195 “ ในการพฒั นาประเทศน้ัน จาเปน็ ตอ๎ งทาตามลาดับข้นั เริ่มดว๎ ยการ ส ร๎ า ง พื้ น ฐ า น คื อ ค ว า ม มี กิ น มี ใ ช๎ ข อ ง ป ร ะ ช า ช น กํ อ น ด๎ ว ย วิ ธี ก า ร ท่ี ป ร ะ ห ยั ด ระมัดระวังแตถํ ูกตอ๎ งตามหลักวชิ า เม่อื พืน้ ฐานเกดิ ขนึ้ ม่ันคงพอควรแลว๎ จึงคํอยสร๎างเสริมความเจริญข้ันท่ีสูงขึ้นตามลาดับตํอไป ก็เพื่อปูองกันความ ผิดพลาดล๎มเหลวและเพอ่ื ใหบ๎ รรลผุ ลสาเร็จแนํนอนบรบิ ูรณ๑ ” พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปรญิ ญาบตั รของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร๑ วันที่ 19 กรกฎาคม 2517 “…การพัฒนาทเ่ี หมาะกับประเทศไทยเรา ก็คือจะต๎องทานุบารุง เกษตรกรรมทุกสาขาให๎พัฒนาก๎าวหนา๎ เพื่อยกระดับฐานะของเกษตรกร ซ่ึงเป็น ประชาชนสํวนใหญขํ องประเทศให๎สูงขนึ้ อันจะสํงผลใหฐ๎ านะทางเศรษฐกิจโดย สํวนรวมของประเทศมีความเข๎มแข็งมัน่ คงขึ้นด๎วย…” คัดตดั ตอนจากพระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร๑ วันท่ี 24 กรกฎาคม 2541 พวกเราทั้งหลายจงึ ตอ๎ งร๎จู ัก รูว๎ ําแตลํ ะชมุ นุมชนอยไํู ด๎ดว๎ ยตนเองและ ถา๎ อยากอยใํู ห๎ดีขึ้น ให๎มีความเจริญ ใหม๎ ีความอยํูดีกนิ ดขี ึ้น มีรายไดม๎ ากขน้ึ จะต๎อง แลกเปลย่ี นระหวาํ งชมุ นุมชน ระหวํางหมูํบา๎ น ระหวาํ งจงั หวัด ระหวาํ งประเทศ จะตอ๎ งมคี วามสามัคคีปรองดองกนั ระหวํางบุคคลในประเทศจึงเป็นความสาคญั เพ่อื ให๎แตลํ ะคน ได๎สามารถทจ่ี ะทามาหากนิ มคี วามก๎าวหนา๎ เคร่ืองหมายผนู๎ าเยาวชน จึงมีสง่ิ ที่สาคญั ทส่ี ุดคอื ธงชาติอยํูในเคร่ืองหมาย และเป็นสํวนใหญํทีส่ ดุ อันนีม้ ีไวเ๎ พราะ ต๎องทราบวาํ ชาตนิ เ้ี ปน็ สิง่ สาคญั สาหรับทกุ คน และตอ๎ งรํวมกนั สรา๎ ง ไมํใชวํ าํ แตํละ คนตํางอยูํ ทกุ คนได๎รบั ความรู๎ในทางวชิ าการ ได๎รับความรู๎ในทางความสามัคควี ําตอ๎ ง รวบรวมกาลงั ตอ๎ งรํวมแรงกันเพอื่ ทจี่ ะสรา๎ งความเจริญแกบํ ๎านเมือง พระบรมราโชวาท พระราชทานแกํผูน๎ าเยาวชนจากจงั หวดั ตาํ งๆ 36 จงั หวัด ทีป่ รกึ ษาผ๎นู าเยาวชน และเจ๎าหน๎าที่ดาเนินการฝกึ อบรม ณ ศาลาดุสิดาลัย วันที่ 30 สิงหาคม 2514
196 กกกกกกกกก 2.1 จากพระราชดารสั ดังกลําวข๎างต๎น ในฐานะท่ที ุกคนเป็นสมาชิกของชุมชน ทอ๎ งถิ่น และสังคม เก่ียวข๎องกับการพัฒนาบ๎านเมือง ชุมชน ท๎องถิ่น ต๎องมีทั้งนักวิชาการ และผู๎ปฏิบัติท่ีมี ความสัมพันธ๑อันดี รํวมมือกันพัฒนา โดยการพัฒนาต๎องเหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ น้ันๆ ชุมชน ท๎องถิ่น จะเข๎มแข็งได๎ ต๎องมีการติดตํอ แลกเปลี่ยนกับบุคคลหรือองค๑กรภายนอก ภายใต๎การมี สัมพันธภาพทด่ี ี มคี วามรกั ใครํปรองดอง และสามคั คีกัน ตลอดจนมกี ระบวนการพัฒนาชุมชน ท๎องถิ่น ตามลาดับขนั้ ประหยดั ถูกหลักวิชา เพือ่ ปูองกันความลม๎ เหลว กกกกกกกกก 2.1 กลําวโดยสรปุ หนา๎ ทพี่ ลเมืองดี ควรนอ๎ มนาพระราชดารัสท่เี ก่ยี วข๎องกบั การพัฒนา ต๎องอาศัยความรํวมมือท้ังฝุายวิชาการและผ๎ูปฏิบัติ ต๎องพัฒนาให๎เหมาะสมกับสภาพพื้นที่บริบท ต๎องอาศัยบุคคลภายนอก หรือองค๑กรภายนอกเข๎ามามีสํวนรํวมแลกเปล่ียนสร๎างความเข๎มแข็งให๎กับ ชุมชน ท๎องถิน่ โดยต๎องทาตามขัน้ ตอนถกู ตอ๎ งตามหลักวิชา เพอ่ื ปอู งกันความผดิ พลาดทเี่ กิดข้ึน เร่ืองท่ี 3 การนอ้ มนาหลกั การทรงงานไปใช้ชวี ติ ประจาวนั กกกกกกก3.1 การนอ๎ มนาหลกั การทรงงานไปใช๎ในครอบครัว กกกกกกก3.1 หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลท่ี 9 ท่ีสาคัญ ทค่ี รอบครวั ชาวไทย ควรนอ๎ มนาไปใชใ๎ นชวี ติ ประจาวัน ไดแ๎ กํ กกกกกกก3.1 3.1.1 การมสี วํ นรํวม และคดิ ถงึ สวํ นรวม สมาชกิ ในครอบครวั ควรนอ๎ มนามาใช๎ด๎วย การเปิดโอกาสให๎ทกุ คนในครอบครัวรวํ มแสดงความคดิ เห็น เปดิ ใจใหก๎ ว๎างรบั ฟ๓งความคดิ เหน็ แลว๎ นามาปรบั ใช๎ในการดารงชวี ิตของครอบครวั รํวมกนั ทากิจกรรม หรอื ภารกิจของครอบครัว และเม่ือ ไดร๎ บั มอบหมาย ก็รํวมกันทาความตั้งใจให๎สาเรจ็ ลุลํวง กกกกกกก3.1 3.1.2 ประโยชนส๑ ํวนรวม สมาชิกในครอบครัว ควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการมีความ เสยี สละความสุขสวํ นตน เพ่ือประโยชนส๑ วํ นรวมของคนในครอบครัว เพ่ือใหค๎ รอบครวั อยูํรวํ มกนั อยําง มีความสุข กกกกกกก3.1 3.1.3 ขาดทุนคือกาไร สมาชิกในครอบครัว ควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการคานงึ ถึง ผลประโยชนข๑ องคนสวํ นรวมภายในครอบครัว มากกวําผลสาเร็จที่เป็นตัวเลข อันเป็นผลประโยชน๑ ของตนเองทีเ่ ปน็ สวํ นหน่ึงของสมาชิกครอบครวั กกกกกกก3.1 3.1.4 การพึ่งตนเอง สมาชิกในครอบครัว ควรนอ๎ มนามาใช๎ ด๎วยการพึ่งพาตนเอง ปฏบิ ตั ิภารกิจสํวนตัวให๎สาเร็จ เพราะสมาชิกในครอบครัวตํางมีภารกิจทตี่ ๎องรบั ผดิ ชอบ กกกกกกก3.1 3.1.5 พออยูํ พอกิน สมาชิกในครอบครัว ควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการใช๎ของใช๎หรือ บริโภคส่งิ ของที่มีอยูแํ ลว๎ ใหค๎ ุ๎มคํา ประหยัด และเรียบงาํ ย กกกกกกก3.1 3.1.6 เศรษฐกจิ พอเพยี ง สมาชิกในครอบครัว ควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการดารงอยูํ และดาเนนิ ชีวติ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งอยาํ งร๎เู ทาํ ทนั ปรบั ตวั ได๎ตามสภาพเศรษฐกิจ และสงั คมท่ีเปล่ยี นไป
197 กกกกกกก3.1 3.1.7 ความซอื่ สัตย๑สุจรติ จริงใจตํอกัน สมาชิกในครอบครวั ควรนอ๎ มนามาใช๎ดว๎ ย การปฏิบัตติ นท้งั ทางกาย วาจา จิตใจ ทีต่ รงไปตรงมา ไมแํ สดงความคดโกง ไมํหลอกลวง ไมํเอาเปรยี บ สมาชิกคนอืน่ ๆ ในครอบครัว ทัง้ ตอํ หนา๎ และลับหลัง กกกกกกก3.1 3.1.8 ทางานอยํางมีความสุข สมาชกิ ในครอบครัว ควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการทางาน หรอื ปฏบิ ัตภิ ารกิจของครอบครวั อยาํ งมีความสุข กกกกกกก3.1 3.1.9 ความเพยี ร สมาชิกในครอบครวั ควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการเรม่ิ ต๎นทางาน หรือ ภารกิจของครอบครัวทไ่ี ดร๎ บั มอบหมาย ด๎วยความมงํุ ม่ันเพยี รพยายามให๎สาเร็จลลุ วํ ง กกกกกกก3.1 3.1.10 ร๎ู รัก สามคั คี สมาชกิ ในครอบครัว ควรนอ๎ มนามาใช๎ ด๎วยการตอ๎ งมีความรใู๎ น งานทีต่ นเองไดร๎ ับมอบหมายจากครอบครัวเป็นอยํางดี ตอํ จากนัน้ ให๎ทางานท่ีได๎รบั มอบหมายจาก ครอบครัว แล๎วลงมือปฏบิ ตั ิ ก็ต๎องใช๎สมาชกิ คนอ่นื ๆ ในครอบครัวมาชวํ ยทารวํ มกนั อยํางมีความ สามัคคี กกกกกกก3.2 การนอ๎ มนาหลกั การทรงงานมาใช๎กบั การศึกษา กกกกกกก3.2 3.2.1 ศกึ ษาขอ๎ มลู อยํางเป็นระบบ ผเ๎ู รยี นหรอื นกั ศึกษาควรนอ๎ มนามาใช๎ ดว๎ ยการมี การวางแผนศึกษาคน๎ คว๎าข๎อมูลท่ีเก่ียวข๎องกับการเรยี น เร่ืองนัน้ ๆ ให๎ครอบคลุม แล๎วนามาวิเคราะห๑ ขอ๎ มูลจดั ลาดับความสาคญั ของข๎อมลู ที่ได๎ศกึ ษาวาํ ควรปฏบิ ตั เิ ร่ืองใดกอํ นหลัง โดยการศกึ ษาของตน วําควรจะต๎องทาส่ิงไหนกอํ น ให๎เรยี งระดบั ตรวจดูวําสงิ่ ที่ทามผี ลดี หรอื ผลเสยี หากเกิดผลเสีย เรากน็ ามาปรับปรุงแก๎ไขให๎ดีข้นึ กกกกกกก3.2 3.2.2 ระเบิดจากขา๎ งใน ผูเ๎ รียนหรอื นกั ศึกษาควรนอ๎ มนามาใช๎ ด๎วยการพิจารณาถึง คณุ คําความสาคญั หรือประโยชนข๑ องเร่ืองทกี่ าลงั ศึกษาอยูํ ถา๎ รับรไู๎ ดก๎ จ็ ะเกิดแรงบันดาลใจ หรือ ความปรารถนาของผู๎เรียน หรือนักศึกษาให๎อยากเรียนรู๎ จนสาเร็จลลุ วํ ง กกกกกกก3.2 3.2.3 แก๎ปญ๓ หาท่ีจดุ เล็ก ผ๎ูเรยี นหรือนกั ศึกษาควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการแก๎ไขป๓ญหา เฉพาะหน๎าซ่ึงเป็นป๓ญหาใกล๎ตวั หรือป๓ญหาจดุ เลก็ ๆ ที่สามารถแก๎ไขไดด๎ ว๎ ยตนเองกํอน ซงึ่ เมื่อได๎ แกไ๎ ขจดุ เลก็ ๆ ไดแ๎ ล๎ว จึงคํอย ๆ ไปแก๎ไขปญ๓ หาอ่ืนของผ๎เู รยี น หรอื นกั ศึกษาตามลาดับ กกกกกกก3.2 3.2.4 ทาตามลาดับขั้น ผ๎ูเรียนหรือนกั ศึกษาควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการเรมิ่ ตน๎ ทาจาก เรือ่ งหรืองานท่ไี ด๎รบั มอบหมายตามลาดบั กํอนหลัง ท่ีต๎องสํงอาจารย๑ผ๎ูสอนกอํ น เพ่อื ใหส๎ ามารถปฏบิ ัติ ตามท่ีอาจารย๑กาหนดไว๎ กกกกกกก3.2 3.2.5 ภมู ิสงั คม ผเ๎ู รยี นหรือนกั ศกึ ษาควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการคานงึ ถึงความแตกตําง ระหวาํ งบุคคล ของเพือ่ นนักศึกษา ครบู าอาจารย๑ ท่ีมสี ังคม วัฒนธรรม การหลอํ หลอมความคดิ กฎระเบยี บมาแตกตํางกัน เคารพความแตกตําง และปรับตัวใหเ๎ หมาะสมตามบรบิ ท กกกกกกก3.2 3.2.6 องคร๑ วม ผู๎เรียนหรือนักศึกษาควรนอ๎ มนามาใช๎ ดว๎ ยการเชือ่ มโยงองค๑ความร๎ู จากวชิ าตาํ ง ๆ ทีเ่ รยี นรู๎ ให๎เป็นองค๑รวมสมั พันธ๑กัน จะชํวยใหก๎ ารเรียนรม๎ู มี มุ มองทีก่ ว๎างขวาง เกดิ ความคิดทีส่ ร๎างสรรค๑ กกกกกกก3.2 3.2.7 ไมตํ ิดตารา ผ๎เู รียนหรือนกั ศึกษาควรน๎อมนามาใช๎ ดว๎ ยการไมยํ ึดตดิ กับวิชาการ อยาํ งเดยี ว แตํควรผสมผสานกบั ความรู๎ปฏิบัติท่ีมีอยํูในชวี ิตจรงิ หรือวถิ ีชวี ติ กกกกกกก3.2 3.2.8 ประหยัด เรียบงําย ไดป๎ ระโยชนส๑ งู สุด ผเ๎ู รยี นหรือนักศึกษาควรนอ๎ มนามาใช๎ ด๎วยการร๎จู กั ใชว๎ สั ดกุ ารศึกษาทปี่ ระหยดั เรยี บงําย ราคาถูก สามารถใช๎ประโยชน๑ในการศึกษาไดส๎ งู สุด
198 กกกกกกก3.2 3.2.9 ทาให๎งําย ผ๎เู รียนหรือนักศึกษาควรน๎อมนามาใช๎ ดว๎ ยการวางแผนออกแบบ คน๎ หาวิธีการดาเนินงาน หรอื ภารกิจการเรยี นที่ไดร๎ บั มอบหมายใหเ๎ ข๎าใจชดั เจน ใชภ๎ าษาที่อํานงําย พรอ๎ มทจ่ี ะใหอ๎ าจารย๑ผสู๎ อนตรวจ กกกกกกก3.2 3.2.10 การมีสวํ นรํวม ผเ๎ู รียนหรอื นักศึกษาควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการเปิดโอกาสให๎ เพื่อนนักศึกษาแสดงความคดิ เห็น รบั ฟง๓ ดว๎ ยความหนกั แนนํ ปราศจากอคติ แล๎วนามาประยุกต๑ใช๎ หรือมสี วํ นรวํ มในกจิ กรรมกับเพ่ือนนักศึกษา หรือกบั สถาบันการศึกษาตามโอกาสอนั ควร กกกกกกก3.2 3.2.11 ประโยชน๑สวํ นรวม ผู๎เรียนหรือนกั ศกึ ษาควรน๎อมนามาใช๎ ดว๎ ยการจะต๎องมี ความเสียสละสํวนตนเพ่ือผลประโยชน๑สํวนรวม หรือของกลุํมเพ่ือนนักศึกษาท่ีทากิจกรรมรํวมกัน ให๎สาเร็จลุลํวง ตลอดจนชํวยกันรักษาผลประโยชน๑ หรือภาพลักษณ๑ของสถานศึกษาท่ีตนเองได๎มีสํวน เรยี นร๎ู กกกกกกก3.2 3.2.12 บรกิ ารรวมท่จี ดุ เดยี ว ผู๎เรยี นหรือนกั ศึกษาควรนอ๎ มนามาใช๎ ด๎วยการ ปรับเปลยี่ นพฤติกรรมในการเรียน จากการทีต่ าํ งคนตาํ งทา มาสูกํ ารประสานงานกิจกรรมทีท่ ากับ เพื่อนทเ่ี กย่ี วข๎อง ซง่ึ จะเหน็ ผลงานที่ชัดข้ึน กกกกกกก3.2 3.2.13 ปลูกปาุ ในใจคน ผ๎เู รียนหรือนักศึกษาควรน๎อมนามาใช๎ ดว๎ ยการตอ๎ งชํวยกนั รณรงค๑ใหท๎ ุกภาคสํวนเห็นความสาคญั ของการอนรุ ักษธ๑ รรมชาตขิ องส่ิงแวดลอ๎ ม กกกกกกก3.2 3.2.14 ขาดทุนคอื กาไร ผ๎ูเรยี นหรอื นักศึกษาควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการคานึงถึง ผลประโยชน๑ของสถาบันการศึกษา หรือกลํุมเพื่อนนักศึกษาสํวนรวม มากกวําผลสาเร็จท่ีเป็นตัวเลข หรือมผี ลการเรยี นที่ดี แตํผลงานกลุํมไมํดี หรือสถาบันการศึกษาเสียหายจากการกระทาของนักศึกษา บางคนท่มี งุํ ประโยชนต๑ นเอง กกกกกกก3.2 3.2.15 การพง่ึ ตนเอง ผู๎เรียนหรอื นกั ศึกษาควรน๎อมนามาใช๎ ดว๎ ยการพฒั นาการ เรยี นของตนเองให๎สาเร็จลุลํวงด๎วยตนเอง มากกวํารอความชํวยเหลอื จากเพื่อนนักศึกษา หรือครบู าอาจารย๑ กกกกกกก3.2 3.2.16 พออยูํพอกนิ ผูเ๎ รยี นหรือนกั ศึกษาควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการดาเนินชีวติ ขณะศกึ ษาเลําเรียนดว๎ ยความประหยดั เรยี บงําย ต๎องตระหนกั วาํ ใชเ๎ งนิ ของพํอแมํในการศึกษา กกกกกกก3.2 3.2.17 เศรษฐกิจพอเพยี ง ผเู๎ รียนหรอื นกั ศกึ ษาควรน๎อมนามาใช๎ ดว๎ ยการเรียนรู๎ ความร๎ูวชิ าการ ควบคกํู ับการเข๎ารํวมกิจกรรมพัฒนาคณุ ธรรมท่สี ถาบนั การศึกษาจดั ข้ึน ใชช๎ ีวติ การศึกษาแบบเรียบงาํ ย ไมํฟุูงเฟอู มเี หตุผล รจู๎ กั ปฏเิ สธเพ่ือนทีจ่ ะชักชวนเราไปในทางที่ผิด กกกกกกก3.2 3.2.18 ความซ่อื สัตย๑ สุจรติ จรงิ ใจตํอกนั ผเ๎ู รยี นหรอื นกั ศึกษาควรนอ๎ มนามาใชด๎ ๎วย การปฏิบัติภารกิจ การเรียนด๎วยความซื่อสัตย๑สุจริต ไมํลอกการบ๎านเพ่ือนมาสํงอาจารย๑ผ๎ูสอน ทาขอ๎ สอบดว๎ ยความสามารถ ไมํลอกขอ๎ สอบของเพื่อน หรอื พดู แตเํ ร่อื งทถ่ี ูกต๎อง ตรงไปตรงมาเป็นตน๎ กกกกกกก3.2 3.2.19 ทางานอยํางมีความสขุ ผเ๎ู รียนหรือนกั ศกึ ษาควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการต้ังใจ ศึกษาเลําเรียนอยาํ งมีความสุข ปฏิบัติงานทีไ่ ดร๎ ับมอบหมายจากเพ่ือนนกั ศึกษา หรือครู ด๎วย ความร๎สู กึ ทมี่ ีความสขุ จะชวํ ยใหก๎ ารศกึ ษาสนกุ และผลการเรียนดขี ้ึนได๎ กกกกกกก3.2 3.2.20 ความเพียร ผู๎เรยี นหรือนกั ศกึ ษาควรน๎อมนามาใช๎ ดว๎ ยการมํงุ ม่ัน ต้ังใจ เพียร พยายาม ศึกษาเลาํ เรยี นในหลักสตู รให๎สาเร็จ
