Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 2.1 พระปกเกล้า

2.1 พระปกเกล้า

Published by jirut.ja, 2020-11-06 08:41:20

Description: 2.1 พระปกเกล้า

Search

Read the Text Version

148 จากการด�ำเนินการอย่างจริงจังด้านต่างๆ ในปีท่ีผ่านมาท�ำให้ผลงานของพิพิธภัณฑ์ฯ ได้รับการยอมรับ จากหนว่ ยงาน องคก์ รผู้เกยี่ วขอ้ ง ดงั น้ี งานวิชาการด้านพระปกเกล้าศึกษา ๑. พัฒนาการของกฎหมายครอบครวั ว่าด้วยเง่อื นไขการสมรส รองศาสตราจารย์ ดร.คณพล จันทน์หอม คณะนติ ศิ าสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย กฎหมายครอบครัวเปน็ กฎหมายที่ว่าดว้ ยการใช้ชีวติ ร่วมกนั ของสามภี ริยาโดยก�ำหนด สิทธแิ ละหนา้ ที่ตา่ งๆ ของคสู่ มรส ดังนัน้ กฎหมายครอบครวั จงึ มีความสำ� คัญและใกล้ชดิ กับ บคุ คลมาตงั้ แตอ่ ดตี จนถงึ ปจั จบุ นั ในอดตี ประเทศไทยใชจ้ ารตี ประเพณขี องสงั คมเปน็ กฎหมาย ซงึ่ แตกตา่ งจากในปจั จบุ นั ดงั นนั้ นบั ไดว้ า่ สงิ่ หนงึ่ ทมี่ ผี ลตอ่ การปรบั เปลย่ี นกฎหมายครอบครวั เป็นกฎหมายท่ีมีพัฒนาการอยู่ตลอดเวลาตามความเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพสังคม และ บ้านเมือง สิ่งหนึ่งท่ีมีผลต่อการปรับเปลี่ยนกฎหมายครอบครัวคือ เง่ือนไขการสมรส ซ่ึงใน ปจั จบุ นั มสี ภาพบงั คบั ใชท้ ม่ี รี ากฐานมาจากการรา่ งและประกาศใชป้ ระมวลกฎหมายแพง่ และ พาณชิ ย์ บรรพ ๕ ซงึ่ ไดม้ ขี น้ึ ในรชั กาลพระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั และเพอื่ ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับการร่างและประกาศใช้บทบญั ญตั วิ า่ ดว้ ยเงอ่ื นไขการสมรสดงั กลา่ วแลว้ คณะผู้วิจัยได้ศึกษาวิเคราะห์จากเอกสารท่ีเก่ียวข้องกับพัฒนาการของเง่ือนไขการสมรสทั้ง ของไทยและของตา่ งประเทศ ตง้ั แตอ่ ดตี ปจั จบุ ัน ตลอดจนถงึ ทศิ ทางสำ� หรับอนาคตไว้ดว้ ย ๒. พั ฒนาการสถาปัตยกรรมในสยาม ในรัชกาลพระบาทสมเด็จ พระปกเกล้าเจ้าอยูห่ ัว (พ.ศ. ๒๔๖๘ - ๒๔๗๗) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พีรศรี โพวาทอง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลยั สถาปตั ยกรรมชว่ งรชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั เปน็ หว้ งเวลาทสี่ ยาม กา้ วเขา้ สคู่ วามเปน็ รฐั สมยั ใหม่ มชี วี ติ เมอื ง วฒั นธรรมเมอื ง สงั คมเมอื งสมยั ใหม่ ควบคกู่ บั อตั รา การเพม่ิ ของประชากรทที่ วสี งู ขน้ึ แมใ้ นทางการเมอื งการปกครอง รฐั สมบรู ณาญาสทิ ธริ าชย์ ก�ำลังจะยุติบทบาทลง ทว่าสถาปัตยกรรมสมัยใหม่กลับทวีบทบาทมากข้ึนในชีวิตเมือง

รายงานประจ�ำปี ๒๕๖๒ 149 สมัยใหม่ ทั้งอาคารสาธารณะ อาคารราชการ อาคารพาณิชย์ วัง บ้านพักอาศัยผู้มีฐานะ มีจ�ำนวนมากท่ีสะท้อนถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่สมัยใหม่ท่ีสะดวกสบาย ถึงพร้อมด้วย สาธารณูปโภคสมัยใหม่ ก่อสร้างอย่างแข็งแรงม่ันคงด้วยเทคโนโลยี วัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ มิได้มีผลต่อพัฒนาการ สถาปัตยกรรมไทยในช่วงเวลาดังกล่าวมากนัก ปัจจัยทางเศรษฐกิจดูจะมีผลต่อพัฒนาการ ในงานสถาปัตยกรรมมากกว่า พบว่าในสมัยรัชกาลท่ี ๗ มีนโยบายใหม่ๆ เช่น การตั้งสภา จัดบ�ำรุงสถานที่ ชายทะเลทิศตะวันตก (พ.ศ. ๒๔๖๙) การตั้งคณะกรรมการวางแผนผัง พระนคร (Town - planning Committee) (พ.ศ. ๒๔๗๐) การยกรา่ งพระราชบญั ญตั เิ ทศบาล (พ.ศ. ๒๔๗๓) การออกพระราชบญั ญตั ิควบคมุ การก่อสรา้ งในเขตเพลงิ ไหมท้ บี่ ริเวณระวาง ถนนเจรญิ กรงุ เยาวราช และปทมุ คงคา กบั ทต่ี ำ� บลถนนเยาวราช ตอนคลองศาลเจา้ ใหมถ่ ม จังหวัดพระนคร (พ.ศ. ๒๔๗๕) เป็นต้น นโยบายและกลไกทางกฎหมายหลายประการ ยงั คงส่งผลกระทบสบื เนอื่ งอย่างลึกซึ้งและยาวนานมาจนปัจจบุ ัน ๓. ศิลปกรรมในรชั สมยั พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจา้ อยหู่ ัว อาจารย์ปวีณา สุธีรางกูร คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัย ศลิ ปากร การศึกษาที่รวบรวมผลงานศิลปกรรมท่ีนักวิจัยประกอบด้วย จิตรกรรมฝาผนัง จิตรกรรมภาพเหมือนบุคคล จิตรกรรมภาพทิวทัศน์ ภาพลายเส้นและภาพประกอบ และ ภาพดา้ นประตมิ ากรรมประกอบดว้ ย อนสุ าวรยี ์ ประตมิ ากรรมรปู เหมอื นบคุ คลและจติ รกรรม ศิลปกรรมส่วนใหญ่ถูกสร้างข้ึนเพ่ือตอบสนองต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลัก โดยมี ผลงานของศิลปินเป็นส่วนน้อย ศิลปกรรมในสมัยน้ีอยู่ภายใต้อิทธิพลของศิลปะตะวันตก แบง่ ออกเปน็ ๒ ลกั ษณะ คอื ศลิ ปกรรมไทยแนวตะวนั ตก และศลิ ปกรรมแบบตะวนั ตก ผลงาน ทกุ รายการผสานความเหมอื นจรงิ ทงั้ ในดา้ นกายวภิ าค ทศั นยี วทิ ยา และการลงสแี สง - เงา ทว่ามีอิทธิพลที่แตกต่างกัน รูปแบบและผลงานของศิลปกรรมในรัชกาลท่ี ๗ ยังคงสืบทอด แนวทางจากรัชกาลที่ ๖ โดยแสดงความเหมือนจริงผสานความงามเชิงอุดมคติอันสูงส่ง ของพระมหากษัตริย์ อย่างไรก็ดี ภายหลังการเปล่ียนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ ทง้ั รปู แบบและการสอื่ นยั ความหมายของศลิ ปกรรมไดค้ ลคี่ ลายไปสคู่ วามเหมอื นจรงิ ทแ่ี สดง ความสามัญมากยิ่งข้นึ

150 ๔. การศึกษาเปรียบเทียบการด�ำเนินงานของโรงเรียนคริสต์และ โรงเรียนจีน ในรชั สมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจ้าอยู่หัว ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ระวี สจั จโสภณ คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ การศกึ ษาการดำ� เนนิ งานของโรงเรยี นคริสตแ์ ละโรงเรยี นจนี ในรชั สมัยพระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รวมถึงวิเคราะห์เปรียบเทียบการด�ำเนินงานของโรงเรียนคริสต์และ โรงเรยี นจนี โดยวิจยั เชงิ คณุ ภาพด้วยการวเิ คราะหเ์ อกสารชน้ั ตน้ และเอกสารชัน้ รอง ผลการศกึ ษาพบวา่ ในสมยั รชั กาลท่ี ๗ โรงเรยี นครสิ ตแ์ ละโรงเรยี นจนี ประสบความสำ� เรจ็ ในการจดั การศกึ ษา โดยเฉพาะในดา้ นภาษาและวชิ าชพี โรงเรยี นครสิ ตส์ ามารถดำ� เนนิ กจิ การ ไปได้ด้วยดี โดยลดบทบาทการเผยแผ่ศาสนาในโรงเรียนลงไป เพ่ือเปิดโอกาสรับนักเรียน ไดม้ ากขนึ้ ซงึ่ ถงึ แมว้ า่ จะมกี ารเกบ็ คา่ เลา่ เรยี นในอตั ราสงู ผปู้ กครองกม็ น่ั ใจสง่ บตุ รหลานมา เล่าเรียนเพิ่มข้ึน ตลอดจนสั่งสมช่ือเสียงจนเป็นโรงเรียนชั้นน�ำและมีความสัมพันธ์ที่ดีและ เปน็ ทไี่ วว้ างใจจากหนว่ ยงานราชการเสมอมา ทางดา้ นโรงเรยี นจนี กพ็ ยายามดำ� เนนิ กจิ การตาม นโยบายของรฐั แตป่ ญั หาเรอ่ื งการไมส่ อนภาษาไทย และการสอนลทั ธกิ ารเมอื งอนั เปน็ กระแส จากทางฝั่งประเทศจีนท้ังชาตินิยมและคอมมิวนิสต์ จึงกลายเป็นปัญหาที่ถูกเพ่งเล็งจาก ทางการ เพราะเปน็ ภยั ตอ่ ความมน่ั คง อยา่ งไรกด็ ี โรงเรยี นครสิ ตแ์ ละโรงเรยี นจนี ตา่ งมสี ถานะ เหมอื นกนั คอื เปน็ โรงเรยี นราษฎร์ และตอ้ งอยใู่ นมาตรฐานทก่ี ำ� กบั ดแู ลเหมอื นกนั รฐั บาลจงึ พยายามสรา้ งสมดลุ ในการจดั การเพอ่ื ไมใ่ หด้ เู บาเกนิ ไปสำ� หรบั โรงเรยี นจนี และเขม้ งวดเกนิ ไป ส�ำหรับโรงเรียนคริสต์ ก า ร ผ ลิ ต ส่ื อ ส่ิ ง พิ ม พ์ เ พ่ื อ เ ผ ย แ พ ร่ องคค์ วามรดู้ า้ นพระปกเกลา้ ศกึ ษา จำ� นวน ๓ เรอ่ื ง ได้แก่ 1. เรอื่ ง “ฝรง่ั เศสในพระชนมช์ พี พระปกเกลา้ ” 2. เร่ือง จดหมายเหตุเสด็จพระราชด�ำเนิน ประพาสยุโรป พ.ศ. ๒๔๖๖ - ๒๔๗๗ ของ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (เฉพาะประเทศอติ าล)ี ๓ ภาษา คอื ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ และภาษาอิตาลี 3. เรื่อง “สมดุ ภาพเสดจ็ ฯ เลียบมณฑล พายัพ พ.ศ. ๒๔๖๙”

รายงานประจ�ำปี ๒๕๖๒ 151 โครงการจัดท�ำศูนย์การเรียนรู้ประชาธิปไตย ใ น วั น ที่ ๑ ๐ ธั น ว า ค ม ๒ ๕ ๖ ๑ ซึ่งตรงกับวันรัฐธรรมนูญ ได้มีพิธีเปิดตัว ศูนย์การเรียนรู้ประชาธิปไตยระยะท่ี ๑ เพื่อให้ ประชาชนได้ทดลองเข้าเยี่ยมชมนิทรรศการ รากฐานประชาธิปไตย ในบริเวณอาคาร รำ� ไพพรรณี ชนั้ ที่ ๓ ซง่ึ แสดงถงึ เรอ่ื งราวเกย่ี วกบั การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย และรว่ มกนั คน้ หาความหมายของประชาธปิ ไตย ทสี่ อดคลอ้ ง กบั บรบิ ททางสงั คมไทย รวมทง้ั เสรมิ สรา้ งความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความเป็นพลเมืองที่ดีในวิถีประชาธิปไตยในสังคมไทย อีกท้ังปรับปรุงภูมิทัศน์เดิมให้เป็น ลานนิทรรศการกลางแจ้ง (ฝั่งถนนหลานหลวง) ซึ่งจัดแสดงถึงจุดเร่ิมต้นอภิวัฒน์สยาม และเรื่องราวเกี่ยวกับ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้น�ำราษฎรชาวสยาม ผู้สนับสนุนให้เกิดการแลกเปลี่ยนและแสดง ความคิดเห็นอย่างเสรีข้ึนในสังคม ผ่านบทบาทของหนังสือพิมพ์ไทย รวมถึงจัดแสดงพัฒนาการประวัติศาสตร์ การเมืองไทย โดยสรปุ เหตกุ ารณ์ส�ำคัญทางประวัติศาสตร์ทีส่ ะท้อนให้เห็นถึงพฒั นาการทางสงั คมไทย การออกแบบศูนย์การเรียนรู้เน้นการน�ำเสนอที่ใช้เทคโนโลยี Interactive มาประกอบการจัดแสดง เพ่อื ใหเ้ กิดความน่าสนใจ ความประทับใจ และทันสมัย เช่น หอ้ งฉายภาพยนตร์ ๔ มิติ และหอ้ งเกมการเลอื กตง้ั เพ่ือจ�ำลองบรรยากาศ และให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้ง มีจอทัชสกรีนให้ผู้เข้าชมสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง อีกทง้ั ยังมีสมุดกจิ กรรมรองรบั นกั เรยี นแต่ละระดบั ชน้ั อีกด้วย

152 นอกจากน้ี ยังมีแผนการจัดท�ำศูนย์การเรียนรู้ระยะท่ี ๒ ในบริเวณช้ันที่ ๑, ๒ และช้ันที่ ๔ ซ่ึงคาดว่า จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปลายปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยหวังให้ศูนย์การเรียนรู้แห่งน้ีเป็น แหล่งเรียนรู้ทส่ี รา้ งแรงบนั ดาลใจใหค้ นในสงั คมไดม้ าร่วมกันพฒั นาประชาธปิ ไตยไทยต่อไป นิทรรศการหมุนเวียน ๑. เรอื่ ง “สัปดมราชา บรมราชาภเิ ษก” ระหว่างวนั ที่ ๒๕ เมษายน - ๑๘ กนั ยายน ๒๕๖๒ จั ด แ ส ด ง เ กี่ ย ว กั บ พระราชพิธีบรมราชาภิเษกใน พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า เจ้าอยู่หัว อันเป็นเรื่องราวทาง ประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า เพื่อ ให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้พระราชพิธี อนั งดงาม และเหมาะสมแกช่ ว่ งเวลา อนั เปน็ มหามงคลยงิ่ ในการพระราช พิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร

รายงานประจ�ำปี ๒๕๖๒ 153 ๒. เรอ่ื ง “สยาม - อติ าลี บารมพี ระปกเกลา้ ” ระหวา่ งวนั ที่ ๒๔ กนั ยายน ๒๕๖๒ - ๒๘ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๓ เพื่อเผยแพร่ความรู้เก่ียวกับการเสด็จ พระราชด�ำเนินเยือนราชอาณาจักรอิตาลีของ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าร�ำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ ต้ังแต่วันท่ี ๑๐ มนี าคม ๒๔๗๖ ถึงวันที่ ๔ เมษายน ๒๔๗๗ (ตามปฏิทินเดิม) เพ่ือสานพระราชไมตรีกับราชวงศ์ซาวอยของ ราชอาณาจักรอิตาลี และเพื่อทอดพระเนตร กิจการต่างๆ ของรัฐบาลฟาสซิสต์ในด้าน การปกครอง การศกึ ษา การสาธารณสขุ การทหาร และการอบรมพลเมือง เป็นต้น นอกจากน้ี พระองค์ได้เสด็จพระราชด�ำเนินไปยังสถานที่ ทม่ี คี วามสำ� คญั ทางดา้ นโบราณคดี ประวตั ศิ าสตร์ และศลิ ปวฒั นธรรม อนั เปน็ สมบตั ขิ องชาติ และ เปน็ แหลง่ เรียนรูท้ ม่ี คี ณุ ค่าตัง้ แต่อดีตถงึ ปัจจบุ ัน

