คูมือจัดการเรียนรูในโรงเรียนขนาดเล็กเพื่อสงเสริม ความสามารถดา นการอา น การเขยี น การคดิ และคณติ ศาสตร โดยใชช ดุ การอา นตามระดบั ความสามารถ และสอื่ เสรมิ หลกั สตู รคณติ ศาสตร สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
คํานํา สาํ นกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา สาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานพฒั นานวตั กรรม การจดั การเรยี นรคู ละชนั้ ในโรงเรยี นขนาดเลก็ โดยจดั ทาํ แผนการจดั การเรยี นรคู ละชน้ั ทสี่ อดคลอ งกบั มาตรฐาน การเรยี นรแู ละตวั ชวี้ ดั ทกี่ าํ หนดในหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ซงึ่ เรมิ่ ใชใ นโรงเรยี น ขนาดเลก็ ทว่ั ประเทศตง้ั แต ป 2552 เปน ตน มา สําหรับปการศึกษา 2554 สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษาไดจัดทําโครงการสงเสริมการอาน การเขยี น และการคดิ ในโรงเรยี นขนาดเลก็ โดยพฒั นานวตั กรรมจาํ นวน 2 ชดุ 1. ชดุ การอา นตามระดบั ความสามารถ (Reading Level Kit) ระดบั ปฐมวยั -ประถมศกึ ษาปท ่ี 6 จาํ นวน 180 เลม 2. สอ่ื เสรมิ หลกั สตู รคณติ ศาสตร (Mathematics Curriculum Support) ระดบั ปฐมวยั -ประถมศกึ ษา ปท ี่ 6 จาํ นวน 60 เลม วัตถุประสงคในการจัดทํานวัตกรรมทั้ง 2 ชุด คือ การพัฒนานักเรียนเปนรายบุคคลดานการอาน การเขยี น การคดิ และคณติ ศาสตร เนอื่ งจากชดุ การอา นตามระดบั ความสามารถ และสอ่ื เสรมิ หลกั สตู รคณติ ศาสตร จดั ทาํ โดยวเิ คราะหค วามสามารถของนกั เรยี น เรยี งลาํ ดบั จากระดบั ปฐมวยั -ประถมศกึ ษาปท ี่ 6 ทาํ ใหค รผู สู อน สามารถประเมนิ ความกา วหนา ของนกั เรยี นแตล ะคน รวมทงั้ วางแผนการจดั การเรยี นการสอนใหเ หมาะสมกบั ศกั ยภาพ ของนกั เรยี นได ดงั นนั้ นวตั กรรมทง้ั 2 ชดุ นจ้ี งึ เปน ประโยชนต อ ทกุ โรงเรยี นไมไ ดจ าํ กดั เฉพาะโรงเรยี น ขนาดเลก็ เทา นน้ั สาํ นกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา เมษายน 2554
สารบญั หนา เรอื่ ง 1 คาํ นาํ โครงการพฒั นาคณุ ภาพในโรงเรยี นขนาดเลก็ โดยใชช ดุ การอา นตามระดบั ความสามารถ 3 (Reading Level Kit) และสอื่ เสรมิ หลกั สตู รคณติ ศาสตร (Mathematic Curriculum Support) 8 ลกั ษณะชดุ การอา นตามระดบั ความสามารถ แนวทางจดั การเรยี นรเู พอ่ื สง เสรมิ ความสามารถดา นการอา น การเขยี น และการคดิ โดยใช 15 ชดุ การอา นปฐมวยั 17 การสง เสรมิ ความพรอ มในการเขยี นสาํ หรบั เดก็ ปฐมวยั 18 ขอ เสนอแนะในการจดั กจิ กรรมการอา นแบบชแี้ นะสาํ หรบั เดก็ ปฐมวยั ทอ่ี ยใู นระดบั แรกเรมิ่ 20 ขอ เสนอแนะในการจดั กจิ กรรมแบบชแ้ี นะ สาํ หรบั เดก็ ปฐมวยั ทอ่ี ยใู นระดบั ขนั้ ตน 28 ขอ เสนอแนะในการจดั กจิ กรรมแบบชแ้ี นะ สาํ หรบั เดก็ ปฐมวยั ทอ่ี ยใู นระดบั กา วหนา แบบวดั และประเมนิ ผลเดก็ ปฐมวยั ตามโครงการพฒั นาคณุ ภาพ ในโรงเรยี นขนาดเลก็ 52 โดยใชช ดุ การอา นตามระดบั ความสามารถ ลกั ษณะชดุ การอา นตามระดบั ความสามารถ เพอื่ สง เสรมิ การอา น การเขยี น และการคดิ 75 ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ 1-2-3 79 ภาคผนวก 95 115 - แนวคดิ การสอนอา นโดยใชช ดุ การอา นตามระดบั ความสามารถสาํ หรบั เดก็ ปฐมวยั 141 - หลกั การเรยี นรภู าษาตามระดบั ความสามารถสาํ หรบั เดก็ ปฐมวยั 165 - ทาํ อยา งไรจงึ จะสอนภาษาใหส อดคลอ งกบั การเรยี นรขู องสมอง 167 - การสอนภาษาสาํ หรบั เดก็ ปฐมวยั โดยใชห นงั สอื เลม ใหญ 197 - เทคนคิ การสง เสรมิ กระบวนการคดิ โดยใชห นงั สอื เลม ใหญ บรรณานกุ รม แนวทางการใชส อ่ื เสรมิ หลกั สตู รคณติ ศาสตร คณะทาํ งาน
1 โครงการพฒั นาคณุ ภาพในโรงเรยี นขนาดเลก็ โดยใชช ดุ การอา นตามระดบั ความสามารถ (Reading Level Kit) และสอ่ื เสรมิ หลกั สตู รคณติ ศาสตร (Mathematics Curriculum Support) คมู อื พฒั นาคณุ ภาพนกั เรยี นในโรงเรยี นขนาดเลก็ โดยใชช ดุ การอา นตามระดบั ความสามารถ (Reading Level Kit) และสอ่ื เสรมิ หลกั สตู รคณติ ศาสตร (Mathematics Curriculum Support) ปจ จบุ นั โรงเรยี นขนาดเลก็ ในประเทศไทยมจี าํ นวนมากถงึ 14,397 โรงเรยี นคดิ เปน รอ ยละ 45.82 ของจาํ นวนโรงเรยี นทง้ั ประเทศ (ขอ มลู 10 มถิ นุ ายน 2553) ในการพฒั นาคณุ ภาพการจดั การศกึ ษาของโรงเรยี น ขนาดเล็กโดยใชยุทธศาสตรดานการบริหารจัดการและมาตรการควบรวมตลอดจนการพัฒนาในลักษณะ เครอื ขา ยโรงเรยี นจะมผี ลตอ ประสทิ ธภิ าพ การบรหิ ารจดั การบคุ ลากรและทรพั ยากรทางการศกึ ษา สาํ หรบั การ พฒั นาดา นคณุ ภาพนกั เรยี น ซง่ึ เปน หวั ใจของการจดั การศกึ ษาอยา งแทจ รงิ จาํ เปน ตอ งมงุ เนน ทก่ี ระบวนการ จดั การเรยี นรแู ละสอ่ื การสอนทเ่ี หมาะสมกบั บรบิ ทของโรงเรยี นขนาดเลก็ สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ไดพัฒนา นวตั กรรมการจดั การเรยี นรคู ละชน้ั ในโรงเรยี นขนาดเลก็ โดยออกแบบหนว ยการเรยี นรทู ใ่ี ชส อนนกั เรยี นไดต อ เนอ่ื งกนั ตงั้ แตช น้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ 1-6 ซงึ่ ครผู สู อนในแตล ะโรงเรยี นสามารถนาํ มาจดั ใหเ หมาะสมกบั ชน้ั เรยี น ของตน ไมวาจะเปนชั้นเรียนเดี่ยวหรือช้ันเรียนแบบคละชั้น โรงเรียนขนาดเล็กที่มีครูไมครบช้ันไดใช แผนการจัดการเรียนรู แบบคละช้ันมาตั้งแต พ.ศ. 2551 โดยมีแผนการจัดการเรียนรูในสาระการเรียนรู ภาษาไทย คณติ ศาสตร วทิ ยาศาสตร ภาษาตา งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) และหนว ยการเรยี นรบู รู ณาการ สาํ หรบั ปก ารศกึ ษา 2554 สาํ นกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษาไดพ ฒั นาสอ่ื สง เสรมิ ความสามารถดา น การอา น การเขยี น การคดิ และคณติ ศาสตร โดยจดั ทาํ ชดุ การอา นตามระดบั ความสามารถ (Reading Level Kit) และสอ่ื เสรมิ หลกั สตู รคณติ ศาสตร (Mathematics Curriculum Support) ซง่ึ มเี ปา หมายในการพฒั นาความ สามารถของนกั เรยี นเปน รายบคุ คล สอดคลอ งกบั ศกั ยภาพของแตล ะคนและบนั ทกึ ความกา วหนา ของนกั เรยี น อยา งเปน รปู แบบ ทาํ ใหส ามารถพฒั นาผเู รยี นเปน รายบคุ คลไดอ ยา งแทจ รงิ การจดั ทาํ ชดุ การอา นตามระดบั ความสามารถ แบง ออกเปน 4 ระดบั คอื 1. ระดับปฐมวัย 2. ระดบั ปฐมวยั เชอ่ื มตอ กบั ประถมศกึ ษาปท ่ี 1 3. ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 1 – 2 – 3 4. ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ 4 – 5 – 6 สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษาพัฒนาชุดการอานตามระดับความสามารถ โดยเชิญวิทยากร ผเู ชยี่ วชาญ จาํ นวน 4 ทา น มาใหค วามรแู กค ณะทาํ งาน ไดแ ก 1. ศาสตราจารย ดร. อารี สัณหฉวี ผูอํานวยการโรงเรียนสาธิตบางนา วิทยากรเรื่องการสอน แบบสมดลุ ภาษา (Balance Literacy) 2. รศ.กุลวรา ชูพงศไพโรจน ขาราชการบํานาญ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยากรเรื่อง การสรา งหนงั สอื สาํ หรบั เดก็
2 3. ดร.อญั ญมณี บญุ ซอ่ื อาจารยภ าควชิ าการศกึ ษาปฐมวยั คณะครศุ าสตร จฬุ าลงกรณม หาวทิ ยาลยั วทิ ยากรเรอ่ื งแนวคดิ ในการพฒั นาชดุ การเรยี นรภู าษาไทย 4. นางสาวนิจสุดา อภินันทาภรณ หัวหนากลุมสถาบันภาษาไทย สํานักวิชาการและมาตรฐาน การศกึ ษา สาํ นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน จากนนั้ จงึ กาํ หนดกรอบแนวคดิ การสรา งชดุ การอา น โดยเรมิ่ ตน จากระดบั ปฐมวยั และระดบั ปฐมวยั และ ระดบั ปฐมวยั เชอื่ มตอ กบั ประถมศกึ ษาปท ่ี 1 ดงั น้ี กรอบแนวคดิ การสรา งชดุ การอา น ขนั้ ท่ี 1 วเิ คราะหก ารเรยี นรภู าษาและการเชอ่ื มตอ การจดั การศกึ ษาปฐมวยั กบั ประถมศกึ ษาปท ี่ 1 ขน้ั ที่ 2 ออกแบบการสรา งชดุ การอา นตามระดบั ความสามารถ เพอื่ เชอื่ มตอ การจดั การศกึ ษาปฐมวยั กบั ระดบั ประถมศกึ ษาปท ี่ 1 ตามแนวทางการเรยี นรขู องสมอง
