำงคุ้มค่ำ แนวทางการปฏิบตั งิ าน 1. ครูใช้ใบมอบหมำยงำน เร่ือง กำรจัดทำโครงงำนให้นักเรียนไปดำเนินกำรจัดทำโครงกำรเลือก วัตถุดิบในกำรประกอบอำหำรโดยใช้กระบวนกำรถนอมและกำรแปรรูปอำหำรที่คำนึงถึงควำมปลอดภัยตำม หลกั และวิธีกำรของแต่ละกลุ่ม โดยครูประเมนิ ควำมกำ้ วหน้ำกำรทำโครงงำนของแต่ละกลุ่ม ประเมินนักศึกษำ เป็นรำยบุคคลและรำยกลมุ่ รวมท้งั ใหข้ ้อเสนอแนะ ตำมแผนกำรปฏบิ ัตงิ ำนของแตล่ ะกลมุ่ 2. ครใู ช้ใบมอบหมำยงำน เรื่อง กำรนำเสนอโครงงำน ให้แต่ละกลุ่มได้ออกแบบกำรนำเสนอผลงำนท่ี ได้ดำเนินกำรตำมเค้ำโครงงำน แหลง่ ค้นควา้ 1. เอกกำรประกอบกำรสอนวชิ ำ วทิ ยำศำสตร์กำรประกอบอำหำร 2. ใบควำมรปู้ ระกอบกำรเรียนกำรสอนวิทยำศำสตรก์ ำรประกอบอำหำร 3. แบบฝึกหดั /แบบทดสอบ คาถาม/ปัญหา - กาหนดเวลาส่งงาน - เอกสารอ้างอิง เอกสำรประกอบกำรบรรยำย วชิ ำวทิ ยำศำสตรก์ ำรประกอบอำหำร ของ อ.ดร.สุวรรณำ พิชยั ยงศ์วงศ์ ดี อ.นนั ทพร รุจิขจร และอ.ศวรรญำ ป่นั ดลสขุ
41 แบบประเมินผลงาน หน่วยการเรียนร้ทู ี่............................................................................................................................. ช่อื กลมุ่ .........................................................................ชั้น................................................................ รายช่อื สมาชกิ 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ขอ้ ท่ี รายการประเมิน คะแนน หมายเหตุ 321 1 ควำมถูกต้องของเนอ้ื หำ 2 ควำมประณีตสวยงำม 3 ควำมคดิ รเิ ริม่ สร้ำงสรรค์ 4 สำระประโยชน์ 5 ................................................................. รวม ผู้ประเมิน.............................................. วันท่ี..............เดอื น...............................พ.ศ...................
42 เกณฑก์ ารประเมิน 1. ความถูกต้องของเนื้อหา 3 คะแนน = มเี น้ือหำสำระสำคัญครบถ้วน สอื่ ควำมหมำยชัดเจนและมีรูปภำพประกอบ 2 คะแนน = มเี นื้อหำสำระสำคญั ครบถว้ น สอ่ื ควำมหมำยและมีรูปภำพไมต่ รงเนื้อหำ 1 คะแนน = มเี น้อื หำสำระสำคญั ไมช่ ดั เจน และไมค่ รบถว้ น 2. ความประณตี สวยงาม 3 คะแนน = รปู ภำพสวยงำม ตวั อกั ษรคมชัด สีสันเหมำะสม กำรวำงรปู แบบสมดุล 2 คะแนน = รูปภำพสวยงำม ตวั อักษรคมชัด กำรวำงรูปแบบสมดุล 1 คะแนน = รูปภำพไมส่ วยงำม กำรวำงรูปแบบสมดลุ 3. ความคิดรเิ ร่ิมสร้างสรรค์ 3 คะแนน = รปู แบบกำรนำเสนอแปลกใหม่ มีกำรประยุกต์ใชว้ ัสดุอุปกรณใ์ นท้องถิน่ และประหยัด 2 คะแนน = รูปแบบกำรนำเสนอแปลกใหม่ มีกำรประยกุ ต์ใชว้ ัสดอุ ุปกรณใ์ นทอ้ งถ่ิน แตไ่ มป่ ระหยัด 1 คะแนน = รูปแบบกำรนำเสนอไมแ่ ปลกใหม่ ไมน่ ำ่ สนใจ 4. สารประโยชน์ 3 คะแนน = ให้ควำมคดิ รวบยอดเกย่ี วกับองคป์ ระกอบ ครอบคลุมและชดั เจน 2 คะแนน = ให้ควำมคดิ รวบยอดเกยี่ วกับองค์ประกอบ ไมค่ รอบคลมุ แต่ชัดเจน 1 คะแนน = ให้ควำมคิดรวบยอดเก่ียวกับองคป์ ระกอบ ไมค่ รอบคลมุ และไมช่ ัดเจน 5..................................................................
