niddy หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นวดั พิชยั พุทธศกั ราช 2562 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 และตามมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวชวี้ ัด กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ สาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นวัดพิชยั สานักงานเขตบึงกมุ่ กรุงเทพมหานคร Website: www.wpcs.ac.th Facebook: www.facebook.com/watpichai Email: [email protected]
1 คานา หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนวัดพิชัย พุทธศักราช ๒๕62 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เป็นหลักสูตรท่ีไดพ้ ัฒนาให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ซึ่งสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ พระราชบัญญัติ การศกึ ษาแห่งชาติ พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๒ แก้ไขเพ่ิมเตมิ (ฉบบั ท่ี ๒) พุทธศักราช ๒๕๔๕ และสอดคลอ้ งกบั สภาพ ความเปล่ียนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ตลอดจนสอดคล้องกับ แนวนโยบายและความต้องการในการจัดการศึกษาของชาติ และของกรงุ เทพมหานคร ตลอดทั้งสภาพท้องถิ่น และชุมชน เป็นหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน คือ ระดับประถมศึกษา และเปล่ียนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคม ศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ซึ่งมีการประกาศใช้ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ 4 ในปีการศึกษา 2561 และช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2 และ 5 ในปีการศึกษา 2562 ตั้งแต่ปีการศึกษา 2563 เป็นตน้ ไป ใหใ้ ชใ้ นทุกชนั้ ปี ตามคาส่ังสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน ที่ 30 /2561 สงั่ ณ วันที่ 5 มกราคม 2561 และยกเลิกมาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชี้วัดสาระท่ี2การออกแบบและเทคโนโลยี และสาระที่3เทคโนโลยีสารสนเทศและการสสื่อสาร ในกลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ในปี การศกึ ษา 2561 ยกเลกิ และเปลย่ี นช่อื สาระในชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1และ 4 ปีการศึกษา 2562 ยกเลิกและ เปลี่ยนชื่อสาระ ในชั้นประถมศกึ ษาที่ 1 2 4 และ 5 ตั้งแต่ปีการศึกษา 2563 ให้ยกเลกิ และเปลี่ยนชือ่ สาระ ทุกช้ันเรียนและตั้งแต่ปีการศึกษา 2563ให้เปลี่ยนชื่อกลุ่มสาระการเรียนรู้งานอาชีพและเทคโนโลยีเป็นกลุ่ม สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เป็นกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี โดยคณะผู้บริหารและครูในสังกัดรับผิดชอบร่วมกันดาเนินการตรวจสอบ และพัฒนาหลักสูตร การศึกษาข้ันพ้ืนฐานฉบับนี้ เพ่ือเป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษาต่อไป โรงเรียนวัด พิชยั ขอขอบคุณคณะผูร้ ่วมพัฒนาหลักสูตรเปน็ อย่างยงิ่ มา ณ โอกาสนี้ โรงเรยี นวัดพิชยั ๑6 พฤษภาคม ๒๕๖2
2 คาสัง่ กระทรวงศึกษาธกิ าร ท่ี สพฐ. ๒๙๓ / ๒๕๕๑ เรอ่ื ง ใหใ้ ช้หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ เพื่อให้การจดั การศึกษาขน้ั พื้นฐาน สอดคล้องกับสภาพความเปลยี่ นแปลง ทางเศรษฐกิจ สงั คม และความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการ เป็นการสร้างกลยุทธ์ใหม่ ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ให้ สามารถตอบสนองความต้องการของบุคคล สังคมไทย ผู้เรียนมีศักยภาพในการแข่งขัน และร่วมมืออย่าง สร้างสรรค์ในสังคมโลก ปลูกฝังให้ผู้เรียนมีจิตสานึกในความเป็นไทย มีระเบียบวินัย คานึงถึงประโยชน์ ส่วนรวมและยึดม่ันในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นไปตาม เจตนารมณ์มาตรา ๘๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ และพระราชบัญญัติ การศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แกไ้ ขเพ่ิมเติม (ฉบบั ที่ ๒ ) พ.ศ. ๒๕๔๕ ฉะนั้น อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๒ และมาตรา ๑๕ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ บริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ และคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐานได้มีมติเห็นชอบให้ ใชห้ ลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ กระทรวงศึกษาธิการ จงึ ประกาศใช้หลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ดังปรากฏแนบท้ายคาส่ังน้ี แทนหลักสูตรการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ เงื่อนไขและระยะเวลาการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ให้เป็นไป ดงั น้ี ๑. โรงเรียน ต้นแบบการใช้ห ลักสูตรและโรงเรียน ท่ีมีความพ ร้อมตามรายชื่อท่ี กระทรวงศกึ ษาธกิ ารประกาศ ( ๑ ) ปีการศึกษา ๒๕๕๒ ให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ในชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๑ – ๖ และชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ และ ๔ ( ๒ ) ปีการศึกษา ๒๕๕๓ ให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๖ และชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ และ ๒ และชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ และ ๕ ( ๓ ) ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๕๔ เป็นต้นไป ให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ทุกชั้นเรียน
3 ๒. โรงเรียนท่วั ไป ( ๑ ) ปีการศึกษา ๒๕๕๓ ให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ในชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑ – ๖ และช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๑ และ ๔ ( ๒ ) ปีการศึกษา ๒๕๕๔ ให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ในชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ – ๖ และชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๑ และ ๒ และช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔ และ ๕ ( ๓ ) ต้ังแตป่ กี ารศึกษา ๒๕๕๕ เปน็ ตน้ ไป ให้ใช้หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ทุกชั้นเรียน ให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน มีอานาจในการ ยกเลิก เพ่ิมเติม เปลี่ยนแปลง หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ใหเ้ หมาะสมกบั กล่มุ เป้าหมายและวิธีการจัดการศกึ ษา ส่งั ณ วนั ท่ี ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ( นายสมชาย วงศส์ วสั ดิ์ ) รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
4 ประกาศโรงเรยี นวดั พชิ ยั เรื่อง ใหใ้ ช้หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนวัดพชิ ยั ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช 25๖2 -------------- พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2552 แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี 2) พ.ศ.2555 พร้อมกฎกระทรวงทีเ่ กี่ยวขอ้ ง และพระราชบญั ญตั กิ ารศึกษาภาคบงั คบั พ.ศ.๒๕๔๕ ม่งุ เนน้ ใหป้ ฏิรปู ระบบการ บริหารและการจัดการทางการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล โดยให้มีเอกภาพด้านนโยบาย และมี ความหลากหลายในทางปฏิบัติ มีการกระจายอานาจสู่พ้นื ทกี่ ารศึกษา สถานศกึ ษาและองค์กรสว่ นท้องถ่นิ และ กระทรวงศึกษาธิการได้มีคาสั่งให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในโรงเรียน ต้นแบบและโรงเรียนท่ีมีความพร้อมใช้หลักสูตรในปีการศึกษา 2552 และให้ใช้ในโรงเรียนท่ัวประเทศในปี การศึกษา 2553 โดยกาหนดให้สถานศึกษาพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลาง การศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ซึ่งแนวทางในการจัดทาหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดพิชัยฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 25๖๐ ตามหลักสตู รแกนกลางข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 ไดม้ ีการนามาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวช้วี ดั กลมุ่ สาระ การเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และ วัฒนธรรม ซ่ึงมีการประกาศใช้ในระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 และ 4 ในปีการศึกษา 2561 และชั้น ประถมศึกษาปีที่ 2และ 5 ในปีการศึกษา 2562 ต้งั แต่ปีการศึกษา 2563 เป็นต้นไป ให้ใชใ้ นทุกชั้นปี ตาม คาสั่งสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ท่ี 30 /2561 ส่ัง ณ วันที่ 5 มกราคม 2561ยกเลิก มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ชว้ี ัด สาระท่ี 2 ออกแบบและเทคโนโลยี และสาระท่ี 3 เทคโนโลยีสารสนเทศและ การสื่อสาร ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 คงเหลือ 2 สาระ คือสาระท่ี 1 การดารงชีวิตในครอบครัว และสาระท่ี 4 การอาชีพ เปลีย่ นชื่อสาระที่ 4 การอาชพี เปน็ สาระท่ี 2 การอาชีพ ปีการศกึ ษา 2561 ยกเลกิ และเปล่ยี นช่อื สาระในชั้น ประถมศึกษาปีท่ี 1 และ 4 ปีการศึกษา 2562 ยกเลิกและเปลี่ยนช่ือสาระในช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 2 4 และ 5ตั้งแต่ปีการศึกษา 2563 เป็นต้นไป ให้ยกเลิกและเปล่ียนชื่อสาระในทุกช้ันเรียน ต้ังแต่ปีการศึกษา 2563 ให้เปลี่ยนชื่อกลุ่มสาระการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี เป็น กลุ่มสาระ การเรียนรู้การงานอาชีพ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เป็น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ตามคาสั่งสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ท่ี 321/2561 สั่ง ณ วนั ท่ี 3พฤษภาคม 2561 ได้นากรอบของหลักสูตรแกนกลางดังกล่าวมาบรูณาการเข้ากับกรอบของหลักสูตรท้อง ถิ่น (กรุงเทพมหานคร) เพื่อนาไปสู่การพัฒนาหลักสูตรให้ดียิ่งขึ้น เหมาะสม และสอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น นามาซึง่ การพฒั นาผูเ้ รียนอยา่ งเตม็ ศักยภาพ
5 ท้ังน้ี หลักสูตรโรงเรียนได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน เม่อื วนั ที่ 12 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 25๖2 จึงประกาศใหใ้ ชห้ ลกั สตู รโรงเรียนตง้ั แต่บัดนีเ้ ปน็ ตน้ ไป ประกาศ ณ วันที่ 16 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 25๖2 (นายมติ ร เจริญวลั ย)์ (นางศรินรตั น์ ดารงสนิ ศักด)์ิ ประธานกรรมการสถานศึกษาข้ันพื้นฐานโรงเรยี นวดั พชิ ยั ผู้อานวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวดั พชิ ยั
6 สารบญั หน้า 1 เรือ่ ง คานา 2 4 คาสัง่ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ที่ สพฐ.๒๙๓/๒๕๕๑ เรื่องให้ใชห้ ลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน 7 พุทธศักราช ๒๕๕๑ 9 ประกาศโรงเรยี นวดั พิชยั 9 สว่ นนา 9 วสิ ัยทัศนข์ องหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 10 10 จดุ มงุ่ หมายของหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 10 วิสยั ทศั นโ์ รงเรียนวัดพชิ ยั 11 เปา้ ประสงค์โรงเรียนวัดพชิ ัย 12 กลยทุ ธ์ 14 สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี นและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 16 มาตรฐานการเรยี นรู้ 23 26 ตัวชวี้ ัด 28 โครงสร้างหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕51 34 สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ 41 โครงสรา้ งหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนวัดพิชยั 52 โครงสร้างเวลาเรียน 61 75 โครงสร้างหลกั สูตรช้ันปี 81 คาอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย 88 คาอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ 101 คาอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ 108 คาอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม 117 คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม(ประวัตศิ าสตร)์ 124 131 คาอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษา 157 คาอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ 169 คาอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี คาอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ คาอธบิ ายรายวชิ ากิจกรรมลดเวลาเรยี น เพิ่มเวลารู้(โตไปไมโ่ กง) คาอธบิ ายรายวิชากจิ กรรมลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลารู้(คอมพิวเตอร)์ คาอธิบายรายวิชาเพิม่ เตมิ กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน การวัดผลประเมินผลการเรยี นรู้