154 นิทรรศการเคลื่อนที่และส่ือการเรียนรู้พระปกเกล้าศึกษา (Mobile Museum) นิทรรศการเคล่ือนท่ีจัดข้ึนเพ่ือขยายโอกาสการศึกษาสู่ต่างจังหวัด เพ่ือให้ประชาชนในแต่ละพื้นท่ี ได้ศึกษาเรียนรู้เรื่องราวพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว สภาพ เหตุการณ์บ้านเมือง สถานท่ีส�ำคัญ ความเป็นอยู่ของผู้คน การเข้ามาของอิทธิพลทางศิลปวัฒนธรรมและ เทคโนโลยีจากต่างประเทศ ตลอดจนนวัตกรรมต่างๆ ท่ีเกิดข้ึนในช่วงรัชสมัย รวมทั้งประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ทส่ี ะทอ้ นถงึ วถิ ชี วี ติ ของสงั คมพหวุ ฒั นธรรม เพอื่ เปน็ การกระตนุ้ จติ สำ� นกึ ประชาชนใหเ้ หน็ คณุ คา่ ทางประวตั ศิ าสตร์ และมรดกทางวัฒนธรรมท้องถิ่นของตนเอง อันน�ำไปสู่การพัฒนาท่ียั่งยืน โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ จัดจ�ำนวน ๔ พืน้ ท่ี ในแต่ละพ้ืนทไ่ี ด้รบั ความรว่ มมือกับหนว่ ยงานในท้องถ่นิ ต่างๆ ประกอบด้วย • เทศบาลนครยะลา จัดแสดง ณ อทุ ยานการเรยี นรู้ยะลา (TK Park Yala) จังหวดั ยะลา ระหว่าง วันท่ี ๑๒ มีนาคม - ๒๘ มถิ ุนายน ๒๕๖๒ • มหาวิทยาลัยขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น จัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา มหาวิทยาลัย ขอนแก่น จงั หวัดขอนแก่น ระหวา่ งวันที่ ๑๔ มนี าคม – ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๒ • เทศบาลเมืองกระบี่ จัดแสดง ณ ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมอันดามัน จังหวัดกระบ่ี ระหว่างวันที่ ๓ กรกฎาคม - ๓๐ กนั ยายน ๒๕๖๒ • เทศบาลเมอื งฉะเชงิ เทรา จดั แสดง ณ ศนู ยก์ ารเรยี นรเู้ มอื งฉะเชงิ เทรา Knowledge Center of Chachoengsao (KCC) จังหวัดฉะเชิงเทรา ระหว่างวนั ที่ ๙ กรกฎาคม - ๓๐ กนั ยายน ๒๕๖๒ ในการจัดนิทรรศการในปีน้ี มีส่ือการเรียนรู้ที่ กระตนุ้ ผเู้ ขา้ ชม คอื ชดุ นทิ รรศการความรู้ ภาษาไทยและ ภาษาองั กฤษ พรอ้ มระบบ QR Code นอกจากนไี้ ดจ้ ดั แสดง ภาพเสมือน ๓ มิติ โดยจ�ำลองอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผา่ นระบบ Augmented Reality (AR) รวมถงึ จดั แสดงวตั ถุ จำ� ลอง คอื อาคารพพิ ธิ ภณั ฑพ์ ระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจ้าอยู่หัว และสะพานพระพุทธยอดฟ้า เพ่ือให้ผู้เข้าชม ได้เรยี นร้เู สมือนเขา้ มาเยีย่ มชมสถานท่ีจรงิ ในกรุงเทพฯ

รายงานประจ�ำปี ๒๕๖๒ 155 พิพิธภณั ฑพ์ ระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั เสมอื นจรงิ (Virtual Museum) เทคโนโลยีเสมือนจริง สามมิติ (Virtual World) เพื่อ การเข้าชมพิพิธภัณฑ์ และการ จัดแสดงท�ำให้ผู้ชมรู้สึกเสมือน เดินชมอยู่ในสถานที่จริง ณ พพิ ธิ ภณั ฑฯ์ ทก่ี รงุ เทพ เปน็ การ ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเอง ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพราะสามารถศึกษาข้อมูลได้ อย่างอิสระ และเข้าถึงข้อมูล ได้ง่ายตามความสนใจของ ตนเองในทุกท่ี ทุกเวลา หรือ แม้แต่จะหยุด เลิกดู หรือ กลับมาชมซ�้ำได้ไม่มีข้อจ�ำกัด ที่มีระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเช่ือมโยงไปถึง สามารถตอบสนองความต้องการ แกผ่ ทู้ ไี่ มส่ ามารถเดนิ ทางมายงั สถานทจี่ รงิ ได้ ทำ� ใหล้ ดชอ่ งวา่ งดา้ นระยะทาง เวลา และ ค่าใชจ้ า่ ยในการเดินทาง และเป็นเครอ่ื งมอื ทช่ี ่วยสนับสนุนการเรียนรูข้ องผ้ทู สี่ นใจ

156 สัมมนาวิชาการพระปกเกล้าศึกษา เป็นการสัมมนาที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ และแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับพระปกเกล้าศึกษารวมถึง พัฒนาการประชาธปิ ไตยไทย ในปี ๒๕๖๒ จดั ข้นึ จำ� นวน ๔ ครัง้ ๑. คร้งั ที่ ๑ เรือ่ ง “สนั ตวิ ิธใี นวิถีพระปกเกลา้ ” โดย ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ วนั ที่ ๑๐ ธนั วาคม ๒๔๗๕ เปน็ วนั สำ� คญั ทม่ี กี ารพระราชทานรฐั ธรมนญู ถาวรฉบบั แรก ของประเทศไทย ทัง้ น้ี นับตั้งแต่การขนึ้ ครองราชสมบัตขิ องรัชกาลที่ ๗ แมจ้ ะอยู่ในระบอบ การปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ พระองค์มิได้ทรงใช้อ�ำนาจสิทธ์ิขาดได้โดยล�ำพัง พระองค์เอง เน่ืองจากมีคณะอภิรัฐมนตรีท่ีปรึกษาเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ท่ีมีลำ� ดับช้ันสูง กว่าหลายพระองค์ จากบริบทของสังคมโลกในช่วงนั้น สถาบันพระมหากษัตริย์ในหลายๆ ประเทศถูกท้าทายด้วยความเปลี่ยนแปลง จนเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองในสยาม พ.ศ. ๒๔๗๕ จะเห็นได้ว่า รัชกาลที่ ๗ ทรงจัดการความขัดแย้งด้วยสันติวิธีตลอดเก้าปี แหง่ รชั สมยั เพอ่ื ความสงบสขุ ของบา้ นเมอื งและความปลอดภยั ของประชาราษฎร ซง่ึ จดั ขน้ึ ในวนั ที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๑ ๒. ครง้ั ที่ ๒ เรื่อง “ประชาธิปกบรมราชาภเิ ษก” โดย ศาสตราจารยพ์ เิ ศษ ธงทอง จนั ทรางศุ ในเดอื นกมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๒ ครบรอบ ๙๔ ปี วนั พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกของพระบาท สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว การพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในสมัยรัชกาลที่ ๗ ตาม แบบแผนพธิ กี ารสำ� คญั มมี าแตโ่ บราณประกอบดว้ ย ๔ ขนั้ ตอน ประกอบดว้ ย ๑) ขน้ั เตรยี มพธิ ี คือ เตรียมน้�ำอภิเษกและการจารึกพระสุพรรณบัฏดวงพระราชสมภพ ๒) พิธีเบ้ืองต้น เป็นการเจริญพระพทุ ธมนตฝ์ ่ายพุทธ และฝา่ ยพราหมณถ์ วายนำ้� พระมหาสังข์ ๓) พิธบี รม- ราชาภิเษก ประกอบด้วย การสรงมุรธาภิเษกเป็นการรดน้�ำท่ีพระเศียร ถือเป็นการเปล่ียน พระราชสถานะสู่ความเป็นพระมหากษัตริย์ และพิธีรับน�้ำอภิเษก คือการรดน�้ำที่พระหัตถ์ ในสมัยรัชกาลท่ี ๗ เพิ่มเติมพระราชพิธีส�ำคัญ คือ การสถาปนาสมเด็จพระบรมราชินีใน วนั บรมราชาภเิ ษกเปน็ ครง้ั แรก ๔) พิธเี บื้องปลาย ประกอบดว้ ย การเสดจ็ ออกมหาสมาคม และการเสด็จเลียบพระนครทางสถลมารค และทางชลมารค ตามล�ำดับ นอกจากนี้

รายงานประจ�ำปี ๒๕๖๒ 157 ผู้เข้าสัมมนายังได้ชื่นชมภาพถ่ายและภาพยนตร์ท่ีได้บันทึกเหตุการณ์ท่ีส�ำคัญในครั้งน้ัน ซง่ึ หาชมได้ยาก ซง่ึ จัดขึ้นในวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ๓. ครง้ั ที่ ๓ เรอื่ ง “สมั มนาเรอ่ื งพัฒนาการประชาธปิ ไตยเเบบไทยไทย” โดย ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร ในเดือนมิถุนายน ๒๕๖๒ ครบรอบ ๘๗ ปี วันเปล่ียนแปลงการปกครอง ซึ่งตรงกับ วันท่ี ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ งานสัมมนาได้ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ส�ำคัญ ที่เป็นจุดเปลี่ยนแปลงส�ำคัญในพัฒนาการประวัติศาสตร์การปกครองไทยจนถึงปัจจุบัน ซงึ่ จดั ขนึ้ ในวนั ที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๒ ๔. เร่อื ง “๑๒๐ ปี ถนนงามนามราชด�ำเนนิ ” โดย ศาสตราจารยพ์ เิ ศษ ธงทอง จนั ทรางศุ และ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.พรี ศรี โพวาทอง ในเดอื นสงิ หาคม ๒๕๖๒ ถนนราชดำ� เนนิ มอี ายคุ รบ ๑๒๐ ปี นบั ตงั้ แตพ่ ระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ตัดถนนราชด�ำเนินขึ้น เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๒ เป็นเวลา ๑๒๐ ปีที่ถนนสายประวัติศาสตร์แห่งนี้ได้ผ่านเร่ืองราวมากมาย ผันแปรไปตาม ความเปลี่ยนแปลงของบริบททางสังคมและการเมืองในแต่ละยุคสมัย สะท้อนผ่าน งานศิลปะสถาปัตยกรรมบนถนนราชด�ำเนินที่มีอิทธิพลจากตะวันตก รวมถึงความทรงจ�ำ ของผู้คนและกิจกรรมการเฉลิมฉลองในวาระต่างๆ ของรัฐบาลจวบจนปัจจุบัน ซึ่งจัดขึ้น ในวนั ท่ี ๒๒ สงิ หาคม ๒๕๖๒ โครงการอนุรักษ์และขยายความโบราณวัตถุที่เก่ียวข้อง กับพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลท่ี ๗) และสมเด็จพระนางเจ้าร�ำไพพรรณีฯ ซึ่งมีการอนุรักษ์และขยายความโบราณวัตถุที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นโบราณวัตถุอนุรักษ์ฟิล์มเนกาทิฟ จ�ำนวน ๕๐ ช้นิ และโบราณวตั ถทุ ่ไี ดร้ ับการศึกษาหรือขยายความ จ�ำนวน ๑ เรื่อง

158 โครงการพิ พิ ธสาระภัณฑ์ จัดขึ้นเพ่ือเผยแพร่พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเดจ็ พระนางเจา้ รำ� ไพพรรณี พระบรมราชนิ ใี นรชั กาลที่ ๗ และความรเู้ กย่ี วกบั พฒั นาการการเมอื งการปกครอง ของไทยอกี ท้ังเป็นการกระตุน้ ใหก้ ลุ่มผูช้ มกลับมาชมพพิ ธิ ภัณฑฯ์ มกี ิจกรรม ดังนี้ ๑. กิจกรรมพิพิธภณั ฑ์ฯ ยามค่�ำคืน Night at the Museum 2018 ระหวา่ งวนั ที่ ๑๔ - ๑๖ ธนั วาคม ๒๕๖๑ เปน็ กจิ กรรมทช่ี ว่ ยสง่ เสรมิ การเขา้ ชมพพิ ธิ ภณั ฑฯ์ ใหบ้ รกิ ารแกป่ ระชาชนคนทว่ั ไปไดเ้ ขา้ ชม และสมั ผสั กบั บรรยากาศในตอนกลางคนื นอกเหนอื เวลาทำ� การปกติ ตั้งแต่เวลา ๑๖.๐๐ น. - ๒๑.๐๐ น.

รายงานประจ�ำปี ๒๕๖๒ 159 ๒. กจิ กรรม A ‘muse’ment : พิพิธภัณฑห์ รรษา จัดขึ้นในวันเด็กแห่งชาติ ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๒ ณ พิพิธภัณฑ์ฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กและเยาวชน ได้แสดงศักยภาพทางความคิด ร่างกาย และจิตใจ ของตน ผา่ นรปู แบบการเรยี นรทู้ เี่ หมาะสมกบั ชว่ งวยั ภายใตเ้ รอื่ งราวของความรอู้ นั เกยี่ วขอ้ ง กับพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าร�ำไพพรรณีฯ และเรื่องราวประวัติศาสตร์ทางการเมืองในการเร่ิมต้น ระบอบประชาธปิ ไตยอนื่ ๆ อกี มากมาย

160 ๓. เสวนาเร่ือง “พิพิธเสวนา กีฬาพระราชนิยม” ประกอบนิทรรศการ หมุนเวียน เรือ่ ง “ประชาธิปกราชากบั กีฬาพระราชนิยม” วันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๒ โดยได้รับ เกียรติจากวิทยากร คือ ม.ร.ว.นยนา กุญชร คณุ สมสวาท โชตกิ เสถยี ร และ ม.ล.โอรสั เทวกลุ เปน็ ผดู้ ำ� เนนิ รายการ กจิ กรรมในครงั้ นจี้ ดั ขนึ้ เพอื่ นำ� เสนอเรอื่ งราวเกย่ี วกบั พระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าร�ำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลท่ี ๗ ทรงเปน็ ผอู้ ปุ ถมั ภว์ งการกฬี าไทยดา้ นกอลฟ์ เทนนสิ อกี ทงั้ เพอื่ พระพลานามยั ของทงั้ สองพระองค์ และท้ายท่ีสุดเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้อ่ืน ไม่เพียงเท่านั้นท้ังสองพระองค์ ยงั ทรงกฬี าขี่ม้า กีฬาสควอช และอีกหลายชนิด ๔. กจิ กรรม Q&A Museum ตอบไดใ้ หเ้ ลยกบั นทิ รรศการ “สปั ดมราชา บรมราชาภิเษก” วันท่ี ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๒ จัดขึ้นในวาระพิเศษวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาท สมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั มผี เู้ ขา้ ชมใหค้ วามสนใจเขา้ มาศกึ ษาเรยี นรแู้ ละรว่ มเลน่ กจิ กรรม ตอบคำ� ถามจากเนอ้ื หาในนทิ รรศการ นอกจากนยี้ งั เปน็ การสง่ เสรมิ ใหม้ กี จิ กรรมรว่ มกนั หรอื ใชเ้ วลารว่ มกนั ระหว่างเพอ่ื น หรือครอบครวั ไดท้ ้ังความรู้ ความสนุกสนานและสังคม