43 แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน หน่วยการเรียนรทู้ ี่............................................................................................................................. ชื่อกลมุ่ .........................................................................ชน้ั ................................................................ รายชอ่ื สมาชกิ 1............................................................................................................................... 2............................................................................................................................... 3............................................................................................................................... ขอ้ ที่ รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ 321 1 กำรเตรยี มควำมพร้อม 2 เนอ้ื หำสำระ 3 รปู แบบกำรนำเสนอ 4 กำรมสี ่วนร่วมของสมำชิกในกลุ่ม 5 กำรรกั ษำเวลำ 6 ควำมสนใจของผฟู้ งั รวม ผปู้ ระเมิน.............................................. วนั ท.่ี .............เดอื น...............................พ.ศ...................
44 เกณฑ์การประเมนิ 1. การเตรยี มความพรอ้ ม 3 คะแนน = มีกำรจดั เตรยี มสถำนที่ สื่อ/อุปกรณ์ไวอ้ ย่ำงพรอ้ มเพรยี ง 2 คะแนน = มสี ่อื /อปุ กรณพ์ รอ้ ม ขำดกำรจัดเตรียมสถำนที่ 1 คะแนน = สื่อ/อปุ กรณไ์ ม่เพยี งพอ ขำดกำรจัดเตรยี มสถำนที่ 2. เนอ้ื หาสาระ 3 คะแนน = สำระสำคัญครบถ้วน ตรงตำมจดุ ประสงค์ 2 คะแนน = สำระสำคญั ไมค่ รบ ตรงตำมจดุ ประสงค์ 1 คะแนน = สำระสำคญั ไมค่ รบ ไมต่ รงตำมจุดประสงค์ 3. รูปแบบการนาเสนอ 3 คะแนน = มรี ปู แบบกำรนำเสนอทเ่ี หมำะสม ใช้เทคนิคแปลกใหม่ มีส่อื และ ใช้เทคโนโลยปี ระกอบกำรนำเสนอ นำวัสดุในทอ้ งถ่นิ มำประยกุ ตใ์ ช้ อย่ำงคุ้มค่ำและประหยัด 2 คะแนน = ใช้เทคนิคแปลกใหม่ มสี ื่อและใช้เทคโนโลยีประกอบกำรนำเสนอ ขำดกำรประยกุ ต์ใชว้ สั ดใุ นท้องถิ่น 1 คะแนน = เทคนคิ กำรนำเสนอไมเ่ หมำะสม ไม่นำ่ สนใจ 4. การมสี ่วนร่วมของสมาชิก 3 คะแนน = สมำชกิ ทกุ คนมีบทบำทและมสี ่วนร่วมในกิจกรรมกลุ่ม 2 คะแนน = สมำชกิ สว่ นใหญ่มบี ทบำทและมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมกลมุ่ 1 คะแนน = สมำชกิ ส่วนนอ้ ยมบี ทบำทและมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมกลุ่ม 5. การรกั ษาเวลา 3 คะแนน = ดำเนินกิจกรรมได้ตำมเวลำท่กี ำหนด 2 คะแนน = ดำเนนิ กจิ กรรมเร็วกวำ่ เวลำทีก่ ำหนด 1 คะแนน = ดำเนินกิจกรรมชำ้ กวำ่ เวลำท่กี ำหนด 6. ความสนใจของผฟู้ ัง 3 คะแนน = ผู้ฟงั มำกกวำ่ ร้อยละ 80 สนใจ และให้ควำมรว่ มมือ 2 คะแนน = ผ้ฟู ังร้อยละ 70 – 80 สนใจ แลให้ควำมร่วมมอื 1 คะแนน = ผฟู้ งั นอ้ ยกว่ำ ร้อยละ 70 สนใจ และใหค้ วำมรว่ มมือ