199 กกกกกกก3.2 3.2.21 ร๎ู รกั สามัคคี ผเ๎ู รียนหรือนักศกึ ษาควรนอ๎ มนามาใช๎ ดว๎ ยการต๎องมีความรู๎ใน เรอื่ งท่ตี นเองศกึ ษากํอน ทาด๎วยความรกั ในเรื่องทศ่ี ึกษา และทางานเปน็ ทมี ดว๎ ยความสามัคคี กกกกกกก3.3 การน๎อมนาหลกั การทรงงานมาใช๎ในอาชพี การงาน กกกกกกก3.3 3.3.1 ศึกษาขอ๎ มลู อยาํ งเปน็ ระบบ ผ๎ูประกอบอาชพี การงาน ควรนอ๎ มนามาใชด๎ ว๎ ย การทางานอยํางมขี ้ันตอน เชนํ มกี ารวางแผน การออกแบบ เมอ่ื เสร็จส้ินแล๎วมีการวเิ คราะห๑ผล ประเมนิ ผลแลว๎ พิจารณาหาวิธีการแก๎ไขในงานท่ที า กกกกกกก3.3 3.3.2 ระเบิดจากขา๎ งใน ผูป๎ ระกอบอาชพี การงานควรนอ๎ มนามาใช๎ ด๎วยการตอ๎ งมงํุ ให๎ ตนเอง และเพื่อนรํวมอาชีพ เหน็ คุณคํา และประโยชนข๑ องการประกอบอาชีพรํวมกนั กกกกกกก3.3 3.3.3 แกป๎ ๓ญหาท่ีจุดเลก็ ผปู๎ ระกอบอาชพี การงานควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการแก๎ไข ปญ๓ หาเฉพาะหน๎าท่ีเกิดขึน้ เรํงดํวน และผ๎ูประกอบอาชีพมีความสามารถในการแก๎ไขป๓ญหานี้ไดด๎ ว๎ ย ตนเอง กกกกกกก3.3 3.3.4 ทาตามลาดับขั้น ผ๎ปู ระกอบอาชพี การงานควรนอ๎ มนามาใชด๎ ว๎ ยการวางลาดบั ขั้นของส่ิงที่จะต๎องทา แล๎วคํอย ๆ ลงมือทาไปทีละขั้น ระหวํางที่ทาก็พิจารณาผลท่ีเกิดขึ้นวําเป็นไป ตามที่ควรจะเป็นหรือไมํ ถ๎าเป็นไปตามส่ิงท่ีคาดไว๎ก็ลงมือทาข้ันถัดไป ถ๎าไมํเป็นดังที่คาดก็ต๎อง พิจารณาหาข๎อผิดพลาด เพื่อท่ีจะเรียนรู๎ และหาทางแก๎ไข โดยอาจมีการปรับขั้นตอนได๎ การทางาน อยาํ งเป็นระบบยํอมเกิดขน้ึ ได๎จากคนทค่ี ดิ สง่ิ ตาํ ง ๆ อยํางเป็นระบบ กกกกกกก3.3 3.3.5 ภมู ิสงั คม ผ๎ูประกอบอาชพี การงานควรน๎อมนามาใช๎ ดว๎ ยการปรับตวั ให๎เขา๎ กบั เพอื่ นรํวมอาชพี หรือเคารพความแตกตาํ งของเพื่อนรวํ มอาชีพ และผ๎รู ับบริการที่มาติดตํอดว๎ ย กกกกกกก3.3 3.3.6 องคร๑ วม ผปู๎ ระกอบอาชีพการงานควรน๎อมนามาใช๎ ดว๎ ยการมองอยาํ ง ครบวงจร คอื คิดตั้งแตเํ รม่ิ ทางานอาชพี จนถึงผลผลติ ผลลพั ธ๑ และผลกระทบ ท่ีหยัง่ คาดถึงเหตุการณ๑ ท่ีจะเกิดข้ึน และแนวทางแกไ๎ ขอยาํ งเชื่อมโยงกนั จากนน้ั จึงวางแผนงานให๎รัดกุม ความรอบคอบ ลดการสญู เสยี รายได๎ หรืออนั ตรายท่ีอาจจะเกดิ ขนึ้ กบั ตนเอง หรอื เพ่ือนรํวมอาชีพ กกกกกกก3.3 3.3.7 ไมํติดตารา ผ๎ูประกอบอาชีพการงานควรน๎อมนามาใช๎ ดว๎ ยการที่ยอมรับเปดิ ใจกว๎าง ตํอความรู๎ปฏิบัติในอาชีพที่มีทาตํอ ๆ กันมาหลายชํวงระยะเวลา และนาความร๎ูวิชาการ สมัยใหมํ ผนวกเข๎าไปเสริมให๎การปฏิบัติหรือผลิตผล หรือผลิตภัณฑ๑ หรือสินค๎าของอาชีพน้ันมี คุณภาพตรงกบั ความต๎องการของผู๎รบั บริการ หรอื ผ๎ูบรโิ ภค กกกกกกก3.3 3.3.8 ประหยัด เรยี บงําย ไดป๎ ระโยชน๑สงู สดุ ผป๎ู ระกอบอาชีพการงานควรนอ๎ ม นามาใช๎ ด๎วยการต๎องร๎ูจักใช๎ทรัพยากร วัตถุดิบในอาชีพน้ันอยํางฉลาด คือไมํนามาทํุมเทใช๎ให๎ สิ้นเปลืองไปโดยไร๎ประโยชน๑ หรือได๎รับประโยชน๑ไมํค๎ุมคํา หากแตํระมัดระวังใช๎ด๎วยความประหยัด รอบคอบ กกกกกกก3.3 3.3.9 ทาให๎งําย ผูป๎ ระกอบอาชีพการงานควรน๎อมนามาใช๎ ดว๎ ยการวางแผน ออกแบบผลิตภัณฑ๑ หรือผลิตสินค๎า หรือค๎นหาวิธีการดาเนินงาน ผลิตสินค๎าที่มีลักษณะเรียบงําย ไมยํ ํุงยากซับซอ๎ น ใช๎เทคโนโลยที ี่เรยี บงาํ ย แตํไดผ๎ ลผลิต หรอื สนิ คา๎ ที่มคี ณุ ภาพจาหนํายได๎ราคาทดี่ ี กกกกกกก3.3 3.3.10 การมีสวํ นรํวม ผู๎ประกอบอาชีพการงานควรนอ๎ มนามาใช๎ด๎วยการเปดิ โอกาส ให๎ผูบ๎ รโิ ภค หรือเพ่ือนรวํ มงานไดม๎ ีโอกาสแสดงความคิดเห็นในการผลิตสินค๎า หรอื ผลติ ภณั ฑ๑
200 ทม่ี คี ุณภาพตรงความตอ๎ งการของผูบ๎ ริโภคเป็นสาคญั นอกจากนใี้ นการผลิตสนิ ค๎า หรือผลิตภัณฑ๑ จานวนมาก ตอ๎ งอาศยั การมีสํวนรวํ มของเพ่ือนรวํ มอาชีพทีเ่ ราควรให๎ความสาคัญด๎วย กกกกกกก3.3 3.3.11 ประโยชนส๑ วํ นรวม ผป๎ู ระกอบอาชีพการงานควรนอ๎ มนามาใช๎ ด๎วยการ คานึงถงึ ผลประโยชนข๑ องผบ๎ู ริโภคเปน็ หลกั มากกวํา ประโยชน๑ท่ตี นเองจะได๎รับ กกกกกกก3.3 3.3.12 บริการรวมทจี่ ุดเดียว ผู๎ประกอบอาชพี การงานควรน๎อมนามาใช๎ ดว๎ ยการ นาเสนอตัง้ แตํขัน้ ตอนการเตรียมวตั ถดุ ิบ กระบวนผลติ การใสบํ รรจุภณั ฑ๑ ใหผ๎ ู๎บรโิ ภคไดเ๎ ห็น เพอ่ื เพิ่ม ความมั่นใจ ในผลิตภัณฑ๑ท่ีสดสะอาด นําซ้ือไปใชห๎ รือเพอื่ การบริโภค กกกกกกก3.3 3.3.13 ใชธ๎ รรมชาติ ชวํ ยธรรมชาติ ผ๎ปู ระกอบอาชีพการงานควรน๎อมนามาใช๎ ดว๎ ย การใชว๎ ตั ถดุ บิ ท่ีมาจากธรรมชาติ ในการผลติ สนิ คา๎ ใช๎สารท่ีมาจากธรรมชาตใิ นการแก๎ไขกลิ่นสี ของ ผลติ ภัณฑ๑ หรอื สนิ คา๎ ที่ประกอบอาชีพ ใช๎พชื ผักสมุนไพร มาชวํ ยกาจดั ศัตรูพืช หรอื ดับกล่ินท่เี กดิ จาก การประกอบอาชีพ กกกกกกก3.3 3.3.14 ปลูกปาุ ในใจคน ผู๎ประกอบอาชีพการงานควรนอ๎ มนามาใช๎ ดว๎ ยการชวํ ยกนั ดแู ลทรัพยากรปาุ ไม๎ที่เปน็ ตน๎ น้าลาธาร ใหผ๎ ู๎ประกอบอาชพี และประชาชนทวั่ ไปไดใ๎ ช๎เพ่ือการบริโภค และอปุ โภค กกกกกกก3.3 3.3.15 ขาดทนุ คือกาไร ผป๎ู ระกอบอาชีพการงานควรนอ๎ มนามาใช๎ ด๎วยการ คานงึ ถึงผลประโยชน๑ของผู๎บริโภค หรือผ๎ูรับบรกิ ารสวํ นรวมมากกวาํ ผลสาเร็จทเ่ี ปน็ ตัวเลขผลกาไรทผี่ ๎ู ประกอบอาชีพจะได๎รับ กกกกกกก3.3 3.3.16 การพึง่ ตนเอง ผูป๎ ระกอบอาชพี การงานควรนอ๎ มนามาใช๎ ดว๎ ยการผลติ สนิ ค๎า ทีม่ วี ัตถดุ บิ ท่ีตนเองผลติ ได๎มากทส่ี ุด เพื่อลดการพ่งึ พาจากภายนอก หรอื ใหบ๎ รกิ ารดว๎ ยตนเอง เพื่อลด การพึ่งพาเพอ่ื นรวํ มงานท่ีอาจจะตอ๎ งจํายคําใชจ๎ าํ ย หรอื คาํ ตอบแทนให๎ กกกกกกก3.3 3.3.17 พออยพํู อกิน ผ๎ูประกอบอาชีพการงานควรนอ๎ มนามาใช๎ ด๎วยการผลิตสินค๎า ใหต๎ นเองได๎ใช๎หรือบริโภค เม่ือเหลอื จงึ จาหนาํ ยให๎มีรายไดเ๎ พม่ิ เพือ่ ดารงชีวิต แบบเรียบงําย ประหยัด กกกกกกก3.3 3.3.18 เศรษฐกจิ พอเพียง ผป๎ู ระกอบอาชีพการงานควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการดาเนิน ชีวติ และประกอบอาชพี ดว๎ ยการบริหารความเสย่ี ง มีการออมไว๎ใชใ๎ นยามจาเปน็ ฉุกเฉนิ มีคุณธรรมใน อาชีพ มีความพอประมาณ คิดเปน็ มคี วามร๎ู และพฒั นาความรขู๎ องตนเอง เพ่ือให๎อาชพี น้ันมคี วาม เข๎มแข็ง และม่ันคง กกกกกกก3.3 3.3.19 ความซือ่ สตั ย๑ สจุ รติ จรงิ ใจตํอกนั ผปู๎ ระกอบอาชีพการงานควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการใช๎วัตถดุ บิ กระบวนการผลิตท่ถี กู ต๎อง มีคุณภาพ ที่ซ่อื สตั ยต๑ ํอผบ๎ู ริโภค หรอื ผูร๎ บั บริการ กกกกกกก3.3 3.3.20 ทางานอยาํ งมีความสขุ ผ๎ปู ระกอบอาชีพการงานควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการ ขณะทางานประกอบอาชีพต๎องมคี วามสุขด๎วย หรอื จะทางานประกอบอาชีพ โดยคานึงถึงความสุขท่ี ผบู๎ ริโภค หรอื ผ๎ูรับบรกิ ารไดร๎ ับมีความพงึ พอใจในสนิ ค๎า หรอื บริการ กกกกกกก3.3 3.3.21 ความเพยี ร ผ๎ูประกอบอาชีพการงานควรน๎อมนามาใช๎ ดว๎ ยการมํุงมน่ั พากเพยี ร ประกอบอาชพี ให๎สาเรจ็ ลลุ ํวง เป็นทพี่ ึงพอใจของผบ๎ู รโิ ภค หรือผ๎รู ับบรกิ าร กกกกกกก3.3 3.3.22 ร๎ู รัก สามคั คี ผู๎ประกอบอาชีพการงานควรนอ๎ มนามาใช๎ ด๎วยการต๎องมี ความรู๎ในงานอาชพี ท่ีตนเองทาเป็นอยํางดีกํอน ตํอจากนนั้ ให๎ทางานอาชีพด๎วยความรักและเมื่อลงมือ ปฏิบัติ ถ๎าทาคนเดยี วไมํสาเร็จก็ตอ๎ งใช๎เพื่อนรวํ มอาชีพเขา๎ มาชํวยรวํ มกนั ทาอยาํ งมีความสามัคคี
201 กกกกกกก3.4 การนอ๎ มนาหลกั การทรงงานมาใช๎ในการพัฒนาชมุ ชน ท๎องถิ่น และสงั คม กกกกกกก3.4 3.4.1 ศึกษาขอ๎ มูลอยาํ งเปน็ ระบบ สมาชกิ ชมุ ชน ทอ๎ งถิน่ และสังคม ควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการวางแผน เก็บรวบรวมขอ๎ มูล การออกแบบเก็บรวบรวมขอ๎ มูล วิเคราะห๑ข๎อมลู ประเมนิ ผล ข๎อมูล แลว๎ คิดหาวิธีการแกไ๎ ขในงานที่ทา กกกกกกก3.4 3.4.2 ระเบิดจากขา๎ งใน สมาชิกชมุ ชน ทอ๎ งถ่นิ และสงั คม ควรนอ๎ มนามาใช๎ ด๎วยการ สรา๎ งความเข๎มแขง็ ใหค๎ นในชุมชนทีเ่ ราเข๎าไปพฒั นา ให๎มสี ภาพพร๎อมท่ีจะรบั การพัฒนาเสียกํอนแลว๎ จงึ คอํ ยออกมาสสํู งั คมภายนอก มใิ ชํการนาเอาความเจริญหรือบคุ คลจากสงั คมภายนอกเข๎าไปหา ชุมชนหรือหมบํู ๎านทย่ี ังไมทํ นั ได๎มีโอกาสเตรียมตวั หรอื ตง้ั ตัว กกกกกกก3.4 3.4.3 แก๎ป๓ญหาทจี่ ุดเล็ก สมาชิกชมุ ชน ท๎องถน่ิ และสังคม ควรน๎อมนามาใช๎ ดว๎ ยการ แกไ๎ ขปญ๓ หาเฉพาะหน๎าเรงํ ดํวนกอํ น ซงึ่ เมือ่ ได๎แกไ๎ ขจุดเล็ก ๆ ได๎แลว๎ จงึ คํอย ๆ แก๎ไขปญ๓ หาอืน่ ตามลาดับ กกกกกกก3.4 3.4.4 ทาตามลาดับขัน้ สมาชิกชุมชน ท๎องถิ่นและสังคม ควรน๎อมนามาใช๎ ดว๎ ยการ เร่ิมทาจากความจาเป็นกํอน สิ่งที่ขาดคือส่ิงท่ีจาเป็น เชํน ประชาชนต๎องแก๎ป๓ญหาเร่ืองสุขภาพกํอน จากน้ันก็ไปแก๎ที่สาธารณูปโภค แล๎วตํอด๎วยการประกอบอาชีพ ถ๎าทาเป็นขั้นเป็นตอน ก็จะทาให๎ สาเร็จได๎งําย เชํน งานยาเสพติด รักษา สํงเสริม ฟ้ืนฟู กลับอยํูในสังคมปกติ เป็นคนดีของชุมชน ท๎องถิ่นและสังคม กกกกกกก3.4 3.4.5 ภูมสิ ังคม สมาชกิ ชมุ ชน ทอ๎ งถ่นิ และสังคม ควรน๎อมนามาใช๎ ดว๎ ยการทางาน ทุกอยําง ต๎องคานึงถึงภูมิศาสตร๑วําอยูํแถบไหน อากาศเป็นอยํางไร ติดชายแดน ติดทะเล และสังคม ของเราเป็นอยาํ งไร นับถอื ศาสนาอะไร คนนิสัยใจคอเป็นอยํางไร รวมไปถึงพวกเรากันเองด๎วย ถ๎าไมํรู๎ เขา รู๎เราจะรบชนะได๎อยํางไร ส่งั ทาโครงการทวั่ ประเทศไมไํ ด๎ ต๎องดูเฉพาะพื้นท่ี กระทรวงสาธารณสุข ออกแบบสถานีอนามยั เหมอื นกันกับชมุ ชน ทอ๎ งถน่ิ และสงั คม บางคร้ังก็ไมดํ ีนัก กกกกกกก3.4 3.4.6 องคร๑ วม สมาชกิ ชุมชน ท๎องถิ่นและสังคม ควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการคดิ ความ เช่ือมโยงมองเหตกุ ารณท๑ ่ีเกิดข้นึ และค๎นหาวธิ ีการแก๎ไขเชื่อมโยงเป็นองคร๑ วมครบวงจร กกกกกกก3.4 3.4.7 ไมํติดตารา สมาชกิ ชมุ ชน ท๎องถนิ่ และสงั คม ควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการใช๎ ป๓ญญาในการนาไปใช๎แก๎ป๓ญหา เมื่อเกิดป๓ญหาก็ไมํโทษวํา หรือเอาตาราใด ๆ มารับผิด หากแตํใช๎ สมรรถนะคิดหาหนทางในการปรับตัวเพื่อรับมือกับป๓ญหา ลดผลเสียท่ีเกิดขึ้น ใช๎การรํวมมือเข๎ามา ชํวยให๎สามารถฝุาฟ๓นกับป๓ญหาตํอไป แล๎วแสวงหาความร๎ู ความคิดเห็น คาแนะนาตําง ๆ มาใช๎คิด ด๎วยศักยภาพของป๓ญญามนุษย๑จะทาให๎ได๎พบคาตอบของป๓ญหาได๎ การพัฒนาจึงมีการลงมือปฏิบัติ ด๎วยป๓ญญาที่มีลักษณะของความยืดหยํุน ไหลล่ืน และสอดคล๎องไปกับวิถีทางในการบรรลุเปูาหมาย ของการพัฒนา คือ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนเพื่อความผาสุกของชุมชน ท๎องถ่ิน และสงั คม กกกกกกก3.4 3.4.8 ประหยดั เรียบงําย ไดป๎ ระโยชนส๑ งู สุด สมาชิกชุมชน ท๎องถ่นิ และสังคม ควร น๎อมนามาใช๎ ด๎วยการต๎องรู๎จักใช๎ทรัพยากรนั้นอยํางฉลาด คือไมํนามาทํุมเท ใช๎ให๎ส้ินเปลืองไปโดย ไร๎ประโยชน๑ หรือได๎ประโยชน๑ไมํค๎ุมคํา หากแตํระมัดระวังใช๎ด๎วยความประหยัดรอบคอบ ประกอบ ด๎วยความคิดพิจารณาตามหลักวิชา เหตุผล และความถูกต๎องเหมาะสม โดยมํุงประโยชน๑แท๎จริงที่จะ เกดิ กับชมุ ชน ท๎องถนิ่ และสังคม
202 กกกกกกก3.4 3.4.9 ทาใหง๎ ําย สมาชกิ ชุมชน ทอ๎ งถิ่นและสงั คม ควรน๎อมนามาใชด๎ ว๎ ยการวางแผน ออกแบบ คน๎ หาวธิ กี ารดาเนินงานทม่ี ลี กั ษณะเรยี บงาํ ย ไมํยํุงยากซับซ๎อน อาศยั การมีสํวนรวํ ม ไมํตดิ ตารา ยดึ ภูมิป๓ญญาเดิมผสมเทคโนโลยีใหมํ กกกกกกก3.4 3.4.10 การมีสวํ นรวํ ม สมาชิกชุมชน ทอ๎ งถนิ่ และสงั คม ควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการ ปฏิบัติภารกิจสํวนรวม ทุกคนควรเข๎าไปมีสํวนรํวม รํวมคิด รํวมทา เพ่ือให๎ภารกิจน้ันสาเร็จลุลํวง ถึงแม๎วําบางครั้งการคิดของแตํละคนอาจจะไมํตรงกันก็ตาม แตํเราต๎องปฏิบัติตามถ๎าเป็นมติความ คิดเห็นของสํวนใหญํ กกกกกกก3.4 3.4.11 ประโยชน๑สวํ นรวม สมาชิกชุมชน ท๎องถน่ิ และสงั คม ควรน๎อมนามาใชด๎ ๎วย การที่ทุกคนมีน้าใจ ยอมรับความคิดเห็นของผ๎ูอ่ืน การแนะนาในส่ิงท่ีเป็นประโยชน๑โดยไมํหวงแหน แนะนาหลักการดาเนินชีวิต โดยอาศัยหลักธรรมและประสบการณ๑ ด๎วยความบริสุทธิ์ใจ การเสียสละ สุขและผลประโยชนส๑ วํ นตน เพือ่ สุขและประโยชน๑สวํ นรวม การเสียสละสิ่งที่ไมํเป็นประโยชน๑เล็กน๎อย เพ่ือประโยชน๑ท่ีมากกวํา การสละประโยชน๑สํวนตนเพ่ือชํวยเหลือ และหรือทาประโยชน๑ให๎แกํบุคคล อน่ื หรอื สงั คม โดยการสละกาลังกาย ทรพั ย๑สิง่ ของ สติป๓ญญา เวลา และความสุขสบายสํวนตัว ซ่ึงเป็น สํวนสาคัญในการสงํ เสริมการมีจิตสาธารณะ โดยสํงเสรมิ การรวมกลํมุ เพื่อทากิจกรรมตําง ๆ ท่ีเกิดจาก ความรักและเอ้ืออาทรตํอกัน สํงเสริมความคิดที่จะแจกจํายแบํงป๓นให๎ผู๎อื่น ซ่ึงจะทาให๎ได๎เพื่อนและ เกดิ เป็นวัฒนธรรมที่ดที จ่ี ะชํวยลดความเห็นแกํตัวและสร๎างความพอเพียงใหเ๎ กิดขึ้นในจิตใจ กกกกกกก3.4 3.4.12 บริการรวมท่ีจดุ เดยี ว สมาชิกชมุ ชน ท๎องถน่ิ และสังคม ควรนอ๎ มนามาใชด๎ ว๎ ย การทมี่ ีพลเมืองหลากหลายอาชีพซึ่งมีความร๎แู ละประสบการณ๑ที่แตกตาํ งกนั การรํวมกนั แก๎ไขปญ๓ หา หรอื การบริการรวํ มกัน ณ จุดเดียวกัน เพื่อใหส๎ มาชกิ ในสังคมได๎รับบริการเบด็ เสร็จ กกกกกกก3.4 3.4.13 ใชธ๎ รรมชาติ ชวํ ยธรรมชาติ สมาชกิ ชมุ ชน ท๎องถิ่นและสังคม ควรนอ๎ ม นามาใช๎ ดว๎ ยการควรนอ๎ มนามาใชใ๎ นการดูแล ทรพั ยากรธรรมชาตปิ ุาไม๎ ให๎ขนึ้ เองตามธรรมชาติ ไมํไป บกุ รกุ ทาลายปุากจ็ ะทาให๎มปี ุา ซึ่งเป็นต๎นนา้ ให๎กับชุมชน ท๎องถนิ่ และสงั คม ใชใ๎ นการบรโิ ภค อปุ โภค กกกกกกก3.4 3.4.14 ใชอ๎ ธรรมปราบอธรรม สมาชิกชุมชน ท๎องถน่ิ และสังคม ควรน๎อมนามาใช๎ใน การพัฒนาสิ่งแวดล๎อมอาจต๎องใช๎ส่ิงทม่ี อี ยูํท่ไี มํเป็นประโยชน๑ตํอชุมชน มาจัดการกบั สิ่งท่ีไมํเปน็ ประโยชน๑ พบเหน็ อยใูํ นชมุ ชน เชํน ใช๎ผกั ตบชวากาจัดนา้ เสียในชุมชน กกกกกกก3.4 3.4.15 ปลกู ปาุ ในใจคน สมาชกิ ชมุ ชน ท๎องถิน่ และสังคม ควรนอ๎ มนามาใช๎ดว๎ ยการ ปลูกจิตสานกึ ใหส๎ มาชิกชมุ ชน ท๎องถน่ิ และสังคม รกั และหวงแหนส่ิงนั้นกอํ นแลว๎ พวกเขาจะหันกลบั มา ดแู ลสง่ิ นนั้ ดว๎ ยตนเอง โดยเฉพาะทรพั ยากรธรรมชาตปิ าุ ไม๎ กกกกกกก3.4 3.4.16 ขาดทนุ คอื กาไร สมาชิกชมุ ชน ท๎องถนิ่ และสงั คม ควรน๎อมนามาใชด๎ ๎วยการ เสียสละผลประโยชนท๑ ่ตี นเองจะไดร๎ ับให๎กับสวํ นรวมแทน เพราะเม่อื สวํ นรวมได๎รบั ผลประโยชนน๑ ี้ เราในฐานะเป็นสวํ นหนง่ึ ของสมาชิกสังคมก็ได๎รบั ผลประโยชน๑ดว๎ ย กกกกกกก3.4 3.4.17 การพึ่งตนเอง สมาชิกชมุ ชน ท๎องถน่ิ และสังคม ควรน๎อมนามาใชด๎ ว๎ ยการ พยายามพึ่งตนเองให๎มากทส่ี ดุ ลดการพงึ่ พาภายนอกจะทาใหส๎ ามารถแก๎ไขป๓ญหาของชมุ ชน ทอ๎ งถ่ิน และสังคมในเบอื้ งตน๎ ได๎