รายงานประจ�ำปี ๒๕๖๒ 161 ๕. เสวนาเร่อื ง “พิธีพราหมณใ์ นงานพระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก” วนั ท่ี ๑๖ สงิ หาคม ๒๕๖๒ ไดร้ บั เกยี รตจิ ากพระมหาราชครพู ธิ ศี รวี สิ ทุ ธคิ ณุ วบิ ลู ยเ์ วทย-์ บรมหงส์ พรหมพงศ์ พฤฒาจารยิ ์ ผทู้ มี่ คี วามรคู้ วามเชย่ี วชาญในดา้ นพธิ พี ราหมณ์ สาระสำ� คญั คอื การใหค้ วามรเู้ กย่ี วกบั การพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกของไทยซง่ึ สนั นษิ ฐานวา่ รบั ตน้ แบบ สบื ทอดมาจากอนิ เดยี คอื พธิ รี าชสยู ะ พธิ พี ราหมณจ์ งึ เปน็ สว่ นสำ� คญั ในการประกอบพระราชพธิ ี บรมราชาภเิ ษก อนั เปน็ การสรา้ งสภาพแวดลอ้ มใหถ้ งึ พรอ้ มเหมาะสมกบั การใหท้ วยเทพเทวดา มาอำ� นวยอวยชยั โดยประกอบในเกอื บทกุ ขน้ั ตอนของงานพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก ตง้ั แต่ ขนั้ เตรยี มการ โดยการปลกุ เสกทว่ั ทงั้ พระบรมมหาราชวงั บรู ณะซอ่ มแซมพระมหาเศวตฉตั ร เสกน�้ำเทพมนต์ จนถงึ พธิ สี ำ� คัญคอื พธิ ที รงมรุ ธาภเิ ษก เพอ่ื เปลย่ี นเปน็ พระราชาธิราช ๖. กิจกรรม “ชวนน้องท่องพิพิธภัณฑ์ แบ่งฝันปันความรู้” ประจ�ำปี ๒๕๖๒ วันท่ี ๑๐ กันยายน ๒๕๖๒ เป็นกิจกรรมที่เล็งเห็นถึงความส�ำคัญของผู้เข้าชม ทุกกลุ่มเป้าหมาย จึงได้จัดกิจกรรมพิเศษนี้ส�ำหรับผู้พิการทางสายตาจากโรงเรียน สอนคนตาบอดกรุงเทพ ได้เข้ามา เรียนรู้ ได้สัมผัส ได้รับรู้ถึงบรรยากาศ ที่เกิดข้ึนจริงภายในพิพิธภัณฑ์ฯ เพื่อ เปน็ การเสรมิ สรา้ งประสบการณบ์ ทเรยี น ท่อี ยู่นอกเหนอื ต�ำราไดอ้ ย่างดี

162 ๗. กิจกรรม เพ่ิ มพู นความรู้อาสาสมัครน�ำชม : Share เรื่องเก่า เล่าเรือ่ งใหม่ ศูนย์การเรียนรูป้ ระชาธปิ ไตย วนั ที่ ๒๘ กนั ยายน ๒๕๖๒ จดั กจิ กรรมเพมิ่ พนู ความรอู้ าสาสมคั รนำ� ชม : Share เรอื่ งเกา่ เลา่ เรอ่ื งใหม่ ศนู ยก์ ารเรยี นรปู้ ระชาธปิ ไตย โดยไดร้ บั เกยี รตจิ ากวทิ ยากร คอื ศาสตราจารยพ์ เิ ศษ นรนติ ิ เศรษฐบตุ ร และ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยอ์ ดศิ ร หมวกพมิ าย บรรยายใหค้ วามรู้ กจิ กรรม แลกเปล่ียนความรู้ จากการเข้าร่วมโครงการแลกเปล่ียนเรียนรู้ทางวัฒนธรรม และศึกษา ดูงานด้านการจัดการพิพิธภัณฑ์ท่ีประเทศสหรัฐอเมริกา โดยบุคลากรพิพิธภัณฑ์ฯ คือ นางกาญจนา ศรีปัดถา ผู้อ�ำนวยการพิพิธภัณฑ์ฯ และนางสาวศันสนีย์ ท้วมเทียบ พนักงานบริหารทั่วไปช�ำนาญการ รวมทั้งมีกิจกรรมระดมสมองของอาสาสมัครของ พิพิธภัณฑ์ฯ เพื่อแลกเปลี่ยนเก่ียวกับคุณสมบัติการเป็นอาสาสมัครน�ำชมท่ีดี รวมถึง ความท้าทายของการเป็นอาสาสมัครนำ� ชม กิจกรรมร่วมกับเครือข่ายหรือพั นธมิตรของพิ พิ ธภัณฑ์ ๑. รว่ มมอื กบั สำ� นกั งานบรหิ ารและพฒั นาองคค์ วามรู้ (องคก์ ารมหาชน) พนั ธมติ รพพิ ธิ ภณั ฑ์ และศนู ยก์ ารเรยี นรตู้ า่ งๆ ทง้ั ในกรงุ เทพมหานคร และในตา่ งจงั หวดั รว่ มกนั ดำ� เนนิ โครงการ เสริมสร้างการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ กิจกรรม Muse Pass 2562 - 2564 โดยจัดท�ำบนั ทึกขอ้ ตกลงความรว่ มมือ เพ่อื รว่ มกนั สร้าง Museum Culture ให้เกดิ ขึน้ กบั สังคมไทย ๒. ร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชนิ นี าถ โดยสนบั สนนุ ขอ้ มลู ส�ำเนาพระบรม ฉายาลักษณ์และข้อมูลต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับการเสด็จ พระราชด�ำเนินเยือนเกาะชวาและบาหลี ประเทศ อินโดนีเซียของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เพ่ือประกอบการจัดแสดง นิทรรศการผ้าบาติกใน พระปิยมหาราช : สายสัมพันธ์สยามและชวา ระหว่าง เดือนตลุ าคม ๒๕๖๑ ถึงเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๒

รายงานประจ�ำปี ๒๕๖๒ 163 ๓. ร่วมมือทางวิชาการกับ United States Department of State ภายใต้โครงการ The International Visitor Leadership Program on Demand (IVLP on Demand) “Museum Management in the US” เพอื่ สนบั สนนุ ทางวชิ าการใหบ้ คุ ลากรพพิ ธิ ภณั ฑฯ์ เขา้ รว่ มโครงการแลกเปลยี่ นเรยี นรทู้ างวฒั นธรรม และศกึ ษาดงู านดา้ นการจดั การพพิ ธิ ภณั ฑ์ ระหวา่ งวนั ท่ี ๕ – ๑๓ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๑ โดยศกึ ษาดงู านเฉพาะงานดา้ นพพิ ธิ ภณั ฑ์ สำ� หรบั ผู้ปฏิบัติงานด้านพิพิธภัณฑ์โดยเฉพาะให้ได้มีโอกาสศึกษาการบริหารจัดการและพัฒนา ศักยภาพเพอ่ื ประโยชนใ์ นการทำ� งานด้านพพิ ิธภณั ฑต์ อ่ ไปในอนาคต ๔. ร่วมมือกับบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จ�ำกัด เพ่ือบริการวิชาการ โดยสนับสนุนข้อมูล ภาพ และวดิ โี อ นทิ รรศการ จดั แสดงเกยี่ วกบั พระราชประวตั ิ และพระราชกรณยี กจิ ของพระบาท สมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั และประวตั ขิ องบรษิ ทั บญุ รอดบรวิ เวอร่ี จำ� กดั เพอ่ื จดั นทิ รรศการ “ประชาธปิ ก พระบารมปี กเกลา้ กบั สงิ หป์ กรณมั ” ในพพิ ธิ ภณั ฑส์ งิ ห์ จำ� กดั และจดั ทำ� หนงั สอื “ประชาธปิ ก พระบารมปี กเกลา้ ” ในวาระ ครบรอบ ๑๒๕ ปี วนั พระราชสมภพพระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ซงึ่ จดั แสดงนทิ รรศการระหวา่ งวนั ที่ ๒๕ ธนั วาคม ๒๕๖๑ – ๓ มกราคม ๒๕๖๒ ณ ลานไลฟส์ ไตล์ ชนั้ ๒ ศนู ยก์ ารคา้ สยามพารากอน ๕. ร่วมมือกับกระทรวงวัฒนธรรม จัดงาน “ใต้ร่มพระบารมี ๒๓๗ ปี กรุงรัตนโกสินทร์” ระหว่างวันท่ี ๘ - ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๒ โดยพิพิธภัณฑ์ได้จัดกิจกรรมพิเศษโดยขยายเวลา การใหบ้ รกิ ารจากเดมิ ๙.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. เป็น ๙.๐๐ – ๑๘.๐๐ น. ๖. รว่ มมอื กบั พพิ ธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาตพิ ระนคร จดั มหกรรมพพิ ธิ ภณั ฑไ์ ทย ๒๕๖๒ (Thailand Museum Expo 2019) โดยพิพิธภัณฑ์ฯ ได้ร่วมออกบูธแสดงนิทรรศการพระราชพิธี บรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และแนะน�ำพิพิธภัณฑ์ฯ ระหว่าง วนั ท่ี ๑๙ - ๒๒ กันยายน ๒๕๖๒ ณ พิพิธภัณฑส์ ถานแหง่ ชาตพิ ระนคร

164 ยุทธศาสตร์ที่ ๖ การพัฒนาองคก์ ร สู่สมรรถนะและสากล อีกหนึ่งเป้าหมายท่ีส�ำคัญของสถาบัน คือ การเป็นองค์กรท่ีมีศักยภาพ ขับเคลื่อน องคก์ รดว้ ยระบบทแี่ ขง็ แกรง่ พรอ้ มทจี่ ะรบั มอื กบั ทกุ สถานการณ์ มกี ารเตบิ โตและปรบั ตวั พฒั นา ตวั เองอยเู่ สมอ ใหก้ า้ วทนั โลกทเ่ี ปลยี่ นแปลงไปใน แตล่ ะยคุ ดงั นน้ั เพอื่ ใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงทด่ี ี ขนึ้ อยตู่ ลอดเวลา ในปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ สถาบนั ไดม้ งุ่ มนั่ พฒั นาองคป์ ระกอบหลกั สาํ คญั ๓ ด้าน ดังน้ี

รายงานประจ�ำปี ๒๕๖๒ 165 การพั ฒนา การสร้าง การพั ฒนา องค์กร ความร่วมมอื กจิ กรรม ทางวิชาการ ความรว่ มมอื กับเครอื ขา่ ย การพั ฒนาองค์กร ๑. การพัฒนาบุคลากร สถาบนั มงุ่ ยกระดบั องคก์ รอยา่ งสรา้ งสรรคแ์ ละใหเ้ กดิ ประสทิ ธผิ ลสงู สดุ โดยทใี่ หค้ วามสำ� คญั กบั บคุ ลากร ทุกระดบั เพื่อให้สามารถปฏบิ ตั งิ านไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ตอบสนองตอ่ วิสัยทศั น์ (Vision) พันธกิจ (Mission) ตลอดจนค่านยิ ม (Core Value) ขององค์กรด้วย  โดยในปี ๒๕๖๒ สถาบันยังคงส่งเสริมให้บุคลากร เข้ารับการอบรมตามแผนพัฒนาบุคลากรรายบุคคล (IDP) อย่างต่อเนื่อง มากถึง ๑๘ หลักสูตร อาทิ หลักสูตรวิทยากรกระบวนการ หลักสูตรจริยธรรมการวิจัย ในคนด้านสังคมศาสตร์ หลักสูตร Visual thinking คิดเป็นภาพ ส่ือเป็นเร่ือง เป็นต้น รวมถึงการเปิดโอกาส ให้บุคลากรภายใน ท้ังนักวิชาการ พนักงานปฏิบัติการวิชาชีพ ตลอดจนผู้บริหาร เข้ารับการอบรมหลักสูตรท่ี หน่วยงานภายนอกจัดขึ้น เพ่ือเป็นการเพ่ิมพูนความรู้ที่ทันสมัย เปิดประสบการณ์ที่หลากหลาย ขยายโลกทัศน์ มุมมองใหม่ๆ ใหก้ วา้ งมากยิ่งข้นึ นอกจากนี้ สถาบันยังพัฒนาระบบเทคโนโลยีและสารสนเทศในห้องเรียน โดยปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ชุดอุปกรณ์ รวมถึงระบบโสตทัศนูปกรณ์ (Audio and Visual System) ให้ทันสมัย รองรับการเรียนการสอน ในทุกมติ อิ กี ด้วย

166 ๒. งานบรหิ ารความเสีย่ งและโอกาส ประจำ� ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ สถาบนั พระปกเกลา้ ไดใ้ หค้ วามสำ� คญั เกย่ี วกบั การบรหิ ารความเสย่ี งและโอกาสทงั้ ในระดบั องคก์ ร และ ระดับโครงการ หรือกระบวนงาน โดยมีการพัฒนาแนวทางการบริหารความเสี่ยงและโอกาสมาอย่างต่อเนื่อง ในปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ คณะกรรมการบรหิ ารความเสยี่ ง สถาบนั พระปกเกลา้ กำ� หนดใหห้ นว่ ยงานภายใน ด�ำเนินการค้นหาความเส่ียงและวิเคราะห์สาเหตุหรือปัจจัยของความเสี่ยงและโอกาสในการดำ� เนินงานโครงการ หรือกระบวนงานอย่างครบถ้วน ได้แก่ ความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นแล้วส่งผลกระทบเชิงบวก (Opportunity) และความเสย่ี งจากเหตกุ ารณท์ อี่ าจจะเกดิ ขน้ึ แลว้ สง่ ผลกระทบเชงิ ลบ (Risk) โดยคำ� นงึ ถงึ เหตกุ ารณ์ ที่เกิดจากการเปลยี่ นแปลงทั้งจากปจั จัยภายใน (4M : คน (Man) งบประมาณ (Money) ทรพั ยากร (Material) การจัดการ (Management)) และปัจจัยภายนอก โดยพิจารณาจากการประเมินโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ ความเสย่ี ง (Likelihood) และความรนุ แรงของผลกระทบจากเหตกุ ารณท์ อ่ี าจจะเกดิ ขนึ้ (Impact) อนั จะสง่ ผลที่ เปน็ ประโยชนห์ รอื อปุ สรรคทสี่ ง่ ผลตอ่ เปา้ หมายในการดำ� เนนิ งาน เพอ่ื เปน็ แนวทางในการบรหิ ารจดั การเหตกุ ารณ์ ความเสีย่ งและโอกาสในด้านตา่ งๆ ใหเ้ กดิ ความครบถ้วนรอบดา้ นยิ่งขน้ึ การสร้างความร่วมมือทางวิชาการ สถาบันยังคงสร้างและขยายความร่วมมือกับองค์กรเครือข่ายต่างๆ เพ่ือขับเคล่ือนการดําเนินกิจกรรม ทางวชิ าการรว่ มกนั โดยหวงั ใหเ้ กดิ การแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ และพฒั นาองคค์ วามรวู้ ชิ าการดา้ นการเมอื งการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมุขในวงกวา้ ง ๑. งานประชมุ วิชาการสถาบันพระปกเกล้า สถาบนั พระปกเกลา้ จดั งานประชมุ วชิ าการสถาบนั พระปกเกลา้ ครง้ั ท่ี ๒๑ ประจำ� ปี ๒๕๖๒ ขน้ึ ภายใต้ หัวข้อ “ลดช่องว่างความเหล่ือมล�้ำ สร้างคุณภาพประชาธิปไตย Bridging the Inequality Gap and Nurturing Quality of Democracy” เพ่ือเป็นเวทีแลกเปล่ียนเรียนรู้การลดความเหลื่อมล้�ำและเสริมสร้าง ประชาธปิ ไตยทมี่ คี ณุ ภาพภายใตป้ จั จยั แวดลอ้ มทง้ั ภายในและภายนอกประเทศจากนกั วชิ าการและผทู้ รงคณุ วฒุ ิ ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้ได้ข้อเสนอส�ำหรับขับเคล่ือนนโยบายเพ่ือลดความ เหลอ่ื มลำ�้ และสรา้ งประชาธปิ ไตยไทยทมี่ คี ณุ ภาพดว้ ย และรว่ มกนั นำ� พาประเทศไทยไปสสู่ งั คมประชาธปิ ไตยทย่ี งั่ ยนื