7 ส่วนนา ทม่ี าและความหมาย หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดพิชัย ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช ๒๕62 ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษา ขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เป็นแผนหรือแนวทาง หรือข้อกาหนดของการจัด การศึกษาของโรงเรียนวดั พิชยั ทจี่ ะใชใ้ นการจัดการเรยี นการสอนเพอ่ื พฒั นาผเู้ รียนใหม้ ีคุณภาพตามาตรฐานท่ี กาหนด มุ่งพัฒนาผู้เรยี นให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศกั ยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ โดย มุ่งหวังให้มีความสมบูรณ์ ท้ังด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา อีกท้ังมีความรู้และทักษะท่ีจาเป็นสาหรับการ ดารงชวี ติ และมคี ุณภาพไดม้ าตรฐานสากลเพอื่ การแขง่ ขันในยคุ ปัจจบุ ัน ดังน้ันหลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวดั พิชัย พุทธศักราช ๒๕62 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ จึงประกอบด้วย สาระสาคัญของหลักสูตรแกนกลาง สาระความรู้ที่เกี่ยวข้องกับชุมชนท้องถ่ิน และสาระสาคัญท่ีสถานศึกษา พฒั นาเพม่ิ เติม โดยจัดเป็นสาระการเรียนรรู้ ายวิชาพื้นฐานตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด และสาระการ เรียนรู้รายวิชาเพ่ิมเติม จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นรายปีในระดับประถมศึกษา และกาหนดคุณลักษณะอัน พงึ ประสงค์ของสถานศึกษาตามคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ของหลักสตู รแกนการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ๑. ความนา กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้หลักสูตรการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ ให้เป็น หลักสูตรแกนกลางของประเทศ โดยกาหนดจุดหมาย และมาตรฐานการเรยี นรู้เปน็ เปา้ หมายและกรอบทิศทาง ในการพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี นให้เป็นคนดี มปี ญั ญา มีคณุ ภาพชวี ิตทด่ี ีและมขี ีดความสามารถในการแขง่ ขนั ในเวที ระดับโลก (กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๔๔) พร้อมกันนี้ได้ปรับกระบวนการพัฒนาหลักสูตรให้มีความสอดคล้อง กับเจตนารมณ์แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ ท่ีมุ่งเน้นการกระจายอานาจทางการศึกษาให้ทอ้ งถ่ินและสถานศกึ ษาได้มีบทบาทและมสี ่วนร่วมในการ พฒั นาหลักสตู ร เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของทอ้ งถน่ิ (สานักนายกรัฐมนตรี, ๒๕๔๒) จากการวิจัย และติดตามประเมินผลการใช้หลักสูตรในช่วงระยะ ๖ ปีท่ีผ่านมา (สานักวิชาการ และมาตรฐานการศึกษา, ๒๕๔๖ ก., ๒๕๔๖ ข., ๒๕๔๘ ก., ๒๕๔๘ ข.; สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, ๒๕๔๗; สานักผู้ตรวจราชการและติดตามประเมินผล, ๒๕๔๘; สุวิมล ว่องวาณิช และ นงลักษณ์ วิรัชชัย, ๒๕๔๗; Nutravong, ๒๐๐๒; Kittisunthorn, ๒๐๐๓ พบว่า หลักสูตรการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ มจี ุดดหี ลายประการ เช่น ชว่ ยส่งเสริมการกระจายอานาจทางการศึกษาทาใหท้ อ้ งถ่ินและสถานศกึ ษามี ส่วนร่วมและมีบทบาทสาคัญในการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของท้องถ่ิน และมีแนวคิด และหลักการในการส่งเสริมการพัฒนาผู้เรยี นแบบองค์รวมอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามผลการศกึ ษาดังกล่าวยัง ได้สะทอ้ นใหเ้ หน็ ถึงประเด็นท่ีเป็นปัญหาและความไม่ชัดเจนของหลักสตู รหลายประการทัง้ ในส่วนของเอกสาร หลักสูตร กระบวนการนาหลกั สตู รสู่การปฏบิ ัติ และผลผลิตทเี่ กดิ จากการใช้หลักสูตร ได้แก่ ปญั หาความสบั สน ของผู้ปฏิบัติในระดับสถานศึกษาในการพัฒนาหลกั สูตรสถานศึกษา สถานศึกษาส่วนใหญ่กาหนดสาระและผล การเรยี นรทู้ ่ีคาดหวังไว้มาก ทาใหเ้ กดิ ปัญหาหลกั สูตรแน่น การวัดและประเมนิ ผลไมส่ ะทอ้ นมาตรฐาน ส่งผล ต่อปัญหาการจัดทาเอกสารหลักฐานทางการศึกษาและการเทียบโอนผลการเรียน รวมท้ังปัญหาคุณภาพของ ผเู้ รยี นในดา้ นความรู้ ทกั ษะ ความสามารถและคุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงคอ์ ันยังไมเ่ ป็นท่ีนา่ พอใจ
8 นอกจากนั้นแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี ๑1 ( พ.ศ. ๒๕๕5 – ๒๕๕9) ยัง ระบุว่าประเทศไทยต้องเผชิญกับกระแสการเปลี่ยนแปลงที่สาคัญท้ังภายในและภายนอกประเทศที่ เปล่ียนแปลงรวดเร็วและซับซ้อนมากยิ่งขึ้นเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยงต่อการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะข้อ ผูกพันที่จะเป็นประชาคมอาเซียนในพ.ศ. 2558 จึงจาเป็นต้องวางแผนทางการศึกษาเพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกัน ให้สังคมไทยเข้มแข็ง และมุ่งพัฒนาให้คนไทยเป็นคนมีคุณธรรม เรียนรู้ตลอดชีวิต มีทักษะการดารงชีวิต อย่างเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย สถาบันทางสังคมและชุมชนท้องถ่ินมีความเข้มแข็ง สามารถปรับตัวรู้เท่าทัน กับการเปล่ียนแปลง (สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, ๒๕๔๙) ซ่ึงแนวทางดังกล่าวสอดคล้องกับ นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการในการพัฒนาเยาวชนของชาติเข้าสู่โลกยุคศตวรรษที่ ๒๑ โดยมุ่งส่งเสริม ผ้เู รียนมีคณุ ธรรม รกั ความเป็นไทย ให้มีทักษะการคิดวิเคราะห์ สร้างสรรค์ มที ักษะด้านเทคโนโลยี สามารถ ทางานร่วมกับผูอ้ ่นื และสามารถอยรู่ ว่ มกบั ผู้อื่นในสงั คมโลกได้อยา่ งสนั ติ (กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๕๑) จากข้อค้นพบในการศึกษาวิจัยและติดตามผลการใช้หลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ ที่ผ่านมา ประกอบกับข้อมูลจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี ๑1 เก่ียวกับ แนวทางการพัฒนาคนในสังคมไทย และจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการใน การพัฒนาเยาวชนสู่ศตวรรษที่ ๒๑ จึงเกิดการทบทวนหลักสูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔เพื่อนาไปสู่การพัฒนาหลักสูตร แกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ที่มีความเหมาะสม ชัดเจน ทั้งเป้าหมายของหลักสูตรใน การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และกระบวนการนาหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติในระดับเขตพื้นท่ีการศึกษาและ สถานศึกษา โดยได้มีการกาหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัดท่ีชัดเจน เพื่อใช้เป็นทิศทางในการจัดทาหลักสูตร การเรียนการสอนในแต่ละ ระดับ นอกจากนั้นได้กาหนดโครงสร้างเวลาเรียนขั้นต่าของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ในแต่ละชั้นปีไว้ใน หลักสูตรแกนกลาง และเปิดโอกาสให้สถานศึกษาเพ่ิมเติมเวลาเรียนได้ตามความพร้อมและจุดเน้น อีกท้ังได้ ปรับกระบวนการวัดและประเมนิ ผลผเู้ รียน เกณฑ์การจบการศึกษาแตล่ ะระดบั และเอกสารแสดงหลกั ฐานทาง การศึกษาใหม้ คี วามสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นรู้ และมคี วามชัดเจนต่อการนาไปปฏิบัติ เอกสารหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560 นี้ จัดทาขึ้นตามคาส่ังตามคาสั่งสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ท่ี 30 /2561 ส่ัง ณ วันท่ี 5 มกราคม 2561 โดยมีการเปล่ียนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ซ่ึงมีการ ประกาศใช้ในระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 และ 4 ในปีการศึกษา 2561 และชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2และ 5 ในปีการศึกษา 2562 ต้ังแต่ปีการศึกษา 2563 เป็นต้นไปสาหรับท้องถ่ินและสถานศึกษาได้นาไปใช้เป็น กรอบและทิศทางในการจัดทาหลักสูตรสถานศึกษา และจัดการเรียนการสอนเพ่ือพัฒนาเด็กและเยาวชนไทย ทุกคนในระดับการศึกษาขัน้ พ้ืนฐานให้มคี ุณภาพดา้ นความรู้ และทักษะที่จาเป็นสาหรบั การดารงชีวติ ในสงั คมที่ มกี ารเปล่ียนแปลง และแสวงหาความรเู้ พื่อพัฒนาตนเองอย่างตอ่ เน่ืองตลอดชีวิต มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดท่ีกาหนดไว้ในเอกสารนี้ ช่วยทาให้หน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ในทุก ระดับเห็นผลคาดหวังที่ต้องการในการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนท่ีชัดเจนตลอดแนว ซึ่งจะสามารถช่วยให้ หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องในระดับท้องถิ่นและสถานศึกษาร่วมกันพัฒนาหลักสูตรได้อย่างมั่นใจ ทาให้การจัดทา หลกั สูตรในระดบั สถานศกึ ษามคี ุณภาพและมคี วามเปน็ เอกภาพยิง่ ขนึ้ อกี ท้งั ยงั ชว่ ยให้เกิดความชดั เจนเรื่องการ วัดและประเมินผลการเรียนรู้ และช่วยแก้ปัญหาการเทียบโอนระหว่างสถานศึกษา ดังนั้นในการพัฒนา
9 หลักสูตรในทกุ ระดบั ตง้ั แตร่ ะดับชาตจิ นกระท่ังถึงสถานศึกษา จะต้องสะท้อนคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชว้ี ัดทกี่ าหนดไว้ในหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน รวมทงั้ เป็นกรอบทิศทางในการจัดการศึกษา ทุกรูปแบบ และครอบคลุมผเู้ รียนทุกลุ่มเป้าหมายในระดบั การศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน การจดั หลกั สตู รการศึกษาขั้นพนื้ ฐานจะประสบความสาเรจ็ ตามเปา้ หมายท่ีคาดหวงั ได้ ทกุ ฝ่ายที่ เก่ียวข้องท้ังระดบั ชาติ ชมุ ชน ครอบครวั และบคุ คลตอ้ งรว่ มรับผิดชอบ โดยรว่ มกันทางานอย่างเปน็ ระบบ และ ตอ่ เนอื่ ง ในการวางแผน ดาเนินการ สง่ เสรมิ สนับสนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรบั ปรุงแกไ้ ข เพือ่ พัฒนาเยาวชน ของชาติไปส่คู ุณภาพตามมาตรฐานการเรยี นร้ทู ่ีกาหนดไว้ การจัดหลักสูตรโรงเรียนวัดพิชัย ได้ดาเนินการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับหลักสูตร แกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน โดยเช่ือมกบั หลกั สูตรท้องถนิ่ หรือกรงุ เทพศกึ ษา การจัดการศึกษาของหลักสูตร โรงเรียนวัดพิชยั จะประสบความสาเร็จตามจดุ หมายของหลักสตู รได้นัน้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้เกีย่ วข้อง ท้งั ผบู้ ริหาร ครู ผ้ปู กครอง ชุมชน คณะกรรมการสถานศกึ ษา และผปู้ กครองเครือขา่ ย ตลอดทั้งผ้บู ังคบั บัญชา หนว่ ยงานต้นสงั กดั 2.วสิ ัยทัศน์ของหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ซ่ึงเป็นกาลังของชาติให้เป็น มนษุ ย์ทม่ี คี วามสมดุลท้ังดา้ นรา่ งกาย ความรู้ คุณธรรม มจี ติ สานึกในความเป็นพลเมอื งไทยและเป็นพลโลก ยึด มัน่ ในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมุข มีความร้แู ละทักษะพืน้ ฐาน รวมท้ังเจตคติท่ีจาเป็นต่อการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็น สาคญั บนพืน้ ฐานความเชือ่ ว่า ทุกคนสามารถเรยี นรูแ้ ละพฒั นาตนเองไดเ้ ต็มตามศกั ยภาพ 3.จุดหมายของหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 หลักสูตรโรงเรียนวัดพิชัย ดาเนินการตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 มงุ่ พัฒนาผู้เรียนให้เปน็ คนดี มีปัญญา มคี วามสุข มีศกั ยภาพในการศึกษาตอ่ และประกอบอาชีพ จึง กาหนดเปน็ จุดหมายเพอื่ ให้เกดิ กบั ผู้เรยี นเม่ือจบการศึกษาข้ันพ้นื ฐานดงั นี้ ๑. มคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรมและค่านิยมทพี่ ึงประสงค์เหน็ คุณคา่ ของตนเองมีวนิ ัยและปฏิบตั ติ น ตามหลักธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาที่ตนนบั ถือยดึ หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ๒. มคี วามร้คู วามสามารถในการสือ่ สารการคิดการแกป้ ญั หาการใชเ้ ทคโนโลยีและมีทกั ษะชีวติ ๓. มสี ุขภาพกายและสุขภาพจติ ท่ีดีมีสขุ นิสัยและรักการออกกาลังกาย ๔. มคี วามรักชาติมจี ติ สานึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลกยดึ มัน่ ในวถิ ชี ีวติ และ การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ ๕. มีจติ สานึกในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทยการอนุรักษ์และพัฒนาสงิ่ แวดล้อม มีจิตสาธารณะทมี่ ุ่งทาประโยชน์และสร้างส่ิงท่ีดงี ามในสงั คมและอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมอยา่ งมีความสุข 3.วสิ ยั ทัศนโ์ รงเรียน พัฒนามาตรฐานการศกึ ษา ใฝ่เรยี นรู้ คคู่ ณุ ธรรม นาเทคโนโลยีพฒั นาการเรียนรู้ พันธกิจ
10 โรงเรยี นวัดพชิ ยั บริหารจดั การเพอื่ ใหก้ ารศกึ ษาบรรลวุ สิ ัยทศั นข์ องโรงเรยี นและนาไปสกู่ าร วางแผนปฏิบัติการดังน้ี 1. พัฒนาสถานศกึ ษาให้ได้มาตรฐานการศกึ ษา 2. พฒั นานักเรยี นให้มีความรู้ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม 3. พฒั นาเทคโนโลยมี าใชใ้ นการจดั การเรียนรู้ เป้าประสงค์ โรงเรียนได้มาตรฐานการศึกษา นกั เรยี นมคี วามรู้ คคู่ ุณธรรม ร้เู ทา่ ทนั เทคโนโลยี กลยุทธ์ 1. ส่งเสรมิ สนบั สนุน การพัฒนาสถานศึกษาใหไ้ ด้มาตรฐานการศึกษา 2. ส่งเสริมการพฒั นาผเู้ รยี นใหเ้ ป็นผใู้ ฝร่ ู้ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม 3. ส่งเสรมิ ผเู้ รียนใช้เทคโนโลยใี นการแสวงหาความรู้ 4. ส่งเสรมิ ใหผ้ เู้ รียนมคี วามรู้ และสามารถปรบั ตวั เข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้ 4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ในการพัฒนาผเู้ รียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐานม่งุ เนน้ พฒั นาผเู้ รียนใหม้ ีคณุ ภาพตาม มาตรฐานท่กี าหนดซงึ่ จะชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นเกิดสมรรถนะสาคญั และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ดงั นี้ สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน หลกั สูตรโรงเรยี นวัดพชิ ัย ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐานมงุ่ ใหผ้ ูเ้ รียนเกิดสมรรถนะ สาคญั ๕ ประการดังนี้ ๑. ความสามารถในการส่ือสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสารมีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา ถ่ายทอ ดความคิ ดความรู้ความเข้ าใจ ความรู้สึ กและทั ศนะของตนเอ งเพ่ื อ แล กเปลี่ยนข้ อมูล ข่าวสาร แล ะ ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคมรวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัด และลด ปัญหาความขัดแย้งต่างๆการเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการ เลือกใชว้ ิธีการสอื่ สารที่มีประสิทธิภาพโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบทีม่ ตี ่อตนเองและสังคม ๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์การคิดสังเคราะห์การคิดอย่าง สรา้ งสรรค์การคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณและการคิดเปน็ ระบบเพอื่ นาไปสกู่ ารสรา้ งองคค์ วามรหู้ รอื สารสนเทศเพอื่ การตัดสนิ ใจเกีย่ วกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆที่เผชิญได้ อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผลคุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศเข้าใจ ความสัมพันธ์และการ เปล่ียนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆในสังคมแสวงหาความรู้ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา และมกี ารตัดสนิ ใจทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบท่เี กดิ ขึ้นต่อตนเองสงั คมและส่ิงแวดลอ้ ม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่างๆไปใช้ในการ ดาเนินชีวิตประจาวนั การเรยี นรู้ด้วยตนเองการเรียนรู้อย่างต่อเน่ืองการทางานและการอยรู่ ่วมกันในสังคมด้วย การสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคลการจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่างๆ อย่างเหมาะสมการ