203 กกกกกกก3.4 3.4.18 พออยํูพอกิน สมาชกิ ชมุ ชน ท๎องถิ่นและสังคม ควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการ ผลิตสนิ ค๎าทางการเกษตร ให๎พอกินในครวั เรือนของสมาชกิ ชุมชนกอํ น ทเ่ี หลือจงึ จาหนาํ ยใหม๎ ีรายได๎ ดาเนินชวี ติ ได๎ แล๎วจึงคํอยขยับขยาย ด๎วยการรวมกลมํุ จาหนําย ตํอรอง ขายได๎ในราคาที่สูงข้นึ กกกกกกก3.4 3.4.19 เศรษฐกิจพอเพยี ง สมาชิกชมุ ชน ทอ๎ งถิน่ และสงั คม ควรนอ๎ มนามาใชด๎ ๎วย การดารงอยูํ และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแตํระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึง ระดับรัฐ ท้ังในการพัฒนาและบริหารประเทศให๎ดาเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการ พัฒนา เศรษฐกิจเพ่ือใหก๎ า๎ วทันตํอโลกยคุ โลกาภวิ ัฒน๑ กกกกกกก3.4 3.4.20 ความซ่อื สตั ย๑สจุ ริต จรงิ ใจตํอกนั สมาชิกชุมชน ท๎องถน่ิ และสังคม ควรนอ๎ ม นามาใช๎ ด๎วยการปฏิบัติตนทางกาย วาจา จิตใจท่ีตรงไปตรงมา ไมํแสดงความคดโกง ไมํหลอกลวง ไมํเอาเปรียบผอู๎ ่นื ลั่นวาจาวําจะทางานสงิ่ ใดกต็ ๎องทาใหส๎ าเรจ็ เปน็ อยํางดี ไมํกลับกลอก มีความจริงใจ ตํอทกุ คนจนเป็นทไ่ี ว๎วางใจของคนทกุ คน กกกกกกก3.4 3.4.21 ทางานอยาํ งมีความสุข สมาชิกชมุ ชน ทอ๎ งถนิ่ และสงั คม ควรนอ๎ มนามาใช๎ ด๎วยการขณะทางานต๎องมีความสุขด๎วย ถ๎าเราทาอยํางไมํมีความสุข เราจะแพ๎ แตํถ๎าเรามีความสุข เราจะชนะ สนุกกับการทางานเพียงเทําน้ัน ถือวําเราชนะแล๎ว หรือจะทางานโดยคานึงถึงความสุขที่ เกดิ จากการไดท๎ าประโยชนใ๑ ห๎ผ๎ูอนื่ ในชมุ ชน ทอ๎ งถ่นิ และสังคมก็สามารถทาได๎ กกกกกกก3.4 3.4.22 ความเพียร สมาชกิ ชุมชน ท๎องถนิ่ และสงั คม ควรน๎อมนามาใช๎ดว๎ ยการเร่ิมตน๎ ทางาน หรือทาสิง่ ใดนน้ั อาจไมมํ ีความพรอ๎ มแตตํ ๎องอาศัยความอดทนและความมงุํ มน่ั เพียรพยายาม ใหง๎ านนัน้ สาเรจ็ ลุลํวงไปได๎ กกกกกกก3.4 3.4.23 ร๎ู รัก สามคั คี สมาชิกชุมชน ท๎องถิ่นและสังคม ควรนอ๎ มนามาใช๎ ดว๎ ยการต๎อง มีความร๎ูในงานทีต่ นเองทาเป็นอยาํ งดกี อํ น ตอํ จากนั้นใหท๎ างานดว๎ ยความรัก และเมือ่ ลงมือปฏิบตั ิ ถา๎ ทาคนเดียวไมํสาเร็จกต็ ๎องใชบ๎ คุ คลอืน่ ในชุมชน ท๎องถ่นิ และสงั คม มาชํวยทารวํ มกันอยํางมคี วาม สามคั คี เร่อื งท่ี 4 การนอ้ มนาพระราชจริยวตั รและพระราชกรณียกิจไปใชช้ วี ติ ประจาวนั กกกกกกก4.1 การนอ๎ มนาพระราชจรยิ วัตรไปใชช๎ ีวติ ประจาวัน กกกกกกก4.1 4.1.1 พระราชจรยิ วัตรที่เก่ยี วขอ๎ งกบั ครอบครวั ประชาชนชาวไทย ควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการ กกกกกกก4.1 4.1.1 1) ในฐานะบตุ ร ควรเชือ่ ฟ๓งคาสง่ั สอนของบดิ ามารดา โดยเฉพาะในเรื่องของ ความรับผิดชอบ ควรมีการนาไปปฏิบัติอยํางเครํงครัด นอกจากนี้ในฐานะบุตรต๎องมีความกตัญ๒ูตํอ บิดามารดา และควรแสดงความรักเคารพตํอบิดามารดาอยํางสม่าเสมอ ตัวอยําง เชํน ด๎านความ กตัญ๒ูตํอบิดามารดา บุตรควรดูแลบิดามารดายามแกํชราหรือเจ็บไข๎ได๎ปุวย ด๎วยความเต็มใจ ต้ังแตํ เรื่องอาหาร เสื้อผา๎ ท่ีอยํอู าศัย และดา๎ นหนา๎ ทคี่ วามรับผดิ ชอบ บตุ รควรศกึ ษาเลาํ เรยี นดว๎ ยความต้ังใจ จนประสบความสาเร็จ ตามทตี่ ัง้ เปูาหมายไว๎ เปน็ ตน๎ กกกกกกก4.1 4.1.1 2) ในฐานะพํอ ต๎องอบรมส่ังสอนบุตรให๎เป็นคนดีมีความเสียสละ รับผิดชอบ หน๎าที่ทตี่ อ๎ งปฏบิ ัติให๎ดี โดยเฉพาะในวัยเยาวต๑ อ๎ งตั้งใจศกึ ษาเลาํ เรยี น และทางานทบี่ ิดามารดา หรือครู
204 มอบหมายให๎ทาเปน็ อยาํ งดี นอกจากนี้บดิ ามารดาต๎องสํงเสริมให๎บุตรได๎ออกกาลังกาย เพ่ือให๎รํางกาย แข็งแรง ใช๎เวลาวํางให๎เป็นประโยชน๑ รวมถึงแนะนาสํงเสริมให๎บุตรได๎เรียนร๎ู ศิลปะ ดนตรี เพ่อื ขดั เกลาจิตใจใหอ๎ ํอนโยน ตัวอยําง เชํน บิดามารดา ควรพาบุตรไปเที่ยวในสถานท่ีทํองเที่ยวตําง ๆ เชํน สวนสนุก สวนสัตว๑ ทะเล เพื่อสร๎างจินตนาการให๎แกํบุตร พร๎อมทั้งสํงเสริมสนับสนุนให๎บุตรได๎ เรียนรู๎และปฏบิ ัตใิ นส่ิงทสี่ นใจ เป็นต๎น กกกกกกก4.1 4.1.1 3) ในฐานะสามี ต๎องเปน็ สภุ าพบรุ ุษต๎องให๎เกยี รตสิ ภุ าพสตรี ดูแลคคํู รอง ดว๎ ยความรัก ใหเ๎ กียรติกันและกัน เม่ือพบปญ๓ หาต๎องรวํ มกันตดั สินใจแก๎ไขป๓ญหาอยาํ งตั้งมนั่ ในความ ซ่ือสตั ยส๑ จุ ริตและความปรารถนาดี ตวั อยาํ ง เชํน ผูท๎ เี่ ป็นสามพี ดู จากบั ภรรยาด๎วยความสุภาพ ออํ นโยน มีการดูแลซ่งึ กนั และกนั พรอ๎ มทั้งใหเ๎ กียรติยกยํองภรรยาท้ังตํอหนา๎ และลับหลงั เป็นต๎น กกกกกกก4.1 4.1.1 4) ในฐานะผ๎ูนาครอบครวั ตอ๎ งเป็นแบบอยํางในการปฏบิ ตั ิดี ปฏิบัตชิ อบ ใหบ๎ ุตรไดเ๎ ห็นและทาตาม รวมถึงสง่ั สอนให๎บตุ รทางานท่ีเป็นบทบาทของตวั เองใหด๎ ีทส่ี ดุ ตัวอยาํ ง เชนํ ผูน๎ าครอบครวั ประกอบอาชพี ทม่ี คี วามสจุ รติ ประพฤติตนอยูใํ นศีลธรรม ใชจ๎ าํ ยอยํางประหยัด พอเพียง เปน็ ต๎น กกกกกกก4.1 4.1.2 พระราชจริยวตั รทเี่ กี่ยวขอ๎ งกับความอํอนน๎อมถอํ มตวั ประชาชนชาวไทย ควรน๎อมนามาไปใช๎กับผ๎ูอาวุโสกวํา ด๎วยการให๎ความเคารพญาติผู๎ใหญํด๎วยความอํอนน๎อมสุภาพ สํวนผ๎ูที่อายุในคราวเดียวกัน ควรมีอัธยาศัยสุภาพ มีความสุภาพอํอนโยน นําคบหาสมาคม และผู๎ที่มี อายุน๎อยกวาํ มีความสภุ าพอํอนโยน มคี วามเอ็นดูหรอื ความกรุณา ตัวอยําง เชํน แสดงความอํอนน๎อม ตอํ ผ๎ูใหญํด๎วยการเดินผํานกม๎ ตัวลง ใช๎คาพูดท่ีสุภาพนุํมนวล เม่ือรับของจากผ๎ูใหญํกลําวคาวําขอบคุณ พร๎อมกบั ยกมือไหว๎ เคารพผ๎ูอาวโุ สดว๎ ยการทักทายทาความเคารพผใ๎ู หญํ กกกกกกก4.2 การนอ๎ มนาพระราชกรณยี กจิ ไปใช๎ชีวิตประจาวนั กกกกกกก4.2 4.2.1 การน๎อมนาพระราชกรณียกจิ ที่เก่ียวข๎องกับโรงเรียน หรือการศึกษา ประชาชนชาวไทย ควรนอ๎ มนาด๎วยการถ๎าพลเมอื งมฐี านะ หรอื มเี งินเหลือเก็บก็สามารถสงเคราะห๑เงิน ดังกลําว สนับสนุนกิจการการศึกษาของโรงเรียน หรือสถาบันการศึกษาในชุมชนท่ีตัวเองเป็นสมาชิก อยูํ ในกรณีที่ไมํมีเงินสามารถชํวยเหลือด๎านแรงกายกับภารกิจที่โรงเรียนต๎องการให๎ชํวยเหลือก็ได๎ ตัวอยําง เชํน เข๎ารํวมกิจกรรมของโรงเรียน ได๎แกํ กิจกรรมวันแมํ วันครบรอบโรงเรียน และการ บรจิ าคเงินหรอื สงิ่ ของทเ่ี ป็นประโยชนต๑ อํ โรงเรียน เปน็ ต๎น กกกกกกก4.2 4.2.2 การน๎อมนาพระราชกรณยี กิจที่เกี่ยวข๎องกับทอ๎ งถ่นิ ประชาชนชาวไทย ควรน๎อมนาด๎วยการต๎องมีสํวนรํวมในการพัฒนาท๎องถิ่นของตัวเองทุกด๎าน ท้ังด๎านแรงกายหรือเงิน ตามโอกาสตามความเหมาะสม ตัวอยําง เชํน ให๎ความรํวมมือตํอกิจกรรมของหมํูบ๎านหรือชุมชน ด๎วย การเข๎ารํวมประชุมหมํูบ๎าน มีสํวนรํวมทาบุญประจาปี รวมทั้งชํวยกันพัฒนาหมูํบ๎านซ่ึงเป็นที่ อาศยั อยํู โดยการชํวยสอดสํองดูแลความปลอดภัยในหมูํบ๎าน เป็นต๎น กกกกกกก4.2 4.2.3 การน๎อมนาพระราชกรณียกิจทีเ่ กย่ี วข๎องกบั ประเทศ ได๎แกํ ศูนย๑การศกึ ษา การพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดาริ 6 แหํง ท่ัวประเทศ ประชาชนชาวไทย ควรน๎อมนาด๎วยการ (1) ควรศกึ ษาเรียนร๎กู ระบวนการในการทางานของศูนย๑พัฒนาท่ีอยูํใกล๎บ๎าน หรือชุมชนนามาปรับใช๎ ในชีวิตประจาวันเพื่อชํวยพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง หรือชํวยพัฒนาชุมชน สังคม ให๎เข๎มแข็ง (2) ชํวยกันอนุรักษ๑ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล๎อมให๎เป็นประโยชน๑ตํอสํวนรวม (3) นาแนวทาง
205 การปฏิบัติงานรํวมกันของทุกฝุายในศูนย๑ศึกษาการพัฒนาอันเน่ืองมาจากพระราชดาริมาปรับใช๎ใน เร่ืองการทางานเป็นทีม เป็นคณะตอ๎ งร๎รู ักสามัคคี และ(4) ควรยดึ หลักการพ่ึงพาตนเอง ลดการพ่ึงพา ภายนอก และดาเนินชีวติ แบบพอเพยี ง ตวั อยาํ ง เชนํ แนะนาชกั ชวนใหผ๎ อู๎ น่ื ได๎ไปเรยี นร๎ู 6 ศนู ย๑ การศึกษาการพัฒนาอนั เนือ่ งมาจากพระราชดาริ และเข๎ารํวมกจิ กรรมอาสาทุกคร้งั เม่ือมีโอกาส เปน็ ต๎น กกกกกกก4.2 4.2.4 การน๎อมนาพระราชกรณยี กจิ ที่เก่ยี วขอ๎ งกับโลกหรือนานาประเทศ ท่ไี ด๎ น๎อมนาพระราชดาริ หรือกระบวนการพัฒนาตามศาสตร๑ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงใช๎ในการพัฒนาประเทศไทยไปปรับประยุกต๑ใช๎ ประชาชนชาวไทยควรน๎อมนามาใช๎ ด๎วยการคานึง การพัฒนา หรือการกระทา การส่ิงใดท่ีมีความสัมพันธ๑เชื่อมโยงกันต้ังแตํระดับบุคคล ครอบครัว ชมุ ชน สังคม และประเทศ รวมโลกของเราด๎วย การกระทาทุกอยํางจะสํงผลกระทบตํอผู๎ท่ี อยํูรอบข๎างทั้งทางตรงและทางอ๎อม นอกจากนี้ควรมีสัมพันธภาพที่ดีตํอกันท้ังเป็นบุคคลในประเทศ ไทยหรอื บคุ คลตาํ งประเทศ ทม่ี าทอํ งเทย่ี วหรอื มาทาธุรกิจ ตัวอยําง เชํน การแนะนาสถานท่ีทํองเท่ียว และชํวยกันเผยแพรํประเพณี วัฒนธรรมไทยให๎กับชาวตํางชาติ รวมถึงไมํวิจารณ๑ประเทศอื่น ๆ ในทางทีไ่ มดํ ี เปน็ ต๎น
206 กิจกรรมท้ายบท กกกกกกกกิจกรรมท่ี 1 กกกกกกกคาช้ีแจง ให๎นกั ศึกษาเลือกคาตอบท่ีถกู ต๎องทีส่ ุดเพียงข๎อเดียวแล๎วนาไปเขียนใน แผนํ กระดาษคาตอบท่ีแจกให๎ กกกกกกก1. “ ผลประโยชนอ๑ นั ใดที่จะได๎อยํูในเวลามีพํอและไมํมพี ํอนน้ั จะถอื เอาเปน็ แนํวําคงท่ีอยูํ นน้ั ไมไํ ด๎ และย่งิ เปน็ ผู๎ใหญขํ ้นึ กจ็ ะมบี ๎านเรอื น บุตรภรรยามากขึน้ คงตอ๎ งใช๎มากขนึ้ ” ตามข๎อความ ข๎างต๎นนผ้ี ๎ูกลาํ วต๎องการเสนอ กกกกกกก1. ก. ความไมํประมาทในการครองทรัพย๑ กกกกกกก1. ข. ตามไมํแนนํ อนในการดารงชวี ติ กกกกกกก1. ค. ความรูจ๎ ักประมาณในการใชจ๎ ําย กกกกกกก1. ง. ความประหยดั ในการเลีย้ งดูครอบครัว กกกกกกก2. ขอ๎ ใดไมถํ ูกต๎องตามพระบรมราโชวาทเกี่ยวกับเรอ่ื งการใชจ๎ าํ ยเงนิ กกกกกกก1. ก. จงใชเ๎ งินอยาํ งประหยดั อยําใช๎จาํ ยสรุ ุํยสรุ ําย กกกกกกก1. ข. จงใช๎เงินเข็ดแขมํ ใช๎แตํอยํางเพยี งพอบ๎างที่อนุญาตใหใ๎ ช๎ กกกกกกก1. ค. จงใชเ๎ งนิ เฉพาะทแี่ ตํก็จะรกั ษาความสุขของตัวพอสมควรเทํานนั้ กกกกกกก1. ง. จงใช๎เงินใหเ๎ หมาะสมกับท่ีเป็นลูกเจ๎าฟูาเจ๎าแผนํ ดนิ อยาํ ให๎อายผูด๎ ีฝรั่ง กกกกกกก3. “ อีกประการหน่ึงชวี ิตสังขารของมนษุ ย๑ไมยํ ั่งยืนยืดยาวเหมือนเหลก็ เหมือนศิลา ถึงโดย วําจะมพี ํอยํใู นขณะหนึ่งก็คงจะมเี วลาที่ไมํมีในขณะหน่ึงเป็นแนแํ ท๎ ” พระบรมราโชวาทตอนนี้ตรงกบั คาศัพทข๑ ๎อใด กกกกกกก1. ก. อเวจี กกกกกกก1. ข. อวิชชา กกกกกกก1. ค. อนิจจัง กกกกกกก1. ง. อหิงสา กกกกกกก4. ในภาวะที่สังคมไทยเผชิญปญ๓ หาดา๎ นเศรษฐกิจพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทร ภูมิพลอดลุ ยเดชทรงพระราชทานแนวคดิ อยํางไรในการดารงชวี ิต กกกกกกก1. ก. โครงการชมุ ชนเข๎มแข็ง กกกกกกก1. ข. แนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง กกกกกกก1. ค. การอนุรกั ษ๑ทรพั ยากรธรรมชาติ กกกกกกก1. ง. ความเพียรพยายามไมํยํอท๎อในชวี ิต กกกกกกก กกกกกกก5. พระราชนพิ นธเ๑ รือ่ งพระมหาชนก เปน็ พระราชนพิ นธ๑ทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระปรมินทร ภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระราชประสงคอ๑ ยาํ งไร กกกกกกก1. ก. เตอื นใจคนไทยใหร๎ ูร๎ ักสามัคคี กกกกกกก1. ข. เตอื นใจคนไทยให๎อยอํู ยาํ งพอเพียง กกกกกกก1. ค. เตือนใจคนไทยให๎มีความเพยี รไมํยํอท๎อในการดาเนนิ ชวี ติ กกกกกกก1. ง. เตอื นใจคนไทยใหช๎ วํ ยกันทานบุ ารงุ พระพุทธศาสนา
207 กกกกกกกกิจกรรมท่ี 2 กกกกกกกคาชแ้ี จง ใหน๎ ักศึกษาจบั คูโํ ดยการโยงเสน๎ ข๎อความด๎านตัวเลขกบั ข๎อความตัวอักษรที่มี ความสัมพนั ธก๑ นั แล๎วนาคาตอบทไ่ี ด๎ไปเขยี นลงในแผํนกระดาษคาตอบทแี่ จกให๎ กกกกกกก1. พระราชนิพนธ๑ทเี่ กยี่ วกับความเพยี ร ก. จงเปน็ คนวาํ นอนสอนงําย กกกกกกก2. ขอ๎ ใดคอื การปฏบิ ตั สิ าหรบั ลูกตามพระบรมราโชวาท ข. หลกั การทรงงาน ข๎อที่ 18 กกกกกกก3. พระบรมราโชวาททนี่ ักเรยี นศึกษาน้ีเป็นของใคร ค. เกดิ สภาวะนา้ ทวํ มหนกั กกกกกกก4. พออยูํ พอกนิ ง. พระมหาชนก กกกกกกก5. สาเหตสุ าคญั ท่ีทาใหเ๎ กิดโครงการแก๎มลิงข้นึ จ. พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช กิจกรรมท่ี 3 กกกกกกกคาชแี้ จง ใหน๎ กั ศึกษาเตมิ คาลงในชํองวาํ งใหถ๎ กู ต๎องสมบรู ณส๑ นั้ ๆ กกกกกกก1. หลกั การทรงงานท่นี ๎อมนามาใช๎กบั การศึกษาม.ี ....................ข๎อ กกกกกกก2. หลักทศพิธราชธรรมทนี่ าไปปรับใช๎กับอาชีพการงานมี.....................ขอ๎ กกกกกกก3. การทบี่ ดิ า มารดา ยอมเหน่ือยเพ่ือให๎ลกู ๆสบายตรงกบั หลกั การทรงงานท่ีวํา.................. กกกกกกก4. กงั หนั ชยั พฒั นาประดษิ ฐ๑ข้ึนมาเพื่อชํวยปวงชนเรื่อง..................... กกกกกกก5. ผน๎ู าทีอ่ ยใูํ นพ้นื ท่หี รอื อยํูในชมุ ชนท่ีทาหน๎าทใี่ นการกระตุ๎นและสงํ เสริมให๎ประชาชน เกิดการรวมตวั ตามแนวความคิดประชาสงั คมเรยี กวํา..................... กิจกรรมที่ 4 กกกกกกกคาชแี้ จง ให๎นักศกึ ษาทาเคร่ืองหมายถูก ( ) หรอื ผดิ () หนา๎ ข๎อตํอไปน้ี โดยนา คาตอบท่ไี ดน๎ าไปเขียนตํอลงในแผํนกระดาษคาตอบที่แจกให๎ ...............1. การทาการเกษตรแบบทฤษฎีใหมเํ ป็น พระราชดาริฯของรชั กาลที่ 10 ...............2. ในภาวะเศรษฐกิจตกต่าเชํนทกุ วันน้ีนักศกึ ษาสามารถชวํ ยลดคาํ ใช๎จํายในครอบครวั ได๎ โดยรณรงค๑ใช๎ของไทย ...............3. พระราชนิพนธเ๑ ร่ืองมหาชนกเป็นพระราชนิพนธ๑เพอ่ื เตือนคนไทยให๎มีความเพยี รไมยํ ํอท๎อ ตํอการดาเนินชีวิต ...............4. โครงการหว๎ ยองคตอนั เน่ืองมาจากพระราชดาริ จังหวดั กาญจนบรุ ี จดั อยํใู นโครงการตาม พระราชดาริด๎านการสร๎างฝายชะลอน้า ...............5. ผู๎เรยี นได๎เรยี นร๎ูปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง และปฏบิ ตั ติ นตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง จะทาใหเ๎ กดิ ผลดตี ํอตนเองในทกุ ดา๎ น
208 บรรณานุกรม
209 บรรณานกุ รม กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2539). พระราชกรณียกจิ พระบาทสมเดจ็ พระเจ๎าอยํหู วั . กกกกกกกกรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พ๑คุรสุ ภาลาดพร๎าว. กลุํมงานผลติ เอกสาร สานกั ประชาสัมพนั ธ๑ สานักงานเลขาธิการสภาผู๎แทนราษฎร. (2556). กกกกกกกสิทธิเสรภี าพ และหนา๎ ทขี่ องพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย. กรุงเทพมหานคร : กกกกกกกโรงพมิ พ๑สานกั งานเลขาธกิ ารสภาผูแ๎ ทนราษฎร. คณะอาจารย๑ กศน. (2548). คูมํ อื การเรียนรูส๎ าระการเรียนร๎หู มวดวิชาพัฒนาสังคมและชุมชน กกกกกกกระดบั ประถมศกึ ษา. โรงพิมพไ๑ ผํมเี ดยี เซน็ เตอร๑. คานณู สทิ ธิสมาน. (2542). ทฤษฎีใหมํในหลวง ชวี ิตทพี่ อเพียง. กรุงเทพมหานคร : กกกกกกกโรงพมิ พ๑รวํ มด๎วยชวํ ยกนั . จารุนนั ท๑ อึง้ ภาภรณ๑. (ม.ป.ป.). ในหลวงกับเด็กและเยาวชน. กรุงเทพมหานคร : ม.ป.พ. ชสู ิทธิ์ ชชู าต.ิ (2553). โครงการหลวงพระราชกรณียกิจนวมนิ ทรมหาราชาเพ่ือปวงประชาราษฎร กกกกกกกเชยี งใหมํ : โรงพิมพ๑วนิดาการพิมพ๑. ชสู ทิ ธิ์ ชชู าต.ิ (2554). หลักการทรงงานตามรอยพระยุคลบาท. เชยี งใหมํ : โรงพิมพว๑ นดิ าการพมิ พ๑. ทองตํอ กลว๎ ยไม๎ ณ อยธุ ยา. (2535). ทศพธิ ราชธรรม. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พ๑พับลคิ เนสพร้นิ ท.๑ พรหมมาตร๑ ชายสิม. (2554). 84 คาสอนของพํอ. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ๑คิดดี. พระภิกษปุ รัชญา. (2539). พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ พระราชธรรม พระบาทสมเดจ็ พระกกก กกกกกกกเจ๎าอยํูหวั ภูมพิ ลอดุลยเดชมหาราช. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พธ๑ รรมสภา. พุทธทาส. (2559). โชคดีมโี อกาสไดต๎ ามรอยพระยุคบาทโดย ทศพิธราชธรรม. กรงุ เทพมหานคร : กกกกกก โรงพมิ พ๑อมรินทร๑พริ้นติง้ แอนด๑พบั ลชิ ชง่ิ จากดั . พุทธทาสภิกข.ุ (ม.ป.ป.). เราจะครองแผนํ ดนิ โดยธรรมตามรอยพระยุคลบาทดว๎ ยทศพธิ ราชธรรม. กกกกกกกกรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ๑ธรรมสภา. มลู นธิ ชิ ยั พัฒนา. (ม.ป.ป.). ตามรอยเบ้ืองพระยคุ ลบาทด๎วยทศพธิ ราชธรรม และหลักการทรงงาน กกกกกกกจดั พมิ พเ๑ ผยแพรเํ พ่ือเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาส มหามงคลเฉลิมพระ กกกกกกกชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธนั วาคม 2550. กรุงเทพมหานคร : ม.ป.พ. มูลนธิ ิโตโยต๎าประเทศไทยและมลู นิธิพระดาบส. (2543). ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชกก กกกกกกกดารัสเกี่ยวกบั เด็กและเยาวชน. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ๑กรุงเทพฯ. ราชบัณฑิตยสถาน. (2556). พจนานกุ รมฉบับราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. 2554 เฉลิมพระเกียรติ กกกกกกกพระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยหูํ ัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธมี หามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา กกกกกกก7 รอบ 5 ธันวาคม 2554. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พศ๑ ิรวิ ัฒนา อนิ เตอร๑พริ้นต๑จากัด. สถาบนั บันลือธรรม. (2551). 209 คาสอนพอ เศรษฐกจิ พอเพยี ง. กรุงเทพมหานคร : กกกกกกกโรงพมิ พ๑ธรรมสถานศนู ย๑หนงั สอื พระพุทธศาสนา. สมพร เทพสิทธา. (2546). การเดนิ ทางตามรอยพระยุคลบาท เศรษฐกิจพอเพยี ง ชวํ ยแก๎ปญ๓ หาความ กกกกกกกยากจนและการทุจริต. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ๑ศรีเมืองการพมิ พ.๑
210 สมบัติ จาปาเงิน. (ม.ป.ป.). รชั กาลท่ี 9 พระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยํูหัวภมู ิพลอดลุ ยเดชมหาราช. กกกกกกก กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พ๑เอกพมิ พ๑ไทย. สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สวุ ฑฒฺ โน). (2550). ทศพิธราชธรรม ของพระบาทสมเด็จพระเจ๎าอยหูํ ัว. กกกกกกก กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ๑กระทรวงวัฒนธรรม. สิทธา มชี อบธรรม. (2547). หนงั สอื เรยี นพฒั นาสงั คมและชมุ ชน ระดบั ประถมศึกษา. กกกกกกกกรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพป๑ ยิ มติ ร. สานักงานกองทุนสนับสนนุ การสร๎างเสรมิ สุขภาพ. (2549). 9 ตามยาํ งรอยเทา๎ พอํ คูํมอื สร๎างแรง กกกกกกกบันดาลใจ จากในหลวง ถงึ เยาวชน. กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพส๑ านกั งาน กกกกกกกกองทุนสนบั สนนุ การสร๎างเสริมสุขภาพ สานกั งานกองทุนสนับสนุนการสรา๎ งเสรมิ สขุ ภาพ และมลู นิธิสดศรี-สฤษดว์ิ งศ๑. (2550). คาพํอสอน. กกกกกกกพมิ พ๑ครั้งที่ 5. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ๑กรงุ เทพฯ. สานกั งานพัฒนาสังคม. (2549). ชีวิตพอเพยี งตามแนวพระราชดาริ. กรงุ เทพมหานคร : ม.ป.พ. สานกั งานสํงเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย. (2559). หนังสอื เรียนรายวิชา กกกกกกกศาสนาและหน๎าท่ีพลเมอื งระดบั ประถมศึกษา. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พป๑ ิยมติ ร. สานกั งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกจิ และสังคมแหํงชาติ. (ม.ป.ป.). เรียนรห๎ู ลักการทรงงาน กกกกกกกในพระบาทสมเดจ็ พระเจา๎ อยหูํ วั . กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพส๑ านกั งานคณะกรรมการ กกกกกกกพฒั นาการเศรษฐกิจ สานักสงํ เสริมกจิ การการศึกษา สานักปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ. (ม.ป.ป.). โครงการเรยี นร๎ูตามรอย กกกกกกกพระยุคลบาท. กรุงเทพมหานคร : ม.ป.พ. อธิบดกี รมการปกครอง. (2553). เย็นศิระเพราะพระบริบาล. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ๑อาสารัก กกกกกกกดนิ แดน ความหมายของคนดี. ผ๎ูเขียน ทักษ๑ดนัย สรอ๎ ยคา Retired from กกกกกกกสบื คน๎ จาก http:// www.gotoknow.org2posts2244587 กกกกกกกวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2560. บันทึกตามรอย 84 ตามคาสอนพํอ.สานักพิมพ๑เนชั่นบ๏ุค กกกกกกกสืบคน๎ จาก https://books.google.co.th/books?id= true กกกกกกกวันท่ี 11 มิถุนายน พ.ศ. 2560. พระราชกรณียกจิ ด๎านความสัมพนั ธร๑ ะหวํางประเทศ. ผ๎ูเขยี น News Chaopraya. กกกกกกกสืบค๎นจาก http://www.News Chaopraya.com กกกกกกกวันท่ี 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 พลเมือง ชื่อผู๎เขียน สานกั งานราชบัณฑติ ยสภา กกกกกกกสบื ค๎นจาก http://www.royin.go.th/?knowledges กกกกกกกวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2560. พลเมืองดีของประเทศชาติและสงั คมโลก ผู๎เขยี น พมิ พ๑ พมิ พ๑นภัทร กกกกกกกสบื คน๎ จาก https://www.academia.edu/8265830 กกกกกกกวันท่ี 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2560.
211 พลเมืองดตี ามวิถีประชาธิปไตย. ผ๎เู ขยี น ปณิตา ปตตาทานัง Retired from กกกกกกกสืบคน๎ จาก http://www.thistudyfocas.com/สังคมศึกษา/หน๎าทีพ่ ลเมือง กกกกกกกวนั ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 โครงการพัฒนาในตํางประเทศ. ผเู๎ ขยี น มลู นธิ ิแมฟํ ูาหลวง. กกกกกกกสบื ค๎นจาก http://www.maefahluang.org/indax.php กกกกกกกวันท่ี 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 โครงการในพระราชดาริ. ผ๎เู ขียน มูลนิธิแมํฟาู หลวง. กกกกกกกสบื คน๎ จาก http://www.thaisavannaket.com กกกกกกกวนั ท่ี 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 “ ศาสตรพ๑ ระราชา” แผไํ พศาล ตามรอยเสน๎ ทางพัฒนาใน “ เยนนั ซอง ”. ผ๎เู ขียน ไทยรฐั . กกกกกกกสบื ค๎นจาก http://www.thairath.co.th กกกกกกกวนั ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
212 ภาคผนวก
213 ภาคผนวก ก. เฉลยกิจกรรมท้ายบท
214 เฉลยกิจกรรมทา้ ยบท บทที่ 1 ความรู้พ้นื ฐานเกย่ี วกับหน้าทีพ่ ลเมอื ง กกกกกกก1. เฉลยกิจกรรมที่ 1 กกกกกกก 1. ก 2. ค 3. ก 4. ข 5. ง กกกกกกก2. เฉลยกิจกรรมท่ี 2 กกกกกกก 1. กบั ข กกกกกกก 2. กบั ก กกกกกกก 3. กับ ง กกกกกกก 4. กับ จ กกกกกกก 5. กับ ค กกกกกกก3. เฉลยกิจกรรมท่ี 3 กกกกกกก 1. คาตอบ บุคคลธรรมดา และ นิติบุคคล กกกกกกก 2. คาตอบ หน๎าท่ี และ หน๎าที่ และ รฐั ธรรมนญู ไทย กกกกกกก 3. คาตอบ พลเมอื งดี 4. คาตอบ ทรัพยส๑ ิน กกกกกกก 5. คาตอบ คนไทยทุกคน ใ กกกกกกก4. เฉลยกจิ กรรมที่ 4 กกกกกกก 1 กกกกกกก 2 กกกกกกก 3 กกกกกกก 4 กกกกกกก 5 บทท่ี 2 ความหมายและความสาคญั ของหน้าท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาท รัชกาลที่ 9 กกกกกกก1. เฉลยกจิ กรรมท่ี 1 1. ข 2. ง 3. ค 4. ง 5. ค กกกกกกก2. เฉลยกจิ กรรมท่ี 2 1. กับ จ 2. กบั ค 3. กบั ง 4. กับ ก 5. กบั ข
215 กกกกกกก3. เฉลยกจิ กรรมท่ี 3 1. คาตอบ ความหมายของหน๎าที่พลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลที่ 9 2. คาตอบ ความสาคญั ของหน๎าท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลท่ี 9 3. คาตอบ การเรียนร๎ตู ามรอยพระยุคลบาท ด๎านความเจริญ 4. คาตอบ การเรยี นรูต๎ ามรอยพระยุคลบาท ด๎านความร๎ู 5. คาตอบ การเรยี นร๎ูตามรอยพระยุคลบาท ดา๎ นความสามัคคี กกกกกกก4. เฉลยกจิ กรรมที่ 4 กกก 1 กกกกกกก 2 กกกกกกก 3 กกกกกกก 4 กกกกกกก 5 บทที่ 3 หน้าที่พลเมอื งตามรอยพระยคุ ลบาทรชั กาลท่ี 9 ดว้ ยทศพิธราชธรรม กกกกกกก1. เฉลยกิจกรรมที่ 1 1. ง 2. ก 3. ง 4. ค 5. ข กกกกกกก2. เฉลยกจิ กรรมที่ 2 1. กบั ง 2. กับ ค 3. กับ จ 4. กับ ข 5. กบั ก กกกกกกก3. เฉลยกิจกรรมท่ี 3 1. คาตอบ ทศพธิ ราชธรรม 2. คาตอบ ปริจจาคะ 3. คาตอบ มัททวะ 4. คาตอบ ศีล 5. คาตอบ อวิโรธนะ กกกกกกก4. เฉลยกิจกรรมที่ 4 กกก 1 กกกกกกก 2 กกกกกกก 3 กกกกกกก 4 กกกกกกก 5
216 บทที่ 4 หน้าที่พลเมอื งตามรอยพระยคุ ลบาท รัชกาลที่ 9 ตามพระราชดารัส กกกกกกก1. เฉลยกจิ กรรมที่ 1 1. ค 2. ค 3. ค 4. ง 5. ข กกกกกกก2. เฉลยกิจกรรมท่ี 2 1. กบั ค 2. กับ ก 3. กบั ข 4. กบั จ 5. กบั ง กกกกกกก3. เฉลยกิจกรรมท่ี 3 1. คาตอบ 2 ประเภท 2. คาตอบ เปน็ แบบอยาํ งท่ี 3. คาตอบ สุขกาย 4. คาตอบ ความรบั ผดิ ชอบ 5. คาตอบ สํวนรวม กกกกกกก4. เฉลยกจิ กรรมที่ 4 กกกกกกก 1 กกกกกกก 2 กกกกกกก 3 กกกกกกก 4 กกกกกกก 5 บทท่ี 5 หน้าท่ีพลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาทรชั กาลที่ 9 ตามหลกั การทรงงาน กกกกกกก1. เฉลยกิจกรรมท่ี 1 1. ง 2. ง 3. ง 4. ค 5. ค กกกกกกก2. เฉลยกจิ กรรมท่ี 2 1. กับ ค 2. กับ ง 3. กบั ก 4. กบั จ 5. กบั ข กกกกกกก3. เฉลยกิจกรรมท่ี 3 1. คาตอบ รู๎ รัก สามัคคี 2. คาตอบ อิทธิบาทสี่ 3. คาตอบ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รชั กาลท่ี 9 4. คาตอบ 9 ขอ๎ 5. คาตอบ 4 และ 30:30:30:10
217 กกกกกกก4. เฉลยกจิ กรรมที่ 4 1. 2. 3. 4. 5. บทท่ี 6 หน้าทพ่ี ลเมอื งตามรอยพระยคุ ลบาทรชั กาลที่ 9 ตามพระราชจริยวัตร และพระราชกรณียกิจ กกกกกกก1. เฉลยกิจกรรมที่ 1 1. ก 2. ง 3. ข 4. ข 5. ง กกกกกกก2. เฉลยกจิ กรรมท่ี 2 1. กับ ค 2. กบั จ 3. กับ ก 4. กับ ข 5. กับ ง กกกกกกก3. เฉลยกจิ กรรมที่ 3 กกกกกกก 1. ตอบ ประเทศ พมาํ อินโดนเี ซยี อัฟกานิสถาน 2. ตอบ ประเทศเวยี ดนาม กกกกกกก 3. ตอบ ประเทศราชอาณาจักรภฎู าน กกกกกก ก 4. ตอบ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กกกกกก ก 5. ตอบ ประเทศสาธารณรัฐอนิ โดนเี ซีย กกกกกกก4. กจิ กรรมท่ี 4 1. 2. 3. 4. 5. บทที่ 7 การประยุกตใ์ ช้หน้าทพ่ี ลเมอื งตามรอยพระยคุ ลบาทรชั กาลท่ี 9 ในชวี ติ ประจาวนั กกกกกกก1. เฉลยกจิ กรรมท่ี 1 1. ค 2. ง 3. ค 4. ข 5. ค
218 กกกกกกก2. เฉลยกิจกรรมที่ 2 1. กับ ง 2. กบั ก 3. กบั จ 4. กับ ข 5. กบั ค กกกกกกก3. เฉลยกิจกรรมท่ี 3 1. คาตอบ 23 ข๎อ 2. คาตอบ 10 ขอ๎ 3. คาตอบ ขาดทนุ คอื กาไร 4. คาตอบ เพ่ือบาบัดนา้ เสีย 5. คาตอบ ผ๎ูนาการเปลี่ยนแปลง กกกกกกก4. เฉลยกิจกรรมท่ี 4 1. 2. 83. 4. 5.
219 ภาคผนวก ข. การอนมุ ัตใิ ชห้ นงั สอื
220 ประกาศ สานักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย จงั หวัดประจวบครี ีขนั ธ์ เรื่อง การอนญุ าตใหใ้ ช้ หนงั สอื เรยี นสาระการพฒั นาสังคม รายวิชา สค33108 หนา้ ท่ีพลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรชั กาลทเี่ ก้า 3 …………………………………………………………………………….... ตามที่สถานศึกษา ศูนย๑การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมือง ประจวบคีรีขันธ๑ ได๎พัฒนาหลักสูตรรายวิชาเลือกเสรี สาระพัฒนาสังคม รายวิชา สค33108 หน๎าท่ี พลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลที่เก๎า 3 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ตามหลักสูตรการศึกษา นอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยผํานคณะกรรมการบริหารหลักสูตร ของสถานศกึ ษาตรวจสอบคณุ ภาพ สานักงานสํงเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จังหวัดประจวบคีรีขันธ๑ ได๎พิจารณาความสอดคล๎องของรายวิชาเลือกเสรีกับโปรแกรมการเรียนรู๎ การกาหนดสดั สํวน และวธิ ีการประเมินผลสอดคล๎องกับธรรมชาติรายวิชา และได๎ดาเนินการออกรหัส รายวชิ าดงั กลําวเรียบรอ๎ ยแลว๎ ดังน้ันเพื่อให๎การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานหลักสูตรรายวิชาเลือกเสรี สาระการพัฒนาสังคม รายวิชา สค33108 หน๎าที่พลเมืองตามรอยพระยุคลบาทรัชกาลที่เก๎า 3 เป็นไปอยํางมีประสิทธิภาพ ใหส๎ ถานศึกษาดาเนินการจัดการเรยี นร๎ู ตง้ั แตํบัดนเี้ ป็นตน๎ ไป ประกาศ ณ วนั ท่ี 29 เดือน กันยายน พ.ศ. 2560 (...............................................................) ผอ๎ู านวยการสานักงานสงํ เสรมิ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวดั ประจวบคีรีขนั ธ๑
221 ภาคผนวก ค. รายช่อื คณะผ้จู ดั ทา
222 รายชื่อคณะผู้จดั ทา ท่ปี รกึ ษา กกกกกกก1. นางโกศล หลักเมอื ง รองผ๎อู านวยการสานกั งาน กศน.ประจวบครี ีขันธ๑ กกกกกกก2. นางสาวสธุ ิกานต๑ แยม๎ นิล ผ๎ูอานวยการ กศน.อาเภอหัวหนิ กกกกกกก3. รองศาสตราจารย๑ ดร.พัชรี ศรีสังข๑ อาจารย๑ประจาคณะสังคมศาสตร๑ มหาวิทยาลัย ศรีนครนิ ทรวโิ รฒ ประสานมิตร คณะทางาน กกกกกกก1. นางสาวขวญั จิตต๑ ศรีจันทนากลุ ผอ. กศน.อาเภอเมืองประจวบคีรขี ันธ๑ กกกกกกก2. บทท่ี 1 ความร๎ูพ้ืนฐานเกย่ี วกบั หนา๎ ท่ีพลเมือง ดงั น้ี 1. นางกาญจนา ปิยะจนิ ดา ครู กศน.ตาบล 2. นางสาวพรพมิ ล เยาวมาลย๑ ครู กศน.ตาบล บทที่ 2 ความหมายและความสาคัญของหน๎าที่พลเมอื งตามรอยพระยุคลบาท รชั กาลที่ 9 ดังน้ี 1. นางสาวศรปี ญ๓ ญา ขวักไขวํ ครอู าสาสมคั ร กศน. บทท่ี 3 หน๎าทพี่ ลเมืองตามรอยพระยุคลบาท รัชกาลที่ 9 ด๎วยทศพธิ ราชธรรม ดงั น้ี 1. นางสาววรวรรณ จิตรนยิ ม ครู คศ.1 บทที่ 4 หนา๎ ท่ีพลเมอื งตามรอยพระยุคลบาท รชั กาลท่ี 9 ตามพระราชดารสั ดังน้ี 1. นางสาวประไพพศิ กลน่ิ สมหวัง ครู กศน.ตาบล 2. นางสาวนฤมล แสงจินดา บรรณารักษอ๑ ัตราจา๎ ง บทท่ี 5 หนา๎ ท่ีพลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาท รัชกาลท่ี 9 ตามหลกั การทรงงาน ดังนี้ 1. นางสาวคานวน หวงั เจรญิ ครู กศน.ตาบล บทที่ 6 หน๎าทีพ่ ลเมืองตามรอยพระยคุ ลบาท รชั กาลท่ี 9 ตามพระราชจริยวตั ร และ พระราชกรณยี กจิ ดงั นี้ 1. นางสาวปยิ ภรณ๑ พูลนอ๎ ย บรรณารักษป๑ ฏบิ ัติการ 2. นายพลั ลภ กลั่นนาค ครู กศน.ตาบล 3. นางสาวนพเก๎า ปรดี ี ครู กศน.ตาบล 4. นายณฐั กานต๑ พวํ งเจริญ ครูศนู ยก๑ ารเรียนชุมชน บทที่ 7 การประยุกตใ๑ ช๎หนา๎ ท่ีพลเมอื งตามรอยพระยคุ ลบาท รชั กาลที่ 9 ในชวี ติ ประจาวนั ดงั น้ี 1. นางสาวศิวยิ า อาจสญั จร ครู กศน.ตาบล 2. นางสาวณัฐกิ า เสนาเทพ ครู กศน.ตาบล
223 บรรณาธกิ าร ผอ. กศน.อาเภอเมอื งประจวบครี ีขนั ธ๑ ครู คศ.1 กกกกกกก1. นางสาวขวญั จติ ต๑ ศรีจันทนากลุ บรรณารักษป๑ ฏิบตั กิ าร กกกกกกก2. นางสาววรวรรณ จติ รนยิ ม นักวิชาการศึกษาปฏิบตั ิการ กกกกกกก3. นางสาวปยิ ภรณ๑ พูลนอ๎ ย กกกกกกก4. นางสาวภทั รพร สวุ รรณรินทร๑
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230