รายงานประจ�ำปี ๒๕๖๒ 167 พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเจ้าลกู เธอเจ้าฟา้ พัชรกิตยิ าภา นเรนทริ าเทพยวดี กรมหลวงราชสารณิ สี ริ พิ ชั ร มหาวชั รราชธดิ า เสดจ็ แทนพระองคม์ าทรงเปดิ การประชมุ วชิ าการ สถาบันพระปกเกล้า คร้ังท่ี ๒๑ ประจ�ำปี ๒๕๖๒ ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ถนนราชดำ� เนินนอก กรงุ เทพฯ ในวันที่ ๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๒ หลังจากพิธีเปิดงานประชุมวิชาการเป็นปาฐกถาน�ำในหัวข้อ “ลดช่องว่างความเหลื่อมล้�ำสร้างคุณภาพ ประชาธิปไตย (Bridging the Inequality Gap and Nurturing Quality of Democracy) โดย Mr.Renaud Meyer ผ้แู ทนโครงการพฒั นาแห่งสหประชาชาติ (UNDP Resident Representative) กล่าวปาฐกถา “การลด ความเหลอ่ื มลำ้� และการสรา้ งคณุ ภาพประชาธปิ ไตย” คอื เปา้ หมายหลกั ของ UNDP ทวั่ โลกทม่ี งุ่ สรา้ งความเขา้ ใจ และพยายามแนะแนวทางการลดความเหล่ือมล�้ำและสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาธิปไตย ซึ่งเป็นแนวทาง ทสี่ อดคลอ้ งกบั ความแตกตา่ งของบรบิ ททางสงั คมและการเมอื งของแตล่ ะภมู ภิ าค แมว้ า่ ประเทศไทยจะเผชญิ กบั ปัญหาความเหล่ือมล�้ำอย่างรุนแรง ตลอดจนความท้าทายต่างๆ ในระบอบประชาธิปไตย แต่เชื่อแน่ว่าคนไทย ทกุ คนตอ้ งการสงั คมทเ่ี ทา่ เทยี มและประชาธปิ ไตยทยี่ ดื หยนุ่ และปรบั ตวั ไดง้ า่ ย ประเทศไทยจะประสบความสำ� เรจ็ ในการลดความเหล่ือมล้�ำและสร้างประชาธิปไตยท่ีมีคุณภาพ ด้วยรัฐบาลที่มีวิสัยทัศน์ และมุ่งม่ันพัฒนาด้วย

168 วาระการพัฒนาอย่างยั่งยืน หลักปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพยี ง และความมงุ่ มน่ั ในการ กระจายอ�ำนาจให้กับประชาชนอย่าง แทจ้ รงิ ตอ่ ดว้ ยการอภปิ รายมมุ มองและ ประสบการณ์จากต่างประเทศในหัวข้อ “Democracy and Inequality from International Perspectives” • Prof.Chong - Min Park นำ� เสนอถงึ ความทา้ ทายและการเมอื งในระบอบประชาธปิ ไตยในเอเชยี ตะวนั ออก โดยพจิ ารณาผลของ ความเหลอ่ื มลำ้� ในแงก่ ารกระจายทรพั ยากร คณุ ภาพของการปกครองความยง่ั ยนื ของประชาธปิ ไตย และกระบวนการพัฒนาประชาธปิ ไตย • Adjunct Prof.Catherine Morris กล่าวถึงสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียม: ความท้าทายของ สงั คมโลก ทเี่ นน้ ย้�ำถงึ ความเท่าเทยี ม เป็นเสาหลกั ท่คี ำ้� จนุ กฎหมายสิทธิมนษุ ยชนสากล • Mr.Frederic Spohr น�ำเสนอถึง “ความไม่เท่าเทียมในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี” ซึ่งมี การกระจายตัวในรปู แบบของภาษีและสวัสดกิ ารสงั คม • คณุ รชั ฎา อนนั ตวราศลิ ป์ ไดส้ รปุ ขอ้ มลู ตวั เลขทเ่ี นน้ ถงึ ความเหลอ่ื มลำ้� ของภาคการเงนิ ในประเทศไทย รฐั บาลตอ้ งมมี าตรการในการลดความเหลอ่ื มลำ�้ ผลสมั ฤทธใิ์ นการเขา้ ถงึ บรกิ ารทางการเงนิ ยงั สามารถ ปรบั ปรุงใหด้ ีข้นึ กว่าเดมิ ได้

รายงานประจ�ำปี ๒๕๖๒ 169 นอกจากน้ี ในงานยงั มีการปาฐกถาพิเศษ โดย ศาสตราจารยเ์ กียรตคิ ุณ นพ.ประเวศ วะสี ในหวั ขอ้ เรื่อง “ความเหลอ่ื มลำ้� ในโครงสรา้ งอำ� นาจรฐั ” วา่ การพฒั นาประชาธปิ ไตยและเศรษฐกจิ ทวั่ โลก กำ� ลงั เผชญิ กบั ปญั หา ความเหลื่อมล้�ำอย่างรุนแรง หากต้องการลดความเหล่ือมล�้ำ ควรเสริมสร้างอ�ำนาจของภาคสังคมให้เสมอภาค กบั อำ� นาจของภาครัฐและภาคทุน หรือเรยี กวา่ “สงั คมสมานภุ าพ” ซ่ึงเกดิ ได้จากภาครฐั ภาคทุนและภาคสงั คม เกดิ การเรยี นรูร้ ่วมกนั ในทางปฏบิ ตั ิ (Interactive Learning through action) นอกจากน้ี ยังมีการอภิปราย เรื่อง “ขับเคลื่อนคุณภาพประชาธิปไตย เพื่อลดช่องว่างความเหล่ือมล�้ำ ในหลากหลายมิติ” โดย ศาสตราจารย์ ดร.บรรเจดิ สงิ คะเนติ ศาสตราจารย์สรุ ชิ ยั หวันแก้ว ดร.สมชัย จติ สชุ น และปิดท้ายด้วยการประชมุ กลุ่มยอ่ ย ๕ กล่มุ เพ่อื นำ� เสนอประเดน็ สำ� คัญๆ ดังน้ี กลุ่มย่อยที่ ๑ เสรมิ สรา้ งความเสมอภาคด้วยระบบกฎหมาย กล่าวถงึ การใช้กฎหมายทีจ่ ะสรา้ ง ความเสมอภาคใหก้ บั สังคมไทย กล่มุ ย่อยท่ี ๒ สรา้ งเสถยี รภาพประชาธปิ ไตย เพอ่ื ลดความเหลอ่ื มลำ�้ กลา่ วถงึ การเพม่ิ เสถยี รภาพ ทางการเมืองเพ่อื เพ่มิ โอกาสในการลดความเหลื่อมล�้ำได้มากขนึ้ กลมุ่ ย่อยที่ ๓ ลดความเหลื่อมล้�ำทางเศรษฐกิจด้วยประชาธิปไตยท่ีมีคุณภาพ กล่าวถึง การร่วมมือกันของภาคส่วนต่างๆ เพื่อมีส่วนร่วมในการผลักดันนโยบายไปสู่ การปฏิบัติการส่งเสริมสิทธิ เสรีภาพของประชาชนจะเป็นปัจจัยท่ีช่วยแก้ปัญหา ความเหลอื่ มลำ้� ในสังคม กลมุ่ ยอ่ ยท่ี ๔ เพิม่ คุณภาพประชาธปิ ไตยเพ่ือพฒั นาสงั คมเสมอภาคได้ กลา่ วถึง การสรา้ งสังคม เสมอภาคกบั การสรา้ งเสรมิ ประชาธปิ ไตยในประเทศไทยในมติ ทิ างสงั คม ทเี่ ออื้ ตอ่ การเข้าถึงสิทธิและโอกาส  กล่มุ ยอ่ ยท่ี ๕ เสริมสร้างการกระจายอ�ำนาจให้เป็นกลไกลดความเหล่ือมล�้ำในระดับพ้ืนที่ กล่าวถึง รัฐจะต้องสร้างความเท่าเทียม ให้ครอบคลุมในทุกกลุ่มเป้าหมายโดย ไม่เลือกปฏิบัติ เพิ่มอ�ำนาจให้กับประชาชนให้สามารถตัดสินใจและแก้ไขปัญหา ในท้องถ่ินได้ด้วยตนเอง สร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของพื้นท่ี ตลอดจนเสริมสร้าง ความเขม้ แข็งและโอกาสให้กับประชาชนในพนื้ ที่ เอกสารประกอบ การประชุมวชิ าการ ครง้ั ท่ี ๒๑

170 ๒. เพิ่มชอ่ งทางการสือ่ สารด้านการเลอื กตั้ง ในการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย พ.ศ. ๒๕๖๒ เมื่อวันอาทิตย์ท่ี ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๒ ทผ่ี า่ นมานนั้ เปน็ การเลอื กตงั้ แบบทวั่ ไป ครงั้ ท่ี ๒๘ ของประเทศไทย แตเ่ ปน็ การเลอื กตง้ั ครง้ั แรกหลงั จากทปี่ ระเทศไทย วา่ งเว้นจากการเลือกต้งั ไปถงึ ๕ ปี หากนบั จากการเลือกต้งั ครงั้ สุดทา้ ยเม่อื วันท่ี ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ แต่ถ้าหาก นับย้อนไปถึงการเลือกตั้งครั้งสุดท้ายที่เกิดขึ้นและเสร็จสมบูรณ์ ต้องนับย้อนไปถึงเกือบ ๘ ปี คือการเลือกตั้ง เมอ่ื วนั ท่ี ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๔ การเลอื กตงั้ ในครง้ั นจ้ี งึ เปน็ อกี หนงึ่ กลไกการเมอื งทส่ี ำ� คญั เพราะเมอ่ื พจิ ารณาในมติ ิ ทางการเมอื งแลว้ เปน็ ทยี่ อมรบั วา่ การเมอื งการปกครองทใี่ หค้ วามสำ� คญั กบั การเลอื กตงั้ คอื การเมอื งการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตย เพราะราษฎรได้ใช้สิทธิของตนเองลงคะแนนเสียงเลือกตัวแทน เพ่ือทําหน้าที่แทนตน ในการปกครองระดบั ประเทศ เน่ืองจากประเทศไทยว่างเว้นจากการเลือกต้ังเป็นเวลายาวนาน สถาบันจึงได้ตระหนักถึงความส�ำคัญ ในการกระตุ้นให้ประชาชน ผู้ซ่ึงมีอํานาจในการปกครองประเทศ ตื่นตัวและเข้าใจในระบบการเลือกต้ังแบบใหม่ ภายใตก้ ตกิ าใหม่ นน่ั คอื ระบบเลอื กตงั้ แบบจดั สรรปนั สว่ นผสม (Mixed - Member Apportionment System : MMA) โดยท่ีระบบเลือกต้ังน้ีจะมีบัตรเลือกต้ังเพียงใบเดียว คือ เลือกผู้สมัคร ส.ส. ในเขตเลือกต้ัง คะแนนท่ีได้ จะถูกน�ำไปคิดรวมทั้งในระบบเขต และระบบบัญชีรายชื่อ กล่าวอีกนัยหน่ึง การเลือกต้ังแบบบัตรใบเดียวน้ี คือ การเลือกท้งั “คน” และ “พรรค” ในคราวเดยี วกนั สถาบนั จงึ ไดเ้ พิม่ ชอ่ งทางการประชาสมั พนั ธ์ เผยแพรค่ วามรู้ ข้อมูลข่าวสารที่ประชาชนควรต้องทราบก่อนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ท้ังกฎ กติกา แนวทางนโยบายของผู้สมัคร วิธี การค�ำนวณจ�ำนวนผู้ได้รับการเลือกตัง้ เปน็ ต้น ในรูปแบบข่าว บทความ อนิ โฟกราฟิก ทส่ี ามารถเข้าถงึ รับร้แู ละ ท�ำความเขา้ ใจได้งา่ ย ผา่ นส่ือสังคมออนไลน์ และเวปไซต์ www.kpi-corner.com 

รายงานประจ�ำปี ๒๕๖๒ 171 นอกจากน้ี สถาบันยังได้ด�ำเนินการส�ำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการเลือกตั้ง ปี ๒๕๖๒ เพือ่ วัดความพร้อม ความรูค้ วามเขา้ ใจกอ่ นใชส้ ทิ ธิ์ โดยทำ� การส�ำรวจ ๕ คร้ัง ดงั นี้ การส�ำรวจ ครงั้ ท่ี ๑ “ประชาชนพรอ้ มหรือยงั กับการเลือกตัง้ ” การส�ำรวจ ครัง้ ท่ี ๒ “การรบั รู้ เกณฑก์ ารตดั สนิ ใจ และการยอมรบั ผลการเลอื กตง้ั ของประชาชน” การส�ำรวจ ครง้ั ท่ี ๓ “เกณฑ์การตัดสินใจ การยอมรับผลการเลือกตั้ง และความเช่ือม่ัน ในการท�ำหน้าทีบ่ รหิ ารจัดการการเลอื กต้งั ” การสำ� รวจ คร้งั ที่ ๔ “ปัจจัยในการเลือกผู้สมัคร / พรรค คุณลักษณะของนายกรัฐมนตรี ที่พึงประสงค์ และความมุ่งมนั่ ในการเลือกต้งั ” การส�ำรวจ ครง้ั ท่ี ๕ “นโยบายอะไรโดนใจประชาชนและผู้สมัคร พรรค และว่าท่ีนายก แบบไหนทีน่ ่ังในใจและเขา้ ตา” www.kpi-corner.com

172 ๓. การร่วมผลิตรายการวิทยุ “มงุ่ สปู่ ระชาธิปไตยไปกับสถาบันพระปกเกลา้ ” การเผยแพรอ่ งคค์ วามรดู้ า้ นการเมอื งการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยออกสสู่ าธารณชน นบั เปน็ หนงึ่ ในพนั ธกจิ ทสี่ ำ� คญั สถาบนั พระปกเกลา้ จงึ รว่ มมอื กบั สถานวี ทิ ยรุ ฐั สภา จดั รายการวทิ ยุ “มงุ่ สปู่ ระชาธปิ ไตยไปกบั สถาบนั พระปกเกลา้ ” ทางคลนื่ FM 87.5 MHz. , AM 1071 Khz. ทกุ วนั จนั ทร์ - ศกุ ร์ เวลา ๒๐.๐๐ - ๒๑.๐๐ น. ซ่ึงในแต่วันจะมีการนําเสนอเน้ือหา ประเด็นสําคัญท่ีเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันผ่านมุมมองความคิดเห็น ของวิทยากรผ้ทู รงคุณวฒุ ิในแต่ละดา้ น ท้ังหนว่ ยงานภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสงั คม วนั จนั ทร ์ ประเดน็ ทางดา้ นการเมอื งการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย ทงั้ หลกั การในเรอื่ งของ การเมอื งการปกครอง สถานการณ์ทางการเมอื งในปจั จบุ ันและอนาคต วันอังคาร ประเด็นการเมืองภาคพลเมือง การปกครองท้องถ่ิน ความเป็นพลเมือง การพัฒนา การปกครองท้องถิ่นเพ่อื พัฒนาประเทศตอ่ ไป วนั พธุ ประเดน็ การสง่ เสริมวชิ าการรัฐสภา และพระปกเกล้าศกึ ษา  วนั พฤหัสบด ี ประเด็นสันตศิ กึ ษาและธรรมาภบิ าล วา่ ดว้ ยเรอื่ งของสันตวิ ธิ ี การจัดการความขดั แยง้ มมุ มองการแกไ้ ขปญั หาความขัดแยง้ ที่เกิดข้นึ โดยกระบวนการสนั ตวิ ธิ ี วนั ศกุ ร์ การแนะนําหนังสือทางด้านการเมืองการปกครองและงานวิจัยท่ีน่าสนใจ เพื่อเป็น การเผยแพรอ่ ีกหนง่ึ มุมมองสาํ หรบั ผู้ท่รี ักในการอ่าน ๔. การผลิตรายการโทรทศั น์ “THE KEY ไขการเมือง...เรือ่ งใกลต้ ัว” ปี ๓  รายการ “THE KEY ไขการเมอื ง...เรอื่ งใกลต้ วั ” เป็นรายการโทรทศั น์ รปู แบบวาไรตก้ี ารเมือง ทส่ี ถาบัน พระปกเกลา้ มงุ่ หวงั ใหเ้ ปน็ สอื่ มวลชนสำ� คญั ทม่ี สี ว่ นชว่ ยเผยแพรแ่ ละเสรมิ สรา้ งองคค์ วามรทู้ างการเมอื ง การปกครอง ในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ และกระตนุ้ การมสี ว่ นรว่ มใหเ้ กดิ การสรา้ งจติ สาํ นกึ พลเมอื ง สง่ เสรมิ สทิ ธิ เสรภี าพ ซงึ่ จะเปน็ กญุ แจไขคาํ ตอบขอ้ สงสยั ทง้ั เรอื่ งรฐั ธรรมนญู กฎหมาย และสถานการณ์ ดา้ นการเมอื งทม่ี ผี ลกระทบตอ่ วถิ ชี วี ติ ของประชาชน ทงั้ ยงั กระตนุ้ ใหเ้ กดิ การแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ในประเดน็ ตา่ งๆ ใหเ้ ขา้ ใจไดโ้ ดยงา่ ย โดยจะสอดแทรกองคค์ วามรผู้ า่ นแขกรบั เชญิ ผทู้ รงคณุ วฒุ ดิ า้ นตา่ งๆ ทจ่ี ะหมนุ เวยี นมาใหค้ วามรู้ และเพม่ิ สีสนั ในการหาทางออกรว่ มกัน สามารถรบั ชมไดท้ กุ วนั เสาร์ เวลา ๒๒.๐๐ - ๒๒.๓๐ น. ทางสถานขี า่ วโทรทศั น์ TNN16 และ Facebook @TNN16 และ @TNN2