3 ลกั ษณะชดุ การอา นตามระดบั ความสามารถ (Reading Level Kit) ชดุ การอา นตามระดบั ความสามารถจดั ทาํ ขน้ึ โดยวเิ คราะหห ลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวยั พทุ ธศกั ราช 2546 และหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 สอดคลองกับแผนการจัดการเรียนรูคละช้ัน ในโรงเรยี นขนาดเลก็ จดุ มงุ หมายในการจดั ทาํ ชดุ การอา นตามระดบั ความสามารถ (Reading Level Kit) คอื สรางสื่อนวัตกรรมสําหรับพัฒนาศักยภาพดานการอาน การเขียน ของเด็กปฐมวัยและประถมศึกษาปท่ี 1-6 เน่ืองจากชุดการอานน้ีเรียงลําดับคําและขอความจากงายจนถึงยาก โดยใชคําและเร่ืองราวท่ีสอดคลองกับ หนวยการเรียนรูในแผนการจัดการเรียนรูคละช้ัน นักเรียนจึงสามารถเรียนรูดวยตนเองได ครูผูสอนสามารถ พัฒนาศักยภาพนักเรียนดานการอาน การเขียนเปนรายบุคคล รวมทั้งบันทึกความกาวหนาเพ่ือวางแผน พฒั นานกั เรยี น ไดอ ยา งชดั เจนเปน รปู ธรรม องคป ระกอบของชดุ การอา นตามระดบั ความสามารถ ประกอบดว ย 1. ชดุ การอา นระดบั ปฐมวยั จาํ นวน 30 เลม แบง เปน 3 ระดบั คอื 1.1 ระดับแรกเริ่ม (Emergent Reading) หมายถึง หนังสือชุดการอานสําหรับเด็กปฐมวัย ที่เริ่มเรียนรูดานภาษา มีความสามารถทางการอานในระยะแรกเริ่มคือ รูจักตัวอักษรและคําศัพทท่ีพบหรือ ไดยินบอย เขาใจการลําดับเรื่องราวที่งาย ๆ ไมซับซอน มักเปนเร่ืองราวบุคคล หรือส่ิงแวดลอมใกลตัว ชดุ การอา นปฐมวยั ระดบั แรกเรม่ิ เปน หนงั สอื ชดุ สเี หลอื งมี 10 เลม คอื 1) หนทู าํ ได 6) ฉนั มปี ก 2) รถไฟ 7) เจาหมูข้ีโม 3) เราจะโต 8) ลกู กระตา ยแสนซน 4) ทอ่ี ยขู องฉนั ทอ่ี ยขู องเธอ 9) หนเู หน็ อะไรเอย 5) ดอกไมห ลากสี 10)จะ จา แตง ตวั 1.2 ระดับข้ันตน (Early Reading) หมายถึง หนังสือชุดการอานสําหรับเด็กปฐมวัยท่ีมี ความสามารถทางการอานในระดับข้ันตน คือ อานประโยคสั้น ๆ ไดเขาใจเรื่องราวท่ีมีการลําดับเหตุการณ โดยมีตนเร่ือง กลางเรื่อง ตอนจบ มีเคาโครงเร่ืองที่ซับซอนมากกวาระดับแรกเร่ิม สอดแทรกการคิดและ การใหเ หตผุ ลมากขนึ้ ชดุ การอา นปฐมวยั ระดบั ขน้ั ตน เปน หนงั สอื ชดุ สชี มพู จาํ นวน 10 เลม คอื 1) เปาปจ อมตะกละ 6) ไขเ จยี ว 7 สี 2) รองเทา 7) ตวั อะไรกาํ ลงั มา 3) นมจากเตา 8) แมวขเี้ ซา 4) อะไรอยบู นฟา 9) เลน ดนตรไี ทยกนั เถอะ 5) อะไรอยใู นนา้ํ 10)ตก๊ั แตนกระโดด
4 1.3 ระดบั กา วหนา (Advanced Reading) หมายถึง หนังสือชุดการอานสําหรับเด็กปฐมวัย ทมี่ คี วามสามารถทางการอา นในระดบั กา วหนา คอื อา นประโยคตอ เนอื่ งเปน เรอ่ื งราวได เขา ใจการเชอ่ื มโยง ความคิดและการเปรียบเทียบ รูจักคาดเดาคําและประโยคท่ีไมคุนเคย ชุดการอานปฐมวัยระดับกาวหนามี สเี ขยี ว จาํ นวน 10 เลม 1) เปาปกับปุกปก 6) เวลารอบโลก 2) นาํ้ พขุ องฉนั 7) เราเปน คนไทย 3) แปรงฟน ใหเ สอื 8) เพอื่ นเราชาวอาเซยี น 4) ยรี าฟกบั กระรอก 9) ลอ งลาํ โขง 5) โลกของเรา 10)สวสั ดี 4 ภาษา ชดุ การอา นระดบั ปฐมวยั 30 เลม ลาํ ดบั ชอื่ หนงั สอื หนว ยการเรยี นรู สอนเดก็ ท่ี อายุ 1 หนทู าํ ได การดแู ลตนเอง 3 - 4 ขวบ 3 - 4 ขวบ 2 รถไฟ คณติ ศาสตรใ นชวี ติ ประจาํ วนั 3 - 4 ขวบ 3 - 4 ขวบ 3 เราจะโต ประโยชนข องอาหาร (อาหารดมี ปี ระโยชน) 3 - 4 ขวบ 3 - 4 ขวบ 4 ทอี่ ยขู องฉนั ทอี่ ยขู องเธอ สตั ว และธรรมชาติ 3 - 4 ขวบ 3 - 4 ขวบ 5 ดอกไมห ลากสี สี / ธรรมชาตแิ วดลอ ม 3 - 4 ขวบ 3 - 4 ขวบ 6 ฉนั มปี ก สตั ว 5 ขวบ 5 ขวบ 7 เจาหมูขี้โม สตั ว และกระบวนการคดิ 5 ขวบ 5 ขวบ 8 ลกู กระตา ยแสนซน การดแู ลความปลอดภยั 5 ขวบ 5 ขวบ 9 หนเู หน็ อะไรเอย สว นตา ง ๆ ของสตั ว 10 จะ จา แตง ตวั ตัวเรา 11 เปาปจ อมตะกละ อาหารทีม่ ีประโยชน 12 รองเทา คณติ ศาสตรใ นชวี ติ ประจาํ วนั 13 นมจากเตา วนั แมแ หง ชาติ 14 อะไรอยบู นฟา ธรรมชาตแิ ละการดแู ลความปลอดภยั 15 อะไรอยใู นนา้ํ สตั วน าํ้ , การอนรุ กั ษ 16 ไขเ จยี ว 7 สี สี
5 ชดุ การอา นระดบั ปฐมวยั 30 เลม ลาํ ดบั ชอ่ื หนงั สอื หนว ยการเรยี นรู สอนเดก็ ท่ี อายุ สตั ว 17 ตวั อะไรกาํ ลงั มา คณติ ศาสตรใ นชวี ติ ประจาํ วนั 5 ขวบ เมอื งไทยทรี่ กั 5 ขวบ 18 แมวขเี้ ซา อบุ ตเิ หตุ และการปอ งกนั 5 ขวบ เพอ่ื นของเรา 5 ขวบ 19 เลน ดนตรไี ทยกนั เถอะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม / เพอื่ นของเรา 5 ขวบ สขุ นสิ ยั และการคดิ 5 ขวบ 20 ตก๊ั แตนกระโดด คณติ ศาสตรใ นชวี ติ ประจาํ วนั / คณุ ธรรม จรยิ ธรรม 5 ขวบ สงิ่ แวดลอ มรอบตวั 5 ขวบ 21 เปาปกับปุกปก เวลา 5 - 6 ขวบ สงิ่ แวดลอ มใกลต วั 5 - 6 ขวบ 22 นาํ้ พขุ องฉนั สง่ิ แวดลอ มรอบตวั (เพอ่ื นบา นของเรา) อาเซยี น 5 - 6 ขวบ สงิ่ แวดลอ มรอบตวั (เพอื่ นบา นของเรา) อาเซยี น 5 - 6 ขวบ 23 แปรงฟน ใหเ สอื สงิ่ แวดลอ มรอบตวั (เพอื่ นบา นของเรา) อาเซยี น 5 - 6 ขวบ 5 - 6 ขวบ 24 ยรี าฟกบั กระรอก 25 โลกของเรา 26 เวลารอบโลก 27 เราเปน คนไทย 28 เพอ่ื นเราชาวอาเซยี น 29 ลอ งลาํ โขง 30 สวสั ดี 4 ภาษา 1.4 ชุดการอานเช่ือมตอระดับปฐมวัย และระดับช้ันประถมศึกษาปท่ี 1 หมายถึง ชุดการอานท่ีจัดทําสําหรับเด็กปฐมวัยที่มีความสามารถในการอานระดับกาวหนา เร่ิมมีพ้ืนความรูภาษาไทย รูจักพยัญชนะและสระท่ีพบบอย สามารถประสมคําหรือแจกลูกไดบางชุดการอานเชื่อมตอระดับปฐมวัยและ ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ 1 มสี แี สด จาํ นวน 14 เลม คอื 1) ชมุ ชนของเรา 8) ใครทาํ ดี 2) ลกู ไกเ ปลย่ี นรปู 9) ตาของหนนู า 3) หนดู รี กั การอา น 10)ชา งนอ ยซกุ ซน (ข ช ซ) 4) ฮาเฮทะเลเมืองไทย 11)หา นนอ ยหาแม (ท, ห) 5) ดอกไมร มิ บงึ 12)ลกู หมู ออิ ี อึ ออื ( -? -? -? -อ?) 6) ตน ไม 13)ออุ ุ กบั ออู ู 7) ผง้ึ นอยไปเที่ยว 14)กนิ มะระ (ะ า)
โครงสรา งหนงั สอื สง เสรมิ การอา นสาํ หรบั นกั เรยี นเชอ่ื มตอ นกั เรยี นอนบุ าลและชนั้ ป. 1 สง เสรมิ การอา น จาํ นวน มาตรฐาน/ตวั บง ชี้ ชดุ การอา น หลักการ/ทฤษฎี รายละเอยี ด อา นรปู อกั ษร 11 เลม มาตรฐานท่ี 1 – 12 - นทิ านพยญั ชนะ ก ถ ภ - เรยี ง Letter team 1. สรา งเนอ้ื หาในลกั ษณะของนทิ าน / (จดจาํ รปู / เสยี ง) ทุกตัวบงช้ี - นทิ านพยญั ชนะ ด ต ค ศ ตามรูปรางและการ คาํ คลอ งจอง / ปรศิ นาคาํ ทาย / เพลง / - นทิ านพยญั ชนะ บ ป ษ เขียนหัวพยัญชนะ บทรอ งเลน ตามสาระทค่ี วรรใู นระดบั ปฐมวยั - นทิ านพยญั ชนะ พ ฟ ผ ฝ - แนวสมดลุ ภาษา 2. สรา งกจิ กรรมทา ยเลม ดงั นี้ - นทิ านพยญั ชนะ จ ล ส - BBL - การอานรวมกันระหวางครู และ - นทิ านพยญั ชนะ ร ธ ว นักเรียนโดยอานแบบกลุม กลุมยอย - นทิ านพยญั ชนะ อ ย จบั คู และกลมุ เดยี่ ว - นทิ านพยญั ชนะ น ม ฉ - การเขยี นพยญั ชนะตามรอยประ 6 - นทิ านพยญั ชนะ ท ห - โยงเสน วงกลม กากบาท ตวั อกั ษร - นทิ านพยญั ชนะ ข ช ซ ภาพกบั ตวั อกั ษร คาํ กบั คาํ - นทิ านพยญั ชนะ ง - เตมิ ตวั พยญั ชนะ แทน รปู ภาพ ผสมดว ยสระ อะ อา อิ อี อึ ออื อุ อู เอ แอ - เตมิ ตวั พยญั ชนะใหเ ปน คาํ ทสี่ มบรู ณ เอา โอ ไอ ใอ อาํ อวั ออ และวรรณยกุ ต - อา นคาํ ทมี่ พี ยญั ชนะตามชดุ การอา น สามัญ เอก โท ตรี จัตวา โดยตามสาระ - อานคําท่ีมีพยัญชนะตามชุดการ เร่ืองราวเก่ียวกับตัวเด็ก เก่ียวกับบุคคล และ อา น (โดยใชพ ยญั ชนะและคาํ ตามชดุ การ สถานที่แวดลอมเด็ก ธรรมชาติ รอบตัว และ อา น) สิ่งรอบตัวเด็ก 3. สรา งแบบประเมนิ
สง เสรมิ การอา น จาํ นวน มาตรฐาน/ตวั บง ช้ี ชดุ การอา น หลักการ/ทฤษฎี รายละเอยี ด 5 เลม - นทิ านสระเดย่ี ว อะ อา ออ - จาํ แนกคาํ ทมี่ พี ยญั ชนะตามชดุ การอา น - นทิ านสระเดย่ี ว อิ อี อึ ออื - นทิ านสระเดยี่ ว เอ แอ เอา - นทิ านสระเดยี่ ว โอ ไอ ใอ - นทิ านสระเดยี่ ว อาํ อวั ั 7
8 แนวทางจัดการเรียนรูเพ่ือสงเสริมความสามารถ ดานการอาน การเขยี น และการคิดโดยใชชุดการอานปฐมวัย เปา หมายการเรยี นรตู ามระดบั ความสามารถ ในการสง เสรมิ การรหู นงั สอื สาํ หรบั เดก็ ปฐมวยั (Emergent Literacy) มเี ปา หมายการพฒั นาเดก็ ปฐมวยั อยู 2 เรอ่ื ง คอื เรยี นรดู า นการใชภ าษา และกระบวนการคดิ และรบั รภู าษา การเรยี นรดู า นการใชภ าษา ภาษาพดู - การฟง และการพดู การใชภ าษา : ใชภ าษาเพอื่ สอื่ สารและสง เสรมิ ใหเ ดก็ มคี วามสามารถดงั นี้ เขา ใจเรอื่ งทฟ่ี ง และเชอื่ มโยงกบั ประสบการณแ วดลอ มได เขา ใจเรอ่ื งทฟ่ี ง และทบทวนแนวคดิ หลกั ได พูดคุยเก่ียวกับเรื่องที่เรียนรู เลา เรอ่ื งยอ นกลบั ได ทบทวนขอ มลู จากเรอื่ งทอ่ี า นได ภาษาเขยี น - การอา นและการเขยี น การอา น : สง เสรมิ ใหเ ดก็ มคี วามสามารถดงั น้ี เขา ใจความหมายของเรอ่ื งทอ่ี า น นาํ มาเชอ่ื มโยงกบั ประสบการณเ ดมิ ของตน ใชล กั ษณะโครงสรา งภาษา ตวั หนงั สอื และคาํ เพอ่ื เปน ขอ ชแ้ี นะในการทาํ ความเขา ใจความหมาย การเขยี น : การแสดงออกทางความเขา ใจภาษา เดก็ มคี วามสามารถดงั นี้ เขยี นบนั ทกึ ประสบการณส ว นตวั และบนั ทกึ การสงั เกตตา ง ๆ (บนั ทกึ เปน ภาพวาดบอกใหค รเู ขยี น ตามการบรรยายของเดก็ หรอื เดก็ ลองเขยี นโดยทดลองใชค าํ ทเี่ ดก็ คดิ สะกดเอง) เขยี นบรรยายภาพได เขยี นจากบรบิ ทแวดลอ มของตน การเรยี นรภู าษาจากรปู ภาพ - การนาํ เสนอ นกั เรยี นมคี วามสามารถดงั น้ี เขา ใจความหมายและแนวคดิ ของภาพประกอบในเรอื่ ง จาํ แหนกและอธบิ ายคาํ และภาพทปี่ รากฏ นาํ เสนอแนวคดิ และความเขา ใจเนอื้ เรอ่ื งโดยใชก ารวาดภาพ ออกแบบและบทบาทสมมติ