45 แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยท.่ี ......3...........จำนวน.......10......ชั่วโมง จำนวนชัว่ โมงรวม .........90.....ชัว่ โมง สัปดำห์ท.่ี ....4-5..... ช่อื วชิ ำ...............วิทยำศำสตรก์ ำรประกอบอำหำร............................................................................ ชื่อหน่วย...........เนอื้ สัตวแ์ ละผลิตภัณฑ์..................................................... ช่อื เรอ่ื ง.............เนื้อสัตวแ์ ละผลติ ภัณฑ์...................................................... 1. สาระสาคัญ 1. กำรเปลยี่ นแปลงของอำหำรประเภทเน้ือสตั ว์เม่ือปรงุ อำหำร 2. กำรเสียสภำพธรรมชำติของโปรตีนในเนื้อสัตว์ 3. กำรเกดิ สนี ำ้ ตำลในอำหำรประเภทเนอื้ สัตว์ 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย 1. ด้ำนพทุ ธิพสิ ัย ผู้เรียนมีควำมรทู้ ัว่ ไปเกย่ี วกับเนอ้ื สัตว์และผลิตภัณฑ์ 2. ดำ้ นทักษะพิสัย ผูเ้ รียนฝกึ ทกั ษะกำรปฏบิ ตั ิกำรทดลองเนอื้ สตั ว์และผลิตภัณฑ์ 3. ดำ้ นจิตพิสยั ผู้เรียนมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม อันพึงประสงค์ ดำ้ นควำมรับผดิ ชอบ กำรตรงตอ่ เวลำ กำรทำงำนร่วมกบั ผอู้ น่ื 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. เพ่อื ศึกษำลักษณะของอำหำรทไ่ี ด้จำกเน้ือสตั วท์ ี่มำจำกสว่ นต่ำงๆ 2. เพื่อศึกษำเปลย่ี นแปลงของอำหำรประเภทเนื้อสตั วเ์ มือ่ ปรุงอำหำร 3. เพ่ือศกึ ษำผลของกำรให้ควำมรอ้ นต่อกำรเกิดสขี องอำหำรประเภทเน้ือสัตว์ 4. วิเครำะห์กำรทำงำนและนำเสนอผลงำนไดอ้ ยำ่ งมีเหตผุ ลและใช้วัสดุอยำ่ งคมุ้ ค่ำ 5. ปฏิบัติงำนดว้ ยควำมเอ้ือเฟ้อื เผ่อื แผ่ช่วยเหลอื แบง่ ปนั ซึง่ กนั และกนั และมคี วำมซ่ือสัตย์ สำมำรถนำไป ประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำวันโดยยดึ หลกั เศรษฐกิจพอเพียงไดอ้ ย่ำงเหมำะสม 4. สาระการเรียนรู้ เน้ือสัตว์ หมำยถึง อำหำรท่ีได้จำกสัตว์ซ่ึงใช้เป็นอำหำร เช่น วัว ควำย เป็ด ไก่ หมู ปลำ กุ้งฯ ให้ “โปรตีน” คุณภำพสมบูรณ์ (มีกรดอะมิโนที่โนท่ีจำเป็นต่อร่ำงกำยครบถ้วน) แต่มีรำคำค่อนข้ำงสุงมำกกว่ำ อำหำรท่ีใหโ้ ปรตีนชนิดอืน่ ๆ 1. โครงสร้ำง และสว่ นประกอบของเนอ้ื สตั ว์มีดังน้ี 1.1 กล้ำมเน้ือ (Muscle tissue) ประกอบด้วยกล้ำมเน้ือเรียบ (Smooth muscle) กล้ำมเนื้อ ลำย (Skeletal muscle) และกล้ำมเนื้อหัวใจ (Cardiac muscle) ซ่ึงขนำดของกล้ำมเนื้อจะเป็นตัวกำหนด