รายงานประจ�ำปี ๒๕๖๒ 173 การพัฒนากจิ กรรมความรว่ มมอื กบั เครอื ขา่ ยตา่ งประเทศ สถาบันพระปกเกล้าใหค้ วามส�ำคัญกับการสรา้ งความร่วมมือระดับสากล โดยมงุ่ สรา้ งความสมั พนั ธ์และ ตอ่ ยอดความรว่ มมอื กบั หนว่ ยงานภาคเี ครอื ขา่ ยระหวา่ งประเทศตา่ งๆ เพอ่ื สง่ เสรมิ และพฒั นาความรดู้ า้ นการเมอื ง การปกครอง กฎหมาย การมสี ว่ นรว่ ม นโยบายสาธารณะ สนั ตวิ ธิ ี และอน่ื ๆ ในหลากหลายมติ ิ นำ� ไปสกู่ ารเสรมิ สรา้ ง และตอบโจทย์การดําเนินงานของสถาบัน และเป็นประโยชน์ต่อสังคม ประเทศชาติ ผ่านกิจกรรมรูปแบบต่างๆ อาทิ การสัมมนาแลกเปล่ียนเรียนรู้ การจัดการศึกษาอบรม การลงพื้นที่ศึกษาวิจัย การศึกษาดูงานโดย หลกั สูตรของสถาบนั การจดั การบรรยายพิเศษ เป็นต้น เพื่อเพ่ิมมุมมองแก่บุคลากร นกั ศึกษา และผู้ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ซ่ึงในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ สถาบันพระปกเกล้าได้ด�ำเนินกิจกรรมความร่วมมือกับเครือข่ายต่างประเทศ โดยแบ่งออกเป็น ๒ สว่ น กิจกรรมร่วมกบั เครอื ข่ายตา่ งประเทศ ๑. Parliamentary Institute of Cambodia (PIC) เป็นสถาบันท่ีก่อต้ังข้ึนเพ่ือเสริมสร้างและพัฒนาขีดความสามารถของสมาชิกรัฐสภาและเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงาน รัฐสภาของราชอาณาจักรกัมพูชา โดยมีการแลกเปล่ียนองค์ความรู้และประสบการณ์กับหน่วยงาน รัฐสภาประเทศอ่ืนๆ ซ่ึงสถาบันพระปกเกล้าได้เข้าร่วมการสัมมนาเรื่อง “An Overview of Parliamentary Responsibilities: Strengthening the Institutions” ณ เมืองเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา ในระหว่าง วันท่ี ๓๐ กันยายน - ๖ ตุลาคม ๒๕๖๑ และกรุงพนมเปญ ในระหว่างวันท่ี ๑๐ – ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๑ โดยมี นายณัฐพงศ์ รอดมี ผู้อ�ำนวยการส�ำนักส่งเสริมวิชาการรัฐสภา ณ ขณะนั้น เป็นผู้แทนเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว รว่ มกบั ผแู้ ทนจากหนว่ ยงานอน่ื ๆ ทมี่ คี วามเกย่ี วขอ้ งกบั การดำ� เนนิ งานของรฐั สภาของแตล่ ะประเทศทวั่ ทวปี เอเชยี ๒. Chengdu Administration Institute (CAI) สถาบนั พระปกเกลา้ ไดร้ บั ความรว่ มมอื ใหน้ กั ศกึ ษาหลกั สตู รประกาศนยี บตั รชน้ั สงู การบรหิ ารงานพฒั นา ท้องถ่ินท่ีย่ังยืน รุ่นท่ี ๕ เข้าศึกษาดูงานและฟังการบรรยาย หัวข้อ “มณฑลเสฉวนกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ One Belt One Road” ณ Chengdu Administration Institute มณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๑ ซ่ึงเป็นสถาบันการบริหารการเมืองแห่งนครเฉิงตู เป็นหน่วยงานข้ึนตรงต่อ องค์การปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินเฉงิ ตู ซึ่งเปน็ หน่วยงานหลกั ท่มี ีพันธกิจในการจัดฝึกอบรมใหแ้ ก่ขา้ ราชการระดับต้น ระดับกลาง ตลอดจนนกั วิจัยดา้ นนโยบาย 

174 นอกจากน้ี คณะวิจัยของสถาบันพระปกเกล้าร่วมกับ CAI ได้ลงพื้นท่ีเก็บข้อมูลการศึกษาวิจัยในหัวข้อ “The Study of Poverty Elimination in China รฐั กบั การแกป้ ญั หาความยากจนในบริบทของจนี ” อีกด้วย ๓. The National Graduate Institute for Policy Studies (GRIPS) เป็นสถาบันด้านการศึกษานโยบายสาธารณะแห่งประเทศญี่ปุ่น มีเป้าหมายในการสนับสนุนให้เกิด ธรรมาภิบาลประชาธิปไตยไปทั่วโลก โดย GRIPS ได้ร่วมมือกับสถาบันพระปกเกล้า จัดกิจกรรมบรรยายพิเศษ ด้วยระบบ Teleconference หัวข้อ “Wise Leadership” โดยมี Prof.Ayano Nishihara จาก GRIPS เป็นวิทยากร ณ ห้องภูวนาถประชาธิปก สถาบันพระปกเกล้า เม่ือวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๑ ซ่ึงมีผู้เข้ารับฟัง การบรรยาย จ�ำนวน ๑๒๐ คน ๔. Nanyang Technological University (NTU) สถาบนั อดุ มศกึ ษาของรฐั ขนาดใหญแ่ หง่ สาธารณรฐั สงิ คโปร์ ซงึ่ สถาบนั พระปกเกลา้ ไดร้ ว่ มกบั หนว่ ยงานยอ่ ย Nanyang Centre for Public Administration (NCPA) และมูลนิธิเทมาเส็ค (Temasek Foundation) เป็น ผสู้ นบั สนนุ หลกั ในการดำ� เนนิ โครงการหลกั สตู รพฒั นาผนู้ ำ� ภาครฐั แหง่ อนาคต สำ� หรบั ศษิ ยเ์ กา่ สถาบนั พระปกเกลา้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาต่อยอดความรู้ศิษย์เก่าสถาบันพระปกเกล้าและบุคลากรภาครัฐในเรื่อง ภาวะความเป็นผู้น�ำ นโยบายสาธารณะด้านการบริหารและการปกครอง โดยให้ศิษย์เก่าสถาบันพระปกเกล้า และบุคลากรภาครัฐน�ำความรู้ท่ีได้รับไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาตนเอง และน�ำความรู้ได้รับกลับมา เผยแพร่ บรหิ ารและประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดำ� เนนิ งานในองคก์ รของตน โดยแบง่ การศกึ ษาอบรมออกเปน็ ๔ กลมุ่ คอื

รายงานประจ�ำปี ๒๕๖๒ 175 กลุ่มท่ี ๑: ข้าราชการองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ จำ� นวน ๒๔ คน (๔ – ๑๔ ธนั วาคม ๒๕๖๑) กลมุ่ ที่ ๒: ข้าราชการผู้บริหารระดบั สงู จำ� นวน ๒๔ คน (๔ – ๘ เมษายน ๒๕๖๒) กลุม่ ที่ ๓: ผบู้ ริหารองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ จำ� นวน ๒๔ คน (๒๐ – ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒) กลมุ่ ที่ ๔: ขา้ ราชการระดับกลาง จำ� นวน ๒๔ คน (๖ – ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๒) ๕. Ho Chi Minh National Academy of Politics (HCMA) สถาบนั แหง่ ชาติ สาธารณรฐั สงั คมนยิ มเวยี ดนาม เปน็ องคก์ รทม่ี งุ่ มนั่ ขยายความรว่ มมอื ทง้ั ภายในประเทศ และตา่ งประเทศเพอื่ แลกเปลย่ี นความรเู้ พอื่ นำ� ไปสกู่ ารพฒั นาดา้ นการเมอื งและการปกครอง ซง่ึ คณะผบู้ รหิ ารและ นกั วชิ าการสถาบนั พระปกเกล้าเดินทางไปร่วมน�ำเสนอบทความในการสัมมนา “The people’s participation in Public Policy making: theory and practice” ณ สถาบันแห่งชาติ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (Ho Chi Minh National Academy of Politics (HCMA)) สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ระหว่างวันท่ี ๒๖ - ๒๘ กันยายน ๒๕๖๒ โดยสถาบนั พระปกเกลา้ ไดร้ ่วมน�ำเสนอบทความดังต่อไปน้ี 1. Public Participation in Local Public Policy Process: From Legal Mechanisms to innovative and meaningful Public Participation นำ� เสนอโดย ศาสตราจารยว์ ฒุ สิ าร ตนั ไชย เลขาธิการสถาบนั พระปกเกลา้ 2. Public Policy Process at National Level น�ำเสนอโดย รองศาสตราจารย์ ดร.อรทัย ก๊กผล รองเลขาธกิ ารสถาบันพระปกเกล้า 3. Public Participation in Public Policy Process in Thailand น�ำเสนอโดย ดร.ถวิลวดี บุรีกุล ผูอ้ �ำนวยการสำ� นักวจิ ยั และพัฒนา 4. Public Participation: Citizen ‘Initiative’ and Referendum น�ำเสนอโดย นางสาวปัทมา สบู กำ� ปงั นักวชิ าการผู้ชำ� นาญการ 5. Public consultation and Regulatory Impact Assessment : International Experience and Implementation in Thailand นำ� เสนอโดย ดร.สตธิ ร ธนานธิ โิ ชติ ผู้อ�ำนวยการสำ� นกั นวัตกรรม เพอื่ ประชาธปิ ไตย

176 ๖. Keio University  มหาวิทยาลัยเคโอ ประเทศญ่ีปุ่น ร่วมกับสถาบันพระปกเกล้า จัดสัมมนาโต๊ะกลม (Round table discussion) หัวขอ้ “ยุทธศาสตร์ต่ออนิ โด - แปซิฟิกของประเทศญีป่ นุ่ : แนวคิด โอกาสและความทา้ ทาย” ขนึ้ โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.เคน จมิ โบ (Prof.Dr.Ken Jimbo) วทิ ยากรจากคณะการจดั การนโยบาย มหาวทิ ยาลยั เคโอ ประเทศญป่ี นุ่ เปน็ นกั วจิ ยั อาวโุ สแห่งสถาบัน Canon Institute for Global Studies (CIGS) และมูลนิธิ Tokyo Foundation (TKFD) อกี ทง้ั เปน็ ทป่ี รกึ ษาใหก้ บั National Security Secretariat Advisory Board ผอู้ ำ� นวยการ คณะกรรมการบรหิ าร The Civic Force และเปน็ สมาชกิ สถาบนั International Institute for Strategic Studies (IISS) มผี ลงานวิจัยโดดเดน่ ดา้ นความมัน่ คงระหวา่ งประเทศ และเป็นที่ปรกึ ษาด้านนโยบายใหก้ บั หน่วยงานของ ประเทศญี่ปุ่นมากมาย กิจกรรมในคร้ังน้ีได้รับความสนใจจากสถานทูตต่างๆ รวมถึงองค์กรทั้งภายในประเทศ และตา่ งประเทศ รวม ๓๐ ทา่ น เขา้ รว่ มรบั ฟงั การสมั มนาและแลกเปลยี่ นประสบการณด์ า้ นยทุ ธศาสตรก์ ารเมอื ง ระหว่างประเทศ ๗. National Assembly of Bhutan  ร่วมกับสถาบันพระปกเกล้า จัดการศึกษาอบรม หลักสูตร “Parliamentary Research and Public Participation” เพอ่ื พฒั นาความรคู้ วามเขา้ ใจในการดำ� เนนิ งาน ด้านรัฐสภา เป็นการต่อยอดองค์ความรู้ให้แก่ข้าราชการของ รฐั สภา ๔ ประเทศ ในกลมุ่ ลมุ่ นำ้� โขง (CLMV) ซงึ่ ประกอบไปดว้ ย ผู้แทนจากราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐแห่งสหภาพ เมียนมา สาธารณรัฐสงั คมนยิ มเวยี ดนาม และราชอาณาจักร ภูฏาน ๘. Public Accounts Committee (PAC) of Parliament of Bhutan หรอื คณะกรรมาธกิ ารตดิ ตาม ตรวจสอบการใช้ จา่ ยงบประมาณของสภาผแู้ ทนราษฎร ราชอาณาจกั รภฏู าน ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และข้อคิดเห็นกับสถาบัน พระปกเกล้า พร้อมรับฟังการบรรยาย เร่ือง “ระบบการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณและการพิจารณาและ ตดิ ตามตรวจสอบการใชจ้ า่ ยงบประมาณของรฐั สภา” เพอื่ เปน็ ประโยชนใ์ นการดำ� เนนิ งานของรฐั สภาภฏู านตอ่ ไป 

รายงานประจ�ำปี ๒๕๖๒ 177 ๙. Universitas Islam Indonesia รว่ มกบั สถาบนั พระปกเกลา้ จัดสมั มนาอภปิ รายและระดมความคิดเหน็ ประเดน็ “สนั ติวัฒนธรรม และ ประชาธิปไตยที่ย่ังยืน: กรณีศึกษาประเทศอินโดนีเซียและประเทศไทย” เพ่ือแลกเปล่ียนประสบการณ์ และ มุมมองด้านความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทยและอินโดนีเซีย และแลกเปล่ียนความคิดเห็น องค์ความรู้ เกยี่ วกบั การสรา้ งกลไกและวธิ กี ารแกไ้ ขปญั หาเพอ่ื ลดความขดั แยง้ ทง้ั ภายในสถาบนั ทางการเมอื งและในทางสงั คม การลงนามความรว่ มมือกับเครอื ข่ายตา่ งประเทศใหม่ ๑. Beijing Chinese Language and Culture College และสภาวฒั นธรรม ไทย - จนี และส่งเสรมิ ความสัมพันธ์  Beijing Chinese Language and Culture College แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และสภาวัฒนธรรมไทย - จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ ประเทศไทย ท้ังสองหน่วยงาน ได้ร่วมกับสถาบันพระปกเกล้าในการส่งเสริมให้มีการศึกษา อบรมด้านภาษาและวัฒนธรรมจีน ท�ำให้เกิดกิจกรรมการ คัดเลือกผู้สมัครเพ่ือรับทุนอบรมภาษาจีนและศึกษาดูงาน สำ� หรบั ขา้ ราชการและพนกั งานของรฐั ภายใตโ้ ครงการเรยี น ภาษาจนี สำ� หรบั ขา้ ราชการ เสน้ ทางสายไหมหนงึ่ แถบหนงึ่ เสน้ ทาง ณ สาธารณรฐั ประชาชนจนี โดยมรี ะยะเวลาการ ศกึ ษาตัง้ แต่วันที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๒ – ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ซงึ่ มีผู้ที่ไดร้ ับทนุ การศกึ ษาจำ� นวนท้ังสนิ้ ๓๕ คน ๒. National Democratic Institute (NDI) เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลก�ำไรที่ท�ำงานเพื่อสนับสนุน และส่งเสริมสถาบันด้านประชาธิปไตยทั่วโลก ผ่านกระบวนการ การมสี ว่ นรว่ มของประชาชน ไดล้ งนามความรว่ มมอื ทางวชิ าการ กับสถาบันพระปกเกล้า ด้วยมุ่งหวังแลกเปลี่ยนเรียนรู้และ การสนับสนุนการร่วมดําเนินกิจกรรมต่างๆ ทั้งการจัดประชุม นานาชาติและการจัดกิจกรรมส่งเสริมประชาชนและองค์กร ภาคประชาสงั คมใหไ้ ดม้ สี ว่ นรว่ มกบั สภาผแู้ ทนราษฎรเพอ่ื พฒั นา ระบอบประชาธปิ ไตยไทยตอ่ ไป