11 ปรบั ตวั ใหท้ ันกับการเปล่ียนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อมและการรู้จกั หลีกเลี่ยงพฤตกิ รรมไม่พงึ ประสงค์ ท่ีสง่ ผลกระทบต่อตนเองและผอู้ นื่ ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยีด้านต่างๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยีเพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้การส่ือสารการ ทางานการแกป้ ัญหาอย่างสรา้ งสรรค์ถกู ต้องเหมาะสมและมีคุณธรรม 5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ หลักสตู รโรงเรียนวดั พิชัย ดาเนินการตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมี ความสขุ ในฐานะเปน็ พลเมืองไทยและพลโลกดังน้ี ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ๒. ซอ่ื สัตย์สุจรติ ๓. มวี ินยั ๔. ใฝเ่ รยี นรู้ ๕. อยู่อย่างพอเพยี ง ๖. ม่งุ ม่นั ในการทางาน ๗. รกั ความเปน็ ไทย ๘. มจี ิตสาธารณะ ๖. มาตรฐานการเรยี นรู้ การพัฒนาผู้เรียนให้เกิดความสมดุลต้องคานึงถึงหลักพัฒนาการทางสมองและพหุปัญญา หลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐานจึงกาหนดใหผ้ เู้ รียนเรยี นรู้ ๘ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ดงั น้ี ๑. ภาษาไทย ๒. คณติ ศาสตร์ ๓. วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๔. สังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ๕. สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ๖. ศิลปะ ๗. การงานอาชพี ๘. ภาษาตา่ งประเทศ ในแตล่ ะกลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้กาหนดมาตรฐานการเรยี นรเู้ ป็นเปา้ หมายสาคัญของการพฒั นา คุณภาพผู้เรยี นมาตรฐานการเรียนรู้ระบุสง่ิ ที่ผู้เรียนพึงรปู้ ฏิบตั ิได้มีคุณธรรมจริยธรรมและค่านิยมที่พงึ ประสงค์ เม่ือจบการศึกษาขั้นพื้นฐานนอกจากนั้นมาตรฐานการเรียนรู้ยังเป็นกลไกสาคัญ ในการขับเคลื่อนพัฒนา การศึกษาทั้งระบบเพราะมาตรฐานการเรยี นรู้จะสะท้อนให้ทราบว่าต้องการอะไรจะสอนอย่างไรและประเมิน อย่างไรรวมท้ังเป็นเคร่ืองมือในการตรวจสอบเพ่ือการประกันคุณภาพการศึกษาโดยใช้ระบบการประเมิน คุณภาพภายในและการประเมินคุณภาพภายนอกซ่ึงรวมถึงการทดสอบระดับเขตพ้ืนที่การศึกษาและการ
12 ทดสอบระดับชาติระบบการตรวจสอบเพ่ือประกันคุณภาพดังกล่าวเป็นสิ่งสาคัญท่ีช่วยสะท้อนภาพการจัด การศกึ ษาว่าสามารถพัฒนาผ้เู รียนใหม้ คี ณุ ภาพตามทีม่ าตรฐานการเรยี นรู้กาหนดเพียงใด ๗. ตวั ชวี้ ัด ตัวช้ีวัดระบุสิ่งท่ีนักเรียนพึงรู้และปฏิบัติได้ รวมท้ังคุณลักษณะของผู้เรียน ในแต่ละระดับช้ันซ่ึง สะท้อนถึงมาตรฐานการเรียนรู้มีความเฉพาะเจาะจงและมีความเป็นรูปธรรมนาไปใช้ในการกาหนดเน้ือหา จัดทาหน่วยการเรียนรู้จัดการเรียนการสอนและเป็นเกณฑ์สาคัญสาหรับการวัดประเมินผลเพ่ือตรวจสอบ คุณภาพผู้เรียน ตวั ชี้วดั ช้ันปี เปน็ เปา้ หมายในการพัฒนาผูเ้ รียนแต่ละชั้นปีในระดบั การศกึ ษาภาคบงั คับ ( ประถมศึกษาปที ่ี ๑ – ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 ) หลกั สูตรโรงเรียนวัดพชิ ัย ได้มกี ารกาหนดรหัสกากบั มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ชว้ี ดั เพอ่ื ความเขา้ ใจ และใหส้ อื่ สารตรงกันดงั นี้ ว ๑.๑ ป. ๑/๒ ป.๑/๒ ตัวชี้วัด ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๑ ข้อที่ ๒ ๑.๑ สาระท่ี ๑ มาตรฐานขอ้ ท่ี ๑ ว กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ๘. สาระการเรยี นร้พู ้นื ฐาน สาระการเรยี นร้ปู ระกอบด้วยองคค์ วามรู้ทกั ษะหรอื กระบวนการเรียนรู้และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ซงึ่ กาหนดให้ผู้เรยี นทกุ คนในระดับการศึกษาข้ันพ้นื ฐานจาเป็นต้องเรียนรู้โดยแบ่งเป็น ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ดงั นี้ องคค์ วามรู้ ทกั ษะสาคัญ และคุณลกั ษณะ ในหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน ภาษาไทย : ความรู้ทักษะและวัฒนธรรมการใช้ภาษาเพื่อการส่ือสารความช่ืนชมการเห็นคุณค่าภูมิ ปัญญาไทยและภูมิใจในภาษาประจาชาติ คณติ ศาสตร์ : การนาความรูท้ ักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปใช้ในการแกป้ ัญหาการดาเนิน ชีวติ และศกึ ษาต่อการมีเหตุมีผลมเี จตคติทดี่ ีต่อคณติ ศาสตรพ์ ฒั นาการคิดอยา่ งเป็นระบบและสร้างสรรค์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี : การนาความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ไปใช้ในการศึกษา ค้นคว้าหาความรู้และแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลคิดวิเคราะห์คิดสร้างสรรค์และ จติ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม : การอยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างสันติสุขการเป็น พลเมืองดีศรัทธาในหลักธรรมของศาสนาการเห็นคุณค่าของทรัพยากรและส่งิ แวดล้อมความรักชาติและภูมิใจ ในความเปน็ ไทย สุขศึกษาและพลศึกษา : ความรู้ทักษะและเจตคติในการสรา้ งเสริมสุขภาพพลานามัยของตนเองและ ผอู้ ่ืนการปอ้ งกันและปฏิบัติต่อส่งิ ต่างๆท่ีมีผลตอ่ สขุ ภาพอย่างถูกวธิ แี ละทักษะในการดาเนินชีวิต ศิลปะ : ความรู้และทักษะในการคิดริเร่ิมจินตนาการสรา้ งสรรค์งานศลิ ปะสุนทรยี ภาพและการเห็น คุณคา่ ทางศลิ ปะ
13 การงานอาชีพ : ความรู้ทักษะและเจตคติในการทางานการจัดการการดารงชีวิตการประกอบอาชีพ และการใชเ้ ทคโนโลยี ภาษาตา่ งประเทศ : ความรทู้ กั ษะเจตคตแิ ละวฒั นธรรมการใชภ้ าษาต่างประเทศในการสอ่ื สารการ แสวงหาความรแู้ ละการประกอบอาชพี กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น ๑. กิจกรรมแนะแนว ๒. กิจกรรมลกู เสือ / ยวุ กาชาด / สงั คมและสาธารณประโยชน์ ๓. กิจกรรมทกั ษะชีวติ / ชมรม กจิ กรรมเพิม่ เตมิ ๑. กิจกรรมภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอื่ สาร ๒. กจิ การการสือ่ สารภาษาจนี 3. กิจกรรมเสรมิ ทักษะ(ดนตร,ี กฬี า)
14 โครงสรา้ งหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 วิสยั ทศั น์ หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน มงุ่ พัฒนาผเู้ รียนทกุ คน ซึง่ เปน็ กาลงั ของชาตใิ ห้เปน็ มนุษย์ทมี่ คี วามสมดุล ทงั้ ด้านรา่ งกาย ความรู้ คณุ ธรรม มจี ติ สานึกในความเป็นพลเมืองไทยและเปน็ พลโลก ยดึ มนั่ ในการปกครองตาม ระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข มคี วามรู้และทกั ษะพืน้ ฐาน รวมทง้ั เจตคติ ท่จี าเปน็ ต่อ การศึกษาต่อ การประกอบอาชพี และการศึกษาตลอดชีวติ โดยมุ่งเน้นผเู้ รยี นเปน็ สาคัญบนพนื้ ฐานความเชอ่ื ว่า ทกุ คนสามารถเรียนรแู้ ละพัฒนาตนเองไดเ้ ตม็ ตามศักยภาพ จดุ หมาย 1. มคี ณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมท่พี งึ ประสงค์ เห็นคณุ คา่ ของตนเอง มวี นิ ยั และปฏบิ ตั ติ นตาม หลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาทต่ี นนบั ถือ ยดึ หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 2. มคี วามรอู้ ันเปน็ สากลและมคี วามสามารถในการสื่อสาร การคดิ การแก้ปญั หา การใชเ้ ทคโนโลยแี ละมี ทกั ษะชีวติ 3. มสี ขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ทดี่ ี มสี ุขนิสัย และรักการออกกาลังกาย 4. มคี วามรกั ชาติ มจี ติ สานกึ ในความเปน็ พลเมอื งไทยและพลโลก ยดึ มน่ั ในวถิ ีชวี ิตและ การปกครองใน ระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมุข 5. มจี ติ สานกึ ในการอนรุ ักษ์วัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาไทย การอนุรกั ษแ์ ละพฒั นาส่งิ แวดล้อม มจี ติ สาธารณะ ท่มี งุ่ ทาประโยชนแ์ ละสรา้ งส่ิงทด่ี ีงามในสงั คม และอยรู่ ว่ มกันในสงั คมอยา่ งมคี วามสขุ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 1. รกั ชาตศิ าสน์ กษัตรยิ ์ 2. ซื่อสตั ยส์ ุจรติ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 3. มวี ินัย 4. ใฝเ่ รียนรู้ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. อยู่อยา่ งพอเพียง 6. มุง่ มนั่ ในการทางาน 7. รักความเปน็ ไทย 8. มจี ติ สาธารณะ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชี้วดั 8 กล่มุ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น 1. ภาษาไทย 2. คณิตศาสตร์ 3. วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑.กจิ กรรมแนะแนว 4. สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 5. สุขศึกษาและพลศกึ ษา ๒.กิจกรรมนกั เรียน 6. ศลิ ปะ 7. การงานอาชพี 8. ภาษาต่างประเทศ ๓. กจิ กรรมเพอื่ สงั คมและ สาธารณประโยชน์ คุณภาพของผเู้ รยี นระดับการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน
15 แต่ละกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ในหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐานฯ ได้กาหนดองคค์ วามรู้ ทักษะสาคญั และคณุ ลกั ษณะทส่ี าคญั ที่เปน็ จดุ เนน้ ในการพัฒนาผเู้ รียน ดังนี้ ภาษาไทย : ความรู้ ทกั ษะและ คณิตศาสตร์ : การนาความรทู้ ักษะและ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี: การนา วัฒนธรรมการใชภ้ าษา เพ่ือการ กระบวนการทางคณิตศาสตรไ์ ปใช้ในการ ความรแู้ ละกระบวนการทาง สอ่ื สาร ความชน่ื ชมการเหน็ คณุ คา่ แก้ปัญหา การดาเนนิ ชวี ติ และศกึ ษาตอ่ วทิ ยาศาสตร์ไปใช้ในการศกึ ษา คน้ คว้า ภูมิปญั ญาไทยและภมู ใิ จในภาษาประจา การมเี หตมุ ผี ล มีเจตคติทดี่ ีตอ่ หาความรู้ และแก้ปญั หาอยา่ งเปน็ ระบบ ชาติ คณติ ศาสตร์ พฒั นาการคดิ อยา่ งเป็น การคดิ อยา่ งเป็นเหตุเป็นผล คดิ ระบบและสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ คิดสร้างสรรค์ จิต วทิ ยาศาสตร์และการใชเ้ ทคโนโลยี ภาษาตา่ งประเทศ: ความรู้ทกั ษะ องค์ความรู้ ทักษะสาคญั สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม : เจตคติ และวฒั นธรรม การใชภ้ าษา และคณุ ลกั ษณะ การอยูร่ ่วมกนั ในสังคมไทยและสงั คมโลก ต่างประเทศในการส่ือสาร การ อยา่ งสนั ติสขุ การเป็นพลเมืองดี ศรทั ธา แสวงหาความรู้ และการประกอบ ในหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา ในหลักธรรมของศาสนา การเห็นคณุ คา่ อาชพี ข้ันพ้ืนฐาน ของทรัพยากรและสงิ่ แวดล้อม ความรัก ชาติ และภูมใิ จในความเปน็ ไทย การงานอาชพี : ความรู้ ทกั ษะ และ ศลิ ปะ : ความรแู้ ละทักษะใน สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา: ความรู้ ทักษะ เจตคตใิ นการทางาน การจดั การ การคดิ รเิ รมิ่ จินตนาการ และเจตคตใิ นการสรา้ งเสริมสุขภาพ การดารงชวี ติ การประกอบอาชพี สรา้ งสรรคง์ านศิลปะ พลานามยั ของตนเองและผู้อื่น การ สนุ ทรียภาพและการเห็นคุณคา่ ปอ้ งกนั และปฏบิ ตั ติ อ่ สิ่งต่างๆ ทม่ี ผี ล ทางศิลปะ ตอ่ สขุ ภาพอยา่ งถกู วธิ ีและทกั ษะ ในการดาเนนิ ชวี ิต
16 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน กาหนดมาตรฐานการเรียนรใู้ น ๘ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ จานวน 5๗ มาตรฐาน ดงั น้ี ภาษาไทย สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคิดเพื่อนาไปใชต้ ดั สนิ ใจแก้ปัญหา ในการดาเนนิ ชวี ติ และมีนสิ ัยรกั การอา่ น สาระท่ี ๒ การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขยี นสอื่ สารเขียนเรยี งความย่อความและเขียนเรอ่ื งราว ในรปู แบบต่างๆเขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้า อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดอู ย่างมวี ิจารณญาณและพูดแสดงความรู้ความคดิ ความรู้สกึ ในโอกาสตา่ งๆอยา่ งมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ สาระท่ี ๔ หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทยการเปล่ยี นแปลงของภาษาและ พลงั ของภาษาภูมปิ ญั ญาทางภาษาและรกั ษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ิของชาติ สาระท่ี ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเหน็ วิจารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ ง เห็นคณุ คา่ และนามาประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตจรงิ คณติ ศาสตร์ สาระที่ ๑ จานวนและพชี คณติ มาตรฐาน ค ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การ ของจานวน ผลท่ีเกดิ ข้นึ จากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้ มาตรฐาน ค ๑.๒ เข้าใจและวเิ คราะห์แบบรูป ความสมั พันธ์ ฟงั ก์ชนั ลาดบั และอนุกรม และนาไปใช้ มาตรฐาน ค ๑.๓ ใช้นิพจน์ สมการ และอสมการ อธบิ ายความสมั พันธ์ หรอื ชว่ ยแกป้ ญั หาทีก่ าหนดให้ สาระท่ี ๒ การวดั และเรขาคณติ มาตรฐาน ค ๒.๑ เข้าใจพืน้ ฐานเกย่ี วกับการวดั วดั และคาดคะเนขนาดของสง่ิ ท่ตี อ้ งการวดั และนาไปใช้ มาตรฐาน ค ๒.๒ เข้าใจและวเิ คราะหร์ ูปเรขาคณติ สมบตั ิของรูปเรขาคณิตความสัมพนั ธ์ระหวา่ ง รูปเรขาคณติ และทฤษฎีบททางเรขาคณิตและนาไปใช้ *หมายเหตุ ใหใ้ ชม้ าตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวชว้ี ดั กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ วิทยาสาสตร์และสาระ ภูมิศาสตร์ ในกลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2560)ตาม หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