46 ควำมนุม่ เหนยี วของเนอื้ สตั ว์ ซ่ึงกล้ำมเน้ือที่มีขนำดใหญ่ และหยำบจะมีควำมนุ่มน้อยกว่ำกล้ำมเน้ือขนำดเล็ก และละเอียด 1.2 เนื้อเย่ือเก่ียวพัน (Connective tissue) เป็นเนื้อเย่ือที่ยึดกล้ำมเนื้อให้อยู่ร่วมกันหรือยึด กลำ้ มเน้ือเขำ้ กบั กระดูก รวมท้ังพยุงเส้นประสำท และหลอดเลือด เน้ือเย้ือประเภทนี้ ประกอบด้วยโปรตีน 2 ชนิด คือ คอลลำเจน (Collagen) และอีสลำสติน ซึ่งส่งผลต่อควำมนุ่มเหนียวด้วยเช่นเดียวกัน แต่คอลลำเจน สำมำรถสลำยตัวได้ด้วยควำมร้อน กลำยเป็น “เจลำติน” ทำให้เนื้อนุ่มขึ้น แต่อิลำสตินไม่สำมำรถสลำยตัวได้ ด้วยควำมรอ้ นจงึ ทำใหเ้ นอ้ื เหนยี ว แม้ใชเ้ วลำในกำรหุงตม้ นำน 2. คณุ คำ่ ทำงโภชนำกำรของเนอ้ื สัตว์ สำรอำหำรหลักในอำหำรประเภทเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์ คือ โปรตีน ซงึ่ มีอย่ปู ระมำณ รอ้ ยละ 18-30 ขึ้นอยู่กับชนิดของเนื้อสัตว์ และปริมำณไขมันที่มีในเน้ือสัตว์ ซึ่งส่วน ใหญจ่ ะเปน็ ไตรกลีเซอไรด์ โคเลสเตอรอล สว่ นคำร์โบไฮเดรตทม่ี อี ยปู่ ระมำณร้อยละ 1 น้ัน อยู่ในรูปของไกลโค เจน และกรดแลคตกิ ซ่ึงพบมำกในตบั นอกจำกนี้อำหำรประเภทเนื้อสตั วย์ ังเป็นแหล่งของวิตำมินและเกลือแร่ ด้วย โดยเป็นแหล่งสำคัญของวิตำมินบีรวม ซ่ึงจะแตกต่ำงกันไปตำมชนิดของเนื้อสัตว์ ส่วนเกลือแร่นั้น ใน เน้ือสตั ว์ จะพบธำตุเหลก็ ส่วนในอำหำรทะเลจะเป็นแหล่งของไอโอดนี และแคลเซียมท่ดี ีอีกดว้ ย 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สัปดาห์ท.ี่ ....3......) (เขยี นเชิงบูรณาการตาม 6 ขนั้ ตอนของ PjBL และหรือสอดแทรกหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง) ปฐมนิเทศ 1. ครูช้แี จงขอบข่ำยของเนือ้ หำรำยวิชำ กจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอน วธิ กี ำรวดั ผลประเมินผล ตกลงข้อ ปฏบิ ัตริ ะหวำ่ งผูเ้ รียนและผสู้ อน ขนั้ ท่ี 1 เตรยี มความพร้อม 1. นำเข้ำสูบ่ ทเรยี นโดยครใู ชใ้ บควำมร้ทู ี่ 3 เรื่อง เนื้อสัตวแ์ ละผลติ ภณั ฑ์ในกำรประกอบอำหำร โดยให้ นักเรยี นดูรูปภำพวัตถุดบิ ตำ่ ง ๆ พร้อมกระตนุ้ ใหผ้ ู้เรยี นอภปิ รำยและหำสำเหตุของแปง้ และนำ้ ตำล 2. ครูจัดเตรียมแผนกำรเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ แหล่งศึกษำค้นคว้ำ วิธีกำรประเมินประสำนกำรใช้ เทคโนโลยสี ำรสนเทศ และชแ้ี จงกระบวนกำรเรียนรู้รว่ มกนั กำรทำงำนเป็นทมี ข้นั ที่ 2 กาหนดและเลอื กขอ้ 3. ครูใช้ใบงำนที่ 3 เร่ือง เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ในกำรประกอบอำหำร โดยกำรทำให้กำรแบ่งกลุ่ม นกั ศกึ ษำออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ ประมำณ 5 คน เลอื กประธำน เลขำนุกำรกลมุ่ อ่ืน ๆ ตำมควำมเหมำะสม 4. ใหศ้ ึกษำใบควำมรทู้ ่ี 3 เรื่องเนือ้ สัตว์และผลิตภณั ฑ์ในกำรประกอบอำหำร โดยให้ศกึ ษำแหล่งเรียนรู้ อื่น ๆ ที่เก่ียวข้องกับกำรเลอื กวัตถุดิบในกำรประกอบอำหำรโดยใชก้ ระบวนกำรถนอมและกำรแปรรูปอำหำรท่ี คำนึงถงึ ควำมปลอดภยั พร้อมชว่ ยกนั คดิ ระดมสมอง นำไปสู่กำหนดและเลือกหวั ขอ้ โครงงำนรว่ มกัน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168