178 กิจกรรมเพื่ อประโยชน์ทางสังคม ๑. กฐนิ พระราชทาน สถาบนั พระปกเกลา้ ประจาํ ปี ๒๕๖๒ พระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกลา้ เจ้าอยหู่ วั ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ พระราชทานผา้ พระกฐนิ ใหส้ ถาบนั พระปกเกล้า นำ� ไปถวายพระภกิ ษุสงฆ์จ�ำพรรษาถว้ นไตรมาส ณ พระอารามหลวง วดั ศรีจันทร์ (ธ) ต�ำบลในเมอื ง อ�ำเภอเมือง จังหวดั ขอนแกน่ ในวนั เสาร์ท่ี ๙ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๒ โดยมศี าสตราจารยว์ ุฒิสาร ตันไชย เลขาธกิ าร สถาบันพระปกเกล้า เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยกรรมการสภาสถาบันพระปกเกล้า กรรมการบริหารสถาบัน พระปกเกลา้ คณะผบู้ รหิ าร นกั ศกึ ษา พนกั งานของสถาบนั พระปกเกลา้ และประชาชนผมู้ จี ติ ศรทั ธา ทงั้ นี้ สถาบนั ได้ปวารณาถวายจตปุ ัจจัย ถวายพระราชกศุ ล เปน็ จำ� นวนเงนิ ท้งั สิ้น ๒,๐๙๑,๓๕๕.๕๐ บาทถว้ น ๒. โครงการสง่ เสรมิ คณุ ธรรมและปฏิบัติธรรม การส่งเสริมและพัฒนาคนให้มีคุณธรรมและจริยธรรมเป็นอีกหน่ึงส่ิงท่ีสถาบันให้ความส�ำคัญและ ดำ� เนนิ งานมาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง จงึ รว่ มกบั สถาบนั พลงั จติ ตานภุ าพ วดั ธรรมมงคล (หลวงพอ่ วริ ยิ งั ค์ สริ นิ ธโร) จดั การ ศกึ ษาอบรม “หลกั สตู รวทิ นั ตสาสมาธสิ ำ� หรบั นกั บรหิ าร” เปน็ โครงการศกึ ษาธรรมและปฏบิ ตั ธิ รรม ตามแนวทาง หลวงปมู่ น่ั ภรู ทิ ตโฺ ต และพระอาจารยห์ ลวงพอ่ วริ ยิ งั ค์ สริ นิ ธฺ โร มวี ตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ สง่ เสรมิ สรา้ งการนาํ หลกั ธรรม คาํ สอนมาเปน็ เครอ่ื งยดึ เหนยี่ วจติ ใจ ในการพฒั นาทางดา้ นศลี ธรรมและจติ ใจใหแ้ กบ่ คุ ลากร ตลอดจนผสู้ นใจทว่ั ไป ด้วยการส่งเสริมการปฏิบัติธรรม บําเพ็ญทาน รักษาศีล และเจริญจิตภาวนา เพื่อพัฒนาทางด้านจิตใจและ สามารถนาํ ความร้คู วามเขา้ ใจ เก่ยี วกับการปฏบิ ตั ธิ รรมไปประยุกตใ์ ชก้ ับการดาํ เนินชวี ติ ประจาํ วัน

รายงานประจ�ำปี ๒๕๖๒ 179 ๓. โครงการหนว่ ยแพทย์อาสาเฉพาะทางรว่ มใจเฉลิมพระเกียรติฯ ครง้ั ท่ี ๗ สถาบนั พระปกเกลา้ รว่ มกบั มลู นธิ ธิ รรมาภบิ าลทางการแพทย์ แพทยสภา กระทรวงสาธารณสขุ นกั ศกึ ษา หลักสูตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์ส�ำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นท่ี ๗ (ปธพ.๗) และภาคีเครือข่าย จัดโครงการ “หน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสพระราชพิธี บรมราชาภเิ ษก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒” ในระหวา่ งวนั ที่ ๑๐ - ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ณ โรงพยาบาลพระจอมเกลา้ และโรงเรยี นเบญจมเทพอทุ ิศ จงั หวดั เพชรบรุ ี โดยโครงการหนว่ ยแพทยอ์ าสาเฉพาะทางรว่ มใจเฉลมิ พระเกยี รตฯิ นบั เปน็ การจดั หนว่ ยแพทยข์ นาดใหญ่ ทบี่ รหิ ารจดั การโดยนกั ศกึ ษาหลกั สตู รประกาศนยี บตั รธรรมาภบิ าลทางการแพทยส์ ำ� หรบั ผบู้ รหิ ารระดบั สงู รนุ่ ท่ี ๗ เป็นงานจิตอาสาที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจท้ังจากภาครัฐและเอกชน เพ่ือมอบโอกาสการเข้าถึงการรักษาด้วย แพทยผ์ เู้ ชย่ี วชาญเฉพาะทาง ทนั ตแพทย์ และบคุ ลากรทางการแพทย์ จติ อาสาจากโรงพยาบาลภาครฐั มหาวทิ ยาลยั ๔ เหลา่ ทัพ กรุงเทพมหานคร และภาคเอกชนกวา่ ๕๐๐ คน ที่ไปให้การรักษาแกป่ ระชาชนจังหวัดเพชรบรุ แี ละ

180 จังหวัดใกล้เคียง ที่เจ็บป่วยด้วยโรคท่ัวไปจนถึงโรคซับซ้อนขั้นสูง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย การออกหน่วยแพทย์ คร้ังน้ี ประกอบด้วยคลินิกเฉพาะทาง ๒๒ คลินิก และคลินิกกฎหมาย ให้บริการ ๔ ด้าน ได้แก่ ๑. การตรวจ คดั กรองโรค เชน่ การตรวจวนิ จิ ฉยั มะเรง็ เตา้ นมดว้ ยการตรวจเอกซเรย์ ตรวจวนิ จิ ฉยั ลำ� ไสใ้ หญด่ ว้ ยการสอ่ งกลอ้ ง ตรวจคดั กรองมะเรง็ ปากมดลกู ตรวจคดั กรองกลมุ่ เสย่ี งโรคหวั ใจ ตรวจคดั กรองภาวะเบาหวานทจี่ อตาและตอ้ หนิ ๒. การรักษาโดยแพทย์เฉพาะทาง เช่น การผ่าตัดรักษาตาต้อกระจก การผ่าตัดเปล่ียนผิวข้อเข่าเทียม การผ่าตัดแก้ไขการได้ยิน การผ่าตัดส่องกล้อง การแจกแว่นตาให้ผู้สูงอายุ มอบรถเข็น ขาเทียม ๓. การส่งเสริม สุขภาพประชาชน เช่น ให้ความรู้การออกก�ำลังกาย การป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดสมอง และ ๔. การสนับสนุนบริการสขุ ภาพด้วยแพทย์แผนไทย และผลติ ภัณฑส์ มนุ ไพร และกิจกรรมจิตอาสาอื่นๆ  นอกจากนี้ ยังมีการจัดอบรมการช่วยชีวิตข้ันพื้นฐาน เพ่ือให้อาสาสมัครสาธารณสุข จิตอาสา และ ประชาชนทวั่ ไปจำ� นวนกวา่ ๒,๘๐๐ คน ใหม้ คี วามรทู้ ถี่ กู ตอ้ ง สามารถนำ� ความรไู้ ปชว่ ยชวี ติ ผอู้ น่ื ได้ เปน็ การแสดง ความจงรักภักดี และส�ำนกึ ในพระมหากรุณาธคิ ุณของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู วั รชั กาลท่ี ๑๐

รายงานประจ�ำปี ๒๕๖๒ 181

182 รายงาน การตดิ ตาม ตรวจสอบ และประเมินผล • ผลการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผล งานของสถาบัน ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ • การดำ� เนนิ งานตามขอ้ คดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะ ของสมาชิกรัฐสภา

รายงานประจ�ำปี ๒๕๖๒ 183 สว่ นท่ี ๓ รายงาน ผลการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลงาน ของสถาบัน ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ คณะกรรมการตดิ ตาม และประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านของสถาบนั พระปกเกลา้ ไดต้ ดิ ตาม ตรวจสอบ และประเมินผลงานของสถาบันพระปกเกล้า ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ซง่ึ มงุ่ เนน้ และใหค้ วามสำ� คญั กบั การประเมนิ ผลสมั ฤทธกิ์ ารดำ� เนนิ งานในเชงิ ผลลพั ธ์ (Outcome) และผลกระทบ (Impact) โดยผลการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลงานของสถาบัน แบง่ ออกเปน็ ๓ ส่วน ดงั นี้

184 ส่วนที่ ๑ การติดตามการปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของ คณะกรรมการติดตามฯ สถาบันได้รับข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาปรับปรุงการด�ำเนินงานจากการประเมินในรอบคร่ึงปีหลังของ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ จ�ำนวน ๔ เร่ือง สถาบันได้ด�ำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการติดตามฯ เสร็จเรียบร้อยแลว้ ทง้ั ๔ เร่ือง ดังน้ี 1. มงุ่ เนน้ การสรา้ งผลงานทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ ผลลพั ธ์ (Outcome) ใหม้ ากขน้ึ โดยวางแผนการดำ� เนนิ งาน ของสถาบันในด้านตา่ งๆ เพ่อื มงุ่ ไปสู่ความสำ� เร็จในเชิงผลลัพธ์ (Outcome) 2. ปรับเปล่ียนวิธีการท�ำงาน หรือรูปแบบการให้บริการโดยน�ำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ มาประยกุ ต์ใช้ เพอ่ื ใหส้ อดรบั กบั สงั คมในยุค digital 3. สร้างแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับการเมืองการปกครองไทย เพ่ือให้สถาบันเป็นท่ียอมรับและ เปน็ ศนู ยก์ ลางการเรยี นรู้ และคน้ ควา้ ขอ้ มลู ดา้ นการเมอื ง การปกครองไทย 4. พฒั นาความรว่ มมอื ในดา้ นวชิ าการกบั เครอื ขา่ ยตา่ งประเทศทเี่ ปน็ รปู ธรรม และใหเ้ กดิ ผลลพั ธ์ ทชี่ ดั เจนมากยง่ิ ขึ้น ส่วนท่ี ๒ การติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลส�ำเร็จ ตามแผนยุทธศาสตร์ของสถาบันพระปกเกล้า ผลการประเมินความส�ำเร็จของการด�ำเนินงานตามตัวชี้วัดผลสัมฤทธิ์ ตามแผนยุทธศาสตร์ของสถาบัน สามารถด�ำเนินการได้ คะแนนรวมท้ังส้ิน ๑๐๐.๐๐ คะแนน โดยผลสรุปคะแนนแต่ละประเด็นยุทธศาสตร์ แสดงตามตารางท่ี ๑ ดังน้ี

รายงานประจ�ำปี ๒๕๖๒ 185 ตารางท่ี ๑ สรปุ ผลส�ำ เรจ็ ของการดำ�เนินงานตามตวั ชีว้ ดั ผลสมั ฤทธต์ิ ามแผนยทุ ธศาสตรข์ องสถาบนั พระปกเกลา้ ฉบบั ที่ ๕ (ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ - ๒๕๖๓) - ประจำ�ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ (๑ ตุลาคม ๒๕๖๑ - ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒) ประเดน็ ยุทธศาสตร์ คะแนนเตม็ คะแนนทไี่ ด้ ประเดน็ ยุทธศาสตรท์ ี่ ๑ : การพัฒนาองคค์ วามรูเ้ พ่ือการพัฒนา ๒๕.๐๐ ๒๕.๐๐ ประชาธปิ ไตย ธรรมาภบิ าล และสันตวิ ิธี ๒๐.๐๐ ๒๐.๐๐ ประเดน็ ยุทธศาสตรท์ ่ี ๒ : การพัฒนาผ้นู ำ�ใหเ้ ปน็ ผูน้ ำ�ทางความคิดและ การทำ�งานเพ่อื เผยแพร่ การพัฒนาประชาธิปไตยธรรมาภิบาล และสนั ติวธิ ี ๒๐.๐๐ ๒๐.๐๐ ประเดน็ ยุทธศาสตร์ท่ี ๓ : การพัฒนาและสร้างความเป็นพลเมอื ง ๑๐.๐๐ ๑๐.๐๐ ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ที่ ๔ : การส่งเสรมิ งานวิชาการของรัฐสภา ๑๕.๐๐ ๑๕.๐๐ ประเด็นยทุ ธศาสตรท์ ่ี ๕ : การส่งเสรมิ และพัฒนาพพิ ธิ ภณั ฑพ์ ระบาท สมเด็จพระปกเกล้าเจา้ อยหู่ ัวให้เปน็ แหลง่ เรียนรูด้ า้ นพระปกเกลา้ ศกึ ษา ๑๐.๐๐ ๑๐.๐๐ ประเดน็ ยุทธศาสตร์ท่ี ๖ : การพัฒนาองค์กรสู่สมรรถนะและสากล ๑๐๐.๐๐ ๑๐๐.๐๐ คะแนนรวมท้ังส้นิ ท้ังน้ี คณะกรรมการติดตามฯ ได้มีข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาปรับปรุงการด�ำเนินงานโดยภาพรวม จ�ำนวน ๑ เร่อื ง ดงั นี้ ๑. ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ สถาบันสามารถด�ำเนินการได้ คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ ซ่ึงมีท้ังผลงาน ที่สามารถด�ำเนินการได้น้อยกว่าปีงบประมาณที่ผ่านมา และมีบางส่วนท�ำได้สูงกว่าปีงบประมาณที่ผ่านมามาก ดังนั้น สถาบันควรทบทวนตัวช้ีวัด และการก�ำหนดค่าเป้าหมายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ เพ่ือให้เกิด ความท้าทายมากย่ิงขึน้ กวา่ เดิมเพอ่ื กอ่ ใหเ้ กิดการพัฒนาองคก์ รอย่างแทจ้ รงิ