17 สาระท่ี ๓ สถติ แิ ละความนา่ จะเปน มาตรฐาน ค ๓.๑ เขา้ ใจกระบวนการทางสถิติและใช้ความรู้ทางสถิตใิ นการแก้ปญหา มาตรฐาน ค ๓.๒ เขา้ ใจหลักการนบั เบือ้ งต้นความนา่ จะเป็นและนาไปใช้ วทิ ยาศาสตร์ สาระที่ ๑ วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ มาตรฐาน ว ๑.๑ เขา้ ใจความหลากหลายของระบบนเิ วศความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสง่ิ ไม่มชี ีวติ กับสงิ่ มีชีวิต และความสมั พันธร์ ะหว่างส่งิ มีชีวิตกบั สงิ่ มีชวี ิตตา่ งๆในระบบนเิ วศการถ่ายทอด พลงั งานการเปลยี่ นแปลงแทนทีใ่ นระบบนิเวศความหมายของประชากรปญั หาและ ผลกระทบท่ีมตี ่อทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมแนวทางในการอนรุ ักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละการแก้ไขปัญหาส่ิงแวดลอ้ มรวมทง้ั นาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจสมบตั ขิ องส่งิ มชี วี ติ หนว่ ยพ้นื ฐานของสง่ิ มชี วี ิตการลาเลียงสารเข้าและออกจาก เซลลค์ วามสมั พันธ์ของโครงสรา้ งและหน้าท่ีของระบบต่างๆของสตั วแ์ ละมนษุ ย์ท่ี ทางานสมั พันธ์กันความสัมพนั ธข์ องโครงสร้างและหนา้ ที่ของอวัยวะตา่ งๆของพชื ท่ี ทางานสมั พันธก์ ันรวมท้ังนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว ๑.๓ เขา้ ใจกระบวนการและความสาคญั ของการถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมสาร พันธุกรรมการเปลยี่ นแปลงทางพันธุกรรมที่มผี ลต่อสิ่งมีชวี ติ ความหลากหลายทาง ชีวภาพและววิ ัฒนาการของสง่ิ มชี วี ิตรวมทัง้ นาความรไู้ ปใชป้ ระโยชนส์ าระที่๓สาร และสมบัติของสาร สาระท่ี ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้าใจสมบตั ขิ องสสารองค์ประกอบของสสารความสัมพันธร์ ะหวา่ งสมบตั ิของสสารกับ โครงสร้างและแรงยึดเหนีย่ วระหวา่ งอนภุ าคหลักและธรรมชาติของการเปล่ยี นแปลง สถานะของสสารการเกดิ สารละลายและการเกิดปฏกิ ิริยาเคมี มาตรฐาน ว ๒.๒ เข้าใจธรรมชาตขิ องแรงในชวี ติ ประจาวันผลของแรงทีก่ ระทาตอ่ วตั ถุลักษณะการ เคลอ่ื นทีแ่ บบตา่ งๆของวัตถุรวมทัง้ นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว ๒.๓ เขา้ ใจความหมายของพลังงานการเปลยี่ นแปลงและการถา่ ยโอนพลงั งานปฏสิ มั พันธ์ ระหวา่ งสสารและพลังงานพลงั งานในชวี ิตประจาวันธรรมชาติของคลนื่ ปรากฏการณ์ ที่เกย่ี วขอ้ งกับเสยี งแสงและคลื่นแมเ่ หล็กไฟฟา้ รวมทง้ั นาความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ *หมายเหตุ ให้ใชม้ าตรฐานการเรยี นรู้และตัวชวี้ ดั กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ วทิ ยาสาสตรแ์ ละสาระ ภูมิศาสตร์ ในกลมุ่ สาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2560)ตาม หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551
18 สาระท่ี ๓ วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ มาตรฐาน ว ๓.๑ เข้าใจองคป์ ระกอบลกั ษณะกระบวนการเกดิ และววิ ฒั นาการของเอกภพกาแล็กซดี าว ฤกษ์และระบบสรุ ยิ ะรวมทง้ั ปฏสิ มั พันธ์ภายในระบบสุรยิ ะท่สี ่งผลตอ่ ส่งิ มีชวี ติ และ การประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยอี วกาศ มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองคป์ ระกอบและความสัมพนั ธข์ องระบบโลกกระบวนการเปลี่ยนแปลงภายใน โลกและบนผวิ โลกธรณพี ิบัตภิ ัยกระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและ ภูมิอากาศโลกรวมทัง้ ผลต่อสงิ่ มีชีวติ และส่งิ แวดลอ้ ม สาระที่ ๔ เทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๔.๑ เข้าใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยเี พอ่ื การดารงชวี ติ ในสงั คมท่มี กี ารเปล่ียนแปลงอยา่ ง รวดเรว็ ใชค้ วามรู้และทกั ษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์และศาสตร์อนื่ ๆเพอ่ื แก้ปัญหาหรอื พัฒนางานอย่างมีความคดิ สรา้ งสรรค์ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชิง วศิ วกรรมเลือกใช้เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสมโดยคานึงถึงผลกระทบตอ่ ชวี ิตสังคมและ สง่ิ แวดลอ้ ม มาตรฐาน ว ๔.๒ เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชงิ คานวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชวี ติ จรงิ อยา่ งเปน็ ขั้นตอน และเป็นระบบใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารในการเรยี นร้กู ารทางานและ การแก้ปัญหาได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพรู้เท่าทันและมีจริยธรรม สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สาระท่ี ๑ ศาสนาศลี ธรรมจริยธรรม มาตรฐาน ส ๑.๑ รแู้ ละเข้าใจประวัติความสาคญั ศาสดาหลักธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาทตี่ นนับถือและศาสนาอนื่ มศี รัทธาท่ถี ูกต้องยึดม่ันและปฏบิ ตั ติ าม หลกั ธรรมเพอื่ อยรู่ ่วมกนั อยา่ งสันตสิ ขุ มาตรฐาน ส ๑.๒ เขา้ ใจตระหนักและปฏิบตั ติ นเป็นศาสนิกชนท่ีดีและธารงรกั ษา พระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาท่ีตนนบั ถอื สาระที่ ๒ หนา้ ที่พลเมืองวฒั นธรรมและการดาเนนิ ชีวติ ในสังคม มาตรฐาน ส ๒.๑ เขา้ ใจและปฏบิ ัติตนตามหนา้ ที่ของการเปน็ พลเมืองดีมีคา่ นิยมทีด่ ีงามและ ธารงรกั ษาประเพณีและวฒั นธรรมไทยดารงชวี ิตอยรู่ ว่ มกันในสงั คมไทยและ สงั คมโลกอยา่ งสนั ตสิ ุข มาตรฐาน ส ๒.๒ เข้าใจระบบการเมอื งการปกครองในสงั คมปจั จบุ ันยึดม่ันศรัทธาและธารง รักษาไว้ซ่ึงการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมุข *หมายเหตุ ใหใ้ ชม้ าตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวชวี้ ดั กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ วทิ ยาสาสตร์และสาระ ภูมศิ าสตร์ ในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2560)ตาม หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551
19 สาระที่ ๓ เศรษฐศาสตร์ มาตรฐาน ส ๓.๑ เขา้ ใจและสามารถบรหิ ารจดั การทรพั ยากรในการผลิตและการบรโิ ภคการใช้ ทรพั ยากรทม่ี ีอยจู่ ากัดไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพและคุม้ คา่ รวมทัง้ เข้าใจหลักการ ของเศรษฐกจิ พอเพยี งเพอื่ การดารงชวี ติ อย่างมดี ุลยภาพ มาตรฐาน ส ๓.๒ เขา้ ใจระบบและสถาบันทางเศรษฐกจิ ต่างๆความสมั พันธท์ างเศรษฐกจิ และ ความจาเป็นของการรว่ มมือกนั ทางเศรษฐกิจในสงั คมโลก สาระท่ี ๔ ประวตั ศิ าสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๑ เขา้ ใจความหมายความสาคญั ของเวลาและยคุ สมัยทางประวตั ศิ าสตรส์ ามารถ ใชว้ ธิ กี ารทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะหเ์ หตุการณ์ตา่ งๆอยา่ งเป็นระบบ มาตรฐาน ส ๔.๒ เข้าใจพฒั นาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถงึ ปจั จบุ นั ในดา้ นความสัมพนั ธ์และ การเปลีย่ นแปลงของเหตกุ ารณอ์ ยา่ งตอ่ เนอ่ื งตระหนกั ถงึ ความสาคญั และ สามารถวเิ คราะหผ์ ลกระทบทเ่ี กดิ ข้ึน มาตรฐาน ส ๔.๓ เข้าใจความเปน็ มาของชาติไทยวฒั นธรรมภูมิปญั ญาไทยมีความรกั ความภูมใิ จและธารงความเปน็ ไทย สาระท่ี ๕ ภมู ิศาสตร์ มาตรฐาน ส ๕.๑ เขา้ ใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพนั ธข์ องสรรพส่ิงซ่งึ มีผลตอ่ กันใช้ แผนทแี่ ละเครอื่ งมอื ทางภูมิศาสตรใ์ นการค้นหาวเิ คราะห์และสรุปขอ้ มูลตาม กระบวนการทางภมู ศิ าสตรต์ ลอดจนใช้ภมู สิ ารสนเทศอย่างมีประสิทธภิ าพ มาตรฐาน ส ๕.๒ เขา้ ใจปฏสิ มั พนั ธร์ ะหว่างมนษุ ย์กับส่ิงแวดล้อมทางกายภาพทก่ี อ่ ใหเ้ กิดการ สรา้ งสรรค์ วถิ ีการดาเนินชวี ิตมีจิตสานกึ และมีสว่ นรว่ มในการจดั การทรัพยากรและ สิ่งแวดลอ้ มเพื่อการพฒั นาที่ยงั่ ยืน สุขศึกษาและพลศึกษา สาระที่ ๑ การเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของมนษุ ย์ มาตรฐาน พ ๑.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของมนษุ ย์ สาระที่ ๒ ชวี ิตและครอบครัว มาตรฐาน พ ๒.๑ เข้าใจและเห็นคณุ ค่าตนเองครอบครวั เพศศกึ ษาและมที กั ษะในการดาเนนิ ชวี ติ สาระที่ ๓ การเคลื่อนไหวการออกกาลงั กายการเล่นเกมกีฬาไทยและกีฬาสากล มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจมที ักษะในการเคลอ่ื นไหวกจิ กรรมทางกายการเล่นเกมและกีฬา มาตรฐาน พ ๓.๒ รักการออกกาลังกายการเลน่ เกมและการเล่นกีฬาปฏบิ ัตเิ ปน็ ประจาอยา่ ง สมา่ เสมอมวี ินยั เคารพสิทธิกฎกติกามีน้าใจนักกีฬามจี ติ วญิ ญาณใน การแขง่ ขนั และช่ืนชมในสนุ ทรยี ภาพของการกีฬา *หมายเหตุ ให้ใชม้ าตรฐานการเรยี นรู้และตัวชว้ี ัดกลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ วทิ ยาสาสตรแ์ ละสาระ ภมู ิศาสตร์ ในกลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2560)ตาม หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551
20 สาระที่ ๔ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพสมรรถภาพและการป้องกันโรค มาตรฐาน พ ๔.๑ เห็นคณุ ค่าและมีทกั ษะในการสร้างเสริมสขุ ภาพการดารงสขุ ภาพการปอ้ งกนั โรคและการสร้างเสรมิ สมรรถภาพเพือ่ สุขภาพ สาระที่ ๕ ความปลอดภยั ในชีวติ มาตรฐาน พ ๕.๑ ปอ้ งกันและหลกี เลีย่ งปัจจยั เสี่ยงพฤตกิ รรมเสีย่ งตอ่ สุขภาพอุบตั ิเหตกุ ารใช้ ยาสารเสพติดและความรนุ แรง ศลิ ปะ สาระที่ ๑ ทศั นศลิ ป์ มาตรฐาน ศ ๑.๑ สรา้ งสรรค์งานทศั นศิลปต์ ามจนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรคว์ ิเคราะห์ วพิ ากษว์ ิจารณค์ ณุ ค่างานทศั นศิลป์ถ่ายทอดความรู้สึกความคดิ ต่องานศิลปะ อย่างอิสระชน่ื ชมและประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตประจาวัน มาตรฐาน ศ ๑.๒ เขา้ ใจความสมั พันธร์ ะหว่างทศั นศิลปป์ ระวตั ิศาสตร์และวฒั นธรรมเห็นคณุ ค่า งานทศั นศิลป์ทเ่ี ป็นมรดกทางวฒั นธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่นภูมิปัญญาไทยและ สากล สาระท่ี ๒ ดนตรี มาตรฐาน ศ ๒.๑ เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรอี ย่างสรา้ งสรรค์วเิ คราะหว์ พิ ากษ์วจิ ารณ์คุณคา่ ดนตรถี ่ายทอดความรสู้ ึกความคิดต่อดนตรอี ย่างอิสระชื่นชมและประยกุ ต์ ใช้ในชวี ิตประจาวัน มาตรฐาน ศ ๒.๒ เข้าใจความสมั พันธร์ ะหวา่ งดนตรีประวตั ศิ าสตรแ์ ละวัฒนธรรมเห็นคณุ ค่า ของดนตรที เ่ี ป็นมรดกทางวฒั นธรรมภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิน่ ภมู ปิ ญั ญาไทยและสากล สาระที่ ๓ นาฏศิลป์ มาตรฐาน ศ ๓.๑ เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อยา่ งสร้างสรรคว์ เิ คราะห์วิพากษ์วิจารณ์ คุณคา่ นาฏศลิ ปถ์ า่ ยทอดความรู้สึกความคิดอย่างอสิ ระชน่ื ชมและประยกุ ต์ใช้ ในชีวติ ประจาวนั มาตรฐาน ศ ๓.๒ เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งนาฏศิลป์ประวัติศาสตรแ์ ละวฒั นธรรมเห็นคุณค่า ของนาฏศลิ ป์ท่ีเปน็ มรดกทางวัฒนธรรมภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ินภูมปิ ญั ญาไทยและ สากล การงานอาชีพ (ป.1,2,4,5) ปกี ารศกึ ษา 2562 สาระที่ ๑ การดารงชีวิตและครอบครวั มาตรฐาน ง ๑.๑ เขา้ ใจการทางานมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์มที กั ษะกระบวนการทางานทักษะ การจัดการทักษะกระบวนการแกป้ ญั หาทกั ษะการทางานรว่ มกนั และทกั ษะ การแสวงหาความร้มู คี ณุ ธรรมและลักษณะนสิ ัยในการทางานมจี ิตสานึก ในการใชพ้ ลังงานทรพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ มเพอื่ การดารงชวี ติ และครอบครวั สาระที่ 2 การอาชพี มาตรฐาน ง 2.๑ เข้าใจมีทกั ษะท่ีจาเป็นมปี ระสบการณเ์ หน็ แนวทางในงานอาชพี ใช้เทคโนโลยเี พือ่ พัฒนาอาชพี มคี ุณธรรมและมีเจตคติที่ดตี ่ออาชีพ
21 การงานอาชีพและเทคโนโลยี (ป.3,6) สาระท่ี ๑ การดารงชีวิตและครอบครวั มาตรฐาน ง ๑.๑ เข้าใจการทางานมคี วามคิดสรา้ งสรรค์มที ักษะกระบวนการทางานทกั ษะ การจดั การทักษะกระบวนการแกป้ ญั หาทักษะการทางานรว่ มกนั และทกั ษะ การแสวงหาความรมู้ ีคุณธรรมและลักษณะนสิ ยั ในการทางานมีจิตสานกึ ในการใชพ้ ลังงานทรพั ยากรและสิง่ แวดลอ้ มเพอ่ื การดารงชวี ติ และครอบครวั สาระที่ ๒ การออกแบบและเทคโนโลยี มาตรฐาน ง ๒.๑ เขา้ ใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยอี อกแบบและสรา้ งสงิ่ ของ เครอ่ื งใช้หรอื วธิ ีการตามกระบวนการเทคโนโลยอี ยา่ งมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ เลือกใชเ้ ทคโนโลยีในทางสร้างสรรคต์ ่อชวี ติ สังคมส่ิงแวดลอ้ มและมี ส่วนรว่ มในการจดั การเทคโนโลยที ่ีย่ังยืน สาระที่ ๓ เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร มาตรฐาน ง ๓.๑ เขา้ ใจเหน็ คุณค่าและใชก้ ระบวนการเทคโนโลยสี ารสนเทศในการสบื ค้นข้อมูล การเรยี นรกู้ ารสอ่ื สารการแก้ปัญหาการทางานและอาชพี อย่างมปี ระสิทธิภาพ ประสิทธผิ ลและมีคุณธรรม สาระท่ี ๔ การอาชพี มาตรฐาน ง ๔.๑ เข้าใจมที ักษะทจี่ าเปน็ มีประสบการณ์เหน็ แนวทางในงานอาชพี ใชเ้ ทคโนโลยเี พอ่ื พัฒนาอาชพี มีคุณธรรมและมเี จตคตทิ ี่ดตี อ่ อาชีพ *หมายเหตุ ยกเลิกมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวช้วี ัดสาระท่ี 2 การออกแบบและเทคโนโลยี และสาระที่ 3 เทคโนโลยี สารสนเทศ และการสื่อสาร ในกลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ตามหลกั สตู ร แกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช พ.ศ.2551 และเปลีย่ นช่ือกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ สาระท่ี ๑ ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน ต ๑.๑ เขา้ ใจและตคี วามเรื่องทฟ่ี งั และอา่ นจากสอ่ื ประเภทต่างๆและแสดงความ คดิ เหน็ อย่างมเี หตุผล มาตรฐาน ต ๑.๒ มีทักษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสารแสดงความรสู้ ึก และความคดิ เห็นอยา่ งมีประสิทธภิ าพ มาตรฐาน ต ๑.๓ นาเสนอข้อมูลขา่ วสารความคดิ รวบยอดและความคิดเห็นในเรอื่ งตา่ งๆ โดยการพดู และการเขยี น สาระที่ ๒ ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต ๒.๑ เข้าใจความสัมพันธร์ ะหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษาและนาไปใช้ ได้อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐาน ต ๒.๒ เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ ภาษากบั ภาษาและวฒั นธรรมไทยและนามาใชอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม
22 สาระท่ี ๓ ภาษากบั ความสมั พันธ์กบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ืน่ มาตรฐาน ต ๓.๑ ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเชอ่ื มโยงความร้กู ับกลมุ่ สาระการเรยี นร้อู ืน่ และเปน็ พื้นฐานในการพัฒนาแสวงหาความรแู้ ละเปดิ โลกทศั นข์ องตน สาระท่ี ๔ ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั ชมุ ชนและโลก มาตรฐาน ต ๔.๑ ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆท้ังในสถานศึกษาชุมชนและสังคม มาตรฐาน ต ๔.๒ ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครอื่ งมอื พื้นฐานในการศกึ ษาต่อการประกอบอาชีพ และการแลกเปลี่ยนเรยี นรูก้ ับสังคมโลก
23 โครงสร้างหลกั สตู รโรงเรยี นวดั พชิ ัยปีการศกึ ษา 25๖2 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ เพื่อให้การจัดการศึกษาเป็นไปตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ที่ กาหนดไว้ สถานศึกษาและผู้ทีเ่ ก่ยี วข้องมีแนวปฏิบัติในการจดั หลักสูตรสถานศึกษา โดยกาหนดโครงสรา้ งของ หลกั สตู รสถานศกึ ษาการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน ดงั นี้ ๑. ระดบั การศึกษา หลกั สูตรสถานศกึ ษาการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน จัดระดบั การศึกษาเป็น 1 ระดับ ดงั น้ี ระดบั ประถมศึกษา ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๑-๖ ๒. สาระการเรยี นรู้ กาหนดสาระการเรียนรู้ตามหลักสูตร ซ่ึงประกอบด้วยองค์ความรู้ ทักษะหรอื กระบวนการ การเรียนรู้ และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ของผเู้ รียนเปน็ ๘ กลมุ่ ดงั นี้ ๒.๑ ภาษาไทย ๒.๒ คณิตศาสตร์ ๒.๓ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒.๔ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ๒.๕ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ๒.๖ ศิลปะ ๒.๗ การงานอาชีพ ๒.๘ ภาษาตา่ งประเทศ ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้กาหนดมาตรฐานการเรียนรู้ เป็นเป้าหมายสาคัญของการ พัฒนาคุณภาพผู้เรียน มาตรฐานการเรียนรู้ระบุส่ิงที่ผู้เรียนพึงรู้ ปฏิบัติได้มีคุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมที่ พึงประสงค์เม่ือจบการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน นอกจากน้ันมาตรฐานการเรียนรยู้ ังเป็นกลไกสาคัญในการขับเคลื่อน พัฒนาการศึกษาท้ังระบบ เพราะมาตรฐานการเรียนรู้จะสะท้อนให้ทราบว่าต้องการอะไร จะสอนอย่างไร และประเมนิ อยา่ งไร รวมทั้งเป็นเครอ่ื งมอื ในการตรวจสอบเพอ่ื การประกันคุณภาพการศกึ ษา โดยใชร้ ะบบการ ประเมินคุณภาพภายในและการประเมินคุณภาพภายนอก ซึ่งรวมถึงการทดสอบระดับเขตพ้ืนที่การศึกษา และการทดสอบระดับชาติ ระบบการตรวจสอบเพื่อประกันคุณภาพดังกล่าวเป็นสิ่งสาคัญท่ีช่วยสะท้อนภาพ การจดั การศึกษาวา่ สามารถพฒั นาผ้เู รยี นใหม้ ีคุณภาพตามทีม่ าตรฐานการเรียนร้กู าหนดเพยี งใด 3. รหัสวิชา รหสั วชิ าของรายวิชาตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 มรี ะบบ การกาหนดรหัส ซงึ่ ประกอบด้วยตัวอกั ษรและตวั เลข 6 หลกั เพยี งแต่มขี อ้ แตกต่างการกาหนดรหสั ในบางหลกั ดงั นี้ หลกั ท่ี 1 เปน็ รหัสตวั อักษรแสดงกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ซึ่งกาหนดรหัสตัวอักษรแสดงกลุ่มสาระการเรยี นรู้ เหมอื นเดิม ดงั น้ี
24 ท หมายถึง กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ค หมายถึง กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ว หมายถงึ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ส หมายถงึ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม พ หมายถงึ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา ศ หมายถงึ กลุม่ สาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ ง หมายถงึ กล่มุ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี อ หมายถึง กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาองั กฤษ จ หมายถึง กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาจนี หลกั ที่ 2 เป็น รหสั ตวั เลขแสดงระดับการศึกษา มกี ารเปล่ียนจากการใชร้ หัสตวั เลข 4 ตัว เปน็ 3 ตัว ดงั น้ี 1 หมายถึง รายวิชาระดบั ประถมศกึ ษา 2 หมายถึง รายวิชาระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น 3 หมายถึง รายวิชาระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย หลกั ท่ี 3 เป็น รหัสตวั เลขแสดงปีที่เรียนของรายวชิ า ซ่งึ สะทอ้ นระดบั ความร้แู ละทกั ษะในรายวิชาที่ กาหนดไว้ในแต่ละปี ซึ่งมีการเปลี่ยนจากรหสั ตวั เลข 4 ตัว เปน็ 7 ตวั ดังนี้ 0 หมายถึง รายวิชาท่ไี ม่กาหนดปีทเี่ รยี น จะเรียนปใี ดกไ็ ดใ้ นระดับประถมศึกษา มธั ยมศกึ ษา ตอนตน้ และมธั ยมศึกษาตอนปลาย 1 หมายถึง รายวชิ าทเ่ี รียนในปที ่ี 1 ของระดับประถมศึกษา มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ และ มัธยมศึกษาตอนปลาย (ป.1 ม.1 และม.4) 2 หมายถงึ รายวชิ าทเี่ รียนในปที ่ี 2 ของระดบั ประถมศกึ ษา มธั ยมศกึ ษาตอนต้น และ มัธยมศึกษาตอนปลาย (ป.2 ม.2 และม.5) 3 หมายถงึ รายวชิ าทเี่ รียนในปที ่ี 3 ของระดับประถมศึกษา มัธยมศกึ ษาตอนตน้ และ มัธยมศกึ ษาตอนปลาย (ป.3 ม.3 และ ม.6) 4 หมายถึง รายวิชาท่ีเรียนในปที ี่ 4 ของระดบั ประถมศกึ ษา (ป.4) 5 หมายถงึ รายวชิ าทเี่ รยี นในปที ี่ 5 ของระดบั ประถมศกึ ษา (ป.5) 6 หมายถงึ รายวิชาทเี่ รียนในปีที่ 6 ของระดับประถมศกึ ษา (ป.6) หลกั ที่ 4 เปน็ รหสั ตวั เลขแสดงประเภทของรายวชิ า ซงึ่ กาหนดรหสั ตัวเลขไว้ 2 ตวั เหมอื นเดิม ดงั นี้ 1 หมายถึง รายวชิ าพน้ื ฐาน 2 หมายถึง รายวชิ าเพ่ิมเติม
25 หลักที่ 5 และ 6 เป็น รหสั ตวั เลขแสดงลาดับของรายวชิ าแต่ละกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ในป/ี ระดับการศึกษา เดยี วกันในระดบั ประถมศึกษา มธั ยมศกึ ษาตอนต้น หรือมธั ยมศึกษาตอนปลาย มจี านวนต้ังแต่ 01-99 เหมอื นเดิม ดังนี้ รายวชิ าท่ีกาหนดปที ี่เรียน ให้นับรหัสหลักที่ 5-6 ตอ่ เนอ่ื งในปีเดยี วกัน รายวชิ าทีไ่ มก่ าหนดปีท่ีเรียน ใหน้ บั รหัสหลกั ท่ี 5-6 ตอ่ เนอ่ื ง ในระดบั ประถมศกึ ษา มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ และมธั ยมศึกษาตอนปลาย ตัวอย่างการกาหนดรหสั วชิ า ท 12101 หมายถึง รายวชิ ากลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ระดับประถมศกึ ษา ปีท่ี 2 (ป.2) เป็นรายวชิ าพนื้ ฐาน ลาดับท่ี 1 ว 21102 หมายถงึ รายวชิ ากลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ ปีที่ 1 (ม.1) เป็นรายวชิ าพ้ืนฐาน ลาดับท่ี 2 จ 14203 หมายถงึ รายวชิ ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ ภาษาจีน ระดับประถมศกึ ษาปที ่ี 4 (ป.4) เป็นรายวชิ าเพิ่มเตมิ ลาดับที่ 3 ง 30210 หมายถงึ รายวชิ ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย เรียนปีใดกไ็ ด้ (ม.4, ม.5 หรอื ม.6) เป็นรายวชิ าเพ่มิ เตมิ ในกลุม่ การงานอาชีพ ลาดับที่ 10
26 ตารางแสดงโครงสรา้ งเวลาเรียน(รายสัปดาห์) โรงเรียนวัดพิชยั ปีการศึกษา 2562 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศักราช 2560) กลุ่มสาระการเรยี นรู้ / กิจกรรม ป.1 เวลาเรยี น(ชัว่ โมงต่อสปั ดาห)์ ป.6 ระดบั การศกึ ษาประถมศกึ ษา กล่มุ สาระการเรยี นรู้ 5 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 4 ภาษาไทย 5 4 คณิตศาสตร์ 3 5544 2 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2 5544 2 สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม 1 3222 1 ประวตั ิศาสตร์ 1 2222 2 สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา 1 1111 2 ศิลปะ 1 1122 2 การงานอาชพี 2 1122 2 ภาษาตา่ งประเทศ 21 1222 21 2222 รวมเวลาเรยี น (พ้ืนฐาน) 1 21 21 21 21 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้เพิ่มเตมิ 1 1 หนา้ ท่ีพลเมอื ง/(จรยิ ะ) 1111 รวมเวลาเรยี น (เพมิ่ เตมิ ) 1 1111 1 กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น 1 1 1111 กจิ กรรมแนะแนว 1 1111 1 กจิ กรรมลกู เสอื -ยุวกาชาด 3 3 /สาธารณประโยชน์ 1111 กิจกรรมชมรม 2 3333 1 รวมเวลากิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น - 1 กิจกรรมเพิม่ เตมิ 3 2211 3 ภาษาอังกฤษเพอ่ื การสอื่ สาร 5 - - 11 5 ภาษาจนี 3333 เสริมทกั ษะ 30 5555 30 รวมเวลากจิ กรรมเพมิ่ เติม 30 30 30 30 รวมเวลาเรียนทงั้ หมด
27 โครงสร้างเวลาเรยี นหลักสตู รโรงเรยี นวดั พิชัย พทุ ธศักราช 2562 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551(ฉบบั ปรบั ปรุงพทุ ธศักราช 2560) เวลาเรยี น(ช่วั โมงตอ่ ปี) กลุ่มสาระการเรยี นรู้ / กิจกรรม ระดับการศึกษาประถมศกึ ษา ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย 200 200 200 160 160 160 คณิตศาสตร์ 200 200 200 160 160 160 วิทยาศาสตร์ 80 80 80 80 80 80 สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม 80 80 80 80 80 80 ประวัติศาสตร์ 40 40 40 40 40 40 สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา 40 40 40 80 80 80 ศลิ ปะ 40 40 40 80 80 80 การงานอาชพี และเทคโนโลยี 40 40 40 80 80 80 ภาษาต่างประเทศ 120 120 120 80 80 80 รวมเวลาเรยี น (พ้ืนฐาน) 840 840 840 840 840 840 กลมุ่ สาระการเรยี นรูเ้ พม่ิ เติม หน้าทพ่ี ลเมอื ง/(จริยะ) 40 40 40 40 40 40 กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น กิจกรรมแนะแนว 40 40 40 40 40 40 กิจกรรมลกู เสือ-ยุวกาชาด 40 40 40 40 40 40 /สาธารณประโยชน์ กิจกรรมชมรม 40 40 40 40 40 40 รวมเวลาเรยี น (กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน) 120 120 120 120 120 120 กิจกรรมเพิม่ เตมิ ภาษาอังกฤษเพอ่ื การสอื่ สาร 80 80 80 40 40 40 ภาษาจีน - - - 40 40 40 เสรมิ ทักษะ 120 120 120 120 120 120 รวมเวลาเรยี นทงั้ หมด 1,200 1,200 1,200 1,200 1,200 1,200
28 โครงสร้างหลักสตู รชน้ั ปี ปกี ารศกึ ษา 2562 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551(ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช 2560) ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 รายวิชา/กิจกรรม เวลาเรยี น (ช่วั โมง/ป)ี รายวชิ าพ้นื ฐาน ท 11101 ภาษาไทย 200 ค 11101 คณติ ศาสตร์ 200 ว 11101 วทิ ยาศาสตร์ 80 ส 11101 สังคมศึกษา 80 ส 11102 ประวตั ิศาสตร์ 40 พ 11101 สุขศกึ ษาและพลศึกษา 40 ศ 11101 ศิลปะ 40 ง 11101 การงานอาชีพและเทคโนโลยี 40 อ 11101 ภาษาตา่ งประเทศ 120 รวมรายวิชาพ้นื ฐาน 840 รายวิชาเพ่มิ เตมิ ส 1120๓ หน้าท่พี ลเมอื ง 40 รวมรายวชิ าเพม่ิ เติม 40 กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น กจิ กรรมแนะแนว 40 กิจกรรมลกู เสือ/ยุวกาชาด 40 /สาธารณประโยชน์ 40 กิจกรรมชมรม ๑๒0 รวมกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน กิจกรรมเพิ่มเตมิ 80 - ภาษาอังกฤษเพอื่ การสอื่ สาร 120 ภาษาจนี 1,200 เสรมิ ทักษะ(พละ,ดนตรี, วทิ ยาการคานวณ) รวมเวลาเรยี นทัง้ หมด
29 โครงสรา้ งหลักสูตรชั้นปี ปกี ารศกึ ษา 2562 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551(ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช 2560) ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 รายวิชา/กจิ กรรม เวลาเรยี น (ชั่วโมง/ปี) รายวิชาพืน้ ฐาน ท 12101 ภาษาไทย 200 ค 12101 คณิตศาสตร์ 200 ว 12101 วทิ ยาศาสตร์ 80 ส 12101 สงั คมศึกษา 80 ส 12102 ประวตั ศิ าสตร์ 40 พ 12101 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 40 ศ 12101 ศิลปะ 40 ง 12101 การงานอาชีพและเทคโนโลยี 40 อ 12101 ภาษาตา่ งประเทศ 120 รวมรายวิชาพ้นื ฐาน 840 รายวชิ าเพ่มิ เตมิ ส 1220๓ หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง 40 รวมรายวชิ าเพิ่มเติม 40 กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น กิจกรรมแนะแนว 40 กจิ กรรมลกู เสอื /ยุวกาชาด 40 /สาธารณประโยชน์ 40 กิจกรรมชมรม ๑๒0 รวมกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น กจิ กรรมเพม่ิ เตมิ 80 - ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร 120 ภาษาจนี 1,200 เสรมิ ทักษะ(พละ,ดนตร,ี วิทยาการคานวณ) รวมเวลาเรยี นท้งั หมด
30 โครงสร้างหลกั สตู รชัน้ ปี ปกี ารศกึ ษา 2562 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551(ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช 2560) ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 รายวชิ า/กิจกรรม เวลาเรยี น (ชั่วโมง/ปี) รายวิชาพนื้ ฐาน ท 13101 ภาษาไทย 200 ค 13101 คณติ ศาสตร์ 200 ว 13101 วทิ ยาศาสตร์ 80 ส 13101 สงั คมศกึ ษา 80 ส 13102 ประวตั ิศาสตร์ 40 พ 13101 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 40 ศ 13101 ศิลปะ 40 ง 13101 การงานอาชีพและเทคโนโลยี 40 อ 13101 ภาษาต่างประเทศ 120 รวมรายวิชาพ้ืนฐาน 840 รายวชิ าเพิ่มเตมิ ส 1320๓ หนา้ ท่ีพลเมอื ง 40 รวมรายวิชาเพิม่ เตมิ 40 กิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น กิจกรรมแนะแนว 40 กจิ กรรมลูกเสอื /ยุวกาชาด 40 /สาธารณประโยชน์ 40 กิจกรรมชมรม ๑๒0 รวมกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น กจิ กรรมเพิม่ เตมิ 80 - ภาษาอังกฤษเพอ่ื การสอื่ สาร 120 ภาษาจนี 1,200 เสรมิ ทกั ษะ(พละ,ดนตรี, คอมพิวเตอร)์ รวมเวลาเรยี นท้ังหมด
31 โครงสร้างหลักสตู รช้ันปี ปีการศกึ ษา 2562 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551(ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช 2560) ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 4 รายวชิ า/กจิ กรรม เวลาเรยี น (ชั่วโมง/ปี) รายวชิ าพ้ืนฐาน ท 14101 ภาษาไทย 160 ค 14101 คณติ ศาสตร์ 160 ว 14101 วิทยาศาสตร์ 80 ส 14101 สังคมศกึ ษา 80 ส 14102 ประวัตศิ าสตร์ 40 พ 14101 สขุ ศึกษาและพลศึกษา 80 ศ 14101 ศลิ ปะ 80 ง 14101 การงานอาชพี และเทคโนโลยี 80 อ 14101 ภาษาต่างประเทศ 80 รวมรายวชิ าพืน้ ฐาน 840 รายวิชาเพมิ่ เตมิ ส 1420๓ หน้าท่พี ลเมอื ง 40 รวมรายวิชาเพ่ิมเติม 40 กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น กจิ กรรมแนะแนว 40 กิจกรรมลูกเสือ/ยวุ กาชาด 40 /สาธารณประโยชน์ 40 กจิ กรรมชมรม ๑๒0 รวมกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน กจิ กรรมเพิ่มเตมิ 40 40 ภาษาองั กฤษเพอื่ การสอื่ สาร 120 ภาษาจนี 1,200 เสรมิ ทักษะ(ไทย คณติ ) รวมเวลาเรยี นทงั้ หมด