9 กระบวนการคิดและรับรูภาษา กระบวนการคดิ และรบั รภู าษาเปน เรอ่ื งจาํ เปน ในการพฒั นาภาษา กระบวนการดงั กลา วประกอบดว ย : การคดิ วเิ คราะห การสาํ รวจภาษา และการรวบรวมขอ มลู โดยคาดหวงั วา นกั เรยี นจะมคี วามสามารถดงั น้ี วเิ คราะหแ ละแสดงความเขา ใจความหมายของเรอ่ื ง โดยเชอื่ มโยงจากประสบการณเ ดมิ วิเคราะหการเขียนตามรูปแบบ จาํ แนก บนั ทกึ และนาํ เสนอขอ มลู จากเรอ่ื งทอี่ า น (บนั ทกึ เปน ภาษาทเ่ี ดก็ เขยี นสะกดเอง Invented Spelling) เขา ใจลกั ษณะการสอ่ื สารวา ตอ งเกย่ี วขอ งกบั คาํ และภาพ ใชเ นอื้ เรอื่ งและดภู าพเพอ่ื รบั รแู ละรวบรวมขอ มลู เปา หมายการเรยี นรขู องนกั เรยี น เปาหมายการเรียนรูของนักเรียนเปนเปาหมายเฉพาะ กําหนดเปนแตละดานเชน ดานภาษาพูด ภาษาเขยี น (การอา นและการเขยี น) โดยแบง เปน 3 ระดบั คอื ระดบั แรกเรมิ่ (Emergent) ระดบั ขนั้ ตน (Early) และระดบั กา วหนา (Advance) ภาษาพดู : เปา หมายการเรยี นรขู องนกั เรยี น คอื ระดบั แรกเรมิ่ (Emergent) ระดบั ขน้ั ตน (Early) ระดบั กา วหนา (Advance) เลา เรอ่ื งยอ นกลบั ฟง และตอบคาํ ถามเกย่ี วกบั อธบิ ายแนวคดิ ไดช ดั เจน พดู คุยเกี่ยวกบั เรือ่ งทอี่ า น เรอ่ื งทอี่ า น แสดงความคดิ เหน็ และ ทบทวนขอเท็จจริงบางอยาง เลา รายละเอยี ดของเรอ่ื ง ใหเ หตผุ ลหลากหลาย จากเรอื่ งทฟ่ี ง ทบทวนขอ มลู จากเรอ่ื งทฟี่ ง ฟง เหตผุ ลและเคารพ แสดงความคดิ เหน็ อา นออกเสยี ง ความคดิ เหน็ ของผอู น่ื เพม่ิ ขยายคาํ ศพั ทภ าษาพดู แสดงความคดิ เหน็ และ อา นออกเสยี ง และเพม่ิ เตมิ ถามคาํ ถาม ลลี านา้ํ เสยี ง เพม่ิ ขยายคาํ ศพั ทภ าษาพดู ขยายและใชค าํ ศพั ทส งู ขน้ึ
10 ภาษาเขยี น : การอา น ระดบั ขนั้ ตน (Early) ระดบั กา วหนา (Advance) เปา หมายการเรยี นรขู องนกั เรยี น คอื ใชบ รบิ ทของเรอ่ื งเพอื่ คาดคะเน ใชว ธิ กี ารตา ง ๆ ในการ ระดบั แรกเรมิ่ (Emergent) คาดเดาเรอ่ื งไดใ กลเ คยี ง คาดคะเนยนื ยนั และแกไ ข มนั่ ใจในการอา น คาํ ผดิ ดว ยตนเองอยา งมน่ั ใจ เลา เรอื่ งยอ นกลบั ใชท งั้ เนอื้ เรอื งและภาพ เชอื่ มโยงเรอ่ื งราวและ พดู คุยเก่ยี วกบั เรือ่ งทอ่ี า น เพอ่ื คาดเดา และยนื ยนั เรอื่ ง ภาพวาด ทบทวฟง เลา เรอื่ งตาม เรม่ิ ใชเ ปน ตวั ชแี้ นะในการอา น เปรียบเทียบรูปแบบ ลาํ ดบั เหตกุ ารณ เรม่ิ ตน อาจเรอื่ งหลากหลายขน้ึ เรอื่ งราวทอี่ า นและรปู แบบ ทบทวนลกั ษณะตวั ละคร เพม่ิ พนู คาํ ศพั ทท พี่ บบอ ย ตวั อกั ษร ตามทบี่ รรยายในเนอ้ื เรอื่ ง รจู กั ตวั หนงั สอื รปู แบบตา ง ๆ แยกแยะระหวางเร่ืองราว ระบุฉากของเรื่อง ทบทวนเนอ้ื เรอ่ื ง ตวั ละคร ทเี่ ปน เรอ่ื งแตง และเรอื่ งจรงิ ตคี วามภาพประกอบและ ฉาก และแกน เรอ่ื งตาม อา นในใจได ใชภ าพประกอบคาดเดา ทบ่ี รรยายในเรอื่ งได สรปุ เรอ่ื งราวทอี่ า นได เนอ้ื เรอื่ ง รจู กั ใชต ารางแผนภมู ิ บอกสว นประกอบของหนงั สอื แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับ (หนา หลงั สนั ปก) เรอ่ื งทอี่ า นในเชงิ คดิ วเิ คราะห เปด /อา นหนงั สอื ตามทศิ ทาง ระบเุ นอื้ เรอื่ ง ตวั ละคร ทถี่ กู ตอ ง ฉากและแกน เรอื่ งในหนงั สอื บอกสว นตน และสว นทา ย ตามที่บรรยาย ของเรอื่ ง บอกความแตกตา งระหวาง ระดบั กา วหนา (Advance) ตวั อกั ษรและคาํ บอกคาํ ทพ่ี บบอ ยได จดบนั ทกึ และนาํ เสนอขอ มลู บอกความคลา ยคลงึ ของ ผา นการเขยี นทห่ี ลากหลาย คาํ อา นยอ นกลบั เพอื่ หา สํารวจทางเลือกที่ปรากฏ ความหมายคาํ ทอี่ า น ในเรอ่ื งและประยกุ ตใ ช ในการเขยี นของตน การเขยี น เปา หมายการเรยี นรขู องเดก็ คอื เขาใจจุดประสงคของ การเขียน ระดบั แรกเรมิ่ (Emergent) ระดบั ขนั้ ตน (Early) เขยี นตวั อกั ษรไดถ กู ทศิ ทาง เริ่มเขาใจวาคาํ มคี วามหมาย เวน ชอ งไฟระหวา งคาํ หลากหลาย ถา ยทอดแนวคดิ ทจ่ี ะเขยี นได เรมิ่ จดบนั ทกึ และนาํ เสนอขอ มลู ผา นการเขยี นทแ่ี ตกตา งกนั รจู กั การเขยี นตอ งสมเหตสุ มผล
11 ภาษาภาพ เปา หมายการเรยี นรขู องเดก็ คอื ระดบั แรกเรมิ่ (Emergent) ระดบั ขน้ั ตน (Early) ระดบั กา วหนา (Advance) มองดแู ละพดู คยุ เกยี่ วกบั ขนาด มองดูและอภิปรายเกี่ยวกับ อภิปรายเชิงลึกเก่ียวกับ ของตวั อกั ษรบนหนา ปกและ ตวั พมิ พ ดชั นี เลขหนา และ ขอ มลู ภาพทน่ี าํ เสนอใน ในเลม องคป ระกอบของเลม หนงั สอื ดขู อ มลู ทเ่ี ปน ภาพในเรอื่ งและ บนั ทกึ และนาํ เสนอขอ มลู ทเี่ ปน ขยายรูปแบบวิธีการบันทึก พูดคุยเกี่ยวกับความหมาย ภาพดว ยวธิ กี ารทห่ี ลากหลาย และนาํ เสนอขอ มลู ภาพ ของภาพนน้ั และอภิปรายเก่ียวกับ โดยวิธีหลากหลาย บนั ทกึ และนาํ เสนอขอ มลู ดว ย ความหมายของภาพ แปลความขอ มลู ภาพ วธิ กี ารทหี่ ลากหลายและ แปลความและตอบสนอง ทน่ี าํ เสนอในหนงั สอื พดู คยุ ถงึ การสอื่ ความหมาย ขอ มลู ภาพทนี่ าํ เสนอในหนงั สอื อยา งตอ เนอื่ ง ดว ยภาพน้ี รปู แบบของตวั อกั ษร เปา หมายการเรยี นรขู องเดก็ คอื ระดบั แรกเรมิ่ (Emergent) ระดบั ขน้ั ตน (Early) ระดบั กา วหนา (Advance) มองเหน็ ความคลา ยคลงึ ของ ระบเุ สยี งผสมและอกั ษรควบ ระบสุ ระเสยี งสน้ั -ยาว คาํ บางคาํ และจบั คตู วั อกั ษร ระบคุ าํ ผสมได ระบุเสียงทายคํา และคาํ ได ระบตุ วั ยอ ได มคี วามเขา ใจคาํ พนื้ ฐาน รจู กั ชอื่ สระทกุ ตวั ระบุคําลงทาย ตวั ยอ คาํ ฟอ ง คาํ ทมี่ ี รจู กั เสยี งคาํ ทเี่ ปน พยญั ชนะตน ระบคุ าํ งา ย ๆ ทอี่ ยใู นกลมุ ความหมายเหมอื นกนั จาํ แนกความแตกตา งระหวา ง เดียวกัน เพมิ่ พนู ความเขา ใจ ตวั อกั ษรและคาํ ฟง และออกเสยี งพยางค วงคาํ ศพั ท เปลยี่ นพยญั ชนะตน ของคาํ ในคาํ ได ระบหุ ลกั การสะกดคาํ งา ยๆทรี่ จู กั เพอื่ สรา งคาํ ใหม ระบคุ าํ สมั ผสั ได ฟง เสยี งพยางคใ นคาํ ไดแ ละ พดู พยางคไ ด
12 องคป ระกอบของการอา น ในการจดั กจิ กรรมการอา นใหส อดคลอ งกบั ความตอ งการของเดก็ จาํ เปน ตอ งใชแ นวทางการสอนอา น ทหี่ ลากหลาย ประกอบดว ย • ครอู า นใหเ ดก็ ฟง • เดก็ อา นเอง • เดก็ อา นดว ยกนั กบั เพอ่ื น จากแนวทางการสอนอา นนี้ นาํ มาจดั องคป ระกอบหลกั ในการสอนอา น แบง เปน 3 กจิ กรรม คอื • กจิ กรรมการอา นรว มกนั • กจิ กรรมการอา นแบบชแ้ี นะ • กจิ กรรมการอา นอสิ ระ กจิ กรรมการอา นรว มกนั การอานรวมกันในระดับอนุบาลประกอบดวยกิจกรรมหลากหลาย เชนอานตามครู (Echo reading) อานพรอมกันกับครู (Choral reading) อานแบบเติมคําในชองวางโดยครูเปนผูอานเกือบท้ังหมดแตเวน คําที่เด็กจําได เพ่ือใหเด็กเติมคํา หรือเวนคําที่เด็กเดาไดใหเด็กพูดเติมคํา การอานลักษณะนี้เปนกระตุน ใหกําลังใจเด็กในระยะเร่ิมตนหัดอานทําใหเด็กสนุกสนานและรูสึกประสบความสําเร็จ เปนระดับการอานที่ครู มสี ว นชว ยเหลอื เดก็ สงู มาก ระหวา งทเ่ี ดก็ อา นในชว งกจิ กรรมการอา นรว มกนั เดก็ จะมงุ ความสนใจไปทรี่ ปู ภาพและคาํ เพอ่ื คาดเดา และทาํ ความเขา ใจความหมายของเรอ่ื ง ดงั นน้ั ในการสอนอา นรว มกนั ครจู งึ มกั จะเรมิ่ ตน โดยใหเ ดก็ ดภู าพรว มกนั จนจบเรอ่ื ง (picture walk) เปน การสรา งความเขา ใจเนอื้ เรอื่ งรว มกนั ครจู ะตงั้ คาํ ถามเพอื่ ใหเ ดก็ คนุ ชนิ กบั คาํ และวลที ใ่ี ชใ นเรอื่ ง จากนน้ั ครจู งึ อา นเรอื่ งใหเ ดก็ ฟง พรอ มทง้ั ถามคาํ ถามกระตนุ ใหเ ดก็ คาดเดาเรอ่ื ง การอา น รวมกันน้ีครูจะใชเวลาอานทบทวนหลายวันโดยทํากิจกรรมเสริมความเขาใจประอบ เชน พูดคุยซักถาม เกี่ยวกับรูปและคําในหนังสือ เลนบทบาทสมมุติทําหุนกระดาษเรียงลําดับภาพเหตุการณในเร่ือง และทําผัง ความคดิ เพอ่ื ทบทวนเรอ่ื งทเี่ ดก็ อา น ครทู าํ แถบกระดาษผงั ความคดิ ใหเ ดก็ ลองเขยี นตามความคดิ เดก็ เมอื่ เดก็ คนุ เคยกบั เรอ่ื งแลว จงึ จะสอนใหเ ดก็ สงั เกตตวั หนงั สอื มากขนึ้ โดยใชแ ถบกระดาษปด ตวั อกั ษร หรอื คาํ ทเ่ี ดก็ คนุ เคย ทาํ กจิ กรรม “ลา คาํ ” ทเ่ี ดก็ พบบอ ยในเรอ่ื ง หรอื ฝก ใหเ ดก็ ฟง เสยี งคาํ ครอู า นเรอื่ งใหเ ดก็ ฟงชา ๆ เด็กจะวงกลมรอบคําท่ีคลองจองกัน หรือคําที่ขึ้นตนดวยเสียงตาง ๆ ตามท่ีครูเลือกใหเด็กสังเกต นอกจากนคี้ รใู ชก จิ กรรมการเลน ตบมอื เปน จงั หวะชว ยใหเ ดก็ รจู กั พยางคใ นคาํ นน้ั เชน กระ-ดาษ (ตบมอื เปน จงั หวะ 2 ครง้ั ) มะ-ละ-กอ (ตบมอื 3 ครงั้ ) หรอื ตบตามเสยี งสะกดของค เชน ก - ิ - น (กนิ )