186 ส่วนที่ ๓ การติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลงานของ เลขาธิการ คณะกรรมการติดตามฯ ได้ประเมินผลงานของ ศาสตราจารย์วุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบัน พระปกเกลา้ โดยพจิ ารณาผลการดำ� เนนิ งานโดยภาพรวมของสถาบนั ประกอบกบั การประเมนิ บทบาทผนู้ ำ� องคก์ ร ของเลขาธิการสถาบัน ผลสรุปว่า เลขาธิการสถาบันสามารถท�ำหน้าที่ผู้น�ำองค์กรในการก�ำหนดทิศทาง และ การขับเคล่ือนองค์กรของเลขาธิการสถาบันให้มีผลการด�ำเนินงานตามเป้าหมายที่สถาบันได้วางไว้ได้ในระดับ ท่ีดีมาก ตลอดจนได้มุ่งมั่น และพยายามพัฒนางานตามพันธกิจของสถาบัน เพ่ือให้สอดรับกับการเปล่ียนแปลง และตอบโจทยข์ องสงั คมได้อย่างทันการณ์ นำ� ไปสูก่ ารสร้างประโยชน์แก่สงั คมอยา่ งอยา่ งแทจ้ รงิ ไดแ้ ก่ • พัฒนางานวิจัยเพื่อตอบโจทย์สถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งผลักดันให้เผยแพร่และใช้ประโยชน์จาก ผลงานวิจัยของสถาบัน เช่น การส�ำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง จ�ำนวน ๕ ครง้ั (Quick Survey) ซง่ึ ตอบโจทย์ประเด็นการเลือกต้งั ในปี ๒๕๖๒ • มุ่งเน้นคุณภาพการจัดการศึกษาอบรม จัดการเรียนการสอนเพ่ือให้ผู้เรียนรู้จริง ปฏิบัติจริง น�ำไป ใชป้ ระโยชน์จริง และนำ� ระบบเทคโนโลยีทท่ี นั สมัยมาปรับใชก้ ับการจัดการเรียนการสอนเพ่อื ดึงดูด ความสนใจของผู้เข้ารบั การศึกษาอบรม • ปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพในการให้บริการวิชาการแก่รัฐสภา เช่น การเพิ่มช่องทาง ในการสนบั สนนุ ขอ้ มลู ทเ่ี ปน็ ประโยชนต์ อ่ การปฏบิ ตั งิ านของสมาชกิ รฐั สภา เชน่ โดยจดั ทำ� KPI-Link บน Mobile Application และขยายฐานการบรกิ ารแกผ่ ู้เชยี่ วชาญ ผชู้ �ำนาญการ ผู้ช่วยปฏิบตั ิงาน ของสมาชิกรัฐสภา โดยพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรเพื่อพัฒนาศักยภาพ และความสามารถของ บุคลากรสนับสนุนการปฏิบัติงานของสมาชิกรัฐสภา จ�ำนวน ๒ หลักสูตร คือ หลักสูตรวุฒิบัตร ผชู้ ว่ ยและผปู้ ฏบิ ตั งิ านของสมาชกิ รฐั สภา และหลกั สตู รวฒุ บิ ตั รผเู้ ชย่ี วชาญและผชู้ ำ� นาญการประจำ� ตวั สมาชกิ รฐั สภา • พัฒนาและสร้างความเป็นพลเมือง โดยพัฒนาช่องทางการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพลเมืองผ่าน การเรียนการสอนในระบบ e-Learning ๑ หลักสูตร คือ หลักสูตรค่านิยมพื้นฐานส�ำหรับความ เป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย รวมท้ังเพิ่มศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมืองจาก ๕๑ ศูนย์ เปน็ ๕๖ ศูนย์ เพือ่ ขยายฐานการท�ำงานในระดบั พ้ืนท่ี

รายงานประจำ� ปี ๒๕๖๒ 187 • ส่งเสริมและพัฒนาพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้าน พระปกเกลา้ ศึกษา โดยพัฒนาศูนย์การเรยี นร้ปู ระชาธิปไตย • พัฒนาขีดสมรรถนะ และความสามารถของบุคลากร และการพัฒนาระบบงานสนับสนุนภายใน องคก์ ร โดยมุ่งเน้นการน�ำระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศมาประยุกตใ์ ช้ เพ่อื ขบั เคลือ่ นงานตามภารกจิ หลกั ของสถาบนั จากการประเมินผลงานของเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ คณะกรรมการติดตามฯ มีความเห็นว่า เลขาธิการสถาบัน แสดงบทบาทการเป็นผู้น�ำองค์กรท่ีมีวิสัยทัศน์ (Visionary Leadership) อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และประสทิ ธผิ ล ผลงานในภาพรวมของสถาบนั สามารถดำ� เนนิ การ ไดด้ กี วา่ เปา้ หมายทก่ี ำ� หนดไวห้ ลายเรอ่ื ง นอกจากน้ี สถาบนั ไดร้ บั คะแนนประเมนิ โครงการ “การประเมนิ คณุ ธรรม และความโปร่งใสในการด�ำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ” (Integrity and Transparency Assessment : ITA) เท่ากับ ๙๐.๓๓ อย่ใู นระดบั A เป็นสิ่งท่ีสะท้อนให้เหน็ ว่า นอกจากเลขาธกิ ารสถาบันจะมีบทบาทในการนำ� องค์กร เพ่ือพัฒนาสร้างสรรค์ผลงานตามพันธกิจของสถาบันแล้ว ยังมีบทบาทในการน�ำองค์กรด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม สอดคลอ้ งกบั วสิ ยั ทศั น์ “สถาบนั วชิ าการชน้ั นำ� ดา้ นการพฒั นาประชาธปิ ไตย ธรรมาภบิ าล และสนั ตวิ ธิ ี เพอ่ื ประโยชนส์ ่วนรวม”

188 การดำ� เนนิ งานตามขอ้ คดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของสมาชกิ รัฐสภา ตามท่ี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาได้มีข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ต่อการด�ำเนินงานเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการด�ำเนินงานของสถาบันให้ดีย่ิงข้ึน สถาบันได้ด�ำเนินการเพื่อ การพัฒนาองค์กรตามข้อเสนอแนะ และวางแผนการด�ำเนินงานเพ่ือให้เกิดการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างย่ังยืน ซึง่ แบ่งออกเป็น ๖ ด้าน ดงั น้ี ด้านภาพลกั ษณ์ และการด�ำเนนิ งานตามบทบาทหนา้ ทีข่ องสถาบัน ขอบข่ายการด�ำเนินงานของสถาบันเก่ียวข้องกับงานทางด้านวิชาการท่ีครอบคลุมการศึกษาวิจัย การจัดการศึกษาอบรม และการเผยแพร่ความรู้ข้อมูลข่าวสารเก่ียวกับการพัฒนาประชาธิปไตย และการเมือง การปกครอง การใหบ้ รกิ ารคำ� แนะนำ� ปรกึ ษาดา้ นการบรหิ ารจดั การบา้ นเมอื งทดี่ ี ทงั้ ในระดบั ชาตแิ ละทอ้ งถน่ิ และ งานเกย่ี วกบั พิพธิ ภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว โดยประสานความรว่ มมือกบั หนว่ ยงานในประเทศ และตา่ งประเทศ เพอื่ ใหเ้ กดิ การพฒั นาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง สถาบนั ไดด้ ำ� เนนิ การตามขอ้ เสนอแนะของสมาชกิ รฐั สภา ดงั น้ี ตารางท่ี ๒ สรุปขอ้ เสนอแนะดา้ นภาพลกั ษณ์ และการด�ำเนนิ งานตามบทบาทของสถาบนั ขอ้ สังเกตและขอ้ เสนอแนะ รายละเอียดการด�ำเนินการตามขอ้ เสนอแนะ ประเด็นท่ี ๑ การเป็นกลไกขับเคล่ือน สถาบันได้ด�ำเนินการตามข้อเสนอแนะของสมาชิกรัฐสภาท้ัง รฐั ธรรมนญู ตามมาตรา ๗๗ ใหเ้ กดิ ผลในการ ในเร่ืองการเป็นกลไกส�ำคัญที่ท�ำให้รัฐธรรมนูญ ตามมาตรา ๗๗ ปฏิบัติจริง เกดิ ผลในทางปฏบิ ตั จิ รงิ ผา่ นการจดั การศกึ ษาอบรมทค่ี รอบคลมุ การมีส่วนร่วมครบวงจรโดยเฉพาะการรับฟังความคิดเห็น ในรูปแบบต่างๆ และการวเิ คราะหผ์ มู้ ีส่วนได้เสยี ประเดน็ ท่ี ๒ การมุ่งสร้างและปลูกฝัง • การศกึ ษาวจิ ยั ทมี่ งุ่ เนน้ การสรา้ งความซอ่ื ตรงในกลมุ่ เยาวชน ประชาธิปไตยสุจริต เพื่อพัฒนาคนให้เป็น ซ่ึงเป็นต้นแบบในการน�ำแนวคิดไปสู่การปฏิบัติจริง และ คนดี และคนเกง่ งานศึกษาวิจัยด้านบทบาทของพลเมืองในการป้องกันและ แก้ไขปัญหาการเลือกต้ังท่ีไม่สุจริตเท่ียงธรรมเพ่ือพัฒนา และเสรมิ สรา้ งความเข้มแขง็ ของประชาธปิ ไตยไทย

รายงานประจำ� ปี ๒๕๖๒ 189 ข้อสงั เกตและข้อเสนอแนะ รายละเอยี ดการด�ำเนนิ การตามขอ้ เสนอแนะ • ส�ำหรับกระบวนการการศึกษาอบรม สถาบันได้มี การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้ารับการศึกษาอบรม อย่างสุจริต โปร่งใส และอยู่ระหว่างการจัดท�ำคู่มือ คนดี เพื่อเผยแพร่แก่นักศึกษาสถาบันพระปกเกล้า ในหลักสูตรต่างๆ ตลอดจน สามารถน�ำไปใช้เผยแพร่แก่ เด็ก เยาวชน และผู้สนใจ • การจัดท�ำคู่มือตัวช้ีวัดธรรมาภิบาลที่เข้ากับยุคปัจจุบัน วิถีปฏิบัติใหม่ และจัดท�ำเครื่องมือให้หน่วยงานต่างๆ สามารถวัดระดบั การมธี รรมาภบิ าล ซึ่งถือได้ว่า สถาบันเป็นองค์กรท่ีมีความโปร่งใสด�ำเนินงานทางวิชาการที่ตรงไปตรงมา และสร้างสรรค์ ผลงานทางวชิ าการทเ่ี ปน็ รปู ธรรมภายใตข้ อ้ จำ� กดั และสภาพแวดลอ้ มทางสงั คมในปจั จบุ นั ซง่ึ กอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชน์ ตอ่ สาธารณะอยา่ งแท้จริง ดา้ นการศกึ ษาวิจยั และการพัฒนาองค์ความรู้ของสถาบนั พระปกเกล้า การสร้างและพัฒนาองคค์ วามรูเ้ พอื่ พฒั นาประชาธปิ ไตย ธรรมาภิบาล และสันตวิ ธิ ี เพ่อื พฒั นาคณุ ภาพ ชีวิตประชาชน และคุณภาพประชาธิปไตยเพื่อเป็นประโยชน์ทางวิชาการ ตลอดจนการวิเคราะห์ร่างกฎหมาย การสรุปและน�ำเสนอประเด็นทางสังคมท่ีทันต่อสถานการณ์ และสามารถน�ำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลายมิติ ซึง่ สถาบนั ไดด้ ำ� เนินการพฒั นาองค์ความรู้ตามข้อเสนอแนะของสมาชกิ รัฐสภา ดังน้ี

190 ตารางที่ ๓ สรุปข้อเสนอแนะด้านการศึกษาวิจยั และการพฒั นาองคค์ วามรู้ของสถาบนั พระปกเกลา้ ขอ้ สงั เกตและขอ้ เสนอแนะ รายละเอยี ดการด�ำเนนิ การตามขอ้ เสนอแนะ ประเด็นท่ี ๑ การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการสร้าง สถาบนั ไดด้ ำ� เนนิ การศกึ ษาวจิ ยั ในประเดน็ ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เสถียรภาพให้รัฐบาลโดยจัดสรรอ�ำนาจระหว่าง ดงั นี้ รฐั มนตรกี บั รฐั สภาทมี่ กี ารตรวจสอบทเี่ ขม้ ขน้ และให้ รฐั บาลและรฐั สภาทำ� งานรว่ มกนั ไดอ้ ยา่ งมเี สถยี รภาพ • โครงการวิจัย เรื่อง ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง ฝา่ ยนติ บิ ญั ญตั แิ ละฝา่ ยบรหิ ารภายใตร้ ฐั ธรรมนญู ฉบับปัจจุบัน โดย ศาสตราจารย์ ดร. ชาติชาย ณ เชยี งใหม่ • โครงการศึกษาบทบาทองค์กรตรวจสอบ กระบวนการงบประมาณแผ่นดินตาม (ร่าง) รัฐธรรมนญู มาตรา ๑๔๔ ประเด็นท่ี ๒ การศึกษาวิจัยเก่ียวกับเร่ืองการ ส�ำหรับการศึกษาวิจัยเรื่องเกี่ยวกับการซื้อสิทธ์ิ ซื้อสิทธิ์ขายเสียง การหาแนวทางการแก้ไขปัญหา ขายเสียง รวมถึงการแสวงหาแนวทางในการแก้ไข การซ้ือสิทธ์ขิ ายเสยี ง ปญั หา สถาบันได้มกี ารด�ำเนนิ งาน ดงั นี้ • โครงการศึกษาวิจัย รูปแบบและวิธีการและ ผลกระทบการเลือกต้ังภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ ใน ๒๐ จังหวดั • การศึกษาบทบาทของพลเมืองในการป้องกัน และแกไ้ ขปญั หาการเลอื กตง้ั ทไี่ มส่ จุ รติ เทยี่ งธรรม เพ่ือพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของ ประชาธิปไตยไทยที่อยู่ระหว่างการด�ำเนินการ ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี ๒๕๖๓

รายงานประจ�ำปี ๒๕๖๒ 191 ข้อสงั เกตและข้อเสนอแนะ รายละเอียดการด�ำเนินการตามขอ้ เสนอแนะ ประเด็นที่ ๓ การพัฒนางานวิจัยท่ีตอบโจทย์ สถาบนั ไดด้ ำ� เนนิ การพฒั นาการศกึ ษาวจิ ยั ในประเดน็ การแก้ไขปัญหาส�ำคัญของประเทศ เช่น ปัญหา ปัญหาทม่ี คี วามส�ำคญั ในระดบั ประเทศ อาทิ ความขัดแยง้ ปญั หาการซอื้ สทิ ธ์ขิ ายเสียง • โครงการศึกษาวิจัยติดตามประเมินผลระบบ ตรวจสอบการเลอื กตั้งสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ • โครงการการศกึ ษาอนาคตและฉากทศั นก์ ารเมอื ง ไทยเพอื่ สรา้ งประชาธปิ ไตยทยี่ งั่ ยนื : กรณสี ถาบนั การเมือง (รัฐสภา พรรคการเมืองและการเมือง ภาคพลเมอื ง) • การศึกษาวิจัยเชิงปฏิบัติการองค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ินกับการบริหารจัดการขยะ (ภายใต้ โครงการพลเมืองยุคใหม่ ชุมชนไรถ้ งั ) • โครงการวจิ ยั เพอื่ ศกึ ษาความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งฝา่ ย นิติบัญญัติและฝ่ายบริหารภายใต้รัฐธรรมนูญ ฉบบั ปัจจบุ นั • โครงการวิจัยเพ่ือศึกษารูปแบบและวิธีการและ ผลกระทบการเลอื กตงั้ ภายใตร้ ฐั ธรรมนญู ใหม่

192 ขอ้ สังเกตและขอ้ เสนอแนะ รายละเอียดการด�ำเนนิ การตามขอ้ เสนอแนะ ประเด็นที่ ๔ การพัฒนางานวิจัยเพ่ือประกอบ การพัฒนางานวิจัยเพ่ือประกอบความเห็นใน ความเห็นในเรื่องตา่ งๆ เรอื่ งตา่ งๆ ทงั้ ประเดน็ ในรฐั ธรรมนญู และการวเิ คราะห์ รา่ ง พ.ร.บ. อาทิ • การวิเคราะห์ร่าง พ.ร.บ. การเลือกตั้งสมาชิก สภาท้องถ่ินหรือผู้บริหารท้องถ่ิน (ฉบับที่..) พ.ศ. .... • โครงการวิจัยเครื่องมือในการปกป้องคุ้มครอง สิทธิเสรีภาพของประชาชนและชุมชน กับ หลักการใหม่ของรัฐธรรมนูญในการก�ำหนดให้ เป็นหน้าที่ของรัฐในการท�ำให้เกิดประโยชน์แก่ ประชาชนโดยตรง ตามมาตรา ๕๑ • โครงการติดตามการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ สู่การปฏิบตั :ิ ยุทธศาสตร์ ด้านการสร้างโอกาส ความเสมอภาค และความเทา่ เทยี มกนั ทางสงั คม • แนวทางการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้าน การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร เก่ียวกับสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชน • การมีส่วนร่วมธรรมาภิบาลท่ีสอดคล้องกับ รฐั ธรรมนูญ