32 โครงสร้างหลักสตู รช้ันปี ปีการศกึ ษา 2562 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551(ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช 2560) ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 5 รายวชิ า/กจิ กรรม เวลาเรยี น (ชั่วโมง/ปี) รายวิชาพน้ื ฐาน ท 15101 ภาษาไทย 160 ค 15101 คณิตศาสตร์ 160 ว 15101 วทิ ยาศาสตร์ 80 ส 15101 สงั คมศึกษา 80 ส 15102 ประวัติศาสตร์ 40 พ 15101 สขุ ศึกษาและพลศึกษา 80 ศ 15101 ศิลปะ 80 ง 15101 การงานอาชพี และเทคโนโลยี 80 อ 15101 ภาษาต่างประเทศ 80 รวมรายวิชาพืน้ ฐาน 840 รายวิชาเพ่มิ เตมิ ส 1520๓ หน้าทพ่ี ลเมอื ง 40 รวมรายวิชาเพม่ิ เติม 40 กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น กจิ กรรมแนะแนว 40 กจิ กรรมลกู เสือ/ยวุ กาชาด 40 /สาธารณประโยชน์ 40 กจิ กรรมชมรม ๑๒0 รวมกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน กจิ กรรมเพ่ิมเตมิ 40 40 ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอื่ สาร 120 ภาษาจีน 1,200 เสริมทกั ษะ(ไทย คณติ ) รวมเวลาเรยี นทงั้ หมด
33 โครงสร้างหลกั สตู รชน้ั ปี ปกี ารศกึ ษา 2562 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551(ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช 2560) ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 รายวิชา/กิจกรรม เวลาเรยี น (ชั่วโมง/ปี) รายวิชาพนื้ ฐาน ท 16101 ภาษาไทย 160 ค 16101 คณิตศาสตร์ 160 ว 16101 วิทยาศาสตร์ 80 ส 16101 สงั คมศกึ ษา 80 ส 16102 ประวัติศาสตร์ 40 พ 16101 สขุ ศึกษาและพลศึกษา 80 ศ 16101 ศิลปะ 80 ง 16101 การงานอาชีพและเทคโนโลยี 80 อ 16101 ภาษาตา่ งประเทศ 80 รวมรายวิชาพ้นื ฐาน 840 รายวิชาเพ่มิ เตมิ ส 1620๓ หนา้ ท่พี ลเมอื ง 40 รวมรายวชิ าเพิ่มเติม 40 กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น กิจกรรมแนะแนว 40 กิจกรรมลูกเสือ/ยุวกาชาด 40 /สาธารณประโยชน์ 40 กิจกรรมชมรม ๑๒0 รวมกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน กิจกรรมเพมิ่ เตมิ 40 40 ภาษาองั กฤษเพอื่ การสอื่ สาร 120 ภาษาจีน 1,200 เสรมิ ทกั ษะ(ติวO-net ไทย คณิต อังกฤษ) รวมเวลาเรยี นทัง้ หมด
34 คาอธบิ ายรายวชิ า รายวิชาพ้ืนฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ระดบั ประถมศึกษา -------------- รายวชิ า/กิจกรรม เวลาเรยี น (ชม./ป)ี รายวิชาพ้ืนฐาน ท11101 ภาษาไทย จานวน 200 ชว่ั โมง ท12101 ภาษาไทย จานวน 200 ชว่ั โมง ท13101 ภาษาไทย จานวน 200 ชั่วโมง ท14101 ภาษาไทย จานวน 160 ชั่วโมง ท15101 ภาษาไทย จานวน 160 ช่วั โมง ท16101 ภาษาไทย จานวน 160 ชั่วโมง
35 คาอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน รหัสวชิ า ท ๑1๑๐๑ ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 จานวน ๒0๐ ชว่ั โมง อา่ นออกเสียงคา คาคล้องจอง และข้อความสั้น ๆ บอกความหมายของคาและข้อความท่ีอ่าน ตอบ คาถามเกี่ยวกับเร่ืองที่อ่าน เล่าเร่ืองย่อจากเร่ืองที่อ่าน คาดคะเนเหตุการณ์จากเร่ืองท่ีอ่าน อ่านหนังสือตาม ความสนใจอยา่ งสมา่ เสมอ และนาเสนอเรอื่ งที่อา่ น บอกความหมายของเครื่องหมายหรอื สญั ลกั ษณส์ าคัญทพี่ บ เหน็ ในชวี ติ ประจาวัน มีมารยาทในการอา่ น คดั ลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทดั เขยี นสือ่ สารดว้ ยคาและประโยคง่าย ๆ และมีมารยาทในการเขยี น ฟังคาแนะนา คาสั่งง่าย ๆ และปฏิบัติตาม ตอบคาถามและเล่าเรื่องท่ีฟังและดูท้ังท่ีเป็นความรู้ ความบันเทิง พูดแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกจากเร่ืองที่ฟังและดู พูดส่ือสารได้ตามวัตถุประสงค์ มมี ารยาทในการฟัง การดู การพูด บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์และ เลขไทย เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา เรียบเรยี งคาเป็นประโยคงา่ ย ๆ ตอ่ คาคล้องจองง่าย ๆ บอกข้อคิดที่ได้จากการอ่าน หรือการฟังวรรณกรรมร้อยแก้ว และร้อยกรองสาหรับเด็ก ท่องจาบท อาขยานตามทกี่ าหนดและบทรอ้ ยกรองตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการคิด การเรียนรู้แบบโครงงาน ใช้ทักษะการส่ือสาร สรุป วิเคราะห์ข้อมูลจากเร่ือง และสือ่ ต่าง ๆ ทอี่ ่านฟงั และดู เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการแยกแยะ ตัดสินใจ นาไปใชช้ วี ิตประจาวนั ได้อย่างภาคภูมิใจ รักความเป็นไทย ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เรื่อง ภูมิปัญญาท้องถิน่ และกลุ่มประเทศอาเซียน อยู่อยา่ งพอเพียง มุ่งม่ันทางานและมีจิตสาธารณะ ตัวช้ีวัด ท 1.1 ป.1/1, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕, ป.๑/๖, ป.๑/๗, ป.๑/๘ ท 2.1 ป.1/1, ป.๑/๒, ป.๑/๓ ท 3.1 ป.1/1, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕ ท 4.1 ป.1/1, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔ ท ๕.1 ป.1/1, ป.๑/๒ รวม 22 ตวั ชี้วัด
36 คาอธบิ ายรายวิชาพื้นฐาน รหัสวิชา ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๒ จานวน ๒0๐ ชัว่ โมง อ่านออกเสียงคา คาคล้องจอง ข้อความและบทร้อยกรองงา่ ย ๆ อธิบายของคาและข้อความท่ีอ่าน ต้ังคาถามและตอบคาถามเกยี่ วกับเร่ือทอี่ ่าน ระบุใจความสาคัญและรายละเอียดจากเรื่องทีอ่ ่าน อ่านหนังสือ ตามความสนใจอย่างสม่าเสมอและนาเสนอเรื่องที่อ่าน อ่านข้อเขียนเชิงอธิบายและปฏิบัติตามคาสั่งหรือข้อแนะนา มีมารยาทในการอ่าน คัดลายมือตัว บรรจงเต็มบรรทัด เขียนเร่ืองส้ัน ๆ เกี่ยวกับประสบการณ์ เขียนเร่ืองส้ัน ๆ ตามจินตนาการ มีมารยาทใน การเขยี น ฟังคาแนะนาคาส่ังท่ีซับซ้อนและปฏิบัติตาม เล่าเร่ืองท่ีฟังและดูท้ังท่ีเป็นความรู้และความบันเทิง บอกสาระสาคัญของเรอ่ื งทฟี่ งั และดู ต้ังคาถามและตอบคาถามเกย่ี วกับเร่ืองท่ีฟังและดู พดู แสดงความคิดเห็น และความรสู้ กึ จากเร่อื งท่ฟี ังและดู พดู สอ่ื สารได้ชดั เจนตรงตามวัตถุประสงค์ มีมารยาทในการฟัง การดู การพูด บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์และเลขไทย เขียน สะกดคาและบอกความหมายของคา เรียบเรียงคาเป็นประโยคตรงตามเจตนาของการส่ือสาร บอกลักษณะ คาคลอ้ งจอง เลอื กใชภ้ าษาไทยมาตรฐานและภาษาถิน่ ไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ ระบุขอ้ คิดท่ีได้จากการอ่านหรือการฟังวรรณกรรมสาหรับเด็ก เพื่อนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน ร้องบท ร้อยกรองเลน่ สาหรบั เด็กท้องถิ่น ท่องจาบทอาขยานตามท่กี าหนดและบทรอ้ ยกรองทม่ี คี ุณคา่ ตามความสนใจ โดยใชก้ ระบวนการคิด ทักษะการส่ือสาร สรปุ วเิ คราะหข์ ้อมลู จากเรอื่ งและส่อื ต่างๆ ท่ีอ่านฟังและดู เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจสามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการแยกแยะ ตัดสินใจ นาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างภาคภูมิใจ รักความเป็นไทย ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์ มีวินัย ใฝ่ความรู้เรอ่ื งภูมปิ ญั ญาท้องถ่นิ และกล่มุ ประเทศอาเซยี น อยอู่ ยา่ งพอเพียง มงุ่ ม่นั ทางานและมีจิตสาธารณะ รหัสตวั ชว้ี ดั ท ๑.๑ ป.2/1, ป.2/๒, ป.2/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘ ท ๒.๑ ป.2/1, ป.2/๒, ป.2/๓, ป.๒/๔ ท ๓.๑ ป.2/1, ป.2/๒, ป.2/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗ ท ๔.๑ ป.2/1, ป.2/๒, ป.2/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕ ท ๕.๑ ป.2/1, ป.2/๒, ป.2/๓ รวมทัง้ หมด ๒๗ ตัวชว้ี ัด
37 คาอธบิ ายรายวิชาพื้นฐาน รหัสวชิ า ท 13101 ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เวลา 200 ชว่ั โมง อ่านออกเสยี ง บอกความหมายของคา คาคล้องจอง ข้อความ บทร้อยกรอง อา่ นคาทีม่ ตี ัวการนั ต์ คาทม่ี ี รร คาที่มพี ยญั ชนะ และสระไม่ออกเสยี ง คาพอ้ ง คาพเิ ศษ การจับใจความจากสอื่ อ่านนทิ าน เร่ืองสัน้ บทเพลง บทรอ้ ยกรอง ขา่ วและเหตกุ ารณช์ ีวติ ประจาวนั ในทอ้ งถิ่น ในชมุ ชน เลอื กอ่านหนังสอื ตามความสนใจ อ่านขอ้ เขยี นเชงิ อธิบาย และปฏบิ ตั ิตามคาสง่ั หรือขอ้ แนะนา อ่านข้อมลู จากแผนภาพ แผนท่ี และแผนภมู ิ มมี ารยาทในการอ่าน คดั ลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทดั เขียนบรรยายเก่ยี วกบั สงิ่ ใด สิง่ หน่ึง เขยี นบนั ทึกประจาวนั เขียนจดหมายลาครู เขยี นเรอ่ื งตามจนิ ตนาการ มีมารยาทในการเขยี น เขยี นสะกดคา บอกความหมายของคา การผันอักษรกลาง อกั ษรสูง อกั ษรตา่ คาที่มพี ยัญชนะควบกล้า คาท่ีมอี กั ษรนา คาที่ประวิสรรชนีย์ ชนิดและหนา้ ที่ของคาในประโยค การแตง่ คาคลอ้ งจอง คาขวญั การใช้ ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่น ขอ้ คดิ ทไี่ ดจ้ ากการอ่านวรรณคดี และวรรณกรรมพน้ื บา้ น นทิ านของ ประเทศอาเซียน ร้จู ักเพลงพนื้ บ้าน เพลงกลอ่ มเดก็ แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับวรรณคดี ทอ่ งบทอาขยาน ตามที่กาหนดและความสนใจ อา่ นไดค้ ลอ่ งและเรว็ บอกความหมายของคา อ่านคาคล้องจองและบทรอ้ ยกรอง อา่ นจบั ใจความ สาคญั เลอื กอ่านหนงั สอื ตามความสนใจ อา่ นขอ้ เขยี นเชิงอธิบาย คัดลายมือตัวบรรจงตามรปู แบบ เขียน บรรยายลักษณะของคน สตั ว์ ส่งิ ของ เขียนบนั ทกึ ประจาวัน เขียนจดหมายลาครู เขยี นเรอื่ งตาม จนิ ตนาการ มมี ารยาทในการเขียน เลา่ รายละเอยี ดเกยี่ วกับเรอื่ งท่ีฟงั และดู จับใจความสาคัญจากการฟงั และการดู ต้ังคาถาม ตอบคาถาม จากเร่ืองทฟี่ ังและดู พดู และแสดงความคิดเหน็ เลา่ รายละเอยี ด จบั ใจความสาคญั ตั้งคาถามและตอบคาถามแสดงความคดิ เห็นจากเรอ่ื งทฟี่ งั และดู มีมารยาทในการฟงั ดูและ พดู บอกชนิดและหนา้ ท่ขี องคาในประโยค แตง่ ประโยค แตง่ คาคล้องจอง ใชภ้ าษาไทยมาตรฐานและภาษา ถน่ิ แสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับวรรณคดที ่อี ่าน ทอ่ งบทอาขยาน บทร้อยกรอง เพลงกล่อมเดก็ ทีอ่ ยู่ใน ท้องถิน่ ตามท่กี าหนด และนาความรูท้ ่มี ีมาประยกุ ต์ใชใ้ นการทาโครงงาน เพอ่ื ใหม้ มี ารยาทในการอา่ น การเขียน การฟัง การดู และการพูด มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่ันในการ ทางาน รกั ความเปน็ ไทย มีวินยั รกั การอา่ น มจี ิตสาธารณะ รหสั ตวั ช้วี ัด ท 1.1 ป 3/1 ป 3/2 ป 3/3 ป 3/4 ป 3/5 ป 3/6 ป 3/7 ป 3/8 ป 3/9 ท 2.1 ป 3/1 ป 3/2 ป 3/3 ป 3/4 ป 3/5 ป 3/6 ท 3.1 ป 3/1 ป 3/2 ป 3/3 ป 3/4 ป 3/5 ป 3/6 ท 4.1 ป 3/1 ป 3/2 ป 3/3 ป 3/4 ป 3/5 ป 3/6 ท 5.1 ป 3/1 ป 3/2 ป 3/3 ป 3/4 รวมทงั้ หมด 31 ตวั ชวี้ ัด
38 คาอธิบายรายวิชาพืน้ ฐาน รหัสวชิ า ท 14101 ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เวลา 160 ชว่ั โมง ศึกษาอธบิ าย จาแนกเปรยี บเทียบหลักการอา่ นออกเสียง การเขียนบทรอ้ ยแกว้ รอ้ ยกรอง การฟงั การดูและการพูดหลกั การใชภ้ าษาไทยและฝึกปฏิบัตกิ ารอา่ นออกเสียงและการบอกความหมายของบทร้อย แกว้ และบทรอ้ ยกรอง อา่ นจบั ใจความสาคัญจากสอื่ ตา่ ง ๆ อา่ นหนังสอื ตามความสนใจ ตามรูปแบบการ เขียนตวั อักษรไทย การเขียนสอ่ื สาร คาขวญั คาแนะนา ใช้ทกั ษะการเขยี นแบบแผนภาพโครงเรอ่ื ง และ แผนภาพความคดิ เขยี นยอ่ ความจากสอ่ื ต่าง ๆ การเขียนจดหมาย การเขยี นบนั ทกึ การเขียนรายงานการ คน้ คว้า เขียนเรอื่ งตามจินตนาการ มมี ารยาทในการเขียน จาแนกขอ้ เท็จจริงและข้อคดิ เหน็ จากเร่ืองท่ฟี งั และ ดู จากสื่อตา่ ง ๆ เลอื กสอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้ จาแนกและใชถ้ ้อยคาทปี่ รากฏในภาษาไทยได้ตามหลกั เกณฑ์ ธรรมชาติ และพลังของภาษา พิจารณาเลอื กหนังสอื สอื่ การอา่ นได้ตรงตามความประสงค์ รักการอ่าน รักการ เขยี น การจดบนั ทึกและการค้นคว้าแสวงหาความรอู้ ่านไดค้ ล่อง จับใจความสาคญั ของเรื่อง อ่านทานองเสนาะ แต่งบทรอ้ ยกรองงา่ ยๆ ได้ ทอ่ งจาบทประพันธท์ มี่ ีความไพเราะและมีคณุ ค่าความงาม ปลูกฝังใหน้ กั เรยี นมนี ิสัย รกั การอ่าน รกั การเขยี น การจดบนั ทึก และรักการศกึ ษาคน้ คว้า สรปุ และเหน็ คณุ คา่ วรรณคดีและวรรณกรรม ทีอ่ ่าน เลา่ นทิ านพื้นบา้ น นิทานคตธิ รรม นิทานของประเทศในกลมุ่ ประชาคมอาเซียน ร้องเพลงพน้ื บ้าน ท่องจาบทอาขยานและนาขอ้ คิดเหน็ จากเรอื่ งท่ีอ่านไปประยุกต์ใช้ในชวี ติ จรงิ เพื่อใหม้ มี ารยาทในการอา่ น การเขียน การฟัง การดู และการพูด มวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ ม่งุ มนั่ ในการ ทางาน รักความเปน็ ไทย มวี นิ ยั รักการอา่ น มีจิตสาธารณะ รหัสตัวช้ีวดั ท 1.1 ป 4/1 ป 4/2 ป 4/3 ป 4/4 ป 4/5 ป 4/6 ป 4/7 ป 4/8 ท 2.1 ป 4/1 ป 4/2 ป 4/3 ป 4/4 ป 4/5 ป 4/6 ป 4/7 ป 4/8 ท 3.1 ป 4/1 ป 4/2 ป 4/3 ป 4/4 ป 4/5 ป 4/6 ท 4.1 ป 4/1 ป 4/2 ป 4/3 ป 4/4 ป 4/5 ป 4/6 ป 4/7 ท 5.1 ป 4/1 ป 4/2 ป 4/3 ป 4/4 รวมทงั้ หมด 33 ตวั ช้วี ดั
39 คาอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน รหัสวิชา ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ เวลา ๑๖๐ ช่ัวโมง อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้องตามหลักการอ่านและตามลักษณะของคา ประพันธ์ อธิบายความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัยของคา ประโยค ข้อความ สานวนโวหาร จาก เรื่องที่อ่าน เข้าใจคาแนะนา คาอธิบายและคาส่ังในคู่มือ วิเคราะห์แยกแยะข้อคิดเห็น ข้อเท็จจริง แสดง ความคดิ เห็นรวมท้ังจบั ใจความสาคญั ของเรอ่ื งทอ่ี ่าน มมี ารยาท มีนิสยั รักการอ่าน และเหน็ คุณค่าสิง่ ทีอ่ า่ น สามารถนาความร้คู วามคิดจากเรือ่ งทอี่ า่ นไปตดั สนิ ใจแก้ปญั หาในการดาเนนิ ชีวติ ได้อยา่ งสม่าเสมอ มีทักษะในการคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทัด เขียนสื่อสารโดยใช้ถ้อยคาชัดเจน เหมาะสม ใช้แผนภาพ โครงเรื่องและแผนภาพความคิด เพื่อพัฒนางานเขียน เขียนเรียงความ ย่อความ จดหมายถึงผู้ปกครองและญาติ กรอกแบบรายการต่างๆ เขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็น เขียนเรื่อง ตามจินตนาการอยา่ งสร้างสรรค์ และมมี ารยาทในการเขียน พูดแสดงความรู้ ความคิดเห็นและความรู้สึกจากเรอ่ื งที่ฟงั และดู ต้ังคาถาม ตอบคาถามจากเรอ่ื ง ที่ฟังและดู รวมทั้งวิเคราะห์ ประเมินความน่าเช่ือถือจากการฟังและดูโฆษณา สื่ออิเล็กทรอนิกส์อย่างมี เหตุผล ลาดับขั้นตอนการพูดหรือนาเสนอเร่ืองต่างๆ อย่างชัดเจน พูดรายงานหรือประเด็นค้นคว้าจาก การฟัง การดู การสนทนา รวมท้ังมีมารยาทในการดูและพูด ระบุ จาแนก เปรียบเทียบ และบอก ความหมายของคา ชนิดและหน้าท่ีของคาในประโยค ชนิดของประโยค ภาษาไทยมาตรฐาน ภาษาถิ่น สานวนท่ีเป็นคาพังเพยและสุภาษิตรวมทั้งคาภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย ใช้คาราชาศัพท์และคาสภุ าพได้ อย่างเหมาะสม แต่งบทร้อยกรองประเภทกาพย์ยานี ๑๑ บอกความรู้ ข้อคิด อธิบายคุณค่า สรุปและเห็น คุณค่าวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน เล่านิทานพ้ืนบ้าน นิทานคติธรรม นิทานของประเทศในกลุ่ม ประชาคมอาเซียน ร้องเพลงพื้นบา้ น ท่องจาบทอาขยานและนาข้อคิดเห็นจากเร่อื งที่อา่ นไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ จรงิ ใช้กระบวนการเรียนรู้แบบโครงงาน ภูมิปัญญาท้องถิ่น ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็น แนวทางในการดาเนินชวี ติ รหัสตัวช้วี ัด ท ๑.๑ ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕, ป. ๕/๖, ป. ๕/๗, ป. ๕/๘ ท ๒.๑ ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕, ป. ๕/๖, ป. ๕/๗, ป. ๕/๘,ป.๕/๙ ท ๓.๑ ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕ ท ๔.๑ ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕, ป. ๕/๖, ป. 5/๗ ท ๕.๑ ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔ รวมทงั้ หมด ๓๓ ตวั ชีว้ ดั
40 คาอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน รหัสวชิ า ท 16101 ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 เวลา 160 ชัว่ โมง ศกึ ษาและฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองไดถ้ ูกต้อง พร้อมท้ังอธิบายความหมายของ คา ประโยคและข้อความที่เป็นโวหาร อ่านจับใจความเร่ืองอย่างหลากหลายจากสื่อต่างๆ โดยจับเวลาแล้ว ถามเก่ียวกับเร่ืองท่ีอ่าน แยกข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น อธิบายการนาความรู้ ความคิด จากเร่ืองที่อ่าน ไป ตดั สนิ ใจแก้ปญั หาในการดาเนินชวี ิต อา่ นงานเขียนเชงิ อธิบาย คาส่ัง ขอ้ แนะนา และปฏิบัติตาม อา่ นขอ้ มูล จากแผนผัง แผนที่ แผนภมู ิ และกราฟ อ่านหนังสือตามความสนใจ อธบิ ายคุณค่าที่ไดร้ ับ และมีมารยาทใน การอา่ น คดั ลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทัดและคร่งึ บรรทดั ตามรปู แบบการเขียนตวั อักษรไทย เขยี นคาขวัญ คา อวยพร และประกาศ โดยใช้ได้ถกู ต้อง ชดั เจนและเหมาะสม เขยี นแผนภาพโครงเรอื่ ง แผนภาพความคดิ เพ่ือ ใช้พัฒนางานเขียน เขียนเรียงความ เขียนย่อความ เขียนจดหมายส่วนตวั กรอกแบบรายการ แบบคาร้อง ใบสมัครศึกษาต่อ แบบฝากส่งพัสดุและไปรษณียภัณฑ์ เขียนเรื่องตามจินตนาการสร้างสรรค์ มีมารยาทใน การเขียน พูดแสดงความรู้ ความเข้าใจ จุดประสงค์ของเร่ืองท่ีฟังและดู ตั้งคาถาม ตอบคาถามเชิงเหตุผล วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือจากการฟังและดูสื่อโฆษณาอย่างมีเหตุผล พูดรายงานเร่ืองหรือประเด็นท่ีศึกษา ค้นคว้าจากการฟัง การดู และการสนทนา พูดโน้มน้าวอย่างมีเหตุผล และน่าเชื่อถือ มีมารยาทในการฟัง การดู การพูด วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของคาในประโยค ใช้คาไดเ้ หมาะสม กับกาลเทศะและบคุ คล ใชค้ า ราชาศัพท์ ระดับภาษา ภาษาถ่ิน รวบรวมและบอกความหมายของคาภาษาต่างประเทศท่ีใช้ในภาษาไทย ระบุลักษณะของประโยคสามัญ ประโยครวม ประโยคซ้อน รวมท้ังกลุ่มคาหรือวลี แต่งกลอนสุภาพ วิเคราะห์และเปรียบเทียบ สานวนท่ีเป็นคาพังเพย สุภาษิต เล่านิทานพ้ืนบ้านท้องถ่ินตนเอง ชุมชน เขต นิทานพื้นบ้านของท้องถิ่นอ่ืน และนิทานของประเทศในกลุ่มประชาคมอาเซียน แสดงความคิดเห็น อธิบาย คุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน นาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนด และบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความสนใจ กิจกรรมการเรียนรู้เน้นให้ผู้เรียนสังเกตและตอบคาถามเพ่ือ กระตุ้นความคิดอย่างเป็นลาดับ เพ่ือนาข้อมลู ท่ีได้มาสรา้ งองค์ความรู้ด้วยตนเอง ฝึกประมวลคา และนาคา ไปใชอ้ ย่างถูกต้อง ส่งเสริมการสรา้ งสรรคผ์ ลงานหลากหลายรปู แบบและเรียนรู้ภาษาไทยจากส่ือต่างๆ ทใี่ ชใ้ น ชีวติ ประจาวัน รวมทง้ั มุ่งพฒั นาการทางานดว้ ยกระบวนการกลุม่ และกระบวนการคดิ เพอ่ื ใหเ้ กิดความเขา้ ใจหลกั ภาษา เกดิ ทกั ษะในการใชภ้ าษาส่ือสาร สามารถนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน ได้ มีความชื่นชม เห็นคุณค่าของการอนุรักษ์ภาษาไทย มีทัศนคติท่ีดีต่อการเรียนภาษาไทย ภูมิใจในภาษา ประจาชาติ และใชภ้ าษาไทยเป็นเครอื่ งมอื ไดอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสมในการดารงชีวติ รหัสตวั ชวี้ ดั ท ๑.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕,ป.๖/๖,ป.๖/๗,ป.๖/๘,ป.๖/๙ ท ๒.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕,ป.๖/๖,ป.๖/๗,ป.๖/๘,ป.๖/๙ ท ๓.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕,ป.๖/๖ ท ๔.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕,ป.๖/๖ ท ๕.๑ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔ รวมท้งั หมด ๓๔ ตัวชว้ี ดั
41 คาอธิบายรายวิชา รายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ระดบั ประถมศึกษา -------------- รายวิชา/กจิ กรรม เวลาเรียน (ชม./ป)ี รายวิชาพ้ืนฐาน จานวน 200 ชว่ั โมง ค 11101 คณิตศาสตร์ จานวน 200 ชว่ั โมง ค 12101 คณิตศาสตร์ จานวน 200 ช่วั โมง จานวน 160 ชั่วโมง ค 13101 คณิตศาสตร์ จานวน 160 ชัว่ โมง ค 14101 คณติ ศาสตร์ จานวน 160 ชั่วโมง ค 15101 คณิตศาสตร์ ค 16101 คณติ ศาสตร์
42 คาอธิบายรายวิชาคณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค 11101 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 เวลา 200 ช่วั โมง ศึกษา จานวนนับ 1 ถึง 100 และ 0 การนับทีละ 1 และทีละ 10 การอ่านและการเขียนตัวเลขฮินดู อารบิกตัวเลขไทยแสดงจานวน การแสดงจานวนนับไม่เกิน 20 ในรูปความสัมพันธ์ของจานวนแบบส่วนย่อย – สว่ นรวม ( part – whole relationship) การบอกอนั ดบั ที่ หลัก ค่าของเลขโดดในแตล่ ะหลกั และการเขียนตวั เลขแสดง จานวนในรูปกระจาย การเปรียบเทียบจานวนและการใช้ เคร่ืองหมาย = ≠ > < การเรียงลาดับจานวน ความหมาย ของการบวก ความหมายของการบ การหาผลบวก การหาผลลบ และความสัมพันธ์ของการบวก โจทย์ปัญหาการบ และ การสร้างโจทย์ปญั หาพร้อมท้ังหาคาตอบ แบบรูปของจานวนท่เี พม่ิ ขน้ึ หรือลดลง ทีละ 1 และทีละ 10 แบบรปู ซ้าของ จานวน รูปเรขาคณิตและรูปอื่นๆ การวัดความยาวโดยใช้หน่วยที่ไม่ใช่หน่วยมาตรฐาน การวัดความยาวเป็น เซนติเมตร เป็นเมตร การเปรียบเทียบ ความยาวเป็นเซนติเมตร เป็นเมตร การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การ ลบเก่ียวกับความยาวที่มีหน่วยเป็นเซนติเมตร เป็นเมตร การวัดน้าหนักโดยใช้หน่วยที่ไม่ใช่หน่วยมาตรฐาน การวัดน้าหนักเป็นกิโลกรัม เป็นขีด การแกโ้ จทยป์ ัญหาการบวก การลบเก่ียวกับน้าหนักทมี่ ีหนว่ ยเป็นกิโลกรัม เป็นขีด ลักษณะของทรงส่ีเหลี่ยมมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก กรวย ลักษณะของรูปหลายเหลี่ยม วงกลม และวงรี การอ่านแผนภูมริ ปู ภาพ โดยกจิ กรรมการเรียนรเู้ ปน็ การเน้นจัดประสบการณจ์ ากรูปธรรมไปสู่ภาพและสญั ลกั ษณ์ การจัด กิจกรรมกลุ่มหรอื เกม ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการสรา้ งความคิดรวบยอด สามารถบอกจานวนของสง่ิ ของต่างๆ แสดงสิ่งต่างๆ ตามจานวนทก่ี าหนด อา่ นและเขยี นตวั เลขฮนิ ดูอารบกิ ตวั เลขไทย แสดงจานวนนบั ไม่เกิน 100 และ 0 เปรียบเทียบจานวนนับไมเ่ กิน 100 และ 0 โดยใช้ เครือ่ งหมาย = ≠ > < เรียงลาดับจานวนนับไมเ่ กิน 100 และ 0 ต้ังแต่ 3 ถึง 5 จานวน หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและประโยค สัญลักษณ์แสดงการลบ ของจานวนนับไม่เกิน 100 และ 0 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ ปญั หาการลบของจานวนนับไมเ่ กิน 100 และ 0 ระบุจานวนที่หายไปในแบบรูปของจานวนท่ีเพ่มิ ขึ้นหรือลดลงทีละ 1 และทีละ 10 และระบุรูปท่ีหายไปในแบบรูปซ้าของ รูปเรขาคณิตและรูปอื่นๆ ท่ีสมาชิกในแต่ละชุดที่ซ้ามี 2 รูป วัดและเปรียบเทียบความยาวเป็นเซนติเมตรเป็นเมตร วัดและเปรียบเทียบน้าหนักเป็นกิโลกรัมเป็นขีด จาแนกรูป สามเหล่ียม รูปสี่เหลี่ยม วงกลม วงรี ทรงส่ีเหล่ียมมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวย ใช้ข้อมูลจาก แผนภูมิรูปภาพในการหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา เมอื่ กาหนดรูป 1 รูป แทน 1 โดยใช้ทักษะกระบวนการทาง คณติ ศาสตร์ในการแกป้ ัญหา รูจ้ กั ใช้วิธีการทห่ี ลากหลายในการแก้ปัญหา เพ่ือให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การ สื่อสาร สื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และสามารถนาไปใช้ในการเรียนรู้ส่ิงต่างๆ และใช้ในชีวิตประจาวัน อย่างสร้างสรรค์ มีระเบียบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และมีความเช่ือม่ันในตนเอง สามารถทางาน อยา่ งเปน็ ระบบ รวมทง้ั เหน็ คณุ คา่ และมเี จตคตทิ ด่ี ีตอ่ คณติ ศาสตร์ รหัสตวั ชีว้ ดั ค 1.1 ป.1/1, ป.1/2 ,ป.1/3 ,ป.1/4 ,ป.1/5 ค 1.2 ป.1/1 ค 2.1 ป.1/1, ป.1/2 ค 2.2 ป.1/1 ค 3.1 ป.1/1 รวมท้งั หมด 10 ตัวช้ีวัด หมายเหตุ คาอธิบายรายวิชาน้ี จดั ทาข้นึ ตามมาตรฐานการเรยี นร้แู ละตัวชวี้ ดั ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐานพุทธศกั ราช 2551 ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560
43 คาอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน รหัสวชิ า ค 12101 คณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เวลา 200 ชัว่ โมง ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคานวณ และฝึกการแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับการเขียนและอ่านสัญลักษณ์แสดง ปรมิ าณของสง่ิ ของหรอื จานวนนบั ท่ีไมเ่ กินหนึ่งพันและศูนย์ เปน็ ตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก ตัวเลขไทย และตวั หนังสอื การ เปรียบเทียบและเรียงลาดับจานวนนับไม่เกินหนึ่งพันและศูนย์ การบวก ลบ คูณ หาร และบวก ลบ คูณ หาร ระคนของจานวนนับไม่เกินหนึ่งพันและศูนย์ การวิเคราะห์และหาคาตอบของโจทย์ปัญหาและโจทย์ปัญหาระคน ของจานวนนับไม่เกินหนึ่งพันและศูนย์ การบอกความยาวเป็นเมตรและเซนติเมตร การบอกน้าหนักเป็นกิโลกรัม และขีด การบอกปรมิ าตรและความจุเปน็ ลิตร พร้อมท้ังเปรยี บเทยี บความยาว นา้ หนัก และปริมาตรหรือความ จุ การบอกจานวนเงินทั้งหมดจากเงินเหรียญและธนบัตร การบอกเวลาบนหน้าปัดนาฬิกา บอกวัน เดือน ปี จากปฏทิ นิ การแกป้ ญั หาเกี่ยวกับการวดั ความยาว การช่งั การตวง และเงิน การจาแนกรปู เรขาคณิตสองมิตวิ ่า เป็นรูปสามเหลีย่ ม รูปสี่เหล่ียม รูปวงกลม หรือรูปวงรี การจาแนกรูปเรขาคณิตสามมติ ิ วา่ เป็นทรงส่เี หลี่ยมมุม ฉาก ทรงกลม หรือทรงกระบอก การจาแนกระหว่างรูปสี่เหลย่ี มมุมฉากกบั ทรงส่ีเหลี่ยมมุมฉาก และรูปวงกลม กับทรงกลม การเขียนรูปเรขาคณิตสองมิติ โดยใช้แบบของรูปเรขาคณิต การบอกจานวนและความสัมพันธ์ใน แบบรูปของจานวน การบอกรูป และความสัมพันธ์ในแบบรูปของรูปท่ีมรี ูปร่าง ขนาด หรือสีท่ีสัมพันธ์กันอย่าง ใดอย่างหนง่ึ กิจกรรมการเรยี นรู้เป็นการเน้นจดั ประสบการณ์จากรูปธรรมไปสู่ภาพและสัญลักษณ์ การจดั กจิ กรรม กลุ่มหรือเกม ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการสร้างความคิดรวบยอด ใช้โจทย์ที่หลากหลายใกล้เคียงกับ ชีวิตประจาวัน เพ่ือฝึกทกั ษะการคิดคานวณและฝกึ การแกโ้ จทย์ปญั หา โดยเรยี งลาดบั โจทย์จากงา่ ยไปหาโจทย์ ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะเป็นลาดับขั้น ส่งเสริมการอธิบาย ให้เหตุผลประกอบการ แกป้ ัญหา และเน้นการแกป้ ญั หาโดยใช้วธิ ีการที่หลากหลาย สร้างสรรค์ เพ่ือให้มีความคิดรวบยอด มีทักษะในการคิดคานวณ มีเหตุผลในการแก้ปัญหา มีความคิดริเร่ิม สร้างสรรค์ และนาความรู้ไปใช้ในชีวติ จรงิ ได้ รหัสตวั ชว้ี ดั ค 1.1 ป.2/1, ป.2/2 ,ป.2/3 ,ป.2/4 ,ป.2/5, ,ป.2/6 ,ป.2/7, ป.2/8 ค 2.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5, ป.2/6 ค 2.2 ป.2/1 ค 3.1 ป.2/1 รวมทงั้ หมด 16 ตัวชี้วดั หมายเหตุ คาอธบิ ายรายวิชานี้ จดั ทาขน้ึ ตามมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้วี ัด ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐานพุทธศักราช 2551 ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2560
44 คาอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน รหสั วชิ า ค 13101 คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลา 200 ช่ัวโมง ศกึ ษา ฝึกทกั ษะการคดิ คานวณ และฝกึ การแก้ปญั หาในสาระตอ่ ไปน้ี จานวนนับที่ไม่เกินหน่ึงแสน และศูนย์ โดยการเขียนและอ่าน ตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และ ตัวหนังสือแสดงปริมาณสิ่งของหรือจานวนนบั การนับเพิ่ม การนบั ลด การเปรียบเทียบและเรยี งลาดับหลักและ ค่าของตัวเลขโดดในแต่ละหลัก และการใช้ 0 เพื่อยึดตาแหน่งของหลัก การเขียนตัวเลขแสดงจานวนในรูป กระจาย การเปรยี บเทียบจานวน และการใชเ้ ครือ่ งหมาย = ≠>< และการเรียงลาดับจานวนไม่เกนิ ๕ จานวน การบวก การลบ การคูณ การหาร และโจทย์ปญั หา โดยการบวก ลบ คณู หาร และบวก ลบ คณู หารระคน ของจานวนนบั ไมเ่ กินหนึ่งแสนและศูนย์ การคูณจานวนหนงึ่ หลักกบั จานวนท่ีไมเ่ กินสห่ี ลกั การคณู จานวนสอง หลักกับจานวนสองหลัก การหารท่ีตัวตั้งไม่เกินสี่หลัก และตัวหารมีหน่ึงหลัก การบวก ลบ คูณ หารระคน วิเคราะห์และแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาและโจทยป์ ัญหาระคน การสรา้ งโจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ การหาร โดยใช้ช่ือสถานท่ี ทรัพยากร ผลิตภัณฑ์ สินค้า อาชีพและเร่ืองราวในกรุงเทพมหานคร หรือในสานกั งานเขตบงึ กุ่ม การวัดความยาวการช่ังการตวงเงินและเวลาโดยการการวัดและเปรียบเทียบความยาวเป็นเมตร เซนติเมตร มิลลิเมตร เลือกเครื่องช่ังที่เหมาะสม บอกและเปรียบเทียบน้าหนักเป็นกิโลกรัม กรัม ขีด และ คาดคะเนน้าหนักเป็นกิโลกรัม บอกปริมาตรและความจุเป็นลิตร มิลลิลิตร และเปรียบเทียบปรมิ าตรและความจุ ในหน่วยเดียวกัน บอกเวลาบนหน้าปัดนาฬิกา อ่านและเขียนบอกเวลาโดยใช้จุด บอกความสมั พันธ์ของหน่วยการวัด ความยาว น้าหนัก เวลา อ่านและเขียนจานวนเงินโดยใช้จุดแก้ปัญหาเกี่ยวกับการวัดความยาว การช่ัง การตวง เงนิ และเวลา อา่ นและเขียนบันทกึ รายรบั รายจ่าย และบนั ทกึ กจิ กรรมหรือเหตุการณ์ที่ระบุเวลา รูปเรขาคณิตและสมบัติบางประการของรูปเรขาคณิต โดยการบอกชนิดของรูปเรขาคณิตสองมิติท่ี เป็นส่วนประกอบของสิ่งของท่ีมลี ักษณะเป็นรูปเรขาคณิตสามมิติ รูปวงกลม รูปวงรี รูปสามเหลี่ยม รูปส่ีเหล่ียม รูปห้าเหล่ียม รูปหกเหลี่ยม รูปแปดเหล่ียม ระบุรูปเรขาคณิตสองมิติที่มีแกนสมมาตรจากรูปที่กาหนดให้ เขียนช่ือจุด เส้นตรง รังสี ส่วนของเส้นตรง มุม และเขียนสัญลักษณ์ เขียนรูปเรขาคณิตในรูปแบบต่างๆ และ บอกรูปเรขาคณติ ที่อยใู่ นสิง่ แวดล้อมรอบตัว แบบรูปและความสัมพนั ธ์ โดยการบอกจานวนและความสัมพนั ธ์ในแบบรูปของจานวนที่เพ่มิ ข้ึนทีละ 3ทลี ะ 4 ทีละ 25 ทีละ 50 และลดลงทีละ 3 ทีละ 4 ทีละ 5 ทีละ 25 ทลี ะ 50 และแบบรูปซ้า บอกรูปและ ความสมั พนั ธใ์ นแบบรปู ของรูปทีม่ ีรปู รา่ ง ขนาด หรือสี ท่สี ัมพันธก์ นั สองลักษณะ การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและจาแนกข้อมูลเก่ียวกับตนเอง และสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวที่พบเห็นในชีวิตประจาวัน อ่านข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพ และแผนภูมิแท่ง และ เร่ืองราวใน กรุงเทพมหานครหรือในสานักงานเขตท่ีโรงเรียน ตั้งอยู่ เช่น จานวนประชากร อาชีพ จานวนคนเข้า ใชส้ นามกีฬา จานวนคนเข้าใชห้ ้องสมดุ เปน็ ตน้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ โดยการจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ ศกึ ษาค้นควา้ ปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน นาเสนอผลงาน โดยใช้ความรทู้ ักษะกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ และวิธีการท่ีหลากหลายในการแก้ปัญหา การให้เหตุผลในการตัดสินใจการใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทาง
45 คณิตศาสตร์ในการสื่อความหมาย การนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคดิ ทักษะ ที่ได้รับไปใช้ในการเรียนรู้ ส่ิงต่างๆ และใช้ในชีวิตประจาวันอยา่ งสร้างสรรค์ รวมทั้งเห็นคุณค่าและมีเจตคติท่ดี ีตอ่ คณิตศาสตร์ สามารถ ทางานอยา่ งเป็นระบบระเบียบ รอบคอบ มคี วามรับผดิ ชอบ มีวิจารณญาณ และเชือ่ มน่ั ในตนเอง รหสั ตวั ช้วี ัด ค 1.1 ป.3/1, ป.3/2 ,ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6 ,ป.3/7, ป.3/8, ป.3/9, ป.3/10 ป.3/11 ค 1.2 ป.3/1, ค 2.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3, ป.3/4, ป.3/5, ป.3/6, ป.3/7, ป.3/8, ป.3/9, ป.3/10, ป.3/11, ป.3/12 , ป.3/13 ค 2.2 ป.3/1 ค 3.1 ป.3/1, ป.3/2 รวมทัง้ หมด 28 ตัวชว้ี ดั หมายเหตุ คาอธบิ ายรายวชิ าน้ี จดั ทาข้นึ ตามมาตรฐานการเรยี นร้แู ละตวั ชว้ี ัด ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐานพทุ ธศักราช 2551 ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2560
46 คาอธบิ ายรายวิชาคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค14101 รายวิชาคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลา 160 ช่วั โมง ศกึ ษา ฝกึ ทักษะการคิดคานวณ และฝึกการแก้ปัญหาในสาระตอ่ ไปน้ี จานวนนับที่มากกว่า 100,000 และ 0 โดย อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และ ตวั หนังสอื แสดงจานวนนับ ทมี่ ากกวา่ ๑๐๐,๐๐๐ เปรยี บเทยี บและเรียงลาดับจานวนนับ ที่มากกวา่ ๑๐๐,๐๐๐ จากสถานการณ์ตา่ ง ๆ เศษส่วน บอก อา่ นและเขียนเศษสว่ น จานวนคละ แสดงปริมาณสง่ิ ต่างๆ และแสดงสิ่งต่างๆตาม เศษสว่ น จานวนคละทก่ี าหนด เปรียบเทียบ เรยี งลาดบั เศษสว่ นและจานวนคละทต่ี วั สว่ นตวั หนงึ่ เปน็ พหคุ ณู ของอกี ตัวหนง่ึ ทศนยิ ม อา่ นและเขยี นทศนยิ มไมเ่ กนิ 3 ตาแหนง่ แสดงปริมาณของสงิ่ ของต่างๆ และแสดงสง่ิ ต่างๆตามทศนยิ มทีก่ าหนด เปรียบเทียบและเรยี งลาดับทศนิยมไม่เกิน 3 ตาแหน่งจากสถานการณต์ ่างๆ การบวก การลบ การคูณ การหารจานวนนับท่ีมากกว่า 100,000 และ 0 โดยประมาณ ผลลัพธ์ของการบวก การลบ การคูณ การหาร จากสถานการณ์ต่างๆ อย่างสมเหตุสมผล หาค่าของตัวไม่ ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและประโยคสัญลักษณ์แสดงการลบของจานวนนับทมี่ ากกว่า 100,000 และ 0 หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการคูณของจานวนหลายหลกั 2 จานวน ทมี่ ผี ลคณู ไมเ่ กนิ 6 หลัก และประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการหารทต่ี วั ตง้ั ไม่เกนิ 6 หลกั ตัวหารไม่เกนิ 2 หลัก หาผลลพั ธ์การบวก ลบ คณู หารระคน ของจานวนนบั และ 0 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา 2 ข้นั ตอนของจานวนนบั ท่มี ากกว่า 100,000และ 0 สร้างโจทยป์ ัญหา 2 ขั้นตอน ของจานวนนบั และ 0 พรอ้ มหาคาตอบ การบวก การลบเศษสว่ น หาผลบวก ผลลบของเศษส่วนและจานวนคละทต่ี วั สว่ นตวั หน่งึ เป็น พหุคูณของอีกตวั หน่ึง แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวกและโจทยป์ ญั หา การลบเศษส่วนและ จานวนคละที่ตวั สว่ นตวั หน่ึงเป็นพหคุ ูณของอกี ตวั หนงึ่ การบวก การลบทศนิยม โดยหาผลบวก ผลลบของทศนิยมไม่เกิน 3 ตาแหน่ง แสดงวิธีหา คาตอบของโจทย์ปัญหา การบวก การลบ 2 ขั้นตอนของทศนิยมไม่เกิน 3 ตาแหน่ง แบบรูป ศกึ ษาแบบรปู ของจานวนท่เี กดิ จากการคูณการหารด้วยจานวนเดยี วกัน เวลา แสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ญั หาเกย่ี วกับเวลา การบอกระยะเวลาเป็นวนิ าที นาที ชวั่ โมง วัน สัปดาห์ เดือน ปี การเปรียบเทียบระยะเวลาโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยเวลา การอ่านตารางเวลา การแก้โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับเวลา การวัดและสร้างมุม วดั และสรา้ งมุม โดยใช้โปรแทรกเตอร์ รปู สี่เหล่ียมมุมฉาก แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับ ความยาวรอบรูปและพ้ืนที่ของ รปู ส่เี หล่ียมมุมฉาก รูปเรขาคณิต จาแนกชนิดของมุม บอกช่ือมุม ส่วนประกอบของมุมและเขียนสัญลักษณ์แสดงมุม สร้างรปู สเี่ หลย่ี มมุมฉากเมอ่ื กาหนดความยาวของดา้ น การนาเสนอข้อมูล โดยใช้ข้อมูลจากแผนภูมิแท่ง ตารางสองทาง ในการหาคาตอบของโจทย์ ปัญหา
47 ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ โดยการจัดประสบการณห์ รอื สร้างสถานการณ์ใกล้ตัว ให้ ผู้เรียนได้ใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาต่างๆด้วยวธิ ีการ ท่หี ลากหลาย มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ การใช้เหตุผลประกอบการตัดสินใจและสรุปผล ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ ในการส่ือสาร ส่ือความหมาย และนาเสนอได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เช่ือมโยงความรู้ต่างๆ ทางคณิตศาสตร์กับ ศาสตร์อ่ืนๆ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการท่ีได้รับ ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ และใช้ในชีวติ ประจาวนั อยา่ งสร้างสรรค์ รวมทง้ั เห็นคณุ ค่าและมเี จตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอยา่ ง เป็นระเบียบ รอบคอบ มคี วามรบั ผิดชอบ มีวจิ ารณญาณและเชอ่ื มั่นในตนเอง เพ่ือให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การ ส่ือสาร สื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และสามารถนาไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ และใช้ในชีวิตประจาวัน อย่างสร้างสรรค์ มีระเบียบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และมีความเชื่อม่ันในตนเอง สามารถทางาน อย่างเป็นระบบ รวมทงั้ เห็นคณุ คา่ และมีเจตคติทด่ี ตี ่อคณติ ศาสตร์ รหสั ตัวช้ีวัด ค 1.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3,ป.4/4, ป.4/5, ป.4/6,ป.4/7, ป.4/8, ป.4/9,ป.4/10, ป.4/11, ป.4/12,ป.4/13, ป.4/14, ป.4/15,ป.4/16 ค 1.2 ป.4/1 ค 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3 ค 2.2 ป.4/1, ป.4/2 ค 3.1 ป.4/1 รวมทัง้ หมด 23 ตัวชว้ี ัด หมายเหตุ คาอธิบายรายวชิ านี้ จดั ทาขึน้ ตามมาตรฐานการเรียนร้แู ละตวั ช้ีวัด ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐานพุทธศักราช 2551 ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2560
48 คาอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน รหัสวิชา ค 15101 คณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 5 เวลา 160 ช่ัวโมง ศึกษา ฝึกทักษะการคดิ คานวณ และฝกึ การแก้ปญั หาในสาระต่อไปน้ี เศษส่วน จานวนคละ และทศนิยม โดยการเขียนและอ่านเศษส่วนแท้ เศษเกิน จานวนคละ และ ทศนิยมไม่เกินสองตาแหน่ง การเขียนจานวนนับในรูปเศษส่วน เปรียบเทียบและเรียงลาดับเศษส่วน การ เขียนเศษส่วนในรูปทศนิยมและร้อยละ การเขียนร้อยละในรูปเศษส่วน และทศนิยม การเขียนทศนิยมในรูป เศษส่วนและร้อยละ การบวก ลบเศษส่วน ที่ตัวส่วนตัวหนึ่งเป็นพหุคูณของตัวส่วนอีกตัวหน่ึง การบวก ลบ คูณ หาร และ บวก ลบ คูณระคนของเศษส่วนและทศนิยมการวิเคราะห์ และแสดงวิธีหาคาตอบของ โจทย์ปัญหาและโจทย์ปัญหาระคนของจานวนนับ เศษส่วน ทศนิยมและร้อยละ การบอกค่าประมาณใกล้เคียง จานวนเต็มสิบ เต็มร้อย และเต็มพันของจานวนนับโดยใช้ชื่อสถานท่ีทรัพยากร ผลิตภัณฑ์ สินค้า อาชีพ และเรื่องราวในกรุงเทพมหานครหรอื ในสานักงานเขตบึงกุ่ม และใช้อัตราการแลกเปลยี่ นเงนิ อาเซยี น หน่วยการวัด การหาพื้นท่ี การหาปริมาตร โดยการบอกความสัมพันธ์ของหน่วยการวัด ปริมาตร หรือความจุ การหาความยาวรอบรูปของรูปส่ีเหล่ียม รูปสามเหล่ียม และการหาพ้ืนท่ีของรูปส่ีเหลี่ยมมุมฉาก และรูปสามเหล่ียม การวัดขนาดของมุม การหาปรมิ าตร หรือความจุของทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก การแก้โจทย์ ปัญหาเก่ยี วกบั พ้ืนทค่ี วามยาวรอบรูปของรูปสเี่ หล่ียมมุมฉากและรูปสามเหลย่ี ม รูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ โดยการบอกลักษณะ และจาแนกรูปเรขาคณิตสามมิติชนิดต่าง ๆ ทรงกลม ทรงกระบอก กรวย ปริซึม พีระมิด บอกลักษณะความสัมพันธ์ และจาแนกรูปสี่เหลี่ยมชนิดต่าง ๆ รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส รูปสี่เหล่ียมผืนผ้า รูปส่ีเหล่ียมขนมเปียกปูน รูปส่ีเหลี่ยมด้านขนาน รูปส่ีเหลี่ยมคางหมู รูปส่ีเหล่ียมรูปว่าว บอกลักษณะ ส่วนประกอบ ความสัมพันธ์และจาแนกรูปสามเหล่ียมชนิดต่าง ๆ รูปสามเหลี่ยมแบ่งตามลักษณะของด้าน รูปสามเหล่ียมแบ่งตามลักษณะของมุม ส่วนประกอบของรูป สามเหล่ียม มุมภายในของรูปสามเหล่ียม การสร้างมุมโดยใช้โปรแทรกเตอร์ การสร้างรูปส่ีเหลี่ยมมุมฉาก รูปสามเหล่ยี ม รูปวงกลม การสร้างเสน้ ขนานโดยใช้ไมฉ้ าก แบบรปู ของจานวน โดยการบอกจานวนและความสมั พนั ธ์ในแบบรูปของจานวนที่กาหนดให้ การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น โดยการเก็บรวบรวม และการจาแนกข้อมูล การเขียน แผนภูมิแท่งท่ีมีการย่นระยะของเส้นแสดงจานวน การอ่านแผนภูมิแท่งเปรียบเทียบ และการคาดคะเน เก่ียวกบั จานวนประชากร รายได้ประชากร อาชีพ จานวนคนเขา้ ใช้สนามกฬี า จานวนคนทเี่ ขา้ ใช้หอ้ งสมุดใน กรุงเทพมหานครหรือในสานกั งานเขตบงึ กมุ่ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ โดยการจัดประสบการณ์ หรือสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนได้ ใช้ความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยวิธีการท่ี หลากหลาย มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ สามารถใช้เหตุผลประกอบการตัดสินใจและสรุปผล ใช้ภาษาและ สัญลักษณ์ในการส่ือสาร ส่ือความหมาย และนาเสนอได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ทาง คณิตศาสตร์กบั ศาสตร์อ่ืน ๆ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการที่ได้รับไปใช้ในการ เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจาวันอย่างสร้างสรรค์ รวมท้ังเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระเบยี บ รอบคอบ มีความ
49 รบั ผิดชอบ มีวจิ ารณญาณและเช่อื มน่ั ในตนเอง การวัดและประเมินผล ใช้วิธีการวัดและประเมินท่ีหลากหลาย ตามสภาพความเป็นจริงของเนื้อหา และทกั ษะท่ตี อ้ งการวดั รหสั ตวั ชี้วดั ค 1.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5, ป.5/6, ป.5/7, ป.5/7, ป.5/9 ค 2.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4 ค 2.2 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4 ค 3.1 ป.5/1, ป.5/2 รวมทง้ั หมด 19 ตวั ชี้วัด หมายเหตุ คาอธิบายรายวชิ าน้ี จดั ทาข้ึนตามมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวช้วี ดั ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2560
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172