13 ระหวา งชว งกจิ กรรมอา นดว ยกนั เดก็ ไดเ รยี นรเู รอื่ งการอา น หลายประการ เชน • การกวาดสายตาดตู วั หนงั สอื จากซา ยไปขวา และดคู าํ ทลี ะคาํ • คาดเดาเรอื่ งและเชอ่ื มโยงไปสปู ระสบการณเ ดมิ • สนกุ สนานและมสี ว นรว มในการอา นโดยครเู ปน ผสู นบั สนนุ • สรา งความคนุ เคยกบั ลกั ษณะการดาํ เนนิ เรอื่ งของนทิ านหรอื เรอื่ งราวตา ง ๆ • เพิ่มขยายวงคําศัพท • ฝก คน หาพยญั ชนะและสระจากเนอื้ เรอื่ ง • รบั รคู วามคดิ รวบยอดเกยี่ วกบั ตวั หนงั สอื (การเวน ชอ งไฟ การเวน วรรคเครอื่ งหมายตา ง ๆ ทใี่ ชใ นเรอื่ ง) • การเรียงลําดับเหตุการณ • สนใจองคป ระกอบของเรอื่ ง (ตวั ละคร ฉาก เหตกุ ารณต อนตน เรอ่ื ง กลางเรอื่ ง และตอนจบ) แนวทางการจดั กจิ กรรมสง เสรมิ การอา นสาํ หรบั เดก็ ปฐมวยั 1. คัดเลือกหนังสือนิทานหรือหนังสือที่มีเร่ืองราวเหมาะสมกับเด็ก เปนเร่ืองที่เด็กสนใจสนุกสนาน สง เสรมิ จนิ ตนาการ และสอดแทรกการปลกู ฝง คณุ ธรรมคา นยิ มทด่ี แี ตไ มส ง่ั สอนโดยตรง เดก็ ในวยั 3-5 ขวบ ชอบเรอื่ งราวสนกุ สนานผจญภยั ขาํ ขนั ตวั ละครมกั เปน เดก็ ในวยั เดยี วกนั มนี างฟา ยกั ษ สตั วต า ง ๆ 2. อา นนทิ านหรอื หนงั สอื สาํ หรบั เดก็ ใหเ ดก็ ฟง ทกุ วนั (Reading To) ในการอา นแตล ะครง้ั ใชเ วลา ประมาณ 10-15 นาที โดยเลอื กชว งเวลาทเ่ี หมาะสมและอา นตามเวลานน้ั จนเปน กจิ วตั ร เชน ใน 1 วนั ถา ครู อานหนังสือใหเด็กฟง 2 คร้ัง คือ ชวงเชากอนเร่ิมกิจกรรมตามตารางประจําวัน และชวงบายหลังจากเด็ก ตน่ื นอน ครคู วรจะอา นเปน เวลาทกุ วนั 3. กจิ กรรมการอา นรว มกนั (Reading With/Shared Reading) เกดิ ขน้ึ ไดใ นหลายลกั ษณะ เชน ในชว งการอา นหนงั สอื เลม ใหญร ะหวา งทคี่ รชู คี้ าํ เดก็ และครอู า นพรอ มกนั การรอ งเพลงโดยครชู คี้ าํ ทแี่ ผนภมู เิ พลง และรองเพลงพรอมกับเด็กหรือกิจกรรมการอานขาวยามเชาที่ครูและนักเรียนชวยกันวงรอบตัวอักษร หรอื คาํ บางคาํ ทพี่ บบอ ยในขา ว 4. หนังสือที่เหมาะสําหรับการอานรวมกัน ควรเปนหนังสือที่มีเร่ืองราวซึ่งเด็กสามารถคาดเดา เหตกุ ารณไ ด ใชค าํ คลอ งจองหรอื คาํ ซา้ํ ๆ โดยครอู า นรว มกบั เดก็ สปั ดาหล ะ 1 เลม ดงั นี้
14 วนั จนั ทร : สาํ รวจหนงั สอื ดภู าพตงั้ แตห นา ปกจนจบเรอ่ื ง และครอู า นใหฟ ง ตลอดเรอื่ ง เปน การอา นครง้ั ที่ 1 วนั องั คาร : อา นครงั้ ท่ี 2 พดู คยุ เกย่ี วกบั หนงั สอื เลม ทอ่ี า น ทาํ แผนภมู โิ ครงเรอ่ื ง (ตวั ละคร ฉาก ชอ่ื ผแู ตง ฯลฯ) วนั พธุ และวนั พฤหสั บดี: เดก็ อา นพรอ มครู เรยี นรคู าํ เสยี งของคาํ จากหนงั สอื เชน เขยี นคาํ ทคี่ ลอ งจองกนั ลงบนแถบกระดาษ และเสยี บไวท กี่ ระเปา ผนงั จากนนั้ จงึ ใหเ ดก็ สงั เกตเปรยี บเทยี บ การสะกดตวั ของคาํ นนั้ หรอื พดู คยุ กบั เดก็ เกยี่ วกบั คาํ ตรงขา ม คาํ ทพี่ บบอ ย คาํ ทเี่ ดก็ สะดดุ ตา วนั ศกุ ร : กจิ กรรมการแสดงตามเรอ่ื งจากหนงั สอื 5. การอา นอสิ ระ (Reading By Children) หลงั กจิ กรรมอา นขา วตอนเชา จะเปน ชว งเวลาอา นอสิ ระของเดก็ เดก็ จะเลอื กหนงั สอื จากมมุ หนงั สอื มาอานเอง ครูควรจัดมุมหนังสือใหนาสนใจ มีท่ีนั่ง-นอนอานหนังสือเลือกและจัดหนังสือที่หลากหลาย เชน จดั หนงั สอื ทม่ี ตี วั ละครหรอื เรอื่ งคลา ยคลงึ กนั ใสไ วใ นตะกรา เดยี ว เรยี งหนงั สอื ไวใ นชนั้ หนงั สอื โดยถา ยสาํ เนาปก ติดไวที่ชั้นหนังสือเมื่อชวยใหนํามาคืนท่ีเดิมไดงายข้ึน ถาครูมีหนังสือจํานวนมากอาจใชวิธีติดสติกเกอรเปน แถบสตี ามชอ่ื หนงั สอื หรอื ชอื่ ผแู ตง จะทาํ ใหเ ดก็ รจู กั สงั เกตหมวดหมกู ารจดั หนงั สอื 2. การอา นชแ้ี นะ (Guided Reading) การอา นชแ้ี นะ ครจู ะจดั เดก็ เปน กลมุ ยอ ยประมาณ 3-5 คน โดยพจิ ารณาจากระดบั ความพรอ มใน การอา นของเดก็ ในชว งการอา นชแ้ี นะเดก็ จะทาํ งานเปน กลมุ ยอ ยโดยเรยี นรเู รอ่ื งตวั อกั ษร เสยี งสระ และทกั ษะ พน้ื ฐานในการอา น การเรยี นรสู าํ หรบั เดก็ แตล ะกลมุ จะไมเ หมอื นกนั ขน้ึ อยกู บั ระดบั ความพรอ มในการอา นของเดก็ กลมุ นน้ั โดยครเู ปน ผเู ลอื กหนงั สอื และกจิ กรรมทเี่ หมาะสมกบั กลมุ เดก็
15 การสงเสริมความพรอมในการเขียนสําหรับเด็กปฐมวัย การสง เสรมิ ความพรอ มในการเขยี นสาํ หรบั เดก็ ปฐมวยั มอี ยหู ลายวธิ ี ซงึ่ ครปู ฐมวยั สามารถจดั กจิ กรรม ควบคูกับการสงเสริมการอาน เชน กิจกรรมเดาคํา โดยครูเขียนประโยคจากหนังสือท่ีนํามาอานรวมกับเด็ก ในสปั ดาหน น้ั เวน คาํ หรอื ชอ่ื ใหเ ดก็ คาดเดาไว 1 คาํ เพอื่ ใหเ ดก็ เขยี นเตมิ คาํ เสยี บไวใ นกระเปา ผนงั กจิ กรรมนี้ ทาํ เปน กลมุ ยอ ย บางครงั้ ครอู าจเรมิ่ ตน โดยเขยี นคาํ เสยี บในกระเปา ผนงั 1 คาํ เดก็ จะสงั เกตตวั อกั ษรหรอื คาํ ที่ เหมอื นกนั จากหนงั สอื หรอื สงั เกตตวั อกั ษรทม่ี อี ยใู นชอ่ื ของเดก็ ครใู หเ ดก็ หาคาํ ทมี่ ตี วั อกั ษรเหมอื นคาํ ทค่ี รเู ขยี น และเขยี นคาํ เหลา นนั้ เสยี บไวใ นกระเปา ผนงั การทาํ กจิ กรรมการเขยี นเชน นี้ ชว ยใหเ ดก็ คนุ เคยกบั รปู ประโยคทซ่ี าํ้ ๆ นอกจากนใี้ นชว งทคี่ รเู ขยี น คําแตละคํา ครูจะออกเสียงสะกดตัวพยัญชนะในคําน้ัน พรอมทั้งใหเด็กสะกดคําตามครู จะชวยในการเขียน สาํ หรบั เดก็ กจิ กรรมการเขยี นทส่ี นกุ สนานจะทาํ ใหเ ดก็ รกั การเขยี น เชน ใหเ ดก็ เลอื กคาํ ทส่ี นใจจากกลอ งขนม กระปอ งสนิ คา แลว ลอกคาํ นน้ั ลงในแถบกระดาษเสยี บไวใ นกระเปา ผนงั เปน การทาํ คลงั คาํ ทเี่ ดก็ สนใจ กจิ กรรม ทายชอ่ื ชว ยใหเ ดก็ สนใจตวั พยญั ชนะตา ง ๆ ครใู ชว ธิ เี ขยี นชอ่ื เดก็ แลว ตดั ตวั อกั ษรแยกออกเปน สว น ๆ ใหเ ดก็ ทายวาเปนชื่อใครโดยเด็กแตละคนจะมีกระดาษแผนเล็ก ๆ ที่มีตัวอักษรอยู เด็กจะชวยกันเรียงใหรวมกัน เปน ชอ่ื เพอื่ นทถี่ กู ตอ ง ครพู ดู คยุ กบั เดก็ เกยี่ วกบั สง่ิ ทเ่ี หน็ ในชอื่ นนั้ เลน ตบมอื ตบจงั หวะใหเ ขา กบั จาํ นวนพยางค ในชอ่ื เปรยี บเทยี บชอ่ื เพอื่ นทมี่ ตี วั อกั ษรเหมอื นกนั กจิ กรรมทเ่ี ดก็ สนใจซงึ่ ชว ยสง เสรมิ การเขยี นของเดก็ คอื การทาํ หนงั สอื ภาพ เชน หนงั สอื รปู รถยนต หนังสือรูปขวด หนังสือสุนัข เด็กจะหาภาพที่ตรงกับลักษณะรูปรางหนังสือและเขียนคําบรรยายโดยเด็ก หดั สะกดคาํ เอง กจิ กรรมการเขยี นทส่ี อดแทรกในตารางประจาํ วนั คอื การใหเ ดก็ ทกุ คนลงลายมอื ชอื่ หรอื เซน็ ชอ่ื ทกุ เชา เมอ่ื มาถงึ โรงเรยี น และการทาํ จลุ สารของหอ งรว มกนั โดยเดก็ จะชว ยกนั เขยี นจลุ สารลงในกระดาษเปลา ทคี่ รใู ห เดก็ จะวาดภาพและทดลองสะกดคาํ ตามเสยี งอา นทเ่ี ดก็ เคยฝก มาแลว ในระยะแรกเดก็ จะเขยี นไมถ กู อาจเขยี น
16 ไดเพียงตัวอักษร 2-3 ตัว ตอไปจะพัฒนาการเขียนไดดีข้ึน ครูควรเก็บจุลสารของหองไวศึกษาพัฒนาการ ของเดก็ เมอ่ื เดก็ เรม่ิ สงั เกตบรรทดั และเขยี นเปน แถว ๆ ครคู วรเรมิ่ ขดี เสน บรรทดั ลงในกระดาษเปลา เพอื่ ใหเ ดก็ ฝก เขยี นบนเสน บรรทดั นอกจากนคี้ รคู วรจดั มมุ เขยี นเพอื่ สง เสรมิ การเขยี นของเดก็ มโี ตะ -เกา อที้ ขี่ นาดเหมาะสมกบั สรรี ะของ เดก็ ปฐมวยั และอปุ กรณใ นการฝก เขยี น เชน ดนิ สอ ปากกาลกู ลน่ื เสน ใหญ ตรายางปม ตวั หนงั สอื รอ งอกั ษร สาํ หรบั ทาบเขยี นตวั อกั ษร กระดาษเขยี นจดหมาย และซองจดหมายสวย ๆ อปุ กรณส าํ หรบั ทาํ หนงั สอื ฯลฯ (ตวั อยา ง) ตารางกจิ กรรมประจาํ วนั เพอื่ สง เสรมิ การอา น-เขยี น สาํ หรบั เดก็ ปฐมวยั เวลา กิจกรรมประจํา 08.30-08.45 น. 08.45-09.00 น. รบั เดก็ ตรวจสขุ ภาพ ไปหอ งนา้ํ ดปู ฏทิ นิ ประจาํ วนั สภาพอากาศ วนั เกดิ เลอื กผชู ว ยครปู ระจาํ วนั อารมณข องหนู 09.00-09.15 น. ในวนั น้ี 09.15-09.25 น. การอา นขา วยามเชา / การอา นใหฟ ง 09.25-09.45 น. เคลอื่ นไหว และจงั หวะ 09.45-10.00 น. กจิ กรรมการอา นรว มกนั การเขยี นรว มกนั รอ งเพลงประกอบแผนภมู เิ พลง 10.00-10.45 น. กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ ทกั ษะพน้ื ฐานคณติ ศาสตร และวทิ ยาศาสตร 10.45-11.15 น. กจิ กรรมสรา งสรรค : ศลิ ปะ ดนตรี เลน ตามมมุ 11.15-12.15 น. กจิ กรรมกลางแจง และพละศกึ ษาพน้ื ฐาน 12.15-14.00 น. ลา งมอื /พกั รบั ประทานอาหารกลางวนั 14.00-14.15 น. เตรยี มตวั พกั ผอ น-นอน 14.15-14.30 น. กจิ กรรมการอา นใหฟ ง : อา นนทิ าน/หนงั สอื เลม ใหญ 14.30-14.45 น. กจิ กรรมการอา นอสิ ระ / การเขยี นอสิ ระ / คดั ลายมอื ตามความสนใจ 14.45-15.30 น. เกมการศกึ ษา 15.30 น. พกั ผอ น – กจิ กรรมอสิ ระ กลบั บา น แนวทางการจดั กจิ กรรมการอา นแบบชแ้ี นะ (Guided Reading) 1. การเลอื กหนงั สอื เพอื่ นาํ มาใชใ นกจิ กรรมการอา นแบบชแ้ี นะ ควรเลอื กหนงั สอื ใหค รบ 2 ประเภท คอื 1.1 หนังสือที่เปนเร่ืองแตง (Fiction Books) เชน นิทาน เรื่องเลาประเภทตาง ๆ ครูควร เลอื กหนงั สอื ทต่ี วั ละครมเี อกลกั ษณ เนอื้ เรอ่ื งและการเดนิ เรอื่ งเขา ใจงา ย เปด โอกาสใหเ ดก็ คาดเดาและคดิ วเิ คราะหไ ด
17 ตัวหนังสือมีลักษณะถูกตองตามมาตรฐานใชคําซ้ํา มีคําศัพทที่เด็กควรรู รูปแบบการใชภาษาและการพิมพ ถกู ตอ งตามหลกั ภาษาไทย 1.2 หนงั สอื ทไี่ มใ ชเ รอ่ื งแตง (Non-Fiction Books) เปน หนงั สอื ทใี่ หข อ มลู เรอ่ื งราวตา ง ๆ ทเ่ี สรมิ ประสบการณเ ดก็ คาํ ศพั ทท ใี่ ชต อ งเขา ใจงา ย เปน เรอื่ งราวทแี่ วดลอ มตวั เดก็ และมลี กั ษณะเดน คอื การนาํ เสนอ ใหเ ดก็ รจู กั สบื คน รวบรวมขอ มลู ขอเสนอแนะในการจัดกิจกรรมการอานแบบชี้แนะสําหรับเด็กปฐมวัย ทอ่ี ยใู นระดบั แรกเรมิ่ (Emergent Stage) การสอนโดยใชห นงั สอื ทเี่ ปน เรอื่ งแตง หรอื นทิ าน สาํ หรบั เดก็ ปฐมวยั ทอี่ ยใู นระดบั แรกเรมิ่ ครตู อ งวางพนื้ ฐานการอา นกอ นในระยะแรกครจู ะฝก เดก็ ใหเ กดิ ความคนุ เคยกบั การเดนิ เรอ่ื งของนทิ าน และเรอ่ื งราวตา ง ๆ เดก็ จะมขี อ มลู และเรยี นรู โดยสงั เกตจากคาํ และ ภาพในหนงั สอื ครคู วรจดั ลาํ ดบั ขนั้ ตอนการวางพน้ื ฐานการอา นใหก บั เดก็ ดงั นี้ ขนั้ ที่ 1 ฝก ใหเ ดก็ สงั เกตปกหนา ของหนงั สอื พดู คยุ กบั เดก็ เกย่ี วกบั เนอ้ื เรอื่ งในหนงั สอื ตามทเ่ี ดก็ เหน็ จากปกหนา อา นชอ่ื เรอื่ ง ชอ่ื ผแู ตง และผวู าดภาพประกอบ เปด หนงั สอื ใหเ ดก็ ดทู ลี ะหนา ฝก ใหเ ดก็ เกดิ สมาธติ ดิ ตามเรอ่ื งราวโดยดจู ากภาพประกอบ พดู คยุ กับเด็กเกี่ยวกับเหตุการณที่เกิดข้ึนในเรื่อง เวน หนา สดุ ทา ยไวใ หเ ดก็ คาดเดาตอนจบของเรอ่ื ง ขนั้ ท่ี 2 อา นเรอ่ื งพรอ มกนั กบั เดก็ ขนั้ ที่ 3 ถามคําถามใหเด็กคิดวิเคราะห ประมาณ 2-3 คําถาม เชน เด็ก ๆ มีความคิดอยางไร เกยี่ วกบั ............................? ทาํ ไมจงึ คดิ เชน นน้ั ? เดก็ ๆ คดิ วา จะเกดิ อะไรขน้ึ ถา ....................... ? ขน้ั ท่ี 4 ใหเ ดก็ เลา เรอื่ งราวในนทิ านตงั้ แตต น จนจบ พดู คยุ เกย่ี วกบั ตวั ละคร ถามความคดิ เหน็ เดก็ เกยี่ วกบั ตวั ละคร พดู คยุ เกยี่ วกบั ฉากในเรอ่ื งนนั้ กระตนุ ใหเ ดก็ เชอ่ื มโยงเรอ่ื งราวจากนทิ านหรอื เรอื่ งเลา กบั ประสบการณท เี่ ดก็ มอี ยู ขนั้ ที่ 5 ใชเ นอื้ หาจากเรอ่ื งทอ่ี า นเพอื่ ฝก ภาษา โดยดคู วามสอดคลอ งกบั เปา หมายการพฒั นาภาษา ของเดก็ ในระยะแรกเรม่ิ ฝก ใหเ ดก็ คนุ เคยกบั คาํ ศพั ท รปู รา งตวั อกั ษร ลกั ษณะการออกเสยี ง การเรียงคําเปนประโยค
18 ขน้ั ท่ี 6 สนบั สนนุ ใหเ ดก็ ฝก เขยี นโดยใชห นงั สอื ทอี่ า นในแตล ะสปั ดาหเ ปน แกน เดก็ จะสะสมคาํ เปน คลงั คาํ ลงในสมดุ บนั ทกึ เลม เลก็ ของเดก็ หรอื เขยี นลงในสมดุ ภาพของกลมุ ทง้ั นเ้ี ดก็ จะใชส มดุ บนั ทกึ และสมดุ ภาพ เพอ่ื การอา นอสิ ระในระยะตอ ไป ขนั้ ท่ี 7 เปด โอกาสใหเ ดก็ มชี ว งเวลาอา นอยา งอสิ ระ ขน้ั ที่ 8 ใชห นงั สอื ทเ่ี ดก็ เรยี นรรู ว มกนั ในแตล ะสปั ดาหใ หเ ปน หนงั สอื อา นอสิ ระ เพอ่ื ใหเ ดก็ เกดิ พฒั นาการ ทางภาษาดา นการอา น-เขยี น ตามระดบั และความสามารถของเดก็ สาํ หรบั หนงั สอื ทไี่ มใ ชห นงั สอื นทิ านหรอื เรอื่ งราวทแี่ ตง ขนึ้ ครสู ามารถใชก ระบวนการเตรยี มความพรอ ม ดา นการอา นทงั้ 8 ขน้ั ตอน แตป รบั ในบางสว น เชน เวลาเปด หนงั สอื ใหเ ดก็ ดทู ลี ะหนา ครคู วรฝก ใหเ ดก็ สงั เกต ภาพถา ย หรอื ภาพวาดและพดู คยุ ขอ มลู เกย่ี วกบั ภาพทเี่ ดก็ เหน็ ในสว นของขน้ั ท่ี 4 ใหค รถู ามเดก็ วา ไดเ รยี นรู อะไรบา งจากการอา นหนงั สอื เลม น้ี และเปด โอกาสใหเ ดก็ ทบทวนขอ มลู ทเี่ ดก็ ไดร บั จากหนงั สอื ขอ เสนอแนะในการจดั กจิ กรรมการอา นแบบชแี้ นะ สาํ หรบั เดก็ ปฐมวยั ทอ่ี ยใู นระดบั ขนั้ ตน (Early Stage) การสอนโดยใชห นงั สอื ทเี่ ปน เรอื่ งแตง หรอื นทิ าน ครจู ดั กลมุ เดก็ ทมี่ คี วามสามารถในการอา นใกลเ คยี งกนั ไวด ว ยกนั ในการฝก อา นแตล ะครงั้ เดก็ จะใชห นงั สอื เหมอื นกนั ระยะเวลาในการฝก ความพรอ มในการอา น ประมาณ 10-15 นาที ขน้ั ท่ี 1 ครแู นะนาํ หนงั สอื ใหเ ดก็ สงั เกตปกหนงั สอื ใหเ ดก็ คดิ วเิ คราะหโ ดยคาดเดาจากปกหนงั สอื วา เรอื่ งราวในหนงั สอื นา จะเปน อยา งไร ใชศ พั ทเ ฉพาะสาํ หรบั หนงั สอื ใหเ ดก็ คนุ เคย เชน ชอื่ เรอื่ ง ผแู ตง ผวู าดภาพประกอบ เปด หนงั สอื ทลี ะหนา ฝก ใหเ ดก็ สงั เกตภาพประกอบ และตง้ั คาํ ถามใหเ ดก็ แสดงความคดิ เหน็ เชน เดก็ ๆ คดิ อยา งไร...................? ทาํ ไมจงึ คดิ วา ............................? ขน้ั ท่ี 2 ใหเ ดก็ อา นออกเสยี งพรอ มกนั ถา เดก็ อา นคาํ ใดไมไ ด ใหฝ ก โดยใชย ทุ ธศาสตรก ารอา นจากการ ดตู วั ชแี้ นะตา ง ๆ เชน ใหเ ดก็ สงั เกตวา คาํ นน้ั นา จะหมายถงึ อะไร การสะกดคาํ เปน อยา งไร เทยี บเคยี งความคลา ยคลงึ ของตวั อกั ษรกบั คาํ ทผ่ี า นมา เปน ตน
19 ขน้ั ที่ 3 เมอ่ื อา นจบใหเ ดก็ ฝก ทบทวนเรอ่ื งทอ่ี า น พูดคยุ เก่ยี วกบั “เคาโครงเร่ือง” ใหเ ดก็ แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ตวั ละครในเรอื่ งทอ่ี า น พดู คยุ เกยี่ วกบั สถานท/ี่ ฉาก กระตนุ ใหเ ดก็ คดิ วา ผแู ตง ตอ งการสอื่ สารอะไร แกน เรอื่ งหลกั คอื อะไร ฝก ใหเ ดก็ เทยี บเคยี งเชอ่ื มโยงเรอ่ื งในนทิ านกบั ประสบการณข องเดก็ เอง ขนั้ ท่ี 4 ใหเ ดก็ สงั เกตและเรยี นรคู าํ ศพั ท ลกั ษณะตวั อกั ษร ลกั ษณะการพมิ พท เ่ี รยี งจากซา ยไปขวา รปู แบบการเรยี งคาํ ในประโยค และการสงั เกตรบั รขู อ มลู จากภาพ ขน้ั ที่ 5 เปด โอกาสใหเ ดก็ อา นหนงั สอื นทิ านเลม นนั้ อยา งอสิ ระ ขนั้ ท่ี 6 ฝก ใหเ ดก็ จดั ระบบขอ มลู ทไ่ี ดร บั จากการอา นผา นการฝก ทกั ษะทางภาษา 3 ดา นคอื การพดู คยุ อภปิ ราย การอา น การเขยี น และการใชภ าษาประกอบเพอ่ื สอื่ สารขอ มลู ประเมนิ ผลการอา นเปน ระยะ ขน้ั ท่ี 7 ใชห นงั สอื ทฝ่ี ก อา นสาํ หรบั ใหเ ดก็ อา น-เขยี นอสิ ระ สาํ หรบั หนงั สอื ทไ่ี มใ ชน ทิ าน ขน้ั ที่ 1 ใหเ ดก็ ดชู อ่ื เรอ่ื ง ชอื่ ผแู ตง ผถู า ยภาพ ถามเดก็ วา หนงั สอื เลม นน้ี า จะเกย่ี วกบั อะไร ถามเด็กวาใครมีความรูเก่ียวกับเรื่องน้ีบาง ขน้ั ที่ 2 ฝก ใหเ ดก็ รจู กั “สารบญั ” ของหนงั สอื ถามเดก็ วา ถา เราตอ งการดเู รอ่ื ง........................... เราควรดทู ห่ี นา ไหน? ขน้ั ท่ี 3 ดภู าพถา ยในเรอ่ื งทตี่ อ เนอื่ งกนั 2-3 หนา แลว ตงั้ คาํ ถามใหเ ดก็ คดิ เกย่ี วกบั ภาพทเี่ หน็ อา นเรอ่ื งพรอ มกนั ถา เดก็ อา นคาํ ใดไมไ ด ใหใ ชย ทุ ธศาสตรก ารฝก อา น โดยใชก ารคาดเดา ความหมายของคาํ การสะกดคาํ และใชภ าพประกอบเพอ่ื ชว ยชแี้ นะ ฝก ใหเ ดก็ แกป ญ หา คาํ ทอ่ี า นไมไ ดโ ดยใชย ทุ ธศาสตรจ ากตวั ชแ้ี นะตา ง ๆ ขนั้ ท่ี 4 เมอื่ อา นจบเรอื่ ง ถามเดก็ วา ไดเ รยี นรขู อ มลู ใหมเ รอื่ งใดบา ง ขน้ั ท่ี 5, 6, 7, 8 เหมอื นกนั กบั การสอนหนงั สอื นทิ าน
20 ขอ เสนอแนะในการจดั กจิ กรรมการอา นแบบชแ้ี นะสาํ หรบั เดก็ ปฐมวยั ทอ่ี ยใู นระดบั กา วหนา (Advance Stage) การสอนโดยใชห นงั สอื ทเี่ ปน เรอื่ งแตง หรอื นทิ าน ขน้ั ท่ี 1 ครแู นะนาํ หนงั สอื อภปิ รายเกยี่ วกบั ชอื่ เรอ่ื ง ผแู ตง และภาพประกอบในหนา ปก สาํ รวจภาพประกอบใหเ ดก็ อภปิ รายเกย่ี วกบั เรอ่ื งในหนงั สอื วา นา จะเปน เรอื่ งเกยี่ วกบั อะไร ขนั้ ที่ 2 ใหเ ดก็ อา นอสิ ระ ขนั้ ท่ี 3 เดก็ รวมกลมุ พดู คยุ เกย่ี วกบั เคา โครงเรอ่ื ง ตวั ละคร ฉาก และแนวคดิ หลกั ของเรอื่ ง ขน้ั ท่ี 4 เสรมิ ประสบการณภ าษาโดยเรยี นรคู าํ ศพั ท การสะกดคาํ การเรยี งคาํ การอา น และการศกึ ษา ขอ มลู จากภาพ ขน้ั ที่ 5 รวบรวม เรยี บเรยี งขอ มลู เขยี นและวาดภาพเกยี่ วกบั เรอื่ งทอ่ี า น (ใชภ าษาและสะกดคาํ ตามท่ีเด็กคิดเอง) การสอนโดยใชห นงั สอื ทไี่ มใ ชเ รอ่ื งแตง ขน้ั ที่ 1 ศกึ ษาชอ่ื เรอื่ ง ผแู ตง ผถู า ยภาพ ถามความคดิ เดก็ วา เรอ่ื งนน้ี า จะเกยี่ วกบั อะไร ถามความรูเดิมของเด็กเก่ียวกับเร่ืองท่ีจะอาน ขน้ั ที่ 2 พดู คยุ เกยี่ วกบั เรอื่ งยอ ยในหนงั สอื ถามเดก็ วา จะหาขอ มลู เรอ่ื งนน้ั ๆ จากหนงั สอื ไดอ ยา งไร ขนั้ ที่ 3 คน หนา ทเ่ี กยี่ วกบั เรอ่ื งนนั้ โดยแสดงใหเ ดก็ เหน็ วธิ ใี ชส ารบาญคน เรอ่ื ง ขน้ั ท่ี 4 การเรยี บเรยี งขอ มลู เดก็ ๆ สามารถเรยี บเรยี งขอ มลู ไดห ลายวธิ ี เชน - ครอู า นเรอ่ื งใหเ ดก็ ฟง ทลี ะ 2-3 หนา ใหเ ดก็ ฝก ทบทวนประเดน็ สาํ คญั หรอื แนวคดิ หลกั - ใหเ วลาเดก็ อา นอสิ ระ และเปด โอกาสใหเ ดก็ พดู คยุ เกยี่ วกบั ขอ มลู ทอี่ า น ขนั้ ที่ 5 คน หาคาํ ศพั ทจ ากหนงั สอื ฝก อา น-เขยี น คาํ ทส่ี นใจ การเรยี บเรยี งคาํ ในประโยค และการเรยี นรขู อ มลู จากภาพ แผนภมู ิ แผนผงั ตา ง ๆ ขนั้ ท่ี 6 เดก็ ปฐมวยั สามารถใชข อ มลู ไดห ลายวธิ ี ขน้ึ อยกู บั เนอื้ หาในเรอ่ื งทอี่ า น เชน - อาจคน ดหู นงั สอื อน่ื ทมี่ เี รอื่ งคลา ยคลงึ กบั เรอ่ื งทอี่ า น และเปรยี บเทยี บขอ มลู ของเนอ้ื หา ในเรอื่ งนาํ เสนอขอ มลู แกเ พอื่ นในหอ ง
21 การอา นอสิ ระ (Independent Reading) การอา นอสิ ระเปน กจิ กรรมสาํ คญั ทคี่ รปู ฐมวยั ตอ งเปด โอกาสใหเ ดก็ ทกุ คน เพอื่ พฒั นาการอา น ดงั นน้ั ในหองอนุบาลจึงควรมีหนังสือและส่ิงพิมพหลากหลายเพ่ือสนองความสนใจของเด็ก ทําใหเด็กมีความสุข ในการอา นและไดฝ ก ทกั ษะการอา น สาํ หรบั เดก็ ทอี่ ยใู นระยะแรกเรม่ิ อา น และเรม่ิ ตน อา น ครคู วรใชห นงั สอื เลม ทฝ่ี ก ในกจิ กรรมการอา นรว มกนั และการอา นแบบชแี้ นะมาเปน สว นหนงึ่ ของการอา นอสิ ระ เดก็ จะเกดิ ความคนุ เคยและความมนั่ ใจ รสู กึ ประสบ ความสาํ เรจ็ เนอื่ งจาก รจู กั หนงั สอื เหลา นนั้ มากอ นแลว เมอ่ื เดก็ ผา นขน้ั เรมิ่ ตน อา นไประยะหนงึ่ และพฒั นาไปถงึ ขนั้ คลอ งแคลว ครจู งึ จะนาํ หนงั สอื ทเ่ี ดก็ ไมเ คยอา น มาใหเ ดก็ ทดลองอา น แตห นงั สอื ดงั กลา วตอ งมคี วามยากงา ยในระดบั เดยี วกบั ระดบั ความสามารถในการอา น ของเดก็ หรอื ตา่ํ กวา ระดบั ทเี่ ดก็ อา นไดเ ลก็ นอ ย เพอื่ ชว ยใหเ ดก็ มกี าํ ลงั ใจ และมคี วามทา ทายทจี่ ะอา นตอ ไป ลกั ษณะสาํ คญั ของหนงั สอื ชดุ การอา นตามระดบั ความสามารถ หนงั สอื ชดุ การอา นตามระดบั ความสามารถ เพอื่ เชอื่ มตอ การจดั การศกึ ษาปฐมวยั กบั ระดบั ประถมศกึ ษา ปท ่ี 1 ตามแนวทางการเรยี นรขู องสมอง มลี กั ษณะสาํ คญั ดงั นี้ 1. คาํ ศพั ทท ใี่ ช คาํ ศพั ทท่เี ลอื กมาใชแ ตง เรอื่ งในหนังสอื ชดุ การอา น เปนคาํ ศพั ทพืน้ ฐานที่เด็กรจู กั และใชในภาษาพูด จากชีวิตประจําวัน การเรียนรูคําโดยวิธีธรรมชาติน้ีจะทําใหเด็กคุนเคยกับตัวหนังสือและอานไดเร็วขึ้น คาํ ศพั ทพ น้ื ฐานทเี่ ดก็ ปฐมวยั รจู กั คดั เลอื กมาจากบญั ชคี าํ ศพั ทข องกรมวชิ าการ จาํ นวน 275 คาํ คาํ เหลา น้ี เดก็ จะพบบอ ย เปน คาํ ซา้ํ ทป่ี รากฏในเรอ่ื ง หนงั สอื ชดุ การอา นนจ้ี ะเพมิ่ คาํ ศพั ทใ หมแ ละความยาวของเนอื้ เรอื่ ง ตามระดบั ความสามารถในการอา นของเดก็ ซง่ึ แบง เปน 3 ระดบั คอื 1) ระดบั แรกเรม่ิ (Emergent Stage) 2) ระดบั เรมิ่ ตน (Early Stage) 3) ระดบั กา วหนา (Advance Stage) เดก็ จะเหน็ คาํ ศพั ทเ ดมิ จากเรอ่ื งราวและบรบิ ททแ่ี ตกตา งกนั เชน จากแถบขอ ความเครอื่ งหมายสญั ญาณ ภาพโฆษณา กราฟ ตาราง แผนภมู ิ รายการชอื่ ฯลฯ
22 คาํ ศพั ทพ น้ื ฐานสาํ หรบั เดก็ ปฐมวยั แบง เปน 13 หมวด รวม 275 คาํ หมวดคาํ พน้ื ฐาน ถ่ี หมวดคาํ พน้ื ฐาน ถ่ี หมวดคาํ พน้ื ฐาน ถ่ี 1. หมวดคาํ พนื้ ฐานท่ี 2. หมวดคาํ พนื้ ฐานที่ 3. หมวดคาํ ศพั ทพ น้ื ฐาน เกยี่ วกบั ตาํ แหนง – เกี่ยวกับเครือญาติ อาชพี เก่ียวกับอวัยวะ 19 (1) พอ (1) หมอ 14 (2) แม 12 (1) มอื 10 (2) คน 14 (3) พ่ี (3) ตํารวจ 19 (4) นอ ง 14 (2) ขา 8 (4) พระ 16 (5) ตา (5) ครู 15 (6) เพอ่ื น 10 (3) ปาก 7 (6) เคก 16 (7) ลงุ (7) นกั เรยี น 14 (8) ปู 7 (4) ตัว 6 (8) แมค า 12 (9) นา (9) ทหาร 14 (10) ยาย 18 (5) ตา 10 (10) ชาวนา 15 (11) ลกู (11) ในหลวง 15 (12) ยา 15 (6) จมกู 13 (12) พระราชนิ ี 14 (13) อา (13) พระเจา อยูหัว 13 (14) ปา 16 (7) นม - (14) ผูชาย 12 (15) ครอบครัว (15) ผูหญิง 13 (16) ญาติ 14 (8) หนา 14 (16) รับราชการ 12 (17) ผูปกครอง (17) ลกู จา ง 4 อนื่ ๆ สะใภ 16 (9) เทา 17 อน่ื ๆ ชา งตดั ผม 20 15 (10) หู 16 บรุ ษุ ไปรษณยี 11 (11) ฟน 17 11 (12) นวิ้ 13 12 (13) ค้ิว 12 10 (14) คอ 11 7 (15) แขน 10 17 (16) ตนี 15 16 (17) หลัง 15 1 (18) หัวเขา 13 (19) ตับ 9 17 (20) หัว 11 16 (21) ผม 8 1 (22) ศรี ษะ 15 (23) ลาํ ตวั 13 (24) อวัยวะ 9 อน่ื ๆ ................................................
23 หมวดคาํ พน้ื ฐาน ถ่ี หมวดคาํ พน้ื ฐาน ถ่ี หมวดคาํ พนื้ ฐาน ถ่ี 4. หมวดคาํ พนื้ ฐานท่ี 5. หมวดคาํ พน้ื ฐานท่ี 6. หมวดคาํ ศพั ทพ นื้ ฐาน 9 เก่ียวกบั ผลไม 10 เกยี่ วกบั เครอื่ งแตง กาย เกย่ี วกบั ดอกไม 11 15 (1) กลวย 12 (1) กางเกง 10 (1) ดอกไม 13 (2) แตงโม 14 19 (3) มะพรา ว 16 (2) เสอื้ 16 (2) ดอกเขม็ 18 (4) สม 18 4 (5) เงาะ 20 (3) เสอ้ื ผา 15 (3) กุหลาบ 5 (6) มะละกอ 17 8 (7) ชมพู 14 (4) หมวก 16 (4) มะลิ 1 (8) นอ ยหนา 11 1 (9) ฝรั่ง 12 (5) เสอ้ื กนั หนาว 16 อน่ื ๆ - จําป 13 (10) มะมว ง 20 (6) หมอน 17 - จําปา (11) ลาํ ไย 12 (12) ละมดุ 11 (7) ผา หม 14 - กลว ยไม (13) สม โอ 10 (14) ขนนุ 9 (8) มงุ 18 - พทุ ธรกั ษา (15) มะขามลางสาด 2 (9) เตียง 14 - ดอกบัว (16) องนุ (17) มะยม (10) ทนี่ อน 10 - ชวนชม อน่ื ๆ - มะไฟจนี (11) เครอ่ื งแตง กาย 7 - บานไมร โู รย - แอปเปล - มงั คดุ (12) เครื่องประดับ 9 - บานชนื่ - สัประรด - สตอบอรี อนื่ ๆ ถงุ เทา 2 - ดาวเรือง ถงุ มอื + 4 - ทานตะวนั มงุ ลวด 1 - ดอกรกั - อญั ชนั
หมวดคาํ พนื้ ฐาน 24 ถ่ี หมวดคาํ พนื้ ฐาน ถ่ี 7. หมวดคาํ พนื้ ฐานที่ ถ่ี หมวดคาํ พนื้ ฐาน 9. หมวดคาํ ศพั ทพ นื้ ฐาน 18 เก่ียวกับผัก เกี่ยวกับสัตว 19 8. หมวดคาํ พนื้ ฐานที่ 16 (1) ผกั เกยี่ วกบั อาหาร 19 (1) ไก 14 (2) พรกิ 16 (2) หมู 13 (3) มะเขอื 10 (1) ไข - (3) กระตาย 10 (4) ผกั กาด 9 (2) ขาว 8 (4) ปลา 11 (5) หญา 8 (3) นา้ํ 16 (5) นก 17 (6) ผักบุง 11 (4) ขนมปง 14 (6) แมว 9 (7) คะนา 7 (5) นาํ้ ตาล 15 (7) เตา 8 (8) กะหลาํ่ ปลี 4 (6) นา้ํ ปลา 9 (8) หมี 16 (9) ผักชี 5 (7) นม 8 (9) ปู 14 (10) ถวั ฟก ยาว 18 (8) กวยเต๋ียว 6 (10) ปลาทู 11 (11) แตงกวา 11 (9) ขา วสาร 11 (11) เปด 6 (12) แครอท 9 (10) นา้ํ สม 10 (12) ชาง 7 (13) ขา โพดออ น 10 (14) เห็ด (11) ขนม (13) เสอื 18 (15) หัวผักกาด (12) แกง (14) ลงิ 14 (16) ตน หอม อน่ื ๆ ตม จดื (15) วัว 13 (17) มะเขือเทศ (16) งู 12 อนื่ ๆ (17) จระเข 14 (18) ควาย 11 (19) นกแกว 12 (20) มา 15 (21) สงิ โต 14 (22) กวาง 13 (23) หมาปา 11 (24) กุง 10 (25) หมา (26) สัตวบก (27) สัตวเลี้ยง (28) สตั วน าํ้ (29) หมแี พนดา (30) นกเพนกวนิ (31) ยรี าฟ (32) ฮปโป (33) ผง้ึ อน่ื ๆ
25 หมวดคาํ พนื้ ฐาน ถ่ี หมวดคาํ พน้ื ฐาน ถ่ี หมวดคาํ พน้ื ฐาน ถ่ี 10. หมวดคาํ พน้ื ฐานที่ 11. หมวดคาํ พน้ื ฐานที่ 12. หมวดคาํ ศพั ทพ นื้ ฐาน 17 เกี่ยวกับสถานท่ี 9 เก่ียวกับส่ิงของ เกยี่ วกบั ยานพาหนะ 10 17 (1) โรงเรียน 18 (1) หนงั สอื 16 (1) รถ 14 (2) บา น 11 20 (3) วัด 13 (2) แปรง 14 (2) เรอื 19 (4) ตลาด 14 17 (5) ครัว 15 (3) ชอ น 15 (3) รถไฟ 16 (6) หอ ง 11 (4) จาน 13 (4) รถยนต (7) โรงพยาบาล 12 (8) ถนน 11 (5) ชาม 11 (5) เครอ่ื งบนิ (9) สวนสตั ว 2 (10) นา 1 (6) โทรทัศน 9 อน่ื ๆ จกั รยาน (11) ดนิ 4 (12) ปา (7) โตะ 14 มอเตอรไ ซค อน่ื ๆ โรงแรม (8) ของเลน 11 สามลอ ศาลา ที่พักผูโดยสาร (9) ตกุ ตา 12 (10) รม 10 (11) ประตู 14 (12) กระเปา 15 (13) ตู 11 (14) ถวย 11 (15) วิทยุ 16 (16) กระปอง 14 (17) หมอ 15 (18) ขนั 12 (19) เตา 14 (20) การต นู 13 (21) รูป 4 (22) ตเู ยน็ 17 (23) สมดุ 16 (24) ทพั พี 11 (25) ถุง 12 (26) ตะหลิว 15 (27) มดี 14 (28) สง่ิ ของ 12 (29) ของใช 14 (30) เครอื่ งมอื - (31) เตาแกส 20 (32) โทรศัพท อนื่ ๆ .............................
หมวดคาํ พน้ื ฐาน 26 ถ่ี หมวดคาํ พน้ื ฐาน ถ่ี 13. หมวดคาํ พนื้ ฐานท่ี ถ่ี หมวดคาํ พนื้ ฐาน - (59) ตดิ 1 เก่ียวกับกริยา 1 (60) รู 1 (29) ไม 2 อน่ื ๆ หวั เราะ 1 (1) ว่ิง (30) เก็บ 5 (2) มี - (31) กัด 3 (3) ไป - (32) พาย 7 (4) ก็ - (33) รอ น 10 (5) กนิ - (34) หยิบ 7 (6) ใส 6 (35) ไหว 2 (7) ขาย 1 (36) เหน็ 6 (8) เลน 8 (37) บนิ - (9) ให 7 (38) เที่ยว - (10) ชอบ 6 (39) รูจัก 4 (11) มา 2 (40) ดี 5 (12) ลา ง 3 (41) สอน 10 (13) ซอ้ื 4 (42) ตดั 2 (14) อยู 5 (43) ยิง 1 (15) ได 4 (44) ตม - (16) นอน 3 (45) อา น - (17) เลี้ยง 2 (46) กวาด 1 (18) ดู 1 (47) ไล - (19) เดนิ - (48) เปด - (20) รัก - (49) มดั 4 (21) อาบนาํ้ 10 (50) ตก - (22) ฟง 3 (51) กราบ 1 (23) นง่ั 2 (52) จับ - (24) ดมื่ 1 (53) ปลูก - (25) รอ งไห 8 (54) หา 1 (26) ฉดี ยา - (55) ขี่ 3 (27) เขียน 6 (56) พา 2 (28) กระโดด 1 (57) ขูด 4 (58) เจอ
27 2. ลกั ษณะตวั หนงั สอื ตวั อกั ษรหรอื ตวั หนงั สอื ทปี่ รากฏในหนงั สอื ชดุ การอา น จะใชล กั ษณะตวั หนงั สอื ไทยมาตรฐาน เพอื่ ให เดก็ เหน็ ตวั อยา งทถี่ กู ตอ ง ทาํ ใหเ ดก็ จดจาํ คาํ ไดง า ยขน้ึ เนอื่ งจากเดก็ เรยี นรคู าํ โดยเปรยี บเทยี บและจาํ ลกั ษณะ 3 ประการ คอื 1. รปู รา งตวั อกั ษรและคาํ 2. เสียงของคํา 3. ความหมายของคําเปรียบเทียบกับรูปภาพท่ีเห็น นอกจากรปู รา งตวั อกั ษรและคาํ หนงั สอื ชดุ การอา นตามระดบั ความสามารถจะมเี ครอื่ งหมาย ตา ง ๆ ทใ่ี ช ในการเขยี น เชน เครอื่ งหมายอญั ญประกาศ เครอื่ งหมายอศั เจรยี เครอ่ื งหมายคาํ ถาม ฯลฯ ในการอา น เขยี น และพูด เด็กจะพัฒนาความสามารถทางภาษาโดยทําความเขาใจเทียบเคียงการออกเสียงคํากับรูปราง ของคาํ ดงั นนั้ หนงั สอื ชดุ การอา นจงึ ใชค าํ คลอ งจองและคาํ ซาํ้ เพอ่ื ชว ยใหเ ดก็ เทยี บเคยี งเสยี งของคาํ ไดง า ยขน้ึ ในการเสรมิ สรา งทกั ษะพน้ื ฐานการอา น ครจู ะฝก ใหเ ดก็ สงั เกตภาพและคาํ ทปี่ รากฏในหนงั สอื ใหเ ดก็ คาดคะเนความหมายของคําโดยเทียบกับรูปภาพและสัญลักษณตาง ๆ เชน ปายสัญญาณ แผนผังคํา ประกอบภาพ รปู ถา ย ตาราง ผงั ความคดิ เกมภาษา เชน เกมตามรอย ฯลฯ 3. การวดั และประเมนิ ผล หนังสือชุดการอานตามระดับความสามารถจะมีเกมสงเสริมประสบการณภาษาอยูทายเลม เพื่อสนับสนุนใหเด็กมีความสามารถทางภาษาและการรูหนังสือท้ังดานการอานและการเขียน รวมทั้ง เปน การวดั และประเมนิ ผลทบ่ี รู ณาการเปน สว นหนงึ่ ของการเรยี นรภู าษา จดุ ประสงคส าํ คญั คอื เพอ่ื ประเมนิ ความสามารถทางภาษาของเดก็ วา อยใู นระดบั ใด พรอ มทจ่ี ะพฒั นาขนึ้ ไปสอู กี ระดบั หนงึ่ หรอื ไม กจิ กรรมทใี่ ชใ นการวดั และประเมนิ ผลระดบั ความสามารถในการเรยี นรภู าษา ประกอบดว ย 1. การสังเกต ในชวงกิจกรรมการอานรูปแบบตาง ๆ ครูจะสังเกตและรวบรวมขอมูลเกี่ยวกับ ความสนใจ ทศั นคติ หนงั สอื ทเี่ ดก็ เลอื กในการอา น-เขยี นอสิ ระ และการพดู คยุ ของเดก็ เกยี่ วกบั หนงั สอื ทตี่ นสนใจ 2. บันทึกพฤติกรรมการอาน การบันทึกพฤติกรรมการอานเปนการสังเกตเชิงลึกของครู เพื่อวิเคราะหลักษณะการอานของเด็ก เพ่ือปรับกลยุทธการสอนและจัดกิจกรรมใหเหมาะสมกับลักษณะ การเรยี นรขู องเดก็ แบบบนั ทกึ พฤตกิ รรมการอา นจะปรากฏอยใู นทา ยเลม ของหนงั สอื ชดุ การอา น 3. การตรวจสอบเปา หมายการเรยี นรู ครจู าํ เปน ตอ งตรวจสอบความสามารถในการอา นของเดก็ โดยเทยี บกบั วตั ถปุ ระสงคแ ละเปา หมายการเรยี นรขู องการอา นแตล ะระดบั จะทาํ ใหร ขู นั้ พฒั นาการในการอา น ของเดก็ และสง เสรมิ ใหเ ดก็ เกดิ ความกา วหนา ไปตามลาํ ดบั การตรวจสอบผลการเรยี นรนู ท้ี าํ ไดท งั้ แบบปากเปลา การเขยี น และการใชค าํ ประกอบภาพ 4. การเลอื กตวั อยา งอยา งงานของเดก็ ครจู ะคดั เลอื กตวั อยา งงานของเดก็ ทแ่ี สดงถงึ การรหู นงั สอื และใหเ ดก็ รวบรวมเปน ผลงานตวั อยา งรายบคุ คล
28 แบบวัดและประเมินผลเด็กปฐมวัย ตามโครงการพฒั นาคณุ ภาพในโรงเรยี นขนาดเลก็ โดยใชช ดุ การอา นตามระดบั ความสามารถ แบบประเมินความสามารถดานการอาน การเขียนและการคิดสําหรับนักเรียนในโรงเรียน ขนาดเลก็ เปน รายบคุ คล มอี ยู 3 ชดุ ดงั นี้ ชดุ ท่ี 1 สําหรับเด็กแรกเขา เปนแบบประเมินความสามารถเมื่อเริ่มเรียน ใชประเมินความสามารถ พนื้ ฐานตงั้ แตร บั เดก็ เขา เรยี น โดยประเมนิ 6 รายการ คอื 1. การจาํ แนกตวั อกั ษร 2. ความรเู กยี่ วกบั ตวั อกั ษรและเสยี งอา น 3. ความรูเก่ียวกับจํานวนตัวเลข 4. การวาดภาพตนเอง 5. การใชก ลา มเนอ้ื เลก็ และความสมั พนั ธร ะหวา งมอื กบั ตา 6. ความรูเกี่ยวกับตนเอง ชดุ ท่ี 2 สาํ หรบั เดก็ อนบุ าลปท ี่ 1 และอนบุ าลปท ่ี 2 (อายุ 4 – 5 ขวบ) ใชป ระเมนิ ความพฒั นาการ ดา นการอา นและการเขยี นในระดบั แรกเรม่ิ ระดบั ขน้ั ตน และระดบั กา วหนา โดยประเมนิ 6 รายการ คอื 1. พฒั นาการทางภาษา 2. ทศั นคตดิ า นการอา นและพฤตกิ รรมทแี่ สดงนสิ ยั รกั การอา น 3. ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับหนังสือ 4. ความเขา ใจเนอื้ เรอื่ ง 5. ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับตัวหนังสือ 6. พฒั นาการดา นการเขยี น
29 (ตัวอยาง) แบบประเมินความสามารถเม่ือเร่ิมเรียน แบบประเมินความสามารถเม่ือเริ่มเรียน 1. การจาํ แนกตวั อกั ษร สรุปการรูจักตัวอักษร = นอ ยทสี่ ดุ = นอ ย ไมร จู กั ตวั อกั ษร = ปานกลาง ระบตุ วั อกั ษรไดถ กู ตอ ง 1-5 ตวั = มาก ระบตุ วั อกั ษรไดถ กู ตอ ง 6-10 ตวั ระบตุ วั อกั ษรไดถ กู ตอ งมากกวา 10 ตวั
30 2. ความรเู กย่ี วกบั จาํ นวนตวั เลข สรุปการรูจักตัวอักษร = นอ ยทสี่ ดุ = นอ ย ไมร จู กั ตวั อกั ษร = ปานกลาง ระบตุ วั อกั ษรไดถ กู ตอ ง 1-5 ตวั = มาก ระบตุ วั อกั ษรไดถ กู ตอ ง 6-10 ตวั ระบตุ วั อกั ษรไดถ กู ตอ งมากกวา 10 ตวั
31 3. ความรเู กยี่ วกบั ตวั อกั ษรและเสยี งอา น สรุปการรูจักตัวอักษร อานออกเสียงตัวอักษรไมไดเลย = นอ ยทสี่ ดุ อา นออกเสยี งตวั อกั ษรไดถ กู ตอ ง 1-5 ตวั = นอ ย อา นออกเสยี งตวั อกั ษรไดถ กู ตอ ง 6-10 ตวั = ปานกลาง อา นออกเสยี งตวั อกั ษรไดถ กู ตอ งมากกวา 10 ตวั = มาก
32 4. การวาดภาพตวั เอง ความคิดเห็นของครู : ………...............................…………………………………………. ………...............................…………………………………………. ………...............................………………………………………….
33 5. ตดั กระดาษตามรอย จาํ นวน 1 รปู
6. ความรเู กย่ี วกบั ตนเอง 34 ไมได 1. ระบเุ พศตนเองได ได 2. บอกชอ่ื เลน ได 3. บอกชอื่ จรงิ ได 4. บอกนามสกลุ ได 5. บอกชอื่ พอ ได 6. บอกชอื่ แมไ ด สรปุ ความรเู กยี่ วกบั ตนเอง บอกได 1 – 2 ขอ = นอ ย บอกได 3 – 4 ขอ = ปานกลาง บอกได 5 – 6 ขอ = มาก
35 แบบประเมินพัฒนาการดานการอานและการเขียน สาํ หรบั ชน้ั อนบุ าลปท ่ี 1 (ระดบั แรกเรมิ่ และระดบั ขนั้ ตน ) พัฒนาการทางภาษา พบสมาํ่ เสมอ พบเปน บางครง้ั ไมพ บเลย • ออกเสยี งพยญั ชนะได • พดู ประโยคทม่ี ี 1 คาํ • พดู ประโยคทม่ี ี 2 คาํ • ระบุเสียงท่ีคุนเคยได • จาํ แนกเสยี งทค่ี ลา ยคลงึ ได • เขา ใจภาษาทคี่ นอนื่ พดู ดว ย • ทาํ ตามคาํ แนะนาํ ได ทศั นคตดิ า นการอา นและพฤตกิ รรมทแี่ สดง พบสมาํ่ เสมอ พบเปน บางครงั้ ไมพ บเลย นสิ ยั รกั การอา น • หยบิ หนงั สอื มาอา นเอง • ขอใหค รอู า นหนงั สอื ใหฟ ง ความคดิ รวบยอดเกย่ี วกบั หนงั สอื พบสมาํ่ เสมอ พบเปน บางครง้ั ไมพ บเลย • รวู า หนงั สอื มไี วส าํ หรบั อา น • ระบสุ ว นตา ง ๆ ของหนงั สอื ได เชน ดา นหนา ดา นหลงั ดา นบน และดา นลา ง • พลกิ หนา หนงั สอื ไดถ กู ตอ ง • รคู วามแตกตา งระหวา งตวั หนงั สอื และ ภาพวาด • รวู า ภาพในหนงั สอื แตล ะหนา จะสมั พนั ธก บั ตวั หนงั สอื
36 ความเขา ใจเนอื้ เรอื่ ง พบสมา่ํ เสมอ พบเปน บางครง้ั ไมพ บเลย • เลา เรอื่ งทค่ี นุ เคยยอ นกลบั ได โดยใชร ปู ภาพ ในหนงั สอื ชว ยในการเลา เรอื่ ง • เลา เรอื่ งยอ นกลบั ไดโ ดยไมใ ชร ปู ภาพชว ย • เลา เรอ่ื งยอ นกลบั ไดโ ดยใชน า้ํ เสยี งเหมอื น การอา น • เลา เรือ่ งโดยมีองคประกอบของเร่ือง - ฉาก / เหตกุ ารณ (เรม่ิ ตน เรอ่ื ง เวลา สถานท่ี ตวั ละคร) - แกน เรอ่ื ง (ปญ หาหรอื เปา หมายของ ตวั ละครหลกั ) ความคดิ รวบยอดเกยี่ วกบั ตวั หนงั สอื พบสมา่ํ เสมอ พบเปน บางครง้ั ไมพ บเลย • รวู า ตอ งอา นตวั หนงั สอื จากซา ยไปขวา • รวู า ภาษาพดู นาํ ไปเขยี นเปน ตวั หนงั สอื เพอื่ ใชอ า นได • รจู กั ตวั อกั ษรและชตี้ วั อกั ษรทปี่ รากฏ ในหนา หนงั สอื ได • รจู กั คาํ และชคี้ าํ ทป่ี รากกฎในหนา หนงั สอื ได • รจู กั สงั เกตตวั หนงั สอื หรอื ขอ ความใน สภาพแวดลอ มและสามารถอา นปา ยสญั ลกั ษณ และเครอื่ งหมายบางอยา งได • จาํ คาํ บางคาํ ทเี่ คยเหน็ ในหนงั สอื ได พฒั นาการดา นการเขยี น พบสมาํ่ เสมอ พบเปน บางครงั้ ไมพ บเลย • สนใจสาํ รวจอปุ กรณท ใ่ี ชเ ขยี นดว ยตวั เอง • พยายามเขยี นเพอื่ สอ่ื สารความหมาย โดยไมค าํ นงึ ถงึ การเขยี นทถ่ี กู ตอ ง • บอกเนอื้ เรอื่ งหรอื ประโยคทตี่ อ งการใหค รู เขยี นได
37 พฒั นาการดา นการเขยี น พบสมา่ํ เสมอ พบเปน บางครง้ั ไมพ บเลย • คดั ลอกตวั หนงั สอื หรอื คาํ • เขยี นตวั อกั ษรไดค ลา ยคลงึ กบั ตวั พยญั ชนะ • เขียนจากซายไปขวา • ใชภ าพวาดแทนการเขยี นและการวาด แบบประเมินพัฒนาการดานการอานและการเขียน สําหรับช้ันอนุบาลปท่ี 2 (ระดับกาวหนา) พัฒนาการทางภาษา พบสมา่ํ เสมอ พบเปน บางครง้ั ไมพ บเลย • พดู สอ่ื สารกบั คนอน่ื ไดอ ยา งอสิ ระ • ออกเสยี งคาํ ไดถ กู ตอ ง • รจู กั คาํ ศพั ทใ นระดบั ทเี่ หมาะสมกบั วฒุ ภิ าวะ • พดู ประโยคทสี่ มบรู ณไ ด • ใชป ระโยคทมี่ โี ครงสรา งภาษาหลากหลาย • พดู สอ่ื สารใหผ อู น่ื เขา ใจได ทศั นคตดิ า นการอา นและพฤตกิ รรมทแ่ี สดง พบสมาํ่ เสมอ พบเปน บางครง้ั ไมพ บเลย นสิ ยั รกั การอา น • ฟง อยา งตง้ั ใจเมอ่ื ครอู า นหนงั สอื ใหฟ ง • ถามคาํ ถามและพดู แสดงความเหน็ เกยี่ วกบั เรอื่ งทคี่ รอู า นใหฟ ง ความคดิ รวบยอดเกย่ี วกบั หนงั สอื พบสมาํ่ เสมอ พบเปน บางครงั้ ไมพ บเลย • รชู อื่ เรอ่ื งหนงั สอื • รชู อ่ื ผแู ตง • รชู อ่ื ผวู าดภาพประกอบ
38 ความเขา ใจเนอื้ เรอื่ ง พบสมา่ํ เสมอ พบเปน บางครงั้ ไมพ บเลย • การลาํ ดบั เนอื้ เรอ่ื ง (เหตกุ ารณท นี่ าํ ไปสู การแกป ญ หาของตวั ละครหลกั หรอื การ ท่ีตัวละครหลักบรรลุเปาหมายท่ีตั้งใจ) • ผลทปี่ รากฏ (การแกป ญ หา การบรรลุ เปา หมาย การสนิ้ สดุ เรอื่ ง) • ตอบสนองตอ เรอ่ื งทอ่ี า นโดยตงั้ คาํ ถามหรอื แสดงความคดิ เหน็ ทเ่ี กยี่ วขอ งกบั เรอื่ งทอี่ า น • มสี ว นรว มในการอา นโดยอา นตามหรอื อา น พรอ มครู เมอื่ ครอู า นเรอ่ื งใหฟ ง • เมอ่ื อา นรว มกนั สามารถเตมิ คาํ ในนทิ าน ทสี่ อดคลอ งกบั บรบิ ทได ความคดิ รวบยอดเกยี่ วกบั ตวั หนงั สอื พบสมาํ่ เสมอ พบเปน บางครงั้ ไมพ บเลย • ระบชุ อ่ื พยญั ชนะได • จบั คเู สยี งและตวั พยญั ชนะได • ถามคาํ ถามเกย่ี วกบั ชอื่ พยญั ชนะ คาํ และ เสยี งอา น • พยายามอา นโดยทาํ ทา อา นจากภาพ • พยายามอา นโดยทาํ ทา อา นจากตวั หนงั สอื • เรม่ิ ตน ใชบ รบิ ทของเรอื่ ง รปู ประโยค และ โครงสรา งภาษาเพอื่ คาดคะเนคาํ กาเครอ่ื งหมาย หนา รายการ พบสมาํ่ เสมอ พบเปน บางครงั้ ไมพ บเลย ทต่ี รงกบั การเขยี นของเดก็ • แสดงความแตกตา งระหวา งภาพวาดและ การเขียน • เขียนขีดเขี่ย • ใชร ปู แบบคลา ยตวั อกั ษรในการเขยี น
39 กาเครอื่ งหมาย หนา รายการ พบสมา่ํ เสมอ พบเปน บางครง้ั ไมพ บเลย ทตี่ รงกบั การเขยี นของเดก็ • ใชต วั อกั ษรทรี่ จู กั นาํ มาเขยี นเรยี งกนั เปน บรรทดั • ใชก ารสะกดคาํ ทค่ี ดิ ขนึ้ เองในการเขยี น • ใชก ารสะกดคาํ ทถี่ กู ตอ งในการเขยี น ชดุ ที่ 3 แบบบันทึกความสามารถในการอานรายบุคคล ใชสําหรับนักเรียนระดับปฐมวัยตอเน่ือง จนถึงช้ันประถมศึกษาปที่ 3 เปนแบบบันทึกความกาวหนาในการอานของนักเรียนต้ังแตปฐมวัยเริ่มตนจาก ระดับแรกเริ่ม ระดับขั้นตน ระดับกาวหนา ระดับเชื่อมตอกับประถมศึกษาปที่ 1 และระดับช้ันประถมศึกษา ปท่ี 1 – 3 ครูผูสอนสามารถออกแบบการเรียนรูและดูแลดานการอานของนักเรียนแตละคนใหเหมาะสมกับ ศกั ยภาพของนกั เรยี น แบบบนั ทกึ ความสามารถในการอา นรายบคุ คล ระดับแรกเร่ิม อายุ ระดับ ชอื่ หนงั สอื วนั ที่ วนั ท่ี วนั ที่ วนั ท่ี การ หนงั สอื ประเมนิ ประเมนิ ประเมนิ ประเมนิ อา น ทอี่ า น 3-4 ป 1 ดอกไมห ลากสี 2 ฉนั มปี ก 3 ทอ่ี ยขู องฉนั ทอ่ี ยขู องเธอ 4 เราจะโต 5 ลกู กระตา ยแสนซน 6 เจาหมูขี้โม 7 หนทู าํ ได 8 รถไฟ 9 หนเู หน็ อะไรเอย 10 จะ จา แตง ตวั
40 ระดับข้ันตน อายุ ระดับ ชอ่ื หนงั สอื วนั ท่ี วนั ท่ี วนั ท่ี วนั ที่ การ หนงั สอื ประเมนิ ประเมนิ ประเมนิ ประเมนิ อา น ทอี่ า น วนั ท่ี วนั ที่ วนั ที่ วนั ท่ี 5 ป 11 เปา ปจอมตะกละ ประเมนิ ประเมนิ ประเมนิ ประเมนิ 12 รองเทา 13 นมจากเตา 14 อะไรอยบู นฟา 15 อะไรอยใู นนาํ้ 16 ไขเ จยี ว 7 สี 17 ตวั อะไรกาํ ลงั มา 18 แมวขเี้ ซา 19 เลน ดนตรไี ทยกนั เถอะ 20 ตกั๊ แตนกระโดด ระดับกาวหนา อายุ ระดับ ชอ่ื หนงั สอื การ หนงั สอื อา น ทอ่ี า น 5-6 ป 21 เปาปกับปุกปก 22 นา้ํ พขุ องฉนั 23 แปรงฟน ใหเ สอื 24 ยรี าฟกบั กระรอก 25 โลกของเรา 26 เวลารอบโลก 27 เราเปน คนไทย 28 เพอื่ นเราชาวอาเซยี น 29 ลอ งลาํ โขง 30 สวสั ดี 4 ภาษา
41 เช่ือมตอระดับปฐมวัย และประถมศึกษาปท่ี 1 อายุ ระดับ ชอื่ หนงั สอื วนั ที่ วนั ที่ วนั ท่ี วนั ท่ี การ หนงั สอื ประเมนิ ประเมนิ ประเมนิ ประเมนิ อา น ทอ่ี า น วนั ท่ี วนั ท่ี วนั ท่ี วนั ท่ี 6-7 ป 1 ชมุ ชนของเรา ประเมนิ ประเมนิ ประเมนิ ประเมนิ 2 ลกู ไกเ ปลย่ี นรปู 3 หนดู รี กั การอา น 4 ฮาเฮทะเลเมืองไทย 5 ดอกไมร มิ บงึ 6 ตน ไม 7 ผงึ้ นอยไปเทย่ี ว 8 ใครทาํ ดี 9 ตาของหนนู า 10 ชา งนอ ยซกุ ซน (ข ช ซ) 11 หา นนอ ยหาแม (ท ห) 12 ลกู หมู อิ อี อึ ออื 13 ออุ ุ กบั ออู ู 14 กนิ มะระ (อะ อา) ประถมศึกษาปท่ี 1 อายุ ระดับ ชอ่ื หนงั สอื การ หนงั สอื อา น ทอ่ี า น 7 ป 1 มติ รภาพตา งสายพนั ธุ 2 เจา ปาน 3 ตวั นอ ยรอ ยขา 4 หวั ใจแหง มหาสมทุ ร 5 เพอ่ื นของปา แฉง 6 ไขเ คม็ 7 มะลเิ ดก็ ดี 8 นาํ้ มอื สะอาด
42 ประถมศึกษาปที่ 1 อายุ ระดับ ชอ่ื หนงั สอื วนั ที่ วนั ที่ วนั ท่ี วนั ท่ี การ หนงั สอื ประเมนิ ประเมนิ ประเมนิ ประเมนิ อา น ทอ่ี า น วนั ท่ี วนั ท่ี วนั ที่ วนั ท่ี 7 ป 9 เดก็ หญงิ พอใจ ประเมนิ ประเมนิ ประเมนิ ประเมนิ 10 มะลไิ ปทะเล 11 วัวของใบบัว 12 สวนของนางฟา 13 งนู อ ยตกใจ 14 ครอบครัวของลูกหมี 15 กระถนิ ชวนไปวดั 16 ชวนนอ งอา นคาํ คลอ งจอง การประวิสรรชนีย 17 แมไ กก บั ใบกะเพรา 18 กระตา ยแสนซน 19 ฟน สวยดว ย..ผกั ประถมศึกษาปท่ี 2 อายุ ระดับ ชอื่ หนงั สอื การ หนงั สอื อา น ทอี่ า น 8 ป 1 อบุ าสกสรา งถนน 2 ชา งนอ ย 3 หมาปา ผใู จบญุ 4 มดยอดกตัญู 5 สระ ไอ ใอ 6 แมม ดจอมซน 7 เลขคูเลขคี่ 8 หมบู า นแสนสขุ 9 ลูกเปดเปนหวัด 10 นกกระจาบ
43 ประถมศึกษาปท่ี 2 อายุ ระดับ ชอ่ื หนงั สอื วนั ท่ี วนั ที่ วนั ท่ี วนั ท่ี การ หนงั สอื ประเมนิ ประเมนิ ประเมนิ ประเมนิ อา น ทอ่ี า น วนั ที่ วนั ที่ วนั ที่ วนั ท่ี 8 ป 11 เตากับปูมา ประเมนิ ประเมนิ ประเมนิ ประเมนิ 12 สตั วเ ลยี้ งบา นลงุ ชยั 13 กรยิ าพาเพลนิ 14 การใชบ รรณและบนั 15 คดิ เลน ๆ เปน คาํ ๆ 16 ฝก สมอง ลองปญ ญา 17 ลกู ไกไ มเ ชอื่ พอ 18 วนั หยดุ สดุ แสนสนกุ 19 กระตา ยอยากมเี พอ่ื น 20 ฉนั เปน แม ก.กา 21 สระแปลงกาย 22 อยา แซงฉนั นะ 23 เสยี งอะไรเอย 24 ฉนั คอื อะไร 25 นางฟา ใจดี ประถมศึกษาปท่ี 3 อายุ ระดับ ชอื่ หนงั สอื การ หนงั สอื อา น ทอ่ี า น 9 ป 1 ครองแครงเที่ยวปา 2 ชีวิตปกและปอง 3 คาํ ราชาศพั ทก บั หนยู มิ้ 4 เท่ยี วไปกบั พญาวานร 5 สตั วป า พาสขุ 6 ขาวเหนียวกับขาวเจา 7 เทยี่ วตลาดนาํ้
44 ประถมศึกษาปที่ 3 อายุ ระดับ ชอื่ หนงั สอื วนั ท่ี วนั ท่ี วนั ที่ วนั ท่ี การ หนงั สอื ประเมนิ ประเมนิ ประเมนิ ประเมนิ อา น ทอี่ า น 9 ป 8 เพชรพลอยไปวดั 9 เพอื่ นรกั สขี่ า 10 การผจญภยั ของปนู อ ย การบันทึกขอมูลดานความสามารถในการอาน การเขียน การคิด และคณิตศาสตรของนักเรียนใน โรงเรยี นขนาดเลก็ ใชแ บบบนั ทกึ ประจาํ ตวั ของนกั เรยี นทสี่ รปุ ความสามารถในการอา น และคณติ ศาสตร มลี กั ษณะ ดงั น้ี
45 โครงการพฒั นาคณุ ภาพในโรงเรยี นขนาดเลก็ โดยใชช ดุ การอา นตามระดบั ความสามารถ และสอื่ เสรมิ หลกั สตู รคณติ ศาสตร โรงเรยี น........................................... สพป. ......................................................... อาํ เภอ............................................................จงั หวดั .............................................. เดก็ ชาย/เดก็ หญงิ .........................................นามสกลุ ............................................ วนั ทร่ี บั เขา เรยี น....................................................................................................
46 การประเมนิ ความสามารถเมอ่ื แรกเขา .................................................... วนั ท.่ี .................................. การจาํ แนกตวั อกั ษร............................................................................................................................. ความรเู กยี่ วกบั ตวั อกั ษรและเสยี งอา น................................................................................................... ความรเู กยี่ วกบั จาํ นวนตวั เลข................................................................................................................. การวาดภาพตนเอง................................................................................................................................... การใชก ลา มเนอ้ื เลก็ .............................................................................................................................. ความรเู กยี่ วกบั ตนเอง........................................................................................................................... ความคดิ เหน็ : ..................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ แบบบันทึกความสามารถในการอานรายบุคคล ระดับแรกเริ่ม อายุ ระดับ ชอื่ หนงั สอื วนั ที่ วนั ท่ี วนั ท่ี วนั ท่ี การ หนงั สอื ประเมนิ ประเมนิ ประเมนิ ประเมนิ อา น ทอ่ี า น 3-4 ป 1 ดอกไมห ลากสี 2 ฉนั มปี ก 3 ทอี่ ยขู องฉนั ทอ่ี ยขู องเธอ 4 เราจะโต 5 ลกู กระตา ยแสนซน 6 เจาหมูขี้โม 7 หนทู าํ ได 8 รถไฟ 9 หนเู หน็ อะไรเอย 10 จะ จา แตง ตวั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206