รายงานประจ�ำปี ๒๕๖๒ 193 ขอ้ สงั เกตและข้อเสนอแนะ รายละเอียดการด�ำเนินการตามขอ้ เสนอแนะ ประเดน็ ท่ี ๕ ชอ่ งทางการเผยแพร่ ประชาสมั พนั ธ์ ส�ำหรับช่องทางการเผยแพร่ ประชาสมั พันธ์งานวจิ ัย งานวจิ ยั ให้หลากหลายมากยิง่ ขนึ้ สถาบนั ไดใ้ หค้ วามสำ� คญั ในการนำ� เสนอผลการศกึ ษา วิจัยที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ซ่ึงได้ด�ำเนินการ เผยแพร่ทาง เว็บไซต์สถาบันพระปกเกล้า และให้ บรกิ ารหอ้ งสมดุ ของสถาบนั และจดั สง่ ไปยงั หอ้ งสมดุ มหาวิทยาลัย และห้องสมุดหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง รวมถงึ การเผยแพรผ่ า่ นทางรายการวทิ ยรุ ว่ มกบั รฐั สภา และสื่อดจิ ิทลั อื่นๆ นอกจากน้ียังมีการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพ่ือสร้าง ความรู้ความเข้าใจและการฝึกปฏิบัติให้กับกลุ่ม เปา้ หมายอยา่ งทว่ั ถงึ และรวมไปถงึ การใหค้ ำ� ปรกึ ษา ทางวิชาการและร่วมขับเคลื่อนประเด็นทางสังคม หรือผลักดันร่างพระราชบัญญัติให้บรรลุผลส�ำเร็จ เป็นรปู ธรรม ด้านการจัดการศึกษาอบรม การจัดการศึกษาอบรมของสถาบันซึ่งได้น�ำเอาแนวคิดของ Kirkpatrick Model เป็นการประเมิน ทมี่ มี าตรฐานเปน็ ทย่ี อมรบั ในระดบั สากล โดยเปดิ โอกาสใหก้ บั ขา้ ราชการระดบั ตน้ และประชาชนทว่ั ไป ไดเ้ ขา้ รบั การศึกษาอบรมในหลักสูตรต่างๆ ของสถาบัน ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างองค์ความรู้ด้านการเมืองการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมถึงการมีส่วนร่วม ธรรมาภิบาล และสันติวิธี ใหแ้ กผ่ ศู้ กึ ษาอบรม ซงึ่ สถาบนั ไดด้ ำ� เนนิ การดา้ นการจดั การศกึ ษาอบรมตามขอ้ เสนอแนะของสมาชกิ รฐั สภา ดงั นี้

194 ตารางที่ ๔ สรปุ ขอ้ เสนอแนะดา้ นการจดั การศกึ ษาอบรม ข้อสงั เกตและขอ้ เสนอแนะ รายละเอียดการด�ำเนินการตามขอ้ เสนอแนะ ประเด็นท่ี ๑ การเปิดโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายอื่นๆ การก�ำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครเข้ารับการศึกษา เขา้ รบั การอบรม เพอ่ื นำ� ความรไู้ ปเผยแพรส่ ปู่ ระชาชน อบรมของสถาบนั ไดม้ กี ารระบคุ ณุ สมบตั ทิ ง้ั ขา้ ราชการ มากย่ิงขึ้น ครู อาจารย์ นกั วชิ าการ ผบู้ รหิ าร ขา้ ราชการทอ้ งถนิ่ รวมถงึ ประชาชนทว่ั ไป ซง่ึ จะขนึ้ อยกู่ บั กลมุ่ เปา้ หมาย ของแตล่ ะหลกั สตู รของสถาบนั โดยเปดิ โอกาสในการ ศึกษาอบรมอยา่ งท่วั ถึง ประเด็นที่ ๒ การคัดเลือก และพิจารณาผู้สมัคร สถาบันได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติเร่ืองการเว้น ควรมีความเข้มข้นมากข้นึ ระยะการศึกษาอบรมหลักสูตรภายนอกและภายใน ประเด็นที่ ๓ ผลักดันผลงานวิชาการของนักศึกษา สถาบัน และก�ำหนดเป็นเงื่อนไขการรับสมัคร ให้ไปใชป้ ระโยชน์ได้จริง เข้าศึกษาอบรมในหลักสูตร และมีการพิจารณา คัดเลือกโดยค�ำนึงถึงเง่ือนไขท่ีหลักสูตรระบุ อย่างเคร่งครัด รวมถึงพิจารณาจากคุณสมบัติ ที่แต่ละหลักสูตรก�ำหนดไว้เป็นหลัก สถาบนั เปดิ โอกาสใหผ้ เู้ ขา้ รบั การศกึ ษาอบรมในการจดั ทำ� เอกสารวชิ าการ ซง่ึ ผศู้ กึ ษาอบรมไดจ้ ดั ทำ� เอกสาร วิชาการเชิงปฏิบัติการเพ่ือลงพื้นท่ีจริง และสร้าง ประโยชนต์ อ่ สว่ นรวม โดยสามารถนำ� องคค์ วามรไู้ ป ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการปฏบิ ตั ใิ นองคก์ รของผศู้ กึ ษาอบรม และนำ� ผลการศกึ ษาไปใชจ้ ริงในพนื้ ทท่ี เ่ี กีย่ วขอ้ ง ประเดน็ ท่ี ๔ เนอื้ หาการบรรยายเก่ียวกบั การบรรยายในหวั ขอ้ เกย่ี วกบั ความเปน็ ประชาธปิ ไตย ประชาธิปไตยทีห่ ลากหลาย แม้ว่าจะเป็นการบรรยายประชาธิปไตยตามแนว ตะวันตก ซึ่งสถาบันได้มีจัดชุดวิชาหลักภูมิสังคม และวถิ ตี ะวนั ออกกบั การพฒั นาทย่ี งั่ ยนื ทจ่ี ะสอดคลอ้ ง กบั ขอ้ เสนอแนะในประเดน็ นี้ และจะใหค้ วามสำ� คญั ในเนอ้ื หาของการบรรยายให้มากยง่ิ ขึ้น

รายงานประจำ� ปี ๒๕๖๒ 195 ซึ่งการจัดการศึกษาอบรมของสถาบันไม่ได้อยู่เฉพาะที่สถาบันเท่านั้น หากแต่ยังมีการขยายผลและ ลงพื้นที่ในการสร้างองค์ความรู้ให้กับประชาชนในพ้ืนที่ผ่านโครงการฝึกอบรมระยะสั้น ทั้งโครงการผู้น�ำเยาวชน แห่งอนาคตที่ด�ำเนินการจัดการศึกษาอบรมให้กับเยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา และการขยายองค์ความรู้ ในโครงการสรา้ งส�ำนึกพลเมอื งทอ่ี บรมใหก้ ับครู ผ้นู ำ� ชุมชน เพอ่ื น�ำไปขยายผลในพ้ืนท่ตี อ่ ไป ด้านการส่งเสรมิ และให้บริการทางวชิ าการแกส่ มาชกิ รัฐสภา การส่งเสริมงานวิชาการให้แก่รัฐสภา ถือเป็นหนึ่งในพันธกิจและยุทธศาสตร์ท่ีส�ำคัญอย่างย่ิงของ สถาบันพระปกเกล้า โดยการมุ่งให้ความส�ำคัญและมุ่งพัฒนารูปแบบและวิธีการในการส่งเสริมงานวิชาการของ รัฐสภา เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าท่ีของสมาชิกรัฐสภา บุคลากรในวงงานและข้าราชการรัฐสภาให้สอดคล้อง ตามความต้องการของสมาชิกรัฐสภา โดยสถาบันจะด�ำเนินการส่งเสริมและให้บริการทางวิชาการตามข้อเสนอ แนะของสมาชกิ รัฐสภา ดังนี้ ตารางท่ี ๕ สรปุ ขอ้ เสนอแนะดา้ นการสง่ เสรมิ และใหบ้ ริการทางวิชาการแกส่ มาชิกรฐั สภา ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ รายละเอียดการด�ำเนนิ การตามข้อเสนอแนะ ประเด็นที่ ๑ วเิ คราะห์ข้อมลู เชงิ ลึก และตอบโจทย์ สถาบนั ดำ� เนนิ การสำ� รวจความตอ้ งการทางวชิ าการ การใชป้ ระโยชนข์ องสมาชกิ รฐั สภาใหม้ ากขึ้น ของสมาชิกรัฐสภาอย่างเป็นระบบ โดยมีวิธีการ สัมภาษณ์ขอความคิดเห็นต่างๆ และส่งแบบบันทึก การขอรับบริการและการให้ค�ำปรึกษาทางวิชาการ สำ� หรบั สมาชกิ รฐั สภา ไดจ้ ดั ทำ� สว่ นของการวเิ คราะห์ ข้อมูล และความต้องการเชิงลึกของสมาชิกรัฐสภา รวมถึงการจัดสัมมนาที่ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่ม และ เฉพาะประเดน็ เรอ่ื ง การสมั มนาระดมความคดิ เหน็ เรื่องรังสรรค์อนาคตท้องถิ่นไทยสู่การกระจายอ�ำ นาจที่ยั่งยืน เพ่ือเป็นเวทีแลกเปลี่ยน เรียนรู้ เสนอ แนะ การขับเคล่ือนการกระจายอ�ำนาจ และการ พฒั นาสมรรถนะการบรหิ ารงานขององคก์ รปกครอง ส่วนท้องถิ่น เป็นการผลักดันประเด็นท่ีเกี่ยวกับ

196 ขอ้ สังเกตและข้อเสนอแนะ รายละเอยี ดการด�ำเนินการตามข้อเสนอแนะ ประเด็นที่ ๒ การเผยแพร่ผลงานวิจัยของสถาบัน การปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ในรฐั สภาซง่ึ มหี ลายชอ่ งทาง ที่ผลิตออกมาให้แก่สมาชิกรัฐสภา และควรมีการ คือการต้ังกระทู้ ซ่ึงท�ำให้เกิดการตอบสนองต่อ แจ้งเตือนอัตโนมัติให้สมาชิกรับทราบว่าขณะน้ี ปญั หานนั้ ทนั ที มผี ลงานวจิ ยั หรอื ผลงานวชิ าการเรอื่ งใดทด่ี ำ� เนนิ การ เสรจ็ แล้ว เพอื่ ใหส้ มาชกิ นำ� ไปใชป้ ระโยชน์ สถาบนั ไดม้ กี ารดำ� เนนิ การจดั สง่ เอกสารบทวเิ คราะห์ ร่างพระราชบัญญัติการเลือกต้ังสมาชิกสภาท้องถ่ิน ประเดน็ ท่ี ๓ การเพม่ิ ชอ่ งทางการใหบ้ รกิ ารวชิ าการ หรือผู้บริหารท้องถ่ิน พ.ศ. .... ให้แก่สมาชิก แก่สมาชกิ รฐั สภาให้มากขึ้นกวา่ เดิม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ จ�ำนวน ๒๕๐ ชุด และ คณะกรรมการวสิ ามญั พจิ ารณารา่ งพระราชบญั ญตั ิ การเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาทอ้ งถนิ่ หรอื ผบู้ รหิ ารทอ้ งถนิ่ พ.ศ. .... จำ� นวน ๓๔ ชดุ รวมถงึ หนงั สอื ทเี่ ปน็ ผลงาน วจิ ยั ให้แก่คณะกรรมาธิการท่ีเกย่ี วขอ้ ง นอกจากนี้ สถาบนั มกี ารนำ� เขา้ ผลงานวชิ าการผลงาน วิจัยเอกสารเผยแพร่ต่างๆ ของสถาบันลงใน แอปพลิเคชันส�ำหรับสมาชิกรัฐสภา (KPI LINK) ซึ่งเมื่อมีการน�ำเอกสารทางวิชาการต่างๆ เข้าไปใน ระบบนน้ั จะมรี ะบบแจง้ เตอื น แบง่ ออกเปน็ ๒ แบบ คอื แบบฉบบั เตม็ และแบบทมี่ กี ารยอ่ ยเนอื้ หาใหก้ ระชบั อ่านให้ง่าย และการแจ้งเตือนอัตโนมัติให้สมาชิก รบั ทราบวา่ ขณะนม้ี ผี ลงานวจิ ยั หรอื ผลงานวชิ าการ เรื่องใดท่ีด�ำเนินการเสร็จแล้ว เพ่ือให้สมาชิกน�ำไป ใช้ประโยชน์ สถาบันได้เพิ่มช่องทางการให้บริการในรูปแบบ ออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันส�ำหรับสมาชิกรัฐสภา (KPI LINK) ซึ่งจะเป็นข้อมูลเชิงวิชาการและข้อมูล ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานท้ังข่าวสารท่ีเก่ียวข้อง คลงั ขอ้ มลู ทางวชิ าการ ทง้ั การศกึ ษาวจิ ยั บทวเิ คราะห์ รา่ งกฎหมายและบทบัญญัตทิ ่ีเกี่ยวข้อง

รายงานประจำ� ปี ๒๕๖๒ 197 ดา้ นการส่งเสรมิ ความเป็นพลเมอื ง และการเผยแพร่ประชาธปิ ไตย การส่งเสริมความเป็นพลเมือง และการเผยแพร่ประชาธิปไตยที่เน้นการสร้างความเป็นพลเมืองไปยัง กลุ่มเป้าหมายและขยายผลสู่ท้องถ่ินและชุมชน เพ่ือเผยแพร่ความเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเปน็ ประมุข ซึ่งสถาบันไดด้ ำ� เนนิ การตามขอ้ เสนอแนะของสมาชิกรฐั สภา ดังนี้ ตารางท่ี ๖ สรุปข้อเสนอแนะดา้ นการส่งเสริมความเป็นพลเมอื ง และการเผยแพร่ประชาธิปไตย ขอ้ สังเกตและข้อเสนอแนะ รายละเอียดการด�ำเนินการตามข้อเสนอแนะ ประเด็นที่ ๑ การส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนา สถาบันได้ด�ำเนินโครงการสร้างส�ำนึกพลเมือง ประชาธปิ ไตยในโรงเรยี น และมหาวทิ ยาลยั ใหม้ ากขนึ้ ท่ีส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาประชาธิปไตย ทั้งในโรงเรียนท่ีขยายกลุ่มเป้าหมายจากโรงเรียนใน สังกัดส�ำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และ เพมิ่ โรงเรยี นในสงั กดั ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ส�ำหรับระดับมหาวิทยาลัยได้มีการขยายผลความรู้ โครงการผนู้ �ำเยาวชนแหง่ อนาคต เพอื่ เปน็ สอ่ื กลาง ในการเผยแพรค่ วามรเู้ รอ่ื งประชาธปิ ไตย ผนู้ ำ� ภาวะ ผนู้ ำ� และการเมอื งภาคพลเมอื งสคู่ รอบครวั และชมุ ชน นอกจากน้ี ยังมีการด�ำเนินโครงการเสริมสร้าง เครือข่ายความซื่อตรงมาอย่างต่อเน่ือง โดยได้ รว่ มมอื กบั สถานศกึ ษาในการจดั ทำ� โครงการโรงเรยี น แห่งความซื่อตรง ประเด็นที่ ๒ การขยายศูนย์พัฒนาการเมืองภาค สถาบันได้ขยายศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมือง พลเมืองเพื่อท�ำหน้าที่เผยแพร่ประชาธิปไตย และ สถาบันพระปกเกล้า เพ่ือท�ำหน้าท่ีเผยแพร่ พัฒนาความเปน็ พลเมือง ประชาธปิ ไตย และพฒั นาความเปน็ พลเมอื ง จำ� นวน ๕ จงั หวดั ไดแ้ ก่ จงั หวดั ยะลา นราธวิ าส บงึ กาฬ ชยั ภมู ิ และปราจีนบุรี (จากเดิม ๕๑ จังหวัด รวมเป็น ๕๖ จงั หวดั ) ซง่ึ ศนู ยก์ ารเมอื งภาคพลเมอื งจะดำ� เนนิ การ ขยายผลและขับเคลื่อนงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ในพื้นท่ีผ่านกระบวนการนโยบายสาธารณะและ การมีส่วนร่วมเพอ่ื แก้ปัญหาในชมุ ชนและสังคม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook